แผนรายวิชา ฟิสิกส์5

แบบประเมินใบงาน Compare & Contrast

คำช้ีแจง : ให้ผ้สู อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนดตาม
ตาราง แนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Compare & Contrast

ลำดับ ชอ่ื -สกุล รปู แบบ เนื้อหา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผล
ท่ี ของผูร้ ับ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน ผา่ น/ไม่ผา่ น
การ คะแนน) คะแนน)
ประเมิน

ลงชอ่ื …………………………………………..ผปู้ ระเมิน

…….……/……………/…………

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

18 – 20 ดมี าก

14 – 17 ดี

10 – 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขึน้ ไปถือวา่ ผ่าน

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Compare & Contrast

เกณฑก์ าร ระดับการประเมนิ

ประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )

รูปแบบ - ครบองค์ประกอบ - ครบองค์ประกอบ - ครบองคป์ ระกอบ - ครบองคป์ ระกอบ

-เปรียบเทียบสิง่ ท่เี หมอื น -เปรียบเทยี บสงิ่ ทีเ่ หมือน -เปรียบเทยี บสงิ่ ที่เหมือน -เปรยี บเทยี บสิ่งทีเ่ หมอื น

และตา่ งไดต้ รงตามเนอ้ื หา และตา่ งได้ตรงตาม และต่างได้ตรงตามเนื้อหา และตา่ งได้ตรงตาม

อยา่ งถูกตอ้ งสมบูรณ์ เนือ้ หาอยา่ งถูกตอ้ ง อยา่ งถกู ต้อง 60-79% เนอ้ื หาอยา่ งถูกต้อง

80-99% ตำ่ วา่ 59%

การแสดง - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคดิ เหน็ -แสดงความคดิ เห็น

ความคดิ เหน็ ผลกระทบของปัญหา/เหตุ ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/

การฌไ์ ด้ 10 ขอ้ ข้ึนไป เหตุการณไ์ ด้ 8-9 ขอ้ เหตุการณไ์ ด้ 6-7 ขอ้ เหตกุ ารณไ์ ด้ น้อยกวา่ 6

ข้อ

เนือ้ หา - เนอ้ื หาครบถ้วนตาม -เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระ - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระ - เนอ้ื หาถูกตอ้ งตาม

สาระทก่ี ำหนด 100% ที่กำหนด 80-99% ทก่ี ำหนด 60-79% สาระทกี่ ำหนดต่ำกว่า

- เขยี นถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลัก 59%

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% - เขยี นถูกต้องตามหลัก

- ลำดบั หัวข้อเนอ้ื หา - ลำดับหัวขอ้ เนื้อหา - มีการสรปุ ได้อยา่ งสมเหตุ ภาษาต่ำกวา่ 59%

ชดั เจน ชดั เจน สมผล 60-79% - มกี ารสรปุ ไม่

- มีการสรปุ ไดอ้ ย่างสมเหตุ - มกี ารสรปุ ไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผลตำ่ กว่า59%

สมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสียงดังฟังชัด - พดู ชดั เจนเสยี งดังฟงั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ชัด -ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ ง -ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% - ใชภ้ าษาทางการ ตามอกั ขระ60-79% ตามอกั ขระต่ำกว่า 59%

-บุคลิกภาพดีและมคี วาม ถูกต้องตามอักขระ - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มัน่ ใจ 80 -99%

- มกี ารใช้สื่อประกอบการ - บคุ ลิกภาพดี

นำเสนอ - ความพร้อมในการ

- ความพรอ้ มในการ นำเสนอไดบ้ างสว่ น

นำเสนอ

ความ - ใช้สสี ันสวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม -ใช้สสี นั สวยงามและมี - ใช้สีสนั สวยงามหรอื

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑอ์ ยา่ ง

- มคี วามคิดสร้างสรรค์ - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ใดอยา่ งหนึง่

-ความเปน็ ระเบยี บอา่ น

ง่าย

การตรง - ส่งผลงานครบถ้วน - สง่ ผลงานครบถ้วน - ส่งผลงานครบถว้ น - สง่ ผลงานครบถว้ น

ต่อเวลา ตรงตามเวลาทีก่ ำหนด แต่ชา้ กวา่ เวลาท่กี ำหนด แตช่ ้ากว่าเวลาท่กี ำหนด แต่ช้ากวา่ เวลาท่ีกำหนด

5 นาที 10 นาที 15 นาที

ใบงาน เร่อื ง สญั ญาณแอนะลอ็ กและสัญญาณดจิ ิทลั

1. ขอ้ ใดกล่าวถึงสัญญาณอนาล็อก (Analog Signal) ไดถ้ ูกต้อง
ก.สัญญาณขอ้ มูลแบบต่อเนอื่ ง
ข.สัญญาณข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง
ค.สญั ญาณไฟฟ้า
ง.สญั ญาณแบบข้ันบันได

2. กระบวนการแปลงสัญญาณอนาล็อกให้เป็นสญั ญาณดิจิตอลเรียกว่าอะไร
ก. โคเดก็
ข. ดีโค้ดเดอร์
ค. โค้ดเดอร์
ง. บารโ์ ค้ด

3. ความแตกต่างของสัญญาณอนาล็อกและดิจิตอล

ก.สัญญาณอนาลอ็ กคือสญั ญาณขอ้ มูลแบบตอ่ เนอื่ งสว่ นสญั ญาณดิจิตอลคอื สญั ญาณทเ่ี กี่ยวข้องกบั
ขอ้ มูลแบบไม่ต่อเนื่อง

ข.สญั ญาณอนาลอ็ กคอื สญั ญาณข้อมูลแบบไม่ต่อเนอ่ื งส่วนสัญญาณดจิ ิตอลคือสัญญาณทเี่ กี่ยวข้องกบั
ข้อมลู แบบตอ่ เนอื่ ง

ค.สญั ญาณแอนะลอ็ กกับสญั ญาณ คอื สัญญาณข้อมลู แบบตอ่ เนื่อง
ง.สัญญาณแอนะล็อกกับสญั ญาณ คือ สญั ญาณขอ้ มลู แบบไมต่ อ่ เนอื่ ง

4. สญั ญาณแบบต่อเนื่อง มีลกั ษณะเป็นอย่างไร

ก. คลืน่ วทิ ยุ
ข. คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า
ค. คลื่นกล
ง. คลื่นไซน์
5. สญั ญาณดิจทิ ัล (Digital Signal) ลักษณะปน็ อย่างไร
ก. คลน่ื ไซน์
ข. กราฟส่ีเหลีย่ ม
ค. เส้นฟันปลา
ง. เส้นตรง

6. สถานะแรงดันของสัญญาณดิจติ อลมคี ่าเท่าไหร่

ก. 0 กบั 1
ข. 1 กับ 2

ค. 2 กบั 3
ง. 3 กับ 4
7. ตัวอยา่ งของสัญญาณอนาลอ็ ก

ก. แรงดนั น้ำ
ข. เสยี งพดู
ค. เสียงดนตรี
ง. ถูกทกุ ข้อ

8. สัญญาณอนาลอ็ กมีหนว่ ยเปน็ อะไร
ก. เซนติเมตร
ข. วา
ค. บติ ตอ่ วินาที
ง. เฮิรต์

9. ข้อดขี องสัญญาณอนาล็อก

ก. ราคาถกู
ข. ไมต่ อ้ งพึ่งพลังงานงานจากภายนอก
ค. ไมม่ ีระบบอเิ ลค็ ทรอนกิ ส์
ง. ถกู ทกุ ข้อ

10. สัญญาณดจิ ิทัลมีหนว่ ยเปน็ อะไร
ก. เซนติเมตร
ข. วา
ค. บติ ตอ่ วินาที
ง. เฮริ

แบบประเมนิ แบบฝึกหดั
คำชแ้ี จง :ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียนโดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนด

ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงานแบบฝกึ หัด

ลำดับ ชอื่ – สกลุ ของ ข้อที่ รวม สรปุ ผล
ท่ี ผรู้ บั บริการประเมิน
10 การ

คะแนน ประเมิน

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ผ่าน / ไม่

ผ่าน

ลงช่อื ……………………………………………….ผปู้ ระเมิน

……………./………………../……

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

8 - 10 ดีมาก

6 – 7 ดี

3 - 5 พอใช้

ต่ำกวา่ 2 ปรับปรุง

นักเรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ ดี ขึ้นไปถอื ว่า ผา่ น

เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ

เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน

คำตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วิเคราะห์และ - วิเคราะห์และ
- ไม่แสดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส - ตอบไม่
ดงวธิ ที ำเป็น ถูกต้อง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา - เขียนสูตรแสดง - เขียนสูตรแสดง
อื่น แสดงวิธีทำ เหมาะสม วิธีทำเปน็ ขน้ั ตอน วิธีทำเป็นขนั้ ตอน
เปน็ ขั้นตอน
- เขยี นสตู ร - มคี ำตอบ - มีคำตอบ
- ตอบไม่
ถกู ต้อง แสดงวิธที ำเปน็ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา
ข้ันตอน เหมาะสม เหมาะสม

- คำตอบถกู ตอ้ ง
ตามหลกั ทฤษฎี

แบบทดสอบ 1 ข้อ

1. เพราะเหตุใด โทรทศั นท์ ่ีใช้ระบบรับสัญญาณแบบดจิ ิทลั จึงใหภ้ าพและเสยี งที่คมชัดกว่าโทรทัศน์ ทีใ่ ชร้ ะบบ
สญั ญาณแอนะล็อก
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ตอบ เนื่องจากการส่งสัญญาณภาพและเสียงแบบดจิ ิทัลถูกรบกวนจากสัญญาณจากสิ่งแวดลอ้ ม น้อยกว่าการ
ส่งดว้ ยสญั ญาณแอนะลอ็ ก

