The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by amornrat0484, 2022-10-14 03:47:35

รวม พาที ป.5

รวม พาที ป.5

สายนา้บทสทาี่ ย๑ช๓วี ิต ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๙

ตอบค้าถามเร่ือง “นา้ ”

๑ องคก์ ารสหประชาชาตกิ า้ หนดใหว้ ันท่ีเท่าไรเป็น “วันน้าโลก”
ตอบ

๒ นา้ มีกี่สถานะ อะไรบ้าง
ตอบ

๓ รา่ งกายของมนษุ ย์ต้องการน้าหรือไม่
ตอบ

๔ นา้ มปี ระโยชนต์ ่อรา่ งกายของมนุษยอ์ ยา่ งไร จงอธิบาย
ตอบ

๕ ยกตัวอยา่ งโครงการในพระราชดา้ ริของรัชกาลท่ี ๙ ทเ่ี กี่ยวกับนา้
มา ๔ โครงการ
ตอบ

๖ ยกตัวอย่างวิธกี ารประหยัดทรัพยากรน้ามา ๔ ข้อ
ตอบ

สายน้าบทสทา่ี ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๐

การอา่ น

ทา้ เครื่องหมาย / หน้า ทเ่ี ป็นคา้ ตอบ (ตอบได้หลายข้อ)

๑ ข้อใดเปน็ ลักษณะของบทร้อยกรอง

๑ เป็นการคิดประดษิ ฐถ์ อ้ ยค้า

๒ ไม่จา้ กัดจา้ นวนค้าและคา้ สัมผัสคลอ้ งจอง
๓ ถกู ต้องตามลักษณะกฎเกณฑ์ของฉนั ทลกั ษณ์
๔ ใชภ้ าษาทที่ ้าใหเ้ กิดเสยี งจังหวะลีลาท่ีงดงามไพเราะ

๒ ข้อใดเปน็ การอา่ นรอ้ ยกรองแบบธรรมดา

๑ ทอดเสียงเลก็ นอ้ ย
๒ อ่านเหมือนร้อยแก้ว
๓ เน้นจงั หวะวรรคตอน

๔ เนน้ เสยี งเพอื่ แสดงอารมณค์ วามรสู้ ึกชดั เจน

๓ ขอ้ ใดเป็นการอา่ นแบบเจรจา

๑ อ่านเหมือนร้อยแกว้

๒ เน้นจงั หวะวรรคตอน
๓ เนน้ เสยี งและเนน้ สัมผสั ชัดเจน
๔ เน้นเสยี งแสดงอารมณค์ วามรู้สึกคลา้ ยการพดู มากกว่าการอ่าน

๔ ข้อใดเป็นการอา่ นแบบทา้ นองเสนาะ

๑ มกี ารเอือนเสียง
๒ เน้นสมั ผสั ชัดเจน
๓ มที า้ นองเสยี งสงู ตา้่ สนั ยาว หนกั เบา
๔ เน้นเสยี งเพือ่ แสดงอารมณ์ความรู้สึก

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓วี ิต ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๑

การอา่ น

อา่ นบทร้อยกรองแลว้ ขีด/แบ่งวรรคตอนการอา่ นให้ถกู ต้อง

๑ จากล้าธารสายน้อยคอ่ ยรินไหล จากขนุ เขาเนินไพรในป่ากวา้ ง
บรรจบกันเปน็ ลา้ รางชลาลยั
ล้าธารน้อยเลาะเรือ่ ยมาตามทาง เป็นบา้ นของเหลา่ ปลาไดอ้ าศยั
เป็นแหล่งนา้ อาบกนิ ของสัตว์ปา่ เขยี วชอมุ่ ทัว่ ไปทงั ตาปี
เปน็ หยาดทิพย์ชโลมดนิ ถ่นิ พฤกษไ์ พร

บทรอ้ ยกรองนีจดั อยู่ในประเภท

๒ เม่อื นนั พระสงั ขซ์ ่อนอยกู่ ็รสู้ ิน
ในจิตคดิ ถวลิ ทุกเวลา
พระแม่ไปปา่ เปน็ อาจณิ สงสารผ่านเกล้าเป็นหนักหนา
จะใคร่ออกชว่ ยพระแมเ่ จ้า กลับมาจนค่า้ รา้่ ไร
เหนือ่ ยยากลา้ บากกายา อุ้มชูชมชดิ พสิ มัย
ไม่ว่าลกู น้อยเป็นหอยปู จะออกใหเ้ ห็นตวั ก็กลวั การ
พระคณุ ล้าลบภพไตร ของพระแม่เจ้าอยฉู่ าวฉาน
ไก่ป่าพาฝงู มากินขา้ ว พระมารดามาเห็นจะร่้าไร
คยุ้ เข่ยี เร่ยี รายทงั ดินดาน
บทร้อยกรองนจี ัดอยู่ในประเภท

สายน้าบทสทา่ี ย๑ช๓วี ิต ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๒

(ตอ่ ) การอ่าน

๓ วิชาเหมอื นสินคา้ อันมคี ่าอย่เู มอื งไกล
จงึ จะได้สนิ ค้ามา
ต้องยากล้าบากไป เปน็ สา้ เภาอันโสภา
จงตงั เอากายเจ้า แขนซา้ ยขวาเปน็ เสาใบ
ความเพียรเปน็ โยธา สองเท้าตา่ งสมอใหญ่
นวิ เป็นสายระยาง อชั ฌาสยั เปน็ เสบียง
ปากเปน็ นายงานไป ถือท้ายเรอื ไว้ใหเ้ ทีย่ ง
สตเิ ปน็ หางเสอื ตดั แล่นเลี่ยงขา้ มคงคา
ถือไว้อย่าให้เอยี ง

บทรอ้ ยกรองนจี ัดอยใู่ นประเภท

๔ ปลาร้าพันหอ่ ด้วย ใบคา
คละคลุ้ง
ใบกเ็ หมน็ คาวปลา คบเพือ่ น พาลนา
คือคนหม่ไู ปหา เฟ่อื งใหเ้ สียพงศ์
ไดแ้ ต่รา้ ยร้ายฟุ้ง

บทร้อยกรองนจี ัดอยใู่ นประเภท

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๓

ถอดคา้ ประพนั ธข์ องบทรอ้ งกรองต่อไปนี การอา่ น

๑ จากลา้ ธารสายนอ้ ยคอ่ ยรนิ ไหล จากขนุ เขาเนินไพรในปา่ กว้าง
บรรจบกนั เป็นล้ารางชลาลยั
ล้าธารนอ้ ยเลาะเรอ่ื ยมาตามทาง
ถอดค้าประพนั ธไ์ ดด้ งั นี

๒ น้ายงั ไหลเรือ่ ยไปไม่จบสนิ ยงั ให้คณุ แกแ่ ผ่นดนิ น่าสรรเสริญ
มุง่ ดา้ เนินท้าความดีมีนา้ ใจ
เปรยี บคนคดิ กา้ วหนา้ พาเจริญ
ถอดค้าประพนั ธ์ได้ดงั นี

๓ หากเปน็ สายน้าใสใจสะอาด บปุ ผชาตสิ องฝัง่ พร่ังไสว
หาคนผิดเรอ่ื ยไปใจขนุ่ มัว
นา้ ขน้ ขนุ่ ครุ่นคดิ ผิดเพราะใคร
ถอดคา้ ประพันธไ์ ด้ดงั นี

สายนา้บทสทาี่ ย๑ช๓วี ิต (ตอ่ ) ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๔

ถอดคา้ ประพันธข์ องบทรอ้ งกรองตอ่ ไปนี การอา่ น

๔ ตกั ตะกอนชอ้ นขยะใหห้ มดสิน ใหน้ า้ ใสไหลรินจนถว้ นท่วั
ความหมองมวั จางไปใจเบกิ บาน
เออื อารจี รงิ ใจไม่ถือตัว
ถอดค้าประพันธ์ไดด้ ังนี

๕ ปล่อยนา้ ขุ่นทงิ ไปไม่เฝา้ คดิ เปิดนา้ ใสสรา้ งมติ รสมัครสมาน
สขุ สราญเมตตาธรรมน้าจติ ใจ
ไมตรีจติ ปกป้องผองภัยพาล
ถอดคา้ ประพันธไ์ ด้ดังนี

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๕

เลือกขอ้ ที่ถกู ตอ้ งทสี่ ดุ

๑ สายนา้ จากล้าธารเลก็ ๆ หลายสายค่อย ๆ ไหลมารวมกนั เป็นลา้ ธารใหญ่เรียกว่า
อะไร
ก. ล้าน้ารวม ข. ล้าธารรวม
ค. ล้าธารใหญ่ ง. แม่นา้
๒ ขอ้ ใดกล่าวได้ถกู ตอ้ ง
ก. นา้ ไหลได้ในระดบั เดียวกัน ข. นา้ ไหลจากทส่ี ูงลงสู่ทต่ี ่้าเสมอ
ค. น้าไหลย้อนมาทีล่ มุ่ ได้ ง. น้าไหลไปไหลมา
๓ นา้ ตกเกิดจากอะไร
ก. น้าไหลจากทสี่ ูงสู่พนื ทตี่ า่ งระดบั ข. น้าไหลผิดทศิ ทาง
ค. นา้ ไหลชนภูเขา ง. นา้ ไหลเอ่ือย ๆ
๔ ชอื่ ใดเป็นช่ือของนา้ ตก
ก. สมยุ ข. ทีลอซู
ค. ตะรเุ ตา ง. ผาแตม้
๕ ในบทนเี ปรียบสายน้ากบั สิ่งใด
ก. ความดี ข. ความคิด
ค. ชีวติ ง. บญุ กรรม
๖ ช่วงชวี ิตในวยั ใดท่มี ีความสขุ มากท่สี ดุ
ก. วยั เด็ก ข. วยั ผู้ใหญ่
ค. วยั ทา้ งาน ง. วัยชรา
๗ สิ่งส้าคญั ท่ีทา้ ให้ดนิ ไม่ทลายเวลาทนี่ า้ ไหลบ่ามาจากภูเขาคือขอ้ ใด
ก. ตน้ ไม้ ข. สตั ว์ปา่
ค. มนุษย์ ง. ทางนา้

