ชุมชนมีปฏทิ นิ กจิ กรรม สถานทใ่ี นชุมชนทย่ี ินดี
อะไรบ้างในแต่ละปี เปิดรบั เด็กเข้าไปทัศน
ศกึ ษามีทีใ่ ดบา้ ง
กิจกรรมชุมชนกับ การทางานรว่ มกบั ผปู้ กครองและชมุ ชน พนื้ ทต่ี รงไหนในชมุ ชนท่ี
โรงเรยี นมกี าร เดก็ อาจไปศึกษาไดใ้ น
ร่วมมอื กนั ทางานบาง แตล่ ะเดอื นของปี
อย่างบา้ งหรือไม่
ใดในชุมชนทเี่ ดก็ เด็กสามารถมีส่วน บคุ คล สถานทสี่ าคัญในชุมชนอยทู่ ่ี
ควรลงไปร่วม ร่วมในกิจกรรมตาม ไหน ท่านเคยแจง้ ข่าวสารเร่ืองราวท่ี
ทางานด้วย ปฏิทนิ น้นั ไดบ้ ้างไหม สาคัญและมปี ระโยชนต์ อ่ เด็กให้
คุณครูทราบบ้างไหม
สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั หมายถงึ สถานทร่ี ับดแู ล พฒั นา จดั ประสบการณ์เรยี นรู้ และ
การศกึ ษา สาหรับเดก็ ปฐมวัยครอบคลุมตง้ั แตท่ ารกแรกเกดิ ถงึ 5 ปี หรือก่อนเขา้ เรยี นประถมศึกษาปที ่ี 1 ท่ใี ชช้ อื่
หลากหลายรวมทุกสงั กัดในประเทศไทย
อา้ วองิ : มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวันแหง่ ชาติ
การเล้ียงดูเดก็ ในสถานสงเคราะห์
รบั ผิดชอบอบรมเล้ียงดูเด็กของมลู นธิ ฯิ วัยแรกเกดิ – 7 ปี จานวนประมาณ
50 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย ท้ังร่างกาย จิตใจ
อารมณ์สังคม สติปัญญา มีคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
มีคุณภาพชวี ิตท่ดี ี พร้อมทจี่ ะไปอยู่กับครออา้ บงอคิงรัวท่ีรับเดก็ ไปอปุ การะอย่างมีความสุข โดยแบ่งการ
เลี้ยงดูเด็กออกเป็น 3 กลุ่ม ตามอายุและพัฒนาการของเด็ก กรณีมีเด็กท่ีมีปัญหาสุขภาพจะ
ไดร้ ับการดูแลสขุ ภาพอยา่ งใกลช้ ิดจากกุมารแพทย์และพยาบาล
อา้ งองิ : Copyright © 2022 มูลนิธสิ งเคราะหเ์ ด็กของสภากาชาดไทย Design by ThemesDNA.com
การเล้ียงดูเดก็ ในสถานสงเคราะห์ (ตอ่ )
เนื่องจากสถานสงเคราะห์ของมูลนิธิฯ ต้ังอยู่ภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทางานใกล้ชิดกับแพทย์
พยาบาลของโรงพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีอาจารย์แพทย์ท่ีเช่ียวชาญเฉพาะด้าน
ดังน้ันในระยะกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา สถานสงเคราะห์ของมูลนิธิฯ จึงได้รับเด็กท่ีมีปัญหาสุขภาพซับซ้อนจากสถาน
สงเคราะห์เดก็ ของกรมกิจการเดก็ และเยาวชน ตามท่ีได้รับคาขอจากสถานสงเคราะห์นั้นๆ มาดูแลรักษาจานวนมากข้ึน
เรอ่ื ยๆ ทาให้ตอ้ งรับเลี้ยงดูเดก็ จานวนมากกวา่ 50 ราย อยเู่ นอื งๆ นอกจากนี้ท้ังพยาบาลและพีเ่ ลย้ี งผู้ดแู ลเด็กของมูลนิธิ
ฯ ยังได้มีการพัฒนาทักษะการดูแลเด็กเจ็บป่วยเหล่าน้ีมากขึ้น เช่น การพ่นฝอยละอองยา การให้ออกซิเจนต่อเนื่อง
(home respiratory care) การดูดเสมหะ การระบายเสมหะ การใช้เครื่องช่วยหายใจสาหรับเด็กที่มีปัญหาโรคปอด
เรื้อรัง การให้อาหารทางสายหน้าท้อง (gastrostomy tube) การดูแลเด็กโรคหัวใจ ฯลฯ ซึง่ ทักษะตา่ งๆ เหลา่ น้ีอาจ
ทาไมไ่ ด้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพในสถานสงเคราะหอ์ น่ื
อ้างองิ : Copyright © 2022 มลู นธิ สิ งเคราะห์เดก็ ของสภากาชาดไทย Design by ThemesDNA.com
จึงนบั เป็นการช่วยเหลือหนว่ ยงานอื่นท่ไี ม่มีความพรอ้ ม และช่วยเหลอื เด็กกลมุ่ นใ้ี หห้ ายจากโรค มีสุขภาพ
แขง็ แรงขนึ้ และมคี ุณภาพชวี ติ ทีด่ ขี น้ึ พรอ้ มทจี่ ะมอบให้ครอบครัวเดมิ หรือครอบครัวบญุ ธรรมตอ่ ไปได้ ที่ผา่ นมา
สถานสงเคราะห์ใหก้ ารดแู ลรักษา และฟนื้ ฟูสขุ ภาพเด็กท่ีมีปัญหาดงั กล่าว จนกระทงั่ มีผรู้ ับไปอุปการะและได้
เติบโตอย่างมคี วามสขุ มคี ุณภาพชีวติ ทด่ี ขี นึ้ เปน็ จานวนมากกว่า 100 ราย
ในการพัฒนาเด็กเลก็ นอกจากการรักษาฟ้ืนฟสู ่งเสรมิ สขุ ภาพทางกายแล้ว มลู นิธิฯ ยังจัดกิจกรรมสง่ เสริม
และกระตุน้ พฒั นาการตามวัย สง่ เสริมให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้ในดา้ นตา่ งๆ ตามวัย และศักยภาพของเดก็ แต่ละ
ราย รวมทั้งเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณี ให้ได้รับการศึกษาในโรงเรียนในกรณีท่ีอายุถึงเกณฑ์แล้วยังไม่ได้ไป
อยู่กับครอบครัวผู้ให้กาเนิดหรือครอบครัวบุญธรรม ให้เด็กได้ไปทัศนศึกษา ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมที่
เหมาะสม เพ่อื สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ท้งั น้ีเป็นการเตรียมพร้อมใหเ้ ด็กเตบิ โตอย่างมคี วามสุขและมีคุณภาพ
ชวี ิตทีด่ ี พร้อมท่จี ะเป็นสมาชกิ ท่ดี ีและมีคณุ คา่ ของครอบครวั และสงั คมต่อไป
อา้ งอิง : Copyright © 2022 มูลนิธสิ งเคราะหเ์ ดก็ ของสภากาชาดไทย Design by ThemesDNA.com
“สถานแรกรบั ”
“สถานแรกรบั ” หมายความวา่ สถานท่ีรบั เดก็ ไวอ้ ปุ การะเป็นการช่วั คราวเพ่ือสืบเสาะและ
พินิจเด็กและครอบครวั เพ่ือกาหนดแนวทางในการสงเคราะหแ์ ละคุม้ ครองสวัสดิภาพท่ี
เหมาะสมแก่เด็กแตล่ ะราย “สถานสงเคราะห”์ หมายความวา่ สถานท่ีใหก้ ารอปุ การะเลีย้ ง
ดแู ละพฒั นาเด็กท่ีจาตอ้ งไดร้ บั การสงเคราะห์ ซง่ึ มีจานวนตงั้ แตห่ กคนขึน้ ไป
เขยี นใน GotoKnowโดย นางสาว ทองพลู บัวศรี
ความหมายของ เด็กเรร่ ่อน สถานแรกรับ
สถานสงเคราะห์ บ้านพฒั นาเดก็
ในการทางานวจิ ัย โครงการถอดบทเรยี นบา้ นแรกรบั และบา้ นพฒั นาเด็กเรร่ อ่ น ไดม้ ีคา หมายคา ท่ีตอ้ ง
นยิ ามอยา่ งชัดเจน ได้แก่
เดก็ เรร่ อ่ น หมายถึง เดก็ ทไี่ มม่ ีหลกั แหลง่ อาศยั หลับนอนตามทส่ี าธารณะ หรอื บางคนอาจมี
ครอบครัวอยแู่ ตไ่ มต่ ้องการอยกู่ ับครอบครวั หรอื บางคนเชา่ บา้ นอยูก่ นั เปน็ กลุ่มตามชมุ ชน เม่ือไม่มี
รายได้ กจ็ ะออกมาท้องถนน เพือ่ ประกอบอาชพี เช่น ขอทาน การเช็ดกระจก การขาบพวงมาลัย การ
รับจ้าง การขายบริการทางเพศ เข้าไปเก่ยี วขอ้ งกับอาชญากรรม คา้ ขาย ยาเสพติด เปน็ ต้น
เขยี นใน GotoKnowโดย นางสาว ทองพลู บัวศรี
ความหมายของ เดก็ เร่รอ่ น สถานแรกรับ
สถานสงเคราะห์ บา้ นพัฒนาเด็ก ตอ่
สถานแรกรับ หมายความ สถานท่ีรับเด็กไว้อปุ การะเป็นการชั่วคราวเพ่ือสืบเสาะและพินิจเด็กและ