ท่ีมา : คมู่ ือครู หนงั สอื เรียนฟสิ ิกส์ เลม่ 6 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 (สสวท.) , หน้า 42

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 2
ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ ฟสิ กิ ส์อะตอม เวลา 2 ชว่ั โมง
เรอื่ ง ทฤษฎกี ารค้นพบอเิ ลก็ ตรอน โปรตรอน นิวตรอน ผสู้ อน นางสาววนี ัส พทิ าคำ
วนั ทีท่ ำการสอน
นายพงศกร บญุ วงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
นิวเคลียสทำให้ภาพของอะตอมปรากฏขึ้นมาว่า 2. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอม ของโบร์ และ

ประกอบดว้ ยนิวเคลียสประจุบวกที่เป็นมวลเกือบท้งั หมด การเกิดเส้นสเปกตรัมของ อะตอมไฮโดรเจน รวมทั้งคำนวณ
ของอะตอม ที่โคจรโดยรอบดว้ ยอิเล็กตรอนจำนวนหน่งึ ท่ี
ให้ประจพุ อดหี ักล้างกับประจุบวกของนวิ เคลยี ส ปรมิ าณ ต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
ทฤษฎีการคน้ พบอิเลก็ ตรอน โปรตรอน นิวตรอน - ใบงาน Mind Mapping เรอ่ื ง ทฤษฎกี ารค้นพบอนภุ าค

- ใบงาน เรอื่ ง ทฤษฎกี ารค้นพบอนภุ าค

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6. เคร่ืองมอื การสอนคดิ

- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (Green hat)

- ความสามารถในการแก้ปญั หา - Mind Mapping

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ขน้ั ของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วิธีวัดผล

Do Now (3 นาที) - ใบงาน Mind - ประเมนิ ใบงาน Mind

- บอกชนดิ ของอนภุ าคทน่ี กั เรยี นรจู้ ักมาคนละ 1 ชนดิ Mapping เร่อื ง Mapping

Purpose (2 นาที) ทฤษฎกี ารค้นพบ - ประเมิน ใบงาน เร่ือง
อนุภาค ทฤษฎีการค้นพบ
- เราจะเรียน เรอ่ื ง ทฤษฎีการค้นพบอนภุ าค เพ่อื ให้นักเรียนสามารถ
อธบิ ายของ ทฤษฎีการค้นพบอนภุ าคได้ ใบงาน เรือ่ ง เรอื อนภุ าค

Work mode (110 นาที)

1. นักเรยี นฟังครูอธิบาย เรือ่ ง ทฤษฎกี ารค้นพบอนุภาค โดยศึกษาใบ เดินสมทุ ร (ตาม
ความรู้เรอ่ื ง ทฤษฎีการค้นพบอนภุ าคประกอบการสอน (พอเพยี ง 3 การมี
ภูมคิ ้มุ กันทด่ี ใี นตัว) (15 นาที) แนว Pisa)

2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5-6 คน ทำกิจกรรมกลุ่ม Brainstorming โดย - ใบความรู้ ทฤษฎี
สืบค้นข้อมูลทฤษฎีอนุภาค จากใบความรู้ สื่อ internet แล้วเขียนสรุป การค้นพบอนภุ าค
ความรู้รูปแบบแผนผังความคิดลงในใบงาน Mind mapping เรื่อง ทฤษฎี จากบทเรียน
ออนไลน์
การคน้ พบอนภุ าค (คิด9 : คิดเชิงมโนทัศน)์ (25 นาท)ี

3.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน

รว่ มกนั (คิด3 : คดิ วิพากษ์) (สมรรถนะ 3) (30 นาท)ี

4. นักเรียนทำใบงาน เร่อื ง ทฤษฎกี ารคน้ พบอนภุ าค (25 นาท)ี

5. นักเรียนและครูร่วมกันสรปุ เชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับเรื่องทฤษฎี - ใบงาน เรอ่ื ง

การค้นพบอนุภาค พรอ้ มทงั้ รว่ มกันตอบคำถามดงั น้ี “ถา้ วตั ถุแตล่ ะอย่างมี ทฤษฎกี ารค้นพบ

คุณสมบัติที่ต่างกัน ทฤษฎีการค้นพบอนภุ าคจะเป็นอย่างไรบ้าง ” (Green อนุภาค

hat) (15 นาท)ี - วิดีทศั น์
ประกอบการสอน
Reflective thinking (5 นาท)ี เรือ่ ง ทฤษฎกี าร
- บอกในสง่ิ ที่นักเรยี นได้เรียนรู้ในวันนม้ี าคนละ 1 ข้อ (2 นาที) คน้ พบอนุภาค
- ข้อสอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 2 ข้อ (3 นาท)ี )

https://www.yo
utube.com/wat
ch?v=f6nLj9YH
B1A

แบบประเมินใบงาน Mind Mapping

แบบประเมนิ ใบงาน Mind Mapping

คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตาม
ตาราง แนบท้ายแบบระเมนิ ใบงาน Mind Mapping

ลำดบั ช่อื -สกุล รูปแบบ เน้อื หา นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรุปผล
ท่ี ของผรู้ ับ (4 คะแนน) (4 คะแนน) เวลา
(4 สวยงาม 20 การประเมนิ
การ คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน ผ่าน/ไมผ่ า่ น
ประเมิน คะแนน)

ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ประเมิน

…….……/……………/…………

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 – 20 ดีมาก

14 – 17 ดี

10 – 13 พอใช้

ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรงุ

นักเรียนระดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผา่ น

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Mind Mapping

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
- มีหวั ข้อท่ีชดั เจน
เนื้อหา - มหี วั ขอ้ ท่ีชัดเจน - มีหัวขอ้ ท่ีชัดเจน - มีหวั ขอ้ ที่ชัดเจน - เขยี นอยูใ่ นกรอบ
- เขียนอย่ใู นกรอบ
การนำเสนอ - ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เน้ือหาถกู ตอ้ งตาม
-ใช้สัญลักษณ์หรือภาพสื่อ สาระท่ีกำหนดตำ่ กว่า
ความ ความหมาย - ใช้คำสำคญั ตรง - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ 59%
สวยงาม - ใช้สีสนั ทว่ั แผน่ - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั
การตรง ประเด็น ภาษาต่ำกว่า 59%
ตอ่ เวลา - เนื้อหาครบถ้วนตาม - มกี ารสรุปไม่
สาระทีก่ ำหนด 100% -ใช้สัญลักษณห์ รอื ภาพ สมเหตุสมผลตำ่ กวา่ 59%
- เขยี นถูกต้องตามหลัก
ภาษา 100% ส่ือความหมาย - สามารถพดู นำเสนอได้
- ลำดับหัวข้อเน้อื หา -ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
ชัดเจน -เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถูกตอ้ งตามสาระ ตามอักขระต่ำกว่า 59%
- มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ งสมเหตุ - บุคลิกภาพเหมาะสม
สมผล 100% ทกี่ ำหนด 80-99% ที่กำหนด 60-79%
- ใช้สีสนั สวยงามหรอื
- พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชัด - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั เปน็ ไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ใดอยา่ งหน่ึง
ตามอักขระ100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79%
-บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ - สง่ ผลงานครบถ้วน
มน่ั ใจ - ลำดบั หวั ขอ้ เนื้อหา - มกี ารสรปุ ไดอ้ ย่างสมเหตุ แต่ชา้ กวา่ เวลาทก่ี ำหนด
- มีการใช้สื่อประกอบการ 15 นาที
นำเสนอ ชดั เจน สมผล 60-79%
- ความพร้อมในการ
นำเสนอ - มีการสรุปไดอ้ ย่าง

- ใช้สสี นั สวยงาม สมเหตุสมผล 80-99%
- มีความสะอาด
- มคี วามคิดสร้างสรรค์ - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั - การพดู เหมาะสม
-ความเปน็ ระเบียบอา่ น
ง่าย ชัด -ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

- ส่งผลงานครบถว้ น - ใช้ภาษาทางการ ตามอกั ขระ60-79%
ตรงตามเวลาที่กำหนด
ถกู ตอ้ งตามอักขระ - บุคลิกภาพเหมาะสม

80 -99%

- บคุ ลกิ ภาพดี

- ความพร้อมในการ

นำเสนอได้บางสว่ น

- ใช้สสี นั สวยงาม -ใช้สีสันสวยงามและมี

- มคี วามสะอาด ความสะอาด

- มีความคดิ สรา้ งสรรค์

- ส่งผลงานครบถ้วน - สง่ ผลงานครบถ้วน
แตช่ า้ กว่าเวลาทีก่ ำหนด แตช่ ้ากวา่ เวลาท่ีกำหนด
5 นาที 10 นาที

ใบงาน ทฤษฎกี ารค้นพบอนภุ าค
1. จงเขยี นค่าประจขุ องอิเล็กตรอน
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
2. จงเขยี นค่าประจุของโปรตรอน
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
3. จงเขยี นคา่ ประจุของนิวตรอน
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................

