ค่มู ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 1
หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
การตรวจสอบความเข้าใจ บทที่ 1 | จำ�นวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น ตรวจสอบความเข้าใจ
โดยให้นักเรียนแตล่ ะคนนับแผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ เขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนังสอื แสดงจาำ นวน
และแผ่นตารางหนว่ ย แลว้ เขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ
ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจำ�นวน จากน้ันครู 12
และนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและ
สรปุ สง่ิ ที่ได้เรยี นร้ ู 228 ๒๒๘ สองรอ้ ยยีส่ ิบแปด 360 ๓๖๐ สามรอ้ ยหกสิบ
3 4
611 ๖๑๑ หกร้อยสบิ เอด็ 901 ๙๐๑ เกา้ ร้อยเอด็
สิง่ ท่ไี ด้เรียนรู้ สิ่งท่ีไดเ้ รยี นรู้ แบบฝึกหัด 1.4
ส�ม�รถบอกจำ�นวนของสงิ่ ต่�ง ๆ ได้จ�กก�รนบั
•• สามารถบอกจำ�นวนของสิ่งตา่ ง ๆ ไดจ้ ากการนับ ส�ม�รถเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอ�รบกิ ตัวเลขไทย
สามารถเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทย และ และตวั หนงั สือแสดงจ�ำ นวน
ตวั หนังสือแสดงจำ�นวน
จากนัน้ ให้นักเรียนท�ำ แบบฝกึ หดั 1.4 หน้า 9 - 10 20 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.5 หลัก คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั ของจำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000
จดุ ประสงค์
บอกหลกั คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลักและเขียนแสดงจ�ำ นวนในรปู กระจาย
ส่อื การเรยี นรู้ หนังสอื เรียนร�ยวิช�พ้นื ฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2
บทที่ 1 | จำานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
บตั รภาพ แผ่นตารางร้อย แผน่ ตารางสิบ แผน่ ตารางหนว่ ย
1.5 หลัก ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลัก
แนวการจดั การเรยี นรู้ ของจำานวนนับไม่เกิน 1,000
การพฒั นาความรู้
พฒั นาความรู้
1. จากภาพปลาในหนงั สอื เรยี นหน้า 21 ครสู นทนา
กับนักเรยี นเกี่ยวกบั ภาพ เชน่ มีปลานลิ ถุงละ 100 ตวั กีถ่ ุง แม่ซื้อลูกปล�นลิ ม�เลย้ี ง 300 ตวั ปล�ทอง 10 ตวั
มีปลานิลทัง้ หมดเท่าไร มปี ลาทองถุงละ 10 ตัว กถ่ี ุง และปล�กัด 2 ตัว แม่ซ้อื ปล�ท้งั หมดก่ตี วั
มปี ลาทองทงั้ หมดเทา่ ไร มีปลากดั ขวดละ 1 ตวั ก่ีขวด
มีปลากัดท้งั หมดเท่าไร ครถู ามนกั เรียนว่า แม่ของขนุ แม่ของขุนซ้ือปล�ทง้ั หมด
ซอื้ ปลาทงั้ หมดกี่ตวั โดยนบั จำ�นวนปลาท้ังหมดเปน็ 3 ร้อย 300 กับ 10 กับ 2 เท�่ กับ 312 ตัว
กับ 1 สบิ กับ 2 เทา่ กบั 312 ตัว ครูแนะน�ำ วา่ 312
เป็นจ�ำ นวนสามหลัก 3 ในหลกั รอ้ ย มคี า่ 300 100 ตัว 100 ตัว 100 ตวั
1 ในหลกั สิบ มคี า่ 10 และ 2 ในหลกั หน่วย มคี า่ 2
10 ตวั
312 เป็นจ�ำ นวนส�มหลัก
หลักรอ้ ยอยถู่ ดั ไปท�งซ�้ ย
ของหลักสิบ
312 คือ 3 ร้อย กับ 1 สิบ กับ 2 หน่วย
หลักร้อย หลกั สิบ หลักหน่วย
31 2
3 ใน หลักร้อย มีค�่ 300
1 ใน หลกั สบิ มคี ่� 10
2 ใน หลักหนว่ ย มีค่� 2 ค่�ของเลขโดด
| 21สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
14 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 ค่มู ือครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1
2. จากภาพในหนังสือเรยี นหน้า 22
ใหน้ ักเรียนนับแผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
และแผน่ ตารางหนว่ ย และบอกวา่ ภาพแตล่ ะภาพ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
มีก่รี ้อย กี่สิบ กี่หนว่ ย พร้อมท้งั บอกค่า
ประจ�ำ หลกั ของเลขโดดแตล่ ะตวั เชน่ ในภาพแรก 607 คือ 6 รอ้ ย กบั 0 สิบ กบั 7 หนว่ ย
นับแผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสบิ และ
แผน่ ตารางหน่วยได ้ 6 รอ้ ย กับ 0 สบิ หลกั รอ้ ย หลกั สิบ หลกั หน่วย 6 ใน หลักรอ้ ย มคี ่� 600
กับ 7 หน่วย หรือ 607 6 0 7 0 ใน หลักสบิ มีค่� 0
7 ใน หลักหน่วย มีค�่ 7
6 ในหลักร้อย มีคา่ 600 0 ในหลกั สิบ
มีคา่ 0 และ 7 ในหลักหน่วย มีค่า 7 จากนน้ั 1,000 คือ 10 รอ้ ย กบั 0 สิบ กับ 0 หน่วย
ครแู นะน�ำ จ�ำ นวนสีห่ ลกั คือ 1,000 หลักพัน
อยู่หลักถัดไปทางซา้ ยของหลกั รอ้ ย 1,000 คือ 1 พนั กบั 0 รอ้ ย กับ 0 สบิ กบั 0 หนว่ ย
เลขโดด 0 ในหลกั ร้อย หลักสิบ และหลักหน่วย
มคี ่าเปน็ 0 และ 1 ในหลักพัน มคี ่า 1,000 หลกั พัน หลกั ร้อย หลักสิบ หลักหน่วย
1 0 0 0
3. ครูใหน้ กั เรียนบอกค่าของเลขโดด
ในแตล่ ะหลักของ 423 ดังนี้ 1 ใน หลักพนั มคี ่� 1,000 1,000 เปน็ จำ�นวนสห่ี ลกั หลักพัน
0 ใน หลกั รอ้ ย มีค่� 0 อยูห่ ลกั ถัดไปท�งซ้�ยของหลกั ร้อย
4 ในหลกั รอ้ ย มีค่า 400 2 ในหลกั สบิ 0 ใน หลักสบิ มคี ่� 0
มคี า่ 20 และ 3 ในหลักหนว่ ย มีคา่ 3 0 ใน หลักหนว่ ย มคี �่ 0 0 ในหลักร้อย หลกั สบิ และ
ครแู นะน�ำ การเขียน 423 ในรูปกระจาย หลักหน่วยมีค่�เปน็ ศนู ย์
ได ้ 423 = 400 + 20 + 3 วา่ เปน็ การเขียน
ในรปู การบวกค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั 22 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากน้นั ครใู ห้นกั เรียนเขยี น 590 และ 705
ในรูปกระจาย ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 23 และ หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
ครใู หส้ ังเกตวา่ ถา้ เลขโดดในหลกั ใดเปน็ 0 บทที่ 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
อาจละการเขยี นเลขโดดนั้นได้ เชน่
705 = 700 + 5 การเขยี นแสดงจาำ นวนในรปู กระจาย
ครูยกตวั อย่างจำ�นวนอืน่ ๆ แลว้ ให้ 4 ใน หลกั รอ้ ย มคี �่ 400
นกั เรยี นออกมาเขยี นในรูปกระจายบนกระดาน
จากนั้นครูใหน้ ักเรียนช่วยกันเขียนแสดงจ�ำ นวน 423 2 ใน หลกั สิบ มีค�่ 20
ในรูปกระจายในกรอบท้ายหน้า 23 3 ใน หลกั หนว่ ย มคี ่� 3
เขียนในรูปกระจ�ย 423 = 400 + 20 + 3
5 ใน หลักรอ้ ย มีค่� 500
590 9 ใน หลกั สิบ มีค่� 90
0 ใน หลักหน่วย มคี ่� 0
เขียนในรูปกระจ�ย 590 = 500 + 90 + 0 หรือ 590 = 500 + 90
705 7 ใน หลกั รอ้ ย มีค่� 700
0 ใน หลักสบิ มีค่� 0
5 ใน หลกั หนว่ ย มคี ่� 5
เขียนในรูปกระจ�ย 705 = 700 + 0 + 5 หรอื 705 = 700 + 5
เขยี นแสดงจาำ นวนในรูปกระจาย 2 802 802 = 800 + 0 + 2
หรอื 802 = 800 + 2
1 685
685 = 600 + 80 + 5 4 339
339 = 300 + 30 + 9
31 966
966 = 900 + 60 + 6 | 23สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 15สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 1
การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น บทที่ 1 | จำ�นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
โดยให้นกั เรยี นเขยี นค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลัก ตรวจสอบความเข้าใจ
และเขียนแสดงจำ�นวนในรูปกระจาย จากนั้น
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง บอกจาำ นวนใน และเขียนแสดงจำานวนในรปู กระจาย
ถา้ พบว่ามนี กั เรยี นคนใดเขียนค่าของเลขโดด
1 401 4 ใน หลกั รอ้ ย มีค�่ 400
0 ใน หลักสิบ มคี ่� 0
1 ใน หลักหน่วย มคี ่� 1
เขยี นในรปู กระจ�ย..............4..0..1...=...4..0.0...+...0...+...1..ห..ร..อื ...4.0..1...=...4..0..0..+...1................
ในแต่ละหลกั หรือเขยี นแสดงจำ�นวน 2 890 8 ใน หลกั ร้อย มีค่� 800
ในรปู กระจายไมถ่ ูกต้อง ครูอาจแกไ้ ข 9 ใน หลกั สบิ มคี ่� 90
เปน็ รายบคุ คลโดยใหฝ้ กึ การเขยี นคา่ ของเลขโดด
0 ใน หลกั หน่วย มคี ่� 0
เขยี นในรปู กระจ�ย.............8.9..0...=...8..0..0..+...9..0...+...1..ห..ร..ือ...8.9..0...=...8..0..0..+...9..0..............
ในแตล่ ะหลกั หรอื เขียนแสดงจ�ำ นวน สงิ่ ท่ไี ด้เรียนรู้
ในรูปกระจายกบั คร ู ครูและนักเรียนร่วมกัน
สรุปสง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้ จ�ำ นวนส�มหลัก ถ�้ เลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
อยใู่ นหลกั หนว่ ยมคี ่�เป็น 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
สิ่งที่ไดเ้ รียนรู้ ถ�้ อยูใ่ นหลกั สบิ มีค่�เป็น 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90
และเลขโดด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ�้ อย่ใู นหลกั รอ้ ยมคี ่�เปน็
• จ�ำ นวนสามหลัก ถา้ เลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 100 200 300 400 500 600 700 800 900 ต�มลำ�ดับ
7 8 9 อย่ใู นหลกั หน่วยมคี า่ เป็น 0 1 2 3 4
1,000 เป็นจำ�นวนสหี่ ลกั เลขโดด 0 ในหลกั หนว่ ย หลักสบิ
และหลกั ร้อย มคี �่ เปน็ 0 เลขโดด 1 ในหลกั พันมคี ่� 1,000
ก�รเขยี นแสดงจ�ำ นวนในรปู กระจ�ยเปน็ ก�รเขยี นในรปู ก�รบวก
ค�่ ของเลขโดดในหลกั ต�่ ง ๆ ของจำ�นวนน้ัน
แบบฝึกหดั 1.5
24 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
5 6 7 8 9 อยใู่ นหลกั สิบมคี ่าเปน็ 0 10 20
30 40 50 60 70 80 90 และเลขโดด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ้าอยู่ในหลกั รอ้ ยมคี ่าเปน็ 100 200
300 400 500 600 700 800 900 ตามล�ำ ดบั
• 1,000 เปน็ จำ�นวนสีห่ ลัก เลขโดด 0 ในหลักร้อย หลกั สบิ หลักหน่วย มีค่าเป็น 0 เลขโดด 1
ในหลักพันมคี ่า 1,000
• การเขียนแสดงจำ�นวนในรูปกระจายเป็นการเขยี นในรปู การบวกค่าของเลขโดดในหลักตา่ ง ๆ
ของจ�ำ นวนนัน้
จากน้ันใหน้ ักเรียนทำ�แบบฝึกหดั 1.5 หน้า 11 - 13
1.6 การเปรยี บเทยี บจ�ำ นวน (1)
จุดประสงค์
เปรยี บเทยี บจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทม่ี จี �ำ นวนหลกั ไมเ่ ทา่ กนั
สื่อการเรยี นรู้
บตั รภาพ
16 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 ค่มู ือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 1
แนวการจดั การเรยี นรู้
การพัฒนาความรู้ หนังสือเรียนร�ยวิช�พืน้ ฐ�น | คณิตศ�สตร์ ป.2
บทท่ี 1 | จาำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
1. จากภาพในหนังสอื เรียนหนา้ 25
ครใู ชค้ �ำ ถามว่า ใบบวั มเี งนิ ในกระปุกออมสิน 1.6 การเปรียบเทียบจาำ นวน (1)
เท่าไร และแกว้ ตามเี งินในกระปกุ ออมสินเทา่ ไร
นกั เรยี นตอบว่า ใบบวั มีเงินในกระปุกออมสิน พฒั นาความรู้
257 บาท แก้วตามีเงนิ ในกระปกุ ออมสนิ
89 บาท จากนั้นครถู ามว่าใครมเี งนิ ในกระปกุ ใบบัวนบั เงนิ ในกระปกุ ออมสินได้ 257 บ�ท
ออมสนิ มากกวา่ กนั ครแู นะน�ำ วธิ กี ารเปรยี บเทยี บ แก้วต�นบั ได้ 89 บ�ท
จำ�นวนเงินดงั น ้ี 257 เป็นจ�ำ นวนสามหลัก
89 เป็นจำ�นวนสองหลกั ดงั นนั้ 257 มากกวา่ ใครมีเงินในกระปกุ ออมสินม�กกว�่ กัน
89 เพราะจำ�นวนสามหลกั มคี า่ มากกว่าจำ�นวน
สองหลัก ดังนนั้ ใบบวั มเี งินในกระปุกออมสนิ เปรยี บเทยี บ 257 กับ 89 หลกั ร้อย หลักสบิ หลกั หนว่ ย
มากกวา่ แก้วตา 2 5 7
9
2. ครูใหน้ ักเรยี นเปรียบเทยี บ 624 กบั 8
1,000 แลว้ ถามนกั เรียนวา่ 624 เปน็ จำ�นวน
กหี่ ลัก และ 1,000 เปน็ จำ�นวนกีห่ ลัก นักเรียน 257 เปน็ จาำ นวนสามหลกั 2 ในหลักรอ้ ย มีค�่ 200
ตอบว่า 624 เปน็ จำ�นวนสามหลกั และ 1,000 89 เป็นจำานวนสองหลกั ไม่มีเลขโดดในหลักรอ้ ย
เป็นจำ�นวนส่หี ลัก ดังนน้ั 624 < 1,000 หรือ ดังน้ัน 257 > 89 หรอื 89 < 257
1,000 > 624 เพราะจ�ำ นวนสามหลกั มีคา่
นอ้ ยกว่าจำ�นวนส่หี ลัก จากนน้ั ครูใหน้ ักเรยี น ใบบัวมีเงินในกระปุกออมสินม�กกว่�แกว้ ต�
เปรยี บเทยี บ 90 กับ 319 จะได้ว่า 90 < 319 จ�ำ นวนส�มหลักม�กกว�่ จ�ำ นวนสองหลกั
หรอื 319 > 90 เพราะจำ�นวนสองหลักมีค่า | 25สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นอ้ ยกวา่ จ�ำ นวนสามหลกั จากการเปรียบเทยี บ
จ�ำ นวนขา้ งตน้ พบว่าจ�ำ นวนสองหลักมคี า่ หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
น้อยกว่าจำ�นวนสามหลกั และจ�ำ นวนสามหลกั บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
มีค่าน้อยกวา่ จำ�นวนส่ีหลกั ครแู ละนกั เรยี น
รว่ มกนั สรปุ วา่ จำ�นวนทีม่ ีจ�ำ นวนหลักน้อยกกว่า เปรียบเทยี บ 624 กับ 1,000
จะน้อยกว่าจ�ำ นวนทีม่ จี ำ�นวนหลกั มากกวา่ หรือ
จ�ำ นวนท่มี ีจ�ำ นวนหลกั มากกว่าจะมากกวา่ หลกั พัน หลกั ร้อย หลกั สิบ หลักหน่วย
จำ�นวนที่มีจำ�นวนหลกั นอ้ ยกวา่ 1 6 2 4
0 0 0
624 เปน็ จาำ นวนสามหลักไม่มเี ลขโดดในหลกั พัน
1,000 เป็นจำานวนส่ีหลัก 1 ในหลกั พนั มีค่� 1,000
ดงั นัน้ 624 < 1,000 หรอื 1,000 > 624
จำ�นวนสี่หลักม�กกว่�จ�ำ นวนส�มหลัก
จ�ำ นวนทมี่ ีจ�ำ นวนหลกั ม�กกว่� จะม�กกว่�จำ�นวนทมี่ ีจำ�นวนหลกั น้อยกว�่
เปรียบเทียบ 90 กับ 319
90 เป็นจำ�นวนสองหลัก และ 319 เป็นจำ�นวนส�มหลัก
ดังนัน้ 90 < 319 หรือ 319 > 90
26 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 17สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 1 | จำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ 1
เติมเคร่อื งหมาย > หรอื < หนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
3. ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันเปรียบเทียบ บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
จำ�นวนโดยเตมิ เคร่อื งหมาย > หรือ < ตาม 1 268 > 42
หนังสอื เรยี นหนา้ 27 และอธบิ ายเนน้ ยำ�้ ใน 2 80 < 402
การใส่เคร่ืองหมายวา่ จ�ำ นวนท่ีมีจำ�นวนหลัก
มากกว่าจะมีคา่ มากกวา่ จ�ำ นวนทีม่ ีหลักนอ้ ยกวา่ 3 82 < 102 4 705 > 50
หรือจำ�นวนที่มีจ�ำ นวนหลักนอ้ ยกว่าจะมคี า่ น้อย
กวา่ จ�ำ นวนท่ีมจี ำ�นวนหลักมากกว่า 5 38 < 671 6 74 < 174
การตรวจสอบความเข้าใจ 7 863 > 59 8 34 < 406
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน 9 1,000 > 525 10 632 > 18
โดยให้นกั เรยี นเติมเครอื่ งหมาย > หรอื < ตาม
หนังสอื เรียนหน้า 28 ครอู าจถามนักเรยี นเปน็ 11 65 < 470 12 999 < 1,000
รายบคุ คลถงึ วิธีการเปรยี บเทียบจำ�นวนสอง
จ�ำ นวนทีม่ ีจ�ำ นวนหลักไม่เท่ากนั โดยใหพ้ ิจารณา | 27สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากจ�ำ นวนหลักว่า ถา้ จ�ำ นวนใดมจี ำ�นวนหลัก
มากกวา่ จะมากกวา่ หรือจำ�นวนใดมจี ำ�นวนหลกั หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 2 418 > 19
น้อยกว่าจะนอ้ ยกว่า บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
สิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ ตรวจสอบความเข้าใจ
• การเปรียบเทยี บจำ�นวนสองจำ�นวนทม่ี ีจำ�นวน เตมิ เคร่อื งหมาย > หรือ <
หลักไม่เทา่ กัน จำ�นวนทีม่ ีจำ�นวนหลักมากกว่า
จะมากกวา่ จ�ำ นวนท่ีมีจ�ำ นวนหลักน้อยกว่า 1 61 < 703
จากน้ันใหน้ กั เรียนท�ำ แบบฝกึ หดั 1.6
หนา้ 14 - 16 3 900 > 79 4 979 < 1,000
1.7 การเปรียบเทียบจ�ำ นวน (2) 5 146 > 54 6 70 < 700
จุดประสงค์
7 49 < 310 8 999 > 99
เปรยี บเทยี บจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทม่ี จี �ำ นวนหลกั เทา่ กนั
สิง่ ทไ่ี ด้เรียนรู้
สอื่ การเรียนรู้
ก�รเปรียบเทยี บจำ�นวนสองจ�ำ นวนทม่ี จี ำ�นวนหลักไม่เท่�กนั
บัตรภาพ จ�ำ นวนที่มจี ำ�นวนหลกั ม�กกว่�จะม�กกว�่ จ�ำ นวนท่มี ี
จำ�นวนหลกั น้อยกว่�
แบบฝึกหดั 1.6
28 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
18 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 ค่มู ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 1
แนวการจดั การเรียนรู้ หนงั สือเรียนร�ยวิช�พื้นฐ�น | คณิตศ�สตร์ ป.2
การพฒั นาความรู้ บทท่ี 1 | จำานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
1. จากภาพในหนังสอื เรียนหนา้ 29 ครูใช้ค�ำ ถามว่า 1.7 การเปรียบเทยี บจำานวน (2)
ตน้ กล้าสะสมแสตมป์ได้ก่ีดวง ขุนสะสมแสตมป์ได้กี่ดวง พฒั นาความรู้ แสตมป� หรอื ตร�ไปรษณยี �กร
(Postage stamp หรอื Stamp) เป็นหลักฐ�น
นักเรียนตอบวา่ ต้นกล้าสะสมแสตมปไ์ ด้ 368 ดวง ก�รช�ำ ระค่�บรกิ �รไปรษณีย์ มกั เป็นกระด�ษ
รูปส่เี หลีย่ มเพื่อตดิ บนซองจดหม�ย
ตน้ กล้�สะสมแสตมป�ได้ 368 ดวง
ขุนสะสมแสตมป�ได้ 612 ดวง
ขนุ สะสมแสตมป์ได้ 612 ดวง ครูถามต่อวา่ ใครสะสม ใครสะสมแสตมปไ� ด้ม�กกว่�กัน
แสตมปไ์ ด้มากกว่ากัน จากนัน้ ครแู นะน�ำ การหาค�ำ ตอบ เปรยี บเทยี บ 368 กับ 612
โดยการเปรียบเทยี บ 368 กบั 612 พิจารณาจากค่าของ
เลขโดดในแตล่ ะหลกั เริ่มจากหลักทางซา้ ยสุดคือหลักร้อย พิจ�รณ�เลขโดดในหลักรอ้ ย หลกั ร้อย หลักสิบ หลักหน่วย
จะได้ 300 น้อยกวา่ 600 ดงั นัน้ 368 < 612 3 6 8 3 ในหลกั รอ้ ย มคี ่� 300
6 1 2 6 ในหลักร้อย มีค�่ 600 36 8
300 < 600 61 2
ในหลักรอ้ ย 3 รอ้ ย นอ้ ยกว่� 6 ร้อย
ดังนั้น 368 < 612 หรือ 612 > 368
จำ�นวนส�มหลักเท�่ กนั ให้เปรียบเทยี บค่�ของเลขโดดในหลกั ร้อย
จำ�นวนทีม่ ีค่�ของเลขโดดในหลักรอ้ ยม�กกว�่ จะม�กกว�่
หรือ 612 > 368 นกั เรยี นตอบค�ำ ถามไดว้ ่า ต้นกล้า เปรยี บเทยี บจาำ นวน 2 237 กบั 379
สะสมแสตมป์ได้นอ้ ยกว่าขุน ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั 1 685 กับ 558
237 > 379 หรอื 379 < 237
685 > 558 หรอื 558 < 685 | 29สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พจิ ารณาวา่ ในการเปรียบเทยี บจำ�นวนสองจำ�นวน
ให้พิจารณาจำ�นวนทมี่ ีคา่ ของเลขโดดในหลกั ซา้ ยสดุ หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
ถ้าจ�ำ นวนใดมีค่าของเลขโดดในหลักซา้ ยสุดมากกวา่ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
