บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๔
ชวี ติ มคี ่า
นําคาํ ที่กาํ หนดใหใ้ สห่ นา้ ขอ้ ความของความหมายใหส้ มั พนั ธก์ นั
ปมดอ้ ย ๑ พระพยอมมีความเมตตา ต่อเด็กไร้บ้าน
กรุณา จงึ รบั เล้ยี งดูแลไว้ในวัดสวนแก้ว
ภกิ ษณุ ี ๒ ป้าของฉนั บวชเป็น มาหลายปแี ลว้
ความทุกข์
๓ คนเมานอน ไมไ่ ด้สติอยู่ใต้สะพานลอย
เลอ่ื มใส
บทบาท ๔ คนตา่ งชาติต่าง ในพระพุทธศาสนา
๕ บ้านของฉันเปน็ ผ้ดู เี กา่
๖ เดก็ ท่ีมปี ญั หาเพราะรู้สึกว่าตนเองมี
จากการไมม่ บี ดิ ามารดา
สลบ ๗ มนษุ ย์ทกุ คนต้องเจอท้งั ความสุข และ
ตระกูล
๘ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ต้องมี แตกต่าง
กันไปตามอายุ
บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๕
ชวี ติ มีค่า ตอบคําถาม
ตามเนื้อเรอ่ื ง
๑ ข้าวปนุ้ คือใคร และมีทีม่ าของชอ่ื อย่างไร
ตอบ
๒ ข้าวปนุ้ มาอยูท่ บี่ า้ นเด็กกาํ พรา้ ได้อยา่ งไร
ตอบ
๓ ในบา้ นเดก็ กาํ พรา้ มีผดู้ ูแลก่คี น ชื่ออะไรบา้ ง
ตอบ
๔ ใครเปน็ ผ้ดู ูแลกจิ การทุกอยา่ งในบา้ นเดก็ กาํ พร้าแหง่ นี้
ตอบ
๕ ลงุ ธงพูดให้กาํ ลังใจเดก็ ๆ ในบา้ นกาํ พร้าอยา่ งไรบ้าง
ตอบ
๖ แมพ่ รสอนให้เดก็ ๆ คดิ อยา่ งไรถงึ แมว้ ่าจะเป็นเด็กกาํ พร้า
ตอบ
๗ ความตัง้ ใจของเดก็ ๆ ทุกคนในบ้านนีค้ ือ
ตอบ
บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๖
ชวี ติ มคี ่า ตอบคาํ ถาม
ตามเน้ือเรอ่ื ง
(ตอ่ )
๘ ใยบัวเป็นใครและมฐี านะอยา่ งไร
ตอบ
๙ เพราะเหตใุ ดใยบวั จงึ คิดอยากตาย
ตอบ
๑๐ ใยบวั ไดร้ ่วมทาํ กิจกรรมกับขา้ วป้นุ และเดก็ ๆ ในบา้ นกาํ พร้า มีอะไรบ้าง
ตอบ
๑๑ ใยบวั ได้ข้อคิดอะไรบา้ งจากการท่ีได้ไปบา้ นข้าวปุ้น
ตอบ
๑๒ เพราะเหตใุ ดใยบวั จึงคดิ ได้วา่ ชีวิตมีค่า
ตอบ
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๗
ชวี ิตมคี ่า ตระกลู
พรรณนา
จบั คโู่ ยงเสน้ คาํ และคําอ่านใหถ้ กู ตอ้ ง บทบาท
อปุ สมบท
๑ อบุ -ปะ-สม-บด กรณุ า
๒ พนั -นะ-นา บริจาค
๓ ตระ-กูน สลบ
๔ กะ-ร-ุ นา สมบรู ณ์
๕ บด-บาด กจิ การ
๖ สะ-หลบ ทะนุถนอม
๗ ทะ-น-ุ ทะ-หนอม
๘ กดิ -จะ-กาน
๙ สม-บูน
๑๐ บอ-ร-ิ จาก
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๘
ชวี ติ มคี า่
กสี าโคตมเี ถรี
กีสาโคตมีเถรี เดิมช่ือ กีสา เปน็ ธิดาของตระกูลเก่าแก่ในกรุงสาวัตถี
นางได้แต่งงานกับบุตรชายของเศรษฐี และมาอยู่ที่บ้านตระกูลของสามี
ต่อมานางได้ให้กําเนิดบุตรชายน่ารักคนหนึ่ง แต่ต่อมาบุตรชายของนาง
ได้เสียชีวิตลงกะทันหัน นางเสียใจจนแทบเสียสติและไม่ยอมให้ใคร
เผาบุตรของนางเพราะคิดว่าบุตรของนาง เพียงแต่สลบไปเท่าน้ันและจะ
ฟน้ื คนื ชีพกลบั มาใหม่ จนมผี ู้แนะนาํ ให้นางไปเขา้ เฝา้ พระพทุ ธเจา้
ขณะที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่เมืองเชตะวัน เมืองสาวัตถี นางได้
กราบทูลขอให้พระพุทธเจ้ารักษาบุตรของนาง แต่พระพุทธองค์กลับให้นาง
ไปหาเมล็ดผักกาดจากบ้านของคนที่ไม่มีคนตาย เมื่อนํามาแล้วจะนํามา
ทํายาให้
นางกีสาอุ้มบุตรชายไปเที่ยวขอเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากชาวบ้าน
ทุกครัวเรือนแต่ไม่ได้แม้แต่เมล็ดเดียว เนื่องจากทุกครัวเรือนมีคนตาย
มาแล้วท้ังส้ิน นางได้สติกลับคืนมาและคิดได้ว่าความตายน้ันไม่ได้
เกิดเฉพาะกับลูกของนางเท่านั้น สักวันหนึ่งนางเองก็ต้องตายเช่นเดียวกัน
จึงเกิดปัญญาคิดได้ว่าส่ิงใดมีเกิดก็ย่อมมีดับไปเป็นธรรมดา นางจึงคลาย
ความเศร้าโศกแล้วจัดการเผาศพบตุ รชาย
ต่อมานางได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเกิดความเล่ือมใสจึงกราบทูล
ขออุปสมบทเป็นภิกษุณีและได้บรรลุธรรมขั้นสูง พระพุทธเจ้าทรงยกย่อง
กีสาโคตมเี ถรีวา่ เปน็ เลิศทางถอื ธุดงคเ์ คร่งครัด
บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๙
ชวี ิตมีคา่ กีสาโคตมเี ถรี
๑ ๒
กสี าโคตมีเถรี ช่อื เดมิ คอื กสี าโคตมเี ถรี เปน็ ธดิ าแห่งเมือง
๓๔
เกิดเหตุการณ์ทท่ี ําใหต้ ้องเสียใจคอื นางทําสงิ่ ใดกับสิ่งที่เสยี ใจ
๕๖
นางไปหาใครเพ่อื ใหช้ ่วยรักษาบตุ ร พระพุทธเจ้าทรงแนะนําใหน้ างทําอะไร
๗ ๘
เพราะเหตุใดนางจงึ เกดิ ปัญญา สดุ ท้ายนางเกดิ ความเลอ่ื มใส
ปลดทกุ ข์ลงได้ พระพทุ ธเจา้ จงึ ทาํ สิง่ ใด
๙ ๑๐
พระพุทธเจ้ายกยอ่ งนางอยา่ งไร ข้อคดิ ท่ไี ด้จากเรื่องนี้
บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๐
ชวี ติ มคี ่า
กีสาโคตมเี ถรี
เรยี งลาํ ดับเรอื่ งยอ่ ของเรอ่ื ง “กีสาโคตมเี ถรี” โดยใสล่ ําดับหมายเลข ๑-๑๐
เปน็ สตรีทม่ี ีบทบาทอย่างดยี ิง่ ในการจรรโลงพระพทุ ธศาสนา
ต่อมาบุตรชายเสยี ชวี ิตกะทนั หัน นางเสียใจแทบสิ้นสติไม่ยอมเผาศพ
บตุ รชาย
กีสาโคตมีเถรี เดิมช่ือ กีสา แต่งงานกับบุตรชายเศรษฐี มีบุตรชาย
คนหนึ่ง
นางจงึ คลายความโศกเศรา้ จติ ใจสดช่ืน แล้วจัดการเผาศพบุตรชาย
นางเทย่ี วเสาะหาคนที่จะรกั ษาบตุ รชายของนางใหฟ้ นื้ คนื ชีวิต
พระพุทธเจ้าให้นางไปหาเมล็ดพันธ์ุผักกาดกํามือหน่ึงจากบ้านเรือน
ทีไ่ ม่มคี นตาย
ตอ่ มานางได้อุปสมบทเปน็ ภิกษณุ ี เป็นเลิศทางถือธุดงคเ์ คร่งครดั
มีผู้แนะนําให้นางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งประทับอยู่ท่ีเชตวันมหาวิหาร
เมืองสาวตั ถี
นางจึงได้สติเกิดปัญญาคิดได้ว่า ส่ิงใดมีเกิดส่ิงน้ันย่อมมีดับไปเป็น
ธรรมดา
นางอุ้มบุตรชายไปเที่ยวหาแต่หามิได้สักเมล็ดเดียว เพราะทุกบ้านมี
คนตายมาแล้ว ทงั้ สิ้น
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๑
ชวี ติ มคี า่ อักษรย่อ
จงเขียนอักษรย่อของต่อไปนี้
๑ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บล
๒ รักษาความปลอดภยั
๓ ไปรษณียโ์ ทรเลข
๔ การสอ่ื สารแหง่ ประเทศไทย
๕ บรรณาธิการ
๖ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ
๗ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
๘ โรงเรียน
๙ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
๑๐ ปจั ฉิมลขิ ติ
๑๑ รอ้ ยตํารวจเอก
๑๒ พระราชบญั ญัติ
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๒
ชีวิตมีค่า (ตอ่ ) อักษรยอ่
จงเขยี นอักษรย่อของคาํ ต่อไปนี้
๑๓ ลกู เสือชาวบ้าน
๑๔ นักโทษชาย
๑๕ ภาษเี งินได้
๑๖ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร
๑๗ คูณร่วมน้อย
๑๘ มหาวิทยาลยั
๑๙ ครสิ ต์ศักราช
๒๐ นกั ศกึ ษา
๒๑ ดอ็ กเตอร์
๒๒ กระทรวงมหาดไทย
๒๓ การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค
๒๔ อาสาสมัคร
บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๓
ชีวิตมีค่า อักษรย่อ
จงเขียนอักษรเต็มจากอักษรยอ่ ต่อไปนี้
๑ ขสมก. ๒ ททท.