แบบประเมนิ แบบฝึกหัด
คำช้ีแจง :ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบท้าย

แบบประเมินใบงานแบบฝึกหัด

ลำดบั ชื่อ – สกุล ของ ข้อท่ี 1 ข้อที่ 2 ข้อท่ี 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ

ท่ี ผรู้ ับบริการประเมิน คะแนน ผา่ น / ไมผ่ า่ น

ลงชอื่ ……………………………………………….ผ้ปู ระเมิน

……………./………………../……

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

10 - 15 ดีมาก

7 – 11 ดี

3 - 6 พอใช้

ต่ำกว่า 2 ปรบั ปรงุ

นกั เรียนไดร้ ะดับคุณภาพที่ ดี ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น

เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ

เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน

คำตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วิเคราะห์และ - วิเคราะห์และ
- ไม่แสดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส - ตอบไม่
ดงวธิ ที ำเป็น ถูกต้อง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา - เขียนสูตรแสดง - เขียนสูตรแสดง
อื่น แสดงวิธีทำ เหมาะสม วิธีทำเปน็ ขน้ั ตอน วิธีทำเป็นขนั้ ตอน
เปน็ ขั้นตอน
- เขยี นสตู ร - มคี ำตอบ - มีคำตอบ
- ตอบไม่
ถกู ต้อง แสดงวิธที ำเปน็ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา
ข้ันตอน เหมาะสม เหมาะสม

- คำตอบถกู ตอ้ ง
ตามหลกั ทฤษฎี

ขอ้ สอบ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล 2 ข้อ

1. เม่ืออนภุ าคแอลฟาว่ิงเขา้ สู่นวิ เคลียสของอะตอม อนภุ าคแอลฟานัน้ จะหยุดนงิ่ กต็ ่อเม่อื อนภุ าคน้นั

1) มพี ลังงานรวมเปน็ ศนู ย์
2) กระทบผวิ นิวเคลียส
3) กระทบกบั อิเล็กตรอนในขั้นใดขน้ั หน่ึง
4) มีพลงั งานศักยเ์ ทา่ กับพลงั งานจลนเ์ ดมิ

2. จากทฤษฎีของ เดอ บรอยล์ เสน้ รอบวงของวงโคจรของอิเล็กตรอนรอบนวิ เคลยี ส มคี า่ เปน็ เท่าใด

1) คา่ นจิ ของแพลงค์หารด้วยความยาวคลื่นของอิเลก็ ตรอน
2) คา่ นิจของแพลงคค์ ูณดว้ ยเลขจำนวนเตม็ หารดว้ ย 2p
3) ความยาวคลน่ื ของอเิ ล็กตรอนคูณด้วยเลขจำนวนเต็ม
4) ความยาวคลนื่ ของอิเลก็ ตรอนหารดว้ ยความเร็วของแสง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 14

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ฟสิ ิกส์อะตอม หน่วยย่อยท่ี 2
เวลา 2 ชว่ั โมง
เรื่อง แบบจำลองอะตอม ผู้สอน นางสาววีนัส พทิ าคำ
วนั ทที่ ำการสอน
นายพงศกร บญุ วงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
อะตอม ประกอบด้วย นวิ เคลียสทมี่ โี ปรตอนรวมอยู่ตรง 3. อธิบายเกี่ยวกับแบบจำลองอะตอม โครงสร้างอะตอม
กลาง มขี นาดเลก็ และมีมวลมาก และมีอิเล็กตรอนซ่ึงมี และหาค่าประจุไฟฟ้า และมวลอิเล็กตรอนจาการทดลอง
มวลนอ้ ยว่งิ อยรู่ อบ ๆ นวิ เคลยี ส ของทอมสนั และการทดลองของมิลลิแกน คำนวณหาประจุ
ตอ่ มวล (q/m) จากการทดลองของเจเจ ทอมสนั การหาค่า
3. สาระการเรียนรู้ ประจไุ ฟฟา้ ของอิเล็กตรอนจาก การทดลองของมิลลิแกน
แบบจำลองอะตอม
4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- ใบงาน Mind Mapping เร่ือง แบบจำลองอะตอม
- ใบงาน เรือ่ ง แบบจำลองอะตอม
- ใบงาน เรื่อง เลขควอนตัม (ตามแนว Pisa)

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 6. เครื่องมอื การสอนคดิ

- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (Green hat)

- ความสามารถในการแก้ปัญหา - Mind Mapping

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ขั้นของกจิ กรรม 8. ส่ือ 9. วิธีวัดผล

Do Now (3 นาที) - ใบงาน Mind - แบบประเมนิ ใบ

- บอกย่ีห้อโทรศัพทม์ าคนละ 1 อยา่ ง Mapping เรื่อง งาน Mind
Purpose (2 นาที) Mapping
แบบจำลอง
- เราจะเรยี น เรื่อง แบบจำลองอะตอม เพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถ อะตอม - แบบประเมนิ ใบ
อธิบายของ แบบจำลองอะตอม ได้ งาน เร่ือง
แบบจำลอง
Work mode (110 นาที) - ใบความรู้ อะตอม

1. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรื่อง แบบจำลองอะตอม โดยศึกษาใบ แบบจำลอง - แบบประเมนิ ใบ
ความรู้เรื่อง แบบจำลองอะตอมประกอบการสอน (พอเพียง 3 การมี งาน เร่อื ง เลข
ภมู คิ ้มุ กันทีด่ ีในตัว) (15 นาท)ี อะตอม จาก ควอนตัม (ตาม
บทเรียนออนไลน์ แนว Pisa)
2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5-6 ทำกิจกรรมกลุ่ม Brainstorming โดยสืบค้น

ข้อมูลปริมาณทางฟิสิกส์จากใบความรู้ สื่อ internet แล้วเขียนสรุปความรู้

รูปแบบแผนผังความคิดลงในใบงาน Mind mapping เรื่อง แบบจำลอง

อะตอม (คิด9 : คดิ เชงิ มโนทศั น)์ (สมรรถนะ 4) (25 นาท)ี

3.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน

ร่วมกัน (คดิ 3 : คิดวพิ ากษ์) (สมรรถนะ 3) (25 นาท)ี

4. นกั เรียนทำใบงาน เร่อื ง แบบจำลองอะตอม (20 นาท)ี - ใบงาน เรื่อง

5. ใบงาน เร่อื ง เลขควอนตัม (ตามแนว Pisa) (10 นาที) แบบจำลอง

6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับเรื่อง อะตอม

แบบจำลองอะตอม พรอ้ มทั้งรว่ มกนั ตอบคำถามดงั น้ี “ถ้าวตั ถุแต่ละอย่าง - ใบงาน เรอ่ื ง เลข
มคี ณุ สมบตั ทิ ่ตี า่ งกัน แบบจำลองอะตอมจะเปน็ อยา่ งไรบา้ ง ” (Green hat) ควอนตัม (ตาม

(15 นาท)ี แนว Pisa)

Reflective thinking (5 นาท)ี - วิดที ศั น์
1. บอกในสง่ิ ทนี่ ักเรียนไดร้ บั จากการเรยี นในวันนี้ (2 นาที) ประกอบการสอน
2. ขอ้ สอบ O-net ปี 57 2 ขอ้ (3 นาที) ) เรอ่ื ง แบบจำลอง
อะตอม

https://www.yo

utube.com/wat
ch?v=mZspImy
EYyw

แบบประเมินใบงาน Mind Mapping

แบบประเมนิ ใบงาน Mind Mapping

คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตาม
ตาราง

แนบท้ายแบบระเมนิ ใบงาน Mind Mapping

ลำดบั ช่ือ-สกลุ รูปแบบ เนอ้ื หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผล
ท่ี ของผ้รู บั (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) คะแนน ผา่ น/ไมผ่ ่าน
การ คะแนน) (4
ประเมนิ คะแนน)

ลงช่ือ…………………………………………..ผูป้ ระเมนิ

…….……/……………/………

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 – 20 ดมี าก

14 – 17 ดี

10 – 13 พอใช้

ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง

นักเรียนระดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน

ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Mind Mapping

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
- มีหวั ขอ้ ท่ีชดั เจน
เนอ้ื หา - มหี วั ข้อท่ีชดั เจน - มีหัวขอ้ ท่ีชัดเจน - มหี ัวข้อที่ชดั เจน - เขียนอยูใ่ นกรอบ
- เขยี นอย่ใู นกรอบ
การนำเสนอ - ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - เขียนอยใู่ นกรอบ - เขียนอยใู่ นกรอบ - เนอ้ื หาถกู ตอ้ งตาม
-ใช้สัญลักษณ์หรือภาพสื่อ สาระที่กำหนดตำ่ กว่า
ความ ความหมาย - ใช้คำสำคัญตรง - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น 59%
สวยงาม - ใช้สีสนั ทว่ั แผน่ - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั
การตรง ประเด็น ภาษาตำ่ กว่า 59%
ต่อเวลา - เน้อื หาครบถ้วนตาม - มกี ารสรุปไม่
สาระท่ีกำหนด 100% -ใช้สญั ลักษณห์ รอื ภาพ สมเหตุสมผลตำ่ กวา่ 59%
- เขียนถูกตอ้ งตามหลกั
ภาษา 100% ส่ือความหมาย - สามารถพดู นำเสนอได้
- ลำดบั หวั ขอ้ เน้ือหา -ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
ชดั เจน -เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ ตามอกั ขระต่ำกว่า 59%
- มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ งสมเหตุ - บุคลิกภาพเหมาะสม
สมผล 100% ทก่ี ำหนด 80-99% ที่กำหนด 60-79%
- ใช้สสี ันสวยงามหรอื
- พดู ชดั เจนเสียงดังฟงั ชดั - เขยี นถูกตอ้ งตามหลัก - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั เปน็ ไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง ใดอยา่ งหน่ึง
ตามอักขระ100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79%
-บคุ ลกิ ภาพดีและมคี วาม - ส่งผลงานครบถ้วน
มนั่ ใจ - ลำดบั หัวข้อเนอื้ หา - มกี ารสรุปได้อย่างสมเหตุ แต่ช้ากวา่ เวลาทก่ี ำหนด
- มีการใช้ส่ือประกอบการ 15 นาที
นำเสนอ ชัดเจน สมผล 60-79%
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ - มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง

- ใช้สสี ันสวยงาม สมเหตุสมผล 80-99%
- มคี วามสะอาด
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ - พดู ชัดเจนเสียงดงั ฟงั - การพูดเหมาะสม
-ความเป็นระเบียบอ่าน
งา่ ย ชดั -ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ ง

- สง่ ผลงานครบถ้วน - ใชภ้ าษาทางการ ตามอักขระ60-79%
ตรงตามเวลาทก่ี ำหนด
ถูกตอ้ งตามอกั ขระ - บุคลิกภาพเหมาะสม

80 -99%

- บุคลกิ ภาพดี

- ความพรอ้ มในการ

นำเสนอไดบ้ างส่วน

- ใช้สสี นั สวยงาม -ใช้สีสนั สวยงามและมี

- มคี วามสะอาด ความสะอาด

- มีความคดิ สรา้ งสรรค์

- ส่งผลงานครบถ้วน - สง่ ผลงานครบถ้วน
แต่ชา้ กวา่ เวลาทีก่ ำหนด แต่ชา้ กวา่ เวลาท่กี ำหนด
5 นาที 10 นาที

ใบงาน แบบจำลองอะตอม

1. ธาตุ 52 +2 จะมี pne เท่าใด
17

........................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................

2. ธาุ ตุ X มี 80 อเิ ล็กตรอนและ 130 นิวตรอน จงเขียนสัญลักษณ์

........................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................

3. จงเขยี นสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ A ซงึ่ มี 9 อเิ ลก็ ตรอน มีนิวตรอน 9 10 11 ตามลำดบั

........................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................

แบบประเมนิ แบบฝึกหัด
คำช้ีแจง :ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบท้าย

แบบประเมินใบงานแบบฝึกหัด

ลำดบั ชื่อ – สกุล ของ ข้อท่ี 1 ข้อที่ 2 ข้อท่ี 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ

ท่ี ผรู้ ับบริการประเมิน คะแนน ผา่ น / ไมผ่ า่ น

ลงชอื่ ……………………………………………….ผ้ปู ระเมิน

……………./………………../……

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

10 - 15 ดีมาก

7 – 11 ดี

3 - 6 พอใช้

ต่ำกว่า 2 ปรบั ปรงุ

นกั เรียนไดร้ ะดับคุณภาพที่ ดี ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น

เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ

เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน

คำตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วิเคราะห์และ - วิเคราะห์และ
- ไม่แสดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส - ตอบไม่
ดงวธิ ที ำเป็น ถูกต้อง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา - เขียนสูตรแสดง - เขียนสูตรแสดง
อื่น แสดงวิธีทำ เหมาะสม วิธีทำเปน็ ขน้ั ตอน วิธีทำเป็นขนั้ ตอน
เปน็ ขั้นตอน
- เขยี นสตู ร - มคี ำตอบ - มีคำตอบ
- ตอบไม่
ถกู ต้อง แสดงวิธที ำเปน็ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา
ข้ันตอน เหมาะสม เหมาะสม

- คำตอบถกู ตอ้ ง
ตามหลกั ทฤษฎี

ขอ้ สอบ O-net ปี 2557 2 ข้อ

1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่แบบจำลองอะตอมของดอลตัน

ก. อะตอมมขี นาดเลก็ แบง่ แยกไมไ่ ด้
ข. อะตอมของธาตุตา่ งชนดิ มีมวลนิวตรอนเทา่ กันได้
ค. อะตอมของธาตุชนิดเดยี วกันมสี มบัติเหมือนกัน
ง. ธาตุทำปฏกิ ริ ยิ าด้วยอัตราสว่ นเลขลงตัวนอ้ ย ๆ

2. รงั สแี คโทดเกิดจากสว่ นใด

ก. ขวั้ แคโทด
ข. แกส๊ ทีบ่ รรจุภายใน
ค. ข้วั แคโทด และแก๊สที่บรรจภุ ายใน
ง. ขว้ั แคโทด ข้วั แอโนดและแก๊ส

เลขควอนตมั

เลขควอนตมั (quantum numbers) จากการแก้สมการของชเรอดิงเงอร์เพื่อหาพลงั งานและบริเวณทีจ่ ะพบอิเลก็ ตรอน
ในสามมิติ มีเลขเลขควอนตัม 3 ชนิดคอื เลขควอนตมั หลัก เลขควอนตมั โมเมนตัมเชงิ มมุ และเลขควอนตมั แมเ่ หลก็ เลขควอนตัม
แต่ละชนิดมคี วามสัมพันธ์กันอย่างต่อเนือ่ ง เลขควอนตมั เหล่านี้ใช้บอกระดับพลงั งาน ขนาด รูปร่าง และทิศทางของออร์บิทอล
เชิงอะตอม และอิเล็กตรอนที่อยู่ในออรบ์ ิทัลนั้น เลขควอนตัมชนิดที่สี่คือ เลขควอนตัมสปิน ใช้ระบุพฤติกรรมของอิเล็กตรอน
หนง่ึ ๆ ในอะตอม
1) เลขควอนตัมหลัก (principal quantum, n) เลขที่แสดงระดับพลังงานหลักหรือแสดงถึงระยะห่างจากนิวเคลียสและระดบั
พลังงานของอิเล็กตรอน (หรือเรียกว่า shell) โดย n มีค่า 1, 2, 3,… โดยถ้าn = 1 จะอยู่ใกล้นิวเคลียสมากที่สุดและมีค่า
พลังงานต่าที่สุดซงึ่ ก็สอดคลอ้ งกับทฤษฎีของโบร์ n ยงิ่ มคี ่ามาก อเิ ล็กตรอนยิ่งมรี ะดบั พลงั งานอยหู่ ่างจากนวิ เคลยี สมากออร์บิทัล
นั้นก็มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย นอกจากนี้ค่า nเป็น 1, 2, 3, ….แทนระดับพลังงงาน 1, 2, 3, … และแทนด้วยตัวอักษร K, L, M …
ตามลาดับ และเรียกพลังงานหลักหรือเชลล์ (main level หรือ main shell)

2) เลขควอนตัมโมเมนตมั เชงิ มมุ (angular momentum quantum, l) เลขควอนตมั โมเมนตมั เชงิ มุม บอกถึงโมเมนตมั เชิงมุม
สาหรบั การเคลอื่ นท่ขี องอเิ ล็กตรอนรอบนิวเคลียส กลา่ วคือ ถา้ l มีค่าสูงแสดงว่า อิเล็กตรอนเคลื่อนทด่ี ว้ ยโมเมนตัมเชิงมมุ สงู
และมีพลงั งานสงู ด้วย อีกนัยหนง่ึ คือเลขควอนตมั โมเมนตัมเชงิ มมุ บอกรปู รา่ งของออร์บิทลั ที่อเิ ล็กตรอนน้นั ครอบครองอยู่ คา่ l
ขึ้นกับเลขควอนตัมหลกั n ดังน้ีl เปน็ จานวนเต็มมคี ่าต้ังแต่ 0, 1, 2, …… ถึง (n-1) กล่าวคือ
ถา้ n = 1 l จะมคี ่าได้ 1 ค่า คือ 0
ถา้ n = 2 l จะมคี ่าได้ 2 ค่า คอื 0 และ 1
ถา้ n = 3 l จะมีค่าได้ 3 ค่า คอื 0, 1 และ 2
ถ้า n = n l จะมีคา่ ได้ 0, 1, 2, 3,…… (n-1)
คา่ l ตา่ งๆ มักระบุเปน็ ตวั อกั ษร s, p, d … แทน ดังน้ี
เม่ือ l = 0 ตรงกบั ระดับยอ่ ย s เรียกว่า s (sharp)
l = 1 ตรงกับระดับยอ่ ย p เรยี กว่า p (principle)
l = 2 ตรงกับระดับย่อย d เรยี กว่า d (diffuse)
l = 3 ตรงกับระดับยอ่ ย f เรยี กวา่ f (fundamental

คำถามที่ 1 (ข้อละ 2 คะแนน)

จากขอ้ มลู จงเขียนวงกลมลอ้ มรอบคำวา่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อความ

ขอ้ ขอ้ ความ คำตอบ

1. เลขควอนตัมหาได้จากการแก้สมการของชเรอดงิ เงอร์ ใช่ / ไมใ่ ช่

2. เลขควอนตมั รปู ร่างของออร์บทิ อลเชิงอะตอม ใช่ / ไมใ่ ช่

3. เลขควอนตัมสปิน ใชร้ ะบพุ ฤติกรรมของอิเล็กตรอน ใช่ / ไม่ใช่

4. เลขควอนตมั หลักเปน็ เลขแสดงขนาด ใช่ / ไม่ใช่

(สมรรถนะ : การระบปุ ญั หาเชงิ วิทยาศาสตร์)

