The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sucharat ratchasarn, 2022-04-18 06:52:00

หลักสูตรสถานศึกษา 2564

หลักสูตรสถานศึกษา 2564

157

กลุมสำระกำรเรียนรศู ิลปะ คำอธบิ ำยรำยวิชำ
รหัสวิชำ ศ 30206 เพ่ิมเตมิ กตี ำร์ 5 รำยวิชำเพ่ิมเติม กีตำร์ 5
เวลำ 80 ช่ัวโมง
ชน้ั มัธยมศกึ ษำปท่ี 6 ภำคเรยี นท่ี 1
จำนวน 2.0 หนวยกิต

ศกึ ษาเกีย่ วกบั รูปแบบบทเพลง รปู แบบการเลนกีตาร ทฤษฎีดนตรี การอาน เขยี น ดดี โนตใน
ระดบั ทีซ่ ับซอนขนึ้ เชน โนตเขบ็ต 2 ชน้ั (Sixteenth Notes), การเลน Scale แบบ 3 โนต ใน 1 สาย

(Three Note on a String Scale), Seventh Chords Chord Melody การจับคอรดเคลือ่ นไหว 3
หรือ 4 และทฤษฏี harmony ระดบั สูง

โดยใชกระบวนการปฏิบัตกิ ารทางดนตรที งั้ เด่ียวและกลุม ทักษะการฟง ทักษะการสงั เกต
การฝกซอม และการสาธติ มีความสามารถในการ improvise การเลนในสไตสตางๆและการวเิ คราะห
ผลงานเพลง

เพ่อื ใหผเู รยี นสามารถนาองคความรู หลักการ รปู แบบและทฤษฎดี นตรีมาพัฒนา
ความสามารถในการสือ่ สารทั้งภาษาไทยและภาษาองั กฤษ การบรู ณาการความรู้สู่อาเซ่ยี น และสราง

สรรคผลงานเพลงในระดับสงู มที ัศนคติและคานิยมดตี อกตี าร มีความอดทนตอความยากลาบาก มี
ความพอเพยี ง มรี ะเบียบวนิ ยั เกดิ ความมุงม่ันในการฝกซอม ใฝเรียนรู นาความรูไปใชใหเกิดประโยชน
ตอตนเองและตอสังคม

ผลการเรียนรู

1. ผเู รยี นมีความรูและเขาใจในทฤษฎดี นตรีของกตี ารขั้นสงู สามารถเขยี นและจาแนก
สัญลกั ษณ

โนตดนตรีกตี ารในบนั ไดเสยี งตางๆได
2. ผูเรียนมีทักษะการถายทอดบทเพลงตามเนอื้ หาและอารมณโดยแสดงออกทางดนตรี

กตี าร
ตอหนาผูชมเพ่อื ใหเกดิ ความบนั เทิงไดอยางเหมาะสม
3. ผเู รยี นเกดิ ความชืน่ ชม และรูจักเสียสละเพ่อื ประโยชนสวนรวมเกดิ ความมุงม่นั มีความ

รับผิดชอบ
รวม 3 ผลการเรียนรู

158

กลุมสำระกำรเรยี นรศู ลิ ปะ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
รหสั วิชำ ศ 30207 เพ่มิ เติมกตี ำร 6 รำยวชิ ำเพิม่ เตมิ กตี ำร 6
เวลำ 80 ชัว่ โมง
ช้นั มัธยมศึกษำปท่ี 6 ภำคเรียนท่ี 2
จำนวน 2.0 หนวยกิต

ศึกษาเกีย่ วกบั วิธีการสรางคอรดตางๆ เทคนิคการแสดงออกทัง้ แบบการแสดงเด่ียวและกลุม
วิเคราะหการแสดง นกั กตี าร ทไ่ี ดรบั การยอมรับทั้งในประเทศและตางประเทศ เทคโนโลยกี ับการสร

างสรรคงานกีตาร
โดยใชกระบวนการปฏิบัตกิ ารทางดนตรที ง้ั เด่ยี วและกลุม ทักษะการฟง ทักษะการสงั เกต

ทกั ษะการคิดวิเคราะห การคิดสรางสรรคการฝกซอม และการสาธิตเพือ่ สรางทกั ษะการเลน Solo ขนั้
สงู

เพ่อื ใหผูเรยี นสามารถสื่อสารการแสดงความสามารถทางกีตารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

สามารถใชเทคโนโลยใี นการสรางสรรคผลงานดนตรีกตี าร การบรู ณาการความรสู้ ูอ่ าเซีย่ น เหน็ คุณค
ามีทศั นคติและคานยิ มท่ีดตี อกีตาร และอาชพี นกั ดนตรี มีความคิดสรางสรรค มีความพอเพยี ง มี

ระเบยี บวนิ ยั เกิดการบูรณาการความรู ใฝเรยี นรู นาความรูไปใชใหเกิดประโยชนตอตนเองและ
ตอสังคม

ผลการเรียนรู

1. ผูเรียนมที กั ษะการถายทอดบทเพลงตามเน้ือหาและอารมณโดยแสดงออกทางการบรรเลง
กีตารตอหนาผูชมเพ่อื ใหเกดิ ความบนั เทงิ ไดอยางเหมาะสม

2. ผูเรยี นสามารถสรางเกณฑสาหรับประเมนิ คณุ ภาพการประพันธและการเลนกีตาร

3. ผูเรยี นสามารถฟงและแสดงความคิดเหน็ วิพากษ วจิ ารณ ตอการแสดงดนตรปี ระเมนิ
คณุ คาความไพเราะและอารมณของบทเพลงไดอยางเหมาะสม

4. ผูเรียนสามารถประยกุ ตเทคโนโลยีมาใชพัฒนาผลงานใหมีคุณภาพและมคี วามนาสนใจ
5. ผเู รยี นมีทศั นคติที่ดี เห็นประโยชนของสงั คมและมคี วามรบั ผิดชอบ

รวม 5 ผลการเรียนรู

159

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ

ชัน้ มัธยมศึกษำตอนปลำย

160

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ กำรงำนอำชีพ วชิ ำพื้นฐำน

รหสั วิชำ ง33101 กำรงำนอำชีพ ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 6 ภำคเรียนท่ี 1

เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

............................................................................................................................................................

ศึกษาวเิ คราะหว์ ิธีการทางานเพอื่ การดารงชวี ิต เรียนรกู้ ระบวนการทางานรว่ มกนั เพือ่ สร้างผลงานอยา่ งมีความคดิ

สรา้ งสรรค์ มีทักษะการทางานและกระบวนการแกป้ ัญหาที่ดใี นการทางานร่วมกนั ทักษะการจดั การ และทกั ษะการแสวงหา

ความรู้ เพือ่ การดารงชีวิตอย่างมคี ุณภาพ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยที่ดีในการ หลกั การทางานเพือ่ การดารงชีวติ การ

จัดการในบา้ น อาหารและโภชนาการ การเพาะปลูกพชื การพัฒนาสงู่ านอาชพี แนวทางในการประกอบอาชพี

เพอ่ื การพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน

โดยใชท้ ักษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ทกั ษะการจัดการ การตัดสนิ ใจแก้ปญั หา

กระบวนการปฏบิ ัติ ทกั ษะการทางานร่วมกัน เหน็ คุณคา่ ของการทางาน

เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนเหน็ คุณค่าของการทางาน มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มสี มรรถนะสาคัญ มีคณุ ลกั ษณะอนั พึง

ประสงค์ ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลกั คดิ หลักปฏิบัติในการเรียนรู้ สามารถนาความร้ไู ป

ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน มคี วามคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ทางานด้วยความเสยี สละ แกป้ ญั หาการทางานอย่าง

มเี หตผุ ล มีความสามารถในการตดั สินใจ มีจติ สานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม

ตวั ชว้ี ัด
ง1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2,ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7
ง2.1 ม.4-6/1,, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4

รวมทัง้ หมด 11 ตัวชว้ี ัด

161

คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวิชำเพ่ิมเตมิ
กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี
ภำคเรียนท่ี 1
รหสั วชิ ำ ง30201 เพิ่มเติมภำษำอังกฤษสำหรับงำนประดิษฐ์ ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 4 จำนวน 2.0 หน่วยกติ
เวลำ 80 ช่วั โมง

ศึกษาเกีย่ วกบั คาศพั ทภ์ าษาองั กฤษทส่ี าคัญสาหรับงานร้อยมาลัย เรยี นรกู้ ารใชค้ าศัพท์หลกั
ไวยากรณ์ ภาษาองั กฤษเพอื่ ใหเ้ กิดทกั ษะการสือ่ สารทัง้ ด้านการพูดการฟง้ การอ่านและการเขียนคิดวเิ คราะห์
หลักการใช้ ภาษาอังกฤษสาหรับการประกอบอาชีพด้านงานรอ้ ยมาลยั เพอ่ื เตรียมพร้อมในการเช้าสู่
ประชาคมอาเซียนของ ประเทศไทย

โดยใช้กระบวนการฝกึ ปฏิบตั กิ ารสอื่ สารด้วยภาษาองั กฤษในการปฏิบัตงิ านร้อยมาลัย ตลอดจนการ
แก้ปญั หาที่เกดิ ขึ้นในกระบวนการทางานได้อย่างถกู ตอ้ งและมปี ระสทิ ธภิ าพ ดว้ ยกิจกรรมการเรียนรบู้ ทบาท
สมมตุ เิ พ่ือใหเ้ กิดทักษะการสือ่ สารด้วยภาษาองั กฤษสาหรับการประกอบอาชีพด้านงานประดษิ ฐอ์ ยา่ งมือ
อาชีพ

เพ่อื ให้ผู้เรยี นเหน็ คุณคา่ ของการทางาน มีความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ มีสมรรถนะสาคญั
มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ หลกั คดิ หลกั ปฏิบตั ิในการเรียนรู้
เหน็ คุณค่าและมเี จตคติทีด่ ตี อ่ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสารในงานประดิษฐ์ มคี วามใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น มีความสามคั คี
มคี ณุ ธรรม ทางานด้วยความรับผดิ ชอบ ขยันซอ่ื สัตย์ มงุ่ มั่นอดทน สามารถเรยี นรู้และปฏบิ ัติงานร่วมกบั ผอู้ น่ื
ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ และมจี ิตสานึกในการใชพ้ ลงั งานและส่ิงแวดลอ้ ม

ผลการเรียนรู้
1. ผเู้ รียนอธิบายความหมายชองคาศพั ท์ภาษาอังกฤษทีส่ าคัญสาหรบั การปฏบิ ัตงิ านร้อยมาลัย

ได้ อย่างถูกต้อง
2. ผู้เรยี นมีทกั ษะปฏบิ ัติในการเตรียมและการปฏิบัติงานรอ้ ยมาลัย โดยใช้ภาษาองั กฤษในการ

สอ่ื สาร ได้อยา่ งถูกตอ้ ง
3. ผเู้ รยี นมีทักษะการส่อื สารดว้ ยภาษาอังกฤษสาหรับธุรกจิ งานรอ้ ยมาลัยได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
4. ผู้เรยี นมที ักษะการคิดแก้ปัญหาท่เี กิดขนึ้ ในกระบวนการปฏิบตั งิ านรอ้ ยมาลยั ตลอดจนธุรกิจงาน

ร้อยมาลัยไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ เพือ่ การประกอบอาชพี ดา้ นงานประดิษฐ์อย่างมอื อาชีพ
5. ผู้เรียนมคี ณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงคเ์ หน็ คณุ ค่าและมีเจตคติทด่ี ีต่อภาษาองั กฤษเพ่อื การสือ่ สารใน

การปฏบิ ัติงานประดิษฐ์และธรุ กจิ งานประดิษฐ์
รวม 5 ผลการเรียนรู้

162

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี รำยวิชำเพม่ิ เติม
ภำคเรยี นท่ี 2
รหัสวชิ ำ ง30202 เพิม่ เตมิ ผลติ ภัณฑง์ ำนดอกไม้สด ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 4
จำนวน 2.0 หน่วยกิต
เวลำ 80 ช่วั โมง

ศกึ ษาเรยี นรเู้ กย่ี วกบั เครอ่ื งแขวนดอกไมส้ ด ความหมายของเครอื่ งแขวน เคร่อื งแขวนของไทยใน
อดตี ประเภทของเครือ่ งแขวน วัสดอุ ปุ กรณใ์ นการประดษิ ฐเ์ ครอ่ื งแขวน ส่วนประกอบเครอ่ื งแขวน การ
ประดษิ ฐ์ เคร่อื งแขวน เซน่ เคร่ืองแขวนขนาดเล็ก เคร่อื งแขวนขนาดกลาง เครอ่ื งแขวนขนาดใหญ่ เครื่อง
แขวนประทปี โคมไฟ เครือ่ งแขวนดอกไมแ้ บบไทยสากล การเลอื กดอกไม้และวสั ดุตกแต่งเครื่องแขวน
ดอกไม้สดแบบต่างๆ การใชแ้ ละบารงุ รกั ษาอปุ กรณ์ในการประดษิ ฐเ์ ครอื่ งแขวน รวมทั้งศกึ ษาคาศัพท์
ภาษาต่างประเทศทเี่ กยี่ วช้อง

โดยใชท้ ักษะกระบวนการในการศึกษา เรียนรู้ การ'ฝกึ ปฏบิ ตั ิงานเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ในการ
ประดษิ ฐ์ เคร่ืองแขวนดอกไม้สด การวางแผน การคิดสร้างสรรค์ และการออกแบบส่ิงใหมๆ่ การ'ฝึก
คานวณคา่ ใชจ้ ่าย การกาหนดราคาค่าบริการ การจัดจาหน่ายจดบนั ทึกการปฏบิ ัติงานทาบญั ชรี ับจ่าย ใช้
ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ'ฝึกปฏิบตั ิอย่างเหมาะสมและสรา้ งสรรค์เพื่อการพฒั นาสปู่ ระชาคม
อาเซียน

เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนเห็นคณุ ค่าของการทางาน มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีสมรรถนะสาคัญ มีคุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์ ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ หลักคิดหลักปฏิบัติในการเรียนรู้ มคี วาม
ซอื่ สตั ย์เสยี สละยุตธิ รรม ประหยัด ขยนั อดทนรับ ผดิ ชอบและตรงเวลา มีเหตุผลและมีมารยาทใน การ
ปฏบิ ัติงาน สามารถทางานอย่างเป็นข้นั ตอน มรี ะบบมีความคิดสรา้ งสรรคม์ ีประสิทธภิ าพรกั ษา
ส่ิงแวดล้อม

ผลกำรเรียนรู้
1. ผูเ้ รียนอธิบายหลกั การวธิ กี ารและกระบวนการเกย่ี วกับศลิ ปะและวัฒนธรรมท่ีเกย่ี วช้องกับ

งาน เครื่องแขวนดอกไมส้ ดการเลือกดอกไม้และวสั ดตุ กแต่งเครือ่ งแขวนดอกไมส้ ดแบบต่างๆการใช้และ
บารงุ รักษา อปุ กรณ์

2. ผเู้ รียนปฏบิ ตั งิ านเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ์ในประดิษฐ์เคร่ืองแขวนดอกไมส้ ดการวางแผน การ
ออกแบบ คานวณค่าใช้จา่ ยกาหนดราคาคา่ บริการจัดจาหน่ายจดบนั ทึกการปฏิบัตงิ านทาบัญชีรับจ่าย
และประดษิ ฐ์ เครือ่ งแขวนอยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์

3. ผูเ้ รยี นพัฒนาชิน้ งานโดยใช้เทคโนโลยแี ละภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ ที่เหมาะสมเพือ่ สรา้ งแนวคดิ
ใหม่ๆใน การทางานและสร้างรายได้

4. ผูเ้ รียนสามารถประดิษฐ์เครอ่ื งแขวนรปู แบบต่างๆ ไดอ้ ยา่ งมอื อาชีพ
5. ผเู้ รียนมที กั ษะในการแสวงหาความรมู้ ที ักษะกระบวนการแกป้ ญั หาในการทางานมคี ณุ ธรรม
และ ลกั ษณะนิสัยในการทางานใชพ้ ลังงานทรัพยากรในการทางานอยา่ งค้มุ คา่ และย่ังยืนเพ่อื การอนรุ ักษ์
สิ่งแวดล้อม
6. ผูเ้ รยี นมที ักษะในการสือ่ สารด้วยภาษาอังกฤษในการปฏิบัติงาน

รวม 6 ผลกำรเรียนรู้

163

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

กล่มุ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ รำยวิชำเพ่ิมเติม
รหัสวชิ ำ ง 30203 เพม่ิ เตมิ กำรบริหำรกำรจดั กำรธรุ กิจงำนประดษิ ฐ์
เวลำ 80 ช่วั โมง ชน้ั มัธยมศึกษำปีที่ 5 ภำคเรยี นท่ี 1
จำนวน 2.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาเกย่ี วกบั ความสาคัญ และความเป็นมาของธรุ กิจด้านงานประดิษฐ์ รวมท้ังวเิ คราะหแ์ นวโนม้ ใน
อนาคตโดยเฉพาะผลกระทบทเ่ี กิดขึ้นเมอื่ ประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ศกึ ษาหลักการจัดการธุรกจิ งาน
ประดิษฐจ์ ากเอกสารทัง้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ คดิ วิเคราะห์ปัจจัยทสี่ ่งผลตอ่ การจดั การธุรกิจงาน ประดษิ ฐ์
วางแผนธุรกจิ งานประดิษฐ์ดอกไม้สด และออกแบบหาแนวทางในการป้องกันปัญหา และการแกไข ปัญหาของ
ธรุ กจิ งานประดษิ ฐไ์ ด้อย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะหแ์ ละวางแผนการจัดการเกีย่ วกับการเงิน การขาย และการตลาด
ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ รวมทัง้ คุณธรรมและจรรยาบรรณของผูป้ ระกอบธรุ กิจด้านงานประดษิ ฐ์ รวมท้ังศึกษา
คาศัพทภ์ าษาตา่ งประเทศท่ีเกย่ี วขอ้ งเพอ่ื การพฒั นาสปู่ ระชาคมอาเซยี น

โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการวิเคราะห์แนวโนม้ และทศิ ทางของธรุ กจิ งานประดิษฐ์ไดอ้ ย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ ประยุกต์ใชค้ วามรูเ้ พอ่ื วางแผนและออกแบบการตลาดและการจดั การธรุ กิจงานประดษิ ฐไ์ ดอ้ ยา่ ง
สร้างสรรค์ วเิ คราะหป์ ญั หาและแนวทางการแก้ปัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ ในการทางานได้อยา่ งสร้างสรรค์ ตลอดจน วาง
แผนการจัดการเก่ียวกบั การเงิน การขาย และการตลาด เพอ่ื การประกอบอาชีพงานประดษิ ฐอ์ ย่างมอื อาชีพ

เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี น มเี จตคติทด่ี ีต่อการจัดการธรุ กิจงานประดษิ ฐ์ สามารถประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี
ประกอบการศึกษา ดน้ คว้า สร้างองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง มีความรเู้ กย่ี วกบั คาศพั ทท์ ส่ี าคญั และมคี วามสามารถ
ในการสอ่ื สารใน ภาษาตา่ งประเทศเก่ียวกับธุรกิจงานประดษิ ฐ์ มคี วามสามคั คดี ้วยการเรียนรผู้ ่านกระบวนการ
กลุ่มร่วมมือ มสี มรรถนะสาคัญมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลกั คดิ
หลักปฏิบัตใิ นการเรยี นรู้มีความใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น ทางานด้วยความรับผิดชอบ ขยัน ซือ่ สัตย์ มุ่งมั่น อดทน มจี ติ สานึก
มีคุณธรรม และยดึ มน่ั ใน จรรยาบรรณวิชาชพี ผปู้ ระกอบธุรกิจงานประดษิ ฐ์ ใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ้ มอย่างคุม้ คา่ และถูกวธิ ี

ผลการเรียนรู้ ผู้เรียนอธบิ ายความสาคัญและความเปน็ มาชองธุรกิจงานประดษิ ฐ์ ตลอดจนวิเคราะหแ์ นวโน้ม ชองธรุ กจิ งานประดษิ ฐไ์ ด้
ผ้เู รียนอธบิ ายหลกั การบรหิ ารจดั การธรุ กิจงานประดษิ ฐ์ได้อย่างมเี หมาะสม
1. ผู้เรยี นมที ักษะการคดิ วเิ คราะห์ และคดิ วิจารณญาณในประเด็นปญั หาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ งานประดษิ ฐ์
2. ผเู้ รียนมที ักษะการคิดวิเคราะห์ และวางแผนการเงิน การชาย การตลาด และการจัดการธรุ กิจ งานประดษิ ฐ์ไดอ้ ยา่ ง
3.
4.

สรา้ งสรรค์ ผูเ้ รียนมที ักษะในการส่ือสารด้วยภาษาอังกฤษในการปฏิบตั งิ าน
ผู้เรียนมีคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ เห็นคณุ คา่ และมเี จตคติทดี่ ีต่อการจดั การและบริหารธุรกิจ งานประดิษฐ์
5. ผ้เู รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี ผ้ปู ระกอบธรุ กจิ งานประดิษฐ์
6.
7.

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้

164

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กล่มุ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ รำยวิชำเพ่ิมเติม
ภำคเรียนท่ี 2
ง30204 เพิม่ เติมศลิ ปะสร้ำงสรรค์งำนดอกไม้สด ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5
จำนวน 2.0 หน่วยกติ
เวลำ 80 ช่วั โมง

ศึกษาเก่ียวกับงานดอกไม้สดในประเพณีและวฒั นธรรมไทย ศิลปะและวัฒนธรรมท่ีเกี่ยวขอ้ งกับ
การ ออกแบบงานดอกไมส้ ด ศิลปะการร้อยมาลยั ด้วยดอกไม้สดในทอ้ งถ่นิ การเลือกดอกไมแ้ ละวัสดุ
ตกแต่งการจดั ดอกไมส้ ดแบบต่างๆ การใช้และบารงุ รักษาอุปกรณ์ รวมทงั้ ศกึ ษาคาศพั ท์
ภาษาตา่ งประเทศท่เี กย่ี วช้องเพ่ือการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซยี น

โดย'ฝึกปฏิบตั งิ าน การเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณใ์ นงานดอกไมส้ ดในวัฒนธรรมและประเพณีไทยแบบ
ตา่ งๆ เซ่น งานอุปสมบท งานมงคลสมรส งานศพ งานตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ การเรยี นรู้จากสถานการณ์
จรงิ และการ 'ฝกึ ปฏบิ ัติที่เกีย่ วกบั การประกอบอาชีพ การ'ฝกึ คานวณค่าใช้จ่าย การกาหนดราคา
ค่าบรกิ ารและการจดั จาหนา่ ย ใช้กระบวนการในการจดบนั ทกึ การปฏิบตั งิ าน

เพ่ือให้ผูเ้ รยี นเห็นคุณคา่ ของการทางาน มีคณุ ธรรม จริยธรรม มีสมรรถนะสาคญั มีคุณลักษณะอนั
พึงประสงค์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ หลกั คิดหลักปฏบิ ัติในการเรียนรู้ มคี วามซื่อสัตย์
เสยี สละยุติธรรมประหยัดขยันอดทน รบั ผิดชอบตรงเวลารอบคอบปลอดภัยคุ้มคา่ ย่งั ยืนสะอาดประณีตมี
เหตุผลมีมารยาทช่วยเหลอื ตนเองทางาน บรรลเุ ป้าหมายทางานถูกวิธที างานเป็นขั้นตอนทางานมรี ะบบ
มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีประสทิ ธภิ าพรกั ษาสิง่ แวดลอ้ ม

ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามเช้าใจเก่ยี วกบั ความรทู้ ั่วไปในงานดอกไม้สดหลกั การออกแบบการเสอื ก การเตรยี ม

วัสดุ อปุ กรณ์และการเกบ็ รกั ษาชิ้นงานการคานวณตน้ ทนุ กาหนดราคาและจดั จาหน่าย
2. มที กั ษะในงานดอกไม้สด งานจาลองดอกไม้สด และสามารถใชเ้ พื่อตกแตง่ ในโอกาสตา่ งๆ ได้
3. ปฏบิ ตั ิงานด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยประณีตสะอาดปลอดภัยรักษาส่ิงแวดลอ้ มและ

รักษาเอกลกั ษณ์ประจาชาติ
4. มีทักษะการจัดการในการทางานและมที ักษะในการใช้อปุ กรณอ์ ยา่ งมืออาชีพ
5. ผู้เรยี นมที ักษะในการสอื่ สารด้วยภาษาองั กฤษในการปฏบิ ตั งิ าน
6. มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ มีทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทางาน มีคุณธรรมและ

ลกั ษณะนิสยั ในการทางานใช้พลังงานทรัพยากรในการทางานอย่างค้มุ คา่ และย่งั ยืนเพือ่ การอนรุ กั ษ์
ส่งิ แวดล้อม

รวม 6 ผลกำรเรยี นรู้

165

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ รำยวิชำเพ่ิมเตมิ

ง30205 เพ่มิ เติมกำรฝึกประสบกำรณท์ ำงอำชีพ ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 6 ภำคเรียนที่ 1

เวลำ 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หน่วยกติ

ศึกษา ทาความเขา้ ใจ และลงมอื ปฏิบัติเกยี่ วกบั หลกั การและเง่ือนไชชองการ'ฝกึ ประสบการณท์ าง
อาชพี การวางแผนและการเตรยี มงานในการฝกึ ประสบการณ์ การประสานงานและการทาความเข้าใจใน
ข้อตกลงกับสถานประกอบการ การวิเคราะหง์ านและการเขียนโครงการ การเตรยี มโครงการ การลงปฏิบัติ
และการประเมินผลเพอื่ การพัฒนาสู่ประชาคมอาเซยี น

โดยใชก้ ระบวนการวเิ คราะห์ ลงั เคราะห์ การ'ฝกึ ปฏบิ ตั งิ านเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการปฏบิ ัตงิ าน
เกี่ยวกบั การ'ฝึกประสบการณ์วิชาชีพด้านงานศลิ ปประดิษฐใ์ ชท้ กั ษะพน้ื ฐานท่จี าเปน็ ตอ่ การประกอบอาชีพ
ได้แก่ทักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกัน ทกั ษะแสวงหาความรู้
และทกั ษะการจดั การในการ'ฝึกปฏิบัตงิ าน

เพื่อใหผ้ ู้เรยี นเหน็ คณุ คา่ ของการทางาน มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีสมรรถนะสาคัญ มีคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ หลักคดิ หลกั ปฏิบัติในการเรียนรู้ มคี วามซอื่ สัตย์
เสียสละยตุ ิธรรมประหยัดขยนั อดทน รับผดิ ชอบตรงเวลารอบคอบปลอดภยั คมุ้ คา่ ยงั่ ยืนสะอาดประณีตมี
เหตผุ ลมมี ารยาทชว่ ยเหลอื ตนเองทางาน บรรลเุ ป้าหมายทางานถูกวธิ ีทางานเปน็ ขน้ั ตอนทางานมรี ะบบ
มีความคดิ สร้างสรรค์ มีประสทิ ธิภาพรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม

ผลการเรยี นรู้
1. ผเู้ รียนไดฝ้ ึกประสบการณว์ ชิ าชพี ดา้ นศิลป์ประดษิ ฐ์ให้เกดิ ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ

เจตคติ และประสบการณเ์ กี่ยวกับการจดั การเพ่ือการประกอบอาชพี
2. ผ้เู รยี นมีประสบการณก์ ารทางาน รวมท้ังสามารถทางานเปน็ ทมี ในสถานประกอบการณไ์ ด้อยา่ ง

มี ประสิทธิภาพ
3. ผเู้ รยี นมที ักษะในการสือ่ สารด้วยภาษาองั กฤษในการปฏิบตั งิ าน
4. ผู้เรยี นมคี วามเช้าใจชีวติ การทางานและวัฒนธรรมองค์กร เรียนรู้การปรับตัวให้เชา้ กบั ผอู้ ื่น

และ สามารถทางานร่วมกนั ได้
รวม 4 ผลกำรเรียนรู้

166

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชีพ รำยวชิ ำเพ่มิ เติม

รหัสวชิ ำ ง 30206 เพิม่ เติมโครงงำนและกำรจัดนิทรรศกำรงำนดอกไม้สด ช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 6 ภำคเรียนที่ 2

เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาเทคนิควธิ กี ารเก่ยี วกบั โครงงานดอกไม้สด การจาลองผลิตภณั ฑ์ดอกไมส้ ด ผลติ ภัณฑง์ านรอ้ ย มาลัย มาลัย
จากผ้า มาลัยจากดินไทย มาลัยจากวสั ดุอื่น การเลือกหัวข้อโครงงาน .การเขยี นเค้าโครง การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การเขยี น
รายงาน การนาเสนอโครงงานและการประเมินผล การสรุปองคค์ วามรกู้ าร จัดนิทรรศการนาเสนอผลงานเกยี่ วกับงาน
ดอกไมส้ ด กระบวนการการออกแบบ การจดั ตกแต่งการใช้และ บารงุ รักษาเคร่ืองมอื อุปกรณ์งานดอกไมส้ ด หลกั การเลอื ก
วัสดใุ นงานดอกไมส้ ด รวมถงึ การเกบ็ รกั ษาชนิ้ งาน รวมทงั้ ศกึ ษาคาศพั ท์ภาษาต่างประเทศทีเ่ กยี่ วขอ้ งเพ่ือการพัฒนาสู่
ประชาคมอาเซียน

โดยใชก้ ระบวนการเรยี นร้แู บบโครงงาน นาเสนอผลงานในลักษณะการจัดนิทรรศการงานดอกไมส้ ด การ'ฝึก
ปฏิบตั กิ ารงานดอกไมส้ ด การทาโครงงานตามความสนใจ ออกแบบ ประยุกตป์ รบั เปลย่ี นแนวคดิ และ สร้างสรรคง์ าน
ดอกไมส้ ดเพอื่ จดั ตกแต่งการคานวณตน้ ทนุ และกาหนดราคา พัฒนางานเป็นพ้ืนฐานในการ ประกอบอาชีพมรี ายไค้ระหวา่ ง
เรยี นจากการจาหนา่ ยชิ้นงาน ใช้ทักษะกระบวนการทางาน ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน ทกั ษะ
แสวงหาความรู้และทักษะการจดั การในการ'ฝกึ ปฏบิ ตั ิงาน

เพอื่ ให้ผู้เรียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม เห็นประโยชน์และมีเจตคติทดี่ ีต่อการประกอบอาชีพสจุ รติ มคี วามรเู้ กีย่ วกับ
คาศัพทท์ ี่สาคัญ และมคี วามสามารถในการสอื่ สารในภาษาตา่ งประเทศ มสี มรรถนะสาคญั มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ยึด
หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นหลกั คิดหลกั ปฏบิ ัตใิ นการเรยี นรู้ มีคณุ ธรรมสามารถ ออกแบบสรา้ งและพฒั นา
ผลิตภัณฑ์หรือวิธกี ารใหมใ่ นการทางานทางานด้วยความรับผดิ ชอบขยันซ่อื สตั ย์ ประหยดั อดออม ม่งุ มั่น อดทน ใช้
พลงั งานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมอยา่ งคุ้มคา่ และถกู วิธี

ผลกำรเรียนรู้
1. ผูเ้ รยี นมคี วามเชา้ ใจเก่ียวกับงานดอกไมส้ ดการออกแบบการเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณก์ ารเกบ็ รกั ษา ชิ้นงานการ

คานวณต้นทุนและกาหนดราคา
2. ผเู้ รียนมีทกั ษะในการออกแบบ สรา้ งผลงานดอกไมส้ ดอย่างมคี วามคดิ สร้างสรรค์
3. ผเู้ รยี นมคี วามรู้เกย่ี วกบั โครงงานสามารถเลือกทาโครงงานดอกไมส้ ดได้เหมาะสมกบั ความถนัด และความ

สนใจชองตนเอง
4. ผู้เรียนมีความรคู้ วามเช้าใจในการจดั นทิ รรศการ วางแผนการดาเนินงานการจัดนิทรรศการและจัด แสดง

นิทรรศการงานดอกไม้สดได้อยา่ งมอื อาชพี
5. ผูเ้ รยี นปฏิบัติงานดว้ ยความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ยประณตี สะอาดปลอดภัยรักษาสง่ิ แวดล้อมและ รักษา

เอกลกั ษณป์ ระจาชาติ
6. ผูเ้ รียนมีทักษะในการส่อื สารดว้ ยภาษาองั กฤษในการปฏบิ ตั ิงาน
7. ผเู้ รยี นมีทกั ษะการจดั การในการทางานทกั ษะการทางานร่วมกนั
8. ผู้เรียนมีทกั ษะในการแสวงหาความร้มู ีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทางานมีคุณธรรมและ ลักษณะ

นสิ ัยในการทางานใช้พลงั งานทรพั ยากรในการทางานอย่างค้มุ ค่าและยง่ั ยนื เพ่ือการอนุรักษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม
รวม 8 ผลกำรเรียนรู้

167

คำอธบิ ำยรำยวิชำ วิชำเพ่มิ เตมิ
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชพี ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 6 ภำคเรียนที่ 1
รหัสวิชำ ง30207 ผลติ ภณั ฑ์สรำ้ งสรรคง์ ำนทอ 1
เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษา เรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของการทอผ้าด้วยก่ีกระตุกความรู้ทั่วไปเก่ียวกับการเลอื ก
วัสดุอุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทอผ้าดว้ ยก่ีกระตุกหลกั การออกแบบการทอผ้าดว้ ยกี่กระตุกหลกั การวิธกี ารและ
กระบวนการปฏิบัติการทอผ้าด้วยกี่กระตุกการออกแบบชิ้นงานและการฝึกการทอผา้ ด้วยกกี่ ระตุกเพ่ือ
การดารงชวี ิตและเปน็ พื้นฐานในการประกอบอาชีพ รวมทงั้ ศกึ ษาคาศพั ทภ์ าษาต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
เพอ่ื การพัฒนาส่ปู ระชาคมอาเซยี น

โดยใชก้ ระบวนการศกึ ษาสบื คน้ การอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ การฝกึ การทอผา้ ดว้ ยกก่ี ระตกุ
การประยกุ ต์ปรบั เปลย่ี นแนวคดิ พัฒนางานเป็นพน้ื ฐานการอาชีพกระบวนการแก้ปัญหา

เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ เกิดทกั ษะและความสามารถในการทอผา้ ดว้ ยกก่ี ระตุกเพ่ือดารงชวี ิตและ
เปน็ พ้นื ฐานในการประกอบอาชีพโดยการสรา้ งรายไดร้ ะหว่างเรยี น ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็
หลักคิดหลกั ปฏบิ ตั ใิ นการเรียนรู้ มีความรเู้ กย่ี วกบั คาศพั ท์ภาษาต่างประเทศท่ีสาคญั ในการปฏิบตั ิการทอผ้า
ด้วยก่กี ระตกุ มคี วามซื่อสตั ยเ์ สยี สละยุติธรรมประหยดั ขยันอดทนรบั ผดิ ชอบตรงเวลาสะอาดประณีตมี
เหตุผลมมี ารยาทชว่ ยเหลือตนเองทางานบรรลุเป้าหมายทางานถกู วธิ ที างานเปน็ ช้ันตอนทางานมีระบบมี
ความคิดสร้างสรรคม์ ปี ระสิทธภิ าพและใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มอย่างคุ้มค่า และถูกวธิ ี

ผลกำรเรียนรู้
1. ผู้เรยี นมคี วามรู้และเข้าใจเก่ยี วกบั ประวัตคิ วามเป็นมาการทอผ้าดว้ ยกี่กระตกุ ลกั ษณะของ
การทอผ้าด้วยกีก่ ระตกุ รูปแบบการทอผา้ ดว้ ยกก่ี ระตุก
2. ผู้เรียนมที กั ษะในการเลอื กวัสดุอปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการทอผา้ ดว้ ยก่ีกระตกุ ไดอ้ ย่างเหมาะสมและมี
ความปลอดภัย ในการทางาน
3. ผู้เรียนบอกขัน้ ตอนในการทอผ้าดว้ ยก่กี ระตกุ
4. ผเู้ รยี นมที กั ษะในการออกแบบการทอผา้ ดว้ ยกีก่ ระตกุ ประยุกตใ์ ชว้ ัสดใุ นการสร้างสรรค์
เพ่ือใช้ในชวี ิตประจาวนั และการประกอบอาชพี
5. ผู้เรยี นมีทักษะในการทอผ้าขาวมา้ ด้วยกกี่ ระตุก มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และรบั ผิดชอบ มุ่งม่นั ใน
การฝกึ ซ้อมอยา่ งสมา่ เสมอใฝ่รใู้ ฝเ่ รียนและนาความรูไ้ ปใช้อยา่ งเปน็ ประโยชน์
6. ผ้เู รียนมที ักษะในการส่อื สารดว้ ยภาษาอังกฤษในการปฏิบตั งิ าน

รวม 6 ผลกำรเรียนรู้

168

คำอธิบำยรำยวชิ ำ วิชำเพ่มิ เตมิ
กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ กำรงำนอำชีพ ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 6 ภำคเรียนท่ี 2
รหสั วชิ ำ ง30208 ผลิตภัณฑ์สร้ำงสรรคง์ ำนทอ 2
เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาการประดิษฐ์ช้ินงานจากผ้าทอด้วยก่ีกระตุก การใช้และบารุงรักษาเครื่องมืออุปกรณ์การ
ประดิษฐ์ชิ้นงานจากผ้าทอด้วยกี่กระตุก หลักการเลือก วัสดุในการประดิษฐ์ชิ้นงานจากผ้าทอด้วยกี่กระตุก
รวมถึงการเก็บรักษาชิ้นงาน เพ่ือการดารงชีวิตและเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพ รวมทั้งศึกษาคาศัพท์
ภาษาตา่ งประเทศท่ีเกีย่ วขอ้ ง เพอื่ การพัฒนาสปู่ ระชาคมอาเซยี น

โดยใช้กระบวนสบื ค้น แสวงหาความรู้ การฝึกปฏิบัติการประดษิ ฐช์ ิน้ งานจากผา้ ทอด้วยกก่ี ระตุก การ
ออกแบบประยกุ ต์การตกแตง่ การปรบั เปลี่ยนแนวคดิ ใช้ทกั ษะการจดั การในการฝึกปฏิบัตงิ านการประดษิ ฐ์
ชน้ิ งานจากผ้าทอดว้ ยก่กี ระตกุ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา การคานวณต้นทุนและกาหนดราคา พัฒนางาน
เป็นพืน้ ฐานในการ ประกอบอาชีพมีรายได้ระหว่างเรียนจากการจาหนา่ ยชิ้นงาน

เพือ่ ให้มคี วามรคู้ วามเข้าใจและมีทักษะในการประดษิ ฐ์ช้ินงานจากผ้าทอด้วยก่ีกระตุก มุ่งเนน้ ให้ผู้เรียน

มีความรแู้ ละทักษะในงานอาชีพสจุ ริตท่ีสนใจและทางานอยา่ งมีคุณภาพเห็นประโยชนแ์ ละ มีเจตคติทด่ี ตี อ่ การ
ประกอบอาชีพสจุ ริต มีความรเู้ กยี่ วกบั คาศัพทภ์ าษาต่างประเทศที่สาคัญเกี่ยวกับเทคนิคการประดิษฐ์ช้ินงาน

จากผ้าทอด้วยก่ีกระตุก ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นหลักคิดหลกั ปฏิบัติในการเรียนรู้ รจู้ กั
ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี มีคุณธรรมสามารถคดิ ออกแบบสรา้ งและพฒั นา ผลิตภณั ฑห์ รอื วธิ ีการใหม่ในการทางาน
ด้วยความรบั ผดิ ชอบขยนั ซอ่ื สตั ย์ ประหยัดอดออมมุง่ ม่นั อดทน ใชพ้ ลังงานทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม

อยา่ งคมุ้ ค่าและถูกวิธี

ผลกำรเรียนรู้
1. ผเู้ รียนอธิบายข้ันตอน และมีทกั ษะในการทอผา้ ขาวม้าด้วยกี่กระตกุ เลือกวัสดุอปุ กรณ์ทีใ่ ช้
ในการทอผ้าขาวมา้ ดว้ ยกก่ี ระตกุ ได้อยา่ งเหมาะสม และมคี วามปลอดภัยในการทางาน
2. ผู้เรยี นอธิบายข้ันตอน และทักษะในการประดษิ ฐ์ช้ินงานดว้ ยผ้าขาวมา้ (รายบุคคล) เลือกวัสดุ
อุปกรณ์ ทใี่ ชใ้ นการประดิษฐช์ ิน้ งานจากผ้าขาวมา้ ได้อยา่ งเหมาะสม และมคี วามปลอดภัยใน
การทางาน
3. ผูเ้ รียนอธิบายขั้นตอน และมที ักษะในการประดิษฐ์ชนิ้ งานจากผ้าขาวมา้ (รายกลุ่ม)
ประยกุ ตใ์ ช้วสั ดใุ นการสร้างสรรค์ เพือ่ ใช้ในชวี ติ ประจาวันและการประกอบอาชีพ
4. ผเู้ รยี นมีทกั ษะการจัดการในการบนั ทกึ รายรับรายจ่ายและการกาหนดราคาขายช้ินงานการทอ
ผ้าขาวมา้ ด้วยก่ีกระตุก ด้วยความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย มที กั ษะการทางานร่วมกนั
5. ผเู้ รียนมีทักษะในการจัดนิทรรศการและแสดงผลงานช้ินงานจากการทอผา้ ขาวม้าด้วยก่กี ระตกุ
มีทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีทักษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทางาน มคี ณุ ธรรมและ
ลกั ษณะนิสัยในการทางาน ใช้พลงั งานทรัพยากรในการทางานอยา่ งคุ้มคา่ และยั่งยืนเพ่ือการ
อนุรกั ษส์ งิ่ แวดล้อม

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

169

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ วชิ ำเพิม่ เตมิ
รหสั วชิ ำ ง30209 โรงเรยี นชำวนำ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ภำคเรียนท่ี 1

เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หน่วยกติ

ศึกษาเก่ียวกบั ความสาคัญของถมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น วฒั นธรรมขา้ งด้งั เดมิ การอนรุ กั ษ์ภูมปิ ญั ญาและ

วฒั นธรรมและประเพณีทเี่ ก่ียวขอ้ งกับข้าว และการสร้างความเปน็ ผ้นู าและบรหิ ารจัดการองคก์ ารชาวนา
โดยใช้กระบวนการกลมุ่ ในการวิเคราะห์แนวโน้ม และทศิ ทางของธุรกจิ ข้าว ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ประยุกต์ใชค้ วามรู้เพือ่ สร้างความเปน็ ผู้นาและบริหารจัดการองค์กรชาวนาไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนการ
แกป้ ัญหาทเี่ กิดขึน้ ในการทางาน เพอื่ การประกอบอาชีพทานาอยา่ งมอื อาชพี เพอื่ การพฒั นาสปู่ ระชาคม
อาเซียน

เพ่ือใหผ้ ้เู รียนมีเจตคติทดี่ ี สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ประกอบการศกึ ษาค้นคว้า สร้างองคค์ วามรู้
ดว้ ยตนเอง มีสมรรถนะสาคญั มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคิด

หลักปฏบิ ตั ิในการเรียนรู้ มคี วามสามัคคดี ้วยการเรียนร้ผู ่านกระบวนการกลมุ่ รว่ มมอื มีความใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน
ทางานด้วยความรับผดิ ขอบ ขยนั ซอื่ สัตย์ ม่งุ มนั่ อดทน มจี ติ สานกึ มคี ุณธรรม และยึดมน่ั ในจรรยาบรรณ
วิชาชพี ผปู้ ระกอบข้าว ใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม อยา่ งค้มุ คา่ และถกู วธิ ี

ผลกำรเรยี นรู้

1. อธบิ ายความสาคัญและความเป็นมาและอนรุ ักษภ์ มู ิปญั ญาและวัฒนธรรมข้าวดงั้ เดิมได้อย่าง
ถูกตอ้ งเหมาะสม

2. อธิบายหลกั การสร้างความเป็นผนู้ าและการบรกิ ารจดั การองค์กรชาวนาไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม

3. มีทักษะการคิดวเิ คราะห์ และคิดวจิ ารณญาณในประเด็นปญั หาเก่ยี วกบั การสรา้ งความเป็นผนู้ า
และการบรหิ ารจัดการองคก์ รชาวนาและเสนอแนะวธิ กี ารแกป้ ัญหาท่ีเหมาะสมโดยใช้กระบวนการกล่มุ

4. มคี ณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ เห็นคุณคา่ และมีเจตคตทิ ด่ี ีต่อการสรา้ งความเป็นผนู้ าและการบริการ
จัดการองค์กรชาวนา

รวม 4 ผลกำรเรียนรู้

170

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
รหัสวชิ ำ ง30210 โรงเรยี นชำวนำ 2 วชิ ำเพิม่ เตมิ

เวลำ 40 ชวั่ โมง ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 6 ภำคเรยี นท่ี 2
จำนวน 1 หน่วยกติ

ศึกษาเก่ยี วกับการทาโครงงาน ดาเนนิ การทาโครงงานโรงเรียนชาวนา เรม่ิ ตน้ จากการ พิจารณาหัวข้อ

ท่ีนา่ สนใจ ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกย่ี วขอ้ งทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางแผนการ ดาเนนิ โครงการ
เขียนและนาเสนอเคา้ โครงย่อ การดาเนนิ การตามแผน สรปุ ผลการดาเนนิ การ และนาเสนอ โครงงานใน

รปู แบบของนิทรรศการเพ่อื การพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน
โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการวิเคราะห์ วางแผน และออกแบบการจัดการและการข้าว ใช้

กระบวนการกลุ่มในการแสวงหา ความรู้ วางแผน ออกแบบ และดาเนินการทาโครงงานโรงเรยี นชาวนา พร้อม

ทง้ั วางแผนการนาเสนอโครงงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ สามารถตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาทเี่ กดิ ขึ้นในกระบวนการทางาน
ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ เพือ่ เกิดทกั ษะสาคญั ในการประกอบธรุ กิจข้าวอย่างมืออาชพี

เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนรู้ เหน็ คุณค่า และมีเจตคติที่ดตี ่อการประกอบ อาชพี เกี่ยวกับธุรกิจขา้ ว มีสมรรถนะ
สาคญั มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ หลกั คดิ หลกั ปฏิบัติในการเรียนรู้มี
ความสามัคคดี ้วยการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการกลุ่มรว่ มมอื มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนมีคณุ ธรรม ทางานดว้ ยความรับ
ผดิ ขอบ ขยนั ซอ่ื สตั ย์มุ่งมน่ั อดทน ใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งค้มุ ค่าและถูกวิธี

ผลกำรเรียนรู้
1. อภิปรายหลักในการประกอบธรุ กจิ ข้าวได้
2. อภิปราย แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั การพฒั นาโครงงานเกยี่ วกบั ธรุ กจิ ข้าว ไทยไดอ้ ย่าง

สรา้ งสรรค์
3. มีทกั ษะการสืบค้นข้อมลู โดยประยุกต์ใชค้ วามรแู้ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพอื่ การวางแผน และ

ออกแบบการจดั การธุรกจิ ขา้ วทีไ่ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
4. มที กั ษะการคดิ วิเคราะห์ วางแผนออกแบบ และดาเนินการทาโครงงานการออกแบบธรุ กจิ ข้าว

ตลอดจนตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดข้ึนในกระบวนการทางานได้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

5. มคี ุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ เห็นคุณคา่ และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการประกอบอาชีพเกยี่ วกับธุรกิจ ข้าว
รวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

172

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

อ31101 ภำษำอังกฤษ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี 4 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 40 ชั่วโมงจำนวน 1 หนว่ ยกิต

........................................................................................................................................................

ปฏิบัติตามคาแนะนา คาชี้แจง คาอธิบาย คาบรรยาย อ่าน จับใจความสาคัญ วิเคราะห์ สรุป ตีความ

แสดงความคิดเห็น อ่านออกเสยี ง ข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง บทละครสัน้ ถูกต้องตามหลักการ

อา่ น อธิบาย ระบุ ประโยค ข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆ รวมท้ังสารคดี บันเทิงคดี

ใหส้ ัมพนั ธก์ ับประโยคและขอ้ ความท่ีฟงั หรืออ่าน สนทนา เขียนโต้ตอบ นาเสนอข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว

ประสบการณ์ สถานการณ์ เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม สื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม

เลือกและใช้คาขอร้อง ให้คาแนะนา คาชี้แจง คาอธิบายอย่างคล่องแคล่ว พูด เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ

กิจกรรม ประสบการณ์และเหตกุ ารณ์ทัง้ ในท้องถนิ่ สังคมและในประเทศสมาชกิ อาเซียนและโลก พร้อมใหเ้ หตุผล

และยกตัวอย่างประกอบ เลือกใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่

ตามมารยาท สังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วม แนะนาและจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของ

เจ้าของภาษาและในประเทศสมาชิกอาเซยี น

เปรยี บเทียบความแตกตา่ งระหว่างโครงสรา้ งประโยค ข้อความ สภุ าษิต บทกลอนของภาษาต่างประเทศ

และภาษาไทย ค้นคว้า สืบค้นและสรปุ ขอ้ มูลเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่นื จากแหล่งการเรียนรู้โดยใช้ทักษะ

การสื่อสารทางภาษา การพูด การฟัง การอ่าน การเขียน การวเิ คราะหอ์ ยา่ งมเี หตุผล ทักษะกระบวนการกล่มุ และ

กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ในการนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เร่ืองใกล้ตัว ประสบการณ์

สถานการณ์ เหตุการณ์ ประเดน็ ท่อี ย่ใู นความสนใจของสงั คม

เพ่ือให้ผู้เรียนมีความสามารถในการส่ือสารอย่างมีมารยาท เหมาะสมกับกาลเทศะ มีเหตุผล ใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักการ

ค้นควา้ หาความร้ดู ว้ ยตนเอง มคี วามสามคั คใี นการทางานร่วมกับผู้อนื่ ตลอดจนมีความรกั และภมู ใิ จในท้องถน่ิ

รหัสตัวชี้วดั
ต1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4

ต1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ต1.3 ม.4-6/1, ม.4-6/3
ต2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3

ต2.2 ม.4-6/1
ต3.1 ม.4-6/1

ต4.1 ม.4-6/1

รวมทงั้ หมด 13 ตวั ชวี้ ัด

173

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ วชิ าพ้ืนฐาน
รหัสวชิ าอ31102 ภาษาองั กฤษ มธั ยมศึกษาปที ่ี4
เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0หนว่ ยกิต

ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา คาช้แี จง คาอธิบาย คาบรรยาย อ่าน จบั ใจความสาคญั วิเคราะห์ สรุป ตีความ
แสดงความคิดเห็น ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง บทละครส้นั ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน อธิบาย

ระบุ ประโยค ขอ้ ความให้สมั พนั ธ์กับสอื่ ทีไ่ ม่ใช่ความเรยี งในรปู แบบต่างๆ รวมทั้งสารคดี บนั เทงิ คดี ให้สัมพันธก์ ับ
ประโยคและขอ้ ความท่ีฟังหรืออา่ น สนทนา เขียนโตต้ อบ นาเสนอขอ้ มลู เก่ียวกับตนเอง เรือ่ งใกล้ตวั ประสบการณ์

สถานการณ์ เหตกุ ารณ์ ประเด็นทอ่ี ยูใ่ นความสนใจของสงั คม สอ่ื สารอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสม เลือกและใชค้ า
ขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาชแี้ จง คาอธิบายอยา่ งคล่องแคล่ว พูด เขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกจิ กรรม
ประสบการณแ์ ละเหตกุ ารณ์ทั้งในทอ้ งถ่ินสงั คมในประเทศอาเซียนและโลกพร้อมให้เหตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ

เลอื กใช้ภาษา น้าเสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกบั ระดบั ของบคุ คล โอกาส และสถานที่ตามมารยาท สงั คมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วม แนะนาและจดั กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา คน้ คว้า

สบื คน้ และสรุปข้อมูลเกีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ืน่ จากแหล่งการเรยี นรู้เผยแพร่ ประชาสัมพันธข์ ้อมลู
ข่าวสารของโรงเรียน ชมุ ชน ท้องถน่ิ ประเทศชาติเป็นภาษาองั กฤษ

โดยใชท้ ักษะการสอื่ สารทางภาษา การพูด การฟัง การอา่ น การเขียน การวเิ คราะหอ์ ย่างมีเหตุผล ทักษะ

กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการเรียนร้จู ากประสบการณ์จริง ในการนาเสนอขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง เรอ่ื งใกล้ตวั
ประสบการณ์ สถานการณ์ เหตกุ ารณ์ ประเด็นที่อยูใ่ นความสนใจของสังคม

เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนมีความสามารถในการสื่อสารอยา่ งมีมารยาท เหมาะสมกับกาลเทศะ มเี หตุผล ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น
รักการค้นควา้ หาความร้ดู ้วยตนเอง มีความสามัคคีในการทางานร่วมกับผู้อื่นตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนมี
ความรกั และภูมิใจในทอ้ งถิ่น

รหัสตัวชี้วัด

ต1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4
ต1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/5
ต1.3 ม.4-6/1, ม.4-6/3

ต2.2 ม.4-6/1
ต3.1 ม.4-6/1

ต4.1 ม.4-6/1
รวมท้งั หมด 11 ตวั ชว้ี ัด

174

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

อ32101ภำษำอังกฤษ กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ

ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 5ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ช่ัวโมงจำนวน 1.0 หน่วยกติ

............................................................................................................................................................

ศกึ ษา วเิ คราะห์ อธิบายและ เขียนประโยค ขอ้ ความสมั พนั ธ์กับสือ่ ทไี่ ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ สรปุ

จบั ใจความสาคัญ ตีความ แสดงความคิดเหน็ สารคดีและบนั เทิงคดี พดู และเขยี นแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรบั

และปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์จาลองหรือสถานการณ์จริง เขยี นบรรยายความร้สู ึก แสดงความ

คิดเห็นของตนเองต่อกจิ กรรม ประสบการณ์ ข่าว และเหตุการณ์ ทัง้ ในทอ้ งถ่นิ สังคมอาเซียนและโลก ให้เหตุผล

และยกตวั อย่างประกอบ อธบิ าย อภปิ รายวถิ ชี วี ิต ความคิด ความเช่ือ ความเหมือนความแตกต่าง และท่ีมาของ

ขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั ของไทย เขา้ รว่ มแนะนาและกิจกรรมทางภาษา

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ หลักคิดหลกั ปฏบิ ัติในการเรียนรู้

โดยค้นคว้า สืบคน้ บนั ทึก สรุป ข้อมลู ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ใชภ้ าษาสอื่ สารใน

สถานการณ์จริงและสถานการณจ์ าลอง เผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ขอ้ มูล ขา่ วสารของโรงเรียน ชมุ ชน ท้องถ่นิ และ

ประเทศชาติเปน็ ภาษาตา่ งประเทศโดยใชภ้ าษา นา้ เสยี ง และกิรยิ าท่าทางในการสื่อสารในสถานการณ์จรงิ และ

สถานการณจ์ าลองอยา่ งเหมาะสมกบั ระดับของบุคคล เวลา โอกาส และสถานที่ ถูกตอ้ งตามมารยาทสงั คมและ

วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เพื่อใหเ้ กดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ ง

พอเพียง มุ่งม่นั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมีจิตสาธารณะ

ผลกำรเรยี นรทู้ ค่ี ำดหวัง
1. อธิบายและเขียนประโยคและขอ้ ความให้สัมพันธก์ บั ส่อื ที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ทอี่ ่าน รวมท้งั ระบุและ

เขียนส่อื ทีไ่ มใ่ ช่ความเรยี งรปู แบบต่างๆ ให้สมั พันธ์กับประโยค และข้อความทฟ่ี ังหรืออา่ น
2. จบั ใจความสาคญั วเิ คราะห์ความสรปุ ความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่องทเี่ ปน็
สารคดแี ละบันเทิงคดีพรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ

3. พดู และเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์จาลองหรอื
สถานการณ์จรงิ อยา่ งเหมาะสม

4. พูดและเขยี นบรรยายความรสู้ กึ และแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่อื งต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์
และขา่ ว/เหตุการณ์อย่างมีเหตผุ ล
5. พูดและเขยี นแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ท้ังในท้องถ่นิ สังคมและโลก

พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
6. อธบิ าย/อภิปรายวถิ ีชวี ิต ความคิดความเชือ่ และทม่ี าของขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของ เจา้ ของภาษา

7. เข้าร่วม แนะนา และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม
8. คน้ ควา้ /สืบคน้ บันทกึ สรุป และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับข้อมูลท่เี กย่ี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น
จากแหลง่ เรยี นรูต้ ่างๆ และนาเสนอด้วยการพูดและการเขียน

9.ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ าลองทีเ่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
รวมทัง้ หมด 9ตัวช้ีวัด

175

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ คำอธิบำยรำยวชิ ำ
รหัสวชิ ำ อ32102 ภำษำองั กฤษ
วิชำพ้นื ฐำน
เวลำ 40 ชัว่ โมง ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 5ภำคเรยี นท่ี 2
จำนวน 1 หนว่ ยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ความ อธิบายและ เขียนประโยค ข้อความสัมพันธ์กับสื่อท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ
สรุปจับใจความสาคัญ ตีความ แสดงความคิดเห็นสารคดีและบันเทิงคดี พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอ
ตอบรบั และปฏิเสธการใหค้ วามชว่ ยเหลือในสถานการณ์จาลองหรือสถานการณ์จริง เขียนบรรยายความรู้สกึ แสดง
ความคิดเห็นของตนเองต่อกิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว และเหตุการณ์ ทั้งในท้องถ่ิน สังคมอาเซียนและโลก ให้
เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ อธิบาย อภิปรายวถิ ีชวี ติ ความคดิ ความเชื่อ ความเหมือนความแตกตา่ ง และทมี่ า
ของขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย เข้าร่วมแนะนาและกจิ กรรมทางภาษา
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ค้นคว้า สืบค้น บนั ทึก สรุป ขอ้ มูลท่ีเกย่ี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน และยึดหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นหลักคิดหลักปฏิบตั ิในการเรียนรู้

โดยใชภ้ าษาสื่อสาร ในสถานการณจ์ รงิ และสถานการณจ์ าลอง เผยแพร่ ประชาสมั พันธข์ ้อมูล ข่าวสารของ
โรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่นและประเทศชาติเป็นภาษาต่างประเทศโดยใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางในการ
ส่ือสารในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จาลองอย่างเหมาะสมกับระดับของบุคคล เวลา โอกาส และสถานท่ี
ถูกตอ้ งตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

เพ่อื ให้ผู้เรียนมคี วามรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สตั ย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุง่ มัน่ ในการ
ทางาน รกั ความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ

รหัสตวั ชี้วัด
ต1.1 ม .5/3, ม.5/4
ต1.2 ม .5/3, ม.5/5
ต1.3 ม .5/3
ต2.1 ม .5/2
ต3.1 ม .5/1
ต4.1 ม .5/1

รวมทง้ั หมด 8ตัวชวี้ ัด

176

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ วชิ ำพ้นื ฐำน
รหัสวชิ ำ อ33101 ภำษำอังกฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 6 ภำคเรยี นท่ี 1
เวลำ 40 ชั่วโมง
จำนวน 1 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ สรปุ ความ ตีความ และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟังและอา่ นเรอ่ื งทเี่ ปน็ สารคดีและ
บนั เทิงคดี พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตัวอยา่ งประกอบ พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธบิ าย

เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรือ่ ง ประเด็น ขา่ ว เหตุการณ์ท่ฟี ังและอา่ นอย่างเหมาะสม สรุป
ใจความสาคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะหเ์ ร่ือง กิจกรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และสถานการณต์ ามความสนใจ
คน้ ควา้ สืบคน้ บนั ทกึ สรุป และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับข้อมลู ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน จากแหลง่

เรยี นร้ตู ่างๆ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี นใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง / สถานการณ์จาลองท่ี
เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคมและยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นหลักคดิ หลกั

ปฏบิ ัติในการเรยี นรู้
โดยใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื ค้น ค้นควา้ รวบรวม วเิ คราะห์ และสรปุ ความร/ู้ ข้อมูลต่างๆ จาก/

สื่อและแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี โดยใช้ทกั ษะการสือ่ สารทางภาษา การพูดการฟงั

การอา่ น การเขียน การคดิ วิเคราะห์อยา่ งมเี หตผุ ล และกระบวนการเรยี นรจู้ ากประสบการณ์จรงิ ในการนาเสนอ
ขอ้ มลู เกี่ยวกับเหตกุ ารณ์ สถานการณ์ ประสบการณ์ ประเด็นทอี่ ยูใ่ นความสนใจของสังคม

เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี น มเี หตผุ ล ใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้ รักการคน้ คว้าหาความรู้ดว้ ยตนเอง

รหสั ตวั ช้ีวัด
1. ต1.1 ม.4 6/4
2. ต2.1 ม.4 6/4

3. ต1.3 ม.4-6.2
4. ต3.1 ม.4 6/1
5. ต4.1 ม.4 6/1
6. ต4.2 ม.4 6/1

รวมท้งั หมด 6 ตวั ชี้วัด

177

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหัสวชิ ำ อ33102 ภำษำอังกฤษ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ

.............................................................................................................................................................

พดู และเขยี น เพื่อขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเรื่อง

ประเด็น ข่าว เหตกุ ารณท์ ี่ฟงั และอ่านอย่างเหมาะสม เข้ารว่ ม แนะนา และจดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม

อยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาในสถานการณ์จรงิ สถานการณ์สมมุตหิ รอื จาลอง เกยี่ วกับชมุ ชน และสงั คม ท้องถิ่นอย่าง

มเี หตผุ ล น้อมนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในชีวติ ประจาวนั โดยใช้ทกั ษะการส่อื สารทางภาษา การพูด

การฟัง การอา่ น การเขยี น การคดิ วิเคราะหอ์ ย่างมเี หตผุ ล และการนาเสนอขอ้ มลู และความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม

อยา่ งเหมาะสมและมีเหตุผล

เพ่ือให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา วัฒนธรรมไทย และ

วัฒนธรรมอาเซยี น

มำตรฐำนกำรเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ัด (รวมท้ังหมด 13 ตวั ช้ีวัด )

มำตรฐำน ต 1.1 เขำ้ ใจและตีควำมเร่ืองท่ฟี ังและอ่ำนจำกสอื่ ประเภทต่ำงๆ และแสดงควำมคดิ เหน็ อยำ่ งมี
เหตุผล

ม.6/3 อธบิ ายและเขียนประโยคและขอ้ ความให้สัมพนั ธก์ บั ส่อื ที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบ
ต่างๆ ทีอ่ า่ น รวมท้ังระบแุ ละเขียนสอื่ ที่ไม่ใช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยค และขอ้ ความท่ฟี ังหรือ
อ่าน

ม.6/4 จบั ใจความสาคญั วิเคราะห์ความสรปุ ความ ตีความ และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟงั
และอา่ นเร่อื งท่ีเป็นสารคดีและบันเทงิ คดีพร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างประกอบ

มำตรฐำนต1.2มีทกั ษะกำรสื่อสำรทำงภำษำในกำรแลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่ำวสำรแสดงควำมร้สู ึก และควำมคิดเหน็
อย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ

ม 6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเรอ่ื งตา่ ง ๆใกลต้ วั ประสบการณ์

สถานการณ์ ข่าว /เหตกุ ารณป์ ระเดน็ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอยา่ งตอ่ เนือ่ งและเหมาะสม
ม 6/2 เลือกและใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา คาชแ้ี จง คาอธิบายอย่างคลอ่ งแคล่ว

ม 6/3 พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือ
ในสถานการณจ์ าลองหรือสถานการณ์จรงิ อยา่ งเหมาะสม

ม 6/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบและแสดงความ

คดิ เห็นเกยี่ วกับเรอื่ ง/ประเดน็ /ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ทีฟ่ ังและอ่านอยา่ งเหมาะสม
ม 6/5 พดู และเขียนบรรยายความรสู้ ึกและแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ยี วกบั เร่อื งตา่ งๆ

กิจกรรม ประสบการณ์และข่าว/เหตุการณ์อย่างมีเหตผุ ล
มำตรฐำนต1.3นำเสนอขอ้ มูลข่ำวสำรควำมคดิ รวบยอดและควำมคิดเห็นในเร่ืองตำ่ งๆโดยกำรพดู และกำรเขียน

ม 6/1 พดู และเขยี นนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรอ่ื งและ

ประเด็นตา่ งๆ ตามความสนใจของสังคม

178

มำตรฐำนต2.1 เขำ้ ใจควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งภำษำกับวฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำและนำไปใช้ ไดอ้ ย่ำง
เหมำะสมกบั กำลเทศะ
ม 6/2 อธบิ าย/อภิปรายวถิ ีชีวิต ความคิดความเช่ือ และท่ีมาของขนบธรรมเนยี ม และ

ประเพณีของเจ้าของภาษา
ม6/3 เข้ารว่ ม แนะนา และจัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมอย่างเหมาะสม

มำตรฐำนต2.2เขำ้ ใจควำมเหมือนและควำมแตกตำ่ งระหว่ำงภำษำและวัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำกบั ภำษำ
และวฒั นธรรมไทยและนำมำใช้อย่ำงถูกต้องและเหมำะสม
ม 6/1 อธบิ าย/เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่างโครงสรา้ งประโยค ข้อความ สานวน

คาพังเพยสภุ าษติ และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
มำตรฐำนต3.1ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรเชือ่ มโยงควำมรูก้ ับกลมุ่ สำระกำรเรียนรอู้ ื่นและเปน็ พนื้ ฐำนในกำร

พฒั นำ แสวงหำควำมรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ม6/1 คน้ คว้า/สบื คน้ บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ขอ้ มลู ทีเ่ กี่ยวข้องกับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆและนาเสนอด้วยการพูดและการเขยี น
มำตรฐำนต๔.๒ใช้ภำษำต่ำงประเทศเป็นเคร่ืองมอื พ้นื ฐำนในกำรศกึ ษำต่อกำรประกอบอำชพี และกำร
แลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับสงั คมโลก
ม 6/1ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วเิ คราะห์ และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ
จากส่ือและแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ
ม6/2 เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ข้อมลู ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถน่ิ /ประเทศชาติ
เป็นภาษาตา่ งประเทศ

179

กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
รหสั วชิ ำ อ30201 ภำษำอังกฤษเพิ่มเติม7 วิชำเพิ่มเตมิ
เวลำ 80 ชว่ั โมง
ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 4 ภำคเรยี นท่ี 1
จำนวน 2 หน่วยกติ

ศกึ ษา วิเคราะห์ อ่านออกเสียง ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และเรอ่ื งสั้นถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
จบั ใจความสาคญั วเิ คราะห์ความสรุปความ ตีความ และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟงั และอ่านเร่ืองสารคดีและ

บนั เทงิ คดีพร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบพูดและเขยี นแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรับและปฏเิ สธ
การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จาลองหรอื สถานการณ์จริงอยา่ งเหมาะสม พดู และเขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู

บรรยาย อธิบาย เปรยี บเทยี บและแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเร่ือง/ประเดน็ /ข่าว/เหตุการณ์ทีฟ่ ังและอ่านอยา่ ง
เหมาะสมอธิบาย/อภิปรายวิถีชวี ติ ความคิด ความเชอ่ื และทม่ี าของขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจ้าของ
ภาษาและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สานวน คาพงั เพย สุภาษิตและบทกลอน

ของภาษาอังกฤษและภาษาไทยคน้ คว้า/สืบค้น บันทึก สรปุ และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ข้อมูลที่เก่ยี วข้องกับ
กลมุ่ สาระการเรียนร้อู นื่ จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ และนาเสนอด้วยการพดู และการเขียนโดยยึดหลกั ปรชั ญาของ

เศรษฐกิจพอเพียง
โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการทางานกลมุ่ กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์ กระบวนการสืบคน้

ข้อมลู อภปิ ราย และการวิเคราะห์เพอ่ื ให้มีเจตคติท่ดี ใี นการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ญั หา และการใช้เทคโนโลยี ใน

การเรยี นรู้และเขา้ ใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคติท่ดี ตี อ่ การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอย่างมุง่ มนั่ และ
มีวินยั อีกทง้ั มีทกั ษะในการดาเนนิ ชีวิตอยา่ งพอเพยี งในฐานะพลเมอื งไทยและพลเมอื งโลกอย่างมีความสขุ

ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
1. อา่ นคาแนะนาในค่มู อื การใช้งานตา่ ง ๆ คาชี้แจง คาบรรยายและคาอธิบายและปฏบิ ัติตาม

2. อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง และเร่อื งสน้ั ได้ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
3. เขยี นประโยค และข้อความใหส้ ัมพันธ์กับสอ่ื ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่าง ๆ ทอี่ ่านรวมทัง้ ระบุและเขยี นส่อื ที่

ไม่ใชค่ วามเรยี งรปู แบบต่าง ๆ ให้สมั พันธ์กับประโยคและขอ้ ความท่ฟี งั และอา่ น
4. จับใจความสาคญั วิเคราะหค์ วาม ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอา่ นเรอื่ งที่เป็นสารคดแี ละ
บันเทงิ คดีพรอ้ มทั้งให้เหตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ

5. อา่ นและเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรอื่ ง/ประเด็น/
ขา่ ว/เหตุการณ์ท่ีฟัง อยา่ งเหมาะสม

รวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

180

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ วิชำเพ่มิ เติม

รหัสวิชำ อ30202 ภำษำองั กฤษในชีวติ ประจำวนั 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ 4 ภำคเรยี นท่ี 2

เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

ฝกึ พดู บทสนทนาและเขยี นได้ตอบขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรอื่ งต่าง ๆ ใกลต้ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์
ข่าว เหตุการณ์ ประเดน็ ที่อย่ใู นความสนใจของสงั คม เลือกใช้คาขอร้อง ให้คาแนะนา คาชี้แจง แสดงความต้องการ

เสนอ และให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณต์ า่ ง ๆ อย่างเหมาะสม
โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการแก้ปญั หา

เพ่ือใหส้ ามารถสือ่ สารด้านการพดู ได้ ตามสถานการณต์ ่าง ๆ เหน็ คุณค่าของการเรยี นทางภาษา ตลอดจน
มคี ่านยิ ม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มที่พงึ ประสงค์

ผลกำรเรยี นรู้
.1ใชภ้ าษาในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล การทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ชมเชย การพูดสอดแทรก การ

ชกั ชวน การแลกเปลี่ยนขอ้ มูล
.2ใชภ้ าษาในการขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง คาอธบิ าย ท่ีมีขนั้ ตอน
.3พูดแสดงความต้องการเสนอ และให้ความช่วยเหลือ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ

.4คาศัพท์ สานวนภาษาประโยค และขอ้ ความท่ใี ชใ้ นการขอ และให้ข้อมลู บรรยาย หรอื อธบิ าย
เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั ข้อมลู ตา่ ง ๆ

5. พดู แสดงความรู้สกึ ความคิดเหน็ และใหเ้ หตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสียใจ

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

181

คำอธิบำยรำยวิชำ

อ30203 ภำษำอังกฤษเพ่มิ เติม8 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 4ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 80ชวั่ โมงจำนวน 2หนว่ ยกิต

............................................................................................................................. .............................