๓ กทม. ๔ น.ส.พ.
๕ บ. ๖ ค.ร.ม.
๗ จ.ม. ๘ ร.พ.
๙ กม. ๑๐ สต.
บทที่ ๙ (ต่อ) ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๔
ชีวิตมีคา่ อักษรย่อ
จงเขยี นอกั ษรเต็มจากอกั ษรยอ่ ตอ่ ไปน้ี
๑๑ ร.ฟ.ท. ๑๒ ป.ป.ส.
๑๓ พ.ร.ก. ๑๔ ร.ร.
๑๕ ผว.กทม. ๑๖ เม.ย.
๑๗ ขรก. ๑๘ กบข.
๑๙ สพฐ. ๒๐ รธน.
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๕
ชวี ิตมีค่า การเขยี นจดหมาย
ขดี เครื่องหมาย / หน้าขอ้ ทีถ่ กู และขดี เคร่ืองหมาย x หน้าข้อทผ่ี ิด
๑ การเขยี นจดหมายเป็นการสอ่ื สารไดท้ ุกสถานท่ที ้ังในและตา่ งประเทศ
๒ การเขียนจดหมายทําให้ได้ฝึกใช้ภาษาที่เหมาะสมกับบุคคลและเขียน
ถูกต้องตามรปู แบบ
๓ กระดาษท่ีใช้เขยี นจดหมายเป็นชนดิ ใดกไ็ ด้แต่ควรเป็นสขี าวเทา่ น้นั
๔ จดหมายที่เขียนด้วยลายมือสวยงามอ่านง่าย ไมม่ ีรอยลบขีดฆ่า แสดง
วา่ ผ้เู ขียนมีมารยาทในการเขยี นจดหมาย
๕ ถ้าจ่าหน้าซองให้ถูกต้องชัดเจน บอกรหัสไปรษณีย์ด้วยเลขอารบิก
จดหมายถึงมือผูร้ บั แน่นอนโดยไม่ต้องตดิ ดวงตราไปรษณียากร
๖ คําขึ้นต้นจดหมายถึง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พ่ีน้อง
ใช้เหมอื นกนั คือ กราบเท้า......ทีเ่ คารพ
๗ คําลงทา้ ยจดหมายถึงญาติผ้ใู หญ่ ควรใช้ “ดว้ ยความเคารพอยา่ งสูง”
๘ คําวา่ “ฉนั , เรา” เป็นคําสรรพนามท่ผี ู้เขียนจดหมายถงึ ผูใ้ หญไ่ ม่ควรใช้
เรียกแทนตวั เอง
๙ ควรใช้สรรพนามแทนตัวผใู้ หญท่ ่ีเขยี นจดหมายถงึ ว่า “คณุ ... ท่าน”
๑๐ หากไมต่ ดิ ดวงตราไปรษณียากรบนจดหมาย ผู้ส่งจะถกู ปรบั
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๖
ชีวิตมคี ่า
เลือกคําตอบที่ถกู ตอ้ งที่สดุ
๑ ขา้ วปุ้นมีพีน่ ้องชายหญิงรวมกี่คน ข. ๑๑ คน
ก. ๑๐ คน
ค. ๑๒ คน ง. ๑๓ คน
๒ บา้ นของขา้ วปุ้นมแี ม่กค่ี น
ก. ๑ คน ข. ๒ คน
ค. ๓ คน ง. ๔ คน
๓ เด็ก ๆ ท่อี าศัยอยทู่ ้งั หมดเกยี่ วดองเป็นพนี่ อ้ งกันหรือไม่
ก. เป็นพ่ีน้องกัน ข. เป็นญาตกิ ัน
ค. เปน็ ลูกพ่ีลูกนอ้ งกัน ง. ไม่เป็นอะไรกัน
๔ บา้ นของข้าวป้นุ คอื ขอ้ ใด
ก. บา้ นเด็กพิการ ข. บา้ นเดก็ กําพรา้
ค. บา้ นเดก็ เรร่ ่อน ง. บ้านเด็กติดเช้ือเอดส์
๕ คําวา่ “เด็กกําพรา้ ” ตรงกับขอ้ ใด
ก. เด็กทพี่ ่อแม่เลยี้ งดูมาตง้ั แตเ่ ลก็
ข. เดก็ ท่ีพอ่ แม่นําไปขอทาน
ค. เด็กทห่ี ลงทางจากพอ่ แม่
ง. เดก็ ที่พอ่ แมไ่ ม่สามารถเลย้ี งดูได้
๖ ลงุ ธงและอาจติ ทําหน้าทอ่ี ะไร
ก. ทําอาหารเลย้ี งเด็ก
ข. เป็นคนเลีย้ งเดก็
ค. ดแู ลเด็กผ้ชู าย
ง. ดแู ลเด็กผหู้ ญิง
บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๗
ชีวิตมคี า่
๗ ใครดูแลกิจการทุกอยา่ งในบ้านเด็กกาํ พรา้ ข. แม่นี
ก. แมค่ อง
ค. แมพ่ ร ง. ลงุ ธงและอาจติ
๘ ขา้ วป้นุ เข้ามาอยู่บ้านเด็กกาํ พร้าได้อยา่ งไร
ก. ลงุ ธงเก็บมาจากข้างถนน
ข. แมข่ องขา้ วปนุ้ นํามาฝากเลีย้ ง
ค. มีคนเอาใส่กระจาดวางไว้หนา้ บา้ น
ง. แม่หรือพ่ออุม้ มายกให้เลีย้ ง
๙ ชือ่ ขา้ วปุน้ มาจากภาษาอะไร
ก. ภาษาพื้นบา้ นภาคเหนอื ข. ภาษาพน้ื บา้ นภาคใต้
ค. ภาษาพ้นื บ้านภาคกลาง ง. ภาษาพ้นื บ้านภาคอีสาน
๑๐ “ขา้ วปุน้ ” ภาษาพ้นื เมืองอีสานหมายถึงอะไร
ก. ขา้ วเหนียว ข. เส้นหม่ี
ค. ก๋วยเตย๋ี ว ง. ขนมจนี
๑๑ ข้าวปนุ้ และพ่ี ๆ นอ้ ง ๆ ดาํ รงชีวติ อยไู่ ด้อย่างไร
ก. ข้าวเหลือจากพระ ข. ขอบรจิ าคขา้ วสารอาหารแห้ง
ค. เงนิ บรจิ าค จากผูม้ เี มตตา ง. ทาํ ของออกไปเรข่ าย
๑๒ ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ งเกยี่ วกับเนอ้ื เรื่อง
ก. บา้ นของขา้ วปุ้นเปน็ บา้ นเด็กกาํ พรา้
ข. ผดู้ แู ลทกุ คนมจี ติ ใจเสยี สละ
ข. บา้ นข้าวปนุ้ ไดเ้ งนิ อดุ หนนุ จากรฐั บาล
ง. ทกุ คนอยู่อยา่ งมีความสุข
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๘
ชีวติ มีค่า
๑๓ ข้าวปุ้นและเพื่อน ๆ เด็กกําพร้าไม่เคยรู้สึกมีปมด้อยที่ต้องมาอยู่บ้านเด็กกําพร้า
เปน็ เพราะคําพดู ในข้อใด
ก. พ่อแม่คงมีปัญหาไม่อาจเล้ียงดูได้แต่พ่อแม่ก็รักลูก มิฉะนั้นคงจะเอาไปท้ิง
ท่ีอ่นื ทไ่ี ม่มีคนเหน็
ข. ชวี ิตเปน็ ของมคี ่า ดงั นัน้ เราตอ้ งดูแลตัวเองใหม้ ชี วี ิตท่ีดียงิ่ ขึ้นต่อไป
ค. แม่ ลุงและอา รักและทะนุถนอมหนู ๆ ทกุ คนไม่นอ้ ยไปกวา่ พอ่ แม่เลย
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
๑๔ คาํ พดู ที่เป็นคําตอบในข้อ ๑๓ เป็นคาํ พดู ของใคร
ก. แมน่ ี ข. แม่พร
ค. แมค่ อง ง. ลุงธง
๑๕ “พวกเราอยู่กันได้ด้วยเงินท่ีผู้มีจิตเมตตาบริจาคให้แต่ละเดือน บางเดือนก็พอ
บางเดือนก็ขาดแคลน แต่พวกเราก็อยู่อย่างมีความสุข” จากข้อความผู้กล่าว
ต้องการส่อื ถงึ วธิ ปี ฏบิ ัติตนอยา่ งไรจึงอยู่อยา่ งมีความสขุ
ก. อยู่อย่างพอเพยี ง
ข. ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใชจ้ ่ายที่จําเป็น
ค. พ่ี ๆ ชว่ ยดูแลนอ้ งที่เลก็ กวา่
ง. ถกู ทกุ ขอ้ ที่กล่าวมา
๑๖ “พวกเราได้เรียนหนังสือทุกคน และคิดกันไว้ว่าจะตั้งใจเรียนให้จบช้ันท่ีสูงที่สุด
เท่าท่ีจะทําได้เม่ือโตข้ึนมีงานทําแล้วจะได้ช่วยหาเงินมาแบ่งเบาภาระจากผู้มี
พระคณุ ด้วย” จากคาํ กลา่ วแสดงลักษณะนิสัยของผูพ้ ูดอย่างไร
ก. คิดดี ทําดี ข. มีความกตัญญูร้คู ุณ
ค. คุยโว โอ้อวด ง. ถูกทัง้ ขอ้ ก และข้อ ข
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๙
ชวี ิตมีค่า
๑๗ ที่โรงเรยี นข้าวป้นุ ไม่เคยทาํ ตัวเองให้มปี มด้อยดว้ ยความคิดใด
