The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2567

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by weerayutillslick, 2024-06-18 10:53:01

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2567

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2567

235 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สุขภาพของเรา รหัสวิชา พ ๑5๑๐๑ ชื่อรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 12 ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มฐ พ 4.1 ป.5/1 มฐ พ 4.1 ป.5/2 มฐ พ 4.1 ป.5/3 มฐ พ 4.1 ป.5/4 ตัวชี้วัด พ 4.๑ ป.5/1 แสดงพฤติกรรมที่เห็นความสำคัญของการปฏิบัติตนตามสุขบัญญัติแห่งชาติ พ 4.๑ ป.5/2 ค้นหาข้อมูลข่าวสารเพื่อใช้สร้างเสริมสุขภาพ พ 4.๑ ป.5/3 วิเคราะห์สื่อโฆษณาในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างมีเหตุผล พ 4.๑ ป.5/4 ปฏิบัติตนในการป้องกันโรคที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน ๒. สาระสำคัญ การปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สมบูรณ์ ข้อมูลสุขภาพมีประโยชน์ต่อการดูแลและสร้างเสริมสุขภาพ จึงต้องสืบค้นจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ การตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ควรมีหลักในการพิจารณาเลือกซื้อที่ถูกต้องและมี เหตุผลในการตัดสินใจ จึงจะส่งผลดีต่อร่างกาย อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ดังนั้นเราจึงควรรู้วิธีป้องกันตนเองจากโรคที่พบบ่อย ในชีวิตประจำวัน จะช่วยลดความรุนแรงของโรค และการแพร่ระบาดของโรคได้ ๓. สาระการเรียนรู้ 1. ความสำคัญของการปฏิบัติตนตามสุขบัญญัติแห่งชาติ 2. แหล่งและวิธีค้นหาข้อมูลข่าวสารทางสุขภาพ 3. การใช้ข้อมูลข่าวสารในการสร้างเสริมสุขภาพ 4. การตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ใน ช่องปาก ฯลฯ) 5. การปฏิบัติตนในการป้องกันโรคที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน - ไข้หวัด - ไข้เลือดออก - โรคผิวหนัง - ฟันผุและโรคปริทันต์ ฯลฯ ความรู้ 1. บอกวิธีการดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาดได้ 2. บอกประโยชน์ของข้อมูลสุขภาพได้ 3. บอกแหล่งและวิธีการค้นหาข้อมูลข่าวสารทางสุขภาพได้ 4. วิเคราะห์สื่อโฆษณาในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างมีวิจารณญาณ 5. อธิบายอาการของโรค การติดต่อ การดูแลรักษา และการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ 6. บอกวิธีการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ ทักษะ 1. ทักษะการสังเกต


236 2. ทักษะการระบุ 3. ทักษะการให้เหตุผล 4. ทักษะการวิเคราะห์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงานมีความรับผิดชอบ ๔. ชิ้นงานและภาระงาน 1. บันทึกการปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 2. รายงาน เรื่อง ข้อมูลสุขภาพ 3. การรายงานผลการวิเคราะห์สื่อโฆษณาเพื่อตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า 4. ป้ายนิเทศ เรื่อง รู้ทันโรค ๕. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำเนื้อเพลงมาติดบนกระดาน แล้วให้นักเรียนฝึกร้องตาม 2 รอบ นักเรียนร่วมกันร้องเพลงสุข บัญญัติแห่งชาติ เพื่อเป็นการทบทวนความรู้เกี่ยวกับหลักการปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกวิธีการดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย 3. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ แล้วให้นักเรียนบอกอาการและ อันตรายจากโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมกับตอบคำถาม 4. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอิทธิพลของสื่อโฆษณาว่า มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าของ นักเรียนหรือไม่ อย่างไร ขั้นสอน 1. นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของคำว่า สุขบัญญัติแห่งชาติ จากนั้นครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า สุขบัญญัติ แห่งชาติ คือ ข้อกำหนดที่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจนเป็น กิจนิสัย เพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่ดีอันนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม 2. ครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมให้นักเรียนฟังเกี่ยวกับการหาความรู้หรือข้อมูลสุขภาพด้วยการใช้บริการ สายด่วนสุขภาพ ซึ่งเป็นการโทรศัพท์ไปเพื่อสอบถาม หรือฟังข้อมูลสุขภาพด้านต่างๆ 3. ครูให้สมาชิกแต่ละคนผลัดกันตั้งคำถามและตอบคำถามกันภายในกลุ่ม โดยให้ครอบคลุมอาการ การ ติดต่อ การดูแลรักษา และการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่


237 ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปวิธีการดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด แล้วร่วมกันบอกประโยชน์ที่ ได้รับจากการศึกษา 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกประโยชน์ของข้อมูลข่าวสารที่มีต่อสุขภาพ จากนั้นครูช่วยเสนอแนะวิธีการ สืบค้น หรือหาข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเพื่อให้นักเรียนมีความรู้เท่าทันโรคที่เกิดขึ้น และสามารถป้องกันได้อย่างถูกวิธี ทั้งนี้ยังเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้อีกด้วย 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนเกิดความตระหนักในการรักษาสุขภาพมากยิ่งขึ้น ๖. สื่อการเรียนรู้ 1. ซีดีหรือเนื้อเพลงสุขบัญญัติแห่งชาติ เพลงแปรงฟัน เพลงกินผักผลไม้ 2. แผนภาพแสดงขั้นตอนการล้างมืออย่างถูกวิธี 3. แบบจำลองฟัน แปรงสีฟัน 4. คลิปการล้างมือ 7 ขั้นตอน 5. แผนผังแสดงหลักการนำข่าวสารมาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพ 6. อาหารกระป๋อง หรือฉลากอาหารกระป๋อง 7. แผนผังแสดงวงจรชีวิตของยุงลาย


238 7. การวัดและประเมินผล 1. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน 2. ทดสอบก่อนเรียน/ระหว่างเรียน/หลังเรียน รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. การตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน - ตรวจผลงานบันทึกการปฏิบัติ ตนตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ - ตรวจผลงานรายงาน เรื่อง ข้อมูลสุขภาพ - ตรวจผลงานการรายงานผล การวิเคราะห์สื่อโฆษณาเพื่อ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า - ตรวจผลงานป้ายนิเทศ เรื่อง รู้ทันโรค - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน - ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ 2. การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สุขภาพของเรา - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 - ประเมินตาม สภาพจริง 3. ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ - แบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - แบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 4. การประเมินหลังเรียน - แบบทดสอบท้าย หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 - ตรวจแบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - แบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์


239 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การทำความสะอาดร่างกายในข้อใดที่ควรปฏิบัติ ทุกวัน ก. อาบน้ำ ข. สระผม ค. ขัดผิว ง. ตัดเล็บ 2. ใครปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ ก. ต่ายอาบน้ำวันเว้นวัน ข. โต้งแปรงฟันวันละครั้ง ค. ต้นเคี้ยวหมากฝรั่งทุกวัน ง. ตูนกินอาหารที่ปรุงสุกแล้ว 3. เหตุใดเราจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ก. ทำให้เพื่อนชอบ ข. ทำให้ดูทันสมัย ค. ทำให้มีบุคลิกภาพที่ดี ง. ทำให้ไม่เป็นโรคผิวหนัง 4. การกระทำในข้อใด มีผลเสียต่อสุขภาพ ก. ล้างมือหลังขับถ่าย ข. ออกกำลังกายทุกวัน ค. กินอาหารไม่เป็นเวลา ง. ข้ามถนนตรงทางม้าลาย 5. การรักษาผมให้สะอาดมีวิธีการดูแลอย่างไร ก. ใส่น้ำมันใส่ผม ข. ตัดผมให้สั้นอยู่เสมอ ค. สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ง. ใส่หมวกป้องกันฝุ่นทุกครั้ง 6. การปฏิบัติตนอย่างไร จะทำให้ครอบครัวมีความสุข ก. ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ข. พาเพื่อนๆ มาเที่ยวที่บ้าน ค. ขอให้พ่อแม่ซื้อของเล่นให้ ง. ให้พ่อแม่พาไปเที่ยวกลางคืน 7. เหตุใดจึงควรล้างมือก่อนกินอาหาร ก. หยิบอาหารได้สะดวก ข. ทำให้อาหารไม่ติดมือ ค. ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ง. สร้างสุขลักษณะที่ดีต่อผู้ที่พบเห็น 8. การมองโลกในแง่ดี มีผลมาจากสุขบัญญัติข้อใด ก. การรักษาร่างกายให้สะอาด ข. การทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ค. การมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง ง. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 9. ใครมีการกระทำที่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ก. แก้วทิ้งขยะลงในถังขยะ ข. ส้มใช้เงินอย่างประหยัด ค. นุ่มรอรถประจำทางตรงป้าย ง. อ้นใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ 10. การปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติมีผลดีอย่างไร ก. มีบุคลิกภาพที่ดี ข. เป็นที่รักของผู้อื่น ค. มีความปลอดภัยในชีวิต ง. มีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เฉลย 1. ก 2. ง 3. ง 4. ค 5. ค 6. ก 7. ค 8. ข 9. ก 10. ง


