หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๔๗ โครงสร้างเวลาเรียน หลักสูตรบูรณาการท้องถิ่น เรื่อง วังวัดอนรรฆค่างามสง่าคู่รัตนโกสินทร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จำนวนคาบ(ชั่วโมง) หน่วยที่ 1 พระบรมหาราชวังควรรู้ การศึกษาประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์ 2 หน่วยที่ 2 วัดพระแก้วคู่ชาติไทย การศึกษาภูมิปัญญาสมัยรัตนโกสินทร์ (การศึกษานอกสถานที่กระบวนการเรียนรู้จาก ประสบการณ์จริง) 2
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๔๘ คำอธิบายรายวิชา ศ ๑6๑๐๑ ศิลปะ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 4๐ ชั่วโมง/ปี สาระที่ ๑ ทัศนศิลป์ ศึกษาเกี่ยวกับวงสีธรรมชาติ และสีคู่ตรงข้าม โดยใช้หลักการจัดขนาดสัดส่วนความสมดุลในงาน ทัศนศิลป์ ฝึกทักษะสร้างงานทัศนศิลป์จากรูปแบบ ๒ มิติ เป็น ๓ มิติ โดยใช้หลักการของแสงเงา และน้ำหนัก การสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์โดยใช้สีคู่ตรงข้าม หลักการจัดขนาดสัดส่วน และความสมดุล และภาพประกอบ เพื่อถ่ายทอดความคิด หรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ รักและชื่นชมในผลงาน สืบทอดวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของชาติ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม และวิธีการสอนโดยเน้นกระบวนการปฏิบัติ แบ่งกลุ่มให้ ศึกษาประวัติความเป็นมาพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม อภิปรายอิทธิพลความเชื่อ ทางศาสนาที่มีต่องานทัศนศิลป์ เขียนบรรยายบทบาทของงานทัศนศิลป์ที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างผลงาน ทัศนศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์จากการศึกษานอกสถานที่ จาก ประสบการณ์จริง สาระที่ ๒ ดนตรี ศึกษาองค์ประกอบดนตรี และศัพท์สังคีต จำแนกประเภทและบทบาทหน้าที่เครื่องดนตรีไทย และ เครื่องดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างๆ อ่าน เขียนโน้ตไทย สากล และพื้นบ้านทำนองง่ายๆ สามารถใช้ เครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลง ด้นสดที่มีจังหวะและทำนองง่ายๆ บรรยายความรู้สึกที่มีต่อดนตรี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทำนอง จังหวะการประสานเสียง และคุณภาพเสียงของเพลงที่ฟัง ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิด เพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ ศึกษาประวัติความเป็นมา องค์ประกอบของนาฏศิลป์ไทย และนาฏศิลป์พื้นบ้าน ในรูปแบบต่างๆ การใช้ท่าทางประกอบท่ารำ เพลงปลุกใจ รำวงมาตรฐาน การแสดงพื้นบ้าน ระบำ รำ ฟ้อน ละคร สร้างสรรค์อย่างสง่างาม สืบทอดงานนาฏศิลป์ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญา ท้องถิ่นอย่างมีรูปแบบ ถ่ายทอดความรู้สึก กล้าแสดงออก เกิดความรักความชื่นชมในงานนาฏศิลป์ และ นำมาใช้กับวิชาอื่นๆ อย่างมีคุณค่า
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๔๙ รหัสตัวชี้วัด ศ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗ ศ๑.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖ ศ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖ ศ๒.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ศ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖ ศ๓.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒ รวม ๓๐ ตัวชี้วัด
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๐ โครงสร้างเวลาเรียน หลักสูตรบูรณาการท้องถิ่น เรื่อง พระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จำนวนคาบ(ชั่วโมง) หน่วยที่ 1 พระบรมหาราชวังควรรู้ ศึกษาประวัติความเป็นมาพระบรมมหาราชวังและวัดพระ ศรีรัตนศาสดาราม แบ่งกลุ่มอภิปรายอิทธิพลความเชื่อ ทางศาสนาที่มีต่องานทัศนศิลป์ ๑ เขียนบรรยายบทบาทของงานทัศนศิลป์ที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างผลงานทัศนศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม MIND MAP (มายด์แม็ป) หรือ แผนที่ความคิด ๒ หน่วยที่ 2 วัดพระแก้วคู่ชาติไทย การศึกษาประวัติศาสตร์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม อภิปรายอิทธิพลความเชื่อทางศาสนาที่มีต่องานทัศนศิลป์ ๑ สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์(ลายไทยพื้นฐาน) จาก การศึกษานอกสถานที่ จากประสบการณ์จริง ๒
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๑ คำอธิบายรายวิชา อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำ ที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียง ข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุประโยค หรือ ข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายที่อ่าน บอก ใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังหรืออ่าน บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆและเรื่องเล่า พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสาร ระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และคำขออนุญาตและให้คำแนะนำ พูด/เขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว เรื่องใกล้ตัวและประวัติความเป็นมา ความสำคัญของพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามซึ่งเป็นสถานที่ สำคัญของชาติไทย พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผล สั้นๆประกอบ พูด/เขียนให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข้อมูล ต่าง ๆ ตามที่ฟังหรืออ่าน พูดเขียนแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่าง สุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง/ชีวิต ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำ ตามโครงสร้าง ประโยค ของ ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย เปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลอง และ ประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้ารวบรวม คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา ใช้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ โดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกผ่านทักษะ/กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การพูดและการดู การสื่อความ กระบวนการ กลุ่ม การแสวงหาความรู้ การคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม ตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น การสร้าง ความคิดรวบยอด รวมทั้งมีการประยุกต์ความรู้ ทักษะ เจตคติและค่านิยม ไปใช้ในเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในชีวิตจริงเพื่อ สร้างผลผลิตสะท้อนความสามารถในการสื่อสารของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ สื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหา ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนนำความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติและค่านิยม ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ต ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ต ๓.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๒ ป.๖/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชี้วัด
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๒ โครงสร้างเวลาเรียน หลักสูตรบูรณาการท้องถิ่น เรื่อง วังวัดอนรรฆค่า งามสง่าคู่รัตนโกสินทร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จำนวนคาบ (ชั่วโมง) หน่วยที่ 1 วัดพระแก้วคู่ชาติไทย การอ่านประวัติความเป็นมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม 2 การเขียนคำศัพท์และบรรยายความประทับใจเกี่ยวกับวัด พระศรีรัตนศาสดาราม 1 หน่วยที่ 2 พระบรมหาราชวังควรรู้ การอ่านประวัติความเป็นมาพระบรมมหาราชวัง 2 การเขียนคำศัพท์และบรรยายความประทับใจเกี่ยวกับ พระบรมมหาราชวัง 1
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๓ โครงสร้างเนื้อหา หลักสูตรบูรณาการท้องถิ่น เรื่อง วังวัดอนรรฆค่า งามสง่าคู่รัตนโกสินทร์ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี กลุ่มสาระการเรียน สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย -อ่านจับใจความสำคัญประวัติความ เป็นมาพระบรมมหราชวังและวัดพระแก้ว แล้วตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน -การเขียนแผนภาพความคิดจากประวัติ ความเป็นมาพระบรมมหราชวังและวัด พระแก้ว เขียนบรรยายภาพความรู้สึก จากการที่ไปทัศนศึกษาชมพระบรมม หราชวังและวัดพระแก้ว -อ่านจับใจความสำคัญประวัติความ เป็นมาพระบรมมหราชวังและวัดพระ แก้วแล้วตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน -การเขียนแผนภาพความคิดจาก ประวัติความเป็นมาพระบรมมหราช วังและวัดพระแก้ว เขียนบรรยายภาพ ความรู้สึก จากการที่ไปทัศนศึกษาชม พระบรมมหราชวังและวัดพระแก้ว คณิตศาสตร์ -ศึกษาประวัติความเป็นมาวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง แบ่งกลุ่มเดินสำรวจพื้นที่ แบ่งกลุ่ม อภิปรายจุดสำคัญต่างๆในวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง -เขียนแผนผังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง - สืบค้นประวัติความเป็นมาพระศรี รัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง จากอินเทอร์เน็ต แบ่งกลุ่มเดินสำรวจพื้นที่ แบ่งกลุ่ม อภิปรายจุดสำคัญต่างๆ - เขียนแผนผังวัดพระศรีรัตนศาสดา ราม และพระบรมมหาราชวัง วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย –การต่อเซลล์ไฟฟ้า –การต่อหลอดไฟฟ้าในบ้าน หิน - กระบวนการเกิดหินอัคนีหิน ตะกอน และหินแปร - สืบค้นจากหนังสือเรียน และสื่อเทคโนโลยี - สำรวจวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย - สังเกตการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย - สืบค้นข้อมูลสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนใน แผนภาพวงจรไฟฟ้า - เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย - สำรวจการต่อหลอดไฟฟ้าบริเวณ โรงเรียนและ - พระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรี รัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร - สังเกตลักษณะของหิน - สืบค้นข้อมูลประเภทของหิน สังคมศึกษาฯ (ประวัติศาสตร์) วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษา เรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างง่ายๆ ประวัติศาสตร์การสถาปนาอาณาจักร รัตนโกสินทร์ ประวัติศาสตร์วัดพระศรี กิจกรรมการเรียนรู้กระบวนการ สืบค้นข้อมูล กระบวนการเรียนรู้จาก ประสบการณ์จริงจาก พระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรี
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๔ กลุ่มสาระการเรียน สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ รัตนศาสดารามวัดแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ข้อมูลจากหลักฐานที่หลากหลาย และ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ใน การศึกษาประวัติศาสตร์สมัย รัตนโกสินทร์ ในการทำความเข้าใจ เรื่องราวสำคัญในอดีต สภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองการปกครองของ ประเทศเพื่อนบ้านในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ของกลุ่มอาเซียน พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจัยที่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทาง เศรษฐกิจและการปกครองของไทยสมัย รัตนโกสินทร์ ผลงานของบุคคลสำคัญ ด้านต่างๆ สมัยรัตนโกสินทร์ ภูมิปัญญา ไทยที่สำคัญสมัยรัตนโกสินทร์ที่น่า ภาคภูมิใจและควรค่าแก่การอนุรักษ์ รัตนศาสดาราม ด้วยวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการทาง สังคม ศิลปะ - อภิปรายเกี่ยวกับอิทธิพลของความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนาที่มีผลต่องาน ทัศนศิลป์ในท้องถิ่น พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม โดยการเขียนแผนผัง My mapping ตามความรู้ความเข้าใจของ นักเรียน - ระบุและบรรยายอิทธิพลทางวัฒนธรรม ที่มีผลต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ของ พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตน ศาสดารามโดยการออกแบบประยุกต์ ชิ้นงาน”ลายไทยพื้นฐานกล่าวขานวัง หลวง” - เขียนแผนผัง My mapping ตาม ความรู้ความเข้าใจของ นักเรียน เกี่ยวกับงานทัศนศิลป์ที่ สะท้อนชีวิตและสังคมของ พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรี รัตนศาสดาราม - สร้างสรรค์งานการออกแบบลาย ไทยประยุกต์พื้นฐานเกี่ยวกับอิทธิพล ทางวัฒนธรรมของพระมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม - อภิปรายเกี่ยวกับอิทธิพลของความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนาที่มีผลต่องาน ทัศนศิลป์ในท้องถิ่น พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม โดยการเขียนแผนผัง My mapping ตามความรู้ความเข้าใจของ นักเรียน - เขียนแผนผัง My mapping ตาม ความรู้ความเข้าใจของ นักเรียน เกี่ยวกับงานทัศนศิลป์ที่ สะท้อนชีวิตและสังคมของ พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรี รัตนศาสดาราม - สร้างสรรค์งานการออกแบบลาย ไทยประยุกต์พื้นฐานเกี่ยวกับอิทธิพล
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๕ กลุ่มสาระการเรียน สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ - ระบุและบรรยายอิทธิพลทางวัฒนธรรม ที่มีผลต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ของ พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตน ศาสดารามโดยการออกแบบประยุกต์ ชิ้นงาน”ลายไทยพื้นฐานกล่าวขานวัง หลวง” ทางวัฒนธรรมของพระมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) -อ่านออกเสียง ประวัติความเป็นมาวัด พระศรีรัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง -อ่านจับใจความ ประวัติความเป็นมาวัดพระศรีรัตนศาสดา ราม และพระบรมมหาราชวัง -การเขียนคำศัพท์และเขียนบรรยาย ความประทับใจเกี่ยวกับวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง - สืบค้นประวัติความเป็นมาวัดพระศรี รัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวังจากอินเทอร์เน็ต แล้วแบ่งกลุ่มกันฝึกอ่านออกเสียง - อ่านจับใจความและช่วยกันตอบ คำถามจากอ่านประวัติความเป็นมา วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง - เขียนคำศัพท์และเขียนบรรยาย เกี่ยวกับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๖ กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ ในการตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.๑ ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รูปแบบ ต่างๆเขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น มาตรฐาน ท 1.1 ป ๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อย กรองได้ถูกต้อง ป๖/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยคและ ข้อความที่เป็นโวหาร ป ๖/๓ อ่านเรื่องสั้นๆ อย่างหลากหลายโดยจับใจ เวลาแล้วถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ป ๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิดจาก เรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต ป๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน - การอ่านจับใจความสำคัญพระบรมมหราชวัง และวัดพระแก้ว ตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน มาตรฐาน ท 2.1 ป 6/2 เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจนและ เหมาะสม ป๖/๓เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ ความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน ป 6/9 มีมารยาทในการเขียน - การเขียนแผนที่ความคิดจาการสืบค้นประวัติ ความเป็นมาพระบรมมหราชวังและวัดพระแก้ว จากอินเทอร์เน็ต - การเขียนบรรยายภาพเกี่ยวกับ พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วจากการที่ ไปทัศนศึกษา
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำระที่ ๑ จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น มาตรฐาน ค 1.1 ค 1.1 ป.6/๑๑ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ ปัญหาอัตราส่วน - เขียนแผนผั วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น มาตรฐาน ว 3.2 ว 2.3 ป.6/1 ระบุส่วนประกอบและบรรยาย หน้าที่ของแต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า อย่างง่ายจากหลักฐาน เชิงประจักษ์ - ระบุส่วนประกอบและบรรยาย หน้าที่ของแต่ ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า มาตรฐาน ว 3.2 ว 2.3 ป.6/2 เขียนแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้า อย่างง่าย - เขียนแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้า อย่างง่าย มาตรฐาน ว 3.2 ว 2.3 ป.6/3 ออกแบบการทดลองและทดลอง ด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายวิธีการและผล ของการต่อ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม - อธิบายวิธีการและผลของการต่อ เซลล์ไฟฟ้า แบบอนุกรม มาตรฐาน ว 3.2 ว 2.3 ป.6/4 ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม โดยบอก ประโยชน์และการ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน -ประโยชน์ของความรู้ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบ อนุกรม โดยบอกประโยชน์และการ ประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๘ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น มาตรฐาน ว 3.2 ว 2.3 ป.6/5 ออกแบบการทดลองและทดลอง ด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายการต่อหลอด ไฟฟ้าแบบอนุกรมและ แบบขนาน -อธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและ แบบ ขนาน มาตรฐาน ว 3.2 ว 2.3 ป.6/5 ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ ของการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบ ขนาน โดยบอกประโยชน์ข้อจำกัด และการ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน -ประโยชน์ของความรู้ของการต่อหลอดไฟฟ้า แบบอนุกรมและแบบขนาน โดยบอกประโยชน์ ข้อจำกัด และการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๕๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการ ทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธำรง ความเป็นไทย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ป.6/1 อธิบายความสำคัญของวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อย่างง่ายๆ ป.6/2 นำเสนอข้อมูลจากหลักฐานที่หลากหลายใน การทำความเข้าใจเรื่องราวสำคัญในอดีต ป.6/4อธิบายภูมิปัญญาไทยที่สำคัญสมัย รัตนโกสินทร์ที่น่าภาคภูมิใจและควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ 1) การนำวิธีการทางประวัติศาสตร์ไปใช้ศึกษาเรื่องราวใน ท้องถิ่น เช่น การศึกษาประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์ 2) สรุปข้อมูลที่ได้จากหลักฐานทั้งความจริงและข้อเท็จจริง 3) การนำเสนอข้อมูลที่ได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การเล่าเรื่อง การเขียนรายงาน 4) ภูมิปัญญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ เช่น ศิลปกรรม พระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สาระที่ 1 ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ท 1.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน ทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. บรรยายบทบาทของงานทัศนศิลป์ที่สะท้อนชีวิตและ สังคม 2. อภิปรายเกี่ยวกับอิทธิพลของความเชื่อศรัทธาในศาสนา ที่มีผลต่องานทัศนศิลป์ในท้องถิ่น 3. ระบุ และบรรยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่มีผล ต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ของบุคคล - บทบาทของงานทัศนศิลป์ในชีวิตและสังคม - อิทธิพลของศาสนาที่มีต่องานทัศนศิลป์ใน ท้องถิ่น - อิทธิพลทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่มีผลต่อการ สร้างงานทัศนศิลป์