จำ�นวนนัน้ จะมากกวา่ จากน้ันครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกนั
เปรียบเทยี บ 685 กบั 558 และ 237 กบั 379 เปรียบเทยี บ 427 กบั 451
โดยใชข้ อ้ สรปุ ทีไ่ ด้จากขา้ งตน้
พิจ�รณ�เลขโดดในหลักรอ้ ย
จะได้ 685 > 558 หรือ 558 < 685 4 2 7 4 ในหลกั ร้อย มีค�่ 400 เท่�กนั
และ 237 < 379 หรือ 379 > 237 ครแู ละ 451
นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ ในการเปรยี บเทยี บจ�ำ นวนสามหลกั
พิจ�รณ�เลขโดดในหลักสิบ
4 2 7 2 ในหลกั สิบ มคี ่� 20
4 5 1 5 ในหลกั สิบ มีค�่ 50
20 < 50
ดงั นน้ั 427 < 451 หรอื 451 > 427
จ�ำ นวนส�มหลกั เท�่ กนั และเลขโดดในหลกั รอ้ ยมคี �่ เท�่ กนั ใหเ้ ปรยี บเทยี บ
ค�่ ของเลขโดดในหลกั สบิ จ�ำ นวนทม่ี คี �่ ของเลขโดดในหลกั สบิ ม�กกว�่ จะม�กกว�่
กบั จ�ำ นวนสามหลกั ให้เปรยี บเทยี บคา่ ของเลขโดดใน
หลกั รอ้ ยก่อน ถ้าจำ�นวนใดมีคา่ ของเลขโดดในหลักร้อย เปรยี บเทียบจาำ นวน
มากกว่าจะมากกวา่
1 532 กับ 574 2 791 กบั 768
2. ครูให้นกั เรียนเปรียบเทียบ 427 กบั 451 โดย 532 < 574 หรือ 574 > 532 791 > 768 หรอื 768 < 791
31 609 กบั 624 4 953 กบั 915
609 < 624 หรอื 624 > 609 953 > 915 หรือ 915 < 953
30 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทียบค่าของเลขโดดจากหลักทางซ้ายสดุ
กอ่ น จะได้ว่า 400 เท่ากบั 400 ดงั นนั้ จึงตอ้ งพิจารณาค่าของเลขโดดในหลักสบิ พบวา่ 20 นอ้ ยกว่า
50 จะได้ 427 < 451 หรือ 451 > 427 จากน้ันครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันเปรียบเทียบจ�ำ นวน
ในข้อ 1 – 4 ในกรอบทา้ ยหน้า 30 พรอ้ มทงั้ ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครูและนักเรียนรว่ มกนั
สรุปวา่ ในการเปรยี บเทยี บจ�ำ นวนสามหลักกบั จำ�นวนสามหลัก ถา้ เลขโดดในหลักรอ้ ยมีค่าเท่ากัน
ให้เปรียบเทยี บคา่ ของเลขโดดในหลกั สบิ ถา้ จ�ำ นวนใดมคี ่าของเลขโดดในหลกั สิบมากกวา่ จะมากกวา่
| 19สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1
3. ครูแสดงการเปรียบเทียบ 897 กับ 893 โดย หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
พิจารณาเลขโดดในหลกั ร้อย หลกั สิบ ของทงั้ สองจำ�นวน บทที่ 1 | จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
ว่ามีค่าเท่ากัน ดังน้ันจงึ ให้พจิ ารณาคา่ ของเลขโดด
ในหลักหนว่ ยจะได้ 7 มากกว่า 3 ดงั นั้น 897 > 893 หรอื เปรียบเทียบ 897 กบั 893
893 < 897 จากนน้ั ครใู ห้นกั เรียนช่วยกนั เปรยี บเทยี บ
จ�ำ นวนขอ้ 1 - 4 ในกรอบทา้ ยหนา้ 31 พรอ้ มทั้ง พจิ �รณ�เลขโดดในหลักรอ้ ย
ตรวจสอบความถกู ต้อง ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปว่า 8 9 7 8 ในหลักรอ้ ย มคี �่ 800 เท�่ กนั
ในการเปรยี บเทียบจำ�นวนสามหลกั กบั จำ�นวนสามหลกั 893
ถ้าเลขโดดในหลักร้อยมคี า่ เท่ากันและเลขโดดในหลกั สิบ
มคี ่าเท่ากนั ใหเ้ ปรียบเทยี บค่าของเลขโดดในหลักหนว่ ย พจิ �รณ�เลขโดดในหลกั สบิ
ถา้ จ�ำ นวนใดมคี ่าของเลขโดดในหลกั หนว่ ยมากกว่า 8 9 7 9 ในหลักสิบ มคี ่� 90 เท่�กัน
จะมากกวา่ 893
พิจ�รณ�เลขโดดในหลกั หนว่ ย
897 7>3
893
ดังน้ัน 897 > 893 หรือ 893 < 897
จำ�นวนส�มหลักเท�่ กนั เลขโดดในหลกั ร้อยมีค�่ เท่�กัน และเลขโดด
ในหลักสบิ มีค�่ เท�่ กนั ให้เปรียบเทยี บค�่ ของเลขโดดในหลกั หนว่ ย
จ�ำ นวนทีม่ คี �่ ของเลขโดดในหลกั หน่วยม�กกว่�จะม�กกว�่
เปรยี บเทยี บจาำ นวน
1 541 กบั 547 2 369 กบั 364
541 < 547 หรือ 547 > 541 369 > 364 หรอื 364 < 369
13 792 กบั 796 4 628 กบั 623
792 < 796 หรอื 796 > 792 628 > 623 หรอื 623 < 628
| 31สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การตรวจสอบความเขา้ ใจ
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยให้นักเรียนเปรยี บเทยี บจ�ำ นวนสามหลกั สองจำ�นวน
และเตมิ เคร่อื งหมาย > หรือ < ตามหนังสือเรยี นหนา้ 32 ครูอาจถามนักเรยี นเปน็ รายบคุ คลถงึ วิธกี าร
เปรียบเทยี บจ�ำ นวนสามหลกั สองจำ�นวน โดยใหพ้ จิ ารณาว่า หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
จำ�นวนทีม่ ีคา่ ของเลขโดดในหลักร้อยมากกว่าจะมากกวา่ บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
ถ้าเลขโดดในหลักรอ้ ยมคี า่ เทา่ กนั จำ�นวนทีม่ คี ่าของเลขโดด
ตรวจสอบความเขา้ ใจ
เตมิ เคร่ืองหมาย < หรอื >
ในหลักสบิ มากกว่าจะมากกวา่ ถ้าเลขโดดในหลักร้อย 1 567 > 376 2 715 < 751
มีค่าเทา่ กนั และเลขโดดในหลักสิบมคี ่าเทา่ กนั จ�ำ นวนทมี่ คี า่ 3 647 > 607 4 910 < 918
ของเลขโดดในหลกั หนว่ ยมากกว่าจะมากกว่า จากนน้ั
ครแู ละนกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง 5 499 < 802 6 374 > 370
และสรุปสิง่ ที่ไดเ้ รยี นรู้ สิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้
ก�รเปรียบเทียบจำ�นวนส�มหลักสองจำ�นวน
จ�ำ นวนท่ีมคี ่�ของเลขโดดในหลักรอ้ ยม�กกว่�จะม�กกว่�
สง่ิ ท่ีได้เรยี นรู้ ถ�้ เลขโดดในหลักร้อยมคี �่ เท�่ กัน จำ�นวนท่ีมีค่�ของเลขโดด
ในหลักสบิ ม�กกว่�จะม�กกว�่
การเปรยี บเทยี บจ�ำ นวนสามหลักสองจำ�นวน ถ้�เลขโดดในหลกั รอ้ ยมีค�่ เท�่ กนั และเลขโดดในหลักสบิ
มีค�่ เท่�กัน จ�ำ นวนท่ีมีค�่ ของเลขโดดในหลกั หน่วย
•• จำ�นวนทีม่ คี ่าของเลขโดดในหลักร้อยมากกวา่ จะมากกวา่ ม�กกว�่ จะม�กกว�่
ถา้ เลขโดดในหลกั รอ้ ยมคี า่ เทา่ กนั จ�ำ นวนทม่ี คี า่ ของ
แบบฝึกหดั 1.7
32 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เลขโดดในหลกั สบิ มากกวา่ จะมากกวา่
• ถ้าเลขโดดในหลกั รอ้ ยมคี ่าเท่ากันและเลขโดดหลักสบิ มีคา่ เท่ากัน จำ�นวนทีม่ คี า่ ของเลขโดดในหลกั
หนว่ ยมากกว่าจะมากกว่า
จากนั้นใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 1.7 หน้า 17 - 19
20 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 คู่มอื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 เล่ม 1
1.8 การเรียงล�ำ ดบั จ�ำ นวน (1)
จดุ ประสงค์
เรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนสามจ�ำ นวนจากนอ้ ยไปมาก หรอื จากมากไปนอ้ ย
สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรยี นร�ยวิช�พ้นื ฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2
บทที่ 1 | จาำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0
บตั รตัวเลข
1.8 การเรียงลาำ ดับจำานวน (1)
พฒั นาความรู้ มีหนงั สอื ส�รคดี 214 เลม่
แนวการจัดการเรียนรู้ ห้องสมุดมีหนงั สอื ประวัตศิ �สตร์ 132 เลม่
การพัฒนาความรู้ มหี นังสอื ภูมศิ �สตร์ 315 เล่ม
เรยี งลำ�ดับจำ�นวนหนงั สือจ�กน้อยไปม�ก
1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั ภาพในหนงั สอื เรยี น
หน้า 33 วา่ เปน็ ภาพอะไร มีหนังสอื อะไรบ้าง หนงั สอื เรยี งลำ�ดับ 132 214 315 จ�กน้อยไปม�ก
ประวตั ิศาสตร์มกี ่ีเล่ม หนงั สือสารคดีมกี ่เี ลม่ หนังสอื
ภูมศิ าสตร์มกี ี่เลม่ จากนนั้ ครตู ดิ บัตรจ�ำ นวน 132 214 132 214 315 เป็นจำ�นวนส�มหลกั พจิ �รณ�เลขโดดในหลักร้อยดังน้ี
และ 315 บนกระดาน โดยให้แต่ละหลักตรงกัน แล้วถาม 1 3 2 เลขโดดในหลักร้อย คือ 1 มีค�่ 100
นักเรียนว่ามวี ธิ เี รยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนจากนอ้ ยไปมากไดอ้ ย่างไร 2 1 4 เลขโดดในหลักรอ้ ย คือ 2 มีค�่ 200
ให้นกั เรยี นพิจารณาเลขโดดในหลักร้อยของทั้งสามจ�ำ นวน 3 1 5 เลขโดดในหลักรอ้ ย คอื 3 มคี �่ 300
จะได้ 132 นอ้ ยท่ีสดุ และ 315 มากท่ีสุด
เรียงลำ�ดับจ�ำ นวนจ�กน้อยไปม�กได้ 132 214 315
ดงั นน้ั เรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนหนงั สอื จ�กนอ้ ยไปม�กได้ 132 เลม่ 214 เลม่ 315 เลม่
| 33สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ว่า จำ�นวนใดมีคา่ ของเลขโดดในหลกั รอ้ ยมากทีส่ ดุ และ
จ�ำ นวนใดมคี า่ ของเลขโดดในหลกั ร้อยน้อยที่สดุ จะได้ 315 มคี ่าของเลขโดดในหลักรอ้ ยมากที่สุด
และ132 มคี ่าของเลขโดดในหลกั ร้อยน้อยทสี่ ดุ ดงั น้ัน 315 มากทส่ี ุด และ 132 นอ้ ยท่สี ุด
แลว้ นำ�มาเรยี งลำ�ดับจำ�นวนจากน้อยไปมากไดด้ ังน ี้ 132 214 315 ดงั นน้ั เรียงล�ำ ดับจำ�นวน
หนังสือจากน้อยไปมากได้ 132 เล่ม 214 เล่ม 315 เล่ม หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
2. ครูอธบิ ายการเรียงล�ำ ดบั 632 414 475 บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
จากมากไปน้อย โดยหาจำ�นวนท่มี ากทสี่ ุดและจ�ำ นวน เรียงล�ำ ดบั 632 414 475 จ�กม�กไปนอ้ ย
ทนี่ อ้ ยทีส่ ุดกอ่ น จากการพิจารณาคา่ ของเลขโดด 632 414 475 เป็นจำ�นวนส�มหลัก พจิ �รณ�เลขโดดในหลกั รอ้ ยดังนี้
ในหลักรอ้ ย หลักสบิ ตามหนังสือเรยี นหน้า 34 6 3 2 เลขโดดในหลกั รอ้ ย คอื 6 มีค่� 600
จะได้ 632 มากทส่ี ุด และ 414 นอ้ ยทสี่ ุด 4 1 4 เลขโดดในหลักร้อย คือ 4 มคี ่� 400
ดังนั้น เรยี งลำ�ดับจากมากไปน้อยไดด้ ังนี ้ 632 475 414 4 7 5 เลขโดดในหลกั ร้อย คือ 4 มีค่� 400
จากนัน้ ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกันเรียงลำ�ดบั 763 925 796
จะได้ 632 มากที่สดุ
พจิ �รณ� 414 และ 475
4 1 4 เลขโดดในหลกั สบิ คือ 1 มคี ่� 10
4 7 5 เลขโดดในหลกั สบิ คือ 7 มีค่� 70
จะได้ 414 < 475 ดังนน้ั 414 นอ้ ยทีส่ ดุ
ดงั นั้น เรยี งลำ�ดับจำ�นวนจ�กม�กไปนอ้ ยได้ 632 475 414
จากมากไปนอ้ ย เรยี งลาำ ดบั 763 925 796 จากมากไปน้อย
จำ�นวนทมี่ �กท่สี ุด คือ 925
จำ�นวนทน่ี ้อยท่สี ดุ คอื 763
เรยี งลำ�ดบั จำ�นวนจ�กมากไปนอ้ ยได้ 925 796 763
34 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 21สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 1
หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
3. ครตู ิดบตั รตัวเลข 862 539 865 บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
บนกระดาน ใหแ้ ตล่ ะหลักตรงกนั แล้วถาม
นกั เรียนว่ามวี ธิ ีเรียงล�ำ ดบั จำ�นวนจากน้อยไปมาก เรยี งลำ�ดับ 862 539 865 จ�กนอ้ ยไปม�ก
อย่างไร ให้นักเรียนพิจารณาค่าของเลขโดด
ในหลักร้อย จะได้ 539 น้อยท่ีสดุ จากนน้ั 862 539 865 เป็นจ�ำ นวนส�มหลัก พจิ �รณ�เลขโดดในหลักร้อยดงั น้ี
พจิ ารณาเลขโดดในหลกั ร้อย และเลขโดดใน 8 6 2 เลขโดดในหลักรอ้ ย คือ 8 มีค่� 800
หลกั สบิ ของ 862 และ 865 พบวา่ เทา่ กัน ดงั น้นั 5 3 9 เลขโดดในหลักร้อย คือ 5 มีค�่ 500
จงึ พจิ ารณาคา่ ของเลขโดดในหลกั หน่วย จะได้ 8 6 5 เลขโดดในหลกั ร้อย คือ 8 มคี ่� 800
865 มากกวา่ 862 จงึ ไดว้ า่ 865 มคี ่ามากทส่ี ุด
ครูให้นกั เรียนเรยี งลำ�ดบั จ�ำ นวนจากนอ้ ยไปมาก จะได้ 539 นอ้ ยทส่ี ุด
ดงั นี ้ 539 862 865 จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี น พิจ�รณ� 862 และ 865 เลขโดดในหลักรอ้ ยเท่�กนั และเลขโดดในหลกั สบิ
ช่วยกันเรยี งล�ำ ดับ 239 182 233 จาก เท�่ กนั จึงพิจ�รณ�เลขโดดในหลกั หนว่ ย
นอ้ ยไปมาก โดยให้หาจำ�นวนทม่ี ากท่สี ดุ และ
จ�ำ นวนที่น้อยทีส่ ุดกอ่ น แลว้ จึงน�ำ มาเรียงลำ�ดบั 8 6 2 เลขโดดในหลกั หนว่ ย คือ 2 มคี ่� 2
8 6 5 เลขโดดในหลักหน่วย คือ 5 มีค่� 5
การตรวจสอบความเข้าใจ จะได้ 862 < 865 ดังนนั้ 865 มากทสี่ ดุ
ดงั นนั้ เรียงลำ�ดบั จำ�นวนจ�กนอ้ ยไปมากได้ 539 862 865
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน
โดยให้นักเรยี นเรียงล�ำ ดับจำ�นวนที่กำ�หนดให้จาก เรยี งลำาดับ 239 182 233 จากนอ้ ยไปมาก
มากไปนอ้ ย และจากนอ้ ยไปมาก ตามหนงั สอื เรียน
หน้า 36 โดยให้หาจำ�นวนทีม่ ากท่ีสดุ และ จ�ำ นวนที่ม�กทส่ี ุด คอื 239
จ�ำ นวนทีน่ ้อยท่สี ุดก่อนแลว้ จงึ น�ำ มาเรยี งลำ�ดบั จ�ำ นวนทน่ี ้อยทสี่ ดุ คือ 185
ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เรียงล�ำ ดับจ�ำ นวนจ�กนอ้ ยไปมากได้ 182 233 239
และรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ ถา้ พบวา่ มีนักเรยี น
คนใดเรียงลำ�ดบั จ�ำ นวนไมถ่ ูกตอ้ งใหม้ าฝกึ | 35สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เรียงลำ�ดบั จำ�นวนกับครเู ป็นรายบุคคล
หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
ส่ิงทีไ่ ด้เรยี นรู้ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
• การเรยี งล�ำ ดับจ�ำ นวน 3 จ�ำ นวน อาจทำ�ได้ ตรวจสอบความเข้าใจ
โดยหาจ�ำ นวนทม่ี ากทสี่ ุดและนอ้ ยที่สุดก่อน
จากน้นั นำ�จำ�นวนมาเรยี งลำ�ดบั จากมากไปนอ้ ย 1 เรยี งล�ำ ดบั 231 123 321 จ�กม�กไปนอ้ ย
หรือจากน้อยไปมาก
ครใู หน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 1.8 หนา้ 20 - 21 321 231 123
2 เรยี งล�ำ ดบั 883 487 483 จ�กนอ้ ยไปม�ก
483 487 883
320 505 372
สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้
ก�รเรยี งลำ�ดบั จ�ำ นวน 3 จ�ำ นวน อ�จทำ�ไดโ้ ดยห�จ�ำ นวนท่ีม�กท่ีสุด
และน้อยทส่ี ดุ ก่อน จ�กน้นั น�ำ จ�ำ นวนม�เรียงลำ�ดับจ�กม�กไปนอ้ ย
หรือจ�กนอ้ ยไปม�ก
แบบฝกึ หัด 1.8
36 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
22 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ 1
1.9 การเรียงล�ำ ดบั จ�ำ นวน (2) หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
จุดประสงค์ บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
เรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวน 4 จ�ำ นวน หรอื 5 จ�ำ นวน จากนอ้ ยไปมาก 1.9 การเรียงลำาดบั จำานวน (2)
หรือจากมากไปน้อย พัฒนาความรู้
โรงเรยี นของเร�มีนักเรยี นระดบั ป. 2 จำ�นวน 416 คน
มีนักเรยี นระดับ ป. 3 จ�ำ นวน 342 คน
สื่อการเรียนรู้ มนี ักเรยี นระดบั ป. 4 จำ�นวน 193 คน
มีนกั เรียนระดับ ป. 5 จ�ำ นวน 224 คน
บัตรตวั เลข
เรียงล�ำ ดับจำ�นวนนักเรยี นจ�กม�กไปนอ้ ย
เรยี งล�ำ ดบั 416 342 193 224 จ�กม�กไปน้อย
แนวการจดั การเรียนรู้ 416 342 193 224 เปน็ จ�ำ นวนส�มหลกั พจิ �รณ�เลขโดดในหลักร้อยดังนี้
การพฒั นาความรู้ 4 1 6 เลขโดดในหลักร้อย คอื 4 มคี �่ 400
3 4 2 เลขโดดในหลกั รอ้ ย คอื 3 มีค่� 300
1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั ภาพในหนงั สอื เรยี น 1 9 3 เลขโดดในหลักร้อย คือ 1 มีค่� 100
2 2 4 เลขโดดในหลกั ร้อย คอื 2 มคี �่ 200
หนา้ 37 วา่ เปน็ ภาพอะไร นกั เรยี นระดบั ป.2 มีก่คี น
จะได้ 193 นอ้ ยทีส่ ดุ และ 416 มากทสี่ ดุ
พจิ �รณ� 342 และ 224 จะได้ 342 > 224
เรียงล�ำ ดบั จำ�นวนจ�กม�กไปนอ้ ยได้ 416 342 224 193
ดงั นน้ั เรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนนกั เรยี นจ�กม�กไปนอ้ ยได้ 416 คน 342 คน 224 คน 193 คน
| 37สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นกั เรยี นระดับป.3 มีกี่คน นกั เรียนระดับป.4 มกี คี่ น
นกั เรยี นระดับป.5 มกี ่ีคน จากนัน้ ครตู ดิ บตั รจ�ำ นวน 416 342 193 และ 224 บนกระดาน โดยให้
แตล่ ะหลักตรงกัน แล้วถามนักเรียนว่ามวี ธิ ีเรียงล�ำ ดับจ�ำ นวนจากมากไปนอ้ ยไดอ้ ย่างไร ให้นกั เรยี น
พิจารณาเลขโดดในหลกั รอ้ ยของทง้ั ส่ีจำ�นวนว่า จ�ำ นวนใด
มีค่าของเลขโดดในหลักรอ้ ยมากทสี่ ดุ และจ�ำ นวนใดมคี ่าของเลขโดดในหลักร้อยนอ้ ยที่สดุ
จะได้ 416 มีค่าของเลขโดดในหลกั ร้อยมากทส่ี ุด และ193 มคี ่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ยนอ้ ยทส่ี ุด
ดังนั้น 416 มากที่สดุ และ 193 น้อยที่สดุ จากนั้นพิจารณาจ�ำ นวนทเ่ี หลอื คือ 342 และ 224
จะได้ 342 มคี า่ ของเลขโดดในหลกั รอ้ ยมากกวา่ 224 ดงั นน้ั 342 มากกวา่ 224 แลว้ น�ำ มาเรยี งล�ำ ดบั
จ�ำ นวนจากมากไปนอ้ ยไดด้ งั น้ี 416 342 224 193 ดงั นน้ั หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
เรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนนกั เรยี นจากมากไปนอ้ ยได้ 416 คน 342 บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
คน 224 คน 193 คน เรียงลำ�ดบั 621 513 645 786 918 จ�กนอ้ ยไปม�ก
2. ครตู ดิ บัตรตัวเลข 621 513 645 786 918 621 513 645 786 918 เปน็ จำ�นวนส�มหลกั พิจ�รณ�เลขโดด
บนกระดาน โดยให้แต่ละหลักตรงกนั แล้วถามนักเรียนว่า ในหลักร้อย ดงั นี้
มีวิธีเรียงลำ�ดับจ�ำ นวนจากน้อยไปมากอยา่ งไร ครูแนะนำ�
ให้พจิ ารณาคา่ ของเลขโดดในหลกั ร้อยจะได้ 513 น้อยทีส่ ุด 6 2 1 เลขโดดในหลักร้อย คือ 6 มีค่� 600
และ 918 มากทส่ี ดุ จากนน้ั พจิ ารณา 621 645 786 5 1 3 เลขโดดในหลักร้อย คอื 5 มคี �่ 500
จะได้ 786 มากที่สดุ พจิ ารณาคา่ ของเลขโดดในหลักสบิ 6 4 5 เลขโดดในหลกั ร้อย คอื 6 มคี ่� 600
ของ 621 กับ 645 จะได้ 621 มคี ่าน้อยกวา่ 645 7 8 6 เลขโดดในหลกั รอ้ ย คือ 7 มคี �่ 700
9 1 8 เลขโดดในหลกั รอ้ ย คอื 9 มีค�่ 900
จะได้ 513 น้อยท่ีสดุ และ 918 มากทสี่ ุด
ดังน้นั 513 918
พิจ�รณ� 621 645 786 จะได้ 786 ม�กทสี่ ดุ
ดงั นน้ั 513 786 918
พจิ �รณ� 621 และ 645 จะได้ 621 < 645
ดังนนั้ เรยี งลำ�ดบั จำ�นวนจ�กนอ้ ยไปม�กได้ 513 621 645 786 918
แลว้ นำ�มาเรียงล�ำ ดับจำ�นวนจากน้อยไปมาก จะได้ 513 เรียงลำาดบั 246 437 189 462 536 จากน้อยไปมาก
621 645 786 918 ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกันเรยี งล�ำ ดบั 189 246 437 462 536
จำ�นวนจากนอ้ ยไปมากในกรอบท้ายหนา้ 38
38 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 23สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ 1
3. ครูติดบตั รตัวเลข 328 963 324 652 970 หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
บนกระดาน โดยให้แตล่ ะหลกั ตรงกัน ครถู ามนักเรียนวา่ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
