๑๔๒
บทท่ี ๑๖
ราชสานักวาตกิ ัน และจกั รพรรดฟิ รานซสิ
คณะกรรมาธิการสภาก็องวังซิออง ประสงค์จะปราบอานาจทางการเมืองของโป๊ ป
เพราะว่ารัฐบาลของโป๊ ปเป็ นศนู ย์กลางของศาสนา ซงึ่ ฝร่ังเศส ในสมยั ปฏิวตั ินนั้ ปฏิเสธไม่ยอม
นบั ถือ ฉะนนั้ ถ้าหากวา่ นโปเลยี น กล้าปราบโป๊ ปและลดอํานาจลงเสยี ได้ก็จะดมี าก ย่ิงไปกวา่ นนั้
ยงั อาจจะได้รวบริบทรัพย์สนิ อนั มีคา่ ของวาติกนั อนั ฟ่ มุ เฟือยมาเสยี บ้าง ด้วยประการฉะนี ้จึงได้
เร่งรัดไปยงั นโปเลยี นให้รีบจดั การยกกองทพั เข้ากรุงโรม
นโปเลียนเมื่อเป็ นเด็กเคยคิดตามประสาเด็ก ๆ ว่ากรุงโรมนีห้ มายถึง อํานาจความ
ย่งิ ใหญ่ไพศาลและความโอ่อ่าโอฬารทงั้ หลายทงั้ ปวง เป็ นท่ีโด่งดงั อยู่ เคยคิดอยากเป็ นเหมือน
อย่างซีซาร์๒๗ เคยคิดจะทําการเพ่ือ จะได้รับพวงมาลยั เป็ นเคร่ืองหมายแหง่ ชยั ชนะ ครัน้ มาใน
กาลครัง้ นี ้นโปเลียนก็ได้กระทําในส่ิงท่ีเคยคิดฝันไว้ประดจุ เดียวกบั การกระทําของซีซาร์ฉะนนั้
คอื ได้เข้าเจรจาการเมอื งในสาํ นกั วาตกิ นั ด้วยความเฉลยี วฉลาด สามารถอยา่ งยิ่งยวด
แต่ก่อนจะเข้าทําการรุกรานกรุงโรมนัน้ นโปเลียนได้รีรออยู่ ด้วยเห็นว่า โป๊ ปเป็ น
ตําแหน่งที่มีอิทธิพลเหลือล้นเหนือประเทศทงั้ หลาย ทงั้ ฝร่ังเศสและตลอดทว่ั ยุโรป ถ้าไปทํา
อนั ตรายแก่โป๊ ปเข้า ก็จะเป็ นการผิดร้าย อยา่ งใหญ่หลวง แตน่ โปเลยี นก็ได้ทําทีคอ่ ยเลียบเล็มขู่
ขวญั ไปด้วยอบุ าย อนั สงบ
นโปเลียนได้เดินทพั โฉบหน้าลงไปทางใต้ม่งุ ไปกรุงโรม แตแ่ ล้วก็หยุดเชิงอยู่ เป็ นท่ีข่ม
ขวญั โป๊ ปด้วยกําลงั ทพั ที่แข็งแรงกว่า แล้วก็ยื่นเสนอข้อ สนั ติภาพ และมิได้ย่มุ ย่ามเข้าไปแตะ
ต้องเรื่องใด ๆ อนั เกี่ยวกบั การปกครอง ของคณะพระเลย ทา่ นโป๊ ปปิ อสุ ท่ี ๖ (Pope Pius VI) ได้
ยินยอมให้สญั ญาว่า จะชดใช้เงินจํานวนหลายล้านให้แก่ฝรั่งเศส และยอมให้รูปภาพท่ีงาม ๆ
๑๐๐ รูป ตลอดทงั้ รูปปัน้ แจกนั ภาพหนุ่ อ่ืน ๆ ซงึ่ ผ้แู ทนฝ่ ายฝรั่งเศสต้องประสงค์ เพียงเท่านีเ้ รื่อง
ก็เป็ นอนั สดุ สิน้ ลงไปแล้ว แต่นโปเลียนได้เสนอข้อเรียกร้ อง พิเศษอีกคือ ต้องการรูปปัน้ ของ จู
๒๗ จเู ลยี ส ซซี าร์ (๑๐๐ ปี กอ่ น ค.ศ.-๔๔ ปี กอ่ น ค.ศ.) ผ้สู ถาปนาตวั เองเป็ นจกั รพรรดอิ อกสุ ตสุ
และเป็ นผ้กู อ่ ตงั้ จกั รวรรดโิ รมนั
๑๔๓
นอิ สั บรูตสั (Junius Brutus)๒๘ กบั มาร์คสั บรูตสั (Marcus Brutus)๒๙ โดยอ้างตวั เองวา่ เป็ นชาว
โรมนั คนหนึ่งซึ่งมาจาก เกาะคอร์ซิกา ได้ข้ามแม่นํา้ รูบีคอน (Rubicon) ลว่ งเขตแดนโรมเข้า
มาแล้ว แต่หากมิได้กระทําอนั ตรายใด ๆ เลย ทงั้ มิได้ล่วงลํา้ เหยียบเข้ามา ใจกลางเมืองด้วย
เพียงแต่จะร้ องขอรูปปัน้ ของวีรบุรุษทงั้ ๒ ของโรมนั อีกเป็ น พิเศษจากสญั ญาสนั ติภาพนัน้
เท่านนั้ เม่ือปรากฏว่าโป๊ ปไม่สามารถปฏิบตั ิ ตามได้ ประวตั ิศาสตร์โรมนั ก็ค่อยเขยือ้ นพลเดิน
กองทพั จะเข้ากรุงโรม เป็ นครัง้ ท่ี ๒ และก็ได้หยดุ ทําเชิงอยเู่ พียงเขตนอกเมือง ได้มีการส้รู บ กนั
บ้างเล็กน้อย แล้วประวตั ิศาสตร์โรมนั ก็ยื่นข้อเลนอสนั ติภาพอีก การที่ประวตั ิศาสตร์โรมนั มิได้
หกั โหมให้แตกหกั ลงไปด้วยกําลงั กองทพั เช่นนี ้ก็เพอื่ ท่ีจะได้ประหยดั กําลงั ไว้ใช้ตอ่ ไปอีก หรือวา่
ฉวยทางฝ่ ายโป๊ ปแพ้ก็จะอพยพหนีไปเสียก่อน แล้วเก็บเอาทรัพย์สนิ สมบตั ิอนั มีค่าไปเสยี ด้วย
แล้วกรุงโรมจะมีอะไรเหลอื ให้แกฝ่ รั่งเศสหรือแม้แก่พวกสภาก็องวงั ซอิ อง
การได้ชยั ชนะจากแคว้นตา่ ง ๆ ที่แล้วมานนั้ พวกพระทงั้ หลายก็ ไมย่ อมเห็นด้วยกบั นโป
เลยี น ได้พากนั หลบหนมี าซุม่ ซอ่ นอยใู่ นโรม ซงึ่ ในขณะนนั้ นโปเลยี นก็ได้ยอมยกโทษแก่พระพวก
นนั้ ทงั้ ยงั ทําตวั ให้เป็ น เพื่อนสนิทกนั ขนึ ้ เกิดประโยชน์แก่การเจรจาความเมืองแก่นโปเลยี นอีก
เป็ นอเนกประการ
ในทสี่ ดุ โป๊ ปปิ อสุ ท่ี ๖ เกรงภยั ท่ีกําลงั คกุ คาม ก็ตดั สนิ พระทยั ที่ จะหนีออกจากกรุงโรมไป
แตน่ โปเลยี นได้พดู ฝากไปกบั ผ้สู ง่ ขา่ วให้ไป ทลู พระองค์ทา่ นว่า ขออยา่ ได้มีอนั เกรงกลวั ส่งิ ใด ๆ
เลย
ในการเซน็ สญั ญาสนั ตภิ าพครัง้ ใหมน่ ี ้ได้มีการโอ้เอ้รีรออยบู่ ้าง ประวตั ิศาสตร์โรมนั ก็ทํา
อาการตงึ ตงั เชน่ กบั ทหารแท้ คอื ยกร่างสญั ญา โยนเผาไฟแล้วพดู วา่ เรามิได้เจรจาข้อตกลงแห่ง
สนั ติภาพ เราเป็ นเพียง พกั รบกนั ชว่ั คราวเท่านนั้ ทางฝ่ ายโป๊ ปก็ตกใจและยินยอมด้วยดี นโป
๒๘ ผ้เู ขยี นนา่ จะหมายถึง ลเู ชียช จนู อิ สั บรูตสั (Lucius Junius Brutus) ผ้สู ถาปนากรุงโรม ให้
เป็ นสาธารณรัฐโรมนั โดยการล้มเลกิ ระบบราชาธิปไตย คาดวา่ เสยี ชีวติ ในราวปี ๕๐๙ กอ่ น
ค.ศ.
๒๙ มาร์คสั บรูตสั (Marcus Junius Brutus ปี ๘๕ กอ่ น ค.ศ.- ปี ๔๒ กอ่ น ค.ศ.) เป็ นบตุ ร บญุ
ธรรมของจเู ลยี ส ซีชาร์ และได้ชื่อวา่ เป็ นผ้นู าํ ในการล้อมสงั หาร จเู ลยี ส ซีชาร์
๑๔๔
เลยี น กลบั เรียกร้องสง่ิ ที่ควรได้มากขนึ ้ ไปอีกเป็ นทวีคณู ซ่ึงเป็ นอนั วา่ นโปเลียน ได้แล้วทกุ สงิ่ ทกุ
อยา่ งจใุ จตามที่ต้องการ แม้โป๊ ปเองก็ยงั สง่ สาสน์มา อวยพรแก่นโปเลยี นเสยี อีกด้วย
นโปเลียนในวาติกนั
ในการเจรจาความเมืองในสาํ นกั วาตกิ นั ครัง้ นี ้นโปเลยี นได้ สาํ แดงความเป็ นนกั การพดู
ไว้อย่างเต็มตัว อนึ่ง ในระหว่างการเจรจานัน้ บางครัง้ ก็แกล้งทําเป็ นทหารแท้ ไม่รู้จักพูด
บางครัง้ ก็ยกยอและหลอกขู่ รวมถึงการพดู ปด พดู จริง สลบั กนั ไป เอาตวั รอดได้ และได้ เปรียบคู่
เจรจาเป็ นอยา่ งดีย่ิง
ภายหลงั จากการศึกครัง้ นีแ้ ล้ว นโปเลียนได้แสดงตวั วา่ เป็ นผู้มี ความเช่ือมน่ั ในตวั เอง
และกระทําการด้วยความรอบคอบสขุ มุ มาก ตอ่ มาในเดือนมีนาคม นโปเลยี นได้เคลื่อนกองทพั
ออกจากแคว้นลอมบาร์ดี และปลายเดือนมีนาคมนนั้ ก็ได้เคล่ือนพลเฃ้าสแู่ คว้นสตีเรีย (Styria)
ซง่ึ ระยะทางจากนไี ้ ปเพยี งเดินทพั ลกั ๒-๓ วนั ก็จะถึงกรุงเวยี นนา และถ้ามาดแม้นวา่ กองทพั ของ
นายพลยดู งั ทางภาคแม่นาํ ้ ไรน์ได้ทําการมีชยั โดยลาํ ดบั เชน่ เดียวกบั นโปเลยี นแล้ว อนั ตรายใหญ่
๑๔๕
หลวงก็จะมาเยอื นแก่ทพั จกั รพรรดิฟรานซิสแหง่ ออสเตรียเป็ นแน่แท้ และชยั ชนะขนั้ สดุ ท้าย อนั
เป็ นจุดประสงค์ย่ิงใหญ่ก็จะได้แก่ฝรั่งเศส แต่ว่าในระยะเดียวกันนี ้ กองทัพของยูดงั ยังอยู่
ห่างไกลออกไปไม่มาก ออสเตรีย ฮงั การี ก็กําลงั ระดมพล ตระเตรียมการเป็ นการใหญ่อยู่ ถ้า
หากจะบกุ บนั่ หกั โหมเข้าไปทนั ที ก็จะเป็ นการยดื หยนุ่ เสยี สายการลาํ เลยี งจะติดตอ่ ถึงกนั ลาํ บาก
และท่สี าํ คญั ที่สดุ กองทพั ทจ่ี ะชว่ ยหนนุ อืน่ ก็ไมม่ ี จะหวงั พง่ึ กองทพั ทางภาคแม่นํา้ ไรน์ของยดู งั ก็
ไมเ่ ป็ นผล เพราะอยหู่ า่ งไกลดงั กลา่ วแล้ว นโปเลยี นจึงตงั้ มน่ั อย่ใู นระยะซงึ่ เห็นวา่ พอจะเป็ นการ
ขม่ ขวญั ออสเตรียได้
อนง่ึ นโปเลยี นได้มองเห็นวา่ เป็ นการสมควรแกเ่ วลาแล้วท่จี ะ ย่ืนสญั ญาสงบศึกกนั เสีย
ที เพราะยง่ิ รบไปก็ย่งิ เป็ นเหตใุ ห้ประชาชน พลเมืองเดอื ดร้อน เม่ือพลเมืองเดอื ดร้อน นโปเลยี นก็
ยอ่ มเป็ นทเ่ี กลยี ด ชงั ทวั่ ไป อีกประการหนงึ่ ถ้าขนื รุกลาํ ้ เข้าไปจนถงึ กรุงเวยี นนาแล้ว ผล เสยี หาย
อาจจะมีได้ดงั กล่าว ฉะนนั้ นโปเลียนจึงแต่งจดหมายไปถึงอาร์ช ดย๊คุ ชาร์ลส์อนุชาของพระ
จกั รพรรดิฟรานซิสแหง่ ออสเตรีย ความวา่
๐เรียนท่านแม่ทัพ ทหารผู้กล้าหาญของเรากําลังทําการสงคราม สู้รบกันอยู่ แต่ว่า
ปรารถนาที่จะได้มีการสงบศึกกันเสียที เพราะสงคราม ได้ยืดยาวมามากแล้ว ได้ทําให้ผู้คน
พลเมืองล้มตายกนั ไปมใิ ช่น้อย กอ่ ความลาํ บากยากเขญ็ เดือดร้อนกนั แทบทกุ เส้นหญ้า ในท่ที ว่ั
ๆ ไปขณะนีเ้ ล่า ประชาชนก็ได้มีความประสงค์เป็ นอนั เดียวกัน ในอนั ที่จะได้เห็น ความเป็ น
มนษุ ยธรรมของสงคราม อนง่ึ บรรดาข้าศกึ ของมหาชนรัฐฝรั่งเศส ตา่ งก็วางอาวธุ และพกั รบกนั
แล้วแทบทกุ แห่ง ยกเว้นก็แต่ ประเทศของท่านอย่ปู ระเทศเดียว การจะทําสงครามต่อไปอีกนนั้
เห็นว่าจะเป็ นมลู เหตทุ ําให้ประชาชนพลเมืองขมขื่นในความเป็ นอยู่เป็ นอยา่ งย่ิง ถึงแม้ว่าจะมี
การแพ้ชนะกนั ข้างใดข้างหนงึ่ ก็จริง แตก่ ็จําต้องล้มตายข้างละไมน่ ้อย แล้วอยา่ งไรเสยี สงครามก็
ต้องสงบเช่นกนั ทงั้ นี ้ยอ่ มเป็ นไปตามหลกั ความจริง คือทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งต้องมีการสนิ ้ สดุ ลง ท่าน
แม่ทพั , ท่านเป็ นผ้ทู ี่อย่ใู กล้ชิดกบั ราชบลั ลงั ก์ท่ีสดุ ลอยเด่นอย่เู หนืออารมณ์ร้ ายทงั้ มวล ดวง
ความคิดย่อมเป็ น เสรี หวงั เป็ นอย่างย่ิงว่า ท่านจะปรารถนาเป็ นผ้มู ีชื่อวา่ ได้เป็ นผ้โู ปรดมนษุ ย์
เป็ นผู้ได้ช่วยให้เยอรมันพ้นจากภัยพิบัติ ฉันม่ันใจและถือว่าท่าน มีความสามารถท่ีจะช่วย
ประเทศชาติและประชาชนที่รักของท่านได้เป็ นอย่างดีด้วยการรบศึก หากแต่ถ้าทําดงั นนั้ คือ
ช่วยด้วยวิธีรบแล้ว ฉนั คิดว่าดินแดนเยอรมนั ก็จะบอบชํา้ เสียหาย ฉนั เป็ นสิ่งซงึ่ บคุ คลเช่นท่าน
๑๔๖
ยอ่ มไมพ่ งึ กระทาํ
ถ้าจดหมายฉบบั นสี ้ ามารถจะชว่ ยชีวติ คนได้ แม้แตเ่ พียงสกั คน เดยี วแล้ว ฉนั ก็จะภมู ิใจ
เป็ นอยา่ งยงิ่ ท่ีได้รับความเห็นสอดคล้องต้องกนั ต่างก็นิยมชมช่ืนในความสงบเช่นกนั มากกว่า
จะนิยมปรารถนาช่ือเสยี ง ในทางการเป็ นผ้รู บชนะ...๑
จดหมายฉบบั นีท้ ําให้อาร์ชดย๊คุ ชาร์ลส์สนใจมาก ความจริงอาร์ช ดย๊คุ ชาร์ลส์ก็ควรจะ
ทําเช่นนนั้ เพราะถ้าปฏิเสธจดหมายเสีย นโปเลียน ก็อาจจะนําจดหมายนนั้ ไปตีพิมพ์พร้อมทงั้
คําปฏิเสธของออสเตรีย ออกประกาศ เป็ นการประจานออสเตรียตอ่ ประเทศในยโุ รปว่า เป็ นผู้
กระหายสงคราม ย่งิ กวา่ นนั้ นโปเลยี นก็จะกรีฑาทพั เข้ารุกราน ต้องรบ กนั นองเลอื ดเปรอะเปื อ้ น
ไปด้วยแผลของคมดาบและประกายเพลงิ ของ กระสนุ ปื น เพราะขณะนเี ้องกองทพั ของนโปเลยี น
ก็เข้ามาตงั้ มนั่ อยใู่ กล้ ๆ แล้ว ทงั้ ได้เข้ายดึ เมอื งลโี อเบน (Leoben) ไว้ในครอบครองแล้วด้วย
๑๔๗
จึงในทสี่ ดุ ทตู ของจกั รพรรดิฟรานซิสก็มาถึง นโปเลียนได้ออกมาต้อนรับอยทู่ ่ีเชิงบนั ได
ด้วยอธั ยาศยั ไมตรี ได้พดู ถึงพระจกั รพรรดิ และทา่ นอาร์ชดย๊คุ ด้วยความเคารพ
ทตู ของออสเตรียได้เสนอขอให้มีการสงบศึกชั่วคราว ๑๐ วนั ก่อน ชื่งนโปเลียนเห็นว่า
เป็ นการประวงิ เพ่ือเตรียมรบมากกวา่ จงึ ได้เชิญทตู ออสเตรียรับประทานอาหาร และได้ยินยอม
ตกลงสงบศกึ ชว่ั คราวตาม ขอเสนอนนั้ แตใ่ ห้เป็ นเพยี ง ๕ วนั
การทําสญั ญาสงบศกึ ครัง้ นยี ้ ดื เยือ้ มาก แทบไมร่ ู้จกั สนิ ้ สดุ แต่ ท้ายท่ีสดุ ก็เป็ นอนั เซ็นกนั
ได้โดยเรียบร้อย คือ ได้ลงช่ือในสญั ญา สนั ติภาพท่ีเมืองคมั โป ฟอร์มิโอ (Campo Formio) เมื่อ
วนั ที่ ๑๗ ตลุ าคม ค.ศ. ๑๗๙๗ ตามสญั ญาครัง้ นนั้ ฝรั่งเศสได้เบลเยี่ยมกบั ดินแดนฝ่ังซ้าย ของ
แม่นํา้ ไรน์ และออสเตรียต้องยอมให้นโปเลียนรวบรวมลอมบาร์ดี กับบรรดาหวั เมืองน้อยของ
แคว้นนนั้ ยกขนึ ้ เป็ นประเทศซสิ ซลั ปิ น (Cisal Pine) ให้ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย
อนง่ึ ในระหวา่ งท่ีพกั อยู่ ณ นครมิลานนนั้ หลงั จากการรบได้ เบาบางลงแล้ว นโปเลียน
รวมทงั้ นายพลอืน่ ๆ ได้เข้าพกั อยู่ ณ ปราสาท มองต์เบลโล ได้ถือโอกาสรวบรวมวงศาคณาญาติ
มาพร้อมเพรียงกนั ณ ที่นนั่ ชวั่ ระยะเวลาหนง่ึ กอ่ นกลบั เข้ากรุงปารีส
๑๔๘
โยเซฟิ นกบั คนแวดลอ้ ม
๑๔๙
บทท่ี ๑๗
ในหม่ญู าตแิ ละภรรยา
ห้องปราสาทสูงโค้งในปราสาทมองต์เบลโล มีกาแพงสีนวลลายทองคํา บนเก้าอีย้ าวซงึ่ บุ
แพรสเี ขียวนนั้ มียจู ีน (Eugene) ร้อยโทหนมุ่ อายุ ๑๖ ปี นง่ั อย่ใู นระหวา่ งผ้หู ญิง ๒ คน หน่ึงใน
๒ คนนนั้ คือหญิงผ้เู ป็ นแม่ ของนายทหารหนมุ่ ท่ีกลา่ วนี ้ยจู ีน หนมุ่ น้อยนี ้เป็ นบตุ รชายโยเซฟิ น
คนเดยี วกบั ที่ไปขอคืนดาบจากนโปเลียนครัง้ โน้น โยเซฟิ นมีบตุ รชาย-หญิง อนั เกิดจากสามีคน
แรก ๒ คน คนพี่เป็ นชายคือยจู ีน คนน้องเป็ นหญิงชื่อฮอร์ตงั ส์ (Hortense)
นโปเลียนได้เรียกยจู ีนมาอย่ทู ี่นครมิลานนีด้ ้วย และตงั้ ให้เป็ น นายทหารคนสนิท มียศ
นายร้อยโท ประจํากองบญั ชาการ
ขณะนนั้ โยเซฟิน หญิงผ้เู ป็ นแมก่ ําลงั เพง่ มองไปทางหมคู่ นหมหู่ นง่ึ ในลกั ษณะของคนท่ี
ชอบมองคนด้วยความสนใจอยา่ งใดอย่างหนง่ึ ทําให้เห็นเป็ นเร่ืองแสดงออกแหง่ กิริยาว่า เธอ
