The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by educationatsschool, 2021-07-18 23:43:18

นโปเลียน

นโปเลียน

นโปเลยี น
โดย

พลเอก มงั กร พรหมโยธี

นโปเลียน

เขียนโดย

พลเอกมงั กร พรหมโยธี

นโปเลียน

ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๔๓๗-๐๐๒-๙
พลเอกมงั กร พรหมโยธี เขียน/เรียบเรียง
พิมพ์ครัง้ แรกโดยสานกั พิมพ์ศรีปัญญา มนี าคม ๒๕๖๐

ราคา ๓๒๕ บาท

ข้อมลู ทางบรรณานุกรมของสานักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
มงั กร พรหมโยธี, พลเอก.
นโปเลยี น.-- นนทบรุ ี : ศรีปัญญา, ๒๕๖๐.

๔๔๐ หน้า.
๑.นโปเลยี นท่ี๑(จกั รพรรดแิ หง่ ฝรั่งเศส), ค.ศ.1769-1821.๒. ฝร่ังเศส-- ประวตั ศิ าสตร์. I. ช่ือ
เร่ือง.

๙๔๔.๐๕

สานกั พมิ พศ์ รีปัญญา

จัดพมิ พ์โดย บริษัท สานักพมิ พ์ศรีปัญญา จากัด
๔๑/๘๒ หมู่ ๔ หมู่บ้าน ณัฐซา ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

โทรศัพท์/โทรสาร ๐๒-๙๒๗-๗๓๑๖
เจ้าของ/ผู้อานวยการ : ประพต เศรษฐกานนท์

ผ้จู ัดการ : ณฐั กานต์ เศรษฐกานนท์

บรรณาธิการบริหาร : เริงวฒุ ิ มิตรสรุ ิยะ
บรรณาธิการผู้ช่วย : จริ วฒั น์ วรชยั
แบบปก และรูปเล่ม : คยี ์ รชิ เนสส์
จัดจาหน่าย : สายสง่ ศกึ ษติ บรษิ ทั เคลด็ ไทย จากดั
โทรศพท : ๐๒-๒๒๕-๙๕๓๖ ถงึ ๔๐

คานาสานักพมิ พ์

หนังสือ “นโปเลียน,, ท่อี ย่ใู นมือผ้อู ่านขณะนีเ้ ป็ นผลงานการเรียบเรียง
ของ พลเอกมังกร พรหมโยธี อดีตรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศกึ ษาธิการ และเป็ นรัฐมนตรีอกี หลายกระทรวง

กล่าวกันว่า หนงั สือ “นโปเลียน,, ที่ท่านเขียนและเรียบเรียงขึน้ มานี ้ ใน
ปัจจุบนั กลายเป็ นผลงานอมตะท่ีควรค่าแก่การอา่ นการศกึ ษา จนมีนกั เลน่ หนงั สือ
ตามหามาเก็บสะสมกนั เป็ นจานวนมาก

ท่ผี า่ นมา พลเอกมงั กร ใช้เวลาในยามว่างจากงานราชการมา ทางานเขียน
หนงั สือเลม่ นี ้โดยหนงั สอื ได้รับการทยอยตีพิมพ์ออกมา อยา่ งต่อเน่ือง ปรากฏเป็ น
หนงั สอื ฉบบั ๓ เลม่ ซงึ่ ได้กลา่ วถงึ เร่ืองราว ชีวประวตั ิของนโปเลยี น ดงั นี ้เลม่ ๑ วา่
ด้วยช่วงชีวิตปฐมวยั ของนโปเลียน เลม่ ๒ ว่าด้วยช่วงมชั ฌิมวยั โดยสนิ ้ สดุ ตรงท่ีน
โปเลยี นกลบั มาจากอียิปต์ และเลม่ ๓ เร่ิมต้นท่ีความสาเร็จในการรัฐประหาร และ
ก้าวขนึ ้ สอู่ านาจกงสลุ ท่ี ๑ ยกทพั ข้ามภเู ขาแอลป์ ไปตีอิตาลีจนได้ชยั ชนะ กระทงั่ ใน
เวลาตอ่ มา นโปเลยี นได้กลายเป็ นจกั รพรรดขิ องฝร่ังเศส

พลเอกมงั กร ยงั มีความประสงค์ทจี่ ะเขียน/เรียบเรียงผลงานเลม่ นีข้ องทา่ น
ให้จบเสร็จสิน้ กระบวนความในชีวิตของนโปเลียน หากแต่ ภายหลงั จากที่ท่าน
เกษียณราชการไปแล้วก็ไม่มีเวลาท่ีจะมาท่มุ เท ทางานชิน้ นีใ้ ห้ต่อเนื่องต่อไป เรา
ทราบจากเพียงแคใ่ นคานาท่ีเขียนเอา ไว้ในหนงั สอื เรื่อง “นโปเลยี น” ฉบบั ท่ีองค์การ
ค้าของครุ ุสภาจัดพิมพ์ เป็ นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งตีพิมพ์ขึน้ ใน
เดือนมิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๐๙ ว่า ท่านได้เรียบเรียงเลม่ ๔ เอาไว้ได้เพียง ๑๖ หน้า
เทา่ นนั้ แล้วท่านพลเอกมงั กร ก็เกิดอาการไม่สบายขึน้ มาทีละเลก็ ทีละน้อยจน ใน
ที่สดุ ก็ไมส่ ามารถทางานตอ่ ไปได้ดงั ปรารถนา

ดงั ทีก่ ลา่ วมาวา่ หนงั สอื เลม่ นีไ้ ด้จดั พิมพ์ขนึ ้ มาในชนั้ ต้นเป็ นหนงั สือ ๓ เลม่
กระนนั้ ก็มสี านกั พมิ พ์อกี หลายแหง่ ได้ขออนญุ าตไปจดั พิมพ์ซา้ อีกหลายครัง้ ซ่งึ บาง

ฉบบั ก็รวบรวมเอาไว้เพียงเลม่ ๑ และเลม่ ๒ มาพิมพ์เป็ นเลม่ ฉบบั เดียวกนั โดยยงั
ไมน่ าเลม่ ๓ มารวมเข้าในเลม่ ดงั เชน่ ฉบบั พิมพ์ของสานกั พิมพ์คลงั วิทยา เป็ นค้น

สานกั พิมพ์ศรีปัญญามีแนวความคิดท่ีจะรักษาและอนรุ ักษ์ผล งานอนั ทรง
คา่ เพอ่ื ให้คงดารงอย่อู ยา่ งตอ่ เน่ืองตอ่ ไป จึงได้มีแนวความ คิดที่จะนาผลงานเร่ือง
“นโปเลยี น” ของพลเอกมงั กร พรหมโยธี มาจดั พิมพ์ใหม่อีกครัง้ ซึง่ ในการพิมพ์ครัง้
นีไ้ ด้รวบรวมหนงั สือทงั้ ๓ เลม่ มา ไว้ด้วยกนั โดยได้ยึดแนวทางตามต้นฉบบั พิมพ์
ขององค์การค้าของครุ ุสภา ซงึ่ พิมพ์ขนึ ้ เมอ่ื พ.ศ.๒๕๐๙ เป็ นหลกั

โดยในขัน้ ตอนของการจัดการต้นฉบับนัน้ ทางกองบรรณาธิการ ได้

พยายามตรวจทานและแก้ไขศพั ท์บางคาโดยเฉพาะคาทบั ศพั ท์ที่ เปลยี่ นแปลงไปให้
ทนั สมยั ขึน้ กล่าวคือ คาบางคาที่ในช่วงเวลาหนึ่งอาจ ทบั ศพั ท์ออกเสียงเป็ นแบบ
หนงึ่ แตใ่ นปัจจบุ นั ก็ออกเสยี ง เป็ นอีกแบบท่ีชดั เจนกวา่ ทางสานกั พิมพ์จึงแก้ไขให้
ผ้อู ่านสามารถอ่าน และเข้าใจได้ง่ายขึน้ พร้ อมกนั ในการเรียบเรียงของผ้เู ขียนใน
บางคา บางช่วงอาจมี การกลา่ วเรื่องท่ีซา้ กนั อยู่ ทางสานกั พิมพ์จึงขดั เกลาให้อา่ น
เข้า ใจงา่ ยยิ่งขนึ ้ กระนนั้ ก็พยายามคงคาและความหมายเดมิ เอาไว้

พร้อมกนั นเี ้พ่ือให้ผ้อู า่ นสามารถเข้าใจในประวตั ิศาสตร์ชีวิตของ นโปเลยี น
ชดั เจนย่ิงขนึ ้ กองบรรณาธิการก็ได้ค้นคว้าและจดั ทาเชิงอรรถ บรรยายขยายความ
ให้ผ้อู า่ นที่สนใจจะทาความเข้าใจลกึ ซงึ ้ ได้อ่านและ เข้าใจเพิ่มมากยิ่งขึน้ ไปพร้อม
กนั ด้วย

ดงั ที่กลา่ วมาแต่ต้นวา่ พลเอกมงั กร พรหมโยธี เขียนประวตั ิของ นโปเลยี น
เลม่ นไี ้ ด้เพยี ง ๓ ตอนหรือ ๓ ชว่ งชีวิตของนโปเลยี น ยงั ขาด เหลอื เพียงช่วงบนั้ ปลาย
ชีวิตของนโปเลียนคือ เริ่มจากความพ่ายแพ้ใน การสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับ
รัสเซียและนามาสคู่ วามตกต่าจนถกู เนรเทศไปยงั เกาะเอลบา และหนีออกมาแล้ว
กลบั มาครองอานาจ จกั รพรรดคิ รัง้ ใหม่ และสนิ ้ สดุ ลงตรงท่ีความพา่ ยแพ้ในสงคราม
วอเตอร์ลู จนถกู จบั กมุ ตวั และเนรเทศไปอย่ยู งั เกาะเซนต์เฮเลน่า กระทง่ั เลยี ชีวิตใน
ทีส่ ดุ

ทางสานักพิมพ์พิจารณาว่า หากจัดพิมพ์เพียงเฉพาะเท่าที่ พลเอกมังกร
เขยี นเอาไว้ ผ้อู า่ นจะไมส่ ามารถเข้าใจภาพชีวิตโดยรวมของ นโปเลยี นผ้ยู ่งิ ใหญ่และ
โลกจารึกนามท่านนีไ้ ด้อย่างเต็มท่ี จึงทาบทเสริม เพ่ิมเข้าไปในตอนสุดท้ายของ
หนงั สอื เพอื่ ให้หนงั สอื เลม่ นสี ้ มบรู ณ์มากยงิ่ ขนึ ้

หนังสือ “นโปเลียน” โดยพลเอกมังกร พรหมโยธี นับว่าเป็ น หนังสือ
ประวตั ิศาสตร์ฉบบั อ่านง่ายและยงั ประโยชน์ต่อผ้อู ่านท่ีสนใจ ใคร่รู้เรื่องราวของ
ประวตั ิศาสตร์ฝรั่งเศสช่วงหนึ่งและชีวิตของนโปเลียนได้อย่างดีย่ิง ทงั้ โดยวิธีการ
นาเสนอและการเรียบเรียงนนั้ พลเอกมงั กร พรหมโยธีได้ใช้คาและความหมายท่ี
ธรรมดาสามารถอ่านและทาความเข้าใจง่ายดาย แม้แต่เร่ืองราวของกลยทุ ธหรือ
ยทุ ธวิธีการรบของนโปเลียนท่ีเกิดขนึ ้ ในแต่ละ ยทุ ธภมู ิ ซ่งึ นบั วา่ อธิบายให้เข้าใจได้
ยาก ทา่ นก็สามารถทาให้ผ้อู า่ น สามารถตดิ ตามได้อยา่ งสนกุ และมีสาระอยา่ งเต็มท่ี

สานกั พิมพ์ศรีปัญญา มีความภาคภมู ิใจท่ีได้นาเสนอผลงาน อมตะอนั ทรง
ค่าเลม่ นีต้ อ่ ทา่ นผ้อู ่านอีกครัง้ หน่งึ ขอขอบพระคณุ ผู้ เกี่ยวข้องทกุ ฝ่ าย และขออทุ ิศ
ความดีงามทงั้ มวลนแี ้ ดพ่ ลเอกมงั กร พรหมโยธี ผ้เู รียบเรียง ผ้เู ป็ นนกั การศกึ ษาและ
นกั บริหารทท่ี รงคา่ ทา่ น หนง่ึ ของประเทศไทยเรา

ขอขอบพระคุณ สานักพิมพ์ศรีปัญญา

ก ๑

สารบญั ๔

บทนา เหตกุ ารณ์ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. ๑๗๙๘ ๑๗
ปฐมวยั ของนโปเลยี น ๒๐
๒๗
บทท่ี ๑ เชือ้ ชาติ-ชาติภมู ิ-เยาว์วยั ๓๓
บทที่ ๒ สานกั ศกึ ษา ๔๐
บทท่ี ๓ การประจากรมครัง้ แรก ๕๒
บทท่ี ๔ ชีวติ ทนี่ ครอ๊อคซอน ๖๑
บทที่ ๕ ความเคลอ่ื นไหวของนโปเลยี น ๗๙
บทท่ี ๖ วิมานคอร์ซิกาทลาย ๘๙
บทที่ ๗ ตลู อง ๑๐๙
บทท่ี ๘ ปื นใหญ่ของกองทพั ภาคอติ าลี ๑๑๙
บทที่ ๙ ความตกต่าทส่ี ดุ และโชคใหญ่ ๑๒๘
บทที่ ๑๐ เผชิญหน้าโยเซฟิน ๑๔๔
บทที่ ๑๑ ยกทพั ข้ามภเู ขาลกิ เู รีย ๑๕๓
บทที่ ๑๒ สนามรบโลดี ๑๖๐
บทที่ ๑๓ มลู ฐานแหง่ ชยั ชนะ ๑๖๘
บทที่ ๑๔ ชิงป้ อมมงั ตวั ๑๗๕
บทที่ ๑๕ ความรัก-สงคราม ๑๘๒
บทท่ี ๑๖ ราชสานกั วาตกิ นั -และจกั รพรรดิฟรานซิส
บทที่ ๑๗ ในหมญู่ าตแิ ละภรรยา
บทที่ ๑๘ เดินทางกลบั กรุงปารีส
บทท่ี ๑๙ แผนการโจมตีอียปิ ต์
บทที่ ๒๐ เข้าสอู่ ียปิ ต์

ข ๑๙๒
๑๙๘
บทที่ ๒๑ สลุ ตา่ นเอล เกบรี ์-นโปเลยี น ๒๐๘
บทที่ ๒๒ กลบั เข้าปารีส ๒๒๐
บทท่ี ๒๓ แผนการรัฐประหาร ๒๓๕
บทท่ี ๒๔ ความสาเร็จในการรัฐประหาร ๒๕๔
บทที่ ๒๕ การปฏิรูป ๒๙๐
บทท่ี ๒๖ การเมืองและการรบระหวา่ ง ฝรั่งเศส ออสเตรีย องั กฤษ ๓๐๐
บทท่ี ๒๗ งานด้านเนเปิ ล และด้านโป็ ป ๓๑๗
บทท่ี ๒๘ สญั ญาสนั ติภาพทีอ่ าเมียงส์ ๓๔๗
บทที่ ๒๙ สงครามตงั้ ต้นอกี
บทเสริม ชว่ งบนั้ ปลายชีวิตจกั รพรรดิ



บทนา

เหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. ๑๗๘๙

ในตอนบ่ายวนั ท่ี ๕ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๗๘๙ คณะเอตาร์เชเนโร (Etats Generaux) ได้มา
ประชุมพร้ อมกันในพระราชวงั แวร์ซายส์ พระเจ้าหลยุ ส์ที่ ๑๖ ประทบั อย่บู น พระราชบลั ลงั ก์
พร้อมด้วยพระราชินี มารี องั ตวั แนต และแวดล้อมด้วยคณะรัฐมนตรี พระองค์ได้ทรงมีพระราช
ดาํ รัสอนั มใี จความสาํ คญั วา่ การท่ีทรงเรียกประชมุ คณะเอตาร์เชเนโรครัง้ นีก้ ็เพ่ือขอร้องให้ มา
วางระเบยี บปรับปรุงการคลงั ของประเทศ

บรรดาผ้แู ทนสว่ นมากพากนั ผดิ หวงั ไปตาม ๆ กนั และโดยเฉพาะ ผ้แู ทนแหง่ คณะ Tiers
(คณะราษฎรสามญั ) ซ่ึงคิดว่าถกู เชิญมาเพื่อปรึกษากนั ถึงวิธีปรับปรุงระบอบการปกครองใหม่
และสร้างรัฐธรรมนญู ขนึ ้ สกั ฉบบั หนงึ่ ผ้แู ทนคณะราษฎรนีม้ ีความปรารถนาอนั แรงกล้า ในอนั ที่
จะล้มเลกิ เอกสทิ ธ์ิตา่ ง ๆ เพ่ือให้ประชาชนได้มสี มภาพและเสรีภาพ

ความจริงในชนั้ เดิม ราษฎรทวั่ ทงั้ ประเทศฝรั่งเศสมิได้มีความม่งุ หมายจะโคน่ กษัตริย์
ลง หากแตต่ ้องการให้มกี ารเปลยี่ นแปลงในระบอบ การปกครอง โดยล้มเลิกเอกสทิ ธ์ิต่าง ๆ เพ่ือ
ประชาชนจะได้มีสมภาพตามกฎหมายเท่านนั้ ฉะนนั้ การท่ีพระมหากษัตริย์มิได้รับสง่ั ถึงเรื่องนี ้
เลย จึงทําให้บรรดาผ้แู ทนราษฎรต้องผดิ หวงั และมคี วามวิตกความยงุ่ ยาก ในตอ่ มาได้เป็ นเหตุ
ให้เข็มเดมิ ของคณะราษฎร ต้องเปลย่ี นแปลงไปแทนทจี่ ะร่าง ๐รัฐธรรมนญู ๑ เพ่ือวางระบอบการ
ปกครองภายใต้พระมหากษัตริย์ ให้มีความเรียบร้ อยดีขึน้ ก็กลบั กลายเป็ นการล้มกษัตริย์
เพ่ือให้ประชาชน ได้มีระบบการปกครองโดยประชาชน อย่างสมบรู ณ์ การต่อส้เู พ่ือสมภาพ ได้
กลายเป็ นการตอ่ ส้กู บั สมบรู ณาญาสทิ ธิราชย์

เอกสทิ ธ์ิทงั้ หลายได้ล้มเลิกไปในคืนวนั ที่ ๔ สิงหาคม และสม ภาพก็ได้อบุ ตั ิขนึ ้ แตท่ งั้ นี ้
ยงั ไมเ่ ป็ นที่จใุ จสําหรับคณะผ้นู ําการปฏิวตั ิ เพราะนอกจากการปฏิวตั ิในทางสงั คมแล้ว คณะนี ้
ยงั ต้องการทําลายล้างทกุ ๆ สงิ่ ท่ีเหลอื จากระบอบเก่าให้หมดสนิ ้ อีกด้วย

ความว่นุ วายท่ีอนสุ นธิจากแวร์ซายส์และในต่อมาจากปารีสได้ ลกุ ลามไปทว่ั ประเทศ
พระราชอํานาจถูกกําจัดลงโดยสนิ ้ เชิง กระทรวง ทบวงการต่าง ๆ ต้องรามือจากการงาน การ



จลาจลได้กอ่ เหตรุ ้ายขนึ ้ โดยทวั่ ไป ชาวนาได้เข้าวางเพลงิ ปราสาท ชาวกรุงขดั ขืนตอ่ อํานาจ ฝ่ าย
ปกครอง กองทพั ได้ฝ่ าฝื นคําสงั่ ผ้บู งั คบั บญั ชา ฝ่ ายศาสนาถกู รุกราน ประเทศก็เร่าร้อน ประดจุ
ไฟลกุ ลามขึน้ ทว่ั ไป สภาแห่งชาติ (Assemblee Nationale) ได้ปฏิบตั ิการ เกินขอบเขตของ
หน้าท่ี และไมส่ ามารถสถาปนา ความสงบเรียบร้อยขนึ ้ ได้

ตงั้ แตป่ ลายปี ค.ศ. ๑๗๘๙ วิลเลี่ยม พิตต์ ได้กลา่ ววา่ ๐ชาวฝร่ังเศส ได้ข้ามเสรีภาพไป
แล้ว๑ และเบิค้ (Burke) ได้ทํานายไว้ว่า ๐เหตกุ ารณ์นี ้จะสดุ สนิ ้ ลงก็ด้วยอํานาจเผด็จการทหาร
และเอกสทิ ธิ์จะไมป่ รากฏใน ใต้ฟ้ าอีกตอ่ ไป ริวารอล (Rivarol) ก็ได้ทาํ นายไว้วา่ ๐เราจะได้ทหาร
ผ้มู โี ชค สกั คนหนงึ่ เพราะวา่ การปฏิวตั ิทงั้ หลายยอ่ มถึงวาระสดุ ท้ายลงด้วยดาบ๑

