The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by iiicejet, 2022-12-10 05:44:35

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ป.6

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ป.6

แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส๑๖๑๐๑

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖

จัดทำโดย
นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหริ ญั สกลุ

ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย

โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา
สาํ นกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ

สาํ นกั คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน


แบบบนั ทกึ ขออนมุ ตั ิใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้

รายละเอยี ดประกอบการจดั ทำแผนการจดั การเรยี นรู้ รายการนเิ ทศ / ตรวจสอบ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า พ้นื ฐาน .....................................................................................................
ชื่อวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหสั วิชา ส๑๖๑๐๑ .....................................................................................................
ชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง/ปี .....................................................................................................
( 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์) จำนวน ๒ หน่วยกิต

ลงช่ือ................................................... ลงชื่อ...................................................
(นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหริ ญั สกลุ ) (นางพิมลพนั ธ์ ปันแปง)

ผูจ้ ดั ทำ / ผใู้ ช้แผนการจดั การเรยี นรู้ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ขอ้ คดิ เหน็
.........................................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ...................................................
(นางสาวนิศาธร กองมงคล)

ผูช้ ่วยผอู้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ

ขอ้ คดิ เหน็ และกลนั่ กรอง
.........................................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................................

❑ อนุมัติใหใ้ ชไ้ ด้ ลงชอ่ื ...................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )

รองผู้อำนวยการฝ่ายงานบรหิ ารวชิ าการ
การพจิ ารณา / อนมุ ตั ิ / สง่ั การ

❑ ไมอ่ นุมตั ิ เนอ่ื งจาก..........................................................

ลงช่อื .................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จงั หวดั พะเยา


จดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู รโรงเรยี นราประชานเุ คราะห์ ๒๔ จงั หวดั พะเยา

จุดมงุ่ หมายของหลกั สตู ร
หลกั สตู รโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มุง่ พัฒนาผู้เรียน

ให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมาย
เพ่ือให้เกดิ กบั ผเู้ รียนเมอ่ื จบการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ดงั น้ี

1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม
หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถอื ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

2. มีความรู้อันเปน็ สากลและมคี วามสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยีและมี
ทกั ษะชวี ิต

3. มีสุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ทดี่ ี มสี ุขนสิ ยั และรกั การออกกำลังกาย
4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและ การปกครอง
ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ
5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมมีจิต
สาธารณะท่ีมงุ่ มัน่ ทำประโยชนแ์ ละสรา้ งสิ่งทีด่ งี ามในสงั คม และอยู่ร่วมกันในสงั คมอย่างมีความสขุ

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
หลกั สูตรโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา มุ่งพัฒนาผ้เู รยี น ใหม้ คี ุณภาพตามมาตรฐานการ

เรียนรู้ ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้น จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5
ประการ ดังนี้

1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคมรวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปัญหา
ความขัดแย้งต่างๆการเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้
วิธกี ารสื่อสารท่มี ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสงั คม

2.ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดเป็นระบบเพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์องค์ความรู้หรือสารสนเทศ
เพอ่ื การตดั สินใจเกย่ี วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม

3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เผชิญได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ตา่ งๆในสังคมแสวงหาความรปู้ ระยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาและมี
การตดั สนิ ใจทม่ี ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ ต่อตนเอง สงั คมและส่งิ แวดล้อม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนิน
ชีวิตประจำวันการเรียนรู้ด้วยตนเองการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องการทำงานและการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้าง
เสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลการจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทนั


กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบ
ตอ่ ตนเองและผู้อน่ื

5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมี
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสารการทำงาน การ
แกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถกู ต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
หลกั สตู รโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา มงุ่ พัฒนาผเู้ รยี นให้มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

เพื่อใหส้ ามารถอยู่รว่ มกบั ผูอ้ น่ื ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดงั น้ี
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ
3. มีวนิ ยั
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
6. มุ่งม่นั ในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจติ สาธารณะ


คณุ ภาพผเู้ รยี น

เมอื่ จบชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6
•มีความรู้เรื่องของจงั หวัด ภาค และประทศของตนเอง ทั้งเชิงประวัตศิ าสตร์ ลักษณะทางกายภาพ สังคม

ประเพณี และวัฒนธรรม รวมทง้ั การเมือง การปกครอง และสภาพเศรษฐกิจโดยเน้นความเปน็
ประเทศไทย

•มคี วามร้แู ละความเข้าใจในเร่ืองศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาท่ี
ตนนับถือ รวมทั้งมสี ว่ นร่วมศาสนพิธี และพธิ ีกรรมทางศาสนามากยิ่งขึน้

•ปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีของท้องถิ่น จังหวัด ภาค และประเทศ
รวมทง้ั ได้มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมตามขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมของทอ้ งถ่นิ ตนเอง มากย่ิงข้นึ

•สามารถเปรยี บเทียบเรอื่ งราวของจงั หวัดและภาคต่างๆของประเทศไทยกบั ประเทศเพ่ือนบา้ น ได้รับการ
พัฒนาแนวคิดทางสังคมศาสตร์ เกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์
และภูมิศาสตร์ เพ่อื ขยายประสบการณ์ไปสกู่ ารทำความเข้าใจในภูมภิ าค ซกี โลกตะวนั ออกและตะวนั ตกเก่ียวกับ
ศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การดำเนินชีวิต การจัด
ระเบยี บทางสงั คม และการเปลยี่ นแปลงทางสังคมจากอดตี สูป่ จั จุบัน


สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้

วชิ า สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม

มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตน

นบั ถือและศาสนาอน่ื มีศรทั ธาที่ถูกต้อง ยดึ มัน่ และ ปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมเพือ่ อยรู่ ว่ มกันอย่างสนั ตสิ ขุ

มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ

ศาสนาทตี่ นนับถอื

สาระท่ี 2 หนา้ ทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ติ ในสงั คม

มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองที่ดีงาม และธำรง รักษาประเพณี

และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่รว่ มกันในสังคมไทย และสังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข

มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมไทยปัจจุบัน ยึดมั่นศรัทธา ธำรงรักษาไว้ ซ่ึง

การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ เปน็ ประมุข

สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์

มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิต และการบริโภค

การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อ

การดำรงชวี ติ อย่างมีดลุ ยภาพ

มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่างๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจ

และความจำเป็นของการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก

สาระท่ี 5 ภูมิศาสตร์

มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะโลกทางกายภาพและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกันและกันใน

ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหาวิเคราะห์สรุป และใช้ข้อมูลภูมิสารสนเทศ

อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างมนุษยก์ บั สภาพแวดล้อมทางกายภาพทกี่ ่อให้เกิดการ
สรา้ งสรรค์วฒั นธรรม มีจติ สำนกึ และมีส่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม


คำอธบิ ายรายวชิ า

วชิ าสังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ าส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาและวิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ หรือความสำคัญของ
ศาสนาที่ตนนับถือ พุทธประวัติตั้งแต่ปลงอายุสังขารจนถึงสังเวชนียสถาน หรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือตามที่
กำหนด แบบอย่างการดำเนินชวี ติ และข้อคิดจากประวตั สิ าวก ชาดก เรือ่ งเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่กําหนด
ความสำคัญของพระรัตนตรัย ไตรสิกขา และหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่
ตนนับถือตามที่กำหนดและการทำความดีของบุคคลในประเทศตามหลักศาสนา หลักธรรมและลักษณะส ำคัญ
ของศาสนพธิ ี พิธกี รรมของศาสนาอ่ืน ๆ โดยสงั เขป การปฏบิ ัตติ นอยา่ งเหมาะสมเมือ่ ต้องเข้ารว่ มพธิ ี การสวดมนต์
ไหว้พระและแผ่เมตตา การบริหารจิตและเจริญปัญญา การมีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือ
การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ในศาสนสถาน
มารยาทของการเป็นศาสนิกชนที่ดี ประโยชน์ของการเข้าร่วมในศาสนพิธี พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสำคัญทาง
ศาสนาตามที่กำหนด การแสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือเป็นศาสนิกชนของศาสนาที่ตนนับถือ โดยใช้ทักษะการ
อธิบาย การสืบค้นข้อมูล การวิเคราะห์ การสรุปความ การบอกเล่า เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า
ศรัทธา ยึดมั่นในพระรัตนตรัยหรือศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และ
คา่ นิยมทเ่ี หมาะสมดงี าม สามารถดำเนินชีวิตอยรู่ ่วมกันในสังคมไทยอยา่ งสนั ตสิ ขุ

ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของครอบครัวและชุมชม การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมตาม
กาลเวลาและธำรงรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม ความสำคัญของมารยาทไทยและมารยาทสังคม คุณค่าทางวฒั นธรรม
ที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนในสังคมไทย การติดตามขอ้ มูลขา่ วสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การเลือก
รบั และใชข้ อ้ มลู ข่าวสารในการเรียนรู้ บทบาท หน้าทีข่ ององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นและรัฐบาล กิจกรรมต่าง ๆ ท่ี
สง่ เสริมประชาธิปไตยในท้องถิ่นและประเทศ การใช้สทิ ธิออกเสียงเลือกต้ังตามระบอบประชาธปิ ไตย โดยใช้ทักษะ
การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์ การยกตัวอย่าง การเปรียบเทียบ การนำเสนอ เพื่อให้เกิดความรู้
ความเข้าใจ เห็นความสำคัญ และปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตยในฐานะสมาชกิ ทีด่ ีของชุมชน สังคม
ประเทศชาติ มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมประชาธิปไตยในท้องถิ่นและประเทศ รวมทั้งมีคุณธรรม
จรยิ ธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม สามารถดำเนินชวี ิตอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยอย่างสนั ตสิ ุข

