The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by amornrat0484, 2022-10-14 03:47:35

รวม พาที ป.5

รวม พาที ป.5

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๕

หนา้ ตา่ งทเ่ี ปิดกวา้ ง

(ต่อ) ตอบคําถามตามเนื้อเรือ่ ง

๖ รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ร่วมกับองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก
ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลด้านใดแด่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพล
อดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพติ ร
ตอบ

๗ นักเรยี นคดิ วา่ บุคคลท่มี ีลักษณะนสิ ยั เช่นไรจึงจะเป็นนักวทิ ยาศาสตรไ์ ด้
ตอบ

๘ กษัตรยิ ์นักวิทยาศาสตรเ์ พียงพระองคเ์ ดยี วในโลกคอื กษตั ริยพ์ ระองคใ์ ด
ตอบ

๙ ครอบครัวของนักเรียนชอบไปทีใ่ ดในช่วงวันหยุด
ตอบ

๑๐ นักเรยี นร้สู กึ อย่างไรที่ได้ไปเท่ยี วในชว่ งวนั หยดุ กบั ครอบครวั
ตอบ

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๖

หนา้ ตา่ งท่ีเปดิ กว้าง

ขา้ วงอก ข้าวกล้องงอก น้ําขา้ วกล้องงอก

ข้าวกล้องงอกเป็นภูมิปัญญาของคนไทยมาช้านาน เป็นข้าวท่ีสี
เอาเปลือกออกโดยยังมีผิวหรือเย่ือหุ้ม เมล็ดข้าวและมีจมูกข้าวอยู่
คุณค่าท่ีเพ่ิมขึ้น คือ ข้าวกล้องมีสารช่ือสารกาบาซึ่งเป็นกรดอะมิโน
ทําหน้าที่ยับย้ัง และรักษาสมดุลในสมอง ทําให้ผ่อนคลายและ
นอนหลับสบาย วงการแพทย์ใช้สารนี้ในการรักษาโรคบางโรค เช่น
โรควติ กกังวล โรคนอนไม่หลบั และโรคลมชัก

ข้าวกล้องงอกมาจากข้าวกล้องซ่ึงผ่านกระบวนการงอก โดยการ
นํามาแช่นํ้าในหม้อแช่ประมาณ ๒-๓ วัน และควบคุมอุณหภูมิ
การไหลเวียนของน้ํา ความช้ืนของนํ้าจะไปกระตุ้นให้เมล็ดข้าวงอก
ในข้าวกล้องงอก มีสารกาบามากกว่าข้าวกล้องธรรมดาประมาณ
๑.๕ เท่า

นอกจากจะนําข้าวกล้องงอกไปหุงต้มแล้วยังสามารถนําไปทํา
นํา้ ข้าวกลอ้ งงอกซง่ึ เป็นเคร่ืองดืม่ ท่ีมคี ณุ ค่าได้อีกดว้ ย

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๗

หน้าตา่ งที่เปดิ กว้าง

ขา้ วงอก ข้าวกลอ้ งงอก นํ้าขา้ วกล้องงอก
๑ ขา้ วกลอ้ งคอื ขา้ วท่ี

๒ เม่ือนําแกลบออกจากเมลด็ ขา้ วแล้วแต่ยัง
มีสิง่ ใดอยู่

๓ ขา้ วกล้องมีสารชนดิ ใดทใ่ี ห้คณุ ค่าเพิ่มข้ึน

๔ จากคาํ ตอบขอ้ ที่ ๓ สารนั้นสง่ ผลอย่างไรต่อรา่ งกายเมอื่ ได้
รับประทานเขา้ ไป

๕ จงอธบิ ายกระบวนการผลิตขา้ วกลอ้ งงอก

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๘

หนา้ ต่างทเี่ ปดิ กวา้ ง

เติมพยญั ชนะหรือสระในชอ่ งว่างให้ตรงกบั ความหมายทก่ี าํ หนดให้

๑ส เ ด ๒เ า า

ทําใหน้ าํ้ หยดุ หยดหรอื หยุดไหล ใช้การได้, เอาการเอางาน, รักดี มักใช้ใน
ความปฏเิ สธวา่ ไมเ่ อาถา่ น (สาํ นวน)

๓ว ย ๔ ระ ว

คน้ ควา้ เพอ่ื หาข้อมลู อย่างถถี่ ้วน การกระทาํ หรอื แสดงกริ ิยาเปน็ การคัดค้าน
ตามหลกั วชิ า

๕ก ง ๖อ

ภาชนะรูปแบบ ขอบกลม แหลง่ ที่เกิดขา้ วและนาํ้ มักใช้ใน
ใช้สําหรบั ฝดั ข้าว ความหมายวา่ อุดมสมบรู ณ์

๗ก ห ม ๘ มขว

ครึ้มใจ, ภูมิใจ, อมิ่ ใจ สว่ นปลายของเมล็ดขา้ ว ซึ่งเปน็ ส่วนท่ตี น้ ออ่ นงอก

๙ ะห ๑๐ า ต

เครอื่ งครวั สาํ หรับแซะหรือตกั ของที่ทอด ขา้ วสกุ ทีต่ ดิ กันเปน็ แผ่นเกรยี ม
หรือผัดในกระทะ อย่กู น้ หม้อหรือกระทะ

บทท่ี ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๙

หนา้ ตา่ งทเ่ี ปิดกว้าง เขยี นคําอ่านของคาํ ตอ่ ไปน้ี

อตุ สาหกรรม สมดลุ ศักยภาพ สกดั

อ่านว่า อา่ นว่า อ่านวา่ อ่านว่า

พระราชดาํ รสั ภูมิปญั ญา

อา่ นวา่ อ่านวา่

พระยคุ ลบาท พระปรชี าสามารถ

อา่ นว่า อา่ นว่า

พระกรุณาธิคณุ ทูลเกล้าฯ ถวาย

อา่ นว่า อา่ นวา่

นักวิทยาศาสตร์ ทัพพี

อา่ นวา่ อา่ นวา่

บทท่ี ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๐

หนา้ ต่างที่เปิดกว้าง การเลือกหนงั สอื อ่าน

ใสเ่ ครอ่ื งหมาย / หน้าขอ้ ที่ถกู ใส่เครือ่ งหมาย x หนา้ ขอ้ ทผ่ี ิด

๑ ปัจจบุ ันแบ่งหนงั สอื ออกได้เป็น ๒ ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ประเภทที่
ให้ความรู้และประเภทท่ใี หค้ วามบันเทิง

๒ หนงั สือนทิ าน การ์ตนู นวนยิ าย จัดอยใู่ นประเภทใหค้ วามบนั เทงิ
๓ สารคดี บทความ หนังสืออ้างอิง จัดอยู่ในประเภทท่ีให้ท้ังความรู้

และความบนั เทิง
๔ ผู้ท่ีอ่านหนังสือเป็นประจําจะช่วยให้เขียนหนังสือได้ถูกต้องและ

สวยงามดว้ ย
๕ ควรหลีกเลย่ี งการอ่านหนังสอื ทเี่ ป็นพษิ เปน็ ภัยตอ่ ตนเองและผู้อนื่

๖ ควรเลอื กอ่านแต่หนังสือทผี่ ู้แตง่ เป็นผู้มชี อื่ เสียงไดร้ บั คํานิยมยกย่อง

๗ นกั เรยี นควรเลือกอา่ นหนังสอื ท่ีส่งเสรมิ การเรียนร้ใู นชั้นเรยี น

๘ การอ่านหนังสือพิมพ์จะช่วยพัฒนาความสามารถในการอ่าน ทั้งยัง
ชว่ ยให้ได้ความรกู้ ว้างขวาง รวมทั้งความบันเทิงด้วย

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๑

หน้าตา่ งท่ีเปดิ กว้าง การเลอื กหนังสืออา่ น

(ตอ่ )

ใส่เครื่องหมาย / หน้าขอ้ ที่ถูก ใสเ่ คร่ืองหมาย x หนา้ ข้อทผี่ ิด

๙ เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่าน ควรเลือกอ่านแต่ในหนังสือ
เรียน

๑๐ ควรเลือกอ่านหนังสือหลากหลายประเภท เพื่อขยายวงความรู้ให้
กว้างข้ึน

๑๑ หนงั สือทม่ี ีขอ้ บกพร่องเรอื่ งการสะกดคําเว้นวรรคตอนผิดพลาดมาก
ไม่ควรเลอื กมาอา่ น

๑๒ บทละครโทรทัศน์ เร่อื งสนั้ ไมใ่ ชห่ นงั สอื อ่านเพอ่ื ความบันเทงิ

๑๓ สารบัญมสี ว่ นชว่ ยใหเ้ ราเลือกหนงั สอื อา่ นใหไ้ ด้ข้อมลู ตรงตามความ
ตอ้ งการ

๑๔ หนังสือพิมพ์รายวันจะช่วยให้ผู้อ่านรู้ข่าวสาร เหตุการณ์ ความ
เคลอ่ื นไหวท้งั ในและต่างประเทศ