ก. ทุกคนมีศักดิศ์ รีเท่าเทียมกัน
ข. ขา้ วปนุ้ มเี พ่อื นมากมายในโรงเรยี น
ค. ทกุ คนยอมรบั วา่ ขา้ วปุ้นเรียนดี
ง. ถกู ทุกข้อที่กล่าวมา
๑๘ “ลูกอย่าอับอายว่าเป็นเด็กกําพร้า แต่ต้องทําให้คนอื่นเห็นว่าลูกสามารถคิดดี
ทาํ ดไี ด้” เปน็ คาํ พดู ของผใู้ ด
ก. แม่คอง ข. แม่พร
ค. ลุงธง ง. อาจติ
๑๙ “ชีวิตเป็นของมคี ่า ไม่ได้หาซื้อกนั ได้” เปน็ คาํ พดู ของผูใ้ ด
ก. แมค่ อง ข. แมพ่ ร
ค. ลงุ ธง ง. อาจติ
๒๐ “เพือ่ นสนทิ ของขา้ วปุน้ คือใคร
ก. ใยไหม ข. ใยบัว
ค. ข้าวฟา่ ง ง. ขา้ วตง้ั
๒๑ ข้อใดกล่าวถึงใยบวั เพ่ือนของขา้ วปนุ้ ไม่ถูกต้อง
ก. สวย ฉลาด พดู เพราะ ข. หยิ่งผยอง พ่อแมฐ่ านะดี
ค. มีน้าํ ใจ เอ้อื เฟอื้ ช่วยเหลอื ผู้อืน่ ง. ถกู ทง้ั ข้อ ก และขอ้ ค
๒๒ ใยบัวร้องไห้มาหาข้าวปนั้ ดว้ ยเหตุใด
ก. คอมพิวเตอรเ์ สีย
ข. ถกู พอ่ แมด่ ดุ ่า
ค. ทําการบ้านไม่เสรจ็
ง. พ่อกบั แม่ไม่ซอ้ื มือถอื ใหม่ให้
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๐
ชีวติ มีคา่
๒๓ เพราะเหตุใดใยบวั จงึ บอกข้าวปนุ้ วา่ อยากตาย
ก. นอ้ ยใจวา่ เพือ่ น ๆ ไมร่ กั
ข. เสยี ใจท่สี อบไมไ่ ดท้ ่ีหนง่ึ
ค. น้อยใจทพ่ี อ่ แมไ่ ม่ซือ้ โทรศพั ทม์ อื ถอื ให้ใหม่
ง. นอ้ ยใจพ่อแม่วา่ ซอ้ื ของขวญั ให้พีส่ าวมากกวา่ ตน
๒๔ ข้าวปุน้ ใชว้ ธิ ีใดบอกให้ใยบัวทราบวา่ ชีวติ มีค่ามากกวา่ สงิ่ ที่ใยบวั ต้องการ
ก. พาใยบัวไปเทย่ี วห้างสรรพสนิ ค้า
ข. พาใยบัวไปเท่ียวท่ีสวนสาธารณะ
ค. พาใยบวั มาเทย่ี วบา้ นเดก็ กําพร้าที่ขา้ วปุ้นอยู่
ง. พาเพ่ือน ๆ หลายคนมาเทย่ี วบา้ นใยบัว
๒๕ ขา้ วปุ้นพาใยบวั มาทบ่ี ้านเด็กกาํ พร้าด้วยจดุ ประสงค์ใด
ก. ให้ใยบัวร้วู า่ ยังมีชีวติ คนอ่ืนแย่กว่าของใยบวั อีกมาก
ข. ให้ใยบัวมาเหน็ ชีวิตที่ตา่ งไปจากตน จะได้มีความคิดใหม่ ๆ
ค. ใหใ้ ยบวั เปลีย่ นบรรยากาศเก่า ๆ ทบี่ า้ นมาดูของใหม่ ๆ บา้ ง
ง. ถกู ทุกขอ้ ทกี่ ล่าวมา
๒๖ ใยบัวทาํ สง่ิ ใดทแ่ี สดงให้เห็นวา่ เป็นผมู้ ีมารยาทในขณะไปบ้านผู้อน่ื
ก. เขา้ ไปสวัสดผี ใู้ หญ่ในบา้ น
ข. ทกั ทายทกุ คนในบ้าน
ค. ทานขนมท่ีนาํ มาฝากคนในบา้ น
ง. ข้อ ก และข้อ ข ถูกตอ้ ง
๒๗ ใยบวั นาํ สิ่งใดมาฝากคนในบา้ นของขา้ วปุ้น
ก. หนงั สอื นทิ าน ข. ของเลน่ ขนม
ค. เสอื้ ผา้ ใชแ้ ลว้ สภาพดี ง. ถูกทกุ ขอ้ ที่กล่าวมา
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๑
ชวี ติ มีค่า
๒๘ ขณะเทย่ี วบา้ นขา้ วปนุ้ ใยบวั ทาํ กิจกรรมทไ่ี มเ่ คยทาํ ต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. วงิ่ เล่นซ่อนแอบตามพมุ่ ไม้
ข. เก็บผักบุ้งในแปลง นบั ขากิง้ กือ
ค. ดโู ทรทัศน์และเลน่ เกมคอมพิวเตอร์
ง. ดนู กกระจอก นกเขาจิกหาอาหารตามพ้ืน
๒๙ บ้านขา้ วปุ้นมีแปลงผักหลายชนดิ แปลงผกั ใดมขี นาดใหญ่ทส่ี ุด
ก. ผกั บุง้ ข. ตะไคร้
ค. โหระพา ง. กะเพรา
๓๐ อาหารที่ใยบัวทานทบ่ี ้านของข้าวป้นุ มีอะไรบ้าง
ก. ผดั กะเพรา ไขต่ ม้ ข. ผัดผกั บุง้ ไข่ตม้
ค. ผัดผักกาดขาว ไขด่ าว ง. ผดั ผกั คะน้า ไข่ดาว
๓๑ ข้อใดเป็นอาหารกลางวันที่เดก็ ๆ ช่วยกนั ทาํ
ก. แกงเขยี วหวาน ข. ผดั ผักบงุ้
ค. ขา้ วมันไก่ ง. แกงจดื ตาํ ลงึ
๓๒ เด็ก ๆ มีวิธีกินไข่อย่างไร
ก. กินไขต่ ้มคนละฟองจิม้ นาํ้ ปลา ข. กนิ ไข่ตม้ คร่งึ ฟองคลกุ ข้าวให้ทั่ว
ค. ขอแบ่งไขจ่ ากเพือ่ น ๆ คนอืน่ ง. ขอไข่เพ่ิมจากแม่คอง
๓๓ เหตุใดอาหารกลางวันทม่ี ีเพียงไขต่ ้มครึ่งซกี กบั ผักบุ้งเล็กน้อย จึงสร้างความรู้สึก
อรอ่ ยใหก้ ับใยบัวได้
ก. เสยี งพูดคยุ เสียงหัวเราะของสมาชิกในบา้ นทกุ คน
ข. ทกุ คนทาํ ให้ใยบัวรสู้ ึกวา่ เป็นสมาชกิ คนหน่งึ ของบา้ น
ค. ได้ทานอาหารดแี ละอร่อยพเิ ศษกวา่ คนอื่น ๆ
ง. ถูกทง้ั ข้อ ก และข้อ ข
บทที่ ๙ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๒
ชีวติ มีคา่
๓๔ ความสุขของคนเราอยทู่ ่ีใด
ก. ทรพั ยส์ นิ เงนิ ทอง
ข. รถยนตค์ นั ใหญ่
ค. จติ ใจของเรา
ง. อาหารอร่อย
๓๕ เร่ือง “ชีวิตมีคา่ ” ให้ข้อคิดอะไรบา้ ง
ก. ความสขุ อย่ทู ใ่ี จ ไม่ได้อยทู่ ่ีวัตถุ
ข. เราควรคดิ ดี ทาํ ดี ทาํ ประโยชนเ์ พื่อส่วนรวม
ค. การทําให้ผอู้ ืน่ มีความสขุ ใจของเราก็จะสุขตาม
ง. ถูกทุกขอ้ ท่กี ล่าวมา
๓๖ นางกสี าสญู เสยี ใครจงึ ทําให้ร่ําไหเ้ สียใจจนแทบสิน้ สติ
ก. สามี ข. บิดา
ค. มารดา ง. บุตรชาย
๓๗ พระพุทธเจา้ ให้นางกีสาไปขออะไรจากบา้ นของชาวบ้าน
ก. ขอเมลด็ พนั ธุผ์ กั กาดจากบ้านท่ีไมม่ ีคนตาย
ข. ขอเมลด็ พันธแุ์ ตงโมจากบา้ นท่ไี ม่มีคนตา
ค. ขอเมลด็ พนั ธ์ุแตงกวาจากบ้านทีไ่ มม่ คี นตาย
ง. ขอเมล็ดพันธุ์พริกจากบ้านท่ไี มม่ คี นตาย
๓๘ พระพุทธเจา้ ยกย่องวา่ นางกสี าเปน็ เลิศทางด้านใด
ก. ถอื ธดุ งคอ์ ย่างเครง่ ครัด
ข. มคี วามอดทนเป็นเลศิ
ค. มสี ตปิ ัญญาเป็นเลศิ
ง. มคี วามพยายามเป็นเลศิ
บทท่ี ๙ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๓
ชีวิตมีคา่ ข. หนังสอื พิมพ์
ง. นักส่อื สารมวลชน
๓๙ นสพ. ย่อมาจากคาํ ว่าอะไร ข. กโิ ลเมตร
ก. หนังสือหนังหา ง. กุมภาพนั ธ์
ค. นกั สรา้ งฝัน
๔๐ กม. ยอ่ มาจากคาํ วา่ อะไร
ก. กฎหมาย
ค. กรรมการ
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑
ปลอดภัยไวก้ ่อน
เร่อื งยอ่
วันน้ีเป็นวันหยุดแต่ก็ต่ืนแต่เช้ามืดตามปรกติเพ่ือไป
ว่ิงออกกําลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน คนท่ีมาว่ิง