240 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติมีผลดีอย่างไร ก. มีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ข. มีความปลอดภัยในชีวิต ค. เป็นที่รักของผู้อื่น ง. มีบุคลิกภาพที่ดี 2. เหตุใดจึงควรล้างมือก่อนกินอาหาร ก. สร้างสุขลักษณะที่ดีต่อผู้ที่พบเห็น ข. ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ค. ทำให้อาหารไม่ติดมือ ง. หยิบอาหารได้สะดวก 3. ใครมีการกระทำที่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ก. อ้นใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ ข. นุ่มรอรถประจำทางตรงป้าย ค. แก้วทิ้งขยะลงในถังขยะ ง. ส้มใช้เงินอย่างประหยัด 4. การปฏิบัติตนอย่างไร จะทำให้ครอบครัวมีความสุข ก. ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ข. ขอให้พ่อแม่ซื้อของเล่นให้ ค. พาเพื่อนๆ มาเที่ยวที่บ้าน ง. ให้พ่อแม่พาไปเที่ยวกลางคืน 5. การมองโลกในแง่ดี มีผลมาจากสุขบัญญัติข้อใด ก. การรักษาร่างกายให้สะอาด ข. การมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง ค. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ง. การทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส 6. การรักษาผมให้สะอาดมีวิธีการดูแลอย่างไร ก. ใส่น้ำมันใส่ผม ข. ตัดผมให้สั้นอยู่เสมอ ค. ใส่หมวกป้องกันฝุ่นทุกครั้ง ง. สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง 7. ใครปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ ก. ตูนกินอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ข. ต้นเคี้ยวหมากฝรั่งทุกวัน ค. โต้งแปรงฟันวันละครั้ง ง. ต่ายอาบน้ำวันเว้นวัน 8. การกระทำในข้อใด มีผลเสียต่อสุขภาพ ก. ออกกำลังกายทุกวัน ข. ล้างมือหลังขับถ่าย ค. กินอาหารไม่เป็นเวลา ง. ข้ามถนนตรงทางม้าลาย 9. เหตุใดเราจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ก. ทำให้มีบุคลิกภาพที่ดี ข. ทำให้ไม่เป็นโรคผิวหนัง ค. ทำให้ดูทันสมัย ง. ทำให้เพื่อนชอบ 10. การทำความสะอาดร่างกายในข้อใดที่ควรปฏิบัติทุก วัน ก. ขัดผิว ข. ตัดเล็บ ค. อาบน้ำ ง. สระผม เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ง 6. ง 7. ก 8. ค 9. ข 10. ค


241 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่การบริการของโรงพยาบาล ก. จำหน่ายอวัยวะ ข. จำหน่ายยา ค. รักษาโรค ง. ตรวจโรค 2. ถ้าพบผู้ขายสินค้าราคาแพงกว่าที่ติดไว้บนฉลาก ควรแจ้งที่หมายเลขใด ก. 1133 ข. 1156 ค. 1166 ง. 1565 3. การติดตามข่าวสารสุขภาพมีผลดีอย่างไร ก. ทำให้เด่นกว่าคนอื่น ข. ทำให้เพื่อนๆ ยกย่อง ค. ช่วยเพิ่มความรู้รอบตัว ง. ป้องกันตนเองจากโรคได้ 4. ถ้านักเรียนมีความเครียด นักเรียนควรปรึกษา หน่วยงานใด ก. กรมอนามัย ข. กรมสุขภาพจิต ค. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ง. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค 5. ถ้านักเรียนต้องการใช้บริการการตรวจรักษาของ คลินิกควรพิจารณาจากข้อใด ก. มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ข. มีคนเข้าไปตรวจรักษามาก ค. มีแพทย์และพยาบาลประจำ ง. มีแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพและมี ใบอนุญาตทำการ 6. ถ้าพบอาหารกระป๋องที่ไม่มีฉลากระบุข้างกระป๋อง ควรแจ้งหมายเลขใด ก. 1556 ข. 1557 ค. 1156 ง. 1166 7. ถ้าแก้วต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส แก้วควรไปที่ใด ก. กรมแรงงาน ข. โรงพยาบาล ค. กรมสุขภาพจิต ง. องค์การเภสัชกรรม 8. ใครใช้ข่าวสารสุขภาพไม่ถูกต้อง ก. โต้งแจ้งการขายสินค้าที่ไม่เป็นธรรมที่เบอร์ 1156 ข. แนนไปตรวจสุขภาพที่คลินิกใกล้บ้าน ค. จอยซื้อยาลดความอ้วนตามโฆษณา ง. กิ๊บพาสุนัขไปฉีดวัคซีนที่คลินิกสัตว์ 9. เราไม่ควรเลือกใช้บริการสุขภาพตามข้อใด ก. เป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ ข. เป็นหน่วยงานของรัฐ ค. มีเครื่องหมายรับรอง ง. มีบุคคลที่มีชื่อเสียงใช้ 10. ข้อใดไม่ใช่หลักที่ควรนำมาพิจารณาในการใช้ข่าวสาร เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ก. ลักษณะและรูปลักษณ์ภายนอก ข. หาข้อมูลผลดีและผลเสีย ค. พิจารณาเปรียบเทียบ ง. สอบถามจากผู้รู้ เฉลย 1. ก 2. ข 3. ง 4. ข 5. ง 6. ก 7. ข 8. ค 9. ง 10. ก


242 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่หลักที่ควรนำมาพิจารณาในการใช้ข่าวสาร เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ก. สอบถามจากผู้รู้ ข. พิจารณาเปรียบเทียบ ค. หาข้อมูลผลดีและผลเสีย ง. ลักษณะและรูปลักษณ์ภายนอก 2. ถ้าพบอาหารกระป๋องที่ไม่มีฉลากระบุข้างกระป๋อง ควรแจ้งหมายเลขใด ก. 1156 ข. 1166 ค. 1556 ง. 1557 3. ใครใช้ข่าวสารสุขภาพไม่ถูกต้อง ก. จอยซื้อยาลดความอ้วนตามโฆษณา ข. แนนไปตรวจสุขภาพที่คลินิกใกล้บ้าน ค. กิ๊บพาสุนัขไปฉีดวัคซีนที่คลินิกสัตว์ ง. โต้งแจ้งการขายสินค้าที่ไม่เป็นธรรมที่เบอร์ 1156 4. เราไม่ควรเลือกใช้บริการสุขภาพตามข้อใด ก. เป็นหน่วยงานของรัฐ ข. มีเครื่องหมายรับรอง ค. เป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ ง. มีบุคคลที่มีชื่อเสียงใช้ 5. ถ้าแก้วต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส แก้วควรไปที่ใด ก. กรมแรงงาน ข. โรงพยาบาล ค. กรมสุขภาพจิต ง. องค์การเภสัชกรรม 6. การติดตามข่าวสารสุขภาพมีผลดีอย่างไร ก. ป้องกันตนเองจากโรคได้ ข. ช่วยเพิ่มความรู้รอบตัว ค. ทำให้เพื่อนๆ ยกย่อง ง. ทำให้เด่นกว่าคนอื่น 7. ข้อใดไม่ใช่การบริการของโรงพยาบาล ก. รักษาโรค ข. ตรวจโรค ค. จำหน่ายยา ง. จำหน่ายอวัยวะ 8. ถ้านักเรียนต้องการใช้บริการการตรวจรักษาของ คลินิกควรพิจารณาจากข้อใด ก. มีแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพและมี ใบอนุญาตทำการ ข. มีแพทย์และพยาบาลประจำ ค. มีคนเข้าไปตรวจรักษามาก ง. มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก 9. ถ้านักเรียนมีความเครียด นักเรียนควรปรึกษา หน่วยงานใด ก. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ข. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ค. กรมสุขภาพจิต ง. กรมอนามัย 10. ถ้าพบผู้ขายสินค้าราคาแพงกว่าที่ติดไว้บนฉลาก ควรแจ้งที่หมายเลขใด ก. 1133 ข. 1156 ค. 1166 ง. 1565 เฉลย 1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ข 6. ก 7. ง 8. ก 9. ค 10. ข


243 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. สิ่งใดไม่จำเป็นต้องระบุบนฉลากสินค้า ก. วันหมดอายุ ข. สถานที่ผลิต ค. ส่วนประกอบสำคัญ ง. สถานที่วางจำหน่าย 2. ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะตามข้อใดปลอดภัยในการ บริโภคมากที่สุด ก. ผลิตภัณฑ์ที่ใส่สารกันบูด ข. ผลิตภัณฑ์บรรจุอยู่ในหีบห่อ ค. ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย ง. ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์รับรองคุณภาพ 3. การเลือกซื้อน้ำส้มสายชู ควรดูจากสิ่งใด ก. เครื่องหมาย อย. ข. รสชาติ ค. กลิ่น ง. ราคา 4. เหตุใดจึงควรอ่านฉลากก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ ก. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่คนนิยมใช้ ข. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ ค. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณมาก ง. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อย 5. ผลิตภัณฑ์ในข้อใด จัดเป็นเครื่องสำอางควบคุมพิเศษ ก. ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ข. แป้งฝุ่นโรยตัว ค. แชมพูสระผม ง. ผ้าอนามัย 6. เนื้อแน่น ไม่ลีบ ไม่ฝ่อ เป็นหลักในการเลือกซื้อ สินค้าใด ก. ปลาแห้ง ข. กุ้งแห้ง ค. แตงโม ง. กระเทียม 7. หลัก 3 ป. ในการเลือกซื้อมีอะไรบ้าง ก. ประโยชน์ ประหยัด ปลอดภัย ข. ประโยชน์ ปรับปรุง ประหยัด ค. ประโยชน์ ปลอดภัย เปลี่ยน ง. ปรับปรุง เปลี่ยน ประหยัด 8. การเลือกซื้อปลา ควรเลือกซื้ออย่างไร ก. กดเป็นรอยบุ๋ม มีกลิ่นคาว ข. มีเหงือกสีแดงสด ตาใส ค. เกล็ดหลุดง่าย ตัวใหญ่ ง. มีเกล็ดแข็ง ตาใส 9. โฆษณาในข้อใดที่น่าเชื่อถือ ก. ไข่ไก่ตราดีจัง กินแล้วสุขภาพแข็งแรง ข. น้ำดื่มดริ๊ง ดื่มแล้วสดชื่นตลอดวัน ค. ยาสีฟันไวท์บริ๊ง ฟันขาวใน 1 นาที ง. ครีมเบบี้คลีน หน้าใสไร้สิว 10. ข้อใดไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากการโฆษณา ก. แจ้งสรรพคุณที่เกินจริง ข. นำเสนอข้อเท็จจริงบางส่วน ค. อ้างอิงถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง ง. แสดงข้อมูลตามสภาพจริง เฉลย 1. ง 2. ง 3. ก 4. ข 5. ก 6. ง 7. ก 8. ข 9. ก 10. ง