มีวิธเี รียงลำ�ดบั จ�ำ นวนจากนอ้ ยไปมากอย่างไร ครแู นะน�ำ
ใหพ้ ิจารณาค่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ยจะได้ 963 กบั 970 เรียงลำ�ดบั 328 963 324 652 970 จ�กม�กไปนอ้ ย
มีคา่ ของเลขโดดในหลักรอ้ ยเทา่ กนั จงึ พจิ ารณาคา่ ของ 328 963 324 652 970 เป็นจ�ำ นวนส�มหลัก พิจ�รณ�เลขโดด
เลขโดดในหลกั สบิ จะได้ 970 มากกวา่ 963 ดงั น้ัน 970 ในหลกั ร้อย
มีค่ามากท่ีสุด จากนัน้ พิจารณาคา่ ของเลขโดดในหลกั รอ้ ย
ทีม่ คี า่ นอ้ ยทีส่ ดุ จะได้ 328 กับ 324 มคี ่าของเลขโดดใน 3 2 8 เลขโดดในหลักร้อย คือ 3 มีค่� 300
หลกั ร้อยเทา่ กนั ใหพ้ จิ ารณาคา่ ของเลขโดดในหลกั สบิ 9 6 3 เลขโดดในหลกั ร้อย คือ 9 มีค�่ 900
จะไดว้ า่ ค่าของเลขโดดในหลกั สบิ เทา่ กัน ดังนั้นพิจารณา 3 2 4 เลขโดดในหลักรอ้ ย คอื 3 มีค่� 300
ค่าของเลขโดดในหลกั หนว่ ย จะได้ 324 นอ้ ยกวา่ 328 6 5 2 เลขโดดในหลักรอ้ ย คือ 6 มคี ่� 600
จึงไดว้ ่า 324 มคี า่ นอ้ ยที่สดุ แล้วน�ำ มาเรียงล�ำ ดับจำ�นวน 9 7 0 เลขโดดในหลักร้อย คือ 9 มคี ่� 900
จากมากไปนอ้ ยได้ดงั น ้ี 970 963 652 328 324 ค�่ ของเลขโดดทน่ี อ้ ยทสี่ ุดคอื 300 จึงพจิ �รณ� 328 และ 324
ครูให้นกั เรียนช่วยกันเรยี งล�ำ ดับจำ�นวนจากมากไปนอ้ ย จะได้ 324 < 328 ดงั นัน้ 324 น้อยท่สี ดุ
ในกรอบท้ายหน้า 39 ค�่ ของเลขโดดทม่ี �กทส่ี ดุ คือ 900 จึงพิจ�รณ� 963 และ 970
จะได้ 970 > 963 ดังนัน้ 970 มากท่ีสดุ
การตรวจสอบความเขา้ ใจ ดงั น้ัน เรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนจ�กม�กไปนอ้ ยได้ 970 963 652 328 324
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น เรยี งลำาดบั 673 849 518 905 526 จากมากไปนอ้ ย
โดยใหน้ กั เรยี นเรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนทก่ี �ำ หนดใหจ้ ากมากไปนอ้ ย 905 849 673 526 518
และจากนอ้ ยไปมาก ตามหนังสือเรียนหน้า 40
โดยใหห้ าจำ�นวนท่มี ากทีส่ ุดและจำ�นวนทีน่ อ้ ยทีส่ ุดก่อน | 39สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แลว้ จงึ นำ�มาเรยี งล�ำ ดบั ครูและนักเรียนรว่ มกนั
ตรวจสอบความถกู ต้อง และรว่ มกนั สรุปสงิ่ ท่ไี ด้เรียนรู้ หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
ถา้ พบวา่ มีนักเรยี นคนใดเรียงล�ำ ดบั จ�ำ นวนไมถ่ ูกต้อง บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
ใหม้ าฝึกเรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนกับครูเป็นรายบุคคล
ตรวจสอบความเขา้ ใจ
กำาหนด 785 875 758 587 578
1 เรียงล�ำ ดับจำ�นวนทีก่ ำ�หนดจ�กม�กไปน้อย
875 785 758 587 578
2 เรียงล�ำ ดบั จ�ำ นวนท่กี �ำ หนดจ�กนอ้ ยไปม�ก
578 587 758 785 875
สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้
ก�รเรียงล�ำ ดับจ�ำ นวน อ�จทำ�ได้โดยห�จ�ำ นวนทม่ี �กทีส่ ดุ
และนอ้ ยท่สี ุดก่อน จ�กน้นั น�ำ จ�ำ นวนม�เรยี งลำ�ดบั
จ�กม�กไปนอ้ ย หรอื จ�กนอ้ ยไปม�ก
แบบฝกึ หัด 1.9
40 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้
• การเรียงล�ำ ดบั จ�ำ นวนอาจท�ำ ได้โดยหาจำ�นวนท่ีมากท่ีสดุ และนอ้ ยทสี่ ุดก่อน จากนัน้ น�ำ จ�ำ นวน
มาเรียงลำ�ดับจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมาก
ครูให้นกั เรียนท�ำ แบบฝกึ หดั 1.9 หน้า 22 - 23
24 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 1 | จำ�นวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0 คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เล่ม 1
1.10 จ�ำ นวนคู่ จ�ำ นวนค่ี หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
จุดประสงค์ บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
บอกไดว้ ่าจำ�นวนทก่ี �ำ หนดใหเ้ ปน็ จ�ำ นวนคู่หรอื จำ�นวนคี่ 1.10 จาำ นวนคู่ จำานวนคี่
พัฒนาความรู้
ไมไ้ อศกรีม 2 อัน จับคู่ได้พอดี
ไม้ไอศกรีม 3 อัน จบั ค่ไู ด้ไม่พอดี
สอื่ การเรียนรู้ จ�ำ นวนไม้ไอศกรีมทจี่ บั คู่ไดพ้ อดี เปน็ จำานวนคู่
จ�ำ นวนไมไ้ อศกรมี ที่จับคูไ่ ด้ไม่พอดี เป็นจาำ นวนคี่
ไม้ไอศกรมี ใบบนั ทึกกิจกรรม
ไม้ไอศกรมี 4 อนั จับคูไ่ ด้พอดี ดังนั้น 4 เปน็ จ�ำ นวนคู่
ไม้ไอศกรีม 5 อนั จบั คู่ไดไ้ ม่พอดี ดังนน้ั 5 เป็นจ�ำ นวนค่ี
ไมไ้ อศกรมี 6 อัน จับคู่ได้พอดี ดงั น้นั 6 เปน็ จำ�นวนคู่
แนวการจัดการเรียนรู้ ไม้ไอศกรีม 7 อัน จับคูไ่ ดไ้ มพ่ อดี ดงั นน้ั 7 เปน็ จำ�นวนคี่
การพัฒนาความรู้
ไมไ้ อศกรมี 8 อัน จับคไู่ ด้พอดี ดังนั้น 8 เป็นจ�ำ นวนคู่
ไม้ไอศกรีม 9 อัน จับคู่ไดไ้ ม่พอดี ดงั น้นั 9 เปน็ จ�ำ นวนคี่
1. ครชู ูไมไ้ อศกรีม 2 อัน แลว้ แนะน�ำ ว่า ไม้ไอศกรีม ไมไ้ อศกรีม 10 อนั จบั คไู่ ดพ้ อดี ดงั นน้ั 10 เป็นจ�ำ นวนคู่
2 อนั นำ�มาจบั คไู่ ด้พอด ี ครูชไู ม้ไอศกรีม 3 อัน แล้ว ไมไ้ อศกรมี 1 อัน 2 4 6 8 10 เปน็ จำ�นวนคู่
แนะนำ�วา่ ไม้ไอศกรีม 3 อนั นำ�มาจับคไู่ ด้ไมพ่ อดี จบั คูไ่ มไ่ ด้หรือจับค่ไู ด้ไม่พอดี 1 3 5 7 9 เปน็ จำ�นวนค่ี
ครูแนะนำ�วา่ จ�ำ นวนไม้ไอศกรมี ทจี่ บั คูไ่ ดพ้ อดเี ป็นจำ�นวนคู่ ดงั นั้น 1 เป็นจ�ำ นวนคี่
| 41สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และ จำ�นวนไมไ้ อศกรมี ท่จี บั คู่ได้ไม่พอดเี ป็นจำ�นวนค่ี หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
จากน้นั ครูให้นักเรียนออกมาหยิบไมไ้ อศกรมี 4 อนั บทที่ 1 | จำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
แล้วถามว่าจบั คูไ่ ดพ้ อดหี รือไม่ และใหบ้ อกว่า 4
เป็นจำ�นวนคหู่ รือจำ�นวนค่ี ครูใหน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรม กจิ กรรม จ�ำ นวนคหู่ รอื จ�ำ นวนค่ี
เช่นนโี้ ดยใชไ้ มไ้ อศกรมี 5 อนั 6 อัน … 10 อนั อปุ กรณ์ 1 ชุดประกอบด้วย
จากนั้นครชู ไู ม้ไอศกรีม 1 อนั แล้วถามนกั เรยี นว่า 1. ไม้ไอศกรมี 20 อนั
สามารถจบั คูไ่ ม้ไอศกรมี 1 อันไดห้ รอื ไม่ นักเรียนตอบว่า 2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
จับคู่ไมไ่ ด้เพราะมีอนั เดยี ว ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันสรุปวา่ วธิ ีจัดกจิ กรรม
2 4 6 8 10 เป็นจ�ำ นวนคู่ และ 1 3 5 7 9 เปน็ จ�ำ นวนคี่ 1. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม แจกอุปกรณ์กลุม่ ละ 1 ชุด
2. ให้สม�ชกิ ในกลุ่มช่วยกนั จัดไมไ้ อศกรมี เปน็ คู่ จ�กจ�ำ นวนไม้ไอศกรีม
2. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลมุ่ ครแู จกอุปกรณ์กลมุ่ ละ
1 ชดุ ใหน้ กั เรยี นท�ำ กิจกรรมจ�ำ นวนคู่หรอื จำ�นวนค่ตี าม 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 อัน พจิ �รณ�ว�่ จบั คู่
ได้พอดีหรอื ไม่ และบันทกึ ผลในแบบบนั ทกึ กิจกรรม
ตัวอย่างแบบบันทึกกจิ กรรม
จาำ นวน ผลการจบั คไู่ ม้ไอศกรมี
ไมไ้ อศกรมี (อัน) จบั ค่ไู ด้พอดี จับคู่ไดไ้ ม่พอดี จำานวนคู่ จาำ นวนค่ี
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
หนงั สอื เรยี นหนา้ 42 แลว้ ให้บนั ทกึ ผลการจบั คู่ไมไ้ อศกรมี 42 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และบอกวา่ จำ�นวนใดเปน็ จ�ำ นวนค่แู ละจ�ำ นวนใด
เปน็ จ�ำ นวนคี่ ซ่งึ จะได้ว่า 11 13 15 17 19 เปน็ จ�ำ นวนคี่
และ 12 14 16 18 20 เปน็ จ�ำ นวนคู่ ครูอาจใชส้ งิ่ ของอื่นทส่ี ามารถหาได้ง่ายแทนไมไ้ อศกรมี เชน่
หลอดกาแฟ ฝานำ�้ ดืม่ ให้นักเรียนสงั เกตวา่ จ�ำ นวนคเู่ ป็นจ�ำ นวนท่มี หี ลกั หน่วยเปน็ 0 2 4 6 8 และ
จำ�นวนคีเ่ ปน็ จ�ำ นวนทม่ี หี ลกั หน่วยเปน็ 1 3 5 7 9
| 25สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 1
หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
3. ครูสนทนากับนักเรียนวา่ จำ�นวน 1 บทที่ 1 | จำ�นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
ถึง 20 มีจำ�นวนใดบา้ งเป็นจำ�นวนคู่ จ�ำ นวนใด
บา้ งเปน็ จำ�นวนค ี่ หรอื อาจสนทนาถงึ จำ�นวน 1 ถงึ 20 จำ�นวนใดเปน็ จ�ำ นวนค่ี
นักเรียนในห้อง จำ�นวนนักเรยี นชาย จำ�นวน จำ�นวนใดเป็นจ�ำ นวนคู่
นักเรยี นหญิง หรอื จำ�นวนอืน่ ๆ ท่ีครูยกตวั อย่าง
มาตามความเหมาะสม พจิ ารณาจากตวั เลขทีอ่ ยู่ 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 เป็นจำ�นวนค่ี
ในหลกั หน่วยของจ�ำ นวนนนั้ ๆ ถา้ หลักหน่วยเป็น 2 4 6 8 10 12 14 16 18 20 เปน็ จ�ำ นวนคู่
0 2 4 6 8 เป็นจำ�นวนคู่ ถ้าหลักหนว่ ยเปน็ 1 3
5 7 9 เปน็ จำ�นวนคี่ ครูให้นักเรียนช่วยกนั บอก สังเกต
ว่าจำ�นวนทก่ี ำ�หนดให้ในกรอบทา้ ยหนา้ 43 เป็น จำ�นวนท่มี หี ลกั หน่วยเปน็ 0 2 4 6 8 เปน็ จ�ำ นวนคู่
จำ�นวนค่หู รอื จำ�นวนค่ี เพราะเหตุใด จากน้ัน จำ�นวนท่มี หี ลักหนว่ ยเป็น 1 3 5 7 9 เปน็ จำ�นวนค่ี
ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
53 เปน็ จำ�นวนค่ี หรอื จำ�นวนคู่
การตรวจสอบความเข้าใจ 53 เป็นจ�ำ นวนคี่ เพร�ะมหี ลกั หน่วยเปน็ 3
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน 68 เปน็ จ�ำ นวนค่ี หรือจ�ำ นวนคู่
โดยใหน้ ักเรียนเขียนบอกวา่ จำ�นวนทก่ี ำ�หนดให้ 68 เป็นจ�ำ นวนคู่ เพร�ะมีหลักหนว่ ยเปน็ 8
จำ�นวนใดบ้างเปน็ จำ�นวนคูแ่ ละจ�ำ นวนใดบ้าง
เป็นจ�ำ นวนค่ี โดยครถู ามเปน็ รายบุคคล และ จำานวนใดเปน็ จำานวนคู่ จาำ นวนใดเป็นจาำ นวนค่ี 335
ใหเ้ พอื่ นในหอ้ งรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 1,000
ถ้าพบวา่ มีนักเรียนคนใดไมส่ ามารถบอกไดว้ า่ 43 87 106
จ�ำ นวนใดเปน็ จ�ำ นวนคู่หรอื จำ�นวนค่ี ใหค้ รแู ก้ไข 464 562 801
ให้ถกู ตอ้ งทนั ที พร้อมทง้ั อธิบายเหตุผล จากนน้ั
ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ส่ิงทีไ่ ดเ้ รียนรู้ จำ�นวนค่ไู ดแ้ ก ่ 106 464 562 1,000 | 43สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จำ�นวนคไี่ ดแ้ ก่ 43 87 335 801
สิง่ ทไ่ี ด้เรียนรู้
หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
• จ�ำ นวนที่หลกั หน่วยเป็น 0 2 4 6 8 บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
เป็นจำ�นวนคู่ และจ�ำ นวนที่หลักหนว่ ย
เป็น 1 3 5 7 9 เปน็ จ�ำ นวนคี่ ตรวจสอบความเข้าใจ
จากน้ันให้นกั เรียนท�ำ แบบฝึกหัด 1.10
หนา้ 24 - 26 จำานวนใดเป็นจาำ นวนคู่ จำานวนใดเป็นจำานวนค่ี
เขียนคำ�ตอบลงในสมดุ 83 94 791 100
543 69 405 444
682 917 111 508
756 320 999 791
จำ�นวนคูไ่ ด้แก ่ 94 100 444 682 508 756 320
จำ�นวนคีไ่ ดแ้ ก ่ 83 791 543 69 405 917 111 999 791
ส่ิงทีไ่ ดเ้ รยี นรู้
จ�ำ นวนทห่ี ลกั หน่วยเป็น 0 2 4 6 8 เปน็ จ�ำ นวนคู่
จำ�นวนที่หลกั หน่วยเปน็ 1 3 5 7 9 เปน็ จ�ำ นวนค่ี
แบบฝึกหัด 1.10
44 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
26 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 คูม่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 1
1.11 แบบรปู ของจ�ำ นวนทเี่ พม่ิ ข้นึ ทีละ 2 และแบบรูปของจ�ำ นวนท่ีลดลงทลี ะ 2
จุดประสงค์
บอกจ�ำ นวนท่หี ายไปในแบบรูปของจำ�นวนท่เี พม่ิ ข้ึนทีละ 2 และแบบรูปของจ�ำ นวนท่ีลดลงทีละ 2
สื่อการเรียนรู้ หนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
บทที่ 1 | จำ�นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
บัตรตวั เลข บตั รโจทย์
1.11 แบบรปู ของจำานวนทีเ่ พิ่มข้นึ ทีละ 2
และแบบรูปของจาำ นวนทล่ี ดลงทลี ะ 2
แนวการจัดการเรยี นรู้ พัฒนาความรู้ +2 +2
การพฒั นาความรู้
+2 +2
1. ครูติดบตั รตวั เลข 56 บนกระดาน
56 58 60 62 64
ครูทบทวนการนบั เพม่ิ ทีละ 2 โดยการถาม-ตอบ
56 58 60 62 และ 64 เปน็ จ�ำ นวนทเี่ พม่ิ ขน้ึ ทลี ะ 2
56 58 60 62 64 เปน็ แบบรปู ของจาำ นวนทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ทลี ะ 2
ถ้าเริ่มจาก 56 นบั เพม่ิ ทลี ะ 2 ได้ 58 60 62 +2 +2 +2 +2
64 ... ครตู ดิ บัตรจ�ำ นวนทน่ี ับได้บนกระดาน 245 247 249 251 ...2....5...3.....
แล้วใหน้ กั เรียนสังเกตชุดของจำ�นวน 56 58 245 247 249 251 เป็นแบบรปู ของจำ�นวนที่เพิม่ ข้นึ ทีละ 2
60 62 64 วา่ เปน็ การเรยี งจำ�นวน ดังนั้น จำ�นวนทอ่ี ยถู่ ดั จ�ก 251 ไปท�งขว�คือ 253
เพร�ะ 251 เพม่ิ ขน้ึ 2 ได้ 253
ในลักษณะอยา่ งไร นกั เรยี นตอบวา่ 56 58 60 จำานวนที่หายไปในแบบรูปคอื จำานวนใด 123
62 64 เปน็ จ�ำ นวนทีเ่ พิม่ ข้ึนทลี ะ 2 ครูเขยี น
เส้นโยงดว้ ยลกู ศร + 2 แลว้ สรปุ วา่ 56 58 1 115 117 119 ...1...2...1....
2 378 380 382 ...3...8...4.... 386
60 62 และ 64 เปน็ จ�ำ นวนนับท่ีเพม่ิ ขึ้น | 45สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทีละ 2 ครแู นะนำ�ความสมั พันธ์ทีต่ อ่ เนือ่ งกันใน
ลักษณะของการเพิ่มขนึ้ ทลี ะ 2 น้ีวา่ เปน็ แบบรูป
ของจำ�นวนที่เพ่มิ ขึน้ ทีละ 2 ครใู ห้นกั เรยี นหาจ�ำ นวนท่อี ยูถ่ ัดจาก 64 ว่าเปน็ จ�ำ นวนใด โดยใช้การ
นบั เพมิ่ ทลี ะ 2 นักเรียนตอบวา่ 66 จากน้ันครูให้พจิ ารณาแบบรปู ของจ�ำ นวน 245 247 249
251 แลว้ ให้หาวา่ จ�ำ นวนถัดไปคือจำ�นวนใด เพราะเหตุใด นักเรียนตอบว่า จ�ำ นวนถัดไปคอื 253
เพราะ 245 247 249 251 เปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนท่ีเพ่มิ ขนึ้ ทลี ะ 2 ดงั น้นั เพิม่ ขนึ้ 2 ได้ 253
ครอู าจยกตัวอยา่ งเพิม่ เตมิ เชน่ 143 145 147 …… 151 แล้วถามนกั เรยี นว่าจ�ำ นวนท่ีหายไป
คอื จ�ำ นวนใด พร้อมบอกเหตุผล ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกันหาจ�ำ นวนที่หายไปในแบบรูปของจำ�นวน
ตามหนงั สือเรยี นทา้ ยหน้า 45
| 27สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เลม่ 1
2. ครูตดิ บัตรตวั เลข 30 บนกระดาน ครูทบทวน หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 −2 −2
การนับลดทลี ะ 2 โดยการถาม-ตอบ ถ้าเรม่ิ จาก 30 นับลด บทที่ 1 | จำ�นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
−2 −2
ทีละ 2 ได้ 28 26 24 22 ... ครูตดิ บัตรตัวเลข 30 28 26 24 22
30 28 26 24 22 บนกระดาน แล้วถามนกั เรยี นวา่ 30 28 26 24 และ 22 เปน็ จ�ำ นวนทีล่ ดลงทีละ 2
เป็นการเรียงจ�ำ นวนในลกั ษณะอยา่ งไร นกั เรยี นตอบวา่
30 28 26 24 และ 22 เป็นจ�ำ นวนทล่ี ดลงทีละ 2 30 28 26 24 22 เปน็ แบบรูปของจำานวนที่ลดลงทลี ะ 2
−2 −2 −2 −2
444452 450 448 446 ...............
ครเู ขียนเสน้ โยงดว้ ยลกู ศร − 2 แล้วสรปุ วา่ 30 28 26 452 450 448 446 เป็นแบบรูปของจำ�นวนที่ลดลงทีละ 2
24 และ 22 เปน็ จำ�นวนนบั ท่ลี ดลงทีละ 2 ครแู นะน�ำ ดังน้ันจำ�นวนทอ่ี ย่ถู ัดจ�ก 446 ไปท�งขว�คือ 444
เพร�ะ 446 ลดลง 2 ได้ 444
ความสัมพันธท์ ี่ต่อเนื่องกันในลักษณะของการลดลง จาำ นวนทห่ี ายไปในแบบรปู คือจำานวนใด
ทีละ 2 นีว้ า่ เปน็ แบบรปู ของจำ�นวนทลี่ ดลงทลี ะ 2 911 99 97 95 93 .........
ครใู หน้ กั เรยี นหาจำ�นวนทอ่ี ยูถ่ ดั จาก 22 วา่ เปน็ จ�ำ นวนใด 4092 411 407 405 403
.........
โดยใชก้ ารนับลดทลี ะ 2 นักเรียนตอบวา่ 20 46 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากน้ันครูให้นักเรียนพจิ ารณาแบบรปู ของจำ�นวน 452
450 448 446 แล้วถามว่า จ�ำ นวนถัดไปคอื จำ�นวนใด หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
เพราะเหตุใด นกั เรยี นตอบวา่ จ�ำ นวนถัดไปคอื 444 บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
จาำ นวนที่หายไปในแบบรปู คือจาำ นวนใด
เพราะ 452 450 448 446 เปน็ แบบรูปของจ�ำ นวน 181 183 185 187 ..........
ที่ลดลงทลี ะ 2 ดังนนั้ 446 ลดลง 2 ได้ 444
ครอู าจยกตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ เชน่ 128 126 124 …… 120 181 183 185 187 เปน็ แบบรปู ของจำ�นวนท่เี พ่ิมข้นึ ทลี ะ 2
ดังนน้ั จำ�นวนที่ห�ยไปคือ 189
แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ จ�ำ นวนทห่ี ายไปคอื อะไร และบอกเหตผุ ล 1 361 359 357 355 ..3...5...3....
ครูให้นักเรยี นช่วยกันหาจ�ำ นวนท่หี ายไปในแบบรูป 2 456 458 460 ..4...6...2.... 464
ของจ�ำ นวนตามหนงั สอื เรียนในกรอบทา้ ยหน้า 46
3. ครตู ดิ บตั รโจทย์ 181 183 186 187 ....... 3 277 ..2...7...9.... 281 283 285
บนกระดานแลว้ ใหน้ ักเรยี นช่วยกันบอกจำ�นวนที่หายไป 4 .5....9...4.... 592 590 588 586
ในแบบรปู คือจำ�นวนใด เพราะเหตุใด เมอื่ พิจารณา
แบบรปู นี้เป็นแบบรูปของจ�ำ นวนท่ีเพม่ิ ขึ้นทีละ 2 5 992 994 996 998 ..1...,.0...0...0
ดงั นน้ั จ�ำ นวนทห่ี ายไปคอื 189 ครใู หน้ กั เรยี นตอบค�ำ ถามวา่
| 47สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จ�ำ นวนทห่ี ายไปในแบบรปู ในแต่ละข้อของหน้า 47
คอื จ�ำ นวนใด โดยครูเน้นยำ�้ ให้นกั เรยี นพิจารณาจำ�นวนทอี่ ยถู่ ดั ไปทางขวา ถ้ามคี ่ามากข้นึ แสดงวา่
เป็นแบบรูปของจำ�นวนที่เพิม่ ข้ึน และพจิ ารณาจำ�นวนท่อี ย่ถู ัดไปทางขวาถา้ มคี ่านอ้ ยลงแสดงวา่
เปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนท่ีลดลง
28 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 1 | จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 คมู่ อื ครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 1
การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น
โดยใหน้ ักเรียนหาจ�ำ นวนท่ีหายไปในแบบรูป ตรวจสอบความเขา้ ใจ
พรอ้ มบอกวา่ เปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนทเ่ี พิ่มข้นึ
จาำ นวนทหี่ ายไปในแบบรูปคือจำานวนใด
ทลี ะ 2 หรือเปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนท่ลี ดลง 1 81 83 85 87 ...8..9.....