ครอบครัว เพือ่ กาหนดแนวทางในการสงเคราะห์และคมุ้ ครองสวัสดภิ าพทเี่ หมาะสมแกเ่ ดก็ แตล่ ะราย
สถานสงเคราะห์ หมายความ สถานท่ีให้การอุปการะเล้ียงดูและพัฒนาเด็กท่ีจาต้องได้รับการ
สงเคราะห์ ซง่ึ มีจานวนตั้งแต่หกคนขึ้นไป
เขยี นใน GotoKnowโดย นางสาว ทองพลู บวั ศรี
ศนู ย์
จดุ ประสงค์
1.เพ่ือสง่ เสรมิ เครอื ข่ายการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั
2.เพื่อสังเกตและนเิ ทศศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเลก็
3. เพอ่ื สงั เกตและนิเทศหอ้ งเรียน
หน่วยงานและกระทรวงทรี่ บั ผิดชอบ กระทรวงมหาดไทย
การจัดระบบงานบรหิ าร ระบบการบรหิ ารของศูนยพ์ ัฒนาเดก็
ประกอบดว้ ย คณะทปี่ รกึ ษา คณะกรรมการศูนย์พฒั นาเดก็ เล็กฯ คณะกรรมการบรหิ าร
ศูนย์พฒั นาเด็กเลก็ ฯ โดยมกี ารบริหารงานบุคคลตาม โครงสร้างการบริหารทศี่ นู ย์
พฒั นาเด็กเลก็ กาหนด
การเปิดดาเนินงาน/ขออนุญาตจัดต้งั
1. ขออนมุ ัติจากสภาทอ้ งถ่ิน เพ่อื ขอความ
เหน็ ชอบในการจัดต้งั ศูนย์
2. จัดทาประกาศจัดตงั้ ศนู ย์ 3. ทาแบบรายงานการดาเนินงาน
4. จัดทาแผนท่ีตั้งศนู ย์ 5. สาเนาหนังสอื แสดง
กรรมสทิ ธิ์ในทด่ี นิ ทจ่ี ะตงั้ ศูนย์
6. รวบรวมเอกสารพร้อมรบั รองสาเนา รายงาน
กระทรวงมหาดไทยผ่านจังหวดั และสง่ ให้กรม
สง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ 1 ชดุ
แผนผังการดาเนนิ งาน
การนเิ ทศและการตดิ ตามการปฏิบตั งิ านบุคลากร การทางานรว่ มกับผปู้ กครองและชมุ ชน
1. สังเกตและนเิ ทศหอ้ งเรียน ดา้ นสง่ เสริมเครือขา่ ยการพฒั นาเด็กปฐมวยั ด้านการ
2. สังเกตและนเิ ทศการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ บริหารจัดการศูนย์พฒั นาเดก็ เลก็ ดา้ นการมีส่วนรว่ มและ
ตามมาตรฐานการดาเนนิ งานศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ ของ การสนับสนุนจากทุกภาคสว่ น ด้านวชิ าการและกจิ กรรม
องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ตามหลกั สูตร ดา้ นบุคลากรและดา้ นอาคาร สถานที่
3. สังเกตและนเิ ทศศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ (โดยตน้ สงั กดั ) ส่ิงแวดลอ้ มและความปลอดภยั
ตามมาตรฐานการดาเนนิ งานศูนย์พัฒนาเด็ก
เลก็ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ
ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กกับการจดั การศึกษาในท้องถิน่
นยิ ามศัพท์ ศูนย์พัฒนาเดก็ เลก็ หมายถึง สถานศกึ ษาทใ่ี ห้การอบรมเล้ียงดู จดั ประสบการณ์ และส่งเสรมิ พฒั นาการ การ
เรยี นรูใ้ หเ้ ดก็ เลก็ มีความพร้อม ดา้ นร่างกาย อารมณ์-จติ ใจ สงั คมและสติปญั ญา สังกดั องคก์ รปกครอง ส่วนท้องถ่นิ
ความสาคัญของการจดั การศกึ ษาปฐมวยั
การจัดการศึกษาปฐมวัย เปน็ พื้นฐานท่ีสาคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เนื่องจากเดก็ ระดบั ปฐมวัย ท่ีมีอายุระหว่าง 3-6 ปี จะเป็น
ช่วงอายุท่ีสามารถพัฒนาความพร้อมทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาได้อย่างเต็มที่ หากไม่ได้รับการพัฒนา
ส่งเสริมในช่วงนี้ อาจจะมีผลทาให้การพัฒนาด้านต่างๆ เป็นไปอย่างเชื่องช้าซึ่งจะกระทบต่อความเจริญเติบโตในอนาคต ดังที่
นกั จิตวิทยาเสนอแนวคิดไว้ เชน่ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) กลา่ วว่า “วัยเร่ิมตน้ ของชีวิตมนุษย์คือ ระยะ 5 ปีแรกของคนเรา
ประสบการณ์ต่างๆ ท่ีได้รับในตอนต้นของชีวิต จะมีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเราตลอดจนถึงวาระสุดท้าย โดยเช่ือว่าการอบรมเลี้ยงดูใน
ระยะปฐมวยั นั้น ” (อ้างถงึ ใน เยาวพา เดชะคุปต์ 2542: 13)
ความสาคญั ของการจดั การศกึ ษาปฐมวยั ต่อ
จะมีผลกระทบต่อการพฒั นาบคุ ลกิ ภาพของเด็กในอนาคต และโจ แอล ฟรอสท์ (Joe L. Frost) ได้เสนอว่า “เดก็
ในช่วง 4-5 ปีแรกของชีวิต เป็นช่วงที่ความเจริญงอกงามทางด้านร่างกายและจิตใจเกิดข้ึนอย่างรวดเร็วที่สุด
นอกจากนย้ี ังมีความรสู้ กึ ทไี่ วตอ่ อทิ ธิพลของส่ิงแวดลอ้ มภายนอก” (อา้ งถงึ ใน เยาวพา เดชะคปุ ต์ 2542: 13)
ดังนั้นในการจัดการศึกษาปฐมวัย จึงมีปรัชญาอยู่ท่ีการใหค้ วามรัก ความอบอุ่น ที่มุ่งเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก
การจัดการศึกษาเด็กอายุ 3-6 ปี เกิดวุฒิภาวะทางกาย อารมณ์ สงั คมและสติปัญญา มีพฒั นาการถึงระดับ
หน่ึงเพ่ือเป็นพืน้ ฐานในการเรยี นรูพ้ ฤติกรรมใหม่ๆ ไดง้ ่ายขนึ้ (วิรตั น์ บวั ขาว 2544: 34-35 และวราภรณ์ รกั
วจิ ยั 2535:53)
ในอดีตที่ผ่านมามีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงาน ท่ีทาหน้าท่ีจัดการศึกษาในระดับปฐมวัย สรุปได้
ดังนีก้ ระทรวงศกึ ษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดับปฐมวยั
1. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามโครงสร้างเดิมก่อนเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใหม่ ได้ดาเนินการจัดเตรียมความ
พร้อม ใหแ้ ก่เด็กกอ่ นวยั เรยี นได้แก่
1.1 สานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ดาเนินการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนให้แก่เด็กก่อนเกณฑ์
ภาคบังคับกลุ่มอายุ 4-6 ปี โดยจดั ประสบการณ์ตา่ งๆ เพ่ือเสริมสร้างให้เกิดการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คมและ
สติปัญญาเต็มตามศักยภาพ เพื่อให้มีความพร้อมในการเรียนในระดับประถมศึกษา ซ่ึงในระยะแรกจัดเป็น 2 หลักสูตร คือ
หลักสูตรอนบุ าล 2 ปแี ละหลกั สตู รเด็กเล็ก 1 ปี และในปีการศึกษา 2539 ได้ยกเลิกหลกั สูตรเดก็ เลก็ 1 ปี และใช้หลกั สูตรอนุบาล
2 ปี โดยรับเด็กที่มีอายุไม่ตา่ กว่า 4 ปขี ้ึนไป และกรณีท่ีโรงเรียนมีความพร้อมรวมท้ังชุมชนตอ้ งการให้มีการจัดหลกั สูตรอนุบาล 3
ปี โดยเรมิ่ รบั เดก็ อายุ 3 ปี จะต้องขออนญุ าตจากสานักงานการประถมศกึ ษาจังหวดั
อา้ งองิ : กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2536: 26-33)
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดับปฐมวยั ตอ่
