The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sucharat ratchasarn, 2022-04-18 06:52:00

หลักสูตรสถานศึกษา 2564

หลักสูตรสถานศึกษา 2564

98

คำอธบิ ำยรำยวิชำ วชิ ำเพ่มิ เตมิ
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นที่ 1
รหัสวชิ ำ ส20233 หนำ้ ท่พี ลเมอื ง 3
เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ศึกษา วเิ คราะหก์ ารมีสว่ นร่วมและแนะนาผ้อู ื่นใหอ้ นุรักษม์ ารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การ
สนทนา การแตง่ กาย การมีสมั มาคารวะ แสดงออกและแนะนาผู้อ่ืนใหม้ คี วามเอื้อเฟอ้ื เผือ่ แผ่และเสียสละตอ่
สังคม เห็นคุณคา่ อนุรักษ์และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏบิ ัติตน
เป็นผู้มวี ินัยในตนเอง มีความซื่อสตั ยส์ ุจรติ ขยันหมนั่ เพียร อดทน ตัง้ ใจปฏิบัติหนา้ ทีแ่ ละยอมรบั ผลที่เกดิ จาก
การกระทาของตนเองปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่างและแนะนาผอู้ ่นื ให้มกี ารปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ความรักชาติ
ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยกุ ต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาทในหลักการทรง
งานและหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏบิ ัตติ นเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง ซ่ือสัตย์สุจรติ ขยันหม่ันเพยี ร
อดทน ใฝ่หาความรู้ และต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ที่

โดยใช้กระบวนการกลุม่ กระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก้ปญั หากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการสรา้ ง
คา่ นยิ ม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ

เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะท่ีดีของคนไทย มีความซ่ือสัตย์ความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีการมีจิตสาธารณะมี
ชีวิตพอเพียงและรักความเป็นธรรมอันจะช่วยปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นคนที่มี
ศกั ด์ิศรีเชื่อม่ันในความสุจริตกล้ายืนหยัดในสิง่ ท่ีถูกต้องและต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบการทุจริตคอร์รปั ชั่น
และการโกงทุกประเภท ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูน
สถาบนั พระมหากษัตริย์

ผลกำรเรยี นรู้
1. มีส่วนร่วมและแนะนาผ้อู นื่ ให้อนุรักษ์มารยาทไทย
2. แสดงออกและแนะนาผู้อ่ืนใหม้ คี วามเอื้อเฟอ้ื เผ่ือแผ่และเสียสละตอ่ สังคม
3. เห็นคณุ คา่ อนุรกั ษ์ และสืบสานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมปิ ัญญาไทย
4. เปน็ แบบอยา่ งและแนะนาผอู้ ืน่ ให้มีความรักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
5. ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
6. ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ วี นิ ัยในตนเอง

99

รวมทัง้ หมด 6 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม วชิ ำเพ่ิมเติม
รหสั วชิ ำ ส20234 หนำ้ ท่ีพลเมือง 4 ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 2
เวลำ 20 ชวั่ โมง
จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยในเรื่องการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ความกล้าหาญ
ทางจรยิ ธรรม การเป็นผู้นาและการเป็นสมาชิกที่ดี มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจต่อกิจกรรมของ
ห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูลเพ่ือใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมตา่ งๆ และรู้ทันข่าวสาร ปฏบิ ัติ
ตนเป็นผมู้ วี ินยั ในตนเองในเรอ่ื งความซื่อสัตย์สุจริต อดทน ตั้งใจปฏบิ ัติหนา้ ที่ ใฝห่ าความรู้ และยอมรับผลท่เี กิด
จากการกระทาของตนเอง เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติ และพ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกันและ
กันโดยคานึงถึงความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียในเร่ืองวิถีชีวิตวัฒนธรรม ศาสนา
สงิ่ แวดล้อม การอยู่ร่วมกนั ในสงั คมพหุวัฒนธรรมและการพง่ึ พาซึ่งกันและกนั ในเร่ืองการเคารพซึง่ กันและกัน
ไม่แสดงกิริยา และวาจาดูหมิ่นผู้อื่น ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน แบ่งปัน มีส่วนร่วมและเสนอแนวทางการ
แกป้ ัญหาความขัดแย้งโดยสันตวิ ธิ ีเกย่ี วกับการละเมิดสิทธิการใชข้ องสว่ นรวมด้วยการเจรจาไกลเ่ กล่ียการเจรจา
ตอ่ รอง การระงบั ความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองซื่อสัตย์สจุ ริต อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติ
หน้าท่ี ยอมรบั ผลท่เี กดิ จากการกระทาของตนเอง

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก้ปัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง
ค่านยิ ม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ

เพ่ือให้ผู้เรียนเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วม
ทางการเมืองการปกครอง อยูร่ ว่ มกับผอู้ ่ืนอยา่ งสันติ จดั การความขดั แย้งดว้ ยสนั ติวิธี และมีวนิ ัยในตนเอง
มีความซ่ือสัตย์ความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีการมีจิตสาธารณะมีชีวิตพอเพียงและรักความเป็นธร รมอันจะช่วย
ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีเชื่อม่ันในความสุจริตกล้ายืนหยัดในส่ิงที่
ถกู ต้องและตอ่ ต้านการเอารัดเอาเปรยี บการทจุ ริตคอรร์ ปั ชัน่ และการโกงทกุ ประเภท

100

ผลกำรเรียนรู้
1. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย
2. มสี ว่ นร่วมและรับผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสนิ ใจในกิจกรรม

ตา่ ง ๆ และรูท้ ันข่าวสาร
3. เห็นคุณค่าของการอยูร่ ่วมกันในภูมิภาคเอเชียอยา่ งสนั ติและพึง่ พาซึ่งกนั และกนั
4. มีสว่ นร่วมและเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาความขดั แย้งโดยสันติวิธี
5. ปฏิบัตติ นเป็นผู้มวี ินัยในตนเอง

รวมท้งั หมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ วิชำเพ่มิ เติม
กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

รหัสวิชำ ส20235 หน้ำท่ีพลเมือง 5 ช้นั มธั ยมศึกษำตอนต้น ภำคเรยี นท่ี 1
เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ การมีสวนรวมอนุรักษมารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต

งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกถึงความเอ้ือเฟอเผื่อแผและเสียสละตอสังคม เห็นคุณคาและอนุรักษ
ขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปะ วฒั นธรรมและภูมิปญญาไทยและภูมิปัญญาท้องถ่ิน ปฏิบัตติ นเปนผูมีวินัยใน

ตนเองในเร่ืองความซอื่ สตั ยสจุ รติ ขยนั หมั่นเพยี ร อดทน ใฝหาความรู ตงั้ ใจปฏบิ ัติหนาที่และยอมรบั ผลที่เกิด

จากการกระทาของตนเองปฏิบัติตนเปนแบบอยางของความรกั ชาติ ยึดม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบนั พระ
มหากษตั ริย ประยกุ ตและเผยแพรพระบรมราโชวาทมีเหตุผล รอบคอบ หลักการทรงงานในการใชธรรมชาติช
วยธรรมชาติการปลูกปาในใจคนและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเปนผูมีวินัยในตนเองในซ่ือ

สัตยสจุ ริต ขยนั หม่นั เพียรอดทน ใฝหาความรู และตงั้ ใจปฏิบตั ิหนาท่ี
โดยใชกระบวนการกลุม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถาน การณ

กระบวนการแกปญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู กระบวนการสรางความตระหนัก กระบวนการสราง
คานิยมและกระบวนการสรางเจตคติ

เพื่อใหผูเรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเปนไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึด
ม่นั ในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ เปนพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตรยิ
ทรงเปนประมุขมีสวนรวมทางการเมืองการปกครอง อยูรวมกับผูอน่ื อยางสันติ จัดการความขัดแยงดวยสนั ตวิ ิธี
และมวี ินยั ในตนเอง

101

ผลกำรเรยี นรู
1. มีสวนรวมในการอนุรักษมารยาทไทย
2. แสดงออกถึงความเอือ้ เฟอเผื่อแผ และเสยี สละตอสงั คม
3. เห็นคณุ คาและอนรุ ักษขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมปิ ญญาไทย
4. เปนแบบอยางของความรกั ชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย
5. ประยกุ ตและเผยแพรพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
6. ปฏบิ ัติตนเปนผูมีวนิ ยั ในตนเอง

รวมทัง้ หมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ วชิ ำเพม่ิ เตมิ
กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 ภำคเรยี นท่ี 2
รหัสวชิ ำ ส20236 หนำ้ ท่พี ลเมอื ง 6
เวลำ 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา วิเคราะห์ การปฏิบตั ติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรอื่ งการใชส้ ทิ ธแิ ละหนา้ ท่ี การ
ใชเ้ สรภี าพอยา่ งรบั ผิดชอบ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเลือกต้ังมีสว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจตอ่
กิจกรรมของห้องเรยี นและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูล ตรวจสอบการทาหน้าที่ของบคุ คลเพ่อื ใช้ประกอบการ
ตัดสนิ ใจ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผูม้ วี นิ ยั ในตนเอง มคี วามซอื่ สตั ย์สุจรติ ขยันหม่นั เพียร ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบัตหิ น้าท่ี
และยอมรับผลทเ่ี กิดจากการกระทาของตนเองเห็นคณุ ค่าของการอย่รู ่วมกนั อย่างสันติทา่ มกลางความ
หลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในภมู ภิ าคตา่ งๆ ของโลกในเรอ่ื งวิถีชวี ติ วฒั นธรรมศาสนา สิ่งแวดลอ้ ม การอยู่
รว่ มกันในสงั คมพหวุ ฒั นธรรมและพง่ึ พาซง่ึ กนั และกนั ในเรื่องการเคารพซึ่งกนั และกัน ไมแ่ สดงกิริยาและวาจา
ดูหมนิ่ ผู้อ่นื ช่วยเหลอื ซง่ึ กันและกนั แบ่งปนั มสี ่วนร่วมและเสนอแนวทางการปอ้ งกันปญั หาความขัดแยง้ ใน
เรอื่ งทัศนคติ ความคดิ ความเชื่อ ชู้สาว ปฏิบัตติ นเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง มคี วามซื่อสตั ย์สุจรติ อดทน ใฝห่ า
ความรู้ ต้ังใจปฏิบัตหิ น้าที่ และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทาของตนเอง

102

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก้ปัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง
ค่านิยม และกระบวนการสร้างเจตคติ

เพื่อใหผูเรยี นมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภมู ใิ จในความเปนไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึด
มน่ั ในศาสนาและเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย เปนพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอัน มีพระมหากษตั รยิ
ทรงเปนประมุขมสี วนรวมทางการเมืองการปกครอง อยูรวมกับผูอน่ื อยางสันติ จัดการความขัดแยงดวยสันตวิ ธิ ี
และมีวนิ ยั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย
2. มสี ว่ นรว่ มและรับผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบการทาหนา้ ที่ของบคุ คล

เพอ่ื ใช้ประกอบการตดั สินใจ
3. เหน็ คณุ ค่าของการอย่รู ่วมกนั ในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลกอย่างสนั ตแิ ละพึง่ พาซึง่ กนั และกัน
4. มสี ว่ นร่วมและเสนอแนวทางการปอ้ งกนั ปัญหาความขัดแย้ง
5. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผมู้ วี ินยั ในตนเอง

รวมทงั้ หมด 5 ผลกำรเรียนรู้

99

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ วิชำพ้ืนฐำน
ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 1
รหัสวิชำ พ 21101 วิชำ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 40 ชั่วโมง

อธิบายความสาคัญของระบบประสาท และระบบต่อมไร้ท่อที่มีผลต่อสขุ ภาพการเจริญเติบโต
และพัฒนาการของวัยรุ่น*การดูแลรักษาระบบประสาทและต่อมไร้ท่อให้ทางานตามปกติตามหลัก

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง* วิเคราะห์ภาวะการเจริญเติบโตทางร่างกายของตนเองกับเกณฑ์
มาตรฐานของคนไทยและคนในภูมภิ าคอาเซยี น*แสวงหาแนวทาง ในการพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโต

สมวัย * การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศอย่าง
เหมาะสม * เพิ่มพูนความสามารถของตนตามหลักการเคล่ือนไหวท่ีใช้ทักษะกลไกและทักษะ
พื้นฐานท่ีนาไปสกู่ ารพฒั นาทกั ษะการเลน่ กฬี า

ปฏิบัติทักษะพื้นฐานการเล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ประเภทบุคคลและทีม* โดยใช้
กระบวนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา การฝึกปฏิบัติ การทางานเป็นทีม การคิด การสรุปความรู้

การสืบค้นความรู้ การแก้ปัญหา รวมทั้งเห็นคุณค่า มีสมรรถนะสาคัญ มีคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์
ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

นาหลกั ความร้พู นื้ ฐานเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการประยกุ ตเ์ ชือ่ มโยงสมั พันธก์ บั วิชาอื่น

มำตรฐำนตัวช้ีวัด: พ 1.1 ม. 1/1, ม. 1/2, ม 1/3, ม.1/4
พ 2.1 ม.1/1,ม 1/2
พ 3.1 ม 1/1, ม.1/2, ม.1/3

รวมท้ังหมด 9 ตัวช้วี ัด

100

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ วชิ ำพ้ืนฐำน
ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 1
รหัสวชิ ำ พ 21102 วชิ ำ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 40 ชั่วโมง

ศึกษา อธิบำย ควำมสำคัญของกำรออกกำลังกำยและกำรเล่นกีฬำจนเป็นวิถีชีวิตที่มี
สุขภำพดีตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง * ออกกาลังกายและเลือกเข้าร่วมเล่นกีฬาตาม

ความถนัด ความสนใจอย่างเต็มความสามารถพร้อมท้ังประเมินการเล่นของตนเองและผู้อื่น *
วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บและยอมรับความแตกต่างระหวา่ งวธิ ีการเล่นกฬี าของตนเองกับผู้อนื่ * เลอื กกิน

อาหารท่ีเหมาะสมกับวัย * วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดจากภาวะโภชนาการท่ีมีผลกระทบต่อสุขภาพ *
ควบคุมนา้ หนกั ตัวของตนเองให้อยใู่ นเกณฑ์มาตรฐานตามหลกั สากลและภูมิภาคอาเซียน * สรา้ งเสริม
และปรับปรุงสมรรถภาพทางกายตามผลการทดสอบ * บอกลักษณะอาการของผู้ติดสารเสพติดและ

การป้องกัน การติดสารเสพติด และความสัมพันธ์ของการใช้สารเสพติดกับการเกิดโรคและอุบัติเหตุ
ปฏิบตั ิตามกฎกติกาและข้อตกลงการเล่นกีฬา วางแผนรุกและการป้องกันอยา่ งเป็นระบบ* รว่ มมือใน

การเล่นกีฬาและการทางานเป็นทีมอย่างสนุกสนาน *แสดงการปฐมพยาบาลและเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
อยา่ งปลอดภัย * ชกั ชวนผูอ้ ่ืนให้ ลด ละ เลิกสารเสพตดิ โดยใชท้ ักษะตา่ งๆ

โดยใช้กระบวนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา การฝึกปฏิบัติ การทางานเป็นทีม การคิด

การสรปุ ความรู้ การสืบค้นความรู้ การแก้ปัญหารวมทั้งเห็นคุณค่า มีสมรรถนะสาคญั มีคุณลักษณะ
อนั พง่ึ ประสงค์ ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

เพื่อนาประสบการณ์ท่ีเรียนรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในกิจกรรมการออกกาลังกายและเล่นกีฬาอย่างมี
จติ วญิ ญาณและชื่นชมในสนุ ทรียภาพของการกีฬา

มำตรฐำนตัวชี้วัด: พ 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม. 1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
พ 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
พ 5.1 ม.1/1, ม.1/2,ม. 1/3,ม.1/4

รวมท้ังหมด 14 ตวั ชวี้ ดั

101

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ วิชำพนื้ ฐำน
ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 2
รหัสวชิ ำ พ 22101 วิชำ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง

ศึกษา อธิบาย การเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม* ระบุ
ปัจจัยท่ีมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและ

สติปัญญาในวัยรุ่น ในภูมิภาคอาเซียน* วิเคราะห์ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อเจตคติในเรื่องเพศ * ปัญหา
และผลกระทบที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน* วิธีป้องกันตนเองและหลีกเลีย่ งจากโรคติดต่อ

ทางเพศสัมพันธ์ เอดส์และการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ * ความสาคัญของความเสมอภาคทางเพศ
และการวางตัวได้อย่างเหมาะสม* เปรียบเทยี บประสิทธภิ าพของรูปแบบการเคล่ือนไหวที่ส่งผลต่อ
การเล่นกฬี าและกจิ กรรมในชวี ติ ประจาวัน

ปฏิบตั ทิ กั ษะพืน้ ฐานการเลน่ กีฬาสากล กีฬาตะกรอ้ ไทย ประเภทบุคคลและทีม* เขา้
ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการและนาความรู้และหลกั การที่ได้ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั อย่างเป็นระบบ*

โดยใช้กระบวนการสอนสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา การฝึกปฏบิ ตั ิ การทางานเปน็ ทมี การสรุปความรู้ การ
คดิ
การสืบค้นความรู้ การแกป้ ัญหา รวมทัง้ เห็นคณุ ค่า มีสมรรถนะสาคัญ มีคุณลักษณะอันพงึ่ ประสงค์

ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
นาผลการปฏบิ ัติตนเก่ียวกับทกั ษะกลไกและทกั ษะการเคลอ่ื นไหวในการเล่นกีฬา

จากแหลง่ ขอ้ มูลท่หี ลากหลายมาสรุปเปน็ วิธีที่เหมาะสมในบริบทของตนเอง *

มำตรฐำน ตัวชี้วดั : พ 1.1 ม.2/1, ม.2/2
พ 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4

พ 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4

รวมทง้ั หมด 10 ตัวชีว้ ัด

102

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ วิชำพ้นื ฐำน
ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2
รหสั วิชำ พ 22102 วิชำ สุขศึกษำและพลศึกษำ จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง

ศึกษา อธิบายสาเหตุการเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ
สติปัญญา จากการออกกาลังกายและการเล่นกีฬาอย่างสม่าเสมอจนเป็นวิถีชีวิต * เลือกใช้บริการ

ทางสุขภาพอย่างมีเหตุผล* วิเคราะห์ผลของการใช้เทคโนโลยี ความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่มีต่อ
สุขภาพของคนไทยและคนในภูมิภาคอาเซียน * ความสมั พันธข์ องภาวะสมดุลระหวา่ งสขุ ภาพกายและ

สขุ ภาพจิต * ลักษณะเบอ้ื งต้นของผมู้ ีปญั หาสุขภาพจติ *เสนอแนะวธิ ีปฏบิ ัตติ นเพ่ือจัดการกับอารมณ์
และความเครียด * พัฒนาสมรรถภาพทางกายตนเองให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนด *ระบุปัจจัยและ
แหลง่ ที่ช่วยเหลือฟืน้ ฟูผตู้ ิดสารติดเสพ*วิธีการหลีกเล่ยี งพฤติกรรมเส่ยี งและสถานการณเ์ ส่ยี ง

ร่วมกิจกรรมการออกกาลงั กายการเลน่ กฬี าตามความถนัดและความสนใจ คานงึ ถึง
ความแตกตา่ งระหว่างบุคคลเพ่ือเปน็ แนวทางในการพฒั นาตนเอง * วางแผนการรุกและการปอ้ งกนั ใน

การเลน่ และนาไป ใช้ในการเลน่ อยา่ งเหมาะสมกับทมี * ใช้ทกั ษะชีวติ ในการป้องกนั ตนเองและ
หลีกเลย่ี งสถานการณค์ บั ขันทอ่ี าจนาไปสู่อันตราย โดยใช้กระบวนการสอนสุขศึกษาและพลศกึ ษา การ
ฝกึ ปฏิบตั ิ การทางานเป็นทีม การคดิ การสรปุ ความรู้ การสบื คน้ ความรู้ และการแกป้ ญั หา รวมท้ัง

เหน็ คุณค่า มีสมรรถนะสาคัญ มีคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มวี ินยั ปฏบิ ัติตามกฎกตกิ าและขอ้ ตกลงในการเลน่ กฬี าทเ่ี ลอื ก* นาผลการปฏิบัตใิ น

การเล่นกฬี ามาสรุปเปน็ วิธที ่เี หมาะสมกบั ตนเองด้วยความมงุ่ ม่ัน

มาตรฐานตวั ชวี้ ดั : พ 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
พ 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7

พ 5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3

รวมทั้งหมด 15 ตวั ชี้วัด

103

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ วชิ ำพน้ื ฐำน
ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 3
รหัสวิชำ พ 23101 วิชำ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง

ศึกษา เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ
สติปญั ญาในแตล่ ะชว่ งของชวี ติ * วิเคราะหอ์ ิทธิพลและความคาดหวังของสังคมตอ่ การเปลี่ยนแปลง

ของวยั รุน่ *
ส่ือโฆษณาทมี่ ีอิทธพิ ลต่อการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของวยั รุ่นของคนไทยและคนในภูมภิ าค

อาเซียน *อนามยั แม่และเด็กการวางแผนครอบครัวและวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นที่เหมาะสม * ปัจจยั ทีม่ ี
ผลกระทบตอ่ การตง้ั ครรภ์ * สาเหตแุ ละแนวทางป้องกันแก้ไขความขัดแยง้ ในครอบครัว*

ปฏิบัตทิ ักษะพ้นื ฐานกีฬาบาสเกตบอล กฬี าไทย ประเภทบุคคลและประเภททีม*

โดยใชก้ ระบวนการสอนสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา การทางานเปน็ ทมี การฝึกปฏิบัติการคิด การสรปุ
ความรู้ การสืบค้นความรู้ และการแก้ปัญหา รวมทง้ั เห็นคณุ ค่า มีสมรรถนะสาคัญ มีคุณลกั ษณะอัน

พง่ึ ประสงค์ ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
นาหลกั การ ความรู้ และทกั ษะในการเคลือ่ นไหวกจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และ

การเลน่ กฬี านนั ทนาการไปใชส้ รา้ งเสรมิ สขุ ภาพอย่างต่อเนือ่ ง

มำตรฐำนตัวช้ีวัด : พ 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม, 3/3
พ 2.1 ม.3/1, ม 3/2, ม,3/3
พ 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม,3/3

รวมทง้ั หมด 9 ตัวชี้วัด

104

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ วิชำพนื้ ฐำน
ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3
รหัสวิชำ พ 23102 วิชำ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 40 ชั่วโมง

ศึกษา อธิบายเสนอผลการพัฒนาสุขภาพของตนเองที่เกิดจากการออกกาลังกาย
และการเล่นกีฬาเปน็ ประจา* จาแนกวิธีการรกุ การปอ้ งกนั และใช้ในการเล่นกฬี านนั ทนาการตัดสินใจ

เลอื กวิธที ีเ่ หมาะสมกับทีมไปใชต้ ามสถานการณ์ของการเลน่ * กาหนดรายการอาหารทีเ่ หมาะสมกบั วัย
ต่างๆโดยคานึงถึงความประหยัดและคุณค่าทางโภชนาการ* เสนอแนวทางป้องกันโรคท่ีเป็นสาเหตุ

สาคัญของการเจ็บป่วยและการตายของคนไทยและภูมิภาคอาเซียน* รวบรวมข้อมูลและเสนอแนว
ทางแก้ไขปญั หาสุขภาพในชุมชน

วางแผนและจัดเวลาในการออกกาลงั กาย การพกั ผ่อนและการสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกาย

* วเิ คราะห์ปจั จยั เสี่ยงและพฤติกรรมเสย่ี งท่มี ีผลต่อสขุ ภาพและแนวทางปอ้ งกัน * หลีกเล่ยี งการใช้
ความรุนแรงและชกั ชวนเพอ่ื นให้หลีกเลย่ี งการใช้ความรุนแรงในการแกป้ ัญหา * อิทธพิ ลของสอ่ื ต่อ

พฤติกรรมสุขภาพและความรนุ แรง*ความสมั พนั ธข์ องการดมื่ เครอื่ งด่มื ทมี ีแอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและ
การเกดิ อุบตั เิ หตุ
ปฏบิ ตั ิการทดสอบสมรรถภาพทางกายและพัฒนาได้ตามความแตกตา่ งระหว่างบุคคล* แสดงวธิ กี าร

ช่วยฟ้นื คืนชพี อยา่ งถกู วิธ*ี โดยใช้กระบวนการสอนสุขศึกษาและพลศกึ ษา การทางานเปน็ ทีม การฝึก
ปฏบิ ัติ การคิด การสรุปความรู้ การสบื ค้นความรู้ และการแกป้ ญั หา รวมทั้งเห็นคณุ คา่ มีสมรรถนะ

สาคญั มีคุณลักษณะอนั พ่งึ ประสงค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มมี ารยาทในการเลน่ การดกู ีฬาด้วยความมีน้าใจนักกฬี า ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬา

อยา่ งสมา่ เสมอ นาแนวความคดิ หลักการจากการเล่นไปพัฒนาคณุ ภาพชีวิตของตนด้วยความ

ภาคภมู ใิ จ

มำตรฐำน ตัวชี้วดั : พ 3.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
พ 4.1 ม.3/1, ม 3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
พ 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม. 3/4, ม.3/5

รวมทัง้ หมด 15 ตวั ชวี้ ดั

105

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศึกษำ วชิ ำเพ่มิ เตมิ
ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 1
รหัสวิชำ พ 20๒๐๑ วชิ ำ ฟตุ บอล 1 จำนวน 1.๐ หนว่ ยกติ

ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ ๔0 ชวั่ โมง

ศึกษา วิเคราะห์ความเป็นมาองค์กรและการพัฒนากีฬาฟุตบอลในและประเทศอาเซียน
ความสาคัญของกีฬาฟุตบอล ความปลอดภัยมารยาท การเป็นผู้เล่นและผู้ดูกีฬาฟุตบอลการดูแล
รา่ งกายและจิตใจในการเล่นกฬี าฟุตบอลโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของรา่ งกาย การเคลื่อนท่ีพ้ืนฐาน การ
เคลอ่ื นท่ใี นกีฬาฟุตบอล และกลศาสตร์เบ้ืองตน้ ในกีฬาฟตุ บอล

โดยใช้กระบวนการเล่นและดูกีฬาฟุตบอลให้ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย การ
เลน่ และการฝกึ การเคล่ือนทีพ่ ้นื ฐาน การเคล่ือนทีเ่ ฉพาะในกีฬาฟุตบอล

เหน็ คณุ ค่าของการเลน่ กีฬาฟุตบอล การออกกาลังกาย การเป็นผู้เล่น และผู้ดกู ีฬา มี
คุณลกั ษณะ

อนั พึงประสงค์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมีเจตคติทีด่ ี รวมทัง้ เหน็ คณุ คา่ มีสมรรถนะสาคญั มี
คณุ ลักษณะอนั พึ่งประสงค์ ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ต่อการนาไปประยกุ ต์ให้เป็น

ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั และการเปน็ นักกีฬาฟตุ บอล

ผลกำรเรยี นรู้
1. อธบิ ายความเป็นมา องคก์ ร และพัฒนาการของกฬี าฟุตบอลได้
2. อธิบายความสาคญั ของกีฬาฟตุ บอลได้
3. อธบิ ายมารยาทในการเลน่ และเลน่ ฟุตบอลไดอ้ ยา่ งปลอดภยั
4. อธิบายการดฟู ุตบอลได้ถกู ต้องและเหมาะสม
5. อธบิ ายความสาคัญของโครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องร่างกายในนกั กีฬาฟุตบอลได้
6. เคล่อื นไหวและเคลือ่ นทพี่ ้นื ฐานของร่างกายและในกีฬาฟุตบอลไดถ้ กู ต้อง
7. อธบิ ายกลศาสตรท์ เ่ี ก่ยี วข้องกับการเลน่ ฟุตบอลใหป้ ลอดภยั และมี

ประสทิ ธภิ าพ
8. มีความสนกุ กับท่าทางการเคลอ่ื นไหวหรือการเคลือ่ นท่ี
9. มคี วามสขุ ในการเล่นกีฬาฟตุ บอล

รวมท้ังหมด 9 ผลกำรเรยี นรู้

106

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศึกษำ วิชำเพ่มิ เตมิ
ชัน้ มัธยมศึกษำปีที่ 1
รหัสวชิ ำ พ 202๐๒ วิชำ ฟตุ บอล 2 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 40 ชั่วโมง

ศึกษาการอบอนุ่ ร่างกาย การยืดเหยยี ดกลา้ มเน้ือ รูปแบบการเตรยี มร่างกายก่อนเลน่ ฟุตบอล

พลงั งานและการรบั ประทานอาหารในนกั ฟุตบอลของไทยและประเทศอาเซียนการป้องกนั การบาดเจบ็

ในนักฟตุ บอล สนามฟุตบอล ประตูและลกู ฟุตบอลเส้อื ผ้าและรองเทา้ ฟุตบอล วเิ คราะห์สมรรถภาพ

ทางกาย เทคนคิ และสมรรถภาพทางกายเฉพาะกฬี าฟตุ บอล

โดยใช้กระบวนการทกั ษะเลน่ และฝึกการอบอ่นุ ร่างกาย การยืดเหยยี ดกลา้ มเนื้อ รูปแบบการ

เต รี ย ม

ร่างกายก่อนเล่นฟุตบอล การฝึกวิธีป้องกันการบาดเจ็บ การสังเกต สารวจ ประเมิน และการวาง

แผน ก าร

รบั ประทานสาหรับนักฟุตบอล การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายพ้ืนฐานและเฉพาะกีฬาฟุตบอลเห็น

คุณค่าของการเล่นกีฬาฟุตบอล การออกกาลังกาย การเป็นผู้เล่นท่ีดีและปลอดภัย และมีเจตคติท่ีดี

รวมทั้งเห็นคุณค่า มีสมรรถนะสาคัญ มีคุณลักษณะอันพ่ึงประสงค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียง ตอ่ การนาไปประยกุ ตใ์ หเ้ ป็นประโยชน์ในชีวิตประจาวนั และการเป็นนกั กีฬาฟตุ บอล

ผลกำรเรยี นรู้

1. อธิบายความสาคญั และปฏิบัติการอบอุ่นร่างกาย การยดื เหยียดกลา้ มเนื้อ และการเตรยี ม

ร่ า ง ก าย

กอ่ นเลน่ ฟตุ บอล

2. บอกความสาคญั เก่ียวกับสารอาหาร การรบั ประทานอาหารในกีฬาฟุตบอล

3. อธิบายการป้องกนั การบาดเจ็บในการเล่นฟตุ บอลจากสาเหตตุ ่างๆ

4. วางแผนและปฏบิ ตั ิตามแผนการพฒั นาเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทาง

กลไก

ในกีฬาฟตุ บอล

5. อธบิ ายวิธกี ารฝึกสมรรถภาพทางกายและปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายเฉพาะ

กฬี าฟุตบอล

6. เห็นคุณคา่ ของการเลน่ กีฬาฟุตบอลและการออกกาลงั กายเปน็ ประจา

ทัง้ หมดรวม 6 ผลกำรเรียนรู้

107

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ วิชำเพ่มิ เตมิ
ชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ 2
รหัสวิชำ พ 202๐๓ วชิ ำ ฟตุ บอล 3 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชั่วโมง

ศึกษาวเิ คราะห์ กฎ กติกาฟุตบอล ระเบยี บ การแตง่ กาย การตรงต่อเวลา และความรับผิด
ขอบของนักกีฬาฟตุ บอลของไทยและประเทศอาเซียน

โดยใช้ทักษะการเล่นลูกดว้ ยเท้า หนา้ อก ศรี ษะ การฝกึ ทักษะการเลน่ ลกู ดว้ ยเท้า หนา้ อก
ศีรษะ มอื ฝึกเปน็ นักกีฬาฟุตบอลภายใต้กฎ กติกาที่ถูกตอ้ ง ปฏบิ ัตติ นอยู่ในระเบียบวินยั แต่งกาย
เหมาะสม มีความตรงตอ่ เวลาและรบั ผิดชอบในหนา้ ทีข่ องนกั ฟุตบอล

เห็นคณุ ค่าของการเลน่ กีฬาฟตุ บอล การออกกาลงั กาย การเปน็ ผู้เล่นมีความสามารถเชิง
ทักษะกีฬาฟตุ บอลเปน็ พ้นื ฐาน และมีเจตคตทิ ่ีดี รวมทั้งเหน็ คุณค่า มสี มรรถนะสาคัญ มีคณุ ลกั ษณะ
อันพึ่งประสงค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ต่อการนาไปประยุกตใ์ หเ้ ป็นประโยชน์ใน

ชีวิตประจาวันและการเป็นนกั กีฬาฟุตบอล

ผลกำรเรยี นรู้
1. อธบิ าย กฎ กตกิ าฟตุ บอล ระเบยี บวินัย การแตง่ กาย ตรงเวลา และความรบั ผิดชอบ
2. อธิบายความสาคัญการเล่นลกู ดว้ ยเทา้ หนา้ อก ศีรษะ และมือ
3. ปฏิบัติทักษะการเล่นลกู ด้วยเท้า หน้าอก ศีรษะ และมือ
4. อธิบายวธิ กี ารและฝึกทกั ษะการเล่นลูกด้วยเทา้ หน้าอก ศรี ษะ และมอื
5. ให้ความสาคัญกบั การพัฒนาทักษะการเล่นลูกด้วยเทา้ หนา้ อก ศีรษะ และมือ
6. มคี วามสขุ กับการเปน็ นกั กฬี าฟุตบอลและการดฟู ตุ บอลชอบ

ทั้งหมดรวม 6 ผลกำรเรยี นรู้

108

คำอธิบำยรำยวิชำ

กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ วิชำเพม่ิ เติม
ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 2
รหัสวิชำ พ 202๐๔ วิชำ ฟตุ บอล 4
จำนวน 1.0 หน่วย
ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง

กติ

ศึกษาและการนาทักษะและเทคนิคการเล่นลูกด้วยเท้า หน้าอก ศีรษะมือวิเคราะห์หลักการ
ขั้นตอน รูปแบบและวิธีการเล่นฟุตบอลทั้งในการเล่นเกม และกลุ่มย่อยในเกมฟุตบอลของไทยและ
ประเทศอาเซียน