อ่านออกเสยี งขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง และเรอื่ งสัน้ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน จบั ใจความ

สาคัญ วเิ คราะห์ความสรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเหน็ จากการฟังและอา่ นเรอ่ื ง

สารคดีและบันเทิงคดีพรอ้ มท้ังให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบพูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอ ตอบรบั

และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณจ์ าลองหรือสถานการณจ์ รงิ อย่างเหมาะสม พูดและเขยี นเพ่ือขอ

และใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรยี บเทียบและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรอ่ื ง/ประเดน็ /ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ที่ฟัง

และอา่ นอยา่ งเหมาะสมอธิบาย/อภิปรายวถิ ีชวี ิต ความคิด ความเช่ือ และท่มี าของขนบธรรมเนียม และประเพณขี อง

เจ้าของภาษาและเปรียบเทยี บความแตกต่างระหวา่ งโครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย สภุ าษติ และบท

กลอนของภาษาอังกฤษและภาษาไทยค้นควา้ /สืบคน้ บนั ทึก สรุป และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับขอ้ มูลท่ี

เกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน จากแหลง่ เรยี นร้ตู ่างๆ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขียน

โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการทางานกลุ่ม กระบวนการคิดสร้างสรรค์ กระบวนการสืบค้น

ขอ้ มูล อภิปราย และการวิเคราะห์เพ่อื ใหม้ คี วามสามารถในการสือ่ สาร การคิด การแกป้ ญั หา และการใชเ้ ทคโนโลยี

ในการเรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่าง

มุ่งมั่นและมีวินัย อีกทั้งมีทักษะในการดาเนินชีวิตอย่างพอเพียงในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองโลกอย่างมี

ความสขุ

ผลกำรเรียนรู้ท่คี ำดหวัง
1. เขียนสรปุ และเปรยี บเทยี บและแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ข่าวและเหตกุ ารณ์ท่ีฟงั ได้

2. ใช้ภาษาเพ่ือขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั ข่าวและเหตกุ ารณ์ได้
3. บอกความหมายของคาศัพท์สานวนของภาษาอังกฤษที่พบในข่าวและเหตกุ ารณ์ที่ฟังได้

4. เขียนแสดงความคดิ เห็นความรู้สกึ เกย่ี วกับข่าวและเหตุการณ์ในกลมุ่ ประเทศอาเซียนท่ีฟัง
พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ
5.อ่าน เขียน และสนทนาสอ่ื สารตามสถานการณ์ท่ีกาหนดใหไ้ ด้

6. เขยี นแสดงความคิดเหน็ ความรู้สึกเก่ียวกับขา่ วและเหตุการณ์ในกลุม่ ประเทศอาเซยี นทฟ่ี ัง
พร้อมใหเ้ หตผุ ลประกอบ

7. เขยี นนาเสนอข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเองหรอื ประสบการณต์ า่ งๆโดยใช้คาศัพท์สานวน
ที่ไดจ้ ากการฟังข่าวเหตกุ ารณ์

8. เขยี นนาเสนอขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเองหรอื ประสบการณ์ต่างๆโดยใช้คาศัพทส์ านวน

ท่ีไดจ้ ากการฟงั ขา่ วเหตุการณ์
9. อา่ นและเขยี นนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับประสบการณ์การเดินดว้ ยรถไฟ

รวม 9 ผลกำรเรยี นรู้

182

กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
ชีวติ ประจำวนั 2 วชิ ำเพิม่ เตมิ รหสั วชิ ำ อ30204 ภำษำอังกฤษใน
ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 4ภำคเรยี นท่ี 2
เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1หนว่ ยกิต

ศึกษาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารหรือสื่อความหมาย ในด้านการอ่านและการเขียน เพ่ือส่ือความคิด

วิเคราะห์ บรรยาย ให้ข้อมูล อธิบาย ตีความ บทความ นิทาน สารคดี เร่ืองส้ัน บทกวี บทเพลงหรือ
ส่ิงพิมพ์ประเภทต่าง ๆ และยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติในการเรียนรู้โดยใช้

กระบวนการทางภาษา กระบวนการทางานกลุ่ม กระบวนการคิดสร้างสรรค์ กระบวนการสืบค้นข้อมูล อภิปราย
และการวิเคราะห์

เพ่ือมีการปรับตัวเข้ากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาและมีความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ในการอา่ น และมี

ทักษะการเขียนสื่อความในรปู แบบต่าง ๆ ได้ รวมทัง้ รู้จักแสวงหาความรู้ และนาไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ใน
ชวี ติ ประจาวนั ได้

ผลกำรเรยี นร้ทู ี่คำดหวัง
1. อา่ นและเขียนสรปุ ความสาคญั แกน่ สาระท่ไี ด้จากการวเิ คราะห์เรื่อง ข่าว เหตกุ ารณ์ และสถานการณ์ตามความ

สนใจ
2. เขยี น/อภปิ รายวิถชี วี ิต ความคดิ ความเชือ่ และทมี่ าของขนบธรรมเนยี มและประเพณขี องเจา้ ของภาษา

3. เขา้ ร่วม แนะนาและจัดกิจกรรมของเจ้าของภาษาและวฒั นธรรมอย่างเหมาะสม
4. เขียนเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของโครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย สภุ าษิตและบทกลอนของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

5.คน้ ควา้ /สืบคน้ บนั ทึก สรุป และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับขอ้ มลู ที่เก่ียวข้องกบั กลุ่มสาระ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ
และนาเสนอดว้ ยการพดู และเขยี น

6.เผยแพร่ ประชาสมั พันธ์ ข้อมูลขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน ท้องถ่ินและประเทศชาตเิ ป็นภาษาต่างประเทศได้

รวม 6 ผลกำรเรยี นรู้

183

คำอธิบำยรำยวิชำเพ่ิมเตมิ

อ30205 ภำษำอังกฤษเพ่มิ เติม9 กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ

ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 5ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 80 ช่วั โมงจำนวน 2.0หนว่ ยกติ

.............................................................................................................................................................

ศึกษา วเิ คราะห์ อา่ น เขียน อธิบาย จับใจความสาคัญ สรุป ตีความ แสดงความคดิ เห็นข้อความ

บทความ ข่าว เรื่อง ประโยค จากการฟังและอ่านเรื่องท่ีเป็นสารคดีและบันเทิงคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลและ

ยกตัวอยา่ งประกอบ อา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง บทละครสัน้ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน อภิปราย เปรียบเทียบความ

เหมือน ความแตกตา่ ง ระหว่าง วถิ ีชวี ิต ความคิด ความเช่ือและทีม่ าของขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของ

ภาษาและของไทย จัดกิจกรรมทางภาษาอย่างเหมาะสม อธบิ ายและเปรยี บเทียบความแตกตา่ งระหว่างโครงสรา้ ง

ประโยค ข้อความของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมกลุ่มประเทศอาเซียน

และยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏบิ ตั ิในการเรียนรู้

โดยใช้ทักษะการส่อื สารทางภาษา การพูด การฟัง การอ่าน การเขียน การวิเคราะหอ์ ย่างมีเหตผุ ล ทักษะ

กระบวนการกลุ่มและกระบวนการเรียนร้จู ากประสบการณ์จริง ในการนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เรอ่ื งใกล้ตัว

ประสบการณ์ สถานการณ์ เหตกุ ารณ์ ตา่ ง ๆ

เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมในการส่ือสารอย่างมีมารยาท เหมาะสมกับกาลเทศะ มีเหตุผล ใฝ่รู้ใฝ่เรียน รัก

การคน้ คว้าหาความรู้ดว้ ยตนเอง มีความสามคั คีในการทางานร่วมกบั ผอู้ ่นื

ผลกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถ
1. อ่าน อธิบาย เขียน จับใจความสาคัญ แสดงความคิดเหน็ จากการฟงั และอ่านเรื่องประโยค ข้อความ

เกยี่ วกบั ท่ีมา คุณสมบตั พิ ้นื ฐานของช็อกโกแล็ต กาแฟได้
2. ถ่ายโอนขอ้ มลู กบั สอ่ื ที่ไม่ใช่ความเรียง จับใจความ สรุปความ ประโยคที่ใช้ในการแสดงคามคิดเหน็ พร้อม

ยกตัวอย่างได้

3. เขียนเพือ่ เสนอขอ้ มูลท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คมและกล่มุ ประเทศอาเซียนได้
4. จบั ใจความสาคัญจากการฟงั และอา่ นเรื่องได้เกีย่ วกบั วิวัฒนาการของเงนิ นา้ หอม พรอ้ มท้ังให้เหตผุ ล

ประกอบได้
5. แสดงความคิดเห็นจากการฟงั และอา่ นเรอ่ื งเก่ียวกบั บุคคลท่ีมีช่อื เสยี งด้านกีฬาของโลกได้
6. อา่ นออกเสียง อธิบายประโยค ข้อความ บทความ บทร้อยกรอง บทละครส้ัน

รวม 6 ผลกำรเรยี นรู้

184

คำอธิบำยรำยวิชำเพม่ิ เตมิ

อ30206ภำษำองั กฤษในชีวติ ประจำวัน3 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 5ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ชั่วโมงจำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

.............................................................................................................................................................

พดู แสดงความต้องการ เสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จรงิ และ

สถานการณ์จาลอง ขอ ให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ประเดน็ ขา่ ว เหตกุ ารณ์
บรรยายความรู้สึก แสดงความคิดเห็นของตนเองเกีย่ วกับกจิ กรรม ประสบการณ์ ข่าว เหตกุ ารณ์ อยา่ งมีเหตผุ ล
นาเสนอข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง ขา่ ว เหตุการณ์ เรอื่ งประเด็นตา่ งๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม สรุปใจความสาคญั

จากการวิเคราะห์ กจิ กรรมข่าว เหตุการณ์ ตามความสนใจ แสดงความคดิ เหน็ กจิ กรรม ประสบการณ์ เหตกุ ารณ์
ท้งั ในทอ้ งถ่นิ สังคม และกลุ่มประเทศอาเซยี น

โดยใชท้ กั ษะการสือ่ สารทางภาษา การฟัง การพดู การคดิ วิเคราะหอ์ ยา่ งมีเหตผุ ลและกระบวนการเรยี นรู้
จากสถานการณจ์ รงิ ในการนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตวั ประสบการณ์ สานการณ์ เหตกุ ารณ์
ประเด็นทอ่ี ยู่ในความสนใจของสังคมกลมุ่ ประเทศอาเซียน

เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนมีความสามารถในการสือ่ สารอยา่ งมีมารยาท เหมาะสมกับกาลเทศะ ซือ่ สตั ยส์ ุจริต มวี ินัย ใฝ่
เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ

ผลกำรเรียนรู้
นกั เรยี นสำมำรถ

.1สนทนาสื่อสารตามสถานการณ์ที่กาหนดใหไ้ ด้
.2สรุปและเปรียบเทียบและแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ข่าวและเหตกุ ารณ์ทฟ่ี ังได้

.3ใชภ้ าษาเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ข่าวและเหตุการณไ์ ด้
.4บอกความหมายของคาศัพทส์ านวนของภาษาองั กฤษท่ีพบในขา่ วและเหตุการณท์ ี่ฟงั ได้
.5เขียนแสดงความคดิ เห็นความรูส้ กึ เกีย่ วกับข่าวและเหตกุ ารณ์ในกลมุ่ ประเทศอาเซยี นท่ีฟังพรอ้ มใหเ้ หตผุ ล

ประกอบ
.6เขียนนาเสนอขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองหรือประสบการณ์ต่างๆโดยใชค้ าศพั ทส์ านวนท่ีได้จากการฟังข่าวเหตุการณ์

.7พดู และเขยี นนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางการรบั ประทานอาหารการทอ่ งเทย่ี ว

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้
การวัดและประเมนิ ผล

1. แบบประเมนิ การพดู สอ่ื สาร
2.แบบประเมินการเขียน

185

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำตำ่ งประเทศ วชิ ำเพ่ิมเติม
รหสั วิชำอ30207ภำษำอังกฤษเพม่ิ เติม10 มัธยมศึกษำปที ี่5
เวลำ 80 ชว่ั โมง
จำนวน 2.0หนว่ ยกติ

พูดแสดงความต้องการ เสนอ ตอบรับ และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จริงและ
สถานการณ์จาลอง ขอ ให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็น ข่าว เหตุการณ์

บรรยายความรู้สึก แสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ อย่างมีเหตุผล
นาเสนอข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง ข่าว เหตุการณ์ เร่อื งประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม สรุปใจความสาคัญ

จากการวิเคราะห์ กิจกรรมข่าว เหตุการณ์ ตามความสนใจ แสดงความคิดเห็นกิจกรรม ประสบการณ์ เหตุการณ์
ทง้ั ในท้องถ่ิน สังคม กลุ่มประเทศอาเซียนและยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นหลักคิดหลกั ปฏิบัติในการ
เรียนรู้

โดยใช้ทักษะการสื่อสารทางภาษา การฟงั การพูด การคดิ วเิ คราะหอ์ ย่างมีเหตุผลและกระบวนการเรียนรู้
จากสถานการณ์จริง ในการนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว ประสบการณ์ สานการณ์ เหตุการณ์

ประเดน็ ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคมกล่มุ ประเทศอาเซียน
เพอ่ื ให้ผู้เรียนมีความสามารถในการสอื่ สารอย่างมมี ารยาท เหมาะสมกบั กาลเทศะ ซื่อสัตย์สจุ รติ มีวนิ ยั ใฝ่

เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ

ผลกำรเรียนรู้

1. สนทนาส่อื สารตามสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ได้
2. ใช้ภาษาเพือ่ แสดงความรูส้ ึกและความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรอื่ ง กิจกรรม ข่าวสนทนาโต้ตอบเรื่องใกล้ตวั และ
สถานการณ์ในกลุ่มประเทศอาเซยี นทอ่ี ยใู่ นความสนใจได้

3. สนทนาโต้ตอบเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู ได้
4. เขียนอธิบายเปรียบเทียบเกี่ยวกับข่าวและเหตุการณ์ท่ีฟังได้

5. แต่งบทสนทนาเกีย่ วกบั การเดนิ ทาง การรับประทานอาหาร หรอื การเดินทางทอ่ งเทยี่ วได้
6. เขียนบรรยายความรสู้ กึ และความคิดเห็นเกีย่ วกับเรื่องตา่ งๆได้
7. สรปุ ใจความสาคญั จากเรอ่ื งขา่ วเหตุการณ์ตามความสนใจได้

รวม 7 ผลกำรเรยี นรู้

186

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ วิชำเพ่มิ เติม

รหสั วชิ ำ อ30208ภำษำอังกฤษในชีวิตประจำวัน 4ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 40

ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกติ

พูดแสดงความต้องการ เสนอ ตอบรับ และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จริงและ

สถานการณ์จาลอง ขอ ให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็น ข่าว เหตุการณ์

บรรยายความรู้สึก แสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ อย่างมีเหตุผล

นาเสนอข้อมูลเก่ียวกับตนเอง ข่าว เหตุการณ์ เรือ่ งประเด็นตา่ งๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม สรุปใจความสาคัญ

จากการวิเคราะห์ กิจกรรมข่าว เหตุการณ์ ตามความสนใจ แสดงความคิดเห็นกิจกรรม ประสบการณ์ เหตุการณ์

ทง้ั ในท้องถิน่ สงั คม กลุ่มประเทศอาเซียนและยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ หลักคิดหลักปฏิบัติในการ

เรยี นรู้

โดยใช้ทักษะการสื่อสารทางภาษา การฟัง การพูด การคิดวิเคราะหอ์ ย่างมีเหตุผลและกระบวนการเรียนรู้

จากสถานการณ์จริง ในการนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เร่ืองใกล้ตัว ประสบการณ์ สานการณ์ เหตุการณ์

ประเด็นท่อี ย่ใู นความสนใจของสงั คมกลุม่ ประเทศอาเซยี น

เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนมีความสามารถในการสื่อสารอย่างมมี ารยาท เหมาะสมกับกาลเทศะ ซื่อสตั ย์สุจริต มีวินัย ใฝ่

เรียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ

ผลกำรเรียนรู้

นกั เรียนสามารถ
1. สนทนาสอื่ สารตามสถานการณ์ที่กาหนดใหไ้ ด้
2. ใชภ้ าษาเพอื่ แสดงความร้สู กึ และความคิดเห็นเกีย่ วกับเรอื่ ง กจิ กรรม ข่าวสนทนาโต้ตอบเร่ืองใกล้ตวั และ

สถานการณใ์ นกลมุ่ ประเทศอาเซยี นท่อี ยู่ในความสนใจได้
3. สนทนาโตต้ อบเพอ่ื ขอและให้ข้อมูลได้

4. เขียนอธบิ ายเปรยี บเทียบเกย่ี วกบั ข่าวและเหตุการณท์ ่ฟี งั ได้
5. แต่งบทสนทนาเกี่ยวกบั การเดินทาง การรบั ประทานอาหาร หรอื การเดินทางทอ่ งเท่ยี วได้
6. เขียนบรรยายความรู้สกึ และความคิดเห็นเก่ยี วกบั เรือ่ งต่างๆได้

7. สรุปใจความสาคัญจากเรือ่ งขา่ วเหตุการณ์ตามความสนใจได้

รวม 7 ผลกำรเรยี นรู้

187

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

อ30209ภำษำอังกฤษเพ่ิมเตมิ 11 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำต่ำงประเทศ

ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 6ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 80 ชวั่ โมงจำนวน 2.0 หน่วยกิต

.............................................................................................................................................................

