เร่ือง ปรากฏการณ์คอมป์ตัน (คิด9 : คิดเชิงมโนทัศน์)(สมรรถนะ 4)(25
นาที)
3.นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน/
โต้แยง้ ร่วมกนั (คดิ 3 : คิดวพิ ากษ)์ (สมรรถนะ 3) (25 นาท)ี
4. นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง ปรากฏการณ์คอมปต์ นั (30 นาที)
5. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เก่ียวกับเรื่อง - วิดีทัศน์
ปรากฏการณ์คอมป์ตัน พร้อมท้ังร่วมกันตอบคาถามดังนี้ “ถ้ารังสีเอกซ์ ประกอบการสอน
ไม่เกิดการกระเจิงในอะตอม ปรากฏการณ์คอมป์ตันจะเป็นอย่างไรบ้าง ” เรื่อง
ปรากฏการณ์
(White hat) (15 นาที) คอมป์ตัน
Reflective thinking (5 นาที)
- บอกในส่ิงท่ีนกั เรยี นได้รบั (2 นาที) https://www.yo
- ข้อสอบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล 2 ข้อ (3 นาที) utube.com/wat
ch?v=xpsXxgw2
-94
แบบประเมินใบงาน Mind Mapping
แบบประเมินใบงาน Mind Mapping
คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กาหนดตาม
ตาราง
แนบทา้ ยแบบระเมินใบงาน Mind Mapping
ลาดบั ชื่อ-สกลุ รปู แบบ เน้ือหา นาเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผล
ที่ ของผู้รับการ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมนิ
(4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผ่าน/ไม่ผา่ น
ประเมิน
ลงชื่อ…………………………………………..ผปู้ ระเมิน
…….……/……………/………
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 – 20 ดมี าก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
นกั เรยี นระดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผา่ น
ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Mind Mapping
เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
รปู แบบ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)
- มีหวั ข้อทีช่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ทชี่ ดั เจน
เนอื้ หา - เขยี นอยู่ในกรอบ - มีหวั ข้อท่ชี ัดเจน - มีหวั ขอ้ ทชี่ ัดเจน - เขยี นอยู่ในกรอบ
- ใช้คาสาคญั ตรงประเด็น
การนาเสนอ -ใชส้ ัญลกั ษณห์ รอื ภาพสอื่ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอยูใ่ นกรอบ
ความหมาย
ความ - ใช้สีสนั ทวั่ แผ่น - ใช้คาสาคญั ตรงประเด็น - ใชค้ าสาคัญตรงประเด็น
สวยงาม - เนอื้ หาครบถ้วนตามสาระท่ี
การตรง กาหนด 100% -ใช้สญั ลักษณ์หรือภาพส่ือ
ตอ่ เวลา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั
ภาษา 100% ความหมาย
- ลาดับหัวข้อเนือ้ หาชดั เจน
- มีการสรุปได้อย่างสมเหตุ -เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เนอื้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
สมผล 100% กาหนด 80-99% กาหนด 60-79% กาหนดตา่ กวา่ 59%
- พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชัด - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลัก - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลัก - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตา่ กวา่ 59%
ตามอกั ขระ100% - ลาดับหวั ข้อเนื้อหาชัดเจน - มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ งสมเหตุ - มีการสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล
-บุคลิกภาพดีและมีความ - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง สมผล 60-79% ต่ากว่า59%
มั่นใจ สมเหตสุ มผล 80-99%
- มกี ารใช้ส่อื ประกอบการ - พูดชัดเจนเสยี งดังฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนาเสนอได้
นาเสนอ - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง -ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง ตาม -ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ ง
- ความพร้อมในการนาเสนอ ตามอักขระ อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระต่ากวา่ 59%
- ใชส้ สี ันสวยงาม 80 -99% - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
- มคี วามสะอาด - บุคลิกภาพดี
- มีความคดิ สร้างสรรค์ - ความพรอ้ มในการนาเสนอ
-ความเป็นระเบยี บอ่านงา่ ย ไดบ้ างสว่ น
- สง่ ผลงานครบถ้วน
ตรงตามเวลาที่กาหนด - ใช้สสี นั สวยงาม -ใช้สสี ันสวยงามและมี - ใช้สีสนั สวยงามหรอื เป็นไป
- มคี วามสะอาด ความสะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอย่างหนง่ึ
- มคี วามคดิ สร้างสรรค์
- ส่งผลงานครบถ้วน - สง่ ผลงานครบถ้วน - สง่ ผลงานครบถว้ น
แตช่ า้ กวา่ เวลาทก่ี าหนด แตช่ า้ กวา่ เวลาท่ีกาหนด แต่ชา้ กว่าเวลาทีก่ าหนด
5 นาที 10 นาที 15 นาที
ใบงาน ปรากฏการณ์คอมปต์ ัน
1.
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
2.
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
3.
............................................................................................................................................... .........................................
......................................................................................... ...............................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
แบบประเมนิ แบบฝกึ หดั
คาชแี้ จง :ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กาหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝึกหัด
ลาดับ ชื่อ – สกลุ ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ที่ 2 ขอ้ ที่ 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ
ท่ี ผูร้ ับบริการประเมิน คะแนน ผ่าน / ไม่ผ่าน
ลงชือ่ ……………………………………………….ผ้ปู ระเมิน
……………./………………../……
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
10 - 15 ดีมาก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ต่ากวา่ 2 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพท่ี ดี ขึ้นไปถือว่า ผา่ น
เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหัด/คานวณ
เกณฑ์การให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คาตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มคี าตอบได้ - วิเคราะห์และ - วเิ คราะหแ์ ละ
เหมาะสม เหมาะสม ถูกตอ้ ง กาหนดตัวแปรได้ กาหนดตัวแปรได้
- ไมแ่ สดงวิธี
ทา/แส - ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวิธี - เขยี นสตู รแสดงวิธี
แสดงวธิ ที าเป็น เหมาะสม ทาเปน็ ขน้ั ตอน ทาเป็นขัน้ ตอน
ดงวิธที าเป็น ขน้ั ตอน
อนื่ - เขยี นสตู รแสดง - มคี าตอบ - มคี าตอบ
- ตอบไมถ่ กู ต้อง วธิ ีทาเปน็ ขั้นตอน
- ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คาตอบถูกตอ้ ง
ตามหลักทฤษฎี
ขอ้ สอบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล 2 ข้อ
1. ปรากฏการณค์ อมตนั ป์ ใชร้ งั สอี ะไรในการทดลอง
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
2. จงพิสจู นส์ มมการ ปรากฏการณค์ อมตนั ป์
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 24
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ฟิสกิ สอ์ ะตอม หนว่ ยย่อยที่ 2
เรื่อง สมมติฐานของเดอบรอยล์ เวลา 2 ช่ัวโมง
วนั ท่ที าการสอน ผสู้ อน นางสาววนี สั พิทาคา
นายพงศกร บญุ วงค์
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรียนรู้
เดอบรอยล์ ไดเ้ สนอแนวความคดิ วา่ สารทกุ ชนิดนอกจาก 7. อธิบายทวภิ าวะของคลื่นและอนภุ าค รวมท้ังอธิบาย และ