คำถามท่ี 2 (ข้อละ 1 คะแนน
ขอ้ ใดไม่ใช่ชนดิ ของเเลขเลขควอนตัม

ก. เลขควอนตัมหลัก
ข. เลขควอนตมั โมเมนตมั เชิงมมุ
ค. เลขควอนตมั แม่เหล็ก
ง. เลขควอนตมั รอง
(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชิงวทิ ยาศาสตร์)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / แนวคำตอบ คำตอบ
ใช่ / ไม่ใช่
คำถามที่ 1 จากข้อมลู จงเขยี นวงกลมลอ้ มรอบคำวา่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช”่ ในแต่ละขอ้ ความ ใช่ / ไมใ่ ช่
ขอ้ ขอ้ ความ ใช่ / ไมใ่ ช่
1. เลขควอนตัมหาได้จากการแกส้ มการของชเรอดิงเงอร์ ใช่ / ไม่ใช่
2. เลขควอนตัมรูปรา่ งของออร์บทิ อลเชงิ อะตอม
3. เลขควอนตมั สปิน ใช้ระบุพฤติกรรมของอเิ ล็กตรอน
4. เลขควอนตัมหลักเปน็ เลขแสดงขนาด

คะแนนเตม็ 2 คะแนน คะแนนเต็ม 1 คะแนน คะแนนเต็ม 0 คะแนน
ตอบถูกทงั้ 4 ข้อ : ใช่ / ใช่ / ตอบถกู 3 ขอ้ ตอบถูก 2-0 ขอ้
ใช่ / ไมใ่ ช่

คำถามท่ี 2 (ขอ้ ละ 1 คะแนน) คำตอบ
ขอ้ เลขควอนตมั รอง

ง

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

3 ดมี าก

2 ดี

1 พอใช้

จ ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถอื ว่า ผา่ น

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15

ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ฟสิ กิ สอ์ ะตอม หนว่ ยย่อยท่ี 2 พทิ าคำ
เวลา 2 ชั่วโมง บุญวงค์
เรอ่ื ง สเปกตรัมจากอะตอมของแก๊ส ผสู้ อน นางสาววนี ัส
วนั ท่ที ำการสอน
นายพงศกร

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
แสงจากก๊าซรอ้ นทำใหเ้ กิด เส้นสวา่ งบนแถบสเปกตรัม 5. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอม ของโบร์
ก๊าซแต่ละชนดิ ให้จำนวนและตำแหน่งของเสน้ สว่าง และการเกิดเส้นสเปกตรัมของ อะตอมไฮโดรเจน รวมทั้ง
แตกต่างกนั เราเรียกเสน้ สว่างนวี้ ่า “เสน้ แผ่รงั สี” คำนวณปริมาณ ต่าง ๆ ที่เกีย่ วขอ้ ง
(Emission lines)
4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
3. สาระการเรยี นรู้ - ใบงาน Diagram เรือ่ ง สเปกตรมั จากอะตอม
สเปกตรมั จากอะตอมของแกส๊
ของแกส๊
- ใบงาน เร่อื ง สเปกตรมั จากอะตอมของแก๊ส
- ใบงาน เร่ือง Planck’s law (ตามแนว Pisa)

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 6. เครอื่ งมือการสอนคดิ

- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (White hat)

- ความสามารถในการแกป้ ญั หา - Diagram

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ข้นั ของกจิ กรรม 8. สือ่ 9. วิธวี ัดผล

Do Now (3 นาที) - ใบงาน Diagram - ประเมนิ ใบงาน

“ บอกประโยชน์ของแสงอาทติ ยม์ าคนละ 1 ข้อ ” เรื่อง สเปกตรัม Diagram เร่อื ง

Purpose (2 นาที) จากอะตอมของ สเปกตรมั จาก

เราจะเรียนเรื่องสเปกตรัมจากอะตอมของแก๊สเพื่อนักเรียนสามารถ แก๊ส อะตอมของแก๊ส

คำนวณหาคา่ ของสเปกตรมั จากอะตอมของแก๊สได้อยา่ งถกู ตอ้ ง - ใบงาน เรอื่ ง - ประเมนิ ใบงาน

Work mode (110 นาที) สเปกตรัมจาก เรือ่ ง สเปกตรมั
1. นกั เรียนดูคลิปวดี ีโอเร่ือง สเปกตรัมจากอะตอมของแก๊ส (10 นาท)ี อะตอมของแกส๊ จากอะตอมของ
- ใบงาน เรื่อง แกส๊
2. นกั เรียนฟังครอู ธบิ ายเรื่อง สเปกตรมั จากอะตอมของแก๊ส โดยใช้ใบ
Planck’s law - ประเมนิ ใบงาน
ความร้เู รอ่ื ง สเปกตรมั จากอะตอมของแก๊สเพื่อเพ่มิ ความเข้าใจ (15 นาท)ี (ตามแนว Pisa) เร่อื ง Planck’s
3.นักเรียนทำกิจกรรมกลุ่ม 5-6 คน Brainstorming โดยสืบค้นข้อมูล - ใบความรู้ เรื่อง
เก่ียวกับสเปกตรมั ของคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า จากใบความรู้ สื่อ internet แล้ว สเปกตรัมจาก law (ตามแนว
Pisa)

เขียนสรุปความรู้ในรูปแบบผังมโนทัศน์ลงในใบงาน Diagram เรื่อง อะตอมของแกส๊

สเปกตรัมจากอะตอมของแก๊ส (คิด 9 คิดเชิงมโนทัศน์) (สมรรถนะ 4) จากบทเรยี น
ออนไลน์
(พอเพยี ง 7 สงั คม) (20 นาที)

4.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน

ร่วมกัน (คดิ 3 : คิดวพิ ากษ)์ (สมรรถนะ 3) (20 นาที)

5.นักเรียนใช้ความรู้ที่ศึกษาแกโ้ จทย์ปัญหาในใบงาน เรื่อง สเปกตรัม

จากอะตอมของแก๊ส (20 นาท)ี

6. นกั เรียนทำใบงาน ตามแนว PISA เรือ่ ง Planck’s law (10 นาที)
7.นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับมวลและ - คลิปวดิ ีโอ เรอื่ ง
ปรมิ าตร พร้อมทัง้ รว่ มกนั ตอบคำถามดังนี้ “สเปกตรมั จากอะตอมของแก๊ส สเปกตรมั จาก
อะตอมของแก๊ส
สามารถอธิบายปรากฏการณ์อะไรเพม่ิ เตมิ ได้บ้าง ?” (White hat) https://www.yo
(15 นาท)ี
utube.com/wat
Reflective thinking (5 นาท)ี
ch?v=rN9p2Xm
1. นกั เรียนบอกส่งิ ท่อี ยากเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ (2 นาท)ี
2. ข้อสอบ o-net ปี 2554 2 ขอ้ (3 นาท)ี hSa0

แบบประเมินใบงาน Diagram

คำช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กำหนดตาม

ตารางแนบท้ายแบบระเมินใบงาน Diagram

ลำดับ ชอ่ื -สกลุ รูปแบบ เนอื้ หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผล
ที่ ของผรู้ ับการ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมนิ

ประเมนิ (4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผ่าน/ไมผ่ ่าน

ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ประเมิน

…….……/……………/…………

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

18 – 20 ดมี าก

14 – 17 ดี

10 – 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง

นักเรียนระดบั คุณภาพที่ พอใช้ ข้ึนไปถือว่า ผา่ น

ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
รปู แบบ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง)
- มหี วั ข้อที่ชัดเจน
เนือ้ หา - มีหวั ข้อท่ีชดั เจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน - มีหัวข้อท่ีชัดเจน - เขียนอย่ใู นกรอบ
- เขียนอยูใ่ นกรอบ
การนำเสนอ - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น - เขียนอยใู่ นกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เนื้อหาถกู ต้องตาม
-ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพส่ือ สาระทก่ี ำหนดต่ำกวา่
ความ ความหมาย - ใช้คำสำคญั ตรง - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ 59%
สวยงาม - ใช้สีสนั ทว่ั แผน่ - เขยี นถูกตอ้ งตามหลัก
การตรง ประเดน็ ภาษาต่ำกวา่ 59%
ต่อเวลา - เนือ้ หาครบถ้วนตาม - มีการสรปุ ไม่
สาระท่กี ำหนด 100% -ใช้สญั ลักษณ์หรอื ภาพ สมเหตุสมผลตำ่ กว่า59%
- เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก
ภาษา 100% ส่อื ความหมาย - สามารถพูดนำเสนอได้
- ลำดับหัวขอ้ เนือ้ หา -ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
ชดั เจน -เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระ - เนอื้ หาถูกต้องตามสาระ ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%
- มกี ารสรุปไดอ้ ย่างสมเหตุ - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
สมผล 100% ท่ีกำหนด 80-99% ท่กี ำหนด 60-79%
- ใช้สีสนั สวยงามหรือ
- พูดชัดเจนเสียงดงั ฟังชัด - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลัก - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั เป็นไปตามเกณฑ์อยา่ ง
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง ใดอย่างหน่งึ
ตามอกั ขระ100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79%
-บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - สง่ ผลงานครบถว้ น
มั่นใจ - ลำดบั หัวข้อเนื้อหา - มกี ารสรุปได้อย่างสมเหตุ แตช่ ้ากว่าเวลาท่กี ำหนด
- มีการใช้ส่อื ประกอบการ 15 นาที
นำเสนอ ชัดเจน สมผล 60-79%
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ - มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง

- ใช้สีสนั สวยงาม สมเหตุสมผล 80-99%
- มคี วามสะอาด
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟัง - การพดู เหมาะสม
-ความเป็นระเบยี บอ่าน
ง่าย ชัด -ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง

- สง่ ผลงานครบถ้วน - ใชภ้ าษาทางการ ตามอกั ขระ60-79%
ตรงตามเวลาทก่ี ำหนด
ถูกตอ้ งตามอกั ขระ - บุคลิกภาพเหมาะสม

80 -99%

- บุคลิกภาพดี

- ความพร้อมในการ

นำเสนอได้บางสว่ น

- ใช้สีสนั สวยงาม -ใช้สีสนั สวยงามและมี

- มีความสะอาด ความสะอาด

- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์

- ส่งผลงานครบถ้วน - สง่ ผลงานครบถว้ น

แต่ช้ากวา่ เวลาทกี่ ำหนด แตช่ ้ากวา่ เวลาท่ีกำหนด
5 นาที 10 นาที

ใบงาน สเปกตรมั จากอะตอมของแกส๊

1. ความยาวคล่นื ของเสน้ สเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจนเส้นแรก (ทมี่ ีความยาวคลื่นมากที่สุด) ในอนกุ รมบลั เมอร์ คือ
656 นาโนเมตร โฟตอนท่ีสามารถทำให้อะตอมไฮโดรเจนจากสถานะพนื้ ฐานแตกตัวเป็นอิออนได้พอดี ควรจะต้องมี
ความยาวคลื่นเทา่ ไร
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
2. อเิ ลก็ ตรอนซงึ่ มีมวลประมาณ 9 x 10-31 กโิ ลกรัม เคลอื่ นทด่ี ว้ ยอัตราเรว็ 3 x 106 เมตร/วนิ าที วสั ดุในขอ้ ใด
เหมาะสมท่ีจะนำไปใช้ในการทดลองเพื่อศึกษาการเล้ยี วเบนของอเิ ล็กตรอน
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
3. โลหะชนดิ หน่ึงมคี ่าพลังงานยึดเหนี่ยวเท่ากับ 2.0 อิเลก็ ตรอนโวลต์ ถ้ามแี สงทีม่ ีความยาวคลื่น 100 nm มากระทบ
พลงั งานจลน์สงู สุดของโฟโตอิเล็กตรอนท่ีออกมาจะเปน็ ก่ีอิเลก็ ตรอนโวลต์ (eV)
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................

แบบประเมินแบบฝกึ หัด

คำชี้แจง :ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบท้าย

แบบประเมินใบงานแบบฝึกหัด

ลำดับ ช่ือ – สกุล ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ท่ี 2 ขอ้ ท่ี 3 รวม 15 สรุปผลการประเมิน

ท่ี ผ้รู ับบริการประเมนิ คะแนน ผ่าน / ไมผ่ ่าน

ลงช่อื ……………………………………………….ผู้ประเมนิ

……………./………………../……

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

10 - 15 ดมี าก

7 – 11 ดี

3 - 6 พอใช้

ต่ำกวา่ 2 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพที่ ดี ข้ึนไปถือวา่ ผ่าน

เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหัด/คำนวณ

เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน

คำตอบ - ไมต่ อบ/ - ใช้ภาษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วเิ คราะห์และ - วเิ คราะหแ์ ละ
- ไมแ่ สดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถกู ตอ้ ง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตวั แปรได้
ทำ/แส - ตอบไม่
ดงวธิ ที ำเป็น ถกู ต้อง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา - เขยี นสูตรแสดง - เขียนสตู รแสดง
อื่น แสดงวธิ ีทำ เหมาะสม วธิ ที ำเปน็ ข้ันตอน วธิ ีทำเปน็ ขนั้ ตอน
เปน็ ขนั้ ตอน
- เขียนสูตร - มคี ำตอบ - มคี ำตอบ
- ตอบไม่
ถูกตอ้ ง แสดงวธิ ที ำเปน็ - ใช้ภาษา - ใชภ้ าษา
ขัน้ ตอน เหมาะสม เหมาะสม

- คำตอบถกู ต้อง
ตามหลักทฤษฎี

ขอ้ สอบ o-net ปี 2554 2 ขอ้

1. ขอ้ ใดบ้างทีส่ นับสนุนวา่ แสงแสดงสมบัตเิ ป็นอนภุ าค

ก. สเปกตรมั ของไฮโดรเจน
ข.ปรากฏการณค์ อมพต์ นั
ค. ปรากฏการณ์โฟโตอเิ ลก็ ตริม
ง. การทดลองของฟรงั ก์และเฮิร์ตซ์

2. โดยธรรมชาติโลหะจะแผ่รงั สีคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า ถา้ โลหะมีอณุ หภมู ิสงู ข้นึ พลังงานทป่ี ลดปลอ่ ยออกโดยการแผ่รงั สี
จะมากขน้ึ โดยทค่ี วามยาวคล่ืนของรังสีท่ีมคี วามเข้มมากท่สี ุดจะเปน็ อย่างไร
ก. ยาวขึ้น
ข. สน้ั ลง
ค. เท่าเดมิ
ง. อาจยาวข้ึนหรือสนั้ ลงแลว้ แต่ชนิดของโลหะ

ใบงาน เร่ือง PlanPclakn'csk'lsalwaw(ตามแนว PISA)

กฎของแพลงค์ (Planck’s Law) เป็นกฎท่ีใชอ้ ธบิ ายสเปคตรัมการแผร่ ังสขี องคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าท่ีทุกความยาวคล่นื จาก
วัตถุดำ (blackbody) ที่อณุ หภมู ิ (temperature) หนง่ึ ๆ กฎนค้ี น้ พบโดย มกั ซ์ พลังค์ (นกั ฟิสิกส์ชาวเยอรมนั ) ซง่ึ เปน็ สมการท่ี
อยใู่ นรูปฟังกช์ นั ของอณุ หภูมิและความยาวคลน่ื ใด ๆ และเมือ่ นำมาพลอ็ ตเป็นกราฟความสมั พนั ธ์ มีชือ่ เรียกว่า "Planck
distribution"

โดย C1 = 2πhc2 = 3.742x104 W.µm4 /m 2
C2 = hc/k =1.439x104 µm.K

จากรปู Plank distribution ของวัตถุดำ (blackbody) อธบิ ายได้วา่ พลงั งานทไ่ี ดจ้ ากการแผ่รังสคี วามร้อนมคี ่าเพิม่ ขน้ึ
เมื่อวัตถุมอี ุณหภูมิสูงขน้ึ และวัตถุแผ่รังสีคลืน่ สั้นมากขน้ึ ทีอ่ ุณหภูมิสงู ขน้ึ และกรณกี ารแผร่ งั สคี วามร้อนของดวงอาทิตย์ (ที่
อณุ หภูมิประมาณ 5,800 K) รงั สสี ่วนใหญท่ ีแ่ ผ่ออกมาอย่ใู นยา่ นการมองเห็น สำหรับวตั ถุท่มี ีอุณหภูมิตำ่ กว่า 800 K รังสีความ
รอ้ นที่แผอ่ อกมาอยูใ่ นย่านอินฟราเรด (infrared radiation) ซึง่ มนษุ ยไ์ มส่ ามารถมองเห็นไดด้ ้วยตาเปล่า

คำถามที่ 1 (ข้อละ 2 คะแนน) คำตอบ
จากข้อมลู จงเขียนวงกลมล้อมรอบคำวา่ “ใช”่ หรือ “ไมใ่ ช่” ในแตล่ ะข้อความ ใช่ / ไม่ใช่
ใช่ / ไมใ่ ช่
ข้อ ข้อความ ใช่ / ไมใ่ ช่
1. กฎของแพลงค์ เปน็ กฎทีใ่ ชอ้ ธิบายสเปคตรมั การแผร่ งั สี ใช่ / ไมใ่ ช่
2. สมการทอ่ี ยูใ่ นรปู ฟงั กช์ นั ของอณุ หภูมแิ ละความยาวคลนื่ ใด ๆ
3. พลังงานทีไ่ ด้จากการแผ่รงั สีความรอ้ นมคี ่าเพมิ่ ขน้ึ เม่ือวัตถมุ ีอณุ หภูมิสูงต่ำลง
4. รงั สสี ว่ นใหญท่ ี่แผอ่ อกมาอยใู่ นยา่ นการมองไม่เห็น
(สมรรถนะ : การระบปุ ญั หาเชิงวิทยาศาสตร์)

คำถามที่ 2 (ข้อละ 1 คะแนน)
สำหรับวัตถุทมี่ อี ุณหภูมิต่ำกวา่ 800 K รังสีความร้อนท่แี ผอ่ อกมาอยใู่ นย่านใด

ก. อินฟราเรด
ข. แกมมา
ค. เอ็กซ์
ง. ไมโครเวฟ
(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชิงวทิ ยาศาสตร์)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / แนวคำตอบ คำตอบ
ใช่ / ไม่ใช่
คำถามท่ี 1 จากขอ้ มูล จงเขียนวงกลมล้อมรอบคำว่า “ใช่” หรือ “ไมใ่ ช่” ในแต่ละข้อความ
ขอ้ ขอ้ ความ ใช่ / ไม่ใช่
1. กฎของแพลงค์ เป็นกฎท่ใี ช้อธิบายสเปคตรมั การแผร่ ังสี ใช่ / ไมใ่ ช่

