The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การวัดผลและประเมินผลการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การวัดผลและประเมินผลการศึกษา

การวัดผลและประเมินผลการศึกษา

343

สว่ นท่ี 1
ผลทเี่ กดิ กบั
นกั เรยี น

สว่ นที่ 2
ระบบสนบั สนนุ

ภาพที่ 7 แสดงการกาหนดแนวทางการศึกษาในศตวรรษท่ี 21
ท่มี า : http://www.qlf.or.th/Upload/FocalNews/AY77EKH28TFC8NN2BEVT/

Photos/3df2h9dum3ymgyd9_screen%20shot%2020120621%20at%209.30.55%
20am.png

สว่ นที่ 1 ผลท่เี กดิ กับนกั เรียน (Student Outcomes)
1. ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละนัวตกรรม (Learning and Innovation Skills)
1.1 ความคดิ สร้างสรรคแ์ ละนวั ตกรรม (Creatively and Innovations)
1.2 การคิดเชงิ วพิ ากษแ์ ละการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)
1.3 การส่ือสารและการมีส่วนร่วม (Communication and Collaboration)
2. ทักษะด้านสารสนเทศ ส่ือและเทคโนโลยี (Information, Media and

Technology Skills)
2.1 การรูเ้ รื่องสารสนเทศ (Information Literacy)
2.2 การรู้เรอื่ งสอ่ื (Media Literacy)
2.3 การรู้เร่อื งไอซีที (ICT : Information, Communication and Technology Literacy)

3. ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชพี (Life and Career Skills)
3.1 ความยดื หยุ่นและการปรบั ตัว (Flexibility and Adaptability)
3.2 การรเิ ริม่ สรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตวั เอง (Initiative and Self-Direction)
3.3 ทกั ษะสังคมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม (Social and Cross3Cultural Skills)
3.4 การเปน็ ผสู้ ร้างหรอื ผผู้ ลิต และการรรู้ ับผิด (Productivity and Accountability)
3.5 ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Leadership and Responsibility)

344

4. วชิ าหลกั หรือองค์ความรู้หลกั (Core Subjects)
วิชาหลัก หรอื องคค์ วามร้หู ลกั สาหรับการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ไดแ้ ก่
1) ภาษาองั กฤษ (English)
2) กากรอ่านหรือการใช้อื่น ๆ ภาษาศลิ ปะ (Reading or Language arts)
3) ภาษาต่างประเทศ (World languages)
4) ศิลปะ (Arts)
5) คณติ ศาสตร์ (Mathematics)
6) เศรษฐศาสตร์ (Economics)
7) วิทยาศาสตร์ (Science)
8) ภมู ศิ าสตร์ (Geography)
9) ประวตั ศิ าสตร์ (History)
10) การปกครองและหนา้ ท่ีพลเมือง (Government and Civics)

นอกจากน้ยี งั ตอ้ งบูรณาการในการจดั การเรียนการสอนโดยประสานไปพรอ้ มกบั วิชาท่ี
สาคัญ จาแนกออกเป็น 5 ด้าน คือ

1. ความตระหนกั เกี่ยวกบั โลก
2. ความรคู้ วามเข้าใจดา้ นการเงิน เศรษฐกจิ ธรุ กจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ
3. ความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับหนา้ ทพี่ ลเมอื ง
4. ความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับสขุ ภาพ
5. ความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม
รวมทง้ั ผเู้ รียนตอ้ งเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ มที ักษะ 3R คือ Reading (การอา่ น), (W)Rriting
(เขยี นได้) และ (A)Pithemetics (คิดเลขเป็น)
สว่ นที่ 2 ระบบสนบั สนุน (Support System)
องค์ประกอบท่ีเป็นระบบสนับสนุน มีความจาเป็นเพื่อให้การเรียนรู้ของนักเรียนใน
ศตวรรษท่ี 21 ประกอบด้วย มาตรฐานและการประเมนิ ผล (Standard and Assessment) หลักสตู ร
และการเรียนการสอน (Curriculum and Instruction) การพัฒนาอาชีพ (Professional Development)
และสภาพแวดล้อมการเรยี นรู้ (Learning Environments) ซง่ึ จะสนบั สนนุ การเรยี นรขู้ องนักเรียนใน
ศตวรรษท่ี 21 ดังรายละเอียดแตล่ ะองคป์ ระกอบ ดงั นี้ (Partnership for 21 st Century Learning.
2009)
1. ดา้ นมาตรฐานและการประเมนิ ผล (Standard and Assessment)

