The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

20104 - 2102 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ooonononza2539, 2021-04-02 04:12:42

20104 - 2102 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร

20104 - 2102 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร

101

8. จากรูปข้างลา่ ง เป็นสญั ลักษณ์ของบริดจ์ชนิดใด

ก. ไดโอดบรดิ จ์ 5 ขา
ข. ไดโอดซิงเกิลบริดจ์
ค. ไดโอดบริดจซ์ งิ เกลิ เฟส
ง. ไดโอดบริดจ์ 3 เฟส

9. อะไรเปน็ ข้อสงั เกตวงจรเรยี งกระแสแบบบริดจ์
ก. ขั้ว AC จะต่อเข้ากับข้ัวแอโนดและแคโทดของไดโอค 2 ตัว
ข. ข้ัวบวกของบรดิ จ์จะตอ่ ขา้ กับขัว้ แอโนดของไดโอค 2 ตัว
ค. ขัว้ ลบของบริดจจ์ ะต่อเข้กบั ข้ัวแคโทดของไดโอด 2 ตวั
ง. ถูกทกุ ขอ้

10. จากรูปไดโอดกู่ใดจะทางานพรอ้ มกัน

ก. D1 และ D2
ค. D2 และ D3
ข. D3 และ D4
ง. D4 และ D1

102

16. ใบความรู้ที่ ...4.....

สัปดาหท์ ี่ .....4.....ชื่อหนว่ ยการสอน วงจรเรยี งกระแสเต็มคลืน่ แบบบรดิ จ์
วตั ถุประสงค์ เพื่อ การประเมนิ ผลความรคู้ วามเข้าใจของผู้เรียนกอ่ นเรยี น

16.1 วงจรเรียงกระแสเต็มคล่ืนแบบบรดิ จ์ (Bridge Rectifier)
วงจรเรียงกระแสเต็มคลน่ื แบบบรดิ จม์ ีลกั ษณะเหมอื นวงจรเรียงกระแสแบบเตม็ คล่ืน เพราะแรงดนั เอาต์พุตท่ี
ได้เป็นแบบเต็มคล่ืน ข้อแตกตา่ งระหว่างการเรียงกระแสเต็มคลืน่ แบบบรดิ จแ์ ละแบบเต็มคลน่ื ธรรมดา
ต่างกนั ตรงการต่อวงจรไดโอด แบบเต็มคล่ืนจะใช้ไดโอด 2 ตวั แบบบริดจจ์ ะใช้ไดโอด 4 ตัว และหม้อ
แปลงไฟฟ้าท่ใี ชก้ ็แตกต่างกัน แบบเตม็ คล่นื ธรรมดาใชห้ ม้อแปลงมแี ทป็ กลาง

16.2 การทางานวงจรเรยี งกระแสเตม็ คล่ืนแบบบริดจ์
การทางานของวงจร ไดโอดจะผลัดกนั นากระแสคร้ังละสองตวั โดยเมือ่ ไซเคลิ บวกของแรงดนั ไฟสลับ ("V"
_"in" ) ปรากฎทด่ี า้ นบนของทตุ ยิ ภูมขิ องหม้อแปลง และด้านลา่ งจะเปน็ ลบ จะทาใหไ้ ดโอด "D" _"1" และ
"D" _"2" ได้รบั ไปแอสตรง จะมกี ระแสไหลผา่ นไดโอด "D" _"1" ผ่านโหลด "R" _"L" ผา่ นไดโอด "D"
_"2" ครบวงจรที่หม้อแปลงดา้ นล่าง มแี รงดนั ตกครอ่ มโหลด "R" _"L" ดา้ นบนเป็นบวก ดา้ นล่างเป็นลบ
ไดแ้ รงดนั ไฟช่วงบวกออกทางเอาต์พุต

16.3 แรงดันเอาตพ์ ตุ ของวงจร
วงจรเรยี งกระแสเต็มคลืน่ ทัง้ แบบมีแท็ปกลางและแบบบริดจ์จะให้แรงดันเอาต์พดุ ทุกๆ คร่ึงรอบแรงดนั ไฟสลับ
ทเี่ ขา้ มาท้งั ซีกบวกและซลี บ ค่าเฉล่ียของแรงดันเอาต์พตุ จึงมีค่าเปน็ สองเท่าของแรงดันไฟตรงที่ไดจ้ ากวงจร
เรยี กกระแสแบบครึ่งคลืน่ ค่าแรงดันเอาต์พตุ มคี า่ เป็น 0.636 เทา่ ของแรงดันไฟสูงสุด

16.4 แรงดันสูงสุดด้านกลบั (Peak inverse Voltage)
วงจรเรียงกระแสเต็มคลืน่ แบบบรดิ จ์จะมีค่าแรงดนั สูงสดุ ้านกลับ (PIV) นอ้ ยกว่าวงจรเรยี งกระแสเต็มคล่นื ท่ี
ใชห้ มอ้ แปลงท่ีแทป็ ครงึ่ หนึง่

16.5 ไดโอดบริดจ์แบบต่างๆ
วงจรเรยี งกระแสแบบบรดิ จ์เปน็ ท่ีนยิ มใชก้ ันมาก จึงมีการผลติ ไดโอดแบบบริดจ์ขนึ้ มาใชง้ านกลายเป็นไดโอด
สาเรจ็ รูปโดยยงั คงมีโครงสร้างเหมือนกับบรดิ จ์ทีใ่ ช้ไดโอด 4 ตวั และถา้ เปน็ วงจรทตี่ อ้ งเรียงกระแสไฟ 3
เฟสจะมีไดโอดเพิ่มข้ึนมาอีก 2 ตวั กลายเป็นไดโอดบริดจ์ 5 ขา แทนท่จี ะมีขาใชง้ าน 4 ขาเหมือนกบั
ไดโอดเฟสเดียว

103

17. ใบงาน
17 ใบกิจกรรมท่ี ....4....

สัปดาหท์ ่ี .....4.....ชื่อหน่วยการสอน วงจรเรยี งกระแสเต็มคลน่ื แบบบริดจ์
จดุ ประสงค์ เพ่ือ

1. วเิ คราะห์และตคี วามหมาย
2. ตง้ั คาถาม
3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง
4. การประยุกต์ความรู้สงู่ านอาชีพ

สมรรถนะการปฏบิ ัติงานอาชีพ
1. แสดงความรเู้ ก่ียวกับวงจรเรียงกระแสเตม็ คลื่นแบบบรดิ จ์

สมรรถนะการขยายผล
ความสอดคล้อง
จากการเรียนเรือ่ ง วงจรเรียงกระแสเตม็ คลืน่ แบบบริดจ์ (Full Wave Bridge

Rectifier) ทาใหผ้ เู้ รียนมีความร้เู พมิ่ เกี่ยวกับวงจรเรียงกระแสเตม็ คล่ืนแบบบริดจเ์ ป็นวงจรที่
แกไ้ ขจดุ ออ่ นของวงจรเรียงกระแสเตม็ คลื่นแบบใช้หม้อแปลงทมี่ ีเซนเตอร์แทป็ ซง่ึ มรี าคาแพง
ไดโอดจะนากระแสครง้ั ละตวั ทาให้ทางานหนกั ส่วนวงจรเรียงกระแสเตม็ คลนื่ แบบบรดิ จ์ ไม่
จาเปน็ ตอ้ งใช้หม้อแปลงเซ็นเตอร์แทปทาให้ประหยัดขนึ้ และไดโอดจะนากระแสคร้งั ละ 2 ตัว ทา
ให้ไดโอดทนแรงดนั สงู ขน้ึ เอาต์พทุ ของวงจร ตลอดจนรปู รา่ งจะมีลกั ษณะเหมอื นกบั วงจรเรียง
กระแสเตม็ คล่นื ทกุ อย่าง

104

18. แบบประเมนิ ผล

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 1 บรรยายลักษณะวงจรเรยี งกระแสเต็มคลื่นแบบบรดิ จ์ได้

1.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บรรยายลักษณะวงจรเรียงกระแสเต็มคล่นื แบบบริดจไ์ ด้ จะ

ได้ 1 คะแนน

จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 2 สรปุ การทางานของวงจรเรียงกระแสเตม็ คลน่ื แบบบรดิ จไ์ ด้

1.วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ

2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน : สรุปการทางานของวงจรเรยี งกระแสเต็มคลนื่ แบบบริดจไ์ ด้ จะ

ได้ 1 คะแนน

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 สงั เกตไดโอดบริดจแ์ บบต่างๆได้

1.วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ

2.เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารให้คะแนน : สังเกตไดโอดบริดจ์แบบตา่ งๆได้ จะได้ 2 คะแนน

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4 ฝึกคานวณหาแรงดนั สงู สดุ ด้านกลับได้

1.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ

2.เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ฝกึ คานวณหาแรงดันสงู สดุ ดา้ นกลบั ได้ จะได้ 2 คะแนน

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 ยอมรับแรงดันเอาตพ์ ตุ ของวงจรและแรงดนั สงู สดุ ดา้ นกลบั

ได้

1.วิธีการประเมิน : ทดสอบ

2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารให้คะแนน : ยอมรับแรงดันเอาตพ์ ุตของวงจรและแรงดนั สงู สุดดา้ นกลับได้

จะได้ 2 คะแนน

105

จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 6 คานวณหาแรงดันสงู สดุ ด้านกลับได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม

1.วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ

2.เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การให้คะแนน : คานวณหาแรงดันสงู สดุ ด้านกลับได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม จะ

ได้ 2 คะแนน

19. แบบฝึกหดั

1.จงบรรยายลกั ษณะวงจรเรยี งกระแสเต็มคลนื่ แบบบริดจ์
2.การทางานของวงจรเรียงกระแสเตม็ คลื่นแบบบริดจ์มีลาดับการทางานอยา่ งไร
3.ไดโอดบริดจแ์ บบตา่ งๆ แตกตา่ งกนั หรือไมอ่ ย่างไร
4.จงคานวณหาแรงดนั สงู สดุ ด้านกลบั
5.แรงดันเอาต์พุตของวงจรและแรงดันสงู สดุ ด้านกลับเหมือนกันหรือไม่

106

20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนร้แู บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้

รายการ ระดับการปฏบิ ตั ิ
54321

ด้านการเตรยี มการสอน

1.จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ได้สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้

2. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมทัง้ ดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะ และด้านจิตพสิ ยั

3. เตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรกู้ ่อนเข้า

สอน

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มวี ธิ กี ารนาเขา้ สบู่ ทเรยี นที่น่าสนใจ

5. มีกิจกรรมทห่ี ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ้เู รียนเกดิ การเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมใหผ้ ู้เรียนค้นควา้ เพื่อหาคาตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จดั กิจกรรมทเี่ นน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ู้เรียนแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จัดกจิ กรรมการเรียนรูท้ เ่ี ชอื่ มโยงกับชีวิตจริงโดยนาภูมปิ ญั ญา/บรู ณาการเขา้ มา

มีสว่ นร่วม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสรมิ แรงเมื่อนักเรียนปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใสด่ ูแลผ้เู รียน อยา่ งทว่ั ถงึ

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาทก่ี าหนด

ด้านสือ่ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใชส้ ่ือทเ่ี หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรียน

17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรยี นรู้อยา่ งหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ และอินเทอรเ์ น็ต เปน็ ตน้

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผู้เรียน อย่างทวั่ ถึง

107

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาท่ีกาหนด

ด้านการวดั และประเมนิ ผล

18. ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสัย

20. ครู ผเู้ รียน ผู้ปกครอง หรือ ผทู้ ี่เกีย่ วข้องมีสว่ นร่วม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ัติ 5 = ปฏิบตั ดิ ีเย่ียม 4 = ปฏิบัตดิ ี 3 = รวม

ปฏิบตั พิ อใช้ 2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มกี ารปฏบิ ตั ิ เฉล่ยี

20.2 ปัญหาท่พี บ และแนวทางแกป้ ญั หา แนวทางแกป้ ัญหา

ปัญหาที่พบ
ดา้ นการเตรียมการสอน

ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ด้านส่ือ นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

ด้านการวัดประเมนิ ผล

ด้านอน่ื ๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อ ๆ)

ลงชอื่ .................................................................... ครูผ้สู อน
( นายศุภกร มง่ิ คา )
ตาแหน่ง ครูพเิ ศษสอน

............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนเิ ทศและตดิ ตาม 108
ชอ่ื -สกุล ผู้นิเทศ ตาแหนง่
วนั -เดือน- เวลา รายการนเิ ทศและติดตาม
ปี

109

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหสั วชิ า ..... 20104 - 2102...... วิชา ...................... อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละวงจร.............................
สปั ดาหท์ ่ี ........5...... ช่ือหน่วย วงจรเรยี งซเี นอรไ์ ดโอด
ช่อื เร่ือง...........................................วงจรเรียงซีเนอร์ไดโอด ………….…………................จานวน...4...ชัว่ โมง

1. สาระสาคญั

ซเี นอร์ไดโอดคือไดโอดทผี่ ลิตขน้ึ มาจากสารกึง่ ตวั นาชนดิ P และ N มาตอ่ ชนกันมีลกั ษณะโครงสรา้ ง
เหมือนกบั ไดโอดธรรมดาแตกตา่ งกันตรงการโด๊ปสารกง่ึ ตัวนาชนดิ P และ N ซง่ึ จะโดป๊ มากกวา่ ปกติ ทาให้การ
ใชง้ านตา่ งจากไดโอดธรรมดาซ่ึงไดโอดธรรมดาจะใช้งานในชว่ งการจ่ายแรงดันไบอัสตรง สว่ นซเี นอร์ไดโอดจะ
ใช้งานในลักษณะจ่ายแรงดนั ไบอัสกลับ เม่ือซเี นอร์ไดโอดไดร้ ับไบอัสกลับถึงค่าแรงดันท่ีกาหนด ซีเนอร์ไดโอด
จะนากระแส และจะเกดิ แรงดันตกคร่อมตัวเองคงท่ี เชน่ 6 V , 9 V , 12 V เป็นตน้

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้

1. การตอ่ ใชง้ านซเี นอร์ไดโอด

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกบั การอธิบายสญั ลกั ษณแ์ ละคุณสมบตั ขิ องซเี นอร์ไดโอด (ด้านความรู)้
2. เพื่อใหม้ ีความรเู้ กีย่ วกบั การรวบรวมการพงั ทลายของซีเนอร์ (ด้านความรู้)
3. เพอ่ื ให้มีความร้เู กย่ี วกบั การยกตวั อยา่ งคุณลักษณะของการพังทลาย (ด้านความรู้)
4. เพ่อื ให้มีความรเู้ กี่ยวกับการจดั ลาดบั วงจรสมมลู ของซเี นอรไ์ ดโอด (ด้านความรู้)
5. เพอ่ื ให้มีทักษะในการทดลองต่อใชง้ านซีเนอรไ์ ดโอด (ด้านทกั ษะ)
6. เพอ่ื ใหม้ ีเจตคติท่ดี ีในการติดตามตารางคณุ สมบตั ิของซีเนอรไ์ ดโอด (ด้านจติ พิสยั )
7. เพอ่ื ต่อใช้งานซเี นอรไ์ ดโอดด้วยความถกู ต้อง ระมัดระวงั (ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม)

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. อธบิ ายสญั ลกั ษณ์และคุณสมบตั ิของซเี นอร์ไดโอดได้ (ด้านความรู้)
2. รวบรวมการพงั ทลายของซีเนอร์ได้ (ดา้ นความรู)้
3. ยกตัวอยา่ งคุณลักษณะของการพังทลายได้ (ด้านความร)ู้
4. จัดลาดับวงจรสมมูลของซเี นอร์ไดโอดได้ (ด้านความรู้)
5. ทดลองตอ่ ใชง้ านซเี นอร์ไดโอดได้ (ด้านทักษะ)
6. ติดตามตารางคณุ สมบัติของซีเนอร์ไดโอดได้ (ด้านจติ พิสยั )
7. ตอ่ ใชง้ านซเี นอร์ไดโอดดว้ ยความถูกตอ้ ง ระมดั ระวังได้ (ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม)

110

4. เน้อื หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้
4.1.1 โครงสร้างและสัญลกั ษณ์ ซเี นอร์ไดโอด
4.1.2 การพังทลายของซีเนอร์
4.1.3 คุณลกั ษณะของการพังทลาย
4.1.4 วงจรสมมูลของซเี นอร์ไดโอด
4.1.5 ตารางคณุ สมบัติของซีเนอร์ไดโอด
4.1.6 การใช้งานซีเนอร์ไดโอด

4.2 ดา้ นทักษะหรือปฏิบตั ิ
1. การทดลองท่ี 5 วงจรเรียงกระแสซีเนอร์ไดโอด
2. แบบทดสอบบทท่ี 5

4.3 ด้านคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง
1. ต่อใชง้ านซเี นอรไ์ ดโอดดว้ ยความถกู ตอ้ ง ระมัดระวังได้

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้

ขั้นตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ขั้นตอนการเรียนหรอื กจิ กรรมของผู้เรยี น

ขัน้ เตรยี ม(จานวน 30 นาที) ข้ันเตรียม (ใช้เวลา 30 นาที)

1 ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รียนอา่ นสาระสาคัญ หน่วยท่ี 5 เรอ่ื ง 1.ผเู้ รยี นอา่ นสาระสาคัญ หน่วยที่ 5 เร่อื ง ซเี นอร์

ซีเนอร์ไดโอด (Zener diode) หน้า 61 ไดโอด (Zener diode) หนา้ 61

2.ผสู้ อนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหนว่ ยที่ 5 2.ผู้เรยี นทาความเขา้ ใจเก่ียวกับจุดประสงค์การเรยี น

เรอื่ ง ซีเนอร์ไดโอด (Zener diode) ของหนว่ ยเรยี นท่ี 5 เร่ือง ซีเนอรไ์ ดโอด (Zener

3.ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนยกตวั อยา่ งคณุ ลกั ษณะของการ diode)

พงั ทลาย 3.ผูเ้ รียนยกตัวอยา่ งคุณลักษณะของการพังทลาย

ขั้นการสอน (จานวน 180 นาท)ี ขน้ั การสอน (จานวน 180 นาที)

1.ผสู้ อนแนะนาใหผ้ เู้ รยี นเปดิ PowerPoint และให้ 1.ผู้เรยี นศึกษาจาก PowerPoint และให้ผู้เรียน

ผเู้ รยี นเปิดเอกสารประกอบการสอนวิชา อุปกรณ์ เปดิ เอกสารประกอบการสอนวชิ า อปุ กรณ์

อิเล็กทรอนิกส์และวงจร หน่วยที่ 5 เรอ่ื ง ซีเนอร์ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์และวงจรหนว่ ยท่ี 5 เร่ือง ซเี นอร์

ไดโอด (Zener diode) และใหผ้ เู้ รยี นศึกษา ไดโอด (Zener diode) โดยเลอื กจดบนั ทึกเนื้อหา

รายละเอียดด้วยตนเอง ท่ีสาคัญ

2.ผสู้ อนเปิดโอกาส ใหผ้ ้เู รียนถามปญั หา และข้อ

สงสัยจากเน้อื หา โดยครเู ป็นผู้ตอบปญั หาท่ีเกดิ ข้นึ

111

ระหว่างการเรียนการสอน พรอ้ มทดลองต่อใช้งานซี 2.ผูเ้ รยี นซกั ถามข้อสงสัยทเ่ี กิดขน้ึ และผู้เรยี นรว่ มมือ
เนอร์ไดโอด กบั ผู้สอน พร้อมสังเกตวุ ตั ถปุ ระสงค์ของกฎหมาย
4.ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนทาการทดลองที่ 5 ซีเนอรไ์ ดโอด 3.ผ้เู รยี นทาการทดลองที่ 5 ซเี นอร์ไดโอด (Zener
(Zener diode) หนา้ 66-68 diode) หนา้ 66-68
5.ผ้สู อนให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 4.ผเู้ รยี นสบื คน้ ข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็

ขั้นสรปุ (จานวน 30 นาท)ี ข้นั สรปุ (จานวน 30 นาท)ี
1.ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั สรุปเนือ้ หาท่ีไดเ้ รียนใหม้ ี 1.ผเู้ รียนรว่ มกันสรุปเนอื้ หาที่ไดเ้ รยี นใหม้ คี วาม
ความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกัน เข้าใจในทิศทางเดยี วกนั
2.ผู้สอนให้ผเู้ รียนทาแบบทดสอบบทท่ี 5 หน้าที่ 2.ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบบทที่ 5 หน้าที่ 69-70
69-70
3.ผู้สอนให้ผู้เรียนศกึ ษาเพิ่มเติมนอกห้องเรยี น ดว้ ย 3.ผเู้ รียนศกึ ษาเพมิ่ เติมนอกห้องเรียน ดว้ ย
PowerPoint ทีจ่ ดั ทาขนึ้ PowerPoint ทจ่ี ัดทาข้นึ

รวมเวลาเรยี นทง้ั หมด 240 นาที
หรอื 4 ชั่วโมงเรียน

6. สอ่ื การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 สอ่ื ส่ิงพิมพ์
1) เอกสารประกอบการเรียนวิชาอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละวงจรของนายชิงชัย ศรีสรุ ตั น์
2) แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 5 วงจรเรยี งซีเนอร์ไดโอด
3) แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 5 วงจรเรียงซีเนอรไ์ ดโอด
4) เอกสารการเรยี นร้หู นว่ ยที่ 5 วงจรเรียงซีเนอร์ไดโอด
5) แบบฝึกหัดหน่วยที่ 5 วงจรเรยี งซเี นอร์ไดโอด
6) เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลงั เรียน และแบบฝึกหัดท้ายหน่วย

6.2 สอ่ื โสตทัศน์
1) เครือ่ งฉายภาพ (projector)
2) งานนาเสนอหนว่ ยท่ี 5 วงจรเรยี งซีเนอรไ์ ดโอด

112

6.3 ส่อื ของจริง
1) อปุ กรณ์ประกอบวงจรเรยี งซีเนอร์ไดโอด

7. แหลง่ การเรยี นการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศึกษา
1. หอ้ งสมุด
2. ศูนย์ Internet สมเด็จพระเทพฯ
3. ห้องปฏบิ ัตกิ ารเขยี นแบบเครอ่ื งกลดว้ ยคอมพิวเตอร์

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
1. อาคารวิทยบรกิ าร วทิ ยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน

8. งานทีม่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรียน
1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
2. ตอบคาถามก่อนเรียน เป็นการนาเข้าสู่บทเรียน

8.2 ขณะเรียน
1. ตอบคาถามระหวา่ งเรียน

8.3 หลงั เรยี น
1. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น
2. ทาแบบฝกึ หัดหลังเรยี น
3. ทาใบกจิ กรรมที่ 5

9. ผลงาน/ชน้ิ งาน ท่ีเกดิ จากการเรียนรูข้ องผู้เรยี น

การทดลองท่ี 3 วงจรเรียงซเี นอรไ์ ดโอด แบบทดสอบบทท่ี 5

10. เอกสารอ้างอิง

1. หนังสอื เรียนวิชาอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์และวงจรของนายชงิ ชัย ศรีสุรตั น์

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กบั รายวชิ าอน่ื

1. บูรณาการกับวชิ าชีวิตและวัฒนธรรมไทย ด้านการพดู การอา่ น การเขียนและการฝกึ ปฏิบัตติ นทาง
สังคมดา้ นการเตรยี มความพร้อม ความรับผดิ ชอบ ความสนใจใฝ่รู้

2. บูรณาการกบั วชิ าหลกั เศรษฐศาสตร์ ด้านการเลือกใช้ทรพั ยากรอยา่ งประหยัด

113

12. หลักการประเมนิ ผลการเรยี น

12.1 ก่อนเรียน
1. ตรวจสอบระดบั ความรู้ความเข้าใจของผเู้ รยี นกอ่ นเร่ิมการสอน

12.2 ขณะเรียน
1. ตรวจสอบความสนใจในการเรียนของผู้เรยี นโดยการถาม-ตอบคาถามในระหว่างท่ีเรยี น

12.3 หลงั เรยี น
1. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี นพร้อมกับเปรียบเทยี บแบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ตรวจแบบฝกึ หดั หลังเรียนเพ่อื ประเมิลระดับความเข้าใจของผเู้ รียน
3. ตรวจใบกิจกรรม

13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน

จดุ ประสงค์ข้อท่ี 1 การประเมนิ ผลความรคู้ วามเข้าใจของผ้เู รยี นกอ่ นเรียน
1. วิธีการประเมิน : ใหท้ าแบบทดสอบก่อนเรยี น และถามคาถามเพ่ือประเมนิ ระดบั ความรู้ของผเู้ รยี น
2. เครอื่ งการประเมิน : แบบทดสอบก่อนเรียน
3. เกณฑ์การประเมิน : ใช้อา้ งองิ เปน็ ตัวเปรียบเทยี บกบั ผลการทดสอบหลังเรยี น
4. เกณฑ์การผ่าน : นกั เรยี นสามารถทาแบบทดสอบได้ไม่น้อยกวา่ คร่งึ หนึ่งของจานวนข้อของแบบ

ทดสอบท้ังหมด
จดุ ประสงค์ข้อที่ 2 การประเมนิ ผลความรูค้ วามเข้าใจของผูเ้ รียนหลงั เรียน
1. วิธกี ารประเมิน : ใหท้ าแบบทดสอบหลังเรียน
2. เครือ่ งการประเมิน : แบบทดสอบหลังเรียน
3. เกณฑ์การประเมนิ : ใชเ้ ปรยี บเทยี บกบั ผลการทดสอบก่อนเรยี น
4. เกณฑ์การผา่ น : นักเรียนสามารถทาแบบทดสอบได้ไม่น้อยกว่าการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน

114

14. แบบทดสอบก่อนเรยี น

สปั ดาหท์ ี่ .....5.....ชอื่ หนว่ ยการสอน วงจรเรยี งซีเนอร์ไดโอด
วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ การประเมินผลความร้คู วามเข้าใจของผเู้ รยี นก่อนเรียน
ขอ้ คาถาม
คาสัง่ จงเลอื กคาตอบให้ถูกต้องทส่ี ดุ เพียงคาตอบเดยี ว

1. ซีเนอร์ไดโอดแตกตา่ งจากไดโอดธรรมดาขอ้ ใด
ก. การเตมิ สารเจอื ปน
ข. เทคนคิ พเิ ศษในการผลิต
ค. การตอ่ ใช้งาน
ง. ถกู ทกุ ขอ้

2. การใชง้ านของซีเนอร์ข้อใดถูกตอ้ ง
ก. จ่ายไบอสั ตรงค่าต่า
ข. จา่ ยไบอสั ตรงคา่ สูง
ค. จา่ ยไบอสั กลบั ต่ากว่าเบรกดาวน์
ง. จ่ายไบอัสกลับสงู กวา่ เบรกดาวน์

3. จากรปู ขอ้ ใดเป็นสัญลักษณ์ของซเี นอร์ไดโอดแบบใด

4. นกั ศกึ ษามีซเี นอรไ์ ด โอด 6 V 2 ตัว แตต่ ้องการแรงดันซีเนอร์ 12 V ตอ้ งต่อ
ก. ต่อแบบขนาน
ข. ตอ่ แบบอนุกรม
ค. ต่อแบบผสม
ง. ต่อไดท้ กุ แบบ

115

5. แรงดันทต่ี กคร่อมไดโอดขณะ ไบอัสกลับมีคา่ คงท่ี เรยี กวา่ แรงดันอะไร
ก. แรงดนั พังทลาย
ข. แรงดนั แปลสภาพ
ค. เเรงดนั เฉอ่ื ย
ง. แรงดนั ซเี นอร์

6. ขอ้ ใดคือผลของการใช้ซีเนอร์ไดโอดควบคมุ แรงดัน
ก. ทาให้แรงดันตา่ ลง
ข. แรงดันท่ีไดไ้ มม่ รี ิปเปิล
ค. ทาให้แรงดันคงที่
ง. ถูกทุกขอ้

7.ใหแ้ รงดันไบอัสย้อนกลบั สูงสดุ กบั ซนี อรไ์ ดโอดจะเปน็ อย่าง
ก. ซเี นอรไ์ ดโอดจะเสียหายได้
ข. ซีเนอรไ์ ดโอดจะควบคุมกาลงั งานไมไ่ ด้
ค. ซเี นอร์ไดโอดจะยงั คงรักษาระดบั แรงคนั ได้
ง. ซเี นอร์ไดโอดจะมีรปิ เปิลมาก

8. การพงั ทลายแบบอะวาลานซ์ คืออะไร
ก. ซีเนอรไ์ คโอดได้รับไบอสั กลบั แรงคันสูงมากแล้วทาใหซ้ นี อร์ไดโอดใช้งานไมไ่ ด้
ข. ซีเนอรไ์ ดโอคได้รับไบอสั กลบั แรงคันสูงแลว้ ทาให้ซีเนอร์ไดโอดทางาน
ค. ซเี นอรไ์ คโอดไดร้ บั ไบอสั ตรงแล้วทาใหแ้ รงดันต่า
ง. ซเี นอร์ไคโอดไดร้ ับไบอสั ตรงแล้วทาใหแ้ รงดันสงู

9. ในวงจรเร็กกลู ชน่ั ที่ใชช้ ีนอรไ์ ดโอดเปน็ ตัวควบคมุ แรงคนั ให้คงท่ีต้องใช้อะไร เป็นตัว
ก. ต้องตอ่ วงจรกรองกระแส
ข. ต้องใชโ้ หลดกาลังงานสูง
ค. ต้องต่อตัวดา้ นทานอนุกรมกับซเี นอรไ์ คโอด
ง. ตอ้ งให้อินพุตต่า

116

10. วงจรซเี นอร์ไดโอดถ้าแรงดนั อินพุตเปล่ยี นแปลงเพ่ิมข้นึ 1-2 V แรงดนั ที่ซเี นอรจ์ ะเป็น
อยา่ งไร
ก. แรงดนั ทต่ี ัวซีเนอรไ์ ดโอดจะเทา่ เดิม
ข. แรงดันที่ตวั ซีเนอรไ์ ดโอดจะลุดลง
ค. แรงดนั ทต่ี วั ซเี นอร์ไดโอดจะเพมิ่ ขึ้น
ง. แรงดันที่ตัวซีเนอรไ์ ดโอดจะลดลงเปน็ ศูนย์
อยา่ งไร

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

สปั ดาหท์ ี่ .....5.....ช่อื หน่วยการสอน วงจรเรียงซเี นอร์ไดโอด
วตั ถุประสงค์ เพ่อื การประเมนิ ผลความร้คู วามเข้าใจของผู้เรยี นกอ่ นเรียน
ข้อคาถาม
คาสง่ั จงเลือกคาตอบใหถ้ ูกต้องทีส่ ุดเพียงคาตอบเดยี ว

1. ซีเนอร์ไดโอดแตกต่างจากไดโอดธรรมดาข้อใด
ก. การเตมิ สารเจือปน
ข. เทคนคิ พเิ ศษในการผลิต
ค. การต่อใชง้ าน
ง. ถูกทุกข้อ

2. การใช้งานของซเี นอร์ข้อใดถกู ต้อง
ก. จ่ายไบอสั ตรงคา่ ตา่
ข. จา่ ยไบอัสตรงคา่ สูง
ค. จ่ายไบอัสกลบั ต่ากว่าเบรกดาวน์
ง. จ่ายไบอัสกลบั สูงกว่าเบรกดาวน์

117

3. จากรปู ข้อใดเปน็ สัญลักษณข์ องซีเนอร์ไดโอดแบบใด

4. นักศกึ ษามีซีเนอรไ์ ด โอด 6 V 2 ตัว แตต่ ้องการแรงดันซีเนอร์ 12 V ตอ้ งต่อ
ก. ต่อแบบขนาน
ข. ตอ่ แบบอนุกรม
ค. ตอ่ แบบผสม
ง. ต่อไดท้ กุ แบบ
5. แรงดันท่ตี กครอ่ มไดโอดขณะ ไบอัสกลับมีคา่ คงที่ เรียกว่าแรงดันอะไร
ก. แรงดันพงั ทลาย
ข. แรงดนั แปลสภาพ
ค. เเรงดันเฉื่อย
ง. แรงดันซีเนอร์

6. ขอ้ ใดคอื ผลของการใช้ซีเนอรไ์ ดโอดควบคมุ แรงดัน
ก. ทาให้แรงดนั ต่าลง
ข. แรงดนั ทไ่ี ด้ไมม่ รี ิปเปิล
ค. ทาให้แรงดันคงท่ี
ง. ถูกทกุ ข้อ

118

7.ให้แรงดันไบอสั ย้อนกลบั สูงสดุ กบั ซนี อร์ไดโอดจะเปน็ อย่าง
ก. ซีเนอรไ์ ดโอดจะเสียหายได้
ข. ซีเนอร์ไดโอดจะควบคุมกาลังงานไมไ่ ด้
ค. ซีเนอร์ไดโอดจะยงั คงรักษาระดับแรงคนั ได้
ง. ซเี นอรไ์ ดโอดจะมีรปิ เปิลมาก

8. การพังทลายแบบอะวาลานซ์ คอื อะไร
ก. ซเี นอร์ไคโอดได้รับไบอสั กลบั แรงคนั สงู มากแลว้ ทาใหซ้ นี อร์ไดโอดใช้งานไมไ่ ด้
ข. ซีเนอร์ไดโอคได้รบั ไบอสั กลบั แรงคนั สูงแล้วทาให้ซเี นอรไ์ ดโอดทางาน
ค. ซีเนอรไ์ คโอดไดร้ บั ไบอสั ตรงแลว้ ทาใหแ้ รงดันต่า
ง. ซีเนอรไ์ คโอดได้รบั ไบอสั ตรงแลว้ ทาให้แรงดันสงู

9. ในวงจรเร็กกลู ชนั่ ท่ีใชช้ ีนอร์ไดโอดเปน็ ตวั ควบคุมแรงคันใหค้ งท่ตี ้องใชอ้ ะไร เปน็ ตวั
ก. ต้องตอ่ วงจรกรองกระแส
ข. ต้องใชโ้ หลดกาลงั งานสูง
ค. ตอ้ งต่อตวั ด้านทานอนุกรมกบั ซเี นอร์ไคโอด
ง. ตอ้ งให้อนิ พุตตา่

10. วงจรซเี นอรไ์ ดโอดถา้ แรงดันอนิ พตุ เปลย่ี นแปลงเพิ่มขน้ึ 1-2 V แรงดนั ท่ซี เี นอรจ์ ะเป็น
อยา่ งไร
ก. แรงดนั ทตี่ ัวซเี นอร์ไดโอดจะเท่าเดมิ
ข. แรงดันท่ีตัวซีเนอร์ไดโอดจะลุดลง
ค. แรงดนั ทตี่ ัวซเี นอรไ์ ดโอดจะเพม่ิ ข้ึน
ง. แรงดันท่ีตัวซเี นอร์ไดโอดจะลดลงเปน็ ศนู ย์
อย่างไร

119

16. ใบความรู้ท่ี ...5.....

สัปดาหท์ ี่ .....5.....ชื่อหน่วยการสอน วงจรเรียงซีเนอร์ไดโอด
วัตถุประสงค์ เพือ่ การประเมนิ ผลความร้คู วามเข้าใจของผเู้ รยี นกอ่ นเรียน

16.1 โครงสรา้ งและสญั ลกั ษณ์ ซเี นอรไ์ ดโอด
ซีเนอร์ไดโอด (Zener Diode) เป็นไดโอดชนดิ พิเศษทสี่ รา้ งขน้ึ มาเพื่อทาหนา้ ทีร่ ักษาแรงดันใหค้ งท่ี มี
โครงสร้างเหมือนไดโอดธรรมดาท่ัวๆ ไป แต่ไดโอดธรรมดาทวั่ ไปเมื่อทาการไบอัสกลับจนถึงคา่ แรงดันเบรค
ดาวนจ์ ะทาใหเ้ กดิ เสียหายได้ ซีเนอรไ์ ดโอดเป็นไอโอดทผี่ ลติ จากสารซลิ ิคอนที่มีปริมาณความหนาแน่นของ
สารเจือปนในสว่ นท้งั สองของสารพแี ละเอน็ มีค่าสงู กวา่ ปกติ ซง่ึ คุณสมบัตดิ งั กล่าวจะทาใหค้ ่าแรงดันเบรค
ดาวนส์ งู และค่าแรงดนั เบรคดาวนห์ รือแรงดันซเี นอรส์ ามารถกาหนดไดด้ ้วยการควบคุมความหนาแน่นของ
เสารเจอื ปน และเมื่อให้ไบอัสกลับสามารถทนกระแสย้อนกลบั ได้สูงโดยไดโอดไมเ่ สยี หาย แรงดนั ท่ตี กคร่อม
ตัวซเี นอรไ์ ดโอดเองจะเป็นตวั ควบคุมและรักษาแรงดันให้คงที่

16.2 การพังทลายของซีเนอร์
การพงั ทลายของไดโอดแบ่งออกเปน็ 2 ชนิด คือ การพังทลายแบบอาวาลานซ์ คือ เมื่อไดโอดไดร้ บั ไบอัส
กลบั แรงดันสูงจนทาใหม้ ีกระแสไหลย้อนกลบั ผ่านไดโอดจานวนมาก ทาให้รอยต่อของไดโอดทะละและใช้งาน
ไมไ่ ด้ การพังทลายอีกแบบหนงึ่ คอื การพงั ทลายแบบซเี นอร์ เป็นการพังทลายทีเ่ กดิ ข้ึนกับแรงดนั ไบอัส
กลบั ตา่ ต่าๆ ซง่ึ กาหนดได้จากการโด๊ปสารกงึ่ ตัวนาที่ใช้ผลติ ซเี นอรไ์ ดโอด การพังทลายแบบซเี นอรน์ ้จี ะมี
กระแสไหลผา่ นซีเนอร์ไดโอดจานวนหน่งึ ซึง่ ตอ้ งจากัดไม่ให้เกนิ คา่ พกิ ดั สงู สุด และจะเกดิ สภาวะทแ่ี รงตก
ครอ่ มซีเนอร์ไดโอดมีคา่ คงที่ เรียกว่า แรงดันซีเนอร์ คุณสมบตั ิข้อนีส้ ามารถเรยี กนาซีเนอรไ์ ดโอดไปเป็นวงจร
ควบคมุ แรงดันไฟตรงใหค้ งที่ได้

16.3 คณุ ลักษณะของการพังทลาย
จากกราฟลกั ษณะสมบัติทางไฟฟา้ ของแรงดันและกระแส "V" _"z" เปน็ แรงดนั เบรกดาวน์ หรือแรงดนั ซี
เนอร์ ในการพงั ทลายของซีเนอรไ์ ดโอดเม่ือได้รับไบอสั กลับ เมอื่ เพิ่มแรงดนั ไบอสั กลบั จนถงึ ค่าแรงดนั ซเี นอร์
ในการพังทลายของซเี นอรไ์ ดโอดเม่ือไดร้ ับไบอสั กลับ เม่อื เพ่มิ แรงดนั ไบอสั กลบั จนถึงค่าแรงดนั ซเี นอร์ จะมี
กระแสไหลผา่ นซเี นอร์ไดโอดมากขึน้ ทจ่ี ุดเอียงของกราฟจะมกี ระแสไหลผา่ นซีเนอร์ไดโอดเท่ากับ "I" _"ZK"
ซงึ่ เป็นกระแสบรเิ วณเส้นโคง้ และถา้ ซีเนอรไ์ ดโอดได้รบั แรงดันยอ้ นกลับสูงขนึ้ อีก กระแสจะเพม่ิ ขน้ึ แต่แรงดนั
ซเี นอรจ์ ะคงที่ แต่ถ้าเพิ่มกระแสเกินกว่าคา่ กระแสนซเี นอร์สูงสุด "I" _"Zm" แรงดนั ซีเนอร์ จะไมค่ งทีและ
ชารดุ ได้

16.4 วงจรสมมูลของซเี นอร์ไดโอด
เน่ืองจากซีเนอร์ไดโอดมคี ุณสมบตั ิรกั ษาแรงดนั คงทีเ่ ม่ือไดร้ ับไบอัสกลับ ในทางอดุ มมคติซีเนอรไ์ ดโอดจงึ มี
วงจรเทียบเท่าหรอื วงจรสมมูลเป็นแบตเตอรี่มขี นาดแรงดันไฟตรงเท่ากับ แรงดนั ซเี นอร์ "V" _"z" โดยมี
ขวั้ บวกของ "V" _"z" อยู่ท่ีขาแคโถด และข้วั ลบอยู่ทข่ี าแอโนด

120

16.5 ตารางคุณสมบตั ิของซเี นอรไ์ ดโอด
การทจี่ ะนาซีเนอร์ไดโอดมาใช้งานจาเป็นจะต้องทราบพิกดั ต่างๆ ของซเี นอร์ไดโอด เชน่ ดันซเี นอร์, อัตรา
ทนกาลงั ไฟสูงสดุ

16.6 การใช้งานซเี นอร์ไดโอด
ซเี นอรไ์ ดโอดนาไปใช้งานหลายอย่าง เชน่ วงจรคลปิ (Clipping Circuit) วงจรรักษาแรงดันให้คงท่ี
โดยเฉพาะในวงจรรกั ษาแรงดันที่ ในการตอ่ ใชง้ านทุกครั้งจะตอ้ งมคี วามต้านทานต่ออนกุ รมเสมอ เพ่ือป้องกนั
กระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอด "I" _"z" เกินค่าพิกัดซ่งึ จะทาใหช้ ารุดได้ และตัวตา้ นทานทีใ่ ช้จะต้องมีการ
คานวณหาค่าความต้านทานท่ีเหมาะสม วงจรจึงจะทางานได้ดี

121

17. ใบงาน
17 ใบกิจกรรมที่ ....5....

สัปดาห์ที่ .....5.....ชื่อหน่วยการสอน วงจรเรยี งซเี นอร์ไดโอด
จุดประสงค์ เพื่อ

1. วเิ คราะห์และตีความหมาย
2. ตง้ั คาถาม
3. อภิปรายแสดงความคิดเหน็ ระดมสมอง
4. การประยุกตค์ วามรสู้ ู่งานอาชีพ

สมรรถนะการปฏบิ ัติงานอาชีพ
1. แสดงความร้เู กี่ยวกับวงจรเรยี งซเี นอร์ไดโอด

สมรรถนะการขยายผล
ความสอดคล้อง
จากการเรยี น เรือ่ ง ซเี นอรไ์ ดโอด (Zener diode) ทาให้ผูเ้ รยี นมีความรเู้ พิ่มซเี นอร์

ไดโอดคอื ไดโอดท่ผี ลติ ขนึ้ มาจากสารกึ่งตวั นาชนดิ P และ N มาตอ่ ชนกันมลี ักษณะโครงสร้าง
เหมอื นกับไดโอดธรรมดาแตกตา่ งกันตรงการโด๊ปสารก่งึ ตวั นาชนดิ P และ N ซึ่งจะโด๊ปมากกว่า
ปกติ ทาให้การใช้งานตา่ งจากไดโอดธรรมดาซึ่งไดโอดธรรมดาจะใช้งานในช่วงการจา่ ยแรงดนั
ไบอัสตรง ส่วนซเี นอร์ไดโอดจะใชง้ านในลักษณะจ่ายแรงดันไบอัสกลับ เม่ือซีเนอรไ์ ดโอดไดร้ บั
ไบอสั กลบั ถึงคา่ แรงดันทกี่ าหนด ซเี นอร์ไดโอดจะนากระแส และจะเกิด แรงดนั ตกครอ่ มตัวเอง
คงท่ี เช่น 6 V , 9 V , 12 V เปน็ ต้น

122

18. แบบประเมินผล

จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 1 มคี วามร้เู ก่ยี วกบั การอธบิ ายสญั ลักษณแ์ ละคณุ สมบตั ขิ องซี

เนอร์ไดโอด

1.วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ

2.เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การให้คะแนน : บรรยายลักษณะวงจรเรียงกระแสเต็มคลืน่ แบบบรดิ จไ์ ด้ จะ

ได้ 1 คะแนน

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 2 มคี วามรู้เก่ียวกบั การรวบรวมการพังทลายของซีเนอร์

1.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2.เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารให้คะแนน : สรุปการทางานของวงจรเรียงกระแสเตม็ คลื่นแบบบรดิ จไ์ ด้ จะ

ได้ 1 คะแนน

จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 3 เพือ่ ใหม้ คี วามรเู้ กย่ี วกบั การยกตวั อยา่ งคณุ ลกั ษณะของการ

พังทลาย

1.วิธีการประเมิน : ทดสอบ

2.เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การให้คะแนน : สังเกตไดโอดบรดิ จแ์ บบต่างๆได้ จะได้ 2 คะแนน

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4 เพอ่ื ให้มีความรเู้ กย่ี วกบั การจัดลาดบั วงจรสมมลู ของซีเนอร์

ไดโอด

1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ

2.เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ฝกึ คานวณหาแรงดันสงู สดุ ดา้ นกลับได้ จะได้ 2 คะแนน

123

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 5 เพอ่ื ให้มีทักษะในการทดลองตอ่ ใชง้ านซีเนอร์ไดโอด

1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ

2.เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การให้คะแนน : ยอมรับแรงดันเอาต์พตุ ของวงจรและแรงดนั สงู สุดดา้ นกลับได้

จะได้ 2 คะแนน

จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อที่ 6 เพอื่ ใหม้ ีเจตคติท่ดี ีในการติดตามตารางคุณสมบตั ิของซี

เนอร์ไดโอด

1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ

2.เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน : คานวณหาแรงดันสงู สดุ ด้านกลับได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม จะ

ได้ 2 คะแนน

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 7 เพื่อตอ่ ใช้งานซเี นอร์ไดโอดด้วยความถูกตอ้ ง ระมดั ระวงั

1.วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ

2.เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน : คานวณหาแรงดันสงู สุดดา้ นกลับไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม จะ

ได้ 2 คะแนน

19. แบบฝกึ หัด

1. จงอธิบายสัญลกั ษณ์และคุณสมบัตขิ องซีเนอรไ์ ดโอด
2. การพงั ทลายของซเี นอร์ คือ
3. คณุ ลักษณะของการพงั ทลาย มคี ณุ ลกั ษณะอยา่ งไร
4. วงจรสมมูลของซเี นอรไ์ ดโอด มีวงจรอยา่ งไร
5. การต่อใช้งานซเี นอร์ไดโอด มีขน้ั ตอนการต่ออยา่ งไร
6. คุณสมบัตขิ องซเี นอร์ไดโอด มตี ารางอยา่ งไร

124

20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรูแ้ บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้

รายการ ระดับการปฏบิ ตั ิ
54321

ด้านการเตรยี มการสอน

1.จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ได้สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้

2. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมทัง้ ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ และด้านจติ พิสัย

3. เตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรกู้ ่อนเข้า

สอน

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มวี ธิ กี ารนาเขา้ สบู่ ทเรยี นที่น่าสนใจ

5. มีกิจกรรมทห่ี ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ้เู รียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมใหผ้ ู้เรียนค้นควา้ เพื่อหาคาตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จดั กิจกรรมทเี่ นน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ู้เรียนแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จัดกจิ กรรมการเรียนรูท้ เ่ี ชอื่ มโยงกับชีวิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามา

มีสว่ นรว่ ม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสรมิ แรงเมื่อนักเรยี นปฏบิ ัติ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใสด่ ูแลผ้เู รียน อยา่ งทว่ั ถงึ

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาทกี่ าหนด

ด้านสือ่ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใชส้ ่ือทเ่ี หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรียน

17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรยี นรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ และอินเทอรเ์ น็ต เปน็ ตน้

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผู้เรียน อย่างทวั่ ถึง

125

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาท่ีกาหนด

ด้านการวดั และประเมนิ ผล

18. ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสัย

20. ครู ผเู้ รียน ผูป้ กครอง หรือ ผทู้ ี่เกีย่ วข้องมีสว่ นรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ัติ 5 = ปฏิบตั ดิ ีเย่ียม 4 = ปฏิบัตดิ ี 3 = รวม

ปฏิบตั พิ อใช้ 2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มกี ารปฏบิ ตั ิ เฉล่ยี

20.2 ปัญหาท่พี บ และแนวทางแกป้ ญั หา แนวทางแกป้ ัญหา

ปัญหาที่พบ
ดา้ นการเตรียมการสอน

ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ด้านส่ือ นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

ด้านการวัดประเมนิ ผล

ด้านอน่ื ๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อ ๆ)

ลงชอื่ .................................................................... ครูผ้สู อน
( นายศุภกร มง่ิ คา )
ตาแหน่ง ครูพเิ ศษสอน

............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนเิ ทศและตดิ ตาม 126
ชอ่ื -สกุล ผู้นิเทศ ตาแหนง่
วนั -เดือน- เวลา รายการนเิ ทศและติดตาม
ปี

127

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหัสวชิ า ..... 20104 - 2102...... วชิ า ...................... อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร.............................
สัปดาหท์ ่ี ........6...... ชื่อหน่วย การควบคมุ แรงดนั ให้คงทด่ี ว้ ยซเี นอรไ์ ดโอด
ชอ่ื เร่ือง..........................การควบคุมแรงดันใหค้ งท่ดี ้วยซีเนอรไ์ ดโอด.......………..........จานวน...4...ช่วั โมง

1. สาระสาคัญ

การใชซ้ เี นอร์ไดโอดควบคุมแรงดนั ให้คงท่ี เหมาะสาหรับแหลง่ จ่ายไฟตรงที่จา่ ยกระแสได้ไม่สูงนัก แต่
ตอ้ งการแรงดันเอาท์พุตท์ทีม่ ีความราบเรียบโดยไม่มีระลอกคล่นื การต่อใช้งานซเี นอร์ไดโอด จะตอ่ ในลักษณะ
ไบอัสกลับและจะต้องมีตวั ตา้ นทานตอ่ อนกุ รมเพ่ือจากัดกระแส แรงดนั อินพตุ ท่ีป้อนให้ซีเนอรไ์ ดโอดจะต้อง
มากกวา่ ค่าแรงดนั ซเี นอรเ์ สมอ

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

1. ควบคมุ แรงดนั ให้คงทีด่ ้วยซีเนอรไ์ ดโอดและออกแบบวงจรควบคมุ แรงดันใหค้ งท่ีด้วยซเี นอร์ไดโอด

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพื่อให้มีความร้เู กย่ี วกบั การอธบิ ายการควบคุมแรงดนั ให้คงที่ดว้ ยซีเนอณืไดโอด (ด้านความร)ู้
2. เพื่อให้มีทักษะในการควบคมุ แรงดันใหค้ งที่ด้วยซเี นอร์ไดโอด (ด้านทักษะ)
3. เพ่อื ใหม้ ีทักษะในการออกแบบวงจรควบคุมแรงดนั ให้คงทีด่ ว้ ยซเี นอร์ไดโอด (ดา้ นทกั ษะ)
4. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการประพฤตติ ามหลักการควบคมุ แรงดนั ให้คงที่ด้วยซีเนอร์ไดโอด (ด้านจิต

พสิ ยั )
5. เพ่อื ควบคุมแรงดันให้คงท่ีดว้ ยซีเนอรไ์ ดโอดและออกแบบวงจรควบคุมแรงดนั ให้คงท่ีดว้ ยซเี นอร์

ไดโอดด้วยความถูกต้อง ถูกหลกั การ (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม)
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. อธบิ ายการควบคุมแรงดันให้คงทดี่ ้วยซเี นอณืไดโอดได้ (ด้านความรู)้
2. ควบคมุ แรงดันให้คงท่ดี ว้ ยซเี นอรไ์ ดโอดได้ (ดา้ นทักษะ)
3. ออกแบบวงจรควบคุมแรงดันใหค้ งทีด่ ้วยซีเนอร์ไดโอดได้ (ด้านทกั ษะ)
4. การประพฤติตามหลักการควบคุมแรงดันให้คงท่ีดว้ ยซีเนอรไ์ ดโอดได้ (ดา้ นจิตพิสยั )
5. ควบคมุ แรงดันให้คงทดี่ ้วยซีเนอร์ไดโอดและออกแบบวงจรควบคุมแรงดนั ให้คงท่ีด้วยซเี นอร์ไดโอด

ดว้ ยความถกู ต้อง ถูกหลกั การ (ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม)

128

4. เนอื้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้
4.1.1 การควบคมุ แรงดันใหค้ งที่ดว้ ยซเี นอร์ไดโอด
4.1.2 การออกแบบวงจรซีเนอร์ไดโอด

4.2 ด้านทักษะหรือปฏิบัติ
1. การทดลองท่ี 6 การควบคมุ แรงดนั ใหค้ งท่ีดว้ ยซเี นอร์ไดโอด
2. แบบทดสอบบทท่ี 6

4.3 ด้านคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1. ควบคุมแรงดนั ให้คงทด่ี ว้ ยซเี นอร์ไดโอดและออกแบบวงจรควบคุมแรงดนั ให้คงท่ีด้วยซเี นอรไ์ ดโอด

ด้วยความถูกต้อง ถูกหลักการ

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรยี นรู้

ข้นั ตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ขน้ั ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของผเู้ รยี น

ขน้ั เตรียม(จานวน 30 นาที) ขัน้ เตรยี ม (ใช้เวลา 30 นาที)

1.ผู้สอนแจง้ วตั ถปุ ระสงค์ของการเรียน หนว่ ยท่ี 6 1.ผู้เรยี นทาความเข้าใจเก่ียวกับวัตถปุ ระสงค์ของ

เร่ือง การควบคุมแรงดนั ใหค้ งทดี่ ว้ ยซีเนอร์ไดโอด การเรียน หน่วยที่ 6 เร่อื ง การควบคุมแรงดนั ให้

(Zener Regulator) คงทด่ี ้วยซีเนอร์ไดโอด (Zener Regulator)

2.ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นอธบิ ายการควบคมุ แรงดนั ใหค้ งท่ี 2.ผู้เรียนรว่ มมอื กบั ผูส้ อนอธิบายการควบคุมแรงดัน

ดว้ ยซีเนอรไ์ ดโอด ใหค้ งที่ด้วยซเี นอรไ์ ดโอด

ขนั้ การสอน (จานวน 180 นาท)ี ขนั้ การสอน (จานวน 180 นาที)

1.ผู้สอนเปิด PowerPoint และใหผ้ ูเ้ รยี นเปดิ 1.ผูเ้ รยี นศึกษาวิธกี ารใช้ PowerPoint กบั เอกสาร

เอกสารประกอบการสอนวิชา อปุ กรณ์ ประกอบการสอน อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกสแ์ ละวงจร

อิเลก็ ทรอนิกสแ์ ละวงจร หน่วยท่ี 6 เร่ือง การ หนว่ ยท่ี 6 เร่อื ง การควบคุมแรงดันให้คงทีด่ ้วยซี

ควบคุมแรงดนั ให้คงที่ดว้ ยซเี นอร์ไดโอด (Zener เนอร์ไดโอด (Zener Regulator) หน้าที่ 72-73

Regulator) หน้าที่ 72-73 พรอ้ มอธบิ ายเน้ือหาที พร้อมอธิบายเนื้อหาทีละสว่ นโดยเลอื กจดบนั ทึก

ละสว่ น เนื้อหาท่ีสาคัญ

2.ผู้สอนอธิบายความรู้เพม่ิ เติมนอกเหนือจากเอกสาร 2.ผเู้ รยี นฟังอธิบายความรเู้ พม่ิ เติมนอกเหนอื จาก

ประกอบการสอนวิชา อุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์และ เอกสารประกอบการสอนวิชา เศรษฐศาสตร์

วงจร และใหผ้ ู้เรียนฝึกควบคุมแรงดนั ใหค้ งท่ีดว้ ยซี เบอื้ งต้น และฝึกควบคุมแรงดนั ใหค้ งที่ดว้ ยซเี นอร์

เนอรไ์ ดโอด ไดโอด

3.ผสู้ อนเปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รยี นซักถามขอ้ สงสัยที่เกิดขึน้ 3.ผ้เู รียนซักถามขอ้ สงสยั ทเ่ี กิดข้ึน

ระหว่างการเรียนการสอน และตอบข้อซักถาม

129

4.ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนทาการทดลองท่ี 6 การควบคุม 4.ผเู้ รียนทาการทดลองท่ี 6 การควบคุมแรงดันให้
แรงดันให้คงท่ีดว้ ยซีเนอร์ไดโอด (Zener คงทด่ี ว้ ยซเี นอร์ไดโอด (Zener Regulator) หนา้
Regulator) หน้า 66-68 66-68
5.ผู้สอนใหผ้ ูเ้ รียนสบื ค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็ 5.ผูเ้ รียนสบื ค้นขอ้ มูลจากอินเทอร์เนต็
ข้ันสรุป(จานวน 30 นาท)ี ขน้ั สรปุ (จานวน 30 นาท)ี
1.ผสู้ อนและผูเ้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีได้เรียนใหม้ ี 1.ผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ เนื้อหาท่ีไดเ้ รยี นใหม้ คี วาม
ความเขา้ ใจในทิศทางเดยี วกัน เข้าใจในทิศทางเดียวกัน
2.ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นทาแบบทดสอบบทที่ 6 หน้าที่ 2.ผู้เรียนทาแบบทดสอบบทท่ี 6 หน้าที่ 76-77
76-77
3.ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนศกึ ษาเพิ่มเติมนอกห้องเรยี น ด้วย 3.ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรยี น ดว้ ย
PowerPoint ที่จดั ทาขน้ึ PowerPoint ที่จดั ทาขนึ้

รวมเวลาเรยี นท้ังหมด 240 นาที
หรอื 4 ช่ัวโมงเรยี น

6. สอ่ื การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 สื่อสิ่งพิมพ์
1) เอกสารประกอบการเรยี นวิชาอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละวงจรของนายชิงชัย ศรีสรุ ตั น์
2) แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 6 การควบคุมแรงดันให้คงทด่ี ้วยซเี นอร์ไดโอด
3) แบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยที่ 6 การควบคุมแรงดนั ให้คงท่ดี ว้ ยซเี นอร์ไดโอด
4) เอกสารการเรียนรหู้ น่วยที่ 6 การควบคมุ แรงดันให้คงที่ดว้ ยซเี นอร์ไดโอด
5) แบบฝึกหัดหน่วยที่ 6 การควบคมุ แรงดนั ใหค้ งทด่ี ว้ ยซีเนอร์ไดโอด
6) เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลังเรียน และแบบฝึกหดั ท้ายหน่วย

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
1) เครื่องฉายภาพ (projector)
2) งานนาเสนอหนว่ ยที่ 6 การควบคุมแรงดนั ให้คงท่ีด้วยซเี นอร์ไดโอด

6.3 สือ่ ของจรงิ
1) อุปกรณป์ ระกอบวงจรเรยี งซเี นอร์ไดโอด

130

7. แหล่งการเรยี นการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศึกษา
1. หอ้ งสมดุ
2. ศนู ย์ Internet สมเด็จพระเทพฯ
3. ห้องปฏบิ ตั กิ ารเขียนแบบเครื่องกลด้วยคอมพวิ เตอร์

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
1. อาคารวิทยบริการ วทิ ยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน

8. งานทม่ี อบหมาย

8.1 ก่อนเรียน
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ตอบคาถามก่อนเรียน เป็นการนาเขา้ ส่บู ทเรียน

8.2 ขณะเรยี น
1. ตอบคาถามระหวา่ งเรียน

8.3 หลังเรยี น
1. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น
2. ทาแบบฝกึ หัดหลังเรียน
3. ทาใบกิจกรรมท่ี 6

9. ผลงาน/ชนิ้ งาน ทเ่ี กิดจากการเรยี นร้ขู องผ้เู รียน

การทดลองท่ี 6 การควบคุมแรงดนั ให้คงทด่ี ว้ ยซีเนอร์ไดโอด แบบทดสอบบทท่ี 6

10. เอกสารอ้างองิ

1. หนงั สือเรยี นวชิ าอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละวงจรของนายชิงชยั ศรีสุรตั น์

11. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั รายวชิ าอ่นื

1. บูรณาการกับวชิ าชีวิตและวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพูด การอ่าน การเขียนและการฝึกปฏบิ ตั ติ นทาง
สังคมด้านการเตรยี มความพร้อม ความรับผิดชอบ ความสนใจใฝร่ ู้

2. บูรณาการกบั วชิ าหลักเศรษฐศาสตร์ ดา้ นการเลือกใชท้ รพั ยากรอยา่ งประหยดั

131

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรยี น

12.1 กอ่ นเรยี น
1. ตรวจสอบระดบั ความรู้ความเขา้ ใจของผูเ้ รียนก่อนเริ่มการสอน

12.2 ขณะเรยี น
1. ตรวจสอบความสนใจในการเรยี นของผู้เรียนโดยการถาม-ตอบคาถามในระหว่างท่เี รยี น

12.3 หลงั เรยี น
1. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นพร้อมกบั เปรียบเทยี บแบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ตรวจแบบฝึกหดั หลงั เรียนเพ่อื ประเมลิ ระดับความเข้าใจของผู้เรียน
3. ตรวจใบกจิ กรรม

13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรียน

จุดประสงค์ข้อท่ี 1 การประเมินผลความรู้ความเข้าใจของผเู้ รียนกอ่ นเรยี น
1. วิธีการประเมิน : ให้ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น และถามคาถามเพื่อประเมินระดบั ความรู้ของผ้เู รยี น
2. เครอ่ื งการประเมิน : แบบทดสอบก่อนเรยี น
3. เกณฑ์การประเมนิ : ใชอ้ า้ งอิงเปน็ ตวั เปรียบเทียบกับผลการทดสอบหลังเรยี น
4. เกณฑ์การผา่ น : นกั เรยี นสามารถทาแบบทดสอบได้ไม่น้อยกว่าคร่ึงหนึ่งของจานวนข้อของแบบ

ทดสอบท้ังหมด
จดุ ประสงคข์ ้อที่ 2 การประเมนิ ผลความรูค้ วามเข้าใจของผเู้ รยี นหลังเรยี น
1. วิธีการประเมนิ : ให้ทาแบบทดสอบหลังเรยี น
2. เครือ่ งการประเมิน : แบบทดสอบหลังเรยี น
3. เกณฑ์การประเมนิ : ใชเ้ ปรยี บเทียบกับผลการทดสอบก่อนเรยี น
4. เกณฑ์การผา่ น : นกั เรียนสามารถทาแบบทดสอบได้ไมน่ ้อยกวา่ การทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

132

14. แบบทดสอบกอ่ นเรียน

สัปดาหท์ ี่ .....6.....ชื่อหน่วยการสอน การควบคมุ แรงดันให้คงท่ดี ้วยซีเนอร์ไดโอด
วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ การประเมนิ ผลความรูค้ วามเข้าใจของผู้เรยี นก่อนเรียน
ข้อคาถาม
คาสัง่ จงเลอื กคาตอบใหถ้ ูกต้องที่สดุ เพยี งคาตอบเดียว

1. ซีเนอรด์ โอดเรก็ กเู รเตอรน์ ิยมนามาใชใ้ นวงจรจ่ายไฟแบบใด
ก. วงจรจา่ ยไฟกาลงั ตา่
ข. วงจรจา่ ยไฟกาลงั สูง
ค. วงจรจ่ายแรงดันสงู
ง. วงจรจา่ ยแรงดนั ตา่

2. แรงดันเอาต์พุตของวงจรเรก็ กเู ลเตอร์ท่ีใชซ้ เี นอรไ์ ดโอดจะมคี ่าเท่าใด
ก. จะเท่ากบั แรงดันอนิ พตุ
ข. จะเท่ากับแรงดันซีเนอร์ของซเี นอร์ไคโอด
ค. จะเทา่ กบั แรงดันรปิ เปลิ
ง. จะเทา่ กับแรงดันอ้างอิง

3. ข้อใดเป็นการตอ่ ใช้งานซีเนอร์ไดโอดท่ีถูกตอ้ ง
ก. ซีเนอรไ์ ดโอดต่ออนุกรมกบั ตัวตน้ ทาน แลว้ ตอ่ ขนานเอาต์พตุ
ข. ซีเนอรไ์ ดโอดตอ่ ขนานกบั ตัวต้นทาน แล้วต่อขนานเอาต์พตุ
ค. ซีเนอร์ไดโอดตอ่ อนุกรมกับตัวเกบ็ ประจุ แลว้ ตอ่ อนุกรมเอาตพ์ ุต
ง, ซเี นอร์ไคโอดตอ่ ขนานกับตัวเกบ็ ประจุ แล้วตอ่ อนุกรมเอาตพ์ ุต

4. การลดริปเปลิ ของภาคจ่ายไฟอยา่ งง่ายนิยมใช้วงจรกรองกระแสแบบใด
ก. แบบใชต้ วั เกบ็ ประจุกรองกระแส
ข. แบบใชต้ วั ต้านทานและขดลวด
ค. แบบใชข้ ดลวด
ง. แบบใช้ขดลวดและตัวเก็บประจุ

5. จุดเดน่ ของวงจรเร็กกูลตอร์ท่ใี ชซ้ ีเนอร์ไดโอดคือข้อใด
ก. แรงดันคงท่ี
บ. ประหยัด
ค. ตอ่ วงจรใชง้ านไดง้ ่าย
ง. ถกู ทกุ ข้อ

133

จากรปู จงตอบคาถามข้อ 6-9

6. จากรปู จงหาความตา้ นทาน Rs
ก. 150 Ω
ข. 180 Ω
ค. 270 Ω
ง. 560 Ω

7. จากรปู จงหาคา่ IRS
ก. 10 mA
ข. 20 mA
ค. 30 mA
ง. 40 mA

8. จากรปู จงหาค่าความต้นทานโหลด เมอ่ื มีกระแสไหลผา่ นซีเนอร์ไดโอด 5 mA
ก. 170 Ω
ข. 470 Ω
ค. 680 Ω
ง. 820 Ω

9. จากรูปจงหากาลังไฟฟ้าของซีเนอร์ไดโอด
ก. 50 mw
ข. 90 mw
ค. 180 mw
ง. 240 mw

134

10. ซีเนอร์ ไดโอดไมส่ ามารถไปใช้งานในวงจรอะไร
ก. วงจรกาหนดแรงดันออกเอาต์พุต
ข. วงจรตัดสัญญาณ
ค. วงจรเรยี งกระแส
ง. วงจรสรา้ งคลนื่ ส่ีเหลยี่ มจากคลื่นไซน์

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

สปั ดาหท์ ่ี .....6.....ช่อื หนว่ ยการสอน การควบคมุ แรงดันให้คงท่ีด้วยซีเนอรไ์ ดโอด
วัตถุประสงค์ เพอ่ื การประเมนิ ผลความรคู้ วามเข้าใจของผู้เรียนกอ่ นเรยี น
ข้อคาถาม
คาสัง่ จงเลอื กคาตอบให้ถูกต้องทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดียว

1. ซีเนอร์ดโอดเรก็ กเู รเตอร์นิยมนามาใช้ในวงจรจ่ายไฟแบบใด
ก. วงจรจ่ายไฟกาลังต่า
ข. วงจรจ่ายไฟกาลังสงู
ค. วงจรจ่ายแรงดนั สงู
ง. วงจรจ่ายแรงดันต่า

2. แรงดนั เอาตพ์ ตุ ของวงจรเร็กกูเลเตอร์ทใ่ี ช้ซเี นอรไ์ ดโอดจะมีคา่ เท่าใด
ก. จะเทา่ กบั แรงดนั อนิ พตุ
ข. จะเท่ากบั แรงดนั ซีเนอรข์ องซีเนอร์ไคโอด
ค. จะเทา่ กบั แรงดันรปิ เปลิ
ง. จะเท่ากบั แรงดนั อ้างอิง

3. ข้อใดเปน็ การตอ่ ใชง้ านซเี นอร์ไดโอดท่ถี กู ตอ้ ง
ก. ซเี นอรไ์ ดโอดต่ออนุกรมกบั ตวั ตน้ ทาน แล้วตอ่ ขนานเอาต์พุต
ข. ซีเนอรไ์ ดโอดต่อขนานกบั ตัวตน้ ทาน แล้วต่อขนานเอาต์พุต
ค. ซีเนอร์ไดโอดต่ออนุกรมกบั ตวั เก็บประจุ แลว้ ตอ่ อนุกรมเอาต์พุต
ง, ซเี นอรไ์ คโอดต่อขนานกับตัวเกบ็ ประจุ แลว้ ต่ออนุกรมเอาต์พุต

4. การลดริปเปลิ ของภาคจ่ายไฟอย่างงา่ ยนิยมใช้วงจรกรองกระแสแบบใด
ก. แบบใช้ตัวเกบ็ ประจุกรองกระแส
ข. แบบใชต้ วั ตา้ นทานและขดลวด
ค. แบบใช้ขดลวด
ง. แบบใชข้ ดลวดและตัวเก็บประจุ

135

5. จุดเด่นของวงจรเรก็ กลู ตอรท์ ่ีใชซ้ เี นอร์ไดโอดคือข้อใด
ก. แรงดนั คงที่
บ. ประหยัด
ค. ต่อวงจรใชง้ านได้ง่าย
ง. ถกู ทุกขอ้
จากรปู จงตอบคาถามข้อ 6-9

6. จากรปู จงหาความต้านทาน Rs
ก. 150 Ω
ข. 180 Ω
ค. 270 Ω
ง. 560 Ω

7. จากรปู จงหาคา่ IRS
ก. 10 mA
ข. 20 mA
ค. 30 mA
ง. 40 mA

8. จากรูปจงหาค่าความต้นทานโหลด เมอ่ื มกี ระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอด 5 mA
ก. 170 Ω
ข. 470 Ω
ค. 680 Ω
ง. 820 Ω

136

9. จากรปู จงหากาลังไฟฟ้าของซีเนอรไ์ ดโอด
ก. 50 mw
ข. 90 mw
ค. 180 mw
ง. 240 mw

10. ซเี นอร์ ไดโอดไม่สามารถไปใชง้ านในวงจรอะไร
ก. วงจรกาหนดแรงดนั ออกเอาตพ์ ตุ
ข. วงจรตดั สัญญาณ
ค. วงจรเรยี งกระแส
ง. วงจรสรา้ งคลืน่ ส่ีเหลี่ยมจากคล่ืนไซน์

16. ใบความรู้ท่ี ...6.....

สปั ดาหท์ ่ี .....6.....ชอื่ หน่วยการสอน การควบคุมแรงดันให้คงทด่ี ้วยซีเนอร์ไดโอด
วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือ การประเมนิ ผลความรูค้ วามเข้าใจของผูเ้ รียนกอ่ นเรยี น

16.1 การควบคุมแรงดันให้คงท่ีดว้ ยซเี นอร์ไดโอด
วงจรแหล่งจา่ ยไฟเบ้ืองตน้ จะประกอบไปดว้ ยหม้อแปลง ไดโอดเรยี งกระแส และตวั เก็บประจุกรองแรงดนั
มขี ้อดี คือ ประกอบใชง้ านง่ายแต่มขี ้อเสีย คือ แรงดันไฟตรงท่ีได้ จะยังไม่เรียบมีการกระเพื่อมหรื อริปเปิล
(Ripple) สงู และอตั ราการเพ่ิมขึ้นหรอื ลดลงของแรงดนั เมื่อมีโหลดและไม่มโี หลดซง่ึ เรียกว่าเรียกว่าไวลต์เตจ
เรก็ กูเลช่ัน (Voltage Regulation) สูง ไมเ่ หมาะสมสาหรบั เป็นภาคจ่ายไฟให้วงจรขยายสัญญาณระดับตา่

16.2 การออกแบบวงจรซเี นอร์ไดโอด
การเร็กกูเลเตอรโ์ ดยใชซ้ เี นอร์ไดโอดจะเหมาะสาหรบั โหลดหรือวงจรทก่ี นิ กระแสไมม่ ากนัก เพราะถา้ โหลด
ตอ้ งการกระแสมาก จะสนิ้ เปลืองกวา่ การเร็กกูเลเตอร์แบบอ่นื ๆ การออกแบบวงจรจะต้องคานึงสภาวะวงจร
สองสภาวะ คือ สภาวะมโี หลดและสภาวะไม่มีโหลด

137

17. ใบงาน
17 ใบกจิ กรรมที่ ....6....

สัปดาห์ท่ี .....6....ช่ือหน่วยการสอน การควบคุมแรงดันให้คงทีด่ ว้ ยซีเนอรไ์ ดโอด
จุดประสงค์ เพ่ือ

1. วเิ คราะหแ์ ละตีความหมาย
2. ตัง้ คาถาม
3. อภิปรายแสดงความคิดเหน็ ระดมสมอง
4. การประยุกต์ความร้สู ่งู านอาชีพ

สมรรถนะการปฏบิ ตั ิงานอาชีพ
1. แสดงความรเู้ กี่ยวกับการควบคุมแรงดันให้คงทด่ี ว้ ยซีเนอรไ์ ดโอด

สมรรถนะการขยายผล
ความสอดคลอ้ ง
จากการเรยี นเรอ่ื ง ควบคุมแรงดันใหค้ งทีด่ ้วยซีเนอร์ไดโอดและออกแบบวงจรควบคุม

แรงดันให้คงท่ีด้วยซีเนอรไ์ ดโอด ทาให้ผู้เรียนมคี วามรูเ้ พ่ิมเกี่ยวกบั การใชซ้ ีเนอร์ไดโอดควบคุม
แรงดันให้คงท่ี เหมาะสาหรบั แหลง่ จา่ ยไฟตรงท่จี ่ายกระแสไดไ้ มส่ ูงนัก แตต่ ้องการแรงดนั
เอาท์พุตท์ทม่ี ีความราบเรียบโดยไม่มรี ะลอกคลืน่ การต่อใช้งานซเี นอร์ไดโอด จะต่อในลักษณะ
ไบอัสกลับและจะตอ้ งมตี ัวต้านทานต่ออนุกรมเพ่ือจากดั กระแส แรงดนั อินพุตท่ปี ้อนให้ซเี นอร์
ไดโอดจะตอ้ งมากกวา่ ค่าแรงดนั ซีเนอร์เสมอ

138

18. แบบประเมนิ ผล

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 1 อธิบายการควบคุมแรงดันให้คงทีด่ ว้ ยซเี นอรไ์ ดโอดได้

1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ

2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การให้คะแนน : อธบิ ายการควบคุมแรงดนั ให้คงท่ีดว้ ยซเี นอรไ์ ดโอดได้ จะ

ได้ 2 คะแนน

จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 ควบคมุ แรงดันใหค้ งที่ดว้ ยซีเนอรไ์ ดโอดได้

1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ

2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารให้คะแนน : ควบคมุ แรงดนั ให้คงท่ีด้วยซเี นอร์ไดโอดได้ จะได้ 2 คะแนน

จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ข้อที่ 3 ออกแบบวงจรควบคมุ แรงดนั ให้คงท่ดี ้วยซเี นอร์ไดโอดได้

1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ

2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ออกแบบวงจรควบคมุ แรงดนั ให้คงทดี่ ้วยซเี นอร์ไดโอดได้ จะ

ได้ 2 คะแนน

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 4 ประพฤติตามหลักการควบคุมแรงดันให้คงทีด่ ว้ ยซีเนอร์

ไดโอดได้

1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ

2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การให้คะแนน : ประพฤติตามหลักการควบคมุ แรงดันใหค้ งท่ดี ้วยซีเนอร์ไดโอด

ได้ จะได้ 2 คะแนน

จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 5 ควบคมุ แรงดนั ใหค้ งทีด่ ้วยซเี นอรไ์ ดโอดและออกแบบ

วงจรควบคมุ แรงดนั ใหค้ งที่ด้วยซเี นอร์ไดโอดดว้ ยความถูกตอ้ ง ถูกหลกั การ

1.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ

2.เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ควบคมุ แรงดันใหค้ งทดี่ ้วยซเี นอรไ์ ดโอดและออกแบบวงจร

ควบคมุ แรงดันใหค้ งทีด่ ว้ ยซเี นอร์ไดโอดด้วยความถกู ตอ้ ง ถูกหลกั การ จะได้ 2 คะแนน

139

19. แบบฝึกหดั

1. การควบคมุ แรงดนั ให้คงที่ด้วยซเี นอรไ์ ดโอด มีหลักการควบคมุ อย่างไร
2. ออกแบบวงจรควบคมุ แรงดันให้คงท่ดี ้วยซเี นอร์ไดโอด

140

20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้

รายการ ระดบั การปฏิบัติ
54321

ด้านการเตรียมการสอน

1.จัดหน่วยการเรยี นรูไ้ ดส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมท้งั ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และด้านจิตพิสยั

3. เตรียมวัสดุ-อปุ กรณ์ สอ่ื นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนเขา้

สอน

ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

4. มีวิธีการนาเข้าสู่บทเรียนที่นา่ สนใจ

5. มกี ิจกรรมที่หลากหลาย เพ่ือชว่ ยใหผ้ ้เู รยี นเกดิ การเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมทสี่ ง่ เสริมให้ผเู้ รียนคน้ ควา้ เพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรียนมสี ่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )

9. กระตุ้นใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ีเช่อื มโยงกบั ชีวติ จรงิ โดยนาภมู ปิ ญั ญา/บูรณาการเข้ามา

มีสว่ นรว่ ม

11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรียนปฏิบตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใสด่ ูแลผู้เรียน อย่างท่วั ถงึ

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่กาหนด

ดา้ นส่ือ นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

16. ใช้ส่อื ที่เหมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใช้สือ่ แหลง่ การเรียนรอู้ ยา่ งหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ และอินเทอรเ์ น็ต เป็นต้น

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใสด่ ูแลผูเ้ รียน อยา่ งท่ัวถึง

141

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาท่ีกาหนด

ด้านการวดั และประเมนิ ผล

18. ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสัย

20. ครู ผเู้ รียน ผูป้ กครอง หรือ ผทู้ ี่เกีย่ วข้องมีสว่ นรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ัติ 5 = ปฏิบตั ดิ ีเย่ียม 4 = ปฏิบัตดิ ี 3 = รวม

ปฏิบตั พิ อใช้ 2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ เฉลย่ี

20.2 ปัญหาท่พี บ และแนวทางแกป้ ญั หา แนวทางแกป้ ัญหา

ปัญหาที่พบ
ดา้ นการเตรียมการสอน

ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ด้านส่ือ นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

ด้านการวัดประเมนิ ผล

ด้านอน่ื ๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อ ๆ)

ลงชอื่ .................................................................... ครูผ้สู อน
( นายศุภกร มง่ิ คา )
ตาแหนง่ ครูพเิ ศษสอน

............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนเิ ทศและตดิ ตาม 142
ชอ่ื -สกุล ผู้นิเทศ ตาแหนง่
วนั -เดือน- เวลา รายการนเิ ทศและติดตาม
ปี

143

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหัสวิชา ..... 20104 - 2102...... วชิ า ...................... อุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์และวงจร.............................
สัปดาหท์ ่ี ........7...... ชื่อหน่วย ทรานซิสเตอร์
ชื่อเรอื่ ง.................................................ทรานซสิ เตอร์.......……………………………............จานวน...4...ช่ัวโมง

1. สาระสาคญั

ทรานซิสเตอรเ์ ปน็ อปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกสป์ ระเภทแอคทีฟ (Active Device) ชนิดหนึง่ มหี ลกั การ
ทางานโดยอาศัยกระแสไฟฟา้ จากวงจรภายนอกไปควบคุมตวั กาเนิดกระแสไฟฟ้าภายในให้เปล่ียนแปลงตาม
ทรานซสิ เตอรม์ ี 3 ขา คือ ขาเบส ขาอิมิตเตอรแ์ ละขาคอลเลคเตอร์ การสร้างทรานซิสเตอร์ แบ่งตามโครงสร้าง
ได้ 2 ชนดิ คือ NPN และ PNP แบ่งตามสารไดส้ องชนิดเชน่ กนั คอื เยอรมนั เนียม และ ซิลคิ อน การจดั แรง
ไฟไบอสั ทรานซสิ เตอร์จะจัดให้อย่สู องแบบคือให้ฟอร์เวิร์ดไบอสั ระหวา่ งขาเบสกับขาอมิ ิตเตอร์ และให้รีเวิร์
สไบอัสระหว่างขาเบสกับขาคอลเลคเตอร์ ทรานซิสเตอรส์ ามารถประยุกต์ใชง้ านได้หลายอยา่ งเชน่ ขยาย
สญั ญาณ สวติ ซ่ิง กาเนิดสญั ญาณ

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้

1. วดั และทดสอบทรานซิลเตอร์ดว้ ยโอหม์ มเิ ตอร์

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้เกยี่ วกับการอธบิ ายประวตั คิ วามเป็นมาของทรานซิลเตอร์ (ดา้ นความร้)ู
2. เพื่อให้มีความรู้เกย่ี วกับการบรรยายขาของทรานซิสเตอร์ (ดา้ นความร)ู้
3. เพอ่ื ใหม้ ีทกั ษะในการวดั และทดสอบทรานซิลเตอรด์ ว้ ยโอห์มมเิ ตอร์ (ด้านทกั ษะ)
4. เพื่อใหม้ ีเจตคติท่ีดีในการชแี้ จงการให้ไบอัสทรานซิลเตอร์ (ดา้ นจิตพสิ ยั )
5. เพอ่ื ใหม้ ีเจตคติที่ดใี นการจดั ลาดบั โครงสรา้ งและสญั ลักษณ์ของทรานซลิ เตอร์ (ดา้ นจติ พสิ ัย)
6. เพอ่ื ให้มีเจตคติท่ดี ีในการผสมผสานชนดิ ของทรานซิลเตอรไ์ ด้ (ด้านจติ พิสัย)
7. เพอื่ วัดและทดสอบทรานซิลเตอรด์ ้วยโอห์มมเิ ตอร์ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม (ด้านคุณธรรม

จรยิ ธรรม)
3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

1 .อธิบายประวตั ิความเป็นมาของทรานซิลเตอร์ได้ (ดา้ นความรู้)
2. บรรยายขาของทรานซิสเตอรไ์ ด้ (ด้านความรู้)
3. วดั และทดสอบทรานซลิ เตอร์ด้วยโอห์มมิเตอรไ์ ด้ (ดา้ นทกั ษะ)
4. ชี้แจงการให้ไบอสั ทรานซิลเตอรไ์ ด้ (ด้านจิตพิสัย)

144

5. จดั ลาดบั โครงสร้างและสัญลักษณ์ของทรานซิลเตอร์ได้ (ดา้ นจติ พิสัย)
6. ผสมผสานชนดิ ของทรานซิลเตอร์ได้ (ดา้ นจติ พิสยั )
7. วัดและทดสอบทรานซิลเตอร์ด้วยโอห์มมิเตอร์ได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม)

4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้
4.1.1 ประวัติความเปน็ มาของทรานซลิ เตอร์
4.1.2 โครงสรา้ งและสัญลกั ษณข์ องทรานซิสเตอร์
4.1.3 ชนิดของทรานซลิ เตอร์
4.1.4 ขาของทรานซลิ เตอร์
4.1.5 การทางานของทรานซิลเตอร์
4.1.6 การให้ไบอัสทรานซลิ เตอร์

4.2 ด้านทกั ษะหรือปฏิบตั ิ
1. การทดลองที่ 7 ทรานซิลเตอร์
2. แบบทดสอบบทที่ 7

4.3 ดา้ นคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. วัดและทดสอบทรานซสิ เตอร์ด้วยโอห์มมเิ ตอร์ไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม

5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้

ขน้ั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ขน้ั ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของผู้เรยี น

ข้ันเตรียม(จานวน 30 นาที) ข้ันเตรยี ม (ใชเ้ วลา 30 นาที)
1.ผู้สอนอธบิ ายประวตั ิความเป็นมาของ 1.ผู้เรยี นฟงั ผูส้ อนอธบิ ายประวตั ิความเปน็ มาของ
ทรานซสิ เตอร์ ให้ผู้เรียนเขา้ ใจ ทรานซิสเตอร์ ให้ผู้เรียนเข้าใจให้เขา้ ใจ
2.ผู้สอนแจ้งวตั ถุประสงค์ของการเรยี น หนว่ ยที่ 7 2.ผเู้ รยี นทาความเข้าใจเก่ยี วกับวัตถปุ ระสงค์ของ
เรอื่ ง ทรานซสิ เตอร์ (Transistor)หนา้ 79 การเรียน หน่วยที่ 7 เรอื่ ง ทรานซสิ เตอร์
3.ผู้สอนให้ผู้เรยี นช้แี จงการให้ไบอสั ทรานซิสเตอร์ (Transistor)หน้า 79
3.ผเู้ รยี นรว่ มมอื กับผสู้ อนผูเ้ รียนชแี้ จงการให้ไบอัส
ข้นั การสอน (จานวน 180 นาท)ี ทรานซสิ เตอร์
1.ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นเปิดเอกสารประกอบการสอนวิชา ข้นั การสอน (จานวน 180 นาที)
อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์และวงจร หน่วยที่ 7 เรื่อง 1.ผู้เรยี นศึกษาเอกสารประกอบการสอน วิชา
อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกสแ์ ละวงจร หน่วยท่ี 7 เร่อื ง

145

ทรานซสิ เตอร์ (Transistor)หนา้ ที่ 80-85 พรอ้ ม ทรานซสิ เตอร์ (Transistor)หน้าที่ 80-85โดยเลอื ก

อธบิ ายเน้อื หาทลี ะสว่ น จดบันทึกเน้ือหาท่สี าคัญ

2.ผูส้ อนอธบิ ายความรู้เพ่ิมเติมนอกเหนือจากเอกสาร 2.ผู้เรียนฟงั อธิบายความรูเ้ พ่ิมเตมิ นอกเหนือจาก

ประกอบการสอนวิชา อุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละ เอกสารประกอบการสอนวชิ า อุปกรณ์

วงจร และใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกนั วัดและทดสอบทรานซลิ อิเลก็ ทรอนกิ ส์และวงจร และให้ผ้เู รียนช่วยกนั วดั

เตอรด์ ้วยโอห์มมิเตอร์ และทดสอบทรานซิลเตอรด์ ว้ ยโอหม์ มเิ ตอร์

3.ผสู้ อนเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นซักถามข้อสงสัยท่ีเกิดข้ึน 3.ผูเ้ รียนซกั ถามข้อสงสัยทีเ่ กิดข้ึน

ระหว่างการเรยี น และตอบข้อซกั ถาม 4.ผ้เู รียนทาการทดลองที่ 7 ทรานซิสเตอร์

4.ผู้สอนให้ผเู้ รียนทาการทดลองที่ 7 ทรานซิสเตอร์ (Transistor) (Zener Regulator) หน้า 86-90

(Transistor) (Zener Regulator) หน้า 86-90 5.ผู้เรยี นสืบค้นข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็

5.ผูส้ อนใหผ้ เู้ รียนสบื คน้ ข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต ขัน้ สรปุ (จานวน 30 นาที)

ขน้ั สรุป(จานวน 30 นาที) 1.ผเู้ รียนร่วมกันสรปุ เนอ้ื หาที่ไดเ้ รยี นให้มีความ

1.ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกันสรุปเนอ้ื หาที่ไดเ้ รยี นให้มี เขา้ ใจในทิศทางเดยี วกัน

ความเข้าใจในทศิ ทางเดยี วกัน 2.ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบบทท่ี 7 หนา้ ที่ 91-92

2.ผ้สู อนใหผ้ ้เู รียนทาแบบทดสอบบทท่ี 7 หนา้ ท่ี 3.ผ้เู รยี นศกึ ษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย เอกสาร

91-92 ประกอบการสอนท่ีจดั ทาขึ้น

3.ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรยี น ดว้ ย

เอกสารประกอบการสอนที่จัดทาข้นึ

รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด 240 นาที

หรอื 4 ช่ัวโมงเรยี น

6. ส่อื การเรียนการสอน/การเรียนรู้

6.1 สือ่ ส่งิ พิมพ์
1) เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์และวงจรของนายชงิ ชัย ศรสี ุรตั น์
2) แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 7 ทดสอบทรานซิสเตอร์
3) แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 7 ทดสอบทรานซสิ เตอร์
4) เอกสารการเรยี นรู้หน่วยท่ี 7 ทดสอบทรานซิสเตอร์
5) แบบฝึกหัดหน่วยท่ี 7 ทดสอบทรานซิสเตอร์
6) เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรยี น และแบบฝึกหัดท้ายหน่วย

146

6.2 สือ่ โสตทัศน์
1) เครอ่ื งฉายภาพ (projector)
2) งานนาเสนอหน่วยที่ 7 ทดสอบทรานซสิ เตอร์

6.3 ส่อื ของจริง
1) ทดสอบทรานซสิ เตอร์

7. แหล่งการเรียนการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศึกษา
1. หอ้ งสมดุ
2. ศนู ย์ Internet สมเด็จพระเทพฯ
3. หอ้ งปฏิบตั ิการเขียนแบบเครอ่ื งกลด้วยคอมพิวเตอร์

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
1. อาคารวิทยบรกิ าร วิทยาลัยเทคนิคสวา่ งแดนดนิ

8. งานที่มอบหมาย

8.1 ก่อนเรียน
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ตอบคาถามก่อนเรียน เปน็ การนาเขา้ สู่บทเรียน

8.2 ขณะเรียน
1. ตอบคาถามระหว่างเรียน

8.3 หลังเรียน
1. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น
2. ทาแบบฝกึ หัดหลงั เรยี น
3. ทาใบกิจกรรมท่ี 7

9. ผลงาน/ช้ินงาน ที่เกดิ จากการเรยี นรขู้ องผู้เรียน

การทดลองท่ี 7 ทดสอบทรานซสิ เตอร์ แบบทดสอบบทท่ี 7

10. เอกสารอา้ งอิง

1. หนังสือเรียนวชิ าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจรของนายชิงชยั ศรสี รุ ตั น์

147

11. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธก์ ับรายวชิ าอืน่

1. บูรณาการกบั วชิ าชีวติ และวัฒนธรรมไทย ดา้ นการพดู การอา่ น การเขยี นและการฝกึ ปฏบิ ตั ติ นทาง
สงั คมด้านการเตรียมความพร้อม ความรบั ผิดชอบ ความสนใจใฝ่รู้

2. บรู ณาการกบั วชิ าหลักเศรษฐศาสตร์ ดา้ นการเลือกใช้ทรัพยากรอยา่ งประหยดั

12. หลักการประเมินผลการเรียน

12.1 กอ่ นเรียน
1. ตรวจสอบระดับความร้คู วามเข้าใจของผเู้ รียนก่อนเริ่มการสอน

12.2 ขณะเรยี น
1. ตรวจสอบความสนใจในการเรยี นของผเู้ รยี นโดยการถาม-ตอบคาถามในระหวา่ งที่เรยี น

12.3 หลงั เรยี น
1. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นพร้อมกับเปรียบเทียบแบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ตรวจแบบฝึกหดั หลงั เรยี นเพ่ือประเมิลระดบั ความเขา้ ใจของผเู้ รยี น
3. ตรวจใบกิจกรรม

13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียน

จุดประสงค์ข้อท่ี 1 การประเมินผลความรคู้ วามเข้าใจของผเู้ รยี นกอ่ นเรยี น
1. วธิ กี ารประเมิน : ให้ทาแบบทดสอบก่อนเรียน และถามคาถามเพื่อประเมินระดบั ความรู้ของผู้เรยี น
2. เคร่อื งการประเมิน : แบบทดสอบก่อนเรียน
3. เกณฑ์การประเมิน : ใช้อ้างอิงเป็นตัวเปรียบเทยี บกับผลการทดสอบหลงั เรียน
4. เกณฑ์การผ่าน : นกั เรยี นสามารถทาแบบทดสอบได้ไมน่ ้อยกว่าคร่งึ หนึ่งของจานวนข้อของแบบ

ทดสอบทัง้ หมด
จดุ ประสงคข์ ้อที่ 2 การประเมินผลความรคู้ วามเข้าใจของผู้เรยี นหลังเรียน
1. วธิ กี ารประเมิน : ใหท้ าแบบทดสอบหลังเรียน
2. เครื่องการประเมนิ : แบบทดสอบหลงั เรียน
3. เกณฑ์การประเมนิ : ใชเ้ ปรยี บเทยี บกบั ผลการทดสอบกอ่ นเรียน
4. เกณฑ์การผา่ น : นกั เรยี นสามารถทาแบบทดสอบได้ไมน่ ้อยกวา่ การทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน

148

14. แบบทดสอบก่อนเรียน

สัปดาหท์ ่ี .....7.....ชอื่ หน่วยการสอน ทรานซิสเตอร์
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ การประเมินผลความรคู้ วามเข้าใจของผเู้ รียนก่อนเรียน
ขอ้ คาถาม
คาส่งั จงเลอื กคาตอบใหถ้ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดียว

1. ทรานซิสเตอร์ที่แบง่ โดยใช้สารก่งึ ตัวนาเปน็ เกณฑ์ แบ่งไดเ้ ปน็ กี่ชนิด
ก. 1 ชนดิ
ข. 2 ชนดิ
ค. 3 ชนดิ
ง. 4 ชนดิ

2. เพราะเหตใุ ดเยอรมันเนียมทรานซิสตอรใ์ นปังจุบันจงึ ไม่นิยมใช้
ก. ตัวใหญ่เกนิ ไป
ข. กระแสร่ัวไหลมาก
ค. คา่ ความตา้ นทานต่า
ง. ไม่มจี าหนา่ ยในท้องตลาด

3. ทรานซิสเตอรช์ นิดใดที่นิยมใชก้ ันมากในปจั จุบนั
ก. ทรานซสิ เตอรช์ นดิ หวั ต่อ
ข. ทรานซิสเตอร์ชนิดเขอรมันเนียม
ค. ทรานซสิ เตอร์แบบปรับคา่
ง. ทรานซิสเตอร์ชนดิ ซลิ ิคอน

4. ชั้นกลางของโครงสร้างทรานซสิ เตอรต์ อ่ กบั บาได
ก. อมิ ิตเตอร์
ข. คอลเลกเตอร์
ค. เบส
ง. กราวด์

5. ชัน่ รอบพอกของโครงสรา้ งทรานซสิ เตอร์เรียกว่าอะไร
ก. ตัวถงั
ข. โครงสรา้ งรอบนอก
ค. อมิ ติ ตอร์และดอลลกเตอร์
ง. สารกง่ึ ตวั นา

149

6. โครงสรา้ งภายนอกทรานซสิ เตอร์มไี ว้เพ่ืออะไร
ก. ปอ้ งก้โครงสร้งภายใน, ระบาขความร้อนและคา้ จุนขา
ข. สวยงาม, คา้ จนุ ขาและระบชุ นดิ ของทรานซสิ เตอร์
ค. ป้องกันโครงสร้งภายใน, ระบายความรอ้ น และระบุชนิดของทรานซสิ เตอร์
ง. ระบุชอ่ื ขาต่าง ๆ ของทรานซิสเตอร์

7. จากรูปเปน็ สญั ลกั ษณ์ของทรานซสิ เตอร์ชนดิ ใด

ก. ชนดิ NPN
ข. ชนดิ PNP
ค. ชนิด NNP
ง. ชนิด PPN

8. จากรปู เปน็ สญั ลกั ษณ์ของทรานซิสเตอร์ชนดิ ใด

ก. ชนิด NPN
ข. ชนดิ NNP
ค. ชนิด PNP
ง. ถกู ทั้ง ก และ ค

150

9. ขอ้ ใดเป็นการจ่ายไบอัสให้ทรานซิสเตอรถ์ กู ต้อง
ก. จ่ายไบอัสตรงใหข้ า C กับขา B
ข. จา่ ยไบอสั กลับใหข้ า B กบั ขา C
ค. จ่ายไบอัสกลับให้ขา E กบั ขา B
ง. จ่ายแรงดันสูงใหข้ า B กบั ขา E

10. ทรานซสิ เตอร์ทขี่ น้ึ ต้นด้วย 2SA หรือ A มีความหมายอย่างไร
ก. เป็นทรานซสิ เตอร์ชนดิ PNP ใช้ในความถี่ตา่
ข. เปน็ ทรานซสิ เตอรช์ นดิ PNP ใช้ในความถสี่ งู
ค. เปน็ ทรานซสิ เตอร์ชนดิ NPN ใชใ้ นความถต่ี ่า
ง. เป็นทรานซสิ เตอรช์ นดิ NP ใชใ้ นความถ่สี ูง

15. แบบทดสอบหลงั เรียน

สปั ดาหท์ ่ี .....7.....ชื่อหน่วยการสอน ทรานซิสเตอร์
วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ การประเมินผลความร้คู วามเข้าใจของผู้เรียนกอ่ นเรียน
ข้อคาถาม
คาส่ัง จงเลอื กคาตอบใหถ้ ูกต้องทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดียว

1. ทรานซสิ เตอร์ทีแ่ บง่ โดยใชส้ ารกง่ึ ตวั นาเป็นเกณฑ์ แบ่งได้เปน็ กช่ี นดิ
ก. 1 ชนดิ
ข. 2 ชนิด
ค. 3 ชนดิ
ง. 4 ชนิด

2. เพราะเหตใุ ดเยอรมันเนยี มทรานซิสตอร์ในปังจุบนั จงึ ไมน่ ยิ มใช้
ก. ตัวใหญ่เกินไป
ข. กระแสรั่วไหลมาก
ค. ค่าความต้านทานต่า
ง. ไม่มีจาหนา่ ยในท้องตลาด


Click to View FlipBook Version