๑๕ หนงั สอื ทมี่ รี ูปเล่มสวยงาม สมบรู ณ์ และมีภาพสีประกอบทุกหนา้
เปน็ หนังสอื ท่คี วรค่าแกก่ ารเลอื กอา่ น

บทท่ี ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๒

หน้าต่างที่เปิดกว้าง

ขา้ วอะไรหนอ....ทม่ี ีความสมั พันธ์กบั ความหมายทกี่ ําหนดให้

ขา้ ว ข้าว
ข้าวอะไรหนอ... ข้าวอะไรหนอ...
คือข้าวเปลือกท่สี แี ล้ว ตําคลุกกับมะพร้าวและนํ้าตาลปึก
หุ้มกล้วยไข่สุก แล้วชุบแป้งทอด
ขา้ ว เป็นแพ ๆ
ข้าวอะไรหนอ...
ขา้ วท่ปี ลูกในฤดูฝนซึ่งเปน็ ขา้ ว
ฤดูทาํ นาปกติ ข้าวอะไรหนอ...
ข้าวมันทกี่ ินกบั ไกต่ ม้ พรอ้ มด้วยนาํ้ จ้ิม

ข้าว ข้าว
ข้าวอะไรหนอ... ข้าวอะไรหนอ...

ข้าวเหนยี วท่ีหงุ ในกระบอกไมไ้ ผ่ ขา้ วสารขา้ วเหนียวทค่ี วั่ จนเหลือง
โดยใส่นา้ํ กะทิแลว้ เผาให้สกุ แลว้ ตาํ ละเอยี ดสําหรบั ปรุงอาหาร

บทท่ี ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๓

หนา้ ต่างทเ่ี ปดิ กวา้ ง

เลอื กข้อทถี่ ูกต้องท่สี ุด

๑ เมอื่ ถกู ถามว่าโตข้ึนอยากเป็นอะไร หนลู ติ วั ละครในเรื่องตอบวา่ อยา่ งไร
ก. นักการทตู ข. นกั วชิ าการ
ค. นักวทิ ยาศาสตร์ ง. นกั ธุรกจิ
๒ จากขอ้ ๑ บคุ คลใดเปน็ แรงบนั ดาลใจให้หนลู ิตอบเชน่ นน้ั
ก. ครสู อนวิทยาศาสตร์ทีโ่ รงเรียน
ข. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั
ค. สมเดจ็ พระเจ้านอ้ งนางเธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณว์ ลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ง. พระบาทสมเด็จพระมหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร
๓ สงิ่ ใดท่ีทําให้หนลู ิมีความชนื่ ชมในตวั บุคคลตามข้อ ๒
ก. พระปรีชาสามารถ
ข. พระอจั ฉริยภาพ
ค. พระราชจรยิ วัตร
ง. พระมหากรุณาธคิ ุณ
๔ หนลู ชิ น่ื ชมในหลวงเพราะสาเหตใุ ด
ก. เปน็ ผู้คดิ ทาํ ฝนหลวง
ข. เป็นผ้คู ดิ นา้ํ มนั ไบโอดเี ซล
ค. เปน็ ผู้พัฒนาดดั แปรสภาพอากาศ
ง. เป็นกษัตริยน์ ักวทิ ยาศาสตรพ์ ระองค์เดยี วในโลก
๕ ทรงเปน็ “กษตั ริย์นกั วิทยาศาสตรเ์ พยี งพระองคเ์ ดยี วในโลก” หมายถงึ พระองคใ์ ด
ก. รชั กาลที่ ๔ ข. รชั กาลที่ ๕
ค. รัชกาลท่ี ๙ ง. รชั กาลท่ี ๑๐

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๔

หนา้ ตา่ งทเี่ ปิดกว้าง

๖ องค์การนักประดิษฐ์ทเี่ กา่ แกท่ ี่สดุ ของยโุ รปทูลเกล้าฯ ถวายรางวลั จากโครงการอะไร
ก. โครงการหลวงดอยอนิ ทนนท์
ข. โครงการสารานกุ รมเพอ่ื เยาวชน
ค. โครงการน้าํ มนั ไบโอดเี ซล สตู รสกดั จากนํ้ามนั ปาลม์
ง. โครงการฝนเทยี มและพัฒนาดดั แปรสภาพอากาศ
๗ องคก์ ารอุตุนยิ มวทิ ยาโลกตงั้ อยทู่ ป่ี ระเทศใด
ก. เนเธอร์แลนด์ ข. สหรฐั อเมรกิ า
ค. สวติ เซอร์แลนด์ ง. เบลเยยี ม
๘ รัฐบาลของสหรฐั อาหรับเอมเิ รตสร์ ว่ มกับองค์การอุตนุ ยิ มวทิ ยา ทูลเกลา้ ฯ ถวาย
รางวลั ด้านใด
ก. โครงการหลวงดอยอินทนนท์
ข. โครงการสารานกุ รมเพอื่ เยาวชน
ค. โครงการนํา้ มันไบโอดีเซล สูตรสกัดจากนํ้ามันปาลม์
ง. โครงการฝนเทียมและพฒั นาดัดแปรสภาพอากาศ
๙ รัชกาลท่ี ๙ ได้รับการทูลเกล้าฯถวายรางวัลขององค์กรนักประดิษฐ์จากยุโรป
เม่ือใด
ก. พ.ศ.๒๕๔๔ ข. พ.ศ.๒๕๔๕
ค. พ.ศ.๒๕๔๖ ง. พ.ศ.๒๕๕๐
๑๐ ขอ้ ใดไมใ่ ช่ผลงานทางวิทยาศาสตรข์ องรชั กาลที่ ๙
ก. โครงการแก้มลงิ
ข. โครงการน้ํามนั ไบโอดีเซล สตู รสกดั จากน้ํามนั ปาล์ม
ค. การทาํ ฝนเทยี มและพฒั นาดัดแปรสภาพอากาศ
ง. ถกู ทัง้ ขอ้ ข และข้อ ค

บทท่ี ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๕

หนา้ ตา่ งทเ่ี ปดิ กวา้ ง

๑๑ ลักษณะใดของหนลู ทิ ่นี ่าส่งเสริมใหเ้ ธอเป็นนกั วิทยาศาสตร์ในอนาคต
ก. ชา่ งสงสัย ชา่ งสงั เกต
ข. อยากรู้อยากเหน็
ค. ชอบค้นควา้ ทดลองเพื่อแก้ขอ้ สงสัยของตน
ง. ถูกทุกข้อทก่ี ล่าวมา
๑๒ “โอ้โฮ! แม่มะลิคิดได้ยังไงน่ี” พ่อเย้าแบบปลื้มใจที่เห็นลูกเอาถ่าน “พ่อขา
แม่มะลิน่ะเป็นชื่อของฮิปโปนะคะ แต่ลูกสาวพ่อชื่อมะลิวัลย์ค่ะ” หนูลิทําปากยื่น
ประท้วงพ่อ” จากบทสนทนาทําใหเ้ หน็ ลกั ษณะใดของครอบครัวหนลู ไิ ดเ้ ด่นชัด
ก. อบอนุ่ และสนิทสนมกัน ข. ชอบพูดจาเยา้ แหยก่ ัน
ค. ชน่ื ชมและสนบั สนุนความคดิ ของลกู ง. ถกู ทุกขอ้ ที่กลา่ วมา
๑๓ “แม่มะล”ิ ท่หี นูลิพูดถึงคือข้อใด
ก. ม้าลาย ข. ฮิปโป
ค. ช้าง ง. ลิง
๑๔ หนลู เิ ริม่ งานทดลองการเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์งานแรกคอื
ก. ทาํ ขนมตม้ ข. ทําข้าวตม้ มัด
ค. ทาํ ข้าวเหนยี วมลู ง. ทําขา้ วตม้ ผสมข้าวเหนียว
๑๕ หนลู ติ ม้ ข้าวตม้ โดยใช้ข้าวสวยร่วมกบั ส่ิงใด
ก. ข้าวสาลี ข. ขา้ วเหนียว
ค. ข้าวตัง ง. ขา้ วเจ้า
๑๖ ข้าวตม้ ทห่ี นลู ิต้มมลี กั ษณะเชน่ ไร
ก. ไม่อร่อย เพราะเหนยี วเกนิ ไป ข. ไมอ่ ร่อย เพราะน่มุ จนเละเกนิ ไป
ค. อร่อย เพราะได้ข้าวเยอะดี ง. อร่อย เพราะเหนียวนมุ่ และหอม

