The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมแผนการจัดการเรียนรู้โควิดศึกษา 6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมแผนการจัดการเรียนรู้โควิดศึกษา 6

รวมแผนการจัดการเรียนรู้โควิดศึกษา 6

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6ก

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6ข

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา”

ปพี ทุ ธศักราช ๒๕๖๔

ระดับชั้น
ประถมศึกษาปที ่ี 6

เอกสารกล่มุ นิเทศฯ ที่ ๑1/๒๕๖๔
สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คานา หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6ก

โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) มีการระบาด
ในวงกว้าง โดยเมือ่ วันท่ี 30 มกราคม พ.ศ. 2563 องคก์ ารอนามัยโลก ไดป้ ระเมินสถานการณ์ และประกาศ
ใหโ้ รค COVID-19 เป็นภาวะฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสขุ ระหวา่ งประเทศ (Public Health Emergency of
International Concern) โดยแนะนําให้ทุกประเทศเรง่ รัด การเฝูาระวังและปูองกนั ความเส่ยี งจากเช้ือ COVID-19.
และสาํ หรบั ในประเทศไทยน้นั ได้มกี ารพบผู้ปุวยติดเช้ือจาํ นวนหนึ่ง ซึ่งถึงแม้วา่ ตัวเลขผ้ปู ุวยติดเชื้อในแต่ละวันจะมี
จาํ นวนลดน้อยลง แต่กย็ งั คงอยใู่ นสภาวการณ์ทีไ่ มอ่ าจวางใจได้ ดังนั้นเพื่อลดความเสยี่ งของประชาชนทุกคนต่อการ
สมั ผัสเชอื้ โรค และปูองกนั ไม่ให้ประชาชนไดร้ บั ผลกระทบต่อสขุ ภาพ จึงต้องให้ความสาํ คญั ตั้งแต่การรักษาสขุ วทิ ยา
สว่ นบคุ คล โดยเฉพาะในประชาชน กล่มุ เสย่ี ง ทั้งเด็ก ผสู้ งู อายุ และผ้ทู ่ีมโี รคประจําตัว รวมถงึ การจดั การด้าน
อนามยั ส่งิ แวดล้อม อย่างถูกสุขลกั ษณะและเหมาะสมในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพ้นื ทสี่ าธารณะ

สาํ นกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2 สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงความสําคัญในการดูแลนักเรยี น ผปู้ กครอง ครูและบุคลากรทางการ
ศกึ ษา จึงได้จดั ทําหลักสูตรโควิดศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการจดั การเรียนการสอนของโรงเรียนสงั กดั ท้งั น้ีเนื้อหา
ในหลกั สูตรมีวตั ถุประสงค์เพอื่ ให้ครูสามารถจัดกจิ กรรมท่สี ง่ เสรมิ การเรียนรูข้ องนักเรยี นเกย่ี วกับโรคโควดิ -19
ได้อยา่ งรอบด้าน ซง่ึ นอกจากจะช่วยใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจเกย่ี วกบั โรค วิธกี ารดูแลตวั เอง และการปูองกันการแพรร่ ะบาด
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องปลอดภยั แล้ว ยงั จะชว่ ยให้นกั เรยี นเขา้ ใจถึงประเดน็ อ่นื ๆ ที่สาํ คญั เชน่ การเข้าใจอารมณ์และ
ความรสู้ กึ ของตัวเองในภาวะทม่ี โี รคระบาด การดแู ลจติ ใจของตวั เอง การรจู้ ักเหน็ อกเห็นใจผอู้ นื่ และการไม่ตตี รา
หรือเลือกปฏิบัติต่อผทู้ ่ีไดร้ ับผลกระทบจากโรคโควดิ -19 ในหลกั สูตรฉบบั นปี้ ระกอบดว้ ย

ส่วนที่ 1 โครงสรา้ งรายวชิ า
ส่วนที่ 2 หน่วยการเรยี นรู้และแผนการจดั การเรยี นรู้

สาํ นกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 หวังเป็นอย่างย่งิ ว่าหลักสูตรโควิดศึกษา
ฉบับนจ้ี ะเป็นแนวทางในการจดั การเรยี นการสอนใหก้ บั คณะครไู ดเ้ ปน็ อย่างดี

นายพเิ ชษฐ์ นนท์พละ
ผอู้ ํานวยการสํานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

สารบัญ หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6ข

หน้า

คานา ก

สารบัญ ข
ส่วนที่ 1 โครงสรา้ งรายวิชา 1
สว่ นท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรแู้ ละแผนการจดั การเรยี นรู้
3

หนว่ ยท่ี 1 ความรู้เกี่ยวกบั เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 4
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ตน้ กําเนดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 5
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ลักษณะของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 17
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ระยะเวลาของการฟกั ตัวของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 31
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 ลกั ษณะจําเพาะของโรค อัตราการแพร่เชอื้ และความรนุ แรง 44
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 โควิด - 19 และความเส่ยี งของเรา 57

หน่วยท่ี 2 การแพรก่ ระจายและการปูองกนั การติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 69
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 การแพร่เช้ือและการรบั เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 70
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 การปูองกันการแพร่เช้อื และการตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 97
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 ลกั ษณะการติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 125

หนว่ ยท่ี 3 รจู้ กั วคั ซีนโควิด-19 (COVID-19) 152
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 แนวทางการปฏบิ ตั ิเพอ่ื ปูองกันโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 153
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 การปอู งกันตนเอง 167
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 ชมุ ชนปลอดโรค 181
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เช็คก่อนเชื่อ ชัวรก์ อ่ นแชร์ 195
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ผลกระทบทางเศรษฐกจิ และสังคม 208

หนว่ ยท่ี 4 การใช้ชวี ติ ประจําวนั ให้ปลอดภัยจากเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 224
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 แนวทางการปฏิบัตเิ พ่อื ปูองกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา (1) 225
- แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการปฏิบตั ิเพือ่ ปูองกันโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา (2) 240
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 การปอู งกันตนเอง 255
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 ชมุ ชนปลอดโรค 269
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เช็คก่อนเช่ือ ชัวร์ก่อนแชร์ 282
- แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 ผลกระทบทางเศรษฐกจิ และสงั คม 296

ภาคผนวก 309
- คาํ สัง่ แตง่ ตั้งคณะกรรมการจัดทําหลกั สตู รโควดิ ศึกษา 310279
- คณะทํางาน 314

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑

สว่ นที่ 1
โครงสร้างรายวชิ า

สาํ นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๒

ส่วนที่ 1 โครงสร้างรายวิชา
โครงสรา้ งรายวิชา ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6

ลาดบั หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง จานวนชั่วโมง

1 ความร้เู กย่ี วกบั เช้ือไวรัส ๑. ต้นกาํ เนดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ๑๐

โคโรนา 2019 ( ๒ ชว่ั โมง)

(COVID-19) ๒. ลกั ษณะของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

( ๒ ชวั่ โมง)

๓. ระยะเวลาของการฟักตวั ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

(COVID-19) ( ๒ ชว่ั โมง)
๔. ลกั ษณะจําเพาะของโรค อัตราการแพรเ่ ชอื้ และ

ความรนุ แรง ( ๒ ชั่วโมง)
๕. โควิด - 19 และความเส่ียงของเรา ( ๒ ชว่ั โมง)

2 การแพร่กระจายและการ ๑. การแพรเ่ ชอ้ื และการรับเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ๘

ปอู งกันการตดิ เช้ือไวรสั (COVID-19) ( ๓ ช่ัวโมง)

โคโรนา 2019 ๒. การปอู งกันการแพร่เชื้อและการติดเช้ือไวรสั โคโรนา

(COVID-19) 2019 (COVID-19) ( ๓ ชวั่ โมง)
๓. ลกั ษณะการตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

( ๒ ชั่วโมง)

3 รู้จักวคั ซีนโควดิ -19 ๑. รจู้ กั วคั ซนี โควิด ( ๒ ชั่วโมง) ๑๐
(COVID-19) ๒. วัคซนี ทํางานอยา่ งไร ( ๒ ชวั่ โมง)
๓. ใครควรได้รบั วัคซนี ( ๒ ชั่วโมง)