1.2 กรมการศาสนา ดาเนินการจัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัยนอกระบบโรงเรียน โดยจัดต้ังศูนย์
อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด สอนเด็กก่อนเกณฑ์ที่จะเข้ารับการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมาย ทั้งชายและหญิงที่มีอายุตั้งแต่
3 ปี จนถงึ ยา่ งเขา้ ปที ี่ 6
1.3 กรมการฝึกหัดครู ดาเนินการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยในระบบโรงเรียน ในโรงเรียนสาธิตของ
วิทยาลัยครู โดยจัดให้แก่เด็กอายุ 3-6 ปี ในหลักสูตรอนุบาล 3 ปี หลักสูตรอนุบาล 2 ปี และหลักสูตรเด็กเล็ก 1 ปี เพ่ือ
เตรียมความพร้อมของเด็กก่อนเขา้ เรียนในระดับประถมศึกษา เปน็ การแบ่งเบาภาระของอาจารย์และข้าราชการในวิทยาลยั
ครู รวมทง้ั เป็นแหลง่ ฝกึ งานสาหรับนักศกึ ษาวิทยาลยั ครวู ชิ าเอกอนุบาลนอกจากนน้ั ยงั เปน็ ท่ีศึกษาเก่ียวกับความเจริญเติบโต
และพัฒนาการของเดก็
อ้างอิง : กระทรวงศกึ ษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดบั ปฐมวยั ต่อ
1.4 กรมสามัญศึกษา มีกองการศึกษาพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการจัดการศึกษาสงเคราะห์และ
การศึกษาพิเศษสาหรับเด็กก่อนวัยเรียนในระบบโรงเรียน ท่ีดาเนินการอยู่ในปัจจุบัน คือการศึกษาสาหรับเด็กขาด
โอกาสท่ีจะเรียนในโรงเรียนปกติ และการศึกษาพิเศษ ซ่ึงเป็นการศึกษาสาหรับผู้ขาดโอกาสเน่ืองจากความพิการ
ทางด้านต่างๆ รวมท้ังการศึกษาสาหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล การจัดการศึกษาจะจัดในลกั ษณะหลักสูตร
อนุบาล 2 ปี และหลักสูตรเด็กเล็ก 1 ปี เพ่ือเตรียมความพร้อมของเด็กก่อนเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา โดยใช้
เกณฑก์ ารจัดของกรมสามญั ศึกษา
1.5 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ดาเนินการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยในระบบโรงเรียน
จัดให้แก่เด็กวัยก่อนเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับกลุ่มอายุ 3-5 ปี โดยจัดประสบการณ์ให้นักเรียนมีความพร้อมทาง
ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ โดยเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนระดับ
ประถมศกึ ษา เช่น โรงเรยี นอนุบาลของเอกชนตา่ งๆ
อ้างอิง : กระทรวงศึกษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดบั ปฐมวยั ตอ่
2. ส่วนราชการอืน่ ทรี่ ่วมดาเนินการจดั การศกึ ษาในระดับปฐมวัยมหี ลายหน่วยงาน ได้แก่
2.1 กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมหี นว่ ยงานท่ดี าเนินการ ดงั น้ี
2.1.1 กรมการปกครอง โดยมีสานักงานการศึกษาท้องถ่ินเป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย
ให้แก่เด็กวัย 4-5 ปี หรือเด็กวัยก่อนเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับในเขตเทศบาลและเมืองพัทยา เพื่อพัฒนาการเตรียมความ
พร้อมทางร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ สังคมและความพร้อมท่ีจะเข้ารับการศึกษาในระดับประถมศึกษาต่อไป โดย
จัดเป็น 2 หลักสตู ร คือ หลกั สูตรอนุบาล 2 ปี และหลักสูตรเดก็ เลก็ 1 ปี
อ้างองิ : กระทรวงศึกษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหน้าท่จี ัดการศกึ ษาในระดบั ปฐมวยั ตอ่
2.1.2 กรมตารวจ โดยมีกองบัญชาการตารวจตระเวนชายแดนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษาให้ประชาชนท่ีอยู่ใน
ท้องถนิ่ ห่างไกลการคมนาคมไมส่ ะดวก ดาเนนิ การจัดการศกึ ษาในระดบั ปฐมวัยเป็น 2 รูปแบบ คอื
1) จดั การศกึ ษาในระบบโรงเรียน โดยจดั ใหก้ ับเด็กอายุ 3-6 ปี ในหลกั สตู รเดก็ เลก็ 1 ปี มุ่งเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กวัย
ก่อนเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา เพ่ือส่งเสริมการศึกษาแก่ประชาชนยากจนไกลคมนาคม และส่งเสริมสุขภาพ
อนามยั ตลอดจนโภชนาการท่ีถูกต้องในเดก็
2) จดั การศึกษานอกระบบโรงเรียน โดยจัดการบริการด้านการศึกษาให้แก่เด็กอายุ 2-6 ปี ท่ีไม่สามารถรับบริการศึกษาจาก
หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดการศึกษาโดยตรง ในเขตพ้ืนท่ีท่ีเป็นจังหวัดชายแดนและกองร้อยตารวจตระเวนชายแดนตั้งอยู่
หรือพื้นที่เป้าหมายเพื่อความมั่นคงตามแผนมหาดไทยแม่บทฉบับท่ี 4 การจัดบริการน้ีจะอยู่ในรูปของสถานสงเคราะห์เด็ก
ก่อนวยั เรียนในลักษณะศูนย์พัฒนาเด็กกอ่ นวยั เรยี น
อ้างอิง : กระทรวงศึกษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดบั ปฐมวัย ตอ่
2.1.3 กรมประชาสงเคราะห์ ดาเนินการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยมี 2 รปู แบบ คอื
1) จัดการศึกษาในระบบโรงเรียน จัดให้แก่เด็กอายุ 3-6 ปี ในโรงเรียนหมู่บ้านชาวไทยต่างวัฒนธรรมและสถานสงเคราะห์เด็ก เป็น
การดูแลเด็กกาพร้าหรือเด็กถกู ทอดท้ิง โดยจัดเป็นหลักสูตรอนุบาล 2 ปี และหลักสตู รเด็กเล็ก 1 ปี สาหรับหน่วยงานท่ีจดั ได้แก่
กองสงเคราะห์เดก็ และบุคคลวัยรุน่
2) จดั การศึกษานอกระบบโรงเรยี น เปน็ การให้การเล้ียงดแู ละให้การศึกษาแกเ่ ดก็ ทม่ี ปี ัญหาดา้ นการเลยี้ งดจู ากพอ่ แมแ่ ละเด็กพกิ าร โดย
จัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนให้การอุปการะท้ังชายและหญิงอายุต้ังแต่แรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ซ่ึงหน่วยงานที่ดาเนินการ คือ กอง
สงเคราะหเ์ ดก็ และบุคคลวยั รุ่น กองนิคมสร้างตนเอง กองสงเคราะหช์ าวเขา และกองบรกิ ารชุมชน
อา้ งอิง : กระทรวงศึกษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหน้าท่จี ัดการศกึ ษาในระดับปฐมวัย ต่อ
2.1.4 กรมการพัฒนาชุมชน มีกองพัฒนาสตรี เด็กและเยาวชนเปน็ ผ้รู ับผิดชอบดาเนินการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย
นอกระบบโรงเรียน โดยดาเนินการพัฒนาเด็กในชนบทตั้งแต่อายุแรกเกิด ถึงอายุ 6 ปี โดยมีแนวทางการดาเนินงาน 2
รูปแบบ คือ
1. การพัฒนาเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ดาเนินการสนับสนุนโดยให้ชุมชนจัดต้ังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในตาบล หมู่บ้าน
เพอ่ื รบั เล้ียงดูเดก็ อายุระหวา่ ง 3-6 ปี โดยจัดให้มผี ดู้ ูแลเดก็ ทาหนา้ ทีเ่ ป็นผู้เล้ียงดเู ดก็ และได้รับค่าตอบแทนจากกรมการ
พัฒนาชุมชน ผู้ปกครอง และ/หรือชุมชน ในอัตราส่วนผู้ดูแลเด็ก 1 คนต่อเด็ก 20-25 คน และคณะกรรมการพัฒนา
เด็กเปน็ ผรู้ บั ผิดชอบการบรหิ ารงานศูนย์พัฒนาเดก็ เล็ก ภายใต้การควบคุมดูแลของกรรมการหมู่บา้ นและกรรมการสภา
ตาบล
2. การพัฒนาเด็กนอกศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ ดาเนินงานพฒั นาเดก็ ต้งั แรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ที่ขาดโอกาสเข้ารับการเล้ียงดูใน
ศูนย์ ให้มีโอกาสได้รับการพัฒนาเช่นเดียวกับเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยมุ่งให้องค์กรท้องถิ่น อาสาสมัคร พ่อแม่
ผู้ปกครอง หรือบคุ คลในครอบครัว เปน็ ผู้รบั ผดิ ชอบในการจดั กิจกรรม
อา้ งอิง : กระทรวงศึกษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดบั ปฐมวยั ต่อ
2.2 กรงุ เทพมหานคร ดาเนินการจดั การศึกษาในระดบั ปฐมวัยเปน็ 2 รปู แบบ คอื
1) การจัดการศึกษาในระบบโรงเรียน โดยมีสานักการศึกษากรุงเทพมหานครเป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการจัด
การศึกษาในระดับปฐมวัย เพื่อให้เด็กท่ีมีอายุ 5 ปี (ก่อนเกณฑ์บังคับ 1 ปี) ได้รับการดูแลในการพัฒนาการ
ทางดา้ นรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์และสังคม เพอื่ เตรยี มความพรอ้ มในการเขา้ เรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 ได้
อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเด็กท่ีบิดามารดาฐานะยากจนได้มีโอกาสได้รับการศึกษาในระดับปฐมวัย โดย
จัดเป็นหลักสูตรเด็กเล็ก 1 ปี
2) การจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียน มีสานักพัฒนาชุมชนและสานักอนามัย เป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการ
จัดบริการให้สถานรับเล้ียงเด็กกลางวัน ณ ศูนย์บริการสาธารณสขุ และศนู ย์พัฒนาเด็กในชุมชนแออดั
อา้ งองิ : กระทรวงศกึ ษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารทาหน้าท่จี ัดการศกึ ษาในระดับปฐมวัย ต่อ
2.3 กระทรวงสาธารณสุข โดยกองโภชนาการกรมอนามัยเป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยนอก
ระบบโรงเรียน ไดใ้ ห้ความสาคัญในดา้ นสขุ ภาพกายและจิตใจของเด็กวัยก่อนเรียน รวมท้ังการส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้
สมวัยเพ่อื เปน็ การเตรียมความพร้อมกอ่ นเขา้ เรยี นในระดับประถมศกึ ษา ในปจั จบุ ันได้จดั ตง้ั ศนู ย์โภชนาการเด็กเพอ่ื แกไ้ ข
ปัญหาภาวะโภชนาการในเด็กโดยรบั เด็กอายุ 2-5 ปี
2.4 ทบวงมหาวิทยาลัย ได้ดาเนินการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยในระบบโรงเรียนในโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย
เป็น 2 ลักษณะ คือ ให้การศึกษาแก่เด็กอายุ 3-5 ปี (6ปี) ในรูปแบบของช้ันอนุบาลในโรงเรียนสาธิต และชั้นเตรียม
ประถมศึกษาหรือช้ันเด็กเล็ก ใหก้ ารศึกษาแก่เดก็ อายุ 5-6 ปี ในรูปของช้ันเด็กเล็ก ใช้เวลาในการจดั 1 ปี
อ้างอิง : กระทรวงศึกษาธกิ าร (2536: 26-33)
กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดบั ปฐมวัย ต่อ
2.5 องค์กรเอกชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศมากข้ึน ตั้งแต่ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ ฉบับท่ี 6 (พ.ศ. 2530-2534) ซ่ึงคณะรัฐมนตรีในขณะน้ันได้อนุมัติให้จัดต้ังสภาองค์การพัฒนาเด็กและ
เยาวชนขึ้น ประกอบด้วยองค์กรสมาชิก 50 องค์กร ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มองค์กรต่างๆ ได้แก่มูลนิธิเด็ก มูลนิธิการ
พัฒนาเดก็ พิริยานุเคราะห์มูลนิธิ สหทัยมูลนิธิ สมาคมสงเคราะห์เด็กกาพร้าแห่งประเทศไทย มูลนิธิเดก็ อ่อนในสลัม
มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทยมูลนิธิมิตรมวลเด็ก โสละมูลนิธิแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
มูลนิธิภราดรบาเพญ็ เพือ่ เดก็ กาพร้าบ้านศรีธรรมราช โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตรียน หน่วยฝากเลย้ี ง เปน็ ตน้ โดยมี
เปา้ หมายหลักในการทางานเพ่อื พัฒนาเดก็ โดยเฉพาะเด็กท่ีอยู่ในภาวะเสยี่ ง ทั้งเด็กด้อยโอกาส เด็กพกิ าร เด็กเร่ร่อน
เดก็ ถกู ทารุณกรรม ถกู ทอดทงิ้ เป็นตน้
2.6 องค์การระหว่างประเทศ ให้ความสนับสนุนด้านเงินทุน วิชาการ และเทคโนโลยีต่างๆ แก่หน่วยงานท้ังภาครัฐ
และเอกชนในประเทศไทย เพือ่ ดาเนนิ การพัฒนาเด็กกอ่ นวัยเรียนดว้ ยเชน่ เดียวกนั
อ้างอิง : กระทรวงศกึ ษาธิการ (2536: 26-33)
กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหน้าท่จี ดั การศกึ ษาในระดับปฐมวัย ต่อ
สรุปได้ว่า การจดั การศึกษาระดับปฐมวัยของหน่วยงานต่างๆ มีจดุ ประสงค์ที่คล้ายคลงึ กัน คือต้องการพัฒนาเด็ก
ทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญาเต็มตามศักยภาพ และให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนใน
ระดับประถมศึกษา และให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองโดยผ่านทางเด็กสว่ นกิจกรรมที่จดั ในสถานเล้ียงเดก็ นั้นมีความ
แตกต่างกนั บา้ ง ขึ้นอยู่กับวตั ถปุ ระสงคแ์ ละลักษณะหนว่ ยงานท่จี ดั เช่น โครงการฝึกฝนอบรมเดก็ ก่อนวยั เรียนของ
กรมการฝึกหัดครู นอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาเด็ก เผยแพร่การเล้ียงดูเด็กในชนบท ชักจูงให้ชาวบ้านมี
ส่วนร่วมในการพัฒนาชมุ ชนแล้วยังเปน็ การให้สถานศึกษาฝึกหัดครูใหไ้ ด้ศึกษาค้นคว้า ฝกึ หัดการจัดการเรียนการ
สอนของเด็กร่วมกับหน่วยงานอ่นื ๆ หรือกรมประชาสงเคราะห์ซง่ึ มุ่งเน้นหมู่บ้านชาวไทยต่างวัฒนธรรมและสถาน
สงเคราะห์เด็กกาพร้าหรือเด็กถูกทอดท้ิง ส่วนศูนย์โภชนาการเด็กของกรมอนามัยเน้นในเร่ืองสุขภาพและ
