The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

20201102_AW ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจากเคมี ชีวะ รังสี และนิวเคลียร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Frank Ky, 2022-12-30 08:57:06

การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจาก คชรน.

20201102_AW ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจากเคมี ชีวะ รังสี และนิวเคลียร์

Keywords: CBRN.

การปฏิบัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลียร์

เพ่ือเป็นฐานข้อมูลกลางทางการแพทย์ เพ่ือช่วยผู้ให้บริการด้านสุขภาพ
และการตกลงใจ, การบรู ณาการขอ้ มลู การเฝา้ ระวงั และมน่ั ใจวา่ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
ได้รับการบรรจุไว้ในฐานข้อมูล เพื่อให้สามารถน�ำมาใช้ร่วมกันได้ระหว่าง
หน่วยงานต่างๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง รวมทงั้ หนว่ ยงานต่างๆ ของชาติเจา้ บ้านด้วย

การประเมินความล่อแหลม (Vulnerability Assessment)
๒-๒๑ การประเมินความล่อแหลมเป็นงานท่ีส�ำคัญ ส�ำหรับ

การวางแผนแก้ไขสถานการณ์อันเน่ืองมาจาก คชรน. ซ่ึงช่วยท�ำให้ ผบ.
มองเหน็ ภาพรวมเกย่ี วกบั ความเขม้ แขง็ และจดุ ออ่ นของหนว่ ย เปรยี บเทยี บ
กบั สภาพแวดล้อมการปฏิบตั ิการและภยั คุกคามด้าน คชรน.

๒-๒๒ คมู่ อื ATP 3-11.36/MCRP 3-37B/NTTP 3-11.34/AFTTP
3-20.70 สามารถน�ำมาใช้ประเมินขีดความสามารถและสภาพความพร้อม
ของหนว่ ย ซึง่ กระบวนการตรวจสอบ มดี ังนี้

l แผนการแกไ้ ขสถานการณก์ ารกอ่ การรา้ ยของหนว่ ย และ
มาตรการตอบสนองเหตุการณก์ ารกอ่ การร้าย

l ขีดความสามารถของหน่วยหรือการปฏิบัติของหน่วย
ทหารเพื่อสนับสนุนสมรรถนะหลัก (การปฏิบัติการหรือการตอบสนอง
เหตฉุ กุ เฉนิ )นอกจากนี้ยงั หมายถงึ ขดี ความสามารถในการยงิ และขดี ความสามารถ
ทางการแพทยใ์ นการจดั การผปู้ ว่ ยจำ� นวนมาก, การทำ� ลายลา้ งพษิ ตามขนั้ ตอน
ทางเทคนิคและการท�ำลายล้างพิษฉุกเฉิน ยังรวมไปถึงขีดความสามารถ
ในด้านการเก็บกู้และท�ำลายวัตถุระเบิด; การแจ้งเตือนผู้คนจ�ำนวนมาก;
การด�ำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน และการปฏิบัติการตอบสนอง
เหตกุ ารณ์ ซงึ่ รวมไปถงึ การประเมนิ ผลการฝกึ และทรพั ยากรที่มีอยู่

37

การปฏิบตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอ่ื งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

l การสนบั สนนุ ใหค้ ำ� แนะนำ� และความชว่ ยเหลอื ของหนว่ ย
l มีขั้นตอนการส่งก�ำลังเพื่อเข้าสนับสนุนการปฏิบัติการ
ที่เหมาะสม
๒-๒๓ การประเมนิ ความล่อแหลม หมายถงึ รูปแบบการประเมิน
ความลอ่ แหลมลกั ษณะตา่ งๆดงั ทไ่ี ดอ้ ธบิ ายดว้ ยรปู ภาพซง่ึ แสดงถงึ ขดี ความสามารถ
ของหน่วยในการสนับสนุนหรือด�ำเนินการปฏิบัติการตามสภาพ
แวดลอ้ มการปฏบิ ตั ทิ ก่ี ำ� หนดใหแ้ ละขดี ความสามารถของหนว่ ย (ดรู ปู ท่ี ๒-๒)

การประเมนิ อันตราย สภาพแวดลอ้ ม
(ขั้นการวางแผน) การปฏิบตั กิ าร

การลด การวิเคราะห์
ความลอ่ แหลม ความลอ่ แหลม
(ขนั้ เตรยี มการ) (ขน้ั การวางแผน)
คำ� แนะนำ�
ของผบู้ งั คับบัญชา สภาพภัยคุกคาม
ท้งั หมด

อธบิ ายศัพท์
VA Vulnerability Asessment (การประเมินความลอ่ แหลม)

รปู ท่ี ๒-๒ วงรอบการประเมินความล่อแหลม

๒-๒๔ การประเมินความล่อแหลมเป็นการระบุจุดอ่อนในแผน
ของหน่วย การประเมินความล่อแหลมเป็นการช่วยพัฒนา (หรือเป็น
ข้อเสนอแนะ) มาตรการลดความล่อแหลมเพื่อตอบสนองกับจุดอ่อน
ทตี่ รวจพบส�ำหรบั มาตรการลดความลอ่ แหลมจะไดก้ ล่าวถึงในบทท่ี ๓

38

การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อันเนอ่ื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์

๒-๒๕ การพัฒนาแผนการประเมินความล่อแหลม จ�ำเป็นต้อง
เปรียบเทียบภัยคุกคามกับความล่อแหลมของหน่วย ส�ำหรับตรวจสอบ
ความพยายามที่จ�ำเป็นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในอันท่ีจะบรรลุความ
ต้องการด้านเหตุการณ์ การประเมินความล่อแหลมยังรวมไปถึงค�ำแนะน�ำ
ของผบู้ งั คบั บญั ชาตลอดจนองคป์ ระกอบของกระบวนการจดั การความเสยี่ ง
ซึ่งน�ำไปสู่การจัดล�ำดับความเร่งด่วนในการใช้มาตรการลดความล่อแหลม
ในระหว่างข้ันการวางแผน การประเมินความล่อแหลมเร่ิมด้วยการระบุ
อันตรายและการวิเคราะห์อันตรายแต่ละประเภท ในขั้นการวางแผน
การประเมินความล่อแหลมยังคงด�ำเนินการอย่างต่อเน่ือง ด้วยการผนวก
รวมเอาการประเมนิ ภยั คกุ คามจำ� เพาะรว่ มกบั การวเิ คราะหล์ อ่ แหลมจำ� เพาะ
และการระบุถึงมาตรการลดความล่อแหลมที่มีโอกาสน�ำมาใช้ ผลลัพธ์
ท่ีต้องการในขั้นการวางแผน คือการประมาณการและข้อเสนอแนะแก่
ผู้บังคับบญั ชาในการจัดล�ำดบั ความเรง่ ดว่ นเพ่ือลดความล่อแหลม

การประเมนิ ความเสี่ยง (Risk Assessment)
๒-๒๖ ผู้บังคับบัญชาด�ำเนินการประเมินความเสี่ยงในระหว่าง

การวางแผนการแก้ไขสถานการณ์อันเน่ืองมาจาก คชรน. เพื่อแจกแจง
ระดบั ความเสี่ยงทีอ่ าจมีอยู่ในระหวา่ งด�ำเนนิ การแกไ้ ขสถานการณ์อนั เนอื่ ง
มาจาก คชรน.

๒-๒๗ หนว่ ยทท่ี ำ� หนา้ ทตี่ อบสนองเหตกุ ารณต์ อ้ งพสิ จู นท์ ราบ และ
ประเมินความเส่ียงที่มาพร้อมกับการปฏิบัติภารกิจท่ีได้รับมอบ และต้อง
ตกลงใจให้มีความสมดุลระหว่างความสูญเสียจากความเส่ียงและประโยชน์
ที่เกิดจากการปฏิบัติภารกิจในบางเหตุการณ์ (เช่น เหตุการณ์ที่มีอันตราย
จากรังสีสงู ๆ) อาจยอมรับไม่ไดก้ บั ความเสย่ี งทีเ่ กดิ ขึ้น

39

การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนวิ เคลียร์

๒-๒๘ ผู้บังคับบัญชาต้องตระหนักรู้ถึงสภาพแวดล้อมการปฏิบัติ
การของตน ความเสย่ี งทยี่ อมรบั ไดใ้ นยามสงครามอาจยอมรบั ไมไ่ ดใ้ นระหวา่ ง
การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ ซ่ึงตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว อาจพบเห็นได้
จากความแตกต่างระหว่างเกณฑ์การรับรังสีของก�ำลังทหารท่ีปฏิบัติการ
ในยามสงครามกับผู้ตอบสนองเหตุรายแรกที่เป็นเจ้าหน้าท่ีฝ่ายพลเรือน
ซงึ่ ปฏบิ ตั กิ ารในสภาพแวดลอ้ มภายในประเทศโดยทว่ั ไป ระดบั ความเสย่ี งสงู
มักยอมรับได้ในสถานการณ์ที่เป็นสงครามมากกว่าการยอมรับภายใต้
มาตรฐานของคณะกรรมการด้านอาชีวอนามัยส�ำหรับผู้ปฏิบัติงาน
[Occupational Safety and Health Administration (OSHA)]
ส�ำหรับเกณฑ์การรับรังสีในสภาพแวดล้อมการปฏิบัติการภายในประเทศ
คาดกันว่าก�ำลังทหารของกระทรวงกลาโหมที่ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์
ภายในประเทศ ก็ยึดถือมาตรฐานการปฏิบัติเช่นเดียวกับเจ้าหน้าท่ีฝ่าย
พลเรือนทีป่ ฏิบตั ิงานรว่ มกนั

การประเมินสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด (Deliberate Site
Assessment)

๒-๒๙ การประเมนิ สถานทเ่ี กดิ เหตอุ ยา่ งละเอยี ดชว่ ยใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชา
จดจ�ำและระบุถึงลักษณะอันตรายจาก คชรน. ในพื้นที่ปฏิบัติการ
ของตนได้ดีกว่า ท�ำให้หน่วยต้องเตรียมการปฏิบัติเพ่ือแก้ไขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจาก คชรน. เพอ่ื ตอบสนองกบั อนั ตรายทอ่ี าจมอี ยใู่ นสถานทเ่ี กดิ เหตุ

๒-๓๐ ก่อนเกิดเหตุการณ์ หน่วยตอบสนองเหตุควรด�ำเนินการ
ประเมินสถานท่ีเกิดเหตุภายในพื้นท่ีปฏิบัติการของตนอย่างละเอียด
ซึ่งมีแนวโน้มที่อาจเป็นอันตรายได้ในอนาคต ตัวอย่างต่อไปนี้จะท�ำให้เกิด
ความเขา้ ใจได้ดียิง่ ข้นึ

40

การปฏิบัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลยี ร์

l ก�ำลังทหารสหรัฐฯ ที่สนับสนุนการใช้ก�ำลังทหารเข้า
ปฏิบัติการในเมืองทุซลา (Tuzla) ประเทศบอสเนีย ในการสนับสนุน
ความพยายามของชาติเจ้าบ้าน เพ่ือประเมินสถานท่ีเกิดเหตุท่ีมีอันตราย
จาก คชรน. ณ โรงงานอุตสาหกรรมเคมสี ุดาโซะ (Sudaso) โดยที่โรงงาน
ตงั้ อยใู่ นพน้ื ทปี่ ฏบิ ตั กิ ารของทหารสหรฐั ฯ และมรี ายงานวา่ มกี ารครอบครอง
ขบวนตู้สินค้าขนส่งทางรถไฟ ซึ่งบรรจุสารคลอรีนและสารเคมีอันตรายไว้
เป็นจ�ำนวนมาก การวิเคราะห์อันตรายจากการประเมินสถานท่ีเกิดเหตุ
อยา่ งละเอยี ดช้ีให้เห็นว่า สารคลอรีนหรอื สารเคมีอันตรายอน่ื ๆ ท่ถี กู ปล่อย
ออกสู่สภาพแวดลอ้ ม (อากาศ และแหล่งน�ำ้ อปุ โภคและบรโิ ภค) อาจสรา้ ง
ผลกระทบอย่างมากต่อประชาชนในท้องถิ่น การใช้ข้อมูลที่ได้จากการ
ลาดตระเวนของกำ� ลงั พลในระหวา่ งการประเมนิ สถานทเ่ี กดิ เหตุ หนว่ ยยอ่ ม
สามารถใช้วางแผนตอบสนองกับแกไ้ ขสถานการณ์ท่ีอาจเกิดข้นึ ไดด้ กี ว่า

l หนว่ ยทหารสหรฐั ฯ ท่ใี หก้ ารสนับสนุนการฝกึ ระดบั ชาติ
ของกระทรวงรักษาความม่ันคงภายใน เม่ือปี ค.ศ. ๒๐๐๔ ได้ด�ำเนินการ
ประเมินสถานท่ีตั้งของแหล่งวัตถุอุตสาหกรรมอันตราย การใช้ข้อมูล
ทร่ี วบรวมมาไดจ้ ากการประเมนิ สถานทเ่ี กดิ เหตุ หนว่ ยยอ่ มสามารถวางแผน
ตอบสนองกับแก้ไขสถานการณท์ ี่อาจเกิดขึ้นได้ดีกวา่

๒-๓๑ หนว่ ยดำ� เนนิ การประเมนิ สถานทเ่ี กดิ เหตถุ อื วา่ เปน็ สว่ นหนง่ึ
ของการเตรยี มสภาพแวดลอ้ มการปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการขา่ ว และการจดั เตรยี ม
แฟม้ เอกสารทอี่ าจเกย่ี วขอ้ งกบั ภยั คกุ คามสำ� หรบั การประเมนิ สถานทเ่ี กดิ เหตุ
แตล่ ะแหง่ หนว่ ยไดใ้ ชแ้ ฟม้ เกบ็ เอกสารเหลา่ นเ้ี พอื่ ออกแบบถงึ วธิ กี ารทห่ี นว่ ย
ท�ำหน้าที่ตอบสนอง หากมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดข้ึนในสถานที่เกิดเหตุ
เหล่าน้ัน และเป็นการเตรียมแผนขั้นต้นส�ำหรับแต่ละเหตุการณ์ ข้อมูล
ท่ีเกี่ยวข้องจากการรวบรวมของหน่วยส�ำหรับภัยคุกคามแต่ละประเภท

41

การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

ได้รับการเก็บรักษาในแฟ้มเอกสารเพ่ือน�ำมาใช้ตอบสนองเหตุการณ์
ในอนาคต ขอ้ มลู ดงั กล่าวอาจไดแ้ ก่ ผงั ในแตล่ ะชั้นของอาคาร, แผนทีข่ อง
สถานทเี่ กดิ เหต,ุ การกำ� หนดเสน้ ทางเขา้ และออก, พนื้ ทท่ี อ่ี าจใชเ้ ปน็ ทพ่ี กั รอ,
การวัดทิศทางลมในขณะนนั้ เพื่อสรา้ งรูปพยากรณอ์ นั ตรายใต้ลม ในขณะน้ี
ยงั ไมม่ รี ปู แบบของแฟม้ เกบ็ เอกสารทเี่ ปน็ มาตรฐาน จงึ ขอเสนอแนะตวั อยา่ ง
เนื้อหาทค่ี วรบรรจไุ ว้ในแฟ้มเก็บเอกสาร ดงั แสดงไว้ในตารางท่ี ๒-๑

