๒๙๒
เงินทองเพราะกลวั จะถกู โกงอยเู่ สมอ มี หลายครัง้ ท่ีนโปเลยี นพิถีพิถนั กบั รายจ่ายในการซือ้ ข้าว
ของเครื่องใช้เป็ นอนั มาก ทงั้ นเี ้พราะเขากลวั วา่ จะมีการคดิ ราคาแพงไป
รายจ่ายในบ้านและครอบครัวของนโปเลียน จะต้องผ่านการตรวจ พิจารณาของนโป
เลียนเองอย่างถ่ีถ้วนทุกรายการ เสอื ้ ผ้าเครื่อง แตง่ กายของนโปเลยี นมักจะเลอื กใช้ผ้าทน ๆ ที่
คาดวา่ จะต้องอยไู่ ด้ถึง ๓ ปี จงึ จะพอใจ ลกั ษณะนีก้ ลา่ วกนั ว่าผิดกบั มรู าต์ ที่ยอมเสยี คา่ ใช้จ่าย
เพอ่ื ซอื ้ ขนนกกระจอกเทศถึง ๒๗,๐๐๐ ฟรังค์
นโปเลียนเคยสงั่ การอย่างละเอียดลออถึงขนาดว่า ทหารของตน จะต้องกินขนมปังสกั
เพยี งใด และควรเตรียมรองเท้าไปใช้ในการยาตรา ทพั ก่ีคู่ เช่น ให้สวมไป ๑ คู่ และบรรทกุ ไปใน
เครื่องหลงั ๒ คู่ เป็ นต้น
นโปเลยี นชอบทํางานกลางคืน นงั่ อย่กู บั เลขานกุ ารในโต๊ะเขียน หนงั สอื เกือบตลอดคืน
เป็ นเนืองนิตย์ บางคราวเม่ือจําเป็ นนโปเลียน เคยเดินทางด้วยรถถึงร้อยชว่ั โมง โดยไม่ได้หยุด
พกั ผอ่ นเปลย่ี นเครื่อง แตง่ ตวั เลย
๐ฉนั ไมไ่ ด้เปลย่ี นเครื่องแตง่ ตวั และมิได้ผงิ ไฟมาหนง่ึ อาทิตย์เต็มแล้ว๑
เป็ นความตอนหนง่ึ ในจดหมายท่ีนโปเลยี นเขียนถึงโยเซฟินในสนามรบ
๒๙๓
จกั รพรรดินโปเลียน
๒๙๔
บทท่ี ๒๙
สงครามตัง้ ต้นอีก
สงครามระหว่างอังกฤษ-ฝร่ังเศส เปิ ดฉากอย่างดุเดือดขึน้ เมื่อองั กฤษเข้ายดึ เมืองต่าง ๆ
ตามที่มีในสนธิสญั ญาอาเมียงสเ์ อาไว้ แล้ว ทําการขบั ไลก่ องทพั เลอแคลให้ถอยไปยงั เซนต์โดมงิ
โก ขณะที่นโปเลียน ก็สง่ั ให้กองทพั ยกเข้ายึดฮอลแลนด์ แฮนโนเวอร์ตอ่ ไป ขณะท่ีทางตอน ใต้
นนั้ อิตาลกี ็เข้ายดึ เนเปิ ลไว้ได้
นโปเลยี นเริ่มตดั ทางคมนาคมทเ่ี กี่ยวข้องกบั การค้าขององั กฤษ บนภาคพนื ้ ยโุ รป เตรียม
ทหาร ๑๖๐,๐๐๐ คน ให้เข้าประจําการแถบช่องแคบ กองเรือองั กฤษไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ลํา
ภายใต้การบงั คับบญั ชา ของนายพลเนลสนั ออกตรวจตามเส้นทางต่าง ๆ ปิ ดอ่าวเมืองท่าที่
สาํ คญั ๆ หลายแหง่ ของนโปเลยี นและในองั กฤษเอง ตามฝ่ังทะเลก็ให้ มีการเตรียมพร้อมสรรพที่
จะต่อส้โู ดยมีทหารประจําการอยู่ ๑๐๐,๐๐๐ คน ทหารอาสาสมัครอีก ๒๕๐,๐๐๐ คน และ
ทหารกองหนนุ อกี ๘๐,๐๐๐ คน
ฝรั่งเศสมีซุลต์ เนย์ ดาวูส์ และวิกเตอร์ เป็ นแม่ทพั เตรียมบกุ อังกฤษ โดยมีนโปเลียน
เตรียมทพั รออยทู่ บ่ี ลู อญ
เนลสนั พร้ อมด้วยแม่ทพั นายกองได้ระวงั รักษาช่องแคบและ คอยตรวจตรา เบรสต์ ตู
ลอง เจนวั อา่ วสเปน จนถึงมหาสมทุ รแอตแลนติก ไมป่ รากฏวา่ มีกองเรือใด ๆ ของฝร่ังเศสเลด็
ลอดเข้าไปได้
เม่ือนโปเลยี นประกาศจนเป็ นกงสลุ ตลอดชีพแล้ว ก็มีปฏิกิริยาเกิดขนึ ้ ความริษยาของ
ฝ่ ายราชวงศ์บูร์บองย่ิงทวีหนักมากขึน้ นโปเลียนต้องทําการปราบปรามผู้ต่อต้านตนอย่าง
เข้มแขง็ เดด็ ขาด ด๊คุ ดองเกย ผ้ซู ง่ึ เฉลยี วฉลาดกล้าหาญคอื ผ้หู นงึ่ ท่ถี กู ปราบปราม
ด๊คุ ดองเกียงอยทู่ ่ีปราสาทของตนเอง คอื ท่ีดชั บี ณ บาเดน พร้อม กบั เพื่อนฝงู ที่ถกู ขบั ไล่
ออกมา ถกู กองทหารและตํารวจฝรั่งเศสจบั ตวั เม่ือตอนเย็นของวนั ท่ี ๑๔ มนี าคม ๑๘๐๒ ด๊คุ ได้
ถกู นําตวั มาไว้ท่ีปราสาท ณ แวงเซนน์ในปารีส เม่ือวนั ที่ ๒๐ ในเวลาเช้าตรู่เพื่อทําการสอบสวน
ในการสอบสวนครัง้ นไี ้ ด้สาวไปถึงปิ เซอร์กรู คนสาํ คญั อีกคนหนงึ่ ด้วย ในเวลาแห่งการสอบสวน
๒๙๕
นนั้ ด๊คุ ได้ทาํ การขอพบกบั กงสลุ โดยได้กลา่ ววา่ ในนามยศศกั ด์ิ ในความรู้สกึ ในความอนั ตราย
แกฐ่ านะของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบกบั กงสลุ โดยอยา่ ได้ปฏเิ สธอยา่ งใดเลย
เวลาเทยี่ งคืน ด๊คุ ก็ถกู ปลกุ ให้ลกุ ไปสอบสวนท่ีศาลทหาร ซงึ่ มรู าต์ น้องเขยของนโปเลยี น
เป็ นผ้ตู งั้ ขึน้ ข้อกล่าวหาท่ีด๊คุ ได้รับก็คือ ทําการต่อต้านรัฐบาลฝร่ังเศส ช่วยเหลือองั กฤษ และ
พยายามทําลาย ล้างประเทศฝร่ังเศสทงั้ ภายในและภายนอก ด๊คุ ถกู สอบสวนอย่หู ลายครัง้ ทงั้ นี ้
ในความเป็ นจริงแล้ว ในแง่ของหลักฐานหรือพยานนนั้ แทบไม่มีข้อมูลอะไร นอกจากจะได้
ข้อความมาจากการสืบสวนสอบสวนของตํารวจเท่านัน้ สุดทัายจึงมีการสรุปตัดสินว่า มี
ความผิด และศาลทหารก็ตดั สนิ ให้ทําการ ประหารชีวิต
ด๊คุ ได้ถกู นาํ ตวั ลงบนั ไดไปห้องใต้ดนิ อนั มีแสงไฟจดุ สอ่ งทางลงไป เขาได้พดู กบั ทหารว่า
พาเขาไปห้องใต้ดินใช่ไหม เสยี งตอบสะอึกสะอืน้ ว่า ใช่แล้ว เดินไปถึงมมุ เงียบแล้วออกประตู
หลงั จนถึงคูของปราสาทแห่งนนั้ มีหมู่ตํารวจและซาวารีนายตํารวจใหญ่ยืนบนเชิงเทินป้ อม
เวลา ๖ นาฬิกา รุ่งเช้าแสงเงินแสงทองส่องปะทะกบั แสงไฟดลู ะเลื่อมน่าสะพรึงกลวั เจ้าชาย
บอกปฏิเสธวา่ ไมต่ ้องผกู ตา ตอ่ จากนนั้ เสยี งปื นกระหนํา่ ก็ดงั ขนึ ้ และทนั ใดนนั้ เจ้าชายก็ถกู ทงิ ้ ลง
ไปในคอู นั เป็ นหลมุ ฝังศพท่เี ตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว
หลงั จากประหารด๊คุ ดองเกียงได้สองสามวนั (ประหารเช้าวนั ท่ี ๗ เมษายน) ก็ได้พบศพ
นายพลปิ เซอร์กรูอยใู่ นคกุ มีผ้าสดี ํารัดคอแนน่ อยู่
นโปเลยี นย่ิงมีอํานาจมากขนึ ้ คปู่ ฏิปักษ์ก็มีมากขนึ ้ เป็ นเงาตามตวั ครัง้ หนึ่ง นโปเลยี น
เม่ือถูกเนรเทศอยู่ท่ี เซนต์เฮเลนา ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า เราต้องต่อส้ผู ู้ที่คอยประทษุ ร้ ายอนั
เกิดขนึ ้ จากราชวงศ์บรู ์บอง โดยวิธีตา่ ง ๆ นานา คอยดกั ยิงและใช้กลยทุ ธ์เลห่ ์เหลยี่ มทกุ วิถีทาง
ไมม่ ี ศาลทจ่ี ะร้องฟ้ องและชําระความได้ เราไมอ่ าจจะร้องฟ้ องได้ ข้าพเจ้า จึงมีสิทธิท่ีจะป้ องกนั
ตนเองได้โดยอาจประหารผ้ปู ระทษุ ร้ายและพรรค พวกซง่ึ จะทาํ ลายล้างชีวติ ข้าพเจ้า
นโปเลียนเมื่อเถลิงอํานาจแล้ว ก็แต่งตัง้ พรรคพวกของตนเองให้ เป็ นใหญ่เป็ นโต
เช่นเดียวกัน โดยให้คอมบาแซร์เป็ นหัวหน้าคณะท่ีปรึกษา เลอบรังค์เป็ นหัวหน้าการคลัง
เจ้าหน้าที่ฝ่ ายตาํ รวจชนั้ สงู ก็ใช้ผู้ ที่เป็ นญาติพ่ีน้อง นายพลผ้รู ่วมใจได้ถกู แตง่ ตงั้ ให้เป็ นจอมพล
คือ แบร์ตีแอร์ มรู าต์ มองซี ยแู ดง มาสเซนา โอเจอโร แบร์นาดอตต์ ซุลต์ บรูน ลานซ์ มอร์ติเยร์
เนย์ ดาวสู ต์ เบสซิแยร์ แกลเลร์มงั เลอเฟบร์ เปริยอง แซรือเยร์ และบคุ คลอ่ืน ๆ อีกเป็ นจํานวน
๒๙๖
มาก
หากให้วิเคราะห์ไปแล้ว งานสร้างชาติของนโปเลยี นท่ีเห็นได้ชดั คือ ความพยายามที่จะ
กวาดล้างเอายุโรปเข้ามาไว้ในอํานาจบงการของตนเอง ซึ่งการท่ีจะทําเช่นนนั้ ได้ นโปเลียน
จะต้องต้องทํางานหนกั ๓ ประการ คือ
๑. การทําลายล้างดลุ อาํ นาจทมี่ ีอยใู่ นยโุ รป โดยการรวบรวม บรรดาประเทศบนภาคพืน้
ทวปี ยโุ รปเข้าเป็ นกลมุ่ ก้อน และชกั นาํ ไปใน ทางท่ีเป็ นปฏิปักษ์กบั ประเทศองั กฤษ
๒. พยายามสถาปนารัฐอิสระเลก็ ๆ ขนึ ้ ใหมในยโุ รป โดยให้มีอํานาจอธิปไตย และฝ่ าย
พลเรือนของตนเอง ตามแบบฉบบั ที่เป็ นอยู่ ในประเทศฝรั่งเศส
๓. การใช้กําลงั ทหารดําเนินการตามแผนการจดั ระเบียบใหม่ในยุโรป และธํารงไว้ ซึ่ง
สถานะใหม่
ตามประวตั ิศาสตร์ปรากฏว่า ในข้อแรกนนั้ นโปเลยี นกระทําได้สําเร็จ ถึงขนั้ ท่ีได้มีการ
ทาํ สญั ญาสนั ติภาพท่ีทิลสติ ขณะทขี่ ้อทีส่ อง นโปเลยี นก็ทาํ สาํ เร็จ โดยผลแห่งชยั ชนะในสมรภมู ิ
ท่ีเกิดขึน้ กลา่ วคือ รบชนะท่ีไหน ก็แบ่งตงั้ รัฐอิสระในการปกครองภายในขนึ ้ ที่นน่ั และในข้อที่
สามนนั้ เป็ นท่ีประจกั ษ์วา่ ลทั ธิทหารของนโปเลียนนนั้ เป็ นผล สําเร็จอย่ไู ด้ชัว่ ขณะหนึ่งเท่านนั้
แตไ่ มส่ ามารถทจ่ี ะจดั ให้เป็ นระบบอนั ถาวรได้
นโปเลยี นเปิ ดฉากสงครามขนึ ้ ในปี ๑๘๐๒ และประสบความ สําเร็จในสมรภมู ิมาเรื่อย
ๆ ในเวลา ๒-๓ ปี แต่หลงั จากนนั้ เขาก็เร่ิมหนั มาดําเนินนโยบายท่ีผิดพลาด โดยเร่ิมจากการ
เปลยี่ นตําแหน่งจากกงสลุ ที่ ๑ มาเป็ นสมเด็จพระเจ้าจกั รพรรดิ การกระทําเช่นนนั้ ถือเป็ นการ
มอบโชคชะตาและชีวติ ของฝรั่งเศสทงั้ ประเทศมาไว้ในมอื ของคน ๆ เดยี ว นน่ั ก็คอื ตวั เขาเอง
ในกรณีนี ้นโปเลยี นได้แก้ตวั เม่ือตอนทถ่ี กู เนรเทศไปอยเู่ กาะ เซนต์เฮเลนาในเวลาต่อมา
วา่ ตลอดเวลามานนั้ ตวั เขาเองไม่เคยละทิง้ อดุ มคติสาธารณรัฐเลย เขาทํางานเพื่อประชาชน
เสมอมา แตส่ งิ่ ทน่ี โปเลยี น ไมเ่ คยคิดนนั่ ก็คือ การครองตําแหน่งจกั รพรรดินนั่ ทําให้เขาต้อง เข้า
ไปผกู พนั และรักษาสถานะนนั้ ให้มน่ั คงโดยการที่ต้องขยายอํานาจ ออกไปโดยการรบไม่สนิ ้ สดุ
และนน่ั ก็คอื การสร้างศตั รูคแู่ ขง่ ขนั ให้เกิด ขนึ ้ ทวั่ ทกุ หยอ่ มหญ้านน่ั เอง
กลา่ วกันวา่ ในปี ๑๘๐๔ นโปเลยี นนา่ จะสํานึกได้แล้ววา่ จกั รวรรดิฝรั่งเศสของตนเอง
นน่ั ช่างออ่ นแอและเลอื่ นลอยเป็ นอยา่ งมาก กลา่ วคือ หลงั จากที่เขาสวมมงกฎุ จกั รพรรดใิ นปารีส
๒๙๗
เสร็จสนิ ้ ลงแล้ว ปรัสเซียกบั ออสเตรียก็ประกาศรับรองสถาบนั พระมหากษัตริย์แห่งฝร่ังเศสทนั ที
ขณะที่ทางรัสเชียกลบั สงวนท่าทีอย่างเป็ นมิตรเอาไว้ ส่วนอังกฤษนัน้ ไม่เคยยอมรับการเป็ น
จกั รพรรดิของนโปเลยี นตลอดมา
การท่ีปรัสเซียและออสเตรียยอมรับการเป็ นจักรพรรดิของนโปเลียน ในครัง้ นัน้ นโป
เลยี นไมเ่ คยคดิ เลยวา่ นน่ั เป็ นการยอมรับแบบขอไปที ทงั้ ท่ีรู้อยวู่ า่ ทงั้ สองยงั คงเก็บงําความเจ็บ
ชํา้ ท่นี โปเลยี นได้สงั หารเจ้าในราชวงศฮั นั โนเวอร์ของพวกเขาไปอย่างไร้ความยตุ ิธรรม เม่ือนโป
เลยี น ไมเ่ คยคิดวา่ นน่ั คือการแสดงละคร ก็ทาํ ให้เขาประเมนิ กําลงั ของตนเองผิดไป
