การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเนื่องมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนิวเคลยี ร์
๔-๒๒ ในขณะท่ีนโยบายของกระทรวงกลาโหมอนุญาตให้มีการ
ตอบสนองเหตุการณ์ในกรณีเร่งด่วน จ�ำเป็นอย่างย่ิงท่ีผู้บัญชาการหน่วย
ทหารตอ้ งใหข้ อ้ เสนอแนะแกร่ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงกลาโหมผา่ นทางสาย
การบงั คบั บญั ชาหรอื ใชว้ ธิ กี ารอยา่ งอน่ื ดว้ ยความรวดเรว็ เพอื่ ขออนมุ ตั หิ รอื
ขออนญุ าตดำ� เนนิ การเพม่ิ เตมิ หากจำ� เปน็ ถงึ แมว้ า่ การตอบสนองเหตกุ ารณ์
ในกรณีเร่งด่วน อาจอยู่บนหลักการท่ีสามารถเบิกค่าใช้จ่ายทดแทนได้
แต่ไม่ควรท�ำให้เกิดความล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ อันเน่ืองมาจากผู้ร้องขอ
ความช่วยเหลือไม่มีความสามารถ หรือไม่เต็มใจจ่ายเงินชดเชยตามท่ีได้
ท�ำข้อตกลงไว้กับกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการหน่วยทหารต้องหม่ันฝึก
ให้มีความระมัดระวังขั้นสูงสุด หากได้รับเลือกให้ส่งก�ำลังเข้าประจ�ำการ
ภายใต้โอกาสการตอบสนองเหตุการณ์ในกรณีเร่งด่วน การตอบสนอง
เหตกุ ารณใ์ นกรณเี รง่ ดว่ นไมไ่ ดอ้ ยบู่ นหลกั การของขอ้ ตกลงในการชว่ ยเหลอื
ซง่ึ กนั และกนั ในขณะทนี่ โยบายนมี้ คี วามยดื หยนุ่ มากทสี่ ดุ ผบู้ ญั ชาการหนว่ ย
ทหารต้องมั่นใจว่าการส่ังให้กองก�ำลังทหารเข้าประจ�ำการเพ่ือตอบสนอง
เหตกุ ารณ์ในกรณีเร่งด่วนเปน็ หนทางเลือกสดุ ท้าย
ล�ำดบั ข้ันในการตอบสนองเหตกุ ารณ์ (Tiered Response)
๔-๒๓ กองก�ำลังภายใต้กระทรวงกลาโหมท่ีถูกส่งเข้าวางก�ำลัง
ถือว่าเป็นส่วนหน่ึงของล�ำดับขั้นการตอบสนองเหตุการณ์ท่ีมีความยืดหยุ่น
และเปน็ การสนบั สนนุ ทางทหารทไี่ ดป้ รบั เปลยี่ นใหเ้ ปน็ ไปตามการสนบั สนนุ
การตอบสนองเหตุการณใ์ นลำ� ดับขัน้ ท่ี ๑ ขน้ั ที่ ๒ และในขนั้ ที่ ๓ ขอบเขต
และขนาดของการตอบสนองเหตุของหน่วยทหาร มักมุ่งเน้นไปท่ีขีดความ
สามารถเพ่ือให้บรรลุกับความต้องการในการตอบสนองซึ่งมีทรัพยากร
มากกวา่ หนว่ ยงานฝา่ ยพลเรือน (ดรู ายละเอียดเพิ่มเติมจากคู่มือ JP 3-41)
87
การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนิวเคลียร์
การตอบสนองเหตุการณ์ในขน้ั ที่ ๑ (Tier I)
๔-๒๔ โดยปกติแล้ว การตอบสนองเหตุการณ์ในขั้นที่ ๑ เป็น
การตอบสนองเหตกุ ารณข์ นาดเลก็ ซงึ่ อาจเปน็ เหตกุ ารณด์ า้ น คชรน. ในระดบั
ท้องถ่ิน ในสถานการณข์ นั้ ที่ ๑, นายทหารประสานการป้องกันสามารถฝึก
การบัญชาการหน่วยทหารขนาดเล็กเท่าท่ีจ�ำเป็น และยังคงปฏิบัติหน้าท่ี
ไดต้ ามข้ันตอนของภารกิจทีไ่ ด้รับมอบหมาย
การตอบสนองเหตุการณ์ในข้นั ที่ ๒ (Tier II)
๔-๒๕ โดยปกติแล้ว ลักษณะการตอบสนองเหตุการณ์ในข้ันท่ี ๒
มกั เปน็ เหตกุ ารณท์ ตี่ รงกบั เกณฑท์ ร่ี ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงกลาโหมกำ� หนด
ให้ใช้แผนของประธานคณะเสนาธิการร่วม CONPLAN 0500 (ปัจจุบันน้ี
แผนนี้ล้าสมัยแล้ว) และจ�ำเป็นต้องจัดต้ังกองก�ำลังเฉพาะกิจร่วมเพ่ือ
ตอบสนองเหตกุ ารณ์ สำ� หรบั การตอบสนองเหตกุ ารณใ์ นขนั้ ท่ี ๒ มกั ใชห้ นว่ ย
ภายใตก้ ระทรวงกลาโหม อาทิ หนว่ ย, ส่วนแยก, ชุดปฏบิ ัติการ, สิง่ อปุ กรณ์
และยุทโธปกรณพ์ ิเศษนอกเหนือจากหน่วยปกติ
การตอบสนองเหตกุ ารณ์ในขั้นที่ ๓ (Tier III)
๔-๒๖ การตอบสนองเหตุการณ์ในข้ันที่ ๓ มักเกี่ยวข้องกับภาพ
ฉากเหตุการณ์ด้าน คชรน. ที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ซ่ึงส่งผลกระทบ
ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เป็นบริเวณกว้างหรือส่งผลกระทบต่อประชาชน
เป็นจำ� นวนมาก ท้งั นอ้ี าจสง่ ผลคุกคามต่อความม่นั คงของชาตดิ ว้ ย
88
การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์
ข้ันการปฏบิ ตั กิ ารร่วมเพ่อื แกไ้ ขสถานการณ์
(Joint Operational Phases for Consequence Management)
๔-๒๗ การตอบสนองเหตุการณ์ด้าน คชรน. เป็นความพยายาม
ในการจัดหน่วยเพ่ือตอบสนองเหตุการณ์ โดยหน่วยที่ถูกส่งเข้าประจ�ำการ
เพ่ือบรรเทาผลอันตรายท่ีเกิดอย่างฉุกเฉิน จากการจงใจหรือไม่จงใจ
เพ่ือท�ำให้เกิดการแพร่กระจายสาร คชรน. ผู้อ�ำนวยการส่วนสนับสนุน
ทางทหารรว่ ม ซง่ึ อยภู่ ายในกรมยทุ ธการ ฝา่ ยอำ� นวยการรว่ ม เปน็ ผอู้ อกคำ� สงั่
ทางทหารทส่ี อดคลอ้ งกบั เหตฉุ กุ เฉนิ ภายในประเทศกรมยทุ ธการฝา่ ยอำ� นวยการ
ร่วม เสนอค�ำสั่งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อลงนามอนุมัติ
แล้วแจกจ่ายค�ำส่ังน้ันไปยัง ผบ.หน่วยทหารเพื่อน�ำไปปฏิบัติ ทั้งน้ีควรเร่ิม
ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิ ๖ ขัน้ เมอื่ มีการรอ้ งขอรบั การสนับสนนุ จากหนว่ ยงาน
ทม่ี บี ทบาทนำ� หรอื หนว่ ยงานหลกั อน่ื ๆ โดยปกตแิ ลว้ การตอบสนองเหตกุ ารณ์
ควรเริม่ ด�ำเนนิ การตามลำ� ดบั ขัน้ ดังน้ี
l ขัน้ ท่ี ๑ หน่วยงานที่มีบทบาทน�ำหรือหน่วยงานหลัก
อน่ื ๆ ส่งค�ำร้องขอรับการสนับสนุน
l ขั้นท่ี ๒ ค�ำร้องขอรับการสนับสนุนจะถูกส่งไปยัง
รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงกลาโหม เพอ่ื ประเมนิ ผลและด�ำเนนิ กรรมวิธี
l ขนั้ ท่ี ๓ ค�ำร้องขอรับการสนับสนุนได้รับการด�ำเนิน
กรรมวิธีและส่งไปยังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (ฝ่ายป้องกัน
ประเทศ) และไปยังผู้อำ� นวยการส่วนสนับสนนุ ทางทหารรว่ ม
l ข้ันที่ ๔ ผู้อ�ำนวยการส่วนสนับสนุนทางทหารร่วม
จดั ทำ� คำ� สงั่
89
การปฏบิ ัติการแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนวิ เคลียร์
l ขั้นที่ ๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอนมุ ตั ิคำ� สัง่
l ขัน้ ที่ ๖ ผู้อ�ำนวยการส่วนสนับสนุนทางทหารร่วม
แจกจา่ ยคำ� สง่ั ไปยงั ผบู้ ญั ชาการทหารหนว่ ยรบ, หนว่ ยบรกิ าร และหนว่ ยอน่ื ๆ
ทเี่ หมาะสม
การรอ้ งขอรบั การสนับสนุน (Request for Support)
๔-๒๘ เม่ือเกิดเหตุการณ์ด้าน คชรน. หน่วยงานท่ีมีบทบาท
น�ำได้รับและจัดท�ำค�ำขอรับการสนับสนุน กระทรวงกลาโหมได้รับกิจให้
จดั สรรทรพั ยากรเพอื่ ใหก้ ารสนบั สนนุ ถงึ แมว้ า่ กจิ ทห่ี นว่ ยไดร้ บั อาจมลี กั ษณะ
จ�ำเพาะ หน่วยท่ีร้องขอรับการสนับสนุนอาจถามถึงขีดความสามารถเพื่อ
ต้องการทราบถึง สิง่ ทีข่ าดแคลน สำ� หรับรายชอื่ หนว่ ยและ/หรือการปฏิบตั ิ
ทส่ี ามารถใหก้ ารสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์อันเนอื่ งมาจาก คชรน. ได้
แสดงไวใ้ น ผนวก ค
๔-๒๙ หน่วยงานทมี่ ีบทบาทน�ำอาจมีการใชแ้ บบค�ำรอ้ งขอรบั การ
สนบั สนนุ ทก่ี ำ� หนดขนึ้ เพอื่ ใหก้ ระบวนการรอ้ งขอรบั การสนบั สนนุ ดำ� เนนิ ไป
อยา่ งรวดเรว็ กอ่ นการเรมิ่ จดั ทำ� แบบคำ� รอ้ งขอรบั การสนบั สนนุ ผทู้ จี่ ดั เตรยี ม
แบบคำ� รอ้ งขอควรพจิ ารณาวา่ มหี นว่ ยงานระดบั ชาตหิ นว่ ยใดทม่ี ขี ดี ความสามารถ
ทม่ี ีลักษณะจ�ำเพาะตรงตามความต้องการ
๔-๓๐ เนื่องจากแบบค�ำขอรับการสนับสนุนสามารถช่วยลด
ในเรื่องของเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ ดังน้ัน ผู้ที่จัดเตรียมแบบ
คำ� ร้องขอรบั การสนบั สนุน ควรจัดเรยี งล�ำดบั ขดี ความสามารถที่สอดคลอ้ ง
กับเหตุการณ์ เมื่อเริ่มจัดเตรียมแบบค�ำขอรับการสนับสนุนควรพิจารณา
ถงึ ปัจจยั ตา่ งๆ ดงั นี้
90
การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์
l ขีดความสามารถท่ีมีลักษณะจ�ำเพาะของหน่วยให้การ
สนบั สนนุ
l ขดี ความสามารถในการชว่ ยชวี ติ ของหนว่ ยใหก้ ารสนบั สนนุ
l หน่วยที่มีขีดความสามารถอาจช่วยลดขอบเขต ระดับ
ความรนุ แรง และ/หรอื ผลกระทบจากเหตกุ ารณ์ได้
การเตรียมพร้อม (Alert)
๔-๓๑ เมื่อได้รบั การแจ้งถึงภารกจิ การตอบสนองเหตดุ ้าน คชรน.
แลว้ ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารสนบั สนนุ กจิ ทางทหารเรมิ่ ขน้ั ตอนการเตรยี มพรอ้ มในทต่ี งั้
และเตรียมการเพื่อส่งก�ำลังเข้าประจ�ำการในที่เกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชา
และฝา่ ยอำ� นวยการรวบรวมขอ้ มลู ทจี่ ำ� เปน็ เพอื่ เตรยี มความพรอ้ มของหนว่ ย
สำ� หรบั ความพยายามสนับสนุนการตอบสนองเหตกุ ารณ์
การสง่ กำ� ลังเขา้ ประจำ� การ (Deploy)
๔-๓๒ การส่งกำ� ลังเข้าประจำ� การ เปน็ ความจ�ำเปน็ ทีต่ ้องมหี น่วย
สนับสนุนทางทหารในเวลาอันเหมาะสมซ่ึงเป็นปัจจัยส�ำคัญอันจะน�ำไปสู่
ความส�ำเร็จ การจัดตั้งฐานปฏิบัติการให้การสนับสนุนซึ่งอาจด�ำเนินการ
ในข้ันการเตรียมพร้อม หรือในห้วงการเปลี่ยนผ่านในระหว่างข้ันนี้ถือเป็น
ข้อพิจารณาที่ส�ำคัญ หน่วยตอบสนองเหตุด้าน คชรน. ท่ีได้รับค�ำส่ังจาก
หน่วยแม่และจากเหล่าทัพ มีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานและ
ปฏิบัติการเพื่อการด�ำเนินการวางก�ำลังในขั้นต้น รวมไปถึงการเคลื่อนย้าย
ไปยังสถานีขนถ่ายและการปฏิบัติที่สถานีขนถ่ายและการเคล่ือนย้าย
91
การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลียร์
ให้มาถึงสถานีขนถ่าย การเข้าประจ�ำการจะสิ้นสุดลงเมื่อกองก�ำลังทหาร
ของกระทรวงกลาโหมได้ด�ำเนินการระวังป้องกันโดยรอบที่ตั้งใหม่ของ
หน่วยตนเรียบร้อยแล้ว และผู้บัญชาการหน่วยทหารที่ให้การสนับสนุน
ตรวจสอบความพร้อมของกองก�ำลังท่ีเข้าปฏิบัติภารกิจ ข้อพิจารณา
ในการสง่ กำ� ลังเขา้ ประจ�ำการ มีดังนี้
l ใช้รูปแบบการขนส่งทั้งหมดท่ีอยู่ เพ่ือสนับสนุนการ
วางก�ำลังหน่วยทหารท่ีให้การตอบสนองการแก้ไขสถานการณ์อันเน่ือง
มาจาก คชรน.
l จดั ลำ� ดบั ขนั้ การเคลอื่ นยา้ ยหนว่ ยตอบสนองเหตกุ ารแกไ้ ข
สถานการณอ์ นั เน่อื งมาจาก คชรน. เพอ่ื วา่ ขดี ความสามารถดา้ นการขนสง่
จะไม่คบั คั่งมากจนเกินไป
l จดั ลำ� ดบั ความเรง่ ดว่ นในการเคลอื่ นยา้ ยหนว่ ยตอบสนอง
เหตุการแกไ้ ขสถานการณอ์ ันเนือ่ งมาจาก คชรน.
l ให้วัคซีนป้องกันโรคแก่ก�ำลังพลของหน่วยตอบสนอง
เหตุการแก้ไขสถานการณอ์ ันเนอ่ื งมาจาก คชรน. เพ่อื ปอ้ งกันไม่ใหร้ ั้งหนว่ ง
ลักษณะการตอบสนองเหตุโดยไมจ่ �ำเปน็
l มนั่ ใจวา่ หนว่ ยไดบ้ รรลถุ งึ มาตรฐานการสนบั สนนุ บรกิ าร
สุขภาพที่ก�ำหนดขึ้น ส�ำหรับการปฏิบัติการก่อนการเข้าวางก�ำลังในพื้นที่
ปฏิบัติการ
l ประสานกบั หนว่ ยฐานทห่ี นว่ ยใหก้ ารสนบั สนนุ เพอื่ รอรบั ,
พักรอ, การเคลือ่ นยา้ ยไปขา้ งหน้า และการปฏิบัตกิ ารในเชงิ บูรณาการ
92
การปฏิบตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลยี ร์
การเปลีย่ นผา่ น (Transition)
๔-๓๓ การเปล่ียนผ่านครอบคลุมไปถึงกิจทั้งหมดที่ยังค้างอยู่ ซึ่ง
ชุดปฏิบัติการตอบสนองเหตุของกระทรวงกลาโหมต้องปฏิบัติให้เสร็จส้ิน
ก่อนการปฏิบัติการถอนกำ� ลัง การปฏบิ ัตกิ ารเปลยี่ นผา่ นจะได้อธบิ ายอย่าง
ละเอยี ดในบทที่ ๕
การถอนกำ� ลงั (Redeployment)
๔-๓๔ การถอนกำ� ลงั หนว่ ยทหารทใ่ี หก้ ารสนบั สนนุ มกั เปน็ ไปตาม
การส่ังการของผู้บัญชาการหน่วยทหาร การถอนก�ำลังจะได้อธิบายโดย
ละเอียดในบทที่ ๕
การตอบสนองเหตกุ ารณ์ดา้ นเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลียร์
(Chemical, Biological, Radiological and Nuclear Response)
๔-๓๕ การปฏิบัติการตอบสนองเหตุการณ์จะเร่ิมข้ึนหลังจาก
เกดิ เหตกุ ารณไ์ ปแลว้ มาตรการตอบสนองเหตุ ไดแ้ ก่ การตอบสนองเหตเุ ปน็
รายแรกและการตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ , การจดั ตงั้ ระบบบญั ชาการเหตกุ ารณ,์
การบังคับใช้มาตรการควบคุมท่ีจ�ำเป็น และการปฏิบัติหน้าที่ที่จ�ำเป็นต่อ
ภารกจิ ซึง่ เกิดขน้ึ ภายในเขตที่มกี ารควบคมุ อันตราย
ส่ิงบอกเหตุ (Triggering Incident)
๔-๓๖ สงิ่ บอกเหตุ หมายถงึ เหตกุ ารณเ์ รมิ่ ปรากฏขน้ึ หรอื เหตกุ ารณ์
ได้พฒั นาการไปตามลำ� ดับ สง่ ผลให้มกี ารปฏบิ ตั ิการตอบสนอง สิ่งบอกเหตุ
มีส่วนช่วยในการตัดสินใจว่าเม่ือไรจึงจะเร่ิมการตอบสนองเหตุการณ์
93
การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์
สิ่งบอกเหตุอาจได้รับการตอบสนองโดยทันทีจากกระทรวงกลาโหม (เม่ือ
เป็นไปตามเง่ือนไขที่ก�ำหนด) หรือการตอบสนองอาจถูกชะลอไว้เนื่องจาก
ต้องมีการตรวจสอบค�ำร้องขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหม
เสยี กอ่ น ขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากสงิ่ บอกเหตมุ สี ว่ นชว่ ยสนบั สนนุ การประเมนิ เหตกุ ารณ์
ทดี่ ำ� เนนิ การอยา่ งตอ่ เนอื่ งและสง่ ผลตอ่ การปฏบิ ตั กิ ารตอบสนองทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ
การปฏบิ ตั กิ ารตอบสนองทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพยอ่ มผลกั ดนั ใหข้ นั้ การปฏบิ ตั กิ าร
ฟื้นฟูมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซ่ึงจะจ�ำกัดความรุนแรงของเหตุการณ์ในการ
ปฏิบัติการ และช่วยลดจ�ำนวนผู้ได้รบั บาดเจบ็ ทัง้ หมดลงไปได้
๔-๓๗ สง่ิ บอกเหตจุ ากเครอ่ื งมอื ตรวจเกดิ ขน้ึ เมอ่ื เครอ่ื งมอื ตรวจพบ
การมอี ยขู่ องสาร คชรน. ทป่ี นเปอ้ื นในสิง่ แวดล้อม เครอ่ื งมอื ตรวจออกแบบ
มาให้สามารถตรวจสาร คชรน. ได้บางประเภทเท่านั้น เน่ืองจากข้อจ�ำกัด
ในเรอื่ งของความไวตอ่ สาร คชรน. ของเครอ่ื งมอื ตรวจ และมคี วามเปน็ ไปได้
ในการแสดงผลการตรวจเป็นผลบวกลวง (false-positive) และผลลบลวง
(false-negative)
๔-๓๘ ส่ิงบอกเหตุจากการใช้อาวุธ หมายถึงการโจมตีด้วยระบบ
อาวธุ อยา่ งฉบั พลนั (เชน่ ขีปนาวุธโจมตีในระดับยุทธบรเิ วณ ลกู ระเบดิ พวง
และปนื ใหญท่ บ่ี รรจสุ าร คชรน.) หากขา่ วกรองบง่ ชวี้ า่ ฝา่ ยตรงขา้ มมขี ดี ความสามารถ
ด้านอาวุธ คชรน. เม่ือมีการใช้อาวุธในบริเวณที่มีภัยคุกคามสูงมักเริ่ม
ด้วยการโจมตีจากสารที่ไม่ทราบชนิด (unknown agent) กระบวนการ
ตรวจสอบการโจมตีอาจได้มาจากการเตือนภัยการโจมตี การแจ้งเตือน
ภัยจากเคร่ืองตรวจ หรือตรวจพบเหตุการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธ
ในระหวา่ งการโจมตหี รอื เพง่ิ ผา่ นการโจมตี เจา้ หนา้ ทร่ี ะดบั สงู ควรตรวจสอบ
ดวู า่ เปน็ การโจมตดี ว้ ยอาวธุ คชรน. หรอื ไม่ โดยเนน้ ไปทกี่ ารรเิ รมิ่ ดำ� เนนิ การ
94
การปฏบิ ตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนวิ เคลียร์
ทันทีในการตรวจหา เฝ้าสังเกตการณ์ หรือตรวจหาสิง่ บอกเหตอุ ่ืน ๆ ท่ีบง่ ช้ี
ถึงการโจมตี ก่อนท่ีจะพบผู้บาดเจ็บล้มตายจ�ำนวนมากท่ีอาจเกิดขึ้น
ในระหว่างการโจมตีซ่งึ เป็นการช่วยรกั ษาชวี ติ ผู้คนเอาไวไ้ ด้
๔-๓๙ การเฝ้าระวังทางการแพทย์เป็นวิธีการแรกในการตรวจพบ
เหตกุ ารณด์ า้ น คชรน. โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในกรณที ม่ี ผี ทู้ ำ� หนา้ ทเ่ี วรยามเกดิ
การเจบ็ ปว่ ยหลงั จากพบวา่ มกี ารลกั ลอบการโจมตดี ว้ ยอาวธุ ชวี ะการเจบ็ ปว่ ย
ของผทู้ ำ� หนา้ ทเ่ี วรยาม-เปน็ สงิ่ บอกเหตทุ ห่ี มายถงึ การตรวจพบของเจา้ หนา้ ท่ี
ทางการแพทย์ในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสารชีวะหรือโรคติดเชื้อ โดยการ
ประเมนิ แนวโนม้ ลกั ษณะอาการทางการแพทยใ์ นหมกู่ ำ� ลงั พลหรอื การวนิ จิ ฉยั
จากผู้ปว่ ยต้นปญั หา (index case) การปฏิบตั กิ ารตอบสนองอยบู่ นพ้ืนฐาน
จากการเจ็บป่วยของผู้ท�ำหน้าที่เวรยาม ซ่ึงอาจเริ่มต้นได้ดีที่มุ่งตรงไปยัง
วงจรการพฒั นาการของเชื้อโรค การเฝ้าระวงั ทางการแพทย์ในระดับสูงสุด
อาจดำ� เนนิ การผา่ นทางเครอื ขา่ ยเฝา้ ระวงั ทางการแพทยใ์ นระดบั ยทุ ธบรเิ วณ
ซึ่งการระบาดวิทยามุ่งเน้นไปที่การติดตามลักษณะอาการทางการแพทย์
ใหค้ รอบคลมุ ทว่ั ทัง้ เขตยทุ ธบริเวณ
๔-๔๐ สงิ่ บอกเหตจุ ากขา่ วกรอง เมอ่ื ผบู้ งั คบั บญั ชาไดร้ บั ขา่ วกรอง
ที่บ่งช้ีว่าฝ่ายตรงข้ามมีขีดความสามารถด้านอาวุธ คชรน. เชิงรุก น่ันคือ
มกี ารดำ� เนนิ การคกุ คามดว้ ยวธิ กี ารไมป่ กตอิ นั เกยี่ วขอ้ งกบั การใชส้ าร คชรน.
หรืออาจเปน็ การโจมตีเป้าหมายจ�ำเพาะเจาะจงด้วยอาวุธ คชรน. การเตอื น
ภัยด้านการข่าวเป็นการแจ้งให้ทราบถึงส่ิงบอกเหตุท่ีท�ำให้ผู้บังคับบัญชา
มโี อกาสทีด่ ที สี่ ุดเพื่อเตรยี มการตอบสนอง
95
การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนิวเคลียร์
การตอบสนองเป็นรายแรกและการตอบสนองเหตฉุ กุ เฉิน
(First and Emergency Responses)
๔-๔๑ จากพื้นฐานของการประเมินในขั้นต้นและการประเมิน
ในลำ� ดบั ตอ่ มา การตอบสนองเหตกุ ารณด์ า้ น คชรน. สามารถปรบั เปลยี่ นไป
ตามโอกาสและขนาดของสถานการณ์ และขึ้นอยู่กับหน่วยตอบสนองเหตุ
ทีไ่ ดร้ ับการรอ้ งขอ ซึ่งเป็นไปตามความเหมาะสม
๔-๔๒ ผู้ตอบสนองเหตุเป็นรายแรกคือ เจ้าหน้าที่ต�ำรวจประจ�ำ
ท้องถิ่น, พนักงานดับเพลิง และเจ้าหน้าท่ีผจญเหตุฉุกเฉิน ซึ่งมักประสบ
และพบเห็นการแพร่กระจายสาร คชรน. และได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าท่ีที่
รบั ผดิ ชอบในการแพรก่ ระจายตามความเหมาะสม ผตู้ อบสนองเหตเุ ปน็ รายแรก
จะใชท้ รพั ยากร (ตามทร่ี ะบไุ วใ้ น “คมู่ อื ระงบั อบุ ตั ภิ ยั เบอ้ื งตน้ จากวตั ถอุ นั ตราย”:
เป็นคู่มือเบ้ืองต้นส�ำหรับผู้ตอบสนองเหตุเป็นรายแรก เมื่อเกิดเหตุการณ์
ในระหว่างการขนส่งสินค้า/วัตถุอันตราย) เพื่อตรวจพิสูจน์ทราบอันตราย
ทเี่ กิดขึ้นและหาขอบเขตควบคุมอนั ตราย โดยท่ีเขตนีไ้ ด้นำ� ไปเป็นสว่ นหนึ่ง
ของขอ้ พจิ ารณาเก่ยี วกบั วตั ถุ คชรน. การคกุ คามตอ่ ประชาชนและต่อพน้ื ที่
และสภาพอากาศ ความพยายามของชุดปฏิบัติการตอบสนองเป็นรายแรก
ท่ีมาถึงที่เกิดเหตุ คือการควบคุมเขตอันตรายและไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป
โดยไม่ได้รบั อนุญาตจากทีบ่ ญั ชาการเหตกุ ารณ์เสยี กอ่ น
๔-๔๓ การตอบสนองเหตุฉุกเฉิน เป็นการด�ำเนินการของ
ผู้ตอบสนองเหตุที่ผ่านการฝึก ซ่ึงมาจากนอกพ้ืนท่ีที่เกิดการแพร่กระจาย
การตอบสนองเหตุด้าน คชรน. ด�ำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ทหารท่ีท�ำหน้าท่ี
ตอบสนองเหตดุ า้ น คชรน. ทม่ี ีความเชย่ี วชาญเฉพาะทาง เช่น การท�ำลาย
ล้างพิษ การประเมินที่เกิดเหตุ การวางแผนตอบสนอง และการควบคุม
บังคบั บัญชา
96
การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลยี ร์
ผทู้ ำ� หน้าท่ีแรกรับผู้ป่วย (First Receivers)
๔-๔๔ บุคลากรที่ท�ำหน้าท่ีดูแลด้านสุขภาพ ณ สถานพยาบาล
ท่ีก�ำหนดให้เป็นที่แรกรับผู้ป่วยเปื้อนพิษเข้ารักษา ก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่
ตอบสนองเหตกุ ลมุ่ ยอ่ ยดว้ ยเชน่ กนั (นกั ผจญเพลงิ เจา้ หนา้ ทบ่ี งั คบั ใชก้ ฎหมาย
ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารจดั การวตั ถอุ นั ตราย และเจา้ หนา้ ทบ่ี รกิ ารประจำ� รถพยาบาล)
ผู้ตอบสนองเหตุส่วนใหญ่จะปฏิบัติงานในบริเวณท่ีเกิดเหตุการณ์ (บริเวณ
ทเ่ี กดิ การแพร่กระจายรัว่ ไหล) ซ่ึงแตกต่างจากค�ำนยิ ามสำ� หรบั ผูท้ ่ที �ำหนา้ ที่
แรกรับผู้ป่วย น่ันคือข้อสันนิษฐานท่ีว่าโรงพยาบาลไม่ได้ต้ังอยู่ในบริเวณ
ทเ่ี กดิ เหตุ แตอ่ ยคู่ อ่ นขา้ งหา่ งไกลจากสถานทท่ี เ่ี กดิ การแพรก่ ระจายสารอนั ตราย
(รายละเอียดเพ่ิมเติมอ้างอิงจาก OSHA “แนวการปฏิบัติท่ีดีท่ีสุดส�ำหรับ
โรงพยาบาล-เป็นฐานแรกรับผู้ป่วยจากเหตุท่ีมีผู้บาดเจ็บจ�ำนวนมาก
ซง่ึ เกีย่ วขอ้ งกับการแพรก่ ระจายสสารอันตราย” [OSHA Best Practices
for Hospital-Based First Receivers of Victims From Mass Casualty
Incidents Involving the Release of Hazardous Substances])
ระบบบญั ชาการเหตกุ ารณใ์ นขั้นต้น
(Incident Command System Initiation)
๔-๔๕ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการใช้ระบบการบัญชาการ
เหตุการณ์ ผู้ตอบสนองเหตุอาวุโสมากท่ีสุดในบริเวณท่ีเกิดเหตุ ซึ่งเป็น
ผู้ท่ีมีประสบการณ์ส�ำหรับเหตุการณ์ในแต่ละประเภท เป็นผู้รับผิดชอบ
ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ โดยที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์รับผิดชอบ
ในการสง่ั การ ประเมนิ จดั ลำ� ดบั ความเรง่ ดว่ น และควบคมุ การใชท้ รพั ยากร
โดยอาศยั อำ� นาจของกฎหมาย อำ� นาจขององคก์ ร หรอื การไดร้ บั มอบอำ� นาจ
97
การปฏิบตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์
ในขณะท่ีการตอบสนองเหตุได้พัฒนาไปบทบาทของผู้บัญชาการเหตุการณ์
ได้เปล่ียนไปให้ผู้ตอบสนองเหตุที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าท่ีเพ่ิงเข้ามาถึง
ที่เกิดเหตุหรือเป็นผู้ท่ีได้รับการแต่งต้ังมาท�ำหน้าท่ี รายละเอียดเพ่ิมเติม
เกี่ยวกับหน้าที่ของผู้บัญชาการเหตุการณ์ สามารถศึกษาได้จากคู่มือ
TM 3-11.42/MCWP 3-38.1/NTTP 3-11.36/AFTTP 3-2.83 หรือ
จาก “กรอบการตอบสนองเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ” (ในรูปที่ ๔-๒ แสดงถึง
โครงสรา้ งการจัดทบ่ี ัญชาการเหตกุ ารณ์)
การบังคบั บัญชา เจา้ หน้าท่ี ผบ.เหตกุ ารณ์ เจา้ หนา้ ที่
ประชาสัมพันธ์ เจา้ หน้าท่ี ประสานงาน
ความปลอดภยั
ส่วนปฏิบัติการ ส่วนแผน ส่วนสง่ ก�ำลังบำ� รงุ สว่ นธรุ การ/การเงนิ
เหลา่ ทพั งานทรัพยากร งานส่งกำ� ลัง สป. งานการเรียกร้อง
กองพล/กรม งานสถานการณ์ งานสง่ ก�ำลงั อาหาร คา่ เสยี หาย/ค่าชดเชย
แหลง่ ทรพั ยากร งานการถอนก�ำลัง
งานจัดทำ� เอกสาร/ งานสนับสนุน งานจดั หา
คู่มือผเู้ ชีย่ วชาญ ทางภาคพ้นื ดนิ งานประเมินคา่ ใชจ้ า่ ย
งานการส่อื สาร
ทางเทคนคิ งานส่ิงอ�ำนวย งานประเมนิ เวลา
ความสะดวก
แพทย์/การรกั ษา
รปู ท่ี ๔-๒ โครงสรา้ งการบงั คับบัญชาของระบบบญั ชาการเหตุการณ์
98
การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอ่ื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนิวเคลียร์
การประเมนิ สถานท่ี (Site Assessment)
๔-๔๖ ถึงแม้ว่าผู้บัญชาการจะเร่ิมการประเมินสถานที่ ซึ่งอาจ
ด�ำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนท่ีหน่วยทหารตอบสนองเหตุจะเดินทางมาถึง
ท่ีเกิดเหตุ การประเมินเป็นกระบวนการท่ีด�ำเนินการอย่างต่อเน่ือง
การประเมินสถานทเี่ กดิ เหตุอาจต้องคำ� นงึ ปจั จัยหลายประการ รวมไปถงึ
l สภาพอากาศ
l สภาพภูมปิ ระเทศ
l โครงสรา้ งพน้ื ฐาน
l คณุ ลกั ษณะของสาร(สภาพความไวไฟ,สภาพความเปน็ พษิ ,
สภาพการกดั กร่อน, สภาพการแผร่ ังสี และระดับกา๊ ซออกซเิ จน)
l ขดี ความสามารถของหน่วยตอบสนอง
l ภาระการปฏิบัติงาน
l เวลา
l ก�ำหนดเส้นตาย
๔-๔๗ งานอ่นื ๆ ที่สนับสนนุ การประเมนิ ซึ่งรวมไปถงึ การตรวจหา
การตรวจพิสูจน์ทราบ และการเฝ้าระวังสาร คชรน. ผลจากการตรวจหา
การตรวจพสิ จู น์ทราบ และการเฝ้าระวัง เปน็ การสนับสนุนการพิสจู นท์ ราบ
อันตรายที่มีลักษณะจ�ำเพาะรวมทั้งเป็นการตรวจสอบขอบเขตและระดับ
การเป้ือนพษิ ดว้ ย
๔-๔๘ การสนบั สนุนการประเมินด้านอ่นื ๆ ในระหวา่ งการปฏิบตั ิ
การตอบสนอง อาจได้มาจากหน่วยงานระดับชาตทิ ่ีให้การสนบั สนนุ บรกิ าร
ความเชีย่ วชาญทางด้านเทคนคิ
99
การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์
มาตรการควบคมุ (Control Measures)
๔-๔๙ ผู้บัญชาการเหตุการณ์เป็นผู้ก�ำหนดมาตรการควบคุม เพื่อ
ปอ้ งกนั และลดการแพรก่ ระจายการเปอ้ื นพษิ การบาดเจบ็ หรอื การเสยี ชวี ติ
ของมนษุ ย์ ความเสยี หายตอ่ สภาพแวดลอ้ ม และความเสยี หายตอ่ ทรพั ย์สนิ
ที่เกิดจากการแพร่กระจายหรือมีโอกาสแพร่กระจายของสาร คชรน. หรือ
วัตถุอันตราย มาตรการควบคุมทั้งปวงมีการประสานและควบคุมผ่านทาง
ผู้บัญชาการเหตุการณ์ จุดศูนย์รวมข้อมูลส�ำคัญ (เช่น ข้อมูลเก่ียวกับการ
มอี ยขู่ องสาร คชรน. หรือระดับขดี จำ� กัดสงู สดุ สำ� หรบั การได้รับสาร คชรน.)