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สาระที่ ๑ ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ๒. อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตาม หลักการอ่าน ข้อความ นิทาน และบทกลอน การใช้พจนานุกรม หลักการอ่านออกเสียง เช่น - การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ายคำ - การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคำและกลุ่มคำ - การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่ำ ในประโยค - การออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในข้อความ - การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ๕. พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่อง ต่างๆ ใกล้ตัว กิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ประกอบ คำและประโยคที่ใช้แสดงความรู้สึก และการให้เหตุผล ประกอบ เช่น ชอบ/ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มีความสุข เศร้า หิว รสชาติ สวย น่าเกลียด เสียงดัง ดี ไม่ดี เช่น มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ๓. พูด/เขียนแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประโยคที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๒ แนวทางการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบบูรณาการความรู้ที่เชื่อมโยงความรู้และกระบวนการทั้งในกลุ่ม สาระการเรียนรู้และระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ 2. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ 3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 4. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น ใช้แหล่งเรียนรู้จากสภาพการณ์จริง และวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เรียน 5. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนเห็นคุณค่ามีความภาคภูมิใจในสถานที่สำคัญทาง ประวัติศาสตร์ของชาติของตน สื่อแหล่งเรียนรู้ 1.แหล่งเรียนรู้พระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์(วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง) 2. อินเทอร์เน็ต 3. วิทยากร 4. เอกสารด้านความรู้/ ใบความรู้/ ใบงาน แนวการวัดและประเมินผล 1. ด้านความรู้ 1.1 ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2. ด้านทักษะและกระบวนการ 2.1 สังเกตทักษะการทำงาน 3. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3.1 สังเกตพฤติกรรม ความใฝ่ฝันเรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๓ ภาคผนวก - ประวัติและความเป็นมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม - ประวัติและความเป็นมาพระบรมมหาราชวัง - ตัวอย่างแผนบูรณาการหลักสูตรเรื่อง วังวัดอนรรฆค่า งามสง่าคู่รัตนโกสินทร์
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๔ ประวัติและความเป็นมา พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เป็นพระราชวังที่ประทับของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทยในสมัยกรุง รัตนโกสินทร์ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร แม้ปัจจุบันจะไม่เป็นที่ ประทับของพระมหากษัตริย์แล้ว แต่พระบรมมหาราชวังก็ยังคงถูกใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ทุกปี จนถึงปัจจุบัน และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ จักรีพระองค์ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีมายังตำบลบางกอกซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ เจ้าพระยา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังหลวงขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครองประเทศ และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรีการก่อสร้างพระราชวังหลวงเริ่มขึ้นพร้อม กับการสร้างพระนครเมื่อ พ.ศ. 2325 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นที่อยู่ของพระยาราชาเศรษฐีและชาวจีน ทั้งหลาย ดังนั้น พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปอยู่สถานที่แห่งใหม่ตั้งแต่คลองใต้วัดสามปลื้มจนถึงคลอง เหนือวัดสามเพ็ง เริ่มดำเนินการในวันที่ 22 เมษายน หลังพระราชพิธียกเสาหลักเมือง 1 วัน และเริ่มก่อสร้าง พระบรมมหาราชวังในวันที่ 6 พฤษภาคม[3] ก่อนจะมีการเฉลิมพระราชมณเฑียรในวันที่ 13 มิถุนายน แต่ ขณะนั้นพระราชมนเฑียรสร้างด้วยเครื่องไม้และสร้างเสาระเนียดรายรอบพระราชวัง เพื่อประกอบพระราชพิธี ปราบดาภิเษก ต่อมาในปี พ.ศ. 2326 พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชมนเทียร พระมหาปราสาท เปลี่ยน เสาระเนียดจากเครื่องไม้เป็นก่อกำแพงอิฐ สร้างประตูรายรอบพระบรมมหาราชวัง ตลอดจนสร้างพระอาราม ในพระราชวังหลวงคือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้ว มรกต) เมื่อสร้างพระราชนิเวศน์มนเฑียรเป็นการถาวรแล้วโปรดเกล้าฯ ให้มีการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเต็ม ตามแบบแผนราชประเพณีอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2328 พระบรมมหาราชวังได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมขยายอาณาเขตและบูรณปฏิสังขรณ์มาในทุกรัชกาล ใน รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าน้องยา เธอ เจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระราชอนุชา ขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จึง ทรงบัญญัติให้เรียกพระราชวังหลวงว่า "พระบรมมหาราชวัง" นั่นคือ ทรงบัญญัติให้ใช้คำว่า "บรม" สำหรับฝ่าย วังหลวง และ “บวร” สำหรับฝ่ายวังหน้า พระราชวังบวรสถานมงคลหรือวังหน้าจึงเรียกว่า "พระบวรราชวัง" เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว พระราชวังหลวงก็ยังคงใช้ว่า "พระบรมมหาราชวัง" มาจนกระทั่งปัจจุบัน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๕ ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่องบินจากฝ่ายสัมพันธมิตรเข้าทิ้งระเบิดโจมตีสถานที่อันเป็นจุด ยุทธศาสตร์อันรวมถึงพระบรมมหาราชวัง โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2487[4] มีลูกระเบิดมาตกในเขต พระบรมมหาราชวังข้าง ๆ พระพุทธรัตนสถาน ทำให้โครงสร้างหลังคาได้รับความเสียหาย[5] ปัจจุบันพระบรมมหาราชวังมิได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีแล้ว เนื่องจากมีสิ่ง ปลูกสร้างอยู่อย่างแออัด ทำให้ขวางทางลม ในฤดูร้อน ที่ประทับในพระบรมมหาราชวังจึงร้อนจัด ทำให้ พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ประชวรกันอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรง พระกรุณาาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายที่ประทับถาวรไปอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือระหว่างคลองผดุงกรุงเกษม กับคลองสามเสน คือพระราชวังดุสิต และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีมาจนถึงปัจจุบัน ที่ตั้งและอาณาเขต หลังจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างราชธานีแห่งใหม่แล้ว ก็โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังไว้ด้วย ที่ตรงบริเวณพระบรมมหาราชวังในปัจจุบันนี้แต่เดิมเป็น ชุมชนชาวจีน พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนเหล่านี้อพยพไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บริเวณสำเพ็งในปัจจุบัน ใน ปัจจุบันพระบรมมหาราชวังตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีอาณาเข ติดต่อกับสถานที่สำคัญเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับท้องสนามหลวง ทิศตะวันออก ติดกับกระทรวงกลาโหม ทิศใต้ติดกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ของพระบรมมหาราชวังในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเมื่อแรกสร้าง มี เนื้อที่ทั้งหมด 132 ไร่ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายเขต พื้นที่ออกไปเป็น 152 ไร่ 2 งาน จนถึงปัจจุบัน แผนผังของพระบรมมหาราชวังได้ยึดถือแบบของพระราชวัง หลวงสมัยกรุงศรีอยุธยา คือสร้างติดกับแม่น้ำ หันหน้าไปทางทิศเหนือ โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ทางทิศ ตะวันตก ให้กำแพงเมืองด้านข้างแม่น้ำเป็นกำแพงพระบรมมหาราชวังชั้นนอก และมีวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นพระอารามหลวงในพระราชวังตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ์ของกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๖ เขตพระราชฐาน พระบรมมหาราชวังสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นบริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดารามและเขตพระราชฐานอันเป็น พื้นที่สำหรับเป็นที่ประทับและบริหารราชการแผ่นดินของพระมหากษัตริย์ โดยเขตพระราชฐานสามารถแบ่ง ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.เขตพระราชฐานชั้นหน้า เขตพระราชฐานชั้นหน้า นับตั้งแต่ประตูวิเศษไชยศรีถึงประตูพิมานไชยศรี (ไม่นับรวมบริเวณวัดพระ ศรีรัตนศาสดาราม) รวมทั้ง บริเวณรอบนอกกำแพงชั้นในของพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ตั้งของหน่วยราชการ ต่าง ๆ และที่ทำการของทหารรักษาพระราชวัง เช่น สำนักพระราชวัง กรมราชเลขานุการในพระองค์เป็นต้น 2. เขตพระราชฐานชั้นกลาง เป็นที่ประดิษฐานของ พระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่ง พุดตานกาญจนสิงหาสน์ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และพระที่นั่ง อาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท เขตพระราชฐานชั้นกลาง นับตั้งแต่ประตูพิมานไชยศรีถึงประตูสนามราชกิจ เป็นที่ตั้งของปราสาทราชมณเฑียร ทั้งสถาปัตยกรรมไทยและตะวันตก ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญ ๆ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราช พิธีฉัตรมงคล ประกอบไปด้วย หมู่พระมหามณเฑียร พระมหามณเฑียร เป็นหมู่พระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เพื่อทรงใช้ เป็นที่ประทับและเป็นพระราชพิธีมณฑลในพระราชพิธีปราบดาภิเษก ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นกลางและ ชั้นใน ปัจจุบัน ใช้เป็นพระราชพิธีมณฑลสำหรับประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและพระราชพิธีสำคัญอื่น ๆ ในพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรีสืบเนื่องกันมา โดยพระที่นั่งที่สำคัญของพระมหามณเฑียร ได้แก่ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๗ หมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท หมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อใช้เป็นสถานที่ ออกว่าราชการและเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นกลางและชั้นใน เดิมประกอบด้วย หมู่พระที่นั่ง 11 องค์ ปัจจุบัน พระที่นั่งในหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอยู่ในสภาพที่ชำรุดจนเกินกว่าการ บูรณะได้จึงมีการรื้อพระที่นั่งลงหลายองค์อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่บนสถานที่เดิม พระที่นั่งที่สำคัญของหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ได้แก่ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติและพระที่นั่งบรม