ทีละ 2 ถา้ พบว่ามนี กั เรียนคนใดหาจ�ำ นวน 2 ...6...4.... 62 60 58 56
ทหี่ ายไปในแบบรปู ของจำ�นวนยังไมถ่ ูกตอ้ ง 3 802 800 798 ..7...9..6... 794
ใหค้ รฝู กึ เพม่ิ เตมิ เปน็ รายบคุ คล โดยเรม่ิ ฝกึ จากการ 4 698 ..7...0..0... 702 704 706
นับเพ่ิมทีละ 2 และการนับลดทลี ะ 2 ก่อน
ถ้านักเรียนนบั เพิม่ ทีละ 2 และนับลดทลี ะ 2
ได้แลว้ จงึ ใหฝ้ กึ หาจ�ำ นวนที่หายไปในแบบรูป สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้
จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งและสรปุ ส่ิงที่ไดเ้ รยี นรู้ แบบรปู ของจ�ำ นวนท่เี พิ่มขนึ้ ทลี ะ 2 เป็นชดุ ของจำ�นวน
ทีม่ คี ว�มสมั พนั ธก์ นั อย�่ งต่อเน่อื งในลักษณะของก�รเพิ่มขนึ้
สิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้ ทลี ะ 2 เชน่ 15 17 19 21 23 25
• แบบรปู ของจำ�นวนทเี่ พมิ่ ขน้ึ ทีละ 2 เปน็ ชุด แบบรูปของจ�ำ นวนที่ลดลงทีละ 2 เป็นชดุ ของจำ�นวน
ของจ�ำ นวนทม่ี คี วามสมั พนั ธ์กันอยา่ งต่อเนอ่ื ง
ที่มคี ว�มสัมพนั ธก์ ันอย�่ งตอ่ เนื่องในลักษณะของก�รลดลง
ทลี ะ 2 เชน่ 48 46 44 42 40 38 แบบฝึกหัด 1.11
48 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ในลักษณะของการเพ่มิ ขนึ้ ทลี ะ 2 เช่น 15 17 19 21 23 25
• แบบรูปของจ�ำ นวนทลี่ ดลงทีละ 2 เปน็ ชดุ ของจ�ำ นวนทม่ี คี วามสัมพันธ์กนั อย่างต่อเนือ่ ง
ในลกั ษณะของการลดลงทีละ 2 เช่น 48 46 44 42 40 38
จากนั้นใหน้ ักเรยี นท�ำ แบบฝึกหัด 1.11 หนา้ 27 – 28
1.12 แบบรูปของจ�ำ นวนที่เพ่มิ ข้ึนทลี ะ 5 และแบบรปู ของจำ�นวนทล่ี ดลงทลี ะ 5
จดุ ประสงค์
บอกจำ�นวนทห่ี ายไปในแบบรปู ของจ�ำ นวนทีเ่ พมิ่ ข้นึ ทีละ 5 และแบบรูปของจำ�นวนทีล่ ดลงทีละ 5
ส่อื การเรยี นรู้
−− บัตรตัวเลข
−− บัตรโจทย์
| 29สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 1
แนวการจัดการเรยี นรู้ หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
การพัฒนาความรู้ บทท่ี 1 | จำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
1. ครตู ิดบตั รตัวเลข 40 บนกระดาน ครูทบทวน 1.12 แบบรูปของจาำ นวนท่ีเพ่ิมข้นึ ทลี ะ 5
และแบบรูปของจำานวนทีล่ ดลงทลี ะ 5
การนบั เพ่มิ ทีละ 5 โดยการถาม-ตอบ ถา้ เริม่ จาก 40 นบั
พฒั นาความรู้ +5 +5
เพิ่มทลี ะ 5 ได้ 45 50 55 60 ... ครตู ดิ บัตรจำ�นวน +5 +5
ทน่ี ับได้บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นสงั เกตชดุ ของจำ�นวน 40 45 50 55 60
40 45 50 55 และ 60 เป็นจำ�นวนทเี่ พิม่ ข้ึนทลี ะ 5
40 45 50 55 60 เป็นแบบรูปของจำานวนท่ีเพิ่มขึน้ ทีละ 5
+5 +5 +5 +5
40 45 50 55 60 ว่าเปน็ การเรียงจำ�นวนในลกั ษณะ 157137 142 147 152 .............
อย่างไร นกั เรียนตอบวา่ 40 45 50 55 60 เปน็ 137 142 147 152 เปน็ แบบรูปของจ�ำ นวนทเี่ พ่ิมขน้ึ ทลี ะ 5
จำ�นวนนบั ท่ีเพ่มิ ข้ึนทลี ะ 5 ครูเขยี นเส้นโยงดว้ ยลกู ศร + 5 ดังนัน้ จ�ำ นวนทอี่ ยถู่ ดั จ�ก 152 ไปท�งขว�คือ 157
เพร�ะ 152 เพ่มิ ข้ึน 5 ได้ 157
จาำ นวนทีห่ ายไปในแบบรปู คอื จาำ นวนใด
แล้วสรุปว่า 40 45 50 55 และ 60 เป็นจำ�นวนนับ 931 73 78 83 88 ............
ท่ีเพิม่ ขน้ึ ทีละ 5 ครูแนะน�ำ ความสัมพันธท์ ี่ตอ่ เน่ืองกนั ใน 2 225 235230 ............ 240 245
ลักษณะของการเพ่ิมขึน้ ทีละ 5 นีว้ า่ เปน็ แบบรูปของ | 49สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จ�ำ นวนทีเ่ พ่ิมข้นึ ทีละ 5 ครใู หน้ กั เรยี นหาจำ�นวนที่อยถู่ ัด หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
จาก 60 ว่าเปน็ จำ�นวนใด โดยใช้การนบั เพิ่มทลี ะ 5 บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
นกั เรียนตอบวา่ 65 จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี นพิจารณาแบบ
รปู ของจำ�นวน 137 142 147 152 แลว้ ใหห้ าว่าจ�ำ นวน −5 −5 −5 −5
ถัดไปคอื จ�ำ นวนใด เพราะเหตุใด นกั เรียนตอบวา่ จ�ำ นวน
95 90 85 80 75
95 90 85 80 และ 75 เป็นจำ�นวนทีล่ ดลงทลี ะ 5
95 90 85 80 75 เป็นแบบรปู ของจำานวนทล่ี ดลงทลี ะ 5
ถัดไปคอื 157 เพราะ 137 142 147 152 เปน็ แบบรปู −5 −5 −5 −5
ของจ�ำ นวนทีเ่ พมิ่ ขน้ึ ทีละ 5 ดังนน้ั 152 เพ่มิ ขนึ้ 5 ได้ 157 1,000 995 990 985 ..............
ครูอาจยกตัวอย่างเพิม่ เตมิ เช่น 80 85 90 …… 100 1,000 995 990 985 เป็นแบบรปู ของจำ�นวนท่ีลดลงทลี ะ 5
แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ จ�ำ นวนทห่ี ายไปคอื อะไร และบอกเหตผุ ล ดังนั้น จำ�นวนที่อยถู่ ัดจ�ก 985 ไปท�งขว�คือ 980
ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั หาจ�ำ นวนท่ีหายไปในแบบรปู เพร�ะ 985 ลดลง 5 ได้ 980
จำานวนทีห่ ายไปในแบบรปู คอื จำานวนใด
1 37 32 27 22 ..............
ของจ�ำ นวนในกรอบทา้ ยหนา้ 49 2 .............. 695 690 685 17
2. ครูติดบัตรตวั เลข 95 บนกระดาน และทบทวน 680
การนับลดทีละ 5 โดยการถาม-ตอบ ถ้าเร่มิ จาก 95 700
50 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นบั ลดทลี ะ 5 ได ้ 90 85 80 75 ... ครตู ิดบตั รตัวเลข 95 90 85 80 75 บนกระดาน
แลว้ ถามนกั เรียนว่าเป็นการเรียงจำ�นวนในลกั ษณะอยา่ งไร นักเรียนตอบว่า 95 90 85 80
และ 75 เปน็ จำ�นวนที่ลดลงทลี ะ 5 ครูเขียนเสน้ โยงลกู ศร - 5 แลว้ สรปุ ว่า 95 90 85 80
และ 75 เปน็ จ�ำ นวนนับทีล่ ดลงทลี ะ 5 ครูแนะน�ำ ความสมั พันธท์ ต่ี อ่ เนอ่ื งกนั ในลกั ษณะของการลดลง
ทลี ะ 5 นว้ี า่ เปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนทล่ี ดลงทลี ะ 5 ครใู หน้ กั เรยี นหาจำ�นวนที่อยู่ถดั จาก 75
ว่าเปน็ จำ�นวนอะไร โดยใช้การนับลดทลี ะ 5 นักเรยี นตอบวา่ จำ�นวนท่ีอย่ถู ัดไปคอื 70
ครอู าจยกตัวอย่างเพ่มิ เติมเช่น 120 115 110 …… 100 แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ จำ�นวนทหี่ ายไป
30 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 คู่มือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1
คอื จำ�นวนใด และบอกเหตผุ ล ครใู หน้ ักเรียน
ช่วยกันหาจ�ำ นวนทหี่ ายไปในแบบรูป หนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
ในกรอบทา้ ยหน้า 50 บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
3. ครตู ดิ บตั รโจทย์ 90 95 100 105 ....... จำานวนทห่ี ายไปในแบบรปู คอื จาำ นวนใด
บนกระดานแล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกจำ�นวน
ท่ีหายไปในแบบรูปคอื จ�ำ นวนใด เพราะเหตใุ ด 90 95 100 105 .1....1...0....
เมอื่ พิจารณาแบบรปู นี้เป็นแบบรปู ของจำ�นวน
ท่ีเพิ่มขนึ้ ทลี ะ 5 ดงั นน้ั จำ�นวนท่ีหายไปคอื 110 90 95 100 105 เป็นแบบรปู ของจ�ำ นวนทเี่ พม่ิ ข้นึ ทลี ะ 5
ครใู ห้นักเรยี นตอบค�ำ ถามวา่ จำ�นวนท่ีหายไปใน ดังนัน้ จ�ำ นวนทห่ี �ยไปคอื 110
แบบรปู ในแต่ละข้อของหน้า 51 คอื จ�ำ นวนใด
โดยครเู นน้ ยำ้�ใหน้ ักเรยี นพิจารณาจำ�นวน 1 500 495 490 485 ..4...8...0....
ทอ่ี ยู่ถดั ไปทางขวาถา้ มีคา่ มากขน้ึ แสดงวา่
เปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนทีเ่ พิม่ ขึ้น และ 2 135 140 145 ..1...5...0.... 155
ถ้าจำ�นวนทอี่ ย่ถู ัดไปทางขวามีค่าน้อยลง
แสดงวา่ เป็นแบบรปู ของจ�ำ นวนทลี่ ดลง 3 272 ..2...6...7.... 262 257 252
จากนนั้ ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันหาจำ�นวน
ที่หายไปในแบบรปู ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 51 4 .6...6...6..... 671 676 681 686
การตรวจสอบความเขา้ ใจ 5 805 800 ..7...9...5.... 790 785
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน | 51สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยให้นักเรียนหาจ�ำ นวนท่ีหายไปในแบบรปู
พรอ้ มบอกวา่ เปน็ แบบรปู ของจำ�นวนทเี่ พม่ิ ขึ้น หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 .1...0...0.... 105
ทีละ 5 หรอื เป็นแบบรูปของจ�ำ นวนทล่ี ดลง บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ทลี ะ 5 ถ้าพบว่ามีนักเรียนคนใดหาจำ�นวนท่ี
หายไปในแบบรูปของจ�ำ นวนยงั ไม่ถูกต้อง ให้ครู ตรวจสอบความเขา้ ใจ
ฝึกเพิ่มเติมเป็นรายบุคคล โดยเร่ิมฝึกจากการนับ
เพม่ิ ทีละ 5 และการนับลดทีละ 5 ก่อน จำานวนท่ีหายไปในแบบรูปคอื จำานวนใด
ถ้านกั เรยี นนบั เพมิ่ ทีละ 5 และนบั ลดทีละ 5
ไดแ้ ล้วจงึ ให้ฝกึ หาจำ�นวนที่หายไปในแบบรปู 1 85 90 95
จากน้นั ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งและสรปุ สิ่งทไี่ ด้เรียนรู้ 2 60 55 50 45 ...4...0.....
3 174 169 164 .1...5...9.... 154
4 412 417 .4...2....2... 427 432
สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้
แบบรูปของจ�ำ นวนท่เี พิม่ ขึน้ ทลี ะ 5 เป็นชุดของจำ�นวน
ท่ีมคี ว�มสมั พนั ธ์กันอย�่ งต่อเน่ืองในลักษณะของก�รเพิ่มขน้ึ
ทลี ะ 5 เช่น 40 45 50 55 60
แบบรปู ของจ�ำ นวนทล่ี ดลงทลี ะ 5 เปน็ ชุดของจำ�นวน
ทมี่ ีคว�มสมั พนั ธ์กนั อย�่ งตอ่ เน่ืองในลกั ษณะของก�รลดลง
ทลี ะ 5 เชน่ 35 30 25 20 15 แบบฝกึ หดั 1.12
52 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 31สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 1
สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรู้
• แบบรปู ของจ�ำ นวนทีเ่ พิ่มขึ้นทลี ะ 5 เป็นชุดของจ�ำ นวนทมี่ ีความสัมพันธ์กนั อยา่ งตอ่ เน่ือง
ในลกั ษณะของการเพิม่ ข้ึนทีละ 5 เชน่ 40 45 50 55 60
• แบบรูปของจ�ำ นวนท่ีลดลงทีละ 5 เป็นชุดของจำ�นวนทีม่ ีความสมั พนั ธ์กนั อย่างต่อเน่อื ง
ในลักษณะของการลดลงทีละ 5 เชน่ 35 30 25 20 15
จากนั้นให้นักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 1.12 หนา้ 29 – 30
1.13 แบบรปู ของจ�ำ นวนทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ทลี ะ 100 และแบบรปู ของจ�ำ นวนทล่ี ดลงทลี ะ 100
จดุ ประสงค์
บอกจ�ำ นวนทห่ี ายไปในแบบรปู ของจ�ำ นวนทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ทลี ะ 100 และแบบรปู ของจ�ำ นวนทล่ี ดลงทลี ะ 100
สอ่ื การเรียนรู้ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทที่ 1 | จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
บตั รตัวเลข
1.13 แบบรูปของจาำ นวนที่เพิ่มข้ึนทีละ 100
และแบบรปู ของจาำ นวนทลี่ ดลงทลี ะ 100
แนวการจัดการเรียนรู้ พฒั นาความรู้
การพัฒนาความรู้
+100 +100 +100 +100
1. ครตู ดิ บตั รตวั เลข 100 บนกระดาน
100 200 300 400 500
ครทู บทวนการนบั เพม่ิ ทีละ 100 โดยการ
100 200 300 400 และ 500 เป็นจ�ำ นวนท่เี พิ่มขึ้นทีละ 100
100 200 300 400 500 เปน็ แบบรูปของจำานวนที่เพ่ิมขนึ้ ทลี ะ 100
ถาม-ตอบ ถ้าเรมิ่ จาก 100 นับเพมิ่ +100 +100 +100 +100
ทีละ 100 ได้ 200 300 400 500 ... 360 460 560 660 ............
ครตู ิดบตั รจ�ำ นวนท่ีนบั ไดบ้ นกระดาน 360 460 560 660 เป็นแบบรปู ของจำ�นวนทีเ่ พม่ิ ขึ้น7ท6ลี 0ะ 100
แลว้ ใหน้ ักเรียนสงั เกตชดุ ของจำ�นวน 100 200
ดังนนั้ จำ�นวนทอ่ี ยถู่ ัดจ�ก 660 ไปท�งขว�คือ 760
เพร�ะ 660 เพม่ิ ขึ้น 100 ได้ 760
300 400 500 วา่ เป็นการเรียงจ�ำ นวน จำานวนท่ีหายไปในแบบรปู คอื จำานวนใด
ในลักษณะอย่างไร นักเรียนตอบวา่ 100 200
300 400 500 เป็นจ�ำ นวนนบั ทีเ่ พม่ิ ขึ้นทลี ะ 18 108 208 308 ............
2 599 ............ 799 408
899 999
100 ครูเขียนเสน้ โยงดว้ ยลกู ศร + 100 แล้ว 699 | 53สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สรุปว่า 100 200 300 400 และ 500
เป็นจำ�นวนนับที่เพิ่มขน้ึ ทลี ะ 100 ครูแนะน�ำ
ความสัมพันธ์ทีต่ อ่ เนอ่ื งกนั ในลักษณะของการเพม่ิ ขน้ึ ทลี ะ 100 นว้ี า่ เปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนทเ่ี พม่ิ ขน้ึ
ทลี ะ 100 ครใู หน้ กั เรยี นหาจ�ำ นวนทอ่ี ยถู่ ดั จาก 500 วา่ เป็นจำ�นวนใด โดยใช้การนับเพ่มิ ทีละ 100
นักเรยี นตอบวา่ 600 จากนัน้ ครใู ห้พจิ ารณาแบบรูปของจ�ำ นวน 360 460 560 660
แล้วให้หาว่าจ�ำ นวนถดั ไปคอื จำ�นวนใด เพราะเหตใุ ด นกั เรยี นตอบวา่ จ�ำ นวนถดั ไปคือ 760
32 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 1 | จำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 คูม่ ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 1
เพราะ 360 460 560 660 เปน็ แบบรปู ของจ�ำ นวนท่ีเพ่ิมขึ้นทีละ 100 ดังนน้ั 660 เพิม่ ข้นึ 100
ได้ 760 ครอู าจยกตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ เชน่ 180 280 380 …… 580 แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ จ�ำ นวนทห่ี ายไป
คอื จำ�นวนใดพร้อมบอกเหตผุ ล จากนั้นครใู หน้ กั เรียนช่วยกันหาจำ�นวนท่หี ายไปในแบบรูปของจ�ำ นวน
ในกรอบทา้ ยหนา้ 53 หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 −100 −100 −100
2. ครูตดิ บัตรตวั เลข 900 บนกระดาน ครูทบทวน บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
การนบั ลดทีละ 100 โดยการถาม-ตอบ ถา้ เริม่ จาก 900 −100
นับลดทีละ 100 ได้ 800 700 600 500 ...
ครตู ิดบตั รตัวเลข 900 800 700 600 500 900 800 700 600 500
900 800 700 600 และ 500 เป็นจำ�นวนที่ลดลงทีละ 100
900 800 700 600 500 เปน็ แบบรปู ของจำานวนทลี่ ดลงทลี ะ 100
บนกระดาน แล้วถามนักเรียนวา่ เปน็ การเรียงจำ�นวน −100 −100 −100 −100
ในลักษณะอย่างไร นกั เรียนตอบวา่ 900 800 700
712 612 512 412 ....3...1...2.....
600 500 เปน็ จ�ำ นวนที่ลดลงทีละ 100 ครเู ขียนเสน้ โยง 712 612 512 412 เปน็ แบบรูปของจำ�นวนทลี่ ดลงทลี ะ 100
ดว้ ยลกู ศร - 100 แล้วสรุปวา่ 900 800 700 600 ดงั นนั้ จำ�นวนทอ่ี ยู่ถดั จ�ก 412 ไปท�งขว�คือ 312
และ 500 เปน็ จำ�นวนนบั ที่ลดลงทีละ 100 ครแู นะน�ำ เพร�ะ 412 ลดลง 100 ได้ 312
ความสมั พนั ธท์ ตี่ ่อเน่ืองกันในลกั ษณะของการลดลง
ทลี ะ 100 นวี้ ่า เป็นแบบรูปของจำ�นวนทล่ี ดลงทีละ 100 จำานวนทห่ี ายไปในแบบรูปคือจาำ นวนใด
ครูใหน้ ักเรยี นหาจำ�นวนท่ีอยู่ถดั จาก 500 วา่ เปน็ จ�ำ นวนใด
1 500 400 300 ..2....0...0.... 100
2 905 805 ...7...0...5.... 605 505
54 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยใช้การนับลดทลี ะ 100 นักเรยี นตอบวา่ จำ�นวน
ท่อี ยู่ถดั ไป คอื 400 ครูอาจยกตัวอยา่ งเพ่มิ เตมิ เช่น 820
720 620 …… 420 แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ จ�ำ นวนที่หายไป
คือจำ�นวนใด พร้อมบอกเหตผุ ล ครูให้นกั เรียนช่วยกันหา
จำ�นวนทห่ี ายไปในแบบรูปของจำ�นวนในกรอบท้ายหนา้ 54 หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
3. ครูตดิ บัตรโจทย์ 700 600 500 400 ....... บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
จำานวนทห่ี ายไปในแบบรูปคอื จำานวนใด
บนกระดานแลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกจำ�นวนทห่ี ายไป 700 600 500 400 .3....0...0....
ในแบบรูปคอื จำ�นวนใด เพราะเหตุใด เมือ่ พิจารณา 700 600 500 400 เปน็ แบบรูปของจำ�นวนท่ีลดลงทีละ 100
แบบรูปนเ้ี ป็นแบบรปู ของจ�ำ นวนที่ลดลงทีละ 100 ดังน้ัน จ�ำ นวนท่หี �ยไปคอื 300
ดงั นั้นจำ�นวนทหี่ ายไปคอื 300 ครใู ห้นกั เรยี นเติมจำ�นวน
1 465 565 665 ..7...6...5.... 865
ท่ีหายไปในแบบรูปตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 55 โดยครู 2 940 840 740 640 ..5...4...0....
เน้นยำ�้ ให้นกั เรียนพิจารณาจำ�นวนทอี่ ยูถ่ ดั ไปทางขวา
ถ้ามีคา่ มากขึ้นแสดงวา่ เป็นแบบรูปของจ�ำ นวนท่เี พิม่ ข้นึ 3 504 .6...0....4.... 704 804 904
และถ้าจ�ำ นวนท่อี ยู่ถดั ไปทางขวามคี ่านอ้ ยลงแสดงวา่ 4 ..7...9...1.... 691 591 491 391
เป็นแบบรปู ของจำ�นวนทล่ี ดลง 5 44 144 ..2...4...4.... 344 444
| 55สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 33สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เลม่ 1
การตรวจสอบความเข้าใจ หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 ...8...1..0.... 910
บทที่ 1 | จ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น
โดยให้นักเรยี นหาจ�ำ นวนทหี่ ายไปในแบบรปู ตรวจสอบความเขา้ ใจ
พรอ้ มบอกว่าเปน็ แบบรูปของจำ�นวนท่ีเพิ่มขึ้น
ทีละ 100 หรือเปน็ แบบรูปของจ�ำ นวน จำานวนที่หายไปในแบบรูปคือจำานวนใด
1 510 610 710
ทล่ี ดลงทลี ะ 100 ถา้ พบวา่ มีนกั เรียนคนใด 2 478 378 278 178 ...7...8......
หาจ�ำ นวนที่หายไปในแบบรปู ของจำ�นวน 3 850 ...7..5...0.... 650 550 450
ยงั ไมถ่ กู ตอ้ งให้ครฝู ึกเพมิ่ เติมเป็นรายบุคคล
โดยเรม่ิ ฝกึ จากการนบั เพ่มิ ทีละ 100 และ 4 .....2...1.... 121 221 321 421
การนับลดทลี ะ 100 กอ่ น ถา้ นักเรียนนบั เพมิ่ ส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้
ทลี ะ 100 และนบั ลดทีละ 100 ได้แลว้ จงึ ให้
ฝกึ หาจำ�นวนท่ีหายไปในแบบรปู จากน้ันครู แบบรูปของจำ�นวนที่เพ่ิมข้ึนทลี ะ 100 เปน็ ชุดของจำ�นวน
และนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ท่ีมคี ว�มสัมพันธ์กนั อย�่ งต่อเนื่องในลกั ษณะของก�รเพ่ิมข้ึน
และสรปุ ส่ิงท่ีได้เรียนรู้ ทลี ะ 100 เชน่ 400 500 600 700 800
แบบรูปของจ�ำ นวนท่ีลดลงทีละ 100 เปน็ ชุดของจำ�นวน
ทม่ี คี ว�มสัมพนั ธ์กันอย�่ งตอ่ เน่ืองในลกั ษณะของก�รลดลง
ทลี ะ100 เช่น 821 721 621 521 421
แบบฝกึ หัด 1.13
56 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สง่ิ ท่ีได้เรยี นรู้
• แบบรปู ของจ�ำ นวนท่เี พม่ิ ขนึ้ ทลี ะ 100 เปน็
ชุดของจ�ำ นวนท่มี ีความสมั พันธ์กนั อยา่ งตอ่ เนอื่ ง
ในลกั ษณะของการเพม่ิ ขน้ึ ทลี ะ 100 เชน่ 400 500 600 700 800
• แบบรปู ของจำ�นวนทลี่ ดลงทีละ 100 เป็นชุดของจำ�นวนทม่ี คี วามสัมพันธก์ ันอย่างต่อเนือ่ ง
ในลกั ษณะของการลดลงทลี ะ 100 เช่น 821 721 621 521 421
จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝึกหดั 1.13 หน้า 31 – 33
34 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 1
รว่ มคิดร่วมทำ� หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
กิจกรรม บัตรตัวเลขของฉนั บทที่ 1 | จำ�นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
ร่วมคิดร่วมทำา
อปุ กรณ์ กจิ กรรม บตั รตวั เลขของฉนั
อปุ กรณ์ 1 ชุด ประกอบด้วย
−− บตั รตวั เลขจำ�นวน 5 บตั ร เชน่ 5 6 4 8 9
−− แบบบนั ทึกกจิ กรรมใบที่ 1 และใบที่ 2 1. บตั รตวั เลข จำ�นวน 5 บตั ร เชน่
การเตรยี มสถานที่ 56489
หอ้ งโลง่ หรอื จดั โตะ๊ เรยี นเปน็ กลมุ่ ตามจ�ำ นวนสมาชกิ 2. แบบบันทกึ กิจกรรมใบท่ี 1 และใบท่ี 2
วธิ จี ัดกิจกรรม
1. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกลมุ่ แจกอปุ กรณก์ ลมุ่ ละ 1 ชุด แต่ละกลุ่มอ�จได้
ชดุ ของบัตรตัวเลขทไ่ี ม่เหมือนกัน
2. ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ นำ�บตั รตัวเลขม�สร�้ งจ�ำ นวนส�มหลักท่มี �กท่สี ดุ
และจ�ำ นวนส�มหลกั ท่ีนอ้ ยทีส่ ุด แล้วบันทึกในแบบบนั ทกึ กิจกรรม
ตวั อย่างแบบบนั ทึกกิจกรรมใบท่ี 1 ตวั อยา่ งแบบบันทึกกิจกรรมใบที่ 2
วธิ เี ลน่ จ�ำ นวนส�มหลกั ทีม่ �กท่ีสดุ คอื ..9...8..6..... จำ�นวนส�มหลกั ทน่ี ้อยทส่ี ุด คอื ...4..5..6.....
เขียนในรูปกระจ�ย เขียนในรปู กระจ�ย
1. ครแู บง่ นักเรียนเป็นกล่มุ แจกอุปกรณ์ ............................................................ ............................................................
กล่มุ ละ 1 ชดุ แตล่ ะกลมุ่ อาจไดช้ ุดของบัตรตวั เลข ............9..8..6....=....9..0...0...+....8..0....+...6............... ............4...5..6....=..4...0..0....+...5...0....+...6...............
............................................................ ............................................................
แบบรปู ของจ�ำ นวนทลี่ ดลงทีละ 100 แบบรูปของจำ�นวนที่เพ่มิ ขึ้นทลี ะ 100
เร่ิมจ�กจ�ำ นวนที่ม�กทสี่ ุด เร่ิมจ�กจ�ำ นวนทนี่ อ้ ยท่ีสดุ
ทไี่ มเ่ หมอื นกัน .9..8..6.. .8..8..6.. .7..8..6.. .6..8..6.. .5..8..6.. .4..5..6.. .5..5..6.. .6..5..6.. .7..5..6.. .8..5..6..
2. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคนภายในกลุ่ม | 57สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
น�ำ บตั รตวั เลขทก่ี ลุม่ ของตนเองไดม้ าสร้างเป็น
จำ�นวนสามหลักทมี่ ีคา่ มากทีส่ ุด และมคี า่ นอ้ ยทส่ี ดุ
แล้วบันทึกในแบบบนั ทกึ กจิ กรรมใบที่ 1 และใบที่ 2 จากน้ันเขียนจำ�นวนนนั้ ในรูปกระจาย
และเขียนแบบรปู ของจ�ำ นวนทีเ่ พม่ิ ข้นึ ทีละ 100 หรอื ลดลงทีละ 100
3. ครูให้ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมาน�ำ เสนอ แล้วใหเ้ พ่ือนในห้องรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
กลุม่ ใดท�ำ ถูกต้อง ครูควรกลา่ วค�ำ ชมเชยหรอื ให้รางวัล
จากนัน้ ให้นกั เรียนทำ�แบบฝกึ ท้าทาย หน้า 34 – 35
| 35สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ 1
ตวั อย่างแบบทดสอบทา้ ยบท
ตวั อยา่ งแบบทดสอบนใี้ ชใ้ นการประเมนิ ผลระหว่างเรยี นเพ่ือพัฒนานักเรยี นหากมีนกั เรียน
คนใดที่ไม่สามารถทำ�แบบทดสอบนไ้ี ด้ครูควรใหน้ ักเรยี นคนนน้ั ฝกึ ทกั ษะมากขึ้นโดยอาจใช้
แบบฝึกเสรมิ ในหนงั สือเสริมเพิ่มปญั ญาของสสวท. หรือแบบฝึกอนื่ ตามที่เห็นสมควร ก่อนสอบ
ครูอาจทบทวนความรู้ให้กับนกั เรยี นก่อน 20 - 30 นาที ซ่งึ แบบทดสอบท้ายบทน้ีมีจ�ำ นวน 10 ข้อ
คะแนนเตม็ 10 คะแนน ใชเ้ วลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที และวิเคราะหเ์ ปน็ รายจุดประสงค์
ไดด้ งั นี้
จดุ ประสงค์ ขอ้ ท่ี
1 2 7
1. บอกจ�ำ นวนสง่ิ ต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจำ�นวนที่ก�ำ หนด 3 6 9
ไมเ่ กนิ 1,000 4 5
2. อา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สือ 8 10
แสดงจำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
3. เปรียบเทียบและเรยี งล�ำ ดับจำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
4. บอกจำ�นวนท่ีหายไปในแบบรูปของจ�ำ นวนที่เพมิ่ ข้นึ หรือลดลงทลี ะ 2
ทีละ 5 และทีละ 100
ตัวอยา่ งแบบทดสอบทา้ ยบทที่ 1
เขียน ตวั เลอื กที่ถูกตอ้ ง
1. ข้อใดเป็นการนับทีละ 2
ก. 20 21 22 23 24 25
ข. 10 9 8 7 6 5
ค. 11 13 15 17 19
2. ข้อใดเป็นการนบั ทลี ะ 5 50
ก. 20 25 30 40 65
ข. 45 50 55 60 70
ค. 30 40 50 60
36 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 1 | จ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 คู่มือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1
3. ขอ้ ใดกล่าวถูกตจอ้ ุดงประสงค์
ก. 20 สิบ เขียนแสดงดว้ ยตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ 20
ข. 10 ร้อย เขยี นแสดงด้วยตัวเลขไทย ๑,๐๐๐
ค. 5 สบิ เขียนแสดงดว้ ยตวั หนังสอื หา้ ร้อย
4. ขอ้ ใดถกู ต้อง
ก. 109 > 124
ข. 98 > 258
ค. 54 < 421
5. ขอ้ ใดเรียงลำ�ดับจำ�นวนจากมากไปน้อย
ก. 452 440 320 281 240 100
ข. 154 632 685 791 938 990
ค. 326 485 147 329 693 527
6. 139 เลขโดดใดมีค่ามากทีส่ ดุ
ก. 1
ข. 3
ค. 9
7. ข้อใดเปน็ จำ�นวนค่ีท้ังหมด 59
ก. 45 83 61 74 76
ข. 10 42 64 88 49
ค. 83 61 45 23
8. ข้อใดเป็นแบบรูปของจ�ำ นวนที่ลดลงทีละ 100
ก. 872 772 672 572 472
ข. 140 150 160 170 180
ค. 125 225 235 245 255
| 37สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 1 | จำ�นวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 1
9. 8 อยู่ในหลักรอ้ ย 0 อยใู นหลกั สิบ 3 อยใู่ นหลกั หน่วย คอื จำ�นวนใด
ก. 83
ข. 803
ค. 830
10. แบบรูปในข้อใดมจี ำ�นวนทีห่ ายไปคอื 50
ก. 42 44 46 .......... 50 52
ข. 75 70 65 60 55 ..........
ค. 32 37 42 .......... 52 57
เฉลยแบบทดสอบบทที่ 1
1. ค 2. ข 3. ข 4. ค 5. ก 6. ก 7. ค 8. ก 9. ข 10. ข
38 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนับไม่เกิน 1,000 คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 1
บทที่ 2 การบวกและการลบ
จ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000
จดุ ประสงค์การเรียนร้แู ละสาระสำ�คัญ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระส�ำ คญั
นกั เรียนสามารถ • ก ารบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนอาจหาผลบวกได้
โดยใชเ้ ส้นจำ�นวน หรือ แผ่นตารางรอ้ ย
1. หาผลบวกในประโยคสัญลกั ษณ์ แผน่ ตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วย
แสดงการบวกของจ�ำ นวนนับไม่เกนิ 1,000
(หวั ข้อ 2.1 – 2.7) • การหาผลบวกโดยการตง้ั บวก ต้องเขียน
เลขโดดในหลกั เดยี วกันใหต้ รงกัน แล้วจงึ น�ำ
จำ�นวนทอ่ี ยใู่ นหลกั เดียวกนั มาบวกกนั โดย
เรมิ่ จากหลักหน่วย หลกั สบิ และหลกั ร้อย
ตามลำ�ดบั ถา้ ผลบวกในหลักหน่วยเป็น 1 สิบ
หรอื มากกวา่ 1 สิบ ตอ้ งทด 1 สิบ ไปรวมกบั
จำ�นวนในหลกั สิบ หรอื ถา้ ผลบวกในหลักสิบ
เป็น 1 ร้อยหรอื มากกวา่ 1 ร้อย ตอ้ งทด
1 ร้อยไปรวมกับจำ�นวนในหลกั ร้อย
• การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนสามารถสลับที่ได้
ผลบวกยังคงเท่าเดิม
• ก ารบวกจำ�นวนสามจำ�นวนจะบวก
สองจ�ำ นวนใดกอ่ นกไ็ ด้ แลว้ บวกจ�ำ นวนทเ่ี หลอื
ผลบวกเทา่ กัน หาผลบวกโดยการตงั้ บวก
ทำ�ไดโ้ ดยนำ�จ�ำ นวนในหลกั เดียวกนั มาบวกกนั
ถ้าผลบวกในหลักใดเปน็ จ�ำ นวนสองหลกั
ใหท้ ดจ�ำ นวนในหลกั สบิ ไปรวมกบั จ�ำ นวน
ในหลกั ถดั ไปทางซา้ ย
| 39สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 1,000
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 1
จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระสำ�คัญ
นักเรยี นสามารถ • การลบจำ�นวนสองจ�ำ นวนอาจหาผลลบได้
โดยใช้เส้นจำ�นวน หรอื แผน่ ตารางร้อย
2. หาผลลบในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดง แผ่นตารางสิบ และแผ่นตารางหนว่ ย
การลบของจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000
(หัวขอ้ 2.8 – 2.13) •• ผลลบบวกตวั ลบเทา่ กับตัวตั้ง
การหาผลลบของจํานวนสองจํานวนโดย
การต้งั ลบ ตอ้ งเขียนเลขโดดในหลักเดียวกัน
ให้ตรงกัน แล้วจึงนําจํานวนทีอ่ ยูใ่ นหลัก
เดยี วกนั มาลบกันโดยเริ่มจากหลกั หนว่ ย
หลกั สิบ และหลกั ร้อย ตามลําดับ
−− ถา้ เลขโดดในหลกั หน่วยของตัวต้ัง
มีคา่ นอ้ ยกวา่ เลขโดดในหลกั หนว่ ย
ของตัวลบ ต้องกระจายจํานวนจาก
หลกั สบิ ไปหลกั หน่วย
−− ถ้าเลขโดดในหลกั สิบของตัวตั้ง
มคี า่ นอ้ ยกว่าเลขโดดในหลักสบิ
ของตัวลบ ตอ้ งกระจายจํานวนจาก
หลกั รอ้ ยไปหลกั สิบ
• การหาผลลบของจํานวนสามจํานวนโดย
การต้ังลบ ใหน้ ําจํานวนสองจํานวนมาลบ
กนั ก่อน แล้วนําผลลบไปลบกบั จํานวน
ท่ีเหลอื
3. หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ • ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ
แสดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณ์แสดง เมื่อจำ�นวนสองจำ�นวนบวกกัน ผลบวก
การลบของจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 ทไ่ี ดล้ บด้วยจ�ำ นวนใดจ�ำ นวนหนึ่งใน
(หวั ข้อ 2.14 – 2.15) สองจ�ำ นวนน้นั ผลลบคือจำ�นวนอีก
จำ�นวนหน่งึ
40 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนับไม่เกิน 1,000 คู่มอื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เล่ม 1
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
นักเรยี นสามารถ สาระส�ำ คญั
4. แสดงวธิ หี าค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา • ก ารหาค่าของตวั ไมท่ ราบค่า
การบวก และโจทยป์ ญั หาการลบ ในประโยคสัญลกั ษณ์การบวกและ
(หัวข้อ 2.16 – 2.19) ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ สามารถ
5. สร้างโจทย์ปัญหาการบวกและ ใชค้ วามสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ
โจทยป์ ญั หาการลบ
(หัวข้อ 2.20 – 2.21) • การแก้โจทยป์ ญั หาทำ�ได้โดย อา่ นทำ�ความ
เข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำ�ตอบ
และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ
• ก ารสร้างโจทยป์ ัญหา ตอ้ งมที ้งั ส่วนที่
โจทย์บอกและส่วนท่ีโจทย์ถาม และ
โจทยป์ ญั หาท่สี รา้ งตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้
| 41สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 1
การวเิ คราะหเ์ นอื้ หากับทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
หวั ขอ้ เน้ือหา เวลา ทักษะและกระบวนการ
(ชั่วโมง) ทางคณติ ศาสตร์
12345
เตรียมความพรอ้ ม 1
2.1 การหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน 1
2.2 การหาผลบวกโดยใช้แผน่ ตารางรอ้ ย 1
แผ่นตารางสบิ แผน่ ตารางหนว่ ย
2.3 การหาผลบวกโดยการตั้งบวกไมม่ กี ารทด 1
2.4 การหาผลบวกโดยการต้ังบวกมีการทด (1) 1
2.5 การหาผลบวกโดยการตงั้ บวกมกี ารทด (2) 1
2.6 การหาผลบวกของจำ�นวนสามจำ�นวน (1) 1
2.7 การหาผลบวกของจ�ำ นวนสามจำ�นวน (2) 1
2.8 การหาผลลบโดยใช้เสน้ จ�ำ นวน 1
2.9 การหาผลลบโดยใชแ้ ผ่นตารางร้อย 1
แผน่ ตารางสิบ แผน่ ตารางหนว่ ย
2.10 การหาผลลบโดยการตัง้ ลบไมม่ กี ารกระจาย 1
2.11 การหาผลลบโดยการตั้งลบมกี ารกระจาย (1) 1
2.12 การหาผลลบโดยการตง้ั ลบมีการกระจาย (2) 1
2.13 การหาผลลบของจำ�นวนสามจ�ำ นวน 1
2.14 ความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ 1
2.15 การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์ 2
การบวก และประโยคสญั ลักษณ์การลบ
2.16 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ (1) 2
2.17 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ (2) 2
42 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 ค่มู ือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 1
การวิเคราะห์เนื้อหากับทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
หวั ขอ้ เน้อื หา เวลา ทกั ษะและกระบวนการ
(ชั่วโมง) ทางคณติ ศาสตร์
12345
2.18 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ (3) 2
2.19 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ (4) 2
2.20 การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและ 1
โจทย์ปญั หาการลบจากภาพ
2.21 การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกและ 1
โจทย์ปัญหาการลบจากประโยคสญั ลักษณ์
ร่วมคิดรว่ มท�ำ 1
1 การแกป้ ญั หา 2 การสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
3 การเชื่อมโยง 4 การให้เหตผุ ล 5 การคิดสร้างสรรค์
| 43สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนับไม่เกนิ 1,000
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 1
ค�ำ ส�ำ คญั
เส้นจำ�นวน ความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ ตวั ไม่ทราบคา่
ความรู้หรอื ทักษะพนื้ ฐานของนักเรียน
1. การสังเกต การวิเคราะห์
2. การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 100
3. การเขียนตวั เลขแสดงจ�ำ นวนนับไม่เกิน 100
4. โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบของจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 100
5. การเขยี นตวั เลขแสดงจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000
6. หลกั และค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของจ�ำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000
สือ่ และแหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน หน้า 58 – 145
2. แบบฝกึ หัด หน้า 36 – 93
3. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ใบกจิ กรรม บตั รภาพตา่ ง ๆ และอปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่ใี ช้ประกอบกิจกรรม
ดงั น้ี
•• บตั รภาพเสน้ จ�ำ นวน
บตั รตัวเลข บัตรเครือ่ งหมายบวก บัตรเคร่ืองหมายลบ บตั รโจทยป์ ญั หา
บตั รประโยคสญั ลักษณ์ บตั รคำ�ตอบ
•• แผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหนว่ ย
บตั รภาพตา่ ง ๆ เช่น ปลาหางนกยูง ปลาทอง ปลาเทวดา ดอกดาวเรอื ง
ดอกกุหลาบ มะม่วง แกว้ มังกร ส้ม ชมพู่
•• แถบกระดาษสีทีม่ ีความยาวแตกต่างกัน (Bar Model)
ใบกจิ กรรม แบบบันทกึ กิจกรรม
4. สือ่ เพิม่ เติม หนา้ 61 65 89 93 139 และ 145 (Download ได้จาก QR code หน้า 58)
5. ส่ือวีดทิ ัศน์ (QR code)
•• บวกโดยใชส้ อ่ื หนา้ 65
ลบโดยใช้สอ่ื หน้า 93
เวลาทใ่ี ชจ้ ดั การเรียนรู้ 23 ชวั่ โมง
44 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000 คู่มอื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 1
การจัดการเรยี นร้ ู
การเตรยี มความพร้อม
บทท่ี 2 การบวกและการลบ
จาำ นวนนับไม่เกนิ 1,000
กโิ ลกรมั ลกะโิ ล2ก7ร0ัมบละาท270 บาท
กโิ ลกรมั ลกะโิ ล1ก0ร0มั บละาท100 บาท
เรยี นจบบทนแี้ ลว้ นกั เรยี นสามารถ ถ้าแมม่ เี งิน 1,000 บาท จะซอ้ื อะไรไปฝาก
คุณยายได้บา้ ง แล้วแม่จะยงั เหลือเงนิ เท่าไร
หาผลบวกในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกของจาำ นวนนับ
ไม่เกนิ 1,000 ลกู ละ 25ลบกู าลทะ 25 บาท หวลี ะ 45หบวาลี ทะ กิโลกรมั ลกะโิ ล5ก0รบมั ลาทะ 50 บาท
45 บาท
หาผลลบในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบของจำานวนนบั ถุงละ 21ถ5งุ บละาท215 บาท
ไม่เกนิ 1,000
5 กิโลกรัม5 กโิ 5ลกกรโิ ัมลกรมั5 กิโลกรมั กิโลกรัมลกะิโล9ก0รบัมลาทะ 90 บาท
หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก
และประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบของจาำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
แสดงวธิ หี าคาำ ตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ
สื่อเพ่มิ เตมิ สรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ
กิโลกรมั ลกะิโล1ก2ร0มั บละาท120 บาท
กโิ ลกรัมลกะิโล2ก5ร0ัมบละาท250 บาท กโิ ลกรมั ลกะโิ ล4ก0รบัมาลทะ 40 บาท กโิ ลกรัมลกะิโล9ก0รบัมลาทะ 90 บาท
จานละ 2จ0าบนาลทะ 20 บาท
กโิ ลกรัมลกะโิ ล2ก8ร0ัมบลาะท280 บาท
1. ใช้ขอ้ มูลในหนังสือเรียนหน้าเปดิ เพือ่ กระตุน้ ความสนใจและสรา้ งบทสนทนา โดยใช้
ค�ำ ถาม เชน่
นกั เรียนคดิ ว่าสถานที่ในภาพนี้คอื ท่ใี ด
• โดยปกติแลว้ ในตลาดสดจะขายอะไรบ้าง
• จากภาพมอี ะไรขายบ้าง
• สินค้าแตล่ ะชนดิ ในภาพราคาเท่าไร
• ซ้ือปลา 1 กิโลกรมั กบั กุ้ง 1 กิโลกรัมตอ้ งจา่ ยเงนิ เท่าไร
• ปรู าคาแพงกว่าก้งุ ก่บี าท
• ถา้ มเี งิน 300 บาท ซ้อื ผลไม้อะไรได้บา้ ง อย่างละก่ีกิโลกรัม และเหลือเงนิ ก่บี าท
•• ถา้ แม่มีเงิน 1,000 บาท จะซื้ออะไรไปฝากคุณยายได้บ้าง แล้วแมจ่ ะยังเหลือเงนิ ก่ีบาท
โดยท่บี างคำ�ถามนกั เรยี นอาจตอบได้ แต่บางคำ�ถามครูอาจเลือกเพอ่ื ถามนำ�เข้าส่บู ทเรียนวา่
จะหาค�ำ ตอบได้ต้องใช้ความรูท้ ี่จะเรียนในบทนี้ จากน้ันครทู �ำ กิจกรรมเตรยี มความพรอ้ ม
| 45สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 1
2. ใชห้ นงั สอื เรยี นหนา้ 60 กจิ กรรมเตรยี มความพรอ้ ม หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.2
เพอื่ ตรวจสอบความรพู้ น้ื ฐานของนกั เรียนเรื่องการบวก บทท ่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนับไมเ่ กนิ 1,000
การลบ การหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์
การบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ และโจทยป์ ญั หา เตรียมความพร้อม
การบวก โจทยป์ ัญหาการลบ โดยการสรา้ ง ในการจดั งานปใี หม่ของนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ี ่ 2 มผี ลไม้ตา่ ง ๆ ดงั นี้
บทสนทนาเก่ียวกับจ�ำ นวนของผลไม้ จากน้นั ให้นกั เรียน
ช่วยกันแสดงความคดิ ท่หี ลากหลายในการแกโ้ จทยป์ ัญหา แอปเปลิ 25 ผล มะม่วง 13 ผล
ในกรอบทา้ ยหนา้ 60 เงาะ 40 ผล ฝรัง่ 14 ผล
ส้มโอ 6 ผล ชมพ่ ู 32 ผล
2.1 การหาผลบวกโดยใช้เสน้ จ�ำ นวน แตงโม 5 ผล สบั ปะรด 4 ผล
จุดประสงค ์
เตมิ ตัวเลขแสดงจาำ นวน
หาผลบวกทีผ่ ลบวกไม่เกิน 100 โดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวน
1 จาำ นวนแอปเปิลและมะม่วงรวมกันได้ 25 + 13 = 38 ผล
สื่อการเรียนรู้ 2 แก้วตาตอ้ งนำาแตงโมมาเพ่ิมอีก 9 ผล จึงจะเท่ากบั จาำ นวนฝรงั่
3 เงาะกับชมพู่มีจำานวนต่างกนั 8 ผล
−− บตั รภาพแสดงเส้นจ�ำ นวน 4 สมชายและเพอ่ื นกินชมพ่ไู ป 7 ผล ทาำ ให้มชี มพูเ่ หลืออย ู่ 25 ผล
−− บตั รโจทย ์ 5 จำานวนสับปะรด ส้มโอ และ ฝรง่ั รวมกนั ได้ 24 ผล
แสดงวธิ คี ิดที่หลากหลาย
ผลไม้สามชนิดใดบ้าง เมื่อนาำ จำานวนมารวมกนั แล้วมากกว่า 45 ผล
และไดผ้ ลรวมเป็นเท่าไร
60 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เฉลย
แอปเปลิ มะมว่ ง เงาะ 25 + 13 + 40 = 78 เงาะ ฝร่ัง ส้มโอ 40 + 14 + 6 = 60
แอปเปิล มะม่วง ฝรง่ั 25 + 13 + 14 = 52 เงาะ ฝรงั่ ชมพ่ ู 40 + 14 + 32 = 86
แอปเปลิ มะม่วง ชมพ่ ู 25 + 13 + 32 = 70 เงาะ ฝร่ัง แตงโม 40 + 14 + 5 = 59
มะมว่ ง เงาะ ฝรัง่ 13 + 40 + 14 = 67 เงาะ ฝรัง่ สบั ปะรด 40 + 14 + 4 = 58
มะม่วง เงาะ ชมพ ู่ 13 + 40 + 32 = 85 ฝรัง่ ส้มโอ ชมพู่ 14 + 6 + 32 = 52
ฝรัง่ ชมพู่ สับปะรด 14 + 32 + 4 = 50 ฝรั่ง ชมพู่ แตงโม 14 + 32 + 5 = 51
* ค�ำ ตอบมหี ลากหลายขึ้นอยูก่ บั ดุลยพนิ ิจของครู
แนวการจดั การเรยี นรู้ หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
การพัฒนาความรู้ บทที่ 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000
2.1 การหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จาำ นวน
พฒั นาความรู้
1. ครูตดิ บตั รโจทย์ 33 + 10 = ให้นักเรยี น 33 + 10 =
หาค�ำ ตอบพรอ้ มวิธีคิด (อาจจะใช้วิธีนบั ต่อ นบั เพ่มิ 0 5 10 15 20 25 30 33 35 40 43 45 50
ทีละ 10) ครูใช้บัตรภาพแสดงเส้นจำ�นวนทเ่ี ริ่มจาก
เรม่ิ จาก 0 ไป 33 แลว้ ต่อไปอีก 10 ได้ 43
อาจเขยี นแสดงการหาผลบวกโดยเรม่ิ จาก 33 ดังน้ี
0 และแสดงข้นั ตอนการหาผลบวกดังนี้ 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55
ลากเสน้ โค้งเร่มิ จาก 0 ไป 33 แลว้ ต่อไปอกี 10
เรม่ิ จาก 33 แลว้ ตอ่ ไปอีก 10 ได ้ 43
ดงั น้นั 33 + 10 = 43
ได้ 43 ให้นกั เรยี นสงั เกตว่า การลากเส้นโค้งต่อไปอกี 10 33 + 15 = 15 15 = 10 + 5
เปน็ การเพมิ่ หลกั สิบไป 1 สิบ จากนน้ั ครูแนะน�ำ ว่า 10 5
นักเรียนอาจเรมิ่ ลากเส้นโคง้ จาก 33 ต่อไปอกี 10 ได้ 43 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55
โดยเส้นจ�ำ นวนทนี่ �ำ มาแสดงน้ันอาจเริ่มจากจำ�นวนที่
ไม่ใช่ 0 เชน่ เสน้ จ�ำ นวนในภาพท่ีสองเริ่มจาก 30 ซึ่งเปน็ เรม่ิ จาก 33 แล้วต่อไปอีก 10 กับอกี 5 ได้ 48
ดงั น้ัน 33 + 15 = 48
เราบอกจำานวนไดด้ ้วยการนบั
| 61สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จ�ำ นวนที่ใกล้เคยี งกบั 33 ครตู ดิ บตั รโจทย์ 33 + 15 = แล้วติดบตั รภาพแสดงเส้นจำ�นวน
ทเ่ี รม่ิ จาก 30 และใหน้ ักเรยี นสงั เกตวา่ 15 คอื 10 กับ 5 จากน้ันลากเสน้ โคง้ จาก 33 ต่อไปอกี
10 ได้ 43 แลว้ ลากเสน้ โค้งต่อไปอกี 5 ได้ 48 ครูแนะนำ�ว่าการลากเส้นโค้งจาก 43 ตอ่ ไปอีก 5
อาจลากทลี ะ 1 หรอื ลากทลี ะ 5 ก็ได้
46 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 1
2. ครตู ิดบัตรโจทย์ 14 + 36 = และ
แจกบตั รภาพแสดงเส้นจำ�นวนให้นักเรยี น หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 14
ชว่ ยกนั หาค�ำ ตอบ ครแู นะน�ำ ใหน้ กั เรยี นสงั เกตวา่ บทท ่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไม่เกิน 1,000 10 4
การหาผลบวกโดยใชเ้ ส้นจำ�นวน “ถ้าเริม่ จาก
จ�ำ นวนทีม่ ากกว่า จะหาค�ำ ตอบได้เรว็ กวา่ ” 14 + 36 =
และ 14 คือ 10 กบั 4 ครูให้นักเรียนเขียนแสดง
การหาค�ำ ตอบบนเส้นจำ�นวนทไ่ี ด้รับแจก เรม่ิ จากจำานวนทม่ี ากกว่า
แล้วนำ�เสนอ ครูอาจสมุ่ นักเรยี นให้ออกมา จะหาคาำ ตอบได้เรว็ กว่า
น�ำ เสนอหนา้ ชั้นเรยี น ครแู ละเพอื่ นในห้อง
ร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55
จากน้ันครูตดิ บัตรโจทย์ 27 + 22 = เริ่มจาก 36 แลว้ ตอ่ ไปอกี 10 กับอีก 4 ได้ 50
และแจกบตั รภาพแสดงเส้นจำ�นวนให้นักเรียน ดงั นั้น 14 + 36 = 50
ชว่ ยกนั หาค�ำ ตอบ ครแู นะน�ำ ใหน้ กั เรยี นสงั เกตวา่
22 คอื 10 กับ 10 กับ 2 ครใู หน้ ักเรยี นเขยี น 27 + 22 = 22 = 10 + 10 + 2
แสดงการหาคำ�ตอบบนเส้นจ�ำ นวนทีไ่ ดร้ ับแจก
แล้วน�ำ เสนอ ครูอาจสุ่มนกั เรยี นใหอ้ อกมา 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
นำ�เสนอหน้าชั้นเรียน ครูและเพ่อื นในหอ้ ง
ร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เรมิ่ จาก 27 แล้วต่อไปอกี 10 กบั อีก 10 กับอีก 2 ได้ 49
ดงั น้นั 27 + 22 = 49
3. ให้นักเรียนชว่ ยกันแสดงการหาผลบวก 62 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยใช้เส้นจำ�นวนทลี ะขอ้ ตามหนังสอื เรยี น
หนา้ 63 ครูอธบิ ายวธิ ีการเขียนเสน้ จำ�นวน หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
รวมถงึ การหาคำ�ตอบ เช่น 49 + 15 = บทที่ 2 | การบวกและการลบจำานวนนับไมเ่ กนิ 1,000
ครูถามนักเรยี นว่าควรเรม่ิ จากจำ�นวนใด อธิบายการหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จำานวน
นกั เรยี นตอบว่า 49 และยำ�้ ให้นักเรยี นอกี คร้งั วา่ 1 49 + 15 =
“ถา้ เร่มิ จากจำ�นวนทีม่ ากกว่า จะหาคำ�ตอบ
ได้เรว็ กว่า” จากนัน้ ครถู ามนักเรยี นว่า 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70
15 คือ 10 กับจ�ำ นวนใด นักเรยี นตอบว่า 5
แล้วใหน้ ักเรียนเขียนแสดงบนเสน้ จ�ำ นวนโดย เร่มิ จาก 49 แล้วต่อไปอกี ..................1...0.....ก...บั....อ...ีก.....5....ไ..ด...้..6...4......................