ศึกษาบทบาทของผูผ้ ลติ ทมี่ ีความรบั ผิดชอบและผูบ้ ริโภคท่ีรเู้ ทา่ ทนั วิธแี ละประโยชนข์ องการใช้ทรัพยากร
อย่างยั่งยืน ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร และรัฐบาล การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจภายในท้องถ่ิน
โดยใช้ทักษะการอธิบาย การวิเคราะห์ การยกต้วอย่าง การสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า รู้จัก
เลอื กใช้สนิ ค้าและบรกิ าร รวมท้ังทรพั ยากรได้อยา่ งเหมาะสม มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม

ศึกษาและใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (แผนที่ ภาพถ่ายชนิดต่าง ) ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทาง
กายภาพกับปรากฏการณท์ างธรรมชาติของประเทศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติกบั ส่ิงแวดล้อม
ทางสังคมในประเทศ การเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน และผลที่เกิดจากการ
เปลี่ยนแปลงนั้น การจัดทำแผนการใช้ทรัพยากรในชุมชน โดยใช้ทักษะการอธิบาย การวิเคราะห์ การรวบรวม
ข้อมูล การสรุปความ การนำเสนอ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อความ


เป็นอยู่ของคนในประเทศ มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ี
เหมาะสม
มาตรฐานและตวั ชี้วดั

มาตรฐาน ส 1.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6 ป.6/7 ป.6/8 ป.6/9
มาตรฐาน ส 1.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4
มาตรฐาน ส 2.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5
มาตรฐาน ส 2.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3
มาตรฐาน ส 3.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3
มาตรฐาน ส 3.2 ป.6/1 ป.6/2
มาตรฐาน ส 5.1 ป.6/1 ป.6/2
มาตรฐาน ส 5.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3

8 มาตรฐาน 31 ตวั ชว้ี ดั


ตวั ชวี้ ดั รายวิชา

วชิ าสังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ าส16101 กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี น
นบั ถอื และศาสนาอนื่ มศี รทั ธาทถี่ ูกตอ้ ง ยึดมนั่ และ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมเพอื่ อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ

ตวั ชี้วดั ท่ี 1 วิเคราะหค์ วามสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติหรือความ สำคัญของ

ศาสนาท่ีตนนับถอื

ตัวชี้วัดที่ 2 สรุปพุทธประวัติตั้งแต่ปลงอายุสังขารจนถึงสังเวชนียสถาน หรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือ

ตามทกี่ ำหนด

ตัวชี้วัดที่ 3 เห็นคุณค่าและประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก

เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่าง ตามท่ีกำหนด

ตัวชี้วัดที่ 4 วิเคราะห์ความสำคัญและเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓

ในพระพุทธศาสนาหรอื หลักธรรมของศาสนาท่ตี นนับถือตามท่ีกำหนด

ตัวชี้วัดที่ 5 ชื่นชมการทำความดีของบุคคลในประเทศตามหลักศาสนา พร้อมทั้งบอกแนวปฏิบัติในการ

ดำเนินชีวติ

ตัวชี้วัดที่ 6 เห็นคุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตาและบริหารจิต เจริญปัญญา มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิ

ในพระพุทธศาสนา หรอื การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาทีต่ นนับถอื ตามท่ีกำหนด

ตัวชวี้ ัดที่ 7 ปฏิบัตติ นตามหลักธรรมของศาสนาท่ตี นนับถอื เพื่อแกป้ ัญหาอบายมุขและสิ่งเสพตดิ
ตวั ชว้ี ัดที่ 8 อธิบายหลักธรรมสำคญั ของศาสนาอนื่ ๆ โดยสังเขป
ตวั ช้ีวดั ท่ี 9 อธิบายลักษณะสำคัญของศาสนพิธี พธิ ีกรรมของศาสนาอื่นๆ และปฏิบตั ิตนได้อย่างเหมาะสม
เม่ือตอ้ งเขา้ รว่ มพธิ ี

มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจตระหนกั และปฏบิ ัตติ นเปน็ ศาสนกิ ชนทด่ี ี และธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี น
นบั ถอื

ตวั ชี้วดั ที่ 1 อธิบายความรู้เกี่ยวกบั สถานท่ตี ่างๆ ในศาสนสถาน และปฏบิ ตั ติ นได้อยา่ งเหมาะสม
ตวั ช้ีวัดท่ี 2 มมี รรยาทของความเป็นศาสนิกชนทดี่ ีตามที่กำหนด
ตัวชี้วัดที่ 3 อธิบายประโยชน์ของการเข้าร่วมใน ศาสนพิธี พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสำคัญทาง
ศาสนา ตามท่ีกำหนด และปฏบิ ตั ิตนไดถ้ กู ต้อง
ตวั ช้วี ดั ที่ 4 แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ หรือแสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาทีต่ นนับถือ


มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าที่ของการเปน็ พลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธำรงรักษาประเพณี
และวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวติ อยู่ร่วมกันในสงั คมไทย และ สงั คมโลกอย่างสนั ตสิ ขุ

ตวั ช้ีวัดท่ี 1 ปฏิบตั ติ ามกฎหมายที่เกย่ี ว ข้องกบั ชีวติ ประจำวันของครอบครัวและชมุ ชน
ตัวชวี้ ดั ท่ี 2 วิเคราะห์การเปลีย่ นแปลงวฒั นธรรมตามกาลเวลาและธำรงรักษาวฒั นธรรมอันดีงาม
ตวั ช้วี ดั ที่ 3 แสดงออกถงึ มารยาทไทยได้เหมาะสม ถูกกาลเทศะ
ตัวช้ีวัดที่ 4 อธิบายคุณค่าทางวฒั นธรรมท่ีแตกต่างกนั ระหว่างกลุ่มคนในสงั คมไทย
ตัวชี้วัดที่ 5 ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เลือกรับและใช้ข้อมูล ข่าวสารใน
การเรยี นรู้ไดเ้ หมาะสม

มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรักษาไว้ซึ่งการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข

ตวั ชี้วัดท่ี 1 เปรียบเทยี บบทบาท หน้าทข่ี ององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ และรัฐบาล
ตัวชว้ี ดั ที่ 2 มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมตา่ งๆ ที่สง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตยในทอ้ งถิ่นและประเทศ
ตวั ช้ีวัดที่ 3 อภปิ รายบทบาท ความสำคญั ในการใชส้ ิทธิออกเสียงเลอื กต้ังตามระบอบประชาธปิ ไตย

มาตรฐาน ส.3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่
จำกัดได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและคุม้ ค่า รวมท้งั เขา้ ใจ
หลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง เพอ่ื การดำรงชวี ติ อย่างมดี ลุ ยภาพ

ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1 อธิบายบทบาทของผผู้ ลิตทีม่ คี วามรับผิดชอบ
ตวั ชว้ี ัดที่ 2 อธิบายบทบาทของผูบ้ รโิ ภคท่ีรเู้ ท่าทนั
ตวั ชว้ี ดั ที่ 3 บอกวธิ ีและประโยชนข์ องการใช้ทรัพยากรอย่างย่งั ยืน

มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกจิ
และความจำเป็นของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก

ตัวช้ีวดั ท่ี 1 อธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งผู้ผลิต ผบู้ รโิ ภค ธนาคาร และรัฐบาล
ตัวชี้วัดท่ี 2 ยกตัวอย่างการรวมกล่มุ ทางเศรษฐกิจภายในทอ้ งถนิ่


มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน ใช้แผนที่และ
เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และ สรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิ
สารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

ตัวช้ีวดั ที่ 1 ใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ (แผนที่ ภาพถา่ ยชนดิ ตา่ ง ๆ) ระบุลักษณะสำคัญทางกายภาพและ
สงั คมของประเทศ

ตัวช้วี ดั ท่ี 2 อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งลักษณะทางกายภาพกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาตขิ องประเทศ

มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วิถีการ
ดำเนนิ ชีวติ มจี ิตสำนกึ และมีส่วนร่วมในการจดั การทรพั ยากร และสง่ิ แวดล้อมเพื่อการพฒั นาทย่ี ัง่ ยืน

ตวั ชี้วัดที่ 1 วเิ คราะห์ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติกับส่ิงแวดล้อมทางสังคมในประเทศ

ตวั ขว้ี ัดที่ 2 อธิบายการแปลงสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทยจากอดีตถงึ ปัจจบุ นั และผลท่ีเกดิ ขึ้นจาก
การเปลย่ี นแปลงนั้น

ตวั ช้วี ดั ท่ี 3 จัดทำแผนการใช้ทรพั ยากรในชมุ ชน


โครงสรา้ งรายวชิ า

รายวชิ าสงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ าส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

