1.5 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
3. ความสามารถในการคิด
4. ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. ความสามารถกระบวนกลุ่ม
1.6 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง
4. มจี ิตสาธารณะ
5. มีความรบั ผดิ ชอบ
2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ซักถามความรู้เรอ่ื ง ผู้ผลติ และผ้บู ริโภค
- ซักถามความรเู้ รอ่ื ง การใช้ทรพั ยากรอย่างยัง่ ยืน
2.2 การวดั และประเมนิ ผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- การตรวจผลงาน ใบงาน
- แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบุคคลและกลมุ่
- อน่ื ๆ
2.3 การวดั และประเมนิ ผลเมอ่ื สน้ิ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
-แบบทดสอบหลังเรียน
3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (10 ชวั่ โมง)
ชอื่ หนว่ ย กจิ กรรม ช้ินงาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ช่วั โมง
การผลิตสนิ คา้ และ เร่อื ง ผผู้ ลติ และผู้บรโิ ภค - ซกั ถามความรู้เรอื่ ง ผผู้ ลิตและ 5
การบริโภค ผู้บรโิ ภค
เรอ่ื ง การใช้ทรัพยากรอย่าง - ซกั ถามความรเู้ รื่อง การใช้ 5
ย่งั ยืน ทรัพยากรอยา่ งย่ังยนื 10
รวมเวลาเรยี น
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 9 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้
เรอ่ื ง การผลิตสนิ คา้ และบรโิ ภค รายวิชา สังคมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2
เวลาเรียน 12 ช่วั โมง ผสู้ อน นายเจตรินทร์ เธยี รหิรัญสกุล
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้
1.1 ความเข้าใจทค่ี งทน
1.หนว่ ยเศรษฐกิจเป็นหนว่ ยงานท่ดี ำเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ไดแ้ ก่ การผลติ การบรโิ ภค
และการจำแนกแจกจ่ายสนิ ค้าและบริการ หน่วยเศรษฐกจิ ประกอบดว้ ยครัวเรอื น ธรุ กิจ ธนาคาร และ
รฐั บาล
2.การรวมกลมุ่ กันทางเศรษฐกิจภายในทอ้ งถ่ิน ทำให้ประชาชนมีงานทำและมีอาชีพเสรมิ
ช่วยให้ครัวเรอื นมรี ายได้เพมิ่ ข้ึนเงิน
1.2 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน
ส 3.2 เขา้ ใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสัมพันธท์ างเศรษฐกิจ
และความจำเป็นของการรว่ มมือกนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก
ตวั ชว้ี ัด
ส 3.2 ป. 6/1 อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งผู้ผลิต ผบู้ รโิ ภค ธนาคาร และรฐั บาล
ส.3.2 ป. 6/2 ยกตวั อยา่ งการรวมกล่มุ ทางเศรษฐกิจภายในทอ้ งถนิ่
1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
มนษุ ยอ์ ยรู่ วมกันเปน็ สังคมเพ่ือการดำรงชวี ติ เน่ืองจากไม่มีใครสามารถผลิตสิง่ ของทกุ สิ่งทุก
อย่างท่ตี นเองต้องการได้ ดังนั้น การอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมจึงต้องมีการแบง่ บทบาทและหน้าที่กันอย่าง
ชัดเจน รวมถงึ มีการพึง่ พาอาศัยและช่วยเหลือเกี้อกูลกัน เพ่ือให้กิจกรรมทาง
1.4 สาระการเรยี นรู้
-ความสมั พันธ์ระหว่างหน่วยเศรษฐกจิ
-ความสัมพนั ธก์ ลมุ่ ทางเศรษฐกิจภายในท้องถิน่
1.5 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
3. ความสามารถในการคดิ
4. ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. ความสามารถกระบวนกลุ่ม
1.6 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
3. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
4. มีจิตสาธารณะ
2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ซกั ถามความรูเ้ ร่ือง ความสัมพนั ธ์ระหว่างหน่วยเศรษฐกจิ
- ใบความรเู้ รอ่ื ง กลมุ่ ทอผา้ บา้ นหนั ทราย (ชุมชนพึ่งตนเอง)
- ใบงานเรื่อง กลุ่มทอผา้ บา้ นหันทราย (ชุมชนพ่งึ ตนเอง)
2.2 การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- การตรวจผลงาน ใบงาน
- แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลและกลมุ่
- อ่ืน ๆ
2.3 การวดั และประเมนิ ผลเมอื่ สนิ้ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
-แบบทดสอบหลงั เรียน
3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (12 ชวั่ โมง)
ชอ่ื หนว่ ย กิจกรรม ชนิ้ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชั่วโมง
ความสัมพันธท์ าง เรอ่ื ง ความสมั พันธร์ ะหวา่ งทาง -ซกั ถามความรเู้ ร่อื ง ความสมั พันธ์ 6
เศรษฐกจิ หนว่ ยเศรษฐกจิ ระหว่างหนว่ ยเศรษฐกิจ
เรอื่ ง การรวมกลุม่ ทาง -ใบความรู้เรื่อง กลุ่มทอผ้าบา้ นหนั 6
เศรษฐกิจภายในท้องถิ่น ทราย (ชมุ ชนพึง่ ตนเอง)
-ใบงานเร่ือง กลมุ่ ทอผา้ บ้านหัน
ทราย (ชุมชนพ่งึ ตนเอง)
รวมเวลาเรียน 12
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 10 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศึกษา
เรื่อง ประเทศของเรา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2
เวลาเรยี น 11 ชัว่ โมง ผูส้ อน นายเจตรินทร์ เธียรหิรัญสกลุ
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้
1.1 ความเข้าใจทค่ี งทน
1.ประเทศไทยมลี ักษณะภูมปิ ระเทศท่หี ลากหลาย มีสภาพภูมอิ ากาศอยู่ในเขตร้อนช้ืน มี
ทรพั ยากรธรรมชาติทอี่ ดุ มสมบูรณท์ ัง้ ปา่ ไม้ ดนิ น้ำ และแร่ธาตุชนดิ ต่าง ๆ
2.ประเทศไทยมปี ระชากรมากกวา่ 60 ลา้ นคน
มีระบบเศรษฐกจิ ข้นึ อยู่กับระบบเกษตรกรรมเปน็ หลัก แต่อุตสาหกรรมและการค้า รวมถึง
ระบบคมนาคมขนสง่ ก็มคี วามเจริญก้าวหนา้ สูง มากขึน้ ในปัจจบุ นั
3.อุทกภัย วาตภัย ภยั แล้ง และแผ่นดินไหวเปน็ ปรากฏการณ์ที่เกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่ง
สง่ ผลกระทบต่อการดำรงชวี ิตและก่อใหเ้ กิด ความเสยี หายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชนชาว
ไทยเป็นอย่างมาก
4.การศกึ ษาลักษณะทางกายภาพ สงั คม และปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ ่ีเกิดข้ึนในประเทศ
ของเรา เราสามารถศึกษาได้จากเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ชนิดต่าง ๆ เชน่ ใชแ้ ผนท่ภี มู ปิ ระเทศใน
การศกึ ษาลกั ษณะภมู ิประเทศของประเทศไทย ใช้ภาพจากดาวเทยี มในการศึกษาลกั ษณะการตั้งถน่ิ
ฐานของประชากรไทย
1.2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน
ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะทางภาพของโลกและความสัมพันธข์ องสรรพส่ิงซง่ึ มผี ลต่อกนั ใช้
แผนทแี่ ละเคร่ืองมอื ทางภูมิศาสตรใ์ นการคน้ หา วิเคราะห์ และ สรปุ ขอ้ มลู ตามกระบวนการทาง
ภมู ศิ าสตร์ ตลอดจนใชภ้ ูมิสารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด
ส 5.1 ป.6/1 ใชเ้ ครอื่ งมือทางภูมิศาสตร์ (แผนที่ ภาพถ่ายชนดิ ต่าง ๆ) ระบุลกั ษณะ
สำคัญทางกายภาพและสังคม ของประเทศ
ส 5.1 ป.6/2 อธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งลักษณะทางกายภาพกบั ปรากฏการณ์ทาง
ธรรมชาตขิ องประเทศ
1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ประเทศไทยตง้ั อยภู่ ูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชยี มเี นื้อทป่ี ระมาณ 513,115
ตารางกิโลเมตร ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศหลากหลาย ภูมอิ ากาศมีฝนตกค่อนขา้ งสูง อณุ หภูมสิ ูง
ทรพั ยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ลกั ษณะทางกายภาพดงั กลา่ วทำให้พน้ื ทบี่ างบริเวณมภี ัยพบิ ัติเกิดข้นึ
เช่น อุทกภัย วาตภยั สนึ ามิดนิ ถลม่
1.4 สาระการเรยี นรู้
1. ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย
2. ลกั ษณะทางสังคมของประเทศไทย
3. ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ
1.5 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
3. ความสามารถในการคดิ
