๙๒
สมยั ก่อนได้เคยมีการบุกรุกแคว้นนีโ้ ดยข้ามยอดเขาอาร์ยงั ติแอร์ (Argentiere) มองต์เยเน้ฟ
และมองต์เซนิซ ส่วนการเดินทัพมาทางทิศใต้ข้ามเขาลีกูเรียนัน้ เห็นกันว่าเป็ นทางเดินที่
เสยี เปรียบเพราะวา่ ต้องเดนิ ทพั มาทางถนนสาํ คญั สายเดียวซึง่ เลยี บระหว่างทะเลกบั ภเู ขา และ
ถนนสายนซี ้ ง่ึ เป็ นเส้นทางสายเดียวของกองทพั ก็อยเู่ ป็ นแนวตงั้ ฉากกบั การเดินทพั เลยี ้ วข้ามเขา
ซึ่งจะต้องเลีย้ วเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือข้ามภูเขา ทางข้ามภูเขาแอลปส์ทางทิศ
ตะวนั ตก คอื ยอดเขาอาร์ยงั ตแิ อร์ มองต์เยเน้ฟ และมองต์เซนซิ นนั้ เดนิ ทางยากมากเพราะมีหิมะ
ปกคลมุ ในตอนต้นของปี และถงึ แม้วา่ การคมนาคมของฝร่ังเศสทางด้านหลงั ของการเดินทพั นนั้
จะปลอดภยั ดีก็ตาม แต่ตอนที่ยกลงจากภเู ขาแอลปส์ไปสทู่ ่ีราบลอมบาร์ดีนนั้ เป็ นทางเดินทาง
เดียว และทางเดนิ ทกุ ทางไปสทู่ ี่ราบนนั้ ก็มีช่องแคบซง่ึ ผา่ นไปยากลาํ บาก อาจจะถกู ตรึงทพั อยทู่ ี่
นนั่ และเมื่อเดนิ ลงไปถงึ ท่ีราบแส้ว ก็ยงั มีเมืองป้ อมค่ายกีดขวางอยู่ แตเ่ หตทุ ่ีสาํ คญั ที่สดุ ในการ
ท่ีนโปเลยี นไม่ใช้การเดินทพั ทางนี ้ก็เพราะเหตวุ ่าต้องการจะแบ่งแยกกําลงั ของข้าศึกซึ่งมีอยู่
เหนือกําลงั ของ นโปเลียน กําลงั ของสมั พนั ธมิตรทงั้ สองนนั้ มีรวมกนั ๖๐,๐๐๐ คน และเมื่อ
รวมกันเข้าเพื่อโจมตีฝร่ังเศสแล้ว ยงั อาจจะยกกองทพั มาเพ่ิมเติมได้อีก แต่ถ้าหากว่าเดินทพั
ขนึ ้ มาจากชายฝ่ังทะเลข้ามเขาลกี ูเรีย นโปเลียนจะสามารถเจาะช่องตรงแนวทหารออสเตรีย
และปิ เอด์มองต์ได้ แล้วแบง่ แยกกําลงั ศกึ ออกเสยี เป็ นสองสว่ น
เหตุใดนโปเลียนจึงหวังว่าจะมาพบข้าศึกตงั้ แนวทําเป็ นแถวยาว เปิ ดโอกาสให้เขา
แบง่ แยกจากกนั ได้มีเหตผุ ลสองประการ เหตแุ รกก็คือวา่ สมั พนั ธมิตรแต่ละฝ่ ายนนั้ จะต้องตงั้
แถวคอยค้มุ ครองเมอื งหลวงของตน คือเมอื งตรู ิน อนั เป็ นเมอื งหลวงของปิ เอด์มองต์ มิลาน เมือง
หลวงของแคว้น ลอมบาร์ดี อนั เป็ นของออสเตรีย เหตปุ ระการที่สองก็เพราะสมยั นนั้ แผนการ
ยทุ ธ์ นิยมในการวางทหารเป็ นแนว กลา่ วคือยดึ กําลงั กองทพั ออกเป็ นเหลา่ หนั หน้าเข้า สทู่ ิศท่ี
ข้าศกึ จะมา และรวมกําลงั กนั เข้าเมือ่ ปรากฏวา่ มกี ารส้รู บกนั ทต่ี รงไหน
นกั เขียนสมยั ใหมโ่ ดยมากติติงเหตผุ ลสองประการนีว้ า่ เป็ นการกระทําท่ี ไม่ถกู และพา
กนั ตาํ หนนิ ายพลคอลลแี ละนายพลโบลเิ ออ ซงึ่ ยงั หลงใช้วิธีจดั ทพั เป็ นแถวแนวยาวปลอ่ ยให้ถกู
ตดั เป็ นสองสว่ นได้ ในสมยั ต่อจากนโปเลียนมาแล้ว ก็ได้เป็ นหลักการยทุ ธศาสตร์ท่ีไม่ควรจะ
เสยี่ งภยั เพ่ือจะค้มุ ครองเมอื งหลวง และหลกั การท่วี า่ ไมค่ วรจะจดั กําลงั ทพั ให้แบ่งกระจายกําลงั
ออกจากกนั เพราะเหตวุ า่ การยดึ แนวกองทพั เหลา่ นี ้เปิ ดโอกาสให้ข้าศกึ รวมกําลงั ทาํ การ เอาชยั
๙๓
ชนะตรงจุดหนึง่ จุดใดได้ แต่ในสมยั นนั้ การกระทําเช่นนีก้ ็มีเหตุผลอย่มู าก การตงั้ ทพั ป้ องกัน
เมืองหลวงนนั้ เป็ นของสาํ คญั เพราะถ้าข้าศึกเข้ายึดเมืองหลวง ได้ ประชาชนพลเมืองซงึ่ ยงั ไม่
ต่ืนตวั ในการรักชาตกิ ็อาจจะเป็ นการทําให้เป็ นการ พา่ ยแพ้ทงั้ ประเทศได้ บรรดากระทรวงทบวง
การที่สาํ คญั ๆ ก็อย่ใู นเมืองหลวง ถ้าข้าศกึ ยึดได้แล้วก็จะต้องทําตามคําสง่ั ของข้าศึก อนึ่ง ใน
สมยั นนั้ การเดินทางช้ามาก และไม่มีใครคิดที่จะอพยพรัฐบาลในเวลานนั้ แบบปัจจุบนั ทนั ด่วน
ไปอยู่ ทีอ่ ่ืนได้
สว่ นการจดั ทพั เป็ นแถวยาวนนั้ เป็ นวธิ ีการจดั ทพั ท่เี สย่ี งอนั ตราย น้อยท่ีสดุ ถ้าหากวา่ ตงั้
แถวยาวกําบงั เมอื งหลวง การคมนาคมของกองทพั ทางด้านหลงั ก็ปลอดภยั และถ้าหากว่าเริ่ม
ปะทะข้าศึก รู้ว่าข้าศึกรวมกําลงั อย่ทู ่ีไหน ก็จะมีเวลาพอที่จะหดแนวรบ เพื่อรวมกําลงั ต่อสู้
ข้าศกึ ที่นน่ั ถ้าหากวา่ ในชนั้ แรกไมร่ วมกําลงั อยทู่ ี่ใดที่หนงึ่ ปลอ่ ยให้ทางเดินเข้าสู่ เมอื งหลวงเปิ ด
แล้วก็เป็ นการเสยี่ งโชคอยู่ และถ้าหากวา่ คาดคะเนการเดนิ ทพั ของข้าศกึ ผิด ข้าศกึ ก็อาจจะจโู่ จม
เข้าตีเมอื งหลวงได้
วิธีจัดแถวทหารเป็ นแนวนัน้ เป็ นผลดี ถ้ าหากกองทัพท่ีเผชิญหน้า กันนัน้ ทําการ
เคลื่อนไหวช้าเช่นเดียวกนั แต่ถ้าหากว่าไปต่อส้กู ับศตั รูซึ่งทําการอย่างรวดเร็วเป็ นพิเศษแล้ว
เท่ากับเป็ นการเปิ ดโอกาสให้แพ้ง่าย ๆ ถ้านายพลคอลลีและโบลิเออทําการรบกบั แม่ทพั ช่ึงมี
ลกั ษณะความสามารถคลาั ยกบั เขาแล้ว ก็อาจใช้วิธีการรบแบบนีไ้ ด้ แตว่ า่ คนทงั้ สองจะต้องส้รู บ
กบั นโปเลยี นผ้ซู งึ่ ยงั ไม่มีใครรู้จกั ความสามารถ นโปเลียนเองก็ยงั ไมร่ ู้ว่าตวั ของเขาจะทําการรบ
เก่งกาจสกั เพยี งใด
ทหารออสเตรียได้เริ่มเคล่ือนไหวกองทพั ผิดทาง คือส่งกองทพั สว่ นหนึ่ง ไปยงั จุดแห่ง
หน่ึงบนชายทะเลซึ่งอยู่ใกล้กับที่ตัง้ ทัพสําคัญของเขา คือ ณ จุดแห่งเมืองโวลตรี (Voltri)
ความคิดของออสเตรียก็คือ ป้ องกนั ไมใ่ ห้ฝรั่งเศสรุกไปยงั เมืองเจนวั แตว่ ่าฝรั่งเศสหาได้มีความ
ประสงค์ ท่จี ะทําเช่นนนั้ ไม่ ฝ่ ายออสเตรียรู้สกึ หวาดหวนั่ กลวั วา่ เจนวั จะเป็ นอนั ตราย เพราะเหตุ
วา่ เมืองเจนวั เป็ นเมอื งทา่ สาํ คญั ซงึ่ ออสเตรียจะมีทางได้รับเสบียงอาหารและส่ิงอื่น ๆ ทางทะเล
จากกองทพั เรือองั กฤษและด้วยการเคลอื่ นทพั ผิดพลาดเช่นนีน้ เ่ี องท่ีสง่ ผลให้กําลงั ของออสเตรีย
ต้องหยอ่ นลงไป เหลอื ทหารไมพ่ อที่จะทําการรบซง่ึ กําลงั จะเกิดขนึ ้ ตอ่ ไปได้ ขณะท่นี โปเลยี นก็ได้
ยกกองทพั ขนึ ้ ไปทางทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือ มงุ่ ตรงไปยงั เมืองคาคาร์โดยข้ามเขาผ่านตามถนน
๙๔
ซง่ึ มาจากเมอื งซาโวนา
นโปเลยี นยนื อยบู่ นเขาเหนือเมืองคาคาร์อนั เป็ นท่ีตงั้ ซึ่งคมุ เชิงต้นแมน่ ํา้ ทงั้ หลายอยู่ ณ
เบอื ้ งหน้าเขานนั้ ก็คือต้นแม่นํา้ อาโรและแม่นํา้ บอร์มิดาน้อย ขณะที่ทางซ้ายมือของนโปเลียนก็
คือต้นแม่นํา้ บอร์มิดาใหญ่ ซ่ึงอยู่ ณ เมืองมิลเลสลิโม (Millesimo) กองทหารภายใต้บงั คับ
บญั ชาของ นโปเลียนนนั้ ก็อยู่ในบริเวณรอบ ๆ นนั้ ทกุ ๆ หน่วยก็จะรุกไปข้างหน้าหรือ ถอย
กลบั มาตามความประสงค์ของเขาโดยรวดเร็ว
ฝ่ ายออสเตรียเมอื งได้รู้วา่ การสง่ กองทพั ไปยงั เมืองโวลตรีนนั้ ได้กลายเป็ น การผิดพลาด
แล้ว ก็จึงรีบเร่งแปรกระบวนทพั หากแตก่ ารเคลอ่ื นกระบวนทพั นนั้ ช้าเกินไป การโจมตีที่เกิดขนึ ้
ครัง้ แรกนนั้ ได้มงุ่ ไปยงั ลมุ่ แม่นาํ ้ อาโร กองทพั ทงั้ สอง ได้ปะทะกนั ณ เมืองมองเตอนอต ตรงท่ีหบุ
เขาของแมน่ าํ ้ อาโรและหบุ เขาเบอร์มีดาน้อยแยกออกจากกนั
วนั นนั้ เป็ นวนั ที่ ๑๑ และ ๑๒ เมษายน ฝ่ ายออสเตรียได้ปะทะกบั กองหน้า ของฝร่ังเศส
อนั เป็ นกองย่อยกองหน่ึงซึ่งกําลงั เข้าทําการยึดที่มน่ั อยู่ท่ีมูลดิน ตรงทางผ่านระหว่างหบุ เขา
แม่นํา้ อาโรกับหุบเขาแม่นํา้ บอร์มิดาน้อย การส้รู บ ได้ดําเนินไปตลอดทงั้ วนั ในวันต่อมาเมื่อ
ฝร่ังเศสได้สง่ กองทหารเพิ่มเติมเป็ น กองใหญ่มาและเข้าปะทะกันรุกขึน้ ของฝ่ ายออสเตรีย ไม่
นานนักฝ่ ายออสเตรีย ก็พ่ายแพ้ มีทหารเพียงหน่ึงในสามที่อยู่ภายต้การกํากับของอายงั โต
(Argenteau) แมท่ พั ภายใต้บงั คบั บญั ชาของโบลเี ออที่เคล่ือนเข้ามาต่อส้ไู ด้ กระนนั้ แมท่ พั ของ
นโปเลียนท่ีชื่อลาฮาป (La Harpe) ซึง่ ได้เปรียบกว่าในจุดที่เกิดการปะทะกนั นนั้ มาก ก็ทําการ
เข้าบดขยีฝ้ ่ ายออสเตรียอยา่ งรวดเร็ว สง่ ผลให้กองหน้าของ ออสเตรียท่ีรุกเข้ามานนั้ เสียหายไป
เสียเกือบคร่ึงหน่ึง นนั่ คือ เสียไปถึง ๒,๕๐๐ คน ภายหลงั การโจมตีอย่างเด็ดขาดแล้ว ฝ่ าย
ออสเตรียก็ต้องหยดุ ชะงกั การรุก และไมน่ านนโปเลยี นก็สง่ั ให้ทหารของตนเข้าโจมตอี กี
ยงั มีทหารอีกประมาณหน่ึงในสามของนโปเลียนภายใต้การบงั คบั บญั ชา ของโอเยโร
(Augereau) ก็ได้ทําการรุกไปทางเหนือตรงไปยงั เมืองมิลเลสสิโม แล้วเข้าทําการโจมตีทางปี ก
ซ้ายสุดของกองทหารแคว้นปิ เอด์มองต์ที่อยู่ภายใต้ การบังคับบญั ชาของนายพลโปรเวรา
(Provera) การเคลอื่ นทพั ท่กี ลา่ ว ทงั้ สองแหง่ นที ้ ํากนั อยา่ งรวดเร็วมา สง่ ผลให้ฝ่ ายปิ เอด์มองต์ไม่
สามารถหดแนว เข้ามารวมกําลงั ได้ทนั กําลงั ทหารฝร่ังเศสจํานวน ๑๐,๐๐๐ คน ท่ีได้เข้ามา
โจมตที างปี กซ้ายสดุ ก็ได้เข้าปะทะกบั ข้าศกึ ทอ่ี ยหู่ า่ งเปลา่ เปลยี่ วจาก กองทพั ใหญ่ ทําให้นายพล
๙๕
โปรเวราต้องรีบสง่ สว่ นหนง่ึ ของกําลงั ของเขา กลบั คืนไปเพอ่ื ให้นายพลคอลลจี ะสามารถย่นแนว
รบรวมกําลงั กลบั ได้ ทําให้ นายพลโปรเวราเหลือทหารอยู่เพียง ๑,๕๐๐ คน ยึดที่มั่นอยู่ใน
ปราสาทเกา่ ๆ แหง่ เมืองคอสเซเรีย (Cosserie) เอาไว้
การที่โปรเวรายึดท่ีมนั่ นี ้นบั ว่าเป็ นสง่ิ ดี ถ้าหากว่าเขาสามารถที่จะรักษาท่ีมน่ั เอาไว้ได้
ทงั้ นีเ้ พราะคอสเซเรียนนั้ ตงั้ อย่บู นเนินเขาระหว่างแมน่ ํา้ บอร์มิดาใหญ่น้อย ทําให้สามารถที่จะ
คมุ เชิงหบุ เขาทงั้ สองเอาไว้ได้ ตราบใดท่ียงั สามารถป้ องกนั เมืองคอสเซเรียเอาไว้ได้ ก็จะสามารถ
ท่จี ะยดึ และป้ องกนั ถนนซง่ึ พาดผา่ นเมืองนนั้ ได้เช่นกนั ซ่ึงแท้จริง ถนนเส้นนีน้ โปเลยี นจะต้องใช้
เป็ นเส้นเดินทพั เพอ่ื ไปเข้าโจมตีปิ เอด์มองต์นนั่ เอง ฉะนนั้ การยดึ ท่ีมน่ั เอาไว้เช่นนีเ้ ท่ากบั เป็ นการ
ปิ ดช่องทางเดนิ ระหวา่ งแมน่ าํ ้ บอร์มิดาทงั้ สอง แตก่ ารท่จี ะยดึ เอาไว้ให้ได้นานนนั้ นายพลคอลลี
จะต้องส่งทหาร ขึน้ มาช่วยให้ทันเวลา ซ่ึงในที่สุดก็ไม่สามารถทําได้ ด้วยเหตุนีโ้ ปรเวราใน
ปราสาทคอสเซเรียจึงไม่สามารถท่ีจะยึดเอาไว้ได้นานกว่า ๒๔ ชวั่ โมง ทงั้ นีเ้ พราะขาดทงั้ อาวธุ
และเสบียง ทงั้ การตดั สนิ ใจเข้ายดึ ทมี่ นั่ ในเวลานนั้ ก็เป็ นเพียงการตดั สนิ ใจท่ีกะทนั หนั ที่สาํ คญั
เกิดขนึ ้ เพราะไม่ได้มีแผนการอะไร นอกจากทําไปตามสถานการณ์ เม่ือย่างเข้าวนั ท่ี ๑๔ กอง
ทหารเหลา่ นกี ้ ็จําต้อง ยอมแพ้
เป็ นอันว่า บัดนัน้ โปเลียนได้เข้ามาตัง้ กองทัพอยู่ตรงจุดที่เป็ นศูนย์กลาง อันเป็ นที่
เชื่อมตอ่ ระหวา่ งหบุ เขาทงั้ หลายแล้ว และพร้อมที่จะยกทพั เข้าโจมตีไปทางใดทางหน่งึ ก็ได้ นโป
เลียนได้เคลื่อนท่ีกองทพั ครัง้ ท่ี ๓ ในวนั ที่ปราสาทคอสเซเรียยอมแพ้ การเคล่ือนทพั ครัง้ ใหม่ท่ี
เกิดขนึ ้ ก็ไช้วิธีเคลอื่ นทพั อย่างรวดเร็วเหมือนครัง้ เคล่ือนทพั ที่มองเตอนอต ทหารฝรั่งเศสได้ทํา
การเข้าโจมตีตรงกลางของข้าศึก ณ หบุ เขาบอร์มิดาน้อย และเข้าปะทะกบั เมืองเดโก (Dego)
ฝ่ ายนายพลโบลิเออก็รีบส่งทหารมา ทําการป้ องกันเมืองนนั้ แต่ก็ไม่ทนั เวลา ทงั้ นีเ้ พราะการ
เคลอ่ื นพลขนึ ้ ไป ตามหบุ เขาในครัง้ นนั้ ไม่เพียงพอซง่ึ ในความเป็ นจริงจะต้องสง่ั ให้มีการเคล่อื น
พลเข้าไปจํานวนมากจนสามารถทจ่ี ะทาํ ให้มีทหารอยทู่ งั้ ๒ ฟากของหบุ เขา กระนนั้ ปัญหาก็คือ
ไม่มีทางท่ีควรจะข้ามเขามาได้ ครัน้ จะปี นอ้อมเขาไปทางทิศเหนือหรือไปทางตะวนั ออกก็ล้วน
แต่เป็ นเส้นทาง ไกล นายพลโบลิเออถูกกล่าวหาว่าเป็ นพวกเฉื่อยชา แต่แท้ท่ีจริงแล้ว เป็ น
เพราะว่าการเคล่ือนทพั ของเขาครัง้ แรก ๆ นนั้ เป็ นความผิดพลาดมาแต่ต้น อีกทงั้ ผลจากการ
เคลอ่ื นทพั อยา่ งรวดเร็วของนโปเลยี นก็เป็ นสงิ่ เหนือความ คาดหมาย
๙๖
ทหารของนโปเลยี นได้เข้าโจมตเี มอื งเดโกในวนั ตอ่ จากวนั ที่ยดึ ปราสาทคอสเซเรียได้ ใน
ความจริงนนั้ ทหารเหลา่ นีไ้ ด้เร่ิมเข้าทําการโจมตี มาทงั้ สองเมืองพร้อม ๆ กนั กลา่ วคือเมื่อทํา
การยดึ ปราสาทได้แล้วก็ยงั คงรุก ตอ่ ไปโดยไมไ่ ด้หยดุ พกั เหนื่อย บรรดาทหารเหลา่ นีท้ ําการส้รู บ
คล้ายกบั ว่า จะสามารถทนอยไู่ ด้ทงั้ ๆ ท่ีเครื่องแต่งกายก็ไมค่ อ่ ยสมประกอบ กระนนั้ พวกเขามี
ความกระตือรือร้นตดิ ตามแมท่ พั หนมุ่ ของเขา ซง่ึ รู้จกั ทจี่ ะ ปลกุ ใจในวนั กอ่ นท่ีปราสาทคอสเซเรีย
จะยอมแพ้
ในวนั ท่ีนายพลโปเวราพยายามยึดครองปราสาทเอาไว้นนั้ นายพลโบลิเออได้สง่ ทหาร
๖,๐๐๐ คน เข้าไปยงั เมอื งเดโกพร้อมด้วยปื นใหญ่จํานวน ๓๐ กระบอกแล้ว แตป่ รากฏว่า ยงั ไม่
ทนั ได้เตรียมการให้ดีพร้อม กองทพั ทหารฝร่ังเศสก็ได้เข้าจู่โจมและเข้าทําการยึดและจบั ได้ทงั้
กรมทหาร ด้วยกําลงั ทหารจํานวน ๓,๕๐๐ คน และปื นใหญ่อกี ๑๘ กระบอก
ในเวลา ๘ นาฬิกาของรุ่งอรุณวนั ท่ี ๑๕ นโปเลียนก็ได้เรียกทหารมาชุมนมุ รวมพลกัน
ทงั้ หมดยกเว้นแตก่ รมทหารของมซั เชนา (Massena) จํานวนหนงึ่ ที่ถกู ใช้ให้ทําการเฝ้ าเมืองเดโก
เอาไว้ แล้วสง่ั ให้ถอยหลงั กลบั ไปยงั เมืองมิลเลสสโิ ม โดยนโปเลยี นคิดวา่ เขาอาจจะสามารถตรึง
กองทหารของออสเตรียเอาไว้ได้ชวั่ คราวแล้ว ซึ่งนนั่ จะทําให้เขาสามารถท่ีจะเข้าไปจัดการกบั
ฝ่ ายปิ เอด์มองต์ตอ่ ไปได้
โดยเหตนุ ีเ้ อง ระยะเวลาที่เกิดขนึ ้ ในอาทิตย์นนั้ จึงเป็ นห้วงเวลาหวั เลีย้ วหวั ต่อท่ีสําคญั
นโปเลยี นได้คะเนการผิด จริงอยทู่ ่ีฝ่ ายออสเตรียปราชยั อยา่ งรุนแรงท่ีเดโก กระนนั้ พวกเขาก็มี
กําลงั ทหารที่มากพอท่ีจะสามารถยึดเมืองคืนมาได้ กองทหารฝร่ังเศสออกจากเดโกเวลา ๘
นาฬิกา แล้วในเวลา ๑๑ นาฬิกาของวนั นนั้ เอง กองทหารออสเตรียก็ได้บกขึน้ มาตามหุบเขา
แมน่ าํ ้ บอร์มดิ าน้อยแล้วกลบั ยดึ เอาเดโกกลบั คืนได้ เมื่อนโปเลยี นทราบก็ยกทหารย้อนกลบั มา มี
กําลงั ทหารพอทจ่ี ะทาํ การได้และยดึ เอาเมืองเดโกกลบั คืนมาได้ ครัน้ แล้วจึงเริ่มเคลื่อนทพั ไปยงั
เมืองมิลเลสสิโม่ใหม่เมื่อเวลา ๑๔ นาฬิกา และในการรบครัง้ นีน้ ายพลลานซ์ (Lannes) ก็เริ่มมี
ช่ือเสยี งเป็ นครัง้ แรก เมืองเดโกเม่ือได้ถกู ยดึ กลบั คืนมาได้ พร้อมด้วยปื นใหญ่ ๑๘ กระบอก ล้า
หากว่าช้าไปอีกสกั ช่ัวโมงหนึ่ง บางทีจะไม่อาจเอากลบั คืนมาได้ และหากช้าไปถึงคร่ึงวนั ก็
อาจจะทาํ ให้การรบในครัง้ นแี ้ พ้ เพราะเหตวุ า่ ออสเตรียก็คงสามารถสง่ กําลงั เพิ่ม เข้ามาในเมือง
เดโก และอาจตรึงนโปเลียนไว้กับที่ที่ทําการรบอยู่ ณ ยอดเขา สงู แห่งหุบเขานัน้ ทัง้ ยังจะ
๙๗
สามารถป้ องกนั ไม่ให้นโปเลียนกลบั เข้ามาโจมตี เมืองมิลเลสสิโมได้ ซึ่งหากออสเตรียทําได้
ดงั นนั้ นายพลคอลลกี ็จะมเี วลาพอ ทจ่ี ะบีบกระหนาบฝรั่งเศสไว้ตรงกลาง
ทหารฝรั่งเศสซง่ึ เหนด็ เหนอื่ ย เน่ืองจากต้องเดนิ ย้อนไปย้อนมาถึง ๖ ชวั่ โมง แล้วยงั ต้อง
ทําการส้รู บหลงั จากที่ต้องเดินทางอีกนนั้ ได้รับอนุญาตให้พกั ผ่อนหนึ่งคืน แล้วในวันที่ ๑๖
ทหารฝร่ังเศสก็ได้หวนกลบั มายงั ต้นแมน่ าํ ้ อีก และบดั นซี ้ งึ่ เป็ นความพยายามครัง้ ท่ี ๓ นโปเลยี น
ก็ทมุ่ เทกําลงั ทงั้ หมดลงท่ีเมืองมิลเลสสโิ ม
หากนบั นบั เวลาของการเริ่มโจมตีเมืองมิลเลสสโิ มแล้ว จะเห็นวา่ เวลาหา่ งจากการเปิ ด
ฉากรบครัง้ แรกที่เมืองมองเตอนอตเพยี ง ๙๖ ชว่ั โมงเทา่ นนั้
นายพลคอลลจี ําเป็ นต้องถอยปี กซ้ายของเขาและเข้าไปพกั อยทู่ ่เี มอื ง เซวา (Ceva) และ
ในวนั ท่ี ๑๖ น่ีเอง นโปเลียนก็ได้ขึน้ ไปอยู่บนตอนสูงของถนน ณ ยอดเขามองต์เซโมโล (Mt.
Zemolo) ซง่ึ อยตู่ รงเหนอื ของหบุ เขาแม่นาํ ้ ตานาโรทไี่ หลลงสพู่ นื ้ ราบแหง่ ปิ เอด์มองต์ นโปเลียนชี ้
ให้ทหารของเขา มองดทู รี่ าบปี เอด์มองต้
ที่ราบแห่งนีเ้ ป็ นที่ราบผืนใหญ่ ยืดยาวไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตก และห่างไกล
ออกไปนนั้ ก็จะเหน็ กําแพงใหญ่อนั เป็ นปราการธรรมชาติจาก ภเู ขาแอลปส์ซงึ่ มีหิมะเป็ นประกาย
ในทองฟ้ า ยอดท่ีตํ่าหน่อยหน่ึง ดูเหมือนจะเป็ นส่วนหน่ึงของอากาศ และยอดเขานัน้ เป็ น
ประกายเดน่ อยใู่ นท้องฟ้ า ครัน้ แล้ว นโปเลยี นก็กลา่ วกบั ทหารทยี่ นื รายรอบเขาว่า ๐ฮนั นิบาล ได้
ข้ามภเู ขาแอลปส์ แตเ่ ราได้เลยี ้ วข้ามภเู ขาแอลปส์๑
ภาพนนั้ เป็ นภาพซงึ่ จบั หวั ใจของทหารผ้ซู ง่ึ ได้ทาํ การรบในระหวา่ ง ๖ วนั นนั้ แตว่ ่าทงั้ นีก้ ็
สําเร็จโดยการนําของนโปเลยี น ด้วยความเข้มแข็งของเขาอนั หาที่เปรียบไม่ได้ในระยะ ๖ วนั ที่
แล้วมา และบดั นี ้ทหารก็มองเห็นจุดม่งุ หมาย นนั่ คือดินแดนท่ีเขาจะไปโจมตีนนั้ อย่เู บือ้ งลา่ ง
และนอกจากนัน้ แล้วที่ตงั้ ทางยุทธศาสตร์ก็นับว่าสําคญั มากนัน่ คือ ที่ผ่านมา นโปเลียนได้
แบง่ แยกสมั พนั ธมิตรทงั้ สองออกจากกนั ฝ่ ายหนง่ึ ก็ไมส่ ามารถท่จี ะเข้ามารวมกบั อีกฝ่ ายหนึ่งได้
นอกจากทางเดยี วนนั่ คือ ต้องเดนิ ทพั อ้อมเขาไปเป็ นเวลาอีกหลายวนั ฝ่ ายออสเตรียอยทู่ างขวา
นน่ั คือ ทางทศิ ตะวนั ออกที่กําลงั ถกู ตรึงอย่สู ว่ นปี เอด์มองต์ที่ได้รับความเสยี หายมาก็ดําเนินอยู่
อย่างโดดเด่ียวและตงั้ พร้อมที่จะต้องปะทะกบั กองทหารของฝรั่งเศสท่ีมีกําลงั เหนือกว่า ดงั นนั้
ผลของการรบจึงสามารถมองเหน็ ได้แล้ววา่ อะไรจะเกิดขนึ ้ ในวนั หน้า
๙๘
กองทพั ของนโปเลียนพอกวาดส่วนย่อยซ่ึงคอยระวงั ทางหุบเขาบอร์มิดาตอนบนและ
ตอนลา่ งแล้ว ทหารส่วนใหญ่ในบงั คบั บญั ชาของนโปเลียนก็ทําการรุกหน้าต่อไปโดยกําลงั ที่
เหนือกว่าได้ยกเข้าโจมตีทพั ของปิ เอด์มองต์และสามารถเข้ายึดทกุ แห่ง นายพลคอลลีเห็นทีว่า
จะไมอ่ าจต้านทานได้ ก็สงั่ ทําการเคลอ่ื นพลถอยทพั ไปเป็ นลาํ ดบั โดยมนี โปเลยี นพากองทพั ตาม
ตไี ปตดิ ๆ แล้วเข้ายดึ ทกุ แหง่ ทีน่ ายพลคอลลถี อยไปตงั้ หลกั
การยทุ ธ์กําลงั เป็ นตอ่ เป็ นรอง แคว้นปี เอด์มองต์กําลงั อย่ใู นกํามือของนโปเลยี น ทหารท่ี
ร่วมรบดูเหมือนจะมีกําลงั ใจขึน้ ทัง้ นีเ้ พราะหวงั แน่ใจในชัยชนะท่ีกําลงั จะได้มาในไม่ช้านี ้
ขณะที่นโปเลยี นก็ควบม้านําทหารโดยไมไ่ ด้ทอั ถอย มีบเู รียน (Bourrieme) ตามอยอู่ ย่างใกล้ชิด
และในท่ามกลางเสียงส้รู บและเสียงปื นที่ต่างยิงต่อส้กู ันระหว่างผู้หนีกบั ผู้ขบั ไล่นี ้ นโปเลียน
รู้สึกตวั ว่ากระจกปิ ดรูปของโยเซฟิ นท่ีเขาใสเ่ อาไว้ในกระเป๋ าเสือ้ แตก จึงหยดุ ม้าและพดู กบั บู
เรียนวา่ ๐กระจกปิ ดรูปแตก ภรรยาของข้าพเจ้าคงจะ ป่ วยหรือไมก่ ็คงนอกใจ๑
การหนีและไลไ่ ด้สนิ ้ สดุ ลงในวนั ท่ี ๒๓ พฤษภาคม ๑๗๙๒ คือใน ชว่ั เวลาไมถ่ ึงสปั ดาห์
กองทพั บนไหลเ่ ขาตา่ งๆ ก็ถกู กองทพั ของนโปเลียน กวาดล้างจนหมดสนิ ้ ครัน้ เมื่อเข้ายึดยอด
เขาลกู สดุ ท้ายได้แล้ว ทหารฝรั่งเศส ก็พากนั เปลง่ เสยี งโหร่ ้องสนนั่ หวนั่ ไหว
หลงั จากท่ีได้เหน็ดเหนื่อยมาอย่างแสนสาหสั ในการเดินทพั ตาม หบุ เขาแคบมา แล้ว
บดั นกี ้ ็ได้เห็นที่ราบลมุ่ แหง่ แคว้นปี เอดม์ องต์เลย่ี นโลง่ อยู่ เบอื ้ งลา่ ง ยืดยาวไปสดุ สายตา ทงุ่ หญ้า
เขียวชอมุ่ เหมือนพรมสเี ขยี วปลู าดไว้มที กุ สง่ิ ทกุ อยา่ งทีท่ หารได้ขดั สนกนั มานาน แลเห็นแมน่ าํ ้ โพ
(Po) และลาํ นาํ ้ สายอนื่ ๆ อกี ไหลลดคดเคีย้ วเหมือนงูเลอื ้ ย เห็นไกลไปจนจรดขอบฟ้ า สว่ นแผน่
พนื ้ หิมะเลา่ ก็ขาวโพลนเหมอื นปยุ ฝ้ ายอยเู่ บอื ้ งลา่ ง
รุ่งขนึ ้ จากวนั ที่ ๒๓ พฤษภาคม นโปเลยี นก็ได้บงั คบั ให้ข้าศกึ คือ กษัตริย์แห่งแคว้นซาร์
ดีเนียต้องสงบศึกยอมยกทุกสิ่งทุกอย่างให้ ตลอดจนยอมให้ยึดเมืองสําคญั ๆ คือเมืองโกนี
(Coni) อาเลสชนั เดรีย (Alessandria) ทอร์โทนา (Tortona) และส่วนเส้นทางผ่านข้ามภูเขา
แอลปส์ก็ต้องเปิ ดไว้ให้กองทพั ของฝร่ังเศสข้ามมาได้ทกุ เวลา
นโปเลยี นได้เจรจาการสงบศึกด้วยความเฉลยี วฉลาดและลวงข้าศกึ ได้อย่างงดงาม ยงั
แถมขู่ว่าถ้าไม่ยอมแพ้ก็จะยกกองทพั มหึมาเข้าโจมตีอีก ซึ่งความจริงนนั้ นโปเลียนไม่มีทหาร
อยา่ งมหมึ า แม้ขณะเลา่ ก็เทา่ กบั ตกอยใู่ น ระหวา่ งศกึ กระหนาบจากออสเตรียเสยี อีกด้วย
๙๙
พวกทหารนโปเลยี นเองต่างก็พากนั พิศวงแม่ทพั ว่าเป็ นคนที่ทําได้จริง เหมือนปากพูด
ในชว่ั ระยะเวลาเพยี ง ๑๕ วนั ได้พ้นทกุ ข์จากการต้องทนอดมือ้ กินมอื ้ เพอ่ื สงวนอาหารนนั้ เสยี ที
แคว้นปิ เอด์มองต์ก็เป็ นอนั ต้องตดั ความสมั พนั ธไมตรีกับออสเตรีย ค่สู งครามของนโป
เลยี นก็จะมีแตเ่ ฉพาะออสเตรีย เริ่มตงั้ แตแ่ คว้นลอมบาร์ดีอนั เป็ นวงศ์จกั รภพของออสเตรียเป็ น
ลาํ ดบั ไป
นโปเลียนและขนุ พลของเขาไมป่ ลอ่ ยใหโ้ อกาสในการประสบชยั ชนะในแตล่ ะศึกสงครามฝานไป
๑๐๐
๑๐๑
การรบที่โลดี
๑๐๒
บทท่ี ๑๒
สนามรบโลดี (L0DI)
ปิ เอด์มองต์ได้สงบศึกและถกู ปัดออกไปนอกวงสงครามแล้ว บดั นี ้นโปเลยี นก็สามารถที่
จะจดั การกบั นายพลโบลเิ ออแหง่ กองทพั ออสเตรีย ซงึ่ ไมม่ ีสมั พนั ธมิตรช่วยเหลอื และทหารของ
โบลเิ ออก็กลบั มีจํานวนน้อยกว่าของนโปเลียนไป แต่ถ้าหากว่าโบลิเออรู้จกั ใช้ทหารด้วยความ
เฉลียวฉลาดก็อาจจะสามารถรับกองทพั ฝรั่งเศสได้ และแนวที่เหมาะสมสําหรับต้านทานก็คือ
แม่นาํ ้ โพ ซง่ึ เป็ นแมน่ าํ ้ กว้างไมม่ สี ะพานข้าม นอกจากในตอนต้นแม่นํา้ และโอกาสจะข้ามนนั้ ก็
มีไม่มากนกั ทงั้ เรือที่มีอยู่ตามลําแม่นํา้ ก็ไม่ใหญ่พอท่ีจะขนทหารจํานวนมาก ๆ ได้รวดเร็ว มี
เพยี ง ๒-๓ ลาํ ซง่ึ ใหญ่พอจะบรรทกุ ปื นใหญ่ข้ามแมน่ าํ ้ ไปได้
นายพลโบลิเออได้ถอยทพั เข้ายดึ แนวต้านทานนีท้ นั ที ละทิง้ ภูเขาและโอกาสท่ีจะเชื่อม
คมนาคมติดตอ่ กบั ฝั่งทะเลและเมอื งเจนวั เสยี นายพลโบลเิ ออต้องการที่จะรักษากองทพั ของเขา
เอาไว้ และได้กระทําการรบตามแบบฉบบั ในสมยั นนั้ คือตงั้ ทพั เป็ นเส้นแนวยาวอย่างเดิม โดย
จัดวางทหารบนฝั่งเหนือ ของแม่นํา้ ซึ่งพร้ อมจะหดแนวรบรวมเข้ามาตรงจุดซึ่งฝ่ ายข้าศึก
พยายามจะข้าม แมน่ าํ ้ นนั้
เหตซุ ง่ึ ทําลายการป้ องกนั ของนายพลโบลิเออที่ยดึ จากตะวนั ออกไป ตะวนั ตก และหนั
หน้าไปสทู่ ิศใต้ก็คือเหตเุ ดียวกบั ที่ได้เคยทําลายเส้นทางทพั ของสมั พนั ธมิตรท่ีแล้วมา คือความ
รวดเร็วของนโปเลียน ซึ่งเร่ิมประดจุ สายฟ้ าแลบ นโปเลียนสามารถจะเคลอ่ื นพลและจัดทหาร
จํานวนมาก ๆ ด้วยความเข้มแขง็ เด็ดขาดและนโปเลียนสามารถท่ีจะออกคําสง่ั บญั ชางานจาก
สงู สดุ ลงไปถงึ ตา่ํ สดุ ได้รวดเร็วโดยปัจจบุ นั ทนั ดว่ น นโปเลียนจะต้องแก้ปัญหาวา่ จะข้าม แมน่ ํา้
โพได้อย่างไร ในเม่ือทหารออสเตรียกําลงั เฝ้ ามองอยู่ ขณะที่ทหารฝรั่งเศส กําลงั จะข้าม ทหาร
ออสเตรียก็จะสามารถหดแนวรบ รวมกําลงั เข้ามาปะทะ ตรงจุดที่ทหารฝรั่งเศสข้ามได้ และ
กวาดล้างทําลายผ้ทู ขี่ ้ามไปนนั้
นโปเลยี นได้เริ่มต้นกระทบหลอกฝ่ ายออสเตรีย คือหลอกจะไปทางซ้าย ตรงด้านแม่นํา้
ซงึ่ มีสะพาน ๆ หนง่ึ และอาจจะข้ามได้ง่ายกวา่ ท่ีอน่ื ข้าง ๆ เมือง วาเลน็ ชา (Valenza) และคําโบ
๑๐๓
(Cambo) นายพลโบลเิ ออก็คดิ วา่ นา่ จะข้ามตรงนี ้จริง ๆ เพราะวา่ มนั ง่ายท่ีสดุ และเป็ นที่เดียวที่
นา่ จะทําได้ ฉะนนั้ โบลเิ ออจึงได้ ชมุ นมุ ทหารเข้าไว้เพ่อื ป้ องกนั ตรงที่อาจจะข้ามนี ้
ขณะท่ีข้าศึกยงั คอยระวงั ปี กขวาอยนู่ นั้ นโปเลยี นก็รีบดําเนินการอย่าง รวดเร็ว ขณะที่
ทหารนโปเลียนมีเครื่องแต่งกายสมบรู ณ์ มีเสบียงอาหารพร้อม และได้รับปื นใหญ่เพิ่มเติมมา
ใหม่อีก และนบั ตงั้ แต่ได้ปราบปิ เอด์มองต์แล้ว ก็ไม่ได้มีการรบอย่างหนกั เลย จนกระทง่ั บดั นี ้
ทหารฝรั่งเศสมีเวลาพักผ่อนมาแล้ว ๑๐ วนั เต็ม ดังนนั้ จึงพร้ อมท่ีจะทําการ และก่อนปลาย
สปั ดาห์แรกของเดือน พฤษภาคม นโปเลยี นก็เร่ิมออกคาํ สงั่ ให้เดนิ ทพั ความสาํ เร็จของเขา ไมใ่ ช่
เกิดจากการวางแผนการท่ดี ีเทา่ นนั้ ยงั เกิดจากความรวดเร็ว ที่ข้าศกึ ไมท่ นั ระวงั ตวั อีกด้วย
นโปเลียนได้คัดเลือกทหาร และตัง้ กองทหารพิเศษมีกําลังประมาณ ๖ กองพันซึ่ง
คดั เลอื กวา่ มีความอดทนดี กองพนั พิเศษนี ้ เขาได้สงั่ ให้เข้าโจมตีทางทิศตะวนั ออกไปตามถนน
ซงึ่ ขนานไปกบั แมน่ าํ ้ ทหารพวกนีต้ ้องเดินถึง ๔๔ ไมล์ ภายในเวลา ๓๖ ชวั่ โมง และในตอนเช้า
วนั ที่ ๖ พฤษภาคม ทหารทร่ี ุกเข้าไปนกี ้ ็เข้าถึงเมืองปิ อาเซนซา (Piacenza) ซ่ึงนบั ว่าได้ผ่านเลย
แนวสาํ คญั ของโบลเิ ออไปแล้ว และอย่ตู รงข้ามกบั กําลงั ของข้าศึกท่ีออ่ นแอ เพราะว่าเป็ นปลาย
ซ้ายสดุ ของข้าศกึ
กองทหารได้ถึงปิ อาเซนซาเวลาเช้า ๙ นาฬกิ า กองระวงั หน้าได้รายงานวา่ ไมม่ ีอะไรตรง
ฟากตรงข้าม นอกจากกองทหารม้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ของออสเตรีย คอยดเู หตกุ ารณ์ทางปี กซ้าย
ของโบลิเออ ไม่มีกองทหารใหญ่เลย การที่เดินทัพได้ รวดเร็วเช่นนี ้ ฝ่ ายออสเตรียย่อมไม่
สามารถจะรวมกําลงั มาตอ่ ส้ทู นั ถึงแม้วา่ กองบญั ชาการออสเตรียจะได้รับขา่ วเร่ืองนแี ้ ล้วก็ตาม
นายพลโบลิเออผู้ซึ่งมีอายุ ๗๐ เศษแล้ว ก็พลาดพลงั้ เสียท่าไปอย่างไม่มีทางแก้ตัว
เพราะวา่ แนวของเขานนั้ อาจจะถกู ทําลายโดยสนิ ้ เชิง ถ้าหากว่านโปเลียนมีสะพานลอยสําหรับ
ข้ามลาํ นาํ ้ ซงึ่ ณ ท่นี ีไ่ หลเช่ียวและกว้าง ๕๐๐ เมตร แตว่ า่ ฝรั่งเศสจําเป็ นต้องใช้แพซงึ่ ทาํ ขนึ ้ อยา่ ง
กะทนั หนั ต้องใช้เรือซง่ึ ไปเกณฑ์มาจากตามฝ่ังแม่นํา้ และต้องอาศยั เรือจ้างประจําทอั งถ่ิน ซ่ึง
อาจจะข้ามแมน่ าํ ้ ไปมาเที่ยวหนงึ่ ประมาณคร่ึงชว่ั โมง ด้วยเหตนุ ีเ้ องทําให้ ข้ามแม่นํา้ ได้ช้า แต่ก็
ไมช่ ้าเกินไปทจี่ ะให้ฝ่ ายออสเตรียชมุ นมุ กําลงั ได้ทนั เป็ นวนั แรกของการข้ามแมน่ าํ ้ นายพลลานซ์
ผ้ซู งึ่ นาํ กองแรกข้ามไปก็ได้รุกขนึ ้ ไป ตามถนนได้ ๗ ไมล์ ถึงเมืองฟอมบิโอ (Fombio) นายพลโบ
ลเิ ออจงึ จําเป็ นต้อง รวบรวมกําลงั ของเขาโดยเร็วทีส่ ดุ และถอยแนวของเขาไปอยหู่ ลงั แมน่ าํ ้ แอด
๑๐๔
ดา (Adda)
สว่ นใหญ่ของทหารของโบลิเออนนั้ เดินทพั ใกล้กว่าทหารของนโปเลยี นมาก เพราะเหตุ
วา่ แนวแมน่ าํ ้ แอดดานนั้ เยอื ้ งไปทางตะวนั ออกในตอนที่ไหลผา่ นที่ราบลอมบาร์ดี และโดยเหตทุ ี่
สามารถจะทําให้ฝรั่งเศสต้องล่าช้าในการรุกต่อปี กซ้ายของเขานนั้ โบลิเออก็สามารถท่ีจะถอย
กองทพั ของเขาไปได้โดยปลอดภยั ก่อนหน้านีน้ ายพลโบลเิ ออได้สง่ นายพลลิปเตย์ (Liptay) ไป
ทางทิศตะวนั ออกเพ่ือจะคอยปะทะกบั การรุกของฝร่ังเศส แตว่ ่ามีทหารไมพ่ อ และแนวอนั ยาว
ของทหารออสเตรียก็ไมส่ ามารถจะหนนุ เข้ามาช่วยทนั เวลา และถึงแม้จะสามารถโจมตีฝรั่งเศส
ไปได้ชว่ั ขณะก็ตาม แต่ว่าในวนั ท่ี ๘ พฤษภาคม ทหารของนโปเลยี นก็ข้ามไปอย่ฟู ากนีพ้ อท่ีจะ
ขบั ไลท่ หารออสเตรียได้ นายพลลานซ์ได้เอาชยั ชนะนายพลลิปเตย์ทเมืองฟอมบิโอ จบั เชลยได้
๓,๕๐๐ คน ฝ่ ายออสเตรียซงึ่ แพ้ ก็ถอยกลบั ไปยึดป้ อมปิ ซซิกเก็ตโตเน (Pizzighettone) ลิปเตย์
ก็ตงั้ มน่ั อยทู่ ี่นน่ั
ในระหวา่ งตอนกลางคืนของวนั ท่ี ๘ ที่ ๙ พฤษภาคม นายพลโบลิเออ ตดั สนิ ใจถอยไป
ตงั้ หลกั หลงั แมน่ ํา้ แอดดา เพื่อจะประคองรักษากองทพั ช่ึงมีกําลงั ด้อยกวา่ ข้าศกึ แต่การกระทํา
เชน่ นเี ้ทา่ กบั เป็ นการมอบเมืองมิลาน ไว้ให้แกฝ่ ร่ังเศส แตห่ ากไมท่ ําเช่นนนั้ ก็จําเป็ นท่ีจะต้องถกู
บีบบังคบั โดย กองทหารฝรั่งเศสท่ีมีกําลงั เหนือกว่า และอาจจะถึงกับเสียหายหมด เม่ือเป็ น
เชน่ นจี ้ ึงจําเป็ นต้องรีบถอยข้ามแมน่ าํ ้ แอดดาไป
การไลต่ ดิ ตามไปยงั ทา่ ข้ามตรงหวั สะพานเกือบกงึ่ กลางแนวทหาร ของโบลเิ ออนีค้ ือตรง
เมืองโลดี (Lodi) กวา่ ทหารฝร่ังเศสคนสดุ ท้ายจะได้ข้ามฟากเหนือแมน่ ํา้ โพในตอนเย็นวนั ที่ ๙
พฤษภาคม และในขณะนนั้ กองทพั ของออสเตรียก็เข้าตงั้ มนั่ อยใู่ นเมอื งโลดเี สยี แล้ว
ก่อนรุ่งสว่างวนั ที่ ๑๐ นโปเลียนก็เร่งทหารกองหน้าให้รุดขึน้ ไป แล้วในตอนเท่ียงกอง
ทหารก็ไปถึงเมืองโลดี ทหารออสเตรียตลอดเช้าวนั นนั้ ได้ข้ามสะพานไปยงั ฝ่ังแม่นํา้ ตรงข้าม
หมดแล้ว ในตอนบา่ ยทหารฝร่ังเศสก็เข้าเมอื งโลดี และในตอนจวนจะคาํ่ ทหารฝรั่งเศสก็รุดขนึ ้ ไป
จนมองเห็นแมน่ าํ ้ และสะพานได้
ตอนนีเ้ องที่นโปเลียนตดั สินใจ ซ่ึงตามความจําเป็ นทางยุทธศาสตร์แล้วไม่ควรจะทํา
เพราะวา่ จะเป็ นการเสียหายเปลอื งทหารมากในเชิงยทุ ธวิธี แต่ก็จะได้ผลทางจิตใจเป็ นอนั มาก
มนั เป็ นโอกาสดีที่นโปเลยี นจะทําให้ทหารรู้จกั ฝี มือและเช่ือถือตวั เขามากขนึ ้ เขาตกลงใจท่ีจะ
๑๐๕
ข้ามแมน่ าํ ้ แอดดาตรงสะพานเมืองโลดนี นั้ ถงึ แม้วา่ จะเป็ นที่ซงึ่ ทหารออสเตรียเพ่ิงข้ามมาใหม่ ๆ
และคงจะได้เตรียมรักษาป้ องกนั ไว้เข้มแข็งมากก็ตาม
อาจจะข้ามแม่นํา้ ตรงท่ีอ่ืนได้และส่วนหนึ่งของทหารฝร่ังเศสก็ได้ ข้ามที่อ่ืนเหมือนกัน
กองทหารฝร่ังเศสได้รุกอย่างรวดเร็ว จนกระทง่ั ทหารของออสเตรียไม่มีเวลาทนั ท่ีจะทําลาย
สะพาน แตก่ ารข้ามสะพานนกี ้ ็เป็ นสง่ิ ที่ยากเหลอื เกินเพราะทหารกองกําลงั หลงั ของออสเตรียอยู่
บนฝั่งตรงข้ามวางแนวป้ องกนั ไว้ มีทหาร ๑๑ กองพนั และปนใหญ่ ๑๔ กระบอก พร้ อมที่จะ
ปราบผ้ทู จ่ี ะเข้ามาได้ทนั ที สะพานนยี ้ าว ๑๐๐ เมตร กว้างพอที่จะเดนิ เรียง ๘ ได้ปื นใหญ่ทงั้ ๑๔
กระบอก ก็พร้อมท่ีจะจ้องคอยยิงทหารฝรั่งเศสที่จะข้ามมา ย่ิงกว่านนั้ เน่ืองจากเวลานนั้ เป็ น
เวลาใกล้ค่ําแล้ว นโปเลียนได้คาดผิดว่ากองทหารออสเตรียสว่ นใหญ่ยงั มีอยู่และคอยเตรียม
รับมอื เขาอยทู่ ี่นนั่ ซง่ึ ความจริงมแี ตก่ องระวงั หลงั เทา่ นนั้ อยา่ งไรก็ดี นโปเลยี นได้ลองพยายามดู
และได้เกิดผล ซงึ่ ทาํ ให้พวกทหารทงั้ ฝ่ ายฝรั่งเศสและออสเตรียมีความประหลาดใจเป็ นอนั มาก
กองหน้าของทหารฝรั่งเศสถกู สง่ั ให้วิ่งเข้าไป ซึ่งก็ว่ิงขนึ ้ ไปบนสะพานตา่ งร้องไชโยโห่แก่มหาชน
รัฐ ฝ่ ายออสเตรียก็ยิงกราดแถวหน้าล้มตายหมด พวกที่ล้มก็กีดขวางทางข้ามสะพานท่ีแคบอยู่
แล้วให้ยิ่งแคบยากแก่การรุกเข้าไปอีก ซึง่ จําเป็ นต้องเหยียบข้ามไป และบางคนก็ล่นื ไถลตกลง
ไปในนาํ ้ และเม่ือโผลข่ นึ ้ มาจากนาํ ้ ก็ถกู ทหารแมน่ ปื นจ้องยิงเอาอกี
นายพลลานซ์และแบร์ตแี อร์ (Berthier) ได้เข้านําทหารวิ่งตรง ข้ามสะพานไปได้ และได้
เข้าประจัญบานด้วยดาบปลายปื นกบั ทหารออสเตรีย ผลก็คือสามารถชิงสะพานได้ทงั้ ยงั รอด
พ้นจากปื นใหญ่ของข้าศึกไป มัสเชนาก็ข้ามสะพานได้พร้ อมกับกองทหารปื นใหญ่ ฝ่ าย
ออสเตรียก็ทิง้ แนวระวงั หลงั สาํ หรับกองทพั ใหญ่ของเขาไป เสยี ทหารไปประมาณ ๒,๐๐๐ คน
เสยี ปื นใหญ่ทงั้ หมด อีกสองวนั ตอ่ มา เมืองปิ ซซกิ กิตโตเน ซง่ึ เป็ นจดุ สดุ ทาั ย บนฝ่ังแมน่ ํา้ แอดดา
ก็แตก และแนวลาํ นาํ ้ ก็ตกอยใู่ นมือของฝร่ังเศส สว่ นโบลเิ ออนนั้ ได้ถอยร่นไปทางตะวนั ออก เพื่อ
หาสถานทีม่ น่ั อืน่ เป็ นที่กําบงั ตอ่ ไป
กองปื นใหญ่ของข้าศกึ นนั้ หนีรอดไปได้ เมืองโลดีซง่ึ เป็ นเมืองที่มี เหตกุ ารณ์ประทบั ตรึง
ใจของคนรุ่นหลงั นนั้ ความจริงไม่มีผลสาํ คญั ในการรบ เทา่ ใดนกั ทหารฝร่ังเศสในแนวรบ ซ่งึ โห่
ร้ องด้วยความมีชัยเพ่ือมหาชนรัฐฝรั่งเศสขณะท่ีล่วงเข้าไปนนั้ ต่างก็ได้ เสียสละชีวิตเพื่อการ
๑๐๖
สงครามนี ้แตว่ า่ ช่ือเสยี งและเกียรตปิ ระวตั ิของคนเหลน่ โี ้ ดง่ ดงั กระเดื่องโลกอยเู่ ป็ นเวลา นาน
เร่ิมจากเมืองโลดนี เี ้องทจ่ี ะเป็ นที่เริ่มต้นสมยั แหง่ ความรุ่งโรจน์ ในคืนวนั นนั้ หลงั จากท่ีได้
ชยั ชนะในเมืองโลดีนีแ้ ล้ว นโปเลียนได้ขี่ม้าเท่ียวเย่ียมกองทหาร ได้ยินพวกทหารร้ องเรียกช่ือ
ใหม่ นน่ั คอื ทหารพากนั เรียกเขาวา่ ๐นายสบิ โทน้อย ๆ๑
อย่างไรก็ดี นบั แต่นีต้ ่อไป ทหารก็เช่ือมัน่ ในนโปเลียน นโปเลียนเดิมใช้ชื่อสกุลเป็ น
ภาษาอติ าเลยี นวา่ ๐บวั นาปาร์ต๑(Bounaparte) แตค่ รัน้ มีชยั ในคราวนีแ้ ล้ว ก็ไม่อยากเขียนเป็ น
ภาษาอิตาเลียนอีก จึงเร่ิมใช้ชื่อสกุลเป็ นฝรั่งเศสแท้ ๆ คือเขียนเสียใหม่ว่า ๐โบนาปาร์ต๑
(Bonaparte) ดงั นี ้
นโปเลียนได้เขียนรายงานไปยงั คณะกรรมาธิการที่กรุงปารีสว่า ๐ข้าพเจ้าได้ทําสญั ญา
สันติภาพกับแควนซาร์ ดีเนียของท่านแล้ ว ทัง้ กองทัพได้ เห็นพ้ องต้ องกันด้ วย๑ เม่ือ
คณะกรรมาธิการได้อา่ นรายงานนีแ้ ล้วก็สะด้งุ ในชนั้ เดิมมีความยินดีท่ีกองทพั ของนโปเลยี นได้
ชยั ชนะหลายครัง้ แต่ครัน้ ได้อา่ นรายงานนีเ้ ข้าแล้วก็สะดดุ ใจ เพราะวา่ ไมเ่ คยมีนายพลคนใดท่ี
ทําการรบเคยพดู อยา่ งห้าวหาญกบั คณะรัฐบาลได้เช่นนี ้เฉพาะะผ้ทู ่ีเป็ นศตั รูของนโปเลียนก็พา
กนั ให้ความเหน็ วา่ การทก่ี ล้าเขียนมาเป็ นถ้อยคาํ ทห่ี ้าวหาญเช่นนีค้ วรจะได้จบั ตวั มายิงเป้ าเสีย
แต่ว่ากิติศพั ท์แห่งชัยชนะในแคว้นลอมบาร์ดีได้ทําให้หวั ใจของประชาชนนิยมชมช่ืนนโปเลยี น
จนไมม่ ใี ครกล้าทําร้ายนโปเลยี น
ในระยะเดยี วกนั นนั้ รัฐบาลก็ได้สง่ ซาลีเซตตีซ่งึ เป็ นคนคอร์ซิกนั มาตรวจกองทพั แต่ว่าน
โปเลยี นไม่เอาใจใสต่ ่อผ้แู ทนของรัฐบาลคนนี ้และตวั เองก็เป็ นผ้ทู ี่เซ็นสญั ญาสงบศกึ กบั แคว้น
ซาร์ดีเนียเองโดยตลอด นโปเลยี นได้แสดงตวั ให้เหน็ ชดั วา่ มคี วามเป็ นนกั การทตู ท่ีสาํ คญั คนหนึ่ง
ด้วย ถ้าฝ่ ายข้าศกึ จะเกี่ยงงอนตอ่ ล้อตอ่ เถียงนโปเลยี นก็จะหยบิ เอานาฬิกาขนึ ้ มาดแู ล้วจะพดู วา่
๐เมื่อไรจะเริ่มโจมตีอีก๑ เว้นเสียแต่คู่สญั ญาจะตกลงตามความต้องการ ๐ข้าพเจ้าอาจจะแพ้
สงคราม แต่ว่าข้าพเจ้าไม่ยอมเสียเวลา ไปด้วยความเชื่อมัน่ จนเกินไป หรือด้วยความเกียจ
คร้าน๑ และโดยสญั ญา สงบศึกฉบบั นี ้นโปเลียนก็ริบทรัพย์จบั เชลยของกษัตริย์นีไ้ ด้ตามความ
ปรารถนา และได้ทําความตกลงเจรจากบั เจ้าผ้คู รองนครในแคว้นตา่ ง ๆ อีก อนงึ่ ในเวลาอีกไม่
ช้าไมน่ านจากนี ้นโปเลยี นก็จะได้เข้าจดั การกบั โป๊ ปตอ่ ไป อีกด้วย
คณะกรรมาธิการทางกรุงปารีสได้เกิดความคิดขึน้ ว่า ควรจะส่งนายทหารชนั้ นายพล
๑๐๗
ออกไปอีกสกั คนหนึ่ง เพื่อเข้าร่วมบัญชาการทพั กบั นโปเลียนด้วย จึงได้ส่งนายพลแกลเลมัง
(Kellermann) มา สว่ นการเจรจาฝ่ ายการเมืองนนั้ ได้มอบหมายให้ซาลีเซตตีเป็ นผ้ตู กลงทวั่ ไป
คาํ สง่ั ฉบบั นไี ้ ด้มาถึงนโปเลยี นท่ีเมืองโลดีในวนั ทน่ี โปเลยี นกําลงั ทาํ การรบอยู่
ชยั ชนะที่เมืองโลดีเป็ นมลู ฐานทําให้นโปเลียนรู้สึกเป็ นครัง้ แรกในชีวิตท่ีเขามองเห็น
ความกว้างใหญ่ไพศาลของอนาคต ได้พดู กบั มารมองต์วา่ ๐ข้าพเจ้ารู้สกึ มีกิจทงั้ หลายซง่ึ กําลงั
รอข้าพเจ้าอยู่ และซ่ึงคนในรุ่นนีย้ งั มอง ไมเ่ ห็นว่าจะเป็ นเรื่องอะไร๑ ในภายหลงั ต่อมา เม่ือนโป
เลยี นได้หวนระลกึ ถึงเหตกุ ารณ์ในตอนนขี ้ นึ ้ เขายงั ได้พดู วา่ ๐ในคืนวนั นนั้ คือหลงั จากได้ชยั ชนะ
ที่ เมอื งโลดแี ล้ว ข้าพเจ้าได้เริ่มรู้สกึ วา่ ข้าพเจ้าเป็ นคนพิเศษ และตงั้ แต่บดั นนั้ มา ข้าพเจ้าก็รู้สกึ
ว่า มีความทะเยอทะยานท่ีจะทําการใหญ่โต ซ่ึงแตก่ ่อนนีข้ ้าพเจ้าก็เคยนึกแต่ว่า มนั เป็ นเพียง
ความนกึ ทค่ี ล้ายความฝันเทา่ นนั้ เอง๑
กําลงั ทอ่ี ารมณ์ฟ้ งุ ซา่ นอยกู่ บั ความมกั ใหญ่ใฝ่ สงู เช่นนี ้ก็พอดีคําสง่ั จากกรุงปารีสมาถึง
นโปเลยี นกําลงั คดิ จะปราบปรามทวีปตงั้ ๒-๓ ทวปี แตบ่ ดั นีค้ ณะรัฐบาลได้สง่ นายพลแกลเลมงั
มาร่วมด้วย นโปเลยี นรู้สกึ กล้มุ ใจ จึงเขียนตอบเป็ นคําขาดไปยงั รัฐบาลว่า ๐ถ้าท่านมากีดขวาง
หนทางของข้าพเจ้า และถ้าทา่ นทําให้ข้าพเจ้าต้องเสนอการกระทําของข้าพเจ้าต่อผ้แู ทนของ
รัฐบาล เสยี ก่อนทกุ คราวแล้ว ทา่ นจะหวงั ผลอะไรทีด่ จี ากข้าพเจ้าไม่ได้อีก ท่านจําเป็ น จะต้องมี
ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ในผู้นําทพั ถ้าหากว่าข้าพเจ้าไม่ได้รับ ความไว้วางใจเช่นนีแ้ ล้ว
ข้าพเจ้าก็คดิ วา่ ควรจะได้รับตาํ แหนง่ อื่นเสยี ดีกวา่ ทกุ คนยอ่ มจะมีวิธีทําการศกึ ของเขาเอง ทา่ น
นายพลแกลเลมงั มคี วามชํานาญ ในการศกึ มากกวา่ ข้าพเจ้า และอาจจะรบได้ดกี วา่ ข้าพเจ้า แต่
ถ้าเราทําด้วยกัน ๒ คน ก็กลบั จะเสียการไป ข้าพเจ้าไม่อาจจะรับใช้ประเทศของข้าพเจ้าได้
นอกจากจะได้รับความไว้วางใจอยา่ งเตม็ ท่ี ข้าพเจ้ารู้สกึ วา่ ต้องปลกุ กําลงั ใจให้กล้าเป็ นอยา่ งยิ่ง
แล้วจึงได้กล้าสามารถเขียนรายงานมาถึงท่านได้ เพราะว่าทา่ นอาจจะหาว่าข้าพเจ้าเป็ นคนมี
ความมกั ใหญ่ใฝ่ สงู และมีความทะนงตวั แต่ว่าท่านเองเป็ นผ้ทู ําให้ข้าพเจ้ามีความรู้สกึ เช่นนี ้
ข้าพเจ้าไม่สามารถจะทําการร่วมรบกบั บคุ คลซ่ึงถือตวั ว่าเป็ นแม่ทพั ที่ดีท่ีสดุ ในทวีปยุโรป แต่
อยา่ ลมื วา่ นายพลทเี่ ลวคนหนง่ึ ก็ยงั ดกี วา่ นายพลทดี่ ี ๒ คน๑
ถ้าหากวา่ คณะรัฐบาลในกรุงปารีสยงั ขืนจะบงั คบั ให้มีนายพล ๒ คนแล้ว ก็แน่นอนว่าน
โปเลยี นคงจะนําทพั ออกไปรบโดยไมฟ่ ังคําสงั่ อกี ตอ่ ไป และเม่ือมีชยั ชนะแล้ว ก็คงจะยกกองทพั
๑๐๘
กลบั ย้อนมาโจมตีประเทศฝร่ังเศสอีก และคว่ํารัฐบาลลง ตงั้ คณะรัฐบาลขึน้ ใหม่ เช่นนี ้ คณะ
รัฐบาลควรจะคิดว่า สมควรจะยอมตามนโปเลียน ด้วยเหตนุ ีเ้ มื่อนโปเลียนได้มีชยั ชนะอย่าง
ง่ายดายต่อคณะรัฐบาลอย่างนีแ้ ล้ว ก็เกิดความรู้สกึ ขนึ ้ วา่ ได้เป็ นฝ่ ายที่เป็ นตอ่ ตงั้ แต่นีต้ อ่ ไปน
โปเลียนก็ประพฤติตวั เหมือนหนึง่ วา่ เป็ นพระเจ้าแผ่นดิน ผ้ซู ึง่ เป็ นแม่ทพั ในกองทพั ของเขาเอง
แต่ว่าก็ยงั งอนง้อขอกองทนุ และเคร่ืองยุทธสมั ภาระเสบียงอาหารต่าง ๆ จากคณะรัฐบาลอยู่
เสมอ นโปเลียนยงั คงเขียนรายงานประพฤติเหตุท่ีเป็ นไป ทุกระยะไปยังคณะรัฐบาลในฐาน
ผ้นู ้อย มาถึงผู้บญั ชาการเหมือนดงั่ ที่เคยมา แต่ถ้าว่าเวลาปฏิบตั ิการจริง ๆ แล้ว งานก็วางตวั
เหมือนหนง่ึ วา่ เป็ นพระเจ้าแผน่ ดนิ เสยี เองอยา่ งนนั้
ได้มีการฉลองชยั ชนะขึน้ ในเมืองมิลาน และในการนี ้นโปเลียนได้แตง่ พิธีการเอาอย่าง
พวกนายพลชาวโรมนั ในการฉลองชยั ชนะ คือจดั ขบวนให้พวกเชลยเดนิ นําไปข้างหน้า หากแต่มี
ข้อแตกต่างอยู่ นนั่ คือ พวกเชลยเหลา่ นีไ้ มต่ ้องถกู ลา่ มโซ่ แล้วก็จดั กองทหารหน้าจํานวน ๕๐๐
เดินตามพวกเชลยไป พวกชาวเมืองตา่ ง ๆ เคยได้เห็นแตท่ หารเดิน แถวแตง่ เครื่องแบบท่ีสดใส
งดงาม เมือ่ ได้มาเห็นอยา่ งนกี ้ ็ประหลาดใจ พวกทหารฝร่ังเศสทงั้ ขบวนสวมเสอื ้ เก่ากะรุ่งกะร่ิงสี
ตกกระดํากระดา่ ง และยิ่งกว่านนั้ เม่ือเห็นคนผอมร่างเล็กขี่ม้าขาวดูไม่ค่อยมีสง่าราศีอะไร นํา
ขบวนกองทหารเหลา่ นอี ้ ยู่ เมอ่ื ไปถงึ ประตเู มืองมลิ านแล้วทา่ นอ๊าร์ชบิชอบผ้เู ฒ่า พรั่งพร้อมด้วย
ขนุ นางราชบริพารชนั้ สงู ก็พากนั ต้อนรับนโปเลยี น นโปเลยี นได้ก้าวลงจากหลงั ม้า แตว่ ่ามิได้เข้า
มาใกล้กบั คณะผ้ตู ้อนรับนนั้ เพียงแต่หยดุ ยืนน่ิงสงบฟังด้วยความสภุ าพตอ่ ถ้อยคําต้อนรับของ
คณะขนุ นางนนั้ ประชาชนผ้มู งุ ดอู ย่นู นั้ ตา่ งก็พากนั ประหลาดใจ และนกึ ว่าเขาจะกลา่ วตอบวา่
กระไร นโปเลยี นหบุ ปากน่ิงสนิท ครัน้ แล้วก็กลา่ วเพียงประโยคสนั้ ๆ ประโยคเดียววา่ ๐ประเทศ
ฝรั่งเศสมีความตงั้ ใจขอให้ชาวลอมบาร์ดีมีความสขุ ความเจริญ๑ ครัน้ แล้วนโปเลยี นก็ขนึ ้ ม้านํา
ขบวนทหารเดินตอ่ ไปโดยความสงบ-สภุ าพ
บรรดาขนุ นางและประชาชนตา่ งพากนั ประหลาดใจมาก โดยท่ที า่ นแมท่ พั ผ้นู ีไ้ มม่ ีความ
เยอ่ หย่งิ อยใู่ นตวั เลย หากแตเ่ ป็ นผ้มู ีลกั ษณะมีความตงั้ ใจเดด็ เด่ยี ว นโปเลยี นได้พกั อยใู่ นวงั ของ
ทา่ นอ๊าร์ชบิซอบ ในตอนเย็นวนั นนั้ ได้มีการฉลองต้อนรับ ซงึ่ นโปเลยี นได้พดู วา่ ๐ทา่ นทงั้ หลายจะ
ได้รับเสรีภาพ มิลานจะได้เป็ นเมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐใหม่นี ้ซึ่งมีประชากรพลเมือง ๕ ล้าน
คน จะมีปื นใหญ่ ๕๐๐ กระบอก มีความค้มุ ครองของประเทศฝรั่งเศส ข้าพเจ้าจะเลือกจากท่าน
๑๐๙
๕๐ คน เพื่อปกครองประเทศนีใ้ นนามของประเทศฝรั่งเศส ท่านจงเอากฎหมายฝร่ังเศสไปใช้
ดัดแปลงให้ เหมาะแก่ประเพณีของท่าน จงตัง้ อยู่ในความสามัคคีและปกครองอาณา
ประชาราษฎร์โดยความสงบราบคาบ ท่ัวทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็ นไปด้วยดี ถ้าหากว่าพวก
ฮับสบูร์ก (Hubsburg) จะมาตีลอมบาร์ดีแล้ว ข้าพเจ้าขอให้สัตย์ปฏิญญาว่า ข้าพเจ้ าจะ
ช่วยเหลือและไม่ละทิง้ ท่าน ถ้าแม้ว่าดินของท่านต้องลม่ จมไป ข้าพเจ้าก็จะไม่มีชีวิตอยตู่ ่อไป
อกี ๑
ตลอดคืนนัน้ ในเมืองมิลาน ก็เต็มไปด้วยประทีปโคมไฟสลบั สี เสียงดนตรีบรรเลง
ครึกครืน้ เป็ นที่ร่าเริง แมท่ พั หนมุ่ ได้ย้ายไปอย่ทู ี่วงั ปาลสั โซ เซอร์เบลโลนี (Palazzo Serbelloni)
การเลยี ้ งดูต้อนรับได้สิน้ สดุ ลงแล้ว แต่นโปเลียนกําลงั คิดคะนึงอย่ทู ่ีหน้าต่าง นโปเลียนพดู กับ
ผ้ชู ว่ ยของเขาวา่ ๐ชาวปารีสจะบน่ ถึงเราวา่ กระไรบ้าง ทา่ นนกึ วา่ เขาจะมีความพอใจหรือไม๑่ เมื่อ
มารมองต์ตอบวา่ เป็ นการแนน่ อนที่ชาวปารีสจะต้องดีใจ แล้วนโปเลียนได้กลา่ วขนึ ้ อีก ๐แต่ชาว
ปารีสยงั ไมเ่ ห็นอะไรมากนกั อนาคตยงั มีชยั ชนะที่ย่ิงใหญ่กวา่ นี ้เทพเจ้าแหง่ โชคได้ยิม้ ต้อนรับ
ข้าพเจ้า เธอยิ่งช่วยข้าพเจ้ามากเทา่ ไร ข้าพเจ้าก็ยิ่งขอร้ องเทพเจ้ามากขนึ ้ ในไม่ช้าเราก็จะถึง
แมน่ ํา้ อาดิจ (Adige) และอิตาลีก็จะได้หมอบราบคาบแก้ว แล้วเราอาจจะข้ามแม่นํา้ นนั้ ต่อไป
อีกก็ได้ ในยุคสมยั แห่งเรานีย้ งั ไม่มีปรากฏอะไรดีเด่นรุ่งโรจน์เลย ข้าพเจ้าต้องการจะทําเป็ น
ตวั อยา่ งไว้๑
๑๑๐
ชธู งข้ามสะพานที่สมภมู อิ าโคลา
๑๑๑
บทท่ี ๑๓
มลู ฐานแห่งชัยชนะ
นโปเลยี นได้ประสบแต่ชัยชนะเกือบท่วั ทุกแคว้นแล้วในอิตาลี ทงั้ ยงั สามารถมีชยั ได้อย่าง
นา่ พิศวง พจิ ารณาแล้วก็แทบจะกลา่ วได้วา่ เกือบจะเป็ นเร่ืองทเ่ี กินความจริงอนั มนษุ ย์เดินดินจะ
สามารถทาํ ได้ถงึ เชน่ นี ้
ในการทัพครัง้ นนั้ ว่าเฉพาะตัวนโปเลียนเอง นโปเลียนเป็ นคนแข็งแรงทงั้ กําลงั กาย
เข้มแข็ง ทงั้ กําลงั ใจ สขุ ภาพสว่ นร่างกายกําลงั สมบรู ณ์อยใู่ นวยั หนมุ่ เต็มตวั ๒๗ ปี สามารถที่จะ
ทนนง่ั อยกู่ บั อานบนหลงั ม้าได้นานเป็ นพิเศษกวา่ คนอื่นโดยมิได้เกิดความเหน็ดเหน่ือยเม่ือยล้า
อีกอยา่ งหน่ึงท่ีนโปเลียนมีเป็ นพิเศษอย่ดู ้วย คือสามารถท่ีจะหลับสนิทได้ในทกุ ๆ ขณะ ทุก ๆ
โอกาส และโดยทํานองเดียวกนั จะต่ืนขนึ ้ ได้ทนั ทีเมื่อต้องการต่ืน บางครัง้ บางคราวในระหวา่ ง
ปฏิบตั ิการอยนู่ นั้ ถ้านโปเลยี นต้องการที่จะหลบั ในฉบั พลนั ทนั ทีทนั ใดเมื่อใด ก็ฉวยโอกาสหลบั
ได้ในฉบั พลนั ทนั ทนี นั้ เป็ นการหากําไรออมแรงได้ดที ่สี ดุ อีกประการหน่ึงเลา่ เรื่องอาหารการกิน
นโปเลยี นกินได้ทกุ อยา่ ง ง่าย ๆ ไมพ่ ิถีพกิ นั ในอาหาร เทา่ ใดนกั สาํ คญั ทสี่ ดุ ในเร่ืองนกี ้ ็คือวา่ นโป
เลยี นยงั มีสขุ ภาพสว่ นท้องดี คือสามารถย่อย อาหารทกุ ชนิดได้ และแม้ว่าจะอดบ้างได้กินบ้าง
ผดิ ปกติอย่างใดก็ไมเ่ กิด อนั ตรายหรือไข้เจ็บ เป็ นผ้ทู ี่มีดวงตาแจ่มใสมองเห็นทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งได้
ชัดช่วง เก็บสิ่งที่เข้ามาสมั ผสั ได้ละเอียดลออ ซ่ึงเป็ นเหตุช่วยสนับสนุนประกอบ คุณสมบัติ
ในทางสงั เกตได้อยา่ งดีมาก
แตเ่ ป็ นความจริงอยอู่ กี อยา่ งหนงึ่ วา่ ถ้าแม้วา่ เป็ นสมยั กอ่ นการปฏิวตั นิ แี ้ ล้ว โอกาสแสดง
ความสามารถได้อย่างเต็มท่ีนีจ้ ะไมป่ รากฏแก่นโปเลยี นเลย การปฏิวตั ิทําให้ความรู้สึกนึกคิด
ของนโปเลยี นเป็ นเสรี กอ่ ให้เกิดความรู้สกึ เสมอภาค และประชาชนก็นิยมคนเก่งทส่ี ามารถจะทํา
การ ได้จริง ๆ โดยไมต่ ้องเลอื กวา่ จะเป็ นคนในตระกลู ตา่ํ หรือสงู อยา่ งใด
อน่ึง บุญคุณของการปฏิวัติท่ีมีแก่นโปเลียนมากมาย ก็ได้แก่การที่ นโปเลียนได้รับ
ตําแหน่งสงู มีอํานาจเต็มและเด็ดขาดอนั เกี่ยวแก่การบงั คบั บญั ชางาน การทําศึกครัง้ นีน้ โป
เลยี นจงึ บญั ชาการทพั ได้อยา่ งเตม็ ประสทิ ธิภาพด้วยความเดด็ ขาดของนโปเลยี นเอง
๑๑๒
ทหารร่วมรบในวงงานของนโปเลยี นเลา่ ทงั้ หมดด้วยกนั มีคนแก่ อยคู่ นเดียวคือ แบร์ตี
เอร์ท่ีเป็ นอยา่ งแก่ท่ีสดุ คืออายุ ๔๒ ปี ซงึ่ นโปเลยี น ด้รับช่วงมาจากแมท่ พั ภาคอิตาลคี นก่อน แบร์
ตเิ อร์ผ้นู รี ้ อบรู้ภมู ปิ ระเทศ ในแคว้นทงั้ หลายของภาคอติ าลเี ป็ นอย่างดี และนโปเลียนก็ได้ใช้งาน
บคุ คลผ้นู ีต้ ลอดมา ทงั้ เขาผ้นู ีย้ งั ได้เป็ นหวั หน้าคณะทหารฝ่ ายเสนาธิการ ของนโปเลียนอย่ถู ึง
๒๐ ปี เศษ คนที่ ๒ ตอ่ มา มซั เซนาผ้มู ีความรู้สกึ รุนแรงร้อนรุ่ม คนๆ นีเ้ ดิมเป็ นเด็กพเนจรร่อนเร่
และได้เคยเป็ นเด็กรับใช้ประจําเรือ เคยเข้ารับราชการทหารในสมยั สมบรู ณาญาสทิ ธิราชย์ครัง้
วงศ์บรู ์บอง แตม่ ีตําแหนง่ ยศยงั ไม่ถึงชนั้ จ่านายสบิ ตอ่ มาภายในเวลาเพียง ๒-๓ สปั ดาห์นี่เอง
ได้กลบั กลายเป็ นนายทหารชนั้ นายพลไป อีกคนหน่ึงเป็ นคนท่ี ๓ คนนีช้ ่ือโอเยโร นิสยั ขีค้ ุยโอ่
กะลอ่ น เคยเป็ นทงั้ นกั ผจญภยั และมหาโจร และเคยหนีทพั มาแล้วแตค่ รัง้ ก่อน เหลา่ นีแ้ ตล่ ะคน
เสมอื นล้วนถกู ฉดุ ขนึ ้ มา จากก้นเหวแหง่ สงั คม และนโปเลยี นซง่ึ หนมุ่ แนน่ ได้ทําให้พวกเขาได้เป็ น
นายทหารชนั้ นายพลไปตาม ๆ กนั อนง่ึ ในการตอ่ ไปเลา่ ก็ยงั ได้แตง่ ตงั้ ให้เป็ นถึงเจ้าชาย เป็ นดยุ๊
คประจําแคว้นตา่ ง ๆ อกี ด้วย
ในรายงานทกุ ๆ ฉบบั ที่นโปเลียนสง่ ไปยงั คณะกรรมาธิการราษฎร นโปเลียนได้เสนอ
ความดีความชอบและขอตําแหน่งยศคนเหลา่ นีห้ ลงั จากได้ทําการรบมา ๓ ครัง้ แล้วด้วยความ
กล้าหาญชาญชยั แม้พลทหารแม่นปื นก็ได้เล่อื นขนึ ้ ยศเป็ นนายพนั เอก ทงั้ ยงั มีหวงั ได้อีกว่า จะ
ได้เลอื่ นในตาํ เแหนง่ ทสี่ งู ๆ ขนึ ้ ไปอกี แตก่ ็ได้มีชนั้ นายพลหลายคนท่ีรับช่วงมาจากแม่ทพั คนเก่า
ถกู ปลดไป พร้อมทงั้ ให้ข้อพจิ ารณาอยา่ งรุนแรงวา่ คนเหลา่ นดี ้ ีสาํ หรับจะนงั่ ประจําทาํ งานอยกู่ บั
โต๊ะ ไม่รู้การศึก จะออกรบในสนามไม่สมควร ในบรรดานายทหารแม้ว่าได้ทําการพ่ายแพ้มา
นโปเลียนได้ว่ากล่าวเป็ นที่รุนแรง นโปเลียนเคยพูดกับมสั เชนาว่า ๐วิถีแห่งโชคชะตาในการ
สงครามยอ่ มผนั แปรเปลย่ี นแปลงไปทกุ วนั พรุ่งนีห้ รือวนั ตอ่ ไป เราก็จะได้ชยั ชนะและเอาสงิ่ ที่แพ้
นนั้ กลบั คืนมา๑ แต่ถ้ากองพลไหนปฏิบตั ิงานไม่ส้จู ะดี ก็เรียกมาแนะนําสง่ั สอน นโปเลียนได้
กลา่ วเกร่ินไว้ในทํานองวา่ จะเขียนคําเยาะเย้ยติดไว้ที่ธงประจํากอง ดงั นี ้ทหารทงั้ หลายตา่ งก็
เช่ือฟังบงั คบั บญั ชาของนโปเลยี นเป็ นอยา่ งดี ได้พากนั เปลง่ เสยี งอยา่ งเดยี วกนั วา่ ๐พรุ่งนเี ้ถิดเรา
จะขอนําหน้าทพั ไปรบ๑ และถ้อยคําอื่น ๆ อีกอนั ล้วนแต่แสดงถึงความมีกําลงั ใจดีของเหล่า
ทหารทงั้ สนิ ้ เมื่อทหารเหลา่ นีม้ ีชยั รบชนะมา นโปเลียนก็สรรเสริญและนบั ถือวา่ เป็ นเพ่ือนร่วม
ตายของนโปเลียน เม่ืออยา่ งนีแ้ ล้วกองทพั ภายใต้บงั คบั บญั ชาของนโปเลียนจึงเป็ นกองทพั ที่มี
๑๑๓
เหล่าทหารนกั รบท่ีเก่งกล้าสามารถ ประกอบด้วยกําลงั ใจเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวแทบทว่ั ทกุ ตวั คน
พร้อมทจ่ี ะหกั โหมโรมรันจ่เู ข้าเอาชยั ชนะได้ในทกุ โอกาส และก็โดยวิธีนีเ้ อง นโปเลียนก็ได้เป็ นผู้
ควบคมุ และเป็ นผ้นู าํ ของทหารแหง่ สาธารณรัฐ
ทีนีล้ องหันไปดูกําลังของฝ่ ายข้าศึก กองทัพออสเตรียนนั้ จําจะต้องใช้ทหารอย่าง
กระเหมด็ กระแหม่และประหยดั ที่สดุ เพราะเหตุวา่ ลวั นแตเ่ ป็ นทหารจ้างทงั้ สนิ ้ และต้องจ้างมา
เป็ นราคาคา่ ตวั แพง ๆ ถ้าเมื่อตายลงแล้วก็ยากท่ีจะหาใหม่มาเพ่ิมแทนได้ง่าย ๆ สว่ นมากของ
ทหารจ้างเหลา่ นเี ้ลอื กคดั มาจากแคว้นตา่ ง ๆ ในเยอรมนั ที่เสียยิ่งขนึ ้ ไปอีกก็คือ ใช้ภาษาพดู กนั
ถึง ๖ ภาษา แม้แต่คนที่รวมกนั ในกองทพั เดียว ยงั พูดต่างกันไปถึง ๖ ภาษาเช่นนี ้ก่อให้เกิด
ความคดิ ความเหน็ ไมค่ อ่ ยลงรอยทวั่ กนั ทงั้ กองทพั เพราะพดู กนั ไมค่ ่อยจะรู้เร่ีองนน่ั เอง เป็ นการ
ตรงกนั ข้ามกบั ทพั ฝ่ ายฝรั่งเศสที่ทําการรบอย่างมีวินยั คือพร้ อมที่จะยืนหยดั เหมือนเป็ นคน ๆ
เดียวกนั ต่อส้ใู นท่ามกลางศึกทวั่ ทงั้ ๓๐ ล้านคน และกองทพั ฝร่ังเศสยงั มีทางท่ีจะเรียกคนมา
เป็ นทหารเพ่มิ เตมิ ได้อกี เร่ือย ๆ อีกตงั้ ๒๐ปี ก็ได้ไมย่ าก
ผู้นําทพั ฝ่ ายออสเตรีย มีท่านอ๊าร์ชดยุ๊คชาร์ลส์ ผู้ซึ่งมีสนั จมูกงดงาม ตามแบบของ
เจ้านายราชวงศ์ฮบั สบรู ์ก ได้รับการศกึ ษามาอยา่ งดี มคี วามรู้สงู แตไ่ มค่ อ่ ยพยายามท่ีจะลว่ งรู้ใจ
คอของคนในบงั คบั บญั ชา คือขาดลกั ษณะ ในการกําหนดในบคุ คลในฐานะของคนท่ีจะบงั คบั
บญั ชาคนมาก ๆ เช่นนนั้ สว่ นโบลเิ ออแมท่ พั ออสเตรียเลา่ ก็เป็ นคนแก่อายถุ ึง ๗๒ ปี นายพลอีก
คนหน่ึงช่ือคอลลี ก็เป็ นโรคขดั ข้อเหมือนเป็ นคนทพุ พลภาพ ต้องคอยมีคนพยุง ไปในระหว่าง
บญั ชาการรบ อลั วินซีก็อีกคนหน่งึ อายกุ ็ล่วงพ้นวยั ๖๐ เศษ ถึงแม้พระเจ้าแผ่นดินแห่งแคว้น
ซาร์ดีเนียเองก็ทรงพระชราแล้ว ยงั มีนายพลวมู แซร์ก็เป็ นคนหหู นวก และทงั้ เงอะงะ ทงั้ ง่นุ ง่าน
ต่างมีอายุเข้าส่เู กณฑ์ชราภาพ แล้วยงั เป็ นคนรอบคอบไปเสียทุกส่ิงทกุ อย่าง ๐รอบคอบ๑ จน
กลายเป็ นคนจุกจิกตดั สินใจโอ้เอ้ ทําอะไรรีรอไมท่ นั กิน อยา่ งนีห้ รือ ที่จะไปส้รู บตบมือกบั นาย
ทพั ที่หนมุ่ แนน่ และล้วนแต่หน่มุ ๆ ทงั้ กองทพั มีเก่าท่ีสดุ ในกองทพั ฝรั่งเศสคนเดียวเทา่ นนั้ ก็คือ
นายพลแบร์ตีเอร์ท่ีมีอายุ ๔๒ ปี กระนนั้ ก็ยงั ทําหน้าที่ฝ่ ายเสนาธิการร่วมวงได้ดี ด้วยประการ
ฉะนี ้การทพั ของทงั้ สองฝ่ ายในครัง้ นีจ้ ึงเป็ นต่อเป็ นรองกนั อยู่ ยงั สว่ นดีข้างประโยชน์ฝ่ ายนโป
เลียนอย่อู ีกคือ ประชาชนพลเมืองในแคว้นลอมบาร์ดี อนั เป็ นข้าศกึ ได้กลิ่นไอของเสรีภาพและ
เสมอภาคจากฝร่ังเศส ก็พากนั นิยมชมชอบใคร่ที่จะมีสภาพเป็ นเช่นนนั้ บ้าง นโปเลียนเมื่อขณะ
๑๑๔
ปราบปรามแคว้น ลอมบาร์ดีอยู่ ได้ออกแถลงการณ์ประกาศแก่พลเมืองหลายฉบบั ข้อความ
เป็ นไปในทํานองวา่ ที่นโปเลียนมารบนีก้ ็เพ่ือปราบปรามสมบรู ณาญาสิทธิราช ช่วยให้พลเมือง
พ้นจากอาํ นาจของราชวงศ์ฮบั สบรู ์ก จากกษัตริย์แหง่ ซาร์ดีเนีย และจากพวกพระและรวมทงั้ เจ้า
ผู้ปกครองนครอ่ืน ๆ ทัง้ หลาย ฉะนี ้ พวกพลเมืองที่ได้รับความเดือดร้ อน ทัง้ ได้กล่ินไอแห่ง
เสรีภาพอยบู่ ้างแล้ว เม่ือทราบความข้อนเี ้ข้าก็พากนั พลอยยินดีชมชื่น เพราะถือวา่ เป็ นเหตปุ ลด
แอก อนั หนกั จากราชาธิปไตยออกให้พ้นไปจากบา่ กนั เสียที แท้จริงพลเมืองเหลา่ นี ้ตา่ งก็ได้ยิน
ได้ฟังกระเซ็นกระสายของการปฏิวัตินีม้ าบ้างแล้ว เคยมีพวก นักเรียนและพวกต้องการ
อสิ ระภาพคณะตา่ ง ๆ คดิ จะรวมอติ าลที ี่ได้แตกแยก เป็ นแคว้นเลก็ แคว้นน้อยให้รวมเป็ นอนั หนง่ึ
อนั เดยี วกนั อยบู่ ้าง แล้วจงึ พร้อมท่จี ะคอยต้อนรับกองทพั นโปเลยี นที่บกุ รุกเข้ามา โดยเช่ือว่า คง
จะได้มาเพื่อให้พวกเขาได้รับได้เรียนรู้ถงึ ความอิสรเสรีตามท่ีปรารถนาไว้
อีกประการหนึง่ เลา่ นโปเลยี นมีสายเลือดท่ีเป็ นอิตาเลียน ชื่อ ๐นโปเลียน๑ ก็เป็ นภาษาอิ
ตาเลยี น ทงั้ คาํ พดู ก็เป็ นภาษาอิตาเลยี นแท้ ๆ ฉะนนั้ จงึ เป็ นอีกเหตหุ นง่ึ ท่ีทําให้พวกอิตาเลียนลืม
ไปเสียว่า นโปเลียนนนั้ ท่ีแท้ก็คือแม่ทพั ฝรั่งเศสซึ่งเป็ นข้าศึกกับอิตาลีโดยตรง แต่อย่างไรก็ดี
นโปเลียนได้บงั คบั บญั ชาทหารฝรั่งเศสที่ได้เข้าไปอย่ใู นแคว้นนนั้ ๆ ด้วยลกั ษณะท่ีมีระเบียบ
และวินยั เป็ นอยา่ งดที สี่ ดุ เป็ นเหตใุ ห้พลเมืองของแคว้นนนั้ นยิ มและเลอ่ื มใส
การศกึ เป็ นตอ่ เป็ นรองกนั อยมู่ าก ดงั ได้กลา่ วแล้ว เชิงชนั้ ของกองทพั ทางฝ่ ายนโปเลยี น
ได้เปรียบทางฝ่ ายกองทพั อติ าลเี ป็ นหลายแงห่ ลายประตฉู ะนี ้
นโปเลยี นก็ได้ประสบแตช่ ยั ชนะเกือบทวั่ ทกุ แคว้นแล้วในอติ าลี ได้ทําความมีชยั ประสบ
ความสําเร็จได้อย่างน่าพิศวง ซึ่งนับว่าเป็ นการเกินวิสยั ของสามญั มนุษย์จะทําได้ นอกจาก
มนษุ ย์ผ้มู คี วามสามารถ เป็ นพิเศษกวา่ มนษุ ย์อ่ืนทงั้ หลายเทา่ นนั้ แตเ่ พียงศกึ เทา่ นีย้ งั ไมห่ นกั นกั
สาํ หรับคนอยา่ ง นโปเลยี น ข้างหน้าสงครามยงั ใหญ่ยงิ่ เป็ นสงครามที่นโปเลยี นจะต้องรบรับขบั
ผจญไปด้วยความปรีชาสามารถทกุ ๆ ระยะศกึ
การพากองทพั เข้าเมอื งเชลยครัง้ นนั้ ในตอนต้น ๆ พวกทหารในกองทพั ของนโปเลียนก็
ได้มีเร่ืองไปเที่ยวก่อเหตุเดือดร้ อนแก่ประชาชน ในแคว้นท่ียึดได้นัน้ อยู่บ้าง โดยได้เท่ียว
ปล้นสะดมทรัพย์สมบตั ิมีค่า ของราษฎร แต่ก็เป็ นอย่ชู ั่วระยะหนึ่งเท่านนั้ นโปเลียนได้เขียน
จดหมาย ถึงครอบครัว เลา่ ถึงเหตกุ ารณ์ระยะนวี ้ า่ ๐การปล้นสะดมได้คอ่ ยลดน้อยลงทกุ ๆ ระยะ
๑๑๕
ความกระหายของกองทพั ซง่ึ ได้เคยขาดแคลนมาทกุ ส่งิ ทกุ อย่าง มาตงั้ แตต่ ้นก็ คอ่ ยบริบรู ณ์ขนึ ้
บ้าง ที่จริงก็นา่ เหน็ ใจพวกตกทกุ ข์ได้ยากเหลา่ นี ้เพราะพวกทหารเหลา่ นีไ้ ด้เดินทพั ข้ามภเู ขามา
ด้วยความเหน่ือยยากทรุ กนั ดาร และบดั นขี ้ ้าพเจ้าได้พาเขาให้เข้ามายงั บ้านเมอื งทอ่ี ดุ มสมบรู ณ์
อย่างทุกประการแล้ว จึงพวกทหารท่ีเคยอดอยากยากแค้นมาเแล้วก็ย่อมจะทําการใด ๆ
ทงั้ หลายเกินเลยไปอนั เป็ นเหตทุ าํ ให้เป็ นทีน่ า่ ละอายอยบู่ ้าง แตข่ ้าพเจ้าตงั้ ใจว่าจะทําความสงบ
เรียบร้อยให้ได้ในไมช่ ้านี ้ทงั้ ข้าพเจ้าเองก็ยดึ มน่ั ในใจวา่ จะไมย่ อมเป็ นหวั หน้าพวกมหาโจรเข้า
ปล้นบ้านเมอื งเขาอยา่ งไร้ระเบียบวินยั เป็ นอนั ขาด วนั พรุ่งนีข้ ้าพเจ้าจะสง่ั ยิงเป้ าพลทหาร ๒-๓
คน กบั นายสบิ อีกคนหนง่ึ ฐานเข้าปล้นเคร่ืองเงิน จากโบสถ์แหง่ หนงึ่ และหวงั ไว้วา่ จากนนั้ อีกสกั
๒ หรือ ๓ วนั ระเบียบวินยั ของกองทพั คงจะดีขนึ ้ ๆ เป็ นลําดบั อิตาลีงวยงงในความกล้าหาญ
ของทหารเราและจะยง่ิ ประหลาดใจขนึ ้ ทท่ี หารกล้าขอเราเหลา่ นมี ้ ีความประพฤติดอี กี ด้วย ทหาร
ของเราทําการบางครัง้ รู้สกึ วา่ ทารุณและเหยี ้ มโหดเกินไปหนอ่ ย แตถ่ ้าวา่ ข้าศกึ ท่ถี อยหนีไปนัน้ ก็
มคี วามโหดร้ายไมน่ ้อยไปกวา่ เราเลยดจุ กนั ๑
นโปเลียนออกประกาศแก่บรรดาทหารว่า ๐จงปฏิญาณและสาบานว่า จะไม่ทําความ
เดือดร้อนแก่ประชาชนซงึ่ พวกท่านได้มาช่วยปลดปลอ่ ย ช่วยให้เขาได้อิสรภาพ มิฉะนนั้ ท่านก็
จะเป็ นท่ีชิงชงั และถกู สาปแช่ง จากพวกประชาชน ชัยชนะของท่าน ความกล้าหาญของท่าน
เลอื ดเนือ้ พี่น้องทหารร่วมสขุ ของเราก็จะเสียไปโดยเปลา่ ประโยชน์ ทงั้ ข้าพเจ้าและบรรดา นาย
พลทงั้ หลายจะไมย่ อมเป็ นผ้นู ํากองทพั ซง่ึ ขาดระเบียบวินยั อนั ดีเช่นนี ้เป็ นอนั ขาด๑
แตแ่ ม้วา่ จะได้กลา่ วประกาศไปดงั นแี ้ ล้วก็ดี การปล้นสะดมก็ยงั มีอยปู่ ระปราย นโปเลียน
จึงมีคําสง่ั สําทบั ให้นายพลมีอํานาจยิงเป้ าทหารทกุ คนที่ไม่นําทรัพย์วตั ถุที่ปล้นมาได้คืนให้แก่
กองทพั ภายใน ๒๔ ชวั่ โมง
การจลาจลและการตอ่ ส้ขู องข้าศกึ ยงั มกี ระเสน็ กระสายอยู่ คอื พวกพระพวกขนุ นางและ
พวกผ้แู ทนของเจ้าผ้คู รองนครตา่ ง ๆ ได้ยยุ งให้เมือง ๆ หนงึ่ ขดั ขืน นโปเลยี นก็ยิงเสียอยา่ งไม่ไว้
หน้า เป็ นการตอบแทนด้วยความ ดรุ ้าย แตก่ ารกระทาํ อยา่ งรุนแรงชนดิ นีก้ ็ได้ลดน้อยลง ๆ ทกุ ที
นโปเลียนเม่ือได้เข้าไปในเมืองแล้วก็พยายามสืบหาผู้เป็ นใหญ่ที่เป็ นที่นับถือของ
พลเมือง เกลยี ้ กลอ่ มให้เป็ นปากเสยี งสนบั สนนุ นโปเลยี น ทงั้ นโปเลียนเองก็เป็ นผ้ทู ่ีรู้อปุ นิสยั ของ
ชนชาวอิตาเลียนดีอยู่ ได้พูดปลุกป่ันราษฎรให้หวนรําลึกถึงความยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษใน
๑๑๖
ประวตั ิศาสตร์ชาวโรมัน ๐ประชาชนชาวอิตาเลียนทงั้ หลาย ท่ีกองทพั ฝร่ังเศสมานี ้ก็เพื่อที่จะ
ทําลายโซ่ตรวนของท่าน กองทัพฝร่ังเศสเป็ นเพ่ือนของพลเมือง ทุกคน ขอให้ท่านมีความ
ไว้วางใจ ทรัพย์สมบตั ขิ องทา่ น ประเพณีของทา่ น ศาสนาทเี่ คารพของทา่ น จะได้รับความเคารพ
ยกยอ่ งจากเราเป็ นอยา่ งดีท่ีสดุ ๑
แท้จริงการศึกครัง้ นี ้นโปเลยี นได้อาศยั ความรู้ในวิชาประวตั ิศาสตร์ ช่วยทําประโยชน์
เป็ นอเนกประการ ทาํ ให้ประชาชน อิตาเลยี นหนั เข้าร่วมมอื สนบั สนนุ ด้วยเป็ นอย่างดี นโปเลยี น
ได้ตวั อย่างต่าง ๆ ในประวตั ิศาสตร์ มาช่วยมโนคติจัดการแก้ไขเหตุการณ์ท่ีเกิดในปัจจุบัน
กระทาํ ให้เป็ นผ้มู ีความฉบั ไวไหวพริบทนั แก่เหตอุ ย่ทู กุ ๆ ระยะ ทงั้ ได้พยายามทําเอาดีกว่าผ้ทู ี่มี
ช่ือเสยี งมาแล้วในประวตั ิศาสตร์ด้วย
ขยั ชนะครัง้ แรกของนโปเลยี นทงั้ หมดนี ้ทแ่ี ท้ก็เป็ นแต่การสู้รบฆ่าฟันกนั อย่างประปราย
เทา่ นนั้ แตว่ า่ นโปเลยี นได้ใช้คําพดู มาแปลงความมีขยั เหลา่ นีใ้ ห้กลายเป็ นความรุ่งโรจน์ลวงตา
เสยี มากกวา่ ความสาํ เร็จของ นโปเลยี นครัง้ นี ้คร่ึงหนึ่งจึงเป็ นความสาํ เร็จด้วยเล่ห์ลนิ ้ ในเชิงพดู
แท้ ๆ ในคําประกาศของนโปเลยี น กลา่ วแก่กองทพั ซง่ึ ในขณะนนั้ ยงั อย่ใู นเมืองมิลานว่า ๐ทหาร
ทงั้ หลาย ทา่ นได้พากนั ยกพยหุ ะลงมาจากภเู ขาเแอลปส์ เป็ นแถวเป็ นแนวเหมอื นกระแสนาํ ้ เช่ียว
มิลานอยใู่ นกํามือของทา่ นแล้ว พวกเราเป็ นเพ่ือนของประชาชน แตว่ า่ ทยี่ ่ิงใหญ่ไปกวา่ นกี ้ ็คือว่า
เราเป็ นเพื่อนของทายาทผู้รับมรดกมาจากบรูตสั และสปิ ิ โอ (Brutus and Seipio) และวีรบรุ ุษ
ทงั้ หลายแหง่ กรุงโรม ท่านทงั้ หลายสมควรได้รับช่ือเสียงเกียรติประวตั ิไปชวั่ กาลนาน ซ่ึงคนรุ่น
หลงั จะพากนั พศิ วงงงงวยในชยั ชนะอนั ใหญ่หลวงของทา่ น เม่อื ทา่ นกลบั ไปบ้านแล้ว พวกเพื่อน
บ้านของทา่ นก็จะพากนั ชื่นชมวา่ ทา่ นเป็ นคนที่ได้ไปในการทพั ภาคอิตาล๑ี
ไม่เคยมีผ้นู ําทพั คนหนึ่งคนใดท่ีเคยพดู แก่ทหาร แก่ประชาชน แก่เพ่ือน และแม้แต่แก่
ศตั รูเหมือนกบั นโปเลยี นนี ้นโปเลยี นยงั รู้จกั วธิ ีจะทาํ ให้คนทงั้ หลายเห็นด้วยกบั ตน โดยการปลกุ
ปั่นอารมณ์ของคนเหลา่ นนั้ นโปเลยี นได้ร้องบอกแก่ทหารที่เมืองอาโกลา (Arcola) วา่ ทานเป็ น
คนขลาดหรือ พวกทา่ นน่ีแหละเคยเป็ นผ้ชู นะทเ่ี มอื งโลดี๑
ครัน้ เม่ือมีชัยที่เมืองอาโกลาแล้ว นโปเลียนก็เร้ าใจให้พวกทหารนีด้ ําเนินการต่อไป
เหมือนอยา่ งนอี ้ กี ดจุ เดยี วกนั
นโปเลยี นได้รายงานไปยงั คณะกรรมาธิการวา่ เดยี๋ วนเี ้ขาได้ข้ามแม่นํา้ โพไปแล้ว และได้
๑๑๗
เปิ ดฉากการรบแนวท่ี ๒ ขนึ ้ แล้ว ทีจ่ ริงรายงานทเี่ ขยี นไปก็เป็ นความจริงทงั้ หมด แตน่ โปเลยี นได้
ประดบั ถ้อยคําความจริงนนั้ ให้เป็ นพิเศษย่ิงขนึ ้ ไปอีก ฉะนนั้ เมื่อขา่ วการมีชัยนีไ้ ด้ไปปรากฏใน
หน้าหนงั สอื พิมพ์แล้ว ไมช่ ้าไมน่ านขา่ วก็แพร่สะพดั ออกไปในตา่ งประเทศทวั่ ไป ด้วย นบั ว่านโป
เลยี นได้เร่ิมสง่ เสริมชยั ชนะจากคมดาบ จากปื น โดยอาศยั ถ้อยคําสนบั สนนุ อีกโสดหนง่ึ ด้วย
๑๑๘
นโปเลยี นกบั โยเซฟิน
๑๑๙
บทท่ี ๑๔
ชงิ ป้ อมมังตัว
นโปเลียนได้นอนอย่บู นแท่นในวังปาลัสโซ เซอร์เบลโลนี (Palazzo Serbelloni Palace)
ขณะนนั้ ได้คิดถีงโยเซฟิ น ชยั ชนะและการต้อนรับอนั ยิ่งใหญ่จะมีประโยชน์อะไร ถ้าหากไมม่ ีโย
เซฟินรวมอยดู่ ้วย
มีดอกไม้ มีธงทวิ ทําไมโยเซฟินจงึ ไมม่ า โยเซฟินป่ วยหรือ หรือวา่ โยเซฟินมีครู่ ักใหม่ นโป
เลยี นนอนคดิ อยหู่ ลายชว่ั โมง
นโปเลียนผ้ซู ึ่งทําให้นายพลแม่ทพั เก่ามีความเช่ือถือยกย่อง น่ีกลบั ทําให้พวกเหล่านีด้ ู
หม่ิน โดยท่ีเอารูปภาพของโยเซฟิ นไปอวดเสียทกุ คน เช่นขณะท่ีเขากําลงั คุยกนั อยู่ถึงเร่ืองจัด
ยทุ ธสมั ภาระ เครื่องเสบยี งอาหารตา่ ง ๆ เป็ นต้น
นโปเลยี นเขียนจดหมายถืงโยเซฟิ นแทบทกุ วนั ครัง้ หนึ่งเขียนไปว่า "เธอจะมาในไม่ช้า
หรือไม่ เธอจะต้องมา ฉนั ต้องการเธอมาอยใู่ นวงแขนของฉนั เร็ว รีบมาซิ๑
นโปเลยี นรู้จกั อปุ นิสยั ชอบเปลยี่ นรส คอื อารมณ์ของโยเซฟินนนั้ เกิดขึน้ ง่าย และโยเซฟิ น
เองก็ชอบของใหม่ ค่รู ักใหม่ เหตกุ ารณ์ใหม่ ๆ แต่ว่านโปเลียนประหลาดใจวา่ อะไรเลา่ ที่ทําให้
โยเซฟิ นไม่มา ทงั้ ๆ ที่คาดว่าโยเซฟิ นจะมาท่ีเมืองมิลาน เพ่ือจะได้ต้อนรับโยเซฟิ นในระหว่าง
งานอนั มโหฬารเช่นนี ้
แต่ว่านโปเลียนซ่ึงเป็ นนกั คิดคํานวณอย่างสงู นีไ้ ด้คาดผิด โดยนโปเลียนเป็ นผ้รู บทพั
และขณะนเี ้องนโปเลยี นก็ต้องอยแู่ ยกหา่ งจากโยเซฟิน โยเซฟินอยทู่ ี่ปารีสซึง่ เป็ นเมืองที่เธอชอบ
มากที่สดุ ชอบแสดงตวั เป็ นภรรยาของแมท่ พั ผ้ซู ง่ึ มีช่ือปรากฏในหนงั สอื พิมพ์ทกุ ฉบบั และเป็ นท่ี
กลา่ วถึงกนั ในแทบทกุ คน นโปเลยี นคิดวา่ โยเซฟิ นแตง่ งานเพราะความรักหรือ เมื่อธงของข้าศกึ
ได้ถกู นาํ มาแสดงแก่ประชาชนในปารีสเป็ นครัง้ แรก โยเซฟินนง่ั รถออกไปท่ามกลางประชาชน มี
คนโหร่ ้อง โยเซฟินคิดวา่ อยา่ งนดี ้ กี วา่ ไปเที่ยวตามประเทศซง่ึ มแี ตพ่ วกทหารท่ีมีกิริยาวาจาหยาบ
คาย โยเซฟิ นไม่ค่อยได้เขียนจดหมายถึงนโปเลียน แต่นโปเลียนขอร้องรุกรนมากขนึ ้ ทกุ ที นโป
เลยี นเขียนมาอีกว่า ๐เธอมีครู่ ักหรือเธอไปหลงรักคนหน่มุ อายุ ๑๙ หรือ ถ้าเช่นนนั้ จงระวงั ให้ดี๑
๑๒๐
เม่ือโยเซฟินอา่ นจดหมายนแี ้ ล้วก็หวั เราะและพดู กบั เพื่อนหญิงของเธอคือตลั เลียงวา่ โบนาปาร์
ตคนนเี ้ป็ นคนแปลกจริง
อีกวนั หน่งึ นโปเลยี นเขียนจดหมายถึงการ์โนต์ (Carnot) ซ่ึงเก่ียวข้องกบั เร่ืองราชการ
กระนนั้ ในตอนกลางของจดหมายฉบบั นนั้ นโปเลียนกลบั กล่าวว่า ๐ข้าพเจ้ากําลงั หมดหวัง
ภรรยาของข้าพเจ้าไมม่ าที่น่ี ข้าพเจ้าเช่ือวา่ เขาต้องมีช้รู ัก ไมเ่ ช่นนนั้ แล้ว ทําไมจงึ อยใู่ นกรุงปารีส
ข้าพเจ้าเร่ิมรู้สกึ เกลยี ดผ้หู ญิง เกลยี ดเสยี หมดทกุ คน๑ เมอ่ื โยเซฟินถกู รบเร้าหนกั เข้าก็ตกลงใจวา่
จะไปหานโปเลยี นเสยี ทีหนึ่ง เธอจึงเขียนจดหมายไปถึงนโปเลยี น บอกว่า ๐โยเซฟิ นกําลงั มีหวงั
...๑ แล้วก็ทงิ ้ ค้างไว้เทา่ นนั้
เมื่อนโปเลยี นได้อา่ นจดหมายท่ีเขียนค้าง ๆ เอาไว้เช่นนนั้ แล้วก็นกึ ไปวา่ โยเซฟิ นคงท้อง
จึงรู้สกึ ต่ืนเต้นดีใจเหลือเกิน และโกรธตวั เองท่ีไปลงโทษโยเซฟิ นว่า ทําไมจึงไม่มา นโปเลียน
เขยี นตอบไปวา่ ๐ฉนั รู้สกึ เสยี ใจเหลอื เกินที่ได้รบเร้ารุกรนต่อว่าเธอเป็ นอนั มาก แตท่ ี่แท้เธอป่ วย
ความรักได้ทาํ ให้ฉนั คิดเหตผุ ลไมอ่ อก จงยกโทษให้ฉนั เถิด แล้วจงเขียนจดหมายถึงฉนั สกั ๑๐๐
หน้า ชีวิตของฉนั เป็ นความฝันท่ีไมร่ ู้จบ ความมืดมนของอนาคตทําให้ฉนั หายใจไมค่ ลอ่ ง และ
บางครัง้ ฉนั ก็หมดหวงั ในอนาคตเหมอื นกนั เธอจงเขียนจดหมายถึงฉนั สกั ๑๐ หน้า เพราะว่าไม่
มีอะไรท่จี ะปลอบใจฉนั ได้ดีกวา่ นี ้เธอป่ วย ทีร่ ักของฉนั เธอกําลงั จะเป็ นมารดาของเดก็ และฉนั ก็
ไมส่ ามารถจะพบเธอได้ ใครจะดแู ลเธอ ไมช่ ้านีเ้ ธอก็จะมีเด็กเล็ก ๆ คนหน่ึงซึง่ น่ารักเหมือนตวั
ของเธอเอง แต.่ . ถ้าหากวา่ ฉนั เหน็ เธอกบั ชายช้รู ักคนหนงึ่ คนใดแล้ว ฉนั จะฉีกเนอื ้ ชายคนนนั้ เสีย
เป็ นชิน้ ๆ ทีเดียว๑
ในวนั เดียวกนั นนั้ นโปเลยี นเขียนจดหมายถึงโยเซฟพ่ีชายว่า ๐ภรรยาฉนั กําลงั ป่ วย ฉัน
ไมร่ ู้ว่าฉนั กําลงั เอาเท้ายืน หรือเอาศีรษะยืนตา่ งเท้า หวั ใจของฉันรู้สกึ มืดมนในอนาคตของฉัน
เอง จงเขยี นจดหมายถึงฉนั ตงั้ แตเ่ ลก็ ๆ มาแล้ว เราได้ร่วมกอดคอกนั มาด้วยความรัก และเป็ น
ญาติ จงดูแลภรรยาของฉนั พ่ีรู้ดีว่าฉนั รักเธอเท่าไร โยเซฟิ นเป็ นผู้หญิงคนแรกที่ฉนั รัก อาการ
ป่ วยของเธอทําให้ฉนั เกือบจะเป็ นบ้า เม่ือใดท่ีโยเซฟิ นหายดี และพอท่ีจะเดินทางได้แล้ว เธอ
จะต้องมาหาฉนั ทนั ที ฉนั จะกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ฉนั รักเธอจนกระทงั่ ลมื ตวั และไมส่ ามารถจะ
มีชีวติ อยไู่ ด้โดยปราศจากโยเซฟิน ถ้าหากวา่ เธอไมไ่ ด้รักฉนั นน่ั หมายความวา่ ฉนั ไม่มีอะไรเหลอื
อีกแล้วในโลกนี ้โปรดอย่าให้ผ้สู ง่ ข่าวนีอ้ ยู่ในปารีสเกินกว่า ๖ ชัว่ โมง จงส่งเขากลบั มาหาฉัน
๑๒๑
พร้อมกบั คําตอบ ซึง่ จะทําให้ฉนั มีชีวิตขนึ ้ ใหม่ อีกครัง้ ขอให้พี่มีความสขุ เถิด สําหรับตวั ฉนั นนั้
ธรรมชาติสร้างให้ฉนั อยู่ เพือ่ พบกบั ชยั ชนะแตเ่ พยี งเปลอื กภายนอกเทา่ นนั้ ๑
ในวนั เดียวกันน่ันเอง นโปเลียนได้ออกคําสงั่ ให้แบร์ตีแอร์เข้ายึดเมืองอาเลสซนั เดรีย
และสง่ รายงานไปยงั คณะกรรมาธิการ ขอให้สง่ กองหนนุ เพิม่ เตมิ มาอกี พร้อมกนั เขาก็ย่นื คาํ ขาด
ไปยงั เซเนตของเมืองเจนวั เร่ืองการฆาตกรรมทหาร ทงั้ ยงั มีจดหมายแนะนํามรู าต์ไปยงั สภาเซ
เนตนนั้ แล้วยงั กะแผนการที่จะขายปื นใหญ่ทม่ี ีเหลอื อยชู่ ายฝ่ังริเวียร่า (Riviera) ไม่เพียงเท่านนั้
ยงั ออกคําสง่ั ไปถึงลานซ์ให้เดินหน้าตอ่ ไปอกี และมคี ําสงั่ ให้คนท่ีถกู สงสยั ตา่ ง ๆ ไปยงั เมืองทอร์
โทนา ยงั ได้ออกคาํ สง่ั ให้กองทพั กองหนงึ่ ยกไปท่ีเมอื งตลู อง (Toulon) ทงั้ เขียนรายงานไปยงั นาย
พลแกลเลมงั วา่ กําลงั สง่ กองทหารและเงินมาให้แล้ว
โยเซฟได้พาโยเซฟินมายงั เมอื งมิลานทงั้ ๆ ทโี่ ยเซฟินไมไ่ ด้สมคั รใจที่จะมา กระนนั้ เธอก็
ไมม่ ีทีทา่ ท่ีจะหลกี เลย่ี งอนั ใด นอกจากถอนใจใหญ่ เตรียมเครื่องเสอื ้ ผ้าและบอกลาเพ่ือนฝงู ก่อน
เดินทางมา อยา่ งไรก็ดี วนั รุ่งขนึ ้ ก็เป็ นวนั ที่ ๑๓ มถิ นุ ายน ฤดกู าลร่ืนเริงแหง่ สงั คมก็สดุ สิน้ ลงแล้ว
เพราะฉะนัน้ การได้ จากปารีสมาก็เป็ นเร่ืองท่ีดีกว่า โยเซฟิ นพาสุนัขตัวโปรดช่ือ ฟอตูเน
(Fortune) พร้ อมกับยูโนต์ซึ่งเป็ นคนหนุ่มรูปงาม นอกจากนีย้ ังมีฮิปโปลิต (Hippolyte)
นายทหารหนมุ่ อีกคนหนงึ่ ซงึ่ เพ่ิงรู้จกั ในงานเต้นรํา ซงึ่ เขาได้เต้นกบั โยเซฟินในวนั นนั้ ฮิปโปลติ ผ้นู ี ้
เป็ นคนท่เี ลา่ เร่ืองสนกุ ๆ ดมี าก มคี วามรู้เกี่ยวกบั วิกผม ผ้าหม่ ผ้หู ญิง และท่ีสาํ คญั คือยงั เต้นรํา
เก่ง
ขณะท่ีโยเซฟิ นมาถึงมิลานนัน้ นโปเลียนได้ ออกไปทําการศึกที่ใกล้เมืองเวโรนา
(Verona) แตป่ รากฏวา่ โยเซฟินไมไ่ ด้รู้สกึ ผิดหวงั แตป่ ระการใด ทงั้ นเี ้พราะแท้จริงแล้วมิลานนนั้ ก็
เป็ นเมอื งอนั งดงาม มีพระราชวงั อนั สวยงาม ทงั้ มีประชาชนไมน่ ้อยทีเ่ ข้ามาแวดล้อมแสดงความ
เคารพตอ่ เธอ ยง่ิ ไปกวา่ นนั้ ข้างกายเธอก็ยงั มีฮิปโปลติ ทค่ี อยติดตามไปไหนมาไหน ไมน่ านนกั โย
เซฟินก็ได้ขา่ ววา่ นโปเลยี นกําลงั เดนิ ทางมาจากเวโรนาแล้ว ตลอด ๒ วนั ๒ คืนทน่ี โปเลยี นมาหา
และอยกู่ บั โยเซฟินนนั้ โยเซฟินรู้สกึ เหมอื นหนง่ึ วา่ ภเู ขาไฟได้ทลายมากลบตวั เสยี เชน่ นนั้
ทงั้ คสู่ ามีภรรยาได้อยรู่ ่วมกนั ณ เมอื งมลิ านนนั้ เพยี ง ๒ วนั แล้วนโปเลยี นก็กลบั ออกจาก
เมืองไปสนามรบอกี
เหตกุ ารณ์ซงึ่ ได้สนิ ้ สดุ ลง ณ เมอื งโลดีนนั้ คล้ายกบั เป็ นบทบาทหนง่ึ ในชีวิตของนโปเลยี น
๑๒๒
แต่นีไ้ ปการสงครามก็จะเร่ิมต้นตงั้ ต้นบทบาทใหม่ และคืบหน้าไปอีกนับเป็ นเวลาแรมเดือน
ทเี ดียว เร่ืองราวแหง่ การส้รู บบนทร่ี าบซงึ่ อยใู่ ต้ความสงู ตระหง่านของเทือกเขาแอลปส์นี ้ก็จะเป็ น
เรื่องท่ีเต็มไปด้วยอนั ตรายอย่างใหญ่หลวง หลายครัง้ หลายหนที่นโปเลียนต้องเสีย่ งโชคอย่าง
หวดุ หวิด ด้วยการรุกคืบหน้าไปด้วยการไม่หยดุ หย่อน ทงั้ นีล้ ้วนเป็ นเหตกุ ารณ์ซ่งึ ผิดแปลกกว่า
ในตอนต้น ๆ มา เหตทุ ่ีเปลย่ี นแปลงไปนกี ้ ็คือ...
ไกลออกไปเบอื ้ งหลงั ภเู ขาทางทิศเหนอื ในแคว้นเยอรมนั กองทพั สว่ นใหญ่ของมหาชนรัฐ
ฝรั่งเศสตงั้ อยใู่ นระหวา่ งแมน่ าํ ้ ดานบู กบั แมน่ าํ ้ ไรน์ อนั เป็ นสถานท่ีเหมือนกบั ละครโรงใหญ่ซง่ึ จะ
ได้แสดงบทบาทแหง่ การชิงชยั เพ่อื ชยั ชนะของการปฏิวตั ิระบอบการปกครอง ไม่มีใครเคยคิดว่า
อิตาลจี ะเป็ นสนามรบทสี่ าํ คญั ทงั้ ไมม่ ใี ครจะคิดวา่ ผลสดุ ท้ายของการส้รู บระหว่างการปฏิวตั ิกบั
โลก ๑ระบอบเก่า๑ ครัง้ นนั้ จะมาถกู ตดั สนิ กนั เด็ดขาดท่ีภาคอิตาลี คือแท้จริงนา่ จะได้ตดั สินกนั ที่
ภาคแม่นํา้ ไรน์มากกว่า ซึ่งนนั้ ทําให้ออสเตรียได้ทิง้ นายพลโบลิเออไว้ในแคว้นลอมบาร์ดีด้วย
กําลงั ทหารที่มีอย่ไู ม่ถึง ๓๐,๐๐๐ คน ขณะเดียวกนั กลบั จดั ทหารไปชุมนมุ กนั อยใู่ นฟากแม่นํา้
ไรน์ตอนบนและตอนล่างเสียแทน โดยมีกําลงั ชุมนมุ กนั อย่ถู ึง ๗ เท่า ขณะท่ีฝรั่งเศสก็จดั กําลงั
ของตนเองไว้ท่ีนนั่ มากพอ ๆ กัน และกําลงั ทําศึกผลดั แพ้ผลัดชนะกันอยู่ อาร์ชดยุ๊คชาร์ลส์
เจ้าชายหนมุ่ ซง่ึ เป็ นแมท่ พั ใหญ่ของฝ่ ายออสเตรียนนั้ เป็ นแมท่ พั ชนั้ หนึ่ง เมื่อฤดรู ้อนลว่ งผา่ นไป
ความเปลยี่ นแปลงในลกั ษณาการการสงครามก็เปลี่ยนแปลงไป อนั มีผลชดั เจนมาจากชยั ชนะ
ในแคว้นลอมบาร์ดี
ออสเตรียซ่ึงอย่เู หนือภเู ขาแอลปส์ได้ขบั ไล่ทหารฝร่ังเศสถอยไป และเข้าตีตดั กองทพั
ฝรั่งเศสให้แยกกนั ออกเป็ น ๒ ตอน เม่อื ทําการดงั นีป้ ระสบความสาํ เร็จแล้ว ก็มที หารจํานวนมาก
เหลอื พอท่จี ะยกข้ามภเู ขาลงมาทางภาคใต้ และด้วยจํานวนทหารท่ีมมี ากกวา่ นเี ้อง ก็จะสามารถ
แกคั วามปราชยั ที่นายพลโบลเิ ออได้รับจากนาํ ้ มอื ของนโปเลยี น
โบลิเออก็เช่นกนั เขากําลงั รอคอยความช่วยเหลือนีอ้ ยู่ โดยได้พยายามเข้าไปยดึ แนว
เพ่ือสร้างท่มี น่ั ณ ลมุ่ แมน่ าํ ้ มินซิโอเอาไว้
อนง่ึ ในเวลาเดียวกนั นที ้ างกรุงเวียนนา พระเจ้าจกั รพรรดฟิ รานซสิ แหง่ ออสเตรียก็ไม่น่ิง
นอนพระทยั พระองค์เกรงวา่ นโปเลยี นจะข้ามทพั เข้ามาโจมตเี มอื งมงั ตวั (Mantua) อนั เป็ นเมือง
ทา่ สาํ คญั ของออสเตรีย และเพอ่ื จะช่วยค้มุ กนั เมอื งนเี ้อาไว้ให้ได้ ซง่ึ เวลานีน้ ายพลโบลเิ ออกําลงั
๑๒๓
บญั ชาการรบและเสียเปรียบนโปเลียนอยู่ พระเจ้าจกั รพรรดิฟรานซิสจึงได้ออกคําสง่ั ปลดนาย
พลโบลเิ ออ แล้วทําการแตง่ ตงั้ ให้นายพลวมู แซร์จากภาคแมน่ าํ ้ ไรน์มารับหน้าท่ีแทน
นายพลวมู แซร์กําลงั ยกทพั ลงมา ข้ามทะเลสาปการ์ดา (Garda) และยงั มีกองทหารท่ี
หนนุ เพม่ิ มาใหม่ ๆ ถ้าหากวา่ นโปเลยี นจะเข้าเผชิญทพั กบั วมู แซร์ ก็จําจะต้องทงิ ้ เมอื งมงั ตวั เสยี
ชัว่ คราว แล้วถอยไปตงั้ มนั่ ที่มิลาน แต่ว่าในขณะนนั้ ข้าศึกก็ได้สกัดกัน้ ปิ ดหนทางที่จะถอย
กลบั ไปมิลานเสยี แล้ว นบั วา่ กองทพั ฝรั่งเศสกําลงั อยใู่ นฐานะอนั ตรายใหญ่หลวง
นโปเลียนรีบเดินทางจากเมืองมิลาน จากโยเซฟิ นผู้เป็ นที่รัก นําพลข่ีม้าข้ามท่ีราบ
ภายใต้แสงอาทิตย์อนั ร้ อนแรงแห่งเดือนกรกฎาคม ค.ศ.๑๗๙๖ ตรวจกองทัพต่าง ๆ แล้วก็
รวบรวมกําลงั ทงั้ หมดเข้าด้วยกนั โชคชะตาของการสงครามกําลงั อย่ใู นที่ร่อแร่เต็มที เป็ นเวลา
แหง่ ความคบั ขนั และต้องทํางานอยา่ งครํ่าเคร่ง แม้อย่างนีน้ โปเลยี นก็ยงั มีใจเขียนจดหมายส่ง
ขา่ วถึงโยเซฟินซง่ึ ยงั คงอยทู่ ่มี ลิ านได้ ในจดหมายนนั้ มีข้อความวา่ ๐...ตงั้ แตฉ่ นั ได้จากเธอมาแล้ว
ฉนั มคี วามเศร้าใจมาก ฉนั จะมีความสขุ ก็ตอ่ เม่ือได้อยใู่ กล้ ๆ ครุ่นคิดถึงแตน่ ํา้ ตาของเธอ ความ
งามอนั ไม่มีวนั เปล่ียนของเธอนนั้ เป็ นเหมือนกับเชือ้ ที่มาจุดให้เกิดเพลิงรักขึน้ ในหวั ใจของฉัน
เมอื่ ไรฉนั จงึ จะมีอสิ ระพ้นออกจากความหว่ งใยของหน้าที่ มีเวลาเพือ่ อทุ ิศให้แก่เธอโดยไม่ต้องมี
อะไร ๆ ในโลกท่ตี ้องทําอีก นอกจากรักเธอเท่านนั้ นบั แต่รู้จกั เธอ ฉนั ได้นิยมนบั ถือเธอย่ิง ๆ ขนึ ้
ทกุ ขณะ ทกุ วนั ซง่ึ ทาํ ให้ฉนั คดิ ไปวา่ ทา่ นปราชญ์ลาบรูแยร์ได้คาดผิดเพียงไร เมื่อทา่ น กลา่ ววา่
๎ความรักนัน้ เกิดขึน้ ทันทีทันใดและทุก ๆ ส่ิงในโลกนี ้ ย่อมเดินไปตาม กฎธรรมชาติ และ
ธรรมชาติจะล้อมชีวิตขึน้ ทกุ วนั เวลา๏ ในใจฉนั ฉันอยากให้ เธอสาวน้อยลงและมีความอิจฉา
น้อยลง นาํ ้ ตาของเธอนนั้ เป็ นเหมอื น สง่ิ ท่ที าํ ให้เลอื ดในอกฉนั รุมร้อนเป็ นไฟ.. ขอให้เธอรีบมาหา
ฉนั โดยเร็ว เพื่อว่าในวนั ก่อนที่เราจะตาย เราจะได้สามารถพดู ได้ว่า เรามีความสขุ อย่รู ่วมกัน
หลายวนั ...๑
นโปเลยี นเคยบ่นถึงสนุ ขั ตวั โปรด คือเจ้าฟอตเู นของโยเซฟิ นเสมอ ๆ ทงั้ ยงั ได้เคยกลา่ ว
กบั ผ้ใู กล้ชิดวา่ ๐ข้าพเจ้าจะต้องเลอื กว่า จะยอมนอนกบั เจ้าสนุ ขั ตวั นีห้ รือไม่ เช่นนนั้ ก็จะไมไ่ ด้
นอนกบั ภรรยาของข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าจําเป็ นจะต้องเลือกเอาอยา่ งใดอย่างหนึ่ง ข้าพเจ้ายอม
แพ้เจ้าสนุ ขั ตวั นี ้มนั เองก็ไมส่ ้ชู อบข้าพเจ้านกั แผลรอยกดั ที่ขาเป็ นพยานวา่ เจ้าฟอตเู น มนั รู้สกึ
อยา่ งไรกบั ข้าพเจ้า๑
๑๒๔
ในระยะเวลาท่ีกําลงั ฉุกเฉินแห่งการสงครามที่เมืองมังตวั นี ้ นโปเลียนเห็นว่าเขาไม่
สามารถจะกลบั มิลานได้เพราะศกึ กําลงั ล้อมประชิดอยู่ จึงได้สง่ คนให้ไปรับโยเซฟิ นเพ่ือไปพบ
กนั ที่เมอื งเบรสเซยี (Brescia) คราวนนั้ เป็ นเวลาระหวา่ งปลายเดอื นกรกฎาคม ค.ศ.๑๗๙๖
โยเซฟินได้ตดิ ตามไปยงั เบรสเซยี ตามคําสงั่ แตส่ ามภี รรยามิใคร่จะมีความสขุ เหมอื นกบั
อยทู่ ี่มิลาน เพราะนายพลวมู แซร์ได้คอยจะ ปองร้ายอย่ทู กุ ขณะ คือเมื่อวมู แซร์ยกกองทพั บ่าย
โฉมหน้ามายงั ป้ อมเมอื ง มงั ตวั นนั้ ฝ่ ายเจ้าหน้าที่ผ้รู ักษาเสบียงท่ีเมืองเบรสเซียได้คิดทรยศนโป
เลยี น หวงั จะชว่ ยเหลอื ทพั ฝ่ ายออสเตรีย แล้วออกอบุ ายเชิญนโปเลยี นกบั โยเซฟินไปรับประทาน
อาหาร ซง่ึ ได้จดั เลยี ้ งต้อนรับขนึ ้ นโปเลยี นเองก็สงลยั ความข้อนีอ้ ย่ใู นใจ แตเ่ ฉพาะโยเซฟิ นนนั้
ได้ปฏิเสธคาํ เชิญเลยี ้ งนนั้ อยา่ งแขง็ แรง ทงั้ ทกั ท้วงไมย่ อมไปในการเลยี ้ งนนั้ จึงได้พากนั รีบออก
จากเมือง เบรสเซียไป
ทงั้ สองพ้นจากเมืองเบรสเซียได้ไม่ทนั ถึง ๔๐๐ เส้น กองทพั ออสเตรีย ก็ยกท่มุ เทเข้าไป
ในเมอื งเหมอื นกบั นาํ ้ บา่ ถ้าแม้นนโปเลยี นและโยเซฟินยงั รับเลยี ้ งอยู่ ก็เป็ นที่แน่วา่ จะต้องถกู จบั
ประหารเสยี แล้วทงั้ คู่
นโปเลยี น-โยเซฟิน กบั ทหารอีกเพียง ๒๐ คน ได้เข้ามาทีเ่ มืองเวโรนา และได้จดั สง่ ให้โย
เซฟิ นไปยงั ตําบลที่เห็นว่าจะพ้นอนั ตราย โดยให้เดินแยกไปทางริมฝั่งทะเลสาปการ์ดา ได้ถกู
ทหารออสเตรียซง่ึ เอาเรือเล็ก มาซุ่มอยรู่ ิมฝั่งทะเลระดมยิงในระยะใกล้ ม้าเทียมรถคถู่ กู กระสนุ
ตายคาที่ทงั้ ๒ ตวั โยเซฟิ นจําต้องทิง้ รถม้าหนีไปขอพึ่งเกวียนคนั หน่ึงซ่ึงกําลงั เดินทางมุ่งไป
เมอื งคาสติกลโิ อน (Castiglione) ภายหลงั นโปเลยี นก็ได้ตามไปพบกนั ณ เมืองนอี ้ กี
ในระยะเวลาที่กองทพั ออสเตรียยึดเมืองเบรสเซียอยนู่ นั้ ทําให้การติดต่อสง่ ขา่ วสารกบั
เมืองมิลานขาดตอนไป โยเซฟิ นเองตกใจกลวั ตัง้ หน้าแต่ร้ องไห้อยู่ ส่วนนโปเลียนเลา่ ว่ากัน
ถึงกบั บริภาษออกมาวา่ จะต้องให้นายพลวมู แซร์ผ้นู ใี ้ ช้หนคี ้ า่ นาํ ้ ตาของโยเซฟินให้ได้
แตใ่ นท้ายที่สดุ ก็ได้พยายามเลด็ ลอดออกไปยงั เมืองมิลานจนได้โดยเดินผา่ นช่องทางท่ี
ทพั ฝร่ังเศสกําลงั ล้อมบริเวณป้ อมเมืองมงั ตวั อยู่นนั้ ออกไป แต่อย่างไรก็ดีโยเซฟิ นก็ต้องฝ่ า
กระสนุ ปื นทข่ี ้าศกึ ระดมยิงลงมาจากกําแพงป้ อมอยา่ งนา่ กลวั อนั ตรายยิ่ง
โยเซฟินก็ได้ไปถงึ มลิ านโดยสวสั ดิภาพ
ในทนั ทีทนั ใดนนั้ นโปเลยี นก็ได้อตุ สา่ ห์จดหมายไปถึงโยเซฟิ นท่ีมิลาน อีก คือ เม่ือวนั ท่ี
๑๒๕
๑๐ สิงหาคม ค.ศ.๑๗๙๖ ความในจดหมายนนั้ วา่ ๐...ฉนั ได้เข้าถึงเมืองเบรสเซียแล้ว ท่ีรักของ
ฉนั กอ่ นทําอะไรอืน่ สง่ิ แรกทีฉ่ นั คดิ ก็คือ เขียนจดหมายถึงเธอ ความสขุ สวสั ดีของเธอได้เรียกร้อง
อยใู่ นใจ ตลอดเวลาท่เี ดินทาง หวั ใจของฉนั ยงั สงบไมไ่ ด้ จนกว่าจะได้รับจดหมายตอบ จากเธอ
แล้ว ฉนั กําลงั ตงั้ ใจคอยอย่ดู ้วยความกระวนกระวาย รู้สกึ ว่าเป็ นการ พ้นวิสยั ท่ีเธอจะรู้สกึ ถึง
ความเร่าร้ อนอันแท้จริงของฉันได้ ฉันได้ละเลยให้เธอ เหงาหงอย ได้รับความลําบากอยู่
เบอื ้ งหลงั แตถ่ ้าแม้นวา่ ความรักอนั สดุ ซงึ ้ ทสี่ ดุ และสภุ าพท่ีสดุ ของฉนั สามารถจะอํานวยให้เธอ
มสี ขุ ด้วยประการใด ได้แล้ว ก็แน่ทส่ี ดุ วา่ เธอจะได้รับจากฉนั ขณะนีก้ ําลงั มีภารกิจที่หนกั อยู่ ขอ
ยตุ ิทร่ี ัก และขอให้เธอจงรักฉนั และคดิ ถึงฉนั บอ่ ยๆ ...๑
อนงึ่ เนอื่ งจากเหตอุ นั ตรายท่ีเบรสเซียครัง้ นี ้เบอื ้ งหน้าตอ่ ไปโยเซฟินก็ ไมย่ อมติดตามไป
ในกองทพั อีก ครัง้ ใดที่นโปเลยี นชวนให้ตามไป โยเซฟิ นก็มีข้อแก้ตวั เสมอ โดยยกเหตอุ นั ตราย
ครัง้ นขี ้ นึ ้ เป็ นข้ออ้าง
ตลอดเวลา ๒-๓ สปั ดาห์มาแล้ว นโปเลยี นได้รู้สกึ เหมือนกบั จะสนิ ้ กําลงั แรง และดเู ร่ิม
จะขาดความกล้าหาญลง แต่การคิดทอั แท้ในใจนี ้เป็ นไป ชว่ั วนั ละ ๒-๓ ชว่ั โมงเท่านนั้ แล้วก็
กลบั กําลงั ใจให้มมี านะทจ่ี ะทําศกึ สงครามตอ่ ไป
แทนที่นโปเลียนจะออกคําสง่ั ใด ๆ ไป กลบั เรียกประชุมคณะนายทหาร ซงึ่ ทําให้พวก
เหลา่ นายพลของนโปเลียนแปลกใจมาก ในระยะการหวั เลีย้ ว หวั ต่อแห่งการศึกสําคญั นี ้นโป
เลียนเสนอว่า ควรจะถอยกองทพั ข้ามแม่นํา้ โพไป แต่นายพลโอเยโรผ้มู ุทะลไุ ด้ทบุ โต๊ะและว่า
๐เพื่อเห็นแก่ช่ือเสยี งของท่าน ข้าพเจ้าขอเสนอวา่ เราควรจะเข้าโจมตีข้าศกึ ๑ แล้วก็ลกุ ออกจาก
ห้องไป และที่ประชมุ นนั้ ตา่ งก็มีความเหน็ แบง่ แยกกนั อยู่
นโปเลยี นคร่ําเคร่งและหมกม่นุ กบั แผนการสงครามอยคู่ นเดียว มดปลวกกําลงั บินเลน่
ไฟรอบ ๆ เทยี นไขและเผาไหม้ตวั เองตายไป ๆ อากาศในกลางดกึ ของคนื วนั นัน้ อบอ้าว แวว่ เสยี ง
ร้องตะโกนและเสยี งกลอง ข้างนอกเป็ นระยะ ๆ รุ่งพรุ่งนีแ้ ล้วที่จะเป็ นวนั ซึง่ เหมือนหนงึ่ ว่า นโป
เลยี นจะต้องตดั สนิ จะยงั มีอํานาจเหนือแคว้นลอมบาร์ดีตอ่ ไปหรือไม่ ความรู้สกึ วนเวียนอยอู่ ีก
วา่ บางทีครัง้ นีน้ แ่ี หละทจ่ี ะเป็ นจดุ สาํ คญั ในโชคชะตาของชีวิต ควรจะลองเสยี่ งโชคได้เพียงไหน
ถ้าแม้นวา่ กําลงั ทพั ของวมู แซร์มมี ากกวา่ ทที่ หารสง่ ขา่ วบอกนนั้ ควรจะส้รู บได้เพียงใด และบดั นี ้
คือท่ีกําลงั คิดอยนู่ ี ้โยเซฟิ นก็คงกําลงั หลบั สนิทอยบู่ นเติยงที่นครมิลาน หรือว่าคงกําลงั หวั เราะ
๑๒๖
เลน่ อย่กู บั เจ้าสนุ ขั ฟอตเู นตวั โปรด ความคิดของนโปเลียนวนุ่ วายอยู่ ทงั้ เร่ืองการสงครามและ
ความรักดงั นี ้
ครัน้ แล้วนโปเลยี นก็ได้ตดั สนิ ใจทาํ การส้รู บ และในวนั รุ่งขนึ ้ นนั้ ก็ได้ประสบชยั ทต่ี ําบลคา
สตกิ ลโิ อน ตอ่ มาไมน่ านจากนนั้ นโปเลยี นก็สง่ จดหมายถึงโยเซฟินวา่ ๐ฉนั ไม่เคยได้รับจดหมาย
จากเธอเลย ๕ วนั แล้ว แตฉ่ นั เขยี นถึงเธอทกุ วนั การท่ีเราอย่แู ยกกนั นีท้ ําให้ฉนั กล้มุ ใจมาก รู้สกึ
วา่ เวลากลางคนื มนั หมดรส และกลางวนั ก็นา่ เบื่อ๑ แทนทโ่ี ยเซฟินจะเขียนสง่ ไปถึงนโปเลียน แต่
โยเซฟิ นกลบั ใช้เวลานนั้ เขียนไปถึงเพ่ือนหญิงตลั เลียงซ่ึงอยปู่ ารีส ใจความก็อ้างว่าเธอนนั้ แสน
จะเบอ่ื เป็ นท่ีสดุ เพราะนโปเลยี นมวั ย่งุ อย่กู บั การรบราฆา่ ฟันและชยั ชนะ เธอก็คอยแต่รับฉลอง
ชยั ชนะ
ทงั้ โยเซฟิ น ทงั้ นโปเลยี น ตา่ งคนต่างเบื่อหน่ายชีวิต แตม่ ีการ "เบ่ือ๑ ไปคนละทาง คือน
โปเลยี นเบอื่ เพราะอยไู่ กลจากโยเซฟิน แตโ่ ยเซฟินเบอ่ื เพราะรู้สกึ วา่ อยใู่ กล้นโปเลยี นเกินไป สามี
ภรรยามีความรู้สกึ ทกี่ ลบั ตรงกนั ข้ามกนั อยเู่ ชน่ นอี ้ ยา่ งประหลาด
อีก ๓ วนั ต่อมา นโปเลียนก็ได้เขียนถึงโยเซฟิ นอีกว่า ๐ท่ีรักของฉัน ช้าศึกได้พ่ายแพ้ไป
แล้ว จบั เชลยได้ ๑๘,๐๐๐ คน นอกนนั้ ยงั มีตายและ ป่ วยเจ็บอีก นายพลวมู แซร์ยงั คงเหลอื แต่
ตวั เมืองมงั ตวั เทา่ นนั้ นบั วา่ แคว้นอิตาลปี ลอดภยั สาํ หรับมหาชนรัฐฝร่ังเศส อีก ๒-๓ วนั นีเ้ ราจะ
ได้พบกนั อีก...๑
อนงึ่ เพ่ือทจ่ี ะได้ทราบแผนการรบละเอียดในครัง้ นี ้จําเป็ นจะต้องหนั ไป ดทู างสนามรบ
คอื มงั ตวั นนั้ โบลเิ ออกําลงั เตรียมการป้ องกนั อยู่ และกําลงั รอคอยกองทพั ออสเตรียที่จะมาช่วย
เสริม
ภาวการณ์สงบหลงั การรบทเ่ี มอื งโลดขี องมิลานในครัง้ นนั้ ทําให้โบลเิ ออมีเวลา โบลเิ ออ
ได้แตง่ ป้ อมค่ายเมืองมงั ตวั อยา่ งเต็มที่ มีกําลงั ๑๑,๐๐๐ คน จดั ว่าเป็ นป้ อมค่ายท่ีแข็งแรง ใน
บริเวณนนั้ มีทะเลสาปทีก่ ว้างใหญ่ล้อมอยเู่ กือบคร่ึงเมอื ง ในทะเลสาปนมี ้ ีแมน่ าํ ้ ไหลลงมาสู่ และ
มีปื นใหญ่ ๓๐๐ กระบอกคอยป้ องกนั อยู่ จากเมืองมงั ตวั ขึน้ ไปตามลําแม่นํา้ จนกระทงั่ ถึงเชิง
ภเู ขา และหวั ลาํ นาํ ้ ของทะเลสาปการ์ดาเป็ นระยะทางกวา่ ๒๐ ไมล์ โบลเิ ออตงั้ มน่ั อย่หู ลงั แมน่ ํา้
มินซิโอ (Mincio) ซึ่งมีนํา้ จากหิมะละลายไหล ลงมาเต็มฝ่ังจึงหวงั เอาไว้ว่าจะสามารถตงั้ มนั่
เอาไว้ได้
๑๒๗
แต่โบลิเออก็คาดผิด คือในปลายเดือนนัน้ เองในตอนเช้าของวันที่ ๓๐ พฤษภาคม
หน่วยกองหน้าของนโปเลียนซ่ึงบดั นีม้ ีกําลงั เพิ่มเติม หนุนมาจากตะวนั ตก ก็ตงั้ มนั่ อย่ภู ายใต้
การบงั คับบญั ชาของนายพลคีลแมน (Kilmaine) ณ เมืองบอเกตโต ซึ่งเป็ นระยะทางเดิน
ประมาณวนั หนงึ่ จากทะเลสาปการ์ดา ทหารฝร่ังเศสได้ข้ามแมน่ าํ ้ มินซโิ อ และโบลเิ ออก็ต้องถอย
หนี เพราะมกี ําลงั น้อยกวา่ โดยกลวั วา่ ช้าศกึ จะสง่ ทหารอ้อมไปทางทศิ เหนือของทะเลสาปไปตดั
แนวคมนาคมของเขากบั อติ าลเี สยี ซงึ่ แนวคมนาคมนี ้จะต้องเดินผา่ นชอ่ งเบรนเนอร์ (Brenner)
ข้ามภเู ขาแอลปส์ไป โบลเิ ออได้ถอยไปตามถนนลงไปยงั เมืองเทรนต์ (Trent) ซึง่ ตงั้ อย่ใู นภเู ขา
เป็ นอนั วา่ ได้ละทงิ ้ พนื ้ ทีร่ าบลอมบาร์ดไี ปเสยี และปลอ่ ยให้ทหารที่อยใู่ น เมืองมงั ตวั คอยป้ องกนั
ไว้จนกวา่ จะมีกองหนนุ มาใหม่ ฝรั่งเศสก็เดนิ ทพั มงุ่ ไปยงั เมอื งเวโรนา
เมื่อถงึ เวโรนาแล้ว ก็นบั ได้ว่าทหารฝรั่งเศสได้ยา่ งใกล้เข้ามาในดินแดนของแคว้นเวนิส
เสียงไชโยของประชาชนในแคว้นมิลานท่ีมองกนั ว่าฝร่ังเศสเป็ นผ้นู ําเสรีภาพมาให้นนั้ บดั นีก้ ็มี
พวกประชาชนชาวไร่ชาวนาก่อการกบฏจลาจลมากขนึ ้ เนอื่ งจากขาดแคลนเสบียงอาหารตา่ ง ๆ
ในดินแดนแคว้นเวนิสนี ้ทหารฝร่ังเศสท่ีก่อนหน้านีไ้ ด้รับการกล่าวขานว่าเป็ นผ้เู ผยแพร่
แหง่ เสรีภาพ กลบั ถกู ถือวา่ เป็ นผ้บู กุ รุก เวนิสเป็ นรัฐอิตาลี รัฐหนง่ึ ซ่งึ ประชาชนในรัฐนีม้ ีความรัก
ชาติกันมาหลายช่วั คนแล้ว จึงกลายเป็ น ภยั ท่ีต้องระแวดระวงั ทงั้ จากชาวนาชาวชนบทและ
พวกชาวเมอื งเฉพาะใน เมืองเวโรนาเอง ยิ่งกว่านนั้ ยงั มีภยั ใหญ่ขนึ ้ ไปอีกคือกองทพั อิตาลที ่ีมา
จากทิศเหนือ ซึ่งไม่อาจคาดการณ์ว่าจะมีกําลงั มาจํานวนเท่าไร อาจจะเข้ามาสมทบกบั ทหาร
ของโบลเิ ออท่กี ่อนหน้านไี ้ ด้ถอยไปยงั เมอื งเทรนต์
ตลอดเดือนมิถนุ ายนเต็มไปด้วยปัญหา ในตอนกลางเดือน นโปเลยี น พร้อมด้วยคณะ
นายทหารฝ่ ายเสนาธิการได้ประชุมกนั ณ เมืองโรเวอร์เบลลา (Roverbella) เพื่อพิจารณาถึง
กําลงั ของออสเตรียซงึ่ จะทําการรบกนั ในอนาคต
นโปเลยี นมีทหารซงึ่ มีเสบยี งและเคร่ืองยทุ ธสมั ภาระพร้อมมลู ๔๒,๐๐๐ คน แตว่ า่ เขารู้ดี
วา่ จํานวนของข้าศกึ ซงึ่ อยใู่ นเทือกเขาแห่งนนั้ คงจะมีอย่างน้อย ๖๐,๐๐๐ คน นอกจากนี ้ข้าศึก
ยงั มีทหารท่ีประจําการอยใู่ นเมืองมงั ตวั อกี ๑๐,๐๐๐ คน ทงั้ มีปื นใหญ่ทพ่ี ร้อมเพรียง
ในตอนปลายเดือนมิถนุ ายนนนั้ ป้ อมแห่งเมืองมิลานก็ยอมแพ้แก่ ฝร่ังเศส ความจริง
เมอื งมลิ านนีเ้ ฉพาะตวั เมืองเทา่ นนั้ ได้ตกอย่ใู นกํามือของ ฝร่ังเศสมาตงั้ แต่ท่ีฝรั่งเศสมีชยั ชนะที่
๑๒๘
เมืองโลดีแล้ว เม่อื ชนะท่ีนแี่ ล้วก็ได้รับ กําลงั ทหารเพมิ่ เติมมา ทงั้ ยงั ได้ปื นใหญ่เพิ่มเติมเข้ามาอีก
เพื่อจะได้ทําการตอ่ สู้ กบั ข้าศกึ ที่เมืองมงั ตวั และจําเป็ นอยา่ งยิ่งท่ีจะต้องช่วงชิงเอาเมืองมงั ตวั
มาเสยี ให้ได้กอ่ นที่ทหารออสเตรียจะทยอยกนั ลงมาจากภเู ขาแอลปส์ กระนนั้ เมืองมงั ตวั ทหาร
ออสเตรียก็ยงั ทาํ การป้ องกนั รักษามน่ั เอาไว้ได้อยู่
การเข้าประชิดป้ อมแหง่ เมืองมงั ตวั นนั้ ได้เร่ิมต้นขนึ ้ อย่างขะมกั เขม้น ในอาทิตย์แรกของ
เดือนมกราคม การพยายามท่ีจะช่วงชิงเอาทางนนั้ ไม่เป็ นผล และได้ทําการกนั อีกครัง้ หนึ่งใน
ตอนกลางคนื วนั ที่ ๑๘ และ ๑๙ แตว่ า่ ตอ่ จากนนั้ ก็ไมไ่ ด้ทาํ อะไรอกี นอกจากจะระดมยิงด้วยปื น
ใหญ่ นโปเลยี นมีปื นใหญ่ ๑๔๐ กระบอก แตว่ า่ มงั ตวั มีถึง ๓๑๖ กระบอก ในตอนปลายเดือนนนั้
การติดตอ่ ระหวา่ งกองหน้าของฝรั่งเศสขนึ ้ ไปตามหบุ เขาได้ปะทะกบั กองทหารของออสเตรียซ่งึ
อยบู่ นช่องทางเบรนเนอร์
ในวนั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม หลงั จากได้ล้อมเมืองมงั ตวั มา ๓ อาทิตย์กว่าแล้ว กองทหาร
ฝรั่งเศสบนลํานํา้ อาดิจตอนบน ซ่ึงคอยระวังทางเดินไปสู่เมืองเทรนต์นัน้ ก็ถูกขับไล่โจม ตี
เสยี หาย ๑,๖๐๐ คน ทหารออสเตรียซง่ึ นบั จํานวนพนั ๆ นนั้ มีจํานวนมากกวา่ ทหารฝร่ังเศส นโป
เลียนได้ทราบว่านายพลวมู แซร์ได้รับการแต่งตงั้ ให้เป็ นแม่ทพั แทนโบลิเออ ฉะนนั้ จึงจําเป็ นท่ี
จะต้องตอ่ ส้กู บั ผ้ทู ่ีมีความสามารถย่ิงขนึ ้ ไปอกี และวมู แซร์ ซงึ่ เดมิ เป็ นนายทหารม้า ได้ทําการรบ
มีชยั ชนะทหารฝรั่งเศสในแคว้นเยอรมนั มาใหม่ ๆ เป็ นนายทพั ซงึ่ เคยทาํ การรบมาตงั้ แตศ่ ตวรรษ
ที่ ๑๘ และในสมยั สงคราม ๗ ปี เขาได้นําทหารมาใหม่อีก ๒๕,๐๐๐ คน และยงั มีกองทหารใน
เมอื งมงั ตวั อีก
ด้วยเหตนุ ีน้ โปเลียนจึงจําเป็ นจะต้องถอยกลบั มา ฝ่ ายออสเตรียคิดวา่ บดั นีฝ้ ่ ายตนได้
เข้ามาตงั้ อยปู่ ากทางของหบุ เขาแล้ว นบั วนั จะยิ่งเสยี เปรียบมากขนึ ้ ความจริงนโปเลยี นก็เห็นวา่
ฐานะการศึกเสียเปรียบมากถึงกับเตรียมจะถอยกลบั ไปยงั เมืองมิลาน กระนนั้ เขาเองก็รู้ดีว่า
ทางเลอื กทวี่ า่ นนั้ มนั ก็คือความพา่ ยแพ้อยา่ งมหนั ต์ของเขานน่ั เอง ดงั นนั้ ไม่นานนโปเลียนจึงพดู
ขนึ ้ วา่ ๐เราอาจจะเข้ายดึ ที่ท่เี ราเสยี ไปแล้ว๑ อนั เป็ นการตดั สนิ ใจที่เด็ดเด่ียว กระนนั้ ก็ดี นโปเลยี น
ก็ยงั เตือนนายทหาร เหลา่ นนั้ ให้เตรียมตวั สาํ หรับการถอยด้วยถ้าหากวา่ จําเป็ น
ในระยะหวั เลยี ้ วหวั ตอ่ บางขณะนโปเลยี นได้เปิ ดเผยความนกึ คิดของเขา และปรึกษากบั
พวกนายทหาร แมท่ พั นายกอง แตว่ า่ โอกาสเชน่ นไี ้ มค่ อ่ ยมบี อ่ ยนกั แตบ่ ดั นกี ้ ็เป็ นอกี ครัง้ ท่เี ขาหนั
๑๒๙
มา ทําการปรึกษากบั บรรดาแมท่ พั นายกอง นโปเลียนสงั เกตวา่ บรรดาแม่ทพั นายกองเหลา่ นี ้
ต่างให้ความเห็นวา่ ควรจะถอยทพั และไม่ควรจะ ขืนดือ้ รบต่อไป แต่ว่ามีคนเดียวคือโอเยโรซ่ึง
เป็ นนกั เส่ียงโชค เห็นว่าควรจะอยู่ ยึดที่มนั่ ต่อไป ส่วนคีลแมนนนั้ เป็ นผ้ซู ึ่งเห็นว่าควรจะถอย
อยา่ งทส่ี ดุ ซงึ่ โอเยโรก็ค้านวา่ ไมค่ วร และผลท่สี ดุ นโปเลียนก็ตกลงใจว่า คงจะยึดมน่ั ต่อไป แต่ก็
เหน็ วา่ เป็ นการเสย่ี งโชคอยมู่ ากเหมอื นกนั
หลงั จากยดึ มนั่ อยรู่ ะยะหนงึ่ แตแ่ ล้วนโปเลยี นก็ได้ตดั สนิ ใจ โดยกะทนั หนั วา่ จะเลกิ การ
ล้อมเมืองมงั ตวั และยกกองทหาร ทงั้ หมดขึน้ มาทางเหนือเพื่อมาต่อสู้กบั ออสเตรีย ฝ่ ายทหาร
ฝร่ังเศสมกี ําลงั เมอ่ื เทยี บกบั ฝ่ ายทหารออสเตรีย ๔ ตอ่ ๖ นอกจากนยี ้ งั มีเมืองมงั ตวั ซง่ึ ยงั ตงั้ มน่ั
อยขู่ ้างลา่ งอีก ในคืนวนั สดุ ทาั ยของเดือนนี ้ระหวา่ งวนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม ถึงวนั ที่ ๑ สงิ หาคม ปื น
ใหญ่ที่ได้ระดมยิงเมืองมงั ตัวก็หยุด กระสนุ ดินดําก็ทําลายทิง้ เสียหมด ปื นใหญ่ท่ีมีก็ทําการ
ทะลวงเสยี หมด นโปเลยี นได้กลา่ วเอาไว้วา่ ขณะท่เี ขากําลงั อยทู่ ่ีน่ี ปื นใหญ่เหลา่ นี ้เขาอยากจะ
พยายามเอาไปด้วย ทงั้ นีเ้ พราะเขาคือนายทหารปื นใหญ่ กระนนั้ แต่เขาไมใช่เป็ นนายทหารปื น
ใหญ่เทา่ นนั้ หากแตเ่ ขาเป็ นแมท่ พั ซง่ึ จําเป็ นจะต้องช่วยทหารทงั้ กองทพั
กองทพั ออสเตรียซึ่งรุกลงมาจากเทือกเขาแอลปส์นนั้ อย่ภู ายใต้การบงั คบั บญั ชาของ
นายพลวมู แซร์ ตรงปากชอ่ งหบุ เขาซง่ึ ติดตอ่ ทีร่ าบนนั้ กองทหารจําเป็ นจะต้องยกลงมาเป็ นแถว
เดียว เพราะฉะนนั้ นายพลวมู แซร์จงึ ตดั สนิ ใจทจ่ี ะแบง่ ทหารของเขาออกเป็ น ๒ สว่ น และทําการ
รบทงั้ สองฟากของทะเลสาป
โดยให้นายพลรองจากเขาไปชื่อโควสดาโนวิช (Quosdanovich) เดินทพั ลงมาทางทิศ
ตะวนั ตกของทะเลสาปมาจนถึงตรงปลายทะเลสาปการ์ดา สว่ นนายพลวมู แซร์เองก็เดินทพั มา
ทางทิศตะวนั ออก ซ่ึงจะต้อง เดินลงมาตามหุบเขาของแม่นํา้ อาดิจ กองทหารทงั้ สองนีจ้ ะมา
รวมกนั ทางทศิ ใต้ของทะเลสาปทีเ่ มอื งเวโรนา
กระนนั้ แม้การดาํ เนินการจะเป็ นไปด้วยความรอบคอบและเฉลยี ว ฉลาดของนายพลวมู
แซร์ แต่ประสิทธิผลก็ไม่บังเกิดแต่ประการใด ทัง้ นีเ้ พราะด้วยความรวดเร็วของนโปเลียน
กลา่ วคือนโปเลยี นได้สง่ ทหาร เข้าทะลวงกนั้ มิให้กองทหารทงั้ สองนีม้ าพบกนั ได้ เมืองมงั ตวั อนั
เป็ นระยะทางเดิน ๑ วนั กวา่ จะมาพบกบั ทพั ของนายพลโควสดาโนวิชทางทิศตะวนั ตก และพบ
กบั นายพลวมู แซร์ทางทิศตะวนั ออก แตก่ ารเข้ามาอยกู่ งึ่ กลางระหวา่ งกองทหารออสเตรียทงั้ สอง
๑๓๐
นี ้อาจทาํ ให้แพ้ได้ง่าย ๆ เช่นกนั นอกเพียงจากนโปเลยี นจะสามารถตรึงหรือทําลายกองทพั ลง
เสยี ข้างหน่งึ ก่อนแล้วหนั ไปต่อส้กู บั อีกข้างหนึ่ง ดงั นนั้ ความรวดเร็ว จึงเป็ นส่ิงสําคญั เหลือเกิน
และความรวดเร็วดงั วา่ นี ้นโปเลยี นก็สามารถทําได้ นโปเลียนสามารถเข้าโจมตีทพั ของโควสดา
โนวชิ ซงึ่ ทําให้เขาต้องถอย กลบั ขนึ ้ ไปตามถนนริมทะเลสาป เพื่อกลบั ไปรวมกบั นายพลวมู แซร์
โดยอ้อมทะเลสาปลงไปทางหบุ เขาแม่นํา้ อาดิจ และทําลายทพั ออสเตรียตกไป ฉะนนั้ หากนบั
จํานวนพลของกองทพั ออสเตรียทงั้ สองท่ีรวมกนั จะมีจํานวนมากกวา่ ฝรั่งเศส แต่เมื่อแยกกัน
ตอ่ ส้คู นละคราวเช่นนแี ้ ล้ว ก็กลบั มีจํานวนน้อยกวา่ ทพั ของนโปเลยี น ออสเตรียจงึ พา่ ยแพ้
การรบ ๒ คราวนเี ้รียกกนั วา่ สนามรบแหง่ คาสตกิ ลโิ อน โดยนาํ ชื่อมาจากเมืองเลก็ ๆ ซง่ึ
อยู่ในบริเวณทะเลสาปนนั้ แต่ว่าบางทีก็เรียกกันว่า การรบ ๕ วัน ฝ่ ายออสเตรียเสียทหาร
๑๒,๐๐๐ คน ถงึ ๑๕,๐๐๐ คน ปื นใหญ่ ๗๐ กระบอก กระนนั้ ก็ดีนายพลวมู แซร์ก็สามารถจะสง่
ทหารอีก ๗๐ กองเข้าไปในเมืองมงั ตวั สว่ นการเสยี หายของฝรั่งเศสในการรบครัง้ นนั้ ก็คือ เสีย
ทหารไป ๕,๐๐๐ คน ซงึ่ นบั วา่ เป็ นความเสยี หายทมี่ ากเช่นกนั
นายพลวมู แซร์ได้ถกู ขบั ไลใ่ ห้ห่างออกไปจากธรรมชาติของการถอยทพั คือไมส่ ามารถ
จะยดึ ลาํ แมน่ าํ ้ อาดจิ ได้ และกําลงั ถอยไปยงั หบุ เขา แมน่ าํ ้ เบรนตา (Brenta) สว่ นทหารฝร่ังเศสก็
ติดตามอยา่ งรวดเร็วจนไม่มีเวลาให้พกั ผ่อน ในการติดตามทหารออสเตรียนีม้ สั เซนาได้เดินทพั
กวา่ ๑๐๐ ไมล์ ใน ๕ วนั โอเยโรเดนิ ทพั ได้ ๑๑๐ ไมล์ ยิง่ กวา่ นนั้ ยงั ต้องตอ่ ส้กู บั ข้าศกึ ในระหวา่ ง
ทางถึง ๓ ครัง้ ในระหว่างชวั่ เวลานบั จากโจมตีข้าศกึ อย่างสาํ คญั ในวนั ที่ ๕ สงิ หาคม ไปจนถึง
ตอนเช้าวนั ที่ ๘ สงิ หาคม ซงึ่ เป็ นระยะเวลา ๖๐ ชวั่ โมง มสั เชนาได้เดินทพั ถงึ ๕๐ ไมล์ และยงั ทาํ
การรบอีก ๒ ครัง้
นายพลวูมแซร์ได้พ่ายแพ้ที่บสั ชาโน (Bassano) ซ่ึงนบั ว่าเป็ นการเปิ ด ฉากแรกของ
ความพา่ ยแพ้ในการรบท่ตี รงนี ้การรุกใหญ่ ของออสเตรียซงึ่ ได้รับกองทหารอยา่ งมหาศาลก็แตก
สลายลง และฝรั่งเศสก็กลบั ไปล้อมป้ อมเมืองมงั ตวั อยา่ งเดมิ อีก
หลงั จากนนั้ ไมม่ ีเวลาหยดุ พกั มากนกั กอ่ นที่ฉากท่ี ๒ การป้ องกนั เมืองมงั ตวั หรือการรบ
จะเริ่มต้น ออสเตรียได้สง่ ทหารหนนุ เพ่มิ เติมมาชว่ ยเมอื งมงั ตวั อกี ทงั้ ๆ ท่กี ารส้รู บกบั ฝรั่งเศสทาง
เหนอื ภาคภเู ขาแอลปส์ ก็ยงั ดําเนินกนั ไปอย่างเต็มท่ีอย่เู ช่นกนั ในการยกทพั หนนุ ลงมาจากทิศ
เหนืออีก และคราวนีน้ ายพลรองของนายพลวมู แซร์ช่ือ ดาวิโดวิซ (Davidovich) ก็ให้ยกทพั ลง
๑๓๑
มาตามหบุ เขาแมน่ าํ ้ อาดิจ เดนิ ทพั ลงมาจากเมอื งเทรนต์ ลงมาตามหบุ เขาแมน่ าํ ้ เบรนตา เมอ่ื ลง
มาถึงท่ีราบแล้ว นายพลวมู แซร์ ก็จะแยกจากทางทิศตะวนั ออกไปยงั ทิศตะวนั ตก ถ้าหาก
ฝรั่งเศส ยกมาทางทศิ ตะวนั ออกเพอ่ื ปะทะกบั วมู แซร์ เขาก็เช่ือว่าดาวิโดวิชซึ่งมีทหารอยมู่ ากจะ
ยกมาขนาบหลังได้ จึงหวังว่าฝร่ังเศสจะต้องอยู่ในระหว่างถูกขนาบด้วยปื นทัง้ สองข้าง
ยิ่งกว่านนั้ ยังมีจํานวนทหารมากกว่า ฉะนนั้ ถ้าหากว่าฝรั่งเศสหนั เข้าแบ่งส้ทู งั้ สองข้างแล้วก็
จะต้องพา่ ยแพ้เช่นเดยี วกนั
สง่ิ ท่ีทาํ ลายแผนการนกี ้ ็คือ การรุกอยา่ งรวดเร็วและกะทนั หนั ของ มสั เชนา ซึง่ นโปเลียน
สง่ อ้อมไปทางทศิ เหนือของทะเลสาป เพ่ือให้เดนิ ทพั ไปตามถนนแนวแมน่ าํ ้ อาดจิ เพ่ือชิงมิให้ดาวิ
โดวิชทําการรุก นายพลมสั เซนาได้มาถึงเมืองเทรนต์ในวันที่ ๕ กันยายนซึ่งเป็ นเวลา ๑ วัน
ภายหลงั จากทนี่ ายพลวมู แซร์ได้ออกเดนิ ทพั ทหารออสเตรียซงึ่ อย่บู น ลํานํา้ อาดิจจะได้ตรึงการ
รุกของฝร่ังเศสไว้ได้
ก่อนที่จะเสียเมืองเทรนต์ ทางรัฐบาลออสเตรียเกิดตกใจกลัวว่าจะเสียทางเดินผ่าน
ภเู ขาเบรนเนอร์แก่ข้าศกึ ฉะนนั้ ดาวโิ ดวิชจึงได้รับคาํ สง่ั ดว่ นให้ถอยกลบั ไปยดึ ช่องผา่ นเบรนเนอร์
ฉะนนั้ ก่อนท่ีนโปเลียนจะรุกมาถึงอย่างเต็มท่ีเพ่ือขึน้ ไปตามลําแม่นํา้ อาดิจ นโปเลียนก็อยู่
ระหวา่ ง กลางของทหารออสเตรียทงั้ ๒ ข้าง แตว่ า่ กองทหารทางเหนือนนั้ ถกู ขนาบหมดเสียแล้ว
สว่ นทางใต้ซงึ่ อยทู่ ล่ี าํ นาํ ้ เบรนตาก็มีทหารไม่ มากกวา่ ๒๐,๐๐๐ คนและมาโดดเด่ียว ฝรั่งเศสได้
ยกลงไปตามลํานํา้ เบรนตา โดยรวดเร็วที่สดุ ยึดที่ได้อย่างรวดเร็ว นายพลวูมแซร์ถูกรุกโดย
กะทนั หนั ไมท่ นั เตรียมตวั และเม่ือได้ทราบวา่ ทหารฝรั่งเศสได้รุกไปท่ีเมอื งเบรนต์ เขาก็คิดว่านโป
เลยี นม่งุ หมายจะไปตีช่องเขาเบรนเนอร์ แต่แทนที่นโปเลียน จะทําเช่นนนั้ นโปเลยี นกลบั หวน
กลบั ย้อนลงมาทางหลงั ของนายพลวมู แซร์ และซง่ึ เป็ นทางเดียวท่ีนายพลวมู แซร์เองต้องเดินทพั
ลงมาเพอ่ื พงุ่ ไปยงั ท่รี าบ
เมื่อปราชยั เช่นนีแ้ ล้ว นายพลวูมแซร์เหลือทหารอยู่เพียง ๑๒,๐๐๐ คน และไม่มีทาง
คมนาคมติดต่อไปแนวหลงั คืออิตาลี และไม่มีเสบียงอาหาร นอกจากที่เหลือติดอย่ใู นกองทพั
เทา่ นนั้ ฉะนนั้ จงึ ไมม่ ีทางทจี่ ะทําอะไรได้นอกจากจะรีบเดนิ ทพั ไปยงั เมอื งมงั ตวั ซง่ึ เป็ นเมอื งที่เขา
กะแผนการไว้วา่ จะกรีฑาทพั พร้อมด้วยทหาร ๔๕,๐๐๐ คนเพ่อื ไปชว่ ยเหลอื แตว่ า่ ความจริงนนั้
เวลานีเ้ ขาเหลือทหารอยู่เพียง ๑๒,๐๐๐ คนเท่านนั้ ด้วยเหตุนีฉ้ ากท่ี ๒ ของการป้ องกนั ป้ อม
๑๓๒
เมืองมงั ตวั ก็จบลง
ในระหว่างการหยดุ รบชว่ั คราวครัง้ นี ้ นโปเลยี นได้เขียนจดหมายถึงพระเจ้าจกั รพรรดิฟ
รานชิสแห่งออสเตรีย ม่งุ หมายเพ่ือฉวยโอกาสชวนหยุดรบ ในขณะที่ฝ่ ายออสเตรียพ่ายแพ้นี ้
นโปเลยี นได้กลา่ วเอาไว้ในจดหมายฉบบั นนั้ เป็ นเชิงวา่ สงครามได้ทําให้เกิดการเสยี เลอื ดเนอื ้ กนั
มากมายแล้ว ควรจะได้หยดุ รบสงบศึกกนั เสยี ที อนงึ่ หากแม้วา่ พระเจ้าจกั รพรรดิจะไม่ยินยอม
ตามคําชักชวนนีแ้ ล้ว ก็จะทําลายล้างอํานาจของท่านเสียให้หมดแคว้นอิตาลี และแม้ กระท่งั
ดินแดนของออสเตรียโบราณ ซึ่งอย่บู นชายฝั่งทะเลอาเดรียติกด้วย นโปเลียนข่วู ่า จะปิ ดทา่ เรือ
เมืองตริเอสต์ (Trieste) เสีย แต่อย่างไรก็ดี ว่ากันที่จริง ๆ แล้ว นโปเลียนเองก็ไม่มีกําลงั ทพั
พอทจี่ ะกระทาํ ได้ดงั่ วา่ นนั้ เลย แตน่ นั่ เป็ นแคก่ ารกลา่ วขไู่ ปดอื ้ ๆ เช่นนนั้ เอง
ในระยะเวลาพร้ อมกันนนั้ ก็ได้มีหนงั สือรายงานไปยงั รัฐบาลฝร่ังเศส ขอให้ส่งทหาร
เพ่ิมเติมมาเป็ นการด่วน และได้กําชับไปในจดหมายด้วยว่า การส้รู บทางกองทพั ภาคเยอรมนั
แมน่ าํ ้ ไรน์และดานบู ทางทิศเหนอื นนั้ พา่ ยแพ้อยู่ ฉะนนั้ เยอรมนั อาจจะแบ่งทหารสง่ มาช่วยรบใน
กองทพั ภาคอิตาลีอย่างแน่นอน อน่ึง บดั นีท้ หารในภาคอิตาลีบดั นี ้มีอย่ทู งั้ สิน้ ๑๙,๐๐๐ คน
และในจํานวน ๑๙,๐๐๐ คนนีก้ ็ต้องทําการล้อมเมืองมงั ตวั อยู่ คะเนว่าอีกลกั ๒-๓ สปั ดาห์นี ้
ฝ่ ายข้าศกึ คงจะต้องสง่ กําลงั ทหารมาเพ่ิมอีก ฉะนนั้ ข้าพเจ้าจะส้รู บกบั ข้าศึกอนั มากมายนนั้ ได้
อยา่ งไรกนั
๑๓๓
บทท่ี ๑๕
ความรัก-สงคราม
เม่ือการรบเบาบางลงบ้างในระยะนี้ นโปเลียนก็ต้องใช้ความสามารถ แห่งการว่างศกึ ไปใน
ทางการปรับปรุงการเมืองอกี โดยเรียกประชมุ ผ้แู ทนรัฐตา่ ง ๆ มาท่ีเมืองโมเดนา (Modena) ณ
ทีป่ ระชมุ นโปเลยี นได้มอบ ธรรมนญู การปกครองให้ เพื่อท่ีจะให้รัฐต่าง ๆ ที่แตกแยกได้รวมกนั
เป็ นรัฐเดียว เป็ นสาธารณรัฐใหม่ นโปเลยี นอ่ิมใจในการท่ีได้เป็ นผ้สู ร้างรัฐขึน้ แต่ในใจ อีกด้าน
หนงึ่ ก็คดิ ไปวา่ ภรรยาของเขาในเมืองมลิ าน คงจะกําลงั รักใคร่ กบั ใครคนหนึ่ง ถ้าไม่เช่นนนั้ แล้ว
โยเซฟิ นก็ควรจะเขียนจดหมายมาถึงบ้ าง
จากโมเดนานี ้นโปเลียนได้เขียนจดหมายไปถึงโยเซฟิ นว่า ๐...จดหมายของเธอได้อ่าน
แล้ว รู้สกึ เยือกเย็นเหลือเกิน ทําให้คิดว่าเราควร จะได้แตง่ งานกนั มาเสยี แต่เมื่อ ๕๐ ปี มาแล้ว
ฉนั จะหวงั อะไรกบั เธออีกเลา่ เธอเกลียดฉนั เธอได้หยดุ รักฉนั เสียแล้ว แต่ฉนั ก็วา่ อะไรเธอไมไ่ ด้
นนั้ แหละทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งยอ่ มมีการเสอ่ื มจางไปได้ เว้นแตด่ วงความคดิ อยา่ งเดียวเทา่ นนั้ ...๑
ครัน้ แล้วนโปเลียนก็ต้องเดินทพั ขึน้ ไปทางทิศเหนืออีก และในการรบ ทางภาคนี ้ นโป
เลยี นต้องถอยอยตู่ ลอดเวลา ขณะนนั้ เป็ นเดือนพฤศจิกายน โชคชะตาของนโปเลยี นก็เหมือนกบั
แขวนอยใู่ นลกั ษณะเหนืออนั ตราย
นโปเลยี นต้องระดมกําลงั กายกําลงั ความคดิ ทาํ งานคล้าย ๆ กบั ว่าได้มีหวั สมองสกั ๓๐
หวั แตก่ ระนนั้ ก็ดียงั ได้เจียดเวลา จดหมายไปถึงโยเซฟิ นอีก ๐ฉนั ไม่รักเธออีกแล้ว เธอเป็ นคนที่
นา่ เกลยี ดนา่ ชงั และโง่เขลาทสี่ ดุ เธอไม่มีจดหมายถึงฉนั ไมม่ ีความรักในสามีของเธอเลย อยาก
รู้วา่ เธอทําอะไรอยตู่ ลอดวนั มีธรุ ะอะไรทส่ี าํ คญั จนทําให้เธอไมส่ ามารถเขยี นจดหมายถึงคนท่ีรัก
เธอได้ หรือมีใคร เจ้าชายใด ซึ่งมาเป็ นเจ้าของเวลา ของเธอเสียหมด ทําให้ไม่อาจเขียนจด
หมายถึงคนท่เี ป็ นสามีของเธอ อยา่ ลมื วา่ วนั ใดวนั หนง่ึ ประตจู ะเปิ ดและฉนั จะเข้ามาหา จงเขียน
จดหมายที่หวานๆ ถึงฉนั สกั ๔ หน้า เพ่ือจะได้ทําให้หวั ใจของฉันชุ่มช่ืนด้วยความสขุ อีก ๒-๓
วนั นี ้ฉนั หวงั วา่ ฉนั จะได้รับเธอมาอยใู่ นอ้อมกอด๑
๑๓๔
นโปเลียนกบั โยเซฟิ น
นโปเลยี นไมแ่ นแ่ ก่ใจเลยวา่ จะไว้วางใจโยเซฟินได้เพยี งใด ต้องต่อส้อู ย่ทู งั้ ศกึ ในอกและ
ศกึ ภายนอก ความรับผดิ ชอบ ความไมแ่ น่นอนในใจเผาผลาญความรู้สกึ ของนโปเลยี นอยู่ วนั นี ้
ภรรยาไมซ่ ่อื ตรงเป็ นเหตใุ ห้เสยี ช่ือ และพรุ่งนอี ้ าจจะแพ้สงคราม พะวกั พะวนอยใู่ นความรู้สกึ นึก
คดิ อยา่ งนี ้
หลงั จากวนั ท่ีเขียนจดหมายถึงโยเซฟิ นได้ ๒ วนั นโปเลียนก็เดินทพั เข้าไปใกล้ ๆ กบั
เมืองอาร์โกลา ที่บนสะพานข้ามแมน่ าํ ้ อาดจิ กองทพั ข้าศกึ กําลงั ระดมยงิ สะพานนี ้ทหารฝรั่งเศส
ต้องถอย และเกือบ ๆ ที่จะไม่มีทางข้ามแม่นํา้ อย่แู ล้ว เสียงทหารร้ องบอกขึน้ ว่า ท่านนายพล
ทา่ นจะถกู ยิง อยา่ ก้าวตอ่ ไปอีก นโปเลยี นได้หนั กลบั มาดวู า่ จะมีใครตามมาบ้าง ก็ได้เหน็ นายพล
มารมองต์กําลงั บาดเจ็บเพราะถกู ยิงล้มอย่ใู นวงแขนของทหารผ้ชู ่วย รอบ ๆ ข้างใกล้กนั นนั้ ก็มี
ทหารท่ีถกู ยิงนอนกลงิ ้ เกลอื กอยู่
เมอื่ แนวหน้าได้ถกู ตรึงหนกั หน้าอยเู่ ช่นนี ้กองทหารก็พยายามหาท่ี ซุม่ ซอ่ นกําลงั ตามริม
ฝ่ังแม่นํา้ ตวั นโปเลียนเองถลําตกลงไปยงั คูข้างทํานบกัน้ นํา้ หลยุ ส์น้องชายและนายพลมาร
มองต์ได้ช่วยกนั ฉดุ นโปเลียนขนึ ้ มาได้ มารมองต์ได้เอาตวั เข้ากําบงั นโปเลยี นและทําให้เขาถกู
ยงิ ล้มลง แตผ่ ลสดุ ทาั ยก็ได้พากนั ขนึ ้ ม้ากลบั กนั ไปได้
กลบั มาถึงค่ายในเย็นวนั นนั้ นโปเลียนมีความทกุ ข์ใจมาก การรบลว่ งเข้าวนั ที่ ๘ แล้ว
๑๓๕
และการโจมตีท่ีมั่นข้าศึกก็ยงั ไม่ได้ผล เพราะมีแม่นํา้ ขวางหน้าอยู่ จนวันท่ี ๓ การรบก็ยงั ไม่
ปรากฏผลอีก แตใ่ นชว่ั โมงสดุ ท้าย นโปเลียนได้ออกอบุ ายให้ทหารแตรเดินอ้อม ไปทางที่ตงั้ มน่ั
ของข้าศกึ และเป่ าแตรตีกลองเป็ นสญั ญาณรุกรบขนึ ้ ทหารออสเตรียได้ยินเสียงแตรมาจากข้าง
หลงั ก็พากนั ตกใจวนุ่ วายขนึ ้ ทหารฝรั่งเศสก็ฉวยโอกาสรุกไล่ โถมเข้าไปในระหวา่ งความตกใจ
ของข้าศกึ นนั้ นโปเลยี นเองได้ยืนโบกธงอยบู่ นสะพานบ้านอาร์โกลาฝั่งแมน่ าํ ้ อาดิจ ชยั ชนะของน
โปเลยี นครัง้ นี ้มขี นึ ้ ได้ด้วยอาศยั อบุ ายกบั ความกล้าหาญตดั สนิ ใจแน่วแน่ ช่ือเสียงของการรบท่ี
ตาํ บลอาร์โกลานี ้ขนึ ้ ชื่อโดง่ ดงั ติดปากคน อย่ชู วั่ กาลนาน ในปารีสก็ถึงกบั ได้คิดทําเหรียญกล้า
หาญตําบลอาร์โกลานขี ้ นึ ้ เป็ นอนสุ าวรีย์
จดุ อนั ตรายได้ผ่านพ้นไปอีกครัง้ หนงึ่ กองทพั ออสเตรียท่ียกมา ณ เมืองมงั ตวั ก็ได้ถอย
กลบั ไป อีกไม่ช้านกั เมืองก็จะต้องแตก นโปเลียนได้จัดกองทหารกองหน่ึงแล้วยกเดินทาง
กลบั ไปยงั เมอื งมลิ าน
แต่วา่ การโจมตีโยเซฟิ นยากเสียกวา่ การโจมตีป้ อมมงั ตวั คือเมื่อกลบั มาถึงมิลานแล้ว
โยเซฟินไมอ่ ยู่ เธอได้เดินทางไปยงั เมืองเจนวั โดยได้รับเชิญจากคณะรัฐบาลรีพบั ลิคเก่าแหง่ เจ
นวั ท่ีนน่ั โยเซฟิ นได้สําราญอยู่กับงานรื่นเริงประจําปี จนตลอดงานเลิก จึงกลบั มาไม่ทนั นโป
เลยี น
นโปเลยี นได้เขียนจดหมายจากมลิ านไปยงั โยเซฟินทีเ่ จนวั มีใจความวา่ ๐...เมื่อมาถึงมิ
ลาน รีบเข้าไปในห้องของเธอ ปรารถนาจะได้เห็นหน้าและกอดเอาไว้กบั อกของฉนั แต.่ ..เธอหา
ได้อยเู่ หมือนทห่ี วงั ไม่ เธอกลบั มาเทีย่ วหวั เมอื งเสยี กบั พวกทอ่ งเท่ียว เธอหนฉี นั ทงั้ ๆ ท่ีรู้วา่ ฉนั จะ
กลบั มาถงึ เอาเถิด เธอไม่จําต้องคิดถึงนโปเลียนท่ีรัก ของเธออีกต่อไปก็ได้...๑ ในตอนจบเขียน
เอาไว้ว่า ๐...ฉันจะอย่ทู ่ีมิลานนีจ้ นถึงวนั ท่ี ๙ ขออย่ากังวลในตวั ฉนั เลย จงสนกุ สนานไปตาม
ความปรารถนาและพอใจของเธอเถิด ความสขุ สาํ ราญทงั้ หลายมีไว้พร้อมสาํ หรับแก่เธอเท่านนั้
เธออาจจะมีความรื่นเริงใจได้เท่าท่ีใจเธอปรารถนา สว่ นผวั ของเธอนนั้ ...เขาจะไม่มีความสขุ
หรือไมม่ ีความสบายใจอยา่ งไรและเพยี งใดนนั้ ก็ช่างเขาเถิด...๑
แตใ่ นวนั รุ่งขนึ ้ จดหมายที่นา่ สงสารฉบบั นนั้ ก็ได้ถกู คลอี่ อกใหม่ เขียนใสไ่ ว้ในตอนจบอีก
วา่ ๐ฉนั ได้กลบั คลจี่ ดหมายนอี ้ ีกครัง้ เพ่ือสง่ จบู มาให้เธอด้วยจบู หนงึ่ ...๑
เมือ่ โยเซฟิ นกลบั มาถึงมิลาน ตอนแรก ๆ นโปเลียนก็ได้แสดงกิริยาหงุดหงิดอยบู่ ้าง แต่
๑๓๖
เพยี งไมก่ ี่วนั นโปเลียนก็ให้อภยั แก่โยเซฟิ นหมดสิน้ ความรักอนั ดดู ดื่มที่ได้มีแก่โยเซฟิ นเป็ นเหตุ
ให้นโปเลียนลืมนึกถึงอะไร ๆ ที่แล้วมา นอกจากคําพูดฉอเลาะและอ่อนหวานของโยเซฟิ น
เท่านนั้ ความช่างฉอเลาะของโยเซฟิ นทําให้นโปเลียนหลงเช่ือโยเซฟิ นได้สนิทสนม อน่ึง นับ
จากนนั้ มาความพิสมยั ในระหวา่ งคนทงั้ ๒ นี ้ก็ได้มีขึน้ บริบรู ณ์ดงั เดิมและดปู ระหน่ึงวา่ จะไม่มี
อปุ สรรคใด ๆ มาขดั ขวาง หรือบดบงั แสงสวา่ งแหง่ ความรักทเี่ กษมสขุ อนั ได้มีอยคู่ รัง้ เม่ือพกั อย่ทู ี่
ปราสาทมองต์เบลโลนไี ้ ด้
นโปเลียนได้เคยเรียกช่างเขียนมาเขียนรูป ช่างเขียนได้จัดให้นโปเลียนถือธงประจํา
กองทพั ทงั้ ๒ มือ ยืนทําทา่ โบกอย่บู นสะพานโลดี ทําทีทา่ จะว่ิงนํากองทหาร แตช่ ่างเขียนยงั ไม่
ทนั จดั ให้เรียบร้อย พอโยเซฟินมาถงึ ก็ทรุดนง่ั ลงบนเก้าอใี ้ กล้ ๆ กนั นนั้ และเออื ้ มมอื ไปดึงตวั นโป
เลยี นให้นงั่ ลงเหนอื เขา่ ของโยเซฟิน ช่างเขยี นเลยเปลย่ี นทา่ เขยี น มาเร่ิมเขียนในทา่ ใหมน่ ี ้
แท้จริงความประพฤติของโยเซฟิ นท่ีแสดงตอ่ นโปเลียน ดูประหน่ึงว่าโยเซฟิ นมีอํานาจ
เข้าไปน่งั ในหวั ใจนโปเลียนได้ ทงั้ นโปเลียนเองก็ล่มุ หลงและตามใจ ซ่ึงเป็ นการผิดมาก นโป
เลียนอยากให้โยเซฟิ นคอยตามใจตวั และทําตามประสงค์ของนโปเลียนทุกอย่าง แต่โยเซฟิ น
เป็ นคนฉลาดรู้จกั เอาใจ แม้เมอ่ื ตวั ทาํ ผดิ พะนอเสียประเดี๋ยวนโปเลียนก็หายโกรธ และกลบั ต้อง
งอนง้อเอง เสียเชิงต่อโยเซฟิ นอย่างนีเ้ สมอ ๆ และพอดีกันเข้าได้โยเซฟิ นก็เที่ยวระเริงไปตาม
ความโลดแลน่ ของใจคนท่ีเคยแก่การระเริงรนต่อ ๆ ไปอีก พอนโปเลยี นแสดงความไม่พอใจ ก็
ประจบพะเน้าพะนออีก แล้วก็ดกี นั อีก ดงั นคี ้ วามราบรื่นในชีวิตของคนทงั้ สองจึงมีสลบั สบั สนอยู่
เป็ นปกติ ดงั จะได้เหน็ ตอ่ ๆ ไปโดยลาํ ดบั แตแ่ ท้จริงแล้ว ถ้านโปเลยี นจะใช้อํานาจเหมือนกบั ที่ได้
ใช้อยู่กับทหารนนั้ แล้ว โยเซฟิ นก็จะไม่เป็ นอย่างนี ้ จะผิดกลบั กันเป็ นคนละคนทีเดียว ถึงไม่
เคารพรัก ก็ต้องเกรงกลวั กันไปอย่างใดอย่างหน่ึง แต่ไม่เช่นนนั้ นโปเลียนใช้วิธีดุแล้วก็กลบั
ปะเหลาะ โยเซฟินจึงรู้เช่น เลยได้ใจ
ในขณะเดียวกนั นี ้ทางกรุงปารีสกําลงั สงบอยดู่ ้วยความสขุ พลเมอื งตา่ งพากนั ปิ ติยนิ ดที ่ี
ได้มีวีรบุรุษเป็ นที่นบั ถือ อนั ได้ไปกระทําชัยชนะในดินแดนอิตาลี ตามร้ านค้าพานิชมีรูปนโป
เลยี น ตดิ ประดบั ร้านอยทู่ ว่ั ไป มีบทกลอนสดดุ ีความกล้าหาญของนโปเลียน เทียบกบั วีรบรุ ุษใน
สมยั โบราณ ตามโรงละครก็พากนั กล่าวขวญั และยอเกียรติ ได้ผกู เรื่องเกี่ยวกบั ชยั ชนะท่ีได้มา
นําเข้าไปแสดงในพระราชวงั ลกุ แซมเบิร์ก รายงานการสงครามของนโปเลียน ก็ปรากฏในหน้า
๑๓๗
หนงั สือพิมพ์โมไนเตอร์ (Moniteur) ซึ่งเป็ นหนงั สอื พิมพ์ท่ีมีช่ือในสมยั นนั้ มีผู้ประดิษฐ์เหรียญ
ตรานโปเลยี น มีเพลงร้อง มีภาพการ์ตนู ล้อ ทกุ ส่งิ ทกุ อย่างเป็ นไปเพ่ือยอเกียรตินโปเลียนผ้กู ล้า
หาญเป็ นวรี บรุ ุษ ของฝร่ังเศส
นโปเลยี นรู้ดีวา่ ความนิยมชมชื่นของมหาชนที่มีอย่ใู นตวั เขานนั้ ย่อมไมเ่ ป็ นที่พอใจของ
คณะกรรมาธิการ ซึง่ ก็พอดีกบั ที่คณะกรรมาธิการ ก็คิดว่าชยั ชนะของนโปเลยี นที่เป็ นท่ีนิยมอยู่
ในหมพู่ ลเมืองนนั้ กลบั เป็ นความตายของพวกเขา ฉะนนั้ จึงได้มีการประชมุ หารือถึงเร่ืองนีข้ ึน้
โดยเฉพาะ และครัง้ นีก้ ็ได้เห็นพ้องต้องกนั วา่ ควรจะสง่ นายพลคล๊าค (Clarke) ไปกํากบั การใน
กองทพั ภาคอิตาลดี ้วย นายพลคล๊าคผ้นู ีเ้ ป็ นผ้รู อบคอบ มีความทะเยอทะยาน มีสง่าผ่าเผยน่า
เกรงขาม ขณะที่เดินทางไปมิลาน นายพลคล๊าคคิดแต่ในใจว่า จะปราบนโปเลียนให้อยู่ แล้ว
บงั คบั บญั ชาเอาตามอํานาจ และนึกหมิ่นอยใู่ นใจว่า นโปเลียนคนนีไ้ มใช่ว่าจะวิเศษอะไร เคย
เหน็ แตง่ ตวั ก็ซอ่ มช่อ ไมน่ า่ ทจ่ี ะมีความสามารถพ้นสตปิ ัญญาและความสงา่ ผา่ เผยของตวั ไปได้
แตค่ รัน้ เมอ่ื ไปถึงเข้าจริง พอได้เผชิญหน้ากนั เข้า ความเป็ นผ้มู ีสง่าของคล๊าค กลบั เป็ น
ความประหวนั่ ครั่นคร้าม ประหม่าใจเกรงนโปเลียนอยู่ ซึ่งที่จริงนโปเลียนก็มิได้มีร่างกายสงู ขนึ ้
กว่าเดิม จะทําให้น่าเกรงกลวั ใด ๆ เคยมีรูปกายเตีย้ ต่ําอยู่อย่างไร ก็ยังคงสภาพอยู่เช่นนัน้
หากแตว่ า่ กิริยาท่ี นโปเลยี นเดินเข้าเดินออกในวงั ทพ่ี กั นนั้ ดผู า่ เผยองอาจสมลกั ษณะทหารแท้
นโปเลียนเองไม่แสดงท่าทีว่าเป็ นผ้ชู นะหรือเป็ นผ้ทู รงอํานาจใด ๆ ได้ต้อนรับนายพล
ผ้แู ทนของคณะกรรมาธิการด้วยอธั ยาศยั ไมตรี นายพลคล๊าคถึงกบั ยอมรับกบั ตวั เองวา่ คนผ้นู ี ้
เป็ นคนแห่งอนาคตโดยแท้ มีอํานาจส่ิงหน่ึงซ่อนเร้ นอยใู่ นตวั สามารถโน้มเหน่ียวหวั ใจคน ให้
เลอื่ มใสได้อยา่ งประหลาด จึงเป็ นอนั วา่ นายพลคล๊าคไมส่ ามารถจะ ลว่ งรู้ถงึ แผนการในใจของน
โปเลียน แต่นโปเลียนกลบั ได้ล่วงรู้ ถึงหัวใจของนายพลคล๊าค รู้ตลอดถึงแผนการลับของ
คณะกรรมาธิการ ทงั้ นีโ้ ดยเหตุที่นายพลคล๊าคนน่ั เองเอาไปเปิ ดโปงบอกให้แก่นโปเลียนเอง
และคล๊าค เองก็กลบั มาเข้าเป็ นพวกของนโปเลียนไป ด้วยเหตุนี ้ นโปเลียนจึงแนใจว่า บดั นี ้
คณะกรรมาธิการกําลงั จะใช้ชยั ชนะทอ่ี ิตาลี ไปจดั การเจรจาสงบศกึ กบั ออสเตรียเสยี เอง โดยไม่
ต้องการดินแดนอิตาลี ไม่ต้องการที่จะทําการปฏิวัติการปกครองในรัฐต่าง ๆ ของอิตาลี คือ
คณะกรรมาธิการกําลงั คดิ ทจ่ี ะป้ องปัดตดั หนทางนโปเลยี นอยู่ นโปเลยี นจงึ ได้เริ่มคดิ ทจ่ี ะทาํ ลาย
ล้างแผนการของคณะกรรมาธิการนีอ้ ยใู่ นใจ
๑๓๘
แตว่ ่าขณะนีน้ โปเลียนยงั จําเป็ นจะต้องงอนง้อขอพ่ึงคณะกรรมาธิการ อย่กู ่อน เพราะ
ต้องการกองหนนุ ต้องการยทุ ธสมั ภาระบางอยา่ งเพ่มิ เตมิ อกี เขาได้เขยี นรายงานขอกองหนนุ ไป
วา่ ๐...กองหนนุ ไมใช่แต่เพียงชื่อที่เขียน ในแผ่นกระดาษ ไมใช่เพียงแตช่ ื่อเทา่ นนั้ ต้องสง่ คนที่มี
ชีวิตเลือดเนือ้ ทหารที่ดีที่สุดของฉันเจ็บป่ วยและบาดเจ็บ พวกนายทหารชัน้ นายพลและ
นายทหารฝ่ ายเสนาธิการ พากนั ล้มป่ วยบาดเจ็บไมม่ ที จี่ ะทําการสงครามได้ตอ่ ไป ท่ีได้มาใหม่ ๆ
ก็ยงั ไมส่ นั ทดั กบั สนามรบ ทงั้ กองทพั ขณะนีเ้ หลืออยู่ ก็แต่พวกท่ีกรําศึกเหน็ดเหนื่อยและอิดโรย
กนั ทงั้ นนั้ ถ้าครัง้ นีท้ า่ นไม่สง่ กองหนนุ เพ่ิมเติมอีก พวกทหารท่ีกล้าหาญที่ยงั เหลอื อย่บู ้าง ก็คง
จะต้องพากนั ล้มตายหมด ไมช่ ้า โอเยโร มาสเซนา และแบร์ตแี อร์ รวมทงั้ ตวั ฉนั เองก็จะต้องตาย
เมอ่ื อยา่ งนแี ้ ล้ว ฉนั ก็จําต้องระมดั ระวงั ฉนั รู้สกึ วา่ ฉนั ไมก่ ล้าท่จี ะเสย่ี งชีวิต เพราะเหตวุ ่า ถ้าหาก
ฉนั มอี นั เป็ นอะไร ลงไปแล้ว ผ้ทู ่ีอยใู่ นความค้มุ ครองของฉนั ก็พากนั ขวญั เสียไมเ่ ป็ นอนั จะทําการ
ตอ่ ไป...๑
นโปเลียนมักจะใช้ ขู่ไปอย่างนี ้ หรือไม่ก็มักจะส่งของที่ดี ๆ ไปเป็ นกํานัลพวก
คณะกรรมาธิการ ซงึ่ เขาพอใจมาก ได้เคยสง่ ทองคําไปให้ เสมอๆ ทองคํานีน้ โปเลยี นได้มาจาก
รัฐตา่ ง ๆ ท่ีทําสญั ญาสงบศกึ กนั และมสี ว่ นได้ด้วยเงื่อนไขของสญั ญานนั้ ๆ เม่ือได้มาก็สง่ ไปให้
ทําดงั นอี ้ ยเู่ สมอมา ความจริงนโปเลยี นเป็ นแมท่ พั คนแรกที่ได้สง่ สง่ิ ของ เงินทองจากสนามรบไป
ให้รัฐบาล แทนท่ีรัฐบาลจะสง่ ให้กองทพั ในสนามรบ นอกจากนแี ้ ล้วยงั เคยมีของกํานลั ท่ีแปลก ๆ
เลก็ ๆ น้อย ๆ สง่ ไปให้คณะกรรมาธิการเฉพาะตวั ก็มี
อนง่ึ ได้ขอร้องให้คณะกรรมาธิการสง่ ทหารซงึ่ ไปตงั้ อย่ใู นมณฑลภาค ใต้ของฝรั่งเศสมา
แต่ก็ได้รับตอบขัดข้องมาว่า ทหารเหล่านนั้ มีความจําเป็ น ต้องใช้สําหรับไว้ป้ องกันดินแดน
ภายในของฝรั่งเศส สง่ ให้ตามที่ขอร้องไมไ่ ด้ และได้สงั่ ให้นโปเลยี นมอบการเจรจาความเมืองแก่
ผ้แู ทนของคณะรัฐบาล นโปเลยี นกลบั ตอบไปวา่ ๐...ในเร่ืองเช่นนี ้ทา่ นต้องมอบให้แกน่ ายพลคน
เดียว เท่านนั้ ไม่ควรให้ใครมากีดขวางการงานของเขา แม้ว่าเรามีกองทัพท่ีอ่อนแอ แต่เราก็
สามารถขบั ไลท่ หารข้าศกึ ไปได้ และรักษาเส้นทางคมนาคมของเราไว้ได้ เราสามารถท่ีจะขม่ ข่เู จ
นวั เวนิส มสั คานี โรม และเนเปิ ล ทงั้ ยงั สามารถแสดงความแขง็ แกร่งของเราได้ทว่ั ทกุ หนทกุ แหง่
เหตนุ จี ้ ึงจําเป็ นจะต้องรวมกําลงั การบงั คบั บญั ชาทงั้ ฝ่ ายทหาร ฝ่ ายการเมอื ง และการเงิน อยใู่ น
คน ๆ เดียวกนั ทงั้ หมด แต่ถ้าท่านไม่มอบอํานาจเด็ดขาดแก่ นายพลแตผ่ ้เู ดียวแล้ว ฐานะของ
๑๓๙
ประเทศฝรั่งเศสก็จะอนั ตราย ฉนั มนั่ ใจวา่ คําท่ี ฉนั พดู จะไมท่ ําให้ทา่ นเหน็ ไปวา่ ฉนั คิดมกั ใหญ่ใฝ่
สงู สาํ หรับตวั ฉนั เอง ฉนั ได้รับความยกยอ่ งและเกียรติยศมากเกนิ ไป สขุ ภาพของฉนั ทรุดโทรม ลง
มาก ไมช่ ้าฉนั อาจจะต้องให้ทา่ นหาคนอืน่ แตง่ ตงั้ คนอืน่ มาแทนฉนั อีก เดี๋ยวนี ้ฉนั ไม่อาจขี่ม้าได้
เอง ฉนั ไมม่ อี ะไรเหลอื อยู่ นอกจากความกล้าหาญ ฉนั กําลงั พยายามเจรจาความเมอื งกบั รัฐตา่ ง
ๆ ตอ่ ไปอีก ถ้าทา่ นปรารถนาและ ต้องการทีจ่ ะรักษาอติ าลไี ว้ ก็ขอให้สง่ ทหารเพิ่มเติมมาอกี ...๑
นโปเลยี นยิ่งมคี วามนิยมจากมหาชนเท่าไร ก็ยิ่งแกล้งย่ืนใบลาออกบ่อยขนึ ้ เท่านนั้ โดย
อ้างวา่ สขุ ภาพไมส่ มบรู ณ์ ซง่ึ แท้ทจ่ี ริงนนั้ สขุ ภาพของนโปเลียนดีมาก และขี่ม้าทกุ กนั จนกระทง่ั
ม้าต้องล้มเพราะเหน่ือยอ่อน เมื่อนโปเลียนได้เพ่ิมกําลงั ของฝรั่งเศส ในอิตาลีให้มน่ั คงดีแล้ว
เพยี งไร ก็เทา่ กบั นโปเลยี นเพิม่ ความนิยมชมชื่นของมหาชนในปารีสเพียงนนั้ ถึงแม้วา่ นโปเลยี น
จะไมใ่ ชเ่ ป็ นผ้เู ช่ือมน่ั ในเสรีภาพของมหาชนทวั่ ไปก็ตาม แตก่ ็เชื่อวา่ อิตาลนี นั้ ถึงเวลาแล้วที่ควร
จะได้รับ เสรีภาพของมหาชน เพราะฉะนัน้ นโปเลียนจึงยืนยันให้ตัง้ สาธาร ณซิสซัลปิ น
(Cisalpine Republie) ซงึ่ เป็ นการขดั ตอ่ ความประสงค์ของคณะกรรมาธิการ แม้การ์โนต์ซึ่งเป็ น
นกั ประชาธิปไตยอยา่ งลกึ ซงึ ้ ก็ไมป่ รารถนาท่ีจะให้อิตาลเี ป็ นเสรีรัฐ นอกจากว่าจะช่วงใช้อิตาลี
ไว้สาํ หรับเป็ นเหยือ่ หรือเบยี ้ หมากรุกในการเจรจา การเมืองกบั ประเทศอืน่
ในอนาคต นโปเลียนก็จะได้เป็ นผู้สร้ างให้ยุโรปรวมกันเป็ นอันหนึ่ง อันเดียวกัน แต่
ในขณะนี ้ เขากําลงั รวมรัฐเล็ก ๆ ทางทิศเหนือของอิตาลี จัดตัง้ รัฐธรรมนูญ แต่งตงั้ และไล่
เจ้าหน้าท่ีออกตลอดเวลา นโปเลียนจะทําตวั เหมือนกบั ผ้เู ผด็จการ แตเ่ ขาก็ใช้เหตผุ ลและมิได้
ทาํ อะไรอยา่ งตงึ เครียดนกั นโปเลยี นออกประกาศซ่ึงฟังได้อย่างซาบซงึ ้ วา่ รัฐทงั้ หลายจะต้องมี
เสรีภาพทก ๆ รัฐ และในการท่ีได้สทิ ธิอนั นมี ้ า ก็จะต้องใช้เงินชดเชยให้แก่ นโปเลยี น๑
นโปเลียนกลา่ วว่า ๐สาธารณรัฐฝร่ังเศสได้ปฏิญาณว่าจะเกลียดชงั พวกที่บงั คบั กดข่ี
พลเมือง หลกั แห่งรัฐธรรมนูญนีเ้ ป็ นหลกั ซึ่งกองทพั เราจะยึดถือเป็ นหลกั ไว้ ใครผู้ใดที่ได้กดขี่
แคว้นลอมบาร์ดีไว้ ผ้นู นั้ เทา่ กบั ทําร้ายแก่ ประเทศฝรั่งเศสด้วย กองทพั ซงึ่ มีชยั ชนะของกษัตริย์ผู้
อวดดี ก็จําเป็ นต้องขม่ ขวญั ประชาชนพลเมอื งผ้แู พ้ แตว่ า่ กองทพั ของสาธารณรัฐนนั้ ถงึ แม้วา่ จะ
ตอ่ ส้จู นตวั ตายก็จะเป็ นเพ่ือนของมหาชน และจะยกให้มหาชน ได้รับเสรีภาพ หลกั ของเราก็คือ
เคารพตอ่ ทรัพย์สนิ เงินทองของเอกชน ตอ่ มนษุ ยธรรม ตอ่ ศาสนา ตอ่ ชาวลอมบาร์ดีผ้เู ป็ นหนีเ้ รา
ซงึ่ เป็ นพ่ีน้องกบั ทา่ น คือจะต้องตอบแทนโดยการสนบั สนนุ เราด้วยกําลงั อาหารและกําลงั ทรัพย์
๑๔๐
เราต้องการเสบยี งเพราะเหตวุ า่ ประเทศฝรั่งเศสอย่ไู กลเหลือเกิน จนเราไม่สามารถจะหาเสบียง
มาจากที่นน่ั ได้ เพราะฉะนนั้ ถึงแม้ว่าเราจะมี สทิ ธิ์ท่ีจะได้รับโดยการทําการรบมีชยั ชนะ แตว่ ่า
ความเป็ นเพื่อนของท่าน ก็คงจะทําให้ทา่ นรีบเอามาให้เรา เราจะต้องขอเงินชดเชย ๒๐ ล้านฟ
รังค์ จากแคว้นนี ้แตแ่ คว้นนกี ้ ็รํ่ารวยสมบรู ณ์อยู่ จึงไมน่ า่ จะได้รับความลาํ บาก อะไรนกั ๑
นโปเลยี นได้เก็บภาษีเพ่ือให้ได้จํานวนเงินที่ต้องการ และเก็บมาจาก โรงคลงั แสงอาวธุ
จากโรงทหาร และจากทด่ี ินตา่ ง ๆ ในการทาํ สญั ญาสงบศกึ ทกุ คราว นโปเลยี นเรียกร้องเงินและ
รูปภาพงาม ๆ นโปเลียนสง่ รูปภาพสวย ๆ และภาพปัน้ ไปกรุงปารีส ถึงแม้วา่ จะไม่ทําให้เงินมี
ราคาดขี นึ ้ แตก่ ็ทําให้ ชาวปารีสรู้สกึ ภาคภมู ิใจและนิยมชมชื่นในตวั เขา ในสมยั ที่ฐานะการเงิน
ยงุ่ ยากลาํ บากนี ้นโปเลยี นมีอิตาลเี ป็ นถงุ เงิน และได้นาํ ภาพวิจิตรซงึ่ เป็ นชนั้ ศลิ ปะตา่ ง ๆ ไปให้ไว้
ในพระราชวงั ลฟู ว์ ซง่ึ นบั วา่ งดงามยิง่ กวา่ กษัตริย์ใด ๆ แตก่ ่อนมาได้เคยทําไว้
ตลอดเวลาที่นโปเลียนได้เรียกร้องเงินจากชาวอิตาเลียน แต่แม้กบั คนชาวฝรั่งเศสเอง
ถ้าผ้ใู ดทําการโดยเห็นแก่ตวั แล้ว นโปเลียนก็มิได้มีความ ปรานีเลย ในรายงานฉบบั หนึ่ง เขา
เขยี นถึงคณะกรรมาธิการวา่ กองทพั ต้องใช้จา่ ยสนิ ้ เปลอื ง ๕ เทา่ ของท่ีควรจะเป็ น เพราะเหตวุ า่
นายทหารพลาธิการได้ทําบญั ชีเทจ็ ความฟ้ งุ เฟ้ อ ความคดโกงเหลา่ นี ้มีระบาดทกุ แหง่ หน มที าง
เดยี วเทา่ นนั้ ท่ีจะทํา คือแต่งตงั้ คณะกรรมการขนึ ้ คณะหนงึ่ มีจํานวน ๓ คน มีอํานาจในระหว่าง
๓ วนั ถงึ ๕ วนั ให้ยงิ เป้ าผ้หู นง่ึ ผ้ใู ดทท่ี าํ การทจุ ริต
เม่ือปรากฏวา่ จํานวนฟางท่ีสง่ มาให้กองทพั นนั้ ขาดนํา้ หนกั นโปเลียนก็รายงานวา่ มนั
เป็ นการจําเป็ นอยา่ งย่ิงท่ีจะไมย่ อมให้พวกทจุ ริต เหลา่ นหี ้ นีไปได้ กองทพั และประเทศฝรั่งเศสได้
เป็ นเหยื่อแห่งความโลภนี ้ มานานแล้ว นอกจากนีย้ งั มีรายงานอีกหลายฉบับ ซ่ึงนโปเลียนได้
กลา่ วอ้างโทษพวกผ้รู ้ายเหลา่ นี ้เมอ่ื มพี วกผ้หู ญิงมาเยี่ยมเยยี นคา่ ยทหาร กนั มากมาย เขาก็ออก
คําสง่ั วา่ ผ้หู ญิงคนหนง่ึ คนใดปรากฏวา่ อยใู่ นกองทหาร โดยไมม่ ีใบอนญุ าต ภายใน ๒๔ ชว่ั โมง
หลงั จากประกาศนแี ้ ล้ว จะถกู เอาดนิ หม้อทาตวั และประจานไว้ในที่สาธารณะ ๒ ชว่ั โมง
แต่ว่านโปเลียนถึงแม้ว่าจะเคร่งครัดในเร่ืองวินัยเพียงใด ก็มีใจเมตตา กรุณาท่ีจะ
พยายามล้มเลกิ วธิ ีการปราบปรามด้วยความดเุ ดอื ดป่ าเถ่ือน ซงึ่ เป็ นลกั ษณะของการสงครามใน
สมัยโน้น เขาออกคําสง่ั ว่าการเฆ่ียนคน เพ่ือให้ยอมบอกความจริงนนั้ จะต้องยกเลิก การท่ี
ทรมานคนเช่นนี ้ก็ถือวา่ คนที่ถกู ทรมานจําเป็ นและยอมท่จี ะพดู เร่ืองอะไร ๆ ทีจ่ ะเป็ นทพี่ อใจของ
๑๔๑
ผ้ทู ่ีทําโทษเขาโดยอาจจะไมม่ ีความผิดเลย เพราะฉะนนั้ จึงห้ามและให้ยกเลกิ การใช้วิธีซึ่งไม่
ชอบด้วยเหตผุ ลและไมช่ อบด้วยหลกั มนษุ ยธรรมนี ้
สงครามได้วา่ งลงเป็ นเวลาเพียงเลก็ น้อย ครัน้ แล้วนโปเลยี นก็ต้องเตรียมตวั ออกสนาม
รบอีก เป็ นการรบชิงป้ อมมงั ตวั และเป็ นสงคราม ครัง้ สดุ ท้ายในภาคอติ าลนี ี ้