สายน้าบทสทา่ี ย๑ช๓วี ติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๖

๘ ขอ้ ใด ไม่ใช่ ประโยชนข์ องน้า
ก. ลา้ ธารไหลรนิ ชว่ ยใหต้ น้ ไม้เตบิ โต ข. น้าปา่ ไหลหลากจากภเู ขา
ค. ปลาได้อาศยั แหวกว่ายในนา้ ใสเย็น ง. ผูค้ นไดอ้ าศยั นา้ ดื่มกนิ และช้าระลา้ ง
๙ ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งเกีย่ วกับน้า
ก. นา้ มี ๓ สถานะ ของแขง็ ของเหลว และแกส๊
ข. นา้ ประปาเปน็ น้าใต้ผวิ โลก
ค. เมฆ ฝน ไอนา้ เป็นนา้ ในอากาศ
ง. หนอง คลอง แมน่ ้า ทะเลมหาสมทุ ร เป็นนา้ บนผิวโลก
๑๐ ขอ้ ใดเป็นประโยชน์ของนา้ ท่มี ีต่อสัตว์
ก. เปน็ แหลง่ นา้ อาบกนิ ของสตั ว์ป่า
ข. เป็นบ้านของเหล่าปลาได้อาศัย
ค. เป็นหยาดทิพยช์ โลมดินถ่ินพฤกษ์ไพร
ง. ข้อ ก และขอ้ ข ถูกตอ้ ง
๑๑ บนพืนผวิ โลกมีนา้ อยู่ประมาณเทา่ ใด
ก. ๕๑% ข. ๖๑%
ค. ๗๑% ง. ๘๑%
๑๒ น้าในร่างกายของคนเรามีประโยชนอ์ ย่างไร
ก. ช่วยใหผ้ ิวพรรณดี
ข. ชว่ ยใหข้ ับถา่ ยได้
ค. ช่วยควบคุมอณุ หภมู ใิ นรา่ งกาย
ง. ชว่ ยใหผ้ ิวไม่แหง้ แตก
๑๓ น้านอกจากช่วยในการเกษตรแล้วชว่ ยทา้ อะไรไดอ้ ีก
ก. ลา้ งรถ ข. อาบน้า ซักผา้
ค. รดต้นไม้ ง. ผลติ กระแสไฟฟ้า

สายน้าบทสทา่ี ย๑ช๓วี ติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๗

๑๔ วันน้าโลกตรงกบั วนั ที่เท่าไร
ก. ๒๒ มนี าคมของทุกปี ข. ๒๒ เมษายนของทุกปี
ค. ๒๒ พฤษภาคมของทกุ ปี ง. ๒๒ มถิ นุ ายนของทุกปี
๑๕ สว่ นใหญน่ ้าบนพืนผิวโลกจะเปน็ นา้ ชนิดใด
ก. น้าจืด ข. นา้ รอ้ น
ค. น้าเคม็ ง. นา้ พุรอ้ น
๑๖ นา้ ช่วยควบคุมอุณหภมู ิของร่างกายอยา่ งไร
ก. ด้วยการขบั เหง่อื ข. ด้วยการปัสสาวะ
ค. ดว้ ยการส่งั น้ามูก ง. ด้วยการร้องไห้หลงั่ น้าตา
๑๗ ท่ัวโลกให้ความส้าคัญกบั นา้ อยา่ งไรท่เี ด่นชดั ทส่ี ดุ
ก. การจดั วนั น้าโลก ข. การรณรงค์ให้ประหยัดนา้
ค. การสรา้ งเข่ือนเกบ็ น้า ง. การรไี ซเคิลนา้
๑๘ หนว่ ยงานท่ีกา้ หนดให้มวี นั น้าโลกคือหน่วยงานใด
ก. องคก์ ารอาหารและยา ข. องค์การสหประชาชาติ
ค. องคก์ ารพลงั งานเพ่อื สนั ติ ง. องคก์ ารอนามัยโลก
๑๙ ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ การประหยดั น้า
ก. นดั ใชข้ ันรองนา้ ส้าหรับบ้วนปาก ข. แนนปดิ ฝกั บัวขณะถูสบู่
ค. เนตรใช้นา้ ดืม่ มารดนา้ ตน้ ไม้ ง. เหน่งปัดฝุน่ ทีร่ ถก่อนจะลา้ ง
ใชบ้ ทร้อยกรองนตี อบคา้ ถามข้อ ๒๐-๒๒
“ผา่ นหม่บู ้านน้อยใหญ่ไหลออ่ ยเอื่อย ผคู้ นเหน่ือยคลายรอ้ นต่างเรว็ ร่ี
ชวนกันลงแหวกวา่ ยในนที บา้ งซกั ผ้าตกั วารีไว้อาบกิน”
๒๐ จากบทร้อยกรอง ประโยชนข์ องนา้ ต่อมนษุ ย์ ข้อใดไมไ่ ด้กลา่ วถงึ
ก. ใช้อาบ ข. ใช้ด่มื กนิ
ค. ใชซ้ กั ผา้ ง. ใช้อยู่อาศยั

สายนา้บทสทาี่ ย๑ช๓ีวิต ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๘

๒๑ บทร้อยกรองนี มีคา้ อกั ษรนา้ ทงั หมดกค่ี ้า
ก. ๔ ค้า ข. ๕ ค้า ค. ๖ ค้า ง. ๗ ค้า
๒๒ วรรคใดมีทังคา้ ควบกล้าและอกั ษรน้า
ก. วรรคที่ ๑ ข. วรรคท่ี ๒
ค. วรรคท่ี ๓ ง. วรรคที่ ๔
ใช้บทร้อยกรองนตี อบคา้ ถามข้อ ๒๓-๒๕
“ถงึ หน้าฝนนา้ ไหลไมข่ าดสาย นา้ เหนอื ป่าดนิ ทลายเซาะแนวฝัง่
ขาดต้นไม้คอยอมุ้ ดจุ เกราะบัง กันดินไวจ้ ึงล้นหล่ังกลายเปน็ ภยั ”
๒๓ จากบทรอ้ ยกรอง ภัยที่กลา่ วถงึ น่าจะหมายถงึ ภัยในขอ้ ใด
ก. อทุ กภยั ข. วาตภัย
ค. อคั คีภัย ง. ธรณีพบิ ตั ิภัย
๒๔ จากบทรอ้ ยกรอง ภยั ดังกลา่ วเกิดจากสาเหตุใด
ก. ฝนตกหนกั ข. ตล่งิ พงั ทลาย
ค. การตดั ต้นไม้ ง. แผน่ ดินถลม่
๒๕ จากบทรอ้ ยกรอง วรรคใดมกี ารใช้ค้าเปรียบเทียบ
ก. วรรคท่ี ๑ ข. วรรคที่ ๒ ค. วรรคท่ี ๓ ง. วรรคที่ ๔
ใชบ้ ทร้อยกรองนตี อบค้าถามขอ้ ๒๖-๒๗
“มองสายน้าเปรยี บดงั สายชวี ติ รอยลขิ ติ เสน้ ทางไปขา้ งหน้า
โลกวยั เดก็ สดใสไรม้ ายา ชีวติ สขุ หรรษาทุกคืนวัน
๒๖ จากบทรอ้ ยกรอง ผปู้ ระพันธต์ ้องการสือ่ ความหมายวา่ อยา่ งไร
ก. ถ้าเปรียบสายนา้ เป็นดังชวี ิต วยั เดก็ เปน็ วันท่สี ดใสบริสุทธ์ิ
ข. วัยเดก็ เปน็ วยั ทีส่ นุกสนานและมีความสขุ ทสี่ ดุ
ค. เสน้ ทางข้างหน้าของเด็กควรเขา้ สู่วงการมายา
ง. ขอ้ ก และขอ้ ข ถูกตอ้ ง

สายน้าบทสทา่ี ย๑ช๓วี ิต ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๙

๒๗ จากบทร้อยกรอง วรรคใดผนั เสยี งวรรณยกุ ตไ์ ดค้ รบทงั ๕ เสียง
ก. วรรคท่ี ๑ ข. วรรคท่ี ๒
ค. วรรคที่ ๓ ง. วรรคท่ี ๔
ใชบ้ ทร้อยกรองนตี อบคา้ ถามข้อ ๒๘-๓๐
“ตงั สตอิ ยา่ ท้อรอจงั หวะ ชีวติ จะแจม่ พลันในวนั หน้า
คิดแก้ไขกอบกสู้ ู้ชะตา เหมือนน้าตกตอ้ งแผ่นผากล้าเผชญิ
๒๘ บทร้อยกรองนีกล่าวในลักษณะใด
ก. อบรม ข. แนะน้า
ค. สั่งสอน ง. ตกั เตือน
๒๙ ค้าแนะนา้ ข้อใดทผี่ ู้ประพนั ธ์ไม่ได้กล่าวถงึ
ก. ตังสตใิ ห้มัน่ ไม่ท้อแท้ ข. รอเวลาและจงั หวะ
ค. กล้าเผชญิ กับปญั หา ง. เร่งกอบกชู้ ื่อเสยี ง
๓๐ จากบทรอ้ ยกรอง วรรคใดมีสัมผัสภายในวรรคมากท่สี ุด
ก. วรรคที่ ๑ ข. วรรคท่ี ๒ ค. วรรคท่ี ๓ ง. วรรคท่ี ๔
ใช้บทรอ้ ยกรองนตี อบคา้ ถามขอ้ ๓๑-๓๒
นา้ ยังไหลเรื่อยไปไมจ่ บสนิ ยังใหค้ ณุ แก่แผ่นดินน่าสรรเสรญิ
เปรียบคนคดิ กา้ วหนา้ พาเจริญ ม่งุ ด้าเนนิ ทา้ ความดมี ีน้าใจ
๓๑ จากบทร้อยกรอง ข้อความในวรรคใดเป็นขอ้ เท็จจรงิ
ก. วรรคที่ ๑ ข. วรรคท่ี ๒ ค. วรรคท่ี ๓ ง. วรรคที่ ๔
๓๒ จากคา้ ตอบในขอ้ ๓๑ ข้อเทจ็ จริงดังกล่าวคืออะไร
ก. สายน้าไม่เคยหยดุ ไหล
ข. สายนา้ ไหลเร่อื ยไปไม่รวู้ า่ จะไปสินสุด ณ ท่ีใด
ค. คนคิดก้าวหน้าเหมอื นกับสายน้าไหล
ง. ถกู ทุกขอ้ ท่ีกลา่ วมา