ปฏิบตั ิตามและใช้คาขอร้องให้คาแนะนา คาชี้แจงคาอธิบายอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมตามกาลเทศะ อ่านออกเสียงคาศัพท์

สานวน ประโยค ข้อความ ข่าว โฆษณาและบทร้อยกรองส้ันๆได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก ระบุและเขียนหัวข้อ ใจความ
สาคัญและส่ือท่ีไมใ่ ชค่ วามเรียงรูปแบบตา่ งๆแสดงความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่ีฟังและอ่าน พร้อมให้เหตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ พูด
สนทนาและเขียนบรรยายข้อมลู เก่ียวกบั ตนเองและผอู้ ื่น เร่ืองตา่ งๆใกล้ตัวสถานการณ์ เรื่องที่อยใู่ นความสนใจของสังคมและกลุ่ม

ประเทศอาเซียนได้อย่างถูกต้อง เลือกใช้ภาษานา้ เสียงและกริ ยิ าท่าทาง อธิบายเปรียบเทียบเก่ียวกบั ชีวิตความเป็นอยู่ สถานท่ี
น่าสนใจเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านกีฬาและสุขภาพตามความสนใจค้นคว้ารวบรวมและสรุปข้อมูลข้อเท็จจรงิ แล้วนาเสนอดว้ ยการ

พูดและการเขียนที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหล่งเรียนรู้และสื่อสารในสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นในการทางาน สถาน
ประกอบการ สงั คมอย่างถูกตอ้ งเหมาะสม

โดยใช้ทักษะการสื่อสารทางภาษาการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน การแสดงความคิดเห็น การสนทนาแลกเปลี่ยน

เปรียบเทยี บและอธิบายใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มการคน้ คว้ารวบรวม และนาเสนอ เผยแพร่ประชาสมั พันธ์ ใชก้ ระบวนการเรียนรู้
ตามสถานการณ์จรงิ สถานการณจ์ าลองทเ่ี กิดขนึ้ ในสถานศกึ ษา และชมุ ชน

เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมีความสามารถในการสอ่ื สารอยา่ งมีมารยาท เหมาะสมกับกาลเทศะมีเหตุผล ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น รักการคน้ ควา้ หา
ความรู้ด้วยตนเอง มีความสามารถในการแกป้ ัญหาการแสดงออก การใช้ทักษะชวี ิตตลอดจนมคี วามรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรัก
ความเปน็ ไทย

ผลกำรเรียนรู้

นักเรียนสำมำรถ
.1พูดเสนอการให้การช่วยเหลอื ได้
.2สนทนาโตต้ อบเรื่องใกล้ตัวและสถานการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจได้

.3เขียนบอกทศิ ทางได้
.4เขยี นบรรยายเกยี่ วกบั สถานทที่ ่องเทีย่ วของกลุ่มประเทศอาเซียนและการบรกิ ารได้

.5อธบิ ายเกย่ี วกบั เวลาว่างและกจิ กรรมได้
.6สนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลเกีย่ วกับตนเองกับผู้อืน่ ได้
.7แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เหตกุ ารณต์ ่างๆเป็นภาษาองั กฤษได้

.8ใช้ประโยคขอความ คาขอรอ้ ง คาแนะนาไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม
.9อ่านออกเสียง ขอ้ ความ บทความ ตามท่ีกาหนดได้

.10จับใจความสาคญั บทความทอ่ี ่านได้

รวม 10 ผลกำรเรียนรู้

188

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ

อ30210 ภำษำองั กฤษในชีวติ ประจำวัน 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 6 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

………………………………………………………………………………………………………………...

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ข้อมลู ข้อความ ส่อื ที่เป็นความเรียง เร่ืองสั้นเรื่องเลา่ บทเพลงจากสื่อส่อื สง่ิ พมิ พ์หรอื ส่อื

อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กิจวัตรประจาวนั ประสบการณ์ต่าง ๆ ในท้องถนิ่ ความรทู้ เี่ ก่ยี วกบั สาระการเรียนรู้ วฒั นธรรม

ท้องถนิ่ วัฒนธรรมไทย และวฒั นธรรมตา่ งประเทศโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคิดหลกั

ปฏบิ ัตใิ นการเรียนรู้

โดยใชก้ ระบวนการ การเรยี นรทู้ างภาษา การพูด การฟงั การอา่ น การเขยี น การวเิ คราะห์ การอธิบาย

การบรรยาย นาเสนอขอ้ มลู เรื่องราว ประเด็น เหตุการณท์ อี่ ยใู่ นความสนใจของกลุ่มประเทศอาเซยี น กระบวนการ

การจัดการในการนาเสนอความคิดรวบยอด ความคดิ เหน็ กระบวนการการเรยี นรู้ด้วยตนเองในการใช้สอื่ สงิ่ พิมพ์

หรือสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ การเรียนรแู้ บบบูรณาการในการแสวงหาความรเู้ กย่ี วกบั กบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ่นื

เพ่ือใหเ้ กดิ เจตคติทีด่ ีในการเรยี นรู้ ภาษาในการแสวงหาความร้เู ก่ยี วกับกลุม่ สาระอื่น เหน็ คณุ ค่าของภาษา

และวฒั นธรรมและการเข้าร่วมกิจกรรมด้วยความสนกุ สนานและเพลดิ เพลนิ เกิดการใฝร่ ู้ ใฝ่เรียน และมวี นิ ยั

ผลกำรเรียนรู้

1. อ่านออกเสียงข้อความ ข่าวประกาศ และบทร้อยกรองส้ันๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
2. พดู และเขยี นเพ่อื ขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับเร่อื งทีฟ่ งั หรืออา่ น อย่าง

เหมาะสม
3. เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยค ชนดิ ต่าง ๆ

และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

4. สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เร่อื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชวี ิตประจาวัน
อย่างเหมาะสม

5. คน้ คว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มลู จนข้อเทจ็ จริงท่เี ก่ยี วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรียนรอู้ า่ื กแหลง่ เรียนรู้และ
นาเสนอดว้ ยการพูด การเขยี น

รวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

189

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ วชิ ำเพิ่มเตมิ
รหสั วิชำอ30211ภำษำอังกฤษเพม่ิ เติม12 มัธยมศึกษำปีท่ี6
เวลำ 80 ช่วั โมง
จำนวน 2.0หน่วยกิต

ศึกษา ค้นคว้าวิเคราะห์บทสนทนาภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจาวัน ระบุและเลือกใช้
ภาษาอังกฤษ พูดส่ือสารสนทนาเกี่ยวกับบทบาทในหน้าท่ีความรับผิดชอบ แสดงความคิดเห็นให้ เหตุผลกับผู้อื่น

ตามความเหมาะสม เรียนรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษาเพื่อใช้ใน การทางานในหน้าที่ ที่ได้รับผิดชอบอย่าง
เหมาะสม

โดยใช้กระบวนการฝึกทักษะการใช้ภาษาเพื่อการส่อื สาร สนทนาแลกเปลย่ี นแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับ
งานในอนาคต หน้าท่ีความรับผิดขอบฝึกการ ออกเสียง สาเนียงตามเจ้าของภาษา แลกเปล่ียนเรยี นรู้ วัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา ถามและตอบเก่ียวกับข้อมูลที่จาเป็นในการสอ่ื สารโดยการเลือกใช้ถ้อยคาตาม สถานการณ์ต่างๆ

การพดู ส่อื สารภาษาองั กฤษแบบสภุ าพในโอกาสสาคญั
เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการทางาน ตระหนักในคุณค่าของการใช้

ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั เพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มีความมุ่งม่ัน ใฝ่เรียนรู้ในการ
ทางาน มีมารยาททางสงั คม เห็นความสาคัญของการใช้ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสารงานในโรงแรม สามารถ นาไป
ระยุกตใ์ ช้ในการพัฒนาตนเองเพื่อการประกอบอาชพี

ผลกำรเรยี นรู้
1. ผู้เรยี นศกึ ษาบทสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้เพอ่ื การสื่อสาร สนทนาในสถานการณ์ต่างๆได้
2. ผู้เรยี นสามารถสนทนาแลกเปลย่ี นข้อมูล แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั งานในชีวิตจริงได้
3. ผเู้ รียนเหน็ คุณค่าของการใชภ้ าษาองั กฤษเพ่อื การสอื่ สารในชีวิตประจาวัน

4. ผูเ้ รยี นมีความรับผิดชอบ และพฒั นาตนเองเพื่องานอาชีพทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

รวมทั้งหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้

190

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ วชิ าเพ่ิมเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ มธั ยมศึกษาปีท่ี6

รหสั วิชาอ30212 ภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวนั 6 จานวน 1หนว่ ยกติ
เวลา 40ชั่วโมง

ศึกษา ค้นคว้าวิเคราะห์บทสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจาวัน ระบุและเลือกใช้
ภาษาอังกฤษ พูดส่ือสารสนทนาเก่ียวกับบทบาทในหน้าที่ความรับผิดชอบ แสดงความคิดเห็นให้ เหตุผลกับผู้อื่น

ตามความเหมาะสม เรียนรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษาเพื่อใช้ใน การทางานในหน้าที่ ท่ีได้รับผิดชอบอย่าง
เหมาะสม

โดยใช้กระบวนการฝึกทักษะการใช้ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร สนทนาแลกเปลย่ี นแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ
งานในอนาคต หน้าที่ความรับผิดขอบฝึกการ ออกเสียง สาเนียงตามเจ้าของภาษา แลกเปล่ียนเรยี นรู้ วัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา ถามและตอบเก่ียวกับข้อมูลท่ีจาเป็นในการสอื่ สารโดยการเลือกใชถ้ ้อยคาตาม สถานการณ์ต่างๆ

การพดู ส่อื สารภาษาองั กฤษแบบสภุ าพในโอกาสสาคญั
เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการทางาน ตระหนักในคุณค่าของการใช้

ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั เพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มีความมุ่งม่ัน ใฝ่เรียนรู้ในการ
ทางาน มีมารยาททางสงั คม เหน็ ความสาคัญของการใชภ้ าษาองั กฤษเพื่อการส่ือสารงานในโรงแรม สามารถ นาไป
ระยุกตใ์ ช้ในการพัฒนาตนเองเพอื่ การประกอบอาชพี

ผลกำรเรยี นรู้
5. ผ้เู รยี นศกึ ษาบทสนทนาภาษาอังกฤษที่ใชเ้ พอื่ การสือ่ สาร สนทนาในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้
6. ผู้เรยี นสามารถสนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มลู แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั งานในชีวติ จรงิ ได้
7. ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการใชภ้ าษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สารในชีวติ ประจาวัน

8. ผูเ้ รียนมีความรบั ผิดชอบ และพัฒนาตนเองเพ่ืองานอาชพี ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

รวมท้ังหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้

191

กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ คำอธบิ ำยรำยวิชำ 1
รหัสวิชำ จ30201 รำยวิชำภำษำจีน ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 4 ภำคเรยี นที่ 1
เวลำ 80 ชว่ั โมง
จำนวน 2 หนว่ ยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกทักษะการฟัง พดู อา่ น เขียน เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจคาสงั่ คาขอร้องง่าย ๆ ท่ใี ชใ้ นหอ้ งเรียน
และสามารถตคี วามประโยคบทสนทนาสัน้ ๆ ให้ข้อมูลเกย่ี วกับตนเองและสง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว การใช้ภาษาตาม
มารยาททางสงั คมของชาวจีน แสดงความตอ้ งการของตนเอง เสนอความช่วยเหลือผอู้ นื่ แสดงความคิดเหน็ ตอ่
เหตุการณใ์ นชีวติ ประจาวนั การอ่านออกเสียงคา กล่มุ คา ประโยคไดถ้ ูกต้องตามหลักการอา่ นออกเสียง ในระบบ
สทั อักษรภาษาจนี กลาง เรยี นรู้วิธีการเขยี นตวั อกั ษรจนี เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมจีน

โดยใชท้ ักษะการส่อื สารทางภาษา การพดู การฟัง การอา่ น การเขียน การวเิ คราะหอ์ ย่างมีเหตุผล ทักษะ
กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการเรยี นรูจ้ ากประสบการณจ์ รงิ

เพอ่ื ให้เห็นประโยชน์ของภาษาจีนและสามารถใชเ้ ช่อื มโยงการเรยี นรู้ กบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น

ผลกำรเรียนรู้
1. ระบสุ ทั อักษรตามระบบพนิ อิน (拼音)อ่านออกเสยี ง และประสมเสียงคาง่ายๆ ตามหลักการออกเสียง
2. อา่ นพยางคแ์ ละแปรเสยี งวรรณยุกตไ์ ด้ตามกฎเกณฑ์
3. อ่านคาที่กาหนดใหท้ ัง้ ในตัวสัทอกั ษรได้
4. อ่านออกเสยี งประโยค ข้อความและบทความส้ันๆ ตามหลกั การออกเสยี ง
5. พูดโตต้ อบด้วยคาส้นั ๆ งา่ ยๆ ในการกล่าวทักทายและกล่าวลาระหวา่ งบคุ คล ตามแบบทฟ่ี งั
6. ฟงั ประโยคสนทนาภาษาจนี จากบทสนทนาภาษาจนี และข้อความสั้นๆในช้ันเรียน แล้วเข้าใจได้
7. อา่ นออกเสยี ง เขียนและบอกตวั เลขเปน็ ภาษาจีนได้
8. ตอบคาถามจากการฟงั หรอื การอ่านประโยคและสนทนาโต้ตอบ เพอ่ื ทาการซื้อขายได้
9. แนะนาสมาชกิ ในครอบครวั และสงิ่ ใกล้ตวั หรือกิจกรรมต่างๆทเ่ี กย่ี วกับครอบครวั
10.ระบภุ าพ ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคจากการฟงั หรอื การอ่าน

รวม 10 ผลกำรเรยี นรู้

192

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ คำอธิบำยรำยวิชำ 2
รหสั วชิ ำ จ30202 รำยวิชำภำษำจีน ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4 ภำคเรยี นท่ี 2
เวลำ 80 ช่ัวโมง
จำนวน 2 หน่วยกิต

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝึกทกั ษะการฟงั พูด อา่ น เขยี น เพ่อื ให้เขา้ ใจคาส่ัง คาขอร้องง่าย ๆ ท่ใี ช้ในห้องเรยี น
และสามารถตีความประโยคบทสนทนาสนั้ ๆ ให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเองและสิง่ แวดลอ้ มใกล้ตวั การใช้ภาษาตาม
มารยาททางสังคมของชาวจนี แสดงความตอ้ งการของตนเอง เสนอความชว่ ยเหลือผ้อู ื่น แสดงความคดิ เห็นตอ่
เหตุการณ์ในชีวิตประจาวัน การอา่ นออกเสยี งคา กล่มุ คา ประโยคได้ถูกต้องตามหลักการอา่ นออกเสียง ในระบบ
สัทอักษรภาษาจีนกลาง เรียนรู้วิธีการเขียนตัวอักษรจนี เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมจีน

โดยใช้ทักษะการส่ือสารทางภาษา การพดู การฟงั การอา่ น การเขยี น การวิเคราะห์อย่างมเี หตุผล ทักษะ
กระบวนการกล่มุ และกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณจ์ รงิ

เพือ่ ใหเ้ หน็ ประโยชนข์ องภาษาจีนและสามารถใช้เชือ่ มโยงการเรยี นรู้ กับกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ นื่

ผลกำรเรียนรู้
1. ระบุ แยกสว่ นประกอบเส้นขดี ต่างๆตวั อักษรจนี ได้ถกู ตอ้ ง
2. เขยี นตัวอกั ษรจีนได้ถกู ต้องตามลาดับขดี
3. อ่านคาท่กี าหนดให้ท้งั ในตวั สัทอกั ษรและตัวอักษรจนี ได้
4. อ่านออกเสียงประโยค ข้อความตามหลักการออกเสียง เกย่ี วกบั การบอกวันท่ีได้
5. พดู โตต้ อบด้วยคาส้ันๆ งา่ ยๆ ในการบอกเวลา ตามแบบทฟ่ี ัง
6. ฟังประโยคสนทนาภาษาจีนจากบทสนทนาภาษาจีนและข้อความสัน้ ๆเกยี่ วกับการบอกเวลา แล้วเข้าใจ
7. อ่านออกเสียง เขียนและสนทนาเก่ียวกบั การแนะนาตัวบุคคล
8. ตอบคาถามจากการฟังหรอื การอ่านประโยคและสนทนาโต้ตอบ เพือ่ แนะนาตัวบุคคล
9. เขยี นรูปประโยค อ่านออกเสยี งและสนทนาเก่ียวกับส่ิงท่ีตวั เองชอบ
10.ระบุภาพ ตรงตามความหมายของคา กลมุ่ คา และประโยคจากการฟังหรอื การอ่าน

รวม 10 ผลกำรเรียนรู้

193

กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ คำอธิบำยรำยวิชำ 3
รหสั วิชำ จ30203 รำยวิชำภำษำจนี ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 5 ภำคเรียนท่ี 1
เวลำ 80 ชัว่ โมง
จำนวน 2 หน่วยกิต

ศกึ ษาวิเคราะห์การฝึกทักษะการฟังพูดอ่านเขยี นเพื่อให้เข้าใจคาแนะนาคาอธิบายสานวนข้อความท่ีใช้ทั้ง
ในและนอกห้องเรียนสามารถอ่านออกเสียงประโยคข้อความได้ตามหลักการอ่านออกเสียงในระบบสัทอักษรจีน
กลางเรียนรู้ความหมายและการใช้คาศัพท์ภาษาจีนสามารถใช้ภาษาเพ่ือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลตาม
มารยาททางสังคมแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกต่อเร่ืองราวในชีวิตประจาวันหรือจากสื่ อต่างๆเข้าใจความ
แตกต่างระหวา่ งภาษาจีนกับภาษาไทยในเร่ืองสานวนและโครงสรา้ งประโยคตลอดจนวฒั นธรรมในการใช้ภาษา

โดยใช้ทักษะการสื่อสารทางภาษาการพูดการฟังการอา่ นการเขียนการวิเคราะหอ์ ย่างมีเหตุผลทักษะกระบวนการ
กลุม่ และกระบวนการเรียนรูจ้ ากประสบการณ์จริง

เพ่อื ให้เห็นประโยชน์ของภาษาจนี ในการเรียนรู้สงั คมและอาชีพสามารถใช้ภาษาจนี เชื่อมโยงการเรียนรูก้ ับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนและเตรียมการด้านการศึกษาต่อ

ผลกำรเรยี นรู้
1.ตอบคาถามจากการฟังหรอื การอา่ นประโยคและสนทนาโตต้ อบ
2.ฟงั ประโยคสนทนาภาษาจนี จากบทสนทนาท่ีกาหนดให้แล้วเข้าใจได้
3. เขยี นรปู ประโยคอา่ นออกเสยี งและสนทนาเกีย่ วกบั สภาพอากาศของแตล่ ะสถานท่ี
4. ระบุภาพเขยี นตวั อักษรจีนได้ถูกต้องตามภาพทีเ่ หน็
5. พูดโตต้ อบด้วยคาส้นั ๆงา่ ยๆในการบอกเวลาท่ีสอดคล้องกบั กจิ วตั รประจาวนั ตามแบบทีฟ่ ัง
6. ฟังประโยคสนทนาภาษาจนี จากบทสนทนาภาษาจีนและข้อความสัน้ ๆเกี่ยวกับกจิ วตั รประจาวนั แลว้
เข้าใจ
7. อ่านออกเสียงเขยี นและสนทนาเกย่ี วกบั งานอดิเรกท่ีชอบ
8. ตอบคาถามจากการฟังหรือการอา่ นประโยคและสนทนาโตต้ อบเพอ่ื สื่อสารใบเบอื้ งตน้
9. ฟังและพดู บทสนทนาเก่ยี วกบั อาชพี ในเบือ้ งตน้
10.อา่ นออกเสยี งคากลุ่มคาและประโยคจากการฟังหรือการอา่ นเก่ยี วกบั กฬี า

รวม 10 ผลกำรเรียนรู้

194

กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ คำอธิบำยรำยวชิ ำ 4
รหสั วิชำ จ30204 รำยวิชำภำษำจนี ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 5 ภำคเรยี นที่ 2
เวลำ 80 ชั่วโมง
จำนวน 2 หน่วยกิต

ศึกษาวิเคราะห์ทักษะการฟังพูดอ่านเขียนเพ่ือให้เข้าใจภาษาท่าทางน้าเสียงคาแนะนาคาอธิบายบท
สนทนานิทานสานวนสุภาษิตสามารถอ่านออกเสียงประโยคขอ้ ความทีย่ าวข้นึ ได้ถูกตอ้ งตามหลักการอ่านออกเสียง
ในระบบสัทอักษรภาษาจีนกลางเรียนรู้เก่ียวกับความหมายและการใช้คาศัพท์ภาษาจีนสามารถนาเสนอเรื่องราว
ใกล้ตัวหรือแสดงความคิดเห็นโดยการพูดหรือเขียนเข้าใจความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมระหว่างของ
จนี กบั ของไทย

โดยใช้ ทักษะ การสื่อสารทางภาษาการพูดการฟั งการอ่าน การเขีย นการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลทักษะ
กระบวนการกลุ่มและกระบวนการเรยี นรจู้ ากประสบการณจ์ ริง

เพื่อให้เห็นประโยชนข์ องภาษาจนี ในการพัฒนาตนเองดา้ นการศกึ ษาและดา้ นอาชีพ

ผลกำรเรียนรู้
1. ฟงั และอา่ นออกเสยี งคาศพั ท์เกย่ี วกับสถานทแี่ ล้วเข้าใจได้

2. เขยี นคาศัพทแ์ ละประโยคภาษาจีนด้วยตัวสัทอักษรและตัวอักษรจนี ไดถ้ ูกต้องตามหลักภาษา

3. อา่ นคาที่กาหนดให้ท้ังในตวั สัทอกั ษรและตวั อักษรจนี ได้

4. อา่ นออกเสยี งประโยคขอ้ ความตามหลักการออกเสยี งเกยี่ วกับความใฝ่ฝันได้

5. ระบุภาพตรงตามความหมายของคากลุ่มคาและประโยคจากการฟังหรือการอา่ น

6. ฟงั ประโยคสนทนาภาษาจนี จากบทสนทนาภาษาจนี และขอ้ ความส้นั ๆเกย่ี วกบั การแตง่ กายแล้วเขา้ ใจ

7. อา่ นออกเสียงเขียนและสนทนาเกย่ี วกับการแนะนาตวั บคุ คล

8. ฟังหรือการอา่ นประโยคและสนทนาโตต้ อบเพ่ือทาการอวยพรในโอกาสตา่ งๆ

9. ตอบคาถามจากการฟังหรือการอ่านประโยคและสนทนาโต้ตอบเพ่อื บอกส่ิงทีช่ อบทาในวนั หยดุ สุด
สัปดาห์

10.รแู้ ละเขา้ ใจเทศกาลและวัฒนธรรมตา่ งๆของประเทศจีน

รวม 10 ผลกำรเรียนรู้

195

กลุม่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำต่ำงประเทศ คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวิชำภำษำจนี 5
รหัสวิชำ จ30205 จำนวน ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 6 ภำคเรยี นที่ 1
เวลำ 80 ชวั่ โมง
2 หนว่ ยกิต

ศกึ ษา วเิ คราะห์ การฝึกทักษะการฟังพดู อ่านเขียนเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจคาอธบิ ายขอ้ ความสานวนสุภาษิตที่ฟังหรือ
อ่านสามารถอธบิ ายบรรยายเปรยี บเทยี บนาเสนอเรอื่ งราวหรือประสบการณ์แสดงความคิดเห็นหรอื ความรู้สึกต่อ
เหตุการณ์สถานการณต์ ่างๆในสงั คมโดยการพดู หรือเขียนใชภ้ าษาเพือ่ การสอ่ื สารปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบขา้ งได้
เหมาะสมตามกาลเทศะเขา้ ใจความแตกตา่ งระหว่างสานวนโครงสร้างประโยคของภาษาจนี กบั ภาษาไทยสนใจเข้า
ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมจีน

โดยใช้ทักษะการสอื่ สารทางภาษา การพดู การฟงั การอ่าน การเขียน การวิเคราะหอ์ ยา่ งมีเหตุผล ทักษะ
กระบวนการกลุ่มและกระบวนการเรยี นรจู้ ากประสบการณจ์ รงิ

เพอ่ื ใหเ้ ห็นคณุ คา่ และความสาคัญของการใชภ้ าษาจีนเพ่อื การพฒั นาตนเองทั้งดา้ นการเรียนสังคมและ
อาชีพ

ผลกำรเรยี นรู้
1.ตอบคาถามจากการฟงั หรอื การอา่ นประโยคและสนทนาโตต้ อบ
2.ฟงั ประโยคสนทนาภาษาจีนจากบทสนทนาทกี่ าหนดให้แล้วเข้าใจได้
3. เขียนรปู ประโยคอ่านออกเสียงและสนทนาเก่ียวกบั ความตอ้ งการ
4. ระบุภาพเขียนตวั อักษรจีนได้ถกู ต้องตามภาพที่เห็น
5. พูดโต้ตอบดว้ ยคาสน้ั ๆงา่ ยๆในการบอกทิศทาง
6. ฟังประโยคสนทนาภาษาจีนจากบทสนทนาภาษาจีนและขอ้ ความสั้นๆเกยี่ วกบั ทิศทางแลว้ เข้าใจ
7. อา่ นออกเสยี งเขยี นและสนทนาเกย่ี วกับวิชาเรียนที่ชอบ
8. ตอบคาถามจากการฟงั หรือการอา่ นประโยคและสนทนาโตต้ อบเพ่อื ส่ือสารใบเบอ้ื งต้น
9. ฟังและพดู บทสนทนาเกย่ี วกบั การศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในเบื้องตน้
10.ร้แู ละสามารถปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเกีย่ วกับวัฒนธรรมจนี

รวม 10 ผลกำรเรยี นรู้

196

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ รำยวชิ ำภำษำจนี 6 รหัสวิชำ
จ30206
เวลำ 80 ชวั่ โมง ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 ภำคเรียนที่ 2

จำนวน 2 หน่วยกิต

วิเคราะห์ การฝึกทกั ษะการฟังพูดอ่านเขียนเพ่ือให้เข้าใจน้าเสยี งความรู้สึกของผู้พูดสามารถตีความสื่อใน
รูปแบบต่างๆอ่านออกเสียงสานวนสุภาษิตและบทความได้ถูกต้องเหมาะสมสามารถนาเสนอเรื่องราวแสดงความ
คิดเห็นและความรู้สึกต่อเหตุการณ์หรอื สถานการณ์ต่างๆโดยการพูดหรือเขียนใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารปฏิสัมพันธ์
กับบุคคลรอบข้างได้เหมาะสมตามกาลเทศะเข้าใจสานวนโครงสร้างประโยคและวิธีการนาไปใช้ตลอดจนความ
เหมือนและความแตกตา่ งทางภาษาและวัฒนธรรมของจนี กบั ไทยสนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมจีน

โดยใช้ทกั ษะการสอื่ สารทางภาษา การพูด การฟัง การอ่าน การเขียน การวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ทกั ษะ
กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการเรยี นรู้จากประสบการณจ์ รงิ

เพ่อื ให้เห็นคุณค่าและความสาคญั ของการใช้ภาษาจีนเพ่ือการพัฒนาตนเองและครอบครัวเพ่อื การจัดการ
ดา้ นการศกึ ษาต่อหรอื เตรียมการเข้าสู่อาชพี

ผลกำรเรยี นรู้
1. ฟังและอา่ นออกเสียงคาศพั ท์เกี่ยวกบั ความรู้สกึ แลว้ เข้าใจได้
2. เขยี นคาศัพท์และประโยคภาษาจนี ดว้ ยตัวสัทอักษรและตวั อกั ษรจนี ได้ถูกตอ้ งตามหลักภาษา
3. อ่านคาท่กี าหนดใหท้ ั้งในตัวสัทอักษรและตวั อักษรจนี ได้
4. ปฏิบัตติ ามคาสงั่ การขออนญุ าตจิ ากสง่ิ ที่ฟงั ได้
5. รูค้ าศัพท์กลมุ่ คาและประโยคจากการฟงั หรือการอ่านเกี่ยวกับการเชื้อเชิญ
6. ฟงั ประโยคสนทนาภาษาจีนจากบทสนทนาภาษาจีนและขอ้ ความสนั้ ๆเกยี่ วกับการเชอ้ื เชญิ
7. อา่ นออกเสยี งเขียนและสนทนาเก่ียวกับการขนสง่
8. ฟังหรือการอา่ นประโยคและสนทนาโต้ตอบเพื่อทาการส่ือสารเกี่ยวกับการขนส่ง
9. อา่ นออกเสียงและบอกความหมายคาศพั ท์เกีย่ วกับเทคโนโลยี
10.รแู้ ละเข้าใจเทศกาลและวัฒนธรรมตา่ งๆของประเทศจนี

รวม 10 ผลกำรเรียนรู้

197

5. กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น

กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน

โรงเรียนโนนหันวิทยายน ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยมุ่งให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จาก
ประสบการณ์ตรง ได้ฝึกปฏิบัติจริงและค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความรู้
เพ่ิมเติมตามความสนใจจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย บาเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม มีทักษะในการ
ดาเนินงาน ส่งเสริมให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สังคม ศีลธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจ
ตนเอง สามารถวางแผนชีวิตและอาชพี ไดอ้ ย่างเหมาะสม

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมท่ีมุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาการ
เรียนรู้อย่างรอบด้านเพ่ือความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม
เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวนิ ัย ปลูกฝังให้สร้างจติ สานึกของการทาประโยชน์
เพอื่ สังคม สามรถจักการตนเองได้และอยรู่ ว่ มกับผอู้ น่ื อยา่ งมคี วามสุขโรงเรียนโนนหนั วิทยายน ไดจ้ ัด
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยแบ่งออกเปน็ 3 ลักษณะ ดงั น้ี

1. กิจกรรมแนะแนว
เป็นกจิ กรรมท่ีส่งเสริมและพฒั นาผู้เรียนใหร้ ู้จักตนเอง รู้รักษ์ส่ิงแวดล้อม สามารถ

คิดตดั สินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเปา้ หมาย วางแผนชีวติ ทงั้ ด้านการเรยี น และอาชพี สามารถปรบั ตน
ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยใหค้ รูรจู้ ักและเข้าใจผู้เรียน ท้ังยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้
คาปรึกษาแก่ผู้ปกครองในการมีสว่ นรว่ มพฒั นาผูเ้ รียน

2 กิจกรรมนกั เรียน
เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นาผู้ตามท่ีดี ความ

รบั ผดิ ชอบ การทางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตดั สินใจที่เหมาะสม ความมีเหตผุ ล การช่วยเหลือ
แบ่งปนั กนั เอื้ออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจ
ของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวเิ คราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน
ประเมินและปรับปรุงการทางาน เน้นการทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้อง
กบั วฒุ ิภาวะของผู้เรยี น บรบิ ทของสถานศกึ ษาและทอ้ งถน่ิ กิจกรรมนกั เรยี นประกอบด้วย

2.1 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชา
ทหาร

2.2 กจิ กรรมชุมนุม

3. กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
เปน็ กิจกรรมที่สง่ เสริมให้ผู้เรียนบาเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ สังคม ชุมชน และ

ท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถงึ ความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละ
ต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาต่าง ๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม ในส่วนของ

กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์นี้ โรงเรยี นแบ่งเปน็ 2 ส่วน ดังน้ี

198

3.1 กิจกรรมตามความสนใจ โรงเรียนจัดทาคู่มือบาเพ็ญประโยชน์เพื่อชุมชน
และสงั คมเพ่ือให้นกั เรยี นบนั ทกึ กจิ กรรมท่ีปฏบิ ตั ิ มีการตรวจสอบประเมินผลรว่ มกันระหว่างนักเรียน

ครูท่ปี รึกษา ผูป้ กครอง และผู้นาชุมชน
3.2 กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ที่โรงเรียนจัดข้ึนในโอกาสพิเศษ/สาคัญต่าง ๆ

และนักเรียนจาเป็นต้องเข้าร่วม จะมีการประเมินผลเป็นรายกิจกรรมโดยฝ่ายท่ีรับผิดชอบในแต่ละ
โครงการ ส่งผลการประเมินนักเรียนมายังครูท่ีปรึกษาเป็นผู้รวบรวม เม่ือสิ้นปีการศึกษาจะมีการ
ประมวล สรปุ ผลโดยครทู ป่ี รกึ ษา

การจัดเวลาเรียน

การกาหนดเวลาจดั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 - 3 ปีละ 120 ช่ัวโมง
และช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จานวนรวม 360 ช่ัวโมง เป็นเวลาสาหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน์ได้จัดสรรเวลาใหผ้ เู้ รียนได้ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ดงั นี้

๒.๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น (ม. 1 – 3) รวม 3 ปี จานวน 45 ชว่ั โมง

๒.๒ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม. 4 – 6) รวม 3 ปี จานวน 60 ชว่ั โมง

โครงสร้างเวลาการจัดกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นในแต่ละระดบั ชัน้ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สามารถแสดงได้ ดังตารางต่อไปน้ี

กจิ กรรม ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น ชั้นมธั ยมศึกษา
ม.1 ม.2 ม.3 ตอนปลาย

๑. กจิ กรรมแนะแนว 40 ช.ม. 40 ช.ม. 40 ช.ม. 120 ช.ม.

๒. กจิ กรรมนกั เรียน 80 ช.ม. 80 ช.ม. 80 ช.ม. 240 ช.ม.

๓. กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 45 ชม. 60 ช.ม.

* จัดนอกเวลาเรยี นปกติ

รวม 120 120 120 360

การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน

การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น จะตอ้ งพิจารณาทัง้ เวลาการเขา้ รว่ มกิจกรรม การปฏิบัติ
กจิ กรรมและผลงานของผู้เรยี นตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากาหนด และให้ผลการประเมินเปน็ ผา่ นและ

ไมผ่ ่าน ใหใ้ ช้ตวั อักษรแสดงผลการประเมนิ ดงั น้ี
๑. “ผ” หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมและมี

ผลงานตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด

๒. “มผ” หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้ารว่ มกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ปฏิบัตกิ ิจกรรมและ
มผี ลงานไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากาหนด

199

ทั้งนี้ ถ้าไม่เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ ผู้เรียนต้องปฏิบัติกิจกรรมเพิ่มเตมิ ตามท่ีครูที่
ปรึกษากิจกรรมกาหนด หรือให้ความเห็นชอบตามที่ผู้เรียนเสนอประเมินตนเองและเพ่ือนร่วม
กิจกรรม หรือหากผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพยี งเล็กน้อย และสถานศึกษาพจิ ารณาเห็นวา่ สามารถพฒั นา
และสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผันให้ผ่านการประเมินได้ แต่หาก
ผูเ้ รียนไม่ผ่านการประเมินเป็นจานวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเปน็ ปัญหาตอ่ การเรียนในระดบั ชนั้ ท่ี
สูงขึ้นหรือในรายวิชาอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้อง สถานศึกษาอาจต้ังคณะกรรมการพิจารณาให้ผลการเรียน
เปน็ ไมผ่ า่ น ได้ ทงั้ นใ้ี ห้คานงึ ถึงวุฒภิ าวะและความร้คู วามสามารถของผู้เรยี นเปน็ สาคัญ

200

คาอธบิ ายรายวชิ า
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น

201

คาอธิบายกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
กจิ กรรมลูกเสอื สามัญรุ่นใหญ่ จานวน 40ชว่ั โมง

ภาคเรียนท่ี 1 – 2

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏิบัติ ตระหนักถึงความสาคัญของ กจิ การลูกเสือ ระเบียบแถว การสวน
สนามกฎและคาปฏิญาณ การบรรจุเครื่องหลัง การกางเตน็ ท์ การก่อไฟ และการประกบอาหารเง่ือน
และการผกู แน่น อันประกอบไปดว้ ย เง่อื นพิรอด เง่ือนขัดสมาธิ เงื่อนผูกกระหวัดไม้ เง่ือนบ่วงสายธนู

เง่ือนตะกรุดเบ็ด เงื่อนประมงเงื่อนผูกซงุ เง่ือนผูกรงั้ เงื่อนปมตาไก่ และการผูกแน่นอันประกอบด้วย
ผูกทแยง ผูกกากบาท ผูกประกบ หลักความปลอดภัยท่วั ไปรวมถึงวิชาพิเศษอันประกอบด้วย การหา

มิตร นกั สะสม นักสะกดรอย นักวา่ ยน้า และผพู้ ิทกั ษป์ ่า

วัตถปุ ระสงค์
1. มีความรูค้ วามเข้าใจ และสามารถปฏิบัตติ ามคาปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จน์ของลูกเสือ
สามัญ รุน่ ใหญ่
2. มีทักษะการสงั เกต จดจา การใช้มือ เครื่องมอื การแก้ปญั หา และทกั ษะในการทางาน

ร่วมกับผู้อนื่
3. มคี วามซอื่ สตั ย์สุจรติ มีความกลา้ หาญ อดทน เชอื่ มัน่ ในตนเอง มรี ะเบียบวินยั มีความ

สามัคคี เห็นอกเหน็ ใจผ้อู ่ืน มคี วามเสยี สละ บาเพ็ญประโยชนเ์ พอ่ื สาธารณประโยชน์
4. มีการพฒั นาตนเองอยู่เสมอ สร้างสรรค์งานฝีมอื สนใจและพัฒนาเรอ่ื งของธรรมชาติ

รวมท้ังหมด 4 วัตถุประสงค์

202

คาอธบิ ายกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
กจิ กรรมลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ จานวน 40ช่ัวโมง

ภาคเรยี นท่ี 1 – 2

ศึกษา วเิ คราะห์ ฝกึ ปฏบิ ัติ ตระหนักถึงความสาคัญของ อดุ มคติ การสวนสนาม ส่ิงแวดล้อม
การบรกิ าร หน้าทีพ่ ลเมอื ง การเดนิ ทางสารวจและการบกุ เบิก การเดินทางไกล การใชแ้ ผนที่-เขม็ ทิศ
การปฐมพยาบาล อันประกอบด้วย บาดแผลธรรมดา ถกู ไฟไหม้ น้ารอ้ นลวก เป็นลม งูกดั แมงมุมกัด
แมลงกดั ตอ่ ย ผวิ หนังถลอก และเทา้ แพลง และวิชาพิเศษอนั ประกอบดว้ ย การจัดการค่าย ช่วย

ผปู้ ระสบภยั นักผจญภัย สายยงยศ

วัตถุประสงค์
1. มคี วามร้คู วามเข้าใจ และสามารถปฏบิ ัติตามคาปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนข์ องลูกเสือ
สามญั รนุ่ ใหญ่
2. มีทักษะการสังเกต จดจา การใช้มือ เคร่ืองมือ การแกป้ ญั หา และทักษะในการทางาน
ร่วมกบั ผู้อนื่

3. มีความซอื่ สตั ย์สุจรติ มีความกลา้ หาญ อดทน เช่อื ม่นั ในตนเอง มรี ะเบยี บวนิ ัย มีความ
สามัคคี เหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ่นื มีความเสียสละ บาเพ็ญประโยชนเ์ พอื่ สาธารณประโยชน์

4. มีการพฒั นาตนเองอย่เู สมอ สรา้ งสรรคง์ านฝมี อื สนใจและพัฒนาเรื่องของธรรมชาติ

รวมทั้งหมด 4 วัตถุประสงค์

203

คาอธบิ ายกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
กิจกรรมลูกเสอื สามัญร่นุ ใหญ่ จานวน 40ช่ัวโมง

ภาคเรยี นที่ 1 – 2

ศกึ ษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ ตระหนักถึงความสาคัญของ การฝึกเป็นผู้นา การสวนสนามการ
แสดงออกทางศิลปะกิจกรรมที่สนใจ สมรรถภาพ การบริการ และส่ิงแวดลอ้ ม อุดมคติ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง
และวิชาพิเศษ อันประกอบด้วย นักกีฬา การอนุรักษ์ธรรมชาติ การพยาบาล การพูดในท่ีสาธารณะ
และการพัฒนาชมุ ชน

วตั ถุประสงค์
1. มคี วามร้คู วามเข้าใจ และสามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎ และคตพิ จน์ของลูกเสอื
สามญั รุน่ ใหญ่
2. มที กั ษะการสังเกต จดจา การใชม้ ือ เคร่อื งมือ การแกป้ ญั หา และทกั ษะในการทางาน
ร่วมกบั ผู้อื่น
3. มีความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มีความกล้าหาญ อดทน เชอ่ื มนั่ ในตนเอง มีระเบยี บวนิ ัย มีความ
สามคั คี เห็นอกเห็นใจผ้อู ่นื มีความเสยี สละ บาเพญ็ ประโยชนเ์ พ่ือสาธารณประโยชน์
4. มกี ารพัฒนาตนเองอย่เู สมอ สรา้ งสรรค์งานฝมี อื สนใจและพัฒนาเร่ืองของธรรมชาติ

รวมท้งั หมด 4 วัตถุประสงค์

204

คาอธิบายกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน

กจิ กรรมยุวกาชาด ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี
1-3 ภาคเรยี นที่ 1 – 2 จานวน 40ชว่ั โมง

ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามาตรฐาน โดยเน้นระบบหน่วย สรุปผลการ
ปฏิบัติกิจกรรม ในเรื่อง การกาชาด เคหพยาบาล บาเพ็ญประโยชน์ ระเบียบแถว อนุรักษ์ธรรมชาติ
และส่ิงแวดล้อม การผูกเง่อื นและประโยชนข์ องเงื่อน การใช้ชวี ิตกลางแจ้ง การเดินทางสารวจ เพื่อให้

มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถปฏิบัตติ ามคาปฏิญาณและหลักการของกาชาด มีความซื่อสัตย์ อดทน
มีระเบียบวินัย และทางานร่วมกับผู้อื่นได้ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบ และ

ปฏบิ ัติงานตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย รกั ษาอนามยั ของตนเองและผอู้ ่นื

วัตถุประสงค์
1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะตามหลักการของกาชาดและยวุ กาชาด
2. มีสุขภาพ และสมรรถภาพที่ดี สามารถนาความรู้ไปใชเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและผอู้ น่ื
3. มเี มตตา กรุณา และมีไมตรจี ิตต่อบุคคลทว่ั ไป

4. บาเพญ็ ตนให้เปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คม และเห็นคณุ ค่าในการอนุรกั ษ์ส่ิงแวดลอ้ ม
5. มที กั ษะในการปฏิบตั กิ ิจกรรมและอย่รู ่วมกบั ผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข
รวมทง้ั หมด 5 วตั ถุประสงค์

205

คาอธิบายรายวิชา

กลมุ่ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน

กิจกรรมแนะแนว ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนต้น

เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

................................................................................................................................................................

กิจกรรมแนะแนวชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมุ่งเน้นให้ผู้เรียนสารวจความถนัด ความสนใจของ
ตนเอง รักและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น รู้จักแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข่าวสารแหล่งความรู้

ทางด้านการศึกษาและด้านอาชีพส่วนตัว สังคม มีความรู้ ทักษะการคิดสร้างสรรค์และแก้ปัญหา
พัฒนาบุคลิกภาพและการปรับตัวในการดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุข มี

จิตสานึกในการรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั สงั คมและประเทศชาติ
การจัดกจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน แบ่งเป็น 3 ลกั ษณะ ดังนี้
๑. การจดั กจิ กรรมด้วยกระบวนการทางจิตวทิ ยาให้แก่ผู้เรยี นท้ังเปน็ รายบุคคลและ

เปน็ กลมุ่
เพื่อให้ครไู ดร้ ู้จักผูเ้ รียนมากขึ้น สามารถส่งเสรมิ และป้องกันปัญหาของผเู้ รียนทกุ คนไม่วา่ จะเปน็ กลุ่ม

ปกติหรือกลุ่มพิเศษให้ไดร้ ับการพัฒนาทักษะการดาเนินชีวติ ในด้านต่างๆ เช่น การรู้จักรักและเห็น
คุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน มีทักษะการคิดตัดสินใจ ทักษะการปรับตัว การวางแผนชีวิต รวมท้ังการ
สร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรมที่สาคัญ การจัดกิจกรรมมที ้ังจัดในห้องเรียนซึ่งใช้เวลาต่อเนื่องกันในกรณีท่ี

ตอ้ งพัฒนาทกั ษะที่สาคัญและจาเป็น หรอื จัดนอกห้องเรียนโดยให้มีบรรยากาศทเ่ี ป็นกันเองมคี รูเปน็ ที่
ปรึกษาและผู้เรียนทุกคนมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรม

๒. การจัดบริการเพ่ือให้ผู้เรียนได้สารวจตนเอง และรู้จักตนเองในทุกด้าน ให้
ข้อมูลข่าวสารสนเทศท่ีจาเป็นและทันสมัยทั้งด้านการศึกษาอาชีพและการพัฒนาบุคลิกภาพให้
สามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเอง ตลอดจนช่วยเหลือ แก้ไข และฝึกประสบการณ์ท่ี

เหมาะสมสาหรับผเู้ รียนไดใ้ ชเ้ ป็นแนวทางในการวางแผนการศึกษาและชวี ติ ต่อไป
๓. การบูรณาการแนะแนวในการเรียนการสอน เป็นการนาเทคนิควิธีการทาง

จิตวทิ ยาและการแนะแนวมาใช้ในการจดั การเรียนการสอนให้สอดคล้องกบั ธรรมชาตขิ องผเู้ รียนแตล่ ะ
คนแต่ละกลุ่ม โดยเน้นให้ครูได้รู้จักและเข้าใจผู้เรียนท้ังด้านพัฒนาการตามวัย พฤติกรรมและ
สาเหตขุ องพฤติกรรม วิธกี ารเรียนรู้ของผู้เรียน ซ่ึงจะทาให้ครูมีแนวทางในการชว่ ยเหลือและพัฒนา

ผ้เู รียนให้เห็นคุณค่าในสาระวิชาต่าง ๆ เกิดแรงจูงใจ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ซ่ึงจะส่งผลให้เกิดการเรยี นรู้เกิด
สัมฤทธิ์ผลสงู สดุ

206

คาอธบิ ายรายวชิ า

กลมุ่ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น

กจิ กรรมแนะแนว ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

................................................................................................................................................................

กจิ กรรมแนะแนวชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมุง่ เน้นให้ผู้เรียนไดเ้ รียนรูแ้ ละศกึ ษาเกี่ยวกบั การ
ยอมรับผลการกระทาของตนเอง การสารวจจุดเด่นและความสามารถพิเศษในตนเอง การสารวจ

ความชอบ ความสนใจในด้านการเรียน อาชีพและบุคลิกภาพ การมองโลกในแง่ดี การรู้จัก
แหลง่ ข้อมูลต่างๆ การเลือกรับขอ้ มลู ข่าวสาร ปัญหากับการพัฒนาตน การร้จู ักตนเองและเพอื่ น

ทักษะการสื่อสาร การสารวจและพัฒนาความฉลาดทางด้านอารมณ์ ผลกระทบของการ
ตดั สินใจ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต ทักษะการสื่อสาร การเปลย่ี นวิกฤตใิ หเ้ ป็นโอกาส คนดี
ศรีสังคม และการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลได้ มีทักษะในการ

ส่ือสารมีความสามารถในการเปล่ียนวิกฤติให้เป็นโอกาส สามารถนาคุณธรรมความดีของคนดี ศรี
สังคมไปปรับใช้กับชีวิตของตนเอง และมีมนุษย์สัมพันธ์ท่ีดีกับบุคคลทั่วไป มีความพึงพอใจและ

ภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ของตนเอง การตดั สินใจเลือกแนวทางศึกษาต่อ การยกย่องความดีงามของ
ตนเองและผู้อื่น การนาข้อมูลท่ีผ่านการวิเคราะห์ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การเลือกสรรข้อมูลท่ีก่อ
ประโยชนต์ ่อตนเองและสงั คม การร่วมตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาท่ีเกดิ ขน้ึ กับชุมชนและสังคม การยอมรับใน

ศักด์ิศรีของความเป็นมนุษย์ การคิดในทางท่ีดีและมีชีวิตอยู่อย่างสร้างสรรค์ รู้วิธีเอาชนะอุปสรรค
และความมงุ่ มั่นในการทางาน ค่าของคนอยู่ทีผ่ ลของการเสยี สละและช่วยเหลือผู้อ่ืน การทางานเป็น

กลุ่ม นักเรียนมีความตระหนักในคุณค่าของตนเองและผู้อ่ืน มีความสามารถในการวิเคราะห์และ
เลือกสรรข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม การทาประโยชน์เพื่อสังคมและการอยู่ร่วมกับ
ผู้อ่ืน สามารถตัดสินใจเลือกแนวทางในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพได้ สามารถร่วมตัดสินใจ

แก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับชุมชนและสังคมได้ มีทักษะในการคิดในทางที่ดี มีชีวิตอยู่อย่างสร้างสรรค์
เสียสละและมีความสขุ

การจัดกจิ กรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน แบง่ เปน็ 3 ลกั ษณะ ดงั น้ี
๑. การจัดกิจกรรมดว้ ยกระบวนการทางจิตวิทยาใหแ้ ก่ผู้เรยี นทั้งเปน็ รายบุคคลและ

เปน็

กลุม่ เพ่ือใหค้ รูได้รู้จักผู้เรยี นมากข้ึน สามารถส่งเสริมและป้องกนั ปญั หาของผู้เรยี นทุกคนไมว่ า่ จะเป็น
กลุ่มปกติหรอื กลุ่มพิเศษให้ได้รับการพัฒนาทกั ษะการดาเนินชีวิตในด้านต่างๆ เชน่ การรูจ้ ักรักและ

เห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อ่ืน มีทักษะการคิดตัดสินใจ ทักษะการปรบั ตัว การวางแผนชีวิต รวมท้ัง
การสร้างคณุ ธรรม
จริยธรรมท่ีสาคัญ การจัดกิจกรรมมีทั้งจัดในห้องเรียนซ่ึงใช้เวลาต่อเน่ืองกันในกรณีท่ีต้องพัฒนา

ทกั ษะท่ีสาคญั และจาเป็น หรอื จัดนอกหอ้ งเรียนโดยใหม้ ีบรรยากาศทเี่ ป็นกนั เองมีครูเป็นที่ปรึกษาและ
ผเู้ รียนทกุ คน

มสี ่วนร่วมในการจดั กิจกรรม

207

๒. การจัดบริการเพื่อให้ผู้เรียนได้สารวจตนเอง และรู้จักตนเองในทุกด้าน ให้
ข้อมูลข่าวสารสนเทศที่จาเป็นและทันสมัยท้ังด้านการศึกษาอาชีพและการพัฒนาบุคลิกภาพให้
สามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาดว้ ยตนเอง ตลอดจนช่วยเหลือ แก้ไข และฝึกประสบการณ์ที่
เหมาะสมสาหรับผู้เรยี นไดใ้ ช้เป็นแนวทางในการวางแผนการศกึ ษาและชีวิตตอ่ ไป

๓. การบูรณาการแนะแนวในการเรียนการสอน เป็นการนาเทคนิควิธีการทาง
จติ วิทยาและการแนะแนวมาใช้ในการจัดการเรยี นการสอนใหส้ อดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียนแต่ละ
คนแต่ละกลุ่ม โดยเน้นให้ครูได้รู้จักและเข้าใจผู้เรียนท้ังด้านพัฒนาการตามวัย พฤติกรรมและ
สาเหตุของพฤตกิ รรม วธิ กี ารเรียนรู้ของผู้เรยี น ซ่ึงจะทาให้ครมู ีแนวทางในการชว่ ยเหลือและพัฒนา
ผู้เรียนให้เห็นคุณค่าในสาระวิชาต่าง ๆ เกิดแรงจูงใจ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ซ่ึงจะส่งผลให้เกิดการเรียนรู้เกิด
สมั ฤทธ์ผิ ลสูงสดุ


Click to View FlipBook Version