เรมิ่ จาก 49 ลากเส้นโค้งต่อไปอกี 10 และลาก ดงั น้นั 49 + 15 = 64
ต่อไปอีก 5 ได้ 64 สว่ นขอ้ อน่ื ๆ ครูแบ่งนกั เรียน
เป็นกลุ่มแล้วช่วยกนั หาค�ำ ตอบ และน�ำ เสนอ 2 21 + 23 =
กล่มุ ละ 1 ข้อ
20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45
เริ่มจาก 21 แล้วต่อไปอีก .......1...0.....ก...บั....อ...กี ....1....0....ก...ับ....อ...กี.....3.....ไ.ด....้ .4...4...........
ดงั น้นั 21 + 23 = 44
3 50 + 25 =
50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75
เร่มิ จาก 50 แลว้ ตอ่ ไปอีก .......1...0.....ก...ับ....อ...กี ....1....0....ก...ับ....อ...ีก.....5.....ไ.ด....้ .7...5...........
ดงั น้นั 50 + 25 = 75
| 63สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 47สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 1,000
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 1
การตรวจสอบความเข้าใจ หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน
โดยให้นักเรียนแสดงวิธหี าผลบวกโดยใช้เสน้ จำ�นวน ตรวจสอบความเข้าใจ
จากเสน้ จำ�นวนท่ีกำ�หนดใหต้ ามหนงั สือเรียนหนา้ 64 แสดงวธิ ีหาผลบวกโดยใช้เส้นจาำ นวน
โดยครูอาจถามนกั เรียนก่อนว่าแต่ละข้อควรเรม่ิ จาก
จ�ำ นวนใด เพ่อื ใหน้ ักเรยี นได้เนน้ ย�้ำ ความเข้าใจว่า 1 25 + 11 =
“ถา้ เริ่มจากจ�ำ นวนที่มากกว่า จะหาค�ำ ตอบไดเ้ ร็วกวา่ ”
แล้วใหน้ กั เรียนหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จ�ำ นวนเป็นรายบคุ คล 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง
และสรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ 25 10 กบั อีก 1 ได้ 36เริ่มจาก
แล้วต่อไปอีก .............................................................................
สงิ่ ท่ีได้เรียนรู้
ดงั นน้ั 25 + 11 = 36
• การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวนอาจหาผลบวกไดโ้ ดยใช้
เส้นจ�ำ นวน 2 23 + 40 =
จากนั้นใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 2.1 หน้า 36 - 38
4 0 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65
เริม่ จาก 40 10 กบั อกี 10 กบั อกี 3 ได้ 63แลว้ ตอ่ ไปอีก .............................................................................
ดงั นัน้ 23 + 40 = 63
สิง่ ที่ได้เรียนรู้
การบวกจำานวนสองจาำ นวนอาจหาผลบวกไดโ้ ดยใชเ้ ส้นจาำ นวน
แบบฝึกหัด 2.1
64 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2.2 การหาผลบวกโดยใช้แผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสิบ แผ่นตารางหน่วย
จดุ ประสงค์
หาผลบวกทผี่ ลบวกไม่เกนิ 1,000 โดยใชแ้ ผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วย
สอื่ การเรียนรู้ หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
บทท ี่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000
แผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วย
2.2 การหาผลบวกโดยใช้แผน่ ตารางร้อย
แนวการจดั การเรียนรู้ แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย
การพัฒนาความรู้
พัฒนาความรู้
1. ครูจดั กิจกรรม โดยแบง่ กลุ่มนกั เรยี นเป็นกลุ่ม
แลว้ แจกแผน่ ตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ย กจิ กรรม หาผลบวก
กลุ่มละ 2 ชุด ชุดละสี ครสู าธิตการหาผลบวกของ อปุ กรณ์ แผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหนว่ ย
232 กบั 125 โดยใช้แผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบ วธิ จี ดั กจิ กรรม
และแผ่นตารางหนว่ ย ตามหนงั สือเรียนหน้า 65 ดงั นี้
ใชแ้ ผ่นตารางร้อย แผน่ ตารางสิบ และแผ่นตารางหนว่ ย 1. ครแู บง่ นักเรียนเป็นกล่มุ และแจกอปุ กรณ ์
สเี หลืองแสดงจ�ำ นวน 232 และใชแ้ ผน่ ตารางรอ้ ย 2. ครูสาธติ การหาผลบวกของ 232 กับ 125 โดยใชแ้ ผน่ ตารางร้อย
แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วยสีนำ้�เงิน แผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหนว่ ย ดงั น้ี
48 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 232 กบั 125 3 00 กับ 50 กบั 7
ดงั น้นั 232 + 125 = 357 หรอื 357
บวกโดยใชส้ ่ือ
3. ครูกาำ หนดจาำ นวน คร้งั ละสองจำานวนให้นักเรยี นหาผลบวก (ไม่มีทด)
เช่น 314 กับ 272 โดยใชแ้ ผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ
และแผน่ ตารางหน่วย
4. ครูและนักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง
| 65สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 คู่มอื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 1
แสดงจำ�นวน 125 แลว้ นำ�แผ่นตารางร้อย ทั้งสีเหลอื งและสีนำ�้ เงนิ มารวมกัน นบั รวมกนั ได้ 300
นำ�แผ่นตารางสบิ ทั้งสีเหลืองและสนี ำ้�เงินมารวมกัน นบั รวมกันได้ 50 และน�ำ แผน่ ตารางหนว่ ย
ทั้งสเี หลืองและสีน�ำ้ เงนิ มารวมกัน นบั รวมกนั ได้ 7 จะได้ ผลรวมเปน็ 300 กับ 50 กับ 7
หรอื 357 ดงั นัน้ 232 + 125 = 357 จากนั้น ครกู �ำ หนดจำ�นวนสองจำ�นวนใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่
หาผลบวกแบบไม่มที ดโดยใช้แผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบและแผ่นตารางหนว่ ย เชน่ 314 กบั 272
แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมาน�ำ เสนอ ครแู ละเพอ่ื นในหอ้ งชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
2. ครอู ธิบายการหาผลบวกของ 127 กับ 218
โดยใช้แผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วย หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 ตารางหนว่ ย 10 แผน่ เทา่ กบั
เมอื่ ครสู าธติ การบวกโดยการน�ำ แผน่ ตารางหน่วยมารวมกนั บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไม่เกนิ 1,000 ตารางสิบ 1 แผ่น
ครคู วรเน้นให้นกั เรียนเหน็ ว่า เม่ือแผน่ ตารางหนว่ ย
ทน่ี �ำ มารวมกนั ได้ครบ 10 แผน่ จะใชแ้ ผน่ ตารางสบิ 1 แผ่น หาผลบวก
แทนแผ่นตารางหน่วย 10 แผ่นนน้ั ตามตัวอยา่ งใน
หนงั สือเรยี นหน้า 66 จากนนั้ ครสู าธติ การหาผลบวก 127 + 218 =
ของ 263 กบั 352 ใหใ้ ช้วิธีเดยี วกนั โดยครูเน้นยำ้�ว่า
เมอ่ื แผ่นตารางสิบที่นำ�มารวมกนั ไดค้ รบ 10 แผน่ จะใช้แผน่ 127 กับ 218 3 00 กับ 40 กบั 5
ตารางร้อย 1 แผ่น แทนแผน่ ตารางสิบ 10 แผน่ นั้น ดงั น้ัน 127 + 218 = 345 หรอื 345
ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปวา่ “แผ่นตารางหนว่ ย 263 + 352 =
10 แผน่ เทา่ กับแผน่ ตารางสิบ 1 แผน่ และ ตารางสิบ 10 แผน่ เท่ากับ
แผ่นตารางสิบ 10 แผ่นเทา่ กับแผน่ ตารางร้อย 1 แผน่ ” ตารางร้อย 1 แผ่น
3. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันหาผลบวก 263 กบั 352 6 00 กบั 10 กบั 5
โดยใช้แผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ และแผ่นตารางหนว่ ย ดังนั้น 263 + 352 = 615 หรือ 615
แลว้ เตมิ คำ�ตอบไปทีละขอ้ ตามหนังสือเรยี น หนา้ 67
โดยครูใหน้ กั เรยี นออกมาแสดงวธิ คี ิดทีละขอ้ และให้นักเรียน 66 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นำ�เสนอวิธีการนำ�แผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ และ
แผ่นตารางหนว่ ยมารวมกัน และครูเน้นย้ำ�วา่ หนงั สือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
“แผน่ ตารางหนว่ ย 10 แผ่น เท่ากบั แผ่นตารางสบิ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไม่เกิน 1,000
1 แผน่ และแผ่นตารางสบิ 10 แผ่นเทา่ กบั
แผน่ ตารางรอ้ ย 1 แผน่ ” หาผลบวก
1 156 + 172 =
156 กบั 172
2 285 + 107 = 156 + 172 = 328
285 กบั 107
285 + 107 = 392
3 182 + 257 =
182 กบั 257
182 + 257 = 439
| 67สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 49สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1
การตรวจสอบความเข้าใจ หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนับไมเ่ กิน 1,000
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียน
แสดงการหาผลบวกโดยใชแ้ ผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ ตรวจสอบความเข้าใจ
และ แผน่ ตารางหนว่ ย ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 68 หาผลบวก
จากนัน้ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
และสรุปสิ่งทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ 1 264 + 223 = 487
ส่ิงท่ีได้เรยี นรู้ กับ
• การหาผลบวกของจ�ำ นวนสองจำ�นวนอาจหาผลบวกโดย 2 164 + 171 = 335
ใชแ้ ผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ย
จากนั้นใหน้ ักเรียนทำ�แบบฝกึ หดั 2.2 หน้า 39 - 41 กับ
2.3 การหาผลบวกโดยการตั้งบวกไม่มีการทด 3 235 + 355 = 590
จุดประสงค์
กบั
หาผลบวกโดยการตั้งบวกไม่มที ดท่ผี ลบวกไมเ่ กิน 1,000
สง่ิ ท่ีได้เรียนรู้
การบวกจาำ นวนสองจาำ นวนอาจหาผลบวก
โดยใชแ้ ผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วย
แบบฝึกหดั 2.2
68 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ส่ือการเรยี นรู้
บตั รตวั เลข และบตั รค�ำ
แนวการจดั การเรยี นรู้ หนงั สือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
การพัฒนาความรู้ บทท่ ี 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000
1. ครนู �ำ เข้าสู่บทเรียนโดยการสนทนากบั นักเรียน 2.3 การหาผลบวกโดยการตั้งบวกไม่มกี ารทด
ว่าขนุ มีมะนาว 217 ผล เกบ็ เพ่มิ อีก 62 ผล รวมมมี ะนาว
ท้งั หมดก่ผี ล ครถู ามว่าจะหาค�ำ ตอบไดอ้ ย่างไร พัฒนาความรู้
นกั เรยี นตอบวา่ น�ำ 217 บวกกบั 62 ครถู ามวา่
จะหาผลบวกไดอ้ ย่างไรบ้าง นักเรียนอาจตอบว่า มมี ะนาวอยู่ในเข่ง 217 ผล เก็บเพิม่ อีก 62 ผล
หาผลบวกโดยใช้แผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสิบและ
แผน่ ตารางหนว่ ย ครถู ามนักเรียนวา่ จะมีวิธอี ื่นในการ รวมมมี ะนาวทงั้ หมดก่ผี ล เขียนเลขโดดในหลักเดียวกันใหต้ รงกนั
หาผลบวกไดอ้ ีกหรือไม่ นกั เรียนอาจตอบวา่ หาผลบวก แลว้ จงึ นำาจาำ นวนในหลักเดียวกนั มาบวกกนั
โดยการต้งั บวก ครถู ามนกั เรียนว่า การหาผลบวก 217 + 62 =
โดยการตง้ั บวกจะมวี ธิ กี ารต้งั บวกอยา่ งไร นกั เรียน
ควรตอบได้วา่ เขียนตวั เลขในหลักเดยี วกันใหต้ รงกัน ข้ันที ่ 1 บวกในหลักหนว่ ย ขนั้ ท่ี 2 บวกในหลักสบิ
แล้วน�ำ จ�ำ นวนในหลกั เดียวกนั มาบวกกัน 7 หนว่ ย บวก 2 หนว่ ย ได ้ 9 หนว่ ย 1 สบิ บวก 6 สิบ ได ้ 7 สบิ
50 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลกั รอ้ ย หลักสบิ หลกั หน่วย หลักร้อย หลกั สิบ หลกั หนว่ ย
2 1 7 2 1 7
6 + 6 +
7
2 2
9 9
เขียนแสดงวิธีหาผลบวก ดังนี้ ข้ันที ่ 3 บวกในหลกั รอ้ ย
2 1 7 2 รอ้ ย บวก 0 ร้อย ได ้ 2 ร้อย
6 2+
2 7 9 ห ลักร้อย หลกั สบิ หลักหน่วย
ดังนั้น 217 + 62 = 279 2 1 7
6 +
มีมะนาวทั้งหมด 279 ผล 2 7
2
9
| 69สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 คู่มือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เลม่ 1
ครูติดบัตรคำ� หลักรอ้ ย หลักสิบ หลกั หนว่ ย และบัตรตัวเลข 217 และ 62 บนกระดาน
โดยให้เลขโดดทอี่ ยใู่ นหลักเดยี วกนั ตรงกัน ครูสาธิตการบวกโดยการตัง้ บวกทีละขัน้ ตอน ดงั ตัวอยา่ ง
ในหนังสือเรยี นหน้า 69 จะได้ 217 + 62 = 279 ดงั นั้น ขนุ มีมะนาวท้ังหมด 279 ผล
3 235 + 355 =
หนงั สือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000
แสดงวิธีหาผลบวก
หาผลบวก 236 + 423 = 1 210 + 504 =
723 + 205 =
เขยี นเลขโดดในหลักเดียวกนั ให้ตรงกัน วิธที ำา วิธที าำ 1 0
แล้วจงึ นำาจำานวนในหลักเดยี วกนั มาบวกกนั 2 +
2 3 6 5 0 4
+
ขั้นท ่ี 1 บวกในหลักหนว่ ย ขัน้ ที ่ 2 บวกในหลักสิบ 4 2 7 1 4
3 หนว่ ย บวก 5 หนว่ ย ได้ 8 หนว่ ย 2 สิบ บวก 0 สิบ ได้ 2 สบิ 3
6 5 9
หลักรอ้ ย หลักสบิ หลกั หนว่ ย หลกั ร้อย หลกั สิบ หลักหน่วย ตอบ ๖๕๙ ตอบ ๗๑๔
7 2 3 7 2 3 2 3 24 + 105 = 3 619 + 110 =
2 0 + 2 0 +
วธิ ีทาำ วธิ ที ำา
5 5 3 6
8 2 8 2 4 1 9
+ +
1 0 1 1
5 0
4 2 7 2
9 9
เขียนแสดงวธิ ีหาผลบวก ดงั น้ี ขน้ั ท่ ี 3 บวกในหลักรอ้ ย ตอบ ๔๒๙ ตอบ ๗๒๙
7 2 3 7 ร้อย บวก 2 รอ้ ย ได ้ 9 ร้อย
2 0 5+
หลกั ร้อย หลกั สบิ หลกั หนว่ ย 4 541 + 237 = 5 7 54 + 125 =
9 2 8 วิธีทาำ
7 2 3 วธิ ที าำ
2 0 + 1 + 7 5 4
5 4
5 +
2 3 7
9 2 8 1 2 5
8 7 9
7 7 8
ตอบ ๘๗๙
ดังนนั้ 723 + 205 = 928 ตอบ ๗๗๘
70 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 71สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. ครยู กตัวอยา่ งจำ�นวนสามหลักบวกกับจำ�นวนสามหลักที่ไมม่ ีทด เชน่ 723 + 205 =
ครูสาธิตการหาผลบวกโดยการต้ังบวกทลี ะขนั้ ตอนตามหนังสอื เรยี นหน้า 70 โดยเนน้ ย้ำ�ว่า ตอ้ งเขยี น
เลขโดดท่ีอยู่ในหลักเดยี วกันใหต้ รงกนั แลว้ นำ�จำ�นวนในหลักเดียวกนั
มาบวกกัน โดยเรม่ิ จากหลกั หนว่ ย หลักสิบ และหลักรอ้ ยตามลำ�ดบั
3. ครยู กตวั อยา่ ง 236 + 423 = ดงั น้ี เขยี นเลขโดดในหลกั เดยี วกนั ใหต้ รงกนั ขน้ั ท่ี 1
บวกในหลกั หนว่ ย 6 หน่วยบวก 3 หนว่ ย ได้ 9 หน่วย ขั้นท่ี 2 บวกในหลักสิบ 3 สบิ บวก 2 สบิ
ได้ 5 สิบ ขั้นท่ี 3 บวกในหลกั รอ้ ย 2 ร้อยบวก 4 ร้อยได้ 6 ร้อย ดงั นนั้ 236 + 423 = 659
จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกันแสดงวธิ กี ารหาผลบวกโดยการตั้งบวกตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 71
โดยบอกขั้นตอนการหาผลบวกทีละขั้นตอน ให้นกั เรยี นหาคำ�ตอบในข้อ 1 - 5 ทีละขอ้
แลว้ ครูแสดงวิธีคิดท่ถี ูกตอ้ งทลี ะขอ้ เพ่ือตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ
ข้นั ตอนการหาผลบวกดว้ ยวิธตี ้ังบวก
| 51สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 1
หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
การตรวจสอบความเข้าใจ บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน ตรวจสอบความเข้าใจ
โดยใหน้ ักเรียนแสดงการหาผลบวกโดยการตั้งบวก แสดงวิธหี าผลบวก
เป็นรายบคุ คลตามหนังสอื เรยี นหน้า 72 ถ้าพบวา่
มนี ักเรยี นยงั หาผลบวกไมถ่ กู ตอ้ ง ครูใหน้ กั เรียน 1 52 + 543 = 2 606 + 251 =
มาฝกึ เพม่ิ เติมกบั ครเู ปน็ รายบุคคล จากนัน้ ครูและ วิธีทาำ วิธที ำา
นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุป
สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรู ้ 5 2 6 0 6
5 4 3 + 2 5 1 +
5 9 5 8 5 7
ตอบ ๕๙๕ ตอบ ๘๕๗
สงิ่ ทีไ่ ด้เรียนรู้ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้
การหาผลบวกของจาำ นวนสองจาำ นวนโดยการตั้งบวก ต้องเขียนเลขโดด
• การหาผลบวกของจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนโดยการตั้งบวก ในหลกั เดยี วกันใหต้ รงกัน แลว้ จงึ นำาจำานวนที่อยใู่ นหลักเดยี วกนั
ต้องเขยี นเลขโดดในหลักเดียวกันใหต้ รงกนั แลว้ จงึ นำ� มาบวกกัน โดยเรมิ่ จากหลักหนว่ ย หลกั สิบ และหลักร้อย ตามลำาดับ
จำ�นวนทีอ่ ยู่ในหลกั เดยี วกันมาบวกกนั โดยเริม่ จาก
หลักหนว่ ย หลักสบิ และหลักร้อย ตามลำ�ดับ แบบฝกึ หดั 2.3
จากนนั้ ให้นักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 2.3 หน้า 42 - 44
72 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2.4 การหาผลบวกโดยการต้งั บวกมกี ารทด (1) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
จุดประสงค์ บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000
หาผลบวกโดยการต้ังบวกมีการทดทผ่ี ลบวกไม่เกิน 1,000
2 .4 การหาผลบวกโดยการตั้งบวกมกี ารทด (1)
ส่ือการเรยี นรู้ พัฒนาความรู้
−− แผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย มีไขอ่ ยแู่ ล้ว 215 ฟอง เก็บไข่เพมิ่ อีก 19 ฟอง
−− บตั รตัวเลข บตั รค�ำ
รวมแลว้ มีไข่ไปขายกฟี่ อง
แนวการจดั การเรยี นรู้
การพัฒนาความรู้ 215 + 19 =
1. ครสู นทนาเกยี่ วกบั สถานการณ์ในหนงั สือเรียน ข้ันท ่ี 1 บวกในหลกั หน่วย เขียน 4 ในหลักหนว่ ย และทดไปหลกั สิบ 1 สิบ
หน้า 73 เขยี นประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกได้
215 + 19 = ใหน้ ักเรยี นหาผลบวกโดยใช้ 5 หนว่ ย บวก 9 หน่วย ได ้ 14 หน่วย
แผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และแผ่นตารางหนว่ ย
หรือ 1 สบิ กับ 4 หนว่ ย
ห ลักร้อย หลักสบิ หลกั หน่วย
2 11 5
+
1 9
4
ขัน้ ที ่ 2 บวกในหลักสบิ ขน้ั ท ่ี 3 บวกในหลักรอ้ ย
2 รอ้ ย บวก 0 รอ้ ย ได้ 2 ร้อย
1 สบิ บวก 1 สบิ บวกกบั ทท่ี ดมาอกี
1 สิบ ได้ 3 สิบ หลักรอ้ ย หลักสิบ หลักหนว่ ย
2 11 5
ห ลกั ร้อย หลกั สบิ หลักหนว่ ย +
1 9
2 1 5
+ 2 3 4
1
1 9
3 4
ดังนั้น 215 + 19 = 234 มไี ขไ่ ปขาย 234 ฟอง