สนใจในสงิ่ แวดล้อมอ่นื มากกวา่ ความเป็ นผ้มู ีหน้าท่ีของมารดา มีนายพลรูปร่างงดงามคนหนึ่ง
ยืนอย่เู บือ้ งหลงั กําลงั ชะโงกหน้าลํา้ ลงเหนือศีรษะเธอ เพื่อประสงค์จะมอง ลงไปให้เห็นใต้คอ
เสอื ้ คนผ้นู คี ้ ือมาสเซนา ซง่ึ เป็ นนายทหารที่ชอบทําการรุกรานด้วยความเก่งกาจ โดยไม่ระวงั ว่า
จะเสียหายใด ๆ ทงั้ สิน้ อนั ความกล้าหาญชาญชยั ของเขานี ้บางครัง้ บางขณะก็เป็ นสิ่งช่วยให้
เกิดกําลงั ใจในทหารร่วมรบได้อย่างดีย่ิง เป็ นผ้มู ีอปุ นิสยั กระตือรือร้น แต่มกั จะฝักใฝ่ ในสตรีอยู่
มากกวา่ ธรรมดา โดยปกติเขามกั จะมีสตรีอยจู่ ํานวน ๒ คนเสมอ
คนที่มีลกั ษณะตรงกนั ข้ามกบั มสั เซนานนั้ เป็ นคนร่างเล็ก แต่ศีรษะโต ขณะนีก้ ําลงั ยืน
คุยอยู่กับสตรี ยิ่งทําให้ดูเป็ นคนมีรูปร่างน่าเกลียด ท่าทางซุ่มซ่าม กําลังปล่อยความรู้สึก
ภาคภูมิใจในชัยชนะเหนือผู้หญิงสวย ๆ ในตระกูลวีคองตี เขาผู้นีค้ ือ แบร์ตีแอร์ หัวหน้า
นายทหารฝ่ ายเสนาธิการ ผ้ซู งึ่ ทํางานอยา่ งไมห่ ยดุ หยอ่ น สามารถเป็ นพิเศษที่วา่ ปฏิบตั ิงานการ
ขดี เขียนอนั เก่ียวแกเ่ สนาธิการแล้วทงั้ วนั พอวนั รุ่งขนึ ้ ก็ ออกไปทําการรบได้ เป็ นนกั ศกึ ษาในเร่ือง
แผนที่ และมคี วามรู้ในหลกั วชิ าการทหารเป็ นอยา่ งดี
มรู าต์ แตง่ ตวั โก้ด้วยเสือ้ ผ้าซาตินสเี ขียวแก่ กําลงั บิดหมวกขน แกะใบใหญ่ที่ถืออย่ใู น
๑๕๐
มือ พนื ้ เพเดมิ ไมใชเ่ ป็ นคนชนั้ สงู เช่นเดียวกบั คนอนื่ ๆ ชอบพดู กระซบิ กระชาบ ทงั้ ขณะท่กี ลา่ วนี ้
ก็กําลงั กระซิบกระซาบ แต่หวั เราะดงั สนนั่ อย่กู บั โอเยโรลกู ชาวนา โอเยโรได้เลา่ เร่ืองตลกให้ฟัง
อยู่ แตใ่ นทนั ทีนนั้ เอง มรู าต์ผ้ลู อื ชื่อวา่ ไมก่ ลวั กระสนุ ปื นใหญ่หรือสหี น้า ท่บี งึ ้ ตงึ เครียดของใคร ๆ
แม้กระทงั่ ชนั้ พวกเจ้าชายเลย แตใ่ นขณะนเี ้อง เขากําลงั มีอาการตกใจอนั เน่ืองมาจากโยเซฟินได้
ร้องเรียกมาจากห้อง ทางด้านตรงข้าม ด้วยเหตเุ พียงว่าโยเซฟิ นมีประสงค์จะใคร่ฟังเรื่องตลก
โปกฮาท่ี ๒ คนนีก้ ําลงั คยุ กนั อย่างสนกุ สนานกนั อย่นู นั้ ด้วย แตก่ ็เป็ น ขณะเดียวกบั ที่นโปเลียน
กําลงั เดนิ มาและใกล้จะถึง และด้วยเชาว์ไหวพริบในการเป็ นคนรู้จกั โลกดี โยเซฟิ นได้พยกั หน้า
บอกใบ้ไปทางมรู าต์ด้วยทว่ งทีทจี่ ะทาํ ให้มรู าต์รู้ได้ฉบั พลนั วา่ ให้สงบเสยี งสกั หนอ่ ยก่อน
นโปเลียนกําลงั เดินคมู่ ากบั อาโนลต์ (Arnault) นกั ประพนั ธ์บทละครลือนามของปารีส
นโปเลยี นกําลงั พดู โต้ตอบถงึ เรื่องการทพั และเรื่องราวของการสงครามท่ีกระทํามาโดยละเอียด
ถ่ีถ้วน ทงั้ นโี ้ ดยที่นโปเลยี นรู้ดีวา่ จากคําที่เขาพดู ไปแล้ว อาร์โนลต์ก็จะต้องนําไปสง่ หนงั สือพิมพ์
อน่ึง นโปเลียนได้สนใจพูดในเรื่องท่ีเก่ียวกับฐานะอันง่อนแง่นของคณะรัฐบาลกรุงปารีส
และทาั ยท่ีสดุ ก็ได้พดู ในเม่ือตา่ งก็ได้เข้าถึงห้องรับแขกแล้ววา่ ๐ฉนั เองไมเ่ หน็ จะมีวธิ ีใดอื่นทจ่ี ะทาํ
ให้พ้นจากความยงุ่ ยากอนั นไี ้ ด้นอกจากจะมีคนท่ีมีความเข้มแข็งลกั คนหนง่ึ และเราจะหาคน ๆ
นไี ้ ด้ทีไ่ หน๑
บรรดานายทหารท่ีอยใู่ นห้องรับแขกนนั้ ตา่ งก็ลกุ ขนึ ้ ยืน และหยดุ การสนทนา มองดนู โป
เลียนหน่มุ ผ้ซู งึ่ ความจริงมีอายุ ๒๗ ปี อ่อนวยั กว่าบคุ คลสว่ นมากในท่ีนนั้ ทงั้ มีร่างกายเตีย้ ตํ่า
กวา่ คนทงั้ หลายทงั้ หมด
นโปเลียนได้ใช้ปราสาทมองต์เบลโลนีเ้ ป็ นสถานพกั ผ่อนหลงั สงคราม ขณะนนั้ เป็ นฤดู
ร้อน สญั ญาสงบศึกกับออสเตรียก็ได้ทํากนั แล้วที่เมืองเลโอเบน ยงั เหลอื จะให้สตั ย์สาบานกนั
เท่านนั้ แท้จริงนโปเลียนควรจะกลบั เข้า กรุงปารีส เพื่อรับการฉลองชัยชนะ ซ่ึงเคยตงั้ ใจไว้แต่
ครัง้ ยงั เป็ นนายทหาร ชนั้ ผ้นู ้อย แต่นโปเลยี นยงั อยากจะอยใู่ นอิตาลีไปพลางก่อน จะยงั ไม่กลบั
เข้า กรุงปารีสจนกว่าชัยชนะของนโปเลียนนีจ้ ะยงั ผลในทางการเมือง เป็ นชิน้ เป็ นอนั ขึน้ และ
จนกวา่ รัฐใหม่ ๆ ในอติ าลที ่ีได้จดั การก่อตงั้ ขนึ ้ จะเรียบร้อยไปด้วยดี
ในการตงั้ รัฐตา่ ง ๆ ในอติ าลี นโปเลียนได้วางตวั เหมือนกบั ว่าเป็ นทายาทแหง่ การปฏิวตั ิ
ผ้ซู งึ่ จะสถาปนาสภาพแหง่ ความเสมอภาคและเสรีภาพ นโปเลยี นได้แตง่ ตงั้ บคุ คลสามญั ให้เป็ น
๑๕๑
ตําแหนง่ นายทหาร ซงึ่ ครัง้ นนั้ คนที่จะเป็ นได้ต้องเป็ นคนชนั้ สงู เป็ นเชือ้ ผ้ดู ีมีตระกูล การกระทํา
เช่นนี ้นโปเลยี นมไิ ด้พะวงถงึ วา่ พวกชนั้ เจ้าหรือพวกผ้ดู มี ีตระกลู ในอติ าลจี ะคิดวา่ อยา่ งไร
นโปเลยี นได้เรียกประชมุ ครอบครัวและวงศ์ญาติของเขาให้มาพร้อมกนั ที่เมืองมิลาน ที่
ปราสาทมองต์เบลโลนี ้แตก่ ็มีบคุ คลอื่นนอกจากญาติ เป็ นบรรดาพวกซึ่งหวงั ใจจะประจบนโป
เลยี น ตา่ งก็ได้มาพยายามแสดงตวั ทงั้ แก่นโปเลยี น และทงั้ แก่บรรดาญาติของนโปเลยี นเหลา่ นนั้
ด้วยความเคารพและเอาใจโดยตลอด โดยประการฉะนี ้ จึงเป็ นผลท่ีมาจากนโปเลียนเป็ นผ้ทู ี่
อติ าลคี ร่ึงประเทศยําเกรง และชื่อเสยี งก็กระฉอ่ นศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิพ้นวิสยั มนษุ ย์สามญั ธรรมดา
แตน่ โปเลยี นไมส่ ามารถจะชกั จงู มารดา ผ้ซู ง่ึ เป็ นคนเจ้ายศและเจ้าระเบียบประเพณีจดั
ของเขาให้สนิทสนมกบั โยเซฟิน ผ้ซู ง่ึ มีชื่อเสยี งในทางฉาวโฉ่ได้ด้วยประการใด นโปเลยี นเกรงใจ
ภรรยา ไม่อาจปฏิเสธคําขอร้ องใด ๆ ของโยเซฟิ นมาก่อนเลย ก็จําเป็ นบังคบั ให้โยเซฟิ นต้อง
แสดงกิริยาภายนอก ให้เคารพยําเกรงมารดาของเขา เลตเี ชียมารดาของ นโปเลยี น เคยกลา่ ววา่
๐หญิงชาวเกาะเครโอนผ้นู ชี ้ อบพดู เร่ืองไมเ่ ป็ นสาระแก่ผ้ชู ายทกุ คน หรือจูบผ้หู ญิงทกุ ๆ คนไมว่ า่
หน้าไหน แทนที่จะใช้เวลาไปในการเลีย้ งลกู และการบ้าน...๑ มารดาของนโปเลียนมีบตุ ร ๑๓
คน แตโ่ ยเซฟินไมม่ ีบตุ รกบั นโปเลยี นเลย ซงึ่ ทาํ ให้นโปเลยี นมคี วามอปั ยศมากอยู่
เมือ่ แมล่ กู ได้พบกนั ในครัง้ แรกนนั้ ผ้เู ป็ นแมไ่ ด้กลา่ ววา่ ๐เจ้าผอม ซูบลงไปมาก...๑ นโป
เลยี นตอบทนั ทวี า่ ๐ไมเ่ ป็ นไร เพราะฉนั ยงั มีชีวิตอย๑ู่ และกลา่ วตอ่ ไปวา่ ๐โปรดระวงั รักษาตวั ของ
แมใ่ ห้ดี ถ้าหากแมต่ ายลงไปเสยี แล้ว ก็จะไมม่ ีใครทม่ี ีอาํ นาจเหนอื ฉนั อกี ๑
นโปเลยี นมนี ิสยั รักญาติมาก ซง่ึ ก็คอื นสิ ยั ทว่ั ๆ ไปของชนชาวเกาะคอร์ซกิ าทงั้ หลาย
พวกชาวเกาะคอร์ซิกาของนโปเลยี น มีน้องสาว ๓ คน พ่ีชาย น้องชายอีก ๓ คน ลงุ อีก
คนหนงึ่ ชื่อเฟซ ขณะนีก้ ําลงั สนกุ สนานกนั อยู่ในปราสาท โปแลตน้องสาวนโปเลยี นนนั้ อายุ ๑๖
ปี ไมส่ ้จู ะชอบหน้ากบั โยเซฟิ นพ่ีสะใภ้ เหตผุ ลก็เนื่องมาจากโยเซฟิ นนีไ้ ด้มีเสยี งเข้าขดั ขวางการ
แตง่ งานระหวา่ งโปแลตกบั ชายคนรักของหลอ่ น แตโ่ ปแลตกลบั ถกู แตง่ งานกบั นายพลเลอแคล้ก
(Leclerc) ซง่ึ เหมอื นกบั ถกู บงั คบั จบั ให้แตง่ แท้จริงการแตง่ งานโปแลตนนั้ ก็เป็ นการตงั้ ใจของน
โปเลยี นแตเ่ ดิมมา โปแลตอายุ ๑๖ปี ยงั เยาว์แก่ความคิด ได้ผกู สมคั รรักใคร่อยกู่ บั เฟรรอง ชาย
แก่ อายุ ๔o เศษ เฟรรองเป็ นสมาชิกในสภาก็องวงั ซิออง เคยไปเป็ นข้าหลวงพิเศษ ในมณฑล
ภาคใต้ของฝร่ังเศส เป็ นผ้มู อี าํ นาจคนหนงึ่ ในสมยั ปฏวิ ตั ิ จมกู ใหญ่ หน้ากว้าง นยั น์ตาโปนโต แต่
๑๕๒
มเี มียมากกวา่ ปกติ มีลกู ทเี่ กิดมานอกกฎหมาย หลายคน การทําให้โปแลตรักได้นนั้ ก็คงจะเป็ น
ด้วยเฟรรองช่างป้ อยอ ยกอํานาจความเป็ นคนใหญ่คนโตมาอวดอ้างกบั ผ้หู ญิง ป้ อยอสาวรุ่น
ด้วยถ้อยคําเยน็ หู โปแลตจงึ รักเข้าด้วยแบบ ๐นาํ ้ เย็นปลาตาย๑ ความลมุ่ หลงใน เจาั ช้ชู ราของโป
แลตเป็ นอยา่ งไรนนั้ ความในจดหมายตอนหนง่ึ ของ โปแลตท่ีมีไปถึงเฟรรองช่วยให้รู้ได้ดี ๐...ฉนั
ได้ตงั้ ปณิธานในใจ จะขอปฏญิ าณ จนวา่ ฉนั จะไมร่ ักใครอีกในชีวินี ้ไม่มีใครอ่ืนในโลกที่จะมามี
ห้นุ สว่ นในหวั ใจ ของฉนั ซง่ึ ฉนั ขอมอบไว้ให้แก่ทา่ นทงั้ สนิ ้ และจะไมม่ ีใครหรืออาํ นาจใด ๆ ในโลก
นสี ้ ามารถมาขดั ขวางหรือยอื ้ แยง่ ความรักระหวา่ งเราทงั้ สองให้พราก ไปจากกนั ได้ มนั เป็ นความ
ปรารถนาและความสขุ สําราญของเราเอง และตา่ งก็ได้ประสบความรักซึ่งกนั และกนั อย่ดู ีแล้ว
ท่านที่รักของฉนั อปุ สรรคคงไม่มีสําหรับเราแน่ คณุ แม่หรือคนอ่ืน ๆ คงไม่สามารถจะปฏิเสธ
หรือทาํ ลายความรักอนั ดดู ด่ืมของเราได้เลย"
เพอ่ื ที่จะชว่ ยให้น้องสาวหลดุ พ้นจากความลมุ่ หลง นโปเลยี นจึงได้จดั ให้แต่งงานเสยี กบั
นายพลเลอแคล้ก ซงึ่ เป็ นเพือ่ นกนั มาแตค่ รัง้ รบท่ีตลู อง อน่ึง ภายหลงั ก็ได้รับยศเป็ นนายพลเมื่อ
อายเุ พยี ง ๒๔ ปี บดั นี ้กําลงั ดํารง ตาํ แหนง่ เป็ นปลดั ทพั บก เป็ นคนมีอตุ สาหวริ ิยะภาพเป็ นอย่าง
ย่ิง ได้ใช้ ความพยายามเจริญรอยตามแบบนโปเลียน ซ่ึงเป็ นทงั้ เพ่ือนทงั้ ผ้บู งั คบั บญั ชา ของตน
และลอกแบบได้คล้ายคลึงเหมือนอยา่ งนโปเลียนจริง ๆ จนได้สมญั ญาวา่ ๐รูปจําลองของนโป
เลยี น๑
พธิ ีแตง่ งานจดั ให้มีขนึ ้ ในโบสถ์เลก็ ๆ ซง่ึ อยู่ในปราสาทมองต์เบลโล
ในบรรดาน้องสาวของนโปเลยี น เอลซิ า โปแลต คาโรลีน ทงั้ ๓ นี ้เอลซิ ากบั คาโรลนี ได้
มีอธั ยาศยั ไมตรีตอ่ โยเซฟินผ้เู ป็ นพีส่ ะใภ้ ไม่ เคยปรากฏวา่ มคี วามรังเกียจเดยี ดฉนั ท์กนั เทา่ ไรนกั
แตส่ ว่ นโปแลตนี ้เหมือนกบั ขมนิ ้ กบั ปนู ดเู หมอื นวา่ ขนึ ้ วา่ พ่ีสะใภ้กบั น้องผวั แล้ว ค่ไู หนจะเกลยี ด
ชงั กนั มากมายเทา่ โปแลตกบั โยเซฟินนเี ้หน็ จะหายาก
ในการที่โปแลตได้แต่งงานกับเลอแคล้กปลดั ทพั บกนี ้ บงั เอิญเป็ นเหตุ ให้นางได้รู้การ
ติดต่อลบั ๆ ของโยเซฟิ นพี่สะใภ้กับทหารม้าหนุ่มได้เป็ นอย่างดี เพราะนายทหารม้าฮุสซา
หนมุ่ อปิ โปลติ มตี ําแหนง่ เป็ นผ้ชู ว่ ย ของเลอแคล้กสามีของนาง ฉะนนั้ การเกี่ยวพนั ระหวา่ งฮิปโป
ลติ กบั โยเซฟินในฐานช้สู าวนนั้ มีอยบู่ ้างอยา่ งไร จึงไมพ่ ้นไปจากความรู้เหน็ ของโปแลต
ฮิปโปลิตผ้นู ีเ้ องท่ีได้เป็ นเหมือนองครักษ์โยเซฟิ น นําพากนั ไป เที่ยวเมืองเจนวั ในเดือน
๑๕๓
พฤศจิกายนคราวนนั ้
โปแลตได้นําความเกี่ยวข้องของคนทัง้ ๒ นี ้ บอกแก่นโปเลียนพี่ชายอย่างละเอียด
พิสดาร ทําให้นโปเลยี นซง่ึ เคยมคี วามสงสยั อยู่บ้างแล้ว เม่ือได้ยินคําบอกเลา่ จากน้องสาว นโป
เลยี นก็ลงมือเลน่ งานกบั ฮิปโปลติ ทนั ที อนงึ่ ในขณะเดียวกนั นีฮ้ ิปโปลติ หนมุ่ ผ้นู ี ้ก็กําลงั มีคดีถกู
ฟ้ องฐานกินนอกกินในกบั คนสง่ สงิ่ ของให้กองทพั ซงึ่ ประมวลความผิดแล้วก็ต้องถึงขนาดตดั หวั
ตาม กฎอยั การศกึ เพราะใช้กองทพั ของชาติเป็ นแดนหากินไมส่ จุ ริต แตว่ า่ นโปเลยี นมไิ ด้ กระทํา
รุนแรงถงึ เพียงนนั้ เกรงวา่ จะเป็ นข้อครหา เพราะคดีมาประจวบเหมาะเข้า ในเวลาเดียวกนั จึง
เพยี งแตข่ บั ไลอ่ อกจากกองทพั
แตฮ่ ิปโปลติ หนมุ่ ผ้นู ี ้เบอื ้ งหน้าตอ่ ไปอกี ประมาณ ๒ ปี เขาก็ได้กลบั เข้ามายงุ่ เหยิงพวั พนั
กบั โยเซฟินอกี เป็ นเหตมุ วั หมองถงึ กบั สามีภรรยาคนู่ เี ้กือบ ๆ จะต้องหยา่ ร้างกนั ครัง้ หนงึ่
การถูกกล่าวหาครัง้ นี ้ทําให้โยเซฟิ นถึงกบั ร้ องไห้ จะเน่ืองด้วยความเสียใจในความผิด
ของตนเองทม่ี าสาํ นกึ ได้วา่ ไมค่ วรกระทํา หรืออาจเสยี ใจเพราะเห็นเพื่อนหนมุ่ ของนางถกู ทําโทษ
ขบั ออกจากกองทพั ก็ไมท่ ราบชดั
แตค่ วามมวั หมองของโยเซฟิน เก่ียวกบั ผ้ชู ายนยี ้ งั ไมส่ นิ ้ สดุ เรื่องเกา่ ยงั ไมท่ นั สร่างซา ก็มี
เสียงลือใหม่มากอีก ซึ่งเข้าหรู ู้ถึงนโปเลียนว่า นางได้ไปพวั พนั เกี่ยวข้องกบั นายพลมรู าต์ นโป
เลยี นเองก็เพียงแตส่ งสยั อยู่ ได้คอยสงั เกตทว่ งทแี ละคาดโทษไว้แตในใจ
อยา่ งไรก็ตาม โปแลตได้เป็ นศตั รูของโยเซฟินทงั้ ตอ่ หน้าและลบั หลงั อยตู่ ลอดเวลา โดยท่ี
นางอ้างวา่ การกระทาํ ของนางนนั้ เป็ นเพ่อื จะชว่ ยเหลอื พ่ีชายผ้ไู มม่ ีความสขุ ของนางทงั้ สนิ ้
ภายหลงั จากการแต่งงานโปแลตกับเลอแคล้กปลดั ทัพบกแล้ว พวกวงศาคณาญาติ
ของนโปเลยี น มีนางเลตีเชียผ้มู ารดาเป็ นต้น ก็ได้พากนั กลบั ไปยงั บ้านทเี่ กาะคอร์ซิกา
นบั แต่บดั นี ้โยเซฟิ นก็มีแต่ความสนุกสนานสราญใจ เพลดิ เพลินอย่กู ับ ส่ิงของมีค่าที่
บรรดาพวกต้องการประจบนโปเลียนนําเอามาให้ เพื่อเป็ นของกํานลั ไม่เคยมีเสยี งบน่ ถึงความ
ทกุ ข์หรือรําคาญใจใด ๆ จากโยเซฟินขณะนเี ้ลย
ต่อมาได้มีเรื่องบงั เอิญเกิดขนึ ้ คือเจ้าสนุ ขั ฟอตเู นของโยเซฟิ นท่ีเคยกดั ขา นโปเลยี นท่ี
เตยี งนอนเมื่อครัง้ แตง่ งานใหม่ ๆ ที่ปารีสนนั้ ได้ไปเท่ียว เกิดไปพบสนุ ขั ของพ่อครัวท่ีในสวน แต่
พอเหน็ กนั เข้า เจ้าฟอตเู น ก็รี่เข้าใสเ่ หมือนกบั ท่ีมนั เคยทําแก่นโปเลยี น เหตนุ นั้ ทําให้มนั ถกู สนุ ขั
๑๕๔
ของ พอ่ ครัวกดั เอาเสยี จนตาย โยเซฟิ นเศร้าโศกและอาลยั เจ้าสนุ ขั ตวั โปรดนี ้เป็ นอยา่ งยิ่ง นโป
เลยี นเองก็ไมส่ ามารถจะทําอะไรได้นอกจากแสดงความสงสาร และทกุ ข์โศกไปกบั โยเซฟิ นด้วย
อยา่ งจริงใจ แตว่ า่ ดีอย่อู ยา่ งหน่ึง คือ นโปเลียนจะได้ไม่ลําบากที่เตียงนอนอีก เพราะนโปเลียน
จะได้มีสทิ ธิ์อสิ ระและเป็ นเจ้าของ เตยี งนอนของโยเซฟินแตเ่ พียงผ้เู ดียว
อนงึ่ ท่ปี ราสาทมองต์เบลโลท่ีเมอื งมิลานนี ้เต็มไปด้วยบคุ คลตา่ ง ๆ ชนิด มคี นสื่อขา่ ว มี
ทตู ท่ีมาจากที่ต่าง ๆ แม้กระทงั่ เวียนนา เลกฮอร์น และเจนวั นโปเลยี นต้อนรับบคุ คลต่าง ๆ นี ้
ด้วยอธั ยาศยั ไมตรีดีย่ิง บรรดาผ้ทู ี่มาจากสถานที่ ต่าง ๆ เหลา่ นี ้ตา่ งก็พากนั ประหลาดใจที่แม่
ทพั หนมุ่ ผ้นู ีไ้ มเ่ คยมีความกระดากอาย ใด ๆ เลย เป็ นคนท่ีรู้สกึ ตวั และวางตวั เป็ นอย่างธรรมดา
ที่สดุ แต่งตวั ก็อย่างท่ีง่าย ๆ คนท่ีมาหานนั้ โดยมากมีร่างกายสงู กว่านโปเลียน นโปเลียนก็ไม่
รู้สกึ ประหลาด อะไร แตใ่ นเวลาพดู คนเหลา่ นนั้ มกั จะยอ่ ตวั ลงในฐานแสดงความเคารพ มีผ้หู นง่ึ
ในบรรดาเหล่านนั้ ได้บนั ทกึ เอาไว้ว่า ๐ชายผ้นู ีถ้ ้าไม่ตายในสนามรบ อีก ๔ ปี ก็คงถูกเนรเทศ
หรือไมก่ ็คงเป็ นพระเจ้าแผน่ ดนิ ๑ ซงึ่ ความจริงแล้ว คําทายนผี ้ ดิ ไปถึง ๓ ปี
นโปเลียนชอบศึกษาชีวประวตั ิของคนสําคญั ๆ ครัง้ โบราณ และถ่องแท้ว่าการกระทํา
ของบคุ คลสําคญั ๆ นนั้ ย่อมจะทิง้ รอยปรากฏอย่แู ก่อนุชนรุ่นหลงั มาบดั นี ้นโปเลียนจึงเป็ นผ้ทู ่ี
ฉลาดในการท่ีจะเผยแผช่ ื่อเสยี ง เป็ นอยา่ งดี
ณ ปราสาทมองต์เบลโลนี ้ได้มีนกั หนงั สอื พิมพ์ทส่ี ามารถ มาประจําอยู่ มีหน้าท่เี ขยี นขา่ ว
สง่ ไปตีพมิ พ์ในกรุงปารีส ทงั้ ยงั ได้ต้อนรับพวกนกั ประพนั ธ์ นกั กวี นกั บนั ทกึ ประวตั ิศาสตร์ ศลิ ปิ น
และนกั วิทยศาสตร์ ดปู ระหนงึ่ วา่ จะเป็ นสถานที่ รวมและห้อมล้อมด้วยผ้ทู รงวิทยาคณุ ทงั้ หลาย
ณ ปราสาทอนั เป็ นทีพ่ กั ของนโป เลยี นนี ้
เม่ือปี ก่อนนี ้ คือ เม่ือครากรีฑาพลเข้านครมิลาน ทัง้ ๆ ท่ีนโปเลียนมีภารกิจยุ่งเหยิง
รอบตวั ก็ยงั มเี วลาไปสนใจกบั วทิ ยาศาสตร์ ได้เขยี นจดหมาย ฉบบั หนึง่ ถึงนกั วิทยาศาสตร์มีชื่อ
คนหนงึ่ วา่ ๐...วิทยาซงึ่ แสดงความวิเศษของใจ มนษุ ย์ ศิลปะที่ทําให้โลกงดงามและมอบมรดก
อนั ใหญ่ย่ิงให้แก่คนชนั้ ลกู หลาน จะต้องได้รับอปุ การะเป็ นอยา่ งดีที่สดุ ในวนั ที่มีเสรีภาพ คนมี
สติปัญญาเฉลียวฉลาด คนมีช่ือเสียงในทางความรู้ ล้วนเป็ นชาวฝร่ังเศส ถึงแม้ว่าจะเกิดใน
ดนิ แดนตา่ งประเทศไหน ๆ ก็ ตาม เพราะวา่ ประชาชนฝรั่งเศสนนั้ ต้องการนกั คํานวณชนั้ เยี่ยม
นกั รบชนั้ เอก มากกวา่ ทจี่ ะอยากได้ดนิ แดนที่ มง่ั คง่ั สมบรู ณ์ และด้วยเหตนุ ี ้ข้าพเจ้าจงึ ปรารถนา
๑๕๕
ให้ทา่ นช่วยประกาศ ความรู้สกึ อนั นไี ้ ว้ ให้พวกนกั ปราชญ์ทงั้ หลายในนครมลิ านทราบทว่ั กนั ๑
ได้มีผ้บู รรยายลกั ษณะของนโปเลยี นในสมยั กําลงั ทําการรบอยนู่ ีว้ า่ คนผ้นู ีท้ ว่ งทียงั เคอะ
เขินอย่บู ้างบางเวลา แต่ก็มีอํานาจสิ่งหนึ่งดูดดึงหวั ใจคนให้โน้มน้าวเข้ามาเก่ียวข้อง มีชนั้ เชิง
แหง่ ความเป็ นใหญ่เป็ นโตอยใู่ นอิริยาบถทกุ อยา่ ง ทกุ ๆ คนทเี่ กี่ยวข้องจะต้องเช่ือฟังคําสง่ั ในท่ี
ประชมุ ชน นโปเลยี นพยายามวางตวั ให้เป็ นที่เคารพนบั ถือ แตใ่ นชีวิตจริงสว่ นตวั แล้ว นบั ว่าไมม่ ี
พิธีรีตองใด ๆ ประพฤตอิ ยา่ งเป็ นกนั เองโดยตลอด อารมณ์ดี ชอบพดู ตลกขบขนั เลน่ หวั และร่วม
รื่นเริงสนกุ สนานกบั ใคร ๆ ได้เสมอ เป็ นคนไมท่ ํางานหนกั จนเกินไป เมื่อวา่ ธุระแล้วใครไปหาก็ได้
แตถ่ ้าเวลาทํางานก็ปิ ดประตไู มย่ อมพบกบั ใครทงั้ สนิ ้ ไมว่ า่ จะเป็ นคนชนั้ ไหน และด้วยเหตทุ ี่เป็ น
ผ้มู ีประสาทไว ฉะนนั้ จึงรู้สกึ เหน็ดเหนื่อย เร็ว และต้องการนอนมาก ในบางครัง้ ปรากฏว่านอน
คราวหนง่ึ ๆ ตงั้ ๑๐ ถึง ๑๑ ชั่วโมง แต่วา่ ถ้าจําเป็ นจะต้องปลกุ ขนึ ้ แล้ว นโปเลียนก็สามารถใช้
เวลาต่นื ขนึ ้ นนั้ ทํางานชดเชยเวลาที่เสยี ไปในการนอนหลบั ได้เทา่ เทียมพอดีกนั ทงั้ สามารถ จะ
นอนหลบั ได้ทกุ ๆ เวลาท่ีต้องการจะหลบั เพื่อท่ีจะออมแรงเอาไว้ใช้งานที่จะทํา ในเวลาต่อไป
ชอบขีม่ ้าเร็ว ๆ ถึงแม้วา่ จะนงั่ ม้าตวั ลอยก้นไมค่ อ่ ยจะติดหลงั ม้า
ระหว่างเวลาท่ีนโปเลียนรอการเจรจาสงบศึกกับออสเตรีย โยเซฟิ นก็ปล่อยตัว ให้
เพลดิ เพลนิ อยใู่ นความสนกุ สนาน เท่ยี วชมสถานทต่ี า่ ง ๆ ตามชนบทใกล้เคียง
เมอ่ื สญั ญาสงบศกึ กบั ออสเตรียได้ตกลงเซน็ กนั แล้ว นโปเลยี นได้เดนิ ทางจากนครมิลาน
ไปเมืองรัสตาทท์ (Rastatt) เพื่อเข้าร่วมประชมุ คองเกรส ท่นี น่ั
สว่ นโยเซฟิ นกบั ยูจีนบุตรชาย ได้แยกทางกลบั เข้าปารีส มีการแห่แหน รื่นเริงชัยชนะ
ขบวนได้ตัง้ ต้นท่ีเมืองตูรินไปสุดสิน้ ในเมืองสําคัญ ๆ ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส และตลอด
ระยะทางทผ่ี า่ น ประชาชนพลเมืองได้คอยต้อนรับโหร่ ้องแสดงความยินดอี ยทู่ วั่ หน้า
๑๕๖
บทท่ี ๑๘
เดนิ ทางกลับกรุงปารีส
ขณะท่ีโยเซฟิ นกับบุตร พร้อมด้วยเพ่ือนเดินทางกาลังเดินทางอยู่ในอิตาลีเพื่อเข้าสกู่ รุง
ปารีสนนั้ นโปเลียนได้ไปถึงเมืองรัสตาทท์แล้ว และหลงั จากที่ได้พกั อย่ทู ี่รัสตาทท์ ๕ วนั เขาก็
ได้รับหนงั สอื จากคณะกรรมาธิการ กรุงปารีสเร่งให้เขารีบกลบั เข้ากรุงปารีสโดยเร็วท่ีสดุ
ตลอดเวลาที่พกั อยู่ ณ รัสตาทท์ นโปเลียนได้ปรึกษาหารือกบั ทตู ของ พระจกั รพรรดิฟ
รานชิสถึงรายละเอียดอนั เก่ียวกบั การปฏิบตั ิตามสญั ญาสงบศึก รวมไปถึงเร่ืองการถอนทหาร
ออกจากเมืองแมงซ์ (Meinz) การหารือกนั ในครัง้ นนั้ โอ้เอ้ไมค่ อ่ ยจะตกลงกนั ได้ นโปเลียนได้ใช้
วิธีทงั้ ปลอบทงั้ ขู่ และบางครัง้ ก็เอาใจคณะทูต ๒ คนนีต้ ามแต่โอกาสจะอํานวย อนึ่ง ในการ
เจรจาข้อปลกี ยอ่ ยเบด็ เตลด็ ครัง้ นี ้นโปเลยี นได้ให้นาฬิกาแก่ทตู คนหน่งึ อีกคนหนึง่ ให้เข็มขดั รัด
หมวกประดบั เพชรเป็ นของขวญั ทตู ทงั้ ๒ นี ้จนมากจึงตา่ งก็พอใจในของกํานลั นนั้
จะเป็ นด้วยมีนิสยั เมตตากรุณาหรือมคี วามหยงิ่ อยา่ งใดอย่างหน่งึ นโปเลียนนิยมการให้
ของกํานลั อยา่ งฟ่ มุ เฟือยเสมอ มีคนเป็ นอนั มาก ทีพ่ ากนั เห็นไปวา่ นโปเลยี นนนั้ ก็เหมอื น ๆ กบั กา
หลิบ ซ่ึงชอบให้ของกํานัล ชอบแสดงความฟ่ ุมเฟื เอย แต่ถ้ าหากว่าจะเป็ นจะต้องแสดง
ความชอบใจในการกระทําของใครซงึ่ สมควรจะได้รับความขอบใจ แท้จริงแล้ว นโปเลยี นก็แสดง
ความขอบคณุ ได้อยา่ งสภุ าพทีส่ ดุ คล้าย ๆ กบั เป็ นพวกวรี บรุ ุษสมยั โบราณฉะนนั้
ทีส่ นามรบเมืองอาร์โกลา ทหารผ้ซู ง่ึ ได้ยดึ ธงประจํากองของข้าศกึ ด้มากท่ีสดุ นโปเลยี นก็
ยกธงนนั้ ให้เก็บไว้เป็ นท่ีระลกึ ได้เคยให้ธงนีแ้ ก่นายพลลานซ์ (Lannes) พร้อมกบั เขียนหนงั สอื
กํากบั เอาไว้ด้วยวา่ ๐ท่ีเมืองอาร์โกลา มีบางวนั ซ่งึ โชคชะตาในวนั นนั้ ไมแ่ น่นอน ถ้านอกไปจาก
ความกล้าหาญอย่างย่ิงยวดของพวกนายทพั นายกองแล้ว ก็ไม่มีอะไรท่ีจะทําให้ชยั ชนะเกิดขนึ ้
ได้ ทา่ นเองทงั้ ๆ ท่เี ลอื ดกําลงั ไหลออกจากแผลฉกรรจ์ ๓ แผล ทา่ นก็ยงั ออกจากโรงพยาบาลมา
เพือ่ จะเอาชยั ชนะข้าศกึ ข้าพเจ้าได้เหน็ ทา่ นอยใู่ นแนวหน้าในกองทหารท่ีกล้าหาญ ท่านเป็ นคน
แรก ที่ข้ามแม่นํา้ แอดดาไป ฉะนนั้ ท่านจึงสมควรจะเป็ นผ้มู ีกรรมสิทธิ์ และพิทกั ษ์ธงเพ่ือความ
รุ่งโรจน์ผนื นี๑้
๑๕๗
ความยิ่งใหญ่ของนโปเลียนในปารีส
นโปเลียนมีนิสยั ชอบติและชอบชมอย่างเปิ ดเผยอย่างนี ้ ที่จริง นโปเลียนเองย่อมรู้ว่า
คําพดู ของเขานนั้ จะมีผลกระทบกระเทือนไปยงั ทาง กรุงปารีส ในเมอ่ื ถ้าหากวา่ ได้ยกยอ่ งชมเชย
ใครอย่างเปิ ดเผย และในทํานองเดียวกันถ้าหากว่าจะเป็ นจะต้องตําหนิใครแล้วก็ชอบท่ีจะ
ตกั เตือนเปิ ดเผยซง่ึ หน้าดจุ เดียวกนั
นโปเลยี นมงุ่ หมายที่จะปฏิบตั ิตวั ให้บคุ คลภายนอกเห็นวา่ เป็ นผ้อู ่อนน้อม ถ่อมตน อนึง่
ในระหว่างการเจรจาสงบศึกกันนี ้ เขาได้จดหมายติดต่อกับ บุคคลผ้หู นึ่งซึ่งได้เข้ามาร่วมวง
การเมืองในคณะรัฐบาลชุดปัจจุบนั คนผ้นู ีค้ ือ ตาลเลรังค์ (Talletrand) ผ้ซู ึ่งบดั นีก้ ําลงั ดํารง
ตําแหนง่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง การตา่ งประเทศ
ตาลเลรังค์เป็ นบชิ อบในตระกลู เกา่ แก่ แตไ่ ด้คอ่ ย ๆ จําแลงแปลง เปลย่ี นตนเองมาตงั้ แต่
รัชสมยั แหง่ ราชวงศ์บรู ์บอง กระทงั่ บดั นกี ้ ็ได้กลาย มาเป็ นนกั สาธารณาธิปไตยอยา่ งเต็มตวั โป๊ ป
จึงได้ควํ่าบาตรเสีย เม่ือระหว่างท่ีกรุงปารีสเกิดการเขน่ ฆ่ากันชนิดคอขาดบาดตายนนั้ ตาลเล
รังค์ผ้นู ไี ้ ด้หลบหนไี ปซอ่ นตวั อย่เู สยี ที่สหรัฐอเมริกา แล้วก็ได้กลบั มายงั ปารีสในช่วงเวลาที่มีการ
เลือกตงั้ คณะกรรมาธิการชุดใหม่ คือจาก ท่ีมีกรรมาธิการเพียง ๓ คน มาเป็ นมีกรรมาธิการ
บริหารแผ่นดิน ๕ คน ในจํานวนนีม้ ีทงั้ มิตรและศตั รูของนโปเลียนระคนปนอยู่ อย่างไรก็ตาม
สภาคณะกรรมาธิการท่ีตงั้ ใหมน่ กี ้ ็มีฐานะง่อนแง่นคลอนแคลนไม่มีท่าทีว่าจะเป็ นปึ กแผ่นขนึ ้ มา
๑๕๘
ได้นโปเลยี นเองก็ไมเ่ คยละสายตาคอยสอดสอ่ ง พจิ ารณาความเคลอื่ นไหวของคณะกรรมาธิการ
อยเู่ สมอ
ตาลเลรังค์ได้ถูกเรียกเข้ ามารับหน้ าที่ในตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การ
ตา่ งประเทศ ภายหลงั ทีไ่ ด้เปลย่ี นคณะกรรมาธิการแล้ว
ตาลเลรังค์ยงั ไม่เคยเห็นหน้าตานโปเลยี นจริง ๆ ว่าเป็ นอย่างไร แตเ่ ขาก็รู้ดีว่านโปเลยี น
เป็ นคนทกี่ ้าวหน้า และเขาก็มองวา่ อนาคตของ ฝร่ังเศสนนั้ อยทู่ ี่นโปเลยี น เพราะคิดเช่นนีเ้ อง จึง
ทําให้ในตอนต้น ๆ ตาลเลรังค์จึงแสดงออกถึงความยินดีทจ่ี ะให้ความช่วยเหลอื และยอมทํางาน
เพื่อ นโปเลยี น
ตาลเลรังค์เป็ นคนไมใ่ คร่จะเช่ือในสงิ่ ใดได้งา่ ย ๆ เป็ นผ้มู คี วามรู้สกึ นกึ คิด กว้างขวางโดย
ไม่ยึดถือหลักอะไรเป็ นบรรทัดฐาน แต่อารมณ์รุนแรงเป็ นปกติวิ สัย มีความโลภ ความ
ทะเยอทะยาน พดู เก่ง ปรับตวั เองได้เหมาะเจาะแก่กาลสมยั และเหมาะแก่ความรู้สกึ ของคนที่
ตาลเลรังค์ต้องการจะใช้เป็ นเคร่ืองมือ เพ่ือตวั ของตวั เอง เขาเคยรับใช้แตเ่ ฉพาะคนที่มีอํานาจ
ราชศกั ด์ิมาแล้วร่วม ๔๐ ปี แตไ่ มเ่ คยทาํ ให้ตวั เองต้องถกู ผกู มดั จนถึงจดุ ที่จะทาํ ให้ตนเองต้องลม่
หวั จมทาั ยกบั ใครแม้แตค่ นเดียว ตาลเลรังค์พิการโดยอบุ ตั ิเหตตุ งั้ แต่ยงั เยาว์ ไมอ่ าจเป็ นทหาร
ได้นนั้ เองทท่ี ําให้เขาต้องไปเป็ นพระ
ตาลเลรังค์กลายเป็ นคนที่ทําให้นโปเลยี นให้ความสนใจมาก และ มองว่าคนผ้นู ีแ้ หละที่
ในเบอื ้ งหน้าก็จะได้เห็นกนั วา่ เขาจะทําอะไรให้แกน่ โปเลยี น
แตก่ ่อน ๆ มาสง่ิ ทน่ี โปเลยี นปรารถนานนั้ ก็เป็ นแต่เพียงเร่ืองการเป็ นทหาร แต่เด๋ียวนีเ้ ขา
กลายเป็ นคนในระดบั รัฐบรุ ุษไปแล้ว จึงจําเป็ น ที่จะตอั งใช้คน ที่เป็ นรัฐบรุ ุษด้วย นโปเลยี นเห็น
ว่าตาลเลรังค์นีแ้ หละเหมาะเจาะสําหรับ การเจรจาความเมืองอย่างย่ิงในระหว่างที่นโปเลียน
กําลงั ทําการตกลงสญั ญา สงบศึกกบั ออสเตรีย เขาได้ติดตอ่ กันทางจดหมายกบั ตาลเลรังค์อยู่
เสมอ และด้วยใจความในจดหมายของนโปเลียนนีเ้ อง ได้เป็ นเหมือนกระจกเงา ฉายให้ตาลเล
รังค์เห็นจุดลกึ ซึง้ สําคญั ของนโปเลียนได้ถนดั ถนี่ ๐...การจดั ระเบียบ อํานาจการปกครองของ
ประเทศฝร่ังเศสนัน้ แท้ จริงเพิ่งจะเร่ิมขึน้ เท่านัน้ ถึงแม้ ว่าเราจะเชื่อว่าตัวเรามีความรู้
ความสามารถเพียงไร เราชาวฝร่ังเศส ก็ยงั ออ่ นแก่ความรู้ในทางการเมืองมากนกั เวลานีเ้ รายงั
ไมร่ ู้ถึงความแตกตา่ งระหวา่ งอาํ นาจบริหาร ตลุ าการ และนิติบญั ญตั ิ ในฐานะท่ีเราปกครองโดย
๑๕๙
อาศยั อาํ นาจสงู สดุ จากพลเมอื ง...๑ และอีกฉบบั หน่ึงวา่ ๐...มนั เป็ นเคราะห์ร้ายอยา่ งใหญ่หลวง
ที่วา่ ในศตวรรษท่ี ๑๘ ชาตฝิ รั่งเศส ซง่ึ มีพลเมอื งถึง ๓๐ ล้านคน จําเป็ นต้องจบั อาวธุ เพือ่ ป้ องกนั
ประเทศชาติ การท่ีต้องใช้กําลงั ทหารเช่นนี ้เป็ นภาระหนกั แก่ผ้บู ญั ญตั ิกฎหมาย เพราะเหตวุ า่ รัฐ
ธรรมนญุ ทส่ี าํ คญั สําหรับมนษุ ย์นนั้ จําเป็ นท่ีจะต้องคิดถึงมนษุ ย์ท่ีอยภู่ ายใต้รัฐธรรมนญู ด้วย...