๐ทหารผ้มู ีโชค๑ เป็ นคาํ ทีถ่ กู ต้องแล้วหรือ ความยงุ่ ยากท่ีเปิ ดฉากขนึ ้ ใน ค.ศ. ๑๗๘๙ จะ
ได้สร้างสภาพการณ์ขนึ ้ ในลกั ษณะทีผ่ ้ชู นะจะต้อง เป็ นผ้มู สี ง่ิ อื่นนอกจากโชค จะต้องเป็ นอจั ฉริย
บคุ คลซงึ่ กอปรด้วยความ ปรีชาสามารถในทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง และทรงไว้ด้วยกําลงั ใจอนั กล้าแขง็

ทหารหนุ่มผู้ซึ่งจะมาระงับความขุกเข็ญของบ้านเมืองตามที่ได้ ทํานายกันไว้นนั้ มี
ประวตั ิเดมิ มาอยา่ งไร และได้ฟันฝ่ าอปุ สรรคเพียงใด? นี่คือจดุ ประสงค์ของหนงั สอื เลม่ น!ี ้



ชารลส์ มารี โบนาปาร์ต บิดาของนโปเลียน



บทท่ี ๑

เชือ้ ชาต-ิ ชาตภิ ูม-ิ เยาว์วัย

เท่ าท่ีทราบกัน ต้ นตระกูลของนโปเลียน คือ กีโยม บือโบนาปาร์ ต (Guillaume
Buonaparte) ชาวอิตาเลียน ท่านผ้นู ีเ้ ป็ นนกั การเมืองและเคยเป็ นสมาชิกของสภานคร ฟลอ
เรนส์ (Florence) เม่ือเดือนมกราคม ค.ศ. ๑๒๖๑ ภายหลงั ต้องถกู เนรเทศ จึงไปพํานกั อย่ใู น
บ้านซาร์ซาน (Sarzane) แคว้นลกี ือรี (Ligurie)

ตงั้ แต่ปลายศตวรรษที่ ๑๓ จนถึงต้นศตวรรษท่ี ๑๖ รวมเป็ นเวลา ๒ ศตวรรษครึ่ง
ตระกลู นไี ้ ด้สบื เชือ้ สายตอ่ กนั มา ๗ ชวั่ คน ครัน้ ประมาณ ค.ศ. ๑๕๒๐ฟรังซวั ส์ผ้สู ืบสนั ดานชนั้ ท่ี
๗ ของกีโยม ได้อพยพครอบครัว ออกจากอติ าลไี ปตงั้ ภมู ลิ าํ เนาอยทู่ ี่นครอาซคั ซิโอ (Ajaccio) ใน
เกาะ คอร์ซิกา ณ ท่ีนีป้ รากฏการสบื วงศ์ตระกูลต่อไปอีก ๙ ช่วั คนจึงถึงชารลส์ มารี (Charles
Marie) บิดาของนโปเลียน พวกตระกลู บือโบนาปาร์ตที่ อพยพมานีไ้ ด้กลายเป็ นชาวคอร์ซิกา
อยา่ งแท้จริงเพยี งชวั่ เวลา ๑ อายคุ น มีนิสยั ไปคนละอยา่ งกบั ชาวอิตาเลียนทีเดียว มีเรื่องกลา่ ว
ว่า วนั หนึ่งเม่ือ ค.ศ. ๑๗๙๖ นโปเลียนได้ประกาศตนว่าเป็ นชาวฝร่ังเศสอย่างแท้จริงต่อหน้า
รัฐมนตรีอติ าเลยี น ซงึ่ ในขณะนนั้ รัฐมนตรีอติ าเลยี นผ้หู นงึ่ ได้พดู ขนึ ้ วา่ ทา่ นมไิ ด้เป็ นพวกเราดอก
หรือ? นโปเลยี นได้ตอบอยา่ งห้วน ๆ วา่ ฉนั เป็ นชาวฝรั่งเศส

ชารลส์ มารี กําเนิดเมื่อวนั ที่ ๒๗ มีนาคม ค.ศ. ๑๗๔๖ ได้สมรส กบั หญิงในตระกลู รา
โมลโี น (Ramolino) เมอ่ื วนั ที่ ๒ มถิ นุ ายน ค.ศ. ๑๗๖๔ กลา่ วคือ เมื่อมีอายไุ ด้ ๑๘ ปี บิดาของน
โปเลยี นในเวลานนั้ มี อาชีพเป็ นทนายความ เป็ นบคุ คลทฉ่ี ลาดผ้หู นงึ่ แตม่ ีนิสยั ไมห่ นกั แนน่ ชอบ
อกั ษรศาสตร์ เคยหดั ประพนั ธ์ร้อยแก้วและโคลงกลอน รักความ สนุกและฟ้ ุงเฟ้ อ ถนดั ในงาน
ฉาบฉวยมากกวา่ จะทําการใดให้เป็ นลา่ํ เป็ นสนั จริง ๆ

เลตีเซีย มารดานโปเลียน เป็ นบุตรีของ ชอง เจอโรม ราโมลีโน (Jean Jerome
Ramolino) มีเชือ้ สายอิตาเลียนเหมือนกนั แต่มีเลือด เนือ้ กลายเป็ นชาวคอร์ซิกาก่อนพวก
ตระกูลบือโบนาปาร์ต เลตีเซียเป็ น สตรีที่เข้มแข็งทงั้ กายและใจ มีนิสยั เป็ นชาวคอร์ซิกาทุก
กระเบียดนิว้ ตงั้ มน่ั อยู่ในคุณธรรม ความคิดสขุ ุม แต่ความรู้ค่อนข้างน้อย เลีย้ งดูบตุ ร อย่าง



กวดขนั ลงโทษด้วยวิธีทบุ ตีอยา่ งหนกั เย่ียงมารดาสมยั โบราณ สอนให้มีความเคารพ บดิ าอยา่ ง
สงู เร่ิมเป็ นมารดาของทารกตงั้ แตอ่ ายุ ๑๕ และภายในเวลา ๒๐ ปี ได้ให้กําเนิดบตุ รธิดาถึง ๑๓
คน และต้องเลยี ้ งดถู ึง ๙ คน

เด็กที่กําเนิดในประเทศที่ประกอบด้วยสนั ติสขุ ในเวลาท่ีน้าน เมืองมีความสงบ หรือ
บิดามารดามีความสมบรู ณ์ด้วยโภคทรัพย์ ยอ่ ม น้อยนกั ทจี่ ะเป็ นคนใหญ่คนโตได้ ผ้ทู ่จี ะเอาชนะ
โชคชะตาของตนได้จะ ต้องเป็ นผ้ทู ่ีเคยลิม้ รสวิบากกรรมมาก่อน บคุ คลใดท่ีกําเนิดมาในความ
ยากแค้น ในเวลาท่ีบ้านเมืองขกุ เข็ญ ในท่ามกลางประชาชน ที่มีใจระอุด้วยความเคียดแค้น
ยอ่ มชบุ อปุ นิสยั ได้อยา่ งกล้าแขง็ มากหากบคุ คลนนั้ มคี วามเข้มแข็งพอ

ความจริงดงั กลา่ วมานีไ้ ด้แก่นโปเลยี นผ้ซู ง่ึ ได้ปฏสิ นธิมาในสมยั ประเทศคอร์ซิกาต้องถกู
กองทพั ฝรั่งเศสปราบปรามอย่างยอ่ ยยบั จน ประมขุ ของประเทศผ้มู ีนามว่า เปาลี ต้องหลบหนี
ภยั ไปอาศยั อยใู่ นประเทศองั กฤษ เหตนุ ีจ้ ึงได้เป็ นเครื่องต้อนเตือนความรู้สกึ ของนโปเลียน ใน
บนั้ ต้นแหง่ ชีวติ อยเู่ สมอ

วนั ท่ี ๑๕ สิงหาคม ค.ศ. ๑๗๖๙ ระหว่างท่ีร่วมพิธีทางศาสนาอย่ใู นโบสถ์ เลตีเซียเริ่ม
เจ็บครรภ์ นางจึงรีบกลบั มายงั บ้าน ตรงเข้าไปในห้องรับแขก และได้คลอดบตุ รบนเก้าอีน้ อนสี
เขยี วภายในห้องนน่ั เอง ทารกท่กี ําเนิดใหมน่ ไี ้ มส่ ้แู ข็งแรงนกั มีศีรษะโตมาก จนกระทง่ั ทรงตวั ไม่
คอ่ ยไหวเมอ่ื เร่ิมเดนิ ได้แล้ว

หนนู ้อยคนนไี ้ ด้ช่ือวา่ นโปเลออน (Napoleone) ซึ่งเป็ นนามของญาติผ้หู นึง่ ท่ีได้พลีชีวิต
ให้แก่ประเทศคอร์ซิกาอย่างกล้าหาญเม่ือสามเดือนก่อน แตน่ ามนีเ้ รียกยาก ใคร ๆ จึงเรียกกนั
อยหู่ ลายปี วา่ ๐หนนู าบือลโี อ (Le petit Nabulio)

ชีวิตในวยั เยาว์ของนโปเลียน ปรากฏว่ามีแต่ความมุทะลุดุดัน ชอบเล่นอย่างอึกทึก
ครึกโครม ตงั้ ตนเป็ นหวั หน้าในการเลน่ ซึ่งมกั จะ เป็ นไปในทํานองต่อส้กู นั อย่างเจ็บตวั แตส่ ่ิงที่
นา่ แปลกก็คือ เป็ นเด็กที่มีทงั้ ความซุกซน และความสาํ รวม ในคราวเดียวกนั เช่น พอเลิกจาก
การเลน่ ตอ่ ยตีกนั แล้ว มกั จะไปนง่ั สงบอารมณ์อยใู่ นถํา้ แห่งหนึ่งเป็ นเวลานาน ๆ ปลอ่ ยจิตใจให้
ลอ่ งลอยไปตามกระแสของความคิดความฝันและความหวงั ถ้าหากมิได้นงั่ อยู่ในถํา้ ก็มกั จะ
เท่ียวไปไกล ๆ บ้านโดยลําพงั ผ้เู ดียว ครัง้ หน่ึงได้ไปซกั ถามคนทําโรงสีถึงสงิ่ อ่ืน ๆ อีกจนคนทํา
โรงสหี มดปัญญาทจี่ ะ ตอบ เวลานนั้ นโปเลยี นอายเุ พยี ง ๘ ขวบเทา่ นนั้ ทงั้ นีแ้ สดงให้เห็นวา่ เป็ น



ผ้ทู ม่ี ีความขวนขวายในการศกึ ษา หาความรู้มาตงั้ แตเ่ ลก็ แตน่ ้อย
ตงั้ แตเ่ ด็กมาแล้ว นโปเลยี นมีนิสยั ชอบเป็ นทหาร เม่ือถูกมารดา ว่ากลา่ วเม่ือเห็นหน้า

เห็นตาฟกชํา้ อนั เกิดจากการเลน่ ตอ่ ส้กู นั ก็มกั จะตอบว่า ๐ต้องหดั ให้มีนิสยั เป็ นทหารไว้ เพราะ
ตอ่ ไปจะเป็ นทหาร๑

ภายหลงั ท่ีประเทศคอร์ซิกาได้ตกไปเป็ นกรรมสทิ ธิ์ของประเทศ ฝร่ังเศสแล้ว บิดาของน
โปเลยี นซง่ึ เคยเป็ นผ้สู นบั สนนุ ของเปาล๑ี ก็กลบั มาเป็ นมิตรดกี บั ฝรั่งเศส และได้พยายามเอาอก
เอาใจบคุ คลชนั้ สงู ที่ ฝรั่งเศสสง่ มาปกครองเกาะคอร์ซิกาด้วยหวงั จะได้ให้บตุ รของตนได้รับ ทนุ
เล่าเรียนจากประเทศฝรั่งเศส ในท่ีสดุ การวิ่งเต้นทงั้ นีก้ ็เป็ นผลสําเร็จ ท่านสงั ฆราชเบิฟ้ พี่ชาย
ผ้สู ําเร็จราชการเกาะคอร์ซิกาได้ช่วยเหลือให้โยเซฟและ นโปเลียนได้เข้าโรงเรียนโอเติง (Le
College d’autun) และใน เวลาตอ่ มาน้อง ของนโปเลียนอีกสองคนคือ มารีอานา และลเู ซียง ก็
ได้เข้าโรงเรียนหลวง ในประเทศฝรั่งเศสด้วยกนั ทงั้ คู่

โยเซฟพ่ีชายนโปเลียนมีความมงุ่ หมายจะดําเนินอาชีพทางศาสนา สว่ นนโปเลียนนนั้
เตรียมจะเข้าโรงเรียนทหารบก บิดาของนโปเลียนได้พาเด็กทงั้ สองออกจากเกาะคอร์ซิกา เพ่ือ
เดินทางไปยังประเทศฝร่ังเศส เม่ือวันท่ี ๑๗ ธันวาคม ค.ศ. ๑๗๗๘ พร้ อมด้วยโยเซฟ เฟช
น้องชายของภรรยา ซง่ึ จะไปศกึ ษาในสาํ นกั นกั บวช ทีน่ ครเอ๊กซ์

หนนู ้อยนาบอื ลโี อ ได้จากเกาะท่รี ักของเขาไปตามโชคชะตาของเขา แตผ่ ้ทู ่ีจากไปนีม้ ิใช่
เด็กไร้เดียงสาธรรมตา แตเ่ ป็ นผ้ใู หญ่น้อย ๆ คนหนงึ่ ซงึ่ ได้เคยแสดงอะไรบางอยา่ งให้เห็นวา่ จะมี
อนาคตที่นา่ มหศั จรรย์ยิ่ง

๑ ปาสคาล เปาลี (Pascal Paoli ๑๗๒๕-๑๘๐๗) ประธานาธิบดีและผ้นู าํ ชาวเกาะคอร์ซกิ า



จกั รพรรดินโปเลียน ในหอ้ งอกั ษรในพระราชวงั ตลุ เลอรีส์


ปาสคาล เปาลี ประธานาธิบดีแห่งเกาะคอร์ซิกา



บทท่ี ๒

สานักศึกษา

ชารลส์ โบนาปาร์ต ได้มาถึงประเทศฝร่ังเศสในวันท่ี ๒๐ ธันวาคม ค.ศ. ๑๗๗๘ และได้
เดินทางไปทําธุระต่อไปท่ีแวร์ซายส์หลงั จากจัดให้บุตรทัง้ สองเข้าโรงเรียน โอเติงเป็ นการ
เรียบร้อยแล้ว โยเซฟได้เป็ นท่ีรักใคร่ของเพ่ือนนกั เรียนด้วยกนั แตน่ โปเลียนนนั้ ตรงกนั ข้าม มีแต่
ความกระด้างกระเดื่อง และบาํ เพ็ญตนคล้ายกบั ผ้ทู ี่ต้องเนรเทศมาให้อยทู่ ่ามกลางผู้แปลกหน้า
ความไมเ่ อาใจใสใ่ นการแตง่ กาย แต่ท่าทีกระด้าง ผิวเนือ้ สคี ลาํ ้ และสําเนียงพดู ภาษาคอร์ซิกา
ได้ทําให้บรรดาครูและเพอ่ื นนกั เรียนมคี วามประหลาดใจ เดก็ คอร์ซิกาได้เป็ นบคุ คลประหลาดอยู่
ในสายตาของเดก็ ๆ ฝรั่งเศสซง่ึ ล้วนกําลงั อยใู่ นวยั ที่ขาดความเมตตาปรานี และเมื่อรู้วา่ ไมช่ อบ
สงิ่ ไหนก็ม่งุ แต่จะล้อเลยี นร่ําไป เด็ก ๆ มกั จะล้อวา่ ๐พวกคอร์ซิกาขีข้ ลาดนกั กระมงั จึงพ่ายแพ้
เร็วนกั ๑ แตน่ โปเลยี นก็ได้ตอบสวนขึน้ ทนั ควนั วา่ ๐ชาวฝร่ังเศสจะเอาชนะชาวคอร์ซิกาไม่ได้เป็ น
อนั ขาดลาํ พงั แตก่ ารตอ่ ส้กู นั ด้วยกําลงั สต่ี ่อหนง่ึ นี่ดีแต่ชาวฝร่ังเศส มีกําลงั มากกวา่ สิบต่อหนึง่ ๑
นโปเลียนพูดภาษาฝร่ังเศสไม่ได้ดี ในครอบครัวของตนพูดภาษาชาวเกาะคอร์ซิกา ซึ่งเป็ น
ภาษาอติ าเลยี นบ้านนอก ในครัง้ แรกเม่อื ครูถามช่ือเขาในห้องเรียน นโปเลยี นตอบและออกเสียง
อย่างชาวอาซคั ซิโอว่า นโปลโิ อเน (Napolione) เพื่อนนกั เรียนพากันหวั เราะ และล้อเรียกนโป
เลยี นวา่ ลาปาย์โอเน (Le paille au nez ซง่ึ แปลวา่ ฟางข้าวทจี่ มกู ) ครูผ้หู นง่ึ ได้ถามนโปเลยี นวา่
๐ทาํ ไมพวกเธอจงึ แพ้ เพราะมเี ปาลซี งึ่ ได้ชื่อวา่ เป็ นแมท่ พั ท่ีสามารถ๑ นโปเลียนได้ตอบอย่างห้วน
ๆ วา่ ๐ครับ ทา่ นเป็ นแมท่ พั ผ้สู ามารถ และฉนั อยากจะเหมือนกบั ทา่ น๑

นโปเลยี นได้ตระหนกั ในความจําเป็ นที่จะต้องศึกษา เพ่ือประโยชน์แก่หน้าท่ี การงาน
ของตนในอนาคต ฉะนนั้ ชว่ั เวลาไมก่ ่ีสปั ดาห์ นโปเลยี นก็เรียนรู้ในภาษาฝร่ังเศส ทนั เพอื่ นฝงู แต่
ความจริงแล้ว นโปเลยี นไมเ่ คยพดู ฝร่ังเศสได้ชดั เจนตลอดชีวิต นโปเลยี นอยทู่ ี่ โรงเรียนโอเติงไม่
นาน ก็ย้ายไปเข้าโรงเรียนทหารบกท่ีกรุงเบรียน กลา่ วคือ เข้าโรงเรียนโอเติงในวนั ที่ ๑ มกราคม
ค.ศ.๑๗๗๙ แล้วย้ายไปเข้าโรงเรียนทหารบกที่กรุงเบรียน (Brienne) เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.
๑๗๗๙ นโปเลียนได้เดินทางออกจากโรงเรียนโอเติงในวนั ที่ ๒๑ ต้องแยกกบั พ่ีชายด้วยความ

๑๐

อาลยั ยิง่ ในวนั ที่ ๑๕ พฤษภาคม นโปเลยี นก็ได้เข้าโรงเรียนใหม่ และได้ศกึ ษาอบรมเพื่อต่อส้กู บั
ชีวติ อยู่ ณ ท่ีนนั่ เป็ นเวลาถงึ ๕ ปี เต็ม

ในสมยั นนั้ มีโรงเรียนได้ชื่อว่า ๐โรงเรียนทหารบก๑ ทงั้ หมดด้วยกนั ประมาณ ๑๒ แห่ง
เป็ นโรงเรียนที่อยใู่ นพระบรมราชปู ถมั ภ์ และขนึ ้ กบั รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม ทาํ การสอน
กุลบุตรท่ีจะเข้ารับราชการทหาร รัฐมนตรีแซงค์แชร์แม็งได้วางเกณฑ์ให้บุตร ของบุคคลผู้มี
ตระกูลท่ียากจนได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนเหล่านนั้ ไว้เป็ นจํานวน ๖๕๐ คน โรงเรียน
ทหารบกประจํากรุงปารีสนนั้ สงวนไว้เฉพาะนกั เรียนที่มีผลการเรียนดีมาจากโรงเรียนทหารบก
อ่ืน ๆ ความจริงโรงเรียนต่าง ๆ ในสมยั นนั้ สอนโดยพวกพระ มีหลกั สตู รการสอนและลกั ษณะ
การปกครองคล้ายคลงึ กนั เป็ นสว่ นมาก ผิดกนั ก็โดยท่ีโรงเรียนทหารบกรับนกั เรียนทนุ หลวงเข้า
ศกึ ษาเพอื่ รับราชการทหาร เป็ นทหารในเวลาตอ่ ไป นโปเลยี นเป็ นผ้หู นงึ่ ทอ่ี ยใู่ นเกณฑ์นี ้

