3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเนื้อหา
3. ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงชื่อ................................................ผนู้ ิเทศ
(.............................................)
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผูอ้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอ่ื ........................................................
(นางวิลาวัลย์ สมฤทธิ์)
ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 27
รายวชิ า สังคมศกึ ษา รหัสวชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ชัว่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ประเทศของเรา เวลา 11 ชัว่ โมง
เรอื่ ง ลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย เวลา 4 ชว่ั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์
ส 5.1 ป.6/1 ใชเ้ คร่อื งมือทางภมู ศิ าสตร์ (แผนที่ ภาพถา่ ยชนดิ ตา่ ง ๆ) ระบลุ ักษณะสำคัญ
ทางกายภาพและสังคมของประเทศ
2. สาระสำคญั
ประเทศไทยตงั้ อยู่ระหว่างละติจูด 5 องศา 36 ลิปดาเหนือ กบั 20 องศา 27 ลิปดาเหนือ และ
ระหว่างลองจจิ ูด 97 องศา 20 ลปิ ดาตะวนั ออก กบั 105 องศา 37 ลปิ ดาตะวนั ออก มเี น้ือท่ี 513,115
ตารางกโิ ลเมตร มลี กั ษณะภูมปิ ระเทศทห่ี ลากหลาย โดยภาคเหนือมแี นวทวิ เขาสงู ภาคกลางเป็นท่รี าบ
ลุ่มแม่น้าขนาดใหญ่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือเป็นเขตทร่ี าบสูง ภาคตะวนั ออกมลี กั ษณะเป็นแนวทวิ
เขาสลับกับท่ีราบและมีแนวชายฝัง่ ทะเลทางตอนใต้ของภาค ภาคตะวนั ตกมีลักษณะคล้ายกนั กบั
ภาคเหนือ ส่วนภาคใต้มลี กั ษณะเป็นคาบสมุทรขนาบทะเลทงั้ สองดา้ น สภาพภูมอิ ากาศอย่ใู นเขตร้อน
ชน้ื โดยมพี น้ื ทอ่ี ย่ใู น 3 เขตภูมอิ ากาศ ไดแ้ ก่ แบบป่าฝนเขตรอ้ น รอ้ นชน้ื แบบมรสุม และรอ้ นชน้ื แบบ
ทุ่งหญา้ เมอื งรอ้ น และมที รพั ยากร ธรรมชาตทิ อ่ี ุดมสมบรู ณ์ทงั้ ป่าไม้ ดนิ น้า และแรธ่ าตตุ ่าง ๆ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
- อธบิ ายลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทยได้
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
- สืบคน้ และนำเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทยได้
3.3 ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
- ใฝเ่ รียนรู้และตระหนกั ถงึ ความสำคัญของลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย
4. สาระการเรยี นรู้
• ลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย
1. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ
2. ภูมอิ ากาศ
3. ทรพั ยากรธรรมชาติ
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- ใฝ่เรยี นรู้
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
ชวั่ โมงท่ี 1 - 2
1. ครูแจ้งตวั ชีว้ ัดชัน้ ปแี ละจดุ ประสงค์การเรยี นรูใ้ หน้ ักเรยี นทราบ
2. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
3. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นซักถามขอ้ สงสัยต่าง ๆ จากเร่ืองที่ได้รบั มอบหมายให้ไป
อ่านมา โดยครตู อบข้อสงสัยและอธบิ ายเพมิ่ เติม จากนั้นครูนำแผนท่รี ัฐกิจของภมู ภิ าคเอเชยี
ตะวันออกเฉียงใต้มาให้นกั เรียนดู แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกตำแหนง่ ท่ีตงั้ ของประเทศไทย
จากแผนท่ี ครสู รปุ แลว้ เชือ่ มโยงไปสูเ่ นอื้ หาทจ่ี ะเรียน
7.2 ขนั้ สอน
4. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแบง่ ออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เป็นกลุ่มพ้นื ฐาน แลว้ ให้
นักเรยี นแต่ละกล่มุ ศึกษาเรื่อง ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย โดยใหส้ มาชิกกลุ่มแต่ละ
คนศึกษาขอ้ มูลดังนี้
สมาชกิ คนที่ 1 ศกึ ษาเรอ่ื ง ลกั ษณะภูมิประเทศของประเทศไทย
สมาชิกคนที่ 2 ศึกษาเรื่อง ภูมอิ ากาศของประเทศไทย
สมาชกิ คนที่ 3 ศึกษาเรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย
5. ครูให้สมาชิกกลุ่มพื้นฐานแต่ละคนแยกออกจากกลุ่มพื้นฐานไปจับกลุ่มใหม่กับ
สมาชิกจากกลุ่มอื่นที่ศึกษาในเรื่องเดียวกันเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ โดยครูทำหน้าที่ในการจัด
แบ่งกล่มุ ผูเ้ ช่ียวชาญใหอ้ ยู่ร่วมกนั กลุ่มละ 3–6 คน หรือตามทีค่ รูกำหนด
6. ครูให้นักเรียนของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมกันศึกษาข้อมูลในเรื่องที่ได้รับผิดชอบจาก
แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น เอกสารในห้องสมุด อินเทอรเ์ น็ต แล้วบันทึกข้อมลู ท่ีได้ลงในแบบ
บันทึกกิจกรรมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ครูทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดย
สมาชิกผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนต้องจัดเตรียมเนื้อหาเพื่อนำความรู้หรือข้อมูลที่ได้ไปสอนและ
อธิบายให้เพื่อนในกลุม่ พืน้ ฐานของตนเอง
7. ครูให้สมาชิกกลุ่มผูเ้ ชีย่ วชาญแตล่ ะกลุ่มแยกย้ายกลบั กลุ่มพืน้ ฐานของตนเอง แล้ว
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอธิบายให้ความรู้เพื่อนสมาชิกในกลุ่มทีละคนจนครบ ครูคอยสังเกต
และให้คำแนะนำในการนำเสนอข้อมูลของนักเรียน รวมถึงการใช้แผนที่ หรือภาพถ่ายต่าง ๆ
ประกอบการอธิบาย
8. ครูให้นักเรียนกลุ่มพื้นฐานสรุปความรู้และบันทึกลงในแบบบันทึกกิจกรรมกลุ่ม
พน้ื ฐาน
9. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและการ
นำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือเป็น
กลุม่
10. ครูสนทนาซักถามความรู้ของนักเรียนเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับเรื่อง ลักษณะภูมิประเทศ
ในประเดน็ ตา่ ง ๆ เช่น
1) ประเทศไทยมลี ักษณะภมู ิประเทศส่วนใหญเ่ ป็นอยา่ งไร
2) ทางตอนเหนือ ทางตอนกลาง และทางตอนใต้ของประเทศไทยมีลักษณะ
ภูมิประเทศแตกตา่ งกนั อย่างไร
3) นักเรียนสามารถศึกษาลักษณะภูมิประเทศของประเทศไทยได้จากแผนท่ี
ประเภทใด
11. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศของประเทศไทย โดยใช้แผนที่
แสดงลักษณะภูมิประเทศของประเทศไทยประกอบการอธิบาย
12. ครใู ห้นกั เรียนบันทึกความรทู้ ่ีไดล้ งในแบบบันทกึ ความรสู้ ง่ ครู
13. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรปุ ความรูเ้ รื่อง ภูมิอากาศ แล้วบันทึกความรู้
ทีไ่ ด้ลงในสมดุ เปน็ การบ้านเพอ่ื เตรยี มจดั การเรียนรใู้ นครั้งต่อไป
ช่ัวโมงที่ 3
14. ครสู นทนาซกั ถามความรูข้ องนักเรียนเก่ียวกับเร่ือง ภูมอิ ากาศ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ใหไ้ ปอ่านและสรุปความรมู้ าในประเด็นต่าง ๆ เช่น