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๖

หนา้ ต่างทเี่ ปดิ กวา้ ง

๑๗ พ่อกบั แมช่ มขา้ วต้มของหนูลิว่าอยา่ งไร
ก. อร่อย ท้ังเหนยี วนมุ่ และหอม ข. รสชาติแปลก ๆ ไมค่ นุ้ ลนิ้
ค. อรอ่ ย ไปซือ้ มาจากไหน ง. อรอ่ ย ทําบอ่ ย ๆ นะ
๑๘ ข้อความใดสนับสนนุ นสิ ัยของหนลู ิทช่ี อบคน้ คว้าทดลองเพอ่ื แก้ข้อสงสัยของตน
ก. เช้าวนั หยดุ น้ี หนลู ิรับอาสาทาํ ขา้ วตม้ เปน็ อาหารเชา้
ข. ขณะคนขา้ วหนูลิเหน็ จานข้าวเหนยี วนงึ่ ทคี่ า้ งมาจากเมอ่ื วาน
ค. หนลู ิมองข้าวตม้ สลบั กบั ขา้ วเหนยี ว ถา้ ขา้ วสองชนิดนมี้ าผสมกนั จะเกิด
อะไรขึน้ ถา้ ไม่ลองกไ็ มร่ ู้ หนลู มิ อื ไวเทา่ ความคดิ
ง. ถูกทง้ั ขอ้ ก และขอ้ ข
๑๙ หนลู เิ ปดิ ตเู้ ย็น เหน็ อะไรทนี่ ่าสนใจในตู้เย็น
ก. ข้าวเหนียวทอด ข. ข้าวตังทอด
ค. มะพร้าวยงั ไมไ่ ดข้ ดู ง. ข้าวเหนยี วน่งึ ทเี่ หลืออยู่
๒๐ หนลู ิทําอย่างไรกับข้าวเหนยี วท่ีเหลืออยู่
ก. นาํ ไปตากแดด
ข. นาํ ไปปัน้ แบน ๆ แล้วนําไปผง่ึ แดด
ค. นาํ ไปปนั้ แบน ๆ แล้วทอดเปน็ ข้าวตงั
ง. นําไปตม้ กบั นํา้ ตาลทาํ ข้าวเหนยี วเปยี ก
๒๑ หนูลิทําอย่างไรเมอื่ ทาํ การทดลองแล้วไมป่ ระสบผลสาํ เร็จ
ก. ท้อแท้ สิ้นหวัง ข. ล้มเลกิ ความคิด
ค. คน้ ควา้ และทดลองตอ่ ไป ง. ยกความคิดไปให้ผอู้ ่นื ทาํ ต่อ
๒๒ ครอบครัวของหนลู ิชอบไปทใี่ ด
ก. วัด ข. บ้านเด็กกําพร้า
ค. โรงภาพยนตร์ ง. หา้ งสรรพสินคา้

บทท่ี ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๗

หนา้ ตา่ งทีเ่ ปิดกว้าง

๒๓ กิจกรรมท่พี อ่ แมม่ กั จะทาํ เสมอเม่อื ไปวัดคือขอ้ ใด
ก. ปลอ่ ยนกปล่อยปลา ข. ฟงั เทศน์
ค. ใส่บาตร ง. สนทนาธรรมกับพระสงฆ์
๒๔ ประโยชน์ของการสนทนาธรรมคือขอ้ ใด
ก. ได้เลขเด็ดไปซอ้ื ลอตเตอรี่ ข. ได้ขอ้ คิดดี ๆ ไปดาํ เนินชีวติ
ค. ไดบ้ ุญกุศลมากข้นึ ง. ไดโ้ ชคลาภมากขนึ้
๒๕ หนลู ิไปวัด ไปเห็นแม่ครัวของวดั กาํ ลงั ทําอะไร
ก. ตากขา้ วเหนยี วทเ่ี หลือ ข. ตากขา้ วสวยทีเ่ หลือ
ค. ตากขา้ วสารทีเ่ ปยี กนาํ้ ง. ตากกากมะพร้าว
๒๖ หนูลิไดค้ วามรู้อะไร จากแม่ครัวของวัด
ก. นําขา้ วสวยท่ีตากแหง้ นาํ มาหงุ ใหม่
ข. นาํ ขา้ วเหนยี วทตี่ ากแห้งนาํ มานง่ึ ใหม่
ค. การทําขา้ วตงั ทอด จากการตากขา้ วเหนยี ว
ง. การทาํ ขา้ วตงั ทอด จากการตากข้าวสวย
๒๗ ข้อใดไม่ใช่จดุ ประสงคใ์ นการไปวัดของครอบครัวหนลู ิ
ก. ไปทําบุญ ข. ไปสนทนาธรรมกับพระ
ค. ไปหาข้อมูลให้หนูลิทดลอง ง. ถูกท้งั ข้อ ก และขอ้ ข
๒๘ อาหารหลักของคนไทยคอื ขอ้ ใด
ก. ผกั ผลไม้ ข. ขนมปัง
ค. ข้าวเหนียว ง. ขา้ วเจา้
๒๙ เปลอื กขา้ วหลังจากการสีขา้ วเรยี กวา่ อะไร
ก. รํา ข. แกลบ
ค. จมกู ขา้ ว ง. ข้าวกล้อง

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๘

หนา้ ตา่ งท่ีเปิดกว้าง

๓๐ สง่ิ ของเล็ก ๆ ท่ีหนลู มิ ักจะมีตดิ ตวั ไปดว้ ยเสมอ คืออะไร
ก. ปากกา และสมุดโนต้ ข. แป้ง และกระจก
ค. เทป และเคร่ืองบันทึกเสียง ง. กลอ้ งถ่ายรูป และโทรศพั ท์
๓๑ หนูลมิ จี ดุ ประสงคใ์ ดในการนําส่งิ ของตามข้อ ๓๐ ตดิ ตวั ไปในที่ต่างๆ ดว้ ย
ก. บันทกึ เร่ืองทน่ี า่ รู้ นา่ สนใจ แล้วนํามาศกึ ษาต่อ
ข. อดั เสียงการสัมภาษณจ์ ากบุคคลตา่ งๆ
ค. ถ่ายรปู และค้นหาขอ้ มูลเพม่ิ เติมจากเนต็ ผา่ นมือถอื
ง. ถกู ทกุ ข้อที่กล่าวมา
๓๒ การทดลองบางอยา่ งแมว้ ่าข้อมูลนน้ั จะผา่ นการทดลองมาแล้ว แต่หนลู กิ ย็ งั อยาก
ทดลองซํ้าอกี เพอ่ื อะไร
ก. เพื่อฝกึ ทักษะการทดลองให้ชาํ นาญขนึ้
ข. เพือ่ ให้ไดผ้ ลทเี่ ปน็ ขอ้ ยนื ยนั จากการค้นคว้าของตนเอง
ค. เพ่อื ความสนกุ สนานและเปน็ งานอดิเรก
ง. ถูกทกุ ข้อทก่ี ล่าวมา
๓๓ สารกาบาในข้าวกล้องมหี นา้ ทอ่ี ย่างไร
ก. รกั ษาสมดุลในสมอง ข. รกั ษาสมดลุ ของเลอื ด
ค. รกั ษาสมดุลของเซลล์ ง. รักษาสมดลุ ของกระเพาะอาหาร
๓๔ สารกาบาในวงการแพทยใ์ ชร้ ักษาโรค ยกเว้น ขอ้ ใด
ก. โรควติ กกังวล ข. โรคนอนไมห่ ลับ
ค. โรคลมชกั ง. โรคหลอดเลอื ดอดุ ตัน
๓๕ ขา้ วกล้องงอกมสี ารกาบามากกว่าขา้ วกล้องธรรมดากเี่ ทา่
ก. ๑.๕ เท่า ข. ๑.๖ เท่า
ค. ๑.๗ เทา่ ง. ๑.๘ เท่า

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๙

หน้าตา่ งทีเ่ ปดิ กว้าง

๓๖ ขอ้ ใดเปน็ ข้อควรคาํ นงึ ถึงเปน็ อนั ดบั แรกในการเลอื กหนงั สืออา่ น
ก. เลือกอา่ นเฉพาะหนังสือท่ีผแู้ ตง่ มีชื่อเสยี ง
ข. เลอื กอา่ นหนงั สือทีด่ ี มีคุณค่า
ค. เลอื กอ่านหนงั สือหลากหลายประเภท
ง. เลอื กอ่านหนังสอื ทมี่ คี วามยากงา่ ยตามความสนใจ

๓๗ หนงั สอื ประเภทใดไมจ่ าํ เปน็ ต้องเลอื กอา่ น
ก. หนงั สือทช่ี นะการประกวด
ข. หนงั สอื ท่ีพฒั นาความสามารถในการอา่ น
ค. หนังสือทเี่ ปน็ พษิ เปน็ ภยั ต่อตนเองและผอู้ น่ื
ง. หนงั สอื ท่เี สริมสร้างความเข้าใจผอู้ น่ื และการอย่รู ่วมกนั

๓๘ ขอ้ ใดเปน็ หนังสือทนี่ กั เรยี นควรเลอื กอา่ น
ก. ความรู้รอบตวั
ข. พระมหากษัตริย์ไทย
ค. นกั วทิ ยาศาสตรโ์ ลก
ง. ทกุ ข้อท่ีกลา่ วมา

๓๙ ขอ้ ใดคอื จุดมุ่งหมายของการทําโครงงาน
ก. ให้นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ มูลจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ด้วยตนเอง
ข. ให้นักเรียนมีความรับผดิ ชอบและเหน็ คุณค่าของการใช้กระบวนการ
แก้ปัญหา
ค. ใหน้ กั เรยี นได้แสดงออกซงึ่ ความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์
ง. ถูกทุกข้อทีก่ ลา่ วมา

บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๐

หนา้ ตา่ งที่เปิดกวา้ ง

๔๐ ขอ้ ใดเรียงลาํ ดับหวั ขอ้ โครงงานได้ถูกตอ้ ง
1. วธิ กี ารศึกษา 2. ผลการศึกษา
3. ขอบเขตของการศกึ ษาคน้ ควา้ 4. ท่ีมาและความสําคัญของโครงงาน
5. วัตถปุ ระสงค์ 6. เอกสารอา้ งองิ
7. การนาํ ไปใช้ประโยชน์ 8. อปุ กรณ์และวัสดุท่ีใชศ้ ึกษา

ก. 4 5 3 1 2 8 6 7 ข. 4 5 3 8 1 2 7 6
ค. 3 4 5 2 1 8 7 6 ง. 3 4 5 1 2 6 7 8



ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑

บทท่ี ๑๒

เรื่องย่อ

พ่ีแก้วและน้อง ๆ มีแดงต้อย ไก่โต้ง และจุ๊บแจง
นั่งอยู่นอกชานริมระเบียง ทุกคนกําลังฟังพ่ีแก้วท่อง
คําประพันธ์ที่แสนไพเราะ พี่แก้วบอกว่าไม่ใช่กลอน
แต่เป็นกาพย์ยานี ๑๑ ท่ีพี่แก้วกําลังหัดแต่งจากเพ่ือน
จุ๊บแจงชอบเพราะมันเพาะดี ไก่โต้งรีบหันมาบอกนอ้ งว่า
เพราะ ไม่ใช่ เพาะ ไก่โต้งยังถามพี่แก้วอีกว่า
กาพยย์ านี ๑๑ ตา่ งจากกลอนอยา่ งไร พี่แกว้ จงึ อธบิ าย
ให้ฟังว่า กาพย์ยานี ๑๑ จะมี ๑๑ คํา วรรคหน้า ๕ คํา วรรคหลัง ๖ คํา
แต่กลอนนั้นมี ๘ คําในแต่ละวรรค จึงเรียกว่ากลอน ๘ หรือกลอนสุภาพ
น้อง ๆ อยากหัดแต่งกาพย์ยานีบ้าง พ่ีแก้วบอกว่าไม่ยากเพราะพอแต่งไป
คํามันจะผุดข้ึนมาเอง น่ีคือคําแนะนําท่ีเพื่อนของพี่แก้วบอก แล้วพ่ีแก้วก็มี
บทกลอนอ่ืน ๆ มาท่องให้นอ้ ง ๆ ฟังอีก พ่ีแก้วบอกว่าคําประพันธ์ที่สนุก ๆ
อ่านเพลิน ๆ คนเขียนใช้ภาษาเขียนแปลก ๆ ไม่มีความหมาย แต่พออ่าน
ไปกจ็ ะสามารถเขา้ ใจได้เอง

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒

บทที่ ๑๒ นาํ คาํ ตอบจากดา้ นซ้ายมือมาใส่ในดา้ นขวามือให้สมั พันธก์ ัน

๑ ฌ ทํานองทใ่ี ช้รอ้ งเมื่อเวลาพายเรือพระทีน่ ัง่
๒ ชอ่ื กลอนชนิดหน่งึ ทน่ี ิยมแตง่ เล่าเรอื่ งยาว

และนาํ มาขับรอ้ ง
๓ เรอื ทพ่ี ระเจ้าแผ่นดนิ ใช้ทรงในการเสด็จ

พระราชดําเนินโดยกระบวนเรอื
๔ สะเทือน, มีอาการเหมอื นไหวหรอื สั่น
๕ ชือ่ เรือชนดิ หนง่ึ ในขบวนพยุหยาตรา
๖ หยิง่ ในเกยี รตแิ ละศกั ด์ศิ รขี องตน
๗ แวววาว, มแี สงวับ ๆ วาบ ๆ
๘ ตาย, ความตาย
๙ เห็นเด่นเป็นจาํ นวนมากพรอ้ ม ๆ กัน
๑๐ ปัญญาหรอื ความคิดฉับไว,ปฏิภาณไหวพรบิ
๑๑ หมู่ทหาร, กองทัพ
๑๒ แถวหรือแนวทีต่ ่อเนื่องกนั ไปอยา่ งยดื ยาว

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๓

บทที่ ๑๒ เขียนคําอ่านของคําตอ่ ไปนี้

๑ จรจรลั ๒ อาสญั ๓ สถิต ๔ สลอน

อ่านวา่ อา่ นวา่ อา่ นวา่ อ่านวา่

๕ พรรณราย ๖ ขนัด ๗ กาพย์

อ่านวา่ อา่ นว่า อ่านวา่

๘ คทา ๙ จรรโลงใจ ๑๐ เชาวน์

อา่ นวา่ อา่ นวา่ อ่านว่า

๑๑ สาคร ๑๒แสนยากร ๑๓ ยกั ษ์

อ่านวา่ อา่ นวา่ อา่ นวา่

๑๔ปราสาท ๑๕ ตลก ๑๖ โกรธ ๑๗ ชีวิต

อา่ นวา่ อ่านว่า อา่ นว่า อา่ นว่า

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๔

บทท่ี ๑๒ ตอบคําถามตามเนอ้ื เร่อื ง

๑ ในบทเรียนนมี้ ีใครบ้างท่กี าํ ลงั นง่ั สนทนากัน
ตอบ

๒ ในบทเรียนน้ใี ครเป็นคนแตง่ กายพ์ยานี ๑๑
ตอบ

๓ ในบทเรียนนี้ กายพ์ยานี ๑๑ ทีแ่ ตง่ มีว่าอย่างไร
ตอบ

๔ ถอดความกายพย์ านี ๑๑ ข้างตน้ ท่แี ตง่ ได้อยา่ งไร
ตอบ

๕ “ภาษาจรรโลงใจ อ่านครงั้ ใดมคี วามสุข” คาํ ที่ขดี เส้นใต้หมายความวา่
อย่างไร
ตอบ

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๕

บทท่ี ๑๒ ตอบคาํ ถามตามเน้ือเร่ือง (ตอ่ )

๖ นกั เรยี นคดิ ว่า ภาษามีความสําคัญหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
ตอบ

๗ นักเรียนทราบหรือไมว่ า่ กษตั รยิ ์ไทยพระองค์ใดคดิ คน้ ภาษาไทย
ตอบ

๘ กาพย์ยานี ๑๑ ตา่ งจากกลอนอยา่ งไรตามทพ่ี ่ีแกว้ อธบิ าย
ตอบ

๙ ใครอยากหดั แตง่ กาพยย์ านบี ้าง
ตอบ

๑๐ ใครสอนพี่แก้วแต่งกาพยย์ านี
ตอบ

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๖

บทที่ ๑๒

กาพย์ยานี ๑๑

มี ๑๑ คาํ ใน ๑ บาท

๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คาํ วรรหลังมี ๖ คํา

๑ บาท มี ๒ วรรค บาทละ ๒ วรรค รวมเปน็ ๔ วรรค

บาทเอก
บาทโท
บาทเอก
บาทโท

ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๗

กาพย์ยานี ๑๑ บทที่ ๑๒

เรียงลําดบั กาพยย์ านี ๑๑ ใหไ้ ดส้ มั ผัสท่ีถกู ตอ้ ง

๑ (๑) ส่อเสยี ดเบยี ดเบียนกนั (๒) ลกู ไม่รู้คุณพอ่ มัน
(๓) ลูกศิษยค์ ดิ ล้างครู (๔) ลอบฆา่ ฟนั คือตัณหา

เรยี งใหมเ่ ป็น

๒ (๑) ผเี ส้ือล้อเลน่ ดอมดม (๒) งามไมด้ อกออกชอ่
(๔) นํา้ หวานซ่านอารมณ์
(๓) คอยยว่ั เยา้ เฝา้ เวียนวน
เรียงใหม่เปน็

๓ (๑) ชวนเชิญเยาวชน (๒) วฒั นธรรมชน้ี ําได้
(๓) วา่ เราไซร้เอกราช (๔) รว่ มฝกึ ฝนภาษาไทย

เรียงใหมเ่ ป็น

ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๘

๔ (๑) ดุจฟา้ ฉาบรศั มี (ตอ่ ) (๒) คอื ท่ีนเี่ กาะลาํ พบู ทที่ ๑๒
(๓) บา้ นดอนมีของดี
(๔) แสงทองส่องทาทาบ
เรียงใหมเ่ ปน็