ผู้บัญชาการเหตุการณ์ควรตรวจสอบระดับการป้องกัน ซึ่งใช้สวมใส่หรือ
มีพรอ้ มไวส้ �ำหรับการใชง้ านในแตล่ ะเขตควบคมุ อนั ตราย มาตรการควบคมุ
อ่ืน ๆ อาจได้แก่
l ยุทธภัณฑ์ป้องกันตน (PPE) จากการพิจารณาด้าน
อันตรายและสภาพอันตรายในขณะนั้น ผู้บัญชาการเหตุการณ์จะใช้การ
ปฏิบัติการต่อเหตุฉุกเฉินและมั่นใจว่ายุทธภัณฑ์ป้องกันตนมีการสวมใส่
เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ท่ีคาดว่ามีอันตราย ตัวอย่างเช่น ผู้ตอบสนองเหตุ
ทม่ี สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั การปอ้ งกนั คชรน. และตอบสนองเหตฉุ กุ เฉนิ อาจไดร้ บั
ปริมาณสารอันตรายที่ประมาณการได้ ต้องสวมใส่เคร่ืองแต่งกายป้องกัน
แบบมีแรงดันภายในสูงกว่าแรงดันภายนอก พร้อมกับมีเครื่องช่วยหายใจ
(SCBA) ซง่ึ ผตู้ อบสนองเหตตุ อ้ งสวมใสเ่ ครอื่ งแตง่ กายลกั ษณะนตี้ อ่ ไปจนกวา่
ผู้บัญชาการเหตุการณ์หรือผู้ท่ีได้แต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัย
ได้ตรวจสอบแล้วว่าการลดระดับการป้องกันระบบทางเดินหายใจแล้ว
จะไมท่ ำ� ให้ไดร้ บั อันตราย
100
การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่ืองมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนวิ เคลยี ร์
l การจำ� กดั การเขา้ -ออกพนื้ ท่ี ผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณจ์ ำ� กดั
จ�ำนวนก�ำลังพลผู้ตอบสนองเหตุ ที่ผ่านเข้าไปสัมผัสหรือมีโอกาสสัมผัส
เหตกุ ารณ์หรือบรเิ วณทม่ี อี นั ตราย กำ� ลงั พลถกู จ�ำกัดใหแ้ ต่เฉพาะผทู้ ป่ี ฏบิ ตั ิ
หน้าที่ตอบสนองเหตุฉุกเฉินเท่าน้ัน อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการในพื้นท่ี
ที่มีอันตรายมักด�ำเนินการโดยใช้ระบบเพื่อนคู่หู (buddy system) โดย
กลมุ่ หนึ่งอาจมีสองคนหรือมากกว่าน้ันกไ็ ด้
l การควบคุมการเปื้อนพิษ ผู้บัญชาการเหตุการณ์เร่ิม
ปฏิบัติการควบคุมการเปื้อนพิษในเชิงรับเพ่ือจ�ำกัดการแพร่กระจายการ
เปอ้ื นพษิ วธิ กี ารนรี้ วมไปถงึ การปอ้ งกนั โอกาสทกี่ ำ� ลงั พลจะเกดิ การเปอ้ื นพษิ
เม่ือออกจากบริเวณท่ีเกิดเหตุโดยไม่ให้เปื้อนพิษ การควบคุมน�้ำท่ีระบาย
ออกมาจากการท�ำลายล้างพิษ และเรม่ิ การท�ำลายล้างพษิ แบบฉกุ เฉิน
l การรักษาความปลอดภัยสถานท่ีเกิดเหตุ ผู้บัญชาการ
เหตุการณ์ต้องมั่นใจว่าได้ด�ำเนินการด้านความปลอดภัยแก่สถานที่เกิดเหตุ
ท่ีก�ำหนดข้ึนอย่างเป็นทางการ การรักษาความปลอดภัยสถานท่ีเกิดเหตุ
ดว้ ยการกำ� หนดแนวเขตรกั ษาความปลอดภยั พรอ้ มกบั ควบคมุ การเขา้ -ออก
เพ่ือป้องกันไม่ให้ก�ำลังพลเข้าไปในพ้ืนท่ีเปื้อนพิษจ�ำนวนมากเกินไป อีกท้ัง
ป้องกันบรรดาสื่อมวลชนและกลุ่มประชาชนที่เฝ้าสังเกตการณ์ไม่ให้เข้าไป
กีดขวางการปฏบิ ัตงิ านของผู้ตอบสนองเหตุ
l การท�ำลายล้างพิษ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ควบคุมการ
ปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษในรูปแบบต่างๆ ที่มีการด�ำเนินการภายในช่อง
เสน้ ทางการทำ� ลายลา้ งพษิ ดังตอ่ ไปน้ี
การท�ำลายล้างพิษฉุกเฉิน (Emergency Decon-
tamination)
101
การปฏบิ ัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชีวะ รงั สแี ละนวิ เคลียร์
การทำ� ลายลา้ งพิษตามขน้ั ตอนทางเทคนคิ
(Technical Decontamination)
การทำ� ลายลา้ งพิษผู้ป่วยจ�ำนวนมาก (MCD)
l เขตควบคมุ อนั ตราย ผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณพ์ สิ จู นท์ ราบ
และกำ� หนดเขตควบคมุ อนั ตราย รวมไปถงึ การกำ� หนดเขตแยกกกั กนั ในขน้ั ตน้
(initial-isolation zone) และเขตปฏิบัติเพ่ือการป้องกัน (protective-
action zone) (ดูในรูปที่ ๔-๓), เขตอนั ตราย (hot zone), เขตเฝา้ ระวัง
(warm zone) และเขตปลอดภยั (cold zone) (ดูในรูปท่ี ๔-๔) ซึง่ เปน็
การกำ� หนดพนื้ ทส่ี ำ� หรบั การปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี า่ ง ๆ เชน่ การทำ� ลายลา้ งพษิ และ
การปฏิบัตกิ ารสนับสนุน การควบคุมเขตอนั ตราย ประกอบด้วย
เขตแยกกักกันในข้ันต้น เป็นพื้นที่บริเวณโดยรอบ
ทเ่ี กดิ เหตุ ซง่ึ ทำ� ใหผ้ คู้ นในพน้ื ทบ่ี รเิ วณนอ้ี าจสมั ผสั กบั ความเขม้ ขน้ ของสสาร
ในระดบั ทเ่ี ปน็ อนั ตราย (เมอื่ อยเู่ หนอื ลม) และอาจเปน็ ภยั คกุ คามถงึ แกช่ วี ติ
(เมอ่ื อยู่ใตล้ ม)
เขตปฏิบัติเพื่อการป้องกัน เป็นพื้นที่ใต้ทิศทางลม
จากท่ีเกิดเหตุ ผู้คนท่ีอยู่ในบริเวณนี้อาจกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถ
และไม่สามารถปฏิบัติเพื่อการป้องกัน และ/หรืออาจท�ำให้เกิดผลกระทบ
ต่อสขุ ภาพอยา่ งรา้ ยแรง หรอื ท�ำความเสยี หายไดอ้ ยา่ งถาวร
เขตอันตราย เป็นพื้นที่โดยรอบท่ีเกิดเหตุซึ่งเกิดขึ้น
อย่างฉับพลัน ซ่ึงได้ขยายออกไปไกลมากพอท่ีจะป้องกันผลกระทบ
อย่างรา้ ยแรงจากการเปือ้ นพิษไปยงั กำ� ลังพลที่อยนู่ อกเขต
102
การปฏบิ ตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนวิ เคลียร์
เขตเฝ้าระวัง เป็นพื้นท่ีระหว่างเขตอันตรายกับ
เขตปลอดภยั ซึ่งก�ำลงั พลและยุทโธปกรณ์ทีเ่ ปือ้ นพิษ รวมทัง้ การสนบั สนุน
ในเขตอันตรายจะได้รับการท�ำลายล้างพิษในเขตน้ี และยังรวมไปถึงจุด
ควบคมุ การเข้า-ออกช่องเสน้ ทางการทำ� ลายล้างพิษ ซึ่งชว่ ยลดการกระจาย
เปอ้ื นพิษลงได้
เขตปลอดภัย เป็นพื้นท่ีที่ตั้งท่ีบัญชาการเหตุการณ์
และการปฏิบัตหิ นา้ ท่สี นบั สนุน ซงึ่ จ�ำเป็นต่อการควบคุมเหตุการณ์
เขตปฏบิ ตั ิ ทิศทางลม
เพ่อื การป้องกนั
เขตแยกกกั กนั Downwind distance
ในขน้ั ตน้ (ระยะทางใต้ลม)
พน้ื ทเี่ กิดเหตุ
รูปที่ ๔-๓ เขตแยกกักกนั ในขัน้ ตน้ และเขตปฏิบัตเิ พ่ือการปอ้ งกนั
เส้นทางเขา้ -ออก (Access Routes)
๔-๕๐ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ควรระบุเส้นทางปลอดภัยไว้หลาย
เส้นทางหากท�ำได้ เพ่ือเคลื่อนย้ายหน่วยตอบสนองเหตุเข้าและออกจาก
บรเิ วณทเ่ี กดิ เหตแุ ละใชเ้ ปน็ ทร่ี วมพลดว้ ย เสน้ ทางทไ่ี ดพ้ สิ จู นท์ ราบแลว้ ไดแ้ ก่
เสน้ ทางเขา้ ถงึ บรเิ วณทเ่ี กดิ เหตทุ างถนน ทางรถไฟ ทางทะเล และทางอากาศ
103
การปฏบิ ัติการแก้ไขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชีวะ รงั สแี ละนวิ เคลยี ร์
เขตอันตราย ทเ่ี กดิ เหตุ
เขตเฝา้ ระวัง
เขตปลอดภัย
รปู ที่ ๔-๔ เขตควบคุมอันตราย (ตัวอยา่ ง)
พืน้ ที่พักรอ (Staging Areas)
๔-๕๑ ผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณก์ ำ� หนดพนื้ ทรี่ วมพล สำ� หรบั เปน็ พน้ื ท่ี
พักรอของชุดปฏิบัติการตอบสนองท่ีตามมาทีหลัง จุดรวมพลขั้นต้นอยู่ใน
ระยะปลอดภยั จากบรเิ วณทเ่ี กดิ เหตุ เพอ่ื ปอ้ งกนั การขดั ขวางการปฏบิ ตั งิ าน
และเปน็ การป้องกนั ก�ำลงั พล
พนั ธกจิ ในเขตควบคมุ อนั ตราย (Hazard Control Zone Functions)
๔-๕๒ ผู้บัญชาการเหตุการณ์จัดตั้งเขตควบคุมบริเวณท่ีเกิดเหตุ
การจัดต้ังเขตควบคุมเพื่อให้ม่ันใจถึงความปลอดภัยของผู้ตอบสนองเหตุ
ทุกคน และควบคุมการผ่านเข้าและออกพ้ืนที่เปื้อนพิษ ในรูปท่ี ๔-๕
แสดงถึงพันธกจิ ในเขตควบคมุ อันตราย
104
การปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนิวเคลียร์
เขตรกั ษาความปลอดภยั / เส้นทางการ ทบ่ี ัญชาการ
แนวควบคุมฝูงชน ท�ำลายล้างพิษ เหตุการณ์
แนวการท�ำลายลา้ งพิษ ขนส่งทาง
แนวเขตอนั ตราย การแพทย์
เขตอันตราย ที่เกดิ เหตุ
เขตเฝา้ ระวัง
เขตปลอดภัย
ทศิ ทางลม
รปู ท่ี ๔-๕ พันธกิจในเขตควบคุมอนั ตราย
เขตอนั ตราย (Hot Zone)
๔-๕๓ เขตอันตรายเป็นพ้ืนที่ที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ตกลงใจ
แล้วว่าเป็นเขตท่ีมีผลกระทบจากเหตุการณ์มากท่ีสุด รวมทั้งพ้ืนท่ีใดๆ
ทีม่ กี ารกระจายหรอื มโี อกาสกระจายการเป้อื นพิษ เขตอนั ตรายยงั อาจเป็น
พ้ืนที่ท่ีเร่ิมด�ำเนินการเพ่ือลดการเปื้อนพิษด้วย พันธกิจอย่างอื่นในเขต
อนั ตราย มีดังน้ี
l ด�ำเนนิ การปฏิบัติการค้นหาและกู้ภยั
l ปฏิบัตติ ามมาตรการบรรเทาผลกระทบ
l พสิ ูจน์ทราบสาร คชรน. รวมทั้งสิ่งกดี ขวางทางกายภาพ
ทีข่ ดั ขวางไม่ใหไ้ ปถงึ ทางเขา้
l ดำ� เนนิ การประเมนิ ผลอนั ตราย (ประเมนิ ความเสยี หาย
และการเป้อื นพิษท่ยี งั คงมีอย)ู่
105
การปฏิบตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอ่ื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลียร์
l ปฏบิ ตั ิการเฝ้าตรวจทางดา้ นเคมแี ละทางด้านรังสี
l ด�ำเนินการเก็บตวั อย่างสารชีวะ
เขตเฝา้ ระวงั (Warm Zone)
๔-๕๔ เขตเฝ้าระวังเป็นพ้ืนท่ีที่อยู่ระหว่างเขตอันตรายและเขต
ปลอดภัย ซ่ึงเป็นบริเวณส�ำหรับปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษ (ช่องเส้นทาง
การท�ำลายล้างพิษ) และเป็นพ้ืนท่ีสนับสนุนในเขตอันตรายพันธกิจอื่นๆ
ในเขตเฝา้ ระวัง มีดังน้ี
l การทำ� ลายล้างพษิ ฉกุ เฉิน
l การทำ� ลายล้างพิษตามข้นั ตอนทางเทคนคิ
l การท�ำลายล้างพษิ ผ้ปู ว่ ยจำ� นวนมาก
l เป็นพ้ืนท่ีพักรอส�ำหรับชุดปฏิบัติการส�ำรวจก่อนที่จะ
เขา้ ไปในเขตอันตราย
l การท�ำลายลา้ งพษิ ยุทโธปกรณ์
เขตปลอดภยั (Cold Zone)
๔-๕๕ เขตปลอดภยั เปน็ บรเิ วณทส่ี ามารถเขา้ ถงึ ไดแ้ ละเปน็ บรเิ วณ
ท่ีปลอดภัยส�ำหรับการปฏิบัติการสนับสนุน เป็นพื้นท่ีที่มีขนาดกว้างขวาง
พอส�ำหรับกองก�ำลังตอบสนองเหตุการณ์ด้าน คชรน. ทั้งในระดับท้องถิ่น
ระดับรัฐ และในระดบั ชาติ พนั ธกจิ อนื่ ๆ ทอี่ าจเกิดขึน้ ในเขตน้ี ได้แก่
l การปฏิบัติการในท่ีบญั ชาการเหตุการณ์
l การปฏิบัติการสนับสนุน เช่น การส่งก�ำลังบ�ำรุง การ
ปฏบิ ัติการเพอ่ื ดำ� รงความต่อเน่ืองและการรกั ษาความปลอดภัย
l การปฏิบัตกิ ารในพ้ืนทีพ่ ักรอ
106
การปฏบิ ตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนิวเคลียร์
การสื่อสารด้านวัตถอุ ันตราย (Hazard Communications)
๔-๕๖ ในระหวา่ งการปฏบิ ตั กิ ารตอบสนอง หนว่ ยจำ� เปน็ ตอ้ งดำ� รง
โครงข่ายส่ือสารด้านวัตถุอันตราย (HAZCOM) ของตนไว้ พันธกิจของ
การปฏบิ ัติตามโครงขา่ ยสอ่ื สารดา้ นวัตถอุ ันตราย ได้แก่
l ด�ำรงสภาพความต่อเน่ืองในด้านความสามารถ เพื่อ
การจัดเก็บและการใช้ข้อมูลกฎระเบียบอ้างอิง รวมทั้งข้อมูลการผลิต
วตั ถุอนั ตราย
l เตรยี มการรบั และดำ� เนนิ กรรมวธิ เี กย่ี วกบั ขอ้ มลู ดา้ นวตั ถุ
คชรน.