เมอ่ื สเปนประกาศสงครามกบั องั กฤษในเดือนธนั วาคม ค.ศ. ๑๘๐๔ ก็ยง่ิ ทําให้ฉากแหง่
สงครามขยายให้เห็นภาพชัดยิ่งขึน้ การท่ี สเปนที่อํานาจอยู่ภายใต้การดูแลของนโปเลียน
ประกาศสงครามในครัง้ นนั้ ด้านหนงึ่ ดเู หมือนจะเป็ นเรื่องที่ดี หากแตใ่ นแงข่ องความเป็ นจริงแล้ว
นน่ั ก็คือสญั ญาณอนั ตรายที่ฝรั่งเศสไม่เคยสงั เกตเห็น กล่าวคือ เมื่อสงครามถกู ประกาศขึน้
องั กฤษก็ฉวยโอกาสนนั้ เรียกระดมพนั ธมิตร ของตนเอง โดยนายกรัฐมนตรีวิลเล่ียม พิตต์ ของ
องั กฤษได้เสนอแผน ปราบนโปเลยี นตอ่ พนั ธมิตรนานาชาตใิ นยโุ รปได้สาํ เร็จ
โดยมีสวีเดนที่อยู่ทางตอนเหนือประกาศตัวเข้าเป็ นพันธมิตรกับ อังกฤษในเดือน
ธนั วาคมนนั้ เป็ นแหง่ แรก และตอ่ มาไมน่ านฟิตต์ก็ชกั ชวนรัสเซยี มาเข้าร่วมเป็ นพนั ธมติ รได้สาํ เร็จ
อกี โดยสงิ่ ท่ีพติ ต์เจรจากบั รัสเซียจนสามารถชกั จงู ให้รัสเซียมาเข้าร่วมก็คือ การแผอ่ ํานาจของ
นโปเลยี นในเวลานนั้ จะต้องเป็ นอนั ตรายต่อความมนั่ คงของอาณาจกั รรัสเซียในตะวนั ออกใกล้
และเมดิเตอร์เรเนียนซง่ึ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งรัสเซีย ก็เห็นด้วยจนนํามาสกู่ ารลงนามใน
สญั ญาพนั ธมติ รร่วมรบเมือ่ เดือนเมษายน ค.ศ. ๑๘๐๕
ไม่เพียงเท่านนั้ ทางด้านออสเตรีย องั กฤษก็ได้ทําการเปิ ดเจรจา ขึน้ กับกษัตริย์แห่ง
อาณาจกั รออสเตรีย นน่ั คอื พระเจ้าฟรานซิสที่ ๒ แม้ พระองค์จะทรงลงั เลทีจ่ ะลงนามในสญั ญา
ร่วมรบกบั องั กฤษ แตเ่ มื่อ คิดถึงผลการกระทําท่ีนโปเลียนเคยสร้างรอยชํา้ ให้แก่อาณาจกั รของ
พระองค์ถึง ๒ ครัง้ ที่ผ่านมาก็ทําให้พระองค์ทรงหวน่ั เกรงอยู่บ้าง ดงั นนั้ ทางออกที่ดีท่ีสดุ ของ
พระองค์ในเวลานนั้ ก็คือ การประกาศตนเป็ นกลางเสีย การกระทําเช่นนีเ้ ป็ นผลให้เกิดความ
อิหลกั อิเหลอ่ื ขนึ ้ กบั ฝร่ังเศส เป็ นอยา่ งมากโดยเฉพาะในเวลาท่ีถือวา่ คบั ขนั เช่นนี ้
กระนนั้ นโปเลียนก็ยงั เริ่มเตรียมทําศึกใหญ่ แม้จะเป็ นศึกกระหนาบที่มีทงั้ องั กฤษและ
๒๙๘
รัสเซีย
ความเคล่ือนไหวทางกําลงั รบในขนั้ แตกหกั ของนโปเลียน ทําให้พระเจ้าฟรานซิสที่ ๒
ของออสเตรีย ไมอ่ าจน่ิงเฉยได้ โดยการหนั กลบั ไปทําสญั ญาร่วมป้ องกนั กบั พระเจ้าอเล็กซาน
เดอร์แหง่ รัสเซียขนึ ้ ในวนั ที่ ๖ พฤศจิกายน ปี ๑๘๐๔
ขณะที่ทางด้านใต้ของฝร่ังเศสลงไป รัฐเล็ก ๆ ท่ีนโปเลียน สถาปนาขึน้ นอกเหนือจาก
อิตาลี โดยนโปเลียนดํารงฐานะเป็ นกษัตริย์อยู่ ได้แก่สาธารณรัฐลิกเู รียน ซึ่งนโปเลียนได้จดั ให้
เข้ารวมเสยี กบั สาธารณรัฐฝรั่งเศส ไมเ่ พียงเทา่ นนั้ นโปเลยี นได้สง่ น้องสาวชื่อเจ้าหญิง เอลเิ ซให้
ไปปกครองแคว้นปอมปี โนและลคั คา อนั ถือเป็ นการพยายาม ท่ีจะจดั ระเบียบการปกครองใน
แถบตอนใต้ เชน่ นี ้นบั เป็ นการทําผดิ หรือ ละเมดิ สญั ญาสนั ติภาพที่ลเู อวลิ ความผดิ ในข้อนเี ้องที่
ทําให้พระเจ้า ฟรานซิสแห่งออสเตรียมองเห็นภยั ที่จะต้องมาถึงแคว้นเวเนเซียของ พระองค์ใน
ทํานองเดียวกัน ดังนนั้ พระองค์จึงได้ระดมกําลงั รบไปป้ องกันแคว้นไทรอล เพ่ือป้ องกันการ
คกุ คามจากฝรั่งเศสและนํามาสกู่ ารระดม กําลงั พลขนึ ้ ในออสเตรียอีกครัง้ หนงึ่
๒๙๙
นโปเลียนในฐานะกษตั ริย์แห่งอิตาลี
๓๐๐
ในระหวา่ งนกี ้ ําลงั พล ๑๕๐,๐๐๐ ที่ระดมมาประจําการท่ีบโู ลญ เพื่อเตรียมบกุ ขนึ ้ เกาะ
องั กฤษ และสงั่ ให้มกี ารสร้างเรือลาํ เลยี งอยา่ งเร่ง ดว่ นเพื่อใช้ในการข้ามชอ่ งแคบองั กฤษ
ตามแผนการในการบกุ เกาะองั กฤษของนโปเลยี นนนั้ เขาได้มีคาํ สงั่ ให้ทําการแยกกําลงั
ของกองทพั เรืออังกฤษให้พ้นออกไปจากช่องแคบ โดยการส่งพลเรือเอกวิลงั นูว์ ให้ยกกําลงั
กองทพั เรือ ม่งุ ไปส่หู ม่เู กาะ เวสต์อินดีสของประเทศองั กฤษ ซึ่งการกระทําเช่นนี ้ทําให้องั กฤษ
ต้อง จดั สง่ ลอร์ดเนลสนั ผ้เู ป็ นยอดนายพลเรือขององั กฤษออกตดิ ตามเพ่อื บดขยีเ้รือของฝร่ังเศส
ให้ได้
ซง่ึ การกระทาํ เช่นนนั้ ของนโปเลยี นนบั วา่ ประสบความสาํ เร็จ เพราะสามารถหลอกลอ่ ให้
กองเรือองั กฤษพ้นออกไปจากอาณาบริเวณ นนั้ ไปได้ นโปเลยี นคาดหมายแตว่ า่ นายพลเรือเอกวิ
ลงั นูว์ จะเพียง หลอกล่อให้เรือองั กฤษติดตามไปเท่านนั้ แล้วค่อยวกกลบั มาร่วมกับกองทัพ
ฝร่ังเศสบกุ เกาะองั กฤษ
แตป่ รากฏวา่ ลอร์ดเนลสนั ผ้ชู ํานาญการการรบทางทะเลได้ ตดิ ตามกองเรือของนายพล
เรือวิลงั นูว์ไปอย่างกระชัน้ ชิด และตามมา ทันกันที่ตราฟัลกาในวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๑๘๐๕
กลายเป็ นยทุ ธนาวีครัง้ สําคญั ทงั้ นีเ้ พราะมีการปะทะกันอยา่ งดเุ ดือด จอมพลเรือลอร์ดเนลสนั
เสยี ชีวติ ในการรบในครัง้ นนั้ แตก่ องทพั เรือของฝรั่งเศสก็ถกู บดขยี ้แหลกลาญไมม่ ีเรือเหลือกสบั
มาดาํ เนินการตามแผน
สง่ ผลให้นโปเลยี นไม่อาจดําเนินการบุกเกาะองั กฤษตามท่ีวาง เอาไว้ได้ ความพินาศ
ของกองทัพเรือฝรั่งเศสท่ีตราฟัลกาในครัง้ นนั้ เอง ที่ทําให้ความมกั ใหญ่ใฝ่ สูงในการที่จะล่า
เมอื งขนึ ้ ของฝรั่งเศสเพื่อแขง่ ขนั กบั องั กฤษเป็ นอนั จบสนิ ้ ลง
กลา่ วกนั ว่ายทุ ธนาวีที่ตราฟัลกาในครัง้ นนั้ เป็ นตวั ตดั สินว่าผู้ใด กนั แน่ท่ีเป็ นผ้ยู ิ่งใหญ่
ทางทะเลอย่างแท้จริง ทงั้ นีเ้ พราะก่อนหน้านนั้ ใน แง่กําลงั ทพั แล้ว ทพั เรือของฝร่ังเศสท่ีรวมกบั
ทพั เรือของสเปนถือว่ามี กําลงั ที่เป็ นต่ออย่างเปรียบกันไม่ได้เลย แต่สดุ ทาั ยทพั ท่ีย่ิงใหญ่ของ
ฝรั่งเศสก็พา่ ยแพ้
เมอื่ ความพา่ ยแพ้มาเยอื น และแสดงให้เห็นถงึ ความเข้มแข็ง ของกองเรือองั กฤษเช่นนนั้
ก็ย่อมหมายความว่า นโยบายของนโปเลียน ท่ีจะแบง่ แยกอาณาจกั รตรุ กี และครอบครองเมดิ
เตอร์เรเนียน เพ่ือชิง กับองั กฤษในการเขัาครอบครองอินเดีย ก็กลายเป็ นเร่ืองฝันไปในทนั ที
๓๐๑
สาํ หรับประเทศฝร่ังเศส
เม่ือนโปเลยี นเห็นว่า การจะเอาความสําเร็จโดยทางบกและทาง เรือไม่อาจเกิดขึน้ ได้
แล้ว นโปเลยี นก็หนั ไปใช้วิธีปิ ดล้อมประเทศองั กฤษ ทางเศรษฐกิจ ทงั้ นีเ้ พราะคิดว่าเมื่อองั กฤษ
หาทางออกไมไ่ ด้แล้ว สดุ ทาั ย ก็ต้องหนั มาขอเจรจาสนั ตภิ าพ
และเมื่อปิ ดล้อมองั กฤษเอาไว้แล้ว นโปเลียนก็หนั มาคํารามใส่ ออสเตรีย โดยการ
เรียกร้องให้ออสเตรียถอนทหารออกไปจากไทรอลภายใน ๒ สปั ดาห์ โดยข่วู ่าหากออสเตรียไม่
ยอมดําเนนิ การตามที่ต้องการ ก็จะไมย่ อมให้พระเจ้าฟรานซสิ ได้ฉลองคริสต์มาสในนครเวียนนา
แต่ปรากฏว่าออสเตรียท่ีเตรียมพร้ อมที่จะรับศึกเอาไว้แต่ต้น ได้ประกาศปฏิเสธคําขาดของ
ฝร่ังเศส และในวนั ท่ี ๙ สงิ หาคมต่อมา ออสเตรียก็ประกาศลงนามในสนธิสญั ญาพนั ธมิตรกบั
องั กฤษ และ ประกาศสงครามกบั ฝรั่งเศสไปในเวลาเดยี วกนั
ในเวลาตอ่ มาก็ได้มกี ารร่วมมือกนั ก่อตงั้ กําลงั ผสมของมหา อํานาจขนึ ้ ในยโุ รปก่อนแล้ว
โดยมีจุดม่งุ หมายคือต่อต้านขบวนการแผ่ อํานาจของอาณาจักรฝรั่งเศส ในนโยบายที่คิดจะ
ครอบครองยโุ รป ซ่ึง มหาอํานาจดงั กล่าวนีป้ ระกอบด้วยรัสเซีย ออสเตรีย และสวีเดน โดย ใน
ข้อตกลงของสามประเทศดงั กลา่ วมีข้อตกลงกนั ว่า ประเทศหนึ่ง ประเทศใดในภาคีสญั ญานีจ้ ะ
ไมส่ ามารถไปตกลงทําสญั ญากบั ใครไม่ได้ ด้วยตนเองนอกเหนือจากได้รับความยินยอมจากทงั้
สามประเทศ อีก ทงั้ ท่ีสําคญั ทงั้ สามประเทศมีจดุ ม่งุ หมายร่วมกนั มาแตต่ ้นนน่ั คือ การร่วมกัน
ขบั ไล่กองทพั ฝร่ังเศสให้ออกไปจากฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี และประเทศเยอรมนั
ภาคเหนือ ซ่ึงหากสําเร็จก็จะได้มีการ สถาปนาประเทศฮอลแลนด์กบั เบลเยี่ยมให้เป็ นรัฐใหม่
เพอ่ื พ้นจากอํานาจอธิปไตยจากอาณาจกั รฝรั่งเศส
อยา่ งไรก็ตาม ในข้อตกลงร่วมในครัง้ นนั้ ยงั ไมม่ กี ารเจรจาในข้อ ปลีกยอ่ ย เช่นเร่ืองการ
ปฏริ ูปรัฐธรรมนญู ของประเทศทส่ี ถาปนาขนึ ้ ใหม่ แตป่ ระการใด
มีข้อตกลงอกี ประการหนง่ึ คือ เมอ่ื ทําการปราบปรามนโปเลยี น ได้ราบคาบแล้ว ก็จะจดั
ให้มีการประชมุ คองเกรชระหวา่ งชาตขิ นึ ้ ในยโุ รป เพื่อร่วมกนั พิจารณาระเบียบใหม่ในยโุ รป ซึง่ นี ้
คือทมี่ าแหง่ คองเกรซแหง่ เวยี นนานนั่ เอง
กระนัน้ ดูเหมือนโปเลียนจะไม่ย่ีหระต่อการร่วมกันก่อตัง้ กอง กําลงั ผสมของสาม
มหาอํานาจในครัง้ นี ้ นโปเลียนเคลื่อนกําลงั พล ๑๕๐,๐๐๐ คน จากบูโลญเพ่ือเข้ายึดกรุง
๓๐๒
เวียนนาตามที่ประกาศเอาไว้ ทางฝ่ ายพนั ธมิตรสามมหาอํานาจก็วางแผนเตรียมตงั้ รับเอาไว้
อยา่ งแขง็ ขนั ท่ี ป่ าดํา นอกพรมแดนออสเตรีย ด้านทตี่ ิดตอ่ กบั ประเทศฝร่ังเศส โดยให้นายพลแม๊
กแหง่ ออสเตรียเป็ นผ้บู ญั ชาการ ตงั้ ศนู ย์บญั ชาการ สนามเอาไว้ทีเ่ มอื งอูล์ม อนั เป็ นจุดนดั หมาย
ที่กองกําลงั ของพนั ธมิตรจากรัสเซยี จะเขาั มาสมทบ
แต่ปรากฏว่า ฝ่ ายพนั ธมิตรไม่ทันตงั้ ตัว ทงั้ นีเ้ พราะนโปเลียนใช้ นโยบายแบบจู่โจม
อย่างรวดเร็ว โดยใช้วีธีเคลื่อนทพั ผ่านปรัสเซียที่ประกาศเป็ นกลาง การเคล่ือนพลในครัง้ นนั้
นบั เป็ นการละเมดิ ตอ่ ปรัสเซยี อยา่ งรุนแรง แตน่ โปเลยี นก็ไมส่ นใจ นโปเลยี นเคลอ่ื นพลโอบตะลยุ
เข้า ใสอ่ อสเตรียผา่ นเมืองเข้าไปก่อนที่นายพลแม๊กจะทนั รู้ตวั ทพั หน้าของ นโปเลยี นเข้าปะทะ
ด้วยกําลงั ท่ีเหนือกว่าอย่างมาก ส่งผลให้นายพลแม๊ก จําต้องยอมแพ้ในการปะทะกันครัง้ นนั้
นโปเลยี นโม้วา่ สามารถจบั เชลย ได้มากถงึ หกหมืน่ คน
ชัยชนะในครัง้ นีท้ ําให้คําขู่ของนโปเลียนที่ประกาศจะไม่ให้พระ เจ้าฟรานซิสที่ ๒ ได้