ส่วนใหญ่จะเป็นวัยผู้ใหญ่ วัยเด็กอย่างตู๋มีน้อยเพราะเด็ก ๆ
มักจะต่ืนสายในช่วงวันหยุด เมื่อกลับมาจากออกกําลังกาย
ตู๋รีบไปชําระล้างร่างกายอาบนํ้าเพื่อให้สดช่ืน ตู๋เพ่ิงถูสบู่
เสร็จ ยังไม่ทันล้างหนา้ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์แต่ยังไม่มีผู้มา
รับสาย ตู๋คดิ จะให้เสียงโทรศัพทห์ ยุดไปเองแตอ่ กี ใจคิดวา่
เผ่ือแม่จะมีธุระจึงรีบคว้าผ้าเช็ดตัวและวิ่งออกจากห้องนํ้า แต่ตู๋ก้าวพลาด
เพราะเท้าล่ืนจากฟองสบู่ แต่ประสบการณ์ท่ีเคยฝึกหัดป้องกันตัวมาก่อน
ตู๋รีบเก็บหัวโดยงอศอกทั้งสองข้างมาหนีบหัวแล้วประสานมือไว้ท่ีท้ายทอย
วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้หัวกระแทกพ้ืนโดยแรง มีสติคิดได้ถูกต้องทําให้ไม่ได้
รับบาดเจบ็
พ่ีตู๋ พ่ีตู๋ เสียงต๋าวน้องสาวคนเดียวเคาะประตูเรียกเพ่ือแจ้งข่าวว่า
แม่จะกลับจากต่างจังหวัดในตอนบ่าย พ่อและแม่ไม่อยู่ตู๋และต๋าวอยู่กับ
น้าพะยอมซึง่ เป็นแม่บา้ น เดก็ ท้ังสองรักนา้ พะยอมมาก ขณะท่ีน้าพะยอมกําลัง
ล้างแก้วอยู่ต๋าวว่ิงมากอดเอวทําให้น้าพะยอมตกใจจนทําแก้วในมือตกแตก
นา้ พะยอมนํากระดาษหนังสือพมิ พม์ าห่อเศษแกว้ เพอื่ ปอ้ งกนั อนั ตราย
น้าพะยอมถามเด็ก ๆ ว่าวันนี้อยากกินอะไร เด็ก ๆ ตกลงใจว่าจะกิน
ขา้ วผดั น้าพะยอมขณะนัน้ มอื ยังเปียกอย่แู ตเ่ ดินไปเปิดตเู้ ย็นพอมือจบั ตู้เยน็
บทท่ี ๑๐ (ตอ่ ) ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒
ปลอดภัยไว้ก่อน เรื่องยอ่
น้าพะยอมถึงกับร้องกร๊ีดเพราะไฟช็อต ตู๋ตั้งสติได้รีบไปตัดสะพานไฟ
อย่างรวดเร็ว น้าพะยอมล้มลงจนสองพ่ีนอ้ งต้องมาประคองเพื่อพาไปหาหมอ
แม้ว่าท่ีบ้านของตู๋จะมีเคร่ืองตัดไฟอัตโนมัติแต่พ่อบอกว่าเคร่ืองเสียจึงทําให้
เกิดเหตุการณ์ไฟช็อตข้ึน เม่ือพาน้าพะยอมไปหาหมอและปลอดภัยแล้ว
ตู๋และต๋าวให้น้าพะยอมพักที่ร้านหมอก่อน ตู๋และต๋าวจะไปหาซ้ืออาหารไว้
รับประทานท้ังวนั จากร้านหมอไปตลาดคอ่ นข้างไกลจึงเดินเข้าซอยเพราะเป็น
ทางลัด บังเอิญตู๋เหลือบไปเห็นรถตู้จอดอยู่กลางซอยเปล่ียว หากมีคนในรถตู้
มาลากเด็กทั้งสองขึ้นรถตู้ไปก็คงไม่มีใครรู้ ดังนั้นจึงออกเดินไปทางถนนใหญ่
ทีไ่ กลข้ึน แต่ดจู ะปลอดภัยกว่า ตู๋จงู มอื นอ้ งสาวข้ามถนนอย่างระมัดระวังมอง
ซ้ายมองขวา เม่ือมาถึงอีกฝ่ังถนน ตู๋พาน้องข้ึนขอบถนน โดยหลีกเลี่ยงเดิน
ตดั หน้ารถหรอื ผ่านหลงั รถคันทต่ี ิดเครอ่ื งอยเู่ พราะอาจเกิดอบุ ัติเหตุได้
การเดินในท่ีสาธารณะตามหลักการ เราต้องเดินชิดขวาเพื่อจะได้ไป
ในทิศทางเดียวกัน ไม่เกะกะขวางทางซ่ึงกันและกัน อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้น
โดยที่ไม่ตั้งใจ มีอยู่ช่วงหนึง่ หยุดทักทายเพ่ือนที่เดินผ่านมา ต๋าวเดินล่วงหน้า
ไปก่อน ซึง่ ต๋าวกําลังจะเดินตัดหน้าคนแบกกระสอบข้าวสารในระยะกระชั้นชิด
ตู๋เรียกน้องสาวดังลั่น จังหวะที่ต๋าวหยุด กระสอบข้าวใบน้ันเฉียดตัวไปอย่าง
หวุดหวิด แม้ว่าวันน้ีจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหลายอย่าง แต่ถ้าเรา
ดํารงชีวิตอย่างมีสติ รู้จักสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ใส่ใจวิธีการป้องกันตัว
ไม่ประมาท มีความรอบคอบ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรือไปท่ีไหนก็จะมีแต่ความ
ปลอดภยั
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๓
ปลอดภยั ไว้ก่อน นําคาํ ท่ีกาํ หนดใหใ้ ส่หนา้
ความหมายใหต้ รงกัน
เครื่องตัดไฟ พยักเพยดิ ฉุกคดิ สวนสาธารณะ
อตั โนมัติ
อุบตั เิ หตุ สะพานไฟ ตื่นตระหนก เสยี หลัก
๑ ๒๓
คิดข้นึ มาทันที คดิ ได้ แสดงกริ ิยาหนา้ ตาพลอย อาการตกใจ
ในขณะนน้ั รับรูเ้ หน็ ดว้ ยกับเขา
๔๕ ๖
สวนท่ีจดั ข้ึนเป็นท่พี ักผอ่ น เครอื่ งสาํ หรับตดั ทรงตวั ไมไ่ ด้
ของประชาชนท่ัวไป กระแสไฟฟ้า
๗ ๘
อุปกรณ์ไฟฟา้ คล้ายสวิตช์สาํ หรับ เหตุท่เี กดิ ขึน้ โดย
ตัดกระแสไฟฟ้าจากวงจร ไม่คาดฝัน
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๔
ปลอดภัยไวก้ ่อน เขียนคําอา่ นของคําต่อไปน้ี
๑ ๒ ๓
เคร่อื งตดั ไฟอัตโนมัติ ชมพูพันธุท์ พิ ย์ พยักเพยิด
อ่านวา่ อ่านว่า อา่ นว่า
๔ ๕ ๖
สวนสาธารณะ สุพรรณกิ าร์ อบุ ตั ิเหตุ
อ่านว่า อา่ นวา่ อา่ นว่า
๗ ๘ ๙
ผกากรอง สารภี การเวก
อา่ นว่า อ่านวา่ อ่านวา่
บทที่ ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๕
ปลอดภยั ไว้ก่อน
เรยี งลําดับเหตุการณ์ในเร่ือง “ปลอดภยั ไวก้ ่อน”
นา้ พะยอมสะบดั มอื ทเี่ ปยี กนํ้า แลว้ เดนิ ไปเปดิ ตเู้ ย็น แตต่ ้เู ย็น
ดดู มอื น้าพะยอม
ตู๋มีความภาคภมู ิใจทส่ี ามารถแก้ไขปญั หาต่าง ๆ ที่เกิดขนึ้
ในวนั เดียวกนั ได้
ตู๋และต๋าวพาน้าพะยอมไปหาหมอ และเขาท้ังสองคนเดินไป
ตลาดกนั สองคนโดยเดินกันอยา่ งระมัดระวังคนแปลกหน้า
ต๋ลู ุกขึ้นแตเ่ ชา้ เพอื่ ไปว่งิ ออกกาํ ลงั กายทส่ี วนสาธารณะใกล้บ้าน
ตู๋ปอ้ งกนั ตวั เองจากการลน่ื หกลม้ ด้วยการเกบ็ หวั โดยงอศอก
ทงั้ สองข้างมาหนีบหัวแล้วประสานมือไว้ทา้ ยทอย
น้าพะยอมทําแก้วแตก เพราะต๋าวกระโดดกอดเอวน้าพะยอม
ในขณะที่ยงั ไมไ่ ด้ตง้ั ตวั จึงเสยี หลกั
ตู๋อาบนํา้ ยงั ไม่เสร็จรบี มารบั โทรศพั ท์จึงทําให้ลืน่ เพราะเท้ายงั มี
ฟองสบตู่ ิดอยู่
บทที่ ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๖
ปลอดภัยไว้ก่อน ตอบคําถาม
ตามเนอ้ื เรอื่ ง
๑ เชา้ วนั หยุดตู๋ต่นื นอนเวลาใดเพ่อื มาทําอะไร
ตอบ
๒ ผทู้ มี่ าออกกาํ ลงั กายแตเ่ ชา้ เปน็ คนกลุม่ ใด
ตอบ
๓ เพราะเหตใุ ดวัยเด็กจงึ มาออกกําลังกายนอ้ ย
ตอบ
๔ ระหวา่ งท่ีอาบนํา้ อยู่นัน้ ตู๋ได้ยนิ เสียงอะไรและตู๋ทาํ อย่างไรกับเสยี งนน้ั
ตอบ
๕ ตู๋ออกมารบั โทรศพั ท์หรือไม่ และเกิดเหตุการณ์ใดข้นึ
ตอบ
๖ ตู๋ปลอดภัยในครงั้ นีเ้ พราะตู๋มสี ่ิงใด
ตอบ
๗ การแกป้ ัญหาของตู๋ท่เี กิดไฟช็อตน้าพะยอมคืออะไร
ตอบ
๘ การเดินในท่ีสาธารณะตามหลักการควรทําอยา่ งไร
ตอบ
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๗
ปลอดภัยไว้ก่อน
ไมด้ อกในเมืองไทย
ไม้ดอกในเมืองไทยมีมากมายหลายพันธ์ุ ท้ังท่ีมีถิ่นกําเนิด
ในเมืองไทยหรือมาจากถ่ินอื่น แต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกัน เช่น
ไมพ้ ุ่ม ไม้นํ้าและไมต้ ้น
ไมด้ อกชนิดเป็นเถา เชน่ การเวก กระดังงา พวงชมพู พวงแสด
สายหยดุ อญั ชัน
ไมด้ อกชนดิ เปน็ พ่มุ เชน่ พดุ ชบา แก้ว เขม็
ไม้ดอกชนดิ เป็นไมน้ ํา้ เช่น บวั กระจบั ผกั ตบชวา
ไมด้ อกชนดิ เป็นไม้ต้น เช่น ชมพพู ันธ์ทุ ิพย์ สพุ รรณกิ าร์ สารภี
ต้นไม้ประจําชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ มีดอกสีเหลืองสดออก
ดอกเป็นชอ่ และห้อยลง มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ดอกคูนหรอื ลมแล้ง
กล้วยไม้ เป็นไม้ดอกอีกชนิดซึง่ เปน็ ที่รู้จักกันท่ัวไป นยิ มนํามาปลูก
ในกระถาง และมีการนํามาผสม พันธ์ุใหม่เพื่อให้ได้หลากหลายพันธ์ุ
จนทาํ ให้กลว้ ยไมข้ องไทยมชี อื่ เสียงไปทัว่ โลก
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๘
ปลอดภยั ไวก้ อ่ น
เลอื กไม้ดอกท่ีกาํ หนดให้แยกประเภทของไมด้ อก
พวงแสด ผกั ตบชวา ชมพพู ันธทุ์ ิพย์ การเวก สายหยุด
กระจับ กระดังงา โมก ชมนาด เขม็
จําปี แก้ว ชบา กุหลาบ พวงชมพู
สุพรรณกิ าร์ มะลิ กกธูป สารภี ผกากรอง
บัว อัญชนั ยโี่ ถ พะยอม ลานไพลิน
ไม้ดอก ไม้ดอก ไม้ดอก ไมด้ อก
ชนิดเป็นเถา ชนดิ เป็นพมุ่ ชนดิ เป็นไม้ตน้ ชนิดเป็นน้ํา
๑ ๑ ๑ ๑
๒ ๒ ๒ ๒
๓ ๓ ๓ ๓
๔ ๔ ๔
๕ ๕ ๕ ๔
๖ ๖ ๖ ๕
๗ ๗
บทที่ ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๙
ปลอดภัยไว้ก่อน ภาษาถน่ิ
เลือกคาํ ภาษาถน่ิ ที่กาํ หนดใหต้ ่อไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ งตามภาคต่าง ๆ
มะขะนัด เฮ็ดหยงั หลบบา้ น ยะอะหยงั จก๋ั ไค หยานัด ทาํ ไหร ฉาน
ปก๊ิ บ้าน เมอ้ื บ้าน ต้ีใด บักนดั กางกงิ ที่ไน้ ไคร แล่น โขด หวบิ
เตยี่ ว แหลน็ สิงไค โสง่ เฮา ข้อย แล เบิ่ง ล่น สุน ผอ่ ไส
วง่ิ ๑ ดู ๒
เหนอื กลับบ้าน เหนือ
ใต้ ใต้
อสิ าน เหนือ อสิ าน
ใต้
โมโห ๔ อิสาน ๓
เหนือ สับปะรด ๕
ใต้
อิสาน เหนอื
ใต้
อสิ าน
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๐
ปลอดภัยไวก้ ่อน ภาษาถิน่
(ต่อ)
กางเกง ๖ ทไ่ี หน ๗
เหนอื เหนือ
ใต้ ใต้
อสิ าน อิสาน
ข้าพเจา้ ๘
เหนือ
ใต้
อสิ าน
ทาํ อะไร ๙ ตะไคร้ ๑๐
เหนอื เหนอื
ใต้ ใต้
อสิ าน อิสาน
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๑
ปลอดภัยไวก้ ่อน ภาษาถนิ่
นาํ คําภาษาถน่ิ ทก่ี าํ หนดใหใ้ ส่ในช่องว่างใหส้ ัมพนั ธ์กนั
นํากนั เมอ้ื บา้ น เหาะร้อย จิ้นงัว นํ้าชุบ
จอ้ ง ข้ีฮก กาดหมวั้ จก๊ั ไค ไค้แดง๋
๑ คณุ แมพ่ าไปเทีย่ วลาํ ปางแวะซื้อเนือ้ วัว( ) ท่ีตลาด ( )
ทใ่ี หญ่ท่ีสดุ ในจังหวัด
๒ สามจังหวดั ชายแดนภาคใตส้ ่งออกไข่แดง ( ) และเงาะอรอ่ ย
( ) ส่งไปขายประเทศมาเลเซยี
๓ คนอีสานมักจะกลบั บ้าน ( ) ในชว่ งเทศกาลต่าง ๆ ดว้ ยกัน
()
๔ นํ้าบูดจู ะกินกบั น้าํ พรกิ ( )
๕ เธออย่ามาโกหก ( ) กนั อกี ฉนั ไมเ่ ชอื่ เธอแล้ว
๖ ฉนั กางร่ม ( ) ไปตัดตะไคร้ ( ) มาตม้ ยําไก่
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๒
ปลอดภัยไว้กอ่ น ภาษาถิ่น
๑ คําในขอ้ ใดเปน็ ภาษาถ่ินเหนอื ทง้ั สองคาํ เลือกข้อทถี่ ูกต้องท่ีสุด
ก. อู้ มะแกว๋ ข. กะลัง กะโป๋ ค. ละออ่ น กะต้า ง. ขีจ้ ุ๊ หัวขวน
๒ “โกหก” ภาษาถิ่นอสี านหมายความว่าอย่างไร
ก. ขจ้ี ุ๊ ข. ขต้ี ๋ัว ค. ขี้ฮก ง. ข้ปี ด
๓ “คําว่า “มะแก๋ว ชมพู่ บักสีดา” เป็นภาษาถ่ิน แปลเป็นภาษาไทยมาตรฐานว่า
อยา่ งไร
ก. ชมพู่ ข. ขนุน ค. ฝรงั่ ง. พุทรา
๔ คาํ ในข้อใดไมไ่ ด้ใชเ้ รียกสตั ว์ในภาษาถ่ิน
ก. กะปอม ข. จักก้ิม ค. ตก๊ โต ง. บกั เขียบ
๕ คาํ ในขอ้ ใดมีความหมายเหมอื น “มะละกอ” ทกุ คาํ
ก. ลอกอ บกั หงุ่ มะกว้ ยเต้ด ข. ชมพู่ มะขะนัด บกั นดั
ค. บักเขียบ บักทัน บักสดี า ง. เล็ดล่อ มะหนนุ มะม่วง
๖ คําในข้อใดเป็นภาษาอสี านทุกคํา
ก. สุน แซ่บ เบิง่ ข. หวิบ แล แหลง
ค. อู้ ผ่อ ปาก ง. กะโป๋ พรก กะลงั
๗ คาํ ในข้อใดเปน็ ภาษาถิน่ หมายถงึ “ช้าง”
ก. ซ่าง ข. จ๊าง ค. ฉา่ ง ง. ถกู ทุกขอ้
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๓
ปลอดภยั ไว้ก่อน ภาษาถ่นิ
(ตอ่ ) เลอื กขอ้ ท่ีถูกต้องท่สี ุด
๘ “ตอซา้ วค่อยหลบบ้าน” เป็นภาษาถิ่นใด แปลว่าอยา่ งไร
ก. อีสาน แปลวา่ ไปบา้ น ข. กลาง แปลว่า ไปบา้ น
ค. ใต้ แปลวา่ กลับบ้าน ง. เหนอื แปลว่า กลับบา้ น
๙ “เป๋นจะใดพอ่ ง” เปน็ ภาษาถ่ินใด แปลวา่ อย่างไร
ก. อีสาน แปลว่า เปน็ อยา่ งไรบา้ ง ข. เหนอื แปลว่า เปน็ อยา่ งไรบ้าง
ค. ใต้ แปลวา่ เป็นอะไรไหม ง. เหนือ แปลวา่ เปน็ อะไรไหม
๑๐“กนิ เข่าแล่วบ่” เปน็ ภาษาถิน่ ใด แปลว่าอยา่ งไร
ก. ใต้ แปลว่า กินข้าวแลว้ หรอื ยัง
ข. เหนือ แปลว่า กินขา้ วแลว้ ใช่ไหม
ค. อสี าน แปลว่า กินขา้ วแลว้ ใชไ่ หม