| 73สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ครูสาธิตการหาผลบวกโดยการต้งั บวกท่มี ีทด ซง่ึ ตวั อยา่ งน้ี
เปน็ การทดจากหลักหน่วยไปหลกั สิบ ครูติดบตั รคำ�หลกั ร้อย หลกั สิบ หลกั หนว่ ย และบัตรตัวเลข
215 และ 19 บนกระดาน โดยใหเ้ ลขโดดทอ่ี ยใู่ นหลกั เดยี วกนั ตรงกนั ครสู าธติ การบวกโดยการตง้ั บวก
52 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 คูม่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เล่ม 1
ทีละข้ันตอน ขั้นท่ี 1 บวกในหลักหนว่ ย 5 + 9 = 14 หนว่ ย ใหเ้ ทยี บกบั วิธีการหาผลบวก
โดยใช้แผ่นตาราง “เมื่อแผน่ ตารางหน่วยรวมกนั 10 แผน่ จะเท่ากบั แผน่ ตารางสิบ 1 แผน่ และ
จะถกู น�ำ ไปนบั รวมกบั แผ่นตารางสบิ ” ดงั นนั้ ในการบวกหลกั หนว่ ยท่ีผลบวกเปน็ จ�ำ นวนสองหลกั
ตอ้ งทดจ�ำ นวนท่คี รบสิบไปหลักสบิ จากนน้ั บวกในหลักสบิ ตอ้ งน�ำ 1 สิบทท่ี ดไว้ไปรวมกบั ผลบวก
ในหลกั สิบดว้ ย ดังตวั อย่างในหนงั สอื เรยี นหน้า 73 จะได้ 215 + 19 = 234
ดงั นนั้ มไี ขไ่ ปขาย 234 ฟอง
หนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000
แสดงวิธหี าผลบวก 1 2 90 + 620 =
วิธที าำ
หาผลบวก เขียน 2 ในหลกั สิบ และทด 107 + 128 =
576 + 153 = 1 รอ้ ยไปหลักร้อย 2 9 0
+
วิธที ำา 1 01
6 2 0
ขัน้ ท ่ี 1 บวกในหลกั หนว่ ย ขั้นที่ 2 บวกในหลักสิบ 1 2 7
6 หนว่ ย บวก 3 หนว่ ย ได ้ 9 หนว่ ย 7 สบิ บวก 5 สบิ ได้ 12 สบิ + 9 1 0
หรอื 1 รอ้ ย กบั 2 สิบ 2 3 ตอบ ๙๑๐
8
5
หลกั ร้อย หลักสิบ หลักหน่วย ตอบ ๒๓๕
5 7 6 ห ลักร้อย หลักสิบ หลกั หน่วย 2 4 70 + 371 = 841 3 249 + 118 = 367
1 5 + 51 7 6
5 +
3 1 3
9 2 9
4 506 + 227 = 733 5 354 + 151 = 505
เขยี นแสดงวธิ หี าผลบวก ดงั น้ี ขัน้ ท่ ี 3 บวกในหลักร้อย 6 623 + 319 = 942 7 747 + 182 = 929
51 7 6 5 รอ้ ย บวก 1 ร้อย บวกกบั ทีท่ ด
1 5 3+ มาอีก 1 รอ้ ย ได ้ 7 ร้อย
7 2 9
ห ลักร้อย หลักสบิ หลกั หนว่ ย 8 7 15 + 193 = 908 9 400 + 600 = 1,000
ดงั นน้ั 576 + 153 = 729 51 7 6
74 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 +
1 3
7 2 9
| 75สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. ครยู กตวั อยา่ ง 576 + 153 = ครสู าธติ การหาผลบวกโดยการตง้ั บวกทม่ี ที ดจากหลกั สบิ
ไปหลกั รอ้ ย ขน้ั ท่ี 1 บวกในหลกั หนว่ ย 6 หนว่ ย บวกกบั 3 หนว่ ย ได้ 9 หนว่ ย ขน้ั ท่ี 2 บวกในหลกั สบิ
7 สิบ บวก 5 สบิ ได้ 12 สบิ หรือ 1 รอ้ ย กับ 2 สิบ ทด 1 ร้อยไปรวมกับหลกั รอ้ ย ข้นั ท่ี 3
บวกในหลกั ร้อย 5 รอ้ ย บวก 1 ร้อย รวมกับท่ที ดอกี 1 ร้อย ได้ 7 รอ้ ย ดงั นนั้ 576 + 153 = 729
3. ครยู กตัวอย่าง 107 + 128 = หาผลบวกโดยการต้ังบวกทีละข้นั ตอน ดังน ี้
บวกในหลกั หนว่ ย 7 หนว่ ย บวก 8 หนว่ ย ได้ 15 หนว่ ย น�ำ 1 สบิ ไปทดไวใ้ นหลกั สบิ บวกในหลกั สบิ
0 สบิ บวก 2 สิบ บวกกับท่ีทดมาอีก 1 สบิ ได้ 3 สิบ บวกในหลกั รอ้ ย 1 ร้อยบวก 1 ร้อย
ได้ 2 รอ้ ย ดงั นัน้ 107 + 128 = 235 จากนั้นครูใหน้ ักเรียนช่วยกันแสดงวิธีการหาผลบวก
โดยการตงั้ บวกตามหนังสือเรียนหน้า 75 โดยบอกขนั้ ตอนการหาผลบวกทลี ะขนั้ ตอน ให้นักเรยี น
หาคำ�ตอบในข้อ 1 – 5 ทลี ะขอ้ แลว้ ครแู สดงวิธคี ดิ ที่ถูกตอ้ งทลี ะขอ้ เพ่อื ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปข้ันตอนการหาผลบวกดว้ ยวิธตี ัง้ บวก ครเู นน้ ยำ�้ ว่า ถ้าผลบวก
ในหลักหนว่ ยเป็น 1 สิบ หรอื มากกวา่ 1 สบิ ต้องทด 1 สิบ ไปรวมกับจำ�นวนในหลกั สิบ หรือถ้า
ผลบวกในหลกั สบิ เป็น 1 รอ้ ยหรอื มากกว่า 1 ร้อย ต้องทด 1 รอ้ ยไปรวมกับจำ�นวนในหลักร้อย
| 53สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 1,000
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1
การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทที่ 2 | การบวกและการลบจำานวนนับไม่เกิน 1,000
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยใหน้ กั เรยี น
แสดงการหาผลบวกโดยการตัง้ บวกเปน็ รายบุคคล ตรวจสอบความเข้าใจ
แสดงวธิ หี าผลบวก
ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 76 ถ้าพบวา่ มนี กั เรียนยงั 1 6 4 + 581 = 645 2 265 + 427 = 692
หาผลบวกไม่ถกู ตอ้ ง ครใู ห้นักเรียนมาฝกึ เพมิ่ เตมิ กบั ครู 3 529 + 178 = 707 4 700 + 300 = 1,000
เปน็ รายบุคคล จากน้ันครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบ
ความถกู ต้องและสรุปสิ่งทไ่ี ด้เรียนรู ้ สิง่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้
สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ การหาผลบวกของจำานวนสองจาำ นวนโดยการตั้งบวก ตอ้ งเขียนเลขโดด
ในหลกั เดยี วกนั ใหต้ รงกนั แลว้ จงึ นาำ จาำ นวนทอ่ี ยใู่ นหลกั เดยี วกนั มาบวกกนั
• การหาผลบวกของจำ�นวนสองจ�ำ นวนโดยการตัง้ บวก โดยเร่มิ จากหลกั หนว่ ย หลักสบิ และหลักรอ้ ย ตามลำาดบั
ต้องเขียนเลขโดดในหลักเดยี วกนั ใหต้ รงกนั แลว้ จงึ น�ำ
จ�ำ นวนทอ่ี ยูใ่ นหลักเดียวกนั มาบวกกัน โดยเร่มิ จาก ถา้ ผลบวกในหลักหน่วยเป็น 1 สบิ หรือมากกว่า 1 สบิ ต้องทด 1 สิบ
ไปรวมกบั จาำ นวนในหลกั สิบ
ถ้าผลบวกในหลักสบิ เป็น 1 รอ้ ย หรือมากกว่า 1 รอ้ ย ต้องทด 1 รอ้ ย
ไปรวมกบั จำานวนในหลักรอ้ ย
แบบฝึกหัด 2.4
76 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หลักหนว่ ย หลักสิบ และหลักรอ้ ย ตามลำ�ดบั
−− ถา้ ผลบวกในหลกั หนว่ ยเปน็ 1 สบิ หรอื มากกวา่ 1 สบิ ตอ้ งทด 1 สบิ ไปรวมกบั จ�ำ นวนในหลกั สบิ
−− ถา้ ผลบวกในหลกั สบิ เปน็ 1 รอ้ ยหรอื มากกวา่ 1 รอ้ ย ตอ้ งทด 1 รอ้ ยไปรวมกบั จ�ำ นวนในหลกั รอ้ ย
จากนน้ั ให้นักเรียนทำ�แบบฝึกหดั 2.4 หน้า 45 - 47
2.5 การหาผลบวกโดยการตง้ั บวกมกี ารทด (2) หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
จดุ ประสงค์ บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนับไม่เกนิ 1,000
หาผลบวกโดยการต้งั บวกมกี ารทดทีผ่ ลบวกไม่เกนิ 1,000 2.5 การหาผลบวกโดยการตง้ั บวกมกี ารทด (2)
สอื่ การเรยี นรู้ พัฒนาความรู้
บตั รตวั เลขและบัตรค�ำ ซอ้ื ขา้ วสาร 195 บาท อาหารกระปอ๋ ง 279 บาท
แนวการจัดการเรยี นรู้ ตอ้ งจ่ายเงนิ เท่าไร
การพัฒนาความรู้
195 + 279 =
1. ครสู นทนาเกย่ี วกบั สถานการณใ์ นหนงั สอื เรยี นหนา้
77 เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ 195 + 279 = ใหน้ กั เรียน ขน้ั ท ่ี 1 บวกในหลักหน่วย ขนั้ ท ่ี 2 บวกในหลักสบิ
หาผลบวกโดยการตงั้ บวก ครถู ามนกั เรียนว่า การหาผลบวก 5 หนว่ ย บวก 9 หนว่ ย ได ้ 14 หนว่ ย 9 สบิ บวก 7 สบิ บวกทท่ี ดมาอกี 1 สบิ
โดยการตง้ั บวกต้องท�ำ อยา่ งไร นกั เรียนตอบวา่ เขยี นเลขโดด หรือ 1 สิบ กบั 4 หนว่ ย ได ้ 17 สบิ หรอื 1 รอ้ ย กบั 7 สบิ
ในหลักเดยี วกนั ให้ตรงกัน แลว้ นำ�จำ�นวนในหลกั เดียวกัน
มาบวกกนั ห ลกั ร้อย หลกั สิบ หลักหนว่ ย ห ลกั ร้อย หลักสิบ หลกั หน่วย
1 91 5 11 91 5
2 + +
7 9 2 7 9
4 7 4
เขยี นแสดงวิธหี าผลบวก ดงั น้ี ขน้ั ท่ี 3 บวกในหลักร้อย
11 91 5 1 รอ้ ย บวก 2 ร้อย บวกกับท่ที ดมา
2 7 9+ อกี 1 ร้อย ได้ 4 รอ้ ย
4 7 4
ห ลักรอ้ ย หลักสิบ หลกั หนว่ ย
ดังน้ัน 195 + 279 = 474 11 91 5
+
ต้องจ่ายเงนิ 474 บาท 2 7 9
4 7 4
| 77สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
54 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 1,000 ค่มู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เล่ม 1
ครูถามนักเรยี นวา่ เริม่ หาผลบวกจากหลักใดกอ่ น นกั เรียนตอบวา่ เร่ิมบวกจากหลักหน่วย
หลกั สบิ และหลกั ร้อยตามล�ำ ดับ ครูควรใหน้ กั เรียนเปน็ ผูบ้ อกขนั้ ตอนในการหาผลบวกทีละขน้ั
ครสู าธติ การหาผลบวกโดยการต้งั บวกที่มีทดจากหลักหน่วยไปหลกั สิบและจากหลกั สบิ ไปหลกั รอ้ ย
ครูติดบัตรค�ำ หลักร้อย หลักสิบ หลักหนว่ ย และบัตรตัวเลข 195 และ 279 บนกระดาน
โดยให้เลขโดดทอ่ี ยู่ในหลักเดียวกนั ตรงกัน ครสู าธติ การบวกโดยการตั้งบวกทีละข้นั ตอน
ข้นั ที่ 1 บวกในหลักหน่วย 5 หน่วย บวกกับ 9 หนว่ ย ได้ 14 หน่วย ผลบวกเปน็ จ�ำ นวนสองหลัก
ตอ้ งทดจ�ำ นวนที่ครบสบิ ไปหลกั สิบ ดงั น้นั ต้องทด 1 สิบ ไปหลักสิบ และน�ำ 1 สิบทที่ ดไวไ้ ปรวมกับ
ผลบวกในหลักสบิ ขั้นท่ี 2 บวกในหลักสบิ 9 สิบ บวก 7 สิบ บวกกบั ที่ทดมาอีก 1 สบิ ได้ 17 สบิ
ผลบวกเปน็ จำ�นวนสองหลกั ต้องทดจำ�นวนท่คี รบสบิ ไปหลกั ร้อย ดงั น้นั ต้องทด 10 สบิ หรอื 1 รอ้ ย
ไปหลักร้อย และนำ� 1 ร้อย ทที่ ดไว้ไปรวมกบั ผลบวกในหลกั ร้อย ข้นั ที่ 3 บวกในหลักรอ้ ย 1 ร้อย
บวก 2 รอ้ ย บวกกบั ทท่ี ดมาอีก 1 ร้อย ได้ 4 รอ้ ย ดงั ตวั อย่างในหนงั สอื เรยี นหนา้ 77
จะได้ 195 + 279 = 474 ดงั น้นั ต้องจา่ ยเงนิ 474 บาท
หนงั สอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไม่เกนิ 1,000
แสดงวิธีหาผลบวก 1 455 + 278 =
วธิ ีทำา
หาผลบวก เขียน 0 ในหลกั สบิ และทด
1 รอ้ ยไปหลักรอ้ ย 4 5 5
365 + 476 = +
368 + 632 = วิธที ำา 31 61 2 7 8
ขัน้ ที ่ 1 บวกในหลักหน่วย ข้นั ที่ 2 บวกในหลกั สิบ 4 7 5 7 3 3
8 หนว่ ย บวก 2 หนว่ ย ได ้ 10 หนว่ ย 6 สิบ บวก 3 สบิ บวกกับที่ทดมาอีก +
หรอื 1 สบิ กับ 0 หน่วย 1 สบิ ได ้ 10 สบิ หรอื 1 รอ้ ย กบั 0 สบิ 8 4 ตอบ ๗๓๓
6
1
ห ลักร้อย หลักสิบ หลักหนว่ ย ห ลักรอ้ ย หลักสบิ หลักหน่วย ตอบ ๘๔๑
3 61 8 31 61 8
6 + + 2 499 + 207 = 706 3 2 07 + 499 = 706
3 2 6 3 2
0 0 0
4 497 + 123 = 620 5 85 + 458 = 543
เขยี นแสดงวธิ ีหาผลบวก ดังนี้ ข้ันที่ 3 บวกในหลกั ร้อย
31 61 8
6 3 2+ 3 รอ้ ย บวก 6 ร้อย บวกกบั ที่ทดมาอกี 1 ร้อย
1 0 0 0
ได ้ 10 ร้อย หรือ 1 พัน กับ 0 รอ้ ย 6 872 + 99 = 971 7 4 58 + 85 = 543
หลกั พัน หลักร้อย หลกั สบิ หลกั หน่วย
31 61 8 +
6 3 2 8 756 + 244 = 1,000 9 456 + 366 = 822
1 0 0 0
ดงั นนั้ 368 + 632 = 1,000 เขยี น 1 ทผี่ ลบวกในหลกั พนั สังเกต 499 + 207 มผี ลบวกเทา่ กบั 207 + 499
85 + 458 มผี ลบวกเท่ากบั 458 + 85
78 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำานวนสองจาำ นวนบวกกันเมอื่ สลับท่กี นั ผลบวกยังคงเทา่ เดิม
| 79สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. ครูยกตวั อยา่ งการหาผลบวกของจำ�นวนสองจ�ำ นวนทมี่ ผี ลบวกเป็น 1,000 เชน่
368 + 632 = ซง่ึ ในตวั อยา่ งน้ตี อ้ งมีการทดจ�ำ นวนท่คี รบสิบในหลักร้อย คอื 10 ร้อย
หรอื 1 พัน ไปหลกั พัน ตามหนังสอื เรยี นหน้า 78
3. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั หาผลบวกโดยการตงั้ บวกจากตวั อยา่ ง 365 + 476 =
ในหนังสือเรยี นหน้า 79 โดยครใู ช้การถาม-ตอบในการหาผลบวกในแต่ละหลัก เช่น
5 หนว่ ย บวก 6 หน่วย ไดก้ ีห่ น่วย แลว้ ตอ้ งทดไปหลกั สิบเท่าไร
6 สิบ บวก 7 สบิ รวมกบั ทีท่ ดไว้อกี 1 สิบ ไดเ้ ท่าไร แลว้ ตอ้ งทดไปหลักร้อยเทา่ ไร
3 รอ้ ย บวก 4 รอ้ ย รวมกบั ทีท่ ดไวอ้ กี 1 รอ้ ย ไดเ้ ท่าไร แล้วค�ำ ตอบเป็นเทา่ ไร
| 55สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เล่ม 1
ให้นักเรียนหาค�ำ ตอบในขอ้ 1 – 9 ทีละขอ้ แลว้ ครแู สดงวธิ ีคดิ ทถี่ กู ต้องทีละข้อเพ่อื ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง ครคู วรให้นักเรยี นสงั เกตการสลบั ทขี่ องการบวกในขอ้ 2 กบั ขอ้ 3 และขอ้ 5 กบั
ขอ้ 7 และเน้นยำ�้ การบวกที่ทดไปหลกั พันในขอ้ 8 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ขั้นตอนการหา
ผลบวกดว้ ยวิธีตง้ั บวก ครเู น้นย�ำ้ ว่า ถา้ ผลบวกในหลกั หน่วยเปน็ 1 สิบ หรอื มากกว่า 1 สบิ
ตอ้ งทด 1 สบิ ไปรวมกับจำ�นวนในหลกั สบิ หรือถ้าผลบวกในหลักสิบเปน็ 1 รอ้ ยหรือ
มากกว่า 1 รอ้ ย ตอ้ งทด 1 รอ้ ยไปรวมกับจำ�นวนในหลักร้อย หรอื ถ้าผลบวกในหลักรอ้ ยเปน็
1 พนั หรอื มากกว่า 1 พนั ตอ้ งทด 1 พันไปอยใู่ นหลกั พนั
การตรวจสอบความเข้าใจ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 2 648 + 352 = 1,000
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000 4 7 21 + 189 = 910
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน
โดยใหน้ ักเรยี นแสดงการหาผลบวกโดยการ ตรวจสอบความเขา้ ใจ
ตงั้ บวกเป็นรายบคุ คลตามหนงั สือเรยี นหน้า 80
ถ้าพบว่ามนี ักเรยี นยงั หาผลบวก แสดงวธิ ีหาผลบวก
ไม่ถกู ตอ้ ง ครใู หน้ กั เรยี นมาฝกึ เพม่ิ เตมิ กบั ครู 1 47 + 289 = 366
เปน็ รายบคุ คล จากน้นั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั
ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปสง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นร ู้ 3 289 + 47 = 336
สง่ิ ท่ีได้เรยี นรู้
ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้ การหาผลบวกของจำานวนสองจาำ นวนโดยการต้งั บวก ตอ้ งเขียนเลขโดด
ในหลักเดียวกนั ให้ตรงกัน แลว้ จึงนำาจาำ นวนท่อี ยใู่ นหลักเดียวกนั มาบวกกนั
• การหาผลบวกของจำ�นวนสองจ�ำ นวนโดยการ โดยเริ่มจากหลกั หนว่ ย หลักสิบ และหลกั ร้อย ตามลาำ ดบั
ตั้งบวก ตอ้ งเขยี นเลขโดดในหลกั เดียวกันให้
ตรงกนั แล้วจึงน�ำ จ�ำ นวนท่ีอยู่ในหลักเดยี วกัน ถ้าผลบวกในหลกั หนว่ ยเป็น 1 สบิ หรอื มากกวา่ 1 สิบ ต้องทด 1 สิบ
ไปรวมกบั จำานวนในหลกั สิบ หรือถา้ ผลบวกในหลกั สบิ เปน็ 1 ร้อย
หรือมากกวา่ 1 รอ้ ย ตอ้ งทด 1 รอ้ ย ไปรวมกบั จาำ นวนในหลักรอ้ ย
จำานวนสองจาำ นวนบวกกนั เม่ือสลับทกี่ ันผลบวกยงั คงเทา่ เดิม
มาบวกกัน โดยเรม่ิ จากหลกั หน่วย หลักสิบ แบบฝกึ หดั 2.5
และหลักรอ้ ย ตามล�ำ ดบั
80 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
−− ถา้ ผลบวกในหลกั หนว่ ยเป็น 1 สบิ
หรือมากกว่า 1 สบิ ตอ้ งทด 1 สบิ ไปรวมกับจำ�นวน
ในหลกั สบิ หรือถ้าผลบวกในหลักสิบเป็น 1 รอ้ ยหรอื มากกว่า 1 รอ้ ย ตอ้ งทด 1 รอ้ ย
ไปรวมกบั จำ�นวนในหลกั ร้อย
−− จำ�นวนสองจำ�นวนบวกกนั เม่ือสลบั ทก่ี นั ผลบวกยังคงเทา่ เดิม
จากนน้ั ให้นกั เรยี นท�ำ แบบฝึกหัด 2.5 หนา้ 48 – 50
56 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 คู่มอื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 1
2.6 การหาผลบวกของจ�ำ นวนสามจำ�นวน (1) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
จดุ ประสงค์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
หาผลบวกของจ�ำ นวนสามจำ�นวน 2.6 การหาผลบวกของจำานวนสามจำานวน (1)
สอื่ การเรยี นรู้ พฒั นาความรู้
−− ซ้ือแตงโม 5 ผล ส้มโอ 4 ผล และแอปเปลิ 7 ผล
ซื้อผลไม้ทง้ั หมดกผี่ ล
แนวการจดั การเรียนรู้ 5 + 4 + 7 = นาำ 5 บวก 4 กอ่ น
การพฒั นาความรู้ แล้วจึงนำาผลบวกทีไ่ ดไ้ ปบวก 7
5 + 4 + 7 = 9 + 7
1. ครูสนทนาเกยี่ วกบั สถานการณต์ าม นำา 4 บวก 7 ก่อน
หนังสอื เรยี นหนา้ 81 เขยี นประโยคสัญลักษณ ์ = 16 แล้วจงึ นำาผลบวกท่ไี ดไ้ ปบวก 5
5 + 4 + 7 = โดยครถู ามนักเรยี นว่า จะหา
ผลบวกไดอ้ ยา่ งไร นกั เรยี นตอบ บวกทลี ะสอง 5 + 4 + 7 = 5 + 11
จ�ำ นวน ครูสาธติ การบวกจ�ำ นวนสามจำ�นวน โดย
บวกทลี ะสองจ�ำ นวนคใู่ ดกอ่ นก็ได้ แล้วน�ำ ผลบวก = 16
ท่ไี ดไ้ ปบวกกบั จำ�นวนที่เหลอื ตามหนังสอื เรียน
หนา้ 81 ดงั นนั้ 5 + 4 + 7 = 16 ครใู ห้นักเรยี น 5 + 4 + 7 = 12 + 4 นาำ 5 บวก 7 ก่อน
สงั เกตว่า การบวกจำ�นวนสามจ�ำ นวนไมว่ า่ จะ แลว้ จงึ นาำ ผลบวกท่ไี ดไ้ ปบวก 4
บวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนใดกอ่ น แล้วจงึ บวกกบั = 16
จำ�นวนทเี่ หลือ ผลบวกท่ีได้ยงั คงเทา่ กัน
ดงั น้นั 5 + 4 + 7 = 16
2. ครูให้นกั เรยี นหาผลบวกของจำ�นวน ตอบ ซ้ือผลไมท้ งั้ หมด ๑๖ ผล
สามจ�ำ นวน เชน่ 30 + 40 + 80 = โดยให้
นกั เรยี นเลือกวา่ จะบวกสองจ�ำ นวนใดก่อน เมอื่ การบวกจาำ นวนสามจาำ นวน จะบวกสองจาำ นวนใดก่อนกไ็ ด้
บวกกบั จ�ำ นวนทเ่ี หลอื แลว้ น�ำ ผลบวกมาตรวจสอบ แลว้ จงึ บวกกบั จาำ นวนที่เหลอื ผลบวกเทา่ กัน
วา่ เท่ากนั หรอื ไม่ หากพบวา่ ไดผ้ ลบวกไม่เท่ากัน
ใหน้ กั เรยี นตรวจสอบการบวกอกี ครง้ั ครใู หน้ กั เรยี น | 81สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สงั เกตว่า ในการเลอื กจำ�นวนสองจำ�นวนใด
มาบวกกนั กอ่ น ควรเลอื กจ�ำ นวนทม่ี ผี ลบวกครบสบิ หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
หรอื ครบรอ้ ย เพ่ือให้ง่ายและรวดเร็วในการ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนับไมเ่ กิน 1,000
หาค�ำ ตอบ เช่น 75 + 9 + 45 = ควรเลอื ก
75 + 45 ก่อน ซ่ึง 75 + 45 = 120 และ 30 + 40 + 80 =
120 + 9 = 129 จากน้ันให้นกั เรยี นชว่ ยกันหา
ผลบวกของจ�ำ นวนสามจ�ำ นวนในกรอบทา้ ยหนา้ 82 30 + 40 + 80 = 70 + 80
= 150
30 + 40 + 80 = 30 + 120
= 150
30 + 40 + 80 = 110 + 40
= 150
ดงั นน้ั 30 + 40 + 80 = 150
ตอบ ๑๕๐
หาผลบวก
1 75 + 9 + 45 = 129
2 84 + 62 + 31 = 177