ตารางที่ ๒-๑ ตัวอยา่ งเนอื้ หาทอ่ี าจเป็นภัยคุกคามในแฟ้มเก็บเอกสาร

l หมายเลขรายการตรวจพสิ ูจนท์ ราบ l รายละเอียดเก่ยี วกับสถานทีเ่ กดิ เหตุ
l ลกั ษณะสำ� คัญของสถานท่ีเกดิ เหตุ
l หัวขอ้ รายการตรวจพิสูจน์ทราบ l อันตรายตอ่ สภาพแวดล้อม
จากการรว่ั ไหลแพรก่ ระจายโดยอบุ ตั เิ หตุ
l ต�ำแหนง่ ท่ีตัง้ สถานทเี่ กดิ เหตุ l สภาพพน้ื ที่
l ยทุ ธศาสตร์การจดั เกบ็ รวบรวม
l ขอ้ มลู รายละเอยี ดท่ที ราบแล้ว l สถานทเี่ กดิ เหตอุ น่ื ๆ เพอื่ การขยายผล
l ข้อแนะน�ำของผบู้ ังคับบญั ชา
l ขอ้ มูลรายละเอียดที่ตอ้ งสงสยั l การขนสง่
l เครอื ข่ายถนน
l ภยั คกุ คามในภาพรวม l ข้อคดิ เหน็ เกยี่ วกบั การวิเคราะห์
l โครงการและสารอันตราย
l สถานทเี่ กดิ เหตุในภาพรวม l ข้อมูลพ้นื ฐาน
l การวิเคราะห์ดว้ ยภาพจำ� ลอง
l ประวตั ิของสถานท่ีเกดิ เหตุ เหตุการณ์

l สาร คชรน. ทยี่ ังคงมีอยู่

l ข้อมูลของสารอนั ตราย

l การแสดงด้วยรูปภาพ
 ภาพแผนผงั
 แผนที่
 ภาพถ่าย
 ผงั ของอาคาร

42

การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลียร์

๒-๓๒ มคี วามสำ� คญั มาก ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการหาขา่ ว
เกยี่ วกบั สถานทเ่ี กดิ เหตใุ หไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ เทา่ ทจี่ ะทำ� ได้ มคี วามเปน็ ไปไดท้ ขี่ อ้ มลู
รายละเอียดท่ีมากย่ิงขึ้นอาจมีพร้อมอยู่แล้วท้ังหมดในสถานท่ีเกิดเหตุ
ข้อมูลพื้นฐานเก่ียวกับสถานท่ีเกิดเหตุมีความส�ำคัญย่ิงต่อการวางแผน
ในรายละเอยี ด ภาพถา่ ย แผนทแี่ ละผงั โครงรา่ งของสถานทเ่ี กดิ เหตมุ สี ว่ นชว่ ย
ในการวางแผน การประเมินสถานที่เกิดเหตุเป็นการระบุตัวอย่างของข้อมูล
(ประเภทของสารหรอื วตั ถอุ นั ตรายทอ่ี าจมอี ย,ู่ การจดั รปู แบบของสง่ิ ปลกู สรา้ ง
และจ�ำนวนผูท้ ป่ี ฏบิ ตั งิ านเปน็ ประจำ� ในสถานท่ีนัน้ )

๒-๓๓ หนว่ ยตอบสนองเหตดุ า้ น คชรน. ตอ้ งระบถุ งึ งานทมี่ ลี กั ษณะ
จำ� เพาะและมนี ยั สำ� คญั ตามภารกจิ ได้ งานทมี่ ลี กั ษณะจำ� เพาะมกั ปรากฏอยู่
คำ� สง่ั ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ซง่ึ มหี วั ขอ้ จำ� เพาะทตี่ อ้ งดำ� เนนิ การใหผ้ ลเปน็ สำ� เรจ็ โดย
ภารกิจ ส�ำหรับงานที่มีนัยส�ำคัญมักเป็นงานที่จ�ำเป็นท่ีชุดปฏิบัติการต้อง
ปฏิบัติเพอื่ ให้บรรลผุ ลส�ำเร็จของงานทีม่ ลี ักษณะจ�ำเพาะ (ดตู ารางที่ ๒-๒)

ตารางที่ ๒-๒ ตวั อยา่ งงานทีต่ ้องปฏิบตั ิในพืน้ ที่เกดิ เหตุ

l สัมภาษณผ์ ู้เชย่ี วชาญทางเทคนิค l สมั ภาษณพ์ ยานในท่เี กดิ เหตุ
l การตรวจสอบที่เกิดเหตุดว้ ยสายตา l การประเมนิ ผลด้านอุตุนยิ มวิทยา
l การประเมนิ กลุ่มไอทีล่ อยไปตามลม l แผนผงั , แผนท,ี่ ภาพโครงรา่ ง
l การค้นหาอนั ตรายด้านเคมี ชีวะ สถานท่เี กิดเหตุ
และรงั สีในพ้ืนท่ี l ตรวจสอบต�ำแหนง่ ดว้ ยระบบระบุ
l การเก็บตวั อยา่ งดิน ตำ� แหน่งดว้ ยดาวเทยี ม
l การเกบ็ ตวั อย่างน�้ำ l การส�ำรวจหา คชรน. ในพ้นื ท่ี
l การเก็บตัวอย่างอากาศ l การเก็บตวั อย่างทีเ่ ปน็ ของแข็ง
l การเก็บตวั อยา่ งบรเิ วณพืน้ ผวิ l การเก็บตัวอย่างพืชพรรณ
l การประสานกบั เจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยพลเรอื น l การตรวจหาสารชวี ะ
หรือเจา้ หนา้ ท่ขี องชาติเจา้ บา้ น l การบรรจุหีบห่อสารตวั อย่าง

43

การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนวิ เคลียร์

ตารางท่ี ๒-๒ ตัวอยา่ งงานทีต่ อ้ งปฏบิ ัติในพืน้ ท่ีเกิดเหตุ (ตอ่ )

l การตรวจหาสารเคมี l การท�ำลายลา้ งพิษฉุกเฉิน,
l การอนุรักษต์ วั อยา่ ง การทำ� ลายล้างพิษตามขั้นตอน
l มาตรการคมุ้ ครองวตั ถุตวั อย่าง ทางเทคนคิ และการทำ� ลายลา้ งพษิ
ผปู้ ่วยจำ� นวนมาก
l การรักษาทางการแพทย์
l การสง่ กลบั ผู้ป่วย

๒-๓๔ การใชข้ อ้ มลู ทเี่ กบ็ รวบรวมมาได้ หนว่ ยตอบสนองเหตกุ ารณ์
ตรวจสอบดวู า่ ภารกจิ ใดมคี วามเรง่ ดว่ นสงู สดุ และตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หส้ ำ� เรจ็ ภายใต้
ขีดความสามารถของหน่วยตน วัตถุประสงค์ของภารกิจที่มีความเร่งด่วน
ลำ� ดบั แรกและภารกจิ ทมี่ คี วามเรง่ ดว่ นลำ� ดบั รองลงมาควรมเี คา้ โครงทช่ี ดั เจน

๒-๓๕ การใช้ชุดรายการข้อมูลท่ีมีความส�ำคัญ หน่วยเป็นผู้ส่ง
ค�ำร้องขอข้อมูลซ่ึงตัวอย่างรายการข้อมูลท่ีมีความส�ำคัญได้แจกแจงไว้
ในตารางที่ ๒-๓

ตารางท่ี ๒-๓ ตัวอยา่ งรายการขอ้ มลู ท่มี คี วามส�ำคัญ

l การวางก�ำลงั ทหารฝา่ ยเราและการปฏบิ ตั ิ
l การปฏิบตั ใิ นสงครามเคมแี ละสงครามชวี ะ
 ประเภทของสารท่ีอาจน�ำมาใช้
 ปรมิ าณของสารที่อาจน�ำมาใช้
l โรงงานผลติ สารเคม/ี แหล่งจัดเก็บท่ีทราบ
l มลภาวะต่อสภาพแวดลอ้ มท่ที ราบ
l ประวัตขิ องแหล่งผลติ
l ขอ้ มลู ทางดา้ นอตุ นุ ิยมวทิ ยา

44

การปฏบิ ัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอ่ื งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์

ตารางท่ี ๒-๓ ตวั อย่างรายการขอ้ มลู ทมี่ คี วามสำ� คญั (ตอ่ )

l เขตทอ่ี าจใชส้ �ำหรบั การส่งทางอากาศลงสพู่ นื้
l เครอื ขา่ ยถนนโดยรอบแหลง่ ผลติ
l สนามบนิ ในบริเวณใกล้เคยี ง
l ความต้องการเขตอ�ำนาจตามกฎหมายของฝา่ ยพลเรอื น
l ความต้องการการสนับสนุนทางการสง่ ก�ำลงั บ�ำรุง

การประเมนิ การสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ (Health Service Support
Assessment)

๒-๓๖ การประเมินการสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกอบด้วย
งานต่างๆ ดงั นี้

l ตรวจสอบขดี จำ� กดั การไดร้ บั รงั สี
l ตรวจสอบภยั คกุ คามดา้ นการแพทย์
l ระบถุ ึงมาตรการต่อต้านทางการแพทย์
l ตรวจสอบความเส่ียง/ภัยคุกคามต่อสุขภาพในพ้ืนที่
ทีเ่ กิดเหตุ
l ระบุถึงจ�ำนวนประชาชนที่ตกอยู่ในความเส่ียงภายใน
พืน้ ท่ที เี่ กดิ เหตุ
l ตรวจสอบความตอ้ งการกระทรวงกลาโหมเพมิ่ เตมิ
l ตรวจสอบประเภทและจ�ำนวนหน่วยหรือก�ำลังพล
สายแพทย์ทจ่ี ำ� เปน็ เพื่อสนบั สนนุ ในบริเวณทีเ่ กิดเหตุ

45

๓ การเตรยี มการ

บทที่ ๓ เปน็ การใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั การปฏบิ ตั เิ พอ่ื เตรยี มความพรอ้ ม
ของหนว่ ย สำ� หรบั การปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ แกไ้ ขสถานการณอ์ นั เนอ่ื งมาจาก คชรน.
การปฏิบัติต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวถึง คือ มาตรการลดความล่อแหลม,
การประสานงานและการรายงาน, การเตรยี มการสำ� หรบั การปฏบิ ตั ดิ า้ นการ
สนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ, การฝกึ ปฏบิ ตั ,ิ การประเมนิ ผลซำ้� ในดา้ นขดี ความสามารถ
และการตรวจสอบถึงความล่อแหลมท่ียังคงมีอยู่ และเหตุการณ์พิเศษ
เกีย่ วกบั ความมน่ั คงของชาติ
กล่าวเบอ้ื งตน้ (Background)

๓-๑ ในขั้นการเตรียมการ หน่วยตอบสนองเหตุต้องด�ำเนินการ
ตามมาตรการลดความล่อแหลมอย่างเป็นระบบ เม่ือปฏิบัติตามมาตรการ
ดังกล่าวส�ำเร็จย่อมท�ำให้หน่วยมีความพร้อมท่ีจะรับผิดชอบต่อภารกิจ
ทไ่ี ดร้ บั มอบ เนอื้ หาในบทนไ้ี ดม้ งุ่ เนน้ ไปทวี่ ธิ กี ารตรวจสอบความตอ้ งการ และ

การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเนื่องมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนวิ เคลยี ร์

การพฒั นาขดี ความสามารถ เพอ่ื นำ� ไปใชใ้ นการวางแผนสำ� หรบั การดำ� เนนิ การ
ตามมาตรการลดความลอ่ แหลม ทม่ี คี วามสำ� คญั เรง่ ดว่ นสงู สดุ (ดใู นรปู ที่ ๓-๑
ส�ำหรับข้ันการเตรียมการซ่ึงมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติอ่ืนๆ ในการ
ปฏิบตั ิการเพือ่ แก้ไขสถานการณ์อนั เนื่องมาจาก คชรน.)

๓-๒ หน่วยตอบสนองเหตุมีการปฏิบัติการร่วมกันหลายส่วน
เพ่ือด�ำรงไว้ ซ่ึงความพร้อมของหน่วย ซ่ึงถือเป็นส่วนหน่ึงของวงรอบตาม
ข้ันตอนการปฏิบัติท่ีด�ำเนินไปอย่างต่อเนื่อง มาตรการลดความล่อแหลม
ของหน่วยที่ด�ำเนินการไปพร้อมกนั นน้ั ได้แก่ การประเมินผล, การวางแผน,
การฝึกศึกษา และการฝึกปฏิบัติ (ในผนวก ข จะได้กล่าวถึงรายละเอียด
เกย่ี วกบั มาตรการลดความลอ่ แหลม ซงึ่ สามารถชว่ ยหนว่ ยในการเตรยี มการ
เพือ่ การปฏบิ ตั ิการ)

๓-๓ หน่วยตอบสนองเหตุควรด�ำเนินมาตรการต่างๆ โดยรวม
เขา้ กบั การปฏบิ ตั ใิ นขนั้ เตรยี มการรว่ มกบั หนว่ ยทใ่ี หก้ ารสนบั สนนุ และหนว่ ย
รบั การสนบั สนนุ ซงึ่ ขอบเขตของการปฏบิ ตั ดิ งั กลา่ ว ไดแ้ ก่ การประสานงาน,
การส่งกำ� ลังบ�ำรุง และการสนับสนุนการบรกิ ารสุขภาพ

๓-๔ การฝึกปฏิบัติเป็นเสมือนมาตรวัดของผู้บังคับบัญชา เพ่ือใช้
ประเมินผลซ�้ำถึงขีดความสามารถของหน่วยและค้นหาความล่อแหลม
ที่ยังมีอยู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจ การฝึกปฏิบัติยังเป็น
โอกาสในการทดสอบแผน และท�ำให้แผนมีความละเอียดมากย่ิงข้ึนตาม
ความจำ� เปน็ เนอ้ื หาในบทน้ี ไดก้ ลา่ วถงึ ขนั้ ตอนการเตรยี มการและการดำ� รง
ขดี ความสามารถของหนว่ ยในการแกไ้ ขสถานการณไ์ ดโ้ ดยตอ่ เนอื่ ง

47

การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนวิ เคลียร์

การดำ� รงความต่อเน่ือง (Sustainment)
๓-๕ การวางแผนดา้ นการสง่ กำ� ลงั บำ� รงุ อยา่ งเพยี งพอมสี ว่ นสำ� คญั

ต่อการปฏิบัติการ และจ�ำเป็นต้องมีการวางแผนเพื่อเป็นการส่งก�ำลัง
สงิ่ อปุ กรณส์ น้ิ เปลอื งเพมิ่ เตมิ และกำ� ลงั พลเพมิ่ มากขน้ึ ซง่ึ ทำ� ใหก้ ารปฏบิ ตั กิ าร
ดำ� เนินไปได้อย่างตอ่ เน่อื ง

การสง่ ก�ำลงั บ�ำรุง (Logistics)
๓-๖ หนว่ ยตอบสนองเหตทุ ม่ี ขี ดี ความสามารถในดา้ นการสง่ กำ� ลงั บำ� รงุ

ในอตั ราของหนว่ ย เพอ่ื สนบั สนุนพนั ธกิจพนื้ ฐาน ดงั ต่อไปนี้
l ดำ� รงขดี ความสามารถของหน่วยเพื่อการปฏิบตั กิ าร
l รักษารายงานสถานภาพด้านการส่งก�ำลังบำ� รงุ
l ประสานกับหน่วยใหก้ ารสนับสนนุ ทางการส่งกำ� ลงั บ�ำรุง
l จัดหาและเก็บรักษายุทโธปกรณ์ของหน่วยให้เป็นไปตาม

คำ� แนะนำ� ของผู้บังคบั บญั ชา
๓-๗ หน่วยตอบสนองเหตุมักถูกส่งเข้าวางก�ำลังด้วยจ�ำนวน

ยุทโธปกรณ์ที่เพียงพอ และปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา
ทจ่ี ำ� กดั เพอ่ื ใหก้ ารปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ งยาวนาน หนว่ ยทถี่ กู สง่ เขา้ วางกำ� ลงั
ต้องได้รบั การส่งกำ� ลงั บำ� รงุ เพิ่มเติม และมจี �ำนวนกำ� ลงั พลเพิ่มมากขึ้น

48

การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนิวเคลยี ร์

ป้องกัน

วางแผน เตรียมการ

ข้ันตอน เหตุการณ์
การปฏบิ ตั ิในการ จาก คชรน.
แก้ไขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจาก คชรน.