ง. อีสาน แปลวา่ กินข้าวแลว้ หรอื ยงั
บทที่ ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑๔
ปลอดภัยไว้กอ่ น ภาษาพูด
ทําเครอ่ื งหมาย / ลงใน หนา้ ข้อความทถี่ กู ตอ้ ง (ตอบได้มากกวา่ ๑ คําตอบ)
๑ ขอ้ ใดกลา่ วถึงภาษาพดู ไดถ้ ูกต้อง
ก สอื่ สารกันด้วยวาจา คาํ พูด
ข ไมเ่ ครง่ ครัดการใชถ้ อ้ ยคํา
ค ไมค่ ํานงึ ถงึ ความเหมาะสมกบั บคุ คล เหตุการณ์ และเวลา
ง เนน้ การใช้ถ้อยคาํ สภุ าพ
๒ ขอ้ ใดเปน็ ลักษณะของภาษาเขยี น
ก สอ่ื สารกันดว้ ยตวั หนังสือหรอื ตวั เลข
ข ไมเ่ ครง่ ครัดหลักเกณฑต์ ามแบบแผนของภาษา
ค คํานงึ ถงึ ความเหมาะสมกับเวลา สถานท่ี และบคุ คล
ง เนน้ การใช้ถ้อยคําสภุ าพ
๓ ขอ้ ความใดเป็นภาษาพดู
ก เช้านี้จะกนิ อะไรกนั ดี
ข พตี่ ู๋ พต่ี ู๋ แมโ่ ทรมาอยากพดู ดว้ ย
ค น้าพะยอมมีอาการชาท่แี ขนเพราะถูกไฟดูด
ง เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ท้งั หลายมที งั้ คณุ และโทษ
บทที่ ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๕
ปลอดภยั ไวก้ ่อน ภาษาพูด
(ต่อ)
ทําเคร่อื งหมาย / ลงใน หนา้ ข้อความที่ถกู ตอ้ ง (ตอบได้มากกวา่ ๑ คําตอบ)
๔ ขอ้ ความใดเป็นภาษาเขยี น
ก ต๋าวรสู้ กึ ปลอดภยั จงั เลยค่ะ
ข ตู๋มีสติคดิ ไดถ้ ูกต้อง
ค นา้ พะยอมย้มิ ใหก้ ําลังใจหลาน
ง ไม้ดอกในประเทศไทยมหี ลากหลายพันธ์ุ
๕ ขอ้ ความใดไม่ใชภ่ าษาเขยี น
ก การเดินในที่สาธารณะต้องเดินชิดขอบทางขวา
ข ถ้ามวั แตก่ ม้ หน้ากม้ ตาเดนิ อาจจะเกดิ อบุ ตั ิเหตไุ ดง้ ่ายๆ
ค เดก็ ท้ังสองคนถือของพะรุงพะรงั
ง กระสอบขา้ วเฉียดศีรษะตา๋ วไปอย่างหวดุ หวิด
๖ ขอ้ ใดเปน็ สาระความรทู้ ่ีจําเปน็ ต้องจดบนั ทกึ จากการฟัง การดู หรือการสนทนา
ก จดบนั ทกึ แหลง่ ทมี่ า
ข เรียบเรยี งเนอ้ื หาตามลําดบั ความสาํ คัญ
ค สรปุ สาระสาํ คญั ของเรอ่ื งให้ครบถว้ น
ง ข้อคดิ เหน็ ของบคุ คลตา่ ง ๆ
บทที่ ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๖
ปลอดภัยไว้กอ่ น ภาษาพูด
(ตอ่ )
ทําเครื่องหมาย / ลงใน หนา้ ขอ้ ความทถ่ี กู ต้อง (ตอบได้มากกวา่ ๑ คําตอบ)
๗ ก่อนนําสิ่งทีไ่ ดจ้ ากการคน้ ควา้ มาพูดรายงาน ควรปฏบิ ตั ิอยา่ งไร
ก จดบันทกึ รายละเอยี ด
ข เสนอความคิดเหน็ เพิม่ เติม
ค เขยี นเป็นรายงานตามแบบทกี่ าํ หนด
ง ตกแต่งหนา้ ปกรายงานให้สวยงาม
๘ ขอ้ ใดเป็นขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นการพดู รายงาน
ก เตรยี มหวั ข้อทีจ่ ะพูด สื่อ และวิธีนําเสนอ
ข แบง่ เวลาใหเ้ หมาะสมกบั ความสําคัญของเร่ือง
ค พูดให้กระจ่างจะได้ไมต่ ้องเสียเวลาให้ซกั ถาม
ง ใชภ้ าษาพดู ทสี่ ภุ าพ เนน้ จดุ สาํ คัญ
๙ ขอ้ ใดเป็นข้อควรปฏิบตั ขิ องการพดู แสดงความรคู้ วามคิด
ก ใช้ภาษาน้าํ เสยี งท่าทางทเี่ หมาะสม
ข ตอ้ งเขา้ ใจเร่อื งทจี่ ะพดู เปน็ อยา่ งดี
ค จดั ลําดบั เหตุการณ์กอ่ นหลัง
ง เหตกุ ารณแ์ ตล่ ะเหตุการณไ์ มจ่ าํ เป็นตอ้ งสัมพนั ธก์ ัน
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๗
ปลอดภยั ไว้กอ่ น ภาษาพูด
(ตอ่ )
ทําเครอื่ งหมาย / ลงใน หนา้ ข้อความทถ่ี กู ตอ้ ง (ตอบไดม้ ากกวา่ ๑ คําตอบ)
๑๐ ข้อใดกล่าวผิดเกยี่ วกับการพดู แสดงความรู้ความคิด
ก สอดแทรกข้อคิดข้อสงั เกตจากเร่อื งทพ่ี ดู
ข อธิบายแต่ละเหตุการณ์ใหเ้ ขา้ ใจชัดเจน
ค สรุปเรอื่ งทพี่ ดู ในตอนจบอกี ครง้ั ย้ําความเขา้ ใจ
ง เปิดโอกาสให้ผู้ฟังซกั ถามได้ตลอดเวลา
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๘
ปลอดภยั ไว้กอ่ น
เลอื กคําตอบที่ถูกต้องท่สี ุด
๑ ตู๋ตนื่ มาทาํ อะไรแตเ่ ช้าในวันหยดุ ข. รับประทานอาหาร
ก. อาบนา้ํ
ค. ออกกําลงั กาย ง. ว่ิงเลน่ กบั เพือ่ น
๒ ตู๋ไดย้ นิ เสียงอะไรขณะอาบนา้ํ
ก. เสียงน้ําเดอื ด ข. เสยี งโทรทัศน์
ค. เสียงวิทยุ ง. เสียงโทรศพั ท์
๓ ทาํ ไมตู๋จงึ ไมร่ บั โทรศัพทท์ แี่ มโ่ ทรมา
ก. ไมไ่ ด้ยิน
ข. โทรศพั ทอ์ ย่ไู กล
ค. หกลม้ ออกไปรับไมท่ ัน
ง. คดิ วา่ เป็นคนอืน่ โทรมา
๔ เกิดอะไรขนึ้ เม่ือตู๋ออกมารบั โทรศัพท์
ก. ตู๋คยุ โทรศัพท์สนกุ สนานอยู่นาน
ข. ตู๋หกลม้ แต่ไม่ได้รบั บาดเจ็บ
ค. ตู๋คุยโทรศพั ท์ไปรับประทานอาหารไป
ง. ตู๋เดินออกมารบั โทรศัพทช์ า้ ทาํ ใหเ้ สยี งเงยี บไปกอ่ น
๕ ทัง้ ที่ลน่ื ลม้ หงายทอ้ ง ทําไมตู๋จงึ ไม่บาดเจ็บ
ก. เพราะมีเครอ่ื งมอื ป้องกันตวั
ข. เพราะค่อย ๆ ล้มไม่ได้ล้มรนุ แรง
ค. เพราะล้มบนผา้ เชด็ ตวั
ง. เคยฝกึ หดั วธิ กี ารป้องกนั ตวั มากอ่ น
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๑๙
ปลอดภยั ไว้ก่อน
๖ แมร่ ู้เร่อื งการลืน่ หกลม้ ของตู๋หรือไม่
ก. ไม่รู้ ข. รเู้ พราะต๋าวบอก
ค. รเู้ พราะตู๋เลา่ ใหฟ้ งั ง. รูเ้ พราะนา้ พะยอมบอก
๗ “พอตู๋ก้าวเหยียบพ้ืน เท้าท่ียังไม่ได้ล้างฟองสบู่ออก ทําให้ตู๋ล่ืนหงายท้องทันที”
ผลทเ่ี กิดขึ้นกับตู๋เกิดจากสิง่ ใดเปน็ สาํ คัญ
ก. ความรีบร้อน ข. ความประมาท
ค. ความขาดสติ ง. ความเลินเลอ่
๘ ส่ิงใดช่วยให้ตู๋ไม่ได้รับบาดเจบ็ จากอุบัติเหตุตามข้อ ๗
ก. ตู๋ระมดั ระวังตัวอยู่แล้ว
ข. เคยหกล้มดว้ ยสาเหตุเดยี วกันมาก่อน
ค. เคยฝกึ หัดการป้องกนั ตวั มาก่อน
ง. การมีสตคิ ิดวธิ ปี ้องกนั ไม่ใหห้ วั กระแทกพื้น
๙ ข้อใดไมใ่ ช่วิธีปอ้ งกันตนเองเวลาลื่นหกลม้
ก. เหยยี ดขาทงั้ สองข้างตรง ๆ
ข. งอศอกทั้งสองขา้ งหนบี ที่ศีรษะ
ค. ประสานมือท้งั สองไวท้ ท่ี ้ายทอย
ง. ถูกทง้ั ข้อ ข และขอ้ ค