82 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 57สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เล่ม 1
3. เมือ่ นักเรียนหาผลบวกของจ�ำ นวนสามจ�ำ นวน หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
ในกรอบท้ายหน้า 82 เสร็จแล้ว ครสู ุ่มนกั เรียนออกมา บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
75 + 9 + 45 =
แสดงวิธีหาผลบวกของจ�ำ นวนสามจ�ำ นวนข้อละ 3 คน 75+ 9 + 45 = 84 + 45
ครูใหน้ ักเรยี นสงั เกตการหาค�ำ ตอบของเพอื่ นแตล่ ะคน และ = 129
พจิ ารณาวา่ เพอื่ นแต่ละคนได้ค�ำ ตอบเท่ากนั หรือไม่ ซ่ึงใน
75+ 9 + 45 = 75 + 54
= 129
75+ 9 + 45 = 120 + 9
= 129
การหาผลบวกของนกั เรียนแตล่ ะคนอาจแตกต่างกนั ครูให้ ดังน้นั 75 + 9 + 45 = 129
นักเรียนพจิ ารณาโจทย์ 84 + 62 + 31 = แล้วถาม ตอบ ๑๒๙
นักเรยี นวา่ จะเลอื กสองจ�ำ นวนใดมาบวกกันกอ่ น นกั เรียน
แตล่ ะคนอาจเลือกไม่เหมอื นกนั ครแู นะนำ�วา่ ควรเลือก 84 + 62 + 31 =
สองจ�ำ นวนทงี่ ่ายในการหาผลบวก เช่น อาจเลอื ก 62
กบั 31 จะงา่ ยกวา่ เพราะได้ผลบวกเป็นจำ�นวนสองหลกั 3184 + 62 + 31 = 146 +
แลว้ จึงนำ�ผลบวกไปบวกกับ 84 ซ่งึ เป็นจำ�นวนสองหลัก
ได้ 177 ครูอาจใหน้ ักเรยี นแสดงวธิ ีหาผลบวกพร้อมอธบิ าย = 366
84 9384 + 62 + 31 = +
= 177
6284 + 62 + 31 = 115 +
= 177
ดังนั้น 84 + 62 + 31 = 177
ตอบ ๑๗๗
| 83สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เหตุผลในการเลอื กจำ�นวนสองจ�ำ นวนท่ีนำ�มาบวกกนั ก่อนแลว้ บวกกบั จ�ำ นวนทเี่ หลือ ซง่ึ นกั เรียน
อาจมเี หตผุ ลทแี่ ตกตา่ งกัน แต่คำ�ตอบทไี่ ดต้ อ้ งเทา่ กัน ครูเฉลยค�ำ ตอบที่ถกู ตอ้ ง แล้วให้นกั เรียนสงั เกต
อีกครง้ั วา่ ค�ำ ตอบเท่ากนั หรอื ไม่ ครคู วรใชค้ ำ�ถามเพ่อื ให้นักเรยี นสามารถสรปุ ไดว้ า่ การหาผลบวก
ของจ�ำ นวนสามจำ�นวน จะบวกสองจ�ำ นวนใดกอ่ นกไ็ ด้ แลว้ บวกกับจ�ำ นวนทีเ่ หลอื ผลบวกเทา่ กนั
การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร ์ ป.2 2 6 8 + 51 + 49 =
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น
โดยให้นักเรยี นแสดงการหาผลบวกของจำ�นวนสามจำ�นวน ตรวจสอบความเข้าใจ
เป็นรายบคุ คลตามหนังสอื เรยี นหน้า 84 ถ้าพบวา่ หาผลบวก
มีนกั เรียนยังหาผลบวกไมถ่ ูกต้อง ครูใหน้ ักเรยี นมาฝึก
เพ่ิมเติมกบั ครเู ปน็ รายบคุ คล จากนนั้ ครูและนกั เรียน 1 47 + 89 + 23 =
ร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรปุ สงิ่ ทไี่ ด้เรียนร้ ู
3 37 + 63 + 120 = 4 7 0 + 423 + 30 =
159 168
220 523
ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้ ส่ิงท่ไี ดเ้ รยี นรู้
• การบวกจำ�นวนสามจ�ำ นวนจะบวกสองจ�ำ นวนใดก่อน การบวกจำานวนสามจำานวนจะบวกสองจำานวนใดก่อนก็ได้
กไ็ ด้ แลว้ บวกกับจำ�นวนที่เหลือผลบวกเทา่ กัน แลว้ บวกกับจำานวนท่ีเหลอื ผลบวกเทา่ กัน
จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝกึ หัด 2.6 หน้า 51 – 52
แบบฝึกหัด 2.6
84 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
58 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนับไมเ่ กิน 1,000 คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ 1
2.7 การหาผลบวกของจ�ำ นวนสามจำ�นวน (2)
จดุ ประสงค์
หาผลบวกของจำ�นวนสามจ�ำ นวน
หนังสือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนับไม่เกนิ 1,000
ส่ือการเรยี นรู้ 2.7 การหาผลบวกของจำานวนสามจาำ นวน (2)
บัตรตัวเลข พฒั นาความรู้
การหาผลบวกของจำานวนสามจาำ นวน โดยการต้ังบวกมขี น้ั ตอน ดังนี้
แนวการจัดการเรยี นรู้ 213 + 26 + 54 =
การพัฒนาความรู้
ห ลักร้อย หลกั สบิ หลกั หน่วย ข้ันท่ี 1 บวกในหลกั หน่วย
1. ทบทวนการหาผลบวกของจ�ำ นวน
สามจำ�นวน โดยการใช้คำ�ถาม เชน่ นักเรยี น 2 11 3 3 หน่วย บวก 6 หนว่ ย บวก 4 หนว่ ย
สามารถหาผลบวกของจำ�นวนสามจ�ำ นวน ได ้ 13 หน่วย หรอื 1 สิบ กับ 3 หน่วย
ได้อยา่ งไร นักเรยี นตอบว่า การหาผลบวก 2 6 + เขยี น 3 ในหลกั หนว่ ยทด 1 สบิ ไปหลกั สบิ
ของจำ�นวนสามจำ�นวน จะบวกสองจ�ำ นวนใด
ก่อนก็ได้ แลว้ บวกกบั จำ�นวนทเี่ หลือ ผลบวก 5 4
เท่ากนั ครสู มุ่ นกั เรยี นให้ออกมาแสดงการหา
ผลบวกของจำ�นวนสามจำ�นวน โดยการตง้ั บวก 3
เชน่ 213 + 26 + 54 = นกั เรียนอาจ
หลกั ร้อย หลักสิบ หลกั หนว่ ย ขั้นท่ ี 2 บวกในหลกั สบิ
2 11 3 1 สิบ บวก 2 สบิ บวก 5 สบิ และบวกกับ
2 6 + ท่ีทดมาอีก 1 สบิ ได ้ 9 สบิ
5 4 เขียน 9 ในหลกั สบิ
9 3
หลักรอ้ ย หลักสิบ หลักหน่วย ขน้ั ท ี่ 3 บวกในหลักรอ้ ย
2 รอ้ ย บวก 0 รอ้ ย บวก 0 รอ้ ย ได ้ 2 รอ้ ย
2 11 3 เขยี น 2 ในหลักร้อย
2 6 + ดงั น้ัน 213 + 26 + 54 = 293
| 85สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
5 4
2 9 3
หาผลบวกของสองจ�ำ นวนก่อน แลว้ ไปบวกกับ
จำ�นวนท่เี หลอื ครถู ามนกั เรียนวา่ นกั เรยี นเลือกสองจำ�นวนใดมาบวกกนั ก่อน
เพราะเหตุใด นกั เรยี นตอบวา่ เลือก 26 + 54 ก่อน เพราะจำ�นวนสองหลกั บวกกับจ�ำ นวนสองหลกั
จะหาผลบวกไดง้ า่ ย จากนัน้ ให้นกั เรียนแสดงการหาค�ำ ตอบ นกั เรียนอาจแสดงได้ดังน้ ี
2 6
5 4 +
8 0
2 1 3
2 9 3
ครูถามนกั เรยี นว่า มีวิธีหาค�ำ ตอบอื่นอีกหรือไม่
ครูสาธิตการบวกจ�ำ นวนสามจ�ำ นวน โดยการต้ังบวก ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 85
| 59สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 1
หนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนับไมเ่ กิน 1,000
แสดงวธิ หี าผลบวก
หาผลบวก
379 + 247 + 355 = 416 + 28 + 9 = 1 196 + 324 + 47 =
ห ลกั รอ้ ย หลกั สิบ หลกั หนว่ ย ขัน้ ท่ี 1 บวกในหลกั หนว่ ย วิธีทำา 4 12 6 วิธีทำา 1 9 6
2 8 + 3 2 4 +
3 72 9 9 หนว่ ย บวก 7 หนว่ ย บวก 5 หนว่ ย 9
ได ้ 21 หนว่ ย หรอื 2 สิบ กับ 1 หนว่ ย
2 4 7+ เขียน 1 ในหลักหนว่ ยทด 2 สิบ ไปหลกั สิบ 4 7
3 5 5 4 5 3 5 6 7
1
ห ลกั ร้อย หลกั สิบ หลกั หน่วย ขั้นที ่ 2 บวกในหลักสิบ ตอบ ๔๕๓ ตอบ ๕๖๗
31 72 9 7 สิบ บวก 4 สบิ บวก 5 สบิ และบวกกับ
ท่ที ดมาอกี 2 สบิ ได ้ 18 สบิ
2 4 7+ หรอื 1 ร้อยกบั 8 สบิ เขยี น 8
ในหลักสิบ ทด 1 รอ้ ยไปหลักร้อย
3 5 5 2 2 31 + 420 + 157 = 808 3 583 + 139 + 278 = 1,000
8 1
หลกั รอ้ ย หลกั สิบ หลักหนว่ ย ขั้นที ่ 3 บวกในหลักร้อย 4 67 + 134 + 76 = 277 5 504 + 96 + 200 = 800
31 72 9 3 รอ้ ย บวก 2 ร้อย บวก 3 ร้อย และ
บวกกบั ที่ทดมาอีก 1 ร้อย ได ้ 9 ร้อย
2 4 7+ เขยี น 9 ในหลักรอ้ ย
3 5 5 6 89 + 121 + 375 = 585 7 3 45 + 355 + 109 = 809
9 8 1
ดังน้นั 379 + 247 + 355 = 981 8 715 + 85 + 200 = 1,000 9 400 + 500 + 100 = 1,000
การหาผลบวกของจาำ นวนสามจาำ นวนอาจทาำ ไดโ้ ดยนาำ จาำ นวนในหลกั เดยี วกนั
มาบวกกนั ถา้ ผลบวกในหลกั ใดเปน็ จาำ นวนสองหลกั ใหท้ ดจาำ นวนในหลกั สบิ
ไปรวมกบั จาำ นวนในหลกั ถดั ไปทางซา้ ย
86 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 87สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. ครสู าธติ การบวกจ�ำ นวนสามหลกั สามจ�ำ นวนโดยการตง้ั บวก เชน่ 379 + 247 + 355 =
ตามหนังสือเรยี นหน้า 86 ดังน ้ี ข้ันท่ี 1 บวกในหลกั หนว่ ย 9 หน่วย บวก 7 หน่วย บวก 5 หนว่ ย
ได ้ 21 หนว่ ย ผลบวกเป็นจำ�นวนสองหลกั ต้องทดจ�ำ นวนท่ีครบสิบไปหลกั สบิ ดงั น้นั ต้อง ทด 2 สบิ
ไปหลกั สบิ และน�ำ 2 สบิ ท่ีทดไว้ไปรวมกบั ผลบวกในหลกั สบิ ขนั้ ที่ 2 บวกในหลกั สบิ 7 สบิ
บวก 4 สบิ บวก 5 สิบ บวกกับทท่ี ดมาอกี 2 สิบ ได้ 18 สิบ ผลบวกเป็นจ�ำ นวนสองหลกั ตอ้ งทด
จ�ำ นวนทีค่ รบสิบไปหลักร้อย ดงั น้ัน ตอ้ งทด 10 สิบ หรอื 1 ร้อยไปหลักร้อย และ น�ำ 1 รอ้ ยท่ีทดไว้
ไปรวมกับผลบวกในหลักรอ้ ย ข้ันที่ 3 บวกในหลักรอ้ ย 3 รอ้ ย บวก 2 ร้อย บวก 3 รอ้ ย
บวกกับทที่ ดมาอกี 1 ร้อย ได้ 9 รอ้ ย ดังตัวอยา่ งในหนงั สอื เรียนหน้า 86 จะได้
379 + 247 + 355 = 981 ครูเน้นย�้ำ วา่ การหาผลบวกของจำ�นวนสามจำ�นวนอาจท�ำ ได้
โดยนำ�จ�ำ นวนในหลกั เดยี วกันมาบวกกัน ถา้ ผลบวกในหลกั ใดเป็นจ�ำ นวนสองหลกั ให้ทดจ�ำ นวน
ในหลักสิบไปรวมกบั จ�ำ นวนในหลักถดั ไปทางซ้าย
3. ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั หาผลบวกของจำ�นวนสามจ�ำ นวนโดยการตงั้ บวกตามตวั อย่าง
416 + 28 + 9 = ในหนงั สอื เรยี นหน้า 87 โดยครูใช้การถาม-ตอบในการหาผลบวก
ในแต่ละหลกั เช่น
6 หนว่ ย บวก 8 หน่วย บวก 9 หนว่ ย ไดก้ ่ีหนว่ ย แลว้ ตอ้ งทดไปหลกั สิบเทา่ ไร
1 สิบ บวก 2 สบิ รวมกบั ท่ที ดไว้อกี 2 สบิ ไดเ้ ทา่ ไร มที ดหรือไม่
4 ร้อย บวก 0 ร้อย บวก 0 ร้อย ไดเ้ ท่าไร แล้วคำ�ตอบเป็นเทา่ ไร
60 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไม่เกนิ 1,000 คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 1
ให้นักเรียนหาคำ�ตอบในขอ้ 1 – 9 ทีละขอ้ แล้วครแู สดงวิธคี ดิ ที่ถูกต้องทีละขอ้ เพอื่ ตรวจสอบ
ความถูกต้อง ครคู วรเน้นย้ำ�การบวกทที่ ดไปหลกั พันในข้อ 8 และขอ้ 9 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุป
ข้ันตอนการหาผลบวกของจ�ำ นวนสามจ�ำ นวนโดยการต้งั บวกวา่ การหาผลบวกของจำ�นวน
สามจำ�นวนอาจท�ำ ได้โดยน�ำ จำ�นวนในหลกั เดียวกันมาบวกกนั ถา้ ผลบวกในหลักใดเปน็ จำ�นวน
สองหลักใหท้ ดจำ�นวนในหลกั สบิ ไปรวมกบั จำ�นวนในหลกั ถดั ไปทางซ้าย
การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 2 3 68 + 501 + 42 = 911
บทท่ี 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน
โดยให้นกั เรยี นแสดงการหาผลบวกของจำ�นวน ตรวจสอบความเข้าใจ
สามจ�ำ นวนเปน็ รายบุคคลตามหนงั สือเรยี น
หนา้ 88 ถ้าพบวา่ มีนกั เรยี นยังหาผลบวก หาผลบวก
ไม่ถูกตอ้ ง ครใู ห้นักเรยี นมาฝกึ เพ่มิ เตมิ กบั ครู
เป็นรายบุคคล จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั 1 427 + 289 + 243 = 959
ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรู้
3 300 + 489 + 100 = 889 4 5 67 + 83 + 297 = 947
ส่ิงท่ไี ด้เรียนรู้ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้
• การหาผลบวกของจำ�นวนสามจำ�นวนโดยการ การหาผลบวกของจาำ นวนสามจำานวนโดยการตงั้ บวกทาำ ไดโ้ ดยนาำ จาำ นวน
ต้ังบวกท�ำ ไดโ้ ดยนำ�จำ�นวนในหลกั เดยี วกนั ในหลักเดยี วกันมาบวกกนั ถา้ ผลบวกในหลักใดเป็นจาำ นวนสองหลัก
มาบวกกัน ถา้ ผลบวกในหลกั ใดเปน็ จ�ำ นวน ใหท้ ดจาำ นวนในหลักสบิ ไปรวมกับจำานวนในหลกั ถดั ไปทางซ้าย
สองหลกั ให้ทดจ�ำ นวนในหลกั สบิ ไปรวมกบั
จ�ำ นวนในหลักถัดไปทางซ้าย แบบฝกึ หัด 2.7
จากนั้นใหน้ กั เรยี นทำ�แบบฝกึ หัด 2.7
หนา้ 53 – 55 88 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 61สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 2 | การบวกและการลบจ�ำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 1
2.8 การหาผลลบโดยใช้เสน้ จ�ำ นวน หนังสือเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
จดุ ประสงค์ บทที่ 2 | การบวกและการลบจำานวนนบั ไม่เกนิ 1,000
หาผลลบทีต่ วั ต้งั ไมเ่ กิน 100 โดยใช้เส้นจ�ำ นวน 2.8 การหาผลลบโดยใช้เส้นจาำ นวน
สอ่ื การเรียนรู้ พฒั นาความรู้
−− บตั รภาพแสดงเสน้ จำ�นวน 25 – 10 =
−− บัตรตวั เลข บัตรโจทย์
−− บัตรเครื่องหมายลบ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30
เริ่มจาก 25 ถอยไป 10 ได้ 15
ดงั นัน้ 25 – 10 = 15
25 – 13 =
แนวการจดั การเรียนรู้ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30
การพฒั นาความรู้
เริม่ จาก 25 ถอยไป 10 กับอกี 3 ได้ 12
ดังนนั้ 25 – 13 = 12
1. ครยู กสถานการณ์การลบทีส่ อดคล้องกับ | 89สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ประโยคสัญลักษณ์ 25 – 10 = เชน่ ตอนออกมา
จากบา้ นเด็กชาย ก นำ�เงนิ มา 25 บาท ซอ้ื ขนมหน้าโรงเรยี น 10 บาท เดก็ ชาย ก จะเหลือเงินกบ่ี าท
ใหน้ กั เรยี นหาคำ�ตอบ ครูควรใช้ค�ำ ถามเพ่ือใหน้ กั เรยี นแสดงวธิ ีคดิ หาค�ำ ตอบ เช่น
−− นกั เรียนสามารถหาคำ�ตอบได้อย่างไร
−− นกั เรยี นคดิ วา่ มวี ิธีหาค�ำ ตอบวธิ อี ืน่ หรือไม่
ครทู บทวนการเขยี นเสน้ จำ�นวน อาจจะเรม่ิ จาก 0 หรือไมก่ ไ็ ด้ แล้วแสดงขน้ั ตอนการหาผลลบ
โดยการลากเสน้ โค้ง ดงั น้ี
เร่ิมจาก 25 ถอยไป 10 ได้ 15 ให้นกั เรยี นสงั เกตว่า การลากเส้นโค้งถอยไป 10 เปน็ การลด
หลักสิบไป 1 สิบ ดงั นน้ั 25 − 10 = 15 ครตู ดิ บัตรโจทย์ หนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
25 − 13 = แลว้ แสดงการหาผลลบโดยการลากเสน้ โคง้ บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000
เรม่ิ จาก 25 ถอยไป 10 กบั อกี 3 ได้ 12 ดงั นน้ั 25 − 13 = 12 68 – 12 =
2. ครตู ดิ บตั รโจทย์ 68 – 12 = และ 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70
47 − 21 = ครูสมุ่ นกั เรยี นออกมาแสดงวิธหี าผลลบ
เรม่ิ จาก 68 ถอยไป 10 กับอกี 2 ได ้ 56
โดยใช้เสน้ จำ�นวน ขอ้ ละ 1 คน แล้วใหเ้ พอ่ื นในหอ้ ง ดงั นน้ั 68 – 12 = 56
รว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ดังน้ี
จาก 68 − 12 = ลากเสน้ โค้งเร่มิ จาก 68 47 – 21 =
ถอยไป 10 ได้ 58 แลว้ ถอยไปอกี 2 ได้ 56
ดงั นนั้ 68 − 12 = 56 2 5 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
จาก 47 − 21 = ลากเสน้ โคง้ เรมิ่ จาก 47
เริ่มจาก 47 ถอยไป 10 กับอกี 10 กับอกี 1 ได ้ 26
ถอยไป 10 ได้ 37 ถอยไปอกี 10 ได้ 27แลว้ ถอยไปอกี 1 ได้ 26 ดังนนั้ 47 – 21 = 26
ดงั นั้น 47 – 21 = 26
90 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
62 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 2 | การบวกและการลบจำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 คู่มือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 1
3. ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกันหาผลลบ
ของจำ�นวนสองจ�ำ นวน โดยใชเ้ ส้นจำ�นวนทลี ะ หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2
ข้อ ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 91 ครูควรใช้ค�ำ ถาม บทที่ 2 | การบวกและการลบจาำ นวนนับไมเ่ กนิ 1,000
กระต้นุ ใหน้ ักเรยี นคดิ หาค�ำ ตอบ ดังน้ี
อธิบายการหาผลลบโดยใช้เสน้ จำานวน
−− เร่มิ ลากเส้นโค้งจากจ�ำ นวนใด 1 82 – 14 =
−− ถอยไปเท่าไร และไดค้ �ำ ตอบเทา่ ไร
เชน่ 82 − 14 = ลากเสน้ โคง้ เรมิ่ จาก 82 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82
ถอยไป 10 ได้ 72 แล้วถอยไปอกี 4 ได ้ 68
ดงั นั้น 82 − 14 = 68 เร่มิ จาก 82 ถอยไป .......................1...0.....ก...ับ....อ...กี ....4.....ไ..ด...้..6...8..........................
ดงั นัน้ 82 – 14 = 68
ตรวจสอบความเขา้ ใจ
2 100 – 23 =
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น
โดยให้นกั เรยี นแสดงการหาผลลบของจ�ำ นวน 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100
สองจ�ำ นวนโดยใชเ้ ส้นจ�ำ นวนเปน็ รายบุคคลตาม
หนงั สือเรยี นหนา้ 92 ถา้ พบวา่ มนี กั เรียนยงั หา เริ่มจาก 100 ถอยไป ............1...0.....ก...บั ...อ....กี ....1...0.....ก...บั....อ...ีก.....3....ไ..ด....้ .7...7...............
ผลลบไมถ่ ูกต้อง ครูใหน้ กั เรียนมาฝึกเพ่ิมเตมิ กบั ดงั นน้ั 100 – 23 = 77
ครูเป็นรายบคุ คล จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรู ้ 3 84 – 30 =
สงิ่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84
• การลบจำ�นวนสองจ�ำ นวนอาจหาผลลบได้โดย เรมิ่ จาก 84 ถอยไป ..........1...0.....ก...ับ....อ...ีก.....1...0.....ก...ับ...อ...ีก.....1...0.....ไ..ด...้..5...4.............
ใชเ้ ส้นจำ�นวน ดงั นน้ั 84 – 30 = 54
จากนัน้ ให้นักเรียนท�ำ แบบฝึกหัด 2.8
หน้า 56 − 58 | 91สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2
บทที่ 2 | การบวกและการลบจำานวนนับไมเ่ กิน 1,000
ตรวจสอบความเขา้ ใจ
อธิบายการหาผลลบโดยใช้เส้นจาำ นวน
1 59 – 12 =
45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60
เรม่ิ จาก 59 ถอยไป .......................1....0....ก....บั ...อ...ีก.....2.....ไ..ด...้ .4....7.........................
ดังนน้ั 59 – 12 = 47
2 65 – 25 =
35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65
เร่ิมจาก 65 ถอยไป ............1...0.....ก...บั....อ...ีก.....1...0.....ก...ับ...อ...ีก.....5.....ไ..ด...้ ..4...0..............
ดังนั้น 65 – 25 = 40
สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้
ก ารลบจำานวนสองจำานวนอาจหาผลลบได้โดยใช้เสน้ จาำ นวน
แบบฝึกหัด 2.8
92 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
| 63สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี