ใบงาน เรือ่ ง คลื่นไมโครเวฟ
จงแสดงวธิ ที ำอยา่ งละเอียด
1. ไมโครเวฟใช้ปรงุ อาหารให้สกุ เมอื่ นาํ มาใชใ้ นการสอื่ สารระบบโทรศพั ท์เคล่ือนท่จี ะเกิดอนั ตรายต่อผ้ใู ชห้ รอื ไม่
เพราะอะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ยกตัวอย่าง ข้อควรระวงั ในการใชเ้ ตาไมโครเวฟ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบประเมนิ แบบฝึกหัด
คำชี้แจง :ให้ผ้สู อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี นโดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝึกหดั
ลำดับ ชื่อ – สกลุ ของ ขอ้ ที่ 1 ข้อที่ 2 รวม 10 สรุปผลการประเมนิ
ท่ี ผู้รับบรกิ ารประเมิน คะแนน ผา่ น / ไม่ผ่าน
ลงช่อื ……………………………………………….ผ้ปู ระเมิน
……………./………………../……
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
8 - 110 ดมี าก
5 – 7 ดี
3 - 4 พอใช้
ตำ่ กว่า 2 ปรบั ปรงุ
นกั เรยี นไดร้ ะดบั คุณภาพที่ ดี ขึน้ ไปถือว่า ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝกึ หดั /คำนวณ
เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
- ไม่ตอบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มีคำตอบได้ - วิเคราะหแ์ ละ - วิเคราะหแ์ ละ
คำตอบ - ไม่แสดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส
ดงวธิ ที ำเป็น - ตอบไม่ถูกต้อง - เขียนสูตร - ใชภ้ าษา - เขียนสูตรแสดงวธิ ี - เขียนสูตรแสดงวิธี
อนื่ แสดงวิธีทำเป็น เหมาะสม ทำเปน็ ขั้นตอน ทำเป็นขั้นตอน
ขน้ั ตอน
- เขียนสตู รแสดง - มคี ำตอบ - มีคำตอบ
- ตอบไม่ถูกตอ้ ง วิธีทำเป็นข้ันตอน
- ใช้ภาษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คำตอบถกู ตอ้ ง
ตามหลกั ทฤษฎี
ขอ้ สอบ O-NET ปี 51
1. คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าใดท่ไี ม่สามารถใช้ในการสอ่ื สาร
ก. คลืน่ วิทยุ และไมโครเวฟ ข. คลน่ื ไมโครเวฟและเลเซอร์
ค. เลเซอร์ และรังสีอตั ราไวโอเลต ง. รังสอี ลั ตราไวโอเลตและรังสเี อกซ์
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6
ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ คลืน่ แม่เหล็กไฟฟา้ หนว่ ยยอ่ ยที่ 1
เวลา 2 ช่วั โมง
เรอ่ื ง รงั สอี นิ ฟาเรด ผ้สู อน นางสาววีนัส พิทาคำ
วนั ท่ที ำการสอน
นายพงศกร บญุ วงค์
1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรียนรู้
รังสีอินฟราเรด หรือ รังสีความร้อน เป็นคลื่น 1. อธิบายการเกิดและลักษณะเฉพาะของ คลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งแผ่มาจากดวงอาทิตย์ รังสี แม่เหลก็ ไฟฟา้ แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรส์ เชงิ เส้น และ
แม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์นั้นมีหลายชนิดซึ่งแต่ละ แผ่นโพลารอยด์ รวมทั้งอธิบายการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ชนิดนั้นมีความยาว คลื่นต่างกัน เช่น แสงที่ตามองเห็น ในช่วงความถี่ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้และหลักการทำงาน
(Visible light) มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 400 -700 ของอปุ กรณท์ ่ีเก่ียวข้อง
นาโนเมตร
4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
3. สาระการเรยี นรู้ - ใบงาน PMI เรอ่ื ง ข้อดขี อ้ เสียของรังสีอนิ ฟาเรด
รงั สีอนิ ฟาเรด - ใบงาน เรือ่ ง คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 6. เครื่องมือการสอนคิด
- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (Green hat)
- ความสามารถในการแก้ปัญหา - PMI
- ความสามารถในการสื่อสาร
กิจกรรมการเรียนรู้
7. ขัน้ ของกิจกรรม 8. สื่อ 9. วธิ วี ดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน PMI - ประเมินใบงาน
“ บอกช่อื วชิ าที่นักเรียนชอบ มาคนละ 1 วิชา ” เรอื่ ง ข้อดขี ้อเสีย PMI เร่อื ง ขอ้ ดี
Purpose (2 นาที) ของรังสีอินฟาเรด ขอ้ เสียของรงั สอี นิ
เราจะเรียนเรื่อง รังสีอินฟาเรด อธิบายการเกิดและลักษณะเฉพาะ - ใบงาน เรื่อง ฟาเรด
คลืน่ - ประเมินใบงาน
ของ คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรส์ เชงิ เส้น และแผน่ โพ
ลารอยด์ รวมทั้งอธิบายการนำคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถี่ต่าง ๆ ไป แม่เหลก็ ไฟฟา้ เรือ่ ง คลน่ื
ประยุกต์ใชแ้ ละหลกั การทำงานของอปุ กรณ์ท่เี กย่ี วข้อง - คลิปวดิ ีโอ เร่ือง แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า
Work mode (110 นาที)
รังสอี ินฟาเรด
1. นักเรียนดูคลปิ วดี โี อเรือ่ ง รงั สอี นิ ฟาเรด (10 นาท)ี https://www.yo
utube.com/wat
2. นักเรียนฟังครูอธิบายเรือ่ ง รังสีอินฟาเรด โดยใช้สื่อ power point
ch?v=T_v4vZ5n
(15 นาที) DvY
3.นักเรยี นศึกษาความรู้เกีย่ วกับ รังสอี นิ ฟาเรด จากส่อื internet และ
และทำใบงาน PMI เร่อื ง ขอ้ ดีขอ้ เสียของรงั สีอินฟาเรด (คิด 3 คิดวิพากษ์)
(30 นาท)ี
4.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน/
โต้แยง้ รว่ มกัน (คดิ 3 : คิดวิพากษ)์ (สมรรถนะ 3) (20 นาที)
5.นักเรียนทำใบงาน เรื่อง คล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้ (25 นาที)
6 .นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับความดัน
พร้อมทั้งร่วมกันตอบคำถามดังนี้ “นักเรียนนำเรื่องความรู้เรื่อง รังสีอิน
ฟาเรด มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ?” (Green hat)
(10 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- บอก 1 ส่งิ ท่นี กั เรียนสงสัย (2 นาท)ี
- ข้อสอบ O-net ปี 50 จำนวน 1 ขอ้ (3 นาท)ี
แบบประเมนิ ใบงาน PMI
คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กำหนดตามตารางแนบ
ทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI
ลำดับ ชอ่ื -สกุล การแสดง เนือ้ หา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรุปผลการ
ท่ี ของผ้รู บั การประเมนิ ความคดิ เหน็ 20 คะแนน ประเมนิ
( 4 คะแนน ( 4 คะแนน ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ผา่ น/ไม่ผา่ น
( 4 คะแนน ) ) )
ลงชือ่ ....................................................ผปู้ ระเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
นกั เรยี นได้ระดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ขนึ้ ไปถอื วา่ ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน PMI
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน
4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
การแสดง
ความ - แสดงความคิดเห็นในช่อง P - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง P - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง P - แสดงความคิดเห็นในช่อง P
คิดเหน็ ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
ได้ 10 ข้อข้ึนไป ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ขอ้
- แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง M
- แสดงความคิดเหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
Mได้ 10 ขอ้ ข้นึ ไป M ได้ 9-10 ขอ้ M ได้ 7-8 ขอ้ - แสดงความคดิ เห็นในช่อง I
ได้ น้อยกว่า 7 ขอ้
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง I - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง I - แสดงความคิดเห็นในช่อง I
ได้ 10 ขอ้ ขึ้นไป ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ข้อ
เน้อื หา - เน้ือหาครบถว้ นตามสาระที่ - เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระที่ - เนือ้ หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กวา่ 59%
- เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา
100% 80-99% 60-79% ต่ำกวา่ 59%
- ลำดับหวั ข้อเน้ือหาชดั เจน - ลำดบั หวั ข้อเนื้อหาชัดเจน - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - มีการสรปุ ไมส่ มเหตุสมผลต่ำ
- มกี ารสรุปได้อย่าง - มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง สมเหตสุ มผล 60-79% กว่า 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟังชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม
อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% อกั ขระตำ่ วา่ 59%
- บคุ ลกิ ภาพดีและมีความ - บุคลกิ ภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
ม่ันใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ
- มกี ารใช้สอ่ื ประกอบการ ได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ความ - ใชส้ ีสันสวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมีความ - ใชส้ สี ันสวยงามหรอื เป็นไป
สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ งหน่ึง
- มีความคดิ สร้างสรรค์
- มีความคิดสร้างสรรค์
- ความเป็นระเบยี บอา่ นงา่ ย
การตรงต่อ ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กวา่ ส่งผลงานครบถว้ น แต่ช้ากวา่
เวลา เวลาทีก่ ำหนด เวลาทกี่ ำหนด 5 นาที เวลาทกี่ ำหนด 10 นาที เวลาทกี่ ำหนด 15 นาที
แบบประเมินแบบฝกึ หัด
คำชแี้ จง :ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กำหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝกึ หดั
ลำดับ ชอ่ื – สกลุ ของ ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 รวม 10 สรุปผลการประเมนิ
ท่ี ผรู้ บั บริการประเมิน คะแนน ผ่าน / ไม่ผ่าน
ลงชือ่ ……………………………………………….ผู้ประเมิน
……………./………………../……………..
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
8 - 10 ดีมาก
5 – 7 ดี
3 - 4 พอใช้
ตำ่ กวา่ 2 ปรบั ปรุง
นักเรยี นได้ระดบั คณุ ภาพที่ ดี ขึน้ ไปถอื ว่า ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ
เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
- ไม่ตอบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มคี ำตอบได้ - วิเคราะห์และ - วิเคราะหแ์ ละ
คำตอบ - ไม่แสดงวธิ ี เหมาะสม เหมาะสม ถกู ต้อง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส
ดงวธิ ที ำเป็น - ตอบไมถ่ ูกตอ้ ง - เขยี นสตู ร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวธิ ี - เขยี นสตู รแสดงวิธี
อน่ื แสดงวิธีทำเป็น เหมาะสม ทำเป็นข้ันตอน ทำเป็นข้ันตอน
ขน้ั ตอน
- เขยี นสตู รแสดง - มคี ำตอบ - มีคำตอบ
- ตอบไมถ่ ูกต้อง วธิ ีทำเป็นขั้นตอน
- ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คำตอบถูกตอ้ ง
ตามหลักทฤษฎี
ขอ้ สอบ O-net ปี 50 จำนวน 1 ข้อ
1. คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าที่นยิ มใชใ้ นรโี มทควบคุมการทำงานของเครื่องโทรทศั นค์ อื ขอ้ ใด
1. อินฟราเรด 2. ไมโครเวฟ 3. คลื่นวทิ ยุ 4.อลุ ตราไวโอเลต
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7 หน่วยย่อยที่ 1
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้า เวลา 2 ชัว่ โมง
เร่ือง รงั สีอลั ตราไวโอเลต
ผสู้ อน นางสาววนี ัส พทิ าคำ
วนั ทที่ ำการสอน...................เดอื น............................พ.ศ. …………….... นายพงศกร บุญวงค์
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสียูวี หรือในช่ือ 2 สืบค้น และอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลื่น
ภาษาไทยว่า รังสีเหนือม่วง เป็นช่วงหนึ่งของคลื่น แมเ่ หล็กไฟฟา้ ในการส่งผ่านสารสนเทศและเปรยี บเทยี บการ
แม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่มองเห็น สอื่ สารดว้ ยสัญญาณแอนะลอ็ กกับสญั ญาณดจิ ทิ ัล
แต่ยาวกว่ารังสีเอกซ์อย่างอ่อน มีความยาวคลื่นในช่วง
100-400 นาโนเมตร และมพี ลังงานในช่วง 3-124 eV
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- รงั สอี ัลตราไวโอเลต
- ใบงาน Cause and Effect เรอื่ ง จะเปน็ อย่างไร
หากบนโลกมปี ริมาณรงั สอี ัลตราไวโอเลตมีมาก
เกินไป
5. สมรรถนะของผเู้ รยี น 6. เครือ่ งมอื การคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Cause and Effect
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - Six thinking hats (White Hat)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขัน้ ของกจิ กรรม 8. สือ่ 9.วิธีการวัดผล
Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน Cause - ประเมินใบงาน
“บอกวธิ ีจีบแฟนมาคนละ 1 วธิ ี โดยหา้ มซำ้ กนั ” and Effect เร่ือง จะ Cause and
Purpose (2 นาท)ี เป็นอย่างไรหากบน Effect เรื่อง จะ
“เราจะเรียนเรือ่ งรังสอี ลั ตราไวโอเลต เพอื่ ให้นกั เรียนสืบคน้ และอธบิ ายการ โลกมปี ริมาณรงั สี เปน็ อยา่ งไรหาก
สอ่ื สารโดยอาศัยคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศและเปรียบเทียบ อลั ตราไวโอเลตมี บนโลกมีปริมาณ
การส่อื สารดว้ ยสัญญาณแอนะล็อกกบั สญั ญาณดิจทิ ัล ได้” มากเกินไป รังสี
Work mode (110 นาที) อัลตราไวโอเลตมี
1. นกั เรียนดูคลิปวดิ โี อเร่อื ง รงั สีอลั ตราไวโอเลต (10 นาท)ี - สอ่ื การสอนPower มากเกินไป