๕ (๑) คือน้ําใสในสายธาร (๒) ธรรมชาติคอื อะไร
(๓) คือชวี ิตและจติ ใจ (๔) ปา่ ไม้อันตระการ

เรยี งใหม่เป็น

๖ (๑) หนังสอื คอื เพื่อนรกั (๒) ยามทกุ ข์ปลกุ ปลอบใจ
(๓) ท่ีเหงาหงอยค่อยเคลอื่ นคลาย (๔) แน่ตระหนักเสมอไป

เรียงใหมเ่ ปน็

๗ (๑) จิตใจของเรานั้น (๒) ย่อมแช่มชน่ื ระรื่นรมย์
(๓) มิมที ุกขม์ าแปรผนั (๔) ทําดยี อ่ มมสี ุข

เรียงใหม่เปน็

ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๙

๘ (๑) ชวนหลงใหลใจใฝช่ ม (ต่อ) (๒) พกิ ุลและเฟอ่ื งฟบา้ ทที่ ๑๒

(๓) ออกดอกมาปลวิ ไสว (๔) กลิ่นหอมลอยไปไกล

เรยี งใหม่เปน็

๙ (๑) ฤดฟู ้าสดใส (๒) ยามนท้ี ุกเขตคาม
(๓) หมู่แมกไมอ้ อกดอกงาม (๔) ดอกไม้บานทกุ แห่งไป

เรียงใหมเ่ ป็น

๑๐ (๑) สองมอื ท่คี อยตี (๒) หวงั แตว่ ่าเปน็ คนดี
(๓) อยากใหด้ ีอยากใหจ้ าํ (๔) สองมอื เลย้ี งลูกมา

เรียงใหมเ่ ป็น

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๐

บทท่ี ๑๒ กาพยย์ านี ๑๑

โยงเส้นคําสัมผสั บงั คบั จากบทกลอนท่ีกาํ หนดให้

๑ ทรงเรอื ต้นงามเฉดิ ฉาย
พระเสดจ็ โดยแดนชล พายอ่อนหยบิ จบั งามงอน
ล้วนรปู สัตวแ์ สนยากร
ก่งิ แกว้ แพรว้ พรรณราย สาครลั่นคร่นั ครืน้ ฟอง
นาวาแนน่ เปน็ ขนดั

เรือรวิ้ ทวิ ธงสลอน

๒ ชอบวาจาโกหกคน
ครงั้ หน่งึ มรี าชา ให้เสนาประกาศไป
เลา่ เรอื่ งเด็ดถกู ฤทัย
วนั หนึง่ อยากฟังจน ทรพั ย์สินมอบใหค้ รอบครวั
ว่าคนท่พี ูดเท็จ

จะยอมยกกรงุ ไกร

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๑

บทที่ ๑๒ กาพยย์ านี ๑๑ (ต่อ)

โยงเส้นคาํ สัมผัสบงั คบั จากบทกลอนทกี่ าํ หนดให้

๓ ใชเ่ รือจ้างรบั เงนิ ตรา
เพราะครูผ้นู าํ ทาง กราบบูชาพระคุณครู
พรอ้ มมาลยั อนั งามหรู
พมุ่ พานจงึ นาํ มา จากจิตหนผู รู้ ู้คุณ
หญ้าแพรกแทรกดอกไม้

เขม็ ดอกออกชอ่ ชู

ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๒

บทที่ ๑๒ กาพย์ยานี ๑๑

ขีดเส้น / แบ่งจงั หวะการอา่ นลงในบทร้อยกรองทก่ี าํ หนดใหถ้ กู ตอ้ ง

๑ บทน้ีกําหนดไว้ เด็กผู้ใหญ่ต้องจดจาํ
หน้าทเี่ ราต้องทํา ทัง้ แจ้งเกดิ และแจ้งตาย
อายคุ รบสบิ ห้า คาํ นําหน้าหญงิ ทัง้ หลาย
นางสาวแต่ผชู้ าย ใช้คาํ นายภาคภูมิใจ

๒ แมร่ ักลูกลกู กร็ ้อู ยวู่ า่ รัก คนอืน่ สักหมื่นแสนไมแ่ มน้ เหมือน
จะกนิ นอนวอนวา่ เมตตาเตือน จะจากเรือนร้างแมไ่ ปแต่ตัว

๓ พฤษภกาสร อกี กญุ ชรอันปลดปลง
โททนตเ์ สน่งคง สาํ คญั หมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสน้ิ ทงั้ อินทรยี ์
สถติ ทว่ั แตช่ ัว่ ดี ประดบั ไว้ในโลกา

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๓

บทที่ ๑๒ กาพยย์ านี ๑๑ (ตอ่ )

ขีดเส้น / แบ่งจงั หวะการอา่ นลงในบทรอ้ ยกรองท่ีกาํ หนดให้ถกู ต้อง

๔ พระเสดจ็ โดยแดนชล ทรงเรอื ต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแกว้ แพรว้ พรรณราย พายออ่ นหยบิ จับงามงอน
นาวาแนน่ เป็นขนัด ล้วนรปู สัตว์แสนยากร
เรือริ้วทวิ ธงสลอน สาครลัน่ คร่นั ครนื้ ฟอง

๕ เราเกดิ มาท้งั ทีชวี ิตหน่งึ อย่าหมายพ่ึงผ้ใู ดใหเ้ ขาหยัน

ควรคะนงึ พ่ึงตนทนกัดฟัน คิดบากบ่นั ตัง้ หน้ามานะนาํ

กสิกจิ พณิชยการงานมีเกียรติ อยา่ หยามเหยยี ดพาลหาวา่ งานตา่ํ

หรือจะชอบวชิ าอุตสาหกรรม เชิญเลือกทาํ ตามถนัดอย่าผดั วนั

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๔

บทท่ี ๑๒

ปรศิ นาคาํ ทาย

คําว่า ปริศนาคําทาย ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้ความหมายว่า “ส่ิงหรือถ้อยคําที่ผูกขึ้นเป็นเง่ือนงํา
เพื่อใหแ้ กใ้ ห้ทาย”

ปริศนาคําทายนี้มีมาต้ังแต่สมัยโบราณในชั้นแรกเรียกว่า “ผะหมี่”
ซึ่งเป็นภาษาจีน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลท่ี ๖ โปรดฯ ใหเ้ รียกเป็นภาษาไทยวา่ “ปริศนาคําทาย”

ปริศนาคําทายมีบทบาทแก่สังคมมาก เพราะเป็นส่วนหน่ึง
ของวัฒนธรรมสะท้อนให้เห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
การเล่นทายปริศนา มีส่วนช่วยเสริมพัฒนาการของเด็กในด้านการคิด
และสติ ปัญญา การสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สัมพันธ์กับการใช้ภาษา
และความสนุกในการทาย ปริศนาคาํ ทาย บางทเี รียกวา่ ปัญหาเชาวน์

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๕

บทท่ี ๑๒ ปริศนาคาํ ทาย

อะไรเอ่ย ไถนาวนเวยี น ลากเกวียนไปมา เม่ือถงึ เวลา ชอบหา
๑ ปลกั นอน

ตอบ
อะไรเอ่ย ชื่อเป็นอาหารหวาน แต่ที่จริงเป็นอาหารคาว ซํ้าช่ือ
๒ เป็นตา่ งดา้ ว ทาํ ดว้ ยขา้ วเจ้าอยา่ งเดียว

ตอบ
อะไรเอ่ย หนา้ งอคอหัก เขามกั จัดไวเ้ ปน็ คู่ อาศัยอยู่ในเข่ง
๓ ตอบ

อะไรเอ่ย กลางวันใชก้ นั ไปทุกมุมหอ้ ง กลางคืนเชิญน้องไปไว้มมุ
๔ ตอบ
อะไรเอ่ย มหี าง มีปาก มตี า กนิ ปลาเปน็ อาหาร
๕ ตอบ
อะไรเอย่ ไม่มเี มยี ไม่มีลูก ไมม่ ีขา้ วปลูก แต่มขี า้ วกิน
๖ ตอบ

ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๖

บทท่ี ๑๒ ปรศิ นาคําทาย (ตอ่ )

อะไรเอ่ย เกดิ มาเปน็ คู่ อย่ใู กล้ ๆ กัน ในนนั้ มสี ดี าํ ขาว
๗ ตอบ
อะไรเอ่ย ตวั ยาวหลายวา กายาเจ็ดสี กนิ วารีเปน็ อาหาร
๘ ตอบ
อะไรเอย่ เกดิ จากไฟ หายไปกับลม
๙ ตอบ
อะไรเอย่ คนจบั ไม่ได้เพราะไม่มีตัวตน แต่ถ้ามนั จับคนหน้ามืดตามวั
๑๐ ตอบ
อะไรเอ่ย คนแกห่ ลังโกง่ โค้งลงในนาํ้ ตามจับตวั ปลา
๑๑ ตอบ