1) ประเทศไทยมีท้งั หมดก่ีฤดู อะไรบา้ ง
2) ประเทศไทยมีสภาพภมู อิ ากาศส่วนใหญอ่ ยู่ในเขตใด
3) ลมประจำใดบ้างท่ีมอี ทิ ธพิ ลต่อสภาพภมู อิ ากาศของประเทศไทย
15. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิอากาศของประเทศไทย โดยใช้แผนที่แสดง
ภมู อิ ากาศของประเทศไทยประกอบการอธิบาย
16. ครูให้นักเรียนบนั ทกึ ความรู้ท่ีได้ลงในแบบบนั ทึกความรสู้ ง่ ครู
17. ครูมอบหมายให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
ไทยเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของทางราชการ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แล้วสรุปความรแู้ ละบันทกึ ลงในสมุด เปน็ การบา้ นเพือ่ เตรียมจัดการเรยี นรู้ในครั้งต่อไป
ช่ัวโมงท่ี 4
18. ครูตรวจผลงานของนักเรียน โดยสุ่มเลือกนักเรียน 2–3 คน เจ้าของผลงานให้
ออกมาสรุปความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยที่ได้รับมอบหมายให้เพื่อน ๆ
ฟงั โดยครูคอยแนะนำและเสริมความรู้
19. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย โดยใช้แผนท่ี
และภาพถ่ายท่ีเกยี่ วกบั ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยประกอบการอธิบาย
20. ครูให้นกั เรยี นบันทึกความรู้ท่ไี ดล้ งในแบบบนั ทกึ ความรู้ส่งครู
21. ครูมอบหมายให้นักเรียนศึกษาแผนที่ภูมิประเทศของไทยและแผนที่ภมู ิประเทศ
ของอาเซียนที่ครูกำหนดให้ จากนั้นช่วยกันวิเคราะห์ว่าประเทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศท่ี
เป็นจุดเด่นแตกต่างกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ อะไรบ้าง เพราะอะไร ครูสรุป นักเรียน
บนั ทกึ ความรทู้ ีไ่ ดล้ งสมดุ
22. ครูให้นักเรียนแบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม จับสลากเลือกประเทศสมาชิกอาเซียน 9
ประเทศ (ยกเว้นประเทศไทย) แล้วศึกษาลักษณะทางกายภาพของประเทศที่กลุ่มได้รับ
มอบหมาย จัดทำเป็นป้ายนิเทศ จากนั้นช่วยกันวิเคราะห์ว่า แต่ละประเทศมีลักษณะทาง
กายภาพเหมอื นหรือแตกตา่ งกับประเทศไทยหรือไม่ อยา่ งไร สรปุ และบันทกึ ผลที่ได้ลงในสมุด
ส่งครู
7.3 ข้นั สรุป
23. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย
โดยใหน้ กั เรียนสรปุ เปน็ แผนทีค่ วามคดิ หรือผังมโนทศั นล์ งในสมดุ พรอ้ มตกแตง่ ใหส้ วยงาม
24. ครูมอบหมายให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรม
ของประเทศไทยจากแห4ล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น เอกสารในห้องสมุด อินเทอร์เน็ต แล้ว
บนั ทึกข้อมูลทไ่ี ด้ลงในสมุด เปน็ การบา้ นเพอ่ื เตรียมจดั การเรียนรู้ในครง้ั ต่อไป
8. สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1.หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.6
2.PowerPoint เรื่อง ประเทศของเรา
8.2 แหล่งเรยี นรู้
1.ห้องสมุด
9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรยี น
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สงิ่ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้
- ใบงาน - ใบงาน เกณฑผ์ ่าน ร้อยละ 70
2.ทักษะ/
กระบวนการ จากคะแนนจากการตร
3. คณุ ลกั ษณะ วจใบงานแต่ละกิจกรรม
อันพงึ ประสงค์
4. สมรรถนะ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1.แบบสังเกตพฤติ ระดบั คุณภาพ
สำคญั ของผเู้ รียน
การปฏิบตั ิงานรายบุคคล กรรมการปฏบิ ตั งิ านรา การประเมนิ การปฏบิ ตั งิ
2. สังเกตพฤติกรรม ยบคุ คล านรายบุคคลและกระบ
การปฏบิ ตั งิ านกลุม่ วนการ
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น
มการปฏิบัติงานกลุ่ม ในระดับ 2 ข้ึนไป
สงั เกตพฤตกิ รรมคณุ ลักษ แบบประเมิน - คะแนนการประเมนิ
ณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะ เกณฑ์ผา่ นระดบั 3
(ใหร้ ะบุพฤติกรรม) อันพงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป
สังเกตพฤติกรรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑ์การตัดสนิ
- ความสามารถในการ สำคัญของผู้เรยี น ผ่าน ในระดบั 3 ข้นึ ไป
แก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้
ทักษะชวี ติ
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ...............................................................ผู้สอน
(...............................................)
12. ขอ้ คิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. ..............................................................
ลงช่ือ...............................................................
(....................................................)
หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้............................................................................
13. ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ
......................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................. ..................................
ลงชือ่ ...............................................................
(....................................................)
ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ
การอนมุ ตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
⬜ เหน็ สมควรอนุมตั ิให้ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
⬜ เหน็ สมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................. ................................................................
ลงชอ่ื ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นฝ่ายบริหารวิชาการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมัตใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวลั ย์ สมฤทธิ์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 27 เวลา 4 ชวั่ โมง
รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
เรอ่ื ง ลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย
1. จำนวนนกั เรยี นทสี่ อน จำนวนนกั เรียน (คน)
ระดบั ชน้ั 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทกึ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................ ................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................................. ..............................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................... .................................
................................................................................................. ..............................................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเนื้อหา
3. ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงช่ือ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ........................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 28
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 10 ประเทศของเรา เวลา 11 ชั่วโมง
เร่อื ง ลกั ษณะทางสังคมของประเทศไทย เวลา 4 ชวั่ โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์
ส 5.1 ป.6/1 ใช้เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์ (แผนท่ี ภาพถา่ ยชนิดตา่ ง ๆ) ระบลุ กั ษณะสำคัญ
ทางกายภาพและสงั คมของประเทศ
2. สาระสำคัญ
ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 67 ล้านคน มีความหนาแน่นประมาณ 128 คนต่อตาราง
กโิ ลเมตร ส่วนใหญ่อาศยั อยู่อย่างหนาแน่นบรเิ วณภาคกลางตอนล่าง มรี ะบบเศรษฐกจิ ของประเทศ
ขน้ึ อยู่กบั ระบบเกษตรกรรมเป็นหลกั พชื ท่สี าคญั ไดแ้ ก่ ขา้ ว ขา้ วโพด อ้อย มนั สาปะหลงั ยางพารา
นอกจากน้ียงั มกี ารเลย้ี งสตั ว์ การทาประมงทงั้ น้าจดื และน้าเคม็ และการทาป่าไม้ ขณะทอ่ี ตุ สาหกรรมก็
มคี วามเจรญิ กา้ วหน้ามากขน้ึ อย่างรวดเรว็ มนี คิ มอุตสาหกรรมอย่หู ลายแห่ง และมรี ะบบคมนาคมขนส่ง
ทเ่ี จรญิ กา้ วหน้าเป็นอย่างมากในปัจจุบนั โดยมที างหลวงสายหลกั 4 สาย เช่อื มโยงทวั่ ประเทศ มที าง
รถไฟยาว 4,487 กโิ ลเมตร แม่น้าลาคลองสามารถใชเ้ ดนิ เรอื ไดป้ ระมาณ 8,000 กโิ ลเมตร มที ่าเรอื เดนิ
สมุทรทท่ี นั สมยั หลายแหง่ และมที ่าอากาศยานนานาชาตทิ ส่ี าคญั คอื ทา่ อากาศยานสุวรรณภมู ิ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
- อธบิ ายลักษณะทางสงั คมของประเทศไทยได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- สืบคน้ และนำเสนอขอ้ มูลเก่ียวกับลักษณะทางสงั คมของประเทศไทยได้
3.3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- ใฝเ่ รียนรู้และตระหนักถงึ ความสำคัญของลักษณะทางสงั คมของประเทศไทย
4. สาระการเรยี นรู้
• ลกั ษณะทางสังคมของประเทศไทย
1. ประชากร
2. เศรษฐกจิ
3. การคมนาคมขนส่ง
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- ใฝ่เรยี นรู้
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
ช่วั โมงที่ 1 - 2
1. ครแู จง้ ตัวชีว้ ดั ชน้ั ปแี ละจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นกั เรยี นทราบ
2. ครูตรวจผลงานของนักเรียน โดยสุ่มเลือกนักเรียน 2–3 คน เจ้าของผลงานให้
ออกมาอ่านเรื่อง ลักษณะทางสังคมของประเทศไทย ที่ได้รับมอบหมายใหเ้ พื่อน ๆ ฟัง โดยครู
คอยแนะนำและเสริมความรู้ จากนั้นครูนำแผนที่แสดงความหนาแน่นของประชากรไทยและ
ภาพจากดาวเทียมแสดงเขตเกษตรกรรมในประเทศไทยมาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียน
ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับลักษณะทางสังคมของประเทศไทยจากแผนที่และภาพจาก
ดาวเทียม ครูสรุปแลว้ เชือ่ มโยงไปสเู่ นอ้ื หาท่ีจะเรียน
7.2 ข้นั สอน
3. ครูมอบหมายให้นักเรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 3 คน เป็นกลุม่ พนื้ ฐาน แล้วให้
นกั เรียนแต่ละกลุม่ ศกึ ษาเร่ือง ลักษณะทางสังคมของประเทศไทย โดยใหส้ มาชกิ กลุ่มแต่ละคน
ศกึ ษาขอ้ มลู ดังนี้
สมาชกิ คนที่ 1 ศึกษาเรอ่ื ง ประชากรของประเทศไทย
สมาชกิ คนท่ี 2 ศึกษาเรอื่ ง เศรษฐกิจของประเทศไทย
สมาชกิ คนที่ 3 ศึกษาเรอ่ื ง การคมนาคมขนส่งของประเทศไทย
4. ครูให้สมาชิกกลุ่มพื้นฐานแต่ละคนแยกออกจากกลุ่มพื้นฐานไปจับกลุ่มใหม่กับ
สมาชิกจากกลุ่มอื่นที่ศึกษาในเรื่องเดียวกันเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ โดยครูทำหน้าที่ในการจัด
แบ่งกลุ่มผู้เชย่ี วชาญให้อยรู่ ว่ มกนั กลุ่มละ 3–6 คน หรือตามทค่ี รกู ำหนด
5. ครูให้นักเรียนของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมกันศึกษาข้อมูลในเรื่องที่ได้รับผิดชอบจาก
แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น เอกสารในห้องสมดุ อินเทอร์เน็ต แล้วบันทึกข้อมูลท่ีได้ลงในแบบ
บันทึกกิจกรรมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ครูทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดย
สมาชิกผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนต้องจัดเตรียมเนื้อหาเพื่อนำความรู้หรือข้อมูลที่ได้ไปสอนและ
อธบิ ายให้เพือ่ นในกล่มุ พ้ืนฐานของตนเอง
6. ครูให้สมาชิกกลุม่ ผูเ้ ชีย่ วชาญแต่ละกลุ่มแยกย้ายกลับกลุ่มพืน้ ฐานของตนเอง แล้ว
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอธิบายให้ความรู้เพื่อนสมาชิกในกลุ่มทีละคนจนครบ ครูคอยสังเกต
และให้คำแนะนำในการนำเสนอข้อมูลของนักเรียน รวมถึงการใช้แผนที่ หรือภาพถ่ายต่าง ๆ
ประกอบการอธิบาย
7. ครูให้นักเรียนกลุ่มพื้นฐานสรุปความรู้และบันทึกลงในแบบบันทึกกิจกรรมกลุ่ม
พื้นฐาน
8. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและการ
นำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือเป็น
กลุ่ม
9. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับจำนวนประชากรของไทยในปัจจุบัน พร้อมเปิด
โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสัยตา่ ง ๆ
10. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประชากรของประเทศไทย โดยใช้แผนที่แสดงความ
หนาแน่นของประชากรไทยและภาพจากดาวเทียมแสดงการตั้งถิ่นฐานของประชากรในพื้นที่
บางกระเจา้ จงั หวัดสมุทรปราการ ประกอบการอธิบาย
11. ครูใหน้ กั เรยี นบันทึกความรทู้ ี่ไดล้ งในแบบบันทึกความรสู้ ง่ ครู
12. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นอ่านและสรุปความรเู้ ร่อื ง เศรษฐกิจ แลว้ บนั ทึกความรู้ที่
ได้ลงในสมุด เปน็ การบา้ นเพ่ือเตรยี มจดั การเรยี นรู้ในครัง้ ตอ่ ไป
ชั่วโมงท่ี 3
13. ครูสนทนาซกั ถามความรู้ของนักเรียนเกีย่ วกับเรื่อง เศรษฐกิจ ท่ไี ด้รับมอบหมาย
ให้ไปอา่ นและสรปุ ความร้มู าในประเด็นต่าง ๆ เชน่
1) ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทยขึ้นอยูก่ ับระบบใด เพราะอะไร
2) สิ่งใดเป็นเครื่องบ่งช้ีว่า ระบบอุตสาหกรรมของไทยมีความเจริญกา้ วหนา้
อย่างรวดเรว็
3) สนิ คา้ เข้าและสนิ คา้ ออกทสี่ ำคญั ของประเทศไทยไดแ้ ก่อะไรบ้าง
14. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยใช้เนื้อหาจากหนังสือ
เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป. 6 ของบรษิ ทั สำนักพิมพ์วัฒนา
พานิช จำกัด และใช้ภาพจากดาวเทยี มแสดงพนื้ ท่ีทางการเกษตรของประเทศไทยประกอบการ
อธบิ าย
15. ครใู ห้นกั เรยี นบันทกึ ความรทู้ ่ไี ด้ลงในแบบบนั ทึกความรสู้ ่งครู
16. ครูมอบหมายให้นักเรียนเลือกศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งของ
ประเทศไทยทน่ี ักเรียนสนใจ 1 เร่อื ง เชน่ รถไฟฟา้ บีทเี อส ท่าอากาศยานสวุ รรณภมู ิ จากแหล่ง
การเรียนรตู้ ่าง ๆ เชน่ เอกสารในหอ้ งสมดุ อนิ เทอรเ์ น็ต แล้วบนั ทกึ ลงในสมดุ เปน็ การบา้ นเพื่อ
เตรียมจัดการเรียนรูใ้ นครัง้ ต่อไป
ชวั่ โมงที่ 4
17. ครูตรวจผลงานของนักเรียน โดยสุ่มเลือกนักเรียน 2–3 คน เจ้าของผลงานให้
ออกมาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยที่สนใจ 1 เรื่อง ที่ได้รับ
มอบหมายให้เพอื่ น ๆ ฟัง โดยครูคอยแนะนำและเสริมความรู้
18. ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ เก่ียวกบั การคมนาคมขนสง่ ของประเทศไทย โดยใช้เนื้อหาจาก
หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป. 6 ของบริษัท สำนกั พมิ พ์
วัฒนาพานิช จำกัด และใช้แผนที่แสดงเส้นทางหลวงแผ่นดินในประเทศไทยประกอบการ
อธิบาย
19. ครใู หน้ ักเรียนบนั ทึกความรทู้ ่ีไดล้ งในแบบบนั ทกึ ความรู้ส่งครู
20. ครูมอบหมายให้นักเรียนช่วยกันสรปุ ว่า จะมีการพัฒนาสภาพทางเศรษฐกิจของ
ประเทศไทยอย่างไร เพ่อื ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เป็นแผนท่ีความคิด
แล้วให้นักเรียนบันทึกแผนที่ความคิดลงในสมุด จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูล
เกี่ยวกับชมุ ชนเศรษฐกิจพอเพียงในประเทศไทย ทม่ี ีการนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มาประยกุ ตใ์ ช้กับการดำเนนิ ชีวติ สรุปและจดั ทำเป็นรายงานสง่ ครู
21. ครูให้นักเรียนแบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม จับสลากเลือกประเทศสมาชิกอาเซียน 9
ประเทศ (ยกเว้นประเทศไทย) แล้วศึกษาลักษณะทางสงั คมของประเทศทีก่ ลมุ่ ไดร้ ับมอบหมาย
จัดทำเปน็ ป้ายนิเทศ จากนน้ั ชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ า่ แตล่ ะประเทศมลี ักษณะทางสังคมเหมือนหรือ
แตกตา่ งกับประเทศไทยหรือไม่ อยา่ งไร สรปุ และบนั ทกึ ผลลงในสมดุ สง่ ครู
7.3 ข้นั สรุป
22. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้เร่ือง ลักษณะทางสงั คมของประเทศไทย โดย