โรงเรียนทหารบกตัง้ อยู่ท่ีเชิงเนินเขาอันเป็ นที่ตัง้ ของปราสาทโลเมนีแห่งเบรียน มี
นกั เรียนทงั้ หมด ๑๑๐ ในจํานวนนีเ้ ป็ นนักเรียนทนุ หลวงเสีย ๕๐ คน การศึกษาอยู่ในความ
อํานวยการของพวกพระคณะมีนิม (Minimes) การสอนของพวกพระคณะนี ้ ไมด่ ีเท่ากบั พวก
พระคณะเยซูอิต๒ ส่วนมากมกั สอนกันในทางวรรณคดี คลาสสิกทัง้ กรีกและลาติน เฉพาะ
โรงเรียนทหารบกกรุงเบรียนไม่มีการสอนภาษากรีก ฉะนนั้ การสอนจึงหนักไปในทางภาษา
ลาติน นอกจากนีร้ ัฐมนตรีกลาโหมยังได้สง่ั ให้สอน บทประพันธ์ของนักประพนั ธ์ลาตินผู้มี
ชื่อเสยี งนบั แต่ ซเิ ซโร (Cicero) จนถงึ เวอร์จิล (Virgil) และนบั แต่ติเต-ลวี ี (Tite - Livy) จนถึงฮอ
เรซ (Horace) สว่ นการแปลและการแต่งภาษาลาตินนนั้ ให้เลิกเสีย เพราะไม่ได้ประโยชน์แก่
นกั เรียนซง่ึ จะรับราชการทหารในต่อไป กบั ให้สอนให้รู้ถึงประวตั ิของบคุ คลสาํ คญั ๆ ในหนงั สอื
ของปลตู าร์ก (Plutarch) คําสง่ั ซีแ้ จงของรัฐมนตรีกลาโหมในครัง้ นนั้ สอ่ ให้เห็นความม่งุ หมายท่ี
จะดําเนินการ อบรมนกั เรียนให้มีจิตใจเป็ นผ้กู ล้าหาญตงั้ แตใ่ นเยาว์วยั โดยการศึกษาประวตั ิ
ของบุคคล สําคัญในอดีต ในส่วนวิชาปรัชญานัน้ ให้ สอนเฉพาะภาคศีลธรรมและภาค

๒ เยซูอิต (Jesuits) เป็ นคริสต์ศาสนานิกายโรมนั คาทอลกิ สาขาหนง่ึ เจ้าลทั ธิคอื เซนต์ โลโยลา
(Saint Loyola) เป็ นชาวสเปน ตงั้ ลทั ธิขนึ ้ เมือ่ ค.ศ. ๑๕๔๐ มีการตงั้ โรงเรียนสอนศาลนาไปในตวั
พร้ อมกนั

๑๑

ตรรกวิทยา ยกเวันภาคอภิปรัชญา (Metaphysics) ในส่วนวิชาวรรณคดีฝร่ังเศส ให้สอน
ละเอียดเฉพาะวรรณคดีแหง่ ศตวรรษที่ ๑๗ มีคอรเนย์ ราซีน ลาฟองเตน บ๊อสซอื เอต์ เฟเนอลอง
เฟรซีเอร์ และมสั ซีญอง ในบรรดานกั ประพนั ธ์ทงั้ หมดนี ้บวั โลได้รับความนิยมมากกว่าเพื่อน
สว่ นวชิ าภมู ิศาสตร์เบอื ้ งต้นก็ให้ใช้สมดุ แผนทข่ี องโรแบรต์ เดอ วงั กดู ี นกั เรียนได้รับตาํ ราเลม่ เลก็
ๆ ฉบับหน่ึง ซึ่งนโปเลียนได้ท่องจําไว้ว่า ๐เมื่อครัง้ ก่อนประเทศเยอรมันขึน้ อยู่ในจักรวรรดิ
ฝร่ังเศส๑ ประวตั ิศาสตร์สมยั โบราณ และประวตั ิศาสตร์ประเทศฝร่ังเศส สอนด้วยตารางแสดง
ลาํ ดบั เวลาและลาํ ดบั วงศ์ นอกจากนี ้มวี ิชาคาํ นวณและวิชาฟิสกิ ส์ปนอยดู่ ้วยเลก็ น้อย

นโปเลียนได้อทุ ิศตวั ในการศึกษานีอ้ ย่างเต็มท่ี และโดยเฉพาะในการอ่านหนงั สือ วนั
หนง่ึ นโปเลยี นได้กลา่ ววา่ ๐ฉนั ได้เอาชนะประวตั ศิ าสตร์ได้แล้ว๑ แต่ความจริง นโปเลียนเอาชนะ
ได้ทกุ ส่ิง เช่นวิชาภมู ิศาสตร์ อนั เป็ นวิชาท่ีโปรดเทา่ ๆ กบั ประวตั ิศาสตร์ รวมทงั้ วิชาคํานวณซ่ึง
เหมาะแกส่ มองของนโปเลยี นอยา่ งยง่ิ และชวั่ เวลาไมก่ ี่ปี ก็ได้มีความรู้เกินครู ในเชิงนี ้นโปเลยี น
ได้มีความเลื่อมใสในเร่ืองการแสดง ความกล้าหาญและความเสียสละของบทละครคลาสสิก
และในชิน้ สาํ คญั ของ วรรณกรรมฝรั่งเศส ซงึ่ นโปเลียนได้อ้างถึงเสมอ มีภาษาลาตินภาษาเดียว
ที่ปรากฏว่าได้ทําให้ นโปเลียนมีความเบื่อหน่าย ในครัง้ นนั้ นโปเลียนไม่สามารถจะหยง่ั ถึง
ประโยชน์ของภาษาตาย ทงั้ นีเ้ พราะนโปเลียนกําลงั หลงใหลอยู่กับวรรณกรรมฝรั่งเศส และ
โดยเฉพาะบทประพนั ธ์ของนกั ประวตั ิศาสตร์สมยั กรุงโรมโบราณ นโปเลยี นอยากอา่ นตําราโดย
ไมต่ ้องเสยี หวั อย่กู บั ไวยากรณ์อนั ย่งุ ยาก และพอใจอา่ นบทประพนั ธ์ลาตินของผ้มู ีช่ือเลยี งด้วย
ฉบบั ทีแ่ ปลแล้วมากกวา่ ทงั้ นเี ้พราะความมีใจร้อนอยากรู้เร่ืองเร็วนนั่ เอง นกั เรียนของคณะมีนีม
ได้เรียน กันตามความพอใจของตนและไม่ถูกเคี่ยวเข็ญเท่าใดนัก ฉะนัน้ นโปเลียน จึงได้
หลีกเลี่ยงไวยากรณ์ และจับอ่านเอาเนือ้ เร่ืองทนั ที ทงั้ นีเ้ พราะการท่ีจะ รู้เร่ืองไวยากรณ์ดีนนั้
จําต้องรู้ภาษาลาตินด้วย แต่โดยท่ีนโปเลียนไม่รู้ภาษากรีก เพราะฉะนนั้ ก็ย่อมรู้ภาษาลาติน
ไมไ่ ด้ดีอยเู่ อง

อยา่ งไรก็ดี นโปเลยี นได้แสดงความขยนั ในการเลา่ เรียนทวีขนึ ้ ทกุ ที และได้อ่านหนงั สอื
ประวตั ิศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และหนงั สือคํานวณอย่างมากมาย แต่แม้จะเป็ นนกั เรียนท่ีไม่ส้จู ะ
เรียบร้อยนกั และทาํ ตนให้เป็ นทหี่ นกั ใจครู เป็ นธรรมดาอยเู่ องท่ีนโปเลยี นยอ่ มเป็ นที่ล้อเลยี นของ
เพ่ือนฝงู เนอื่ งจากเป็ นผ้ทู มี่ อี ะไรแปลก ๆ หลายอยา่ ง เช่นลกั ษณะรูปร่างและช่ือ สาํ เนียงอนั ผิด

๑๒

ธรรมดาอยนู่ นั้ นอกจากนีย้ งั มนี ิสยั ถือตวั และมทุ ะลเุ อาแตใ่ จของตนเป็ นใหญ่ ยอ่ มทราบกนั ดีอยู่
แล้วว่าเด็กตามโรงเรียนมีความสามารถเพียงไรในการยวั่ เย้าและยแุ หย่ และยิ่งนโปเลียนด้วย
แล้ว ย่ิงโดนหนกั กว่าใคร เคยมีผ้เู ขียนเอาไว้ว่านโปเลียนขอร้ องให้มารดา มารับตวั กลบั บ้าน
เพราะทนการรังควานจากเพ่ือนนกั เรียนไมไ่ หว เร่ืองนีไ้ ม่มีมลู แห่งความจริงเลย จริงอยถู่ ึงแม้น
โปเลยี นจะคิดถึงบ้านอยมู่ าก แตน่ โปเลยี นก็ไม่เคยปริปากให้ผ้ใู ดรู้แม้แตบ่ ิดามารดาของตนเอง
ทงั้ นีเ้ พราะความหยิ่งในเกียรติของตน ส่วนเรื่องท่ีหาว่านโปเลียนกล่าวกับเพื่อนคนหนึ่งว่า
๐ข้าพเจ้าจะให้ร้ายกบั พวกฝร่ังเศสให้มากทส่ี ดุ ๑ นนั้ ก็ไมป่ รากฏวา่ มีหลกั ฐานยืนยนั แต่ประการ
ใด อย่างไรก็ดี เป็ นความจริงท่ีว่า นโปเลียนได้แสดงตนอย่างเต็มท่ีว่าตนเป็ นผ้ทู ่ีถกู กดขี่ นโป
เลียนเคยแตก่ ลา่ วว่า ๐เปาลีจะกลบั มาเมื่อท่านสามารถหลดุ พ้น ออกจากเครื่องพนั ธนาการได้
ในวนั ใด ข้าพเจ้าจะไปทําการช่วยเหลือท่านทนั ที ถ้าข้าพเจ้ามีกําลงั พอ และบางทีเราสองคน
อาจจะกู้เกาะคอร์ซิกาให้พ้นจากแอกท่ีน่าอดสไู ด้๑ เรื่องนีน้ ่าจะมีมลู ความจริงกว่าเรื่องอ่ืน ๆ
เพราะได้มีหลกั ฐานมากฉบบั ด้วยกนั ยืนยนั ในเรื่องทีว่ า่ นโปเลยี นบชู าเปาลผี ้นู ําคนก่อนของคอร์
ซิกาเสยี อย่างเข้ากระดูกดํา เพื่อนนกั เรียนคนหนึ่งในสมยั นนั้ ได้เขียนเอาไว้ว่า เปาลีคือ ๐พระ
เจ้าของนโปเลยี น๑

การเลน่ สาํ หรับเป็ นเคร่ืองหย่อนใจของนโปเลยี นที่เบรียนนี ้ก็ไม่ผิดอะไรกบั ที่อาซคั ซิโอ
กล่าวคือตงั้ ตนเป็ นผ้นู ําแล้วยกพวกเข้าต่อส้กู นั อย่างรุนแรง เช่นในครัง้ หนึ่งได้ใช้หิมะสร้ างขึน้
เป็ นป้ อมและจดั แบง่ ให้ฝ่ ายหนงึ่ เข้าตี และอกี ฝ่ ายหนงึ่ ตงั้ รับ บางขณะถ้ามไิ ด้เลน่ ก็ไปหมกตวั อยู่
ในสวนเล็ก ๆ แต่เพียงผ้เู ดียว แล้วปล่อยอารมณ์ ให้ลอ่ งลอยอย่ใู นความนึกคิดและความฝัน
แล้วหากมีผ้ใู ดตามเข้าไปรังควานในขณะนนั้ ผ้นู นั้ เป็ นต้องได้รับความเจ็บตวั กลบั ไป นโปเลียน
เคยกลา่ ววา่ ๐ข้าพเจ้ามีสญั ชาตญาณว่า ความประสงค์ของข้าพเจ้าจะต้องชนะผ้อู ื่น และสิ่งท่ี
ข้าพเจ้าพอใจควรจะเป็ นกรรมสทิ ธ์ิของข้าพเจ้า๑

อนึง่ นโปเลยี นเคยสารภาพวา่ ตนเป็ นที่เกลียดชงั ของเพ่ือนนกั เรียนด้วยกนั และได้ทํา
ตนเป็ นที่หนกั ใจแก่ครูผ้คู วบคมุ เพราะเขามกั จะเป็ นผ้นู ําเสมอ ถ้าคราวใดปรากฏว่ามีเรื่องขึน้
เม่ือถูกลงโทษ นโปเลียนจะไม่ปริปากบ่น แต่จะกัดฟันแน่น วันหน่ึงถกู ลงโทษให้คุกเข่า นโป
เลียนเกิดโทสะอยู่ในใจอย่างแรงจนเป็ นเหตุให้ป่ วยไปหลายวัน การลงโทษทุกอย่างถ้าไม่
เกี่ยวกบั ความขายหน้าแล้ว นโปเลยี นจะยอมรับโดยดีเสมอ และแขง็ ตอ่ ทกุ ๆ สง่ิ ท่ีเกี่ยวกบั ความ

๑๓

เสอ่ื มเสียเกียรติศกั ดิ์ ครัง้ หนง่ึ ครูผ้หู นงึ่ ร้องเอ็ดขนึ ้ มาว่า ๐น่ีเธอเป็ นใครกนั ๑ นโปเลียนซึ่งมีอายุ
เพยี ง ๑๑ ปี ในเวลานนั้ ได้เงยศรี ษะขนึ ้ พลางตอบอย่างฉะฉานวา่ ๐ผมเป็ นผ้ใู หญ่คนหน่งึ ครับ๑
และก็เป็ นความจริงทีเดียวท่ีนโปเลียน มีความคิดอ่านเป็ นผู้ใหญ่แล้วเมื่ออายไุ ด้เพียง ๑๑ ปี
ความจริงข้อนีพ้ ิสจู น์ได้จากข้อความ ในจดหมายฉบบั หนง่ึ ที่มีไปถึงน้าชาย นโปเลียนได้พดู ถึง
ทางดาํ เนินชีวิตในอนาคตของโยเซฟ พี่ชายอยา่ งมีหลกั ฐาน สมเป็ นผ้ใู หญ่ทเี ดยี ว

เนอื่ งจากสอบได้คะแนนดี นโปเลียนจึงได้ถกู ย้ายจากโรงเรียนทหารบกท่ีกรุงเบรียน ไป
เข้าโรงเรียนทหารบกที่กรุงปารีส เชอวาลีเอร์ เดอ เกอราลีโอ กรรมการผู้สอบคนหน่ึง ได้ลง
ความเหน็ วา่ ๐นโปเลยี นเหมาะทีจ่ ะเป็ นทหารเรือท่ีดี๑ แตค่ วามสมคั รใจของนโปเลียน หนั ไปทาง
ปื นใหญ่เสยี แล้ว

ในวนั ที่ ๑๗ ตลุ าคม ค.ศ. ๑๗๘๔ นโปเลียนได้เดินทางออกจากกรุงเบรียนพร้ อมด้วย
เพอื่ นนกั เรียนอกี บางคนซง่ึ มสี ทิ ธ์ิได้ไปเรียนตอ่ เช่นเดียวกนั

โรงเรียนทหารบกที่กรุงปารีสนี ้สร้างขนึ ้ ตงั้ แต่ปี ค.ศ. ๑๗๕๑ ตงั้ อย่หู น้าชอง เดอ มาร์ส
(Champ de mars) โรงเรียนนมี ้ ใิ ช่เป็ นโรงเรียนเด็ก ฉะนนั้ นกั เรียนตา่ งก็มีห้องเลก็ ๆ แยกกนั อยู่
เป็ นสว่ นสดั มวี นิ ยั บงั คบั อยา่ งกวดขนั ในทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง รวมทงั้ การปฏิบตั ิกิจในทางศาสนาด้วย
อย่างไรก็ดี นักเรียนมีความสะดวกสบายมาก เพราะโรงเรียนมีความม่งุ หมายอย่างยิ่ง ที่จะ
อบรมให้นกั เรียนคลอ่ งต่อการสมาคม การ สอนก็สงู กวา่ โรงเรียนที่เบรียนมาก และน่าจะเป็ นที่
สมใจของนโปเลยี น ผ้ขู ยนั วิชาประวตั ิศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ วรรณคดี ภาษาเยอรมนั คณิตศาสตร์
ฟิ สกิ ส์ ป้ อมค่าย และวาดเขียน สอนโดยอาจารย์ผ้ชู ํานาญทงั้ สนิ ้ และนกั เรียนก็มีตําราดี ๆ ให้
ศึกษา ผ้บู งั คบั การโรงเรียน ก็ล้วนเลือกมาจากนายทหารชนั้ ผ้ใู หญ่ท่ีทรงคณุ วุฒิสงู ต่อมาใน
ภายหลงั นโปเลียนได้สรรเสริญ การอํานวยการศึกษาของท่านเหล่านนั้ มาก แต่แสดงความ
เสยี ดายอย่อู ย่างเดียวท่ีมิได้ มีการสอนตํานานการทพั และศิลปะของการสงครามแก่นกั เรียน
นายร้ อยอย่างเพียงพอ ในครัง้ นนั้ เมื่อครัง้ ยงั เป็ นนกั เรียน นโปเลียนเคยกล้าเขียนความเห็น
เสนอผ้อู าํ นวยการศกึ ษา เพ่ือขอให้สอนหนกั ไปทางวิชาทหารยง่ิ ขนึ ้

อยา่ งไรก็ตาม ตงั้ แตแ่ รกเข้าโรงเรียน นโปเลยี นได้ทาํ ตนให้เป็ นที่ แปลกใจของบรรดาครู
บาอาจารย์ โดยการขยนั เรียนจนได้รับยศเป็ นนายทหาร หลกั จากการเรียนเพียงปี เดียว ซ่ึงทงั้ นี ้
ไมใ่ คร่ปรากฏในอายเุ ช่นนนั้ นโปเลยี นได้เปลยี่ นนิสยั ฉนุ เฉียวและเข้มขรึมที่โรงเรียนเบรียน มา

๑๔

เป็ นผู้ท่ีมีความยิม้ แย้ม แจ่มใสกบั เพ่ือนฝูงในบางครัง้ บางคราว บรรดาครูบาอาจารย์ล้วนมี
ความพอใจ นโปเลยี น ยกเว้นก็เพยี งอาจารย์สอนภาษาเยอรมนั ผ้มู ีนามวา่ เบาร์ (Baur) ผ้เู ดียว
เป็ นผ้ทู ีก่ ลา่ ววา่ นโปเลยี น ๐บดั ซบ๑ และความจริง นโปเลียนไม่เคยเรียนภาษาตา่ งประเทศได้ดี
จนตลอดชีวิต ส่วนวิชาภาษาฝรั่งเศสนนั้ กลบั ตรงกันข้าม ครูผ้สู อนวิชานี ้กลบั กลา่ วว่า นโป
เลียนมีสํานวนโวหารเปรียบประดจุ ๐หินแกรนิตที่เผาด้วยภเู ขาไฟ๑ มิสเตอร์ แอสกีรย์ อาจารย์
อีกผ้หู น่ึงเขียนเอาไว้ว่า ๐นโปเลียนเป็ นชายหน่มุ ท่ีมีชาติและนิสยั คอร์ซิกา จะเป็ นคนใหญ่โต
ตอ่ ไปในภายภาคหน้าหากเหตกุ ารณ์อาํ นวย๑ อาจารย์วิชาปื นใหญ่อีกผ้หู น่ึงคือ มิสเตอร์ หลยุ ส์
มองซ์ (Louis Monge) ได้บนั ทกึ เอาไว้ ถกู ต้องยิ่งกว่านนั้ อีกวา่ ๐สํารวมและขยนั ชอบการเรียน
มากกวา่ การเลน่ ทกุ อยา่ ง ชอบอา่ นหนงั สอื ของนกั ประพนั ธ์ดี ๆ สนใจวิชาท่เี กี่ยวกบั คํานวณ วิชา
อ่ืน ๆ ไมใ่ คร่เอาใจใส่ มีความรู้ดีในวิชาคณิตศาสตร์และภูมิคาสตร์ ขรึม ชอบความเงียบสงัด
ความคดิ หนุ หนั ถือตวั คอ่ นข้างเหน็ แก่ตวั ฉะฉานในการตอบรวดเร็วและเฉียบขาดในการโต้แยงั
เอาแตใ่ จของตนเอง อยมู่ าก ทะเยอทะยานและหวงั ในทกุ สง่ิ ควรให้ความอปุ ถมั ภ์แก่ชายหนมุ่ ผู้
น๑ี ้