ทาํ ไมเราถึงไมค่ ดิ ทจี่ ะยดึ เอา เกาะมอลต้าเสยี เลา่ ในเรื่องนีข้ ้าพเจ้ามีความเห็นว่า เราควรจะได้
ยดึ ทรัพย์สมบตั ขิ องพวกขนุ นางในเกาะมอลต้า เม่อื เราได้เกาะมอลต้าทงั้ เกาะแล้ว เกาะคอร์ฟกู ็
จะตกเป็ นของเรา ซงึ่ นนั้ จะทําให้เรารู้จกั ทะเลเมดเิ ตอร์เรเนียนมากขนึ ้ อีกประการหน่ึง ถ้าเราไม่
สามารถท่ีจะขับไล่อังกฤษให้พ้นไปจากแหลมกู๊ดโฮป เราก็ต้องยึดอียิปต์ ถ้ าเรามีทหาร
๒๕,๐๐๐ คน และมีเรือ ๑๐ ลาํ เราก็ควรจะเส่ยี งโชคดู อียิปต์ไม่ได้เป็ นของสลุ ต่าน ขอให้ทา่ น
ลองคิดดเู ถิดวา่ การยกทพั ไปอียิปต์นีจ้ ะมีผลมากเพียงใด จกั รภพเตอร์กีกําลงั จะแตกทลายลง
เพราะฉะนนั้ เราจะต้องคิดถงึ การค้าของเราในทางทศิ ตะวนั ออกด้วย...๑
ทหารฝรัง่ เศสเข้าสกู่ รุงโรมปี 1798
จากจดหมายทีเ่ ปิ ดเผยความคิดเหน็ อยา่ งนี ้ทําให้ตาลเลรังค์คิดวา่ นโปเลยี นช่างเป็ นคน
๑๖๐
ท่ีมีความมกั ใหญ่ใฝ่ สงู มากมายถึงปานนี ้ช่ือเสียงในทางทหารก็เป็ นท่ีกึกก้องอย่เู หลือเกินแล้ว
นโปเลยี นผ้นู ีย้ งั คิดการใหญ่ไปเบือ้ งหน้าไม่มีที่สิน้ สดุ อีกเล่า ตาลเลรังค์รู้สกึ ในใจว่านโปเลียน
คิดการทผ่ี ดิ กบั ธรรมดาสามญั คน หากแตม่ ีสติปัญญา กว้างขวางและหลกั แหลมเกินเปรียบ
แท้จริง จิตใจของนโปเลยี นนนั้ เตม็ ไปด้วยแผนการใหญ่ ๆ เมื่อย่ิงก้าวหน้าไปเท่าไร ก็ย่ิง
แลเห็นชื่อเสยี งชยั ชนะลอยตดิ อยขู่ ้างหน้า และมองเห็นไกลออกไปคล้าย ๆ กบั จะเรียกร้องชวน
เชิญให้นโปเลยี น ก้าวตามเข้าไปหาโดยไมร่ ู้ที่สนิ ้ สดุ
ณ บดั นี ้นโปเลยี นกําลงั นง่ั อยกู่ บั บเู รียน (Bourrienne) ในรถท่ีกําลงั ออกจากอิตาลี มงุ่
หน้าเข้าส่กู รุงปารีส นโปเลียนได้พดู กบั บูเรียนถึงการชิงชยั เพ่ือชื่อเสียงว่า ๐...ถ้าหากเราได้ทํา
การรบและชนะอยา่ งในอิตาลนี อี ้ กี สกั ๒-๓ ครัง้ เราจะมชี ื่อเสยี งมากจนปรากฏแก่คนรุ่นหลงั ...๑
บเู รียนก็ได้ให้ความเห็นว่า ช่ือเสียงของนโปเลียนในเวลานีม้ ากมายถึงขนาดแล้ว แต่นโปเลยี น
กลบั หวั เราะและพดู วา่ ๐...ทา่ นยกยอข้าพเจ้าเกินไป ความจริงถ้าหากว่าข้าพเจ้าตายลงในวนั นี ้
อีก ๑,๐๐๐ ปี เท่านัน้ ประวัติการณ์เกี่ยวกับ ข้าพเจ้ าก็จะเหลือเพียงสักคร่ึงหน้าในหน้า
ประวตั ศิ าสตร์สากล๑
การตอ้ นรับอยา่ งสมเกียรติ
๑๖๑
มาดาม เดอ สตาเอล
๑๖๒
บทท่ี ๑๙
แผนการโจมตีอียปิ ต์
ท่ีกรุงปารีสในวันท่ี ๑๐ ธันวาคม ค.ศ.๑๗๙๘ นัน้ คณะกรรมาธิการได้จดั งานต้อนรับนโป
เลยี นขนึ ้ ที่พระราชวงั ลกุ แซมเบิร์ก (Luxembourg) มีลกั ษณะเป็ นการประชมุ คร่ึงวงกลม สถานที่
ตา่ ง ๆ ก็ได้จดั แตง่ ด้วย อาวธุ และธงทวิ ตา่ ง ๆ ตลอดทงั้ สงิ่ ของที่ยดึ ได้จากอิตาลีมาแสดง พร้อม
ทงั้ เขยี นคําขวญั ด้วยตวั ทองเป็ นคําปลกุ ใจแห่งการปฏิวตั ิ ติดประทบั อยู่ บนกําแพงผนงั และติด
อย่ตู รงท่ีซ่งึ ในครัง้ ก่อนนี ้พวกขุนนางข้าราชบริพารได้นงั่ อย่รู อบ ๆ ล้อมท่ีประทบั ขององค์พระ
เจ้าแผน่ ดิน
ปารีสยามนี ้อนุ่ หนาฝาคงั่ ไปด้วยประชาชนท่ีตา่ งก็แตง่ ตวั หรูหรา คล้ายกบั วา่ ทกุ คนล้วน
แต่มีเงินเพื่องานฉลองนีก้ ัน ทงั้ ๆ ท่ีน่ีเป็ นฤดูหนาว ท่ีนัง่ ตอนหน้าเต็มไปด้วยสภุ าพสตรี ซึ่ง
สว่ นมากเป็ นผ้ใู กล้ชิดและ ค้นุ เคยของบรรดาผ้มู ีอํานาจในแผน่ ดินขณะนนั้ ตา่ งคนตา่ งก็หวงั จะ
ได้ เห็นโฉมหน้าแมท่ พั หนมุ่ ผ้กู ล้าหาญให้ถนดั ในระยะใกล้ ๆ
มเี สยี งพดู ในหมปู่ ระชาชนวา่ นโปเลียนได้เข้ามาถึงกรุงปารีส เกือบอาทิตย์หน่ึงแล้ว แต่
ยงั ไมเ่ คยมีใครได้เห็นหน้าเลย ทําไมเขาจงึ หลบซอ่ นการต้อนรับของประชาชน และในทนั ทีนนั้ ก็
ได้ยนิ เสยี งพดู กนั ตอ่ ๆ มาวา่ ได้มอี าณตั ิสญั ญาให้คณะกรรมาธิการเข้ามาในทปี่ ระชมุ แล้ว แล้ว
เสยี งบทร้องเพลงสดดุ ีแห่งเสรีภาพก็ดงั ขนึ ้ ตา่ งคนตา่ งพากนั ร้องตาม เมื่อเสยี งเพลงจบลงแล้ว
มีเสยี งดาบกระทบกันสลบั กบั เสยี งเดือยจากส้นรองเท้ากระทบพืน้ ฝงู ชนตา่ งก็พากนั เพ่งมอง
รวมสายตาไปอยู่ ณ ทจี่ ดุ ๆ เดยี วกนั
นโปเลียนสวมเครื่องแบบสนาม ซ่ึงเป็ นเครื่องแบบที่ไม่ส้จู ะโอ่โถงนกั สีหน้าเคร่งครัด
ก้าวเดนิ ด้วยอาการกระฉบั กระเฉงขนึ ้ สทู่ ่ียกพืน้ ในมือมีแผ่นกระดาษม้วนหนึ่ง และมีนายทหาร
ผ้ชู ่วยเดินตามด้วยความใกล้ชิด ๓ คน ตาลเลรังค์ในเครื่องแตง่ กายทปี่ ระดบั ด้วยไหมทองเตม็ ไป
ทงั้ ตวั สวมถงุ เท้าแพรเดนิ กระโผลกกระเผลกเป็ นผ้เู ดินนําเข้ามา ขณะนนั้ มีเสยี งปื นใหญ่ยิงสลตุ
เป็ นการแสดงความเคารพ เสียงโห่ร้ องของประชาชนกึกก้องไปทว่ั ทงั้ พระราชวงั ตลอดไป จน
บรรดาพวกท่อี ยขู่ ้างนอก ก็ขานโหข่ นึ ้ รับเป็ นมโหฬารเอกิ เกริกยิ่งนกั ในวนั นนั้
๑๖๓
ครัน้ เมื่อเสยี งโหร่ ้องสงบลงแล้ว ตาลเลรังค์ รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงการต่างประเทศได้
เป็ นผู้พูดนําขึน้ ในท่ามกลางที่ประชุมของ ผู้ทรงอํานาจทัง้ หลาย คําพูดเรียบ ๆ แต่ว่ามี
ความหมายลกึ ซงึ ้ ซง่ึ น้อยคนจะเข้าใจได้ และได้กลา่ วสรรเสริญความเป็ นอยอู่ ย่างง่าย ๆ ของน
โปเลียน ผู้ซ่ึงได้ช่วยประเทศชาติไว้ และในที่สดุ ก็ได้จบลงด้วยคําว่า ๐ฝรั่งเศสจะได้เสรีภาพ
เว้นเสยี แตน่ โปเลยี นคนเดยี วเทา่ นนั้ เพราะเหตวุ า่ นโปเลยี นนี ้ต้องเป็ นทตู แหง่ โชคชะตา...๏'
เสียงปรบมือดงั ขึน้ จากหมู่ประชาชน แต่คนที่เข้าใจความหมาย คําพูดของตาลเลรังค์
เป็ นอย่างดี ก็คือนโปเลียนเอง ครัน้ แล้วนโปเลียนเดินออกมา และกลา่ วตอบสนั้ ๆ ว่า ๐ชาติ
ฝร่ังเศสจะต้องตอ่ ส้กู บั พระเจ้าแผน่ ดินของเราเอง เพื่อที่จะเอาเสรีภาพมา ศาสนาก็ดี ลทั ธิเจ้าผู้
ครองนครก็ดี ลทั ธิการปกครอง โดยพระมหากษัตริย์ก็ดี ได้มีอํานาจอยู่เหนือยุโรปมาเกือบ
๒,๐๐๐ ปี แล้ว สว่ นระบอบประชาธิปไตยนนั้ เพิ่งจะเริ่มตงั้ ต้น เป็ นความดีอยา่ งใหญ่หลวง ของ
ชาติเราที่ได้ขยายอาณาเขตไปจนถึงดินแดนซ่ึงธรรมชาติได้สร้ างไว้ และยงั ไกลไปกว่านนั้ อีก
เมื่อไปได้ดินแดนท่ีน่าช่ืนชม ๒ ประเทศในภาคอิตาลี อันมีชื่อเสียงเป็ นเลิศในทางศิลปะ
วิทยาการ ประกอบด้วยพลเมืองท่ีเฉลียว ฉลาดรักเสรีภาพ ข้าพเจ้าขอนําเสนอท่านทงั้ หลาย
ด้วยสญั ญาสนั ติภาพแห่ง เมืองคมั โป ฟอร์มิโอ ซึ่งพระจักรพรรดิฟรานซิสได้ให้สตั ยาบนั แล้ว
เม่ือโชคชะตาของชาติเราได้ฝังรากลงบนระบอบการปกครองที่ดีแล้ว ยุโรปทงั้ ทวีปก็จะได้รับ
เสรีภาพถ้วนทวั่ กนั ...๑
ไมใช่เป็ นสนุ ทรพจน์ท่ีนบั ว่าไพเราะ ไม่ได้เป็ นคําพูดท่ีพูดถูกหลกั ของนักพูด เม่ือนโป
เลยี นหยดุ พดู แล้ว ประชาชนก็สงบอยคู่ รู่หนง่ึ จงึ เปลง่ เสยี งโหร่ ้องขนึ ้ แตไ่ ม่
๑๖๔
ใช่เป็ นการโห่ร้องด้วยความพึงพอใจในสนุ ทรพจน์นนั้ หากแต่ได้โห่ร้ องขึน้ เพ่ือยินดีแก่ตวั นโป
เลยี น สว่ นนโปเลยี นนนั้ เคยพดู แต่ในสนามรบ พดู กบั ทหารในการบงั คบั บญั ชา และเคยพดู กบั
ประชาชนในเกาะคอร์ซกิ า แตไ่ มเ่ คยเลยในชีวิตท่ีจะได้พดู ในสถานท่ี และแก่คนทส่ี งู สง่ มีอํานาจ
อยใู่ นสมาคมนกั การเมอื งพรรคตา่ ง ๆ อยา่ งในขณะปัจจบุ นั นี ้
พวกคณะกรรมาธิการทงั้ ๕ เข้าใจดีว่านโปเลียนมีความมงุ่ หมายมกั ใหญ่ใฝ่ สงู ในทาง
การเมอื งอยา่ งไร ถ้าหากวา่ นโปเลยี นมีความรู้สกึ ที่ ทะเยอทะยานในการเมืองแล้ว มหาภยั ใหญ่
หลวงก็ย่อมจะมีแก่คณะกรรมาธิการ ปัจจุบนั เป็ นแน่แท้ แต่ว่าบารราสเป็ นผู้มีสติดีได้กล่าว
สนุ ทรพจน์ตอ่ จากนโปเลยี น แล้วได้เข้าสวมกอดนโปเลียนซงึ่ เป็ นการสวมกอดเป็ นครัง้ แรกและ
ครัง้ สดุ ท้าย
งานรับรองซงึ่ ได้จดั ขนึ ้ โดยคณะกรรมาธิการนี ้ว่าโดยท่ีแท้แล้ว ผลท่ีออกมานนั้ มาจาก
การเจ้ากีเ้จ้าการของตาลเลรังค์เพียงคนเดียว ตาลเลรังค์มีความปรารถนาที่จะทําตวั ของตวั ให้
เป็ นท่ีสนิทชิดชอบของ นโปเลยี นผ้ชู นะศกึ นโปเลยี นเองก็มีความพอใจในตาลเลรังค์อย่ดู ้วยดจุ
กนั การประจบประแจงของตาลเลรังค์นี ้แม้คณะกรรมาธิการก็ไมม่ ี อํานาจอนั ชอบธรรมใด ๆ
จะไปขดั ขวาง ตาลเลรังค์เคยขายพระเจ้า เคย ขายศาสนา ทงั้ เคยขายกษัตริย์ และการจะขาย
คณะกรรมาธิการอีกนี ้คงไม่เป็ นของยากในเบือ้ งหน้า แม้นโปเลียนเองก็ไม่พ้นจะถกู คนผ้นู ีเ้ อา
ไปขายอีกตอ่ ไปด้วย
เสร็จจากงานของคณะกรรมาธิการนีแ้ ล้ว ตาลเลรังค์ตกลงว่า จะ จดั งานรับรองเป็ น
พิเศษขนึ ้ ที่บ้านของเขา แตเ่ พ่ือท่จี ะให้เป็ นท่ถี กู ใจของ นโปเลยี นยิง่ ขนึ ้ ตาลเลรังค์จึงคอยวนั ท่ีโย
เซฟินจะกลบั มาถงึ เพราะระหวา่ งทน่ี โปเลยี นมาถงึ ปารีสแล้วถึงเดือนหนงึ่ โยเซฟินจงึ ได้เดินทาง
มาถึง
อนึ่ง ในระหว่างนีไ้ ด้มีหญิงคนหน่ึงผ่านเข้ามาในชีวิตของนโปเลียนอีก เป็ นคนรูปสวย
เฉลยี วฉลาด แตว่ า่ ฉลาดเกินไป จนนโปเลยี นเองก็ไม่ชอบหญิงผ้นู ี ้นน่ั คือ มาดาม เดอ สตาเอล
(Madame De Stael) บตุ รีของเนกเกอร์ (Necker) มาดาม เดอ สตาเอล เป็ นคนช่างพดู คยุ สนกุ
กว้างขวางในสมาคมชนั้ สงู และมาดาม เดอ สตาเอลผ้นู เี ้อง ท่ไี ด้เป็ นผ้สู นบั สนนุ ให้ตาลเลรังค์ได้
เข้ามา บริหารการเมืองของประเทศในตําแเหนง่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง การตา่ งประเทศ
นโปเลียนได้ระมดั ระวงั ตวั อย่างย่ิงท่ีจะไม่ให้การคบหากบั มาดาม เดอ สตาเอลนีส้ นิท
๑๖๕
สนมจนเกินไป
ตาลเลรังค์ได้จัดการงานต้อนรับนโปเลียนท่ีบ้านพกั เฉพาะเงินท่ีออกเป็ นค่าตกแต่ง
สถานท่ีสงู ถงึ ๑๐,๐๐๐ ฟรังค์ จึงนบั วา่ งานนภี ้ มู ิฐาน ใหญ่โตยง่ิ ในสมยั นนั้ บรรดาแขกท่ีเชิญมา
ทงั้ หมด ๔,๐๐๐ คน เม่ือเดิน ขนึ ้ บนั ไดใหญ่ ก็ได้ยินเสยี งดนตรีซ่ึงดงั มาจากเรือนกระจกชนั้ บน
ภายใน ห้องประดับรูปสลกั ครึ่งตวั ของบรูตสั ซ่ึงนโปเลียนได้ให้ไว้นานมาแล้ว สว่ นภายนอก
บริเวณก็สวา่ งไสวด้วยแสงประทปี โคมไฟ มกี องทหารเหลา่ ตา่ ง ๆ ตงั้ รับอยเู่ ป็ นกองเกียรติยศ
นโปเลยี นกบั โยเซฟินมาถงึ ที่นเ่ี วลา ๑๖ นาฬกิ าเศษ ทงั้ สองมิได้ หา่ งกนั เลยตลอดเวลา
ได้มกี ารรับประทานอาหารกนั อีกตอนเที่ยงคืน ครัน้ เสร็จจาก การรับประทานอาหารแล้ว
นโปเลยี นก็พาโยเซฟินกลบั งานเลีย้ งรับรอง ของตาลเลรังค์ได้สนิ ้ สดุ ลงด้วยความสนกุ มโหฬาร
สมเกียรติสมยศของ นโปเลยี นผ้ชู นะศกึ
นโปเลยี นได้ซือ้ บ้านเลก็ ๆ หลงั หนงึ่ ซง่ึ โยเซฟินเคยอาศยั อยกู่ อ่ น ณ บ้านหลงั นีเ้ อง นโป
เลียนได้มีความเป็ นอยอู่ ย่างเงียบๆ มีคนใน ครอบครัวที่อย่รู ่วมด้วย คือ พี่ชาย น้องชาย และ
เพื่อนท่ีค้นุ เคยซึ่งไปมาหาสกู่ นั อีก ๒-๓ คน ตามปกตินโปเลียนชอบแต่งตัวแบบพลเรือน นง่ั รถ
ออกไปเท่ียวโดยลาํ พงั เสมอ ๆ และพยายามหลกี เลย่ี งจากการไปสมาคมตามสโมสรตา่ ง ๆ
นโปเลยี นชอบใช้เวลาที่อย่กู บั บ้านให้เพลดิ เพลนิ ไปด้วยการ สนทนาปราศรัยกบั ผ้ทู รง
วทิ ยาคณุ ได้เชิญพวกนกั ปราชญ์ท่มี คี วามรู้มาทีบ่ ้าน ทงั้ พยายามหาโอกาสไปนงั่ ฟังการประชมุ
ของสภาการวิทยาศาสตร์เสมอ บางครัง้ ก็ยอมรับเชิญให้เป็ นผู้ไปอ่านบทประพนั ธ์ ณ ท่ี สภา
วทิ ยาศาสตร์นนั้ ด้วย
อย่างไรก็ดี นโปเลยี นได้สนใจเป็ นพิเศษในวิถีทางแห่งการเมือง ของคณะกรรมาธิการ
อยเู่ สมอ และรู้ดวี า่ อํานาจของกรรมาธิการคณะ นีก้ ําลงั เสือ่ มลงทกุ กนั ทงั้ รู้ตลอดไปด้วยวา่ คน
เหลา่ นตี ้ งั้ ตวั เป็ นศตั รู นโปเลยี นได้พยายามตีตนออกห่างจากคนพวกนี ้ปลอ่ ยให้พี่และน้อง คือ
โยเซฟและลเู ซียง คอยสอดสอ่ งความเคล่ือนไหวอย่อู ย่างใกล้ชิด นโปเลียนคิดว่ากรุงปารีสนี ้
ประชาชนจําอะไรได้ไม่นาน ชื่อเสยี งใหมก่ ็ยอ่ ม กลบลบชื่อเก่า ของเก่าจะค่อยละลายหายสญู
ไป ของใหม่เกิดขนึ ้ มาทบั หวั คิดหวั อ่านของชาวปารีสขนึ ้ ๆ ลง ๆ ฮือกนั เป็ นพกั ๆ ฉะนนั้ ถ้าขืน
อยู่ ในปารีสเฉย ๆ โดยไม่ได้ทําอะไรให้เป็ นของใหมข่ นึ ้ ไม่ช้านกั ชื่อเสียงท่ีคนลอื นนั้ ก็จะเซ็งซา
ไปเหมือนคล่ืนกระทบฝ่ัง เส่ือมความนิยมลง ทางท่ีดีที่สดุ นโปเลียนคิดว่าต้องไม่อยู่ในปารีส
๑๖๖
เคราะห็ดีที่เขาอายยุ งั ไม่ถึง ๔๐ จึงไมไ่ ด้เข้าร่วมเป็ นคณะกรรมาธิการชุดนีก้ บั เขา ทงั้ นีเ้ พราะ
กฎหมายในสมยั นนั้ ได้ระบคุ ณุ สมบตั ิของผ้ทู ี่จะเป็ นกรรมาธิการเอาไว้ว่าต้องมีอายไุ ม่ต่ํากว่า
๔๐ ปี ฉะนนั้ เขาจงึ คิดวา่ ในระยะนจี ้ ะต้องกระทาํ การใด ๆ เพ่อื คงให้ประชาชนยงั นิยมเลอื่ มใสได้
ใมข่ าดระยะ
แต่วา่ จะทําอยา่ งไร เพราะขณะนีก้ ็ได้มีสนั ติภาพไปทวั่ ทงั้ ทวีปยุโรปแล้ว ค่แู ข่งในชาติ
เดียวกันเท่าท่ีมีอยู่ก็ไม่มีท่าทีจะน่ากลวั อะไรเลย การ์ฌนต์ได้ถูกกันออกจากอํานาจ มอโร
(Moreau) ก็เป็ นคนรบแพ้ แม้ แตโ่ อเยโรผ้เู ป็ นแม่ทพั ภาคแมน่ ํา้ ไรน์ ที่มีความอิจฉาริษยาเขาอยู่
บ้างนนั้ ก็ไมใชค่ นทนี่ า่ จะวิตกอะไรนกั ถงึ แม้วา่ นโปเลยี นจะจากไปเสยี ทีอ่ ่นี ก็ตาม กรุงปารีสก็ไม่
น่าจะมีอันตราย ฉะนนั้ ทางท่ีดีควรออกจากปารีสเสียชั่วคราวก่อน แต่ว่าการจะไปขึน้ เกาะ
องั กฤษเพื่อทาํ สงครามกบั องั กฤษนนั้ แม้จะเป็ นแนวคดิ ท่ีดีก็จริงอยู่ หากแต่กองทพั ฝร่ังเศสไม่มี
กองทพั เรือทดี่ ีพอ หลงั จากตีเมอื งตลู องครัง้ โน้นแล้ว นโปเลียนได้เคย รบเร้าให้คณะรัฐบาลแห่ง
กรุงปารีสลงมือบรู ณะปรับปรุงกองทพั เรือขนึ ้ แตก่ ็หาเป็ นไปดงั ปรารถนาไม่
ถึงอย่างไร ก็จะต้องออกจากรุงปารีสชวั่ คราว เม่ือไม่สามารถจะ ขึน้ เกาะองั กฤษได้ ก็
จําเป็ นจะต้องทอ่ งไปทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทาง ทิศตะวนั ออก ไปเจริญรอยตามพระเจ้าอ
เลก็ ซานเดอร์ทอ่ี ยี ปิ ต์ และแม้ ทอี่ ียปิ ต์นเี ้อง ก็อาจจะสามารถโจมตีจดุ สาํ คญั จดุ หนงึ่ ขององั กฤษ
ด้วยในตวั
เพ่ือที่จะให้แนใจขนึ ้ ในแผนการท่ีจะได้โจมตีเกาะองั กฤษ ในวนั ที่ ๑๐ กุมภาพนั ธ์ ค.ศ.