2. นักเรยี นตอบคำถามดังน้ี “แหลง่ กำเนดิ รงั สอี ลั ตราไวโอเลตมกี ่ี point เรือ่ ง
ประเภท” อัลตราไวโอเลตใน
(White Hat) (10 นาที) คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า
3. นักเรยี นฟงั ครูให้ความรู้เรื่องรังสอี ัลตราไวโอเลต โดยใช้สือ่ Power
point เร่ือง รงั สีอัลตราไวโอเลต ในคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟา้ (20 นาที) - วดิ ีโอเกีย่ วกบั รังสี
4. นักเรียนสบื ค้นข้อมูลเก่ียวกับ รังสอี ลั ตราไวโอเลต โดยศึกษา จาก อัลตราไวโอเลต
อินเตอร์เนต็ ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ https://www.yout
- แหลง่ กำเนิดของรงั สีอลั ตราไวโอเลต
- ประโยชนแ์ ละโทษของรังสอี ลั ตราไวโอเลต (พอเพยี ง 3 การมภี มู ิค้มุ กนั ube.com/watch?v
ทีด่ ใี นตวั ) (25 นาท)ี =f4UzerH_0Vg
5. นักเรียนวเิ คราะหเ์ ก่ยี วกับผลกระทบของรงั สีอลั ตราไวโอเลต โดยทำ
ใบงาน Cause and Effect เร่อื ง จะเป็นอย่างไรหากบนโลกมี - อินเตอร์เน็ต
ปรมิ าณรังสีอัลตราไวโอเลตมีมากเกนิ ไป (คิด1 : คิดวเิ คราะห)์ (25
นาท)ี
6. นักเรยี น(ตัวแทนโดยการสุ่ม)นำเสนอผลการศึกษาหน้าชนั้ เรยี นและ
รว่ มกันโต้แย้งเพื่อหาขอ้ สรปุ ของหัวขอ้ ทศ่ี ึกษา (คิด 3 : คิดวพิ ากษ์)
(สมรรถนะ 3) (10 นาท)ี
7. นกั เรยี นและครูร่วมกันอภปิ รายความรูเ้ ร่อื ง รงั สอี ลั ตราไวโอเลต
(10 นาที)
Reflective Thinking (5 นาที)
- บอก 1 สิ่งท่นี กั เรยี นไดร้ ับความรู้อะไรบ้างจากคาบนี้ (2 นาที)
- ขอ้ สอบ o-net ปี 51 (3 นาท)ี
ข้อสอบ O-NET ป5ี 1
12. (O-NET51) การท่เี ราอยกู่ ลางแดดนานๆ แลว้ ผวิ หนงั ไหมเ้ นื่องมาจากผลของรังสีใด
ก. รงั สีอินฟาเรด ข. รังสีอลั ตราไวโอเลต
ค. รังสีเอกซ์ ง. รังสีแกมมา
ข้อสอบ O-NET 2551 อา้ งองิ อา้ งองิ http://thaiphysics.blogspot.com/2018/03/o-net.html
แบบประเมินใบงาน Cause and Effect
คำชแี้ จง : ใหผ้ ูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Cause and Effect
ช่อื -สกลุ การแสดง เนอื้ หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผลการ
ลำดับท่ี ของผรู้ บั การ ความ สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมนิ ผา่ น/
คดิ เหน็ (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมนิ (4คะแนน) (4คะแนน) ไมผ่ า่ น
(4คะแนน)
ลงชอื่ ....................................................ผ้ปู ระเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไปถอื ว่า ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน
ประเมนิ
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)
การแสดง
ความคิดเห็น - แสดงความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคดิ เหน็ - - แสดงความคิดเหน็
ผลกระทบของปญั หา/เหตุ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/
การฌ์ได้ 10 ขอ้ ข้ึนไป เหตุการณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ข้อ เหตุการณไ์ ด้ นอ้ ยกว่า 6
ขอ้
เนอ้ื หา - เนื้อหาครบถ้วนตามสาระท่ี - เน้ือหาถูกต้องตามสาระที่ - เนอ้ื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระที่
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ ว่า 59%
การนำเสนอ - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา
100% 80-99% 60-79% ต่ำว่า 59%
ความสวยงาม - ลำดับหัวขอ้ เน้อื หาชัดเจน - ลำดบั หัวขอ้ เนื้อหาชดั เจน - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - มีการสรุปไมส่ มเหตสุ มผล
การตรงตอ่ - มีการสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรปุ ได้อย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ตำ่ ว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
เวลา - พูดชัดเจนเสียงดงั ฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- พูดชัดเจนเสยี งดังฟงั ชัด - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ ว่า 59%
อักขระ100% - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- บุคลิกภาพดีและมคี วาม - ความพรอ้ มในการนำเสนอ
มน่ั ใจ ไดบ้ างสว่ น - ใช้สสี นั สวยงามและมีความ - ใช้สีสนั สวยงามหรือเป็นไป
- มีการใชส้ อ่ื ประกอบการ สะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอยา่ ง
นำเสนอ - ใช้สสี นั สวยงาม หน่งึ
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ - มีความสะอาด สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เวลาท่กี ำหนด 10 นาที สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
- ใช้สีสนั สวยงาม เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที
- มีความสะอาด สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
- มีความคดิ สร้างสรรค์ เวลาทก่ี ำหนด 5 นาที
- ความเป็นระเบียบอ่านงา่ ย
ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม
เวลาทกี่ ำหนด
ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ฟิสกิ สอ์ ะตอม แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 พทิ าคำ
เรอื่ ง รังสีเอกซ์ หนว่ ยยอ่ ยที่ 2 บุญวงค์
วนั ท่ที ำการสอน เวลา 2 ช่วั โมง
ผสู้ อน นางสาววนี สั
นายพงศกร
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
รังสีเอกซ์ (x-ray) เป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มี 4. อธิบายการเกิดรังสีเอกซ์ ซ่ึงสนับสนุนว่าแสงมี
คุณสมบัติเป็นทั้งคลื่น และอนุภาค เช่นเดียวกับรังสี พลังงานเป็นควอนตัม คำนวณหาปริมาณต่าง ๆ ที่
แกมมา แต่มชี ่วงความยาวคล่ืนต่ำกวา่ รังสีแกมมา เก่ยี วข้อง
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน
รังสเี อกซ์ - ใบงาน Mind Mapping เรื่อง รังสเี อกซ์
- ใบงาน เรอื่ ง รงั สเี อกซ์
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 6. เครื่องมอื การสอนคิด
- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (White hat)
- ความสามารถในการแกป้ ญั หา - Mind Mapping
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรียนรู้
7. ขน้ั ของกิจกรรม 8. ส่ือ 9. วธิ วี ัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Mind - ประเมนิ ใบงาน
- บอกประโยชน์ของรังสีมาคนละ 1 ชนิด Mapping เรือ่ ง Mind Mapping
Purpose (2 นาที) รงั สเี อกซ์ - ประเมนิ ใบงาน
เร่ือง รังสเี อกซ์
- เราจะเรียน เรอ่ื ง รังสีเอกซ์ เพ่อื ใหน้ กั เรียนสามารถอธบิ ายและ - ใบความรู้ รงั สี
คำนวณ รงั สเี อกซ์ ได้
เอกซ์ จาก
Work mode (110 นาที)
1. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรื่อง รังสีเอกซ์โดยศึกษาใบความรู้เรื่อง บทเรียนออนไลน์
รงั สเี อกซป์ ระกอบการสอน (พอเพยี ง 3 การมีภูมคิ ้มุ กนั ท่ีดใี นตัว) (15 นาที)
2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5-6 คน ทำกิจกรรมกลุ่ม Brainstorming โดย
สืบค้นข้อมูลความยาวคลื่นในระดับนาโนเมตร จาก internet แล้วเขียน
สรุปความรูร้ ูปแบบแผนผงั ความคิดลงในใบงาน Mind mapping เรอื่ ง รังสี
เอกซ์ (คดิ 9 : คดิ เชงิ มโนทัศน์) (สมรรถนะ 4) (25 นาที) - ใบงาน เร่ือง
3.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน/ รงั สีเอกซ์
โตแ้ ย้งรว่ มกนั (คดิ 3 : คดิ วพิ ากษ์) (สมรรถนะ 3) (25 นาที) - วิดที ศั น์
4. นกั เรยี นทำใบงาน เรือ่ ง รงั สีเอกซ์ (30 นาที) ประกอบการสอน
5. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับเรื่องรังสี เรอื่ ง รังสีเอกซ์
เอกซ์ พร้อมทั้งร่วมกันตอบคำถามดังนี้ “ถ้ารังสีเอกซ์ผ่านวัสดุที่มีความ
https://www.yo
หนาแนน่ มากจะเป็นอยา่ งไรบา้ ง ” (White hat)
utube.com/wat
(15 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี ch?v=WpfTR5c
- บอกในสิง่ ทีน่ กั เรียนได้รบั (2 นาที) uBFE
- ข้อสอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล 2 ขอ้ (3 นาท)ี )
แบบประเมินใบงาน Mind Mapping
แบบประเมินใบงาน Mind Mapping
คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กำหนดตาม
ตาราง แนบท้ายแบบระเมินใบงาน Mind Mapping
ลำดับ ช่ือ-สกลุ รูปแบบ เนือ้ หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรุปผล
ท่ี ของผู้รบั (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน ผ่าน/ไม่ผ่าน
การ คะแนน) คะแนน)
ประเมิน
ลงชือ่ …………………………………………..ผ้ปู ระเมิน
…….……/……………/…………
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18 – 20 ดมี าก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
นักเรียนระดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Mind Mapping
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
รปู แบบ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
- มีหวั ข้อท่ีชัดเจน
เน้ือหา - มีหวั ขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวขอ้ ทีช่ ัดเจน - เขียนอย่ใู นกรอบ
- เขยี นอยูใ่ นกรอบ
การนำเสนอ - ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ
-ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพสอื่
ความ ความหมาย - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็
สวยงาม - ใช้สสี นั ท่วั แผ่น
การตรง -ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพสือ่
ตอ่ เวลา - เนือ้ หาครบถ้วนตามสาระที่
กำหนด 100% ความหมาย
- เขยี นถูกต้องตามหลัก
ภาษา 100% -เนื้อหาถูกต้องตามสาระท่ี - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี
- ลำดับหัวข้อเน้อื หาชดั เจน
- มกี ารสรปุ ได้อย่างสมเหตุ กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำกวา่ 59%
สมผล 100%
- พูดชัดเจนเสยี งดังฟงั ชดั - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
ตามอกั ขระ100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำกวา่ 59%
-บคุ ลกิ ภาพดีและมีความ
มนั่ ใจ - ลำดับหวั ขอ้ เนอ้ื หาชดั เจน - มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ งสมเหตุ - มีการสรุปไม่สมเหตุสมผล
- มีการใชส้ อ่ื ประกอบการ
นำเสนอ - มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ ง สมผล 60-79% ตำ่ กว่า59%
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ
สมเหตสุ มผล 80-99%
- ใชส้ ีสันสวยงาม
- มคี วามสะอาด - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
-ความเปน็ ระเบยี บอ่านงา่ ย - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง -ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ตาม -ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
- ส่งผลงานครบถ้วน ตามอกั ขระ อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ กวา่ 59%
ตรงตามเวลาทีก่ ำหนด
80 -99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- บคุ ลิกภาพดี
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ได้บางส่วน
- ใชส้ ีสนั สวยงาม -ใช้สสี นั สวยงามและมี - ใช้สสี ันสวยงามหรือเปน็ ไป
- มีความสะอาด ความสะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
- ส่งผลงานครบถว้ น - ส่งผลงานครบถ้วน - ส่งผลงานครบถว้ น
แต่ชา้ กวา่ เวลาท่ีกำหนด แตช่ ้ากว่าเวลาที่กำหนด แต่ช้ากว่าเวลาทกี่ ำหนด
5 นาที 10 นาที 15 นาที
ใบงาน เรอ่ื ง รงั สเี อกซ์
1. หลอดรงั สเี อกซ์หลอดหน่ึงมคี วามตา่ งศกั ยไ์ ฟฟ้า 11,000 โวลต์ จะใหร้ ังสีเอกซ์ออกมาขนาดความยาวชว่ งคลืน่ เทา่ ไร
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
2. หลอดรงั สีเอกซข์ นาด 150,000 โวลต์ . 10 มลิ ลิแอป์ . 1% รงั สีเอกซ์จะเกดิ ความร้อน
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
3. ถา้ ตอ้ งการใหไ้ ดร้ งั สเี อกซ์ขนาดความยาวคลืน่ 10-11 เมตร จะต้องใช้ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าทใ่ี ชเ้ รง่ อเิ ลก็ ตรอนในหนว่ ย
เปน็ โวลต์เท่ากบั
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
แบบประเมินแบบฝึกหัด
คำชี้แจง :ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมินใบงานแบบฝึกหัด
ลำดับ ชื่อ – สกุล ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ท่ี 2 ขอ้ ที่ 3 รวม 15 สรุปผลการประเมิน
ท่ี ผูร้ ับบริการประเมนิ คะแนน ผา่ น / ไม่ผา่ น
ลงชอ่ื ……………………………………………….ผ้ปู ระเมนิ
……………./………………../……
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10 - 15 ดมี าก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ตำ่ กวา่ 2 ปรับปรงุ
นักเรียนไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ ดี ขึ้นไปถือว่า ผ่าน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ
เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
- ไม่ตอบ/ - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วเิ คราะหแ์ ละ - วเิ คราะหแ์ ละ
คำตอบ - ไมแ่ สดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกตอ้ ง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส
ดงวิธที ำเป็น - ตอบไม่ถกู ต้อง - เขียนสตู ร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวธิ ี - เขียนสูตรแสดงวธิ ี
อื่น แสดงวิธีทำเป็น เหมาะสม ทำเป็นข้ันตอน ทำเปน็ ขั้นตอน
ขั้นตอน
- เขยี นสูตรแสดง - มคี ำตอบ - มคี ำตอบ
- ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง วธิ ที ำเป็นข้ันตอน
- ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คำตอบถกู ต้อง
ตามหลกั ทฤษฎี
ขอ้ สอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 2 ข้อ
1. ถ้าอเิ ลก็ ตรอนถกู เรง่ ดว้ ยความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้าขนาด 20000 โวลต์ ไปชนเปา้ โลหะทังสเตน ความยาวชว่ งคลื่นต่ำสุด
ของรังสเี อกซ์ท่ีไดจ้ ะมคี ่าเป็นนาโนเมตรได้
ก. 0.0062
ข. 0.062
ค. 0.62
ง. 6.2
2 .รังสีเอกซม์ คี ณุ สมบัติในการ
ก. ทำให้อากาศเกดิ การแตกตัวเป็นประจไุ ฟฟ้าบวก
ข. เบ่ยี งเบนในสนามแม่เหลก็
ค. ทะลุทะลวงวตั ถุได้มาก
ง. ไมม่ ีประจุ, มีมวลเกอื บเทา่ อิเลก็ ตรอน
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 9 หนว่ ยยอ่ ยที่ 1
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ เวลา 2 ชว่ั โมง
เรื่อง รังสีแกมมา
ผู้สอน นางสาววีนสั พทิ าคำ
วันที่ทำการสอน...................เดือน....................พ.ศ. …………….... นายพงศกร บุญวงค์
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
รังสีแกมมาถือเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงาน 2 สืบค้น และอธิบายการส่ือสารโดยอาศัยคลื่น
สูงที่สุดในบรรดาคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้าชนดิ ต่าง ๆ ที่เหลือ แม่เหล็กไฟฟา้ ในการส่งผ่านสารสนเทศและเปรยี บเทยี บการ
ทั้งหมด การสลายให้รังสีแกมมาเป็นการสลายของ สือ่ สารด้วยสัญญาณแอนะลอ็ กกบั สญั ญาณดิจิทัล
นิวเคลียสของอะตอมในขณะที่มีการเปลี่ยนสถานะจาก
สถานะพลังงานสงู ไปเป็นสถานะท่ตี ่ำกว่า
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- รังสีแกมมา - ใบงาน KWL เร่อื ง รังสีแกมมา
5. สมรรถนะของผู้เรยี น 6. เครือ่ งมือการคดิ
- ความสามารถในการคดิ - KWL
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กิจกรรมการเรียนรู้
7. ขัน้ ของกิจกรรม 8. สอื่ 9.วิธีการวดั ผล
Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน KWL เร่อื ง - ประเมินใบงาน
KWL เร่อื ง รงั สี
“บอกช่อื อาหารเยน็ มาคนละ 1 เมนู โดยหา้ มซำ้ กนั ” รงั สีแกมมา แกมมา
Purpose (2 นาที) - สอื่ การสอน
“เราจะเรียนเรื่องรังสีแกมมา เพื่อให้นักเรียนสืบค้น และอธิบายการส่ือสาร Power point เรอ่ื ง
โดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศและเปรียบเทียบการ รังสีแกมมาในคลืน่
สื่อสารด้วยสัญญาณแอนะลอ็ กกบั สญั ญาณดิจิทลั ได้” แมเ่ หลก็ ไฟฟา้
Work mode (110 นาท)ี - อินเตอรเ์ นต็
1. นักเรียนทำใบงาน KWL เรื่อง รังสีแกมมา แล้วตอบคำถาม “นัก
เรยี นรู้อะไรบ้างเกย่ี วกับ รงั สแี กมมา” ใสล่ งในช่อง K (15 นาที)
2. นักเรียนทำใบงาน KWL เรื่อง รังสแี กมมา แล้วตอบคำถาม “นกั เรยี น
อยากทราบอะไรเกี่ยวกับรังสีแกมมา” ใส่ลงในช่อง W (พอเพียง 2
ความมเี หตผุ ล) (15 นาที)
3. นักเรยี นฟงั ครใู ห้ความรูเ้ รือ่ งรงั สแี กมมา โดยใช้ส่อื Power point
เร่อื ง รงั สแี กมมาในคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ (30 นาที)
4. นักเรยี นสืบค้นขอ้ มูลเกีย่ วกับ รงั สีแกมมา โดยศึกษา จาก
อินเตอรเ์ น็ต (พอเพียง 3 การมภี มู ิคุม้ กนั ทด่ี ีในตัว) (20 นาที)
5. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรปุ ว่า “ได้รับความรอู้ ะไรบา้ งจากการเรยี น
การสอนในวนั นี”้ ลงในช่อง L ของใบงาน KWL เรื่อง รังสีแกมมา
(20 นาที)
6. นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี นและอภิปรายผลงาน/
โต้แยง้ รว่ มกัน (คดิ 3 : คดิ วพิ ากษ)์ (สมรรถนะ 3) (10 นาที)
Reflective Thinking (5 นาที)
1. บอก 1 ส่ิงทีน่ ักเรยี นไดร้ บั ความรอู้ ะไรบา้ งจากคาบน้ี (2 นาท)ี
2. ข้อสอบ O-net 51 (3 นาท)ี
ข้อสอบ O-NET ป5ี 1
(O-NET51) คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าชนิดใดตอ่ ไปน้ีทมี่ ีความยาวคลนื่ ยาวที่สุด
1. อินฟาเรด 2. ไมโครเวฟ
3. คล่นื วทิ ยุ 4. แกมมา
ขอ้ สอบ O-NET 2551 อา้ งองิ อา้ งองิ http://thaiphysics.blogspot.com/2018/03/o-net.html
แบบประเมนิ ผลงานใบงาน KWL
คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น ให้ทำเครือ่ งหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด
ลำดบั ที่ ช่ือ-สกุล การแสดง ครอบคลมุ ผลสำเรจ็ ตรงตอ่ เวลา ความ สรปุ ผล
ของผูร้ ับการประเมิน ความคิดเหน็ เนอื้ หา ของงาน สะอาด รวม การ
20 ประเมนิ
ถูกตอ้ ง เรียบรอ้ ย คะแนน ผา่ น/ไม่
ชัดเจน
43214321432143214321 ผา่ น
ลงชื่อ .................................................... ผู้ประเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ให้ 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดีมาก
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครงั้
ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรุง
นักเรยี นได้ระดบั คุณภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถือว่า ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน KWL
เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
การแสดง
ความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง K - แสดงความคิดเห็นในช่อง K - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง K - แสดงความคดิ เห็นในช่อง K
ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
ได้ 10 ขอ้ คำถามข้ึนไป ได้ 9-10 ขอ้ คำถาม ได้ 7-8 ข้อคำถาม
- แสดงความคิดเหน็ ในช่อง
- แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเห็นในช่อง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ
W ได้ 10 ข้อคำถามขึ้นไป W ได้ 9-10 ข้อคำถาม W ได้ 7-8 ขอ้ คำถาม - แสดงความคดิ เห็นในช่อง L
ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง L - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง L - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง L
ได้ 10 ขอ้ คำถามข้ึนไป ได้ 9-10 ขอ้ คำถาม ได้ 7-8 ข้อคำถาม
เนอื้ หา - เนอื้ หาครบถว้ นตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่ - เนอื้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เนื้อหาถูกต้องตามสาระที่