ฉลองคริสต์มาสกลายเป็ นจริง กล่าวคือเมื่อสามารถ ตีทพั ของออสเตรียชนะที่ชายแดนแล้วก็
เท่ากบั เส้นทางการรุกเข้าสกู่ รุง เวียนนานนั้ สะดวกดาย วนั ท่ี ๑๓ พฤศจิกายน ๑๘๐๕ กองทพั
ของนโปเลยี น ก็เข้ายดึ ครองนครเวยี นนาเอาไว้
แตพ่ ระเจ้าฟรานซสิ ของออสเตรียก็ยงั ไมไ่ ด้ยินยอมลงนามใน สญั ญาสนั ติภาพแต่อยา่ ง
ใด ทงั้ นเี ้พราะพระองค์ทรงคาดหมายวา่ การ ที่นโปเลยี นยอมละเมิดปรัสเซียเช่นนนั้ ยอ่ มจะทํา
ให้ปรัสเซียไมพ่ อใจ อยา่ งแนน่ อน อกี ทงั้ ด้วยการจ่โู จมอยา่ งรวดเร็วของนโปเลยี น ก็นา่ จะ ทําให้
เส้นทางลาํ เลยี งกําลงั หนนุ ทจ่ี ะตดิ ตามมาเป็ นไปด้วยความลาํ บาก ซงึ่ กําลงั ที่มอี ยขู่ องฝร่ังเศสใน
เวลานนั้ ก็ไมอ่ าจท่จี ะครอบครองเวียนนาไว้ได้นาน
ดงั นนั้ วิธีทด่ี ที ส่ี ดุ ของพระเจ้าฟรานซสิ นนั่ ก็คอื การรอกําลงั ช่วย จากกองทพั ของรัสเซยี ที่
กําลงั เคลอ่ื นมา ซงึ่ ก็เป็ นจริงดงั ท่พี ระเจ้าฟรานซิสคาดหมายเอาไว้ ปรัสเซียได้ยื่นคําขาดต่อนโป
เลยี นทนั ที
นโปเลียนดเู หมือนจะไม่สนใจต่อคําขาดให้ถอนทหารของ ฝรั่งเศสออกไปนอกอาณา
เขตอํานาจรัฐของปรัสเซยี หากแตย่ งั เดนิ หน้าตอ่ ไป ทงั้ นเี ้พราะเขาเห็นวา่ การศกึ ในครัง้ นจี ้ ะต้อง
ทําการพชิ ิตโดยเร็ว และเดด็ ขาด ทงั้ นกี ้ ็เพือ่ ป้ องการศกึ ทจี่ ะขนาบข้างเข้ามานนั่ เอง
นโปเลยี นดาํ เนนิ แผนการรบ โดยการแก้จดุ ออ่ นของกองทพั ตวั เองด้วยการย้ายฐานทพั
๓๐๓
ศนู ย์กลางลาํ เลยี ง จากเวียนนาให้ไปอยทู่ างทิศ ตะวนั ตก แส้วสร้างเส้นทางลาํ เลียงขนึ ้ ใหม่ โดย
อาจใช้เป็ นทางถอยได้ หากเกิดความเพลยี่ งพลาํ ้ ขนึ ้ มา
ท่ีมน่ั ใหม่ของกองทพั นโปเลียนในออสเตรียย้ายไปตงั้ มน่ั ที่เมือง ออสแตลิทซ์ อนั เป็ น
เมืองท่ีตัง้ อยู่ทางทิศตะวันตกของเวียนนา โดย เตรียมความพร้ อมเต็มท่ีที่จะคอยรับศึก
ต่อจากนนั้ ก็วางแผนกลยทุ ธ์ โดยการแกล้งแสดงให้ข้าศกึ ได้รู้ถึงความอ่อนแอของกําลงั รบของ
ฝรั่งเศสด้านปี กขวา ด้วยการสั่งถอนทหารทางปี กขวาออกบางส่วน ให้มาชุมนุมกันอยู่ท่ี
สว่ นกลาง โดยนโปเลยี นมองว่า อย่างไรเสยี ข้าศกึ ก็ ต้องเข้าโจมตีจดุ ที่อ่อนแอท่ีสดุ ของกองทพั
ซึ่งก็เป็ นไปตามคาดหมาย แท้จริง ในจุดที่อ่อนแอท่ีถกู สร้ างขึน้ มานี ้นโปเลยี นยงั มีแผนการท่ี
แยบคายต่อไปอีก กลา่ วคือในจดุ นีห้ ากข้าศึกเข้ามาโจมตีโดยการหลอกลอ่ ให้เข้าโจมตีในยาม
เช้า ตอนพระอาทิตย์ขนึ ้ ก็จะกลายเป็ นวา่ ฝ่ ายเข้าโจมตีจะต้องเคลื่อนกําลงั ย้อนแสงตะวนั เข้า
มา และแสงตะวนั จะต้องย้อนตาทหาร ทําให้ยิงไมถ่ นดั เหตกุ ารณ์นีท้ ําให้เกิดวลีอมตะใน การ
รบวา่ ๐ดวงตะวนั ที่มีอิทธิพลแหง่ ออสแตลทิ ซ์๑
และเป็ นดงั คาดหมาย ในเช้าของวนั ที่ ๒ ธนั วาคม ๑๘๐๕ กําลงั ของฝ่ ายพนั ธมติ รก็เข้า
ตีปี กขวาทีก่ ําลงั พลบางตาของกองทพั นโปเลียน และขณะเดียวกนั นโปเลียนก็สง่ กําลงั ไปเข้าตี
ฝ่ ายพนั ธมติ ร สง่ ผลให้กองทพั รัสเซียกบั ออสเตรียถกู ตดั ขาดจากกนั เกิดความป่ันป่ วนและเสยี
ขบวน ทําให้กองกําลงั ทีเ่ ตรียมเอาไว้อยา่ งดขี องนโปเลียนสามารถ เคลือ่ นเข้าบดขยีแ้ หลกลาญ
ไปในพริบตา
กลา่ วกนั วา่ ไมม่ ชี ยั ชนะในสมรภมู คิ รัง้ ใดของนโปเลยี น จะบรรเจิดจ้าเหมือนครัง้ นี ้เมื่อ
ขา่ วศกึ ในยโุ รปเรื่องนไี ้ ปถงึ หขู องนายกรัฐมนตรีวลิ เลย่ี ม พติ ต์ แหง่ องั กฤษซ่ึงเวลานนั้ กําลงั นอน
เจ็บและกําลงั จะใกลตั าย พิตต์ถึงกับกลา่ ว ออกมาวา่ ๐ม้วนแผนที่ทวีปยโุ รปเอาไปเก็บเสียได้
เลย๑
และเป็ นความจริงดังท่ีพิตต์ได้กล่าวเอาไว้ ชัยชนะของนโปเลียน ในสมรภูมิท่ีเมือง
ออสแตลทิ ซ์ได้เสริมบารมีของนโปเลยี นให้ยิง่ ใหญ่ขนึ ้ อีกเป็ นอนั มาก ทหารในกองทพั ตา่ งขวญั ดี
และมีความเช่ือมนั่ ในขนุ พลของตนมากยงิ่ ขนึ ้ ที่สาํ คญั บรรดาฝ่ ายค้านในกรุงปารีสที่ก่อนหน้านี ้
เฝ้ าแตก่ ระแหนะกระแหน ตา่ งปิ ดปากเงียบสนทิ
ราวสองสปั ดาห์ตอ่ มา คอื ในวนั ท่ี ๑๕ ธันวาคม ๑๘๐๕ ปรัสเซียที่ดเู หมือนจะโกรธขึง้ น
๓๐๔
โปเลยี นก็หนั กลบั มาขอทาํ สญั ญาสนั ติภาพ กบั นโปเลยี นอกี ครัง้ โดยยอมคืนดินแดนทางฝ่ังซ้าย
แม่นํา้ ไรน์ให้นโปเลียน และขอแลกเอาฮันโนเวอร์คืนไป และอีกสองสปั ดาห์คือในวันที่ ๒๖
ธนั วาคม ออสเตรียก็จําต้องลงนามในสญั ญาสนั ติภาพกบั ฝร่ังเศสที่เมืองเปรสเบิร์ก โดยครัง้ นี ้
ออสเตรียต้องเสียดินแดนและผลประโยชน์ที่มีทงั้ หมด ตามเงื่อนไขของสญั ญาท่ีทําไว้ ณ แคม
โปฟอรมิโอ ซง่ึ ออสเตรียเอาชนะเวนิส ยกเว้นแต่ตรีเอสเต้เท่านนั้ ที่ยงั คงเป็ นของตนเอง ไมเ่ พียง
เทา่ นนั้ ออสเตรียยงั ต้องรับรองฐานะความเป็ นกษัตริย์แหง่ อิตาลขี องพระเจ้านโปเลยี นอกี ด้วย
ขณะที่ดินแดนทางตะวนั ตกนนั้ ออสเตรียต้องคนื ดินแดนเยอรมนั ให้กบั บาวาเรีย และรัฐ
เยอรมนั เลก็ ๆ อื่น ๆ อีก ทงั้ ต้องยอมรับ รองสถานะความเป็ นราชอาณาจกั รของบาวาเรียกบั อือ
เตม็ เบอร์ก และ ทงั้ ยงั ต้องยอมจา่ ยคา่ ปฏกิ รรมสงครามให้กบั นโปเลยี นอีก ๔๐ ล้านฟรังค์
ในเวลาต่อมาพระเจาั ฟรานซิส จะต้องดํารงพระยศเป็ นเพียง พระเจ้าจกั รพรรดิแห่ง
ออสเตรียเทา่ นนั้ โดยจะต้องทรงสละราชสมบตั ิ ในฐานะพระเจ้าจกั รพรรดิแหง่ มหาอาณาจกั ร
โรมนั อนั ศกั ดิ์สิทธ์ิ และนี่ คือวาระสดุ ท้ายของมหาอาณาจกั รโรมนั อนั ศกั ด์ิสทิ ธ์ิ อนั เก่าแก่ที่สืบ
เนอ่ื งมาแตโ่ บราณ
นโปเลยี นมีความเหน็ ชดั เจนวา่ เขาจะต้องจดั ระเบียบในยโุ รปเสียใหม่ โดยการรวบรวม
รัฐน้อยใหญ่ที่มีเข้าด้วยกันในรูปของสมาพนั ธรัฐ ซ่ึงถือว่างานนีเ้ ป็ นงานใหญ่มาก ที่สําคัญ
สว่ นตวั นโปเลยี นเองก็ไมม่ ี ความพร้อมทจ่ี ะทํางานใหญ่ขนาดนนั้ ทงั้ นีเ้ พราะการกระทําเช่นนนั้
จําต้องอาศยั รัฐบรุ ุษทม่ี องการณ์ไกล และต้องมคี วามรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ และสงั คมอยา่ งสงู ใน
การที่จะเข้าไปจดั หรือปฏิรูปสงั คมและการจดั ระเบืยบใหม่ ไมใช่การใช้ลทั ธิทางทหารมาปฏิรูป
สงั คม ซงึ่ ในประวตั ศิ าสตร์ ไมเ่ คยปรากฏวา่ จะมีขนุ พลคนใดทาํ ได้สาํ เร็จและยงั่ ยืน
ความคิดในเร่ืองการรวมยุโรปในรูปสมาพันธรัฐ ดงั กล่าวมา นโปเลียนรู้สึกว่าความ
สมคั รสมานระหว่างรัฐต่าง ๆ จะดํารงอย่หู รือเกิด ขึน้ ไมไ่ ด้เลยหากขาดเหตุจูงใจ นน่ั คือความ
จงรักภกั ดี ดงั นนั้ นโปเลยี น จงึ หนั เข้าพงึ่ ความผกู พนั ทางสายโลหติ อนั เป็ นเร่ืองของการแสวงหา
ผล ประโยชน์สว่ นตวั แทนท่ีจะเป็ นผลประโยชน์สว่ นได้สว่ นเสยี แห่งรัฐ การ ดําเนินการเช่นนนั้
นบั วา่ เป็ นความหลงผดิ
นโยบายท่ีดําเนินขนึ ้ ตามความหลงผิดเช่นนีท้ ําให้นโปเลียน บนั ทึกเอาไว้ตอนหนึ่งว่า
๐ระบบสมาพนั ธรัฐของยโุ รปของข้าพเจ้า มีครอบครัวแห่งพระเจ้าแผน่ ดินทงั้ หลายเป็ นเกลียว
๓๐๕
สมั พนั ธ์๑
นโปเลยี นได้ขบั เจ้านายจากราชวงศ์บรู ์บองทดี่ าํ รงอาํ นาจอยใู่ น กลมุ่ ประเทศเนเปิ ลออก
ไปในปี ๑๘๐๖ และทลายราชบลั ลงั ก์สเปนในปี ๑๘๐๗ แล้วตงั้ น้องชายช่ือหลยุ ส์ให้ไปเป็ นพระ
เจ้าแผน่ ดนิ แหง่ ฮอลแลนด์ทงั้ ๆ ที่เจ้าตวั ไมไ่ ด้อยากเป็ น นอกจากนนั้ ก็ตงั้ เจอโรมน้องชายอีกคน
หนง่ึ ให้ไปเป็ นพระเจ้าแผน่ ดนิ ของรัฐเยอรมนั ทเ่ี วสต์ฟาเลยี ในปี ๑๙๐๗ แล้วในปี เดียวกนั นีเ้ ขาก็
ได้แต่งตงั้ มูราต์น้องเขยผ้เู ป็ นสามีของแคโรลีน ให้ไปเป็ นด๊คุ แห่งเบิร์ก ในเวลาต่อมาก็ให้ขึน้
บลั ลงั ก์เป็ น กษัตริย์แหง่ เนเปิ ลท่เี ขาได้ขบั เจ้านายแหง่ ราชวงศ์บรู ์บองออกไปกอ่ นหน้านี ้
ทางประเทศอิตาลี นโปเลยี นก็ได้ตงั้ ให้ลกู เลยี ้ งของเขานน่ั คือ ยจู ีน โบฮาเนส์ ให้ไปเป็ น
อปุ ราช แล้วจบั น้องสาวของยจู ีน คอื เอลเิ ซให้แตง่ งานกบั ด๊คุ แหง่ ลคุ คา แล้วยงั ให้พอลนี แตง่ งาน
กบั เจ้าชายโบแยส์
เพ่ือให้บรรดาพระเจ้าแผ่นดินแห่งประเทศต่าง ๆ เหล่านีซ้ ่ือตรง จงรักภกั ดีและอยู่
รวมกันเป็ นปึ กแผ่น นโปเลียนจึงบัญชาให้พระเจ้าแเผ่นดินทุกองค์ต้องมาถือหรือมีสญั ชาติ
ฝร่ังเศส นบั เป็ นพลเมืองแห่งมหาอาณาจักรฝรั่งเศส ขนึ ้ ตรงต่อพระจกั รพรรดินโปเลียนซง่ึ ทรง
อํานาจอาชญาสทิ ธ์ิเด็ดขาด เหนือพระเจ้าแผ่นดินทงั้ หลาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงอํานาจในการ
จดั เก็บภาษีอากร
นโปเลยี นเม่อื สามารถรวบรวมงบประมาณได้มากพอเม่ือใด ก็จะตงั้ รัฐใหม่ ขนึ ้ แล้วจะ
ดําเนินการแต่งตงั้ ให้ขนุ พลนายทพั นายกองค่ใู จของเขาให้ขึน้ เป็ น ท่านด๊คุ ท่ีเมืองนนั้ หรือเป็ น
เจ้าชายท่เี มืองโน้น
ประวตั ิศาสตร์ได้บนั ทกึ เอาไว้วา่ การจดั ระเบียบใหมข่ องยโุ รปที่นโปเลยี นได้ดําเนินการ
นนั้ เป็ นไปอย่างรวดเร็วมาก มนั เกิดขนึ ้ ตามจงั หวะท่ีกําลงั รบ ของจกั รพรรดิจะเคลือ่ นรุกบ่าไป
ทางใด สมาพนั ธรัฐแห่งล่มุ นํา้ ไรน์ได้ถกู ก่อตงั้ ขึน้ ในกลางปี ๑๘๐๖ และเน่ืองจากเป็ นรัฐท่ีสืบ
เนื่องมาจากกลมุ่ อดีตประเทศปรัสเซีย นโปเลียนจึงเข้าควบคุมด้วยตนเอง โดยการสถาปนา
ตนเองให้เป็ นผ้พู ทิ กั ษ์แหง่ สมาพนั ธรัฐ กระนนั้ กลมุ่ ประเทศออสเตรียนนั้ นโปเลยี นยงั คงปลอ่ ย
ให้เป็ นอิสระ แตใ่ ห้แบ่งแยกกนั ซง่ึ ในเวลานนั้ ก็ได้แตกแยกเป็ นรัฐออสเตรีย ปรัสเซีย บรันชวิค
และเฮสส์
กล่าวได้ว่า บรรดาประเทศเยอรมันท่ีแบ่งออกเป็ นรัฐเล็ก ๆ ได้มี อิสระในทางการ
๓๐๖
ปกครองสว่ นท้องถ่ินของตนเองเป็ นครัง้ แรกในประวตั ศิ าสตร์ ประเทศท่เี หลอื นอกจากทกี่ ลา่ วมา