อะไรเอย่ มะพรา้ วข้าวเหนยี ว ถั่วคลุกใหท้ วั่ ไปสกุ ในไม้ไผ่
๑๒ ตอบ

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๗

บทท่ี ๑๒ เลอื กข้อทถ่ี กู ต้องทส่ี ดุ

๑ พแ่ี ก้วและนอ้ ง ๆ ไปนัง่ ทําอะไรกันอยูท่ น่ี อกชาน
ก. นัง่ ดลู ะครทีวี
ข. นงั่ คุยเรอ่ื งตลก
ค. นั่งคุยเรื่องแม่ของแตล่ ะคน
ง. นัง่ มองดเู มฆทลี่ อยอยบู่ นฟ้า
๒ พ่ีแกว้ หดั แตง่ กาพย์ยานี ๑๑ จากใคร
ก. จากเพือ่ น ข. จากไก่โต้ง
ค. จากคณุ พอ่ ง. จากคณุ แม่
๓ ใครทอ่ งคาํ ประพันธ์ใหน้ อ้ ง ๆ ฟงั
ก. พ่ีแก้ว ข. พก่ี ้อย
ค. พี่กู้ ง. พเ่ี กง่
๔ ชนิดคาํ ประพนั ธ์ทที่ อ่ งคอื อะไร
ก. กลอนแปด ข. กาพยฉ์ บงั
ค. กาพยย์ านี ๑๑ ง. โคลงส่ีสภุ าพ
๕ กาพยย์ านี ๑๑ ในวรรคแรกจะมีกค่ี าํ
ก. ๗ คํา ข. ๖ คาํ
ค. ๕ คาํ ง. กี่คาํ ก็ได้
๖ กลอนสภุ าพเรยี กอกี อย่างหนึง่ วา่
ก. กลอน ๔
ข. กลอน ๖
ค. กลอน ๘
ง. บทรอ้ ยกรอง

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๘

บทที่ ๑๒

๗ เพราะเหตุใดน้องจุ๊บแจงจงึ พูดคาํ ว่า “เพราะ” เป็น “เพาะ”
ก. เพราะนอ้ งจบุ๊ แจงจําคํามาผิด ๆ
ข. เพราะนอ้ งจ๊บุ แจงพูดไม่ชัด
ค. เพราะนอ้ งจบุ๊ แจงแกลง้ พดู ผดิ
ง. เพราะน้องจบุ๊ แจงเขยี นคาํ วา่ เพราะไม่เปน็
๘ ขอ้ ใดคอื ฉนั ทลกั ษณข์ องกาพยย์ านี ๑๑
ก. วรรคหนา้ มี ๔ คํา วรรคหลังมี ๗ คาํ
ข. วรรคหนา้ มี ๗ คาํ วรรคหลงั มี ๔ คํา
ค. วรรคหนา้ มี ๖ คํา วรรคหลงั มี ๕ คาํ
ง. วรรคหนา้ มี ๕ คาํ วรรคหลงั มี ๖ คาํ
๙ ขอ้ ใด ไม่ใช่ บทกลอน
ก. บทรัก ข. บทโกรธ
ค. บทโศก ง. บทบาท
๑๐ การรอ้ งบทเหเ่ รือทหารทง้ั ลาํ เรอื จะร้องรับว่าอยา่ งไร
ก. โหห่ ิ้ว ข. ฮา้ ไฮ้
ค. หุยฮา ง. โอละเห่
๑๑ บทตลกทีพ่ แี่ ก้วยกมาใหน้ อ้ ง ๆ ฟงั มาจากเร่อื งใด
ก. โสนน้อยเรือนงาม ข. อิเหนา
ค. ขนุ ช้าง ขุนแผน ง. ไกรทอง
๑๒ “เมยี จะตายตามผวั กลัวผหี ลอก กลวั หายใจไม่ออกเม่ืออาสัญ” หมายถงึ ใคร
ก. นางวนั ทอง ข. ตะเภาแก้ว
ค. นางศรปี ระจัน ง. ตะเภาทอง

ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๙

บทท่ี ๑๒

๑๓ คณุ สวุ รรณ ทพ่ี ี่แก้วพูดถึงเป็นกวใี นสมัยรัชกาลใด
ก. รชั กาลที่ ๒ ข. รัชกาลที่ ๓
ค. รัชกาลที่ ๔ ง. รัชกาลท่ี ๕
๑๔ คาํ กลอนที่ใชแ้ ตง่ ในบทละครเรอ่ื งขนุ ชา้ งขนุ แผน เป็นคาํ กลอนชนดิ ใด
ก. กลอน ๘ ข. กลอนบทละคร
ค. กาพยย์ านี ๑๑ ง. โคลงสีส่ ุภาพ
๑๕ ขอ้ ใดเป็นกาพยย์ านี ๑๑
ก. เมียจะตายตาผวั กลวั ผหี ลอก
ข. สายลมพัดเออื่ ยเอ่ือย เมฆลอยเรอ่ื ยตามกันไป
ค. เสยี งลอื เสียงเล่าอา้ ง อันใดพ่ีเอย
ง. ใครรานใครรุกด้าว แดนไทย
๑๖ พระเสดจ็ โดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉดิ ฉาย คาํ ท่ขี ดี เสน้ ใตห้ มายถงึ
ก. ทางบก ข. ทางนาํ้
ค. ทางอากาศ ง. ทางพื้นดิน
๑๗ เม่ือน้ันพระมะเหลเถไถมะไหลถา สถิตยังแท่นทองกะโปลา “ใครเป็นผู้แต่ง
บทกวีนัน้ ”
ก. คณุ สพุ รรณ ข. สนุ ทรภู่
ค. ศรปี ราชญ์ ง. รัชกาลท่ี ๓
๑๘ พแี่ กว้ ขบั เสภา เรอื่ งขุนช้างขุนแผน ใหน้ อ้ ง ๆ ฟงั คําวา่ เสภาหมายถงึ
ก. กาพย์ยานี ๑๑
ข. กลอน ๘
ค. โคลงส่สี ภุ าพ
ง. ชอ่ื กลอนชนดิ หน่ึง

ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๐

บทที่ ๑๒

ใช้ขอ้ ความนตี้ อบคาํ ถามข้อ ๑๙-๒๑ เมฆลอยเร่ือยตามกนั ไป
สายลมพดั เอ่ือยเอ่ือย
เมฆจา๋ จะไปไหน บอกกนั บ้างจะร้างรา
๑๙ ข้อใดมลี กั ษณะคาํ ประพันธเ์ หมือนบทรอ้ ยกรองน้ี
ก. เสือพีเพราะป่าปก ปา่ รกเพราะเสอื ยัง
ดนิ ดเี พราะหญ้าบงั หญ้ายงั เพราะดินดี
ข. คนทจี่ ติ ดคี ดิ ดี ชวี ีพบสุขหรรษา
เปน็ ที่รกั ใครเ่ มตตา บรรดาผู้คนท่ัวไป
ค. มัสม่ันแกงแกว้ ตา หอมยห่ี รา่ รสรอ้ นแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากใหใ้ ฝฝ่ นั หา
ง. เมียจะตายตามตวั กลวั ผีหลอก กลวั หายใจไม่ออกเมือ่ อาสัญ
จะโดดนาํ้ ให้ตายวายชวี นั กก็ ลัวจระเขม้ นั จะคาบไป
๒๐ บทร้อยกรองน้จี ัดอยู่ในประเภทใด
ก. กลอนสุภาพ ข. กาพยย์ านี ๑๑
ค. กลอนหก ง. กลอนบทละคร
๒๑ ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ ักษณะของบทร้อยกรองน้ี
ก. หน่งึ บทมี ๑๑ คาํ
ข. บทหนึง่ มี ๒ บาท คอื บาทเอกและบาทโท
ค. หนง่ึ บาทมี ๒ วรรค
ง. วรรคแรกมี ๕ คาํ วรรคหลงั มี ๖ คาํ
๒๒ ขอ้ ใดอา่ นเว้นวรรคตอนกาพย์ยาน้ีไม่ถกู ต้อง
ก. ภาษา/พาใจสุข ข. ลืมความทุกข์/คลายกังวล
ค. อ่านได้/หลายหลายหน ง. ดังเพ่อื น/สนิทชดิ /ดวงมาลย์