ฟ้นื ฟู ตอบสนอง
ปฏิบตั ิ

รปู ท่ี ๓-๑ ขั้นการปฏิบัติในการแก้ไขสถานการณ์อันเนือ่ งมาจาก คชรน. (เตรียมการ)

๓-๘ ลักษณะการส่งก�ำลังบ�ำรุงส�ำหรับหน่วยตอบสนองเหตุ
หมายถึง ยุทโธปกรณ์มาตรฐานทางทหาร (ชุดเครื่องแต่งกายตามลักษณะ
ปอ้ งกนั ตามภารกจิ ) หรอื ยทุ โธปกรณท์ ไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ใิ หใ้ ชใ้ นกระทรวงกลาโหม,
ยุทโธปกรณ์ที่มีจ�ำหน่ายทางการค้า และผลิตภัณฑ์ที่มีจ�ำหน่ายทั่วไป
(ชดุ แตง่ กายปอ้ งกนั ของฝา่ ยพลเรอื น) ในขนั้ การเตรยี มการ หนว่ ยตอบสนองเหตุ
ต้องระบุถึงความต้องการในการส่งก�ำลังบ�ำรุง เพ่ือให้การปฏิบัติการ
ด�ำเนินไปได้อยา่ งตอ่ เน่ือง

49

การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจากเคมี ชีวะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์

หมายเหตุ : ตลอดท้ังคู่มือฉบับน้ี เมื่อกล่าวถึงเคร่ืองแต่งกายป้องกันตามลักษณะ
การแต่งกายป้องกันตามภารกิจ (ลภ.) จะหมายถึง “ยุทธภัณฑ์ป้องกันประจ�ำกาย”
(individual protective equipment) ส่วนชุดแต่งกายป้องกันทางพลเรือน หรือ
ชดุ ทม่ี จี ำ� หนา่ ยทางการคา้ ทม่ี จี ำ� หนา่ ยทว่ั ไป (ชดุ ยทุ โธปกรณท์ ไ่ี มใ่ ชม่ าตรฐานทางทหาร)
จะหมายถงึ “ยทุ ธภัณฑป์ อ้ งกันตน”(personal protective equipment)

๓-๙ ยุทโธปกรณ์มาตรฐานทางทหารส�ำหรับการตรวจหา, การ
ปอ้ งกนั และการทำ� ลายลา้ งพษิ ทไี่ ดร้ บั การแจกจา่ ยทำ� ใหห้ นว่ ยมขี ดี ความสามารถ
ในการตรวจหาและป้องกันสาร คชรน. ได้หลายประเภท อย่างไรก็ตาม
รายการยุทโธปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการแจกจ่าย เช่น หน้ากากป้องกัน
รุ่น M40 ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิคของคณะกรรมการ
ด้านอาชีวอนามัยส�ำหรับผู้ปฏิบัติงาน (OSHA) และมาตรฐานของสถาบัน
อาชีวอนามัยส�ำหรับผู้ปฏิบัติงานแห่งชาติ (National Institute for
OccupationalSafetyandHealth)ตอ้ งไมน่ ำ� ไปใชใ้ นการปฏบิ ตั กิ ารนอกเหนอื
จากการปฏิบตั กิ ารทางทหาร เชน่ การแกไ้ ขสถานการณภ์ ายในประเทศ

๓-๑๐ สิ่งส�ำคัญที่พบว่าทุกๆ หน่วย หรือฐานที่ต้ังหน่วยทหาร
มักมีขีดความสามารถครบทุกด้าน ขีดความสามารถมาตรฐานสามารถ
อา้ งองิ ได้ ดงั น้ี

l การตรวจหาและการปอ้ งกนั คชรน. อาศยั คมู่ อื “ยทุ ธวธิ ี
เทคนคิ และกระบวนการในการปอ้ งกนั นวิ เคลยี ร์ ชวี ะ และเคม”ี [FM 3-11.4/
MCWP 3-37.2/NTTP 3-11.27/AFTTP(I) 3-2.46.]

l การท�ำลายล้างพิษ คชรน. อาศัยคู่มือ “รส. ว่าด้วย
การท�ำลายลา้ งพิษ คชรน.” [FM 3-11.5/MCWP 3-37.3/NTTP 3-11.26/
AFTTP(I) 3-2.60.]

50

การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

l การเฝา้ ตรวจและการเฝา้ ระวงั คชรน. อาศยั คมู่ อื “ยทุ ธวธิ ี
เทคนิค และระเบียบปฏิบัติ การลาดตระเวนและเฝ้าตรวจเคมี ชีวะ รังสี
และนิวเคลยี ร”์ [ATP 3-11.37/MCWP 3-37.4/NTTP 3-11.29/AFTTP
3-2.44.]

๓-๑๑ ชุดยุทโธปกรณ์นอกเหนือจากยุทโธปกรณ์มาตรฐานของ
หน่วยจะชว่ ยใหห้ นว่ ยมีขีดความสามารถเพ่ิมข้นึ เชน่ ความสามารถในการ
ตรวจหาสารได้หลายชนิด รวมทั้งสารเคมีท่ีท�ำอันตรายชีวิตและสุขภาพ
ได้อย่างเฉียบพลัน ก�ำลังทหารท่ีปฏิบัติหน้าท่ีตอบสนองเหตุในการแก้ไข
สถานการณอ์ นั เนือ่ งมาจาก คชรน. อาจยังคงมคี วามต้องการชดุ ยทุ ธภัณฑ์
ปอ้ งกนั ตน (PPE) เพอื่ ชว่ ยใหก้ ารปอ้ งกนั ไดด้ กี วา่ เครอ่ื งแตง่ กายปอ้ งกนั ทใ่ี ช้
ป้องกันในสงครามเคมีและสงครามชีวะ การแก้ไขสถานการณ์ภายใต้
สภาพแวดลอ้ มการปฏบิ ตั กิ ารภายในประเทศ, กำ� ลงั ทหารของกระทรวงกลาโหม
ต้องท�ำงานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน ซึ่งมีการปฏิบัติการที่แตกต่าง
ไปจากแนวการปฏบิ ัติการแบบดัง้ เดิม จึงต้องทำ� การฝึก, มยี ทุ โธปกรณ์และ
มาตรฐานความชำ� นาญ สำ� หรับการปฏบิ ตั ิการใหเ้ ป็นไปตามขอ้ ก�ำหนดของ
กฎหมายและนโยบาย มาตรฐานดังกล่าวอาจพบได้ในระเบียบข้อบังคับ
แห่งรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา หมวด ๒๙ (29 CFR 1910.120) และ
คำ� แนะนำ� ทม่ี ผี ลบงั คบั ใชส้ ำ� หรบั คณะกรรมการขององคก์ ารตา่ งๆ รวมไปถงึ
นโยบายและเอกสารของคณะกรรมการตา่ งๆ ทย่ี อมรบั กนั ในระดบั ประเทศ
นอกจากนน้ั อปุ กรณห์ รอื เครอ่ื งมอื ทสี่ ามารถใชต้ รวจหาสารไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง
ก็มีความจ�ำเป็นส�ำหรับการตรวจพิสูจน์ทราบสารอุตสาหกรรมอันตราย
รวมทงั้ สารอนิ ทรีย์ นอกเหนือจากสารในสงครามเคมีและสงครามชีวะ

51

การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์

๓-๑๒ ข้อพิจารณาในการส่งก�ำลังบำ� รงุ ดา้ นอื่น ๆ ไดแ้ ก่ มาตรการ
สนบั สนนุ กำ� ลงั พลทมี่ คี วามจำ� เปน็ ในขณะทส่ี ง่ กำ� ลงั เขา้ ประจำ� การในบรเิ วณ
ทเี่ กดิ เหตุ ขอ้ พจิ ารณาเหล่านยี้ งั รวมไปถึง

l การจัดท่ีพัก
l เสบยี ง
l การสนับสนุนการขนส่ง
l การรักษาความปลอดภัย

ก�ำลงั พล (Personnel)
๓-๑๓ ผนู้ ำ� หนว่ ยตอบสนองเหตตุ อ้ งระบหุ นา้ ทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ

ของก�ำลังพลแต่ละต�ำแหน่งภายในหน่วยของตน ควรจัดท�ำรายงาน
การตรวจสอบที่ระบุถึงงานเป็นรายบุคคลและงานส่วนรวม ซึ่งต้องปฏิบัติ
ใหเ้ ป็นผลสำ� เร็จ

๓-๑๔ ในระหว่างข้ันการเตรียมการ ผู้น�ำหน่วยต้องตระหนักถึง
ความจำ� เปน็ ทก่ี ำ� ลงั พลภายในหนว่ ยตอ้ งบรรจใุ หเ้ ตม็ อยเู่ สมอ (เชน่ กำ� ลงั พล
ต้องไปพบแพทย์ตามวงรอบ และการหมุนเวียนไปรับการฝึกเพ่ือให้ได้
ประกาศนยี บตั รรบั รอง) การขาดแคลนกำ� ลงั พลตามหว้ งระยะเวลาดงั กลา่ ว
ต้องระบไุ ว้ในรายงานสถานภาพความพร้อมของหน่วยด้วย

การฝึกศึกษา (Education and Training)
๓-๑๕ การฝกึ ศกึ ษามีความสำ� คัญยง่ิ ต่อการปฏิบตั กิ ารใดๆ กต็ าม

อย่างไรก็ตาม หลักสูตรท่ีเฉพาะเจาะจงมีความจ�ำเป็นอย่างยิ่ง ส�ำหรับ
ก�ำลังพลที่ท�ำหน้าที่ตอบสนองเหตุการณ์การแก้ไขสถานการณ์อันเน่ือง
มาจาก คชรน.

52

การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์

การศกึ ษา (Education)
๓-๑๖ การจัดหน่วยตอบสนองเหตุฉุกเฉินพร้อมด้วยก�ำลังพล

ทุกระดับ ต้องได้รับการศึกษาเพ่ือให้มีขีดความสามารถในการแก้ไข
สถานการณท์ ่ีมอี ันตรายทกุ ประเภทได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การปฏิบัตกิ าร
แก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจาก คชรน. จ�ำเป็นท่ีจะต้องให้ความส�ำคัญ
ในการเรียนการสอน อยา่ งเหมาะสม สำ� หรับหน่วยท่ไี ม่เคยมีประสบการณ์
ในการฝกึ กบั พลเรอื นทจ่ี ดั โดยทอ้ งถนิ่ , ระดบั รฐั , สว่ นภมู ภิ าค หรอื มหี ลกั การ
พ้ืนฐานในระดับชาติ สามารถเรียนรู้ประสบการณ์จากการน�ำบทเรียนจาก
เหตกุ ารณต์ า่ งๆ เขา้ บรรจใุ นหลกั สตู รของสถานศกึ ษา รวมทง้ั การฝกึ จำ� ลอง
สถานการณแ์ ละการฝกึ ปฏบิ ตั ิ กำ� ลงั พลทกุ คนของหนว่ ยควรไดร้ บั การศกึ ษา
ใหต้ ระหนกั รถู้ งึ ความรพู้ นื้ ฐานดา้ น คชรน. กำ� ลงั พลทไ่ี ดร้ บั มอบหมายหนา้ ที่
ความรบั ผดิ ชอบพเิ ศษควรไดร้ บั การเรยี นการสอนในการปฏบิ ตั กิ ารเฉพาะทาง
ให้มากยิ่งข้ึน มีหลักสูตรต่างๆ และโอกาสได้รับการฝึกเป็นจ�ำนวนมาก
ท้งั จากหนว่ ยงานตา่ งๆ ของภาครฐั และสถาบนั ฝกึ อบรมของภาคเอกชน

๓-๑๗ บทสรปุ เกย่ี วกบั หลกั สตู รตา่ ง ๆ สามารถศกึ ษาไดใ้ นเวบ็ ไซต์
“ส�ำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ” [The Federal Emergency
Management Agency (FEMA)] โอกาสที่จะได้รับการศึกษาท่ีส�ำคัญ
อาจเกี่ยวข้องประเดน็ ต่างๆ ดังนี้

53

การปฏิบตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนวิ เคลียร์

l การตระหนกั รู้เรือ่ งทั่วๆ ไป
 การป้องกัน/การต่อต้านการก่อการร้าย ส่วนหน่ึง
ของการตอ่ สกู้ บั การกอ่ การรา้ ย ไดแ้ ก่ มาตรการปอ้ งกนั เพอื่ ตอ่ ตา้ นการโจมตี
จากการก่อการร้าย ก�ำลังพลทุกคนต้องได้รับการฝึกข้ันพื้นฐานที่จ�ำเป็น
เพอ่ื ป้องกนั การโจมตีจากการกอ่ การร้าย
 การปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายด้วยอาวุธ
คชรน. ในภาพรวม ตามบทบาทและความรบั ผดิ ชอบของผเู้ ขา้ รบั การศกึ ษา
ซง่ึ อาจรวมไปถงึ หลกั การพนื้ ฐานในเรอ่ื ง กรอบการตอบสนองภยั พบิ ตั แิ หง่ ชาติ
(NRF), ระบบบญั ชาการเหตกุ ารณ์ (ICS) และประเดน็ การบรกิ ารทจ่ี ำ� เพาะเจาะจง
l การศึกษาดา้ นการปฏิบัติการทจี่ �ำเพาะเจาะจง
 บทบาทของหนว่ ยงานปฏบิ ตั ใิ นระดบั สงู เชน่ กระทรวง
รักษาความม่นั คงภายใน (DHS) หรอื กระทรวงการตา่ งประเทศ (DOS)
 อำ� นาจหนา้ ทต่ี ามกฎหมาย, เงอ่ื นไขบงั คบั และขอ้ จำ� กดั
 การสง่ กำ� ลงั บำ� รงุ และความตอ้ งการขอรบั การสนบั สนนุ ,
รวมไปถึงการไดร้ บั งบประมาณชดเชยประจ�ำปี
 โครงสร้างการควบคุมบงั คบั บัญชา

หมายเหตุ : ตวั อยา่ งการฝกึ ประเภทนไ้ี ด้แก่ หลกั สตู รการเตรียมความพรอ้ มตอบสนอง
เหตฉุ กุ เฉนิ ของ กห. หลกั สตู รนเี้ ปน็ การเตรยี มการเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความพรอ้ มในการตอบสนอง
เหตุฉุกเฉินสำ� หรบั นายทหารตดิ ต่อและ ฝอ. เพื่อจัดทำ� แผนและการปฏบิ ตั ิในสว่ นของ
การปฏิบัติการร่วมทางทหาร เพ่ือสนับสนุนพลเรือนในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน
และภยั พบิ ัติ ของกองบญั ชาการกองทัพบก (FORSCOM) มี ๘ หลักสูตร ในแตล่ ะปี
ณ ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ เมาท์ เวทเซอร์ (Mount Weather Emergency
Operations Center) ของ FEMA ตงั้ อยทู่ เ่ี มอื ง Berryville รฐั Virginia เพอื่ ดำ� เนนิ การ
ฝกึ ใหก้ บั กองบญั ชาการภาคพน้ื แปซฟิ กิ และกองบญั ชาการทรี่ บั ผดิ ชอบเขตพนื้ ทภ่ี าคใต้
ของสหรฐั ฯ เปน็ ประจำ� ทกุ ปี หลกั สตู รการฝกึ นไี้ ดร้ บั อนมุ ตั ติ ามคำ� สงั่ กห. ท่ี ๓๐๒๕.๑๘

54

การปฏิบตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์

การฝกึ (Training)
๓-๑๘ หน่วยตอบสนองเหตุด�ำเนินการฝึกเพื่อให้ปฏิบัติงาน

การแก้ไขสถานการณ์ อันเน่ืองมาจาก คชรน. เป็นงานรายบุคคลและ
งานส่วนรวมในฐานะที่เป็นหน่วยหรือเปน็ กองก�ำลงั ร่วม สำ� หรบั ใบอนญุ าต
และประกาศนยี บตั รรบั รองมาตรฐาน อาจแปรเปลย่ี นไปตามตำ� แหนง่ ทต่ี ง้ั หนว่ ย
ทางภูมิศาสตร์และเคร่ืองมือที่ประจ�ำการในแต่ละหน่วย ผบ.หน่วย
ต้องม่ันใจว่าผู้ปฏิบัติงานทุกคนได้รับการฝึกอย่างเต็มที่เพื่อให้การปฏิบัติ
ภารกจิ เสรจ็ สิ้นได้อย่างสมบรู ณ์

กจิ ในการฝกึ (Training Tasks)
๓-๑๙ หนว่ ยตอบสนองเหตดุ ำ� เนนิ การฝกึ ตามรายการกจิ รว่ มสากล