๑๗๙๔ นโปเลยี นจงึ ได้ออกเดินทางไปเทีย่ วตาม ทา่ เรือภาคเหนือจากเมืองบลู อญ (Boulogne)
ไปถึงเมืองดนั เก๊ิก ด้วยเวลา ๘ วนั แหง่ การไปสาํ รวจนีไ้ ด้ทําให้นโปเลยี นรู้ชดั ว่า แผนการที่ จะ
ยกกองทพั ข้าม ชอ่ งแคบไปขนึ ้ บกุ รุกเกาะองั กฤษนนั้ เป็ นสงิ่ ซง่ึ เป็ นไปไมไ่ ด้จริง ๆ
มีเร่ืองเก่ียวพนั ถึงโยเซฟิ นในระหวา่ งท่ีนโปเลียนออกไปเท่ียว สํารวจอย่ตู ามฝั่งเหนือนี ้
คอื มจี ดหมายจากโยเซฟินถึงบารราส อนั เป็ น เคร่ืองสอ่ ถึงความมเี ลศมีนยั ระหว่างชายหญิงทงั้
๒ คน จดหมายจ่าหน้าซองถงึ เลขานกุ ารของบารราส ใจความในจดหมายนนั้ มีวา่ ๐...นโปเลยี น
มาถึงในค่ําวันนี ้ โปรดบอกกับบารราสด้ วยว่า ฉันเสียใจเพียงไรที่ ฉันไม่สามารถจะมา
๑๖๗
รับประทานอาหารคํ่าได้ โปรดบอกอยา่ ให้เขาลมื ฉนั เสีย ท่ีจริงทา่ นก็รู้ดีอย่วู า่ ฐานะของฉนั นนั้ ก็
เป็ นแตเ่ คร่ืองประดบั ของนโปเลยี น๑
บารราสผ้นู ที ้ งั้ เกลยี ดและไมไ่ ว้ใจในนโปเลียนผ้กู ําลงั ทรงอํานาจ และการท่ีนโปเลยี นได้
กลบั มาอยา่ งกระทนั หนั ในคํ่าวนั นี ้ก็ยิ่งทําให้บารราส เพ่ิมความไมพ่ อใจย่ิงขนึ ้ ในวนั รุ่งขนึ ้ นโป
เลยี นได้เขียนจดหมายถึงบารราส และคณะกรรมาธิการคนอ่ืน ๆ เป็ นรายงานไปในตวั ดงั นี ้๐...
แม้วา่ จะพยายาม อยา่ งท่ีสดุ เพียงไร ก็จะตอั งเสยี เวลาหลายปี ท่ีจะมีอํานาจเหนือทะเล การบกุ
รุกเกาะองั กฤษนนั้ เป็ นการเสย่ี งโชคอยา่ งนา่ กลวั อนั ตราย แตก่ ็อาจจะทําได้สําเร็จถ้าหากว่าเรา
ทาํ การโจมตีโดยรวดเร็วปัจจบุ นั ทนั ดว่ น และต้องใช้ฤดทู ่ีมีกลางคืนยาวกว่ากลางวนั น่ันคือฤดู
หนาว ฉะนนั้ การจะบกุ เกาะองั กฤษได้ ก็จะต้องคอยฤดหู นาวในปี หน้า แตก่ ว่าจะถึงฤดหู นาวปี
หน้า เหตกุ ารณ์ในยโุ รปก็อาจจะผนั แปรไปเสียแล้ว ซึ่งเราอาจจะพลาดโอกาสอนั งามที่จะบุก
เกาะองั กฤษ คอื วา่ โอกาสทค่ี วรจะทาํ การได้ก็จะลว่ งเลยไป...๑
นโปเลียนได้ปฏิเสธแผนการบกุ เกาะองั กฤษ แล้วก็แถลงเลยไป ถึงวิธีการท่ีจะเอาชนะ
เหนืออังกฤษด้วยวิธีอื่น ๆ เขาได้เสนอแผนการรบทางทะเล ๗ แห่ง เริ่มตัง้ แต่สเปนจนถึง
ฮอลแลนด์ พร้ อมทงั้ วิจารณ์ถึงสถานการณ์ท่ัว ๆ ไป ทัง้ แถลงผลของการกระทําอย่างพินิจ
พิเคราะห์ ผลท่ีสดุ ได้มาสรุปลงวา่ วิธีท่คี วรจะทําได้ก็คอื การโจมตีแหลง่ การค้า ขององั กฤษโดย
เริ่มตงั้ แตอ่ ยี ปิ ต์เป็ นสาํ ดบั ไป
แผนการโจมตีอียิปต์นีไ้ มใช่เป็ นของใหม่ ตาลเลรังค์เคยได้นําขึน้ พดู มาครัง้ หนึ่งแล้ว
และตนเองได้วิจารณ์ไว้วา่ ผ้จู ะเป็ นแม่ทพั ไปอียิปต์นนั้ ไม่จําเป็ นต้องเป็ นผ้มู ีความสามารถเป็ น
เยี่ยมในทางทหาร ซ่งึ การ ท่ีตาลเลรังค์ได้ว่าอยา่ งนี ้ ไม่มีใครรู้ว่าได้พดู ขนึ ้ เพ่ือจดุ ประสงค์อะไร
จะ เป็ นเพื่อประสงค์จะรัง้ ตวั นโปเลยี นเอาไว้ ในกรุงปารีส หรือวา่ เพอื่ เป็ นการเยาะเย้ยนโปเลยี น
แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม เม่ือนโปเลยี นได้อา่ นคาํ วจิ ารณ์นแี ้ ล้ว ก็ได้เขยี นความเหน็ ลงไปวา่ ๐บ้า๑
เม่อื นโปเลยี นแถลงรายงานแล้ว พอคณะกรรมาธิการได้ยนิ คําวา่ อยี ิปต์ ก็รีบตกลงทนั ที
แต่งตัง้ ให้นโปเลียนเป็ นแม่ทพั ไปอียิปต์ และ ให้คําแนะนําช่วยเหลือทุกสิ่งทุกอย่าง เท่าท่ี
สามารถจะชว่ ยได้ คณะกรรมาธิการเห็นวา่ คนท่นี า่ กลวั อยา่ งนโปเลยี นนีไ้ ปอยเู่ สยี ให้ห่างไกลได้
เพียงใดย่ิงดี หรือถ้าตายเสยี เลยได้ก็จะโลง่ อก
นโปเลียนได้รับคําสง่ั แตง่ ตงั้ ให้เป็ นแม่ทพั ในภาคตะวนั ออก มีอํานาจเต็มที่ท่ีจะทําการ
๑๖๘
ยดึ เกาะมอลต้าและอียิปต์ ขบั ไล่พวกองั กฤษไปให้พ้นจากทะเลแดง และให้ทําการขุดคลองสุ
เอซตรงช่องแคบสเุ อซ เพอื่ วา่ ฝรั่งเศสจะได้แผอ่ าํ นาจเข้าควบคมุ ทะเลแดงได้สะดวก
นโปเลยี นได้ลงมือเตรียมงานใหม่นีอ้ ยา่ งเต็มที่ ซึ่งแท้จริงก็ได้ ใคร่ครวญเป็ นท่ีเจนจดั ดี
แล้วในปัญหาการโจมตีอยี ปิ ต์นี ้อนง่ึ เลา่ ทะเล เมดเิ ตอร์เรเนยี นนนั้ เป็ นถ่ินเกิดของนโปเลียนเอง
ฉะนนั้ การเดนิ ทางใน ทะเลหลวงจึงไม่มีปัญหาและในระหวา่ งการเตรียมการนี ้นโปเลยี นก็ได้คิด
ฝันที่จะทําการให้ใหญ่โตเหมือนกบั พวกที่มีชื่อเสยี งในครัง้ โบราณ เขาได้พิจารณาสถานการณ์
ปัจจุบนั เทียบกับสถานการณ์ที่แล้วมาในอดีต เพ่ือจะได้ดดั แปลงโครงการสงครามครัง้ นีใ้ ห้
เหมาะสมกบั กาลเวลา เป็ นอยา่ งดี
๑๖๙
บทท่ี ๒๐
เข้าสู่อียปิ ต์
นโปเลียนได้เขียนจดหมายถึงพ่ีชายว่า ๐...ฉันกําลงั เดินทางไปทิศตะวนั ออก พร้ อมด้วย
เคร่ืองมือทุกอย่างที่จะช่วยทําให้เป็ นผลสําเร็จ ถ้าหากว่าฝร่ังเศสเรืยกร้ องฉัน หรือว่าเกิด
สงครามขึน้ จนพ่ายแพ้แก่ข้าศึก ฉันก็จะกลบั มา ซ่ึงครัง้ นนั้ มหาชนคงจะสนบั สนนุ เล่ือมใสฉนั
มากกว่าท่ีเป็ นอย่เู ด๋ียวนี ้แต่ว่าถ้าสงครามเป็ นผลดี ฝรั่งเศสมีชัย โดยมี แม่ทพั คนอ่ืนเก่งกล้า
สามารถเทา่ กบั ฉนั ปรากฏขนึ ้ ในกรุงปารีส ฉนั ก็ คงจะอยทู่ างตะวนั ออกนตี ้ อ่ ไป...๑
นโปเลียนได้ออกเดินทางในตําแหน่งแม่ทัพแห่งกองทพั ภาคตะวนั ออก ออกจากกรุง
ปารีสในคนื วนั ที่ ๓ พฤษภาคม ค.ศ.๑๗๙๘ พร้อมด้วยโยเซฟิ นและผ้ตู ิดตาม มารมองต์ บเู รียน
เป็ นต้น ได้เดนิ ทางลว่ งหน้าไปอยทู่ เี่ มอื งตลู อง ๘ วนั เมื่อการทกุ อยา่ งพร้อมเพรียงดีแล้ว ในวนั ที่
๑๙ พฤษภาคม ค.ศ.๑๗๙๘ กองทพั แหง่ ภาคตะวนั ออกนีก้ ็ได้เคลอ่ื นขบวนออกจากท่าเมืองตู
ลอง ธงแห่งราชนาวีได้ชกั ขนึ ้ ปลิวสะบดั อยบู่ นเสากระโดง เรือค่อยเคลือ่ นออกจากท่า โยเซฟิ น
โบกมือสง่ั ลากบั นโปเลียน ทกุ ๆ คนอยบู่ นดาดฟ้ าเรือตา่ งทอดสายตามองฝ่ังฝร่ังเศสซึ่งค่อย ๆ
เลอื นหายไป นโปเลยี นอยบู่ นเรือออรีองั ต์ (Orient) ยืนอยใู่ กล้กบั เสากระโดงหวั เรือในกลมุ่ ที่วาง
ปื นใหญ่ ทอดสายตามงุ่ มองไปสทู่ ิศตะวนั ออกเฉียงใต้ หมายเกาะมอลต้าเป็ นท่ีหมาย มิได้มอง
หลงั มาทางฝ่ังทะเลภาคยโุ รปเลย จวบจนกระทง่ั ฟากฝ่ังยโุ รปถกู ทงิ ้ อยู่ เบอื ้ งหลงั
ในช่ัวโมงเดียวกันนี ้ จอมทพั เรือเนลสนั แห่งราชนาวีอังกฤษ พร้ อมด้วยนายพลเรือ
องั กฤษอีก ๓ คน กําลงั ยืนอยบู่ นดาดฟ้ าเรือรบ ตรวจดบู ริเวณน่านนํา้ ในท้องทะเลเมดิเตอร์เร
เนยี นด้วยกล้อง เพอ่ื จะ มองหากองทพั เรือฝร่ังเศส เนลสนั คาดคะเนว่ากองทพั เรือฝรั่งเศสคงจะ
แลน่ ตรงไปยงั หมเู่ กาะซิชิลี
กองเรือในบงั คบั บญั ชาของเนลสนั ได้ถกู พายซุ ดั จนแตก กระจดั กระจายกนั ไปเม่ือวนั ก่อน กว่า
จะรวบรวมกลบั มาได้ก็ต้องเสีย เวลาไปไม่ใช่น้อย และประจวบเหมาะที่พายุจัดวันเดียวกัน
นนั้ เองเป็ นเหตุให้นโปเลียนคอยเวลาออกจากท่าเรือเมืองตลู องถึง ๒๔ชว่ั โมง กอง เรือองั กฤษ
กับนโปเลียนจึงคลาดกันไปอย่างบงั เอิญ กองทพั เรือของฝร่ังเศสได้ไปถึงเกาะมอลต้าก่อน
๑๗๐
กองทพั เรือองั กฤษ นโปเลยี นได้เข้ายดึ เกาะสาํ คญั นเี ้อาไว้ได้โดยฉบั พลนั ทนั เวลา และจดั การให้
โวบวั ส์ (Vaubois) เป็ นผ้บู งั คบั การพร้อมด้วยทหารจํานวน ๔,๐๐๐ นาย รักษา เกาะเอาไว้ ครัน้
เมื่อกองเรือของเนลสนั มาถึง นโปเลยี นก็ได้ออกเรือไปเสียก่อนแล้ว เนลสนั เร่งรีบบา่ ยหวั เรือม่งุ
ไปยงั อียิปต์ แต่ก็มิได้พบกบั กองเรือของฝรั่งเศส ทงั้ นีเ้ พราะนโปเลียนได้แยกออกไปยงั ชายฝ่ัง
ทะเลซเี รียน กระนนั้ เนลสนั ก็ยงั ไมท่ งิ ้ ความพยายาม ได้วกเรือหวนกลบั มาทางเกาะซิชิลี แต่ก็ไม่
พบกบั กองเรือของฝรั่งเศสอยดู่ ี
นโปเลยี นเมาคลน่ื อยตู่ ลอดเวลา ดเู สมอื นว่าจะเอาชยั ชนะจากพืน้ นํา้ เสมือนกบั ท่ีได้มา
จากภาคพนื ้ ดนิ ไมไ่ ด้เลย กองทพั เรือของ ฝร่ังเศสเดนิ ทางอยใู่ นทอั งทะเลถงึ ๔ สปั ดาห์แล้ว นโป
เลยี นนอนอยบู่ นเตียงในเรือ มีบเู รียนนงั่ อา่ นหนงั สอื ให้ฟังอยู่
ในกองทพั เรือนี ้นโปเลยี นได้พาเอาพวกนกั ปราชญ์ผ้ทู รงวิทยาคณุ ไปเป็ นจํานวนมาก
พร้อมด้วยปื นใหญ่ ๒,๐๐๐ กระบอก ตวั พิมพ์ อกั ษรแบบอาหรับ หนงั สอื อา่ นอกี นานาชนดิ
นโปเลียนได้พากองเรือเข้าเทียบท่าในอ่าวอาบูกีร์ (Aboukir) แล้ว ให้ทหารขึน้ บก
จดั เป็ นกองทพั สรรพด้วยกําลงั อาวธุ ยทุ ธภณั ฑ์ ครัน้ พร้อมเพรียงกนั ทกุ หน่วยทกุ กองแล้ว ก็เข้าจู่
โจมและยดึ เอาเมอื งอเลก็ ซานเดรีย ได้ด้วยการเข้าโจมตเี พียงครัง้ เดียวเทา่ นนั้ และจากจดุ นี ้ จดุ
หมายท่ีย่ิงใหญ่ตอ่ ไปคอื การเคลอ่ื นทพั เข้าสนู่ ครไคโรแหง่ อยี ิปต์ตอ่ ไป นโปเลยี นขี่ม้าเหยาะยา่ ง
นําทพั ข้ามทะเลทราย หยุดมองรูปสฟิ งซ์ ณ บดั นนั้ นยั น์ตาที่ประหน่ึงว่าทําด้วยเหล็กของนโป
เลยี นก็ได้ประสานกบั ตาหินแหง่ รูปสฟิงซ์นนั้ จ้องมองกนั อยู่
๑๗๑
นโปเลียนในดินแดนอียิปต์
นานมาแล้ว พระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์ได้เคยมายืนอยู่ ณ ท่ีนี ้และจอมนกั รบจูเลียส ซีซาร์
ก็ได้ยืนอยตู่ รงนเี ้หมอื นกนั ทงั้ ๒ คนนี ้มีชีวิต อยเู่ ม่ือ ๒,๐๐๐ ปี ภายหลงั จากที่รูปปัน้ สฟิ งซ์นีไ้ ด้
สร้างขนึ ้ มาแล้ว
จกั รภพอนั กว้างใหญ่ไพศาลก่อเกิดขนึ ้ รอบ ๆ ลมุ่ แมน่ ํา้ ไนล์ ประชาชนนบั ล้านต่างต้อง
ฟังคําบญั ชาของบคุ คลคนเดียว กษัตริย์รับสง่ั สงิ่ ใดขนึ ้ บรรดาทาสผิวดําก็ต้องกระทําตามรับสง่ั
รูปสฟิงซ์นสี ้ าํ เร็จขนึ ้ ด้วยคาํ สงั่ ของกษัตริย์ และด้วยนาํ ้ แรงของพลเมอื ง
อีกไม่ช้าไม่นานข้างหน้านี ้และห่างไปจากท่ีนีไ้ ม่กี่ไมล์นกั นโปเลียนก็ต้องเตรียมการ
ตอ่ ส้กู บั เหลา่ ทหารมมั ลคุ (Mamelukes)๓๐ อนั มีกําลงั ๘,๐๐๐ คน ล้วนเป็ นเหลา่ ทหารม้าชนั้
เยย่ี ม ซง่ึ ณ บดั นกี ้ ็ได้พร้อมท่จี ะเฝ้ าโจมตฝี ่ ายบกุ รุกให้พินาศไป
๓๐ มมั ลคุ (Mamelukes) เป็ นช่ือราชวงศ์ผ้ปู กครองอยี ปิ ต์ทเี่ ป็ นอิสลาม ซงึ่ มาจากมสุ ลมิ เชือ้ สาย
เตริ ์ก สถาปนามาเป็ นผ้นู าํ นบั แต่ ค.ศ. ๑๒๕๐ บางแหลง่ เรียกราชวงศ์ทาส เพราะผ้นู าํ ของ
ราชวงศ์นีค้ นแรก พฒั นาตวั เองมาจากการเป็ นทาสทเี่ ป็ นทหาร กระนนั้ บางแหลง่ กลา่ ววา่ มมั
ลคุ นนั้ แปลวา่ ทรัพย์สนิ ซง่ึ หมายถึงผ้มู ีทาสเป็ นทรัพย์สนิ และทหารของมมั ลคุ สว่ นใหญ่ ก็มา
จากทาสทงั้ สนิ ้ กระนนั้ ราชวงศ์นกี ้ ็ปกครองอยี ปิ ต์มายาวนานและตอ่ เนอ่ื ง
๑๗๒
ในขณะที่ก่อเกิดกําลังมุ่งหน้าไปทําสงครามนี ้ อียิปต์ขึน้ อยู่ใน ความปกครองของ
ประเทศเตอรกี๓๑ แตท่ างเตอรกีให้คนจากราชวงศ์มมั ลคุ เป็ นผ้ปู กครองรักษาเมืองอยู่ มีหวั หน้า
อยู่ ๒ คนเป็ นพี่น้องกนั คือ มแู รด ดํารงตําแหน่งผ้วู ่าการฝ่ ายการทหาร และอิบราฮิม เป็ นผ้วู ่า
การฝ่ ายพลเรือน ชาติมมั ลคุ นมี ้ ีกองทพั ม้าท่เี ก่งกาจสามารถยิ่งและมีอยเู่ ป็ นจํานวนมาก
การปะทะหนา้ ปี รามิด
ในขณะนีม้ ูแรดได้เตรียมกองทพั ทงั้ รับทพั นโปเลียนที่เมืองเอมบาเบห์ ริมฝ่ังแม่นํา้ ไนล์
ด้านตะวนั ตก และทที่ ต่ี งั้ ปี รามดิ นนั้ อยทู่ างด้านใต้ของเมอื งเอมบาเบห์ ตวั เมืองเอมบาเบห์นนั้ อยู่
ในระหวา่ งปี รามดิ กบั นครไคโร สว่ นนครไคโรนนั้ อยรู่ ิมฝ่ังแมน่ าํ ้ ไนลข์ ้างทศิ ตะวนั ออก
มูแรดมีกําลงั ท่ีเป็ นเหล่าทหารม้าล้วนจํานวน ๑๐,๐๐๐ คน พร้ อมด้วยปื นใหญ่ ๙๐
กระบอก เตรียมพร้อมที่จะส้กู บั ฝรั่งเศสอยทู่ กุ ขณะ
๓๑ ประเทศเตอรกีทว่ี า่ นใี ้ นเวลานนั้ คือ จกั รวรรดิออตโตมนั
๑๗๓
สงครามในอียิปต์คือการประกาศศกั ดาความยิ่งใหญ่ของฝรง่ั เศส
นโปเลียนขี่ม้านําทหาร โฉมหน้าเข้าสู่รูปปิ รามิดที่มองเห็นอยู่เบือ้ งหน้า ได้กล่าวแก่
ทหารในบงั คบั บญั ชาของตนวา่ ๐...ทหารทงั้ หลาย รูประลกึ แหง่ กาล ๔,๐๐๐ ปี กําลงั มองดพู วก
ท่าน...๑ แต่ว่าในทนั ทีทนั ใดนนั้ กองทพั ม้าชาติมมั ลคุ ที่เตรียมการพร้ อมเอาไว้แล้วก็โถมเข้า
โจมตีทพั ฝร่ังเศส ได้ส้รู บกนั เป็ นสามารถ ทางฝ่ ายกองทพั ฝร่ังเศสได้ใช้ปื นใหญ่ยิงช่วย จึงทําให้
ฝ่ ายมมั ลคุ ตอั งแตกถอย กระจดั กระจายไป นโปเลียนได้คุมทพั เข้ายึดท่ีมน่ั ของฝ่ ายมมั ลคุ ได้
กองทพั มมั ลคุ ใตกั ารบงั คบั บญั ชาของมแู รด ซ่งึ เดิมนนั้ หวงั วา่ ตนจะสามารถส้รู บได้ แตต่ ้องมา
แตกพา่ ยอยา่ งยบั เยินเชน่ นี ้ทําให้มแู รดต้องตดั สนิ ใจคมุ กองทหาร เท่าท่ีเหลือแยกหนีขนึ ้ ไปทาง
ทศิ เหนือของอียปิ ต์
๑๗๔