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๑

บทท่ี ๑๒

๒๓ ข้อใดอ่านเว้นจังหวะวรรคตอนไม่ถกู ตอ้ ง
ก. ตรแิ ลว้ พระ/มะเหล/ถงึ เปป๋ ะ ข. มะเลไต/ไคลคละ/มะหรจู ู๋
ค. จรจรัล/ตันตัด/พลัดพลู ง. ไปส/ู่ ปราสาท/ท้าวโปลา
๒๔ ข้อใดอ่านเวน้ จังหวะและวรรคตอนไม่ถกู ตอ้ ง
ก. เมียจะ/เชือดคอตาย/เสียหลายคร้ัง
ข. แต่รอรงั้ /กลวั เจบ็ /ไม่เชือดได้
ค. จะผกู คอ/หาเชอื ก/มาเตรยี มไว้
ง. เชอื กก็ใหญ/่ กลัวรัด/มดั ต้นคอ
๒๕ “พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย” คําท่ีขีดเส้นใต้ทั้งหมด
ความหมายอย่างไรตามลาํ ดับ
ก. ทางเรือ เรอื ลาํ แรก งามผดุ ผาดสดใส
ข. ทางเรอื เรอื พระท่ีนงั่ งามระยิบระยบั
ค. ทางนํ้า เรอื พระท่ีนั่ง งามผดุ ผาดสดใส
ง. ทางนาํ้ เรือลําแรก งามผุดผาดสดใส
๒๖ คาํ ศัพท์ในข้อใดมคี วามหมายวา่ “บํารงุ รกั ษาและเชดิ ชใู จไวไ้ ม่ให้เสอ่ื ม”
ก. ภาคภูมใิ จ ข. จรรโลงใจ
ค. เพลดิ เพลนิ ใจ ง. ซาบซึ้งใจ
๒๗ “วนั หน่งึ ๔พร๑ะจงึ มะหลึกตกึ มะเหลไถไพ๒รหรกึ มะรึกเข แล้วจะไปเท๓ีย่ วชมมะลมเต
มะโลโตโปเปมะลู” จากบทรอ้ ยกรอง วรรคใดเป็นคําท่ีไม่มีความหมายทงั้ หมด
ก. วรรคท่ี ๑ ข. วรรคท่ี ๒
ค. วรรคที่ ๓ ง. วรรคที่ ๔

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๒

บทท่ี ๑๒

ใช้ข้อความนต้ี อบคาํ ถามข้อ ๒๘-๒๙
ภาษาจรรโลงใจ อ่านครั้งใดมคี วามสุข
เพลนิ ใจไร้ความทกุ ข์ แสนสนกุ ทุกเวลา
อ่านแลว้ ไดค้ วามรู้ เหมือนไปส่แู ดนหรรษา
เพลินพจน์รจนา เพราะภาษาจรรโลงใจ
๒๘ ข้อใดไม่ใช่คาํ สมั ผัสบังคับของคําประพนั ธ์ข้างตน้
ก. ใจ-ใด ข. สุข-ทกุ ข์ ค. ลา-ษา ง. ทกุ ข์-สนุก
๒๙ ข้อใดคือสัมผสั ระหว่างบทของคําประพันธ์ข้างต้น
ก. เวลา-หรรษา ข. หรรษา-รจนา
ค. ร-ู้ สู่ ง. ความสุข-ความทกุ ข์
๓๐ พิจารณาคําประพันธ์ตอ่ ไปน้ี
ชีวติ จะมีค่า เม่ือเกดิ มาทาํ ...๑.........
สร้างสขุ ประโยชน์มี เป็นศักด์ิศรีทกุ ...๒.......
หนา้ ท่ตี อ่ ...๓...... ต้องรีบเร่งการศกึ ษา
รกั เรียนเพียร....๔........ สรา้ งปัญญาวชิ าชาญ
คาํ ในขอ้ ใดควรเตมิ ลงในช่องวา่ งจงึ จะเหมาะสม
ก. สง่ิ ดี เวลา ตนเอง คน้ หา ข. หนา้ ที่ เวลา ตนเอง ค้นควา้
ค. หนา้ ท่ี ชีวา ตนเอง ค้นหา ง. ส่งิ ดี ชวี า ตนเอง ค้นควา้
๓๑ “น้องเล็กของเจา้ นี้ ..................................
แบบอยา่ งนา่ ทาํ ตาม เขามคี วามซ่ือสัตย์ไง”
ควรเตมิ ขอ้ ความใดในช่องว่างจึงจะเหมาะสม
ก. มใี จท่นี า่ เกรงขาม ข. จิตใจดีพยายาม
ค. จติ ใจดีอยา่ เหยยี ดหยาม ง. มใี จดี ไม่บ่มุ บา่ ม

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๓

บทที่ ๑๒

๓๒ “................................ หอมชน่ื ใจให้หรรษา
รืน่ รมย์สมอรุ า ตดิ นาสาช่ัวคร่ยู าม”
ควรเตมิ ข้อความใดในชอ่ งวา่ งจึงจะเหมาะสม
ก. กล่นิ หอมของดอกไม้ ข. นํ้าหอมท่เี ธอใส่
ค. กล่ินนา้ํ หอมของใคร ง. กลน่ิ ดอกไม้ทัว่ ไป
๓๓ ปริศนาคาํ ทาย มชี ่ือเรยี กอีกอย่างหนงึ่ วา่
ก. ยอดปัญญา ข. ปัญหาเชาว์
ค. ปญั หาโลกแตก ง. ปัญหาชวนคดิ
๓๔ ข้อใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของปริศนาคําทาย
ก. ใชค้ าํ คลอ้ งจองมจี ังหวะเป็นวรรค ๆ
ข. จํากัดจาํ นวนคําให้เทา่ ๆ กัน
ค. เลือกถ้อยคําชวนให้คดิ มาผกู เป็นปรศิ นา
ง. เลน่ คาํ เป็นสาํ นวนใชค้ ําซํา้ ๆ ทําให้ตอ้ งคดิ
๓๕ เหตุใดจึงกลา่ ววา่ ปรศิ นาคาํ ทายมบี ทบาทแกส่ งั คมมาก
ก. เพราะเป็นส่วนหนง่ึ ของวัฒนธรรม
ข. สะท้อนภาพชีวติ ความเปน็ อยขู่ องคนไทย
ค. สอดแทรกประเพณีวฒั นธรรมและความเชื่อ
ง. ถกู ทกุ ข้อทก่ี ล่าวมา
๓๖ ข้อใดคอื คาํ ตอบของปริศนาตอ่ ไปนี้
๑. ทนี่ ัง่ ดกู ีฬา ๒. เรอ่ื งทีพ่ าใหแ้ ปลกใจ ๓. ลอื เลา่ ใชค้ าํ ใด
คดิ ถกู ไดค้ ะแนนเอย
ก. อัศจรรย์ อัฒจนั ทร์ โจษจนั ข. อัฒจันทร์ มหศั จรรย์ โจษจนั
ค. อัฒจันทร์ อศั จรรย์ โจษจนั ง. มหศั จรรย์ อฒั จรรย์ โจษจัน

ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๔

บทที่ ๑๒

๓๗ คาํ ว่า “ผะหมี่” เป็นคําในภาษาใด ข. ภาษาบาลี
ก. ภาษาเขมร
ค. ภาษาจีน ง. ภาษาลาว
๓๘ กษัตรยิ ์พระองค์ใดที่โปรดฯ ใหเ้ ปล่ยี นจากผะหม่เี ปน็ ทายปรศิ นา
ก. รชั กาลท่ี ๒ ข. รัชกาลที่ ๔
ค. รัชกาลท่ี ๖ ง. รชั กาลท่ี ๘
๓๙ ข้อใด ไมใ่ ช่ ประโยชน์ของภาษา
ก. ทําใหผ้ ูอ้ ่านมีความสุข ข. ทําให้ผอู้ า่ นได้ความรู้
ค. ทําให้ผู้อา่ นเพลดิ เพลิน ง. ทําใหผ้ ้อู ่านโศกเศร้า
๔๐ พจนานุกรมฉบับปจั จุบันคือฉบับใด
ก. พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๑
ข. พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๒
ค. พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๓
ง. พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔



สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวิต ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑

เรอื่ งยอ่

สายนา้ และล้าธารที่ไหลผ่านเนินเขาและปา่ กว้างเป็น
แหล่งน้าท่ีพ่ึงของสัตว์ป่าให้ได้ใช้อาบกิน รวมทังยัง
เป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์น้า ส่วนล้าธารท่ีไหลผ่าน
หมู่บ้านและชุมชนท้าให้ผู้คนได้อาศัยด่ืมกิน และ
ด้ารงชีวิต ล้าธารที่ไหลเป็นสายเม่ือถึงโขดหินก็ตก
กระทบเป็นน้าตก เสยี งกอ้ งสน่ันดงั ไปทัว่ โดยเฉพาะ
ในฤดูฝน น้าไหลไม่ขาดสายจนบางครังท้าให้น้ากัดเซาะแนวชายฝ่ัง
เม่ือตน้ ไมถ้ กู ตดั ท้าลายไป ท้าใหไ้ ม่มีแนวยดึ ดนิ เหลา่ นนั ไว้ ดินก็จะถล่มลงมา
ก่อให้เกิดอันตราย เมื่อถึงฤดูกาลท่ีน้าแห้งเหือดท้าให้แผ่นดินแห้งแล้ง
แตกระแหง ขา้ วในนาต้องเหี่ยวเฉาตายไป ท้าได้แต่เพียงเฝ้ารอคอยฝนให้ตก
ลงมาสรา้ งความชมุ่ ฉ้า่ อกี ครัง
สายน้าก็เปรียบได้กับชีวิตของคนเรา เริ่มจากวัยเด็กท่ีสดใสเริงร่า
ไร้ปัญหา เป็นชีวิตที่ดูเหมือนจะมีแต่ความสุขสนุกสนานตามประสาวัยเด็ก
แต่เมื่อเริ่มโตขึนชีวิตก็เริ่มประสบปัญหาต่าง ๆ ต้องใช้สติปัญญาในการคิด
แก้ปัญหาด้วยความมุ่งม่ัน หากมีญาติมิตรท่ีดีคอยช่วยเหลือกันก็จะท้าให้
แก้ปัญหาได้รวดเร็ว แต่บางคนโชคร้ายขาดญาติมิตรมองหาใครช่วยเหลือ
ก็ไม่มีเหมือนกับน้าท่ีท่วมพ้นผืนแผ่นดิน สิ่งที่จะช่วยให้หลุดพ้นได้ คือ
การตังสติและรอจังหวะที่ดีของชีวิตที่จะก้าวต่อไปเพื่อต่อสู้กับชะตาชีวิต
เหมอื นกบั นา้ ตกทไ่ี หลไปตามทางและตกลงกระทบโขดหิน น้าทีไ่ หลรินตอ่ ไป

สายนา้บทสทา่ี ย๑ช๓วี ิต ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒

(ต่อ)

ก็ให้ประโยชน์กับชีวิตต่าง ๆ บนแผ่นดิน เปรียบได้
กับคนที่มี ความคิดดีและมุ่งท้าความดีชีวิตก็จะ
เจริญรุ่งเรือง ซึ่งเราต้องหมั่นตักตะกอนชีวิตหรือ
ส่ิงท่ีไม่ดี นิสัยท่ีไม่ดีออกจากตัวเอง เปล่ียนตัวเอง
ให้เป็นคนดี มีน้าใจ ไม่ถือตัว ส่ิงต่าง ๆ ก็จะสดใส
เหมอื นน้าขนุ่ ทตี่ กตะกอนแล้วเป็นนา้ ใสท่ีน่าชืน่ ชม

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวิต ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๓

เขยี นค้าอา่ นของค้าตอ่ ไปนี

สขุ สราญ อุณหภูมิ
องคก์ ารสหประชาชาติ อ่านว่า
อ่านวา่
อ่านว่า

ทรพั ยากร บริสุทธ์ิ ชลาสินธ์ุ

อ่านวา่ อ่านว่า อ่านวา่

มหาสมทุ ร บุปผชาติ สรรเสริญ

อา่ นว่า อ่านวา่ อา่ นวา่

หยาดทิพย์ บริโภค ชลาลัย

อา่ นวา่ อ่านวา่ อา่ นวา่

พฤกษ์ ภยั พาล ลขิ ิต

อ่านว่า อา่ นวา่ อ่านวา่

สายนา้บทสทาี่ ย๑ช๓วี ติ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๔

น้าคา้ ศัพท์บนต้นไมม้ าใสด่ ้านบน
ใหต้ รงกับความหมาย

๑ มีจติ ใจหวังดีตอ่ กนั ๒ ลูบไล้ให้เปียก,ท้าใหช้ มุ่ ช่ืน

๓ ตลอดปี ๔ สายน้า, ลา้ ธาร

๕ จรดกัน, พบกนั ๖ องคป์ ระกอบ,สว่ นประกอบ

๗ คอ่ ย ๆ หมดไป ๘ แอง่ น้าท่ลี าดลกึ ลงไป

๙ แตกเป็นรอ่ ง ๆ ๑๐ ไม่แจ่มใส

แตกระแหง หนองนา้
ชโลม
ปัจจัย
ตาปี ขุน่ มัว
เหือดแหง้ ไมตรจี ติ

บรรจบ ธารา

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๕

น้าค้าท่กี า้ หนดให้ใสใ่ นชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง

เกราะ คลค่ี ลาย ระเหย ทลาย หรรษา
ลา้ ธาร ชะตา มายา พสธุ า ชอุม่

๑ ทหารต้องใสเ่ สอื เมอ่ื ต่อสู้กบั ศัตรู

๒ เดก็ ไร้บ้านมีความสขุ ทไี่ ด้ของเล่นใหมจ่ ากผใู้ จบุญ

๓ ทกุ คนต่างมี กรรมทแ่ี ตกตา่ งกนั ไว้ตามบาปและบุญที่สร้างกนั มา

๔ วงการบนั เทงิ เป็นโลกแหง่ เป็นที่ปรารถนาของใครหลาย ๆ คน

๕ บา้ นของฉนั บนเขาใหญ่มี นา้ ใสเหน็ ตัวปลา

๖ ตา้ รวจเข้า รังโจรท่ีกลบดานของพวกคนชวั่

๗ สถานการณโ์ ควิดเริม่ ไปในทางทีด่ ีขนึ

๘ พนื แหง่ นีไดร้ บั การปกป้องโดยบรรพบุรษุ ของเรา

๙ ความรอ้ นจากนา้ เปน็ ไอขนึ สูช่ นั บรรยากาศ

๑๐ พชื ผักใบหญา้ ไปทว่ั บริเวณทอ้ งท่งุ นา

สายนา้บทสทา่ี ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๖

ตอบคา้ ถามตามเนือเรื่อง

๑ ต้นกา้ เนดิ ของสายนา้ มกั จะอยทู่ ใี่ ด
ตอบ

๒ รากของต้นไม้มีประโยชน์อย่างไร
ตอบ

๓ “เปน็ แหลง่ น้าอาบกนิ ของสตั วป์ า่ ” หมายความว่าอยา่ งไร
ตอบ

๔ มนุษย์ใชน้ า้ ในการท้าสิ่งใดบ้าง
ตอบ

๕ นกั เรียนรสู้ ึกอยา่ งไรกบั ชวี ิตในช่วงวัยเดก็ ของตนเอง
ตอบ

๖ จากขอ้ ๕ นักเรยี นคิดว่าเปน็ เพราะสาเหตุใด
ตอบ

สายนา้บทสทาี่ ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๗

ตอบค้าถามตามเนอื เรอ่ื ง (ตอ่ )

๗ เมือ่ เรามีปญั หาสิ่งแรกทีค่ วรท้าคืออะไร
ตอบ

๘ เม่ือเรมิ่ เข้าสวู่ ัยผใู้ หญช่ วี ิตมักจะเปน็ เชน่ ไร
ตอบ

๙ การตังสตใิ นการแก้ไขปญั หาอยา่ งกล้าหาญเปรยี บได้กบั นา้ อะไร
ตอบ

๑๐ วธิ ีการสรา้ งสิ่งทด่ี ใี หก้ บั ตนเองทา้ ได้อย่างไร
ตอบ

สายน้าบทสทาี่ ย๑ช๓ีวติ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๘

นา้

น้าเป็นสิ่งจ้าเป็นส้าหรับการด้ารงชีวิต น้าแม้คนจะคิดว่าเป็นเพียง
ของเหลว แต่ความจริงแล้ว น้ามีหลายสถานะเป็นทังของแข็ง ของเหลว
และก๊าช ข้อมลู จากสารานุกรมวิกพิ เี ดยี เผยแพรเ่ มอ่ื พ.ศ. ๒๕๕๒ ระบุว่า
พืนผิวโลกมีน้าประมาณ ๗๑ % ใต้ผิวโลกมีน้า ๑.๖ % ในอากาศมีน้า
0.000๑% น้าเหล่านเี ปน็ นา้ เคม็ ประมาณ ๙๗ % เปน็ ธารน้าแข็ง ๒๔ %
และทเ่ี หลืออกี 0.๖ % เป็นน้าจากแม่นา้ ทะเลสาบ คลอง หนอง บงึ ฯลฯ
ร่างกายของคนเรามีน้าเป็นส่วนประกอบส้าคัญ น้าช่วยควบคุมอุณหภูมิ
ในร่างกาย ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร การขับถ่ายของเสียออกจาก
ร่างกาย และการลา้ เลียงอาหารไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย

ดังนัน เราควรจะช่วยกันอนุรักษ์น้าและดูแลแหล่งน้าต่าง ๆ ให้อยู่ใน
สภาพท่ีสมบูรณ์ องค์การสหประชาชาติก้าหนดให้วันท่ี ๒๒ มีนาคมของ
ทุกปี เป็น “วันน้าโลก” เพื่อรณรงค์ให้มนุษย์เห็นความส้าคัญของน้า และ
ร่วมมอื กันอนรุ ักษ์แหล่งน้า เพื่อให้มนี า้ กนิ นา้ ใชต้ ลอดไป


Click to View FlipBook Version