๕๐ ความร้อน) โดยส่วนใหญ่น้ าทิ้งจะระบายลงสู่คลองชากหมาก ซึ่งเป็นคลองระบายน้ าที่ไหลผ่านนิคมฯ มากกว่า ๔๕,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน ดังตารางที่ ๖ ตารางที่ ๖ ปริมาณความสกปรกในรูปของบีโอดีของแหล่งก าเนิดมลพิษทางน้ าประเภทโรงงาน อุตสาหกรรม ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ถ้าหากพิจารณาเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมจะพบว่ามีจ านวนทั้งสิ้น ๓๓๔ โรง ส่วนใหญ่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต าบลห้วยโป่งโดยมีปริมาณน้ าทิ้งรวมกันกว่า ๘๓,๓๓๗ ลูกบาศก์เมตร/วัน (ไม่รวมน้ าระบายความร้อน) และมีปริมาณความสกปรกในรูปของบีโอดีเท่ากับ ๓,๑๒๐ กิโลกรัมบีโอดี/วัน ดังตารางที่ ๗ ตารางที่ ๗ ปริมาณความสกปรกในรูปของบีโอดีของแหล่งก าเนิดมลพิษทางน้ า ประเภทโรงงานอุตสาหกรรม ที่อยู่นอกนิคมอุตสาหกรรม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ทั้งนี้หากแบ่งจ านวนโรงงานและปริมาณความสกปรกในรูปของบีโอดีตามขอบเขตการปกครอง ในระดับต าบล จะพบว่าพื้นที่ต าบลทับมาเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ าทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมสูงที่สุด ส่วนต าบลมาบตาพุดเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณความสกปรกจากโรงงานอุตสาหกรรมสูงที่สุด
๕๑ ๒) น้ าเสียชุมชน๒๙ ชุมชนเขตในควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ประกอบด้วย ชุมชนในเทศบาล ๘ แห่ง และชุมชน ต่าง ๆ กว่า ๖๗ ชุมชน ซึ่งมีจ านวนครัวเรือนประมาณ ๑๓๐,๔๗๗ ครัวเรือน มีประชากรในเขตควบคุม มลพิษกว่า ๒๐๔,๑๑๑ คน ประมาณปริมาณน้ าเสียที่เกิดขึ้นได้ประมาณ ๓๐,๘๗๓.๘๓ ลูกบาศก์เมตร/วัน โดยมีความสกปรก ๓,๗๓๕.๗๓ กิโลกรัมบีโอดี/วัน (ตารางที่ ๘) ตารางที่ ๘ ปริมาณน้ าเสียและปริมาณความสกปรกในรูปบีโอดีที่เกิดขึ้นจากชุมชนในแต่ละองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง สรุปได้ว่ามลพิษและแหล่งก าเนิดมลพิษทางน้ าในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองมาจากปริมาณ น้ าทิ้งจากแหล่งก าเนิดที่มีจุดปล่อยแน่นอนในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง มีปริมาณกว่า ๒๐๖,๗๑๑ ลูกบาศก์เมตร/วัน มาจากโรงงานอุตสาหกรรมประมาณร้อยละ ๘๕ และมาจากน้ าทิ้งชุมชนประมาณ ร้อยละ ๑๕ โดยไม่มีแหล่งก าเนิดมลพิษประเภทเกษตรกรรมในพื้นที่ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาปริมาณ ความสกปรกรวมในรูปของบีโอดีของแหล่งก าเนิดที่มีจุดปล่อยแน่นอนในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง จะมีปริมาณความสกปรกระบายออกที่ประมาณ ๖,๘๕๖ กิโลกรัมบีโอดี/วัน ซึ่งกว่าร้อยละ ๕๔ มาจาก แหล่งก าเนิดประเภทชุมชนและอีกร้อยละ ๔๖ มาจากแหล่งก าเนิดประเภทอุตสาหกรรม ๒๙ รายงานสถานการณ์คุณภาพน้ าและการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ า ในเขตความคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี๒๕๕๖, กองจัดการคุณภาพน้ า กรมควบคุมมลพิษ, สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕
๕๒ ๔.๓.๓ ขยะมูลฝอยชุมชน ขยะมูลฝอยชุมชนในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ านวน ๘ แห่ง ประกอบด้วย เทศบาลนครระยอง เทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลต าบลทับมา เทศบาล ต าบลเนินพระ เทศบาลเมืองบ้านฉาง เทศบาลต าบลบ้านฉาง เทศบาลต าบลมาบข่า และเทศบาลต าบล มาบข่าพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง มีการด าเนินการรวบรวมและขนส่งขยะมูลฝอย ไปก าจัดที่ศูนย์ก าจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จังหวัดระยอง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสถานที่ก าจัดขยะมูลฝอยที่ด าเนินการถูกต้องตามหลักวิชาการ มีปริมาณขยะมูลฝอยที่รวบรวม ก าจัดได้ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จ านวน ๓๐๖ ตัน/วัน โดยปริมาณขยะเพิ่มขึ้นเป็น ๔๐๐ ตัน/วัน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ หมายเหตุ : ส าหรับปริมาณของมูลฝอยติดเชื้อและมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจาก ชุมชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังไม่ปรากฏข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ ๔.๓.๔ กากอุตสาหกรรม ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองมีปริมาณกากของเสียจากอุตสาหกรรมหรือ กากอุตสาหกรรมประมาณ ๒.๒ ล้านตัน/ปี แบ่งเป็นกากอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตราย ๑.๔ ล้านตัน กากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ๘.๔ แสนตัน จาก ๑๖๖ โรงงาน คิดเป็นร้อยละ ๖๗ ของปริมาณ กากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจังหวัดระยอง โดยพื้นที่ที่มีปริมาณของเสียอุตสาหกรรม มากที่สุดในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง คือ ต าบลมาบตาพุด ต าบลห้วยโป่ง และต าบลบ้านฉาง๓๐ ๔.๔ สถานการณ์และคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ที่มา :กรมควบคุมมลพิษ) ๔.๔.๑ สถานการณ์และคุณภาพอากาศ ๔.๔.๑.๑ สารมลพิษทางอากาศพื้นฐาน (SO 2 , NO 2 CO, O3 ,PM 10, PM 2.5 ) ปัจจุบันมีหน่วยงานที่ด าเนินการตรวจวัดสารมลพิษทางอากาศพื้นฐานในชั้น บรรยากาศใกล้ผิวดินในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ดังภาพที่ ๑๗ และภาพที่ ๑๘) ได้แก่ (๑) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ซึ่งประกอบด้วยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในบรรยากาศ (SO 2 , NO 2 CO, O3 ,PM 10, PM 2.5 ) ๔ สถานีได้แก่ ๓๐ มาบตาพุดกับบทเรียนขยะอุตสาหกรรม, https://thaipublica.org/2013/04/industrial-wastemap-taput/, สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕
๕๓ ภาพที่ ๑๗ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ จุดตรวจวัดคุณภาพอากาศ และรถตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ที่มา : กรมควบคุมมลพิษ) ภาพที่ ๑๘ จุดตรวจวัดคุณภาพอากาศและจุดเก็บตัวอย่างสารVOCs ในบรรยากาศโดยทั่วไป ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และบริเวณใกล้เคียง (ที่มา : กรมควบคุมมลพิษ) ๑) สถานีตรวจวัดบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลมาบตาพุด ๒) สถานีตรวจวัดบริเวณศูนย์ราชการ จังหวัดระยอง ๓) สถานีตรวจวัดบริเวณศูนย์วิจัยพืชไร่ ๔) สถานีตรวจวัดบริเวณส านักงานเกษตร จังหวัดระยอง และจุดเก็บตัวอย่างสาร VOCs ๗ จุดได้แก่ ๑) รพ.สต.มาบตาพุด ๒) วัดมาบชลูด ๓) วัดหนองแฟบ ๔) เมืองใหม่มาบตาพุด ๕) บ้านพลง ๖) บ้านตากวน ๗) เนินพยอม
๕๔ (๒) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) จุดเก็บตัวอย่างสาร VOCs ในพื้นที่ทั่วไป ๘ จุด ในพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมจ านวน ๗ จุด (ดังภาพที่ ๑๙) ได้แก่ ๑) มาบชลูด ๒) หนองแฟบ ๓) บ้านมาบตาพุด ๔) วัดโสภณ ๕) บ้านพลง ๖) เมืองใหม่ ๗) บ้านตากวน ๘) อนามัยมาบตาพุด จุดเก็บตัวอย่างสาร VOCs พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ๗ จุด ได้แก่ ๑) สนพ. ๒) ถนน I3 ตัด ถนน I4 ๓) ถนน I2 ๔) ถนน I1 ๕) ถนน I4 ๖) ด้านตะวันออก ๗) ถนน I-7 และรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ๒ คัน (๓) เทศบาลเมือง (ทม.) มาบตาพุด มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศ (VOCs) ๔ สถานี ได้แก่ ๑) บ้านพลง ๒) วัดหนองแฟบ ๓) ตากวน ๔) วัดโสภณ (ดังภาพที่ ๒๐) และรถตรวจวัดคุณภาพ อากาศเคลื่อนที่ (Mobile Unit ) ๑ คัน ตรวจวัด PM10, VOCs, O3 ,SO2 (ตรวจทุกวันเปลี่ยนจุด ทุก ๑ - ๒ เดือน) ภาพที่ ๑๙ จุดเก็บตัวอย่างสาร VOCs ในบรรยากาศในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ส านักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ที่มา :กรมควบคุมมลพิษ)
๕๕ ภาพที่ ๒๐ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ เทศบาลเมืองมาบตาพุดจ านวน ๔ สถานี โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้ท าการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ – ๒๕๖๕ ซึ่งผลการตรวจคุณภาพอากาศพื้นฐาน เป็นดังนี้ (๑) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2 ) พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ โดยทั่วไป (ก าหนดค่าเฉลี่ย ๑ ชั่วโมง ไม่เกิน ๓๐๐ ppb และเฉลี่ย ๑ ปีไม่เกิน ๔๐ ppb) (๒) ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2 ) พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ โดยทั่วไป (ก าหนดค่าเฉลี่ย ๑ ชั่วโมง ไม่เกิน ๑๗๐ ppb และค่าเฉลี่ย ๑ ปีไม่เกิน ๓๐ ppb) (๓) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป (ก าหนดค่าเฉลี่ย ๑ ชั่วโมง ไม่เกิน ๓๐ ppb) (๔) ก๊าซโอโซน (O3) มีค่าเกินค่ามาตรฐานในทุกสถานีส าหรับในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ผลการตรวจวัด เป็นดังนี้ - สถานีตรวจวัดบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลมาบตาพุด ค่าเฉลี่ย ๑ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๐ - ๙๙ ppb โดยค่าเฉลี่ย ๑ ปีเท่ากับ ๒๘.๙ pbb - สถานีตรวจวัดบริเวณศูนย์วิจัยพืชไร่ ค่าเฉลี่ย ๑ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๐ – ๙๘ ppb โดยค่าเฉลี่ย ๑ ปีเท่ากับ ๒๖.๐ pbb - สถานีตรวจวัดบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ค่าเฉลี่ย ๑ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๐ - ๙๗ ppb โดยค่าเฉลี่ย ๑ ปีเท่ากับ ๒๓.๗ pbb - สถานีตรวจวัดบริเวณส านักงานเกษตรจังหวัดระยอง (นอกเขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด) ค่าเฉลี่ย ๑ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๐ - ๙๗ ppb โดยค่าเฉลี่ย ๑ ปีเท่ากับ ๒๑.๔ pbb (๕) ฝุ่นละองขนาดไม่เกิน ๑๐ ไมครอน (PM10) เกินค่ามาตรฐานในทุกสถานีในบางครั้ง ส าหรับในปี ๒๕๖๓ พบค่าสูงสุดที่สถานีศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ค่าเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๑๖ - ๑๓๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศไม่เกิน ๑๒๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) และค่าเฉลี่ย ๑ ปีเท่ากับ ๔๑.๗ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน ๕๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร)
๕๖ รองลงมาคือสถานีส านักงานเกษตรจังหวัดระยอง ค่าเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๙ – ๑๓๓ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและค่าเฉลี่ย ๑ ปีเท่ากับ ๓๒.๕ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลมาบตาพุด ค่าเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๑๗ - ๑๓๑ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และค่าเฉลี่ย ๑ ปีเท่ากับ ๓๘.๓ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และศูนย์วิจัย พืชไร่ระยอง ค่าเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมง อยู่ในช่วง ๑๕ – ๑๒๖ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และค่าเฉลี่ย ๑ ปี เท่ากับ ๓๕.๖ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามล าดับ (๖) ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5 ) : รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5) ในบรรยากาศโดยทั่วไปบริเวณพื้นที่จังหวัดระยอง พบว่าในช่วงที่ผ่านมา มีบางช่วงเวลาที่มีค่าสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากลักษณะของสภาพอากาศระดับบนมวลอากาศ เย็นกว่า สิ่งแวดล้อมจะกดอากาศที่อุ่นกว่าไว้ ท าให้อากาศไม่สามารถลอยตัวขึ้นไประดับชั้นบรรยากาศ ระดับบน และลมค่อนข้างสงบในช่วงเช้า จึงท าให้เกิดเป็นหมอกขึ้น แต่จากข้อมูลผลการตรวจวัด ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5) บริเวณพื้นที่จังหวัดระยอง ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพ อากาศในบรรยากาศโดยทั่วไปของกรมควบคุมมลพิษที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ต าบลมาบตาพุด ต าบลห้วยโป่ง ต าบลท่าประดู่ และต าบลตะพง อ าเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ในช่วงวันที่ ๑๕ - ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ พบว่ามีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ก าหนดทุกสถานี ไม่เกิน ๕๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร๓๑ ค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็กของประเทศไทยยังมีช่องว่าง เมื่อเทียบกับข้อแนะน าของ องค์กรอนามัยโลก ค่ามาตรฐานรายปีของ PM2.5 อยู่ที่ ๒๕ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่าเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมงอยู่ที่ ๕๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่า ๒ เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานขององค์การ อนามัยโลก เช่นเดียวกับ PM10 กล่าวคือ มาตรฐานเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมงอยู่ที่ ๑๒๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ๕๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร๓๒ วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเผยใช้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) ตามค่ามาตรฐาน PM2.5 ใหม่ในประเทศ โดยปรับให้มีความเข้มข้นขึ้น จากเดิมต้องไม่เกิน ๕๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่าเฉลี่ยในเวลา ๒๔ ชั่วโมง เป็นไม่เกิน ๓๗.๕ มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยในเวลา ๒๔ ชั่วโมง๓๓ ๔.๔.๑.๒ สาร VOCs กรมควบคุมมลพิษได้ด าเนินการติดตามตรวจสอบสถ านการณ์สาร VOCs ในบรรยากาศโดยทั่วไปในเขตควบคุมมลพิษและบริเวณใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ จ านวน ๑๑ สถานี คือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลมาบตาพุด วัดมาบชลูด โรงเรียนวัดหนองแฟบ ๓๑ จังหวัดระยองเฝ้าระวังควบคุมการป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน, https://nbtworld.prd.go.th/th/news/detail/TCATG190120122028510,สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ๓๒ การจัดล าดับเมืองที่มีปัญหามลพิษ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5) ในประเทศไทย https://www.greenpeace.or.th/s/right-to-clean-air/PM2.5-City-Ranking-in-Thailand.pdf, สืบค้นเมื่อ วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๕ ๓๓ ไทยปรับเกณฑ์ค่ามาตรฐาน PM2.5 ใหม่ เป็นไม่เกิน ๓๗.๕ มคก./ลบม. ตามมาตรฐานองค์การ อนามัยโลก, https://www.thaigov.go.th/infographic/contents/details/7153, สืบค้นเมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๕