2. สมการทอ่ี ยู่ในรปู ฟงั กช์ นั ของอณุ หภมู แิ ละความยาวคลืน่ ใด ๆ ใช่ / ไมใ่ ช่

3. พลงั งานทไี่ ดจ้ ากการแผ่รังสีความรอ้ นมคี า่ เพม่ิ ขนึ้ เม่ือวัตถมุ ีอุณหภูมิสงู ต่ำลง

4. รังสีส่วนใหญท่ ีแ่ ผ่ออกมาอยใู่ นย่านการมองไม่เห็น

คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเตม็ 1 คะแนน คะแนนเตม็ 0 คะแนน
ตอบถูกทั้ง 4 ขอ้ : ใช่ / ใช่ ตอบถูก 3 ขอ้ ตอบถกู 2-0 ข้อ
ไม่ใช่/ /ไมใ่ ช่

คำถามที่ 2 (ข้อละ 1 คะแนน) คำตอบ
ขอ้ อนิ ฟราเรด

ก

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

3 ดีมาก

2 ดี

1 พอใช้

จ ปรับปรงุ

นกั เรียนระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถือว่า ผา่ น

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 16

ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ ฟิสกิ สอ์ ะตอม หน่วยยอ่ ยที่ 2

เรอ่ื ง การแผร่ ังสีของวัตถุดำ เวลา 2 ชัว่ โมง
วันท่ที ำการสอน ผ้สู อน นางสาววนี สั พทิ าคำ

นายพงศกร บญุ วงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
การแผ่รงั สขี องวัตถดุ ำ ( black-body radiation) 6. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกและคำนวณ

คือ การแผ่รงั สีแม่เหลก็ ไฟฟา้ ของวตั ถใุ นสภาวะสมดลุ พลังงานโฟตอน พลังงานจลน์ของ โฟโตอิเล็กตรอนและ

ทางอณุ หพลศาสตร์เมื่อเทยี บกบั ส่งิ แวดลอ้ ม ฟงั ก์ชนั งานของโลหะ

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน

การแผ่รงั สีของวตั ถุดำ - ใบงาน เรอ่ื ง อุปกรณน์ บั โฟตอน (ตามแนว PISA)

- ใบงาน เรอ่ื ง การแผ่รงั สีของวัตถุดำ

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 6. เครือ่ งมอื การสอนคิด

- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (White hat)

- ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขนั้ ของกจิ กรรม 8. สื่อ 9. วธิ ีวดั ผล

Do Now (3 นาที) - ใบงาน เรือ่ ง - ประเมินใบงาน

“จงบอกข้อดีของแสงอาทิตย์มาคนละ 1 อยา่ ง” อปุ กรณ์นับโฟ เรือ่ ง อปุ กรณ์

Purpose (2 นาที) ตอน (ตามแนว นับโฟตอน (ตาม

เราจะเรียนเรื่องการแผ่รังสีของวัตถุดำเพ่ือนักเรียนสามารถอธิบายการแผ่ PISA) แนว PISA)

รังสีของวตั ถดุ ำของวตั ถุต่างๆ ได้ถูกต้อง - ใบงาน เรื่อง - ประเมินใบงาน

Work mode (110 นาที) การแผ่รงั สขี อง เร่อื ง การแผ่รังสี

1. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรื่อง การแผ่รังสีของวัตถุดำโดยศึกษา วตั ถดุ ำ ของวตั ถุดำ

ใบความรู้เรื่อง การแผ่รังสีของวัตถุดำประกอบการสอน (พอเพียง 3 การมี - ใบความรู้ เร่อื ง

ภูมคิ ุ้มกันทด่ี ีในตัว) (15นาที) การแผร่ งั สีของ

2. นักเรียนตอบคำถาม “จงวิเคราะหว์ ่าเหตุใด การแผ่รังสีของวัตถุดำ วตั ถุดำจาก
จึงเป็นการแผ่รังสีแบบแม่เหล็กไฟฟ้า” (White hat) (คิด1 : คิดวิเคราะห์) บทเรยี นออนไลน์
(10 นาที)

3. นักเรียนแก้โจทย์ปัญหา โดยทำใบงาน เรอ่ื ง การแผ่รงั สีของวัตถุดำ

(คิด 5 : คิดแก้ปญั หา) (สมรรถนะ 6) (พอเพยี ง2 ความมเี หตุผล) (25 นาท)ี

4.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน/

โต้แยง้ ใบงานรว่ มกนั (คดิ 3 : คดิ วพิ ากษ์) (สมรรถนะ 3) (25 นาท)ี

5. นกั เรยี นพจิ ารณาไตร่ตรองหาคำตอบอย่างมีเหตผุ ล โดยทำใบงาน
เรื่อง อุปกรณ์นับโฟตอน (ตามแนว PISA) (คิด4 : คิดอย่างมีวิจารณญาณ)
(15 นาท)ี

6. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั เฉลยคำตอบในใบงาน เร่อื ง การแผร่ ังสีของ
วตั ถดุ ำ(ตามแนว PISA) (พอเพียง 7 สังคม) (10 นาที)

7. นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับเรื่องการแผ่
รังสขี องวัตถุดำพรอ้ มทง้ั รว่ มกนั ตอบคำถามดงั นี้ “ถ้าอุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์
ย่านความถีก่ ารแผ่รงั สีเปน็ ลักษณะใด ” (White hat) (10 นาท)ี

Reflective thinking (5 นาที)
- บอกในสง่ิ ทนี่ ักเรยี นเข้าใจจากการเรียนในวันนม้ี าคนละ 1 ข้อ (2 นาท)ี
- ข้อสอบ PAT2 2561 1 ข้อ (3 นาที)

ใบงาน การแผร่ งั สีของวัตถุดำ

1. รา่ งกายของมนุษยจ์ ะมีอุณหภูมปิ ระมาณ 35C ความเขม้ ของรังสีความร้อนทแ่ี ผอ่ อกมาจาก ผิวหนังจะมีคา่ สูงสุดที่
ความยาวคลื่นใด
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
2. นกั วิทยาศาสตรส์ ามารถประมาณอณุ หภูมโิ ดยการวดั สเปกตรมั การแผ่รังสีความร้อน จงประมาณ อณุ หภมู ิของวตั ถุ
ต่าง ๆ จากค่าความยาวคลน่ื ทีก่ ําหนดให้ดวงอาทิตย์ ( 500 nm ), เครอื่ งยนตไ์ อ พ่น ( 3 60 . m ), จักรวาล (1 06 .
mm
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
3. จงคาํ นวณหาความยาวคล่ืนของโฟตอนแสงสีแดงพลังงาน 2 00 .eV
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................

แบบประเมนิ แบบฝึกหดั
คำชแี้ จง :ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กำหนดตามตาราง

แนบท้ายแบบประเมินใบงานแบบฝกึ หดั

ลำดบั ชือ่ – สกลุ ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ที่ 2 ขอ้ ท่ี 3 รวม 15 สรปุ ผลการประเมนิ

ท่ี ผู้รบั บรกิ ารประเมิน คะแนน ผา่ น / ไม่ผา่ น

ลงชอื่ ……………………………………………….ผปู้ ระเมิน

……………./………………../……

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

10 - 15 ดมี าก

7 – 11 ดี

3 - 6 พอใช้

ต่ำกวา่ 2 ปรับปรุง

นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพท่ี ดี ข้ึนไปถือว่า ผ่าน

เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึกหัด/คำนวณ

เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน

คำตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มีคำตอบได้ - วิเคราะหแ์ ละ - วิเคราะห์และ
- ไมแ่ สดง เหมาะสม เหมาะสม ถกู ต้อง กำหนดตวั แปร กำหนดตวั แปร
วิธีทำ/แส - ตอบไม่ ได้ ได้
ดงวธิ ที ำ ถูกต้อง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา
เปน็ อ่ืน แสดงวิธที ำ เหมาะสม - เขียนสตู ร - เขียนสตู ร
เป็นขน้ั ตอน แสดงวธิ ีทำเป็น แสดงวธิ ีทำเป็น
- เขยี นสูตร ขัน้ ตอน ข้นั ตอน
- ตอบไม่ แสดงวิธที ำ
ถูกต้อง เป็นข้นั ตอน - มคี ำตอบ - มคี ำตอบ

- ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา
เหมาะสม เหมาะสม

- คำตอบ
ถูกตอ้ งตามหลัก
ทฤษฎี

ข้อสอบ PAT2 ปี 2561 1 ขอ้

1. คํานวณหาความยาวคลน่ื ของโฟตอนตอ่ ไปน้ี รงั สแี กมมาพลงั งาน 1 00 . MeV รงั สเี อกซพ์ ลงั งาน 1 00 . keV รงั สี
เหนือม่วงพลงั งาน 4 00 . eV รังสใี ตแ้ ดง 1 00 . eV

…………………………………….…………………………………….…………………………………….…………………………………….………………
…………………….…………………………………….…………………………………….…………………………………….………………………………
…….…………………………………….…………………………………….……………………………………......................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................

อปุ กรณน์ บั โฟตอน
คนส่วนใหญ่ยอมรับว่าแสงเป็นคลื่นพลังงาน แต่ไม่คุ้นเคยกับหลักการว่า แสงมีสมบัติเป็นอนุภาค อย่างไรก็

ตามเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของเราที่ทำงานโดยใชห้ ลักการของแสงมีสมบัติเป็นอนุภาคก็คอื เซนเซอร์ CMOS หรือ
CCD ซึ่งเป็นอุปกรณ์รับแสงที่ติดตั้งอยูใ่ นกล้องถ่ายรปู ดิจิตอล เซ็นเซอร์ประกอบด้วยแผงวงจรซึ่งติดตั้งเซลล์รับแสง

ขนาดเลก็ ๆ นบั ลา้ นเซลล์ซึง่ เรียงตอ่ กันเปน็ ตารางของพกิ เซล ยกตัวอยา่ งเชน่ กลอ้ งถ่ายรปู ขนาดความละเอยี ด 12 ล้าน
พิกเซล มีเซลล์รับแสงจำนวน 4,000 x 3,000 พกิ เซล เปน็ ต้น พิกเซลเหล่านท้ี ำหนา้ ท่ีเปน็ ถังรับโฟตอน เช่นเดียวกับถัง
รบั นำ้ ฝน วงจรอิเล็กทรอนิกส์จะทำหนา้ ที่จำนวนโฟตอนในแต่ละพิกเซล แล้วนำมาค่าทีไ่ ด้จากทกุ พกิ เซลมาเรียงต่อกัน

เป็นตารางภาพสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดังภาพที่ 2 อุปกรณ์ CCD ซึ่งใช้ติดตั้งอยู่บนกล้องโทรทรรศน์ ดาวเทียม และยาน
อวกาศ เพ่อื ใชถ้ า่ ยภาพโลกและวัตถุท้องฟา้ ก็ใชห้ ลกั การเชน่ เดยี วกนั น้ี

ส่วนประกอบของ CCD

คำถามท่ี 1 (ขอ้ ละ 2 คะแนน)

จากขอ้ มูล จงเขยี นวงกลมล้อมรอบคำวา่ “ใช่” หรอื “ไมใ่ ช”่ ในแต่ละข้อความ

ขอ้ ขอ้ ความ คำตอบ

1. เซนเซอร์ CMOS เรยี กอีกอยา่ งวา่ CCD ใช่ / ไม่ใช่

2. เซ็นเซอร์ประกอบดว้ ยแผงวงจรซ่งึ ติดตงั้ เซลล์รับแสงขนาดเล็กๆ ใช่ / ไมใ่ ช่

3. พกิ เซลทำหนา้ ทเี่ ป็นถงั รับโฟนอน ใช่ / ไม่ใช่

4. วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์จะนำฟกิ เซลมาตอ่ กนั เปนรปู สามเหล่ียม ใช่ / ไมใ่ ช่

(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชงิ วิทยาศาสตร์)

คำถามที่ 2 (ขอ้ ละ 1 คะแนน
จากรูปท่ี 2 อุปกรณ์ CCDไมไ่ ด้ตั้งตดิ ตั้งอยูท่ ี่ใด

ก. กลอ้ งโทรทรรศน์
ข. ดาวเทยี ม
ค. พนื้ ดิน
ง. ยานอวกาศ

(สมรรถนะ : การระบุปญั หาเชิงวิทยาศาสตร์)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / แนวคำตอบ คำตอบ
คำถามท่ี 1 จากขอ้ มูล จงเขยี นวงกลมล้อมรอบคำวา่ “ใช่” หรือ “ไมใ่ ช”่ ในแต่ละขอ้ ความ ใช่ / ไมใ่ ช่
ใช่ / ไมใ่ ช่
ข้อ ขอ้ ความ ใช่ / ไม่ใช่
1. เซนเซอร์ CMOS เรยี กอีกอยา่ งว่า CCD ใช่ / ไม่ใช่
2. เซน็ เซอรป์ ระกอบดว้ ยแผงวงจรซ่งึ ตดิ ตั้งเซลลร์ ับแสงขนาดเลก็ ๆ
3. พกิ เซลทำหน้าทเี่ ปน็ ถงั รบั โฟนอน
4. วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์จะนำฟกิ เซลมาต่อกันเปนรปู สามเหลยี่ ม

คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเตม็ 1 คะแนน คะแนนเตม็ 0 คะแนน
ตอบถกู 3 ขอ้ ตอบถูก 2-0 ขอ้
ตอบถูกทง้ั 4 ข้อ : ใช่ / ใช่ /
ไมใ่ ช่ / ไมใ่ ช่

คำถามท่ี 2 (ขอ้ ละ 1 คะแนน) คำตอบ
ข้อ
ค พ้นื ดิน

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

3 ดมี าก

2 ดี

1 พอใช้

จ ปรบั ปรุง

นักเรียนระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 17

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ฟสิ ิกสอ์ ะตอม หน่วยยอ่ ยที่ 2 พิทาคำ
เวลา 2 ชัว่ โมง บุญวงค์
เร่ือง ปรากฎการณโ์ ฟโตอิเลก็ ทริก ผู้สอน นางสาววนี สั
วันที่ทำการสอน
นายพงศกร

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริกเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขน้ึ 6. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกและคำนวณ
เมื่อแสงที่อยู่ในบางช่วงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าตก
พลังงานโฟตอน พลังงานจลน์ของโฟโตอิเล็กตรอนและ
กระทบ โลหะแล้วมีอิเลก็ ตรอนหลุดจากผวิ โลหะ
ฟังก์ชันงานของโลหะ

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
ปรากฎการณโ์ ฟโตอิเล็กทรกิ
- ใบงาน KWL เร่อื ง ปรากฎการณโ์ ฟโตอิเลก็ ทริก
- ใบงาน เรือ่ ง ปรากฎการณโ์ ฟโตอิเลก็ ทริก

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 6. เครอ่ื งมอื การสอนคดิ

- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (Yellow hat)

- ความสามารถในการแก้ปญั หา - KWL

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ข้นั ของกจิ กรรม 8. สือ่ 9. วธิ ีวดั ผล

Do Now (3 นาที) - ใบงาน KWL - ประเมินใบงาน

“ บอกปรากฎการณท์ างธรรมชาติมาคนละ 1 อย่าง” เรื่อง KWLเรอื่ ง

Purpose (2 นาที) ปรากฎการณ์โฟ ปรากฎการณโ์ ฟ

เราจะเรียนเรื่อง ปรากฎการณ์โฟโตอิเลก็ ทรกิ เพื่อนักเรียนสามารถอธบิ าย โตอิเลก็ ทริก โตอิเลก็ ทริก

เก่ียวกับปรากฎการณ์ระดบั อะตอมได้ - ใบงาน เร่อื ง - ประเมนิ ใบงาน

Work mode (110 นาที) ปรากฎการณ์โฟ เรื่อง

1. นักเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับ ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริก บันทึกลงใน โตอเิ ลก็ ทรกิ ปรากฎการณโ์ ฟ

ใบงาน KWL เร่อื ง ปรากฎการณโ์ ฟโตอเิ ล็กทริก (ชอ่ ง K-chart) (5 นาท)ี - ส่อื Power โตอิเล็กทรกิ

2. นักเรียนสงสัยอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับปรากฎการณ์โฟโตอิ Point เรอื่ ง
ปรากฎการณโ์ ฟ
เลก็ ทรกิ บนั ทกึ ลงในใบงาน KWL (ชอ่ ง W-chart) (10 นาที)
3. นักเรียนดูคลิปวีดโี อ เร่อื ง ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริกพร้อมตอบ โตอเิ ล็กทริกจาก
คำถามดังนี้ “จากการดูคลิปนักเรียนคิดว่าปรากฎการณ์คอมตันกับ บทเรยี นออนไลน์

ปรากฎการณ์โฟโตอิเลก็ ทริกแตกตา่ งกนั อยา่ งไร ” (20 นาท)ี

4. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรื่อง ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริก เพื่อเพ่ิม

ความเข้าใจ โดยใช้สอ่ื Power point ประกอบการสอน ( 15 นาท)ี

5. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริก และ

เขียนสิ่งที่นักเรียนได้รับจากใบความรู้ บันทึกลงใบงาน KWL (ช่อง L-

chart) (พอเพียง3 การมภี ูมคิ ุม้ กันท่ีดใี นตัว) (15 นาท)ี

6. นักเรียน (ตัวแทนจากการสุ่ม) ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน - คลิปวิดีโอ เรื่อง

KWL เรอ่ื ง ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทรกิ หนา้ ช้ันเรียนและอภปิ รายผลงาน/ ปรากฎการณโ์ ฟ
โตอเิ ลก็ ทริก
โต้แย้งร่วมกนั (คดิ 3:คิดวพิ ากษ)์ (สมรรถนะ 3) (15 นาท)ี
7. นักเรียนทำใบงาน เรอ่ื ง ปรากฎการณโ์ ฟโตอเิ ลก็ ทริก (15 นาที) https://www.yo
8. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยใบงาน ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริก utube.com/wat
ch?v=WaHg7DT
(15 นาที) FO_o
9. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับ

ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริก พร้อมทั้งร่วมกันตอบคำถามดังนี้ “ใน

ชีวิตประจำวันปรากฎการณ์โฟโตอิเลก็ ทริกนำไปสร้างนวตั กรรมอะไรได้บ้าง

?” ( Yellow hat) (สมรรถนะ 4) (10 นาท)ี

Reflective thinking (5 นาท)ี

1. บอกในส่ิงที่นักเรยี นไดร้ ับมาคนละ 1 ข้อ (2 นาที)

2. ขอ้ สอบ pat3 ปี 62 2 ข้อ (3 นาที)