ลำดบั ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
ท่ี เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน

1 พระพทุ ธ ส1.1 ป.6/1 คนสว่ นใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา เรา 5 4

ป.6/2 ในฐานะทีเ่ ป็นชาวพุทธจึงควรศกึ ษา

ป.6/3 ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาใน

ด้านต่าง ๆ รวมทั้งศึกษาพุทธประวตั ิ

และชาดกใหเ้ ขา้ ใจ แล้วนำความรู้ท่ีได้

ไปประพฤติปฏบิ ัติหรือประยุกตใ์ ช้ใน

ชีวิตประจำวันตอ่ ไป

2 พระธรรม ส1.1 ป.6/4 พระรัตนตรัย หลกั ธรรมทาง 88

ป.6/5 พระพุทธศาสนา พุทธศาสนสุภาษิต

ป.6/7 การปฏิบตั ิตนตามหลักธรรมของ

ป.6/8 ศาสนา การทำความดขี องบุคคลใน

ป.6/9 ประเทศ หลกั ธรรมและศาสนพิธขี อง

ศาสนาต่าง ๆ เป็นสงิ่ ที่เราควรศึกษาให้

รู้และเข้าใจที่ถูกตอ้ ง เพราะจะทำให้

สามารถปฏบิ ัตติ นได้ถูกต้องเหมาะสม

ในชีวิตประจำวันและสามารถอยู่

ร่วมกบั บุคคลอ่ืนในสังคมได้อย่างมี

ความสขุ


โครงสร้างรายวชิ า(ตอ่ )

รายวชิ าสงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส16101 กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

ลำดบั ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
ที่ เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน

3 พระสงฆ์ ส1.1 ป.6/3 หลังตรสั รูแ้ ลว้ พระพุทธเจา้ ได้ทรงเผย 3 4

แร่หลักธรรมจนมีผูเ้ ลือ่ มใสเป็นจำนวน

มาบางคนได้บวชตามพระองค์ บางคน

ปฏญิ าณตนขอถึงพระรัตนตรัยเป็นท่ี

พึง่ ท่รี ะลกึ บคุ คลเหลา่ นม้ี ีทั้งชายและ

หญิง ถ้าเปน็ ชายเรยี กว่า พุทธสาวก ถา้

เป็นหญิงเรียกว่าพุทธสาวิกา หรือจะ

เรยี กวา่ พทุ ธศาสนิกชนหรือชาวพทุ ธก็

ได้

4 การปฏิบตั ิตนดี ส1.1 ป.6/6 ชาวพทุ ธ คอื ผนู้ ับถือพระพทุ ธศาสนา 8 9

ส1.2 ป.6/1 มชี ือ่ เรยี กอกี อยา่ งหน่ึงวา่

ป.6/2 พุทธศาสนกิ ชน มหี น้าทีแ่ ละมารยาทที่

ป.6/3 ควรปฏิบัตหิ ลายประการ ขาวพุทธท่ีได้

ป.6/4 ควรเหน็ คณุ ค่าของศาสนพิธี และหมน่ั

ฝึกสติและสมาธเิ พื่อใหเ้ กิดผลดใี นการ

ดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั


โครงสรา้ งรายวชิ า(ตอ่ )

รายวชิ าสังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

ลำดับท่ี ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
5 การปกครอง เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน
ระบอบ
ประชาธปิ ไตยอนั มี ส2.1 ป.6/5 ประเทศไทยปกครองดว้ ยระบอบ 5 5
พระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข ส2.2 ป.6/1 ประชาธิปไตยอนั พระมหากษัตรยิ ท์ รง 5 5

6 กฎหมายใน ป.6/2 เป็นประมขุ แบง่ การจัดระเบียบบริหาร
ชวี ติ ประจำวนั
ป.6/3 ราชการแผ่นดนิ ออกเปน็ 3 ส่วน ได้แก่

ปกครองสว่ นส่วนกลางท่ดี ำเนินการ

โดยรัฐบาล การปกครองส่วนภมู ภิ าคท่ี

ดำเนนิ การโดยหนว่ ยงานของรฐั บาลที่

ไปประจำอยใู่ นส่วนภมู ภิ าค และการ

ปกครองสว่ นท้องถน่ิ ทีด่ ำเนินการโดย

องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่

ส2.1 ป.6/1 กฎหมายเป็นกฎ กติกา หรอื ข้อบงั คบั

ของสงั คมที่กำหนดใหส้ มาชิกของสังคม

ทกุ คนต้องปฏบิ ัติตาม หากผใู้ ดฝ่าฝนื

หรอื ไมป่ ฏบิ ัตติ ามจะมคี วามผิดและ

ได้รบั การลงโทษตาที่ไดก้ ำหนดไว้

ดังน้ันจึงมีความจำเป็นทสี่ มาชิกของ

สงั คมจะต้องเรียนรแู้ ละปฏบิ ัตติ ามให้

ถกู ต้องโดยไม่อาจปฏิเสธหรือหลกี เลีย่ ง

ได้ ดังหลกั กฎหมายทว่ี ่า “ความไม่รู้

กฎหมายไมเ่ ป็นข้อแกต้ ัว”


โครงสรา้ งรายวชิ า(ตอ่ )

รายวชิ าสงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

ลำดบั ที่ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
7 วฒั นธรรมไทยใน เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน
สงั คมไทย วฒั นธรรมอยู่คู่กับสงั คมไทยมาเป็น
ส2.1 ป.6/2 เวลานาน แลมีบทบาทต่อการเนนิ 5 5
8 การผลติ และการ ป.6/3 ชีวิตประจำวนั ของเราอยา่ งมาก เป็นส่งิ
บรโิ ภค ป.6/4 ทแ่ี สดงถงึ ความคิด ความเช่อื วิถีชวี ติ 10 11
ขนบธรรมเนียมประเพณี ซึ่งเป็น
9 ความสมั พนั ธท์ าง ส3.1 ป.6/1 เอกลักษณ์อันดีงามของคนไทย 12 6
เศรษฐกิจ ป.6/2 การผลติ การบริโภค และการจำแนก
ป.6/3 แจกจ่ายเปน็ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจข้นึ
พ้ืนฐานของมนุษย์ โดยผลติ เป็นการนำ
ส3.2 ป.6/1 ทรัพยากรการผลติ หรือปจั จยั การผลติ
ป.6/2 มาผา่ นกระบวนการผลิตทำให้เกิดเปน็
สินคา้ และบริการเพ่ือตอบสนองความ
ต้องการของมนุษย์ส่วนการบรโิ ภคเป็น
การใช้ประโยชนจ์ ากสินค้าและบริการ
มนุษย์อยู่รวมกันเป็นสังคมเพื่อการ
ดำรงชวี ติ เน่อื งจากไมม่ ีใครสามารถผลิต
สิ่งของทกุ สิง่ ทกุ อยา่ งท่ีตนเองต้องการได้
ดังนั้น การอยู่ร่วมกันในสังคมจึงต้องมี
การแบ่งบทบาทและหน้าที่กันอย่าง
ชัดเจน รวมถึงมีการพึ่งพาอาศัยและ
ช่วยเหลือเกอ้ี กูลกัน เพื่อให้กจิ กรรมทาง


โครงสรา้ งรายวชิ า(ตอ่ )

รายวชิ าสงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

ลำดบั ที่ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
10 ประเทศของเรา เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน

11 สิง่ แวดล้อมและ เศรษฐกจิ ดำเนนิ ไปดว้ ยความสะดวก 11 7
ทรพั ยากรธรรมชาติ
ส5.1 ป.6/1 ประเทศไทยต้ังอยูภ่ มู ิภาคเอเชีย 6 6

ป.6/2 ตะวนั ออกเฉียงใต้ของทวปี เอเชีย มีเน้อื ท่ี 80 70
30
ประมาณ 513,115 ตารางกโิ ลเมตร 100

ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศหลากหลาย

ภมู ิอากาศมีฝนตกค่อนขา้ งสงู อณุ หภูมิสงู

ทรพั ยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์

ลกั ษณะทางกายภาพดังกลา่ วทำใหพ้ ้นื ที่

บางบริเวณมภี ยั พิบตั ิเกดิ ข้ึน เช่น อทุ กภัย

วาตภัย สนึ ามิดินถลม่

ส5.2 ป.6/1 กิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมของ

ป.6/2 มนษุ ยไ์ ด้รบั อิทธิพลจากส่ิงแวดลอ้ มทาง

ป.6/3 ธรรมชาติ มนษุ ยใ์ ชส้ ิ่งแวดล้อมส่งผลให้

เกดิ การเปลีย่ นแปลงในปจั จบุ ัน และ

ส่งผลกระทบต่อกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ

และสงั คมมนุษยด์ ้วย ทุกคนต้องช่วยกนั

จดั การทรพั ยากรธรรมเพ่ือให้

ทรพั ยากรธรรมชาติมีอยู่อยา่ งยั่งยืน

รวมระหวา่ งเรยี น

กลางปแี ละปลายปี

รวม


ผงั มโนทศั น์

รายวชิ าสังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรมรหสั วชิ าส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

พระพทุ ธ พระธรรม
สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพกับมนษุ ย์
พระสงฆ์ การปฏิบตั ิตนดี