นโปเลยี นก็เอาเข้าไปรวมกบั อาณาจกั ร ฝร่ังเศสทงั้ หมด และนี่คือที่มาของอาณาจกั รเยอรมนั
ของบิสมาร์ค และราชอาณาจกั รอิตาลใี นกาลตอ่ มา
๓๐๗
แผนทจ่ี กั รวรรดิของนโปเลยี น
อํานาจทีแ่ ผข่ ยายออกไปของนโปเลยี นในเวลานนั้ ต้องเรียกว่า เป็ นบรมเดชานภุ าพของ
องค์จกั รพรรดโิ ดยแท้ โดยเฉพาะในเร่ืองการ เกณฑ์กําลงั ไพร่พลเข้ากองทพั หรือแม้แต่เร่ืองการ
เก็บภาษี ซึง่ สามารถ แผข่ ยายออกไปครอบคลมุ เนือ้ ที่สว่ นใหญ่ของยโุ รป โดยเฉพาะอย่าง ยิ่ง
ตงั้ แตป่ ากแมน่ าํ ้ ไรน์ลงไปจนถึงช่องแคบเมสนิ า
สเปนก็เป็ นพนั ธมติ รของฝรั่งเศส ฉนั นนั้ จงึ เหลอื เพียงแตใ่ นยโุ รป ทางเหนือท่ียงั เหลืออยู่
โดยประกอบด้วยปรัสเซียตอนเหนือ และ มหาอํานาจอีกเจ้าเดียวนนั้ ก็คือ รัสเซียของพระเจ้าอ
เลก็ ซานเดอร์เทา่ นนั้ กลา่ วกนั ว่านโปเลยี นมองว่า ทงั้ สองชาติท่ีวา่ นีไ้ ม่ได้เป็ นปัญหากบั เขา แต่
อยา่ งใด โดยเฉพาะกบั ปรัสเซียตอนเหนอื ในเวลานนั้ ภายใต้พระเจ้า เฟรดเดอริกท่ี ๒ ซง่ึ ดําเนิน
นโยบายหลกี เลย่ี งสงครามมานบั แตต่ ้น แม้พระองค์จะทรงวางตวั นิ่งเฉย แต่ก็ยงั อดหวนั่ ไหวต่อ
การ แผอ่ ํานาจของฝร่ังเศสไมไ่ ด้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง การปฏิวตั ิฝร่ังเศสที่เกิดขนึ ้ มาก่อนหน้านนั้
๓๐๘
พระองค์ก็ทรงหว่ันว่า อาณาประชาราษฎร์ของพระองค์จะมีลทั ธิเอาอย่างเกิดขึน้ มาเช่นกัน
กระนนั้ พระองค์ก็ยงั คงดําเนินนโยบายเป็ นกลางเอาไว้อยา่ งเข้มแขง็
จริงอยกู่ ารเข้าทําสงครามกบั ปรัสเซีย เป็ นสง่ิ ที่นโปเลียนไม่ต้องการ ทงั้ นีเ้ พราะเขาต้อง
ทําศึกอนั หนักหนากับออสเตรียอย่แู ล้ว แต่ปรากฏว่าจู่ ๆ ก็เกิดมีการระดมกําลงั รบกันขึน้ ใน
ประเทศปรัสเซีย ซ่ึงความจริงแล้ว การระดมพลในครัง้ นนั้ ของปรัสเซียเกิดขึน้ จากการรวมพล
เพื่อป้ องกนั การรุกรานจากรัสเซียที่กําลงั เคลอื่ นทหารเพื่อเข้าไปสู่ สมรภมู ิรบในออสเตรียทาง
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ
ปรากฏว่าอํานาจอธิปไตยของปรัสเซียก็ถกู ละเมิดโดยพนั ธมิตร ของนโปเลียน นน่ั คือ
นายพลเบอรเบนาด๊อตแห่งฮนั โนเวอร์ได้ยกกําลงั ตดั ข้าม ปรัสเซียเพื่อไปช่วยนโปเลียนรบใน
ออสเตรีย ฝ่ ายปรัสเซียซึง่ ได้ เตรียมกําลงั เอาไว้เพ่ือป้ องกนั อธิปไตยของตนเองจากการบกุ ผ่าน
ของรัสเซีย เลยแก้เผ็ดทหารของนโปเลยี นเสียด้วยการยอมให้รัสเซียยก กองทพั ผา่ นเมืองไซเล
เซียไปรบกบั นโปเลยี นทเี่ มืองออสแตลทิ ซ์
ในวนั ที่ ๓ พฤศจิกายน นโปเลยี นได้ย่นื คําร้องเรียกให้พระเจ้า เฟรดเดอริก วิลเล่ียมท่ี ๒
แห่งปรัสเซียให้เปล่ียนท่าที โดยเฉพาะอย่างย่ิง ให้อพยพพลเมืองออกไปเสียจากเยอรมัน
สวิสเซอร์แลนด์ และฮอลแลนด์ การขดั ขืนตอ่ คําเรียกร้องนหี ้ มายความวา่ ปรัสเซียจะต้องเผชิญ
กบั กําลงั รบ ๑๘๐,๐๐๐ คนของนโปเลยี น สดุ ท้ายจึงมีการลงนามในสญั ญาสนั ติภาพ
มรณกรรมของนายกรัฐมนตรีองั กฤษ วิลเล่ียม พิตต์ และอีก ๖ สปั ดาห์ต่อมา จากศึก
ออสแตลิทซ์ ทําให้องั กฤษต้องตกอย่ใู นกํามือของ นายกรัฐมนตรีฟ๊ อกซ์ ซ่ึงเป็ นนกั การเมืองท่ี
เห็นใจในปฏิวตั ิใหญ่ในฝรั่งเศส และที่สําคญั โดยสว่ นตวั ก็เป็ นพวกนิยมนโปเลียนอีกต่างหาก
สง่ ผลให้ได้เกิดนโยบายทจ่ี ะให้มกี ารทาํ สญั ญาสนั ติภาพกนั ขนึ ้ ระหวา่ ง องั กฤษกบั ฝรั่งเศส
ฟ๊ อกซ์ฉวยโอกาสในกรณีฮนั โนเวอร์ที่ปรัสเซยี ได้มาจากฝร่ังเศส ทงั้ นเี ้พราะฮนั โนเวอร์นนั้
เป็ นดินแดนของราชวงศ์องั กฤษ ทางฝ่ ายพระ เจ้าเฟดเดอริก วิลเล่ียม แทนที่จะไหวทันต่อ
นโยบายขององั กฤษ กลบั ประกาศแถลงไปวา่ ปรัสเซียครอบครองดินแดนฮนั โนเวอร์นีไ้ ว้จนกวา่
จะมีการทําสญั ญาสนั ติภาพระหว่างองั กฤษกบั ฝรั่งเศสขึน้ ซ่ึงการประกาศเช่นนีแ้ ท้จริงแล้วก็
เป็ นความปรารถนาดีท่ีจะเอาใจองั กฤษเทา่ นนั้
แตท่ ี่กลายเป็ นการประกาศอย่างโง่ ๆ ก็เพราะนโปเลยี นได้เข้า มาแทรกแซงทนั ใด โดย
๓๐๙
การบีบให้ปรัสเซียตดั ความสมั พนั ธ์กบั องั กฤษในทนั ที ซ่งึ ในที่สดุ เดือนมีนาคม ปี ๑๘๐๖ พระ
เจ้าเฟดเดอริก วิลเลยี่ ม ก็ต้องประกาศปิ ดทา่ เรือตา่ ง ๆ ในทะเลเหนอื ไมใ่ ห้กองทพั เรือองั กฤษเข้า
มาใช้ ซง่ึ เป็ นผลให้องั กฤษยึดเรือสนิ ค้าของปรัสเซียท่ีจอดอย่ตู ามท่าเรือต่าง ๆ ของตนจํานวน
หลายร้ อยลํา และใช้กําลงั กองทพั เรืออนั เกรียงไกรกวาดล้าง เส้นทางเดินเรือพาณิชย์ของป
รัสเซยี จนเกลยี ้ งทะเล
เมอ่ื ตดั องั กฤษจากพนั ธมติ รตา่ ง ๆ ในยโุ รปจนหมดสนิ ้ แล้ว และได้มีการระดมกวาดล้าง
ตลาดการค้าขององั กฤษในยโุ รปจนสําเร็จ นโปเลียนก็ทิง้ ไพย่ ื่นข้อเสนอทําสญั ญาสนั ติภาพกบั
นายกรัฐมนตรีฟ๊ อกซ์ โดยฟ๊ อกซ์ได้เรียกร้ องให้ฝรั่งเศสคืนฮนั โนเวอร์ให้แก่องั กฤษ เพ่ือเป็ นข้อ
แลกเปล่ียน ที่จะเปิ ดการเจรจากบั ฝร่ังเศส นโปเลียนยอมตามข้อเรียกร้ องของฟ๊ อกซ์ในทนั ที
ทงั้ ๆ ที่ไมเ่ คยตดิ ตอ่ โปยงั ปรัสเซียผ้เู ป็ น เจ้าของซงึ่ ได้รับมอบดินแดนแหง่ นี ้มาจากตนเมือ่ ไมน่ าน
นกั ซงึ่ ปรากฏหลกั ฐานวา่ ปรัสเซยี ได้รับรู้ในข้อตกลงนี ้หลงั จากนนั้ อีกหลายเดอื นตอ่ มา
ในระยะแรกของการเจรจา ดูประหน่ึงว่านโปเลียนจะตกลงออม ชอมกบั ฟ๊ อกซ์ด้วยดี
ขนาดถงึ ขนั้ ทีห่ วงั ได้วา่ คงจะมีสนั ติภาพตอ่ กนั ในเร็ววนั แตป่ รากฏว่าเกิดกรณีของเกาะซิซิลใี น
อิตาลีทางใต้ การเจรจาท่ี ดําเนินไปก็ล้มเหลวลงอย่างสิน้ เชิง ทัง้ นีเ้ พราะกษัตริย์ท่ีมาจาก
ราชวงศ์บูร์บอง ผ้เู ป็ นกษัตริย์เนเปิ ลมาก่อนหน้า ได้เลือกข้างท่ีจะอยู่ในความ ค้มุ ครองของ
องั กฤษมากกว่าฝรั่งเศส หากแต่นโปเลียนกลบั ต้องการให้ เกาะซิซิลีเป็ นดินแดนสว่ นหน่ึงใน
ราชอาณาจกั รเนเปิ ล
ทางฝายองั กฤษนนั้ ได้แสดงความปรารถนาอย่างชัดเจนว่า นโปเลียนจะต้องไม่แผ่
อํานาจลงไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซงึ่ นโยบายอนั นีข้ ององั กฤษ ปรากฏวา่ พระเจ้าซาร์แห่ง
รัสเซยี ก็ทรงเหน็ ด้วย และกําลงั เปิ ดการเจรจากนั ในเรื่องทะเลเมดเิ ตอร์เรเนียน
เมื่อปัญหาในเร่ืองเมดิเตอร์เรเนียนไม่สามารถตกลงกนั ได้ นายก รัฐมนตรีฟ๊ อกซ์ของ
องั กฤษก็ยกเลกิ การเจรจากบั ฝร่ังเศส และได้ยื่นบนั ทึก บอกกลา่ วไปยงั ปรัสเซียเรื่องที่นโปเลียน
ได้มอบดนิ แดนฮนั โนเวอร์ คนื ให้แก่ราชบลั ลงั ก์ขององั กฤษ พระเจ้าเฟรดเดอริก วิลเลย่ี ม แห่งป
รัสเซยี จึงต้องแก้หน้าด้วยการประกาศสงครามกบั ฝร่ังเศส
ยัอนกลับไปดูเรื่องราวของปรัสเซียอีกสักนิด กล่าวกันว่าเม่ือ ๒๐ ปี ก่อนหน้านัน้
ราชอาณาจกั รปรัสเซีย ภายใต้ราชบลั ลงั ก์ของพระเจ้า เฟรดเดอริกท่ี ๒ ปรัสเซียมีกองทพั บกที่ดี
๓๑๐
ท่ีสดุ ในยุโรป และในปี ๑๘๐๖ นนั้ กองทพั บกของปรัสเซียก็ยงั คงถือว่ายงั สามารถจดั ระบบ
การทหาร ได้เป็ นอย่างดีโดยเฉพาะความเรียบร้อยและมีระเบียบวินยั ของกองทพั มีนายทหาร
ชนั้ เสนาธิการอายุ ๖๐ ปี รักษาเกียรติ วินยั อย่างเคร่งครัด ๐หากแต่กําลงั ใจในวงการทหาร
อาจจะอ่อนลงไปมาก กล่าวคือไม่มีใครกล้าสง่ั กล้าวางแผนและกล้าเส่ียงอนั ตรายต่อการใช้
อํานาจบงั คบั บญั ชา ทงั้ นกี ้ ็เพราะเกรงวา่ จะไมต่ ้องประสงค์ของพระมหากษัตริย์ของตนนน่ั เอง๑
พระบรมราชินีควีน หลยุ ส์ แหง่ ปรัสเซีย ได้เคยพรรณนาถึงสถานการณ์ภายในของวงการทหาร
ของปรัสเซียในเวลานนั้ ให้นโปเลียนรับฟังในเวลาต่อมา ซึ่งนโปเลียนได้ซกั ว่า ถ้าสถานการณ์
ภายในของปรัสเซียเป็ นเช่นนัน้ ทําไมจึงกล้าทําสงคราม ก็ได้รับคําตอบว่า ปรัสเซียอยู่ใน
ความหวงั ท่ีเคยมกี องทพั ชนั้ ทห่ี นงึ่ ของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ ๒ เม่ือ ๒๐ ปี มาแล้ว
ดังนัน้ ในทันทีที่พระเจ้ าเฟรดเดอริก วิลเล่ียม ทรงประกาศสงคราม กับฝร่ังเศส
กองทพั บกของปรัสเซยี ก็เคลอ่ื นกําลงั แยกย้ายเข้าประจําการ ในท่ีมน่ั ในสว่ นต่าง ๆ ตามแนวฝั่ง
แม่นํา้ เซน และแม้จะเป็ นกองทพั ที่ ทหารได้รับการฝึ กมาอย่างเลวมาก แต่บรรดานายทหารที่
ควบคมุ ดแู ลอยนู่ นั้ ตา่ งก็เป็ นผ้มู ีความรู้วิชาการทหารเป็ นอยา่ งดี ซง่ึ ทาํ ให้นโปเลยี น ต้องหนกั ใจ
มากกวา่ คราวการปะทะกบั ออสเตรียเสยี อีก
กองทพั ปรัสเซียเข้าปะทะกบั กองทพั ของฝรั่งเศสในสมรภมู ิเมือง เยนากบั เมืองเอาสตคั
เมื่อวนั ที่ ๑๔ ตุลาคม ๑๘๐๖ และต้องปราชัยแตกร่นข้ามแม่นํา้ เอลปส์ไปอย่างไม่เป็ นขบวน
ฝ่ ายฝร่ังเศสตามตีอย่างกระชัน้ ชิด โดยฝ่ าย ปรัสเซียต้องร่นถอยตลอดมา กระทง่ั นโปเลียน
ยาตราทพั เข้าสนู่ ครเบอร์ลนิ ได้ในวนั ท่ี ๒๗ ตลุ าคม
พระเจ้ าเฟรดเดอริก วิลเลียม ถูกบีบให้ ถอยร่นไปทางตะวันออกอันเป็ น แดนที่
ประชาชนชาวแซกวอนได้โหวตเลือกว่าจะเข้าสมทบในสหพันธรัฐแห่งลุ่มนํา้ ไรน์ภายใต้
พระมหากษัตริย์พระองค์ใหมท่ นี่ โปเลยี นแตง่ ตงั้ ขนึ ้
กองทพั นโปเลยี นเข้ายดึ ครองฮนั โนเวอร์และบรรดาเมืองเยอรมนั อื่น ๆ ในบริเวณนนั้ อีก
หลายเมือง ปรัสเซียในเวลานนั้ เหลอื ความหวงั ทจ่ี ะได้รับความชว่ ยเหลอื จากพนั ธมติ รท่ีเหลอื อยู่
อีกประเทศเดียว นนั่ ก็คือ รัสเซีย
ทางฝ่ ายรัสเซียนนั้ หลงั จากที่ปราชัยต่อกองทพั ของนโปเลียนที่ สมรภมู ิเมืองออสแต
ลิทซ์แล้ว พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ก็ส่ังถอนทหาร กลบั จากออสเตรีย โดยไม่ยอมทําสญั ญา
๓๑๑
สนั ตภิ าพกบั นโปเลยี น การ ปราชยั ในสมรภมู ิในครัง้ นนั้ ทาํ ให้รัสเซียต้องระงบั นโยบายแบง่ แยก