๑๐ นา้ พะยอมเปน็ ใคร
ก. นอ้ งสาวของแม่ ข. แมบ่ ้านของแม่
ค. หลานสาวของแม่ ง. นอ้ งสาวของพ่อ
๑๑ ใครทาํ แกว้ หลน่ แตกในอ่าง
ก. ตู๋ ข. ตา๋ ว
ค. แม่ ง. น้าพะยอม
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒๐
ปลอดภัยไวก้ อ่ น
๑๒ เหตุใดน้าพะยอมจึงทุบแก้วแตกให้ละเอียดแล้วห่อกระดาษหนังสือพิมพ์
กอ่ นนาํ ไปทง้ิ ในถังขยะ
ก. โมโหท่ีแก้วหลน่ แตก ข. ปอ้ งกนั ไม่ใหบ้ าดคนกาํ จัดขยะ
ค. สะดวกในการเกบ็ กวาด ง. ไมใ่ หเ้ อาไปใชป้ ระโยชน์ได้อีก
๑๓ “ถ้าเราทิ้งแบบมักง่ายอย่างนั้น คนที่เขาทําหน้าท่ีกําจัดขยะอาจไปเหยียบเข้า
แกว้ บาดเท้า ทําให้เขาเดือดร้อน ไปทํางานไม่ได้” จากข้อความแสดงว่าผู้พูดเป็น
คนอยา่ งไร
ก. มใี จเมตตากรณุ า ข. มีวิสยั ทศั น์กวา้ งไกล
ค. มีความรับผดิ ชอบต่อสังคม ง. มีความเอ้ือเฟือ้ เผือ่ แผ่
๑๔ “แล้วน้าพะยอมก็ทุบแก้วให้แตกลงไปอีกไม่ให้มีคมแหลมต้ังข้ึน แล้วเอากระดาษ
ห่อหลาย ๆ ชั้นให้หนา ๆ ก่อนจะท้ิงขยะ” จากข้อความแสดงถึงลักษณะนิสัย
ที่ดงี าม ของน้าพะยอมในขอ้ ใด
ก. รอบคอบ ข. ไม่ประมาท
ค. ไมเ่ หน็ แกต่ วั ง. ถกู ทุกข้อที่กล่าวมา
๑๕ “แก้วทีแ่ ตกก่อนนาํ ไปทิง้ ควรทําดงั ต่อไปน้ี ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ทบุ ให้ละเอยี ดอย่าใหม้ ีคม
ข. ใชก้ ระดาษกาวแตะเศษแกว้ เล็ก ๆ ให้เกลีย้ ง
ค. นาํ กระดาษมาห่อหลาย ๆ ชัน้ ใหห้ นา ๆ
ง. ถูกทัง้ ข้อ ก และข้อ ค
๑๖ น้าพะยอมถูกตเู้ ยน็ ทมี่ ีไฟช็อตดดู ตู๋มีวธิ ชี ว่ ยนา้ พะยอมอย่างไร
ก. ตะโกนเรยี กใหเ้ พอ่ื นบา้ นชว่ ย
ข. ใช้ผ้าแห้งดงึ ตัวนา้ พะยอมออกมา
ค. ตะโกนให้นอ้ งสาวยกสะพานไฟขึ้น
ง. กระโจนไปตดั ไฟที่สะพานไฟอยา่ งรวดเร็ว
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๑
ปลอดภยั ไว้กอ่ น
๑๗ ถ้าตา๋ ววงิ่ ไปชว่ ยดงึ น้าพะยอมจากตเู้ ย็นจะเกิดอะไรขน้ึ
ก. ต๋าวจะหกล้มทันที
ข. ต๋าวจะชว่ ยน้าพะยอมได้เลก็ น้อย
ค. กระแสไฟฟา้ จะชอ็ ตตา๋ วอีกคน
ง. นา้ พะยอมจะหลุดจากตูเ้ ย็นโดยไม่โดนไฟดูด
๑๘ หากเกดิ ไฟชอ็ ตส่งิ แรกที่ควรทาํ คืออะไร
ก. ว่งิ หนใี ห้เร็วท่ีสุด ข. ดงึ คนท่ีถูกไฟช็อตออกมา
ค. ไปตามให้คนอ่ืนมาช่วย ง. รีบไปตัดสะพานไฟ
๑๙ ขอ้ ใดไมใ่ ช่ขอ้ ควรระวงั ในการใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้
ก. ไมใ่ ช้มือเปยี กน้ําจับเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้
ข. หมัน่ ตรวจสายไฟ ปล๊กั ไฟใหอ้ ยู่ในสภาพใช้งานได้
ค. ควรดงึ ปลก๊ั ทีส่ ายไฟเพราะมีฉนวนหุ้มอยู่
ง. ปิดไฟและถอดปลกั๊ กอ่ นออกจากบา้ นทกุ คร้งั
๒๐ “ก่อนพาน้าพะยอมไปส่งแพทย์ ตู๋ถึงปลั๊กตู้เย็นออก ปิดประตูหน้าต่างใส่กุญแจ
บา้ นเรียบร้อย” จากข้อความแสดงถึงลกั ษณะนิสัยใดของตู๋
ก. ประหยัด ข. รอบคอบ
ค. ตระหนี่ ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
๒๑ ตพู๋ าน้าพะยอมไปหาหมอ แลว้ ตู๋กับตา๋ วไปไหนต่อ
ก. ไปซอ้ื รองเทา้ ข. ไปซือ้ อาหาร
ค. ไปซ้ือเสอื้ ผ้า ง. ไปซือ้ ตเู้ ยน็ ใหม่
๒๒ ขอ้ ใด ไมค่ วร กระทาํ
ก. เดินชดิ ขวาไปในทศิ ทางเดียวกับผู้อ่นื
ข. หม่ันกวาดตาดูผู้คนรอบขา้ ง
ค. กม้ หนา้ ก้มตาเดินอยา่ งรวดเร็ว
ง. ไมเ่ ดินในเสน้ ทางทเ่ี ปลีย่ ว
บทที่ ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๒
ปลอดภยั ไวก้ ่อน
๒๓ ข้อใดคอื การขา้ มถนนอยา่ งไม่ระมดั ระวงั
ก. มองซา้ ยมองขวากอ่ นขา้ ม ข. ไม่เดินพดู คยุ กนั ระหว่างขา้ มถนน
ค. ไม่คุยโทรศัพทม์ อื ถือในระหวา่ งข้ามถนน ง. เดนิ ตัดหนา้ รถท่ีกําลงั ตดิ เครื่องอยู่
๒๔ ข้อใด ไมใ่ ช่ การเดนิ ในทส่ี าธารณะอยา่ งปลอดภยั
ก. เดินชิดขวาไปทางเดยี วกับผอู้ น่ื ข. หม่นั กวาดตาดูรอบตวั
ค. ไม่เดินก้มหน้าก้มตา ง. เดินลดั สนามเพอื่ ยน่ ระยะทาง
๒๕ การเดินทางใหป้ ลอดภยั ควรปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร
ก. เดินบนทางเท้าตามถนนใหญ่
ข. เดนิ ในซอยเพือ่ ย่นระยะทางใหส้ นั้ ลง
ค. เดินตดั หนา้ รถหรือผา่ นหลังรถคันท่ีตดิ เคร่อื งอยู่
ง. ถูกทกุ ขอ้ ท่กี ล่าวมา
๒๖ สิ่งแรกท่ีจะทาํ ใหป้ ลอดภัยจากเหตรุ ้ายคอื อะไร
ก. ตั้งสติ ข. ตะโกนให้ผอู้ นื่ มาชว่ ย
ค. วิ่งหนใี หเ้ รว็ ทส่ี ุด ง. รอ้ งไหเ้ พอ่ื ให้คนอื่นรบี มาชว่ ย
๒๗ ลกั ษณะในขอ้ ใดของตู๋ที่ทําให้ตู๋และน้องปลอดภยั จากการถกู คนในรถตู้จบั ไป
ก. ช่างสงั เกต ข. ไม่ประมาท
ค. สอดรสู้ อดเห็น ง. ไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง
๒๘ ข้อความใดสนบั สนุนลักษณะของตู๋ ตามคําตอบในข้อ ๒๗ ไดด้ ีที่สุด
ก. ตู๋จงู น้องข้ามถนนอยา่ งระมดั ระวงั มองขวามองซ้ายก่อนข้าม
ข. ต๋าวพานา้ พะยอมไปนั่งรอทห่ี น้าบา้ น พี่ปิดบ้านแล้วจะออกไปเรียกแท็กซ่ี
ค. ซอยนี้เปลี่ยวนะ มีแต่รั้วบ้านไม่มีร้านค้าเลย ถ้าเราเดินผ่านไปแล้วคนในรถ
เปดิ ประตูลงมาลากเราขึ้นรถก็ไม่มใี ครเหน็
ง. ถูกทกุ ข้อท่กี ลา่ วมา
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๓
ปลอดภยั ไวก้ อ่ น
๒๙ ข้อใดเปน็ หลกั การเดินในที่สาธารณะ
ก. เดินชดิ ซา้ ย ข. เดินชิดขวา
ค. กม้ หนา้ ก้มตาเดิน ง. เดินชิดขอบทางขวาหรือซ้ายก็ได้
๓๐ จากคําตอบในขอ้ ๒๙ เหตุใดจึงตอ้ งเดนิ เชน่ นน้ั
ก. จะไดเ้ ดนิ ไปในทิศทางเดยี วกนั ข. ไม่เกะกะขวางทางซง่ึ กนั และกัน
ค. เพือ่ ความสวยงามและเปน็ ระเบียบ ง. ถูกท้งั ขอ้ ก และขอ้ ข