๕๗ เมืองใหม่มาบตาพุด บ้านพลง ศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน หมู่บ้านนพเกตุ (เนินพะยอม) วัดปลวกเกตุ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลหนองจอก คลินิกชุมชนอบอุ่นและค่ายมหาสุรสิงหนาท (ดังภาพที่ ๒๑) และจุดเก็บตัวอย่างสาร VOCs ในบรรยากาศในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ส านักงาน นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ดังภาพที่ ๑๙) ทั้งนี้ ในปี ๒๕๖๔ พบสารเบนซีนเกินค่าเฝ้าระวังส าหรับสาร VOCs ในบรรยากาศ โดยทั่วไปในเวลา ๒๔ ชั่วโมง จ านวน ๓ จุดตรวจวัด ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่บริเวณชุมชน บ้านพลง เนินพยอม และค่ายมหาสุรสิงหนาท โดยพบว่าจ านวนครั้งของการเกินค่าเฝ้าระวังฯ มีความถี่ น้อยกว่าในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ แต่ค่าตรวจวัดมีค่าสูงมากกว่าในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ส าหรับสาร ๑, ๓ – บิวทาไดอีน พบเกินค่าเฝ้าระวังฯ ๑ ครั้ง ที่บริเวณค่ายมหาสุรสิงหนาท (ซึ่งอยู่นอกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง) ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ พบค่าสูงมากกว่าค่าเฝ้าระวังฯ ถึง ๔ เท่า สาร ๑,๒ – ไดคลอโรอีเทน ไม่พบเกินค่าเฝ้าระวังฯ ปี พ.ศ.๒๕๖๔ ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ กรมควบคุมมลพิษ มีการติดตามผลตรวจวัดคุณภาพอากาศจาก ๔ สถานี คือ (๑) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลมาบตาพุด (๒) ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง (๓) ศูนย์วิจัยพืชไร่ และ (๔) ส านักงานเกษตรจังหวัดระยอง (อยู่นอกพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ (ดังภาพที่ ๒๑) และเทศบาล เมืองมาบตาพุด (ทม.มาบตาพุด) ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ จ านวน ๔ สถานี ได้แก่ (๑) ชุมชนหนองแฟบ (๒) ศูนย์บริการสาธารณสุขตากวน (๓) ชุมชนบ้านพลง และ (๔) ศูนย์บริการ สาธารณสุขวัดโสภณ (ดังภาพที่ ๒๑) ภาพที่ ๒๑ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศของกรมควบคุมมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองและบริเวณใกล้เคียง สารมลพิษที่เป็นปัญหาส าคัญคือสาร VOCs ๓ ชนิด ได้แก่ เบนซีน ๑,๒-ไดคลอโรอีเทน และ ๑,๓-บิวทาไดอีน เกินค่ามาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไปในเวลา ๑ ปี ในภาพรวมสถานการณ์สารอินทรีย์ระเหยง่ายในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พบว่าสถานการณ์ สารอินทรีย์ระเหยง่ายที่เป็นปัญหาในพื้นที่ ๓ สาร ได้แก่ สารเบนซีน สาร ๑,๓–บิวทาไดอีน และสาร ๑,๒–ไดคลอโรอีเทน พบว่าค่าเฉลี่ยรายปี (๗ สถานีตรวจวัดในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ) มีแนวโน้มลดลง
๕๘ แต่ยังคงเกินค่ามาตรฐาน ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ สถานการณ์สารเบนซีนมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ สาร ๑,๓–บิวทาไดอีน และสาร ๑,๒–ไดคลอโรอีเทนมีแนวโน้มสูงขึ้น (ดังตารางที่ ๙, ภาพที่ ๒๒) ตารางที่ ๙ สรุปค่าเฉลี่ยรายปีสาร VOCs ที่เป็นปัญหาในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕ สาร VOCs ค่าเฉลี่ยรายปีพื้นที่ (มคก./ลบ.ม.) มาตรฐาน ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ (มคก./ลบ.ม.) เบนซีน ๓.๓๔ ๑.๘๑ ๒.๙๗ ๓.๗๗ ๒.๐๐ ๑.๗ ๑,๓ - บิวทาไดอีน ๑.๑๖ ๗.๒๗ ๗.๓๙ ๐.๑๖ ๗.๖๑ ๗.๓๓ ๑,๒ - ไดคลอโรอีเทน ๐.๕๖ ๐.๓๗ ๐.๔๑ ๐.๔๒ ๐.๕๓ ๐.๔ ภาพที่ ๒๒ ค่าเฉลี่ยรายปีสารเบนซีน สาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน และ ๑,๒ – ไดคลอโรอีเทน ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๖๕
๕๙ สถานการณ์สาร VOCs ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ พบว่า - สารเบนซีน มีแนวโน้มลดลงจากปี พ.ศ. ๒๕๖๔ แต่ยังคงเกินค่ามาตรฐานฯ ในเวลา ๑ ปี จ านวน ๕ สถานีจากทั้งหมด ๗ สถานี ได้แก่ เมืองใหม่ รพ.สต.มาบตาพุด บ้านพลง เนินพยอม และตากวน - สาร ๑,๓ – บิวทาไดอีน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. ๒๕๖๔ และเกินค่ามาตรฐานฯ ในเวลา ๑ ปี จ านวน ๕ สถานีจากทั้งหมด ๗ สถานี ได้แก่ เมืองใหม่ รพ.สต.มาบตาพุด บ้านพลง วัดหนองแฟบ และตากวน - สาร ๑,๒ – ไดคลอโรอีเทน ส่วนใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. ๒๕๖๔ แต่ยังคงเกินค่า มาตรฐานฯ ในเวลา ๑ ปี จ านวน ๖ สถานีจากทั้งหมด ๗ สถานี ได้แก่ เมืองใหม่ รพ.สต.มาบตาพุด บ้านพลง เนินพยอม หนองแฟบ และตากวน - สารไวนิลคลอไรด์ (VCM) เกินค่าเฝ้าระวังส าหรับสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไป ในเวลา ๒๔ ชั่วโมง (๒๐ มคก./ลบ.ม.) บริเวณชุมชนบ้านพลง ในเดือนมกราคม มีนาคม และมีค่าสูง ในเดือนกรกฎาคม (๒๐.๙๙, ๒๐.๖ และ ๑๙ มคก./ลบ.ม. ตามล าดับ) ทั้งนี้ ยังไม่เคยเกินค่ามาตรฐานฯ ในเวลา ๑ ปี กิจกรรมที่มีการระบาย VOCs จากภาคอุตสาหกรรม - กระบวนการผลิต (Process vent) - การรั่วซึมของอุปกรณ์ (Fugitive emission) - ระบบบ าบัดน้ าเสีย (Wastewater treatment plant) - ถังกักเก็บสารเคมี/น้ ามันเชื้อเพลิง (Storage tanks) - การบรรจุและขนถ่าย (Loading/Unloading) -กิจกรรมที่ไม่ใช่การผลิตปกติ (Shutdown/Turnaround/ Start Up/Accidentalor emergency releases) แหล่งก าเนิดสาร VOCs ที่ส าคัญ -สารเบนซีน ได้แก่ ยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรมเคมี/ปิโตรเคมี ได้แก่ โรงงานผลิตอะโรเมติกส์ (เบนซีน โทลูอีน และไซลีน) โรงผลิตโอเลฟินส์ โรงงานที่ใช้สารเบนซีนเป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น โรงงานผลิตสไตรีนโมโนเมอร์ โรงงานผลิตฟีนอล เป็นต้น โรงกลั่นน้ ามัน คลังน้ ามันเชื้อเพลิง สถานี บริการน้ ามันเชื้อเพลิง และท่าเรือขนถ่าย - สาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ได้แก่ ยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรมเคมี/ปิโตรเคมี ได้แก่ โรงผลิต โอเลฟินส์ โรงผลิตสาร ๑,๓-บิวทาไดอีน และโรงงานผลิตยางสังเคราะห์ โรงกลั่นน้ ามัน คลังน้ ามัน เชื้อเพลิง สถานีบริการน้ ามันเชื้อเพลิง และท่าเรือขนถ่าย - สาร ๑,๒ - ไดคลอโรอีเทน ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมเคมีที่มีการใช้/ผลิต และกักเก็บ สาร ๑,๒ - ไดคลอโรอีเทน โรงงานอุตสาหกรรมผลิตพลาสติก PVC โรงงานผลิต Ethylene Oxide และท่าเรือขนถ่าย - สารไวนิลคลอไรด์ (VCM) มาจากการรั่วไหลของสารไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ (VCM) คงค้าง ตามท่อ/ภายในโรงงานปิโตรเคมีเก่า (บริษัท เอเพ็กซ์ปิโตรเคมิคอล จ ากัด) ที่หยุดประกอบกิจการตั้งแต่ ปีพ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีผลตรวจวัดสาร VCM สูงที่บริเวณบ้านพลงในบางช่วงเวลา ซึ่งต้องเฝ้าระวัง และติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะไม่พบการเกินค่าเฝ้าระวังฯ /มีการรื้อถอนโครงสร้าง/ โรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของสาร VCM ให้แล้วเสร็จ
๖๐ ๔.๔.๒ สถานการณ์คุณภาพน า ๔.๔.๒.๑ คุณภาพน้ าในคลองสาธารณะ ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ าในคลองสาธารณะตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๕ พิจารณาโดยใช้ดัชนีคุณภาพน้ าทั่วไป (Water Quality Index : WQI) พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จ านวน ๑๗ สาย (ดังภาพที่ ๒๓) พบว่า อยู่ในเกณฑ์พอใช้ (ดังภาพที่ ๒๔) จ านวน ๑ สาย ได้แก่ คลองบางกระพรุน อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม จ านวน ๑๕ สาย ได้แก่ คลองกระเฉด คลองหนองคล้า คลองห้วยพร้าว คลองหนองผักหนาม คลองทับมา คลองคา คลองชากหมาก คลองน้ าตก คลองบางเบิด คลองก้นปึก คลองน้ าหู คลองหลอด คลองพยูน คลองตากวน และคลองน้ าด า อยู่ในเกณฑ์ เสื่อมโทรมมาก จ านวน ๑ สาย ได้แก่ คลองห้วยใหญ่ ส าหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ผลการตรวจวัด ๒ ครั้ง/ปี ในเดือนมกราคมและมิถุนายน ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ยกเว้นคลองน้ าตกอยู่ในเกณฑ์พอใช้ และคลองน้ าด าอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ทั้งนี้ คลองที่เคยมีคุณภาพ น้ าดีในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ คือ คลองบางกระพรุน และคลองกระเฉด ปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม โดยพารามิเตอร์ที่เป็นปัญหา ได้แก่ ค่าบีโอดี โคลิฟอร์มแบคทีเรียทั้งหมด (TCB) ฟีคอลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย (FCB) แอมโมเนียไนโตรเจน และออกซิเจนละลาย ส าหรับคลองที่ส่งผลต่อคุณภาพน้ าของแม่น้ าระยอง และคุณภาพน้ าทะเลชายฝั่ง ได้แก่ คลองบางเบิด คลองชากหมาก คลองหลอด คลองน้ าหู คลองตากวน และคลองทับมา ภาพที่ ๒๓ จุดตรวจวัดคุณภาพน้ าในคลองสาธารณะพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง
๖๑ ภาพที่ ๒๔ ดัชนีคุณภาพน้ าแหล่งน้ าผิวดิน (Water Quality Index : WQI) คุณภาพน้ าคลองสาธารณะ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๖๕ นอกจากนั้นยังพบค่าโลหะหนักไม่ได้ตามมาตรฐาน ในบางการตรวจวัด ได้แก่ สารหนู (As) แมงกานีส (Mn) และตะกั่ว ดังแสดงในตารางที่ ๑๐ ตารางที่ ๑๐ ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ าคลองสาธารณะในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เทียบมาตรฐานแหล่งน้ าผิวดิน ประเภทที่ ๓
๖๒ ผลการติดตามตรวจสอบการระบายน้ าทิ้งจากแหล่งก าเนิดมลพิษ โดยส านักงาน สิ่งแวดล้อมละควบคุมมลพิษที่ ๑๓ ร่วมกับ ส านักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ตรวจสอบแหล่งก าเนิดมลพิษ (อาคารชุด โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ระบบบ าบัดน้ าเสีย) ตามมาตรา ๘๐ และมาตรา ๘๒ พบว่า มีแหล่งก าเนิดมลพิษบางส่วน (ร้อยละ ๑๘) ที่มีคุณภาพน้ าทิ้ง ไม่ผ่านมาตรฐาน ๔.๔.๒.๒ คุณภาพน้ าทะเลชายฝั่ง ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ าทะเลชายฝั่งปี พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๕ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ดี-พอใช้ พบระดับเสื่อมโทรม ๕ จุด ได้แก่ ปากคลองบางเบิด ปากคลองชากหมาก หาดทรายทอง (บริเวณกระชังเลี้ยงหอย) หาดสุชาดา และจุดระบายน้ าโรงไฟฟ้าโกลว์ภายในท่าเทียบเรือ พบระดับ เสื่อมโทรมมาก ๑ จุด ได้แก่ จุดปากคลองตากวน ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ผลการตรวจวัด ๒ ครั้ง/ปี (ฤดูแล้ง และฤดูฝน) เก็บตัวอย่างคุณภาพน้ าทะเล ๑๖ จุด (ภาพที่ ๒๕) ครอบคลุมพื้นที่ปากคลองบางกะพรุน ปากคลองบางเบิด จุดระบายน้ าโรงไฟฟ้าโกลว์ ภายในท่าเทียบเรือ จุดสูบน้ าเข้าและออกของระบบ ระบายความร้อนโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ปากคลองชากหมาก หาดทรายทอง ปากคลองตากวน หาดสุชาดา หาดน้ ารินและหาดพยูน โดยคุณภาพน้ าทะเลชายฝั่งส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี-พอใช้ โดยจุดระบายน้ า โรงไฟฟ้าโกลว์ และปากคลองชากหมาก อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ส าหรับปากคลองบางเบิดและปากคลองตากวน อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก (ภาพที่ ๒๖) พารามิเตอร์ที่เป็นปัญหา ได้แก่ ไนเตรท-ไนโตรเจน แอมโมเนียรวม ฟอสเฟต - ฟอสฟอรัส แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด แบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม และเหล็ก ภาพที่ ๒๕ จุดเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมทางทะเลพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง
๖๓ ภาพที่ ๒๖ คุณภาพน้ าทะเลในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างตะกอนดินพบการปนเปื้อนของทองแดง และสังกะสี เกินเกณฑ์คุณภาพตะกอนดินชายฝั่งทะเล พบการปนเปื้อนสูงสุดบริเวณปากคลองชากหมาก และหาดทรายทอง (กระชังเลี้ยงหอย) ส่วนผลการวิเคราะห์ตัวอย่างเนื้อเยื่อสัตว์น้ าไม่พบการปนเปื้อนเกินเกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๙๘ (พ.ศ. ๒๕๒๙) และฉบับที่ ๒๗๓ (พ.ศ. ๒๕๔๖) เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อน ส าหรับผลการวิเคราะห์ตัวอย่างตะกอนดินพบการปนเปื้อน ของโลหะหนัก ได้แก่ ทองแดง และสังกะสี เกินเกณฑ์ที่ก าหนด โดยพบการปนเปื้อนสูงสุดบริเวณ ปากคลองชากหมาก และหาดทรายทอง (กระชังเลี้ยงหอย) ๔.๔.๒.๓ คุณภาพน้ าใต้ดิน การติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ าบ่อตื้นที่ประชาชนใช้ในการอุปโภค บริโภค ในพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง จ านวน ๓๙ บ่อ (ดังภาพที่ ๒๗) โดยสารมลพิษที่ตรวจสอบเพื่อเฝ้าระวัง ประกอบด้วย โลหะหนัก ๑๐ ชนิด และสาร VOCs ๑๖ ชนิด เทียบกับค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าใต้ดินตาม ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ผลการติดตรวจสอบค่าเฉลี่ยรายปี ตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๓ (ดังตารางที่ ๑๑) พบพารามิเตอร์ที่มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าใต้ดิน ได้แก่ ๑,๒ - ไดคลอโรอีเทน และคาร์บอนเตตระคลอไรด์ โดยเฉพาะบริเวณชุมชนโขดหินพบสาร VOCs ที่เกินค่ามาตรฐาน ได้แก่ ๑,๒ -ไดคลอโรอีเทน และคาร์บอนเตตระคลอไรด์เกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าใต้ดิน ส าหรับโลหะหนักที่พบเกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าใต้ดิน ได้แก่ แมงกานีส และเหล็กเกินค่ามาตรฐาน คุณภาพน้ าบาดาลเพื่อการบริโภค บริเวณที่พบค่าโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน ได้แก่ ชุมชนซอยร่วมพัฒนา วัดมาบชลูด วัดมาบตาพุด และบ้านพยูน เนื่องมาจากสภาพทางธรณีวิทยาตามธรรมชาติส าหรับบ่อน้ าตื้น ของประชาชนที่ตรวจพบการปนเปื้อนสารอินทรีย์ระเหยง่ายเกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าใต้ดิน กรมควบคุมมลพิษ ได้แจ้งข้อมูลผลการตรวจวัดและให้ค าแนะน าแก่ประชาชน ซึ่งประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้น าน้ าจากบ่อ ที่ตรวจพบการปนเปื้อนสูงเกินมาตรฐานมาใช้บริโภคและอุปโภค แต่ใช้น้ าประปาบริโภคและอุปโภคแทน
