๒๐๐ ส านักงานพลังงานจังหวัดระยอง ส านักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ ๑๓ (ชลบุรี) ส านักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เทศบาลเมืองมาบตาพุด และเทศบาลต าบลบ้านฉางท าให้การด าเนินการตามแผนล่าช้ามีปัญหาอุปสรรคหน่วยงานร่วม ด าเนินการ๑๗๒ การประกาศเขตควบคุมมลพิษก าหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีหน้าที่จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ท าการรวมไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อการ จัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดภายใต้การสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ในทางปฏิบัติจริง ที่ผ่านมา อปท. หลายแห่งในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองยังขาดความพร้อมในการบริหารจัดการ มลพิษตามที่ก าหนดไว้ ดังนั้น ทสจ. สสภ. และ คพ. ได้ท าหน้าที่ในการบริหารจัดการมลพิษในพื้นที่แทน เจ้าพนักงานท้องถิ่นในภาพรวม แต่เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ไม่สามารถ ด าเนินการตามกระบวนการของแผนปฏิบัติการฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะขาดบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ด้านสิ่งแวดล้อม และขาดเครื่องมือในการดูแลท้องถิ่น๑๗๓ ประชาชนที่เข้าร่วมประชุมเห็นว่าการแก้ปัญหาเขตควบคุมมลพิษไม่ควรเป็นหน้าที่ของ กรมควบคุมมลพิษเท่านั้น เพราะหน่วยราชการอื่นมีความเกี่ยวข้องที่ส าคัญ เข่น จังหวัดระยอง มีกรมโรงงานฯ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข แม้แต่การควบคุม สาร VOCs จากรถก็ต้องพึ่งหน่วยงานด้านจราจร ที่ส าคัญประชาชนต้องมีส่วนร่วม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานการท างาน เป็นต้น ในขณะที่คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการมลพิษของพื้นที่ ซึ่งต้องมีหน้าที่ในการบริหารจัดการร่วมกัน และในแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของจังหวัดระยอง ยังมีแผนงานที่ครอบคลุมถึงแหล่งก าเนิดมลพิษสาร VOCs จากภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม ในผลการศึกษาครั้งนี้ ระบุว่าหน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่สามารถ ท างานร่วมกันแบบบูรณาการเป็นเนื้อเดียวกัน เนื่องจากมีหน่วยงานที่มากจึงท าให้เกิดความไม่คล่องตัว๑๗๔ ๑๗๒ 6 แผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิด ... , nscr.nesdc.go.th/wp-content/uploads/ 2021/10/BR06.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๗๓ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ จัดท าโดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕ ๑๗๔ เพิ่งอ้าง
๒๐๑ ๔.๑๓.๘ การบริหารจัดการการปฏิรูปเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง การปฏิบัติงานในการติดตามตรวจสอบการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศจาก ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐมีปัญหาคือการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยังคงมีอยู่ ท าให้การด าเนินงานเกิดความล่าช้า และไม่สามารถควบคุมมลพิษทางอากาศให้อยู่ในเกณฑ์ มาตรฐานตามที่ก าหนดได้๑๗๕ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ การด าเนินการแก้ไขปัญหาสารVOCs ในพื้นที่ ได้ถูกขับเคลื่อนผ่านกลไก ของคณะกรรมการติดตามตรวจสอบของหน่วยงานในจังหวัดและหน่วยงานราชการจากส่วนกลาง โดยมีภาคประชาชนเข้าร่วมตรวจสอบด้วย โดยคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ได้มอบหมายให้จังหวัดระยองแต่งตั้ง “คณะกรรมการติดตามตรวจสอบและแก้ไขปัญหา สาร VOCs ในพื้นที่มาบตาพุด เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี และบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง” โดยคณะกรรมการฯ ได้ด าเนินการติดตามตรวจสอบแหล่งก าเนิดในโรงงานอุตสาหกรรม และท่าเรือที่เกี่ยวข้องกับสารเบนซีน ๑,๓-บิวทาไดอีน และ ๑,๒-ไดคลอโรอีเทน ในพื้นที่มาบตาพุด จ านวน ๒๔ แห่ง และพื้นที่เขตประกอบการ ไออาร์พีซี ๗ แห่ง อย่างเข้มงวด ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ สาร VOCs พ.ศ. ๒๕๕๙ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจากการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม ที่เป็นแหล่งก าเนิดสาร VOCs ดังกล่าว พบว่าโรงงานอุตสาหกรรมและท่าเรือในพื้นที่ได้มีมาตรการ ในการควบคุมสาร VOCs ในการเดินระบบกระบวนการผลิตปกติค่อนข้างครบถ้วน แต่ยังต้องเพิ่มความ เข้มงวดและเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบแหล่งก าเนิดบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับสารเป้าหมาย เช่น การรั่วซึม ของอุปกรณ์ (Fugitive emission) และการขนถ่ายสารเคมีทางเรือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มความเข้มงวด ในการติดตามตรวจสอบการด าเนินกิจกรรมในช่วงการผลิตที่ไม่ใช่การผลิตปกติ (Shutdown/Turnaround)๑๗๖ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไขและควบคุมมลพิษของนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด จังหวัดระยอง อย่างมีนัยส าคัญที่ระดับ .๐๑ มีจ านวน ๗ ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยการมีส่วนร่วม ของบุคคลและชุมชน ปัจจัยการบริหารจัดการ ปัจจัยการให้ความรู้ ปัจจัยแรงจูงใจ ปัจจัยความเข้าใจ ในนโยบาย และปัจจัยสภาพแวดล้อม๑๗๗ การตั้งโรงงานอุตสาหกรรมต้องมีขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งในการขออนุญาตด าเนินการจัดตั้ง หน่วยงานภาครัฐต้องด าเนินการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยต้อง ๑๗๕ การวิเคราะห์กฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศจาก อุตสาหกรรมปิโตรเคมี, https://repository.nida.ac.th/bitstream/handle/6627 23737/ 3772/b199701 e.pdf?sequence=4&isAllowed=y, สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๗๖ คณะท างานติดตามตรวจสอบและแก้ไขปัญหาสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs), http://www.oic.go.th/ FILEWEB/CABINFOCENTER3/DRAWER056/GENERAL/DATA0001/00001436.PDF, สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๗๗ การพัฒนาการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไขและควบคุมมลพิษ ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจังหวัดระยอง, http://grad.vru.ac.th/pdf-journal/JourTs1-15-2/8.%20%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0% E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E 0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%20%E0%B8%AD %E0 %B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B9%82%E0%B8%A2% 2096-107.pdf, สืบค้นเมื่อ วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕
๒๐๒ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเนื่องจากเป็นขั้นตอนหนึ่ง ทางกฎหมายที่ผ่านมาการด าเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจริง แต่ข้อเท็จจริงคือประชาชน ไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการแสดงความคิดเห็นหรืออีกนัยหนึ่งคือไม่ว่าประชาชนในพื้นที่จะแสดง ความคิดเห็นอย่างไร แต่ถ้าภาครัฐส่งเสริมให้มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมด้วยเหตุผลทั้งปวง เช่น การขยายตัว ของภาคเศรษฐกิจ การพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ประชาชนจ าเป็นต้องเสียสละและคล้อยตาม นโยบายและการด าเนินงานของภาครัฐ๑๗๘ ปัจจุบันรัฐบาลได้ด าเนินการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ทั้งในด้านการควบคุมปริมาณสารมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรม และการปรับปรุงมาตรฐาน มลพิษทางอากาศแล้วก็ตาม แต่ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้เพียงแต่ระดับหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจาก การควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศยังขาดความเป็นเอกภาพมีหลายหน่วยงาน รับผิดชอบ การประสานการปฏิบัติการยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หน่วยงานที่ท าหน้าที่ตรวจสอบ และควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศ ยังขาดอุปกรณ์และบุคลากรที่มีความรู้ความช านาญ ด้านการ ตรวจวัดการจัดระบบฐานข้อมูล และการตรวจสอบปัญหามลพิษที่ส าคัญที่ต้องเตรียมการรับมือ และเร่งแก้ไขในพื้นที่วิกฤติเช่น สาร VOCs ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง๑๗๙ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีหน้าที่จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษใน เขตควบคุมมลพิษนั้น เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) และ ทสจ. ท าการรวมไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพ สิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดภายใต้การสั่งการของ ผวจ. แต่ในทางปฏิบัติจริงที่ผ่านมา อปท. หลายแห่ง ในพื้นที่ยังขาดความพร้อมในการบริหารจัดการมลพิษตามที่ก าหนดไว้โดยที่ ทสจ. สสภ. และ คพ. ท าหน้าที่ในการบริหารจัดการมลพิษในพื้นที่แทนเจ้าพนักงานท้องถิ่นในภาพรวมขาดประเมินสิ่งแวดล้อม ในระดับยุทธศาสตร์รายสาขาในระดับพื้นที่ (Sectoral Based and Area Based SEA) ที่มีความจ าเพาะ เจาะจงของการด าเนินการที่เกี่ยวข้องกับมลพิษและแหล่งก าเนิดมลพิษที่เป็นปัญหา เพื่อน าไปก าหนด เป็นแผนและเป้าหมายในเชิงเวลาของบริหารจัดการพื้นที่ในการควบคุมผลกระทบของมลพิษให้ได้ โดยเร็ว ผู้รับผิดชอบหลัก กพย. และ คพ. ผู้สนับสนุนข้อมูล ทสจ. สสภ. สสจ. สถ.จ. กนอ. และ อปท.๑๘๐ ยังมีอุตสาหกรรมอีกจ านวนมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็กหรือ SMEsซึ่งมีมากกว่าร้อยละ ๙๐ ของอุตสาหกรรมทั้งหมดของประเทศที่ยังไม่มีการปรับกระบวนการในการผลิตประกอบกับการที่ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อน าเทคโนโลยี ชนิดใหม่ ๆ มาใช้ในการก าจัดมลพิษทางอากาศจากส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในขณะที่อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็กยังขาดการส่งเสริมและสนับสนุนเท่าที่ควร ท าให้เกิด ความไม่เป็นธรรมในการจัดการสิ่งแวดล้อมของภาคอุตสาหกรรม การปฏิบัติงานในการติดตามตรวจสอบ การควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศจากภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ละเว้น ๑๗๘ เชื่อมโลกให้ไทยแล่น, http://eec-mtp.onep.go.th/report/executivesummary-th-2020.pdf, สืบค้น เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๗๙ บทสรุปส าหรับผู้บริหาร ยุทธศาสตร์การวิจัยรายประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม, https://rdo.psu.ac.th/ th/images/D2/budget/strategic_issues/55-59_10.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๘๐ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ จัดท าโดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕
๒๐๓ การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบยังคงมีอยู่ ท าให้การด าเนินงานเกิดความล่าช้าและไม่สามารถควบคุมมลพิษ ทางอากาศให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามที่ก าหนดได้๑๘๑ การตรวจวัดคุณภาพอากาศ สารมลพิษต่าง ๆ ที่ประชาชนสูดดมเข้าไปสะสมในร่างกายก่อให้เกิด ความเจ็บป่วยต่างๆ ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามาจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือเป็นภาวะเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเอง แม้ปัจจุบันจะมีกลไกตรวจสอบคุณภาพอากาศอย่างเป็นระบบและโรงงานส่วนใหญ่ตรวจคุณภาพอากาศ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่มีบางครั้งที่ตรวจพบสารมลพิษหรือสารปนเปื้อนในอากาศแล้ว ไม่สามารถหา แหล่งก าเนิดว่ามาจากโรงงานใด เมื่อไม่สามารถหาแหล่งก าเนิดได้ ก็ไม่สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหา มลพิษทางอากาศในนิคมฯ ได้อย่างยั่งยืน๑๘๒ ปัญหาการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ นั่นคือการจัดท ารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (EIA) ไม่ได้มีการปฏิบัติอย่างจริงจังควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย แม้ที่ผ่านมารัฐบาล จะพยายามปรับปรุงกฎหมายและโครงสร้างการควบคุมมลพิษ รวมทั้งการจัดการสิ่งแวดล้อมหลายๆ ด้าน แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากมลพิษอุตสาหกรรมได้จริงเนื่องจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง มักมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวมิใช่อาชญากรรมหรือการกระท าผิดต่อบุคคลใด ภาครัฐ ภาคธุรกิจ/ผู้ประกอบการ และภาคประชาชนขาดการบูรณาการด าเนินงานร่วมกัน ด้านการจัดการมลพิษและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง๑๘๓ ปัญหาการขาดการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน ท าให้แต่ละฝ่ายเกิดความไม่เข้าใจกันและด าเนินการคนละทิศคนละทางหรือแยกบทบาทหน้าที่กัน การปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกาศหรือยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ การปรับปรุงประสิทธิภาพการด าเนินงาน ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ข้อจ ากัดของการควบคุมสาร VOCs ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ๑๘๔ จากผลการศึกษาฯ ดังนี้ ๑) ขาดระบบฐานข้อมูลกลาง (Big Data System) ของทุกหน่วยงานไว้ที่เดียวกัน ๒) ภาครัฐขาดการน าผลตรวจวัดด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงานต่าง ๆ ไปสรุปผลเชิงลึก เพื่อวิเคราะห์ ปัญหาสาร VOCs ๓) โครงการ PRTR ยังเป็นโครงการภาคสมัครใจ และไม่มีความชัดเจนว่าผลจากการศึกษาได้ไปใช้ ประโยชน์ในเชิงนโยบายอย่างไร ๔) การศึกษาแหล่งก าเนิดของสาร VOCs ในพื้นที่ไม่ครอบคลุมแหล่งก าเนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะ จากยานพาหนะ ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพื่อด าเนินการลดมลพิษค่อนข้างสูง ทั้งจากเทคโนโลยีที่ใช้ ควบคุม หรือบ าบัดมลพิษ อุปกรณ์ตรวจวัด ค่าจ้างเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง ท าให้เป็นปัญหาอุปสรรค ในการลงทุน ๑๘๑ การวิเคราะห์กฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศจาก ภ าคอุต ส าห ก ร รมปิโ ต รเคมี, https://repository.nida.ac.th/bitstream/handle/662723737/3772/ b199701 e.pdf?sequence=4&isAllowed=y, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๘๒ เพิ่งอ้าง ๑๘๓ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูป ประเทศเสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ โดย ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กันยายน ๒๕๖๕ ๑๘๔ เพิ่งอ้าง
๒๐๔ ๕) การตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยสาร VOCs ต่อเนื่องทุกปีเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากข้อจ ากัดด้านเทคโนโลยี จากผลการวิจัยพบว่าระดับการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไขและควบคุมมลพิษของนิคม อุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยรวม และในรายด้านส่วนใหญ่ยังคงมีระดับการด าเนินงาน อยู่ในระดับต่ า๑๘๕ ในการจัดการมลพิษทางอากาศที่ผ่านมาก็ยังไม่ประสบผลส าเร็จมากนัก ซึ่งเป็นบทเรียนที่ต้องมี การทบทวนการด าเนินงาน ดังตัวอย่างเช่น ๑) มลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ภาครัฐไม่สามารถตรวจสอบได้ และไม่มีมาตรฐานควบคุม ทั้งคุณภาพอากาศในบรรยากาศและแหล่งก าเนิด (เช่น กรณีนิคมมาบตาพุด) ๒) แม้โรงงานจะควบคุมมลพิษทางอากาศให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ก าหนดแล้ว แต่คุณภาพ อากาศในบรรยากาศ ก็ยังมีแนวโน้มเสื่อมทรามลง (เช่น กรณีสมุทรปราการ) ๓) แม้จะแก้ไขเรื่องร้องเรียนไปแล้วเท่าใด ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงก็ยังไม่ยอมรับ ๑๘๖ โดยที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีการประกาศมาแล้วกว่า ๑๓ ปี ซึ่งสภาพมลพิษอาจมีการ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง ๔.๑๓.๙ การก ากับ/ติดตามการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯและแผนการปฏิรูประบบการ บริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง การก ากับ/ติดตามผลการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯและแผนการปฏิรูปเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อการควบคุม ลด และขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ ให้มีประสิทธิภาพ อยู่ภายใต้คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง เพื่อท าหน้าที่ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ โดยมีองค์ประกอบ ของอนุกรรมการที่มีความหลากหลายของหน่วยงานทั้งจากส่วนราชการ อปท. ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม องค์กรเอกชน และผู้แทนจากภาคประชาชน ที่มีความครอบคลุมกับสภาพปัญหามลพิษ ของพื้นที่นั้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ท าหน้าที่ประธานอนุกรรมการ และผู้อ านวยการส านักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ท าหน้าที่อนุกรรมการและเลขานุการ๑๘๗ ๑๘๕ การป้องกันปัญหาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมกรณีศึกษาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศในนิคมอุตสาหกรรม ม า บ ต า พุ ด, file:///C:/Users/ANFIELD/Downloads/forensicadmin,+%7B$userGroup%7D,+Paper04- Vol.7-No.1-2021%20(8).pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ๑๘๖ เรื่อง “การจัดการมลพิษทางอากาศ” – กรมโรงงานอุตสาหกรรม, http://webintra.diw.go.th/ km/env/pdf/air.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๘๗ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ จัดท าโดย ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , กันยายน ๒๕๖๕
๒๐๕ จากรายงานการวิจัยเรื่องการพัฒนาการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไขและควบคุมมลพิษ ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ปรากฏว่าระดับการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไข และควบคุมมลพิษของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยรวมอยู่ในระดับต่ า๑๘๘ ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ในขั้นตอน และวิธีการการด าเนินการปฏิรูปได้ก าหนดให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงาน ผู้รับผิดชอบหลักในการท างานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการ ดังนี้ - ขั้นตอนที่ ๑ ทบทวนผลจากการปฏิบัติตามมาตรการของเขตควบคุมมลพิษ และจัดล าดับ ความส าคัญของผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษโดยให้มีการทบทวนปัจจัยอ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการรองรับด้านสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔) - ขั้นตอนที่ ๒ เพิ่มกลไกในการด าเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในการเป็นผู้ก ากับดูแล การด าเนินการของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา ๖๐ ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ โดยการเพิ่มรูปแบบและวิธีการของการสั่งการต่อเจ้าหน้าที่รัฐในส่วนภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับการด าเนิน แผนงาน เพื่อให้สามารถด าเนินการได้อย่างบูรณาการและเป็นเอกภาพ ระยะเวลาด าเนินการ ๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔) “คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” มีอ านาจและหน้าที่๑๘๙ ๑)....๒)...... ๓) ก ากับการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ และมาตรการลดและขจัดมลพิษที่เกี่ยวข้อง ๔) ติดตามประเมินผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุม มลพิษและรายงานคณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการมลพิษในเขตควบคุมมลพิษเป็นประจ าทุกปี ผลการประเมินเบื้องต้นจากข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อมและการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙๑๙๐ สรุปการประเมินประสิทธิผลและผลกระทบการด าเนินงาน เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ในภาพรวมที่ผ่านมาพบว่าการด าเนินงานเขตควบคุมมลพิษโดยรวมยังไม่สามารถท าให้ เกิดผลผลิตและผลลัพธ์ที่ผ่านเกณฑ์ (เกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป) นอกจากนี้ยังสะท้อน ให้เห็นว่าปัจจัยน าเข้าและกระบวนการด าเนินงานในเขตควบคุมมลพิษที่ประกาศ ในช่วงแรก ความก้าวหน้าในระดับที่ดี- ดีมาก ท าให้คุณภาพสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะท าให้ ๑๘๘ “การพัฒนาการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไขและควบคุมมลพิษของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จัง ห วั ด ร ะ ย อง, http://grad.vru.ac.th/pdf-journal/JourTs1-15-2/8.%20%E0%B8%9E%E0%B8% A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E02096-107.pdf พ ร ะ ค รู ป ลั ด อ ภิ ชั ย อภิชโย (นิติการ) 1 และปิยากร หวังมหาพร 2 Journal of Graduate Studies Valaya Alongkorn Rajabhat University Vol. 15 No. 2 (May - August 2021), สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๘๙ ค าสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๑๙๐ แผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิด ... , http://nscr.nesdc.go.th/wp-content/ uploads/2021/03/Binder6.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕
๒๐๖ เกิดผลผลิตที่ดีและเกิดผลลัพธ์ผ่านเกณฑ์ได้ คือ ระดับดีมาก ผลการประเมินประสิทธิภาพการด าเนิน ประสิทธิภาพ การด าเนินงานในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ผลผลิตร้อยละ ๖๑.๑๑ ผลลัพธ์ร้อยละ ๓๗.๕๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะอนุกรรมการก ากับฯ มีการประชุมเพียงครั้งเดียวเพื่อติดตามผลการ ด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ โดยมีการประชุมเมื่อวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ห้องภักดี ศรีสงคราม ศาลากลางจังหวัดระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธาน เพื่อติดตาม ความก้าวหน้าในการด าเนินการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ทางน้ า และการจัดการขยะในการประชุม คณะอนุกรรมการการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงาน พื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ทั้งนี้จังหวัดระยองได้ด าเนินการตามแผนปี พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ในการลดและขจัดมลพิษในเขต ควบคุมพิเศษ๑๙๑ ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ มีการประชุมคณะอนุกรรมการก ากับฯ เพียงสองครั้ง๑๙๒ ขาดการจัดท ารายงานการติดตามผลการด าเนินการเขตควบคุมมลพิษรายปีตามที่ก าหนด ในมาตรา ๖๐ อย่างเป็นรูปธรรม ท าให้ไม่สามารถระบุประสิทธิผลของการด าเนินการและไม่สามารถ น าผลมาปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ ในปีถัดไปและขาดมาตรการในการจัดท าหรือปรับแก้แผนปฏิบัติการ ประจ าปี ในรูปแบบของแผนหมุนเวียน (Rolling plans) ซึ่งต้องมีการเคร่งครัดในการติดตามผลการ ด าเนินการของแผนประจ าปีตามมาตรา ๖๐ และน าผลการติดตามของมาตรการมาปรับแก้แผนปฏิบัติการ ตามความจ าเป็นของสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปยังไม่มีการประเมินผลการด าเนินการ ตามแผนปฏิบัติการรายปีโดยคณะอนุกรรมการก ากับฯอย่างเป็นรูปธรรมตามมาตรา ๖๐ ซึ่งผลของการ ทบทวนสถานการณ์นั้น สามารถน าไปสู่การปรับปรุงแผนปฏิบัติการในบางประเด็นให้เกิดความ สอดคล้องกับสถานการณ์มลพิษที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ผ่านมานั้นยังไม่พบการประเมินผลการด าเนินการ ของแผนปฏิบัติการปีอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการด าเนินการในปัญหาการก ากับ ติดตามและการประเมินผลการการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีดังนี้๑๙๓ ๑) ขาดขาดกลไกการติดตามตรวจสอบและผู้ที่ท าหน้าที่ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงาน ลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒) ยังไม่มีความชัดเจนในการประเมินผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการประจ าปีอย่างเป็น รูปธรรมที่จะน าผลไปปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ๓) คณะอนุกรรมการฯ ต่าง ๆ ในแต่ละคณะมีจ านวนผู้แทนจากหน่วยงานเข้าประชุมมาก (ประมาณ ๒๐-๓๐ หน่วยงาน) ผู้ที่ท าหน้าที่เป็นผู้แทนของหน่วยงานในการเข้าประชุมแต่ละครั้ง อาจไม่ได้เป็นบุคคลเดิม และในกรณีที่ไม่ใช่ผู้น าหน่วยงานอาจไม่สามารถตัดสินใจได้จึงไม่สามารถอยู่ใน ๑๙๑ รองผู้ว่าฯ ระยอง ติดตามการด าเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง https://thainews.prd.go.th/th/news/print_news/WNEVN6109070010008,สืบค้นเมื่อ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ๑๙๒ การประชุมคณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕, https://www.pcd.go.th/east/%E0%B8%81% E0%B8%B2%E0%B8% A3%E0 %B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0% B8%A1%E0%B8% 84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8% %B5%E0%B9%88-2-2565, สืบค้นเมื่อธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ๑๙๓ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ จัดท าโดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕
๒๐๗ ระดับตัวแทนเพื่อการวิเคราะห์หรือถกในประเด็นสถานการณ์ของพื้นที่ท าให้การประชุมเพื่อด าเนินการ ในเชิงบูรณาการแผนปฏิบัติการฯ กับแผนงานอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ๔) ไม่มีการก าหนดกรอบเวลาของการแก้ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ว่าจะส าเร็จเมื่อใดโดยที่การประกาศเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองผ่านไปแล้ว ๑๓ ปี ๕) หน่วยงานภาครัฐที่ก ากับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมของ โรงงานนอกเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ยังไม่มีการน าหลักเกณฑ์ ๘๐:๒๐ ไปปฏิบัติใช้ บริหารจัดการมลพิษ NOx และ SO2 ๖) ขาดการติดตามตรวจสอบและประเมินผลแหล่งก าเนิดมลพิษภาครัฐและท้องถิ่นไม่สามารถ ติดตามตรวจสอบได้ครบถ้วนตามจ านวนของแหล่งมลพิษของพื้นที่เนื่องจากขีดจ ากัดของจ านวน เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษในพื้นที่ ๗) ขาดการติดตามตรวจสอบโดยภาคประชาชน ๘) การติดตามผลกระทบของมลพิษต่อสุขภาพประชาชน ตามมาตรา ๕๙ ได้เน้นในประเด็น ของปัญหามลพิษซึ่งมีแนวโน้มที่จะร้ายแรงถึงขนาดเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จากการทบทวนข้อมูลด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงกับปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษนั้นยังไม่ปรากฏ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนจึงไม่สามารถบ่งชี้ถึงผลกระทบของมลพิษต่อสุขภาพอนามัยได้ ๙) การขับเคลื่อนการบริหารจัดการของอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงาน พื้นที่เขตควบคุมมลพิษ พบว่างบประมาณด าเนินการในงานที่เกี่ยวข้องของอนุกรรมการฯ ได้แก่ งบประมาณเพื่อการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ การศึกษาความพร้อมหรือสร้างมาตรการทางวิชาการ และการติดตามผลแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณเหล่านี้ให้เพียงพอกับสภาพ ปัญหาของพื้นที่ โดยหน่วยงานด าเนินการต้องจัดหางบมาด าเนินการเองและไม่เพียงพอกับประสิทธิผล ที่ต้องการ ๑๐) ขาดการติดตามผลกระทบของมลพิษต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน การประกาศเขตควบคุมมลพิษ เป็นการด าเนินการอย่างบูรณาการของหลายหน่วยงาน ร่วมกัน เพื่อท าให้ค่ามลพิษที่เป็นปัญหาลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่ก าหนดไว้และยังไม่เคยมีการก าหนดกรอบ เวลาของการแก้ปัญหาในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่เคยประกาศอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ในกรณีที่มีการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ เป็นเวลานานและมีความเข้มข้นอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถ ท าให้ระดับมลพิษลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่ก าหนดไว้นั้น อาจตีความขั้นต้นได้ว่า “การประกาศเขตควบคุม มลพิษอาจเป็นเครื่องมือที่ยังไม่เหมาะสมในการแก้ปัญหามลพิษของพื้นที่” การด าเนินการแก้ปัญหาที่ผ่านมากว่า ๑๓ ปี ยังไม่มีการก าหนดเป้าหมายในเชิงปริมาณของ การจัดการมลพิษอย่างเป็นรูปธรรม และขาดการบ่งชี้ความเชื่อมโยงของผลกระทบจากมลพิษต่อสุขภาพ อนามัย โดยมาตรา ๕๙ ก าหนดให้มีการประกาศเขตควบคุมมลพิษจากการที่ระดับมลพิษมีค่าเกิน มาตรฐานที่ก าหนดไว้ และมีแนวโน้มในการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ดังนั้นต้องมี การแสดงถึงความเชื่อมโยงของผลกระทบจากมลพิษและผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ก่อนที่จะด าเนินการสู่ขั้นตอนการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ๑๙๔ ๑๙๔ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ จัดท าโดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕
๒๐๘ ๔.๑๓.๑๐ ฐานข้อมูลในการลดและขจัดมลพิษและการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง การประกาศเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองตามมาตรา ๕๙ ได้เน้นในประเด็นของ ปัญหามลพิษซึ่งมีแนวโน้มที่จะร้ายแรงถึงขนาดเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จากการ ทบทวนข้อมูลด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงกับปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองนั้น ยังไม่ปรากฏ เป็นรูปธรรมในการด าเนินการรวบรวมข้อมูลเหล่านี้คือการติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบทาง สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Environmental Public Health Tracking) ต้องด าเนินการทั้งด้านการติดตาม สิ่งคุกคาม (Environmental Hazard Surveillance) การเฝ้าระวังการรับสัมผัส (Exposure Surveillance) และการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ (Health Effect Surveillance) ไปด้วยกัน และมีกระบวนการ ในการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และแปลผล รวมทั้งการรายงานหรือส่งคืนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่า ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีแหล่งข้อมูลค่อนข้างกระจัดกระจายตามหน่วยงานที่มีภารกิจหลัก ในแต่ละด้าน๑๙๕ ได้แก่ ๑)ข้อมูลสิ่งคุกคามในสถานประกอบการ มีข้อมูลที่สถานประกอบการการนิคมอุตสาหกรรม ในแต่ละพื้นที่ และอุตสาหกรรมจังหวัด ขณะที่ข้อมูลสิ่งคุกคามในชุมชนส่วนใหญ่ตรวจวิเคราะห์ และเผยแพร่โดยกรมควบคุมมลพิษเป็นหลัก ๒) ข้อมูลการรับสัมผัส มีเฉพาะการตรวจสุขภาพของพนักงานตามความเสี่ยงตาม กฎหมายแรงงาน แต่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงไม่ได้รับการเฝ้าระวังการรับสัมผัสสารเคมีอย่างเป็นระบบ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณ เวลาและอัตราก าลังค่อนข้างมาก ๓) ข้อมูลผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองเป็นผู้รับผิดชอบหลัก แต่ระบบเฝ้าระวังสุขภาพในปัจจุบันขาดความจ าเพาะต่อสิ่งคุกคาม ด้านสิ่งแวดล้อมและการรับสัมผัส คดีมาบตาพุดเป็นตัวอย่างส าคัญที่ชี้ให้เห็นว่าการใช้สิทธิ์ของประชาชนมีต้นทุนที่สูงลิ่ว ทั้งในส่วนของการแสวงหาข้อมูลมาสนับสนุนการเรียกร้อง ซึ่งถือว่าท าได้ยากล าบากในยุคนั้น เนื่องจากต้องใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ท าให้จ าเป็นต้องระดมนักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการจากสาขา ต่าง ๆ มาช่วยกัน ในภาวะที่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของภาครัฐเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วท าได้อย่างยากล าบาก ยังไม่นับรวมถึงต้นทุนเวลาที่ยืดยาวนับสิบปี๑๙๖ กระทรวงสาธารณสุขมีการพัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพมามากกว่า ๒๐ ปี โดยระบบหลัก คือการรายงานข้อมูลสุขภาพตามโครงสร้างฐานข้อมูลการให้บริการผู้ป่วยนอก ๑๘ แฟ้ม มาตรฐาน ในระดับโรงพยาบาล และ๒๑แฟ้ม ในระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ าต าบล ระบบรายงาน ๕๐๔ ระบบรายงาน ๕๐๕ และระบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นการรายงานข้อมูลการเข้ารับบริการของประชาชน จากสถานบริการสาธารณสุขในภาครัฐ รวมถึงระบบการเฝ้าระวังโรคจากการประกอบอาชีพและ ๑๙๕ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/59733/49056, สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๙๖ บทสรุป ๑๐ ปีคดีมาบตาพุด เขตควบคุมมลพิษกับต้นทุนราคาสูงลิ่วที่สังคมต้องจ่ายกันเอง https://thestandard.co/10-years-of-map-ta-phut-case/, สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕
๒๐๙ สิ่งแวดล้อมตามระบบรายงาน (รง.506/2) แต่ข้อมูลจากระบบดังกล่าวที่มีในปัจจุบันไม่มีความจ าเพาะ หรือเหมาะสมกับการเฝ้าระวังผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง๑๙๗ ข้อมูลการตรวจวัดมลพิษในบรรยากาศในปัจจุบันในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะผลการตรวจวัดสาร VOCs เป็นข้อมูลย้อนหลัง ไม่มีค่าตรวจวัดที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งไม่สามารถ ใช้ในการเตือนภัยได้ทันท่วงที๑๙๘ ในพื้นที่มาบตาพุดพบสารก่อมะเร็งในพื้นที่สูงเกินค่ามาตรฐาน – อันตราย ต่อสุขภาพจากการ ปล่อยสาร VOCs นั้น จากการตรวจสอบพบว่า รายงานดังกล่าวเป็นข้อมูลงานวิจัยอุบัติการณ์โรคมะเร็ง ในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๖๐ ที่จังหวัดระยองมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งสูง ซึ่งข้อมูล ยังไม่เป็นปัจจุบัน รวมถึงการรายงานผลตรวจของกรมควบคุมมลพิษว่าพบค่าสารเบนซีนเฉลี่ย ๑ ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๘ ก็ยังเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ปัจจุบันเช่นกัน๑๙๙ ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองซึ่งจ าเป็นส าหรับการจัดท าแผนฯ การด าเนินการตามแผนฯ และการประเมินผลการด าเนินการตามแผนฯ นั้น ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ได้แก่ ๑) ข้อมูลด้านสุขภาพยังมีข้อจ ากัดคือยังขาดการศึกษาทางระบาดวิทยาว่าการเจ็บป่วยของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีความสัมพันธ์กับมลพิษในพื้นที่หรือไม่๒๐๐ ๒) ปัญหาของฐานข้อมูลในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่ - ปัจจุบันการรายงานฐานข้อมูลการระบายสาร VOCs ยังเป็นแบบสมัครใจ - ขาดระบบฐานข้อมูลกลาง (Big Data System) ของทุกหน่วยงานไว้ที่เดียวกัน - ขาดการบูรณาการข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ๓) ปัญหาขาดฐานข้อมูลที่จ าเป็นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่ - ฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษ - ฐานข้อมูลมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม - ฐานข้อมูลผลกระทบจากมลพิษในแต่ละช่วงเวลา ได้แก่ผลกระทบจากการเกิดอุบัติภัยมลพิษ - ฐานข้อมูลด้านสุขภาพอนามัย - ฐานข้อมูลผลกระทบจากมลพิษคือสุขภาพอนามัย ๔) ปัญหาการจัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษที่ไม่ครบถ้วนตามที่ก าหนดไว้ในมาตรา ๖๐ ซึ่งก าหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น เป็นผู้จัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษให้มีความครอบคลุมในพื้นที่ ๑๙๗ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง, https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/59733/49056,สืบค้นเมื่อ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๙๘ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/59733/49056, สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕ ๑๙๙ “วีริศ” ย้ ามาตรฐานควบคุม “สารอินทรีย์ระเหย” กลุ่มนิคมฯ มาบตาพุดฯ,https://www.ieat.go.th/th/ieatnews/6281, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕ ๒๐๐ การป้องกันปัญหาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมกรณีศึกษาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศในนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด, file:///C:/Users/ANFIELD/Downloads/forensicadmin,+%7B$userGroup%7D,+Paper04-Vol.7-No.1- 2021%20(8).pdf , สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕
๒๑๐ เนื่องจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นนั้นสามารถจัดท าฐานข้อมูลเฉพาะแหล่งก าเนิดมลพิษในบทบาทหน้าที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอ านาจในการก ากับบางแหล่งก าเนิดมลพิษที่อยู่ภายใต้การบริหาร จัดการของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเท่านั้น ๕) ขาดการปรับปรุงข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษ ที่เป็นปัจจุบัน โดยในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองยังไม่มีการปรับปรุงข้อมูลของแหล่งก าเนิดมลพิษให้เป็นปัจจุบัน ทั้งมลพิษในเขตเมือง และมลพิษจากภาคอุตสาหกรรมให้มีความครอบคลุมพื้นที่ตามที่ก าหนดไว้ตาม มาตรา ๖๐๒๐๑ ๖) การยกเลิกเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง จ าเป็นต้องใช้ข้อมูลด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม และข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ แต่จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าข้อมูลด้านสุขภาพ ของประชาชนในจังหวัดระยองมีการศึกษาและเก็บข้อมูลไว้น้อยมาก โดยเฉพาะข้อมูลการเกิดโรคมะเร็ง ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ท าให้ไม่สามารถน ามาวิเคราะห์และประเมินผลร่วมกับข้อมูล ด้านสิ่งแวดล้อมได้๒๐๒ ๗) ปัญหาการจัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจากขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ๘) ปัญหาความไม่ครอบคลุมของผลการตรวจวัดมลพิษที่ครอบคลุมพื้นที่แหล่งก าเนิดมลพิษ ๙) ปัญหาข้อมูลด้านมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ไม่พอเพียง ไม่ต่อเนื่อง และไม่น่าเชื่อถือ สถิติโรคที่อาจเกี่ยวข้องกับมลพิษในพื้นที่จังหวัดระยองคือสาร VOCs ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิด มะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยข้อมูลสถิติผู้ป่วยด้วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๗ พบว่าอัตราการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวของจังหวัดระยองสูงกว่าระดับประเทศ ทั้งนี้จังหวัดระยองเป็น ที่ตั้งของแหล่งอุตสาหกรรมต่าง ๆ และเป็นพื้นที่ที่พบปริมาณสาร VOCs สูงเกินค่ามาตรฐานคุณภาพ อากาศดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยข้อมูลนี้มีข้อจ ากัดคือยังขาดการศึกษาทางระบาดวิทยาว่ามี ความสัมพันธ์กับมลพิษในพื้นที่หรือไม่๒๐๓ “การท าทะเบียนมะเร็ง” ที่จะช่วยบ่งบอกถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคได้ควรเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น สถาบันมะเร็ง เข้ามาช่วยกันออกแบบระบบร่วมกันกับพื้นที่ เพื่อท าการติดตาม ข้อมูลแบบไปข้างหน้าที่มีความยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่การลงไปท าเพียงแค่ปีเดียวหรือสองปีแล้วก็ทิ้งหนีไปปล่อยให้ เป็นภาระของพื้นที่ โดยที่ในระบบการบริการสุขภาพปัจจุบันยังท าไม่ได้๒๐๔ ๒๐๑ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕ ๒๐๒ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕ ๒๐๓ รายงานสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค ๒๕๖๓ ๒๐๔ หวั่นยกเลิกเขตควบคุมมลพิษระยอง กระทบการจัดการมลพิษ-สุขภาพในพื้น, https:// greennews.agency/?p= 32921, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕
๒๑๑ ปัญหาของฐานข้อมูลด้านสุขภาพในเขตควบคุมลพิษ จังหวัดระยองมีดังนี้ ก. ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ใช้ข้อมูลการตรวจวัดของราชการซึ่งมีงบประมาณที่จ ากัด ความเป็นจริงมลพิษอาจมีมากกว่าที่ตรวจวัด ข. ขาดระบบฐานข้อมูลกลาง (Central Database System) ที่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการจัดการ สาร VOCs ทั้งหมด เพื่อเป็นกลไกติดตามการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ค.ขาดข้อมูล จ านวนและอัตราป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพ และจ าแนกกลุ่มอายุ (๑๕ - ๕๙ ปี และ ๖๐ ปีขึ้นไป) อย่างน้อย ๘ กลุ่มโรค ได้แก่ ๑) พิษสารก าจัดศัตรูพืช ๒) พิษโลหะหนัก ; พิษสารตะกั่ว พิษปรอทและสารประกอบ ๓) โรคปอดฝุ่นหิน ๔) โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากแอสเบสตอส ๕) โรคการได้ยินเสื่อมจากเสียง ๖) พิษสารตัวท าละลายอินทรีย์ ๗) โรคกระดูกและกล้ามเนื้อจากการท างาน ๘) การบาดเจ็บจากการท างาน ง. ข้อมูลการป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพ ๕ อันดับแรกของจังหวัด จ. ข้อมูลสาเหตุการตายด้วยโรคจากการประกอบอาชีพ ๕ อันดับแรกของจังหวัด ฉ. เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ขาดข้อมูลทางสุขภาพ (Health profile) ไว้รองรับการพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ช. ข้อมูลที่เกี่ยวกับระบบสุขภาพ ๑) ข้อมูลการเข้าถึงบริการสาธารณสุข ๒) การด าเนินงานการเฝ้าระวังสุขภาพ ๓) อัตราการป่วย/ อัตราการตายเนื่องจากมลพิษทางอากาศ ๔) ข้อมูลผลตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง นอกจากนั้นยังขาดข้อมูล ภาวะการเกิด, การป่วย & การตาย (Natality, Morbidity & Mortality) อัตราการป่วย/ อัตราการตายเนื่องจากมลพิษทางอากาศ (เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หัวใจขาดเลือด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง ต้อกระจก ฯลฯ) สาเหตุการตายของเด็กอายุต่ ากว่า ๕ ปี สาเหตุการตาย ๑๐ อันดับแรกของคนไทย ปัญหาขาดข้อมูลแหล่งมลพิษอากาศที่ส าคัญในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษเพื่อจัดท าฐานข้อมูล แหล่งปล่อยมลพิษทางอากาศ (Emission Inventory) (จ านวนโรงงานอุตสาหกรรม/สถานประกอบการ ต าแหน่งที่ตั้ง ลักษณะกิจการ ประเภท ขนาดโรงงาน/ปล่องควัน เงินทุน จ านวนคนงาน/แรงงาน ต่างด้าว/ผู้ประกันตน ชนิด & ปริมาณของสารเคมีที่ใช้/สารมลพิษทางอากาศ ช่วงเวลา & ความถี่ ในการปล่อยสารมลพิษอากาศ ฯลฯ) ปัญหาขาดการเชื่อมต่อข้อมูลเครือข่ายติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศจากสถานีตรวจวัด (AAQMS/ Fence line) ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจาก Canister และผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ แบบเคลื่อนที่ (Mobile Unit) เป็นต้น จากนั้นน าผลการตรวจวัดของหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่มาประมวล
๒๑๒ ข้อมูลเพื่อทราบสถานการณ์ในภาพรวมของพื้นที่และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน ๒๐๕ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์พ.ศ. ๒๕๖๕ เครือข่ายประชาชนคนรักระยอง ยื่นหนังสือ ๑๔ ข้อเสนอถึงคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติขอให้แก้ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง โดยข้อหนึ่งขอให้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสั่งให้จังหวัดระยองและหน่วยงานต่าง ๆ มีการจัดท าฐานข้อมูลกลาง ร่วมกัน โดยรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ และประมวลผลให้อยู่ในฐานข้อมูลเดียวกัน ในด้านสิ่งแวดล้อม ด้านประชากร ด้านจ านวน ประเภท ขนาดโรงงาน การปลดปล่อยและเคลื่อนย้าย มลพิษสู่สิ่งแวดล้อม และด้านสุขภาพ๒๐๖ การน าแผนสู่การปฏิบัติที่ก าหนดไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ฉบับปีพ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๖ ก าหนดให้พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศให้มีความทันสมัย และเป็นปัจจุบัน และเปิดช่องทางให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าถึงข้อมูลได้ซึ่งปัจจุบันในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ยังไม่สามารถด าเนินการในส่วนนี้ได้อย่างสมบูรณ์ดังนั้น เพื่อการควบคุมแหล่งก าเนิดมลพิษจึงต้องมีการ ปรับปรุงรายชื่อแหล่งก าเนิดมลพิษให้มีความเป็นทันสมัย โดยผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูล แหล่งก าเนิดมลพิษเพื่อการศึกษาหรือการวางแผนการบริหารจัดการมลพิษที่เป็นข้อมูลเดียวกันอย่าง ถูกต้อง๒๐๗ จะเห็นได้ว่ามีการศึกษาโครงการประเมินการปลดปล่อยสาร VOCs จากหลายหน่วยงาน ในระดับวิชาการ โดยส่วนใหญ่มีขีดจ ากัดในการใช้ข้อมูลของแหล่งก าเนิดมลพิษเพื่อการประเมิน โดยยัง ไม่สามารถระบุออกมาเป็นผลการศึกษาเพื่อน าสู่การก าหนดมาตรการที่ชัดเจน หรือเพื่อการจัดท า แผนงานที่ถูกต้องและตรง ประเด็น และสร้างความเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน ซึ่งการขาดผลการประเมิน ที่ถูกต้องและแม่นย านั้นเป็นข้อสนับสนุนที่ดีเพื่อการตัดสินใจในเชิงนโยบายเพื่อการควบคุมตามความ เป็นจริง ทั้งการปล่อยสาร VOCs จากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องที่ประเมินได้โดยตรงทางวิชาการ และจาก กิจกรรมที่ไม่สามารถประเมินได้ตรงทางวิชาการ๒๐๘ มีข้อเรียกร้องจากนักวิชาการในพื้นที่ที่มีศักยภาพให้มีการด าเนินการศึกษาร่วมกัน โดยจากการ ศึกษาวิจัยในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีข้อเรียกร้องอย่างมากถึงการเปิดเผยข้อมูล ที่เกี่ยวข้อง และเปิดโอกาสในการเข้ามีส่วนร่วมของภาควิชาการในรูปแบบเครือข่ายวิชาการของพื้นที่ ในการร่วมท างานกับภาครัฐเพื่อปกป้องพื้นที่ตนเองจากมลพิษ๒๐๙ โดยสรุปการติดตามผลกระทบของมลพิษต่อสุขภาพประชาชน การประกาศเขตควบคุมมลพิษ ตามมาตรา ๕๙ ได้เน้นในประเด็นของปัญหามลพิษซึ่งมีแนวโน้มที่จะร้ายแรงถึงขนาดเป็นอันตรายต่อ สุขภาพอนามัยของประชาชน จากการทบทวนข้อมูลด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงกับปัญหามลพิษในเขตควบคุม ๒๐๕ การป้องกันปัญหาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมกรณีศึกษาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด, file:///C:/Users/ANFIELD/Downloads/forensicadmin,+%7B$userGroup%7D, +Paper04 -Vol.7-No.1-2021%20(8).pdf, สืบค้นเมื่อ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ๒๐๖ เครือข่ายคนรักระยอง ยื่นข้อเรียกร้องบอร์ด สวล. จัดการก่อนเดินหน้า EEC, https://www.thereposters.co/environment/1402221340/, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ๒๐๗ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕ ๒๐๘ เพิ่งอ้าง ๒๐๙ เพิ่งอ้าง
๒๑๓ มลพิษนั้น ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนจึงไม่สามารถบ่งชี้ถึงผลกระทบของ มลพิษต่อสุขภาพ อนามัยได้๒๑๐ ๔.๑๓.๑๑ เทคนิคและวิชาการในการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ข้อจ ากัดทางเทคนิค เช่น เป็นการตรวจวัดแยกประเภทของมลพิษ ทั้งนี้มลพิษที่พบในพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นมลพิษที่หลากหลายประเภท ซึ่งอาจท าปฏิกิริยาระหว่างกัน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไม่ตรงไปตรงมา โดยอาจเสริมฤทธิ์หรือล้างฤทธิ์กัน การตรวจวัด ปริมาณมลพิษส่วนใหญ่ไม่ได้ตรวจอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการเก็บตรวจโดยการสุ่มวันตรวจอาจไม่ใช่ ตัวแทนที่ดีนัก๒๑๑ ปัญหาด้านเทคโนโลยีและวิชาการในการจัดการมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง๒๑๒ ประกอบด้วย ๑) การตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยสาร VOCs ต่อเนื่องทุกปีเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากข้อจ ากัดด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ไม่สามารถควบคุมสาร VOCs ให้ลดลงได้มาก อีกทั้งเครื่องมือ และอุปกรณ์ตรวจวัดมีราคาแพง วัสดุบางชนิดมีอายุการใช้งานสั้น โรงงานในพื้นที่ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ในการควบคุมสาร VOCs แล้ว แต่ยังมีผลตรวจสาร VOCs บริเวณริมรั้วเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากมีโรงงาน ที่ใช้สาร VOCs จ านวนมากในพื้นที ่ ๒)การค้นหาแหล่งก าเนิดประเภท Fugitive ท าได้ยากต้องใช้แรงงานและเวลามากในการตรวจวัด VOCs เช่น ตรวจวัดการรั่วซึม โดยเฉพาะโรงงานที่มีแหล่งก าเนิดจ านวนมาก การประเมินศักยภาพการรองรับมลพิษทางอากาศด้วยแบบจ าลองทางคณิตศาสตร์เพื่อให้ ทราบถึงสถานการณ์ความเข้มข้นของสารมลพิษในบรรยากาศ แหล่งก าเนิดในพื้นที่ และข้อจ ากัดของ เทคโนโลยีการก าจัดสารมลพิษจากแหล่งก าเนิด ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติให้การนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ด าเนินการโครงการโดยใช้งบประมาณร่วมกับการระดมทุนจาก ผู้ประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่ และได้แต่งตั้งคณะท างานก ากับดูแลบริษัทที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อม ศึกษาปัญหามลภาวะอากาศมาบตาพุด พบว่ามีความคลาดเคลื่อนระหว่างค่าที่ค านวณได้กับผล การตรวจวัด ท าให้ผลการประเมินศักยภาพการรองรับมลพิษทางอากาศบริเวณพื้นที่มาบตาพุดขาดความ น่าเชื่อถือต้องมีการปรับปรุงต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลอุตุนิยมวิทยาในพื้นที่ เช่น ทิศทางและความเร็วลม และอุณหภูมิที่ความสูงระดับต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติให้การนิคมอุตสาหกรรม ๒๑๐ เพิ่งอ้าง ๒๑๑ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/59733/49056/, สืบค้นเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ๒๑๒ โครงการศึกษาการจัดการมลพิษทางอากาศในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน http://eec-mtp.onep.go.th/report/executivesummary-th-2020, สืบค้นเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕
๒๑๔ แห่งประเทศไทยด าเนินการปรับปรุงข้อมูลน าเข้าดังกล่าว เพื่อให้แบบจ าลองทางคณิตศาสตร์มีความ ถูกต้องเชื่อถือได้๒๑๓ การตรวจวัดมลพิษด้วยวิธีการที่แตกต่างกันอาจจะน ามาซึ่งผลที่แตกต่างกัน ควรเลือกวิธีการ ตรวจวัดที่มีความแม่นย าและมีความถูกต้องในทางวิชาการได้ ได้แก่ วิธีการตรวจวัดแบบมาตรฐาน (Reference Method) ซึ่งสามารถยืนยันผลในทางกฎหมายได้ แต่ก็อาจใช้วิธีการตรวจวัดด้วยวิธี เทียบเท่า (Equivalent Method) โดยอนุโลม เพื่อท าการระบุสภาพปัญหาในขั้นต้น๒๑๔ ปัจจุบันในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และบริเวณใกล้เคียง มีการเฝ้าระวังโดยมีสถานี ตรวจวัดสาร VOCs จ านวน ๑๐ สถานี๒๑๕ ซึ่งไม่เพียงพอส าหรับการตรวจวัด การตรวจวัดคุณภาพอากาศ สารมลพิษต่าง ๆ ที่ประชาชนสูดดมเข้าไปสะสมในร่างกายก่อให้เกิด ความเจ็บป่วยต่างๆ ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามาจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือเป็นภาวะเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเอง แม้ปัจจุบันจะมีกลไกตรวจสอบคุณภาพอากาศอย่างเป็นระบบและโรงงานส่วนใหญ่ตรวจคุณภาพอากาศ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่มีบางครั้งที่ตรวจพบสารมลพิษหรือสารปนเปื้อนในอากาศแล้วไม่สามารถ หาแหล่งก าเนิดว่ามาจากโรงงานใด เมื่อไม่สามารถหาแหล่งก าเนิดได้ ก็ไม่สามารถป้องกันและแก้ไข ปัญหามลพิษทางอากาศในนิคมฯ ได้อย่างยั่งยืน๒๑๖ จากการประเมินศักยภาพการรองรับสารมลพิษทางอากาศในพื้นที่มาบตาพุด (Carrying capacity) สรุปได้ว่า หากแหล่งก าเนิดทุกแหล่งในพื้นที่มาบตาพุดได้ระบายมวลสารมลพิษทางอากาศ ออกในอัตราสูงสุดตามค่าที่ได้รับอนุญาตจะมีผลท าให้ค่าความเข้มข้นของมวลสารในบางพารามิเตอร์สูง เกินค่ามาตรฐานของคุณภาพอากาศในบรรยากาศ๒๑๗ ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการสาร VOCs ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง คือ ๑) การจัดการสาร VOCs ที่แหล่งก าเนิดแบบรายโรงงานยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ๒) ปัญหาการใช้แบบจ าลองอากาศเพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการกับสาร VOCs ทั้ง ๒ ชนิด ในพื้นที่ศึกษายังเป็นวิธีที่ไม่เพียงพอ ๒๑๓ การป้องกันปัญหาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมกรณีศึกษาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศในนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด, file:///C:/Users/ANFIELD/ Downloads/forensicadmin, +%7B$userGroup%7D,+Paper 04-Vol.7-No.1-2021%20(8).pdf , สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕ ๒๑๔ การตรวจวัดมลพิษ, inside-วารสารสหวิทยาการปี๑๗ ฉบับที่ ๒ กค. – ธค. ๖๓.indd - ThaiJO so06.tci-thaijo.org/index.php/citujournal/article/download/246363/166761/863070, สื บ ค้น เ มื่ อ วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕ ๒๑๕ รายงานผลการตรวจวัดปริมาณสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดระยอง ประจ าเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕, https://www.pcd.go.th/wp-content/uploads/2022/07/pcdnew2022-07-11_03-28-22_648114.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ๒๑๖ การวิเคราะห์กฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศจาก ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี, https://repository.nida.ac.th/ bitstream/handle/662723737/3772/ b199701e.pdf?sequence=4&isAllowed=y, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ๒๑๗ ระบบฐานข้อมูลประสานงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม กรม ... , ccee.pcd.go.th/ pcdlawsuit/topic/publicpcdForm02view/56ม, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕
๒๑๕ ขีดจ ากัดของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ไม่สามารถควบคุม VOCs ให้ลดลงได้มาก อีกทั้งเครื่องมือ และอุปกรณ์ตรวจวัดมีราคาแพง วัสดุบางชนิดมีอายุการใช้งานสั้น โรงงานในพื้นที่ใช้เทคโนโลยี ที่เหมาะสมในการควบคุมสาร VOCs แล้ว แต่ยังมีผลตรวจสาร VOCs บริเวณริมรั้วเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากมีโรงงานที่ใช้สาร VOCs จ านวนมากในพื้นที่การตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยสาร VOCs ต่อเนื่องทุกปีเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติเนื่องจากข้อจ ากัดด้านเทคโนโลยีการค้นหาแหล่งก าเนิดประเภท Fugitive ท าได้ยากต้องใช้แรงงานและเวลามากในการตรวจวัดสาร VOCs เช่น ตรวจวัดการรั่วซึม โดยเฉพาะโรงงานที่มีแหล่งก าเนิดจ านวนมาก๒๑๘ การประเมินศักยภาพการรองรับมลพิษทางอากาศด้วยแบบจ าลองทางคณิตศาสตร์เพื่อให้ทราบ ถึงสถานการณ์ความเข้มข้นของสารมลพิษในบรรยากาศ แหล่งก าเนิดในพื้นที่ และข้อจ ากัดของ เทคโนโลยีการการก าจัดสารมลพิษจากแหล่งก าเนิด จากการศึกษาปัญหามลภาวะอากาศมาบตาพุด พบว่ามีความคลาดเคลื่อนระหว่างค่าที่ค านวณได้กับผลการตรวจวัด ท าให้ผลการประเมินศักยภาพ การรองรับมลพิษทางอากาศบริเวณพื้นที่มาบตาพุดขาดความน่าเชื่อถือต้องมีการปรับปรุงต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลอุตุนิยมวิทยาในพื้นที่ เช่นทิศทางและความเร็วลม และอุณหภูมิที่ความสูงระดับ ต่าง ๆ ๒๑๙ การประเมินผลกระทบด้านคุณภาพอากาศด้วยแบบจ าลองคณิตศาสตร์ในประเทศไทย ปัจจุบัน นิยมใช้ในการประเมินมลพิษทางอากาศในโครงการประเภทอุตสาหกรรม พลังงาน และโครงการ ในลักษณะใกล้เคียง ส าหรับแบบจ าลองที่น ามาใช้ในการประเมินมีการพัฒนาการใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง โดยแบบจ าลองที่นิยมใช้และได้รับความเชื่อถือในปัจจุบัน คือ แบบจ าลอง AERMOD ซึ่งเป็นแบบจ าลอง ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อน ามาใช้แทนแบบจ าลอง ISC ในอดีต๒๒๐ การที่ใน ๑ เดือน กรมควบคุมมลพิษมาตรวจ ๑ วัน จะเท่ากับว่า ๑ ปี ตรวจทั้งหมด ๑๒ วัน แต่เราท างาน ๓๖๕ วัน ไม่เคยหยุด จึงมีค าถามเกิดขึ้นในใจว่า การยอมให้คนระยองเป็นมะเร็ง ๑ คน ต่อ ๑ แสนคน เป็นมาตรฐานที่ดีแล้วและสามารถยอมรับได้ใช่หรือไม่ มันเพียงพอแล้วหรือไม่ มีข้อสังเกตว่าต าแหน่งที่ตั้งของสถานีตรวจวัดสาร VOCs ที่มีอยู่เดิมว่ายังมีความเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากสถานีตรวจวัดสารVOCs ในพื้นที่โดยเฉพาะสถานีที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนที่ดูแลโดยกรมควบคุมมลพิษ ตั้งอยู่ในพื้นที่เดิมมานานหลายปี แต่สภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบันของพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีการขยายตัวของพื้นที่ชุมชนและปริมาณการจราจรทางบก ๒๑๘ โครงการศึกษาการจัดการมลพิษทางอากาศในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน, http://eec-mtp.onep.go.th/report/executivesummary-th-2020.pdf,สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ๒๑๙ การป้องกันปัญหาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมกรณีศึกษาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศในนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด, file:///C:/Users/ANFIELD/Downloads/forensicadmin,+%7B$userGroup%7D,+Paper04-Vol.7-No.1- 2021%20(8).pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕ ๒๒๐ การประเมินผลกระทบด้านคุณภาพอากาศจากแหล่งก าเนิดโดยแบบจ าลองฯ, https://sites.google.com/ site/ttsthailand/air-assessment, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๕
๒๑๖ ที่มีความหนาแน่นมากขึ้น สถานีตรวจวัด VOCs ที่อยู่ในระดับผิวพื้นอาจได้รับผลกระทบจากสาร VOCs ที่มาจากยานพาหนะในพื้นที่๒๒๑ การด าเนินการตามแผนปฏิบัติงานเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ประสบปัญหาด้านเทคนิควิชาการปัญหาหนึ่งคือการใช้แบบจ าลองอากาศเพื่อเป็นเครื่องมือในการ จัดการกับสาร VOCs ทั้ง ๒ ชนิด ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังวัดระยองยังเป็นวิธีที่ไม่เพียงพอ ปัจจุบันยังตรวจพบค่าความเข้มข้นของสารเบนซินสูงกว่าเกณฑ์เฝ้าระวัง สาเหตุเป็นเพราะการนิคมฯ มีโรงงานอุตสาหกรรมจ านวนมาก ไม่สามารถทราบว่าจุดก าเนิดการกระจายของตัวของสารเบนซีน มาจากโรงงานใดบ้าง จากการตรวจปริมาณสาร VOCs ทั้ง ๙ ชนิด ปรากฏว่าอยู่ในเกณฑ์ค่าเฝ้าระวัง ตามประกาศ กรมควบคุมมลพิษ เรื่อง ก าหนดค่าเฝ้าระวังส าหรับสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไปในเวลา ๒๔ ชั่วโมง อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรวจพบสารไวนิลคลอไรด์ในบรรยากาศ โดยทั่วไปบริเวณที่ท าการชุมชนบ้านพลงมีค่า ๒๐.๙๙ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงเกินเกณฑ์ ค่าเฝ้าระวังส าหรับสารไวนิลคลอไรด์ในบรรยากาศโดยทั่วไป ในเวลา ๒๔ ชั่วโมง ซึ่งก าหนดค่าไว้ไม่เกิน ๒๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (กรมควบคุมมลพิษ) ๒๒๒ ๔.๑๓.๑๒ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯและแผนปฏิรูประบบ การบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง การตั้งโรงงานอุตสาหกรรมต้องมีขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งในการขออนุญาตด าเนินการจัดตั้ง หน่วยงานภาครัฐต้องด าเนินการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยต้อง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเนื่องจากเป็นขั้นตอนหนึ่ง ทางกฎหมาย ที่ผ่านมาการด าเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจริง แต่ข้อเท็จจริงคือประชาชน ไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการแสดงความคิดเห็น หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่ว่าประชาชนในพื้นที่จะแสดง ความคิดเห็นอย่างไร แต่ถ้าภาครัฐส่งเสริมให้มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมด้วยเหตุผลทั้งปวง เช่น การขยายตัวของภาคเศรษฐกิจ การพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ประชาชนจ าเป็นต้องเสียสละ และคล้อยตามนโยบายและการด าเนินงานของภาครัฐ ประชาชนไม่ได้เป็นคนตัดสินใจในกระบวนการสุดท้าย หากเป็นหน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็นผู้ด าเนินการทั้งหมด ดังนั้นสาเหตุและปัจจัยปัญหาสภาพแวดล้อม ที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการภาครัฐที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ไม่วิเคราะห์ผลกระทบในเชิงลึกที่อาจจะ ๒๒๑ รายงานสรุปส าหรับผู้บริหารโครงการศึกษาการจัดการมลพิษทางอากาศในพื้นที่อุตสาหกรรม มาบตาพุดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน, http://eec-mtp.onep.go.th/report/executivesummary-th2020.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๕ ๒๒๒ https://www.pcd.go.th/maptapoot/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87% E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0% %E0%B8%A1-2565, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
๒๑๗ เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ เห็นได้จากการที่ประชาชนออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแล ผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม๒๒๓ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไขและควบคุมมลพิษของนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด จังหวัดระยอง อย่างมีนัยส าคัญที่ระดับ .๐๑ มีจ านวน ๗ ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยการมีส่วนร่วม ของบุคคล และชุมชน ปัจจัยการบริหารจัดการ ปัจจัยการให้ความรู้ ปัจจัยแรงจูงใจ ปัจจัยความเข้าใจ ในนโยบาย และปัจจัยสภาพแวดล้อม๒๒๔ ผลการวิจัยเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุม มลพิษ : กรณีศึกษาชุมชนมาบชลูด อ าเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ปรากฏว่าระดับของการมีส่วนร่วม ในระดับการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นระดับที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ๒.๙๕ รองลงมาคือการมีส่วนร่วม ในระดับสร้างความร่วมมือ มีค่าเฉลี่ย ๒.๕๙ ซึ่งใกล้เคียงกับการมีส่วนร่วมในการให้อ านาจประชาชน มีค่าเฉลี่ย ๒.๕๘ และระดับการมีส่วนร่วม ที่มีค่าเฉลี่ยต่ าสุด คือการมีส่วนร่วมในระดับการหารือ และการมีส่วนร่วมเข้ามามีบทบาท มีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ ๒.๕๓ แต่อย่างไรก็ตามทุกระดับการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับการแปลความหมายว่าอยู่ในระดับที่ดีทุกรายการ ส่วนผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ มีความสัมพันธ์ต่อการมีส่วนร่วมสูงที่สุด รองลงมาคือการได้รับข้อมูลข่าวสารความไว้วางใจระหว่าง ประชาชนที่มีส่วนร่วม ส่วนระบบการเผยแพร่ข้อมูลการตรวจวัดมลพิษในบรรยากาศในปัจจุบัน โดยเฉพาะผลการตรวจวัดสาร VOCs เป็นข้อมูลย้อนหลัง ไม่มีค่าตรวจวัดที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งไม่สามารถใช้ ในการเตือนภัยได้ทันท่วงที๒๒๕ การรับรู้ของผู้มีส่วนได้เสียภาคประชาชนต่อการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปรากฏว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างการมีเขตควบคุมมลพิษกับการไม่มีเขตควบคุม มลพิษในพื้นที่จังหวัดระยอง๒๒๖ การรับฟังความคิดเห็นไม่ตรงตามความเป็นจริง ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนถือเป็นกลุ่มผู้มี ส่วนได้เสียโดยตรงจากปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ไม่ได้รับ ช่องทางในการแสดงความคิดเห็นในตัวกฎหมายการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศเท่าที่ควร ๒๒๓ การป้องกันปัญหาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมกรณีศึกษาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศในนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด, file:///C:/Users/ANFIELD/Downloads/forensicadmin,+%7B$userGroup%7D,+Paper04-Vol.7-No.1- 2021%20(8).pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕ ๒๒๔ การพัฒนาการด าเนินงานตามมาตรการแก้ไขและควบคุมมลพิษ ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง, http://grad.vru.ac.th/pdf-journal/JourTs1-15-2/8.%20%E0%B8%9E% E0%B8%A3%E0% B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8 %AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%20%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0% B8%B4%E0%B8%8A%E0%B9%82%E0%B8%A2%2096-107.pdf,Journalof Graduate Studies Valaya AlongkornRajabhat University Vol. 15 No. 2 (May - August 2021), สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕ ๒๒๕ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/59733/49056, สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ๒๒๖ การวิเคราะห์กฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศจาก ภ า ค อุ ต ส าห ก ร ร มปิ โ ต ร เ ค มี, https://repository.nida.ac.th/bitstream/handle/662723737/3772/ b199701e.pdf?sequence=4&isAllowed=y, สืบค้นเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕
๒๑๘ แม้จะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้วก็ตามกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงขาดช่องทางในการแสดงความ คิดเห็นอย่างทั่วถึง ส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นอย่างไม่โปร่งใสและผู้เข้าร่วมรับฟัง ความคิดเห็นมิใช่กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงท าให้ข้อมูลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นไม่ตรงตาม ความเป็นจริง ประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองมีส่วนร่วมด้วยการแสดงความคิดเห็นต่อการ จะยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองผ่านองค์กรที่เกี่ยวข้อง คือข้อเสนอของเครือข่ายประชาชน คนรักระยองโดยมีการยื่นจดหมาย ในวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ สรุปได้โดยสังเขปดังนี้๒๒๗ (๑) ควรมีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการด าเนินการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง (๒) ความครอบคลุมและความเหมาะสมของที่ตั้งของจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ (๓) การจัดท าข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษในพื้นที่ที่เป็นปัจจุบันเพื่อเป็นข้อมูลที่ถูกต้องส าหรับ การด าเนินงานแก้ไขปัญหาของพื้นที่ (๔) ควรประเมินผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ และมีการบังคับใช้ กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อควบคุมมลพิษ (๕) ปัจจุบันมลพิษยังมีประเด็นอื่น ๆ อีก ได้แก่ ตะกอนด าที่พื้นทะเลที่มีการปนเปื้อนของโลหะหนัก และสารอันตรายตกค้างอยู่ (๖) ต้องการให้มีการท าให้ค่ามลพิษในพื้นที่หมดไปและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานก่อนที่จะด าเนินการ ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ (๗) สร้างความครอบคลุมถึงดัชนีชี้วัดปัญหามลพิษของพื้นที่ตามสภาพปัญหาจริง ๆ ได้แก่ ตัวชี้วัดน้ าเสียที่มีผลกระทบทั้งน้ าผิวดินและน้ าใต้ดิน และอากาศเสียที่เกิดจากการด าเนินการ อุตสาหกรรมทั้งหมดในพื้นที่ไม่ได้มีแต่ VOCs เท่านั้น แต่ยังมีมลพิษตัวอื่น ๆ อีกด้วย (๘) ขยายผลการจัดท ารายงานการปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Registers; PRTR) ให้มีการด าเนินการภาคอุตสาหกรรมเต็มพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกัน การลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม (๙) ก าหนดมาตรการป้องกันอุบัติภัยจากภาคอุตสาหกรรมที่มีความชัดเจนในการปฏิบัติ ของหน่วยงาน และพิจารณาระบบการชดเชยเยียวยาต่อชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เป็นธรรมในกรณีที่เกิดอุบัติภัย (๑๐) ให้มีการประเมินผลกระทบจากมลพิษต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ตามมาตรา ๕๙ โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานสากล (๑๑) ให้มีการประเมินผลสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจแบบ BCG (๑๒) ทบทวนสถานภาพและความเสี่ยงของสถานประกอบการอุตสาหกรรมที่ด าเนินการมานาน และอาจจะใช้เทคโนโลยีเก่า ซึ่งมีการควบคุมผลกระทบที่ยากและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัย ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรายงานว่าพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังมีการปนเปื้อนของมลพิษ ชนิดสาร VOCs เกินเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีแนวโน้มที่จะ ๒๒๗ เครือข่ายประชาชนคนรักระยองร้อง กก.วล. – ๑๓ ปี เขตควบคุมมลพิษระยอง, https:// enlawfoundation.org/rayongpollutioncontrol/, สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕
๒๑๙ ลดลงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จึงควรพิจารณาว่าจะคงเขตควบคุมมลพิษต่อไปโดยเคร่งครัดด าเนินการตาม มาตรการเดิม และเพิ่มมาตรการต่าง ๆ ที่เหมาะสมเพิ่มเติมหรือใช้มาตรการอื่นควบคู่กันไป หรือพิจารณาด าเนินการใน มาตรการที่เข้มแข็งกว่าการประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ (ประกาศกระทรวงฯ) โดยทั้งสองกรณีนี้จะมีการก าหนดมาตรการโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่และรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านก่อนที่จะน าไปก าหนดต่อไป๒๒๘ ผลของการวิจัยปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ : กรณีศึกษาชุมชนมาบชลูด อ าเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง กล่าวว่าการรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีความสัมพันธ์ กับการมีส่วนร่วมในเชิงบวก๒๒๙ ข้อเรียกร้องจากนักวิชาการในพื้นที่ที่มีศักยภาพให้มีการด าเนินการศึกษาร่วมกัน โดยจากการ ศึกษาวิจัยในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีข้อเรียกร้องอย่างมากถึงการเปิดเผยข้อมูล ที่เกี่ยวข้อง และเปิดโอกาสในการเข้ามีส่วนร่วมของภาควิชาการในรูปแบบเครือข่ายวิชาการของพื้นที่ ในการร่วมท างานกับภาครัฐเพื่อปกป้องพื้นที่ตนเองจากมลพิษ ๔.๑๓.๑๓ การประชาสัมพันธ์ในการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ผ่านมาการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประสบปัญหาการสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์ ดังต่อไปนี้ ๑) ขาดการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองภาคประชาชนมีข้อเรียกร้องในการรับรู้การตัดสินใจด าเนินการใด ๆ ของภาครัฐ ปัญหาการสื่อสารข้อมูลข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น การที่ภาครัฐยังไม่มีการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ จึงท าให้เกิดการต่อต้าน การสื่อสาร มีอิทธิพลให้มีการมีส่วนร่วม - หน่วยงานไม่มีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผลของสาร VOCs ต่อสุขภาพว่าสารชนิดใด มีผลอย่างไร หรือปัญหาสุขภาพนั้น ๆ เกิดจากสาร VOCs จริงหรือไม่ - ขาดการให้ความรู้ความเข้าใจกับชุมชนเกี่ยวกับการควบคุมสาร VOCs โดยใช้ค่ามาตรฐาน ที่ก าหนดอยู่ในปัจจุบัน - โรงงานและหน่วยงานภาครัฐขาดการสื่อสารกับภาคประชาชนเกี่ยวกับการจัดการ สาร VOCs ทั้งหมดที่ด าเนินการอยู่ในพื้นที่ - ปัญหาการสื่อสารข้อมูลข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ควรสื่อสารท าความเข้าใจแผนการด าเนินงาน โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และผลการด าเนินงานที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ ๒๒๘ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการประเมินผลเพื่อยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ เสนอต่อกรมควบคุมมลพิษ โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กันยายน ๒๕๖๕ ๒๒๙ ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ : กรณีศึกษาชุมชน มาบชลูด อ.เมือง จ.ระยอง, http://library1.nida.ac.th/termpaper6/sd/2554/19732.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕
๒๒๐ - ภาครัฐยังไม่มีการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ จึงท าให้เกิดการต่อต้าน - ข้อมูลข่าวสารไม่ครอบคลุมและไม่สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ๒) ด้านการรับรู้ข่าวสารการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ของประชาชน - ประชาชนยังขาดความเข้าใจต่อบทบาทหน้าที่ของพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง - ภาคประชาชน มีข้อเรียกร้องในการรับรู้การตัดสินใจด าเนินการใด ๆ ของภาครัฐ ระบบการเผยแพร่ข้อมูลการตรวจวัดมลพิษ ในบรรยากาศในปัจจุบันในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะผลการตรวจวัดสาร VOCs เป็นข้อมูลย้อนหลัง ไม่มีค่าตรวจวัดที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งไม่สามารถใช้ในการเตือนภัยได้ทันท่วงที ผลของการวิจัยปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ : กรณีศึกษาชุมชนมาบชลูด อ าเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง กล่าวว่าการรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีความสัมพันธ์ กับการมีส่วนร่วมในเชิงบวก๒๓๐ ภาคประชาชนมีความเห็นว่าการสื่อสารข้อมูลข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรสื่อสารท าความเข้าใจแผนการด าเนินงาน โครงการแก้ไข ปัญหาสิ่งแวดล้อม และผลการด าเนินงานที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ ภาคประชาชนไม่ได้รับการสื่อสารประชาสัมพันธ์แผนการลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามเครือข่ายประชาชนคนรักระยองแจ้งว่า “ไม่ได้รับข้อมูลและรายงานความก้าวหน้า ในการลดและขจัดมลพิษจังหวัดระยอง” ตามที่เครือข่ายประชาชนคนรักระยองได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ๒๓๑ ขอให้จัดส่งข้อมูลและรายงานความก้าวหน้าในการลดและขจัดมลพิษ จังหวัดระยอง ที่เกิดจากการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งมีการด าเนินการมาแล้ว ๓ ช่วงเวลา ประชาชนเข้าใจได้โดยง่าย และขอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติประเมินผลการปฏิบัติงานตาม แผนปฏิบัติการฯ ข้างต้นก่อนว่า มีการด าเนินงานที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลและมีการจัดท า แผนปฏิบัติการฯตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๖๐ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม แห่งชาติพ.ศ. ๒๕๓๕ ในระดับใดแล้วจึงส่งผลการประเมินให้ประชาชนจังหวัดระยองทราบพร้อมเอกสาร แผนปฏิบัติการฯ และรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการฯ ๒๓๐ ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ : กรณีศึกษาชุมชน มาบชลูด อ.เมือง จ.ระยอง, http://library1.nida.ac.th/termpaper6/sd/2554/19732.pdf, สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ๒๓๑ เครือข่ายฯคนรักระยอง ยื่นข้อเรียกร้องบอร์ด สวล. จัดการก่อนเดินหน้า .., https://www. The reporters.co/environment/1402221340/, สืบค้นเมื่อวันที๔ เมษายน ๒๕๖๕
บทที่ ๕ บทสรุปและข้อเสนอแนะ ๕.๑ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง วันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เมื่อศาลปกครองระยองได้อ่านค าพิพากษาคดีหมายเลขด าที่ ๑๙๒/๒๕๕๐ ให้ชาวมาบตาพุดชนะคดีที่ร่วมกันฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ประกาศเขตพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อที่จะได้ด าเนินการควบคุม ลด และขจัดมลพิษ ตามที่ก าหนดไว้ในพระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เมื่อมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ให้พื้นที่มาบตาพุดและใกล้เคียง (หรือเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง) เป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษแล้วสิ่งที่ได้ด าเนินการเพื่อให้เป็นไปตาม กฎหมายข้างต้นตามมาตรา ๕๙ คือ เจ้าพนักงานท้องถิ่นในท้องที่ที่ได้ประกาศก าหนดให้เป็นเขตควบคุม มลพิษ (เทศบาลนครระยอง เทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลต าบลเนินพระ เทศบาลต าบลทับมา เทศบาลเมืองบ้านฉาง เทศบาลต าบลบ้านฉาง เทศบาลต าบลมาบข่า และเทศบาลต าบลมาบข่าพัฒนา) ได้ร่วมมือกันจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เสนอต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติภายใน ๑๒๐ วัน ๕.๒ การด าเนินการของเจ้าพนักงานท้องถิ่น สิ่งที่นายกเทศมนตรีของเทศบาล ๘ แห่งข้างต้นในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ด าเนินการก็คือ ๑) ท าการส ารวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งก าเนิดมลพิษที่มีอยู่ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒) จัดท าบัญชีรายละเอียดแสดงจ านวน ประเภท และขนาดของแหล่งก าเนิดมลพิษ ที่ได้ส ารวจ และเก็บข้อมูลแล้วข้างต้น ๓) ท าการศึกษา วิเคราะห์ และประเมินสถานภาพมลพิษ รวมทั้งขอบเขตความรุนแรง ของสภาพปัญหา และผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อก าหนดมาตรการที่เหมาะสมและจ าเป็น ส าหรับการลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษดังกล่าว ภายใต้บริบทการมีส่วนของของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ๔) การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้เสนอ ประมาณการและค าขอจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม ส าหรับก่อสร้าง หรือด าเนินการเพื่อให้มีระบบบ าบัดน้ าเสียรวม หรือระบบก าจัดของเสียรวมของทางราชการที่จ าเป็น ส าหรับการลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษนั้นด้วย ในกรณีที่จ าเป็นจะต้องจัดหาที่ดินส าหรับใช้เป็นที่ตั้งระบบบ าบัดน้ าเสียรวมหรือระบบก าจัด ของเสียรวมแต่ไม่สามารถจัดหาที่ดินของรัฐภายในพื้นที่ได้ ก็สามารถด าเนินการจัดหาที่ดินของเอกชน เพื่อพิจารณาคัดเลือกให้เป็นที่ตั้งได้ ในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายเกินงบประมาณของท้องถิ่น ก็สามารถเสนอ ประมาณการ และค าขอจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกองทุนในแผนปฏิบัติการระดับจังหวัดได้
๒๒๒ ในกรณีที่ไม่สามารถด าเนินการจัดหาได้ ก็ให้ก าหนดที่ดินที่เหมาะสม เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีให้ด าเนินการ เวนคืนต่อไปตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นผู้ก ากับดูแลการด าเนินการของเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการจัดท า แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ในกรณีที่เจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่ด าเนินการภายในเวลาอันสมควร ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอ านาจด าเนินการแทนได้ แต่ต้องแจ้ง ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติทราบก่อน) ๕.๓ การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ และผลสัมฤทธิ์ หลังจากมีการประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ เจ้าพนักงานท้องถิ่น ได้จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง มาแล้วจ านวน ๔ ฉบับ นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๖ ดังนี้ ๑) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๖ ๒) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ๓) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ ๔) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๖ (ฉบับปรับปรุง) จากการติดตามผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น ๑๓ ปี ปรากฏว่าการด าเนินการแก้ไข ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามค าสั่งของศาลปกครองและตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ยังไม่มีผลสัมฤทธิ์ จากผลการประเมินระดับมลพิษของพื้นที่ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พบว่า ระดับมลพิษ ยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรา ๕๙ คือระดับมลพิษยังมีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานและยังไม่สามารถ ด าเนินการแก้ไขปัญหามลพิษที่ส าคัญได้ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ยังไม่สามารถด าเนินการแก้ไขได้ ได้แก่ ๑) ปัญหามลพิษทางอากาศ เนื่องจากสาร VOCs ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ประกอบด้วย สารเบนซีน, สาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน, (1,3-butadiene) และสาร ๑,๒ - ไดคลอโรอีเธน (1,2-dichloroethane) ในบรรยากาศยังเกินกว่าค่ามาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไปในเวลา ๑ ปี ในบางเวลาเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน แหล่งก าเนิดสารมลพิษเบนซีน คือโรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะ ชุมชนฯ สาร ๑,๓ - บิวทาไดอีนและสาร ๑,๒ - ไดคลอโรอีเธน คือ โรงงานอุตสาหกรรม ๒) ปัญหามลพิษทางน้ า เนื่องจากจากน้ าเสียชุมชนที่มาจากชุมชมในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๘ แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีระบบรวบรวมน้ าเสียและระบบบ าบัดน้ าเสีย น้ าเสียชุมชนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับ การรวบรวมไปบ าบัดให้ได้น้ าทิ้งที่มีคุณภาพตามมาตรฐานก่อนที่จะระบายลงสู่ล าคลองสาธารณะ และลงสู่ชายฝั่งทะเลซึ่งอยู่ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง
๒๒๓ คุณภาพน้ าในคลองสาธารณะในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จ านวน ๑๕ สาย ยังมีสภาพ เสื่อมโทรม อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม เนื่องจากปนเปื้อนด้วยสารไนเตรท - ไนโตรเจน แอมโมเนียรวม ฟอสเฟต-ฟอสฟอรัส แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด แบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์มและเหล็ก ได้แก่ คลองกระเฉด คลองหนองคล้า คลองห้วยพร้าว คลองหนองผักหนาม คลองทับมา คลองคา คลองชากหมาก คลองน้ าตก คลองบางเบิด คลองก้นปึก คลองน้ าหู คลองหลอด คลองพยูน คลองตากวน และคลองน้ าด า อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก จ านวน ๑ สาย ได้แก่ คลองห้วยใหญ่ น้ าใต้ดินในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ส าหรับบ่อน้ าตื้นของประชาชนยังปนเปื้อนด้วย สารVOCs ที่มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าใต้ดิน ได้แก่ ๑, ๒ - ไดคลอโรอีเทน และคาร์บอนเตตระคลอไรด์ โดยเฉพาะบริเวณชุมชนโขดหิน ส าหรับโลหะหนักที่พบเกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าใต้ดิน ได้แก่ แมงกานีส และเหล็ก เกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ าบาดาลเพื่อการบริโภค ปริมาณสารหนู (As) เกินเกณฑ์อนุโลมสูงสุด บริเวณที่พบค่าโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน ได้แก่ ชุมชนซอยร่วมพัฒนา วัดมาบชลูด วัดมาบตาพุด และบ้านพยูน น้ าทะเลชายฝั่งมีคุณภาพเสื่อมโทรมเนื่องจากปนเปื้อนด้วย Cd Pb เกินค่ามาตรฐาน คุณภาพน้ าทะเล ชายฝั่งปากคลองชากหมากอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ส าหรับปากคลองบางเบิดและปากคลองตากวนอยู่ในเกณฑ์ เสื่อมโทรมมาก พารามิเตอร์ที่เป็นปัญหา ได้แก่ ไนเตรท-ไนโตรเจน แอมโมเนียรวม ฟอสเฟต-ฟอสฟอรัส แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด แบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม และเหล็ก ๕.๔ การด าเนินการตามแผนปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ / แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ และผลสัมฤทธิ์ ในขณะที่แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๖ (ฉบับปรับปรุง) ด าเนินการอยู่นั้นได้มีแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ และแผนปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดของกิจกรรมปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุม มลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ในกิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ คือการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุม มลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด (ปี พ.ศ.๒๕๖๔ - ๒๕๖๕) โดยมีเป้าหมายคือการควบคุม ลด และขจัดมลพิษที่เกินค่ามาตรฐาน และการยกเลิกประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เมื่อคุณภาพ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นไปตามค่าเกณฑ์มาตรฐาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากการด าเนินการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) (ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕) ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลปรากฏว่าคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังไม่เป็นไปตามค่าเกณฑ์มาตรฐาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผลการด าเนินการตามแผนปฏิรูปฯ ปรากฎว่า พื้นที่เขตควบคุมพิษ จังหวัดระยองยังมีสาร VOCs คือสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน, (1,3-butadiene) ในบรรยากาศยังเกินกว่าค่ามาตรฐาน ที่ก าหนดไว้และคุณภาพน้ าในแหล่งน้ าผิวดินรวมทั้งน้ าทะเลยังเสื่อมโทรม
๒๒๔ จากผลการประเมินระดับมลพิษของพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พบว่าระดับมลพิษ ยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรา ๕๙ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งระดับมลพิษยังมีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน โดยเฉพาะค่าสาร VOCs ได้แก่ สารเบนซีน และสาร ๑,๓ -บิวทาไดอีน, (1,3-butadiene), และคุณภาพสิ่งแวดล้อมยังอยู่ในสภาพ เสื่อมโทรม จึงขาดสภาพความพร้อมในการด าเนินการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ ด้วยปัญหาอุปสรรค ต่าง ๆ ซึ่งจ าเป็นที่จะต้องด าเนินการปรับปรุงแก้ไขต่อไปโดยใช้แผนปฏิบัติการและมาตรการเชิงรุกยกระดับ การบริหารจัดการมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป้าหมายในอนาคต คือการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ในระยะเวลา ๔ – ๕ ปีข้างหน้า ๕.๕ ปัญหาอุปสรรคของการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จากการพิจารณาศึกษาการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ “กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึง พ.ศ. ๒๕๖๕ ปรากฏว่า การปฏิรูปดังกล่าวไม่ประสบความส าเร็จ เนื่องจากประสบปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ๕.๕.๑ ปัญหาด้านนโยบายและแผน ๕.๕.๑.๑ การที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้ส าเร็จลุล่วงไปได้นั้น เนื่องมาจากปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาระดับชาติและเป็นปัญหาที่เกิดจากการ ด าเนินการตามนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศแล้วส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจ าเป็นต้องใช้งบประมาณจ านวนมาก แต่จังหวัดและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถจัดหางบประมาณ ได้มากพอส าหรับการแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่ ทั้งนี้หากการแก้ไขปัญหานี้ไม่ประสบความส าเร็จก็จะมี ผลกระทบต่อการลงทุนในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อื่น ๆ ได้ ๕.๕.๑.๒ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นจัดท าขึ้นมีคุณภาพไม่เพียงพอ และแผนดังกล่าวไม่ได้บรรจุหรือผนวกอยู่ใน แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด จังหวัดระยอง ตามกฎหมายให้ครบถ้วน ส่งผลให้แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ถูกลดความส าคัญลงไป ท าให้ขาดงบประมาณในการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ๕.๕.๑.๓ ปัญหาการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตาม แผนฯ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีปัญหาอุปสรรค เนื่องจาก (๑) อนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับแผนปฏิบัติการฯ มีจ านวนมาก (มากกว่า ๑๐ คณะ) ขาดการบูรณาการระหว่างแผนปฏิบัติการฯ กับแผนงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และไม่สามารถ ติดตามประเมินผลการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ได้อย่างเป็นรูปธรรม (๒) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีจ านวน ๘ แห่ง ส่วนหนึ่งเป็นเทศบาลต าบล ซึ่งขาดศักยภาพในการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ และการด าเนินการ ตามแผนปฏิบัติการฯ รวมทั้งขาดงบประมาณ ทั้งนี้ ปัญหามลพิษครอบคลุมพื้นที่มากกว่าหนึ่งเขต
๒๒๕ การปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ในทางปฏิบัติอาจจะด้วยขีดจ ากัดทางนิตินัยท าให้เกิดสภาวะต่างคน ต่างด าเนินการ มีความเหลื่อมล้ าระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๓) ในทางปฏิบัติ การจัดท าแผนปฏิบัติการฯ เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนหน่วยงานพี่เลี้ยงหลักคือกรมควบคุมมลพิษ ส านักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และส านักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ ๑๓ (๔) ภาคผู้แทนของกลุ่มธุรกิจและประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ได้เสียจากปัญหามลพิษ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือมีส่วนร่วมน้อยในการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ (๕) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ผ่านมามีระยะเวลาด าเนินการ ๔ - ๕ ปี แต่ขาดการทบทวนผลการด าเนินการและการปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ (Rolling plan) อย่างจริงจังในปีถัดไปตามสภาพมลพิษที่เปลี่ยนไปของพื้นที่และขาดการท ารายงาน ผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ รายปี (๖) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มักขาดเป้าหมายและตัวชี้วัด รวมทั้ง ไม่มีการก าหนดกรอบเวลาของการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมและ ชัดเจน (๗) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ได้จัดท าขึ้นส่วนใหญ่ไม่มีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ปัญหามลพิษเพื่อจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ๕.๕.๑.๔ แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) “การปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษ มาบตาพุด” หรือเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่มีการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษ ฉบับที่ ๓) ได้ก าหนดตัวชี้วัดระบบบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือให้ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นผลจากการแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่ได้ส าเร็จภายใน ๒ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕) เป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไปท าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถด าเนินการ ให้ส าเร็จตามแผนปฏิรูปฯ ได้ ส่งผลให้ปัจจุบันในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังมีสารมลพิษ บางชนิดเกินค่ามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมถึงปัญหาการจัดการกากอุตสาหกรรม โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับแผนการปฏิรูปดังกล่าวที่ก าหนดให้ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เพราะการด าเนินงานต่างๆ ที่กระท าอยู่ยังไม่สามารถลดและขจัดมลพิษ ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๕.๕.๑.๕ มลพิษทางอากาศในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองนอกจากสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีนแล้ว ยังมีสาร ๑,๒ - ไดคลอโลอีเทน , O3 และ PM2.5 ที่มีแนวโน้มสูงเกิน ค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ๕.๕.๑.๖ ประเทศไทยมีโครงการพัฒนาระบบการจัดท าท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้าย สารมลพิษ (PRTR)แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถด าเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นโครงการภาคสมัครใจ จากภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐยังไม่มีประกาศเป็นกฎหมายบังคับให้ภาคอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งก าเนิด มลพิษต้องบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ท าให้ไม่สามารถ รู้ข้อมูลปริมาณการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษที่แท้จริงจากแหล่งก าเนิดที่เป็นภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง
๒๒๖ ๕.๕.๑.๗ ที่ผ่านมานอกจากมีแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองแล้ว ยังมีแผนการแก้ไขปัญหามลพิษจากหน่วยงานอื่น เช่น แผนแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตมาบตาพุด ของส านักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการ คุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด และแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ท าให้เกิดปัญหาความลักลั่นและเหลื่อมกันของการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการจัดหางบประมาณส าหรับการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ๕.๕.๑.๘ ปัจจุบันภาครัฐยังไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษและยังไม่สามารถยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ๕.๕.๒ ปัญหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๕.๕.๒.๑ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนยังปฏิบัติ ไม่เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษ เห็นได้จากการที่ประชาชนร้องเรียนเรื่องเหตุร าคาญ และปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม ๕.๕.๒.๒ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามมาตรา ๕๙ ภายใต้ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ไม่ได้ก าหนดให้มีการจัดท า มาตรการต่าง ๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อลดและขจัดมลพิษ มีเพียงการก าหนดให้มีการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในมาตรา ๖๐ ซึ่งต่างจากมาตรา ๔๓ ที่สามารถก าหนดมาตรการใด ๆ เป็นกฎกระทรวงได้ ๕.๕.๒.๓ ขาดกฎหมายว่าด้วยการรายงานการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ส าหรับภาคอุตสาหกรรม ตามโครงการพัฒนาระบบการจัดท า “ท าเนียบการปลดปล่อยและ เคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR)” ซึ่งเป็นเป้าหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและกรมควบคุมมลพิษ ที่จะให้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษต้องบันทึกข้อมูลในแบบรายงาน การปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ซึ่งปัจจุบันยังเป็นภาคสมัครใจ จึงท าให้โครงการ ดังกล่าว ยังไม่สามารถด าเนินการตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งท าให้ไม่สามารถรู้ข้อมูล ปริมาณการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ที่แท้จริงในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ซึ่งจ าเป็นใช้เป็นข้อมูลในวางแผนและก าหนดมาตรการในการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศในพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๕.๒.๔ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังขาดกฎหมายล าดับรองหรือกฎหมายลูก ที่ส าคัญและจ าเป็นส าหรับการควบคุมสารมลพิษทางอากาศ ได้แก่ (๑) กฎหมายก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับสาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) เพื่อการก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน เป็นค่าเป้าหมายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เหมราชตะวันออก ผาแดง เอเชีย และอาร์ไอแอล (๒) กฎหมาย Fence Line : เพื่อก าหนดค่ามาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้ง อากาศเสียจากโรงงานกลั่นน้ ามันปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๒) (๓) กฎหมายควบคุม ๑,๓ - บิวทาไดอีน : เพื่อก าหนดค่ามาตรฐานควบคุม การปล่อยทิ้งสารเบนซีนและสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน จากโรงงานอุตสาหกรรมเคมี (ฉบับที่ ๒) โดยมี
๒๒๗ มาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ไม่เกิน ๑๖๐ กิโลกรัม /ปี/โรงงาน เป็นข้อจ ากัด ในการด าเนินการผลิตที่ก าลังสูงสุดของโรงงานของบริษัทฯ ซึ่งทางบริษัทฯ เห็นว่าจะส่งผลผลกระทบ ต่อธุรกิจของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก ในเรื่องการร่วมลงทุนจากต่างประเทศ (๔) กฎหมายก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับสาร ๑,๒ - ไดคลอโลอีเทน, O3 และ PM2.5 ของพื้นที่ (Carrying Capacity) เพื่อการก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับ สาร ๑,๒ - ไดคลอโลอีเทน, O3 และ PM2.5 ของพื้นที่ ๕.๕.๒.๕ ภาคอุตสาหกรรมไม่เห็นด้วยกับค่ามาตรฐานหรือการบังคับใช้กฎหมาย ตามค่ามาตรฐานสารเบนซีน ในบรรยากาศเฉลี่ย ๑ ปี ไม่เกิน ๑.๗ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เพราะว่า เป็นค่าที่ภาคอุตสาหกรรมจึงเรียกร้องให้ชะลอการออกกฎหมายล าดับรองหรือกฎหมายลูกก าหนด ขีดความสามารถในการรองรับสารเบนซีนของพื้นที่ (Carrying Capacity) ที่ใช้ค่าความเข้มข้นของสารเบนซีน ในบรรยากาศเฉลี่ย ๑ ปีไม่เกิน ๑.๗ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร(ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่คนไทยมีอัตราเสี่ยง จากโรงมะเร็งอันมีสาเหตุจากสารเบนซีน ๑ : ๑๐๐,๐๐๐ คน) ๕.๕.๒.๖ สภาพบังคับของกฎหมายของการประกาศเขตควบคุมมลพิษ มาตรา ๖๐ ก าหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีหน้าที่จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ท าการรวมแผนฯไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง ภายใต้การสั่งการ ของผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แต่ในทางปฏิบัติจริงที่ผ่านมา เจ้าพนักงานท้องถิ่นส่วนใหญ่ในพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังขาดความพร้อมในการลดและขจัดมลพิษตามแผนปฏิบัติการฯ ที่ก าหนดไว้ โดยที่ส านักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ส านักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุม มลพิษที่ ๑๓ (ชลบุรี) และกรมควบคุมมลพิษ ต้องท าหน้าที่ในการจัดการมลพิษในพื้นที่ในภาพรวม แทนเจ้าพนักงานท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งหน่วยงานดังกล่าวมักขาดความคล่องตัว ในการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ๕.๕.๒.๗ ปัญหามลพิษทางอากาศจากภาคอุตสาหกรรมมักเกิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและไม่สามารถท าได้อย่างสม่ าเสมอตลอดเวลา ๕.๕.๒.๘ ประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การควบคุมการใช้หอเผาทิ้ง พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นประมวลหลักปฏิบัติของกระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งเน้นการปฏิบัติตามหลักวิศวกรรมที่ดีและให้มีการรายงานกรมโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อมีเหตุผิดปกติ ที่เกิดขึ้นและไม่อยู่ในแผนการด าเนินงานตามปกติ แต่ประมวลหลักการปฏิบัติ(CoP) ดังกล่าว ไม่ได้ระบุ ค่ามาตรฐานในการควบคุมการระบายสารเบนซีนและสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีนจากแหล่งก าเนิด จึงท าให้ ไม่สามารถด าเนินการติดตามตรวจสอบและควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๕.๕.๒.๙ ปัญหาความยากล าบากในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการปล่อย มลพิษจากกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าพนักงานท้องถิ่น เนื่องจากการเข้าไปตรวจติดตามตรวจสอบ ในแหล่งก าเนิดมลพิษคือโรงงานอุตสาหกรรม ต้องใช้ทั้งก าลังคนและงบประมาณ ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอ กับจ านวนของแหล่งก าเนิดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยบางพื้นที่สามารถติดตามได้ ในส่วนน้อย นอกจากนั้นปัญหาของการเมืองส่วนท้องถิ่นที่ใช้วิธีการประนีประนอมในการจัดการ ท าให้ยากแก่การบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลให้ไม่เกิดการเร่งรัดการด าเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ
๒๒๘ ๕.๕.๒.๑๐ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีอ านาจประกาศเขตควบคุมมลพิษ เพื่อด าเนินการควบคุม ลด และขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามมาตรา ๕๙ ภายใต้ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติไม่ได้ก าหนดระยะเวลาสิ้นสุดของการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลด และขจัดมลพิษ จังหวัดระยอง และการด าเนินการถัดจากนั้นในล าดับต่อไป ๕.๕.๒.๑๑ หน่วยงานใดหรือใครจะเป็นผู้ประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยที่พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ไม่มีบทบัญญัติให้ อ านาจคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติหรือผู้ใดประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ ๕.๕.๓ ปัญหาด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๕.๕.๓.๑ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประสบปัญหาขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจทางเทคนิควิชาการด้านการควบคุมมลพิษประเภทต่างๆ ท าให้การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษล่าช้า ไม่ประสบความส าเร็จ และไม่สอดคล้อง กับวัตถุประสงค์ของการประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๕.๓.๒ ปัญหาการก ากับการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจากมีหลายหน่วยงานด าเนินการแก้ไขปัญหาเดียวกัน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง แต่ไม่บูรณาการกันในการด าเนินการ ต่างคนต่างท า ตัวอย่างเช่น การจัดการน้ าเสียชุมชนและน้ าเสียโรงงานอุตสาหกรรม มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๔ หน่วยงาน ได้แก่ (๑) การก ากับดูแลการจัดการน้ าเสียจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (๒) การก ากับดูแลการจัดการน้ าเสียจากโรงงานนอกนิคมอุตสาหกรรม โดยส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (๓) การก ากับดูแลการจัดการน้ าเสียจากอาคารขนาดใหญ่ โดยองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และส านักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ ๑๓ (๔) การก ากับดูแลการลักลอบปล่อยของเสียจากเรือลงสู่แหล่งน้ า โดยกรมเจ้าท่า ๕.๕.๓.๓ ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้ด าเนินการแก้ไขมา ๑๓ ปีแล้ว โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น แต่การแก้ไข ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) เนื่องจากขาดการบูรณาการที่ดีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น และขาดเจ้าภาพหลักที่สามารถจัดหางบประมาณ ท าการก ากับ ติดตามตรวจสอบผล การด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาทั้งหมดอันเนื่องมาจากการประกาศ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง
๒๒๙ ๕.๕.๔ ปัญหาด้านการแก้ไขปัญหามลพิษ และปัญหาอุบัติภัยและเหตุเพลิงไหม้ในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๕.๔.๑ การขับเคลื่อนการจัดการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ของคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ประสบปัญหางบประมาณส าหรับการด าเนินการในงานที่เกี่ยวข้องของ คณะอนุกรรมการฯ ได้แก่ งบประมาณเพื่อการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ การศึกษาความพร้อมหรือสร้าง มาตรการทางวิชาการและการติดตามผลตามแผนปฏิบัติการฯ ๕.๕.๔.๒ ปัจจุบันยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการด าเนินโครงการ/กิจกรรม ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองเพื่อลดและขจัดมลพิษ เป็นเพียงการสนับสนุน โดยผ่านช่องทางงบประมาณตามขั้นตอนปกติ ท าให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีงบประมาณในการแก้ไขปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นให้เพียงพอแก่การด าเนินการ และสอดคล้องกับสภาพปัญหาของพื้นที่ โดยหน่วยงานที่ด าเนินการขับเคลื่อนการจัดการต้องจัดหา งบประมาณมาด าเนินการเองซึ่งไม่เพียงพอกับการด าเนินงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังขาดงบประมาณในการด าเนินการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวหลายองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นด้วย ๕.๕.๔.๓ ในการขับเคลื่อนการจัดการของอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผล การด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประสบปัญหางบประมาณด าเนินการในงานที่เกี่ยวข้อง ของอนุกรรมการฯ ได้แก่ งบประมาณเพื่อการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ การศึกษาความพร้อมหรือสร้าง มาตรการทางวิชาการ และการติดตามผลแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณเหล่านี้ ให้เพียงพอกับสภาพปัญหาของพื้นที่ โดยหน่วยงานด าเนินการต้องจัดหางบประมาณมาด าเนินการเอง และไม่เพียงพอกับผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการ ๕.๕.๔.๔ การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยคณะอนุกรรมการมีจ านวนมาก (ไม่น้อยกว่า ๑๐ คณะอนุกรรมการ) และอนุกรรมการที่เป็น ตัวแทนหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมในแต่ละครั้งนั้น บางครั้งไม่ได้เป็นบุคคลเดิม และในกรณีที่ไม่เป็น ผู้น าหน่วยงานอาจไม่สามารถตัดสินใจได้ จึงไม่สามารถอยู่ในระดับตัวแทนเพื่อการวิเคราะห์ หรือถกเถียง ในประเด็นสถานการณ์ของพื้นที่ ท าให้การประชุมเพื่อด าเนินการในเชิงบูรณาการแผนปฏิบัติการฯ กับแผนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยอนุกรรมการต่าง ๆ เป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ๕.๕.๔.๕ การเกิดอุบัติภัยด้านสารเคมีและเหตุเพลิงไหม้ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ยังเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ๕.๕.๕ ปัญหาด้านการก ากับติดตามและการประเมินผล ๕.๕.๕.๑ การติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เกิดปัญหาการบูรณาการข้อมูลในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศระหว่างหน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วย ๓ หน่วยงาน (๕ กิจกรรมย่อย) ได้แก่ (๑) การติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไปด้วยสถานี ตรวจวัดอัตโนมัติโดยกรมควบคุมมลพิษ (๒) การตรวจวัดและเฝ้าระวังสารVOCs ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยกรมควบคุมมลพิษ
๒๓๐ (๓) การเฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMCC) ตามโครงการจ้างเหมา บริหารจัดการศูนย์การนิคมอุตสาหกรรม (๔) การติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยทั่วไปและสาร VOCs ในบรรยากาศ ในพื้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด โดยเทศบาลเมืองมาบตาพุด (๕) การวางระบบและเชื่อมโยงข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ และสาร VOCs ระหว่างหน่วยงาน และการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ โดยกรมควบคุมมลพิษ ๕.๕.๕.๒ ขาดกลไกการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ประจ าปีในทุกแผนย่อย และผู้ที่มีหน้าที่ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงาน ลดและขจัดมลพิษ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ขาดการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการลดและขจัดมลพิษ จากแหล่งก าเนิดมลพิษโดยส่วนกลางและท้องถิ่น ท าให้ไม่สามารถติดตามตรวจสอบได้ครบถ้วนตาม จ านวนของแหล่งมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นประจ าทุกปี รวมทั้งที่ผ่านมายังไม่มี ความชัดเจนในการประเมินผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการประจ าปีอย่างเป็นรูปธรรมก่อนที่จะน า ผลไปปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในปีถัดไป เนื่องจากขีดจ ากัดของจ านวน เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๕.๕.๓ ขาดการติดตามตรวจสอบและก ากับแหล่งก าเนิดมลพิษปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากภาครัฐและท้องถิ่นไม่สามารถติดตามตรวจสอบได้ครบถ้วนตามจ านวนของแหล่งมลพิษ ของพื้นที่สาเหตุจากมีขีดจ ากัดของจ านวนเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๕.๕.๔ ขาดการติดตามตรวจสอบการประเมินผลการด าเนินการของแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษประจ าปีอย่างเป็นรูปธรรม โดยภาคประชาชน ๕.๕.๕.๕ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามมาตรา ๕๙ ได้เน้นประเด็น ปัญหามลพิษที่มีแนวโน้มที่ร้ายแรงถึงขนาดเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ทว่าจากการ ทบทวนข้อมูลด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงกับปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษนั้น ยังไม่ปรากฏผลที่เป็น รูปธรรมที่ชัดเจนและยังไม่ได้รับการยอมรับ จึงไม่สามารถบ่งชี้ถึงผลกระทบของมลพิษในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนได้ ๕.๕.๕.๖ ระบบการจัดการที่แยกเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่มีการสอดประสานการท างาน ร่วมกันอย่างจริงจัง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การค้นหาสาเหตุ การก ากับติดตามและการแก้ไขปรับปรุง ๕.๕.๖ ปัญหาด้านเทคนิคและวิชาการ ๕.๕.๖.๑ จ านวนและต าแหน่งที่ตั้งของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และไม่ครอบคลุมพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ โดยต าแหน่งที่ตั้ง ของบางสถานีเป็นต าแหน่งที่ได้ตั้งและใช้งานอยู่นานแล้ว จึงไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งสถานีตรวจวัดบางสถานียังไม่สามารถรายงานการตรวจวัดสาร VOCs แบบต่อเนื่องได้ ๕.๕.๖.๒ ขาดการตรวจวัดเชิงลึกส าหรับสาร VOCs ที่ปล่อยออกจากแหล่งก าเนิด แต่ละประเภท ได้แก่ แหล่งก าเนิดจากการรั่วซึม การเผาไหม้ การเผาทิ้ง ถังกักเก็บ การขนถ่าย ระบบบ าบัดน้ าเสีย และการคมนาคม เป็นต้น ท าให้ยังไม่ทราบแหล่งที่มาหลักของสาร VOCs โดยเฉพาะ
๒๓๑ สารเบนซีนในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อย่างชัดเจนว่ามาจากแหล่งใด ปริมาณเท่าใด และควรจัดการด้วยวิธีการใด ๕.๕.๖.๓ การตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยสาร VOCs เป็นล าดับต้น ต่อเนื่องทุกปี ยังเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติเนื่องจากข้อจ ากัดด้านงบประมาณและด้านเทคโนโลยีของภาคอุตสาหกรรม ๕.๕.๖.๔ การประเมินขีดความสามารถการรองรับสาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) โดยกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและสถานที่กักเก็บสาร VOCs โดยใช้ข้อมูลจากการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม (EIA/EHIA) ซึ่งเป็นการด าเนินการโดยใช้แบบจ าลองทางคณิตศาสตร์ที่ไม่ใช่ค่าจริง ของสาร VOCs Load ๕.๕.๖.๕ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังไม่มีการประเมินขีดความสามารถ ในการรองรับสารมลพิษของพื้นที่ (Carrying Capacity) ทั้งในสภาพปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งมีส่วนส าคัญ ในการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ในเชิงรุก ๕.๕.๖.๖ การใช้แบบจ าลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการสาร VOCs คือสารเบนซีนและสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีนในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีข้อกังวลจากผู้มีส่วนได้เสีย ในพื้นที่ ในประเด็นการเตรียมความเพียงพอและความน่าเชื่อถือของข้อมูลน าเข้าส าหรับแบบจ าลอง ทางคณิตศาสตร์ ความเพียงพอและความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลปัจจัยแวดล้อมอันมีผล ต่อการแพร่กระจายของสารมลพิษทางอากาศ ได้แก่ แหล่งก าเนิด ลักษณะและที่ตั้งของแหล่งก าเนิด สภาพภูมิประเทศ สมบัติเฉพาะทางเคมีและฟิสิกส์ของสารมลพิษ สภาพทางอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งการน า ค่าขีดความสามารถในการรองรับสาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) มาก าหนดแบ่งเป็นโควตา ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมแต่ละแห่งซึ่งอาจจะแตกต่างจากที่ได้รับอนุญาตในรายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม (EIA/EHIA) ๕.๕.๖.๗ ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพื่อด าเนินการลดและขจัดสารVOCsจากภาคอุตสาหกรรม ค่อนข้างสูง ทั้งจากเทคโนโลยีที่ใช้ควบคุมหรือบ าบัดมลพิษ อุปกรณ์ตรวจวัด ค่าจ้างเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง ในการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ท าให้เป็นปัญหาอุปสรรคของผู้ประกอบการ ๕.๕.๖.๘ ขาดการศึกษาทางระบาดวิทยาที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของการเจ็บป่วยของ ประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง กับภาวะมลพิษในพื้นที่ ๕.๕.๖.๙ การเก็บตัวอย่างและการวิเคราะห์ข้อมูลและการแปลผลจากผลการตรวจวัดข้อมูล รายเดือนและค่าเฉลี่ยรายปีของกรมควบคุมมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีปัญหาดังนี้ (๑) ปัญหาการสืบหาสาเหตุและแหล่งก าเนิดมลพิษเป็นไปได้ยากเพราะเก็บ ตัวอย่างเพียง ๑ ครั้ง/เดือน จ านวน ๑๒ ครั้ง/ปีแล้วค านวณเป็นค่าเฉลี่ยรายปีท าให้มีปัญหาด้านความ แม่นย าและความน่าเชื่อถือของผลสรุปภาวะมลพิษ (๒) รายงานค่าเฉลี่ยรายปีรวมของทั้ง ๗ สถานีไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าค่าเกิน มาตรฐานเกิดขึ้นที่สถานใด ต้องแก้ไขที่ใด และแก้อย่างไร (๓) ข้อมูลหนึ่งตัวอย่างที่เก็บอากาศผสม ๒๔ ชั่วโมง ไม่สามารถบอกได้ว่า พบค่าสูงในช่วงเวลาใด (เช้า กลางวัน เย็น) ต้องแก้ไขที่กิจกรรมใด (๔) การแก้ปัญหาคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ขาดการพิจารณาแหล่งก าเนิด ที่ครบถ้วนครอบคลุมทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน ขาดการก าหนดค่าขีดความสามารถ
๒๓๒ ในการรองรับสาร VOCsของพื้นที่ (Carrying Capacity) ขาดการพิจารณาสภาพสิ่งแวดล้อมและสภาวะสุขภาพ เพื่อน าไปสู่การก าหนดมาตรฐานที่เหมาะสมต่อไป (๕) ปัญหาการก่อมลพิษของแหล่งก าเนิดภาคอุตสาหกรรม สามารถแบ่งได้ เป็น ๓ ช่วงสภาวะ ได้แก่ สภาวะการผลิตปกติ สภาวะที่ไม่ใช่การผลิตที่ปกติและสภาวะฉุกเฉิน ซึ่งทั้ง ๓ ช่วงสภาวะมีลักษณะการก่อก าเนิดมลพิษที่แตกต่างกัน แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการส าหรับสภาวะ ที่ต่างกันนี้ ๕.๕.๖.๑๐ ปัจจุบันในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีสถานีตรวจวัดสาร VOCs เพียง ๑๑ สถานี และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเพียง ๕ สถานี ซึ่งไม่เพียงพอกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ ที่ได้เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้มีสาเหตุเนื่องจากกรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีงบประมาณ และบุคลากรไม่สอดคล้องกับภาระงานที่เพิ่มขึ้นตามจ านวนโรงงานอุตสาหกรรมและการกระจายตัว ของแหล่งก าเนิดมลพิษ ที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๕.๕.๗ ปัญหาข้อมูลด้านมลพิษและผลกระทบ ๕.๕.๗.๑ การยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จ าเป็นต้องใช้ข้อมูลด้านแหล่งก าเนิด และปริมาณมลพิษ รวมทั้งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ที่จ าเป็น และถูกต้องจ านวนมาก แต่ปรากฏว่าข้อมูลดังกล่าวที่มีอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ครอบคลุมและไม่สมบูรณ์ ตลอดจนไม่ต่อเนื่องและไม่น่าเชื่อถือ ท าให้ไม่สามารถน าข้อมูลที่จ าเป็นเหล่านั้นไปใช้ในการวิเคราะห์ และประเมินประกอบการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ได้ ๕.๕.๗.๒ ปัญหาการขาดฐานข้อมูลที่จ าเป็นและเป็นจริงส าหรับการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่ (๑) ฐานข้อมูลแหล่งมลพิษ ฐานข้อมูลแหล่งมลพิษอากาศที่ส าคัญท าให้มีข้อมูล ด้านมลพิษไม่เพียงพอต่อการบ่งชี้และวินิจฉัยปัญหา (๒) ฐานข้อมูลผลกระทบจากสารมลพิษหรือสารพิษหลากหลายชนิดในแต่ละ ช่วงเวลา โดยเฉพาะผลกระทบจากการเกิดอุบัติภัยและสารพิษ (๓) ฐานข้อมูลด้านสุขภาพอนามัย (Health Profile) (๔) ฐานข้อมูลผลกระทบจากสารมลพิษ/สารพิษต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ๕.๕.๗.๓ ขาดฐานข้อมูลกลางที่มากพอ เป็นปัจจุบันและเชื่อถือได้ ส าหรับการจัดการ ปัญหามลพิษทั้งหมดในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อใช้ก าหนดกลไกในการป้องกันแก้ไขและติดตาม ปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้แก่ (๑)ขาดการรวมข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ที่เดียวกัน และยังไม่มีการ จัดเก็บข้อมูลที่จ าเป็นและบูรณาการการใช้ข้อมูลในการบริหารจัดการมลพิษที่สอดประสานการท างาน ร่วมกัน (๒) ขาดการรวบรวมข้อมูลด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมและข้อมูลด้านสุขภาพ ของประชาชนในพื้นที่รวมทั้งขาดการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการค้นหาสาเหตุ การบ่งชี้และวินิจฉัยปัญหา การก ากับติดตามรวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องและทันสมัย ท าให้ยากต่อการค้นหาสาเหตุ มลพิษและแหล่งก าเนิดมลพิษและการลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง รวมถึงการยกเลิก
๒๓๓ เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ให้เป็นไปตามแผนปฏิรูปฯ โดยเฉพาะขาดข้อมูลการเกิดโรคมะเร็ง ของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ท าให้ไม่สามารถน ามาวิเคราะห์และประเมินผล ร่วมกับข้อมูลด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ ๕.๕.๗.๔ มาตรา ๖๐ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ก าหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นผู้จัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษให้ครอบคลุม ทั้งพื้นที่ แต่เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถจัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษให้ครบถ้วนได้ เพราะบทบาทอ านาจและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จ ากัดและการก ากับแหล่งก าเนิด มลพิษท าได้เพียงบางแหล่งก าเนิด (ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเจ้าพนักงานท้องถิ่น) เท่านั้น ๕.๕.๗.๕ ในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะปัญหามลพิษจากกลุ่มสาร VOCs ประสบปัญหา ได้แก่ (๑) ขาดข้อมูลชนิดและปริมาณการระบาย การปลดปล่อยและการเคลื่อนย้าย สารมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register : PRTR) ที่เป็นจริงและเป็นปัจจุบันจากภาคอุตสาหกรรม (๒) การรายงานฐานข้อมูลการระบายสาร VOCs โดยภาคอุตสาหกรรม ยังเป็นแบบสมัครใจ ท าให้ได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่น่าเชื่อถือ ไม่แม่นย า ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของคน ทั่วไป ที่ส าคัญคือได้ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะใช้ในการประเมินเพื่อควบคุมการระบายสารVOCs ในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๕.๗.๖ ขาดการจัดเก็บข้อมูลและการบูรณาการการใช้ข้อมูลด้านผลกระทบของปัญหามลพิษ ต่อสุขภาพของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการอุตสาหกรรม การคมนาคม และกิจกรรมอื่น ๆ ๕.๕.๗.๗ ขาดข้อมูลในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษเพื่อการแก้ไข ผลกระทบของสารVOCs ต่อสุขภาพของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะข้อมูล การเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งที่มีข้อสงสัยว่าเกิดจากสาร VOCs ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยังไม่สามารถ อธิบายถึงความสัมพันธ์ของสาร VOCs กับการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๕.๗.๘ การศึกษาแหล่งก าเนิดของสาร VOCs ในพื้นที่ไม่ครอบคลุมแหล่งก าเนิดอื่น ๆ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่ จากยานพาหนะ จากสถานที่จ าหน่ายน้ ามัน จากครัวเรือน และจากแหล่งก าเนิดหรือกิจกรรมอื่น ๆ ๕.๕.๗.๙ ขาดข้อมูลจ านวนและอัตราป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพและจ าแนก กลุ่มอายุ (๑๕ - ๕๙ ปี และ ๖๐ ปีขึ้นไป) ได้แก่ (๑) พิษสารก าจัดศัตรูพืช (๒) พิษโลหะหนัก ; พิษสารตะกั่ว พิษปรอทและสารประกอบ (๓) การบาดเจ็บจากการท างาน (๔) โรคปอดฝุ่นหิน (๕) โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากแอสเบสตอส (๖) โรคการได้ยินเสื่อมจากเสียง (๗) พิษสารตัวท าละลายอินทรีย์ (๘) โรคกระดูกและกล้ามเนื้อจากการท างาน
๒๓๔ และขาดข้อมูลการป่วยและตายด้วยโรคจากการประกอบอาชีพ ๕ อันดับแรก ของจังหวัด ๕.๕.๗.๑๐ ขาดข้อมูลทางสุขภาพ (Health profile) ไว้รองรับโครงการพัฒนาระเบียง เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ข้อมูลสุขภาพ ได้แก่ (๑) ข้อมูลการเข้าถึงบริการสาธารณสุข (๒) การด าเนินงานการเฝ้าระวังสุขภาพ (๓) อัตราการป่วย / อัตราการตายเนื่องจากมลพิษทางอากาศ (๔) ข้อมูลผลตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง (๕) ระบบบริหารจัดข้อมูลด้านสุขภาพที่แยกตามหน่วยงาน ยังไม่มีการ สอดประสานกัน ๕.๕.๘ ปัญหาการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ๕.๕.๘.๑ ประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังขาดการมีส่วนร่วมในการ จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ เพื่อแก้ไขปัญหา มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง รวมถึงการมีส่วนร่วมในการออกกฎระเบียบข้อบังคับ หรือกฎหมายในพื้นที่การด าเนินการที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการด าเนินการของหน่วยงานราชการ ๕.๕.๘.๒ ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มักไม่มี ช่องทางในการแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึง ครบถ้วนสมบูรณ์และโปร่งใสในตัวกฎหมายการควบคุม การระบายมลพิษทางอากาศเท่าที่ควร แม้จะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้วก็ตาม และผู้เข้าร่วม รับฟังความคิดเห็นบางส่วนมิใช่กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ท าให้ข้อมูลที่ได้จากการรับฟังความ คิดเห็นไม่ตรงตามความเป็นจริง ๕.๕.๘.๓ กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ส่วนใหญ่มีความเห็น ในทิศทางเดียวกัน คือ ยังไม่เห็นด้วยต่อการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจากคุณภาพ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยังมีปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมหลายด้าน เช่น ปัญหามลพิษ ทางอากาศ ทางน้ า ปัญหากากอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประการส าคัญคือการด าเนินงานลดและขจัดมลพิษให้ได้ตามมาตรฐาน ยังไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ครอบคลุมทุกด้านตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ๕.๕.๘.๔ ประชาชนเกิดความไม่ไว้ใจและขาดความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ซึ่งส่งผลกระทบ ต่อภาพลักษณ์ของการลงทุนจากต่างประเทศ ๕.๕.๘.๕ ภาครัฐยังไม่มีการด าเนินการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อย่างมีประสิทธิภาพท าให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น ในการด าเนินการของภาครัฐ
๒๓๕ ๕.๕.๙ ปัญหาการประชาสัมพันธ์ ๕.๕.๙.๑ ภาคธุรกิจผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาชน บางส่วนมีข้อเรียกร้อง ในการขอรับรู้การตัดสินใจด าเนินการใด ๆ ของภาครัฐ ในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจากปัจจุบันไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ส าคัญและจ าเป็น รวมทั้งขาดรูปแบบและช่องทางประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม หลากหลายและง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลปัญหามลพิษส าหรับประชาชน ทุกกลุ่ม และทุกภาคส่วน เป็นระยะๆ ก่อให้เกิดการไม่เข้าใจและการต่อต้านต่อการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ และขาดความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหามลพิษ ๕.๕.๙.๒ ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาชน ยังขาดความเข้าใจ บทบาทหน้าที่ของตน และไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจากขาดข้อมูลที่ส าคัญ ขาดรูปแบบและช่องทางที่เหมาะสมและหลากหลายต่อการเข้าถึงข้อมูลของ ทุกภาคส่วน ๕.๕.๙.๓ ขาดการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของภาวะมลพิษต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผลกระทบของสาร VOCs ต่อสุขภาพซึ่งเป็นปัญหาและความวิตกกังวลของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๖ สรุปข้อเสนอแนะส าหรับการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จากปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในข้อ ๕.๕ คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้พิจารณาศึกษาและจัดท าข้อเสนอแนะส าหรับการแก้ไขปัญหาดังต่อไปนี้ ๕.๖.๑ ข้อเสนอแนะด้านนโยบายและแผน ๕.๖.๑.๑ รัฐบาลต้องให้ความส าคัญกับปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นล าดับต้น ๆ และก าหนดเป็นนโยบายระดับชาติเพื่อให้แก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ๕.๖.๑.๒ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องเสนอและผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุน การจัดท างบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์(Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) ให้เหมาะสมและเพียงพอต่อการน าไปใช้แก้ไขปัญหามลพิษตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและ ขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๖.๑.๓ ส านักงบประมาณต้องพิจารณาสนับสนุนงบประมาณส าหรับการนี้ด้วย ๕.๖.๑.๔ รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณเป็นพิเศษแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และกรมควบคุมมลพิษ โดยต้องครอบคลุมตั้งแต่ การส ารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งก าเนิดและจัดท าบัญชีรายละเอียดแสดงจ านวน ประเภท และขนาดของแหล่งก าเนิดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษให้ครบถ้วน ไปจนถึงการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษได้อย่างมีคุณภาพ และกรณีที่แผนปฏิบัติการฯ ถึงเวลาต้องทบทวนปรับปรุง ก็ต้องมีการด าเนินการทบทวนปรับปรุง
๒๓๖ ๕.๖.๑.๕ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องบรรจุหรือผนวกอยู่ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด จังหวัดระยอง ตามกฎหมาย เพื่อการจัดงบประมาณส าหรับด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว ๕.๖.๑.๖ การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการฯ ได้แก่ (๑) จ านวนอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับแผนปฏิบัติการฯ ควรมีเท่าที่จ าเป็นจริงๆ และต้องมีบทบาทจริงในการจัดท าแผนและการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ (๒) “คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ” และ “คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” ต้องติดตามก ากับดูแลการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อย่างเข้มงวด (๓) รัฐบาลควรศึกษาและจัดวางโครงสร้างการจัดการเพื่อขจัดปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษขึ้นมาใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม (๔) จังหวัดระยองควรจัดสรรงบประมาณและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ มลพิษสนับสนุนแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีรายได้น้อยส าหรับด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ที่วางไว้และต้องก าหนดเป็นตัวชี้วัดของจังหวัดด้วย (๕) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องให้ความส าคัญกับการแก้ไขปัญหา มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยมีหน้าที่ผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุน ทั้งก าลังคน งบประมาณ วิชาการ เพื่อเกิดการด าเนินการที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง (๖) กระทรวงมหาดไทยต้องออกกฎระเบียบในเรื่องของการแก้ไขปัญหา มลพิษที่ครอบคลุมพื้นที่หลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถ ด าเนินการหรือกิจการที่เอื้อต่อกัน และต้องแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณเพื่อให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้งบประมาณที่เอื้อกันได้ (๗) รัฐบาลต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อท าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ด้านวิชาการให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่งในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ และการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองและต้องมีนโยบายพร้อมกลไก ที่จะช่วยส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง มีความเข้มแข็ง สามารถจัดท าแผนและ การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ได้ด้วยตนเอง (๘) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ต้องให้การสนับสนุนองค์ความรู้และค าแนะน าแก่เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง เพื่อให้การจัดท าแผนและการด าเนินการตามปฏิบัติการฯ เป็นแผนที่สามารถควบคุม ลด และขจัดมลพิษ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นจริง (๙) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องบรรจุหรือผนวกอยู่ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด จังหวัดระยอง ตามกฎหมาย เพื่อการจัดงบประมาณส าหรับด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว
๒๓๗ (๑๐) รัฐบาลต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อท าหน้าที่ เป็นพี่เลี้ยงด้านวิชาการให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่งในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลด และขจัดมลพิษและการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และต้องมี นโยบายพร้อมกลไกที่จะช่วยส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง มีความเข้มแข็ง สามารถจัดท า แผนและการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ได้ด้วยตนเอง (๑๑) รัฐบาล ภาคผู้แทนของกลุ่มธุรกิจและประชาชน ต้องมีส่วนร่วมในการ จัดท าแผนปฏิบัติการฯ ที่มีประสิทธิภาพ และน าแผนปฏิบัติการฯ ไปด าเนินการตามที่แผนปฏิบัติการฯ ก าหนดไว้อย่างจริงจัง (๑๒) เจ้าพนักงานท้องถิ่นและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ต้องทบทวนแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ และปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ (Rolling plan) ในปีถัดไปตามสภาพมลพิษที่เปลี่ยนไปของพื้นที่และท ารายงานผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ รายปี (๑๓) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ได้จัดท าขึ้นต้องมีเป้าหมายและตัวชี้วัด รวมทั้งต้องก าหนดกรอบเวลาของการแก้ไขปัญหามลพิษ ที่เหมาะสมและชัดเจน (๑๔) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และเจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองในเชิงรุก คือการวิเคราะห์และการประเมินสถานการณ์ปัญหามลพิษที่จะเกิดขึ้นเพื่อเตรียม แผนปฏิบัติการฯ การรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต (๑๕) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษา และก าหนดระยะเวลาที่เหมาะสมส าหรับการแก้ไขปัญหามลพิษให้หมดไปในแผนปฏิบัติการเพื่อลด และขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยหากต้องการปฏิบัติให้เป็นไปตามเป้าหมายของ แผนปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจ าเป็นต้องใช้เวลาด าเนินการแก้ไขปัญหามลพิษ ในพื้นที่ ประมาณ ๔ - ๕ ปี เป็นอย่างน้อย แต่ทั้งนี้ต้องตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ด้วยว่า ได้มาตรฐานหรือไม่ (๑๖) การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ พ.ศ. ๒๕๖๗ – ๒๕๗๐ ต้องมีแผนและการด าเนินการส าหรับป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ทุกชนิดที่สูงเกินหรือมีแนวโน้มสูงเกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ (๑๗) รัฐบาลต้องผลักดันโครงการจัดท าท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้าย สารมลพิษ (PRTR) ไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมต้องก าหนด เป็นกฎหมายบังคับให้ภาคอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งก าเนิดมลพิษขนาดใหญ่หรือมีผลกระทบสูง ต้องบันทึกข้อมูลเข้าสู่ท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (PRTR)ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นข้อมูลเปิด (Open Data) เพื่อการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบของทุกภาคี ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชนด้วยกันเอง ภาคประชาชน ภาคราชการและภาควิชาการ (๑๘) แผนงานต่าง ๆ ทุกแผนงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหามลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ควรต้องสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกัน มีการบูรณาการกัน และมี
๒๓๘ กรอบเวลาที่สอดคล้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุปสรรคในการจัดสรรงบประมาณส าหรับการด าเนินการ ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในแผนปฏิบัติการฉบับต่อไป ทั้งนี้การจัดท าแผนดังกล่าว คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติหรือคณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขตควบคุมมลพิษ ต้องก าหนดกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมส าหรับการแก้ไขปัญหามลพิษให้หมดไปในแผนปฏิบัติการเพื่อลด และขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๖๗ – ๒๕๗๐ ด้วย (๑๙) ภาครัฐต้องแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองต่อไป ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ โดยต้องมีเป้าหมายคือการปรับปรุงแก้ไขปัญหามลพิษ ลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้ได้ตามมาตรฐานภายใน ๔ - ๕ ปีแล้วจึงประกาศ ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต่อไป ๕.๖.๒ ข้อเสนอแนะด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๕.๖.๒.๑ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดและการนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ต้องก ากับดูแลให้โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ และกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษอย่างเข้มงวด รวมทั้งน าเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการก ากับ ควบคุม ๕.๖.๒.๒ ควรใช้ระบบผู้ตรวจสอบภาคเอกชน (Third Party) มาช่วยแก้ปัญหา การขาดแคลนบุคคลากรในการควบคุมก ากับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้การก ากับและควบคุมมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองมีประสิทธิภาพ ๕.๖.๒.๓ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรปรับแก้พระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้การประกาศเขตควบคุมมลพิษ สามารถก าหนดมาตรการต่าง ๆ เช่นเดียวกับการก าหนดเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา ๔๓ ที่สามารถก าหนดมาตรการใด ๆ เป็นกฎกระทรวงได้ ๕.๖.๒.๔ รัฐบาลควรเร่งรัดให้กรมโรงงานออกกฎหมาย “การรายงานการปลดปล่อย และเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR)” ภายใต้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อก าหนดให้ การใช้ท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register : PRTR) เป็นภาคบังคับให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องรายงานข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกรมโรงงานกระทรวงอุตสาหกรรม และสามารถออกค าสั่งตามอ านาจของพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้โรงงานอุตสาหกรรม ด าเนินการรายงานการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ได้อย่างน้อยในระยะแรกให้ครอบคลุม โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๖.๒.๕ กรมควบคุมมลพิษ ต้องก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับสาร VOCs O3 และ PM2.5ของพื้นที่ (Carrying Capacity) ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยต้องท าการศึกษา เพื่อให้ได้ค่าขีดความสามารถในการรองรับสาร VOCs, O3และ PM2.5ของพื้นที่ (Carrying Capacity) ดังกล่าว เพื่อน าไปใช้ก าหนดค่าที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ ในขณะเดียวกัน ต้องท าการศึกษาEmission Inventory ของสารVOCs , O3และ PM2.5ควบคู่ด้วยเพื่อทราบแหล่งก าเนิด และน าข้อมูลที่ได้ไปก าหนดมาตรการควบคุมและกฎหมายล าดับรองหรือกฎหมายลูกที่เหมาะสมต่อไป
๒๓๙ ๕.๖.๒.๖ ระหว่างท าการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับสาร VOCs , O3และ PM2.5 ของพื้นที่ (Carrying Capacity) ให้กรมควบคุมมลพิษจัดท าแผนงานการบังคับใช้กฎหมายที่จะใช้ในการ ควบคุมสาร VOCs , O3 และ PM2.5 เช่น มาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงงานกลั่นน้ ามัน ปิโตรเลียม และมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งสารเบนซีนและสาร 1,3– บิวทาไดอีน จากโรงงานอุตสาหกรรม เคมี ประเภท ๔๒ และ ๔๔ โดยต้องแจ้งแผนงานให้โรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อจะได้ เตรียมการวางแผนปรับปรุง พัฒนากระบวนการผลิตของตนต่อไป รวมทั้งแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ รับทราบด้วย ๕.๖.๒.๗ กรมควบคุมมลพิษควรศึกษาค่าความเข้มข้นของสารเบนซีนในบรรยากาศ ในเขตชุมชนอื่น ๆ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่ามีเท่าใด มาจากแหล่งก าเนิดใด เพื่อน ามาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาก าหนดค่ามาตรฐานเบนซีน ในบรรยากาศต่อไป ๕.๖.๒.๘ กระทรวงสาธารณสุขควรศึกษาผลกระทบของสารเบนซีนต่อสุขภาพ เพื่อน าข้อสรุป มาใช้ประกอบการพิจารณาในข้อ ๕.๕.๒.๗ ต่อไป ๕.๖.๒.๙ จังหวัดระยองต้องสนับสนุนเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ร่วมกับเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ ในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษแบบบูรณาการ ทั้งเชิงพื้นที่และเชิงประเด็น โดยต้องส ารวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งก าเนิด และจัดท าบัญชี รายละเอียดแสดงจ านวน ประเภท และขนาดของแหล่งก าเนิดมลพิษให้ครบถ้วนและแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษต้องมีการพิจารณาทบทวนแก้ไขปรับปรุงทุก ๑ ปี ๕.๖.๒.๑๐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองจะต้องจัดสรรงบประมาณและผู้เชี่ยวชาญด้านการ จัดการมลพิษ ส าหรับด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและต้องก าหนดเป็นตัวชี้วัดของจังหวัดด้วย ๕.๖..๒.๑๑ รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นพิเศษ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่งในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง สามารถด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ได้ ๕.๖.๒.๑๒ เจ้าพนักงานท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง ต้องมีการ จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษที่มีประสิทธิภาพ และน าแผนไปด าเนินการตามที่ก าหนดไว้ รวมถึงคณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องมีการติดตามและประเมินผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ อย่างเข้มงวด ๕.๖.๒.๑๓ หน่วยงานผู้มีอ านาจอนุญาตการประกอบกิจการอุตสาหกรรม ต้องติดตาม การด าเนินงานของภาคอุตสาหกรรมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและสม่ าเสมอ ๕.๖.๒.๑๔ กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องจัดท าคู่มือประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การควบคุมการใช้หอเผาทิ้ง พ.ศ. ๒๕๖๕ ๕.๖.๒.๑๕ กระทรวงอุตสาหกรรมต้องบังคับใช้ประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) ให้ครอบคลุม ทุกกิจการที่มีการปล่อยสาร VOCs ในขณะเดียวกันกรมควบคุมมลพิษต้องติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ เพื่อวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของมาตรการในประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) ดังกล่าว ๕.๖.๒.๑๖ หากสาร VOCs ในบรรยากาศยังเกินค่ามาตรฐาน ให้กระทรวงอุตสาหกรรมทบทวน และปรับปรุงประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) และกรมควบคุมมลพิษ ต้องพิจารณาก าหนดมาตรฐานควบคุม การระบายสาร VOCs ที่ส่งผลกระทบให้ครบถ้วน
๒๔๐ ๕.๖.๒.๑๗ ในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการปล่อยมลพิษจากกิจกรรม ต่าง ๆ ของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความพร้อม ทั้งด้านก าลังคนและงบประมาณ และการบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใสไม่มีผลประโยชน์ ทับซ้อน และไม่ละเว้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองส าเร็จลุล่วงไปได้ และสามารถรักษาสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามนโยบาย ของรัฐบาล ๕.๖.๒.๑๘ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติหรือคณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการ ในเขตควบคุมมลพิษควรก าหนดระยะเวลาสิ้นสุดการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษ และเป้าหมายของการประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ๕.๖.๒.๑๙ เมื่อมีการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯเสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามเวลาที่ก าหนด และคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นไปตามที่ต้องการแล้ว “คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขตควบคุม มลพิษ” จึงควรจะมาพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมที่สมควรยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามอ านาจหน้าที่ (ตามค าสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐) หรือไม่ ๕.๖.๒.๒๐ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติควรเป็นผู้ประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ เมื่อคณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขตควบคุมมลพิษ ได้พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของ พื้นที่ที่สมควรยกเลิกเขตควบคุมมลพิษแล้ว ๕.๖.๓ ข้อเสนอแนะด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๕.๖.๓.๑ กระทรวงมหาดไทยต้องก ากับให้จังหวัดระยองและองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้ความส าคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางด้าน เทคนิควิชาการเกี่ยวกับการจัดการสาร VOCs และให้องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณ ให้เพียงพอต่อการด าเนินการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ๕.๖.๓.๒ สถาบันพัฒนาบุคลากร กระทรวงมหาดไทย ต้องพัฒนาหลักสูตรเพื่อพัฒนา ศักยภาพของบุคลากรในด้านเทคนิควิชาการในการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อมเป็นหลักสูตรภาคบังคับ ส าหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง ๕.๖.๓.๓ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ควรด าเนินงาน แบบบูรณาการโดยจังหวัดระยองเป็นเจ้าภาพหลัก และให้มีการรายงานผลการด าเนินงานภายใต้ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษต่อคณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นระยะ ๆ ๕.๖.๓.๔ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องท าหน้าที่ โดยใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และกฎหมาย อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการก ากับดูแลการระบายมลพิษของแหล่งก าเนิดมลพิษในพื้นที่ของตนเอง ๕.๖.๓.๕ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองควรต้องก าหนดให้มีแหล่ง (และหรือแอพพลิเคชั่น) ที่รวบรวมข้อมูลจากทุกหน่วยงานตามข้อ ๕.๖.๓.๒ ไว้ด้วยกัน รวมทั้งต้องน าข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ ร่วมกัน เช่น Big Data เพื่อเผยแพร่แบบ Open Data ต่อไป
๒๔๑ ๕.๖.๓.๖ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องเป็นผู้รับผิดชอบกรณีที่ไม่สามารถแก้ไข ปัญหาจากการประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ในการก ากับ ควบคุมการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการฯ ๕.๖.๓.๗ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องให้ความส าคัญกับการก ากับดูแล และติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยผ่านกลไกอนุกรรมการฯ ที่ตั้งไว้ ซึ่งต้องรายงานผลการด าเนินงานให้มีความถี่มากขึ้นตลอดจนต้องก ากับดูแลให้การแก้ไขปัญหามลพิษ ส าเร็จตามแผนปฏิบัติการฯ ๕.๖.๓.๘ คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขตควบคุมมลพิษ และคณะอนุกรรมการ ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องให้ความส าคัญกับ การก ากับดูแลและติดตามการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้เป็นไปตาม แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษอย่างเคร่งครัด ๕.๖.๔ ข้อเสนอแนะด้านการจัดการแก้ไขปัญหามลพิษ ๕.๖.๔.๑ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติควรช่วยผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุนปัจจัย ด้านการบริการจัดการในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้เป็นไปตาม แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ๕.๖.๔.๒ รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อป้องกัน แก้ไขและควบคุมมลพิษที่เกิดขึ้น ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ๕.๖.๔.๓ ส านักงบประมาณต้องพิจารณาโครงการ/กิจกรรมที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานเสนอเป็นพิเศษ ๕.๖.๔.๔ ส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องพิจารณา โครงการ/กิจกรรมที่องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมในล าดับต้น ๆ ๕.๖.๔.๕ ให้จังหวัดหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เข้าไปด าเนินการแก้ไขปัญหา สิ่งแวดล้อมกรณีในพื้นที่คาบเกี่ยวหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๕.๖.๔.๖ จังหวัดระยองควรจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอเพื่อการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ การศึกษาความพร้อมหรือสร้างมาตรการทางวิชาการ และการติดตามผลการด าเนินการแผนปฏิบัติการฯ ๕.๖.๔.๗ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีผู้แทนในคณะกรรมการและอนุกรรมการชุดต่าง ๆ โดยเฉพาะ “คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” (ตามค าสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐) ต้องให้ ความส าคัญกับการแก้ไขปัญหาเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะผู้แทนที่เข้าร่วมประชุม ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจประเด็นปัญหาและสามารถตัดสินใจได้ รวมทั้งต้องสามารถเข้าประชุมต่อเนื่อง กรณีจ าเป็นต้องเปลี่ยนผู้แทน ผู้แทนคนใหม่ต้องขวนขวายหาข้อมูลและศึกษาข้อมูลก่อนเข้าประชุม เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความต่อเนื่องและเกิดผลสัมฤทธิ์
๒๔๒ ๕.๖.๔.๘ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และโรงงานอุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องบูรณาการแผน และการปรับปรุงแผนป้องกันอุบัติภัยสารเคมีและเหตุเพลิงไหม้ การด าเนินการเตรียมความพร้อม และต้องท าการฝึกซ้อมทบทวนตามแผนการตอบโต้เหตุอุบัติภัยจากสารเคมีและเหตุเพลิงไหม้ ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน และหลังเกิดเหตุอย่างเคร่งครัด ๕.๖.๕ ข้อเสนอแนะด้านการก ากับติดตามและการประเมินผล ๕.๖.๕.๑ กรมควบคุมมลพิษ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและเทศบาลเมือง มาบตาพุดต้องบูรณาการข้อมูลในการด าเนินการกิจกรรม ๕ กิจกรรมร่วมกัน โดยกรมควบคุมมลพิษ เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการข้อมูล ๕.๖.๕.๒ “คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขตควบคุมมลพิษ” และ“คณะอนุกรรมการ ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง”ต้องติดตามการด าเนินงาน และรายงานผลการด าเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ อย่างจริงจังต่อเนื่อง และให้มี การทบทวนแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษตามความจ าเป็น ไม่ต้องรอเวลาสิ้นสุดของแผนปฏิบัติการฯ ๕.๖.๕.๓ “คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” ต้องด าเนินการตามบทบาทหน้าที่ของอนุกรรมการฯ ที่ส าคัญ คือก าหนดมาตรการลด และขจัดมลพิษ หรือแผนงาน หรือโครงการ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ พิจารณาให้ ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อแผนปฏิบัติการฯและต้องก ากับดูแลในการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ทุกแผนย่อย โดยการบูรณาการแผนปฏิบัติการฯ กับแผนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และต้องติดตามประเมินผล การด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ เป็นประจ าทุกปี ๕.๖.๕.๔ หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบและก ากับแหล่งก าเนิดมลพิษ ตามกฎหมาย ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส านักงาน อุตสาหกรรมจังหวัด ควรพิจารณาใช้ระบบผู้ตรวจสอบเอกชน (Third Party) มาช่วยในการควบคุมก ากับ ดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย ๕.๖.๕.๕ จังหวัดระยองควรส่งเสริมให้ภาคประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม ตรวจสอบและติดตามการด าเนินภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ โดยอาจใช้กลไกการตั้ง คณะท างานภายใต้อนุกรรมการระดับจังหวัดที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตั้งขึ้น ๕.๖.๕.๖ กระทรวงสาธารณสุขต้องศึกษาวิจัยและน ามาซึ่งข้อสรุปของ (๑) ผลกระทบต่อของสาร VOCs ต่อสุขภาพโดยเฉพาะสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน (๒) สาเหตุและอัตราการเกิดโรคมะเร็งของประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเฉพาะในเขตควบคุมมลพิษ (๓) อันตราย และความเสี่ยงของประชาชนอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษที่อาจเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง และเสียชีวิตอันเนื่องมาจากสาร VOCs ๕.๖.๕.๗ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขต้องด าเนินการร่วมกันอย่างจริงจังเป็นทีมเดียวกันเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมออกแบบพัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ยังไม่ครบถ้วนให้ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
๒๔๓ ๕.๖.๖ ข้อเสนอแนะด้านเทคนิคและวิชาการ ๕.๖.๖.๑ กรมควบคุมมลพิษต้องเป็นหน่วยงานหลักร่วมกันกับ ส านักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง ในการพิจารณาทบทวนจ านวนและต าแหน่งของการตั้งสถานีตรวจวัด คุณภาพอากาศในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้เป็นไปตามหลักวิชาการและครอบคลุมพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ รวมถึงติดตั้งเครื่องตรวจวัดที่สามารถรายงานผลการตรวจวัดสาร VOCs แบบต่อเนื่องได้ ๕.๖.๖.๒ กรมควบคุมมลพิษควรพิจารณาทบทวนวิธีการตรวจวัดสาร VOCs ที่ก าหนดไว้ ในมาตรฐานเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาในปัจจุบัน โดยอาจมีเทคนิคพิจารณ์ด้วยก็ได้ เพื่อให้การติดตั้งสถานีตรวจวัดหรือจุดตรวจวัดมีความเหมาะสม ไม่ซ้ าซ้อน และสามารถบูรณาการข้อมูลร่วมกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๕.๖.๖.๓ ควรมีการด าเนินงานแบบบูรณาการร่วมกันโดยกรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลัก และมีประเด็นที่ต้องพิจารณาด าเนินการร่วมกัน คือ (๑) จุดที่ตั้งสถานีตรวจวัดของแต่และหน่วยงาน (๒) อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวัดและการสอบเทียบ (๓) ความถี่ของการรายงานข้อมูล (๔) จ านวนและปริมาณข้อมูลที่น ามาใช้รายงาน (๕) การวิเคราะห์ข้อมูลในภาพรวม (๖) การรายงานข้อมูลสู่สาธารณะ ๕.๖.๖.๔ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรร่วมกัน ด าเนินการตรวจสอบที่มาของการปล่อยสาร VOCs เชิงลึก เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปสุดท้ายที่ทุกฝ่ายยอมรับ และสามารถน าไปใช้ควบคุมและแก้ไขปัญหาสาร VOCs ได้ชัดเจนขึ้น ๕.๖.๖.๕ หน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะกรมควบคุมมลพิษต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคอุตสาหกรรมในการทบทวนและท าแผนการลดการปลดปล่อยสาร VOCs ที่มีประสิทธิภาพ โดยต้องมีเป้าหมายและระยะเวลาที่ชัดเจน และต้องมีงบประมาณและเทคโนโลยีเพื่อใช้เป็นตัวก าหนด ระยะเวลาในการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ ๕.๖.๖.๖ กรมควบคุมมลพิษควรประเมินขีดความสามารถการรองรับสาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อย่างละเอียด รวมถึงศึกษา Emission Inventory ของสาร VOCs ควบคู่ด้วย เพื่อทราบแหล่งก าเนิดและน าข้อมูลที่ได้ไปก าหนดมาตรการควบคุมที่เหมาะสมต่อไป โดยต้องใช้ค่าจริงของสาร VOCs Load ในการใช้แบบจ าลองทางคณิตศาสตร์ส าหรับการประเมินขีดความสามารถ ดังกล่าว ๕.๖.๖.๗ กรมควบคุมมลพิษต้องประเมินขีดความสามารถในการรองรับสารมลพิษของพื้นที่ (Carrying Capacity)ของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และการระบุถึงขีดความสามารถในการรองรับ สารมลพิษของพื้นที่ (Carrying Capacity) เพื่อการวางแผนในอนาคตด้วย ๕.๖.๖.๘ กรมควบคุมมลพิษต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะส านักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการก าหนดวิธีการใช้แบบจ าลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการสาร VOCs คือสารเบนซีนและสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะข้อมูลน าเข้าส าหรับแบบจ าลองทางคณิตศาสตร์
๒๔๔ ความเพียงพอและความน่าเชื่อถือของข้อมูล และก าหนดในวิธีการศึกษาเพื่อจัดท ารายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม (EIA/EHIA) ส าหรับโครงการต่อไปในอนาคต ๕.๖.๖.๙ กระทรวงอุตสาหกรรมต้องก าหนดแผนการควบคุมและลดการระบายสาร VOCs จากภาคอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพียงพอ โดยก าหนดระยะเวลา และเป้าหมายให้ชัดเจน ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๖.๖.๑๐ กรมควบคุมมลพิษต้องพิจารณาเรื่องการเก็บตัวอย่างที่เป็นตัวแทนจริง ๆ จ านวนตัวอย่าง ช่วงเวลาของการเก็บตัวอย่าง การวิเคราะห์และการแปลผล รวมทั้งการจัดเก็บข้อมูลให้มากพอ เพื่อน าข้อมูลมาใช้ในการค านวณ ควรเพิ่มความถี่ของการจัดเก็บข้อมูลส าหรับใช้ในการเจาะจงชี้ปัญหา โดยเฉพาะให้ชัดเจน นอกเหนือจากการติดตามสถานการณ์รายปีที่ได้ท ามา ๕.๖.๖.๑๑ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ควรมอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ด าเนินการศึกษาเรื่องสาร VOCs ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองอย่างละเอียดและประสานงาน ขอให้ส านักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอเพื่อใช้ด าเนินการศึกษา ๕.๖.๖.๑๒ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องสนับสนุนบุคคลากรและงบประมาณแบบ Agenda Baseให้แก่กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการจัดตั้งและการด าเนินการสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่เหมาะสมและเพียงพอ ๕.๖.๗ ข้อเสนอแนะด้านข้อมูลมลพิษและผลกระทบ ๕.๖.๗.๑ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแผนการปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องจัดเตรียมข้อมูลที่จ าเป็นและถูกต้อง อันได้แก่ ข้อมูลแหล่งก าเนิดและปริมาณมลพิษ รวมทั้งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ในพื้นที่ที่จ าเป็นและถูกต้อง เพื่อการวิเคราะห์และประเมินประกอบการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามแผนการปฏิรูปฯ ที่ได้ก าหนดไว้แต่เดิม ๕.๖.๗.๒ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรมควบคุมโรค ต้องศึกษารวบรวมข้อมูลที่จ าเป็นและบูรณาการข้อมูลรวมทั้งจัดท าฐานข้อมูลดังกล่าว ให้ครบถ้วน สมบูรณ์ ถูกต้อง และพร้อมที่จะน าไปใช้ในการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อสังเคราะห์วิธีการแก้ไข ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ฐานข้อมูลแหล่งมลพิษทางอากาศ (Emission inventory) ได้แก่ จ านวน โรงงานอุตสาหกรรม/สถานประกอบการ, ต าแหน่งที่ตั้ง, ลักษณะกิจการ, ประเภท, ขนาดโรงงาน/ปล่องควัน, ชนิดและปริมาณของสารเคมีที่ใช้/สารมลพิษทางอากาศ , ช่วงเวลาและความถี่ในการปล่อยสารมลพิษ อากาศเป็นต้น) ๕.๖.๗.๓ กรมควบคุมมลพิษควรต้องสร้าง “ศูนย์ฐานข้อมูล” ส าหรับเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อจัดระบบฐานข้อมูลกลางจ านวนมากพอ (Central Database System) ให้ครบถ้วน และทันสมัย และจัดท าเป็น Big Data ตลอดจนวิเคราะห์ข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ที่เดียวกัน และสามารถใช้ข้อมูลนั้นให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายข้อมูล รวบรวมข้อมูลการตรวจวัด และการสอบเทียบเครื่องมือที่มีความน่าเชื่อถือ และจัดท าเป็นฐานข้อมูลเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
๒๔๕ และมีประสิทธิภาพในการด าเนินการแก้ไขป้องกันแก้ปัญหามลพิษ รวมทั้งการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูล เกี่ยวกับปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ทั้งนี้ควรมีการด าเนินการร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมออกแบบพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และควรมีการบูรณาการข้อมูล โดย (๑) กรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมควบคุมโรค ในการสร้างระบบแพลตฟอร์มสารสนเทศ (Information Platform) ในการจัดการข้อมูล ด้านมลพิษและด้านสุขภาพของประชาชนภายใต้หนึ่งระบบฐานข้อมูลหลัก (One Database) และมีกลไก การติดตามข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะให้รับทราบ และสามารถตรวจสอบได้ (๒) กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมโรคและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องต้องมีการจัดเก็บข้อมูลตามอ านาจหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนระบบฐานข้อมูลหลัก (One Database) ส าหรับการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๖.๗.๔ กรมควบคุมมลพิษต้องสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จัดท าฐานข้อมูลให้สมบูรณ์และถูกต้องโดยเฉพาะแหล่งก าเนิดมลพิษ ที่อยู่ในอ านาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการก ากับบางแหล่งก าเนิด มลพิษที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ๕.๖.๗.๕ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ต้องจัดท าข้อมูลชนิดและปริมาณการระบาย การปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register : PRTR) ที่เป็นจริง ถูกต้องและเป็นปัจจุบันจากภาคอุตสาหกรรม ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕.๖.๗.๖ กระทรวงสาธารณสุข ต้องสนับสนุนให้สาธารณสุขจังหวัดระยอง โรงพยาบาล จังหวัดระยอง และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ศึกษาและจัดเก็บข้อมูลด้านผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น จากการประกอบกิจการอุตสาหกรรม การคมนาคมและกิจกรรมอื่น ๆ ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง โดยเฉพาะข้อมูลการเกิดโรคมะเร็งเพื่อใช้ในการเฝ้าระวังและก ากับควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองที่เหมาะสม ๕.๖.๗.๗ กระทรวงสาธารณสุขต้องศึกษาระบาดวิทยาของโรคจากสิ่งแวดล้อม ศึกษาความสัมพันธ์ของสาร VOCs กับการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งเพื่อทราบระดับผลกระทบที่เกิดจาก สาร VOCs ในบรรยากาศ โดยเฉพาะสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ต่อการเกิดมะเร็งในกลุ่ม ประชากรที่อยู่ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และน าผลการศึกษาฯ ไปวิเคราะห์ร่วมกันกับ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อจัดท า แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษอุตสาหกรรมในการแก้ไขผลกระทบของสาร VOCs ต่อสุขภาพ ของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองต่อไป ๕.๖.๗.๘ กรมควบคุมมลพิษต้องท าการศึกษา Emission Inventory ของสาร VOCs เพื่อทราบแหล่งก าเนิดหลักและรองในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อน าข้อมูลที่ได้ไปก าหนด มาตรการควบคุมในแผนปฏิบัติการฯ ที่เหมาะสมต่อไป ๕.๖.๗.๙ กระทรวงสาธารณสุขควรจัดท าข้อมูลจ านวนและอัตราป่วยด้วยโรคจากการ ประกอบอาชีพ ๘ โรค จ าแนกตามกลุ่มอายุ เพื่อใช้ประกอบการป้องกันแก้ไขปัญหาสุขภาพของผู้ที่อยู่ใน ภาวะเสี่ยงจากการเจ็บป่วยเนื่องจากการประกอบอาชีพในภาคอุตสาหกรรม
๒๔๖ ๕.๖.๗.๑๐ การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง กรมควบคุมมลพิษ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองและกระทรวงสาธารณสุขจ าเป็นต้อง (๑) ด าเนินการส ารวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งก าเนิด และจัดท าบัญชี รายละเอียดแสดงจ านวน ประเภท ขนาดและแหล่งก าเนิดมลพิษให้ครบถ้วนรวมทั้งปริมาณและชนิดของ สารมลพิษจากแหล่งก าเนิดมลพิษแต่ละแหล่งก าเนิด (๒) การจัดท าฐานข้อมูลด้านสุขภาพอนามัย (Health Profile) ในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง (๓) การจัดท าฐานข้อมูลการเกิดอุบัติภัยและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพอนามัย ๕.๖.๘ ข้อเสนอแนะด้านการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ๕.๖.๘.๑ จังหวัดระยองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๘ แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องจัดการให้ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ รวมถึงการออกกฎระเบียบข้อบังคับ หรือกฎหมายใดๆ ในพื้นที่ ซึ่งต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียก่อน และน าข้อคิดเห็นมา ประกอบการด าเนินการอย่างครบถ้วน โดยกระตุ้นให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดท าแผนฯ และการด าเนินการตามแผนฯ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไปพร้อมกัน โดยอาจด าเนินการ ในรูปของคณะท างานภายใต้อนุกรรมการระดับจังหวัด ๕.๖.๘.๒ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องจัดการรับฟังความคิดเห็นต่อการแก้ไขปัญหามลพิษ ผลการ ด าเนินการในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเปิดช่องทางให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีส่วนได้เสียได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึงครบถ้วนสมบูรณ์ต่อแผนปฏิบัติการ และการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ด้วยการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น จากผู้มีส่วนได้เสียตามข้อแนะน าของส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๕๘ ๕.๖.๘.๓ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่งในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรรายงานผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ให้ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้ทราบ พร้อมทั้งรายงานปัญหา อุปสรรคของการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตามแผนการ ปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง)ด้วยการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น จากผู้มีส่วนได้เสียภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ๕.๖.๘.๔ หน่วยงานภาครัฐองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง และผู้ก่อมลพิษ ต้องสร้างความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหามลพิษตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ด้วยการสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมของประชาชน ๕.๖.๘.๕ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแล ความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้มีประสิทธิภาพ
๒๔๗ ๕.๖.๘.๖ จังหวัดระยองต้องให้ความส าคัญในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และรับฟังประเด็นข้อร้องเรียนเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปด าเนินการแก้ไขและให้ ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หากไม่มีอ านาจด าเนินการหรือไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับพื้นที่ ต้องรายงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ผ่านคณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผล การด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และคณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการ ในเขตควบคุมมลพิษ เพื่อให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สั่งการหรือมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด าเนินการต่อไป ๕.๖.๙ ข้อเสนอแนะด้านการประชาสัมพันธ์ ๕.๖.๙.๑ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องประชาสัมพันธ์ให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาชน รับรู้และเข้าใจ สถานการณ์ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง รวมทั้งการด าเนินงานโครงการ และผลการด าเนินงานที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ เป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจปัญหามลพิษร่วมกันและการด าเนินการของภาครัฐ ในการป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ด้วยรูปแบบและช่องทางที่เหมาะสม และหลากหลายต่อการเข้าถึงข้อมูล ของประชาชนทุกกลุ่มและทุกภาคส่วน ๕.๖.๙.๒ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และความร่วมมือของ ภาคธุรกิจผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ด้วยการประชาสัมพันธ์และเปิดช่องทางที่เหมาะสมและหลากหลายต่อการเข้าถึง ข้อมูลแก่ทุกภาคส่วน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๕๘ ๕.๖.๙.๓ กระทรวงสาธารณสุข โดยสาธารณสุขจังหวัดระยอง และโรงพยาบาลจังหวัดระยอง ต้องให้ความรู้และข้อมูลกับประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของสาร VOCs และมลพิษที่ส าคัญต่อสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถดูแลป้องกันตนเองในเบื้องต้นได้ -----------------------------------------
๒๔๙ บรรณานุกรม กรมควบคุมมลพิษ. ส ำนักงำนสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ ๑๓ (ชลบุรี). เขตควบคุมมลพิษ. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๔.http://www.mnre.go.th/reo13/th/news/detail/8386. กรมควบคุมมลพิษ. เขตควบคุมมลพิษ. สืบค้นเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. http://reo13.mnre.go.th/th/news/detail/8386. ข่ำวศำลปกครอง Administrative Court News ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๒.สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๐ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔ http://admincourt.go.th/admincourt/upload/webcms/Oldnews/attach/news_ attach/2009/03/press04032552.pdf. ส ำนักงำนคณะกรรมกำรข้อมูลข่ำวสำรของรำชกำร. รำยงำนฉบับสมบูรณ์. กำรประเมินควำมเสี่ยงในกำร รับสัมผัสสำรอินทรีย์อันตรำยอุบัติใหม่ของประชำชนจำกแหล่งน้ ำส ำหรับอุปโภค บริโภค บริเวณพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง. สืบค้นเมื่อวันที่ ๓๐ มีนำคม ๒๕๖๕.http://www.oic.go.th/ FILEWEB/CABINFOCENTER3 /DRAWER083/GENERAL/DATA0001/00001779.PDF. จังหวัดระยอง. ข้อมูลพื้นฐำนของจังหวัดระยอง. ข้อมูลด้ำนกำรเกษตรของจังหวัด. สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. http://www.opsmoac.go.th/rayong-dwl-files-421091791044. กรมส่งเสริมคุณภำพสิ่งแวดล้อม. ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้ำนสิ่งแวดล้อม. รำยงำนฉบับสมบูรณ์. กำรประเมินควำมเสี่ยงในกำรรับสัมผัสสำรอินทรีย์อันตรำยอุบัติใหม่ของประชำชนจำกแหล่งน้ ำ ส ำหรับอุปโภคบริโภค บริเวณพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง. กรุงเทพฯ: ศูนย์วิจัยและ ฝึกอบรมด้ำนสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภำพสิ่งแวดล้อม, ๒๕๖๒ บทที่ ๓ - EIA นิคมอุตสำหกรรมมำบตำพุด. สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔.http://eia.onep.go.th/ images/monitor/1580388414.pdf. รำยงำนกำรศึกษำควำมเหมำะสม (Feasibility Study) กำรจัดตั้ง. สืบค้นเมื่อ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔ https://www.eeco.or.th/webupload/filecenter/html/establishment/Feasibility/01 3.pdf. ๑๘ เอกชนชิงท่ำเรือมำบตำพุดเฟส ๓ รู้ผล ก.พ.ปีหน้ำ – Matichon. สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1242665. คู่มือวิชำกำร. เรื่อง สำรอินทรีย์ระเหยง่ำยในบรรยำกำศ (Volatile Organic Compounds : VOCs). สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. https://env.anamai.moph.go.th/web-. กรมควบคุมมลพิษ. แหล่งก ำเนิดของสำรVOCs. นโยบำยด้ำนสำรประกอบอินทรีย์ระเหยง่ำย (Volatile Organic Compounds:VOCs)ของประเทศไทย. กรกฎำคม พ.ศ. 2550 Fuel and Petrochemical Supply Chain, สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. https://www.afpm.org/newsroom/infographic/americas-fuel-and-petrochemicalsupply-chain. กำรแพร่กระจำยของสำร VOCs สู่สิ่งแวดล้อม. สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. http://www.industry.in.th/dip/knowledge_detail.php?id=1165&uid=35317. สำรอินทรีย์ระเหยง่ำย (VOCs) คืออะไร – SCISPE. สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. https://www.scispec.co.th/learning/index.php/blog/chromatography/vocs-4.
๒๕๐ ตัวอย่ำงของ Halogenated Hydrocarbons ที่พบได้ในสิ่งแวดล้อม.สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔. http://www.industry.in.th/dip/knowledge_detail.php?id=1165&uid=35317. กำรป้องกันปัญหำอำชญำกรรมสิ่งแวดล้อม. กรณีศึกษำผลกระทบจำกมลพิษทำงอำกำศในนิคม อุตสำหกรรมมำบตำพุด. สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ เมษำยน พ.ศ. ๒๕๖๕. file:///C:/Users/ANFIELD/ Downloads/forensicadmin,+% 7B$userGroup%7D,+Paper04-Vol.7-No.1-2021% 20(8).pdf. ก๊ำซ NOx ภัยร้ำยเครื่องยนต์เผำไหม้ไม่สมบูรณ์. นักวิชำกำรม.มหิดลแนะ ....สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ มกรำคม ๒๕๖๔. https://siamrath.co.th/n/29319. Sulfur dioxide / ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ - Food Wiki. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ มกรำคม ๒๕๖๔ https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1929/sulfur-dioxide. ก๊ำซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2). สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ มกรำคม ๒๕๖๔. https://www.google.co.th/ search?q=%E0%B8%81%E0%. ก๊ำซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (sulfur dioxide : SO2). สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๐ มกรำคม ๒๕๖๔. https://www. siamchemi.com. ควำมเป็นมำและวัตถุประสงค์โครงกำร. สืบค้นเมื่อวันที่ ๕ มกรำคม ๒๕๖๔. http://eec-mtp.onep. go.th/Background.php, กรมควบคุมมลพิษ. กองจัดกำรคุณภำพน้ ำ. รำยงำนสถำนกำรณ์คุณภำพน้ ำและกำรแก้ไขปัญหำมลพิษ ทำงน้ ำ. ในเขตควำมคุมมลพิษ จังหวัดระยอง. ปี ๒๕๕๖. มำบตำพุดกับบทเรียนขยะอุตสำหกรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหำคม ๒๕๖๕. https://thaipublica. org/2013/04/industrial-waste-map-taput/. จังหวัดระยองเฝ้ำระวังควบคุมกำรป้องกันไม่ให้ฝุ่นละออง ขนำดไม่เกิน ... สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๕. https://nbtworld.prd.go.th/ th/news/detail/TCATG190120122028510. กำรจัดล ำดับเมืองที่มีปัญหำมลพิษ ฝุ่นละอองขนำดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ ๙ มีนำคม ๒๕๖๕. fttps://www.greenpeace.or.th/s/right-to-cleanair/PM2.5-City-Ranking-in-Thailand.pdf. ไทยปรับเกณฑ์ค่ำมำตรฐำน PM2.5 ใหม่ เป็นไม่เกิน ๓๗.๕ มคก./ลบม. ตำมมำตรฐำนองค์กำรอนำมัยโลก. สืบค้นเมื่อวันที่ ๙ มีนำคม ๒๕๖๕. https://www.thaigov.go.th/infographic/contents/ details/7153, จังหวัดระยองเฝ้ำระวังควบคุมกำรป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองขนำดไม่เกิน ... สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๕. https://nbtworld.prd.go.th/th/news/detail/TCATG190120122028510. กำรจัดล ำดับเมืองที่มีปัญหำมลพิษฝุ่นละอองขนำดเล็กไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5) ในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ ๙ มีนำคม ๒๕๖๕. fttps://www.greenpeace.or.th/s/right-to-cleanair/PM2.5-City-Ranking-in-Thailand.pdf. ศิริโชค ประทุมพิทักษ์. ผลกระทบต่อชุมชนที่เกิดจำกกำรตั้งนิคมอุตสำหกรรมมำบตำพุด. ในโครงกำร พัฒนำพื้นที่ชำยฝั่งทะเลภำคตะวันออก. กรณีของเทศบำลเมืองมำบตำพุด อ ำเภอเมือง จังหวัดระยอง