(universal joint task list: UJTL) ที่ส�ำคัญ และการฝึกปฏิบัติงานการ
บริการจ�ำเพาะที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการสนับสนุนการเตรียมความพร้อม
รวมทง้ั มาตรการการตอบสนองเหตแุ ละการฟน้ื ฟู โดยใชร้ ายการกจิ รว่ มสากล
มาเป็นกรอบแนวทางสำ� หรับการฝึก

เงอ่ื นไขในการฝึก (Training Conditions)
๓-๒๐ หน่วยตอบสนองเหตุใช้การจ�ำลองสภาพแวดล้อมที่มี

อันตรายเป็นเงื่อนไขส�ำหรับการฝึกเหตุการณ์ การฝึกปฏิบัติภายใต้การใช้
ลกั ษณะการแตง่ กายปอ้ งกนั นน้ั เพอ่ื ทำ� ใหเ้ กดิ ความคนุ้ ชนิ กบั สภาพการดอ้ ย
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน การฝึกตามระดับความสมจริงท�ำให้หน่วย
มีสภาพความพร้อมมากยิ่งขึ้น การฝึกในลักษณะนี้ยังช่วยในการพัฒนา
ภาวะผนู้ ำ� ของหนว่ ยดว้ ยการประเมนิ ประสทิ ธภิ าพการใชม้ าตรการลดความ
ล่อแหลมของหน่วย

55

การปฏิบตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนวิ เคลียร์

ขอ้ พจิ ารณาในการฝกึ ทวั่ ๆ ไป (General Training Considerations)
๓-๒๑ การฝกึ ระดบั การตระหนกั รดู้ า้ นคชรน.ควรจดั ใหก้ บั กำ� ลงั พล

ทกุ นายครอบคลมุ ไปจนถงึ เจา้ หนา้ ทพี่ ลเรอื นกระทรวงกลาโหม, พนกั งานจา้ ง
ตามสญั ญา, ครอบครวั ของกำ� ลงั พล และลกู จา้ งในทอ้ งถน่ิ ที่ กห. วา่ จา้ ง-โดย
ไมค่ ำ� นงึ ถงึ ชนั้ ยศ กำ� ลงั พลเหลา่ นคี้ วรตระหนกั รถู้ งึ ปฏกิ ริ ยิ าและผลอนั ตราย
จาก คชรน. ซงึ่ จำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ทต่ี อ้ งเฝา้ ระวงั ปฏกิ ริ ยิ าทอี่ าจเกดิ ขน้ึ จาก คชรน.
และวธิ กี ารใชย้ ทุ ธวธิ ี เทคนคิ และระเบยี บปฏบิ ตั ดิ า้ น คชรน. เพอื่ ใหม้ นั่ ใจวา่
มกี ารตอบสนองตอ่ การแกไ้ ขสถานการณไ์ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ อกี ทงั้ ควรให้
มีการฝึกปฏิบัติข้ามสายงานด้วย ในห้วงการฝึกอาจต้องมีรายละเอียด
มากยงิ่ ขนึ้ ซงึ่ จำ� เปน็ ตอ่ การเตรยี มกำ� ลงั และชดุ ปฏบิ ตั กิ ารสำ� หรบั ตอบสนอง
ต่อการก่อการร้ายด้วย คชรน. ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ตาม
ระดับความช�ำนาญของแต่ละคนเท่าทจี่ �ำเปน็

การฝกึ ระบบจัดการเหตกุ ารณ์
(Incident Management System Training)

๓-๒๒ มีหลายหลักสูตรการฝึกท่ีก�ำลังพลควรผ่านการฝึกมา
เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะมีคุณสมบัติพร้อมส�ำหรับการตอบสนองเหตุการณ์
ด้าน คชรน. ในการปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
หลักสตู รการฝกึ ดงั กล่าว มีดังตอ่ ไปนี้

ข้อพิจารณาทวั่ ไป (General Considerations)
๓-๒๓ หนว่ ยตอบสนองเหตตุ อ้ งมกี ำ� ลงั พลทผี่ า่ นการฝกึ เพอ่ื ตอบสนอง

ต่อการโจมตีด้วยอาวุธ คชรน. ก�ำลังพลท่ีเข้าร่วมตอบสนองเหตุ

56

การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์

ควรได้รับการฝึกให้มีสมรรถนะในการปฏิบัติภายใต้โครงสร้างระบบ
บัญชาการเหตุการณ์/กองบัญชาการร่วม การฝึกระบบจัดการเหตุการณ์
ควรเนน้ ไปที่การปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณท์ เี่ กิดขน้ึ ภายในประเทศ

หมายเหตุ : มีหลักสูตรจ�ำนวนมาก (มีค�ำข้ึนต้นด้วย IS (Independent Study)
[การศึกษาอิสระ] และ ICS (Incident Command System) [ระบบบัญชาการ
เหตกุ ารณ์]) ดำ� เนินการโดยส�ำนักงานจดั การเหตฉุ กุ เฉนิ แห่งชาติ

ความตอ้ งการขน้ั ตำ�่ (Minimum Requirements)
๓-๒๔ ต่อไปนี้เป็นข้อก�ำหนดขั้นต�่ำส�ำหรับก�ำลังพลท่ีต้องปฏิบัติ

หนา้ ที่ด้านการจดั การเหตุการณ์
l เจา้ หนา้ ทเี่ ผชญิ เหตขุ องชดุ เผชญิ เหตุ(ไดแ้ ก่นกั ผจญเพลงิ ,

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, ผู้ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน
และเจ้าหน้าท่ีเหตุฉุกเฉินอ่ืนๆ) จ�ำเป็นต้องได้รับการฝึกในหลักสูตร
เข้าตอบสนองเหตุ ซึ่งครอบคลุมเน้ือหาการแนะน�ำเบ้ืองต้นเกี่ยวกับ
องค์ประกอบพ้ืนฐานของระบบบัญชาการเหตุการณ์ หลักสูตรเหล่านี้
ไดแ้ ก่ IS-700 National Incident Management System (Introduction)
[ระบบจัดการเหตุการณ์แห่งชาติ (เบื้องต้น)]; IS-800.A National
Response Framework (NRF) (An Introduction) [กรอบการตอบสนอง
ภัยพิบัติแห่งชาติ (เบ้ืองต้น)]; IS-100 Introduction to Incident
Command System (กล่าวน�ำระบบบญั ชาการเหตกุ ารณ)์ และหลกั สตู ร
Tri-Service Emergency Management Program Response Course
(หลกั สูตรโปรแกรมตอบสนองการจัดการเหตุฉกุ เฉนิ แบบไตรภาค)

57

การปฏิบตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนวิ เคลยี ร์

l ผกู้ ำ� กบั ดแู ลหนว่ ยตอบสนองเหตแุ ถวหนา้ , ผบ.ชดุ ปฏบิ ตั ิ
การตรวจพิสูจน์ทราบ, ผู้กำ� กบั ดูแลภาคสนาม, นายทหารประจำ� กองรอ้ ย,
เจ้าหน้าท่ีตอบสนองเหตุที่เข้าปฏิบัติการ (ผู้รับการฝึก) ของชุดจัดการ
เหตุการณ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตอบสนองเหตุฉุกเฉินอื่นๆ จ�ำเป็นต้องได้รับ
การฝึกเกี่ยวกับระบบบัญชาการเหตุการณ์ในระดับที่สูงข้ึน (IS-700;
ICS-100 และหลักสูตร ICS-200 ส�ำหรับชุดปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ทราบ
และชุดปฏิบตั กิ ารเข้าตอบสนองเหตุในขั้นตน้ )

l ผบ.ชุดปฏิบัติการจู่โจมเข้าที่เกิดเหตุ, ผบ.ชุดเฉพาะกิจ
และ ฝอ.ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเหตุฉุกเฉิน จ�ำเป็นต้องได้รับการฝึก
เกี่ยวกับระบบบัญชาการเหตุการณ์ในระดับที่สูงข้ึน (IS-700; IS-800.A;
IS-100; ICS-200 และ ICS-300 ระบบบญั ชาการเหตกุ ารณร์ ะดบั กลางสำ� หรบั
ผตู้ อบสนองเหตเุ ปน็ รายแรกเมอ่ื เหตกุ ารณม์ กี ารขยายขอบเขตกวา้ งออกไป)

l นายทหารฝ่ายอ�ำนวยการ, ผู้บริหารองค์กร, หัวหน้า
หน่วยงาน, ผู้จัดการเหตุฉุกเฉิน, ผู้บัญชาการทัพภาค และผู้จัดการ
ศูนย์ปฏิบัติการเพ่ือการประสานงานระบบ/การแก้ปัญหาเหตุฉุกเฉินร่วม
หลายองค์กร จ�ำเป็นต้องได้รับการฝึกเก่ียวกับระบบบัญชาการเหตุการณ์
ในระดับที่สูงข้ึน (IS-700; IS-800; ICS-100; ICS-200; ICS-300 และ
ICS-400 ระบบบญั ชาการเหตกุ ารณข์ นั้ สงู สำ� หรบั นายทหารฝา่ ยอำ� นวยการ,
เหตฉุ กุ เฉนิ ทซี่ บั ซอ้ น/ระบบประสานงานรว่ มหลายองคก์ รสำ� หรบั ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน
ตอบสนองเหตเุ ปน็ รายแรก)

l ก�ำลังพลทุกคนท่ีท�ำหน้าท่ีสนับสนุนเจ้าหน้าท่ีฝ่าย
พลเรอื นต้องผา่ นหลักสตู ร IS-800 ก่อนปฏิบัตหิ นา้ ที่ให้การสนบั สนุน

58

การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอ่ื งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์

การฝกึ ส�ำหรับผตู้ อบสนองเหตุ (Responder Training)
๓-๒๕ ผู้ตอบสนองเหตุด้าน คชรน. เป็นก�ำลังพลและเจ้าหน้าท่ี

พลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้ผ่านการฝึกและมีประกาศนียบัตร
รับรองให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย ต้ังแต่ระดับการตระหนักรู้
ไปจนถงึ ระดบั ผูต้ อบสนองเหตทุ ีเ่ ช่ยี วชาญ

ข้อพิจารณาท่ัวไป (General Considerations)
๓-๒๖ ขอ้ พจิ ารณาทวั่ ๆ มีดงั ตอ่ ไปน้ี
l เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตอบสนองเหตุทุกคนต้องผ่าน

การฝึกอย่างน้อยในหลักสตู รระดับเจา้ หนา้ ทปี่ ฏิบตั ิการตอบสนองเหตุ
l ผู้ที่ปฏิบัติหน้าท่ีในต�ำแหน่งท่ีซับซ้อน (ผู้บัญชาการ

เหตกุ ารณ,์ หวั หนา้ ชุดจดั การวตั ถอุ ันตราย, ผ้ชู ำ� นาญการทางดา้ นเทคนิค)
ต้องได้รับการฝึกเพ่ิมเติมในข้ันสมบูรณ์ ตามความเหมาะสมกับต�ำแหน่ง
หนา้ ทที่ ่ีรบั ผดิ ชอบ

l ความต้องการด้านสมรรถนะและการฝึกส�ำหรับผู้ตอบ
สนองเหตุในท้องถิ่น และผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคได้ก�ำหนดไว้แล้ว
ตามระเบยี บข้อบังคับแห่งรฐั บาลกลางสหรฐั อเมรกิ า หมวด ๒๙ (29 CFR
1910.120), ระเบยี บขอ้ บงั คับของสมาคมปอ้ งกันอัคคีภยั แห่งชาติ (NFPA)
ขอ้ ๔๗๒ และข้อ ๔๗๓ รวมทัง้ ระเบยี บข้อบงั คบั อืน่ ๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง

59

การปฏบิ ตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

ความต้องการลักษณะจ�ำเพาะ (Specific Requirements)
๓-๒๗ ก�ำลังพลผู้ท่ีเข้าร่วมหรือผู้ท่ีคาดว่าต้องเข้าร่วมในการ

ตอบสนองเหตฉุ ุกเฉนิ จำ� เป็นต้องไดร้ บั การฝึกขนั้ สมบรู ณ์ในเรอื่ งต่อไปน้ี
l การฝกึ ระดบั การตระหนกั รขู้ องผตู้ อบสนองเหตุ สำ� หรบั

ก�ำลังพลซ่ึงเป็นผู้ที่มักพบเห็นหรือประสบกับเหตุการณ์ และได้รับการฝึก
เพื่อตอบสนองเหตกุ ารณใ์ นขั้นต้น การฝกึ ในลกั ษณะนคี้ วรจัดการฝกึ ใหแ้ ก่
กำ� ลงั พลของหนว่ ย ซง่ึ กำ� ลงั พลทไี่ ดร้ บั การฝกึ มาแลว้ ไมต่ อ้ งดำ� เนนิ การอะไร
มากนัก เพียงแต่ต้องแจง้ ใหเ้ จา้ หน้าที่ที่มหี น้าท่ีจัดการเหตุฉุกเฉินทราบ

l การฝกึ ระดบั การปฏบิ ตั กิ ารตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ สำ� หรบั
ก�ำลังพลผู้ที่ท�ำหน้าท่ีตอบสนองเหตุการณ์ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการ
ปฏิบัติการตอบสนองเหตุฉุกเฉินขั้นต้น เพ่ือปกป้องบุคคล, ทรัพย์สิน
และสภาพแวดลอ้ มจากผลอนั ตรายทเี่ กดิ ขน้ึ ในกรณนี ร้ี วมไปถงึ การฝกึ หนว่ ย
ทท่ี ำ� หนา้ ทรี่ กั ษาความปลอดภยั , กำ� ลงั พลชดุ ปฏบิ ตั กิ ารตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ
และเจ้าหน้าท่ีหน่วยบริการแพทย์ฉุกเฉิน ก�ำลังพลเหล่านี้ต้องได้รับการฝึก
ใหต้ อบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ ในลกั ษณะเชงิ ปอ้ งกนั โดยไมต่ อ้ งพยายามจดั การกบั
อันตรายที่เกิดข้ึน โดยต้องได้รับการฝึกในระดับเดียวกับการตระหนักรู้
ของผตู้ อบสนองเหตแุ ละแสดงใหเ้ หน็ ถงึ สมรรถนะเพมิ่ มากขนึ้ ใหเ้ ปน็ ไปตาม
คำ� แนะนำ� ในการจัดการฝึก

l การฝึกผู้ช�ำนาญการด้านวัตถุอันตราย เป็นการฝึก
ระดบั หนว่ ยและระดบั บคุ คล สำ� หรบั กำ� ลงั พลทที่ ำ� หนา้ ทจี่ ดั การกบั อนั ตราย
การฝกึ ลกั ษณะนเี้ ปน็ การฝกึ ใหก้ บั กำ� ลงั พลในชดุ ปฏบิ ตั กิ ารดา้ นวตั ถอุ นั ตราย
กำ� ลงั พลตอ้ งไดร้ บั การฝกึ ในระดบั เดยี วกบั การตระหนกั รขู้ องผตู้ อบสนองเหตุ
และแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะเพิ่มมากขึ้น ให้เป็นไปตามค�ำแนะน�ำ
ในการจัดการฝึก

60

การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนื่องมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนิวเคลยี ร์

l การฝกึ ระดบั ผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณใ์ นทเี่ กดิ เหตุ การฝกึ นี้
มคี วามจำ� เปน็ สำ� หรบั ผบ.หนว่ ย ทที่ ำ� หนา้ ทคี่ วบคมุ บงั คบั บญั ชาในทเ่ี กดิ เหตุ
กำ� ลงั พลตอ้ งไดร้ บั การฝกึ ในระดบั เดยี วกบั การตระหนกั รขู้ องผตู้ อบสนองเหตุ
และแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะเพิ่มมากข้ึน ให้เป็นไปตามค�ำแนะน�ำ
ในการจดั การฝกึ

การประเมนิ ผลการฝึก (Training Evaluations)
๓-๒๘ ผบู้ งั คบั หนว่ ย คชรน. สามารถใชเ้ หตกุ ารณส์ ำ� คญั ในการฝกึ

เป็นข้อมูลสะท้อนกลับและช่วยผู้บังคับบัญชาในการประเมินประสิทธิภาพ
ของผู้บังคับหน่วยรอง, ก�ำลังพลแต่ละคน, หน่วย และโครงการการฝึก
เพือ่ ดำ� รงสภาพความพร้อมของหน่วย