๖๔ ภาพที่ ๒๗ จุดตรวจวัดคุณภาพน้ าบ่อตื้นพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตารางที่ ๑๑ สรุปผลการตรวจวัดคุณภาพน้ าบ่อตื้นพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๓ ปี ๑,๒ –ไดคลอโรอีเทน (µg/L) คาร์บอนเตตระคลอไรด์ (µg/L) แมงกานีส (mg/L) เหล็ก (mg/L) สารหนู (µg/L) ๒๕๖๐ < ๐.๕ ๐.๕ < ๐.๑ < ๐.๕ < ๑๐ ๒๕๖๑ ๖.๐ ๒๑.๙๕ < ๐.๑ < ๐.๕ < ๕๐ ๒๕๖๒ < ๐.๕ ๒๔.๕ < ๐.๑ < ๐.๕ < ๕๐ ๒๕๖๓ < ๐.๕ ๐.๕ < ๐.๑ < ๐.๕ < ๕๐ ๒๕๖๔ < ๐.๕ ๑๖.๘๑ < ๐.๑ < ๐.๕ < ๕๐ มาตรฐาน < ๕ < ๕ < ๐.๕ < ๑ ๒/ < ๑๐ หมายเหตุ : สรุปผลโดยใช้ค่ากลาง (มัธยฐาน ; Median) กรมควบคุมมลพิษ ไม่ได้มีการเก็บตัวอย่างน้ าใต้ดินในพื้นที่จังหวัดระยองหลังจาก ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อมูลของกรมทรัพยากรน้ าบาดาล พบว่าคุณภาพน้ าบ่อตื้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ - ปัจจุบัน พบปริมาณสารหนู (As) เกินเกณฑ์อนุโลมสูงสุด ตามมาตรฐานน้ าบาดาลที่จะใช้บริโภคได้ จ านวน ๔ และ ๒ บ่อ ในอ าเภอปลวกแดงและอ าเภอเมืองระยองตามล าดับ โดยบ่อบาดาล ๒ บ่อ ที่พบสารหนูเกินเกณฑ์อนุโลมฯ ของอ าเภอเมืองระยอง อยู่ในพื้นที่วัดห้วยโป่ง และต าบลมาบตาพุด ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยส าคัญ และจากการจ้างที่ปรึกษาด าเนินการศึกษาการปนเปื้อนของโลหะหนักในน้ าบาดาล มีข้อสรุปปัจจัยที่มีอิทธิพล ต่อการปนเปื้อนโลหะหนักในพื้นที่มาจากสภาพตามธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ที่ไปรบกวนสมดุล ของสารหนูในน้ าบาดาลท าให้มีปริมาณสารหนูเพิ่มมากขึ้นและแพร่กระจายออกไป
๖๕ ๔.๔.๓ สถานการณ์ขยะมูลฝอยชุมชน มูลฝอยติดเชื อ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน และกากอุตสาหกรรม ๔.๔.๓.๑ ขยะมูลฝอยชุมชน เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประกอบด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๘ แห่ง คือ เทศบาลนครระยอง เทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลต าบลทับมา เทศบาลต าบลเนินพระ เทศบาลเมืองบ้านฉาง เทศบาลต าบลบ้านฉาง เทศบาลต าบลมาบข่า และเทศบาลต าบลมาบข่าพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง มีการด าเนินการรวบรวมและขนส่งขยะมูลฝอยไปก าจัดที่ศูนย์ ก าจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จังหวัดระยอง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ซึ่งเป็น สถานที่ก าจัดขยะมูลฝอยที่ด าเนินการถูกต้องตามหลักวิชาการ มีปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนที่รวบรวม ก าจัดได้ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จ านวน ๓๐๖ ตัน/วัน โดยปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น ๔๐๐ ตัน/วัน ในปี ๒๕๖๔ โดยปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนที่รวบรวมก าจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ (ตารางที่ ๑๒ , ดังภาพที่ ๒๘) โดยส่งไปก าจัดอย่างถูกต้อง ๒๗๐ ตัน/วัน ตารางที่ ๑๒ ปริมาณขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๔ อปท. ปริมาณขยะมูลฝอยที่รวบรวมและก าจัดได้ (ตัน/วัน) ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ ๓๕๖๔ ทม.มาบตาพุด ๑๐๐ ๑๓๒ ๑๔๔ ๑๔๘ ทม.บ้านฉาง ๓๐ ๓๐ ๓๙ ๓๙ ทต.บ้านฉาง ๑๕ ๑๒ ๒๙ ๑๐ ทต.เนินพระ ๒๑ ๒๑ ๒๒ ๒๒ ทต.ทับมา ๒๔ ๒๕ ๒๙ ๓๒ ทต.มาบข่าพัฒนา ๑๐ ๙ ๑๒ ๑๔ ทต.มาบข่า ๑๖ ๒๕ ๒๘ ๒๙ ทน.ระยอง* ๑๒๐ ๙๙ ๑๐๑ ๙๕ หมายเหตุ : - *ปริมาณขยะจากทั้งเทศบาล (ทน.ระยอง มีพื้นที่อยู่ในเขตควบคุมมลพิษ ๒ ชุมชน)
๖๖ ภาพที่ ๒๘ ปริมาณขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่รวบรวมและก าจัดได้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ปัจจุบันศูนย์ก าจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจรจังหวัดระยอง โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด ระยองได้ร่วมกับกลุ่มบริษัท ปตท.จ ากัด (มหาชน) ในนามบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่จ ากัด (มหาชน) (GPSC) ด าเนินโครงการบริหารจัดการขยะครบวงจร จังหวัดระยอง (แปลงเป็นเชื้อเพลิง RDF) ซึ่งสามารถ รองรับขยะมูลฝอยเข้าระบบฯ ได้ไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ตัน/วัน เริ่มด าเนินการเมื่อวันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ศูนย์ก าจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจรจังหวัดระยอง ได้ร่วมกับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จ ากัด (มหาชน) (GPSC) ด าเนินโครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง ๔.๔.๓.๒ มูลฝอยติดเชื้อ จังหวัดระยองมีสถานบริการสาธารณสุขทั้งของรัฐและเอกชนรวมจ านวน ๔๕๗ แห่ง แบ่งเป็น (๑) สถานพยาบาลของรัฐและเอกชน (๑.๑) สถานพยาบาลของรัฐ - โรงพยาบาลรัฐ จ านวน ๙ แห่ง - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ าต าบล (รพ.สต.) จ านวน ๙๕ แห่ง - ศูนย์สาธารณสุขเทศบาล จ านวน ๑๐ แห่ง (๑.๒) สถานพยาบาลเอกชน - โรงพยาบาลเอกชน จ านวน ๔ แห่ง - คลินิก จ านวน ๒๙๖ แห่ง (๒) โรงพยาบาล/คลินิกสัตว์ จ านวน ๔๓ แห่ง ส าหรับมูลฝอยติดเชื้อ ยังไม่สามารถจ าแนกปริมาณ และแหล่งก าเนิดในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้ โดยในภาพรวมทั้งจังหวัดระยอง พบว่ามูลฝอยติดเชื้อเกิดขึ้นจาก โรงพยาบาลรัฐ เอกชน รพ.สต. และคลินิก ซึ่งได้ส่งให้เอกชนน าไปก าจัด โดยปริมาณมูลฝอยติดเชื้อของ จังหวัดระยอง ประมาณ ๒,๐๐๐ กิโลกรัม/วัน (ปี พ.ศ. ๒๕๖๓) ปัจจุบันจังหวัดระยอง มีระบบเตาเผา มูลฝอยติดเชื้อที่สามารถรองรับมูลฝอยติดเชื้อในเขตจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียงได้ ๓.๖ ตัน/วัน
๖๗ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ มีปริมาณมูลฝอยติดเชื้อที่รับเข้าระบบเตาเผา ๓,๔๗๑ ตัน/ปี และอยู่ระหว่างก่อสร้างเตาเผา มูลฝอยติดเชื้อขนาด ๗.๒ ตัน/วัน ๔.๔.๓.๓ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน จังหวัดระยองมีการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชนตามโครงการ "หมู่บ้าน/ชุมชนสดใส ประชารัฐสุขใจ ปลอดภัยจากขยะอันตราย" โดยเป้าหมายให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง ๖๗ แห่ง มีจุดรวบรวมขยะอันตราย อย่างน้อยหมู่บ้าน/ชุมชนละ ๑ แห่ง (มีจุดรวบรวม ๖๒๙ ชุมชน) อยู่ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ๑๓๙ ชุมชน มีจุดรวบรวมของขยะอันตรายชุมชน ๑๔๐ แห่ง โดยจังหวัดระยองได้ด าเนินโครงการจัดตั้งศูนย์รวบรวมขยะอันตรายชุมชนในศูนย์ก าจัดขยะมูลฝอย รวมแบบครบวงจรจังหวัดระยอง พร้อมรับมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชนจากองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดระยองเพื่อรวบรวมและส่งไปก าจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป ๔.๔.๓.๔ กากอุตสาหกรรม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีปริมาณกากของเสียจากอุตสาหกรรม หรือกากอุตสาหกรรมประมาณ ๒.๒ ล้านตัน/ปี แบ่งเป็นกากอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตราย ๑.๔ ล้านตัน กากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ๘.๔ แสนตัน จาก ๑๖๖ โรงงาน คิดเป็นร้อยละ ๖๗ ของปริมาณ กากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจังหวัดระยองโดยพื้นที่ที่มีปริมาณของกากอุตสาหกรรม มากที่สุดในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองคือ ต าบลมาบตาพุด ตามด้วยต าบลห้วยโป่ง และต าบลบ้านฉาง๓๔ ๔.๔.๔ สถานการณ์อุบัติภัยจากสารเคมีและการลักลอบทิ งกากอุตสาหกรรม ๔.๔.๔.๑ อุบัติภัยจากสารเคมี ข้อมูลจากกองจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ ในปีพ.ศ. ๒๕๖๓ เกิดอุบัติภัยจากสารเคมี ๑ ครั้ง เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓ คือเกิดเหตุเพลิงไหม้ไซโลของ โรงงาน เอ็ช เอ็ม ซี โพลิเมอร์ ประกอบกิจการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิโพรพิลีน ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด อ าเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าท าการระงับเหตุเพลิงไหม้ สามารถสกัด ต้นเพลิงไว้ได้ไม่มีผู้บาดเจ็บ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนใกล้เคียง พบมีค่าอยู่ในเกณฑ์ มาตรฐาน ส าหรับน้ าจากการดับเพลิงส่งก าจัดยังบริษัทรับก าจัดของเสียอันตราย ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ พบอุบัติภัยจากสารเคมี ๑ ครั้ง เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เกิดเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บแนฟทา บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จ ากัด ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (ท่าเทียบเรือขนถ่าย ปิโตรเคมี) เนื่องจากคนงานเข้าไปท าความสะอาดภายในถังเก็บแนฟทา และเกิดการประทุและมีเปลวไฟ มีคนงานเสียชีวิต ๓ ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส ๒ ราย ไม่มีชุมชนและบริษัทข้างเคียงได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยองฯ ตรวจวัดสาร VOCs รวมในบรรยากาศบริเวณโดยรอบ อยู่ในระดับปกติทั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีค าสั่งให้บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จ ากัด หยุดประกอบกิจการโรงงานในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับถังเก็บแนฟทา ที่เกิดเหตุเป็นเวลา ๓๐ วัน เพื่อตรวจสอบสาเหตุและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เกิดเหตุ ๓๔ มาบตาพุดกับบทเรียนขยะอุตสาหกรรม,https://thaipublica.org/2013/04/industrial-waste-map-taput/, สืบค้นเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕
๖๘ น้ ามันรั่วไหลบริเวณทุ่นรับน้ ามันดิบกลางทะเลของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จ ากัด (มหาชน) ห่างจากชายฝั่งบริเวณต าบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร (นอกพื้นที่เขตควบคุม มลพิษระยอง) ท าให้มีน้ ามันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ ามันดิบกลางทะเลในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการด าเนินการขจัดคราบน้ ามันตามแผนป้องกันและขจัด มลพิษทางน้ าเนื่องจากน้ ามันแห่งชาติ ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ด าเนินการส ารวจคุณภาพ สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งคุณภาพสิ่งแวดล้อมในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจวิเคราะห์สารเคมีปนเปื้อน โลหะหนัก แคดเมียม ปรอท และตะกั่ว ในอาหารทะเลพบว่า ภาพรวมอยู่ในค่าไม่เกินมาตรฐาน อาจมีค่าสูงเกินอยู่เล็กน้อยในปลาและหอยแครง ที่มีค่าใกล้เคียงว่าเกินมาตรฐาน ส่วนอาหารทะเลสดอื่น ๆ ยังเป็นปกติและไม่เป็นอันตรายต่อการบริโภค ส าหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และจังหวัดระยองได้จัดตั้งจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ และจุดให้บริการ ข้อมูลผ่านสายด่วน ๑๕๖๗ มีผู้มาร้องเรียน/ร้องทุกข์ ๔.๔.๔.๒ การลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ และ พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง กองตรวจมลพิษ กรมควบคุมมลพิษ ไม่พบการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๕ สถานะด้านสุขภาพของประชาชนในจังหวัดระยองและในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ๔.๕.๑ ข้อมูลด้านสุขภาพทั งจังหวัด ของส านักงานสาธารณสุข จังหวัดระยอง สรุปได้ดังนี ๑) อัตราการเจ็บป่วยโรคจากการประกอบอาชีพ ย้อนหลัง ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๔ กลุ่มโรคที่พบมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มโรคที่เกิดจากการบาดเจ็บจากการท างาน จ านวน ๕๑๗ ๔๗๖ และ ๔๗๔ ราย ตามล าดับ และโรคกระดูกและกล้ามเนื้อจากการท างาน จ านวน ๖๙ ๑๓๘ และ ๒๒๕ ราย ตามล าดับ ดังแสดงในภาพที่ ๒๙ ภาพที่ ๒๙ อัตราการเจ็บป่วยโรคจากการประกอบอาชีพย้อนหลัง ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๔
๖๙ ๒) อัตราการเข้ารับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอก ในสถานพยาบาลภาครัฐของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษย้อนหลัง ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๔ พบว่าโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน แบบเฉียบพลันอื่น ๆ จ านวน ๒๘,๘๔๕ ราย และโรคอื่น ๆ ของผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง จ านวน ๖,๔๕๕ ราย (ดังภาพที่ ๓๐) ภาพที่ ๓๐ อัตราการเข้ารับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอกในสถานพยาบาลภาครัฐของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษย้อนหลัง ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ ๓) สถิติการเกิดอุบัติภัยสารเคมี จังหวัดระยอง ย้อนหลัง ๕ ปี ( ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ – เมษายน ๒๕๖๕) พบว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจ านวน ๕๗ ครั้ง ผู้ป่วยจ านวน ๗๕ ราย และเสียชีวิต จ านวน ๖ ราย (ภาพที่ ๓๑) ภาพที่ ๓๑ สถิติการเกิดอุบัติภัยสารเคมี จังหวัดระยอง ย้อนหลัง ๕ ปี ( ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ – เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕)
๗๐ ๔) สถิติภาวะฉุกเฉินการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ –เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕) พบว่า มีผู้ป่วยจ านวน ๑๗ ราย เสียชีวิต ๔ ราย และผู้ได้รับผลกระทบ จ านวน ๕๙๒ ราย (ภาพที่ ๓๒) ภาพที่ ๓๒ สถิติภาวะฉุกเฉินการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ( ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ – เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕) ๕) สถิติผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ.๒๕๕๔ - ๒๕๖๓ พบว่ามีจ านวน ๗,๑๙๒ ราย โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ มีจ านวน ๙๕๒ ราย (ภาพที่ ๓๓) ภาพที่ ๓๓ สถิติผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๓ สถิติโรคของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๔๙ - ๒๕๕๘ ปรากฏว่า โรคระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มโรคที่ประชาชนจังหวัดระยองเข้ารับการรักษาสูงเป็นอันดับ ๑ จ านวน ๓๑๐,๒๙๕ คน (ในขณะที่ระดับประเทศมีแนวโน้มผู้ป่วยลดลง) ซึ่งมลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุ
๗๑ ส าคัญของการเจ็บป่วยด้วยโรคกลุ่มนี้ และทั้งเด็กและผู้ใหญ่ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้กันมาก ซึ่งสอดคล้องกับ งานวิจัยของเดชรัตน์ สุขก าเนิด ศุภกิจ นันทะวรการ และวิภา ชื่นชิต (๒๕๕๐ : ๑๐ - ๑๒) พบว่าอัตรา ผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจของประชาชนจังหวัดระยอง ก็มีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ มีประชาชนป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจประมาณ ๕๖๙ คนต่อประชากรหนึ่งพันคน เพิ่มขึ้นเป็น ๖๑๓ คนต่อประชากรหนึ่งพันคน ในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ และเพิ่มขึ้นเป็น ๖๙๖ คนต่อประชากร หนึ่งพันคน ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ และในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ จากรายงานมีผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ประมาณ ๖๓๔ คน ต่อประชากรพันคน เป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราการป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ของประชาชนในจังหวัดระยองมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศที่เพียง ๔๐๐ คน ต่อประชากรหนึ่งพันคน และที่ส าคัญอัตราของผู้ป่วยด้วยโรคนี้ในระดับประเทศมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง๓๕ ๔.๕.๒ สถานการณ์สุขภาพในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่เฝ้าระวัง๓๖ จากข้อมูลด้านสุขภาพโดยโรงพยาบาลมาบตาพุดจังหวัดระยอง ได้แก่ ผลการตรวจสุขภาพประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง สาธารณสุขจังหวัด ได้ก าหนดโรคที่เฝ้าระวังในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่ ๑) โรคทางเดินระบบหายใจส่วนล่างอัตราการเกิด ประมาณ ๖๐๐ คน/ปี และมีแนวโน้ม การเพิ่มขึ้นในระดับคงที่ ๒) โรคทางเดินระบบหายใจทั่วไป อัตราการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจทั่วไปมีแนวโน้ม ลดลง เป็นโรคที่อยู่ในเครือข่ายเฝ้าระวัง แต่จากการวินิจฉัยไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่าเป็นโรคที่มีสาเหตุ เกิดจากสาร VOCs ๓) โรคหัวใจขาดเลือด อัตราป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือดมีแนวโน้มลดลง ๔) โรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม อัตราการบาดเจ็บจากการท างาน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ มีแนวโน้มลดลง รายงานผลการตรวจเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มีผู้รับบริการตรวจสุขภาพ จ านวน ๑๘,๐๗๔ ราย๓๗ - จากผลการตรวจความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง (ภาวะซีด) มีจ านวน ๕,๙๙๑ ราย - ผลการตรวจอนุพันธ์ของสารเบนซีนในปัสสาวะ พบว่ามีผลผิดปกติ จ านวน ๓๒ ราย สถานการณ์มะเร็ง : อัตราอุบัติการณ์จ านวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่จังหวัดระยองเทียบกับประเทศไทย ๓๕ ศิริโชค ประทุมพิทักษ์,ผลกระทบต่อชุมชนที่เกิดจากการตั้งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในโครงการ พัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก กรณีของเทศบาลเมืองมาบตาพุด : อ าเภอเมือง จังหวัดระยอง, สืบค้น เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ๓๖ รายงานสรุปผลการสัมมนา เรื่อง “การจัดการสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” โดย กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๖ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๔๐ นาฬิกา ณ ห้องแมจิก ๓ ชั้น ๒ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ๓๗ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง, พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔, จัดท าโดยจังหวัดระยอง, มีนาคม ๒๕๖๔
๗๒ - ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เพศชาย มีค่า ASR อยู่ในอันดับ ๑๔๗ ของประเทศไทย เพศหญิง มีค่า ASR อยู่ในอันดับ ๑๔๑ จากการเปรียบเทียบค่า ASR แต่ละปี ในแต่ละชนิดของโรคมะเร็ง ของประชาชนจังหวัดระยอง เทียบกับประเทศไทยพบว่ามะเร็งปอดมีแนวโน้มลดลง มะเร็งตับลดลง มะเร็งล าไส้ใหญ่และไส้ตรงลดลง มะเร็งต่อมน้ าเหลืองลดลง (หมายเหตุ ASR (Age – Standardized Incidence Rates) คือ อัตราอุบัติการณ์ที่ใช้โครงสร้างของมาตรฐานอายุ โดยใช้มาตรฐานประชากรโลก (World standardized incidence rate) ในการค านวณค่าอุบัติการณ์มีหน่วยอัตราต่อจ านวนประชากร แสนคน อัตราอุบัติการณ์ปรับตามมาตรฐานของประชากรโลกมีความเหมาะสมและสามารถใช้ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของการเกิดโรคมะเร็ง ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก) - ผลการศึกษาด้านสุขภาพ : ผลการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการตรวจสุขภาพประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ – ๒๕๖๐ โดยผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พบความสัมพันธ์ระหว่าง t,t-MA อายุ การสูบบุหรี่ งานอดิเรกเกี่ยวกับ สารระเหย ค่า Creatinine (การท างานของไต) และ Hemoglobin (เม็ดเลือดแดง) ผู้ที่มีงานเกี่ยวกับ สารระเหยมีค่า t,t-MA สูงกว่ากลุ่มที่ไม่มีงานที่เกี่ยวข้องกับสารระเหย ผู้ที่มีค่า Creatinine สูง (การท างานของไตไม่ดี) มีค่า t,t-MA น้อย เพราะขับสารเบนซีนออกได้ไม่ดี - อนุพันธ์สารเบนซีนของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๕๙ ประชาชนในเขตควบคุมมลพิษที่ตรวจสุขภาพทุกปี เป็นเวลา ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๕๙) จ านวน ๒,๕๑๒ คน พบกรดมิวโคนิกในปัสสาวะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยส าคัญ ทางสถิติโดยมีค่าเฉลี่ยในแต่ละปีเท่ากับ ๒๒.๗๔ ๓๖.๙๗ และ ๓๗.๔๖ และพบว่า เพศ พฤติกรรม การดื่มแอลกอฮอล์การสูบบุหรี่ ระยะทางจากบ้านกับนิคมอุตสาหกรรม ระยะเวลาอาศัยในพื้นที่ มีความสัมพันธ์กับภาวะซีด ส่วนการท างานของตับ ร้อยละ ๗๕ อยู่ในเกณฑ์ปกติ - ปัจจัยเสี่ยงด้านอาชีพของการเกิดมะเร็งระบบเม็ดเลือดในจังหวัดระยอง จากการตรวจ กลุ่มตัวอย่างจ านวน ๕๒๕ คน สรุปได้ว่าการสัมผัสสารเคมีก าจัดศัตรูพืชและควันระหว่างการประกอบอาชีพ เป็นปัจจัยเสี่ยงด้านอาชีพที่ส าคัญต่อการเกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือด ในจังหวัดระยอง - การเฝ้าระวังสุขภาพจากการรับสัมผัสสารเบนซีนในสิ่งแวดล้อมของนักเรียน ในโรงเรียนใกล้นิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมาบตาพุดจากกลุ่มตัวอย่างจ านวน ๔๔๔ คน พบว่าการรับสัมผัส สารเบนซีนพบค่าเฉลี่ยของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มากที่สุดเท่ากับ ๑๘๗.๔๕ พิโกกรัม/กรัม - ผลกระทบต่อเม็ดเลือดต่อการรับสัมผัสสารเบนซีนในสิ่งแวดล้อมของประชาชน เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประชาชนจ านวน ๙,๘๒๐ คน พบว่ากรดมิวโคนิกในปัสสาวะ มีความสัมพันธ์กับปริมาณ ฮีโมโกลบิน ฮีมาโตรคริต เม็ดเลือดขาว อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ - ระดับรายวันของสารมลพิษทางอากาศและปริมาณผู้ป่วยที่ได้รับการพ่นยาขยาย หลอดลมในโรงพยาบาลมาบตาพุด จังหวัดระยอง ผู้ป่วยจ านวน ๓๒๐ คน พบว่าสาร Formaldehyde และก๊าซ O3 สูงแตกต่างจากค่ามาตรฐานอย่างมีนัยส าคัญ ปริมาณสาร Acetaldehyde มีความสัมพันธ์ ทางบวกกับผู้ป่วยที่ได้รับการพ่นยาขยายหลอดลม การพัฒนาระบบบริการสุขภาพรองรับเขตพัฒนาอุสาหกรรมให้ทันสมัยและสอดคล้อง กับบริบทพื้นที่การจัดบริการสร้างเสริม ป้องกัน เฝ้าระวังสุขภาพ วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขและส านักงานสาธารณสุข จังหวัดระยอง พัฒนาระบบบริการสาธารณสุข ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองด้วยการขยาย
๗๓ โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ระยอง เป็นโรงพยาบาลขนาด ๒๐๐ เตียง เพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลระยอง / โรงพยาบาลบ้านฉาง / โรงพยาบาลนิคมพัฒนา เพื่อดูแล สุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตอุตสาหกรรม ๔.๖ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ และแผนการปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง สืบเนื่องจากเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้รับการประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ นับถึงปัจจุบันเป็นเวลาที่ผ่านไป ๑๓ ปี ในช่วงเวลาดังกล่าวจนถึงปัจจุบันได้มีแผนเพื่อการ แก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม คือแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ จ านวน ๔ แผน คือ แผนฉบับที่ ๑ : แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ แผนฉบับที่ ๒ : แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ แผนฉบับที่ ๓ : แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ และ แผนฉบับที่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) :แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๖ (ฉบับปรับปรุง) ในขณะที่แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้ด าเนินการ ไปตามแผนที่ก าหนดไว้นั้นในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้มีแผนการปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ านวน ๒ แผน เกิดขึ้นตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ดังภาพที่ ๓๔ คือ แผนฉบับที่ ๑ แผนการปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ แผนฉบับที่ ๒ แผนการปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ โดยแผนปฏิรูปฯ ทั้งสองมีเป้าประสงค์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้ได้ตามมาตรฐานที่ก าหนดไว้แล้วจะประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต่อไป
๗๔ ภาพที่ ๓๔ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษและแผนการปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๖.๑ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑)แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๕๙ ระบุไว้ว่า“ในกรณีที่ปรากฏว่าท้องที่ใดมีปัญหามลพิษซึ่งมีแนวโน้มที่ร้ายแรงถึงขนาดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อนามัยของประชาชนหรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบเสียหายต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีอ านาจประกาศในราชกิจจานุเบกษาก าหนดให้ท้องที่นั้นเป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อด าเนินการควบคุม ลดและขจัดมลพิษได้” เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้มีประกาศให้ ท้องที่ต าบลมาบตาพุด ต าบลห้วยโป่ง ต าบลเนินพระและต าบลทับมา อ าเภอเมืองระยอง ทั้งต าบล ต าบลมาบข่า อ าเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยองทั้งต าบล และต าบลบ้านฉาง อ าเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ทั้งต าบล รวมทั้งพื้นที่ทะเลภายในแนวเขตเป็นเขตควบคุมมลพิษ ตามค าพิพากษาของศาลปกครอง จังหวัดระยองร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ ผนวกรวมไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพ สิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบในการประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เห็นชอบกับแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ โดยแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในพื้นที่จังหวัดระยองปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ มีจ านวนโครงการทั้งสิ้น ๗๑ โครงการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๒,๑๘๒.๘๘ ล้านบาท โดยแผนดังกล่าว
๗๕ ได้รวมแผนปรับลดมลพิษของภาคอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและนอกนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นภาพรวมของการจัดการมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมลพิษ จังหวัดระยอง ผลการด าเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประชาชนและการลดและขจัดมลพิษในพื้นที่มาบตาพุด และบริเวณใกล้เคียงที่ผ่านมาเน้นการแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากมลพิษ ปัญหาขาดแคลนน้ าประปา ปัญหาขยะ ปัญหาความไม่มั่นใจเรื่องคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ า และการ ลดมลพิษตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก คณะอนุกรรมการ ติดตามรายงานผลการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง และคณะท างาน แก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุด ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีมาโดยล าดับ รวม ๓๒ โครงการ วงเงิน ๑,๔๓๒ ล้านบาท ๒) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ จังหวัดระยองได้มีการทบทวนและปรับแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุม มลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ ให้มีแผนการด าเนินการเป็น พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ เพื่อให้ ทันต่อสถานการณ์และความสอดคล้องในการแก้ไขปัญหามลพิษ ซึ่งการจัดท าแผนดังกล่าวได้รับความ ร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๘ แห่ง ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ และกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งได้มีการประชุมรับฟังความ คิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในระดับพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางการจัดการปัญหามลพิษ ซึ่งจากสถานการณ์ คุณภาพสิ่งแวดล้อมของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พบว่ามีแหล่งก าเนิดหลัก ๒ ประเภท คือ (๑) ภาคอุตสาหกรรม (๒) ชุมชน โดยหลังจากที่ได้ส ารวจและจัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษ และคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว มีการน าข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นมาวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา และประเมินระดับความรุนแรงของสภาพ ปัญหาในทุกด้านแล้ว จึงได้ก าหนดมาตรการ/แผนงานเพื่อแก้ไขปัญหา ๗ มาตรการ/แผนงานคือ (๑) มาตรการ/แผนงานบ าบัดและฟื้นฟู เพื่อจัดให้มีแผนงาน/โครงการเร่งด าเนินการแก้ไขสาเหตุ ที่ท าให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพสิ่งแวดล้อม (๒) มาตรการ/แผนงานเฝ้าระวังและป้องกันเพื่อจัดให้มีแผนงาน/โครงการในการเฝ้าระวัง คุณภาพสิ่งแวดล้อม ทั้งโดยภาคประชาชน และผู้ประกอบการ (๓) มาตรการ/แผนงานสร้างจิตส านึกและความตระหนักเพื่อจัดให้มีแผนงาน/โครงการปลุกจิตส านึก ในการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม (๔) มาตรการ/แผนงานศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติ เพื่อจัดให้มีแผนงาน/โครงการศึกษาวิจัยผลกระทบ จากการพัฒนาที่มีต่อสุขภาพและคุณภาพสิ่งแวดล้อม การก าหนดเขตอุตสาหกรรมให้เหมาะสม ตลอดจน การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหามลพิษ (๕) มาตรการ/แผนงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดให้มีแผนงาน/โครงการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ ด าเนินธุรกิจในขอบเขตที่ไม่ละเมิดกฎระเบียบด้านการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (๖) มาตรการ/แผนงานรองรับอุบัติภัยฉุกเฉินและการเตือนภัย เพื่อจัดให้มีแผนงาน/โครงการ เตรียมความพร้อมทั้งภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาคชุมชน ในการป้องกันและแก้ไขเหตุฉุกเฉินจาก อุบัติภัยสารเคมีต่าง ๆ รวมทั้งการเตือนภัยให้ประชาชนได้ทราบล่วงหน้า