ราชสถิตยมโหฬาร หมู่พระมหาปราสาท หมู่พระมหาปราสาท เป็นหมู่พระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เพื่อใช้ เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญและเป็นพระราชมณเฑียรที่ประทับ ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นกลาง และชั้นใน ปัจจุบัน หมู่พระมหาปราสาทใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ อาทิ พระราชพิธีฉัตรมงคล รวมทั้ง เป็นสถานที่สำหรับสรงน้ำพระบรมศพและประดิษฐานพระบรมศพของของพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง พระ ที่นั่งที่สำคัญ ได้แก่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งพิมานรัตยา พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท และ พระที่นั่งราชกรัณยสภา พระที่นั่งบริเวณสวนศิวาลัย สวนศิวาลัย เป็นสวนภายในพระบรมมหาราชวัง ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของพระอภิ เนาว์นิเวศน์อันเป็นพระราชมณเฑียรที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตราบจนเสด็จ สวรรคต แต่พระราชมณเฑียรดังกล่าวเกิดการชำรุดทรุดโทรมจนยากต่อการบูรณะซ่อมแซม ดังนั้น จึงจำต้อง รื้อถอนไปเกือบหมดสิ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบัน สวนศิวาลัยและบริเวณ ใกล้เคียงมีพระที่นั่งที่สำคัญตั้งอยู่ ได้แก่ พระพุทธรัตนสถาน พระที่นั่งมหิศรปราสาท พระที่นั่งบรมพิมาน และ พระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท 3. เขตพระราชฐานชั้นใน เขตพระราชฐานชั้นใน นับตั้งแต่ประตูสนามราชกิจจนถึงแถวเต๊งทางทิศใต้ เป็นเขตสำหรับผู้หญิงล้วน ผู้ชายที่ อายุ 13 ปีขึ้นไปห้ามเข้า (ยกเว้นองค์พระมหากษัตริย์) หากจะเข้าก็ต้องมีโขลนกำกับดูแล (โขลน คือ ตำรวจ หญิงที่คอยกำกับดูแล ความเรียบร้อยในเขตพระราชฐานชั้นใน) เป็นที่ตั้งของพระตำหนัก ตำหนัก เรือน ของ พระมเหสี พระราชเทวี พระชายา พระราชธิดา เจ้าจอมมารดา เจ้าจอม ข้าราชบริพารและข้าราชการฝ่ายใน การใช้งาน พระบรมมหาราชวังได้ใช้เป็นที่ประทับและศูนย์กลางการปกครองของพระมหากษัตริย์สมัย รัตนโกสินทร์มาตลอด จนถึงกลางรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๘ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประทับเพียงครั้งคราว ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้เสด็จประทับ ณ พระที่นั่งบรม พิมาน ในพระบรมมหาราชวัง กระทั่งเสด็จสวรรคต หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน มิได้มีพระมหากษัตริย์เสด็จมา ประทับในพระบรมมหาราชวังเป็นการถาวรอีก ปัจจุบันพระที่นั่งบรมพิมาน เป็นเขตพระราชฐานและที่ประทับ ส่วนพระองค์ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีส่วนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาประทับบ้างเป็นครั้งคราว เช่น เวลาซ่อมพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน หรือเวลามีการพระราชพิธี เป็นต้น พระบรมมหาราชวังใช้เป็นสถานที่ ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ตามพระราชประเพณี, เป็นที่รับแขกเมือง และพระราชอาคันตุกะ รวมทั้ง เป็นที่ตั้งพระบรมศพและพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง ส่วนบริเวณเขตพระราชฐานชั้นนอกได้ใช้เป็น ที่ตั้งของสถานที่ราชการ เช่น สำนักพระราชวัง, สำนักราชเลขาธิการ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา และเขต พระราชฐานชั้นในก็มิได้เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้านายฝ่ายในอีกต่อไป แต่ยังคงเป็นที่ทำการและที่พำนักของ ข้าราชการสำนักพระราชวังในฝ่ายพระราชฐานชั้นในบางส่วน ซึ่งล้วนเป็นสตรีทั้งสิ้น
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๖๙ แผนที่ภายในพระบรมมหาราชวัง 1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 2. อาคารที่ทำการสำนักพระราชวัง 3. พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 4. ศาลาลูกขุนใน 5. ศาลาสหทัยสมาคม 6. พิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 7. ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์ 8. พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 9. พระที่นั่งไพศาลทักษิณ 10. พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน 11. พระที่นั่งดุสิตาภิรมย์ 12. พระที่นั่งราชฤดี 13. พระที่นั่งสนามจันทร์ 14. หอศาสตราคม 15. หอพระสุราลัยพิมาน 16. หอพระธาตุมณเฑียร 17. พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท 18. พระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ 19. พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ 20. พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร 21. พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 22. พระที่นั่งพิมานรัตยา 23. พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท 24. พระที่นั่งราชกรัณยสภา 25. ศาลาเปลื้องเครื่อง 26. เขาไกรลาสจำลอง 27. สวนศิวาลัย 28. พระที่นั่งบรมพิมาน 29. พระที่นั่งมหิศรปราสาท 30. พระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท 31. พระที่นั่งสีตลาภิรมย์ 32. พระพุทธรัตนสถาน 33. พระที่นั่งไชยชุมพล 34. พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท 35. เขตพระราชฐานชั้นใน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๐ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดซึ่งพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนาอาณาจักร รัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 เป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่พระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับวัด พระศรีสรรเพชญ์ที่ตั้งอยู่ในพระราชวังโบราณสมัยอาณาจักรอยุธยา นอกจากนี้ มีพระราชประสงค์ให้วัดพระ ศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาส ไม่มีส่วนสังฆาวาส ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดารามมีอาคารสำคัญและอาคารประกอบแบ่งกลุ่มอาคารออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มพระอุโบสถ เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญสูงสุด อาคารประธานของกลุ่มอาคารนี้ คือ พระอุโบสถ ซึ่งเป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ล้อมรอบด้วยศาลาราย พระโพธิธาตุพิมาน หอพระราชพงศานุสรณ์ หอพระราชกรมานุสรณ์หอระฆัง และหอพระคันธารราษฎร์กลุ่มที่สองคือ กลุ่มฐานไพทีเป็นกลุ่มอาคารที่ ประดิษฐานบนฐานยกพื้นขนาดใหญ่บริเวณลานด้านทิศเหนือของกลุ่มพระอุโบสถ รองรับปูชนียสถานและปู ชนียวัตถุสำคัญ เช่น พระมณฑป พระศรีรัตนเจดีย์ ปราสาทพระเทพบิดร พระสุวรรณเจดีย์และพระบรมรา ชานุสาวรีย์ กลุ่มที่สามคือกลุ่มอาคารประกอบ ประกอบด้วย หอพระนาก พระเศวตกุฏาคารวิหารยอด หอ มณเฑียรธรรม พระอัษฎามหาเจดีย์ ยักษ์ทวารบาล และจิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียงซึ่งมีภาพวาดจิตรกรรม ฝาผนังจำนวน 178 ห้อง เรียงต่อกันยาวตลอดฝาผนังทั้ง 4 ทิศ มีเนื้อหาจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ประวัติ ภูมิหลัง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพิเคราะห์เห็นว่าชัยภูมิของกรุงธนบุรีไม่ มั่นคงแข็งแรงสําหรับการต่อต้านข้าศึก สู้ชัยภูมิทางฟากตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้เพราะเป็นที่แหลม มีแม่น้ำเป็นขอบเขตกว่าครึ่ง ซึ่งอาจอาศัยแม่น้ำเป็นปราการต้านข้าศึกได้เป็นอย่างดี มูลเหตุสําคัญอีกประการ หนึ่งคือ มีพระบรมราโชบายที่จะสร้างพระมหานครใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองละม้ายกรุงศรีอยุธยาราชธานีเดิม โดยเร็วที่สุด โดยสถานที่ตั้งของพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่เดิมเป็นที่ดินซึ่งพระยาราชา เศรษฐีและบรรดาชาวจีนซึ่งเข้ามาพึ่งบรมโพธิสมภารอยู่ในครั้งนั้นได้ตั้งเคหสถานบ้านเรือนอยู่แต่ก่อน จึงได้ พระกรุณาโปรดเกล็าฯ ให้พระยาราชาเศรษฐีและบรรดาชาวจีนทั้งปวงยกย้ายไปตั้งเคหสถานบ้านเรือนไปอยู่ ณ ที่สวนตั้งแต่คลองวัดสามปลื้มไปจนถึงคลองวัดสำเพ็ง รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพระศรีรัตน ศาสดารามขึ้นพร้อมกับการสร้างพระบรมมหาราชวังและการสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี เมื่อ พ.ศ. 2325 โดยสร้างตามประเพณีการสร้างพระอารามหลวงในเขตพระราชวังที่มีมาตั้งแต่อดีต เช่น วัดมหาธาตุใน พระราชวังของอาณาจักรสุโขทัย และวัดพระศรีสรรเพชญ์ในพระราชวังโบราณของอาณาจักรอยุธยา ลักษณะ สำคัญของพระอารามหลวงในพระราชวังคือมีเพียงเขตพุทธาวาส ไม่มีเขตสังฆาวาส มูลเหตุแห่งการสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นนั้นเพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือ พระแก้วมรกต ซึ่งอัญเชิญมาจากกรุงศรีสัตนาคนหุตหรือประเทศลาว แล้วนำมาประดิษฐานไว้ที่โรงด้านหน้า พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติขึ้นเป็นพระปฐมบรมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรีแล้วโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เข้ามาประดิษฐานในพระอุโบสถพระอารามใหม่ ในวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ.
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๑ 2327 แล้วพระราชทานนามพระอารามว่า "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม"เมื่อแรกสถาปนามีปูชนียสถานอันเป็น หลักสำคัญของพระอารามพร้อมบริบูรณ์ คือ พระเจดีย์ พระอุโบสถ พระวิหารและหอไตร ส่วนพระระเบียงรอบบริเวณพระอารามนั้น น่าจะสร้างขึ้นแต่ในระยะแรกด้วย เป็นแนวระเบียงที่ต่าง จากปัจจุบัน กล่าวคือ แนวพระระเบียงด้านตะวันออกและตะวันตกสร้างเป็นแนวตรง ยังมิได้ต่อคดขยายไป มี ประตูเป็นทางเข้าออกสี่ด้าน ด้านตะวันออกมี 2 ประตู ตรงหน้าพระอุโบสถประตูหนึ่ง ตรงหน้าหอพระ มณเฑียรธรรมออกมาตรงกับประตูสวัสดิโสภาที่กำแพงพระบรมมหาราชวังประตูหนึ่ง ด้านตะวันตกมี 3 ประตู ด้านเหนือมี 1 ประตู ใกล้กับประตูมณีนพรัตน์ที่กำแพงพระบรมหาราชวัง ด้านใต้มี 1 ประตู ได้รับ พระราชทานนามว่า ประตูศรีรัตนศาสดา ผนังพระระเบียงเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้น จนจบ บริเวณถัดจากหอพระมณเฑียรออกไปในแนวเดียวกันตรงที่เป็นพระวิหารยอดในปัจจุบัน ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารสำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเทพบิดร หรือพระเชษฐบิดร ซึ่งเดิม ประดิษฐานอยู่ที่วัดพุทไธศวรรย์พระนครศรีอยุธยา แล้วพระราชทานนามพระวิหารตามพระพุทธรูปว่า หอ พระเชษฐบิดร เรียกกันสามัญว่า วิหารขาว ด้านตะวันออกของหอพระมณเฑียร ทรงสร้างพระเจดีย์ย่อมุมไม้ สิบสองปิดทอง 2 องค์ ประดิษฐานอยู่มุมชั้นทักษิณด้านตะวันออกของปราสาทพระเทพบิดร ในการสถาปนาระยะที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2331–2352 ได้สร้างพระมณฑปขึ้นแทนหอพระมณเฑียร ธรรมหลังเดิม ด้านตะวันออกของพระมณฑปนั้น เดิมมีพระสุวรรณเจดีย์ 2 องค์ ประดิษฐานอยู่ มีสระก่ออิฐอยู่ ระหว่างพระสุวรรณเจดีย์ และมีการสร้างหอพระมณเฑียรธรรมขึ้นใหม่ทางมุมพระระเบียงด้าน ทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อสร้างพระมณฑปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีงานฉลองเป็น การใหญ่ ต่อมามีการสร้างหอระฆังระหว่างพระอุโบสถกับพระระเบียงด้านใต้ นอกจากนี้ยังโปรดเกล้าฯ ให้ สร้างหอพระนากขึ้นทางมุมพระระเบียงด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หลังสถาปนาสิ่งต่าง ๆ ในพระอารามแล้ว จึงมีงานสมโภชพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรและฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2352 บุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร รัชกาลที่ 3 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มิได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์สิ่งใดในอาราม เพราะได้ บูรณะตกแต่งครั้งใหญ่ไว้เมื่อใกล้สิ้นรัชกาลพระชนกาธิราช[7] ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หัว วัดพระศรีรัตนศาสดารามเริ่มทรุดโทรม จึงทรงบูรณปฏิสังขรณ์ตั้งแต่ พ.ศ. 2374 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2391 การบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามในรัชกาลนี้ ทรงปฏิสังขรณ์ทั่วทั้งพระอาราม โปรดให้กรมหมื่นศรี สุเทพและกรมหมื่นไกรสรวิชิต เป็นผู้อำนวยการปฏิสังขรณ์กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์กรมขุนสถิตย์ สถาพร ทรงตรวจการช่างต่าง ๆ พระยาศรีพิพัฒน์และพระยาเพ็ชร์พิไชย เป็นนายงาน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๒ ในจดหมายเหตุทรงปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ของพระศรีภูมิปรีชา เจ้ากรมพระอารักษ์ใน รัชกาลที่ 3 และนายมี ได้บรรยายไว้ว่า "มีพระศรีรัตนอุโบสถ พระมหามณฑป พระเสวตรเวชยันตะพิมาน วิหารยอด แลหอพระมณเฑียรธรรม หอพระเชษฐบิดร แลพระมหาเจดีย์ 2 และพระอนุเจดีย์ 7 และพระ อัษฎามหาเจดีย์ 8 พระองค์" พระอุโบสถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมใหม่ทั้งหลัง ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ ยังคงเรื่องมารผจญและไตรภูมิไว้ นอกนั้นเขียนใหม่ทั้งหมด ผนังระหว่างหน้าต่างเดิมเป็นภาพเทพชุมนุม เขียน ใหม่เป็นเรื่องปฐมสมโพธิ์และผนังหน้าต่างเดิมเป็นภาพปฐมสมโพธิ์ เขียนใหม่เป็นเรื่องชาดกต่าง ๆ ที่ ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เดิมตั้งบุษบกทองคำต่อกับฐานชุกชี โปรดให้สร้างเบญจาสามชั้น หนุนบุษบกให้สูงสมทรงพระอุโบสถเช่นที่ปรากฏในปัจจุบัน พระมณฑป ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์เครื่องบนและผนังภายนอก พระวิหารยอด โปรด ให้รื้อหอพระเชษฐบิดร สร้างใหม่เป็นวิหารมีหลังคายอด โดยบานประตูด้านหน้าเป็นบานประดับมุก ฝีมือช่าง สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ นำมาจากบานประตูวิหารพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัด อ่างทอง ส่วนพระระเบียง ซ่อมเปลี่ยนเครื่องบนใหม่ ภาพจิตรกรรมฝาผนังลบเขียนใหม่ทั้งหมด แต่คงเป็น เรื่องราวรามเกียรติ์แต่ต้นจนจบเช่นของเดิม ผู้ร่างต้นแบบเขียนในครั้งนี้เป็นพระสงฆ์ ชื่อพระอาจารย์แดง หอ พระนาก โปรดให้ซ่อมแปลงหอพระนากหลังเก่า โดยสร้างขยายใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม พระอัษฎามหาเจดีย์ สันนิษฐานว่า ในรัชกาลที่ 3 ทรงซ่อมทำใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม ดังลักษณะในปัจจุบัน แล้วโปรดให้เชิญพระบรม สารีริกธาตุเข้าบรรจุในพระปรางค์ด้วย และทรงโปรดให้สร้างเก๋งบอกพระปริยัติธรรมภายในกำแพงแก้วพระ อัษฎามหาเจดีย์ สำหรับเป็นที่ราชบัณฑิตบอกพระปริยัติธรรมแก่ภิกษุสามเณร โปรดให้ปั้นรูปยักษ์ 6 คู่ โดยรูป ยักษ์คู่ทศกัณฐ์กับสหัสเดชะนั้นปั้นโดยหลวงเทพรจนา (กัน) นอกจากนั้นยังได้ทรงสร้างพระพุทธรูปฉลอง พระองค์รัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2 ภาพสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์พระอารามและ สร้างปูชนียสถานเพิ่มเติม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมตัวไม้เครื่องบนของพระอุโบสถและเขียนภาพที่ฝา ผนังใหม่ ยกเว้นภาพเรื่องมารผจญที่ผนังหุ้มกลองด้านหน้า และภาพเรื่องไตรภูมิที่ผนังหุ้มกลองด้านหลัง ฝีมือ พระอาจารย์นาคแห่งวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารนั้นให้คงของเดิมไว้ พื้นพระอุโบสถเดิมปูเสื่อทองเหลือ ให้ หล่อเป็นแผ่นอิฐทองเหลืองปูใหม่ บานหน้าต่างเดิมประดับมุกแกมเบื้อเปลี่ยนเป็นประดับมุกทั้งบาน รูป เซี่ยวกางที่บานประตูและรูปเทวดาที่ข้างหน้าต่าง เดิมเป็นลายเขียน แก้เป็นลายปูนปั้นปิดทองประดับกระจก เชิงไพทีและเชิงผนังรองพระอุโบสถ ประดับแผ่นกระเบื้องลายใหม่ พระมณฑป ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมเปลี่ยนตัวไม้เครื่องบนที่ผุ พื้นข้างในเดิมปูดาดแผ่น เงินให้เปลี่ยนเป็นสานเสื่อเงินปูแทน ฐานไพทีที่ตั้งพระมณฑป ให้ถมที่ต่อลานและชั้นทักษิณพระมณฑปออกไป
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๓ ทั้งด้านตะวันออกและด้านตะวันตกจนเท่าที่ปรากฏในปัจจุบัน มีกำแพงแก้วทำด้วยศิลาล้อมสองชั้น สร้าง ประตูซุ้มมณฑปและบันไดทางขึ้นบนฐานไพที 6 แห่ง พระระเบียง ต่อพระระเบียงย่อออกไปตรงด้านสะกัด ฐานไพทีที่ต่อใหม่นั้นทั้งด้านตะวันออกและตะวันตก ทางด้านตะวันออกโอบพระอัษฎาหาเจดีย์เข้าไว้ในวงพระ ระเบียง 2 องค์ ทำประตูซุ้มมงกุฎประดับกระเบื้อง และมีพลับพลาเปลื้องเครื่องอยู่ข้างประตูข้างละหลัง ทางด้านตะวันตกทำประตูซุ้มจัตุรมุขมีพลับพลาเปลื้องเครื่องข้างเหนือประตูหลังหนึ่ง ตัวพระระเบียง โปรดให้ ซ่อมและเขียนภาพเรื่องรามเกียรติ์ใหม่ แต่การเขียนภาพยังค้างอยู่ มาแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 5 พระปรางค์ ปราสาทบนลานทักษิณพระมณฑปที่ต่อใหม่ทางด้านตะวันออก ซึ่งเดิมเป็นสระนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างปราสาทยอดปรางค์องค์หนึ่ง ด้วยทรงพระดำริจะให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และตั้งบุษบกให้ต่ำลงเพื่อจะได้ชมเนื้อแก้วได้ถนัด สร้างเสร็จรัชกาลที่ 5 แต่เนื่องจากสถานที่คับแคบไม่เหมาะ แก่การพระราชพิธี จึงมิได้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรมาประดิษฐานไว้ดังพระราชดำริเดิม พระสุวรรณเจดีย์ 2 องค์ ซึ่งเดิมประดิษฐานอยู่บริเวณที่ต่อลานทักษิณออกไปใหม่นี้ โปรดให้ชะลอมาไว้ ที่รักแร้ปราสาทพระเทพบิดรทั้งสองข้าง พระศรีรัตนเจดีย์บนลานทักษิณพระมณฑปที่ต่อใหม่ทางด้านตะวันตก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหญ่สูง 1 เส้นเท่ากับพระมณฑปตามแบบพระเจดีย์วัดพระศรี สรรเพชญ์พระนครศรีอยุธยา สร้างแล้วเสร็จในรัชกาลแต่ยังมิได้ประดับกระเบื้องทอง และที่ลานทักษิณด้าน เหนือพระมณฑป ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสามภพพ่ายไปจำลองแบบนครวัดเพื่อสร้างถวายเป็น พุทธบูชา แต่การยังค้างอยู่จนสิ้นรัชกาล นครวัดจำลองที่ปรากฏในปัจจุบัน เป็นของสร้างใหม่ในรัชกาลที่ 5 โปรดให้หม่อมเจ้าประวิช ชุมสาย เป็นผู้ทำ หอพระคันธารราษฎร์และมณฑปยอดปรางค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นที่มุมพระระเบียง หน้าพระอุโบสถ อาคารทั้งสองสร้างเสร็จและประดับผนังด้วยกระเบื้องเคลือบสีในรัชกาลที่ 5 และทรงโปรด เกล้าฯ ให้รื้อหอระฆังเดิมครั้งรัชกาลที่ 1 แล้วสร้างใหม่ในที่เดียวกัน พระโพธิธาตุพิมานหลังพระอุโบสถ ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมณฑปยอดปรางค์เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ทรงปรางค์ปิดทองของ โบราณ ที่พระองค์ได้มาจากเมืองเหนือครั้งยังทรงผนวช สองข้างพระโพธิธาตุพิมาน สร้างหอน้อยข้างละหลัง พระราชทานนามว่า หอพระราชกรมานุสรและหอพระราชพงศานุสร หอระฆังที่ได้มีการรื้อของเดิมที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 และสร้างใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ในที่ตั้งเดิม รัชกาลที่ 5 จนกระทั่งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสวยราชสมบัติไม่นาน จึงได้รีบเร่งสร้างและ ปฏิสังขรณ์วัดพระแก้วให้สำเร็จทันวันฉลองพระนครครบร้อยปีซึ่งมีงานฉลองในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๔ 2425[17] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นนายงานทำการปฏิสังขรณ์พระอาราม โดยโปรดเกล้าให้จ่ายพระราชทรัพย์ซึ่งเป็นส่วนพระคลังข้างที่ เป็นเงินในพระองค์ทรงจ่ายราชการฝ่ายใน ให้ทำ วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งนั้นให้ใช้เงินพระคลังข้างที่ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หัวซึ่งทรงพระราชอุทิศไว้สำหรับซ่อมแซมพระอารามทั้งปวง ในการปฏิสังขรณ์ใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นการปฏิสังขรณ์ทั่วพระอารามคราวที่ 2 ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลกรุงรัตนโกสินทร์ประดิษฐานไว้บนชั้นทักษิณพระพุทธปรางค์ปราสาท 3 แห่ง ประจำรัชกาลที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 แห่งหนึ่ง ประจำรัชกาลที่ 4 แห่งหนึ่ง ประจำรัชกาลที่ 5 แห่งหนึ่ง อนุสาวรีย์นั้นหล่อเป็นรูปตราแผ่นดินอยู่บนบุษบกตั้งบนฐานหินอ่อน และหล่อรูปพระยาช้างเผือกประจำ รัชกาลตั้งรายที่ฐานอนุสาวรีย์ เป็นเครื่องประดับเหมือนกันทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แต่งโคลงจารึกแผ่นหินอ่อนประดับพระระเบียง โครงเรื่องรามเกียรติประดับตามเสาตรงกับห้องที่เขียนเรื่อง โคลงเรื่องนารายณ์สิบปางและอสุรพงศ์ วานรพงศ์ ประดับผนังตรงที่เขียนเรื่องและรูปนั้น โครงทั้งปวงนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการกับพระสงฆ์ซึ่งเป็นกวีรับ ไปแต่งถวายบ้างจนครบบริบูรณ์[19] ก่อนจะสิ้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมพระ พุทธปรางค์ปราสาทเป็นการใหญ่อีกครั้งหนึ่ง อันเนื่องจากเกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2446 เวลา 22 นาฬิกาเศษ โดยทำเครื่องบนใหม่ทั้งหมดและทรงปฏิสังขรณ์ลวดลายประดับตกแต่งต่าง ๆ ไฟไหม้ ครั้งนี้ทำให้พระประธานซึ่งอยู่ในพระพุทธปรางค์ปราสาทและพระพุทธรูปพระเทพบิดรซึ่งประดิษฐานอยู่ในมุข ต้องละลายสูญไปด้วย จากนั้นพระพุทธปรางค์ปราสาทก็ว่างอยู่ตลอดรัชกาล พระอุโบสถในสมัยรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 สืบเนื่องจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูป รัชกาลต่าง ๆ ดังนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งศิวาลัยมหา ปราสาทขึ้นที่พระบรมมหาราชวังเพื่อประดิษฐานพระบรมรูป ต่อมาเห็นว่าพระพุทธปรางค์ปราสาทในวัดพระ ศรีรัตนศาสดารามว่างอยู่ จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแปลงพระพุทธปรางค์ปราสาทแล้วอัญเชิญพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งห้ารัชกาลมาประดิษฐานเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2461 และพระราชทาน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๕ นามใหม่ว่า ปราสาทพระเทพบิดร จากนั้นให้มีบรมราชโองการให้มีการกราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จ พระบูรพมหากษัติยาธิราชเป็นประจำปี กำหนดในวันที่ 6 เมษายน เป็นประเพณีสืบมา การบูรณะปราสาทพระเทพบิดร โปรดเกล้าฯ ให้ชะลอพระสุวรรณเจดีย์ทั้งสององค์เลื่อนออกไปจาก รักแร้ปราสาท ไปประดิษฐานไว้ที่มุมชั้นทักษิณด้านตะวันออกทั้งสองข้าง และรื้อซุ้มประตูกับบันไดขึ้นชั้น ทักษิณปราสาทพระเทพบิดร ทั้งด้านตะวันออก เหนือ และใต้ ซึ่งสร้างแต่ครั้งรัชกาลที่ 4 ทำเป็นบันไดใหม่เป็น บันไดใหญ่ปูหินอ่อน ทางชั้นทักษิณขึ้นพระศรีรัตนเจดีย์ก็ได้ทำบันไดใหญ่แบบเดียวกันอีกบันไดหนึ่ง นอกจากนั้นยังได้ทำพนมหมากที่กำแพงแก้วปราสาทพระเทพบิดรอีก 6 พาน พระอุโบสถซ่อมเครื่องทองคำ เช่นบุกษบกต่าง ๆ ซ่อมรูปจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถบ้างเล็กน้อย แก้บันไดทางขึ้นทั้ง 6 บันได พระมณฑลได้ปฏิสังขรณ์เครื่องบนทั้งหมด พระสุวรรณเจดีย์ได้ปฏิสังขรณ์ทั้งสอง องค์เป็นการใหญ่ นอกจากนี้ยังได้ซ่อมศาลาราย พลับพลาเปลื้องเครื่องรูปยักษ์ ซุ้มเสมา เป็นการเล็กน้อย ปราสาทพระเทพบิดร รัชกาลที่ 7 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นวาระกรุงรัตนโกสินทร์จะมีอายุได้ 150 ปีใน พ.ศ. 2475 จึงได้เริ่มการบูรณปฏิสังขรณ์ตั้งแต่ พ.ศ. 2472 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้น คณะหนึ่ง มีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นนายก คณะกรรมการได้ประมาณเงินค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเป็นจำนวน 600,000 บาท และกำหนดวิธีหาทุนดำเนินการ ด้วยการเปิดเรี่ยไรรับเงินบริจาคจากประชาชนทั่ววไปมาสมทบทุน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวอุทิศ พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 200,000 บาท รัฐบาลออกเงินส่วนหนึ่ง 200,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ ประชาชนได้บริจาคเข้ามา มีการบูรณปฏิสังขร์พระอุโบสถ ซุ้มเสมาและกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ ศาลารายรอบพระอุโบสถ 12 หลัง พระมณฑป พระศรีรัตนเจดีย์ ปราสาทพระเทพบิดร พนมหมาก ซุ้มประตู และกำแพงแก้วรอบฐานไพที พระวิหารยอด หอพระมณเฑียรธรรม หอพระนาก หอพระราชกรมานุสร หอพระราชพงศานุสร หอพระ คันธารราษฎร์ หอระฆัง พระระเบียง พลับพลาเกย 3 หลัง พระอัษฎามหาเจดีย์ สำหรับเก๋งบอกพระปริยัติ ธรรมในกำแพงแก้วพระอัษฎามหาเจดีย์ซึ่งสร้างมาแต่ครั้งรัชกาลที่ 4 ในชั้นแรกมีรายการว่าจะทรงปฏิสังขรณ์ ด้วย แต่เนื่องจากมีความชำรุดทรุดโทรมมาก จึงได้รื้อออก ทั้งกำแพงแก้วล้อมพระอัษฎามหาเจดีย์ และยังได้ รื้อศาลาเล็ก 2 หลัง ข้างพระวิหารยอดออกด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์พระอารามแล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงได้จัดงาน พระราชพิธีในเดือนเมษายน พ.ศ. 2475
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๖ รัชกาลที่ 8 จิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร มีเพียงการปรับปรุง แก้ไขส่วนที่ชำรุดทรุดโทรม แต่ที่เป็นการสำคัญ คือ การซ่อมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง อันเกิดจากใน รัชกาลก่อน มีการเจาะอิฐก่อเชิงผนังของเดิมออก แล้วหล่อเฟโรคอนกรีตประกอบเป็นเชิงผนังโดยรอบ เพื่อ ป้องกันมิให้น้ำซึมขึ้นไปยังผนังตอนบนได้ แต่กระนั้นความชื้นของผนังก็ยังชำรุดร่อนหลุดมาได้ โดยซ่อมแซม ระหว่าง พ.ศ. 2482 จนถึงสิ้นรัชกาล จิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง รัชกาลที่ 9 การบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แบ่งได้ เป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกเสด็จเสวยราชสมบัติ ระยะที่สอง คือ การปฏิสังขรณ์ในโอกาสสมโภชกรุง รัตนโกสินทร์ 200 ปี การบูรณะในระยะแรก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมภาพจิตรกรรมฝาผนังพระระเบียงต่อจากใน รัชกาลก่อน เป็นระยะ ๆ ถึง พ.ศ. 2509 สำนักพระราชวังซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลการบำรุงรักษาพระอารามสนอง พระบรมราชโองการได้เล็งเห็นว่าการบูรณะซ่อมแซมภาพจิตรกรรมฝาผนังพระระเบียงทีละเล็กทีละน้อยที่ ดำเนินการอยู่นั้นมิทันแก่การ จำเป็นต้องบูรณะปฏิสังขรณ์พระระเบียงและเขียน่อมภาพจิตรกรรมที่พระ ระเบียงทุกด้านพร้อมกันเป็นการใหญ่ ต่อมามีการแต่งตั้ง คณะกรรมการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตน ศาสดาราม มีเลขาธิการพระราชวัง นายกัลย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา เป็นประธานกรรมการ โดยมีการ บูรณะปฏิสังขรณ์พระระเบียงที่เครื่องบนและผนังชำรุดแตกร้าว แก้ไขป้องกันความชื้นผนังและเสริมความ มั่นคงของพระระเบียง โดยปรับโครงสร้างหลังคาให้ตรงระดับ ส่วนการซ่อมภาพจิตรกรรมฝาผนัง ได้พยายามรักษาภาพของเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่กระทำได้ จะลบ ภาพเดิมเขียนใหม่หรือแก้ไขภาพเดิมก็เมื่อภาพนั้นไม่มีคุณค่าในทางศิลปะเพียงพอ หรือภาพนั้นไม่ถูกลักษณะ ตามเนื้อเรื่องรามเกียรติ์ หรือสีกายสีมงกุฎผิด เป็นต้น และยังเสริมความมั่นคงแก่ชั้นสี เพื่อยึดเหนี่ยวกับผนัง หรือที่กำลังหลุดร่อน โป่งออก ไม่แนบแน่นกับผนัง การสรรหาช่างที่มีฝีมือเขียนซ่อมภาพในชั้นแรก ได้เชิญช่าง เขียนที่เคยเขียนซ่อมภาพจิตรกรรมฝาผนังพระระเบียงมีครวปฏิสังขรณ์ใหญ่ในรัชกาลที่ 7 ที่ยังมีชีวิตอยู่ 15
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๗ คน และได้ทดสอบฝีมือช่างเขียนรุ่นใหม่ โดยคัดเลือกมาได้อีก 21 คน โดยได้ดำเนินซ่อมภาพจิตรกรรมเสร็จ ทันการฉลองเมื่อ พ.ศ. 2525 โดยเรียบร้อย ดังความว่า กรมศิลปากร ตลอดจนผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ดำเนินการ และเหล่าช่างนายด้านทำการได้ลงมือ ปฏิสังขรณ์ตามโครงการ แต่เดือน ๙ ปีมะเส็ง นพศก จุลศักราช ๑๓๓๙ ตรงกับพุทธศักราช ๒๕๒๐ สืบมา จนถึงวันขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๕ ปีจอ จุลศักราช ๑๓๔๓ ตรงกับพุทธศักราช ๒๕๒๕ ประมวลเวลาที่เหล่าช่างและ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้ทำการมาด้วยความวิริยะอุตสาหะยิ่ง เป็นเวลาถึงกว่า ๔ ปี สิ้นเงิน ๓๕๐ ล้าน บาท การแล้วเสร็จทุกสิ่งสรรพ สมดังพระราชประสงค์ทุกประการ รัชกาลที่ 10 เมื่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการบูรณะใน ชั้นต้นบางจุดสำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๘ แผนการจัดการเรียนรู้ท้องถิ่น บูรณาการสู่การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ภูมิปัญญามัคคุเทศก์น้อย หน่วยย่อย พระบรมหาราชวังควรรู้ ปีการศึกษา 2567 เรื่อง อ่านเสริมประวัติพระบรมหาราชวังและวัดพระแก้ว เวลา 2 ชั่วโมง วันที่..........เดือน.............................พ.ศ................ ครูผู้สอน นางสิรินทร์ นาคเพ็ชร์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปตัดสินใจแก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป ๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป๖/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร ท ๑.๑ ป ๖/๓ อ่านเรื่องสั้นๆ อย่างหลากหลายโดยจับใจเวลาแล้วถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป ๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต ท ๑.๑ ป๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.๑ ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รูปแบบ ต่างๆเขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.๑ ป.6/2 เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมาะสม ท 2.๑ ป๖/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน ท 2.๑ ป.6/9 มีมารยาทในการเขียน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ตอบคำถามจากเรื่องที่อ่านได้ (K) 2. สรุปเนื้อหาข้อคิดจากเรื่องที่อ่านได้และเขียนบรรยายจากเรื่องภาพได้ (P) 3. เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและกลุ่ม(A) 3. สาระสำคัญ การอ่านจับใจความ ด้วยการอ่านในใจแล้วสามารถตั้งคำถาม ตอบคำถาม บอกสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละ เหตุการณ์ได้ จะทำให้สามารถสรุปใจความสำคัญและข้อคิดที่ได้จากเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การเขียนบรรยายภาพ เป็นการถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกของผู้เขียนจากการมองรูปภาพโดยการ เล่าเรื่องจากภาพ ลำดับใจความสำคัญ เชื่อมโยงความคิดของเรื่องได้ครบถ้วน ใช้สำนวนภาษาชัดเจน และ สะกดคำถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๗๙ 4. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความประวัติพระบรมหาราชวังและวัดพระแก้ว - การตั้งคำถาม – ตอบคำถามบทเรียน - การสรุปเนื้อหาและข้อคิดที่ได้ -การเขียนบรรยายภาพ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการเขียน 3. ความสามารถในการคิด 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นการทำงาน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Active Learning) ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูกล่าวทักทาย และให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม นั่งประจำกลุ่มที่จัดไว้ 2. ครูเปิดภาพพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วให้นักเรียนดู แล้วตอบคำถามว่าสถานที่ที่นักเรียน เห็นในภาพคือที่ใด นักเรียนเคยไปหรือไม่ ขั้นสำรวจค้นหา (Explore) 1. นักเรียนอ่านออกเสียงบทอ่านเสริม “ประวัติพระบรมหาราชวัง” 2. นักเรียนเขียนแผนภาพความคิดให้สมบูรณ์ ลงในใบกิจกรรม อ่านเสริมประวัติพระบรมหาราชวัง กำหนดเวลา ๑5 นาที 3. เมื่อครบเวลาที่กำหนด ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย ขั้นอธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันสรุปใจความสำคัญจากแผนภาพความคิดบทอ่านเสริม “ประวัติพระ บรมหาราชวัง” ขั้นขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติพระบรมมหาราชวังและวัดพระ แก้ว 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันตอบถึงความสำคัญของพระบรมมหาราชวังและวีดพระแก้ว 3. ครูอธิบายการเขียนบรรยายภาพ ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรียนทำใบงานตอบคำถาม เรื่อง อ่านเสริม “ประวัติพระบรมหาราชวัง” 2. นักเรียนเขียนบรรยายภาพจากสิ่งที่ตนเองได้ไปทัศนศึกษาบรมหาราชวัง
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๐ 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตการพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล - จากการเขียนบรรยายภาพ 2. เครื่องมือ แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล แบบประเมินการเขียน 3. เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ประวัติพระบรมมหาราชวัง 2. ห้องเรียน 3. อินเทอร์เน็ต 4. ทัศนศึกษาพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท้องถิ่น บูรณาการสู่การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่6 ภูมิปัญญามัคคุเทศก์น้อย หน่วยย่อย วัดพระแก้วคู่ชาติไทย ปีการศึกษา 2567 เรื่อง การเขียนบรรยายภาพ เวลา 2 ชั่วโมง วันที่..........เดือน.............................พ.ศ................ ครูผู้สอน นางสิรินทร์ นาคเพ็ชร์ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐานการเรียนรู้ท 2.๑ ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบ ต่างๆเขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.๑ ป.6/2 เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมาะสม ท 2.๑ ป.6/3 เขียนแผนภาพโครงเรื่อง และแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน ท 2.๑ ป.6/9 มีมารยาทในการเขียน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เขียนบรรยายภาพ เขียนแผนที่ความคิดจากที่นักเรียนได้ไปทัศนศึกษาแหล่งรู้ได้ (K) 2. เขียนสรุปเนื้อหาและข้อคิดจากเรื่องที่เขียนได้(P) 3. เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและกลุ่ม(A) 3. สาระสำคัญ การเขียนบรรยายภาพ เป็นการถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกของผู้เขียนจากการมองรูปภาพโดยการ เล่าเรื่องจากภาพ ลำดับใจความสำคัญ เชื่อมโยงความคิดของเรื่องได้ครบถ้วน ใช้สำนวนภาษาชัดเจน และ สะกดคำถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ 4. สาระการเรียนรู้ -การเขียนบรรยาย การเขียนแผนที่ความคิดจากที่นักเรียนได้ไปทัศนศึกษาวัดพระแก้ว - การสรุปเนื้อหาและข้อคิดที่ได้จาการไปทัศนศึกษาวัดพระแก้ว 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นการทำงาน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Active Learning)
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๒ ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูกล่าวทักทาย และให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม นั่งประจำกลุ่มที่จัดไว้ 2. ก่อนไปทัศนศึกษาครูเปิดภาพวัดพระแก้วให้นักเรียนดู แล้วตอบคำถามว่าสถานที่ที่นักเรียนเห็นใน ภาพคือที่ใด นักเรียนเคยไปหรือไม่ ขั้นสำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูนำนักเรียนไปทันศึกษาวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาติไทย 2. นักเรียนสำรวจและศึกษาประวัติของวัดพระแก้วจากวิทยากรและจากป้ายประวัติ 3. เมื่อครบเวลาที่กำหนด นักเรียนร่วมกันเก็บข้อมูล ขั้นอธิบายความรู้ (Explain) 1. เมื่อกลับมาที่โรงเรียนครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันสรุปใจความสำคัญจากประวัติวัดพระแก้ว 2. ครูอธิบายการเขียนแผนที่ความคิดสู่การเขียนบรรยายภาพที่นักเรียนประทับใจจากการไปทัศน ศึกษา 3. นักเรียนจัดกลุ่มเขียนแผนที่ความคิดที่ได้จากการไปทัศนศึกษา 4. นักเรียนเขียนบรรยายเล่าเรื่องจากที่ไปทัศนศึกษาพร้อมวาดภาพประกอบ ขั้นขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1.ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติวัดพระแก้ว โดยใช้แผนที่ความคิด เสนองานให้เพื่อนๆฟัง 2.ครูให้นักเรียนช่วยกันตอบถึงความสำคัญของวัดพระแก้ว 3.เขียนสรุปเนื้อหาและข้อคิดจากเรื่องที่เขียนได้ ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate) 1.นักเรียนทำใบงานการเขียนแผนที่ความคิด การเขียนบรรยายภาพที่นักเรียนประทับใจจากการไป ทัศนศึกษา 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล สังเกตการพฤติกรรมการเขียน พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การทำงานกลุ่ม 2. เครื่องมือ แบบประเมินการเขียน แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล การทำงานกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ประวัติพระบรมมหาราชวัง 2. ห้องเรียน 3. อินเทอร์เน็ต 4. ทัศนศึกษาพระบรมหาราชวังและวัดพระแก้ว
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๓ แบบสังเกตพฤติ กรรมการทำงานกลุ่ม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ......................................... แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง............................................................ คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วให้คะแนนตามเกณฑ์การให้คะแนน เลขที่ ชื่อ - นามสกุล ความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย การช่วยเหลือสมาชิกภายในกลุ่ม การมีส่วนร่วมในการวางแผนการทำงานกลุ่ม การรับฟังความคิดเห็นสมาชิกในกลุ่ม รวม สรุปผลการ ประเมิน ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ๑ คะแนน เกณฑ์ระดับคุณภาพ ๑๐ – ๑๒ คะแนน ระดับคุณภาพ ดี ๗ – ๙ คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ ๔ – ๖ คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินใจ ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ........................................... (.................................................) วันที่............เดือน.......................................พ.ศ. ..............
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๔ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่6 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง .................................... แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ................................................................ คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วให้คะแนนที่ตรงตามเกณฑ์การประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ ชื่อ - นามสกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน รวม สรุปผลการ ประเมิน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์ระดับคุณภาพ ๗ – ๙ คะแนน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ๕ – ๖ คะแนน ระดับคุณภาพ ดี ๓ – ๔ คะแนน ระดับคุณภาพ ผ่าน ๐ – ๒ คะแนน ระดับคุณภาพ ไม่ผ่าน เกณฑ์การตัดสินใจ ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ........................................................... (....................................................) วันที่............เดือน.......................................พ.ศ. ..............
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๕ เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เกณฑ์การให้คะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) มีวินัย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงในระหว่าง กิจกรรมการเรียนรู้ ได้ดี ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงในระหว่าง กิจกรรมการเรียนรู้ ได้ แต่ต้องมีการ เตือนเป็นบางครั้ง ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงในระหว่าง กิจกรรมการเรียนรู้ ต้องมีการเตือนเป็น ส่วนใหญ่ ไม่ปฏิบัติตนตามขอ ตกลงในระหว่าง กิจกรรมการเรียนรู้ ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พยายามในการเรียน และเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พ ย า ย า ม ใ น ก า ร เรียน ตั้งใจเรียน ไม่ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นในการทำงาน ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให สำเร็จ มีการ ปรับปรุงการทำงาน ให้ดีขึ้น ตั้งใจแลรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย ไม่ตั้งใจปฏิบัติ หน้าที่ที่ได้รับ มอบหมาย
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๖ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ............................. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ........................................................ คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วให้คะแนนที่ตรงตามเกณฑ์การประเมินสมรรถนะ สำคัญของผู้เรียน เลขที่ ชื่อ - นามสกุล ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต รวม สรุปผลการ ประเมิน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์ระดับคุณภาพ ๘ – ๙ คะแนน ระดับคุณภาพ ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ ๓ – ๔ คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินใจ ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ........................................................... (....................................................) วันที่............เดือน.......................................พ.ศ. ..............