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำวา่ 59%
การนำเสนอ - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลักภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
100% 80-99% 60-79% ตำ่ วา่ 59%
ความสวยงาม - ลำดับหัวข้อเน้อื หาชดั เจน - ลำดบั หัวข้อเน้ือหาชดั เจน - มีการสรปุ ไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตสุ มผล
การตรงต่อ - มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% ต่ำว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
เวลา - พดู ชดั เจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอักขระต่ำว่า 59%
อกั ขระ100% - บุคลิกภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- บคุ ลิกภาพดแี ละมคี วาม - ความพร้อมในการนำเสนอ
มนั่ ใจ ไดบ้ างส่วน - ใช้สสี ันสวยงามและมคี วาม - ใชส้ สี ันสวยงามหรอื เปน็ ไป
- มกี ารใชส้ ่ือประกอบการ สะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอยา่ ง
นำเสนอ - ใช้สสี ันสวยงาม หนง่ึ
- มคี วามสะอาด สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
- ความพร้อมในการนำเสนอ - มีความคิดสรา้ งสรรค์ เวลาท่ีกำหนด 10 นาที สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
เวลาท่ีกำหนด 15 นาที
- ใชส้ ีสนั สวยงาม ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้ากวา่
- มคี วามสะอาด เวลาที่กำหนด 5 นาที
- มีความคิดสรา้ งสรรค์
- ความเป็นระเบียบอา่ นงา่ ย
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม
เวลาทก่ี ำหนด
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10 หนว่ ยย่อยท่ี 1 พทิ าคำ
ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ เวลา 2 ชวั่ โมง บญุ วงค์
ผสู้ อน นางสาววีนัส
เรอ่ื ง การสือ่ สารโดยอาศัยคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้
วนั ที่ทำการสอน นายพงศกร
1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรียนรู้
การสื่อสารเพือ่ ส่งผ่านสารสนเทศจากที่หนึ่ง ไปอกี 2. สืบค้น และอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลื่น
ที่หนึง่ ทำได้โดยอาศยั คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ สารสนเทศจะถูก แม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ และเปรียบเทียบ
แปลงใหอ้ ยใู่ นรปู สัญญาณ สำหรับส่งไปยังปลายทางซ่งึ จะมี การสื่อสารด้วยสญั ญาณแอนะลอ็ กกบั สัญญาณดิจทิ ัล
การแปลง สัญญาณกลบั มาเปน็ สารสนเทศท่เี หมือนเดมิ
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
การส่ือสารโดยอาศัยคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ - ใบงาน Cause and Effect เร่อื ง ผลกระทบของการ
สอื่ สารโดยอาศัยคลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 6. เคร่ืองมอื การสอนคิด
- ความสามารถในการคิด - Cause and Effect
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - Six Thinking Hats (Black hat)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขั้นของกิจกรรม 8. สอื่ 9. วธิ วี ัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน เร่ือง - ประเมินใบงาน
“บอก 1 วิธี การเอาตัวรอดหากถูกลักพาตวั ” ผลกระทบของการ เรื่อง ผลกระทบของ
Purpose (2 นาที) สอื่ สารโดยอาศัยคลื่น การสอื่ สารโดย
เราจะเรียน เรื่อง การสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ เพื่อให้นักเรยี น แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ อาศยั คลืน่
สามารถอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่าน - ใบความรู้ เรื่อง การ แม่เหลก็ ไฟฟา้
สารสนเทศได้ สื่อสารโดยอาศยั คลืน่
Work mode (110 นาที) แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า
1. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรือ่ ง การสอ่ื สารโดยอาศัยคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้าและ
ศึกษาใบความรู้ เรื่อง การสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพิ่มเติม
(20 นาท)ี
2. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ พม่ิ เติมจาก internet เร่ือง “การส่ือสารโดยอาศัย
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า” แล้วตอบคำถาม “ข้อเสียของการสื่อสารโดยคล่ืน - internet
แม่เหล็กไฟฟา้ เป็นอย่างไร” (Black hat) (พอเพียง3 :การมีภูมิคุ้มกันที่ดใี น
ตัว) (25 นาท)ี
3. นักเรียนอธิบายเกีย่ วกับผลกระทบของการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ ในการ
สอื่ สาร โดยทำใบงาน Cause & effect เรือ่ ง ผลกระทบของการสอ่ื สารโดย
อาศัยคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า (คดิ 4 : คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ)(30 นาที)
4. นกั เรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าช้นั เรียนและอภิปรายผลงาน/โต้แย้ง
ร่วมกัน (คดิ 3 : คดิ วิพากษ)์ (สมรรถนะ 3) (25 นาท)ี
5. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับเรื่อง คลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้า (10 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี
- บอกในส่งิ ท่ีนักเรยี นไดร้ บั (2 นาที)
- ขอ้ สอบ O-NET ปี 49 1 ข้อ (3 นาท)ี
ใบงาน Cause & Effect
ช่ือ...................................................สกลุ ..........................................เลขท่.ี ......................ช้นั ..........
คำช้แี จง จงบอกผลท่จี ะเกิดขน้ึ ตามสถานการณ์ที่กำหนดให้ต่อไปนี้ โดยเขียนมา 3 ดา้ น
Cause (เหต)ุ : ผลกระทบของการส่ือสารโดยอาศยั คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟา้ ?
Effect (ผล)ตอ่ .......... Effect (ผล)ตอ่ ........... Effect (ผล)ต่อ...........
แบบประเมินใบงาน Cause and Effect
คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กำหนดตามตารางแนบ
ท้ายแบบประเมินใบงาน Cause and Effect
ลำดับท่ี ชอ่ื -สกลุ รูปแบบ เนือ้ หา นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรุปผลการประเมิน
ของผู้รบั การประเมิน (4) (4) (4) สวยงาม เวลา(4) 20 คะแนน ผา่ น/ ไมผ่ า่ น
(4)
ลงชอื่ ....................................................ผูป้ ระเมนิ
................/................/................