สังคมศกึ ษา ( ส ๑6๑๐๑ )

ประเทศของเรา การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
อนั มพี ระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ความสัมพนั ธท์ างเศรษฐกิจการผลิตและการบรโิ ภค กฎหมายในชวี ติ ประจําวัน

วฒั นธรรมไทยในสังคมไทย


การกำหนดสดั สว่ นคะแนน

รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส161

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย ตวั ชว้ี ดั
ที่

1 พระพุทธ ส 1.1 ป.6/1 1
2 พระธรรม ป.6/2 3
ป.6/3

ส 1.1 ป.6/4
ป.6/5
ป.6/7
ป.6/8
ป.6/9


นการวดั ผลและประเมนิ ผล

101 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

คะแนน
วธิ กี ารวดั ผล
ความ ู้ร (K) เครอ่ื งมอื
ัทกษะ กระบวนการ (P)
ุคณลักษณะ(A)
คะแนนรวม

2 1 4 - การประเมนิ คุณลกั ษณะ - แบบประเมนิ

- การประเมนิ การทำงานรว่ มกนั - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน

1 4 8 - การประเมินคุณลกั ษณะ - แบบประเมิน

- การประเมินการทำงานรว่ มกนั - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน


การกำหนดสดั ส่วนคะแนนกา

รายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส161

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา

หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย ตวั ชวี้ ดั
ท่ี

3 พระสงฆ์ ส 1.1 ป.6/3 1
3
4 การปฏบิ ัตติ นดี ส 1.1 ป.6/6
ส.1.2 ป.6/1

ป.6/2
ป.6/3
ป.6/4


ารวดั ผลและประเมนิ ผล(ตอ่ )

101 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

คะแนน
วธิ กี ารวดั ผล
ความ ู้ร (K) เครอื่ งมอื
ัทกษะ กระบวนการ (P)
ุคณลักษณะ(A)
คะแนนรวม

2 1 4 - การประเมนิ คุณลักษณะ - แบบประเมิน

- การประเมนิ การทำงานรว่ มกัน - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน

4 2 9 - การประเมินคุณลักษณะ - แบบประเมนิ

- การประเมินการทำงานรว่ มกัน - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน


การกำหนดสดั ส่วนคะแนนกา

รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส161

ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย ตวั ชว้ี ดั
ท่ี

5 การปกครองระบอบ ส 2.1 ป.6/5 2
2
ประชาธปิ ไตยอันมี ส 2.2 ป.6/1

พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ป.6/2

ประมขุ ป.6/3

6 กฎหมายในชวี ติ ประจำวนั ส 2.1 ป.6/1

7 วัฒนธรรมในสังคมไทย ส 2.1 ป.6/2 1
ป.6/3
ป.6/4


ารวดั ผลและประเมนิ ผล(ตอ่ )

101 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

คะแนน

ความ ้รู (K) วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื
ัทกษะ กระบวนการ (P)
ุคณลักษณะ(A)
คะแนนรวม

2 1 5 - การประเมนิ คุณลักษณะ - แบบประเมิน

- การประเมนิ การทำงานร่วมกนั - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน

2 1 5 - การประเมนิ คุณลักษณะ - แบบประเมนิ

- การประเมนิ การทำงานรว่ มกนั - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน

3 2 6 - การประเมินคุณลักษณะ - แบบประเมิน

- การประเมนิ การทำงานร่วมกัน - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน


การกำหนดสดั ส่วนคะแนนกา

รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส161

ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา

หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย ตวั ชวี้ ดั
ท่ี

8 การผลติ และการบริโภค ส 3.1 ป.6/1 1
ป.6/2 1
ป.6/3 2

9 ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจ ส 3.2 ป.6/1
ป.6/2

10 ประเทศของเรา ส 5.1 ป.6/1
ป.6/2


ารวดั ผลและประเมนิ ผล(ตอ่ )

101 กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

คะแนน

ความ ้รู (K) วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื
ัทกษะ กระบวนการ (P)
ุคณลักษณะ(A)
คะแนนรวม

3 7 11 - การประเมินคุณลกั ษณะ - แบบประเมิน

- การประเมินการทำงานร่วมกนั - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน

3 2 6 - การประเมินคุณลักษณะ - แบบประเมิน

- การประเมนิ การทำงานร่วมกัน - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน

3 2 7 - การประเมินคุณลักษณะ - แบบประเมิน

- การประเมนิ การทำงานร่วมกัน - แบบทดสอบ

- การทดสอบ - ใบงาน

- การตรวจใบงาน


การกำหนดสดั สว่ นคะแนนกา

รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ส161

ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย ตวั ชวี้ ดั
ที่

11 สง่ิ แวดลอ้ มและ ส 5.2 ป.6/1 1
ทรพั ยากรธรรมชาติ ป.6/2
ป.6/3

ระหวา่ งภาคเรยี น 20
สอบกลางปี 10
สอบปลายปี 20
รวม 50


ารวดั ผลและประเมนิ ผล(ตอ่ )

101 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

คะแนน

ความ ้รู (K) วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื
ัทกษะ กระบวนการ (P)
ุคณลักษณะ(A)
คะแนนรวม

32 6 - การประเมนิ คุณลักษณะ - แบบประเมนิ
- การประเมินการทำงาน - แบบทดสอบ
รว่ มกนั - การทดสอบ - ใบงาน
- การตรวจใบงาน

0 25 25 70
0 10
0 20
0 25 25 100


แผนการวดั และประเมนิ ผล

รายวชิ าสงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรมรหสั วชิ าส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

1. อตั ราสว่ นการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ระหวา่ งเรยี น กลางปกี ารศกึ ษา ปลายปกี ารศึกษา
20 คะแนน
70 คะแนน 10 คะแนน

2. อตั ราสว่ นการประเมนิ ผล KPA

ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
25 คะแนน
50 คะแนน 25 คะแนน

3. สดั สว่ นคะแนนของการประเมินผล

การประเมนิ ความรู้ สดั สว่ นคะแนน รวม
ทักษะ คุณลักษณะ
ระหว่างเรียน 20 กระบวนการ อนั พงึ ประสงค์ 70
กลางภาคเรียน 10 25 25 10
ปลายภาคเรยี น 20 20
50 25 25 100
รวม


กำหนดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

รายวชิ าสังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรมรหสั วชิ าส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

หนว่ ยการเรยี นรู้/แผนการ เรอื่ ง เวลา/
จดั การเรยี นรู้ จำนวนชวั่ โมง
พระพทุ ธ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ความสำคัญของพระพุทธศาสนา 6
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 สรุปพุทธประวัติ 2
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 ชาดก 2
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 พระธรรม 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา 8
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 พทุ ธศาสนสภุ าษติ 2
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 การปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมของศาสนาและ 2
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 การทำความดขี องบุคคลในประเทศ 1
หลักธรรมของศาสนาต่าง ๆ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 ศาสนพิธขี องศาสนาต่าง ๆ 2
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 พระสงฆ์ 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 พทุ ธสาวกและชาวพุทธตัวอย่าง 3
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การปฏบิ ตั ิตนดี 3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 หนา้ ทช่ี าวพทุ ธ 8
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 มารยาทชาวพทุ ธ 2
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 ศาสนพธิ ี 2
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12 การบริหารจติ และการเจริญปัญญา 2
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 พระมหากษัตรยิ เ์ ปน็ ประมขุ 5
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ กับรัฐบาล
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมประชาธิปไตย 2
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 การเลือกตงั้ 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16 ข้อมูลขา่ วสารในชวี ิตประจำวัน 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 17 1


กำหนดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้(ตอ่ )

รายวชิ าสงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรมรหสั วชิ าส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

หนว่ ยการเรยี นรู้/แผนการ เรอื่ ง เวลา/
จดั การเรยี นรู้ จำนวนชว่ั โมง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 กฎหมายในชวี ติ ประจำวนั 5
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 18
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 19 กฎหมายที่เกยี่ วข้องกบั ครอบครวั 3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 20 กฎหมายทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ชุมชน 2
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 21
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 22 วฒั นธรรมในสงั คมไทย 5

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 วัฒนธรรมไทย 2
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 24 มารยาทไทย 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 9
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 คุณค่าทางวัฒนธรรมทแี่ ตกตา่ งกนั ระหว่างกลุ่มคนใน 1
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 26
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 10 สังคมไทย
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 27
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 28 การผลติ และการบรโิ ภค 10
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 29
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 11 ผผู้ ลิตและผ้บู รโิ ภค 5
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 30
การใชท้ รพั ยากรอยา่ งยงั่ ยนื 5
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 31
ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกจิ 12
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 32
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างหนว่ ยเศรษฐกิจ 6

การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจภายในทอ้ งถิ่น 6

ประเทศของเรา 11

ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย 4

ลกั ษณะทางสังคมของประเทศไทย 4

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 3

สง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ 6

ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติกบั 3

สง่ิ แวดล้อม

การเปล่ยี นแปลงของสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทย 2

และผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงจากอดีตถึง

ปัจจบุ ัน

การจดั ทำแผนการใชท้ รัพยากรในชุมชน 1

สอบกลางปีการศึกษา 1

สอบปลายปกี ารศกึ ษา 1

รวม 80


หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศึกษา

เรอ่ื ง พระพุทธ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1

เวลาเรียน 5 ชวั่ โมง ผสู้ อน นายเจตรนิ ทร์ เธียรหิรัญสกลุ

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเขา้ ใจทค่ี งทน

พระพุทธศาสนามีความสำคัญต่อสังคมไทยในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ พุทธประวัติ คือ