จะเป็นอนภุ าคแลว้ ยังมสี มบตั ิความเป็นคลืน่ อยู่ในตัวด้วย คานวณความยาวคล่ืนเดอบรอยล์
และสามารถยกตวั อย่างของสารท่ีแสดงสมบตั เิ ปน็ คลนื่ ที่
มีระดับพลังงานเป็นชว่ งๆ (quantized energy level)
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
สมมตฐิ านของเดอบรอยล์ - ใบงาน Mind Mapping เร่ือง สมมติฐานของเดอบรอยล์
- ใบงาน สมมติฐานของเดอบรอยล์
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 6. เคร่ืองมือการสอนคิด
- ความสามารถในการคดิ - Six Thinking hats (White hat)
- ความสามารถในการแก้ปัญหา - Mind Mapping
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรียนรู้
7. ข้ันของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธวี ัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Mind - ประเมนิ ใบงาน Mind
บอกชื่อเครอ่ื งแต่งกายในชีวติ ประจาวนั คนละ 1 ชนดิ Mapping เรื่อง Mapping เร่อื ง
Purpose (2 นาที) สมมตฐิ านของเด ส ม ม ติ ฐ า น ข อ ง เ ด อ
เราจะเรยี น เรอื่ ง สมมติฐานของเดอบรอยล์ เพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถอธบิ าย อบรอยล์ บรอยล์
และคานวณ สมมตฐิ านของเดอบรอยล์ได้ถูกต้อง - ใบความรู้ - ประเมิน ใบงาน
Work mode (110 นาที) สมมตฐิ านของเด สมมติฐานของเดอบ
อบรอยล์ รอยล์
1. นักเรียนฟังครูอธบิ าย เร่ือง สมมตฐิ านของอนภุ าคต่าง ๆ โดย
ศกึ ษาใบความรูเ้ ร่ือง สมมตฐิ านของเดอบรอยล์ประกอบการสอน
(พอเพยี ง3 : การมภี มู ิคุ้มกนั ท่ีดใี นตัว) (15 นาที)
2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5-6 ทากิจกรรมกลุ่ม Brainstorming โดยสืบค้น
ข้อมูลการทดลองโดยยิงอิเล็กตรอน จากใบความรู้ ส่ือ internet แล้วเขียน
สรุปความรู้รูปแบบแผนผังความคิดลงในใบงาน Mind mapping เรื่อง - ใบงาน
สมมติฐานของเดอบรอยล์ (คิด9 : คิดเชงิ มโนทศั น)์ (สมรรถนะ 4) (25 นาท)ี สมมติฐานของเด
อบรอยล์
3.นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียนและอภิปรายผลงาน/ - วิดที ัศน์
โต้แย้งรว่ มกัน (คดิ 3 : คิดวิพากษ)์ (สมรรถนะ 3)(25 นาที) ประกอบการสอน
4. นกั เรยี นทาใบงาน เรือ่ ง สมมติฐานของเดอบรอยล์ (30 นาที) เรื่อง สมมตฐิ าน
5. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เก่ียวกับเร่ือง ของเดอบรอยล์
สมมติฐานของเดอบรอยล์ พร้อมท้ังร่วมกันตอบคาถามดังน้ี “ถ้าใช้ https://www.yo
โปรตอนแทนอิเล็กตรอน สมมติฐานของเดอบรอยล์จะเป็นอย่างไรบ้าง ” utube.com/wat
ch?v=pSWdRsTI
(White hat) (15 นาท)ี Jao
Reflective thinking (5 นาที)
- บอกในสง่ิ ท่นี ักเรยี นเขา้ ใจมาละ 1 ข้อ (2 นาท)ี
- ข้อสอบ PAT2 1 ข้อ (3 นาที) )
แบบประเมนิ ใบงาน Mind Mapping
แบบประเมนิ ใบงาน Mind Mapping
คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กาหนดตาม
ตาราง
แนบทา้ ยแบบระเมินใบงาน Mind Mapping
ลาดบั ชือ่ -สกลุ รปู แบบ เนอื้ หา นาเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผล
ที่ ของผู้รบั การ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผ่าน/ไมผ่ ่าน
ประเมิน
ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ประเมิน
…….……/……………/………
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 – 20 ดีมาก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ตา่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
นักเรยี นระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถือวา่ ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Mind Mapping
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
รปู แบบ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
- มหี วั ข้อทช่ี ดั เจน - มหี วั ขอ้ ทช่ี ดั เจน
เน้อื หา - เขยี นอย่ใู นกรอบ - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน - มีหวั ข้อทีช่ ดั เจน - เขียนอยูใ่ นกรอบ
- ใช้คาสาคญั ตรงประเดน็
การนาเสนอ -ใชส้ ญั ลกั ษณ์หรอื ภาพสือ่ - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ
ความหมาย
ความ - ใช้สีสนั ทั่วแผ่น - ใชค้ าสาคญั ตรงประเด็น - ใช้คาสาคัญตรงประเด็น
สวยงาม - เนอ้ื หาครบถ้วนตามสาระท่ี
การตรง กาหนด 100% -ใชส้ ัญลกั ษณห์ รอื ภาพสอ่ื
ตอ่ เวลา - เขยี นถกู ต้องตามหลัก
ภาษา 100% ความหมาย
- ลาดบั หวั ขอ้ เนื้อหาชดั เจน
- มกี ารสรุปได้อยา่ งสมเหตุ -เน้ือหาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนือ้ หาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เน้ือหาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
สมผล 100% กาหนด 80-99% กาหนด 60-79% กาหนดตา่ กว่า 59%
- พูดชดั เจนเสียงดังฟังชดั - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลัก - เขียนถกู ต้องตามหลกั
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ากวา่ 59%
ตามอกั ขระ100% - ลาดับหัวขอ้ เน้อื หาชดั เจน - มีการสรปุ ได้อยา่ งสมเหตุ - มีการสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล
-บคุ ลิกภาพดีและมีความ - มีการสรุปไดอ้ ย่าง สมผล 60-79% ต่ากว่า59%
มัน่ ใจ สมเหตสุ มผล 80-99%
- มกี ารใชส้ ือ่ ประกอบการ - พูดชดั เจนเสียงดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นาเสนอได้
นาเสนอ - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง -ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง ตาม -ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
- ความพรอ้ มในการนาเสนอ ตามอกั ขระ อักขระ60-79% ตามอักขระตา่ กว่า 59%
- ใช้สีสันสวยงาม 80 -99% - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
- มคี วามสะอาด - บุคลิกภาพดี
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - ความพรอ้ มในการนาเสนอ
-ความเปน็ ระเบยี บอ่านงา่ ย ได้บางสว่ น
- ส่งผลงานครบถว้ น
ตรงตามเวลาทีก่ าหนด - ใช้สสี ันสวยงาม -ใชส้ สี ันสวยงามและมี - ใชส้ สี ันสวยงามหรอื เป็นไป
- มคี วามสะอาด ความสะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ งหนึ่ง
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
- ส่งผลงานครบถว้ น - ส่งผลงานครบถว้ น - ส่งผลงานครบถ้วน
แตช่ ้ากว่าเวลาที่กาหนด แต่ชา้ กวา่ เวลาทก่ี าหนด แต่ช้ากว่าเวลาทีก่ าหนด
5 นาที 10 นาที 15 นาที
ใบงาน สมมติฐานของเดอบรอยล์
1. จงแสดงใหเ้ หน็ ว่าสมมตฐิ านของ เดอ บรอยล์ สนับสนนุ สมมติฐานของบอร์ที่กล่าวถงึ อเิ ลก็ ตรอนทีโ่ คจรรอบ
นวิ เคลยี สของไฮโดรเจนโดยไมแ่ ผ่คลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
...................................................................................................................................................................... ..................
2. จงเปรียบเทียบความยาวคลนื่ เดอ บรอยล์ ของอเิ ล็กตรอนและนิวเคลยี สของไฮโดรเจนท่ีถกู เร่งดว้ ยความตา่ งศกั ย์
500 โวลต์เทา่ กัน ( x 10-11 เมตร x 10-10 เมตร) กาหนด มวลของนิวเคลียสของไฮโดรเจนเทา่ กับ 1.67 x 10-27
กิโลกรัม
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
....................................................................................................................................................................... .................