ประเทศตุรกีที่กําลงั ร่วมคิดและเจรจาอย่กู ับประเทศองั กฤษในปัญหา ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
และหนั มาเซ็นสญั ญาฉบบั ใหมก่ บั ปรัสเซยี ในวนั ท่ี ๑ กรกฎาคม ๑๘๐๖
ตามข้อสญั ญาฉบับใหม่นัน้ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์จะต้องสนับสนุน ปรัสเซียโดย
แลกเปลย่ี นคาํ มน่ั สญั ญากบั พระเจ้าเฟรดเดอริก วลิ เลยี่ ม วา่ จะไมท่ รงสนบั สนนุ ประเทศฝร่ังเศส
ในกรณีที่ฝร่ังเศสทาํ ศกึ กบั ออสเตรีย หรือกบั ตรุ กี
ก่อนที่นโปเลยี นจะเผดจ็ ศกึ ปรัสเซยี ทเี่ ยนา กองบญั ชาการทหารของรัสเซียได้สง่ั เคลอื่ น
กําลงั ข้ามชายแดนไปปะทะกบั กองทพั ฝร่ังเศส และพา่ ยตอ่ กําลงั ฝร่ังเศสซงึ่ กําลงั จะพชิ ิตกองทพั
ผสมของปรัสเซียกับรัสเซียสําเร็จท่ีเมืองนัน้ กําลงั ส่วนใหญ่ของรัสเซียเป็ นอันมากก็อยู่ใน
โปแลนด์ภายใต้การบญั ชาการใหญ่ทก่ี รุงวอร์ซอร์
ในเวลานนั้ ทงั้ สามมหาอาํ นาจคือปรัสเซยี ออสเตรีย และรัสเซีย ตา่ งถือว่าโปแลนด์เป็ น
สว่ นหนึง่ ในราชอาณาจกั รของตนที่แบง่ ปกครองร่วมกนั และต่างฝ่ ายต่างคอยระวงั ว่าฝ่ ายใด
ฝ่ ายหนง่ึ จะได้เนอื ้ ที่ มากกวา่ กนั และกนั เสมอ
นโปเลียนไม่เคยละสายตาจากการแก่งแย่งแข่งขันกนั ในเรื่องของ โปแลนด์ของสาม
มหาอํานาจดงั กลา่ ว โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงเมื่อสาม มหาอาํ นาจมีงานสงครามทต่ี ิดพนั อยู่ ชาวโปล
ดเู หมอื นจะมที า่ ทที ่ีจะ ลกุ ขนึ ้ ปฏิวตั ิกอบก้เู อกราชของตนเองอยเู่ สมอ
ปรัสเซีย ออสเตรีย และรัสเซีย ได้เข้าแบ่งแยกโปแลนด์ด้วยกําลงั ทหารยึดครอง
ติดต่อกันมาถึง ๓ ครัง้ คือ ในครัง้ แรกปี ๑๗๗๒ ครัง้ ที่สองในปี ๑๗๙๓ และครัง้ ที่สามในปี
๑๗๙๕
ผลของการแบ่งแยกโปแลนด์ทงั้ ๓ ครัง้ นี ้ ทําให้รัสเชียสามารถ ครอบครองเนือ้ ท่ีได้
๑๘๑,๐๐๐ ตารางไมล์ มีพลเมือง ๖ ลาั นคน ออสเตรียได้ ๔๕,๐๐๐ ตารางไมล์ มีพลเมือง
๓,๗๐๐,๐๐๐ คน และ ปรัสเซยี ได้ ๕๗,๐๐๐ ตารางไมล์ มพี ลเมอื ง ๒,๕๐๐,๐๐๐ คน
เม่ือเป็ นเช่นนี ้ย่อมเป็ นธรรมดาอย่เู องท่ีชาวโปลจะเอาใจสวามิภกั ดิ์ต่อ นโปเลียนอนั
เป็ นปฏิปักษ์อยกู่ บั ประเทศมหาอาํ นาจทงั้ สามที่ กําลงั ทาํ ลายชาติของตน
เมอื่ กําลงั รบของประเทศมหาอาํ นาจพร้อมแล้ว ก็บกุ เข้าปะทะ กบั กองทพั ของนโปเลยี น
ในวนั ท่ี ๗ กุมภาพนั ธ์ ๑๘๐๗ การรบใหญ่ได้ เปิ ดฉากขึน้ ท่ีเมืองอายเลา ระหว่างหน่ึงต่อสาม
๓๑๒
ฝ่ ายนโปเลยี นมีทีทา่ จะเพลยี่ งพลาํ ้ นโปเลยี นจึงรีบเปล่ียนกลศึก โดยการยกกําลงั เข้าเผด็จ ศกึ
เฉพาะจดุ โดยเริ่มตียดึ เมืองดานซิกเอาไว้ได้ในวนั ท่ี ๒๔ มีนาคม และเม่ือถึงวนั ท่ี ๑๗ มิถนุ ายน
ก็ชนะศกึ ท่ีเมืองไฟรดแลนด์ ซง่ึ เป็ น สมรภมู ทิ ก่ี องทพั รัสเซยี ได้รับความเสยี หายอยา่ งหนกั
เม่ือสามารถพิชิตศึกด้านรัสเซียแล้ว ก็รุกปรัสเซียต่อและเข้าพิชิต ศึกท่ีป้ อมเมืองเคอ
นิกซ์เบิร์ก และเข้าครอบครองทกุ ที่ทวั่ แคว้นไนเมนไว้ได้
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ แห่งรัสเซีย เห็นว่าหมดหวังที่จะเอาชนะ นโปเลียนได้จึงทํา
สญั ญาหยดุ รบและถอนกําลงั กลบั ปลอ่ ยให้ปรัสเซีย เผชิญชะตากรรมกบั นโปเลียนผ้พู ิชิต ซึ่ง
กําลงั เคียดแค้นตามลาํ พงั ตอ่ ไป
พระเจ้าอเล็กชานเดอร์แห่งรัสเซียได้เผชิญหน้ากบั พระจักรพรรดิ นโปเลียนในการลง
นามสญั ญาหยดุ รบ ในเต็นท์สนามบนแพท่ีลอยอยู่ กลางแม่นํา้ ไนเมน ประวตั ิศาสตร์บนั ทึกว่า
เป็ นฉากการพบท่ีดจุ เป็ น ภาพในนิยาย โดยนโปเลียนใช้จิตรานภุ าพอนั กล้าแข็ง ข่มพระเจ้าอ
เล็ก ซานเดอร์อยู่ทุกระยะ จนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มองเห็นภาพวิจิตรของ ยุโรปท่ีถูกจัด
ระเบียบใหมซ่ ึง่ นโปเลยี นได้วาดขนึ ้ และเคลิบเคลมิ ้ ไปไกล ถึงอาณาจกั รตรุ กี แล้วเคลอื่ นกําลงั
แผบ่ รมเดชานภุ าพออกไปตะวนั ออก จนถงึ อินเดยี ตอ่ ไป ดงั เชน่ ท่พี ระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์มหาราช
ได้เคย กระทาํ มาแล้วในประวตั ศิ าสตร์
งานสงครามในครัง้ นนั้ นโปเลยี นได้สญั ญา ๒ ฉบบั คือฉบบั หน่ึงทํากับรัสเซียและอีก
ฉบบั หนงึ่ ทํากบั ปรัสเซยี สาํ หรับปรัสเซียอาจจะดเู สยี เปรียบ ทงั้ นีเ้ พราะตกเป็ นเบีย้ ลา่ งของนโป
เลยี นอยา่ งโงหวั ไม่ขนึ ้ กลา่ วคือ ปรัสเซียต้องมอบดินแดนบนลมุ่ แม่นํา้ เอลป์ กบั ดินแดนทงั้ หมด
ที่ปรัสเซียยึดครองอย่ใู นโปแลนด์ ปรัสเซียจะต้องปิ ดทา่ เรือไม่ติดตอ่ ค้าขายกบั องั กฤษ จนกว่า
ฝร่ังเศสจะได้ลงนามในสญั ญาสนั ตภิ าพกบั องั กฤษ ปรัสเซยี จะมีกําลงั ทหารประจําการได้ไมเ่ กิน
๔๒,๐๐๐ คน ต้องใช้ค่าปฏิกรรมสงครามให้ฝร่ังเศส ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ ฟรังค์ ทงั้ ยงั ต้องมอบ
ป้ อมปราการตา่ ง ๆ ตามพรมแดนให้ฝรั่งเศสยดึ ไว้เป็ นประกนั จนกวา่ จะใช้หนสี ้ งครามหมด และ
ประการสดุ ท้ายก็คือ พระเจ้าเฟรดเดอริกแห่งปรัสเซียจะต้องรับรองราชวงศ์กษัตริย์ท่ีน้องชาย
สามคนของนโปเลยี น นง่ั บลั ลงั ก์อยใู่ นแคว้นตา่ ง ๆ ท่ีอย่ใู นวงอิทธิพลของปรัสเซีย พร้อมกนั ใน
โอกาสนีป้ รัสเซียจะต้องเสียงบประมาณเลยี ้ งดทู หาร ๑๕๐,๐๐๐ คน ของนโปเลียนท่ีเข้าไปตงั้
รักษาการณ์อยใู่ นราชอาณาจกั รด้วย พระเจ้า เฟรดเดอริกตระหนกั ดีวา่ เอกราชอธิปไตยของป
๓๑๓
รัสเซยี มีเหลอื อยนู่ ้อยเต็มที
สาํ หรับสนธิสญั ญากบั รัสเซียนนั้ นโปเลียนเพ่งเล็งเร่ืองดินแดนน้อยกว่า โดยยอมยก
ดนิ แดนทางตะวนั ออกของปรัสเซยี ให้แก่รัสเซีย เพื่อแลกกบั ให้รัสเซียยอมรับรองรัฐใหมท่ งั้ หลาย
ทนี่ โปเลยี นตงั้ ขนึ ้ หรือท่ีกําลงั จะตงั้ ขนึ ้ เชน่ กรณีของรัฐเวสต์ฟาเลยี เป็ นต้น
ข้อตกลงระหวา่ งพระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์แหง่ รัสเซียกบั นโปเลยี น อีกประการหนงึ่ ก็คอื ถ้า
ฝร่ังเศสยงั ไมส่ ามารถทําสญั ญาสนั ติภาพกับองั กฤษได้ต่อไป รัสเซียก็จะประกาศสงครามกับ
องั กฤษ
อยา่ งไรก็ดี เป็ นท่รี ู้กนั วา่ ความสาํ คญั ของสญั ญาสนั ตภิ าพนัน้ ไมไ่ ด้อยทู่ ี่ข้อตกลงตา่ ง ๆ
ดงั กลา่ วมา แตห่ ากเป็ นการรวมกําลงั สว่ นใหญ่ ๒ กําลงั ขนึ ้ ในยโุ รป ดงั จะเห็นได้ในกรณีรัสเซีย
พชิ ิตตรุ กี ซงึ่ เป็ นกรณีที่ องั กฤษคดั ค้านและขดั ขวาง แตน่ โปเลยี นกลบั สนบั สนนุ เพราะการกระ
ทําเช่นนนั้ เข้าอยใู่ นขอบเขตของนโยบายปิ ดล้อมองั กฤษของนโปเลยี น อีกประการหนง่ึ ก็คอื เห็น
ได้ว่าสญั ญาสนั ติภาพท่ีทิลสติ มีรูปการณ์ เช่นเดียวกบั สญั ญาสนั ติภาพอาเมียงสํ คือเป็ นพืช
พนั ธ์ทุ ี่งอกงามขนึ ้ เป็ นสงครามครัง้ ใหม่อีกตอ่ ไปภายหน้า
มีข้อตกลงอยา่ งหนง่ึ ในประวตั ิศาสตร์ คือแม้จะได้มีสญั ญาทิลสิต ฉบบั นนั้ แตไ่ ม่เคยมี
ใครพบเห็นเอกสารหลกั ฐานท่ีเป็ นหนงั สือ ณ ที่แห่งใดเลยวา่ นโปเลยี นได้ทําความยินยอมเป็ น
หนงั สอื ให้รัสเซียควบคมุ ตรุ กี ซ่ึงเป็ นจุดท่ีนโปเลียนมีแผนที่จะแผ่อานภุ าพไปถึง และเพราะไม่
ต้องการเห็นรัสเซียแตเ่ พยี งผ้เู ดยี วเป็ นใหญ่อยใู่ นตะวนั ออกใกล้
อน่ึง เป็ นความรู้และความเข้าใจของนโปเลียนเป็ นอย่างดีว่า ถ้า สถาปนาเสรีรัฐ
โปแลนด์ขึน้ เม่ือใด รัสเซียก็ง่ายที่จะถูกบกุ จากกองกําลงั จากยโุ รปตะวนั ตกได้เท่านนั้ และก็
ระบบการรวมกําลงั ในยโุ รป ตามแผน การของนโปเลยี นเทา่ นนั้ ที่รัสเซียจะพินาศได้ดจุ เดยี วกบั ที่
กระทํากบั ประเทศองั กฤษ
ทางด้านยุโรปเหนือ การโจมตีด้วยทพั เรือขององั กฤษต่อประเทศ เดนมาร์ค โดยการ
กวาดทพั เรือของประเทศให้เกลีย้ งไปในทะเล แล้ว แล่นเข้ายิงเมืองโคเปนเฮเกนเมื่อเดือน
กนั ยายนปี ๑๘๐๗ ทําให้ เดนมาร์คเคียดแค้นองั กฤษอย่างย่ิง จนนํามาส่กู ารผกู มิตรกับนโป
เลยี น ดงั นนั้ เพ่ือเป็ นการตดั มือตดั เท้าขององั กฤษบนภาคพืน้ ทวีป นโปเลียนจึงได้เคลือ่ นกําลงั
เข้าไปยดึ ครองโปรตเุ กส ซง่ึ ยงั เป็ นพนั ธมติ ร ขององั กฤษอยใู่ นเขตตะวนั ตกเฉียงใต้
๓๑๔
เมือ่ ถึงสนิ ้ ปี ๑๘๐๗ นโปเลียนก็ยบุ เลกิ สภาการเมืองและบริหาร ของประเทศได้สําเร็จ
แล้วนโปเลยี นก็ขนึ ้ เถลิงราชย์เป็ นมหากษัตริย์ สมบรู ณาญาสทิ ธิราชย์อยา่ งเต็มภาคภมู ิ มานบั
แตบ่ ดั นนั้
งานจัดระเบียบใหม่ในยุโรปท่ีเกิดขึน้ อย่างกว้างขวาง ดูประหนึ่ง จะไปได้ถึงขนั้ เป็ น
ผลสําเร็จแล้ว บรรดาประเทศน้อยใหญ่ เช่นอิตาลี และรัฐเยอรมนั ในยโุ รปตอนกลางและใต้
ยกเว้นออสเตรียกบั ปรัสเซียตา่ งพากนั เข้าสรู่ ะบบเคารพในสทิ ธิเสรีภาพของราษฎรซงึ่ เป็ นผลขนึ ้
ในยคุ นนั้ ด้วยปฏวิ ตั ใิ หญ่ฝร่ังเศส
นโปเลียนเลิกล้มระบบอภิสทิ ธ์ิของเจ้าขนุ มลู นายที่เคยมีมาในกาลก่อนเสียสนิ ้ เชิง ใน
บรรดารัฐเหลา่ นนั้ ได้มีการตราประมวลกฎหมายแพ่ง ที่วา่ ด้วยสทิ ธิและหน้าที่ความผกู พนั ของ
เอกชนขนึ ้ อนั เป็ นที่รู้จกั กนั มาตราบแทบทกุ วนั นี ้คือ นโปเลียนโค๊ต ซึ่งถกู นํามาใช้เป็ นระเบียบ
ข้อบงั คบั หรือคมู่ ือของฝ่ ายบริหารนน่ั เอง
นโปเลียนได้ประกาศไม่รับรองสิทธิแห่งฐานนั ดรของบคุ คลว่ามีอยตู่ ่อไป แล้วประกาศ
รับรองสทิ ธิและเสมอภาคของปวงชนขนึ ้ แทน จึง เห็นได้ว่ายโุ รปได้เข้าไปอยใู่ นอดุ มการณ์แผน
ใหมข่ องสงั คม ด้วยนาํ ้ พกั นาํ ้ แรงของนโปเลยี นเป็ นสว่ นใหญ่แล้ว
กลา่ วโดยสรุปได้วา่ มหาอาณาจกั รของนโปเลยี นนนั้ ปรากฏให้ เห็นถึงความพากเพียร
พยายามอย่างจริงจังในอนั ที่จะจัดระเบียบใหม่ ขึน้ ในทวีปยุโรป โดยอํานาจบงการของผู้มี