๓-๒๙ การประเมนิ ผลการฝกึ อาจมที ง้ั การประเมนิ ผลภายใน และ
การประเมนิ ผลภายนอก การประเมนิ ผลภายในตอ้ งดำ� เนนิ การในทุกระดับ
และผนวกรวมเข้ากับการฝึกไว้ด้วยทุกคร้ัง ส่วนการประเมินผลภายนอก
โดยปกติจะด�ำเนินการในลักษณะที่เป็นทางการมากกว่าและด�ำเนินการ
โดย บก.หน่วยเหนือ ทส่ี งู ขน้ึ ไป ๑ ระดบั

๓-๓๐ ความล้มเหลวในการประเมินผลทุกครัง้ จากงานที่ไดป้ ฏิบัติ
ถอื วา่ เปน็ จดุ ออ่ นทสี่ ำ� คญั ยงิ่ ในการจดั การฝกึ แนวความคดิ ในการประเมนิ ผล
การฝึกอยู่บนพื้นฐานการด�ำเนินการไปพร้อมกับการฝึก ในการฝึกปฏิบัติ
ทุกคร้ังเป็นการให้ข้อมูลการประเมินผลแบบสะท้อนกลับ การประเมินผล
ถือเป็นส่วนหน่ึงของการฝึก ส�ำหรับโปรแกรมการด�ำเนินการผู้รับการฝึก
และผนู้ ำ� หนว่ ยตอ้ งมกี ารประเมนิ ผลการฝกึ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง สำ� หรบั การประเมนิ
ผลภายนอกมักได้รับการประเมินจากหน่วยเหนือตามสายการบังคับบัญชา
เพ่ือประเมินขีดความสามารถของหน่วยในการปฏิบัติภารกิจตอบสนอง
เหตกุ ารณ์ที่ส�ำคญั

61

การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนวิ เคลยี ร์

ความจ�ำเป็นในการประสานงาน, การเฝ้าติดตาม และการรายงาน
(Coordinating, Mornitoring and Reporting Requirements)

๓-๓๑ ความจ�ำเป็นในการประสานงาน, การเฝ้าติดตาม และ
การรายงาน ในขัน้ การเตรียมการปฏบิ ัตกิ ารเพื่อแก้ไขสถานการณ์

การประสานงาน (Coordinating)
๓-๓๒ การประสานงานเป็นการให้การศึกษาแก่ทุกๆ หน่วยงาน

ทีเ่ กี่ยวข้องให้รู้จกั กับหน่วยงานต่างๆ ท่ีเขา้ รว่ มปฏบิ ัตกิ าร

การประสานงานกบั หนว่ ยอนื่ ๆ ท่ีปฏบิ ตั กิ ารตอบสนอง
(Response Unit Coordination)

๓-๓๓ วัตถุประสงค์หลักในความพยายามเตรียมความพร้อม
เพอ่ื แก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจาก คชรน. คือความมน่ั ใจวา่ ไดบ้ รู ณาการ
และสามารถปฏิบัติการร่วมกัน ในขณะท่ีเข้าร่วมปฏิบัติการตอบสนอง
เหตวุ กิ ฤตอยา่ งเร่งดว่ น โดยกา้ วขา้ มเขตหนา้ ที่ความรับผิดชอบและการจัด
องคก์ รระหวา่ งหนว่ ยงานของรฐั และของเอกชน หนว่ ยตอบสนองเหตแุ ตล่ ะ
หนว่ ยควรมแี ผนตอบสนองเหตเุ พอ่ื แกไ้ ขสถานการณอ์ นั เนอื่ งมาจาก คชรน.
ท่ีแนน่ อนส�ำหรับการประสานกบั หนว่ ยตอบสนองเหตตุ า่ งๆ และสอดคล้อง
กบั แผนตอบสนองเหตขุ องหนว่ ยงานระดบั ทอ้ งถนิ่ , ระดบั รฐั และระดบั ชาติ
รวมท้ังแผนของกองก�ำลังเฉพาะร่วม, แผนของกองก�ำลังพันธมิตร และ
แผนของชาติเจา้ บ้าน

62

การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนวิ เคลยี ร์

มุ่งเนน้ ไปที่ความพยายามในการประสานงาน (Focus of Coordi-
nation Efforts)

๓-๓๔ การประสานงานเป็นการด�ำเนินการท้ังภายในหน่วย
ตอบสนองเหตเุ อง และกบั หนว่ ยทหารอื่นทีท่ �ำหนา้ ที่ตอบสนองเหตุฉุกเฉนิ
รวมทั้งกับหน่วยงานอ่ืนๆ ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง (หน่วยงานพลเรือน
หรือของชาติเจ้าบ้าน) ความพยายามในการประสานงานที่ดีย่อมช่วยให้
มน่ั ใจวา่ ได้เน้นไปทีค่ วามสำ� คญั อย่างเหมาะสมกบั การวางแผน (การจ�ำแนก
ภัยคุกคาม, การตรวจสอบความล่อแหลม, การระบุถึงทรัพยากรต่างๆ
ที่จ�ำเป็น) รวมทั้งการจัดการฝึกและการฝึกปฏิบัติ, ก�ำลังพลที่ผ่านเกณฑ์
และได้รบั การรบั รอง, ยุทโธปกรณท์ ี่ได้รบั การรับรอง รวมไปถึงความจ�ำเปน็
ในการเตรียมความพรอ้ มดา้ นอื่นๆ ความพยายามในการประสานงานมุง่ ไป
ท่ีการค้นหาขอบเขตของงานการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบในภาวะ
เร่งด่วน รวมถึงการปฏิบัติต่างๆ ที่จ�ำเป็นเพื่อเสริมสร้าง, ด�ำรงสภาพ
และปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถตามแผนปฏิบัติการของหน่วย
ตอบสนองเหตุ ทงั้ นเ้ี พอื่ ปอ้ งกนั , คมุ้ ครอง, ตอบสนอง และฟน้ื ฟจู ากเหตกุ ารณ์
ด้าน คชรน. การประสานงานยังช่วยให้หน่วยตอบสนองเหตุได้ปรับแผน
ของตนดว้ ย โดย

l การจัดท�ำและทบทวนรายการทรัพย์สินและทรัพยากร
ต่างๆ ทม่ี อี ยู่

l การกลั่นกรองวิธีการจัดหน่วยเฉพาะกิจ ให้เหมาะสม
กบั ผูต้ อบสนองเหตตุ า่ งๆ

l การระบถุ งึ วธิ กี ารและระเบยี บปฏบิ ตั เิ พอ่ื การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร

63

การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์

l การรักษาฐานข้อมูลเพื่อการร้องขอรับการสนับสนุน
กลบั ไปยังเขตภายใน

l พัฒนาระเบียบปฏิบัติทั่วไป รวมไปถึงรายละเอียดและ
ความเข้าใจเกยี่ วกับบทบาทของหนว่ ยตามทบี่ รรจุไว้ในแผน หน่วยสามารถ
รอ้ งขอ, รวบรวม, ประเมนิ แผนและคำ� สงั่ ตา่ ง ๆ ทมี่ อี ยแู่ ลว้ ในระดบั ทอ้ งถนิ่ ,
ระดบั รฐั และระดบั ชาติ เพอื่ รวมไวใ้ นขอ้ ตกลงใหค้ วามชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั
ในดา้ นการเตรียมความพรอ้ มและการตอบสนองเหตุท่เี กี่ยวขอ้ งกับ คชรน.
ข้อมูลเหล่าน้ีอาจถูกน�ำมาใช้เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าความจ�ำเป็นของหน่วย
สามารถบรรลุผล และความพยายามท่ีเป็นเอกภาพจากหลายหน่วยงาน
บรรลผุ ลสำ� เรจ็

l การพัฒนาและการด�ำรงไว้ซึ่งภาพปฏิบัติการท่ัวไป
ส�ำหรับการด�ำเนินการแก้ไขสถานการณ์ร่วมกันจากก�ำลังทหารและฝ่าย
พลเรอื น ในกรณนี ค้ี รอบคลมุ ไปถงึ ขอ้ มลู ของพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั กิ าร, สภาพอากาศ,
โครงสรา้ งพนื้ ฐาน และการประเมินบริเวณสถานที่เกดิ เหตุ

l การด�ำรงรักษาฐานข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานที่จัดการ
เหตุฉกุ เฉิน/ศนู ย์ปฏิบัติการ/เจ้าหน้าที่ตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ

l ด�ำรงรักษาบัญชีรายช่ือก�ำลังพลตามต�ำแหน่งหน้าที่
และระเบียบปฏิบตั ิสำ� หรับการเรียกเขา้ ประจ�ำการ

l จดั เตรยี มขอ้ มลู แสดงแบบจำ� ลองสำ� หรบั พน้ื ทที่ ที่ ราบวา่
มีความอ่อนไหวภายในพนื้ ทป่ี ฏิบตั ิการของตน

64

การปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนอ่ื งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์

การเฝ้าตดิ ตาม (Monitoring)
๓-๓๕ การวิเคราะห์สถานภาพของหน่วยตอบสนองเหตุ ควร

ครอบคลุมไปถึงการทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจ�ำ
ในท่ีบังคับการและรายการตรวจสอบ (checklist) ท่ีเป็นทางการด้วย
รายการตรวจสอบในแต่ละข้อตามระเบียบปฏิบัติประจ�ำ ควรได้รับการ
วิเคราะห์เพื่อให้ม่ันใจในการประสานงานระหว่างส่วนต่างๆ ที่ปฏิบัติการ
ตอบสนองเหตตุ ามทไ่ี ด้ระบุไวใ้ นระเบียบปฏิบัตปิ ระจำ�

การรายงาน (Reporting)
๓-๓๖ หน่วยตอบสนองเหตุแต่ละหน่วย ต้องรายงานสถานภาพ

ความพร้อมในการปฏิบัติการตามวงรอบให้หน่วยแม่ของตนทราบ ท้ังน้ี
เป็นไปตามค�ำแนะน�ำของแต่ละเหล่าทัพ การรายงานสถานภาพช่วยให้
ม่ันใจว่าแผนที่ใช้ตอบสนองเหตุเป็นปัจจุบันน�ำไปปฏิบัติได้ และเกี่ยวข้อง
ตรงประเดน็

การสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ (Health Service Support)
๓-๓๗ ทกุ หนว่ ยในสงั กดั ตอ้ งใชโ้ ครงการพฒั นาสขุ ภาพอยา่ งเบด็ เสรจ็

ในระหว่างท่ีมีการแก้ไขสถานการณ์อันเน่ืองมาจาก คชรน. ซ่ึงจะช่วยให้
ก�ำลังพลสามารถคาดหวัง, ตระหนักรู้, ประเมินค่า, ควบคุม และบรรเทา
ผลกระทบจากภัยคุกคามต่อสุขภาพได้ในระหว่างถูกส่งเข้าประจ�ำการ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระหว่างขั้นการเตรียมการผู้บังคับบัญชาและ
ก�ำลังพลสายแพทย์ประจำ� หนว่ ยตอบสนองเหตุ ควรจะ

65

การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์

l มนั่ ใจวา่ กำ� ลงั พลชดุ ตอบสนองเหตุ ยงั คงรกั ษาสถานภาพ
ความพร้อมทางด้านสุขภาพและทางการแพทย์ไว้ในระดับสูงก่อนถูกส่ง
เขา้ ประจำ� การ สง่ิ เหลา่ นยี้ งั รวมไปถงึ ความมน่ั ใจวา่ กำ� ลงั พลชดุ ตอบสนองเหตุ
ได้กรอกข้อมูลอย่างครบถ้วนหรือยืนยันตามแบบพิมพ์ กห. ๒๗๙๕
(การประเมินผลด้านสุขภาพก่อนถูกส่งเข้าประจ�ำการ) และมั่นใจว่า
แบบพิมพ์ที่ได้กรอกข้อมูลครบถ้วนและได้จัดส่งไปยังระบบเฝ้าระวัง
ทางการแพทย์ของกระทรวงกลาโหมแล้ว ซ่ึงข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บ
โดย “งานเฝา้ ระวงั ทางการแพทยก์ องทพั บก” (Army Medical Surveillance
Activity) ภายใต้ “กองบญั ชาการดา้ นสาธารณสุขกองทพั บก” (U.S. Army
Public Health Command)

l ม่ันใจว่าก�ำลังพลชุดตอบสนองเหตุได้ปฏิบัติตาม
ขอ้ กำ� หนดตามโครงการปอ้ งกนั ระบบทางเดนิ หายใจ ซงึ่ เปน็ ไปตามคำ� แนะนำ�
ในกฎหมายแห่งชาติสหรัฐอเมริกา มาตรา ๒๙ (29 CFR 1910.120),
มน่ั ใจวา่ กำ� ลงั พลชดุ ตอบสนองเหตไุ ดร้ บั การบรรยายสรปุ เกยี่ วกบั ภยั คกุ คาม
ดา้ นสุขภาพในขณะทเ่ี ขา้ ประจำ� การ และได้รับการฝกึ ให้มีความพรอ้ มดว้ ย
มาตรการตอบสนองทจี่ ำ� เป็น

l มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ก�ำหนดไว้เพื่อป้องกันสุขภาพ
ของก�ำลังพล (ชุดยาแก้พิษจากสารประสาท และยาเม็ดไพริโดสติกไมน์
[pyridostigmine tablets]) ไดร้ ับการแจกจ่ายตามที่ร้องขอ

l มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ชุดตอบสนองเหตุสายแพทย์ได้รับ
การฝึกให้รู้จักลักษณะอาการบ่งช้ี, อาการที่เกิดข้ึน, มาตรการตอบโต้ทาง
การแพทย์ รวมไปถึงการรักษาพยาบาลจากการสัมผัสเช้ือโรคประจ�ำถิ่น
และในสิง่ แวดล้อม, จากการปฏิบัติงาน และจากภัยคกุ คามด้าน คชรน.

66

การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลียร์

l ม่ันใจว่าผลการบันทึกข้อมูลด้านภูมิคุ้มกัน, ข้อมูลด้าน
การแพทย์ และข้อมลู ด้านทนั ตกรรมของเจา้ หนา้ ทีต่ อบสนองเหตุแต่ละคน
ได้บันทึกไว้ในระบบอัตโนมัติเพ่ือจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของ กห. และ
ได้รับการปรับแก้ไขให้เป็นปัจจุบัน อีกทั้งมีการก�ำหนดการรักษาคุ้มครอง
ฐานขอ้ มูลเหลา่ นไ้ี ว้ด้วย

l มนั่ ใจวา่ เจา้ หนา้ ทชี่ ดุ ตอบสนองเหตไุ ดผ้ า่ นการตรวจสอบ
สุขอนามัยข้ันพ้ืนฐาน ส�ำหรับผู้ปฏิบัติงานอย่างสมบูรณ์ก่อนที่การเข้า
ตอบสนองเหตุการณ์จรงิ

l การฝกึ , ฝา่ ยอำ� นวยการ สงิ่ อปุ กรณ์ และใหก้ ารสนบั สนนุ
การด�ำเนินการสอบสวนการสัมผัสกับโรคระบาด และเหตุการณ์เกี่ยวข้อง
กับสุขอนามัยจากสภาพการท�ำงานและจากสิ่งแวดล้อม และม่ันใจว่า
รายงานและการบันทึกเอกสารเก่ียวกับการเกิดโรคระบาด และปัญหา
เก่ียวกับสุขอนามัยจากการท�ำงานและจากส่ิงแวดล้อม รวมทั้งปัญหาจาก
คชรน. มีการรายงานไปยัง บก.หน่วยเหนอื

l ระบุความต้องการทรัพยากรส�ำหรับผู้ตอบสนองเหตุไว้
ในแผนยุทธการ และในคำ� ส่ังยุทธการ

l มั่นใจว่าแผนเฝ้าระวังด้านสุขภาพในเขตยุทธบริเวณ
และความต้องการด้านอืน่ ๆ ได้กำ� หนดไวใ้ นแต่ละแผนยทุ ธการ

l พฒั นาและใชแ้ ผนเมอื่ มคี วามเสยี่ งจากการเกดิ โรคตดิ ตอ่
ในทุกข้ันตอนการส่งก�ำลังเข้าประจ�ำการส�ำหรับเผชิญกับภัยคุกคามจาก
โรคตดิ ตอ่ และใชม้ าตรการตอบสนองต่อก�ำลงั พลที่ถกู สง่ เขา้ ประจำ� การ

67

การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนิวเคลียร์

การฝึกตอบสนองเหตุ (Response Exercises)
๓-๓๘ เพียงเฉพาะการฝึกศึกษาประการเดียวไม่เพียงพอส�ำหรับ

การเตรียมการของหน่วยตอบสนองเหตุ การฝึกตามสภาพความเป็นจริง
เป็นสิ่งจ�ำเป็น เพื่อให้ม่ันใจว่าสามารถปฏิบัติการภายใต้สภาพแวดล้อม
คชรน. ได้ ผตู้ อบสนองเหตตุ อ้ งทำ� ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั แผนการตอบสนองเหตุ
ในระดบั ทอ้ งถน่ิ และในระดบั รฐั ซงึ่ ผเู้ ขา้ รบั การฝกึ ในระดบั ชาต,ิ ในระดบั รฐั
และในระดบั ทอ้ งถนิ่ สามารถเพม่ิ ขดี ความสามารถในการปฏบิ ตั กิ ารรว่ มกนั
และสามารถตอบสนองแผนเหล่านั้นได้ ลักษณะท่ีควรพิจารณาเมื่อมีการ
พัฒนาการฝึก ควรรวมไปถึงประเดน็ ต่อไปน้ี

l ผูร้ ับการฝกึ ใหค้ รอบคลุมผรู้ ับการฝกึ ใหม้ ากท่ีสดุ เท่าท่ี
จะท�ำได้จากหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีแก้ไขสถานการณ์ในระดับท้องถิ่น,
ระดับรฐั , ระดับชาติ และจากชาตเิ จ้าบ้าน

l สภาพความเปน็ จริง
 มน่ั ใจวา่ เคา้ โครงการแกไ้ ขสถานการณอ์ นั เนอ่ื งมาจาก
คชรน. ทหี่ นว่ ยอาจตอ้ งเผชญิ ควรอยบู่ นพนื้ ฐานของการประเมนิ ภยั คกุ คาม
ตามสภาพความเปน็ จรงิ
 จัดให้มีล�ำดับรายการเหตุการณ์ส�ำคัญตามสภาพ
ความเปน็ จรงิ เพ่ือฝึกตามแต่ละลักษณะงานการแกไ้ ขสถานการณ์อนั เนอ่ื ง
มาจาก คชรน. รวมไปถึงความท้าทายที่คาดไม่ถึงไว้ด้วย (เช่น ก�ำลังพล
และยุทโธปกรณ์ท่ีมีความส�ำคัญอยู่ในภาวะไม่สามารถปฏิบัติงานได้) เพ่ือ
ประเมินความยืดหย่นุ ในกระบวนการตอบสนองต่อเหตกุ ารณ์

68

การปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลยี ร์

l การจดั ตารางการฝึก
 ปรับแผนการฝึกของหน่วยและจัดตารางการฝึก
ร่วมกับผู้บัญชาการกองก�ำลังทหาร, กับชาติเจ้าบ้าน และกระทรวงการ
ต่างประเทศท่ีเกี่ยวข้องกับการฝึกด้าน คชรน. หน่วยงานพลเรือนและ
หน่วยทหารของชาติเจ้าบ้านที่ท�ำหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติการแก้ไข
สถานการณ์ อาจจำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารฝกึ ทบทวนและการฝกึ เพอ่ื ฟน้ื ฟสู มรรถนะ
ใหบ้ อ่ ยคร้งั มากย่ิงขึน้
 หน่วยท่ีตอบสนองเหตุการณ์ หากเป็นไปได้ควร
พิจารณาปรับการฝึกและจัดตารางการฝึกร่วมกับการฝึกและโครงการฝึก
ของกระทรวงรักษาความมั่นคงภายใน ส�ำหรับโครงการเตรียมความพร้อม
ในระดบั ทอ้ งถน่ิ และในระดบั รฐั รวมทงั้ การฝกึ รว่ มกบั ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารสนบั สนนุ
พลเรือน-ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่มีอ�ำนาจท�ำลายสูง (WMD-CST)
ตามความเหมาะสม
l การฝึกภาวะผู้น�ำ การฝึกในลักษณะแก้ปัญหาบนโต๊ะ
(TTX) ควรน�ำมาใช้ฝึกเพื่อสร้างโอกาสภาวะการเป็นผู้น�ำและในฐานะฝ่าย
อ�ำนวยการในการฝึกตามเค้าโครงเหตุการณ์ท่ีหลากหลายลักษณะ การฝึก
ในลกั ษณะแกป้ ญั หาบนโตะ๊ ควรกำ� หนดขน้ึ เปน็ กรณพี เิ ศษเพอื่ ใหผ้ นู้ ำ� หนว่ ย
ได้ฝึกปฏิบตั ิภารกิจสำ� คญั และการปฏบิ ัตงิ านสว่ นรวมท่ีมคี วามส�ำคัญ
๓-๓๙ ในการฝึกแต่ละคร้ังควรก�ำหนดให้มีการประเมินผลการ
ปฏิบัติภารกิจที่ส�ำคัญ และการปฏิบัติกิจอื่นๆ เป็นการเฉพาะ ภายใน
เค้าโครงภาพรวมของการประเมินผลการฝึกครั้งนั้น ผู้ที่ท�ำหน้าท่ีประเมิน
ผลต้องมีความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับข้ันตอนการตรวจสอบทั้งหมด
เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้อง การใช้การฝึกด้วยความสมจริงเป็น
สง่ิ จำ� เปน็ เพอื่ ใหม้ น่ั ใจวา่ กำ� ลงั ทหารสามารถปฏบิ ตั กิ ารภายใตส้ ภาพแวดลอ้ ม
คชรน. ได้

69

การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์

๓-๔๐ ผู้ประเมินแต่ละคนโดยไม่ค�ำนึงถึงช้ันยศ ต้องมีความรู้
อย่างเช่ียวชาญในด้านขีดความสามารถ, ความรับผิดชอบ, ยุทโธปกรณ์
สอ่ื สาร, อาวธุ และยานพาหนะ ตลอดจนความเขา้ ใจในภารกจิ อยา่ งละเอยี ด
หากผู้ประเมินผลด้อยประสิทธิภาพย่อมมีผลท�ำให้ข้อมูลจากการทบทวน
หลังการปฏิบัตหิ รอื การถอดบทเรยี นดอ้ ยคา่ ลงไป

ขีดความสามารถและความล่อแหลมที่ยงั คงอยู่
(Capabilities and Remaining Vulnerabilities)

๓-๔๑ การประเมินความล่อแหลมด้านการป้องกัน คชรน. ของ
หน่วยตอบสนองเหตุฉกุ เฉิน ต้องเปน็ กระบวนการทด่ี ำ� เนินการโดยต่อเนื่อง
(ดูในรูปท่ี ๓-๒) ในคู่มือ ATP 3-11.36/MCRP 3-37B/NTTP 3-11.34/
AFTTP 3-20.70 จะให้ค�ำแนะน�ำเพ่ิมเติมเกี่ยวกับวงรอบการประเมิน
ความลอ่ แหลม จากการดำ� เนนิ การตามแผนแกไ้ ขสถานการณ์ หนว่ ยตอบสนอง
เหตกุ ารณเ์ รม่ิ ดำ� เนนิ การตามวงรอบ เพอ่ื ประเมนิ ผลซำ้� ในการเตรยี มความพรอ้ ม
เพ่ือปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ การด�ำเนินการตามวงรอบเพ่ือให้เกิด
ความมนั่ ใจวา่ หนว่ ยทหารทจ่ี ำ� เปน็ ไดถ้ กู สง่ เขา้ ประจำ� การ, มกี ารเตรยี มการ
และมีการประสานสอดคล้องอย่างเหมาะสมเพ่ือให้การปฏิบัติกิจการแก้ไข
สถานการณ์บรรลุผลส�ำเร็จ อยา่ งไรก็ตาม ห้วงระยะเวลาในการประเมินผล
ซ�้ำไม่จ�ำเป็นต้องเคร่งครัดในเรื่องของห้วงเวลามากนัก (เช่น ตามวงรอบ
ของปปี ฏทิ นิ ) ยงั มปี จั จยั อน่ื ๆ ทคี่ วรนำ� มาพจิ ารณารว่ มดว้ ย (เชน่ ภยั คกุ คาม
ทเี่ ปลย่ี นไป, หน่วยที่มีการเปลยี่ นแปลง, ทรัพยากรท่มี ีอย)ู่ การตรวจสอบ
ก่อนเกิดเหตุการณ์จะช่วยยืนยันว่าหน่วยมีสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์
พร้อมสนองตอบเหตุการณ์ เช่น ยุทธภณั ฑ์ป้องกันตน ตามความจำ� เปน็
70

การปฏิบตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์

การประเมนิ อันตราย สภาพแวดล้อม
(ข้ันการวางแผน) การปฏิบตั ิการ

การลด การวิเคราะห์
ความล่อแหลม ความล่อแหลม
(ขนั้ เตรยี มการ) (ข้ันการวางแผน)

ค�ำแนะนำ� สภาพภยั คุกคาม
ของผู้บังคับบญั ชา ท้งั หมด

อธิบายศัพท์
VA Vulnerability Asessment (การประเมนิ ความล่อแหลม)

รูปท่ี ๓-๒ การประเมินความลอ่ แหลมในข้นั เตรียมการ

๓-๔๒ มาตรการดังกล่าวประกอบด้วยการปฏิบัติเพื่อการป้องกัน
รวมทั้งการให้ข้อมูลสะท้อนกลับเกี่ยวกับการประเมินความล่อแหลม
ข้อมูลสะท้อนกลับมีส่วนช่วยในการพัฒนาแผนการตอบสนองเหตุการณ์
ในภาพรวม ตัวอย่างเช่น ก�ำลังพลของชุดปฏิบัติตอบสนองเหตุการณ์
อาจสังเกตพบว่าชาติเจ้าบ้านขาดแคลนยุทธภัณฑ์ป้องกันที่เหมาะสม
(ผ้าคลุมกันฝนที่มีการแจกจ่ายกันในบางประเทศอาจใช้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพกับการป้องกันอันตรายท่ีเป็นละออง แต่ใช้ในการป้องกัน
อนั ตรายจากเป้ือนพิษสารมัสตาร์ดแทบไม่ได้เลย)

71

การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลยี ร์

เหตุการณพ์ เิ ศษเกยี่ วกบั ความมนั่ คงของชาติ
(National Special-Security Events)

๓-๔๓ ในขน้ั เตรยี มการเพอ่ื แกไ้ ขสถานการณ์ หนว่ ยตอบสนองเหตุ
สังกัดกระทรวงกลาโหมอาจได้รับกิจที่ต้องปฏิบัติเพ่ือสนับสนุนเหตุการณ์
พิเศษเก่ียวกับความม่ันคงของชาติ การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ที่มี
ลกั ษณะจำ� เพาะเชน่ น้ี หนว่ ยในสงั กดั กระทรวงกลาโหมตอ้ งเตรยี มการสำ� หรบั
เค้าโครงเหตุการณ์ที่อาจเป็นไปได้เมื่อถูกส่งเข้าประจ�ำการ และเข้า
ตอบสนองเหตกุ อ่ นทจ่ี ะเกดิ เหตกุ ารณจ์ รงิ การเตรยี มการสำ� หรบั การปฏบิ ตั กิ าร
สนับสนุนเหตุการณ์พิเศษเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ และหน่วยได้รับ
มอบภารกจิ ในหลายๆ กรณหี นว่ ยอาจถกู สง่ เขา้ ประจำ� การในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง
กับสถานทีเ่ กดิ เหตุ เพ่อื ปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์อันเนือ่ งมาจาก คชรน.

๓-๔๔ ลกั ษณะทส่ี ำ� คญั สำ� หรบั การเตรยี มการเพอ่ื แกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอื่ งจากเหตกุ ารณพ์ เิ ศษเกยี่ วกบั ความมนั่ คงของชาติ คอื ความสามารถ
ของหน่วยที่จะติดต่อโดยตรงกับส่วนงานต่างๆ เพ่ือตรวจสอบอย่างเต็มท่ี
กับบทบาทของแต่ละส่วนงานในการตอบสนองเหตุการณ์ตามแผนท่ีได้
ก�ำหนดไว้ ซึ่งแตกต่างจากการเตรียมการก่อนเกิดเหตุซ่ึงบทบาทท่ีแท้จริง
ของแตล่ ะหน่วยงานยังไมช่ ัดเจน จนกวา่ จะไดม้ ีการตรวจสอบขอบเขตและ
ความรนุ แรงของเหตกุ ารณด์ า้ น คชรน. เรยี บรอ้ ยแลว้ เหตกุ ารณพ์ เิ ศษเกยี่ วกบั
ความมนั่ คงของชาตอิ าจเกยี่ วขอ้ งกบั การปฏบิ ตั กิ ารตามแผนตอบสนองเหตุ
ขั้นต้น ไปจนถึงการปฏิบัติที่เพ่ิมระดับข้ึนไปเรื่อยๆ ซ่ึงมีหลายหน่วย
อาจถูกส่งเข้าวางก�ำลังข้ันต้น และเตรียมปฏิบัติในส่วนความรับผิดชอบ
ของตนหลังจากการไดร้ บั การแจง้ เตอื นในหว้ งระยะเวลาไม่นานนกั

72

๔ การตอบสนอง
เหตกุ ารณ์

บทท่ี ๔ เป็นการอธิบายการปฏิบัติเพื่อตอบสนองเหตุการณ์
รวมไปถึงการกล่าวถึงล�ำดับขั้นตอนการปฏิบัติการตอบสนองเหตุการณ์,
อำ� นาจในการปฏบิ ตั กิ ารตอบสนองเหตกุ ารณ,์ การตอบสนองเหตกุ ารณเ์ ปน็
รายแรก, การตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ , การควบคมุ บงั คบั บญั ชา, การตอบสนอง
เหตุการณ์จาก คชรน. และการปฏิบัติการตอบสนองการสนับสนุนบริการ
สุขภาพ รวมท้ังการกล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปฏิบัติการฟื้นฟู
พอเปน็ สังเขปไว้ด้วย
กลา่ วเบอื้ งตน้ (Background)

๔-๑ เหตุการณ์จาก คชรน. อาจเกิดขึ้นได้ในเวลาและสถานท่ี
ที่ไม่มีการแจ้งเตือน ซ่ึงก่อให้เกิดความโกลาหลและการบาดเจ็บล้มตาย
เม่ือเกิดเหตุการณ์ท่ีไม่มีการแจ้งเตือน หน่วยบริการเหตุฉุกเฉินประจ�ำ
ทอ้ งถน่ิ หรอื อาจเปน็ หนว่ ยงานระดบั รฐั หรอื ระดบั ชาตจิ ะเปน็ หนว่ ยตอบสนอง
เหตุการณ์ หน่วยตอบสนองเหตุฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นอาจแจ้งเตือนไปยัง

การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนวิ เคลียร์

ผบ.หน่วยทหารสังกัดกระทรวงกลาโหมที่อยู่ใกล้เคียง โดยที่หน่วยทหาร
อาจเร่มิ เข้าตอบสนองเหตุเปน็ กรณีเร่งด่วนเพอื่ ชว่ ยชวี ติ , ป้องกันไมใ่ ห้ผ้คู น
ได้รับบาดเจ็บหรือบรรเทาความเสียหายต่อทรัพย์สิน เม่ือได้รับการร้องขอ
รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือ การตอบสนองเหตุฉุกเฉินภายในประเทศ
กระทรวงกลาโหมมีอ�ำนาจอนุมัติให้ด�ำเนินการ แต่หากเป็นการปฏิบัติการ
แก้ไขสถานการณ์ในต่างประเทศโดยอาศัยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศเปน็ ผู้ทมี่ อี �ำนาจอนมุ ตั ิ

๔-๒ หนา้ ทหี่ ลกั ๆ ในการปฏบิ ตั กิ ารของหนว่ ยตอบสนองการแกไ้ ข
สถานการณ์อันเน่ืองมาจาก คชรน. คือการปกป้องชีวิต การรักษาสุขภาพ
และความปลอดภัย, การระวังป้องกันและลดอันตราย, ปกป้องทรัพย์สิน,
ปอ้ งกนั สภาพสงิ่ แวดลอ้ มไมใ่ หเ้ สยี หายมากไปกวา่ นี้ และรกั ษาความเชอ่ื มน่ั
จากสาธารณชนต่อรัฐบาลว่ามีความสามารถในการตอบสนองเหตุการณ์
จาก คชรน. ได้ (ในรูปที่ ๔-๑ แสดงถึงขั้นการตอบสนองต่อเหตุการณ์
ซง่ึ สมั พนั ธก์ บั ขนั้ การปฏบิ ตั อิ น่ื ๆ ในการตอบสนอง เพอื่ การแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอ่ื งมาจาก คชรน.) หนว่ ยทท่ี ำ� หนา้ ทต่ี อบสนองเรม่ิ ปฏบิ ตั เิ พอื่ การฟน้ื ฟู
สภาพแวดลอ้ มในบรเิ วณทใี่ กลเ้ คยี งกบั ทเ่ี กดิ เหตใุ หก้ ลบั คนื มา การเปลย่ี นผา่ น
และแผนการถอนกำ� ลงั ตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาตามบทบาทของกองกำ� ลงั สงั กดั
กระทรวงกลาโหมที่ได้ก�ำหนดข้ึน และตามมาด้วยการตรวจสอบสภาพ
ความพร้อมของหน่วยงานในท้องถ่นิ , ระดับรัฐ และหน่วยงานในระดบั ชาติ

๔-๓ ถึงแม้ว่างานหลักในการแก้ไขสถานการณ์ของกระทรวง
กลาโหม จะมุง่ เนน้ ไปทกี่ ารลดผลกระทบจาก คชรน. ต่อการปฏบิ ตั ิการทาง
ทหารให้เหลือน้อยท่สี ุด แต่กต็ ้องเตรียมพร้อมเพื่อสนับสนุนการตอบสนอง
เหตุการณ์จาก คชรน. ภายในประเทศ รวมทั้งกับชาติพันธมิตรและชาติ

74

การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนิวเคลยี ร์

ทม่ี คี วามรว่ มมอื กนั เพอ่ื เปน็ การปอ้ งกนั อนั ตรายและเปน็ การฟน้ื ฟจู ากการใช้
สาร คชรน. ก�ำลังทหารต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชิงรับ และ
เตรียมพร้อมท่ีจะปฏิบัติเพื่อการแก้ไขสถานการณ์อันเน่ืองมาจาก คชรน.
หากความพยายามในการป้องกันล้มเหลวและการโจมตีด้วยอาวุธ คชรน.
ไม่สามารถป้องปรามได้ กระทรวงกลาโหมต้องเตรียมความพร้อมเพื่อ
ตอบสนองต่อการร้องขอความช่วยเหลือ; รวมท้ังริเร่ิมหรือสนับสนุน
ความพยายามในการแกไ้ ขสถานการณท์ ด่ี ำ� เนนิ ไปอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง; และใหก้ าร
สนับสนุนอยา่ งเขม้ แข็งต่อเจา้ หนา้ ทีใ่ นระดบั ทอ้ งถนิ่ , ระดับรฐั , ระดับชาติ
รวมทั้งเจา้ หน้าทข่ี องชาติพันธมติ ร และประเทศท่มี คี วามรว่ มมอื กัน

๔-๔ ล�ำดับข้ันตอนและระยะเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์
จาก คชรน. มักขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพแวดล้อมการ
ปฏิบัตกิ าร (การแก้ไขสถานการณ์ภายในประเทศ, การปฏบิ ตั กิ ารเพ่อื แกไ้ ข
สถานการณใ์ นตา่ งประเทศ) ขนาดของเหตกุ ารณด์ า้ น คชรน. และทรพั ยากร
ที่จ�ำเป็นต่อการตอบสนองเหตุการณ์ ในตารางท่ี ๔-๑ ได้ให้รายละเอียด
เกยี่ วกับล�ำดบั เหตกุ ารณส์ ำ� หรับการตอบสนองเหตกุ ารณด์ า้ น คชรน.

ภาพรวมของการตอบสนองเหตุการณ์
(Incident Response Overview)

๔-๕ การปฏบิ ตั กิ ารในระหวา่ งการตอบสนองเหตกุ ารณไ์ ดก้ ลา่ วถงึ
ผลกระทบในระยะส้ัน และผลกระทบโดยตรงจากเหตกุ ารณน์ ้นั มาตรการ
ตอบสนองหมายถึงการปฏิบัตทิ ง้ั ปวง เพอ่ื ชว่ ยชีวิต, ปกปอ้ งทรัพย์สนิ และ
การใหบ้ รกิ ารทจ่ี ำ� เปน็ เพอื่ ใหก้ ารปฏิบตั กิ ารดำ� เนนิ ไปได้อยา่ งต่อเน่อื ง

75

การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอ่ื งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

ป้องกัน

วางแผน เตรยี มการ

ขนั้ ตอน เหตกุ ารณ์
การปฏิบัติในการ จาก คชรน.
แกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจาก คชรน.

ฟน้ื ฟู ตอบสนอง

ปฏิบตั ิ

รูปท่ี ๔-๑ ขน้ั การปฏิบตั ใิ นการแกไ้ ขสถานการณ์อนั เน่ืองมาจาก คชรน. (ตอบสนอง)

ตารางที่ ๔-๑ ลำ� ดบั เหตกุ ารณส์ ำ� หรบั การตอบสนองเหตกุ ารณด์ า้ น คชรน.
(เป็นการคาดการณ์)

เหตุการณ์ การปฏิบัติ
มสี ่ิงบอกเหตุ เหตุการณด์ ้าน คชรน. เกดิ ขนึ้ ซงึ่ จ�ำเป็นตอ้ งมกี าร
ตอบสนอง (เกดิ การระเบดิ , การแพรก่ ระจาย, มลี กั ษณะ
การตอบสนองในขั้นตน้ อาการเร่ิมปรากฏ)
ชุดปฏบิ ตั ติ อบสนองเหตุการณป์ ระจ�ำทอ้ งถนิ่
เข้าท�ำหน้าท่ตี อบสนองต่อเหตุการณ์

76

การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนวิ เคลยี ร์

ตารางท่ี ๔-๑ ลำ� ดบั เหตกุ ารณส์ ำ� หรบั การตอบสนองเหตกุ ารณด์ า้ น คชรน.
(เปน็ การคาดการณ์) (ต่อ)

เหตุการณ์ การปฏิบัติ
ริเร่ิมจัดตง้ั ระบบ ชดุ ปฏบิ ัติการตอบสนองเหตุการณค์ ้นหาความจำ� เปน็
บญั ชาการเหตุการณ์ ในการจัดตงั้ ระบบบัญชาการเหตกุ ารณ์
กำ� หนดการบงั คับบญั ชา ผบ.เหตกุ ารณ์ รบั ผดิ ชอบการบญั ชาการและการควบคมุ
รกั ษาความปลอดภยั ในบรเิ วณที่เกิดเหตุ
ทีเ่ กิดเหตเุ พอ่ื ควบคมุ ผบ.เหตกุ ารณ์ กำ� หนดการรกั ษาความปลอดภยั ทเ่ี กดิ เหตุ
การเขา้ -ออก l ก�ำหนดเขตรกั ษาความปลอดภัยโดยรอบท่ีเกดิ เหตุ
l ท�ำให้ม่นั ใจว่าเปน็ วธิ ที �ำใหเ้ กิดความปลอดภยั
กำ� หนดทีบ่ ัญชาการ และการก�ำหนดตำ� แหนง่ ทรพั ยากรทีใ่ ชต้ อบสนอง
เหตุการณ์ เหตฉุ กุ เฉินในบรเิ วณท่ีเกดิ เหตุ
l กำ� หนดพน้ื ทพ่ี กั รอถอื วา่ เปน็ วธิ กี ารควบคมุ ทรพั ยากร
พสิ ูจนท์ ราบอนั ตราย/ ท่ใี ชต้ อบสนองในบริเวณทเ่ี กดิ เหตุ
ประเมินสถานการณ์ ผบ.เหตกุ ารณ์ จดั ตงั้ ทบี่ ญั ชาการเหตกุ ารณด์ า้ นนอกเขต
(อยา่ งต่อเนือ่ ง) ทีม่ หี รอื คาดว่าจะมอี นั ตราย แตต่ อ้ งอยูใ่ นระยะทใ่ี กล้
กบั ทเี่ กิดเหตุมากพอส�ำหรับการบัญชาการเหตุการณ์
l เป็นต�ำแหนง่ ทตี่ ้ังทมี่ ีการกระจายขา่ วสาร
l การรายงานเหตกุ ารณท์ ม่ี กี ารดำ� เนนิ การอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
ผ้ตู อบสนองเหตุการณ์ .-
l ประเมนิ จากแหล่งข้อมูลท่มี อี ยู่ (ป้ายประกาศ
และเอกสารประกอบการขนส่ง)
l พยายามตอบคำ� ถาม ต่อไปนี้
 มไี ฟไหม,้ มกี ารหกเรยี่ ราด, หรอื มกี ลมุ่ ควนั หรอื ไม่
 สภาพอากาศเปน็ อยา่ งไร

77

การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนวิ เคลยี ร์

ตารางท่ี ๔-๑ ลำ� ดบั เหตกุ ารณส์ ำ� หรบั การตอบสนองเหตกุ ารณด์ า้ น คชรน.
(เป็นการคาดการณ)์ (ต่อ)

เหตุการณ์ การปฏิบตั ิ
 สภาพภูมิประเทศเป็นแบบไหน
 ใคร/อะไรท่ีตกอยู่ในความเสยี่ ง
 มอี ะไรบ้างที่ควรปฏบิ ตั ิ
 อะไรที่ควรด�ำเนินการเป็นกรณเี ร่งด่วน (อพยพ,
จดั ทีห่ ลบภัยในท่ีเกดิ เหตุ หรือก้ชู ีพโดยเร่งด่วน)

ก�ำหนดเขตควบคุม ผบ.เหตุการณ์ กำ� หนดเขตปลอดภยั , เขตเฝา้ ระวัง
อันตราย และเขตควบคมุ อนั ตราย เพอ่ื ใหม้ นั่ ใจวา่ พน้ื ทปี่ ฏบิ ตั งิ าน
มคี วามปลอดภยั

จดั ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารเฉพาะกจิ ผบ.เหตกุ ารณ์ จดั ชดุ ปฏบิ ัตกิ ารตอบสนองเหตเุ ทา่ ทีม่ ี
ทรพั ยากรอยู่ ภายใตอ้ ำ� นาจการบงั คบั บญั ชาทเ่ี หมาะสม

วางก�ำลงั ชุดปฏิบัติการ ผูต้ อบสนองเหตกุ ารณเ์ รม่ิ ปฏิบตั กิ ารบนพน้ื ฐาน
ตอบสนอง ของภารกจิ ทไี่ ด้รับมอบ

การตอบสนองเหตุล�ำดับแรก (First Response)
๔-๖ การตอบสนองเหตุล�ำดับแรก กระท�ำโดยเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ

ในท้องถ่ินและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอกชน, พนักงานดับเพลิง
และเจ้าหน้าท่เี หตฉุ กุ เฉนิ โดยทัว่ ไป ผูต้ อบสนองเหตลุ ำ� ดบั แรกคือ บคุ คลท่ี
ประสบเหตุหรือท่ีพบเห็นการร่ัวไหลแพร่กระจายของสสารอันตราย และ
เป็นผู้ที่ได้รับการฝึกให้ริเริ่มตอบสนองเหตุฉุกเฉินล�ำดับขั้นตอน ด้วยการ
แจง้ เตอื นการแพรก่ ระจายใหแ้ กผ่ มู้ อี ำ� นาจหนา้ ทท่ี เี่ กยี่ วขอ้ ง หากเปน็ ผตู้ อบสนอง
เหตุในข้ันท่ีสูงข้ึน ผู้ตอบสนองเหตุล�ำดับแรกหมายถึงบุคคลท่ีได้รับ
การฝึกการปฏบิ ตั กิ ารหรือเป็นผ้เู ชยี่ วชาญทางดา้ นเทคนคิ

78

การปฏิบตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

๔-๗ ผู้ที่ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ช่วยผู้ตอบสนองเหตุล�ำดับแรก มักเป็น
เจ้าหน้าท่ีต�ำรวจในท้องถิ่นและเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยเอกชน,
พนักงานดับเพลิง และเจ้าหน้าที่เหตุฉุกเฉิน ซ่ึงเป็นผู้ท่ีอยู่ในเหตุการณ์
ตัง้ แต่เร่มิ แรก มีหน้าทรี่ บั ผดิ ชอบในการป้องกนั และปกปอ้ งชีวติ , ทรพั ยส์ ิน,
วตั ถพุ ยาน และสง่ิ แวดลอ้ ม และยงั ครอบคลมุ ไปถงึ ผทู้ ด่ี ำ� เนนิ การตอบสนอง
เหตุฉุกเฉินตามที่ได้นิยามไว้ใน “กฎหมายการรักษาความม่ันคงภายในปี
ค.ศ. ๒๐๐๒” (Homeland Security Act of 2002)

การตอบสนองเหตฉุ ุกเฉิน (Emergency Respose)
๔-๘ การตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ เกดิ ขน้ึ เมอ่ื ผตู้ อบสนองเหตทุ ม่ี าจาก

นอกพนื้ ทถ่ี กู สง่ เขา้ ประจำ� การในพน้ื ทที่ เี่ กดิ เหตกุ ารณ์ ในสถานการณท์ ส่ี ง่ ผล
หรือมีแนวโน้มว่าไม่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของสสารอันตรายได้
ส�ำหรับการตอบสนองเหตุการณ์ที่มีการแพร่กระจายสารอันตรายท่ี
ไม่ส่งผลกระทบด้านความปลอดภัยหรือไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ถือว่า
เป็นการตอบสนองเหตุฉุกเฉนิ

๔-๙ หน้าท่ีอื่นๆ ท่ีเป็นตัวอย่างของการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน
ได้แก่ การผจญเพลิง, การบังคับใช้กฎหมาย, การรักษาความปลอดภัย,
การสนบั สนุนทางการแพทย,์ การจัดการเหตุฉกุ เฉนิ , การเก็บกู้และทำ� ลาย
วตั ถุระเบิด และการด�ำเนนิ กจิ การศพผู้เสียชวี ิต

79

การปฏบิ ตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนิวเคลียร์

ผตู้ อบสนองเหตกุ ารณ์ (Responder)
๔-๑๐ ผู้ตอบสนองเหตุการณ์ คชรน. เป็นเจ้าหน้าท่ีทหารและ

พลเรอื นสงั กดั กระทรวงกลาโหมเปน็ ผทู้ ไ่ี ดร้ บั การฝกึ ใหต้ อบสนองเหตกุ ารณ์
คชรน. และได้รับการรับรองการปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัยส�ำหรับ
การตระหนกั ร,ู้ การปฏบิ ตั กิ าร หรอื ระดบั ชำ� นาญการ ซง่ึ เปน็ ไปตามขอ้ บงั คบั
แหง่ รฐั บาลกลาง สหรัฐอเมรกิ า ขอ้ ๒๙ (29 CFR 1910.120) และระเบียบ
ของสมาคมป้องกันอัคคีภัยแหง่ ชาติ (NFPA) ขอ้ ๔๗๒

ผตู้ อบสนองเหตดุ า้ นเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนวิ เคลยี ร์ (ระดบั การตระหนกั ร)ู้
(Chemical, Biological, Radiological and Nuclear Responder
[Awareness level])

๔-๑๑ ผู้ตอบสนองเหตุด้าน คชรน. ในระดับการตระหนักรู้คือ
ก�ำลังพลที่เป็นผู้พบเห็นหรือประสบเหตุการณ์ด้าน คชรน. หรือมีการแพร่
กระจายสารอันตราย และเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกให้เร่ิมล�ำดับการตอบสนอง
เหตุฉุกเฉินด้วยการแจ้งเตือนเจ้าหน้าท่ีผู้มีอ�ำนาจจัดการเหตุการณ์ที่มีการ
ร่ัวไหลแพร่กระจาย ซ่ึงผู้ประสบเหตุไม่ต้องด�ำเนินการใดๆ นอกเหนือ
จากการแจง้ เจา้ หนา้ ทผี่ มู้ อี ำ� นาจ ทง้ั น้ี ผตู้ อบสนองเหตดุ า้ น คชรน. ในระดบั
ตระหนักรู้ควรได้รับการฝึกในระดับท่ีมากพอ หรือมีประสบการณ์ที่แสดง
ใหเ้ ห็นถงึ สมรรถนะ ดงั ต่อไปน้ี

l เข้าใจเก่ียวกับ คชรน. หรือวัตถุอันตราย รวมท้ังความ
เสีย่ งจาก คชรน. หรือจากวตั ถุเหลา่ น้นั เมือ่ เกิดเหตกุ ารณ์

l เข้าใจเก่ียวกับผลกระทบที่เกิดข้ึนพร้อมกับเหตุฉุกเฉิน
ซึ่งอาจยงั คงมวี ตั ถอุ นั ตรายอยู่

80

การปฏิบัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนื่องมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลยี ร์

l รับรู้ว่ามีอันตรายจาก คชรน. หรือวัตถุอันตรายเม่ือ
เกิดเหตุฉกุ เฉนิ

l พิสูจน์ทราบสาร คชรน. หรือวตั ถอุ นั ตราย หากทำ� ได้
l เข้าใจเก่ียวกับบทบาทของผู้ตอบสนองเหตุในระดับ
การตระหนักรู้ ตามแผนการตอบสนองเหตฉุ ุกเฉนิ ของผปู้ ฏิบัตงิ าน รวมทงั้
การรกั ษาความปลอดภยั และการควบคมุ ทเี่ กดิ เหตุ และการปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื
Emergency Response Guidebook (ปี 2012) [กรมควบคุมมลพิษได้
แปลคมู่ อื ฉบบั นโ้ี ดยใชช้ อื่ วา่ “คมู่ อื ระงบั อบุ ตั ภิ ยั เบอื้ งตน้ จากวตั ถอุ นั ตราย”]
ซ่ึงเป็นคู่มือแนะน�ำส�ำหรับผู้สนองเหตุเป็นรายแรกในข้ันต้น ในขณะที่
ตอบสนองเหตกุ ารณ์ดา้ นการขนส่งสนิ คา้ อนั ตราย/วตั ถอุ ันตราย
l ทราบถงึ ความตอ้ งการทรัพยากรเพมิ่ เติม และได้แจ้งไป
ยังศนู ยก์ ารตดิ ต่อสื่อสารได้อย่างถูกตอ้ ง

ผตู้ อบสนองเหตดุ า้ น คชรน. (ระดบั ปฏบิ ตั กิ าร) (Operations Level)
๔-๑๒ ผตู้ อบสนองเหตดุ า้ น คชรน. ในระดบั ปฏบิ ตั กิ ารคอื กำ� ลงั พล

ท่ีปฏิบัติหน้าที่ตอบสนองเหตุที่เกิดจากการแพร่กระจายหรือมีโอกาสเกิด
การแพร่กระจายสาร คชรน. หรือวัตถุอันตราย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ
การตอบสนองในทเ่ี กดิ เหตขุ น้ั ตน้ เพอื่ ป้องกนั บุคคล, ทรัพย์สนิ และสภาพ
แวดล้อมที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่กระจาย
ผตู้ อบสนองเหตเุ หลา่ นไ้ี ดร้ บั การฝกึ การตอบสนองเหตใุ นเชงิ รบั โดยทไ่ี มต่ อ้ ง
พยายามอย่างจริงจังเพ่ือยับยั้งการแพร่กระจาย ส่ิงที่เพิ่มเติมข้ึนมาจาก
การฝกึ ในระดบั ทต่ี ระหนกั รคู้ อื ผทู้ ต่ี อบสนองเหตดุ า้ น คชรน. ในระดบั ปฏบิ ตั กิ าร
ตอ้ งไดร้ บั การฝกึ หรอื มปี ระสบการณเ์ พยี งพอทจี่ ะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ สมรรถนะ
ดงั ต่อไปนี้

81

การปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

l ทราบถึงอันตรายพ้ืนฐานและเทคนิคการประเมิน
ความเสีย่ งดา้ น คชรน.

l ทราบถงึ วธิ กี ารเลอื กและใชย้ ทุ ธภณั ฑป์ อ้ งกนั ตนไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ ง ส�ำหรบั ผู้ตอบสนองเหตใุ นระดับปฏิบัตกิ าร

l เขา้ ใจความหมายพนื้ ฐานเกยี่ วกบั วตั ถอุ นั ตรายและวตั ถุ
คชรน.

l ทราบวธิ กี ารขนั้ พน้ื ฐานในการปฏบิ ตั กิ ารควบคมุ , จดั การ,
ปิดล้อม ภายใต้ขีดความสามารถของทรัพยากรและยุทธภัณฑ์ป้องกันตน
เทา่ ท่มี ีอยูอ่ ัตราของหน่วยของตน

l ทราบถงึ วธิ กี ารดำ� เนนิ การตามขน้ั ตอนการทำ� ลายลา้ งพษิ
ข้นั พนื้ ฐาน

l เข้าใจถึงระเบียบปฏิบัติประจ�ำที่เกี่ยวข้องและข้ันตอน
การปฏบิ ัตเิ ม่อื เสรจ็ ส้นิ ภารกจิ

ผตู้ อบสนองเหตุในระดบั ผู้ช�ำนาญการ (Technician Level)
๔-๑๓ ผู้ตอบสนองเหตุด้าน คชรน. ในระดับผู้ช�ำนาญการคือ

ก�ำลังพลท่ีท�ำหน้าท่ีตอบสนองการแพร่กระจาย หรือมีโอกาสแพร่กระจาย
โดยการยับยัง้ การแพรก่ ระจายสาร คชรน. เหล่าน้นั นอกเหนอื จากการฝกึ
ในระดับการตระหนักรู้และการตอบสนองเหตุในระดับปฏิบัติการแล้ว
ผู้ตอบสนองเหตุในระดบั ผชู้ �ำนาญการ ควรมสี มรรถนะดงั ต่อไปน้ี

l ทราบถงึ วธิ กี ารดำ� เนนิ การตามแผนตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ

82

การปฏบิ ัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนิวเคลยี ร์

l ทราบถงึ วธิ กี ารระบปุ ระเภท, การพสิ จู นท์ ราบ, การตรวจ
สอบวัตถุท่ีทราบแล้วหรือยังไม่ทราบโดยการใช้เครื่องมือและยุทโธปกรณ์
ส�ำรวจที่ใชก้ ันในสนาม

l สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทหน้าที่ตามที่ระบบ
บญั ชาการเหตกุ ารณ์กำ� หนด

l ทราบถึงวิธีการเลือกและใช้ยุทธภัณฑ์ป้องกันตนได้
อยา่ งเหมาะสมในระดบั เชีย่ วชาญ

l ทราบถึงเทคนิคการประเมินอันตรายและการประเมิน
ความเส่ยี ง

l ทราบวธิ กี ารขนั้ กา้ วหนา้ ในการปฏบิ ตั กิ ารควบคมุ , จดั การ,
ปิดล้อม ภายใต้ขีดความสามารถของทรัพยากรและยุทธภัณฑ์ป้องกันตน
เท่าที่มีอยูใ่ นอตั ราของหนว่ ยของตน

l ทราบถึงวิธีการด�ำเนินการตามขั้นตอนของการท�ำลาย
ล้างพษิ

l เขา้ ใจถงึ ข้ันตอนการปฏิบัตเิ ม่ือเสร็จสิน้ ภารกิจ
l เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับศัพท์ทางด้านพิษวิทยา และ
พฤตกิ รรมของสาร คชรน.

สภาพแวดลอ้ มในการตอบสนองเหตกุ ารณ์ (Response Environment)
๔-๑๔ สภาพแวดล้อมในการตอบสนองเหตุการณ์ ได้แก่ การน�ำ

หนว่ ย, การส่ือสาร และขัน้ ตอนการตอบสนอง

83

การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์

บทบาทของกระทรวงกลาโหม (Department of Defense Role)
๔-๑๕ การตอบสนองเหตุการณ์ของกองก�ำลังภายใต้กระทรวง

กลาโหม ซ่ึงตอบสนองเหตุการณ์ภายในประเทศ หรือเป็นการปฏิบัติการ
แกไ้ ขสถานการณใ์ นตา่ งประเทศในบทบาทใหก้ ารสนบั สนนุ ซงึ่ ไมอ่ ยภู่ ายใต้
การก�ำกับของผู้บัญชาการเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม ในสภาพแวดล้อม
การตอบสนองเหตุการณ์ภายใต้การน�ำของกระทรวงกลาโหม ก�ำลังทหาร
จะอยู่ในฐานะท่ีมีบทบาทน�ำ ตัวอย่างเช่น ผู้บัญชาการกองก�ำลังภาคพ้ืน
อาจพัฒนาแผน (กระทรวงกลาโหมมีบทบาทน�ำ) เพ่ือภารกิจการแก้ไข
สถานการณ์ด้าน คชรน. ภายในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบของตน หากจ�ำเป็น
ผู้บัญชาการกองก�ำลังภาคพื้น อาจก�ำหนด และ/หรือจัดตั้งกองก�ำลัง
เฉพาะกิจร่วมเพ่อื แกไ้ ขสถานการณ์ (CM JTF) ซ่งึ กองกำ� ลังเฉพาะกจิ รว่ ม
สามารถปรับเปลี่ยนการจัดเพื่อให้บรรลุผลตามความต้องการจ�ำเพาะ
ส�ำหรับภารกจิ แกไ้ ขสถานการณ์ด้าน คชรน.

การควบคมุ บังคบั บญั ชา (Comand and Control)
๔-๑๖ การควบคมุ บงั คบั บญั ชาประกอบดว้ ยการสอื่ สารในระหวา่ ง

การแจ้งเตือน, การเตือนภัยและการรายงานระหว่างชุดปฏิบัติการต่างๆ,
การตดิ ตอ่ ประสานงาน และอำ� นาจในการตอบสนองเหตกุ ารณใ์ นกรณเี รง่ ดว่ น

การแจง้ เตอื น (Notification)
๔-๑๗ การแจง้ เตอื นภารกจิ ใหก้ ารสนบั สนนุ การแกไ้ ขสถานการณ์

ดา้ น คชรน. เปน็ การดำ� เนนิ กรรมวธิ ผี า่ นชอ่ งทางการบงั คบั บญั ชาทางทหาร
ตามปกติ ส�ำหรับหน่วยท่ีได้รับมอบกิจให้การสนับสนุนมักเริ่มต้นด้วย

84

การปฏิบตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลียร์

ระเบยี บปฏบิ ตั ปิ ระจำ� ของหนว่ ยในทอ้ งถน่ิ นน้ั ๆ โดยทว่ั ไป หนว่ ยมกั ไดร้ บั การ
แจง้ เตอื นเมอ่ื มกี ารจดั ตง้ั ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณฉ์ กุ เฉนิ เรยี บรอ้ ยแลว้
และกองบัญชาการหน่วยทหารมักได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ
อยา่ งเป็นทางการ พร้อมกบั ส่งค�ำสง่ั เตรียม (warning order) ไปยังหน่วย
ท่ีได้รบั มอบกิจให้การสนบั สนนุ
การเตอื นภัยและการรายงาน (Warning and Reporting)

๔-๑๘ ข้ันตอนการเตือนภัยและการรายงานทางทหารยังคงมี
ผลบงั คบั ใช้ สำ� หรบั หนว่ ยทหารภายใตก้ ระทรวงกลาโหม ในขณะที่ให้การ
สนับสนุนการปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจาก คชรน. (ศึกษา
รายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ในคมู่ อื FM 3-11.3/MCWP 3-37.2A/NTTP 3-11.25/
AFTTP (I) 3-2.56) ขน้ั ตอนการรายงานทวั่ ไปเปน็ วธิ กี ารสื่อสารให้ทราบถึง
อนั ตรายสำ� หรบั หนว่ ยของกระทรวงกลาโหมทใ่ี หก้ ารสนบั สนนุ การตอบสนอง
เหตกุ ารณ์สว่ นการรายงานรปู แบบอน่ื ๆผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณอ์ าจกำ� หนดขน้ึ
ในระหว่างการปฏิบัติการตอบสนองเหตุการณ์ และควรมีการประสานงาน
โดยผ่านช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้มั่นใจว่าหน่วยทหารท่ีให้การสนับสนุน
ไดป้ ฏิบัติตาม
การติดตอ่ ประสานงาน (Liaison)

๔-๑๙ การติดต่อประสานงานเป็นการให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
ระหวา่ งหนว่ ยทหารทใี่ หก้ ารสนบั สนนุ กบั ทบ่ี ญั ชาการเหตกุ ารณ์ เพอ่ื ใหม้ น่ั ใจ
วา่ มีการตดิ ต่อกนั ๒ ทางอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ซง่ึ หมายรวมไปถึงขอ้ มูลแผน
และค�ำสัง่ ตา่ งๆ จากผู้บญั ชาการเหตกุ ารณ์ในระดบั ท้องถน่ิ , ระดบั รัฐ และ
ในระดับชาติ ไปจนถึงข้อมูลเชิงสัญลักษณ์อื่นๆ เช่น ข้อตกลงให้ความ
ช่วยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั

85

การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลียร์

อ�ำนาจการตอบสนองเหตกุ ารณ์ในกรณีเรง่ ดว่ น
(Immediate-Response Authority)

๔-๒๐ การตอบสนองเหตุการณ์ในกรณีเร่งด่วน เป็นการปฏิบัติ
การอย่างเร่งด่วนภายในประเทศ เพ่ือช่วยชีวิต, ป้องกันไม่ให้ประชาชน
ได้รับบาดเจ็บ หรือบรรเทาความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทรัพย์สิน
ในการตอบสนองเหตุการณ์ตามท่ีมีการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีวัตถุอันตรายอย่างชัดแจ้ง โดยไม่มีเวลาขออนุมัติ
จากผู้ที่อ�ำนาจสูงกวา่ (ตามคู่มอื เอกสารร่วม JP 3-28)

๔-๒๑ นโยบายของกระทรวงกลาโหมส�ำหรับการปฏิบัติการใน
กรณเี รง่ ดว่ นเพอ่ื ชว่ ยชวี ติ , ปอ้ งกนั ไมใ่ หป้ ระชาชนไดร้ บั บาดเจบ็ และบรรเทา
ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทรัพย์สิน ได้ให้อ�ำนาจแก่ผู้บัญชาการ
หน่วยทหาร หรือเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง
กลาโหม เพื่อด�ำเนินการตอบสนองเหตุการณ์ตามท่ีเจ้าหน้าท่ีฝ่ายพลเรือน
ร้องขอให้มีการสนับสนุนทางทหารในกรณีฉุกเฉิน นโยบายนี้เป็นไปตาม
“กฎหมายสาธารณะ (Public Law) ๙๓-๒๒๘” ซ่ึงรู้จักกันดีในช่ือ
“The Stafford Act” โดยทกี่ ฎหมาย Stafford Act ไดใ้ หอ้ ำ� นาจผบู้ ญั ชาการ
หน่วยทหารเขา้ ด�ำเนนิ การ

l สนับสนุนการตอบสนองเหตุการณ์โดยไม่มีค�ำส่ังหรือ
การกระตุ้นเตือนอย่างเป็นทางการ เมื่อเกิดสถานการณ์เร่งด่วน, มีสภาพ
ร้ายแรง, และไม่มีเวลาเพอ่ื การขออนมุ ตั จิ าก บก.หน่วยเหนอื

l ช่วยชีวิต ป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ หรือ
บรรเทาความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทรัพย์สิน ภายใต้สถานการณ์
เร่งด่วนและมีความร้ายแรง โดยไม่ต้องมีการประกาศของผู้น�ำประเทศ
เก่ียวกับสถานการณ์ภัยพิบัติร้ายแรง การเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ หรือ
สถานการณฉ์ ุกเฉิน

86


Click to View FlipBook Version