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นักเรียนได้ระดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถอื วา่ ผา่ น
เกณฑ์การ ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Cause and Effect 1 (ปรับปรุง)
ประเมิน
ระดบั การประเมิน - - แสดงความคิดเหน็
การแสดง ผลกระทบของปัญหา/
ความ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ เหตกุ ารณ์ได้ น้อยกว่า
คดิ เหน็ 6 ข้อ
- แสดงความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็
ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปญั หา/
เหตุการฌไ์ ด้ 10 ข้อข้ึน เหตุการณ์ได้ 8-9 ขอ้ เหตุการณ์ได้ 6-7 ข้อ
ไป
เนื้อหา - เน้ือหาครบถ้วนตาม - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ตอ้ งตามสาระ - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ
สาระที่กำหนด 100% ท่ีกำหนด 80-99% ท่ีกำหนด 60-79% ท่กี ำหนดต่ำว่า 59%
- เขียนถูกตอ้ งตามหลกั - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลกั - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำวา่ 59%
- ลำดับหัวข้อเน้อื หา - ลำดบั หัวข้อเนอ้ื หา - มีการสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรปุ ไม่
ชดั เจน ชดั เจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตุสมผลตำ่ วา่
- มีการสรุปได้อยา่ ง - มีการสรปุ ได้อย่าง 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟังชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
ตามอักขระ100% ตามอกั ขระ80-99% ตามอกั ขระ60-79% ตามอักขระตำ่ ว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
มน่ั ใจ - ความพร้อมในการ
- มีการใช้สอ่ื ประกอบการ นำเสนอไดบ้ างส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการ
นำเสนอ
ความ - ใช้สสี นั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงาม - ใช้สสี ันสวยงามและมี - ใช้สสี ันสวยงามหรอื
สวยงาม - มคี วามสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑ์อยา่ ง
- มคี วามคดิ สร้างสรรค์ - มคี วามคิดสร้างสรรค์ ใดอย่างหนึง่
- ความเป็นระเบียบอ่าน
ง่าย
การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถว้ น ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ช้า สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้
เวลา ตามเวลาท่กี ำหนด กวา่ เวลาที่กำหนด 5 กวา่ เวลาท่ีกำหนด 10 กว่าเวลาท่ีกำหนด 15
นาที นาที นาที
ข้อสอบ O-NET ปี 2549
(O-NET49) การฝากสญั ญาณเสยี งไปกับคลน่ื ในระบบวิทยุแบบ เอ เอ็ม คลนื่ วทิ ยทุ ี่ไดจ้ ะมลี กั ษณะอยา่ งไร
1. คลื่นวิทยุจะเปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดตามแอมพลจิ ูดของคล่ืนเสียง
2. คลื่นวิทยุจะเปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดตามความถ่ีของคล่ืนเสียง
3. คลื่นวิทยุจะเปลีย่ นแปลงความถ่ีตามแอมพลิจูดของคล่ืนเสียง
4. คล่นื วิทยุจะเปลย่ี นแปลงความถ่ีตามความถขี่ องคลน่ื เสียง
http://thaiphysics.blogspot.com/2018/03/o-net.html
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 11
หน่วยยอ่ ยที่ 1
เรื่อง สญั ญาณแอนะลอ็ ก
วนั ท่ีทำการสอน เวลา 2 ชว่ั โมง
ผู้สอน นางสาววีนัส พิทาคำ
นายพงศกร บญุ วงค์
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
สัญญาณอนาล็อก (Analog Signal) หมายถึง 2. สืบค้น และอธิบายการส่ือสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
สัญญาณในรูปแบบของคลื่นตอ่ เนื่อง โดยคุณสมบัติเด่น ในการส่งผ่านสารสนเทศ และเปรียบเทียบการสื่อสารด้วย
ของสัญญาณอนาล็อก (Analog Signal) คือ สามารถส่ง สญั ญาณแอนะล็อกกับสญั ญาณดจิ ิทัล
สัญญาณได้ในระยะไกล
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
สัญญาณแอนะลอ็ ก - ใบงาน PMI เรือ่ ง สัญญาณแอนะลอ็ ก
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 6. เคร่อื งมอื การสอนคดิ
- ความสามารถในการคิด - PMI
- ความสามารถในการแก้ปญั หา - Six Thinking Hats (Red hat)
กิจกรรมการเรยี นรู้
7. ขัน้ ของกิจกรรม 8. สอ่ื 9. วธิ ีวดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน PMI เรื่อง - ประเมนิ ใบงาน
“บอก 1 เคร่ืองมือส่ือสารท่นี ักเรยี นร้จู ัก” สญั ญาณแอนะล็อก PMI เร่ือง สัญญาณ
แอนะล็อก
Purpose (2 นาที) - ใบความรู้ เรื่อง
เราจะเรียนเร่อื ง สญั ญาณแอนะลอ็ ก เพ่อื นักเรียนสามารถอธบิ ายการสื่อสาร สัญญาณแอนะลอ็ ก
โดยคลืน่ แม่เหลก็ ไดอ้ ย่างถูกต้อง
Work mode (110 นาที)
1. นกั เรยี นและครู รว่ มกันทบทวนความรู้เกยี่ วกบั เรอ่ื ง การสื่อสาร
ผ่านคลืน่ แม่เหล็กไฟฟา้ ทเ่ี รยี นผา่ นมาในคาบท่ีแล้วเพื่อเชอ่ื มโยงเข้าสเู่ น้ือหา - คลิปวีดิโอ เรื่อง
สัญญาณแอนะล็อก
ใหม่ (10 นาที)
2. นกั เรยี นศกึ ษาความรู้ เร่อื ง สัญญาณแอนะลอ็ ก โดยฟังครูอธบิ าย https://www.yout
ube.com/watch?v
จากใบความรู้ เรอื่ ง สญั ญาณแอนะลอ็ ก (พอเพยี ง3 : การมภี ูมิคมุ้ กันทดี่ ใี น =7aInvSh4FF8
ตัว) (25 นาท)ี
3. นกั เรยี นดูคลิปวีดิโอ เรอื่ ง สญั ญาณแอนะลอ็ ก (10 นาที)
4. นักเรียนวิเคราะห์ความรู้ที่ได้โดยทำใบงาน PMI เรื่อง สัญญาณแอ
นะลอ็ ก พรอ้ มตกแต่งให้สวยงาม (คดิ 1 : คิดวเิ คราะห)์ (25 นาที)
5.นักเรียนใช้ความรู้ที่ศึกษาแก้ปัญหาในใบงาน เรื่อง สัญญาณแอ
นะลอ็ ก (ตามแนว PISA) (สมรรถนะ 6)(25 นาท)ี
6.นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับการใช้
สัญญาณในการสื่อสาร พร้อมทั้งร่วมกันตอบคำถามของครู “รู้สึกอย่างไร
หากปัจจุบันเครื่องมือสื่อสารยังเป็นสัญญาณแอนะล็อกทั้งหมด” (Red
hat)(15 นาที)
Reflective thinking (5 นาที)
- จากการเรยี นในคาบนีน้ กั เรียนได้รับความรูอ้ ะไรบ้าง (3 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 49 1 ขอ้ (2 นาที)
สญั ญาณแ
แอนะลอ็ ก
แบบประเมินใบงาน PMI
คำชีแ้ จง :ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบ
งาน PMI
ที่ ชอ่ื -สกุล การแสดง เนื้อหา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ของผรู้ ับการประเมิน ความคดิ เห็น (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) ( 4 คะแนน ) 20 คะแนน ประเมนิ
(4 คะแนน) ผ่าน/ไม่ผา่ น
1
2
3
4
5
6
ลงชอื่ ....................................................ผู้ประเมิน
................/................/................