4. ความสามารถกระบวนกลุ่ม
1.6 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มคี วามรับผดิ ชอบ
4. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ซักถามความรู้เรื่อง ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย
- ซักถามความรเู้ รื่อง ลักษณะทางสังคมของประเทศไทย
- ซักถามความรูเ้ ร่ือง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
2.2 การวดั และประเมนิ ผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- การตรวจผลงาน ใบงาน
- แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบุคคลและกล่มุ
- อื่น ๆ
2.3 การวดั และประเมนิ ผลเมอื่ สน้ิ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
-แบบทดสอบหลังเรยี น
3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (11 ชว่ั โมง)
ชอื่ หนว่ ย กิจกรรม ชน้ิ งาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ช่วั โมง
เรื่อง ลักษณะทางกายภาพของ - ซักถามความรเู้ รอื่ ง ลกั ษณะทาง
ประเทศของเรา ประเทศไทย กายภาพของประเทศไทย 4
- ซกั ถามความรเู้ รื่อง ลักษณะทาง
เรอ่ื ง ลักษณะทางสงั คมของ สังคมของประเทศไทย 4
ประเทศไทย -ซักถามความรเู้ ร่อื ง ปรากฏการณ์
ทางธรรมชาติ 3
เร่ือง ปรากฏการณท์ าง
ธรรมชาติ รวมเวลาเรยี น 11
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 11 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้
เรอื่ ง สง่ิ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ รายวิชา สังคมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2
เวลาเรยี น 6 ช่วั โมง ผสู้ อน นายเจตรินทร์ เธียรหิรญั สกุล
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้
1.1 ความเขา้ ใจทคี่ งทน
1.ส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติมอี ทิ ธิพลตอ่ การสร้างสรรค์ส่งิ แวดลอ้ มทางสงั คมของมนษุ ย์ ใน
ดา้ นต่าง ๆ
2.การเปลย่ี นแปลงของสิง่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติมีผลกระทบตอ่ มนุษย์และสิ่งมีชวี ติ
ต่าง ๆ
3.ทรัพยากรธรรมชาติในชมุ ชนเปน็ สิ่งทม่ี คี ุณคา่ ควรมแี ผนการใชอ้ ย่างคุ้มคา่ และเกิด
ประโยชน์สงู สุด
1.2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน
ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ย์กบั สิง่ แวดล้อมทางกายภาพที่กอ่ ให้เกิดการ
สร้างสรรค์วถิ ีการดำเนินชวี ิตมีจติ สำนกึ และมีส่วนร่วมในการจดั การทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมเพื่อ
การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื
ตวั ชี้วดั
ส 5.2 ป.6/1 วิเคราะห์ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติกับสง่ิ แวดล้อม
ทางสงั คมในประเทศ
ส 5.2 ป.6/2 อธิบายการแปลงสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทยจากอดีตถงึ ปจั จบุ ัน
และผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการเปลย่ี นแปลงนน้ั
ส 5.2 ป.6/3 จัดทำแผนการใชท้ รัพยากรในชมุ ชน
1.3 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
กจิ กรรมทางเศรษฐกิจและสังคมของมนุษยไ์ ดร้ ับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ มนษุ ย์
ใช้ส่ิงแวดล้อมส่งผลให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงในปจั จบุ นั และสง่ ผลกระทบต่อกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และ
สงั คมมนุษย์ด้วย ทุกคนต้องช่วยกันจดั การทรัพยากรธรรมเพื่อให้ทรพั ยากรธรรมชาติมีอยู่อยา่ งยั่งยนื
1.4 สาระการเรยี นรู้
1.ความสัมพันธร์ ะหว่างสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติกบั ส่ิงแวดลอ้ มทางสังคม
2.การเปลี่ยนแปลงของสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทยและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง
จากอดตี ถงึ ปจั จุบนั
3.การจดั ทำแผนการใช้ทรัพยากรในชมุ ชน
1.5 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถใชเ้ ทคโนโลยี
3. ความสามารถในการคดิ
4. ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. ความสามารถในกระบวนกลุ่ม
1.6 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มีจิตสาธารณะ
4. มคี วามรับผิดชอบ
2. หลกั ฐานการเรยี นรู้
2.1 ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- ซักถามความรูเ้ รอ่ื ง ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาติ กบั สงิ่ แวดลอ้ ม
ทางสังคม
- ซักถามความรู้เรื่อง การเปลีย่ นแปลงของสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทย และ
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจากอดีตถงึ ปัจจบุ ัน
- ซกั ถามความร้เู รอื่ ง การจดั ทำแผนการใชท้ รัพยากรในชุมชน
2.2 การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- การตรวจผลงาน ใบงาน
- แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบุคคลและกลมุ่
- อน่ื ๆ
2.3 การวดั และประเมนิ ผลเมอ่ื สนิ้ สดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
-แบบทดสอบหลังเรียน
3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (6 ชวั่ โมง)
ชอ่ื หนว่ ย กจิ กรรม ชิ้นงาน/ภาระงาน จำนวน
การเรยี นรู้ ชว่ั โมง
สง่ิ แวดล้อมและ เรื่อง ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง - ซักถามความรเู้ รือ่ ง 3
ทรพั ยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาตกิ ับ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสง่ิ แวดล้อม
ทางธรรมชาติ กับสิง่ แวดล้อม 2
สง่ิ แวดลอ้ มทางสังคม ทางสังคม
1
เรอื่ ง การเปล่ียนแปลงของ - ซักถามความรเู้ ร่อื ง การ 6
สภาพธรรมชาติในประเทศไทย เปลี่ยนแปลงของสภาพธรรมชาติ
และผลกระทบจากการ ในประเทศไทย และผลกระทบ
เปล่ียนแปลงจากอดีตถึงปัจจบุ ัน จากการเปล่ยี นแปลงจากอดตี ถงึ
ปัจจบุ ัน
เรื่อง การจัดทำแผนการใช้ - ซกั ถามความรูเ้ รื่อง การจดั ทำ
ทรัพยากรในชมุ ชน แผนการใช้ทรพั ยากรในชมุ ชน
รวมเวลาเรียน
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1
รายวชิ า สงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 พระพทุ ธ เวลา 6 ชั่วโมง
เรื่อง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา เวลา 2 ช่วั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
ส 1.1 ป. 6/1 วิเคราะหค์ วามสำคญั ของพระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนาประจำชาติ หรือ
ความสำคัญของศาสนาทีต่ นนับถอื
2. สาระสำคัญ
พระพทุ ธศาสนามคี วามสาคญั ต่อสงั คมไทยในฐานะเป็นศาสนาประจาชาติ เพราะพระพทุ ธศาสนา
เป็นเอกลกั ษณ์ของชาตไิ ทย เป็นรากฐานและมรดกทางวฒั นธรรม เป็นศนู ยร์ วมจติ ใจของชาวพุทธ และ
เป็นหลกั ในการพฒั นาชาตไิ ทย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
- อธบิ ายความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- สอ่ื สารและเผยแผ่ความรเู้ ก่ียวกับความสำคญั ของพระพุทธศาสนาได้
3.3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
- เหน็ ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนาประจำชาติ
4. สาระการเรยี นรู้
• ความสำคญั ของพระพุทธศาสนา
1. พระพุทธศาสนาเปน็ เอกลักษณ์ของชาติไทย
2. พระพทุ ธศาสนาเป็นรากฐานและมรดกทางวฒั นธรรม
3. พระพทุ ธศาสนาเป็นศนู ยร์ วมจิตใจของชาวพทุ ธ
4. พระพทุ ธศาสนาเป็นหลกั ในการพฒั นาชาติไทย
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ - ใฝเ่ รียนรู้
- มีวินัย - มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคดิ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
ชว่ั โมงที่ 1
1. ครูใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หว้พระ นั่งสมาธิ 3 นาที และแผ่เมตตา
2. ครูแจง้ ตวั ชว้ี ัดช้นั ปีและจุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ หน้ ักเรียนทราบ
3. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรยี นซักถามขอ้ สงสัยเก่ยี วกับความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา
ทไี่ ด้รับมอบหมายไปอา่ นมา จากนน้ั ใหน้ กั เรียนดภู าพเกย่ี วกับความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา
ในฐานะเป็นเอกลกั ษณ์ของชาตไิ ทยและเป็นรากฐานและมรดกทางวัฒนธรรม เชน่ ภาพความ
เอือ้ เฟ้ือเผื่อแผ่ ภาพเกี่ยวกบั วัฒนธรรมและประเพณีทางพระพุทธศาสนา แล้วซกั ถามนกั เรยี น
ในประเด็นต่อไปน้ี
1) เปน็ ภาพเกยี่ วกับอะไร
2) ภาพดังกล่าวเก่ยี วข้องกบั พระพทุ ธศาสนาอย่างไร
5. ครสู รปุ และอธบิ ายเช่อื มโยงใหน้ กั เรียนเห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาท่ีมี
ต่อสังคมไทย
7.2 ขนั้ สอน
6. ครูตั้งประเด็นคำถามให้นักเรียนช่วยกันตอบ เช่น ศาสนาที่นับถือกันในประเทศ
สมาชิกอาเซียนมีศาสนาอะไรบ้าง ศาสนานั้น ๆ มีความสำคัญต่อประเทศนั้น ๆ อย่างไร
จากนั้นซักถามนักเรียนว่า พระพุทธ-ศาสนามีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างไร ให้นักเรียน
รว่ มกันแสดงความคดิ เห็น
7. ครสู รุปความคิดเห็นของนักเรียน จากน้นั ให้ความร้แู ก่นักเรียนเก่ียวกับความสำคัญ
ของพระพุทธ-ศาสนาเรื่อง พระพุทธศาสนาเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย และพระพุทธศาสนา
เปน็ รากฐานและมรดกทางวฒั นธรรม
8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย จากนั้นร่วมกันแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับความสำคัญของพระพุทธศาสนาเรื่อง พระพุทธศาสนาเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย
และพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานและมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อหาข้อสรุปและเสริมในส่วนที่
นกั เรียนขาด
9. ครูให้นักเรียนบันทึกสรุปความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของพระพุทธศาสนาเรื่อง
พระพุทธศาสนาเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย และพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานและมรดกทาง
วฒั นธรรมลงในสมดุ
ช่ัวโมงที่ 2
10. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรยี นท่ีได้เรยี นไปในคร้ังท่แี ล้ว จากนั้นให้ความรู้แก่
นกั เรียนเก่ยี วกับความสำคัญของพระพุทธศาสนาเรื่อง พระพทุ ธศาสนาเป็นศนู ย์รวมจิตใจชาว
พุทธและพระพุทธ-ศาสนาเป็นหลักในการพัฒนาชาตไิ ทย
11. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย จากนั้นร่วมกันแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับความสำคัญของพระพุทธศาสนาเรื่อง พระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธ
และพระพุทธศาสนาเป็นหลักในการพัฒนาชาติไทย เพ่ือหาขอ้ สรุปและเสรมิ ในส่วนท่ีนักเรียน
ขาด
12. ครูให้นักเรียนบันทึกสรุปความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของพระพุทธศาสนาเรื่อง
พระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธและพระพุทธศาสนาเป็นหลักในการพัฒนาชาติ
ไทยลงในสมุด
13. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นในประเด็นที่ว่า นอกจาก
ศลิ ปกรรมด้านต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ดา้ นสถาปตั ยกรรม ดา้ นประตมิ ากรรม และด้านจิตรกรรมแลว้ ยงั
มีส่งิ ใดอีกบ้างที่มีพระพทุ ธศาสนาเป็นรากฐานและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทย
14. ครใู ห้นักเรียนทำกจิ กรรมที่เกยี่ วกบั ความสำคัญของพระพุทธศาสนา แลว้ ช่วยกัน
เฉลยคำตอบ ที่ถูกต้อง
15. ครใู ห้นกั เรยี นหาภาพจากส่ือส่ิงพิมพต์ ่าง ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับเรื่อง ความสำคัญของ
พระพุทธศาสนา คนละ 1 ภาพ แล้วนำมาสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กันว่า ภาพดังกล่าว
สอดคล้องกบั เรือ่ งท่ีเรยี นอย่างไร
7.3 ข้นั สรปุ
16. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความร้เู กี่ยวกับความสำคญั ของพระพุทธศาสนา โดย
ให้นกั เรียนบันทกึ ข้อสรุปลงในแบบบนั ทึกความรู้ หรือสรปุ เป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโนทัศน์
ลงในสมุด พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม
17. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติเรื่อง สรุปพุทธประวัติ
ปลงอายุสงั ขาร และปัจฉิมสาวก เป็นการบา้ นเพื่อเตรียมจัดการเรียนรู้ในครง้ั ตอ่ ไป
8. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1.หนงั สือเรียนวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.6
2.PowerPoint เรือ่ ง พระพุทธ
8.2 แหล่งเรยี นรู้
1.ห้องสมดุ
9. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรียน
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้ - ใบงาน - ใบงาน เกณฑ์ผ่าน ร้อยละ 70
จากคะแนนจากการตร
วจใบงานแต่ละกิจกรรม
2.ทกั ษะ/ 1. สังเกตพฤติกรรม 1.แบบสงั เกตพฤติ ระดับคุณภาพ
กระบวนการ การปฏิบตั งิ านรายบคุ คล กรรมการปฏิบตั ิงานรา การประเมนิ การปฏบิ ัตงิ
2. สงั เกตพฤติกรรม ยบคุ คล านรายบคุ คลและกระบ
การปฏิบัติงานกลมุ่ วนการ
การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ต่อ)
สง่ิ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การวดั ผล
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลมุ่ เกณฑ์ผา่ น
มการปฏบิ ตั ิงานกลุ่ม ในระดบั 2 ขึน้ ไป
3. คณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมคุณลักษ แบบประเมนิ - คะแนนการประเมิน
อันพึงประสงค์ ณะอันพงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ เกณฑ์ผ่านระดบั 3
(ใหร้ ะบุพฤติกรรม) อนั พงึ ประสงค์ ข้นึ ไป
4. สมรรถนะ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑ์การตดั สิน
สำคญั ของผู้เรยี น - ความสามารถในการ สำคญั ของผู้เรยี น ผา่ น ในระดับ 3 ขน้ึ ไป
ส่อื สาร
- ความสามารถในการคดิ
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สง่ิ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ผ้สู อน
(...............................................)
12. ขอ้ คิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................. .................................
ลงช่ือ...............................................................
(....................................................)
หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู.้ ...........................................................................
13. ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
...............................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ...............................................................
(....................................................)
ผชู้ ่วยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ัตกิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผู้อำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
⬜ เห็นสมควรอนุมตั ิให้ใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน
⬜ เหน็ สมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใช้ในการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................................................. ................................