ประวัติของพระพุทธเจ้า ศาสดาของพระพุทธศาสนา การศึกษาพุทธประวัติจะทำให้ได้รู้ประวัติของ

พระพทุ ธเจ้า ชาดก คือ เรอ่ื งราวของพระพทุ ธเจ้าในอดีตชาติ การศกึ ษา ทฆี ีติโกสลชาดกและสัพพทาฐิ

ชาดก ผู้ศกึ ษาจะไดข้ อ้ คดิ ท่ีสามารถนำไปเปน็ แบบอยา่ งในการดำเนินชวี ิตได้

1.2 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน

ส 1.1 ร้แู ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่

ตนนับถือและศาสนาอนื่ มีศรทั ธาที่ถกู ต้อง ยึดมน่ั และปฏบิ ัตติ ามหลักธรรมเพอ่ื อยรู่ ว่ มกันอยา่ งสนั ตสิ ขุ

ตัวช้วี ัด

ส 1.1 ป.6/1 วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติหรอื

ความ สำคญั ของศาสนาท่ีตนนบั ถือ

ส 1.1 ป.6/2 สรปุ พทุ ธประวตั ติ งั้ แต่ปลงอายุสงั ขารจนถึงสงั เวชนียสถาน หรือประวัติศาสดา

ทีต่ นนบั ถือตามท่ีกำหนด

ส 1.1 ป.6/3 เห็นคณุ ค่าและประพฤตติ นตามแบบอย่างการดำเนนิ ชีวติ และข้อคดิ จาก

ประวตั สิ าวก ชาดก เร่อื งเลา่ และศาสนิกชนตัวอยา่ ง ตามท่ีกำหนด

1.3 สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

คนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา เราในฐานะที่เป็นชาวพุทธจึงควรศึกษาความสำคัญของ

พระพุทธศาสนา ในด้านต่าง ๆ รวมทั้งศึกษาพุทธประวัติและชาดกให้เข้าใจ แล้วนำความรู้ที่ได้ไป

ประพฤติปฏบิ ัตหิ รือประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันต่อไป

1.4 สาระการเรยี นรู้

พระพทุ ธ

1.ความสำคัญพระพุทธศาสนา

2.พทุ ธประวัติ

3.ชาดก


1.5 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการสื่อสาร

2. ความสามารถในการคิด

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

1.6 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ชื่อสตั ย์สุจรติ

2. มีวนิ ัย

3. ใฝเ่ รียนรู้

4. มุ่งม่ันในการทำงาน

2. หลกั ฐานการเรยี นรู้

2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน

- ศึกษาและแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา

- ศึกษาและตอบคำถามทเี่ ก่ียวกบั พทุ ธประวัตติ งั้ แตป่ ลงอายุสงั ขารจนถึงสงั เวชนียสถาน

- เลา่ เรื่องและวิเคราะห์ขอ้ คดิ จากทีฆตี โิ กสลชาดกและสัพพทาฐชิ าดก

2.2 การวดั และประเมนิ ผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

- การตรวจผลงาน ใบงาน

- แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลและกล่มุ

2.3 การวดั และประเมินผลเมอื่ สน้ิ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้

- แบบทดสอบก่อนเรยี น

- แบบทดสอบหลงั เรยี น

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (6 ชวั่ โมง)

ชอ่ื หนว่ ย กจิ กรรม ชนิ้ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชวั่ โมง

พระพุทธ เรือ่ ง ความสำคัญของพะพุทธ -ศึกษาและแสดงความคดิ เหน็ 2

ศาสนา เกี่ยวกับความสำคญั ของ
พระพทุ ธศาสนา

เรื่อง สรุปพุทธประวตั ิ -ศกึ ษาและตอบคำถามทเ่ี กี่ยวกบั 2
พุทธประวตั ติ งั้ แต่ปลงอายสุ งั ขาร

จนถึงสงั เวชนียสถาน

เร่อื ง ขาดก -เล่าเรื่องและวเิ คราะหข์ ้อคิดจาก 2

ทีฆตี ิโกสลชาดกและสพั พทาฐชิ าดก

รวมเวลาเรยี น 6


หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศึกษา

เร่อื ง พระธรรม

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1

เวลาเรยี น 8 ชั่วโมง ผสู้ อน นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหิรญั สกลุ

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเขา้ ใจทคี่ งทน

ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรม พทุ ธศาสนสุภาษติ และศาสนพิธีของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ี

ตนนับถอื ไดถ้ ูกต้องเหมาะสม

1.2 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ัด

มาตรฐาน

ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาที่

ตนนับถอื และศาสนาอ่ืน มีศรทั ธาที่ถูกต้อง ยดึ มัน่ และปฏิบัติตามหลกั ธรรมเพอ่ื อยรู่ ่วมกันอย่างสนั ติสขุ

ตัวช้วี ดั

ส 1.1 ป.6/4 วิเคราะหค์ วามสำคัญและเคารพพระรัตนตรัย ปฏบิ ัตติ ามไตรสกิ ขาและ

หลกั ธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถือตามที่กำหนด

ส 1.1 ป.6/5 ชืน่ ชมการทำความดขี องบคุ คลในประเทศตามหลักศาสนา พร้อมทัง้ บอกแนว

ปฏบิ ัติในการดำเนินชวี ติ

ส 1.1 ป.6/7 ปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมของศาสนาทีต่ นนบั ถือเพ่ือแก้ปัญหาอบายมุขและสิ่ง

เสพตดิ

ส 1.1 ป.6/8 อธิบายหลักธรรมสำคญั ของศาสนาอื่นๆ โดยสังเขป

ส 1.1 ป.6/9 อธบิ ายลกั ษณะสำคญั ของศาสนพิธี พธิ ีกรรมของศาสนาอ่นื ๆ และปฏบิ ตั ิตนได้

อยา่ งเหมาะสมเมือ่ ต้องเขา้ รว่ มพธิ ี

1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

พระรัตนตรยั หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนสุภาษิต การปฏิบัติตนตามหลักธรรม

ของศาสนา การทำความดีของบุคคลในประเทศ หลกั ธรรมและศาสนพิธขี องศาสนาต่าง ๆ เปน็ สิง่ ท่ีเรา

ควรศกึ ษาใหร้ ู้และเขา้ ใจท่ีถกู ตอ้ ง เพราะจะทำใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิตนไดถ้ ูกต้องเหมาะสมใน

ชวี ิตประจำวนั และสามารถอยู่ร่วมกับบคุ คลอืน่ ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสขุ

1.4 สาระการเรยี นรู้

1. พระไตรปฏิ ก

2. พระรตั นตรัย

3. หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา


4. พทุ ธศาสนสภุ าษติ
5.การปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา
1.5 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
1.6 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ชอ่ื สัตย์สุจริต
2. มีวนิ ัย
3. ใฝเ่ รียนรู้
4. มุ่งม่นั ในการทำงาน
2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน

- ศึกษา แสดงความคิดเห็น และบนั ทึกความรูเ้ รอ่ื ง พระรตั นตรัย
- ศึกษาและแสดงความคดิ เห็นเรื่อง พทุ ธกจิ 5 อริยสจั 4 หลักกรรม และไตรสิกขา
- ศกึ ษาและอภิปรายเร่ือง การปฏิบัติตนตามโอวาท 3
- ศึกษาและยกตัวอยา่ งการกระทำทส่ี อดคล้องกับพทุ ธศาสนสุภาษติ
- ศึกษาและอภิปรายเรื่อง การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนาเพ่ือแกป้ ัญหา
อบายมุขและสง่ิ เสพตดิ
- ศึกษาและอภิปรายเร่ือง หลกั ธรรมของศาสนาตา่ ง ๆ
- ศึกษาและอภิปรายเรื่อง ศาสนพิธขี องศาสนาตา่ ง ๆ
2.2 การวดั และประเมนิ ผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- การตรวจผลงาน ใบงาน
- แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทำงานเปน็ รายบุคคลและกลุ่ม
- การตอบคำถามเกยี่ วกบั ไตรสกิ ขาและโอวาท 3(การไม่ทำความชว่ั :เบญจศลี อบายมุข 4)
- การแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับภาพในเรือ่ งการพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม
2.3 การวดั และประเมินผลเมอ่ื สน้ิ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้

- แบบทดสอบก่อนเรียน
- แบบทดสอบหลังเรยี น


3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (8 ชว่ั โมง)

ชอื่ หนว่ ย กจิ กรรม ชนิ้ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ช่วั โมง

พระธรรม เรอ่ื ง หลกั ธรรมทาง -ศึกษา แสดงความคิดเหน็ และ 2
พระพุทธศาสนา บนั ทึกความร้เู รือ่ ง พระรัตนตรัย
-ศกึ ษาและแสดงความคดิ เหน็ เร่ือง 2
พุทธกิจ 5 อริยสจั 4 หลกั กรรม 1

