The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Opor Aumauang, 2022-09-11 07:30:25

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม_clone

หลักสูตร

Keywords: หลัก

สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำ บรุ รี มั ย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน
กระทรวงศึกษำธิกำร

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
(ฉบบั ปรบั ปรุงพุทธศกั ราช ๒๕๖๐)

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม อาเภอประโคนชัย จงั หวดั บรุ รี ัมย์
สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๓๒

สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

คานา

กระทรวงศึกษาธิการ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ดาเนินการ
จดั ทามาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชีว้ ัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง
พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ พร้อมทั้งจัดทาสาระ
การเรียนรู้แกนกลางของกลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละระดับชั้น เพื่อให้เขตพื้นท่ีการศึกษาหน่วยงาน
ระดับท้องถ่ิน และสถานศึกษาทุกสังกัดท่ีจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานได้นาไปใช้เป็นกรอบและทิศทางใน
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และจัดการเรียนการสอน โดยจัดทาตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้
แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตาม
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม โดยคณะครู ใน
กลุ่มสาระ จึงได้จัดทาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๖๐) ระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมสาหรับการจัดการเรียนการสอนในแต่ละ
ระดบั ช้ัน สามารถพฒั นาผูเ้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ทกี่ าหนด

งานพัฒนาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ก

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

สารบัญ

คานา หนา้
สารบัญ ก
บทนา ข

เปา้ หมายวิทยาศาสตร์ ๒
เรยี นร้อู ะไรในวทิ ยาศาสตร์ ๓
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๔
วสิ ัยทัศน์ พนั ธกจิ และเป้าประสงค์ของกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ๗
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๗
คุณภาพผ้เู รียน ๘
รายวิชาตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ๑๑
รายวชิ าวชิ าพื้นฐาน ๑๓
๑๓
ว๓๐๑๑๑ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ (ชีววทิ ยา) ๑๙
ว๓๐๑๑๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ (เคมี๑) ๒๓
ว๓๐๑๑๓ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ (ฟสิ กิ ส์๑) ๒๕
ว๓๐๑๑๔ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ๒๙
ว๓๐๑๑๕ การออกแบบและเทคโนโลยี ๓๑
ว๓๐๑๑๖ วิทยาการคานวณ ๓๓
ว๓๐๑๑๗ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ (เคมี๒) ๓๕
ว๓๐๑๑๘ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (ฟสิ ิกส์๒) ๓๗
รายวชิ าเพม่ิ เติม ๓๗
ว๓๐๒๐๑ ฟิสิกส์ ๑ ๓๙
ว๓๐๒๐๒ ฟิสกิ ส์ ๒ ๔๒
ว๓๐๒๐๓ ฟิสิกส์ ๓ ๔๕
ว๓๐๒๐๔ ฟิสิกส์ ๔ ๕๒
ว๓๐๒๐๕ ฟิสิกส์ ๕ ๕๙
ว๓๐๒๒๑ เคมี ๑ ๖๒
ว๓๐๒๒๒ เคมี ๒ ๖๕
ว๓๐๒๒๓ เคมี ๓ ๗๐
ว๓๐๒๒๔ เคมี ๔ ๗๔
ว๓๐๒๒๕ เคมี ๕

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ข

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

สารบัญ (ตอ่ ) หนา้

ว๓๐๒๔๑ ชวี วทิ ยา ๑ ๗๘
ว๓๐๒๔๒ ชีววิทยา ๒ ๘๕
ว๓๐๒๔๓ ชีววิทยา ๓ ๙๐
ว๓๐๒๔๔ ชีววิทยา ๔ ๙๕
ว๓๐๒๔๕ ชีววิทยา ๕ ๑๐๐
ว๓๐๒๖๑ การสรา้ งเกมคอมพวิ เตอร์ ๑๐๔
ว๓๐๒๖๒ การสร้างงานวีดิทัศนเ์ บือ้ งตน้ ๑๐๗
ว๓๐๒๖๓ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอรก์ ราฟิก ๑๐๙
ว๓๐๒๖๔ การใชโ้ ปรแกรมออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ๑๑๑
ว๓๐๒๖๕ การใชโ้ ปรแกรมตารางทางาน ๑๑๔
ว๓๐๒๖๖ การใชค้ อมพิวเตอรใ์ นงานสานกั งาน ๑๑๖
ว๓๐๒๖๗ การซอ่ มบารุงคอมพิวเตอรเ์ บื้องต้น ๑๑๙
ว๓๐๒๖๘ การออกแบบผลิตภณั ฑ์และการประยุกต์ ๑๒๑
ว๓๐๒๖๙ การสร้างสรรคง์ านวีดทิ ัศน์ ๑๒๓
ว๓๐๒๗๐ การสร้างสรรคง์ านแอนเิ มชัน ๑๒๕
ว๓๐๒๗๑ การออกแบบงานคอมพวิ เตอร์กราฟิก ๑๒๘
ว๓๐๒๗๒ การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ๑๒๙
ว๓๐๒๗๓ การจัดการฐานข้อมูล ๑๓๑
ว๓๐๒๗๔ การเขยี นโปรแกรมแบบกราฟิกโหมด ๑๓๓
ว๓๐๒๗๕ โครงงานคอมพวิ เตอร์ ๑๓๖
ว๓๐๒๗๖ การประยุกต์ใช้โปรแกรมตารางทางาน ๑๓๘
ว๓๐๒๗๗ โครงสรา้ งข้อมูลและขัน้ ตอนวิธี ๑๔๐
ว๓๐๒๗๘ การเขียนโปรแกรมบนเว็บ ๑๔๒
ว๓๐๒๗๙ การเขียนโปรแกรมและการประยกุ ต์ ๑๔๕
ว๓๐๒๘๔ ธรณีวิทยา ๑ ๑๔๖
ว๓๐๒๘๕ ธรณีวทิ ยา ๒ ๑๔๗
ว๓๐๒๘๖ ธรณวี ิทยา ๓ ๑๔๘
ว๓๐๒๙๑ เทคนคิ ปฏิบัติการพ้ืนฐานทางวทิ ยาศาสตร์ ๑ ๑๕๐
ว๓๐๒๙๒ เทคนิคปฏิบตั ิการพนื้ ฐานทางวิทยาศาสตร์ ๒ ๑๕๑
ว๓๐๒๙๓ ระเบียบวธิ วี ิจยั เบอื้ งต้น ๑๕๒

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพทิ ยาคม สพม.๓๒ ค

หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

สารบัญ (ต่อ) หนา้

ว๓๐๒๙๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๑ ๑๕๓
ว๓๐๒๙๕ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๒ ๑๕๕
ว๓๐๒๙๖ การสบื เสาะหาความรู้และแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ ๑ ๑๕๗
ว๓๐๒๙๗ การสืบเสาะหาความรู้และแกป้ ญั หาทางวทิ ยาศาสตร์ ๒ ๑๕๙
ว๓๐๒๙๘ โครงงานคอมพิวเตอร์ ๑ ๑๖๒
ว๓๐๒๙๙ โครงงานคอมพวิ เตอร์ ๒ ๑๖๔

ภาคผนวก ๑๖๖
ตารางวเิ คราะห์มาตรฐานและตวั ช้วี ัด ๑๖๗
คณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ๑๖๙

งานพัฒนาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ง

หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑)

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

บทนา

ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(ฉบับ
ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ น้ี ได้กาหนด
สาระการเรียนรู้ออกเป็น ๔ สาระ ได้แก่ สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์
กายภาพ สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ และสาระที่ ๔ เทคโนโลยี มีสาระเพ่ิมเติม ๔ สาระ
ได้แก่ สาระชีววิทยา สาระเคมี สาระฟิสิกส์ สาระโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ และสาระเทคโนโลยี ซึ่ง
องค์ประกอบของหลักสูตร ท้ังในด้านของเน้ือหา การจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้นั้น มีความสาคัญอย่างย่ิงในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนในแต่ละ
ระดับชั้น ให้มีความต่อเนื่องเช่ือมโยงกัน ต้ังแต่ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ จนถึงช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖
สาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้กาหนดตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางที่ผู้เรียน
จาเป็นต้องเรียนเป็นพ้ืนฐาน เพอ่ื ใหส้ ามารถนาความรนู้ ี้ไปใช้ในการดารงชีวิต หรอื ศึกษาตอ่ ในวิชาชีพ
ที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์ได้ โดยจัดเรียงลาดับความยากง่ายของเนื้อหาแต่ละสาระในแต่ละระดับชั้นให้มี
การเช่ือมโยงความรู้กับกระบวนการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนา
ความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สาคัญ ทั้งทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วย
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูล
หลากหลายและประจกั ษ์พยานทีต่ รวจสอบได้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตระหนักถึงความสาคัญ
ของการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีมุ่งหวังให้เกิดผลสัมฤทธ์ิต่อผู้เรียนมากท่ีสุด จึงได้จัดทาตัวชี้วัด
และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.
๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ขึ้น เพ่ือให้สถานศึกษา
ครผู สู้ อน

ตลอดจนหนว่ ยงานต่าง ๆ ได้ใชเ้ ป็นแนวทางในการพฒั นาหนังสือเรียน คูม่ ือครู สอื่ ประกอบ การ
เรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผล โดยตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่ม
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่จัดทาขึ้นนี้ได้ปรับปรุง เพ่ือให้มีความสอดคล้องและ
เช่ือมโยงกันภายในสาระการเรียนรู้เดียวกันและระหว่างสาระการเรียนรู้ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดจนการเช่ือมโยงเน้ือหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์ ด้วย
นอกจากน้ียังได้ปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัยต่อการเปล่ียนแปลง และความเจริญก้าวหน้าของ

งานพฒั นาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๑

หลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

วทิ ยาการต่าง ๆ และทัดเทียมกับนานาชาติ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สรปุ เป็น
แผนภาพได้ ดังน้ี

สาระที่ ๒
วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
- มาตรฐาน ว ๒.๑-ว ๒.๓

สาระที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สาระท่ี ๓
วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์และ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
- มาตรฐาน ว ๑.๑-ว ๑.๓ - มาตรฐาน ว ๓.๑-ว ๓.๒
เทคโนโลยี

สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
- มาตรฐาน ว ๔.๑-ว ๔.๒

วทิ ยาศาสตร์เพิม่ เติม  สาระชวี วิทยา  สาระเคมี  สาระฟิสิกส์
 สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
 สาระเทคโนโลยี

เปา้ หมายวทิ ยาศาสตร์

ในการเรยี นการสอนวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ด้วยตนเองมากทส่ี ุด เพ่ือให้
ได้ท้ังกระบวนการและความรู้ จากวิธีการสังเกต การสารวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนาผลท่ีได้
มาจัดระบบเป็นหลักการ แนวคิด และองค์ความรู้ การจัดการเรยี นการสอนวิทยาศาสตรจ์ ึงมเี ป้าหมาย
ทีส่ าคัญ ดังนี้

๑. เพ่อื ให้เขา้ ใจหลักการ ทฤษฎี และกฎท่ีเป็นพืน้ ฐานในวชิ าวทิ ยาศาสตร์

งานพฒั นาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๒

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

๒. เพ่ือให้เข้าใจขอบเขตของธรรมชาติของวิชาวิทยาศาสตร์และข้อจากัดในการศึกษาวิชา
วิทยาศาสตร์

๓. เพ่อื ให้มที กั ษะทีส่ าคญั ในการศกึ ษาคน้ คว้าและคดิ คน้ ทางเทคโนโลยี
๔. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์
และสภาพแวดลอ้ ม ในเชิงทีม่ ีอิทธพิ ลและผลกระทบซ่ึงกันและกนั
๕. เพื่อนาความรู้ ความเข้าใจ ในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ตอ่ สงั คมและการดารงชีวิต
๖. เพ่ือพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการจัดการ
ทกั ษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ
๗. เพื่อให้เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์

เรียนรอู้ ะไรในวทิ ยาศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ท่ีเน้นการเช่ือมโยง
ความรู้กับกระบวนการ มีทกั ษะสาคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใชก้ ระบวนการในการสืบ
เสาะหาความรู้ และแก้ปัญหาท่ีหลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการทา
กจิ กรรมดว้ ยการลงมือปฏบิ ัตจิ ริงอยา่ งหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชน้ั โดยกาหนดสาระสาคญั ดงั น้ี

✧ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เก่ียวกับ ชีวิตในส่ิงแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต
การดารงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ การดารงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ
และววิ ฒั นาการของสง่ิ มชี ีวติ

✧ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เก่ียวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร
การเคล่ือนที่ พลังงาน และคล่ืน

✧ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เกย่ี วกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพนั ธภ์ ายใน
ระบบสุรยิ ะ เทคโนโลยีอวกาศ ระบบโลก การเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยา กระบวนการเปลยี่ นแปลงลม
ฟ้าอากาศ และผลตอ่ สิง่ มชี วี ติ และส่งิ แวดลอ้ ม

✧ เทคโนโลยี
 การออกแบบและเทคโนโลยี เรยี นรู้เกี่ยวกบั เทคโนโลยี เพื่อการดารงชีวิตในสงั คมท่ีมี

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความร้แู ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตรแ์ ละศาสตร์อ่ืน ๆ
เพ่อื แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใช้
เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และสง่ิ แวดล้อม

 วิทยาการคานวณ เรยี นรเู้ กย่ี วกับการคดิ เชิงคานวณ การคิดวเิ คราะห์แก้ปญั หาอย่าง
เป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสือ่ สาร ในการแก้ปญั หาท่ีพบในชวี ติ จรงิ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๓

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงไม่มีชีวิต
กับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ
การถา่ ยทอดพลังงานการเปล่ียนแปลงแทนทีใ่ นระบบนิเวศ ความหมาย ของ
ประชากร ปญั หาและผลกระทบท่มี ตี อ่ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม แนวทาง
ในการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปญั หาสงิ่ แวดล้อม รวมท้งั นาความรู้
ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า
และออกจากเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์
และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะ
ตา่ ง ๆ ของพชื ท่ที างานสัมพันธ์กัน รวมท้ังนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
สารพันธุกรรมการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย
ทางชวี ภาพและววิ ัฒนาการของสงิ่ มีชีวิต รวมทงั้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ
ของสสารกบั โครงสรา้ งและแรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งอนุภาคหลักและธรรมชาติ ของ
การเปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลายและการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี
มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวัตถุ
ลักษณะการเคลือ่ นทแี่ บบตา่ ง ๆ ของวตั ถรุ วมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวนั ธรรมชาติ ของ
คลื่น ปรากฏการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้ง นา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๔

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ

กาแล็กซี ดาวฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อ

สง่ิ มีชวี ติ และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ

เปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลง

ลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลก รวมทัง้ ผลตอ่ สงิ่ มชี วี ิตและส่งิ แวดล้อม

สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพ่อื การดารงชวี ิตในสังคมท่มี ี การ

เปล่ียนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

และศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อยา่ งเหมาะสมโดย

คานงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม

มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้

การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม

งานพฒั นาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๕

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ และเป้าประสงคข์ องกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วิสยั ทัศน์
มุ่งพฒั นาผู้เรยี นดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ให้มีคณุ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา

พนั ธกจิ
พัฒนาการจัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์พัฒนางานในกลุ่มสาระการเรียนรู้

วิทยาศาสตร์ให้เปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธิภาพ
เปา้ ประสงค์

๑. นักเรยี นมคี วามรู้ ความสามารถด้านวทิ ยาศาสตร์ตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา
๒. การปฏิบัติงานของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ดาเนินไปอย่างเป็นระบบและมี
ประสทิ ธิภาพ

งานพัฒนาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๖

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน มุ่งใหผ้ ู้เรียนเกดิ สมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ ดังนี้
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการ
ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูล
ขา่ วสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมทง้ั การเจรจาต่อรอง
เพ่ือขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล
และความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการส่ือสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อ
ตนเองและสงั คม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้
หรือสารสนเทศเพ่อื การตัดสินใจเกีย่ วกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ งๆ ท่ี
เผชิญได้อย่างอย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสัมพนั ธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรูม้ าใช้
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อ
ตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่
ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้ง
ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการ
รู้จักหลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมไม่พึงประสงคท์ สี่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยี
ด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้
การส่ือสาร การทางาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์

เพ่ือให้สามารถอยูร่ ว่ มกับผู้อน่ื ในสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
๑. รักชาตศิ าสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซอ่ื สัตย์สจุ ริต
๓. มวี ินัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
๖. มุง่ มั่นในการทางาน

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๗

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

๗. รกั ความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ

คุณภาพผู้เรียน

จบชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖

❖ เข้าใจการลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ้มกัน

ในรา่ งกายของมนุษย์และความผดิ ปกติของระบบภูมิคุม้ กัน การใช้ประโยชน์จากสาร ตา่ ง ๆ ท่ีพืชสร้าง

ขึ้น การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม วิวัฒนาการท่ีทาให้เกิด

ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ความสาคัญและผลของเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอต่อมนุษย์ สิ่งมีชีวิต

และสงิ่ แวดลอ้ ม

❖ เข้าใจความหลากหลายของไบโอมในเขตภูมิศาสตร์ตา่ ง ๆ ของโลก การเปลี่ยนแปลงแทนที่

ในระบบนิเวศ ปญั หาและผลกระทบทม่ี ีตอ่ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม แนวทางในการ อนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติ และการแก้ไขปัญหาสงิ่ แวดลอ้ ม

❖ เข้าใจชนิดของอนุภาคสาคัญท่ีเป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอม สมบัติบางประการ

ของธาตุ การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ ชนิดของแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาคและสมบัติต่าง ๆ

ของสารทีม่ คี วามสมั พันธก์ บั แรงยึดเหนย่ี ว พันธะเคมี โครงสร้างและสมบตั ิของพอลเิ มอร์ การ

เกิดปฏิกริ ิยาเคมี ปจั จัย ท่มี ผี ลต่ออัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี และการเขียนสมการเคมี

❖ เข้าใจปริมาณท่ีเกี่ยวกับการเคล่ือนท่ี ความสัมพันธ์ระหว่างแรง มวลและความเร่ง

ผลของความเร่งท่ีมีต่อการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ แรงโน้มถ่วง แรงแม่เหล็ก ความสัมพันธ์

ระหว่างสนามแม่เหล็กและกระแสไฟฟ้า และแรงภายในนิวเคลียส

❖ เข้าใจพลังงานนิวเคลียร์ ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน การเปล่ียนพลังงาน

ทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีด้านพลังงาน การสะท้อน การหักเห การเล้ียวเบนและการรวม

คลนื่ การได้ยนิ ปรากฏการณท์ ่ีเกีย่ วข้องกับเสยี ง สีกับการมองเหน็ สี คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า และประโยชน์

ของคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้

❖ เข้าใจการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคลื่อนที่ของแผ่น

ธรณี ทส่ี ัมพนั ธ์กับการเกิดลักษณะธรณสี ัณฐาน สาเหตุ กระบวนการเกิดแผ่นดินไหว ภเู ขาไฟ ระเบิด

สนึ ามิ ผลกระทบแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัย

❖ เข้าใจผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส ที่มีต่อ

การหมุนเวียนของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศ

ความสัมพันธ์ของการหมุนเวียน ของอากาศ และการหมุนเวียนของกระแสน้าผิวหน้าในมหาสมุทร

และผลต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ปัจจัยต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง

ภูมิอากาศโลก และแนวปฏิบัติเพื่อลดกิจกรรมของมนุษย์ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก

รวมท้ังการแปลความหมายสัญลกั ษณ์ลมฟา้ อากาศทีส่ าคัญจากแผนท่ีอากาศ และขอ้ มูลสารสนเทศ

งานพฒั นาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๘

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

❖ เข้าใจการกาเนดิ และการเปล่ียนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพ หลักฐาน

ทส่ี นับสนนุ ทฤษฎบี ิกแบง ประเภทของกาแล็กซี โครงสรา้ งและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผอื ก

กระบวนการเกิดและการสร้างพลังงาน ปัจจัยที่ส่งผลต่อความส่องสวา่ งของดาวฤกษ์และความสัมพันธ์

ระหว่างความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ ความสัมพันธ์ระหว่างสี อุณหภูมิผิว และสเปกตรัม

ของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงสมบตั ิบางประการของ ดาวฤกษ์ กระบวนการเกดิ ระบบ

สุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่ เอ้ือต่อการดารงชีวิต การเกิดลม

สรุ ยิ ะ พายสุ รุ ิยะและผลทีม่ ีตอ่ โลก รวมทงั้ การสารวจอวกาศและการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ

❖ ระบุปัญหา ต้ังคาถามที่จะสารวจตรวจสอบ โดยมกี ารกาหนดความสัมพันธร์ ะหว่างตัวแปร

ต่าง ๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ต้ังสมมติฐานท่ีเป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือก ตรวจสอบ

สมมตฐิ านทเ่ี ปน็ ไปได้

❖ ตั้งคาถามหรือกาหนดปัญหาที่อยู่บนพ้ืนฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์

ท่ีแสดงให้เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงท่ีสามารถสารวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้า ได้อย่าง

ครอบคลุมและเช่ือถือได้สร้างสมมติฐานท่ีมีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์ส่ิงท่ีจะพบ เพื่อนาไปสู่การ

สารวจตรวจสอบ ออกแบบวธิ ีการสารวจตรวจสอบตามสมมติฐานทกี่ าหนดไวไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม มี

หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เลอื กวสั ดุ อปุ กรณ์ รวมทง้ั วิธีการ ในการสารวจตรวจสอบอยา่ งถกู ต้องทั้ง ใน

เชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ และบันทกึ ผลการสารวจตรวจสอบอยา่ งเปน็ ระบบ

❖ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปเพ่ือตรวจสอบ

กบั สมมติฐานท่ตี ้งั ไว้ ให้ข้อเสนอแนะเพ่ือปรับปรุงวิธีการสารวจตรวจสอบ จดั กระทาขอ้ มลู และ

นาเสนอข้อมูลด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม ส่ือสารแนวคิด ความรู้จากผลการสารวจตรวจสอบ โดย

การพูด เขียนจัดแสดงหรือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจโดยมีหลักฐานอ้างอิง หรือ มี

ทฤษฎรี องรับ

❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซ่ือสัตย์ ในการสืบเสาะหาความรู้

โดยใชเ้ คร่อื งมอื และวธิ ีการที่ใหไ้ ด้ผลถกู ตอ้ ง เช่ือถอื ได้ มเี หตผุ ลและยอมรบั ได้ว่าความรู้ ทาง

วิทยาศาสตรอ์ าจมกี ารเปล่ยี นแปลงได้

❖ แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้ พบคาตอบ หรือแก้ปัญหาได้

ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคดิ เหน็ โดยมีขอ้ มูลอ้างอิงและเหตผุ ลประกอบ เกี่ยวกับ

ผลของการพัฒนาและการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและส่ิงแวดล้อม

และยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื

❖ เข้าใจความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ท่ีมีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ

และการพัฒนาเทคโนโลยีท่ีส่งผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า ผลของเทคโนโลยี

ตอ่ ชวี ิต สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม

❖ ตระหนักถึงความสาคัญและเหน็ คุณคา่ ของความรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ที่

ใช้ในชีวิตประจาวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดารงชีวิต

และการประกอบอาชีพ แสดงความชนื่ ชม ภูมิใจ ยกย่อง อา้ งองิ ผลงาน ชิ้นงานทีเ่ ป็นผลมาจาก ภูมิ

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๙

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ปัญญาท้องถิ่น และการพัฒนาเทคโนโลยีท่ีทันสมัย ศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติม ทาโครงงานหรือสร้าง

ชนิ้ งานตามความสนใจ

❖ แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเก่ียวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

และสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกัน ดูแล

ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของท้องถ่นิ

❖ วิเคราะห์แนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยี ไดแ้ กร่ ะบบทางเทคโนโลยที ซ่ี ับซอ้ น การ

เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์

หรือคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคานึงถึงผลกระทบ

ตอ่ ชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และสง่ิ แวดลอ้ ม ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ ทรพั ยากรเพื่อออกแบบ สร้างหรือ

พัฒนาผลงาน สาหรับแก้ปัญหาท่ีมีผลกระทบต่อสังคม โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนาเสนอผลงาน เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือได้

อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภยั รวมทัง้ คานึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา

❖ ใช้ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

เพ่ือรวบรวมข้อมูลในชีวิตจริงจากแหล่งต่าง ๆ และความรู้จากศาสตร์อ่ืน มาประยุกต์ใช้ สร้างความรู้

ใหม่ เข้าใจการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีท่ีมีผลต่อการดาเนินชีวิต อาชีพ สังคม วัฒนธรรม และใช้

อยา่ งปลอดภัย มีจรยิ ธรรม

งานพัฒนาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๑๐

หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

รายวิชาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรุงพุทธศกั ราช ๒๕๖๐)
รายวชิ าพน้ื ฐานและเพมิ่ เติม

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

รายวิชาพ้ืนฐาน จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๑๑๑ วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ (ชวี วทิ ยา) จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต
ว๓๐๑๑๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (เคมี๑) จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต
ว๓๐๑๑๓ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (ฟิสิกส์๑) จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๑๑๔ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๑๑๕ การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๑๑๖ วทิ ยาการคานวณ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต
ว๓๐๑๑๗ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (เคมี๒) จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต
ว๓๐๑๑๘ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ (ฟสิ ิกส์๒)

รายวิชาเพมิ่ เติม จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๒๐๑ ฟิสิกส์ ๑ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๒๐๒ ฟิสกิ ส์ ๒ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ
ว๓๐๒๐๓ ฟสิ ิกส์ ๓ จานวน ๖๐ ชัว่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๒๐๔ ฟสิ ิกส์ ๔ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต
ว๓๐๒๐๕ ฟิสกิ ส์ ๕ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต
ว๓๐๒๒๑ เคมี ๑ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต
ว๓๐๒๒๒ เคมี ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต
ว๓๐๒๒๓ เคมี ๓ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ว๓๐๒๒๔ เคมี ๔ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หน่วยกติ
ว๓๐๒๒๕ เคมี ๕ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต
ว๓๐๒๔๑ ชีววทิ ยา ๑ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ
ว๓๐๒๔๒ ชวี วิทยา ๒ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ
ว๓๐๒๔๓ ชวี วทิ ยา ๓ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ
ว๓๐๒๔๔ ชีววิทยา ๔ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ
ว๓๐๒๔๕ ชวี วทิ ยา ๕ จานวน ๒๐ ช่วั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ
ว๓๐๒๖๑ การสรา้ งเกมคอมพิวเตอร์ จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต
ว๓๐๒๖๒ การสรา้ งงานวีดิทัศนเ์ บื้องต้น จานวน ๒๐ ช่วั โมง ๐.๕ หน่วยกติ
ว๓๐๒๖๓ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต
ว๓๐๒๖๔ การใชโ้ ปรแกรมออกแบบผลติ ภณั ฑ์ จานวน ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ
ว๓๐๒๖๕ การใช้โปรแกรมตารางทางาน

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๑๑

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ว๓๐๒๖๖ การใช้คอมพิวเตอร์ในงานสานักงาน จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกิต

ว๓๐๒๖๗ การซ่อมบารงุ คอมพิวเตอรเ์ บ้ืองต้น จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ

ว๓๐๒๖๘ การออกแบบผลติ ภัณฑแ์ ละการประยุกต์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ

ว๓๐๒๖๙ การสรา้ งสรรค์งานวดี ิทศั น์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

ว๓๐๒๗๐ การสร้างสรรคง์ านแอนเิ มชนั จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

ว๓๐๒๗๑ การออกแบบงานคอมพิวเตอร์กราฟิก จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

ว๓๐๒๗๒ การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งตน้ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ

ว๓๐๒๗๓ การจดั การฐานขอ้ มลู จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๗๔ การเขยี นโปรแกรมแบบกราฟกิ โหมด จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๗๕ โครงงานคอมพวิ เตอร์ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๗๖ การประยุกตใ์ ช้โปรแกรมตารางทางาน จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๗๗ คอมพิวเตอร์และขน้ั ตอนวธิ ี จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๗๘ การเขียนโปรแกรมบนเว็บ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๗๙ การเขียนโปรแกรมและการประยุกต์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๘๔ ธรณีวิทยา ๑ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต

ว๓๐๒๘๕ ธรณวี ิทยา ๒ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกิต

ว๓๐๒๘๖ ธรณีวิทยา ๓ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

ว๓๐๒๙๑ เทคนคิ ปฏบิ ตั ิการพน้ื ฐานทางวิทยาศาสตร์ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ

ว๓๐๒๙๒ เทคนคิ ปฏิบตั ิการพน้ื ฐานทางวิทยาศาสตร์ ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

ว๓๐๒๙๓ ระเบยี บวิธีวิจยั เบอื้ งตน้ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

ว๓๐๒๙๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๑ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

ว๓๐๒๙๕ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ

ว๓๐๒๙๖ การสบื เสาะหาความรู้ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

และการแก้ปัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ ๑

ว๓๐๒๙๗ การสบื เสาะหาความรู้ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หน่วยกติ

และการแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ ๒

ว๓๐๒๙๘ โครงงานคอมพวิ เตอร์ ๑ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต

ว๓๐๒๙๙ โครงงานคอมพวิ เตอร์ ๒ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๑๒

หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ว๓๐๑๑๑ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔-๖ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศึกษาวิเคราะห์ การลาเลียงสารผ่านเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรักษาดุลยภาพของน้า
และการรักษาดุลยภาพของกรด-เบส ของเลือด การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิภายในร่างกาย ระบบ
ภมู ิคุ้มกนั กลไกการต่อต้านหรือทาลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จาเพาะ และแบบจาเพาะ ความผิดปกติ
ของระบบภูมคิ ุ้มกนั การดารงชีวิตของพชื สารอินทรียท์ ี่จาเปน็ และไม่จาเป็นต่อการเจริญเตบิ โตของพืช
ปัจจยั ภายนอกและปจั จัยภายในบางประการท่ีมีผลตอ่ การเจริญเติบโตของพืช การตอบสนองทม่ี ที ศิ ทาง
สัมพันธ์และไม่สัมพันธ์กับทิศทางของส่ิงเร้า การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของ
พันธุศาสตร์เมนเดล ยีนกับการควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมการเปลี่ยนแปล งทางพันธุกรรม
เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ วิวฒั นาการและความหลากหลายทางพันธุกรรมของสิ่งมชี ีวติ การคดั เลือกโดย
ธรรมชาติ ระบบนิเวศ ไบโอม การเปล่ียนแปลงแทนท่ีของระบบนิเวศ การเปล่ียนแปลงขนาด ของประชากร
มนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
การอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหา การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ สอื่ สารสงิ่ ทเ่ี รียนรแู้ ละนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ของตนเอง

มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ ม

ตวั ช้ีวดั
ว ๑.๒ ม.๔-๖/๑-๑๒
ว ๑.๓ ม.๔-๖/๑-๖
ว ๑.๑ ม.๔-๖/๑-๔
ว ๔.๑ ม.๔-๖/๑-๕

รวมทั้งหมด ๒๗ ตัวช้วี ดั

งานพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๑๓

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ว๓๐๑๑๑ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ โครงสรา้ งรายวิชา
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖
กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ

ช่อื หน่วย มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
การเรียนรู้ การเรยี นร/ู้ (ช.ม.) คะแนน

ตัวชว้ี ัด

๑. การลาเลยี งสาร ว๑.๒ - สารทล่ี ะลายได้และสารที่มขี นาดเล็ก สามารถ ๖ ๔
๑.๑ การลาเลียง ม.๔/๑ แพร่ผ่านเย่ือหุ้มเซลล์ได้โดยตรงส่วนสารขนาด
เล็กท่ีมีประจุต้องลาเลียงผ่านโปรตีนท่ีแทรกอยู่
สารผ่านเขา้ และ ทเ่ี ย่อื หมุ้ เซลล์ ซง่ึ มี ๒ แบบ คือการแพร่แบบฟา

ออกจากเซลล์ ซิลิเทตและแอกทีฟทรานสปอร์ต ในกรณีสาร

ขนาดใหญ่ เช่น โปรตีนจะลาเลียงเข้าโดย
กระบวนการเอนโดไซโทซิสหรือลาเลียงออก
โดยกระบวนการเอกโซไซโทซิส

๒. การรักษาดุลย ว๑.๒ - การรกั ษาดุลยภาพของนา้ และสารในเลอื ด ๙ ๖
ภาพของร่างกาย ม.๔/๒-๔ เกิดจากการทางานของไตซ่ึงเป็นอวัยวะใน
มนุษย์ ระบบขับถ่ายที่มีความสาคัญในการกาจัดของ
๒.๑ การรักษา เสียที่มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบรวมทั้งน้า
ดุลยภาพของน้า และสารท่ีมีปริมาณเกินความต้องการของ
และสารในรา่ งกาย รา่ งกาย
๒.๒ การรกั ษา - การรักษาดลุ ยภาพของกรด-เบสในเลอื ด
ดลุ ยภาพของ กรด- เกดิ จากการทางานของไตทท่ี าหน้าทขี่ ับหรอื
เบสของเลือด ดดู กลบั ไฮโดรเจนไอออนไฮโดรเจนคารบ์ อเนต
๒.๓ การรักษา ไอออนและแอมโมเนยี มไอออนและการทางาน
ดุลยภาพของ ของปอดที่ทาหนา้ ทกี่ าจัดคารบ์ อนไดออกไซด์
อุณหภมู ิในร่างกาย - การรักษาดลุ ยภาพของอุณหภูมิภายในร่างกาย
เกิดจากการทางานของระบบหมนุ เวียนเลอื ดท่ี
ควบคุมปรมิ าณเลือดไปทผี่ วิ หนังการทางานของ
ต่อมเหง่ือและกลา้ มเนื้อโครงร่างซึ่งส่งผลถึง
ปริมาณความร้อนที่ถูกเกบ็ หรือระบายออกจาก

รา่ งกาย

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๑๔

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ช่ือหน่วย มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
การเรยี นรู้ การเรียนร/ู้ (ช.ม.) คะแนน

๒.๔ ระบบภมู ิ ตัวชี้วัด
คุ้มกนั
ว ๑.๒ - เม่ือเช้อื โรคหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นเขา้ สู่
๒.๔.๑ กลไก ม.๔/๕-๖ เนอ้ื เย่อื ในรา่ งกาย รา่ งกายจะมกี ลไกในการ
การตอ่ ต้านหรือ ตอ่ ตา้ นหรือ ทาลายส่ิงแปลกปลอมท้งั แบบ
ทาลายสง่ิ ไมจ่ าเพาะและแบบจาเพาะ
แปลกปลอมแบบ - เซลลเ์ ม็ดเลือดขาวกลมุ่ ฟาโกไซตจ์ ะมีกลไก
ไมจ่ าเพาะ ในการต่อตา้ นหรอื ทาลายสิง่ แปลกปลอมแบบ
๒.๔.๒ กลไก ไมจ่ าเพาะ
การต่อต้าน
หรอื ทาลาย - กลไกในการตอ่ ต้านหรือทาลายส่ิงแปลก
สิง่ แปลกปลอม
แบบจาเพาะ ปลอมแบบจาเพาะเปน็ การทางานของเซลล์

เมด็ เลอื ดขาวลิมโฟไซต์ชนดิ บแี ละชนดิ ที ซึง่

เซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาวท้งั สองชนิดจะมีตัวรับ

แอนตเิ จนทาให้เซลล์ทั้งสองสามารถ

ตอบสนองแบบจาเพาะต่อแอนติเจนนน้ั ๆ ได้

- เซลล์บที าหนา้ ทีส่ รา้ งแอนติบอดซี ่ึงชว่ ย

ในการจบั กบั สง่ิ แปลกปลอมต่างๆ เพ่ือทาลาย

ตอ่ ไป โดยระบบภูมคิ มุ้ กนั เซลล์ทีทาหนา้ ที่

หลากหลาย เช่น กระต้นุ การทางานของเซลล์

บีและเซลลท์ ชี นดิ อ่นื ทาลายเซลลท์ ่ตี ิดไวรสั

และเซลลท์ ่ผี ดิ ปกติอื่นๆ

๓. การดารงชวี ิต ว๑.๒ - กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงเปน็ จดุ เรมิ่ ต้น ๑๕ ๑๑
ของพชื ม.๔/๗-๑๒ ของการสรา้ งนา้ ตาลในพืช พืชเปลยี่ นน้าตาลไป
๓.๑ สารอนิ ทรยี ์ เปน็ สารอาหารและสารอนื่ ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต
ในพืช โปรตนี ไขมันท่ีจาเป็นตอ่ การดารงชีวติ ของพืช
๓.๑.๑ สาร - ปัจจัยภายนอกท่มี ีผลต่อการเจริญเตบิ โต
อนิ ทรยี ท์ ี่จาเปน็ ต่อ เช่น แสง นา้ ธาตุอาหาร CO๒ และออกซิเจน
การจรญิ เตบิ โตของ ปัจจยั ภายใน เชน่ ฮอร์โมนพืชซ่งึ พชื มีการ
พชื สังเคราะห์ขน้ึ เพ่ือควบคุมการเจริญเติบโต
๓.๑.๒ สาร ในช่วงชวี ติ ตา่ งๆ มนษุ ยม์ ีการสังเคราะห์สาร
อินทรยี ท์ ี่ไมจ่ าเป็น ควบคุมการเจริญเติบโตของพืชโดยเลียนแบบ
ต่อการจรญิ เตบิ โต ฮอร์โมนพชื เพื่อนามาใช้ควบคมุ การเจริญ
ของพชื เติบโตและเพ่ิมผลผลิตของพืช

งานพัฒนาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพทิ ยาคม สพม.๓๒ ๑๕

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ชื่อหน่วย มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
การเรียนรู้ การเรยี นรู้/ (ช.ม.) คะแนน

ตวั ช้วี ดั

๓.๒ ปัจจยั บาง - การตอบสนองตอ่ สง่ิ เรา้ ของพืชแบ่งตาม

ประการท่ีมีผลตอ่ ความสมั พนั ธก์ ับทศิ ทางของส่ิงเร้าได้ ได้แก่

การเจริญเติบโต แบบท่มี ที ิศทางสัมพนั ธก์ บั ทิศทางของส่ิงเร้า

ของพืช เช่น ดอกทานตะวนั หันเข้าหาแสง ปลายราก

๓.๒.๑ ปัจจยั เจริญเข้าหาแรงโนม้ ถ่วงของโลก และแบบ

ภายนอก ทไ่ี ม่มที ศิ ทางสัมพนั ธก์ บั ทิศทางของสง่ิ เรา้

๓.๒.๒ ปจั จยั เชน่ การหุบและบานของดอกหรือการหบุ

ภายใน และกางของใบพชื บางชนิด

๓.๓ การตอบสนอง - การตอบสนองตอ่ สิ่งเร้าของพืชบางอย่าง

ของพืชต่อส่งิ เรา้ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต เช่น การเจริญใน

๓.๓.๑ การ ทิศทางเข้าหาหรือตรงขา้ มกบั แรงโน้มถ่วง

ตอบสนองท่มี ี ของโลก การเจริญในทิศทางเขา้ หาหรือ

ทิศทางสัมพนั ธก์ บั ตรงขา้ มกบั แสงและการตอบสนองต่อ

ทิศทางของสง่ิ เร้า การสมั ผสั ส่ิงเร้า

๓.๓.๒ การ

ตอบสนองท่ีมี

ทศิ ทางไม่สัมพนั ธ์

กบั ทิศทางของสงิ่

เรา้

สอบกลางภาคเรียน ๑.๕ ๒๐

งานพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๑๖

หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ การเรยี นรู/้ (ช.ม.) คะแนน

ตวั ชี้วัด

๔. พันธุกรรมและ ว ๑.๓ - ดีเอน็ เอมีโครงสรา้ งประกอบดว้ ยนิวคลีโอ ๑๕ ๑๑

วิวัฒนาการ ม.๔/๑-๖ ไทดม์ าเรียงตอ่ กนั โดยยนี เป็นช่วงของสายดี

๔.๑ การถา่ ยทอด เอน็ เอท่ีมลี าดบั นิวคลีโอไทด์ท่ีกาหนด

ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ลกั ษณะของโปรตีนทีส่ ังเคราะห์ขึน้ ซง่ึ สง่ ผล

๔.๑.๑ การถ่ายทอด ให้เกดิ ลกั ษณะทางพันธุกรรมตา่ งๆ

ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม - มนุษยน์ าความรเู้ ทคโนโลยที างดเี อ็นเอมา

ทีเ่ ปน็ ส่วนขยายของ ประยุกต์ใช้ทางด้านการแพทยแ์ ละเภสชั

พันธุศาสตร์เมนเดล กรรม เชน่ การสรา้ งส่งิ มีชีวิตดัดแปร

๔.๒ ยนี กบั การควบคุม พันธุกรรมเพือ่ ผลติ ยาและวัคซีน ดา้ น

ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม การเกษตร เช่น พืชดดั แปรพันธุกรรมท่ี

๔.๓ การเปล่ยี นแปลง ตา้ นทานโรคหรอื แมลง สตั ว์ดัดแปร

ทางพันธกุ รรม พนั ธุกรรมท่ีมีลักษณะตามที่ต้องการและ

๔.๔ เทคโนโลยที าง ด้านนติ ิวทิ ยาศาสตร์ เช่น การตรวจลาย

ดเี อน็ เอ พมิ พ์ดีเอน็ เอ เพื่อหาความสัมพนั ธท์ างสายเลอื ด

๔.๕ ววิ ฒั นาการ หรือเพ่ือหาผูก้ ระทาผดิ

และความหลากหลาย - การใช้เทคโนโลยีทางดเี อ็นเอในด้านตา่ งๆ

ของส่ิงมชี วี ิต ต้องคานึงถึงความปลอดภัยทางชีวภาพ

๔.๕.๑ ความ ชีวจริยธรรมและผลกระทบทางด้านสังคม

หลากหลายทาง - ส่ิงมชี ีวติ ทมี่ อี ยใู่ นปจั จบุ ันมลี ักษณะท่ี

พนั ธุกรรม ปรากฏใหเ้ ห็นแตกต่างกนั ซ่ึงเปน็ ผลมา จาก

๔.๕.๒ การคัดเลอื ก ความหลากหลายของลักษณะทางพันธุกรรม

โดยธรรมชาติ ซ่ึงเกดิ จากมวิ เทชันร่วมกบั การคดั เลือกโดย

ธรรมชาติ

- ผลจากกระบวนการคัดเลอื กโดยธรรมชาติ

ทาใหส้ ิ่งมีชีวิตที่มลี กั ษณะเหมาะสมในการ

ดารงชีวิตสามารถปรบั ตัวใหอ้ ยูร่ อดได้ใน

สง่ิ แวดลอ้ มนัน้ ๆ

- กระบวนการคดั เลือกโดยธรรมชาตเิ ป็น

หลักการที่สาคัญอยา่ งหนึง่ ท่ที าใหเ้ กดิ

ววิ ัฒนาการของสง่ิ มชี ีวติ

งานพัฒนาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๑๗

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ การเรยี นร้/ู (ช.ม.) คะแนน

ตัวชว้ี ัด

๕. ชวี ติ ในส่ิงแวดลอ้ ม ว ๑.๑ - บริเวณของโลกแต่ละบริเวณมีสภาพทาง ๑๒ ๘
๕.๑ ระบบนิเวศ ม.๔/๑-๔ ภมู ศิ าสตรท์ แ่ี ตกตา่ งกนั แบง่ ออกไดเ้ ปน็
๕.๑.๑ ไบโอม หลายเขตตาม สภาพภูมิอากาศและปริมาณ
๕.๑.๒ การเปล่ียนแปลง น้าฝนทาใหม้ ีระบบนเิ วศทหี่ ลากหลายซง่ึ
แทนท่ขี องระบบนเิ วศ ส่งผลใหเ้ กิดความหลากหลายของไบโอม
๕.๑.๓ การเปลี่ยนแปลง - การเปล่ียนแปลงขององคป์ ระกอบในระบบ
ขนาดของประชากร นิเวศ ท้งั ทางกายภาพและทางชีวภาพมีผล
๕.๒ มนุษย์กับทรพั ยากร ตอ่ การเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากร
ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม - มนษุ ยใ์ ชท้ รัพยากรธรรมชาติโดยปราศจาก
๕.๒.๑ ปัญหาและ ความระมัดระวงั และมกี ารพัฒนาเทคโนโลยี
ผลกระทบที่มตี ่อ ใหม่ๆเพื่อชว่ ยอานวยความสะดวกต่างๆ
ทรัพยากรธรรมชาติและ แก่มนุษยส์ ง่ ผลต่อการเปลยี่ นแปลง
สง่ิ แวดล้อม ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
๕.๒.๒ การอนุรักษ์ - ปัญหาท่เี กิดกับทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ
ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มบางปัญหาส่งผลกระทบในระดับ
ส่งิ แวดลอ้ ม ทอ้ งถนิ่ บางปัญหากส็ ง่ ผลกระทบใน
ระดับประเทศและบางปัญหาสง่ ผลกระทบ
ในระดับโลก
- การลดปรมิ าณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
การกาจดั ของเสียทเ่ี ป็นสาเหตขุ องปัญหา
สง่ิ แวดลอ้ มและการวางแผนจัดการ
ทรพั ยากรธรรมชาติทีด่ ี เป็นตัวอยา่ งของ
แนวทางในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ
และการลดปญั หาสง่ิ แวดล้อมทเี่ กดิ ขึ้น
เพื่อให้เกดิ การใช้ประโยชนท์ ่ีย่ังยนื

สอบปลายภาคเรียน ๑.๕ ๓๐

จติ วิทยาศาสตร์ ๑๐

รวม ๖๐ ๑๐๐

งานพฒั นาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๑๘

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ว๓๐๑๑๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ (เคม๑ี ) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔-๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษาธาตุและสารประกอบ โครงสร้างอะตอมชนิดและจานวนอนุภาคมลู ฐานของอะตอมจาก
สัญลกั ษณน์ ิวเคลียร์ของธาตุ แบบจาลองอะตอม ไอโซโทป การจดั เรยี งธาตุในตารางธาตุและทานาย
แนวโนม้ ของสมบตั ิของธาตใุ นตารางธาตุ อธบิ ายการเกดิ พนั ธะเคมใี นโมเลกุลหรือในโครงผลกึ ของสาร
ความสมั พันธ์ระหว่างสมบัติของสารในเร่ืองจดุ เดือด จุดหลอมเหลวพนั ธะเคมี อเิ ลก็ โทรไลต์และ
สารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์ กรดเบส มอนอเมอร์ พอลเิ มอร์ สารประกอบอนิ ทรยี ์ สมบัติความเปน็
กรดเบสของสารประกอบอนิ ทรยี ์ การเกดิ และสมบตั ิของพอลิเมอร์ การนาพอลิเมอรไ์ ปใช้ได้อยา่ ง
เหมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ข้อมลู การ
สังเกต การวเิ คราะห์ การอธิบาย การอภปิ รายและสรุป เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มี
ความสารถในการตดั สินใจ สื่อสารสิ่งทเ่ี รียนร้นู าความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ เหน็
คณุ ค่าของวทิ ยาศาสตร์ มีจริยธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม

รหัสตัวช้ีวัด
ว๒.๑ ม.๔ – ๖/๑-๑๙

รวมท้งั หมด ๑๙ ตัวชี้วดั

งานพัฒนาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๑๙

หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสรา้ งรายวิชา

ว๓๐๑๑๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (เคม๑ี ) กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก

การเรียนรู้ เรียนรู้/ตัวช้ีวดั (ช.ม.) คะแนน

๑.โครงสร้าง ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑ ธาตุ ประกอบดว้ ยอะตอมของธาตุ ๑๐ ๓๐

ของอะตอมและ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๒ เพยี งชนิดเดยี ว ไมส่ ามารถแยกสลาย

ตารางธาตุ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๓ ทางเคมีได ส่วนสารประกอบ

- ธาตแุ ละ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ประกอบด้วยอะตอมของธาตุมากกว่า
สารประกอบ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๕ ๑ ชนิด และสามารถแยกสลายทาง
- แบบจาลอง ว ๒.๑ ม.๔-๖/๖ เคมไี ด้
อะตอม ว ๒.๑ ม.๔-๖/๗
โบรเ์ สนอแบบจาลองอะตอมว่าอะตอม
- อนุภาคมลู ฐาน ประกอบดว้ ยนวิ เคลยี สอยูต่ รงกลาง มี

ของอะตอม โปรตอน และนิวตรอนอยูภ่ ายในส่วน

-ตารางธาตุ อิเล็กตรอนจะเคลื่อนที่อยโู่ ดยรอบเป็น

ระดับพลงั งานที่มีค่าพลงั งานเฉพาะ

สว่ นแบบจาลองอะตอมประกอบดว้ ย

กล่มุ หมอกของอิเล็กตรอนเคลอ่ื นที่

รอบนิวเคลยี สอย่างรวดเร็วตลอดเวลา

ไปทัว่ ทั้งอะตอม

อะตอมประกอบด้วยอนุภาคทสี่ าคญั

คอื อิเล็กตรอน โปรตอน และ

นิวตรอน

ตารางธาตุคือตารางท่ีนักวทิ ยาศาสตร์
ไดร้ วบรวมธาตุตา่ ง ๆ เข้าไวเ้ ป็น
หมวดหมู่ โดยจัดธาตทุ ี่มสี มบัติ
คล้ายคลึงกนั ไวใ้ นหมเู่ ดียวกันเพอื่
ความสะดวกในการศึกษา

งานพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๒๐

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั

การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชี้วดั (ช.ม.) คะแนน

๒.พันธะเคมี ว ๒.๑ ม.๔-๖/๘ เปน็ พนั ธะในสานประกอบของธาตุที่ ๑๐ ๒๕

ว ๒.๑ ม.๔-๖/๙ เป็นอโลหะกบั อโลหะชนดิ เดยี วกัน

-พันธะ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๐ หรอื คนละชนิด

โคเวเลนต์ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๑ พันธะที่เกดิ ข้นึ อนั เน่ืองมาจากแรง

ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๒ ดึงดดู ทางไฟฟ้าสถิตระหวา่ งไอออน

-พนั ธะ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๓ บวก(cation) และไอออนลบ(anion)

ไอออนิก ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๔ อันเน่ืองมาจากการถ่ายโอน

อิเลก็ ตรอน จากโลหะให้แก่อโลหะ

๓.กรด – เบส ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๔ อิเลก็ โทรไลต์ (Electrolyte) ๑๐ ๒๐

- สารละลาย ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๖ หมายถึงสารทเ่ี มอ่ื ละลายในน้าจะนา

อิเลก็ โทรไลต์ ไฟฟ้าได้ เน่ืองจากมีไอออนซ่งึ อาจจะ

เปน็ ไอออนบวก หรือไอออนลบ

- กรด – เบส เคลอ่ื นที่อย่ใู นสารละลาย

สารละลายอิเลก็ โทรไลตน์ ้ีอาจเปน็

สารละลายกรด เบส หรอื เกลือก็ได้

กรด เป็นสารประกอบโคเวเลนต์ท่ี

ประกอบดว้ ยธาตุ H และอโลหะอน่ื

ๆ แบ่งได้เป็น ๒ ชนดิ คือ กรด

อินทรีย์และกรดอนินทรยี ์

เบส เป็นสารประกอบไอออนกิ ที่

เปน็ ออกไซดแ์ ละไฮดรอกไซด์ของ

โลหะ

๔.พอลิเมอร์ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๔ -พอลเิ มอร์เป็นสารประกอบมี ๑๐ ๒๕

-พอลิเมอรแ์ ละ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑๖ โมเลกลุ ใหญ่ทั้งท่เี กิดในธรรมชาติ

พลาสตกิ และได้จากการสงั เคราะห์ พลาสติก

-ผลกระทบของ เปน็ พอลิเมอร์สังเคราะห์

การใช้ผลิตภณั ฑ์ -ผลกระทบของการใช้ผลติ ภัณฑ์พอ

พอลิเมอรท์ ี่มีตอ่ ลิเมอรค์ ือ สลายตัวได้ยากเม่ือถกู ทิ้ง

สิ่งมชี ีวติ และ ใหเ้ ป็นขยะจะตกคา้ งอยใู่ น

สงิ่ แวดล้อม สิ่งแวดลอ้ มได้นาน ยากต่อการ

กาจดั เนอ่ื งจากเม่ือเผาจะก่อให้เกดิ

ควนั ทเ่ี ปน็ แก๊สพษิ และหากนาไป

ฝงั กจ็ ะทาใหด้ นิ บริเวณนัน้

เส่อื มสภาพไมส่ ามารถเพาะปลกู ได้

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๒๑

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
การเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวชวี้ ัด (ช.ม.) คะแนน

รวม ๔๐ ๑๐๐

งานพัฒนาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๒๒

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน

ว๓๐๑๑๓ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ (ฟิสกิ ส๑์ ) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษาหลักการพ้ืนฐานของแรงและการเคลื่อนที่ในเรื่องระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว
ความเร็ว ความเรง การเคล่ือนที่แนวตรง การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล การเคล่ือนที่แบบวงกลมและ
การเคลื่อนท่ีแบบส่ัน แรงที่กระทาตอวัตถุในสนามโน้มถ่วง และการเคล่ือนท่ีของวตั ถุในสนามโน้มถวง
แรงที่กระทาตออนุภาค ที่มีประจุไฟฟาในสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก รวมท้ังแรงนิวเคลียรใน
นิวเคลียส และการใชประโยชนจากแรงและการเคลื่อนท่ีแบบต่าง ๆ ศึกษาหลักการพื้นฐานของ
พลังงานในเร่ืององคประกอบของคล่ืน สมบัติของคล่นื เสียงและการได้ยิน ความเขมเสียง การเกิดเสยี ง
สะท้อนกลับ บีต ดอปเพลอร์ และการส่ันพ้องของเสียง มลพิษทางเสียง การมองเห็นสีของวัตถุ การ
ผสมสารสแี ละการนาไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวัน

ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมผี ลตอ่ การดาเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม
ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่างๆ รวมท้ังทรัพยากรในการทาโครงงานเพื่อแก้ปัญหาหรือ
พัฒนางาน

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทกั ษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถสอื่ สารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

รหสั ตัวชี้วดั
ว๒.๒ ม.๔-๖/๑-๑๐
ว๒.๓ ม.๔-๖/๑-๑๘

รวมท้ังหมด ๒๘ ตัวชว้ี ดั

งานพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๒๓

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสร้างรายวชิ า

ว๓๐๑๑๓ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ (ฟสิ ิกส๑์ ) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ

ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
การเรยี นรู้
๑.แรงและการ เรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั (ช.ม.) คะแนน
เคล่อื นท่ี
๒.การเคลอ่ื นท่ี ว ๒.๒ - พน้ื ฐานของแรงและการเคล่ือนท่ีในเรื่อง ๘ ๒๐
แบบตา่ งๆ
๓.สนามของแรง ม.๔-๖/๑-๔ ระยะทาง การกระจดั อัตราเร็ว ความเรว็

๔.ปฏกิ ิริยา ความเรง การเคล่ือนที่แนวตรง
นิวเคลยี ร์
ว ๒.๒ - การเคลอื่ นท่ีแบบโพรเจกไทล ๘ ๒๐

ม.๔-๖/๕ - การเคลื่อนที่แบบวงกลม

- การเคล่อื นท่ีแบบสน่ั

ว ๒.๒ - แรงท่ีกระทาตอวัตถุในสนามโนม้ ถว่ ง ๘ ๒๐

ม.๔-๖/๖-๑๐ การเคลอื่ นทีข่ องวตั ถใุ นสนามโนม้ ถวง

- แรงทก่ี ระทาตออนภุ าค ทม่ี ีประจุไฟฟ

าในสนามไฟฟ้าและสนามแมเ่ หลก็ รวมท้ัง

แรงนิวเคลยี รในนวิ เคลียส

- การใชประโยชนจากแรงและการ

เคลือ่ นที่แบบตา่ ง ๆ

ว ๒.๓ - พลงั งานนิวเคลยี ร์ ฟชิ ชนั และฟวิ ชนั ๘ ๒๐

ม.๔-๖/๑๑-๑๒ - ความสมั พันธร์ ะหวา่ งมวลกับพลังงานที่

ปลดปล่อยออกมาจากฟชิ ชันและฟิวชัน

๕.คลนื่ ว ๒.๓ - หลักการพื้นฐานของพลังงานในเรือ่ งองค ๘ ๒๐
ม.๔-๖/๑๓-๑๘ ประกอบของคลื่น สมบัติของคลน่ื เสยี ง
และการไดย้ นิ ความเขมเสียง การเกดิ
เสยี งสะทอ้ นกลับ บตี ส์ ดอปเพลอร์ และ
การส่นั พ้องของเสยี ง มลพษิ ทางเสียง
- การมองเหน็ สีของวตั ถุ การผสมสารสี
และการนาไปใชป้ ระโยชนใ์ น
ชีวติ ประจาวนั
- สเปกตรมั คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า การ
สอื่ สารโดยอาศัยคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า
หลักการทางานของอปุ กรณ์บางชนิดที่
อาศัยคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า

รวม ๔๐ ๑๐๐

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๒๔

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

ว๓๐๑๑๔ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔-๖ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษากาเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดบิกแบง
ในช่วงเวลาต่าง ๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพ โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก
กระบวนการเกิดดาวฤกษ์ การเปลี่ยนแปลงความดัน อุณหภูมิ ขนาด กระบวนการเกิดระบบสรุ ิยะ การ
แบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ การสารวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคล่ืนต่าง ๆ
ดาวเทียมยานอวกาศสถานีอวกาศ โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ การแบ่งชั้นและสมบัติ
ของโครงสรา้ งโลก กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ การเคลอื่ นทข่ี องอากาศ การ
หมุนเวียนของอากาศและน้าผิวหน้าในมหาสมุทรท่ีมตี ่อลักษณะภมู ิอากาศ ลมฟ้าอากาศ สง่ิ มชี ีวติ การ
เปลี่ยนแปลงภมู อิ ากาศของโลกทีส่ ง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงภมู ิอากาศโลก

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทกั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบคน้ ขอ้ มูลและการอภิปราย เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความ
เข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั

มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

รหสั ตวั ชี้วัด
ว๓.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐
ว๓.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐ ,ม.๕/๑๑,

ม.๕/๑๒ ,
ม.๕/๑๓, ม.๕/๑๔

รวม ๒๔ ตวั ชีว้ ัด

งานพัฒนาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๒๕

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสร้างรายวิชา

ว๓๐๑๑๔ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔-๖ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

หน่วย ช่ือหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด (ช.ม.) คะแนน

๑ โครงสร้าง ว ๗.๑ ปจั จุบันสามารถแบง่ โครงสร้างโลกได้ ๘

โลก ม.๔/๑ เปน็ ๒ แบบ คอื โครงสรา้ งตาม

องค์ประกอบทางเคมี แบ่งออกเปน็ ๓

ช้ัน ไดแ้ ก่ เปลอื กโลก เน้อื โลก และแก่น

โลก และโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชงิ กล

แบ่งไดเ้ ป็น ๕ ช้นั ไดแ้ ก่ ธรณีภาค ฐาน

ธรณภี าค มัชฌมิ ภาค แกโ่ ลกชั้นนอก

และแกน่ โลกชน้ั ใน นอกจากน้ยี ังมีการ

ค้นพบรอยตอ่ ระหว่างช้ันโครงสรา้ งโลก

เช่น แนวแบ่งเขตโมโฮโรวซิ กิ แนวแบง่

เขตกูเทนเบิรก์ แนวแบง่ เขตเลหแ์ มน

๒ ธรณแี ปร ว ๗.๑ แผน่ ธรณตี า่ ง ๆ เป็นส่วนประกอบของ ๑๘

สนั ฐาน ม.๔/๒ ธรณภี าค ซึ่งเป็นชน้ั นอกสุดของ

ม.๔/๓ โครงสร้างโลก โดยมกี ารเปลยี่ นแปลง

ขนาดและตาแหนง่ ต้ังแตอ่ ดีตจนถึง

ปจั จุบนั

การเคล่อื นท่ขี องแผน่ ธรณดี งั กลา่ ว

อธิบายได้ตามทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ซึง่

มีรากฐานมาจากทฤษฎีทวีปเล่ือนและ

ทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้นื สมทุ ร โดยมี

หลกั ฐานสนับสนนุ ไดแ้ ก่ รปู ร่างของขอบ

ทวีปท่สี ามารถเช่ือมต่อกันได้ ความ

คล้ายคลงึ ของกลุ่มหนิ และแนวเทือกเขา

ซากดกึ ดาบรรพ์ รอ่ งรอยการเคลอ่ื นที่

ของตะกอนธารน้าแขง็ ภาวะแมเ่ หล็กโลก

บรรพกาล อายุหนิ ของพืน้ มหาสมทุ ร

รวมท้ังการคน้ พบสันเขากลางมหาสมุทร

และร่องลึกกน้ มหาสมทุ ร

การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณตี ามทฤษฎี

ธรณีแปรสณั ฐาน เกดิ ข้นึ จากการพาความ

งานพัฒนาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพทิ ยาคม สพม.๓๒ ๒๖

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

หน่วย ช่ือหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ที่ การเรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ช้วี ัด (ช.ม.) คะแนน

รอ้ นของหินหนืดภายในโลก โดยลกั ษณะ

การเคลอื่ นที่ของแผ่นธรณมี ี ๓ รูปแบบ

ไดแ้ ก่ แผน่ ธรณเี คลือ่ นที่เข้าหากัน แผ่น

ธรณเี คล่อื นทแ่ี ยกออกจากกัน แผน่ ธรณี

เคลือ่ นท่ผี ่านกนั ซง่ึ ทาให้เกิดลักษณะ

ธรณสี ัณฐาน ไดแ้ ก่ รอ่ งลึกก้นมหาสมุทร

หมู่เกาะภเู ขาไฟรูปโคง้ แนวภูเขาไฟ

แนวเทอื กเขา หุบเขาทรุดและเทือกเขาใต้

มหาสมทุ ร และธรณโี ครงสร้างตา่ ง ๆ

นอกจากนยี้ ังเป็นสาเหตุทาให้เกดิ ธรณี

พบิ ตั ิภยั เชน่ แผ่นดนิ ไหว ภูเขาไฟระเบดิ

สนึ ามิ

๓ ธรณพี ิบัตภิ ยั ว ๗.๑ ภเู ขาไฟระเบดิ เกิดจากการแทรกดัน ๑๖

ม.๔/๕ ตัวของหนิ หนืดขนึ้ มาตามสว่ นเปราะบาง

ม.๔/๖ หรือรอยแตกบนเปลือกโลก มกั พบ

ม.๔/๗ หนาแนน่ บรเิ วณรอยต่อระหว่างแผ่นธรณี

ทาให้บริเวณดงั กลา่ วเปน็ พนื้ ท่เี สีย่ งภยั

ผลจากการระเบิดของภเู ขาไฟมที ัง้

ประโยชน์และโทษ จงึ ตอ้ งศึกษาแนวทาง

ในการเฝา้ ระวัง และการปฏิบัติตนให้

ปลอดภัย

แผน่ ดนิ ไหวเกิดจากการปลดปล่อย

พลงั งานท่ีสะสมไว้ของเปลือกโลก ในรูป

ของคลน่ื ไหวสะเทือน แผนดินไหวมีขนาด

และความรุนแรงตา่ งกัน ซ่ึงสง่ ผลให้

สงิ่ กอ่ สร้างเสียหาย เกิดอันตรายต่อชีวติ

และทรัพย์สนิ จงึ ตอ้ งศึกษาแนวทางใน

การเฝา้ ระวัง และการปฏิบัติตนให้

ปลอดภยั

สนึ ามิ คอื คลื่นนา้ ท่ีเกิดจากการ

แทนท่มี วลน้าในปริมาณมหาศาล

ส่วนมากมักเกิดในทะเล หรือมหาสมุทร

โดยคลนื่ จะมีลกั ษณะเฉพาะ คือ ความ

ยาวคลน่ื มากและเคล่ือนทีด่ ว้ ยความเรว็ สูง

งานพัฒนาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๒๗

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

หน่วย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
ท่ี การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด (ช.ม.) คะแนน

เมอ่ื อยู่กลางมหาสมทุ รจะมีความสงู คลืน่

น้อย และอาจเพิ่มความสงู ข้ึนอย่าง

รวดเรว็ เมอ่ื คลน่ื เคล่ือนทผี่ า่ นบริเวณน้าต้นื

จงึ ทาให้พ้นื ท่บี รเิ วณชายฝง่ั บางบรเิ วณ

เปน็ พื้นที่เส่ียงภยั สึนามิก่อใหเ้ กดิ

อนั ตรายแกม่ นษุ ย์และส่ิงก่อสรา้ งใน

บริเวณชาดหาด ดังนนั้ จงึ ต้องศึกษา

แนวทางในการเฝ้าระวังและการปฏิบัตติ น

ให้ปลอดภัย

๔ ลาดบั ชน้ั หิน ว ๗.๑ การลาดบั ชัน้ หินและธรณีประวตั ิ เปน็ ๑๘

ม.๔/๔ การศึกษาการวางตัว การแผ่กระจาย

ลาดบั อายุ ความสัมพันธข์ องชน้ั หิน รอย

ชน้ั ไมต่ ่อเน่ือง และหลักฐานทาง

ธรณีวิทยาอ่นื ๆ ทป่ี รากฏ ทาใหท้ ราบถึง

ประวตั ิ เหตุการณท์ างธรณีวทิ ยา การ

เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม วิวฒั นาการ

ของส่ิงมีชวี ิตทเี่ กดิ ขึน้ บนโลก ตัง้ แต่

กาเนดิ โลกจนถงึ ปจั จุบนั

หลักฐานทางธรณีวิทยา ได้แก่ ซาก

ดึกดาบรรพ์ หิน และโครงสร้างทางธรณี

ซ่ึงนามาหาอายุได้ ๒ แบบ ไดแ้ ก่ อายุ

เปรยี บเทยี บ และ อายสุ มั บรู ณ์

ข้อมูลจากอายุเปรยี บเทียบและอายุ

สัมบรู ณ์ สามารถนามาจัดทามาตราธรณี

กาล คอื การลาดับชว่ งเวลาของโลก

ตง้ั แต่เกิดจนถงึ ปัจจบุ ัน แบ่งเป็น บรมยุค

มหายุค ยุค และสมัย

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพทิ ยาคม สพม.๓๒ ๒๘

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน

ว๓๐๑๑๕ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษา วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีท่ี
เกิดขึ้นและความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน ออกแบบ สร้าง หรือพัฒนาผลงานสาหรับ
แก้ปญั หาทค่ี านงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ สงั คมในประเดน็ ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั สุขภาพและการบริการ

โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ใช้ความรู้ทักษะ และเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์
เครื่องมอื กลไก ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนาเสนอผลงาน

เพือ่ แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย คานึงถึงทรัพยส์ ินทางปัญญา

ตวั ชว้ี ดั ว ๔.๑ เทคโนโลย(ี การออกแบบและเทคโนโลยี)
ว ๔.๑ ม.๔/๑ วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะ
วทิ ยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทงั้ ประเมินผลกระทบท่ีจะเกิดข้นึ ต่อมนุษย์
สังคม เศรษฐกิจ และส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื เปน็ แนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี
ว ๔.๑ ม.๔/๒ ระบุปัญหาหรือความต้องการท่ีมีผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล
และแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหาท่ีมีความซับซ้อนเพื่อสังเคราะห์วิธีการ
เทคนิคในการแกป้ ญั หา โดยคานึงถึงความถูกตอ้ งด้านทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา
ว ๔.๑ ม.๔/๓ ออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมลู ท่ี
จาเป็นภายใต้เง่ือนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้
ผู้อ่ืนเข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการที่หลากหลายโดยใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการ
ออกแบบ วางแผนขั้นตอนการทางานและดาเนนิ การแกป้ ญั หา
ว ๔.๑ ม.๔/๔ ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่
เกิดข้ึนภายใต้กรอบเง่ือนไขหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนาเสนอผลการ
แกป้ ญั หา พร้อมทัง้ เสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอด
ว ๔.๑ ม.๔/๕ ใชค้ วามรแู้ ละทักษะเกย่ี วกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่อื งมือ กลไก ไฟฟ้าและ
อเิ ล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีที่ซบั ซ้อนในการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นางาน ได้
อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย
ว ๔.๑ ม.๕/๑ ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมท้ังทรัพยากรในการทา
โครงงานเพือ่ แกป้ ัญหาหรือพัฒนางาน

รวมทั้งหมด ๖ ตวั ช้ีวดั

งานพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๒๙

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสรา้ งรายวิชา

ว๓๐๑๑๕ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

หน่วย ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ/ เวลา น้าหนัก
ท่ี เรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั ความคิดรวบยอด (ชัว่ โมง) คะแนน

๑ แนวคดิ หลกั ของ มฐ. ว ๔.๑ - ระบบเทคโนโลยี ๒๕

เทคโนโลยี ม.๔/๑ - ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

๒ ระบปุ ญั หาและ มฐ. ว ๔.๑ - การวเิ คราะหป์ ญั หา ๒๕

ความต้องการ ม.๔/๒

๓ ออกแบบวธิ ีการ มฐ. ว ๔.๑ - การออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา ๒ ๑๐

แกป้ ญั หา ม.๔/๓ - เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการออกแบบวธิ กี าร

แกป้ ญั หา

๔ นาเสนอแนวทาง มฐ. ว ๔.๑ - การนาเสนอแนวทางการแก้ปญั หา ๒ ๑๐

การแกป้ ัญหา ม.๔/๔

๕ ทกั ษะการแก้ไข มฐ. ว ๔.๑ - ทักษะและกระบวนการและเคร่ืองมือ ๖ ๑๐

ปญั หา ม.๔/๕ ที่ใช้ในการแก้ปัญหา

๖ ประยกุ ต์ใช้ความรู้ มฐ. ว ๔.๑ - การจัดทาโครงงาน ๔ ๒๐

และทกั ษะ ม.๕/๑

สอบกลางภาค ๑ ๒๐

สอบปลายภาค ๑ ๒๐

รวม ๒๐ ๑๐๐

งานพฒั นาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๓๐

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ว๓๐๑๑๖ วิทยาการคานวณ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษาหลักการของแนวคิดเชงิ คานวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปญั หา การหา
รปู แบบการคดิ เชงิ นามธรรม ตวั อย่างและประโยชน์ของแนวคดิ เชงิ คานวณเพื่อแกป้ ญั หาใน
ชวี ติ ประจาวนั ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการออกแบบขั้นตอนวธิ ีสาหรบั แก้ปัญหา การ
แก้ปัญหาดว้ ยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมลู เข้า ขอ้ มลู ออก และเง่ือนไขของปญั หา การออกแบบข้นั ตอน
วิธี การทาซา้ การจัดเรียงและคน้ หาขอ้ มูล ตวั อย่างการออกแบบขั้นตอนวธิ ี

เพอื่ แกป้ ัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศกึ ษาตวั อยา่ งโครงงานทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ กาหนด
ปญั หา ศึกษา วางแผน ดาเนินงาน สรุปผลและเผยแพร่

พฒั นาโครงงานท่ีมีการบรู ณาการรว่ มกบั วิชาอ่นื และเชือ่ มโยงกับชวี ิตจริง

ตัวช้วี ัด ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
ว ๔.๒ ม.๔/๑ ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชิงคานวณในการพฒั นาโครงงานท่ีมกี ารบรู ณาการกับวิชา
อ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชื่อมโยงกับชวี ิตจริง
ว ๔.๒ ม.๕/๑ รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใชค้ วามรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สือ่ ดจิ ิทัล
เทคโนโลยีสารสนเทศในการแกป้ ัญหาหรอื เพิม่ มูลค่าให้กับบรกิ ารหรือ
ผลติ ภณั ฑท์ ่ีใช้ในชีวติ จริงอย่างสร้างสรรค์
ว ๔.๒ ม.๖/๑ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการนาเสนอ และแบ่งปนั ข้อมูลอย่างปลอดภยั มี
จรยิ ธรรม และวเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศทม่ี ผี ลต่อการ
ดาเนนิ ชวี ติ อาชีพ สังคม และวฒั นธรรม

รวมท้ังหมด ๑ ตวั ชว้ี ัด

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๓๑

หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

ว๓๐๑๑๖ วิทยาการคานวณ ๑ โครงสร้างรายวชิ า
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔
กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั / เวลา นา้ หนัก
ที่ เรียนร/ู้ ความคดิ รวบยอด (ช่วั โมง) คะแนน
ตวั ช้วี ัด

๑ การพัฒนา มฐ. ว ๔.๒ • การนาแนวคดิ เชิงคานวณไปพัฒนา ๖ ๒๐

โครงงาน ม.๔/๑ โครงงานทเี่ กยี่ วกับชีวติ ประจาวัน

๒ คอมพวิ เตอร์กับ มฐ. ว ๔.๒ • การเพมิ่ มูลคา่ ใหบ้ ริการหรือผลติ ภณั ฑ์ ๖ ๒๐

การแกป้ ัญหา ม.๕/๑ • การเกบ็ ข้อมลู และการจดั เตรียมข้อมูล

ให้พรอ้ มกบั การประมวลผล

• การวเิ คราะห์ข้อมลู ทางสถติ ิ

• การประมวลผลขอ้ มลู และเครอื่ งมือ

• การทาข้อมูลใหเ้ ป็นภาพ (data

visualization)

• การเลือกใช้แหล่งขอ้ มลู

• คณุ คา่ ของข้อมลู และกรณีศึกษา

• กรณศี ึกษาและวธิ กี ารแกป้ ัญหา

๓ เทคโนโลยกี ับ มฐ. ว ๔.๒ • การนาเสนอและแบ่งปันข้อมลู ๖ ๒๐

จริยธรรม ม.๖/๑ • การนาเสนอและแบ่งปนั ข้อมูลอยา่ ง

ปลอดภยั

• จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี

สารสนเทศ

• แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต

• นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านตา่ ง ๆ ที่

เกี่ยวข้องกับชวี ิตประจาวัน

• อาชีพเกยี่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

• ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ต่อการดาเนินชีวิต อาชีพ สังคม และ

วัฒนธรรม

สอบกลางภาค ๑ ๒๐

สอบปลายภาค ๑ ๒๐

รวม ๒๐ ๑๐๐

งานพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพทิ ยาคม สพม.๓๒ ๓๒

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน

ว๓๐๑๑๗ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ (เคม๒ี ) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔-๖ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศึกษาปฏิกิริยาเคมี สมการเคมี ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ปฏิกิริยารีดอกซ์
สมบัติของสารกัมมันตรังสี ครึ่งชีวิตของสารกัมมันตรังสี รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้าน
วิทยาการคอมพิวเตอร์ สือ่ ดิจติ ลั เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาหรือเพม่ิ มูลคา่ ใหก้ บั บริการหรือ
ผลติ ภัณฑท์ ีใ่ ช้ในชีวติ จรงิ อย่างสร้างสรรค์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์ การ
เปรียบเทียบ การสารวจตรวจสอบ การทานาย และการทดลอง เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความ
เขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารสง่ิ ท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั มจี ิต
วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสมมีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม
และค่านิยมทีเ่ หมาะสม

รหสั ตวั ช้วี ัด
ว๒.๑ม.๔ – ๖/๑-๖

รวมท้ังหมด ๖ ตัวชว้ี ดั

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๓๓

หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสรา้ งรายวิชา

ว๓๐๑๑๗ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (เคม๒ี ) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔-๖ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ

หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
(ช.ม.) คะแนน

๑ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๑ -การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ๑๐ ๕๐

ปฏิกริ ิยาเคมี ว ๒.๑ ม.๔-๖/๒ หมายถึง กระบวนการท่ีสาร

-ปฏิกิริยาเคมี ว ๒.๑ ม.๔-๖/๓ ต้ังต้นเปลี่ยนไปเปน็ สาร

- ปัจจยั ที่มีผลตอ่ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ผลติ ภณั ฑ์

อัตราการ -อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี

เกิดปฏิกิริยาเคมี (Reaction Rate)หมายถงึ

การเปลยี่ นแปลงของสารใน

หน่งึ หนว่ ยเวลา

-ปัจจยั ท่มี ีผลต่ออัตราการ

เกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี คือ

ธรรมชาติของสารตง้ั ต้น

ความเข้มขน้ พื้นที่ผวิ

อณุ หภมู ิ และตัวเรง่

๒ ว ๒.๑ ม.๔-๖/๕ -ธาตุกมั มนั ตรังสี หมายถงึ ๑๐ ๕๐

ธาตกุ มั มันตรงั สี ว ๒.๑ ม.๔-๖/๖ ธาตุท่แี ผร่ งั สไี ด้ เนื่องจาก

- คร่งึ ชีวิต นิวเคลียสของอะตอมไม่

เสถียร เปน็ ธาตุทมี่ ีเลข

อะตอมสงู กวา่ ๘๒

-คร่งึ ชีวิตของธาตุ (half

life) หมายถงึ ระยะเวลาท่ี

สารสลายตัวไปจนเหลอื

เพียงครึง่ หน่ึงของปริมาณ

เดมิ ใชส้ ญั ลักษณเ์ ปน็ t๑/๒

รวม ๒๐ ๑๐๐

งานพัฒนาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๓๔

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ว๓๐๑๑๘ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ (ฟสิ ิกส๒์ ) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษาหลักการพ้ืนฐานของสเปกตรัมคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ า การสื่อสารโดยอาศัยคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้า หลักการทางานของอุปกรณ์บางชนดิ ท่อี าศัยคล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ กมั มนั ตภาพรังสี รังสใี น
ชีวิตประจาวัน ปฏิกิริยานิวเคลียร พลังงานนิวเคลียร และการใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค ผล
กระทบตอสิง่ มชี วี ิตและสิ่งแวดลอม

ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มผี ลต่อการดาเนินชีวติ อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม
ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่างๆ รวมท้ังทรัพยากรในการทาโครงงานเพ่ือแก้ปัญหาหรือ
พฒั นางาน

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ การสืบคน้ ข้อมลู และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความ
เข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม

รหัสตวั ชี้วดั
ว ๒.๓ ม.๔-๖/๑๙, ม.๔-๖/๒๐,ม.๔-๖/๒๑,ม.๔-๖/๒๒

รวมท้ังหมด ๔ ตัวชีว้ ัด

งานพัฒนาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๓๕

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสร้างรายวิชา

ว๓๐๑๑๘ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ (ฟสิ กิ ส๒์ ) กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔-๖ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
๑. แสง ตัวช้ีวดั (ช.ม.) คะแนน
- การมองเห็นสีของวัตถุ ๑๐ ๕๐
ว ๒.๓ - ความผิดปกตใิ นการมองเห็นสี
ม.๔-๖/๑๙- - การทางานของแผ่นกรองแสงสี ๑๐ ๕๐
๒๐ - การผสมแสงสี การผสมสารสี
และการนาไปใชป้ ระโยชน์ ใน
๒.คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า ว ๒.๓
ม.๔-๖/๒๑- ชวี ิตประจาวัน
๒๒ - คล่นื แม่เหล็กไฟฟ้า
- ส่วนประกอบของคลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟา้
- หลักการทางานของอุปกรณ์บางชนิดที่

อาศัยคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า
- การส่ือสารโดยอาศัยคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า

ในการสง่ ผ่านสารสนเทศและ
เปรยี บเทยี บการส่ือสารด้วยสญั ญาณแอ
นะล็อกกบั สญั ญาณดจิ ทิ ลั

รวม ๒๐ ๑๐๐

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๓๖

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

ว๓๐๒๐๑ ฟิสิกส์ ๑ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ

ศกึ ษาธรรมชาติของวิชาฟสิกส ปรมิ าณกายภาพและหนวย การวัด ความคลาดเคลอ่ื นในการวัด
และการทดลองในวิชาฟสิกส การบอกตาแหนงของวัตถุ ความสัมพันธระหวางปริมาณตางๆ ท่ีเกี่ยวข
องกับการเคล่ือนท่ีแนวตรงดวยความเรงคงตัว แรงและผลของแรงท่ีมีตอสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ
กฎการเคลอื่ นที่ของนวิ ตัน กฎแรงดงึ ดดู ระหวางมวล และแรงเสยี ดทาน

โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร การสบื คนขอมูล การสารวจตรวจสอบ เพ่ือใหเกิดความรู
ความเขาใจ ความคิด มีความสามารถในการสื่อสารสิง่ ท่เี รยี นรู การตัดสินใจ

เห็นคุณค่าการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คณุ ธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. สบื คน้ และอธบิ ายการคน้ หาความรู้ทางฟิสกิ ส์ ประวัติความเปน็ มา รวมทัง้ พัฒนาการของ

หลกั การและแนวคิดทางฟิสิกส์ท่ีมผี ลต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และการพฒั นาเทคโนโลยี
๒. วัด และรายงานผลการวัดปรมิ าณทางฟสิ ิกส์ ไดถ้ ูกต้องเหมาะสม โดยนาความคลาดเคลื่อน

ในการวัดมาพจิ ารณาในการนาเสนอผล รวมทัง้ แสดงผลการทดลองในรปู ของกราฟ วิเคราะห์ และแปล
ความหมายจากกราฟเส้นตรง

๓. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่าง ตาแหนง่ การกระจดั ความเรว็ และความเรง่ ของ
การเคลือ่ นทีข่ องวัตถใุ นแนวตรงทีม่ ีความเร่งคงตวั จากกราฟ และสมการรวมท้ังทดลองหาค่าความเรง่
โนม้ ถว่ งของโลกและคานวณปริมาณ ตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง

๔. ทดลอง และอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงท่ีทามุมต่อกนั
๕. เขยี นแผนภาพของแรงที่กระทาต่อวัตถุอิสระ ทดลอง และอธบิ ายกฎการเคลื่อนทขี่ องนิวตนั
และการใช้กฎการเคล่ือนที่ของนิวตนั กับสภาพการเคลอื่ นท่ีของวัตถุรวมทั้งคานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี
เกี่ยวขอ้ ง
๖. อธบิ ายกฎความโนม้ ถว่ งสากลและผลของสนามโน้มถว่ งทที่ าให้วัตถุมีนา้ หนกั รวมทั้งคานวณ
ปริมาณตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
๗. วิเคราะห์อธิบาย และคานวณแรงเสียดทานระหวา่ งผวิ สมั ผัสของวัตถุคหู่ นึ่ง ๆ ในกรณที ่ีวัตถุ
หยดุ นงิ่ และวตั ถุเคลือ่ นท่ี รวมทั้งทดลองหา สมั ประสทิ ธ์คิ วามเสยี ดทานระหวา่ งผวิ สัมผัส ของวตั ถุคู่
หนึง่ ๆ และนาความร้เู ร่ืองแรงเสียดทานไปใช้ในชีวติ ประจาวัน

รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรียนรู้

งานพฒั นาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม สพม.๓๒ ๓๗

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสร้างรายวิชา

ว๓๐๒๐๑ ฟสิ ิกส์ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ

หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั / เวลา น้าหนกั
ข้อ ๑-๒ (ช.ม.) คะแนน
๑.ธรรมชาติและ - ธรรมชาตทิ างฟสิ ิกส์
พัฒนาการทาง - การวดั และรายงานผลการวัดปริมาณ ๙ ๑๕
ฟิสกิ ส์ ทางฟิสิกส์
- การทดลองทางฟิสกิ ส์

๒. การเคล่ือนท่ี ข้อ ๓ - ตาแหน่ง ๒๔ ๔๐
แนวตรง - การกระจัดและระยะทาง
- อัตราเร็วและความเรว็
- ความเร่ง
- กราฟของการเคลื่อนทแี่ นวตรง
- สมการสาหรบั การเคลื่อนที่แนวตรง
- การตกแบบเสรี

๓.แรง และกฎ ขอ้ ๔-๗ - แรง ๒๗ ๔๕
การเคลื่อนที่ - การหาแรงลัพธ์
- มวล แรง และการเคล่ือนท่ี
- แรงเสยี ดทาน
- แรงดงึ ดูดระหว่างมวล
- การประยุกต์ใช้กฎการเคลื่อนทสี่ าหรบั
การเคลือ่ นท่ี

รวม ๖๐ ๑๐๐

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๓๘

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม

ว๓๐๒๐๒ ฟสิ กิ ส์ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ

ศกึ ษาสมดลุ กลของโมเมนต์ท่ีมตี ่อการหมนุ แรงคคู่ วบและผลของแรงคูค่ วบทม่ี ตี ่อสมดุลของวัตถุ
หลักการของกลศาสตรในเร่ือง งาน พลังงาน ความสัมพันธระหวางงานและพลังงานจลน กฎการอนุ
รักษพลังงาน กาลัง เครื่องกลอยางงายและประสิทธิภาพของเครื่องกล โมเมนตัม การชนกันของวัตถุ
และกฎการอนุรกั ษโมเมนตมั การเคลื่อนทแ่ี บบหมนุ ทอรกและผลของทอรกที่มีตอสภาพการหมุน การ
เคลือ่ นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ แบบวงกลมในการอธบิ ายการโคจรของดาวเทยี ม

โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร การสืบคนขอมูล การสารวจตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรู
ความเขา้ ใจ ความคดิ มคี วามสามารถในการสอ่ื สารส่ิงท่ีเรียนรู การตดั สนิ ใจ

เห็นคุณค่าการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คุณธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม

มจี ิตวทิ ยาศาสตร จรยิ ธรรมคณุ ธรรมและคานยิ มที่เหมาะสม
ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายสมดุลกลของวัตถุโมเมนต์และผลรวม ของโมเมนต์ที่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบและผล
ของแรงคู่ควบที่มีต่อสมดุลของวัตถุ เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุอิสระเม่ือวัตถุอยู่ในสมดุล
กล และคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง รวมทั้งทดลองและอธบิ ายสมดลุ ของแรงสามแรง

๒. สังเกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ เมื่อแรงที่กระทาต่อวัตถุผ่านศูนย์กลางมวล
ของวตั ถุ และผลของศูนย์ถ่วงท่ีมีตอ่ เสถียรภาพของวัตถุ

๓. วิเคราะห์ และคานวณงานของแรงคงตวั จากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ระหวา่ ง
แรงกบั ตาแหนง่ รวมทง้ั อธิบายและคานวณกาลังเฉล่ยี

๔. อธิบายและคานวณพลงั งานจลน์ พลงั งานศักย์ พลงั งานกล ทดลอง หาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง
งานกับ พลงั งานจลน์ ความสัมพันธ์ ระหว่างงานกับพลังงานศักย์โน้ม ถ่วง ความสัมพันธร์ ะหว่างขนาด
ของแรงที่ใช้ดึงสปริงกับระยะท่ีสปริงยืดออก และความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น
รวมท้ังอธิบาย ความสัมพันธ์ระหว่างงานของแรงลัพธ์และพลังงานจลน์ และคานวณ งานท่ีเกดิ ข้ึนจาก
แรงลัพธ์

๕. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกล รวมท้ังวิเคราะหแ์ ละคานวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง กับ
การเคลื่อนท่ีของวัตถุในสถานการณต์ า่ ง ๆ โดยใชก้ ฎการอนรุ ักษพ์ ลงั งานกล

๖. อธิบายการทางาน ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของเคร่ืองกลอย่างง่ายบางชนิด
โดยใชค้ วามรเู้ ร่อื งงานและสมดลุ กล รวมท้ังคานวณประสิทธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บเชิงกล

๗. อธิบาย และคานวณโมเมนตัมของวัตถุและการดลจากสมการและพ้ืนที่ใต้กราฟ
ความสัมพันธ์ระหว่างแรงลัพธ์กับเวลา รวมท้งั อธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งแรงดลกับโมเมนตมั

๘. ทดลอง อธิบาย และคานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติท้ังแบบ
ยืดหยนุ่ ไมย่ ืดหยุ่น และการดีดตัวแยกจากกัน ในหนึง่ มิติซึ่งเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์ โมเมนตัม

งานพฒั นาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๓๙

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๙. อธิบาย วิเคราะห์และคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์
และทดลองการเคล่อื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์

๑๐. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่าง แรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคลื่อนท่ี อัตราเร็ว
เชิงเส้น อตั ราเรว็ เชิงมุม และมวล ของวัตถุในการเคล่ือนทแี่ บบวงกลมในระนาบ ระดับ รวมท้งั คานวณ
ปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และประยุกต์ใช้ความรู้การเคลื่อนท่ี แบบวงกลมในการอธิบายการโคจรของ
ดาวเทียม

รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

งานพัฒนาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๔๐

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสร้างรายวิชา

ว๓๐๒๐๒ ฟิสกิ ส์ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ

หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
๑.สมดลุ กล (ช.ม.) คะแนน
ข้อ ๑-๒ - สมดลุ กล ๑๒ ๒๐
๒.งานและ - ศูนยก์ ลางมวลและศูนย์ถว่ ง
พลังงาน ข้อ ๓-๔ - สมดลุ ตอ่ การเล่ือนที่ ๑๘ ๓๐
ข้อ ๕-๖ - สมดุลต่อการหมนุ
๓.งานและ ข้อ ๗-๘ - เสถียรภาพของวัตถุ ๑๖ ๒๘
พลังงาน (ต่อ) - งานเนอ่ื งจากแรงคงตัว
โมเมนตัมและการ ขอ้ ๙-๑๐ - งานเน่อื งจากแรงไม่คงตวั ๑๔ ๒๒
ชน - กาลัง ๖๐ ๑๐๐
- พลังงานกล
๔.การเคล่ือนท่ี - การอนุรักษ์พลงั งานกล
แนวโค้ง - เครอื่ งกล
- โมเมนตมั
- แรงและการเปลยี่ นโมเมนตัม
- การดล
- การอนุรักษ์โมเมนตมั
- การชนและการดดี ตวั แยกจากกัน
- การเคลอื่ นที่แบบโพรเจกไทล์
- การเคล่อื นท่ีแบบวงกลม

รวม

งานพัฒนาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๔๑

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

ว๓๐๒๐๓ ฟสิ ิกส์ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษาหลักการของคล่ืนในเรื่ององค ประกอบและการเคลื่อนที่ของคล่ืน สมบัติของคล่ืน
ธรรมชาติของเสียง สมบัติของคลื่นเสียง การอธิบายปรากฏการณที่เกี่ยวกับคล่ืนเสยี ง การสั่นพองของ
เสียง บีตส ปรากฏการณดอปเพลอรและคลื่นกระแทก หูและการไดยิน ความเขมของเสียงและมลพิษ
ทางเสียง ธรรมชาติของแสง แสงเชงิ เรขาคณติ กระจกเงาโคง เลนสบางและหลักการของทัศนอุปกรณ
บางชนิดการรบั รูสีของนัยนตาคน แสงเชิงฟสิกสและการอธบิ ายปรากฏการณทีเ่ ก่ยี วกบั คลนื่ แสง

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสบื คน้ ขอ้ มลู และการอภิปราย เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความ
เขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารส่งิ ทเี่ รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ การแก้ปัญหา

เห็นคุณค่าการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คุณธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. ทดลอง และอธิบายการเคล่ือนท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุติดปลายสปริงและลูกตุ้ม

อยา่ งงา่ ย รวมทง้ั คานวณปริมาณต่าง ๆ
๒. อธบิ ายความถธี่ รรมชาติของวตั ถแุ ละการเกิดการสน่ั พอ้ ง ๆ ท่ีเกีย่ วข้อง
๓. อธิบายปรากฏการณ์คลื่น ชนิดของคลื่น ส่วนประกอบของคล่ืน การแผ่ของหน้าคล่ืน ด้วย

หลักการของฮอยเกนส์ และการรวมกันของคล่ืนตามหลักการซ้อนทับ พร้อมทั้งคานวณอัตราเร็ว
ความถ่ี และความยาวคล่ืน

๔. สังเกต และอธิบายการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเล้ียวเบนของคลื่นผิวน้า
รวมทง้ั คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง

๕. อธิบายการเกิดเสียง การเคล่ือนที่ของเสียง ความสัมพันธ์ระหว่างคลื่น การกระจัดของ
อนุภาคกับคลื่นความดัน ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็วของเสียงในอากาศท่ีข้ึนกับอุณหภูมิในหน่วย
องศาเซลเซียส สมบตั ิของคล่นื เสียง ได้แก่ การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด การเลี้ยวเบน รวมทั้ง
คานวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง

๖. อธิบายความเขม้ เสียง ระดับเสียง องค์ประกอบของการได้ยิน คุณภาพเสียง และมลพิษทาง
เสียง รวมท้งั คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง

๗. ทดลอง และอธิบายการเกิดการส่ันพ้องของอากาศในท่อปลายเปิดหนึ่งด้าน รวมทั้งสังเกต
และอธิบายการเกิดบีต คลื่นนิ่ง ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คล่ืนกระแทกของเสียง คานวณปริมาณต่าง
ๆ ที่เกย่ี วข้อง และนาความรเู้ รือ่ งเสียงไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั

๘. ทดลอง และอธิบายการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่และเกรตติง การเลี้ยวเบนและการ
แทรกสอดของแสงผา่ นสลิตเดี่ยว รวมท้ังคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง

งานพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๔๒

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๙. ทดลอง และอธิบายการสะท้อนของแสงท่ีผิววัตถุ ตามกฎการสะท้อน เขียนรังสีของแสงและ
คานวณตาแหน่งและขนาดภาพของวัตถุ เมื่อแสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลม
รวมท้ังอธิบายการนาความรู้เรื่องการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลมไปใช้
ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวัน

๑๐. ทดลอง และอธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งดรรชนหี ักเห มุมตกกระทบ และมมุ หักเห รวมทั้ง
อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความลึกจริงและความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับหมดของ
แสง และคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง

๑๑. ทดลอง และเขียนรังสีของแสงเพ่ือแสดงภาพที่เกิดจากเลนส์บาง หาตาแหน่ง ขนาด ชนิด
ของภาพ และความสัมพันธร์ ะหวา่ งระยะวัตถุระยะภาพและความยาวโฟกัส รวมท้ังคานวณปรมิ าณต่าง
ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง และอธิบายการนาความรู้เรื่องการหักเหของแสงผ่านเลนส์บางไปใช้ประโยชน์ใน
ชวี ติ ประจาวนั

๑๒. อธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกี่ยวกับแสง เช่น รุ้ง การทรงกลด มิราจ และการเห็น
ทอ้ งฟา้ เปน็ สีต่าง ๆ ในชว่ งเวลาต่างกนั

๑๓. สงั เกต และอธิบายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมท้ัง
อธิบายสาเหตขุ องการบอดสี

รวมทัง้ หมด ๑๓ ผลการเรยี นรู้

งานพัฒนาหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม สพม.๓๒ ๔๓

หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

โครงสรา้ งรายวชิ า

ว๓๐๒๐๓ ฟิสิกส์ ๓ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต

หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
(ช.ม.) คะแนน

๑.ปรากฏการณ์ ข้อ ๑-๔ - การเคล่ือนท่ีแบบฮาร์มอนิกอยา่ งงา่ ย

คลนื่ - ความถ่ธี รรมชาติของวัตถแุ ละการเกดิ การ

สน่ั พ้อง ๆ

- ปรากฏการณค์ ลน่ื

- ชนดิ ของคลนื่ - สว่ นประกอบของคลนื่

- การซอ้ นทบั ของคลน่ื

- สมบัตคิ ลนื่

๒.เสยี งและการได้ ขอ้ ๕-๗ - การเกิดเสยี ง สมบัตขิ องคลน่ื เสียง

ยนิ - ความเขม้ เสียง ระดบั เสียง

- องคป์ ระกอบของการไดย้ นิ

- คณุ ภาพเสยี ง และมลพิษทางเสียง

- การเกดิ การส่นั พ้องของอากาศ

- การเกดิ บตี ส์

- คล่นื น่ิง

- ปรากฏการณ์ ดอปเพลอร์

- คลื่นกระแทกของเสียง

- นาความรเู้ รือ่ งเสียงไปใช้ในชวี ิตประจาวัน

๓.แสงและการ ขอ้ ๘-๑๓ - ธรรมชาตขิ องแสง

มองเห็น - แสงเชิงเรขาคณิต

- กระจกเงาโคง

- เลนสบางและหลักการของทัศนอุปกรณ

บางชนิด

- การรบั รูสขี องนยั นตาคน

- แสงเชิงฟสกิ สและการอธบิ ายปรากฏกา

รณทีเ่ กยี่ วกบั คลน่ื แสง

รวม ๑๐๐

งานพัฒนาหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม สพม.๓๒ ๔๔


Click to View FlipBook Version