โภชนาการ เปน็ ตน้
อ้างองิ : กระทรวงศึกษาธิการ (2536: 26-33)
การบรหิ ารศูนย์พฒั นาเดก็ เลก็
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน ได้เล็งเห็นความสาคัญในการจัดทามาตรฐานการ
ดาเนินงานศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สามารถดาเนินงานเพ่ือพัฒนาเด็กได้
อย่างมีคุณภาพ และเหมาะสม ซึ่งจะเป็นแนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติ ในการ
ดาเนินงานศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต่อไป สาหรับมาตรฐานดงั กลา่ ว ได้รวบรวม และจดั ทาข้นึ จาแนกออกเป็น
มาตรฐานการดาเนนิ งาน 5 ดา้ น ประกอบด้วย (กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิน่ 2551 : 2 – 5)
1. ด้านบคุ ลากรและการบริหารจดั การ
เป็นการกาหนดมาตรฐานการดาเนินงานสาหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถนิ่ ดา้ นบคุ ลากร และการบริหารจดั การ เช่น คุณสมบตั ิและบทบาทหน้าท่ีของบุคลากรต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ผู้ดูแลเด็ก ผู้
ประกอบอาหาร ตลอดจนผู้ทาความสะอาดศูนย์พัฒนาเดก็ เล็ก เปน็ ตน้
อ้างองิ : องค์การบรหิ ารส่วนตาบลกบั การบริหารจดั การศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็
การบรหิ ารศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ตอ่
2. ด้านอาคารสถานท่ี สิง่ แวดล้อมและความปลอดภยั
เป็นการกาหนดมาตรฐานสาหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ด้านอาคารสถานท่ี
สง่ิ แวดล้อม และความปลอดภยั ดังน้ี
2.1 ด้านอาคารสถานท่ี เป็นการกาหนดมาตรฐานเก่ียวกับพื้นท่ีของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ตั้ง
จานวนช้ันของอาคาร ทางเขา้ - ออก และประตหู นา้ ต่าง ตลอดจนพืน้ ที่ใช้สอยอน่ื ๆ เป็นต้น
2.2 ส่ิงแวดล้อม เป็นการกาหนดมาตรฐานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกตัวอาคาร
เชน่ แสงสวา่ ง เสียง การถา่ ยเทอากาศ สภาพพนื้ ท่ภี ายในอาคาร รวั้ สภาพแวดลอ้ มและมลภาวะ เปน็ ตน้
2.3 ด้านความปลอดภยั เป็นการกาหนดมาตรฐานทเี่ กยี่ วกับความปลอดภยั เช่น
การกาหนดมาตรการป้องกนั ความปลอดภัย และมาตรการเตรยี มความพร้อมรับสถานการณ์ฉกุ เฉิน เปน็ ต้น
อ้างอิง : องค์การบรหิ ารส่วนตาบลกบั การบริหารจดั การศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เล็ก
3. ด้านวิชาการและกิจกรรมตามหลกั สตู ร
เป็นการกาหนดมาตรฐานสาหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ด้านวิชาการ และกิจกรรมตาม
หลักสูตร ได้แก่ คุณลักษณะของเด็กที่พึงประสงค์ 12 ประการ คุณลักษณะตามวัย (ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ
สติปัญญา) การจดั ประสบการณ์ ตลอดจนการจัดกจิ กรรมประจาวันสาหรับเด็ก เปน็ ต้น
4. ด้านการมีสว่ นรว่ มและสนบั สนนุ จากชุมชน
เป็นการกาหนดมาตรฐานสาหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ด้านการมีส่วนร่วมและการ
สนับสนุนจากชุมชน เช่น การประชุมชี้แจงให้ราษฎรในชุมชนทราบถึงประโยชน์และความจาเป็นของการดาเนินงาน การจัด
กจิ กรรมประชาสมั พันธก์ ารจดั ให้มีกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการดาเนินงาน ตลอดจนการตดิ ตามและประเมินผลรวมถงึ การ
เขา้ มามีสว่ นร่วมจากชุมชน หรือประชาคมในท้องถิ่น เปน็ ต้น
อ้างองิ : องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลกับการบริหารจัดการศนู ย์พฒั นาเด็กเลก็
5. ดา้ นธุรการ การเงนิ และพัสดุ
- งานพัสดุ เป็นการจัดทา จัดซื้อ จัดหาและจาหน่ายทะเบียนพัสดุ รวมทั้งเสนอความต้องการให้
องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ดาเนินการ
- งานธุรการ และสารบรรณ ได้แก่ การจดั ทาข้อมูลสถติ ิ จัดทาทะเบียนหนังสือรับ - ส่ง การควบคุม
และจดั เกบ็ เอกสาร การจดั ทาประกาศและคาสั่ง การจดั ทาทะเบยี นนกั เรยี น การรับสมัครนกั เรียน
- งานการเงิน ได้แก่ การจัดทางบประมาณ การทาบญั ชีการเงิน การเบิกจา่ ยเงนิ ซงึ่ ศูนย์พฒั นาเดก็
เล็กจะถือปฏิบัติเก่ียวกับรายรับ - จ่ายตามระเบียบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกฎหมายท่ี
เกี่ยวขอ้ ง
อ้างอิง : องค์การบริหารสว่ นตาบลกับการบรหิ ารจัดการศนู ย์พฒั นาเดก็ เล็ก
รูปแบบการส่งเสรมิ การจัดการศึกษาปฐมวัยขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น
รปู แบบการสง่ เสริมการจดั การศกึ ษาปฐมวัยขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ นัน้ มี 3 รปู แบบ คือ
รปู แบบท่ี 1 เป็นรูปแบบที่เหมาะกบั องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นทีม่ ีความพร้อมมากในด้านอาคารสถานที่ บุคลากร งบประมาณ
วัสดุและการจัดการ โดยจัดในโรงเรียนอนบุ าลประจาจงั หวัด/อาเภอและโรงเรียนสังกัดสานักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ ซ่ึง
สานกั งานการประถมศึกษาแหง่ ชาติให้การสนับสนนุ ช่วยเหลือด้านวิชาการ
รูปแบบที่ 2 เปน็ รูปแบบท่ีเหมาะกับองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทม่ี ีความพรอ้ มระดบั ปานกลาง ใหอ้ งคก์ รสว่ นท้องถนิ่ รบั ภาระ
เก่ียวกบั การจ้างครูพเ่ี ล้ียง วัสดุฝึก สอ่ื ตา่ งๆ โรงเรยี นใหส้ ถานที่ จดั อาหารเสริม(นม) อาหารกลางวนั และดูแลดา้ นวชิ าการ
อา้ งองิ : ชมรมพัฒนาความรู้ด้านระเบียบกฎหมาย 2543: 45-47
รูปแบบการสง่ เสริมการจัดการศึกษาปฐมวยั ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น ตอ่
รูปแบบท่ี 3 เป็นรูปแบบที่เหมาะกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีมีความพร้อมน้อย ก็ให้โรงเรียนรับผิดชอบเป็นส่วนใหญ่ ส่วน
องคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ รับผดิ ชอบบางส่วน เช่นค่าจา้ งครพู ่เี ล้ยี ง หรอื คา่ วสั ดุ/ส่ือ เปน็ ต้น
การเลือกใช้รูปแบบในการถ่ายโอนหรือสง่ เสรมิ การจัดการศึกษาปฐมวัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินสามารถเลอื กรูปแบบตาม