เหตุการณ์ที่สลดใจได้บังเกิดขึน้ แก่นโปเลียน เมื่อวันท่ี ๒๔ มกราคม ค.ศ. ๑๗๘๕
เพราะเป็ นวนั ท่ีชารลส์ โบนาปาร์ต บิดาของนโปเลียนถึงแก่กรรมลง เหตุการณ์ครัง้ นีเ้ ป็ นท่ี
สะเทือนใจแก่นโปเลยี นอยา่ งหนกั เพราะการจากไปอยา่ งไม่มีวนั กลบั ของประมขุ แหง่ ตระกลู ได้
ทําให้นโปเลียนรู้สึกว่าหน้าท่ีต่าง ๆ ได้ตกทอดมายงั ตนยิ่งกว่าพี่น้องคนอื่น ๆ บิดาไม่ได้เหลือ
สมบตั ไิ ว้ให้มากมายอะไร และถงึ แม้พวกลกู ๆ จะได้รับทนุ คา่ เลา่ เรียนอยู่ ๔ คนก็ตาม แตก่ ็ยงั มี
ลกู เลก็ ๆ ซงึ่ มารดาต้องอปุ ถมั ภ์ตอ่ ไปอีก ๔ คนด้วย และจํานวนรายได้ทงั้ หมดก็มเี พียง ๑,๐๐๐-
๔,๐๐๐ ฟรังค์ แตโ่ อกาสนี ้นโปเลยี นได้คํานงึ ถึงการปกครองพ่ีน้องมากกวา่ เรื่องเงินทอง จริงอยู่
โยเซฟเป็ นพี่ แตน่ โปเลยี นมีความคิดความอา่ นเป็ นผ้ใู หญ่มากกวา่

เนื่องจากเหตุข้างต้นนีน้ โปเลียนจึงได้พากเพียรในการศึกษาย่ิงขึน้ เพ่ือจะรีบตงั้ ตวั ให้
เป็ นหลกั ของตระกลู สบื ไป การสอบของนโปเลยี นดําเนินไปอย่างราบรื่น และหลงั จากศกึ ษาอยู่
ในโรงเรียนทหารบกกรุงปารีสเพียงปี เดียว นโปเลียนก็ได้รับพระราชทานยศเป็ นนายร้อยตรีชนั้
๒ ออกไปประจําการทหารลาแฟร์ (La Fere) ซงึ่ มีโรงเรียนประจําเหลา่ ของนายทหารปื นใหญ่ตงั้
รวมอยดู่ ้วย

๑๕

ภาพที่เห็นประจาและกลายเป็ นเอกลกั ษณ์เมอ่ื ครงั้ เป็ นนายทหารของนโปเลยี น
นนั่ คือ เขามกั ชอบล้วงมอื ขวาเข้าไปในกระเป๋ าเสอื ้

๑๖

บทท่ี ๓

การประจากรมครัง้ แรก

นักเรียนเหล่าปื นใหญ่ท่สี าเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารบกแล้ว จะต้องมาประจํากรม
ทหารลาแฟร์ท่ีนครวาลงั ซ์ (Valence) เพ่ือศกึ ษาวชิ าเฉพาะเหลา่ ของตน ในตําแหน่งนกั เรียนทํา
การนายร้ อย หดั ทําหน้าที่พลทหารและนายสิบ และหลงั จากประจํากรม แล้ว ๓ เดือน จึงจะ
ได้รับพระราชทานยศเป็ นร้อยตรี

วิชาท่ีสอนภายในโรงเรียนประจําเหล่านี ้ เป็ นที่พอใจของนโปเลียนอย่างย่ิง ทงั้ นีม้ ิใช่
เพราะนิสยั รักการทหารเทา่ นนั้ แตเ่ พราะเป็ นวชิ าของเหลา่ ทหารท่นี โปเลยี นชอบ มิสเตอร์ดือปยุ
เดอ เบอรด์ อาจารย์สอนวิชาคํานวณได้ประสาทความรู้ให้อย่างสมใจ และมิสเตอร์เซรูซิเอร์
อาจารย์ภมู ิศาสตร์ สอนวิชาเขียนแปลนและแผนท่ีซง่ึ เป็ นอีกวิชาหนงึ่ ท่ีนโปเลียนชอบ แต่การ
หยอ่ นใจอนั ใหญ่ยงิ่ ของนโปเลยี นคือ การฟังคําบรรยาย ของนายทหารชนั้ ผ้ใู หญ่ภายในกรม มี
เร่ืองเทคนิคของปื นใหญ่ การเข้าตี การรักษาป้ อม วธิ ีรบของเหลา่ ปื นใหญ่ ฯลฯ

ที่นครวาลงั ซ์ นโปเลยี นได้เข้าสมาคมที่ดี เน่ืองจากการฝากฝังของสหาย แหง่ ตระกูลผู้
หนง่ึ และของทา่ นสงั ฆราชแหง่ โอเตงิ แตโ่ ดยปกติทงั้ ในวงสมาคมและในกรมทหาร นโปเลียนมี
ความเคร่งขรึมอยเู่ สมอ ทงั้ นีเ้ พราะมีความกงั วลเกี่ยวกบั เร่ืองทางบ้านอย่มู าก มารดาของนโป
เลยี นต้องผจญกบั ภาระหนกั โดยทตี่ ้องอปุ การะบตุ รถงึ ๔ คน นโปเลยี นมกั จะกงั วลอยกู่ บั เรื่องนี ้
และมกั เขียนจดหมายให้คําแนะนําแก่มารดาอยเู่ นือง ๆ นโปเลียนกลา่ วในภายหลงั วา่ ๐ความ
กงั วลในเรื่องทางบ้านเป็ นเร่ืองรบกวนความสขุ ในขนั้ ต้น แหง่ ชีวติ ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามอี ารมณ์
เปลยี่ นไปเพราะเหตนุ นั้ ทาํ ให้ข้าพเจ้ามีความเคร่งขรึม ก่อนถึงวยั อนั สมควร๑

นโปเลยี นได้ปฏิญาณตนไว้วา่ จะดาํ เนินชีวติ ในความสนั โดษให้มากท่ีสดุ พยายามปลีก
ตวั จากเพื่อนฝูงที่ครองชีวิตอยู่ด้วยความสนุกเฮฮา ครัง้ หน่ึงมาดาม โกลอง บีเอร์ เคยแนะนํา
ให้นโปเลียนหาความสนกุ หยอ่ นใจบ้าง แต่นโปเลียนกลบั ตอบวา่ ๐มารดาของผม มีภาระหนกั
อยแู่ ล้ว ผมไมค่ วรไปเพ่มิ ขนึ ้ อีกด้วยการใช้จ่ายของผม โดยเฉพาะเม่ือเป็ นการ สนิ ้ เปลอื งโดยใช่
เหตุ เพราะความเขลาของเพ่ือนฝงู ๑

๑๗

เงินเดอื น ๘๐๐ ฟรังค์ กบั เงินคา่ ทพ่ี กั อกี ๑๒๐ ฟรังค์ตอ่ ปี นนั้ ทําให้นโปเลยี น ครองชีวิต
อยดู่ ้วยความยากลาํ บาก การใช้จา่ ยต้องเป็ นไปอยา่ งระมดั ระวงั ตลอดเวลา ความกงั วลในเรื่อง
นจี ้ ะหมดไปได้ก็ชว่ั พกั หน่งึ นนั่ คือขณะที่นโปเลียนดกู ารฝึ กอย่ทู ี่สนามยิงปื นในเวลาเช้าเท่านนั้
เมื่อกลบั จากสนามฝึ ก แทนที่จะไปรับประทานอาหาร กลางวนั อย่างสนกุ สนานพร้อมกบั เพ่ือน
ฝงู นโปเลยี นมกั จะไปหาอาหารรับประทานเงียบ ๆ ที่ร้านขายขนมปังกูรีออล ซือ้ แซนด์วิชถกู ๆ
รับประทาน ๒ ชิน้ ดมื่ นาํ ้ แก้วหนง่ึ เสร็จแล้วโดยมิได้พดู วา่ กระไร โยนเงินให้ ๒ ซู แล้วกลบั ท่ีพกั

นโปเลยี นเช่าห้องเล็ก ๆ ของมาดมวั แซลบู อย่ทู ่ีตึกชนั้ ๑ มมุ ถนนกรังด์รือกบั ถนน กรัว
ซงั ต์ ทาํ งานอยา่ งหามรุ่งหามคํ่า ตรงข้ามกบั ทพี่ กั มีร้านขายหนงั สอื ตงั้ อยรู่ ้านหนง่ึ ให้เช่าหนงั สือ
ด้วย ร้านนีไ้ ด้ยงั ประโยชน์ให้แก่นโปเลียนมาก เพราะได้อาศยั เช่าหนงั สอื เป็ นการท่นุ รายจ่าย
นโปเลียนชอบหนังสือมาก ฉะนนั้ บางทีก็อยากได้เป็ นกรรมสิทธ์ิ แต่หนงั สือที่อยากได้นี ้ บาง
คราวต้องรอไว้หลายอาทิตย์กวา่ จะซอื ้ ได้ เพราะต้องเจียดเอามาจากเงินคา่ อาหารและคา่ เครื่อง
แตง่ กาย

นโปเลียนรับประทานอาหารเย็นท่ีร้ านขายอาหาร ๐ตรัวส์ปี ชอง๑ รับประทานอย่าง
มธั ยสั ถ์ เมื่อเสร็จจากการรับประทานแล้วก็กลบั ท่พี กั ทนั ที ไมเ่ อา ธรุ ะกบั เพอ่ื นฝงู ท่ีคงสนกุ สนาน
เฮฮากนั ตอ่ ไป เมอ่ื ถงึ ท่พี กั ก็นง่ั จมกบั หนงั สอื จนดกึ ดน่ื การดาํ รงชีวิตในสภาพเช่นนไี ้ มป่ รากฏวา่
ทําให้นโปเลียนเป็ นทกุ ข์เป็ นร้ อนอะไร ครัง้ แรกท่ีนโปเลียนหดั ทําหน้าท่ีเป็ นผู้บังคับกองร้ อย
พร้อมด้วยทหารจํานวน ๖๖ คน ปรากฏว่านโปเลียนมีความปลืม้ ปิ ติ เหมือนคนมีโชคพบหญิง
สาวสวยทีเดียว เพราะอาชีพทหารเป็ นท่ีช่ืนชมของนโปเลียนอย่างไม่รู้เสื่อมคลาย นโปเลียน
พยายามฝึ กฝนตนให้ก้าวหน้าอยู่เสมอในวิทยาการทหาร เวลาส่วนมากหมดไปกับการอ่าน
ตํารับตํารา นโปเลยี นอา่ นหนงั สอื จดั มาก แตก่ ารอา่ นหนงั สอื ของนโปเลยี นเป็ นการอ่านอยา่ งช้า
ๆ กลา่ วคืออา่ นอยา่ งใช้ความคิดพจิ ารณา แสดงความเห็น และบนั ทกึ ข้อความทส่ี าํ คญั ไว้

ความขวนขวายในการศึกษาหาความรู้อย่างขะมกั เขม้นอยา่ งเกินควรนี ้เคยทําให้นโป
เลียนมีจิตใจฟ้ ุงซ่านถึงกบั รู้สึกเบื่อในความเป็ นอยู่ หมดอาลยั ในชีวิต รู้สกึ ตวั วา่ เป็ นนายทหาร
ชนั้ ตา่ํ ๆ ท่ไี ร้ผ้อู ปุ ถมั ภ์ และไมม่ ีหวงั จะเป็ นใหญ่เป็ นโตได้ แตน่ ี่ก็เป็ นความฟ้ งุ ซา่ นชวั่ ขณะเทา่ นนั้
ตามธรรมดาความนกึ คิดไตร่ตรองของนโปเลยี น ได้นําไปสคู่ วามหวงั ที่ใหญ่ย่ิงเสมอ แม้วา่ นโป
เลียนจะมองไม่เห็นแนวทางอันสุกใสใน อาชีพทหารของตนในประเทศฝรั่งเศส นโปเลียนมี

๑๘

ความหวงั อยอู่ ยา่ งหนงึ่ เป็ นความหวงั ทว่ี นเวยี นอยใู่ นกระแสความคิดมานมนานแล้ว ความหวงั
นกี ้ ็คือ การก้คู อร์ซิกาอนั เป็ นชาติภมู ิให้พ้นจากแอกของฝรั่งเศสผ้รู ับซือ้ เกาะนีม้ าจากอิตาลี แต่
ระหว่างท่ียังรอโอกาสนีอ้ ยู่จึงได้พยายามแสวงหาความรู้ไว้ให้มาก สําหรับจะได้ใช้ให้เป็ น
ประโยชน์ตอ่ ไป

ภายหลงั การประจํากรมอยู่ท่ีนครวาลงั ซ์ ๑๐ เดือน นโปเลียนได้ขออนุญาต ลาพัก
ราชการชวั่ คราวเพ่ือไปเยี่ยมบ้าน ซ่ึงทางการก็ได้อนมุ ตั ิให้ ดงั นนั้ ในวนั ที่ ๑๕ กันยายน ค.ศ.
๑๗๘๖ นโปเลยี นก็ได้กลบั มาเยย่ี มถิ่นกาํ เนดิ เป็ นครัง้ แรก นบั ตงั้ แตไ่ ด้จากไป ๘ ปี นโปเลยี นรู้สกึ
เต็มไปด้วยความปิ ติยินดี และแสดงให้เหน็ ถงึ อารมณ์ อนั เบิกบานจนเป็ นที่แปลกใจของบรรดาพี่
น้อง เหตุท่ีทําให้นโปเลียนมีความยินดีมากถึงเพียงนี ้มิใช่เพราะได้พบกับบรรดาญาติพ่ีน้อง
เทา่ นนั้ แตเ่ ป็ นเพราะได้กลบั มาเห็น ปิ ตภุ มู ิซึ่งนโปเลียนรักและมีความใฝ่ ฝันจะกู้ให้พ้นจากการ
กดขีข่ องตา่ งประเทศ

นโปเลยี นได้มาอยใู่ นระหวา่ งวงศ์ญาติเป็ นเวลานาน เมื่อครบกําหนด วนั ลาพกั ราชการ
ครัง้ แรกแล้ว นโปเลยี นยงั ได้ขออนญุ าตลาต่อไปอีกจนกระทง่ั วนั ท่ี ๑๕ มิถนุ ายน ค.ศ. ๑๗๘๘
จงึ ได้กลบั ไปประจํากรมเดิม ซง่ึ ได้ย้ายจากนครวาลงั ซ์ ไปตงั้ อยทู่ นี่ ครอ๊อคซอน (Auxonne)

บทท่ี ๔

ชีวติ ท่นี ครอ๊อกซอน

นโปเลยี นยงั คงเป็ นนายร้อยตรีชัน้ ๒ อย่ตู ามเดิม การดาเนินชีวติ ท่ี นครอ๊อคซอนก็ไมต่ า่ ง
กบั ท่ีนครวาลงั ซ์ เพราะนโปเลียนยงั คงอาศยั เงินเดือนเท่าเดิม เป็ นเคร่ืองยงั ชีพ ในชนั้ ต้นนโป
เลียนได้ไปขอห้องพกั แคบ ๆ อย่ภู ายในกรมทหาร เพ่ือเป็ นการท่นุ ค่าเช่า และแล้วการดําเนิน
ชีวติ อยา่ งมธั ยสั ถ์ก็เริ่มตอ่ ไปใหม่

นโปเลยี นได้ทํางานอย่างขะมกั เขม้นในหน้าท่ียิ่งกวา่ ท่ีนครวาลงั ซ์ เพ่ือให้ค้มุ กบั เวลาที่
เสียไปในการลาพัก นอกจากบําเพ็ญตนให้เป็ นทหารท่ีมีวินยั ตรงต่อหน้าที่และกอปรด้วย
อุตสาหะแล้ว นโปเลียนยังได้เอาใจใส่ศึกษาทางเทคนิคของปื นใหญ่อย่างลึกซึง้ อีกด้วย
นอกจากตาํ ราเทคนคิ นโปเลยี นยงั อ่านตําราอ่ืน ๆ เก่ียวกบั การเมืองและการเศรษฐกิจ หนงั สือ

๑๙

ประวตั ิศาสตร์ และหนังสือบันทึกเรื่อง การเดินทางต่าง ๆ ชั่วเวลาไม่ก่ีเดือนนโปเลียนอ่าน
หนงั สือจบถึง ๓๐ เลม่ ทุก ๆ เล่ม อ่านอย่างละเอียด อ่านแล้ววิจารณ์และจดบนั ทึก หนงั สือ
เหลา่ นยี ้ ืมเขามาบ้าง เชา่ มาบ้าง ซอื ้ มาเองบ้าง แต่การซือ้ หนงั สือของนโปเลยี นนนั้ กว่าจะซือ้ ได้
แตล่ ะเลม่ ก็แสนเขญ็ เพราะต้องอดออมมากทีเดียว เคยรับประทานขนมปังเปลา่ ๆ เป็ นอาหาร
กลางวนั

แทบกล่าวได้ทีเดียวว่า ตงั้ แต่ปี ค.ศ.๑๗๘๗-๑๗๘๙ นโปเลียนได้อ่านหนังสือเรื่อง
สําคญั ๆ เกือบหมดทกุ เลม่ หนงั สอื ของรุสโซ (Rousseau)๓ เป็ นหนงั สือท่ีนโปเลยี นชอบมาก
และอา่ นทบทวนได้บ่อย ๆ การอ่านหนงั สอื ประวตั ิศาสตร์ของนโปเลยี น มิใช่เป็ นการอ่านเพ่ือรู้
เรื่องราวเท่านนั้ แต่เป็ นการอ่านเพ่ือหาเหตุผล นโปเลียนรู้ดีว่า มนุษย์ในสมยั ไหน ๆ ก็คงเป็ น
มนษุ ย์อย่างเดียวกนั นน่ั เอง หนงั สือประวตั ิศาสตร์เก่ียวกบั ประเทศอสั ซีเรีย เปอร์เซีย อียิปต์
กรีก คาร์เธจ โรมนั อาหรับ ฝรั่งเศส องั กฤษ นโปเลียนอ่านหมดทงั้ สนิ ้ แม้เวลาอ่านหนงั สือบท
ละคร คลาสสกิ ของราซีน (Racine)๔ หรือกอร์แนย์๕ นโปเลียนก็มองไปในแง่การเมือง วนั หนงึ่ น
โปเลยี นถกู ขงั เน่ืองจากความบกพร่องของผ้ใู ต้บงั คบั บญั ชาคนหนงึ่ เป็ นเวลา ๒๔ ชวั่ โมง ในห้อง
ขงั นโปเลยี นพบหนงั สอื เลม่ หนง่ึ ทิง้ อย่บู นพืน้ มีฝ่ นุ จบั เกรอะกรัง เป็ นหนงั สือประมวลกฎหมาย

๓ จงั จ๊าค รุชโช (Jean-Jacques Rousseau) นกั เขียนและนกั ปรัชญาชาวฝรั่งเศสยุคเรือง
ปัญญา (Age of Enlightenment) เกิด ๒๘ มิถนุ ายน ค.ศ. ๑๗๐๙ เสียชีวิต ๒ กรกฎาคม ค.ศ.
๑๗๗๘ มี ผลงานอันโด่งดังมากมาย โดยเฉพาะหนังสือเล่มสําคัญคือ สัญญาประชาคม
(Contral social) ว่ากนั ว่า งานเขียนของรุสโซ สง่ อิทธิพลอยา่ งมากตอ่ การปฏิวตั ิฝรั่งเศส ค.ศ.
๑๗๘๙
๔ ฌอง ราชีน (Jean Racine: ๑๖๓๙-๑๖๙๙) นกั เขียนบทละครชาวฝร่ังเศส ผ้ไู ด้รับการขนาน
นามวา่ ยอดเขาเอเวอเรสต์แหง่ ละครฝร่ังเศส
๕ ปี แอร์ กอร์แนย์ (Pierre Corneille : ๑๖๐๖-๑๖๘๔) หน่ึงในนกั เขียนบทละครคนสําคญั ในยคุ
นโี อคลาสสกิ ของฝร่ังเศส ซงึ่ ประกอบไปด้วย กอร์แนย์ ราชีน และโมลแิ ยร์ บทละครในยคุ นี ้สว่ น
ใหญ่มีจุดมุ่งหมายเพ่ือสอนศีลธรรมพร้ อมไปกับการสอดแทรกความบันเทิงเพื่อความ
สนกุ สนาน

๒๐

โรมนั แตง่ โดยจสั ติเนยี น (Justinian)๖ นโปเลียนหยิบขนึ ้ อ่านตงั้ แต่ต้นจนจบเพราะไมม่ ีอะไรทํา
ครัน้ ๑๕ ปี ตอ่ มา นโปเลียน ได้อ้างถึงหนงั สอื เลม่ นีใ้ นท่ีประชุมกรรมการร่างประมวลกฎหมาย
แพง่ โดยบอกหน้าหนงั สอื ได้อยา่ งถกู ต้อง ทงั้ ๆ ทห่ี ลงั จากนนั้ นโปเลยี นไมเ่ คยหยบิ หนงั สือเลม่ นี ้
ขนึ ้ มาอ่านอีกเลย การอ่านหนงั สอื โดยวิธีจดบนั ทึกไว้ และประกอบกบั ความทรงจําท่ีดีเลศิ ทํา
ให้นโปเลยี นจําทกุ สงิ่ ท่ีอา่ นนนั้ ได้

๖ จสั ตเิ นียน หรือ ยสุ ตินอิ านสุ ที่ ๑ เป็ นจกั รพรรตขิ องจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ออก ในชว่ ง ค.ศ.๔๘๒
-ค.ศ. ๕๖๕ เป็ นผ้มู ีคําสงั่ ให้มกี ารชําระกฎหมายขนึ ้ มาฉบบั หนงึ่ เรียกวา่ ๐กฎหมายจสั ตเิ นยี น
(CORPUS JURIS CIVILIS)‛ สง่ ผลให้พระนามของพระองคก์ ลายเป็ นรากศพั ทข์ องคาํ วา่
Justice ทแ่ี ปลวา่ ความยตุ ธิ รรม

๒๑

จงั จา๊ ค รุสโซ นกั เขียนนกั ปรัชญาการเมือง วา่ กนั วา่ นโปเลียนอ่านผลงานของเขาแทบทกุ เร่ือง

ในปี ค.ศ. ๑๗๘๙ นายร้อยตรีหนมุ่ นโปเลยี นมีอายเุ พยี ง ๒๐ ปี เท่านนั้ และส่งิ ท่ีแปลก ก็
คือ เป็ นผ้ทู ี่เอาใจใส่กิจการบ้านเมืองมาก ระหว่างที่ความวุ่นวายเร่ิมจะฝังตวั ขึน้ ทว่ั ไปทัง้ ใน
ปารีส และจงั หวดั อืน่ เมื่อเดอื นแรก ๆ ของปี ค.ศ.๑๗๘๙ นโปเลียนได้มีความคิดเห็นวา่ รัฐแห่ง
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ควรจะมีความม่นั คง และเป็ นท่ีเคารพย่ิงกว่าที่เป็ นอยู่ในเวลานัน้
ความคิดของนโปเลียนดําเนินไปในทางก่อมิใช่ในทางทําลาย มีข้อพิสจู น์มากมาย ที่แสดงให้
เห็นวา่ นโปเลยี นมีความเคารพในระเบยี บของสงิ่ ที่เป็ นอยู่ เช่น ครัง้ หนงึ่ ในปี ค.ศ.๑๗๘๘ บรรดา
นายทหารหนมุ่ ๆ ในกรมอ๊อคซอนได้ดําริตงั้ สมาคมขนึ ้ สมาคมหนึง่ มีวตั ถปุ ระสงค์จะประสาน
ความสมั พนั ธ์แห่งมิตรภาพให้แนน่ แฟ้ นย่ิงขนึ ้ นโปเลยี นได้รับมอบหมายหน้าท่ีให้ร่างข้อบงั คบั

๒๒

ของสมาคมในฐานทีม่ ีชื่อเสยี งวา่ เป็ นนกั เขยี น ข้อความทีน่ โปเลยี นได้ร่างขนึ ้ มีสํานวนโวหารราว
กบั เป็ นกฎหมายของรัฐบาลจนใคร ๆ พากนั หวั เราะอย่างขนานใหญ่เมื่อได้ฟัง แตน่ โปเลยี นจะ
เข้าใจเหตผุ ลแหง่ การหวั เราะทงั้ นกี ้ ็หาไม่ นโปเลยี นมีนสิ ยั ทําอะไรเป็ นทําอยา่ งจริงจงั เสมอ และ
ได้หยบิ ยกคําพดู ของ นกั ประพนั ธ์ท่ชี อบขนึ ้ มาประกอบเหตผุ ลด้วยเสมอ จนพวกเพื่อน ๆ พากนั
เหน็ ชอบวา่ นโปเลยี นเป็ นคน ๐อวดภมู ิ๑

การอา่ นหนงั สอื และการฝึกฝนตนเองของนโปเลยี น ได้ทําให้นโปเลยี นมคี วาม เลอื่ มใสใน
การปกครองแบบประชาธิปไตย โดยเฉพาะหลงั จากปี ค.ศ.๑๗๘๙ ซ่ึงเป็ นปี ท่ีเริ่มเกิดการปฏิวตั ิ
ฝรั่งเศสครัง้ ใหญ่๗ นโปเลยี นมคี วามเหน็ ร่วมกบั รุสโซวา่ มนษุ ย์ท่ีกําเนิดมา อาจมีฐานะแตกตา่ ง
กันได้ แต่ในส่วนสิทธิแล้วย่อมเสมอกันทุกคน นโปเลียนต้องการให้รัฐบาลจัดระเบียบการ
ปกครองและระเบยี บชมุ ชนให้ดีขนึ ้ และให้มีความเสมอภาคทวั่ หน้ากนั แต่ในการปรับปรุงนนั้ น
โปเลยี นมองว่าไม่จําเป็ นต้องโคน่ อํานาจ เพราะนน่ั จะเป็ นเหตใุ ห้เกิดการจลาจล ซง่ึ นโปเลียน
ชิงชงั มาก

ในวนั ท่ี ๓๐ มีนาคม ค.ศ.๑๗๘๙ ความวนุ่ วายได้เร่ิมขนึ ้ เป็ นครัง้ แรก กลา่ วคือได้มีฝงู ชน
กล้มุ รุมทําร้ ายพ่อค้าสองคนจนถึงแก่ความตาย โดยผ้เู สียชีวิตถกู หาว่า ทําการค้าผกู ขาดตัด
ตอน และเน่ืองจากเหตนุ ีเ้องทาํ ให้กรมทหารที่อ๊อคซอนต้องสง่ ทหารไประงบั เหตถุ ึงสามกองร้อย
มีนายร้อยตรีโบนาปาร์ตเป็ นผ้บู งั คบั กองด้วยผ้หู น่ึง แต่เผอิญเหตรุ ้ายไม่ได้ลกุ ลามมากมาย จึง
ไม่ถึงกบั ต้องใช้กําลงั เข้าปราบปราม ต่อมาในวนั ที่ ๑๙ กรกฎาคม ความว่นุ วายได้เกิดขึน้ อีก
คราวนีพ้ วกกรรมกรและพวกชาวนาเข้าตีชิง ปลนั สะดมบ้านคนมงั่ มีและสาํ นกั งานของรัฐบาล
แต่กองทหารได้ปราบปรามให้สงบเรียบร้ อย ลงได้เพียงชว่ั เวลาวนั เดียว ต่อมาไม่ก่ีวนั ความ
วนุ่ วายได้ลกุ ลามไปถึงกรมกองทหาร แต่ด้วยความละเลยกนั ในครัง้ นนั้ ผ้บู งั คบั กรมทหารตา่ ง
ๆ กลบั ไกลเ่ กลย่ี ทหารทก่ี ่อการกําเริบ แทนท่ีจะสง่ั ยงิ เป้ า

นโปเลยี นได้มองดเู หตรุ ้ายเหลา่ นดี ้ ้วยความสลดใจ ด้วยความหน่ายแหนง และค่อนข้าง
แปลกใจ เหตุการณ์เหล่านัน้ เป็ นเคร่ืองส่อถึงความล่มจมแห่งราชบัลลงั ก์ และความสงบ

๗ ปฏวิ ตั ิใหญ่ฝรั่งเศส (The Frence Revolution ๑๗๘๙) คอื การล้มระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธิ
ราชย์ แล้วตงั้ ระบอบสาธารณรัฐ หรือบางทกี ็เรียกระบอบมหาชนรัฐขนึ ้ มาแทน

๒๓

เรียบร้อย กระนนั้ นโปเลยี นก็มคี วามยินดอี ยอู่ ยา่ งหนง่ึ ท่ีบรรดาเอกสทิ ธิ์ตา่ ง ๆ สําหรับผ้มู ีตระกลู
สงู ต้องหมดลงในวนั ท่ี ๔ สงิ หาคม ตามกฤษฎีกาเดิมปี ค.ศ.๑๗๘๐ นนั้ ชนสามญั จะเป็ นทหาร
ได้ยาก สว่ นพวกท่ีพอมีตระกูลอยู่บ้างนนั้ ถึงแม้จะเป็ นนายทหารได้ก็ยากท่ีจะเป็ นใหญ่เป็ นโต
กลา่ วอยา่ งยอ่ ๆ ก็คอื อาชีพทหารเป็ นโอกาสโดยเฉพาะของพวกผ้ดู ีมีตระกูลเก่าแก่เทา่ นนั้ นโป
เลยี นก็จดั อยใู่ นจําพวกผ้มู ตี ระกลู ปานกลาง

หลงั จากทไี่ ด้ล้มเลกิ เอกสทิ ธิ์ตา่ ง ๆ แล้ว นโปเลยี นเคยพดู กบั นายพนั ตรีลาบาลแี อร์ ผ้ซู ึ่ง
เป็ นผ้บู งั คบั บญั ชาคนหนงึ่ วา่ ๐การปฏิวตั เิ ป็ นโอกาสอนั ดสี าํ หรับทหารที่มีปัญญา และความกล้า
หาญ๑ การปฏิวตั เิ ป็ นสงิ่ ท่ตี รงกบั ความความคิดของนโปเลยี นทม่ี อี ยแู่ ตเ่ ดิมแล้ว เพราะนโปเลยี น
มคี วามเลอื่ มใสในแนวคิดของรุสโชอยมู่ าก แตแ่ ม้กระนนั้ ทารุณกรรมตา่ ง ๆ ก็ยงั คงเป็ นสงิ่ ท่นี โป
เลียนเกลียดชงั อย่มู ากในฐานที่เป็ นบคุ คลซ่ึงชอบความมีระเบียบ นโปเลยี นไมเ่ คยมีความคิด
แม้แตข่ ณะเดยี วท่ีจะเป็ นหวั หน้านาํ ทหารกอ่ ความวนุ่ วาย นโปเลยี นเคยกลา่ วในภายหลงั วา่ ถ้า
หากได้รับคําสง่ั ให้ยิงฝงู ชนท่ีก่อการกําเริบแล้ว ก็จะปฏิบตั ิอยา่ งปราศจากความลงั เลใจทีเดียว

ระหว่างท่ีเกิดความวนุ่ วายอย่ใู นประเทศฝร่ังเศส นโปเลยี นทราบขา่ วว่า เกาะคอร์ซิกา
กําลังจะไหวตัวอยู่เหมือนกันเพราะเกรงกันว่ากฤษฎีกาของสภาแห่งชาติ (Assemblee
Nationale) ที่ตงั้ ขนึ ้ ใหม่นี ้จะไมม่ ีผลมาถึง เพราะความโกงของเจ้าหน้าท่ีฝ่ ายปกครองฝร่ังเศส
ชาวคอร์ซิกาต้องการปฏิวตั ิตามกฤษฎีกาใหมซ่ ึ่งให้ความเสมอภาค ต้องการความเป็ นเอกราช
และต้องการให้เปาลผี ้เู ป็ นประมขุ เดิมพ้นจากการเนรเทศ

ครัง้ นนั้ นโปเลยี นมีความเห็นวา่ การปฏิวตั ขิ องฝรั่งเศสยอ่ มมีผลเป็ นการให้ ความอิสระ
แก่ฝรั่งเศสเท่า ๆ กบั เกาะคอร์ซิกา เมื่อรัฐสภาให้โอกาสแสดงความคิดเห็น แก่ผู้ถูกกดข่ีใน
ฝร่ังเศสแล้ว เกาะคอร์ซกิ าก็ควรจะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกนั แตใ่ นการนี ้ ชาวเกาะคอร์ซิ
กาจะต้องตระหนกั ในสิทธิของตน และบงั คบั ให้เจ้าหน้าที่ ปกครองเกาะปฏิบตั ิตามกฤษฎีกาท่ี
ออกใหม่ สําหรับเร่ืองนีย้ งั ขาดผู้นําอยู่ เพราะเปาลีจะยอมกลบั มายังเกาะต่อเม่ือเหตุการณ์
เรียบร้อย ฉะนนั้ ควรจะมใี ครสกั คนหนง่ึ เป็ นผู้ แผ้วถางทางให้ และนายร้อยตรีหน่มุ โบนาปาร์ตก็
ได้คิดวา่ คนที่กลา่ วนี ้ควรเป็ นตน เนื่องจากความคิดอนั นี ้นโปเลียนจึงขอลาพกั ราชการอีกใน
เดือนกนั ยายน ค.ศ.๑๗๘๙ เป็ นเวลา ๖ เดือน นโปเลียนมีความตงั้ ใจอย่างเด็ดเด่ียวท่ีจะไป
ดําเนินงานในเกาะคอร์ซกิ า เพอ่ื ให้เพอื่ นร่วมชาติได้รับประโยชน์จากการปฏวิ ตั นิ นั้ ด้วย

๒๔

เมื่อได้รับอนุญาตลาพกั ราชการได้แล้ว นโปเลียนก็เดินทางออกจากฝร่ังเศส ในปลาย
เดือนกันยายน ชะรอยในเวลานนั้ นโปเลียนยงั จะมองไม่เห็นอนาคตของตนได้ถนดั คอร์ซิกา
กําลงั ไหวตวั ฝร่ังเศสกําลงั จะเริ่มจลาจล แต่ทางไหนจะนํานายทหารชนั้ ผ้นู ้อยซ่ึงมีอายุ เพียง
๒๐ ปี นไี ้ ปสคู่ วามเป็ นใหญ่

การปฏิวตั ิฝร่ังเศส ค.ศ.๑๗๘๙ สญั ลกั ษณ์สาํ คญั ในการเปลย่ี นแปลงครัง้ สาํ คญั ทเ่ี กิด ขนึ ้ มาใน
ครัง้ นนั้ คือภาพประชาชนเข้าทําลายคกุ บาสติลในกรุงปารีส

๒๕

นโปเลยี นในวยั ๒๓ ปี เม่ือครัง้ ดาํ รงยศเป็ นนายพนั เอกในกองทพั บนเกาะคอร์ซิกา

๒๖

บทท่ี ๕

ความเคล่ือนไหวของนโปเลียน

ในการเดนิ ทางมาถงึ เกาะคอร์ซิกาในปลายเดือนกันยายนคราวนี้ นโปเลียนได้พบกบั โย
เซฟพี่ชาย ซง่ึ ได้สาํ เร็จการศึกษาจากปารีสแล้ว โยเซฟดําเนินอาชีพเป็ นทนายความเจริญรอย
ตามบิดา และมนี ิสยั เหมอื นกบั บิดาอยมู่ าก กลา่ วคือมีความสภุ าพและความทะเยอทะยาน แต่
มีใจคอไม่หนกั แน่น ทําส่ิงใดมกั จบั จด ภมู ิใจในความเป็ นพ่ีใหญ่ แตก่ ็ไม่เป็ นท่ีพ่ึงแก่มารดาได้
เพราะมแี ตค่ วามลงั เล

โยเซฟได้บรรยายเหตุการณ์ในคอร์ซิกาให้นโปเลียนทราบโดยละเอียด การปฏิวตั ิ ใน
ฝรั่งเศสหาได้มีผลมาสเู่ กาะคอร์ซกิ าแตอ่ ยา่ งใดไม่ เจ้าหน้าท่ี ฝ่ ายปกครองได้ปกปิ ด กฤษฎีกาท่ี
ออกใหม่ไม่ให้ชาวเกาะรู้ นโปเลียนรู้สึกเคียดแค้นการกระทําครัง้ นี ้ เป็ นอนั มากและได้คิดหา
หนทางจะช่วยให้คอร์ซิการอดพ้นจากแอกของระบอบเก่า ในวนั ท่ี ๓๑ ตลุ าคม นโปเลยี นและโย
เซฟได้วง่ิ เต้นชกั ชวนบรรดา ๐ผ้รู ักชาติ๑ ให้มาประชุมกนั ท่ี โบสถ์ซงั ฟรังแซสโก แหง่ นครอาซคั ซิ
โอ ในการประชมุ คราวนี ้นโปเลยี นได้เสนอให้ร่วมกนั ลงนาม ในคําร้องทกุ ข์ซ่ึงจะได้สง่ ไปเสนอ
แก่รัฐสภาเพ่ือขอให้เกาะคอร์ซิกาได้เป็ นอิสระดงั เดิม ในคําร้ องฉบบั นีไ้ ด้ติเตียน ม.บางแร็ง
ผ้สู ําเร็จราชการเกาะคอร์ซิกาอย่างรุนแรง และหาว่าเป็ นปรปักษ์ต่อฝ่ ายปฏิวัติ นโปเลียนได้
เดนิ ทางไปนครบ๊าสตอิ า (Bastia)๘ ในวนั ท่ี ๒ พฤศจิกายน และได้เตรียมการให้ชาวเมืองลกุ ฮือ
ขนึ ้ เพื่อคดั ค้านการกระทาํ ของ ม.บาแร็ง แต่ในการนีน้ โปเลียนมิได้ทําการอย่างออกหน้า เพราะ
หน้าท่ีทหารยงั บงั คบั อยู่ การก่อความว่นุ วายได้เกิดขนึ ้ ในวนั ท่ี ๕ พฤศจิกายน ผ้สู าํ เร็จราชการ
เกาะคอร์ซิกาได้เรียกให้ทหารเข้าปราบปรามและได้เกิดตอ่ ส้กู นั ขนึ ้ อยา่ งรุนแรงระหว่างทหารกบั
ราษฎร แตแ่ ล้ว ในที่สดุ ทางการก็จําต้องทําความประนีประนอม เหตกุ ารณ์ในครัง้ นีไ้ ด้ก่อความ
ครึกโครมไปถึงปารีส และได้เป็ นเคร่ืองสนบั สนุนคําร้ องที่ส่งไปจากนครอาซัคซิโอ สองสาม
สปั ดาห์ตอ่ มา รัฐสภาฝร่ังเศสได้พจิ ารณาคําร้องฉบบั นี ้และได้ลงมติให้เกาะคอร์ซิกาได้รับสทิ ธ์ิ
เช่นเดยี วกบั จงั หวดั หนงึ่ ของฝร่ังเศสทกุ ประการ บรรดาชาวเกาะคอร์ซกิ าซง่ึ ต้องถกู เนรเทศพร้อม

๘ บ๊าสตอิ า (Bastia) เป็ นเมืองทา่ ตอนเหนอื ของเกาะคอร์ซกิ า

๒๗

กบั เปาลกี ็ได้รับอนญุ าตให้กลบั ประเทศของตนได้
ความสาํ เร็จของนโปเลยี นในคราวนไี ้ ด้ทาํ ให้มีผ้รู ู้จกั นโปเลยี นมากขนึ ้ แต่ก็เป็ นที่เกลียด

ชงั ของข้าราชการชนั้ สงู เพราะนโปเลยี นดําเนินการเร่งรัดให้ ทางการปฏิบตั ิตามกฤษฎีกาใหม่
ของรัฐสภามิได้ขาด ตลอดฤดหู นาวและฤดใู บไม้ผลปิ ี ค.ศ. ๑๗๙๐ นโปเลยี นได้ทํางานอย่าง
ขะมกั เขม้น และได้ขอลาพักจากราชการต่ออีก ๓ เดือนโดยอ้างว่าเพื่อรักษาตวั อย่างไรก็ดี
ความอตุ สาหะพยายามในการกอ่ ร่างสร้างตวั ของนโปเลยี นในเกาะคอร์ซิกา มิได้เป็ นผลสาํ เร็จ
ขนึ ้ สมกบั ทต่ี งั้ ความมงุ่ หมายไว้ กระทําทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง เพ่อื เกาะคอร์ซิกามไิ ด้เป็ นที่พอใจของเปา
ลซี ง่ึ เป็ นผ้ทู น่ี โปเลยี นเคยมอบ ความหวงั ทงั้ หมดไว้ เปาลผี กู ใจเจ็บบิดาของนโปเลยี นท่ีหาวา่ ตน
เอาใจ ออกห่างไปเป็ นมิตรกบั ฝร่ังเศส เนื่องจากเหตนุ ี ้เปาลีจึงไม่ไว้ใจในตวั นโปเลยี น เร่ืองนี ้
นบั วา่ มคี วามสาํ คญั อยมู่ าก ความจริงถ้าหากเปาลรี ับนโปเลยี นไว้เป็ นผ้รู ่วมงานด้วย ชีวิตของน
โปเลยี นก็จะต้องเปลยี่ นทศิ ทางไปโดยสนิ ้ เชิง

หลังจากครบกําหนดลาพักราชการครัง้ สุดท้าย นโปเลียนได้เดินทางกลับประเทศ
ฝรั่งเศสโดยเห็นว่าจะอย่ตู ่อไปก็คงไม่ได้ประโยชน์อนั ใด เพราะตนได้กลายเป็ นศตั รูกบั เปาลซี ึ่ง
ได้รับเลอื กขนึ ้ เป็ นประมขุ ฝ่ ายบริหาร ของเกาะคอร์ซิกาเสยี แล้ว แตอ่ ยา่ งไรก็ดี นโปเลียนมิได้ล้ม
ความคดิ ทจ่ี ะเป็ น ผ้นู าํ ของเกาะคอร์ซิกาในวนั ข้างหน้า การจากไปคราวนีก้ ็ด้วยเห็นว่า ยงั ไม่ถึง
โอกาสของตน

นโปเลยี นได้กลบั มาประจํากรมทหารลาแฟร์ต่อไปตามเดิม ในวนั ท่ี ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ใน
การกลบั ประเทศฝรั่งเศสคราวนี ้นโปเลียนพาหลยุ ส์ น้องชายอายุ ๑๓ ปี มาด้วย ทงั้ นีเ้ พื่อให้
แบ่งเบาภาระของมารดาลง เมื่อเลิกงานแล้ว นโปเลียนก็สอนวิชาความรู้ ให้แก่น้องชาย การ
ดําเนนิ ชีวติ ของนโปเลยี นในครัง้ นีต้ ้องลาํ บากยง่ิ ขนึ ้ กวา่ เดมิ เพราะจะต้องอปุ การะน้องชายท่ีพา
มาอย่ดู ้วย เงินเดือนก็คงได้รับเท่าเดิม นโปเลยี นได้เช่าห้องเลก็ ๆ สองห้องอย่ใู นบ้านแห่งหน่ึง
สาํ หรับตนกบั น้องชาย การใช้จ่ายต้องเป็ นไปอยา่ งกระเหม็ดกระแหมท่ ี่สดุ กว่าจะซือ้ หนงั สอื ท่ี
อยากได้แต่ละเลม่ ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อยไว้เป็ นเวลาแรมเดือน อาหารการกินก็เป็ นไปอย่าง
ฝื ดเคือง มกั จะดืม่ แต่นํา้ กบั ขนมปัง ต้องหา่ งเหินกบั การสมาคมเพื่อประหยดั รายจ่าย แตแ่ กตั วั
ได้วา่ ต้องดแู ลสง่ั สอนน้องชาย การดาํ เนนิ ชีวิตของนายทหารหนมุ่ ผ้มู ีอายเพียง ๒๓ ปี นีเ้ ป็ นที่น่า
ชมเชยมาก หลงั จากท่ีได้ตรากตรํากบั งานมาทงั้ วนั แล้วยงั จะต้องกลบั มาดู ตําราเรขาคณิตเพื่อ

๒๘

สอนน้องชายอีก เมื่อน้องชายเข้านอนแล้ว บางเวลา นโปเลยี นก็ชนุ และปะเสอื ้ ท่ีขาดด้วยตนเอง
และแม้กระนนั้ นโปเลียนก็ยงั มีเวลาอ่าน และขีดเขียนหนงั สืออย่เู สมอ นโปเลียนปกปิ ดความ
ลาํ บากและความยากจน มใิ ห้ใครลว่ งรู้ได้เป็ นอยา่ งดี

ในเดอื นมิถนุ ายน ค.ศ.๑๗๙๑ ฐานะของนโปเลยี นได้กระเตือ้ งขนึ ้ เลก็ น้อย โดยได้เลอ่ื น
ยศขนึ ้ เป็ นนายร้อยตรีชนั้ ๑ และได้เงินเดือนเพ่ิมขนึ ้ จาก ๙๓ ฟรังค์ เป็ น ๑๐๐ ฟรังค์ เน่ืองจาก
การเลอ่ื นยศครัง้ นี ้นโปเลยี นต้องย้ายจากกรมทหารลาแฟร์ไปประจํากรมทหารปื นใหญ่ท่ี ๔ ซงึ่
ตงั้ อยทู่ น่ี ครวาลงั ซ์

ณ ที่นี ้นโปเลียนได้กลบั มาพบกบั มิตรสหายเดิมอีก คือครอบครัวของมาดามโกลอง บี
เอร์ และมาดามแซงต์-แชร์แม็ง นโปเลียนได้เช่าห้องเลก็ ๆ ของมาดมวั แซลบูอย่ตู ามเดิม พอ
มาถึงนครวาลงั ซ์ได้ไมน่ าน นโปเลยี นก็ได้ขา่ ววา่ พระเจ้าแผน่ ดนิ เสด็จหนี และตอ่ มาทรงถกู จบั ท่ี
วาแรนส์ ขา่ วนที ้ าํ ให้ นโปเลียนมีความต่ืนเต้นมาก และนโปเลยี นได้เฝ้ าสงั เกตการณ์ต่าง ๆ อยู่
ด้วยความเอาใจใส่

นโปเลียนประจําอยู่ท่ีกรมทหารใหม่นีป้ ระมาณเจ็ดเดือน ก็คิดจะลาพกั ราชการเพ่ือ
กลบั ไปยงั เกาะคอร์ซิกาอกี สภาร่างรัฐธรรมนญู (L’Assemblee Constituent) จะหมดหน้าท่ีลง
ในเดือนกันยายน ต่อจากนี ้ จะมีการเลือกผู้แทนเข้าน่ังในสภานิติบัญญัติ (L’Assemblee
Legislative) ตามที่ได้บญั ญตั ิไว้ในรัฐธรรมนญู นโปเลยี นมีความประสงค์ที่จะ ให้โยเซฟได้รับ
เลอื กด้วยผ้หู นง่ึ แตโ่ ดยทเ่ี กรงวา่ โยเซฟจะทาํ การไมเ่ ป็ นผลสาํ เร็จ เพราะมคี วามลงั เลประจํานิสยั
อยู่ นโปเลยี นจึงอยากจะไปจดั การวิ่งเต้นให้ นโปเลียนยงั ไมห่ มดหวงั ที่จะไปเจรจากบั เปาลี ซ่ึง
อาจจะเปลยี่ นใจมาใช้ ๐บตุ รของชารลส์ โบนาปาร์ต๑ ในเม่อื ทราบความจริงดีขนึ ้ นโปเลยี นแนใ่ จ
วา่ ถ้าปราศจากการสนบั สนนุ ของเปาลี เสยี แล้ว โยเซฟคงจะไมไ่ ด้รับเลือกเป็ นผ้แู ทน นโปเลียน
เชื่อในความสามารถของตนวา่ จะชกั นําประมขุ ผ้เู ฒา่ ของเกาะคอร์ซกิ าให้มีใจโอนออ่ นลงมาได้
นโปเลยี นได้ขอลาพกั ราชการ ๖ เดอื น แตผ่ ้บู งั คบั การกรมได้อนญุ าตให้ลาเพียง ๓ เดือนเทา่ นนั้
เพราะเหตกุ ารณ์ ภายในประเทศฝรั่งเศสทาํ ให้เป็ นทเี่ กรงวา่ จะเกิดสงครามกบั ประเทศใกล้เคียง
อยู่ นโปเลยี นได้เดนิ ทางไปถึงเกาะคอร์ซิกาในวนั ท่ี ๑๐ กนั ยายน ค.ศ.๑๗๙๑ แต่นโปเลียนกลบั
ได้รับความผดิ หวงั เพราะไปถึงช้าไป ตําแหนง่ ผ้แู ทนของเกาะคอร์ซิกาได้แก่ปอสโซ และเปราลดี
ซง่ึ เป็ นคนของเปาลี นโปเลยี นได้ลงความเห็นวา่ พีช่ ายของตนไร้ความสามารถ แตอ่ ย่างไรก็ดี โย

๒๙

เซฟยงั ได้รับเลอื กเป็ นสมาชิกของสภาจงั หวดั
นโปเลยี นมีความปรารถนาอยา่ งแรงกล้า ทจ่ี ะเป็ นผ้บู งั คบั บญั ชาทหารในนครอาชคั ชิโอ

เผอิญในเวลานนั้ รอสซี (Rossi) ผ้บู ญั ชาการทหารแห่งเกาะคอร์ซิกากําลงั ต้องการหา ผ้บู งั คบั
กองพนั สําหรับกรมทหารอาสาสมคั ร ชาวคอร์ซิกาซึ่งได้ตงั้ ขึน้ ใหม่ รอสซีเป็ นญาติห่าง ๆ ของ
พวกตระกลู โบนาปาร์ต นโปเลยี นจงึ ไปขอสมคั ร แตม่ ีปัญหาวา่ จะเลอื่ นยศให้สงู ขนึ ้ กวา่ เดมิ และ
ให้ลาออกจากตําแหนง่ เดิมได้หรือไม่ รอสซีจึงมีหนงั สอื ถามไปยงั กรุงปารีส และได้รับตอบจาก
รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสวา่ ไมม่ ีความขดั ข้อง แตต่ ่อมาไมก่ ่ีเดือนได้มีกฤษฎีกา
ห้ามมิให้นายทหารประจําการสมัครเข้าทําการ ในกองอาสาสมคั ร และได้มีคําสง่ั เรียกตัว
นายทหารให้กลบั คนื กรมทต่ี นสงั กดั กอ่ นวนั ท่ี ๑ เมษายน กฤษฎกี าฉบบั นใี ้ ห้ความยกเว้นเฉพาะ
นายทหารทมี่ ยี ศชนั้ นายพนั โทในกองทหาร อาสาสมคั ร เนือ่ งด้วยเหตนุ ี ้นโปเลยี นจงึ คิดจะให้ตน
ได้รับเลือกเป็ นนายพันโทแห่งกองพันท่ี ๒ ทันที คือกองพันอาซัคซิโอ ตัลลาโน (Ajaccio
Tallano) ความจริงตําแหนง่ นีม้ ีผ้มู น่ั หมาย ไว้ก่อนแล้ว คอื กงั ซา (Quenza) ซง่ึ เป็ นเพ่ือนคนหน่งึ
ของนโปเลยี น แตใ่ นหนว่ ยกองพนั ยงั มีตาํ แหนง่ นายพนั โทชนั้ ๒ อยอู่ ีก กงั ซาและนโปเลยี นได้ตก
ลงกนั เพอื่ ดําเนินการ ให้ได้รับเลอื กด้วยกนั ทงั้ สองคน พวกตระกลู เปราลดซี ง่ึ เป็ นปรปักษ์กบั พวก
ตระกลู โบนาปาร์ตได้พยายามขดั ขวาง แตก่ ็ ไมเ่ ป็ นผลสําเร็จ ในที่สดุ กังชาก็ได้รับเลือกเป็ นผู้
บงั คบั กองพนั พร้อมทงั้ นโปเลยี นด้วย เปาลมี คี วามไม่พอใจมากในเรื่องนี ้อน่ึงนายพนั โทชนั้ ๒
ผ้นู ี ้พอได้รับเลอื กก็บําเพญ็ ตนเป็ นหวั หน้าใหญ่และสง่ั การอยา่ งเด็ดขาดทนั ที กงั ซาไมม่ ีความรู้
อะไรในกิจการทหาร ฉะนนั้ จึงเป็ นธรรมดาอยเู่ องท่นี โปเลยี นได้เป็ นผ้นู าํ ในทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง

กําหนดวนั ลาพกั ราชการของนโปเลยี นได้สดุ สนิ ้ ลงในเดือนธนั วาคม แต่นโปเลยี นก็มิได้
คิดจะกลบั คืนนครวาลงั ซ์ ทางการได้บนั ทกึ วา่ นโปเลยี น ขาดราชการและละทิง้ หน้าท่ี และได้สง่ั
บรรจุผ้อู ่ืนแทน ต่อมา โยเซฟได้แนะนําให้นโปเลียนกลบั ปารีส เพราะนโปเลียนได้ก่อเรื่องขึน้
โดยนํากองทหารอาสาสมคั รเข้าโจมตีเมืองอาซคั ซิโอ นโปเลยี นได้ออกจากเกาะคอร์ซิกาในต้น
เดือนพฤษภาคม และไปถึงปารีสในวนั ที่ ๒๘ นโปเลียนได้เช่าห้องพกั อย่ใู นโฮเต็ลเล็ก ๆ แห่ง
หนง่ึ ทถ่ี นนมายล์ (Mail)

การมาพกั อยใู่ นปารีสคราวนี ้นโปเลียนได้มาเห็นการปฏิวตั ิของ ปารีสโดยใกล้ชิดเป็ น
ครัง้ แรก และเหตุการณ์ในครัง้ นีไ้ ด้ตรึงอยู่ในความรู้สกึ ของนโปเลยี นเป็ นเวลานาน นโปเลียน

๓๐

เผอิญมาถงึ ปารีสในเวลาท่ีความว่นุ วายกําลงั จะฟักตวั และได้อบุ ตั ิขนึ ้ ต่อมานโปเลียนได้ไปฟัง
การประชมุ ของสภา และมีความรู้สกึ สลดใจที่ได้เห็นสมาชิกโต้เถียงกนั วนุ่ วายไม่ได้เรื่องตงั้ แต่
หนง่ึ ทมุ่ จนถงึ สนี่ าฬิกา พวกสมาชิกสภาล้วนเป็ นพวกที่ขาดแนวความคดิ ในทางทดี่ ี นโปเลยี นลง
ความเห็นวา่ ประเทศฝรั่งเศสกําลงั ตกอย่ใู นความคบั ขนั ประชาชนกําลงั จะกลายเป็ นบ้าเพราะ
ถกู นําโดยคนเลว การก่อความวนุ่ วายตา่ ง ๆ ในปารีสทาํ ให้นโปเลยี นรู้สกึ สลดใจอยา่ งสดุ ซงึ ้ นโป
เลยี นได้พยายามไม่เอาใจใสโ่ ดยหนั ไปหมกม่นุ อย่กู บั ตําราดาราศาสตร์ ซ่ึงเป็ นวิชาใหม่ท่ีนโป
เลยี นชอบและเรียนรู้ได้ง่าย เพราะมคี วามรู้ในทางคํานวณดีอย่แู ล้ว นโปเลยี นได้เขียนจดหมาย
ไปถงึ พช่ี ายวา่ ตนกําลงั ฝักใฝ่ อยกู่ บั การศกึ ษาดาราศาสตร์ขณะที่ผ้อู น่ื กําลงั พิจารณาปัญหาเรื่อง
การโคน่ กษัตริย์

การปฏิวตั ิในวนั ท่ี ๑๐ สิงหาคม ได้ฉดุ นโปเลยี นออกจากตําราดาราศาสตร์ หรืออีกนยั
หนง่ึ จากเรื่องโลกบนมาสโู่ ลกลา่ ง เมื่อได้ยินเสยี งครึกโครมบนถนน นโปเลยี นได้กระโจนเข้าไป
ในบ้านของเพื่อนคนหนึ่ง และได้มองดู การโจมตีพระราชวงั ด้วยความอยากรู้อนั ระคนด้วย
ความหนา่ ยแหนง นโปเลยี นรู้สกึ ไมพ่ อใจอยา่ งยง่ิ ท่ีเห็นราษฎร ยิงทหาร และความไม่พอใจนี ้ได้
เพ่ิมขึน้ เป็ นทวีคณู เมื่อได้เห็นกษัตริย์ยอมแพ้อย่างไร้เกียรติ โดยยอมเสด็จไปสสู่ ภาอย่างเงื่อง
หงอย นโปเลียนได้มีจดหมายถึงโยเซฟว่า ๐ถ้าพระเจ้าหลุยส์เสด็จทรงม้าแล้ว ชัยชนะของ
พระองค์ก็จะไมห่ ลดุ ลอยไป๑

การขาดราชการของนโปเลยี นเมือ่ คราวไปอยเู่ กาะคอร์ซิกาครัง้ หลงั นี ้หาทําให้นโปเลยี น
ต้องออกจากราชการไม่ ตรงกนั ข้ามนโปเลยี นกลบั ได้รับการเลอ่ื นยศเป็ นนายร้อยเอก เพราะใน
เวลานนั้ จํานวนนายทหารได้ลดน้อยลง เนื่องจากพวกผู้มีตระกูลซ่ึงเป็ นนายทหาร ได้พากัน
อพยพหนีไปตา่ งประเทศกนั มาก อนง่ึ การกอ่ เร่ืองครึกโครมของนโปเลยี น ท่ีเกาะคอร์ซิกาได้สงบ
กนั ไป เพราะเปาลีเกรงเรื่องจะอือ้ ฉาวในทางไม่ดีสําหรับเกาะคอร์ซิกา โดยธรรมดาแล้วการ
ปฏบิ ตั ิการของนโปเลยี นครัง้ นนั้ ควรจะต้องนาํ เร่ืองขนึ ้ สศู่ าลทหาร อยา่ งไรก็ดีการได้เลอ่ื นยศขนึ ้
เป็ นนายร้อยเอกยงั ไมเ่ ป็ นการพอเพยี ง การปฏวิ ตั ใิ นวนั ท่ี ๑๐ ทําให้นโปเลียนเลง็ เห็นลทู่ างท่ีจะ
เป็ นใหญ่ได้เร็วขนึ ้ นโปเลยี นเคยมียศเป็ นนายพนั โท อย่ใู นเกาะคอร์ซิกา นโปเลยี นจึงคิดว่ิงเต้น
ให้ได้รับยศในชนั้ นี ้แตค่ รัน้ ทําไปไม่เป็ นผลสาํ เร็จ นโปเลียนจึงคิดจะกลบั ไปดําเนินงานในเกาะ
คอร์ซกิ าอกี แตน่ โปเลยี นไมม่ คี วามประสงค์ จะลาออกจากราชการ ฉะนนั้ นโปเลยี นจึงหาเหตลุ า

๓๑

พกั ราชการอีก และเหตุที่นโปเลียนคิดได้ก็คือ มารีอานา น้องสาวของนโปเลียนเพ่ิงสําเร็จ
การศกึ ษาจากคอนแวนต์แซงต์ซีร์ (Saint-Cyr) และจําเป็ นต้องเดินทางกลบั คอร์ซิกา โบนาปาร์
ตจึงได้ขอหนงั สือจากอธิการคอนแวนต์นี ้ เพื่อให้รับรองว่า การเดินทางกลบั ประเทศท่ีอย่ไู กล
เช่นนี ้เป็ นการสมควรท่ีจะมีญาติผู้หนึ่งเป็ นผ้ไู ปสง่ เม่ือมีเหตผุ ลเพียงพอเช่นนีแ้ ล้ว นโปเลียนก็
เตรียมตวั จะออกเดนิ ทางกลบั เกาะคอร์ซกิ าอกี ครัง้ หนงึ่

๓๒

บทท่ี ๖

วมิ านคอร์ซกิ าทลาย

นโปเลียนพร้อมด้วยน้องสาวเดินทางมาถงึ คอร์ซิกาในวนั ท่ี ๑๕ ตลุ าคม ค.ศ.๑๗๙๒ นโป
เลยี นก็ยงั คงหลงคดิ อยเู่ สมอวา่ เกาะคอร์ซิกาเป็ นแหลง่ เดียวเทา่ นนั้ ท่ีจะนําไปสู่ ความเป็ นใหญ่
ได้ ความคดิ อนั นพี ้ อจะฟังได้ถ้าเป็ นเวลาก่อน ค.ศ.๑๗๘๙ เหตใุ ดนโปเลยี นจงึ มน่ั อยใู่ นความคิด
เดิม และไมพ่ ยายามเชื่อวา่ เปาลีได้มีความระแวงอย่างเต็มท่ีและคอยกีดกนั พวกตระกูลโบนา
ปาร์ตอยู่ เรื่องนีอ้ าจจะเป็ นเพราะนโปเลยี นหวงั ที่จะใช้วิธีบงั คบั มากกวา่ ท่ีจะหวงั ในความเห็น
ใจของเปาลี สําหรับนครอาซคั ซิโอ นโปเลียนยงั คงถือว่าตนเป็ น นายพนั โทชนั้ ๒ ของกองพนั
อาสาสมคั รอยู่ อนงึ่ เกาะคอร์ซิกาอาจจะต้องทาํ สงครามกบั กษัตริย์แคว้นซาร์ดีเนีย (Sardinia)๙
เมอ่ื เป็ นเชน่ นี ้นโปเลยี นอาจได้รับมอบให้ทาํ หน้าที่ สาํ คญั มากกวา่ ในประเทศฝร่ังเศส ในฐานะท่ี
เป็ นนายทหารชนั้ นายพนั โท นโปเลยี นตงั้ ใจไว้ว่า จะปฏิบตั ิการให้มีช่ือเสยี งเล่ืองลอื เพื่อจะได้
เลอ่ื นขนึ ้ เป็ นนายพลอยา่ งรวดเร็ว

หลงั จากที่มาถึงเกาะคอร์ซิกาได้สามวนั นโปเลียนก็กลบั เข้าทําหน้าท่ี บงั คบั บัญชา
ทหารที่อาซคั ซิโอต่อไปตามเดิม คล้ายกบั ว่าไม่เคยก่อเร่ืองอะไรขนึ ้ สว่ นนายกงั ซาคงเป็ นนาย
พนั โทชนั้ ๑ อยตู่ ามเดมิ และปลอ่ ยให้นโปเลยี นดําเนินการตามความพอใจตอ่ ไปอกี การกลบั มา
ของนโปเลียนทําให้เปาลีเริ่มมีความกงั วล เปาลีมิได้มองนโปเลียนในฐานเจ้าหน่มุ ที่ฟ้ ุงซ่าน
เหมอื นเมอื่ ก่อน เปาลมี นั่ ใจวา่ พวกตระกลู โบนาปาร์ตเป็ นศตั รูทรี่ ้ายกาจ ตระกลู โบนาปาร์ตตกอ
ยู่ในฐานะแวดล้อมด้วยอนั ตรายเพราะเปาลีกุมอํานาจไว้ทงั้ หมด ทงั้ ยงั ดํารงตําแหน่งเป็ นผู้
บัญชาการทหารในเกาะคอร์ซิกาอีกด้วย โดยเหตุนีจ้ ึงอาจกล่าวได้ว่า เปาลีเป็ นผู้มีอํานาจ
สิทธ์ิขาดในเกาะ อย่างไรก็ดี แม้ว่าเปาลีจะมีคณะใหญ่ ๆ หนนุ หลงั อยู่ เช่น พวกปอสโชและ
เปราลดี หวั หน้าของคณะนมี ้ ีนามวา่ ซาลเี ซตตี (Saliceti) ซึง่ ในไมข่ ้าก็ได้เข้ามา เก่ียวข้องอย่าง

๙ ซาร์ดเี นยี (Sardinia) มพี นื ้ ทีเ่ ป็ นเกาะทต่ี งั้ อยทู่ างตอนใต้ใกล้กบั เกาะคอร์ซิกา นบั เป็ นเกาะที่
ใหญ่เป็ นอนั ดบั ๒ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนยี น อนั ดบั ๑ คือเกาะซิซลิ ี อนั ดบั ๓ คือ เกาะไซปรัส
และอนั ดบั ๔ คอื เกาะคอร์ซกิ า ปัจจบุ นั เป็ นเกาะปกครองตนเอง เป็ น ๑ใน ๒๐ แคว้นของอติ าลี

๓๓

สําคญั ในงานขนั้ แรกของนโปเลยี น ซาลีเซตตียงั ชกั จงู พวกกาซาบิองั กา (Casa-bianca) และ
พวกชีอาป (Chiappe) มาเป็ นพรรคพวกในฐานที่มีความนิยมในระบอบใหม่ ของฝรั่งเศส พวก
ตระกูลโบนาปาร์ตก็เข้าอย่กู บั คณะนีด้ ้วยเหมือนกนั ซาลีเซตตีและพรรคพวกได้ ว่ิงเต้นจนชนะ
พวกของเปาลี จึงได้ไปเป็ นผ้แู ทนเข้าไปนงั่ ในสภาก็องวงั ซิออง (National Convention)๑๐ ใน
ประเทศฝร่ังเศส เหตุที่ซาลีเซตตีได้ชัยชนะก็เพราะเปาลีป่ วย และมาเป็ นประธานในการ
ดําเนินการเลือกตงั้ ไมไ่ ด้ ฉะนนั้ พอเปาลีหายจากป่ วยก็ทําการแก้แค้นทนั ที สภาจงั หวดั ถูกยบุ
และได้เปลีย่ นตวั สมาชิกใหม่ทงั้ หมด ล้วนแต่เป็ นพวกของเปาลีทงั้ สนิ ้ ปอสโซได้เป็ นนายกของ
สภาจงั หวดั อยา่ งไรก็ดีการพา่ ยแพ้ของพวกเปาลใี นคราวเลอื กตงั้ ใน เดอื นกนั ยายนนนั้ มีผลร้าย
สาํ หรับคณะของเปาลอี ยมู่ าก เพราะซาลเี ซตตีได้เดนิ ทางไปสปู่ ารีสด้วยความรู้สกึ ไมพ่ อใจเปาลี
และมีความสงสยั วา่ เปาลจี ะทรยศ ตอ่ ประเทศฝรั่งเศส

โยเซฟพี่ชายของนโปเลยี นต้องพ้นจากสมาชิกภาพพร้อมทงั้ คณะ นโปเลียนมีความรู้สกึ
เจ็บแค้นย่ิงกวา่ เจ้าตวั เอง และนอกจากนี ้นโปเลยี นสงั เกตเหน็ ได้จากพฤตกิ ารณ์ตา่ ง ๆ วา่ เปาลี
และพรรคพวกได้ถือโอกาสในความป่ันป่ วนของประเทศฝรั่งเศสเพื่อเอาใจออกหา่ งจากฝรั่งเศส
ใหม่ ความจริงเปาลมี ิได้มคี วามคดิ ทีจ่ ะรับใช้ฝรั่งเศสใหมด่ ้วยสจุ ริตใจ เปาลีเกลยี ด ระบอบใหม่
ของฝร่ังเศสยิ่งกว่าระบอบเดิม การปฏิวตั ิเป็ นสิ่งท่ีเปาลีมีความหน่ายแหนง ในฐานที่เป็ นผู้
ต้องการความมีระเบยี บและมอี ํานาจเด็ดขาด เปาลีเคยได้รับความทารุณ จากพวกวงศ์บรู ์บอง
แตแ่ ม้กระนนั้ เปาลกี ็ยงั นยิ มราชาธิปไตยมากกวา่ มหาชนรัฐ ปอสโซคนสนิท ของเปาลี เป็ นผ้ทู ่ีมี
ความปรารถนาแรงกล้าย่ิงกว่าเปาลีในอนั ที่จะให้เกาะคอร์ซิกาแยกออกจากประเทศฝรั่งเศส
และอทิ ธิพลของปอสโซได้แสดงตอ่ ความคิด ของเปาลมี ากขนึ ้ ทกุ วนั

ตงั้ แตเ่ ดือนแรก ๆ ทน่ี โปเลยี นกลบั มาอยใู่ นเกาะคอร์ซิกา นโปเลยี นมีความตระหนกั ใน
ความคิดอ่านของคณะพรรคเปาลี แต่นโปเลยี นก็ยงั ไม่ปลงใจเชื่อวา่ เปาลจี ะทรยศ ตอ่ ประเทศ

๑๐ สภาก็องวงั ซอิ อง หรือสภากองวงั เชียง (National Convention) คือคณะการปกครองประเทศ
ฝร่ังเศสในชว่ งการปฏิวตั ฝิ ร่ังเศส โดยเริ่มทําการปกครองตงั้ แต่ ๒๐ กนั ยายน ค.ศ.๑๗๙๒ – ๒๖
ตลุ าคม ค.ศ.๑๗๙๕ โดยทาํ หน้าที่บริหารประเทศและควบคมุ อาํ นาจบริหารในชว่ งการปฏิวตั ิ
ฝรั่งเศส ถึงช่วงสาธารณรัฐฝร่ังเศสท่ี ๑

๓๔

ฝร่ังเศส สาํ หรับเวลานนั้ นโปเลยี นมีความคิดเห็นว่าเกาะคอร์ชิกา จะดํารงความเป็ นเอกราชไว้
ไมไ่ ด้ ถ้าแยกออกจากประเทศฝรั่งเศส ถึงแม้นโปเลียนจะไมช่ อบผ้กู ่อการวนุ่ วายในปารีส แต่น
โปเลียนก็มีความเลื่อมใสในหลกั การของการปฏิวตั ิ และโดยเฉพาะมีความเจ็บแค้นแทนชาติ
อย่างยิ่งในเม่ือถูกรุกรานจากชาติต่างประเทศ เมื่อนโปเลียนได้ทราบข่าวชยั ชนะของทหาร
ฝรั่งเศสในการรบที่กุ๊สติน (Custine) ในฤดใู บไม้ร่วง ค.ศ.๑๗๙๒ นโปเลียนได้แสดงความปิ ติ
อย่างยิ่งและเขียนเอาไว้ว่า ๐ทหารแหง่ เสรีภาพได้ทําการรบมีชยั ต่อพวกทาสในความชบุ เลีย้ ง
ของพวกเจ้า๑ ความเข้มแข็งของทหารฝรั่งเศส เป็ นที่ช่ืนชมของนโปเลียนจนกระทงั่ ประเทศ
ฝร่ังเศสได้กลายเป็ น ๐เมอื งมารดร๑ ในสายตาของนโปเลยี น

จริงอย่ทู ี่นโปเลียนได้มีความสลดใจในการกระทําอนั เกินควรของฝ่ าย ปฏิวตั ิ และข่าว
การปลงพระชนม์กษัตริย์ได้ทําให้นโปเลยี นมีความสะเทือนใจ อย่างหนกั แต่นโปเลยี นไม่เคยมี
ความคิดสกั ขณะเดียววา่ เหตกุ ารณ์ครัง้ นี ้จะเป็ นโอกาสสาํ หรับให้เกาะคอร์ซิกาปลกี ตวั ออกจาก
ประเทศฝรั่งเศส นโปเลยี นเคยกลา่ ววา่ ๐ข้าพเค้าได้ใคร่ครวญเป็ นอนั ดแี ล้วถงึ ฐานะของคอร์ซิกา
จริงอยสู่ ภาก็องวงั ซิอองได้กระทําความผิดอนั ใหญ่ย่ิง และข้าพเจ้ามีความ เสียใจยิ่งกวา่ ใคร ๆ
แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม เกาะคอร์ซิกาจะต้องรวมอยกู่ บั ประเทศ ฝรั่งเศสเสมอ คอร์ซิกาจะดํารงอย่ไู ด้
ด้วยประการฉะนี ้ข้าพเจ้าและพวกของ ข้าพเจ้าจะตอ่ ส้เู พ่ือการนอี ้ ยา่ งสดุ ความสามารถ๑

นโปเลียนมีความหวงั อยอู่ ย่างเดียว คือการได้รับมอบหน้าที่ในการรบ กบั แคว้นซาร์ดี
เนีย ในเวลานนั้ ทางประเทศฝรั่งเศสกําลงั ตระเตรียมจะเข้า รุกรานปี เอด์มองต์ (Piedmont)๑๑
ทางหนง่ึ และจะเข้าตีเกาะซาร์ดเี นียอีกทางหนง่ึ ในการเข้าตเี กาะซาร์ดเี นยี นี ้เปาลไี ด้รับคาํ สง่ั ให้
เข้ ายึดเกาะมัดดาเลนาซ่ึงเป็ นเกาะเล็ก ๆ ในช่องแคบของอ่าวหน้ าเมืองโบนิฟาซิโอ
(Bonifacio)๑๒ อันเป็ นดินแดนทางเหนือของเกาะซาร์ดีเนีย ทงั้ นีก้ ็เพ่ือจะใช้สําหรับเป็ นท่ีส่ง

๑๑ ปิ เอด์มองต์ (Piedmont) หรือปิ เยมอนเต้ เป็ น ๑ ใน ๒๐ แคว้นของอติ าลใี นปัจจบุ นั ตงั้ อยู่
ทางตอนเหนอื ของคาบสมทุ ร มพี นื ้ ที่ตดิ กบั ประเทศฝรั่งเศส เมอี งหลวงคือ ตรู ิน
๑๒ โบนฟิ าชิโอ (Bonifacio) คอื ทีอ่ ยทู่ างตอนใต้ของเกาะคอร์ซกิ า โดยเมอื งโบนฟิ าซโิ อ ถือวา่ เป็ น
เมอื งทใี่ หญ่ท่สี ดุ ของเกาะคอร์ซกิ า เมืองโบนฟิ าซโิ อ ตงั้ อยรู่ ิมหน้าผาหนิ ปนู สงู ชนั ประกอบไป
ด้วยอา่ วแคบ ๆ ปัจจบุ นั กลายเป็นเมอื งหน้าผาทอ่ งเทียวทส่ี าํ คญั แหง่ หนง่ึ

๓๕

ทหารขนึ ้ บก เปาลีแสร้งทําเป็ นยอมปฏิบตั ิตามคําสง่ั และมอบให้เป็ นหน้าที่ ของนายพนั เอกโก
ลอนนาเซซารี ผ้เู ป็ นหลานชาย แตเ่ ปาลไี ด้สง่ั วา่ ๐เจ้าจงระลกึ วา่ แคว้นซาร์ดีเนียเป็ นมิตรที่ดีของ
เรา เคยสง่ เสบยี งอาหารและกระสนุ ดินดําให้แกเ่ ราเสมอมา เมอื่ ยามท่ีเรามีความต้องการ สว่ น
กษัตริย์แห่ง ปี เอด์มองต์นนั้ ก็ทรงเป็ นมิตรที่ดีของคอร์ซิกา ฉะนนั้ จงดําเนินการอยา่ ให้ การรบ
ครัง้ นีม้ ีความสาํ เร็จ"

ทหารอาสาสมคั รในบงั คบั บญั ชาของกงั ซา และนโปเลียนได้ขอร้ องเข้า ร่วมในการรบ
ครัง้ นดี ้ ้วย เปาลไี ด้อนมุ ตั ใิ ห้ตามคาํ ขอร้องเพราะเห็นวา่ เป็ น โอกาสอนั ดีท่จี ะสงั่ พวกนไี ้ ปตายเสยี
บ้าง และนโปเลยี นซงึ่ มีช่ือวา่ เป็ น นายทหารชนั้ เยี่ยมก็จะได้รับความขายหน้ากลบั มาจากการรบ
ทไ่ี มจ่ ริงจงั นี ้

นโปเลียนมีความตงั้ ใจในการทําการรบครัง้ นีอ้ ย่างเต็มท่ี ในวนั ที่ ๒๓ กุมภาพนั ธ์ ค.ศ.
๑๗๙๓ ได้มีเรือลําเลียงพลทหารอาสาสมคั รไปส่เู กาะซาร์ดีเนีย และเพ่ือเตรียมการขึน้ บกใน
เกาะมดั ดาเลนาจําจะต้องยึดเกาะเล็ก ๆ ชื่อซานสเตฟาโน ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะมดั ดาเลนา
ประมาณ ๒ กิโลเมตรเศษ เสยี กอ่ น นโปเลยี นได้ขนึ ้ ไปยดึ พร้อมด้วยพลอาสาสมคั รทอ่ี ยใู่ นบงั คบั
บญั ชา นโปเลยี นสง่ั ให้ปื นใหญ่ ๒ กระบอก กบั ปื นครกอกี ๑ กระบอก เข้าทีต่ งั้ ยิง ทงั้ นี ้เพ่อื จะได้
ยิงช่วยการขึน้ บกของหน่วยทหาร ในเกาะมดั ดาเลนา นโปเลียนได้ยิงปื นใหญ่นดั แรกในวนั ที่
๒๓ กุมภาพนั ธ์ ความอลหม่านได้เกิดขนึ ้ ในเกาะ มดั ดาเลนาและอาจหวงั ได้ว่าจะยดึ เกาะมดั
ดาเลนา โดยง่ายและรวดเร็ว เมื่อยึดเกาะมดั ดาเลนาได้แล้วก็จะสามารถขึน้ เกาะซาร์ ดีเนียได้
ด้วยความมชี ยั

ขณะนนั้ นายพนั เอกโกลอนนาได้มาถึงซานสเตฟาโน และได้สง่ั ให้หยดุ ทําการรบ โดย
อ้างว่าไม่มีกําลังเพียงพอสําหรับเข้าตีซาร์ดีเนีย ฉะนนั้ การยึดเกาะมัดดาเลนาก็คง ไม่ได้
ประโยชน์อนั ใด นโปเลียนรู้สกึ เคียดแค้น อยา่ งย่ิงและไมย่ อมเห็นพอั งกบั โกลอนนา แต่โกลอน
นาได้ออกคาํ สง่ั เดด็ ขาด ให้ถอย กงั ซายอมปฏิบตั ิโดยดเี พราะเกรงอาํ นาจ นโปเลยี นจึงกลบั คอร์
ซิกา ด้วยความโกรธจดั และแนใ่ จวา่ เปาลจี ะคดิ ทําการทรยศตอ่ ประเทศฝร่ังเศส นอกจากนี ้นโป
เลยี นยงั รู้วา่ เปาลมี ีความประสงค์จะหยามเกียรตยิ ศของตน อกี ด้วย เมือ่ ปรากฏเชน่ นี ้นโปเลยี น
ก็สนิ ้ ความนบั ถือในเปาลโี ดยสนิ ้ เชิง และตงั้ ใจจะแก้แค้นให้ได้ในวนั ข้างหน้า

ในเดอื นธนั วาคม ซาลเี ซตตีได้กลา่ วโทษเปาลตี อ่ สภาก็องวงั ซอิ อง โดยหาวา่ เปาลจี ะคิด

๓๖

ทรยศ ฉะนัน้ ทางฝร่ังเศสจึงได้ตกลงส่งกรรมการ มาไต่สวนที่เกาะคอร์ซิกา ๓ นาย และ
คณะกรรมการชดุ นีไ้ ด้รายงาน พฤติการณ์หลงั ฉากของเปาลีไปยงั คณะกรรมการ รักษาความ
ปลอดภยั กรุงปารีสในวนั ท่ี ๑๒ เมษายน

อนงึ่ ระหวา่ งท่ีนโปเลียนทําการรบอย่นู นั้ ได้มีบคุ คลสําคญั คนหนงึ่ มาท่ีนครอาชคั ซิโอ
ทา่ นผ้นู ีค้ ือเซมองวิล ซึ่งได้รับแตง่ ตงั้ เป็ นอคั รราชทูตประจํากรุงคอนสแตนติโนเปิ ล และได้แวะ
มาเย่ียมเกาะคอร์ซิกา เซมองวิล ปรารถนาท่ีจะแสดงสนุ ทรพจน์ที่สมาคม แต่ติดขดั ด้วยไม่รู้
ภาษาคอร์ซิกา เผอิญได้ชายหน่มุ ผ้หู น่ึงอาสาเป็ นล่ามให้ และชายหน่มุ ผ้นู ีก้ ็คือ ลเู ซียง โบนา
ปาร์ต ซง่ึ เป็ นผ้มู คี วามเฉลยี วฉลาดมากทส่ี ดุ ในบรรดาพ่ีน้องด้วยกนั ถ้ายกเว้น นโปเลยี นเสยี คน
หนึ่ง ความฉลาดของลเู ซียงได้ทําให้เซมองวิลมีความรักใคร่ ถึงกบั จะพาไปกรุงคอนสแตนติโน
เปิ ลด้วย แตเ่ ผอิญเซมองวิลไปรับหน้าทไ่ี มไ่ ด้ เพราะเกิดมีอปุ สรรคขนึ ้ จึงได้พาลเู ซียงไปประเทศ
ฝรั่งเศส ลเู ซียงได้พกั อย่ทู ี่ เมืองตลู อง และได้แสดงสนุ ทรพจน์ในสมาคมการเมืองเสมอ ๆ ใน
คราวหนงึ่ ลเู ซียงได้ฟ้ องโดยหาวา่ เปาลเี ป็ นผ้ทู รยศตอ่ มหาชนรัฐ สมาคมการเมืองสง่ เสริม ตอ่ ไป
โดยนําเรื่องเข้าสสู่ ภาก็องวงั ซิออง คํากลา่ วหามีใจความสําคญั ว่า ถ้าฝรั่งเศสไม่รีบจดั การเสีย
โดยเร็ว เปาลจี ะยกเกาะคอร์ซิกาให้แกอ่ งั กฤษ

ระหว่างเวลานัน้ ทางปารีสได้ มีคําส่ังมายังคณะกรรมการท่ีได้ ส่งมา ไต่สวนให้
ดําเนินการจบั ตวั เปาลีและปอสโซ กบั ได้ตงั้ ให้นายพลราฟาแอล กาซาบิองั กาเป็ นผ้บู ญั ชาการ
ทหารจังหวัดทหารบกที่ ๔๓ แทนเปาลี คําสง่ั ทงั้ นี ้ ได้ทําให้เป็ นที่เกรงจะเกิดสงครามกลาง
เมืองขนึ ้ เพราะประชาชนส่วนมากยงั มีความเลื่อมใสในเปาลีอยู่ ฉะนนั้ คณะผ้แู ทนฝร่ังเศสจึง
ย้ายศาลาวา่ การ ไปตงั้ อยทู่ ีบ่ ๊าสติอา พวกตระกลู โบนาปาร์ตมีศตั รูอยรู่ อบข้างนบั ตงั้ แต่ชาวคอร์
ซิกาได้ทราบถึงการกระทําของลเู ซียง และในท่ีสดุ พวกตระกูลโบนาปาร์ตก็จําต้องอพยพออก
จากเกาะคอร์ซกิ าไปสปู่ ระเทศฝรั่งเศสในวนั ท่ี ๑๐ มถิ นุ ายน เพราะไมม่ แี หง่ ใดในเกาะคอร์ซิกาท่ี
จะอาศยั เป็ นทอ่ี ยไู่ ด้ โดยปลอดภยั ความหวงั ตา่ ง ๆ ของนโปเลยี นที่มีตอ่ เกาะคอร์ซิกาก็เป็ นอนั
ทลายลงโดยสนิ ้ เชิง

๓๗
นโปเลียนหน่มุ ในสมรภูมิการรบทีต่ ลู อง

๓๘

บทท่ี ๗

ตูลอง

ในวันท่ี ๑ กันยายน ค.ศ. ๑๗๙๓ ม.บูชอต รัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหมได้รับ
จดหมายฉบบั หนง่ึ เขยี นทีน่ ครอาวิญอง ลงวนั ท่ี ๒๘ สงิ หาคม ท้ายจดหมายลงนามนายร้อยเอก
โบนาปาร์ต แห่งกรมทหารปื นใหญ่ท่ี ๔ จดหมายฉบบั นีม้ ีใจความสําคญั ว่า ผ้เู ขียนขอยศเป็ น
นายพนั โท และขอไปประจํากองทพั แห่งแม่นํา้ ไรน์ ม.บชู อต มิได้ตอบจดหมาย แตไ่ ด้สงั่ ผ้แู ทน
ซึ่งประจําอย่ใู นกองทพั ภาคใต้ให้สอบสวนดแู ละถ้าปรากฏว่ามีความสามารถก็ให้ถือโอกาส
เลอื่ นยศให้

ความจริงนโปเลยี นมีความกลดั กล้มุ มากเพราะไม่มีงานอะไร นโปเลียนและครอบครัว
ได้เดนิ ทางออกจากคอร์ซกิ ามาสตู่ ลู องในลกั ษณะท่ี เกือบสนิ ้ เนือ้ ประดาตวั และเม่ือหาท่ีพกั ให้
ครอบครัวอยเู่ รียบร้อยแล้ว นโปเลยี นก็เดินทางไปยงั นครนซี ซง่ึ เป็ นทตี่ งั้ ของกรมทหารปื นใหญ่ที่
๔ และกลบั เข้ารับราชการได้ตามเดิม ทงั้ ๆ ท่ีขาดราชการไปเป็ นเวลา ๒๒ เดือน แต่โดยที่ยาม
นนั้ เป็ นเวลาที่กําลงั ขาดนายทหาร นโปเลียนจึงมิได้รับโทษ แต่ในเวลาเดียวกัน กลบั ได้รับ
ตําแหนง่ เป็ นผ้บู งั คบั กองร้อยปื นใหญ่รักษาฝ่ัง

ในเวลานนั้ ทางภาคใต้ของฝร่ังเศสกําลงั ตกอย่ใู นภาวะที่ปันป่ วน อยา่ งย่ิง ขณะท่ีพวก
โบนาปาร์ตได้อพยพมาถึงนนั้ เป็ นเวลาที่กําลงั จะเกิด สงครามกลางเมือง การสงั่ เนรเทศพวก
คณะชีรองแดง (Girondins)๑๓ ได้ทําให้จงั หวดั ลมุ่ แม่นํา้ ไรน์ลกุ ฮือขึน้ ต่อสู้ นครลีอองได้ขบั ไล่

๑๓ หลงั การปฏวิ ตั ิฝร่ังเศส ค.ศ. ๑๗๘๙ เกิดความรุนแรงทางการเมืองขนึ ้ จากความแตกแยกของ
กลมุ่ การเมืองทเี่ ป็ นคแู่ ขง่ กนั ๒ กลมุ่ คอื กลมุ่ ชีรองแดง หรือฌีรงแดง็ (Girondins) กบั กลมุ่ ชาโก
แบง หรือชากอแบง (Jacobins) ค.ศ.๑๗๙๓ เป็ นปี เริ่มต้นของความรุนแรงในการ ปราบปราม
ฝ่ ายตรงข้าม พวกชากอแบงนาํ กําลงั เข้าบกุ สภาก็องวงั ชิออง สง่ ผลให้พวกชีรองแดงถกู สงั หาร
และขบั ไล่ ต้องหลบหนอี อกไปซอ่ นตามป่ าเขาทวั่ ฝรั่งเศส โดยเฉพาะไปตงั้ มนั่ ในแถบตอนใต้ของ
ฝรั่งเศส โรแมสปิ แอร์หนง่ึ ในผ้นู ําของชากอแบงได้ ประกาศความนา่ สะพรึงกลวั (Terror) เรียก
ยคุ สมยั ค.ศ. ๑๙๗๒ - ค.ศ.๑๙๗๔ วา่ ยคุ สมยั แหง่ ความนา่ สะพรึงกลวั ทงั้ นเี ้พราะมกี ารลงมอื

๓๙

พวกคณะ ชากอแบง (Jacobins) ออกจากเมืองและได้เป็ นศนู ย์การต้านทานต่อสภา ก็องวงั ซิ
ออง มาร์ซายส์และตูลองได้ดําเนินตาม นายพลการ์โตนักเผชิญโชค ได้รับมอบหน้าที่ให้
ดําเนินการปราบการจลาจลซ่งึ กําลงั จะลกุ ลามไปทวั่ บริเวณตะวนั ออกเฉียงใต้ ชาวเมืองมาร์
ซายส์มีความปรารถนาจะสนบั สนนุ ชาวเมืองลอี อง กองทพั ยอ่ ย ๆ ของมาร์ซายส์ได้เคลื่อนท่ีไป
ทางเหนือ และเข้ายึดเมืองอาวิญองไว้ สําหรับจะได้ร่วมมือกับกองกําลงั ของเมืองลีอองได้
สะดวก นายพลการ์โตได้เข้าตอี าวญิ องในวนั ท่ี ๒๔ กรกฎาคม และขบั ไล่ กองทพั เมอื งมาร์ซายส์
ถอยหนีไปก่อนหน้าที่จะเกิดการเข้าตีไม่กี่วนั นโปเลียนได้ถกู ส่งมาที่เมืองอาวิญองเพื่อจดั หา
ยานพาหนะสําหรับสําเลียงดินปื นสง่ ไปยงั กองทพั ภาคอิตาลี นโปเลียนจึงได้เห็นการตีเมือง
กลบั คืนโดยทหาร ฝ่ ายมหาชนรัฐ นโปเลียนรู้สกึ น้อยใจในตําแหน่งหน้าท่ีของตน ใจของนโป
เลียนนนั้ อยากจะนํากําลงั ทหารไปรบ มากกว่าที่จะมวั มาทําหน้าที่ ทางธุรการอย่เู ช่นนี ้เนื่อง
ด้วยความคิดอนั นี ้นโปเลียนจึงได้มีจดหมายไปถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตามท่ีได้
กลา่ วมาแล้วข้างต้น

นายพลการ์โตสง่ ทหารเข้าล้อมเมืองตลู องในปลายเดอื นสงิ หาคม และตีตําบลออลลีอลู
ได้ ขณะนนั้ เมอื งตลู องกําลงั ตกอยใู่ นกํามือของกองทพั องั กฤษ เพราะพวกคณะเจ้าไปออ่ นน้อม
ยกเมืองให้ นายพลการ์โตเป็ นทหารที่ไม่มีความรู้ในทางยทุ ธศาสตร์หรือยทุ ธวิธีแม้แต่น้อย เดิม
เขาเป็ นชา่ งเขยี น ตอ่ มาเข้าเป็ นทหารม้า แล้วไปเป็ นตํารวจ ไม่มีใครทราบวา่ เพราะเหตผุ ลกลใด
จึงได้กลายมาเป็ นนายพลขนึ ้ ฉะนนั้ การเข้าตีเมอื งตลู องอนั กระทาํ ไปโดย ปราศจากแผนการใด
ๆ จงึ ประสบแตค่ วามเลยี หายกลบั มาทกุ ครัง้ อน่ึง ในการรบครัง้ นี ้ดอมมาร์แตง ซ่ึงเป็ นผู้บงั คบั
กองพนั ทหารปื นใหญ่ล้อมประชิด ได้รับบาดเจ็บอยา่ งสาหสั จําเป็ นต้องหาตวั แทนโดยดว่ น และ
โชคชะตาก็ได้บนั ดาลให้นโปเลียนได้รัง้ ตําแหน่งนี ้ นโปเลยี นได้ออกเดินทางไปยงั ตําบล ออลลี
อลู ทนั ทเี พอ่ื ไปรายงานตวั ตอ่ นายพลการ์โตและไปทงั้ ๆ ที่มิได้ลาํ่ ลาผ้บู งั คบั การกรม

นายพลการ์โตกําลงั จนปัญญา ไมร่ ู้จะวางแผนตเี มืองได้อยา่ งไร องั กฤษมีกําลงั รักษาอยู่
ถึงหม่ืนเจ็ดพนั คน นอกจากนีย้ งั มีทหารฝรั่งเศส คณะเจ้ามาสมทบอย่เู ร่ือย ๆ อีกประมาณพนั
ห้ารัอยคน ฐานที่ตงั้ ของเมือง ตลู องได้เปรียบแก่ฝ่ ายป้ องกนั มากกว่าฝ่ ายเข้าตี จะเข้าตีทาง

สงั หาร นกั การเมืองฝ่ ายตรงข้ามกนั เป็ นผกั ปลา

๔๐

ทะเลก็ลาํ บาก เพราะมีเครื่องกีดขวางทางธรรมชาติท่ีแข็งแรง การเข้าตีเมืองตลู องจะมีหวงั เป็ น
ผลสาํ เร็จได้ก็ด้วยการใช้ปื นใหญ่คอ่ นข้างมาก หรือมฉิ ะนนั้ ก็ต้องให้ เคลอ่ื นทีฝ่ ่ าเข้าไปโดยลาํ พงั
แตใ่ นเวลานนั้ กลา่ วคอื ในต้นเดอื นสงิ หาคม ปื นใหญ่ท่ีประจําอยกู่ บั กองทพั ของการ์โตมีจํานวน
๓๐ กระบอกเท่านนั้ เป็ นปื นขนาดย่อมและกระสนุ ก็มีใช้ไม่เพียงพอ อนง่ึ การ์โตก็ไม่ส้เู อาใจใส่
เทา่ ใดนกั ในเร่ืองปื นใหญ่ นกึ เสยี ว่าชยั ชนะจะได้จากทหารราบเท่านนั้ เพราะเคยได้ใจ ในการ
รบชนะง่าย ๆ กบั กองทพั เลก็ ๆ ของพวกชาวเมืองมาร์ซายส์ การ์โตต้อนรับนโปเลียนด้วยการ
ปราศรัยทีส่ อ่ ให้เห็นความชะลา่ ใจทํานองวา่ การสง่ ผ้บู งั คบั กองพนั ทหารปื นใหญ่มาแทนนนั้ ไมส่ ู้
จําเป็ นเท่าใดนกั การ์โตกลา่ วแก่นโปเลยี นว่า ๐เราไม่ต้องการอะไรอีกแล้วสาํ หรับตีเมืองตลู อง
แต่อย่างไรก็ดี พรุ่งนีท้ ่านก็จะได้ส่วนในเกียรติยศเผาเมืองตูลองโดยไม่ต้อง ออกแรงเหน็ด
เหนื่อย๑

การ์โตมีความเห็นว่า จํานวนปื นใหญ่เท่าที่มีนนั้ เพียงพอแก่การช่วย เหลือทหารราบ
การ์โตได้สงั่ ให้กองร้ อยปื นใหญ่ไปตงั้ อย่รู อบ ๆ ๐มองโตบงั ๑ อนั เป็ นท่ีตงั้ ยิง ซงึ่ ทําให้นโปเลยี น
ต้องส่ายหน้า นโปเลียนได้กลา่ วในภายหลงั ว่า ที่ตงั้ ยิงนีห้ ่างจากฝ่ังทะเลร่วม ๒,๐๐๐ เมตร
สว่ นกองทพั เรือของข้าศึก ซึ่งเป็ นที่หมายยิงนนั้ ยงั อย่หู ่างจากฝั่งทะเลออกไปอีก ๘๐๐ เมตร
และด้วยเหตนุ ีย้ ่อมเป็ นที่หมายซึ่งอย่พู ้นระยะยิง นโปเลยี นมีความเห็นว่า การเข้าตีเมืองตลู อง
นนั้ ไมม่ ีทางสาํ เร็จได้ตราบใดทีก่ องทพั เรือของข้าศึก ยงั จอดเป็ นสขุ อยใู่ นทา่ ข้างหลงั เมือง

เมื่อครัง้ นโปเลยี นพกั อยทู่ ตี่ าํ บลวาแลต (Valette) นโปเลยี นเคยมาท่ี เมืองตลู องเสมอ ๆ
และได้สาํ รวจสถานที่ตา่ ง ๆ โดยตลอดเพราะความอยากรู้ อยากเห็นอนั เป็ นนลิ ยั ฉะนนั้ พอนโป
เลียนมาประจําตําแหน่งใหม่ นโปเลียนก็ตรงไปยงั เนิน ซีฟรู (Six-Four) ทนั ที เพราะจากท่ีนี่จะ
มองเห็นท่ีมน่ั สว่ นหนึ่ง ของเมืองตลู องได้ นโปเลียนลงความเห็นทนั ทีว่า การใช้ทหารราบเข้าตี
จะไม่มีผล เมืองไม่มีความสาํ คญั อะไร กองทพั เรือของข้าศกึ นนั่ ต่างหากที่สาํ คญั ถ้าใช้กระสนุ
ปื นใหญ่ขบั ไลใ่ ห้พ้นจากอา่ วได้แล้ว เมืองตลู องก็จะแข็งอยตู่ อ่ ไป มิได้ ฉะนนั้ การตีเมือง จึงควร
เป็ นหน้าท่ีของปื นใหญ่โดยตรง แล้วจึงให้ ทหารราบเข้าหนนุ ทีหลงั อนึ่ง ไม่มีความจําเป็ นท่ี
จะต้องเข้าตีทกุ ด้าน วิธีทค่ี วร ปฏบิ ตั กิ ็คือ อาศยั ช่องท่ีเจาะไว้ในออลลีอลู แล้วสง่ ทหารเคล่อื นที่
เป็ นขนั้ ๆ โดยลาํ ดบั ไปทางเนินเขาแกร์ (Caire) สว่ นกองร้อยปื นใหญ่นนั้ ให้เคล่อื นที่ โดยลาํ ดบั
ไปทางฝ่ังตะวนั ตกของอ่าว จนในท่ีสดุ จะไปตงั้ ยิงที่แหลมเอกีแยต (Eguillotte) และแหลมบา

๔๑

ลากีเอร์ (Balaguier) เม่ีอเรือรบข้าศึกถกู ระดมยิงเช่นนนั้ ก็จะต้องถอยออกจากอ่าวไปเพราะ
เกรงจะถกู ปิ ดทางออก และเมอื่ เป็ นเช่นนี ้ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งก็จะเป็ นอนั เรียบร้อย

แตแ่ ผนการอนั นหี ้ าได้รับความเห็นชอบจากนายพลการ์โตไม่ อน่ึง นายพลการ์โตหาได้
มีความเช่ือถือนโปเลียนเลยแม้แต่น้อย เมื่อเป็ นดงั นนั้ นโปเลียนก็ร้ องขอให้รัฐบาล แต่งตงั้
นายทหารชนั้ ผ้ใู หญ่สกั คนหนง่ึ มาเป็ นผ้บู งั คบั ทหารปื นใหญ่ เพ่ือจะได้ทําความเข้าใจกบั การ์โต
ได้สะดวก นโปเลยี นรู้สกึ ตวั วา่ หมดความสามารถ ที่จะทําให้แมท่ พั สนามเชื่อได้ เพราะตวั เองมี
อาวโุ สและมียศต่าํ มากสาํ หรับหน้าที่เช่นนี ้แต่รัฐบาลมิได้สง่ ใครมาให้ตามคําขอร้อง ทงั้ นีน้ บั ว่า
เป็ นโชคของนโปเลยี นอีก เพราะจะได้แสดงความสามารถจนเป็ นทเี่ ชื่อถือของรัฐบาล

แม้วา่ นโปเลยี นหมดหวงั ทีจ่ ะทําให้การ์โตเชื่อถือ นโปเลยี นก็ยงั มีความหวงั ทจี่ ะชกั นําให้
การ์โตจําใจต้องอนโุ ลมตามได้ อยา่ งไรก็ดี ความโงเ่ ขลาของแมท่ พั สนามทาํ ให้นโปเลยี นหวั หมนุ
ดงั จะเห็นได้จากการที่การ์โตได้เขียนคําสงั่ ถึงผู้บังคบั ทหารปื นใหญ่ของเขาว่า ๐ข้าพเจ้าขอ
แนะนําให้ ท่านนํากองร้อยปื นใหญ่ไปตงั้ อย่ใู นที่ตงั้ ยิงที่ดี และจงรอให้ลมอํานวยเสียก่อน จึง
คอ่ ยทาํ การยิง๑ นโปเลียนได้สงั่ ให้กองร้อยของตน เคลื่อนที่ไปทางอ่าว โดยไมต่ ้องรอคําสงั่ ของ
แมท่ พั สนาม และเมื่อได้รับคําทกั ท้วงมา นโปเลยี นก็ตอบไปอยา่ งห้วน ๆ ว่า๐ท่านจงทําหน้าท่ี
ของทา่ นและปลอ่ ยให้ ข้าพเจ้าทาํ หน้าทขี่ องข้าพเจ้า๑

การ์โตมีความโกรธเคืองเป็ นอนั มาก แต่ก็ทําอะไรแก่นโปเลียนมิได้ เพราะผ้แู ทนเกาะ
คอร์ซิกาสนบั สนนุ นโปเลยี นอยู่ อนงึ่ ในสมยั นนั้ ผ้แู ทนราษฎรมอี ํานาจนา่ เกรงขามมาก การ์โตได้
เคยเขียนบนั ทึกไว้ด้วยความ ขมขื่นวา่ ๐ปื นใหญ่ไม่อย่ใู นอํานาจของข้าพเจ้า และโบนาปาร์ตผู้
บงั คบั ทหารปื นใหญ่ได้ปฏบิ ตั กิ าร ตรงข้ามหมด แตจ่ ะขดั ขวางก็ไมไ่ ด้ เพราะเท่ากบั ไปขดั ขวาง
ผู้แทนราษฎร๑ ความจริงผู้แทนราษฎรมีกาซปาแรง และซาลีเซตตี ได้มีความเห็นพ้องกับ
แนวความคดิ ของนโปเลยี น และมีความประสงค์ท่จี ะ บงั คบั ให้นายพลผ้ไู ร้ความสามารถ ปฏิบตั ิ
ตามแผนการของนโปเลียนในสกั วนั หนง่ึ ข้างหน้า ระหวา่ งนนั้ โปเลียนจึงได้ปฏิบตั ิการ ไปตาม
ความเห็นชอบของตน

ตัง้ แต่วันที่ ๑๗ นโปเลียนได้ นําทหารออกจากท่ีตัง้ ยิงอันน่าขันที่ มองโตบัง
(Montauban) เพ่ือเคลอ่ื นท่ีไปยงั แมน่ าํ ้ แซน (La Sein) นโปเลยี น ได้สง่ั ให้กองร้อยหน่ึงเข้าตงั้ ยิง
อยทู่ ี่ฝ่ังแมน่ าํ ้ กาแรน (Garenne) และในวนั ที่ ๑๙ ได้ยิงไลเ่ รือรบข้าศกึ ลาํ หนงึ่ ให้ถอยออกไปจาก


Click to View FlipBook Version