1.1 ด้านมาตรฐานในศตวรรษที่ 21 (21st Century Standards) จุดเนน้
1) ทกั ษะ ความรู้ และความเชีย่ วชาญ (Expertise) ทีเ่ กดิ กับนักเรียน
2) สร้างความเขา้ ใจในการเรียนแบบสหวิทยา (Interdiscliplinary) ระหว่าง

วชิ าหลัก กับจดุ เนน้ ในศตวรรษท่ี 21
3) มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจเชิงลึกมากกว่าการสร้างความรู้แบบผิวเผิน

(Shallow Knowledge)

345

4) ผู้เรียนได้เรยี นรจู้ ากข้อมูลทีเ่ ป็นจรงิ ส่อื หรอื เครื่องมือ ครทู มี่ ีความเช่ียวชาญ
การทางาน และการดารงชีวิตประจาวัน ซึ่งผู้เรียนจะเรียนรู้ได้ดีท่ีสุดเมื่อเข้าได้มีส่วนร่วมในการ
แกป้ ญั หาน้นั

5) ใชก้ ารวดั ความรู้ท่หี ลากหลาย (Multiple Measures of Mastery)
1.2 ด้านการประเมินทักษะในศตวรรษท่ี 21 (Assessments of 21st Century
Standards) จุดเนน้

1) สร้างความสมดุลระหว่างการประเมินผลด้วยแบบทดสอบมาตรฐาน กับ
การประเมนิ ผลย่อย หรอื ประเมนิ ผลระหว่างเรยี น (Formative Assessments) และการประเมินผล
รวม หรือการประเมินผลเพื่อสรปุ ผลการเรียน (Summative Assessments)

2) เน้นการนาผลการประเมนิ การปฏบิ ตั ิของผเู้ รยี นไปใชใ้ นการปรบั ปรุงการเรยี น
การสอน

3) ต้องมีความสมดุลระหว่างการประเมินดว้ ยเทคโนโลยีให้การประเมินผลย่อย
และการประเมนิ ผลรวม สาหรับการวัดทักษะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21

4) ใช้แฟ้มสะสมงาน (Portfolios) ของนักเรียนที่แสดงให้เห็นถึงทักษะการ
เรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ให้กบั ครผู สู้ อน และผู้วา่ จา้ งในอนาคต (Prospective Employers)

2. ดา้ นหลกั สูตรและการเรยี นการสอน (Curriculum and Instruction)
2.1 สอนแตล่ ะทักษะท่ีกาหนดไว้ในวิชาหลัก และบูรณาการกับประเด็นหลัก (Theme)

ของศตวรรษที่ 21
2.2 สรา้ งโอกาสสาหรบั การใชท้ กั ษะในศตวรรษท่ี 21 บูรณาการข้ามสาระเน้ือหา

และวิธีการเรยี นรทู้ ่เี น้นสมรรถนะเปน็ ฐาน (Competency – Based Approach)
2.3 วิธีการเรียนรู้นวัตกรรม โดยใช้การบูรณาการระหว่างการใช้เทคโนโลยี การ

เรียนร้แู บบสบื ค้น (Inquiry) การเรียนร้ทู ีใ่ ชป้ ญั หาเปน็ ฐาน และทกั ษะการคิดระดับสงู
2.4 ส่งเสรมิ การบรู ณาการแหล่งเรียนรูจ้ ากชุมชน (Community Resources) มา

ใช้ในโรงเรียน
3. ดา้ นการพัฒนาอาชีพ (Professional Development)
3.1 เน้นใหค้ รผู ู้สอนมีทักษะการบรู ณาการ การใช้เครื่องมือ และกลยุทธ์การสอน

สกู่ ารปฏบิ ตั ิในชนั้ เรียน และความสามารถในการกาหนดกิจกรรมการเรียนร้ทู เี่ หมาะสม
3.2 สร้างความสมดลุ ระหวา่ งการสอนโดยตรงกบั วิธีการสอนทเี่ นน้ โครงการ
3.3 สรา้ งให้ครเู ปน็ ผู้มคี วามร้แู ละทักษะในการสอนแบบแก้ปัญหา การคิดอย่างมี

วจิ ารณญาณ และทักษะอน่ื ๆ ในศตวรรษที่ 21
3.4 สรา้ งศตวรรษท่ี 21 ใหเ้ ป็นชุมชนการเรียนรู้มอื อาชีพสาหรบั ครผู ้สู อน เพอ่ื เปน็

รูปแบบ (Model) ของการจัดการเรียนรู้ในช้ันเรียน ซ่ึงจะนาไปสู่การสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21
ให้กับนกั เรียน

3.5 สร้างใหค้ รูมคี วามสามารถเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนรู้ เชาวน์ปัญญา จุดอ่อน
และจดุ แขง็ ของผู้เรียนแต่ละคน

346

3.6 ช่วยให้ครูพัฒนาความสามารถของตนเอง โดยใช้กลยุทธ์ท่ีหลากหลายเพ่ือ
นาไปพัฒนาผู้เรียนทม่ี คี วามแตกต่างกนั และสรา้ งสงิ่ แวดลอ้ มทีส่ นบั สนุนการเรียนการสอนและเรยี นรู้
ท่ีแตกต่าง

3.7 ส่งเสริมการประเมินผลอย่างต่อเนื่องสาหรับการพัฒนาทักษะของผู้เรียนใน
ศตวรรษท่ี 21

3.8 กระตนุ้ ให้เกดิ การแบง่ ปนั ความรู้ โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรูแ้ ละการสอ่ื สารกัน
3.9 ใช้รูปแบบท่ีขยายได้ (Scalable) และมีความยั่งยืน (Sustainable) ในการ
พฒั นาอาชีพ
4. ด้านสภาพแวดลอ้ มการเรยี นรู้ (Learning Environments)
4.1 ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ การให้ความร่วมช่วยเหลือ และการจัด
สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทเ่ี หมาะสม
4.2 สนับสนุนการร่วมมือร่วมใจของครู ผู้บริหารโรงเรียน และผู้ท่ีเก่ียวข้องเพ่ือ
พัฒนาการเรียนรใู้ ห้ผเู้ รยี นมผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนที่สูงข้นึ หรอื เรยี กว่า ชมุ ชนแห่งการเรียนรวู้ ิชาชพี
(Professional Learning Community : PLC)
4.3 ช่วยให้นักเรียนท่ีจะเรียนรู้เกี่ยวกับบริบทของโลกในศตวรรษที่ 21 โดยการ
เรยี นรดู้ ว้ ยการทาโครงการ หรอื การทางานอืน่ ๆ
4.4 ใหม้ ีการเข้าถงึ เครือ่ งมือทีส่ ่งเสริมการเรยี นรู้ของผู้เรียน เทคโนโลยีและแหล่ง
เรียนรอู้ ยา่ งเท่าเทียมกัน
4.5 มกี ารออกแบบทางสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายในสาหรับการเรียนรู้ท่ี
เป็นกลุ่ม และเปน็ บุคคล
4.6 สนบั สนุนความรว่ มมอื จากหน่วยงานอ่ืน ๆ ในการพัฒนาผู้เรียนให้มากข้ึน ท้ัง
การชว่ ยเหลอื โดยตรง และทางสอื่ สังคม หรอื Online

แนวทางการวัดและประเมินผลในศตวรรษท่ี 21
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 มี 3 ประการ ดังนี้ (สานักทดสอบทาง

การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน. มปป.)
1. Assessment for Learning เป็นการประเมนิ เพ่ือสนบั สนุนการเรยี นการสอนในชั้นเรยี น

เช่ือมการประเมนิ ผลและการเรยี นการสอนเขา้ ด้วยกัน แนวคิดของการประเมนิ เพอ่ื การเรยี นรู้ ดังน้ี
1.1 ประเมนิ ในหอ้ งเรียนในขณะที่จัดการเรยี นการสอน
1.2 ครูและนักเรยี นมีปฏสิ มั พันธ์กันสูง ผ่านคาถามให้คิด ฟังอย่างต้ังใจ และให้คาตอบ

เพือ่ สะท้อนความคดิ ออกมา
1.3 นักเรยี น ครู และผูป้ กครองรถู้ งึ สง่ิ ทตี่ ้องเรยี นร้แู ละผลสาเรจ็ ท่เี กิดขนึ้
1.4 ครูให้ผลย้อนกลับ (Feedback) เกี่ยวกับคุณภาพของงานท่ีทา รวมถึงการที่จะ

ปรับปรุงใหด้ ีขนึ้
1.5 นกั เรยี นและครูมีส่วนเกย่ี วข้องกบั การตัดสนิ ใจในการผา่ นขึ้นไปเรยี น ในระดับต่อไป

347

2. Assessment as Learning เป็นการใช้การประเมินเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้เชื่อม
การเรียน การสอนกับหลักสตู ร แนวคิดของการประเมนิ เพอ่ื การเรยี นรู้ มีดังน้ี

2.1 นักเรยี น ใช้ผลการประเมนิ มาพัฒนาการเรียนรขู้ องตน
2.2 นักเรยี นใช้เคร่ืองมอื ประเมินเป็นหลกั ฐานหรอื แนวทางในการเรยี นรขู้ องตนเอง
2.3 นกั เรยี นและครูช่วยกันจดั ทาเป็นเปา้ หมายการเรยี นรู้
3. Assessment of Learning เป็นการประเมินเพื่อใช้ในการตัดสินผลว่าเกิดการเรียนรู้
บรรลุมาตรฐานการเรียนรใู้ นหลักสูตรเพยี งใด แนวคิดของการประเมินการเรียนรู้ มดี ังน้ี
3.1 ครูใช้สารสนเทศจากการประเมินเพอ่ื ติดตามความกา้ วหนา้ และวางแผนการปรับปรุงพัฒนา
3.2 ครูใชผ้ ลการประเมินในการตัดสนิ ผลการเรยี นรู้ ปรึกษาหารือเพอ่ื แลกเปลยี่ นเรียนรู้
เก่ียวกบั มาตรฐานในโรงเรยี นและระหว่างโรงเรยี น
3.3 ครูใช้ผลการประเมนิ จากกจิ กรรมแตล่ ะวัน เพื่อตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของนักเรียน

วธิ ีการประเมินเพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษท่ี 21

การประเมนิ ผลทกั ษะในศตวรรษที่ 21 เป็นกระบวนการท่ที ้าทายทจ่ี ะตอ้ งใชค้ วามพยายาม
จากผสู้ อนในทกุ ระดับ ซ่งึ มีวิธีการประเมนิ ดงั นี้ (Partnership for 21 st Century Skills. 2009)

1. สร้างมาตรฐานที่จาเป็น (Create Necessary Standard) โดยครูผู้สอน และนักการศึกษา
สาหรับการประเมินผลรวม (Summative Assessments) และการประเมินผลย่อย (Formative
Assessments) ท่สี อดคลอ้ งกบั สาระการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ หรือบทเรยี น มาตรฐานการเรียนรู้
ควรระบุตัวชวี้ ัดเพ่อื สะดวกตอ่ การนาไปใช้

2. ประเมินพฒั นาการนาไปใช้ การประเมินผลและการปรับปรุง (Develop, Implement,
Evaluate and Improve Assessment) ด้วยการสร้างแผนการนาไปใช้ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
ระดับโรงเรียน และระดบั หอ้ งเรยี น การประเมนิ ผลเพือ่ นาไปใช้ในการปรับปรงุ การเรียนการสอน และ
การเรียนรู้ (Improving Teaching and Learning)

3. จัดการประเมินผลย่อยและประเมินผลรวม เพ่ือพัฒนาหลักสูตรและการสอน (Align
Formative and Summative Assessments to Curriculum and Instruction) เปน็ การประเมิน
นาไปใชใ้ นห้องเรยี น รวมทัง้ นาไปปรบั ปรุงกลยุทธ์การสอน

4. การสร้างกลยุทธก์ ารพัฒนาให้เปน็ มืออาชพี (Develop and Professional Development
Strategy) จะช่วยให้ครูผู้สอนรวมทักษะที่จาเป็นสาหรับใช้ในการประเมินในศตวรรษที่ 21 ซ่ึงเป็น
ทกั ษะใหม่ ๆ รวมถงึ การสรา้ งวธิ ีการประเมนิ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ และการปรับกลยุทธ์การเรียน
การสอน

348

การวัดสมรรถนะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21

การวดั สมรรถนะของผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 เป็นการวัดเก่ียวกับ (Jim Soland, Laura S.
Hamiltion, and Brian M. Stecher. 2013)

1. สมรรถนะด้านความรู้ (Cognitive Competencies)
1.1 การเรียนรู้ด้านวิชาการ (Academic Mastery) เพราะเน้ือหาการเรียนรู้ด้านวิชาการ

จะเป็นพื้นฐานสาหรับทักษะการคิดช้ันสูง เน้ือหาวิชา เช่น ความรู้ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
การอา่ น การศกึ ษาโลก และภาษาต่างประเทศ

1.2 การวิเคราะห์ (Critical Thinking) เป็นประเด็นสาคัญ (Highlighted) ท่ีเกือบทุก
รายการสนทนาของสมรรถนะท่ีสาคัญของศตวรรษท่ี 21 (Facione และคณะ. 1995) การคิดวิเคราะห์
รวมทัง้ เหตผุ ลอปุ นยั และนิรนยั (Inductive and Reasoning)

1.3 ความคิดสรา้ งสรรค์ (Creativity) นักการศกึ ษาและผู้ประกอบการหลายคน ระบุว่า
ความคิดสร้างสรรค์ เป็นสมรรถนะท่ีสาคัญในศตวรรษที่ 21 ความคิดสร้างสรรค์ได้รับการเพิ่ม
ความสาคัญในโปรแกรมการศึกษาท่วั โลก ตัวอยา่ งเช่น จีน และสิงคโปร์ ได้สนับสนุนให้เกิดความคิด
สร้างสรรคม์ ากขนึ้ ในโรงเรียน

2. สมรรถนะดา้ นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Interpersonal Competencies)
2.1 การส่อื สารและการร่วมมือ (Communication and Collaboration) การสื่อสาร

ประกอบด้วยความคมชัด (Clarity) การแบ่งปันข้อมูล (Information Shared) และความสมดุล
ระหว่างผู้เข้าร่วม (Mohr, Fisher and Necin. 1996) ส่วนการร่วมมือ (Collaboration) เป็น
ความสามารถในการตดิ ต่อส่อื สาร รวมดว้ ยสมรรถนะในการส่ือสาร เช่น การแก้ปัญหาความขัดแย้ง
การตัดสนิ ใจ การแก้ปัญหา และการเจรจาต่อรอง (Lai. 2011)

2.2 ภาวะผนู้ า (Leadership) เป็นความสามารถในการสอื่ สาร การทางานรว่ มกบั คนอื่น
การมวี ิสยั ทศั น์สาหรบั อนาคต มคี วามคิดรเิ ร่ิมเกี่ยวขอ้ งการสรา้ งนวัตกรรม กลยุทธ์ใหม่ ๆ การจดั การ
การจดั ลาดบั ความสาคัญ การแข่งขัน

2.3 ความรเู้ ก่ยี วกับโลก (Gobal Awareness) เกยี่ วกับประเด็นสาคัญในศตวรรษท่ี 21
เชน่ การเชอื่ มโยงด้านเศรษฐกจิ สงั คมและวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ ที่เพ่ิมขึ้น ความเข้าใจหรือ
ความเห็นอกเหน็ ใจ (Empathy) ของคนทีอ่ ยใู่ นสถานการณ์ทางการเมอื ง หรอื วัฒนธรรมท่แี ตกต่างกนั
รวมทงั้ มุมมอง การส่อื สาร ความคดิ ดาเนนิ การ และใช้ความเชีย่ วชาญในการที่จะประสบความสาเร็จ
ในระดบั โลก แรงงานทมี่ คี วามหลากหลายทางวัฒนธรรม (Multicultural Workforce)

3. สมรรถนะภายในตนเอง (Intrapersonal Competencies)
3.1 ความคิดแบบเปดิ (Growth Mindset) เป็นส่วนสาคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของ

มนุษย์ เพราะเปน็ ตัวขบั เคลอ่ื นในทกุ แง่มุมของคนท่มี ีความคิดแบบเปิดกว้างจะดีกว่าคนที่มีความคิด
แบบปิด (Fixed Mindset) เชน่ นกั เรียนมกั จะทางานเรียนได้ดีข้ึนในวิชาคณิตศาสตร์ เม่ือพวกเขามี
ความคิดแบบเปดิ กวา้ ง เพราะพวกเขามีความเต็มใจที่จะต่อสู้กับความยากลาบากและเอาชนะความ
พา่ ยแพ้ (ศนู ย์จติ วิทยาการศึกษา : http://www.kidsd.org/growth-mindset)

349

3.2 การเรียนร้วู ธิ กี ารเรียน (Learning how to Learn) หรืออภิปัญญา (Metacognition)
หมายถึง ความสามารถของนักเรียนในการกาหนดวิธีการแก้ปัญหาหรือการปฏิบัติงาน การติดตาม
ตรวจสอบ และประเมนิ ผลความก้าวหนา้ สู่ความสาเร็จของงาน นอกจากน้ี การเรียนวิธีการเรียนยัง
รวมถึงความสามารถที่เกี่ยวข้อง เช่น การควบคุมตนเอง ซ่ึงได้รับการแสดงท่ีจะทานายผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน (Achievement) การบรรลุผล (Attainment) และความสาเร็จของการทางาน
(Workforce Success) vrugt and Oort (2008) ได้วิจัยพบว่า นักเรียนท่ีเรียนด้วยตนเองจะมี
ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นทด่ี ขี น้ึ อย่างมีนัยสาคัญ โดยสอบได้คะแนนสูงกว่าเพ่ือนของเขา ผลงานวิจัย
พบว่า สมรรถนะด้านอภิปัญญา มีอิทธิพลต่อวิธีการท่ีนักเรียนตอบสนองต่อการเรียนการสอน
นักเรียนท่ีมีความเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ของเขา จะมีความสามารถที่ดีกว่าเกี่ยวกับการกระตุ้น
ตัวเองและตอบสนองต่อครู และพัฒนาแข็งแกร่งรับรู้ด้วยตนเองสู่ความสาเร็จทางวิชาการ
(Zimmerman. 1990)

3.3 แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) เป็นแรงขับท่ีมาจากภายในตัวบุคคลให้
แสดงพฤตกิ รรมออกมาเพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย เช่น นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมในวิชาที่ชอบ หรือเร่ืองที่
สนใจ สว่ นแรงจูงใจภายนอก หมายถึงความกดดันในการกระทาที่ได้รับมาจากแหล่งภายนอก เช่น
เงิน ในกรณขี องนักเรียน เช่น การยกย่องสรรเสริญ หรือผลการเรียน (Grades) จากงานวิจัยพบว่า
แรงจงู ใจภายในและภายนอก มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ซึ่งถ้าเราให้ผู้เรียน
เรยี นรูจ้ ากแรงจงู ใจภายใน โดยไม่หวังรางวัลหรือแรงเสริมภายนอก จะทาให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมี
ความสุข เพราะเปน็ ความสนใจและความต้องการของนักเรยี นเอง

3.4 ความเพียรพยายาม (Grit) หมายถึง ความขยันหม่ันเพียร และความหลงใหลใน
เป้าหมายระยะยาว (Duckwort et al. 2007) ดังนั้น คนท่ีมีแรงจูงใจแต่ยังขาดความเพียรพยายาม
หรือคนทีม่ งุ่ เน้นในการทางาน แต่ขาดความสนใจในงานท่ีทาโครงการ จะไม่ประสบผลสาเร็จในการ
ทางาน ซ่ึงมีผลงานวิจัย พบว่า นักเรียนท่ีมีความเพียรพยายามจะมีความสาเร็จในการเรียนระดับ
การศึกษาท่สี งู ขึ้น มีคาทีม่ ีความหมายท่เี กี่ยวข้องกันอยู่ 3 คา คือ Motivation, Grit and Resilience
(การปรับฟื้นคืนสภาพของบคุ คลจะมีผลโดยตรงต่อพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ าน แต่ละบุคคลจะสามารถ
ปรับฟื้นคืนสภาพได้ดียิ่งขึ้นน้ัน ควรจะได้รับปัจจัยสนับสนุนด้วย (http://asiasociety.org/files/
gcen-measuring21cskills.pdf)

350

แนวโน้มการประเมนิ ผลในชั้นเรียน

แมคมิลแลน (Mcmillan. 2001 : p.10) ได้เปรยี บเทยี บการประเมินผลในช้นั เรยี นแบบเดมิ
กับแนวโน้มที่จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคตหรือแนวโน้มใหม่ ดังน้ี

ตารางท่ี 2 แสดงการเปรยี บเทียบการประเมินผลในชัน้ เรียนแบบดัง้ เดิมกบั แนวโนม้ การประเมินผล
ในชนั้ เรียนแนวใหม่

การประเมนิ ผลในชั้นเรียนแบบเดมิ การประเมินผลในชั้นเรยี นแบบใหม่
1. ประเมินกระบวนการ (Assessing of
1. ประเมนิ เฉพาะผลลัพธ์ (Sole Emphasis on
Process)
Outcomes) 2. ประเมนิ แบบบรู ณาการ (Integrated Skills)
2. ประเมนิ ทักษะโดยแยกออกเปน็ ส่วน ๆ
3. ประเมนิ การประยุกต์ความรไู้ ปใช้
(Isolated Skills) (Applications of Knowledge)

3. การประเมนิ แยกจากข้อเทจ็ จริง (Isolated 4. ประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Authentic Tasks)
facts)
5. งานทใี่ ห้ทามคี วามเก่ียวข้องกบั เนือ้ หามาก
4. ทดสอบโดยขอ้ เขยี น (Paper –and – Pencil (Contextualized Tasks)

Tasks) 6. มคี าตอบถูกหลายคาตอบ (Many Correct
5. งานทใ่ี ห้ทา มคี วามเกีย่ วข้องกับเนอื้ หาน้อย Answers)

(Decontextualized Tasks) 7. เปิดเผยมาตรฐานต่อสาธารณะ (Pubic
Standards)
6. มีคาตอบถกู คาตอบเดียว (A Single Correct
Answer) 8. เปดิ เผยมาตรฐานตอ่ สาธารณะ (Pubic
Criteria)
7. ไมเ่ ปดิ เผยมาตรฐานตอ่ สาธารณะ (Secret
9. ประเมนิ เป็นกลุ่ม (Groups)
Standards) 10. ประเมินระหวา่ งสอน (During Instruction)
8. ไม่เปิดเผยเกณฑต์ อ่ สาธารณะ (Secret
11. นาผลทไี่ ด้ย้อนกลบั ไปใช้ (Considerable
Criteria) Feedback)

9. ประเมินรายบุคคล (Individuals) 12. ทดสอบโดยยดึ การปฏบิ ตั ิ (Performance –
10. ประเมินหลังจากการสอน (After Based Tests)

Instruction) 13. ทดสอบอยา่ งไม่เปน็ ทางการ (Informal
Tests)
11. นาผลย้อนกลบั ไปใช้นอ้ ย (Little
Feedback) 14. ใหน้ ักเรียนประเมินตนเอง (Student Self –
Evaluation)
12. ทดสอบตามวัตถปุ ระสงค์ (Objective

Tests)
13. ทดสอบโดยใชเ้ กณฑภ์ ายนอก

(Standardized Tests)

14. ประเมินโดยใช้เกณฑ์ภายนอก
(External Evaluation)

351

ตารางที่ 2 แสดงการเปรยี บเทียบการประเมินผลในช้นั เรียนแบบดงั้ เดิมกบั แนวโนม้ การประเมนิ ผล
ในชั้นเรียนแนวใหม่ (ตอ่ )

การประเมนิ ผลในชั้นเรยี นแบบเดมิ การประเมินผลในช้ันเรียนแบบใหม่
15. ประเมนิ วิธเี ดียว (Single Assessment)
15. ประเมนิ ด้วยวิธีหลากหลาย (Multiple
16. ประเมนิ ไม่ตอ่ เนอ่ื ง นาน ๆ ประเมินครงั้ Assessment)
(Sporadic)
16. ประเมินแบบตอ่ เนื่อง (Continual)

ดังนั้น ในการประเมินผลการเรียนในช้ันเรียนแนวใหม่ ต้องมีการประเมินด้วยวิธีการที่

หลากหลาย มีความต่อเนื่อง เน้นการประเมินกระบวนการ ประเมินตามสภาพจริง ยึดการปฏิบัติ
เปิดเผยเกณฑ์และมาตรฐานตอ่ สาธารณะ การประเมินมที ง้ั นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง และประเมินเป็น
กลุ่ม รวมทั้งนาผลที่ไดม้ าใช้อย่างจรงิ จงั

บญั ชีตารางวเิ คราะหข์ ้อสอบรายขอ้ ของ
Chung The - Fan

354

355

356

357

358

359

360

361

362

363

364

365

366

367

368

369

370

371

372

373

374

375

376

377

378

379

380

381

ประวตั ิผ้เู ขยี น

ชอ่ื – สกุล สิรนิ ทร์นชิ า ปัญจอริยะกุล

ประเภทอาจารย์ อาจารยป์ ระจาภาควชิ าเทคนิคการศึกษา

คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเชียงใหม่

สังกดั ปจั จุบัน ภาควชิ าเทคนคิ การศกึ ษา

ประวตั กิ ารศกึ ษา พ.ศ. 2556 การศกึ ษาดุษฎบี ัณฑติ (กศ.ด.) การวิจยั และประเมินผลการศกึ ษา

มหาวิทยาลยั นเรศวร (ทนุ พฒั นาบุคลากร)

พ.ศ. 2546 ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ (ศศ.ม.) การวจิ ัยและพฒั นาท้องถ่ิน

(กลมุ่ วิจยั และสถติ ิ) สถาบันราชภฏั เชียงใหม่

พ.ศ. 2541 ครุศาสตรบณั ฑิต (ค.บ.) การวดั ผลการศึกษา

สถาบนั ราชภฏั เชียงใหม่

ประสบการณท์ างาน พ.ศ. 2557 – 2558 รองคณบดีบณั ฑติ วทิ ยาลยั ฝ่ายพฒั นาการศกึ ษา

มหาวิทยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม่

พ.ศ. 2557 – 2558 เลขานกุ าร คณะกรรมการสภาคณะผบู้ รหิ าร

บัณฑติ ศกึ ษาแห่งประเทศไทย (สคบท.)

ผลงานแต่งเรียบเรยี ง พ.ศ. 2558 เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ER 2103 “การวัดผลและ

ประเมินผลการศึกษา”

พ.ศ. 2559 เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า ER 4208 “การวจิ ยั

ปฏิบตั ิการในชน้ั เรยี น”

ประสบการณ์สอน

ระดับปริญญาตรี รายวชิ า ER 2103 การวดั ผลและประเมนิ ผลการศกึ ษา

รายวชิ า ER 3207 การวิจยั ทางการศกึ ษา

รายวชิ า ER 4208 การวิจยั ปฏบิ ัตกิ ารในชน้ั เรียน

รายวิชา ED 1106 การบรหิ ารจดั การในชั้นเรยี น

รายวิชา ED 3305 การประกนั คณุ ภาพการศึกษา

รายวิชา ED 3801 การฝกึ ปฏิบตั ิการวชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1

รายวิชา ED 3802 การฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารวิชาชีพระหวา่ งเรียน 2

รายวิชา GE 4001 สถติ เิ พ่อื การวจิ ัย

ระดับบัณฑิตศึกษา รายวิชา ED 5501 การวดั และประเมนิ ผลการศกึ ษา

รายวชิ า ED 5502 การวจิ ัยเพ่ือพัฒนาการเรยี นรู้

รายวชิ า GSCI 5201 ระเบียบวิธีวิจยั การเรยี นการสอนวิทยาศาสตร์

รายวชิ า MED701 การวจิ ยั ทางการศึกษา

รายวิชา MED700 สถิติเพื่อการวจิ ัย




Click to View FlipBook Version