ความพร้อมเป็นหลกั ได้ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรพัฒนาจากรูปแบบที่ 3 เป็นรูปแบบท่ี 2 และรูปแบบท่ี 1 ตามลาดับ
เพ่อื เข้าสรู่ ปู แบบการดาเนนิ การท่ีเปน็ อิสระตอ่ ไป ทง้ั นีค้ วรดาเนินการใหไ้ ดร้ ูปแบบที่ 1 ภายในปี พ.ศ. 2545
อา้ งอิง : ชมรมพฒั นาความรู้ดา้ นระเบยี บกฎหมาย 2543: 45-47
การดาเนินการขององค์การบริหารส่วนตาบล สานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ มีนโยบายลด
ภาระการจดั การศกึ ษาระดบั ปฐมวยั โดยถา่ ยโอนการจัดการศกึ ษาอนุบาล 3 ขวบให้แกอ่ งค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่
ในปกี ารศึกษา 2544 โดยมีเป้าหมาย ดังนี้
1) โรงเรียนในสงั กดั จะไมจ่ ัดอนุบาล 3 ขวบ
2) สานกั งานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ สนับสนุนดา้ นวิชาการและมาตรฐานคุณภาพ เพื่อให้องค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ินมีความพร้อมในการจัดการอนุบาล 3 ขวบ ซ่ึงในการดาเนินงานได้ประสานงานกับ
กระทรวงมหาดไทย และแจ้งใหส้ านักงานการประถมศึกษาจังหวัดดาเนนิ การตามนโยบาย โดยให้ความร่วมมือกับ
องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ในดา้ นตา่ งๆ ดงั น้ี
เขยี นใน GotoKnow โดย นางสาว ศริ นิ นภา นามมณี ใน การบริหารการศึกษา
1) ด้านอาคารสถานที่ หากองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นใดขาดแคลนอาคารสถานที่ในการจดั อนุบาล 3 ขวบและ
ประสงค์จะขอใช้อาคารสถานที่ของสถานศึกษา ให้ดาเนินการตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าดว้ ยการขอให้
อาคารสถานที่ของสถานศึกษา พ.ศ. 2539
2) ด้านครูอัตราจ้างหรือครูท่ีทาการสอนอนุบาล 3 ขวบเดิม ในระหว่างท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินยังไม่
สามารถจ้างครูผู้สอนอ่ืนมาทดแทนได้ ให้สถานศึกษาให้ความร่วมมือดาเนินการสอนในปีการศึกษา 2544 ไป
ตามเดมิ กอ่ น
3) ด้านวิชาการใหส้ ถานศึกษาสนบั สนนุ ดา้ นวิชาการแกอ่ งค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ทั้งในดา้ นการเป็นห้องเรียน
ต้นแบบและสนับสนุนเอกสารส่ือต่างๆ นอกจากน้ันยังได้เตรียมการถ่ายโอนงบประมาณท่ีเกี่ยวข้องกับการจัด
การศึกษาระดบั ปฐมวยั (อนุบาล 3 ขวบ) ให้แก่องคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ดว้ ย
เขียนใน GotoKnow โดย นางสาว ศิรินนภา นามมณี ใน การบริหารการศึกษา
ศูนย์พฒั นาเล้ียงเดก็ เฉลมิ พระเกียรติ
มูลนิธิฯ จัดต้ังศูนย์พัฒนาและเล้ียงเด็กเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครอง
สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซ่ึงได้เปิดให้บริการต้ังแต่วันท่ี 16 เมษายน 2539 เพื่อเป็นสวัสดิการสาหรับ
บุคลากรของสภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยรับเลี้ยงดูบุตรของ
บุคลากรในเวลากลางวัน ขณะที่บดิ ามารดามาทางาน เพ่อื คลายความวิตกกังวลของบดิ ามารดาในเรื่องการ
เลี้ยงดูบุตรของตนเองในช่วงท่ีปฏิบัติงานอยู่ ศูนย์ฯ รับเล้ียงเด็กอายุตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 4 ปี โดยมี
วัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโตและมีพัฒนาการพร้อมในทุกๆ ด้าน ท้ังด้านร่างกาย อารมณ์
จติ ใจ สงั คม สติปัญญา และคุณธรรมจริยธรรม อย่างเหมาะสมตามวัยและตามศักยภาพของเดก็ แต่ละคน
รวมทง้ั ปลกู รากฐานใหเ้ ดก็ พรอ้ มท่ีจะเรยี นรู้และเติบโตเปน็ บคุ คลท่ีมีคุณภาพ มีคุณธรรมและจริยธรรมต่อไป
ในอนาคต
อา้ งองิ : มลู นิธิสงเคราะหเ์ ดก็ ของสภากาชาดไทยThai Red Cross Children Home
ศนู ย์พฒั นาเลย้ี งเด็กเฉลมิ พระเกียรติ ตอ่
ศูนย์ฯ เนน้ การสง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กได้เรยี นรู้ผา่ นการเลน่ และการทากิจกรรมตา่ งๆ อยา่ งมีความสุขสนกุ สนาน พร้อมๆ ไป
กับการสรา้ งเสรมิ คุณธรรมจริยธรรม โดยเนน้ ใหผ้ ู้ปกครองมีสว่ นรว่ ม ท้ังนเ้ี พอ่ื สง่ เสรมิ ให้เดก็ ๆ ทผี่ า่ นการดแู ลของ
ศูนยฯ์ มีอัตลักษณ์เฉพาะ คือ “เดก็ สขุ ภาพดี มีความสขุ ” และบรรลตุ ามเปา้ หมายของศนู ยฯ์ ท่ีตอ้ งการพฒั นา
ใหม้ ีเอกลกั ษณค์ อื “สขุ ภาวะดี มีคณุ ธรรม”
ศูนย์ฯ มีศักยภาพในการรับเล้ียงเดก็ ไดจ้ านวน 80 คน ตงั้ แต่เริม่ เปดิ ดาเนินการจนถงึ ปัจจุบัน มเี ด็กทไี่ ดร้ บั การ
เลยี้ งดูจากศูนยฯ์ และออกไปเขา้ เรยี นตอ่ ในระบบโรงเรียนได้อย่างดี จานวนกวา่ 1,200 รายในด้านการให้บรกิ าร
วิชาการแก่สังคม ศนู ยพ์ ัฒนาและเลย้ี งเดก็ เฉลิมพระเกยี รติ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ ศกึ ษาดงู าน และฝึกงานเก่ียวกบั การ
เลยี้ งดเู ด็กและพัฒนาการเดก็ สาหรับนกั เรยี น นิสติ นกั ศกึ ษา จากสถาบันต่างๆ เชน่ นสิ ิตแพทย์จากจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย นักศกึ ษาแพทยจ์ ากมหาวิทยาลัยรังสิต นักศึกษาพยาบาลจากวิทยาลยั พยาบาลของสานกั งานตารวจ
แหง่ ชาติ แพทย์ประจาบ้านกมุ ารเวชศาสตร์ และแพทยป์ ระจาบ้านจติ เวช
อา้ งอิง : มลู นิธิสงเคราะหเ์ ดก็ ของสภากาชาดไทยThai Red Cross Children Home
ศนู ย์พฒั นาเลย้ี งเดก็ เฉลิมพระเกียรติ ตอ่
ศาสตร์เด็กและวัยรุ่นของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฯลฯ นอกจากนี้ศนู ย์ฯยงั ได้จดั ทา
“โครงการฝกึ อบรมผู้ดูแลเด็กปฐมวัย 0 – 6 ปี” และ “โครงการฝึกอบรมการกู้ชวี ิตเด็ก
เบื้องต้นสาหรับพี่เล้ียงเด็กและบุคลากรที่ทางานเก่ียวกับเด็ก” โดยได้รับความร่วมมือจาก
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยพยาบาล
สภากาชาดไทย โดยจัดอบรมปีละ 1 ครั้ง ต้ังแต่ปีพ.ศ. 2551 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันมีผู้
ผ่านการอบรมจานวนท้ังสิ้น 134 ราย และส่วนหนึ่งของผู้ท่ีจบการอบรมสามารถเปิดสถานรับ
เลยี้ งเด็กของตนเองไดใ้ นชว่ งปดิ ภาคเรยี นของทุกปี