ให้นกั เรียนสรุปเป็นแผนทีค่ วามคิดหรือผงั มโนทศั น์ลงในสมดุ พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม
23. ครูมอบหมายให้นักเรียนสังเกตภาพและข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยที่เกิดจาก
ธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แล้วบันทึกสิ่งที่สังเกตได้ลงในสมุด เป็นการบ้านเพื่อ
เตรียมจดั การเรียนรู้ในครั้งตอ่ ไป
8. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1.หนงั สือเรยี นวิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.6
2.PowerPoint เรื่อง ประเทศของเรา
8.2 แหล่งเรียนรู้
1.หอ้ งสมดุ
9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรยี น
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สงิ่ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้
- ใบงาน - ใบงาน เกณฑผ์ ่าน ร้อยละ 70
2.ทกั ษะ/
กระบวนการ จากคะแนนจากการตร
3. คุณลักษณะ วจใบงานแต่ละกิจกรรม
อนั พงึ ประสงค์
4. สมรรถนะ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1.แบบสงั เกตพฤติ ระดบั คุณภาพ
สำคัญของผู้เรียน
การปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล กรรมการปฏบิ ตั งิ านรา การประเมนิ การปฏบิ ตั งิ
2. สังเกตพฤติกรรม ยบุคคล านรายบุคคลและกระบ
การปฏิบตั งิ านกลมุ่ วนการ
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น
มการปฏิบัติงานกลุ่ม ในระดับ 2 ข้ึนไป
สงั เกตพฤติกรรมคุณลักษ แบบประเมิน - คะแนนการประเมนิ
ณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะ เกณฑ์ผา่ นระดบั 3
(ใหร้ ะบุพฤติกรรม) อันพงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป
สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑ์การตัดสนิ
- ความสามารถในการ สำคญั ของผู้เรยี น ผ่าน ในระดบั 3 ข้นึ ไป
แกป้ ญั หา
- ความสามารถในการใช้
ทักษะชีวติ
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ...............................................................ผูส้ อน
(...............................................)
12. ขอ้ คดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................. .................................
ลงช่อื ...............................................................
(....................................................)
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนร.ู้ ...........................................................................
13. ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ
...................................................................................................................................... ........................
.......................................................................................................... .....................................................
ลงชอ่ื ...............................................................
(....................................................)
ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
........................................................................................................................................ ......................
⬜ เห็นสมควรอนมุ ตั ใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ เห็นสมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................................................. ................................
ลงชอื่ ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมัตใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
........................................................................................................ ......................................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จงั หวัดพะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 28 เวลา 4 ชว่ั โมง
รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
เรอ่ื ง ลักษณะทางสงั คมของประเทศไทย
1. จำนวนนกั เรยี นทสี่ อน จำนวนนกั เรยี น (คน)
ระดบั ชน้ั 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทกึ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................... ............
...................................................................................................................... ..........................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................................. ..............................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................... .................................
................................................................................................. ..............................................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเนื้อหา
3. ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงช่ือ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ........................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 29
รายวชิ า สังคมศึกษา รหัสวชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 10 ประเทศของเรา เวลา 11 ชั่วโมง
เร่ือง ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เวลา 3 ชวั่ โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 5 ภมู ศิ าสตร์
ส 5.1 ป.6/2 อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งลกั ษณะทางกายภาพกบั ปรากฏการณ์ทาง
ธรรมชาตขิ องประเทศ
2. สาระสำคญั
ประเทศไทยประสบกบั ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ส่ี าคญั ไดแ้ ก่ อุทกภยั วาตภยั ภยั แลง้ และ
แผ่นดนิ ไหว ซง่ึ สรา้ งความเสยี หายใหแ้ ก่ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของคนไทยเป็นจานวนมาก
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
- อธิบายลักษณะของปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ เ่ี กิดขึ้นในประเทศไทยได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- คน้ ควา้ และนำเสนอข้อมูลเก่ียวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขน้ึ ในประเทศไทย
ได้
3.3 ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
- เข้าใจและตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของการศกึ ษาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี่ กดิ ขน้ึ ใน
ประเทศไทย
4. สาระการเรยี นรู้
• ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
1. อทุ กภัย
2. วาตภยั
3. ภัยแลง้
4. แผน่ ดนิ ไหว
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- ใฝเ่ รยี นรู้
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
ชั่วโมงท่ี 1
1. ครูแจ้งตวั ชว้ี ัดช้ันปแี ละจุดประสงค์การเรยี นรู้ให้นกั เรียนทราบ
2. ครูตรวจผลงานของนักเรียน โดยสุ่มเลือกนักเรียน 2–3 คน เจ้าของผลงานให้
ออกมาเล่าข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยที่เกิดจากธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ได้รับ
มอบหมายให้เพอ่ื น ๆ ฟัง โดยครูคอยแนะนำและเสรมิ ความรู้
3. ครูนำภาพข่าวเหตุการณ์ภยั ท่ีเกดิ จากธรรมชาติ แล้วให้นกั เรียนบอกเล่าความรู้สึก
ที่เกิดข้ึนเมอ่ื เห็นภาพเหตกุ ารณ์ดังกล่าว ได้แก่
1) ภาพเหตุการณพ์ ายไุ ซโคลนนากสี
2) ภาพเหตุการณแ์ ผ่นดนิ ไหวทีป่ ระเทศจนี
3) ภาพน้ำปา่ ไหลหลากในจังหวดั ตรัง
จากนั้นครูซักถามนักเรียนว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเกิดจากการกระทำของอะไร
ระหว่างมนุษยก์ บั ธรรมชาติ ครูสรปุ แล้วเชอื่ มโยงไปสูเ่ นอ้ื หาท่จี ะเรียน
7.2 ขั้นสอน
4. ครูให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เรื่องการเกิดอุทกภัยในประเทศไทย จากนั้นให้นักเรียน
ช่วยกนั แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การเกิดอุทกภัยในประเทศไทยว่า มีสาเหตุมาจากอะไร และ
สง่ ผลกระทบต่อประชากรไทยอย่างไร
5. ครสู รปุ เกีย่ วกบั การเกดิ อุทกภยั ในประเทศไทยและอธบิ ายเพิ่มเติม
6. ครูให้นักเรียนบันทึกความรู้ที่ได้ลงในแบบบันทึกความรู้ส่งครู จากนั้นครูตั้ง
ประเด็นคำถามว่า ถ้านักเรียนประสบกับภัยจากอุทกภัย หรือภัยอื่น ๆ เช่น วาตภัย ภัยแล้ง
แผน่ ดนิ ไหว นักเรยี นจะมีวิธกี ารรับมืออยา่ งไร แล้วกลา่ วกบั นักเรียนวา่
“ถ้านักเรียนต้องการจะแก้ปัญหาเพื่อหาแนวทางป้องกัน นักเรียนจะต้องรู้ที่มาของ
สาเหตุของปญั หาเสียก่อน เชน่ ปรากฏการณ์นั้นเกิดข้นึ อย่างไร สง่ ผลกระทบอยา่ งไร นกั เรียน
จึงจะหาแนวทางป้องกนั ปัญหาทจี่ ะเกิดข้ึนจากการเกิดปรากฏการณน์ ั้นได้”
7. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน สืบค้นข่าวเหตุการณ์เกี่ยวกับ