การรบในอียิปต์
๑๗๕
แผนทอี่ ยี ปิ ต์
๑๗๖
ส่วนอิบราอิม ผ้วู ่าการฝ่ ายพลเรือนท่ีอยู่ในไคโรนนั้ เมื่อทราบว่า กองทพั ของตนที่นํา
โดยมูแรดแพ้แก่ข้าศึกแล้ว ก็มิได้นอนใจแม้จะไม่คิดตงั้ หน้าส้รู บตบมืออีก ได้ออกคําสง่ั ให้ขน
ทรัพย์สมบตั ิเงินทองอพยพ และให้หนีไปยงั ประเทศซีเรีย สว่ นทรัพย์สมบตั ิบางสิ่งที่ไม่สามารถ
จะ รือ้ ขนไปในทนั ทีได้นนั้ ก็ให้เผาเสยี เป็ นอนั มาก
นโปเลยี นได้ยาตราทพั เข้าสนู่ ครไคโร พร้อมจดั ให้กองทหารกอง หนงึ่ เร่งติดตามมแู รดไป
สว่ นนโปเลยี นเองได้พกั อยใู่ นนครไคโร เพอ่ื จดั การวางระเบียบการปกครองบรรดาเมืองท่ียึดมา
ได้ และได้พยายาม เกลีย้ กล่อมพวกปาชา ซง่ึ เป็ นพวกหวั หน้าชาวอาหรับในอียิปต์ให้เข้ามา
ออ่ นน้อมอยใู่ นบงั คบั บญั ชาตนเอง นโปเลยี นได้กลา่ วอวดอ้างตนเองว่า พอใจและถือว่าพวกเต
อรกี ทัง้ สุลต่านทงั้ หลาย และโดยนัยตรงกันข้าม ได้พูดทับถมบรรดาชาติมมั ลุค ที่เข้ามามี
อาํ นาจปกครองชนชาติอียปิ ต์อยู่ นโปเลียนได้เตรียมการลว่ งหน้าเอาไว้แล้วตงั้ แต่ครัง้ ที่กองเรือ
เดินหน้าอยใู่ นทะเล นน่ั คอื ให้ลา่ มเขยี นหนงั สอื ถึงปาชาแหง่ อยี ิปต์ ซงึ่ นโปเลียนได้เอามาอ่านให้
ฟังว่า ๐...ท่านผ้ซู ึ่งจะเป็ นผู้มีอํานาจสงู สดุ แต่ว่าความจริงไม่มีอํานาจหรือเกียรติภมู ิอยใู่ นกรุง
ไคโรเลย ท่านควรจะ ยินดีในการมาของข้าพเจ้า ขอท่านจงเช่ือเถิดว่า ข้าพเจ้าไม่เคยท่ีจะ
กระทําการใด ๆ อนั จะเป็ นการทําลายทา่ นสลุ ตา่ นหรือเป็ นการลบหลู่ ดแู คลนคมั ภีร์อลั กรุ อ่าน
แหง่ พระเจ้าเลย ฉะนนั้ ขอจงช่วยกนั ขบั ไลพ่ วก ทไ่ี มถ่ ือพระเจ้าให้พ้นไป...๑
นโปเลยี นได้กลา่ วคํายกยอ่ งคมั ภีร์อลั กุรอ่าน และอ้างว่าคมั ภีร์ อลั กุรอา่ นก็เป็ นโอวาท
ของพระเจ้า เช่นเดียวกบั คมั ภรี ์ในศาสนาคริสต์เหมือนกนั และศาสนาของประเทศฝรั่งเศสนนั้ มี
ลกั ษณะละม้ายคล้าย กนั กบั ศาสนาอสิ ลาม มีขนุ นางในนครไคโรบางคนมีท่าทีท่ีไมน่ า่ ไว้วางใจ
ขืนละไว้น่าจะเป็ นอนั ตรายขนึ ้ จึงได้ขบั ไลอ่ อกไปเสีย แล้วนโปเลียนก็ อ้างตามเหตผุ ลใน
คมั ภีร์อลั กรุ อา่ นวา่ ทกุ สิ่งทกุ อยา่ งที่ดีย่อมมาจาก พระผ้เู ป็ นเจ้า ผ้ทู รงประทานชยั ชนะ และทกุ
ส่งิ ทกุ อย่างท่ีข้าพเจ้ากระทําก็ต้องสําเร็จ ทกุ คนท่ีขาั พเจ้าถือเป็ นเพ่ือนย่อมเป็ นผ้เู จริญ แต่ ถ้า
คนหนงึ่ คนใดเอาใจใสช่ ่วยเหลอื แกศ่ ตั รูของข้าพเจ้า ก็ยอ่ มต้องตายลง
ถ้าหากวา่ นโปเลยี นได้เกิดในประเทศอยี ปิ ต์เมือ่ สกั ๔,๐๐๐ ปี โน้นแล้ว ก็คงจะทําการมี
ชยั ชนะโดยอาศยั เพยี งแคค่ าํ พดู เทา่ นนั้ แต่ สาํ หรับสมยั นี ้แม้แตช่ าวอยี ิปต์เองก็ไม่ใคร่จะเชื่อนกั
นโปเลยี นเองท่ี จริงแล้วก็ออกจะดหู มิ่นชาวอียิปต์ แต่ก็พยายามยกยอพวกอียิปต์ด้วย ประการ
ตา่ ง ๆ แตบ่ างครัง้ ก็ใช้วิธีทําเป็ นข่จู ะเอาโทษอย่างรุนแรงที่สดุ บางทีก็ปลอบโยนหว่านล้อมเอา
๑๗๗
ด้วยคําพดู สดุ แตเ่ หตกุ ารณ์เฉพาะ หน้าทีเ่ กิดขนึ ้ แตส่ ว่ นมากก็ใช้อบุ ายเอาชื่อพระอลั เลาะห์ขนึ ้
เอย่ อ้าง เป็ นสาํ คญั จนกระทง่ั สามารถเป็ นผ้ทู รงไว้ซงึ่ อาํ นาจภายใน ๑ สปั ดาห์ ซึ่งนโปเลียนเอง
ก็ภาคภมู ใิ จวา่ บดั นไี ้ ด้เป็ นผ้ยู งิ่ ใหญ่ผ้หู นงึ่ ในทิศตะวนั ออกนแี ้ ล้ว
เหตกุ ารณ์ในกรุงไคโร นบั วา่ กําลงั จะเข้ารูปเรียบรัอย แตว่ า่ พอการทงั้ ปวงเป็ นผลสาํ เร็จ
ขนึ ้ เรื่องหนหลงั จากกรุงปารีสก็มาผดุ ขนึ ้ อกี คือ ยโู นต์ได้รับจดหมายฉบบั หนึง่ มาจากกรุงปารีส
เล่าพาดพิงถึงโยเซฟิ น บังเอิญเหลือเกินที่จดหมายฉบับนีล้ อดจากกองเรือลาดตระเวนของ
องั กฤษมาได้ เพราะการสง่ ขา่ วสารจากกรุงปารีสถึงอียิปต์ในขณะนนั้ ลาํ บากมาก
ยโู นต์ เมอ่ื ได้รับจดหมายแล้ว ก็รู้สกึ วา่ เป็ นหน้าทข่ี องเขาทีจ่ ะ ต้องบอกแก่นโปเลียน ใน
จดหมายนนั้ อ้างถึงฮิปโปลิตกบั โยเซฟิ น วา่ ได้มีการเกี่ยวพนั กนั ในฐานช้สู าวอีก คือโยเซฟิ นได้
พบกบั ฮิปโปลติ ที่ โรงเรียนเต้นรําแห่งหนึ่ง และนางได้ช่วยเหลือให้เขาได้มาพกั อาศยั อยู่ในบ้าน
ด้วยกัน ทงั้ ยังได้แนะนําสนับสนุนให้เขาทํางานร่วมกับผู้รับเหมา ผูกขาดส่งของแก่กองทัพ
ฝรั่งเศส
ข่าวจากโยเซฟิ นนี ้ ก่อกวนความรู้สึกนโปเลียนเป็ นอย่างยิ่ง ระหว่างท่ีเดินกลับไป
กลบั มา มอื ตบหน้าผากอยนู่ นั้ เขาได้ตาํ หนิบเู รียนวา่ บเู รียนเหมือนกบั ไมใ่ ชเ่ ป็ นเพือ่ นแท้ของเขา
เพราะบเู รียนควรจะ บอกแก่เขาเสียก่อนนีแ้ ล้ว โยเซฟิ นนนั้ บดั นีอ้ ยหู่ ่างไกลกับเขาถึง ๒,๐๐๐
ไมล์ ยงั กล้าสามารถไมซ่ ่ือสตั ย์สจุ ริตได้เชน่ นี ้และถ้าหากวา่ ความเรื่อง นเี ้ป็ นจริงอยา่ งทีย่ โู นต์วา่
แล้ว ก็จําเป็ นจะต้องแยกกนั เสยี กบั โยเซฟิน ไมย่ อมที่จะเป็ นคนท่ีให้ใคร ๆ เขาหวั เราะเยาะหยนั
เลน่ ได้
บเู รียนพยายามที่จะเอาอกเอาใจนโปเลยี น และได้บอกนโปเลยี นวา่ ๐ชื่อเสยี งนนั้ เป็ นสิ่ง
สาํ คญั กวา่ ความสขุ ทางครอบครัวมากนกั ๑ แต่นโปเลยี นก็วา่ ๐ชื่อเสียงนนั้ หรือ มนั จะมีราคาสกั
เทา่ ไร ข้าพเจ้ายนิ ดจี ะสละทกุ ๆ อยา่ งในโลกนเี ้พ่ือความรักของโยเซฟิน ข้าพเจ้าอยากเหลือเกิน
อยากจะให้ขา่ วทีย่ โู นต์ได้รับนเี ้ป็ นขา่ วท่เี หลวไหล ไมจ่ ริงอยา่ งทว่ี า่ นนั้ ๑
นโปเลียนได้เขียนจดหมายถึงโยเซฟพ่ีชายทันที หากแต่ว่าไม่กล้า ท่ีจะพูดถึงเร่ืองท่ี
เก่ียวกบั ความย่งุ ยากในครอบครัวลงไปนกั เพราะเกรง ว่าอังกฤษอาจจะจับได้ ข้อความใน
จดหมายนนั้ มีวา่ ๐...ไมม่ ีประเทศอ่นื ใดในโลกนี ้จะสมบรู ณ์เหมือนกบั อียิปต์ มีทงั้ ข้าวโพด ข้าว
เจ้า ผกั และเนอื ้ แตค่ วามป่ าเถื่อนก็เป็ นท่ีสดุ ในโลกอีกเหมือนกนั ที่นี่เขาไมใ่ ช้เงินกนั แม้กระทง่ั
๑๗๘
จะจ่ายให้แกท่ หารก็ไมใ่ ช้เงิน อีก ๒ เดอื นข้างหน้าฉนั จะ กลบั มาฝร่ังเศสแล้ว โปรดดแู ลเรื่องของ
ฉนั ด้วย ฉนั มเี ร่ืองสาํ บากใจมาก ทางบ้านฉนั ไมม่ ใี ครเหลอื ในโลกอกี แล้ว นอกจากทา่ น ความรัก
ของท่าน นีม้ ีค่ามากสําหรับฉนั และจะมีอย่สู ่ิงเดียวเท่านัน้ ท่ีจะเพิ่มความขมข่ืน ให้แก่ฉันนนั่ ก็
คือ ถ้าหากวา่ ฉนั จะต้องเสยี ทา่ นไปอีกคนหนง่ึ ฉนั นชี ้ า่ งอาภพั จริง ๆ ท่ีชอบจะรักอยเู่ ฉพาะคน ๆ
เดียว ทา่ นเข้าใจความท่ีฉนั พดู นีห้ รือไม่ โปรดจดั การเร่ืองตา่ ง ๆ ของฉนั ให้เรียบร้อย เพ่ือว่าฉนั
กลบั มาถึงบ้านแล้ว ฉนั จะได้มีบ้านอย่ใู กล้ ๆ ปารีส หรือแคว้นเบอร์กันดี ซ่ึงเป็ นที่ที่ฉันอาจใช้
พกั ผอ่ นในฤดหู นาวโดยไม่มีใครรบกวนได้ ฉนั เริ่มรู้สกึ เบื่อหนา่ ยมนษุ ย์ อาจจะพกั ผ่อนอย่ตู าม
ลาํ พงั ความเป็ นผ้ใู หญ่ย่งิ ทําให้ฉนั เบ่อื หนา่ ย ความรู้สกึ ทงั้ หลายของฉนั ดเู หมือนกําลงั เหือดแห้ง
ไปหมดแล้ว ฉนั ได้ไปถึงที่สดุ ในทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งแล้ว ถ้าหากวา่ จะขืนไปอีก ฉนั จะกลายเป็ นผ้ทู ่ีเชื่อ
ตวั เองอย่างเป็ นพระเจ้า ฉนั จะมีบ้านสกั หลงั หน่ึง ในปารีส และจะไม่ยอมยกให้แก่ใคร ฉันไม่
เคยอยตุ ธิ รรมแกท่ า่ นเลย หวงั วา่ ทา่ นคงจะเข้าใจดี...๑
ความรู้สกึ ท่ีถกู ก่อกวนกระทบกระทือนให้เป็ นอารมณ์ร้ายขึน้ เป็ นเหตทุ ี่ทําให้นโปเลียน
เปล่ียนลกั ษณะเป็ นคนเคร่งขรึม เจ้าทุกข์ เคย อย่างนีม้ าแล้วเม่ือครัง้ ยังเยาว์วัยอายุ ๑๒
จนกระทงั่ บดั นี ้ลกั ษณะในครัง้ นีก้ ็ได้ติดตามมาอบุ ตั ิขึน้ อีก ความมีชยั ชนะ ช่ือเสียงปรารถนา
เป็ น เหมือนเช่นพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ทงั้ หลายเหล่านีไ้ ด้ล้มเหลวละลาย เป็ นอากาศไป
หมดแล้ว ขณะนีน้ โปเลียนเริ่มตงั้ ต้นจดหมายด้วย เอ่ยถึง ข้าว ผกั และเนือ้ แต่กลบั จบลงด้วย
ถ้อยคําทท่ี ้อแท้เหนอ่ื ยหนา่ ยตอ่ ชีวิต ตอ่ ความเป็ นไปของโลก
๑๗๙
บทท่ี ๒๑
สุลต่าน เอล.เกบรี ์ - นโปเลียน
ไม่ช้าไม่นานนัก นโปเลียนกค็ ่อยกลบั กลายเป็ นคนกระปรีก้ ระเปร่า สร่างคลายจากความ
วิตกกงั วลและท้อแท้ เขากําลงั ครุ่นคิดท่ีจะเตรียม การเดนิ ทพั ไปติดตามอิบราฮิมท่ีหนีไป แตว่ า่
ภายหลงั ทก่ี ลบั มาจากการขี่ม้าในทะเลทราย ได้เข้าไปในเต็นท์ท่ีพกั ของมารมองต์ พวกท่ีกําลงั
อยู่ ณ ทีน่ น่ั ตา่ งก็ต่ืนเต้นกบั เหตกุ ารณ์ที่กําลงั เกิดขนึ ้ ใหมอ่ นั เป็ นสว่ นได้เสยี ของกองทพั นี ้คอื วา่
ในระหว่างท่ีจดั การความเรียบร้อยอย่ใู นกรุงไคโรนี ้ทางฝ่ ายกองทพั เรือองั กฤษโดยการนําของ
นายพลเนลสนั ได้เข้าโจมตี ทลายกองเรือฝรั่งเศสลงเสียจนย่อยยบั ณ ที่อ่าวอาร์บูกีร์นนั้ มีท่ี
เหลอื รอดมอื เนลสนั ไปได้เพยี ง ๔ ลาํ นอกนนั้ ถกู จบั เป็ นเชลยหมด
นโปเลยี นได้พดู ปลกุ ใจทหารท่ีอยใู่ นทนี่ นั้ วา่ ๐ดีแล้ว เราถกู ตดั ขาดให้อย่ใู นอียิปต์ เราก็
จําจะต้องรักษาศรี ษะของเราไว้ให้อยเู่ หนอื พนื ้ นาํ ้ ทะเล เราอาจจะมีทางหลบเลยี่ งกลบั ปารีสได้น
นามของผ้ยู ่ิงใหญ่แหง่ ภาคตะวนั ออก หรือมิเช่นนนั้ ก็อยทู่ ่ีน่ี และทําการให้มีช่ือเสียงเหมือนกบั
นกั รบในสมยั โบราณโน้น๑
ความเสยี หายพา่ ยแพ้ของกองเรือทางทะเลในครัง้ นเี ้ป็ นผลเสยี หายมาก นโปเลยี นไมใ่ ช่
แม่ทัพเรือและไม่ได้เป็ นการประจําการ บัญชาการรบด้วยตนเอง หากแต่ผลเสียนีย้ ่อมจะ
กระทบกระเทือนถงึ ความเสอ่ื มเสยี แก่นโปเลยี นอยา่ งจะหลกี เลยี่ งเสียไมไ่ ด้ เม่ือกองเรืออปั ปาง
ลงด้วยนาํ ้ มือขององั กฤษแล้วเช่นนี ้กองทพั ฝรั่งเศสจะกลบั คืนไปยงั ฝร่ังเศสบ้านเมืองของตวั ได้
อยา่ งไร จะอาศยั ใช้เรือของเตอรกีหรือก็ไมแ่ นน่ อนวา่ สลุ ตา่ นอาจจะไมร่ ักษาตวั เป็ นกลางต่อไป
อีก เพราะสลุ ต่านนีม้ ีความไม่แน่นอนโลเลเป็ นปกติ ประเด๋ียวก็เป็ นมิตร ประเดี๋ยวก็เป็ นศตั รู
และความจริงก็อาจจะเป็ นศตั รูแก่ฝรั่งเศสได้
ครัน้ แล้ว ความจริงก็ปรากฏขนึ ้ คอื ขณะนนั้ ประชาชนอยี ิปต์ในกรุงไคโร ได้ก่อกําเริบเป็ น
กบฏขึน้ จําเป็ นท่ีนโปเลียนต้องจัดการปราบปราม ซึ่งผลสดุ ท้ายก็ได้เป็ นที่สงบเรียบรัอยลง มี
สภาพเป็ นปกตกิ ลบั มาอยา่ งเดมิ
จากนนั้ มาหลายสปั ดาห์ล่วงไป เหตุการณไม่แน่นอนเฉพาะหน้า เป็ นแกนสําคญั ใน
ระยะหวั เลยี ้ วหวั ตอ่ ของชีวิต นโปเลยี นจําต้อง ขวนขวายกระตือรือร้น ในระหวา่ งแหง่ การรอคอย
ฟังขา่ วซงึ่ จะชว่ ยชใี ้ ห้เหน็ สถานการณ์ในภาคยโุ รปให้แจม่ ใสขนึ ้ แตว่ า่ การสอ่ื ขา่ วในนา่ นนาํ ้ ทะเล
หลวงไม่สะดวก เพราะทพั เรือองั กฤษคอยตดั สายการคมนาคมอยู่ และถ้าหากฝ่ ายองั กฤษมี
ความระแวดระวงั เป็ นอยา่ งดีจริง ๆ แล้ว อาจจะไม่มีจดหมายใด ๆ จะสง่ ข้ามทะเลติดต่อถึงกนั
ได้เลย ชวั่ ชีวิตตงั้ แต่เริ่มเจริญวยั มาในครัง้ นีเ้ ป็ นครัง้ แรกของชีวิตนโปเลยี นที่เร่ิมพิศวงว่าจะหา
อะไรและด้วยวิธีใดมาฆ่าเวลาได้ดี นโปเลียนไมร่ ู้ว่าควรจะทําอะไร เพราะการปกครองกองทพั
การปราบปรามพวกกบฏในกรุงไคโร การกอ่ สร้างและบรู ณะป้ อมคา่ ยที่ทาํ ลายไปเหลา่ นี ้แท้จริง
ก็เป็ นงานท่ีเรียกว่า เป็ นการฆา่ เวลาไปเทา่ นนั้ เวลาช่างดเู ชื่องช้าและยืดยาวสําหรับนโปเลยี น
และนโปเลยี นในขณะนนั้ ก็เริ่มเป็ นผ้มู ีประสาทไมค่ อ่ ยดี บเู รียนได้พยายามปลอบใจให้นโปเลยี น
เป็ นปกตเิ ทา่ ที่จะทําได้ และได้พดู กบั นโปเลยี นวา่ ๐เราควรจะรอฟังวา่ คณะกรรมาธิการเขาเห็น
วา่ ควรจะทําอยา่ งไรตอ่ ไป๑
แต่นโปเลียนกลบั ตอบว่า ๐คณะกรรมาธิการนะหรือ คนพวกนี ้ เกลียดข้าพเจ้ า
ปรารถนาจะให้ข้าพเจ้าอย่ทู ี่น่ีจนผุตายไปเอง๑ นโปเลียนชอบขี่มาั ออกไปเท่ียว แต่ไม่สะดวก
เพราะอากาศร้ อนมาก เขาได้ พยายามแต่งตวั แบบชาวอาหรับ ความร้ อนเกินประมาณไม่
อาจจะแต่ง อย่ไู ด้นาน ๆ ต้องเลกิ แต่ทงั้ ๆ ท่ีร้อนแสนร้อน นโปเลยี นก็มกั จะข่ีม้า ออกไปเท่ียว
จนได้ ครัน้ เม่อื กลบั มาแล้ว เห็นวา่ ไมม่ จี ดหมายมาถึงเลย ก็เกิดความทกุ ข์ใจ การสือ่ สารขาดลง
ขา่ วคราวจากกรุงปารีสเหมือนกบั ถกู ตดั ขาดไปแล้ว มีฐานะเหมอื นกบั ถกู ปลอ่ ยเกาะ นโปเลียน
ได้พดู กบั บเู รียนวา่ ๐บเู รียนทา่ นรู้ไหมวา่ ข้าพเจ้ากําลงั คิดอะไร ถ้าหากวา่ ข้าพเจ้า ได้กลบั ไปถึง
ฝร่ังเศสอีก ความปรารถนาอย่างย่ิงของข้าพเจ้าก็คือ ไปทํา สงครามในแคว้นบาวาเรีย ซึ่ง
ข้าพเจ้ามน่ั ใจว่า ข้าพเจ้าจะสามารถเอาชยั ชนะแก้แค้นเบลนไฮม์ (Blindheim)๓๒ ได้ แล้ว
๓๒ เบลนไฮม์ (Blindheim) เป็ นสถานที่หรือเมืองเลก็ ๆ ในแคว้นบาวาเรืยตอนใต้ของเยอรมนั
๑๘๑
จากนนั้ ข้าพเจ้าก็จะกลบั ไปอยบู่ ้านนอก ดํารงชีวิตอยอู่ ยา่ งเงียบ ๆ สนั โดษ๑
อนาคตของนโปเลยี นอยใู่ นลกั ษณะไมผ่ อ่ งใส ขณะนเี ้หมอื นหนง่ึ วา่ ได้หมดหนทางที่จะ
กลบั ไปสปู่ ารีสได้ แม้ท่ีปารีสเอง ท่ีบ้านของนโปเลียน ก็เกือบจะไมม่ ีอะไรเหลือไว้ให้เป็ นความ
ปรารถนาอนั ยงิ่ ใหญ่ของนโปเลยี นอีก
ทิปปู ชาฮิป แห่งราชอาณาจกั รไมซอร์
นโปเลยี นได้เริ่มเจรจากบั ซาห์แหง่ เปอร์เซยี (Shah of Persia) และทปิ ปู ซาฮิป (Tippoo
Sahib)๓๓ ซง่ึ เป็ นศตั รูขององั กฤษแตเ่ ดิม ในการเจรจานี ้จดุ สาํ คญั ก็เพ่ือตกลงขอทางเดินทพั ไป
เคยเป็ นสถานท่ีทเี่ กิดศกึ สงครามสบื ราชบลั ลงั ค์สเปน ในช่วง ค.ศ. ๑๗๐๑-๑๗๑๔ เป็ นการ
ปะทะระหวา่ งทหารฝรั่งเศสโดยการนาํ ของพระเจ้าหลยุ สท์ ่ี ๑๔ กบั กองทหารสมั พนั ธมติ รทนี่ ํา
โดยองั กฤษ ดตั ช์ และออสเตรีย ซงึ่ ผลแตกหกั ทําให้ฝรั่งเศสพา่ ยแพ้ สร้างความอบั อายแก่ ชาว
ฝร่ังเศสมาแล้วครงั้ หนงึ่
๓๓ ทิปปู ซาฮิป (Tippoo Sahib) หรือ สลุ ตา่ น ทิปปู แหง่ ราชอาณาจกั รไมซอร์ (The Kingdom
๑๘๒
ยงั อนิ เดีย พร้อมกบั ท่ีแรกเริ่มจะผกู ไมตรีกบั ทิปปู ซาฮิบไว้ด้วย โดยนยั ก็คือวา่ เพื่อที่จะช่วย ให้
อียิปต์ได้หลดุ พ้นจากแอกอนั หนกั ขององั กฤษ
อีกหนง่ึ ภาพการสงครามอนั เกรียงไกร
นโปเลยี นมีความหมายมน่ั ในอนั ที่จะจําเริญรอยตามวีรบรุ ุษ อเลก็ ซานเดอร์มหาราช แต่
วา่ เมื่อได้ครุ่นคิดลงไปอยา่ งถ่องแท้แล้ว ก็ เกิดข้อสงสยั อย่ใู นใจวา่ จะทําลงไปได้สําเร็จหรือไม่
แตถ่ ้าหากมที หารตงั้ มน่ั อยใู่ นอยี ิปต์สกั ๑๕,๐๐๐ คน และมีอีก ๓๐,๐๐๐ คน สาํ หรับเดิน ทพั ไป
อินเดีย อย่างนีแ้ ล้ว ความท่ีคิดก็มีทางสําเร็จได้ ตลอดเวลาที่ผา่ นไป นโปเลียนได้ครุ่นคิดและ
of Mysore) เป็ นราชอาณาจกั รอสิ ระตงั้ อยทู่ างตอนใต้ของอินเดีย เป็ นอาณาจกั รทม่ี คี วามเป็ น
อสิ ระขนึ ้ ในศตวรรษท่ี ๑๗ ภายหลงั จากจกั รวรรดิวชิ ยั นครลม่ สลายลง
๑๘๓
ใฝ่ ฝันถึงเร่ืองนี ้ ซึ่งดูประหนึ่งว่าเป็ นเวลาที่ มีความสขุ ท่ีสดุ อน่ึง นโปเลียนได้ใช้ช่ือตัวเองใน
ขณะทอี่ ยใู่ นอียปิ ต์นนั้ วา่ ๐สลุ ตา่ น เอล.เกบรี ์๑ (Sultan El Kebir)
การคดิ ฝันอยา่ งรุนแรง ประกอบกบั การเสยี ใจในความไม่ซ่ือสตั ย์ของโยเซฟิ นผนวกเข้า
กบั ความร้อนแรงของอากาศในประเทศอียิปต์ จึงเมอ่ื วา่ งจากภารกิจอ่นื อารมณ์ของนโปเลยี นก็
เหหนั เข้าไปหาความสนกุ ในเรื่องรัก อนง่ึ ท่กี องทพั ฝร่ังเศสนน่ั เองมหี ญิงสาวภรรยาของนายร้อย
โท ซง่ึ ได้ร่วมเดินทางมาพร้อมกบั กองทพั แตง่ กายปลอมแปลงเป็ นผ้ชู ายจากท่าเรือเมืองตลู อง
อ้างว่าตนเองเป็ นลกู ของพ่อครัว หญิงงามผ้นู ีเ้ ดิมทีเคยทํางานเป็ นช่างตดั เสอื ้ แล้วก็มาได้กบั
นายร้อยโทในภายหลงั รูปร่างสวยกะทดั รัด ผมสีทองละเอียดออ่ น นยั น์ตาสมี ่วง ทว่ งทีคมคาย
ต้องตาคน นโปเลยี นได้หญิงผ้นู ีม้ าเป็ นครู่ ัก ความสมั พนั ธ์สนิทสนมระหว่างนโปเลียนกบั หญิง
สาวคอ่ ย ๆ ขยายตวั ขนึ ้ โดยลาํ ดบั จนบดั นเี ้ปิ ดเผยกระทงั่ นางสามารถแสดงตวั ออกนอกหน้าได้
และตงั้ ตวั เป็ นคนรักของนโปเลยี นเหมือนกบั พระนางคลโี อพตั รา นง่ั กินข้าวหวั โต๊ะ และนง่ั ร่วม
รถออกเท่ียวคู่กับนโปเลียนอย่างสง่าผ่าเผย และในขณะ ที่ชายหญิงเท่ียวเตร่เป็ นท่ีเบิกบาน
สาํ ราญใจนนั้ ยจู ีนก็คอยติดตามข่มี ้า สะกดรอยดอู ยตู่ ลอดเวลา
แท้จริงเร่ืองอนั เกี่ยวกบั โยเซฟินผ้มู ารดา มตี นื ้ ลกึ หนาบางเพียงไร ยจู ีนเป็ นผ้รู ู้ดีอย่แู ก่ใจ
นโปเลยี นเองก็เคยบอกแก่เขาเอง ทงั้ ตวั ยจู ีน เองก็เคยรู้ด้วยตนเองนบั แต่ครัง้ ทําสงครามอยใู่ น
ภาคอิตาลี โยเซฟินผู้ เป็ นแมอ่ ายกุ ็ลว่ งพ้น ๓๐ ไปแล้ว แตม่ ีนสิ ยั เจ้าช้ไู มร่ ักเกียรติ ก่อความ ทกุ ข์
ให้แกน่ โปเลยี นผ้เู ป็ นพอ่ เลยี ้ งและวีรบรุ ุษของชาติให้ต้องอบั อายขายหน้า โดยไปพะวงรักอยกู่ บั
ชายหนมุ่ ซงึ่ เมือ่ เทียบอายแุ ล้ว หน่มุ ผู้ นนั้ ก็เป็ นชนั้ ลกู ชนั้ หลาน จะโทษใครไมไ่ ด้ เพราะเป็ นแม่
บงั เกิดเกล้าของเขาประพฤตใิ ห้ผดิ ทางไปเอง
มาบดั นี ้นโปเลยี นพอ่ เลยี ้ ง ครัน้ ไมส่ นใจในโยเซฟินผ้ภู รรยา หรือ พดู อีกอยา่ งหนงึ่ คือวา่
มีครอบครัวไม่ได้ดัง่ ใจ เกิดความกลดั กล้มุ ขึน้ มี หญิงอ่ืนผ่านเข้ามาในชีวิต ก็ฉวยโอกาสหา
ความสําราญจากหญิงนัน้ เป็ นการแก้อารมณ์ร้ ายที่ขุ่นมวั อนั หญิงผ้เู ป็ นภรรยาได้ก่อเหตุไว้
เช่นนี ้นโปเลยี นพอ่ เลยี ้ งย่อมมีเสรีท่ีพึงจะทําได้โดยไมน่ ่าตําหนิ ทงั้ นีเ้ ป็ นความไตร่ตรอง ของยู
จีน ซงึ่ เป็ นความคดิ ของคนรุ่นหนมุ่ และคิดอยา่ งคนหนมุ่ ๆ คดิ
นโปเลยี นตงั้ ความปรารถนาจะได้ผ้สู บื สกลุ เป็ นความปรารถนา ที่มีมายาวนานนกั แล้ว
และถ้าหากว่าหญิงช่างตดั เสือ้ รูปร่างคมคายนี ้ สามารถจะมีบุตรกับเขาได้แล้ว นโปเลียนก็
๑๘๔
อาจจะหยา่ ขาดจากโยเซฟิ นเสียเลย อนง่ึ ถึงแม้วา่ หญิงผ้นู ีจ้ ะมีฐานะเป็ นคนชนั้ ต่ํา แต่ก็พบว่า
บรรดา เหลา่ นายพลกล้าศกึ ของนโปเลยี นเองก็ล้วนแตม่ กี ําเนดิ มาจากตระกูลท่ีต่ําต้อยโดยมาก
ซงึ่ เมือ่ เทยี บกนั แล้วก็คอื เป็ นชนชนั้ เดียวกนั นน่ั เอง อนง่ึ เลา่ ถ้ามาตรแม้นว่าบตุ รที่เกิดมามีเลือด
ของนโปเลยี นแล้ว ก็ไมน่ า่ จะปรารมภ์อะไรกบั เร่ืองเช่นนี ้นโปเลยี นถือมน่ั ในความเสมอภาคของ
คนทุกคน ซึ่งทํางานอย่ใู นโลก และนบั ถือว่าการเป็ นบตุ รที่ถกู ต้องตาม ประเพณีนิยมเป็ นของ
สาํ คญั
แต่ว่า จะอย่างไรก็ตาม ต่อจากนัน้ มาไม่นานนัก นโปเลียนได้พูด กับคนใกล้ชิดท่ี
ไว้วางใจคนหน่ึงว่า ๐หญิงคนนีช้ ่างไมรู้จักมีลกู สกั ที" บงั เอิญหญิงสาวผ้นู ีไ้ ด้แอบรู้เรื่องเข้า จึง
ตอบเป็ นเชิงเย้ยหยนั วา่ ๐ทวี่ า่ นนั้ ไมใชเ่ ป็ นความผิดของฉนั เลย๑ ครัน้ นโปเลยี นได้ทราบคําพดู นี ้
แล้วก็ รู้สกึ ไม่สบายใจ เพราะเหตยุ งั ไม่มีทางพิสจู น์ได้อย่างไรว่าตวั นโปเลยี น เองนนั้ เป็ นคนท่ี
สามารถจะมลี กู ได้หรือเป็ นหมนั
๑๘๕
บทท่ี ๒๒
กลับเข้าปารีส
นโปเลยี นน่ังร่วมวงสนทนาวางตนเสมอกบั คนอ่ืน ๆ ทัง้ หลายใน
บรรดานกั ปราชญ์ท่ีติดตามมาอียิปต์ด้วย โดยมิได้ถือตวั แต่อย่างหนึ่งอย่างใด ในวงชุมนุมนนั้
ล้วนแต่เป็ นพวกนกั ปราชญ์ราชบณั ฑิตผ้ทู รงวิทยาคณุ นโปเลยี นมกั ไมใ่ คร่พยายามจะโต้เถียง
โดยไมใ่ ช้เหตผุ ล การ โต้เถียงสว่ นมากจะเป็ นเร่ืองเกี่ยวกบั การทหาร และเก่ียวกบั สิง่ ซึ่งจะ ต้อง
ปฏบิ ตั กิ นั ในปัจจบุ นั เฉพาะหน้า เช่น วิธีกรองนํา้ ในแม่นํา้ ไนล์เพ่ือบริโภค การก่อสร้างโรงลี การ
หาวัตถุท่ีจะนํามาใช้เป็ นดินปื น ครัง้ หน่ึง นโปเลียนรู้สึกสนุกในการโต้แย้งแต่แบตอลเลต์
(Berthollet) ได้พดู ขนึ ้ ใน ทนั ทีทนั ใดวา่ ๐ท่านเข้าใจผิดไปเสียแล้ว ท่านเถียงไม่ต้องด้วยเหตผุ ล
เพราะวา่ ทา่ นกําลงั ฉนุ เฉียว๑ แพทย์ผ่าตดั ประจํากองทพั เรือได้สนบั สนนุ ความเห็นของแบตอล
เลต์อกี คนหนงึ่ นโปเลยี นจึงตอบวา่ ๐ทา่ นเหลา่ นเี ้ป็ นนกั วทิ ยาศาสตร์ แตใ่ ม่รู้ว่าวิชาเคมีนนั้ เป็ น
พอ่ ครัวของวิชาแพทย์ และเป็ นผ้ฆู าตกรรมวิทยาศาสตร์๑ ซึง่ แพทย์ผา่ ตดั ผู้นนั้ ก็ตอบโต้ในทนั ที
วา่ ๐ทา่ นจะให้คาํ จํากดั ความวา่ ศลิ ปะเป็ นผ้ชู นะในการสงครามได้อยา่ งไร๑
ทงั้ หมดนจี ้ ะเห็นวา่ ในการสนทนาโต้เถียงกนั นี ้ต่างก็กระทํากนั เหมือนอย่างเป็ นคนเทา่
เทยี มกนั ทงั้ หมด ไมม่ กี ารแสดงออกหรือจํากดั วา่ ใครตา่ํ ใครสงู
ตลอดเวลาท่ีลว่ งไปหลายวนั นโปเลียนออกแถลงการณ์ แต่ว่าไม่มีข่าวจากฝรั่งเศสมา
เลย ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งดเู หมอื นจะหยดุ นิ่ง มีแตค่ วามไมแ่ นน่ อนเกิดอยทู่ ว่ั ๆ ไป และในทา่ มกลาง
การหยุดน่ิงในกองทพั นี ้ก็มีการโต้เถียงกันเป็ นการแลกเปลย่ี นความรู้ระหว่างผ้ทู รงวิทยาคุณ
บรรดาพวกนกั ปราชญ์นตี ้ า่ งทาํ งานเหมือนอยา่ งนกั ศกึ ษา ให้ทงั้ คาํ แนะนําและพร้อมทจี่ ะทําการ
ช่วยเหลือ และเห็นกนั ว่า ในระหวา่ งท่ีอย่เู ปลา่ ๆ นีเ้ ป็ นโอกาสอนั ดีที่จะทําการค้นควาั ในทาง
วิชาการ ฉะนนั้ จึง ได้ร่วมกนั ทําการสาํ รวจภมู ิประเทศและทรัพย์สนิ ในท้องถิ่นตา่ ง ๆ เช่น ปลา
ในแม่นํา้ ไนล์ แร่ในทะเลแดง ซึ่งทุก ๆ ส่ิงเหล่านีไ้ ด้ทําการสํารวจกัน นบั เป็ นครัง้ แรก ฝ่ ายพวก
แพทย์ก็พยายามค้นคว้าถงึ สาเหตขุ องโรคระบาดท่ีมีชกุ ชมุ ในดินแดนตะวนั ออก และค้นคว้าใน
เรื่องริดสดี วงตา และอนื่ ๆ อนั เกี่ยวกบั นยั น์ตาทเี่ ป็ นต้นเหตทุ ําให้ผ้ปู ่ วยตาบอดได้
๑๘๖
คืนสปู่ ารีส
อนงึ่ ได้มกี ารตีพิมพ์พจนานกุ รมและพิมพ์ตําราไวยากรณ์ ตลอดจนการขดุ ค้นโบสถ์วหิ าร
ในภาคอียปิ ต์ตอนบน และได้ค้นพบบอ่ นาํ ้ ของโมเสสครัง้ โบราณ
วนั หน่งึ นายทหารช่างได้กลบั มาจากเมืองโรเซ็ตตา (Rosetta)๓๔ พร้อมด้วยถือเอาแผ่น
หินแกรนติ ซง่ึ มีคําจารึกเป็ นภาษาหลายภาษา เทา่ ท่ีพอจะสอบสวนดูได้ ๒ ภาษาคือ รอยจารึก
เป็ นภาษากรีก และภาษาอียิปต์โบราณซงึ่ เป็ นรูปภาพ ไมใช่เป็ นตวั อกั ษรอย่างทกุ วนั นี๓้ ๕ พวก
๓๔ ปัจจบุ นั คอื เมืองราชิด ในประเทศอยี ปิ ต์
๓๕ หมายถงึ อกั ษรเฮียโรกลฟิ ิค หรือ ไฮโรกลฟิ (Hieroglyph) เป็ นอกั ษรภาพอยา่ งหนงึ่ ของอยี ิปต์
โบราณ เพง่ิ มีการอา่ นและแปลความหมายได้อยา่ งชดั เจนเป็ นระบบเมื่อมกี ารค้นพบ หินโรเซต
ตา ใน ค.ศ.๑๗๙๙ (ซงึ่ ก็คือครัง้ ทน่ี โปเลยี นบกุ อยี ปิ ต์นเี ้อง) ทจี่ ารึกโดยตวั อกั ษร ๓ แบบ คอื กรีก
โบราณ ดีโมติก และไฮโรกลฟิ การเปรียบเทียบชื่อราชวงศ์ตา่ ง ๆ โดยใช้ตวั อกั ษร ๓ แบบ ทําให้
ผ้เู ช่ียวชาญภาษาโบราณสามารถอา่ นอกั ษรไฮโรกลฟิ ได้ใน ๒๕ ปีตอ่ มา
๑๘๗
นกั ปราชญ์ทงั้ หลายต่างพากนั พยายามผสมคํา เพ่ืออ่านความหมายของตวั ภาพแทนตวั อกั ษร
แปลก ๆ เหลา่ นนั้
สงิ่ ที่นโปเลยี นสนใจเป็ นพิเศษก็คือ การพยายามขดุ คลองตรง คอคอดสเุ อซ (Suez) นโป
เลียนได้เดินทางไปในทะเลทรายไปในอนั ระยะไกล ๆ มาก ซึง่ เป็ นการลอ่ แหลมต่อภยั ที่อาจจะ
บงั เกิดขนึ ้ จากพวกอาหรับ ได้พยายามตรวจดเู ส้นทเี่ ป็ นร่องรอยของคลองในสมยั โบราณ และได้
วางแผนโครงการที่จะขดุ คลองขึน้ มาใหม่ แต่ความคาดคะเนของนโปเลียนที่เกี่ยวกับการขุด
คลองที่คอคอดสเุ อซนี ้ ต่อมาภายหลงั อีกก่ึงศตวรรษ ก็สอดคล้องกับความเห็นของเล็สเซ็ป
(Lesseps)๓๖
มีเรือสินค้าลําเล็ก ๆ สองสามลาํ ได้แลน่ เล็ดลอดผา่ นกองเรือลาด ตระเวนขององั กฤษ
เข้ามาได้ ทาํ ให้นโปเลยี นได้ทราบขา่ ววา่ การแตก ทําลายของกองเรือฝรั่งเศสท่ีอา่ วอาร์บกู ีร์นนั้
ได้เป็ นเหตุให้เกิดผล สะท้อนอย่างใหญ่หลวง สุลต่านได้เริ่มเป็ นพันธมิตรกับรัสเซีย และ
ประเทศค่สู มั พนั ธ์ทงั้ ๒ นีไ้ ด้ร่วมกนั ประกาศสงครามกับฝรั่งเศส คณะ รัฐบาลฝรั่งเศสก็กําลงั
ซวนเซง่อนแงน่ แมท่ พั ฝ่ ายเตอรกีชื่ออาคเมด (Achmed) กําลงั เดนิ ทพั ผา่ นซเี รียตรงไปยงั อียิปต์
พวกทไ่ี มย่ อมออ่ นน้อมต่อนโปเลียน ท่ียงั ซอ่ นเร้นอย่ใู นกรุงไคโร เมื่อได้รับทราบความข้ อนีแ้ ล้ว
ตา่ งก็พากนั ลกุ ฮือขนึ ้ กอ่ การจลาจลเป็ นกบฏ แตก่ ารจลาจลในครัง้ นกี ้ ็ถกู ปราบลงอยา่ งราบเรียบ
ด้วยปื นใหญ่ และจบั ตวั หวั หน้าพวกกบฏตดั หวั เสยี บประจานไว้
นโปเลยี นนนั้ รู้สกึ โลง่ ใจมากกว่าจะตกใจ คือถ้าหากวา่ กองทพั เตอรกียกทพั มาทางทิศ
ใต้ก็นบั วา่ เป็ นการดี เพราะวา่ จะได้มีโอกาสส้รู บ กนั กลางแปลง
แต่ก็ได้ซ่อนเร้ นความวิตกกังวลไว้ในใจอย่างเงียบ ๆ ขณะเม่ือจะ ออกเดินทางจาก
ฝรั่งเศสมาเพื่อจะโจมตอี ียปิ ต์นนั้ ความมงุ่ หมายก็เพ่ือจะได้ยดึ ท่ีมน่ั สาํ คญั เป็ นฐานทพั ในขนั้ แรก
แล้วจะไปโจมตีอินเดียอีกต่อไปในโอกาสหน้า นโปเลียนได้ยอมเสียเวลา ๑๕ เดือน ท่ีจะ
ปราบปราม อียิปต์แล้วสถาปนาอํานาจให้เป็ นปึ กแผน่ ลงโดยประสงค์จะให้เป็ นการ เตรียมลํา
๓๖ แฟร์ดนี ็อง มารี ไวเคานต์ เดอ เลส็ แซ็ปส์ (Ferdinand Marie, Vicomte de Lesseps ค.ศ.
๑๘๐๕ - ค.ศ.๑๘๙๔) หวั หน้าวศิ วกรและ นกั การทตู ชาวฝรั่งเศสผ้สู ร้างคลองสเุ อซสาํ เร็จใน
ค.ศ.๑๘๖๙
๑๘๘
หรับจะยกทพั ใหญ่ไปตีอินเดียด้วย ซ่ึงจะต้องใช้กําลงั ทหารถึง ๔๐,๐๐๐ คน อูฐ ๔๐,๐๐๐ ตวั
ปื นใหญ่สนาม ๑๒๐ กระบอก และยงั จะขอให้มี กองทพั หนนุ อีก รวมทงั้ เรือและปื นใหญ่ด้วย
เพือ่ ช่วยเหลอื การรบทางบก
แต่ว่าในการส้รู บกันท่ีฝั่งแม่นํา้ ไนล์นนั้ ได้เป็ นเหตทุ ําลาย แผนการอนั งดงามของนโป
เลยี นเสีย เพราะกองทพั องั กฤษได้ตีล้อม โอบเข้ามาด้านชายฝ่ังทะเล สลุ ต่านก็กลบั ไปเข้าข้าง
องั กฤษกลายเป็ นศตั รูขนึ ้ ชาวอียิปต์เองก็หนั มาเกลียดชงั ฝร่ังเศส แต่อย่างไรก็ดี นโปเลียน ได้
ดดั แปลงโครงการใหมใ่ ห้เหมาะสมแก่สถานการณ์อนั บงั เกิดขนึ ้ เฉพาะหน้านนั้ และดเู หมือนว่า
จะได้รับประโยชน์จากเหตกุ ารณ์ท่ีแปรเปลี่ยนไปนีด้ ้วย ทหารเตอรกีและทหารองั กฤษกําลงั จะ
ยกพลขนึ ้ บกมา รวมสมทบกนั เป็ นทพั ใหญ่ ฉะนนั้ จึงจะต้องโจมตีต่อสู้เพ่ือป้ องกนั ชีวิต ให้ได้
ตลอดรอดฝ่ังไป ดงั นนั้ จงึ จําเป็ นท่ีสดุ ทีจ่ ะต้องเข้ายดึ กระสนุ ดินดํา และทา่ เรือเตอรกี และจะต้อง
ยยุ งให้พวกซีเรียลกุ ขึน้ มาจบั อาวุธต่อสู้อีกแรงหนึ่ง ถ้าหากว่านโปเลียนต้องการจะยึดป้ อมที่
เมืองอาคร์ (Aere) ไว้ได้แล้ว พวกในเมืองไคโรก็จะกลบั เข้าเป็ นพวกกบั ฝรั่งเศส ฉะนนั้ ใน ราว
เดือนมถิ นุ ายนนกี ้ ็จะสามารถไปถึงเมืองดามสั กสั แล้วจดั การให้กองระวงั หน้าเดินทะลเุ ข้าไปใน
เทอื กเขาโทรัส (Taurus) พร้อมด้วยกําลงั ทหาร ๒๖,๐๐๐ คน ซง่ึ เป็ นชาวฝรั่งเศส มีเป็ นชาวมมั
ลคุ อีก ๖,๐๐๐ คน และเป็ นชาวดรูเสส (Druses) อีก ๑๘,000 คน ทงั้ หมดนีม้ ่งุ ตรงไปทางทิศ
ตะวนั ออก สว่ นเดแซ (Desaix) ก็มงุ่ ตรงจากอียปิ ต์ แล้วสลุ ตา่ นก็คงจะต้องตงั้ อยใู่ นความสงบ
ชาห์แห่งเ ปอร์ เซี ยได้ ยิ นยอม ตกลง ท่ีจะใ ห้ นโปเลียนเดินทัพผ่านท างเ มืองบัซโซรา
(Bassora) และเมืองชีราช (Shiraz) โดยประการฉะนี ้ภายในระยะเดือนมีนาคม กองทพั นโป
เลยี นก็จะรุกลาํ ้ ไปได้จนถงึ ฝ่ังแมน่ าํ ้ สนิ ธุ ดงั นนั้ นโปเลยี นจึงเร่ิมการเดินทพั มงุ่ ไปยงั ประเทศซเี รีย
เส้นทางทผ่ี า่ นไปนนั้ เกือบจะไมม่ ลี กั ษณะเป็ นถนน นโปเลยี น ต้องขี่ม้าเป็ นระยะทางถึง
๔๘ ไมล์ ในระยะเวลา ๑๕ ชวั่ โมง โดยมากใช้เวลากลางคนื เดินทาง ไมม่ ีนํา้ รับประทาน และตวั
เขามกั จะไปอยใู่ น แนวหน้าเสมอ เมอ่ี ตีเมืองยฟั ฟา (Jaffa) ได้ ทหารเตอรกีจํานวน ๒,๐๐๐ คน
ยอมแพ้แล้ว นโปเลยี นก็กระอกั กระอว่ นไมแ่ นใ่ จว่าจะจบั ไว้เป็ นเชลยหรือไม่ เพราะเหตวุ า่ ทหาร
ในกองทพั ของตนเองก็ขาดแคลนมีจํานวนที่น้อยอยแู่ ล้ว จะเอาทหารท่ีไหนแบ่งออกไปควบคมุ
เชลยอีก ๒,๐๐๐ คนนี ้ครัน้ จะจบั สง่ เอาไปให้ฝร่ังเศสเลา่ ก็ไม่มีเรือจะบรรทกุ ถ้าจะชวน แลก
เชลยกบั เตอรกี เตอรกีก็ไมม่ เี ชลยทเี่ ป็ นชาติฝร่ังเศสจะให้แลก แต่ ครัน้ จะปลอ่ ยเชลยเตอรกีนีไ้ ป
๑๘๙
เสยี ก็คงจะกลบั ไปเข้ากบั กองทพั ที่เมืองอาคร์ ซ่ึงเป็ นที่มน่ั ฐานทพั ข้าศกึ ท่ีอย่ถู ดั ไป และไปเป็ น
กําลงั อยา่ งดอี ีกด้วย เมื่อเป็ นเช่นนนี ้ โปเลยี นจึงเรียกประชมุ นายทพั นายกอง ที่ประชุม ได้ตกลง
และเสนอกนั วา่ ควรจะสงั หารเชลย ๒,๐๐๐ คนนเี ้สยี ทเี ดยี ว เพราะเมอ่ื ๒-๓ วนั นีเ้ อง พวกทหาร
เตอรกีนีไ้ ด้ฆ่าทตู ของฝรั่งเศส ซึ่ง พวกทหารในกองทพั ฝรั่งเศสพากนั โกรธเคืองอยู่ นโปเลียน
ลงั เลใจและ ได้คิดการเรื่องนีอ้ ยู่ถึง ๓ วัน แต่ผลสดุ ท้ายก็ไม่มีวิธีอื่น ต้องตกลง ยินยอมตาม
ข้อเสนอของทป่ี ระชมุ พวกเชลยเหลา่ นนั้ ได้ถกู พากนั ไปยงั ชายฝ่ังทะเล แล้วก็ถกู ยงิ กราดสนิ ้ ชีวิต
ไปหมดทงั้ ๒,๐๐๐ คน
การล้างชีวติ ทหารเตอรกีครัง้ นี ้พวกนกั วิพากษ์วจิ ารณ์รุ่นหลงั ตอ่ มา ซง่ึ โดยมากเป็ นพวก
เยอรมนั ได้ลงความเหน็ วา่ ไมม่ ีวิธีอน่ื ใดท่ีจะ ทาํ ได้ดีกวา่ ประหารเสยี ทงั้ หมด
ที่ม่ันของทัพช้ าศึกถัดไปก็คือเมืองอาคร์ ณ ที่เมืองอาคร์นีเ้ ป็ น แหล่งคลังอาวุธ
ยทุ ธภณั ฑ์ไหม่ ๆ มาก ถดั จากเมอื งนไี ้ ปมเี ส้นทางเดินขนึ ้ ไปได้ทางทิศเหนือ เตอรกีก็ได้ประกาศ
สงครามแล้ว กองทพั นโปเลยี นเองถกู ตดั ขาดและจําเป็ นจะต้องตอ่ ส้เู พอื่ ชีวติ มหาภยั ใหญ่หลวง
กําลงั เผชิญหน้าอยู่ แต่ทกุ ส่งิ ทกุ อยา่ งย่อมจะเป็ นไปตามเหตกุ ารณ์ทงั้ สนิ ้ นโปเลียนเกิดความ
ลงั เล ไม่แน่ใจว่าจะทําการตีอินเดียสําเร็จ แต่ได้เคยพูดถึงแผนการตีอินเดียนีแ้ ก่บรรดา
นายทหารครัง้ หนึ่งว่า ถ้าหากว่าสามารถยึดเมืองอาคร์ได้แล้ว ก็จะเดินทพั ไปยงั เมืองดามสั กสั
และเมืองอะเล็ปโป (Aleppo) ได้โดยตลอด และจากระยะทางเหลา่ นนั้ ก็หาวิธี เพ่ิมเติมกําลงั
กองทพั เรื่อย ๆ ไป พยายามประกาศแก่ประชาชนพลเมอื ง ในแถบนนั้ วา่ ทพั ฝร่ังเศสกรีฑาพลมา
ก็เพ่ือทําลายล้างพวกปาชา (Pasha) ครัน้ แล้วเมื่อมีกําลงั ทพั มากขนึ ้ กว่าที่มีอย่ดู งั ที่คิดนี ้ก็จะ
สามารถเข้ายดึ เมอื งคอนสแตนติโนเปิ ล และเข้าทําลายล้างอํานาจเตอรกี ก่อตงั้ จกั รภพขนึ ้ ใหม่
จากนนั้ ช่ือเสียงเกียรติคณุ ก็จะขจรไป และจะติดตรึงโลกอย่ไู ม่รู้เส่ือมสญู และก็จะได้กลบั บ้าน
ได้โดยเดินทางผา่ น เมืองอาเดรียโนเปี ล (Adrianople) หรือเวียนนา และถือโอกาสทําลาย ล้าง
ออสเตรียไปพร้อมกนั ทเี ดยี ว
กองทพั นโปเลยี นได้ไปถงึ เขตเมืองอาคร์ ท่ีจริงก็ไมใ่ ช่จะมีป้ อม ปราการใหญ่โตอะไรนกั
แต่ว่ามีอาวุธทนั สมัย มีนายทหารอังกฤษและ นายทหารปื นใหญ่ชาวองั กฤษเข้ามาร่วมใน
กองทพั แขง็ แรงอยู่
นโปเลียนได้พยายามเข้าโจมตีเมือง ๓ ครัง้ แต่ไมส่ ําเร็จ พอดี กบั ท่ีกองทพั เรือองั กฤษ
๑๙๐
มาถึงเข้าชว่ ยเหลอื และส้รู บจนกนั เอาเมือง อาคร์เอาไว้ได้ และทําการระดมยิงกองทพั ของนโป
เลยี นเป็ นสามารถ
ในทส่ี ดุ ขา่ วจากกรุงปารีสก็มาถึง แตเ่ ป็ นขา่ วซงึ่ ไมท่ าํ ให้เป็ นทพ่ี อ ใจของนโปเลยี นเลย ที่
ปารีส ตาลเลรังค์ก็ไม่ได้ไปเมืองคอนสแตนติโนเปี ล เพื่อเจรจากับสุลต่าน ย่ิงไปกว่านัน้
คณะกรรมาธิการกรุงปารีสได้ก่อกรรม ทําเข็ญขึน้ โดยการถอดสงั ฆราชแห่งโรม ถอดพระเจ้า
แผ่นดินแห่ง แคว้นปี เอด์มองต์ และถอดพระเจ้าแผ่นดินเนเปิ ลเสีย ออสเตรียกบั รัสเซียจึงได้
ประกาศสงครามกบั ฝร่ังเศส และแคว้นตา่ ง ๆ ทนี่ โปเลยี นตี ได้ไว้ในครัง้ โน้น ก็ลกุ ขนึ ้ มาเป็ นศตั รู
ฝร่ังเศสตงั้ ให้นายพลมอโรและโอเยโรเป็ นแมท่ พั
เม่ือได้รู้ข่าวนีแ้ ล้ว นไปเลยี นก็ไม่อาจนอนใจ ได้เร่งรุดที่จะทําการ โจมตีเมืองอาคร์ให้
แตกไปโดยเร็ว
นโปเลยี นไมช่ อบการล้อมป้ อมไว้นาน ๆ โดยให้ข้าศกึ ในเมืองอด อาหารตายแล้วยอม
แพ้ นโปเลียนเห็นว่าป้ อมนนั้ เหมือนกับผ้หู ญิง ซึ่งจะต้องโจมตีอย่างเด็ดขาดและทันทีทนั ใด
มิฉะนนั้ ก็ไมค่ วรทาํ การเสยี เลย เวลาไมม่ ีพอท่ีจะให้รอคอยการกระทําเป็ นอยา่ งอืน่
นโปเลยี นนงั่ อยใู่ นเตน็ ท์ พยายามใช้ความคิดไตร่ตรองถึงเร่ืองนี ้นโปเลยี นกําลงั ลงั เลใจ
วา่ จะต้องล้อมป้ อมตอ่ ไปอกี เป็ นเวลาแรมเดือน อยา่ งนีห้ รือ ขณะนีเ้ ลา่ ทางยโุ รปก็กําลงั ส้รู บทํา
สงครามกนั อยู่ ถ้าจะหนั กลบั ไปปารีสโดยไมท่ ําการรบให้ชนะเด็ดขาดก็นา่ เสยี ดาย แต่ว่าไม่มี
ทางจะเลอื กได้ ฉะนนั้ จงึ ควรจะถอยทพั กลบั ไปยงั อียปิ ต์ และในการถอยทพั นี ้นโปเลยี นได้อย่ใู น
กองหลงั คอยระแวดระวงั ด้วยจิตใจเป็ นวติ กกงั วลยงิ่
การถอยทัพครัง้ นีเ้ ป็ นเหตุการณ์ที่น่าสงั เวชยิ่ง ไม่มีอาหาร ไม่มีนํา้ มีแต่โรคระบาด
ทหารเจ็บป่ วยเกือบทงั้ กองทพั นโปเลยี นได้ไป เย่ียมเยียนทหารป่ วย และพยายามกล่าวปลกุ
ปลอบนาํ ้ ใจ มีอยู่ ๕๐ คน ที่อยใู่ นอาการร่อแร่นา่ สงั เวช ซงึ่ นโปเลยี นเหน็ วา่ จําเป็ นจะต้องช่วยให้
พ้นทกุ ข์ไปด้วยอาการสงบ จึงได้สง่ั หมอให้วางยาพิษ พวกหมอเองก็ไม่ อยากจะทํา ภายหลงั
ตอ่ มา นโปเลยี นได้พดู ถงึ เร่ืองนวี ้ า่ ๐แม้แตเ่ ป็ นบตุ รของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าก็ต้องวางยาพิษ๑
ทหารในกองทพั ป่ วยไปเสยี ๒,๐๐๐ คน อกี ๖,๐๐๐ คน ยงั พอ มีสขุ ภาพดี ต่างก็คอ่ ย ๆ
เดินทพั ข้ามทะเลทรายไปอยา่ งเชื่องช้า ทหารที่ไมป่ ่ วย ๔ คน ต้องเข้าปี กพยงุ ทหารป่ วยคนหนึ่ง
ท่ีเดินไม่ไหวให้ค่อยเดินไปได้ เพราะม้ามีไมพ่ อที่จะบรรทกุ คนป่ วยหรือคนพิการ แม้นายทหาร
๑๙๑
เองก็ต้องเดนิ เท้า ไปพร้อม ๆ กบั ทหารอ่ืน ๆ เชน่ กนั
ในทสี่ ดุ กองทพั ก็เข้าถึงนครไคโร นโปเลยี นได้เดินนํากองทพั เข้าไปอยา่ งสง่าผา่ เผย เพ่ือ
ฉลองในการท่ียึดธงประจํากองของข้าศึกมา ได้เป็ นอนั มาก ได้พยายามจัดให้มีการเดินสวน
สนาม และประกาศชยั ชนะเป็ นการตบตาประชาชนชาวอยี ปิ ต์วา่ มีชยั กลบั มา
นโปเลียนจะไปแกตั วั ที่กรุงปารีสว่าอย่างไร เมืองอาคร์ก็ตีไม่ได้ เพราะเหตวุ ่าเกิดโรค
ระบาดขนึ ้ ท่นี นั่ จึงจําเป็ นต้องถอยกลบั มา นโปเลยี นได้เรียกประชมุ พวกนกั ปราชญ์เพื่อหาผ้เู ป็ น
พยานหลกั ฐานสาํ หรับจะได้เป็ นข้ออ้าง แต่มีคนหนึง่ ได้ยืนขนึ ้ ทา่ มกลางท่ีประชุมนกั ปราชญ์นบั
ร้อย และกลา่ วคาํ ปฏิเสธไมย่ อมลงช่ือเข้าร่วมด้วยในความเห็นนนั้ ซง่ึ ผลสดุ ท้ายนโปเลยี นก็ต้อง
ยินยอมและคนผ้นู ใี ้ นโอกาสหลงั ๆ ตอ่ มานโปเลยี นได้เลอ่ื นยศและตําแหนง่ ขนึ ้ โดยลาํ ดบั
ขณะนเี ้อง ทหารเตอรกีได้ยกเข้ามาทางทะเล โดยตงั้ ใจจะทําลาย ล้างทหารฝรั่งเศสให้
หมด และก็เป็ นอีกครัง้ หน่งึ ที่ทหารฝรั่งเศสต้องตก อย่ใู นท่ีอนั ตรายใหญ่หลวง และกองทพั เต
อรกีได้ขนึ ้ บกท่อี า่ วอาบกู ีร์ ที่ เดียวกบั ที่ได้ส้รู บกนั เมื่อปี หนง่ึ ลว่ งมาแล้ว
นโปเลยี นได้ปลอ่ ยให้ข้าศกึ ยกขนึ ้ บกจนหมด แล้วก็จ่โู จมเข้าตีจน แตกยบั ไป ทงั้ ๆ ท่ีฝ่ าย
เตอรกีมีกําลงั มากกวา่ เป็ น ๒ ตอ่ ๑ มรู าต์ถึงกบั พดู ตอ่ หน้านโปเลยี นวา่ ๐ทา่ นนายพล ทา่ นเป็ น
คนที่เก่งกล้าสามารถ ใหญ่ย่ิงเหมือนกับใลก และโลกนีเ้ ล็กเหลือเกินสําหรับท่าน๑ เป็ นความ
จริงท่ีนา่ อศั จรรย์ เพราะการส้รู บครัง้ นี ้นโปเลยี นทาํ การอยา่ งรวดเร็วฉบั พลนั ทหารเตอรกีขนึ ้ บก
ทงั้ หมด ไมม่ เี หลอื รอดตายไปแม้แต่สกั คนเดียว
นโปเลียนได้ทหารชาติมัมลุคท่ีร่วมมาในกองทัพคนหนึ่ง มีชื่อ เป็ นภาษายอร์เยีย
(Georgia) ว่า รัสตมั (Rustum) รูปร่างสงู ได้สว่ น นยั น์ตาสีนํา้ เงิน เค้าหน้าบง่ ถึงความเป็ นคน
สตั ย์ซ่ือ นโปเลียนได้ให้ดาบ เขาเลม่ หนง่ึ และตงั้ ให้เป็ นคนสนิทประจําตวั รัสตมั ผ้นู ีเ้ อง ได้เป็ น
เหมอื น คนยามนอนอยหู่ น้าประตหู ้องนอนของนโปเลยี นตลอดกาลถงึ ๑๕ ปี ตอ่ มา
หลงั จากโจมตีเตอรกียบั เยิน ได้ชยั ชนะท่ีอาบกู ีร์แล้ว นโปเลียน ได้เข้าเจรากบั แมท่ พั ที่
ทาํ การล้อมอยู่ นโปเลียนประสงค์จะแลกเปล่ียน เชลยกบั องั กฤษ แต่เนือ้ แท้นนั้ เขาปรารถนาที่
จะได้รู้ขา่ วจากหนงั สอื พิมพ์ มากกวา่
ทหารได้นาํ หนงั สอื พิมพ์มาให้ในขณะท่ีนโปเลยี นนอนหลบั เมื่อ ได้ปลกุ ให้ตื่นขนึ ้ แล้วจึง
บอกวา่ ๐แชเลอร์แพ้ทพั ฝรั่งเศสได้เสยี ดินแดน ทงั้ หมดในอติ าลไี ปแล้ว๑ นโปเลยี นกระวีกระวาด