ลงชือ่ ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ
การอนมุ ตั จิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนมุ ัติให้ใช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ช้ในการจดั การเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวลั ย์ สมฤทธ์ิ)
ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เวลา 2 ชว่ั โมง
รายวชิ า สงั คมศกึ ษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
เรอื่ ง ความสำคญั ของพระพุทธศาสนา
1. จำนวนนกั เรยี นทสี่ อน จำนวนนกั เรียน (คน)
ระดบั ชนั้ 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทกึ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................................. ..............................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
............................................................................................................................................. ...................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเน้ือหา
3. ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของส่ือการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมสี ว่ นรว่ มของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรียน
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
........................................................................................................... ......................................................
............................................................................................................................. ....................................
..............................................................................................................................................................
ลงชือ่ ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้..............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผ้อู ำนวยการฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอ่ื ........................................................
(นางวิลาวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จงั หวัดพะเยา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหัสวชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 พระพทุ ธ เวลา 6 ชัว่ โมง
เรื่อง สรุปพทุ ธประวตั ิ เวลา 2 ช่วั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
ส 1.1 ป. 6/2 สรุปพุทธประวัติตงั้ แต่ปลงอายุสังขารจนถึงสงั เวชนียสถาน หรือประวตั ิศาสดา
ท่ตี นนับถือตามท่ีกำหนด
2. สาระสำคัญ
พุทธประวตั ิ คอื ประวตั ขิ องพระพุทธเจา้ การศกึ ษาพทุ ธประวตั ติ งั้ แต่ปลงอายุสงั ขารจนถงึ สงั เวช-
นียสถาน 4 จะช่วยให้เกดิ ศรทั ธาในพระพุทธศาสนา และสามารถนาพระจรยิ วตั รของพระพุทธเจา้ มา
เป็นแบบอยา่ งในการดาเนนิ ชวี ติ ได้
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
- เล่าพทุ ธประวตั ติ ง้ั แต่ปลงอายุสงั ขารจนถึงสงั เวชนียสถาน 4 ได้อย่างถกู ต้อง
3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- มคี วามสนใจอยากศึกษาพทุ ธประวัติ
3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
- สืบค้นขอ้ มลู เกยี่ วกับพุทธประวัติและเลา่ พุทธประวตั ิให้คนอืน่ ฟงั ได้อย่างถูกต้อง
4. สาระการเรยี นรู้
• พทุ ธประวัติ
1. สรุปพทุ ธประวัติ
2. ปลงอายสุ ังขาร
3. ปัจฉมิ สาวก
4. ปรินพิ พาน
5. ถวายพระเพลิง
6. แจกพระบรมสารรี ิกธาตุ
7. สงั เวชนยี สถาน 4
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ - ใฝ่เรยี นรู้
- มีวินัย - ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคิด
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
ชัว่ โมงที่ 1
1. ครูใหน้ ักเรียนสวดมนตไ์ หว้พระ นงั่ สมาธิ 3 นาที และแผ่เมตตา
2. ครแู จ้งตัวชว้ี ัดชน้ั ปีและจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้นักเรยี นทราบ
3. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับพทุ ธประวัติทีไ่ ด้รับมอบหมายไป
อ่านมา จากนั้นให้นักเรียนเล่นเกมตอบคำถามเกี่ยวกับพุทธประวัติที่ได้เรียนรู้มาแล้ว โดยให้
นักเรียนตอบคำถามจากบัตรคำถามท่ีเกี่ยวกับพุทธประวัติที่ครูถาม ใครตอบได้ให้ยกมือขึ้น
ตอบ คนที่ตอบคำถามถูกมากที่สุดเป็นผู้ชนะ ครูสรุปและกล่าวชมเชยหรือให้รางวัลแก่ผู้ชนะ
7.2 ขน้ั สอน
4. ครนู ำภาพพทุ ธประวตั ิมาให้นักเรียนดู แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันตอบวา่ เปน็ ภาพพุทธ
ประวัติตอนใด หรืออาจให้นักเรียนช่วยกันเล่าเรื่องจากภาพ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันแสดง
ความคิดเห็นว่า หลักมัชฌิมาปฏิปทา (ข้อปฏิบัติทางสายกลาง) ที่พระสิทธัตถะทรงใช้ในการ
บำเพ็ญเพียรจนได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ากับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเหมือนหรือ
ตา่ งกันอย่างไร และนกั เรยี นจะนำหลักการดังกล่าวมาประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั อยา่ งไร
5. ครใู ห้ความรู้แก่นกั เรียนเกยี่ วกับพทุ ธประวตั เิ ร่อื ง สรปุ พุทธประวตั ิ ปลงอายสุ ังขาร
และปจั ฉิม-สาวก
6. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ 3 กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทน 1 คน ออกมาจับสลากเลือก
เรื่องเกย่ี วกบั พุทธประวัติ กล่มุ ละ 1 เร่อื ง จากเรื่องตอ่ ไปน้ี
1) สรุปพทุ ธประวตั ิ
2) ปลงอายุสังขาร
3) ปัจฉิมสาวก
7. ครใู หแ้ ต่ละกลุม่ ต้ังประเด็นคำถามจากเร่ือง และถามเพื่อนต่างกลุ่มให้ช่วยกันตอบ
โดยครอู าจเพ่ิมเติมคำถาม เช่น พุทธประวตั ิคืออะไร การปลงอายุสงั ขารของพระพุทธเจ้ามีผล
เป็นอย่างไร ใครเปน็ สาวกองค์สดุ ทา้ ยของพระพทุ ธเจา้
8. ครูกล่าวชมเชยนักเรียนแต่ละกลุ่ม และช่วยสรุปเพิ่มเติมในสิ่งที่นักเรียนขาดหรือ
ยงั ไม่เขา้ ใจ
9. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติเรื่อง ปรินิพพาน ถวาย
พระเพลิง แจกพระบรมสารีริกธาตุ และสังเวชนียสถาน 4 เป็นการบ้านเพื่อเตรียมจัดการ
เรียนรใู้ นคร้งั ต่อไป
ชั่วโมงท่ี 2
10. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ จากเรื่อง ปรินิพพาน ถวายพระ
เพลิง แจกพระ-บรมสารีริกธาตุ และสังเวชนียสถาน 4 โดยครูตอบข้อสงสัยและอธิบาย
เพมิ่ เติม
11. ครูให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับพุทธประวัติเรื่อง ปรินิพพาน ถวายพระเพลิง
แจกพระบรมสารรี ิกธาตุ และสังเวชนียสถาน 4
12. ครูแบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน 1 คน ออกมาจับสลาก
เลือกเรอ่ื งเกยี่ วกบั พทุ ธประวตั ิ กลุ่มละ 1 เร่ือง จากเรอื่ งตอ่ ไปนี้
1) ปรนิ ิพพาน
2) ถวายพระเพลิง
3) แจกพระบรมสารีริกธาตุ
4) สังเวชนยี สถาน 4
13. ครูให้แต่ละกลุ่มตั้งประเด็นคำถามจากเรื่อง และถามเพื่อนต่างกลุ่มให้ช่วยกัน
ตอบ โดยครูอาจเพิ่มเติมคำถาม เช่น พระบรมสารีริกธาติคืออะไร ทำไมเมืองต่าง ๆ จึง
ต้องการพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐานไว้ในเมืองของตน สังเวชนยี สถาน 4 มีความสำคัญ
ต่อชาวพทุ ธอยา่ งไร
14. ครกู ล่าวชมเชยนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ และชว่ ยสรุปเพิม่ เตมิ ในสงิ่ ท่นี ักเรยี นขาดหรือ
ยงั ไม่เข้าใจ
15. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและ
การนำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือ
เปน็ กลุม่
7.3 ขัน้ สรปุ
16. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง พุทธประวัติ โดยให้นักเรียนบันทึก
ข้อสรุปลงในแบบบนั ทกึ ความรู้ หรือสรุปเป็นแผนที่ความคิดหรือผงั มโนทัศน์ลงในสมุด พร้อม
ตกแต่งให้สวยงาม
17. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับชาดกเรื่อง ทีฆีติโกสลชาดก เป็น
การบา้ นเพอื่ เตรยี มจัดการเรยี นรูใ้ นคร้งั ต่อไป
8. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี นวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.6
2.PowerPoint เรอ่ื ง พระพุทธ
8.2 แหล่งเรียนรู้
1.ห้องสมดุ
9. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรยี น
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สง่ิ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้ - ใบงาน - ใบงาน เกณฑผ์ า่ น ร้อยละ 70
จากคะแนนจากการตร
วจใบงานแตล่ ะกจิ กรรม
2.ทกั ษะ/ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1.แบบสงั เกตพฤติ ระดับคุณภาพ
กระบวนการ การปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล กรรมการปฏบิ ตั งิ านรา การประเมินการปฏบิ ตั งิ
2. สังเกตพฤติกรรม ยบุคคล านรายบคุ คลและกระบ
การปฏบิ ตั ิงานกลุ่ม วนการ
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลุ่มเกณฑผ์ ่าน
มการปฏบิ ตั ิงานกลุ่ม ในระดับ 2 ข้ึนไป
3. คุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมคุณลักษ แบบประเมนิ - คะแนนการประเมนิ
อนั พึงประสงค์ ณะอันพึงประสงค์ คุณลกั ษณะ เกณฑผ์ ่านระดับ 3
(ใหร้ ะบุพฤติกรรม) อนั พึงประสงค์ ขน้ึ ไป
4. สมรรถนะ สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑก์ ารตดั สิน
สำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการ สำคญั ของผู้เรียน ผ่าน ในระดบั 3 ขนึ้ ไป
ส่อื สาร
- ความสามารถในการ
คดิ
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่อื ...............................................................ผูส้ อน
(...............................................)