และไตรสิกขา 2
-ศกึ ษาและอภปิ รายเรื่อง การ 1
ปฏบิ ัตติ นตามโอวาท 3 8

เรอ่ื ง พทุ ธศาสนสุภาษิต -ศึกษาและยกตัวอย่างการกระทำ

ทีส่ อดคล้องกบั พุทธศาสนสุภาษิต

เร่อื ง การปฏบิ ตั ติ นตาม -ศกึ ษาและอภิปรายเรื่อง การ

หลกั ธรรมของศาสนาและการ ปฏิบัตติ นตามหลักธรรมของ
ทำความดีของบุคคล ศาสนาเพื่อแก้ปัญหาอบายมขุ และ
ส่งิ เสพตดิ

เร่ือง หลกั ธรรมของศาสนาต่าง -ศึกษาและอภปิ รายเรอ่ื ง
ๆ หลักธรรมของศาสนาต่าง ๆ

เรื่อง ศาสนพิธีของศาสนาตา่ ง ๆ -ศึกษาและอภิปรายเร่ือง ศาสนพิธี
ของศาสนาตา่ ง ๆ

เวลาเรียน


หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศึกษา

เร่อื ง พระสงฆ์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1

เวลาเรียน 3 ช่วั โมง ผสู้ อน นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหริ ัญสกุล

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเขา้ ใจทคี่ งทน

นำคณุ ธรรมของพุทธสาวกและชาวพทุ ธตัวอย่างมาเป็นแบบอยา่ งในการดำเนนิ ชีวิตประจำวัน

1.2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐาน

ส 1.1 รูแ้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ี

ตนนับถอื และศาสนาอ่นื มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยดึ ม่นั และปฏิบัติตามหลักธรรมเพือ่ อยรู่ ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ุข

ตัวชี้วัด

ส.1.1 ป.5/3 เหน็ คณุ คา่ และประพฤตติ นตามแบบอยา่ งการดำเนินชีวิตและขอ้ คดิ จากประวตั ิ

สาวก ชาดก เร่ืองเลา่ และ ศาสนกิ ชนตวั อยา่ งตามทก่ี ำหนด

1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

หลังจากท่พี ระพุทธเจา้ ได้ทรงส่ังสอนประชาชนมาระยะหนึง่ ไดม้ ี ผูเ้ ลื่อมใสในหลักคำสอนของ

พระองคเ์ ป็นจำนวนมาก บางคนขอบวชตามพระองค์ บางคนปฏญิ าณตนขอถึงพระรตั นตรัยเป็นท่ีพึ่งท่ี

ระลกึ บุคคลเหล่าน้ีมีทง้ั ชายและหญงิ ถา้ เปน็ ชายเรียกว่า พทุ ธสาวก ถ้าเป็0นหญงิ เรียกวา่ พุทธสาวิกา

หรอื จะเรยี กรวม ๆ วา่ พุทธศาสนิกชนหรอื ขาวพทุ ธก็ได้

1.4 สาระการเรยี นรู้

1.พทุ ธสาวก

2.ชาวพทุ ธตวั อย่าง

1.5 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการส่ือสาร

2. ความสามารถในการคดิ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

1.6 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 3. ใฝเ่ รยี นรู้

2. มีวนิ ัย 4. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

2. หลกั ฐานการเรยี นรู้


2.1 ชนิ้ งาน/ภาระงาน

-การเลา่ ประวตั ิของพระโสณโกฬวิ ิสะ

-การแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับข้อคดิ และคุณธรรมทค่ี วรยึดถือเป็นแบบอยา่ งของพระโสณ

โกฬิวสิ ะ

-การทำใบงานท่ี 1 เรื่อง วเิ คราะห์คุณธรรมท่ีควรยึดถอื เปน็ แบบอยา่ ง

-การเล่นเกมปุจฉา–วสิ ัชนาเกี่ยวกับพระประวตั ิ พระกรณียกจิ และคุณธรรมท่ีควรยึดถือเป็น

แบบอยา่ งของสมเด็จพระสังฆราช (สา ปสุ สฺ เทโว)

-การตอบคำถามเก่ยี วกบั ประวัตขิ องอาจารยเ์ สถยี ร โพธินันทะ

-การแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั ข้อคิดและคุณธรรมทีค่ วรยึดถือเปน็ แบบอยา่ งของอาจารยเ์ สถียร

โพธนิ ันทะ

-การทำใบงานที่ 2 เรื่อง วิเคราะห์คุณธรรมท่ีควรยึดถือเปน็ แบบอยา่ งของชาวพุทธตวั อยา่ ง

2.2 การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

- การตรวจผลงาน ใบงาน

- แบบประเมนิ พฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลและกลุ่ม

- อ่นื ๆ

2.3 การวดั และประเมินผลเมอ่ื สนิ้ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้

- แบบทดสอบก่อนเรยี น

- แบบทดสอบหลังเรยี น

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (3 ชว่ั โมง)

ชอื่ หนว่ ย กิจกรรม ช้นิ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชั่วโมง

พระสงฆ์ เร่ือง พระโสณโกฬิวสิ ะ -การเลา่ ประวตั ขิ องพระโสณโกฬิ 1

วสิ ะ

ท่คี วรยึดถือเปน็ แบบอย่าง

-การแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับ

ข้อคิดและคุณธรรมที่ควรยึดถือ

เปน็ แบบอยา่ งของพระโสณโกฬวิ ิ

สะ

-การทำใบงานท่ี 1 เร่อื ง

วเิ คราะห์คุณธรรม


ชอื่ หนว่ ย กจิ กรรม ช้นิ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชว่ั โมง
เรอ่ื ง สมเด็จพระสงั ฆราช (สา การเลน่ เกมปุจฉา–วสิ ชั นาเกี่ยวกบั
พระสงฆ์(ตอ่ ) 1

ปสุ สเทโว) พระประวัติ พระกรณียกิจ และ 1

คุณธรรมท่คี วรยึดถือเปน็ 3

แบบอย่างของสมเด็จพระสังฆราช

(สา ปสุ สฺ เทโว)

เรื่อง อาจารยเ์ สถียร โพธินันทะ -การตอบคำถามเก่ยี วกับประวัติ

ของอาจารย์เสถียร โพธนิ นั ทะ

-การแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับ

ข้อคิดและคณุ ธรรมทค่ี วรยึดถือ

เป็นแบบอย่างของอาจารยเ์ สถยี ร

โพธนิ ันทะ

-การทำใบงานท่ี 2 เร่ือง วิเคราะห์

คณุ ธรรมท่ีควรยดึ ถือเป็น

แบบอย่างของชาวพทุ ธตวั อย่าง

รวมเวลาเรียน


หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชา สงั คมศึกษา

เรอ่ื ง การปฏบิ ัตติ นดี

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 1

เวลาเรียน 8 ชวั่ โมง ผสู้ อน นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหริ ญั สกลุ

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเข้าใจทคี่ งทน

1.วดั เป็นสถานท่ีอยขู่ องพระภิกษุสามเณรและ เป็นท่ีทำบญุ ของชาวบ้าน เราเปน็ ชาวพุทธ

ควรปฏบิ ัตติ นให้ถกู ต้องเหมาะสมเมื่อไปวัด

2. ชาวพทุ ธทีด่ ีควรปฏิบัตติ นให้ถูกต้องเหมาะสมในเรือ่ งการถวายของแดพ่ ระสงฆ์ การ

ปฏิบตั ติ นในขณะฟังธรรม และการปฏิบตั ิตนตามแนวทางของพุทธศาสนิกชนเพ่อื ประโยชน์ต่อ

พระพทุ ธศาสนา

3. ชาวพุทธทด่ี คี วรปฏิบตั ิตนใหถ้ กู ต้องเหมาะสมในศาสนพิธีต่าง ๆ

4. การบริหารจติ และการเจริญปัญญาเป็นการทำจติ ใจใหส้ งบ ม่นั คง และมีความรู้ ซงึ่

สามารถทำได้หลายวธิ ี เราควรเลอื กใหเ้ หมาะสม

1.2 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั

มาตรฐาน

ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทีข่ องการเป็นพลเมอื งดี มคี า่ นยิ มที่ดงี าม และธำรง

รกั ษาประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมไทย และสังคมโลกอย่างสันติสขุ

ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จบุ นั ยดึ มัน่ ศรทั ธา และธำรง

รกั ษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ

ตวั ชีว้ ดั

ส 2.1 ป.6/5 ตดิ ตามขอ้ มูล ขา่ วสาร เหตกุ ารณต์ ่างๆ ในชวี ติ ประจำวนั เลอื กรับและ

ใชข้ ้อมูล ขา่ วสารในการเรียนรูไ้ ดเ้ หมาะสม

ส 2.2 ป.6/1 เปรยี บเทียบบทบาท หนา้ ท่ขี ององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ และรัฐบาล

ส 2.2 ป.6/2 มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมต่าง ๆ ท่สี ่งเสริมประชาธิปไตยในทอ้ งถิ่นและ

ประเทศ

ส 2.2 ป.6/3 อภปิ รายบทบาท ความสำคัญในการใช้สทิ ธอิ อกเสยี งเลือกตง้ั ตาม

ระบอบประชาธปิ ไตย


1.3 สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ชาวพทุ ธ คอื ผูน้ บั ถือพระพทุ ธศาสนา มีช่ือเรียกอีกอยา่ งหนึ่งวา่ พทุ ธศาสนิกชน มีหน้าท่ีและ

มารยาทท่ีควรปฏิบตั ิหลายประการ ขาวพทุ ธท่ีได้ควรเห็นคุณค่าของศาสนพธิ ี และหมั่นฝกึ สติและสมาธิ

เพือ่ ใหเ้ กิดผลดีในการดำเนินชีวติ ประจำวนั

1.4 สาระการเรยี นรู้

1. หน้าทช่ี าวพทุ ธ

2. มารยาทขาวพุทธ

3. ศาสนพิธี

4. การบริหารจติ และการเจริญปัญญา

1.5 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการสื่อสาร

2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

3. ความสามารถในการคดิ

4. ความสามารถในการแก้ปัญหา

5. ความสามารถกระบวนกลุ่ม

1.6 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ช่อื สัตย์สุจรติ

2. มวี ินยั

3. ใฝเ่ รียนรู้

4. มุ่งม่ันในการทำงาน

2. หลกั ฐานการเรยี นรู้

2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน

- ใบงานที่ 1 เรื่อง การปฏิบตั ติ นทถี่ ูกต้องเหมาะสมเมอ่ื อยภู่ ายในวัด

- ใบงานที่ 2 เรอื่ ง มารยาทชาวพุทธ

- ใบงานท่ี 3 เรื่อง การเขา้ ร่วมศาสนพธิ หี รือพิธกี รรมทางพระพุทธศาสนา

- ตอบคำถามความร้เู รอ่ื ง การบริหารจิตและการเจรญิ ปัญญา

2.2 การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

- การตรวจผลงาน ใบงาน

- แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบุคคลและกลุม่

- อ่ืน ๆ

2.3 การวดั และประเมนิ ผลเมอื่ สนิ้ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้

- แบบทดสอบก่อนเรยี น -แบบทดสอบหลังเรยี น


3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (8 ชว่ั โมง)

ชอื่ หนว่ ย กิจกรรม ชน้ิ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชัว่ โมง
- ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง การปฏบิ ตั ิตนที่
การปฏบิ ตั ติ นดี เร่ือง หน้าที่ชาวพุทธ ถูกตอ้ งเหมาะสมเมอื่ อยู่ภายในวดั 2
-ใบงานท่ี 2 เรื่อง มารยาทชาว 2
เรื่อง มารยาทชาวพุทธ พทุ ธ 2
เรอ่ื ง ศาสนพิธี -ใบงานที่ 3 เรื่อง การเขา้ รว่ มศา
สนพธิ หี รือพธิ ีกรรมทาง 2
เรอื่ ง การบรหิ ารจติ และการ พระพทุ ธศาสนา 8
เจริญปัญญา
-ตอบคำถามความรเู้ รือ่ ง การ
บริหารจติ และการเจริญปญั ญา

รวมเวลาเรียน


การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ
รายวชิ า สงั คมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 5 ชว่ั โมง ผสู้ อน นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหริ ญั สกลุ
__________________________________________________________________________
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเข้าใจทค่ี งทน

1. องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐบาลต่างก็มีบทบาทหน้าทเ่ี ป็นของตนเอง
2. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมประชาธิปไตย
ไดท้ กุ ขนั้ ตอน

3. การเลือกต้ังเป็นกระบวนการมีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครองทส่ี ำคัญยิ่ง เพราะเป็น
วธิ ีการทแี่ สดงออกถงึ การใช้อำนาจของประชาชน ดังน้ันทุกคนจงึ ต้องมีสว่ นร่วมในการเลือกตงั้

4. ข้อมลู ข่าวสารเป็นสิ่งที่มคี วามสำคญั ต่อคนในสังคมอย่างยิ่ง ซงึ่ ทุกคนจะต้องเลอื กรับและใช้
ขอ้ มลู ข่าวสารท่ีเหมาะสมและมปี ระโยชน์กบั ตน

1.2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน
ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทขี่ องการเป็นพลเมอื งดี มคี ่านยิ มที่ดงี าม และ

ธำรงรักษาประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยูร่ ่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอย่างสนั ติสขุ

ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปจั จบุ นั ยึดมนั่ ศรัทธา และธำรง
รักษาไว้ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข

ตวั ชีว้ ัด
ส 2.1 ป.6/5 ตดิ ตามข้อมลู ข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวัน เลือกรับและ

ใช้ข้อมลู ขา่ วสารในการเรียนรู้ไดเ้ หมาะสม
ส 2.2 ป.6/1 เปรยี บเทยี บบทบาท หนา้ ท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ และรัฐบาล
ส 2.2 ป.6/2 มีส่วนรว่ มในกจิ กรรมต่าง ๆ ทีส่ ง่ เสริมประชาธิปไตยในทอ้ งถ่ินและ

ประเทศ
ส 2.2 ป.6/3 อภปิ รายบทบาท ความสำคัญในการใช้สทิ ธอิ อกเสียงเลือกต้ังตาม

ระบอบประชาธปิ ไตย
1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

ประเทศไทยปกครองดว้ ยระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข แบ่งการ
จดั ระเบยี บบรหิ ารราชการแผ่นดินออกเป็น 3 สว่ น ไดแ้ ก่ ปกครองสว่ นสว่ นกลางท่ีดำเนินการโดย


รฐั บาล การปกครองสว่ นภมู ิภาคทด่ี ำเนนิ การโดยหน่วยงานของรัฐบาลท่ีไปประจำอยู่ในส่วนภมู ภิ าค
และการปกครองสว่ นท้องถ่ินทดี่ ำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ

1.4 สาระการเรยี นรู้
1.องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินกบั รัฐบาล
2.การมีส่วนร่วมในกิจกรรมประชาธปิ ไตย
3.การเลอื กตง้ั
4.ข้อมูลข่าวสารในชวี ิตประจำวัน
1.5 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
3. ความสามารถในการคิด
4. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5. ความสามารถกระบวนกล่มุ
1.6 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ช่ือสัตย์สจุ รติ
2. มีวินัย
3. ใฝเ่ รียนรู้
4. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- ซกั ถามความรู้เรอื่ ง องคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ กับรฐั บาล
- ซักถามความรู้เรอื่ ง การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมประชาธปิ ไตย
- ซกั ถามความรู้เรอ่ื ง การเลอื กต้ัง
- ซักถามความรเู้ รอื่ ง ข้อมลู ขา่ วสารในชีวติ ประจำวัน
2.3 การวดั และประเมนิ ผลเมอื่ สน้ิ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
- แบบทดสอบก่อนเรียน
-แบบทดสอบหลังเรยี น


3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (5 ชวั่ โมง)

ชอ่ื หนว่ ย กิจกรรม ชน้ิ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชวั่ โมง

การปกครองระบอบ เรอ่ื ง องคก์ รปกครองส่วน -ซกั ถามความรเู้ รอ่ื ง องคก์ ร 2
ประชาธิปไตยอันมี ท้องถิน่ กับรัฐบาล ปกครองส่วนท้องถิน่ กับ
พระมหากษตั ริย์ทรง รฐั บาล 1
เป็นประมุข เรื่อง การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรม
-ซักถามความรูเ้ ร่อื ง การมสี ว่ น 1
ประชาธปิ ไตย รว่ มในกจิ กรรมประชาธิปไตย 1
5
เรอื่ ง การเลอื กต้งั -ซกั ถามความรู้เร่ือง การ

เร่อื ง ข้อมูลขา่ วสารใน เลือกตั้ง
ชีวติ ประจำวัน
-ซักถามความรู้เรื่อง ขอ้ มลู ข่าวสาร

ในชวี ติ ประจำวัน

รวมเวลาเรียน


หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศึกษา

เร่ือง กฎหมายในชวี ิตประจำวัน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1

เวลาเรียน 5 ช่วั โมง ผ้สู อน นายเจตรินทร์ เธียรหริ ญั สกุล

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเขา้ ใจทคี่ งทน

กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวันของเราล้วนเกี่ยวข้องกบั กฎหมาย ดงั นัน้ เราจึงต้องรูแ้ ละ

ปฏิบตั ิตามกฎหมาย เพ่อื ให้สามารถใช้ชีวติ ในสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ

1.2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน

ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ิตนตามหน้าท่ีของการเปน็ พลเมอื งดี มคี ่านิยมที่ดงี าม และธำรง

รักษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวิตอยรู่ ่วมกันในสงั คมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันติสุข

ตัวชี้วัด

ส 2.1 ป.6/1 ปฏิบตั ติ ามกฎหมายทเ่ี กยี่ วข้องกับชีวิตประจำวันของครอบครัวและ

ชมุ ชน

1.3 สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

กฎหมายเป็นกฎ กติกา หรือข้อบงั คับของสังคมที่กำหนดให้สมาชกิ ของสังคม ทกุ คนตอ้ ง

ปฏิบัติตาม หากผู้ใดฝา่ ฝืนหรือไม่ปฏิบตั ิตามจะมีความผิดและได้รบั การลงโทษตาทไ่ี ด้กำหนดไว้ ดงั น้นั