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในประเทศไทย ได้แก่ วาตภัย ภัยแล้ง และแผ่นดินไหว วิเคราะห์
และสรุป แล้วเตรียมนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Power Point แผ่นพับ ป้าย
นิเทศ
8. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นสบื คน้ ข่าวและขอ้ มลู เกย่ี วกับการเกิดวาตภยั ภยั แล้ง และ
แผ่นดินไหวในประเทศไทยจากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เช่น อินเทอรเ์ นต็ แล้วบนั ทึกข้อมูลที่ได้
ลงในสมดุ เปน็ การบ้านเพื่อเตรยี มจดั การเรยี นรู้ในคร้ังต่อไป
ชัว่ โมงท่ี 2
9. ครูตรวจผลงานของนักเรียน โดยสุ่มเลือกนักเรียน 2–3 คน เจ้าของผลงานให้
ออกมาเล่าข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดวาตภัย ภัยแล้ง และแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่
ไดร้ บั มอบหมายให้เพ่อื น ๆ ฟงั โดยครูคอยแนะนำและเสรมิ ความรู้
10. ครูให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เรือ่ งการเกิดวาตภัย ภัยแล้ง และแผ่นดินไหว จากนั้นให้
นักเรยี นชว่ ยกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การเกิดวาตภยั ภัยแล้ง และแผน่ ดินไหวในประเทศ
ไทยว่า มีสาเหตุมาจากอะไร และสง่ ผลกระทบตอ่ ประชากรไทยอยา่ งไร
11. ครูสรุปและอธิบายเพิ่มเติม แล้วให้นักเรียนบันทึกความรู้ที่ได้ลงในแบบบันทึก
ความรู้ส่งครู
12. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานเกี่ยวกับข่าวเหตุการณ์เกี่ยวกับ
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในประเทศไทยที่ได้รับมอบหมายให้สืบค้น วิเคราะห์ และสรุป
หน้าชน้ั เรยี น โดยครคู อยแนะนำและเสริมความรู้
13. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและ
การนำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือ
เปน็ กลมุ่
14. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ
มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแตกต่างจากประเทศไทยหรอื ไม่ อย่างไร ครูบันทึกข้อคิดเห็นลง
บนกระดานดำ จากน้นั ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั สืบคน้ ข้อมลู เพิ่มเตมิ จากแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ เช่น
เอกสารในห้องสมุด อินเทอร์เน็ต แล้วให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน เขียนสรุปข้อมลู
ทั้งหมดเป็นแผนที่ความคิดหรือแผนผังอย่างใดอย่างหนึ่ง และออกมานำเสนอผลงานหน้าช้ัน
เรยี น
ช่ัวโมงที่ 3
15. ครูใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรมทเี่ กีย่ วกบั ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แลว้ ชว่ ยกันเฉลย
คำตอบทถี่ กู ตอ้ ง
16. ครซู ักถามนกั เรยี นในประเดน็ ต่อไปน้ี ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบคำถาม
1) ถ้าเกิดพายุฝนฟ้าคะนองระหว่างที่นักเรียนอยู่นอกบ้าน นักเรียนจะ
ปฏิบัติตนอยา่ งไร
2) นักเรียนทราบหรือไม่ว่า โครงการใดที่ช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับ
ประเทศไทยในปัจจบุ ัน
17. ครูสรปุ คำตอบของนกั เรยี น
7.3 ข้ันสรปุ
20. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยให้
นกั เรียนสรุปเปน็ แผนทคี่ วามคดิ หรอื ผังมโนทัศน์ลงในสมดุ พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม
21. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นและช่วยกนั เฉลยคำตอบท่ีถูกต้อง
22. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบการวัดและประเมินผลการเรียนรูป้ ระจำหน่วยการ
เรียนรู้ท่ี 13 ในแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป. 6 ของ
บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ด้านความรู้ ด้านคุณธรรม
จริยธรรม และค่านยิ ม และดา้ นทักษะ/กระบวนการของนักเรยี น
23. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 14 สิ่งแวดล้อมและ
ทรัพยากร ธรรมชาติ เร่อื ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทาง
สงั คม แล้วบันทึกขอ้ มลู ทไ่ี ดล้ งในสมุด เป็นการบา้ นเพอ่ื เตรียมจดั การเรยี นรู้ในคร้งั ตอ่ ไป
8. สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1.หนงั สือเรยี นวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.6
2.PowerPoint เรอ่ื ง ประเทศของเรา
8.2 แหลง่ เรียนรู้
1.หอ้ งสมุด
9. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรยี น
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สงิ่ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้
- ใบงาน - ใบงาน เกณฑผ์ ่าน ร้อยละ 70
2.ทกั ษะ/
กระบวนการ จากคะแนนจากการตร
3. คุณลักษณะ วจใบงานแต่ละกิจกรรม
อนั พงึ ประสงค์
4. สมรรถนะ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1.แบบสงั เกตพฤติ ระดบั คุณภาพ
สำคัญของผู้เรียน
การปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล กรรมการปฏบิ ตั งิ านรา การประเมนิ การปฏบิ ตั งิ
2. สังเกตพฤติกรรม ยบุคคล านรายบุคคลและกระบ
การปฏิบตั งิ านกลมุ่ วนการ
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น
มการปฏิบัติงานกลุ่ม ในระดับ 2 ข้ึนไป
สงั เกตพฤติกรรมคุณลักษ แบบประเมิน - คะแนนการประเมนิ
ณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะ เกณฑ์ผา่ นระดบั 3
(ใหร้ ะบุพฤติกรรม) อันพงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป
สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑ์การตัดสนิ
- ความสามารถในการ สำคญั ของผู้เรยี น ผ่าน ในระดบั 3 ข้นึ ไป
แกป้ ญั หา
- ความสามารถในการใช้
ทักษะชีวติ
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ...............................................................ผูส้ อน
(...............................................)
12. ขอ้ คดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
.............................................................................................................................. .................................
ลงช่อื ...............................................................
(....................................................)
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนร.ู้ ...........................................................................
13. ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ
...................................................................................................................................... ........................
.......................................................................................................... .....................................................
ลงชอ่ื ...............................................................
(....................................................)
ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
........................................................................................................................................ ......................
⬜ เห็นสมควรอนมุ ตั ใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ เห็นสมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................................................. ................................
ลงชอื่ ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอดุ )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมัตใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
........................................................................................................ ......................................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จงั หวัดพะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 29 เวลา 2 ชวั่ โมง
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6
เรอ่ื ง ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ
1. จำนวนนกั เรยี นทสี่ อน จำนวนนกั เรยี น (คน)
ระดบั ชน้ั 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทึกผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
..................................................................................................................................................... ..........
........................................................................................................................ ........................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................................. ..............................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................... .................................
................................................................................................. ..............................................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเนื้อหา
3. ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงช่ือ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ........................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 30
รายวชิ า สงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส16101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ระดบั ช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 11 สงิ่ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เวลา 6 ชว่ั โมง
เร่อื ง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติกบั สง่ิ แวดลอ้ ม เวลา 3 ชว่ั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 5 ภมู ศิ าสตร์
ส 5.2 ป.6/1 วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธ์ระหวา่ งสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาตกิ ับสิ่งแวดลอ้ มทาง
สงั คมในประเทศ
2. สาระสำคัญ
ส่ิงแวดล้อม หมายถึง สิง่ ต่าง ๆ ท่ีอยู่รอบตัวเรา แบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่ ส่งิ แวดล้อมทาง
ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมทางสงั คม สงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาตมิ อี ทิ ธพิ ลต่อการสรา้ งสรรคส์ ง่ิ แวดล้อม
ทางสงั คมของมนุษยใ์ นดา้ นต่าง ๆ เช่น การตงั้ ถน่ิ ฐาน วฒั นธรรม การประกอบอาชพี และสง่ ผลใหเ้ กดิ
การเปล่ยี นแปลงเม่อื มกี ารใชส้ ง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตมิ ากขน้ึ จนเกดิ ความเส่อื มโทรม กจ็ ะทาใหก้ าร
ยา้ ยถน่ิ เกดิ ขน้ึ ทรพั ยากรธรรมชาตลิ ดลง สงิ่ แวดลอ้ มเกดิ ความเสอ่ื มโทรมจนไม่สามารถนามาใชพ้ ฒั นา
เศรษฐกจิ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
- ระบุความสัมพันธข์ องสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติท่ีมีอทิ ธิพลต่อการสรา้ งสรรค์
สงิ่ แวดล้อมทางสังคมในด้านต่าง ๆ ได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นำความรเู้ กีย่ วกบั ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสิง่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติกับสง่ิ แวดล้อมทาง
สงั คมไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวันได้อยา่ งเหมาะสม
3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
- ใฝ่เรียนรเู้ ร่ือง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติกับส่ิงแวดลอ้ มทางสงั คม
ในประเทศไทย
4. สาระการเรยี นรู้
• ความสัมพันธร์ ะหวา่ งส่งิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตกิ บั ส่ิงแวดล้อมทางสงั คม
1. ความสมั พันธร์ ะหว่างสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสงั คม
2. ผลกระทบทเ่ี กิดจากความสัมพันธ์ระหวา่ งสงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติกับสงิ่ แวดลอ้ ม
ทางสงั คม
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- ใฝ่เรยี นรู้
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
ช่ัวโมงที่ 1
1. ครูแจ้งตัวชีว้ ัดช้ันปีและจุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ
2. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
3. ครูเปิดโอกาสใหซ้ ักถามขอ้ สงสัยตา่ ง ๆ จากเรื่อง ความสมั พันธร์ ะหว่างส่ิงแวดล้อม
ทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสังคม ที่ได้รับมอบหมายให้ไปศึกษามา โดยครูตอบข้อสงสัย
และอธบิ ายเพ่ิมเตมิ
4. ครูซักถามนักเรียนว่า ประเพณีในสังคมไทยที่นักเรียนรู้จักมีความสำคัญอย่างไร
ใหน้ ักเรยี นช่วยกันแสดงความคิดเห็น ครูสรปุ และเช่อื มโยงไปสู่เน้อื หาที่จะเรียน
7.2 ข้นั สอน
5. ครูส่มุ เลือกนักเรียน 2–3 คน ให้ออกมาบอกความหมายของคำว่า “ส่งิ แวดล้อม”
และบอกประเภทของสง่ิ แวดลอ้ ม
6. ครูบันทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานดำ จากนั้นเฉลยคำตอบ พร้อมกล่าว
ชมเชยนกั เรยี น
7. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและประเภทของสิ่งแวดล้อม แล้วให้
นกั เรยี นสรุปความรู้ทไ่ี ดล้ งในแบบบันทึกความร้สู ง่ ครู
8. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทาง
ธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสังคม แล้วบันทึกความรู้ที่ได้ลงในสมุด เป็นการบ้านเพื่อเตรียม
จดั การเรียนร้ใู นครง้ั ต่อไป
ชั่วโมงท่ี 2
9. ครูสนทนาซักถามความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่าง
สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสังคม ที่ได้รับมอบหมายให้ไปอ่านมาในประเด็น
ตา่ ง ๆ เช่น
1) สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมทางสังคมมคี วามสัมพันธ์กันใน
ดา้ นใดบ้าง
2) เพราะเหตุใดสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางสังคมจึงมี
ความสัมพนั ธ์กนั
10. ครูให้นักเรียนดูภาพเรือนไทยในภาคต่าง ๆ เช่น เรือนไทยภาคเหนือ เรือนไทย
ภาคใต้ และเรือนไทยภาคอีสาน จากนั้นครูซักถามนักเรียนว่า ทำไมแต่ละภาคจึงมีการสร้าง
บ้านแตกต่างกัน ให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็น แล้วครูสรุปความคิดเห็นของนักเรียน
พรอ้ มกลา่ วชมเชยนกั เรยี น
11. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับ
สง่ิ แวดลอ้ มทางสังคมท้งั ด้ายการตั้งถ่นิ ฐาน วฒั นธรรม และการประกอบอาชพี
12. ครูให้นกั เรยี นสรปุ และบนั ทกึ ความรู้ที่ได้ลงในแบบบนั ทกึ ความรู้สง่ ครู
13. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน ให้แต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ
สิ่งแวดล้อมทางสังคมของประเทศไทย ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทาง
ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมทางสังคม และผลกระทบที่เกิดจากความสมั พันธ์ดังกล่าว ทส่ี นใจ 1
เรื่อง วิเคราะห์และสรุป แล้วบันทกึ ข้อมลู ลงในแบบบันทึกกิจกรรม แล้วเตรยี มนำเสนอข้อมลู
หนา้ ชัน้ เรียนโดยใช้โปรแกรม PowerPoint
14. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเรื่อง ผลกระทบที่เกิดจากความสัมพันธ์
ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสังคม แล้วบันทึกความรู้ที่ได้ลงในสมุด
เป็นการบา้ นเพอ่ื เตรยี มจัดการเรยี นรู้ในคร้ังต่อไป
ชว่ั โมงที่ 3
15. ครูสนทนาซักถามความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง ผลกระทบที่เกิดจาก
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสงั คม ที่ได้รับมอบหมายให้
ไปอา่ นมาในประเดน็ ต่าง ๆ เชน่
1) ความสมั พันธร์ ะหว่างส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มทางสังคม
ทำให้เกิดผลกระทบในด้านใดบา้ ง
2) นักเรียนคิดว่า จะมีแนวทางแก้ไขผลเสียที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์
ระหว่างส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มทางสงั คมไดห้ รือไม่ อย่างไร
16. ครอู ธิบายเพม่ิ เติมเก่ียวกับผลกระทบทเ่ี กิดจากความสมั พันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อม
ทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสังคมทั้งด้ายการตั้งถิ่นฐาน วัฒนธรรม และการประกอบ
อาชีพ
17. ครูใหน้ ักเรยี นสรปุ และบันทกึ ความรู้ท่ไี ดล้ งในแบบบันทกึ ความรู้สง่ ครู
18. ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำข้อมลู เกีย่ วกับสิ่งแวดล้อมทางสงั คมของประเทศไทย
ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางสังคม และ
ผลกระทบที่เกิดจากความสัมพันธ์ดังกล่าว ที่สนใจ 1 เรื่อง ออกมานำเสนอด้วยโปรแกรม
PowerPoint หน้าชน้ั เรียน โดยครคู อยแนะนำและเสรมิ ความรู้
19. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและ
การนำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือ
เป็นกลุ่ม
20. ครูมอบหมายให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน (หรือใช้กลุ่มเดิม) ให้แต่ละ
กลุ่มเลือกศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสังคมของ
ประเทศสมาชิกอาเซียน กลุ่มละ 1 ประเทศ วิเคราะห์และสรุปเป็นแผนที่ความคิด แล้วส่ง
ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
7.3 ข้นั สรปุ
21. ครสู รปุ ให้นกั เรียนฟังวา่
“มนุษย์สร้างสรรค์ส่งิ ต่าง ๆ ขน้ึ เพือ่ ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กับธรรมชาติ”
22. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทาง
ธรรมชาติกับสิ่งแวดลอ้ มทางสังคม โดยให้นักเรียนสรุปเปน็ แผนที่ความคิดหรือผังมโนทัศน์ลง
ในสมุด พรอ้ มตกแตง่ ใหส้ วยงาม
23. ครูมอบหมายให้นักเรียนดูวีดิทัศน์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของ
ประเทศไทยในอดีตและปัจจุบัน แล้วบันทึกความรู้ที่ได้ลงในสมุด เป็นการบ้านเพื่อเตรียม
จัดการเรยี นรใู้ นครั้งตอ่ ไป
8. สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1.หนงั สือเรียนวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.6
2.PowerPoint เร่อื ง สิ่งแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ
8.2 แหลง่ เรียนรู้
1.ห้องสมดุ
9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สง่ิ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรยี น
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สงิ่ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้
- ใบงาน - ใบงาน เกณฑผ์ ่าน ร้อยละ 70
2.ทกั ษะ/
กระบวนการ จากคะแนนจากการตร
3. คุณลักษณะ วจใบงานแต่ละกิจกรรม
อนั พงึ ประสงค์
4. สมรรถนะ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1.แบบสงั เกตพฤติ ระดบั คุณภาพ
สำคัญของผู้เรียน
การปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล กรรมการปฏบิ ตั งิ านรา การประเมนิ การปฏบิ ตั งิ
2. สังเกตพฤติกรรม ยบุคคล านรายบุคคลและกระบ
การปฏิบตั งิ านกลมุ่ วนการ
2.แบบสังเกตพฤตกิ รร ทำงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น
มการปฏิบัติงานกลุ่ม ในระดับ 2 ข้ึนไป
สงั เกตพฤติกรรมคุณลักษ แบบประเมิน - คะแนนการประเมนิ
ณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะ เกณฑ์ผา่ นระดบั 3
(ใหร้ ะบุพฤติกรรม) อันพงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป
สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมินสมรรถนะ - เกณฑ์การตัดสนิ
- ความสามารถในการ สำคญั ของผู้เรยี น ผ่าน ในระดบั 3 ข้นึ ไป
แกป้ ญั หา
- ความสามารถในการใช้
ทักษะชีวติ
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ...............................................................ผู้สอน
(...............................................)
12. ขอ้ คิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. ..............................................................
ลงช่ือ...............................................................
(....................................................)
หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้............................................................................
13. ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ
......................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................. ..................................
ลงชือ่ ...............................................................
(....................................................)
ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ
การอนมุ ตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
⬜ เหน็ สมควรอนุมตั ิให้ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
⬜ เหน็ สมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................. ................................................................
ลงชอ่ื ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นฝ่ายบริหารวิชาการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมัตใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวลั ย์ สมฤทธิ์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 30 เวลา 3 ชว่ั โมง
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6
เรอ่ื ง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับสิง่ แวดล้อม
1. จำนวนนกั เรยี นทส่ี อน จำนวนนกั เรยี น (คน)
ระดบั ชน้ั 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทึกผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................ ................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................................. ..............................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................... .................................
................................................................................................. ..............................................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเนื้อหา
3. ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)
ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผนู้ เิ ทศ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงช่ือ................................................ผู้นิเทศ
(.............................................)
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู.้ .............................................................
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ........................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ........................................................
(นางวลิ าวัลย์ สมฤทธ์ิ)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 31
รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 11 สิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ เวลา 6 ชว่ั โมง
เรื่อง การเปลีย่ นแปลงของสภาพธรรมชาติในประเทศไทยและผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงจากอดีต
ถึงปจั จุบนั เวลา 2 ชว่ั โมง
1. ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์
ส 5.2 ป.6/2 อธิบายการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทยจากอดีตถึงปจั จุบัน
และผลที่เกิดขึ้นจากการเปลย่ี นแปลงนน้ั
2. สาระสำคัญ
การเปล่ยี นแปลงของสภาพธรรมชาติในประเทศไทยเกิดทงั้ จากธรรมชาติและการกระทาของ
มนุษย์ โดยเฉพาะการกระทาของมนุษยท์ าใหเ้ กดิ ปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาน้าเสยี ป่าไมถ้ ูกทาลาย ดนิ
เส่อื มคุณภาพ อากาศเป็นพษิ และส่งผลกระทบต่อคนและสง่ิ มชี วี ติ ต่าง ๆ เช่น เกดิ โรคภยั ไขเ้ จบ็ เกดิ
การอพยพยา้ ยถน่ิ ขาดแคลนอาหาร เกดิ ความสญู เสยี ทางดา้ นเศรษฐกจิ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
- อธบิ ายสาเหตุและผลกระทบที่เกดิ จากการเปลีย่ นแปลงของสภาพธรรมชาติในประเทศ
ไทยได้
3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- สบื คน้ ข้อมูลเกย่ี วกับการเปล่ียนแปลงของสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทยและ
ผลกระทบทเี่ กิดจากการเปลี่ยนแปลจากอดีตถึงปจั จุบนั ไดถ้ ูกตอ้ ง
3.3 ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
- ตระหนกั ถึงการเปลยี่ นแปลงของสภาพธรรมชาตทิ เ่ี กิดขน้ึ ในประเทศไทย
4. สาระการเรยี นรู้
• การเปล่ียนแปลงของสภาพธรรมชาติในประเทศไทยและผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลง
จากอดีตถงึ ปจั จบุ นั
1. สาเหตุท่ที ำให้เกิดการเปล่ียนแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทยจากอดตี ถงึ
ปัจจุบนั
2. ผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทย
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
- ใฝเ่ รียนรู้
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
ชว่ั โมงท่ี 1
1. ครแู จ้งตวั ชีว้ ดั ชั้นปีและจดุ ประสงค์การเรยี นรใู้ ห้นกั เรียนทราบ
2. ครูตรวจผลงานของนักเรียน โดยสุ่มเลือกนักเรียน 2–3 คน เจ้าของผลงานให้
ออกมาบอกความรู้ที่ได้จากการดูวีดิทัศน์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของประเทศ
ไทยในอดีตและปัจจบุ นั ทีไ่ ดร้ บั มอบหมายให้เพื่อน ๆ ฟงั โดยครูคอยแนะนำและเสริมความรู้
3. ครูซักถามนักเรียนว่า สภาพธรรมชาติในประเทศไทยมกี ารเปลี่ยนแปลงไปหรอื ไม่
อย่างไร ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น จากนั้นครูสรุปและเชื่อมโยงไปสู่เนื้อหาที่จะ
เรียน
7.2 ข้ันสอน
4. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ธรรมชาติในประเทศไทยจากอดีตถึงปัจจุบันจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น เอกสารในห้องสมุด
อินเทอร์เน็ต แล้วนำข้อมูลที่ได้ร่วมกันมาอภิปรายหาข้อสรุปภายในชั้นเรียน โดยให้นักเรียน
จัดแบ่งหนา้ ที่ในการอภปิ รายดว้ ยตนเอง ครูเปน็ ทป่ี รกึ ษาคอยให้คำแนะนำ
5. ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกนั สรุปผลการอภิปรายลงในแบบบนั ทกึ ผลการอภิปรายสง่ ครู
6. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4–6 คน ศกึ ษาเหตกุ ารณ์หรือปัญหาท่ี
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทยและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง
จากอดีตถึงปัจจุบัน แล้วเตรียมการแสดงละครเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือปัญหาดังกล่าว รวมท้ัง
บันทึกข้อมูลลงในแบบบันทึกกิจกรรมตามหัวข้อที่กำหนดให้ และให้นักเรียนอ่านเน้ือหาเรื่อง
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทย แล้วบันทึกความรู้ที่ได้ลงใน
สมดุ เปน็ การบ้านเพอ่ื เตรยี มจดั การเรยี นรู้ในครงั้ ตอ่ ไป
ช่ัวโมงท่ี 2
7. ครูทบทวนความรู้เรื่อง สาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติใน
ประเทศไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน และสนทนาซักถามความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง
ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทย ที่ไดร้ ับมอบหมายให้ไปอ่านมา
ในประเด็นต่าง ๆ เชน่
1) ประเทศไทยไดร้ บั ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพธรรมชาติในด้าน
ใดบ้าง
2) ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติด้านใดที่ส่งผลต่อตัว
นกั เรียนมากท่สี ุด เพราะอะไร
8. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติใน
ประเทศไทย โดยครูอาจจะยกกรณีตัวอย่างเกี่ยวกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษท่ี
ปล่อยมาจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือสุ่มเลือกนักเรียน 2–3 คน ให้บอกกรณีตัวอย่างอื่น ๆ
จากน้นั ครูบอกกฎกติกาเกีย่ วกับการแสดงละครหนา้ ช้นั เรียนให้นักเรียนฟงั
9. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงละครเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือปัญหาที่เกิด
จากการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทยและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจาก
อดีตถึงปัจจุบันหน้าชนั้ เรียน ครกู ลา่ วชมเชยและใหก้ ำลังใจนักเรียนเม่ือจบการแสดง
10. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการแสดงละครเป็นแผนที่ความคิด
แล้วบันทกึ แผนทคี่ วามคดิ ที่ไดล้ งในสมดุ
11. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและ
การนำเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคลหรือ
เป็นกลุ่ม
12. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ
สภาพธรรมชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนจากอดีตถึงปัจจุบันว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เกิด
จากสาเหตุใด ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง และแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันอย่างไร สรุป
และเขียนเปน็ บทความส่งครู
7.3 ขั้นสรปุ
13. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้เรื่อง การเปลยี่ นแปลงของสภาพธรรมชาติใน
ประเทศไทยและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยให้นักเรียนสรุปเป็น
แผนทค่ี วามคดิ หรอื ผงั มโนทศั น์ลงในสมุด พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม
14. ครูมอบหมายให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการนำทรัพยากรในชุมชนมาใช้
ประโยชน์ แล้วบนั ทึกข้อมูลทไี่ ดล้ งในสมุด เป็นการบ้านเพื่อเตรียมจดั การเรียนรใู้ นคร้งั ต่อไป
8. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรยี นรู้
8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1.หนงั สือเรียนวิชาสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.6
2.PowerPoint เร่ือง ส่งิ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ
8.2 แหล่งเรียนรู้
1.หอ้ งสมุด
9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน
- แบบทดสอบ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
สงิ่ ทจี่ ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
แบบทดสอบ
ความรู้ ทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรียน
10.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สง่ิ ทจ่ี ะวดั วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล การประเมนิ ผล
1. ความรู้
- ใบงาน - ใบงาน เกณฑผ์ า่ น ร้อยละ 70
2.ทกั ษะ/
กระบวนการ จากคะแนนจากการตร
3. คุณลกั ษณะ วจใบงานแต่ละกจิ กรรม
อันพึงประสงค์
4. สมรรถนะ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1.แบบสังเกตพฤติ ระดับคุณภาพ
สำคญั ของผเู้ รียน
การปฏิบัติงานรายบุคคล กรรมการปฏบิ ตั ิงานรา การประเมินการปฏบิ ตั ิง
2. สังเกตพฤติกรรม ยบุคคล านรายบคุ คลและกระบ
การปฏบิ ัตงิ านกลุม่ วนการ
2.แบบสังเกตพฤติกรร ทำงานกล่มุ เกณฑ์ผ่าน
มการปฏบิ ัติงานกลุ่ม ในระดับ 2 ขึ้นไป
สงั เกตพฤตกิ รรมคุณลักษ แบบประเมิน - คะแนนการประเมิน
ณะอนั พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะ เกณฑผ์ า่ นระดบั 3
(ใหร้ ะบุพฤติกรรม) อนั พงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป
สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สมรรถนะ - เกณฑ์การตดั สิน
- ความสามารถในการ สำคัญของผเู้ รยี น ผา่ น ในระดับ 3 ข้ึนไป
แกป้ ัญหา
- ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชีวิต
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
10.3 การประเมนิ หลงั เรยี น
สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารวดั ผล
ความรู้ ทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ของคะแนน
10.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั ผล
1. ความรู้ ตรวจผลงาน ใบงาน ใบงาน
ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70
11. กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ...............................................................ผู้สอน
(...............................................)
12. ขอ้ คิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. ..............................................................
ลงช่ือ...............................................................
(....................................................)
หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้............................................................................
13. ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ
......................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................. ..................................
ลงชือ่ ...............................................................
(....................................................)
ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ
การอนมุ ตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรจู้ ากฝา่ ยบรหิ าร
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
⬜ เหน็ สมควรอนุมตั ิให้ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
⬜ เหน็ สมควรไม่อนุมัตใิ ห้ใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน เพราะ..........................................
............................................................................................. ................................................................
ลงชอ่ื ............................................................
(นายนพดล ธรรมใจอุด)
รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นฝ่ายบริหารวิชาการ
การอนมุ ัตจิ ากผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
⬜ อนุมัตใิ หใ้ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน
⬜ ไมอ่ นมุ ตั ิใหใ้ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เพราะ..............................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงชือ่ .......................................................................................
(นางวิลาวลั ย์ สมฤทธิ์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา
บนั ทกึ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 31
รายวชิ า สังคมศกึ ษา รหสั วชิ า ส16101
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6
เรอื่ ง การเปล่ียนแปลงของสภาพธรรมชาตใิ นประเทศไทยและผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงจากอดตี
ถึงปจั จบุ นั เวลา 2 ชวั่ โมง
1. จำนวนนักเรยี นทส่ี อน จำนวนนกั เรยี น (คน)
ระดบั ชนั้ 27
ป.6/1 28
ป.6/2 55
รวม
2. บนั ทึกผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ .......
........................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
2.2 ขอ้ สงั เกต/ขอ้ คน้ พบ
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.3 ปญั หา/อปุ สรรค
........................................................................................................................................ .........................
.......................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................. ...................................
2.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.......................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ ...................................................
3. การประเมนิ ผลการสอน ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมนิ
1. ความเหมาะสมของระยะเวลา
2. ความเหมาะสมของเนื้อหา
3. ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใ่ี ช้
5. พฤตกิ รรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน
6. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม/ใบกจิ กรรม
การทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
สรปุ ภาพรวม
3. สรปุ ผลการวดั ผลประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ
การวดั ผลประเมนิ ผล
4321
รวม
(คน)
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
ร้อยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
จำนวน (คน)
้รอยละ
1. ความรู้
1.1 ใบงาน
1.2 ……..
1.3 .......
1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2. ทักษะ/กระบวนการ
2.1 กระบวนการทำงานกลมุ่
2.2 ..........
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดบั 3 ขน้ึ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ระดบั 3 ขนึ้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ
ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน
(.............................................)