244 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. หลัก 3 ป. ในการเลือกซื้อมีอะไรบ้าง ก. ปรับปรุง เปลี่ยน ประหยัด ข. ประโยชน์ ปลอดภัย เปลี่ยน ค. ประโยชน์ ปรับปรุง ประหยัด ง. ประโยชน์ ประหยัด ปลอดภัย 2. เนื้อแน่น ไม่ลีบ ไม่ฝ่อ เป็นหลักในการเลือกซื้อ สินค้าใด ก. กระเทียม ข. ปลาแห้ง ค. กุ้งแห้ง ง. แตงโม 3. ข้อใดไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากการโฆษณา ก. แสดงข้อมูลตามสภาพจริง ข. นำเสนอข้อเท็จจริงบางส่วน ค. อ้างอิงถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง ง. แจ้งสรรพคุณที่เกินจริง 4. โฆษณาในข้อใดที่น่าเชื่อถือ ก. ครีมเบบี้คลีน หน้าใสไร้สิว ข. ไข่ไก่ตราดีจัง กินแล้วสุขภาพแข็งแรง ค. ยาสีฟันไวท์บริ๊ง ฟันขาวใน 1 นาที ง. น้ำดื่มดริ๊ง ดื่มแล้วสดชื่นตลอดวัน 5. การเลือกซื้อปลา ควรเลือกซื้ออย่างไร ก. มีเกล็ดแข็ง ตาใส ข. เกล็ดหลุดง่าย ตัวใหญ่ ค. มีเหงือกสีแดงสด ตาใส ง. กดเป็นรอยบุ๋ม มีกลิ่นคาว 6. การเลือกซื้อน้ำส้มสายชู ควรดูจากสิ่งใด ก. กลิ่น ข. ราคา ค. รสชาติ ง. เครื่องหมาย อย. 7. สิ่งใดไม่จำเป็นต้องระบุบนฉลากสินค้า ก. ส่วนประกอบสำคัญ ข. สถานที่วางจำหน่าย ค. สถานที่ผลิต ง. วันหมดอายุ 8. ผลิตภัณฑ์ในข้อใด จัดเป็นเครื่องสำอางควบคุมพิเศษ ก. ผ้าอนามัย ข. แชมพูสระผม ค. แป้งฝุ่นโรยตัว ง. ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ 9. เหตุใดจึงควรอ่านฉลากก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ ก. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่คนนิยมใช้ ข. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณมาก ค. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ ง. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อย 10. ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะตามข้อใดปลอดภัยในการ บริโภคมากที่สุด ก. ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์รับรองคุณภาพ ข. ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย ค. ผลิตภัณฑ์บรรจุอยู่ในหีบห่อ ง. ผลิตภัณฑ์ที่ใส่สารกันบูด เฉลย 1. ง 2. ก 3. ก 4. ข 5. ค 6. ง 7. ข 8. ง 9. ค 10. ก


245 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการอย่างไร ก. อุจจาระเหลว ข. มีผื่นขึ้นเต็มตัว ค. ชาบริเวณปลายมือ ง. มีไข้สูง หนาวสั่น 2. ไข้เลือดออก มักระบาดในฤดูใด ก. ฤดูฝน ข. ฤดูหนาว ค. ฤดูร้อน ง. ทุกฤดู 3. ยุงลาย เป็นพาหะของโรคใด ก. โรคไข้หวัดใหญ่ ข. โรคไข้เลือดออก ค. โรคผิวหนัง ง. โรคปริทันต์ 4. สถานที่ใดที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้ ก. โรงพยาบาล ข. สวนสาธารณะ ค. ห้างสรรพสินค้า ง. สถานที่ก่อสร้าง 5. โรคในข้อใดเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทาง พันธุกรรม ก. โรคปริทันต์ ข. โรคเกลื้อน ค. โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ง. โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 6. การนอนไม่กางมุ้ง เสี่ยงต่อการเป็นโรคใด ก. โรคไข้หวัดใหญ่ ข. โรคไข้เลือดออก ค. โรคผิวหนัง ง. โรคปริทันต์ 7. การปฏิบัติตนในข้อใดเป็นการป้องกันโรคปริทันต์ ก. กินอาหารให้มากๆ ทุกวัน ข. ป้องกันไม่ให้ยุงกัด ค. อาบน้ำทุกวัน ง. แปรงฟันทุกวัน 8. พฤติกรรมใดเสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนัง ก. ใช้โทรศัพท์ร่วมกัน ข. ใช้เสื้อผ้าร่วมกัน ค. ใช้ห้องน้ำร่วมกัน ง. ใช้ลิฟต์ร่วมกัน 9. โรครำมะนาด เป็นชื่อเรียกของโรคใด ก. โรคไข้หวัดใหญ่ ข. โรคไข้เลือดออก ค. โรคปริทันต์ ง. โรคผิวหนัง 10. ข้อใดเป็นวิธีป้องกันการเกิดโรคผดผื่นคัน ก. อาบน้ำทุกวัน ข. แปรงฟันทุกวัน ค. ทาแป้งเย็นหลังอาบน้ำ ง. ใส่เสื้อผ้าที่ซื้อใหม่อยู่เสมอ เฉลย 1. ง 2. ก 3. ข 4. ง 5. ค 6. ข 7. ง 8. ข 9. ค 10. ก


246 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การนอนไม่กางมุ้ง เสี่ยงต่อการเป็นโรคใด ก. โรคผิวหนัง ข. โรคปริทันต์ ค. โรคไข้เลือดออก ง. โรคไข้หวัดใหญ่ 2. การปฏิบัติตนในข้อใดเป็นการป้องกันโรคปริทันต์ ก. กินอาหารให้มากๆ ทุกวัน ข. อาบน้ำทุกวัน ค. ป้องกันไม่ให้ยุงกัด ง. แปรงฟันทุกวัน 3. ข้อใดเป็นวิธีป้องกันการเกิดโรคผดผื่นคัน ก. ใส่เสื้อผ้าที่ซื้อใหม่อยู่เสมอ ข. ทาแป้งเย็นหลังอาบน้ำ ค. แปรงฟันทุกวัน ง. อาบน้ำทุกวัน 4. โรครำมะนาด เป็นชื่อเรียกของโรคใด ก. โรคผิวหนัง ข. โรคปริทันต์ ค. โรคไข้เลือดออก ง. โรคไข้หวัดใหญ่ 5. พฤติกรรมใดเสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนัง ก. ใช้ลิฟต์ร่วมกัน ข. ใช้ห้องน้ำร่วมกัน ค. ใช้เสื้อผ้าร่วมกัน ง. ใช้โทรศัพท์ร่วมกัน 6. สถานที่ใดที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้ ก. สถานที่ก่อสร้าง ข. ห้างสรรพสินค้า ค. โรงพยาบาล ง. สวนสาธารณะ 7. ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการอย่างไร ก. ชาบริเวณปลายมือ ข. มีไข้สูง หนาวสั่น ค. มีผื่นขึ้นเต็มตัว ง. อุจจาระเหลว 8. ไข้เลือดออก มักระบาดในฤดูใด ก. ฤดูหนาว ข. ฤดูร้อน ค. ฤดูฝน ง. ทุกฤดู 9. โรคในข้อใดเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทาง พันธุกรรม ก. โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ข. โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ค. โรคปริทันต์ ง. โรคเกลื้อน 10. ยุงลาย เป็นพาหะของโรคใด ก. โรคไข้เลือดออก ข. โรคไข้หวัดใหญ่ ค. โรคผิวหนัง ง. โรคปริทันต์ เฉลย 1. ค 2. ง 3. ง 4. ข 5. ค 6. ก 7. ข 8. ค 9. ข 10. ก


247 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แบบประเมินผลงาน 3 ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1 การออกแบบชิ้นงาน 2 การเลือกใช้วัสดุเพื่อสร้างชิ้นงาน 3 ความถูกต้องของเนื้อหา 4 การสร้างสรรค์ชิ้นงาน 5 กำหนดเวลาส่งงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .............../.................../..............


248 เกณฑ์การประเมินผลงาน รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การออกแบบชิ้นงาน ชิ้นงานมีความถูกต้อง ตามที่ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ แปลก ตา และสร้างสรรค์ดี ชิ้นงานมีความถูกต้อง ตามที่ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ และ สร้างสรรค์ ชิ้นงานมีความถูกต้อง ตามที่ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ 2. การเลือกใช้วัสดุ เพื่อสร้างชิ้นงาน เลือกใช้วัสดุมาสร้าง ชิ้นงานตามที่กำหนดได้ ถูกต้อง และวัสดุมีความ เหมาะสมกับการสร้าง ชิ้นงานดีมาก เลือกใช้วัสดุมาสร้าง ชิ้นงานตามที่กำหนดได้ ถูกต้อง และวัสดุมีความ เหมาะสมกับการสร้าง ชิ้นงานดี เลือกใช้วัสดุมาสร้าง ชิ้นงานไม่ตรงตามที่ กำหนด แต่วัสดุมีความ เหมาะสมกับการสร้าง ชิ้นงาน 3. ความถูกต้องของ เนื้อหา เนื้อหามีความถูกต้อง ครบถ้วน เนื้อหามีความถูกต้อง บางส่วน เนื้อหามีความถูกต้อง ค่อนข้างน้อย 4. การสร้างสรรค์ ชิ้นงาน ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงาม ดีมาก ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงาม ดี ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงาม น้อย 5. กำหนดเวลาส่งงาน ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่ กำหนด ส่งชิ้นงานช้ากว่ากำหนด 1-2 วัน ส่งชิ้นงานช้ากว่ากำหนด เกิน 3 วันขึ้นไป เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


249 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน …............./.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


250 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน …............./.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


251 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การ ยอมรับฟัง คนอื่น การทำงาน ตามที่ ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ำใจ การมี ส่วนร่วม ในการ ปรับปรุง ผลงาน กลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน …............./.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


252 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรียน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ................./.................../............. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 51-60 ดีมาก 41-50 ดี 30-40 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน


253


254 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความปลอดภัยในชีวิต รหัสวิชา พ ๑5๑๐๑ ชื่อรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 10 ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มฐ พ 5.1 ป.5/1 มฐ พ 5.1 ป.5/2 มฐ พ 5.1 ป.5/3 มฐ พ 5.1 ป.5/4 ตัวชี้วัด พ 5.๑ ป.5/1 วิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติด พ 5.๑ ป.5/2 วิเคราะห์ผลกระทบของการใช้ยาและสารเสพติดที่มีผลต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา พ 5.๑ ป.5/3 ปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากการใช้ยาและหลีกเลี่ยงสารเสพติด พ 5.๑ ป.5/4 วิเคราะห์อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ ๒. สาระสำคัญ สารเสพติดเป็นสารอันตรายที่มีหลายประเภท และส่งผลกระทบต่อผู้เสพทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ดังนั้นจึงต้องรู้วิธีการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด การใช้ยารักษาโรคอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้ ดังนั้นจึงต้องใช้ยาอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัย สื่อต่างๆ มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของเรา ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม ๓. สาระการเรียนรู้ 1. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติด (สุรา บุหรี่ ยาบ้า สารระเหย ฯลฯ) - ครอบครัว สังคม เพื่อน - ค่านิยม ความเชื่อ - ปัญหาสุขภาพ - สื่อ ฯลฯ 2. ผลกระทบของการใช้สารเสพติดที่มีต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา 3. การหลีกเลี่ยงสารเสพติด 4. ผลกระทบของการใช้ยาที่มีต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา 5. การปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากการใช้ยา 6. อิทธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ (อินเทอร์เน็ต เกม ฯลฯ) ความรู้ 1. วิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติดได้ 2. บอกอันตรายที่เกิดจากการใช้ยาได้ 3. บอกประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตได้ 4. วิเคราะห์อิทธิพลของอินเทอร์เน็ตที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพได้ 5. บอกวิธีป้องกันอันตรายจากการใช้อินเทอร์เน็ตได้


255 ทักษะ 1. ทักษะการสังเกต 2. ทักษะการระบุ 3. ทักษะการให้เหตุผล 4. ทักษะการวิเคราะห์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงานมีความรับผิดชอบ ๔. ชิ้นงานและภาระงาน 1. รายงาน เรื่อง สารเสพติด 2. แผ่นพับ เรื่อง ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ยา 3. นิทรรศการ เรื่อง สื่อในชีวิตประจำวัน


256 ๕. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างสารเสพติดที่นักเรียนรู้จัก เช่น ฝิ่น กัญชา ยาบ้า เฮโรอีน โดยครูเขียนคำตอบ ของนักเรียนไว้บนกระดาน 2. ครูเล่าข่าวเกี่ยวกับการแพ้ยาให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนมี ความรู้สึกอย่างไร เมื่อได้ฟังข่าวนี้ 3. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับข่าวอาชญากรรมที่มีสาเหตุมาจากการสื่อสารแบบออนไลน์ ขั้นสอน 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ประเภทของสารเสพติด 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอความรู้เรื่อง ประเภทของสารเสพติด ด้วยรูปแบบที่สร้างสรรค์และ น่าสนใจตามมติของกลุ่ม 3. ครูยกตัวอย่างอันตรายที่เกิดจากการใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน โดยผู้ป่วยหรือผู้ใช้ยาต้องการให้ยาออก ฤทธิ์เสริมกัน แต่ไม่ได้คำถึงปริมาณ หรือการหักล้างกันของยา ซึ่งเป็นวิธีการใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง 4. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ จากนั้นให้นักเรียนศึกษาและ สืบค้นความรู้เรื่อง สื่อในชีวิตประจำวัน : อินเทอร์เน็ต จากหนังสือเรียน 5. ครูให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างผลเสียหรืออันตรายที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ต จากนั้นครูเลือก ตัวอย่างของนักเรียน 1 ตัวอย่าง มาอธิบายเพิ่มเติม ขั้นสรุป 1. ครูตรวจสอบการนำเสนอความรู้เรื่อง ประเภทของสารเสพติด ของนักเรียนแต่ละกลุ่ม และร่วมกัน สรุปประเภทของสารเสพติดจำแนกตามแหล่งที่เกิด และประเภทของสารเสพติดจำแนกตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ 2. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้ยา โดยมีแนวทางในการสรุปตามประเด็น ที่กำหนด 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และเสนอแนะแนวทางในการป้องกันตนเองจากการใช้ อินเทอร์เน็ต ๖. สื่อการเรียนรู้ 1. ตัวอย่างข่าว 2. สถานการณ์ตัวอย่าง 3. ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ 4. ตัวอย่างยา 5. คลิปโฆษณา


257 7. การวัดและประเมินผล 1. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน 2. ทดสอบก่อนเรียน/ระหว่างเรียน/หลังเรียน รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. การตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน - ตรวจรายงาน เรื่อง สารเสพ ติด - ตรวจแผ่นพับ เรื่อง ข้อควรรู้ เกี่ยวกับการใช้ยา - ตรวจผลงานนิทรรศการ เรื่อง สื่อในชีวิตประจำวัน - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน - ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ 2. การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความปลอดภัยในชีวิต - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 - ประเมินตาม สภาพจริง 3. ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ - แบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - แบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 4. การประเมินหลังเรียน - แบบทดสอบท้าย หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 - ตรวจแบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - แบบฝึกหัดสุขศึกษา ป.5 เล่ม 1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์


258 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่5 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ลักษณะครอบครัวในข้อใด ที่ทำให้ลูกมีโอกาส ติดสารเสพติดได้มากที่สุด ก. พ่อแม่ทะเลาะกันเสมอ ข. พ่อแม่มีฐานะยากจน ค. พ่อแม่อบรมสั่งสอนลูก ง. พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน 2. การทาสีบ้านเป็นเวลานานๆ มีผลเสียอย่างไรต่อผู้ ทาสี ก. เกิดอาการแพ้ ข. เกิดอาการติดสีทาบ้าน ค. ทำให้เกิดผดผื่นคันตามร่างกาย ง. ทำให้ร่างกายเปื้อนสีจนล้างไม่ออก 3. ใครมีโอกาสติดสารเสพติดมากที่สุด ก. โหน่งคบเพื่อนที่เรียนอ่อนกว่า ข. หน่อยซื้อขนมจากแม่ค้าที่ไม่รู้จัก ค. นิดอยู่กับยายเพราะพ่อแม่ทำงาน ง. น้อยกินขนมที่คนแปลกหน้าให้ 4. การใช้ยาในข้อใด อาจเป็นปัจจัยให้เกิดอาการติดยา ได้ ก. กินยาแก้ปวดครั้งละ 2 เม็ด ข. กินยาแก้ไอติดต่อกัน 2 วัน ค. ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลทุกวันจนกว่าแผลจะหาย ง. ถูกฉีดมอร์ฟีนเข้าเส้นเลือดเพื่อระงับอาการปวด 5. ผลกระทบที่เกิดจากการเสพสารเสพติด คืออะไร ก. ทำให้กินอาหารได้มาก ข. ทำให้ขยันทำงานไม่เหนื่อย ค. ทำให้สติปัญญาเสื่อม ง. ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง 6. ถ้ามีคนเมาสุราจะเข้ามาลวนลาม นักเรียนควรทำ อย่างไร ก. พาเพื่อนมารุมต่อว่า ข. รีบเดินหนี ค. ยืนต่อว่า ง. ทำเฉยๆ 7. เพื่อนท้าให้ลองสูบบุหรี่ แล้วจะยอมให้เข้ากลุ่ม นักเรียนควรทำอย่างไร ก. ลองสูบแค่มวนเดียว ข. ปฏิเสธ แต่ขอบุหรี่ไว้ ค. ลองสูบ และให้เพื่อนสูบด้วย ง. ปฏิเสธ แล้วเลิกคบเพื่อนคนนี้ 8. การดื่มสุรามีผลต่อร่างกายอย่างไร ก. ทำให้ผู้พบเห็นนิยมชมชอบ ข. ทำให้อารมณ์ดี ค. ทำให้ร่างกายทรุดโทรม ง. ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 9. ถ้านักเรียนเห็นเพื่อนติดสารระเหย ควรทำอย่างไร จึงเหมาะสม ก. แอบดูอยู่ห่างๆ ข. บอกให้ครูทราบ ค. ขอเพื่อนทดลองบ้าง ง. ต่อว่าเพื่อนให้สำนึกผิด 10. ถ้านักเรียนสงสัยว่าบ้านร้างแห่งหนึ่งเป็นแหล่งมั่วสุม ของวัยรุ่นที่เสพสารเสพติด นักเรียนควรทำอย่างไร ก. แจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบ ข. ปลอมตัวเข้าไปมั่วสุมด้วย ค. ชวนเพื่อนๆ ไปทำลาย ง. ชวนเพื่อนๆ ไปแอบดู เฉลย 1. ก 2. ข 3. ง 4. ง 5. ค 6. ข 7. ง 8. ค 9. ข 10. ก แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่5


259 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ถ้ามีคนเมาสุราจะเข้ามาลวนลาม นักเรียนควรทำ อย่างไร ก. ยืนต่อว่า ข. ทำเฉยๆ ค. รีบเดินหนี ง. พาเพื่อนมารุมต่อว่า 2 ถ้านักเรียนเห็นเพื่อนติดสารระเหย ควรทำอย่างไร จึงเหมาะสม ก. ต่อว่าเพื่อนให้สำนึกผิด ข. ขอเพื่อนทดลองบ้าง ค. แอบดูอยู่ห่างๆ ง. บอกให้ครูทราบ 3. การดื่มสุรามีผลต่อร่างกายอย่างไร ก. ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ข. ทำให้ร่างกายทรุดโทรม ค. ทำให้อารมณ์ดี ง. ทำให้ผู้พบเห็นนิยมชมชอบ 4. เพื่อนท้าให้ลองสูบบุหรี่ แล้วจะยอมให้เข้ากลุ่ม นักเรียนควรทำอย่างไร ก. ปฏิเสธ แล้วเลิกคบเพื่อนคนนี้ ข. ลองสูบ และให้เพื่อนสูบด้วย ค. ปฏิเสธ แต่ขอบุหรี่ไว้ ง. ลองสูบแค่มวนเดียว 5. ถ้านักเรียนสงสัยว่าบ้านร้างแห่งหนึ่งเป็นแหล่งมั่วสุม ของวัยรุ่นที่เสพสารเสพติด นักเรียนควรทำอย่างไร ก. ชวนเพื่อนๆ ไปแอบดู ข. ชวนเพื่อนๆ ไปทำลาย ค. ปลอมตัวเข้าไปมั่วสุมด้วย ง. แจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบ 6. การใช้ยาในข้อใด อาจเป็นปัจจัยให้เกิดอาการติดยา ได้ ก. ถูกฉีดมอร์ฟีนเข้าเส้นเลือดเพื่อระงับอาการปวด ข. ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลทุกวันจนกว่าแผลจะหาย ค. กินยาแก้ไอติดต่อกัน 2 วัน ง. กินยาแก้ปวดครั้งละ 2 เม็ด 7. การทาสีบ้านเป็นเวลานานๆ มีผลเสียอย่างไรต่อผู้ ทาสี ก. ทำให้ร่างกายเปื้อนสีจนล้างไม่ออก ข. ทำให้เกิดผดผื่นคันตามร่างกาย ค. เกิดอาการติดสีทาบ้าน ง. เกิดอาการแพ้ 8. ผลกระทบที่เกิดจากการเสพสารเสพติด คืออะไร ก. ทำให้สติปัญญาเสื่อม ข. ทำให้กินอาหารได้มาก ค. ทำให้ขยันทำงานไม่เหนื่อย ง. ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง 9. ใครมีโอกาสติดสารเสพติดมากที่สุด ก. นิดอยู่กับยายเพราะพ่อแม่ทำงาน ข. หน่อยซื้อขนมจากแม่ค้าที่ไม่รู้จัก ค. โหน่งคบเพื่อนที่เรียนอ่อนกว่า ง. น้อยกินขนมที่คนแปลกหน้าให้ 10. ลักษณะครอบครัวในข้อใด ที่ทำให้ลูกมีโอกาส ติดสารเสพติดได้มากที่สุด ก. พ่อแม่มีฐานะยากจน ข. พ่อแม่ทะเลาะกันเสมอ ค. พ่อแม่อบรมสั่งสอนลูก ง. พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน เฉลย 1. ค 2. ง 3. ข 4. ก 5. ง 6. ก 7. ค 8. ก 9. ง 10. ข แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่5 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว


260 1. การใช้ยาชนิดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจเกิด ผลเสียในข้อใด ก. เชื้อโรคดื้อยา ข. อาจทำให้ติดยา ค. ยาเสื่อมคุณภาพเร็ว ง. สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย 2. หลังใช้ยาแล้ว มีอาการผื่นคันที่ผิวหนังควรทำอย่างไร ก. หยุดใช้ยาทันที ข. ลดปริมาณยาในครั้งต่อไป ค. เพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า ง. ลองใช้ยาอีกครั้งเพื่อดูผลการใช้ 3. เพราะเหตุใด เมื่อกินยาแก้แพ้แล้วไม่ควรขับรถ ก. จะทำให้ตื่นเต้น ข. จะทำให้ง่วงนอน ค. จะทำให้อยากกินอาหาร ง. จะทำให้มองไม่เห็นทาง 4. ข้อใดคือลักษณะของอาการแพ้ยา ก. มีเหงื่อออก ข. มีผมดำ ค. กินอาหารได้มาก ง. ผิวหนังมีผื่นคัน 5. การใช้ยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลานานๆ มีผลเสีย อย่างไร ก. ง่วงนอนมาก ข. ติดยา ค. หน้าบวม ง. เกิดผดผื่นคัน 6. ถ้าฉลากยาหลุดหายไป ควรทำอย่างไร ก. ถ้ายายังไม่หมดอายุก็เก็บไว้ใช้ได้ ข. นำยาไปเก็บในตู้ยา ค. หาฉลากใหม่มาติด ง. นำยาไปทิ้ง 7. ความต้องการพึ่งพายา เป็นผลกระทบจากการใช้ยา ในด้านใด ก. ด้านสติปัญญา ข. ด้านร่างกาย ค. ด้านจิตใจ ง. ด้านสังคม 8. เราไม่ควรหยิบยาที่มีลักษณะใดมาใช้ ก. ยาที่มีฉลากสีแดง ข. ยาหยอดตาที่เปิดไว้ 1 คืน ค. ยาแคปซูลที่เม็ดไม่โป่งพอง ง. ยาเม็ดที่อยู่ในขวดมีฉลากระบุ 9. การนำยากินมาทา เป็นอันตรายจากการใช้ยาในข้อใด ก. อันตรายจากการใช้ยาในทางที่ผิด ข. อันตรายจากการใช้ยาเกินขนาด ค. อันตรายจากการใช้ยาผิดวิธี ง. ไม่มีอันตรายเกิดขึ้น 10. ใครใช้ยาไม่ถูกวิธี ก. โด่งกินยาหลังอาหารครึ่งชั่วโมง ข. เดือนทาแอลกอฮอล์รอบแผล ค. มดกินยาแก้ปวด 3 เม็ด ง. จอยดมแอมโมเนียหอม เฉลย 1. ข 2. ก 3. ข 4. ง 5. ข 6. ง 7. ค 8. ก 9. ค 10. ค แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่5 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว


261 1. ความต้องการพึ่งพายา เป็นผลกระทบจากการใช้ยา ในด้านใด ก. ด้านจิตใจ ข. ด้านสังคม ค. ด้านร่างกาย ง. ด้านสติปัญญา 2. เราไม่ควรหยิบยาที่มีลักษณะใดมาใช้ ก. ยาแคปซูลที่เม็ดไม่โป่งพอง ข. ยาเม็ดที่อยู่ในขวดมีฉลากระบุ ค. ยาหยอดตาที่เปิดไว้ 1 คืน ง. ยาที่มีฉลากสีแดง 3. ใครใช้ยาไม่ถูกวิธี ก. จอยดมแอมโมเนียหอม ข. มดกินยาแก้ปวด 3 เม็ด ค. เดือนทาแอลกอฮอล์รอบแผล ง. โด่งกินยาหลังอาหารครึ่งชั่วโมง 4. การนำยากินมาทา เป็นอันตรายจากการใช้ยาในข้อใด ก. ไม่มีอันตรายเกิดขึ้น ข. อันตรายจากการใช้ยาเกินขนาด ค. อันตรายจากการใช้ยาผิดวิธี ง. อันตรายจากการใช้ยาในทางที่ผิด 5. ถ้าฉลากยาหลุดหายไป ควรทำอย่างไร ก. นำยาไปทิ้ง ข. หาฉลากใหม่มาติด ค. นำยาไปเก็บในตู้ยา ง. ถ้ายายังไม่หมดอายุก็เก็บไว้ใช้ได้ 6. หลังใช้ยาแล้ว มีอาการผื่นคันที่ผิวหนังควรทำอย่างไร ก. ลองใช้ยาอีกครั้งเพื่อดูผลการใช้ ข. เพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า ค. ลดปริมาณยาในครั้งต่อไป ง. หยุดใช้ยาทันที 7. การใช้ยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลานานๆ มีผลเสีย อย่างไร ก. ติดยา ข. หน้าบวม ค. ง่วงนอนมาก ง. เกิดผดผื่นคัน 8. ข้อใดคือลักษณะของอาการแพ้ยา ก. มีผมดำ ข. มีเหงื่อออก ค. ผิวหนังมีผื่นคัน ง. กินอาหารได้มาก 9. เพราะเหตุใด เมื่อกินยาแก้แพ้แล้วไม่ควรขับรถ ก. จะทำให้ตื่นเต้น ข. จะทำให้ง่วงนอน ค. จะทำให้มองไม่เห็นทาง ง. จะทำให้อยากกินอาหาร 10. การใช้ยาชนิดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจเกิด ผลเสียในข้อใด ก. ยาเสื่อมคุณภาพเร็ว ข. สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ค. อาจทำให้ติดยา ง. เชื้อโรคดื้อยา เฉลย 1. ก 2. ง 3. ข 4. ค 5. ก 6. ง 7. ก 8. ค 9. ข 10. ค แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่5 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว


262 1. การเลือกซื้อสินค้าควรทำตามข้อใด ก. ความจำเป็น ข. ความต้องการ ค. ความนิยมของสังคม ง. เลียนแบบดาราที่ชื่นชอบ 2. “หุ่นผอมเพรียวกระชับ” ข้อความนี้น่าจะหมายถึง โฆษณาสินค้าชนิดใด ก. เครื่องสำอาง ข. เครื่องแต่งกาย ค. โทรศัพท์เคลื่อนที่ ง. ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน 3. นักเรียนควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในข้อ 2. หรือไม่ เพราะเหตุใด ก. ซื้อ เพราะหาซื้อได้ง่าย ข. ซื้อ เพราะจะได้หุ่นดี ค. ไม่ซื้อ เพราะเป็นยาอันตราย ง. ไม่ซื้อ เพราะมีราคาแพง 4. รายการที่มีสัญลักษณ์นี้ ไม่เหมาะกับใคร ก. เด็ก ข. ผู้ใหญ่ ค. คนแก่ ง. พ่อแม่ 5. เพราะเหตุใด จึงนำดารามาโฆษณาสินค้า ก. ไม่ต้องจ่ายค่าตัวดารา ข. จูงใจให้เลียนแบบดารา ค. ดาราเป็นผู้ทดลองสินค้า ง. ดาราเป็นหุ้นส่วนของสินค้า 6. ข้อใดเป็นวิธีป้องกันอันตรายจากการเล่นเกม คอมพิวเตอร์ ก. เล่นเกมเมื่อพ่อแม่ยังไม่กลับบ้าน ข. เล่นเกมตามเวลาที่กำหนด ค. เล่นเกมพร้อมกับเพื่อนๆ ง. เล่นเกมคนเดียว 7. ใครใช้สื่อในทางที่ผิด ก. ดิวหาข้อมูลโรคไข้หวัดจากอินเทอร์เน็ต ข. ดาวเล่นเกมลับสมองในคอมพิวเตอร์ ค. โด่งดูภาพลามกจากเว็บไซต์ ง. ดุลดูละครสร้างสรรค์สังคม 8. ถ้านักเรียนเปิดพบเว็บไซต์ที่มีภาพลามก ควรทำ อย่างไร ก. ชวนเพื่อนมาดู ข. เซฟเก็บไว้ดูวันหลัง ค. ปิดเว็บไซต์นั้นทันที ง. ดูแล้วไปเล่าให้เพื่อนฟัง 9. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต ก. ใช้ฟังเพลง ข. ใช้ค้นคว้าข้อมูลความรู้ ค. ใช้สนทนากับเพื่อนที่อยู่ไกล ง. ใช้สืบค้นข้อมูลส่วนตัวของดารา 10. ข้อใดเป็นจุดมุ่งหมายของการเล่นเกม ก. ทำให้เกิดความสนุกสนาน ข. ทำให้เกิดการแข่งขัน ค. ฝึกการทำงานหลังเรียน ง. ฝึกการทำงานด้วยตนเอง เฉลย 1. ก 2. ง 3. ค 4. ก 5. ข 6. ข 7. ค 8. ค 9. ง 10. ก แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่5


263 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน 3 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ใครใช้สื่อในทางที่ผิด ก. ดุลดูละครสร้างสรรค์สังคม ข. โด่งดูภาพลามกจากเว็บไซต์ ค. ดาวเล่นเกมลับสมองในคอมพิวเตอร์ ง. ดิวหาข้อมูลโรคไข้หวัดจากอินเทอร์เน็ต 2. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต ก. ใช้สืบค้นข้อมูลส่วนตัวของดารา ข. ใช้สนทนากับเพื่อนที่อยู่ไกล ค. ใช้ค้นคว้าข้อมูลความรู้ ง. ใช้ฟังเพลง 3. ถ้านักเรียนเปิดพบเว็บไซต์ที่มีภาพลามก ควรทำ อย่างไร ก. ดูแล้วไปเล่าให้เพื่อนฟัง ข. ปิดเว็บไซต์นั้นทันที ค. เซฟเก็บไว้ดูวันหลัง ง. ชวนเพื่อนมาดู 4. ข้อใดเป็นวิธีป้องกันอันตรายจากการเล่นเกม คอมพิวเตอร์ ก. เล่นเกมคนเดียว ข. เล่นเกมพร้อมกับเพื่อนๆ ค. เล่นเกมตามเวลาที่กำหนด ง. เล่นเกมเมื่อพ่อแม่ยังไม่กลับบ้าน 5. ข้อใดเป็นจุดมุ่งหมายของการเล่นเกม ก. ฝึกการทำงานหลังเรียน ข. ฝึกการทำงานด้วยตนเอง ค. ทำให้เกิดการแข่งขัน ง. ทำให้เกิดความสนุกสนาน 6. “หุ่นผอมเพรียวกระชับ” ข้อความนี้น่าจะหมายถึง โฆษณาสินค้าชนิดใด ก. ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ข. โทรศัพท์เคลื่อนที่ ค. เครื่องแต่งกาย ง. เครื่องสำอาง 7. นักเรียนควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในข้อ 6. หรือไม่ เพราะเหตุใด ก. ซื้อ เพราะจะได้หุ่นดี ข. ซื้อ เพราะหาซื้อได้ง่าย ค. ไม่ซื้อ เพราะมีราคาแพง ง. ไม่ซื้อ เพราะเป็นยาอันตราย 8. เพราะเหตุใด จึงนำดารามาโฆษณาสินค้า ก. ไม่ต้องจ่ายค่าตัวดารา ข. ดาราเป็นผู้ทดลองสินค้า ค. จูงใจให้เลียนแบบดารา ง. ดาราเป็นหุ้นส่วนของสินค้า 9. รายการที่มีสัญลักษณ์นี้ ไม่เหมาะกับใคร ก. เด็ก ข. พ่อแม่ ค. ผู้ใหญ่ ง. คนแก่ 10. การเลือกซื้อสินค้าควรทำตามข้อใด ก. เลียนแบบดาราที่ชื่นชอบ ข. ความนิยมของสังคม ค. ความต้องการ ง. ความจำเป็น เฉลย 1. ข 2. ก 3. ข 4. ค 5. ง 6. ก 7. ง 8. ค 9. ก 10. ง แบบประเมินผลงาน


264 ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1 การออกแบบชิ้นงาน 2 การเลือกใช้วัสดุเพื่อสร้างชิ้นงาน 3 ความถูกต้องของเนื้อหา 4 การสร้างสรรค์ชิ้นงาน 5 กำหนดเวลาส่งงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .............../.................../.............. เกณฑ์การประเมินผลงาน รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)


265 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน 1. การออกแบบชิ้นงาน ชิ้นงานมีความถูกต้อง ตามที่ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ แปลก ตา และสร้างสรรค์ดี ชิ้นงานมีความถูกต้อง ตามที่ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ และ สร้างสรรค์ ชิ้นงานมีความถูกต้อง ตามที่ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ 2. การเลือกใช้วัสดุ เพื่อสร้างชิ้นงาน เลือกใช้วัสดุมาสร้าง ชิ้นงานตามที่กำหนดได้ ถูกต้อง และวัสดุมีความ เหมาะสมกับการสร้าง ชิ้นงานดีมาก เลือกใช้วัสดุมาสร้าง ชิ้นงานตามที่กำหนดได้ ถูกต้อง และวัสดุมีความ เหมาะสมกับการสร้าง ชิ้นงานดี เลือกใช้วัสดุมาสร้าง ชิ้นงานไม่ตรงตามที่ กำหนด แต่วัสดุมีความ เหมาะสมกับการสร้าง ชิ้นงาน 3. ความถูกต้องของ เนื้อหา เนื้อหามีความถูกต้อง ครบถ้วน เนื้อหามีความถูกต้อง บางส่วน เนื้อหามีความถูกต้อง ค่อนข้างน้อย 4. การสร้างสรรค์ ชิ้นงาน ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงาม ดีมาก ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงาม ดี ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงาม น้อย 5. กำหนดเวลาส่งงาน ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่ กำหนด ส่งชิ้นงานช้ากว่ากำหนด 1-2 วัน ส่งชิ้นงานช้ากว่ากำหนด เกิน 3 วันขึ้นไป เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่


266 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน …............./.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่


267 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน …............./.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่


268 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การ ยอมรับฟัง คนอื่น การทำงาน ตามที่ ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ำใจ การมี ส่วนร่วม ในการ ปรับปรุง ผลงาน กลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน …............./.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


269 คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรียน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ................./.................../............. หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 กิจกรรมทางกายและกีฬา เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 51-60 ดีมาก 41-50 ดี 30-40 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน


270 รหัสวิชา พ๑5๑๐๑ ชื่อรายวิชาพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ ๑ - ๒ เวลา 32 ชั่วโมง 16. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.5/1 จัดรูปแบบการเคลื่อนไหว แบบผสมผสานและควบคุมตนเองเมื่อใช้ทักษะการเคลื่อนไหว ตามแบบที่กำหนด พ 3.1 ป.5/2 เล่มเกมนำไปสู่กีฬาที่เลือกและกิจกรรมการเคลื่อนไหวแบบผลัด พ 3.1 ป.5/3 ควบคุมการเคลื่อนไหวในเรื่องการรับแรง การใช้แรงและความสมดุล พ 3.1 ป.5/4 แสดงทักษะกลไกในการปฏิบัติกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬา พ 3.1 ป.5/5 เล่นกีฬาไทย และกีฬาสากลประเภทบุคคลและประเภททีมได้อย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.5/6 อธิบายหลักการ และเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ อย่างน้อย 1 กิจกรรม มาตรฐานการเรียนรู้พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกมและการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่าง สม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมใน สุนทรียภาพของการกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.2 ป.5/1 ออกกำลังกายอย่างมีรูปแบบเล่นเกมที่ใช้ทักษะการคิดและตัดสินใจ พ 3.2 ป.5/2 เล่นกีฬาที่ตนเองชอบอย่างสม่ำเสมอ โดยสร้างทางเลือกในวิธีปฏิบัติของตนเองอย่าง หลากหลาย และมีน้ำใจนักกีฬา พ 3.2 ป.5/3 ปฏิบัติตามกฎกติกาการเล่นเกม กีฬาไทยและกีฬาสากลตามชนิดกีฬาที่เล่น พ 3.2 ป.5/4 ปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเอง ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่นและยอมรับในความแตกต่างระหว่าง บุคคลในการเล่นเกม และกีฬาไทย กีฬาสากล 17. สาระสำคัญ - การเคลื่อนไหวร่างกายและยืดหยุ่นขั้นพื้นฐาน เป็นการฝึกทักษะและควบคุมการเคลื่อน ไหวในการรับ แรง การใช้แรง และความสมดุล - การเคลื่อนไหวร่างกายให้เข้ากับจังหวะจะทำให้ผู้ฝึกเกิดความแข็งแรง และเกิดความเพลิดเพลิน - การเล่นเกมและกิจกรรมทางกาย ช่วยส่งเสริมทักษะการเคลื่อนไหว ทักษะการคิด และยังทำให้เกิด ความสนุกสนาน ดังนั้นการปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามกฎ กติกาของการเล่น เพื่อความปลอดภัย - กีฬา เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะการเคลื่อนไหวร่างกาย และมีกฎ กติกาในการเล่น ผู้เล่นจึงต้องฝึกให้ เกิดทักษะและปฏิบัติตามกฎ กติกา การเล่นตามชนิดกีฬาให้ถูกต้อง และมีน้ำใจนักกีฬา - กิจกรรมนันทนาการเป็นกิจกรรมที่ทำในเวลาว่างและทำให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน เป็นการใช้ เวลา ว่างให้เป็นประโยชน์ - การเล่นเกมและกิจกรรมทางกาย ช่วยส่งเสริมทักษะการเคลื่อนไหว ทักษะการคิด และยังทำให้เกิด ความสนุกสนาน ดังนั้นการปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามกฎ กติกาของการเล่น เพื่อความปลอดภัย - กีฬา เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะการเคลื่อนไหวร่างกาย และมีกฎ กติกาในการเล่น ผู้เล่นจึงต้องฝึกให้ เกิดทักษะและปฏิบัติตามกฎ กติกา การเล่นตามชนิดกีฬาให้ถูกต้อง และมีน้ำใจนักกีฬา


271 18. สาระการเรียนรู้ - การจัดรูปแบบการเคลื่อนไหวร่างกาย แบบผสมผสาน และการปฏิบัติกิจกรรมทางกายทั้งแบบอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบตามแบบที่กำหนด เช่น การฝึกกายบริหาร ยืดหยุ่นขั้นพื้นฐาน เป็นต้น - การเคลื่อนไหวในเรื่องการรับแรง การใช้แรงและความสมดุล - ทักษะกลไกที่ส่งผลต่อการปฏิบัติกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬา - การเล่นกีฬาไทย เช่น ตะกร้อวง วิ่งชักธง และกีฬาสากล เช่น กรีฑาประเภทลู่ แบดมินตัน เปตอง ฟุตบอล เทเบิลเทนนิส ว่ายน้ำ - การเล่นกีฬาไทย และกีฬาสากลประเภทบุคคลและทีมที่เหมาะสมกับวัยอย่างสม่ำเสมอ - การสร้างทางเลือกในวิธีปฏิบัติในการเล่นกีฬาอย่างหลากหลาย และมีน้ำใจนักกีฬา - กฎกติกาในการเล่นเกม กีฬาไทยและกีฬาสากลตามชนิดกีฬาที่เล่น - วิธีการรุกและวิธีป้องกันในการเล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลที่เล่น - สิทธิของตนเองและผู้อื่นในการเล่นเกมและกีฬา - ความแตกต่างระหว่างบุคคลในการเล่นเกม และกีฬา - หลักการและกิจกรรมนันทนาการ ความรู้ -อธิบายหลักการเคลื่อน ไหวร่างกายได้ - จำแนกลักษณะการเคลื่อนไหวร่างกายแบบต่างๆ ได้ - จำแนกทักษะกลไกในการปฏิบัติกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาได้ - ทดสอบการปฏิบัติกิจกรรมยืดหยุ่นขั้นพื้นฐานในท่าต่างๆ ได้ - อธิบายหลักในการฝึกกายบริหารมือเปล่าประกอบดนตรีได้ - อธิบายขั้นตอนการฝึกกายบริหารมือเปล่าประกอบดนตรีได้ - ปฏิบัติกายบริหารมือเปล่าประกอบดนตรีได้อย่างถูกต้อง - .บอกหลักการออกกำลังกายอย่างมีรูปแบบได้ - จำแนกประเภทของกีฬาได้ - บอกวิธีการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันอันตรายจากการเล่นกีฬาได้ - อธิบายลักษณะของกิจกรรมนันทนาการได้ - จำแนกประเภทของกิจกรรมนันทนาการได้ - อธิบายหลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการได้ - บอกหลักการออกกำลังกายอย่างมีรูปแบบได้ - จำแนกประเภทของกีฬาได้ - บอกวิธีการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันอันตรายจากการเล่นกีฬาได้ ทักษะ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


272 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - ตรงต่อเวลา - มีความรับผิดชอบ ๔. ชิ้นงานและภาระงาน - ๕. กิจกรรมการเรียนรู้ - แผนฯ ที่ 1 : การเคลื่อนไหวร่างกาย เวลา 4 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) - แผนฯ ที่ 2 : กายบริหาร เวลา 3 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) - แผนฯ ที่ 3 : กิจกรรมหรรษา เวลา 6 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) - แผนฯ ที่ 4 : กิจกรรมนันทนาการ เวลา 4 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) - แผนฯ ที่ 5 : กรีฑา เวลา 3 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) - แผนฯ ที่ 6 : ฟุตซอล เวลา 5 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) - แผนฯ ที่ 7 : ตะกร้อ เวลา 4 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) - แผนฯ ที่ 8 : สมรรถภาพทางกาย เวลา 3 ชั่วโมง บรรยาย/สาธิต/ศูนย์การเรียนรู้/กระบวนการฝึกปฏิบัติ: สืบเสาะหาความรู้ (5Es) รวม 32 ชั่วโมง 12. สื่อการเรียนรู้ - สื่อการเรียนรู้ (ตัวอย่าง : สื่อฯ มมฐ. หลักสูตรแกนกลางฯ สุขศึกษาและพลศึกษา ป.5) - อุปกรณ์ในการปฏิบัติกิจกรรม เช่น เบาะ ลูกบอล กลอง กรวย เสาหลัก ไม้คฑา ผ้าเช็ดหน้า นกหวีด ลูก ตะกร้อ เครื่องวัดแรงบีบมือ ตลับเมตร 13. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - สังเกตจากพฤติกรรมขณะปฏิบัติกิจกรรม 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ฝึกปฏิบัติกิจกรรมการเคลื่อนไหวขณะใช้อุปกรณ์ แล้วประเมินผลการปฏิบัติตามความเป็นจริง


273 7.3 การประเมินหลังเรียน - สังเกตจากพฤติกรรมขณะปฏิบัติกิจกรรม 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)


274 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สาระที่ ๑ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ ๑.๑ เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. อธิบายความสำคัญของระบบ สืบพันธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิตและ ระบบหายใจที่มีผลต่อสุขภาพ การ เจริญเติบโตและพัฒนาการ ความสำคัญของระบบสืบพันธุ์ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบ หายใจที่มีผลต่อสุขภาพ การเจริญเติบโตและพัฒนาการ ๒. อธิบายวิธีการดูแลรักษาระบบ สืบพันธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิต และ ระบบหายใจให้ทำงานตามปกติ วิธีดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบ หายใจให้ทำงานตามปกติ สาระที่ ๒ ชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนินชีวิต ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. อธิบายความสำคัญของการสร้าง และรักษาสัมพันธภาพกับผู้อื่น ความสำคัญของการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับผู้อื่น ปัจจัยที่ช่วยให้การทำงานกลุ่มประสบความสำเร็จ - ความสามารถส่วนบุคคล - บทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม - การยอมรับความคิดเห็น และความแตกต่างระหว่างบุคคล - ความรับผิดชอบ ๒. วิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจ นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อ เอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร พฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร


275 สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. แสดงทักษะการเคลื่อนไหวร่วมกับ ผู้อื่นในลักษณะแบบผลัดและ แบบผสมผสานได้ตามลำดับ ทั้ง แบบอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใช้ อุปกรณ์ประกอบ และการ เคลื่อนไหวประกอบเพลง การเคลื่อนไหวร่วมกับผู้อื่นแบบผลัดในลักษณะผสมผสาน ในการร่วม กิจกรรมทางกาย เช่น กิจกรรมแบบผลัด กายบริหารประกอบเพลง ยืดหยุ่นขั้นพื้นฐานที่ใช้ท่าต่อเนื่อง และการต่อตัวท่าง่าย ๆ ๒. จำแนกหลักการเคลื่อนไหวในเรื่อง การรับแรง การใช้แรง และความ สมดุลในการเคลื่อนไหวร่างกายใน การเล่นเกม เล่นกีฬา และนำผลมา ปรับปรุง เพิ่มพูนวิธีปฏิบัติของตนและ ผู้อื่น การเคลื่อนไหวในเรื่องการรับแรง การใช้แรง และความสมดุลกับการ พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวในการเล่นเกมและกีฬา ๓. เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภท บุคคลและประเภททีมได้อย่างละ ๑ ชนิด การเล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคลและประเภททีม เช่น กรีฑาประเภทลู่ และลานเปตอง ว่ายน้ำ เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอล ฟุตบอล ตะกร้อวง ๔. ใช้ทักษะกลไก เพื่อปรับปรุงเพิ่มพูน ความสามารถของตนและผู้อื่นใน การเล่นกีฬา การใช้ข้อมูลด้านทักษะกลไกเพื่อปรับปรุงและเพิ่มพูนความสามารถใน การปฏิบัติกิจกรรมทางกาย และเล่นกีฬา ๕. ร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างน้อย ๑ กิจกรรม แล้วนำความรู้และ หลักการที่ได้ไปใช้เป็นฐาน การศึกษาหาความรู้ เรื่องอื่น ๆ การนำความรู้และหลักการของกิจกรรมนันทนาการไปใช้เป็นฐาน การศึกษาหาความรู้


276 สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชม ในสุนทรียภาพของการกีฬา ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. อธิบายประโยชน์และหลักการออก กำลังกายเพื่อสุขภาพ สมรรถภาพ ทางกายและการสร้างเสริม บุคลิกภาพ ประโยชน์และหลักการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ สมรรถภาพ ทางกายและการสร้างเสริมบุคลิกภาพ ๒. เล่นเกมที่ใช้ทักษะการวางแผน และสามารถเพิ่มพูนทักษะการออก กำลังกายและเคลื่อนไหวอย่างเป็น ระบบ การเล่นเกมที่ใช้ทักษะการวางแผน การเพิ่มพูนทักษะการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวอย่างเป็น ระบบ ๓. เล่นกีฬาที่ตนเองชื่นชอบและ สามารถประเมินทักษะการเล่นของตน เป็นประจำ การเล่นกีฬาประเภทบุคคลและประเภททีมที่ชื่นชอบ การประเมินทักษะการเล่นกีฬาของตน ๔. ปฏิบัติตามกฎ กติกา ตามชนิด กีฬาที่เล่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ของตนเองและผู้อื่น กฎ กติกาในการเล่นกีฬาไทย กีฬาสากลตามชนิดกีฬาที่เล่น ๕. จำแนกกลวิธีการรุก การป้องกัน และนำไปใช้ในการเล่นกีฬา กลวิธีการรุก การป้องกันในการเล่นกีฬา ๖. เล่นเกมและกีฬา ด้วยความ สามัคคีและมีน้ำใจนักกีฬา การสร้างความสามัคคีและความมีน้ำใจนักกีฬาในการเล่นเกมและ กีฬา


277 สาระที่ ๔ การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ การป้องกันโรค และการ สร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. แสดงพฤติกรรมในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อ สุขภาพ ความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ ปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ การป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ ๒. วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจาก การระบาดของโรค และเสนอ แนวทาง การป้องกันโรคติดต่อ สำคัญที่พบในประเทศไทย โรคติดต่อสำคัญที่ระบาดในปัจจุบัน ผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโรค การป้องกันการระบาดของโรค ๓. แสดงพฤติกรรมที่บ่งบอกถึง ความรับผิดชอบต่อสุขภาพของส่วนรวม พฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสุขภาพของส่วนรวม ๔. สร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพ ทางกายเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง วิธีทดสอบสมรรถภาพทางกาย การสร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายตามผลการ ทดสอบสมรรถภาพทางกาย สาระที่ ๕ ความปลอดภัยในชีวิต มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. วิเคราะห์ผลกระทบจากความ รุนแรงของภัยธรรมชาติที่มีต่อร่างกาย จิตใจ และสังคม ภัยธรรมชาติ - ลักษณะของภัยธรรมชาติ - ผลกระทบจากความรุนแรงของภัยธรรมชาติที่มีต่อร่างกาย จิตใจ และสังคม ๒. ระบุวิธีปฏิบัติตน เพื่อความ ปลอดภัยจากธรรมชาติ การปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ ๓. วิเคราะห์สาเหตุของการติดสารเสพติด และชักชวนให้ผู้อื่นหลีกเลี่ยงสารเสพ ติด สาเหตุของการติดสารเสพติด ทักษะการสื่อสารให้ผู้อื่นหลีกเลี่ยงสารเสพติด


278 รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา พ ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี คำอธิบายรายวิชา คิดวิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สังเกต ศึกษา ค้นคว้า อภิปรายถึงความคิดรวบยอด หลักการ ความสำคัญ แนวทางปฏิบัติของการทำงานระบบต่างๆ ของอวัยวะ ที่มีผลต่อสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญาและจิตวิญญาณในวัยรุ่น การสื่อสารที่ช่วยสร้างความสุขในครอบครัว มีการดำรงชีวิตใน ครอบครัวที่อบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย มีมารยาทในการวางตน การมีความสัมพันธ์ทางเพศ พฤติกรรมที่นำไปสู่การ มีเพศสัมพันธ์กับการตั้งครรภ์ การแก้ไขทางเพศที่เหมาะสม ผลของการมีพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ดี การรักษา สุขภาพและการป้องกันโรค การเลือกข้อมูลข่าวสารและบริการด้านสุขภาพ อารมณ์และความเครียด พฤติกรรม ที่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัย สภาพปัญหาชุมชนและท้องถิ่น ผลกระทบของการใช้ยา สารเสพติด ภัยอันตรายต่างๆ พร้อมทั้งการเกิดอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เกิด ประโยชน์ ฝึกปฏิบัติ ศึกษา วิเคราะห์ อภิปรายถึงแนวทางปฏิบัติของการเคลื่อนไหวร่างกาย ฝึกเรียนรู้ กฎ กติกา ขั้นตอน กลวิธี การรุก การป้องกัน การเข้าร่วมกิจกรรมทางกาย การออกกำลังกาย เล่นเกมกีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา การสร้างความคิดรวบยอด กระบวน การกลุ่ม การสืบเสาะ การจัดการ การสร้างค่านิยม ทักษะสุขภาพ กระบวนการทางกีฬา กระบวนการฝึก ปฏิบัติทางพลศึกษา และกระบวนการขัดเกลาทางสังคม เพื่อให้ผู้เรียนรักการเรียนรู้ในวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ให้มีสุขภาพดี รักการเอาใจใส่สุขภาพ รักการ ค้นคว้า มีเหตุผล มีความรับผิดชอบ อดทน ขยัน ประหยัด เห็นคุณค่าของตนเอง มีความเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ป้องกันและหลีกเลี่ยงสิ่งเสพติด มีวินัย ชื่นชมและมีสุนทรียภาพทางการกีฬา มีจิตวิญญาณในการ แข่งขัน รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีสุขนิสัยที่ดี มีบุคลิกภาพที่ดี มีสติ มีจิตสำนึกและความภูมิใจในความเป็นไทย สามารถ อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างเหมาะสม ใช้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษาเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้วิชาอื่นได้ ซึ่ง สอดคล้องตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีเหตุผล พอประมาณ สร้างภูมิคุ้มที่ดีในตนเอง มีความรู้ และ ควบคู่คุณธรรมนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตัวชี้วัด พ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ พ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ พ ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ พ ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ รวม ๒๒ ตัวชี้วัด (ตัวชี้วัดระหว่างทาง ๑๓ ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดปลายทาง 9 ตัวชี้วัด)


ตารางการวิเคราะห์หลักสูตรกลุ่มสระดับชั้นประสาระที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ มาตรฐาน ตัวชี้วัด สาระสำคัญ มาตรฐานการ เรียนรู้ พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติ ของการ เจริญเติบโตและ พัฒนาการของ มนุษย์ พ 1.1 ป.6/1 อธิบาย ความสำคัญของ ระบบสืบพันธุ์ ระบบไหลเวียน โลหิตและระบบ หายใจ ที่มีผลต่อ สุขภาพ การ เจริญเติบโตและ พัฒนาการ พ 1.1 ป.6/2 อธิบายวิธีการดูแล รักษาระบบ สืบพันธุ์ ระบบ ไหลเวียนโลหิต และระบบหายใจ ให้ทำงานตามปกติ 1.ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบสืบพันธุ์ มีความสำคัญและมี ผลต่อสุขภาพ การเจริญเติบโตและ พัฒนาการของร่างกาย ดังนั้นเราจึงควร ดูแลรักษาระบบหายใจ ระบบไหลเวียน โลหิต และระบบสืบพันธุ์ ให้ทำงานได้ ตามปกติ


279 สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ะถมศึกษาปีที่ 6 K P A สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. อธิบาย ความสำคัญ ของระบบ หายใจที่มีผล ต่อสุขภาพ การ เจริญเติบโต และพัฒนาการ ของร่างกายได้ 2.อธิบายวิธี ดูแลระบบ หายใจให้ ทำงาน ตามปกติได้ 3.อธิบาย ความสำคัญ ของระบบ ไหลเวียนโลหิต ที่มีผลต่อ สุขภาพ การ 1. ความสามารถ ในการคิด 2. ความสามารถ ในการใช้ ทักษะชีวิต 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มีความ รับผิดชอบ 1.ความสำคัญของระบบสืบพันธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบ หายใจที่มีผลต่อสุขภาพ การ เจริญเติบโตและพัฒนาการ 2.วิธีดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ ระบบ


มาตรฐาน ตัวชี้วัด สาระสำคัญ


280 K P A สาระการเรียนรู้แกนกลาง เจริญเติบโต และพัฒนาการ ของร่างกายได้ 4.อธิบายวิธี ดูแลรักษา ระบบ ไหลเวียนโลหิต ให้ทำงาน ตามปกติได้ 5.อธิบาย ความสำคัญ ของระบบ สืบพันธุ์ที่มีผล ต่อสุขภาพ การ เจริญเติบโต และพัฒนาการ ของร่างกายได้ 6.อธิบายวิธี ดูแลรักษา ระบบสืบพันธุ์ ให้ทำงาน ตามปกติได้


สาระที่ 2 ชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ตัวชี้วัด สาระสำคัญ มาตรฐานการ เรียนรู้ พ 2.1 เข้าใจและเห็น คุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมี ทักษะในการ ดำเนินชีวิต พ 2.1 ป.6/1 อธิบาย ความสำคัญของ การสร้างและ รักษาสัมพันธภาพ กับผู้อื่น 1.การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับสมาชิก ในครอบครัวและเพื่อน จะทำให้เข้าใจ ตนเองและผู้อื่น อีกทั้งยังสามารถ อยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 2.การมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ล้วน แต่มีสาเหตุเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง เรา จึงควรศึกษาทำความเข้าใจเพื่อจะได้ ป้องกันตนเองจากพฤติกรรมดังกล่าว


281 K P A สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1.อธิบาย ความหมาย ของคำว่า สัมพันธภาพ ได้ 2.อธิบาย ความสำคัญ ของการสร้าง และรักษา สัมพันธภาพใน ครอบครัวได้ 3.ปฏิบัติตนใน การสร้างและ รักษา สัมพันธภาพใน ครอบครัวได้ 4.อธิบาย ความสำคัญ ของการสร้าง และรักษา สัมพันธภาพ กับผู้อื่นได้ 1. ความสามารถ ในการคิด 2. ความสามารถ ในการใช้ ทักษะชีวิต 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มีความ รับผิดชอบ 1.สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับ สมาชิก ในครอบครัวและเพื่อน จะทำให้เข้าใจตนเองและผู้อื่น อีกทั้งยังสามารถ อยู่ร่วมกันกับ ผู้อื่นได้ 2. พฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่การมี เพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัย อันควร


Click to View FlipBook Version