l ด�ำรงการเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านอันตรายที่เก่ียวข้อง
กบั คชรน. จากสถานทีเ่ กิดเหตุ
l ยึดมั่นกับค�ำแนะน�ำด้านความปลอดภัยตามที่ระบุไว้
ในคู่มือค�ำแนะน�ำของ OSHA และตามก�ำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับ
ของรัฐบาลกลาง สหรัฐอเมริกา (CFR)
การตอบสนองการสนับสนนุ บริการสุขภาพ
(Health Service Support Response)
๔-๕๗ ชุดปฏิบัติการควบคุมบังคับบัญชาทางการแพทย์ ด�ำรง
การควบคุมบังคับบัญชาหน่วยตอบสนองทางด้านการแพทย์ พันธกิจ
การควบคมุ บังคบั บญั ชา มดี ังนี้
l รับมอบภารกิจและรีบส่งหน่วยและฝ่ายอ�ำนวยการ
ไปยังพืน้ ทต่ี อบสนองท่ีกำ� หนด
107
การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลียร์
l ประสานการปฏิบัติการตอบสนองทางการแพทย์ของ
กระทรวงกลาโหมกบั ทบ่ี ญั ชาการเหตกุ ารณ์ รวมทง้ั กบั หนว่ ยงานตอบสนอง
เหตใุ นระดับท้องถิน่ ระดบั รฐั ระดับชาติ หรอื กบั ชาติเจา้ บา้ น
l ด�ำเนินการตรวจสอบเมื่อหน่วย/ฝ่ายอ�ำนวยการหยุด
ปฏบิ ตั กิ ารชว่ั คราว และสง่ มอบการปฏบิ ตั ใิ หแ้ กห่ นว่ ยงานตอบสนองในระดบั
ทอ้ งถน่ิ ระดบั รฐั ระดบั ชาติ หนว่ ยงานของชาตเิ จา้ บา้ น หรอื หนว่ ยงานอนื่ ๆ
๔-๕๘ การตอบสนองเพ่ือสนับสนุนบริการสุขภาพทั้งหมดยังคง
ดำ� เนนิ ตอ่ ไป จนถงึ การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณข์ นั้ การฟน้ื ฟู การปฏบิ ตั ิ
ในการตอบสนองเพอ่ื สนบั สนนุ การบรกิ ารสขุ ภาพ เพอ่ื การเวชกรรมปอ้ งกนั
การบรกิ ารทางดา้ นสตั วแพทย์ การสนบั สนนุ การจดั การกบั ความเครยี ดของ
กองกำ� ลงั ทต่ี อบสนองเหตแุ ละประชาชนในทอ้ งถนิ่ การบรกิ ารหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร
และการบรกิ ารด้านสุขภาพ ซงึ่ จะไดก้ ลา่ วอยา่ งละเอียดในผนวก ค สำ� หรบั
รายละเอยี ดเกย่ี วกบั การคัดแยกผู้ป่วย การท�ำลายลา้ งพิษผปู้ ่วย การรักษา
การส่งกลับสายแพทย์ และการพักรักษาในโรงพยาบาล จะได้กล่าวอย่าง
ละเอียดในบทท่ี ๕ และในผนวก ง
๔-๕๙ การปฏบิ ตั กิ ารตอบสนองในกรณเี รง่ ดว่ น อาจดำ� เนนิ การโดย
l เจ้าหนา้ ท่ีในท่เี กดิ เหตใุ หก้ ารปฐมพยาบาล
l ในขนั้ ตน้ หนว่ ยทม่ี คี วามเชยี่ วชาญของกระทรวงกลาโหม
สามารถให้บริการดูแลรักษาแบบฉุกเฉินในเขตอันตราย และดูแลผู้ป่วย
ให้คงสภาพในเขตปลอดภัยจนกว่ามีความพร้อมขนส่งด้วยการบริการ
ทางการแพทยฉ์ กุ เฉนิ ของฝา่ ยพลเรอื น หนว่ ยของกระทรวงกลาโหมดงั กลา่ ว
ได้แก่ กองก�ำลังตอบสนองเหตุการณ์ด้านเคมี-ชีวะ (chemical-biological
108
การปฏบิ ัติการแก้ไขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนิวเคลยี ร์
incident response force [CBIRF]) และชุดกองก�ำลังขีดความสามารถสงู
ในการตอบสนองเหตุการณ์ด้านเคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ และวัตถุระเบิด
แรงสงู (chemical, biological, radiological, nuclear, and high-yield
explosives enhanced response force package [CERFP])
l การปฏิบัติของหน่วยทหารท่ีตั้งประจ�ำที่ จะให้การ
สนบั สนนุ ในกรณเี รง่ ดว่ น (เชน่ กำ� ลงั พลทใ่ี หบ้ รกิ ารทางการแพทย์ ชดุ ปฏบิ ตั ิ
การเพ่ือรักษาทางการแพทย์ ก�ำลังพลด้านเวชกรรมป้องกัน สัตวแพทย์
นกั ผจญเพลิง และเจ้าหนา้ ท่ีสารวตั รทหาร)
l เจ้าหน้าท่ีต�ำรวจในท้องถิ่นและพนักงานดับเพลิง;
หน่วยบริการแพทย์ฉุกเฉนิ , เจา้ หนา้ ทีส่ าธารณสุขและเจา้ หนา้ ทปี่ ฏิบัตงิ าน
สาธารณะ และชุดปฏิบัติการที่ให้การบริการรักษาทางการแพทย์ตามที่
ก�ำหนดไว้
l ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารระดบั ประเทศ, หนว่ ยแพทยข์ องชาตเิ จา้ บา้ น,
กำ� ลงั พลและหนว่ ยสงั กดั กระทรวงกลาโหมภายใตส้ ถานการณเ์ พอ่ื การแกไ้ ข
สถานการณ์ในต่างประเทศ
๔-๖๐ การวนิ จิ ฉยั ทางการแพทยเ์ ปน็ กระบวนการตรวจสอบสาเหตุ
ของการเกดิ โรคหรอื การไดร้ บั บาดเจบ็ ในขณะทกี่ ารวนิ จิ ฉยั บางอยา่ งอาจได้
หลักฐานจากอาการบ่งชีแ้ ละลกั ษณะอาการของโรค การวนิ ิจฉยั โรคติดเชื้อ
หรอื การไดร้ บั อนั ตรายจากสารเคมที ที่ ราบแนช่ ดั จำ� เปน็ ตอ้ งใชผ้ ลการตรวจ
ในหอ้ งปฏิบัติการ หรือการวิเคราะหท์ างดา้ นรงั สีซงึ่ การวิเคราะห์ลกั ษณะน้ี
อาจใช้เวลาหลายวัน การรักษาตามลักษณะอาการต้องเริ่มข้ึนก่อนได้รับ
ผลการวนิ จิ ฉยั ทถี่ กู ตอ้ งจากหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ เปน็ การชว่ ยชวี ติ การรอ้ งขอ
109
การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลยี ร์
รบั การสนบั สนนุ กลบั ไปผเู้ ชย่ี วชาญระดบั ชาติ เปน็ วธิ กี ารตอบสนองของชดุ
หรอื ของหนว่ ยสนบั สนนุ การบรกิ ารสขุ ภาพ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ทางดา้ นเทคนคิ
ค�ำปรึกษาและการสนับสนุนทางการแพทย์ ในระหว่างการปฏิบัติการ
ตอบสนองเพ่ือแก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจาก คชรน. หน่วยงานหรือ
การปฏิบัติภายใต้กระทรวงกลาโหม รวมท้ังหน่วยงานอื่นๆ ในระดับชาติ
สามารถให้บรกิ ารลักษณะนีไ้ ด้
๔-๖๑ การปฏบิ ัติการสนบั สนนุ การบรกิ ารสุขภาพ อย่บู นพน้ื ฐาน
ของการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพในห้วงก่อนถูกส่งเข้าประจ�ำการ
ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามต่อสุขภาพในพื้นที่ปฏิบัติการและในพื้นท่ี
จ�ำเพาะที่ส่งก�ำลังเข้าประจ�ำการ การประเมินความเส่ียงด้านสุขภาพ
การประเมนิ สถานทที่ ม่ี ภี ยั คกุ คามมาจากการทำ� งานและจากสภาพแวดลอ้ ม
การเฝ้าตรวจและการเก็บตัวอย่างท่ีปฏิบัติประจ�ำหรือเป็นแรงผลักดัน
จากเหตุการณ์ รวมไปถึงการปฏิบัติเพ่ือเฝ้าระวังด้านสุขภาพอ่ืนๆ ควรมี
การปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันในระหว่างท่ีส่งก�ำลังเข้าประจ�ำการ
หากมีภัยคุกคามด้านสุขภาพเพิ่มข้ึนหรือสามารถคาดการณ์ได้ว่าเพิ่มข้ึน
อย่างแน่นอนในระหว่างส่งก�ำลังเข้าประจ�ำการ ผู้บังคับบัญชาควรก�ำหนด
ใหม้ กี ารสนับสนุนบริการสุขภาพเพ่ิมเตมิ เพือ่ ใหม้ ่ันใจว่ากำ� ลังพลได้รับการ
เฝา้ ตรวจและไดร้ ับการปอ้ งกันอย่างเพยี งพอ
๔-๖๒ ในระหว่างการตอบสนองเพื่อแก้ไขสถานการณ์อันเนื่อง
มาจาก คชรน. การประเมินสถานท่ีที่มีภัยคุกคามจากการท�ำงานและ
จากสภาพแวดล้อม การลาดตระเวนสถานที่ และการประเมินความ
ลอ่ แหลมดา้ นนำ้� และอาหารควรดำ� เนนิ การใหถ้ กู ตอ้ งอยา่ งแทจ้ รงิ หรอื มโี อกาส
ทีจ่ ะเปน็ ภัยคุกคามต่อสขุ ภาพ ควรประเมินการไดร้ บั อนั ตรายผ่านเส้นทาง
110
การปฏิบัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลยี ร์
เข้าสู่ร่างกาย (pathway) ทุกช่องทาง และตรวจสอบหนทางปฏิบัติและ
มาตรการตอบโต้เพื่อลดภัยคุกคามต่อสุขภาพ รวมทั้งป้องกันสุขภาพ
ของกำ� ลงั พลทถี่ กู สง่ เขา้ ประจำ� การ เมอื่ มกี ารดำ� เนนิ การตอบสนองเพอ่ื แกไ้ ข
สถานการณ์ ควรพจิ ารณาถงึ กจิ ตา่ งๆ ดังต่อไปน้ี
l มั่นใจว่าระบบจัดการข้อมูลด้านสุขภาพแบบอัตโนมัติ
ได้รับอนุมัติจากกระทรวงกลาโหมหรือเหล่าทัพ ให้ใช้เป็นข้อมูลเฝ้าตรวจ
เกี่ยวกับภยั คกุ คามตอ่ สขุ ภาพจากการทำ� งานและจากสภาพแวดล้อม
l ม่ันใจว่ามีการส่ือสาร (ด้วยการเขียนหรือพูดปากเปล่า)
ดา้ นความเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพบนพนื้ ฐานของการประเมนิ ความเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ
และการตกลงใจบรหิ ารความเสย่ี งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สขุ ภาพ รวมทง้ั การประเมนิ
ความเสีย่ งตอ่ สุขภาพที่เป็นปจั จุบันตามขอ้ มลู ใหม่ท่ไี ด้รับ
l การบันทึกการได้รับอันตรายจากการท�ำงานและจาก
สภาพแวดล้อมในขณะท่ีเข้าประจ�ำการหรือการได้รับอันตรายด้าน คชรน.
ซงึ่ สัมพันธก์ บั ข้อมลู ท่เี ฝา้ ตรวจ และจัดให้มีการรายงานใหท้ ันเวลาเกย่ี วกบั
การเปน็ โรคตดิ เชอ้ื หรอื การบาดเจบ็ ทไี่ มใ่ ชจ่ ากการรบ การบาดเจบ็ จากการรบ
รวมท้ังข้อมลู ทางการแพทย์อน่ื ๆ ตามความจ�ำเปน็
l จดั สง่ ขอ้ มลู ทางการแพทยอ์ นั เกย่ี วขอ้ งกบั คชรน. การเปน็
โรคตดิ เชอื้ ทค่ี าดไมถ่ งึ หรอื ปรากฏการณท์ เี่ กดิ การเปอ้ื นพษิ ในสภาพแวดลอ้ ม
โดยจัดส่งไปยังศูนย์ข่าวกรองทางการแพทย์ของกองทัพพร้อมกับส�ำเนา
รายงานการปฏิบัติการทางแพทย์ ซ่ึงมีรายละเอียดและ/หรือการประเมิน
ผลเกยี่ วกบั โรคตดิ เชอื้ ผลการตรวจสภาพสงิ่ แวดลอ้ ม และขดี ความสามารถ
ทางการแพทย์ ไปยงั ศูนยข์ า่ วกรองทางการแพทยข์ องกองทพั ดว้ ย
111
การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนวิ เคลียร์
๔-๖๓ โปรแกรมปอ้ งกนั ระบบทางเดนิ หายใจ รวมทงั้ การคดั กรอง
ทางการแพทย์ และการเฝ้าระวงั กำ� ลงั พลท่ไี ดร้ ับแจกจ่ายเครอื่ งช่วยหายใจ
(เช่น SCBA) เป็นส่ิงจ�ำเป็นในการท�ำงานเพื่อปฏิบัติการด้าน คชรน. (เช่น
ส่วนสนบั สนนุ พลเรือนของกระทรวงกลาโหม) (รายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ ศึกษา
ไดจ้ ากระเบยี บขอ้ บงั คบั แหง่ รฐั บาลกลางสหรฐั อเมรกิ า หมวด ๒๙ [29 CFR
1910.134])
การเปล่ยี นผา่ นไปส่กู ารปฏบิ ตั ิการฟื้นฟู
(Transition to Recovery Operations)
๔-๖๔ เป็นการดี ท่ีเส้นแบ่งระหว่างจุดสิ้นสุดการปฏิบัติการ
ตอบสนองเหตุและจุดเร่ิมต้นของการปฏิบัติการฟื้นฟูไม่ชัดเจน บ่อยคร้ัง
การปฏบิ ตั กิ ารฟน้ื ฟอู าจเรม่ิ ตน้ โดยทกี่ ารปฏบิ ตั ติ อบสนองเหตยุ งั คงดำ� เนนิ การ
อยู่ต่อไป การปฏิบัติการฟื้นฟูอาจเร่ิมขึ้นเม่ือไม่มีความจ�ำเป็นต้อง
ใชก้ ำ� ลงั ทหารสำ� หรบั ดำ� เนนิ การตอบสนองเหตอุ กี ตอ่ ไป หรอื มหี นว่ ยงานอน่ื
เขา้ มาปฏบิ ตั หิ นา้ ทแ่ี ทนเพอ่ื เปน็ การสบั เปลย่ี นกำ� ลงั ในบทที่ ๕ จะไดอ้ ธบิ าย
ถึงการปฏบิ ัติการฟ้ืนฟสู �ำหรบั การปฏบิ ัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
๔-๖๕ นอกจากนน้ั อาจมกี ารส่งมอบอำ� นาจและความรับผดิ ชอบ
ในการตอบสนองเหตุ เมอื่ มกี ารเปลยี่ นผา่ นไปสกู่ ารปฏบิ ตั กิ ารฟน้ื ฟู ตวั อยา่ ง
เช่น หัวหน้าพนักงานดับเพลิงท่ีปฏิบัติหน้าท่ีตอบสนองเหตุอาจส่งมอบ
อ�ำนาจการควบคุมให้แก่ฝ่ายสอบสวนดา้ นอาชญากรรม หรือชุดปฏิบัตกิ าร
สอบสวนเหตกุ ารณ์ หรือเจา้ หน้าทฝี่ า่ ยอ่ืนๆ
112
๕ การฟื้ นฟู
บทที่ ๕ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติท่ีได้ด�ำเนินการ
ในระหวา่ งการปฏบิ ตั ิขน้ั การฟน้ื ฟู การปฏบิ ตั ดิ ังกล่าว ไดแ้ ก่ การปฏิบตั ิการ
ท�ำลายล้างพิษ การฟื้นฟูการส่งก�ำลังบ�ำรุง การฟื้นฟูการสนับสนุนบริการ
สขุ ภาพ การเปล่ยี นผา่ น และการถอนก�ำลงั
กล่าวเบอื้ งต้น (Background)
๕-๑ การปฏิบัติข้ันการฟื้นฟูได้เริ่มขึ้นเมื่อมีอันตรายท่ีเกิดขึ้น
อย่างฉับพลัน ซ่ึงได้มีการจัดการหรือถูกควบคุมในระหว่างการปฏิบัติการ
ตอบสนองเหตกุ ารณ์ (ดใู นรปู ท่ี ๕-๑ สำ� หรบั การปฏบิ ตั ขิ นั้ การฟน้ื ฟู ซงึ่ สมั พนั ธ์
กับข้ันตอนการปฏิบัติอ่ืนๆ ในระหว่างกระบวนการแก้ไขสถานการณ์
อันเนื่องมาจาก คชรน.) ผู้ตอบสนองเหตุการณ์ด้าน คชรน. ยังคงให้การ
สนบั สนนุ ตอ่ เนอื่ งไป จนกวา่ การบรรเทาผลกระทบจากอนั ตรายซงึ่ เกดิ อยา่ ง
ฉับพลันได้ด�ำเนินการเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ (การสนับสนุนการลาดตระเวน
การท�ำลายล้างพิษ รวมท้ังการประเมินผลและการให้ข้อเสนอแนะ)
การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลยี ร์
ความเข้าใจและการนิยามเก่ียวกับการปฏิบัติการฟื้นฟูหลังจากการแก้ไข
สถานการณ์อันเน่ืองมาจาก คชรน. จ�ำเป็นต้องมีการเชื่อมโยงระหว่าง
ค�ำนิยามศัพท์ทางทหารแบบดั้งเดิมกับค�ำจ�ำกัดความตามกรอบการ
ตอบสนองเหตฉุ ุกเฉินแหง่ ชาติ (NRF)
ปอ้ งกนั
วางแผน เตรียมการ
ข้ันตอน เหตกุ ารณ์
การปฏิบตั ิในการ จาก คชรน.
แกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจาก คชรน.
ฟื้นฟู ตอบสนอง
ปฏิบตั ิ
รูปที่ ๕-๑ ข้นั การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณอ์ ันเนื่องมาจาก คชรน. (ฟืน้ ฟ)ู
114
การปฏิบัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนิวเคลยี ร์
๕-๒ การฟื้นฟูและการฟื้นสภาพข้ึนมาใหม่ เป็นการปฏิบัติ
ของชาติใดชาติหนึ่งในห้วงก่อน ระหว่าง และภายหลังการโจมตีจากชาติ
ทเ่ี ปน็ ขา้ ศกึ เพอื่ ลดผลกระทบจากการโจมตใี หเ้ หลอื นอ้ ยทสี่ ดุ , กอบกสู้ ถานะ
ทางเศรษฐกจิ ของชาติให้กลับคืนมา, ให้การสงเคราะห์แก่ประชาชน อีกทัง้
กพู้ ลงั อำ� นาจกำ� ลงั รบของกองกำ� ลงั ทเ่ี หลอื อยู่ และการปฏบิ ตั กิ ารสนบั สนนุ
ใหก้ ลบั คนื มาให้มากทีส่ ุด (คู่มอื JP 3-35)
๕-๓ ตามกรอบการตอบสนองเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ ได้กล่าวถึง
การฟื้นฟูในแง่ของขีดความสามารถที่จ�ำเป็นส�ำหรับการช่วยเหลือชุมชน
ท่ีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ให้ฟื้นสภาพกลับมาอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยภาพรวม การปฏิบัติการฟื้นฟูทางด้าน คชรน. ซึ่งเกิดข้ึนในบริบท
ของการแกไ้ ขสถานการณ์ รวมทง้ั การปฏิบัตเิ พ่ือด�ำรงหรอื ฟื้นฟกู ารบรกิ าร
ทส่ี ำ� คญั ซง่ึ ประกอบดว้ ยการจดั การและการบรรเทาผลกระทบทต่ี ามมาจาก
เหตุการณอ์ ันเกี่ยวข้องกับ คชรน.
๕-๔ ในหว้ งการปฏบิ ตั กิ ารเกยี่ วกบั ภารกจิ การฟน้ื ฟสู ำ� หรบั ผตู้ อบสนอง
เหตุด้าน คชรน. เป็นการตรวจสอบความต้องการท่ีก�ำหนดข้ึนโดย
ผมู้ อี �ำนาจท่ีเหมาะสม (ผู้บัญชาการเหตกุ ารณส์ �ำหรับการปฏิบัติการภายใน
ประเทศ หรอื จากชาตเิ จ้าบา้ น และ/หรอื กระทรวงการต่างประเทศส�ำหรบั
การปฏบิ ตั กิ ารในตา่ งประเทศ) บทบาทในการปฏบิ ตั กิ ารสำ� หรบั ผตู้ อบสนองเหตุ
ได้เปล่ียนไปในระหว่างขั้นการปฏิบัติการฟื้นฟู โดยท่ีในระหว่าง
การปฏบิ ัติการฟ้นื ฟู การปฏบิ ตั กิ ารส�ำรวจอาจยังคงด�ำเนินการตอ่ ไปในเขต
อนั ตรายพรอ้ มกบั ใหก้ ารสนบั สนนุ การทำ� ลายลา้ งพษิ ตามขน้ั ตอนทางเทคนคิ
นอกจากนั้น ยังอาจให้ค�ำแนะน�ำและให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค และ
การสนับสนุนการปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษด้านอื่นๆ (การท�ำลายล้างพิษ
ขนั้ สมบรู ณ์และการทำ� ลายล้างพิษพ้นื ท่ี)
115
การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชีวะ รงั สแี ละนวิ เคลียร์
๕-๕ ผู้บังคบั หน่วยทหาร คชรน. ทบทวนแผนภารกจิ ฟืน้ ฟูในห้วง
ก่อนและระหว่างการปฏิบัติขั้นการฟื้นฟูรวมทั้งประสานแผนกับเจ้าหน้าท่ี
ฝา่ ยพลเรอื น เพอื่ ใหม้ น่ั ใจวา่ การถา่ ยโอนงานระหวา่ งเจา้ หนา้ ทฝี่ า่ ยพลเรอื น
และผู้บัญชาการหน่วยสนับสนุนทางทหาร มีความเข้าใจตรงกันและ
ด�ำเนินไปด้วยความเรยี บรอ้ ย ล�ำดบั ความเรง่ ดว่ นสงู สดุ ส�ำหรบั ผบู้ ญั ชาการ
หนว่ ยทหาร คอื การสถาปนา ขดี ความสามารถในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ขน้ึ มาใหม่
การพัฒนาแผนเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการขั้นการฟื้นฟูท้ังในระยะสั้น
และในระยะยาวและกลับไปสู่การปฏิบัติการปกติ ข้อพิจารณาพิเศษ
ท่ีท�ำให้เกิดความเสียหายและบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือ
น้อยทีส่ ดุ แผนภารกจิ ฟน้ื ฟอู าจระบุถึงขอบเขตงาน ดังต่อไปนี้
l การสนบั สนนุ ทางการสง่ กำ� ลงั บำ� รงุ และการสง่ กำ� ลงั เพม่ิ เตมิ
l การป้องกัน
l ความต้องการในการจัดท�ำเอกสารและการรายงานรวม
ไปถึงการใช้ทรัพยากรส้ินเปลือง การสูญเสีย และข้อมูลการได้รับอันตราย
จากสิ่งแวดล้อม ซึ่งจ�ำเป็นต่อการประมาณการถึงการได้รับอันตรายของ
กำ� ลงั พล (เพอื่ ตรวจสอบผลกระทบตอ่ สขุ ภาพทงั้ ในระยะสน้ั และในระยะยาว)
l ยุทโธปกรณ์ใช้ในการท�ำลายล้างพิษ โครงสร้างพ้ืนฐาน
และสภาพภมู ปิ ระเทศ กำ� ลงั ทหารอาจไดร้ บั การรอ้ งขอใหส้ นบั สนนุ การขนสง่
ประชาชนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบ; การชว่ ยเหลอื ในความพยายามเพอื่ การทำ� ลาย
ล้างพิษ; การช่วยเหลือในการแยก/ปิดล้อมพ้ืนที่หรือสิ่งอุปกรณ์เปื้อนพิษ,
ฟน้ื ฟสู ภาพโครงสรา้ งพน้ื ฐาน, ปฏบิ ตั กิ ารเฝา้ ตรวจ และรกั ษาความปลอดภยั
โดยรอบพ้นื ท่ีเปอ้ื นพิษ
116
การปฏิบัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลยี ร์
l การปฏิบตั ใิ นการสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ
การป้องกันเป็นบคุ คล
การปฏบิ ตั ิการจัดการผู้ปว่ ย
การคดั กรองทางการแพทย์และการบันทึกเอกสาร
การจัดการความเครยี ดเมอื่ เกดิ เหตกุ ารณ์วกิ ฤต
ตดิ ตอ่ ประสานงานกบั เจา้ หนา้ ทใ่ี นระดบั ชาติ ระดบั รฐั
ระดับทอ้ งถิน่ และของชาตเิ จ้าบา้ น ตามความจำ� เปน็
๕-๖ สภาพแวดล้อมการปฏิบัติการที่ได้รับผลกระทบจากการ
ทำ� ลายล้างพิษ ในการแกไ้ ขสถานการณอ์ ันเนือ่ งจาก คชรน. มดี งั นี้
l กรณกี ารสนบั สนนุ ภายใตก้ ารนำ� ของกระทรวงความมน่ั คง
ภายในสำ� หรบั สภาพการปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณอ์ นั เนอ่ื งมาจาก คชรน.
ภายในประเทศ หน่วยตอบสนองเหตุของกระทรวงกลาโหมมักเป็นหน่วย
เพ่ิมเติมก�ำลังให้แก่ชุดปฏิบัติการตอบสนองเหตุฝ่ายพลเรือน นอกจากนั้น
หน่วยตอบสนองเหตุของกระทรวงกลาโหมต้องปฏิบัติตามข้อก�ำหนดของ
คณะกรรมการด้านอาชีวอนามัยของผู้ปฏิบัติงาน (OSHA) และส�ำนักงาน
พิทักษส์ งิ่ แวดลอ้ มสหรัฐอเมรกิ า (U.S. EPA)
l กรณีการสนับสนุนภายใต้การน�ำของกระทรวงกลาโหม
ส�ำหรับสภาพการปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจาก คชรน. ใน
ตา่ งประเทศ หนว่ ยตอบสนองเหตขุ องกระทรวงกลาโหมจะเปน็ หนว่ ยเพมิ่ เตมิ
ก�ำลังให้แก่ชุดปฏิบัติการตอบสนองเหตุของชาติเจ้าบ้าน และการปฏิบัติ
อาจถกู จำ� กดั อยใู่ นกรอบของภยั คกุ คามชาตทิ ีเ่ จ้าบา้ นทีเ่ ผชญิ อยู่ และ/หรือ
ขอ้ ตกลงตามสถานภาพของกองทัพ
117
การปฏบิ ัติการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนอ่ื งมาจากเคมี ชวี ะ รงั สแี ละนวิ เคลียร์
l กรณกี ารปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณอ์ นั เนอื่ งมาจาก คชรน.
ภายใตก้ ารนำ� ของกระทรวงกลาโหม มาตรการฟน้ื ฟถู กู นำ� มาใชเ้ พอื่ สนบั สนนุ
ข้อเสนอแนะของผู้บังคับบัญชา และเป้าหมายของการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนอื่ งมาจาก คชรน. ในภาพรวม
๕-๗ ไม่มีการก�ำหนดตารางเวลาการปฏิบัติการฟื้นฟูที่แน่นอน
ในระหวา่ งขนั้ นเี้ มอื่ ถงึ เวลาทหี่ นว่ ยทหารถกู ผลดั เปลยี่ นหรอื ไมม่ คี วามจำ� เปน็
อีกต่อไป อาจมกี ารเปล่ียนผ่านหรือมคี �ำส่ังใหถ้ อนก�ำลงั เม่อื หนว่ ยทหารได้
รบั ภารกจิ ใหม่ ภารกจิ เดมิ ทไี่ ดร้ บั มอบไดด้ ำ� เนนิ การเสรจ็ สน้ิ โดยสมบรู ณแ์ ลว้
(เช่น การท�ำลายล้างพิษผู้ป่วยจ�ำนวนมาก) หรือมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน
เขา้ มาปฏบิ ัติภารกจิ แทน
๕-๘ ผู้บัญชาการหน่วยตอบสนองเหตุการณ์ด้าน คชรน. เอ้ือให้
เกิดการเปล่ียนผ่านโดยอาศัยค�ำสั่งจากภารกิจการฟื้นฟูท่ีได้รับมอบ และ
ด�ำเนินการถอนก�ำลังทหารออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาสนับสนุน
ทางทหารใชแ้ ผนการเปลยี่ นผา่ น โดยการถา่ ยโอนงานการแกไ้ ขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจาก คชรน. ไปยังหน่วยงานพลเรือนที่เหมาะสม (กระทรวง
การตา่ งประเทศ,สำ� นกั งานจดั การภยั พบิ ตั แิ หง่ ชาติ[FEMA])ซง่ึ มขี ดี ความสามารถ
เทยี บเทา่ กันเพื่อด�ำเนินการปฏิบัติการตอ่ ไป
๕-๙ ในระหว่างการเปลีย่ นผ่าน หน่วยงานไม่ใช่หนว่ ยงานของรัฐ
และการบริการภายใต้พันธสัญญาอาจท�ำหน้าที่เสริมให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่าย
พลเรอื น ทงั้ นขี้ นึ้ อยกู่ บั ความสมบรู ณข์ องการสนบั สนนุ การฟน้ื ฟู หนว่ ยทหาร
อาจด�ำเนนิ การเปล่ยี นผา่ นและเรม่ิ ปฏบิ ัติการถอนก�ำลังกลับสูท่ ี่ตั้งปกติ
118
การปฏิบตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อันเนื่องมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนิวเคลียร์
การปฏิบตั ิการท�ำลายลา้ งพิษ (Decontamination Operations)
๕-๑๐ การปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษมีความส�ำคัญมากในระหว่าง
ขั้นปฏิบัติการฟื้นฟู เพ่ือลดหรือก�ำจัดความเส่ียงต่อก�ำลังพล และท�ำให้
ยุทโธปกรณ์กลับมาใช้งานได้อีกคร้ัง กระบวนการท�ำลายล้างพิษต้องไม่ลด
ความสามารถในการปฏิบัติของก�ำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้ด้อยลงไป
และต้องไม่ท�ำอันตรายต่อส่ิงแวดล้อม วิธีการน้ีจึงเป็นก้าวย่างท่ีส�ำคัญ
ส�ำหรับการฟื้นฟู
๕-๑๑ ในขณะท่ีขั้นปฏิบัติการฟื้นฟูได้เริ่มต้นข้ึน ความพยายาม
ในการท�ำลายล้างพิษก็ได้เริ่มขึ้นด้วย เพื่อเป็นการลดจ�ำนวนผู้เจ็บป่วย
ใหม้ นี อ้ ยทส่ี ดุ อกี ทง้ั เปน็ การชว่ ยชวี ติ และจำ� กดั การแพรก่ ระจายการเปอ้ื นพษิ
อาจมีการริเร่ิมท�ำลายล้างพิษขั้นสมบูรณ์ส�ำหรับยุทโธปกรณ์ท่ีส�ำคัญย่ิงต่อ
ภารกจิ รวมทง้ั สง่ิ อปุ กรณแ์ ละโครงสรา้ งพนื้ ฐาน การทำ� ลายลา้ งพษิ ขนั้ สมบรู ณ์
เปน็ การทำ� ลายลา้ งพษิ ในระดบั ทที่ ำ� ใหไ้ มม่ ขี อ้ จำ� กดั ในการขนสง่ การซอ่ มบำ� รงุ
และการน�ำไปใช้งาน รวมทัง้ การทำ� ลายยทุ โธปกรณ์ (ดรู ายละเอียดเพ่ิมเติม
ไดจ้ ากคมู่ อื FM 3-11.5/MCWP 3-37.3/NTTP 3-11.26/AFTTP(I) 3-2.60)
หลกั การทำ� ลายล้างพษิ (Principles)
๕-๑๒ การท�ำลายล้างพิษเป็นกระบวนการลดการเปื้อนพิษจาก
สาร คชรน. จนถึงระดับต�่ำสุดที่จะเกิดความเสี่ยงให้เกิดอันตรายต่อผู้คน
และผอ่ งถา่ ยการเปอ้ื นพษิ กลบั ไปกลบั มา เพอ่ื สนบั สนนุ เปา้ หมายในการสนบั สนนุ
การปฏบิ ตั กิ ารทำ� ลายลา้ งพษิ ใหเ้ ปน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สำ� หรบั การทำ� ลาย
ล้างพิษประชาชนเป็นจ�ำนวนมาก ควรประยุกต์ใช้หลักการท�ำลายล้างพิษ
ตามกรอบแนวทางในคมู่ ือ FM 3-11.5/MCWP 3-37.3/NTTP 3-11.26/
AFTTP (I) 3-2.60 ซึ่งหลกั การดงั กลา่ วประกอบดว้ ย
119
การปฏบิ ัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รงั สแี ละนิวเคลยี ร์
l ความรวดเร็ว
l ความจำ� เป็น
l ความเร่งด่วน
l ข้อจ�ำกัดของพืน้ ท่ี
วธิ กี ารทำ� ลายล้างพิษ (Decontamination Method)
๕-๑๓ วิธีการท�ำลายล้างพิษมักขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของหน่วย
ในการกำ� จดั สารทมี่ คี วามแตกตา่ งกนั กระบวนการเลอื กวธิ กี ารทำ� ลายลา้ งพษิ
เร่ิมด้วยการพิสูจน์ทราบสารด้วยความรวดเร็ว เพ่ือก�ำหนดเขตควบคุม
อนั ตรายและวธิ กี ารทำ� ลายลา้ งพษิ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ การเลอื กวธิ กี ารทำ� ลาย
ลา้ งพษิ ยงั ขนึ้ อยกู่ บั แหลง่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เชน่ สงิ่ บง่ ชท้ี างกายภาพ ลกั ษณะอาการ
บ่งช้ีทางการแพทย์ การสื่อสารกับผู้ป่วย และผลการตรวจด้วยเคร่ืองมือ
ควรมกี ารประเมนิ ประสทิ ธภิ าพของวธิ กี ารทำ� ลายลา้ งพษิ ตลอดหว้ งของการ
ปฏบิ ตั กิ ารทำ� ลายลา้ งพษิ ทดี่ ำ� เนนิ ไปอยา่ งตอ่ เนอื่ ง หากปรากฏวา่ การทำ� ลาย
ลา้ งพษิ ไมค่ อ่ ยมปี ระสทิ ธภิ าพ กค็ วรเลอื กใชว้ ธิ กี ารทำ� ลายลา้ งพษิ แบบอน่ื ๆ
(รายละเอียดตามคู่มือ FM 3-11.5/MCWP 3-37.3/NTTP 3-11.26/
AFTTP (I) 3-2.60) การทำ� ลายล้างพษิ ทอ่ี ยู่บนพืน้ ฐานของหลกั การวิธกี าร
ท�ำลายลา้ งพิษ ซ่งึ มีดงั น้ี
l วธิ กี ารทางกายภาพ วธิ กี ารทำ� ลายลา้ งพษิ ทางกายภาพ
เกี่ยวข้องกับการก�ำจัดส่ิงปนเปื้อนทางกายภาพให้ออกจากบุคคลหรือ
วตั ถทุ เี่ ปอ้ื นพษิ และการกกั เกบ็ สง่ิ เปอ้ื นพษิ เพอื่ รอทำ� ลาย ดว้ ยวธิ กี ารเหลา่ นี้
สามารถลดความเข้มข้นของสิ่งเปื้อนพิษลงได้ แต่ส่ิงเปื้อนพิษท่ีกักเก็บไว้
ยังคงมีคุณสมบัติทางเคมีไม่เปลี่ยนแปลง ตัวอย่างวิธีการท�ำลายล้างพิษ
ทางกายภาพ ได้แก่ การดูดซึม (absorption), การปัดกวาดและเช็ดถู,
การแยกโดดเดี่ยวและท�ำลาย, การดดู ด้วยสุญญากาศ และการช�ำระลา้ ง
120
การปฏบิ ตั ิการแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนวิ เคลียร์
l วิธีการทางเคมี การท�ำลายล้างพิษด้วยวิธีการทางเคมี
น�ำมาใช้กับยุทโธปกรณ์ วิธีการนี้ไม่น�ำมาใช้กับบุคคลและเกี่ยวข้องกับ
การเปลยี่ นแปลงของสง่ิ เปอ้ื นพษิ ทอี่ าศยั การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าทางเคมบี างอยา่ ง
ด้วยความพยายามที่ท�ำให้สิ่งเปื้อนพิษมีอันตรายเหลือน้อยลง ในกรณี
ที่ส่ิงเปื้อนพิษเป็นเชื้อโรค วิธีการท�ำลายล้างพิษด้วยวิธีการทางเคมีคือ
การฆา่ เชอ้ื จลุ นิ ทรยี ท์ างชวี ภาพ ตวั อยา่ งการทำ� ลายลา้ งพษิ ดว้ ยวธิ กี ารทางเคมี
ไดแ้ ก่ การดดู ซบั (adsorption), การเสอ่ื มสภาพทางเคม,ี การทำ� ใหป้ ลอดเชอื้
หรอื การฆา่ เชอ้ื , การทำ� ใหเ้ ปน็ กลางหรอื เกดิ ภาวะสะเทนิ และการทำ� ใหต้ กผลกึ
(ระเหยน้ำ� ออก)
l วิธีตากลมฟ้าอากาศ การท�ำลายล้างพิษด้วยวิธีการ
ตากลมฟ้าอากาศเกี่ยวข้องกับกระบวนการ เช่น การระเหยกลายเป็นไอ
และวิธีการฉายรังสีเพ่ือก�ำจัดหรือท�ำลายสิ่งเปื้อนพิษ สิ่งของที่เปื้อนพิษ
ท่เี ผยใหก้ บั สมั ผัสกับสภาพอากาศตามธรรมชาติ (แสงแดด, ลม, ความรอ้ น
และหยาดน้�ำฟ้า) เพื่อเจือจางหรือท�ำลายสิ่งเปื้อนพิษ ยังผลให้มีอันตราย
ลดลงหรือไม่มีอันตรายเลย วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายเช่นเดียวกับการละทิ้ง
ยานพาหนะไวก้ ลางแดดรอ้ นในทะเลทรายเพอื่ เผาส่งิ เป้อื นพิษให้หมดไป
l วิธีป้องกัน ความเส่ยี งจากการได้รบั หรือสมั ผสั อันตราย
ท่ีน้อยลง ก็มีความจ�ำเป็นในการท�ำลายล้างพิษน้อยลงไปด้วยหากสามารถ
ควบคุมการสัมผัสกับส่ิงเปื้อนพิษได้ วิธีการนี้ควรเน้นไปท่ีการฝึกปฏิบัติ
ในการทำ� งานเพอ่ื สมั ผสั กบั สารทม่ี อี นั ตรายใหน้ อ้ ยทส่ี ดุ นอกจากนน้ั อาจเปน็
การใชเ้ ครอื่ งแตง่ กายปอ้ งกนั แบบทใี่ ชไ้ ดค้ รงั้ เดยี ว หรอื เครอื่ งแตง่ กายปอ้ งกนั
ทจี่ ำ� กัดจ�ำนวนคร้ังการใช้งาน
121
การปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนวิ เคลยี ร์
ข้อพจิ ารณาจ�ำเพาะไปท่เี หตุการณ์
(Incident-Specific Considerations)
๕-๑๔ ตรวจสอบดูว่ามีการปฏิบัติอะไรบ้างหลังจากที่ได้ท�ำลาย
ล้างพษิ แล้ว ผู้ตอบสนองเหตดุ ้าน คชรน. ประเมินถึงลักษณะของเหตกุ ารณ์
แม้ว่าขอ้ มลู ทีไ่ ด้รบั อาจยงั ไมค่ รบถว้ น แตค่ วรกล่าวถึงปจั จัยต่างๆ ต่อไปนี้
l จ�ำนวนผปู้ ่วย
l ประเภทผ้ปู ่วย
l ประเภทสารทนี่ �ำมาใช้
l คุณสมบตั ิของสารที่น�ำมาใช้
l ประเภทลักษณะการปล่อยกระจาย
l สภาพแวดลอ้ มเชิงกายภาพ
l ทรพั ยากรที่มอี ยู่
l สภาพการปฏบิ ตั กิ ารทนี่ า่ พอใจสำ� หรบั ลกั ษณะการทำ� ลาย
ล้างพิษแบบต่าง ๆ (เช่น ในสภาพอากาศหนาว)
l ความปลอดภัยและความเป็นสว่ นตวั ของผปู้ ระสบภยั
๕-๑๕ การท�ำลายล้างพิษที่อยู่บนพ้ืนฐานของความเป็นอันตราย
ในระหวา่ งเกดิ เหตกุ ารณท์ ม่ี ผี ปู้ ว่ ยจำ� นวนมาก จำ� นวนผปู้ ระสบภยั อาจมมี าก
เกนิ กว่าขดี ความสามารถในการตอบสนองของผตู้ อบสนองเหตุด้าน คชรน.
ผู้ตอบสนองเหตุต้องจัดล�ำดับความเร่งด่วนในการกู้ชีพ การรักษา และ
กระบวนการท�ำลายล้างพิษ ปัจจัยในการจัดล�ำดับความเร่งด่วนตามท่ีได้
แนะนำ� ไว้ มีดังน้ี
122
การปฏิบัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเนอื่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนิวเคลียร์
l รายงานการได้รับสารอันตรายของผู้ประสบภัย
l อาการบง่ ชที้ างกายภาพและลกั ษณะอาการบง่ ชจ้ี ากการ
ได้รบั สารอันตราย
l ระยะหา่ งระหวา่ งผปู้ ระสบภยั กบั จดุ ทม่ี กี ารปลอ่ ยกระจาย
ของสารอันตราย
l ผู้ประสบภยั มอี าการบาดเจ็บร้ายแรงอืน่ ๆ ร่วมดว้ ยหรือไม่
l หลักฐานที่แสดงถึงสารอันตรายได้เกาะติดตามเส้ือผ้า
และผิวหนัง
ขอ้ พิจารณาจำ� เพาะไปท่ีสารอันตราย
(Agent-Specific Considerations)
๕-๑๖ ประเภทของสารท่ีถูกปล่อยกระจายเป็นปัจจัยที่น�ำมา
พิจารณาถึงวิธีการเลือกใช้ในการท�ำลายล้างพิษ ในทุกๆ สถานการณ์
จะมคี วามทา้ ทายทมี่ ลี กั ษณะเปน็ เอกลกั ษณจ์ ำ� เพาะ ดงั นน้ั ผตู้ อบสนองเหตุ
ตอ้ งมคี วามยดื หย่นุ มากพอส�ำหรบั การปรับเปลย่ี นไปตามสถานการณ์เทา่ ที่
มที รพั ยากร
กรณีทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับสารเคมี (Chemical)
๕-๑๗ สารเคมีอาจอยู่ในรูปของของเหลว ของแข็ง หรือเป็นไอ
ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางกายภาพของสารเคมีน้ันๆ สารเคมีที่อยู่ในรูป
ของของเหลวและของแขง็ มกั เปน็ ประเภทสารเคมที ส่ี ามารถกำ� จดั ออกจาก
ผวิ หนังไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ
123
การปฏิบตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนิวเคลยี ร์
๕-๑๘ โดยทั่วไป อาจเป็นไปไม่ได้หรือไม่มีความจ�ำเป็นท่ีจะต้อง
ท�ำลายล้างพิษที่ผิวหนัง หลังจากท่ีสัมผัสกับสารเคมีในลักษณะเป็นไอ
อย่างไรก็ตาม ไอของสารเคมีอาจถูกดักจับอยู่ภายในเส้ือผ้า ท�ำให้ยังคง
มีอันตรายอยู่ได้ต่อไป ดังน้ัน การถอดเส้ือผ้าจึงเป็นข้ันตอนแรก ส�ำหรับ
การท�ำลายล้างพิษผู้ประสบภัยต้องสงสัยว่ามีการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็น
ของเหลวหรอื เปน็ ไอ
๕-๑๙ วิธีการท�ำลายล้างพิษตนเองหรือการท�ำลายล้างพิษฉุกเฉิน
ควรเริ่มขึ้นทันทีส�ำหรับผู้ประสบภัยต้องสงสัยว่ามีการเปื้อนพิษสารเคมี
สำ� หรบั ระบบการทำ� ลายลา้ งพษิ ทซ่ี บั ซอ้ น ระบบวธิ กี ารแสวงเครอื่ งในสนาม
และระบบทป่ี ระณตี อาจใหค้ วามเป็นส่วนตวั ไดด้ กี วา่ , มคี วามสะดวกสบาย,
มีความละเอียดสมบูรณ์ในการปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษ อย่างไรก็ตาม
ระบบนใี้ ชเ้ วลาในการจดั ตง้ั และใชท้ รพั ยากรมากขนึ้ และอาจไมใ่ ชท่ างเลอื ก
ในการท�ำลายล้างพษิ ในขนั้ ตน้ ระบบนเ้ี ปน็ รูปแบบท่ีนำ� มาใช้ในการท�ำลาย
ล้างพิษเพิ่มเติมแก่ผู้ประสบภัย ซึ่งผ่านการท�ำลายล้างพิษตนเองหรือ
การท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินมาแล้ว และเป็นมาตรการป้องกันเอาไว้ก่อน
ส�ำหรับผู้ประสบภัยจากสารเคมี ซ่ึงไม่แสดงอาการบ่งช้ีหรือไม่มีหลักฐาน
แนช่ ัดที่เกีย่ วข้องกับการเปือ้ นพิษจากสารเคมี
๕-๒๐ อาจมีความจ�ำเป็นที่ต้องใช้วิธีการท�ำลายล้างพิษหลาย
วิธีร่วมกัน ทั้งน้ีขึ้นอยู่กับเวลาและทรัพยากรที่จ�ำเป็นในการจัดตั้งและใน
การปฏิบตั ิการ รวมท้ังจ�ำนวนผู้ประสบภยั ทเ่ี ข้ารบั การทำ� ลายลา้ งพิษ และ
ความประณตี สมบรู ณ์ของวธิ ีการท�ำลายลา้ งพิษที่น�ำมาใช้
124
การปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลียร์
กรณีทเี่ กยี่ วข้องกับสารชวี ะ (Biological)
๕-๒๑ ลกั ษณะของสารชวี ะมกั แสดงอาการบง่ ชลี้ า่ ชา้ และไมค่ อ่ ยมี
สญั ญาณบง่ ชท้ี รี่ บั รไู้ ดโ้ ดยงา่ ย (เชน่ ส,ี กลนิ่ ) ในกรณขี องสารชวี ะทถี่ กู ปลอ่ ย
กระจายออกมา มักไม่มีเหตุการณ์ในบริเวณท่ีเกิดเหตุท่ีต้องปฏิบัติในการ
ตอบสนองเว้นแต่ได้มีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการแพร่กระจาย หรือ
มกี ารคน้ พบเครอื่ งมอื ทอ่ี า้ งวา่ หรอื สงสยั วา่ มกี ารใชแ้ พรก่ ระจายสารชวี ะ หรอื
มกี ารจับกุมผกู้ ่อการท่ีมีพฤติกรรมแพร่กระจายสารชวี ะ
๕-๒๒ สถานที่ท่ีดูแลด้านสุขภาพมักเป็นบริเวณท่ีมีการจัดการ
เหตุการณ์ด้านสารชีวะ ในสถานที่เช่นนั้นมักเป็นที่รับรู้กันว่ามีเหตุการณ์
เก่ียวข้องกับสารชีวะ เนื่องจากมีจ�ำนวนผู้ป่วยเป็นจ�ำนวนมากที่มีลักษณะ
อาการบ่งชีค้ ลา้ ยกับการได้รบั สารชีวะ
๕-๒๓ การรักษาทางการแพทย์เป็นวิธีการตอบสนองเหตุการณ์
ด้านสารชีวะ ท่ีอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุที่ส�ำคัญ ค�ำแนะน�ำเก่ียวกับ
วิธีการทำ� ลายล้างพิษ ใหใ้ ชส้ บ่แู ละฝอยนำ้� อุ่นจากฝักบัว โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่
ผปู้ ว่ ยทไ่ี มไ่ ดช้ ำ� ระรา่ งกายดว้ ยตนเองอยา่ งละเอยี ดสมบรู ณเ์ มอ่ื เกดิ เหตกุ ารณ์
หากสงสัยว่ามีเหตุการณ์ที่เก่ียวข้องกับสารชีวะ มาตรการระวังป้องกัน
ตอ้ งนำ� มาใชเ้ พอื่ ปอ้ งกนั ผปู้ ว่ ยในโรงพยาบาล รวมไปถงึ เจา้ หนา้ ทแ่ี ละสถานท่ี
ให้ปราศจากโรคตดิ เชอื้
๕-๒๔ เม่ือมีการปฏบิ ัติการทำ� ลายลา้ งพิษ ความประณตี รอบคอบ
เป็นสิง่ ส�ำคัญมากกว่าความรวดเรว็ สารชวี ะไม่ใชส่ ารทก่ี อ่ อนั ตรายจากการ
สัมผัส ดังนั้นการก�ำจัดสารชีวะออกจากผิวหนังจึงไม่มีความวิกฤติในเร่ือง
ของเวลาเหมือนกับท่ีผู้ประสบภัยได้สัมผัสกับสารเคมี การถอดเส้ือผ้าออก
ทันทีและท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินก็เพียงพอส�ำหรับผู้ประสบภัยท่ีอาจได้รับ
บาดเจ็บและตอ้ งการการรักษาเป็นกรณีเร่งด่วนมากกว่า
125
การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนอ่ื งมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนวิ เคลยี ร์
กรณที ่ีเกี่ยวขอ้ งกับสารรังสี (Ridiological)
๕-๒๕ การระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์หรือกลไกนิวเคลียร์แบบ
แสวงเคร่ือง ก่อให้เกิดผลการท�ำลายล้างอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม วัสดุ
นิวเคลียรน์ ั้นยากมากที่จะเขา้ ถึง การยกขน และการขนส่ง การด�ำเนินการ
เชน่ นนั้ กม็ ขี น้ั ตอนการปฏบิ ตั ติ ามมาอกี มากมาย แตย่ งั ไมถ่ อื วา่ เปน็ ภยั คกุ คาม
๕-๒๖ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า ซึ่งมักเก่ียวข้องกับการสาด
กระจายวัสดุรงั สเี ป็นการใชก้ ลไกการสาดกระจายวัสดรุ งั สหี รือระเบดิ โสมม
(dirty bomb) กลไกหรืออุปกรณ์นี้มีรูปแบบการใช้วัตถุระเบิดหรือ
เป็นแก๊สอัดด้วยแรงดันเป็นกลไกสาดกระจายวัสดุรังสีให้ครอบคลุมไป
ท่ัวท้ังพ้ืนท่ี กลไกสาดกระจายวัสดุรังสีไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย
เหมอื นกบั การปลอ่ ยกระจายสารเคมหี รอื สารชวี ะทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ ผลสำ� เรจ็ ตามท่ี
คาดหวัง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็ท�ำให้เกิดความวิตกกังวลทางด้านจิตวิทยา,
ท�ำให้เกิดการเปื้อนพิษเป็นบริเวณกว้าง และท�ำให้เกิดความรู้สึกเครียด
อยา่ งมนี ยั สำ� คญั
๕-๒๗ วสั ดรุ งั สที ำ� ใหเ้ กดิ ผลอนั ตรายทางดา้ นการแพทยใ์ นลกั ษณะ
หน่วงเวลาและมีอาการได้หลากหลายลักษณะ ท�ำให้ยากต่อการรับรู้
โดยปราศจากสัญญาณบ่งช้ีพิเศษหรือไม่ได้ใช้เครื่องมือตรวจหา จึงควรใช้
เคร่ืองมือตรวจวัดรังสีเพ่ือตรวจหาวัสดุรังสีมีความแรงสูงที่มีอยู่รอบบริเวณ
ท่เี กดิ เหตุ
๕-๒๘ หากมีวัสดุรังสีคงค้างอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ มีการปฏิบัติ
หลายขั้นตอนเพ่ือควบคุมอันตรายและท�ำให้มีโอกาสน้อยที่สุดที่จะได้รับ
รังสีเพ่ิมมากข้ึน จึงควรค้นหาต�ำแหน่งของกลไกสาดกระจายวัสดุรังสีและ
ด�ำเนินการควบคุม ผู้ประสบภัยควรถูกย้ายออกให้ออกห่างจากอันตราย
และนำ� ตรงไปยังพ้ืนทท่ี �ำลายล้างพษิ
126
การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์
อันเนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนิวเคลียร์
๕-๒๙ การทำ� ลายลา้ งพษิ รงั สเี ปน็ การทำ� ใหอ้ นั ตรายจากการเปอ้ื น
พิษท่ีผิวหนังเหลือน้อยลง เป็นการลดความเส่ียงไม่ให้สิ่งเปื้อนพิษเข้าสู่
รา่ งกาย ชว่ ยควบคมุ การเปอ้ื นพษิ และลดความรสู้ กึ เครยี ด ในการทำ� ลายลา้ ง
พิษรงั สี ผู้ประสบภัยควรถูกทำ� ให้เปียกน้ำ� กอ่ นการถอดเสื้อผ้าเพอ่ื ลดความ
เสีย่ งจากหายใจหรือกลืนกินฝ่นุ ละออง (อนุภาค) ที่เปื้อนรังสีเขา้ สรู่ า่ งกาย
๕-๓๐ การถอดเสื้อผ้าออกทันทีและการท�ำลายล้างพิษฉุกเฉิน
เป็นส่ิงจ�ำเป็นในกรณีท่ีผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์
ดา้ นอน่ื ๆ รว่ มดว้ ยซง่ึ ตอ้ งใหก้ ารรกั ษาอยา่ งเรง่ ดว่ น อยา่ งไรกต็ าม ไมเ่ หมอื น
กบั กรณที เี่ ปน็ สารชีวะ วัสดรุ งั สมี ที ่าทที �ำอันตรายภายนอก (ตน้ ก�ำเนิดรังสี
อยภู่ ายนอกรา่ งกาย) ซงึ่ ควรขจัดออกจากผิวหนงั และเส้อื ผา้ ใหท้ นั เวลา
ช่องเสน้ ทางการท�ำลายล้างพษิ (Decontamination Corridors)
๕-๓๑ ในรปู ที่ ๕-๒ แสดงตวั อยา่ งผงั ชอ่ งเสน้ ทางการทำ� ลายลา้ งพษิ
(เขตเฝ้าระวังถูกขยายให้ใหญ่ข้ึนเพ่ือให้เห็นรายละเอียดของช่องเส้นทาง
การทำ� ลายลา้ งพษิ ) โดยปกติ ชอ่ งเสน้ ทางการทำ� ลายลา้ งพษิ เปน็ พนื้ ทที่ ต่ี ง้ั อยู่
ในเขตเฝ้าระวังซ่ึงสถาปนาขั้นตอนการท�ำลายล้างพิษในบริเวณนี้ ซึ่งเป็น
พ้ืนท่ีที่ถูกควบคุมช่องทางเข้าที่ต่อมาจากเขตอันตราย (สถานที่เกิดเหตุ)
และต่อไปยังเขตปลอดภัย (เขตสนับสนุน) เป็นบริเวณท่ีมีการด�ำเนินการ
ปฏิบัตกิ ารท�ำลายล้างพิษสำ� หรบั เหตุการณ์นี้
127
การปฏิบตั กิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลียร์
ชอ่ งเส้นทาง
การท�ำลายลา้ งพษิ
เขต ทีเ่ กดิ เหตุ ทำ� ลายลา้ งพิษผปู้ ่วย
อนั ตราย ท�ำลายล้างพิษฉกุ เฉนิ
เขต จุดทางเข้า ทำ� ลายล้างพิษขน้ั ตอนทางเทคนิค ขนส่งทาง
เฝ้าระวงั การแพทย์
เขตปลอดภัย ทิศทางลม
รูปท่ี ๕-๒ ตวั อยา่ งผังช่องเส้นทางการทำ� ลายล้างพิษ (แสดงเป็นตวั อย่าง)
๕-๓๒ ส่วนประกอบหลักของช่องเส้นทางการท�ำลายล้างพิษ คือ
จุดทางเข้าและจุดทางออก (แนวควบคุมไอ) ส่ิงส�ำคญั คอื แนวการเคลอื่ นท่ี
ของกำ� ลงั พลผา่ นชอ่ งเสน้ ทางการท�ำลายล้างพิษต้องอยู่เหนือลม ระยะห่าง
ระหวา่ งจดุ ทางเขา้ และจดุ ทางออกขน้ึ อยกู่ บั ชอ่ งเสน้ ทางการทำ� ลายลา้ งพษิ
ทน่ี ำ� มาใชร้ ายละเอยี ดยทุ ธวธิ ี เทคนคิ และระเบยี บปฏบิ ตั สิ ำ� หรบั ชอ่ งเสน้ ทาง
การทำ� ลายล้างพิษอยูใ่ น ผนวก ง
ระเบยี บปฏิบตั ใิ นการทำ� ลายล้างพิษกำ� ลังพล
(Personel Decontamination Procedures)
๕-๓๓ การทำ� ลายลา้ งพษิ กำ� ลงั พล ไดแ้ ก่ การทำ� ลายลา้ งพษิ ฉกุ เฉนิ
การทำ� ลายล้างพษิ ตามข้ันตอนทางเทคนคิ การทำ� ลายล้างพษิ ผ้ปู ่วยจ�ำนวน
มาก และการท�ำลายลา้ งพิษผู้ป่วย
128
การปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเนอ่ื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสแี ละนิวเคลยี ร์
การท�ำลายลา้ งพิษฉกุ เฉิน (Emergency Decontamination)
๕-๓๔ การท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินเป็นกระบวนการก�ำจัดการ
เปื้อนพิษออกจากก�ำลังพล เพ่ือช่วยชีวิต ท�ำให้ได้รับบาดเจ็บน้อยท่ีสุด
และจ�ำกัดการแพร่กระจายการเปื้อนพิษ นอกจากนั้นยังเอื้ออ�ำนวยให้
การรักษาทางการแพทย์เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ให้มีการถ่ายโอนการ
เปอ้ื นพษิ ไปยงั บคุ คลหรือไปยังยุทโธปกรณอ์ นื่
๕-๓๕ สารท่ีใช้ในการท�ำลายล้างพิษนั้นต้องมีความปลอดภัย
กับการใช้บริเวณผิวหนังและบาดแผล การท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินมุ่งไป
ท่ีการเคลอ่ื นย้ายผปู้ ระสบภยั ใหอ้ อกห่างจากอันตราย
๕-๓๖ เป็นกระบวนการที่เก่ียวข้องกับการถอดเสื้อผ้าช้ันนอก
การก�ำจัดสารเคมีหยดเหลวออกจากผิวหนัง การอาบน�้ำ การตรวจสภาพ
ทั่วไปผู้ประสบภัยด้วยสายตา และสัมภาษณ์ผู้ประสบภัยอย่างคร่าวๆ
(หากมเี วลา) ในรูปที่ ๕-๓ แสดงผงั ตัวอย่างการท�ำลายล้างพษิ ฉุกเฉิน
๕-๓๗ การติดตามเหตุการณ์ ผู้บัญชาการเหตุการณ์อาจสั่งการ
ให้การท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินเป็นมาตรการท�ำลายล้างพิษอันดับแรก
การสถาปนาสถานีท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วจะช่วยลดจ�ำนวน
ผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด (ดูในผนวก ง ส�ำหรับข้ันตอนการท�ำลาย
ลา้ งพิษฉกุ เฉนิ )
129
การปฏิบัตกิ ารแกไ้ ขสถานการณ์
อนั เน่อื งมาจากเคมี ชวี ะ รังสีและนิวเคลียร์
เขตอนั ตราย เขตเฝ้าระวงั เขตเฝา้ ระวงั
พนื้ ทเี่ ป้ือนพษิ พ้ืนที่ทำ� ลายล้างพิษ คดั แยกผปู้ ่วย, รักษา และบัญชาการเหตุการณ์ ควบคุมบังคบั บัญชา
ที่เกิดเหตุ พน้ื ท่ี โรงพยาบาล
พ่นละออง
EOC
น�้ำ ICP
พน้ื ท่ี
พ่นละออง
นำ�้
เขตอันตราย ทิศทางการเคล่ือนย้ายผ้ปู ่วย เขตเฝ้าระวัง ทศิ ทางลม
เขตเฝ้าระวงั
อธบิ ายศัพท์
ICP Incident Command Post (ทบ่ี ัญชาการเหตุการณ)์
EOC Emergency Operations Center (ศูนยป์ ฏบิ ตั ิการสถานการณ์ฉุกเฉิน)
การทำ� ลายล้างพษิ ตามขน้ั ตอนทางเทคนคิ (Technical Decontamination)
รปู ที่ ๕-๓ ตวั อยา่ งผังการทำ� ลายล้างพิษฉกุ เฉิน
๕-๓๘ การท�ำลายล้างพิษตามขั้นตอนทางเทคนิค โดยทั่วไปมัก
หมายถงึ การทำ� ลายลา้ งพษิ ผตู้ อบสนองเหตุ ยทุ โธปกรณท์ ใี่ ชต้ อบสนองเหตุ
และพยานหลกั ฐานอยา่ งละเอยี ดประณตี การดำ� เนนิ การลกั ษณะนมี้ กั เกดิ ขนึ้
ในระหวา่ งการตอบสนองเหตกุ ารณแ์ กไ้ ขสถานการณอ์ นั เนอื่ งมาจาก คชรน.
ซ่ึงด�ำเนินการโดยผู้ตอบสนองเหตุท่ีผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี จุดเน้น
ของการท�ำลายล้างพิษตามขั้นตอนทางเทคนิค คือการท�ำให้สาร คชรน.
มีความสะเทิน (neutralization) ค�ำทั่วไปท่ีใช้ร่วมกับการท�ำลายล้างพิษ
ตามข้ันตอนทางเทคนิค ได้แก่ การท�ำลายล้างพษิ โดยละเอียด (detailed),
การทำ� ลายลา้ งพษิ ข้ันสมบูรณ์ (thorough), การทำ� ลายลา้ งพษิ ขนั้ ประณีต
(deliberate), การท�ำลายล้างพิษขั้นสมบูรณ์เบ็ดเสร็จ (definitive) และ
การท�ำลายล้างพิษผตู้ อบสนองเหตุ
130
การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเนื่องมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนิวเคลยี ร์
๕-๓๙ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเช่ือมโยงกับอุบัติเหตุหรือเช่ือมโยง
กบั การกอ่ การรา้ ยและมคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั อนั ตรายดา้ น คชรน. ผตู้ อบสนอง
เหตุจ�ำเป็นต้องใช้ถังอากาศอัดช่วยหายใจประกอบกับชุดเครื่องแต่งกาย
ป้องกันแบบปกปิดมิดชิด หรือชุดเคร่ืองแต่งกายต้านทานสะเก็ดระเบิด
หรือชดุ เคร่อื งแต่งกายปอ้ งกัน คชรน.
๕-๔๐ การทำ� ลายลา้ งพษิ ตามขนั้ ตอนทางเทคนคิ ตอ้ งดำ� เนนิ การไป
ทีละข้ันตอน ทั้งน้ขี ึ้นอยกู่ ับอนั ตรายและความเสยี่ งทเ่ี กยี่ วข้อง เพอ่ื ลดการ
เปอ้ื นพษิ ตอ่ ผตู้ อบสนองเหตลุ งจนถงึ ระดบั ปลอดภยั และปอ้ งกนั การถา่ ยโอน
การเปื้อนพิษออกนอกเขตพ้ืนที่เปื้อนพิษ วิธีการนี้ประกอบด้วยการตรวจ
สอบคู่มืออ้างอิงทางเทคนิคเพื่อตรวจสอบความเป็นอันตราย (ความไวไฟ,
ความเปน็ พษิ ) และการประเมนิ ความเสย่ี งทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ พรอ้ มกนั (ไอเมอ่ื เทยี บ
กับหยดเหลว, สารพุพองเมื่อเทียบกับสารประสาท, อันตรายจากรังสี
เมอ่ื เทยี บกับอันตรายจากเคม-ี ชวี ะ)
๕-๔๑ เมื่อเหตุการณ์ได้พัฒนามาเป็นล�ำดับ การสถาปนาการ
ทำ� ลายลา้ งพษิ ตามขนั้ ตอนทางเทคนคิ อาจดำ� เนนิ การตอ่ จากการทำ� ลายลา้ ง
พษิ ฉกุ เฉนิ อยา่ งไรกต็ าม การทำ� ลายลา้ งพษิ ตามขนั้ ตอนทางเทคนคิ อาจเกดิ
ข้ึนพร้อมกับการท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ตอบสนองเหตุ
จะไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าไปในเขตอันตรายจนกว่าได้จัดตั้งสถานี
ท�ำลายล้างตามข้ันตอนทางเทคนิคส�ำหรับผู้ตอบสนองเหตุเรียบร้อยแล้ว
(รายละเอยี ดศกึ ษาไดจ้ ากคมู่ อื FM 3-11.5/MCWP 3-37.3/NTTP 3-11.26/
AFTTP(I) 3-2.60) (ในรูปท่ี ๕-๔ แสดงตัวอย่างผังการท�ำลายล้างพิษ
ตามขัน้ ตอนทางเทคนคิ )
131
การปฏบิ ตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเน่ืองมาจากเคมี ชวี ะ รงั สีและนวิ เคลียร์
เขตอันตราย เขตเฝ้าระวงั เขตเฝ้าระวัง ควบคุมบังคับบัญชา
พื้นท่เี ป้อื นพษิ พ้นื ทท่ี �ำลายล้างพษิ คัดแยกผู้ป่วย, รกั ษา และบญั ชาการเหตุการณ์ โรงพยาบาล
พน้ื ท่พี กั รอ
ท่ีเกิดเหตุ สถานี
1 – ปลดเปลื้องยทุ โธปกรณ์
2 – ทำ� ลายล้างพิษยุทธภณั ฑป์ อ้ งกนั ตน ICP
3 – ตรวจสอบยุทธภัณฑป์ อ้ งกนั
4 – ถอดเสอ้ื ผ้า/หน้ากากปอ้ งกนั
5 – อาบน�้ำ/แต่งตวั ดว้ ยเสอื้ ผา้ ชุดใหม่
6 – ประเมินทางการแพทย์
เปอลัดย่ี ชน่วถยังหอาายกใาจศ พน้ื ที่พกั รอ ทศิ ทางลม
เขตอันตราย เขตเฝ้าระวงั เขตเฝา้ ระวัง
อธบิ ายศพั ท์
EOC Emergency Operations Center (ศูนย์ปฏิบตั สิ ถานการณ์ฉุกเฉนิ )
ICP Incident Command Post (ทบ่ี ัญชาการเหตกุ ารณ)์
PPE Personal Protective Equipment (ยทุ ธภณั ฑป์ อ้ งกนั ตน)
SCBA Self-Contained Breathing Apparatus (ถงั อากาศอดั ชว่ ยหายใจ)
technical emergency decontamination (การท�ำลายลา้ งพษิ ฉกุ เฉนิ ตามข้ันตอนทางเทคนิค)
technical decontamination (การท�ำลายลา้ งพิษตามขัน้ ตอนทางเทคนิค)
รูปที่ ๕-๔ ตัวอย่างผงั การท�ำลายลา้ งพิษตามขน้ั ตอนทางเทคนิค
การทำ� ลายล้างพษิ ผ้ปู ่วยจำ� นวนมาก
(Mass Casualty Decontamination)
๕-๔๒ เม่ือเกิดเหตุการณ์ด้าน คชรน. มีผลท�ำให้มีผู้บาดเจ็บเป็น
จ�ำนวนมากจึงอาจจ�ำเป็นต้องด�ำเนินการท�ำลายล้างพิษผู้ป่วยจ�ำนวนมาก
เนื่องจากก�ำลังพลที่ด�ำเนินกรรมวิธีผ่านทางการปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษ
ผปู้ ว่ ยจำ� นวนมากภายในประเทศไมเ่ หมอื นกบั การมชี ดุ เครอ่ื งแตง่ กายปอ้ งกนั
ท้ังน้ีต้องอาศัยความรวดเร็วและกรรมวิธีท�ำลายล้างพิษที่มีประสิทธิภาพ
132
การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อันเนอ่ื งมาจากเคมี ชีวะ รังสแี ละนวิ เคลยี ร์
นอกจากการตอบสนองด้วยความรวดเร็วแล้ว การปฏิบัติการท�ำลาย
ล้างพิษผู้ป่วยจ�ำนวนมากยังต้องการก�ำลังพลท่ีท�ำหน้าที่ตอบสนอง,
ยทุ โธปกรณ์, และสง่ิ อปุ กรณเ์ ปน็ จำ� นวนมาก (ดูในคูม่ อื JP 4-06 ส�ำหรับ
ข้อมูลท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการท�ำลายล้างพษิ ศพมนุษย์)
๕-๔๓ การปฏิบัติการอาจด�ำเนินการโดยมอบให้กับหน่วยท่ีเข้า
ประจ�ำการ หรือโดยหนว่ ยที่ตัง้ อยปู่ ระจำ� ทีท่ ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบ หรือหน่วยทมี่ ี
การจัดเปน็ ระบบ, ชมุ ชน, ระดับรฐั หรอื ระดบั ชาติ ผทู้ ี่ทำ� หนา้ ที่ตอบสนอง
เหตอุ าจไดแ้ ก่ นกั ผจญเพลงิ (ระดบั กห., ทอ้ งถ่นิ , รฐั และ/หรอื ระดบั ชาติ),
เจา้ หนา้ ทีส่ ายแพทย์, ผทู้ �ำหน้าทส่ี ่งก�ำลังบ�ำรงุ , ทหารช่าง, เจ้าหน้าท่ีรกั ษา
ความปลอดภัย และผู้ตอบสนองเหตุของชาติเจ้าบ้าน หรือเจ้าหน้าที่ของ
องคก์ รเอกชน
๕-๔๔ เมอ่ื มกี ารใชม้ าตรการแบบแสวงเครอื่ งในการทำ� ลายลา้ งพษิ
(เช่น สายฉีดนำ�้ ดบั เพลิงและหัวฉดี น้�ำดับเพลงิ ) สขุ ภาพและความปลอดภัย
ของผปู้ ว่ ยตอ้ งเอาใจใสใ่ นระดบั สงู สดุ เจา้ หนา้ ทสี่ ายแพทยต์ อ้ งหมนั่ ตรวจสอบ
ผู้ป่วยตลอดทุกห้วงของขั้นตอนการท�ำลายล้างพิษ เพื่อให้มั่นใจว่า
กระบวนการนี้จะไม่ท�ำให้เกิดการเจ็บป่วยมากย่ิงข้ึน ควรด�ำรงรักษาข้อมูล
สำ� หรบั ตดิ ตอ่ เจา้ หนา้ ทที่ ด่ี ำ� เนนิ กรรมวธิ ที ำ� ลายลา้ งพษิ ตลอดทง้ั ชอ่ งเสน้ ทาง
ทางทำ� ลายล้างพิษในกรณีท่จี ำ� เป็นท่ตี อ้ งติดตาม
๕-๔๕ เมอ่ื เดนิ ทางถงึ บรเิ วณทเี่ กดิ เหตุ หวั หนา้ หนว่ ยทำ� ลายลา้ งพษิ
ท่ีได้รับมอบหมายต้องไปรายงานตัวกับผู้บัญชาการเหตุการณ์เพ่ือฟังค�ำ
แนะน�ำ หัวหน้าหน่วยท�ำลายล้างพิษประสานกับส่วนส่ือสารและส่วน
ส่งก�ำลงั บำ� รงุ เพอ่ื ร้องขอรับการสนบั สนนุ เพ่มิ เตมิ หากจ�ำเป็น
133
การปฏบิ ตั ิการแก้ไขสถานการณ์
อนั เนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รังสีและนวิ เคลยี ร์
๕-๔๖ ผู้น�ำหน่วยปฏิบัติการตอบสนองรับค�ำแนะน�ำในลักษณะ
จำ� เพาะ และกำ� หนดสถานทที่ ำ� ลายลา้ งพษิ หนว่ ย/เจา้ หนา้ ทต่ี อบสนองเหตุ
ของกระทรวงกลาโหม อาจปฏบิ ตั กิ ารสนบั สนนุ ในความพยายามทำ� ลายลา้ ง
พษิ ของฝา่ ยพลเรอื นและใหก้ ารสนบั สนนุ ทรพั ยส์ นิ ทชี่ มุ ชนไมม่ ี ดว้ ยตำ� แหนง่
ผนู้ �ำจงึ ต้องเตรียมแผนเพือ่ การปฏิบัติ และดำ� เนนิ การดงั นี้
l ลาดตระเวนโดยผนู้ ำ� หนว่ ยเพอ่ื กำ� หนดสถานทท่ี ำ� ลายลา้ งพษิ
l แบ่งมอบทรัพย์สินจ�ำเพาะให้แต่ละแห่งในการจัดต้ัง
สถานท่ีท�ำลายลา้ งพิษ
l ปรบั แถลงภารกจิ การตอบสนองเหตแุ ละกจิ ทไ่ี ดร้ บั มอบ
ใหเ้ ป็นปัจจุบันตามข้อมูลใหม่
l ปรบั การจดั ยทุ โธปกรณต์ ามแถลงภารกจิ ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ นั
l ตรวจสอบยุทโธปกรณ์และเตรียมเข้าวางก�ำลังบริเวณ
สถานทที่ ำ� ลายลา้ งพษิ
l วางกำ� ลงั หนว่ ย/เจา้ หนา้ ทเี่ ขา้ ประจำ� สถานทท่ี ำ� ลายลา้ งพษิ
l ปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษโดยต่อเน่ือง และเริ่มร้องขอ
การสนับสนุนผ่านทางนายทหารติดต่อไปยังผู้บัญชาการเหตุการณ์ในท่ีเกิด
เหตุ หรือระบบบัญชาการเหตกุ ารณ์
l กำ� หนดแผนเพอื่ ควบคมุ นำ�้ ทงิ้ หรอื กากของเสยี ทเ่ี กดิ จาก
การปฏบิ ตั กิ ารท�ำลายล้างพิษ
๕-๔๗ การทำ� ลายลา้ งพษิ ตอ้ งดำ� เนนิ การใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ เทา่ ทท่ี ำ� ไดเ้ พอื่
ชว่ ยชวี ติ ผตู้ อบสนองเหตรุ ายแรก/นกั ผจญเพลงิ ควรใชท้ รพั ยากรทม่ี อี ยแู่ ละ
เรม่ิ ดำ� เนนิ การทำ� ลายลา้ งพษิ ทนั ทเี ทา่ ทท่ี ำ� ได้ เนอ่ื งจากหนว่ ยตอบสนองเหตุ
134
การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์
อันเนือ่ งมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนิวเคลยี ร์
สามารถนำ� นำ้� ไปดว้ ยในปรมิ าณมาก แนวทางการใชแ้ บบวธิ แี สวงเครอ่ื งทเ่ี ปน็
ไปได้มากท่ีสุด คือการใช้ยุทโธปกรณ์ท่ีมีอยู่ส�ำหรับพ่นน�้ำแรงดันต่�ำ แม้แต่
การใช้น�้ำเพียงอย่างเดียว ก็สามารถท�ำลายล้างพิษได้เป็นอย่างดี กระนั้น
หากใช้รว่ มกับสบู่กจ็ ะท�ำให้จำ� กัดส่ิงเปื้อนพษิ ไดด้ ยี งิ่ ขึน้
๕-๔๘ สารละลายโซเดยี ม ไฮโปคลอไรต์ (sodium hypochlorite)
(สารฟอกขาว) แบบเจือจาง สามารถน�ำมาใชก้ �ำจัดสาร คชรน. โดยเฉพาะ
อยา่ งยงิ่ ในกระบวนการท�ำลายลา้ งพิษผ้ปู ่วยท่ีเดนิ ไม่ได้ สารละลายท่ีมสี ่วน
ผสมไฮโปคลอไรต์ประมาณ ๐.๕ เปอร์เซ็นต์ สามารถใช้ท�ำลายล้างพิษ
เปลหาม, อปุ กรณท์ ใ่ี ชต้ ดั และผวิ สมั ผสั อนื่ ๆ ทไี่ มใ่ ชผ่ วิ หนงั สำ� หรบั สบกู่ บั นำ�้
ใช้ในบริเวณผวิ สมั ผสั ทเ่ี ป็นผวิ หนัง
๕-๔๙ ลำ� ดบั ตอ่ มา การจดั ตง้ั สถานที ำ� ลายลา้ งพษิ ผปู้ ว่ ยจำ� นวนมาก
มักจัดต้ังต่อจากการจัดต้ังสถานีการท�ำลายล้างพิษฉุกเฉินและการ
ทำ� ลายลา้ งพษิ ตามขนั้ ตอนทางเทคนคิ การทำ� ลายลา้ งพษิ ฉกุ เฉนิ ควรดำ� เนนิ
การใหเ้ สรจ็ สนิ้ ในเวลาทสี่ ถานกี ารทำ� ลายลา้ งพษิ ผปู้ ว่ ยจำ� นวนมากไดจ้ ดั ตงั้
เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม การท�ำลายล้างพิษตามข้ันตอนทางเทคนิค
เพื่อการสนับสนุนผู้ตอบสนองเหตุควรยังคงมีอยู่ในระหว่างการปฏิบัติการ
(ดู ผนวก ง ส�ำหรบั ข้อมลู รายละเอยี ดเก่ยี วกับกระบวนการทำ� ลายล้างพิษ
ผู้ปว่ ยจ�ำนวนมาก)
การท�ำลายล้างพษิ ผปู้ ่วย (Patient Decontamination)
๕-๕๐ การท�ำลายล้างพิษผู้ป่วยมีความคล้ายคลึงกับการท�ำลาย
ล้างพิษผู้ป่วยจ�ำนวนมาก โดยท่ัวไป มักหมายถึงการปฏิบัติการท�ำลาย
ล้างพิษทเี่ กิดขน้ึ ณ สถานีท�ำลายล้างพิษผปู้ ่วยทีจ่ ัดตงั้ อยู่ใกลก้ บั ท่ีพยาบาล
135
การปฏิบตั กิ ารแก้ไขสถานการณ์
อนั เนื่องมาจากเคมี ชีวะ รงั สีและนวิ เคลียร์
รปู แบบการทำ� ลายลา้ งพษิ ลกั ษณะนเ้ี ปน็ การปฏบิ ตั ทิ ม่ี จี ดุ มงุ่ หมายสำ� คญั คอื
การปอ้ งกนั ทรี่ กั ษาพยาบาลไมใ่ หเ้ ปอ้ื นพษิ การดำ� เนนิ กรรมวธิ ที ำ� ลายลา้ งพษิ
ผปู้ ว่ ยเปน็ ตามคำ� แนะนำ� สำ� หรบั การทำ� ลายลา้ งพษิ ผปู้ ว่ ยจำ� นวนมากทกุ ขน้ั ตอน
แตก่ ารปฏบิ ตั กิ ารมขี นาดเลก็ กวา่ ซง่ึ เปน็ การดแู ลผปู้ ว่ ยทไี่ มผ่ า่ นสถานที ำ� ลาย
ล้างพิษผู้ป่วยจ�ำนวนมาก และต้องส่งผู้ป่วยน้ันไปยังท่ีรักษาพยาบาลเพ่ือ
ใหก้ ารดแู ลรักษาเปน็ กรณเี ร่งดว่ น
๕-๕๑ การทำ� ลายลา้ งพษิ ผปู้ ว่ ยเปน็ การดำ� เนนิ การเพอ่ื ใหม้ น่ั ใจวา่
ผู้ป่วยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับรักษาจนกว่าผู้ป่วยเหล่าน้ันปราศจากการ
เปื้อนพิษ (ส�ำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการท�ำลายล้างพิษผู้ป่วยสามารถ
ศกึ ษาไดจ้ ากคมู่ อื FM 4-02.7/MCRP 4-11.1F/NTTP 4-02.7/AFTTP 3-42.3)
ขัน้ ตอนการทำ� ลายลา้ งพิษอาคารสถานที,่ สภาพภมู ิประเทศ
และยุทโธปกรณ์ (Facility, Terrain and Equipment
Decontamination Procedures)
๕-๕๒ การปฏิบัติการท�ำลายล้างพิษเพื่อแก้ไขสถานการณ์
อันเน่อื งมาจาก คชรน. อาจเกี่ยวข้องกบั อาคารสถานท่,ี สภาพภมู ปิ ระเทศ
และยุทโธปกรณ์ แนวทางหลักนิยมท่ีใช้อาจศึกษาเพิ่มเติมได้จากคู่มือ
FM 3-11.5/MCWP 3-37.3/NTTP 3-11.26/AFTTP(I) 3-2.60 จากพน้ื ฐาน
ความต้องการในการท�ำลายล้างพิษลักษณะนี้ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ
และเทคนิคพิเศษ กระทรวงกลาโหมมักเป็นผู้สนับสนุนชุดปฏิบัติการ
ตอบสนองทางด้านเทคนิคใหแ้ กห่ นว่ ยงานอ่นื
136