๓๑ ส่งิ ต่อไปน้ีเปน็ ขอ้ ควรปฏิบัติในการดํารงชวี ิตให้ปลอดภยั ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. พูดแต่คําว่าไมเ่ ปน็ ไร ข. มีสติ รู้จกั สงั เกตส่ิงรอบตวั
ค. ใสใ่ จวิธีการป้องกนั ตัว ง. มีความรอบคอบ ไม่ประมาท
๓๒ ตน้ ไม้ประจาํ ชาติไทยคือข้อใด
ก. ราชพฤกษ์ ข. ดอกบวั
ค. ดอกกล้วยไม้ ง. ดอกเข็ม
๓๓ ขอ้ ใดคือลักษณะชนิดของไมด้ อกในเมอื งไทย
ก. ไมเ้ ถา ข. ไม้พุ่ม
ค. ไมน้ าํ้ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๓๔ ขอ้ ใด ไม่ใช่ ไม้ดอกชนดิ เป็นเถา
ก. การเวก ข. กระดังงา
ค. พวงแสด ง. ชบา
๓๕ ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ไมด้ อกชนิดเป็นพมุ่
ก. พุด ข. แก้ว
ค. บวั ง. ผกากรอง
๓๖ ดอกไม้ชนดิ ใดสามารถข้ึนตามตน้ ไมแ้ ละหนิ ได้
ก. ราชพฤกษ์ ข. กล้วยไม้
ค. สารภี ง. โมก
บทท่ี ๑๐ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๒๔
ปลอดภยั ไวก้ อ่ น
๓๗ สขี องดอกราชพฤกษค์ ือขอ้ ใด
ก. สีเหลืองแกมเขยี ว ข. สแี สดแกมเขยี ว
ค. สีชมพแู กมเขียว ง. สีม่วงแกมเขียว
๓๘ ภาษาใดท่ใี ช้พดู กนั ในเมอื งหลวงของประเทศไทย
ก. ภาษาเหนือ ข. ภาษาอีสาน
ค. ภาษากลาง ง. ภาษาใต้
๓๙ ภาษาใดที่ใชพ้ ดู ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ก. ภาษาเหนอื ข. ภาษาอสี าน
ค. ภาษากลาง ง. ภาษาใต้
๔๐ ในจงั หวดั เชยี งใหม่ เชยี งราย ลาํ ปาง ใชภ้ าษาใดเป็นภาษาท้องถิน่
ก. ภาษาเหนอื ข. ภาษาอีสาน
ค. ภาษากลาง ง. ภาษาใต้
บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๑
หน้าตา่ งทเ่ี ปิดกว้าง เร่อื งยอ่
เด็กทุกคนเม่ือโตขึ้น ต่างมีความใฝ่ฝันของตนเอง
ท่ีจะทําอาชีพน้ันอาชีพน้ี เช่นเดียวกับหนูลิเด็กหญิงตัวน้อย
ที่มีความต้ังใจว่าโตข้ึนจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ เพราะหนูลิ
ช่ืนชมในพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระมหา
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร (รชั กาลที่ ๙)
ทรงเป็นกษัตริย์นักวิทยาศาสตร์เพียงพระองค์เดียวในโลก ผลงานของ
พระองค์มีมากมาย ซ่ึงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล เช่น ในปี
พ.ศ. ๒๕๔๔ องค์การนกั ประดิษฐ์เก่าแก่ท่ีสุดของ ยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์
ประเทศเบลเย่ียมได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดีเด่นจากโครงการนํ้ามัน
ไบโอดีเซล สูตรสกัดจากน้ํามันปาล์ม และในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐบาลของ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ร่วมกับองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลด้านการศึกษาวิจัยการทําฝนเทียม
และดัดแปรสภาพ อากาศ เปน็ ตน้
หนูลิตั้งใจว่าจะดําเนินรอยตามพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จ
พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเพื่อเป็นนักวิทยาศาสตร์
ให้ได้ หนูลิชอบทดลองส่ิงต่าง ๆ ท่ีอยู่รอบตัว เช่น ทดลองหุงข้าวสวย
กับข้าวเหนียวจนเป็นข้าวต้มแสนอร่อย จนคุณพ่อคุณแม่ออกปากชม
ทดลองทอดข้าวเหนียวแห้งแม้จะไม่ประสบความสําเร็จเท่าท่ีควร แต่หนูลิ
ก็ไม่ย่อท้อ แม้กระท่ังไปวัดกับคุณพ่อคุณแม่หนูลิยังไม่วายเข้าไปคุยกับ
แมค่ รัวจนไดเ้ คลด็ ลบั การหุงขา้ วเก่าให้เหมอื นขา้ วหงุ ใหมม่ าอีกดว้ ย
บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๒
หนา้ ตา่ งที่เปดิ กวา้ ง เขียนคาํ จากคําอ่าน
กษัตรยิ น์ กั วทิ ยาศาสตร์
พระบาทสมเด็จพระมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราชบรมนาถบพติ รทรง
มีพระปรชี า(สา-มาด) ในด้าน (วิด-ทะ-ยา-สาด)
(พระ-อง) ไดร้ ับการ(ทูน-เกล้า)
(ถะ-หวาย) (ราง-วนั ) จากนานาประเทศ
๑ ในปี พ.ศ.๒๕๔๔ (อง-กอน) นัก(ประ-ดิด)
ที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยมได้
ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดีเด่นจากโครงการนํ้ามันไบโอดีเซล
(สูด-สะ-กัด) จากนํา้ มนั (ปาม)
๒ ในปี พ.ศ.๒๕๕๐ (รัด-ถะ-บาน) ของสหรัฐ
อาหรบั เอมเิ รตสร์ ่วมกบั องคก์ าร(อุ-ตุ-น-ิ ยม-วดิ -ทะ-ยา-โลก)
ประเทศสวิตเซอร์แลนดท์ ูลเกล้าฯ ถวายรางวัล
ดา้ นการศึกษาวิจัยการทาํ ฝนเทยี มและ(พัด-ทะ-นา)
ดดั (แปร-สะ-พาบ) (อา-กาด)
บทที่ ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หนา้ ๓
หน้าต่างทเ่ี ปิดกวา้ ง
อธิบายวธิ กี ารทาํ ข้าวตม้ ในแบบทดลองของหนูลดิ ้วยจา้
อธบิ ายวธิ ีการทําขา้ วตังในแบบทดลองของหนลู ิดว้ ยจา้
อธบิ ายวิธกี ารทาํ ข้าวสุกเกา่ แล้วนาํ มาหงุ ใหม่
บทท่ี ๑๑ ภาษาพาที ป.๕ หน้า ๔
หน้าต่างทีเ่ ปดิ กว้าง ตอบคาํ ถามตามเนอ้ื เรอื่ ง
๑ คําถามทีเ่ ด็ก ๆ มกั ถูกถามจากผู้ใหญเ่ สมอคอื
ตอบ
นักเรยี นเคยถูกถามคําถามนหี้ รอื ไม่ และคดิ อย่างไรกบั คาํ ถามน้ี
ตอบ
๒ นกั เรยี นคงมคี วามฝันเชน่ เดียวกับเด็ก ๆ ทุกคน นกั เรียนคิดหรือไม่ว่า
เราจะทาํ อยา่ งไรให้ประสบความสําเรจ็ ตามท่เี รามุง่ หวงั ได้
ตอบ
๓ หนลู ชิ ื่อจรงิ ว่าอะไรและหนลู มิ ีความต้งั ใจจะเป็นอะไรเมอื่ โตขนึ้
ตอบ
๔ ความตั้งใจของหนลู เิ กิดจากส่งิ ใด
ตอบ
๕ องค์การนักประดิษฐ์ท่ีเก่าแก่ท่ีสุดของยุโรป ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล
ดีเด่น แด่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ
บพิตรในดา้ นใด
ตอบ