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรงุ
นักเรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถอื ว่า ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน PMI
เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน
ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)
การแสดง - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง P - แสดงความคิดเห็นในช่อง P - แสดงความคิดเห็นในช่อง P ได้
ความคิดเห็น P ได้ 10 ข้อขนึ้ ไป ได้ 9-10 ข้อ ได้ 7-8 ขอ้ น้อยกว่า 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง M - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง M - แสดงความคดิ เห็นในช่อง M ได้
Mได้ 10 ข้อขนึ้ ไป ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ขอ้ น้อยกว่า 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง I - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง I - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง I ได้ - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง I ได้
ได้ 10 ขอ้ ข้ึนไป ได้ 9-10 ข้อ 7-8 ข้อ นอ้ ยกว่า 7 ขอ้
เนอื้ หา - เนื้อหาครบถว้ นตามสาระ - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนือ้ หาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกตอ้ งตามสาระที่
ท่ีกำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กวา่ 59%
- เขียนถูกต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษาตำ่
ภาษา 100% 80-99% 60-79% กว่า 59%
- ลำดบั หวั ข้อเนอื้ หาชัดเจน - ลำดับหัวข้อเนือ้ หาชดั เจน - มีการสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตุสมผลต่ำ
- มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรุปได้อยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% กวา่ 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชดั - พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม
ตามอักขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% อกั ขระต่ำว่า 59%
- บคุ ลกิ ภาพดีและมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
ม่นั ใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ
- มีการใชส้ อ่ื ประกอบการ ได้บางสว่ น
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สีสนั สวยงามหรอื เป็นไปตาม
- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด เกณฑอ์ ย่างใดอยา่ งหนงึ่
- มีความคดิ สร้างสรรค์ - มคี วามคิดสร้างสรรค์
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ นงา่ ย
การตรงตอ่ ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กวา่ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กว่า ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กว่า
เวลา เวลาทีก่ ำหนด เวลาทกี่ ำหนด 5 นาที เวลาท่ีกำหนด 10 นาที เวลาท่กี ำหนด 15 นาที
ข้อสอบ o-net ปี 49
ขอ้ ใดกล่าวถึงสญั ญาณอนาล็อก (Analog Signal) ได้ถกู ต้อง
ก.สัญญาณข้อมูลแบบต่อเนอ่ื ง
ข.สญั ญาณข้อมลู แบบไม่ตอ่ เน่ือง
ค.สัญญาณไฟฟ้า
ง.สญั ญาณแบบขนั้ บันได
http://attayapornbancommee.blogspot.com/2017/07/blog-post_36.html
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12
ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า หนว่ ยยอ่ ยที่ 1
เรอ่ื ง สญั ญาณดิจิทัล เวลา 2 ชว่ั โมง
วนั ทที่ ำการสอน ผสู้ อน นางสาววีนัส พทิ าคำ
นายพงศกร บญุ วงค์
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
สัญญาณดิจิตอล(Digital Signal) หมายถึง สัญญาณท่ี 2. สืบค้น และอธิบายการส่ือสารโดยอาศัยคลื่น
เกี่ยวข้องกับข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Data) ที่มี แม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ และ
ขนาดแน่นอน คือ สัญญาณระดับสูงสุดและสัญญาณ เปรียบเทียบการสื่อสารด้วยสัญญาณแอนะล็อกกับ
ระดบั ต่ำสดุ สญั ญาณดิจิทลั
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
สญั ญาณดจิ ิทัล - ใบงาน Compare and contrast เรือ่ ง การ
เปรยี บเทียบความเหมอื นความแตกตา่ งของสญั ญาณ
แอนะลอ็ กกบั สัญญาณดจิ ทิ ัล
- ใบงาน เรือ่ ง สญั ญาณแอนะล็อกและสญั ญาณ
ดิจทิ ัล
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 6. เครือ่ งมอื การสอนคดิ
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต - Compare and Contrast
- ความสามารถในการคิด
กิจกรรมการเรียนรู้
7. ข้นั ของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วิธีวดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Compare - ประเมินใบงาน
“บอกอุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกสท์ น่ี ักเรียนรจู้ กั 1 อย่าง” and contrast เรือ่ ง เรื่อง สญั ญาณแอ
Purpose (2 นาที) การเปรียบเทยี บความ นะล็อกกบั สัญญาณ
เราจะเรียนเรอื่ ง สญั ญาณดจิ ทิ ัล เพ่ือใหน้ กั เรยี นอธบิ ายการสื่อสารโดย เหมอื นความแตกต่าง ดจิ ทิ ัล
สญั ญาณดจิ ิทัลและเปรยี บเทยี บการส่ือสารดว้ ยสัญญาณแอนะล็อกกับ ของสญั ญาณแอนะล็ - ประเมิน ใบงาน
อกกบั สญั ญาณดจิ ทิ ัล compare and
สัญญาณดจิ ิทัลได้
- ใบงาน เรือ่ ง contrast เรือ่ ง การ
Work mode (110 นาที)
1. นักเรียนและครู ร่วมกันทบทวนความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง สญั ญาณแอนะลอ็ ก เปรยี บเทียบความ
สัญญาณแอนะล็อก ที่เรียนผ่านมาในคาบที่แล้วเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่ และสัญญาณดิจิทัล เหมอื นความ
- ใบความรู้ เร่อื ง แตกต่างของ
เน้อื หาใหม่ (10 นาที)
2. นักเรียนศึกษาหาความรู้จากใบความรู้ เรื่อง สัญญาณแอนะ สญั ญาณแอนะ สัญญาณแอนะ
ลอ็ กและสัญญาณดจิ ทิ ัล (พอเพยี ง 3: การมีภมู คิ ุ้มกนั ทีด่ )ี (20 นาท)ี ลอ็ กและสญั ญาณ ลอ็ กกบั สัญญาณ
3. นักเรียนฟังครูอธิบายเพ่ิมเติม เร่ือง สัญญาณดจิ ทิ ลั (10 นาที) ดิจทิ ัล ดิจิทัล
4. นักเรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของ - ประเมินใบงาน
สัญญาณแอนะล็อกกับดิจิทัล ในใบงาน Compare and contrast เรอ่ื ง สญั ญาณแอ
เรื่อง การเปรียบเทียบความเหมือนความแตกต่างของสัญญาณแอนะ นะลอ็ กและ
ล็อกกบั สัญญาณดิจทิ ัล (คดิ 2 : คดิ เปรยี บเทยี บ) ( 30 นาที)
สัญญาณดิจิทัล
5. นักเรียน (ตัวแทน) นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน และ
อภิปราย/โต้แย้ง ลงงานร่วมกัน (คิด 3 : คิดพิพากษ์) (สมรรถนะ 3)
(10 นาที)
6. ให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง สัญญาณแอนะล็อกและสัญญาณ
ดจิ ิทัล (15 นาที)
7. นักเรียนและครู ร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงาน (10 นาท)ี
8. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความรู้ เรื่อง สัญญาณ
ดจิ ทิ ัล (5 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- จากการเรยี นในคาบน้ีนกั เรยี นได้รับความรอู้ ะไรบ้าง (1 นาที)
- แบบทดสอบ 1 ขอ้ (2 นาที)
การเปรยี บเทยี บความเหมอื นความแตกตา่ งของสญั
ญญาณแอนะลอ็ กกบั สญั ญาณดจิ ทิ ลั