12. ขอ้ คิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................. .................................
ลงชือ่ ...............................................................
(....................................................)
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนร้.ู ...........................................................................
13. ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. ..............................................................
ลงชือ่ ...............................................................
(....................................................)
ผูช้ ่วยผอู้ ำนวยการกลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ
การอนมุ ัตกิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคิดเห็นของรองผ้อู ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
....................................................................................................................................... .......................
⬜ เห็นสมควรอนุมตั ใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ เหน็ สมควรไมอ่ นุมัติใหใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................................................. ................................
ลงช่อื ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผู้อำนวยการโรงเรียนฝา่ ยบริหารวชิ าการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมตั ิใหใ้ ช้ในการจดั การเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ัติให้ใช้ในการจดั การเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
................................................................................................................ ..............................................
ลงช่ือ.......................................................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เวลา 2 ชวั่ โมง
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
เรอ่ื ง สรปุ พทุ ธประวัติ
1. จำนวนนักเรยี นทส่ี อน จำนวนนกั เรียน (คน)
ระดบั ชนั้ 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทกึ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ..................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................... .....
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
........................................................................................................................................ .........................
.......................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.......................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ ...................................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเนื้อหา
3. ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงช่ือ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ........................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3
รายวชิ า สังคมศกึ ษา รหัสวชิ า ส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ระดบั ชั้น ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 พระพทุ ธ เวลา 6 ชวั่ โมง
เร่อื ง ชาดก เวลา 2 ชว่ั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
ส 1.1 ป. 6/3 เห็นคุณค่าและประพฤตติ นตามแบบอยา่ งการดำเนนิ ชีวิตและข้อคดิ จาก
ประวัตสิ าวก ชาดก เร่อื งเลา่ และศาสนิกชนตวั อย่างตามที่กำหนด
2. สาระสำคญั
ชาดก คอื เร่อื งราวทเ่ี ก่ยี วกบั อดตี ชาตขิ องพระพุทธเจ้า ก่อนทพ่ี ระองค์จะประสูติและตรสั รเู้ ป็น
พระพุทธเจ้าในชาติสุดทา้ ย ทฆี ตี โิ กสลชาดกให้ขอ้ คดิ เก่ยี วกบั การไม่จองเวร และสพั พทาฐชิ าดกให้
ขอ้ คดิ เก่ยี วกบั คนทม่ี อี านาจไม่ควรลุ่มหลงมวั เมาในอานาจ ซ่งึ ขอ้ คดิ เหล่าน้ีสามารถนาไปประพฤติ
ปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจาวนั ได้
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
- อธิบายเรอื่ งราวเก่ยี วกับทฆี ีติโกสลชาดกและสพั พทาฐชิ าดกได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- วิเคราะห์ขอ้ คดิ จากทฆี ีติโกสลชาดกและสัพพทาฐชิ าดก และนำข้อคดิ ดงั กล่าวไป
ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
3.3 ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
- เห็นคุณคา่ ของทฆี ีตโิ กสลชาดกและสัพพทาฐิชาดก
4. สาระการเรยี นรู้
• ชาดก
1. ทีฆตี ิโกสลชาดก
2. สพั พทาฐิชาดก
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ - ใฝเ่ รียนรู้
- มวี ินัย - ม่งุ ม่ันในการทำงาน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคดิ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
ชัว่ โมงท่ี 1
1. ครูใหน้ กั เรยี นสวดมนตไ์ หว้พระ นั่งสมาธิ 3 นาที และแผ่เมตตา
2. ครูแจง้ ตวั ชี้วัดชนั้ ปแี ละจุดประสงค์การเรยี นรูใ้ ห้นักเรียนทราบ
3. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสัยต่าง ๆ จากเร่อื ง ทฆี ตี ิโกสลชาดก ที่ได้รับ
มอบหมายให้ไปอ่านมา โดยครตู อบขอ้ สงสัยและอธบิ ายเพม่ิ เติม
4. ครูสนทนาซักถามนักเรียนเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า กว่าที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้เป็น
พระพุทธเจ้าได้นั้น พระองค์ต้องบำเพ็ญเพียรหลายร้อยชาติ เราเรียกเรื่องราวที่มีความ
เกีย่ วขอ้ งกับพระพุทธเจ้าในชาตติ ่าง ๆ ว่า ชาดก จากน้นั เชือ่ มโยงไปส่เู น้อื หาที่จะเรียน
7.2 ข้นั สอน
5. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า ชาดกเป็นเรื่องราวที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เทศน์สอน
พระภกิ ษุและพทุ ธศาสนิกชนท่วั ไป ชาดกมจี ำนวนหลายรอ้ ยเรอื่ ง แตใ่ นช้นั น้ีมสี อนแค่ 2 เรื่อง
คอื ทีฆตี ิโกสลชาดกและสพั พทาฐิชาดก
6. ครูเลา่ เรอ่ื งประกอบภาพเกย่ี วกับทีฆีติโกสลชาดกให้นกั เรยี นฟัง
7. ครอู าสาสมัครนกั เรียน 3 คน ใหอ้ อกมชว่ ยกนั าเลา่ เรือ่ ง ทฆี ีตโิ กสลชาดก ให้เพื่อน
ฟังหนา้ ชั้นเรยี นเพ่ือเป็นการทบทวน
8. ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันคิดว่า ทีฆตี ิโกสลชาดกให้ข้อคิดเกีย่ วกบั เร่ืองอะไร จากนั้นครู
และนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเรอ่ื ง ทฆี ตี โิ กสลชาดก แลว้ ใหน้ ักเรยี นบนั ทึกลงในสมุด
9. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับชาดกเรื่อง สัพพทาฐิชาดก เป็น
การบ้านเพอ่ื เตรยี มจดั การเรียนรู้ในคร้งั ต่อไป
ชั่วโมงท่ี 2
10. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนซกั ถามข้อสงสัยตา่ ง ๆ จากเร่อื ง สัพพทาฐชิ าดก ทไ่ี ดร้ ับ
มอบหมายใหไ้ ปอา่ นมา โดยครูตอบข้อสงสัยและอธิบายเพม่ิ เตมิ
11. ครเู ลา่ เรอื่ งประกอบภาพเกีย่ วกบั สัพพทาฐิชาดกให้นักเรียนฟงั
12. ครูอาสาสมัครนักเรียน 3 คน ให้ออกมาช่วยกันเล่าเรื่อง สัพพทาฐิชาดก ให้
เพ่อื นฟังหน้าช้นั เรยี นเพื่อเปน็ การทบทวน
13. ครูให้นักเรียนช่วยกันคิดว่า สัพพทาฐิชาดกให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องอะไร จากนั้น
ครูให้นักเรียนช่วยกันสืบค้นหรือสำรวจข้อมูลวา่ ศาสนาอื่น ๆ ที่นับถือกันในประเทศอาเซียน
เช่น ศาสนาอิสลาม คริสต์ศาสนา มีเรื่องราวที่มีลักษณะคล้ายกับชาดกของพระพุทธศาสนา
หรอื ไม่ รวบรวมขอ้ มูลไว้สำหรับจดั ป้ายนิเทศรว่ มกันในชนั้ เรยี น
14. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปเรื่อง สัพพทาฐชิ าดก แลว้ ให้นักเรยี นบนั ทกึ ลงในสมดุ
15. ครูให้นกั เรยี นทำใบงานเร่อื ง ขอ้ คิดจากชาดก แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบที่ถูกตอ้ ง
16. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและ
การนำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤตกิ รรมในการทำงานเป็นรายบุคคล
17. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ว่า การศึกษาทีฆีติโกสล
ชาดกนักเรียน ได้ข้อคิดอะไรบ้าง และจะนำข้อคิดนั้นไปประยุกต์ใช้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
อยา่ งไร
18. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมท่เี ก่ยี วกบั ชาดก แลว้ ช่วยกนั เฉลยคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง
7.3 ขั้นสรปุ
19. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ชาดก โดยให้นักเรียนบันทึกข้อสรุปลง
ในแบบบันทกึ ความรู้ หรือสรปุ เป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโนทัศนล์ งในสมุด พร้อมตกแต่งให้
สวยงาม
20. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี นและชว่ ยกันเฉลยคำตอบท่ถี กู ต้อง
21. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบทดสอบการวัดและประเมินผลการเรียนร้ปู ระจำหน่วยการ
เรียนรู้ที่ 1 ในแบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป. 6 ของ
บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ด้านความรู้ ด้านคุณธรรม
จริยธรรม และคา่ นิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการของนักเรยี น
22. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 พระธรรม เรื่อง
พระรัตนตรัย เปน็ การบ้านเพ่ือเตรยี มจดั การเรียนรู้ในคร้งั ตอ่ ไป
8. สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1.หนงั สือเรียนวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.6
2.PowerPoint เร่อื ง พระพทุ ธ
8.2 แหลง่ เรยี นรู้
1.หอ้ งสมุด
9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรียน
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สง่ิ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้
- ใบงาน - ใบงาน เกณฑ์ผ่าน ร้อยละ 70
2.ทกั ษะ/
กระบวนการ จากคะแนนจากการตร
3. คณุ ลักษณะ วจใบงานแต่ละกจิ กรรม
อนั พึงประสงค์
4. สมรรถนะ 1. สังเกตพฤติกรรม 1.แบบสงั เกตพฤติ ระดบั คุณภาพ
สำคญั ของผู้เรียน
การปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล กรรมการปฏบิ ัตงิ านรา การประเมนิ การปฏิบัติง
2. สงั เกตพฤติกรรม ยบคุ คล านรายบุคคลและกระบ
การปฏบิ ัติงานกล่มุ วนการ
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น
มการปฏบิ ัติงานกลุ่ม ในระดับ 2 ข้ึนไป
สังเกตพฤตกิ รรมคุณลักษ แบบประเมนิ - คะแนนการประเมิน
ณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะ เกณฑผ์ า่ นระดับ 3
(ให้ระบุพฤติกรรม) อนั พึงประสงค์ ขนึ้ ไป
สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑก์ ารตัดสนิ
- ความสามารถในการ สำคญั ของผูเ้ รยี น ผา่ น ในระดบั 3 ข้ึนไป
สอ่ื สาร
- ความสามารถในการ
คิด
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ...............................................................ผูส้ อน
(...............................................)
12. ขอ้ คดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................. .................................
ลงช่อื ...............................................................
(....................................................)
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนร.ู้ ...........................................................................
13. ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ
...................................................................................................................................... ........................
.......................................................................................................... .....................................................
ลงชอ่ื ...............................................................
(....................................................)
ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
........................................................................................................................................ ......................
⬜ เห็นสมควรอนมุ ตั ใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ เห็นสมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................................................. ................................
ลงชอื่ ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมัตใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
........................................................................................................ ......................................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จงั หวัดพะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เวลา 2 ชว่ั โมง
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6
เรอื่ ง ชาดก
1. จำนวนนกั เรยี นทส่ี อน จำนวนนกั เรียน (คน)
ระดบั ชนั้ 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทึกผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ .......
........................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................................. ..............................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
............................................................................................................................................. ...................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเน้ือหา
3. ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของส่ือการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมสี ว่ นรว่ มของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรียน
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ ิเทศ
............................................................................................................ .....................................................
............................................................................................................................. ....................................
..............................................................................................................................................................
ลงชือ่ ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอ่ื ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 4
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 พระธรรม เวลา 8 ชวั่ โมง
เรอื่ ง หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 2 ชว่ั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
ส 1.1 ป. 6/4 วเิ คราะหค์ วามสำคญั และเคารพพระรัตนตรยั ปฏิบตั ติ ามไตรสกิ ขาและ
หลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรอื หลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนบั ถือตามที่กำหนด
2. สาระสำคญั
ชาวพุทธควรใหค้ วามเคารพในพระรตั นตรยั คอื พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ และปฏบิ ตั ติ น
ให้ถูกต้องตามหลกั ศรทั ธา 4 พุทธกจิ 5 อรยิ สจั 4 หลกั กรรม และไตรสกิ ขา รวมทงั้ ปฏบิ ตั ติ นตาม
หลกั ธรรมเรอ่ื ง โอวาท 3 ทงั้ น้ีกเ็ พ่อื ใหเ้ กดิ ความสุขและสามารถอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมไดอ้ ย่างสมานฉนั ท์
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
- อธบิ ายความหมาย ประเภท และความสำคัญของพุทธกจิ 5 อรยิ สัจ 4 หลกั กรรม
ไตรสิกขา และโอวาท 3 ได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- ส่ือสารและนำหลักธรรมเรื่อง ไตรสกิ ขา โอวาท 3 มาปฏิบัตหิ รอื ประยุกตใ์ ช้ใน
ชีวติ ประจำวันได้
3.3 ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
- เหน็ คุณคา่ ของพระรัตนตรัย พทุ ธกจิ 5 อรยิ สัจ 4 หลักกรรม ไตรสิกขา และโอวาท 3
4. สาระการเรยี นรู้
• พระรัตนตรยั
1. ศรัทธา 4
2. พุทธกิจ 5
3. อรยิ สจั 4
4. หลกั กรรม
5. ไตรสิกขา
• หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
1. โอวาท 3
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ - ใฝเ่ รียนรู้
- มวี นิ ัย - มุ่งมั่นในการทำงาน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคดิ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
ชัว่ โมงท่ี 1
1. ครูให้นักเรยี นสวดมนตไ์ หว้พระ น่ังสมาธิ 3 นาที และแผ่เมตตา
2. ครแู จง้ ตัวชว้ี ดั ชั้นปแี ละจุดประสงค์การเรยี นรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ
3. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน
4. ครูซักถามนักเรียนว่า เราสวดมนต์ไหว้พระเพื่ออะไร ให้นักเรียนร่วมกันแสดง
ความคิดเห็น
5. ครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า เราสวดมนต์ไหว้พระเพื่อระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ จากนั้นเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยต่าง ๆ
จากเรื่อง พระรัตนตรัย ที่ได้รับมอบหมายให้ไปอ่านมา โดยครูตอบข้อสงสัยและอธิบาย
เพ่ิมเตมิ แลว้ สรปุ ความรเู้ พื่อเช่อื มโยงไปสเู่ นอื้ หาท่จี ะเรียน
7.2 ข้ันสอน
6. ครูใหน้ กั เรยี นดูภาพพระพุทธ ภาพพระธรรม และภาพพระสงฆ์ แล้วใหน้ ักเรียน
รว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ภาพแตล่ ะภาพ ดังนี้
1) พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์มีความสำคัญต่อเราอยา่ งไร
2) เราควรปฏบิ ตั ิตนต่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆอ์ ยา่ งไร
7. ครูสังเกตพฤติกรรมการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน และหลังจากแสดงความ
คิดเห็นครบ ทุกประเดน็ แลว้ ครใู หน้ กั เรยี นบนั ทกึ ความร้ทู ่ีได้รบั ลงในแบบบนั ทึกความรู้
8. ครูให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกบั พระรัตนตรัยเร่ือง ศรัทธา 4 พุทธกิจ 5 อริยสจั
4 หลกั กรรม และไตรสิกขา
9. ครูให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 6–8 คน แต่ละกล่มุ นัง่ เป็นรูปวงกลม แลว้ สนทนา
รอบวงเกี่ยวกับศรัทธา 4 พุทธกิจ 5 อริยสัจ 4 หลักกรรม และไตรสิกขาโดยครูคอยให้
ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม
10. ครูแสดงภาพบุคคลที่ได้รับผลตามหลักกรรม คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ให้
นกั เรยี นดู
11. ครูตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อหาคำตอบ
ดังนี้
1) บคุ คลในภาพทำกรรมอะไร และมผี ลเป็นอย่างไร
2) นักเรยี นมีความคิดเห็นอย่างไรเกย่ี วกับการกระทำของบุคคลในภาพ
3) นักเรียนเชื่อเรื่อง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วหรือไม่ ถ้าเชื่อ อะไรที่ทำให้
นกั เรยี นเชอ่ื เช่นนนั้ ถา้ ไม่เชอ่ื เพราะอะไร
12. ครูสรุปผลการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน จากนั้นอาสาสมัครนักเรียน
ออกมาเลา่ เรือ่ ง หลักกรรม ท่เี กดิ ข้นึ กับบคุ คลท่ตี นเองรู้จัก ใหเ้ พือ่ นฟงั ในชน้ั เรียน
13. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟัง โดยครู
คอยให้คำแนะนำท่ถี กู ตอ้ ง
14. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับพระรัตนตรัยเรื่อง ศรัทธา 4 พุทธกิจ 5
อริยสจั 4 หลักกรรม และไตรสกิ ขา แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง
15. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนอ่านเน้ือหาเกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเร่ือง
โอวาท 3 (การไม่ทำความชั่ว: เบญจศีล อบายมุข 6 และอกุศลมูล 3) เป็นการบ้านเพื่อ
เตรยี มจัดการเรยี นร้ใู นครง้ั ตอ่ ไป
ชั่วโมงท่ี 2
16. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับโอวาท 3 เรื่อง การทำความดี และหลักธรรมที่
เกยี่ วข้อง ได้แก่ เบญจธรรม กศุ ลมลู 3 พละ 4 และคารวะ 6
17. ครูให้ความรู้แก่นกั เรียนเก่ียวกับโอวาท 3 เรื่อง การทำความดี และหลักธรรมท่ี
เกี่ยวข้อง ได้แก่ ความกตัญญูกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ และมงคล 38 (มีวินัย การงานไม่มี
โทษ ไมป่ ระมาทในธรรม)
18. ครูให้นักเรียนสร้างคำถามคนละ 1 คำถาม ลงในแบบบันทึกข้อมูลการสร้าง
คำถามและคำตอบของนกั เรียนเพ่อื ถามเพือ่ น ๆ ในชน้ั เรียน
19. ครูสุ่มคำถามของนักเรียนคนใด ให้นักเรียนคนนั้นลุกขึ้นถามคำถามให้เพื่อน
ช่วยกนั ตอบ แลว้ ชว่ ยกันเฉลยคำตอบที่ถูกตอ้ ง
20. ครูอธิบายสรุปการปฏิบัติตนตามหลักธรรมโอวาท 3 จากภาพและพฤติกรรมท่ี
นักเรียนเล่า เพื่อเชื่อมโยงให้นักเรียนเห็นถึงผลดีที่เกิดจากการปฏบิ ัติ จากนั้นครูให้ความรู้
เสริมแก่นักเรียนว่า ปัญจศีลาไม่ใช่เบญจศีลในพระพุทธศาสนา โดยปัญจศีลา คือ เครื่องมือ
ทางสังคมที่คิดขึ้นโดยประธานาธิบดีซูการ์โน ใน ค.ศ. 1945 เพื่อสร้างเอกภาพในหมู่คน
อินโดนเี ซยี ทสี่ ะท้อนหลักปฏบิ ัติของศาสนาอิสลาม 5 ประการ ดงั น้ี
1) เช่อื ในพระเป็นเจา้ ผทู้ รงพลานภุ าพเพียงพระองคเ์ ดยี ว
2) หลักมนษุ ยธรรมทม่ี ีอารยะและยตุ ิธรรม
3) อนิ โดนีเซยี ที่เปน็ เอกภาพ
4) ประชาธิปไตยท่นี ำทางโดยภูมิปัญญาและการมผี ้แู ทน
5) ความยตุ ธิ รรมในสงั คมสำหรับชาวอินโดนีเซียทกุ คน
21. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและ
การนำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือ
เปน็ กลุ่ม
7.3 ข้นั สรปุ
22. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยให้
นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ สรุปลงในแบบบันทึกความรู้ หรือสรปุ เปน็ แผนทีค่ วามคิดหรือผังมโนทัศน์ลง
ในสมดุ พรอ้ มตกแต่ง ให้สวยงาม
23. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเน้ือหาเกย่ี วกบั พุทธศาสนสุภาษิตบทว่า สจเฺ จน กิตฺ
ตึ ปปฺโปติ (สัจเจนะ กิตติง ปัปโปติ): คนได้เกียรติด้วยสัจจะ เป็นการบ้านเพื่อเตรียมจัดการ
เรยี นรใู้ นคร้งั ต่อไป
8. สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1.หนังสอื เรยี นวิชาสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.6
2.PowerPoint เรื่อง พระธรรม
8.2 แหลง่ เรยี นรู้
1.หอ้ งสมุด
9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรียน
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สง่ิ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้
- ใบงาน - ใบงาน เกณฑ์ผ่าน ร้อยละ 70
2.ทกั ษะ/
กระบวนการ จากคะแนนจากการตร
3. คณุ ลักษณะ วจใบงานแต่ละกจิ กรรม
อนั พึงประสงค์
4. สมรรถนะ 1. สังเกตพฤติกรรม 1.แบบสงั เกตพฤติ ระดบั คุณภาพ
สำคญั ของผู้เรียน
การปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล กรรมการปฏบิ ัตงิ านรา การประเมนิ การปฏิบัติง
2. สงั เกตพฤติกรรม ยบคุ คล านรายบุคคลและกระบ
การปฏบิ ัติงานกล่มุ วนการ
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น
มการปฏบิ ัติงานกลุ่ม ในระดับ 2 ข้ึนไป
สังเกตพฤตกิ รรมคุณลักษ แบบประเมนิ - คะแนนการประเมิน
ณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะ เกณฑผ์ า่ นระดับ 3
(ให้ระบุพฤติกรรม) อนั พึงประสงค์ ขนึ้ ไป
สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑก์ ารตัดสนิ
- ความสามารถในการ สำคญั ของผูเ้ รยี น ผา่ น ในระดบั 3 ข้ึนไป
สอ่ื สาร
- ความสามารถในการ
คิด
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ...............................................................ผูส้ อน
(...............................................)
12. ขอ้ คดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................. .................................
ลงช่อื ...............................................................
(....................................................)
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนร.ู้ ...........................................................................
13. ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ
...................................................................................................................................... ........................
.......................................................................................................... .....................................................
ลงชอ่ื ...............................................................
(....................................................)
ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
........................................................................................................................................ ......................
⬜ เห็นสมควรอนมุ ตั ใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ เห็นสมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................................................. ................................
ลงชอื่ ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมัตใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
........................................................................................................ ......................................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จงั หวัดพะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เวลา 2 ชว่ั โมง
รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6
เรอ่ื ง หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา
1. จำนวนนักเรยี นทส่ี อน จำนวนนกั เรยี น (คน)
ระดบั ชน้ั 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทกึ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
..................................................................................................................................................... ..........
........................................................................................................................ ........................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................................. ..............................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
............................................................................................................................................. ...................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเน้ือหา
3. ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของส่ือการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมสี ว่ นรว่ มของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรียน
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงช่ือ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ........................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5
รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 พระธรรม เวลา 8 ชวั่ โมง
เรือ่ ง พทุ ธศาสนสุภาษติ เวลา 2 ชว่ั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
ส 1.1 ป. 6/4 วเิ คราะหค์ วามสำคญั และเคารพพระรตั นตรยั ปฏิบตั ิตามไตรสิกขาและ
หลกั ธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรอื หลกั ธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถือตามทกี่ ำหนด
2. สาระสำคัญ
พุทธศาสนสุภาษิตเป็นคาพูดหรอื คาสอนสนั้ ๆ ทางพระพุทธศาสนาท่ใี ห้ขอ้ คดิ หรือคติสอนใจ
สามารถนาไปปฏบิ ตั หิ รอื ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ เช่น สจฺเจน กติ ฺตึ ปปโฺ ปติ (สจั จเจนะ กติ ตงิ
ปัปโปต)ิ : คนไดเ้ กยี รตดิ ว้ ยสจั จะ และยถาวาที ตถาการี (ยะถาวาที ตะถาการ)ี : พดู เช่นไร ทาเช่นนัน้
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
- อธิบายความหมายและข้อคิดจากพุทธศาสนสภุ าษติ ได้
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
- นำข้อคิดจากพุทธศาสนสุภาษิตไปปฏบิ ตั หิ รือประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวันได้อยา่ ง
เหมาะสม
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
- เห็นคณุ ค่าของพทุ ธศาสนสุภาษติ
4. สาระการเรยี นรู้
• สจฺเจน กิตฺตํ ปปฺโปติ : คนได้เกยี รตดิ ว้ ยสัจจะ
• ยถาวาที ตถาการี : พูดเชน่ ไร ทำเช่นนั้น
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ - ใฝ่เรียนรู้
- มวี ินยั - มุ่งมน่ั ในการทำงาน
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
ชั่วโมงท่ี 1
1. ครูใหน้ กั เรยี นสวดมนตไ์ หว้พระ นงั่ สมาธิ 3 นาที และแผ่เมตตา
2. ครแู จ้งตัวชว้ี ัดชั้นปแี ละจุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยต่าง ๆ จากเรื่องที่ได้รับมอบหมายให้ไป
อ่านมา จากนั้นซักถามนักเรียนว่า ถ้าต้องการให้ผู้อื่นยกย่องสรรเสริญ เราควรปฏิบัติตน
อย่างไร
4. ครูสุ่มเลือกนักเรียน 2–4 คน เพื่อตอบคำถาม แล้วสรุปให้นักเรียนฟังว่า ถ้า
ต้องการให้ผู้อื่นยกย่องสรรเสริญควรปฏิบัติตนเป็นคนมีสัจจะ หรือพูดอย่างไรทำอย่างน้ัน
พร้อมกบั กลา่ วชมเชยนักเรยี น และเชอ่ื มโยงความร้ไู ปสู่เน้ือหาทจ่ี ะเรียน
7.2 ขั้นสอน
5. ครูให้นักเรียนอ่านบัตรคำพุทธศาสนสุภาษิต แล้วอธิบายความหมายของพุทธ
ศาสนสภุ าษติ ให้นักเรียนฟงั
6. ครูเขียนพุทธศาสนสุภาษิตบทว่า สจฺเจน กิตฺตึ ปปฺโปติ (สัจเจนะ กิตติง ปัปโปติ):
คนได้เกียรตดิ ว้ ยสัจจะ บนกระดานดำ จากนั้นอา่ นใหน้ ักเรียนฟัง แล้วใหน้ ักเรียนอา่ นตาม
7. ครูอธิบายความหมายของพุทธศาสนสุภาษิตบทดังกล่าว พร้อมยกตัวอย่าง
พฤตกิ รรมของบคุ คล ที่สอดคลอ้ งกับพทุ ธศาสนสุภาษิตนีใ้ ห้นกั เรียนฟัง
8. ครใู หน้ ักเรยี นบันทึกความรู้ที่ไดล้ งในแบบบนั ทึกความรู้ แล้วนำส่งครู
9. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละคนยกตัวอยา่ งการกระทำของตนเองท่สี อดคล้องกับพุทธศาสน
สุภาษติ บทน้ี แลว้ บอกวา่ ตรงกับพุทธศาสนสภุ าษิตอย่างไร ครูกล่าวชมเชยนกั เรียน จากน้ันครู
มอบหมายให้นักเรียนอ่านพุทธศาสนสุภาษิตบทว่า ยถาวาที ตถาการี (ยะถาวาที ตะถาการี):
พดู เชน่ ไร ทำเช่นนั้น เป็นการบ้านเพ่อื เตรียมจัดการเรยี นร้ใู นครง้ั ตอ่ ไป
ชัว่ โมงท่ี 2
10. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนสุภาษิตบทว่า สจฺเจน กิตฺตึ ปปฺโปติ (สัจเจ
นะ กิตติง ปปั โปติ): คนไดเ้ กียรตดิ ว้ ยสจั จะ
11. ครเู ขยี นพุทธศาสนสุภาษติ บท ยถาวาที ตถาการี (ยะถาวาที ตะถาการี): พูดเช่น
ไร ทำเชน่ นั้น บนกระดานดำ จากนนั้ อ่านให้นักเรยี นฟัง แลว้ ให้นกั เรยี นอา่ นตาม
12. ครูอธิบายความหมายของพุทธศาสนสุภาษิตบทดังกล่าว พร้อมยกตัวอย่าง
พฤติกรรมของบคุ คลทีส่ อดคล้องกบั พุทธศาสนสุภาษิตน้ีให้นักเรียนฟัง
13. ครใู ห้นกั เรียนบันทกึ ความรทู้ ่ไี ดล้ งในแบบบันทึกความรู้ แล้วนำส่งครู
14. ครูให้นักเรียนแต่ละคนยกตัวอย่างการกระทำของตนเองที่สอดคล้องกับพุทธ
ศาสนสภุ าษิตบทนี้ แลว้ บอกว่าตรงกับพุทธศาสนสภุ าษติ อยา่ งไร ครกู ล่าวชมเชยนกั เรยี น
15. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนสุภาษิต จากนั้นให้
นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ว่า ข้อคิดจากพทุ ธศาสนสุภาษติ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน
การอยู่ร่วมกันเป็นประชาคมอาเซียนได้หรือไม่ อย่างไร จากนั้น ครูสรุปความคิดเห็นของ
นกั เรยี น
7.3 ขัน้ สรุป
16. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรเู้ รื่อง พทุ ธศาสนสุภาษติ โดยให้นกั เรียนบันทกึ
ขอ้ สรปุ ลง ในแบบบนั ทกึ ความรู้ หรอื สรุปเป็นความเรียง แผนท่คี วามคดิ หรอื ผังมโนทศั น์ลงใน
สมุด พรอ้ มตกแตง่ ให้สวยงาม
8. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1.หนงั สือเรยี นวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.6
2.PowerPoint เรอ่ื ง พระธรรม
8.2 แหล่งเรยี นรู้
1.หอ้ งสมดุ
9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สงิ่ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรียน