แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลง
ในชอ่ งว่าง ที่ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรียนอยา่ ง
พอเพียง ประหยัด
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่
6. มงุ่ ม่ันในการ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน
ทำงาน
6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ดร้ มั
7. รักความเปน็ อบหมาย
ไทย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้
งานสำเร็จ
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิ
ปัญญาไทย
7.2เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ และแบง่ ปนั
ส่งิ ของใหผ้ ู้อืน่
8.3 รู้จกั การดแู ล รักษาทรพั ยส์ มบัติและ
สง่ิ แวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่อื สงั คมและ
สาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ดิน (soil)
โครงสร้างของดินมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับ
ส่วนประกอบของดินเช่น ทราย ดินตะกอนและดินเหนียว
ที่อยู่รวมกันเป็นอนุภาคดิน การรักษาโครงสร้างของก้อน
ดินให้ร่วนพอดีเป็นสิ่งสำคัญ ความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ควรประกอบด้วยแร่ธาตุอาหารที่พืช ต้องการใช้อย่าง
ครบถ้วน อินทรีย์วัตถุเป็นส่วนประกอบที่มีในเนื้อดินอีก
อย่างหนึ่งที่ สำคัญซึ่งได้จากการเน่าเปื่อยที่เรียกว่าฮิวมัส
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารคอลลอยด์ที่ช่วยดูดยึดน้ำและธาตุ
อาหารพืช
ทราย (sand)
ได้มาจากการผุพังของหินชนิดต่างๆ
กลายเป็นหินก้อนเล็กๆ จึงมีน้ำหนักมาก ไม่มีแร่
ธาตุอาหาร ไม่สามารถแลกเปลี่ยนประจุบวกจึงมี
ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เก็บความชื้นได้ไม่ดี แต่มี
ความอยู่ตัวสูง ระบายน้ำได้ดี ทรายที่ใช้ทั่วไปมี
แบบทรายหยาบ เหมาะสำหรับนำมาใช้ผสมวัสดุ
ปลูก ส่วนทรายละเอียดหรือทรายขี้เป็ดมีเม็ด
ละเอียด สีคล้ำ มีดินตะกอนและอินทรีย์วัตถุปนอยู่
บ้าง การระบายน้ำไม่ดีจึงไม่เหมาะนำมาใช้ในการ
ปลูกพืช
พีท (peat)
ได้มาจากซากพืชที่ขึ้นอยู่ในน้ำในสภาพที่สลายตัว
ไม่สมบูรณ์ จึงขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา ซึ่งมีความแตกต่างกัน
ตามสถานที่เกิด ขั้นตอนการสลายตัว แร่ธาตุอาหารและ
ความเป็นกรดด่าง เช่น มอสพีทหรือพีทมอส ได้มาจาก
sphagnum สามารถอมุ้ น้ำไดม้ ากถงึ 15 เทา่ ของน้ำหนัก
แห้ง มีความเป็นกรดสูง มีธาตุอาหารอยู่น้อยหรือไม่มีเลย
มีการนำมาใช้กันมากในการเพาะเมล็ดทางพืชสวน มี
ราคาค่อนข้างสูง ถ้าเติมในวัสดุมากอาจทำให้น้ำซึมผ่าน
ไดย้ าก
สแฟกนัมมอส (sphagnum moss)
เป็นซากพืชทข่ี ้ึนตามหนองบงึ หรอื เป็นสว่ นที่
ยังมีชีวิตอยมู่ าทำใหแ้ หง้ มีนำ้ หนกั เบา สามารถอุ้ม
น้ำไดส้ งู ถึง 10-20 เท่า เปน็ วัสดทุ ค่ี อ่ นขา้ งสะอาด
มีแร่ธาตุอาหารนอ้ ย นิยมนำมาใชป้ ลูกกลา้ ไมท้ ี่
เลก็ ๆ หรอื เกบ็ ความชื้นใหก้ ับรากและก่ิงขณะทำ
การขนสง่ จัดเป็นวัสดุท่ใี ช้ไดด้ ีกับต้นกล้ามสี าร
ยับยง้ั การเกดิ โรคเน่าคอดินไดด้ ้วย
เปลอื กไมช้ ิน้ เลก็ ๆ และขกี้ บ (shredded bark and wood shavings)
ได้มาจากการตดั ป่นเปลือกไม้หรืออุตสาหกรรม
ไม้แปรรูป จึงมีราคาไมแ่ พง น้ำหนักเบา การสลายตัว
ช้า อาจพบมีสารที่สะสมอยู่ในเนื้อไม้ทีเ่ ป็นพิษออกมา
บ้างเช่นแทนนิน เรซิน ฟีนอล จึงควรหมักไว้ด้วยการ
เติมปุ๋ยไนโตรเจนเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการสลายตัวระยะ
หน่งึ ประมาณ 10-14 สปั ดาห์ ก่อนนำมาใช้
พลาสติกสงั เคราะห์ (synthetic plastic aggregates)
หรือเม็ดโฟม (urea formaldehyde foam) สามารถ
นำมาใช้ช่วยเพิ่มการระบายน้ำและอากาศ และลดความหนาแน่น
ของเครื่องปลูก มีน้ำหนักเบา แต่ผสมให้เข้ากับวัสดุอื่นอย่าง
สม่ำเสมอไดย้ าก
ปุ๋ยหมัก (compost)
ได้มาจากอินทรีย์วัตถุที่หมักสลายตัวแล้วส่วนใหญ่
ไดม้ าจากใบไม้ ช่วยเพ่มิ ฮวิ มสั ทำใหด้ นิ อุ้มนำ้ ได้ดขี ึ้น
ขยุ มะพรา้ ว (coconut dust)
ได้มาจากการแยกเส้นใยมะพร้าวออกจากเปลือก
ของผล มีน้ำหนักเบา สามารถอุ้มน้ำได้มากอยู่ใน
สภาพสะอาดพอสมควร การถ่ายเทอากาศดี มี
ความยืดหยุ่นตัวดีไม่อัดแน่นง่าย มีส่วนประกอบ
ของธาตุโพแทสเซียมอยู่ด้วย สามารถนำมาใช้เป็น
วัสดุสำหรับตอนกิ่ง และผสมกับทรายหยาบเป็น
วัสดุเพาะเมล็ดได้ดี ในการผสมดินปลูกควรร่วมกับ
ปุ๋ยไนโตรโจนเปน็ ส่วนผสมเพ่ือทำใหไ้ ม่แสดงอาการ
ใบเหลอื ง แคระแกร็นได้
แกลบดิบหรอื เปลือกข้าว
เป็นวัสดุที่ได้จากการสีเปลือกข้าว น้ำหนักเบา หาได้
ง่าย ราคาถูก มีสภาพสะอาดพอสมควร มีการระบาย
น้ำและการถ่ายเทอากาศได้ดี จึงนิยมนำมาใช้เป็น
ส่วนผสมของวัสดปุ ลูก
ถ่านแกลบหรือขีเ้ ถา้ แกลบ (paddy huskcharcoals)
ได้จากการเผาแกลบดิบในสภาพเผาไหม้ยังไม่
สมบูรณ์เต็มที่ มีน้ำหนักเบา สามารถอุ้มน้ำได้ดี มี
ความเป็นด่างสูงก่อนนำมาใช้จึงควรล้างด่างออก
นิยมนำมาใช้ผสมกับทรายหยาบเป็นวสั ดุสำหรับตัด
ชำไดด้ ี ถ้าใช้ในกระบะพน่ หมอกสามารถนำมาใช้ได้
เลย เพราะมีการพ่นน้ำเป็นประจำจึงไม่มีอันตราย
กับพชื
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นศกึ ษาประโยชนข์ องวัสดปุ ลกู แตล่ ะชนดิ
ชื่อวัสดปุ ลกู ภาพวาด ประโยชน์
ใบงานขั้นตอนการผสมดนิ ปลูก
คำช้แี จง ให้นกั เรียนสรุปข้นั ตอนการผสมดนิ ปลูกที่นกั เรียนไดป้ ฏิบัติ พรอ้ มวาดภาพประกอบ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
เรือ่ ง การเตรียมแปลงปลกู พชื ผัก เวลา 2 ชว่ั โมง
ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
__________________________________________________________________________
1. เป้าหมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรียนรู้ / การวดั และการประเมินผล
ผลการเรียนรู้ ส่งิ ที่ต้องรู้และปฏิบัติได้ ผลงาน / ชิ้นงาน การวัดผลและการ
ประเมนิ ผล
5. บอกวิธีการเตรียม 1. บอกวิธีการเตรียม - เตรียมแปลงปลูก - ทำแบบทดสอบกอ่ น
วัสดุอุปกรณ์แ ละ แปลงปลกู พชื ผกั พืชผกั เรียน (Pre-test)
ปฏิบัติการเตรียมดิน 2. นักเรียนสามารถเด - บันทึกบทเรียนที่ครู - สังเกตพฤติกรรม
การทำงานรายบคุ คล
ไ ด ้ อ ย ่ า ง ถ ู ก ต ้ อ ง ตรียมแปลงปลูกพชื ผกั บรรยาย - ประเมิน
เหมาะสม - สรุปขั้นตอนการ คุณลักษณะอันพึง
เตรียมแปลงปลูกลงใน ประสงค์
กระดาษ ทำแบบทดสอบหลัง
เรียน (Prost-test)
-ใบงาน
2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
1. ความรู้ (Knowledge)
1. บอกวิธกี ารเตรียมแปลงปลูกพชื ผกั
2. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
1. นกั เรียนสามารถเดตรียมแปลงปลูกพชื ผัก
3. สมรรถนะ (Competency)
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. หลกั ฐานการเรียนร้ชู น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- เตรียมแปลงปลูกพชื ผัก
- บนั ทึกบทเรียนทคี่ รบู รรยาย
- สรุปข้ันตอนการเตรียมแปลงปลูกลงในกระดาษ
4. การวัดและการประเมินผล ( Evaluation )
สง่ิ ทีว่ ัดผล วิธีวดั ผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ
แบบทดสอบ ร้อยละ 70 ผา่ น
ดา้ นความรู้ (K) ทำแบบทดสอบ เกณฑ์
แบบประเมนิ
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตการ ระดับคณุ ภาพ 2
เจตคติ/คุณลกั ษณะ (A) ปฏิบัติงาน แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
สมรถนะของผู้เรียน (C) สงั เกตการ
ปฏิบตั ิงาน ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2
สังเกตการ ผา่ นเกณฑ์
ปฏิบัติงาน
ระดบั คณุ ภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
5. กระบวนการการจัดกิจกรรม / รปู แบบการจดั กิจกรรม ( Learning Process )
ใช้กระบวนการความรู้ความเข้าใจ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย สิ่งที่
ต้องการพฒั นาคือเนื้อหาสาระ ดงั นี้ สงั เกตและตระหนกั วางแผนกำหนดแนวทาง แบ่งความรบั ผิดชอบ
ไปแสวงหาความรู้ พฒั นาความรู้ความเข้าใจ สรปุ สาระสำคัญ
6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรียน ( 10 นาที )
1. ครทู บทวนเนือ้ หาทีน่ ักเรียนได้เรียนเม่อื สัปดาห์ทีแ่ ลว้ แลว้ เชือ่ มโยงเข้าสูบ่ ทเรียน
2. ขน้ั สอน ( 100 นาที )
4. ครูอธบิ ายวิธีการเตรยี มแปลงปลูกพชื ผักใหน้ ักเรียนฟังพร้อมถามคำถามตอบโต้กนั ไปมา
ประกอบสื่อการสอน Powerpoint
5. ให้นกั เรียนบันทึกบทเรยี นทีค่ รูบรรยาย กอ่ นลงปฏิบัติงานจริง ในการเรียนคร้ังต่อไป
6. ครสู าธติ วิธกี ารเตรียมแปลงปลกู พชื ผักใหน้ กั เรียนฟังพร้อมถามคำถามตอบโต้กนั ไปมา
7. ให้นกั เรียนปฏิบัติการเตรียมปลกู พชื ผัก พร้อมครคู อยควบคุมดแู ลอย่างใกลช้ ิด
8. ให้นกั เรียนสรุปข้ันตอนการเตรียมแปลงปลกู ลงในกระดาษส่งครูท้ายคาบ
3. ขัน้ สรปุ ( 10 นาที )
3. ให้นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้ทีน่ ักเรียนได้เรียน พร้อมซักถามข้อสงสัย
4. ให้นกั เรียนปฏิบัติงานใหง้ านเตรียมแปลงปลกู ใหเ้ รียบร้อยพร้อมใหค้ รูตรวจในชั่วโมง
ถดั ไป
4. สื่อการสอน / แหล่งเรียนรู้
สือ่ การเรียนรู้
- Powerpoint การเตรียมแปลงปลูกพชื ผกั
แหลง่ เรียนรู้
- หอ้ งสมุดโรงเรียน
- หอ้ งอินเตอรเ์ นต็ โรงเรียน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓
ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
321
1 นำเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถกู ต้อง
2 การลำดบั ขน้ั ตอนของเนื้อเร่อื ง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
ชือ่ ...........................................................................................ชนั้ ..............................
คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓
ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื
3 การทำงานตามหน้าที่ทไี่ ด้รับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11
ตำ่ กวา่ 8 พอใช้
ปรบั ปรุง
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลง
ในชอ่ งว่างทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 321
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และบอก
กษตั รยิ ์ ความหมายของ
เพลงชาติ
1.2 ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนักเรียน ใหค้ วามร่วมมือ ร่วม
ใจ ในการทำงานกับสมาชิกในห้องเรียน
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็น
ประโยชนต์ อ่
โรงเรียนและชมุ ชน
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของ
ศาสนา
และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน
1.5 เข้ารว่ มกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมที่เกีย่ วกับ
สถาบนั
พระมหากษัตริยต์ ามทีโ่ รงเรียนและชมุ ชนจดั ขนึ้ ชื่นชมในพระราช
กรณียกิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษตั ริยแ์ ละพระราชวงศ์
2. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถ่ี กู ต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งทีถ่ ูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวทีจ่ ะทำความผิด ทำ
ตามสญั ญาที่ตนให้ไว้กบั พอ่ แม่หรือผู้ปกครอง และครู
2.3 ปฏิบัติตนต่อผอู้ น่ื ด้วยความซือ่ ตรง และเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีแก่
เพ่อื นด้าน ความซือ่ สตั ย์
3. มีวินยั 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว
รับผดิ ชอบ และ
โรงเรียน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ใน
ชีวิตประจำวัน
มีความรบั ผิดชอบ
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 ต้ังใจเรียน
4.2 เอาใจใส่ในการเรียน และมคี วามเพียรพยายามในการเรียน
4.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สื่อ
เทคโนโลยีตา่ งๆแหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน และ
เลือกใช้สื่อได้อยา่ งเหมาะสม
4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางส่งิ ทีเ่ รียนรู้ สรุปเป็นองค์
ความรู้
4.6 แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ และนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวนั
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลง
ในชอ่ งว่าง ที่ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรียนอยา่ ง
พอเพียง ประหยัด
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่
6. มงุ่ ม่ันในการ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน
ทำงาน
6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ดร้ มั
7. รักความเปน็ อบหมาย
ไทย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้
งานสำเร็จ
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิ
ปัญญาไทย
7.2เห็นคุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จกั ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ และแบง่ ปนั
ส่งิ ของใหผ้ ู้อืน่
8.3 รู้จกั การดแู ล รักษาทรพั ยส์ มบัติและ
สง่ิ แวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่อื สงั คมและ
สาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
7. บันทึกผลหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้
1. ผลการเรียนรู้
1.1 ดา้ นความรู้ (K)
ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ……………………………………………..
ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 1 พบวา่ นักเรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยู่ในระดบั
..........และรองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดับ...............และพบวา่ นักเรียน
...............................................................................................................................................
1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P )
ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ………………………………………………
ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั เรียนผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ................อย่ใู นระดับ
..........และรองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดับ................และพบว่านักเรียน
...............................................................................................................................................
1.3 ด้านเจตคติ / คณุ ลกั ษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชือ่ มโยงกบั มาตรฐานหลักสตู ร
ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เรือ่ ง …………………………………………………….
ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 3 พบว่านักเรียนคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดบั ............
และ รองลงมาร้อยละ.................อย่ใู นระดบั ...............และพบว่านักเรียน..................................
...........................................................................................................................................................
สรุป ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่……… เรอ่ื ง ……………………………………………………..........
13) นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนอยใู่ นระดับ...................
14) นกั เรียนมีทกั ษะในระดบั ..................
15) นักเรียนมีคุณลกั ษณะในระดบั ...............
2.บรรยากาศการเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
3. การปรับเปลี่ยนแผนการจัดการเรียนรู้ (ถ้ามี)
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. ขอ้ ค้นพบด้านพฤตกิ รรมการจัดการเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
5. อื่นๆ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
7. บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการเรียนรู้
1.1 ดา้ นความรู้ (K)
ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรือ่ ง การทดสอบเปอรเ์ ซ็นต์การ
งอกของเมล็ดพนั ธุ์
ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 1 พบว่านักเรียนผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ................อยใู่ นระดบั
..........และรองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดับ...............และพบวา่ นักเรียน
...............................................................................................................................................
1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P )
ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การทดสอบเปอรเ์ ซน็ ต์การงอก
ของเมล็ดพนั ธ์ุ
ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรุง (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั เรียนผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยู่ในระดับ
..........และรองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดับ................และพบว่านักเรียน
...............................................................................................................................................
1.3 ด้านเจตคติ / คณุ ลกั ษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชื่อมโยงกบั มาตรฐานหลกั สตู ร
ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เรือ่ ง การทดสอบเปอร์เซน็ ตก์ ารงอก
ของเมล็ดพันธุ์
ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น รอ้ ยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 3 พบว่านกั เรียนคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดับ............
และ รองลงมาร้อยละ.................อยูใ่ นระดับ...............และพบว่านักเรียน..................................
...........................................................................................................................................................
สรุป ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การทดสอบเปอร์เซ็นตก์ ารงอกของเมลด็ พันธ์ุ
10) นกั เรียนมีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนอยู่ในระดับ...................
11) นักเรียนมีทกั ษะในระดับ..................
12) นกั เรียนมีคุณลักษณะในระดบั ...............
2.บรรยากาศการเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
3. การปรบั เปลีย่ นแผนการจัดการเรียนรู้ (ถา้ มี)
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. ข้อคน้ พบดา้ นพฤตกิ รรมการจดั การเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
5. อื่นๆ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
7. บันทึกผลหลังแผนการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการเรียนรู้
1.1 ดา้ นความรู้ (K)
ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรือ่ ง การเพาะเมล็ด
ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรุง (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 1 พบวา่ นักเรียนผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ................อย่ใู นระดับ
..........และรองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดับ...............และพบวา่ นักเรียน
...............................................................................................................................................
1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P )
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรือ่ ง การเพาะเมลด็
ระดบั ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น รอ้ ยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั เรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ................อยู่ในระดับ
..........และรองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดับ................และพบว่านักเรียน
...............................................................................................................................................
1.3 ด้านเจตคติ / คณุ ลักษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชื่อมโยงกับมาตรฐานหลกั สูตร
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรือ่ ง การเพาะเมล็ด
ระดบั ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)
จากตารางที่ 3 พบว่านักเรียนคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดบั ............
และ รองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดบั ...............และพบว่านักเรียน..................................
...........................................................................................................................................................
สรปุ ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง การเพาะเมลด็
7) นกั เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดบั ...................
8) นกั เรียนมีทกั ษะในระดบั ..................
9) นกั เรียนมีคุณลักษณะในระดบั ...............
2.บรรยากาศการเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
3. การปรบั เปลีย่ นแผนการจดั การเรียนรู้ (ถ้ามี)
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. ข้อคน้ พบดา้ นพฤตกิ รรมการจดั การเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
5. อื่นๆ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ผงั มโนทศั น์หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6
เรื่อง การจัดทำสวนผัก รายวิชา การปลกู พืชผกั ทว่ั ไป
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2565 เวลา 8 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต
เรือ่ ง การปลูกพชื ผักกนิ ใบและลาตน้
เวลา 8 ชว่ั โมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6
เรือ่ ง การจดั ทาสวนผัก
เรื่อง การปลูกพชื ผักกินราก เรื่อง การปลูกพชื ผกั กินผล
เวลา 8 ชัว่ โมง เวลา 8 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เร่อื ง การจดั ทำสวนผัก จำนวน 20 ชวั่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565
รายวชิ า การปลูกพืชผกั ท่ัวไป รหัสวิชา ง 21242 ครูผู้สอน นางสาวภรณภา ตะกรษุ
_________________________________________________________
สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)
การเลือกทำเลที่เหมาะสมต่อ การทำสวนผักและการเตรียมดินเพื่อ การปลูกผักวิธีการย้าย
กล้าผัก การปลกู ผัก การปฏิบัติการย้ายกล้าและปลกู ผักชนิดตา่ ง ๆ ได้
ผลการเรียนรู้
6. ปฏิบัติการปลกู ผักและขยายพนั ธผ์ุ กั ท่ัวไปไดอ้ ย่างเหมาะสม
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ( Competency ) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Desired Characteristics )
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร มีวินยั
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process )
ทกั ษะเฉพาะวิชา ทกั ษะการคิด
- การสนทนาแลกเปล่ียนข้อมลู - ระดมสมอง
- การเขยี นรายการ - การค้นคว้าขอ้ มลู
- ระบุรายละเอียด - การนำเสนอขอ้ มูล
ความเข้าใจท่ยี ั่งยืน
นักเรียนเข้าใจว่า การเลือกทำเลทีเ่ หมาะสมต่อ การทำสวนผักและการเตรียมดินเพื่อ การปลูกผัก
วิธีการย้ายกล้าผัก การปลกู ผกั การปฏิบตั ิการย้ายกล้าและปลูกผักชนิดต่าง ๆ ได้
ความสัมพันธ์กบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื
ภาษาไทย : การอ่านและเขียนคำศพั ท์ การพูดแสดงความคิดเหน็ การพูดรายงานหน้าชั้นเรียน
ศิลปะ : การวาดภาพและระบายสี
ภาษาต่างประเทศ : ภาษาอังกฤษ การศึกษาและรวบรวมคำศัพท์ ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ
พืชผัก
วทิ ยาศาสตร์ : การเจริญเติบโตของพืช
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1
เรือ่ ง การปลกู พชื ผักกินใบและลำต้น เวลา 8 ช่วั โมง
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
__________________________________________________________________________
1. เป้าหมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรียนรู้ / การวัดและการประเมินผล
ผลการเรียนรู้ ส่งิ ที่ต้องรู้และปฏิบตั ิได้ ผลงาน / ชิ้นงาน การวดั ผลและการ
ประเมนิ ผล
6. ปฏิบัติการปลูกผัก ๑. นักเรียนมีความรู้ 1. ปฏิบัติการปลูก - ทำแบบทดสอบก่อน
และขยายพันธุ์ผัก ความเข้าใจวิธีการปลูก พืชผักกินใบและลำต้น เรียน (Pre-test)
ท ั ่ ว ไ ป ไ ด ้ อ ย ่ า ง พืชผักกินใบและลำต้น 2. สรุปความคิด เรื่อง - สังเกตพฤติกรรม
อยา่ งน้อย 2 ชนิด การทำงานรายบคุ คล
เหมาะสม “ว ิ ธ ี ก า ร ด ู แ ล ะ ร ั ก ษ า - ประเมิน
๒. น ั ก เร ีย น อ ธ ิ บ า ย พืชผัก” และ “โรคและ คุณลักษณะอันพึง
วิธีการปลูกผักบุ้งจีน แมลง” ประสงค์
แ ล ะ ก ว า ง ต ุ ้ ง ไ ด้ ทำแบบทดสอบหลัง
เรียน (Prost-test)
-ใบงาน
2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
1. ความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจวิธีการปลกู พืชผักกนิ ใบและลำต้น อยา่ งน้อย 2 ชนิด
2. นกั เรียนอธบิ ายวิธกี ารปลกู ผกั บุ้งจีนและกวางตุ้งได้
2. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
1. ทำกิจกรรมตามที่ไดร้ ับมอบหมายได้ถกู ต้อง
2. บนั ทึกสรปุ ความรู้จากเร่ืองทีเ่ รียนได้ถูกต้อง
3. สมรรถนะ (Competency)
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. หลกั ฐานการเรียนร้ชู น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
1. ปฏิบัติการปลูกพชื ผักกนิ ใบและลำต้น
2. สรปุ ความคิด เรื่อง “วิธีการดูและรักษาพืชผกั ” และ “โรคและแมลง”
4. การวดั และการประเมินผล ( Evaluation )
สง่ิ ทีว่ ดั ผล วิธีวดั ผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมนิ
ดา้ นความรู้ (K) ทำแบบทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ 70 ผ่าน
เกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) สังเกตการ แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2
ปฏิบตั ิงาน ผ่านเกณฑ์
เจตคติ/คณุ ลักษณะ (A) สังเกตการ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบัติงาน ผ่านเกณฑ์
สมรถนะของผู้เรียน (C) สงั เกตการ ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2
ปฏิบตั ิงาน ผ่านเกณฑ์
5. กระบวนการการจัดกิจกรรม / รูปแบบการจัดกิจกรรม ( Learning Process )
ใช้กระบวนการความรู้ความเข้าใจ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย สิ่งที่
ต้องการพัฒนาคือเนื้อหาสาระ ดงั นี้ สังเกตและตระหนัก วางแผนกำหนดแนวทาง แบง่ ความรบั ผิดชอบ
ไปแสวงหาความรู้ พฒั นาความรู้ความเข้าใจ สรปุ สาระสำคญั
6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน ( 10 นาที )
1. ครทู บทวนเรอ่ื งทีไ่ ดเ้ รียนไปแลว้ นักเรียนซักถามและแสดงความคิดเห็น
2. ข้ันสอน
ชว่ั โมงท่ี 1-2 ( 100 นาที )
10. ครูสืบแสวงหาความรู้ ลักษณะของพืช วิธีการปลูก การเตรียมดิน การดูแลรักษาและ
การเกบ็ เกีย่ ว กวางตุ้งและผกั บุ้งจนี จากใบความรู้ อนิ เตอร์เน็ต หรอื ผมู้ ีความเชี่ยวชาญ
11. ครใู ห้นักเรียนนำขอมูลที่ไดต้ อบคำถามในใบงาน
ชั่วโมงท่ี 3-4 ( 100 นาที )
5. ครใู ห้นักเรียน แบ่งกลมุ่ ออกเป็น 2 กลมุ่ กลุ่มละเท่าๆ กัน วางแผนในการปลูกพืชผกั กินใบ
และลำต้น
6. ครใู ห้นกั เรียนเตรยี มแปลงสำหรับปลูกพชื ผักทีก่ ลุ่มของตนเองไดป้ ลูก ตามข้ันตอนที่ได้
วางแผนไว้ และพกั ดนิ ไว้เปน็ เวลา 7 วนั โดยครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ
ชว่ั โมงท่ี 5-6 ( 100 นาที )
1. ครใู ห้นกั เรียนปฏบิ ตั ิการในการปลกู ผกั หลงั จากได้เตรียมแปลงผักไว้แลว้ ในชั่วโมงที่ผา่ นมา
2. ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติงาน
ชั่วโมงท่ี 7-8 ( 100 นาที )
1. ครใู ห้นกั เรียนศึกษาวิธกี ารดูและรกั ษาพืชผัก โรคและแมลงที่สำคญั ของพชื ผกั
2. ครูให้นักเรียนแบง่ กลุม่ ออกเปน็ 2 กลุม่ เทา่ ๆ กัน สรปุ ความคิด เร่อื ง “วิธีการดแู ละรักษา
พืชผกั ” และ “โรคและแมลง”
3. ขัน้ สรุป ( 10 นาที )
๑. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาในช่วั โมง พร้อมซกั ถามขอ้ สงสัย
4. สือ่ การสอน / แหล่งเรียนรู้
สือ่ การเรียนรู้
1. ส่อื ใบความรู้
2. รูปภาพ
แหลง่ เรียนรู้
- แปลงเกษตรโรงเรียน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓
ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
321
1 นำเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถกู ต้อง
2 การลำดบั ขน้ั ตอนของเนื้อเร่อื ง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
ชือ่ ...........................................................................................ชนั้ ..............................
คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓
ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื
3 การทำงานตามหน้าที่ทไี่ ด้รับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11
ตำ่ กวา่ 8 พอใช้
ปรบั ปรุง
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลง
ในชอ่ งว่างทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 321
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และบอก
กษตั รยิ ์ ความหมายของ
เพลงชาติ
1.2 ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนักเรียน ใหค้ วามร่วมมือ ร่วม
ใจ ในการทำงานกับสมาชิกในห้องเรียน
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็น
ประโยชนต์ อ่
โรงเรียนและชมุ ชน
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของ
ศาสนา
และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน
1.5 เข้ารว่ มกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมที่เกีย่ วกับ
สถาบนั
พระมหากษัตริยต์ ามทีโ่ รงเรียนและชมุ ชนจดั ขนึ้ ชื่นชมในพระราช
กรณียกิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษตั ริยแ์ ละพระราชวงศ์
2. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถ่ี กู ต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งทีถ่ ูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวทีจ่ ะทำความผิด ทำ
ตามสญั ญาที่ตนให้ไว้กบั พอ่ แม่หรือผู้ปกครอง และครู
2.3 ปฏิบัติตนต่อผอู้ น่ื ด้วยความซือ่ ตรง และเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีแก่
เพ่อื นด้าน ความซือ่ สตั ย์
3. มีวินยั 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว
รับผดิ ชอบ และ
โรงเรียน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ใน
ชีวิตประจำวัน
มีความรบั ผิดชอบ
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 ต้ังใจเรียน
4.2 เอาใจใส่ในการเรียน และมคี วามเพียรพยายามในการเรียน
4.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สื่อ
เทคโนโลยีตา่ งๆแหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน และ
เลือกใช้สื่อได้อยา่ งเหมาะสม
4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางส่งิ ทีเ่ รียนรู้ สรุปเป็นองค์
ความรู้
4.6 แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ และนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวนั
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลง
ในชอ่ งว่าง ที่ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรียนอยา่ ง
พอเพียง ประหยัด
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่
6. มงุ่ ม่ันในการ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน
ทำงาน
6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ดร้ มั
7. รักความเปน็ อบหมาย
ไทย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้
งานสำเร็จ
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิ
ปัญญาไทย
7.2เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ และแบง่ ปนั
ส่งิ ของใหผ้ ู้อืน่
8.3 รู้จกั การดแู ล รักษาทรพั ยส์ มบัติและ
สง่ิ แวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่อื สงั คมและ
สาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
การปลูกผกั บุ้ง
เตรียมเมล็ดพันธุ์ในการปลูกผักบุ้ง โดยการแช่น้ำอุ่น แล้วนำมาห่อผ้าทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำเมล็ดมา
คลุกยากันเชื้อรา แล้วนำไปหว่านลงในแปลง การเจริญเติบโต ผักบุ้งจีนใช้เวลาในการงอกเพียง 48 ชั่วโมง
ระยะแรกของการเจริญเติบโตจะให้ลำต้นตั้งตรง หลังจากงอกได้ 5-7 วัน จะมีใบเลี้ยงโผล่ออกมา 2 ใบ มี
ลักษณะปลายใบเป็นแฉก ไมเ่ หมือนกบั ใบ จรงิ
เมื่อต้นโตในระยะสองสัปดาห์แรก จะมีการเจริญเติบโตทางลำต้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งอายุ
ประมาณ 30-45 วนั การเจรญิ เตบิ โตจะเปล่ียนไปในทางทอดยอดและแตกกอ
สำหรับผักบุ้งจีนที่หว่านด้วยเมล็ดการแตกกอจะมีน้อยมากการแตกกอเป็นการแตกหน่อออกมาจาก
ตาที่อยู่บริเวณโคนต้นที่ติดกับราก มีตาอยู่รอบต้น 3-5 ตา เมื่อแตกแถวออกมาแล้วจะเจริญทอดยอดยาว
ออกไปเป็นลำตน้ มปี ลอ้ งข้อ และทกุ ข้อจะใหด้ อกและใบ
การดูแลรักษาผกั บุ้งในระยะทีก่ ำลงั เจรญิ เติบโตเจรญิ เติบโต
ครั้งท่ี 1 หลังจากหวา่ นเมลด็ ผักบุ้งแล้ว อายุ 7 วัน ทำการใส่ปุ๋ย 15-15-15 และฉีดยาป้องกันทุกๆ 3-
5 วัน
คร้งั ท่ี 2 หลงั จากใส่ปยุ๋ ฉีดยาครง้ั ท่ี 1 แลว้ ท้งิ ชว่ งไว้ 7 วัน ทำการใสป่ ุย๋ 15-15-15 ครง้ั ท่ี 2
โรคทีส่ ำคัญของผักบุ้ง
โรคราสนมิ ขาว
สาเหตุ : เกิดจากเช้ือรา
อาการ : จุดสีเหลืองซีดด้านบนของใบ ด้านใต้ใบตรงกันข้ามจะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ ขนาด 1-2 มิลลิเมตร
อาจพบลกั ษณะป่มุ ปม หรือบวมพองโตขนึ้ ในส่วนของก้านใบและลำตน้
การป้องกนั กำจดั
- เมื่อมโี รคระบาดใหฉ้ ดี พน่ ใต้ใบดว้ ย สารปอ้ งกันกำจดั เช้อื ราทผี่ ลิตเอง
- คลุกเมล็ดกอ่ นปลกู ด้วย เมตาแล็กซลิ และเลือกใช้เมล็ดจากแหล่งที่ไม่มีโรคระบาดมาก่อน
- ดแู ลระบบการให้น้ำในแปลงปลูก อยา่ ให้ช้นื แฉะจนเกนิ ไป
การปลูกกวางตุ้ง
ผักกวางตุ้งใบ - เป็นพืชที่อยู่ในตระกูล Cruciferae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Brassica chinensis Jusl var
parachinensis (Bailey) Tsen & Lee เป็นพืชอายุปเี ดียว โดยใชบ้ ริโภคส่วนของใบและกา้ นใบ เป็นผักที่นยิ ม
บรโิ ภคกนั มาก ปลกู งา่ ย เจริญเตบิ โตเร็ว อายุการเกบ็ เกี่ยวสนั้ เพียง 35-45 วนั ก็สามารถเกบ็ เก่ยี วได้ เปน็ ผกั ที่มี
คุณค่าทางอาหารสูง นำมาประกอบอาหารประเภทผัด แกงจืด ผักจิ้ม เป็นต้น สามารถปลูกได้ทุกฤดูและนิยม
ปลูกกันทว่ั ประเทศทัง้ ในรูปของสวนผกั การค้าและสวนผักใกล้บ้านเพอื่ บรโิ ภคในค
การปลูกผกั กาดเขยี วกวางตุ้งนิยมทำกนั 2 วิธีดว้ ยกนั คือ
1. การปลูกแบบหว่านแมล็ดโดยตรง วิธีนี้นิยมใช้ในการปลูกแปลงที่ยกร่อง มีร่องน้ำกว้าง และพื้นที่
ควรมีการเตรียมอย่างดี และเป็นดินท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเมลด็ พันธุผ์ กั กาดเขียวกวางตุ้งมีขนาดเล็ก
มาก ดังนั้นก่อนหว่านควรผสมกับทรายเสียก่อน โดยใช้เมล็ดพันธุ์ 1 ส่วนผสมกับทรายสะอาด 3 ส่วน แล้ว
หว่านให้กระจายทั่วแปลงสม่ำเสมอแล้วหว่านกลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหนา ประมาณ 1/2-1 เซนติเมตร
หลังจากนั้นคลุมด้วยฟางข้าวบางๆ เพื่อช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นในดิน เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่มหลังจากงอกได้
ประมาณ 20 วนั ควรทำการถอนและจัดให้มีระยะระหวา่ งตน้ 20-25 เซนตเิ มตร
2. การปลูกแบบโรยเมล็ดเป็นแถว การปลูกวิธีนี้หลังจากเตรียมดินแล้วจึงทำร่องลึกประมาณ 1.5-2
เซนติเมตร ให้เป็นแถวโดยให้ระยะระหว่างแถวห่างกัน 20-25 เซนติเมตร นำเมล็ดพันธุ์ผสมกับทราย แล้วทำ
การโรยหรือหยอดเมลด็ เปน็ แถวตามรอ่ ง แล้วกลบดว้ ยป๋ยุ คอกหรือปยุ๋ หมักบางๆ คลมุ ด้วยฟางข้าวบางๆ รดนำ้
ให้ชุ่มดว้ ยสมำ่ เสมอ หลังจากปลกู ไดป้ ระมาณ 20 วัน หรือต้นกล้ามีใบ 4-5 ใบ จึง่ทำการถอนแยกในแถว โดย
พยายามจดั ระยะระหวา่ งต้นให้หา่ งกันประมาณ 20-25 เซนติเมตร ให้เหลอื หลุมละ 1 ตน้
การดแู ลรกั ษา
เนื่องจากผักกาดเขียวกวางตุ้งเป็นผักที่ต้องการน้ำมาก และมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังน้ัน
เกษตรกรจะต้องให้น้ำอย่างพึงพอและสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยใช้ระบบพ่นฝอยหรือใช้สายยาง
ติดหัวฝักบัว อย่าให้ผักกาดเขียวกวางตุ้งขาดน้ำในระยะการเจริญเติบโต เพราะจะทำให้ผักกาดเขียวกวางตุ้ง
ชะงกั การเจริญเตบิ โตได้
การใส่ปยุ๋
เนื่องจากผักกาดเขียวกวางตุ้งเป็นผักกินใบและก้านใบ ดังนั้นการใส่ปุ๋ยควรใช้ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) หรือ
แอมโมเนยี มซัลเฟต อตั รา 30 กิโลกรมั ตอ่ ไร่ เปน็ การเร่งการเจริญเตบิ โตทางใบและกา้ นใบให้เรว็ ขนึ้ หรอื ใชป้ ุ๋ย
สูตร 20-11-11 หรือสูตรใกล้เคียง ในอัตรา 30-50 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากใส่ปุ๋ยทุกครั้งควรมีการราดน้ำตาม
ทันที อยา่ ให้ป๋ยุ ตกคา้ ง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2
เรือ่ ง การปลกู พชื ผกั กินราก เวลา 8 ชวั่ โมง
ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
__________________________________________________________________________
1. เป้าหมายการเรยี นรู้ / หลักฐานการเรียนรู้ / การวดั และการประเมินผล
ผลการเรียนรู้ ส่งิ ทีต่ ้องรู้และปฏิบัติได้ ผลงาน / ชิ้นงาน การวัดผลและการ
ประเมนิ ผล
6. ปฏิบัติการปลูกผกั ๑. นักเรียนมีความรู้ 1. ปฏิบัติการปลูก - ทำแบบทดสอบก่อน
และขยายพันธุ์ผัก ความเข้าใจวิธีการปลูก พืชผกั กินราก เรียน (Pre-test)
ท ั ่ ว ไ ป ไ ด ้ อ ย ่ า ง พืชผกั กินราก 2. สรุปความคิด เรื่อง - สังเกตพฤติกรรม
การทำงานรายบุคคล
เหมาะสม ๒. น ั ก เร ีย น อ ธ ิ บ า ย “ว ิ ธ ี ก า ร ด ู แ ล ะ ร ั ก ษ า - ประเมิน
วิธีการปลูกหัวไช้เท้า พืชผัก” และ “โรคและ คุณลักษณะอันพึง
แมลง” ประสงค์
ทำแบบทดสอบหลัง
เรียน (Prost-test)
-ใบงาน
2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
1. ความรู้ (Knowledge)
๑. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจวิธีการปลกู พืชผักกนิ ราก
๒. นกั เรียนอธบิ ายวิธีการปลูกหัวไช้เท้า
2. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
1. ทำกิจกรรมตามที่ไดร้ บั มอบหมายได้ถูกต้อง
2. บนั ทึกสรปุ ความรู้จากเรื่องทีเ่ รียนได้ถกู ต้อง
3. สมรรถนะ (Competency)
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. หลักฐานการเรียนรูช้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
1. ปฏิบัติการปลูกพืชผกั กินราก
2. สรุปความคิด เรือ่ ง “วิธีการดูและรักษาพืชผกั ” และ “โรคและแมลง”
4. การวัดและการประเมินผล ( Evaluation )
สง่ิ ทีว่ ดั ผล วิธีวัดผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ
ดา้ นความรู้ (K) ทำแบบทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ 70 ผา่ น
เกณฑ์
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P) สังเกตการ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบตั ิงาน ผ่านเกณฑ์
เจตคติ/คุณลกั ษณะ (A) สงั เกตการ แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ปฏิบัติงาน ผ่านเกณฑ์
สมรถนะของผู้เรียน (C) สงั เกตการ ผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2
ปฏิบัติงาน ผา่ นเกณฑ์
5. กระบวนการการจัดกิจกรรม / รูปแบบการจัดกิจกรรม ( Learning Process )
ใช้กระบวนการความรู้ความเข้าใจ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย สิ่งที่
ต้องการพฒั นาคือเนื้อหาสาระ ดงั นี้ สงั เกตและตระหนกั วางแผนกำหนดแนวทาง แบ่งความรับผิดชอบ
ไปแสวงหาความรู้ พัฒนาความรู้ความเข้าใจ สรปุ สาระสำคญั
6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. ข้นั นำเข้าส่บู ทเรียน ( 10 นาที )
1. ครทู บทวนเร่อื งที่ไดเ้ รียนไปแลว้ นกั เรียนซกั ถามและแสดงความคิดเห็น
2. ขั้นสอน
ชั่วโมงท่ี 1-2 ( 100 นาที )
1. ครูสืบแสวงหาความรู้ ลักษณะของพืช วิธีการปลูก การเตรียมดิน การดูแลรักษาและการ
เกบ็ เก่ยี ว การปลูกหัวไช้เท้า จากใบความรู้ อนิ เตอร์เน็ต หรือผมู้ ีความเชี่ยวชาญ
2. ครใู ห้นกั เรียนนำขอมลู ที่ไดต้ อบคำถามในใบงาน
ชั่วโมงท่ี 3-4 ( 100 นาที )
1. ครใู ห้นกั เรียน แบง่ กลมุ่ ออกเป็น 2 กล่มุ กลุ่มละเท่าๆ กัน วางแผนในการปลกู พืชผักกิน
ราก
2. ครูให้นกั เรียนเตรยี มแปลงสำหรับปลูกพชื ผักทีก่ ลมุ่ ของตนเองไดป้ ลูก ตามขั้นตอนที่ได้
วางแผนไว้ และพกั ดนิ ไว้เปน็ เวลา 7 วัน โดยครเู ป็นผู้ให้คำแนะนำ
ชว่ั โมงท่ี 5-6 ( 100 นาที )
3. ครูให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิการในการปลูกผัก หลงั จากได้เตรียมแปลงผักไว้แลว้ ในช่วั โมงที่ผ่านมา
4. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติงาน
ชว่ั โมงท่ี 7-8 ( 100 นาที )
3. ครใู ห้นักเรียนศึกษาวิธกี ารดูและรักษาพืชผัก โรคและแมลงทีส่ ำคัญของพชื ผกั
4. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 2 กลมุ่ เทา่ ๆ กนั สรุปความคิด เร่อื ง “วิธีการดแู ละรกั ษา
พืชผกั ” และ “โรคและแมลง”
3. ขน้ั สรุป ( 10 นาที )
๒. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ทบทวนความรู้ทีไ่ ด้เรียนมาในช่ัวโมง พร้อมซกั ถามขอ้ สงสยั
4. สือ่ การสอน / แหลง่ เรียนรู้
สือ่ การเรียนรู้
3. ส่อื ใบความรู้
4. รปู ภาพ
แหล่งเรียนรู้
- แปลงเกษตรโรงเรียน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓
ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
321
1 นำเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถกู ต้อง
2 การลำดบั ขน้ั ตอนของเนื้อเร่อื ง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
ชือ่ ...........................................................................................ชนั้ ..............................
คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓
ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื
3 การทำงานตามหน้าที่ทไี่ ด้รับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11
ตำ่ กวา่ 8 พอใช้
ปรบั ปรุง
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลง
ในชอ่ งว่างทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 321
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และบอก
กษตั รยิ ์ ความหมายของ
เพลงชาติ
1.2 ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนักเรียน ใหค้ วามร่วมมือ ร่วม
ใจ ในการทำงานกับสมาชิกในห้องเรียน
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็น
ประโยชนต์ อ่
โรงเรียนและชมุ ชน
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของ
ศาสนา
และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน
1.5 เข้ารว่ มกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมที่เกีย่ วกับ
สถาบนั
พระมหากษัตริยต์ ามทีโ่ รงเรียนและชมุ ชนจดั ขนึ้ ชื่นชมในพระราช
กรณียกิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษตั ริยแ์ ละพระราชวงศ์
2. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถ่ี กู ต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งทีถ่ ูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวทีจ่ ะทำความผิด ทำ
ตามสญั ญาที่ตนให้ไว้กบั พอ่ แม่หรือผู้ปกครอง และครู
2.3 ปฏิบัติตนต่อผอู้ น่ื ด้วยความซือ่ ตรง และเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีแก่
เพ่อื นด้าน ความซือ่ สตั ย์
3. มีวินยั 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว
รับผดิ ชอบ และ
โรงเรียน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ใน
ชีวิตประจำวัน
มีความรบั ผิดชอบ
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 ต้ังใจเรียน
4.2 เอาใจใส่ในการเรียน และมคี วามเพียรพยายามในการเรียน
4.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สื่อ
เทคโนโลยีตา่ งๆแหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน และ
เลือกใช้สื่อได้อยา่ งเหมาะสม
4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางส่งิ ทีเ่ รียนรู้ สรุปเป็นองค์
ความรู้
4.6 แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ และนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวนั
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลง
ในชอ่ งว่าง ที่ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรียนอยา่ ง
พอเพียง ประหยัด
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่
6. มงุ่ ม่ันในการ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน
ทำงาน
6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ดร้ มั
7. รักความเปน็ อบหมาย
ไทย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้
งานสำเร็จ
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิ
ปัญญาไทย
7.2เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ และแบง่ ปนั
ส่งิ ของใหผ้ ู้อืน่
8.3 รู้จกั การดแู ล รักษาทรพั ยส์ มบัติและ
สง่ิ แวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่อื สงั คมและ
สาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
การปลกู ผกั กาดหวั ไชเทา้
ผักกาดหัวเป็นพืชผกั อายุปีเดียวที่ปลกู กนั ไวเ้ พื่อบริโภคส่วนของรากทีข่ ยายตัวใหญ่ข้ึน ซึ่งเราเรยี กว่า
“หัวผักกาด” อาจจะเป็นสแี ดงหรือสีขาวกไ็ ด้ คณุ ภาพของหวั ผักกาดขึ้นอยู่กบั ปจั จยั หลายอยา่ ง เช่น พนั ธุ์ การ
ปลูก การปฎิบตั ดิ แู ลรกั ษา ตลอดจนการเกบ็ เก่ยี ว ถ้าหากปลอ่ ยใหอ้ ายุแก่หรอื เลยระยะเวลาเก็บเก่ียวแล้วราก
จะขยายใหญม่ ากยิง่ ขึ้นเพื่อสะสมอาการสำหรบั สรา้ งดอก และติดเมล็ด เน้อื จะเรมิ่ ฟ่าม มเี สน้ ใยมากขน้ึ
ผักกาดหัว มีชื่ออื่น ๆ อีกเช่น ผักขี้หูด ผักกาดจีน ไช้โป๊ว หรือไช้เท้า เป็นต้น สามารถปลูกได้ดีในดิน
ร่วนปนทราย ซึ่งมีความชื้นในดินสูงพอควร และได้รับแสงแดดตลอดวัน มีพีเอชประมาณ 5.5-7.0 และ
อุณหภูมิประมาณ 18.5-24 องศาเซลเซียส สามารถปลูกได้ผลดีที่สุด ในช่วงเดือนตุลาคม – มกราคม เป็นที่
นยิ มปลูกกันมากทางภาคตะวนั ตกของประเทศไทย เช่นแถบจงั หวดั ราชบรุ ี เพชรบรุ ีและกาญจนบรุ ี
ผักกาดหัวนิยมปลูกเพื่อใช้เป็นอาหารทั้งรับประทานสดหรือดองเค็ม (ไช้โป๊ว) เพราะมีคุณค่าทาง
โภชนาการสงู พอควร คอื ในปริมาณ 100 กรัม จะให้โปรตีน 1 กรมั , คารโ์ บไฮเดรท 3.6 กรมั , ไขมนั 0.1 กรัม,
วิตามนิ เอ 10 ไอ.ยู รวมทง้ั พลงั งาน 17 แคลลอร่ี นอกจากนย้ี งั มีธาตุอาหารอ่นื ๆ รวมอย่อู ีกมาก
พนั ธท์ุ ่ใี ช้ปลูก
ผกั กาดหัวแบง่ ออกเปน็ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คอื
1. กลุ่มยุโรป ซึ่งเรียกกันว่า แรดิช ซึ่งส่วนของรากมีขนาดเล็กมาก ผิวสีแดงเข้ม ดำ หรือน้ำเงิน เน้ือ
ภายในอาจเป็นสีขาว หรือสีแดง มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นประมาณ 18-25 วัน นิยมปลูกและบริโภคเป็นผักสลัด
ในแถบทวีปยุโรป และอเมริกา
2. กลุ่มอาเซีย เรยี กกนั วา่ ผักกาดหัว สว่ นของรากที่ขยายใหญห่ รอื หัวมขี นาดใหญ่ รปู ทรงแตกต่างกัน
ไป เช่น ทรงกลม, กระบอกกรวยยาว และยาวธรรมดา ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ผิวของรากอาจเป็นสีขาวหรือสีแดงแต่
เนื้อภายในสีขาว มีอายุการเก็บเกีย่ วยาวกว่ากลุ่มแรกคือพันธุ์เบาประมาณ 42-45 วัน และพันธุห์ นักประมาณ
60-65 วนั สามารถแยกออกไดเ้ ป็น 2 พวกคือ
2.1 พันธุ์แบบญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะขอบใบหยักลึกเข้าไปตลอดใบ จะถี่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของ
พันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นพนั ธห์ุ นัก หรอื ปานกลาง
2.2 พันธ์แุ บบจีน มีลกั ษณะขอบใบเรยี บ ไมม่ ีรอยหยักหรอื มนี ้อยมาก สว่ นใหญเ่ ปน็ พนั ธเ์ุ บา
พันธ์ทุ น่ี ยิ มปลกู ในบา้ นเรานน้ั เป็นพนั ธุก์ ล่มุ เอเชยี ท้ัง 2 พวกดงั กลา่ ว เชน่
ก. พันธุ์แม่โจ้ 1 (OW-1) มีลักษณะรูปทรงของหัวแบบทรงกรวยยาว ผิวเปลือกและเนื้อในสีขาว ยาว
ประมาณ 20-22 ซม. รสชาติไม่เผ็ดนัก ใบและขอบใบเรียบ ไม่มีหยัก หรือมีน้อย ไม่มีขนหรือหนามดอกสีขาว
เปน็ พันธ์เุ บามอี ายุการเกบ็ เกี่ยวประมาณ 42 วัน หลังจากหยอดเมลด็
ข. พันธุ์ เค.ย.- วัน ลักษณะรูปทรงของหัวแบบทรงกรวยยาว ผิวเปลือกและเนื้อในสีขาวเช่นกัน ยาว
ประมาณ 20.5 เซนติเมตร เส้นผา่ ศูนย์กลางประมาณ 4.5 ซม. และนำ้ หนกั ตอ่ หวั โดยเฉลี่ยประมาณ 225 กรัม
ใบเรียบไม่มีขน หรือหนาม ขอบใบเรียบและมีหยักเล็กน้อยบริเวณโคนก้านใบ ดอกสีขาว เหมาะสำหรับ
รบั ประทานสดมากกวา่ ดองเค็ม เปน็ พนั ธ์ุเบา มอี ายกุ ารเกบ็ เกี่ยวประมาณ 45-48 วนั หลังจากหยอดเมลด็
ค. พันธุ์เอฟเวอเรส ไฮบริด มีขนาดของหัวโตสมำ่ เสมอ ยาวประมาณ 30 – 35 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง
6 – 7 ซม. ลักษณะใบเรียบ ไม่มีขน เป็นพันธุ์ปานกลาง มีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 50 วัน หลังจากหยอด
เมลด็ เป็นพนั ธ์จุ ากประเทศญป่ี ุน่
การปลูก
การเตรียมแปลง เนื่องจากผักกาดหัวเป็นพืชท่ีมีระบบรากลึก ควรขุดดินให้ลึกตั้งแต่ 10-12 นิ้วขึ้นไป
และตากดินทิ้งไว้ 7-10 วันก่อนปลูก ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว อัตรา 1,500-2,000 กก.ต่อไร่
เพอื่ ปรบั ปรงุ คณุ สมบัตทิ างกายภาพของดินกรณดี ินเปน็ กรด ควรใสป่ ูนเพอ่ื ปรับระดับพเี อชของดินให้พอเหมาะ
กับผักกาดหัว จากนั้นจึงยกแปลงกว้างประมาณ 1 – 1.5 เมตร ยาวแล้วแต่พื้นที่ และความสะดวกในการ
ปฎิบัติงาน ใส่ปุ๋ยเคมีตามอัตราส่วนที่แนะนำ พรวนดินหรือย่อยดินชั้นผิวหน้า เพื่อกลบปุ๋ยรองพื้นและให้ดิน
ผวิ หน้ามีขนาดเล็ก
การปลูก นยิ มปลูก 2 แบบ
1. โรยเป็นแถว โดยการเจาะร่องตามความยาวของแปลง จำนวน 3 แถวต่อแปลง ระยะห่างเท่ากับ
30 – 45 ซม. ลึกประมาณ 1 – 1.2 ซม. โรยเมล็ดตามร่อง กลบด้วยขี้เถ้าแกลบ หรือดินผสมที่ละเอียดคลุม
ด้วยฟางหรือหญ้าแหง้ รดน้ำให้ชุ่ม
2. หยอดหลุม โดยการเจาะหลุมปลูกระยะห่างระหว่างต้น 20 – 30 ซม. และระหว่างแถว 30 – 45
ซม. จำนวน 3 แถวต่อแปลง หยอดเมล็ด 3 – 5 เมล็ดต่อหลุม กลบด้วยขี้เถ้าแกลบ หรือดินผสมละเอยี ด คลุม
ด้วยฟางหรือหญา้ แหง้ รดน้ำใหช้ ุ่ม
การปฏบิ ตั ิดูแลรกั ษา
1. การให้น้ำ ควรให้อย่างสม่ำเสมอและเพียงพอต่อความต้องการ ถ้าขาดน้ำจะทำให้ได้ขนาดและ
คุณภาพของหัวผักกาดเลวลง
2. การถอนแยก หลังจากปลูกได้ 7 – 10 วันหรือต้นกลา้ เริ่มงอกมีใบจริง 2 – 3 ใบ ควรถอนแยกบ้าง
โดยถอนตน้ ท่อี อ่ นแอเป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทั้ง กรณีปลกู แบบโรยเปน็ แถว ควรถอนแยกและจดั ระยะห่าง
ระหวา่ งต้น 20 – 30 ซม. ส่วนการปลูกแบบหยอดหลมุ ควรถอนให้เหลอื หลมุ ละ 1 ต้น
3. การให้ปุ๋ย ปุ๋ยที่แนะนำให้ใช้กับผักกาดหัวนั้น นอกจากจะแนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักที่
สลายตัวดแี ล้ว อัตรา 1,500 – 2,000 กก.ต่อไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกใส่ก่อนปลูกปริมาณครึ่งหน่ึง ครั้งท่ี
สองเมื่อผักกาดหัวมีอายุ 20 – 25 วันหลังปลูก และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟท (21-0-0) อัตรา 10 – 15 กก./ไร่
หลังปลกู 7 – 10 วนั โดยโรยขา้ งแถว และพรวนดนิ กลบลงไป
1. การพรวนดนิ และกำจดั วัชพืช ควรกระทำพร้อม ๆ กับการใสป่ ๋ยุ ทั้ง 2 ครั้งดงั กล่าวคือ หลังปลูก 7
– 10 และ 20 – 25 วนั หลงั ปลูก ควรกระทำดว้ ยความระมดั ระวงั เพราะถ้ารากกระทบกระเทือน
มากเกนิ ไป จะทำให้ผกั กาดไมล่ งหัว
การป้องกนั กำจัดโรคและแมลง
โรคทีส่ ำคญั ของผกั กาดหวั ไดแ้ ก่
ก. โรคโคนเน่า เกิดจากเชื้อรา 3-4 ชนิด มักระบาดใยแปลงเพาะที่ต้นกล้าขึ้นแน่น แสงแดดส่งไม่ถึง
โดยต้นกล้าจะแสดงอาการหักที่โคนต้น และเหี่ยวแห้งตายในเวลาต่อมา บริเวณที่เป็นโรคจะขยายออกเป็น
วงกลม ตอ่ มาจะไมม่ ีกลา้ เหลือบริเวณนน้ั เลย เมอื่ ตรวจดใู กล้ ๆ จะพบว่าโดนต้นมแี ผลสนี ้ำตาลดำ
การป้องกันกำจัด โดยอย่างหว่านกล้าผักแนน่ เกินไป หรือควรมีการถอนแยก จัดระยะต้นกล้าให้ห่าง
พอเหมาะ หากใชส้ ารเคมีควรใช้
– พซี ีเอ็นบี อัตรา 10 – 20 กรมั /นำ้ 20 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดลงบนดนิ ทกุ 7 วนั
– คอปเปอร์อ๊อกซค่ี ลอไรด์ อัตรา 30 กรัม/นำ้ 20 ลติ ร ฉดี พน่ หรอื ราดทกุ 7 วัน
– พวี ีเคอร์ อตั รา 10 – 20 ซีซ.ี /น้ำ 20 ลติ ร ฉดี พน่ ทุก 5-7 วัน
ข. โรคเนา่ เละ มีแบคทีเรยี เปน็ เชอื้ สาเหตุ โดยจะแสดงอาการเป็นจดุ ฉำ่ น้ำ และเนา่ อยา่ งรวดเรว็ ทำให้
เนื้อเยื่อเปื่อยและเป็นน้ำภายใน 2-3 ผักกาดหัวจะเน่ายุบหายไปทั้งต้นหรือหัวโดยอาการเน่าเริ่มจากโคนก้าน
ใบ หรอื กลางลำตน้ อ่อน ซงึ่ เขา้ ทางบาดแผลท่ีหนอนหรือแมลงทำลายไว้ก่อนแล้ว
การป้องกันกำจัด ระมัดระวังในการเข้าปฏิบัติงานอย่าให้ต้นผักกาดหัวเกิดบาดแผล หรือใช้สารเคมี
พวกยาฆา่ แมลงพ่นไล่แมลง ถ้าเกดิ แลว้ ควรใชส้ ารเคมีพวกยาปฎชิ วี นะ เช่น อะกรมิ ัยซนิ อัตรา 10 – 20 กรมั /
นำ้ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7 วัน
ค. โรคเน่าดำ สาเหตจุ ากเช้ือแบคทีเรยี ซึง่ ตดิ มากับเมลด็ พันธุ์ โดยแสดงอาการขอบใบแห้งเข้าไปเป็น
รูปสามเหล่ยี มปลายแหลมช้ไี ปท่ีเสน้ กลางใบ อาการใบแห้งนจ้ี ะลุกลามเขา้ ไปถงึ เส้นกลางใบ และสว่ นอืน่ ๆ จะ
สงั เกตเหน็ เส้นใบสดี ำชัดเจน ใบเหลืองและแหง้ ตายในทส่ี ดุ
การป้องกันกำจัด ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ปราศจากโรคนี้ใช้พันธุ์ต้านทานปลูกพืชหมุนเวียนหรือใช้สาร เคมี
พวกปฎิชีวนะ เชน่ อะกริมยั ซิน อตั รา 10 กรัม/นำ้ 20 ลติ ร ฉีดพ่นทุก 7 วนั
แมลงท่ีสำคัญของผกั กาดหัว ได้แก่
ก. เพลยี้ อ่อน ลกั ษณะลำตัวเล็กมาก ขนาดเล็กกว่า 2 มม. สเี ขยี วทึบ ทำลายผักกาดหวั โดยการดดู กนิ น้ำเลย้ี งท่ี
ยอดหรือใบอ่อน ทำให้ส่วนที่ถูกทำลายแคระแกรนผิดปกติ นอกจากนี้ยังเป็นพาหะของโรคที่เกิดจากเช้ือโวรัส
หลายชนดิ
การป้องกันกำจัด โดยการปลูกพืชหมุนเวียนและทำลายวัชพืชในบริเวณแปลงปลูกผักกาดหัว และ
แปลงข้างเคียงเพือ่ เป็นการทำลายพชื อาศัย รวมท้งั การใช้สารเคมีพวก เมทามโิ ดฟอส และเมวินฟอส อัตรา 20
– 30 ซซี ีต่อนำ้ 20 ลิตร ฉีดพ่นทกุ 5-7 วนั
ข. หนอนใยผัก ลักษณะขนาดลำตัวเล็กประมาณ 1 ซม. สีเขียวอ่อน เท่าอ่อน หรือเขียวปนเหลือง มองเห็น
ค่อนข้างยาก หัว-ท้ายแหลม เมื่อถูกลำตัวจะดิ้นอย่างแรง และทิ้งตัวลงดิน โดยการสร้างใย ทำลายผักกาดหัว
โดยการกัดกินผิวใบด้านล่างจนเป็นรูพรุน โดยเฉพาะใบส่วนยอดที่กำลังเจริญ ระบาดมากช่วงฤดูหนาวต่อฤดู
ร้อน
การป้องกันกำจัด ทำลายต้นผักกาดหวั ทนั ทีหลังการเกบ็ เก่ยี ว และวชั พืชบริเวณขา้ งเคียงเพื่อมิให้เป็น
ที่ขยายพันธุ์ หรือใช้สารฆ่าแมลงประเภทจุลินทรีย์ เช่น ทรูริไฮด์, อโดรน่า เป็นต้น อัตรา 20 – 30 กรัมต่อน้ำ
20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 5-7 วัน หรือใช้สารเคมีพวกเพอร์เมทริน อัตรา 20 ซีซี หรือเมทามิโดฟอส อัตรา 30 กรัม
ต่อนำ้ 20 ลติ ร ฉีดพ่นทกุ 5-7 วัน
ค. ด้วงหมัดผัก ที่พบมี 2 ชนิด คือชนิดลาย ซึ่งมีแถบสีน้ำตาลอ่อนพาด 2 แถว ประมาณ 80% อีกชนิดหน่ึง
คือชนิดสีน้ำเงินเข้ม ลำตัวมีขนาดเล็กสีขาวใส โตเต็มที่ยาวประมาณ 0.5 ซม. ตัวแก่เป็นแมลงปีกแข็ง เวลาถูก
กระทบกระเทือนจะกระโดดไปไดไ้ กลโดยอาศัยโคนขาหลังทีใ่ หญจ่ ะทำลายผัก กาดหัวโดยตัวแก่ชอบกัดกินใบ
จนพรนุ ตวั อ่อนชอบกัดกินซากพชื ระบาดมากบริเวณทปี่ ลูกซ้ำทเี่ ดมิ โดยเฉพาะฤดูฝน
การป้องกันกำจัด โดยการไถตากดินในฤดูแล้ง กำจัดวัชพืชในบริเวณแปลงปลูกผักกาดหัว และปลูก
พืชหมุนเวียนเพื่อช่วยทำลายตัวอ่อน, ดักแด้ และตัดชีพจักร นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารเคมี พวกเมทามิโด
ฟอส 20 ซซี ี, ดีดวี ีพี 30 ซซี ี และออร์ซนี 30 กรัมต่อนำ้ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 5-7 วนั
การเกบ็ เกีย่ ว
ควรเก็บเกี่ยวทันที เมื่อถึงอายุการเก็บเกี่ยวซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ และสภาพแวดล้อม การปล่อยให้
ผักกาดหัวแก่เกินอายุการเก็บเกี่ยวจะทำให้คุณภาพลดลง คือเนื้อฟ่าม เหนียว ไม่กรอบ รสไม่ดี และน้ำหนัก
ลดลงมาก โดยเฉพาะพวกพนั ธเุ์ บา
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3
เรื่อง การปลกู พชื ผกั กินผล เวลา 8 ชั่วโมง
ระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1
__________________________________________________________________________
1. เป้าหมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรียนรู้ / การวดั และการประเมินผล
ผลการเรียนรู้ สง่ิ ที่ต้องรู้และปฏิบัติได้ ผลงาน / ชิ้นงาน การวดั ผลและการ
ประเมนิ ผล
6. ปฏิบัติการปลูกผัก ๑. นักเรียนมีความรู้ 1. ปฏิบัติการปลูก - ทำแบบทดสอบก่อน
และขยายพันธุ์ผัก ความเข้าใจวิธีการปลูก พืชผักกินผล เรียน (Pre-test)
ท ั ่ ว ไ ป ไ ด ้ อ ย ่ า ง พืชการปลูกพืชผักกิน 2. สรุปความคิด เรื่อง - สังเกตพฤติกรรม
ผล “วิธีการดูและรักษา การทำงานรายบุคคล
เหมาะสม - ประเมิน
คุณลักษณะอันพึง
๒. น ั ก เร ีย น อ ธ ิ บ า ย พืชผัก” และ “โรคและ ประสงค์
วิธีการปลูกมะเขือ แมลง” ทำแบบทดสอบหลัง
เปราะ
เรียน (Prost-test)
-ใบงาน
2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
1. ความรู้ (Knowledge)
๓. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจวิธีการปลกู พชื การปลูกพชื ผักกนิ ผล
๔. นักเรียนอธบิ ายวิธีการปลกู มะเขือเปราะ
2. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
1. ทำกิจกรรมตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมายได้ถกู ต้อง
2. บันทึกสรปุ ความรู้จากเรื่องที่เรียนได้ถูกต้อง
3. สมรรถนะ (Competency)
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. หลักฐานการเรียนรชู้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
1. ปฏิบตั ิการปลูกพืชผกั กินผล
2. สรุปความคิด เรื่อง “วิธีการดูและรกั ษาพืชผัก” และ “โรคและแมลง”
4. การวัดและการประเมินผล ( Evaluation )
สง่ิ ทีว่ ัดผล วิธีวัดผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ
ดา้ นความรู้ (K) ทำแบบทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ 70 ผ่าน
เกณฑ์
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P) สังเกตการ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบตั ิงาน ผ่านเกณฑ์
เจตคติ/คณุ ลกั ษณะ (A) สังเกตการ แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ปฏิบัติงาน ผา่ นเกณฑ์
สมรถนะของผู้เรียน (C) สังเกตการ ผลงาน ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบัติงาน ผา่ นเกณฑ์
5. กระบวนการการจัดกิจกรรม / รปู แบบการจดั กิจกรรม ( Learning Process )
ใช้กระบวนการความรู้ความเข้าใจ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย สิ่งที่
ต้องการพัฒนาคือเนื้อหาสาระ ดังนี้ สงั เกตและตระหนกั วางแผนกำหนดแนวทาง แบง่ ความรับผิดชอบ
ไปแสวงหาความรู้ พัฒนาความรู้ความเข้าใจ สรปุ สาระสำคญั
6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. ขัน้ นำเข้าสู่บทเรียน ( 10 นาที )
1. ครทู บทวนเรอ่ื งที่ไดเ้ รียนไปแลว้ นักเรียนซกั ถามและแสดงความคิดเห็น
2. ขั้นสอน
ชว่ั โมงท่ี 1-2 ( 100 นาที )
3. ครูสืบแสวงหาความรู้ ลักษณะของพืช วิธีการปลูก การเตรียมดิน การดูแลรักษาและการ
เก็บเก่ยี ว มะเขอื เปาะ จากใบความรู้ อนิ เตอรเ์ นต็ หรือผมู้ ีความเชี่ยวชาญ
4. ครูให้นักเรียนนำขอมูลทีไ่ ดต้ อบคำถามในใบงาน
5. ครูทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปแลว้ นักเรียนซกั ถามและแสดงความคิดเห็น
6. ครใู ห้นกั เรียน แบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 2 กลมุ่ กล่มุ ละเท่าๆ กัน วางแผนในการปลกู พชื ผกั กนิ ผล
7. ครูให้นักเรียนเตรียมแปลงสำหรับปลูกพืชผักที่กลุ่มของตนเองได้ปลูก ตามขั้นตอนที่ได้
วางแผนไว้ และพกั ดินไว้เป็นเวลา 7 วนั โดยครูเปน็ ผู้ให้คำแนะนำ
ช่วั โมงท่ี 3-4 ( 100 นาที )
5. ครูให้นักเรียนปฏบิ ัติการในการปลูกผกั หลังจากได้เตรียมแปลงผักไว้แลว้ ในช่ัวโมงที่ผ่านมา
6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอผลการปฏิบัติงาน
7. ครใู ห้นกั เรียนศึกษาวิธกี ารดูและรักษาพืชผัก โรคและแมลงที่สำคญั ของพชื ผัก
8. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 2 กลุ่มเทา่ ๆ กัน สรุปความคิด เร่อื ง “วิธีการดแู ละรักษา
พืชผกั ” และ “โรคและแมลง”
3. ข้นั สรปุ ( 10 นาที )
๓. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันทบทวนความรู้ทีไ่ ด้เรียนมาในช่วั โมง พร้อมซกั ถามขอ้ สงสยั
4. สือ่ การสอน / แหล่งเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้
5. สอ่ื ใบความรู้
6. รูปภาพ
แหล่งเรียนรู้
- แปลงเกษตรโรงเรียน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓
ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
321
1 นำเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถกู ต้อง
2 การลำดบั ขน้ั ตอนของเนื้อเร่อื ง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