อํานาจสงู สดุ โดยอาศยั ประสบการณ์ของประชาชาติฝร่ังเศสในยุคปฏิวตั ิใหญ่เป็ นแบบฉบบั
กลา่ วกนั วา่ การปฏิรูปสงั คมในยโุ รปเช่นที่เกิดขนึ ้ มานี ้นบั เป็ น การทําลายล้างระบบสงั คมของ
สมยั กลางในประวตั ิศาสตร์มนษุ ยชาติอยา่ งแท้จริงและเดด็ ขาด แม้จนกระทงั่ ในกาลตอ่ มาเม่อื น
โปเลยี นสนิ ้ อํานาจไปแล้ว และได้มีการสถาปนาระบบอภิสิทธ์ิขนึ ้ ใหม่ในแคว้นแมตเตอร์นิค กบั
ออสเตรียในปี ๑๘๑๕ งานนนั้ ก็ไม่สมั ฤทธ์ิผล กล่าวคือ ระบบท่ีนโปเลียนได้ทําลายลงไปในปี
๑๘๐๓ ถงึ ๑๘๑๔ หาได้ฟืน้ คนื ชีพ ขนึ ้ แตป่ ระการใด
มหาอาณาจกั รนโปเลยี น มลี กั ษณะเป็ นเครื่องมือท่สี ามารถจะ ทําลายล้างระบบเก่าได้
เพราะแรงจูงใจจากการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งได้นํา เอาระบบการเคารพต่อความเสมอภาคใน
กฎหมายเอกชน และเอาสทิ ธิเสรีภาพ มาเปลยี่ นแทนอภสิ ทิ ธิ์ของฐานนั ดรนนั้
โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในอิตาลี ปวงชนได้ลกุ ขนึ ้ ต้อนรับชาวฝร่ังเศส ในฐานะที่เป็ นผ้ใู ห้เลย
๓๑๕
ทีเดียว แม้ความม่งุ หวงั ของกล่มุ การเมืองฝ่ ายข้างเสรีนิยม ซ่ึงต้องการและเรียกรัองเอาสิทธิ
เสรีภาพในทางการเมอื ง จะไมไ่ ด้รับการตอบสนองให้เตม็ ภาคภมู ิได้ก็ตาม
ระบบใหมข่ องนโปเลยี น ไมย่ อมให้เอกราชอธิปไตยแก่ดินแดน ซึง่ สถาปนาขนึ ้ ไว้เป็ นรัฐ
กนั ชน อํานาจเด็ดขาดของฝ่ ายปกครองรัฐซึ่งนโปเลยี น ได้แตง่ ตงั้ ไว้ให้แก่บรรดาแม่ทพั นายกอง
ฝร่ังเศสมาเป็ นผู้บงการแทนตวั เองนนั้ เป็ นกระบวนการท่ีทําให้เกิดการคอรัปชั่นอย่ทู ัว่ ไปใน
อิตาลี เป็ นต้นว่า ของเก่าแก่มีค่าหาที่เปรียบไมได้ท่ีมีในพิพิธภณั ฑ์ มกั ถกู หยิบฉวยเอาไปเป็ น
กรรมสทิ ธิ์ดอื ้ ๆ ราษฎรต้องแบกภาระภาษีให้ขนุ พลผ้บู งการและบริหารประเทศอยา่ งหนกั และ
มีไม่น้อย ท่ีเป็ นรายได้ของขนุ พลเอง ท่ีดินซึ่งเป็ นธรณีสงฆ์ถกู นําออกจดั สรรเพื่อ ประโยชน์ของ
รัฐ จนกระทงั่ เร่ืองถึงหนู โปเลียน จึงได้สง่ั ให้มีการสอบสวน และกวาดล้างพฤติการณ์ต่าง ๆ
เหลา่ นนั้ ให้สนิ ้ ไปอยา่ งเดด็ ขาด ซง่ึ นน่ั ทาํ ให้ประชาชนพากนั แซซ่ รัองสรรเสริญนโปเลียนกนั มาก
ย่ิงขนึ ้
แม้แต่ในอาณาจกั รเนเปิ ลที่นโปเลียนเป็ นผ้สู ง่ั ผลดั แผ่นดินตงั้ วงศ์กษัตริย์ขึน้ มาใหม่
และยงั มีกลมุ่ ชนฝ่ ายตอ่ ต้านอยกู่ ็ตาม แตภ่ ายใต้ การบงการของนายพลมารมองต์ของนโปเลยี น
ประชาชนตา่ งได้ลกุ ขึน้ เสวยสทิ ธิ์ของราษฎร์ที่เขาไมเ่ คยได้มีกนั มาในกาลก่อนท่ีบ้านเมืองจะ
ถกู ตกแตง่ ปรับปรุงใหม่
ทางด้านประเทศเยอรมนั ท่มี องวา่ เรื่องอิสรเสรีภาพและความ เสมอภาคเป็ นเร่ืองเพ้อฝัน
ของนกั ปรัชญาหรือกวีมาแตเ่ ก่าก่อนนนั้ ครัน้ เม่ือนโปเลยี นได้บกุ ไปสน่ั คลอนรากแก้วแหง่ มหา
อาณาจักรโรมัน อนั ศกั ด์สิทธ์ิจนกระท่งั สามารถกวาดล้างซากปรักหกั พงั ของอาณาจักร อนั
ศกั ด์ิสทิ ธิ์นนั้ ให้หมดสนิ ้ ไปจากแคว้นบาวาเรียแล้ว บรรดารัฐน้อย ใหญ่ในลมุ่ แม่นํา้ ไรน์ ราษฎร
ตา่ งก็ลกุ ขนึ ้ เสวยสทิ ธ์ิอิสรเสรีท่ีรัฐธรรมนญู และประมวลกฎหมายแพง่ ทย่ี อมรับนบั ถือกรรมสทิ ธิ์
ของเอกชน และ ความเสมอภาคของบคุ คลตอ่ หน้ากฎหมายกนั อยทู่ ว่ั ไป
แนน่ อนทเี ดียว ความเสมอภาคกนั ตอ่ หน้ากฎหมายของราษฎร การที่ชาวไร่ชาวนาได้มี
กรรมสทิ ธิ์ในที่ดนิ ของตนเอง ภาระที่จะต้องเสยี ภาษีใหพั วกพระบํารุงโบสถ์และศาสนาอนั หนกั
ได้ถกู ยกเลกิ ไปนนั้ ทาํ ให้ การกสกิ รรมงอกงามและมีผลผลติ มากขนึ ้ ทวั่ ไปในอดตี แคว้นบาวาเรีย
ของอาณาจกั รโรมนั อนั ศกั ดิ์สทิ ธิ์
ในทางนโยบายการปกครอง นโปเลียนแบ่งกลุ่มประเทศภายใต้ อิทธิพลในยุโรป
๓๑๖
ออกเป็ น ๒ กลมุ่ กลมุ่ หนง่ึ เป็ นประเทศที่อยใู่ นความ ควบคมุ ของฝรั่งเศส โดยกลมุ่ นไี ้ ด้เสวยสทิ ธิ
เสรีภาพอยา่ งเต็มภาคภมู ิ แม้จะมีข้อจํากดั อย่บู ้างในเร่ืองที่ไมใ่ ห้เสมอบา่ เสมอไหลก่ บั ฝรั่งเศส
มากนกั
อีกกล่มุ หนึ่งในยโุ รปนนั้ ได้แก่กลมุ่ ท่ีไม่เห็นด้วยกบั ระเบียบใหม่ในยโุ รป และยงั มีการ
ตอ่ ต้านแข็งขืนได้แกป่ ระเทศสเปน ออสเตรีย และรัสเซีย
ประเทศเหล่านีม้ ิใช่เป็ นเหมือนประเทศองั กฤษท่ีเกลียดชังนโปเลียนเป็ นการสว่ นตัว
บรรดาฝ่ ายชนชนั้ ปกครองต่างเกิดความหวาดหวน่ั วิตกกันทว่ั ไปวา่ อุดมการณ์ของการปฏิวตั ิ
ใหญ่ของฝร่ังเศส และระบบการมอบรัฐธรรมนญู ที่เป็ นหลกั ประกนั สทิ ธิและเสรีภาพของราษภร
ของนโปเลยี น จะกลายเป็ นเร่ืองที่ปวงชนของตนจะเหน็ ดเี หน็ งามขนึ ้ มาบ้าง
โดยเฉพาะองั กฤษนนั้ ไม่เพียงแต่เกรงว่าระบบสงั คมของตนจะถกู เปล่ียนแปลงไปด้วย
แรงอดุ มการณ์อยา่ งใหมเ่ ทา่ นนั้ เพราะขณะนนั้ กลมุ่ การเมืองฝ่ ายเสรีนิยมกําลงั มที ่าทีโน้มเอียง
ไปข้างสทิ ธิและเสรีภาพ ของราษฎรมากเข้าทกุ ที และยง่ิ กวา่ นนั้ การยอมรับนบั ถืออิทธิพลของน
โปเลยี น จะเป็ นทางนํามาซงึ่ ความพินาศในทางเศรษฐกิจการค้า ซง่ึ อยใู่ นแผนของนโปเลยี นทจ่ี ะ
ปิ ดล้อมและทาํ ลายล้างอยู่
แผนการทําลายล้างเศรษฐกิจการค้าขององั กฤษท่ีนโปเลียนหมายมน่ั ปัน้ มือไว้ ไมเ่ ป็ น
ผลดงั คาด กลา่ วคือ นโปเลยี นสามารถปิ ด เมืองท่าไมใ่ ห้เรือสินค้าขององั กฤษเข้าไปใช้ในยโุ รป
ได้ก็จริง แตก่ ็ไม่สามารถทจ่ี ะป้ องกนั ไมให้มีการลกั ลอบนําเอาสนิ ค้าขององั กฤษเข้ามา ในตลาด
ยโุ รปได้ อีกทงั้ ฝร่ังเศสเองก็ไม่สามารถขยายตลาดการค้าออก ไปในประเทศโพ้นทะเลได้โดย
ปราศจากแสนยานภุ าพของกองทพั เรือที่ จะช่วยรักษาเส้นทางเดินเรือพาณิชย์เหลา่ นนั้ ขณะที่
ทางองั กฤษมี แสนยานภุ าพท่ียิ่งใหญ่ครอบครองนา่ นนํา้ ทว่ั ไปออกกีดกนั ไมย่ อมให้ เรือค้าของ
ประเทศคสู่ งครามลอยลาํ อยใู่ นทะเลหลวงได้แม้แตล่ าํ เดยี ว
ดงั นนั้ ส่งิ ที่นโปเลียนสามารถทําได้มากที่สดุ ก็คือ ปิ ดตลาด ลําหรับสินค้าขององั กฤษ
บนภาคพนื ้ ยโุ รป ในปี ๑๘๐๖ นโปเลยี นได้ชกั ชวนให้รัสเซียเลกิ ตดิ ตอ่ ค้าขายกบั องั กฤษได้สาํ เร็จ
หลงั จากนนั้ ก็ออก กฤษฎีกามาห้ามบรรดาประเทศในเครืออาณาจกั รฝรั่งเศส พร้อมทงั้ กีดกนั
การค้าขององั กฤษกับพันธมิตรไม่ให้เข้ามาทําการค้าในยุโรป องั กฤษตอบโต้โดยการออก
ประกาศคณะรัฐมนตรีห้ามสนิ ค้าของ ฝรั่งเศสกบั พนั ธมติ รเข้ามาทําการค้าในประเทศเชน่ กนั
๓๑๗
กฤษฎีกากีดกนั การค้าของฝรั่งเศสที่ว่ามานี ้ออกมาหลงั วนั ที่ ๒ พฤศจิกายน ๑๘๐๖
ไมก่ ี่วนั คอื เม่ือนโปเลียนสามารถยดึ เบอร์ลินสาํ เร็จแล้ว กําหนดความผิดเอาไว้ว่าผ้ใู ดฝ่ าฝื นถึง
ขนั้ ริบทรัพย์สนิ
ขณะที่ประกาศคณะรัฐมนตรีขององั กฤษนนั้ ออกมาเม่ือวนั ที่ ๑๑ พฤศจิกายน โดยให้
กําลงั ทพั เรือทาํ การปิ ดอา่ วและเมอื งทา่ ของ ประเทศศตั รูทงั้ หมดทกุ แหง่ จะยอมให้แต่ประเทศท่ี
เป็ นกลางมสี ทิ ธ์ิ เดนิ เรือค้าในทะเลและใช้ทา่ เรือขององั กฤษได้โดยเสรีปราศจากการถกู รบกวน
จากกองทพั เรือองั กฤษ
ด้วยเหตุนีท้ ําให้สินค้าของประเทศเป็ นกลางในยุโรปทงั้ หมดท่ีจะ ไหลออกไปส่โู ลก
ภายนอกจึงต้องผ่านทางองั กฤษ สง่ ผลให้เกาะองั กฤษ กลายมาเป็ นคลงั สินค้าแห่งเดียวของ
ยโุ รปในเวลานนั้
เพือ่ ตอบแทนทา่ ทีดงั กลา่ วขององั กฤษ นโปเลยี นได้ออกกฤษฎีกา ซํา้ มาอีกฉบบั หนง่ึ ใน
วนั ที่ ๑๗ ธนั วาคม ณ เมอื งมแิ ลนด์ กําหนดวา่ เรือของชาติเป็ นกลางใด ๆ ทเี่ ดินทางจากองั กฤษ
หรือประเทศที่เป็ น พันธมิตรกับองั กฤษ หากพบ ฝรั่งเศสมีสิทธิ์จับและยึดเอาไว้ได้ฐานเป็ น
ทรัพย์สนิ ของเชลย
องั กฤษก็ไม่หยุดน่ิงออกมาแก้อีกครัง้ ด้วยการออกประกาศคณะ รัฐมนตรีเช่นเดิมโดย
ออกมาในวนั ท่ี ๗ มกราคม ๑๘๐๗ กําหนดให้ยึด เรือและสนิ ค้าในเรือทกุ ลาํ ท่ีติดต่อค้าขายกบั
เมืองทา่ ของฝร่ังเศส รวม ตลอดถึงบรรดาทา่ เรือที่เป็ นประเทศพนั ธมติ รกบั ฝรั่งเศสด้วย
๒๐ วนั ตอ่ มา นโปเลยี นก็ออกกฤษฎกี าวอร์ซอร์ สง่ั ยึดทรัพย์สนิ ขององั กฤษและบรรดา
ประเทศเมอื งขนึ ้ ทงั้ หมดที่อยใู่ นเมืองตา่ ง ๆ ของแคว้นฮนั ส์
หลงั จากทําสญั ญาสนั ติภาพท่ีทิลสิต นโปเลียนมั่นใจในแผน ทําลายล้างเศรษฐกิจ
การค้าขององั กฤษในยโุ รป ถึงกบั กลา่ วกบั บรรดา ผ้แู ทนทางการทตู ของนานาชาติในปารีส ณ
พระราชวงั ฟองแตนโบลว์วา่ นานาชาติบนภาคพืน้ ทวีปยโุ รป ไม่มีใครแยแสจะติดต่อการค้ากบั
ประเทศ องั กฤษอีกแล้ว
แตเ่ มื่อปรากฏวา่ แผนการของนโปเลยี นไมไ่ ด้เป็ นจริงอยา่ งทคี่ าด เอาไว้ เหตผุ ลท่ีไม่อาจ
สาํ เร็จได้อย่างหนง่ึ ก็คือ การแผ่ขยายอํานาจของ นโปเลียนในภาคพืน้ ยโุ รปนนั้ มีลกั ษณะและ
รากฐานมาจากเจตจํานงอนั ร้ายกาจของนโปเลยี นท่จี ะทําลายองั กฤษในทางการค้า เพื่อจดั ให้
๓๑๘
ฝร่ังเศสสามารถทจ่ี ะขนึ ้ นงั่ แทน่ แทนในตลาดยโุ รป แตเ่ พือ่ ให้แผนบรรลุ นโปเลยี นต้องใช้วิธีข่มขู่
นานาประเทศเพิ่มมาขนึ ้ เร่ือย ๆ อนั เป็ นวิธีการ ท่ีเห็นได้วา่ นโปเลียนจะไม่ได้รับความร่วมมือ
อยา่ งจริงจงั เลย แม้แต่ ฝรั่งเศสต้องเข้ายึดโปรตเุ กสอนั เป็ นประเทศท่ีไม่เคยขาดความสมั พนั ธ์
กบั องั กฤษ สง่ ผลตอ่ เนือ่ งให้ต้องทาํ สงครามกบั สเปนและรัสเซยี ในเวลา ตอ่ มาในที่สดุ
นโปเลยี นผ้เู ปลย่ี นแปลงชีวติ ในยคุ ปฏวิ ตั ิใหญ่ของฝร่ังเศสเป็ นผู้ ตาบอดตอ่ สถานการณ์
ความเป็ นจริง กลา่ วคือ เขามองไม่เห็นว่า ตนเอง กําลงั เผชิญอยกู่ บั ยุคของความเปลย่ี นแปลง
อย่างรวดเร็วในทางอตุ สาหกรรม อนั เป็ นเรื่องของทฤษฏีในทางเศรษฐกิจ ดงั นนั้ แม้จะเป็ นที่
ยอมรับกันว่า นโปเลียนเป็ นมหาบรุ ุษในทางการบริหาร แต่นโปเลียนก็ไมใ่ ช่นกั เศรษฐศาสตร์
ทงั้ นเี ้พราะนโปเลยี นไมเ่ คยยอมรับนบั ถือทฤษฎีของความสําคญั ทางเศรษฐกิจการค้าเลย เขา
จึงมองไมอ่ อกวา่ ยโุ รปในยคุ นนั้ กําลงั เป็ นยคุ ท่ี กําลงั มพี ฒั นาการไปในทางอตุ สาหกรรม
ในทางทฤษฎีแล้ ว ลัทธิ เจ้ าขุนมูลนาย มีรูปลักษณะเป็ นสังคม สถาบันที่เป็ น
อตุ สาหกรรมน้อยกว่าระบบการปกครองในแบบลทั ธิทหาร เพราะมีรากฐานอย่บู นการใช้ที่ดิน
ดงั นนั้ เมอื่ มีการทาํ ลายล้างระบบเจาั ขนุ มลู นายลง จงึ กลายเป็ นการเปิ ดชอ่ งให้เกิดแรงดนั ในทาง
เศรษฐกิจมใิ ช่น้อย การสงครามนนั้ กลา่ วได้วา่ เป็ นกิจกรรมธรรมดาในระบบเจ้าขนุ มลู นายซงึ่ มี
ลกั ษณะไมเ่ ป็ นระบบอตุ สาหกรรม แตเ่ ม่ือระบบเก่านนั้ ได้ถกู ทําลายล้างไป การสงครามก็มิใช่
เป็ นเรื่องธรรมดาอีกตอ่ ไป แตห่ าก เป็ นเหตกุ ารณ์ทอ่ี นั ตรายร้ายแรงยงิ่ ได้แก่ อารยธรรม หรืออีก
นยั หนง่ึ คือความเจริญก้าวหน้าและความมน่ั คงของชีวิตและสงั คมในเมืองใหญ่ ซ่ึงตามทฤษฎี
ถือวา่ กําลงั คน คือ กําลงั งานในทางเศรษฐกิจ
ฝ่ ายนโปเลียนนัน้ โดยเหตุท่ีมองไม่เห็นการพัฒนาการในทาง เศรษฐกิจและการ
อตุ สาหกรรมดงั เช่นท่ีกลา่ วมา จึงพยายามหนั เข้าจดั ระเบียบและปฏิรูปสงั คมด้วยวิธีเก่า ๆ ท่ี
ระบบเจ้าขุนมูลนายใช้ กันมา น่ันได้แก่การเกณฑ์กําลงั คนเข้ากองทัพ เพื่อจัดระเบียบด้วย
อาํ นาจเบ็ดเสร็จ
ดงั นนั้ ถงึ แม้นโปเลยี นจะพยายามเร่งรัดในด้านกําลงั การผลิตของ ประเทศฝร่ังเศสกบั
ประเทศในเครือสกั เพยี งใด ข้อเทจ็ จริงอนั หนงึ่ ก็ยงั ขดั ตอ่ ทฤษฏขี องพฒั นาการทางเศรษฐกิจอยู่
นน่ั ก็คือ กําลงั คนจํานวนมาก ได้ถกู เกณฑ์ไปเป็ นกําลงั รบ การพฒั นาการตลาดการค้าที่ถกู ต้อง
จึงเป็ นสงิ่ ทท่ี าํ ไมไ่ ด้บนภาคพนื ้ ทวปี ยโุ รป
๓๑๙
เร่ืองนีม้ ีข้อพิสจู น์วา่ ทําไมระบบของนโปเลยี นบนภาคพนื ้ ยโุ รป จงึ ไปไม่รอด จริงอย่แู ม้น
โปเลยี นจะสนั่ คลอนความมน่ั คงทางเศรษฐกิจการค้าขององั กฤษได้อย่างหนกั แต่ก็เทา่ กบั เป็ น
การเปิ ดตลาดในซีกโลกอีกด้านหนึ่ง เศรษฐกิจการค้าของประเทศองั กฤษ โดยเฉพาะอย่างย่ิง
กบั สหรัฐอเมริกาและอนิ เดียได้เปิ ดขนึ ้ ซึ่งในโอกาสเดียวกนั นีก้ องเรือ พาณิชย์อนั เป็ นเส้นโลหิต
สาํ คญั ของเศรษฐกิจการค้าขององั กฤษก็ขนึ ้ ครองตลาดโลกด้านอ่นื ๆ ไว้ทงั้ หมด ดงั จะเห็นได้วา่
ไมม่ ีเรือสนิ ค้าของ ชาตเิ ป็ นกลางใดในทะเลหลวงทีจ่ ะมาแบง่ ความมงั่ คงั่ สมบรู ณ์ขององั กฤษได้
ในเวลานนั้ ได้มีการพฒั นาอตุ สาหกรรมถ่านหิน เหล็ก และการทอผ้าขนึ ้ ในระดบั สงู ใน
ประเทศองั กฤษ ทงั้ นีก้ ็เพ่ือสนองความต้องการ ของตลาดในซีกโลกตะวนั ตก ทงั้ นี ้ แม้จะมีบาง
ขณะที่การผลิตสามารถ ผลิตได้เกินความต้องการจนถึงขัน้ ที่สร้ างความป่ันป่ วนในทาง
เศรษฐกิจ ของประเทศ แต่การแตกสลายของมหาอาณาจักรนโปเลียนในระยะ เวลาไม่นาน
ตอ่ มา ก็เปิ ดทางให้สนิ ค้าขององั กฤษเข้าสยู่ โุ รป จนกําลงั ผลติ ภายในประเทศตามไม่ทนั ในช่วั
พริบตา
ปรากฏการณ์อนั แรกท่ีแสดงให้เห็นว่า ระบบการปิ ดประตูใน ยโุ รปของนโปเลยี นไปไม่
รอด นน่ั ก็คือ กรณีประเทศสเปน
สเปนได้ยอมผอ่ นผนั ตามเจตนารมณ์ของนโปเลยี นเสมอมา จน กระทง่ั นโปเลยี นทําศกึ
กบั ปรัสเซีย สเปนได้ถกู บบี ให้ทําสงครามกบั โปรตเุ กส พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๔ จําใจต้องทําสงคราม
กบั โปรตเุ กส กลาย เป็ นสงครามที่ทํากนั พอเป็ นพธิ ี ซงึ่ เป็ นที่เข้าใจกนั กบั นายทพั นายกอง วา่ การ
ศึกในครัง้ นนั้ ทําเพื่อตบตานโปเลียน ทงั้ นีเ้ พราะเห็นกันว่า การ แผ่อํานาจลงมาทางใต้ของ
ฝร่ังเศสนนั้ เป็ นผลร้ ายตลอดทงั้ ประเทศสเปน และโปรตุเกส เพราะคาบสมทุ รไอบีเรียเป็ นจุด
เดียวที่สินค้าจากองั กฤษ ผ่านเข้ายุโรปได้ในตอนนนั้ และก็เป็ นท่ีรับรู้กันว่า ความมน่ั คงทาง
เศรษฐกิจของประเทศนนั้ ต้องพง่ึ สนิ ค้าองั กฤษ
ในท่ีสดุ เม่อื นโปเลยี นมองเห็นช่องโหวต่ รงนนั้ จึงได้ใช้กําลงั บกุ โปรตเุ กสโดยท่ีองั กฤษ
ไมท่ นั ได้ช่วยเหลอื ประเทศพนั ธมิตร ราชวงศ์ กษัตริย์แหง่ โปรตเุ กสต้องเสด็จลกี ้ ยั ไปอยปู่ ระเทศ
บราซลิ
ครัน้ แล้ว นโปเลียนก็ยาตรากําลงั เข้าใสส่ เปน โดยไม่ คํานงึ ถึงความจริงวา่ ประชาชน
ชาวสเปนเป็ นชาติทร่ี ักศกั ด์ิศรีความเป็ น เอกราชอยา่ งย่งิ ชาติหนง่ึ
๓๒๐
นโปเลยี นปลดพระเจ้าเฟอริดนิ นั ด์ที่ ๗ โอรสของพระเจ้าชาร์ลส์ ท่ี ๔ ออกจากบลั ลงั ก์ท่ี
บาโยน แล้วแตง่ ตงั้ ให้โจเซฟพี่ชายของตนขนึ ้ ครองบลั ลงั ก์แทน แตป่ รากฏว่าปวงชนไม่ยอมรับ
นบั ถือรัฐบาลภายใต้ กษัตริย์พระองค์ใหม่ โดยไมแ่ ยแสกบั ความหวั เสยี ของนโปเลยี น
นโปเลยี นโยนความผิดนีใ้ หแั ก่ศาสนาคาทอลิกในสเปน ว่าเป็ น กลมุ่ ต่อต้านการปฏิรูป
การปกครองของตนที่นน่ั เลยใช้กําลงั เฆ่ียนเสีย หมอบไป ศึกสเปนท่ีนโปเลยี นทําครัง้ นนั้ จึงมี
ลกั ษณะเป็ นสงครามศาสนา กลา่ วคอื มีการใช้อาํ นาจทารุณและกดข่ศี าสนา แตน่ บั ตงั้ แตว่ นั ที่ ๖
มถิ นุ ายน ๑๘๐๘ เป็ นต้นมา นโปเลยี นก็ต้องส้รู บปราบยคุ เข็ญอนั เกิดจากชาวสเปนมาเร่ือย ๆ
โดยที่ใมส่ ามารถเปลยี่ นหวั ใจของชาติทถี่ ือชาติ ถือตวั อยา่ งยง่ิ ชาตนิ ี ้
สถานการณ์ในสเปนเป็ นเชน่ นมี ้ าตลอด มิใยที่นโปเลยี นจะสง่ ทหารฝรั่งเศสชนั้ หนึง่ เข้า
ไปตงั้ รักษาอํานาจอย่ใู นสเปน และถึงแม้ พระเจ้าโจเซฟ พระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่จะตงั้ ศาล
ปกครองขึน้ ชําระคดี ผ้แู ข็งขืนอํานาจปกครองขึน้ ในแมดริด แต่ก็ไม่อาจทําให้ชาวสเปนหยุด
ตอ่ ต้านและยอมเป็ นลกู น้องฝรั่งเศสเหมอื นประเทศอื่น ๆ ในยโุ รป กลืนไม่เข้าคายไมอ่ อกกนั อยู่
เช่นนี ้ จนนโปเลียนสิน้ อํานาจ และอาณาจักร ฝรั่งเศสทลายลง เรื่องจึงเปิ ดเผยออกมาว่า
องั กฤษได้เข้าไปมีบทบาท อย่างสําคญั ในสเปน โดยมีด๊คุ แห่งเวลลิงตนั (อาเธอร์ เวลเลสลีย์)
เป็ น ผ้นู าํ ในการการคอยช่วยเหลอื ทําให้พระเจ้าโจเซพพ่ ี่ชายของนโปเลยี น ไปจากประเทศสเปน
ได้สาํ เร็จในทสี่ ดุ
๓๒๑
บทเสริม
ช่วงบัน้ ปลายชีวติ จักรพรรดิ
พลเอกมงั กร พรหมโยธี ได้เขยี นชวี ประวัตขิ อง นโปเลยี น โบนาปาร์ต จบลงเพียงแค่ ถึง
ตอนที่นโปเลียนขนึ ้ ครองอํานาจเป็ นจกั รพรรดิผ้มู ีอํานาจสงู สดุ และดเู หมือนจะมีอํานาจ มาก
ท่สี ดุ ในยโุ รปในชว่ งปี ค.ศ.๑๘๐๘ หนงั สอื เรื่องนโปเลยี นท่ีท่านเขียนขนึ ้ จึงดเู หมือนยงั ไม่จบสนิ ้
กระบวนความตามท่ีทา่ นปรารถนาเอาไว้นบั แตต่ ้น
ในฐานะที่สํานักพิมพ์ศรีปัญญานําผลงานของท่านมาทําการขดั เกลาและ ตีพิมพ์ขึน้
ใหม่ จึงขอสรุปภาพชีวิตของนโปเลยี นต่อจากที่ทา่ นพลเอกมงั กร พรหมโยธี ได้เขียนจบเอาไว้
เพิม่ เติม ทงั้ นโี ้ ดยมีจดุ ประสงค์เพ่ือให้ผ้อู า่ นได้เหน็ ภาพและเขาั ใจ ในเร่ืองราวชีวประวตั ิของนโป
เลยี นอยา่ งเสร็จสนิ ้ กระบวนความของชีวติ หนง่ึ ชีวติ ของผ้ยู งิ่ ใหญ่ ในประวตั ศิ าสตร์ทา่ นนี ้
ดังที่ได้กล่าวมา เม่ือถึงในปี ค.ศ.๑๘๐๘ นัน้ นโปเลียนกลายเป็ นองค์จักรพรรดิผู้มี
อํานาจสงู สดุ ในฝร่ังเศส สง่ิ หนง่ึ ทน่ี า่ สนใจคอื จกั รพรรดนิ โปเลยี นที่ 1 ได้ทรงสร้าง ระบบศกั ดินา
ของจกั รวรรดิฝร่ังเศสมอบให้แก่กล่มุ ชนชนั้ สงู ที่แวดล้อมพระองค์ขึน้ นน่ั คือไม่นานนกั บรรดา
นายพันและนายพลของจักรพรรดินโปเลียนที่ ๑ ต่างได้รับฐานันดรเป็ นท่าน เคานต์แห่ง
จักรวรรดิ อาทิ มีการแต่งตงั้ ให้เป็ นเจ้าชายแห่งเนอชาแตล ดยุกแห่งโอเออสเต็ดท์ ดยกุ แห่ง
มองต์ เบลโล ดยกุ แหง่ ดนั ต์ซกิ ดยกุ แหง่ เอลวิงเกน กษัตริย์แหง่ เนเปิ ลส์ เป็ นต้น
กลา่ วกนั วา่ อาํ นาจของจกั รพรรดินโปเลยี นท่ี ๑ ย่ิงใหญ่ครอบคลมุ จากกรุงอมั สเตอร์ดมั
ถึงกรุงโรม จกั รวรรดิของจกั รพรรดินโปเลียนที่ ๑ มีประชากรรวมทงั้ สนิ ้ กว่า ๗๐ ล้านคน โดยมี
เพียง ๓๐ ล้านคนเทา่ นนั้ ทีเ่ ป็ นชาวฝรั่งเศส
ใน ค.ศ.๑๘๐๘ นนั้ เอง กองพลทหารราบฝี มือเย่ียมขององั กฤษ โดยการบญั ชาการของ
ว่าท่ีดยุกแห่งเวลลิงตัน (อาร์เธอร์ เวลเลสลีย์) ก็ได้เคลื่อนทัพสู่สเปน โดยผ่านโปรตุเกส ตงั้
ประจนั หน้าและรบกบั กองทพั ของฝรั่งเศส กองทพั องั กฤษได้รับความช่วยเหลือจากกลมุ่ ผ้รู ัก
ชาติชาวสเปน ในท่ีสดุ ก็สามารถผลกั ดนั กองทพั ฝร่ังเศสออกจากคาบ สมทุ รไอบีเรียได้สําเร็จ
แม้วา่ ทางฝรั่งเศสจะจดั สง่ กองทหารทมี่ ีฝี มือดี มาช่วยหนนุ แล้วก็ตาม
๓๒๒
เหมือนชะตากรรมเริ่มเดินทางมาถงึ นโปเลยี นแล้ว ในขณะทกี่ องทหารที่ฝี มือดีทส่ี ดุ ของ
ฝรั่งเศสกําลงั ปฏิบัติภารกิจอย่ใู นสเปนนนั้ ออสเตรียก็ได้บุกฝรั่งเศสอีกครัง้ จากแถบเยอรมนี
กระนนั้ ก็ถกู ปราบลงอยา่ งราบคาบในยทุ ธการวากร็อง ซง่ึ ในยทุ ธการนีท้ าํ ให้จอมพลลานซ์ เพือ่ น
และผ้รู ่วมรบเคยี งบา่ เคียงไหลข่ องจกั รพรรดนิ โปเลยี นท่ี ๑ ได้ ถึงแกก่ รรมทเ่ี มืองเอสลงิ
ในเวลาต่อมา ถือเป็ นการตดั สินใจที่ผิดพลาดครัง้ สําคญั ของนโปเลียน กล่าวคือ เขา
ตดั สนิ ใจทจี่ ะยกทพั ใหญ่บกุ รัสเซียใน ค.ศ. ๑๘๑๒
ทพั ใหญ่ครัง้ นขี ้ องจกั พรรดินโปเลยี นท่ี ๑ ประกอบด้วยกองทพั พนั ธมิตรอิตาลี เยอรมนี
และออสเตรีย มีจํานวนพลขนาดมหมึ า มที หารกวา่ ๖๐๐,๐๐๐ นาย ท่ีร่วมเดินทพั ข้ามแมน่ ํา้ นี
เมน
การสงครามครัง้ นีไ้ ม่มีใครคาดคิดวาทางรัสเซียจะสามารถเอาชนะได้ ทัง้ นีด้ ้วย
แสนยานภุ าพอนั ยิง่ ใหญ่และเกรียงไกรของนโปเลยี นทผ่ี า่ นมาแล้ว ยง่ิ ทาํ ให้ทว่ั โลกจบั ตามองว่า
นี่จะเป็ นชยั ชนะอนั ยงิ่ ใหญ่ของนโปเลยี นอีกครัง้ หนงึ่
กองทพั ของรัสเซยี ในเวลานนั้ บญั ชาการโดยจอมพล มีฮาอิล คตู ซู อฟ ได้ใช้ยทุ ธวิธีถอย
ร่นโดยยอมปลอ่ ยให้กองทพั ของฝรั่งเศสรุกเข้ามาถึงใจกลางของรัสเซีย โดยเกิดการรบที่มอสโก
ขนึ ้ ในวนั ที่ ๑๒ กนั ยายน การปะทะกนั ในครัง้ นนั้ ไมม่ ีผ้ใู ดแพ้ชนะ แม้วา่ พวกรัสเซียจะเป็ นฝ่ ายทงิ ้
ชยั ภมู ิ แตท่ งั้ สองฝ่ ายก็เสยี ทหารไปในจํานวนเทา่ ๆ กนั
แต่แล้วในวนั รุ่งขึน้ หลงั จากกองทพั ฝรั่งเศสเคล่ือนทพั เข้ากรุงมอสโก ก็พบว่า มอสโก
กลายเป็ นเมืองร้ าง เมื่อฝรั่งเศสตายใจ พวกรัสเซียก็ได้เริ่มจุดไฟเผากรุงมอสโกในทนั ที ทําให้
จกั รพรรดินโปเลยี นที่ ๑ ต้องถอยทพั ในทนั ที
อยา่ งทร่ี ู้กนั ดีวา่ ในรัสเซยี นนั้ ฤดหู นาวจดั วา่ เป็ นฤดอู นั โหดร้าย และมนั กําลงั จะ มาเยือน
ดินแดนแถบรัสเซียในอีกเพียงไม่กี่วนั จกั รพรรดินโปเลียนที่ ๑ ท่ีคาดวา่ จะมีความ เคลอื่ นไหว
จากพระเจ้าซาร์วา่ อาจจะยอมแพ้จึงได้ชะลอการถอยทพั ไปจนถงึ นาทสี ดุ ทาั ย
แตในท่ีสุดไม่มีข่าวคราวใด และฤดูหนาวก็เข้ามาเยือนแล้ว นโปเลียน ตัดสินใจให้
กองทัพฝร่ังเศสถอยทัพ การถอยทพั เกิดขึน้ อย่างทุลกั ทุเล โดยม่งุ ไปทางเยอรมนี ในช่วงฤดู
หนาวของรัสเซีย ผ่านดินแดนที่เคยเป็ นทางผ่านตอนขามาและถูกกองทพั ของรัสเซียไลต่ าม
โจมตีเสยี ย่อยยบั ในจํานวนทหารเกือบ ๖๐๐,๐๐๐ นาย ที่เข้าร่วมรบ มีเพียงหมื่น กว่านายท่ี
๓๒๓
สามารถข้ามแมน่ าํ ้ เบเรซินากลบั มาได้ แถมยงั ถกู กองทพั รัสเซียดกั โจมตี กองทพั ใหญ่ของจักพร
รดนิ โปเลยี นท่ี ๑ ต้องถงึ กาลลม่ สลายเน่อื งด้วยไมร่ ู้จกั พนื ้ ท่ดี พี อ
เม่ือข่าวคราวความพ่ายแพ้ของกองทัพนโปเลียนกระจายไปทั่วยุโรป ปรากฏว่ามี
กษัตริย์ในยโุ รปจากหลายชาติท่ีก่อนหน้านีป้ ระกาศอย่ขู ้างนโปเลียนก็เร่ิมแปรพกั ตร์ไปเข้ากบั
พนั ธมิตร (ออสเตรีย เยอรมนี สวีเดน)
หลงั ความพา่ ยแพ้อยา่ งยอ่ ยยบั ในสงครามกบั รัสเซยี แม้นโปเลยี นจะยงั สามารถ นําทพั
ของฝร่ังเศสทําสงครามเอาชนะทพั ของฝ่ ายพนั ธมิตรในการรบในยุทธภมู ิย่อย ๆ อีกหลายครัง้
กระนนั้ ในทส่ี ดุ คอื ในอีกสองปี ตอ่ มาคือ ค.ศ.๑๘๑๔ เม่ือมีการรวมตวั กนั อย่างขนานใหญ่ ของ
กองทพั พนั ธมิตรโดยความร่วมมือของสหราชอาณาจักร รัสเซีย ปรัสเซีย และออสเตรีย ทัพ
มหึมาของฝ่ ายพนั ธมิตรก็ยกมาเข้าล้อมกรุงปารีสเอาไว้ ซง่ึ ในเวลานนั้ นโปเลียนมีทหารสว่ น
ใหญ่เป็ นทหารใหม่ไร้ ประสบการณ์แทบทงั้ สิน้ ในที่สดุ แล้วกรุงปารีส ก็ถูกตีแตกในวนั ที่ ๓๑
มีนาคม เมื่อความพา่ ยแพ้มาเยือนถึงบ้านของตวั เอง บรรดาเหล่าจอมพลของค่สู งคราม ก็ได้
บงั คบั ให้จกั รพรรดินโปเลยี นที่ ๑ สละราชบลั ลงั ก์
นโปเลียนถูกกักตัวเอาไว้ ในพระราชวังของตนเอง ในคืนวันท่ี ๑๒ ด้ วยความ
หวาดระแวง และความคิดที่เขาอาจจะถกู แยกจากครอบครัว ทําให้จกั รพรรดินโปเลียนตดั สิน
พระทยั ทจ่ี ะปลดิ ชีพตวั เองโดยการกลนื ฝ่ิ นในปริมาณทม่ี ากพอท่ีจะทําให้พระองค์สนิ ้ ชีพได้
แตป่ รากฏวา่ ความพยายามในครัง้ นนั้ ไมป่ ระสบความสาํ เร็จ ทงั้ นี ้เพราะแพทย์ประจํา
ราชสาํ นกั สามารถชว่ ยชีวติ เอาไว้ได้ ในทสี่ ดุ พระองค์ก็ต้องไปลภี ้ ยั ที่เกาะเอลบา ตามท่ีระบไุ ว้ใน
สนธิสญั ญาฟงเตนโบล โดยจะยงั ทรงดํารงพระยศเป็ นจกั รพรรดิ แตท่ รงปกครองได้เฉพาะบน
เกาะเลก็ ๆ แหง่ นเี ้ทา่ นนั้
ความพ่ายแพ้ของจกั รพรรดินโปเลียน นํามาซ่ึงการสถาปนาพระเจ้าหลยุ ส์ที่ ๑๘ ให้
กลบั มาปกครองฝร่ังเศสภายใต้ระบบกษัตริย์เช่นดงั เดิมอีกหน นโปเลียนท่ีถกู กักบริเวณ อยยู่ งั
เกาะเอลบา กังวลเพิ่มขึน้ เร่ือย ๆ ถึงชะตากรรมของมเหสีของพระองค์ในเวลานนั้ คือ อาร์ค
ดชั เชส มารี หลยุ ส์ แหง่ ออสเตรีย และพระราชโอรสคือ นโปเลยี นท่ี ๒ ที่ตกอยใู่ นเงือ้ มมือของ
พวกออสเตรีย อกี ทงั้ ยงั รู้มาวา่ รัฐบาลฝร่ังเศสท่ีฝักใฝ่ ระบอบกษัตริย์ได้ปฏิเสธจะจ่ายคา่ เลยี ้ งดู
ให้ตามสญั ญาในที่สดุ และมีข่าวลือว่าเขากําลงั จะถกู สง่ ตวั ไปยงั เกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของ
๓๒๔
มหาสมทุ รแอตแลนตกิ
ด้วยเหตนุ ี ้สง่ ผลให้จกั รพรรดินโปเลยี นที่ ๑ ตดั สินพระทยั ท่ีจะหลบหนีออกจาก ห้องขงั
บนเกาะเอลบา การหลบหนใี นครัง้ นนั้ ประสบ ความสาํ เร็จอยา่ งง่ายดาย นโปเลยี นได้ขนึ ้ ส่ฝู ่ังบน
แผน่ ดนิ ฝรั่งเศสใกล้ กบั เมืองคานส์ เมื่อเดอื นมนี าคม ค.ศ.๑๘๑๕
รัฐบาลฝรั่งเศสในขณะนัน้ ส่งกองทัพไปตามจับกุมตัวเขา แต่ปรากฏว่า กองทหาร
เหลา่ นนั้ กลบั มาตา่ งโห่รัองต้อนรับนโปเลียนเย่ียง วีรบรุ ุษตลอดเส้นทางจากชายฝ่ังริเวียราของ
ฝร่ังเศส ขนึ ้ มาจนถึงเมืองลยี อง ซง่ึ เส้นทางดงั กลา่ วถกู เรียกว่า ๐ถนนสายจกั รพรรดินโปเลยี นที่
๑๑ ไปแล้ว
จอมพลมิเชล ไนย ผ้ซู ึง่ ได้สาบานตอ่ หน้าพระเจาั หลยุ ส์ที่ ๑๘ ว่า จะนําจกั รพรรดินโป
เลียนท่ี ๑ กสับมาในกรงเหล็ก ก็รู้สึกโอนอ่อนเข้าหา ฝ่ ายจักรพรรดิเดิมของตน (หลังท่ี
จกั รพรรดนิ โปเลยี นท่ี ๑ เดนิ อยา่ ง อกุ อาจเข้าไปประกาศตอ่ ฝงู ชนวา่ ๐ทหารแหง่ กองทพั ท่ี ๕ ข้า
คือ จักรพรรดิของพวกเจัา พวกเจ้าก็รู้จักข้าดีอยู่แล้วมิใช่หรือ ถ้าหากมีใคร ในหมู่พวกเจ้า
ทงั้ หลายมาเพือ่ ทีจ่ ะจบั จกั รพรรดิของเจ้า ข้าก็อยทู่ ่นี ี่แล้ว") ทาํ ให้เขากลายเป็ นจอมพลคนเดียวท่ี
ถกู จบั กมุ ในข้อหาทรราชย์
จกั รพรรดนิ โปเลยี นที่ ๑ เดนิ ทางถึงกรุงปารีสอยา่ งง่ายดาย ช่วง เวลา ๐คืนสอู่ าํ นาจเป็ น
เวลาร้อยวนั ๑ ก็เร่ิมต้นขนึ ้
สว่ี นั ตอ่ มา คือหลงั จากท่ีนโปเลยี นคืนสอู่ ํานาจแล้ว สหราช อาณาจกั รบริเตนใหญ่และ
ไอร์แลนด์ รัสเซีย ออสเตรีย และปรัสเซีย ก็รวมตัวกันเป็ นสมั พันธมิตรและส่งกําลงั ทหาร
๑๕๐,๐๐๐ นายเข้า ต่อส้เู พ่ือยุติการหวนคืนสอู่ ํานาจของนโปเลียน การกระทําครัง้ นีเ้ ป็ นการ
วางพนื ้ ฐานของความขดั แย้งครัง้ สดุ ทาั ยของสงครามนโปเลยี น
แตค่ วามล้มเหลวก็เกิดขนึ ้ ซํา้ รอย กองทพั ของพนั ธมติ รกลบั มา รวมตวั กันใหม่ และนโป
เลยี นก็พร้อมที่จะรบ หากแตเ่ มือ่ เกิดสงคราม ครัง้ ใหมข่ นึ ้ กองทพั ของนโปเลยี นกลบั พา่ ยการรบ
กบั องั กฤษและปรัสเซีย ท่ียทุ ธการวอเตอร์ลใู นเบลเยียม ซ่ึงเป็ นสงครามท่ีเกิดขนึ ้ เม่ือวนั ที่ ๑๘
มิถนุ ายน โดยในครัง้ นนั้ จอมพลกรูชีในฝ่ ายนโปเลยี นไม่สามารถต้านทานกองทพั ร่วม ระหว่าง
องั กฤษและปรัสเซียได้ เนือ่ งจากทพั ของทงั้ สองชาติ เป็ นทพั หลวงทยี่ กมา
ความพา่ ยแพ้ในครัง้ นที ้ าํ ให้นโปเลยี นถกู จบั กมุ ตวั อกี ครัง้ จกั รพรรดิ นโปเลยี นท่ี ๑ ทรง
๓๒๕
ถกู ขงั และถกู องั กฤษสง่ ตวั ไปยงั เกาะเซนต์เฮเลนา ตามคําบญั ชาการของเซอร์ฮดั สนั โลว พร้อม
กบั นายทหารทย่ี งั จงรัก ภกั ดบี างสว่ น
จกั รพรรดินโปเลยี นท่ี ๑ ใช้เวลาบนเกาะเซนต์เฮเลนา อทุ ศิ ให้ กบั การเขยี นบนั ทกึ ความ
ทรงจําของพระองค์ ในช่วงคร่ึงหลังของเดือนเมษายน ค.ศ.๑๗๒๑ พระองค์ได้ทรงเขียน
พินยั กรรม และหมายเหตุ พินยั กรรมหลายฉบบั ด้วยพระองค์เอง รวมกวา่ สส่ี บิ หน้าด้วยกนั
คําพดู สดุ ท้ายของพระองค์ก่อนสนิ ้ ใจได้แก่ ๐ฝรั่งเศส กองทพั แมท่ พั โยโซฟิ น๑ หรือจาก
ทบ่ี นั ทกึ ไว้ใน ๐จดหมายเหตเุ กาะเซนต์เฮเลนา๑ คือ ๐...ศรี ษะ...กองทพั ...พระเจ้าชว่ ย!๑
จกั รพรรดนิ โปเลยี นท่ี ๑ ได้ทรงขอให้ฝังพระศพของพระองค์ไว้ ริมฝั่งแม่นํา้ แซน แต่เมื่อ
พระองค์เสด็จสวรรคตใน ค.ศ.๑๘๒๑ พระศพของพระองค์ได้ถกู ปลงท่เี กาะเซนต์เฮเลนา
ในปี ค.ศ. ๑๘๔๐ พระบรมอฐั ิได้ถกู นาํ กลบั มายงั ประเทศฝร่ังเศส ด้วยการต้อนรับอยา่ ง
สมพระเกียรติ และได้ถกู ฝังไว้ท่สี สุ านแองวาลดี ในกรุงปารีส โดยใสไ่ ว้ในโถที่ทําด้วยหินเนอื ้ ดอก
(อนั เป็ นของขวญั ที่รัสเซยี มอบให้แก่ฝร่ังเศส)
เร่ืองราวชีวิตอนั นา่ ต่ืนตาตืน่ ใจของเด็กหนมุ่ จากเกาะคอร์ซกิ า ผู้ กลายมาเป็ นจกั รพรรดิ
ผ้ยู ิ่งใหญ่ทสี่ ดุ พระองค์หนงึ่ ของฝรั่งเศสจึงจบลง เพยี งเทา่ นี ้
สี่งท่ีเกิดขึน้ และควรค่าแก่การทรงจํามากท่ีสดุ ต่อเร่ืองราวของ นโปเลียนในครัง้ นีก้ ็คือ
ความไมจ่ ีรังในอํานาจ กลา่ วคือ อํานาจเป็ นสิง่ ที่อาจจะหามาได้ แตม่ นั ก็รักษาเอาไว้ไม่ได้ง่าย
นกั และทนี่ า่ สนใจยิ่งไปกว่าคือ ความยิ่งใหญ่ของชีวิตนนั้ นอกจากพรสวรรค์แล้ว ท่ีสําคญั ที่สดุ
อีกประการหนึง่ ก็คือ ความม่งุ มั่นที่ชัดเจน จากเด็กหน่มุ บ้านนอกจึง กลายมาเป็ นจกั รพรรดิท่ี
ยิ่งใหญ่ทสี่ ดุ ของยโุ รปได้เช่นน.ี ้...
เด็กหน่มุ เชือ้ สายอิตาลีผ้ถู ือกาเนิดบนเกาะคอร์ซิกาในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผ้กู ้าวมา
จากเด็กบ้านนอกสกู่ ารเป็ นนกั เรียนนายร้อยทหารในช่วงหลงั การปฏิวตั ิฝรั่งเศส ค.ศ.๑๗๘๙ ผู้
ไม่เคยคิดมักใหญ่ใฝ่ สูง แต่จับพลัดจับผลูก้ าวขึน้ สู่ตาแหน่งนายพลคนสาคัญในกองทัพ
ประชาชน นบั แตว่ ยั ๒๕ ปี ผา่ นชีวิตท่ีขึน้ ลงและผาดโผน นาทพั ฝร่ังเศสยดึ อิตาลี อียิปต์ และ
ขยายอานาจไปทวั่ ยุโรป จนนามาส่กู ารก่อการรัฐประหารและขึน้ ส่อู านาจสงู สดุ ในฐานะองค์
จกั รพรรดิแหง่ ฝร่ังเศส ชีวิตเชน่ นไี ้ มธ่ รรมดา เรื่องราวของนโปเลยี น โบนาปาร์ต จึงเป็ นเร่ืองราว
ที่นอกจากนา่ สนใจ แล้วยงั ต้องศกึ ษากนั อยา่ งจริงจงั ย่งิ