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๗ เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน สมรรถนะสำคัญ ของผู้เรียน เกณฑ์การให้คะแนน ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) ความสามารถใน การสื่อสาร 1.สามารถปฏิบัติตามคำชี้แจง ที่ระบุในใบกิจกรรมและใบ งาน ได้ด้วยตนเอง 2.สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง ที่ครูบอกในระหว่างกิจกรรม การเรียนรู้ได้ดี 3.สามารถเขียนเรียบเรียง เนื้อหาเพื่อสื่อสารได้ดี 4.สามารถพูดสื่อสารกับ สมาชิกภายในกลุ่มและครูได้ดี ๑. สามารถปฏิบัติตามคำ ชี้แจงที่ระบุในใบกิจกรรม และใบงาน โดยให้ครูหรือ สมาชิกภายในกลุ่มแนะนำ ซ้ำ ๒. สามารถปฏิบัติตาม ข้อตกลงในระหว่าง กิจกรรมการเรียนรู้ เมื่อ ครูพูดซ้ำ ๓. สามารถเขียนเรียบเรียง เนื้อหาเพื่อสื่อสาร โดยให้ ครูหรือสมาชิกภายในกลุ่ม แนะนำซ้ำ ๔. สามารถพูดสื่อสารกับ สมาชิกภายในกลุ่มและครู แต่มีติดขัดหรือเรียบเรียง แล้วสื่อสารได้ไม่เข้าใจ บางครั้ง ๑. ไม่สามารถปฏิบัติตามคำ ชี้แจงที่ระบุในใบ กิจกรรมและใบงาน เมื่อ ครูหรือสมาชิกภายใน กลุ่มได้ให้คำแนะนำซ้ำ ๒. ไม่สามารถปฏิบัติตาม ข้อตกลงในระหว่าง กิจกรรมการเรียนรู้ เมื่อ ครูพูดซ้ำ ๓. ไม่สามารถเขียนเรียบ เรียงเนื้อหาเพื่อสื่อสาร เมื่อครูหรือสมาชิก ภายในกลุ่มได้ให้ คำแนะนำซ้ำ ๔. พูดสื่อสารกับสมาชิก ภายในกลุ่มและครู มี ติดขัดหรือเรียบเรียงแล้ว สื่อสารได้ไม่เข้าใจ บ่อยครั้ง ความสามารถใน การคิด สามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบทเรียน แล้วได้ข้อคิดเพื่อไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ สามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบทเรียน โดยให้ครูหรือสมาชิกในกลุ่ม แนะนำซ้ำ ไม่สามารถวิเคราะห์ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน บทเรียน เมื่อครูหรือสมาชิก ในกลุ่มแนะนำ ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต สามารถทำงานร่วมกับสมาชิก ในกลุ่มได้ดี รับฟังความ คิดเห็นผู้อื่น สามารถทำงานร่วมกับสมาชิก ในกลุ่มได้ แต่มีบางครั้งที่ยัง ขาดการรับฟังความคิดเห็น ผู้อื่น ไม่สามารถทำงานร่วมกับ สมาชิกในกลุ่มได้
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๘ การประเมินการเขียนบรรยายภาพ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก (3) ดี (2) ควรปรับปรุง (1) 1.การสะกดคำ สะกดคำถูกต้องทุกคำ สะกดคำผิดไม่เกิน 5 คำ สะกดคำผิดมากกว่า 5 คำ 2.การใช้คำและ สำนวน ใช้คำและสำนวนที่ สละสลวยสื่อความหมาย ที่ต้องการได้ชัดเจน ใช้คำและสำนวนสื่อ ความหมายที่ต้องการได้ดี และชัดเจนพอสมควร ใช้คำและสำนวนสื่อ ความหมายได้ไม่ชัดเจน 3.เนื้อหาสาระ เนื้อหาครอบคลุม ครบถ้วนตามความคิดที่ ต้องการสื่อสาร เนื้อหาครอบคลุม ครบถ้วนพอสมควร เนื้อหาไม่ครบถ้วนตาม ประเด็นหรือความคิดที่ ต้องการสื่อสาร 4. ความคิด สร้างสรรค์ มีมุมมองและความคิดที่ แปลกใหม่ น่าสนใจ แสดงความคิดที่แปลก ใหม่บ้าง ไม่แสดงความคิดที่แปลก ใหม่หรือน่าสนใจ เกณฑ์การประเมินการเขียน 3 = ดีมาก หมายถึง สะกดคำถูกต้อง ใช้คำและสำนวนสละสลวย สื่อความหมายชัดเจน เนื้อหาครอบคลุมครบถ้วนตามความคิดที่ต้องการสื่อสาร มีมุมมองและ ความคิดแปลกใหม่ น่าสนใจ 2 = ดีมาก หมายถึง สะกดคำถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ใช้คำและสำนวนสื่อความหมายได้ดีและ ชัดเจนพอสมควร เนื้อหาครอบคลุมครบถ้วนพอสมควร แสดงความคิด แปลกใหม่บ้าง 1 = ควรปรับปรุง หมายถึง สะกดคำผิดเป็นส่วนใหญ่ ใช้คำและสำนวนที่สื่อความหมายไม่ชัดเจน เนื้อหาไม่ครบถ้วนตามประเด็นหรือความคิดที่ต้องการสื่อสาร ไม่แสดง ความคิดแปลกใหม่หรือน่าสนใจ
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๘๙ บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนจำนวน...................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้...................คน คิดเป็นร้อยละ................... ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้...................คน คิดเป็นร้อยละ................... นักเรียนนี่ไม่ผ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ 7............................................................ 8............................................................ 9............................................................ 10......................................................... แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................... ............................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ................... ............................................................................................................................................... 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ................... ............................................................................................................................................... 4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ............................................................................................................................. ................... ............................................................................................................................................... 2. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................... ............................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................... ............................................................................................................................................... ลงชื่อ.................................................. (....................................................) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า ๒๙๐ ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.....................................................................................แล้วมี ความเห็นดังนี้ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ...................................................................................................................... ........................................................ ลงชื่อ................................................................... (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชบุรี ลงชื่อ...................................................................... (นางสาวดวงฤทัย อังกินันท์) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชบุรี
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า 291 แผนการจัดการเรียนรู้ท้องถิ่น บูรณาการสู่การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน ปีการศึกษา 2567 เรื่อง เขียนแผนผังพระบรมมหาราชวัง เวลา 1 ชั่วโมง วันที่..........เดือน.............................พ.ศ................ ครูผู้สอนนางสาวติมาภรณ์แซ่เล้า ครูผู้สอนนางธีรวรรณ กิจวรวุฒิ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายขั้นตอนการคำนวณหามาตราส่วนได้ (K) 2) หาระยะทางจากความสัมพันธ์จากมาตราส่วนที่กำหนดให้ได้(P) 3) วาดภาพจากระยะทางจริงตามมาตราส่วนที่กำหนดให้ได้ (P) 4) นำความรู้เกี่ยวกับมาตราส่วนไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) 3. สาระสำคัญ มาตราส่วนแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างขนาดจริงและขนาดย่อของวัตถุต่าง ๆ ที่แสดงในรูปภาพ หรือ แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระยะทางบนแผนที่กับระยะทางจริงระหว่างสถานที่ 2 แห่ง 4. สาระการเรียนรู้ อัตราส่วน อัตราส่วนที่เท่ากัน และมาตราส่วน 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการแปลความ 3) ทักษะการให้เหตุผล 3.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า 292 ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นการทำงาน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Active Learning) ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูกล่าวทักทาย แล้วแจ้งเรื่องที่จะเรียน 2. ครูเปิดรูปและคลิปของนักเรียนที่เดินทางไปพระบรมมหาราชวัง ขั้นสำรวจค้นหา (Explore) 1. หลังจากดูรูปและคลิปจบแล้ว แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน 2. แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาการเขียนแผนผัง ขั้นอธิบายความรู้ (Explain) 1. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนเพื่อมานำเสนอองค์ประกอบของการเขียนแผนผังพระบรมมหาราชวัง ขั้นขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูตั้งคำถามเพิ่มเติม เช่น สถานที่สำคัญในพระบรมมหาราชวัง มีอะไรบ้าง นักเรียนร่วมกันชี้แจงและ อภิปรายคำตอบที่คุณครูตั้งคำถามขึ้นมา ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรียนเขียนแผนผังพระบรมมหาราชวังโดยใช้มาตราส่วน 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล สังเกตการพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 2. เครื่องมือ แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล 3. เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ครูเปิดรูปและคลิปของนักเรียนที่เดินทางไปพระบรมมหาราชวัง 2. ใบงานการเขียนเขียนแผนผังพระบรมมหาราชวังโดยใช้มาตราส่วน 3. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.6 เล่ม 1 สสวท.
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า 293 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ........... หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ......................................... แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง............................................................ คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วให้คะแนนตามเกณฑ์การให้คะแนน เลขที่ ชื่อ - นามสกุล ความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย การช่วยเหลือสมาชิกภายในกลุ่ม การมีส่วนร่วมในการวางแผนการทำงานกลุ่ม การรับฟังความคิดเห็นสมาชิกในกลุ่ม รวม สรุปผลการ ประเมิน ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ๑ คะแนน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า 294 เกณฑ์ระดับคุณภาพ ๑๐ – ๑๒ คะแนน ระดับคุณภาพ ดี ๗ – ๙ คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ ๔ – ๖ คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินใจ ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ ........................................... (.................................................) วันที่............เดือน.......................................พ.ศ. ..............
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า 295 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่................. หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง .................................... แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ................................................................ คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วให้คะแนนที่ตรงตามเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เลขที่ ชื่อ - นามสกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน รวม สรุปผลการ ประเมิน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์ระดับคุณภาพ ๗ – ๙ คะแนน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ๕ – ๖ คะแนน ระดับคุณภาพ ดี ๓ – ๔ คะแนน ระดับคุณภาพ ผ่าน ๐ – ๒ คะแนน ระดับคุณภาพ ไม่ผ่าน
หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี “ไทยโสภิณ ถิ่นพริบพรี” 2567 หน้า 296 เกณฑ์การตัดสินใจ ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ........................................................... (....................................................) วันที่............เดือน.......................................พ.ศ. ..............