จงึ มคี วามจำเป็นที่สมาชิกของสังคมจะต้องเรียนรู้และปฏิบัตติ ามใหถ้ ูกต้องโดยไม่อาจปฏิเสธหรือ

หลีกเล่ยี งได้ ดงั หลกั กฎหมายท่ีว่า “ความไม่รู้กฎหมายไมเ่ ป็นขอ้ แก้ตวั ”

1.4 สาระการเรยี นรู้

1.กฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกับครอบครวั

2.กฎหมายทเ่ี กีย่ วข้องกับชุมชน

1.5 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการส่ือสาร

2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

3. ความสามารถในการคิด

4. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

5. ความสามารถกระบวนกลุ่ม


1.6 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ช่ือสตั ย์สจุ ริต
2. มีวินยั
3. ใฝ่เรยี นรู้
4. ม่งุ มั่นในการทำงาน

2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงานที่ 1 เรื่อง กฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ครอบครวั
- ใบงานที่ 2 เรื่อง กฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกับชมุ ชน
2.2 การวดั และประเมนิ ผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- การตรวจผลงาน ใบงาน
- แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบุคคลและกลุ่ม
- อ่ืน ๆ
2.3 การวดั และประเมินผลเมอ่ื สนิ้ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
-แบบทดสอบหลงั เรยี น

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (5 ชว่ั โมง)

ชอ่ื หนว่ ย กจิ กรรม ช้นิ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชั่วโมง
-ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง กฎหมายท่ี
กฎหมายใน เร่ือง กฎหมายทีเ่ กี่ยวข้องกบั เก่ยี วขอ้ งกบั ครอบครัว 3
-ใบงานท่ี 2 เร่ือง กฎหมายที่
ชวี ติ ประจำวัน ครอบครัว เกยี่ วข้องกับชมุ ชน 2
เรือ่ ง กฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ งกบั
รวมเวลาเรยี น 5
ชุมชน


หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้

เร่ือง วฒั นธรรมในสงั คมไทย รายวิชา สังคมศึกษา

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1

เวลาเรยี น 5 ช่ัวโมง ผูส้ อน นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหริ ัญสกุล

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเขา้ ใจทคี่ งทน

1. วฒั นธรรม คอื สิง่ ท่ีมนษุ ยส์ ร้างข้ึน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื วัฒนธรรมทางวตั ถแุ ละ

วฒั นธรรมทไี่ ม่ใชว่ ตั ถุ ปจั จบุ ันประเทศไทยมกี ารพัฒนาในดา้ นต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ส่งผลใหว้ ฒั นธรรม

ไทยมีการเปล่ียนแปลง เราคนไทยจงึ ต้องชว่ ยธำรงรกั ษาวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ต่อไป

2. มารยาทไทย คือ กิริยาวาจาทถี่ ือวา่ สภุ าพเรยี บร้อย ถกู กาลเทศะของคนในสังคมไทย

นอกจากจะเป็นคุณสมบตั ิประจำตวั แลว้ ยงั ถอื ได้ว่าเป็นมารยาทของสังคมทีค่ นไทยได้ปฏบิ ตั ิกนั มา

3. สงั คมไทยโดยทั่วไปนอกจากจะมีคนไทยแลว้ ยังมคี นเชอื้ ชาติอ่ืนทเี่ ข้ามาอยูอ่ าศัยพร้อมกบั นำ

วัฒนธรรมดง้ั เดิมของตนเองมาผสมผสานเขา้ กับสงั คมทัว่ ทุกภาคของไทย ทำให้สงั คมไทยมวี ฒั นธรรมท่ี

หลากหลาย

1.2 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด

มาตรฐาน

ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ที่ของการเป็นพลเมอื งดี มีคา่ นยิ มท่ีดงี าม และธำรง

รกั ษาประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่รว่ มกนั ในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ติสุข

ตัวชว้ี ดั

ส 2.1 ป.6/2 วเิ คราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาและธำรงรักษา

วฒั นธรรมอันดงี าม

ส 2.1 ป.6/3 แสดงออกถงึ มารยาทไทยได้เหมาะสมถกู กาลเทศะ

ส 2.1 ป 6/4 อธิบายคุณค่าทางวฒั นธรรมที่แตกต่างกนั ระหวา่ งกลุ่มคนในสังคมไทย

1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

วฒั นธรรมอยูค่ กู่ บั สงั คมไทยมาเปน็ เวลานาน แลมีบทบาทตอ่ การเนนิ ชีวติ ประจำวนั ของเราอย่าง

มาก เปน็ สง่ิ ทีแ่ สดงถงึ ความคิด ความเชือ่ วิถชี วี ิต ขนบธรรมเนยี มประเพณี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันดีงาม

ของคนไทย

1.4 สาระการเรยี นรู้

1. วฒั นธรรม

2. มารยาทไทย

3. คณุ ค่าทางวัฒนธรรมท่ีแตกตา่ งระหวา่ งกลุ่มคนในสงั คมไทย


1.5 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
3. ความสามารถในการคิด
4. ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. ความสามารถกระบวนกลุ่ม
1.6 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. รักความเป็นไทย
4. มคี วามรบั ผดิ ชอบ

2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ซักถามความรูเ้ ร่ือง วฒั นธรรมไทย
- ซักถามความร้เู รอ่ื ง มารยาทไทย
- ซกั ถามความรู้เร่ือง คุณคา่ ทางวัฒนธรรมท่ีแตกต่างกนั ระหวา่ งกลุ่มคนในสงั คมไทย
2.2 การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- การตรวจผลงาน ใบงาน
- แบบประเมนิ พฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลและกลุม่
- อน่ื ๆ
2.3 การวดั และประเมินผลเมอ่ื สน้ิ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
- แบบทดสอบก่อนเรียน
-แบบทดสอบหลังเรียน


3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (5 ชว่ั โมง)

ชอื่ หนว่ ย กจิ กรรม ช้ินงาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ เร่ือง วัฒนธรรม ชวั่ โมง
- ซกั ถามความรเู้ รอื่ ง วัฒนธรรม
วัฒนธรรมใน ไทย 2
สังคมไทย - ซักถามความรู้เร่ือง
มารยาทไทย 2
เรอื่ ง มารยาทไทย - ซกั ถามความรเู้ รื่อง คุณค่าทาง
วัฒนธรรมทแ่ี ตกตา่ งกันระหว่าง 1
เรอ่ื ง คณุ ค่าทางวัฒนธรรมที่ กลุ่มคนในสงั คมไทย
แตกต่างระหว่างกลุม่ คนใน
สงั คมไทย

รวมเวลาเรยี น 5


หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้

เร่อื ง การผลติ สนิ คา้ และบริโภค รายวิชา สังคมศึกษา

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2

เวลาเรยี น 10 ช่วั โมง ผสู้ อน นายเจตรนิ ทร์ เธยี รหริ ญั สกลุ

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้

1.1 ความเข้าใจทค่ี งทน

1.การผลติ และการบรโิ ภคเปน็ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ข้ันพนื้ ฐานของมนุษย์ โดยการผลิต

เปน็ การนำทรัพยากรการผลติ หรือปจั จยั การผลติ มาผา่ นกระบวนการผลิตทำให้เกิดเปน็ สินคา้ และ

บรกิ าร สว่ นการบริโภคเป็นการใช้ประโยชน์จากสินค้าและบรกิ าร

2.ทรัพยากรหรือปัจจัยการผลิตที่นำมาใช้ในการผลิตสินคา้ และบริการมจี ำกดั และไม่เพยี งพอ

สำหรับผลติ สิ่งต่าง ๆ ไดท้ ้ังหมด ดงั นั้นจึงต้องมีการเลอื กและตัดสนิ ใจในการจัดสรรทรัพยากร

ที่จะนำมาใชใ้ นการผลิต

1.2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั

มาตรฐาน

ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้

ทรัพยากรทม่ี ีอยู่จำกดั ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและคุ้มค่า รวมทง้ั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง

เพอื่ การดำรงชีวิตอยา่ งมีดุลยภาพ

ตวั ชี้วัด

ส 3.1 ป.6/1 อธบิ ายบทบาทของผูผ้ ลิตท่ีมีความรับผิดชอบ

ส 3.1 ป.6/2 อธบิ ายบทบาทของผ้บู ริโภคทร่ี ู้เท่าทัน

ส 3.1 ป.6/3 บอกวิธีและประโยชน์ของการใชท้ รพั ยากรอยา่ งยั่งยนื

1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

การผลติ การบรโิ ภค และการจำแนกแจกจ่ายเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจขึ้นพ้ืนฐานของมนุษย์

โดยผลิตเป็นการนำทรัพยากรการผลิตหรอื ปัจจัยการผลิตมาผ่านกระบวนการผลติ ทำให้เกิดเป็นสนิ ค้า

และบรกิ ารเพ่ือตอบสนองความต้องการของมนุษย์ส่วนการบริโภคเปน็ การใช้ประโยชน์จากสินค้าและ

บริการ

1.4 สาระการเรยี นรู้

1. ผผู้ ลิตและผู้บริโภค

2. การใชท้ รพั ยากรอย่างยงั่ ยืน


Click to View FlipBook Version