อ้างอิง : มลู นิธิสงเคราะหเ์ ดก็ ของสภากาชาดไทยThai Red Cross Children Home
ศูนยเ์ รยี นรู้สถานพฒั นาเดก็ เล็ก
ช่ือหน่วยงาน ศูนย์เรียนรู้สถานพัฒนาเด็กเล็ก นมแม่และการเล้ียงดูคู่เรียนรู้แบบบูรณาการ 3 เดือน -3 ปี
โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
บรบิ ทของหน่วยงาน/บรกิ าร เปน็ หนว่ ยทใ่ี ห้บรกิ ารสง่ เสริมเร่ืองพฒั นาการเดก็ ตามวัยและช่วยส่งเสริมการเล้ยี งลูกดว้ ย
นมแม่สาหรับกลุ่มคุณแม่ท่ีทางานประจา โดยใช้ปรัชญาแบบบูรณาการ รับเด็กตั้งแต่อายุ 3 เดือน - 3 ปี โดยมี
กจิ กรรมสง่ เสริมพัฒนาการตามวยั เพื่อนาสูพ่ ฒั นาการพึงประสงค์ของเด็กไทย 4.0 และเพื่อเปน็ แหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ฝึกอบรม ศกึ ษาดูงานเก่ยี วกบั เก่ียวกบั การดูแลเด็ก 0-3 ปี สง่ เสริมการลี้ยงลูกดว้ ยนมแม่ การรับประทานผักผลไม้ตาม
วัยและกิจกรรมเรียนรแู้ บบบูรณาการ ขยายผลสทู่ อ้ งถนิ่ และจดั ทาหลักสูตรในการเกดิ สถานพฒั นาเดก็ เล็กคุณภาพ
ของจงั หวัดมหาสารคาม
วนั เวลา ที่เปดิ ใหบ้ ริการ ในเวลาราชการ 08.00- 17.00 น. หยุดเสาร์ – อาทติ ย์ และวนั หยดุ นกั ขัตฤกษ์
อา้ งอิง : หน่วยงาน เรียนรสู้ ถานพฒั นาเด็กเลก็ นมแมแ่ ละการเลย้ี งดคู เู่ รียนร้แู บบบูรณาการ
สถาบนั
การเปิดดาเนินงาน/ขออนุญาตจดั ตง้ั
1. โครงการจัดตงั้ โรงเรยี น
2. ยืน่ หนงั สอื ขออนุญาตใชแ้ บบแปลน
เอกสารทใี่ ช้ 5. ระเบยี บการโรงเรยี น
6. แผนผังบรเิ วณโรงเรียน
1. คาขอรบั ใบอนญุ าตให้จดั ต้ังโรงเรยี น (สช.1) พร้อมเอกสารระบทุ า้ ยคาขอ 7. แผนผงั อาคารเรียนและหอ้ งตา่ ง ๆ
2. คาขอรบั ใบอนญุ าตให้เป็นผู้จดั การ (สช.4) พร้อมเอกสารระบทุ า้ ยคาขอ 8. รายการตรวจสถานท่ีและสุขาภิบาล
3. คาขอรับใบอนญุ าตให้เป็นครใู หญ่ (สช.7) พรอ้ มเอกสารระบุท้ายคาขอ 9. ใบอนญุ าตให้ใช้แบบแปลน
4. คารอ้ ง ร.11 ขอเกบ็ คา่ ธรรมเนียมการเรยี น และค่า
ธรรมเนียมอ่ืน ๆ พร้อมเอกสารประกอบ
หนว่ ยงานและกระทรวงที่รบั ผดิ ชอบ สานกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา การจัดระบบงานบรหิ าร
จดุ ประสงค์
1. เพื่อนสง่ เสริมเครือขา่ ยการพัฒนาเด็กปฐมวยั ด้านการบรหิ ารจดั การสถาบนั พัฒนาเด็กเลก็
2. เพือ่ บนั ทกึ การนเิ ทศเชิงปรมิ าณและคุณภาพ
3. เพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาร่วมกับศึกษานิเทศก์ที่ รบั รบั ผดิ ชอบเครอื ขา่ ยการนเิ ทศและการ
ตดิ ตามการปฏบิ ัติงานบุคลากรเปน็ การนเิ ทศโดยคณะผบู้ รหิ ารโรงเรียนในเครอื ข่าย พัฒนา
คุณภาพการศึกษารว่ มกบั ศึกษานเิ ทศก์ทร่ี ับรับผดิ ชอบเครือขา่ ย มีข้นั ตอนดังนี้
ข้ันตอนศกึ ษานิเทศก์ทีร่ บั รบั ผิดชอบเครือข่าย
1. คณะผู้นเิ ทศประชมุ วางแผน กาหนดปฏทิ ินออกนเิ ทศ กาหนดโรงเรยี น แบง่ ชั้นเรยี น
ที่จะเขา้ สงั เกต กาหนดการนเิ ทศอย่างน้อยภาคเรยี นละ 1 ครง้ั
2. เตรยี มเครอ่ื งมอื นิเทศ เช่น แบบบันทึกการติดตามงานนโยบาย แบบบันทึกการสงั เกตช้นั เรยี นแบบวดั การอา่ น
ออกเขียนได้ การคดิ คานวณ
3. ออกนิเทศตามกาหนด โดย ภาคเชา้ 1 โรงเรยี น ภาคบ่าย 1 โรงเรยี น สังเกตการจัดการเรียนการสอนของครู
ทุกห้อง แบง่ เข้าคนละ 1 ห้องอย่างน้อย ใชเ้ วลาการสงั เกต 1 ช่วั โมงเต็ม ( เช่น 9.00-10.00) ตามกลุ่มสาระการ
เรยี นรูท้ ่คี ุณครสู อน ณ วนั นนั้ และชวั่ โมงนนั้ หลงั จากครบ 1 ช่ัวโมง ผูน้ ิเทศทุกคนและครูผรู้ บั การนเิ ทศ มาน่งั
ประชมุ สะทอ้ นผลรว่ มกนั จนครบทกุ คน ลงสมุดนเิ ทศของโรงเรยี นพร้อมสาเนานากลบั มาดว้ ย
ขนั้ ตอนศกึ ษานเิ ทศกท์ ี่รบั รับผดิ ชอบเครือขา่ ย ตอ่
4. คณะนเิ ทศ สรปุ รายการการนเิ ทศของโรงเรียนทกุ โรงเรียนในเครือข่ายตามแบบบนั ทกึ การนิเทศทง้ั เชิง
ปรมิ าณและคุณภาพ พรอ้ มเขียนรายงานการเดนิ ทาง ส่งกลุ่มงานนิเทศฯ สพป. มุกดาหาร โดยศึกษานิเทศก์
หรอื เลขานกุ ารเครอื ข่าย เพือ่ รวบรวมเสนอผบู้ งั คับบัญชาตามลาดับ
5. นาผลการนเิ ทศไปวางแผนร่วมกบั เครอื ข่ายในการพฒั นาและออกนิเทศในคร้งั ตอ่ ไป
การทางานรว่ มกับผ้ปู กครองและชมุ ชน
ดา้ นส่งเสรมิ เครอื ข่ายการพัฒนาเด็กปฐมวยั ดา้ นการบริหารจัดการสถาบันพฒั นาเด็ก
เล็ก ดา้ นการมสี ่วนรว่ มและการสนับสนนุ จากทุกภาคสว่ น ด้านวิชาการและกจิ กรรมตามหลักสูตร
ด้านบุคลากรและดา้ นอาคาร สถานท่ี สงิ่ แวดล้อมและความปลอดภยั
สถาบนั
สถาบัน หมายถึง สิ่งหนึ่งของคนในส่วนรวม คือ สังคม จัดต้ังให้มขี ึ้นเพราะเหน็ ประโยชน์ว่ามีความต้องการ
และจาเป็นแกว่ ิถชี ีวติ ของตน เชน่ สถาบันครอบครวั สถาบนั ศาสนา สถาบนั การศึกษา สถาบันการเมือง
สถาบนั หมายถงึ สานักทางวชิ าการ โดยมากตั้งข้ึนโดยพระราชบัญญัติ เชน่ สถาบันเทคโนโลยี ราชมงคล
ชน้ั หรอื สถานะอนั ถือวา่ เป็นหลักฐานในสังคม เช่น สถาบนั หนังสอื พมิ พ์
อ้างองิ :พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบณั ฑติ ยสถาน ... - Sanook Dictionary
สถาบนั สขุ ภาพเดก็ แห่งชาติมหาราชินเี ดิมเป็นแผนกเด็ก
ในโรงพยาบาลหญิง(โรงพยาบาลราชวิถี)
รัฐบาลได้อนุมัติเงินงบประมาณในการก่อสร้างอาคารแผนกเด็ก และสามารถขยายงานในการดูแลผู้ป่วยเด็กหลายสาขา รับ
ผู้ป่วยได้ ๑๓๗ เตียง และให้ช่ือว่า“โรงพยาบาลเด็ก”ในการบังคับบัญชายังข้ึนกับโรงพยาบาลหญิง ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูล
สงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยน้ันได้มาทาพิธีเปิดอาคารของโรงพยาบาลเด็กในวันท่ี ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในปี พ.ศ.
๒๕๑๖ มีพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ด้วยเหตุนี้ในวันท่ี ๓ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๑๗ จงึ ได้ยกฐานะเปน็ กองโรงพยาบาลเด็ก กรมการแพทย์ มีอานาจเตม็ ในการบริหาร ในเวลาน้นั มีแพทย์ประจา ๑๘
คน พยาบาล ๗๐ คน วนั ท่ี ๔ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ไดม้ ีประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับกฤษฎีกา เล่มท่ี ๑๑๓ ตอนท่ี ๔๕ ก.