3. ความยาวคลื่น เดอ บรอยล์ ของลกู บอลมวล 0.50 กโิ ลกรมั เคลอ่ื นทีด่ ว้ ยอตั ราเร็ว 20 เมตรต่อวินาที ( x 10-34
เมตร)................................................................................................................................ ..................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
แบบประเมนิ แบบฝึกหดั
คาชแ้ี จง :ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กาหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝึกหัด
ลาดับ ชื่อ – สกลุ ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ท่ี 2 ข้อที่ 3 รวม 15 สรปุ ผลการประเมนิ
ท่ี ผูร้ ับบริการประเมิน คะแนน ผา่ น / ไม่ผ่าน
ลงชือ่ ……………………………………………….ผูป้ ระเมิน
……………./………………../……
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
10 - 15 ดมี าก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ต่ากวา่ 2 ปรบั ปรุง
นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพที่ ดี ข้นึ ไปถือว่า ผา่ น
เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั /คานวณ
เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คาตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มคี าตอบได้ - วิเคราะห์และ - วเิ คราะหแ์ ละ
เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กาหนดตัวแปรได้ กาหนดตัวแปรได้
- ไมแ่ สดงวิธี
ทา/แส - ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง - เขียนสูตร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวิธี - เขยี นสตู รแสดงวิธี
แสดงวธิ ที าเปน็ เหมาะสม ทาเป็นข้ันตอน ทาเป็นขัน้ ตอน
ดงวิธที าเป็น ขน้ั ตอน
อนื่ - เขยี นสตู รแสดง - มคี าตอบ - มคี าตอบ
- ตอบไมถ่ ูกต้อง วธิ ีทาเปน็ ขัน้ ตอน
- ใช้ภาษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คาตอบถูกตอ้ ง
ตามหลักทฤษฎี
ขอ้ สอบ PAT2 ปี 2560
1. จงคานวณ 17.1 ความยาวคล่ืนเดอบรอยลข์ องลกู บอลมวล 0.50 กโิ ลกรมั เคลื่อนท่ีดว้ ยอตั ราเร็ว 20 เมตรต่อวนิ าที
(10 x 10−34เมตร)
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 25
ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ฟิสิกสอ์ ะตอม หน่วยย่อยท่ี 3
เรื่อง หลักควำมไม่แนน่ อนและโครงสรำ้ งอะตอม เวลา 2 ชวั่ โมง
วันท่ีทาการสอน ผสู้ อน นำงสำววนี สั พิทำคำ
นำยพงศกร บุญวงค์
1. สาระสาคัญ 2. ผลการเรียนรู้
คล่ืนที่มีตำแหน่งแน่นอนมีแต่เพียงพวกท่ีเกำะกลุ่มกัน ข้อ 8 อธิบำยโครงสร้ำงอะตอม ตำมทฤษฎีกลศำสตร์
เป็นจุด ๆ เดียว และคล่ืนชนิดนั้นก็มีควำมยำวคลื่นท่ีไม่ ควอนตมั
แน่นอน ในทำงกลับกัน คล่ืนท่ีมีควำมยำวคล่ืนแน่นอนมี
เพียงพวกที่มีคำบกำรแกว่งตัวปกติแบบไม่จำกัดในอวกำศ
และคล่ืนชนดิ นี้กไ็ มส่ ำมำรถระบตุ ำแหน่งที่แน่นอนได้
โครงสร้ำงของอะตอม ตรงใจกลำงหรือนิวเคลียสของ
อะตอมมีโปรตอน(ซ่ึงมีประจุเป็นบวก) และนิวตรอน(ซ่ึงไม่
มีประจุ) อนุภำคที่มีประจุเป็นลบเรียกว่ำอิเล็กตรอน ซึ่ง
โคจรรอบนิวเคลียสในแตล่ ะชั้นหรือเชลล์
3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
หลกั ควำมไมแ่ นน่ อนและโครงสร้ำงอะตอม - ใบงำน KWL เร่ือง หลักควำมไม่แน่นอนและ
โครงสรำ้ งอะตอม
- ใบงำน เร่ือง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำง
อะตอม
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 6. เครอื่ งมือการสอนคดิ
- ควำมสำมำรถในกำรคิด - Six Thinking hats (Yellow hat)
- ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี - KWL
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขั้นของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธวี ัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงำน KWL - ประเมินใบงำน KWL
“ บอกสัตว์ปำ่ ทน่ี ักเรียนร้มู ำคนละ 1 ชนิด ” เร่อื ง หลักควำมไม่ เรือ่ ง หลักควำมไม่แนน่ อน
Purpose (2 นาที) แนน่ อนและ และโครงสรำ้ งอะตอม
เรำจะเรียนเร่ือง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำงอะตอม เพื่อนักเรียน โครงสรำ้ งอะตอม - ประเมนิ ใบงำน เร่ือง
สำมำรถอธิบำยเกยี่ วกับกลศำสตรค์ วอนตมั ได้ - ใบงำน เรือ่ ง หลกั ควำมไมแ่ น่นอนและ
Work mode (110 นาที) หลักควำมไม่ โครงสรำ้ งอะตอม
แน่นอนและ
โครงสรำ้ งอะตอม
1. นักเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับ หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำงอะตอม - ส่ือ Power
บันทึกลงในใบงำน KWL เรื่อง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำงอะตอม Point เรอื่ ง หลกั
(ช่อง K-chart) (5 นำที) ควำมไม่แนน่ อน
2. นักเรยี นสงสัยอยำกรู้อะไรเพิ่มเติมเกีย่ วกับหลักควำมไมแ่ นน่ อนและ และโครงสรำ้ ง
โครงสรำ้ งอะตอม บันทึกลงในใบงำน KWL (ช่อง W-chart) (10 นำท)ี อะตอมจำก
3. นักเรียนดูคลิปวีดีโอ เรื่อง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำง บทเรยี นออนไลน์
อะตอมพร้อมตอบคำถำมดังน้ี “จำกกำรดูคลิปนักเรียนคิดว่ำทฤษฎีอะตอม
ของโบว์กับหลักควำมไมแ่ นน่ อนแตกตำ่ งกนั อย่ำงไร ” (15 นำท)ี
4. นักเรียนฟังครูอธิบำย เร่ือง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำง
อะตอม เพื่อเพิ่มควำมเข้ำใจ โดยใช้ส่ือ Power point ประกอบกำรสอน
(25 นำที) - คลิปวดิ ีโอ เรอ่ื ง
5. นักเรียนศึกษำใบควำมรู้ เรื่อง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำง หลักควำมไม่
อะตอม และเขียนสิ่งที่นักเรียนได้รับจำกใบควำมรู้ บันทึกลงใบงำน KWL แนน่ อนและ
(ช่อง L- chart) (พอเพียง3 : กำรมีภูมิคุ้มกนั ที่ดใี นตวั ) (15 นำท)ี โครงสรำ้ งอะตอม
6. นักเรียน (ตัวแทนจำกกำรสุ่ม) ออกมำนำเสนอผลงำนจำกใบงำน https://www.yo
KWL เรื่อง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำงอะตอม หน้ำช้ันเรียนและ utube.com/wat
ch?v=WYmlIVnl
อภปิ รำยผลงำน/โต้แย้งรว่ มกัน (คิด3 : คดิ วพิ ำกษ์) (สมรรถนะ 3) (15 นำที) eDc
7. นักเรียนทำใบงำน เรื่อง หลักควำมไม่แน่นอนและโครงสร้ำงอะตอม
(10 นำท)ี
8. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยใบงำน หลักควำมไม่แน่นอนและ
โครงสร้ำงอะตอม (15 นำท)ี
9. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงควำมคิด เก่ียวกับหลักควำมไม่
แน่นอนและโครงสร้ำงอะตอม พร้อมทั้งร่วมกันตอบคำถำมดังน้ี หลักควำม
ไม่แน่นอนและโครงสร้ำงอะตอมมีผลดีต่อกลศำสตร์ควอนตัมอย่ำงไร
(Yellow hat) (10 นำท)ี
Reflective thinking (5 นาที)
- บอกในสง่ิ ทน่ี ักเรียนไดเ้ รียนรมู้ ำคนละ 1 ขอ้ (2 นำที)
- ข้อสอบ O-NET ปี 2560 2 ขอ้ (3 นำที)
ใบงาน KWL เร่อื ง หลกั ความไมแ่ น่นอนและโครงสร้างอะตอม
คาชี้แจง : นกั เรยี นบันทึกควำมรูท้ ่ีได้ ลงในตำรำงต่อไปน้ี พรอ้ มทงั้ เขียนลงในชอ่ งว่ำงท่ีกำหนดให้
K (นักเรียนรอู้ ะไร) W (นักเรยี นตอ้ งการรอู้ ะไร) L (นกั เรยี นไดร้ ู้อะไร)
แบบประเมนิ ใบงาน KWL
คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงำนใบงำนนกั เรียน โดยกำรประเมนิ คะแนนลงในช่องรำยกำรประเมินกำหนดตำม
ตำรำง
แนบท้ำยแบบระเมนิ ใบงำน KWL
ลาดับ ชื่อ-สกลุ รูปแบบ เนอื้ หา นาเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรุปผล
ท่ี ของผรู้ ับการ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผา่ น/ไม่ผา่ น
ประเมิน
ลงชอื่ …………………………………………..ผปู้ ระเมนิ
…….……/……………/…………
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ
18 – 20 ดีมำก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนระดับคณุ ภำพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่ำ ผา่
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน KWL
เกณฑ์การ ระดับการประเมนิ
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ความคดิ เหน็ - แสดงควำมคิดเหน็ ใน - แสดงควำมคดิ เห็นใน
ชอ่ ง K ได้ 10 ข้อคำถำม - แสดงควำมคดิ เหน็ ใน -แสดงควำมคิดเห็นในช่อง ช่อง K ได้ น้อยกว่ำ 7 ข้อ
เน้ือหา ขึ้นไป - แสดงควำมคิดเห็นใน
- แสดงควำมคดิ เหน็ ใน ชอ่ ง K ได้ 9-10 ข้อ K ได้ 7-8 ข้อคำถำม ช่อง W ได้ น้อยกวำ่ 7 ข้อ
การนาเสนอ ชอ่ งW ได้ 10 ข้อคำถำม - แสดงควำมคดิ เห็นใน
ขึน้ ไป คำถำม - แสดงควำมคิดเห็นใน ช่อง L ได้ นอ้ ยกว่ำ 7 ข้อ
- แสดงควำมคิดเหน็ ใน
ชอ่ ง L ได้ 10 ข้อคำถำม - แสดงควำมคิดเห็นใน ช่อง W ได้ 7-8 ข้อคำถำม - เน้อื หำถูกต้องตำมสำระ
ขึน้ ไป ท่กี ำหนดตำ่ วำ่ 59%
- เนอื้ หำครบถ้วนตำม ช่อง W ได้ 9-10 ข้อ - แสดงควำมคิดเหน็ ใน - เขยี นถูกต้องตำมหลัก
สำระทีก่ ำหนด 100% ภำษำต่ำว่ำ 59%
- เขยี นถูกต้องตำมหลกั คำถำม ช่อง L ได้ 7-8 ข้อคำถำม - มกี ำรสรปุ ไม่สมเหตุสม
ภำษำ 100% ผลตำ่ วำ่ 59%
- ลำดบั หัวข้อเน้ือหำ - แสดงควำมคดิ เหน็ ใน
ชดั เจน - สำมำรถพดู นำเสนอได้
- มกี ำรสรปุ ได้อย่ำงสมเหตุ ช่อง L ได้ 9-10 ข้อ -ใชภ้ ำษำทำงกำรถกู ต้อง
สมผล 100% ตำมอักขระต่ำกวำ่ 59%
- พูดชัดเจนเสียงดงั ฟังชัด คำถำม - บคุ ลกิ ภำพเหมำะสม
- ใช้ภำษำทำงกำรถูกต้อง
ตำมอักขระ100% - เนือ้ หำถกู ต้องตำม - เน้ือหำถูกต้องตำมสำระ
-บคุ ลกิ ภำพดีและมีควำม
ม่นั ใจ สำระทก่ี ำหนด 80-99% ท่กี ำหนด 60-79%
- มกี ำรใชส้ อ่ื ประกอบกำร
นำเสนอ - เขยี นถกู ต้องตำมหลกั - เขยี นถกู ต้องตำมหลกั
- ควำมพรอ้ มในกำร
นำเสนอ ภำษำ 80-99% ภำษำ 60-79%
- ลำดบั หวั ขอ้ เนื้อหำ - มีกำรสรุปได้อยำ่ งสมเหตุ
ชดั เจน สมผล 60-79%
- มีกำรสรุปได้อย่ำง
สมเหตุสมผล 80-99%c
- พดู ชดั เจนเสียงดังฟงั - กำรพดู เหมำะสม
ชัด -ใชภ้ ำษำทำงกำรถกู ต้อง
- ใช้ภำษำทำงกำร ตำมอักขระ60-79%
ถูกต้องตำมอกั ขระ - บุคลิกภำพเหมำะสม
80 -99%
- บุคลกิ ภำพดี
- ควำมพร้อมในกำร
นำเสนอได้บำงส่วน
ความ - ใช้สสี ันสวยงำม - ใชส้ สี นั สวยงำม -ใช้สสี ันสวยงำมและมี - ใช้สสี ันสวยงำมหรอื
สวยงาม - มีควำมสะอำด - มีควำมสะอำด ควำมสะอำด เป็นไปตำมเกณฑอ์ ย่ำงใด
- มคี วำมคิดสร้ำงสรรค์ - มีควำมคดิ สร้ำงสรรค์ อยำ่ งหนึ่ง
การตรง -ควำมเปน็ ระเบยี บอำ่ น
ตอ่ เวลา งำ่ ย - สง่ ผลงำนครบถว้ น - ส่งผลงำนครบถ้วน - ส่งผลงำนครบถ้วน
- ส่งผลงำนครบถ้วน แตช่ ำ้ กวำ่ เวลำที่กำหนด แตช่ ำ้ กว่ำเวลำที่กำหนด แต่ชำ้ กว่ำเวลำทก่ี ำหนด
ตรงตำมเวลำท่ีกำหนด 5 นำที 10 นำที 15 นำที
ใบงาน หลกั ความไมแ่ น่นอนและโครงสร้างอะตอม
1. หลกั ความไม่แนน่ อนของไฮเซนเบอรก์ กลา่ วว่า ผลคูณระหว่างความไมแ่ น่นอนทางตาแหน่งกบั ความไม่แนน่ อนทางโมเมนตมั
จะมีคา่ อยา่ งไร
............................................................................................................................. ............................................................................
................................................................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ ....................................................................... ......................
2. หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบอร์ก หมายความว่า
................................................................................................................... ......................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
3. อเิ ลก็ ตรอนอนุภาคหนึ่งมพี ลังงานจลนเ์ ทา่ กับ 4 อเิ ล็กตรอนโวลต์ ถกู จบั ไวด้ ้วยโมเลกลุ ที่เป็นไอออน ถา้ อเิ ล็กตรอนหลังถกู จบั
อยใู่ นระดบั พลังงาน –4 อิเล็กตรอนโวลต์ ในกระบวนการน้ีจะมรี ังสีความยาวคล่นื เท่าใดปล่อยออกมา (ใหค้ าตอบเปน็ จานวน
เต็มของนาโนเมตร)
.............................................................................................................................................................. ...........................................
....................................................................................... ..................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................................................................ .............................
..................................................................................................... ....................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
................................................................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ .............................................................................................
แบบประเมนิ แบบฝึกหดั
คาชแี้ จง :ให้ผู้สอนประเมินผลงำนใบงำนนักเรียนโดยกำรประเมนิ คะแนนลงในช่องรำยกำรประเมนิ กำหนดตำมตำรำงแนบท้ำย
แบบประเมินใบงำนแบบฝึกหัด
ลาดับ ชื่อ – สกลุ ของ ขอ้ ท่ี 1 ขอ้ ท่ี 2 ขอ้ ท่ี 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ
ที่ ผู้รับบริการประเมนิ คะแนน ผ่าน / ไมผ่ ่าน
ลงชอ่ื ……………………………………………….ผู้ประเมิน
……………./………………../……
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภำพ
10 - 15 ดมี ำก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ตา่ กวา่ 2 ปรับปรงุ
นักเรียนได้ระดับคุณภำพท่ี ดี ขึ้นไปถือว่ำ ผา่ น
เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหัด/คานวณ
เกณฑ์กำรให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
- ใช้ภำษำ - มคี ำตอบได้ - วเิ ครำะหแ์ ละ - วเิ ครำะหแ์ ละ
คำตอบ - ไม่ตอบ/ - ใชภ้ ำษำ เหมำะสม ถูกต้อง กำหนดตวั แปรได้ กำหนดตวั แปรได้
- ไม่แสดงวิธี เหมำะสม - เขียนสตู ร
ทำ/แส - ตอบไม่ แสดงวิธีทำ - ใชภ้ ำษำ - เขยี นสูตรแสดง - เขยี นสตู รแสดง
ดงวธิ ที ำเป็น ถกู ต้อง เปน็ ขน้ั ตอน เหมำะสม วิธที ำเปน็ ขั้นตอน วธิ ีทำเป็นขัน้ ตอน
อื่น - ตอบไม่
ถูกต้อง - เขยี นสตู ร - มคี ำตอบ - มคี ำตอบ
แสดงวธิ ีทำเป็น
ขัน้ ตอน - ใชภ้ ำษำ - ใชภ้ ำษำ
เหมำะสม เหมำะสม
- คำตอบถูกต้อง
ตำมหลักทฤษฎี
ขอ้ สอบ O-NET ปี 2560 2 ขอ้
1. ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบอร์ก กล่าวว่า ผลคูณระหว่างความไม่แน่นอนทางตาแหน่งกับความไม่แน่นอนทาง
โมเมนตัม จะมีคา่ อยา่ งไร
ก. นอ้ ยกว่าคา่ นจิ ของแพลงค์หารด้วย 2
ข. เทา่ กับค่านิจของแพลงคห์ ารดว้ ย 2
ค. มากกว่าค่านจิ ของแพลงค์หารดว้ ย 2
ง. มากกว่าหรือเท่ากบั คา่ นจิ ของแพลงค์หารดว้ ย 2
2. นิวเคลยี สของอะตอมรศั มีประมำณ 10-14 เมตร ถำ้ e อยใู่ นนิวเคลียสได้ควำมไมแ่ นน่ อนในกำรวดั ตำแหน่ง
ของอเิ ล็กตรอน x ไมค่ วรมคี ่ำเกิน 10-14 เมตร จำกหลกั ควำมไมแ่ นน่ อนของไฮเซนเบอรก์ โมเมนตมั ของ e
อยำ่ งนอ้ ยท่ีสุดมีคำ่ เท่ำใด
............................................................................................................................. ............................................................................
................................................................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ .............................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
........................................................................................................................................... ..............................................................
................................................................................................................................................................................................. ........
.......................................................................................................................... ...............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 26 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 2
ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ฟิสิกส์อะตอม เวลา 2 ชว่ั โมง
เรื่อง กลศาสตร์ควอนตมั และการนาไปประยุกต์ใช้งาน ผูส้ อน นางสาววนี ัส พิทาคา
วนั ที่ทาการสอน
นายพงศกร บญุ วงค์
1. สาระสาคัญ 2. ผลการเรียนรู้
ความรู้จากกลศาสตร์ควอนตัมถูกนามาประยุกต์ใช้ 8. อธิบายโครงสร้างอะตอม ตามทฤษฎีกลศาสตร์
ประโยชน์ในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างหลากหลาย เช่น ควอนตัม
การประดษิ ฐ์กล้องจุลทรรศนอ์ เิ ลก็ ตรอน การประดิษฐเ์ ลเซอร์ 9. อธิบายการสร้างแสงเลเซอร์และการนาไปใช้ประโยชน์
และการประดษิ ฐส์ ารกึง่ ตวั นา เป็นตน้ 10. ศึกษาและอธบิ ายตัวนา ก่ึงตวั นา และฉนวน
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
กลศาสตรค์ วอนตมั และการนาไปประยุกตใ์ ช้งาน - ใบงาน Diagram เรอ่ื ง การนาความรู้จาก
กลศาสตร์ควอนตมั ไปประยุกต์ใชง้ าน
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 6. เคร่อื งมือการสอนคิด
- ความสามารถในการคดิ - Diagram
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - Six Thinking Hats (Yellow hat)
กิจกรรมการเรยี นรู้
7. ข้นั ของกิจกรรม 8. สอ่ื 9. วธิ วี ดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Diagram เร่อื ง - ประเมนิ ใบงาน
“ บอก 1 สี ทท่ี าให้นกั เรยี นรู้สกึ ผ่อนคลาย ” การนาความรจู้ าก Diagram เรื่อง การนา
Purpose (2 นาที) กลศาสตรค์ วอนตัมไป ความรจู้ ากกลศาสตร์
เราจะเรียน เร่ือง กลศาสตร์ควอนตัม และการนาไปประยุกต์ใช้งาน เพื่อ ประยกุ ต์ใช้งาน ควอนตมั ไป
นักเรียนสามารถอธิบายการนาความรู้จากกลศาสตร์ควอนตัมไป - ใบงาน เรือ่ ง กลศาสตร์ ประยกุ ตใ์ ช้งาน
ประยุกตใ์ ช้ได้ ควอนตัม
Work mode (110 นาที) - ใบความรู้ เร่ือง
1. นกั เรียนศกึ ษาวีดีโอเร่ือง กลศาสตรค์ วอนตัม และการนาไปประยกุ ต์ใช้ กลศาสตรค์ วอนตัม
งาน (15 นาท)ี
2. นักเรียนฟังครูอธิบายเร่ือง กลศาสตร์ควอนตัม และการนาไป
ประยุกต์ใช้งาน โดยใช้ใบความรู้เร่ือง กลศาสตร์ควอนตัม เพื่อเพิ่มความ
เขา้ ใจ (20 นาท)ี
3.นักเรียนทากิจกรรมกลุ่ม Brainstorming โดยสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับ - คลปิ วดิ โี อ เรือ่ ง
กลศาสตร์ควอนตัม จากใบความรู้/ส่ือ internet แล้วเขียนสรุปความรู้ใน กลศาสตรค์ วอนตัม และ
รูปแบบผังมโนทัศน์ลงในใบงาน Diagram เร่ือง การนาความรู้จาก การนาไปประยุกต์ใช้งาน
กลศาสตร์ควอนตัมไปประยุกต์ใชง้ าน (คิด9 : คิดเชิงมโนทัศน์)(สมรรถนะ https://www.youtub
4)(พอเพยี ง7 : สงั คม) (25 นาที) e.com/watch?v=faM
4.นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียนและอภิปรายผลงาน/ KHjSnLIo
โตแ้ ย้งรว่ มกัน (คดิ 3 : คิดวิพากษ์)(สมรรถนะ 3)(20 นาท)ี
5.นักเรียนใช้ความรู้ท่ีศึกษาแก้โจทย์ปัญหาในใบงาน เรื่อง กลศาสตร์
ควอนตมั (20 นาท)ี
6.นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเช่ือมโยงความคิด เกี่ยวกับกลศาสตร์
ควอนตัม พร้อมทั้งร่วมกันตอบคาถามดังนี้ “ข้อดีของกลศาสตร์
ควอนตัม” (Yellow hat) (10 นาที)
Reflective thinking (5 นาที)
- บอกในส่ิงทนี่ ักเรียนได้เรียนรู้จากวันน้ี (2 นาที)
- ข้อสอบ ข้อ (3 นาท)ี
ช่ือ............................................................................................................เลขท่ี....................ชนั้ ...............
ใบงาน Diagram เรอ่ื ง การนาความรู้จากกลศาสตรค์ วอนตมั ไปประยุกตใ์ ชง้ าน
การนำความรจู้ ากกลศาสตรค์ วอนตมั ไปประยกุ ตใ์ ชง้ าน
แบบประเมนิ ใบงาน Diagram
คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมินกาหนดตาม
ตารางแนบทา้ ยแบบระเมนิ ใบงาน Diagram
ลาดบั ช่ือ-สกลุ รปู แบบ เนอื้ หา นาเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผล
ที่ ของผ้รู บั การ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผา่ น/ไม่ผา่ น
ประเมนิ
ลงชอ่ื …………………………………………..ผู้ประเมิน
…….……/……………/…………
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 – 20 ดีมาก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ตา่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
นักเรียนระดับคุณภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Diagram
เกณฑ์การ ระดับการประเมนิ
ประเมนิ
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ )
- มหี วั ขอ้ ท่ชี ดั เจน - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน
เนอื้ หา - เขียนอยู่ในกรอบ - มีหวั ขอ้ ทีช่ ดั เจน - มหี ัวขอ้ ทช่ี ดั เจน - เขยี นอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ าสาคญั ตรงประเด็น
การนาเสนอ -ใช้สัญลักษณ์หรอื ภาพสื่อ - เขยี นอย่ใู นกรอบ - เขียนอยใู่ นกรอบ
ความหมาย
ความ - ใชส้ สี นั ท่ัวแผ่น - ใช้คาสาคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ าสาคญั ตรงประเดน็
สวยงาม - เนอ้ื หาครบถ้วนตามสาระท่ี
การตรง กาหนด 100% -ใชส้ ัญลักษณ์หรอื ภาพสอ่ื
ต่อเวลา - เขียนถูกต้องตามหลกั
ภาษา 100% ความหมาย
- ลาดบั หัวข้อเนื้อหาชัดเจน
- มกี ารสรปุ ได้อย่างสมเหตุ -เนอ้ื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เน้อื หาถูกต้องตามสาระท่ี - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระท่ี
สมผล 100% กาหนด 80-99% กาหนด 60-79% กาหนดตา่ กวา่ 59%
- พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟังชัด - เขยี นถูกตอ้ งตามหลัก - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั
- ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ากวา่ 59%
ตามอักขระ100% - ลาดับหวั ขอ้ เนื้อหาชัดเจน - มกี ารสรปุ ได้อยา่ งสมเหตุ - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล
-บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - มกี ารสรปุ ได้อย่าง สมผล 60-79% ตา่ กว่า59%
มัน่ ใจ สมเหตสุ มผล 80-99%
- มกี ารใชส้ ่อื ประกอบการ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนาเสนอได้
นาเสนอ - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง -ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ตาม -ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง
- ความพรอ้ มในการนาเสนอ ตามอักขระ อักขระ60-79% ตามอกั ขระตา่ กวา่ 59%
- ใช้สสี ันสวยงาม 80 -99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- มีความสะอาด - บคุ ลกิ ภาพดี
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - ความพร้อมในการนาเสนอ
-ความเปน็ ระเบียบอ่านง่าย ไดบ้ างสว่ น
- สง่ ผลงานครบถว้ น
ตรงตามเวลาที่กาหนด - ใช้สสี ันสวยงาม -ใชส้ สี นั สวยงามและมี - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เป็นไป
- มคี วามสะอาด ความสะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอย่างหนึ่ง
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
- สง่ ผลงานครบถว้ น - สง่ ผลงานครบถ้วน - ส่งผลงานครบถ้วน
แตช่ ้ากว่าเวลาท่ีกาหนด แต่ชา้ กว่าเวลาทกี่ าหนด แตช่ า้ กว่าเวลาท่ีกาหนด
5 นาที 10 นาที 15 นาที
ใบงาน “กลศาสตร์ควอนตัม”
1. ฉายแสงความถี่คา่ หนงึ่ ตกกระทบผวิ โลหะทองแดงซง่ึ มฟี ังกช์ นั งาน 4.8 อเิ ลก็ ตรอนโวลตพ์ บว่า ความถนี่ เี้ ป็นความถข่ี ดี เรม่ิ ของ
โลหะทองแดง ถ้าฉายแสงนี้ไปบนโลหะโซเดียม พบว่าความต่าง ศักย์หยุดย้ังมคี า่ 2.4 โวลตโ์ ลหะโซเดยี มมฟี งั ก์ชนั งานเท่าใด
2. ฉายแสงที่มีความยาวคล่ืน 3.0 × 10-7 เมตร ตกบนผิวโพแทสเซียมท่ีมีฟังก์ชันงาน 2.3 อิเล็กตรอนโวลต์โฟโตอิเล็กตรอนที่
หลุดออกมามี พลงั งานจลนส์ ูงสดุ เท่าใด
3. ฉายแสงท่มี คี วามถ่ี 1.10 × 1015 เฮิรตซ์ ไปทีผ่ วิ โลหะหน่ึง ถา้ ความถ่ีขีดเริ่มมคี ่าเปน็ 5.69 × 1014 เฮริ ตซ์ จงหา
ก. ฟงั กช์ นั งานของโลหะนั้น
ข. พลังงานจลนส์ ูงสดุ ของโฟโตอิเลก็ ตรอน
แบบประเมนิ แบบฝกึ หดั
คาชี้แจง :ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรียนโดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กาหนดตามตารางแนบทา้ ย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝกึ หัด
ลาดบั ชือ่ – สกุล ของ ขอ้ ที่ 1 ข้อที่ 2 ข้อท่ี 3 รวม 15 สรปุ ผลการประเมนิ
ท่ี ผู้รบั บรกิ ารประเมนิ คะแนน ผา่ น / ไมผ่ า่ น
ลงชือ่ ……………………………………………….ผปู้ ระเมิน
……………./………………../……
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
10 - 15 ดมี าก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ต่ากว่า 2 ปรับปรุง
นกั เรียนไดร้ ะดับคุณภาพท่ี ดี ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึกหดั /คานวณ
เกณฑ์การให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คาตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มคี าตอบได้ - วิเคราะห์และ - วเิ คราะห์และ
- ไม่แสดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กาหนดตัวแปรได้ กาหนดตัวแปรได้
ทา/แส - ตอบไม่
ดงวธิ ที าเป็น ถูกต้อง - เขียนสตู ร - ใช้ภาษา - เขียนสูตรแสดง - เขยี นสตู รแสดง
อืน่ แสดงวธิ ีทา เหมาะสม วิธที าเปน็ ขน้ั ตอน วิธที าเป็นขนั้ ตอน
เป็นข้ันตอน
- เขียนสตู ร - มคี าตอบ - มีคาตอบ
- ตอบไม่ แสดงวิธที าเปน็
ถกู ต้อง ข้ันตอน - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา
เหมาะสม เหมาะสม
- คาตอบถูกต้อง
ตามหลักทฤษฎี
ข้อสอบ O-NET 55 2 ข้อ
1. ข้อใดเป็นเหตุผลในการนาทฤษฎอี ะตอมของโบร์ มาอธิบายสเปกตรัมเส้นสว่างของอะตอมไฮโดรเจน
1. อเิ ล็กตรอนเปล่ียนวงโคจรโดยปล่อยพลังงาน
2. อะตอมของไฮโดรเจนรบั หรอื ปลอ่ ยพลังงานแบบวัตถุดา
3. อเิ ล็กตรอนเคล่อื นทร่ี อบนิวเคลียสได้โดยมโี มเมนตัมเชิงมมุ คงตวั
4. อเิ ลก็ ตรอนโคจรท่ีระดับพลังงาน สถานะถูกกระตุ้นมีพลังงานเทา่ กบั เสน้ สเปกตรัม
คาตอบ 1
2. โฟตอนของแสงสีแดงท่มี ีความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร มพี ลงั งานเทาใด
(กาหนดให h = 6.63 × 10-34 Js , c = 3 × 108 m/s และ 1 eV = 1.6 ×10-19 J)
1. 1.3 eV 2. 1.9 eV 3. 2.5 eV 4. 3.2 eV
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 27
ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ฟสิ ิกส์นิวเคลียร์ หน่วยย่อยท่ี 3
เรอ่ื ง กมั มันตภาพรังสี เวลา 2 ชัว่ โมง
วันทท่ี าการสอน ผูส้ อน นางสาววีนัส พิทาคา
นายพงศกร บญุ วงค์
1. สาระสาคญั 2. ผลการเรยี นรู้
กัมมันตภาพรงั สี (Radioactivity) เปน็ คณุ สมบตั ิของ ขอ้ 11 อธิบายกมั มันตภาพรังสีและความแตกต่างของ
ธาตแุ ละไอโซโทปบางส่วน ที่สามารถเปลยี่ นแปลงตัวเองเป็น รังสแี อลฟา บีตา และแกมมา
ธาตุหรือไอโซโทปอ่นื ซ่ึงการเปล่ยี นแปลงน้จี ะมีกาปลดปล่อย
หรอื สง่ รงั สีออกมาด้วย ปรากฏการณ์นไี้ ด้พบคร้ังแรกโดย
เบคเคอเรล เมอื่ ปี พ.ศ. 2439
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน
กมั มนั ตภาพรงั สี - ใบงาน Diagram เร่ือง กมั มนั ตภาพรงั สี
- ใบงาน เรื่อง กมั มันตภาพรังสี
5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น - ใบงาน เร่อื ง เครือ่ งวัดรังสี (ตามแนว Pisa)
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. เครื่องมือการสอนคิด
- Six Thinking hats (White hat)
- Diagram
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขัน้ ของกิจกรรม 8. สอ่ื 9. วธิ วี ดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Diagram เร่อื ง - ประเมินใบงาน
“ บอกช่ืออาหารเหนือท่ีนักเรียนรู้จักมาคนละ 1 ชอ่ื ” กมั มันตภาพรังส Diagram เร่อื ง
Purpose (2 นาที) - ใบงาน เรอื่ ง กมั มนั ตภาพรังสี
เราจะเรียนเรื่อง กัมมันตภาพรังสี เพื่อนักเรียนสามารถอธิบายเก่ียวกับ กมั มันตภาพรงั สี - ประเมินใบงาน
กัมมนั ตภาพรงั สีได้อย่างถกู ตอ้ ง - ใบงาน เรือ่ ง เคร่อื งวดั เรื่อง กมั มนั ตภาพรงั สี
Work mode (110 นาที) รงั สี (ตามแนว Pisa) - ประเมนิ ใบงาน เรื่อง
1. นักเรยี นดูคลิปวีดโี อเรอ่ื ง กมั มันตภาพรงั สี (10 นาท)ี - ใบความรู้ เร่ือง เครอ่ื งวัดรงั สี
2. นักเรียนฟังครูอธิบายเร่ือง กัมมันตภาพรังสี โดยใช้ใบความรู้เร่ือง กัมมนั ตภาพรังสจี าก (ตามแนว Pisa)
กมั มนั ตภาพรงั สเี พื่อเพมิ่ ความเข้าใจ (20 นาที) บทเรียนออนไลน์
3.นักเรียนทากิจกรรมกลุ่ม Brainstorming โดยสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับรงั สี
แอลฟา รังสีบีตา แกมมา จากใบความรู้ สื่อ internet แล้วเขียนสรุป
ความรใู้ นรูปแบบผงั มโนทศั นล์ งในใบงาน Diagram เร่อื ง กัมมนั ตภาพรังสี
(คดิ 9 : คิดเชิงมโนทัศน์) (สมรรถนะ 4)(พอเพียง7 : สังคม) (25 นาท)ี
4.นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียนและอภิปรายผลงาน/ - คลปิ วิดโี อ เรือ่ ง
โตแ้ ย้งร่วมกัน (คดิ 3 : คิดวิพากษ)์ (สมรรถนะ 3)(20 นาท)ี กัมมันตภาพรังสี
5. นั ก เ รี ย น ใ ช้ ค ว า ม รู้ท่ี ศึ ก ษ า แ ก้ โ จ ท ย์ปั ญ หา ใ น ใ บง า น เ ร่ื อง https://www.youtub
กมั มนั ตภาพรังสี (20 นาที) e.com/watch?v=-
6. นกั เรียนทาใบงาน ตามแนว PISA เร่อื ง เครือ่ งวัดรงั สี (5 นาที) vvg_pzIrNI
7.นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเช่ือมโยงความคิด เกี่ยวกับธาตุและอะตอม
พร้อมท้ังร่วมกันตอบคาถามดังนี้ “นักเรียนนาเร่ือง กัมมันตภาพรังสีมา
ศึกษาตอ่ ไดอ้ ย่างไร ?” (White hat) (10 นาที)
Reflective thinking (5 นาที)
- บอกในสิง่ ที่นักเรียนไดเ้ รยี นรู้จากวนั นี้ (2 นาที)
- ขอ้ สอบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล 2 ข้อ (3 นาที)
ช่ือ............................................................................................................เลขท่ี....................ชนั้ ...............
ใบงาน Diagram เรอ่ื ง กมั มนั ตภาพรังสี
แบบประเมนิ ใบงาน Diagram
คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมินกาหนดตาม
ตารางแนบทา้ ยแบบระเมนิ ใบงาน Diagram
ลาดบั ช่ือ-สกลุ รปู แบบ เนอื้ หา นาเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผล
ที่ ของผ้รู บั การ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผา่ น/ไม่ผา่ น
ประเมนิ
ลงชอ่ื …………………………………………..ผู้ประเมิน
…….……/……………/…………
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 – 20 ดีมาก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ตา่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
นักเรียนระดับคุณภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Diagram
เกณฑ์การ ระดับการประเมนิ
ประเมนิ
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ )
- มหี วั ขอ้ ท่ชี ดั เจน - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน
เนอื้ หา - เขียนอยู่ในกรอบ - มีหวั ขอ้ ทีช่ ดั เจน - มหี ัวขอ้ ทช่ี ดั เจน - เขยี นอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ าสาคญั ตรงประเด็น
การนาเสนอ -ใช้สัญลักษณ์หรอื ภาพสื่อ - เขยี นอย่ใู นกรอบ - เขียนอยใู่ นกรอบ
ความหมาย
ความ - ใชส้ สี นั ท่ัวแผ่น - ใช้คาสาคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ าสาคญั ตรงประเดน็
สวยงาม - เนอ้ื หาครบถ้วนตามสาระท่ี
การตรง กาหนด 100% -ใชส้ ัญลักษณ์หรอื ภาพสอ่ื
ต่อเวลา - เขียนถูกต้องตามหลกั
ภาษา 100% ความหมาย
- ลาดบั หัวข้อเนื้อหาชัดเจน
- มกี ารสรปุ ได้อย่างสมเหตุ -เนอ้ื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เน้อื หาถูกต้องตามสาระท่ี - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระท่ี
สมผล 100% กาหนด 80-99% กาหนด 60-79% กาหนดตา่ กวา่ 59%
- พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟังชัด - เขยี นถูกตอ้ งตามหลัก - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั
- ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ากวา่ 59%
ตามอักขระ100% - ลาดับหัวขอ้ เนื้อหาชัดเจน - มกี ารสรปุ ได้อยา่ งสมเหตุ - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล
-บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - มกี ารสรปุ ได้อย่าง สมผล 60-79% ตา่ กว่า59%
มัน่ ใจ สมเหตสุ มผล 80-99%
- มกี ารใชส้ ่อื ประกอบการ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนาเสนอได้
นาเสนอ - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง -ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ตาม -ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง
- ความพรอ้ มในการนาเสนอ ตามอักขระ อักขระ60-79% ตามอกั ขระตา่ กวา่ 59%
- ใช้สสี ันสวยงาม 80 -99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- มีความสะอาด - บคุ ลกิ ภาพดี
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - ความพร้อมในการนาเสนอ
-ความเปน็ ระเบียบอ่านง่าย ไดบ้ างสว่ น
- สง่ ผลงานครบถว้ น
ตรงตามเวลาที่กาหนด - ใช้สสี ันสวยงาม -ใชส้ สี นั สวยงามและมี - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เป็นไป
- มคี วามสะอาด ความสะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอย่างหนึ่ง
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
- สง่ ผลงานครบถว้ น - สง่ ผลงานครบถ้วน - ส่งผลงานครบถ้วน
แตช่ ้ากว่าเวลาท่ีกาหนด แต่ชา้ กว่าเวลาทกี่ าหนด แตช่ า้ กว่าเวลาท่ีกาหนด
5 นาที 10 นาที 15 นาที
ใบงาน กมั มนั ตภาพรังสี
1. ทอเรยี ม-232 มคี ่าคงท่ีของการสลาย 1.58x10-18 วินาที จงหาอัตราการสลายตวั ของทอเรียม -232 จานวน 696 กรัม
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
2. ถ้าสลายตัวคงท(่ี Ω) ของนวิ เคลียสธาตุเรเดียมเป็น 1.36 x 10-11 /วนิ าที จงหาชว่ งเวลาคร่ึงชีวิต
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
3. สารกัมมันตภาพรังสี 1 กรัม มีช่วงเวลาคึร่งชีวิต 100 วินาทีหลังจากที่เวลาผ่านไปนาน 5 นาที มันจะสลายตัวไปเป็นจานวน
เท่าใด
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
แบบประเมนิ แบบฝกึ หดั
คาชแี้ จง :ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กาหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝึกหัด
ลาดับ ชื่อ – สกลุ ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ที่ 2 ขอ้ ที่ 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ
ท่ี ผูร้ ับบริการประเมิน คะแนน ผ่าน / ไม่ผ่าน
ลงชือ่ ……………………………………………….ผ้ปู ระเมิน
……………./………………../……
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
10 - 15 ดีมาก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ต่ากวา่ 2 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพท่ี ดี ขึ้นไปถือว่า ผา่ น
เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหัด/คานวณ
เกณฑ์การให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คาตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มคี าตอบได้ - วิเคราะห์และ - วเิ คราะหแ์ ละ
เหมาะสม เหมาะสม ถูกตอ้ ง กาหนดตัวแปรได้ กาหนดตัวแปรได้
- ไมแ่ สดงวิธี
ทา/แส - ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวิธี - เขยี นสตู รแสดงวิธี
แสดงวธิ ที าเป็น เหมาะสม ทาเปน็ ขน้ั ตอน ทาเป็นขัน้ ตอน
ดงวิธที าเป็น ขน้ั ตอน
อนื่ - เขยี นสตู รแสดง - มคี าตอบ - มคี าตอบ
- ตอบไมถ่ กู ต้อง วธิ ีทาเปน็ ขั้นตอน
- ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คาตอบถูกตอ้ ง
ตามหลักทฤษฎี
ขอ้ สอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล 2 ข้อ
1.
2.
รังสวี ัดไดอ้ ย่างไร?
การวดั คา่ รังสีเพื่อควบคมุ หรือประเมนิ ความอันตรายเป็นเร่ืองท่ีซับซอ้ น จงึ มีหนว่ ยที่ใชว้ ัดหลายหน่วยดว้ ยกันขนึ้ อยู่กับ
วัตถุประสงค์ทต่ี อ้ งการวดั
• หากตอ้ งการวดั ปริมาณรังสีท่ีแผอ่ อกมา จะวัดโดยใชห้ นว่ ยเดิมทเี รียกวา่ คูรี (Ci) หรอื หนว่ ยสากลเรยี กวา่ เบคเคอเรล
(Bq)
• หากต้องการวัดปรมิ าณรังสีทีค่ นไดร้ ับหรือท่ดี ูดซับโดยเนอ้ื เยือ่ ของร่างกาย จะวัดโดยใช้หน่วยเดิมทีเ่ รียกว่า แรด
(Rad: Roentgen absorbed dose) หรอื หน่วยสากลเรียกวา่ เกรย์ (Gr: Gray)
• หากต้องการวดั ความเส่ียงต่อสุขภาพจากรงั สี หรือท่ีเรียกว่า ‘รงั สสี มมลู ’ จะวัดใชห้ นว่ ยเดิมทเี รยี กวา่ เรม (Rem:
Roentgen equivalent in man) หรอื หนว่ ยสากลเรยี กว่า ซีเวริ ต์ (Sv: Sievert)
หนว่ ยทวี่ ัดใช้รังสี หนว่ ยเดมิ หนว่ ยใหม่
คูรี เบคเคอเรล
กมั มันตภาพรงั สี (1ครู ีเท่ากับ 37000
ลา้ นเบคเคอเรล) แรด เกรย์
เรม ซีเวริ ์ต
รงั สที ถี่ กู ดูดกลืน (1 เกรยเ์ ท่ากบั 100
แรด)
รังสสี มมลู (1 ซีเวริ ต์ เท่ากับ 100 เรม)
Figure 1 เครื่องวดั รังสี
คาถามที่ 1 (ข้อละ 2 คะแนน)
จากข้อมูล จงเขยี นวงกลมล้อมรอบคาวา่ “ใช่” หรอื “ไม่ใช่” ในแตล่ ะข้อความ
ข้อ ขอ้ ความ คาตอบ
1. การวดั ปรมิ าณรังสีท่ีแผ่ออกมา ใชห้ น่วย เกรย์ (Gr: Gray) ใช่ / ไมใ่ ช่
2. การวัดปริมาณรงั สีทคี่ นไดร้ บั ใชห้ นว่ ย เบคเคอเรล (Bq) ใช่ / ไม่ใช่
3. การวัดความเสีย่ งต่อสขุ ภาพจากรงั สี ซเี วริ ต์ (Sv: Sievert) ใช่ / ไมใ่ ช่
4. 1 ครู เี ท่ากับ 37000 ลา้ นเบคเคอเรล ใช่ / ไม่ใช่
(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชิงวิทยาศาสตร์)
คาถามที่ 2 (ข้อละ 1 คะแนน)
1 ซเี วิรต์ เท่ากบั กีเ่ รม
ก. 37000
ข. 100
ค. 1
ง. 5
(สมรรถนะ : การระบุปัญหาเชิงวิทยาศาสตร์)
เกณฑ์การให้คะแนน / แนวคาตอบ
คาถามที่ 1 จากข้อมูล จงเขียนวงกลมล้อมรอบคาวา่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อความ
ขอ้ ขอ้ ความ คาตอบ
1. การวัดปริมาณรังสีที่แผ่ออกมา ใชห้ นว่ ย เกรย์ (Gr: Gray) ใช่ / ไม่ใช่
2. การวัดปรมิ าณรังสีที่คนได้รับ ใชห้ น่วย เบคเคอเรล (Bq) ใช่ / ไม่ใช่
3. การวัดความเสยี่ งต่อสขุ ภาพจากรงั สี ซเี วริ ์ต (Sv: Sievert) ใช่ / ไมใ่ ช่
4. 1 คูรีเทา่ กับ 37000 ลา้ นเบคเคอเรล ใช่ / ไม่ใช่
คาถามท่ี 2 (ขอ้ ละ 1 คะแนน) คาตอบ
100
ข้อ
ข
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
3 ดีมาก
2 ดี
1 พอใช้
0 ปรบั ปรงุ
นกั เรยี นระดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไปถือว่า ผ่าน
คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเต็ม 1 คะแนน คะแนนเต็ม 0 คะแนน
ตอบถูกท้งั 4 ข้อ : ไมใ่ ช่ / ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
ไม่ใช่ / ใช่ / ใช่
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 28
ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ฟิสิกส์นิวเคลยี ร์ หนว่ ยย่อยท่ี 3
เรื่อง นวิ เคลียสกัมมันตรังสี เวลา 2 ชัว่ โมง
วนั ท่ที าการสอน ผู้สอน นางสาววนี สั พทิ าคา
นายพงศกร บุญวงค์
1. สาระสาคัญ 2. ผลการเรียนรู้
การสลายของนิวเคลียส หรือ กัมมันตภาพรังสี เป็น ข้อ 12 อธิบาย และคานวณกัมมันตภาพของนิวเคลียส
กระบวนการที่ นิวเคลียสของอะตอมท่ีไม่เสถียร สูญเสีย กัมมันตรังสี รวมทั้งทดลอง อธิบาย และคานวณจานวน
พลังงานจากการปลดปล่อยรังสี วัตถใุ ดทปี่ ลดปล่อยรงั สีด้วย นวิ เคลยี สกัมมันตภาพรังสี ท่ีเหลือจากการสลายและครึ่งชีวิต
ตัวเอง-เชน่ อนภุ าคแอลฟา, อนภุ าคบตี า, รงั สแี กมมา
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
นวิ เคลยี สกมั มันตรังสี - ใบงาน KWL เรอื่ ง นวิ เคลยี สกัมมันตรงั สี
- ใบงาน เรอื่ ง นวิ เคลยี สกมั มันตรงั สี
- ใบงาน เรอื่ ง มหนั ตภัยจากกัมมนั ตภาพรงั สี
(ตามแนว Pisa)
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 6. เครื่องมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Six Thinking hats (Yellow hat)
- ความสามารถในการแก้ปญั หา - KWL
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขนั้ ของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธีวดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน KWL เรอ่ื ง - ประเมนิ ใบงาน KWL
“ บอกธาตุที่นกั เรียนรู้จักมาคนละ 1 ธาตุ ” นวิ เคลียสกมั มันตรังสี เร่อื ง นวิ เคลยี ส
Purpose (2 นาที) - ใบงาน เรือ่ ง กัมมนั ตรงั สี
เราจะเรยี นเร่ือง นิวเคลยี สกัมมนั ตรังสี เพื่อนกั เรยี นสามารถอธบิ ายเก่ียวกับ นวิ เคลียสกัมมนั ตรังสี - ประเมนิ ใบงาน เร่ือง
การแตกตัวของธาตกุ มั มันตรังสีได้ - ใบงาน เรื่อง นวิ เคลยี สกมั มันตรังสี
Work mode (110 นาที) มหันตภยั จาก - ประเมินใบงาน เร่ือง
1. นักเรียนรู้อะไรเก่ียวกับ นิวเคลียสกัมมันตรังสี บันทึกลงในใบงาน กมั มนั ตภาพรังสี มหนั ตภยั จาก
KWL เรอื่ ง นิวเคลียสกมั มันตรังสี (ชอ่ ง K-chart) (5 นาที) (ตามแนว Pisa) กมั มันตภาพรังสี (ตาม
2. นักเรียนสงสัยอยากรู้อะไรเพ่ิมเติมเก่ียวกับนิวเคลียสกัมมันตรังสี - ส่อื Power Point แนว Pisa)
บันทกึ ลงในใบงาน KWL (ช่อง W-chart) (10 นาที) เรอื่ ง นิวเคลียส
กัมมันตรงั สีจาก
บทเรยี นออนไลน์
3. นักเรียนดูคลิปวีดีโอ เรื่อง นิวเคลียสกัมมันตรังสีพร้อมตอบคาถาม
ดังนี้ “จากการดูคลิปนักเรียนคิดว่าแอลฟากับแกรมม่าของยังแตกต่างกัน
อย่างไร ” (15 นาท)ี
4. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรื่อง นิวเคลียสกัมมันตรังสี เพ่ือเพิ่มความ
เข้าใจ โดยใชส้ อ่ื Power point ประกอบการสอน (15 นาท)ี - คลิปวิดีโอ เรื่อง
5. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เร่ือง นิวเคลียสกมั มนั ตรงั สี และเขียนสิ่งที่ นวิ เคลยี สกมั มันตรังสี
นักเรียนได้รับจากใบความรู้ บันทึกลงใบงาน KWL (ช่อง L- chart) https://www.youtu
(พอเพยี ง3 : การมภี มู คิ ุ้มกนั ทด่ี ใี นตัว) (15 นาที)
be.com/watch?v=
6. นักเรียน (ตัวแทนจากการสุ่ม) ออกมานาเสนอผลงานจากใบงาน VF2rsVqcnTw
KWL เรื่อง นิวเคลียสกัมมันตรังสี หน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน/โต้แยง้
ร่วมกัน (คดิ 3 : คิดวพิ ากษ)์ (สมรรถนะ 3) (15 นาที)
7. นักเรียนทาใบงาน เรอ่ื ง นวิ เคลยี สกัมมันตรังสี (10 นาท)ี
8. นักเรียนทาใบงาน ตามแนว PISA เร่ือง มหันตภัยจาก
กมั มันตภาพรงั สี (10 นาท)ี
9. นักเรยี นและครูรว่ มกนั เฉลยใบงาน นิวเคลยี สกัมมนั ตรงั สี (15 นาที)
10. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเช่ือมโยงความคิด เกี่ยวกับนิวเคลียส
กัมมันตรังสี พร้อมทั้งร่วมกันตอบคาถามดังนี้“ในชีวิตประจาวันนิวเคลียส
กมั มันตรงั สมี ีผลดตี ่อการดารงชีวติ อย่างไร ?” (Yellow hat) (10 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาที)
- บอกในสิ่งทีน่ กั เรยี นเขา้ ใจมาคนละ 1 ข้อ (2 นาท)ี
- ข้อสอบ PAT3 ปี 57 1 ข้อ (3 นาท)ี
ชอ่ื …………………………………………………………………..……..หอ้ ง………………………………….เลขท่ี…………………………..
ใบงาน KWL เรอ่ื ง นวิ เคลยี สกัมมนั ตรังสี
คาชี้แจง : นักเรียนบันทึกความรูท้ ไี่ ด้ ลงในตารางต่อไปน้ี พรอ้ มทงั้ เขียนลงในชอ่ งว่างท่ีกาหนดให้
K (นกั เรียนรู้อะไร) W (นกั เรยี นตอ้ งการรอู้ ะไร) L (นกั เรยี นได้ร้อู ะไร)
แบบประเมนิ ใบงาน KWL
คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกาหนดตาม
ตาราง
แนบท้ายแบบระเมนิ ใบงาน KWL
ลาดับ ชื่อ-สกลุ รูปแบบ เนอื้ หา นาเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรุปผล
ท่ี ของผรู้ ับการ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผา่ น/ไม่ผา่ น
ประเมิน
ลงชอื่ …………………………………………..ผปู้ ระเมนิ
…….……/……………/…………
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 – 20 ดีมาก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผา่