๒๔๒
ผลแหง่ การเจรจาอยา่ งไมเ่ ป็ นทางการนมี ้ ีผลทาํ ให้นโปเลยี น พอใจอยา่ งมาก ทงั้ นเี ้พราะ
นี่เป็ นนโยบายของนโปเลียนท่ีชดั แจ้งเสียยิ่ง กว่าการกระทําของรัฐบาลก่อน ๆ กล่าวคือ ซือ้
ความมน่ั คงภายในประเทศ และซือ้ ความปลอดภยั จากตา่ งประเทศโดยการรบ และนําชยั ชนะ
มาสชู่ าติ นบั แต่นโปเลยี นทิง้ กองทพั มา เกียรติของชาติได้เสียหายอย่างสดุ ซงึ ้ และมีอะไรบาง
ประการที่ต้องกระทําในยโุ รปให้มีค่าเทา่ กบั การยทุ ธ์ท่ีแล้ว ๆ มา อยา่ งท่ีเคยเกิดในโลดี ริโวลา
และตกั ลอิ ามองโต กอ่ นทีน่ โปเลยี นจะหวงั ได้นง่ั บนบลั ลงั ก์อยา่ งมนั่ คง
เม่ือได้รับคาํ ตอบจากรัฐบาลองั กฤษ นโปเลยี นก็พดู กบั ตาลเลรังค์ (พร้อมกบั ถมู ือไปด้วย
เวลานโปเลียนชอบใจอะไรมกั จะถูมือเสมอ) ว่า ๐ไม่มีอะไรที่จะเหมาะไปย่ิงกว่านีแ้ ล้ว๑ ในวนั
เดียวกนั นนั้ คือ วนั ท่ี ๗ มกราคม (สามวนั จากวนั ท่ีได้รับจดหมายจากลอร์ดเกรนวิลล์) นโปเลียน
ก็ได้ออกประกาศเกณฑ์กองหนนุ เข้ากองทพั ซงึ่ มจี ํานวนพลถึง ๓๐,๐๐๐ คน
ในขณะนนั้ ฝรั่งเศสมกี องทพั ทงั้ สี่ อยทู่ ี่ชายแดนทางทิศเหนือ ภายใต้การบญั ชาการของ
นายพลบรูน ซงึ่ ตงั้ ทพั คอยระวงั ทพั ของ ฮอลแลนด์และเฝ้ าชายทะเลเอาไว้ เพ่อื ป้ องกนั มใิ ห้มีการ
โจมตีจากองั กฤษ ความพา่ ยแพ้ของดย๊คุ ออฟยอร์ค ช่วยให้รัฐบาลฝรั่งเศสลดกําลงั พลลงได้มาก
กองทพั ที่สอง คอื กองทพั ดานบู อยภู่ ายใต้การบงั คบั บญั ชาของ นายพลยดู งั กองทพั นี ้
แพ้มาแล้วท่ีสต๊อคแก็จ และตอนนีม้ ีหน้าที่โจมตี ทางแม่นํา้ ไรน์ขณะที่กองทพั ท่ีสาม อยภู่ ายใต้
การบงั คบั บญั ชาของนาย พลมาสเซนา จดั ทพั ในแบบทพั สวิสเซอร์แลนด์ กองทพั นีพ้ า่ ยแพ้ใน
การ รบตอนต้น ๆ ต้องเสียสว่ นใหญ่ของสวิสเซอร์แลนด์ไป แต่ในเวลา เดียวกนั ก็เอาชนะได้ใน
ยทุ ธการกบั รัสเซยี ทซ่ี ูริค และยงั สามารถยึดซูริค เอาไว้ได้ทงั้ หมด
กองทพั ที่สี่คือซากของกองทพั ที่เรียกตวั เองว่า กองทพั อิตาลี หลงั จากแหลกลาญมา
จากการรบท่ีเยโนลา ก็กลบั มารวบรวมกําลงั กนั อยา่ งไมเ่ ป็ นระเบียบนกั ทอี่ ะเพนนิ และท่รี าบสงู
เจนวั ขณะนีว้ ิญญาณ ของทหารกองนีส้ ญู เสียไปเกือบหมด จึงถอนตวั หอบกนั ไปอยู่ด้านหลงั
ของเมืองวาร์กนั ทงั้ กอง อนั ทีจ่ ริงทหารกองนี ้แยม่ าก ทงั้ นเี ้พราะสญู เสียเคร่ืองไม้เครื่องมือที่จะ
ติดตอ่ กนั ได้กบั ทหารในท่ีราบระหวา่ งหบุ เขาแหง่ โป ทางด้านชายฝ่ังทะเลจากโปรวองซ์ถึงลกี เู รีย
ก็มีกองทพั เรือองั กฤษปิ ดอา่ วอยู่ ฉะนนั้ กองทพั นีจ้ ึงถกู กกั อยู่ ณ ป้ อมบนยอดหินโล้นท่ีถกู ล้อม
อยู่ จงึ ประสบกบั ความลาํ บากและความขาดแคลน
นโปเลยี นได้ออกคาํ สง่ั ให้มาสเซนาไปบญั ชาการรบท่ีกองทพั อิตาลี และพร้อมกนั นีก้ ็ได้
๒๔๓
ออกคาํ สงั่ ทวั่ ไปซง่ึ มีผลตอ่ จิตใจของทหาร คล้ายกบั เป็ นปาฏหิ าริย์ มาสเซนาได้รับความยกยอ่ ง
เป็ นอยา่ งสงู ในกลมุ่ ทหาร และหลงั จากทเ่ี ขามาถงึ เจนวั แล้ว พวกทหารท่ีก่อนนีล้ ะทิง้ หน้าที่ หนี
ไปก็พากนั กลบั มาเข้าประจําการกรมกองของตน ตอนนนั้ นโปเลียน ออกคําสงั่ ให้มอโรเป็ นผู้
บญั ชาการกองทพั สองกองคือ กองทพั ดานบู และกองทพั สวิสเซอร์แลนด์ โดยรวมกองทพั สอง
กองนเี ้ข้าเป็ นกองเดียวกนั ให้ชื่อวา่ ๐กองทพั แม่นํา้ ไรน์๑ สําหรับกองทพั จากกองทหารกองหนนุ
นนั้ นดั พบกนั ที่ดีจองอนั เป็ นกองบญั ชาการกลางท่ีอาจจะสง่ั กองหนนุ หรือให้การสนบั สนนุ แก่
มาสเซนาหรือมอโรได้ทนั ทีเม่ือเรียกร้ องมา แต่ทงั้ หมดนีเ้ ป็ นเพียงผ้าคลมุ เพื่อปกปิ ดเจตนาอนั
แท้จริงของนโปเลยี น ทงั้ นเี ้พราะนโปเลียนกบั การ์โนต์ได้ร่วมกนั วางแผนการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
แผนการนถี ้ กู พจิ ารณาวา่ เป็ นแผนการที่เสย่ี งท่ีสดุ และเกง่ มากทส่ี ดุ ในประวตั ิ การสงคราม และ
เนือ่ งจากผ้ปู ฏบิ ตั ติ ามแผนการนคี ้ อื นโปเลยี นเอง ฉะนนั้ งานจึงประสบความสาํ เร็จอยา่ งงดงาม
ทส่ี ดุ
การแตง่ ตงั้ มอโรให้เป็ นแม่ทพั ด้านแมน่ าํ ้ ไรน์มีกําลงั พล ๑๕๐,๐๐๐ คน และเป็ นกองทพั
ท่ีใหญ่ท่ีสุดและดีที่สุดของฝรั่งเศสและของนโปเลียน จัดว่าเป็ นการแสดงออกซึ่งความมี
สมรรถภาพเหนือยิ่งกว่าความอิจฉาใด ๆ ในด้านส่วนตวั ชื่อเสียงของมอโรมีเกือบเท่า ๆ กับ
ของนโปเลียน ทงั้ สมรรถภาพของมอโรก็สงู สมกบั ช่ือเสียง สําหรับนโปเลียนเองก็ไม่คิดอะไร
นอกจากจะคิดถึงการหาเครื่องมือทดี่ ที ่ีสดุ เพอ่ื ให้สมประสงค์ในการยทุ ธ์ร่วมเทา่ นนั้
ตามเร่ืองราวตอ่ มา มอโรเองถกู นโปเลยี นตาํ หนิติเตยี นในการ ปฏิบตั กิ ารในสว่ นท่ีได้รับ
มอบหมาย โดยครัง้ นนั้ คําสง่ั ของนโปเลยี นก็ คอื ให้มอโรเลยี่ งการเดินทพั มาในระหวา่ งกลางของ
กองทพั ออสเตรีย ซงึ่ บญั ชาการโดยแมท่ พั เครย์โดยให้ทพั ฝรั่งเศสมงุ่ ไปสอู่ ลู มุ ์ และให้ถอน ทหาร
เป็ นพเิ ศษจํานวน ๑๕,๐๐๐ คน ให้เป็ นกองแยกเดนิ ทางข้าม ช่องแคบภเู ขาตอนแซงโกซาร์ตเข้า
ส่อู ิตาลี และเป็ นหน้าท่ีของมอโรท่ีจะต้องสกัดกัน้ เครย์ทุกวิถีทาง มิให้ติดต่อกับอิตาลีโดย
เส้นทางเมอื งไทโรล ในกรณีเช่นนจี ้ ึงไมใ่ ช่เร่ืองแปลกอนั ใดทีแ่ ม่ทพั ผ้มู ีนาย จะต้องเดินทพั อย่าง
ระมดั ระวงั เสยี จนไมส่ มกบั อารมณ์มกั ใหญ่ใฝ่ สงู ของนโปเลยี น ราย ละเอียดการรบระหวา่ งมอโร
กบั เครย์นนั้ มีอยทู่ ว่ั ไป การรบแตล่ ะครัง้ เกิดขนึ ้ พร้อมกบั โชคดีตา่ งๆ นานา มอโรผา่ นข้าศกึ มาได้
และข้ามแมน่ าํ ้ ไรน์ตอนปลายเดอื นเมษายน ในวนั ท่ี ๑๕ กรกฎาคม แล้วตงั้ กอง บญั ชาการท่ีออ
สเบิร์ก โดยอยใู่ นสภาพที่สามารถจะสนบั สนนุ กองทพั ฝร่ังเศส อิตาลี หรือสามารถเดินทพั เข้าสู่
๒๔๔
ใจกลางอาณาจกั รออสเตรียได้ แต่ความสําเร็จในการทัพที่นโปเลียนปฏิบัติเองส่งผลให้ไม่มี
ความ จําเป็ นที่มอโรจะต้องปฏิบตั ิการเช่นนนั้
นโปเลยี นได้ตดั สนิ ใจท่ีจะปฏิบตั ิงานที่เสย่ี งภยั ท่ีสดุ ในประวตั ิศาสตร์ การสงครามของ
ตนเอง การจดั กองหนนุ ที่ดีจึงเป็ นเพียงการหลอกลวง กองเสนาธิการได้มาชุมนมุ กนั ในเมืองนี ้
การตระเตรียมสรรพาวธุ ยทุ โธปกรณ์ได้กระทาํ กนั อยา่ งแขง็ ขนั ทว่ั ไปทกุ หนทกุ แหง่ แต่กองทหาร
ท่ีชุมนมุ จริง ๆ ในเมืองดีจองมีน้อย ขา่ วที่แพร่ออกไปและเช่ือกนั ในขณะนนั้ ก็คือว่า กองทพั นี ้
กําลงั ถกู จดั ในแบบของกองทพั อิตาลอี นั รุ่งโรจน์ และจะเดินทางไปสกู่ องบญั ชาการของมาสเซ
นาทเี่ จนวั
กองทพั ออสเตรียรับทราบขา่ วนี ้ทงั้ ด้านจํานวนทหารและรูป ของกองทพั อยา่ งไมแ่ ปลก
ใจ พวกเขาตา่ งหวั เราะเยาะกนั อยา่ งถ้วนทวั่ โบนาปาร์ตใช้เวลา ๓ เดือน ในการระดมพลทวั่ ไป
ในประเทศฝรั่งเศส และกองทหารที่นโปเลียนมุ่งจะให้เปลี่ยนภาพไปจากการยุทธ์ในภูเขา
แอลปส์ในครัง้ ท่ีผ่านมาก่อนหน้า ได้ออกเดินทางโดยแยกกันไปหลาย สายหลายเส้นทาง ที่
สาํ คญั แตล่ ะสายก็ไมร่ ู้วา่ สายอื่นจะเดินทางไปไหน ตามเส้นเขตแดนของสวิสเซอร์แลนด์ ทางนี ้
เองที่นโปเลียนได้ส่งแบตีเอร์ นายทหารผู้เป็ นมิตรและเป็ นผ้ทู ี่สามารถกําความลบั ได้ดีที่สดุ
พร้อม ด้วยนายทหารท่ีมีความจดั เจนยิ่งอ่ืน ๆ ได้เดินทางไปลว่ งหน้า โดยมีคํา สง่ั ให้ไปสาํ รวจ
ทางผ่านเทือกเขาแอลปส์ในที่ต่าง ๆ และให้ตระเตรียม ทุกส่ิงทุกอย่างไว้เพื่อการเดินทพั ซ่ึง
นายทหารเหลา่ นเี ้ทา่ นนั้ ท่รี ู้ความลบั นี ้
พวกนักกา รเมืองท่ี ได้ เคยทดลองคัดค้ านการท่ีน โปเลียนกุม อํานาจครอบงําไป ทัง้
ประเทศ หลงั จากวันรัฐประหารมาแล้วในขัน้ แรก ได้พยายามกําหนดให้นโปเลียนยุ่งอยู่แต่
การทหารอยา่ งเดียว หรือไมก่ ็ พยายามท่ีจะให้คําสง่ั ของนโปเลยี นที่เป็ นคําสงั่ การฝ่ ายพลเรือน
ไม่จํา ต้องเป็ นคําสงั่ เด็ดขาด ครัน้ เม่ือหมดหวงั ในการคดั ค้านตามแนวนนั้ แล้ว บรรดานกั ค้าน
เหลา่ นกี ้ ็เสนอวา่ นโปเลยี นอาจจะหยอ่ นสมรรถภาพใน การนําทพั ในสนามรบ ถ้าไม่ลาออกจาก
ตําแหน่งในด้านพลเรือนเสียก่อน แต่แล้วพวกนีก้ ็พากนั ประหลาดใจ เพราะนโปเลียนยินยอม
ตาม ข้อเสนอนน่ั ทนั ที ซงึ่ เป็ นการสร้างความพศิ วงอยา่ งมากเพราะตา่ งล้วน แล้วแตค่ าดกนั วา่ น
โปเลยี นจะโกรธ
ปรากฏว่าข้อความที่ยกเว้นไว้ในเร่ืองนีม้ ีคํามากเพียงไร กงสลุ ท่ีหน่ึง ซึ่งนโปเลียนทํา
๒๔๕
หน้าท่ีอยนู่ นั้ ไมส่ ามารถเป็ นแม่ทพั แห่งกองทพั ได้ แตส่ ามารถแตง่ ตงั้ ใครให้เป็ นก็ได้ตามความ
พอใจ ทัง้ ไม่มีกฎหมายห้าม มิให้นโปเลียนไปปรากภตัวในสนามรบในฐานะผู้ดู มันผิดกัน
เล็กน้อยก็แต่ว่าแบตีแอร์สามารถตงั้ ตวั เองเป็ นผ้บู ญั ชาการได้เมื่อใคร ๆ ก็รู้ว่านโปเลียนอย่ใู น
คา่ ย
บดั นถี ้ ึงคราวท่ีจะกลา่ วถงึ การรบครัง้ ใหญ่แล้ว สภาพของกองทพั อิตาลี (ความจริงเป็ น
กองทพั ฝรั่งเศสซง่ึ อยใู่ นอติ าล)ี กลายเป็ นกองทพั ที่เข้าขนั้ วกิ ฤตทิ ่ีสดุ หลงั จากการรบเลก็ ๆ น้อย
ๆ แล้ว แม่ทัพก็เห็นว่า ปี กซ้ายของตน (ซ่ึงอยู่ในบังคับบญั ชาของซูเซต์) ถูกตัดขาดไปจาก
กองทพั ใหญ่ และขณะทช่ี เู ซต์ถกู บงั คบั ให้ถอยไปตงั้ อยหู่ ลงั เมอื งวาร์ กองทพั ของซูเซต์ก็ตกอยใู่ น
ฐานะท่ีลําบาก เพราะต้องเผชิญกบั กองทพั ของออสเตรียอยา่ งเต็มที่ มาสเซนาจึงถกู บงั คบั ให้
ทมุ่ กําลงั ที่เหลอื อย่ไู ปยงั เจนวั แต่ที่เจนวั นีม้ าสเซนาถกู กองทพั ออสเตรียภายใต้การบญั ชาการ
ของนายพลออดล้อมไว้อยา่ งรวดเร็ว ขณะเดยี วกนั นี ้เมลาส ผ้บู ญั ชาการทหาร ออสเตรียอีกคน
หนง่ึ ทมี่ กี ําลงั พล ๓๐,๐๐๐ คน ได้เข้ายดึ เมืองนีซไว้ได้ตงั้ แต่วนั ที่ ๑๑ พฤษภาคม จึงกลายเป็ น
วา่ กองทพั ออสเตรียได้เข้าปิ ดล้อมทพั ของมาสเซนาเอาไว้ได้หมด อีกทงั้ พวกเหลา่ นีร้ ู้ดีถึงความ
ออ่ นแอของนายพลซูเซต์จึงตา่ งพากนั ดีใจ ทงั้ นีเ้ พราะเห็นราง ๆ ว่าประตทู ่ีจะเข้าสฝู่ รั่งเศสได้
เปิ ดขนึ ้ มาตรงหน้าแล้ว กองทพั ฝรั่งเศสท่มี าจากกองหนนุ ซงึ่ พวกจารกรรมทด่ี ีจองได้แจ้งข่าวให้
กองทพั ออสเตรียทราบนนั้ ก็ไมใ่ ช่กองทพั ท่ีจะตอ่ ต้านการบกุ เข้าสโู่ ปรวองซ์ท่ีกองทพั ออสเตรีย
หวงั เอาไว้นานแล้วได้
ยิ่งไปกว่านนั้ ที่โปรวองซ์เอง พิเชอร์กรูก็เตรียมพร้ อมท่ีจะเข้า บญั ชาการปราบหน่วย
จลาจลฝ่ ายกษัตริย์นิยม พิเชอร์กรูเริ่มลงมือดําเนินงานทนั ทีท่ีได้ทราบข่าวการบกุ เข้าสฝู่ ร่ังเศส
ของกองทพั ออสเตรีย แต่ปรากฏว่าในไม่ช้านกั กองทพั ออสเตรียก็ได้ทราบข่าวใหม่ที่กองทัพ
ออสเตรียไมอ่ ยากเช่ือ นน่ั ก็คอื ขา่ วจากเบอื ้ งหลงั ของตนเอง
นโปเลยี นอยใู่ นปารีส กระทง่ั ได้รับรายงานของแบตีแอร์ท่ีสง่ มา จากเจนีวา โดยรายงาน
นนั้ มีข้อความดงั ตอ่ ไปนี ้๐ข้าพเจ้าปรารถนาท่ีจะให้ทา่ นมาท่ีนี่ เพ่ือออกคําสงั่ ให้กองทพั สามทพั
ของเราปฏิบตั ิการพร้ อม ๆ กนั และท่านเท่านนั้ ที่จะออกคําสง่ั ให้ทหารเข้าแถวได้ วิธีการท่ีจะ
ตดั สนิ ใจกําหนดการในมาตรการตา่ ง ๆ อยแู่ ตใ่ นปารีสนนั้ จะทําให้สายเกินไป๑
หลงั จากนนั้ นโปเลียนจึงออกเดินทางจากปารีสทนั ที แล้วมา ปรากฏตวั ท่ีดีจองในวนั ท่ี
๒๔๖
๗ พฤษภาคม ค.ศ.๑๗๐๐ นโปเลยี นได้เดินตรวจพลท่ีมจี ํานวน ๗,๐๐๐ หรือ ๘,๐๐๐ คน ทหาร
พวกนเี ้ป็ นทหาร ใหมแ่ ตง่ กายคร่ึงทอ่ น นโปเลยี นได้มอบให้อย่ภู ายใต้การบงั คบั บญั ชาของบรูน
พวกจารกรรมออสเตรียรวบรวมขา่ วสารใหมจ่ ากสถานทตู ของตนด้วยความดีใจ นโปเลียนอย่ทู ี่
ดจี องสองชวั่ โมง แล้วเดินทางตลอดคนื มาถึงเจนีวา ในวนั รุ่งขนึ ้
นโปเลยี นพบมาเรสโก ซึ่งเป็ นผ้รู ับจ้างนําทางไปยงั ทางเปล่ียวด้านช่องเขาแซงต์ เบอร์
นารด์ มาเรสโกได้เล่าถึงภาพท่ีน่ากลวั และความ ลําบากยากเข็ญในการเดินทัพผ่านตาม
เส้นทางนีส้ อู่ ิตาลี ๐แต่พอจะผ่านไปได้ไหม๑ นโปเลียนถาม ๐อ๋อ ...ผ่านได้๑ มาเรสโกตอบ ๐ถ้า
อยา่ งนนั้ ... ก็รุกไปข้างหน้า...ตามเรามา๑ นโปเลยี นวา่
ขณะทกี่ องทพั ออสเตรียมวั แต่สนใจอย่ทู ่ีกองทพั ด้านซูเซต์อนั เป็ นกองทพั ที่ออ่ นแอและ
ขาดกําลงั ใจ และกําลงั จะก้าวเข้าสจู่ ุดจบอย่าง ท่ีไม่ต้องสงสยั ในอีกไม่นานนี ้ด้วยเหตผุ ลท่ี
ไม่ได้รับกองหนนุ เพ่ิมเติม อย่างที่เกิดขึน้ กับที่ดีจอง นโปเลียนจึงตดั สินใจเดินทพั เข้าสอู่ ิตาลี
เหมือนฮันนิบาลได้เคยกระทํามาในอดีต กล่าวคือ ฝ่ าข้ามความ อันตรายและลําบากของ
เทอื กเขาแอลปส์ การเดนิ ทพั ไปสเู่ มอื งวาร์และเจนวั นนั้ อาจปฏิบตั ิได้ง่ายดายกวา่ แล้วก็อาจจะ
นําไปสชู่ ยั ชนะด้วย แต่ ชยั ชนะอย่างเดียวยอ่ มไมเ่ พียงพอ เป็ นความจําเป็ นท่ีช่ือของนโปเลียน
จะต้องแวดล้อมไปด้วยเร่ืองโชคลางไสยศาสตร์ให้เป็ นท่ีรู้ไปทว่ั แผนการ ของนโปเลียนท่ีจะได้
ความวิเศษท่ีเขาต้องการนนั่ ก็คือ การท่ีทหารวิ่งลง จากภูเขาแอลปส์อย่างเส่ียงท่ีสดุ เข้าสกดั
หลงั กองทัพเมลาส อันจะนํา มาซึ่งการตดั กองทพั ของเมลาสออกจากการติดต่อกับกองทัพ
ออสเตรีย ซง่ึ จะสามารถบีบให้กองทพั ของเมลาสเข้าสภู่ าวะของความลาํ บากโดย มีกองทพั ของ
มาสเซนาและซูเซต์อยอู่ ีกด้านหนง่ึ ความปราชยั ในครัง้ นี ้ต้องถึงขนั้ ยบั เยนิ
เพื่อให้ครบตามความประสงค์ ๓ ประการคือ รวบรวมเสบียงอาหารให้เพียงพอในการ
เดินทพั เป็ นประการแรก เดินทางให้ได้รวดเร็วอีกประการหนึ่ง และต้องทําให้ศตั รูต้องพิศวง
งงงวยในการเดินทัพมาสู่ จุดหมายปลายทางได้ ซึ่งจะดูประหนึ่งดั่งกองทพั เทวดาด้วย อีก
ประการหนง่ึ นโปเลยี นจึงตกลงใจวา่ กองทพั ควรจะแยกเดินเป็ นสีก่ องตามเส้น ทางคนละสาย
และปี กซ้ายซง่ึ อยภู่ ายใต้การบงั คบั บญั ชาของนายพลมองซีย์ ซง่ึ มกี ําลงั ทหารท่ีแยกออกมาจาก
นายพลมอโร ๑๕,๐๐๐ คน ต้องผ่านทางช่องเขาแซงต์โกธารด์ อีกกองทพั หนึ่งซึ่งมีกําลงั พล
๕,๐๐๐ คน ภายใต้การบัญชาการของซูโร ให้เดินไปตามเส้นทางทิวเขามองต์เซนิส ขณะที่
๒๔๗
กองทพั ของซาบรัง ซ่ึงมีกําลงั พล ๕,๐๐๐ คนให้เดินไปตาม เส้นทางแซงต์เบอร์นาร์ดน้อย สว่ น
กองทพั หลวงท่ีมกี ําลงั พลถงึ ๓๕,๐๐๐ คน นโปเลยี นก็เข้าทําการบญั ชาการเอง นโปเลยี นสง่ั ขน
ปื น ใหญ่สําหรับกองทัพทงั้ หมดขึน้ เขาข้ามท่ีกีดขวางที่ช่องเขาแซงต์เบอร์นาร์ด ซึ่งเม่ือนับ
จํานวนพลทงั้ หมดแล้ว จะสามารถรวมกําลงั พลได้ถึง ๖๐,๐๐๐ คน เตรียมพร้ อมที่จะเส่ียง
เดนิ ทพั ไปตามทวิ เขาแอลปส์อนั เป็ นแหลง่ เกิดของแมน่ าํ ้ ไรน์ และแมน่ ํา้ โรน์ไปสอู่ ิแซร์กบั ดรู องซ์
ถ้าจะ คิดถงึ การกล้าได้กล้าเสยี อยา่ งเป็ นธรรมแล้ว จําต้องเติมลงไปอกี วา่ นโปเลยี นรู้ดีวา่ ไมใช่
มจี ํานวนพลเพียงหนง่ึ ในสามเทา่ นนั้ ท่เี คยได้เห็นการยงิ ปื นใหญ่อยา่ งจริงจงั มาแล้ว
ความยากเข็ญที่มองซีย์, ซูโร และซาบรังประสบนนั้ พอจะเข้าใจ กันได้วา่ มีเพียงไหน
เมอื่ พิจารณาถงึ การเดนิ ทพั ของนโปเลยี นเอง จากวนั ที่ ๑๕ ถึงวนั ท่ี ๑๗ พฤษภาคม ซ่งึ เป็ นช่วง
แห่งการเดินทพั นายพล ลานซ์ซ่ึงเป็ นกองระวงั หน้าได้เปิ ดทางสะดวกให้กองทพั ใหญ่ ขณะท่ี
แบร์ ตีแอร์กบั นโปเลยี นนนั้ ทําการควบคมุ กองระวงั หลงั และมีปื นใหญ่อนั เป็ นอาวธุ สาํ คญั ท่ีสดุ
ตดิ มาด้วย เมอ่ื มาถึงแซงต์บิแอร์อนั เป็ นจดุ สนิ ้ สดุ ของ เส้นทางถนนแล้ว กองทพั อนั ประกอบด้วย
ม้าและพลเดนิ เท้า ต้องลง มาแบกอาวธุ ยทุ ธโธปกรณ์ประจําสนามอกี ไมน่ ้อยกวา่ ๔๐ ชิน้ ไต่ขึน้
ไปตามเส้นเขาและหิมะ สถานท่ีเช่นนีม้ ีแต่คนเลยี ้ งแพะ พวกลา่ เลียงผา และพวกค้าของเถ่ือน
เทา่ นนั้ ท่ีจะเคยชินตอ่ การเสย่ี งเดนิ ผา่ นตามเงือ้ มหน้าผา ถ้าเดนิ พลาดเพยี งก้าวเดยี วก็ตกลงไป
ตาย ขณะทเ่ี บอื ้ งลา่ งเป็ น นาํ ้ แข็งท่ีเกาะตวั กนั แนน่ กระนนั้ แคเ่ พยี งเสยี งปื นเพยี งนดั เดียวที่ดงั ขนึ ้
หิมะนํา้ แข็งเหลา่ นนั้ ก็จะกลงิ ้ ตกลงมาตามเหวที่มองไม่เห็นพนึ ้ เบือ้ งล่าง เม่ือมีหิมะจบั เกาะกัน
เป็ นก้อนเชน่ นี ้การลาํ เลยี งปื นใหญ่และกระสนุ ดินดําจึงเป็ นงานท่ีลําบากที่สดุ นโปเลยี นเป็ นผู้
ควบคมุ งานนโี ้ ดยตรง ปื นใหญ่แตล่ ะกระบอกท่ียกลงมาต้องนําไปใสร่ างไม้ประกบั แล้วใช้ทหาร
ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยคนลาก พวกรถปื นใหญ่และล้อต้องถอดออกเป็ นชิน้ ๆ ผกู กบั เสาใช้คนแบก สว่ น
ดินดําและลกู กระสนุ ก็ถูกนําลงบรรจุหีบไม้ เฟอร์ใช้ลอ่ ที่หาจากประเทศเขตภูเขาแอลปส์ลาก
หรือบรรทกุ
การดําเนนิ การเหลา่ นถี ้ กู เตรียมเอาได้เรียบร้อยแล้วตงั้ แตน่ โปเลยี นได้มาถึงเจนีวา และ
นายพลลานซ์เร่ิมเดินทพั นโปเลยี นเองบาง คราวก็ข่ีลอ่ แตส่ ว่ นมากมกั เดนิ และปลกุ ปลอบนาํ ้ ใจ
ของทหารท่ีขนแบกปื น ความเหน็ดเหน่ือยนัน้ สดุ จะพรรณนาได้ คนท่ีอยู่ข้างหน้าแทบหยุด
หายใจไมไ่ ด้เลย เพราะถ้าขนื หยดุ เพียงนิดเดียว กองหลงั ทีเ่ ดนิ อยเู่ หนอื ชะง่อนผาอาจจะสบั สน
๒๔๘
และกองหลงั ถัดลงไปอีกก็จะต้องเดินจมลึกลง ไปในหิมะถึงหวั เข่า ตามท่ีรอยของพวกเดิน
นําหน้าได้ทําเอาไว้ โชคดีท่ี การเดินทางของนโปเลยี นไม่ต้องรําคาญใจเหมือนกองทพั ของฮนั นิ
บาล ทต่ี ้องถกู ข้าศกึ โจมตอี ยตู่ ลอดเวลา ในด้านตรงข้ามนโปเลยี นกลบั ให้ รางวลั แก่พวกชาวเขา
ทม่ี าชมุ นมุ กนั ชว่ ยแบกหามให้ทหารได้ผอ่ นแรง ลงบ้างด้วยซาํ ้
ในวนั ท่ี ๑๖ พฤษภาคม ค.ศ.๑๘๐๐ ขณะที่นโปเลียนนอนท่ีวดั แขงต์มอรีส อีก ๔ วนั
ตอ่ มากองทพั ของเขาก็เดินทางพ้นช่องเขาแซงต์ เบอร์นาร์ดใหญ่ ในวนั ที่ ๒๐ นโปเลยี นหยดุ พกั
หนงึ่ ชวั่ โมงทว่ี ดั ฮอสบิน แตลเลอร์ซง่ึ ตงั้ อยบู่ นยอดเขา สมภารวดั ได้ทราบลว่ งหน้าแล้ววา่ กองทพั
จะมาถึง จึงต้อนรับทหารทกุ คนด้วยอาหารมือ้ กลางวนั มีขนมปัง เนย และเหล้าองุ่น ซ่ึงนโป
เลยี นต้องขอบคณุ แก่พระพวกนี ้(พระทว่ี ดั ฮอส บนิ แตลเลอร์ได้ตงั้ วดั กนั ท่ีนน่ั ก็เพ่อื ชว่ ยเหลอื คน
หลงทางหรืองนุ งงตอ่ ภมู ปิ ระเทศนี ้ที่วดั แห่งนีไ้ ด้เลยี ้ งสนุ ขั และฝึ กจนฉลาดให้ทําหน้าท่ีเฝ้ า บน
ยอดเขา ทงั้ กลางวนั และกลางคืน บ่อยครัง้ ท่ีบรรดาสนุ ขั ของวดั ได้ ช่วยลากคนเดินทางท่ีจมอยู่
ในหิมะออกมาพบกบั ความปลอดภยั )
ณ ทีต่ รงนี ้นโปเลยี นอําลาเด็กหนมุ่ ชาวนาคนหน่งึ เด็กคนนีเ้ ดินนําทางข้างๆ นโปเลียน
ตลอดทางมานบั แตว่ ดั แซงต์มอรีส นโปเลยี น สามารถวางใจเดก็ หนมุ่ คนนีไ้ ด้อยา่ งสบายใจ และ
เขาดูเหมือนจะสนใจ ในความเป็ นอย่ทู ่ีเรียบง่ายของเด็กคนนีม้ าก เมื่อถึงเวลาท่ีต้องแยกกัน
นโปเลยี นได้สอบถามถึงสภาพการณ์สว่ นตวั ของเดก็ เมอ่ื ได้รับคาํ ตอบ เขาก็ให้เงินแกเ่ ดก็ แล้วยงั
ฝากจดหมายให้สง่ ไปยงั สมภารวดั โดยในจดหมายได้ขอให้สมภารรับเด็กเข้าไปอยดู่ ้วย เด็กได้
นาํ จดหมายไปมอบให้สมภาร แล้วเขาก็ต้องพิศวงเม่ือได้ทราบตามที่จดหมายท่ีเขาอ่านไม่ออก
นนั้ วา่ เขาจะมีความสขุ ในโลกนเี ้พมิ่ ขนึ ้ อย่างแนน่ อน เด็กหน่มุ ผ้นู ีจ้ ําได้ถึงความมีใจกว้างของน
โปเลยี น กระนนั้ เขาก็จําถ้อยคําสนทนาของนโปเลียนกบั เขาได้น้อยมาก เขาบรรยายลกั ษณะ
ของนโปเลียนว่า เป็ นคนผิวคลํา้ (เป็ นผลจากการกรําแดดในซีเรีย) และมีดวงตาออ่ นโยน เด็ก
หน่มุ บอกว่าเมื่อได้เผชิญหน้ากับนโปเลียนในครัง้ แรกเขาก็รู้สึกกลวั กระนนั้ มีคําพดู ของนโป
เลยี นที่เขาจดจําได้ดีคือ ๐หมวกของฉนั เสยี ไปใบหนง่ึ ตามภเู ขานี่แหละ ฉนั จะไปหาเอาใหม่จาก
ฟากด้านโน้น๑ นโปเลียนกล่าวคําพดู นีข้ ณะสะบดั เม็ดฝนให้หลดุ ร่วงออกจากเสอื ้ ผ้า เม่ือก้าว
มาถงึ ท่พี กั ทีแ่ ซงต์ เบอร์นาร์ด
อยา่ งโรก็ดี เดก็ นาํ ทางคนนไี ้ ด้ทําให้ได้เห็นวา่ รูปร่างและนาํ ้ เสยี ง ของนโปเลยี นเป็ นท่ีนา่
๒๔๙
สงั เกตมาก เวลามีอปุ สรรคใด ๆ เกิดขึน้ และส่งผลต้องให้เกิดการชะงกั งนั ในการเดินทาง ใน
สภาพความเปลา่ เปลย่ี ว อนั ถกู ขนานนามวา่ ๐หบุ ผาแหง่ ความอ้างว้าง๑ นแี ้ ล้ว นโปเลยี นจะมอง
หรือพดู เพียงครัง้ เดียว แล้วการเดินทางก็จะดําเนินต่อไปทนั ที และถ้า หากว่าอปุ สรรคที่เกิดขนึ ้
นนั้ แก้ไขยาก นโปเลียนก็จะสงั่ ให้ตีกลองและ เป่ าแตรเสมือนว่ากําลงั เข้าโจมตีข้าศึก การ
แก้ปัญหาเช่นนไี ้ ด้ผลทกุ ครัง้ ด้วยอารมณ์และจิตใจอนั แกล้วกล้าเช่นนี ้ทําให้เขาสามารถนําทพั
ได้ สําเร็จและแสดงให้เห็นถึงความมีทกั ษะอย่างน่าชมเชย กล่าวโดยสรุปก็คือ นโปเลียนพูด
น้อยทํามาก และวิธีการของเขานนั้ แตกตา่ งจากคนอืน่ ๆ อยา่ งมากนน่ั เอง
ในวนั ที่ ๑๖ กองระวงั หน้าของนายพลลานซ์ได้มาถึงหบุ เขาอนั งดงามช่ือโอสต้า และ
กองทหารหนว่ ยอ่นื ๆ ก็กําลงั เดนิ ลงเขามาอยา่ งรวดเร็ว การเดนิ ทางตอนนไี ้ มใ่ ช่ง่ายกวา่ การเดนิ
ขนึ ้ ม้า ลอ่ และปื นใหญ่ จะต้องคอ่ ย ๆ ผอ่ นลงมาทีละก้าวตามทางชนั จําเป็ นต้องพิจารณาการ
เดินทางตอนนีว้ ่าจะต้องระมดั ระวงั เพียงไร แม้แต่นโปเลียนเองครัง้ หน่ึง ยงั ไถลลื่นลงมาเป็ น
ทางไกลถงึ ๑๐๐ หลา
ในวนั ที่ ๑๗ พฤษภาคม ค.ศ.๑๘๐๐ นายพลลานซ์มาถึงซาติญญอง ณ ที่นี ้ลานซ์เข้า
โจมตอี อสเตรียที่มที หารจํานวน ๕,๐๐๐ คน แตกพา่ ยไป ทหารออสเตรียพวกนตี ้ ้อนรับการโจมตี
จากกองทหารฝร่ังเศส ด้วยความพศิ วง ประดจุ วา่ กองทหารฝร่ังเศสเหลา่ นไี ้ ด้ลอยลงมาจากฟ้ า
ความลาํ บากยงุ่ ยากตา่ ง ๆ ของทหารฝร่ังเศสดเู หมือนจะหมดไป ทหารแต่ละกองทยอย
กนั ลงจากภเู ขาสทู่ ่ีราบอนั เขยี วชอมุ่ และอดุ มสมบรู ณ์ด้วยความดีใจ แตแ่ ล้วการเดินทพั ของกอง
ระวงั หน้าก็ถกู ตรึงด้วยอปุ กรณ์ที่ไมอ่ าจคาดถึง หรือไม่ก็เป็ นการคะเนผิด ทงั้ นีเ้ พราะป้ อมแซงค์
บารค์ อนั เป็ นที่ตงั้ ของกองทหารออสเตรียตงั้ อยรู่ ะหว่างกลางทางจากโอสต้าถึงอีฟเรียเดอรา
อาณาเขตของป้ อมแห่งนีม้ ีเพียง ๕๐ หลา แต่ตงั้ สงู อยู่ตรงกลางหน้าผาชัน ป้ อมนีค้ วบคุม
เส้นทางแมน่ ํา้ และเมืองเล็ก ๆ ซ่ึงมีเส้นทางเส้นเดียวไปสตู่ วั เมือง โดยต้องผ่านป้ อมนี ้นายพล
ลานซ์พยายามทีจ่ ะผา่ นไปโดยไมต่ ้องใช้ปื น หากแตไ่ มไ่ ด้ผล
ในทนั ทีท่ีกองทหารเร่ิมระสาํ่ ระสาย ข่าวก็แพร่ไปถึงกองระวงั หลงั และมีคําสง่ั ไมใ่ ห้ขน
ปื นใหญ่ลงมา ตอนท่ีข่าวนีแ้ พร่ไปถึงนโปเลียนนนั้ นโปเลียนได้มาถึงโอสต้าแล้ว เขาจึงได้รีบ
เดนิ ทางไปยงั แซงค์บารค์ แล้วก็พบวา่ ทหารของเขากําลงั สบั สนอลหมา่ นเตม็ ที
ในยามเช่นนี ้นโปเลียนไม่เคยพลาดที่จะพิสจู น์ความมีชื่อเสยี งของตน หลงั จากเขาได้
๒๕๐
สาํ รวจภมู ปิ ระเทศอยา่ งรวดเร็วแล้ว นโปเลยี นก็ไตข่ นึ ้ บน ยอดเขาอลั บาเรโด ซงึ่ เขาลกู นตี ้ งั้ อยอู่ กี
ด้านหนง่ึ และตงั้ อยสู่ งู กวา่ ป้ อม นโปเลยี นพบวา่ เส้นทางนแี ้ ม้จะมีแตเ่ พยี งพวกพรานป่ าใช้ในการ
เดินทางเทา่ นนั้ ก็ตาม แตก่ องทหารทเี่ คยผา่ นช่องเขาแซงต์เบอร์นาร์ด มาแล้วยอ่ มสามารถท่ีจะ
หาหรือพยายามผ่านไปจนได้ นโปเลียนจึงสงั่ ให้ทหารยกปื นใหญ่ ๑ กระบอกขนึ ้ ไปตงั้ บนยอด
เขา แล้วให้เลง็ ปาก กระบอกไปยงั ตวั ป้ อม เมื่อตงั้ ปื นเสร็จแล้ว กองทพั ฝรั่งเศสก็เริ่มเดินผา่ นไป
การเดินทพั ในครัง้ นนั้ ผา่ นลลุ ว่ งไปพร้อมด้วยการเสียหายของ ทหารเพียงเลก็ น้อย ทงั้ นีก้ ็เพราะ
ปื นใหญ่ของนโปเลยี นยิงได้ผลจนปื น ของฝ่ ายพวกในป้ อมต้องหยดุ ยิงในระยะเวลาอนั สนั้ กอง
ทหารค่อย ๆ ไตไ่ ปบนขอบเขาอลั บาเรโดทีละกอง แต่ละกองหยดุ มองดนู โปเลยี นผ้ซู ่งึ หลงั จาก
ปราบปื นใหญ่ข้าศึกแล้วก็นอนหลบั ไปบนยอดเขานั่น กองทพั ทงั้ กองผ่านไปอย่างช้า ๆ แต่
แนน่ อนตอนนพี ้ นั เอกดฟู ไู ด้รับคาํ สงั่ ให้นําทหารไปสอดแนมในเมือง ตอนกลางคืน ดฟู ูกบั กรมที่
๕๘ ของเขาได้ปฏิบตั ิการอย่างรวดเร็วมีการปะทะกนั อยา่ งต่อเน่ืองกบั ทหารในป้ อม และก่อน
สวา่ งเสยี งปื นท่ยี ิงใสก่ นั ก็หยดุ ลง นโปเลยี นพบวา่ เขาประสบความสาํ เร็จตามมงุ่ หมาย กลา่ วคือ
เมื่อกองทพั ของเขาเดินทางมาถงึ
สมรภมู ิมาเร็งโก
ในเมืองก็ได้พบว่ามีฟางหญ้าโรยเกลื่อนเต็มถนนเพ่ือป้ องกนั เสยี งลากเลือ่ นปื นใหญ่ที่มีทงั้ ฟาง
และใบไม้พรางตาไว้แล้วถกู ลากไปตามทางใต้วิถีกระสนุ ปื นจากป้ อมแซงค์บารค์ แล้วสามารถ
เข้าไปในเมืองโดยที่คนในป้ อมไมท่ นั ได้สงสยั เช้าวนั รุ่งขนึ ้ ผ้บู ญั ชาการทหารออสเตรีย ก็ได้สง่
๒๕๑
ขา่ วไปให้นายพลเมลาส ทราบวา่ ทหารฝร่ังเศสกองใหญ่ได้เดินทางผา่ นมาตามเส้นทางอลั บาเร
โด แต่ไม่ปรากฏว่ามีปื นใหญ่มาด้วยใน ขณะเดียวกัน นโปเลียนก็กําลงั เดินทางอย่างเร่งรีบ
พร้อมด้วยทหารม้า ทหารเดินเทาั และปื นใหญ่ตรงไปยงั อฟี เรีย
การเดินทพั ในครัง้ นีไ้ ม่ได้ปะทะกับใครเลย จนกระทง่ั ถึงเมืองอีฟเรีย และหลงั จากส้กู ัน
อยา่ งดเุ ดอื ด ณ ทน่ี นั้ เป็ นเวลาถึง ๒ วนั ลานซ์ ก็สามารถเบิกทางเขาไปได้ ข้างทหารออสเตรียที่
ทําการรักษาเมอื งได้รับความเสยี หายอยา่ งมากจนในทส่ี ดุ ก็ต้องลา่ ถอยออกไป ปรากฏวา่ เมือ่ ถงึ
เวลานนั้ กองทพั ของนโปเลยี นก็สามารถยดึ ถนนสายตรู ินเอาไว้ได้แล้ว กองระวงั หน้าของเขาไป
สูญเสียอย่างมากที่สะพานชิอูชิลา ทัง้ นี ้ เพราะมีทหารออสเตรียอีก ๑๐,๐๐๐ นาย ทําการ
ป้ องกันอย่างเข้มแข็งมาก กระนัน้ ลานซ์ก็สามารถทําลายลงจนได้ และยังไล่ตามตีทหาร
ออสเตรียที่หนีไปจนถึงออร์คา แล้ว ณ ท่ีนีเ้ องท่ีลานซ์สามารถตีตดั ทพั ออสเตรียให้ขาดกนั กับ
หนว่ ยยทุ โธปกรณ์ท่ีเซวลั โญและได้เข้ายดึ เอา ยทุ โธปกรณ์มากมาย ยทุ ธสมั ภาระนบี ้ รรทกุ มาแต่
เมอื งโป การเดินทพั มา ถึงตอนนีก้ ็เหลอื เพียงระยะเดียวท่ีจะถึงเมืองตรู ิน ในเวลาเดียวกนั นาย
พลมรู าต์ยึดอย่ทู ่ีแวร์เซลล่ี สว่ นกองพลอ่ืน ๆ (ของมองซีเออร์ซาบรัง และซูโร) เพ่ิงข้ามภเู ขาแอ
ลปิ นเสร็จ กําลงั มุ่งมาส่ทู ี่ราบต่ําและเข้า ใกล้สถานที่ที่บรรจบกันท่ีเมืองติชิโนทีละน้อย ๆ
เป็ นอนั วา่ นโปเลยี นได้รับชยั ชนะในการตระเตรียมงานอนั แสนลําบากนีแ้ ล้ว และพร้อมแล้วที่จะ
ทําการรบอยา่ งเตม็ ท่กี บั เมลาสตอ่ ไป
ตลอดเวลาเหลา่ นี ้เจนวั ยงั คงถกู ล้อมอยอู่ ยา่ งเต็มที่ สว่ นชูเซต์ กําลงั รักษาแนวป้ องกนั
สดุ ทาั ย ณ เขตแดนฝรั่งเศสในวนั ที่ ๒๒ พฤษภาคม ค.ศ.๑๘๐๐ เมลาสพยายามอย่างหนกั ท่ีจะ
เปิ ดเส้นทางไป สเู่ มืองวาร์แตไ่ มส่ ําเร็จ และทนั ทีนนั้ ก็ได้รับขา่ วจากหน่วยสบื ราชการลบั รุ่นแรก
ถงึ การเคลอ่ื นไหวของนโปเลยี น ทงั้ ยงั ได้รับรู้ถึงความพ่ายแพ้ ของหนว่ ยขดั ตาทพั ท่ีสะพานชิอซู ิ
ลา เมลาสสงั เกตเห็นวา่ ถึงเวลาแล้วที่ จะต้องทงิ ้ ชเู ซต์ผ้เู ป็ นมือรองไว้ก่อน และต้องรีบเข้าเผชิญ
กบั ๐กองทพั กองหนนุ ๑ ทางด้านซูเซต์นนั้ ก็ไม่ยอมชกั ช้าในการหากําไรจากการท่ีผู้บญั ชาการ
ทหารออสเตรียถอนตวั ออกไป ยิ่งกวา่ นนั้ ยงั ได้รับทราบข่าว วา่ นโปเลียนลงมาจากเขาได้อยา่ ง
นา่ พศิ วง ก็ยิ่งทําให้กองทพั ของฝรั่งเศสฮึกเหิมขนึ ้ ทพั ฝร่ังเศสจึงกลบั มาเป็ นฝ่ ายรุกบาั ง สามารถ
เข้ายดึ เมืองวาร์และวินทมิ ิเกลยี สงครามดาํ เนนิ ไปโดยการประจญั บานกยั ด้วยหอกปลายปื น ซู
เซต์เอาชนะนายพลเมลาสและตงั เดอได้ จนในที่สดุ ก็ สามารถเข้ายดึ คืนที่มน่ั เดิมคือท่ีเมลญั โญ
๒๕๒
ขณะท่ีกองหน้าก็ยงั ทําการ ขบั ไลข่ ้าศกึ ตอ่ ไปจนถงึ ซาโวนา
ขณะเดยี วกนั ป้ อมทเ่ี จนวั พยายามยดึ ทีม่ นั่ เอาไว้ได้อยา่ งกล้าหาญ ชวั่ ระยะหนงึ่ มาสเซ
นา ก็รักษาพืน้ ท่ีราบสูงครึ่งวงกลมเอาไว้ได้ จึง สามารถได้รับเสบียงอาหารทัง้ ๆ ท่ีทหาร
ออสเตรีย ๔๐,๐๐๐ คน ภาย ใต้การบญั ชาการของนายพลอ๊อตล้อมรอบอยู่ ย่ิงกวา่ นนั้ ทางด้าน
ทะเทก็มีกองทพั เรือองั กฤษของลอร์ดคีธล้อมปดอ่าวอยู่ กองทพั ออสเตรีย พยายามบงั คบั ให้
มาสเซนาถอนกําลงั ออกจากตวั เมืองให้ได้ในวนั ที่ ๓ เมษายน แตก่ ็ไมไ่ ด้ผล แต่ถึงอยา่ งไรก็ตาม
เน่ืองจากข้าศกึ ที่มีกําลงั มากกว่า และถกู ปิ ดอยภู่ ายในกําแพงเมืองอนั ทําให้เกิดความลาํ บาก
มากขนึ ้ กลา่ วคือประชาชนภายในเมืองก็เป็ นปฏิปักษ์ต่อกองทหาร หา เสบียงอาหารก็ลําบาก
ต้องอยยู่ ามตามไฟระมดั ระวงั มากเกินควร และ เมื่อการตอ่ ส้ปู ระปรายเริ่มรุนแรงขนึ ้ มาสเซนา
จึงไม่อาจทนอย่ใู นตวั เมืองได้ ในการตีหกั ออกจากวงล้อมในครัง้ นีม้ าสเซนาได้รับเกียรติมาก
ท่ีสดุ ไม่มีทหารฝร่ังเศสคนใดท่ีมีวีรกรรมยิ่งไปกว่ามาสเซนาในการแสดง ความเฉียบแหลมใน
ระหวา่ งถกู ล้อมเชน่ นี ้ในทส่ี ดุ เม่ือขา่ วของการเดนิ ทพั ของนโปเลยี นเดินทางมาถึงกองทหารท่ีถกู
ล้อมอยู่ ความหวงั ทจ่ี ะ ได้รับการช่วยเหลือทําให้ทหารที่กําลงั ถกู ล้อมกล้าท่ีจะรักษาตวั เมืองไว้
ต่อไป แต่เม่ือวนั แล้ววนั เลา่ ผ่านไป ไม่ปรากฏตวั ผ้ชู ่วยเหลือสกั ที อาหารก็หาลําบากขนึ ้ จนไม่
อาจควบคมุ ประชาชนไม่ให้เปิ ดประตเู มือง รับเข้าศึกได้ ย่ิงกว่านนั้ กองทพั เรือองั กฤษก็ยงั มา
ทอดสมออยใู่ กล้ตวั เมือง หลงั จากทท่ี าํ ลายเรือยามฝ่ังทีป่ ากอา่ วหมดแล้ว เรือรบองั กฤษก็ใช้ปื น
เรือยิงเข้ามาในเขตทพ่ี วกฝรั่งเศสอยตู่ ามความพอใจ
ไม่ว่าอะไรท่ีพอจะกินได้ รวมทงั้ รองเทาั และเครื่องหนงั ก็กินกนั หมด แล้วมาสเซนาจึง
ยอมฟังข้อเสนอของนายพลอ๊อตที่เสนอร่วมกับลอร์ดคีธ ข้อเสนอนนั้ แจ้งว่า กองทพั อังกฤษ
ปรารถนาท่ีจะยดึ เจนวั ให้ได้ ก่อนที่นโปเลยี นจะเดินทพั ก้าวหน้าไปอีก ฉะนนั้ การโจมตีย่อมจะ
ไมล่ ดความรุนแรงลง และความจําเป็ นในการถอนทหารจากป้ อมของ มาสเชนาก็คงจะต้องด่วน
ยงิ่ ขนึ ้ ลอร์ดคธี กลา่ วอยา่ งตรงไปตรงมาวา่ ความกล้าหาญในการรักษาเมอื งของมาสเซนาทําให้
ฝ่ ายผ้ชู นะไม่ สามารถจะเสนอข้อความในสญั ญายอมแพ้ใด ๆ ได้ อนึ่ง ในสญั ญาก็ ไม่ใช้คําว่า
๐ยอมแพ้๑ ทหารฝร่ังเศสเดนิ ทพั ออกจากตวั เมืองพร้อมด้วย อาวธุ และสมั ภาระ ทงั้ ได้รับอนญุ าต
ให้เดินทางไปยงั กองบญั ชาการของซูเซต์ นายพลอ๊อตยึดเมืองเจนวั สําเร็จในวนั ที่ ๕ มิถนุ ายน
ค.ศ.๑๘๐๐
๒๕๓
แม้จะประสบความสําเร็จในครัง้ นี ้ แต่นายพลอ๊อตก็ปฏิบัติงาน ชักช้ามาก แต่ใน
ขณะเดียวกนั นโปเลยี นกลบั ก้าวหน้าเร็วมาก ฝ่ ายนาย พลเมลาสก็คงสงบน่ิงเฉยไม่ทําอะไรเลย
ทงั้ ๆ ทีก่ ําลงั คบั ขนั อยา่ งเตม็ ทอี่ ยแู่ ล้วเมื่อเห็นวา่ กองทพั ซูเซต์อยทู่ างด้านหนง่ึ และนโปเลยี นอยู่
อีก ด้านหนง่ึ ระหวา่ งวนั ที่ ๑ และวนั ท่ี ๔ มถิ นุ ายน นโปเลยี นเดินทพั ผา่ น เมืองติชิโน มรู าต์ผ่าน
เตอร์บิโก ในวนั ท่ี ๕ อนั เป็ นวนั เดยี วกบั ท่ีเจนวั ถกู ออสเตรียยดึ
ในวนั ท่ี ๒ นโปเลยี นได้เคลอ่ื นพลเข้าเมืองมิลานซง่ึ นโปเลยี นอยากได้ เหลอื เกิน นายพล
ลานซ์เข้ายึดเมืองปาเวียได้หลงั จากที่ต้อง ผ่านการปะทะกันหลายครัง้ ส่วนชาปองกับซูโรก็
คกุ คามเมืองตรู ินตาม เส้นทางสองสาย ตอนนเี ้มลาสเริ่มสํานกึ ถึงอนั ตรายมหาศาลอนั จะมาถึง
ขนึ ้ ได้ จงึ ยอมสละและเปิ ดเมืองปิ เอด์มองต์ แล้วหนั ไปตงั้ กอง บญั ชาการของตนเองขนึ ้ ท่ีเมืองอ
เลก็ ชานเดรีย เพ่ือเริ่มย่นแนวทพั ที่ กระจายกว้างให้แคบเข้า และรวมกําลงั เข้าสสู่ ว่ นกลางเพื่อ
ปฎบิ ตั กิ าร ยทุ ธ์ทจ่ี ะตดั สนิ โชคชะตาของอิตาลตี อ่ ไป
ขณะนนั้ นโปเลียนยงั ไม่รู้ว่าเจนวั เสียแก่ข้าศึกแล้ว จึงยังคิดอยู่ว่า กองทพั ของนาย
พลอ๊อตยงั คงอยู่ห่างจากกองบญั ชาการใหญ่ นโปเลียนคิดว่า จะผ่านเมืองโปไปโจมตีนาย
พลอ๊อตเพ่ือช่วยเจนวั ก่อนท่ีนายพลเมลาสจะทนั รู้ตวั ว่ากองทพั ฝร่ังเศสอยู่ใกล้ ๆ แล้ว หรือ
มิฉะนนั้ ก็บงั คบั ให้นายพลเมลาสออกรบโดยไมม่ ีนายพลอ๊อตช่วยเหลอื
แต่ว่า เมื่อนายพลลานซ์กับกองระวังหน้าไปถึงมองเตเบลโลนนั้ ปรากฏว่า กองทัพ
ออสเตรียเข้มแข็งมาก ตอนเข้าตรู่ของวนั ท่ี ๙ มิถนุ ายน นายพลลานซ์ถกู โจมตีด้วยกําลงั ทหาร
อนั มีจํานวนมากจนตวั เองตงั้ รับไม่อยู่ ทหารออสเตรียมีกําลงั ทหารม้ามากกว่า และพืน้ ดินก็
เหมาะแก่การใช้กองทพั ม้า แต่ในที่สดุ กองพลใหญ่ของนายพลวิคเตอร์ก็มาทนั ช่วยเหลือ ซึ่ง
หลงั จากส้รู บกนั อยา่ งดเุ ดือดแล้ว ฝ่ ายฝรั่งเศสก็กลบั มาเป็ นตอ่
การรบจดั วา่ รุนแรงทสี่ ดุ ในสนามรบเตม็ ไปด้วยข้าวไรน์ทก่ี ําลงั สงู ชะลดู สง่ ผลให้ทหาร
ราบทงั้ สองฝ่ ายมกั จะประจนั หน้ากนั ในระหวา่ ง หอกปลายปื น ก่อนทจ่ี ะรู้ตวั กนั ด้วยสิง่ แวดล้อม
ดงั กล่าว ทําให้แม่ทพั ทงั้ สองฝ่ ายแสดงกลเม็ดในการรบต่อกนั ไม่ได้มากนกั เท่ากับเป็ นการสู้
ระหวา่ งคนตอ่ คนและต้องเสยี เลอื ดเนอื ้ ฝ่ ายละมาก ๆ ทงั้ สนามเต็มไปด้วยทหารตายเกลอื่ น เมือ่
ฝ่ ายออสเตรียเตรียมถอยนนั้ ได้ทงิ ้ ทหารไว้ ให้เป็ นเชลยแกน่ ายพลลานซ์ ถงึ ๕,๐๐๐ คน นายพล
ลานซ์ในเวลาตอ่ มาได้รับการแตง่ ตงั้ ให้เป็ นดย๊คุ แหง่ มองเตเบลโล เพื่อเป็ นที่ระลกึ ในการฆา่ คน
๒๕๔
ในครัง้ นี ้(แทนคาํ วา่ รบ) และจากเชลยศกึ ท่ีได้รับในครัง้ นีน้ น่ั เอง ท่ีทําให้นโปเลียนได้ทราบว่าเจ
นวั ได้เสยี แกข่ ้าศกึ แล้ว นโปเลยี นจึงสรุป เหตผุ ลได้ทนั ทวี า่ นายพลเมลาสได้ชมุ นมุ กองทพั ไว้ที่นี่
ทงั้ หมด นโป เลยี นจงึ รีบสง่ ขา่ วไปให้ซูเซต์ได้รับทราบ และสง่ั ให้ซูเซต์รีบข้ามภเู ขาโคลดิคา ดิโป
นา เดินทพั มาทางสะคริเวยี (อาจเป็ นการท่ีให้นายพลซูเซต์โอบหลงั ข้าศกึ ) และตงั้ แนวรบมน่ั ไว้
ทส่ี ตราเคลลา
คา่ํ คนื หลงั การรบท่ีมองเตเบลโล นายพลเดชเซได้มาถึงกอง บญั ชาการ นโปเลยี นถือวา่
นายพลผ้นู ีเ้ ป็ นที่สองในด้านการทหารรอง จากตวั เขา ตอนท่ีนโปเลยี นออกจากอียิปต์นนั่ นโป
เลียนได้สงั่ เอาไว้กับ เคลแบร์ว่าให้ส่งเดชเซกลบั ฝรั่งเศสให้ได้ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเดชเซ
ได้มาขนึ ้ บกทเ่ี ฟรยหู ลงั จากทฝี่ ร่ังเศสได้ตงั้ รัฐบาลใหม่ เดชเซได้รับคําสง่ั จาก นโปเลยี นให้รีบมา
พบตวั เขาดว่ น ซง่ึ ในจดหมายคําสงั่ นนั้ มีวลที ่ีบ่ง บอกถึงความหดหู่ มีผ้ไู ด้ยินเดชเซพดู วา่ ๐นโป
เลยี นนไี ้ ด้ทกุ อยา่ งแล้ว แตย่ งั ไมจ่ ใุ จ๑ เดชเซเป็ นคนทีร่ ักนโปเลยี นยิ่งคนหนง่ึ ตอนนมี ้ ีอปุ สรรคนบั
ร้อยข้อท่ขี ดั ขวางมิให้มิตรทงั้ สองได้พบกนั โดยเร็วสมดงั หวงั ตอนท่ี นโปเลยี นข้ามช่องเขาแซงต์
เบอร์นารด์นนั้ เดชเซยงั อยใู่ นปารีส เม่ือได้ รับขา่ วในเร่ืองนี ้เดชเซถึงกบั อทุ านออกมาว่า ๐นโป
เลียนเห็นจะไม่เหลอื อะไรไว้ให้เราทําอีกแล้ว๑ ซง่ึ หลงั จากนนั้ เขาก็รีบเดินทางทงั้ กลางวนั และ
กลางคืนเพือ่ ไปพบนโปเลยี นให้เร็วทีส่ ดุ และเมอ่ื เดชเซมาถึง นโปเลียน ก็ได้มอบหมายให้เดชเซ
บญั ชาการกองพลใหญ่ ๑ กอง กล่าวกนั ว่าใน คืนแรกท่ีพบกันนนั้ พวกเขาคยุ กันถึงการรบใน
อยี ิปต์ตลอดคืน
นโปเลียนปรารถนาอย่างย่ิงท่ีจะยั่วให้เมลาสโจมตีท่ีสตราเดลลา เพราะนโปเลียน
วิเคราะห์เอาไว้วา่ พืน้ ดินในบริเวณเมืองนนั้ ยงั ไม่เหมาะ แก่การใช้กองทพั ม้า หากแตห่ ลงั จาก
ท่ีตงั้ ทพั รออย่ถู ึง ๓ วนั นโปเลียน ก็เร่ิมวิตกวา่ อาจเป็ นได้ที่ออสเตรียจะถอนทหารและเดินทพั
หนั ไปทางปี กซ้ายผา่ นติชิใน เพ่ือไปเข้ายดึ เมืองมลิ าน เพอ่ื สามารถทจ่ี ะตดิ ตอ่ กบั กรุงเวยี นนาได้
ประการหนึ่ง หรืออาจเป็ นไปได้อีกเช่นกนั ที่ทพั ออสเตรีย จะถอยกลบั ไปรักษาเจนวั เอาไว้ แล้ว
เข้าทาํ ลายกองทพั ของซูเซต์เสยี ซงึ่ หากเป็ นเช่นนกี ้ ็หมายความวา่ กองทพั ของออสเตรียจะได้รับ
เสบียง อาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์จากกองทพั เรืออังกฤษได้อีกประการหนึ่ง หรืออาจจะ
ประการสดุ ทาั ยคือ เดินทพั ออั มไปอีกด้านหนึง่ ของอิตาลี เพ่ือโอบให้กองทพั ของนโปเลียนต้อง
ตกอยรู่ ะหวา่ งกลางของรัฐ เยอรมนั และกองทพั ศตั รู
๒๕๕
ด้วยเหตุดงั พิจารณามา นโปเลียนจึงเปล่ียนแผนสง่ั ให้กองพล ของเขาเดินทพั มายงั ที่
ราบมาเร็งโก ด้วยเบื่อที่จะรอการโจมตีของฝ่ าย ออสเตรีย ในวนั ที่ ๑๑ นโปเลียนอยทู่ ่ีโวลเกรา
พอวนั รุ่งขนึ ้ ก็ไปถึงแซงค์ จเู ลยี โนซง่ึ อยตู่ รงใจกลางท่ีราบแหง่ นนั้ นน่ั เอง กระนนั้ ฝ่ ายข้าศกึ ก็ยงั ไม่
ปรากฏตวั
ในวนั ที่ ๑๓ มิถนุ ายน ค.ศ.๑๘๐๐ นโปเลยี นเดนิ ทพั ไปยงั หม่บู ้าน มาเร็งโก แต่ท่ีนี่ก็ไม่มี
อะไรเลยนอกจากแนวรักษาด่านชายแดนท่ีไม่ สําคญั แหง่ หนง่ึ ทหารประจําด่านถอยหนีไป ทํา
ให้นโปเลียนเข้าใจไป ว่าเมลาสต้องหลบไปทางซ้ายส่ตู ิชิโน หรือไม่ก็ต้องไปทางขวาคือเจนัว
แนน่ อน ด้วยความอยากรู้นนั่ เอง นโปเลยี นจึงสง่ั ให้เดชเซเข้าคมุ ถนนสายเจนวั เอาไว้ และให้มู
ราต์คมุ ถนนสายสะคริเวีย เดชเซเดินทพั มาได้ครึ่งวนั นโปเลียนก็ได้ขา่ วที่ทําให้เขาต้องมีคําสง่ั
รีบเรียกให้เดชเซกลบั มาโดยด่วน แม่ทพั ออสเตรียได้ตดั สินใจท่ีจะทําการรบในท่งุ กว้างเพื่อ
ตดั สนิ โชคชะตาของอติ าลี หลงั จากทพ่ี วกเขาได้ตงั้ รัง้ รอมานานแล้ว ใน คืนของวนั ท่ี ๑๓ เมลาส
ได้เดินทพั มายงั หน้าเมอื งอเลก็ ซานเดรีย ช่ึงมี แม่นํา้ บอร์มิดาขวางกลางระหวา่ งทงุ่ มาเร็งโกกบั
กองทพั เช้าตรู่ของวนั รุ่งขึน้ กองทพั ของเมลาสก็ข้ามแม่นํา้ สามแห่ง และบ่ายโฉมหน้าเข้าหา
กองทพั ฝรั่งเศสโดยจดั เรียงกําลงั พลเป็ นแนวลกึ แยกออกไปหลายแนว
การรบในครัง้ นนั้ ฝ่ ายออสเตรียมีกําลงั ทหาร ๔๐,๐๐๐ คน สว่ น ทางนโปเลยี น ถ้าไมน่ บั
ทหารของเดชเซและกองหนุนเข้าด้วยแล้ว ก็มีเพียง ๒๐,๐๐๐ คนเท่านนั้ ในจํานวนนีแ้ ยกเป็ น
ทหารม้าเพยี ง ๒,๕๐๐ กระนนั้ นโปเลยี นก็ไมย่ ่ีหระ เขาไมร่ ัง้ รอท่ีจะเข้าประจญั บาน นโปเลียน
ได้กําหนดให้กองทหารในบงั คบั ของนายพลการ์ดาน ทําการเข้ายึดหมู่ บ้านเลก็ ๆ ท่ีช่ือ ปาเด
อรอโบนา ให้ได้ก่อน หมู่บาั นนีต้ ัง้ อยู่หน้าทุ่งราบ มาเร็งโก และมีลําธารเล็ก ๆ แคบ ๆ อยู่
ตรงหน้า แล้วสง่ั ให้วิคเตอร์เข้า คุมแนวท่ีหนึ่งอนั อย่ทู างด้านขวาสดุ ท่ีคาสเตลเซรีโอโลอนั เป็ น
หมบู่ ้านเลก็ ๆ อีกแหง่ หนง่ึ ช่ืงมีท่ีตงั้ เป็ นเส้นขนานกบั ทงุ่ ราบมาเร็งโก แล้วให้ แกลเลมงั คมุ ทหาร
ม้าหนึ่งกองพลน้อยอยู่ข้างหลังวิคเตอร์เพื่อป้ องกันปี ก แนวที่สองท่ีอยู่หลังวิคเตอร์โดยทิง้
ระยะห่างออกไปหน่ึงพนั หลา มี นายพลลานซ์มาควบคุม ทัง้ ยังมีทหารม้าของชองโปคอย
ป้ องกนั อยขู่ ้าง หลงั ลานซ์ นบั เป็ นแนวที่สาม ซงึ่ จะทงิ ้ ระยะหา่ งเอาไว้เทา่ กนั ทก่ี องพล แซงซีร์ตงั้
มกี องทหารเสนาธิการในบญั ชาการของนโปเลยี นเองคอยค้มุ กนั
เม่ือกองทหารราบหนักของออสเตรียมาถึงทุ่ง ก็แบ่งออกเป็ นสองแนว แนวแรกอยู่
๒๕๖
ภายใต้การบงั คบั บญั ชาของนายพลแฮดดิค เข้ามาเป็ นแนวหน้า สว่ นแนวหลงั นนั้ เมลาสควบคมุ
ด้วยตวั เองโดยร่วมกบั นายพลแซซ แนวทพั ทงั้ สองของออสเตรียเคล่อื นเข้าสมู่ าเร็งโก โดยมีกอง
ทหารราบเบา และกองทหารม้าเบา ภายใต้การบงั คบั บญั ชาของนายพลเอลสนิตซ์ ทําหน้าที่
เป็ นกองระวงั หน้าเดนิ อ้อมล้อมคาสเตลเช รีโอโล และมีจดุ หมายท่ีจะเข้าโอบปี กขวาของฝร่ังเศส
ทงั้ หมดที่กลา่ วมา คือท่ีตงั้ ของกองทพั ทงั้ สองฝ่ าย การประจญั บานครัง้ ใหญ่เกิดขนึ ้ ใน
วนั ที่ ๑๔ มิถนุ ายน ค.ศ. ๑๘๐๐ การ์ดานไม่ สามารถทนทานการโจมตีได้ จึงถอยจากปาเดอรอ
โบนา มารวมกบั วคิ เตอร์ มีการยิงด้วยปื นใหญ่เป็ นแนวมาด้วยความรุนแรง ทหารแมน่ ปื น ของ
ทงั้ สองฝ่ ายถกู ยงิ กนั คนละฟากลาํ ธาร ในการยิงนนั้ ยิงกนั อยา่ งไมห่ ยดุ ยงั้ ทงั้ ปื นใหญ่และปื นเลก็
กระสนุ ระบาดทําลายไปทว่ั ความเสียหายเกิดขนึ ้ อย่างหนกั ทั้งนีเ้ พราะกองทพั ทงั้ สองอยหู่ ่าง
กนั ไมม่ ากนกั
เป็ นเวลากวา่ สองชวั่ โมงทว่ี ิคเตอร์ต้องตงั้ รับการโจมตีของข้าศกึ ที่มกี ําลงั มากกวา่ อยา่ ง
เดียวดาย การต่อส้อู ย่างเข้มแข็งนนั้ ทําให้ท่งุ ราบ มาเร็งโกถูกยึดไปมาระหว่างทงั้ สองฝ่ ายอยู่
หลายครัง้ ในเวลาต่อมา ปรากฏว่ากองทพั แนวที่สองก็ปรากฏตวั มา แต่เมื่อเห็นว่าแนวที่หน่ึง
กําลงั ถอย แนวที่สองจึงรวมกันตงั้ แนวป้ องกนั ทางด้านหลงั ของมาเร็งโก แต่ลานซ์ก็ถกู โจมตี
อยา่ งรุนแรงอกี เชน่ กนั หลงั จากตงั้ รับกนั อยา่ งสดุ ความสามารถแล้ว ลานซ์ก็สงั่ ให้ถอยทพั นาย
พลเอลสนิตซ์เห็นวา่ ฝ่ ายตนได้เปรียบดงั ที่หวงั แล้ว ก็เคลื่อนพลเข้าล้อมคาสเตลเซรีโอโล โดย
การเคลอ่ื นมาทางปี กขวาและใช้ทหารม้าให้เข้าไปโจมตีแนวถอยของลานซ์
ลานซ์หันมาแก้เกมโดยการตงั้ ทพั เป็ นรูปขนั้ บนั ไดจึงสามารถ ถอยออกมาได้อย่างมี
ระเบยี บ และเน่ืองจากการถอยนี ้เป็ นการถอยทวั่ ไป ฉะนนั้ ถ้าหากวา่ เมลาสใช้กําลงั สาํ รองทมุ่ เท
ไลต่ ิดตาม ก็จะสามารถกําชยั ในครัง้ นีไ้ ด้อยา่ งแน่นอน แต่เมลาสผ้สู งู อายุ (อายขุ ณะนนั้ ๘๔)
เข้าใจไปว่าตนชนะแล้ว และด้วยความเหน่ือยออ่ น ก็ถอนตวั ไปยงั กองหลงั โดยปลอ่ ยให้นาย
พลแซซฃบั ไลข่ ้าศกึ ตอ่ ไป
ขณะที่กองทพั ม้าออสเตรียกําลงั จะโจมตีกองทพั ของลานซ์ท่ี กําลงั ถอยอยนู่ นั้ เอง เดชเซ
พร้อมด้วยกองหนนุ ก็โผลข่ นึ ้ ท่ีชายท่งุ เดช เซตรงเข้าไปหานโปเลียนแล้วพดู ว่า ๐ข้าพเจ้าคิดว่า
เราแพ้๑ แต่นโปเลียน กลบั ตอบว่า ๐ฉันคิดว่าเราชนะ๑ ก่อนจะกล่าวต่อว่า ๐ท่านจัดชุดรุกไป
ข้างหน้า สว่ นฉนั จะจดั ชมุ นมุ พลข้างหลงั ทา่ น๑ และก็ด้วยกองหนนุ ใน บงั คบั ของเดชเซน่ีเอง ที่
๒๕๗
ได้เปลยี่ นโชคชะตาการสงครามในครัง้ นนั้
นโปเลยี นชมุ นมุ พลอยใู่ นแนวทีส่ าม ข่ีม้ามาข้างหน้า และพดู วา่ "ทหารทงั้ หลาย เราถอย
มาไกลพอแล้ว คราวนีเ้ ราจะก้าวไปข้างหน้าบ้าง ทา่ นก็รู้อยแู่ ล้วข้าพเจ้าชอบนอนในสนามรบ๑
เม่ือได้ยินผ้นู าํ กลา่ วเช่นนนั้ ทหารท่ีเริ่มออ่ นแรงลงมากก็ดเู หมอื นจะกระฉบั กระเฉงขนึ ้ มาอีกครัง้
เดชเซเตรียมรุกโดยการนําทหารราบจํานวน ๕,๐๐๐ คน เข้าปะทะและตรึงนายพลแซช แต่
ปรากฏความผดิ พลาดขนึ ้ เม่ือเดชเซถกู กระสนุ นดั แรกยิงเข้าทศ่ี ีรษะเสยี ชีวิตลง
๐เราไม่มีเวลาร้ องไห้เพื่อไว้อาลยั ได้เลย๑ นโปเลียนได้กล่าวเอา ไว้ด้วยความรักและ
เสยี ดายในการจากไปของเดชเซในทส่ี ดุ และความ ตายของเดชเซนนั่ เองท่ที ําให้ทหารทงั้ กองทพั
เกิดความโมโหเพม่ิ ขนึ ้ มา เป็ นสองเทา่
ทหารราบออสเตรียแนวที่หน่ึงได้บกุ เข้าโจมตีด้วยความหนกั หน่วงกว่าเดิม แต่ตอนนี ้
กองทหารม้าของแกลเลมงั ได้เข้าโจมตีออสเตรีย ทางปี กโดยฝ่ ายข้าศึกไม่ทนั ได้ตงั้ ตวั สง่ ผลให้
กองทพั ออสเตรียแตกพ่าย และจําต้องยอมแพ้ไปในที่สดุ นายพลแซซถกู จบั เป็ นเชลย แนวทพั
ด้านหลงั ของออสเตรียที่ยงั กระหย่ิมใจในชัยชนะก่อนหน้า และเดินทพั ติดตามมาอย่างไม่
ระมดั ระวงั เมอื่ ถกู ทหารฝร่ังเศสเข้าโจมตโี ดยกะทนั หนั พวกเขาจงึ ไมส่ ามารถทีจ่ ะตงั้ รับได้ทนั ท่ี
สาํ คญั ในการบกุ มา ครัง้ นีอ้ ย่ภู ายใต้การบงั คบั บญั ชาของนโปเลียนเอง ปรากฏวา่ จุดแล้ว จุด
เลา่ ฝ่ ายฝร่ังเศสได้รุกเข้าไป ๆ กองทพั ม้าของเอลสนติ ย์มองเห็นแนว ทหารราบแตก และหากจะ
ถอยก็ยิ่งใจเสีย ซ่งึ แทนท่ีจะหนั มารวมกําลงั กนั ป้ องกนั การถอย กลบั ควบม้าหนีไปทางทงุ่ ราบ
เหยยี บยํา่ ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งท่ีขวางทาง เมอื่ กองทพั แตกพา่ ยมาถงึ บอร์มิดานนั้ ความระส่าํ ระสาย
บรรยายไมถ่ กู ทีเดียว ทหารหลายร้อยคนจมนาํ ้ ตาย ทงั้ ศพม้า ศพคน เลอื ดแดงฉานไปในแม่นํา้
กองทหารทงั้ กองไม่สามารถควบคุม เส้นทางเอาไว้ได้ ตอนสี่ทุ่มของคืนนนั้ เอง ผู้บญั ชาการ
ทหารของ ออสเตรียก็ได้ชุมนมุ ทหารที่เหลืออยู่ สร้างภาพให้สง่างามบนแผ่นดิน ท่ีเมื่อตอนเข้า
ตวั เองยงั เต็มเปี่ ยมไปด้วยความมน่ั ใจในชยั ชนะ
เป็ นอนั ว่า ปฏิเสธกนั ไม่ได้ว่า นโปเลียนท่ีได้รับการช่วยเหลอื จาก กองหนนุ ของเดชเซ
และกองทพั ม้าของแกลเลมงั มาช่วยโจมตีทนั เวลา และเช่นเดียวกนั จําต้องตําหนิการเดินทพั
อยา่ งผลผี ลามของแมท่ พั ออสเตรียหลงั จากทไ่ี ด้มีชยั มาก่อนในการรบตอนต้น ๆ แล้ว
กองทพั ออสเตรียอยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทัง้ นีเ้ พราะ กองทพั อีกทัพของ
๒๕๘
ฝร่ังเศสโดยการนาํ ของซูเซต์กําลงั เข้ามากระหนาบหลงั อยู่ ด้วยเหตนุ ีเ้ มลาสจึงไม่รอให้เกิดการ
รบขนึ ้ ตอ่ ไปอีก โดยการ เสนอขอให้มกี ารเจรจากนั ทนั ที เมลาสได้เสนอขอถอนทหารออกจากเจ
นวั และรวมไปถึงจากที่ ๆ ป้ องกนั เอาไว้อย่างเข้มแข็งในจุดอ่ืน ๆ อนั ประกอบด้วย ปิ เอด์มองด์
ลอมบาร์ดี และเลอกาซิยอง โดยขอเพยี งแต่ ให้นโปเลียนอนญุ าตให้กองทพั ออสเตรียท่ีเหลอื ได้
เดนิ ทพั ไปจนถงึ มงั ตวั ซงึ่ นโปเลยี นก็ตกลง ชว่ั การประจญั บานครัง้ ใหญ่ครัง้ เดียวนโปเลียน ก็ได้
คนื ในสงิ่ ทฝ่ี ร่ังเศสเสยี ไปในการรบในอิตาลเี มอื่ ค.ศ.๑๗๙๙ คืนมาเกือบหมด อย่างใรก็ดีผลงาน
เทา่ นกี ้ ็จดั วา่ เพยี งพอแล้วทนี่ โปเลยี นจะยกชื่อของตวั เองขนึ ้ สคู่ วามวเิ ศษทีไ่ มม่ ีใครเทียบถึง และ
แสดงให้เห็นว่า ทหารฝรั่งเศสนนั้ กล้าหาญเหมือนอยา่ งที่เคยเป็ นมาเม่ือครัง้ ท่ีนโปเลียน เป็ นผู้
บญั ชาการรบในสนาม
นโปเลียนยงั มีเหตผุ ลอ่ืน ๆ ในการท่ีจะรีบตกลงตามข้อเสนอของ เมลาสอีก กล่าวคือ
แท้จริงนโปเลียนอยากจะเข้ายึดเจนวั คืนให้ได้ก่อน ที่กองทัพอังกฤษ ซึ่งเขาทราบว่ากําลัง
เดนิ ทางจะมาถงึ ทา่ เรือนนั้ ในวนั ท่ี ๑๗ มิถนุ ายน ค.ศ.๑๘๐๐ นโปเลยี นเวลานนั้ อายุ ๓๑ ปี เดช
เซที่ตายในสนามรบ อายุ ๓๒ ปี แกลเลมัง ๓๐ ปี มารมองต์ ๒๖ ปี ลานซ์ ๓๑ ปี ขณะท่ีเม
ลาสอายุ ๘๔ ปี
ในการสนทนากนั ถึงเร่ืองการรบครัง้ สําคญั ท่ีมาเร็งโกนี ้เบซิเอร์ กลา่ วกบั นายทหารของ
ออสเตรียวา่ ทท่ี า่ นแพ้เพราะรบกบั นายพลคน สาํ คญั ที่สดุ ในโลก นายทหารออสเตรียก็ตอบวา่
สงครามมาเร็งโกนนั้ อนั ทจี่ ริงมนั แพ้กนั มาตงั้ แตใ่ นม้งุ แล้ว
วนั ที่ ๑๗ มิถนุ ายน ค.ศ.๑๘๐๐ นโปเลียนได้เข้าเมืองมิลานในฐานะผ้มู ีชยั ณ ท่ีน่ีได้มี
การจัดตงั้ รัฐบาลสาธารณรัฐซิสซลั ปิ น และเที่ยวในงานฉลอง อย่างมโหฬารของรัฐต่อไป นโป
เลยี นมอบการบญั ชาการกองทพั ภาคอิตาลี ให้อยภู่ ายใต้การดแู ลของมาสเซนา และตงั้ ยูดงั ให้
เป็ นรัฐมนตรีในปิ เอด์มองต์ หรือกลา่ วอีกทีก็คือ เป็ นผ้วู ่าการรัฐปี เอด์มองต์นน่ั เอง จากนนั้ นโป
เลยี นก็ เดนิ ทางกลบั ปารีส
ในการเดินทางกลบั ในครัง้ นนั้ นโปเลียนได้แวะที่เมืองลีออง เพ่ือประกอบพิธีวางศิลา
ฤกษ์อาคารปาสเคอรเบลคูร์ใหม่ เพ่ือแทนของเก่าท่ีพวกชากอแบงทําลายเสียในระหว่างการ
ปฏิวตั ฝิ รั่งเศส ตอ่ จากนนั้ เขาก็จะเดนิ ทางมาถงึ ตลุ เลอรีสใ์ นวนั ที่ ๒ กรกฎาคม
หากนบั จากวนั ที่ ๖พฤษภาคม ที่นโปเลยี นได้ออกจากปารีสเพื่อไปยงั สวิสเซอร์แลนด์
๒๕๙
นนั้ นบั วา่ เวลาได้ผ่านไปเพียง ๒ เดือน เท่านนั้ ถือเป็ นระยะเวลาอนั สนั้ มาก ความสําเร็จท่ีเกิด
ขนึ ้ มาช่างเหมือนกบั ปาฏิหาริย์นําพาความต่ืนเต้นและปิ ติแก่ชาวปารีสอย่างมาก ซึ่งสามารถ
เห็นได้จากการทําซุ้มประตชู ยั ในทกุ แหง่ ทกุ ท่ี ทกุ คืนของทกุ บ้านได้ตาม ไฟสว่างไสว และตอน
กลางวนั ประชาชนก็ได้พากนั มาชมุ นมุ กนั รอบ ๆ วงั เพื่อหวงั ที่จะได้เห็นผ้ทู ่ีก้ชู าติฝร่ังเศสได้สกั
แวบหนง่ึ ก็ยงั ดี
ความปิ ติยินดนี มี ้ ีมากมายเหลอื หลาย ทงั้ นเี ้พราะขา่ วแห่งชยั ชนะนีไ้ ด้มาถึงประชาชนผู้
ได้รับข่าวก่อนแล้ว คือเมื่อตอนเท่ียงของวนั ท่ี ๑๔ มิถนุ ายน อนั เป็ นตอนที่ทหารฝรั่งเศสกําลงั
ถอนจากทงุ่ ราบมาเร็งโก และกําลงั ตกอยใู่ น ภาวะถอยอนั เสียหายมาก พ่อค้าผ้เู ป็ นนกั เดินทาง
คนหน่ึงได้เดินทางผ่าน สนามรบแห่งนนั้ เพื่อกลบั มายงั ปารีส ได้แพร่ข่าวร้ ายออกไปว่า นโป
เลยี นแพ้แล้ว ตามรายงานปรากฏว่า พวกท่ีเกลียดนโปเลียน ก็ได้เร่ิมดําเนินงานท่ีจะทําให้นโป
เลยี นพ้นจากตาํ แหนง่ กงสลุ ที่ ๑ โดยให้การ์โนต์เป็ นตวั แทนทนั ที ฉะนนั้ ระหวา่ งทน่ี โปเลยี นไมอ่ ยู่
แผนการอนั เป็ นปฏิปักษ์ ต่อนโปเลียนมากมายได้ก่อให้เกิดความย่งุ ยากขนึ ้ ฉะนนั้ แม้ในงาน
เลยี ้ งฉลอง ชยั ชนะในปารีส นโปเลียนก็เต็มไปด้วยความคิด เขาเร่ิมมองดกู าร์โนต์ในแง่อิจฉา
และรังเกียจ
เมื่อนโปเลียนประสบชยั ชนะครัง้ ใหญ่ท่ีมาเร็งโก ในต้นฤดูร้อน คือวนั ที่ ๑๔ มิถนุ ายน
ค.ศ.๑๘๐๐ นนั้ นโปเลียนก็เริ่มมีทีท่าว่าจะตัง้ ตนขึน้ เป็ นกษัตริย์น้อย ๆ ขึน้ มาทีเดียว ทงั้ นี ้
เพราะเหตกุ ารณ์แวดล้อมท่อี ํานวย ฝ่ ายลเู ซียงน้องชายของนโปเลียนในเวลานนั้ ก็มีอํานาจเป็ น
ถึงรัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งโดยหน้าที่นีม้ ีทงั้ ก่อให้เกิดมิตรและศตั รูมากมาย ลเู ซียงได้ช่วยเหลือ
สหายของเขาให้ได้เข้าทํางานทงั้ ทีเ่ พอ่ื น ของเขาปราศจากความรู้ความสามารถ รู้อย่อู ย่างเดียว
คือวิชาประจบสอพลอ คอยแต่จะชักนําให้ลเู ซียงเขวเพราะหลงเช่ือถ้อยคําของศัตรูของนโป
เลยี น ชิงดชี ิงเดน่ กนั ไปมา ในที่สดุ ลเู ซียงก็ไมถ่ กู กบั ฟเู ซต่ ์จอมตํารวจถึงขนาดนบั วา่ เป็ นขมิน้ กบั
ปนู ฟเู ซ่ต์หนั มาพึ่งโยเซฟิ นโดยวิธีการอนั ประหลาดที่สดุ คือ ฟูเซ่ต์ติดสนิ บนโยเซฟิ นให้รายงาน
ข่าวลบั ภายในวังตุลเลอรีส์ให้เขาทราบทุกวัน โดยฟูเซ่ต์ให้เงินแก่นางวนั ละ ๑,๐๐๐ ฟรังค์
นบั เป็ นเร่ือง ประหลาดทส่ี ดุ อนั ไมน่ ําจะเป็ นไปได้ โยเซฟิ น ได้เงินจํานวนนีม้ าบําบดั หนีส้ นิ รุงรัง
ของนางท่ีบิดบงั นโปเลยี นเอาไว้มากมาย ด้วยเหตนุ เี ้องฟเู ซต่ ์กบั โยเซฟินจึงสนิทสนมกนั มาก จน
เป็ นเหตใุ ห้ลเู ซียงกล่าวได้ว่า พ่ีชายของตน หลงเช่ือหญิงทรยศ ร้ อนถึงมาดามเลอตีเชียผ้เู ป็ น
๒๖๐
มารดาต้องเอามาเลา่ ให้นโปเลยี นฟังว่า ลเู ซียงน้องชายนโปเลยี นกําลงั จะถกู โค่น แล้วนางก็
เตือนโยเซฟินให้ระวงั ฟเู ซ่ต์ให้ดี
คงเป็ นการไมป่ ระหลาดเลยที่จะกลา่ ววา่ ยิ่งนโปเลียนก้าวสงู ขนึ ้ เพียงใด โยเซฟิ นก็ย่ิง
เพมิ่ ความปริวติ กมากขนึ ้ เพียงนนั้ ทงั้ นีก้ ็เพราะนาง สาํ นึกได้อย่างดีถึงอนาคตของนโปเลยี นซงึ่
ควรจะมที ายาทสบื สกลุ ซง่ึ นางไมส่ ามารถจะมลี กู กบั เขาได้สมดงั ความประสงค์ สว่ นพี่น้องของ
นโปเลยี นก็มีความประสงค์ท่ีจะได้เป็ นทายาทสืบสกลุ หากว่านโปเลยี น ไม่มีบุตร และมีความ
ปรารถนาท่ีจะให้นโปเลยี นได้ดํารงตําแหน่งกงสลุ ท่ี ๑ ไปจนตลอดชีวิต หรือมีตําแหนง่ ใหญ่ขนึ ้
ไปอกี ความคิดนถี ้ กู เผย แพร่ออกไปจนกระทง่ั เป็ นผลร้ายตอ่ ตวั ผ้แู พร่ คือลเู ซียงเอง ความจริง ลู
เซยี ง เองก็เป็ นคนฉลาด แตไ่ มท่ นั มนษุ ย์เจ้าเลห่ ์อยา่ งฟเู ซต่ ์ซง่ึ มีโยเซฟิน เป็ นผ้หู นนุ คนสาํ คญั ได้
ขา่ วการยทุ ธ์ครัง้ สาํ คญั ได้กระต้นุ ให้กองทพั ลมุ่ แม่นํา้ ไรน์อยาก ทําดีแขง่ บ้าง กองทพั
ไรน์นปี ้ รารถนาเหลือเกินท่ีจะได้ทําสิ่งอนั มีคา่ ควร แก่การจะได้จารึกนามในหน้าประวตั ิศาสตร์
เชน่ ทีม่ าเร็งโกอีก แตเ่ ม่อื นโปเลยี นทําสญั ญาสงบศกึ กบั เมลาสนนั้ ได้มีการย่นื ข้อเสนออ้างมาถึง
กองทัพทางชายแดนเยอรมันด้วย เหตุนีม้ อโรจึงไม่สามารถทําอะไรได้ เพ่ือให้สมกับความ
ต้องการของทหาร การเจรจาได้ดาํ เนินไป แตไ่ มส่ าํ เร็จ พระเจ้าจกั รพรรดิแหง่ ออสเตรียได้รับการ
สนบั สนนุ จากองั กฤษเรื่อยมา พระองค์พบวา่ เป็ นการลาํ บากมากท่จี ะตอ่ ต้านกบั คําคดั ค้าน ของ
องั กฤษในกรณีทจี่ ะให้สตั ยาบนั เพอ่ื สงบศกึ ใด ๆ ทีอ่ งั กฤษไม่ได้เข้า ร่วมด้วย จงึ เป็ นธรรมดาทจี่ ะ
เหน็ ได้วา่ รัฐบาลออสเตรียผู้หย่ิงในตวั เอง ย่อมจะมีปฏิกิริยาตอ่ การลดเกียรติของบ้านเมือง แต่
เรื่องนีก้ ็ยงั ไม่ สําคญั เท่าใดนกั ข่าวต่อมาที่ได้รับคือ ฝร่ังเศสยอมแพ้สละเกาะมอลต้า ให้แก่
องั กฤษภายใต้การบญั ชาการทางทะเลของลอร์ดคีธและเซอร์ราพอเบอร์ครอมบี ้ ในวันที่ ๕
กนั ยายน ค.ศ.๑๘๐๐ ข่าวนีต้ ่างหากท่ีทําให้จิตใจของ สมั พันธมิตรผ้เู ข้าร่วมในสนธิสญั ญา
แอนตฝี ้ รั่งเศสคอ่ ยดขี นึ ้ ด้วยเหตนุ ี ้การเจรจาท่เี กิดขนึ ้ จึงเตม็ ไปด้วยความไมเ่ คารพ และสงสยั ซงึ่
กนั และกนั ไมส่ นิ ้ สดุ ลงได้ จนกระทงั่ ต้องเสยี สละเลอื ดเนีอ้ ตอ่ ไปอีกมากมาย
ระหวา่ งการสงบศกึ จากวนั ท่ี ๑๕ มิถนุ ายน ถงึ วนั ท่ี ๑๐ พฤศจิกาย ฝ่ ายราชวงศบรู ์บอง
ที่ถูกเนรเทศออกไป ได้พยายามชกั ชวนให้นโปเลียน บวชเป็ นพระแต่ไม่สําเร็จ บาทหลวงมอง
เตสกิอตู วั แทนลบั ๆ ของเค๊านต์ เคอลลิ ส์ (ภายหลงั ได้เป็ นพระเจ้าหลยุ ส์ที่ ๑๘) ได้ทําการติดต่อ
กับนโปเลียนผ่านทางเลอบรังค์ กงสลุ ท่ีสาม โดยการเสนอจดหมายของท่าน เค๊านต์ต่อนโป
๒๖๑
เลียน ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี ้ ๐ท่านชักช้ามากในเรื่องคืนราชสมบัติให้แก่ข้าพเจ้า จึงเกรง
เหลือเกินว่าท่านจะปล่อยโอกาสอันงามหลดุ มือไปเสีย ท่านจะไม่สามารถมีความสขุ อยู่ใน
ฝรั่งเศสได้โดยไม่มีข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็เช่นเดียวกนั ไม่สามารถทําอะไรได้ถ้าไม่มีท่าน จึง
ขอให้เร็วสกั หน่อย รีบบอกมาด้วยวา่ ท่านและสหายต้องการตําแเหน่งใด และเกียรติแคไ่ หนจึง
จะพอใจ๑
นโปเลยี นได้สง่ จดหมายตอบกลบั ไปว่า ๐ข้าพเจ้าได้รับจดหมาย ของทา่ นแล้ว ข้าพเจ้า
สนใจเสมอในโชคร้ ายของท่านและราชวงศ์ ท่าน อย่าคิดเข้ามาในฝรั่งเศสอีกเลย ท่านไม่
สามารถกลบั เข้ามาอกี ได้หาก ไมข่ ้ามศพอกี ๕๐๐,๐๐๐ ศพไปเสยี กอ่ น ข้าพเจ้าจะพยายามเป็น
อย่าง มากเท่าท่ีอํานาจจะพึงกระทําได้ ในอนั ท่ีจะบรรเทาความร้ ายกาจของ ซะตากรรมของ
พวกทา่ น และเพ่ือให้ทา่ นลมื เคราะห์ร้ายนนั้ ๆ เสยี เทา่ ท่ี จะทําได้๑
จากนนั้ กองต์ดาตวั ล์ (พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑๐ แหง่ ฝร่ังเศส) ได้เปิ ด การเจรจาด้วยวิธีการที่
อ่อนแอยิ่งขึน้ ไปอีก ท่านกองต์ได้ส่งสตรีท่ีทงั้ สวย และทรงเสน่ห์นาม ดชั เชสเดอะกี มาปารีส
ดชั เชสได้ตดิ ตอ่ ทางโยเซฟิ น ได้โดยไม่ยาก และได้แสดงตวั เป็ นเคร่ืองประดบั ที่งามที่สดุ ประจํา
สาํ นกั ของกงสลุ แตท่ นั ทที ่ีนโปเลยี นรู้วา่ ดชั เชสมาทาํ ไม ดชั เชสก็ถกู สงั่ ให้ออก จากปารีสภายใน
เวลาสองสามชวั่ โมง กลอบุ ายแบบนีต้ ้องร่ัวไหลวนั ยงั ค่ํา และในระยะดงั กลา่ วนี ้ความหวงั ของ
ฝ่ ายนิยมกษัตริย์พงุ่ ขนึ ้ สงู มาก
ขณะเดียวกนั นฝี ้ ่ ายทเ่ี ลวร้ายในพรรคใหญ่ ๆ ทงั้ สองซึง่ เกลยี ดชงั ในการมีอํานาจของน
โปเลียน ได้พยายามหาไม่แต่คนท่ีมีหัวใจช่ัว แต่ หาพวกมือชั่วร้ ายเพ่ือทําการอนั ร้ ายกาจ
แตกตา่ งไปจากพวกนยิ ม กษัตริย์กระทํามาแล้วดงั กลา่ วข้างต้น พวกชากอแบงเองค้นุ เคยดีกับ
การทารุณท่ีถกู ต้องตามกฎหมาย และในระหว่างท่ีเป็ นรัฐแหง่ ความกลวั จนถึงกบั มีการจําคกุ
และประหารชีวิตพระเจ้าหลยุ ส์ที่ ๑๖ นนั้ คณะนิยมกษัตริย์บางคนก็ได้เข้าร่วมกบั ความทารุณ
โหดร้ายนนั้ ด้วย ทงั้ นีเ้ พราะ พวกท่ีมีจิตใจชว่ั ข้าประกอบไปด้วยอารมณ์ผิด ๆ ชกั ชวนให้นึกถึง
ระบบแก้แค้น ซ่ึงไม่ว่าจะสําเร็จด้วยวิถีใดก็เอาทงั้ นนั้ โดยถือว่าเป็ นหน้าที่ที่ มีเกียรติอนั ดบั
สดุ ท้าย หรือไมก่ ็คนที่มีใจบริสทุ ์และสภุ าพมาแตเ่ ดิมนเี ้อง แตใ่ นระหวา่ งสงครามกลางเมือง ต้อง
ประสบกบั ความลาํ บากยากแค้นในการท่ีต้องซุม่ ชอ่ นอยใู่ นป่ าและต้องอดอยากทําให้กลายเป็ น
คน ใจแขง็ ในยามท่ีเกิดอารมณ์รุนแรง เหมาะที่จะประกอบกรรมใด ๆ ก็ได้ เพราะดวงความคิด
๒๖๒
ของเขาแตเ่ ดิมมา ทงั้ ท่ีเป็ นอย่ใู นสมยั ที่ดีขึน้ กว่าเดิม เป็ นดวงความคิดท่ีเต็มไปด้วยความกลวั
และเกลยี ดชงั เป็ นมลู ฐานอยแู่ ล้ว
ความคิดในการฆ่านโปเลยี น เกิดขึน้ จากพวกชากอแบง ท่ีแต่เดิม ก็บูชานโปเลียนว่า
เป็ นทงั้ ๐เด็กและผ้ชู นะเลศิ ๑ ช่างปัน้ ชาวอิตาลผี ้หู นงึ่ ชื่อเซรัคดี เคยปัน้ รูปนโปเลียนครึ่งตวั ที่มอง
เตเบลโล ได้เดินทางมาถงึ ปารีสและแสร้งมาทาํ งานตอ่ ช่างปัน้ ผ้นู ไี ้ ด้รับอนญุ าตให้เข้าพบซีซาร์
คนใหม่ และตวั เขาเองก็เป็ นเสมือนกบั บรูตสั แตโ่ อกาสท่ไี ด้อยกู่ บั นโปเลียน แตล่ ะครัง้ ยงั ไม่เปิ ด
ช่องให้ทําการได้ ยิ่งกว่านนั้ เขายงั ได้เปิ ดเผยจดุ ประสงค์ของตวั ตอ่ โตปิ โน เลอบรังค์ และช่าง
วาดภาพอีกคนหน่ึง และ บอกแก่นายทหารคนสนิทช่ือ อาเรนา เดเมวิล และบคุ คลอ่ืน ๆ อีก
โดย ได้ชกั ชวนให้คนเหลา่ นนั้ ไปร่วมวางแผนแวดล้อมนโปเลียนแล้วแทงให้ ตายที่ทางเข้าโรง
ละคร แตท่ วา่ มผี ้รู ่วมมอื คนหนงึ่ ทรยศ ทาํ ให้เซรัคดีกบั ผ้รู ่วมคดิ ถกู จบั ทโ่ี รงละครขณะที่ไปยืนรอ
ลงั หารนโปเลยี นอยู่
เหตกุ ารณ์เหลา่ นี ้เกิดขนึ ้ ในกลางเดือนสิงหาคม ค.ศ.๑๘๐๐ (หนงั สือบางเลม่ วา่ วนั ที่
๒๔ ธนั วาคม) ตามเรื่องดงั กลา่ ว กลา่ วกนั วา่ พวกชากอแบงถกู สง่ เข้าอยใู่ นคกุ ร่วมกบั พวกของจู
องั ก์ พวกนไี ้ ด้เลา่ ให้ ฟังถงึ เรื่องการลอบฆา่ นโปเลยี นอีกเรื่องหนงึ่ ซงึ่ เกือบสาํ เร็จ และเรียก กนั ว่า
แผน ๐ลกู ระเบดิ ๑ นนั่ คือ มกี ารเทืยมรถม้าไว้คนั หนงึ่ บรรทกุ ดนิ ปื น ถงั หนง่ึ ผกู ติดกบั กลมุ่ กระสนุ
ปราย แล้วก็จดุ ชนวนให้เผาไหม้ไปช้า ๆ โดยกะให้เกิดระเบิดขนึ ้ ตอนที่รถม้าของนโปเลียนผ่าน
มาตามถนนแคบ ๆ โดยที่กระสนุ ปรายจะพงุ่ ออกไปทําลายทกุ สิง่ ทกุ อยา่ งโดยรอบ คืน กําหนด
ทําการคือวนั ที่ ๑๐ ตลุ าคม อนั เป็ นคนื ที่กะกนั วา่ นโปเลยี นจะไปดลู ะคร สว่ นระเบิดก็เตรียมการ
กนั ไว้ทีถ่ นนแซงนเิ ดส ซงึ่ นโปเลยี นจะต้องผา่ นเส้นทางนเี ้ม่ือออกมาจากตลุ เลอรีส์
นโปเลียนได้เล่าให้เพื่อน ๆ ฟังที่เกาะเซนต์เฮเลนา๔๐ ในเวลาต่อมาว่า วนั นนั้ ทํางาน
หนกั ทงั้ วนั หลงั จากกินข้าวแล้วก็นอนหลบั ไป โยเซฟิ นอยากจะไปดลู ะครเหลือเกิน ต้องลาํ บาก
ปลกุ และชวนให้เขา เดินทางไปด้วย ๐แต่ฉนั หลบั ไปอีก๑ นโปเลยี นเลา่ ต่อ ๐หลงั จากที่ขึน้ รถกนั
๔๐ ค.ศ.๑๘๑๕ หลงั จากพา่ ยแพ้ในสงครามกบั องั กฤษท่รี ่วมกบั ปรัสเซียในยทุ ธการวอเตอร์ลู
นโปเลยี นก็ถกู องั กฤษเนรเทศให้มาอยทู่ เ่ี กาะเชนต์เฮเลนา ซง่ึ เป็ นเกาะภเู ขาไฟอนั โดดเดยี่ วกลาง
มหาสมทุ รแอตแลนตกิ
๒๖๓
แล้ว ตอนรถม้าจะระเบิดนนั่ ฉนั กําลงั ฝันถึงอนั ตรายที่ได้รับมาหลายปี มาแล้ว ตอนข้ามตกั ลิอา
เมนโตตอนสองยามใช้แสงไต้ส่องทางขณะนํา้ ท่วม๑ เมื่อนโปเลียนต่ืนขนึ ้ ก็ได้บอกกบั ลานซ์กับ
เบสลเิ อร์ที่มาด้วยกันในรถ ฟังว่า ๐เราถกู ระเบิด๑ คนขบั รถเกือบจะหยดุ รถ แต่นโปเลยี น สงั่ ให้
ขบั ให้เร็วทสี่ ดุ เทา่ ที่จะเร็วได้ เพ่ือให้ถึงโรงละคร นโปเลยี นก้าวเข้า โรงละครด้วยใบหน้าอนั สงบ
ยิง่ กวา่ คนอน่ื ๆ
นโปเลียนรอดพ้นจากระเบิดไปได้อย่างหวุดหวิด เพราะคนขบั รถ ขบั เร็วอย่างผิดปกติ
รถระเบิดคนั นนั้ ระเบิดหลงั จากท่ีรถของนโปเลียน ผ่านไปคร่ึงนาที การระเบิดครัง้ นีท้ ําลายชีวิต
คนไป ๒๐ คน และบาดเจ็บอีก ๕๓ คน (ในกลมุ่ นีม้ ีคนร้ายท่ีจดุ ชนวนชื่อ แซงต์ เรอยอง รวมอยู่
ด้วย) หน้าตา่ งบ้านตรงฟากถนนแตกไปหลายบาน
พอนโปเลยี นไปถงึ โรงละคร ก็ตรงไปยงั ทน่ี ง่ั เพอ่ื แสดงตนวา่ เขา ปลอดภยั แล้วนโปเลยี น
ก็กลา่ ววา่ ๐อ้ายพวกเหลา่ ร้ายมนั ต้องการฆา่ ฉนั ไหนเอาสมดุ เพลงมาดสู กั เลม่ เถอะ๑ นโปเลยี นดี
ใจยง่ิ ท่ีเห็นภริยาปลอดภยั โยเซฟินมาถงึ โรงละครทงั้ ท่นี าํ ้ ตานองหน้า แสดงวา่ ตกใจมาอยา่ งสดุ
ขีด เธอนงั่ ชิดสามีตลอดเวลาขณะท่ีอยใู่ นโรงละคร
เหตรุ ้ ายเหล่านีท้ ําให้นโปเลียนยิ่งคิดถึงเร่ืองของทายาทมากย่ิงขึน้ ทงั้ ๆ ที่ขณะนนั้ โย
เซฟินมีอายถุ งึ ๓๘ ปี แล้ว (แตน่ างก็พยายามจะมีลกู กบั นโปเลยี น ให้ได้ โดยการกําหนดการไป
อาบนํา้ แร่ท่ีเมืองปลอมปี แอร์ในฤดูร้ อนปี ค.ศ. ๑๘๐๑ ตามคําแนะนําของแพทย์เพ่ือรักษา
ตําแหนง่ ภริยาคนที่ ๑ ของกงสลุ เอาไว้ นางวนเวียนคิดอยแู่ ตเ่ รื่องนตี ้ ลอดเวลา)
บรรดาผ้คู นท่ีดูละคร พอได้รับข่าวก็พากันต่ืนเต้นกันยกใหญ่ ผู้ คิดร้ ายนโปเลียนได้
ก่อให้เกิดความกลวั และเกลียดชังมากมาย และพา กันให้ความสนใจนโปเลียนมากยิ่งขึน้
ผู้ก่อการร้ ายถูกส่งขึน้ ศาลและ ตัดสินประหารชีวิต และในท่ามกลางความปลาบปลืม้ ของ
ประชาชน สภาสงู ได้ลงมติเนรเทศพวกหวั หน้าก่อการร้าย ๑๓๐ คน ออกไปนอกประเทศ ซึง่ มี
เสยี งซื่นชมกนั อยา่ งมาก ขณะท่ีนโปเลยี นนนั้ ก็ได้แสดงออกถงึ ความรังเกียจอยา่ งออกนอกหน้า
ตอ่ เศษซากของพรรคการเมอื งอนั นา่ ชงั นนั้ และแตน่ นั้ เป็ นต้นมา มติของสภาก็เป็ นอนั ต้องชะงกั
งนั ไป ไมม่ ีการนาํ มาปฏิบตั อิ ีกเลย สง่ ผลให้สมาชิกพรรคการเมืองท่ีชว่ั ช้าเป็ นต้นเหตทุ ่ีนํามาซ่ึง
เผดจ็ การโดยแท้
หลงั จากเหตุการณ์นนั้ ผ่านพ้นไปแล้ว ดงั ท่ีได้กล่าวมาถึงกรณีของ โยเซฟิ น กับการ
๒๖๔
รักษาตําแหนง่ ภริยาของกงสลุ ท่ี ๑ เอาไว้ให้ได้ ทําให้ นางว้าวนุ่ และคิดหนกั คิดไปคิดมาทกุ ๆ
วนั ในที่สดุ นางก็คิดถึงฮอตงั ส์ ลูกสาวของนางกบั หลยุ ส์ น้องชายคนโปรดของนโปเลียน ซ่ึง
ขณะนนั้ ยงั เป็ นโสดอยู่ นางมองวา่ หากทงั้ สองสามารถทจ่ี ะแต่งงานกนั ได้ นน่ั จะกลายเป็ นการ
เช่ือมความสมั พนั ธ์ให้เกิดความกระชบั ชดั ยิ่งขนึ ้ แต่จะ ทําอย่างไรให้ทงั้ สองรักกนั ได้? เม่ือนาง
ได้แจ้งความคิดนแี ้ กน่ โปเลยี น ก็ได้รับความเห็นชอบในทนั ที
นโปเลียนไมช่ ักช้าท่ีจะปฏิบตั ิตนตามความรู้สกึ ของประชาชน อยา่ งมน่ั คงเฉียบแหลม
และเห็นการณ์ไกล ระยะนีม้ ีการตัง้ ศาลปฏิวัติ ขึน้ ใหม่เรียกว่า คณะกรรมาธิการพิเศษ
ประกอบด้วยผ้พู ิพากษา ๘ คน ไม่มีลกู ขนุ และไม่มีอทุ ธรณ์ คณะกรรมาธิการพิเศษนีเ้ ป็ นคณะ
นิตบิ ญั ญตั ิของนโปเลยี นด้วยความเกรงอกเกรงใจจากทกุ ฝ่ ายทาํ ให้ คะแนนเสยี งอนมุ ตั ใิ ห้จดั ตงั้
คณะกรรมาธิการพิเศษนไี ้ ด้ จึงชนะกนั หวดุ หวดิ
เมอื่ มอี ํานาจในการตดั สนิ แล้ว นโปเลยี นก็มเี คร่ืองมือที่จะ ทําลายผ้ทู ี่ถกู สงสยั ว่าทําผิด
ทางการเมืองได้ตามใจชอบ มีกฎหมายอีก ฉบบั หนึง่ ที่ให้อํานาจแก่หวั หน้าผ้พู ิพากษา ในอนั ที่
จะเนรเทศบุคคลท่ี ไม่พึงปรารถนาเช่น ๐ศตั รูของรัฐ๑ จากปารีสหรือจากฝรั่งเศสได้ทุกเม่ือ ใน
ยามที่เห็นสมควรโดยคณะศาลพิเศษหรือปฏิวตั ิใด ๆ จะมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้ อํานาจนีเ้ มื่อ
สาํ เร็จลงแล้ว ก็จะช่วยให้นโปเลียนมีอํานาจในการกดข่ีทารุณ และตํารวจซึ่งดําเนินการโดยฟู
เซ่ต์ ท่ีเปรียบเสมือนเครื่องจกั รอนั นา่ สะพรึงกลวั ก็เป็ นเคร่ืองมือของนโปเลียนในอนั ท่ีจะทําให้
จดุ หมายของนโปเลยี นได้ปฏบิ ตั ิสาํ เร็จลลุ ว่ งไปโดยสมบรู ณ์
มีอีกเร่ืองหน่ึงที่เกิดขึน้ ในระยะนี ้ (ระหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ.๑๘๐๐) คือขณะท่ีมติ
มหาชนในเรื่องความนิยมในตวั ของนโปเลียนกําลงั พงุ่ ขนึ ้ อนั เนื่องมาจากเหตุ ๐ลกู ระเบิด๑ นนั่
ปรากฏมีการโปรยใบปลวิ โดยพมิ พ์หวั เรื่องเอาไว้วา่ ๐เส้นขนานระหวา่ ง ซีซาร์ ครอมเวล มองค์
และนโปเลียน๑ ใบปลิวนีม้ ีแนวเสนอสมมตุ ิฐานว่า กงสลุ ควรมีเกียรติเทา่ กษัตริย์ เม่ือมีใบปลิว
เกิดขึน้ ในยามดงั กล่าว ก็ก่อให้เกิดการต่ืนเต้น ถึงขีด เพ่ือนสนิทของนโปเลียนได้บอกแก่นโป
เลยี นเป็ นเสยี งเดียวกนั วา่ ใบปลวิ นนั้ เป็ นการประทษุ ร้ายตอ่ นโปเลยี น นโปเลยี นจึงเรียกฟเู ซต่ ์มา
ตําหนิ ในฐานท่ีปลอ่ ยให้มีใบปลิวเช่นนนั้ เกิดขนึ ้ ฟเู ซ่ต์ฟังนโปเลยี น ตําหนิอย่างเยือกเย็น แส้ว
ตอบวา่ เขาไม่ปรารถนาจะขดั จงั หวะ เพราะ เขาได้ติดตามใบปลิวเถ่ือนนนั้ ไปจนถึงสถานที่อยู่
ของลเู ซยี งน้องชาย ของนโปเลยี นแล้ว
๒๖๕
๐แล้วทาํ ไมไมเ่ ลน่ งานลเู ซียง๑ นโปเลยี นดุ ๐ควรจะจบั มาขงั ไว้ ได้๑เมื่อพดู จบนโปเลียนก็
ออกจากห้องและปิ ดประตปู ัง ฟเู ซต่ ์ยิม้ และ กระซิบทห่ี บู เู รียนวา่ ๐ขงั คนเขยี นไว้ในโบสถ์เรอะ ก็ลู
เซยี งเป็ นคนที่เอา ต้นฉบบั มาให้ดู ในนนั้ มีลายมอื ของนโปเลยี นแก้ไขเตม็ ไปหมด๑
ลเู ซยี ง เมอ่ื ทราบขา่ ววา่ พชี่ ายโกรธมากก็เดินทางมาที่ตลุ เลอรีส์ และบ่นกบั พ่ีชายวา่ ๐พ่ี
ให้ฉนั เป็ นหนุ่ แล้วพี่ก็ทงิ ้ ฉนั ๑
๐แตม่ นั เป็ นความผิดของแกน่ี๑ นโปเลยี นวา่ ๐มนั เป็ นหน้าท่ีท่ีจะ ต้องทําไมใ่ ห้เขาจบั ได้
ฟเู ซต่ ์ยง่ิ แสดงให้เหน็ วา่ เขาเกง่ ขนึ ้ เทา่ ไร ก็จะยงิ่ เหน็ วา่ แกแยล่ งเทา่ นนั้ ๑
มหี นงั สอื บางเลม่ กลา่ ววา่ ขณะนนั้ โยเซฟินได้เข้ามาอยใู่ นห้องท่ี นโปเลยี น ลเู ซยี ง ฟเู ซต่ ์
กําลงั พดู กนั อยู่ นางนง่ั ลงบนเข่าของนโปเลยี น เอานิว้ เสยผมของสามีเลน่ พลางเอย่ วา่ ๐โบนา
ปาร์ต ขออยา่ ตงั้ ตนเป็ นกษัตริย์เลย นา่ หวาดเสียวเหลือเกินที่ลเู ซียงรบเร้าจะให้เธอเป็ นกษัตริย์
ให้ได้ขออยา่ ได้เช่ือถือเขาเลย๑
ด้วยความบกพร่องและผิดพลาดในหน้าท่ีการงานอยา่ งร้ ายแรง ดงั กล่าวข้างต้น นโป
เลียนถือว่าเป็ นความผิดที่จะต้องดดั สนั ดานน้องชาย พร้ อมทงั้ ยงั เป็ นการทําให้คนอ่ืนได้เห็น
และกลัวไปด้ วยในตัว ลูเซียงจึงต้ องลาออกจากรัฐมนตรีมหาดไทย และถูกส่งไปเป็ น
เอกอคั รราชทูตพิเศษประจํา กรุงแมดริด นครหลวงของสเปน ได้รับเงินเดือนอย่างสงู เป็ นการ
ปลอบใจ
ในงานเลยี ้ งสง่ ลเู ซยี งเมือ่ วนั ท่ี๒๖ธนั วาคม ค.ศ.๑๘๐๐ ณ พระราชวงั ตลุ เลอรีส์ โยเซฟิ น
กบั ฮอตงั ส์ลกู สาว ซอ่ นความดีใจไว้ในใบหน้า นโปเลียนกบั ลเู ซียงเข้าไปปรึกษากนั ในห้องโดย
ลาํ พงั เป็ นเวลานาน พอ ออกมาได้ใมข่ ้าลเู ซยี งก็ตรงเข้าไปหาพ่ีสะใภ้ด้วยกิริยาอาการร่าเริงเป็ น
พเิ ศษ พลางกระซิบ แล้วถามพ่สี ะใภ้วา่ ต้องการอะไรในแมดริดบ้าง นางจึงให้ลเู ซียง สง่ พดั สเปน
มาให้ ๒-๓ เล่ม (พดั สเปนนบั ว่าเป็ นสินค้าที่มีชื่อเสียงในสมยั นนั้ ) ทงั้ แม่ลกู ต่างก็แสดงกิริยา
ตอบตอ่ ลเู ซียงอยา่ งสภุ าพออ่ นหวานที่สดุ กอ่ นทลี่ เู ซียงจะจากไป..
นโปเลยี นเฝ้ าคดิ ถึงแตเ่ รื่องทายาทหรือลกู ชาย ถ้าไม่มีลกู เขาจะ ได้ใครเป็ นผ้สู ืบทายาท
วนเวยี นคิดอยแู่ ตเ่ รื่องนี ้พชี่ ายก็โง่ ลเู ซยี งก็ตกอบั ไป เหลอื แตห่ ลยุ สผ์ ้ยู งั เป็ นเดก็ แตก่ ็เอาใจใสใ่ น
การศกึ ษาและ ฉลาดแหลมคม ทงั้ มีความเท่ียงตรงเป็ นนิสยั นโปเลียนจึงตดั สินใจเลือก หลยุ ส์
น้องชายคนเลก็ ทส่ี ดุ เป็ นทายาทตอ่ ไป
๒๖๖
เราไมท่ ราบวา่ ความยงุ่ เหยิงในปารีสชว่ ยให้ทางคณะรัฐมนตรีของ ออสเตรียไมต่ ดั สนิ ใจ
ลงไปได้นานเท่าใดในระหว่างฤดูใบไม้ร่วงนนั้ ห้าเดือนผ่านไปหลงั จากการทําสญั ญาสงบศึก
ท่มี าเร็งโก นโปเลยี นแสดงความไม่พอใจในความลา่ ช้านี ้จึงตดั สนิ ใจใช้อาวุธและเป็ นคนแรกที่
ลงสนามรบอีก ในระหวา่ งวนั ที่ ๑๗ ถงึ ๒๗ พฤศจิกายน ค.ศ. ๑๘๐๐ พวก นายพลต่าง ๆ ได้รับ
คาํ สงั่ ให้เคลอื่ นทพั ทางการทหาร ไม่ว่าสมรภมู ิใด ทหารฝรั่งเศสก็สามารถเอาชนะได้หมด บรูน
ชนะท่มี ินซโิ อและรุดหน้า ไปสเู่ วนิส ยงั หา่ งอกี เพียง ๒-๓ ไมลก์ ็จะถึง แมคโดนลั ด์ยดึ เทือกเขาไท
รอลและเตรียมพร้อมที่จะสนบั สนนุ กองทพั อิตาลีกบั กองทพั ลมุ่ แม่นํา้ ไรน์ ทนั ทีที่ต้องการ มอโร
รุกเข้าไปสใู่ จกลางเยอรมนั และต้องเผชิญ กบั อาร์ชด๊คุ ยอห์นแหง่ ออสเตรีย อาร์ชด๊คุ เป็ นตอ่ ที่ฮกั
และเตรียมจะ รบใหญ่โดยปรากฏตวั ตรงหน้าทพั ฝรั่งเศส ในคํ่าวนั ท่ี ๒ ธนั วาคม ท่ี โฮเฮนลนิ เด็น
ระหว่างงินน์กับอิแซร์ เวลา ๗ นาฬิกาของเช้าวนั ที่ ๓ การรบก็เริ่มต้นขึน้ เนื่องจากหิมะลงจัด
และหนกั ทาํ ให้ไมเ่ หน็ ถนน ทาง ออสเตรีย ทหารหลายกองตา่ งหลงและกลบั มาสจู่ ุดตงั้ กองแนว
ไมท่ นั หรือมาถึงก็ช้าเกินไป การยทุ ธ์ท่ีนด่ี เุ ดอื ดยงิ่ ทหารออสเตรียตายในสนามรบถึง ๑๐,๐๐๐
คน และมอโรก็สามารถรุกผา่ นตอ่ ไปจนเข้ายดึ ซลั เบิร์กไว้ได้
เมอื งหลวงออสเตรียกําลงั จะถกู รุกโดยกองทพั ของฝรั่งเศสท่ี แบง่ ออกเป็ นสามสาย พระ
จกั รพรรดิออสเตรียจึงถกู บีบให้ต้องทงิ ้ ความ สมั พนั ธ์กบั องั กฤษ และแยกไปทําสนธิสญั ญาสงบ
ศกึ กบั ฝร่ังเศส พติ ต์ เองได้ตดั สนิ สงครามยโุ รปว่าสนิ ้ หวงั และเมื่ออา่ นข่าวมาเร็งโกแล้วก็พดู ว่า
๐ม้วนแผนท่ี (ยโุ รป) ได้แล้ว เราจะไม่ต้องใช้ไปอกี ๒๐ ปี ๑
วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๑๘๐๑ ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาสงบ ศึกท่ีลูนวิลล์ พระ
จกั รพรรดิออสเตรีย ในนามของหวั หน้ากษัตริย์แห่งออสเตรีย ได้ยอมให้ฝร่ังเศสมีเขตแดนจรด
แมน่ าํ ้ ไรน์ และสละสทิ ธิ์ รวม ทงั้ สทิ ธิเจ้าองค์อื่นในปรัสเซีย มีข้อความตอนหนง่ึ ท่ีพวกออสเตรีย
ไมพ่ อใจคอื ต้องยกั ขยกั ทสั กนั นีให้ และทสั กนั นีนนี ้ โปเลยี นได้โอนให้กบั กษัตริยแหง่ ปาร์มา เป็ น
คา่ ตอบแทนในการให้ท่พี กั ในสเปนระหวา่ งการ สงคราม ทงั้ ยงั ต้องยอมรับวา่ สหสาธารณรัฐบา
ตาเวียน๔๑ เป็ นของฝรั่งเศส ซิสซลั ปิ นและกัวเรียน ซึ่งเป็ นมณฑลของออสเตรียกลายเป็ น รัฐ
๔๑ สาธารณรัฐบาตาเวยี น (Batavien Republic) คือพนื ้ ทีท่ ี่เรียกวา่ กลมุ่ ประเทศตา่ํ ซง่ึ ก็คือ
เนเธอร์แลนด์นนั่ เอง
๒๖๗
คอมมอนเวลท์๔๒ อาํ นาจของนโปเลยี นดเู หมือนจะมนั่ คงเต็มที่แล้วในตอนนี ้
๐การศึกษา๑ คิดค้นแก้ไขดดั แปลง ทําอะไรให้แปลกใหม่อย่เู สมอ และไม่ซํา้ แบบใคร
เป็ นเหตใุ ห้เด็กน้อยนโปเลยี นผ้นู ่งุ กางเกงตดู ปะ แม้ กระทง่ั เป็ นนายร้อยก็ยงั ต้องปะกางเกงเอง
เป็ นนายพลท่ีกินขนมปังกบั นํา้ สามารถก้าวขนึ ้ สกู่ ารเป็ นผู้มีอํานาจสงู สดุ ในฝร่ังเศสตงั้ แตอ่ ายุ
๓๐ ปี ทงั้ ทเ่ี ขามิได้เป็ นชาวฝรั่งเศสเลย กระนนั้ แม้จะเป็ นใหญ่ทส่ี ดุ แล้ว เขา ก็ยงั สละสขุ นนั้ ด้วย
การออกรบด้วยตนเอง
นคึ่ อื นโปเลยี นตอนก้าวขนึ ้ สอู่ ํานาจ ขณะทีก่ ลา่ วถึงนมี ้ ีอายเุ พียง ๓๑ ปี ๕ เดอื น ๑๔ กนั
สว่ นโยเซฟินมีอายมุ ากกวา่ ถงึ ๗ ปี แตง่ งานกนั มาได้ ๕ปี แล้ว ยงั ไม่มีบตุ รตอ่ กนั เลย ตอนมีบญุ
วาสนานีแ่ หละ ผ้คู นก็ชิงกนั พนิ อบพเิ ทาใจด้วยความกระตอื รือร้นยง่ิ
๔๒ คอื ให้กลายไปเป็ นรัฐทีป่ กครองตนเองแทนทจี่ ะเป็ นมณฑลหนง่ึ ของออสเตรียเช่นเดมิ
๒๖๘
พระเจ้ายอร์ชที่ ๓ แห่งสหราชอาณาจกั ร
๒๖๙
บทท่ี ๒๗
งานด้านเนเปิ ลและด้านโป๊ ป
มีเพียงอังกฤษเท่านัน้ ท่ยี งั คงตงั้ ตนเป็ นศัตรูอย่างเหนียวแน่น และนโปเลยี นก็สามารถหา
สมั พนั ธมิตรที่มีอํานาจในยุโรปต่อต้านองั กฤษจนได้ แต่ก่อนที่จะพูดถึงเหตุการณ์ในปี ค.ศ.
๑๘๐๑ ได้มเี หตกุ ารณ์เลก็ ๆ น้อย ๆ เกิดขนึ ้ ซง่ึ ต้องกลา่ วเอาไว้เสยี กอ่ น
นโปเลียนได้เคยกลา่ วว่าไมม่ ีบคุ คลใดที่จะไมเ่ ช่ือการกระทําของ ข้าพเจ้าเมื่อวนั ที่ ๑๘
เดือนบรือแมร์ ข้าพเจ้ามีความจําเป็ นที่จะต้อง กระทําอยา่ งเข้มแขง็ ตอ่ ไปแกบ่ คุ คลนนั้ ๆ
ดงั ได้กลา่ วมาแล้ววา่ จกั รพรรดแิ หง่ รัสเซยี คร่ึงบ้าครึ่งดี เกิดชอบบคุ ลกิ ลกั ษณะของ นโป
เลยี น ถึงอบั ยอมสละความเป็ นมิตรกบั ออสเตรีย ก่อนการรบท่ีมาเร็งโกจะเกิดขนึ ้ นโปเลียนใช้
เครื่องมือทุกประการ สรรเสริญเยินยอพระเจ้าปอล และยึดได้ตวั พระเจ้าปอลไว้ใช้ประโยชน์
พระเจ้าปอลยินดีท่ีตวั เองได้รับแตง่ ตงั้ เป็ นแกรนด์มาสเตอร์ พร้อมด้วย อิสริยาภรณ์อศั วินแห่ง
เซนต์จอห์น อนั เป็ นความมกั ใหญ่ใฝ่ สงู ของพระเจ้าปอล ท่ีรับการเป็ นเจ้าของเกาะมอลต้า นโป
เลยี นได้แสดงให้เห็นวา่ การที่องั กฤษปฏเิ สธไมย่ อมปลอ่ ยเกาะมอลต้านนั้ เป็ นการเหยยี ด หยาม
กันเป็ นส่วนตวั กับพระเจ้าปอล ฝร่ังเศสยอมจ่ายเงินซือ้ เสือ้ ผ้า และส่ิงของอ่ืน ๆ ให้แก่เชลย
รัสเซีย ๑๐,๐๐๐ คน และส่งกลบั อย่างปลอดภัย เรื่องการส่งคืนเชลยนีท้ ํา ให้พระเจ้าปอล
สามารถเทียบเคียง ให้เห็นได้อย่างชดั แจ้งระหว่างการปฏิบตั ิของฝร่ังเศสกบั ออสเตรีย ทงั้ นี ้
เพราะทางออสเตรียนนั้ ได้ปฏบิ ตั ิอยา่ งเพิกเฉยละเลยในตอนท่ีทาํ สนธิ สญั ญาลเู นอวลี ล์
พระราชินีแห่งเนเปิ ล ซึ่งเป็ นพระขนิษฐาของพระเจ้าแผ่นดินเยอรมนั ทรงตระหนกั ว่า
หลงั จากการยุทธ์ที่มาเร็งโกแล้ว ก็ไม่มีอะไรแล้ว ท่ีจะช่วยให้เมืองขึน้ ของพระสวามี ของพระ
นางในอิตาลพี ้นไปจาก เงือ้ มมือของฝรั่งเศสได้ พระนางจึงตดั สินพระทยั เดินทางไปยงั เซนต์ปี
เตอร์เบิร์ก ในกลางฤดหู นาวเป็ นการสว่ นพระองค์ เพ่อื ขอความชว่ ยเหลอื จากพระเจ้าปอล
พระเจ้าซาร์แหง่ รัสเซยี ได้รับคาํ ซมและขอร้องอยา่ งหนกั เตมท จึงได้ติดตอ่ และขอร้องไป
ยงั นโปเลียนเพื่อให้เว้นการรุกรานเนเปิ ล ซึ่ง นโปเลยี นคิดสว่ นพงึ ได้พงึ เสยี อยา่ งดีแล้วจึงยอม
รับปากทจ่ี ะไมร่ ุกราน ไว้ระยะหนง่ึ ซงึ่ พอทจี่ ะแสดงให้เห็นวา่ เป็ นการ แสดงออกในมิตรภาพที่ มี
๒๗๐
กบั พระเจ้าปอล แต่เบือ้ งหลงั นนั้ การยินยอมในครัง้ นีเ้ ป็ นการพราง ตาพระเจ้าปอลผู้มีจิตใจ
ออ่ นแอไปพลางก่อนเทา่ นนั้
ในเวลาเดียวกนั เมื่อนายพลเนลสนั แห่งกองเรือองั กฤษสามารถเข้าแยง่ ยึดเนเปิ ล เอา
มาจากฝรั่งเศสได้ ทหารเรือองั กฤษกองหนงึ่ ภายใต้การบงั คบั บญั ชาของ พลเรือจตั วาโทรบริดจ์
ก็ได้ยกพลขนึ ้ บกที่ปากอา่ วแมน่ าํ ้ ไทเบลิ ร์ แล้วเดินทพั ตอ่ เข้าสกู่ รุงโรม คืนอํานาจให้แกโ่ ป๊ ป
หลงั จากได้พบชัยชนะครัง้ ใหญ่ และได้ลอมบาร์ดีกับปี เอด์มองต์ คืนมาแล้ว กองทัพ
ฝร่ังเศสไม่สงสยั ไปถึงว่า การจัดตงั้ จกั รวรรดิโรมนั ใหม่นนั้ เป็ นเรื่องท่ีจะต้อง ทํากนั ในลําดับ
ต่อมา ฝ่ ายนโปเลียนพอพ้นระยะเวลาตงั้ วดั ในฝรั่งเศสใหม่แล้วก็ริ่มหนั มาพิจารณาเกี่ยวด้วย
เรื่องราวของโป๊ ปด้วยสายตาอีกอย่างหน่ึง หรือกลา่ วอีกครัง้ ก็คือ เขาได้คิดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
วา่ จะใช้โป๊ ปให้เป็ นในการทําให้ตวั เขาได้มีอํานาจในการเป็ นกษัตริย์ได้อยา่ งเต็มที่ ซงึ่ เรื่องนีย้ งั
ความประหลาดใจให้เกิดแก่ชาวฝรั่งเศสไมน่ ้อย ทงั้ ยงั สร้างความมนึ งงตลอดจนความเสียใจให้
เกิดแก่มหาอาํ นาจตา่ ง ๆ ในยโุ รปเป็ นอนั มาก
ในระยะดงั กล่าวนโปเลียนได้พยายามผกู สมั พนั ธ์กับรัสเซียให้มี ความเข้มแข็งย่ิงขึน้
พร้อมกนั ก็สร้ างความแตกแยกให้เกิดขึน้ ระหว่าง รัสเชียกบั พนั ธมิตรอื่นโดยเฉพาะองั กฤษ ซ่ึง
ความบาดหมางระหว่าง รัสเชียกับองั กฤษนนั้ สามารถจะเกิดขึน้ ได้ไม่ยากเย็นนกั โดยจะมี
สาเหตุ สาํ คญั ที่ดเู หมอื นจะเป็ นจดุ ออ่ นและรอวนั แตกปะทนุ นั่ ก็คือ อํานาจใน การเดินเรือทะเล
ซง่ึ แท้จริงเรื่องนนี ้ บั วา่ เป็ นเรื่องเลก็ นกั แตเ่ มอ่ื องั กฤษ เป็ นใหญ่ในเรื่องทางนํา้ อยู่ ทําให้ปัญหาท่ี
อาจจะเกิดขนึ ้ ยอ่ มไมธ่ รรมดา
ตามธรรมดาท่ีผ่านมา รัสเซียได้ยอมรับการเรียกร้ องสิทธิในการ ตรวจค้นเรือของ
ประเทศเป็ นกลาง และยอมรับในกฎข้อบงั คับเกี่ยวด้วย การล้อมปิ ดอ่าวอื่น ๆ อนั เกิดขึน้ ใน
สนธิสญั ญาตา่ ง ๆ ซงึ่ ได้มีขนึ ้ ร่วมกนั ระหว่างประเทศท่ีมีการค้าทางทะเลอยแู่ ล้ว กระนนั้ ความ
ริษยาก็ยงั มีอยู่ นโปเลยี นได้ใช้วาทศิลป์ และศิลปะต่าง ๆ นานา อนั เป็ นเคร่ืองมือในทางการทตู
ท่ีจะปลกุ ให้รัสเชียเกิดความรู้สกึ เป็ นปฏิปักษ์กบั องั กฤษ เริ่มด้วยพระเจ้าซาร์แล้วก็ปรัสเชีย เดน
มาร์ค และสวีเดน สดุ ท้ายบรรดาประเทศเหล่านีไ้ ด้ลงนามใน สญั ญาเป็ นปฏิปักษ์ต่อองั กฤษ
ดงั นนั้ เมื่อเริ่มต้นศตวรรษที่ ๑๙ องั กฤษจึงต้องเร่ิมตระหนกั ท่ีจะต้องคิดถึงความย่ิงใหญ่ของ
กองทพั ฝรั่งเศส และยงั มีศตั รูเป็ นกองทพั เรือผสมของยโุ รปที่เกิดขนึ ้ มาอีก โดยท่ีตนเองต้องตอ่ สู้
๒๗๑
อยอู่ ยา่ งโดดเดีย่ ว และในยามวกิ ฤติแหง่ ประวตั ศิ าสตร์เชน่ นี ้ประเทศองั กฤษก็ยงั ต้องประสบกบั
ภาวะ ขาดแคลนอาหารอยา่ งหนกั จากการปิ ดล้อม อีกทงั้ การเกษตรภายใน ประเทศก็ไม่ได้ผล
ความพยายามทอ่ี งั กฤษได้ปฏิบตั ิลงไปทงั้ ๆ ท่ีมีสิง่ แวดล้อมขดั ขวางมากมายนนั้ ได้กลายเป็ น
สมบตั อิ นั มีเกียรตทิ ี่ฝังอยใู่ น ความทรงจําของชาตเิ รื่อยมา
ในเดือนมกราคม ๑๘๐๑ สภาองั กฤษและไอร์แลนด์ได้ประชมุ กนั ในการประชมุ ครัง้ นนั้
ได้เกิดความคิดเห็นไมต่ รงกันในเร่ืองปัญหา โรมนั คาทอลกิ ระหว่างพระเจ้ ายอร์ชที่ ๓43 กบั วิ
ลเลย่ี ม พติ ต์44 สง่ ผล ให้คณะรัฐบาลของวิลเลย่ี ม พติ ต์ ลาออกในเวลาตอ่ มา แล้วมกี ารตงั้ คณะ
รัฐบาลใหม่ มี มร.เอดดิงตนั 45 เป็ นนายกรัฐมนตรี การเปลี่ยนรัฐบาล ในครัง้ นีท้ ําให้ภายใน
องั กฤษเองเกิดความอึดอดั อย่ไู ม่น้อย แต่กระนนั้ ในการสงครามท่ีเป็ นอยู่ ก็ยงั คงต้องดําเนิน
ตอ่ ไป
43 พระเจ้ายอร์ชท่ี ๓ แหง่ สหราชอาณาจกั ร (George III of the United Kingdom) เป็ นกษัตริย์
แหง่ ราชวงศ์แฮโนเวอร์ ครองราชย์ตงั้ แต่ ค.ศ. ๑๗๖๐-๑๘๖๐
44 วิลเลย่ี ม พติ ต์ หรือวลิ เลย่ี ม พิตต์ ผ้เู ยาว์ (William Pitt, the Younger) เป็ นนายกรัฐมนตรี
แหง่ สหราชอาณาจกั รคนที่ ๑๔ เริ่มดํารงตําแหนง่ นายกรัฐมนตรี สมยั แรก ๑๙ ธนั วาคม ค.ศ.
๑๗๘๓ ขณะทีม่ ีอายเุ พยี ง ๒๔ ปี และลาออกในวนั ท่ี ๑๔ มนี าคม ค.ศ.๑๘๐๑ และกลบั มา ขนึ ้
ตําแหนง่ เดมิ อีกครงั้ ในวนั ท่ี ๑๐ มีนาคม ค.ศ.๑๘๐๔.
45 เฮนร่ี เอ็ดดงิ ตนั นายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๕ แหง่ สหราชอาณาจกั ร
๒๗๒
วิลเลีย่ ม พิตต์ นายกรฐั มนตรีแห่งสหราชอาณาจกั ร
ในเดือนมีนาคม พลเรือเอก เซอร์ไฮปาร์เกอร์ และพลเรือโท ลอร์ด เนลสนั ได้นํา กอง
ทัพเรือเขัาไปในทะเลบอลติค โดยมีเป้ าหมายที่จะโจมตีมหาอํานาจภาคเหนือ ในอ่าวของ
ประเทศนนั้ นน่ั เอง คอื วางเป้ าวา่ ต้องโจมตีกอ่ นที่ประเทศเหลา่ นนั้ จะทนั คิดเช่ือมกบั กองทพั เรือ
ของฝร่ังเศสและฮอลแลนด์เข้าด้วยกัน ในวนั ท่ี ๑๓ มีนาคม กองทพั เรืออังกฤษแลน่ ผ่านช่อง
แคบแล้วเข้าลาดตระเวนในเส้นทางกรุงโคเปนเฮเกน ณ ที่นี่ มกฎุ ราชกมุ ารเดนมาร์คได้เตรียม
กองทพั เพือ่ ตงั้ รับเอาไว้แล้ว ในวนั ท่ี ๒ เมษายน ลอร์ดเนลสนั ก็อาสานําเรือเข้าโจมตี เม่ือได้ลม
ดีแล้ว ลอร์ดเนลสนั ก็ใช้เรือจํานวน ๑๒ ลําเข้ารบ ทงั้ นีไ้ ม่นบั เรือฟรีเกตกบั เรือปื นอีกหลายลํา
ขณะทีฝ่ ่ ายเดนมาร์คนนั้ มีเรือ ๖ ลํา ทนุ่ ระเบิดลอย ๑๑ ท่นุ มีขบวนเรือเลก็ ท่ีผกู ติดกนั และโยง
กบั พืน้ ดินคุ้มกันด้วยทุ่นปื นท่ีมีจํานวน ๘๘ กระบอก รวมทงั้ ปื นบนเกาะอะแม๊ค ซึ่งมีป้ อม ๑
ป้ อม รบกัน ๔ ช่ัวโมง ฝ่ ายองั กฤษจึงประสบ ชัยชนะ กองเรือรบเดนมาร์คจมและถูกจับได้
นอกจากเรือเลก็ และเรือระเบิด เทา่ นนั้ ที่หนีไปได้ มกฎุ ราชกมุ ารจําต้องเสนอการเจรจา เพื่อช่วย
เมืองหลวงมิ ให้เสียหายได้ การเจรจาในครัง้ นนั้ จบลงตรงที่เดนมาร์คต้องออกจาก การเป็ น
พนั ธมิตรกบั ฝร่ังเศส ลอร์ดเนลสนั เร่ิมสํารวจ กรุงสต๊อคโฮมส์ แตค่ งเน่ืองจากไม่อยากก่อกรรม
๒๗๓
ทาํ เข็ญเพิ่มขนึ ้ จึงไมท่ าํ ลายตวั เอง เพราะได้ทราบวา่ เรือรบของสวีเดนออกทะเลหมดแล้ว
ในเวลาเดียวกนั นี ้ก็มีขา่ วมาว่า พระเจ้าปอลถกู ลอบปลงพระชนม์ในกรุงปี เตอร์สเบิร์ก
เพราะข้าราชการและข้าราชสํานกั ไม่พอใจในนโยบายของ พระเจ้าปอล การสวรรคตของพระ
เจ้าปอลทาํ ให้สญั ญาร่วมของบรรดาประเทศ ตอนเหนอื สนิ ้ สดุ ลง การเจรจาท่เี กิดขนึ ้ กอ่ นหน้าจงึ
ลงเอยด้วยความล้มเหลว
ในเดือนมีนาคมเดียวกันนนั้ กองทัพองั กฤษก็ประสบชัยชนะใน ดินแดนห่างไกลอีก
กลา่ วคอื นบั แตท่ ่ีนโปเลียนยกพลขนึ ้ บกท่ีอียิปต์ การท่ีกองทพั ฝร่ังเศสปกครองอียิปต์นนั้ สง่ ผล
ให้องั กฤษเกิดความหวงั ในการทจ่ี ะได้มีจกั รวรรดอิ ยใู่ นภาคตะวนั ออกขององั กฤษเอง ซ่ึงเรื่องนี ้
เป็ นเร่ืองที่คณะรัฐบาลแห่งราชสํานกั เซ็นต์เจมส์กระตือรือร้นเป็ นอย่างมาก ฉะนนั้ จึงได้มีการ
เตรียมการทจ่ี ะใช้กองทพั ผสมเข้าโจมตีกองทพั ทน่ี โปเลยี นได้มอบไว้ให้กองทพั ของเคลแบร์
กระนนั้ ในเร่ืองนี ้ทงั้ พระเจ้าแผ่นดินและวิลเล่ียม พิตต์ ตา่ งคดั ค้าน แต่ถึงกระนนั้ ลอร์ด
เมนวิน ผู้อยู่ในตําแหน่งประธานกรรมการ ควบคุมอินเดียก็ยังเข้ารับการดําเนินการต่อไป
กองทัพเรือของลอร์ดคีธ ท่ีบรรทุกกองทพั ของเซอร์ราฟอะเบอร์ครอมบี ้ กําลงั จอดอยู่ท่ีเกาะ
มอลต้า และยงั มีกองทพั ผสมระหว่างทหารองั กฤษกบั ทหารอินเดีย โดย เป็ นพวกแขกซีปอยอีก
๗,๐๐๐ คน ซงึ่ จะสง่ มาจากอินเดียเพ่ือเข้าสู่ อียิปต์ทางทะเลแดง และข้อสดุ ท้ายก็คือจกั รวรรดิ
ออตโตมนั แหง่ รัฐบาลเตอร์กก็ได้เตรียมพร้อมทจี่ ะ ช่วยเหลอื แมท่ พั อะเบอร์ครอมบอี ้ ยแู่ ล้ว
เมอื่ อะเบอร์ครอมบยี ้ กพลขนึ ้ บกท่อี เลก็ ซานเดรีย ซงึ่ เกิดขนึ ้ ในวนั ที่ ๑๓ มีนาคม กองทพั
องั กฤษยาตราขึน้ บกตอ่ หน้าทหารฝรั่งเศส โดยกองทหารฝรั่งเศสอย่ใู นท่ีมนั่ ท่ีแข็งแรง กองทพั
องั กฤษพยายามที่จะขับไล่ทหารฝร่ังเศสออกไป การรบอย่างจริงจังได้เริ่มขึน้ ในกันที่ ๒๑
มีนาคม ทีห่ น้าเมอื งอเลก็ ซานเครีย ในการรบครัง้ นนั้ แม้องั กฤษจะประสบชยั ชนะ หากแต่ก็ต้อง
สูญเสียนายพลเซอร์ราฟซ่ึงได้รับบาดเจ็บจนเสียชีวิตในที่สุด ส่งผลให้นายพลฮัดจินลัน
(ภายหลงั ได้เป็ นลอร์ดโดโนมอร์) ขนึ ้ มาเป็ นผ้บู ญั ชาการตอ่
สําหรับเคลแบร์ผู้มีหน่วยบริหารงานชัน้ เย่ียมจนได้ช่ือว่า สุลต่าน ผู้ทรงไว้ซึ่งความ
ยตุ ธิ รรม ก็ถกู คนบ้าท่ีไม่มีช่ือเสยี งอะไรเลยฆ่าตาย อยา่ งเดียวกบั ท่ีเดชเซตายในการยทุ ธ์ ท่ีมา
เร็งโก สว่ นเมอร์นู ที่ได้เป็ นผ้บู ญั ชาการกองทพั ฝร่ังเศสในอียิปต์ ก็ปรากฏวา่ ไมม่ ีความสามารถ
ทจี่ ะปฏิบตั ิการ ไมว่ า่ จะเป็ นงานพลเรือนหรืองานทหารในอาณานิคมท่ีจะทาํ ให้ได้ผลทดี่ ไี ด้ เมอร์
๒๗๔
นู พร้ อมกับซากกองทพั ที่พ่ายแพ้มานบั แต่วนั ท่ี ๒๑ ได้ปิ ดเมืองอเล็กซานเดรียลงและเก็บตวั
เงียบกันอยู่ข้างใน ฝ่ ายองั กฤษจึงใช้วิธีทดนํา้ ให้เข้าไปในทะเลสาปมาลิโอติส สง่ ผลให้เมือง
หลวงแหง่ นนั้ กลายเป็ นเกาะไปโดยปริยาย การติดตอ่ กบั เมืองตา่ ง ๆ รอบข้างถกู ตดั ขาดจนหมด
สนิ ้ การบญั ชาการในครัง้ นเี ้ป็ นฝี มอื ของนายพลฮดั จินสนั ได้ร่วมกบั กปิ ตนั ปาชาแหง่ ตรุ กี พร้อม
ด้วยทหารอกี จํานวน ๖,๐๐๐ คน
หลงั จากนนั้ ฮดั จินสนั ก็ได้ทราบขา่ วในทางลบั วา่ ทหารอินเดียภายใต้การบงั คบั บญั ชา
ของนายพลเบลคได้ยกพลขึน้ บกที่คอสสิเลแล้ว อีกทัง้ เมืองโลเซทตาก็ถูกยึดในระยะเวลา
อนั รวดเร็วด้วย ทงั้ มีการตอ่ สู้ กนั ประปรายตามทตี่ า่ ง ๆ จนกระทง่ั กรุงไคโรถกู ล้อม
วนั ท่ี ๒๘ มิถุนายน นายพลเบลซิอาร์ พร้ อมกบั ทหารในป้ อมจํานวน ๑๓,๐๐๐ คน ก็
ยอมแพ้ โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะได้ ลงเรือ กลบั ฝรั่งเศสอย่างปลอดภัย ขณะที่เมอร์นู ก็
มองเห็นแล้ววา่ การป้ องกนั ที่จะเกิดตอ่ ไปนนั้ ไมม่ ีความหวงั ท่ีจะสามารถตอ่ ต้านเอาไว้ได้ อีกทงั้
ยงั จะต้องอดอยากอีกด้วย ดงั นนั้ เขาจึงต้องปฏิบตั ิตามตวั อย่างท่ีเกิดขึน้ มาก่อนหน้า ด้วยการ
ยทุ ธ์ที่เลา่ มาโดยสรุปนี ้ทาํ ให้เห็นวา่ อียปิ ต์ได้รอดพ้นจากเงือ้ มมือของฝรั่งเศสแล้ว
อยา่ งไรก็ตาม ชยั ชนะที่เกิดขนึ ้ ในอียิปต์ขององั กฤษในครัง้ นี ้ แม้ จะยิ่งใหญ่ไมน่ ้อยแตก่ ็
ยงั ถือเป็ นเร่ืองเลก็ หากเทยี บกบั ผลของสง่ิ ท่เี กิด ขนึ ้ มานจี ้ ะกลายไปเป็ นสงิ่ ทจ่ี ะสร้างความมน่ั ใจ
ให้กบั รัฐบาลองั กฤษ
โดยอาศยั ลกั ษณะของกองทพั องั กฤษในยคุ นนั้ จริงอย่ทู ี่องั กฤษ ไมเ่ คยเกรงกลวั ข้าศึก
ทางทะเล แต่ทว่าชัยชนะของอะเบอร์ครอมบีก้ ็ได้ ทําลายอคติท่ีเคยคิดกนั มาว่า กองทพั ของ
องั กฤษไมเ่ หมาะท่จี ะส้กู บั ทหารปฏวิ ตั ิของฝรั่งเศส ไมค่ วรท่จี ะลมื วา่ ถ้าอะเบอร์ครอมบสี ้ ามารถ
สร้ างเกียรติเอาชนะยุทธวิธีตงั้ ทพั อย่างไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ของนโปเลียนแล้ว โดย
เครื่องมือที่อะเบอร์ครอมบีใ้ ช้ในการนําชยั มาในครัง้ นนั้ ก็คือความพยายามอนั น่าชมเชยของดุ๊
คออฟยอร์คในอนั ทจี่ ะปฏิรูป วินยั ของทหารในฐานะเป็ นผ้บู ญั ชาการทหาร
เมื่อได้ทราบโชคชะตาของอียิปต์ นโปเลียนก็อทุ านออกมาว่า ๐ข้าพเจ้าเป็ นหวั หน้าคน
หนงึ่ ของชาติ จึงไมจ่ ําเป็ นทจี่ ะทาํ เพยี งเทา่ นนั้ แตข่ ้าพเจ้าจะทําเป็ นตวั อยา่ งแก่เขาตอ่ ไป คราวนี ้
ก็เหลอื แตอ่ งั กฤษเทา่ นนั้ ๑
ชว่ั ๒ หรือ ๓ สปั ดาห์ ทหารจํานวนไมน่ ้อยกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ คน พากนั ไปชุมนมุ ที่ชายฝ่ัง
๒๗๕
ฝรั่งเศส กองเรือรบท้องแบนมหึมาก็พร้ อมที่จะขนส่งทหารเหลา่ นีข้ ้ามช่องแคบ และเมื่อใดมี
อบุ ตั กิ ารณ์อนั เป็ นประโยชน์ เม่ือนนั้ ก็จะได้กวาดล้างกองทพั เรือองั กฤษกนั เสยี ที ด้วยเหตุ นีท้ งั้
ทหารบกและทหารเรือจงึ ต้องเตรียมพร้อมอยตู่ ลอดเวลา มีการฝึ ก ซ้อมรบเพ่ือเตรียมตวั รอวนั ที่
มีสัญญาณให้บุกจะมาถึง โดยท่ีทางฝ่ าย รัฐบาลและประชาชนอังกฤษต่างก็รู้ตัวดีถึงการ
เตรียมการท่ีฝร่ังเศสจะ มาโจมตีในครัง้ นี ้ด้วยเหตนุ สี ้ ง่ ผลให้ลอร์ดเนลสนั ได้รับการแตง่ ตงั้ ให้เป็ น
แม่ทัพเรือประจําช่องแคบ ส่วนกองทพั บกก็มีกองหนุนเพิ่มเติมมา จากพวกอาสาสมัครท่ี
กระหายท่ีจะ ออกรบจํานวนมากมาย บุคคลเหลา่ นีล้ ้วนแต่ต่างพรรคต่างพวกกันแต่ได้ เข้า
มาร่วมใจร่วมแรงกัน ลอร์ดเนลสันได้ ทําการออกสํารวจหลายครัง้ โดยเฉพาะ สอดแนม
กองทพั เรือของ ฝรั่งเศสทีบ่ โู ลญ และในท่ีสดุ ลอร์ดเนลสนั ก็ได้ใช้ความกล้าหาญในการ ตีวงเข้า
ไปตดั กองเรือของฝรั่งเศสให้ขาดจากกนั กระนนั้ ความพยายาม ในครัง้ นกี ้ ็ไมส่ าํ เร็จผล เพราะเรือ
เหลา่ นถี ้ กู ผกู ตดิ อยกู่ บั ฝ่ังที่มีทหารอย่เู ต็ม ทงั้ ยงั อย่ใู ต้การค้มุ กนั ของปื นป้ อม กระนนั้ ความกล้า
หาญในการเข้ากระทําการในครัง้ นีก้ ็ได้ก่อให้เกิดความหวาดกลวั แก่ทหารเรือฝร่ังเศส และ
เน่ืองจากลอร์ดเนลสนั ทาํ การเฝ้ าช่องแคบอย่อู ยา่ งไม่รู้จกั หลบั จกั นอน ทําให้ความหวงั ของนโป
เลยี นทจี่ ะยกพลขนึ ้ บกต้องหมดไปในระยะ เวลาเพยี งไมน่ านนกั
สันติภาพจาเป็ น/ชาติเลก็ รับกรรม
ความสาํ เร็จขององั กฤษในทะเลบอลติค และอียิปต์ เมื่อคํานวณดแู ล้ว ทําให้นโปเลยี น
จําต้องเปิ ดเจรจา อนง่ึ การลาออกของวิลเลย่ี ม พิตต์ ซงึ่ คนทงั้ ยโุ รปถือวา่ เป็ นผู้ แอนตีส้ งคราม
ปฏวิ ตั ิก็มีอิทธิพลอย่พู อ สมควรท่ีจําทําให้องั กฤษอ่อนล้าลง สว่ นอีกด้านหน่งึ นนั้ ก็คือ หลงั จาก
นโปเลยี นเอาชนะเยอรมนั ได้แล้ว ฝรั่งเศสและสเปนก็ได้ร่วมกนั เดินทพั เข้าโปรตเุ กส อนั เป็ นเหตุ
ให้โปรตเุ กสสมั พนั ธมติ รรายสดุ ท้ายขององั กฤษ ต้องยอมเข้าร่วมรับชะตากรรมในยโุ รป
เรียกวา่ ทงั้ สองฝ่ ายตา่ งมีเหตจุ งู ใจด้วยกนั ทงั้ คทู่ ่จี ะต้องหนั มาเจรจากนั เพื่อแสวงหาจดุ
ลงตวั ท่ีเหมาะสม หลงั การเจรจาที่ผ่านไปด้วย ความน่าเบื่อหน่ายแล้ว ได้มีการลงนามรับ
หลกั การเบือ้ งต้นของ สนั ติภาพขนึ ้ ในวนั ที่ ๑๐ ตลุ าคม ท่ีอาเมียงส์ ตามสนธิสญั ญานี ้องั กฤษ
ยอมสละดินแดนท่ีตีได้มาในระหว่างสงคราม ยกเว้นทรินิแดดและเกาะลงั กา ฝ่ ายฝร่ังเศสได้
ประโยชน์จากดินแดนบางสว่ นที่ตีมาได้จากโปรตเุ กส แตต่ ้องยอมรับเอกราชของหมเู่ กาะไอโอ
๒๗๖
เนียน สาํ หรับเกาะ มอลต้านนั้ ให้ตกคืนเป็ นของอศั วินแหง่ เซนต์เจมส์ และเป็ นเมืองทา่ เสรี โดย
ทงั้ องั กฤษและฝร่ังเศสจะไม่มีผ้แู ทนอย่ใู นมอลต้า โดยที่ป้ อมนนั้ จะ มีแต่ทหารจากชาติท่ีเป็ น
กลางมาประจําการ บทบญั ญัตินีไ้ ด้ก่อความ ย่งุ ยากมากท่ีสดุ และเกาะมอลต้าก็ได้กลายเป็ น
จดุ หมายปลายทาง สาํ หรับเป็ นข้ออ้างในการทจี่ ะเปิ ดสงครามอกี ในเวลาอีกไมน่ านนกั
๒๗๗
เฮนรี่ เอด็ ดิงตนั นายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๕ แห่งสหราชอาณาจกั ร
๒๗๘
ขณะเดียวกนั นี ้ ข่าวสนั ติภาพ ได้รับการต้อนรับอย่างพอใจทวั่ ประเทศองั กฤษ ทงั้ นี ้
ยกเว้นพรรคการเมืองเล็ก ๆ พรรคหนึ่งท่ีคิดว่า สนั ติภาพจะเกิดขึน้ ได้ก็ต่อเมื่อ ราชวงศ์บูร์บอ
งได้กลบั ไปครองราชย์ใน ฝร่ังเศสเทา่ นนั้ มร.เชอริดนั ได้สรุปเร่ืองนีไ้ ว้วา่ ๐มนั เป็ นสนั ติภาพที่ทกุ
คนยินดี แตก่ ็ไมม่ ีใครภมู ิใจในสนั ตภิ าพนนั้ ๑ ได้มกี ารลงนามในสนธิสญั ญาในวนั ท่ี ๒๕ มีนาคม
๑๘๐๒ ในโอกาสนีไ้ มม่ ีอะไรท่ีจะยิ่งไปกว่า การเดินขบวนแสดงความยินดี ทงั้ ในลอนดอนและ
ในปารีส ประชาชน แสดงความดใี จและแสดงความปรารถนาดตี อ่ คณะทตู ผ้มู อี าํ นาจเต็ม อยา่ ง
เป็ นการใหญ่
๒๗๙
บทท่ี ๒๘
สัญญาสันตภิ าพท่อี าเมียงส์
การสงบศึกท่ีอาเมียงส์นัน้ ได้กระทากันไปด้วยความสงสัยซ่ึงกันและกัน ความมกั ใหญ่
ของรัฐบาลฝร่ังเศสนนั้ เองทไี่ มส่ ามารถจะหลกี เลีย่ ง การแตกสลายลงไปได้ ผ้ทู ี่เคยอพยพไปอยู่
องั กฤษเม่ือเกิดปฏิวตั ิใหญ่ ได้หลง่ั ไหลกลบั มาอยฝู่ ร่ังเศส ตลอดทงั้ นกั เดินทางที่สญั จรไปมาก็
ไหล เข้าสกู่ รุงปารีสกนั ตามเดมิ
ชาวองั กฤษรู้สกึ ประหลาดใจและผิดหวงั ในความเป็ นไปของปารีส ซึง่ ได้เกิดมีการจดั
ระเบียบศาลใหม่ ระบอบกษัตริย์เกา่ อยา่ งเดมิ ก็เกิดขนึ ้ คาํ พดู อนั สภุ าพแตเ่ ดมิ ของสตรีวา่ ชิดตวั
เยน (Citoyene) ก็ใช้วา่ มาดาม (Madame) และสภุ าพบรุ ุษที่เคยเรียกว่า ชิตวั ยอง (Citiyen) ก็
เปลยี่ นมาเป็ น เมอซเิ ออร์ (Monsieur) โบนาปาร์ตได้จดั ระเบียบในสาํ นกั เสยี ใหม่ เพราะการเข้า
นง่ั ประชมุ ทีใ่ นวงั ก็ยงั มีข้าราชการและนกั การเมือง ทหารปะปนกนั อยู่ และก็เลยนึกไปถึงเจ้าใน
ราชวงศ์บูร์บองกันขึน้ มาอีก ระเบียบที่จัดขึน้ นัน้ จะว่าไปแล้วท่ีค่ายทหารยังจะดีเสียกว่าท่ี
ห้องรับแขก ในวงั ตลุ เลอรีส์เสยี อีก จึงคิดวา่ จะต้องพดู กบั คนที่เข้าใจกนั ดีกวา่ ขณะเดียวกนั โย
เซฟินก็ยงั ช่วยทาํ ให้เกิดข้อบกพร่องเพิม่ ขนึ ้ อกี
๒๘๐
พิธีราชาภิเษกจกั รพรรดินโปเลียน
ฝรั่งเศสได้ออกกฎหมายเมื่อวนั ที่ ๒๖ เมษายน ๑๘๐๒ โดยเปิ ด โอกาสให้ชาวฝรั่งเศส
ได้เดินทางกลบั ซงึ่ ในกฎหมายฉบบั นีเ้ ปิ ดโอกาส ให้ผ้ทู ่ีถกู นิรโทษกรรมได้มีโอกาสรับทรัพย์สิน
ของตนเองคืน กระนนั้ บคุ คลเหลา่ นีเ้ ม่ือกลบั มาแล้วก็หนั มาคบคิดกนั ที่จะให้มีกษัตริย์จากราช
วงศ์บรู ์บองอยา่ งเดมิ ซง่ึ เรื่องเหลา่ นกี ้ ลายเป็ นท่ีขดั ใจของนโปเลยี น การกระทําที่ปฏิบตั ิลงไปนนั้
กลายมาเป็ นการเชือ้ เชิญอนั ตรายให้เข้ามา สตู่ นเองนนั้ เอง
การศาสนาได้ถกู บํารุงขึน้ อีกครัง้ นโปเลียนได้เปิ ดประชุมปรึกษา กนั ท่ีมาลเมวองอนั
เป็ นบ้านสว่ นตวั ของเขา มีการตกลงกนั ให้มีการจดั สร้างวดั วาอารามขนึ ้ โดยอ้างวา่ เป็ นความ
ปรารถนาของประชาชน
โวลเน ซ่งึ เป็ นผ้อู พยพกลบั เข้ามา ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมด้วย ได้กลา่ วขนึ ้ ว่า ๐ท่าน
พดู ถงึ ประชาชน เราจะต้องพดู ถงึ ราชวงศ์บรู ์บอง ในวนั พรุ่งนี๑้ นโปเลยี นน่ิงเงียบไมต่ อบ
การฟื ้นฟูศาสนาคราวนี ้ มีการแก่งแย่งชิงดีกนั อยู่ระหว่างคริสเตียน กับคาทอลิกอัน
เกี่ยวกบั โป๊ ปและสงั ฆราชรอง ๆ ลงไป และมีบทบัญญัติ หลายอย่าง ซึ่งถ้าจะนํามากล่าวจะ
มากมายเต็มที ในครัง้ นี ้นโปเลียนในนาม ของกงสลุ ท่ีหน่ึงได้จดั การ ซ่อมแซมโบสถ์นอตตระ
ดาม (Notredame) เพือ่ จดั งานพิธีทางศาสนาขึน้
นโปเลยี นจดั ระเบียบการศกึ ษาแหง่ ชาติขนึ ้ เพราะมหาวิทยาลยั ก็ดี โรงเรียนต่าง ๆ ก็ดี
ได้ทรุดโทรมลงอยา่ งมากในชว่ งเวลาแหง่ การปฏวิ ตั ิ ในสมยั นเี ้องนโปเลยี นก็ได้ ให้จดั ตงั้ โรงเรียน
๒๘๑
โปลเี ทคนิคขนึ ้ โดย จดั ผ้มู ีความรู้และชํานาญให้เข้าประจําการอย่ใู นทกุ ๆ กรมของแผนก วิชา
การศกึ ษา
โค๊ตอาญาและผ้พู ิพากษาก็ได้ถกู จดั ขนึ ้ ให้เป็ นระเบียบเรียบร้อย ซง่ึ จะเป็ นสงิ่ สําคญั ใน
การท่ีจะบริการประชาชนทว่ั ไป
ไม่เพียงเท่านัน้ การบริการสาธารณะอื่น ๆ ก็ถูกจัดขึน้ ใหม่ เป็ นต้นว่า จัดให้มีการ
เดินเรือ มที า่ เรือที่ดี และมีการคมนาคมอน่ื ๆ อกี
กลา่ วกนั วา่ ความคิดครัง้ แรกที่จะเกิดมีเครื่องราชอิสริยาภรณ์เลจิอองดอนเนอร์นน่ั คือ
วนั หนง่ึ ประชาชนแลเหน็ ทหี่ น้าอกนโปเลยี นมี เครื่องราชอิสริยาภรณ์ประดบั อยู่ ในขณะท่ีเขายืน
อยู่ตรงหน้าต่างของวงั ตลุ เลอรีส์ ฝงู ชนจํานวนมากต่างชมเชยและพอใจ ขณะเดียวกนั มาควิ
สลกั เชอสินี เอกอคั รราชทตู ปรัสเซีย ก็ประดบั เหรียญตรา ลงมาจากรถ ทงั้ นีท้ ําให้สมาชิกแห่ง
สาธารณรัฐไมพ่ อใจ เพราะการแสดงออกเช่นนนั้ อาจเป็ นก้าวหนง่ึ ที่จะแสดงให้เห็นถึงการจะมี
ขนุ นางยศศกั ดเ์ิ กิดขนึ ้ คนทีไ่ มพ่ อใจ เช่นแมธิเยร์ได้พดู และแสดงความไมพ่ อใจจนออกนอกหน้า
แตป่ รากฏวา่ ไมน่ านนกั คอื เมอ่ื วนั ท่ี ๑๔ พฤษภาคม ๑๘๐๒ เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์เลจิอองดอน
เนอร์ก็ถกู ประกาศออกใช้อยา่ งเป็ นทางการ
ตอ่ มาได้มกี ารเสนอให้โบนาปาร์ตเป็ นกงสลุ ในครัง้ ที่สองมีระยะ เวลาอีก ๑๐ ปี มีคนที่
ไมเ่ หน็ ด้วยตงั้ คําถามวา่ การกระทําเช่นนีเ้ ท่ากบั จะให้โบนาปาร์ตเป็ นกงสลุ ตลอดชีพอยา่ งนนั้
เลยหรือ? และนน่ั เองทําให้นโปเลียนประกาศการเป็ นกงสลุ ตลอดชีวิตของเขาขึน้ ในวันที่ ๒
สงิ หาคมในปี เดยี วกนั
ถ้าย้อนระลกึ ไปดสู ภาพของประเทศฝร่ังเศส ในปี ๑๗๘๙ จะ เห็นได้วา่ ฝร่ังเศสตกอยู่ ใน
อาการที่แย่มาก แตค่ รัน้ มาในปี ๑๘๐๒ แม้ตอนนนั้ ฝร่ังเศสจะยงั ไม่อาจเรียกได้ว่าฟื น้ คืนชีวิต
มาแล้วก็ตาม แต่ก็กลา่ วได้ว่า ฝรั่งเศสได้มีรัฐบาลที่เข้มแข็งขนึ ้ ระบบอตุ สาหกรรมก้าวหน้าขึน้
ประชาชนก็มีเสรีภาพในการนบั ถือศาสนา ทงั้ ยงั มหี ลกั ประกนั สทิ ธิ เสรีภาพของพลเมืองดีขึน้ ไม่
เพียงเท่านนั้ เส้นพรมแดนของประเทศ ฝร่ังเศสก็ได้ถกู ขยายกว้างขวางออกไปย่ิงเสียกว่าสมยั
พระเจ้าหลยุ สท์ ี่ ๑๔ ประเทศอิตาลถี กู จดั ให้เป็ นประเทศเอกราช ประเทศองั กฤษก็ได้คืนดินแดน
ตา่ ง ๆ ทย่ี ดึ เอาไปจากฝรั่งเศสก่อนหน้านนั้ และประเทศ พนั ธมิตรอียิปต์ก็ได้ถกู มอบคืนให้ตรุ กี
ไปทัง้ หมด เว้นแต่แคว้นตรินิแดดกับซีลอน แหลมกู๊ดโฮปในแอฟริกาใต้ก็ตกอยู่ในมือของ
๒๘๒
พนั ธมิตรของฝรั่งเศส สาธารณรัฐปาเตเวียนและมอลต้า กําลงั ดําเนินการมอบคืนให้กบั อศั วิน
แหง่ เซนต์ จอห์น แม้จะจดั ให้เป็ นดนิ แดนอารักขาของกษัตริย์แหง่ เนเปิ ล และมีกองทหารองั กฤษ
ตงั้ รักษาการไปพลางก่อนก็ตาม ส่วนสาธารณรัฐแห่งหมู่เกาะไอโอเนียน ซ่ึงประกาศเป็ น
พนั ธมติ รของประเทศฝร่ังเศสก็ได้รับการรับรอง
โบนาปาร์ตคงให้ความยินยอมแต่ในหลักประกันความเป็ น เอกภาพของประเทศ
โปรตเุ กส และยอมถอนทหารของเขาออกจากประเทศ เนเปิ ล
จึงเป็ นอนั วา่ ประเทศฝรั่งเศสสามารถคมุ เส้นทางชีวิตขององั กฤษ สยู่ งั ประเทศอินเดีย
โดยทางอ้อมไว้ได้ทงั้ สองเส้นทาง คือ ทางแหลมกู๊ดโฮป และทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทงั้ ๆ ที่
มิได้มกี ําลงั ทพั เรือเตม็ อตั รา ดงั เชน่ ท่ีได้เคยมีมาในกาลกอ่ น
ถึงแม้สมั พนั ธภาพกบั ประเทศองั กฤษจะได้คืนมาแล้ว แต่ ประเทศฝรั่งเศสก็ยงั มิได้ให้
สมั ปทานการค้าแกอ่ งั กฤษ เชน่ ทีไ่ ด้เคย ปฏิบตั กิ นั มาในกาลก่อนแตป่ ระการใด
ทางด้านสถานการณ์ในทวีปยุโรป ตอนนนั้ (๑๘๐๒) การรบพุ่ง กันได้ยุติลงแล้วใน
สมรภูมิทุกแห่ง แต่ถึงกระนัน้ ก็ยังหาได้ มีปรากฏการณ์ อันใดที่จะแสดงให้ เห็ นถึงการ
วางรากฐานแห่งสนั ติภาพถาวรขนึ ้ แต่ ประการใดไม่ การเซ็นสญั ญาสงบศกึ ที่อาเมียงส์ เป็ นไป
โนรูปของการ หยดุ รบท่ฝี รั่งเศสเป็ นผ้ไู ด้รับประโยชน์ และในเวลาเดียวกนั ก็มีลกั ษณะ เป็ นเมลด็
พืชแห่งสงครามครัง้ ใหม่ ท่ีจะต้องเกิดขึน้ มาอีกไม่วันใดก็วันหนึ่ง กล่าวอีกนัยหน่ึงก็คือเป็ น
สญั ญากันแบบทหารว่าจะมีสนั ติภาพต่อกัน แต่แล้วยงั มิทนั ล่วงพ้นขวบปี สงครามก็ระเบิด
ขนึ ้ มาอีก นบั เป็ นเรื่อง ท่ผี ดิ หวงั สาํ หรับโบนาปาร์ตอยบู่ ้าง เพราะเขาคดิ วา่ มนั จะสงบเงียบกนั ไป
เพ่ือจะให้เขามีเวลาทนั ก่อร่างสร้างตวั ลกั ๑๐ ปี โดยเร่ืองเกิดมาจากค่สู ญั ญา สนั ติภาพฝ่ ายที่
ไมใ่ ชฝ่ ร่ังเศสทนไมไ่ หวนน่ั เอง
ประวัติศาสตร์บนั ทึกว่า ฝรั่งเศสต้องรับศึกในระยะต่อมาอีกหลายครัง้ และเมื่อใดที่
ว่างเว้นจากการรบ กงสลุ ท่ีหนึ่งแห่งสาธารณรัฐฝร่ังเศส ก็จะพยายามสถาปนาอํานาจของ
ตนเองให้มน่ั คงย่ิงขึน้ พร้อม ๆ กนั ไปกบั การดําเนิน นโยบายต่างประเทศ ทงั้ ในทวีปยโุ รปและ
นานา ประเทศโพ้นทะเล สง่ ผลให้ฐานะของรัฐบาลมีเสียงสนบั สนนทงั้ ภายในและภายนอก
มนั่ คงยิง่ ขนึ ้ โบนาปาร์ตทํางานสร้างชาติและสร้าง ตนเองอยา่ งหนกั มาก เขาถงึ กบั กลา่ วกบั ผู้อยู่
ใกล้ชิดว่า ๐แขนขาของฉัน มนั ทํางานได้ในขอบเขตจํากดั แต่ตวั ฉนั ทํางานได้ไมม่ ีที่สนิ ้ สดุ ฉัน
๒๘๓
เกิด มาเพือ่ ทํางาน๑
การทํางานอย่างเอาเป็ นเอาตายของกงสลุ ที่หนึ่งเช่นนี ้ทําให้ ชาติฟื น้ ชีวิตขึน้ มาใหม่
อยา่ งรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างย่ิงทางด้านการ พืน้ ฟเู ศรษฐกิจและอตุ สาหกรรม ได้มีการขยาย
วงการค้ากบั นานาประเทศมากขนึ ้ โบนาปาร์ตได้แบ่งงบประมาณแผ่นดินสว่ นใหญ่ไปใน การ
สร้ างเสริมกําลงั ของกองเรือพาณิชย์ พร้ อม ๆ กนั ไปกบั การสร้ างเรือรบ และในปี รุ่งขึน้ คือปี
๑๘๐๓ ฝร่ังเศสก็ได้ออกกฎหมายกําแพงภาษีศลุ กากรขึน้ เพ่ือรักษาฐานะทางเศรษฐกิจของ
ประเทศ กฎหมายฉบบั นสี ้ ง่ ผลกระทบ กระเทือนให้แก่สนิ ค้าจากประเทศองั กฤษอยา่ งมาก
การดําเนินนโยบายระหวา่ งประเทศบนภาคพนื ้ ทวปี ยโุ รป โบนาปาร์ตดาํ เนนิ นโยบายใน
แบบฉบบั ที่ถือเป็ นประเพณีของประเทศ ฝรั่งเศสมาช้านาน นน่ั คือไม่เป็ นมิตรกบั ออสเตรีย แต่
ผกู มิตรไว้กบั บรรดารัฐเยอรมนั เลก็ ๆ ในมหาอาณาจกั รปรัสเซีย กบั ประเทศรุสเซยี ดงั จะเห็นได้
จากการลงนามในสญั ญาสนั ติภาพที่ลูเนอวิลส์ ซ่ึงสหพันธรัฐเยอรมัน ส่วนกลางให้ความ
ยินยอม แต่เป็ นผลให้เกิดการกระทบกระเทือน แก่ราชบลั ลงั ก์ของเจ้าชายเยอรมนั ในรัฐเล็ก ๆ
แหง่ มหาอาณาจกั รเป็ นอนั มาก
ในการท่ีผลของสญั ญายินยอมให้ฝรั่งเศสขยายเส้นพรมแดนออก ไปถึงแมน่ ํา้ ไรน์ ซ่งึ ใน
กาลต่อมาออสเตรียอนั เป็ นประเทศไม้เบื่อไม้เมา กบั ฝรั่งเศส ก็ได้แสดงท่าทีไมย่ อมรับนบั ถือ
อํานาจอธิปไตยของฝร่ังเศส เหนือดินแดนท่ีขยายออกมาตามพรมแดนใหม่ในสัญญา
สนั ติภาพลเู นอ วลิ ส์นนั้
ทางฝ่ ายโบนาปาร์ตก็ได้ใช้นโยบายเข้าสนทิ ชิดเชือ้ กบั รุสเซีย โดย มอบให้รุสเซียเป็ นคน
กลางท่ีมาเสนอค่าทดแทนให้แก่รัฐเยอรมนั ที่เสีย ดินแดนเหล่านนั้ ผลก็คือรัฐเยอรมนั เล็ก ๆ
เหลา่ นนั้ ยินดีท่ีจะเสวยสิทธิ และประโยชน์ต่าง ๆ ที่โบนาปาร์ตจัดสํารอง ซ่ึงผลก็คือ ทําให้รัฐ
เยอรมนั เล็ก ๆ เหลา่ นนั้ รวมกนั เป็ นกลมุ่ ก้อนภายใต้ การนําของนโปเลียนสําเร็จ ในท่ีสดุ ศูนย์
อทิ ธิพลและวฒั นธรรมของมหาอาณาจกั รปรัสเซียซ่ึงเคยอย่ใู นออสเตรีย ก็เลยเปลย่ี นมาอยใู่ น
ประเทศฝร่ังเศส และนี่ก็คือทีม่ าในแผนการของโบนาปาร์ตในการทจ่ี ะเขยี นแผนที่ของทวีปยโุ รป
ขนึ ้ ใหม่
บรรดาประเทศเลก็ ที่โบนาปาร์ตกําหนดฐานะให้เป็ นแดนกนั ชน ถกู บบี บงั คบั ให้เสยี สละ
ออกเงินเลยี ้ งดกู ําลงั รบของฝร่ังเศสท่ีจดั ส่งไป รักษาการณ์ตามจุดต่าง ๆ เพ่ือความมนั่ คงและ
๒๘๔
ปลอดภยั ของประเทศเหลา่ นนั้ นโยบายเช่นนีย้ ่อมทําให้ โบนาปาร์ตมองเห็นความเป็ นปึ กแผ่น
นอกประเทศโดยเฉพาะบริเวณพรมแดนอยา่ งหนงึ่ อีกทงั้ ยงั สามารถลด งบประมาณในทางการ
บาํ รุงกําลงั รบลงไปได้อกี ทางหนง่ึ ด้วย
ความสาํ เร็จในการแผอ่ ทิ ธิพลเข้าไปในมหาอาณาจกั รปรัสเซีย ทําให้โบนาปาร์ตเร่ิมหนั
ลงมาทางใต้ของอิตาลอี กี โดยเขาได้ให้มีการรวมแคว้นปี เอด์มองต์กบั เอลบาขนึ ้ เม่ือมีปฏิกิริยา
ขนึ ้ อยา่ งรุนแรงในอิตาลี โบนาปาร์ตก็สง่ กําลงั เข้าไปจดั การจนสามารถ ควบคมุ เอาไว้ได้อย่มู ือ
สมเด็จพระสงั ฆราช กับพระเจัาแผ่นดินแห่งเนเปิ ล ถกู โบนาปาร์ต จดั ให้มากลายเป็ นคนที่ถือ
สญั ชาตฝิ ร่ังเศสโดยมีหน้าทตี่ ้องผกู พนั และสวามภิ กั ด์ติ อ่ ประเทศฝร่ังเศส
สว่ นสเปน โบนาปาร์ตยินยอมให้แกรนด์ดชั ชี แหง่ ทสั กานี ขึน้ ครองบลั ลงั ก์สเปน โดย
แลกกับการได้ครอบครองแคว้นหลุยส์เซียนา ในอเมริกา ซ่ึงแคว้นนีถ้ ูกยึดเอาไปเมื่อครัง้ ที่
ฝรั่งเศสเกิดกลยี คุ
จะเหน็ ได้วา่ ฝรั่งเศสสมยั นีไ้ ด้กลายมาเป็ นมหาอาํ นาจใหญ่ย่ิง ในยโุ รปบนภาคพืน้ ทวีป
ไปด้วยประการฉะนี ้
ทางด้านประเทศองั กฤษโบนาปาร์ตเดินนโยบายแข่งขนั กบั องั กฤษ และพยายามทําให้
องั กฤษลดความเป็ นมหาอํานาจท่ีหนงึ่ ลงไป วิธีการของนโปเลียนก็คือ การสถาปนาเมืองขึน้
ภายใต้ร่มธงของฝรั่งเศสให้มากขนึ ้ ทงั้ ในดนิ แดนตะวนั ตกและตะวนั ออกนน่ั เอง
โดย ในซกี โลกตะวนั ตกนนั้ ฝรั่งเศสได้พยายามท่จี ะเข้าครอบ ครองหมเู่ กาะเวสต์อินดีส
และเนือ้ ที่บนทวีปอเมริกาเหนือที่เป็ นดิน แดนของประเทศแคนาดาในปัจจุบนั ดงั จะเห็นได้ใน
กรณีของดินแดน ซานโดมินิกัน ซ่งึ ฝรั่งเศสได้ใช้สิทธิครอบครองและควบคมุ อยเู่ ป็ นเวลานาน
จนกระทงั่ เมื่อเลกิ สงครามกลางเมืองในอเมริกาแล้ว ดินแดนส่วน นีจ้ ึงเปล่ียนมือไปอย่ใู นการ
ควบคมุ ของดซู งั ลเู วอร์ตวู ์ เชือ้ ชาตินิโกร ซงึ่ ได้ประกาศตนวา่ เป็ นผ้จู งรักภกั ดีตอ่ ประเทศฝร่ังเศส
อยา่ งไรก็ตาม การพาณิชย์ของฝรั่งเศสสว่ นใหญ่ก็ยงั ติดต่อ ค้าขายอย่กบั องั กฤษและ
สหรัฐ โดยเฉพาะกับสหรัฐนน่ั ก็ยงั มีเชือ้ สายผูกพนั กนั อย่โู ดยการท่ีฝร่ังเศสเป็ นเจ้าของแคว้น
หลยุ สเ์ ซียนา่
ในเรื่องการสร้างชาติ โบนาปาร์ตมีทศั นะที่ผิดอย่อู ย่างหนง่ึ คือ ความมง่ั คง่ั ของประเทศ
นนั้ มใิ ซอ่ ยทู่ ่ีการค้า แตอ่ ยทู่ ี่การผลติ และนอกจากนีโ้ บนาปาร์ตยงั หลงผิดไปอีกในสาระสําคญั
๒๘๕
ที่ว่า กําลงั ทางเศรษฐกิจนัน้ สามารถแบ่งกันควบคุมโดยสมยอมกันได้ เป็ นต้นว่า การใช้
แผนการ ทําลายล้างรัฐบาลใหมข่ องรัฐใดรัฐหน่ึงเพ่ือผลท่ีจะได้ขยายวงการค้าของตน ออกไป
และจริงอย่แู ม้โบนาปาร์ตจะทําลายล้างรัฐบาลใหม่ของประเทศอ่ืน สําเร็จ ซ่ึงเป็ นผลในทาง
การเมอื ง แตโ่ บนาปาร์ตกลบั ต้องได้รู้วา่ เป็ นงานที่ต้องลงทนุ ในทางกําลงั คน กําลงั เงิน และต้อง
เสยี่ งกบั การมีชื่อเสยี งดีงามของ ประเทศ อย่างท่ีเรียกว่า ได้ไม่ค้มุ เสีย เป็ นต้น ในกรณีประเทศ
ฝรั่งเศส เดินนโยบายในแคว้นซานโดมินิโกในสหรัฐหลงั สงครามครัง้ นนั้ ทําให้เกียรติภมู ิ ของ
ประเทศฝรั่งเศสลดถอยลงอยา่ งมากในสหรัฐอเมริกา
ในภาคตะวนั ออก โบนาปาร์ตก็มีความมงุ่ หวงั ท่ีจะแผอ่ ิทธิพล เข้าไปในประเทศอินเดีย
และตะวนั ออกไกล และที่โบนาปาร์ตคิดแผ่ อํานาจออกมาทางตะวนั ออกไกล ก็ไม่ใช่เพื่อจะหา
ตลาดค้าขายของตน อยา่ งเดยี ว แตห่ ากเพื่อโจมตีรังควานอิทธิพลขององั กฤษในตะวนั ออกไกล
ซงึ่ กําลงั มน่ั คงและขยายตวั อยเู่ ป็ นอนั มากในขณะนนั้
การขยายแวดวงอิทธิพลของโบนาปาร์ตดงั กลา่ วแล้วทําให้ โบนาปาร์ตเล็งเห็นว่า การ
ทําสงครามกบั ประเทศองั กฤษเป็ นสิ่งท่ีหลีก เล่ียงไม่ได้ ทงั้ นี ้ตามเหตุผลในประวตั ิศาสตร์นนั้
ก่อนยคุ ปฏิวตั ิ ประเทศ ฝร่ังเศสมีอิทธิพลอย่ใู นเส้นทางเดินเรือในมหาสมทุ รอินเดีย แต่เมื่อมา
ถงึ สมยั ของโบนาปาร์ตนนั้ เขาได้เหน็ แล้ววา่ ฝร่ังเศสไม่มีอะไรเหลอื อยเู่ ลย นอกจากเกาะเลก็ ๆ
๒ เกาะคือ มรู ์มองกบั ฟรานซ์ ซงึ่ องั กฤษคืนให้ตามสญั ญาสนั ติภาพอาเมยี งส์ นอกนนั้ องั กฤษยงั
ได้เข้ายดึ ครองเอาจน หมดสนิ ้
ในปี ๑๘๐๒ ขณะท่ีฝร่ังเศสกําลงั ตึงเครียดอยู่กับองั กฤษนนั่ เอง โบนาปาร์ตได้ส่งเต
อแซง มายงั ประเทศอินเดีย เพ่ือให้เข้ารับหน้าทเี่ ป็ นผ้บู ญั ชาการกองทพั ฝร่ังเศสในอินเดีย โดยมี
คําสง่ั ลบั ให้เข้าทําการจโู่ จม และยดึ อํานาจขององั กฤษ ฮอลนั ดา และโปรตเุ กส ให้หมดทนั ที ซ่ึง
ปฏบิ ตั ิการจะเร่ิมเมอื่ ฝรั่งเศสได้ประกาศสงครามกบั องั กฤษและฮอลนั ดา ในเวลาตอ่ มา
แตใ่ นทีส่ ดุ ปรากฏวา่ ขนุ พลของโบนาปาร์ตยงั มาไมท่ นั ถึงอนิ เดีย เซอร์ อาเธอร์ เวลเลส
ลยี ์๔๖ ขนุ พลองั กฤษ ผ้ซู ง่ึ ตอ่ มาได้เป็ นดยุ๊คออฟเวลลงิ ตนั ก็ได้พชิ ิตเจ้าครองนครแหง่ ท้องถ่ินสว่ น
๔๖ อาเธอร์ เวลเลสลยี ์ ดย๊คุ ที่ ๑ แหง่ เวลลงิ ตนั นบั เป็ นนายทหารและรัฐบรุ ุษท่สี าํ คญั ขององั กฤษ
ได้รับการขนานนามวา่ ๐ดย๊คุ เหลก็ ๑ เกิด ค.ศ.๑๗๖๙ ได้รับการแตง่ ตงั้ ให้เป็ นพลตรีใน ค.ศ.
๒๘๖
ใหญ่ในประเทศอินเดียไว้ได้และสถาปนาอํานาจและอิทธิพล ขององั กฤษขนึ ้ อย่างเข้มแข็งและ
มนั่ คงเกินกวา่ ท่ีแผนของโบนาปาร์ตจะทําอะไรได้
ต่อมาโบนาปาร์ตได้ส่งกองทัพเรือไปตะวันออกไกลสําเร็จ โดย ปลอมขบวนเรือให้
กลายเป็ นเรือของคณะสาํ รวจค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ขบวนเรือปลอมแปลงกองนีไ้ ด้รับคําสงั่
จากนโปเลยี นให้เข้ายดึ ครองดินแดนในทวปี ออสเตรเลยี ตอนใต้กบั ตอนกลางรวมถึงแคว้นแวน
ดเี มนซงึ่ เป็ นของฮอลนั ดาด้วย
อยา่ งไรก็ตาม ปรากฏวา่ กองเรือปลอมเป็ นคณะสาํ รวจทาง วทิ ยาศาสตร์กองนี ้ทํางาน
ไม่ได้ผลตามแผนของนโปเลยี น ทงั้ นีเ้ พราะ สถานการณ์ในฝร่ังเศสตอนนนั้ กําลงั ต้องผจญศึก
หนกั จนไมม่ เี วลาเหลอื ทีจ่ ะแผข่ ยายอทิ ธิพลไปยงั ออสเตรเลยี กบั ตะวนั ออกไกลได้
ในปี ๑๘๐๓ นโปเลยี นเร่ิมงานการเมอื งนอกประเทศบนภาคพืน้ ยโุ รปเป็ นการใหญ่ โดย
ตงั้ จดุ หมายไว้วา่ ต้องสถาปนาสาธารณรัฐฝรั่งเศสขนึ ้ เป็ นมหาอํานาจชนั้ หนง่ึ เหนือภาคพนื ้ ทวีป
ยโุ รปให้ได้ โดยนโยบายนจี ้ ะต้องดาํ เนินคไู่ ปกบั การทาํ ลายล้าง อทิ ธิพลขององั กฤษอนั เป็ นคแู่ ขง่
ท่ีน่ากลวั ของฝรั่งเศสในตอนนนั้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง ในทางการค้าและการมีอํานาจอธิปไตย
เหนือดินแดนเมอื งขนึ ้ อยา่ งมากมาย ทงั้ ในซกี โลกตะวนั ตกและตะวนั ออก
เม่ือทีทา่ ของฝร่ังเศสเป็ นไปในทํานองนี ้ย่อมเป็ นธรรมดาอย่เู องที่ประเทศองั กฤษต้อง
เฝ้ าจับตาด้วยความไม่อาจนิ่งนอนใจ ส่งผลให้เกิด ความไม่พอใจและสร้ างกระแสต่อต้าน
ฝร่ังเศสในองั กฤษขนึ ้ ปรากฏการณ์อยา่ งหนงึ่ ก็คือ สญั ญาสนั ติภาพอาเมียงสท์ ี่นโปเลียน ทํากบั
กล่มุ ประเทศ ปรัสเซียนนั้ ไม่เคยเป็ นท่ียอมรับกันในประเทศองั กฤษนัก แม้จะได้ มีการมอบ
ดินแดนบางสว่ นที่ยึดมาในสมยั ท่ีฝร่ังเศสเกิดกลียุค แต่ถึง กระนนั้ วงการชัน้ สูงของประเทศ
องั กฤษก็ยงั ต้องหว่ งในการแผ่อิทธิ พลของนโปเลยี นบนภาคพืน้ ทวีปยโุ รป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การเข้ายึด ครองประเทศฮอลนั ดากับสวิสเซอร์แลนด์ของกองทัพฝร่ังเศสนนั้ ส่งผล ให้มีการ
๑๘๐๓ ภายหลงั จากสามารถนาํ กองทหารเข้ายดึ ครองจกั รวรรดมิ ราฐาในอนิ เดียสาํ เร็จ ตอ่ มา
ได้รับการ แตง่ ตงั้ ให้เป็ นผ้บู ญั ชาการทหารในศกึ คาบสมทุ รในสงครามนโปเลยี นในปี ๑๘๑๕ เขา
ก็สามารถ นํากองทพั องั กฤษเอาชนะนโปเลยี นในศกึ วอเตอร์ลู หลงั ออกจากราชการทหาร อา
เธอร์ เวลเลสลยี ์ ก็ได้รับเลอื กให้เป็ นนายกรัฐมนตรีขององั กฤษ ๒ สมยั
๒๘๗
กดดนั องั กฤษให้ยตุ ติ อ่ การกระทาํ ของนโปเลยี น ซง่ึ ถือเป็ นการ ทาํ ลายดลุ อาํ นาจในยโุ รป ทงั้ การ
กระทาํ นนั้ ยงั กอ่ ให้เกิดความไมป่ ลอดภยั ตอ่ อาํ นาจอนั ย่ิงใหญ่ทางทะเลขององั กฤษอีกด้วย
นโปเลียนไม่สนใจท่าทีของอังกฤษท่ีแสดงออกถึงความวิตกและ ห่วงใยดังกล่าว
กลบั กนั นโปเลียนยงั คํารามเข้าใสอ่ งั กฤษโดยเรียกร้อง ให้องั กฤษจดั การให้พวกชนชนั้ สงู ของ
ฝรั่งเศสที่อพยพไปอยู่ท่ีอังกฤษในระหว่างสมัยปฏิวัติ ให้เดินทางกลบั ประเทศฝรั่งเศสเพ่ือ
เสถียรภาพทาง เศรษฐกิจตามท่ไี ด้ประกาศิตไว้ในกตกิ าสญั ญา สนั ติภาพอาเมียงส์ และไกลไป
กวา่ นนั้ นโปเลยี นยงั เก็งนาํ ้ ใจวา่ องั กฤษจะไมเ่ สยี่ งเข้า ทาํ สงครามกบั ฝรั่งเศส เขาจึงได้ประกาศ
เรียกร้ องไม่ให้ชาติหน่ึงชาติใดเข้าแทรกแซง การยึดครองสวิสเซอร์แลนด์ ทงั้ ยังเรียกร้ องให้
องั กฤษถอนกําลงั ออกไป จากมอลต้าอีกด้วย
องั กฤษไมย่ อมรับฟังคําเรียกร้องของนโปเลียน นโปเลยี นจึงหนั ไปปลกุ ป่ันประชาชน
โดยปลอ่ ยขา่ วในหนงั สอื พิมพ์โมนีเตอร์ในปารีส โดยเปิ ดเผยความออ่ นแอของกองทพั องั กฤษใน
อียิปต์ในรูปเป็ น รายงานของพนั เอกเซบาสเตียน เม่ือวนั ที่ ๓๐ มกราคม ๑๘๐๓ ความ มุ่ง
หมายของนโปเลยี นในการปลอ่ ยขา่ วนี ้นบั เป็ นเร่ืองการเอาเปรียบ ทางสงครามจิตวทิ ยากอ่ น ใน
เม่อื เขาคดิ วา่ จะต้องทําสงครามในอนาคต กบั องั กฤษอยแู่ ล้ว
เมื่อถูกนโปเลียนคกุ คามหนกั เช่นนนั้ องั กฤษก็ไม่ยอมถอนทหาร ตามข้อเรียกร้ องใน
สญั ญาสนั ตภิ าพอาเมียงส์ นอกจากนโปเลียนจะ ยอมถอนทหารออกไปจากประเทศฮอลนั ดา
ก่อน แต่ปรากฏว่านโปเลียนได้ตอบปฏิเสธไปในเดือนพฤษภาคมของปี เดียวกันนัน้ การ
ประกาศเช่นนขี ้ องนโปเลยี นมองกนั วา่ เป็ นการเปิ ดโอกาสเพือ่ ใช้เป็ นข้อ อ้างในการเปิ ดสนามรบ
ครัง้ ใหมใ่ นยโุ รปตามแผนการร้ายดจุ เดียวกบั ที่ พวกชากอแบงได้เคยทาํ กนั มาแล้ว
ผลของการปฏิเสธข้อต่อรองขององั กฤษเมื่อเดือนพฤษภาคม ทําให้อังกฤษประกาศ
สงครามกับฝรั่งเศสในทนั ที คือประกาศในวันท่ี ๑๘ พฤษภาคม ๑๘๐๓ และในเดือนนีเ้ องที่
แสนยานภุ าพของนโปเลยี น ก็เคล่อื นเข้ายึดครองฮานโนเวอร์ อนั เป็ นบ้านเกิดเมืองนอนดงั้ เดิม
ของ ราชวงศ์องั กฤษ ซ่ึงในเวลานนั้ ถือเป็ นดินแดนใต้อิทธิพลของกลมุ่ ประเทศ ปรัสเซีย และ
แผนขนั้ ตอ่ ไปก็คือบกุ เกาะองั กฤษ
สถานะของสงครามระหวา่ งองั กฤษกบั ฝร่ังเศสดําเนนิ ไปอยา่ ง ยดื เยอื ้ จนกระทง่ั สนิ ้ สมยั
ของนโปเลียน ในปี ๑๘๑๙ ซ่ึงเป็ นปี ท่ีปารีสแตก และตกอยู่ในความครอบครองของฝ่ าย
๒๘๘
พนั ธมิตร และพระเจ้านโป เลยี นถกู บงั คบั ให้สละราชสมบตั ิ
ทา่ มกลางมรสมุ การเมอื งระหวา่ งประเทศซง่ึ สถานการณ์และ ความเป็ นไปทางการเมือง
ได้เปลย่ี นแปลงผนั แปรไปอยา่ งรวดเร็ว นโปเลยี นได้ฉวยโอกาสเข้าสร้างความเป็ นปึ กแผน่ มนั่ คง
ในฐานะของตนเอง อกี ทงั้ ยงั กระชบั มอื บรรดาประเทศภายใต้อิทธิพลเอาไว้ได้อยา่ งราบคาบ แม้
ในขณะมีการเปิ ดการเจรจาสนั ติภาพกบั องั กฤษเพราะฝ่ ายฝร่ังเศส เพลี่ยงพลาํ ้ ในสมรภูมิเมื่อ
เดือนมกราคม นโปเลียนก็ยงั ได้ รับเสียง สนับสนนุ ในการเลือกตงั้ ให้เป็ นประธานาธิบดีแห่ง
สาธารณรัฐอิตาเลียน และได้รับเลือกเป็ นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐลิกัวเรียน ในเดือน
ตลุ าคม ตอ่ มาได้อกี ด้วย
ขณะนนั้ เผอิญได้เกิดความไมส่ งบเรียบร้อยขนึ ้ ในประเทศ สวิสเชอร์แลนด์ นโปเลียนจึง
ฉวยโอกาศเลกิ ใช้รัฐธรรมนญู ของสวิสและ เข้าไปจดั รูปการบริหารของประเทศให้ใหม่ โดยการ
ออกกฎหมาย รัฐธรรมนูญใหม่ให้แก่สวิสเซอร์แลนด์ เรียกว่า ๐พระราชบัญญัติกัน กระทบ
ระหวา่ งพรรคการเมือง๑ การกระทําเช่นนีส้ ง่ ผลให้นโปเลยี นได้ เป็ นประธานองค์การสนั นิบาต
รักษาความเรียบร้อยในทางการเมอื ง ของประเทศสหพนั ธรัฐสวิส
แต่ย่อมเป็ นธรรมดาธรรมชาติท่ีจะเล็งเห็นได้ว่า การกุมอํานาจ ในประเทศต่าง ๆ ใน
ยโุ รปเช่นนีจ้ ะอย่ไู ด้ไมเ่ กิน ๑๐ ปี ทงั้ นีเ้ พราะส่งิ ที่ เกิดขึน้ นนั้ เท่ากบั เป็ นการจดั ระเบียบใหมใ่ น
ยโุ รปซงึ่ ยอ่ มไมม่ ที างท่จี ะทําได้ ด้วยการฉวยโอกาส
ปรากฏการณ์ท่ีสาํ คญั อีกประการหนงึ่ ของนโปเลยี นตอ่ นานา ชาติในเครืออิทธิพลของ
เขาก็คือ การใช้หลกั การสอดแทรกเข้าไปใน วงการเมืองของบรรดาประเทศเหล่านีโ้ ดยการ
ก่อให้เกิดความปรารถนา เสถียรภาพในทางการเมือง ซึ่งนโปเลยี นได้ชีใ้ ห้เห็นวา่ ย่อมจะได้มา
ด้วยวิถีทางเดียวนนั่ คือ การสถาปนาระบบการเมืองอตั ตาธิปไตย เพื่อ เป็ นหลกั ประกนั ความ
เสมอภาคของราษฎร ซง่ึ ในยามบ้านเมืองเข้าสู่ ยคุ หวั เลยี ้ วหวั ต่อ ประชาชนย่อมต้องการความ
เสมอภาคนนั้ มากย่งิ กวา่ ความอสิ รเสรีซึ่งมีการแยง่ อํานาจและการจบั กลมุ่ โต้เถียงอภิปราย กนั
อยไู่ มร่ ู้จบสนิ ้
การเข้าแทรกแซงทางการเมืองยงั นอกประเทศ สร้างชื่อเสยี งและ เกียรติคณุ ให้แก่นโป
เลยี นอยา่ งมาก เขาจงึ ถือเอาชว่ งเวลาดงั กลา่ วมา เป็ นจงั หวะที่จะสร้างความมน่ั คงให้แก่ตนเอง
ขนึ ้ อีกชนั้ หนงึ่ นน่ั คือโดย การจดั ให้มีการออกเสยี งเป็ นประชาวินิจฉยั ทวั่ ประเทศ ซึ่งปรากฏว่า
๒๘๙
ปวงชนฝรั่งเศสได้แตง่ ตงั้ ให้เขาเป็ นกงสลุ ที่ ๑ แหง่ สาธารณรัฐฝรั่งเศสตลอดชีวิต โดยเหตกุ ารณ์
นีเ้ กิดขึน้ ในวนั ท่ี ๒ สิงหาคม ๑๘๐๒ ทงั้ นโปเลียนยงั ได้ เอกสิทธ์ิท่ีสําคญั อีกอย่างหน่ึง นนั่ คือ
เขาจะมีสทิ ธิแตง่ ตงั้ ทายาทให้ขนึ ้ มาเป็ น กงสลุ ตลอดชีวิตสบื แทนตวั เองได้ตอ่ ไปอีก
แตป่ รากฏว่าเมื่อสงครามกบั ประเทศองั กฤษได้ระเบิดขนึ ้ นโปเลยี นจําต้องกระทําการ
สง่ิ หนึ่ง ซ่ึงจะเป็ นการทําลายบลั ลงั ก์ของตนเองอย่างหลกี เล่ียงไม่ได้ นนั่ คือ การฟื ้นฟูนําเอา
ระบอบกษัตริย์กลบั เข้ามาในสาธารณรัฐฝรั่งเศสอกี
การฟื น้ ฟูระบอบกษัตริย์ให้กลบั เข้ามาในประเทศฝร่ังเศสในรูปของการเป็ นกงสลุ ที่ ๑
ตลอดชีวติ และในเวลาตอ่ มามกี ารขนานสมญาให้เป็ น สมเดจ็ พระเจ้าจกั รพรรดิแหง่ ฝรั่งเศส อนั
เป็ นความยินยอมของประชาชาติฝรั่งเศส อนั เป็ นกลมุ่ คนที่ได้เคยต่อต้านและคดั ค้านการฟื น้ ฟู
ระบอบกษัตริย์มาแล้วในกาลก่อน ทา่ มกลางเสยี งสนบั สนนุ อนั ออื ้ องึ นเี ้อง ก็ยงั มีผ้ทู ่ีคดั ค้านและ
ไม่ยินยอม โดยพบว่ามีแผนการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าจักรพรรดินโปเลียนขึน้ ในวนั ท่ี ๑๘
พฤษภาคม ๑๘๐๔
บดั นี ้นโปเลยี น โบนาปาร์ต นายร้อยโททหารปื นใหญ่ในอดีตก็ได้เปลีย่ นตวั เองมาเป็ น
สมเดจ็ พระเจ้านโปเลยี น จอมจกั รพรรดิแหง่ ชาติฝร่ังเศส เป็ นอนั วา่ การปฏวิ ตั ใิ นประเทศฝร่ังเศส
ได้ยุติลงแล้วอย่างสมบูรณ์ คือเปล่ียนจากระบอบกษัตริย์มาเป็ นระบอบจักรพรรดิ และ
ประชาชาติฝรั่งเศสก็ได้กลายเป็ นมหาอาณาจักรซ่ึงรับรองสิทธิและเสรีภาพของราษฎร แต่
ราษฎรไมม่ ีอิสรเสรีอนั ใดที่จะลกุ ขนึ ้ จดั การอย่างใด ๆ กบั รัฐบาลของตน ดงั่ เช่นท่ีประชาชน ใน
ประเทศองั กฤษภายใต้ระบอบกษัตริย์สามารถทาํ ได้
ได้มีพิธีสวมมงกุฎสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิอย่างเอิกเกริกในวิหารนอตเตรอดาม สม
บคุ ลกิ ภาพของโบนาปาร์ต สมเด็จพระสงั ฆราช แหง่ วาตกิ นั ได้ถกู เชิญมาประกอบพธิ ี สวมมงกฎุ
ในครัง้ นี ้โดยมีจกั รพรรดินโปเลยี นได้เสดจ็ โดยรถพระท่นี งั่ ออกไปรับ และให้สมเด็จพระสงั ฆราช
ประทบั อยใู่ นรถคนั เดียวกบั พระเจ้าจกั รพรรดินโปเลยี น โดยนงั่ ทางซ้าย
เม่ือถึงตอนจะสวมมงกฎุ นโปเลียนก็ได้แย่งเอามงกุฎจากมือสมเด็จพระสงั ฆราชแล้ว
สวมมงกุฎให้ตนเสียเอง อีกหนึ่งปี ตอ่ มา คือในปี ๑๘๐๕ นโปเลียนก็ได้ใช้วิธีสวมมงกุฎ ให้แก่
ตวั เองตามแบบของพระเจ้าชาร์เลอมาญอีก ซงึ่ ในคราหลงั นีเ้ ป็ นพิธีการสวมมงกุฎเหล็ก แห่ง
แคว้นลอมบาร์ดี ขึน้ เถลิงราชย์เป็ นพระเจ้าแผ่นดินแห่งประเทศอิตาลี และในขณะท่ีกําลงั ยก
๒๙๐
มงกฎุ ขนึ ้ สวมศีรษะตนเองนนั้ นโปเลยี นก็กลา่ วขนึ ้ วา่
๐มงกฎุ นี ้ข้าได้มาโดยพระผ้เู ป็ นเจ้าประทานให้ บคุ คลใดมาแตะต้อง จําต้องระวงั ตวั ไว้
ให้ดี๑
ยคุ แห่งการใช้อํานาจในมหาอาณาจกั รของพระเจ้าจกั รพรรดิได้ฉายเงาในโอกาสเม่ือ
พระเจ้าจกั รพรรดินโปเลยี นได้เถลงิ ราชย์ คือการเนรเทศมอโรและปี เชอกรู ซงึ่ ทงั้ สองถกู รัดคอ ใน
ห้องขงั อยา่ งลกึ ลบั ทงั้ นีเ้ พราะทงั้ สองเป็ นผ้ตู ้องหาว่าเป็ นผ้วู างแผนสงั หารกงสลุ ท่ี ๑ แหง่ ชาติ
ฝร่ังเศส
ในเวลาต่อมามีการเผด็จเสยี ้ นหนามในทางการเมือง โดยไม่ แยแสต่อกระบวนการ ไต่
สวนพิจารณาและพิพากษาตามความยุติธรรมอีก นน่ั คือ การประหารชีวิตด๊คุ แห่งดงั เกียง ผ้มู ี
เชือ้ สายของราชวงศ์บรู ์บอง ซ่งึ ผู้นีไ้ ด้แสดงตนและมีการเคลอื่ นไหว ในกระบวนการของคณะ
กษัตริย์นิยมตลอดมา และในขณะทีพ่ ระเจ้าจกั รพรรดนิ โปเลยี นเถลงิ ราชย์นนั้ ผ้นู าํ ฝ่ ายการเมือง
นยิ มกษัตริย์ผ้นู ีไ้ ด้ปลกี ตวั ไปอยเู่ งียบ ๆ ใน แถบบริเวณชายแดน ข้อกลา่ วหาในการประหารชีวิต
ด๊คุ แหง่ ดงั เกียงก็คือ ร่วมแผนการลอบลงั หารนโปเลยี น กงสลุ ท่ี ๑ ความเป็ นจริงแล้วด๊คุ แห่งดงั
เกียงได้รู้ตวั ลว่ งหน้า และกําลงั หนเี พ่ือจะข้ามไปยงั พรมแดน เยอรมนั แตถ่ กู ทหารของนโปเลยี น
จบั เอาไว้ได้กอ่ น เมื่อนาํ ตวั มายงั ปารีสแล้วก็มกี ารพิจารณา กนั อยา่ งรวบรัด กระทงั่ สดุ ท้ายก็ถกู
ประหารชีวติ ไป
นักประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่ต่างกล่าวว่า การกระทําท่ีเกิดขึน้ ช่างร้ ายแรงกว่า
อาชญากรรม และนน่ั ก็เป็ นการกระทําท่ีสง่ ผลให้นโปเลียนเสียมหามิตรในยามจําเป็ น นน่ั คือ
ประเทศรัสเชีย ทงั้ ยงั ก่อให้เกิดความเคียดแค้นชิงชงั มากยิ่งขึน้ ในราชสํานกั ออสเตรียซ่ึงก่อน
หน้านีก้ ็ชิงชังอย่แู ล้ว การกระทําอันไม่เป็ นการให้เกียรติต่อกฎหมาย ของนโปเลียน ในกรณี
สงั หารนกั การเมอื งครัง้ นนั้ ทําให้นโปเลียนเร่ิมเสยี คะแนนนิยม และก่อให้เกิดความไมไ่ ว้วางใจ
ขนึ ้ ในวงการขนุ พลของตนเอง
แตเ่ สียงของบรรดานกั วิพากษ์วิจารณ์ตําหนิติเตียนเหลา่ นนั้ ก็จํา ต้องสงบเงียบลงโดย
อํานาจทางศาลปกครองที่นโปเลยี นได้ตงั้ ขนึ ้ ประกอบกบั ชะตาของนโปเลยี นท่ียงั เป็ นขาขนึ ้ จาก
การรบในสมรภมู ทิ ี่ แผนยทุ ธศาสตร์ของนโปเลยี นกําลงั มชี ยั อยทู่ วั่ ไปอยา่ งนา่ พศิ วง
อยา่ งไรก็ดี แม้ความสาํ เร็จทางการทหารของนโปเลยี นจะเป็ น เคร่ืองสง่ เสริมบารมีของ
๒๙๑
ราชบลั ลงั ก์ของสมเดจ็ พระเจ้าจกั รพรรดขิ อง ประเทศฝรั่งเศส กระนนั้ ก็ยงั มีปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ
ทสี่ อ่ ให้เห็นวา่ ปวงชนชาวฝรั่งเศสกําลงั มจี ิตใจทีเ่ ปลยี่ นแปลงไปโดยไมร่ ู้สกึ ตวั นนั่ คือ ประชาชน
เร่ิมครุ่นคิดถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งสมเดจ็ พระเจ้าจกั รพรรดิ กบั คนฝร่ังเศส
การสถาปนาราชบลั ลงั ก์ของนโปเลยี น เห็นได้ชดั วา่ ความสาํ เร็จ นนั้ มาจากการจดั ให้
สาธารณรัฐฝร่ังเศสกลายไปเป็ นรัฐทหาร (Military Empire) ซึ่งการเป็ นรัฐทหารนีเ้ องท่ีเป็ นส่ิง
ยืนยนั ให้เห็นซดั เจนว่า ไม่ เคยมีรัฐทหารแห่งใดที่จะให้ความสําคญั ในเร่ืองของการเคารพเอก
สทิ ธ์ิ ท่ไี มใ่ ช่สทิ ธิในทางการเมืองของปวงชนได้ อกี ทงั้ สทิ ธิเสรีภาพของประชาชน ซ่งึ ชาวฝร่ังเศส
ได้ยดึ เอาเป็ นพลงั งานในการทําการปฏิวตั ิมาจนสาํ เร็จมาได้ในปี ๑๗๘๙ ก็ไม่ได้รับการเคารพ
อกี ตอ่ ไป หากแตส่ งิ่ เหลา่ นกี ้ ลบั กลายเป็ นเพยี งสงิ่ ซงึ่ แล้วแตอ่ าํ นาจทหารของพระเจ้า จกั รพรรดิ
จะประทานให้ หรือไมให้ก็ได้ ตามใจชอบ
พฤติการณ์ท่ีประจกั ษ์ทีส่ ดุ นนั้ ก็คอื อดุ มคติของประชาชน ฝร่ังเศสในยคุ ปฏิวตั ไิ มม่ เี หลอื
อีกต่อไป คงเหลือมีอย่กู ็แตเ่ พียงเสยี ง ประโคมถึงสิทธิเสรีภาพและเสมอภาคของราษฎรเพียง
แคจ่ ากปากทไี่ ม่ เหลอื ความจริงอีกตอ่ ไป
ท่ีกล่าวมาแล้วเป็ นบุคลิกภาพของนโปเลียนในฐานะที่เป็ น รัฐบุรุษนกั การทหารและ
นักการเมือง ต่อไปนีจ้ ะกล่าวถึงพฤติการณ์ในชีวิตส่วนตวั ของนโปเลียนพอเป็ นที่เข้าใจสกั
เลก็ น้อย
ในเรื่องชีวิตส่วนตวั ของนโปเลียน มีเรื่องที่น่ากลา่ วถึงก็คือ เขา เป็ นคนที่ชอบใช้ชีวิต
อย่างเป็ นคนธรรมดาสามญั จริง ๆ แม้ในตอนที่เขา เรืองอํานาจสงู สดุ ซึ่งปรากฏในบนั ทกึ และ
จดหมายเหตสุ ว่ นตวั ต่าง ๆ ได้ยืนยนั ให้เห็นว่านโปเลยี นมีชีวิตในบาั นอยา่ งคนธรรมดา ชอบคยุ
และ แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นกบั คนใช้และผ้ใู กล้ชิดอยา่ งกนั เอง เป็ นคนมกั มีการจบั กลมุ่ ซบุ ซิบ
สนทนากับคนใช้ในเร่ืองส่ิงละอนั พนั ละน้อย และ บางครัง้ ก็มีลกั ษณะเป็ นการพดู คยุ นินทาคน
อน่ื กบั คนใช้ครัง้ ละนาน ๆ เสมอ
นโปเลยี นจะไมย่ อมเสยี เวลานงั่ รับประทานอาหารเย็นเกิน ๑๒ นาที ในตอน ๖ โมงเย็น
และเวลาในการรับประทานอาหารเช้าของเขา จะมีเพยี ง ๘ นาที และถึงแม้ฐานะแหง่ ความเป็ น
บคุ คลสาํ คญั ของชาตจิ ะทาํ ให้นโปเลยี นมรี ายได้และทรัพย์สนิ สะสมไว้เป็ นอนั มาก แต่นโปเลียน
ก็มกั ใช้เป็ นรายจา่ ย เพ่ือประโยชน์ของบาั นเมอื ง และมกั ไมค่ อ่ ยมอบหมายไว้วางใจผ้ใู ดในเร่ือง