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๐

ใช้บทรอ้ ยกรองนีตอบคา้ ถามขอ้ ๓๓-๓๔
“หากเปน็ สายนา้ ใสใจสะอาด บปุ ผชาตสิ องฝั่งพรั่งไสว
นา้ ข้นข่นุ คร่นุ คดิ ผิดเพราะใคร หาคนผดิ เร่ือยไปใจขุ่นมวั ”
๓๓ จากบทร้อยกรอง ข้อใดกลา่ วได้ถกู ต้อง
ก. สายน้าใส ชว่ ยใหพ้ ชื พนั ธดุ์ อกไม้เจริญงอกงาม
ข. เปรยี บนา้ ใสเหมือนใจของคนท่ีสะอาด
ค. สายนา้ ขุ่นข้นเปรยี บเหมอื นจิตใจของคนช่ัว
ง. ขอ้ ก และข้อ ค ถูกต้อง
๓๔ บทรอ้ ยกรองนมี ีคา้ ควบกล้าและอักษรนา้ อยา่ งละก่ีค้า
ก. คา้ ควบกลา้ ๑ อกั ษรน้า ๔ ข. คา้ ควบกลา้ ๔ อักษรน้า ๑
ค. ค้าควบกลา้ ๓ อกั ษรนา้ ๒ ง. คา้ ควบกล้า ๒ อกั ษรน้า ๓
ใชบ้ ทร้อยกรองนีตอบคา้ ถามข้อ ๓๕-๓๖
“ปล่อยน้าขนุ่ ทงิ ไปไม่เฝ้าคิด เปดิ นา้ ใสสร้างมิตรสมัครสมาน
ไมตรีจิตปกป้องผองภัยพาล สุขสราญเมตตาธรรมน้าจติ ใจ”
๓๕ จากบทร้อยกรอง ผู้ประพันธ์ตอ้ งการแนะน้าในเร่ืองใด
ก. เลิกคิดทา้ ชัว่ หันมาทา้ ความดี
ข. เทนา้ ขนุ่ ทงิ ไป ตกั น้าใสมาใส่แทน
ค. อยู่ร่วมกันในสังคมอยา่ งสงบสขุ
ง. รจู้ กั ป้องกันตวั จากศัตรูและคนพาล
๓๖ จากคา้ ตอบในขอ้ ๓๕ สังคมจะสงบสุขได้ถา้ คนในสังคมเปน็ อยา่ งไร
ก. ชว่ ยกันปกป้องผองภัยพาล
ข. ใช้เมตตาธรรมนา้ จติ ใจ
ค. น้าขุ่นไวใ้ น นา้ ใสไว้นอก
ง. ถูกทุกขอ้ ทก่ี ลา่ วมา

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวิต ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๑

๓๗ ข้อใดไม่ใช่ข้อคดิ ท่ไี ดจ้ ากเร่อื ง “สายน้า สายชวี ิต”
ก. ชีวิตมนุษยเ์ ปรียบได้กับสายนา้ ย่อมมที งั ทุกข์และสุข
ข. คนเราตอ้ งมีสตมิ งุ่ มัน่ พรอ้ มทจ่ี ะเผชิญกับการเปลีย่ นแปลง
ค. นา้ มปี ระโยชนต์ อ่ ทกุ ชีวิต จึงไมค่ วรใช้นา้ ถา้ ไม่จา้ เป็น
ง. ทุกคนควรช่วยดูแลสายน้าให้สะอาดเพือ่ หลอ่ เลียงชีวิตใหค้ งอยู่ตลอดไป
๓๘ คนทม่ี จี ติ ใจดี จติ ใจเอือเฟอ้ื ตอ่ ผู้อ่นื เปรียบได้กบั น้าแบบใด
ก. นา้ ขุ่น ข. น้าใส
ค. นา้ ด่มื ง. นา้ เย็น
๓๙ คนท่ีมีจิตใจคิดแต่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นหรือมักคิดไม่ดีต่อผู้อ่ืน เปรียบได้กับน้า
แบบใด
ก. นา้ ขนุ่ ข. น้าใส
ค. น้าดืม่ ง. นา้ เยน็
๔๐ ความคิดทีไ่ มด่ ีทงั ตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืนเปรียบไดก้ บั ขอ้ ใด
ก. ฝูงปลา ข. เศษกงิ่ ไมใ้ บไม้
ค. ตะกอน ง. ตะไคร่น้า



รู้ไวบ้ไทดท้ป่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑

เรอื่ งยอ่

พ่ อ ม า รั บ เ ดื อ น อ อ ก ก่ อ น โ ร ง เ รี ย น เ ลิ ก เ พื่ อ ไ ป
โรงพยาบาลทําให้เพ่ือน ๆ ตกใจคิดว่าญาติของเดือนได้
รับอันตรายแต่เดือนกลับยิ้มร่า เพราะแม่ของเดือน
คลอดนอ้ งแล้วเป็นผู้ชาย คุณครูและเพ่ือน ๆ ต่างร่วมแสดง
ความยนิ ดีกนั ใหญ่

ท่ีโรงพยาบาลเดอื นเหน็ กลุ่มผูส้ ูงอายุกล่มุ หนึง่ ซ่ึงเป็นสมาชิกของชมรม
จิตอาสามาคอยช่วยแนะนาํ ผปู้ ว่ ยและบริการพาไปห้องตรวจโรค ห้องจ่ายยา
และห้องจา่ ยเงนิ นอกจากนีย้ งั มีชายสงู อายุยนื สีไวโอลิน ขับกลอ่ มผู้ป่วยและ
ผู้ที่มาติดต่อท่ีโรงพยาบาล พ่อได้พบกับป้ามณีซ่ึงเป็นเจ้าของสวนผลไม้ก็มา
เป็นสมาชกิ ชมรมจิตอาสาร่วมทําประโยชน์ใหก้ ับผู้อื่น

พ่อพาเดือนไปพบแม่และน้อง เดือนต้ังช่ือให้น้องว่าตะวัน พ่อบอกว่า
จะต้องไปแจ้งเกิดต่อนายทะเบียน ณ ที่ว่าการอําเภอภายในสิบห้าวัน ตอนนี้
ป้าจงกลพี่สาวของแม่และพ่ีเจนจิตลูกสาวของป้าจงกล ย้ายมาอยู่กับแม่
ทําให้ป้าจงกลต้องย้ายทะเบียนบ้านจากท่ีเก่าย้ายมาอยู่ในทะเบียนบ้านใหม่
และพ่ีเจนจติ ก็มีอายุครบสิบห้าปีที่ต้องทําบัตรประจําตัวประชาชน ดังน้ันพ่อ
ในฐานะเจา้ บ้านจงึ ไปตดิ ตอ่ นายทะเบยี น เพอ่ื แจ้งเกิดใหน้ ้องตะวัน พ่อเตรียม
หลักฐาน คือ ทะเบียนบ้าน บัตรประจําตัวประชาชนของพ่อ หนังสือรับรอง
การเกิดของน้องตะวัน เม่ือยื่นเอกสารต่อนายทะเบียนแล้ว นายทะเบียนจะ
มอบสูติบัตรของน้องตะวัน และเพิ่มช่ือในทะเบียนบ้าน จากน้ันพ่อก็ทําเรื่อง
การย้ายเข้าให้ปา้ จงกลและพ่ีเจนจิตด้วย

รู้ไวบ้ไทดท้ปี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒

(ตอ่ ) เร่อื งย่อ

พี่เจนจิตอายุครบสิบห้าปีต้องทําบัตรประจําตัว
ประชาชนเป็นครั้งแรก คนท่ีทําบัตรประจําตัว
ประชาชนแล้วผู้หญิงจะใช้คํานําหน้านามว่า
นางสาว ส่วนผู้ชายใชค้ ํานําหน้านามวา่ นาย
เดือนได้รับความรู้ มากมายทั้งที่โรงพยาบาลและที่ว่าการอําเภอ เดือนจึง
ไดค้ วามคิดที่จะนําเร่ืองเหลา่ น้ีไปเรยี บเรียงเขยี นเรือ่ งส่งครู

เพ่ิมเตมิ ความรู้

ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้มีการเปลี่ยนแปลงในการทําบัตรประชาชนใหม่
โดยกําหนดให้เมื่อมีอายุ ๗ ปีบริบูรณ์ และมีชื่อในทะเบียนบ้าน ต้องทํา
บัตรประจําตัวประชาชนภายใน ๖๐ วัน หากพ้นกําหนดจะเสียค่าปรับ
ไม่เกิน ๑๐๐ บาท

รูไ้ วบไ้ ทดท้ป่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๓

เขียนคาํ จากคาํ อา่ นตอ่ ไปน้ี ๓ ทุด-จะ-หรดิ

๑ เจด-ตะ-นา ๒ ท-ุ ระ-กาน เขียนเป็น

เขียนเปน็ เขยี นเป็น

๔ สิ-ร-ิ มง-คน ๕ สนั -ชาด ๖ พะ-ยาง

เขียนเป็น เขยี นเปน็ เขยี นเป็น

๗ อัด-ทะ-ยา-สัย ๘ สู-ติ-บัด ๙ บนั -ดา-สกั

เขยี นเป็น เขยี นเป็น เขียนเปน็

๑๐ พระ-ปะ-ระ-มา-พ-ิ ไท ๑๑ พระ-ราด-ชะ-บนั -หยัด

เขยี นเปน็ เขียนเปน็

๑๒ โห-รา-สาด ๑๓ สู-ต-ิ แพด

เขียนเป็น เขยี นเปน็

ร้ไู วบไ้ ทดท้ปี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๔

นาํ พยัญชนะหรอื สระมาใสใ่ หต้ รงความหมาย

๑บ ร ด ลาํ ดบั การกําหนดช้ันบุคคล
แสดงเลขประจําบ้านและรายการ
๒ ะเ ย บ ของคนท้ังหมดที่อยู่ในบ้าน
แพทย์ทําคลอดและรักษาโรคเก่ียวกับ
๓ส แ ท การตงั้ ครรภ์

๔ รป า ชือ่

๕อ ย ย นิสัยใจคอ
๖ หร ศ ส
๗ส ม ล ร วชิ าวา่ ดว้ ยการพยากรณโ์ ดยอาศัย
๘ แ งเ ง การโคจรของดวงดาวเป็นหลกั
๙ จต
มง่ิ ขวัญ, สงิ่ ท่ถี อื วา่ จะนาํ ความดคี วามเจริญ
มาให้

แกงชนิดหนึ่งใส่ผักต่าง ๆ มีตําลึง
บวบ น้ําเตา้ ฟกั ทอง ฯลฯ

ตง้ั ใจ, จงใจ

รูไ้ วบไ้ ทดท้ป่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๕

(ตอ่ )

นาํ พยัญชนะหรือสระมาใส่ให้ตรงความหมาย

๑๐ ส บ เอกสารทแี่ สดงถงึ สญั ชาติ วนั เดอื น ปี เวลา
สถานทีเ่ กดิ

๑๑ พ ง สว่ นของคําที่เปล่งออกมาคร้ังหน่งึ อาจมี
ความหมายหรือไมม่ ีความหมายก็ได้

๑๒ พ ร า บ ญ บทบัญญัติของกฎหมายท่ี
พระมหากษตั รยิ ท์ รงตราขน้ึ

๑๓ ย อยู่ใกลไ้ ฟโดยเชอื่ วา่ ความร้อนจะทําให้มดลกู
เข้าสภู่ าวะปรกตไิ ด้เรว็ หลงั คลอดลูก

๑๔ ร ร การจัดกจิ การงานโดยส่วนรวมของแต่ละ
หนว่ ยซงึ่ มิใชง่ านวชิ าการ

๑๕ ญ ต สถานะตามกฎหมายของบุคคลที่แสดงว่าเป็น
พลเมืองหรือคนในบังคับของประเทศใด
ประเทศหนึ่ง

๑๖ ท ร คดโกง, ฉ้อโกง

รูไ้ วบไ้ ทดทป้ ี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๖

ตอบคาํ ถามตามเนือ้ เร่ือง

๑ เดือนเรียนวชิ าใดเปน็ วชิ าสุดทา้ ยในบทเรยี น
ตอบ

๒ สาเหตุท่พี ่อต้องมารับเดือนก่อนเวลาเลิกเรยี นเพราะเหตใุ ด
ตอบ

๓ นอ้ งของเดอื นเปน็ ผชู้ ายหรือผู้หญงิ และเดือนตง้ั ชอ่ื ให้นอ้ งว่าอะไร
ตอบ

๔ ในสมัยก่อนการตั้งชื่อมกั จะใหผ้ ใู้ ดต้ังชื่อให้
ตอบ

๕ กลุ่มผสู้ งู อายเุ ปน็ สมาชิกของชมรมใด
ตอบ

๖ สมาชิกชมรมดงั กลา่ วทาํ ส่ิงใด
ตอบ

๗ นักเรยี นมีความคดิ เหน็ อยา่ งไรเกี่ยวกบั งานอาสาสมคั รเพื่อสงั คม
ตอบ

๘ นักเรียนคิดวา่ ตนเองสามารถชว่ ยเหลอื สงั คมได้อยา่ งไร
ตอบ

๙ ป้ามณีคือใครและมาทําอะไรท่โี รงพยาบาล
ตอบ

๑๐ แพทย์ท่ีทาํ คลอดใหแ้ มเ่ รียกวา่
ตอบ

รู้ไวบ้ไทดทป้ ่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๗

เกดิ แลว้ ตอ้ งมชี ่ือ

ปัจจุบันการทําคลอดเป็นหน้าที่ของสูติแพทย์ทั้งชายและหญิง แต่ใน
สมัยก่อนคนท่ีทําคลอดเรียกว่า หมอตําแย ซ่ึงเป็นผู้หญิงเท่านั้น เมื่อคลอด
แล้วแม่ของเด็กจะต้องอยู่ไฟเพื่อให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ทําอยู่ประมาณ ๑-๓
สัปดาห์ ในช่วงน้ีจะมีการบํารุงแม่ด้วยการให้กินแกงเลียงหัวปลี และงด
อาหารแสลงเพือ่ ใหแ้ มม่ ีนาํ้ นม

เมื่อเกดิ แลว้ จะตอ้ งมีชอ่ื ในสมยั ก่อนนยิ มให้พระหรือผู้ที่เคารพเปน็ ผู้ต้ัง
ชื่อให้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเลือกพยัญชนะ สระของวันเกิด ตามตํารา
โหราศาสตร์
พระราชบัญญัตชิ ่ือบคุ คล พ.ศ. ๒๕๐๕ ระบไุ วว้ า่

บคุ คลที่มีสัญชาติไทย ต้องมีชอื่ ตัวและช่ือสกุล และอาจมีช่อื รองด้วยได้
อธิบายตามความ หมายไว้ดังน้ี

“ชอื่ ตัว” หมายความวา่ ช่ือประจาํ ตัวบุคคล
“ชอ่ื รอง” หมายความวา่ ชอื่ ประกอบถัดจากชอื่ ตัว
“ชอ่ื สกลุ ” หมายความว่า ชื่อประจาํ วงศส์ กุล
หลกั เกณฑก์ ารตัง้ ชอ่ื ตวั และชื่อรอง
๑. ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธยหรือพระนาม
ของพระราชนิ ี หรือราชทินนาม
๒. ตอ้ งไมเ่ ปน็ คําหยาบหรอื คาํ ท่มี คี วามหมายหยาบคาย
๓. ต้องไม่มีเจตนาในทางทุจริต
๔. ผู้ได้รับหรือเคยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์โดยมิได้ถูกถอดจะใช้
ราชทินนามตามบรรดาศักดเ์ิ ป็นช่อื จริงหรือช่อื รองก็ได้

รู้ไวบไ้ ทดทป้ ี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๘

เกดิ แล้วต้องมชี ือ่

ใสเ่ ครอ่ื งหมาย / หน้าข้อท่ีถกู ใสเ่ คร่ืองหมาย x หนา้ ข้อท่ผี ิด

๑ ชมรมจิตอาสาเป็นการรวมตัวกันของบุคคลเพ่ือทําประโยชน์ให้
สงั คม เชน่ ในโรงพยาบาล

๒ ที่ว่าการอําเภอเป็นสถานท่ีที่เราไปติดต่อในเรื่อง เช่น แจ้งความ
คนหาย ถกู โจรขน้ึ บ้าน บัตรประชาชนหาย

๓ การแจง้ เกิดต้องแจง้ ภายใน ๑๕ วนั นบั แต่วันที่เกิดโดยเจ้าบ้าน
เป็นผแู้ จง้ ตอ่ นายทะเบยี น ณ ที่วา่ การอาํ เภอ

๔ ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนผู้แจ้ง หนังสือรับรองการเกิดจาก
โรงพยาบาลเปน็ หลกั ฐานทใ่ี ช้ในการแจง้ เกดิ

๕ การแจ้งตาย แจ้งย้ายท่ีอยู่ ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน
๑๕ วนั เชน่ เดยี วกบั การแจง้ เกดิ

๖ ปี พ.ศ.๒๕๕๔ กําหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยเมื่อมีอายุครบ ๗ ปี
บรบิ รู ณ์ ตอ้ งไปยนื่ คําขอมีบตั รประชาชนท่ีทว่ี ่าการอําเภอ

๗ ปัจจุบันเด็กที่มีอายุตั้งแต่ ๗ ปีบริบูรณ์ ต้องมายื่นคําขอมีบัตร
ประชาชนตอ่ เจา้ หนา้ ท่ภี ายใน ๑ ปี

๘ เด็กชายจะเปลี่ยนคํานําหน้าชื่อเป็น นาย เมื่อมีอายุครบ ๑๕ ปี
และทาํ บัตรประชาชนแลว้

บทท่ี ๑๔ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๙

รู้ไวไ้ ด้ประโยชน์ (ต่อ) เกิดแล้วต้องมีชอื่

ใส่เคร่อื งหมาย / หน้าข้อทถี่ กู ใส่เคร่ืองหมาย x หนา้ ขอ้ ท่ีผิด

๙ เด็กหญิงจะเปลี่ยนคํานําหนา้ ช่ือเป็น นาง เม่ือมีอายุครบ ๑๕ ปี
และทําบัตรประชาชนแลว้

๑๐ สูติบัตรเด็ก สําเนาทะเบียนบ้านเด็ก สําเนาบัตรประชาชนพ่อแม่
ผู้ปกครอง ชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษ และกรุ๊ปเลือดเด็ก
เปน็ หลักฐานท่ใี ช้ในการยน่ื คําขอมบี ัตรประชาชน

๑๑ สตู แิ พทย์ เปน็ แพทย์ทําคลอดปจั จุบัน มที ง้ั หญิงและชาย

๑๒ หมอตําแย เป็นผู้ทําคลอดในสมัยก่อน ก็มีท้ังหญิงและชาย
เชน่ เดยี วกัน

๑๓ แม่ที่ทําคลอดโดยหมอตําแยจะอยู่ไฟเพ่ือให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
กนิ อาหารบาํ รงุ นํ้านม งดกินอาหารแสลง

๑๔ บคุ คลทมี่ ีสัญชาติไทยต้องมชี ือ่ ตัว ชอื่ สกุล หรืออาจมชี อื่ รองก็ได้

๑๕ เกณฑ์การตั้งชื่อ ต้องไม่คล้ายกับพระปรมาภิไธยหรือนามราชินี
หรอื ราชทนิ นาม ไม่หยาบคาย และไมม่ เี จตนาในทางทุจริต

ร้ไู วบ้ไทดทป้ ่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๐

การเขยี นแนะนํา

ทาํ เคร่ืองหมาย / หนา้ ท่เี ปน็ คาํ ตอบ (ตอบไดห้ ลายข้อ)

๑ ข้อใดเป็นลกั ษณะของการเขียนแนะนาํ

๑ เป็นการเขียนแสดงความคิดเห็น
๒ ใหข้ ้อคดิ หรือแนวทางปฏบิ ตั ติ ่อผู้อน่ื
๓ ใชถ้ อ้ ยคําใหย้ อมรับความคดิ เห็นเทา่ นน้ั
๔ เปน็ การเขียนวจิ ารณค์ วามคดิ หรือการกระทาํ ของผู้อืน่

๒ ข้อใดเปน็ แนวปฏบิ ัตใิ นการเขยี นแนะนํา

๑ ใช้ภาษาเขยี นชดั เจน
๒ สภุ าพ นุ่มนวล ไม่บงั คับขู่เขญ็
๓ ใชถ้ ้อยคําเชิงเสนอแนะ
๔ มเี หตผุ ลประกอบให้นา่ เชอ่ื ถอื

๓ ข้อใดไมใ่ ชแ่ นวปฏิบตั ใิ นการเขียนแนะนาํ

๑ มคี วามจรงิ ใจ ไม่ลําเอียง
๒ เน้นใหป้ ฏิบัตติ ามท่ีแนะนําใหไ้ ด้
๓ ใหก้ าํ ลังใจว่าผูร้ บั คําแนะนําสามารถนาํ ไปปฏบิ ัตไิ ด้
๔ แนะนําหลายวธิ ีใหเ้ ลือกปฏบิ ตั ไิ ด้

๔ เหตุใดจึงต้องอา่ นแบบกรอกรายการใหจ้ บอยา่ งคร่าวๆ กอ่ น

๑ ให้รวู้ ิธีกรอกรายการ
๒ ให้รวู้ า่ ตอ้ งกรอกข้อมูลอะไรบ้าง
๓ จะได้กรอกข้อมูลไมผ่ ิดพลาด
๔ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

รู้ไวบ้ไทดท้ปี่ ร๑ะ๔โยชน์ (ตอ่ ) ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๑

การเขยี นแนะนํา

ทําเครือ่ งหมาย / หน้า ทเ่ี ป็นคาํ ตอบ (ตอบได้หลายขอ้ )

๕ ขอ้ ใดเปน็ แนวปฏบิ ตั ิในการกรอกแบบรายการ

๑ เขียนทล่ี ะรายการจนครบ
๒ รายการใดไม่เข้าใจกไ็ ม่ต้องกรอก
๓ ให้ขอ้ มลู ท่ีถกู ต้อง
๔ ใช้ภาษาถกู ตอ้ ง

๖ ข้อใดไม่ใชข่ ้อควรปฏบิ ตั ิในการกรอกแบบรายการ

๑ รายการใดเขียนผดิ ให้ลบออกแล้วเขียนใหม่
๒ เขียนดว้ ยลายมอื ท่ีอ่านง่าย เป็นระเบียบ
๓ ไม่ทําใหแ้ บบกรอกรายการเสียหาย
๔ ถามเจา้ หน้าทีเ่ ม่อื มีรายการท่ไี มแ่ นใ่ จ

๗ ข้อใดเป็นแบบกรอกรายการที่ใช้ในชวี ติ ประจาํ วัน

๑ ใบฝากเงนิ ใบถอนเงิน
๒ ใบสมัครเรยี นตอ่ ใบสมคั รงาน
๓ แบบคาํ ขอมบี ัตรประจาํ ตวั ประชาชน
๔ ใบฝากสง่ พสั ดุ ไปรษณีย์ ธนาณตั ิ

๘ ในการกรอกจาํ นวนเงินในแบบกรอกรายการ ถ้าเขียนผดิ ควรทําอย่างไร

๑ ฉีกหรอื ขยาํ ทิ้ง

๒ ลบออกแลว้ เขียนใหม่
๓ ขดี ฆ่าออกแล้วเขียนใหม่ ลงชอื่ กาํ กบั
๔ เขียนทับตรงท่ผี ดิ ใหถ้ กู ต้อง

รไู้ วบไ้ ทดท้ปี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๒

เลือกคําท่ีมคี วามหมายเหมือนกับคาํ ทก่ี ําหนดใหเ้ ตมิ ลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง

พสธุ า วารี สวุ รรณ มัฆวาน ทฆิ มั พร สรุ ิยนั คชสาร จนั ทรา
กาญจน์ ชลาธาร สหสั นยั น์ ไอยรา โสม ปถพี ทินกร นภา
หัสดิน รวี โกสยี ์ มาศ สาคร ธรณี อัมพร ศศิธร
นที กนก อมรินทร์ โพยม ภานมุ าศ ไผท รชั นีกร กญุ ชร
คงคา เหม ตรีเนตร คคั นานต์ ตะวนั ธราดล แข คชา

ชา้ ง พระจันทร์

แผน่ ดิน ทอ้ งฟ้า

ร้ไู วบไ้ ทดท้ป่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๓

(ตอ่ )

นาํ้ ทอง

พระอินทร์ พระอาทิตย์

รไู้ วบไ้ ทดท้ป่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๔

ตอบคาํ ถามตามเนอ้ื เรือ่ ง

๑ ใครมารบั เดอื นท่โี รงเรียนกอ่ นเวลาเลิกเรียน
ก. พ่อ ข. แม่
ค. ปา้ จงกล ง. พเ่ี จนจติ
๒ พ่อมาขอรับเดือนก่อนเวลาโรงเรียนเลกิ เพอ่ื จะพาเดอื นไปไหน
ก. ไปเที่ยวชายทะเล ข. ไปศูนย์การค้า
ค. ไปเยยี่ มปู่-ย่า ง. ไปโรงพยาบาล
๓ ผมู้ ารับเดือนตอ้ งการพาเดอื นไปที่ใด
ก. บ้าน ข. ท่ีทํางาน
ค. โรงภาพยนตร์ ง. โรงพยาบาล
๔ แมข่ องเดือนคลอดนอ้ งใหเ้ ดอื นได้นอ้ งเป็น
ก. เป็นผ้ชู าย ข. เปน็ ผ้หู ญงิ
ค. เปน็ แฝดหญิง ง. เป็นแฝดชาย
๕ ครสู ดุ าเป็นครูฝา่ ยใด
ก. ฝา่ ยบญั ชี
ข. ฝ่ายวิชาการ
ค. ฝา่ ยธุรการ
ง. ฝา่ ยปกครอง
๖ ท่โี รงพยาบาลเดือนพบคนกลุ่มใด
ก. กลุ่มเด็กนักเรยี นมาร่วมทาํ ประโยชน์
ข. กลมุ่ นกั ศึกษามารว่ มทําประโยชน์
ค. กล่มุ แมบ่ า้ นมารว่ มทาํ ประโยชน์
ง. กล่มุ ผสู้ งู อายุมาร่วมทําประโยชน์

รไู้ วบไ้ ทดทป้ ี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๕

๗ กลมุ่ รว่ มทาํ ประโยชนช์ ่ือกลุม่ วา่ อะไร
ก. กลมุ่ จติ อารี ข. กลมุ่ จิตอาสา
ค. กลมุ่ รว่ มมอื รว่ มใจ ง. กลมุ่ มิตรสัมพันธ์
๘ ปา้ มณซี งึ่ มีบ้านอย่ใู นละแวกบา้ นเดือน ปา้ มณเี ปน็ ใคร
ก. เป็นเจ้าของโรงพยาบาล ข. เป็นเจ้าของสวนผลไม้
ค. เป็นเจา้ ของบา้ นเชา่ ง. เป็นพยาบาลทโ่ี รงพยาบาล
๙ เม่อื ไปถึงโรงพยาบาล เดอื นประทบั ใจใคร
ก. แม่ ข. ป้ามณี
ค. แพทย์และพยาบาล ง. กลุ่มผู้สูงอายุ
๑๐ เดอื นไดเ้ หน็ หน้านอ้ งแล้วพ่อให้เดอื นทาํ อะไร
ก. ตั้งช่อื นอ้ ง ข. อุ้มน้อง
ค. เปล่ยี นผา้ อ้อมนอ้ ง ง. ทายดูว่านอ้ งหนา้ เหมอื นใคร
๑๑ น้องของเดอื นชื่ออะไร
ก. อาทติ ย์ ข. ตะวนั
ค. เมฆ ง. สายลม
๑๒ การแจง้ เกดิ ต้องกระทําภายในเวลาเทา่ ใด
ก. ๑๕ วัน ข. ๒๐ วัน
ค. ๒๕ วัน ง. ๓๐ วัน
๑๓ ใบเกดิ เรียกอกี อย่างว่าอะไร
ก. ใบสจู บิ ัตร ข. ใบสูติบตั ร
ค. บตั รประจําตัวประชาชน ง. ทะเบียนบา้ น
๑๔ พ่อไปทีว่ า่ การอาํ เภอเพื่อแจ้งการเกดิ ของนอ้ ง นายทะเบยี นมอบใบอะไรให้
ก. ทะเบยี นบ้าน ข. บตั รประชาชน
ค. หนังสือรบั รองการเกดิ จากโรงพยาบาล ง. สูติบัตร

รู้ไวบ้ไทดท้ปี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๖

๑๕ อายุเท่าใดทตี่ อ้ งแจง้ มบี ตั รประจําตัวประชาชน
ก. ๑๓ ปี ข. ๑๔ ปี
ค. ๗ ปี ง. ๘ ปี
๑๖ แพทย์ที่ทาํ คลอดเรยี กว่าอะไร
ก. สูติแพทย์ ข. กมุ ารแพทย์
ค. ศลั ยแพทย์ ง. สัตวแพทย์
๑๗ ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ เอกสารการแจง้ เกิด
ก. ทะเบียนบา้ น ข. บัตรประชาชนผู้แจง้
ค. หนงั สือรับรองการเกดิ ง. ใบมรณบัตร
๑๘ เลขประจําตวั ประชาชนมีกี่หลกั
ก. ๑๐ หลัก ข. ๑๑ หลกั
ค. ๑๒ หลกั ง. ๑๓ หลกั
๑๙ ขอ้ ใด ไม่ได้ แจง้ ไวใ้ นบัตรประจําตัวประชาชน
ก. ชื่อ นามสกุล ข. วนั เดือน ปี เกิด
ค. ที่อยู่อาศยั ง. ช่ือบิดามารดา
๒๐ ถ้าต้องการทราบข้อมูลเก่ียวกับสัญชาติ วัน เดือน ปี เวลา สถานท่ีเกิด และช่ือ
บดิ ามารดา จะหาข้อมลู ไดจ้ ากขอ้ ใด จงึ จะได้ข้อมูลครบถ้วน
ก. สจู บิ ตั ร ข. สตู ิบัตร
ค. สาํ เนาทะเบยี นบา้ น ง. สาํ เนาบัตรประชาชน
๒๑ การแจ้งเกิด แจ้งตาย แจ้งย้ายเข้าย้ายออก ทําบัตรประชาชน ต้องไปแจ้ง ณ
สถานที่ใด
ก. สถานีตํารวจ ข. สถานีอนามยั
ค. ทวี่ ่าการอําเภอหรอื เขต ง. ท่ีทาํ การไปรษณีย์

รไู้ วบไ้ ทดท้ปี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๗

๒๒ สิ่งใดเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าสถานที่ราชการต่างๆ มีการพัฒนาในด้านการ
ใหบ้ รกิ ารประชาชนได้เด่นชัด
ก. ความรู้สกึ ประทบั ใจในการใหบ้ ริการดว้ ยอธั ยาศยั ไมตรอี ันดี
ข. เวลาในการตดิ ต่อราชการเร็วและสะดวกขนึ้
ค. การมชี มรมจิตอาสามาคอยให้คาํ แนะนําและบริการ
ง. ถกู ทุกข้อทกี่ ล่าวมา
๒๓ สถานท่ีใดท่ีเรามักเห็นสมาชิกชมรมจิตอาสามาช่วยให้คําแนะนําและบริการ
เบ้ืองตน้
ก. โรงพยาบาล ข. ธนาคาร
ค. สถานีตาํ รวจ ง. สถานีขนสง่
๒๔ งานบริการใดท่ีสมาชกิ ชมรมจิตอาสาจดั บรกิ ารใหแ้ ก่ประชาชนทม่ี าใช้บริการใน
โรงพยาบาล
ก. ช่วยแนะนําและพาไปห้องตรวจโรคหรือห้องจ่ายยา
ข. การเล่นดนตรีและขบั กลอ่ มด้วยเสียงเพลง
ค. การสอบถามอาการและวินจิ ฉยั โรค
ง. ข้อ ก และข้อ ข ถูกตอ้ ง
๒๕ ส่งิ ตอบแทนทสี่ มาชิกชมรมจิตอาสาได้รับจากการมาช่วยงานในโรงพยาบาลคือ
อะไร
ก. เงนิ ค่าตอบแทน ข. ค่าตรวจรักษาฟรี
ค. ความสขุ ทไ่ี ด้ทําประโยชนแ์ กส่ ังคม ง. ถกู ทุกข้อทกี่ ลา่ วมา
๒๖ หลักฐานที่สําคัญท่ีสุดในการติดต่อกับราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น
ธนาคารไดแ้ กข่ อ้ ใด
ก. บัตรประจําตวั ประชาชน ข. สูติบตั ร
ค. บตั รสมาชกิ ต่างๆ ง. บัตรเครดติ

รู้ไวบไ้ ทดทป้ ่ี ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๘

๒๗ “เดือนได้ความรู้มากมายท้ังท่ีโรงพยาบาลและท่ีว่าการอําเภอ ล้วนเป็นเรื่อง
เกี่ยวกับ ความเป็นอยู่ในชีวิตของคนเราทั้งน้ัน” ข้อความท่ีขีดเส้นใต้ได้แก่
เร่อื งใดบ้าง
ก. การทาํ งานของสมาชกิ ชมรมจิตอาสาในโรงพยาบาล
ข. ท่ีว่าการอาํ เภอเป็นสถานท่แี จ้งเกดิ ตาย ยา้ ยที่อยู่ ทาํ บตั รประชาชน
ค. ระยะเวลาและหลกั ฐานในการตดิ ตอ่ ราชการต่าง ๆ
ง. ถูกทกุ ข้อทกี่ ล่าวมา
๒๘ ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ ง
ก. หมายเลขประจาํ ตัวประชาชนผู้มสี ัญชาตไิ ทยมี ๑๓ หลัก
ข. ผทู้ ่ีมอี ายุครบ ๗ ปบี ริบรู ณ์ ตอ้ งไปยนื่ คําขอมีบตั รประชาชนที่อาํ เภอ
ค. การกรอกรายการในแบบคาํ ขอไม่จําเปน็ ต้องใชภ้ าษามาตรฐาน
ง. การกรอกรายการในแบบคําขอควรเขียนดว้ ยลายมือทอี่ ่านงา่ ย
๒๙ แกงเลยี งมีประโยชน์อยา่ งไรต่อแม่ลกู อ่อน
ก. ช่วยใหม้ ีนํา้ นมมากข้ึน ข. ช่วยใหแ้ มฟ่ ้ืนตัวเร็ว
ค. ช่วยใหแ้ มห่ ายเจ็บแผลที่คลอด ง. ช่วยให้เด็กโตเร็ว
๓๐ ขอ้ ใดคือหลักเกณฑก์ ารตง้ั ชือ่ ของบคุ คล
ก. ต้องไม่พอ้ งหรือมุ่งหมายใหค้ ล้ายกบั พระปรมาภิไธย
ข. ตอ้ งไม่เปน็ คําหยาบหรือคาํ ที่มีความหมายหยาบคาย
ค. ต้องไมม่ เี จตนาในทางทุจริต
ง. ถกู ทุกขอ้
ใชข้ ้อความนต้ี อบคาํ ถามข้อ ๓๑-๓๒
“รากฐานของตึกคอื อฐิ รากฐานของชีวติ คอื การศกึ ษา”
๓๑ ข้อความนีจ้ ัดอย่ใู นประเภทใด
ก. สาํ นวน ข.คาํ คม ค.คําขวัญ ง. คําพงั เพย

รู้ไวบไ้ ทดทป้ ี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๙

๓๒ ขอ้ ความน้ีต้องการเน้นความสําคัญของสิ่งใด ข. การศกึ ษา
ก. การกอ่ สรา้ ง
ค. การทาํ งาน ง. การครองเรือน
ใช้ขอ้ ความนต้ี อบคาํ ถามขอ้ ๓๓-๓๕
“บริการท่าน คืองานของเรา”
๓๓ ขอ้ ความนี้จดั อย่ใู นประเภทใด
ก. คําคม ข. คําขวัญ
ค. สํานวน ง. คําพังเพย
๓๔ อาชีพใดบา้ งเก่ยี วกับขอ้ ความน้ี
ก. แพทย์ พยาบาล ข. พนักงานธนาคาร
ค. ขา้ ราชการ ง. ทกุ อาชีพท่กี ลา่ วมา
๓๕ มอี าชพี ตามข้อ ๓๔ ควรมีลักษณะอยา่ งไรจงึ จะเปน็ ทถ่ี กู ใจผู้รับบรกิ าร
ก. มอี ัธยาศยั สุภาพนุ่มนวล ข. ยม้ิ แย้มแจ่มใส
ค. บรกิ ารรวดเร็วทนั ใจ ง. ถกู ทกุ ข้อทก่ี ล่าวมา
๓๖ คาํ อา่ น มาด-ตระ-ถาน เขยี นอยา่ งไรถกู
ก. มาตราถาน
ข. มาตรถาน
ค. มาตรฐาน
ง. มาดตระฐาน
๓๗ คําว่ารกั ววั ใหผ้ กู รักลกู ให้ตี มคี วามหมายว่าอยา่ งไร
ก. จะเล้ียงลูกใหด้ ี ๆ ต้องตกี าํ ราบ
ข. เล้ียงดูลูก ต้องตลี ูกเมอ่ื ทาํ ผดิ
ค. อยา่ ปล่อยให้ลูกไปไหนมาไหนคนเดยี ว
ง. จะเลยี้ งดูลกู ใหด้ ตี ้องใกลช้ ดิ อย่าปลอ่ ยปละละเลย

รไู้ วบ้ไทดทป้ ี่ ร๑ะ๔โยชน์ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๐

๓๘ ข้อใดสะกดคําไมถ่ กู ตอ้ ง ข. กฬี า ลลี าศ
ก. โอกาศ ปรากด
ค. ประจักษ์ พระภวู ดล ง. เทวฤทธิ์ กษตั ริย์
๓๙ เหตทุ ่เี กิดขึ้นโดยไม่คาดฝนั คืออะไร
ก. สาเหตุ ข. มลู เหตุ
ค. อบุ ตั ิเหตุ ง. เหตเุ ภทภัย
๔๐ การจะทําความดีใหผ้ อู้ นื่ โดยไม่หวังผลตอบแทน ตอ้ งมจี ิตเชน่ ไร
ก. ตอ้ งมจี ิตอิสระ ข. ต้องมจี ิตเมตตา
ค. ตอ้ งมจี ติ มุทิตา ง. ตอ้ งมีจิตอาสา



แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑

บทท่ี ๑๕ เรอ่ื งย่อ

แม่และจุ๊นกําลังช่วยกันทํานํายาปลาช่อน แม่ชวนจุ๊น
ลงไปโขลกปลาท่ีใต้ถุนบ้าน เพราะอากาศข้างล่างดีกว่า
ข้างบน แม่เตือนจุ๊นเร่ืองการคบเพ่ือนชื่อมอดเพราะเขาเป็น
เดก็ ไมด่ ี แต่จุ๊นบอกแม่ว่าพ่มี อดดีตอ่ เขา หลงั จากนันจุ๊นได้ยิน
เสียงเปา่ ปาก คือ เสียงของพมี่ อดน่ันเองจุ๊นบอกแมว่ า่ จะออก
ไปข้างนอกแล้วน่ังซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ตามพ่ีมอดไป พ่ีมอดบอกว่าพ่อของ
พ่ีมอดป่วยหนักต้องการเงินมารักษาโดยด่วน พี่มอดพาจุ๊นไปที่เสาไฟฟ้า
เพ่ือถอดนอต และให้จุ๊นช่วยดูต้นทางพร้อมทังขู่ว่าหากจุ๊นปากโป้งจะได้รับ
อันตราย
ผลจากการกระทําของพี่มอดสร้างความเดือนร้อนมากมาย ไฟดับ
ไปทั่วบริเวณ แม้แต่จุ๊นเองก็ได้รับบาดเจ็บจนหัวแตก จากการกระทําครังนี
ของพี่มอดเกิดอุบัติเหตุจนทําให้มีคนได้รับบาดเจ็บมากมาย และที่สําคัญ
พอ่ ของพ่ีมอดตอ้ งมาเสียชีวิตเพราะไฟฟ้าดับไม่สามารถใช้เคร่ืองช่วยหายใจได้
จุ๊นมารับสารภาพกับพ่อ และพ่อเองก็ได้ไปปรึกษากับลุงอรรถซ่ึงเป็นตํารวจ
แต่ท้ายท่ีสุดร้านขายของเก่าเป็นผู้แจ้งความ จนสามารถจับตัวพ่ีมอดได้
ลุงอรรถฝากพ่อมาเตือนจุ๊นเร่ืองการคบเพื่อนว่าให้รู้จักเลือกคบคนท่ีดี ตรงกับ
สาํ นวนไทยวา่ คบคนพาลพาลพาไปหาผดิ คบบัณฑิตบณั ฑติ พาไปหาผล

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒

บทท่ี ๑๕ เลอื กคําศัพท์ใหต้ รงกับความหมาย

บัณฑติ ครึกโครม ตรอมตรม สารภาพ เขา้ ป้ิง
แรงกระทบ ลกุ ลลี ุกลน คนพาล เกลือกกลวั

๑ หมายถึง ถูกจบั กมุ คมุ ขงั , เขา้ ข่ายมคี วามผิดไปด้วย (สาํ นวน)
๒ หมายถงึ คนท่ีชัว่ ร้าย, คนเกเร
๓ หมายถงึ ผลการกระทําทที่ าํ ให้กระเทือนถึงผู้อ่นื หรือสง่ิ อืน่
๔ หมายถึง เป็นท่ีเล่าลือกนั แพร่หลาย
๕ หมายถึง ผ้ทู รงความรู้, ผ้มู ีปญั ญา
๖ หมายถึง รบั ว่ากระทําผดิ , บอกความในใจ
๗ หมายถงึ เจบ็ ชําอยใู่ นใจตลอดเวลา
๘ หมายถงึ คลกุ คลี ทาํ ใหม้ ัวหมอง
๙ หมายถึง เรง่ รีบอยา่ งไม่เปน็ ระเบยี บ

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๓

บทที่ ๑๕ เลอื กคาํ ศัพท์ให้ตรงกับความหมาย

(ต่อ)

กระถนิ ร้าน วอมแวม กะละมัง นอต

แห โขลก ครก สาํ รอง

๑ หมายถงึ เคร่ืองจับปลา ถักเป็นตาขา่ ย ใชท้ อดแผ่ลงในนํา
๒ หมายถึง ในท่ีนหี มายถงึ ที่ทป่ี ลูกยกพืนขึนสาํ หรับนงั่ หรือขายของ
๓ หมายถงึ ไม้พมุ่ หรอื ไมต้ น้ ไม่มหี นาม ช่อดอกกลมสีนวล
๔ หมายถึง ตาํ ใหเ้ ข้ากนั หรือให้เหนยี ว ให้แหลก
๕ หมายถงึ เคร่ืองตรึงหรือขันส่งิ อ่นื ให้แนน่
๖ หมายถึง ลักษณะของแสงท่มี องเหน็ เรือง ๆ ไหว ๆ ในระยะไกล
๗ หมายถึง ภาชนะใหญก่ วา่ ชาม ใชใ้ ส่ของที่มปี ริมาณมาก
๘ หมายถงึ เคร่ืองใช้ทม่ี ลี กั ษณะเหมือนหลมุ สาํ หรับตําหรือโขลก
๙ หมายถึง ทเี่ ตรียมเผื่อไว้

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๔

บทท่ี ๑๕ นําคาํ ที่กําหนดให้ใสใ่ นชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

ตรอมตรม เขา้ ปิ้ง ครก บัณฑิต แรงกระทบ โขลก

ลกุ ลีลกุ ลน สารภาพ สาํ รอง คนพาล

กระถนิ เกลอื กกลวั ครกึ โครม

๑ เยาวชนไมค่ วรเขา้ ไป กับยาเสพตดิ อาจจะโดนจบั จนได้

๒ ผชู้ ายคนนนั ดู น่าสงสยั ภายหลังถกู ตาํ รวจจบั กุมและรบั
ว่าเปน็ โจรลักขโมยของ

๓ คุณยายซือโอ่งใบใหญเ่ พอื่ นําฝนไว้ใชใ้ นหน้าแล้ง

๔ คุณปู่ ใจที่คุณย่าไดเ้ สยี ชีวติ ไปเมอ่ื ไม่นานมานี

๕ บา้ นจดั สรรแถวนีปลูกต้น ไวเ้ พอ่ื ทําแนวกันรวั

๖ งานคอนเสิร์ตมีเสียงดงั อึกทึก ไปทัว่ บริเวณ

๗ คณุ แม่ใช้ เพ่ือ นําพรกิ กะปิรับประทานกับปลาทู

๘ จากแผ่นดนิ ไหวทาํ ให้บา้ นเรือนพังเสียหายหลายหลงั

๙ จบใหม่ปีนเี ขา้ รบั พระราชทานปรญิ ญาบัตรหลายรอ้ ยคน

๑๐ คณุ ครูสอนนกั เรยี นใหเ้ ลอื กคบแต่คนดีอยา่ คบ

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๕

บทท่ี ๑๕

แกค้ ําจากคําทีเ่ ขียนผดิ ใหถ้ ูกต้อง

๑ ปารมิ าน แก้เปน็

๒ อนั ทพาน แกเ้ ป็น
๓ ทอรยด แกเ้ ปน็

๔ ปติบดั การ แกเ้ ป็น
๕ โรงพะยาบาน แกเ้ ปน็

๖ มอเตอไซ แกเ้ ป็น
๗ หนงั สือพมิ แก้เป็น

๘ อบุ ัดเหด แกเ้ ปน็

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๖

บทท่ี ๑๕ ตอบคาํ ถามตามเนือเร่อื ง

๑ นกั เรยี นเหน็ ด้วยหรอื ไมท่ ีแ่ ม่เตือนจุ๊นเรื่องการคบเพ่อื น
ตอบ

๒ หากนกั เรยี นเป็น “จุ๊น” นักเรียนจะคบพ่ีมอดเป็นเพ่ือนหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ

๓ เพราะเหตุใดจ๊นุ จงึ ยังคบพม่ี อดอยู่
ตอบ

๔ เพ่อื นสนิทของนกั เรียนคอื ใคร
ตอบ

๕ จากขอ้ ๔ เพราะเหตใุ ดนกั เรียนจงึ คบเพอื่ นคนนี
ตอบ

๖ ความเสยี หายท่ลี งขา่ วในหนังสอื พมิ พจ์ ากการกระทําของพ่ีมอดมวี า่ อย่างไร
ตอบ

๗ จุ๊นทําอยา่ งไรเมอ่ื ทราบขา่ วจากหนังสือพิมพ์
ตอบ

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๗

บทที่ ๑๕ ตอบคําถามตามเนือเรอื่ ง

(ตอ่ )

๘ ผทู้ แี่ จง้ ความแก่ตาํ รวจจนสามารถจบั กมุ พ่ีมอดได้ คอื
ตอบ

๙ เรอื่ ง “แรงกระทบ” นีตรงกบั สาํ นวนไทยว่า
ตอบ

๑๐ เกดิ เหตุการณ์สาํ คญั ใดที่เป็นผลกระทบจากกระทําของพ่มี อดเอง
ตอบ

คดิ ดี ทําดี

คิดดี ทําดี คนท่ีมคี วามคิดที่ดีชีวิตจะมีแต่ความสุข และเป็นที่รักใคร่
ของคนท่ัวไป ตรงข้ามกับคนท่ีคิดชั่วทําช่ัว ชีวิตก็จะมีแต่ความขมข่ืน
ดังนัน เมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์ควรหมั่นสร้างความดีเอาไว้ รู้ว่าส่ิงใด
ควรปฏบิ ัติ สง่ิ ใดไมค่ วรปฏิบัติ ชีวติ ก็จะพบแต่ความสขุ ความเจรญิ

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๘

บทที่ ๑๕

คิดดี ทาํ ดี มีสขุ
คดิ ชั่ว ทําชว่ั พบทุกข์

๑ ขอ้ ความนกี ลา่ วในลักษณะใด (อบรม ส่งั สอน ตกั เตอื น แนะนํา)
ตอบ

๒ ความหมายของขอ้ ความนีน่าจะตรงกบั สภุ าษิตใด
ตอบ

๓ นักเรียนเห็นด้วยกบั คาํ กล่าวนีหรือไม่ อย่างไร
ตอบ

๔ ให้นักเรียนเล่าประสบการณ์ที่นักเรียนเคยประสบกับตนเองหรือเคยพบเห็น
เหตุการณ์เกีย่ วกบั บาปกรรมมีจริง
ตอบ

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๙

บทที่ ๑๕ สาํ นวนสภุ าษิต

จาํ แนกประเภทของสํานวน สภุ าษิต คําพงั เพย

คบคนดีเปน็ ศรีแก่ตัว คบคนชัว่ อปั ราชยั คบคนให้ดหู น้า ซือผา้ ให้ดูเนอื
เข้าเถื่อนอยา่ ลืมพรา้ ได้หนา้ อยา่ ลืมหลงั ขช่ี ้างจบั ต๊กั แตน คลื่นใต้นํา
นาํ ทว่ มทุ่ง ผกั บ้งุ โหรงเหรง มือไมพ่ ายเอาเท้ารานํา ทําดไี ดด้ ี ทําช่ัวได้ชัว่

ความในอย่านาํ ออก ความนอกอย่านาํ เข้า ถ่ีลอดตาชา้ ง ห่างลอดตาเลน็
ราํ ไม่ดีโทษปโ่ี ทษ วดั รอยเทา้ คว่ําบาตร นกต่อ

สุภาษติ คาํ พงั เพย สาํ นวน
๑ ๑ ๑
๒ ๒ ๒
๓ ๓ ๓
๔ ๔ ๔
๕ ๕

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๐

บทท่ี ๑๕ สาํ นวนสภุ าษิต

จบั คู่สุภาษิตและคาํ พังเพยต่อไปนใี หถ้ กู ตอ้ ง

๑ กินบนเรือน ก. ปน้ั ววั ปั้นควายใหล้ ูกทา่ นเล่น
๒ ทําคุณบูชาโทษ ข. สมภารไม่มวี ดั
๓ ซ่ือกินไม่หมด ค. โปรดสัตวไ์ ดบ้ าป
๔ เจ้าไม่มศี าล ง. คดกินไม่นาน
จ. เกลียดปลาไหลกนิ นาํ แกง
๕ สเี่ ทา้ ยังรูพ้ ลาด ฉ. ทกุ ข์นันถงึ ตัว
๖ ปากปราศรัย ช. จับไปกระเดียด
๗ พูดไปสองไพเบีย ซ. ขบี นหลังคา
๘ อยูบ่ า้ นทา่ นอย่านง่ิ ดดู าย ฌ. ผักบุ้งโหรงเหรง
ญ. นิ่งเสียตําลึงทอง
๙ ฟงั ไม่ไดศ้ พั ท์ ฎ. สาวได้สาวเอา
๑๐ ใหท้ ุกข์แก่ท่าน ฏ. พระเสาร์แทรก
๑๑ มอื ใครยาว ฐ. งานราษฎร์ไม่ใหเ้ สีย
๑๒ พระศุกร์เขา้ ฑ. นกั ปราชญย์ งั รูพ้ ลัง
ฒ. ใจเชือดคอ
๑๓ เกลยี ดตวั กินไข่
๑๔ นําท่วมทุ่ง
๑๕ งานหลวงไมใ่ หข้ าด

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๑

บทที่ ๑๕ สาํ นวนสภุ าษติ

นาํ คาํ ที่กาํ หนดใหม้ าเติมลงในสุภาษิตและคําพงั เพยตอ่ ไปนี

ทอง ลกู ไก่ ๑ สอนหนังสือ รอ้ นทอ้ ง
๒ ไมร่ ู้รอ้ น

๓ อย่ใู นกํามือ

๔ คางคก ขึนภูเขา

๖ คบเด็ก หนงั สอื

๘ เถรสอ่ ง กบั ปนู

๑๐ ปดิ ทอง ให้เรอื เสยี
๑๑ เช็ดหวั เข่า
๑๒ ทาํ นาบน ลืมตนี
๑๓
๑๔

๑๕

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๒

บทที่ ๑๕ สํานวนสภุ าษติ

ต่อสภุ าษติ และคาํ พงั เพยต่อไปนีใหค้ รบถ้วน

๑ กงเกวยี น ๒ ตาํ นําพรกิ
๓ คนรักเท่าผืนหนัง ๔ รกั ดหี ามจ่ัว
๕ นําพึง่ เรอื ๖ มือถอื สาก
๗ ไกง่ ามเพราะขน ๘ ช่ัวเจ็ดที
๙ สวรรคอ์ ยใู่ นอก ๑๐ ไมอ้ อ่ นดัดงา่ ย
๑๑ ปลาหมอ ๑๒ รไู้ วใ้ ช่ว่า
๑๓ ตีวัว ๑๔ ฝนท่งั
๑๕ ตกนาํ ไมไ่ หล

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๓

บทที่ ๑๕ สาํ นวนสภุ าษิต

ขดี เสน้ ใต้สาํ นวนทม่ี คี วามหมายแฝงหรือความหมายโดยนยั

๑ สีหนา้ ของเธอเปล่ียนไปทันทีท่เี ขาพดู แทงใจดาํ เธอเขา้ อย่างจัง
๒ อยา่ ทาํ เป็นคนหูเบาไปหนอ่ ยเลยใครใส่ไฟอะไรมาเชื่อเขาหมด
๓ แมค่ า้ คนนีปากหวาน จงึ มลี ูกคา้ มาอุดหนุนมากมาย
๔ เด็กคนนหี ัวแข็ง ผู้ใหญ่เตือนอะไรไมเ่ คยเชื่อฟัง
๕ สมัยนีหาคนจรงิ ใจต่อกนั ยาก มกั สวมหน้ากากเขา้ หากนั เสมอ
๖ เธอเปน็ คนตาขาว กลวั ไปเสยี ทุกอยา่ งแมแ้ ต่เร่ืองทีไ่ ม่ควรกลัว
๗ เพอื่ ชาติแลว้ นายทหารทกุ นายยอมทาํ งานรับใชช้ าตอิ ยา่ งถวายหัวทเี ดียว
๘ วยั รนุ่ สมัยนีหัวสูง ใช้แต่ของแบรนด์เนมแพง ๆ ทงั ๆ ทยี่ งั ไมม่ รี ายไดเ้ ลย
๙ ระวงั ไว้นะ ชายคนนนี ิสัยไมด่ ี กินแลว้ ชอบชกั ดาบอยู่เรื่อย
๑๐ เรอ่ื งอยา่ งนีทําคนเดียวไมส่ าํ เร็จหรอกตอ้ งมีคนคอยชักใยอยเู่ บืองหลงั แน่ๆ

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๔

บทท่ี ๑๕ สาํ นวนสภุ าษติ

กาเครือ่ งหมาย X หน้าขอ้ ทต่ี รงกบั สถานการณ์ในแตล่ ะข้อ

๑ เด็ก ๆ ในห้องนซี กุ ซนไม่อยนู่ ่งิ ครตู อ้ งใชเ้ วลานานกวา่ จะรวมเด็ก ๆ ได้

ก. จบั ปลาสองมือ ข. จบั ให้มน่ั คันให้ตาย

ค. จบั เสอื มอื เปล่า ง. จับปใู สก่ ระด้ง

๒ “อาณตั ิทําไมถงึ ไมห่ าเกา้ อีมาน่งั อยา่ ทาํ ตัวเหมือน...........”

ก. เจ้าไมม่ ีศาล ข. บ้านแตกสาแหรกขาด

ค. ปากวา่ ตาขยบิ ง. ตกกระไดพลอยโจน

๓ ออ้ มพูดจาอ่อนหวาน แต่ไม่จริงใจ แสดงว่าอ้อม...........

ก. ปากปราศรยั ใจเชอื ดคอ ข. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท

ค. ปากว่าตาขยิบ ง. ปากหวานก้นเปรยี ว

๔ เศรษฐคี นนนั ชอบหาประโยชน์สว่ นตนโดยการเอาเปรียบขดู รีดผอู้ ืน่

ก. ทองไมร่ รู้ ้อน ข. ทาํ นาบนหลังคน

ค. ทําบญุ เอาหนา้ ง. ทําคุณบูชาโทษ โปรดสตั วไ์ ด้บาป

๕ ป้อม เป็นคนไมเ่ อาการเอางาน ทาํ อะไรกไ็ มเ่ อาจรงิ เอาจงั สกั อยา่ ง

ก. เห็นชา้ งขี ขีตามช้าง ข. เหน็ กงจักรเปน็ ดอกบวั

ค. เหยียบขีไก่ไม่ฝอ่ ง. เหยียบเรือสองแคม

๖ ส้มตัดสินใจไมถ่ ูกว่าจะเลอื กซือเสอื หรือกระโปรงตัวใหมด่ ี

ก. รักพ่ีเสยี ดายนอ้ ง ข. รําไม่ดีโทษปีโ่ ทษกลอง

ค. รักดีหามช่วั รักช่วั หามเสา ง. รักยาวใหบ้ น่ั รักสันให้ตอ่

แรงกระทบ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๕

บทที่ ๑๕ (ตอ่ ) สาํ นวนสุภาษิต

กาเครือ่ งหมาย X หนา้ ขอ้ ท่ตี รงกบั สถานการณใ์ นแตล่ ะขอ้

๗ ตัมฟังขอ้ ความมาไม่ชดั เจน และเอาไปพดู ตอ่ เปน็ อีกคาํ พดู หนึง่

ก. ฟงั หูซ้าย ทะลหุ ขู วา ข. ฟงั ไม่ได้ศัพท์ จบั ไปกระเดยี ด

ค. ทองไมร่ ูร้ อ้ น ง. นายว่า ขขี า้ พลอย

๘ เอ้ การบ้านก็ไม่สง่ รายงานก็ยังไมเ่ สร็จ ทาํ ไมปลอ่ ยให.้ ..................อย่างนี

ก. ถอยหลงั เขา้ คลอง ข. ความรทู้ ่วมหวั เอาตวั ไมร่ อด

ค. ดินพอกหางหมู ง. ตกกระไดพลอยโจน

๙ ครแู ก้วสอนว่า “จะทาํ อะไรต้องถูกตอ้ งตามธรรมเนียมประเพณนี ะคะ”

ก. รักววั ใหผ้ กู รักลกู ให้ตี ข. เขา้ ตามตรอก ออกตามประตู

ค. เดนิ ตามผ้ใู หญห่ มาไม่กดั ง. เขา้ เมืองตาหลิว่ ต้องหล่ิวตาตาม

๑๐ ครสู าํ ราญบอกวา่ “อย่าทาํ ในสง่ิ ท่ยี งั ไมส่ มควรแก่วยั หรือเมอื่ ยงั ไม่ถงึ เวลา”

ก. งมเขม็ ในมหาสมุทร ข. ทองไมร่ รู้ อ้ น

ค. ลูกไม้หล่นไมไ่ กลตน้ ง. ชงิ สุกก่อนห่าม

ข้อ ๑๑ - ๑๕ ทาํ เครือ่ งหมาย X ทับขอ้ ท่ถี กู ต้องทส่ี ดุ เพยี งข้อเดยี ว

๑๑ ข้อใดแตกตา่ งจากพวก
ก. คบคนดเี ปน็ ศรีแกต่ วั คบคนชว่ั อปั ราชัย
ข. คบคนใหด้ ูหนา้ ซือผ้าให้ดเู นือ
ค. คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบณั ฑติ บัณฑติ พาไปหาผล
ง. คบเดก็ สร้างบ้าน คบหัวลา้ นสร้างเมือง


Click to View FlipBook Version