โดยใช้การเพ่ือเน้นการประยุกต์ทกั ษะและเทคนคิ การเลน่ ลูกด้วยเท้า หน้าอก ศีรษะมือการ
ฝกึ รูปแบบและวิธกี ารเลน่ ฟุตบอลแบบต่างๆ ทง้ั ในการเลน่ เกม และกลุ่มยอ่ ยใน เกมฟตุ บอล
เห็นคณุ ค่าของการนาทกั ษะและเทคนคิ เลน่ ลกู ดว้ ยเทา้ หน้าอก ศรี ษะมือไปประยกุ ตใ์ ช้ใน เกมการ
เล่นฟตุ บอล การออกกาลังกาย รูปแบบและวธิ ีการเลน่ ฟตุ บอลและมีเจตคตทิ ่ดี รี วมทัง้ เห็นคุณค่า มี
สมรรถนะสาคัญ มีคุณลักษณะอนั พง่ึ ประสงค์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ต่อการน่าไป

ประยกุ ตใ์ หเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั และการเปน็ นักกีฬาฟุตบอล
ผลกำรเรยี นรู้

1. อธบิ ายความสาคญั ของการประยุกตท์ กั ษะและเทคนิคการเล่นลกู ดว้ ยเทา้ หนา้ อก
ศีรษะ มือ
และรูปแบบวธิ กี ารเลน่ ฟตุ บอลแบบตา่ งๆ

2. ใช้ทักษะและเทคนิคการเลน่ ลูกดว้ ยเทา้ หน้าอก ศีรษะและมอื ในเกมการเล่นฟตุ บอล

3. เลน่ ฟตุ บอลตามรูปแบบและวธิ กี ารเล่นแบบตา่ งๆ

4. มคี วามสุขกบั การเลน่ ฟุตบอล

ทั้งหมดรวม 4 ผลกำรเรยี นรู้

109

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ วิชำเพ่ิมเติม
ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 3
รหัสวชิ ำ พ 202๐๕ วชิ ำ ฟตุ บอล 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชวั่ โมง

ศึกษาเทคนิคการเล่นลูกด้วยเท้า หน้าอก ศีรษะ และมือ เทคนิคการบริหารจัดการและ
ควบคุมนักกีฬาและทีมวิเคราะห์รูปแบบการจัดการแข่งขันฟุตบอลแบบต่างๆ และวิธีการฝึกเป็น
ผ้จู ัดการแขง่ ขันฟตุ บอล

โดยใชก้ ารฝกี เทคนิคการเล่นลูกด้วยเท้า หน้าอก ศีรษะ และมอื เทคนิคการบริหารจัดการ
และควบคุมนักกฬี าและทีมการฝกึ ออกแบบการจดั การแขง่ ขนั ฟุตบอล และการฝกึ เปน็ ผู้จดั การแข่งขนั
ในรายการการแขง่ ขันจริง

เหน็ คณุ ค่าการใช้เทคนคิ การเล่นฟตุ บอลแบบต่างๆ รวมถึงเทคนคิ การบริหารจัดการและ
ควบคมุ ทมี นกั กีฬาและทีม รูปแบบการจดั การแข่งขันฟุตบอล และตระหนักในบทบาทความสาคญั

ของผู้จัดการแข่งขันฟตุ บอลและมเี จตคติท่ีดี รวมท้งั เหน็ คุณค่า มีสมรรถนะสาคญั มีคุณลกั ษณะอัน
พ่งึ ประสงค์ ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ต่อการนาไปประยกุ ต์ใหเ้ ป็นประโยชนใ์ น

ชวี ิตประจาวันและการเปน็ นักกฬี าฟตุ บอลและมีความภาคภมู ิใจทีมฟตุ บอลไทยในอาเซยี น

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายความสาคญั เทคนิคการเลน่ ฟตุ บอลแบบตา่ งๆ และเทคนิคการบริหารจดั การ

และควบคุม
นกั กฬี าและทีม

2. เลน่ ฟตุ บอลโดยใชเ้ ทคนิคการเลน่ ฟตุ บอลแบบต่างๆ
3. อธบิ ายลกั ษณะรปู แบบการจดั การแข่งขันฟตุ บอลแบบตา่ งๆได้
4. เป็นผ้จู ดั การแข่งขนั ฟตุ บอล
5. มคี วามสขุ กับการเล่น การเปน็ ผจู้ ดั รปู แบบการแขง่ ขนั ฟตุ บอล

ทงั้ หมดรวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

110

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ วิชำเพ่มิ เตมิ
ชัน้ มัธยมศึกษำปที ี่ 3
รหสั วชิ ำ พ 202๐๖ วิชำ ฟตุ บอล 6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง

ศึกษาวิเคราะห์ตาแหน่งและคุณสมบัติผู้เล่น การฝึกระบบการเล่นฟุตบอล การประมวล
ความรูแ้ ละทกั ษะความสามารถทางกฬี าฟุตบอล

โดยใช้การฝกึ การเล่นเฉพาะตาแหน่งและเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายเฉพาะผู้เล่น และ
การฝกึ ระบบการเลน่ แบบต่างๆ ทง้ั ในสถานการณ์การแข่งขนั จาลองและจริงการทดสอบและประเมิน
ตามสภาพจรงิ ในเรอ่ื งของความรู้ความเข้าใจในกีฬาฟุตบอลสมรรถภาพทางกายและทางกีฬาฟุตบอล
การฝึกและการจัดการกีฬาฟตุ บอล
เหน็ บทบาทความสาคัญของตาแหนง่ และคุณสมบัติผ้เู ลน่ เฉพาะตาแหน่ง และระบบการเล่นแบบตา่ งๆ
ทใ่ี ช้ในการแข่งขัน รวมถึงการตระหนกั ในบทบาทความสาคัญการฝกึ ระบบการเลน่ และการเสรมิ สรา้ ง

ความสามารถของนักกีฬาฟตุ บอล
มเี จตคติทีด่ ีต่อทมี ฟุตบอลไทยในกลุ่มประเทศอาเซยี นรวมทัง้ เห็นคณุ คา่ มสี มรรถนะสาคัญ

มีคุณลักษณะอันพึง่ ประสงค์ ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตอ่ การนาไปประยกุ ต์ให้เป็น
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวันและการเป็นนักกีฬาฟตุ บอล

ผลกำรเรยี นรู้
1. อธิบายตาแหนง่ และคุณสมบัตผิ ู้เลน่ เฉพาะตาแหนง่ ได้
2. ชานาญกับระบบการเลน่ แบบตา่ งๆ
3. มีความรูค้ วามเขา้ ใจท่ีถูกต้องเก่ยี วกับกฬี าฟุตบอล
4. มสี มรรถภาพทางกายและทางกฬี าฟุตบอลในเกณฑ์ทด่ี กี ว่าบคุ คลท่วั ไปในวัยเดียวกนั
5. มีความสามารถในการบรหิ ารและจัดการเก่ียวกับกฬี าฟตุ บอล
6. มีความภาคภมู ใิ นการเลน่ ฟตุ บอลของตนเองและสนใจการพัฒนาและเพมิ่ เติมทางดา้ น
ฟตุ บอล
7. มีความสขุ กบั การเลน่ ในตาแหนง่ ทีเ่ หมะสมของตนเองและระบบการเล่นแบบต่างๆ

ท้ังหมดรวม 7 ผลกำรเรียนรู้

111

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ คำอธบิ ำยรำยวิชำ
รหสั วิชำ ศ21101 ศลิ ปะ รำยวชิ ำพน้ื ฐำน
เวลำ 40 ช่ัวโมง
ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 1 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

บรรยายความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของงานทัศนศิลป์ และส่ิงแวดล้อมโดยใช้
ความรู้เรื่องทัศนธาตุ ระบุและบรรยายหลักการออกแบบงานทัศนศิลป์โดยเน้นความเป็นเอกภาพ

ความกลมกลืน และความสมดุล วาดภาพทัศนียภาพแสดงให้เห็นระยะไกลใกล้เป็น 3 มิติระบุและ
บรรยายเก่ียวกับลักษณะรูปแบบงานทัศนศิลป์ของชาติและของท้องถ่ินตัวเอง ต้ังแต่อดีตจนถึง

ปัจจุบันรวบรวมงานปั้นหรือส่ือผสมมาสร้างเป็นเร่ืองราว 3 มิติ โดยเน้นความเป็นเอกภาพ ความ
กลมกลืน และการส่ือเร่ืองราวของงาน ออกแบบรูปภาพ สญั ลกั ษณ์ หรอื กราฟกิ อืน่ ๆ ในการนาเสนอ
ความคดิ และข้อมูลประเมินงานทัศนศิลป์ และบรรยายถงึ วิธีการปรบั ปรุงงานของตนเองและผูอ้ ่ืนตาม

เกณฑท์ ี่กาหนดเปรียบเทยี บงานทศั นศิลป์ของภาคตา่ งๆในประเทศไทย เปรยี บเทยี บความแตกต่างกัน
ของการสร้างสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ของวฒั นธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากล

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการ
พจิ ารณาคุณค่า

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติและประยุกต์ใช้ในท้องถิ่นได้อย่าง

เหมาะสมมีทักษะและความสามารถในการประยุกต์เข้ากับอาเซี่ยนได้ตามที่กาหนด มีทัศนคติที่ดีต่อ
งานศิลปะ มีความพอเพียงในการใช้อุปกรณ์ในการสร้างสรรค์งานมีระเบียบวินัย เกิดความมุ่งม่ันใน

การฝึกซ้อม ใฝ่เรียนรู้นาความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและท้องถ่นิ

ตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6
ศ 1.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3

รวม 9 ตัวช้วี ัด

112

กลุม่ สำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ อธิบำยรำยวชิ ำ
รหสั วชิ ำ ศ21102 ศิลปะ รำยวชิ ำพ้นื ฐำน
เวลำ 40 ชั่วโมง
ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 2
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาและปฏิบัติเกยี่ วกับเพลงไทย เพลงสากล และการปฏิบตั ิตามตัวโนต้ เครอื่ งหมายและ
สัญลกั ษณท์ างดนตรี โนต้ บทเพลงไทยและสากล วธิ กี ารขบั ร้องบทเพลงในรูปแบบต่าง ๆ

วงดนตรีไทย วงดนตรพี ้นื เมือง วงดนตรีสากล การถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลง การประเมนิ
คุณภาพของเพลงและการนาเสนอบทเพลง การใช้และบารุงรกั ษาเครอ่ื งดนตรี ดนตรกี ับสังคมไทย

การแสดงนาฏศลิ ป์ การปฏิบัตนิ าฏยศัพทแ์ ละภาษาท่าทางนาฏศิลป์ การสร้างสรรค์กิจกรรมการแสดง
และการศึกษาคน้ คว้าละครไทยยคุ สมัยต่าง ๆ และปจั จัยที่มีผลต่อการเปลีย่ นแปลงของนาฏศิลป์
และละครไทย

โดยใชก้ จิ กรรมการเรียนรู้ใหผ้ ู้เรียนสงั เกตภาพ ศึกษาใบความรู้ แลว้ คิดวเิ คราะห์
วิพากษ์วิจารณ์ จาแนกประเภท เปรยี บเทียบความเหมอื นและความแตกต่าง อธิบาย วาดภาพ รวมท้งั

สรปุ เปน็ แผนภาพความคดิ เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนสรา้ งและนาเสนอผลงานด้านดนตรี-นาฏศิลปใ์ หไ้ ด้ผลตามท่ี
ต้องการ สามารถสื่อสารให้ผู้อ่ืนเข้าใจความคิด ความร้สู กึ ของตนเอง เขา้ ใจความไพเราะ งดงามของ
ดนตรีและนาฏศลิ ป์ บรรยายและอธบิ ายเกย่ี วกับดนตรีและนาฏศลิ ป์ได้สัมพนั ธ์เชื่อมโยงกบั

ประวตั ศิ าสตร์และวฒั นธรรม นาความรู้ด้านดนตรีและนาฏศลิ ป์ไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน
และประกอบการเรยี นรใู้ นกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ นื่ ๆ

เพ่ือใหเ้ หน็ ความสาคญั และคุณค่าของความพอเพยี งในการสรา้ งสรรค์งานดนตรแี ละนาฏศิลป์
เชอ่ื ม่ันภาคภมู ใิ จในการแสดงออกสู่ทอ้ งถิน่ รบั ผิดชอบ มงุ่ มน่ั ในการปฏบิ ตั ิงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน ซาบซงึ้
เหน็ คณุ ค่า รักและหวงแหนดนตรีและนาฏศิลป์ซง่ึ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเปน็ เอกลกั ษณข์ อง

ชาติออกสอู่ าเซีย่ น

รหัสตัวชี้วดั
ศ 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ศ 2.2 ม.1/1, ม.1/2

ศ 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ศ 3.2 ม.1/1, ม.1/2

รวมท้ังหมด 18 ตัวช้วี ัด

113

กลุม่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ คำอธบิ ำยรำยวิชำ
รหสั วชิ ำ ศ22101 ศลิ ปะ รำยวชิ ำพน้ื ฐำน
เวลำ 40 ช่วั โมง
ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นท่ี 1
จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาและปฏบิ ัติเกี่ยวกบั เพลงไทย เพลงสากล และการปฏบิ ตั ิตามตัวโนต้ เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณ์
ทางดนตรี โนต้ บทเพลงไทยและสากล เทคนิคการขบั ร้องบทเพลงในรูปแบบต่าง ๆ การสร้างสรรค์บทเพลง

การบรรยายอารมณค์ วามรู้สกึ ในการฟังเพลง การประเมนิ งานดนตรี อธิบายบทบาท และอทิ ธิพลของอาชพี
ดนตรี องค์ประกอบของดนตรพี ืน้ ฐาน ดนตรีตา่ งประเทศ บรรยายอิทธพิ ลของเหตกุ ารณใ์ นประวัติศาสตร์กับ

การเปล่ียนแปลงทางดนตรี การแสดงนาฏศลิ ป์ การปฏิบตั ินาฏยศัพท์และภาษาท่าทางนาฏศิลป์ การบรู ณา
การนาฏศิลป์ และการละครกบั ศิลปะแขนงอื่น วิเคราะห์ วิจารณโ์ ดยใช้หลักและวิธกี าร วเิ คราะห์ วิจารณ์การ
แสดง แสดงนาฏศิลป์ไทย นาฏศลิ ป์พ้นื เมอื ง ละครไทย ละครพืน้ บา้ น และสามารถอธบิ าย เขา้ ใจเก่ยี วกบั การ

แสดงละครไทยในยุคสมัยต่าง ๆ
โดยใชก้ จิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้ผูเ้ รียนสงั เกตภาพ ศึกษาใบความรู้ แล้วคิดวเิ คราะห์

วพิ ากษ์วิจารณ์ จาแนกประเภท เปรยี บเทียบความเหมอื นและความแตกต่าง อธิบาย วาดภาพ รวมท้ัง
สรปุ เป็นแผนภาพความคดิ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนสร้างและนาเสนอผลงานดา้ นดนตรี-นาฏศลิ ปใ์ หไ้ ด้ผลตามที่
ตอ้ งการ สามารถสือ่ สารให้ผอู้ น่ื เขา้ ใจความคิด ความรู้สกึ ของตนเอง เข้าใจความไพเราะ งดงามของ

ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ บรรยายและอธิบายเกยี่ วกับดนตรแี ละนาฏศิลป์ไดส้ ัมพันธ์เชือ่ มโยงกับ
ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรม นาความร้ดู ้านดนตรแี ละนาฏศลิ ปไ์ ปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน

และประกอบการเรยี นรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ ๆ
เพ่อื ใหเ้ ห็นความสาคัญและคุณค่าของความพอเพียงในการสร้างสรรค์งานดนตรแี ละนาฏศลิ ป์

เช่ือม่ันภาคภูมิใจในการแสดงออกสู่ท้องถิ่น รับผิดชอบ มงุ่ ม่นั ในการปฏิบตั ิงานร่วมกบั ผู้อ่นื ซาบซงึ้

เหน็ คุณค่า รักและหวงแหนดนตรีและนาฏศลิ ปซ์ ึ่งเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมและเปน็ เอกลักษณ์ของ
ชาติออกสอู่ าเซ่ียน

รหัสตัวชี้วดั
ศ 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7

ศ 2.2 ม.2/1, ม.2/2
ศ 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5

ศ 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
รวมทัง้ หมด 17 ตัวชี้วัด

114

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
รหัสวชิ ำ ศ22102 ศลิ ปะ รำยวชิ ำพ้นื ฐำน
เวลำ 40 ชั่วโมง
ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 2 ภำคเรยี นที่ 2
จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ด้ำนทัศนศิลป์
อภิปรายเกี่ยวกับทัศนธาตุในด้านรูปแบบและแนวคิดของงานทัศนศิลป์ที่เลือกมา บรรยาย

เก่ียวกับความเหมือนและความต่างๆของรูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในงานทัศนศิลป์ของศิลปิน วาด
ภาพด้วยเทคนคิ ท่ีหลากหลายในการสื่อความหมายและเรื่องราวต่างๆสร้างเกณฑ์ในการประเมินและ

วิจารณ์งานทัศนศิลป์นาผลการวิจารณ์ไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาระบุและบรรยายเก่ียวกับ
วัฒนธรรมต่างๆที่สะท้อนถึงงานทัศนศิลป์ในปัจจุบัน บรรยายถึงการเปล่ียนแปลงของงานทัศนศิลป์
ของไทยในแต่ละยุคสมัยโดยเน้นถึงแนวคิดและเน้ือหาของงานวาดภาพแสดงบุคลิกลักษณะของตัว

ละคร บรรยายวิธีการใช้งานทัศนศิลป์ในการโฆษณาเพื่อโน้มน้าวใจ และนาเสนอตัวอย่างประกอบ
สร้างเกณฑ์ในการประเมินและวิจารณ์งานทัศนศิลป์ นาผลการวิจารณ์ไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา

บรรยายถึงการเปล่ยี นแปลงของงานทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยุคสมัยโดยเน้นถึงแนวคิดและเนื้อหา
ของงาน เปรียบเทียบแนวคิดในการออกแบบงานทัศนศิลป์ ท่ีมาจากวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรม
สากล

โดยใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการปฏิบัติ
เพื่อใหเ้ กดิ ทกั ษะความรู้ ความเข้าใจ เห็นคณุ ค่าในความสาคญั ของงานทศั นศลิ ป์ ดนตรี และ

นาฏศิลป์ มีจติ สาธารณะมีความพอเพียง สามารถนาความรู้ไปใช้กับชีวิตประจาวันเผยแพรต่ อ่ ทอ้ งถิ่น
และเผยแพรอ่ อกสู่อาเซย่ี นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตวั ชวี้ ดั
ศ1.1 ม.2/1 ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4,ม.2/5,ม.2/6,ม.2/7

ศ1.2 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3

รวม 10 ตัวช้วี ัด

115

กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ คำอธิบำยรำยวิชำ
รหัสวิชำ ศ23101 ศิลปะ รำยวิชำพ้ืนฐำน
เวลำ 40 ช่ัวโมง
ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ด้ำนทัศนศิลป์
บรรยายส่ิงแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ท่ีเลือกมาโดยใช้ความรู้เรื่องทัศนธาตุ และหลักการ

ออกแบบ ระบุและบรรยายเทคนิค วิธีการ ของศิลปินในการสร้างงานทัศนศิลป์ วิเคราะห์ และ
บรรยายวิธีการใช้ทศั นธาตุและหลักการออกแบบในการสร้างงานทัศนศิลปข์ องตนเองให้มีคณุ ภาพ มี

ทกั ษะในการสร้างงานทัศนศิลป์อย่างน้อย 3 ประเภท มที ักษะในการผสมผสานวัสดตุ ่างๆในการสร้าง
งานทัศนศิลป์โดยใช้หลักเกณฑ์การออกแบบ สร้างงานทัศนศิลป์ ทั้ง 2 มิติ และ3 มิติ เพ่ือถ่ายทอด
ประสบการณ์และจินตนาการณ์ศึกษาและอภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป์ท่ีสะท้อนคุณค่าทาง

วัฒนธรรมสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ส่ือความหมายในเรื่องราวต่างๆโดยประยุกต์ใช้ทัศนาตุ และ
หลักการออกแบบ วิเคราะห์และอภิปรายรูปแบบ เนื้อหาและคุณค่าในงานทัศนศิลป์ของตนเองและ

ผูอ้ ่นื หรือของศิลปิน สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ปเ์ พ่อื บรรยายเหตกุ ารณ์ตา่ งๆโดยใชเ้ ทคนิคท่ีหลากหลาย
ระบุอาชีพท่ีเก่ียวข้องกับงานทัศนศิลป์และทักษะท่ีจาเป็นในการประกอบอาชีพนั้นๆเลือกงาน
ทศั นศิลป์โดยใช้เกณฑ์ท่ีกาหนดขึน้ อยา่ งเหมาะสม และนาไปจัดนทิ รรศการเปรยี บเทียบความแตกต่าง

ของงานทศั นศลิ ป์ในแต่ละยุคสมัยของวฒั นธรรมไทยและสากล
โดยใชท้ ักษะการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการ

ปฏิบัติ
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ทกั ษะความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ คา่ ในความสาคญั ของงานทัศนศิลป์ มีจติ

สาธารณะ มีความพอเพยี งสามารถนาความรู้ไปใช้รว่ มกับงานท้องถิน่ และนาไปสอู่ าเซยี่ นได้อย่างมี

ประสทิ ธิภาพ

ตัวชว้ี ดั
ศ1.1 ม.3/1,ม.3/2,ม.3/3,ม.3/4,ม.3/5,ม.3/6,ม.3/7,ม.3/8,ม.3/9,ม.3/10,ม.3/11
ศ1.2 ม.3/1,ม.3/2

รวม 13 ตวั ช้วี ดั

116

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ รำยวิชำพนื้ ฐำน

รหัสวชิ ำ ศ23102 ศลิ ปะ ชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ 3 ภำคเรยี นที่ 2

เวลำ 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

เปรียบเทียบองค์ประกอบที่ใช้ในงานดนตรแี ละงานศิลปะอ่ืน ร้องเพลง เล่นดนตรีเด่ียวและ

เล่นรวมวง โดยเน้นเทคนิคการร้อง การเล่น การแสดงออก และคุณภาพเสียง แต่งเพลงส้ันๆประกอบ

จังหวะง่ายๆ

บอกวิวัฒนาการของดนตรีในแต่ละยุคสมัยบอกเหตุผลในการเลือกใช้องค์ประกอบดนตรีในการ

สร้างสรรค์งานดนตรีของตนเอง เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างงานดนตรีของดนตรีและผู้อ่ืน

อธิบายเกี่ยวกับอิทธิพลของดนตรีทม่ี ีต่อบคุ คลและสังคม นาเสนอหรือจัดการแสดงดนตรีที่เหมาะสม

โดยการบรู ณาการกับสาระการเรียนรอู้ ืน่ ในกลุ่มศิลปะอธิบายถึงลักษณะเด่นของงานดนตรีท่ีได้รับการ

ยอมรบั

ระบุโครงสร้างของบทละครโดยใช้ศัพทท์ างการละคร ใช้นาฏศัพท์ หรือศัพทท์ างการละครที่

เหมาะสม บรรยายเปรยี บเทยี บการแสดงอากปั กริยาของคนในชีวิตประจาวันและในการแสดงมีทกั ษะ

การใช้ความคิดในการพัฒนารูปแบบการแสดง มที ักษะในการแปลความและการสื่อสารผ่านการแสดง

ออกแบบและจัดทาอปุ กรณ์และเคร่ืองแตง่ กายเพ่ือแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละครท่ีมาจากวฒั นธรรมต่างๆ

วจิ ารณ์ เปรยี บเทียบ งานนาฏศิลป์ที่มีความแตกต่างกันโดยใชค้ วามรู้เร่ืององค์ประกอบทางนาฏศิลป์

จดั การแสดงในบทบาทหน้าท่ีต่างๆ นาเสนอแนวคดิ จากเนอื้ เรือ่ งของการแสดงท่ีสามารถนาไปใช้ใน

ชวี ิตประจาวันบอกความสาคัญและบทบาทของนาฏศลิ ป์และการละครในชีวิตประจาวัน แสดงความ

คิดเห็นในการอนรุ กั ษน์ าฏศิลป์ไทยใหค้ งอยู่

โดยใชท้ ักษะการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการ

ปฏิบตั ิ

เพ่ือให้เห็นความสาคัญและคุณค่าของความพอเพียงในการสร้างสรรค์งานนาฏศิลป์ เชื่อมั่น

ภาคภูมิใจในการแสดงออกสู่ท้องถ่ิน รับผิดชอบ มุ่งม่ันในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น ซาบซึ้ง เห็น

คณุ ค่า รักและหวงแหนนาฏศิลปซ์ ่ึงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเป็นเอกลักษณ์ของชาติออกสอู่ าเซี่ยน

ตวั ช้ีวัด

ศ2.1 ม.3/1,ม.3/2,ม.3/3,ม.3/4,ม.3/5,ม.3/6,ม.3/7

ศ2.2 ม.3/1,ม.3/2

ศ3.1 ม.3/1,ม.3/2,ม.3/3,ม.3/4,ม.3/5,ม.3/6,ม.3/7

ศ3.2 ม.3/1,ม.3/2,ม.3/3

รวม 19 ตัวชวี้ ดั

117

กล่มุ สำระกำรเรียนร้ศู ลิ ปะ คาอธบิ ายรายวชิ า
รหสั วิชำ ศ20201 ดนตรีพ้นื เมือง 1 รำยวชิ ำเพ่มิ เตมิ ดนตรพี นื้ เมือง 1
เวลำ 60 ชว่ั โมง
ช้ันมธั ยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษาประวัตคิ วามเปน็ มาของตนตรีพื้นเมอื งประเภทของเครื่องดนตรีพน้ื เมืองอีสาน
รูปแบบของบท เพลง และวงดนตรีพน้ื เมอื งอีสาน หลักการขบั ร้อง รา และการบรรเลงดนตรี การใช้

และการบารงุ รกั ษา เครอ่ื งดนตรพี ื้นเมืองววิ ฒั นาการของดนตรพี ื้นเมืองวเิ คราะห์ลักษณะเด่นของตน
ตรใี นแตล่ ะทอ้ งถนิ่ โดยใช้กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ ปฏิบตั ิ

เพื่อให้เกิดทกั ษะความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าในความสาคัญของตนตรพี ืน้ เมือง
อสี านท่ีเปน็ มรดก ทางวฒั นธรรม และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน มีจติ สาธารณะ สามารถนาความรไู้ ปใช้กับ
ชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ

ผลกำรเรยี นรู้
1. เพือ่ ให้นกั เรียนอธิบายประวตั ิความเป็นมาของดนตรพี ้ืนเมือง

2. เพื่อใหน้ ักเรียนบอกประเภทของเครือ่ งดนตรีพน้ื เมอื งอสี าน
3. เพอ่ื ให้นักเรียนเขา้ ใจรูปแบบของบทเพลงและวงดนตรีพื้นเมืองอสี าน
4. เพอ่ื ให้นกั เรียนอธิบายหลกั การขับร้องและการบรรเลงดนตรพี ืน้ เมืองอีสาน

5. เพือ่ ใหน้ ักเรยี นตระหนักถึงความสาคัญของดนตรีพนื้ เมอื งอสี านทเี่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรมและ
ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่

รวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

118

คาอธบิ ายรายวิชา

กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ศู ิลปะ รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ดนตรพี ้ืนเมอื ง 2

รหัสวิชำ ศ20202 ดนตรพี ้ืนเมือง 2 ช้นั มัธยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 2

เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาประวตั คิ วามเป็นมา ประเภทและสว่ นประกอบของแคน การเก็บบารุงรกั ษา
วเิ คราะห์ลักษณะเดน่ ของแคนในท้องถ่นิ ฝกึ ปฏิบัติแคนและลายท่ีใชใ้ นการบรรเลงโดยใชก้ ระบวนการ

กลุ่ม กระบวนการคดิ วิเคราะห์ ปฏิบตั ิ
เพ่ือใหเ้ กดิ ทักษะความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าในความสาคัญของแคนทเ่ี ปน็ มรดก

ทางวฒั นธรรมและ
ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน มจี ิตสาธารณะ สามารถนาความร้ไู ปใช้กบั ชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

ผลกำรเรียนรู้
1. นักเรยี นอธบิ ายประวตั คิ วามเป็นมาของแคนได้

2. นกั เรยี นบอกประเภทและส่วนประกอบของแคน
3. นกั เรยี นสามารถฝกึ ปฏบิ ัติแคนและลายทใ่ี ชใ้ นการบรรเลง
4. นักเรียนวเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ ของแคนในท้องถิ่น

5. นักเรยี นตระหนักถงึ ความสาคญั ของแคนทเ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ
รวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

119

กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ศู ลิ ปะ คาอธิบายรายวิชา
รหัสวชิ ำ ศ20203 ดนตรีสำกล 1 รำยวิชำเพมิ่ เติม ดนตรีสำกล 1
เวลำ 60 ชว่ั โมง
ชนั้ มัธยมศึกษำปที ี่ 2 ภำคเรียนท่ี 1
จำนวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษาความรู้ท่ัวไปเก่ียวกับดนตรีสากล การอ่านโน้ตส่วนจังหวะและส่วนระดับ
เสียง เพื่อนาไปใช้ในการปฏิบัติเคร่ืองดนตรีสากลตามความถนัด ประเภทเคร่ืองเป่าลมไม้ ตาม
หลักการสุนทรยี ศาสตรข์ องดนตรี ปฏบิ ตั ิเครื่องดนตรจี รงิ โดยรวมบรรเลงเปน็ กลมุ่

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล โดยเน้นการฝึกปฏิบัติการ
เล่นดนตรีเป็นสาคัญ และการอภิปรายพร้อมกับการนาเสนอผลงานทักษะด้านดนตรีและการทา
กจิ กรรมดนตรี

เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถด้านดนตรีทั้งด้านความรู้ ความคิด
และทักษะการฝึกปฏิบัติดา้ นดนตรีมสี ุนทรียภาพดา้ นดนตรี ฝึกฝนอยา่ งมรี ะบบ เหน็ ความสาคญั และ
คุณค่าของความพอเพียงในการสร้างสรรค์งานดนตรี เช่ือม่ันภาคภูมิใจในการแสดงออกสู่ท้องถิ่น
รับผดิ ชอบ มงุ่ ม่นั ในการปฏิบัตงิ านรว่ มกับผู้อ่ืน ซาบซ้ึง เหน็ คณุ คา่ รักและหวงแหนดนตรีซึง่ เป็นมรดก
ทางวัฒนธรรมและเป็นเอกลกั ษณ์ของชาติออกสอู่ าเซย่ี น

ผลกำรเรียนรู้
1.ผเู้ รียนมคี วามรปู้ ระวตั ิความเปน็ มาของดนตรสี ากล
2.ผู้เรียนรู้จกั เครอ่ื งดนตรสี ากลและอุปกรณข์ องเครอ่ื งดนตรสี ากล
3.ผเู้ รยี นมีความรเู้ กยี่ วกับการดูแลรักษาเครื่องดนตรสี ากล
4.ผเู้ รยี นมคี วามร้เู กีย่ วกบั จังหวะดนตรสี ากล
5.มีทักษะการปฏบิ ตั ิเครอื่ งดนตรีสากลตามความถนดั
6.มีอปุ นสิ ัยเป็นนักดนตรี มีสนุ ทรียภาพด้านดนตรี
7. มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

รวมทง้ั หมด 7ผลกำรเรยี นรู้

120

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ คาอธิบายรายวชิ า
รหัสวิชำ ศ20204 ดนตรีสำกล 2 รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ดนตรีสำกล 2
เวลำ 60 ช่วั โมง
ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นท่ี 2
จำนวน 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาความรูท้ ว่ั ไปเกี่ยวกับดนตรีสากล การบารุงรักษาเคร่ืองดนตรี เพ่ือนาไปใชใ้ น
การปฏิบัติเคร่ืองดนตรีสากลตามความถนัด ประเภทเครื่องเป่าลมทองเหลือง ตามหลักการ
สุนทรียศาสตร์ของดนตรี ปฏิบัติเครื่องดนตรีจริงโดยรวมบรรเลงเป็นกลุ่มโดยใช้กระบวนการสืบ
เสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล โดยเน้นการฝึกปฏิบัติการเล่นดนตรีเป็นสาคัญ และการอภิปราย
พรอ้ มกับการนาเสนอผลงานทักษะด้านดนตรีและการทากิจกรรมดนตรี

เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถด้านดนตรีท้ังด้านความรู้ ความคดิ และ
ทักษะการฝึกปฏิบัติด้านดนตรีมีสุนทรียภาพด้านดนตรี ฝึกฝนอย่างมีระบบ เห็นความสาคัญและ
คุณค่าของความพอเพียงในการสร้างสรรค์งานดนตรี เช่ือมั่นภาคภูมิใจในการแสดงออกสู่ท้องถ่ิน
รับผดิ ชอบ มงุ่ มน่ั ในการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกับผูอ้ ่นื ซาบซ้งึ เหน็ คุณคา่ รักและหวงแหนดนตรีซง่ึ เปน็ มรดก
ทางวฒั นธรรมและเปน็ เอกลกั ษณ์ของชาตอิ อกสู่อาเซย่ี น

ผลกำรเรียนรู้
1.ผเู้ รียนมคี วามรู้ประวตั ิความเป็นมาของดนตรีสากล
2.ผู้เรียนรจู้ กั เครือ่ งดนตรสี ากลและอุปกรณข์ องเคร่ืองดนตรีสากล
3.ผูเ้ รยี นมีความรเู้ กี่ยวกบั การดูแลรกั ษาเครือ่ งดนตรสี ากล
4.ผเู้ รยี นมีความรูเ้ ก่ยี วกับจงั หวะดนตรสี ากล
5.มีทกั ษะการปฏิบัติเครื่องดนตรสี ากลตามความถนัด
6.มอี ุปนิสัยเปน็ นกั ดนตรี มีสนุ ทรียภาพดา้ นดนตรี
7. มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

รวมทงั้ หมด 7ผลกำรเรยี นรู้

121

กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ คาอธิบายรายวชิ า
รหัสวชิ ำ ศ20205 ดนตรีประยกุ ต์ 1 รำยวชิ ำเพมิ่ เติม ดนตรีประยุกต์ 1
เวลำ 60 ช่วั โมง
ชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 3 ภำคเรยี นที่ 1
จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา รูปแบบของบทเพลง วงดนตรสี ากลและดนตรีพน้ื เมือง หลักการขบั รอ้ งและ
การบรรเลงเดีย่ ว เครอ่ื งตนตรี วิเคราะห์ ลกั ษณะเด่นและววิ ัฒนาการของตนตรีสากลและพ้ืนเมือง ฝึก

ปฏิบตั ิเครื่องดนตรตี าม
ความถนัด ฝกึ ปฏบิ ัติการบรรเลงรวมวงดนตรีประยุกตร์ ว่ มสมัยโดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการ

คิด วเิ คราะห์ ปฏิบัติ
เพ่อื ใหเ้ กิดทกั ษะความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่าในความสาคัญของตนตรแี ตล่ ะ

ประเภททีเ่ ปน็ มรดก ทางวัฒนธรรม และภมู ิปัญญาท้องถิน่ มีจิตสาธารณะ สามารถนาความรไู้ ปใชก้ ับ

ชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธภิ าพ

ผลกำรเรยี นรู้
1. เพอ่ื ให้นักเรยี นเขา้ ใจรปู แบบของบทเพลงและวงดนตรีประยุกต์
2. เพื่อใหน้ กั เรียนอธบิ ายหลกั การขบั ร้องและการบรรเลงเดยี วเครือ่ งดนตรี

3. เพื่อใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์ลักษณะเดน่ และวิวัฒนาการของดนตรแี ตล่ ะประเภท
4. เพ่ือให้นักเรยี นฝึกปฏิบตั เิ ครื่องดนตรตี ามความถนดั ของแต่ละบคุ คล

5. เพ่อื ใหน้ กั เรียนฝึกปฏิบตั ิการบรรเลงรวมวงดนตรปี ระยุกต์
6. เพื่อใหน้ ักเรียนตระหนักถึงความสาคัญของตนตรที ีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน
รวม 6ผลกำรเรยี นรู้

122

คาอธิบายรายวชิ า

กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ รำยวิชำเพิ่มเตมิ ดนตรปี ระยุกต์ 2
รหสั วชิ ำ ศ20206 ดนตรปี ระยุกต์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 ภำคเรียนท่ี 2
เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา วิเคราะหแ์ ละฝึกปฏบิ ตั กิ ารขับรอ้ ง การบรรเลงวงดนตรปี ระยกุ ตโ์ ดยเนน้
เทคนิคการขับร้อง การบรรเลง การแสดงออกและคุณภาพเสียง การเลอื กใชอ้ งค์ประกอบในการ
สร้างสรรค์งานท่เี หมาะสม ในการนาเสนอหรอื จัดการแสดงดนตรี โดยบูรณาการกบั ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ ปฏิบัติ
เพื่อใหเ้ กดิ ทักษะความรู้ ความเข้าใจ เห็นคณุ คา่ ในความสาคัญของตนตรีแต่ละ

ประเภททเ่ี ป็นมรดก ทางวัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ มีจิตสาธารณะ สามารถนาความร้ไู ปใช้กับ
ชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ

ผลกำรเรยี นรู้
1. เพ่ือให้นักเรยี นปฏิบัติการขับรอ้ ง การบรรเลงวงดนตรปี ระยุกตไ์ ด้
2. เพ่ือให้นกั เรียนเลอื กใชอ้ งคป์ ระกอบดนตรีในการนาเสนอหรอื จดั การแสดงดนตรีได้

3. เพื่อให้นกั เรียนนาเทคนิคการร้อง การเลน่ ดนตรีแตล่ ะประเภทมาประยุกต์ใชร้ ว่ มกนั ได้
4. เพือ่ ให้นักเรียนตระหนกั ถึงความสาคัญของดนตรีทีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาท้องถิ่น

รวม 4 ผลกำรเรียนรู้

123

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชพี วิชำพื้นฐำน

รหสั วชิ ำ ง21101 กำรงำนอำชีพ ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 1 ภำคเรียนท่ี 1
เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาและวเิ คราะห์ ขั้นตอนการทางานตามกระบวนการทางานตามลาดับข้ันตอนทว่ี างแผนไวใ้ นการจัด
และตกแตง่ ห้อง การใชอ้ ปุ กรณ์อานวยความสะดวกในการทางานบ้าน ร้จู ักการวางแผน การทางานเป็นกลุม่
ในการเตรียม ประกอบ จัด ตกแต่ง และบริการอาหาร แบบไทยและการแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร
การถนอมอาหารอธบิ ายแนวทางในการสร้างอาชีพ และเห็นความสาคญั ในการสร้างอาชีพเพื่อการพฒั นาสู่
ประชาคมอาเซยี น

โดยใชท้ ักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะกระบวนการกลมุ่ การจดั การ การตัดสินใจแกป้ ัญหาการ
ทางานอยา่ งมีเหตผุ ล

เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเหน็ คณุ คา่ ของการทางาน มีความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงเปน็ หลกั คิดหลกั ปฏิบตั ใิ นการเรยี นรู้ สามารถนาความร้ไู ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน ทางานดว้ ย
ความเสียสละ แก้ปญั หาการทางานอยา่ งมีเหตุผล มีเจตคติที่ดตี ่ออาชีพทีส่ ุจรติ เห็นความสาคัญของการ
สรา้ งอาชพี และมีจติ สานกึ ในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และส่งิ แวดลอ้ ม

ตัวชวี้ ดั
ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3
ง.2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3
รวมทงั้ หมด 6 ตวั ช้วี ัด

124

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ คำอธบิ ำยรำยวิชำ
วิชำพน้ื ฐำน
รหัสวชิ ำ ง22101 กำรงำนอำชพี
เวลำ 40 ชั่วโมง ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 2 ภำคเรียนที่ 1
จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาและวิเคราะห์ และใช้ทกั ษะการแสวงหาความรูเ้ พอ่ื พฒั นาการทางาน ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หาในการทางาน

มีจิตสานึกในการทางานและใชท้ รัพยากรในการปฏบิ ตั งิ านอยา่ งประหยัดและคุม้ ค่า การแสวงหาความรู้เพ่อื พัฒนาการทางานใน
การจัดตกแตง่ บ้านและบรเิ วณบา้ น การจดั การผลผลติ ใชก้ ระบวนการแกป้ ญั หาในการทางาน เช่น การเตรียม ประกอบ จัด

ตกแตง่ และบริการเคร่ืองดม่ื การซ่อมแซมสิง่ ของเครื่องใช้ การเลีย้ งสัตวใ์ นบรเิ วณบ้าน การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุ
ในโรงเรียนหรือทอ้ งถน่ิ เข้าใจแนวทางการเลอื กอาชีพ มที ักษะพ้ืนฐานในการประกอบอาชพี มปี ระสบการณ์
ความรู้ ความสนใจความถนัด สอดคลอ้ งกับอาชีพท่ีตนสนใจเพ่อื การพฒั นาสปู่ ระชาคมอาเซียน

โดยใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม การจัดการ การตัดสนิ ใจแก้ปัญหา
การทางานอยา่ งมเี หตผุ ล

เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นเหน็ คุณค่าของการทางาน มคี วามคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงเปน็ หลกั คดิ หลักปฏิบัติในการเรยี นรู้ สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวัน ทางานด้วย
ความเสียสละ แก้ปัญหาการทางานอยา่ งมเี หตุผล มเี จตคติทีด่ ีต่ออาชพี ทีส่ ุจรติ เหน็ ความสาคัญของการ

สร้างอาชีพ และมจี ิตสานึกในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร และสงิ่ แวดล้อม

ตัวช้ีวดั
ง 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
ง.2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
รวมทงั้ หมด 6 ตัวชีว้ ดั

125

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ วิชำพื้นฐำน
รหัสวชิ ำ ง23101 กำรงำนอำชพี ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 3 ภำคเรียนท่ี 1

เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษา และอภิปรายขั้นตอนการทางานทีม่ ีประสิทธิภาพ ใชท้ กั ษะการทางานร่วมกนั อย่างมคี ุณธรรม
อธิบายการใช้ทักษะการจัดการเพอื่ การประหยัดพลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม ในการการทางานเพ่ือการ

ดารงชีวิต ผ้าและการตัดเยบ็ อาหารประเภทสารับ งานช่างในบ้าน การประดษิ ฐ์บรรจภุ ัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ
การขยายพนั ธพ์ุ ืช แนวทางสอู่ าชีพและเหน็ ความสาคญั ในการสร้างอาชีพเพือ่ การพัฒนาสูป่ ระชาคมอาเซียน

โดยใช้ทกั ษะการแสวงหาความร้ทู ักษะกระบวนการกลุม่ การจดั การการตดั สินใจแกป้ ัญหา
การทางานอยา่ งมีเหตุผล

เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการทางาน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติในการเรียนรู้สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ทางานด้วย
ความเสียสละ แก้ปัญหาการทางานอยา่ งมีเหตุผล มีเจตคติที่ดตี ่ออาชีพทีส่ ุจริต เห็นความสาคญั ของการสรา้ ง

อาชพี และมจี ิตสานึกในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากร และสิง่ แวดล้อม

ตวั ชวี้ ัด
ง1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3

ง2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3

รวมทัง้ หมด 6 ตัวชี้วัด

กลมุ่ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ 126
รหัสวิชำ ง20201 งำนประดษิ ฐ์ 1 ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 1
เวลำ 60 ชัว่ โมง รำยวิชำเพิม่ เตมิ
ภำคเรยี นที่ 1

เวลำ 1.5 หน่วยกติ

ศึกษา เรียนรู้เกี่ยวกับ ความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับงานประดิษฐ์ การเลือกวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในงาน
ประดิษฐ์ หลักการออกแบบงานประดิษฐ์ หลักการวิธีการและกระบวนการปฏิบัติงานประดิษฐ์ งาน
ประดิษฐ์จากวัสดุ ธรรมชาตแิ ละวัสดุเหลือใช้ การออกแบบช้ินงานและการ'ฝึกปฏิบัติงานประดษิ ฐ์เพื่อการ
ดารงชีวิตและเป็น พ้ืนฐานในการประกอบอาชีพ รวมท้ังศึกษาคาศัพท์ภาษาต่างประเทศท่ีเก่ียวข้องเพื่อ
การพัฒนาสปู่ ระชาคมอาเซียน

โดยใช้กระบวนการศึกษา ลืบค้น การอภิปรายแสดงความคิดเห็น การฝึกปฏิบัติงานประดิษฐ์จาก
วัสดุ ธรรมชาตกิ ารประยกุ ตป์ รับเปลีย่ นแนวคดิ พัฒนางานเป็นพ้ืนฐานการอาชีพกระบวนการแก้ปญั หา

เพ่ือให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการทางาน มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงเป็นหลักคิดหลกั ปฏิบัติในการเรยี นรู้สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ทางานด้วยความ
เสียสละ แก้ปัญหาการทางานอย่างมีเหตุผล มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพท่ีสุจริต เห็นความสาคัญของการสร้างอาชีพ
และมีจติ สานกึ ในการใช้พลังงาน ทรพั ยากร และสิง่ แวดลอ้ ม

ผลการเรียนรู้

1. ผู้เรียนมีความรู้และเช้าใจเก่ียวกับงานประดิษฐ์ ลักษณะชองงานประดิษฐ์ท้ังประเภทและ
รูปแบบ งานประดิษฐ์

2. ผู้เรียนมีทักษะในการเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานประดิษฐ์ได้อย่างเหมาะสมและมีความ
ปลอดภัย ในการทางาน

3. ผู้เรียนมีทักษะในการออกแบบงานประดิษฐ์ ประยุกต์ใช้วัสดุในการสร้างสรรค์ชองใช้ ชอง
ตกแตง่ และชองเล่น เพื่อใช้ในชีวติ ประจาวนั และการประกอบอาชีพ

4. ผู้เรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และรับผิดชอบ มุ่งมั่นในการฝึกซ้อมอย่างสม่าเสมอใฝ่รู้ใฝ่เรียนและนา
ความรู้ไปใชอ้ ย่างเป็นประโยชน์
รวม 4 ผลการเรียนรู้

127

คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวชิ ำเพิ่มเตมิ
กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 1
รหัสวิชำ ง20202 เทคโนโลยีกำรเกษตร 1
เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษา เรียนรเู้ กีย่ วกับ ความสาคญั ของการผลติ พืชการเกษตรตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียงความรู้

เบ้ืองต้นเก่ยี วกับเกษตรอจั ฉรยิ ะ การจาแนกประเภทของพืชปลูก ปัจจยั ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั การผลติ พืช การปลกู
และการปฏบิ ัตดิ แู ลรกั ษา การเก็บเกี่ยวและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว การจาหนา่ ยผลติ ผล เพื่อการ

พัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน
โดยใชกระบวนการคดิ กระบวนการสืบคนขอมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ

และการแกปญหา เพอ่ื ใหเกิดความรู ความเขาใจ และสามารถนาไปปฏิบตั ิในการดาเนนิ ชีวติ

เพอ่ื ให้ผู้เรียนเหน็ คุณคา่ ของการทางาน มีความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งเปน็ หลกั คดิ หลักปฏิบตั ิในการเรยี นรู้สามารถนาความร้ไู ปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั ทางานด้วย

ความเสียสละ แก้ปญั หาการทางานอย่างมเี หตผุ ล มีเจตคตทิ ่ีดีตอ่ อาชีพทส่ี จุ ริต เหน็ ความสาคญั ของการสรา้ ง
อาชพี และมจี ติ สานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิง่ แวดลอ้ ม

ผลกำรเรยี นรู้
1. อธิบายความหมาย ความสาคญั ประเภทของการผลิตพืชการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจ

พอเพียงและความรเู้ บอ้ื งต้นเกี่ยวกบั เกษตรอัจฉรยิ ะได้
2. อธบิ าย จาแนก ประเภทของพชื ท่ีปลูกได้
3. อธบิ ายปัจจัยที่เกย่ี วข้อง หลักการและแนวทางการวางแผนจดั การกบั การปลกู พืชได้

4. อธิบายความหมาย ความสาคัญ และวัตถปุ ระสงคข์ องการเตรียมพันธุพ์ ืช รวมทั้งวสั ดุ
และสามารถปฏิบัตกิ ารจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเตรียมพนั ธพุ์ ืชได้

5. อธบิ ายวิธีการปลูกและการดูแลรักษาพืชโดยใช้เมลด็ การปกั ชา การตอนกง่ิ และการ
เสยี บยอดและสามารถปฏบิ ัติจรงิ ได้

6. อธิบายข้ันตอนหลงั การเก็บเกยี่ วผลผลิต การวางแผนจัดจาหน่ายผลผลิต วิธีการ

กาหนดราคาขายผลผลิต และคานวณราคาขายผลผลิตได้

รวม 6 ผลกำรเรียนรู้

128

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ กำรงำนอำชีพ วิชำเพม่ิ เติม
รหัสวิชำ ง20203 งำนประดษิ ฐ์ 2 ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 2
เวลำ 60 ชว่ั โมง
จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา เรียนรู้ และทาความเข้าใจหลักการวิธีการกระบวนการเก่ียวกับประวัติความเป็นมาของงาน
ประดิษฐ์ใบตอง งานร้อยมาลัย คุณค่าของงานใบตอง ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับงานใบตอง ประกอบด้วย
รูปแบบของงานประดษิ ฐ์ใบตอง หลักการเตรียมใบตอง วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานประดิษฐ์ใบตอง ประเภทของ
งานใบตอง หลักการออกแบบงานประดิษฐ์ใบตอง วิถีชีวิตไทยกับงานใบตอง การห่ออาหารและขนมด้วย
ใบตอง การประดิษฐ์งานใบตองข้ันพื้นฐานการออกแบบ การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการประดิษฐ์งานใบตอง
และการเก็บรักษาชิ้นงาน เพื่อการดารงชีวิตและเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพ รวมทั้งศึกษาคาศัพท์
ภาษาตา่ งประเทศที่เก่ียวข้องเพ่ือการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน

โดยใช้ทักษะการแสวงหาความรู้ การวิเคราะห์ ลังเคราะห์ การฝึกปฏิบัติการประดิษฐ์งาน
ใบตองการ ประยุกต์สรา้ งสรรค์ทักษะกระบวนการทางานทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหาทกั ษะการทางาน
ร่วมกันและทักษะ การจัดการในการ'ฝึกปฏิบัติงานปรับเปลี่ยนแนวคิดการประดิษฐ์มีรายได้ระหว่าง
เรยี นจากการจาหนา่ ยช้นิ งานโดยใช้ทกั ษะพืน้ ฐานที่จาเปน็ ตอ่ การประกอบอาชีพได้แก่

เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการทางาน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติในการเรียนรู้สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ทางานด้วย
ความเสียสละ แก้ปัญหาการทางานอยา่ งมีเหตุผล มีเจตคตทิ ่ีดีต่ออาชีพทสี่ ุจริต เห็นความสาคัญของการสรา้ ง
อาชพี และมจี ติ สานกึ ในการใช้พลังงาน ทรพั ยากร และสิ่งแวดลอ้ ม

ผลการเรียนรู้
1. ผเู้ รยี นมีความรพู้ ืน้ ฐานเกี่ยวกับงานประดษิ ฐ์ใบตองประวตั ิความเปน็ มา คุณค่า รปู แบบของ
งาน ประดิษฐ์ใบตอง
2. ผเู้ รียนมีความสามารถในการเสือกใช้วัสดอุ ุปกรณ์ในการประดิษฐง์ านใบตองได้อย่างถกู ต้อง
และ ปลอดภัย
3. ผเู้ รยี นมีทักษะในการประดิษฐ์ใบตองท่ีใช้ในโอกาสต่างๆชองไทยได้อย่างสวยงามและ
สามารถ อภิปรายความสัมพันธ์ระหวา่ งวิถชี ีวติ ไทยกบั งานประดิษฐ์ใบตอง
4. ผู้เรียนมที กั ษะในการประดษิ ฐส์ ่วนประกอบชองงานใบตองไดอ้ ย่างประณีตสวยงาม
5. ผ้เู รยี นปฏิบัตงิ านดว้ ยความเป็นระเบียบเรียบร้อยประณีต รอบคอบ สะอาดและปลอดภยั มี
ลกั ษณะอันเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติ

รวม 5 ผลการเรียนรู้

129

คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวิชำเพิ่มเตมิ
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรยี นท่ี 2
รหสั วชิ ำ ง20204 เทคโนโลยกี ำรเกษตร 2
เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษา เรยี นรเู้ ก่ียวกับ ความสาคัญของดิน การกาเนดิ ดนิ คุณสมบตั ิทางด้านกายภาพ เคมี และ
ชวี ภาพของดนิ ธาตุอาหารพืช ปุ๋ยและการใช้ปุ๋ย การปฏบิ ตั ิบารุงรักษาดนิ และน้าสาหรบั ปลูกพชื การพงั ทลาย

ของดนิ การอนรุ กั ษ์ดินและน้า ชนดิ ของดนิ ในประเทศไทยและการใช้แอปพลิเคชันเพือ่ หาชุดดินเพื่อการพัฒนา
สู่ประชาคมอาเซยี น

โดยใชกระบวนการคดิ กระบวนการสืบคนขอมลู กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ
และการแกปญหา เพอื่ ใหเกดิ ความรู ความเขาใจ และสามารถนาไปปฏิบตั ใิ นการดาเนินชีวติ

เพื่อใหผ้ ู้เรียนเห็นคุณคา่ ของการทางาน มีความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งเป็นหลกั คิดหลักปฏิบตั ิในการเรยี นรู้สามารถนาความรไู้ ปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ทางานด้วย
ความเสยี สละ แก้ปญั หาการทางานอย่างมเี หตผุ ล มเี จตคติท่ีดตี อ่ อาชีพท่ีสจุ ริต เหน็ ความสาคัญของการสรา้ ง

อาชีพ และมีจิตสานกึ ในการใช้พลงั งาน ทรัพยากร และสงิ่ แวดล้อม

ผลกำรเรียนรู้

1. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นอธบิ าย ความสาคัญของดนิ การเกิดดนิ ท่มี คี วามสมั พันธ์กับวิถกี ารดารงชีวิตของมนุษย์ได้
2. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนอธบิ าย ท่มี าของการกาเนดิ ดินได้

3. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นอธบิ ายเกี่ยวกบั คุณสมบตั ิทางกายภาพ ทางเคมี และทางชีวภาพของดนิ ในการปลกู พชื ได้
4. เพือ่ ให้ผเู้ รียนอธิบาย เก่ียวกบั ธาตุอาหารพชื ปยุ๋ และการใชป้ ุ๋ย ได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสมได้
5. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนปฏิบัติการผสมปุย๋ ใช้เองเพือ่ ปรบั ปรุงดนิ ให้มีความอดุ มสมบูรณ์เหมาะสมตอ่ การปลูกพชื

6. เพื่อให้ผู้เรยี นอธิบายเกยี่ วกับการอนรุ ักษ์ดินและน้าเพือ่ การประยกุ ต์ใช้ในการป้องกันการชะล้าง
การพงั ทลายของดนิ เพ่อื ลดการสญู เสียความอุดมสมบูรณ์ ของดนิ

7. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับชนิดของดนิ ในประเทศไทยและการใชแ้ อปพลเิ คชันเพอ่ื หา
ชุดดนิ ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการปลูกพชื

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้

130

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพ วชิ ำเพม่ิ เตมิ

รหัสวิชำ ง20205 งำนประดษิ ฐ์ 3 ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1
เวลำ 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษา ทาความเข้าใจเก่ยี วกบั ความรู้เบอื้ งต้นเกี่ยวกับงานแกะสลักผกั และผลไม้ ประเภทและ
ลักษณะของงานแกะสลัก เรียนรหู้ ลักการวธิ กี ารและกระบวนการจัดและแกะสลักผกั และผลไม้ การตดั
และหัน่ ผักเพื่อใช้ในการตกแตง่ การแกะสลักผกั และผลไม้อย่างง่าย ศิลปและหลักการออกแบบตกแต่ง
ผักและผลไม้ อย่างงา่ ยการเตรยี มวัสดุอุปกรณ์ในการแกะสลักผักและผลไมก้ ารเก็บรกั ษาชิน้ งาน รวมท้ัง
ศึกษาคาศพั ท์ ภาษาต่างประเทศท่ีเกี่ยวข้องเพื่อการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน

โดยใช้กระบวนวิเคราะห์ ลงั เคราะห์ การอภปิ ราย การ'ฝกึ ปฏิบัติการแกะสลกั ประยุกต์และ
สรา้ งสรรค์ กระบวนการทางานกลุ่ม การแกป้ ญั หา การ'ฝกึ ปฏบิ ัติและเรยี นรจู้ ากสภาพจรงิ พฒั นางาน
เป็น พ้นื ฐานในการประกอบอาชีพและการมีรายไดร้ ะหว่างเรียนจากการจาหน่ายช้ินงานการคานวณ
ตน้ ทนุ และ กาหนดราคา

เพ่ือให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการทางาน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติในการเรียนรู้สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ทางานด้วย
ความเสยี สละ แก้ปัญหาการทางานอย่างมีเหตผุ ล มีเจตคตทิ ่ีดีต่ออาชีพทสี่ ุจริต เห็นความสาคญั ของการสร้าง
อาชพี และมีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และส่งิ แวดล้อม

ผลการเรยี นรู้
1. ผเู้ รยี นมีความรู้ความเช้าใจเกย่ี วกบั งานแกะสลกั การออกแบบการเตรียมวัสดุอุปกรณ์

การเก็บรกั ษา ช้นิ งานการแกะสลักและตกแต่งผักผลไม้การคานวณต้นทนุ และกาหนดราคา
2. ผู้เรียนมที กั ษะและความสามารถในการเลอื กใช้อุปกรณต์ ่างๆ ในการแกะสลกั และ

การตกแตง่ ได้ อย่างถกู ตอ้ งและปลอดภัย
3. ผเู้ รียนมีทักษะและความสามารถในการแกะสลัก การออกแบบการแกะสลักและตกแต่งผัก

ผลไม้ที่ ใช้ในโอกาสตา่ งๆ
4. ผเู้ รียนมีทักษะการจดั การในการทางานทักษะการทางานรว่ มกนั ปฏิบตั ิงานดว้ ยความเปน็

ระเบียบ เรยี บรอ้ ยประณีตรอบคอบสะอาดและปลอดภัย
5. ผเู้ รียนมีทักษะในการแสวงหาความรมู้ ีทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทางานมี

คุณธรรมและ ลักษณะนสิ ัยในการทางานใชพ้ ลังงานทรัพยากรในการทางานอย่างค้มุ ค่าและย่ังยืนเพื่อ
การอนุรักษส์ ่ิงแวดล้อม

รวม 5 ผลกำรเรียนรู้

131

คำอธิบำยรำยวชิ ำ วชิ ำเพ่ิมเตมิ
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชพี ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 1

รหัสวชิ ำ ง20206 เทคโนโลยกี ำรเกษตร 3 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
เวลำ 40 ชัว่ โมง

ศกึ ษาและวเิ คราะห์ ความหมายความสาคญั เกษตรอินทรีย์หลักการเกษตรอินทรียม์ าตรฐานเกษตรอนิ ทรยี ์ การ
เจรญิ เตบิ โตของพชื ธรรมชาติของดิน การปรบั ปรุงดินโดยใช้สารอินทรยี ์ การอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
การปลูกพืชการดูแลรกั ษาการผลิตสารอนิ ทรียเ์ พ่อื ป้องกันและกาจัดศัตรูพืช ปัญหาการเกษตร ชอ่ งทางการตดั สินใจเลอื ก
ประกอบอาชพี เกษตรอนิ ทรยี ์และการใชแ้ อปพลิเคชนั สาหรับเกษตรกรคณุ ธรรมในการประกอบอาชีพ ปัญหาและอุปสรรคใน
การประกอบอาชพี เพ่ือการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน

โดยใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะกระบวนการกลุม่ การจดั การ การตัดสินใจแก้ปัญหา
การทางานอยา่ งมเี หตผุ ล
เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนเห็นคณุ ค่าของการทางาน มีความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เปน็ หลักคิดหลักปฏบิ ัติในการเรียนรู้ สามารถนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวัน ทางานด้วยความ
เสยี สละ แก้ปัญหาการทางานอยา่ งมเี หตุผล มเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ อาชพี ที่สุจรติ เหน็ ความสาคัญของการสร้าง
อาชีพ และมจี ิตสานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และสง่ิ แวดล้อม

ผลกำรเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมาย ความสาคญั หลักการ มาตรฐาน ของเกษตรอนิ ทรีย์ได้
2. อธิบายปัจจัยในการเจรญิ เตบิ โตของพืชได้
3. อธบิ ายธรรมชาตขิ องดนิ การปรับปรงุ ดิน การอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มได้
4. สามารถปฏิบตั กิ ารปลูกพืช และดแู ลรักษา โดยใช้หลกั การของเกษตรอนิ ทรยี ์ได้
5. อธบิ ายการผลติ สารอินทรยี ์เพ่ือปอ้ งกนั และกาจัดศัตรูพชื และสามารถปฏิบัตอิ ยา่ งง่ายได้
6. ผู้เรียนเข้าใจถงึ หลักปญั หาการเกษตร และแนวทางในการแกป้ ัญหาได้
7. ผ้เู รียนสามารถตัดสนิ ใจเลอื กประกอบอาชพี เกษตรอินทรยี ์เลอื กใช้แอปพลิเคชันสาหรบั เกษตรกร

มี คณุ ธรรมในการประกอบอาชีพ เขา้ ใจแนวทางและการแก้ปัญหาและอุปสรรคในการประกอบอาชพี ได้อยา่ ง
ถูกต้องและเหมาะสม

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้

132

คำอธิบำยรำยวิชำ

กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชพี รำยวิชำเพิ่มเตมิ

รหัส งแ62ล00ศะ2ึกวช0ัสษั่ว7ดาโุตมเเพกรงยีแม่ิ นตเตง่ริมู้เอกงปุยี่ำวนกกรปับณระ์ทคด่ีใวชษิ า้ใมฐน์รง4้เู าบนอื้ รง้อตยน้ มเกา่ยีลวยั กปับรงะาเนภรท้อขยอมงามลชาัยน้ัลัยหมธัลหยกั ลมกักศากรึกาวษริธอำีกปอากรีทกแ่ี 2าบเวรบลเลงำาือนกภ1รดำ.้อ5อคยกเมรไหยีามนลน้ ่วัยทย่ี ก2ติ
เใวบลไำม้

ส่วนประกอบของมาลยั และวธิ ีการตกแตง่ ตวั มาลัย มาลัยกับวธิ คี วามเปน็ ไทย โอกาสที่ใชพ้ วงมาลยั

ความ เปน็ มาเกี่ยวกับงานดอกไม้สด การเตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ในงานดอกไม้สดการเลอื กดอกไม้ใบไม้และ

การเก็บรักษา หลักการจัดดอกไมร้ ูปแบบการจัดดอกไมป้ ระเภทการจดั ดอกไมก้ ารจัดดอกไม้รูปทรง

พ้ืนฐานแบบสากลการจัด ช่อดอกไม้ ความหมายของเครอื่ งแขวน เครือ่ งแขวนของไทยในอดีต ประเภท

ของเครอ่ื งแขวนวัสดุอปุ กรณ์- การประดิษฐ์เครื่องแขวน ส่วนประกอบของเครือ่ งแขวนการประดิษฐ์

เครอ่ื งแขวนขนาดจิ๋ว รวมท้ังศกึ ษา คาศพั ท์ภาษาตา่ งประเทศที่เกีย่ วช้อง เพ่ือการพฒั นาสู่ประชาคม

อาเซียน

โดยใช้ทักษะแสวงหาความรู้ วิเคราะห์ ลงั เคราะห์ การทางานรว่ มกันกระบวนการ'ฝึกปฏบิ ัติ การ

ออกแบบ สรา้ งสรรค์ การประยุกต์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นหลักคดิ หลักปฏบิ ัตใิ นการ

เรียนรู้ ปรับเปลยี่ นแนวคิดการรอ้ ยมาลัยใช้ทักษะกระบวนการแก้ปญั หาและทักษะ การจัดการในการ'ฝึก

ปฏิบตั งิ าน

เพ่อื ให้ผู้เรยี นเกิดทักษะและความสามารถในงานร้อยมาลยั งานดอกไม้สดและเครือ่ งแขวนไทยเพอ่ื
ดารงชวี ติ และเปน็ พ้ืนฐานในการประกอบอาชพี โดยการสรา้ งรายได้ระหวา่ งเรยี น มคี วามรู้เกีย่ วกับคาศัพท์
ภาษาต่างประเทศที่สาคญั ในการประดิษฐง์ านมาลยั ดอกไม้สด และเคร่อื งแขวนไทย มคี วามซ่ือสัตย์
เสียสละ ยตุ ิธรรมประหยัดขยนั อดทนรบั ผิดชอบตรงเวลารอบคอบปลอดภัยคุ้มค่าย่งั ยืนสะอาดประณตี มี
เหตุผล มีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากร และส่ิงแวดลอ้ ม

ผลการเรยี นรู้

1. ผ้เู รียนอธิบายหลกั การวิธกี ารและกระบวนการเกย่ี วกบั ศิลปะและวฒั นธรรมที่เก่ยี วช้องกบั งาน
รอ้ ยมาลัยงานดอกไมส้ ดและเครอ่ื งแขวนไทยการเลอื กดอกไมแ้ ละวสั ดุตกแตง่ การร้อยมาลัยแบบต่างๆการ
ใช้และ บารงุ รกั ษาอุปกรณ์การจัดจาหน่าย

2. ผเู้ รียนปฏิบัตงิ านเตรยี มวัสดุอุปกรณ์ในงานร้อยมาลยั งานดอกไม้สดและเครอ่ื งแขวนไทย
คานวณ คา่ ใช้จ่ายกาหนดราคาค่าบรกิ ารจัดจาหน่ายจดบันทึกการปฏบิ ตั งิ านทาบญั ชรี บั จ่ายและประดิษฐ์
มาลัย งาน ดอกไม้สดและเคร่อื งแขวนไทย อยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์

3. ผ้เู รียนพฒั นาช้ินงานโดยใช้เทคโนโลยีและภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นที่เหมาะสมเพ่ือสรา้ งแนวคดิ ใหม่ๆ
ใน การทางานและสร้างรายได้

4. ผ้เู รยี นมที ักษะการจัดการในการทางานทกั ษะการทางานรว่ มกัน
5. ผเู้ รียนมีทกั ษะในการแสวงหาความรู้มที กั ษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทางานมคี ุณธรรมและ
ลักษณะนิสยั ในการทางานใชพ้ ลงั งานทรพั ยากรในการทางานอยา่ งคุ้มค่าและยัง่ ยืนเพื่อการอนรุ กั ษ์
ส่งิ แวดลอ้ ม
รวม 5 ผลการเรียนรู้

133

คำอธิบำยรำยวิชำ วชิ ำเพิ่มเตมิ
ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 2 ภำคเรียนที่ 2
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ
รหสั วิชำ ง20208 เทคโนโลยกี ำรเกษตร 4 จำนวน 1.0 หน่วยกิต
เวลำ 40 ชั่วโมง

ศกึ ษาและวเิ คราะห์ บทนา ประวตั กิ ารกสกิ รรม การผลติ พืชท่ีสาคัญ พชื สาหรบั การกสกิ รรม ดนิ
และพชื ภมู ิอากาศและพืช การเตรียมดินเพาะปลูกพืช การขยายพนั ธ์ุและการเตรยี มวสั ดปุ ลกู พืช วธิ ีการ
ปลกู พชื นา้ และการให้นา้ ปยุ๋ และการใช้ปยุ๋ ศัตรูพชื และการป้องกันกาจัด การเกบ็ เก่ยี วและการจดั การ

ผลติ ผล เศรษฐกจิ สังคมการผลิตพชื และการตลาดพชื การอนรุ ักษท์ รพั ยากรและสภาพแวดล้อมและการใช้
แอปพลเิ คชน่ั ทีเ่ กี่ยวขอ้ งเบอื้ งตน้ เพอื่ การพฒั นาส่ปู ระชาคมอาเซียน

โดยใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม การจดั การ การตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา
การทางานอย่างมเี หตผุ ล
เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นเห็นคณุ ค่าของการทางาน มีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เป็นหลักคดิ หลกั ปฏิบัติในการเรียนรู้ สามารถนาความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน ทางานดว้ ยความ
เสียสละ แกป้ ัญหาการทางานอย่างมีเหตุผล มีเจตคติท่ีดีตอ่ อาชพี ที่สจุ ริต เห็นความสาคัญของการสรา้ ง

อาชีพ และมีจติ สานกึ ในการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากร และสง่ิ แวดลอ้ ม

ผลกำรเรียนรู้

1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ ของกสกิ รรมได้
2. อธิบายเกย่ี วกบั การผลิตพืชท่ีสาคญั และพืชกสิกรรมได้
3. อธบิ ายเกี่ยวกับความสมั พันธร์ ะหว่างดนิ สภาพภมู อิ ากาศและพชื ได้

4. อธบิ ายหลักการขยายพันธ์พุ ชื และสามารถปฏบิ ัติการเตรยี มดนิ ได้
5. สามารถปฏิบตั กิ ารขยายพนั ธ์พุ ชื ไดอ้ ย่างนอ้ ย 3 รปู แบบ และดูแลรกั ษาได้

6. อธิบายหลกั การเก็บเกี่ยวผลผลิตพืชได้
7. ผ้เู รยี นเข้าใจถงึ เศรษฐกจิ สังคมการผลิตพืชและการตลาดพชื ได้
8. ผเู้ รียนอธิบายหลกั การอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มและการใชแ้ อปพลิเคชัน่ ท่ีเก่ยี วข้อง

เบื้องต้นได้อยา่ ง
ถูกตอ้ งและเหมาะสม

รวม 8 ผลกำรเรยี นรู้

134

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพ รำยวิชำเพิม่ เติม
รหัส ง20209 งำนประดิษฐ์ 5 ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 3 ภำคเรียนท่ี 1
เวลำ 60 ช่วั โมง
เวลำ 1.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเกี่ยวกับส่วนประกอบของมาลยั 'ฝึกปฏิบัติการประดษิ ฐ์ส่วนประกอบของมาลัย เซ่น การ
มดั ดอกซ่า การร้อยอุบะ การทาโบว์ ฝกึ ปฏิบัติการรอ้ ยมาลัย ไดแ้ ก่ มาลัยซกี มาลัยแบน มาลยั ตมุ้ มาลยั
สามเหล่ียม มาลัยกลม มาลัยรี มาลัยตวั หนอน เรียนรู้เกีย่ วกบั ศิลปะและวฒั นธรรมท่ีเก่ยี วข้องกับงานร้อย
มาลยั การเลือกดอกไมแ้ ละวัสดตุ กแต่ง การรอ้ ยมาลัยแบบต่างๆ การใช้และบารุงรักษาอุปกรณ์การบรรจุ
สาหรับจาหน่าย รวมท้งั ศกึ ษาคาศัพท์ภาษาตา่ งประเทศทเ่ี ก่ยี วข้องเพ่ือการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน

โดยใชก้ ระบวนการแสวงหาความรู้ การ'ฝึกปฏิบัติงาน ใชท้ กั ษะกระบวนการทางานกลมุ่
ทักษะ กระบวนการแก,่ ปัญหา การเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ในการร้อยมาลัยแบบต่างๆ การ'ฝกึ คานวณ
คา่ ใช้จา่ ย การ กาหนดราคาค่าบรกิ ารจดั จาหนา่ ย และการทาบญั ชีรับจ่าย และประยกุ ต์ใชใ้ นสภาพจริง

เพ่ือให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการทางาน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติในการเรียนรู้สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ทางานด้วย
ความเสียสละ แก้ปัญหาการทางานอยา่ งมีเหตผุ ล มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพทส่ี ุจริต เหน็ ความสาคญั ของการสรา้ ง
อาชีพ และมีจติ สานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ ม

ผลกำรเรยี นรู้
1. อธบิ ายหลกั การวธิ กี ารและกระบวนการเกีย่ วกับศิลปะและวฒั นธรรมทเี่ กีย่ วข้องกบั งานร้อย

มาลยั การเลอื กดอกไมแ้ ละวัสดตุ กแต่งการร้อยมาลยั แบบต่างๆ การใช้และบารุงรกั ษาอุปกรณ์การบรรจุ
สาหรบั จาหนา่ ย

2. ปฏิบตั งิ านและเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ในการร้อยมาลัย รอ้ ยมาลยั แบบตา่ งๆเช่นมาลยั ซกี มาลัย
แบน มาลัยตมุ้ คานวณค่าใชจ้ ่ายกาหนดราคาคา่ บริการจัดจาหนา่ ยจดบนั ทึกการปฏิบตั ิงานทาบญั ชีรบั
จา่ ยและ ประเมินผลการประดิษฐม์ าลัยอย่างมคี วามคิดสร้างสรรค์

3. พฒั นาชน้ิ งานโดยใช้เทคโนโลยแี ละภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ท่เี หมาะสมเพอื่ สร้างแนวคดิ ใหม่ๆในการ
ทางานและสร้างรายได้

4. มีทักษะในการประดษิ ฐส์ ว่ นประกอบของมาลัย
5. มีทกั ษะในการแสวงหาความร้มู ีทักษะกระบวนการแก่,ปญั หาในการทางานมคี ุณธรรมและ
ลักษณะ นสิ ัยในการทางาน ใชพ้ ลงั งาน และทรัพยากรในการทางานอย่างค้มุ คา่ และย่งั ยนื เพ่ือการอนุรักษ์
สง่ิ แวดล้อม

รวม 5 ผลการเรียนรู้

135

คำอธบิ ำยรำยวิชำ วชิ ำเพมิ่ เตมิ
กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ
ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 3 ภำคเรยี นที่ 1
รหสั วิชำ ง20210 เทคโนโลยกี ำรเกษตร 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
เวลำ 40 ชัว่ โมง

ศึกษาและวิเคราะห์ ความรู้ทั่วไปเก่ยี วกบั ธุรกจิ เกษตรและระบบธรุ กจิ เกษตรนโยบายของรฐั บาลและ

กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ระบบธุรกิจเกษตร องค์กรธรุ กจิ เกษตรของไทยหนา้ ท่ี พนื้ ฐานในการจดั การธรุ กจิ
เกษตร การจดั การผลิต การจดั การการตลาด, การบญั ชแี ละการจดั การ ทางการเงิน การเขยี นแผนธรุ กจิ
เกษตร โครงการธรุ กิจเกษตร การจัดการธรุ กิจขนาดยอ่ ม การวเิ คราะหก์ รณีตวั อย่างทางดา้ นธุรกิจเกษตร

ปญั หาและแนวทางแก้ไขปญั หาธรุ กจิ เกษตรเพ่อื การพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน
โดยใชท้ กั ษะกระบวนการ การทางานเปน็ กล่มุ ทักษะการคดิ ทกั ษะการแกป้ ญั หา ตลอดจน

ทักษะในการทางานอยา่ งเป็นขัน้ ตอน มงุ่ มั่นแสวงหาความรู้ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมในการดารงชวี ิต
และการทางาน

สามารถนาความรูไ้ ปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน ทางานดว้ ยความเสียสละ แก้ปญั หาการทางาน

อยา่ งมีเหตุผล เกดิ ความตระหนัก และเหน็ คณุ คา่ ของการทางาน มีความสามารถในการตดั สินใจ มีจริยธรรม
คุณธรรม คา่ นิยมทเี่ หมาะสม มีความเป็นประชาธปิ ไตย มีเจตคติที่ดีต่อการพัฒนาคุณภาพชวี ิตโดยยึดหลัก

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ หลักคิดหลกั ปฏิบัตใิ นการเรยี นรู้ มเี จตคตทิ ่ดี ีตอ่ อาชีพ เห็นความสาคญั ของ
การสร้างอาชพี และมจี ติ สานกึ ในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากร และสงิ่ แวดลอ้ ม
ผลกำรเรียนรู้

1. สามารถอธิบายเกยี่ วกับความหมายของธุรกิจเกษตรและระบบธรุ กจิ เกษตรได้
2. สามารถอธบิ ายเก่ยี วกบั หลกั นโยบายของรัฐบาลและกฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั ระบบธุรกจิ เกษตรได้

3. สามารถอธิบายเก่ยี วกบั องคก์ รธุรกิจเกษตรของไทยและ หน้าที่พนื้ ฐานในการจัดการธรุ กจิ เกษตรได้
4. สามารถอธบิ ายหลกั การการจดั การผลิต การจัดการการตลาด บันทกึ บัญชีและการจัดการ
ทางการเงินอยา่ งง่ายได้

5. ปฏิบัตกิ ารเขียนแผนธุรกิจ เกษตรได้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
6. สามารถอธิบายเก่ยี วกบั โครงการธุรกจิ เกษตร การจัดการธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม และการวิเคราะห์

กรณตี วั อย่างทางด้านธรุ กิจเกษตร
7. สามารถวิเคราะหป์ ัญหาและแนวทางแกไ้ ขปญั หาธรุ กิจเกษตรได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

รวม 7 ผลกำรเรียนรู้

136

กลุม่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพ คำอธิบำยรำยวชิ ำ
ง20211 งำนประดิษฐ์ 6
เวลำ 60 ช่วั โมง รำยวิชำเพมิ่ เตมิ
ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 3 ภำคเรยี นที่ 2

เวลำ 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเกยี่ วกบั ฝกึ ปฏิบัติการร้อยมาลยั เซน่ มาลัยเถา มาลัยพวงดอกไม้ มาลยั สามกษัตรยิ ์ มาลัยครยุ
มาลัยตัวสัตว์ การออกแบบมาลยั เพือ่ ใชใ้ นโอกาสตา่ งๆ เซน่ พิธแี ต่งงาน พธิ บี วงสรวง ฯลฯ การเลือกทา
โครงงานการรอ้ ยมาลัย ศลิ ปะและวัฒนธรรมท่ีเกย่ี วข้องกับงานรอ้ ยมาลัย การเลือกดอกไม้และวัสดตุ กแต่งการ
ร้อยมาลยั แบบต่างๆ การใช้และบารุงรักษาอุปกรณก์ ารบรรจมุ าลัยสาหรับจาหนา่ ย รวมท้ังศึกษาคาศพั ท์
ภาษาต่างประเทศทเ่ี กี่ยวข้องเพื่อการพฒั นาสปู่ ระชาคมอาเซียน

โดยใชก้ ระบวนการศึกษาตัวอย่าง การฝกึ ปฏบิ ัตงิ านการเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ์ในการร้อยมาลยั แบบ
ตา่ งๆเซ่นมาลยั เถา มาลัยพวงดอกไม้ มาลยั สามกษตั ริย์ กระบวนการเรียนรู้โดยการทาโครงงาน การฝกึ
คานวณค่าใช้จ่ายกาหนดราคาคา่ บริการจัดจาหน่ายจดบนั ทึกการปฏิบัตงิ านทาบัญชีรบั จา่ ย ใช้ทกั ษะ
กระบวนการกลุ่ม การวางแผนและการแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีคุณธรรม จริยธรรม มีความ ซื่อสัตย์ มรี ะเบยี บวนิ ยั และความรบั ผดิ ชอบมีสมรรถนะ
สาคญั มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นหลกั คดิ หลกั ปฏิบัติในการเรียนรู้
สามารถเลอื กใชว้ ัสดใุ นการปฏบิ ัตงิ านไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและ คานึงถงึ การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม

ผลการเรียนรู้
1. ผเู้ รยี นอธบิ ายหลกั การวธิ ีการและกระบวนการเกย่ี วกบั ศิลปะและวฒั นธรรมท่เี ก่ียวช้องกบั งานรอ้ ย

มาลัยการเลือกดอกไมแ้ ละวัสดุตกแต่งการร้อยมาลัยแบบต่างๆการใชแ้ ละบารงุ รักษาอปุ กรณก์ ารบรรจุสาหรบั
จาหนา่ ย

2. ผู้เรยี นปฏิบัตงิ านเตรียมวสั ดุอุปกรณใ์ นการรอ้ ยมาลยั รอ้ ยมาลัยแบบตา่ งๆ เซ่น มาลยั เถา มาลยั
พวงดอกไม้ เป็นต้น คานวณคา่ ใช้จ่ายกาหนดราคาค่าบรกิ ารจัดจาหนา่ ยจดบันทกึ การปฏิบัติงานทาบัญชรี ับ
จ่ายและประเมนิ ผลประดิษฐม์ าลัยอย่างมีความคิดสร้างสรรค์

3. ผู้เรียนสามารถพฒั นาชิ้นงานโดยใชเ้ ทคโนโลยแี ละภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ที่เหมาะสมเพอ่ื สร้างแนวคดิ
ใหม่ๆในการทางานและสร้างรายได้

4. ผเู้ รยี นมีความรู้เก่ยี วกบั การจดั ทาโครงงานสามารถเลือกทาโครงงานเก่ยี วกบั งานร้อยมาลยั ได้
เหมาะสมกับความถนัดและความสนใจของตนเอง

5. ผเู้ รยี นมที กั ษะการจัดการในการทางานรว่ มกนั และสามารถร้อยมาลัยแบบตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งมืออาชีพ

137

6. ผูเ้ รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรมและลกั ษณะนิสยั ในการทางาน ใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากรในการทางาน
อย่างคุ้มค่าและยงั่ ยนื เพือ่ การอนรุ ักษส์ ่ิงแวดล้อม
รวมทงั หมด 6 ผลการเรยี นรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำ วิชำเพม่ิ เติม
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ กำรงำนอำชีพ
ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 3 ภำคเรียนท่ี 2
รหัสวชิ ำ ง20212 เทคโนโลยีกำรเกษตร 6 จำนวน 1.0 หน่วยกิต
เวลำ 40 ช่วั โมง

ศึกษาและวิเคราะห์ ความสาคญั ของการเกษตร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มผี ลต่อการปลกู

พชื ทฤษฎี เศรษฐศาสตร์การผลิตแนวคิดด้านการบรหิ ารและจัดการฟาร์มตามแนวเกษตรพอเพียง เกษตรกร
ยคุ ใหม่ เทคโนโลยกี ารเกษตร การเกษตรอัจฉรยิ ะ การปฏิบัติปลูกพชื ผักอายุสั้นโดยใช้เทคโนโลยีอย่างงา่ ย
เพือ่ การพฒั นาสปู่ ระชาคมอาเซียน

โดยใช้ทักษะกระบวนการ การทางานเปน็ กลุ่ม ทกั ษะการคดิ ทักษะการแกป้ ัญหา ตลอดจน
ทักษะในการทางานอยา่ งเป็นขั้นตอน มุ่งมนั่ แสวงหาความรู้ มีคุณธรรม จริยธรรมในการดารงชีวิต

และการทางาน
สามารถนาความรูไ้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวัน ทางานด้วยความเสียสละ แก้ปัญหาการทางาน

อย่างมีเหตผุ ล เกิดความตระหนกั และเห็นคุณคา่ ของการทางาน มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ มีจรยิ ธรรม

คุณธรรม คา่ นิยมท่เี หมาะสม มีความเป็นประชาธปิ ไตย มีเจตคตทิ ่ีดตี ่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยยึดหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นหลกั คิดหลักปฏิบัติในการเรียนรู้ มเี จตคติท่ีดีต่ออาชีพ เห็นความสาคญั ของ

การสรา้ งอาชพี และมจี ิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และส่งิ แวดลอ้ ม
ผลกำรเรียนรู้

1. นักเรียนสามารถอธบิ ายความสาคัญของการเกษตรได้

2. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศที่มีผลตอ่ การปลกู พืชได้
3. นักเรียนสามารถอธบิ ายทฤษฎี เศรษฐศาสตร์การผลิตได้

4. นักเรยี นสามารถอธบิ ายแนวคดิ ด้านการบริหารและจดั การฟาร์มตามแนวเกษตรพอเพียงได้
5. นักเรียนสามารถอธิบายความหมาย และความสาคญั ของเกษตรกรยุคใหม่ได้
6. นกั เรยี นสามารถอธิบายหลักเทคโนโลยีการเกษตร ได้

7. นกั เรียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั หลกั แนวคิดเกษตรอัจฉรยิ ะเพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวันได้
8. นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิการนาเทคโนโลยีอย่างง่ายไปประยุกตก์ ับการปลูกพืชผกั อายุสัน้ ได้

รวม 8 ผลกำรเรียนรู้

138

คำอธบิ ำยรำยวิชำ ชน้ั มัธยมศึกษำปีที่ 1ภำคเรยี นท่ี 1

กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศวิชำพื้นฐำน
รหัสวชิ ำ อ21101 ภำษำองั กฤษ
เวลำ 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ปฏบิ ัติตามคาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จง อา่ นออกเสียงข้อความนทิ าน

ระบหุ ัวเร่อื ง ใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟัง อ่านบทสนทนา นิทาน เรอื่ งสั้น สนทนาแลกเปล่ยี น
ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง กิจกรรมและสถานการณต์ ่างๆในชีวิตประจาวัน ใหข้ อ้ มลู พูดและเขยี นแสดงความรสู้ ึก

เกี่ยวกบั ตนเอง เร่อื งใกล้ตวั กจิ กรรมต่างๆพรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผลส้นั ๆประกอบ บรรยายเกี่ยวกับกิจวตั รประจาวัน
ประสบการณ์ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ใช้นา้ เสียง กิริยาท่าทาง สุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษาและในประเทศสมาชิกอาเซียน บรรยายเก่ียวกับเทศกาล วนั สาคญั ชีวิตความเป็นอยู่

ประเพณีของเจ้าของภาษาบอกและเปรียบเทียบความเหมือนความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิด
ต่างๆ การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน การลาดบั ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทยชีวิต
ความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษากับวิถีชีวิตในชมุ ชน ค้นควา้ รวบรวม สรุป สืบค้น นาเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง
ต่างๆ ทเี่ กย่ี วกับ กจิ กรรม ประเพณีท่ีสาคัญในจังหวดั ขอนแกน่ และในประเทศสมาชิกอาเซียนใชภ้ าษาสอ่ื สาร
ในสถานการณ์จรงิ สถานการณ์จาลองท่เี กดิ ขึ้นในห้องเรียนและสถานศกึ ษา จากส่อื และแหล่งเรียนรูต้ า่ งๆ เพือ่

ใชใ้ นการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นหลักคิดหลกั ปฏบิ ัติในการเรยี นรู้
โดยใช้ทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษา การฟัง การอ่าน การพูด การเขียน การคิดวเิ คราะห์ การ

เปรียบเทยี บ การแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น การเรียนรูจ้ ากประสบการณจ์ รงิ การนาเสนอแลกเปล่ยี น
ขอ้ มลู การสบื คน้ คน้ ควา้ รวบรวมสรุปนาเสนอข้อมลู ตา่ งๆ

เพอ่ื ใหม้ ีการปรับตัวใหเ้ กิดความสามารถในการสื่อสารและการนาไปใช้อยา่ งถูกตอ้ งมีประสิทธภิ าพ

มเี หตผุ ล เหมาะสมกับกาลเทศะเป็นพ้นื ฐานในการพฒั นาแสวงหาความรู้เปิดโลกทัศน์ของตนเองให้เป็นผู้มี
ความใฝ่รู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน มวี ินยั มีความสามารถในการแกป้ ัญหาและการใชท้ กั ษะชวี ิต รักชาติ ศาสน์

กษัตริยแ์ ละรกั ความเป็นไทย

รหัสตัวชี้วดั ต1.2 ม.1/1, 2, 4, 5
ต1.1 ม.1/1, 2, 3, 4 ต 2.2 ม.1/1, 2
ต 1.3 ม.1/1, 2, 3
ต 4.1 ม.1/1
รวม 14ตัวชี้วัด

139

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 1ภำคเรียนที่ 2

กลุ่มสำระกำรเรยี นร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ วิชำพนื้ ฐำน
รหัสวิชำ อ21102 ภำษำอังกฤษ
เวลำ 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษาการอ่านออกเสยี งข้อความนทิ าน บทรอ้ ยกรองสัน้ ๆ เลือกระบุประโยคข้อความทส่ี ัมพนั ธ์กบั ส่ือ

ท่ีไมใ่ ช่ความ ใช้คาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จงตามสถานการณ์ พดู และเขียนแสดงความต้องการ ขอความ
ช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ อยา่ งเหมาะสม สรุปใจความสาคัญ

แกน่ สาระทไี่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์ เร่ือง เหตุการณ์ที่อย่ใู นความสนใจของสังคม ใช้น้าเสียง กริ ยิ าท่าทาง สภุ าพ
เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บรรยายเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สาคญั ชีวิตความ
เป็นอยู่ ประเพณีของเจ้าของภาษาในประเทศสมาชกิ อาเซียน เข้ารว่ มจัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตาม

ความสนใจ บอกและเปรยี บเทยี บความเหมอื นความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้
เครอื่ งหมายวรรคตอน การลาดับตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทยชวี ิตความเป็นอยู่

ของเจา้ ของภาษากบั วถิ ีชวี ิตในชุมชน และประเพณที สี่ าคญั ในจงั หวดั ขอนแกน่ ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงเป็นหลกั คิดหลกั ปฏิบัติในการเรยี นรู้

โดยใช้ทกั ษะการส่อื สารทางภาษา การฟัง การอา่ น การพดู การเขียน การคดิ วเิ คราะห์ การ

เปรียบเทียบ การแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เห็น การเรียนรู้จากประสบการณ์จรงิ การนาเสนอแลกเปลีย่ น
ขอ้ มลู การสืบค้น ค้นคว้า รวบรวมสรปุ นาเสนอข้อมูลต่างๆ การทางานเป็นกลุม่

เพื่อมีการปรบั ตวั ให้เกิดความสามารถในการส่ือสารและการนาไปใชอ้ ย่างถกู ตอ้ งมีประสทิ ธภิ าพ มี
เหตผุ ล เหมาะสมกบั กาลเทศะเปน็ พ้ืนฐานในการพัฒนาแสวงหาความรู้เปดิ โลกทัศนข์ องตนเองให้เป็นผมู้ ีความ
ใฝร่ ู้ มงุ่ ม่นั ในการทางาน มีวินัย มคี วามสามารถในการแก้ปัญหาและการใชท้ กั ษะชวี ิต รักชาติ ศาสน์

กษตั ริย์และรักความเป็นไทย ไทย

รหัสตัวช้ีวัด ต1.2 ม.1/1, 3, 4, 5
ต 2.1 ม.1/1, 2
ต 1.1 ม.1/1, 4
ต 1.3 ม.1/1, 2 ต 3.1 ม.1/1
ต4.2 ม.1/1
ต2.2 ม.1/1, 2
ต 4.1 ม.1/1
รวม 15 ตวั ชวี้ ัด

140

คำอธิบำยรำยวชิ ำ วิชำพนื้ ฐำน
ช้ันมธั ยมศึกษำปีที 2ภำคเรยี นท่ี 1
กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ
รหสั วิชำ 22101 ภำษำองั กฤษ
เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาคาอธิบายงา่ ยๆตามสถานการณข์ ้อความ ขา่ วประกาศบทร้อยกรองสนั้ ๆหลักการอ่านหัวขอ้ เร่อื ง

ใจความสาคญั ใชแ้ ละปฏิบตั ิตามคาขอรอ้ งคาแนะนา คาชี้แจง และ เรอื่ งท่ีฟังและอา่ นบทสนทนา นิทานเรื่อง
ส้ันและเรื่องจากสื่อประเภทต่างๆข้อมูลเก่ี ยวกับตนเองเร่ืองต่างๆใกล้ตัวและสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวันใช้ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการ

ให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ การแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และให้เหตุผลประกอบ ข้อมูล
เกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน ประสบการณ์ ข่าวเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม ใจความสาคัญ

แก่นสาระหัวข้อเรื่องท่ีได้จากการวิเคราะห์เรอ่ื ง ขา่ วเหตุการณ์ ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม ภาษานา้ เสยี ง และ
กิริยาท่าทางตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและในประเทศสมาชิกอาเซียนเทศกาล วัน
สาคัญ ชีวิตความเป็นอยู่และประเพณี ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ

และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทยข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงท่ี
เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้สถานการณ์จริงสถานการณ์จาลองท่ีเกดิ ขึ้นในห้องเรียน

สถานศึกษา ชุมชนยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นหลกั คดิ หลักปฏบิ ตั ิในการเรียนรู้
โดยใชท้ ักษะการสื่อสาร การฟงั การพูด การ และการเขยี น การแสดงความคิดเห็นพร้อมทั้งให้เหตุผลและ

ยกตัวอย่างการสนทนาแลกเปล่ียนเปรียบเทียบและอธิบายใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม การค้นคว้า รวบรวม และ

นาเสนอ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ กระบวนการเรียนรู้ตามสถานการณ์จริง สถานการณ์จาลองที่เกิดข้ึนใน
สถานศกึ ษา และชมุ ชน

เพือ่ ให้นักเรียนมีการปรับตัวมีความสามารถในด้านการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนและการแสดง
ความคดิ อย่างมีเหตุผล มีมารยาทเหมาะสมกับกาลเทศะ และวัฒนธรรม สนใจใฝ่รู้ใฝ่เรียนเป็นพ้ืนฐานในการพัฒนา
ตนเองมีความสามารถในการแก้ปญั หา และการใช้ทกั ษะชีวิต รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ และรักความเป็นไทย

รหัสตวั ช้ีวัด ต 1.2 ม.2/1 ม.2/3ม.2/5
ต 1.1 ม.2/1 ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1 ม.2/2
ต 3.1 ม.2/1
ต 1.3 ม.2/1 ม.2/3 ต 4.2 ม.2/1 ม.2/2
ต 2.2 ม.2/1 ม.2/2

ต 4.1 ม.2/1

รวม 15 ตวั ชีว้ ดั

141

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ วิชำพ้นื ฐำน

รหสั วชิ ำ 22102 ภำษำอังกฤษ ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 2ภำคเรยี นท่ี 2

เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

ใชแ้ ละปฏบิ ัติตามคาขอรอ้ งคาแนะนา คาชแี้ จง และคาอธิบายงา่ ยๆ ประโยคและข้อความให้สัมพันธ์

กับสื่อท่ไี ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆหัวข้อเรือ่ ง ใจความสาคญั เร่อื งทีฟ่ งั และอ่านบทสนทนา นิทานเรือ่ งสั้น
และเรอื่ งจากสือ่ ประเภทต่างๆขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองเร่อื งต่างๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ตา่ งๆ คาขอรอ้ ง

คาแนะนา คาชแี้ จงและคาอธบิ ายตามสถานการณ์ใชภ้ าษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วาม
ช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ การแสดงความรสู้ กึ ความคิดเหน็
และให้เหตุผลประกอบ ใจความสาคัญ แก่นสาระหัวข้อเรื่องท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่ือง ข่าวเหตกุ ารณ์ ท่ีอยใู่ น

ความสนใจของสงั คม กจิ กรรม เรอื่ งตา่ งๆใกลต้ ัวและประสบการณ์ เทศกาล วนั สาคัญ ชีวติ ความเป็นอยแู่ ละ
ประเพณี ความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆและการลาดับคาตาม
โครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทยและในประเทศสมาชกิ อาเซยี นข้อมลู ขา่ วสาร
ขอ้ เทจ็ จริงท่เี ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ่นื จากแหลง่ เรยี นรสู้ ถานการณจ์ ริงสถานการณ์จาลองทเ่ี กิดขึ้น
ในห้องเรยี น สถานศึกษา ชมุ ชน

โดยใชท้ ักษะการสือ่ สาร การฟัง การพดู การอ่าน และการเขียน การแสดงความคดิ เหน็ พรอ้ มทง้ั ให้
เหตุผลและยกตวั อยา่ งการสนทนาแลกเปลยี่ นเปรียบเทยี บและอธิบายใช้ทักษะกระบวนการกลมุ่ การค้นคว้า

รวบรวม และนาเสนอ เผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ กระบวนการเรยี นรู้ตามสถานการณจ์ รงิ สถานการณ์จาลองท่ี
เกดิ ขนึ้ ในสถานศึกษา และชุมชน

เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมคี วามสามารถในด้านการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนและการแสดงความคิด

อยา่ งมีเหตุผล มีมารยาทเหมาะสมกับกาลเทศะ และวฒั นธรรม สนใจใฝร่ ู้ใฝเ่ รียนเปน็ พนื้ ฐานในการพัฒนา
ตนเองมคี วามสามารถในการแกป้ ัญหา และการใช้ทักษะชวี ิต รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ และรกั ความเป็นไทย ยึด

หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ หลกั คดิ หลักปฏิบตั ใิ นการเรยี นรู้

รหัสตวั ชี้วดั ต 1.2 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5
ต 2.1 ม.2/2-3
ต 1.1 ม.2/1 ม.2/3ม.2/4
ต 1.3 ม.2/2 ม.2/3 ต 3.1 ม.2/1
ต 4.2 ม.2/2
ต 2.2 ม.2/1 ม.2/2
ต 4.1 ม.2/1
รวม 16 ตวั ชีว้ ดั

142

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ วิชำพ้นื ฐำน

วิชำ ภำษำอังกฤษ 23101 1 ภำคเรียนที่ 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี

เวลำ ชัว่ โมง 60 หน่วยกิต 1.5 จำนวน

............................................................................................................................. ................................

ปฏิบัตติ ามและใช้คาขอรอ้ งใหค้ าแนะนา คาช้ีแจง คาอธิบายอย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมตามกาลเทศะ
อ่านออกเสยี งคาศพั ท์ สานวน ประโยค ข้อความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสัน้ ๆได้ถกู ต้องตามหลกั การ

อ่าน เลือก ระบแุ ละเขยี นหัวขอ้ ใจความสาคัญและส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบตา่ งๆ แสดงความคิดเหน็ จาก
เรอื่ งทฟ่ี ังและอ่าน พร้อมให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ พดู สนทนาและเขยี นบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับ

ตนเอง เรอื่ งต่างๆใกล้ตัว สถานการณ์ ขา่ ว เร่ืองท่ีอยู่ในความสนใจของสังคมและในประเทศสมาชิกอาเซียนได้
อยา่ งถกู ตอ้ ง เลือกใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิรยิ าท่าทาง อธิบายเปรียบเทยี บเก่ยี วกบั ชวี ติ ความเป็นอยู่
ขนบธรรมเนยี มประเพณี วฒั นธรรมของเจ้าของภาษากับวัฒนธรรมไทย เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและ

วฒั นธรรมตามความสนใจ ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู ขอ้ เท็จจริง แลว้ นาเสนอด้วยการพูดและการเขียน
ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นรแู้ ละส่อื สารในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรยี น

สถานศึกษา ชุมชนและสงั คม อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม

โดยใช้ทักษะการสื่อสารทางภาษา การฟงั การพูด การอ่าน และการเขยี น การแสดงความคิดเหน็ การ

สนทนาแลกเปลี่ยน เปรยี บเทียบและอธิบาย ใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม การค้นคว้า รวบรวม และนาเสนอ เผยแพร่
นการณจ์ รงิ สประชาสัมพนั ธ์ ใช้กระบวนการเรียนรู้ตามสถาถานการณ์จาลองที่เกิดข้นึ ในสถานศึกษา และชุมชน

เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมีความสามารถในการส่อื สารอย่างมมี ารยาท เหมาะสมกับกาลเทศะ มีเหตุผล ใฝร่ ู้ใฝ่เรียน
รักการคน้ คว้าหาความร้ดู ว้ ยตนเอง มีความสามารถในการแก้ปญั หา การใช้ทักษะชวี ติ ตลอดจนมีความรกั ชาติ
าสน์ กษัตรยิ ์ศ และรักความเปน็ ไทย

รหัสตวั ชี้วัด
ต 1/3.ม 1.1ม 2/3.ม4/3.
ต 1/3.ม 1.2ม 2/3.ม 3/3.ม5/3.
ต 1/3.ม 1.3ม2/3.
ต 1/3.ม 2.1ม2/3.
ต 1/3.ม 2.2
ต 1/3.ม 3.1
ต 1/3.ม 4.1 ต 1/3.ม 4.2

รวม ตวั ช้วี ดั 15

143

อธบิ ำยรำยวชิ ำ

กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ วชิ ำพ้นื ฐำน

รหัสวิชำ อ 23102 ภำษำองั กฤษ 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี ภำคเรียนท่ี 2

เวลำ 60 ชัว่ โมง 1.5 จำนวน หน่วยกติ

.............................................................................................................................................................

ปฏิบตั ิตามและใช้คาขอร้อง ให้คาแนะนา คาชี้แจง คาอธิบายอย่างถกู ต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ

อ่านออกเสียงคาศัพท์ สานวน ประโยค ขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆได้ถกู ต้องตามหลกั การ

อา่ น เลือก ระบแุ ละเขียนหวั ข้อ ใจความสาคญั และสอื่ ท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ แสดงความคิดเหน็ จาก

เร่อื งท่ีฟงั และอ่าน พร้อมใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ พูดสนทนาและเขียนบรรยายขอ้ มลู เกี่ยวกับ

ตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆใกล้ตัว สถานการณ์ ขา่ ว เรอื่ งที่อยใู่ นความสนใจของสงั คมไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เลอื กใชภ้ าษา

น้าเสียง และกริ ยิ าทา่ ทาง อธบิ ายเปรียบเทียบเกี่ยวกับชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มประเพณี วฒั นธรรม

ของเจ้าของภาษากับวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมในประเทศสมาชิกอาเซยี น เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ

วฒั นธรรมตามความสนใจ คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล ข้อเท็จจรงิ แลว้ นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น

ทเ่ี กยี่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่นื จากแหลง่ เรียนรู้และสอ่ื สารในสถานการณ์ทีเ่ กิดขนึ้ ในห้องเรยี น

สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม อย่างถูกต้องเหมาะสม

โดยใช้ทกั ษะการสื่อสารทางภาษา การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน การแสดงความคิดเห็น การ

สนทนาแลกเปลย่ี น เปรยี บเทียบและอธิบาย ใช้ทักษะกระบวนการกล่มุ การค้นควา้ รวบรวม และนาเสนอ

เผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ ใช้กระบวนการเรียนร้ตู ามสถานการณจ์ ริง สถานการณ์จาลองทีเ่ กิดข้ึนในสถานศึกษา

และชุมชน

เพ่ือให้ผูเ้ รยี นมีความสามารถในการส่ือสารอยา่ งมีมารยาท เหมาะสมกบั กาลเทศะ มีเหตุผล ใฝ่ร้ใู ฝ่

เรยี น รักการค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง มีความสามารถในการแก้ปญั หา การใช้ทักษะชวี ติ ตลอดจนมี

ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ และรกั ความเป็นไทย

รหัสตวั ชี้วดั
ต 1.1 ม.3/1 ม.3/3 ม.3/4
ต 1.2 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5
ต 1.3 ม.3/2 ม.3/3

ต 2.1 ม.3/1-2 ต2.2 ม.3/1 ม.3/2
ต 3.1 ม.3/1
ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/2

รวม 16 ตวั ช้ีวัด


Click to View FlipBook Version