๗๖ (๗) มาตรการ/แผนงานติดตามประเมินผล เพื่อจัดให้มีแผนงาน/โครงการติดตามประเมินผล การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ สาระส าคัญแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ วัตถุประสงค์ (๑) เพื่อลดปริมาณการระบายมลพิษจากแหล่งก าเนิดต่างๆ โดยการบ าบัด ก าจัดและฟื้นฟูคุณภาพ สิ่งแวดล้อม (๒) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนทุกภาคส่วนในการมีส่วนร่วมในการจัดการมลพิษในพื้นที่ (๓) เพื่อสร้างระบบและกลไกในการติดตามและประเมินผลโครงการและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตลอดจนพัฒนาระบบเตือนภัยและเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ ระยะเวลาด าเนินการ ๕ ปี (ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ตัวชี้วัด (๑) ร้อยละ ๑๐๐ ของแหล่งก าเนิดมลพิษมีการจัดการมลพิษได้ตามมาตรฐานที่กฎหมายก าหนด (๒) ร้อยละ ๘๐ ของขยะมูลฝอยได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและถูกหลักสุขาภิบาล (๓) ร้อยละ ๘๐ ของพื้นที่เขตควบคุมมลพิษมีคุณภาพน้ าผิวดินอยู่ในเกณฑ์ดี (๔) กากของเสียอันตรายได้รับการจัดการอย่างถูกหลักวิชาการ (๕) น้ าทะเลชายฝั่งในเขตควบคุมมลพิษมีคุณภาพน้ าอยู่ในเกณฑ์ดี ลักษณะของแผนปฏิบัติการ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ จะประกอบไปด้วย แผนงาน ๗ แผนงาน ซึ่งมีสาระส าคัญ ดังนี้ (๑) ประกอบด้วยโครงการต่าง ๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จัดท าขึ้นตามความต้องการ ของประชาชนในท้องถิ่นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โครงการของภาครัฐ (หน่วยงานราชการ ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค) และโครงการของภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการ (๒) ประกอบด้วยโครงการที่มีทบทวนและปรับให้ทันต่อสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหามลพิษ รวมทั้งเพื่อให้สามารถด าเนินการตามแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ได้อย่างต่อเนื่อง (๓) เป็นการระดมงบประมาณด าเนินโครงการจากภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ก. แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปีพ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ของส่วนราชการ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ซึ่งเกิดจากกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชน โดยสามารถแบ่งโครงการทั้งหมดเป็น ๗ แผนงานย่อย ได้แก่ แผนงานบ าบัดและฟื้นฟู แผนงานฝ้าระวัง และป้องกัน แผนงานสร้างจิตส านึกและความตระหนัก แผนงานศึกษาเชิงปฏิบัติการ แผนงานบังคับใช้ กฎหมาย แผนงานรองรับเหตุฉุกเฉินและเตือนภัยสารพิษ แผนงานติดตามและประเมินผล โดยมีจ านวน โครงการทั้งสิ้น ๖๘ โครงการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๓,๐๔๔.๗๓๐๑ ล้านบาท สรุปได้ดังนี้
๗๗ (๑) แผนงานบ าบัดและฟื้นฟู ประกอบด้วย ๒๒ โครงการ เป็นเงิน ๑,๖๔๗.๒๓ ล้านบาท - ด้านคุณภาพอากาศ จ านวน ๔ โครงการ วงเงินรวม ๓๒.๕๐ ล้านบาท - ด้านคุณภาพน้ า จ านวน ๑๓ โครงการ วงเงินรวม ๔๘๕.๕๘ ล้านบาท - ด้านขยะมูลฝอย จ านวน ๔ โครงการ วงเงินรวม ๑,๑๒๗.๑๕ ล้านบาท - ด้านกากของเสียอันตราย จ านวน ๑ โครงการ วงเงินรวม ๒.๐๐ ล้านบาท (๒) แผนงานเฝ้าระวังและป้องกัน ประกอบด้วย ๒๓ โครงการ เป็นเงิน ๔๕๗.๕๗ ล้านบาท - ด้านคุณภาพอากาศ จ านวน ๕ โครงการ วงเงินรวม ๙๐.๕๐ ล้านบาท - ด้านคุณภาพน้ า จ านวน ๓ โครงการ วงเงินรวม ๑๐๙.๒๖ ล้านบาท - ด้านกากของเสียอันตราย จ านวน ๓ โครงการ วงเงินรวม ๕.๓๑ ล้านบาท -การเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในภาพรวม จ านวน ๕ โครงการ วงเงินรวม ๔๙.๐๐ ล้านบาท - การเชื่อมโยงเครือข่ายผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม จ านวน ๗ โครงการ วงเงินรวม ๒๐๓.๕๐ ล้นบาท (๓) แผนงานสร้างจิตส านึกและความตระหนัก ประกอบด้วย ๒ โครงการ เป็นเงิน ๒๒๓.๙๖ ล้านบาท (๔) แผนงานศึกษาเชิงปฏิบัติการ ประกอบด้วย ๘ โครงการ เป็นเงิน ๑๑๑.๐๐ ล้านบาท - ด้านคุณภาพอากาศ จ านวน ๑ โครงการ วงเงินรวม ๗.๐๐ ล้านบาท - ด้านคุณภาพน้ า จ านวน ๒ โครงการ วงเงินรวม ๔๔.๐๐ ล้านบาท - การศึกษาวิจัยในภาพรวมอื่น ๆ จ านวน ๕ โครงการ วงเงินรวม ๖๐.๕๐ ล้านบาท (๕) แผนงานบังคับใช้กฎหมาย ประกอบด้วย ๖ โครงการ เป็นเงิน ๑๗.๑๐ ล้านบาท (๖) แผนงานรองรับเหตุฉุกเฉินและเตือนภัยสารพิษ ประกอบด้วย ๒ โครงการ เป็นเงิน ๕๖๔.๙๗๐๑ ล้านบาท (๗) แผนงานติดตามประเมินผล ประกอบด้วย ๕ โครงการ เป็นเงิน ๒๒.๕๐ ล้านบาท ข. แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ของภาคเอกชน ในปี พ.ศ.๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ มีโรงงานทั้งในและนอกเขตนิคมอุตสาหกรรมจัดส่งแผนปรับลด มลพิษจ านวนทั้งสิ้น ๘๐ แห่ง รวมงบประมาณทั้งสิ้น ๒๕,๐๖๔.๖๙ ล้านบาท และมีความก้าวหน้าของ ผลการด าเนินการในส่วนของการปรับลดมลพิษมาโดยล าดับ ทั้งนี้ เพื่อปรับลดการระบายมลพิษของ ภาคอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นควรขอความร่วมมือผู้ประกอบการทบทวนการจัดท า แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ จังหวัดระยอง ของภาคเอกชนในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ มาผนวกไว้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ หลักการในการน าแผนสู่การปฏิบัติและการติดตามประเมินผล ๑) การน าแผนสู่การปฏิบัติ เพื่อให้การน าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษไปสู่การปฏิบัติ บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของการจัดการมลพิษสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณ ใกล้เคียง จึงก าหนดแนวทางการน าแผนไปสู่การปฏิบัติ โดยสังเขปดังนี้ : ๑.๑) ผู้บริหารหน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเข้าใจและผลักดันให้มีการ ด าเนินงานตามแผนอย่างมีประสิทธิภาพและสม่ าเสมอ ๑.๒) ให้หน่วยงานจัดท าแผนระยะกลางและจัดท าแผนปฏิบัติการ และด าเนินการตามแผน มีการก ากับติดตาม ประเมินผลคุณภาพ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประสบผลส าเร็จ ตามที่มุ่งหวังไว้
๗๘ ๑.๓) เร่งรัดให้หน่วยงานด าเนินงาน เพื่อเผยแพร่และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ สาระส าคัญของแผนให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ได้ทราบ มีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนอย่างกว้างขวาง เพื่อให้การน าแผนสู่การปฏิบัติ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความเป็นปึกแผ่นต่อเนื่อง ๑.๔) มีการก าหนดภารกิจความรับผิดชอบให้ชัดเจนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และภาคประชาชน เพื่อความสอดคล้องกับแผนงานและแผนอัตราก าลัง และขจัดความซ้ าซ้อนของงาน ๑.๕) วางแนวปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและชัดเจนแก่ผู้ปฏิบัติและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๑.๖) พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านสิ่งแวดล้อมและแหล่งก าเนิดมลพิษให้มีความ ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน และสามารถให้บริการได้ตรงกับความต้องการและทันต่อการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งการเปิดช่องทางให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าถึงข้อมูลได้ ๑.๗) พัฒนาระบบการก ากับติดตาม และการประเมินผล ที่มุ่งเน้นการประเมินเพื่อการพัฒนา และปรับปรุงการด าเนินงานโดยมีการพัฒนาตัวชี้วัดผลส าเร็จการด าเนินงานทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพ ระยะเวลาในการประเมิน ผู้ประเมิน และแนวทางในการเก็บรวบรวมข้อมูล ๒) การติดตามและประเมินผล ในส่วนการประเมินผลให้ทุกหน่วยงานสร้างระบบการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกัน เพื่อสามารถ เอื้อประโยชน์ร่วมกันได้ในทุกหน่วยงานและสามารถตรวจสอบได้โดยภาคเอกชนหรือองค์กรชุมชน โดยจัดท าเกณฑ์ชี้วัดความส าเร็จของแผนตามวัตถุประสงค์ที่ก าหนดไว้ให้เป็นรูปธรรม ด าเนินการ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานอย่างต่อเนื่อง การปรับปรุงแผนเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งสร้างมาตรการเร่งรัด หากมีโครงการหรือกิจกรรมที่ด าเนินการช้ากว่าที่ก าหนด และตรวจสอบคุณภาพอย่างใกล้ชิดและสม่ าเสมอ ทั้งนี้ในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ได้มีค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษา ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นประธาน ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการ และภาคประชาชน เป็นคณะกรรมการ ผู้อ านวยการส านักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง เป็นคณะกรรมการและเลขานุการ โดยคณะกรรมการฯ มีหน้าที่สนับสนุนด้านวิชาการและสนับสนุน การท างานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง รวมทั้งการสนับสนุนให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ ชี้แจงท าความเข้าใจ กับประชาชนและองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ โดยคณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมเป็นระยะ ๆ ตลอดช่วงเวลา การจัดท าแผนฯ เพื่อรับทราบปัญหาและให้ค าแนะน าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดท าแผนฯ นอกจากนั้นในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส านักงานนิคมอุตสาหกรรม ๕ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง (นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เหมราชตะวันออก ผาแดง เอเชีย และอาร์ ไอ แอล) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการได้ประชุมหารือกันเพื่อให้
๗๙ โรงงานที่อยู่ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษเข้าร่วมด าเนินมาตรการปรับลดมลพิษ โดยท าการส ารวจมลพิษ และเสนอแผนงานลดปริมาณมลพิษที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินงานของตนเองได้แก่ การลดปริมาณน้ าทิ้ง และปริมาณมลพิษทางน้ า (เช่น โลหะหนัก BOD VOCs) การลดปริมาณการใช้และทิ้งกากอุตสาหกรรม การลดปริมาณการระบายมลพิษทางอากาศพื้นฐาน (เช่น SOx, NOx , ฝุ่นละออง) การลดปริมาณการระบาย สาร VOCs รวมทั้งการจัดท าฐานข้อมูลการระบายสาร VOCs และการติดตามประเมินผลการด าเนินงาน โดยให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกรายที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ๕ แห่งในเขตควบคุมมลพิษ (นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เหมราชตะวันออก ผาแดง เอเชีย และอาร์ ไอ แอล) รวมจ านวนทั้งสิ้น ๑๔๓ โรงงานเข้าร่วมการปรับลดมลพิษแบบสมัครใจ ๓) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัด ระยอง พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔๓๘ เนื่องจากการประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ จังหวัดระยอง ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๖๐ ที่ก าหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในท้องที่ที่ได้ประกาศก าหนดให้เป็นเขตควบคุมมลพิษ ตามมาตรา ๕๙ จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษนั้นเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรวมไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดและเสนอต่อคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (มาตรา ๓๗) และต่อมาได้มีการทบทวนและปรับแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นฉบับ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ เมื่อแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ สิ้นสุด ต่อมาได้จัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ และต่อมาได้มีการ ปรับปรุงเป็นแผนปฏิบัติการฯ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๖ ตามล าดับ เพื่อให้การแก้ไขปัญหากิจกรรม ที่ก่อให้เกิดมลพิษหรือส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตดังกล่าว มีความต่อเนื่อง อย่างมีประสิทธิผล วัตถุประสงค์ของแผนฯ ๑) เพื่อใช้เป็นกรอบและแนวทางในการควบคุม ลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มลพิษของประเทศที่ทันต่อสถานการณ์ ๒) เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการควบคุม ลดและขจัดมลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่มีการก าหนดเป้าหมาย ทิศทาง และผลักดันการด าเนินการให้เกิดผลร่วมกัน เป้าหมายของแผนฯ ๑) คุณภาพสิ่งแวดล้อมดีขึ้นและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ๒) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคส่วนอื่น ๆ มีส่วนร่วมในการจัดการมลพิษเพิ่มขึ้น ๓๘ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง, พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔, จัดท าโดยจังหวัดระยอง, มีนาคม ๒๕๖๔.
๘๐ ตัวชี้วัด ๑) คุณภาพอากาศ (๑) เบนซีนมีค่าเฉลี่ยรายปีไม่เกิน ๑.๗ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (๒) ๑,๒-ไดคลอโรอีเทน มีค่าเฉลี่ยรายปีไม่เกิน ๐.๔ มคก./ลบ.ม. (๓) ๑,๓-บิวทาไดอีน มีค่าเฉลี่ยรายปีไม่เกิน ๐.๓๓ มคก./ลบ.ม. ๒) คุณภาพน้ า (๑) น้ าเสียชุมชนที่เกิดขึ้นได้รับการบ าบัดไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (๒) แหล่งก าเนิดน้ าเสียตามกฎหมายด าเนินการจัดการน้ าเสียตามมาตรฐาน/มาตรการ ที่กฎหมายก าหนดไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๑๐๐ (๓) คลองสาธารณะเป้าหมาย ได้แก่ คลองพยูน คลองบางกระพรุน คลองบางเบิด คลองน้ าหู คลองห้วยใหญ่ คลองชากหมาก คลองตากวน คลองหลอด คลองทับมา คลองหนองผักหนาม คลองกระเฉด คลองหนองคล้า คลองน้ าด า และคลองน้ าตก มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์พอใช้ (๔) คุณภาพน้ าทะเลบริเวณปากคลองชากหมาก ปากคลองบางเบิด และปากคลองตากวน อยู่ในเกณฑ์พอใช้ (๕) คุณภาพน้ าใต้ดินในพื้นที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ๓) การจัดการขยะมูลฝอยและสารอันตราย (๑) ขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นได้รับการจัดการอย่างถูกหลักวิชาการ ร้อยละ ๑๐๐ (๒) มูลฝอยติดเชื้อที่เกิดขึ้นได้รับการจัดการอย่างถูกหลักวิชาการ ร้อยละ ๑๐๐ (๓) ของเสียอันตรายชุมชนได้รับการรวบรวมไปก าจัดอย่างถูกหลักวิชาการ ร้อยละ ๘๐ (๔) กากอุตสาหกรรมทั้งประเภทที่เป็นอันตรายและที่ไม่เป็นอันตรายได้รับการก าจัด/บ าบัด อย่างถูกหลักวิชาการ ร้อยละ ๑๐๐ ๔) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๔๖๐ – ๒๕๖๖ (ฉบับปรับปรุง) จังหวัดระยองร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ พ.ศ. ๒๕๕๓ – ๒๕๕๖ (ฉบับแรก) ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๖๐ และต่อมาได้มีการทบทวนและปรับแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นฉบับ พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙ (ฉบับที่ ๒) เมื่อแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ สิ้นสุด ต่อมาได้จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ๓) และปรับปรุงเป็นแผนปฏิบัติการฯ (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๖ (ฉบับปรับปรุง) ตามล าดับ เพื่อให้การแก้ไขปัญหากิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษหรือส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และคุณภาพชีวิตดังกล่าวมีความต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิผล แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๖ ประกอบด้วย ๖ แผนงาน ได้แก่ แผนงานบ าบัดและฟื้นฟู แผนงานเฝ้าระวัง และป้องกัน แผนงานสร้าง จิตส านึกและความตระหนัก แผนงานศึกษาเชิงปฏิบัติการ แผนงานบังคับใช้กฎหมายและแผนงาน ติดตามและประเมินผล โดยมีจ านวนโครงการทั้งสิ้น ๖๗ โครงการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๖,๐๒๖.๖๖๕ ล้านบาท
๘๑ (๑) แผนงานบ าบัดและฟื้นฟู ประกอบด้วย ๑๗ โครงการ เป็นเงิน ๕,๑๐๐.๓๔๐ ล้านบาท - ด้านคุณภาพอากาศ จ านวน ๓ โครงการ วงเงินรวม ๒๔.๐๐๐ ล้านบาท - ด้านคุณภาพน้ า จ านวน ๖ โครงการ วงเงินรวม ๑,๖๔๑.๐๐๐ ล้านบาท - ด้านขยะมูลฝอย จ านวน ๙ โครงการ วงเงินรวม ๓,๔๓๘.๓๔๐ ล้านบาท (๒) แผนงานสร้างจิตส านึกและความตระหนัก ประกอบด้วย ๓ โครงการ เป็นเงิน ๙๕.๗๔๐ ล้านบาท (๓) แผนงานบังคับใช้กฎหมาย ประกอบด้วย ๑๙ โครงการ เป็นเงิน ๕๕.๓๕๐ ล้านบาท - ด้านการพัฒนากฎหมาย มาตรฐาน มาตรการ จ านวน ๖ โครงการ วงเงินรวม ๑๘.๔๐๐ ล้านบาท - ด้านการบังคับการตามกฎหมาย การบังคับการตามกฎหมาย มาตรฐาน มาตรการ จ านวน ๑๓ โครงการ วงเงินรวม ๓๖.๙๕๐ ล้านบาท (๔) แผนงานศึกษาเชิงปฏิบัติ ประกอบด้วย ๕ โครงการ เป็นเงิน ๙๕.๔๔๖ ล้านบาท - ด้านคุณภาพอากาศ จ านวน ๒ โครงการ วงเงินรวม ๑๗.๖๕๕ ล้านบาท - ด้านคุณภาพน้ า จ านวน ๑ โครงการ วงเงินรวม ๕๗.๘๔๐ล้านบาท - ด้านกากของเสียอันตราย จ านวน ๑ โครงการ วงเงินรวม ๔.๙๓๕ ล้านบาท - ด้านการป้องกัน ควบคุมโรค และภัยสุขภาพ จ านวน ๑ โครงการ วงเงินรวม ๑๕.๐๑๖ ล้านบาท (๕) แผนงานเฝ้าระวังและป้องกัน ประกอบด้วย ๑๕ โครงการ เป็นเงิน ๖๖๒.๘๗๑ ล้านบาท - ด้านคุณภาพอากาศ จ านวน ๒ โครงการ วงเงินรวม ๒๑๗.๐๐๐ ล้านบาท - ด้านคุณภาพน้ า จ านวน ๒ โครงการ วงเงินรวม ๒๓.๔๐๑ ล้านบาท - ด้านกากของเสียอันตราย จ านวน ๒ โครงการ วงเงินรวม ๒๑.๐๐๐ ล้านบาท - อื่น ๆ จ านวน ๙ โครงการ วงเงินรวม ๔๐๑.๔๗๐ ล้านบาท (๖) แผนงานติดตามประเมินผล ประกอบด้วย ๘ โครงการ เป็นเงิน ๑๖.๙๑๘ ล้านบาท ๔.๖.๒ แผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ ๑) แผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ ตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๗๐ ประกอบด้วยแผนการปฏิรูปด้านระบบบริหารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงแผนปฏิรูปประเทศ ๕ ปีมี ๘ ประเด็นปฏิรูป ดังนี้ (๑) การปฏิรูประบบและโครงสร้างการจัดท ารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ (EIA และ EHIA) (๒) การปฏิรูประบบการประเมินยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Strategic Environmental Assessment : SEA) (๓) การปฏิรูปการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ (๔) การปฏิรูปการผังเมือง (๕) การปฏิรูปเครื่องมือเศรษฐศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม (๖) การปฏิรูปองค์กร ระบบแผน ระบบงบประมาณ และเครื่องมือบริหารจัดการ (๗) การปฏิรูประบบยุติธรรมสิ่งแวดล้อม
๘๒ (๘) การปฏิรูปกฎหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัดด้านที่ ๖ เรื่อง ระบบบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้อ ๖.๒ ก าหนดไว้ว่า “ยกเลิกเขตควบคุม มลพิษซึ่งเป็นผลจากการแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่ส าเร็จ ไม่น้อยกว่า ๓ พื้นที่ ในระยะเวลา ๕ ปี” ๒) แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ หลังจากแผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ ด าเนินการไปได้ ๓ ปี ได้เกิดแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ต้องส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องด าเนินการตามกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยส าคัญ (Big Rock) น าไปสู่การปฏิบัติตามหลักความสัมพันธ์เชิงเหตุ และผล (Causal Relationship : XYZ) เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติของแต่ละ ช่วงเวลา ๕ ปีโดยแผนการปฏิรูปประเทศฉบับปรับปรุงจะด าเนินการคู่ขนานไปกับแผนการปฏิรูปประเทศ ฉบับเดิมที่ประกาศใช้เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๖๑ และกิจกรรมในลักษณะภารกิจปกติของหน่วยงานคือจะ ด าเนินการคู่ขนานกับแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) มีเป้าประสงค์เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และมีความสมบูรณ์ยั่งยืนเป็นฐานการพัฒนาประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ลดความขัดแย้งของการพัฒนาที่ใช้ ฐานทรัพยากรธรรมชาติ บรรเทาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และลดภัยพิบัติทางธรรมชาติ และมีระบบ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาค ส่วนตามแนวทางประชารัฐ โดยก าหนดกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อ ประชาชนอย่างมีนัยส าคัญ จ านวน ๔ กิจกรรม ประกอบด้วย ๑) เพิ่มและพัฒนาพื้นที่ป่าไม้ให้ได้ตามเป้าหมาย ๒) การบริหารจัดการเขตทางทะเลและชายฝั่งรายจังหวัด ๓) การบริหารจัดการน้ าเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ๔) ปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด (หรือเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง) (ดังตารางที่ ๑๓, ๑๔ และ ๑๕) ทั้งนี้ ในการด าเนินการดังกล่าว จะส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น ทั้งในเขตเมืองและชุมชน มลพิษทางอากาศดีขึ้น และเกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ ประโยชน์ทั้งทรัพยากรทางบก ทรัพยากรน้ า ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ความหลากหลายทางชีวภาพ สิ่งแวดล้อม และระบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป้าหมายและตัวชี้วัดของกิจกรรมปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามแผนการปฏิรูปประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ในกิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ คือการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕)
๘๓ ๑) เป้าหมาย ๑.๑) ควบคุม ลด และขจัดมลพิษที่เกินค่ามาตรฐาน ๑.๒) การยกเลิกประกาศเขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด ๒) ตัวชี้วัด ๒.๑) คุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษมาบตาพุดเป็นไปตามค่าเกณฑ์ มาตรฐาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๒.๒) ออกประกาศยกเลิกเขตควบคุมพิษมาบตาพุด ๓) หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๔) ระยะเวลาด าเนินการรวม ๒ ปี (ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕) ๕) ประมาณการวงเงินรวม และแหล่งที่มาของเงิน วงเงินรวมตามที่ก าหนดในแผนปฏิบัติการลด และขจัดมลพิษส าหรับเขตนิคมมาบตาพุด แหล่งเงิน : เงินงบประมาณ และงบจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ๖) ขั้นตอนและวิธีการการด าเนินการปฏิรูป กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก ในการท างานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการ ดังนี้๓๙ - ขั้นตอนที่ ๑ ทบทวนผลจากการปฏิบัติตามมาตรการของเขตควบคุมมลพิษ และจัดล าดับ ความส าคัญของผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษโดยให้มีการทบทวนปัจจัยอ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการรองรับด้านสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔) - ขั้นตอนที่ ๒ เพิ่มกลไกในการด าเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในการเป็นผู้ก ากับดูแลการ ด าเนินการของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา ๖๐ ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ โดยการเพิ่ม รูปแบบและวิธีการของการสั่งการต่อเจ้าหน้าที่รัฐในส่วนภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินแผนงาน เพื่อให้สามารถด าเนินการได้อย่างบูรณาการและเป็นเอกภาพ ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔) - ขั้นตอนที่ ๓ เสนอของบประมาณที่เพียงพอส าหรับการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการลดและขจัด มลพิษ รวมทั้ง การใช้งบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อม (มาตรา ๖๑ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕) ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔) - ขั้นตอนที่ ๔ ออกกฎระเบียบในการลงโทษ/เก็บค่าใช้จ่ายเพื่อการป้องกันและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม จากผู้ที่ก่อมลพิษสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ และก าหนดวิธีการใช้งบประมาณที่สามารถกลับมา ด าเนินการเพื่อลดและขจัดมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษนั้น ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔) - ขั้นตอนที่ ๕ ประสานติดตาม และเร่งรัดการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการและมาตรการที่ได้รับ การปรับปรุงแล้วในเขตควบคุมมลพิษ ระยะเวลาด าเนินการ ๒ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕) - ขั้นตอนที่ ๖ เสนอร่างประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พิจารณาให้ความเห็นชอบ ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๕) ๓๙ แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ในกิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ คือการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕)
๘๔ - ขั้นตอนที่ ๗ ประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด เมื่อด าเนินการแก้ไขปัญหาได้ส าเร็จ ตามเกณฑ์ชี้วัดที่ก าหนด ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๕) - ขั้นตอนที่ ๘ ก าหนดมาตรการพิเศษทางกฎหมายด้านป้องกันและควบคุมมลพิษ คงไว้ในพื้นที่ แทนประกาศเขตควบคุมมลพิษ ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๕) ตารางที่ ๑๓ แผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชน อย่างมีนัยส าคัญ (Big Rock)
๘๕ ตารางที่ ๑๔ เป้าหมายย่อยของขั้นตอนและวิธีการตามกิจกรรม Big Rock และระยะเวลาที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ
๘๖ ตารางที่ ๑๕ ก าหนดโครงการ/การด าเนินงานในการขับเคลื่อนกิจกรรม Big Rock หน่วยงาน ผู้รับผิดชอบ โครงการรหัสโครงการ (BRO101 Xnn)โครงการ/ การด าเนินงาน ***เป้าหมาย/ผลผลิต/ ผลลัพธ์ของโครงการระยะเวลา เริ่มต้น และสิ นสุด โครงการวงเงินงบประมาณที่มาของงบประมาณส่งผลต่อ เป้าหมายย่อย (ได้มากกว่า๑) MS x.xกรณีเป็นการ ด าเนินการตาม แผนการปฏิรูป ประเทศ (ฉบับเดิม) โปรดระบุ ค าที่เกี่ยวข้อง องค์การบริหาร ส่วนจังหวัดระยอง BR0604X01โครงการก่อสร้างระบบ รวบรวมและระบบบ าบัด น้ าเสียในพื้นที่เขตควบคุม มลพิษจังหวัดระยอง (พื้นที่จัดการน้ าเสีย เทศบาลนครระยอง มีระบบรวบรวม และมีระบบบ าบัดน้ าเสีย ที่มีประสิทธิภาพ ๒๕๖๔ –๒๕๖๕๘๐๔,๐๐๐,๐๐๐ขอรับจัดสรรงบกลาง เพิ่มเติม MS 1.4แผนการปฏิรูป ประเทศด้าน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ประเด็นการปฏิรูป ระบบการบริหาร จัดการเขตควบคุม มลพิษ องค์การจัดการน้ าเสีย และเทศบาลต าบล บ้านฉาง BR0604X02โครงการก่อสร้างระบบ บ าบัดน้ าเสียเทศบาลต าบลบ้านฉางมีระบบบ าบัดน้ าเสียที่มีประสิทธิภาพ๒๕๖๔ –๒๕๖๕๗๓,๐๐๐,๐๐๐ขอรับจัดสรรงบกลาง เพิ่มเติม MS 1.4 องค์การจัดการน้ าเสีย และเทศบาลเมือง มาบตาพุด BR0604X03โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมน้ าเสียเทศบาล เมืองมาตาพุดมีระบบรวบรวมน้ าเสียที่มีประสิทธิภาพ๒๕๖๔ –๒๕๖๕๕๐๒,๐๐๐,๐๐๐ขอรับจัดสรรงบกลาง เพิ่มเติม MS 1.4 การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย BR0604X04การก ากับดูแลการจัดการ น้ าเสียจากโรงงาน อุตสาหกรรมโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ระบายน้ าเสียเป็นไปตามมาตรฐานที่ก าหนด๒๕๖๔๑,๐๐๐,๐๐๐โครงการที่ได้รับจัดสรร ตามพรบ.๖๔ MS 1.4โครงการที่ได้ รับ จัดสรรตาม พรบ.๖๔ ๘๖
หน่วยงาน ผู้รับผิดชอบ โครงการรหัสโครงการ (BRO101 Xnn)โครงการ/ การด าเนินงาน ***เป้าหมาย/ผลผลิต/ ผลลัพธ์ของโครงการระยะเวลา เริ่มต้น และสิ นสุด โครงการวงเงินงบประมาณที่มาของงบประมาณส่งผลต่อ เป้าหมายย่อย (ได้มากกว่า๑) MS x.xกรณีเป็นการ ด าเนินการตาม แผนการปฏิรูป ประเทศ (ฉบับเดิม) โปรดระบุ ค าที่เกี่ยวข้อง เงินนอกงบประมาณ/ แหล่งเงินได้รายได้อื่นเงินนอกงบประมาณ/ แหล่งเงินได้รายได้อื่น ส านักงาน อุตสาหกรรม จังหวัดระยอง BR0604X05การก ากับดูแลการจัดการ น้ าเสียจากโรงงานนอก นิคมอุตสาหกรรมโรงงานนอกนิคมอุตสาหกรรมระบายน้ าเสียเป็นไปตามมาตรฐาน๒๕๖๔ –๒๕๖๕๑,๐๐๐,๐๐๐โครงการที่ได้รับจัดสรร ตามพรบ.๖๔เสนอขอตั้ง งบประมาณในปี ๖๕ MS 1.4โครงกา รที่ได้รับ จัดสรรตาม พรบ.๖๔ ส านักงานขนส่ง จังหวัดระยอง BR0604X06การก ากับดูแลการระบาย มลพิษและสาร VOCs จากยานพาหนะ การระบายมลพิษและสาร VOCsจากยานพาหนะ เป็นไปตามมาตรฐาน ๒๕๖๔๑,๐๐๐,๐๐๐โครงการที่ได้รับจัดสรร พรบ.๖๔เสนอขอตั้ง งบประมาณในปี ๖๕ MS 1.4 ส านักงานพลังงาน จังหวัดระยอง BR0604X17การก าหนดมาตรการ และก ากับดูแลการระบาย สาร VOCs จากสถานี บริการน้ ามัน สถานีบริการน้ ามันไม่ก่อ ปัญหาVOCs ๒๕๖๔๕๐๐,๐๐๐โครงการที่ได้รับจัดสรร ตามพรบ.๖๔เสนอขอตั้ง งบประมาณในปี๖๕ MS 1.4 ส านักงานทรัพยากร ธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง BR0604X18การก ากับติดตามการแก้ไข ปัญห ามลพิษในพื้นที่ มาบตาพุดและบริเวณ ใกล้เคียงจังหวัดระยองการแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง เป็นไปตาม แผนมาตรการและเป้าหมาย ที่ก าหนด๒๕๖๔ –๒๕๖๕๑,๐๐๐,๐๐๐โครงการที่ได้รับจัดสรร ตามพรบ.๖๔เสนอขอตั้ง งบประมาณในปี ๖๕ MS 1.4 ๘๗๘๗
๘๘ หน่วยงาน ผู้รับผิดชอบ โครงการรหัสโครงการ (BRO101 Xnn)โครงการ/ การด าเนินงาน ***เป้าหมาย/ผลผลิต / ผลลัพธ์ของโครงการระยะเวลา เริ่มต้น และสิ นสุด โครงการวงเงินงบประมาณที่มาของงบประมาณส่งผลต่อ เป้าหมายย่อย (ได้ มากกว่า ๑) MS x.x กรณีเป็นการ ด าเนินการตาม แผนการปฏิรูป ประเทศ (ฉบับเดิม) โปรดระบุ ค าที่เกี่ยวข้อง กรมควบคุมมลพิษ BR0604 X19โค รงก า รป ระเมินผล เพื่อยกเลิกเขตควบคุม มลพิ ษตามแผนการ ปฏิรูปประเทศ -ข้อเสนอพื้นที่ที่สมควร ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ -ข้อเสนอการปรับปรุง หลักเกณฑ์การประกาศ หรือยกเลิกเขตควบคุม มลพิษ -ข้ อ เ ส น อ ม า ต ร ก า ร การจัดการสิ่งแวดล้อม ที่ยั่งยืนในพื้นที่ควบคุม มลพิษแทนการประกาศ เขตควบคุมมลพิษ ๒๕๖๕ ๗,๕๕๘,๐๐๐เสนอขอตั้งงบประมาณ ในปี๖๕ MS 2.2 MS 2.3 การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย BR0604 X09การก ากับดูแลโรงงาน อุตส าหก ร รมในนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้ส่งกากอุตสาหกรรม ทั้งป ร ะเภท อั นตราย และไม่อันตรายเข้าสู่โรงงาน ก าจัดกากอุตสาหกรรม โ รงง า น อุ ต ส า ห ก ร ร ม ใ น นิ ค มอุตสาหกรรม ก าจัดกากอุตสาหกรรม ทั้งประเ ภทอันตรายและ ไม่อันตรายถูกหลักการ ๒๕๖๔ –๒๕๖๕ ๑,๐๐๐,๐๐๐โครงการที่ได้รับจัดสรร ตาม พรบ.๖๔ เงินนอกงบประมาณ / แหล่งเงินได้อื่น MS 1.4 ๘๘
๘๙ หน่วยงาน ผู้รับผิดชอบ โครงการรหัสโครงการ (BRO101 Xnn)โครงการ/ การด าเนินงาน ***เป้าหมาย/ผลผลิต / ผลลัพธ์ของโครงการระยะเวลา เริ่มต้น และสิ นสุด โครงการวงเงินงบประมาณที่มาของงบประมาณส่งผลต่อ เป้าหมายย่อย (ได้ มากกว่า ๑) MS x.x กรณีเป็นการ ด าเนินการตาม แผนการปฏิรูป ประเทศ (ฉบับเดิม) โปรดระบุ ค าที่เกี่ยวข้อง ส านักงาน อุตสาหกรรม จังหวัดระยอง BR0604 X10การท ากับดูแลโรงงาน อุตสาหกรรมนอกนิคม อุตสาหกรรม ให้ส่งกาก อุตสาหกรรมทั้งประเภท อันตรายและไม่อันตราย เข้าสู่โรงงานก าจัดกาก อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมทั้งโรงงาน อุตสาหกรรมนอกนิคมอุตสาหกรรมก าจัดกากประเภทอันตรายและไม่ อันตรายถูกหลักวิชาการ๒๕๖๔ –๒๕๖๕ ๑,๐๐๐,๐๐๐โครงการที่ได้รับจัดสรร ตามพรบ.๖๔เสนอขอตั้ง งบประมาณในปี ๖๕ MS 1.4 กรมควบคุมมลพิษ BR0604 X11ก า รพั ฒ น า กฎห ม า ย มาตรฐาน มาตรการแก้ไข ปัญหาสาร VOCs ในอากาศ กฎหมายมาตรฐาน มาตรการ แ ก้ไ ขปัญหาสาร VOCs ในอากาศ ๒๕๖๕เสนอขอตั้งงบประมาณ ในปี ๖๕ MS 1.4 กรมโรงงาน อุตสาหกรรม BR0604 X12ก า ร จั ด ท า ก ฎ ห ม า ย ควบคุมการระบายไอสาร VOCS จากการประกอบ กิจการ ถังเก็บและจาก หอเผาทิ้งของโรงงาน อุตสาหกรรมและได้มีการ เสนอโครงการจัดท าระบบ การรายงาน สารอินทรีย์ ระเหยในกิจกรรมหอเผาทิ้ง กฎหมายควบคุมการระบาย ไอสาร VOCs จากการ ประกอบกิจการถังเก็บและ จากหอเผาทิ้งของโรงงาน อุตสาหกรรมโดยมีระบบ รายงานเพื่อช่วยในการจัดเก็บ ข้อมูลประมวลผลข้อมูล และมีการจัดการทางด้าน สิ่งแวดล้อมต่อไป ๒๕๖๕ ๒,๕๐๐,๐๐๐เสนอขอตั้งงบประมาณ ในปี ๖๕ MS 1.4 ๘๙
๙๐ หน่วยงาน ผู้รับผิดชอบ โครงการรหัสโครงการ (BRO101 Xnn)โครงการ/ การด าเนินงาน ***เป้าหมาย/ผลผลิต/ ผลลัพธ์ของโครงการระยะเวลา เริ่มต้น และสิ นสุด โครงการวงเงินงบประมาณที่มาของงบประมาณส่งผลต่อ เป้าหมายย่อย (ได้มากกว่า๑) MS x.xกรณีเป็นการ ด าเนินการตาม แผนการปฏิรูป ประเทศ (ฉบับเดิม) โปรดระบุ ค าที่เกี่ยวข้อง ถังกักเก็บและการซ่อม บ ารุง เพื่อเป็นระบบรองรับ ในการรายงานผลจัดเก็บ ข้อมูลและประมวลผล ข้ อ มู ล โ ด ย เ ป็ นการ ด าเนินการจัดท ากฎหมาย และจัดท าระบบควบคู่กัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง :องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง องค์การจัดการน้ าเสีย ส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส านักงานสิ่งแวดล้อมภาค ๑๓ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กองบังคับการต ารวจภูธร จังหวัดระยอง ส านักงานขนส่งจังหวัดระยองส านักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ส านักงานพลังงานจังหวัดระยอง ๙๐
๔.๗ แผนป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษที่เกี่ยวข้องในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง การแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองนอกจากต้องด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามกฎหมายแล้ว ยังมีการ ด าเนินการตามแผนที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ ๔.๗.๑ แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด เป็นแผนปฏิบัติการ ที่ก าหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๓๕ จัดท าขึ้นเพื่อเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติและให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด าเนินการตามอ านาจหน้าที่เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตาม แผนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อป้องกัน แก้ไข ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามสถานการณ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และความเร่งด่วนของปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยจะต้องด าเนินการ ให้สอดคล้องกับแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่จัดท าขึ้นตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน ซึ่งแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่มีผลใช้บังคับ ณ ปัจจุบัน คือ แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๕ ได้ก าหนดแนวทางการด าเนินงาน ออกเป็น ๔ ยุทธศาสตร์ ๔ เป้าหมาย ๑๑ กลยุทธ์ และ ๓๐ แผนงาน ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและเป็นธรรม กลยุทธ์ที่ ๑.๑ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ ประโยชน์อย่างยั่งยืน มี ๖ แผนงาน : ๑) ทรัพยากรป่าไม้๒) ทรัพยากรน้ า/น้ าบาดาล ๓) ทรัพยากรดินและที่ดิน ๔) ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ๕) ทรัพยากรธรณี๖) ความหลากหลายทางชีวภาพ ๒) กลยุทธ์ที่ ๑.๒ การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืน มี ๓ แผนงาน : ๑) การมีส่วนร่วมในการจัดการ ๒) การเสริมสร้างศักยภาพในการจัดการ ๓) การเสริมสร้าง ความรู้และความตระหนัก / ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้รับการป้องกัน บ าบัด และฟื้นฟู กลยุทธ์ที่ ๒.๑ การป้องกัน ลด และขจัดมลพิษ มี ๔ แผนงาน : ๑) การพัฒนา เครื่องมือ กลไกการบริหารจัดการ ๒) การจัดการน้ าเสีย ๓) การจัดการคุณภาพอากาศและเสียง ๔) การบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนและของเสียอันตราย ๔.๗.๒ แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นกรอบชี้น าให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและภาคีต่าง ๆ ได้ใช้ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระยะเวลา ๕ ปี เพื่อให้มีการบริหาร จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีการด าเนินการให้เป็นไปตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ การด าเนินงานเขต ควบคุมมลพิษ มีความเกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ที่ ๒ ที่มีการก าหนดเป้าหมายว่าสิ่งแวดล้อมได้รับการจัดการ ที่ดีอย่างมีคุณภาพทั้งการป้องกัน บ าบัด ฟื้นฟู และการถ่ายทอดสิ่งแวดล้อมที่ดีสู่รุ่นต่อไป ๙๑
๙๒ ๔.๗.๓ แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร๔๐ นอกจากแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ซึ่งต้องจัดท าแผนปฏิบัติการฯ และด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯตามกฎหมายแล้ว ส านักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดท า “แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร” ในพื้นที่เป้าหมายเดียวกันคือเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ ซึ่งแผนดังกล่าวประกอบด้วย แผนแก้ไขปัญหาด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อม ปัญหาด้านสังคม ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาด้านกายภาพและโครงสร้างพื้นฐาน และปัญหาด้านการบริหารจัดการ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบและอนุมัติ ตามที่ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ดังนี้ ๑) เห็นชอบในหลักการแผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร เพื่อให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการจัดท าโครงการแก้ไขปัญหามาบตาพุดในระยะต่อไป ๒) อนุมัติในหลักการการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก เพื่อท าหน้าที่ในการก ากับดูแลการแก้ไขปัญหามาบตาพุด โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายเป็นประธานกรรมการ และส านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ท าหน้าที่ เป็นฝ่ายเลขานุการ สาระส าคัญของเรื่อง คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้มีการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ พิจารณาเรื่อง แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร ของ สศช. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๑) แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร ประกอบด้วย สภาพปัญหาในพื้นที่ และการแก้ไขปัญหาในระยะที่ผ่านมา ข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา และแผนงาน/โครงการภายใต้ แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ สรุปได้ดังนี้ ๑.๑) พื้นที่เป้าหมาย “พื้นที่เขตควบคุมมลพิษตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒” ประมาณ ๒๖๐,๖๖๐ ไร่ ครอบคลุม ๖ ต าบล ใน ๓ อ าเภอ ได้แก่ ต าบลมาบตาพุด ต าบลห้วยโป่ง ต าบลเนินพระ ต าบลทับมา อ าเภอเมืองระยอง ต าบลมาบข่า อ าเภอนิคมพัฒนา และต าบลบ้านฉาง อ าเภอบ้านฉาง ๑.๒) ปัญหาส าคัญในพื้นที่ (๑) ปัญหาด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ มลพิษทางอากาศ น้ า ขยะมูลฝอย อุบัติภัยสารเคมีรั่วไหล (๒) ปัญหาด้านสังคม ได้แก่ ปัญหาสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ มะเร็ง ภาวะแทรกในการตั้งครรภ์ ระบบสาธารณูปโภค/สาธารณูปการ/บริการสาธารณสุขไม่เพียงพอ ประชาชนมีการศึกษาค่อนข้างต่ า ไม่ตรงกับความต้องการโรงงาน และขาดแคลนแรงงานฝีมือ ๔๐ แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร“ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ” ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙
๙๓ (๓) ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ โครงสร้างเศรษฐกิจพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมเพื่อการ ส่งออกมาก และการกระจายผลประโยชน์ในรูปงบประมาณ เงินอุดหนุนไม่สอดคล้องกับรายได้ที่สร้างให้ประเทศ ขณะที่ประชาชนต้องแบกรับภาระผลกระทบจากอุตสาหกรรม (๔) ปัญหาด้านกายภาพและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านการขนส่งแออัด การจราจรติดขัด ประปาไม่เพียงพอ แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม และการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมรุกล้ าพื้นที่กันชน (๕) ปัญหาด้านการบริหารจัดการ เช่น การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ท าให้ประชาชนขาดความไว้วางใจ ๒) การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหามาบตาพุดในระยะเวลา ๓ ปีที่ผ่านมา (มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ - ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔) โดยหน่วยงานทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น รวมทั้งคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง สามารถแบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ (๑) การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุด และ (๒) การวางระบบเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว ดังนี้ ๒.๑) การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุด (๑) การแก้ไขปัญหาเดือดร้อนเร่งด่วนของประชาชน เน้นแก้ไขปัญหาสุขภาพ ประชาชน ปัญหาขาดแคลนน้ าประปา ปัญหาขยะ ความไม่มั่นใจเรื่องคุณภาพอากาศ น้ า และการลดมลพิษ โดยหน่วยงานต่างๆ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีมาโดยล าดับรวม ๔ ครั้ง จ านวน ๓๒ โครงการ วงเงิน รวม ๑,๔๓๒ ล้านบาท ปัจจุบันส่วนใหญ่ด าเนินการแล้วเสร็จและบางส่วนอยู่ระหว่างด าเนินการ ผลการ ด าเนินงานที่ส าคัญ ได้แก่ การก่อสร้างปรับปรุงท่อและขยายเขตจ าหน่ายน้ าประปาในพื้นที่อ าเภอเมือง ระยอง พื้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุดและเทศบาลเมืองบ้านฉาง การจัดซื้อรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ จ านวน ๒ คัน การให้บริการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่มาบตาพุดไปแล้ว จ านวน ๑๐,๒๓๘ คน และ ๒๐,๕๗๑ คน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามล าดับ ส าหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๕ มีเป้าหมาย ตรวจสุขภาพประชาชนจ านวน ๑๕,๐๐๐ คน ในส่วนของการพัฒนายกระดับโรงพยาบาลมาบตาพุด ให้เป็นโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์ ขนาด ๒๐๐ เตียง ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง นอกจากนี้ได้ด าเนินการติดตั้งชุดตรวจวัดสาร VOCs แบบต่อเนื่อง และป้ายแสดงผลคุณภาพสิ่งแวดล้อม จ านวน ๔ สถานี แล้วเสร็จ เป็นต้น (๒) การแก้ไขปัญหามลพิษจากแหล่งก าเนิด กรมควบคุมมลพิษได้ก าหนด ประเภทอุตสาหกรรม/กิจกรรมที่เป็นแหล่งก าเนิดมลพิษจากสาร VOCs รวม ๖ ประเภท และอยู่ระหว่าง การศึกษาเพื่อก าหนดมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสีย ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริม การลงทุนได้ทบทวนนโยบายและมาตรการการส่งเสริมการลงทุนส าหรับอุตสาหกรรม/กิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่มาบตาพุด เพื่อลดการปล่อยมลพิษแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกประกาศกระทรวง อุตสาหกรรม เรื่องก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการตรวจสอบและควบคุมการรั่วซึมของ สารอินทรีย์ระเหย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ส าหรับการประเมินสิ่งแวดล้อม ระดับยุทธศาสตร์ พื้นที่อ าเภอเมืองและพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดระยอง กรมโรงงานอุตสาหกรรมด าเนินการ แล้วเสร็จในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล (๓) การจัดท าแนวป้องกัน (Protection Strip) ระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชน กรมโรงงานอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ประสานผู้ประกอบการ ๔๖ ราย ด าเนินการ ปัจจุบันแล้วเสร็จ ๔๐ ราย รวมพื้นที่ปลูกต้นไม้กว่า ๑,๐๐๐ ไร่
๙๔ ๒.๒) การวางระบบเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว (๑) การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมนิเวศมาบตาพุด จังหวัดระยอง การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทยได้ก าหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนการพัฒนาสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และอยู่ใน ขั้นตอนจัดท ารายงานการยกระดับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (๒) การจัดท าผังเมืองรวมอุตสาหกรรมหลักและชุมชนมาบตาพุด จังหวัดระยอง อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการประสานงานวางและจัดท าผังเมือง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง (๓) การจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง ที่อ าเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ระยะเวลา ด าเนินการ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) วงเงินรวม ๑,๖๖๙ ล้านบาท ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้รับงบประมาณ ๗๓ ล้านบาท (๔) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษช่วงพัทยา - มาบตาพุด ซึ่งกรมทางหลวงศึกษาความเหมาะสมผลกระทบสิ่งแวดล้อม และส ารวจและออกแบบ รายละเอียดแล้วเสร็จ ปัจจุบันอยู่ระหว่างหาแหล่งเงินด าเนินการ ๓) แนวทางการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ประกอบด้วย ๘ แนวทาง ดังนี้ ๓.๑) ลดและขจัดมลพิษต่อเนื่อง มุ่งสู่สิ่งแวดล้อมสะอาด โดย (๑) พัฒนาระบบข้อมูลและระบบติดตามเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส และเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและเอกชน (๒) พัฒนาและปรับปรุงระบบจัดการน้ าเสียและขยะทั้งในและนอกพื้นที่เขต อุตสาหกรรมบริเวณมาบตาพุดและพื้นที่โดยรอบอย่างครบวงจร (๓) วางระบบการจัดการกากของเสียอันตราย (๔) สนับสนุนการลดและขจัดมลพิษจากแหล่งก าเนิดอุตสาหกรรมในพื้นที่ (๕) เตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาอุบัติภัยอย่างต่อเนื่อง (๖) ฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดการพัฒนา อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ แนวทางนี้จะสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ซึ่งจังหวัดระยองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการน าเสนอ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ๓.๒) ยกระดับบริการสาธารณสุขเฉพาะโรคและคุณภาพชีวิต ปรับปรุงและยกระดับ บริการสาธารณสุขเชี่ยวชาญเฉพาะโรค และวางระบบข้อมูลเพื่อจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ จ านวนประชากรแฝงในพื้นที่ โดย (๑) สนับสนุนการด าเนินงานของศูนย์อาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง (๒) พัฒนาระบบบริการปกติให้สามารถรองรับความเจ็บป่วยจากสิ่งแวดล้อม (๓) สนับสนุนการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษและ บริเวณใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง (๔) ปรับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ให้ทันสมัยพร้อมส าหรับการเฝ้าระวังสุขภาพ
๙๕ (๕) สนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการสัมผัสมลพิษกับ ผลกระทบต่อสุขภาพ (๖) สนับสนุนการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเชิงรุก ๓.๓) ยกระดับคุณภาพการศึกษา เพื่อผลิตบุคลากรเฉพาะทางให้สามารถรองรับ กิจกรรมในพื้นที่ และปรับปรุงคุณภาพการศึกษาส าหรับเด็กที่ย้ายถิ่นกลางคันตามแรงงานอพยพ ๓.๔) พัฒนาสู่อุตสาหกรรมนิเวศ โดยเร่งรัดผลักดันการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมนิเวศ มาบตาพุด จังหวัดระยอง ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ และส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้ด าเนินธุรกิจภายใต้ ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ๓.๕) พัฒนากิจกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะด้านการเกษตร และด้านการท่องเที่ยว ๓.๖) พัฒนาขีดความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานและจัดสรรการใช้ประโยชน์อย่างมี ประสิทธิภาพและเป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องถนน ระบบประปา ระบบขนส่งมวลชน การขนส่งสินค้า ระบบราง การขนส่งทางเรือ และการจัดสรรทรัพยากรน้ า เป็นต้น ๓.๗) ส่งเสริมการใช้ผังเมืองรวมในการพัฒนาพื้นที่ จัดพื้นที่ส าหรับกลุ่มอุตสาหกรรม ให้ชัดเจน จัดระบบโลจิสติกส์ให้เหมาะสม และศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่ายและเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ๓.๘) การบริหารจัดการ สนับสนุนการด าเนินงานของศูนย์อ านวยการแก้ไขปัญหา สิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง พิจารณามาตรการ จูงใจให้ภาคเอกชนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเสียภาษีที่จังหวัดระยอง และศึกษาความเป็นไปได้ในการ จัดตั้งพื้นที่มาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเขตบริหารรูปแบบพิเศษ ๔)แผนงาน/โครงการภายใต้แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ประกอบด้วย ๘ แผนงาน ๙๒ โครงการ วงเงินรวม ๔,๓๔๗.๖๖๖๙ ล้านบาท (ระยะเวลา ๕ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ) แผนงาน จ านวนโครงการ วงเงิน (ล้านบาท) รวม ๙๒ ๔,๓๔๗.๖๖๖๙ * - แผนงาน ๑ ลดและขจัดมลพิษต่อเนื่อง ๔๑ ๑,๗๖๐.๖๒๙๘ มุ่งสู่สิ่งแวดล้อมสะอาด - แผนงาน ๒ ยกระดับบริการสาธารณสุขเฉพาะโรค ๒๕ ๙๓๖.๒๖๔๒ และคุณภาพชีวิต - แผนงาน ๓ ยกระดับคุณภาพการศึกษา ๔ ๖๗.๓๓๐๑ - แผนงาน ๔ พัฒนาสู่อุตสาหกรรมนิเวศ ๒ ๑๑.๐๐๐๐ - แผนงาน ๕ พัฒนากิจกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มี ๔ ๒๗.๑๖๐๐ ความหลากหลาย - แผนงาน ๖ พัฒนาขีดความสามารถด้านโครงสร้าง ๑๔ ๑,๕๕๒.๕๖๒๘ พื้นฐานและจัดสรรการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม - แผนงาน ๗ ส่งเสริมการใช้ผังเมืองรวมในการ ๑ ๑๘.๐๐๐๐ พัฒนาพื้นที่ - แผนงาน ๘ การบริหารจัดการ ๑ ๔.๗๒๐๐ หมายเหตุ *รวมงบประมาณของหน่วยงานเอง เช่น งบของ กนอ./ผู้ประกอบการ/อบจ.ระยอง ซึ่งเมื่อหักงบประมาณส่วนนี้แล้วคงเหลือวงเงิน ๓,๗๔๙.๙๑๖๙ ล้านบาท
๙๖ ๕) ข้อวิเคราะห์ ๕.๑) พื้นที่มาบตาพุดจังหวัดระยอง เป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ ซึ่งจะยังคงบทบาท การเป็นฐานการผลิตหลักด้านอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลังงานของประเทศในระยะต่อไป เนื่องจากปัจจุบัน พื้นที่มาบตาพุดเป็นที่ตั้งของกลุ่มอุตสาหกรรมจ านวน ๕ นิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย (๑) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (๒) นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) (๓) นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (๔) นิคมอุตสาหกรรม RIL และ (๕) นิคมอุตสาหกรรมผาแดง มีมูลค่าการลงทุนอุตสาหกรรมกว่า ๙๗๑,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็น ๑ ใน ๕ ของประเทศ และมีความพร้อมในเชิงโครงสร้างพื้นฐานรองรับอุตสาหกรรมหลักมากกว่า พื้นที่อื่นของประเทศ หากปัญหาผลกระทบจากการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม รวมทั้งการแก้ไขปัญหามาบตาพุดจะเป็นต้นแบบการ แก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งหากการด าเนินงานไม่ประสบ ผลส าเร็จหรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะท าให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นและเป็นอุปสรรคในการเปิด พื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรมหลักแห่งใหม่ของประเทศในระยะต่อไป ๕.๒) การแก้ไขปัญหามาบตาพุดเพื่อให้อุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน ได้อย่างมีดุลยภาพ มีความเกี่ยวข้องในหลายด้าน อาทิ การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ า อุบัติภัยฉุกเฉินจากสารเคมี กากของเสียอุตสาหกรรม ขยะชุมชน ความไม่พอเพียงของสาธารณูปโภค/ สาธารณูปการ การจัดการระยะห่างระหว่างอุตสาหกรรมกับชุมชน การดูแลสุขภาพประชาชน และการพัฒนา มาบตาพุดเป็นเมืองอุตสาหกรรมนิเวศ จ าเป็นต้องมีแผนงานหลักในการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบ วงจรที่จะบูรณาการการแก้ปัญหาทั้งระบบอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกมิติ ๕.๓) แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจรมีแนวทางการด าเนินงานที่สอดคล้องกับ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ ในยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การ เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ในด้านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรม เชิงนิเวศและการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อุตสาหกรรมหลักของประเทศ และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งสนับสนุนการอยู่ร่วมกันของอุตสาหกรรม และชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อน าไปสู่การปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศเพื่อเตรียมพร้อมไปสู่เศรษฐกิจ คาร์บอนต่ าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการควบคุมและลดมลพิษ เพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่ดีให้กับประชาชน ๕.๔) แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร จัดท าโดยอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วนมาโดยล าดับ (มีนาคม - กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔) ตั้งแต่การส ารวจพื้นที่ การรับฟังความ คิดเห็นประชาชนในพื้นที่มาบตาพุดจังหวัดระยอง การจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชน ตลอดจนการจัดประชุม คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหา แนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ พิจารณาให้ความคิดเห็นต่อร่างแผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุด อย่างครบวงจร จัดท าข้อเสนอโครงการ ตลอดจนกลั่นกรองโครงการที่สมควรบรรจุในแผนดังกล่าว
๙๗ ๕.๕) ผลการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๖) คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้พิจารณาแผนการแก้ไขปัญหา มาบตาพุดอย่างครบวงจร เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบ ในหลักการแผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร โดยให้ สศช. น าความเห็นของคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาปรับแผน และน าเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการจัดท าโครงการแก้ไขปัญหามาบตาพุดในระยะต่อไป รวมทั้งขออนุมัติพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกเพื่อท าหน้าที่ ในการก ากับดูแลการแก้ไขปัญหามาบตาพุดต่อไป โดยมีความเห็นเพิ่มเติม สรุปได้ดังนี้ ๖.๑)แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร ควรเพิ่มมิติการพัฒนาด้านสังคมในประเด็น การให้ความรู้ประชาชนด้านการดูแลสุขภาพ และการจัดการสิ่งแวดล้อมอันจะเป็นปัจจัยหลักที่จะน าไปสู่ การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน รวมทั้งเพิ่มการทบทวนด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นในแผน และแนวทางการป้องกัน มลพิษที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตโดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ๖.๒) โรงงานในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีการใช้ เทคโนโลยีที่ดีที่สุด การเกิดปัญหาอุบัติภัยจากโรงงานอุตสาหกรรม จะเกิดขึ้นจากคนหรือผู้รับเหมาที่เข้าไป ซ่อมบ ารุงเครื่องจักรในโรงงาน ซึ่งต้องเป็นคนที่มีจิตส านึกเรื่องความปลอดภัยสูง ดังนั้น การพัฒนาคน จึงเป็นเรื่องส าคัญที่สุด รวมถึงจะต้องเน้นย้ าเรื่องความปลอดภัยและการมีวินัยอย่างเข้มงวด ๖.๓) ควรมีการศึกษาอย่างจริงจังในเรื่องการโยกย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบัน โรงงานอุตสาหกรรมแต่ละแห่งจะปล่อยมลพิษออกมาไม่เกินมาตรฐาน แต่เมื่อตรวจวัดมลพิษในพื้นที่ จากการปล่อยมลพิษรวมทุกโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว พบว่าค่าเกินมาตรฐาน การแก้ไขโดยการลด และขจัดมลพิษอาจใช้งบประมาณจ านวนมาก ในขณะที่การย้ายชุมชนออกจากพื้นที่อาจใช้งบประมาณน้อยกว่า โดยอาจก าหนดเป็นการด าเนินการในระยะยาวและต้องมีการส ารวจความเห็นของประชาชนด้วย ๖.๔) ควรเร่งด าเนินการศึกษาการพัฒนาพื้นที่มาบตาพุดให้เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รูปแบบพิเศษ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยและเตรียมการรองรับเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ๔.๘ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๘.๑ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นกฎเกณฑ์แบบแผนเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กร ของรัฐ อ านาจหน้าที่ รวมถึงความสัมพันธ์กับประชาชนในฐานะเป็นพลเมือง ก าหนดสิทธิหน้าที่ของรัฐ ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดการบ ารุงรักษา การใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนและก าหนดสิทธิหน้าที่ของบุคคลและชุมชนในการ มีส่วนร่วมกับรัฐไว้อย่างชัดเจนมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ จนถึงรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ฉบับปัจจุบัน โดยสาระของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เกี่ยวกับการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้แก่
๙๘ (๑) มาตรา ๔๓ (๒) ก าหนดให้บุคคลและชุมชนมีสิทธิในการจัดการบ ารุงรักษาและใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน (๒) มาตรา ๕๐ (๘) ก าหนดให้บุคคลมีหน้าที่ในการร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์ และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรม (๓) มาตรา ๕๗ (๒) ก าหนดให้รัฐต้องอนุรักษ์ คุ้มครอง บ ารุงรักษา ฟื้นฟู บริหารจัดการ และใช้หรือจัดให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ ให้เกิดประโยชน์อย่างสมดุล และแบ่งปัน โดยต้องให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม ด าเนินการและได้ประโยชน์จากการด าเนินการดังกล่าวด้วย (๔) มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่งและวรรคสาม ก าหนดให้การด าเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐ จะอนุญาตให้ผู้ใดด าเนินการ ถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยคุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียส าคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รัฐต้องด าเนินการให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนหรือชุมชน และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อนเพื่อน ามาประกอบการพิจารณาด าเนินการหรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ นอกจากนั้น ในการด าเนินการหรืออนุญาตนั้น รัฐต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ชุมชน สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพน้อยที่สุดและต้องด าเนินการให้มีการเยียวยา ความเดือดร้อนหรือเสียหายให้แก่ประชาชนหรือชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรมและโดยไม่ชักช้า (๕) ในหมวด ๑๖ ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ มาตรา ๒๕๘ ก าหนดให้ด าเนินการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยในด้านต่าง ๆ ให้เกิดผล ดังต่อไปนี้ (ช) ด้านอื่น ๆ (๓) จัดให้มีระบบจัดการและก าจัดขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถน าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ด้านอื่น ๆ ได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ความส าคัญกับทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐและประชาชน ให้เป็นกลไกส าคัญในการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อมโดยการร่วมมือด าเนินงาน มีหน่วยงานภาครัฐ คอยควบคุม ก ากับ ดูแลกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนทราบเพื่อการเตรียมการรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ กล่าวถึงเกี่ยวกับการจัดการ คุณภาพสิ่งแวดล้อมไว้ใน ๑) มาตรา ๔๓ (๒) ก าหนดให้บุคคลและชุมชนมีสิทธิในการจัดการบ ารุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน ๒) มาตรา ๕๐ (๘) ก าหนดให้บุคคลมีหน้าที่ในการร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรม ๓) มาตรา ๕๗ (๒) รัฐต้อง อนุรักษ์ คุ้มครอง บ ารุงรักษา ฟื้นฟูบริหารจัดการและใช้หรือจัดให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ ให้เกิดประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยต้องให้ประชาชน และชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมด าเนินการและได้รับประโยชน์จากการด าเนินการดังกล่าวด้วย และ ๔) มาตรา ๕๘ การด าเนินการใดของรัฐ หรือที่รัฐจะอนุญาตให้ผู้ใดด าเนินการ ถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบ ต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียส าคัญอื่นใด ของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รัฐต้องด าเนินการให้มีการศึกษาและประเมินผล
๙๙ กระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนหรือ ชุมชน และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อนเพื่อน ามาประกอบการพิจารณาด าเนินการ หรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ ๔.๘.๒ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ หมวดที่ ๔ ว่าด้วยเรื่องการควบคุมมลพิษ เป็นกฎหมายหลักของเขตควบคุมมลพิษ มีส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ส่วนที่ ๑ กรรมการควบคุมมลพิษ มาตรา ๕๒ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมมลพิษตามพระราชบัญญัตินี้ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งว่า “คณะกรรมการควบคุมมลพิษ” ประกอบด้วยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมต ารวจ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมเจ้าท่า อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อธิบดีกรมอนามัย อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เลขาธิการส านักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินห้าคน ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งเป็นกรรมการ และอธิบดีกรมควบคุมมลพิษเป็นกรรมการ และเลขานุการ ให้น าความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ มาใช้บังคับการด ารงต าแหน่งของกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมมลพิษโดยอนุโลม มาตรา ๕๓ ให้คณะกรรมการควบคุมมลพิษ มีอ านาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) เสนอแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกัน หรือแก้ไขอันตรายอันเกิดจากการแพร่กระจาย ของมลพิษ หรือภาวะมลพิษต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (๒) เสนอความเห็นเกี่ยวกับการให้มีการด าเนินการแก้ไขเพิ่มเติม หรือปรับปรุง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม ป้องกัน ลด หรือขจัดมลพิษต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (๓) เสนอความเห็นเกี่ยวกับการก าหนดมาตรการส่งเสริมด้านภาษีอากรและการลงทุน ของเอกชนเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษและการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (๔) เสนอแนะการก าหนดอัตราค่าบริการส าหรับระบบบ าบัดน้ าเสียรวมหรือระบบ ก าจัดของเสียรวมของทางราชการต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (๕) ให้ค าแนะน าแก่รัฐมนตรีในการก าหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งก าเนิด ตามมาตรา ๕๕ (๖) ให้ค าแนะน าแก่รัฐมนตรีในการก าหนดประเภทของแหล่งก าเนิดมลพิษ ที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา ๖๘ และมาตรา ๖๙ (๗) ให้ค าแนะน าในการออกกฎกระทรวงก าหนดชนิดและประเภทของของเสียอันตราย ตามมาตรา ๗๙ (๘) ประสานงานระหว่างส่วนราชการรัฐวิสาหกิจและเอกชนเพื่อควบคุม ป้องกัน ลด หรือขจัดมลพิษ (๙) จัดท ารายงานเกี่ยวกับสถานการณ์มลพิษเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติปีละหนึ่งครั้ง