เปล่ียนช่ือโรงพยาบาลเด็กเป็น “สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี” เพ่ือเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า
สิริกติ ์ิพระบรมราชนิ ีนาถ
อา้ งองิ : https://www.childrenhospitalfoundation.or.th/about/history/:
สถาบันสขุ ภาพเดก็ แห่งชาตมิ หาราชนิ เี ดิมเป็นแผนกเด็ก
ในโรงพยาบาลหญิง(โรงพยาบาลราชวถิ )ี ต่อ
ปัจจุบนั สถาบันสุขภาพเด็กแหง่ ชาตมิ หาราชนิ ี มจี านวนเตียงผ้ปู ่วย ๔๓๕ เตียง สามารถรับผู้ป่วยในปีละ
๑๕,๐๐๐ ราย ผปู้ ว่ ยนอกปีละ ๓๕๐,๐๐๐ ราย งานผา่ ตดั ๕,๐๐๐ ราย โดยใหบ้ รกิ ารส่งเสรมิ สขุ ภาพการ
เจริญเติบโตและพฒั นาการ การป้องกันโรคและให้การรกั ษาโรคโดยแพทยเ์ ฉพาะทางโรคเดก็ ทกุ สาขาและเป็น
สถานท่ีให้การรกั ษาในระดับตตยิ ภมู ทิ ส่ี ง่ ตอ่ มาจากทว่ั ประเทศ สถาบันสขุ ภาพเด็กแหง่ ชาตมิ หาราชนิ ีไดร้ บั การ
รบั รองกระบวนการคณุ ภาพจากสถาบันพัฒนาและรบั รองคุณภาพโรงพยาบาล เมื่อวันท่ี ๑๘ ตลุ าคม พ.ศ.
๒๕๔๕ และผา่ นการรบั รองซา้ อกี ๓ ครง้ั ครั้งลา่ สดุ เมือ ๒๒-๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๔
อ้างองิ : https://www.childrenhospitalfoundation.or.th/about/history/:
สถาบนั สุขภาพเด็กแห่งชาตมิ หาราชินีเดมิ เป็นแผนกเดก็
ในโรงพยาบาลหญิง(โรงพยาบาลราชวถิ )ี ต่อ
ในปี พศ.๒๕๔๗ ได้มีการปฏิรูประบบราชการและมีการปรับโครงสร้างหน่วยงานต่างๆ ในส่วนของกรมการ
แพทย์มีการกาหนดเป็นกรมวิชาการด้านการแพทย์ฝ่ายกายและการให้การสนับสนุนด้านวิชาการแก่
หน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุข กาหนดให้หน่วยงานภายใต้สังกัดเป็นสถาบัน
ชั้นสูงและพัฒนาระบบบริการให้ถงึ ระดับตติยภูมหรือสงู กว่า และพัฒนาระบบศูนย์การแพทย์ตา่ งๆ ในระดับ
ภูมภิ าคของประเทศ สถาบนั สขุ ภาพเด็กแหง่ ชาติมหาราชนิ ีมกี ารจดั ตั้งศูนยค์ วามเปน็ เลศิ ดา้ นโรคเดก็ คอื
อ้างอิง : https://www.childrenhospitalfoundation.or.th/about/history/:
สถาบนั สขุ ภาพเด็กแห่งชาตมิ หาราชนิ ีเดิมเปน็ แผนกเดก็
ในโรงพยาบาลหญิง(โรงพยาบาลราชวิถ)ี ตอ่
1. ศูนยค์ วามเป็นเลศิ ดา้ นโรคหวั ใจเด็ก ให้การดแู ลรกั ษาผู้ป่วยเดก็ โรคหวั ใจแบบครบวงจร โดยการตรวจวนิ จิ ฉยั ดว้ ย
เครื่องเสยี งสะทอ้ นหัวใจ การสวนหัวใจเพือ่ การวินิจฉัยและรักษาในผู้ป่วยเด็กทุกอายุตัง้ แต่ทารกแรกเกิด ให้การ
รักษาโดยการผ่าตัดหัวใจชนิดเปิดทุกประเภท ความเป็นเลิศเฉพาะทางรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจมากท่ีสุดใน
ประเทศและรบั ส่ง – ต่อ มากกวา่ ๑,๕๐๐ ราย/ปี หรือ ร้อยละ ๙๐ ของผปู้ ่วยทัง้ หมด
2. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านไข้เลือดออก เป็นผู้นาในการทาแนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคไขเ้ ลอื ดออกและองค์การ
อนามัยโลก(โครงการ WHO Collaborative ด้านไขเ้ ลือดออก) ได้นาไปเผยแพร่ทั่วโลก ประเทศท่ีไปให้ความ
ช่วยเหลือและสามารถลดอัตราป่วยตาย ของผู้ป่วยไข้เลือดออกลงได้อย่างมาก เช่น บังคลาเทศ ภูฏาน บราซิล
กัมพูชา เคปเวอรด์ อนิ โดนีเซีย ลาว มาเลเซยี มัลดีฟ ปากสี ถาน ฟิลิปปนิ ส์ ศรลี งั กา ซูดาน ตมิ อร์เลสเต เวเนซูเอ
ลา เวยี ดนาม
อา้ งอิง : https://www.childrenhospitalfoundation.or.th/about/history/:
สถาบนั สขุ ภาพเดก็ แห่งชาตมิ หาราชนิ เี ดมิ เปน็ แผนกเด็ก
ในโรงพยาบาลหญิง(โรงพยาบาลราชวิถ)ี ต่อ
3. ศูนย์ความเป็นเลิศดา้ นทารกแรกเกิด รักษาผ้ปู ว่ ยทารกแรกเกดิ ระดับตตยิ ภมู ิและสงู กวา่ ทส่ี ่งต่อจากโรงพยาบาลทง้ั ใน
สว่ นกลางและภมู ิภาคเฉลยี่ กวา่ ๑,๒๐๐ รายตอ่ ปี และทารกแรกเกิดท่ีมคี วามพิการกาเนิดนา้ หนกั น้อย <๑,๕๐๐
กรมั มากท่สี ดุ ในประเทศ สามารถชว่ ยเหลือให้พ้นวกิ ฤติและมชี วี ติ รอด ๙๔ % โดยผลลพั ธม์ คี วามพกิ ารนอ้ ยท่สี ดุ
4. ศูนยค์ วามเปน็ เสศิ ดา้ นศลั ยกรรมทารกแรกเกดิ ได้มกี ารจัดตัง้ ในปี พศ ๒๕๔๓ เพิ่มข้ึนอกี หนง่ึ ศูนยเ์ ป็นศนู ยก์ ลางรบั -
สง่ ต่อและให้บรกิ ารดา้ นศลั ยกรรมแก่ทารกแรกเกดิ แห่งแรกของประเทศโดยผา่ ตดั ปลี ะ๔๐๐-๕๐๐ ราย
อา้ งอิง : https://www.childrenhospitalfoundation.or.th/about/history/:
สถาบนั พัฒนาการเด็กราชนครินทร์
สถาบนั พฒั นาการเดก็ ราชนครินทร์ ช่อื เดมิ ศูนย์สง่ เสริมพัฒนาการเดก็ ภาคเหนือ เปลย่ี นช่อื เป็น
สถาบนั พฒั นาการเด็กราชนครินทร์ ตงั้ อยทู่ ี่ 196 หมู่ 10 ตาบล ดอนแก้ว อ.แมร่ มิ จ.เชยี งใหม่ 50180
วสิ ยั ทัศน์(VISION)
เป็นองคก์ รท่ีมคี วามเป็นเลิศดา้ นเดก็ พัฒนาการล่าชา้ ในระดบั นานาชาติ ภายในปี 2565
พนั ธกิจ
1. ใหบ้ รกิ ารรักษาฟ้ืนฟู ศึกษาวิจัย ถา่ ยทอดนวัตกรรมดา้ นพัฒนาการล่าชา้ ในนานาชาติ
2. ให้บรกิ ารรักษาฟน้ื ฟู ศกึ ษาวจิ ัย ด้านสขุ ภาพจิตเด็กและวัยรุ่นระดบั ตตยิ ภมู ขิ ้ันสงู
3. สนบั สนุนการดาเนนิ งานส่งเสรมิ ป้องกนั รกั ษา ฟื้นฟู สขุ ภาพจิตเด็กและวยั รนุ่ และพัฒนาการเดก็ ในเขตสุขภาพที่รับผดิ ชอบ
4. สรา้ งความตระหนกั และเข้าใจปญั หาสขุ ภาพจิตเด็กและวยั รนุ่ และเดก็ พัฒนาการล่าช้า ให้แก่ประชาชน
อ้างองิ : ttps://ricd.go.th/webth2/#