แบบประเมนิ ใบงาน KWL
คำช้ีแจง : ให้ผ้สู อนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนดตาม
ตาราง แนบทา้ ยแบบระเมนิ ใบงาน KWL
ลำดบั ชือ่ -สกุล รูปแบบ เน้ือหา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผล
ท่ี ของผูร้ บั (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน ผา่ น/ไมผ่ ่าน
การ คะแนน) คะแนน)
ประเมนิ
ลงช่ือ…………………………………………..ผ้ปู ระเมนิ
…….……/……………/…………
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 – 20 ดมี าก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรงุ
นกั เรยี นระดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน KWL
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)
ความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เห็นใน
- แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน -แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง ช่อง K ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
เนือ้ หา ช่อง K ได้ 10 ขอ้ คำถาม - แสดงความคิดเหน็ ใน
ขึ้นไป ช่อง K ได้ 9-10 ขอ้ K ได้ 7-8 ขอ้ คำถาม ชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ
การนำเสนอ - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน
ช่องW ได้ 10 ข้อคำถาม คำถาม - แสดงความคิดเห็นใน ชอ่ ง L ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
ความ ขึ้นไป
สวยงาม - แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคิดเห็นใน ชอ่ ง W ได้ 7-8 ข้อคำถาม - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระ
การตรง ชอ่ ง L ได้ 10 ข้อคำถาม ทกี่ ำหนดตำ่ ว่า 59%
ต่อเวลา ขึน้ ไป ชอ่ ง W ได้ 9-10 ขอ้ - แสดงความคดิ เห็นใน - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก
ภาษาต่ำวา่ 59%
- เน้ือหาครบถ้วนตาม คำถาม ชอ่ ง L ได้ 7-8 ข้อคำถาม - มีการสรปุ ไมส่ มเหตสุ ม
สาระทกี่ ำหนด 100% ผลต่ำว่า 59%
- เขียนถูกตอ้ งตามหลกั - แสดงความคิดเหน็ ใน
ภาษา 100% - สามารถพดู นำเสนอได้
- ลำดบั หวั ข้อเนอื้ หา ช่อง L ได้ 9-10 ข้อ -ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
ชัดเจน ตามอักขระตำ่ กวา่ 59%
- มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ งสมเหตุ คำถาม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
สมผล 100%
- เนอ้ื หาถกู ตอ้ งตาม - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระ - ใช้สสี ันสวยงามหรอื
- พดู ชดั เจนเสียงดังฟงั ชัด เปน็ ไปตามเกณฑอ์ ย่างใด
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง สาระทก่ี ำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% อย่างหนึง่
ตามอกั ขระ100%
-บคุ ลกิ ภาพดีและมคี วาม - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั - ส่งผลงานครบถ้วน
ม่นั ใจ แต่ช้ากว่าเวลาท่กี ำหนด
- มีการใช้ส่ือประกอบการ ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% 15 นาที
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ - ลำดับหวั ขอ้ เน้อื หา - มกี ารสรุปได้อยา่ งสมเหตุ
นำเสนอ
ชัดเจน สมผล 60-79%
- ใช้สสี นั สวยงาม
- มีความสะอาด - มกี ารสรุปได้อยา่ ง
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์
-ความเปน็ ระเบียบอา่ น สมเหตุสมผล 80-99%c
ง่าย
- พูดชัดเจนเสยี งดังฟงั - การพดู เหมาะสม
- ส่งผลงานครบถ้วน
ตรงตามเวลาท่กี ำหนด ชัด -ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
- ใช้ภาษาทางการ ตามอักขระ60-79%
ถกู ตอ้ งตามอักขระ - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
80 -99%
- บุคลิกภาพดี
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอได้บางสว่ น
- ใช้สีสันสวยงาม -ใช้สสี นั สวยงามและมี
- มคี วามสะอาด ความสะอาด
- มีความคิดสรา้ งสรรค์
- ส่งผลงานครบถว้ น - สง่ ผลงานครบถ้วน
แต่ช้ากวา่ เวลาทก่ี ำหนด แต่ชา้ กว่าเวลาท่ีกำหนด
5 นาที 10 นาที
ใบงาน ปรากฎการณ์โฟโตอเิ ลก็ ทรกิ
1. ถ้าผลการทดลองเก่ียวกับปรากฏการณโ์ ฟโตอเิ ลก็ ตรกิ เขียนกราฟระหวา่ งศกั ยห์ ยดุ ยงั้ กับความถ่ีของแสง ดังรูป ค่า
นิจของแพลงคค์ ำนวณจากกราฟส้นนีจ้ ะมีค่าเท่าไร
.
.......................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
2. ไฮโดรเจนท่ีสถานะพน้ื ฐาน (ground state) ดูดกลนื โฟตอนซึง่ มพี ลงั งาน 20 eV แลว้ แตกตวั เป็นออิ อน อิเลก็ ตรอน
ที่หลดุ ออกมามพี ลงั งานจลนเ์ ป็นเท่าใด
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
3. ในปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กตริก ถ้าให้แสงท่มี คี วามถี่ 8 x 1014 เฮริ ต์ ซ์ ตกกระทบโลหะชนดิ หนงึ่ ปรากฏว่าต้องใช้
ความต่างศักยใ์ นการหยดุ ย้งั โฟโตอิเล็กตรอนท่หี ลุดออกมาเท่ากบั 1.3 โวลต์ พลงั งานยึดเหนีย่ วของโลหะท่ีใช้ในการ
ทดลองนมี้ คี ่าเทา่ ใด
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
แบบประเมินแบบฝึกหัด
คำชี้แจง :ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมินใบงานแบบฝึกหัด
ลำดับ ชื่อ – สกุล ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ท่ี 2 ขอ้ ที่ 3 รวม 15 สรุปผลการประเมิน
ท่ี ผูร้ ับบริการประเมนิ คะแนน ผา่ น / ไม่ผา่ น
ลงชอ่ื ……………………………………………….ผ้ปู ระเมนิ
……………./………………../……
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10 - 15 ดมี าก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ตำ่ กวา่ 2 ปรับปรงุ
นักเรียนไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ ดี ขึ้นไปถือว่า ผ่าน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ
เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คำตอบ - ไม่ตอบ/ - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วเิ คราะหแ์ ละ - วเิ คราะหแ์ ละ
- ไมแ่ สดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกตอ้ ง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส - ตอบไม่ถกู ต้อง - เขียนสตู ร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวธิ ี - เขียนสูตรแสดงวธิ ี
ดงวิธที ำเป็น แสดงวิธีทำเป็น เหมาะสม ทำเป็นข้ันตอน ทำเปน็ ขั้นตอน
อื่น ขั้นตอน - เขยี นสูตรแสดง - มคี ำตอบ - มคี ำตอบ
- ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง วธิ ที ำเป็นข้ันตอน - ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คำตอบถกู ต้อง
ตามหลกั ทฤษฎี
ขอ้ สอบ pat3 2562 2 ข้อ
1. จากโครงสรา้ งของอะตอม ไฮโดรเจนตามทฤษฎขี องบอรอ์ ิเลก็ ตรอนท่อี ย่ใู นวงโคจรท่ี 3 จะมีรศั มีของวงโคจรเปน็ ก่ี
เท่าของอเิ ลก็ ตรอนท่ีอยู่ในวงโคจรวงท่ี 2
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. หลกั ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบอร์ก กล่าววา่ ผลคณู ระหวา่ งความไม่แนน่ อนทางตำแหน่งกับความไมแ่ นน่ อนทาง
โมเมนตมั จะมีค่าอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 18
ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ ฟสิ ิกส์อะตอม หนว่ ยยอ่ ยท่ี 2 พทิ าคำ
เรอื่ ง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ เวลา 2 ชั่วโมง บญุ วงค์
วนั ท่ีทำการสอน ผสู้ อน นางสาววนี ัส
นายพงศกร
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ในปี พ.ศ. 2456 หลังจากท่ี 7.อธิบายสมมติฐานของพลงั ค์ ทฤษฎีอะตอม ของโบร์
รทั เทอร์ฟอร์ดไดพ้ บว่าอะตอมมีนิวเคลยี สที่มีขนาดเล็ก และการเกิดเส้นสเปกตรัมของ อะตอมไฮโดรเจน รวมทั้ง
มากอย่ภู ายใน โบรไ์ ด้เสนอแบบจำลองอะตอมไฮโดรเจน คำนวณปรมิ าณ ต่าง ๆ ที่เกยี่ วขอ้ ง
โดยอาศยั แนวคิดเรอื่ งควอนตมั ของพลงั คแ์ ละ
แบบจำลองอะตอมของรทั เทอรฟ์ อรด์
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
ทฤษฎีอะตอมของโบร์ - ใบงาน KWL เรื่อง ทฤษฎีอะตอมของโบร์
- ใบงาน เรื่อง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 6. เครอื่ งมอื การสอนคดิ
- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (Yellow hat)
- ความสามารถในการแก้ปัญหา - KWL
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขนั้ ของกจิ กรรม 8. สอื่ 9. วธิ วี ดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน KWL - ประเมนิ ใบงาน
“ บอกชื่อสายการบินมาคนละ 1 ชื่อ ” เรอื่ ง ทฤษฎี KWLเรือ่ ง ทฤษฎี
Purpose (2 นาที) อะตอมของโบร์ อะตอมของโบร์
เราจะเรียนเร่อื ง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ เพื่อนักเรียนสามารถอธิบาย - ใบงาน เรื่อง - ประเมนิ ใบงาน
เกย่ี วกับคณุ สมบัตขิ องวัตถแุ ต่ละชนิด ทฤษฎีอะตอมของ เรอื่ ง ทฤษฎี
Work mode (110 นาท)ี โบร์ อะตอมของโบร์
1. นกั เรียนรูอ้ ะไรเกีย่ วกบั ทฤษฎีอะตอมของโบร์ บนั ทึกลงในใบงาน - ส่อื Power
Point เรื่อง
KWL เรอ่ื ง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ (ช่อง K-chart) (5 นาที) ทฤษฎอี ะตอมของ
2. นักเรียนสงสัยอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับทฤษฎีอะตอมของโบร์ โบร์ จาก
บันทึกลงในใบงาน KWL (ช่อง W-chart) (5 นาที)
บทเรยี นออนไลน์
3. นกั เรยี นดูคลปิ วีดีโอ เร่ือง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ พรอ้ มตอบคำถาม
ดังนี้ “จากการดูคลิปนักเรียนคิดว่าทฤษฎีอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ดกับ
ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ แตกต่างกันอย่างไร ” (15 นาท)ี
4. นักเรยี นฟงั ครูอธิบาย เรื่อง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ เพอ่ื เพิ่มความ
เขา้ ใจ โดยใช้สือ่ Power point ประกอบการสอน (15 นาที) - คลิปวิดีโอ เร่อื ง
5. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ เร่อื ง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ และเขียนส่ิง ทฤษฎีอะตอมของ
ที่นักเรียนได้รับจากใบความรู้ บันทึกลงใบงาน KWL (ช่อง L- chart) โบร์
(พอเพียง3 การมภี มู ิคมุ้ กันท่ดี ใี นตวั ) (15 นาที) https://www.yo
6. นักเรียน (ตัวแทนจากการสุ่ม) ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน utube.com/watc
h?v=Jrz2DG1jnT
KWL เรื่อง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ หน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน/ E
โตแ้ ย้งร่วมกนั (คดิ 3:คิดวพิ ากษ)์ (10 นาท)ี
7. นักเรียนทำใบงาน เรอ่ื ง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ (15 นาที)
8. นกั เรียนและครูรว่ มกนั เฉลยใบงาน ทฤษฎีอะตอมของโบร์
(10 นาที)
9. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับทฤษฎี
อะตอมของโบร์ พร้อมทั้งร่วมกนั ตอบคำถามดังนี้“ทฤษฎอี ะตอมของโบร์
มีผลดีตอ่ ฟสิ ิกสย์ คุ ใหม่อยา่ งไร (สมรรถนะ 4) ( Yellow hat) (5 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี
1. นกั เรยี นบอกสงิ่ ท่ีไดร้ ับวันนม้ี าคนละ 1 ขอ้ (2 นาท)ี
2. ขอ้ สอบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล 2 ข้อ (3 นาท)ี
แบบประเมนิ ใบงาน KWL
คำช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตาม
ตาราง
แนบท้ายแบบระเมนิ ใบงาน KWL
ลำดับ ชอ่ื -สกุล รูปแบบ เนอื้ หา นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรุปผล
ที่ ของผรู้ ับการ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน) คะแนน ผา่ น/ไม่ผา่ น
ประเมิน
ลงชอื่ …………………………………………..ผปู้ ระเมนิ
…….……/……………/…………
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 – 20 ดีมาก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง
นกั เรียนระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผ่า
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน KWL
เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ )
ความคดิ เห็น - แสดงความคิดเห็นในช่อง K
- แสดงความคิดเหน็ ในช่อง K - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง -แสดงความคิดเห็นในช่อง ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ
เนอ้ื หา ได้ 10 ข้อคำถามข้ึนไป - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง W
- แสดงความคิดเห็นในช่องW K ได้ 9-10 ขอ้ คำถาม K ได้ 7-8 ข้อคำถาม ได้ น้อยกว่า 7 ขอ้
การนำเสนอ ได้ 10 ข้อคำถามข้ึนไป - แสดงความคิดเห็นในช่อง L
- แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง L - แสดงความคดิ เห็นในช่อง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ
ความ ได้ 10 ขอ้ คำถามขนึ้ ไป - เนอ้ื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
สวยงาม W ได้ 9-10 ขอ้ คำถาม ได้ 7-8 ขอ้ คำถาม กำหนดตำ่ วา่ 59%
การตรง - เน้อื หาครบถว้ นตามสาระที่ - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา
ตอ่ เวลา กำหนด 100% - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง L ต่ำวา่ 59%
- เขยี นถกู ตอ้ งตามหลัก ภาษา - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตุสม ผล
100% L ได้ 9-10 ข้อคำถาม ได้ 7-8 ข้อคำถาม ต่ำว่า 59%
- ลำดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชัดเจน
- มกี ารสรปุ ได้อย่างสมเหตุ - เน้ือหาถูกต้องตามสาระท่ี - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระที่ - สามารถพูดนำเสนอได้
สมผล 100% -ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม
กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% อกั ขระต่ำกว่า 59%
- พดู ชดั เจนเสียงดงั ฟังชัด - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก ภาษา
ตามอักขระ100% - ใช้สสี นั สวยงามหรอื เป็นไป
-บุคลกิ ภาพดีและมีความ ภาษา 80-99% 60-79% ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ งหน่ึง
มน่ั ใจ
- มีการใช้สอื่ ประกอบการ - ลำดบั หวั ขอ้ เน้ือหาชัดเจน - มีการสรุปได้อยา่ งสมเหตุ - ส่งผลงานครบถว้ น
นำเสนอ แต่ช้ากว่าเวลาทกี่ ำหนด
- ความพร้อมในการนำเสนอ - มีการสรปุ ได้อยา่ ง สมผล 60-79% 15 นาที
- ใชส้ สี นั สวยงาม สมเหตุสมผล 80-99%c
- มีความสะอาด
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟังชัด - การพูดเหมาะสม
-ความเป็นระเบยี บอา่ นงา่ ย
- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง -ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ตาม
- สง่ ผลงานครบถ้วน
ตรงตามเวลาที่กำหนด ตามอักขระ อกั ขระ60-79%
80 -99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- บคุ ลกิ ภาพดี
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ
ไดบ้ างสว่ น
- ใช้สสี นั สวยงาม -ใชส้ ีสนั สวยงามและมี
- มีความสะอาด ความสะอาด
- มคี วามคดิ สร้างสรรค์
- สง่ ผลงานครบถว้ น - สง่ ผลงานครบถว้ น
แตช่ า้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด แตช่ า้ กว่าเวลาทก่ี ำหนด
5 นาที 10 นาที
ใบงาน ทฤษฎอี ะตอมของโบร์
1. จงคำนวณหาค่าความยาวช่วงคล่นื ของสเปกตรัมในชดุ บาลเมอร์ เม่อื คา่ n = 3 และ สเปกตรัมชุดนใี้ ห้รังสมี องเห็น
ได้หรือไม่
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
2. จงคำนวณหาค่าความถีท่ ีม่ ากท่สี ดุ และน้อยที่สุดของสเปกตรัมในชุดไลแมน, สเปกตรมั ทีไ่ ดใ้ ห้รงั สีอะไร
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
3. รงั สอี ลั ฟาขนาดพลังงาน 7.68 ลา้ นอเิ ลก็ ตรอนโวลต์ถกู ยิงเข้าไปหานวิ เคลียสของทองแดงตรง ๆ จะเขา้ ไปใกลอ้ ย่าง
มากที่สุดได้เท่าไร เมื่ออนุภาคอัลฟามีประจุ 2 หน่วยมมี วล 4 หนว่ ย ทองแดงทใี่ ชม้ ีประจุ 29 หน่วย มีมวล 63 หนว่ ย
(เมือ่ ระยะมีหนว่ ยเป็นเมตร)
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
แบบประเมินแบบฝกึ หดั
คำชีแ้ จง :ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝึกหัด
ลำดบั ชื่อ – สกุล ของ ขอ้ ที่ 1 ข้อที่ 2 ข้อที่ 3 รวม 15 สรปุ ผลการประเมิน
ท่ี ผ้รู ับบรกิ ารประเมิน คะแนน ผา่ น / ไมผ่ า่ น
ลงชอ่ื ……………………………………………….ผปู้ ระเมนิ
……………./………………../……
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
10 - 15 ดีมาก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ต่ำกวา่ 2 ปรับปรงุ
นกั เรียนไดร้ ะดับคุณภาพที่ ดี ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝกึ หดั /คำนวณ
เกณฑ์การให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
- ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มคี ำตอบได้ - วิเคราะหแ์ ละ - วเิ คราะหแ์ ละ
คำตอบ - ไมแ่ สดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถกู ต้อง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส
ดงวิธที ำเป็น - ตอบไม่ถูกต้อง - เขียนสูตร - ใชภ้ าษา - เขยี นสูตรแสดงวธิ ี - เขยี นสูตรแสดงวธิ ี
อ่ืน แสดงวิธีทำเป็น เหมาะสม ทำเป็นขั้นตอน ทำเปน็ ขั้นตอน
ขน้ั ตอน
- เขยี นสูตรแสดง - มีคำตอบ - มีคำตอบ
- ตอบไมถ่ ูกตอ้ ง วธิ ีทำเป็นข้ันตอน
- ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใช้ภาษาเหมาะสม
- คำตอบถูกต้อง
ตามหลักทฤษฎี
ขอ้ สอบ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล 2 ขอ้
1 . จากโครงสรา้ งอะตอมแบบของบอรส์ ามรถใช้อธิบายลักษณะการเกิดเสน้ สเปกตรัมในชุดบาล์เมอร์ อย่างไร
ส่วนบนของฟอรม์
อิเลก็ ตรอนวงในวง่ิ ไปวงนอกจ่ายพลังงาน
อเิ ล็กตรอนว่ิงชนกันแลว้ จ่ายพลงั งาน
อเิ ล็กตรอนวงนอกวง่ิ ไปวงในแล้วจ่ายพลงั งาน
อิเลก็ ตรอนแผ่รังสีออกมาเอง
2. ในแบบจำลองโครงสร้างอะตอมของบอร์ เมอ่ื อะตอมของไฮโดรเจนอยู่ในภาวะปกติ จงหา
2.1 พลังงานจลนข์ องอิเล็กตรอนในหน่วยเป็นอเิ ล็กตรอนโวลต์
2.2 พลงั งานศักย์ของอเิ ลก็ ตรอนในหน่วยเป็นอิเลก็ ตรอนโวลต์
2.3 พลงั งานทั้งหมดของอิเลก็ ตรอนในหนว่ ยเป็นอเิ ลก็ ตรอนโวลต์
2.4 พลงั งานที่จะตอ้ งใชใ้ นการดงึ อเิ ล็กตรอนในภาวะปกตใิ หห้ ลดุ ออกจากอะตอม
-13.6
13.6
-27.2
27.2
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 19
ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ ฟสิ ิกสอ์ ะตอม หนว่ ยยอ่ ยที่ 2
เรอ่ื ง การทดลองของพลงั ค์ เวลา 2 ชั่วโมง
วนั ทที่ ำการสอน ผสู้ อน นางสาววนี สั พทิ าคำ
นายพงศกร บญุ วงค์
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
พลังค์และเฮริ ตซไ์ ดท้ ำการทดลองทสี่ นับสนนุ ทฤษฎี 5. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์
อะตอมของโบร์ โดยใช้หลอดบรรจุแกส๊ ท่มี ีความดันต่ำ
ซึ่งมแี คโทดเป็นตวั ปลอ่ ยอิเล็กตรอนและมีขั้วไฟฟ้าบวก และการเกิดเส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมทั้ง
สำหรับเรง่ อเิ ลก็ ตรอนความต่างศักย์ไฟฟา้ ระหวา่ งข้ัว ทำ
ให้อเิ ล็กตรอนมีพลงั งานจลน์เพิม่ ขน้ึ และเคลื่อนท่ีไปชน คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง
กบั อะตอมของไอปรอทที่พลงั ค์และเฮริ ตซ์ต้องการศกึ ษา
3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้ินงาน/ภาระงาน
การทดลองของพลงั ค์ - ใบงาน Diagram เรื่อง การทดลองของพลงั ค์และ
เฮริ ตซ์
- ใบงาน เรื่อง การทดลองของพลงั ค์และเฮิรตซ์
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 6. เครื่องมอื การสอนคิด
- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (Green hat)
- ความสามารถในการแก้ปัญหา - Diagram
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กิจกรรมการเรยี นรู้
7. ข้นั ของกิจกรรม 8. สื่อ 9. วธิ วี ัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Diagram - ประเมินใบงาน
“ บอกชอ่ื การทดลองของนักวทิ ยาศาสตร์ท่นี กั เรยี นรจู้ กั มาคนละ 1 ชื่อ ” เรือ่ ง การทดลอง Diagram เรือ่ ง
Purpose (2 นาที) ของพลงั ค์และ การทดลองของ
เราจะเรยี นเรือ่ งการทดลองของพลังค์และเฮริ ตซ์ เพอ่ื นักเรียนสามารถ เฮริ ตซ์ พลงั ค์และเฮริ ตซ์
อธบิ ายการทดลองของพลังค์และเฮิรตซ์ ได้อยา่ งถกู ต้อง - ใบงาน เรอื่ ง - ประเมินใบงาน
Work mode (110 นาที) การทดลองของ เรอื่ ง การทดลอง
1. นักเรียนดูคลิปวีดีโอเรื่อง การทดลองของพลังค์และเฮิรตซ์ พลงั ค์และเฮิรตซ์ ของพลังค์และ
(10 นาท)ี - ใบความรู้ เรื่อง เฮริ ตซ์
2. นักเรียนฟังครอู ธบิ ายเร่ือง การทดลองท่สี นับสนนุ ทฤษฎีอะตอมของ การทดลองของ
โบร์ โดยใช้ใบความรเู้ รื่อง การทดลองของพลังค์และเฮิรตซ์ เพือ่ เพิ่มความ พลังค์และเฮิรตซ์
จากบทเรยี น
เข้าใจ (15 นาที)
3.นักเรียนทำกิจกรรมกลุ่ม 5-6 Brainstorming โดยสืบค้นข้อมูล ออนไลน์
เกี่ยวกับการทดลองเชิงฟิสิกส์ จากใบความรู้ สื่อ internet แล้วเขียนสรุป
ความรู้ในรูปแบบผังมโนทัศน์ลงในใบงาน Diagram เรื่อง การทดลองของ
พลังค์และเฮริ ตซ์ (คดิ 9 คิดเชิงมโนทศั น)์ (สมรรถนะ 4) (พอเพยี ง 7 สังคม)
(30 นาที)
4.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน
รว่ มกนั (คิด3 : คิดวิพากษ์) (สมรรถนะ 3) (20 นาที)
5.นกั เรยี นใช้ความรู้ท่ีศกึ ษาแก้โจทย์ปญั หาในใบงาน เรือ่ ง การทดลอง - คลิปวิดีโอ เรื่อง
ของพลงั ค์และเฮริ ตซ์ (20 นาที) การทดลองของ
6.นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับมวลและ พลังค์และเฮริ ตซ์
ปริมาตร พร้อมทั้งร่วมกันตอบคำถามดังนี้ “ชุดการทดลองที่ปรับพลังงาน https://www.yo
จลน์ของอะตอม สามารถทำไปใช้ศึกษาทฤษฎีในเรื่องใดได้อีกบ้าง ?” utube.com/wat
(Green hat) (10 นาท)ี
ch?v=iVeFcGHq
Reflective thinking (5 นาท)ี U7s
1. บอกในสงิ่ ที่นักเรยี นไดร้ บั (2 นาที)
2. ขอ้ สอบ pat2 ปี 2560 1 ขอ้ (3 นาที)
แบบประเมนิ ใบงาน Diagram
คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตาม
ตารางแนบท้ายแบบระเมินใบงาน Diagram
ลำดบั ชอ่ื -สกลุ รปู แบบ เนื้อหา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผล
ท่ี ของผรู้ ับ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 สวยงาม เวลา 20 การประเมนิ
(4 คะแนน) (4 คะแนน ผา่ น/ไมผ่ ่าน
การ คะแนน) คะแนน)
ประเมิน
ลงช่อื …………………………………………..ผปู้ ระเมิน
…….……/……………/…………
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 – 20 ดมี าก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรับปรงุ
นักเรียนระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถอื ว่า ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Diagram
เกณฑ์การ ระดับการประเมนิ
ประเมิน
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง)
- มหี วั ข้อที่ชัดเจน
เน้อื หา - มีหัวขอ้ ที่ชัดเจน - มีหัวข้อท่ีชัดเจน - มหี วั ขอ้ ที่ชดั เจน - เขียนอย่ใู นกรอบ
- เขยี นอยใู่ นกรอบ
การนำเสนอ - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เนื้อหาถกู ต้องตาม
-ใช้สัญลักษณ์หรือภาพส่ือ สาระทก่ี ำหนดต่ำกวา่
ความ ความหมาย - ใช้คำสำคญั ตรง - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ 59%
สวยงาม - ใช้สสี นั ทัว่ แผ่น - เขยี นถูกตอ้ งตามหลัก
การตรง - เนื้อหาครบถ้วนตาม ประเดน็ ภาษาต่ำกวา่ 59%
ต่อเวลา สาระทกี่ ำหนด 100% - มีการสรปุ ไม่
- เขียนถูกต้องตามหลกั -ใช้สัญลักษณ์หรือภาพ สมเหตุสมผลตำ่ กว่า59%
ภาษา 100%
- ลำดบั หวั ขอ้ เนื้อหา สื่อความหมาย - สามารถพูดนำเสนอได้
ชัดเจน -ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
- มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ งสมเหตุ -เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระ ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%
สมผล 100% - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
ท่ีกำหนด 80-99% ทก่ี ำหนด 60-79%
- พดู ชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - ใช้สีสนั สวยงามหรือ
- ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง - เขยี นถูกตอ้ งตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลัก เป็นไปตามเกณฑ์อยา่ ง
ตามอักขระ100% ใดอย่างหน่งึ
-บุคลกิ ภาพดีและมคี วาม ภาษา 80-99% ภาษา 60-79%
ม่นั ใจ - สง่ ผลงานครบถว้ น
- มีการใช้สื่อประกอบการ - ลำดับหวั ข้อเนอ้ื หา - มีการสรปุ ได้อยา่ งสมเหตุ แตช่ ้ากว่าเวลาท่กี ำหนด
นำเสนอ 15 นาที
- ความพร้อมในการ ชัดเจน สมผล 60-79%
นำเสนอ
- มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง
- ใช้สีสันสวยงาม
- มีความสะอาด สมเหตุสมผล 80-99%
- มีความคิดสรา้ งสรรค์
-ความเปน็ ระเบียบอ่าน - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั - การพูดเหมาะสม
ง่าย
ชัด -ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
- ส่งผลงานครบถ้วน
ตรงตามเวลาท่กี ำหนด - ใชภ้ าษาทางการ ตามอักขระ60-79%
ถูกต้องตามอกั ขระ - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
80 -99%
- บุคลิกภาพดี
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอไดบ้ างสว่ น
- ใช้สีสนั สวยงาม -ใช้สีสนั สวยงามและมี
- มีความสะอาด ความสะอาด
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
- สง่ ผลงานครบถว้ น - สง่ ผลงานครบถว้ น
แต่ช้ากวา่ เวลาทีก่ ำหนด แต่ช้ากวา่ เวลาที่กำหนด
5 นาที 10 นาที
ใบงาน การทดลองของพลังค์และเฮิรตซ์
1. เม่อื ยิงอิเล็กตรอนเข้าไปในอะตอมของไฮโดรเจนในการทดลองของฟรงั คแ์ ละเฮิรต์ ซว์ ัด exitation potential ได้
10.21 V และ 12.10 V ถา้ ระดบั พลังงานตำ่ สุดของไฮโดรเจนเทา่ กับ –13.6 eV จากผลของการทดลองน้ี จงหาระดบั
พลังงานของ exited states เป็นอเิ ล็กตรอน
โวลต์:..................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
2. เมอื่ ความเรว็ ของอิเล็กตรอนเพ่มิ ข้ึน 4 เทา่ ความยาวคล่นื ของเดอบรอยล์ จะมีคา่ เปน็ กเ่ี ท่าของเดมิ
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
3. อนภุ าคตวั หนง่ึ มมี วล m ขณะท่กี ำลงั ว่ิงด้วยความเร็ว v ดงั น้ันอนภุ าคน้ีจึงมพี ลงั งานทั้งหมดเทา่ กับ mc2 สมมติวา่
พลงั งานนีม้ ีค่าเป็น 5 เทา่ ของพลังงานของโฟตอนตวั หน่งึ ท่ีมีโมเมนตมั เท่ากันกับโมเมนตัมของอนภุ าคน้พี อดี อยาก
ทราบว่าอัตราสว่ น มีคา่ เท่าไร
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
แบบประเมนิ แบบฝึกหัด
คำช้ีแจง :ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมินใบงานแบบฝึกหัด
ลำดบั ชื่อ – สกุล ของ ข้อท่ี 1 ข้อที่ 2 ข้อท่ี 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ
ท่ี ผรู้ ับบริการประเมิน คะแนน ผา่ น / ไมผ่ า่ น
ลงชอื่ ……………………………………………….ผ้ปู ระเมิน
……………./………………../……
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
10 - 15 ดีมาก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ต่ำกว่า 2 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนไดร้ ะดับคุณภาพที่ ดี ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ
เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คำตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วิเคราะห์และ - วิเคราะห์และ
- ไม่แสดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส - ตอบไม่
ดงวธิ ที ำเป็น ถูกต้อง - เขยี นสูตร - ใชภ้ าษา - เขียนสูตรแสดง - เขียนสูตรแสดง
อื่น แสดงวิธีทำ เหมาะสม วิธีทำเปน็ ขน้ั ตอน วิธีทำเป็นขนั้ ตอน
เปน็ ขั้นตอน
- เขยี นสตู ร - มคี ำตอบ - มีคำตอบ
- ตอบไม่
ถกู ต้อง แสดงวิธที ำเปน็ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา
ข้ันตอน เหมาะสม เหมาะสม
- คำตอบถกู ตอ้ ง
ตามหลกั ทฤษฎี
ขอ้ สอบ pat2 ปี 2560 1 ขอ้
ระดับพลงั งาน En ของอะตอมไฮโดรเจนมีค่าเป็นลบ และเปน็ ปฏภิ าคโดยตรงกับ อยากทราบวา่ n ต้องมคี ่าตัง้ แต่
เท่าไรขนึ้ ไปจงึ จะทำให้พลังงานระดับสงู ข้นึ อันถัดไปจาก En นั้น อยหู่ า่ งข้นึ ไปไมม่ ากกว่า ของขนาด
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 20
ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ ฟสิ กิ ส์อะตอม หนว่ ยย่อยท่ี 2 พิทาคำ
เวลา 2 ชวั่ โมง บญุ วงค์
เร่ือง การทดลองของเฮิรตซ์ ผสู้ อน นางสาววีนสั
วนั ที่ทำการสอน
นายพงศกร
1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
พลงั ค์และเฮริ ตซ์ได้ทำการทดลองท่สี นบั สนนุ ทฤษฎี 5. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์
อะตอมของโบร์ โดยใช้หลอดบรรจแุ ก๊สท่มี ีความดันตำ่ และการเกิดเสน้ สเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมทั้ง
ซงึ่ มแี คโทดเปน็ ตวั ปลอ่ ยอิเล็กตรอนและมีขัว้ ไฟฟา้ บวก คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง
สำหรับเรง่ อเิ ล็กตรอนความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างขั้ว ทำ
ใหอ้ เิ ลก็ ตรอนมพี ลงั งานจลนเ์ พมิ่ ข้นึ และเคลอื่ นท่ไี ปชน 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
กบั อะตอมของไอปรอทท่ีพลังค์และเฮริ ตซ์ตอ้ งการศึกษา - ใบงาน Diagram เรอื่ ง การทดลองของพลงั ค์และ
เฮิรตซ์
3. สาระการเรียนรู้ - ใบงาน เรอื่ ง การทดลองของพลงั ค์และเฮริ ตซ์
การทดลองของเฮิรตซ์
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6. เคร่อื งมอื การสอนคดิ
- ความสามารถในการคิด - Diagram
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - Six Thinking hats (Green hat)
กจิ กรรมการเรียนรู้
7. ขนั้ ของกจิ กรรม 8. สอื่ 9. วธิ ีวัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Diagram - ประเมนิ ใบงาน
“ บอกช่ือการทดลองของนกั วิทยาศาสตรท์ ี่นกั เรยี นรูจ้ กั มาคนละ 1 ชอ่ื ” เร่อื ง การทดลอง Diagram เรอ่ื ง
Purpose (2 นาที) ของพลงั ค์และ การทดลองของ
เราจะเรยี นเรอื่ งการทดลองของพลังค์และเฮริ ตซ์ เพือ่ นักเรยี นสามารถ เฮิรตซ์ พลงั ค์และเฮริ ตซ์
อธิบายการทดลองของพลงั ค์และเฮิรตซ์ ได้อย่างถูกต้อง - ใบงาน เร่ือง - ประเมินใบงาน
Work mode (110 นาที) การทดลองของ เร่ือง การทดลอง
1. นักเรียนดูคลิปวีดีโอเรื่อง การทดลองของพลังค์และเฮิรตซ์ พลงั ค์และเฮิรตซ์ ของพลงั ค์และ
(10 นาท)ี - ใบความรู้ เรื่อง เฮิรตซ์
2. นกั เรยี นฟังครอู ธิบายเร่ือง การทดลองท่ีสนบั สนุนทฤษฎีอะตอมของ การทดลองของ
โบร์ โดยใชใ้ บความร้เู รื่อง การทดลองของพลังค์และเฮิรตซ์ เพอื่ เพ่ิมความ พลงั ค์และเฮิรตซ์
จากบทเรียน
เขา้ ใจ (15 นาท)ี
3.นักเรียนทำกิจกรรมกลุ่ม 5-6 Brainstorming โดยสืบค้นข้อมูล ออนไลน์
เกี่ยวกับการทดลองเชิงฟิสิกส์ จากใบความรู้ สื่อ internet แล้วเขียนสรุป
ความรู้ในรูปแบบผังมโนทัศน์ลงในใบงาน Diagram เรื่อง การทดลองของ
พลังค์และเฮิรตซ์ (คิด 9 คดิ เชิงมโนทัศน์) (สมรรถนะ 4) (พอเพยี ง 7 สังคม)
(30 นาท)ี
4.นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนและอภิปรายผลงาน
รว่ มกนั (คดิ 3 : คดิ วพิ ากษ์) (สมรรถนะ 3) (20 นาท)ี
5.นกั เรียนใช้ความรูท้ ่ีศึกษาแกโ้ จทย์ปญั หาในใบงาน เรอื่ ง การทดลอง - คลิปวิดีโอ เรอื่ ง
ของพลงั ค์และเฮริ ตซ์ (20 นาท)ี การทดลองของ
6.นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเชื่อมโยงความคิด เกี่ยวกับมวลและ พลังค์และเฮริ ตซ์
ปริมาตร พร้อมทั้งร่วมกันตอบคำถามดังนี้ “ชุดการทดลองที่ปรับพลังงาน https://www.yo
จลน์ของอะตอม สามารถทำไปใช้ศึกษาทฤษฎีในเรื่องใดได้อีกบ้าง ?” utube.com/wat
(Green hat) (10 นาที)
ch?v=iVeFcGHq
Reflective thinking (5 นาท)ี U7s
1. บอกในส่ิงทน่ี ักเรยี นไดร้ บั (2 นาที)
2. ข้อสอบ pat2 ปี 2560 1 ขอ้ (3 นาท)ี
แบบประเมนิ ใบงาน Diagram
คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตาม
ตารางแนบท้ายแบบระเมินใบงาน Diagram
ลำดบั ชอ่ื -สกลุ รปู แบบ เนื้อหา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผล
ท่ี ของผรู้ ับ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 สวยงาม เวลา 20 การประเมนิ
(4 คะแนน) (4 คะแนน ผา่ น/ไมผ่ ่าน
การ คะแนน) คะแนน)
ประเมิน
ลงช่อื …………………………………………..ผปู้ ระเมิน
…….……/……………/…………
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 – 20 ดมี าก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรับปรงุ
นักเรียนระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถอื ว่า ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Diagram
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมนิ
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ )
- มหี ัวข้อท่ีชดั เจน
เน้ือหา - มีหัวขอ้ ทช่ี ัดเจน - มหี วั ข้อที่ชัดเจน - มีหวั ขอ้ ท่ีชดั เจน - เขยี นอย่ใู นกรอบ
- เขียนอยู่ในกรอบ
การนำเสนอ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - เขยี นอย่ใู นกรอบ - เขียนอยูใ่ นกรอบ
-ใชส้ ัญลักษณห์ รือภาพส่อื
ความ ความหมาย - ใชค้ ำสำคญั ตรงประเด็น - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็
สวยงาม - ใชส้ สี ันท่วั แผ่น
การตรง -ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพส่ือ
ตอ่ เวลา - เนื้อหาครบถว้ นตามสาระท่ี
กำหนด 100% ความหมาย
- เขยี นถูกต้องตามหลกั
ภาษา 100% -เนือ้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระที่ - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
- ลำดับหัวขอ้ เนอ้ื หาชดั เจน
- มกี ารสรุปได้อยา่ งสมเหตุ กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำกวา่ 59%
สมผล 100%
- เขยี นถกู ต้องตามหลกั - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั
- พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชัด
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำกว่า 59%
ตามอกั ขระ100%
-บุคลกิ ภาพดแี ละมคี วาม - ลำดบั หวั ขอ้ เนอื้ หาชัดเจน - มกี ารสรปุ ได้อย่างสมเหตุ - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล
ม่ันใจ
- มีการใชส้ ่อื ประกอบการ - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง สมผล 60-79% ตำ่ กวา่ 59%
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ สมเหตุสมผล 80-99%
- ใชส้ สี ันสวยงาม - พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- มคี วามสะอาด
- มคี วามคิดสร้างสรรค์ - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง -ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง ตาม -ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
-ความเป็นระเบียบอ่านงา่ ย
ตามอักขระ อักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกว่า 59%
- สง่ ผลงานครบถ้วน
ตรงตามเวลาท่กี ำหนด 80 -99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
- บุคลกิ ภาพดี
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ไดบ้ างสว่ น
- ใชส้ ีสนั สวยงาม -ใช้สสี นั สวยงามและมี - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เป็นไป
- มีความสะอาด ความสะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง
- มีความคิดสร้างสรรค์
- สง่ ผลงานครบถ้วน - ส่งผลงานครบถ้วน - ส่งผลงานครบถ้วน
แตช่ ้ากว่าเวลาที่กำหนด แต่ชา้ กว่าเวลาท่ีกำหนด แตช่ ้ากวา่ เวลาทก่ี ำหนด
5 นาที 10 นาที 15 นาที
ใบงาน การทดลองของพลังค์และเฮิรตซ์
1. เม่ือยงิ อิเล็กตรอนเขา้ ไปในอะตอมของไฮโดรเจนในการทดลองของฟรงั คแ์ ละเฮริ ์ตซ์วดั exitation potential ได้
10.21 V และ 12.10 V ถา้ ระดบั พลังงานต่ำสดุ ของไฮโดรเจนเทา่ กบั –13.6 eV จากผลของการทดลองนี้ จงหาระดบั
พลังงานของ exited states เปน็ อเิ ล็กตรอน
โวลต์:..................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
2. เมอื่ ความเร็วของอิเล็กตรอนเพม่ิ ข้นึ 4 เท่า ความยาวคลนื่ ของเดอบรอยล์ จะมคี ่าเปน็ กีเ่ ท่าของเดิม
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
3. อนุภาคตวั หน่ึงมีมวล m ขณะทก่ี ำลงั วงิ่ ดว้ ยความเร็ว v ดงั น้ันอนุภาคน้ีจงึ มพี ลังงานท้งั หมดเท่ากบั mc2 สมมติวา่
พลังงานนม้ี ีค่าเป็น 5 เท่า ของพลงั งานของโฟตอนตวั หนงึ่ ที่มโี มเมนตมั เท่ากนั กบั โมเมนตัมของอนภุ าคนพ้ี อดี อยาก
ทราบวา่ อัตราสว่ น มคี า่ เทา่ ไร
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
แบบประเมินแบบฝึกหัด
คำชี้แจง :ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมินใบงานแบบฝึกหัด
ลำดับ ชื่อ – สกุล ของ ขอ้ ที่ 1 ขอ้ ท่ี 2 ขอ้ ที่ 3 รวม 15 สรุปผลการประเมิน
ท่ี ผูร้ ับบริการประเมนิ คะแนน ผา่ น / ไม่ผา่ น
ลงชอ่ื ……………………………………………….ผ้ปู ระเมนิ
……………./………………../……
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10 - 15 ดมี าก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ตำ่ กวา่ 2 ปรับปรงุ
นักเรียนไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ ดี ขึ้นไปถือว่า ผ่าน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั /คำนวณ
เกณฑก์ ารให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
- ไม่ตอบ/ - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา - มีคำตอบได้ - วเิ คราะหแ์ ละ - วเิ คราะหแ์ ละ
คำตอบ - ไมแ่ สดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกตอ้ ง กำหนดตัวแปรได้ กำหนดตัวแปรได้
ทำ/แส
ดงวิธที ำเป็น - ตอบไม่ถกู ต้อง - เขียนสตู ร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวธิ ี - เขียนสูตรแสดงวธิ ี
อื่น แสดงวิธีทำเป็น เหมาะสม ทำเป็นข้ันตอน ทำเปน็ ขั้นตอน
ขั้นตอน
- เขยี นสูตรแสดง - มคี ำตอบ - มคี ำตอบ
- ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง วธิ ที ำเป็นข้ันตอน
- ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คำตอบถกู ต้อง
ตามหลกั ทฤษฎี
ขอ้ สอบ pat2 ปี 2560 1 ข้อ
ระดับพลังงาน En ของอะตอมไฮโดรเจนมคี า่ เปน็ ลบ และเป็นปฏิภาคโดยตรงกับ อยากทราบว่า n ตอ้ งมคี ่าตั้งแต่
เท่าไรขึ้นไปจงึ จะทำให้พลังงานระดบั สงู ข้นึ อันถัดไปจาก En นนั้ อยู่ห่างขึน้ ไปไมม่ ากกวา่ ของขนาด
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 21 หน่วยย่อยที่ 2
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ฟสิ กิ ส์อะตอม เวลา 2 ชวั่ โมง
เรอ่ื ง ความไม่สมบรู ณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ ผู้สอน นางสาววนี สั พิทาคา
วนั ท่ีทาการสอน
นายพงศกร บุญวงค์
1. สาระสาคัญ 2. ผลการเรียนรู้
ความไมส่ มบูรณ์ของทฤษฎีอะตอมของโบร์ ทฤษฎี 5. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์
อะตอมของโบร์สามารถอธบิ ายถงึ การจดั เรียงอเิ ล็กตรอน และการเกดิ เส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมทั้ง
และสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ช้ินงาน/ภาระงาน
ความไม่สมบูรณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ - ใบงาน เรอื่ ง แสงเป็นคล่นื หรืออนภุ าค ?
(ตามแนว PISA)
- ใบงาน เรื่อง ความไมส่ มบรู ณ์ของทฤษฎอี ะตอม
ของโบร์
5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 6. เครอื่ งมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Six Thinking hats (White hat)
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กิจกรรมการเรียนรู้
7. ขั้นของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธวี ัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน แสงเป็น - ประเมินใบงาน
“จงบอกทฤษฏีทน่ี กั เรียนรจู้ ักมาคนละ 1 ทฤษฏี” คลน่ื หรอื อนุภาค เรอื่ ง แสงเป็นคล่นื
Purpose (2 นาที) ? (ตามแนว หรืออนุภาค ?
เราจะเรียนเร่ืองความไม่สมบูรณ์ของทฤษฎีอะตอมของโบร์เพ่ือนักเรียน PISA) (ตามแนว PISA)
สามารถอธบิ ายความไมส่ มบรู ณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ไดถ้ ูกตอ้ ง - ใบงาน เรอื่ ง - ประเมนิ ใบงาน
Work mode (110 นาที) ความไมส่ มบรู ณ์ เรอื่ ง ความไม่
1. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรอื่ ง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ โดยศกึ ษาใบ ของทฤษฎีอะตอม สมบูรณ์ของ
ความรู้เร่อื ง ความไมส่ มบรู ณ์ของทฤษฎีอะตอมของโบร์ประกอบการสอน ของโบร์ ทฤษฎอี ะตอมของ
(พอเพยี ง3 : การมีภมู ิคุ้มกันท่ีดีในตัว) (15นาท)ี - ใบความรู้ เรอื่ ง โบร์
2. นักเรียนตอบคาถาม “จงวิเคราะห์ว่าเหตุใดความไม่สมบูรณ์ของ ความไมส่ มบรู ณ์
ทฤษฎีอะตอมของโบร์จึงไม่สามารถอธิบายระดับช้ันพลังงานได้ ” (White ของทฤษฎีอะตอม
hat) (คิด1 : คดิ วเิ คราะห์) (10 นาท)ี ของโบร์จาก
บทเรยี นออนไลน์
3. นักเรียนแก้โจทย์ปัญหา โดยทาใบงาน เรื่อง ความไม่สมบูรณ์ของ
ทฤษฎีอะตอมของโบร์(คิด 5 : คิดแก้ปัญหา)(สมรรถนะ 2) (พอเพียง2 :
ความมเี หตผุ ล) (25 นาท)ี
4.นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียนและอภิปรายผลงาน/
โตแ้ ยง้ ใบงานรว่ มกนั (คดิ 3 : คิดวพิ ากษ)์ (สมรรถนะ 3) (25 นาท)ี
5. นักเรียนพิจารณาไตรต่ รองหาคาตอบอย่างมีเหตุผล โดยทาใบงาน
เร่ือง แสงเป็นคล่ืนหรืออนุภาค (ตามแนว PISA) (คิด4 : คิดอย่างมี
วิจารณญาณ)(สมรรถนะ 2)(10 นาที)
6. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคาตอบในใบงาน เร่ือง แสงเป็นคลื่น
หรอื อนภุ าค (ตามแนว PISA) (พอเพยี ง7 : สงั คม) (15 นาท)ี
7. นักเรียนและครูร่วมกันสรปุ เช่ือมโยงความคิด เกี่ยวกับเร่ืองความไม่
สมบูรณ์ของทฤษฎีอะตอมของโบร์พร้อมทั้งร่วมกันตอบคาถามดังนี้ “เหตุ
ใดทฤษฎีอะตอมของโบร์จึงไม่สามารถอธิบายโครงสร้างอะตอมได้ทุกธาตุ?
” (White hat) (10 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาที)
- บอกสิง่ ที่ไดร้ บั จากหวั ข้อวนั นมี้ าคนละ 1 ข้อ (2 นาท)ี
- ขอ้ สอบ PAT2 ปี 58 1 ขอ้ (3 นาท)ี
ใบงาน ความไม่สมบรู ณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์
1. จงคานวณหาวา่ อิเลก็ ตรอนในวงโคจรที่มรี ะดับพลงั งานตา่ สดุ (Ground state) ของธาตไุ ฮโดรเจนจะเคลื่อนท่ีรอบ
นวิ เคลียสวินาทลี ะกี่รอบ และในวงโคจรถัดไปจะมคี วามถีเ่ ป็นกี่เท่าของวงแรก
............................................................................................................................. ...........................................................
..................................................................................................................................................... ...................................
............................................................................................... .........................................................................................
2. จะต้องใช้อเิ ลก็ ตรอนจากภายนอกขนาดพลังงานเทา่ ไรยิงเข้าไปในอะตอมของไฮโดรเจนท่ีอยู่ในสภาพพลงั งานตา่ สุด
แลว้ ทาให้อะตอมนัน้ ปลอ่ ยสเปกตรมั เสน้ ที่ 1 ในอนกุ รมไลแมนออกมาได้
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
3. ระดับพลังงาน 3 ระดบั เรียงจากต่าสดุ ของอะตอมปรอทคือ –10.4, -5.5 และ –3.7 อิเล็กตรอนโวลตต์ ามลาดับ
อเิ ล็กตรอนจะต้องมีพลงั งานอยา่ งน้อยทีส่ ดุ เท่าใด จงึ จะชนกับปรอทแบบถา่ ยเทพลังงานได้ และเม่อื อะตอมของปรอท
ถกู ชนจนพลังงานสูงขึน้ ถึงระดับที่สามได้ ปรอทมีโอกาสจะให้สเปกตรัมอยา่ งใดได้บ้าง
............................................................................................................................. ...........................................................
..................................................................................................................................... ...................................................
........................................................................................................................................................................................
แบบประเมนิ แบบฝกึ หัด
คาชี้แจง :ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียนโดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กาหนดตามตารางแนบทา้ ย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝกึ หัด
ลาดบั ชือ่ – สกลุ ของ ข้อท่ี 1 ขอ้ ท่ี 2 ข้อที่ 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ
ท่ี ผู้รบั บรกิ ารประเมิน คะแนน ผา่ น / ไมผ่ า่ น
ลงชือ่ ……………………………………………….ผ้ปู ระเมิน
……………./………………../……
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10 - 15 ดีมาก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ต่ากวา่ 2 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพท่ี ดี ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึกหดั /คานวณ
เกณฑ์การให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คาตอบ - ไมต่ อบ/ - ใชภ้ าษา - ใชภ้ าษา - มคี าตอบได้ - วิเคราะห์และ - วเิ คราะห์และ
- ไม่แสดงวิธี เหมาะสม เหมาะสม ถูกต้อง กาหนดตัวแปรได้ กาหนดตัวแปรได้
ทา/แส - ตอบไม่
ดงวธิ ที าเป็น ถูกต้อง - เขียนสตู ร - ใช้ภาษา - เขียนสูตรแสดง - เขยี นสตู รแสดง
อืน่ แสดงวธิ ีทา เหมาะสม วิธที าเปน็ ขน้ั ตอน วิธที าเป็นขนั้ ตอน
เป็นข้ันตอน
- เขียนสตู ร - มคี าตอบ - มีคาตอบ
- ตอบไม่ แสดงวิธที าเปน็
ถกู ต้อง ข้ันตอน - ใชภ้ าษา - ใช้ภาษา
เหมาะสม เหมาะสม
- คาตอบถูกต้อง
ตามหลักทฤษฎี
แสงเปน็ คลน่ื หรืออนภุ าค ?
ในปี ค. ศ. 1924 นักฟสิ กิ ส์ชาวฝรั่งเศสชอื่ หลุยส์ เดอบรอยล์ (Louis de Broglie ) จงึ เสนอแนวคิดวา่ ถา้ แสงทเ่ี ปน็ คล่ืนแสดง
สมบัติเปน็ อนุภาคได้ สง่ิ ทเ่ี ปน็ อนุภาค กค็ วรแสดงสมบตั ิเป็นคล่นื ได้ สง่ิ ใดที่แสดงสมบตั ิคู่เปน็ ไดท้ ้งั คลืน่ และอนุภาค เรียกวา่ มี ทวิ
ภาพของคลน่ื และอนุภาคแสงเปน็ ได้ทั้งคล่นื และอนุภาค แสงจึงมีทวิภาพของคลน่ื และอนภุ าค
จากการศึกษาต่อมา พบว่า อเิ ลก็ ตรอนซงึ่ เป็นอนภุ าคแสดงสมบัติของคลนื่ ได้ คอื เล้ยี วเบนและแทรกสอดได้ และสามารถหา
ความยาวคลืน่ ของอนุภาคได้ เรียกความยาวคล่ืนของอนุภาค นี้วา่ ความยาวคลน่ื เดอบรอยล์
อนภุ าคทจี่ ะแสดงสมบัติเปน็ คล่นื ได้ ตอ้ งเป็นอนภุ าคท่มี ีขนาดเล็ก
เดอบรอยล์ ได้นาความรู้เรื่องทวิภาพของคล่ืนและอนุภาค ไปอธิบายทฤษฎีอะตอมของบอร์ ข้อ 2 ให้สมบูรณ์ ข้ึน โดย
อธิบายว่าอิเล็กตรอนที่จะไม่มีการแผ่คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา อิเล็กตรอนตัวนั้นต้องแสดงสมบัติเป็นคล่ืนนิ่ง โดยมีความยาว
ของเส้นรอบวงเป็นจานวนเต็มเท่าของความยาวคลื่นของอิเล็กตรอน ถ้าคิดว่าอิเล็กตรอนเป็นอนุภาค จะไม่สามารถอธิบายได้
ดังน้ันจึงสรุปได้ว่าแสงมีคุณสมบัติคู่คือเป็นได้ท้ังคลื่นแสงและอนุภาค ข้ึนอยู่กับสถานการณ์น่ันเอง ในบางสถานการณ์เช่น การ
ทดลองสลิตคู่ แสงชอบในการเปน็ คลื่นมากกว่า มนั จึงแสดงคณุ สมบัติของความเป็นคลืน่ ในขณะท่ีบางสถานการณ์แสงอยากเป็น
อนุภาคมากกว่า เชน่ ในปรากฎการณโ์ ฟโตอิเล็กทริกนั่นเอง
คาถามท่ี 1 (ข้อละ 2 คะแนน)
จากข้อมลู จงเขยี นวงกลมล้อมรอบคาว่า “ใช่” หรอื “ไม่ใช่” ในแตล่ ะข้อความ
ขอ้ ขอ้ ความ คาตอบ
1. อิเลก็ ตรอนเป็นอนภุ าคแสดงสมบัติของคลน่ื ไมไ่ ด้ ใช่ / ไมใ่ ช่
2. ความยาวคลืน่ เดอบรอยลอ์ นุภาคที่จะแสดงสมบตั เิ ป็นคลน่ื ได้ ตอ้ งเปน็ อนุภาคทีม่ ขี นาดใหญ่ ใช่ / ไมใ่ ช่
3. อเิ ล็กตรอนท่ีมกี ารแผ่คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ออกมา อเิ ลก็ ตรอนตัวนนั้ ตอ้ งแสดงสมบตั เิ ปน็ คลื่นนงิ่ ใช่ / ไมใ่ ช่
4. แสงมคี ุณสมบัตคิ ู่คือเปน็ ไดท้ ้ังคลนื่ แสงและอนุภาค ใช่ / ไม่ใช่
(สมรรถนะ : การระบุปญั หาเชงิ วทิ ยาศาสตร์)
คาถามท่ี 2 (ขอ้ ละ 1 คะแนน
ผู้เสนอแนวคิด ทวภิ าพของคลน่ื และอนุภาค
ก. เดอบรอยด์
ข. ไฮส์เกต
ค. แอร์วนิ
ง. จัสตนิ
(สมรรถนะ : การระบุปัญหาเชงิ วทิ ยาศาสตร์)
เกณฑ์การให้คะแนน / แนวคาตอบ
คาถามที่ 1 จากขอ้ มลู จงเขยี นวงกลมล้อมรอบคาวา่ “ใช่” หรือ “ไมใ่ ช่” ในแตล่ ะข้อความ
ข้อ ข้อความ คาตอบ
1. อเิ ล็กตรอนเปน็ อนภุ าคแสดงสมบัติของคลน่ื ไม่ได้ ใช่ / ไมใ่ ช่
2. ความยาวคล่ืนเดอบรอยลอ์ นภุ าคท่จี ะแสดงสมบตั เิ ปน็ คลื่นได้ ตอ้ งเป็นอนภุ าคที่มีขนาดใหญ่ ใช่ / ไมใ่ ช่
3. อเิ ล็กตรอนทีม่ กี ารแผค่ ล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ออกมา อเิ ลก็ ตรอนตวั น้ันตอ้ งแสดงสมบตั ิเปน็ คลื่นนิ่ง ใช่ / ไม่ใช่
4. แสงมคี ณุ สมบัตคิ ู่คอื เปน็ ได้ท้ังคลืน่ แสงและอนภุ าค ใช่ / ไมใ่ ช่
คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเต็ม 1 คะแนน คะแนนเต็ม 0 คะแนน
ตอบถูกท้งั 4 ข้อ : ไมใ่ ช่ / ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
ไมใ่ ช่ / ไมใ่ ช่ / ใช่
คาถามท่ี 2 (ขอ้ ละ 1 คะแนน) คาตอบ
ข้อ เดอบรอยด์
ก
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
3 ดมี าก
2 ดี
1 พอใช้
0 ปรบั ปรุง
นักเรียนระดับคุณภาพที่ พอใช้ ข้ึนไปถือว่า ผา่ น
ขอ้ สอบ PAT2 2558 1 ข้อ
1. ตามทฤษฎีอะตอมตามแบบของบอร์ จงหาคา่ รัศมีวงโคจร, ความเร็วของอิเล็กตรอนและพลงั งานของอิเลก็ ตรอน ใน
วงโคจรท่ี 1 และวงท่ี 2 ของธาตไุ ฮโดรเจน
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 22
ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ฟิสกิ สอ์ ะตอม หน่วยย่อยที่ 2
เรือ่ ง ทวภิ าพของคล่ืนและอนภุ าค เวลา 2 ชัว่ โมง
วนั ท่ที าการสอน ผูส้ อน นางสาววีนัส พทิ าคา
บญุ วงค์
นายพงศกร
1. สาระสาคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
สมมตฐิ านทก่ี ลา่ ววา่ อนภุ าคทุกชนดิ มคี ณุ สมบัตทิ เี่ ป็นท้งั 7. อธิบายทวภิ าวะของคลื่นและอนุภาค รวมทั้งอธิบาย
คลน่ื และอนภุ าค และในทางกลบั กันคล่นื กจ็ ะมที ัง้ และคานวณความยาวคลืน่ เดอบรอยล์
คณุ สมบตั ิของคลื่นเองและอนุภาคดว้ ย แนวคดิ น้ีเปน็
ศนู ย์กลางของกลศาสตรค์ วอนตมั
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน
ทวิภาพของคล่นื และอนุภาค - ใบงาน เรื่อง ทวภิ าพของคลน่ื และอนุภาค
- ใบงาน Compare and contrast เรอื่ ง การ
เปรียบเทยี บความเหมือนความแตกตา่ งของคลื่นและ
อนุภาค
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 6. เครือ่ งมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Compare and contrast
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขนั้ ของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธวี ดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน เรอ่ื ง ทวิ - ประเมนิ ใบงาน
“บอกประเภทของคล่นื มาคนละ 1 อย่าง” ภาพของคลืน่ และ เร่ือง ทวิภาพของ
Purpose (2 นาที) อนภุ าค คล่นื และอนภุ าค
เราจะเรียนเรื่อง ทวิภาพของคลื่นและอนุภาค เพ่ือนักเรียนสามารถเข้าใจ - ใบงาน - ประเมิน ใบงาน
ความหมายและอธิบายของเกิดทวิภาพของคลื่นและอนุภาคได้อย่างถูกต้อง compare and compare and
Work mode (110 นาที) contrast เรอ่ื ง contrast เร่ือง
1. นักเรียนและครู ร่วมกันทบทวนความรู้เก่ียวกับ เรื่อง อนุภาค การเปรยี บเทยี บ การเปรียบเทยี บ
เบอ้ื งต้น ทีเ่ รยี นผา่ นมาในคาบที่แล้วเพอ่ื เชอื่ มโยงเข้าสูเ่ น้อื หาใหม่ (10 นาท)ี ความเหมอื นความ ความเหมอื นความ
2. นักเรียนศึกษาหาความรู้จากใบความรู้ เร่ือง ทวิภาพของคล่ืนและ แตกต่างของคลื่น แตกต่างของคล่นื
และอนภุ าค
อนุภาค (พอเพียง3 : การมีภูมิคุ้มกันท่ีดี) เพื่อให้นักเรียนเข้าใจและอธิบาย และอนภุ าค
การเกิดทวิภาพของคล่ืนและอนภุ าคได้ถกู ต้อง (20 นาที) - ใบความรู้ เรอื่ ง
3. นกั เรียนฟังครอู ธิบายการคานวณ พร้อมตัวอยา่ งโจทย์ (20 นาท)ี ทวิภาพของคลน่ื
4. นักเรียนร่วมกันทากิจกรรมกลุ่มวิเคราะห์ ความเหมือนและความ และอนภุ าค จาก
แตกต่างของการเคล่ือนท่ีแบบคล่ืน และการเคลื่อนท่ีของอนุภาคในอะตอม บทเรียนออนไลน์
โดยทาลงในใบงาน Compare & contrast เร่ือง การเปรียบเทียบความ
เหมือนความแตกต่างของคลื่นและอนุภาค( (คิด2 : คิดเปรียบเทียบ)
(พอเพียง7 : สังคม)( 30 นาที)
5. นักเรียน (ตัวแทน) นาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน และอภิปราย/
โต้แย้ง ลงงานรว่ มกัน (คดิ 3 : คดิ พพิ ากษ์)(สมรรถนะ 3) (10 นาที)
6. ใหน้ กั เรยี นทาใบงาน เรื่อง ทวภิ าพของคล่ืนและอนุภาค (15 นาท)ี
7. นกั เรียนและครู ร่วมกันสรุปเช่ือมโยงความรู้ เร่อื ง ทวิภาพของคล่ืน
และอนภุ าค (5 นาที)
Reflective thinking (5 นาที)
1. จากการเรียนในคาบนี้นักเรยี นได้รับความรู้อะไรบา้ ง (1 นาที)
2. แนวข้อสอบ O-NET ปี 59 1 ขอ้ (2นาท)ี
แบบประเมินใบงาน Compare & Contrast
คาชี้แจง : ให้ผ้สู อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กาหนดตาม
ตาราง แนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Compare & Contrast
ลาดับ ชื่อ-สกุล รูปแบบ เน้อื หา นาเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรุปผล
ท่ี ของผู้รับ (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 สวยงาม เวลา 20 การประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน ผา่ น/ไมผ่ า่ น
การ คะแนน) คะแนน)
ประเมิน
ลงชอื่ …………………………………………..ผปู้ ระเมิน
…….……/……………/…………
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 – 20 ดมี าก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรับปรุง
นกั เรียนระดับคุณภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Compare & Contrast
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
รูปแบบ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
- ครบองค์ประกอบ
การแสดงความ -เปรียบเทยี บส่ิงที่เหมอื นและ - ครบองค์ประกอบ - ครบองคป์ ระกอบ - ครบองคป์ ระกอบ
คิดเห็น ตา่ งไดต้ รงตามเนื้อหาอยา่ ง
เนอ้ื หา ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ -เปรียบเทยี บส่งิ ที่เหมือน -เปรยี บเทียบสง่ิ ทเ่ี หมอื นและ -เปรียบเทยี บสงิ่ ที่เหมอื น
การนาเสนอ - แสดงความคิดเห็น และต่างได้ตรงตามเน้ือหา ต่างไดต้ รงตามเน้ือหาอย่าง และต่างไดต้ รงตามเนือ้ หา
ผลกระทบของปญั หา/เหตุ
ความ การฌไ์ ด้ 10 ข้อขนึ้ ไป อย่างถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง 60-79% อย่างถกู ตอ้ ง
สวยงาม - เนอื้ หาครบถ้วนตามสาระท่ี
การตรง กาหนด 100% 80-99% ตา่ วา่ 59%
ต่อเวลา - เขยี นถกู ต้องตามหลกั
ภาษา 100% - แสดงความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เห็น -แสดงความคิดเห็น
- ลาดบั หัวขอ้ เน้อื หาชัดเจน
- มกี ารสรปุ ได้อย่างสมเหตุ ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/
สมผล 100%
- พูดชดั เจนเสียงดงั ฟงั ชดั เหตุการณไ์ ด้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณไ์ ด้ 6-7 ข้อ เหตุการณไ์ ด้ นอ้ ยกว่า 6 ข้อ
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
ตามอกั ขระ100% -เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระที่
-บุคลิกภาพดีและมีความ
มั่นใจ กาหนด 80-99% กาหนด 60-79% กาหนดต่ากวา่ 59%
- มกี ารใช้สือ่ ประกอบการ
นาเสนอ - เขียนถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั
- ความพรอ้ มในการนาเสนอ
- ใช้สีสนั สวยงาม ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ากว่า 59%
- มีความสะอาด
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ - ลาดับหัวข้อเน้ือหาชดั เจน - มีการสรปุ ไดอ้ ย่างสมเหตุ - มีการสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล
-ความเปน็ ระเบียบอ่านง่าย
- ส่งผลงานครบถ้วน - มีการสรุปได้อยา่ ง สมผล 60-79% ต่ากวา่ 59%
ตรงตามเวลาท่กี าหนด
สมเหตสุ มผล 80-99%
- พูดชดั เจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนาเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง -ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง ตาม -ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
ตามอักขระ อักขระ60-79% ตามอกั ขระต่ากว่า 59%
80 -99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
- บคุ ลิกภาพดี
- ความพรอ้ มในการนาเสนอ
ได้บางสว่ น
- ใชส้ สี ันสวยงาม -ใช้สีสนั สวยงามและมี - ใชส้ ีสันสวยงามหรือเป็นไป
- มคี วามสะอาด ความสะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง
- มีความคดิ สร้างสรรค์
- สง่ ผลงานครบถว้ น - สง่ ผลงานครบถว้ น - ส่งผลงานครบถว้ น
แตช่ ้ากวา่ เวลาทีก่ าหนด แตช่ ้ากวา่ เวลาท่ีกาหนด แต่ชา้ กวา่ เวลาท่กี าหนด
5 นาที 10 นาที 15 นาที
ใบงาน ทวภิ าพของคลน่ื และอนุภาค
1. .อิเลก็ ตรอนเคลื่อนท่ดี ้วยอัตราเร็ว 2.8 × 107 เมตรตอ่ วินาทเี ข้าสู่บริเวณสนามแมเ่ หล็กในทศิ ทางต้ังฉาก กับ
สนามแม่เหล็ก ปรากฏว้า อเิ ล็กตรอนเคลือ่ นทเี่ ปน็ วงกลมรัศมี 0.10 เมตร สนามแมเ่ หล็กท่ใี ช้มขี นาด เท่าใด กาหนดให้
ประจไุ ฟฟ้าต่อมวลของอเิ ล็กตรอนเป็น 1.76 × 1011คลู อมบต์ตอ่ กโิ ลกรมั
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
2. ลาอเิ ล็กตรอนมีอตั ราเร็ว 2.0 × 107 เมตรต่อวนิ าทีเคลื่อนทีใ่ นทิศทาง ต้งั ฉากกบั สนามแม่เหลก็ ขนาด 3.0 × 10-3
เทสลา ทาให้อเิ ล็กตรอน เคลือ่ นทใ่ี นแนวโคง้ ดังรูป จงหาขนาดและทิศทางของสนามไฟฟา้ ใน บริเวณที่มสี นามแมเ่ หล็ก
ตามรปู ที่จะทาให้ลาอเิ ลก็ ตรอนเคลื่อนท่ีตรงไปโดยไมเ่ บน
......................................................................................................................... ...............................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
.................................................................................................................................... ....................................................
3. หยดนา้ มัน มวล 1.0 × 10-13กิโลกรมั มปี ระจุบวกหยดุ นิ่งในสนามไฟฟ้าขนาด 6.1 × 104นวิ ตัน ต่อคูลอมบ์จงหา
ประจุไฟฟา้ บนหยดนา้ มันในกรณนี ้ีสนามไฟฟ้าจะมีทิศทางใด
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
แบบประเมินแบบฝึกหดั
คาชี้แจง :ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี นโดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กาหนดตามตารางแนบท้าย
แบบประเมนิ ใบงานแบบฝึกหัด
ลาดบั ชอื่ – สกลุ ของ ขอ้ ท่ี 1 ขอ้ ที่ 2 ข้อที่ 3 รวม 15 สรุปผลการประเมนิ
ที่ ผ้รู ับบรกิ ารประเมนิ คะแนน ผา่ น / ไม่ผา่ น
ลงช่ือ……………………………………………….ผ้ปู ระเมนิ
……………./………………../……
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
10 - 15 ดีมาก
7 – 11 ดี
3 - 6 พอใช้
ตา่ กวา่ 2 ปรบั ปรงุ
นักเรียนไดร้ ะดับคุณภาพท่ี ดี ขึ้นไปถือว่า ผา่ น
เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัด/คานวณ
เกณฑ์การให้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน
คะแนน
คาตอบ - ไม่ตอบ/ - ใช้ภาษา - ใชภ้ าษา - มคี าตอบได้ - วเิ คราะห์และ - วเิ คราะหแ์ ละ
เหมาะสม เหมาะสม ถกู ต้อง กาหนดตวั แปรได้ กาหนดตัวแปรได้
- ไมแ่ สดงวิธี
ทา/แส - ตอบไม่ถกู ต้อง - เขียนสตู ร - ใชภ้ าษา - เขยี นสตู รแสดงวธิ ี - เขียนสูตรแสดงวิธี
แสดงวิธที าเปน็ เหมาะสม ทาเป็นข้นั ตอน ทาเปน็ ขั้นตอน
ดงวิธที าเปน็ ขั้นตอน
อ่ืน - เขยี นสูตรแสดง - มคี าตอบ - มคี าตอบ
- ตอบไมถ่ ูกตอ้ ง วิธที าเป็นขั้นตอน
- ใชภ้ าษาเหมาะสม - ใชภ้ าษาเหมาะสม
- คาตอบถกู ต้อง
ตามหลกั ทฤษฎี
ขอ้ สอบ O-NET 2559 1 ข้อ
1. จงหาความถีข่ องคล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ ท่ีถูกดูดกลนื หรอื เปล่งออกมาจากอะตอมไฮโดรเจน เม่ืออะตอม เปลี่ยนระดับพลงั งาน
จาก = 1ไปยงั = 3 และจาก = 6 ไปยงั = 3
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 23
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ฟิสิกสอ์ ะตอม หน่วยย่อยท่ี 2
เรื่อง ปรากฏการณ์คอมปต์ นั เวลา 2 ชั่วโมง
วนั ทท่ี าการสอน ผ้สู อน นางสาววีนัส พทิ าคา
นายพงศกร บุญวงค์
1. สาระสาคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
ปรากฏการณ์คอมป์ตัน หรือ การกระเจิงคอมป์ตัน เป็น 7. อธิบายทวิภาวะของคลนื่ และอนุภาค รวมท้ังอธบิ าย และ
การลดพลังงาน หรือการเพ่ิมความยาวคลื่นของโฟตอน คานวณความยาวคล่ืนเดอบรอยล์
ของรังสเี อก็ ซ์ หรอื รังสีแกมมา เมือ่ ทาอนั ตกิรยิ ากับสสาร
สว่ นปรากฏการณ์ย้อนกลบั 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. ใบงาน Mind Mapping เรื่อง ปรากฏการณ์คอมปต์ นั
3. สาระการเรยี นรู้ 2. ใบงาน เรอื่ ง ปรากฏการณ์คอมป์ตนั
- ปรากฏการณ์คอมปต์ ัน
5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 6. เครอ่ื งมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (White hat)
- ความสามารถในการแก้ปัญหา - Mind Mapping
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ขั้นของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธวี ัดผล
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Mind - แบบประเมนิ ใบ
บอกชอ่ื เกมส์ทนี่ ักเรยี นรู้จักมาละคน 1 เกมส์ Mapping เร่ือง งาน Mind
Mapping เรื่อง
Purpose (2 นาที) ปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์คอมป์
ตนั
เราจะเรยี น เร่ือง ปรากฏการณค์ อมปต์ ัน เพ่ือให้นักเรยี นสามารถอธิบาย คอมป์ตัน
ปรากฏการณ์คอมป์ตันได้ - แบบประเมิน ใบ
Work mode (110 นาที) - ใบความรู้ งาน เรอ่ื ง
ปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์คอมป์
1. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรื่อง การกระเจิงของแสง โดยศึกษาใบ คอมป์ตันจาก ตนั
ความรู้เรื่อง ปรากฏการณ์คอมป์ตันประกอบการสอน (พอเพียง 3 การมี บทเรยี นออนไลน์
ภมู ิคมุ้ กันท่ีดใี นตัว) (15 นาที)
2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5-6 ทากิจกรรมกลุ่ม Brainstorming โดยสืบค้น - ใบงาน เรอื่ ง
ข้อมูลการเปล่ียนแปลงความเข้มของรังสีเอกซ์ จากใบความรู้ สื่อ internet ปรากฏการณ์
แลว้ เขยี นสรุปความรู้รูปแบบแผนผังความคิดลงในใบงาน Mind mapping คอมป์ตนั