๔. การให้บริการวัคซนี ( ๒ ช่วั โมง)
๕. ข้อปฏบิ ตั ิกอ่ น-ระหว่างและหลังการรบั วัคซีน

( ๒ ชัว่ โมง)

4 การใชช้ วี ติ ประจําวนั ๑. แนวทางการปฏิบตั ิเพ่ือปอู งกันโรคติดเช้อื ไวรัส ๑๒

ให้ปลอดภัยจากเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) (๔ ช่ัวโมง)

โคโรนา 2019 ๒. การปอู งกนั ตนเอง ( ๒ ชว่ั โมง)

(COVID-19) ๓. ชุมชนปลอดโรค ( ๒ ชว่ั โมง)
๔. เช็คกอ่ นเช่ือ ชัวรก์ อ่ นแชร์ ( ๒ ช่วั โมง)
๕. ผลกระทบทางเศรษฐกจิ และสังคม ( ๒ ชัว่ โมง)

รวม 40

สาํ นกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๓

สว่ นที่ 2

หน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้

สาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๔

หน่วยที่ 1
ความรู้เก่ยี วกับเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

สํานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๕

แผนการจัดการเรียนรู้

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ความรู้เก่ียวกับเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ือง ต้นกาเนิดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) เวลา ๒ ช่วั โมง

๑. ผลการเรียนรู้

1) มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับตน้ กาํ เนดิ เชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
2) สามารถอธิบายเกีย่ วกับตน้ กาํ เนิดเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ที่เกิดข้นึ ได้
๓) สามารถอธบิ ายถึงผลกระทบและอนั ตรายท่ีเกิดจากการเปน็ โรคทม่ี ตี ้นกาํ เนดิ มาจากเชื้อไวรัสโคโรนา

๒๐๑๙
(COVID-๑๙) และเขียนเปน็ แผนผังความคิดได้

๔) เห็นความสําคัญของการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั จากโรคที่มีตน้ กาํ เนดิ มาจากเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙

(COVID-๑๙) สามารถให้คําแนะนําแกส่ มาชิกในครอบครัว ชุมชน และสงั คมได้
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนสามารถอธิบายเกย่ี วกบั ต้นกําเนดิ เช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ที่เกิดขึ้นได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
2) นักเรียนสามารถอธบิ ายถงึ ผลกระทบและอนั ตรายท่ีเกิดจากการเป็นโรคที่มีต้นกําเนดิ มาจากเช้ือ

ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) และเขียนเปน็ แผนผังความคิดได้
ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
3) นักเรียนเหน็ ความสําคัญของการปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั จากโรคท่มี ตี ้นกําเนิดมาจากเช้ือไวรัสโคโรนา

๒๐๑๙ (COVID-๑๙) สามารถให้คาํ แนะนําแก่สมาชิกในครอบครัว ชุมชน และสงั คมได้
3. สาระการเรียนรู้

3.1 ความรู้ (K)
1) ต้นกําเนดิ เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙

3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)

1) ความสามารถในการสื่อสาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การทําใบงาน

๒) ความสามารถในการคิด
๒.๑ อภปิ ราย สรุป

3.3 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)

๑) ซ่อื สตั ย์สจุ ริต
๒) มีวนิ ัย
๓) ใฝุเรยี นรู้

4) อยู่อย่างพอเพยี ง
5) มุ่งมั่นในการทาํ งาน
6) มจี ติ สาธารณะ

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

1) ความสามารถในการสอ่ื สาร

2) ความสามารถในการคดิ

สาํ นักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๖

3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ การเรียนรู้ต้งั คาถาม (learning to Question)

1) นักเรยี นฟงั “ รวมเพลงต้านไวรสั โคโรนา”
https://www.youtube.com/watch?v=1WxhIzYNg-4&ab_channel=JOOXThailand แล้วรว่ มกันรอ้ ง
เพลง

ขั้นท่ี ๒ การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) นักเรียนแต่ละคนบอกถึงวิธีปฏิบตั เิ พ่ือปูองกนั ตนเอง จากโรคที่มีต้นกําเนิดมาจากเชื้อไวรัสโคโรนา

๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ทนี่ ักเรียนทราบ และทไ่ี ด้ฟังจากบทเพลง
ข้ันที่ ๓ การเรียนรเู้ พื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct)
2) นกั เรียนเขยี นแผนผงั ความคิด วธิ ีปฏิบัติเพือ่ ปูองกันตนเอง จากโรคที่มตี ้นกําเนิดมาจากเช้ือไวรัสโค

โรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
ข้ันที่ ๔ การเรียนรู้เพื่อการสือ่ สาร (Learning to Communicate)
1) อาสาสมัครนักเรียน นาํ เสนอแผนผังความคิด หนา้ ช้ันเรียน
ขั้นที่ ๕ การเรียนรูเ้ พื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service)
1) นักเรยี นแต่ละคน นาํ ผลงานของตนเอง ไปจัดบอร์ดหนา้ ห้องเรียน หรือท่ปี ูายประชาสัมพนั ธ์โรงเรียน

เพื่อให้ความรู้แก่คนอน่ื ๆ

๖. ส่ือการเรียนรู้
1) เพลง “รวมเพลงตา้ นไวรสั โคโรน่า”
2) https://www.youtube.com/watch?v=1WxhIzYNg-4&ab_channel=JOOXThailand
3) ใบงาน

7. การวัดและประเมินผล
1. การประเมินตามจุดประสงค/์ ตวั ชว้ี ดั

สง่ิ ท่ีตอ้ งการประเมิน วิธกี ารประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
- การทาํ ใบงาน
๑. ดา้ นความรู้ (K) - แบบประเมนิ - ผ่านการประเมินคะแนน
- ความรู้ ใบงาน ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป
- ความเข้าใจ
- มโนทศั น์ - การสังเกต - แบบสงั เกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)
พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดบั ดีเยีย่ ม
๒. ด้านทักษะกระบวนการ (P) ทํางานเป็นกลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดับดมี าก
- ทักษะการคิด (วิเคราะห์ คะแนน 5 – 6 ระดับผา่ น
สังเคราะห์ สื่อสาร) คะแนน 0 – 4 ระดับปรบั ปรงุ
- ทกั ษะการทํางานกล่มุ

สาํ นักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๗

สงิ่ ที่ตอ้ งการประเมิน วธิ ีการประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน

3. สมรรถนะสาํ คัญของผูเ้ รียน - การสังเกต - แบบบนั ทึก เกณฑ์การประเมนิ
การสังเกต คะแนน 57 – 75 ระดับดมี าก
- ความสามารถในการสื่อสาร คะแนน 38 – 56 ระดบั ดี
คะแนน 19 – 37 ระดับพอใช้
- ความสามารถในการคดิ คะแนน0 – 18 ระดับปรับปรุง

- ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

- ความสามารถในการใช้ทักษะ

ชีวิต

- ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

4. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - การสงั เกต - แบบบนั ทกึ เกณฑ์การประเมิน
การสงั เกต ดมี าก = 42 – 54 คะแนน
(A) ดี = 28 – 41 คะแนน
พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ซอื่ สัตยส์ จุ ริต ปรับปรุง = 0 – 13 คะแนน

- มวี ินัย

- ใฝุเรยี นรู้

- อย่อู ย่างพอเพยี ง

- มงุ่ มั่นในการทํางาน

- มจี ติ สาธารณะ

8. ความคิดเห็นของผบู้ รหิ าร
..................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

ลงชือ่
(......................................................................)

ผูอ้ ํานวยการโรงเรียน................................................

สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ๘

9. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจัดการเรียนรู้
นกั เรยี นจํานวน .............................. คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้โดยรวม ................. คน คิดเปน็ ร้อยละ ...................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรโู้ ดยรวม.............. คน คิดเปน็ ร้อยละ.....................
ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นักเรยี นทีม่ ีความสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมินจุดประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
...................................................................................................................... ......................................
............................................................................................................................................................
นักเรียนที่ไม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านทกั ษะ (P) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นักเรียนท่ไี มผ่ ่านการประเมินจุดประสงค์ดา้ นเจตคติ (A) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปญั หา/อุปสรรค
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงชอื่
(......................................................................)

ตําแหน่ง ครู โรงเรยี น ..............................................

สํานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๙

ภาคผนวก

 ใบงาน
 แบบประเมนิ ผลและการสะท้อนผล

สํานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ๑๐

ใบงาน เร่อื ง วธิ ีป้องกนั โรคที่เกดิ จากตน้ กาเนดิ เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

ชื่อ-สกุล........................................................ โรงเรียน .................................เลขท.ี่ ...................ชั้น..............

คาช้แี จง ให้นักเรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ เร่ือง วิธีปูองกันโรคที่เกิดจากต้นกําเนิด เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
(COVID-๑๙)

สาํ นักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ๑๑

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ คะแนนทไ่ี ด้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่าน ไมผ่ า่ น



















๑๐

๑๑

๑๒

๑๓

14

15

16

17

18

19

20

สรุป

ลงช่อื ..................................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไปถือวา่ ผา่ น

สาํ นักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๑๒

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรยี นท.ี่ .........ปีการศึกษา..................

คาชีแ้ จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤตกิ รรมท่เี กิดขน้ึ จรงิ

ระดับการปฏบิ ตั ิ

ที่ พฤติกรรม เป็นประจาํ บางคร้งั น้อยครั้ง ไม่ทาํ เลย/
ไม่ชัดเจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)

๑ มีความรบั ผิดชอบในหน้าทกี่ ารงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แกป้ ญั หาในการทํางานเมื่อมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่ือใหง้ านสําเรจ็ ตามเปาู หมาย
๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทํางานใหด้ ีขึน้ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมนิ
(......................................................)

เกณฑ์การประเมิน

ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ

ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดขอ้ หน่ึงตํา่ กว่า ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งต่ํากว่า ๐ คะแนน

ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ํากวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

สาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๓

แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ช่ือ-นามสกลุ ผูเ้ รียน ......................................................................ชั้น ......................... เลขที่ .....................

ใหค้ รูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั

คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน

อนั พึงประสงค์ด้าน ๓๒๑๐

๑. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1. ใหข้ อ้ มูลท่ีถูกต้องและเปน็ จริง ไม่โกหก

2. ไมถ่ ือเอาส่ิงของหรอื ผลงานของผู้อ่นื มาเป็นของตนเอง

ไม่ลกั ขโมย

3. ไมห่ าผลประโยชนใ์ นทางท่ีไมถ่ กู ตอ้ ง ไมค่ ดโกง

2. มีวนิ ัย 1. ปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรียนและ

สังคม

2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ัติงาน

3. ปฏบิ ัติตนในกจิ วัตรประจาํ วนั โดยไมล่ ะเมิดสิทธผิ ู้อ่ืน

3. ใฝเ่ รียนรู้ 1. ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้

ตา่ ง ๆ

2. แสวงหา ศกึ ษา ค้นคว้าความรู้จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ

3. บนั ทึกความร้วู เิ คราะหต์ รวจสอบ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้

4. อยูอ่ ย่างพอเพียง 1. ใชท้ รัพย์สินของตนเองและของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุม้ ค่า

รวมท้ังใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม

2. ปฏบิ ัตติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบมเี หตุผล

3. วางแผนการเรียนการทาํ งานบนพืน้ ฐานของความรู้ ข้อมลู

ขา่ วสาร มภี มู คิ ุ้มกนั ในตัวท่ดี ี

5. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 1. ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการทาํ งานให้สาํ เรจ็

2. ท่มุ เททาํ งาน อดทนไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอปุ สรรค

3. ปรับปรุงพัฒนาการทํางานและผลงานด้วยตนเอง

6. มีจิตสาธารณะ 1. ชว่ ยเหลือผูอ้ ื่น แบง่ ปันสิง่ ของ อาสาทํางานให้ดว้ ย

ความเตม็ ใจ ไม่หวังผลตอบแทน

2. เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่เปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม

3. ดูแลรกั ษาสาธารณสมบตั แิ ละสงิ่ แวดล้อมด้วย ความเตม็ ใจ

คะแนน

สรปุ ผลคะแนน

ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน

(....................................................)

สาํ นักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๔

เกณฑ์การให้คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ชิ ัดเจนและสมํ่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิบางครัง้ ให้ 1 คะแนน

- พฤติกรรมท่ไี มป่ ฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน

สรุปเกณฑ์การประเมนิ
 ดมี าก ได้ 42 – 54 คะแนน
 ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
 พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
 ปรับปรุง ได้ 0 – 13 คะแนน

สํานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๕

แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

ช่ือ-นามสกุลผูเ้ รียน ................................................................ช้ัน ............................... เลขท่ี .....................
ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั
คะแนน

สมรรถนะทป่ี ระเมิน ระดับคะแนน สรปุ ผล

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 3210

1.1 มคี วามสามารถในการรบั – สง่ สาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วิธีการส่ือสารท่เี หมาะสม
1.4 วิเคราะห์แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล
1.5 เขยี นบนั ทึกเหตุการณ์ประจาํ วนั แล้วเลา่ ใหเ้ พ่อื นฟังได้

สรุปผลการประเมนิ

2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์
2.2 มที ักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการคิดอย่างมีระบบ
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาเก่ียวกับตนเองได้

สรุปผลการประเมิน

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
3.2 ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา
3.3 เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงในสังคม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการปอู งกนั และแกไ้ ขปญั
3.5 สามารถตดั สนิ ใจไดเ้ หมาะสมตามวยั

สรุปผลการประเมนิ
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.1 เรียนรู้ด้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทาํ งานกลุ่มร่วมกบั ผอู้ ื่นได้
4.3 นําความรทู้ ่ไี ด้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจําวนั
4.4 จดั การปญั หาและความขัดแย้งได้เหมาะสม
4.5 หลกี เลีย่ งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบต่อตนเอง

สรปุ ผลการประเมนิ

สาํ นกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๖

สมรรถนะทีป่ ระเมิน ระดบั คะแนน สรุปผล

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3210
5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวัย
5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นาตนเอง
5.4 ใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
5.5 มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมาํ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั บิ างครงั้ ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ไมป่ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ารประเมิน
 ดีมาก ได้ 57 – 75 คะแนน
 ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
 พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 18 คะแนน

สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ๑๗

แผนการจัดการเรียนรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ ความรเู้ ก่ียวกับเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) เวลา ๒ ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง ลักษณะของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

๑. ผลการเรียนรู้

1) สามารถอธบิ ายลกั ษณะของเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)ได้
2) สามารถเขียนแผนผังความคดิ ลักษณะของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)ได้
3) มคี วามตระหนักถงึ อันตรายของโรคท่ีเกดิ จากเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
4) นําความร้ไู ปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจําวนั และเผยแพร่ส่ชู ุมชน

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)

1) นกั เรยี นสามารถอธิบายลักษณะของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)ได้

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)

2) นักเรียนสามารถเขียนแผนผังความคิดลักษณะของเช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)ได้

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

3) นักเรยี นตระหนักถึงอนั ตรายของโรคทีเ่ กิดจากเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
3. สาระการเรียนรู้

3.1 ความรู้ (K)

1) ลกั ษณะของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)

3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)

1) ความสามารถในการสือ่ สาร

๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ

๑.๒ การทําใบงาน

๒) ความสามารถในการคิด

๒.๑ อภปิ ราย สรุป

3.3 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๑) ซ่ือสัตย์สจุ รติ
๒) มีวินัย
๓) ใฝุเรียนรู้
4) อยู่อย่างพอเพยี ง
5) มุง่ ม่ันในการทํางาน
6) มจี ิตสาธารณะ

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๑๘

5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. กระบวนการจัดการเรียนรู้

ขัน้ ที่ ๑ การเรียนรตู้ ้ังคาถาม (learning to Question)
1) นักเรยี นดวู ีดีทศั นเ์ ร่อื ง “สรปุ เข้าใจง่าย โคโรน่าไวรัส (COVID-19)”และรว่ มกนั สนทนาแสดง

ความคดิ เห็นเกีย่ วกับเรื่องทีไ่ ด้ชม
2) แบง่ นกั เรยี นเป็นกล่มุ ๆ ละ 4-5 คน

ขั้นที่ ๒ การเรยี นรแู้ สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศกึ ษาใบความรเู้ รือ่ ง ลักษณะของเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)

ข้นั ที่ ๓ การเรียนรเู้ พื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct)
1) นักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย แล้วเขียนสรุปเรอื่ งลักษณะของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)

เปน็ แผนภาพความคดิ
ขั้นท่ี ๔ การเรยี นร้เู พื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate)
1) แต่ละกลมุ่ สง่ ตัวแทนนําเสนอแผนภาพความคิดหน้าชั้นเรียน
2) ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายสรปุ
ขน้ั ท่ี ๕ การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสงั คม (Learning to Service)
1) ให้นักเรยี นทําใบงาน เรอื่ ง ลกั ษณะของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)

6. ส่ือการเรียนรู้

1) https://www.youtube.com/watch?v=2VISntl0pBU&ab_channel=GEDGOODLIFE
2) ใบความรู้ เรอ่ื ง ลักษณะของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
3) ใบงาน เรื่อง การเขยี นแผนภาพความคิดลักษณะของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
7. การวัดและประเมินผล
1. การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชว้ี ัด

สิง่ ที่ตอ้ งการประเมิน วธิ ีการประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
- การทาํ ใบงาน
๑. ด้านความรู้ (K) - แบบประเมนิ - ผา่ นการประเมนิ คะแนน
- ความรู้ ใบงาน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
- ความเขา้ ใจ
- มโนทศั น์ - การสังเกต - แบบสงั เกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)
พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดบั ดเี ยย่ี ม
๒. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ทาํ งานเปน็ กลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดบั ดมี าก
- ทกั ษะการคดิ (วิเคราะห์ คะแนน 5 – 6 ระดับผ่าน
สงั เคราะห์ ส่อื สาร) คะแนน 0 – 4 ระดบั ปรบั ปรงุ
- ทักษะการทํางานกลุ่ม

สํานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๙

สง่ิ ท่ีต้องการประเมิน วิธีการประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน

3. สมรรถนะสาํ คัญของผ้เู รียน - การสังเกต - แบบบันทึก เกณฑ์การประเมิน
การสงั เกต คะแนน 57 – 75 ระดบั ดมี าก
- ความสามารถในการสอื่ สาร คะแนน 38 – 56 ระดบั ดี
คะแนน 19 – 37 ระดับพอใช้
- ความสามารถในการคิด คะแนน0 – 18 ระดบั ปรบั ปรุง

- ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

- ความสามารถในการใช้ทักษะ

ชวี ิต

- ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

4. ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - การสังเกต - แบบบนั ทกึ เกณฑ์การประเมนิ
การสงั เกต ดมี าก = 42 – 54 คะแนน
(A) ดี = 28 – 41 คะแนน
พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ซื่อสัตยส์ ุจรติ ปรบั ปรงุ = 0 – 13 คะแนน

- มีวินยั

- ใฝุเรียนรู้

- อยอู่ ย่างพอเพียง

- มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน

- มจี ิตสาธารณะ

8. ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร
.................................................................................. ..............................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
.................................................... .......................................................................................... ..................................

ลงชื่อ
(......................................................................)

ผูอ้ าํ นวยการโรงเรียน................................................

สาํ นกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 ๒๐

9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจัดการเรียนรู้
นักเรียนจํานวน .............................. คน
ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรโู้ ดยรวม ............... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...................
ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรโู้ ดยรวม.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.....................
ได้แก่
๑) ………………………………………………………………....................................………...................……
2) ……………………………………………………………….......................................................……………
นักเรียนที่มีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรยี นเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่
๑) ………………………………………………………………....................................................…...…………
2) …………………………………………………………….................…....................................…..…………
นักเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ า้ นทกั ษะ (P) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นกั เรยี นท่ีไมผ่ า่ นการประเมนิ จดุ ประสงคด์ า้ นเจตคติ (A) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
............................................................................................................................................................
.......................................................................................... ....................................... ...........................
9.๒ ปัญหา/อุปสรรค
........................................................................................... ............................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.......................................................................................................................................................................
..................................................................................................... ..................................................................
.
ลงช่อื
(......................................................................)
ตาํ แหน่ง ครู โรงเรียน ..............................................

สาํ นักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๒๑

ภาคผนวก

 ใบความรู้ เร่อื ง ลักษณะของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
 ใบงาน เรื่อง การเขียนแผนภาพความคิดลักษณะของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙

(COVID-๑๙)
 แบบประเมนิ ผลและการสะท้อนผล

สํานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๒๒

ใบความรู้

เรื่อง ลกั ษณะของเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

๑. ความรทู้ ัว่ ไปเกยี่ วกบั COVID-19
ความเปน็ มาของโรคโควิด-19 (COVID-19)

ไวรสั โคโรนาเป็นไวรสั ในสตั ว์ มหี ลายสายพันธ์ุ โดยปรกตไิ ม่กอ่ โรคในคน แต่เมื่อกลายพนั ธ์ุ
เป็นสายพันธ์ใุ หมท่ ่ีก่อโรคในมนษุ ย์ได้ (ซ่ึงมกั เกดิ จากการจัดการท่ผี ิดธรรมชาตโิ ดยมนษุ ย์) ในขณะที่มนุษยย์ ังไม่
รู้จักและไมม่ ภี มู ติ ้านทาน กจ็ ะเกิดการระบาดของโรคในคน

โรคโควิด-19 (COVID-19, ย่อจาก Coronavirus disease 2019) เปน็ โรคตดิ เชือ้ ทางเดินหายใจท่ี
เกดิ จากไวรสั โคโรนา ซึ่งมีชอื่ ทางการวา่ SARS-CoV-2 ทาให้เกดิ ไข้ ไอ และอาจมีปอดอกั เสบ

เรมิ่ พบผ้ปู วุ ยครง้ั แรกเมื่อเดือน ธนั วาคม พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) ทีเ่ มอื งอู่ฮ่ัน เมืองหลวงของมณฑล
หเู ปยุ ์ ภาคกลางของประเทศจีน ซ่ึงเป็นเมืองใหญม่ ีผู้คนหนาแน่น จงึ เกดิ การระบาดใหญไ่ ดร้ วดเร็ว การดแู ล
รกั ษาเป็นไปอยา่ งฉุกเฉิน มีคนปุวยหนักและตายมากเกนิ ที่ควรจะเปน็ จนประเทศจีนต้องปิดเมือง และปดิ
ประเทศตอ่ มา ขณะนี้ ประเทศจนี สามารถควบคุมได้ จนแทบจะไมม่ ผี ้ปู ุวยรายใหม่ แต่โดยธรรมชาติแลว้ จะยงั
มีผทู้ ม่ี เี ชื้ออยู่

ผู้ปุวยรายแรกท่รี บั การรักษาในประเทศไทย เม่ือวันท่ี 13 มกราคม 2563 เปน็ คนจีนท่ีรับเช้ือจากการ
ระบาดในประเทศจนี และไดเ้ ดนิ ทางมาประเทศไทย หลงั จากน้ัน มผี ู้ปุวยอกี หลายรายที่มาจากประเทศอน่ื
ส่วนผ้ปู ุวยทีต่ ิดเช้อื ในประเทศไทยรายแรก มีการรายงานเมื่อ 31 มกราคม 2563

โรคนเี้ กิดจากไวรัสโคโรนา (Corona virus) ท่ีกลายพันธุ์ในธรรมชาติเป็นสายพันธใ์ุ หม่ จากการท่ี
ธรรมชาตถิ กู มนุษย์ทาํ รา้ ย โดยมีสมมตุ ฐิ านวา่ ไวรสั อาจจะมแี หล่งเริม่ ตน้ คือค้างคาว และกลายพันธุเ์ มอื่ ผา่ นสัตว์
ตวั กลาง กลายเป็นไวรสั สายพันธ์ใุ หม่ท่ีก่อโรคในคน และคนไปรับเช้อื มาแพร่ระหว่างคนสู่คน ท้ังนตี้ อ้ งรอการ
พสิ ูจน์ตอ่ ไป เคยมเี หตุการณ์ท่ีคลา้ ยคลึงกันจากไวรสั โคโรนาสายพันธุใ์ หมท่ ีเ่ กิดข้นึ ในอดตี คือ การเกิดโรค
SARS (พ.ศ.2545) และ MERS (พ.ศ.2557) ซ่งึ ท้งั สองโรคนั้น ผู้ปวุ ยมอี าการหนักท้งั หมดและต้องอย่ใู น
โรงพยาบาล จงึ สะกัดการแพรโ่ รคไดไ้ มย่ ากนกั ส่วนผูป้ วุ ยโรค COVID-19 ทีแ่ พรเ่ ช้ือ มีทัง้ ผ้ทู มี่ ีอาการน้อยหรอื
อาจไมม่ ีอาการ

นอกเหนือจากผมู้ ีอาการหนักซึ่งมีนอ้ ยกวา่ มาก จงึ ควบคมุ การระบาดไดย้ ากกวา่ การระบาดที่ใกล้เคยี ง
กบั คร้งั นี้มากท่ีสุด คือการระบาดของไขห้ วดั ใหญ่สายพนั ธุ์ใหม่ 2009 (Influenza A (H1N1) pdm09 virus)
ใน พ.ศ. 2552 ซึ่งเริ่มจากอเมรกิ าแล้วระบาดหนักไปทว่ั โลก แตค่ นที่ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแพร่เช้ือได้ใน
ชว่ งเวลาของการตดิ เช้ือได้นานกว่า การระบาดจึงนา่ จะกว้างขวางกวา่ และควบคมุ ยากกวา่

ในขณะนี้ โรคโควิด-19 ไดร้ ะบาดไปทั่วโลกแลว้ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ได้มีการกําหนดชอื่ โรคและชื่อ
ไวรัสอย่างเป็นทางการ ดังนี้ โรค COVID-19 (อ่านวา่ โควิดไนนท์ ีน ย่อมาจาก Corona Virus Disease
2019) กาํ หนดชื่อโดยองคก์ ารอนามยั โลก (WHO) ไวรัส SARS-CoV-2 (อา่ นวา่ ซารส์ คอฟทู ยอ่ มาจาก
Severe Acute Respiratory Syndrome Corona Virus 2) กําหนดชื่อโดยคณะกรรมการระหว่างประเทศวา่
ด้วยอนกุ รมวิธานของไวรสั ( ICTV ) โดยท่ีชว่ งแรกของการระบาด ใช้ชือ่ อย่างไมเ่ ป็นทางการ เชน่ ไวรัสอูฮ่ ่นั
2019-nCoV (2019 novel coronavirus หรอื ไวรัสโคโรนาสายพนั ธใุ์ หม่ 2019) แต่มกั จะเรียกกันง่ายๆ
วา่ ไวรสั โควิด19

สํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๒๓

ไวรสั SARS-CoV-2 เป็นเชอ้ื โรคทีต่ ้องอยูใ่ นเซลลเ์ น้อื เยื่อ หรอื มเี มือกคลุมอยู่ เช่น เสมหะ
ไม่สามารถอยเู่ ป็นอิสระ นอกจากนี้ ยงั เปน็ ไวรสั ทเี่ กราะดา้ นนอกเปน็ ไขมัน ซงึ่ จะสลายตัวเม่อื สมั ผสั กบั สาร
ซักฟอกหรือสบู่

ส่วน ไวรัส SARS-Co-1 คอื ไวรสั ท่ีเปน็ สาเหตุของโรคติดเช้อื ทางเดินหายใจรนุ แรง หรอื SARS
ทร่ี ะบาด ใน พ.ศ. 2545-2546 ไวรัสท่กี อ่ โรคระบาดในครง้ั น้ีจงึ เป็นชนิดที่ 2 หรอื SARS-CoV-2
ไวรสั โคโรน่า ท่ีก่อโรคในมนุษย์ในขณะนี้ มที ั้งหมด 7 ชนิด

ชนดิ ท่ี 1-4: โรคหวดั ธรรมดา
ชนิดท่ี 5: โรค SARS (ซาร์) จากไวรสั สายพนั ธ์ุใหม่ เมือ่ พ.ศ. 2545-2546
ชนิดที่ 6: โรค MERS (เมอร์ส) จากไวรสั สายพนั ธใุ์ หม่ เม่อื พ.ศ. 2557
ชนดิ ที่ 7: โรค COVID-19 (โควดิ -19) จากไวรสั สายพันธุ์ใหม่ในปจั จบุ ัน

แหล่งแพรเ่ ชอื้ ไวรัส COVID-19
1. คาดวา่ เรม่ิ จากสัตวป์ าุ ที่นํามาขายในตลาดสดเมืองอู่ฮน่ั ประเทศจนี ซ่ึงคนไปสมั ผสั และนาํ มา

เผยแพร่ตอ่ โดยเร่ิมจากไวรสั จากค้างคาวที่มีการผสมพันธุ์กับไวรสั อื่น และกลายพนั ธุ์
2. คนทีม่ ีเชอ้ื แลว้ แพร่ส่คู นอื่น ทางสง่ิ คดั หลง่ั จากทางเดินหายใจ ข้ันตอนจากการรบั เชื้อถึงการปวุ ย

ประกอบดว้ ย การสัมผสั เช้ือโรค การรบั เชอ้ื การติดเชอื้ และการปุวย ผูส้ มั ผสั เชอ้ื โรค (contact)
หมายถึง ผู้ทีส่ ัมผสั ใกล้ชดิ กบั ผู้ติดเช้อื หรอื อาจจะสมั ผัสกับเชือ้ ท่ีออกมากับสิ่งคัดหล่ังจากระบบหายใจของ
ผู้ปวุ ย (นาํ้ ลาย เสมหะ นํ้ามกู ) แล้วอาจจะนําเข้าสรู่ า่ งกายทางปาก จมูก ตา (อวยั วะที่มีเยื่อเมือกบุ) โดยไดอ้ ยู่ใน
ชมุ ชนท่มี ีผ้ปู วุ ยอยู่ด้วย โดยไม่ระมัดระวงั เพยี งพอ หากมีการสัมผัสดังกลา่ ว กอ็ าจเกดิ การติดเชื้อตามมา และ
เปน็ แหลง่ แพร่เช้ือต่อไปได้ ผทู้ ตี่ ้องเฝาู ระวงั ในระยะนี้ (มีนาคม 63) ได้แก่ ผสู้ มั ผสั หรอื อาจจะสัมผัสโรค โดยมี
ประวตั ิอยา่ งใด อย่างหนงึ่ ในช่วงเวลา 14 วนั กอ่ นหน้านี้ (คือ ระยะฟักตวั ทีย่ าวทสี่ ุดของโรค คอื ตดิ เช้ือแล้วแต่
ยังไม่มีอาการปุวย) ดังต่อไปน้ี

1. มปี ระวัติเดนิ ทางไปยัง มาจาก หรอื อยู่อาศัย ในพน้ื ทท่ี มี่ ีรายงานการระบาด
2. เปน็ ผสู้ มั ผสั ใกล้ชิดกบั ผูท้ ีม่ าจากพ้นื ท่ีที่มรี ายงานการระบาด
3. มีประวตั ใิ กลช้ ิดหรอื สัมผัสกบั ผ้ทู ีเ่ ขา้ ข่ายหรอื ได้รบั การตรวจยนื ยันวา่ ตดิ เชื้อ
ผลจากการสัมผสั กับเชอ้ื โรค
ผทู้ ส่ี ัมผสั กบั เชื้อโรคโควิด-19 หากไดร้ ับเชือ้ โรคมาอาจจะมีผลเปน็
1. พาหะของเช้อื คือผู้ท่ีรบั เชื้อโรคแตไ่ ม่เกดิ การติดเชื้อ ซ่ึงเช้ือมักจะติดมาทางมือ
2. ผตู้ ดิ เช้ือ คือ ผู้ทีต่ รวจพบเชื้อ และมีปฏิกิรยิ าทางอิมมูนตอ่ เชือ้ ซึ่งตรวจพบได้ทางการตรวจเลอื ด
แบง่ เปน็

2.1 ผู้ตดิ เช้อื ที่ไมม่ ีอาการ
2.2 ผปู้ วุ ย หรือ ผูต้ ดิ เชอื้ ที่มีอาการ ซ่งึ อาจจะมีอาการน้อยหรอื มาก

สาํ นกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๒๔

ใบงาน เร่ือง ลักษณะของเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

ช่ือ-สกุล...................................................โรงเรียน ..................................เลขที่....................ชั้น...........

คาช้ีแจง ให้นักเรียนเขยี นแผนผังความคิด เร่ือง ลักษณะของเช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

สาํ นักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๒๕

แบบตรวจให้คะแนนใบงาน

เลขท่ี ช่ือ – สกลุ คะแนนที่ได้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน



















๑๐

๑๑

๑๒

๑๓

14

15

16

17

18

19

20

สรปุ

ลงชื่อ.........................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน

สํานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๒๖

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรยี นท.่ี .........ปกี ารศึกษา..................

คาชีแ้ จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับพฤตกิ รรมทเี่ กิดขึ้นจริง

ระดบั การปฏิบัติ

ที่ พฤติกรรม เป็นประจาํ บางครัง้ น้อยครัง้ ไม่ทําเลย/
ไมช่ ัดเจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)

๑ มีความรบั ผิดชอบในหน้าทกี่ ารงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานดว้ ยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แกป้ ญั หาในการทํางานเมื่อมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่ือใหง้ านสําเรจ็ ตามเปาู หมาย
๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทํางานใหด้ ีขึน้ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงชือ่ ..................................................ผู้ประเมนิ
(......................................................)

เกณฑ์การประเมิน

ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ

ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดขอ้ หน่ึงตํา่ กว่า ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งต่ํากวา่ ๐ คะแนน

ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ํากว่า ๐ คะแนน

ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

สาํ นกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๒๗

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

ชือ่ -นามสกลุ ผ้เู รยี น ......................................................................ชัน้ ......................... เลขที่ .....................

ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับ

คะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน

อนั พึงประสงคด์ า้ น ๓๒๑๐

๑. ซ่ือสตั ย์ สุจรติ 1. ใหข้ อ้ มูลที่ถกู ตอ้ งและเป็นจริง ไมโ่ กหก

2. มีวนิ ัย 2. ไมถ่ อื เอาส่งิ ของหรอื ผลงานของผู้อืน่ มาเป็นของตนเองไม่
3. ใฝเ่ รยี นรู้ ลักขโมย
4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 3. ไม่หาผลประโยชนใ์ นทางท่ีไม่ถกู ตอ้ ง ไม่คดโกง

5. ม่งุ ม่นั ในการทางาน 1. ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครวั โรงเรียน
6. มีจิตสาธารณะ และสงั คม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ตั งิ าน

3. ปฏบิ ตั ิตนในกจิ วัตรประจาํ วนั โดยไมล่ ะเมิดสทิ ธผิ ู้อ่นื

1. ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี นสนใจเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
ตา่ ง ๆ
2. แสวงหา ศกึ ษา ค้นควา้ ความรจู้ ากแหลง่ การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ

3. บนั ทึกความรวู้ เิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปล่ยี นเรียนรู้

1. ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
รวมทง้ั ใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
2. ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบมเี หตผุ ล

3. วางแผนการเรยี นการทาํ งานบนพ้นื ฐานของความรู้ ขอ้ มลู
ข่าวสาร มภี ูมคิ ุ้มกันในตัวทีด่ ี
1. ตั้งใจและรับผดิ ชอบในการทาํ งานใหส้ าํ เรจ็

2. ทุ่มเททาํ งาน อดทนไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอปุ สรรค

3. ปรับปรงุ พฒั นาการทํางานและผลงานด้วยตนเอง

1. ช่วยเหลือผูอ้ น่ื แบง่ ปนั สงิ่ ของ อาสาทํางานให้ดว้ ยความเต็ม
ใจ ไม่หวังผลตอบแทน
2. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม

3. ดูแลรักษาสาธารณสมบัติและสงิ่ แวดล้อมด้วย ความเตม็ ใจ

คะแนน

สรปุ ผลคะแนน

ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน

(....................................................)

สํานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๒๘

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่ําเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตบิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน

- พฤติกรรมที่ไมป่ ฏบิ ตั ิ ให้ 0 คะแนน

สรุปเกณฑก์ ารประเมนิ
 ดีมาก ได้ 42 – 54 คะแนน
 ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
 พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
 ปรับปรุง ได้ 0 – 13 คะแนน

สํานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ๒๙

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

ช่อื -นามสกุลผูเ้ รียน ................................................................ชั้น ............................... เลขที่ .....................
ใหค้ รูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับ
คะแนน

สมรรถนะทปี่ ระเมิน ระดับคะแนน สรุปผล
3210
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร

1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร
1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด
ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
1.3 ใชว้ ธิ กี ารส่อื สารท่ีเหมาะสม
1.4 วเิ คราะหแ์ สดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผล
1.5 เขียนบนั ทกึ เหตุการณป์ ระจําวนั แลว้ เลา่ ให้เพื่อนฟงั ได้

สรุปผลการประเมิน

2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์
2.2 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์
2.3 สามารถคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ
2.5 ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเกี่ยวกับตนเองได้

สรุปผลการประเมนิ

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชิญได้
3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปัญหา
3.3 เขา้ ใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงในสังคม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใชใ้ นการปูองกนั และแกไ้ ขปัญห
3.5 สามารถตดั สนิ ใจไดเ้ หมาะสมตามวยั

สรุปผลการประเมนิ
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
4.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทํางานกลมุ่ ร่วมกบั ผู้อ่ืนได้
4.3 นาํ ความรูท้ ไ่ี ด้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาํ วนั
4.4 จัดการปญั หาและความขดั แยง้ ได้เหมาะสม
4.5 หลกี เลีย่ งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง

สรปุ ผลการประเมิน

สาํ นกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ๓๐

สมรรถนะที่ประเมนิ ระดับคะแนน สรุปผล

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3210
5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวยั
5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์
5.5 มคี ุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

- พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ิชดั เจนและสม่ําเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครง้ั ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมทีไ่ มป่ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ารประเมิน
 ดีมาก ได้ 57 – 75 คะแนน
 ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
 พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 18 คะแนน

สํานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๓๑

แผนการจดั การเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ ความรู้เก่ียวกับเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙ ) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องระยะเวลาของการฟักตวั ของเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑9(COVID-๑๙) เวลา ๒ ชวั่ โมง

๑. ผลการเรียนรู้
๑) สามารถบอกระยะเวลาของการฟักตัวของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ได้
2) เห็นความสําคัญของการปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัยจาก เชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
3) สามารถอธบิ ายและแนะนาํ วิธีการดแู ลตนเอง เพ่ือปูองกันการแพรร่ ะบาดของโรคให้กบั คนอ่นื ๆ ได้

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1) นักเรยี นสามารถบอกระยะเวลาของการฟกั ตัวของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
2) นักเรียนสามารถอธิบายและแนะนําวธิ ีการดูแลตนเอง เพ่อื ปูองกันการแพร่ระบาดของโรคให้กับคนอ่ืน ๆ ได้
ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
3) นักเรียนเหน็ ความสาํ คัญของการปฏิบัตติ นให้ปลอดภัยจาก เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)
1) ระยะเวลาของการฟักตวั ของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
1) ความสามารถในการส่อื สาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การทําใบงาน
๒) ความสามารถในการคดิ
๒. ๑ อภิปราย สรุป
3.3 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑) ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ
๒) มวี นิ ัย
๓) ใฝุเรียนรู้
4) อยอู่ ย่างพอเพยี ง
5) มงุ่ ม่ันในการทํางาน
6) มจี ิตสาธารณะ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

สํานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ๓๒

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ การเรยี นร้ตู ้งั คาถาม (learning to Question)
1) นักเรยี นปฏิบัติกิจกรรม วาดรูปส่ือความในใจ
2) นกั เรยี นชมคลปิ วีดิทัศน์ “ระยะฟกั ตัว โควดิ 19
https://www.youtube.com/watch?v=HcAmeIf9A5Q&ab_channel=MOMPLATONG
ขน้ั ท่ี ๒ การเรียนรแู้ สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาใบความรู้ เรื่อง ระยะเวลาของการฟักตัวของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙

(COVID-๑๙)
ข้นั ท่ี ๓ การเรียนรูเ้ พื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct)
1) นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการศึกษาใบความรู้ และเขียนแผนผังความคิดระยะเวลาของการฟัก

ตัวของเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
ขนั้ ที่ ๔ การเรียนรเู้ พื่อการส่ือสาร (Learning to Communicate)
1) แตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนนาํ เสนอหน้าชนั้ เรียน ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายแนะนําแกไ้ ขข้อบกพร่อง
ขั้นที่ ๕ การเรยี นรเู้ พ่ือตอบแทนสงั คม (Learning to Service)
1) นักเรียนทกุ คน ทาํ ใบงาน เร่อื ง ระยะเวลาของการฟักตัวของเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

6. ส่อื การเรยี นรู้
1) คู่มือครสู าํ หรับการจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรโู้ รคโควดิ 19 ( unicef for every child )
2) ใบความรู้ เรอ่ื ง ระยะเวลาของการฟักตัวของเช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
3) ใบงาน เรอ่ื ง การเขียนแผนผังความคดิ ระยะเวลาของการฟกั ตวั ของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
4) https://www.youtube.com/watch?v=HcAmeIf9A5Q&ab_channel=MOMPLATONG

7. การวัดและประเมินผล
1. การประเมินตามจุดประสงค์/ตวั ช้ีวดั

ส่ิงท่ีต้องการประเมิน วธิ กี ารประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
- การทาํ ใบงาน
๑. ด้านความรู้ (K) - แบบประเมิน - ผ่านการประเมนิ คะแนน
- ความรู้ ใบงาน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
- ความเข้าใจ
- มโนทัศน์ - การสังเกต - แบบสงั เกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)
พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดับดเี ยีย่ ม
๒. ด้านทักษะกระบวนการ (P) ทาํ งานเป็นกลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดับดมี าก
- ทักษะการคดิ (วเิ คราะห์ คะแนน 5 – 6 ระดบั ผ่าน
สงั เคราะห์ สอ่ื สาร) คะแนน 0 – 4 ระดับปรบั ปรงุ
- ทักษะการทาํ งานกลุ่ม

สาํ นกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๓๓

ส่ิงท่ีตอ้ งการประเมนิ วธิ ีการประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน

3. สมรรถนะสําคัญของผู้เรยี น - การสังเกต - แบบบันทึก เกณฑ์การประเมิน
การสงั เกต คะแนน 57 – 75 ระดับดมี าก
- ความสามารถในการส่ือสาร คะแนน 38 – 56 ระดับดี
คะแนน 19 – 37 ระดบั พอใช้
- ความสามารถในการคิด คะแนน0 – 18 ระดบั ปรบั ปรุง

- ความสามารถในการ

แกป้ ัญหา

- ความสามารถในการใช้ทักษะ

ชวี ติ

- ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

4. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - การสงั เกต - แบบบนั ทึก เกณฑ์การประเมิน
การสังเกต ดีมาก = 42 – 54 คะแนน
(A) ดี = 28 – 41 คะแนน
พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ซือ่ สัตยส์ ุจริต ปรบั ปรุง = 0 – 13 คะแนน

- มวี ินยั

- ใฝุเรยี นรู้

- อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

- มุ่งมั่นในการทํางาน

- มจี ิตสาธารณะ

8. ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร
....................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................ ....................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................

ลงช่อื
(......................................................................)

ผู้อาํ นวยการโรงเรียน................................................

สํานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๓๔

9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจดั การเรียนรู้
นักเรียนจาํ นวน .............................. คน
ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้โดยรวม ................. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้โดยรวม.............. คน คดิ เป็นร้อยละ.....................
ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นักเรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษ/นกั เรยี นเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นักเรียนท่ไี ม่ผ่านการประเมินจุดประสงคด์ า้ นความรู้ (K) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
........................................................................................................... .................................................
............................................................................................................................................................
นักเรียนท่ีไม่ผา่ นการประเมินจุดประสงค์ดา้ นทักษะ (P) จาํ นวน ............ คน ได้แก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ดา้ นเจตคติ (A) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
...................................................................................... ......................................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปัญหา/อุปสรรค
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
ลงชอื่
(......................................................................)
ตําแหน่ง ครู โรงเรียน ..............................................

สาํ นักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๓๕

ภาคผนวก

 ใบความรู้ เรอ่ื ง ระยะเวลาของการฟักตวั ของเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
 ใบงาน เร่ือง การเขียนแผนผังความคิด ระยะเวลาของการฟักตัวของเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
 แบบประเมนิ ผลและการสะท้อนผล

สํานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ๓๖

ใบความรู้ เรื่อง ระยะเวลาของการฟกั ตวั ของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

การดาเนนิ โรค
การติดเชื้อ

ไวรัสโควิด-19 รวมถึงไวรสั อ่ืนทที่ าใหต้ ดิ เช้ือที่ทางเดนิ หายใจ เขา้ ส่รู ่างกายโดยทาง “ปาก จมูก ตา”
โดยทไี่ วรสั จะเข้าไปเกาะติดและเข้าไปแบง่ ตวั ในเซลลข์ องเย่ือบุทางเดนิ หายใจ ไวรสั ไม่เขา้ ทางผิวหนัง หรือแผล
ทีผ่ วิ หนงั
ระยะฟักตัว (Incubation period, IP)
หมายถงึ ระยะเวลาตั้งแตร่ บั เชื้อจนถงึ เรม่ิ มอี าการปุวย ระยะฟักตวั ของโรค COVID-19 เท่ากบั 2-14 วนั ซึ่ง
เป็นเหตผุ ลที่ใหผ้ ู้สมั ผสั โรคกกั กนั ตวั จากคนอ่นื 14 วัน จากรายงานผู้ปวุ ยนอกเมืองอู่ฮ่นั ระหว่าง มค.-กพ.
2563 พบวา่ ค่ามัธยฐาน (median, ค่ากลาง) ของระยะฟักตัวของโรคน้ี ประมาณ 5.1 วนั (95% CI, 4.5 to
5.8 days) และ 97.5% ของผปู้ วุ ยมรี ะยะฟกั ตวั ของโรคน้อยกว่า 11.5 วัน (95% CI, 8.2 to 15.6 days)
ปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่ ระยะฟักตวั ได้แก่

1. ปริมาณของเช้ือไวรสั ท่ีได้รับ ถ้ามากจะทาใหเ้ กดิ โรคเร็ว คอื ระยะฟกั ตัวส้ัน
2. ทางเขา้ ของเชือ้ โรค เชน่ ไวรัส COVID-19 หากเขา้ สปู่ อดโดยตรงทางจมูกและปาก จะเกิดโรคเร็ว
กวา่ การรบั เช้ือทางเยื่อบตุ า
3. ความเร็วของการเพ่ิมจาํ นวนไวรสั ในรา่ งกายมนุษย์
4. สุขภาพของผู้ที่ไดร้ ับเชอ้ื
5. ปฏกิ ิรยิ าทางอมิ มูนของผ้ตู ิดเชือ้ ตอ่ ไวรัส ซ่ึงมีผลท้งั ในการกาจัดเช้ือ และการอักเสบซง่ึ มีผลให้เกิด
อาการของโรค เชน่ ไข้ ไอ หอบ
อาการปว่ ย (Symptoms)
โดยท่ัวไป ผปู้ วุ ยจะมี อาการคลา้ ยไข้หวดั ใหญ่ มีอาการ “ไข้ และ ไอ”เป็นพื้นฐาน ส่วนใหญ่เร่มิ จาก ไอ
แหง้ ตามดว้ ย ไข้ ผ้ปู ุวยสว่ นนอ้ ยคือ รอ้ ยละ 5 มีน้ามูก เจบ็ คอ หรอื จาม ไมม่ ีอาการเสยี งแหบหรอื เสยี งหาย
ร้อยละ 98.6 มีไข้ (ไข้อาจจะไมไดเ้ ร่มิ ในวันแรกของการปวุ ย)
ร้อยละ 69.6 มีอาการอ่อนเพลียผิดปรกติ
ร้อยละ 59.4 ไอแห้ง (Wang et al JAMA 2020)

สํานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๓๗

ใบงาน เร่ือง ระยะเวลาของการฟักตัวของเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

ช่อื -สกลุ ............................................................. โรงเรียน ..........................................เลขท.ี่ ...................ชั้น.........

คาชแี้ จง ให้นักเรยี นเขียนแผนผังความคดิ เรื่อง ระยะเวลาของการฟักตัวของเช้ือไวรสั โคโรนา๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

สํานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๓๘

แบบตรวจให้คะแนนใบงาน

เลขท่ี ช่ือ – สกลุ คะแนนที่ได้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน



















๑๐

๑๑

๑๒

๑๓

14

15

16

17

18

19

20

สรปุ

ลงชื่อ.........................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน

สํานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๓๙

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรียนท.่ี .........ปกี ารศึกษา..................

คาชีแ้ จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤตกิ รรมท่ีเกิดขน้ึ จริง

ระดับการปฏิบัติ

ที่ พฤติกรรม เปน็ ประจํา บางคร้งั นอ้ ยครงั้ ไม่ทาํ เลย/
ไมช่ ัดเจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)

๑ มีความรบั ผิดชอบในหน้าทกี่ ารงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แกป้ ญั หาในการทํางานเมื่อมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่ือใหง้ านสําเรจ็ ตามเปาู หมาย
๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทํางานใหด้ ีขึน้ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงชื่อ..................................................ผู้ประเมนิ
(......................................................)

เกณฑ์การประเมิน

ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมิน

ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งตาํ่ กว่า ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่ึงต่ํากวา่ ๐ คะแนน

ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่ง ต่ํากวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

สาํ นกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๔๐

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ชื่อ-นามสกุลผู้เรยี น ......................................................................ชัน้ ......................... เลขท่ี .....................

ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี น และนอกเวลาเรียนแลว้ ขดี  ลงในช่องทีต่ รงกับระดบั

คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน

อันพึงประสงค์ดา้ น ๓๒๑๐

๑. ซ่ือสตั ย์ สุจรติ 1. ให้ขอ้ มลู ทีถ่ กู ต้องและเป็นจริง ไมโ่ กหก

2. มีวนิ ัย 2. ไม่ถอื เอาสิง่ ของหรือผลงานของผูอ้ ื่นมาเป็นของตนเองไมล่ กั
3. ใฝเ่ รยี นรู้ ขโมย
4. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 3. ไม่หาผลประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่ถกู ต้อง ไม่คดโกง

5. มุ่งมัน่ ในการทางาน 1. ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครวั โรงเรียนและ
6. มีจติ สาธารณะ สงั คม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ัติงาน

3. ปฏบิ ตั ติ นในกจิ วตั รประจาํ วนั โดยไมล่ ะเมิดสทิ ธิผ้อู ่นื

1. ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
ต่าง ๆ
2. แสวงหา ศกึ ษา ค้นควา้ ความร้จู ากแหลง่ การเรียนรูต้ า่ ง ๆ

3. บนั ทกึ ความรวู้ เิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปล่ยี นเรียนรู้

1. ใช้ทรัพยส์ ินของตนเองและของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า
รวมท้ังใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
2. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบมีเหตผุ ล

3. วางแผนการเรียนการทาํ งานบนพ้นื ฐานของความรู้ ข้อมลู
ข่าวสาร มภี ูมคิ ุ้มกันในตัวทีด่ ี
1. ต้ังใจและรับผดิ ชอบในการทาํ งานให้สําเรจ็

2. ทมุ่ เททาํ งาน อดทนไมย่ ่อทอ้ ต่อปัญหาและอุปสรรค

3. ปรับปรุงพัฒนาการทาํ งานและผลงานด้วยตนเอง

1. ช่วยเหลอื ผูอ้ ื่น แบง่ ปันสิ่งของ อาสาทํางานให้ดว้ ยความเต็ม
ใจ ไม่หวงั ผลตอบแทน
2. เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชนและสังคม

3. ดแู ลรักษาสาธารณสมบตั ิและสง่ิ แวดลอ้ มด้วย ความเตม็ ใจ

คะแนน

สรุปผลคะแนน

ลงชือ่ ..................................................ผปู้ ระเมิน

(....................................................)

สาํ นักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๔๑

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมํ่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน

- พฤติกรรมท่ไี ม่ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ารประเมนิ
 ดมี าก ได้ 42 – 54 คะแนน
 ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
 พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
 ปรบั ปรงุ ได้ 0 – 13 คะแนน

สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ๔๒

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ชอื่ -นามสกลุ ผเู้ รียน ................................................................ชั้น ............................... เลขท่ี .....................
ใหค้ รสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั
คะแนน

สมรรถนะท่ีประเมิน ระดับคะแนน สรุปผล
3210
1. ความสามารถในการส่อื สาร
1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด

ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วิธีการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสม
1.4 วิเคราะหแ์ สดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตุผล
1.5 เขียนบันทึกเหตุการณ์ประจําวนั แลว้ เล่าให้เพ่อื นฟังได้

สรปุ ผลการประเมิน

2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์
2.2 มที กั ษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการคิดอย่างมีระบบ
2.5 ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาเกีย่ วกับตนเองได้

สรุปผลการประเมิน

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3.1 สามารถแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ที่เผชญิ ได้
3.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ัญหา
3.3 เข้าใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงในสังคม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ในการปอู งกันและแก้ไขปญั หา
3.5 สามารถตดั สินใจไดเ้ หมาะสมตามวัย

สรปุ ผลการประเมิน
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
4.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทํางานกลุม่ รว่ มกบั ผอู้ ืน่ ได้
4.3 นาํ ความรูท้ ไ่ี ด้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวนั
4.4 จัดการปญั หาและความขัดแยง้ ไดเ้ หมาะสม
4.5 หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงคท์ ส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง

สรุปผลการประเมนิ

สาํ นักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๔๓

สมรรถนะที่ประเมนิ ระดับคะแนน สรุปผล

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3210
5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวัย
5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยไี ปใช้พฒั นาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์
5.5 มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและสม่ําเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมทไ่ี มป่ ฏบิ ัติ ให้ 0 คะแนน

สรุปเกณฑ์การประเมนิ
 ดีมาก ได้ 57 – 75 คะแนน
 ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
 พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 18 คะแนน

สาํ นกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ๔๔

แผนการจัดการเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ ความร้เู ก่ียวกับเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรื่องลกั ษณะจาเพาะของโรค อัตราการแพร่เชือ้ และความรุนแรง เวลา ๒ ชัว่ โมง

๑. ผลการเรียนรู้
1) มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ลกั ษณะจาํ เพาะของโรค อัตราการแพร่เช้ือ และความรนุ แรง
2) รูว้ ธิ ีปฏิบตั ิเพ่ือปูองกันตนเอง ไม่ให้ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) และแนะนําผู้อ่ืนได้
3) แสดงพฤติกรรมเห็นอกเห็นใจคนรอบขา้ ง และรู้จักการปลอบใจ ถามอาการ ให้กําลังใจคนปุวย

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1) นักเรียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั ลกั ษณะจําเพาะของโรคโควดิ 19 อตั ราการแพร่เช้ือ และความรนุ แรงได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
2) นักเรียนสามารถปฏบิ ัติเพอ่ื ปูองกนั ตนเอง ไม่ให้ได้รบั เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) และแนะนําผู้อ่นื

ได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3) นักเรียนแสดงพฤติกรรมเห็นอกเห็นใจคนรอบข้าง และรู้จักการปลอบใจ ถามอาการ ใหก้ าํ ลังใจคนปวุ ย

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)
1) ลกั ษณะจําเพาะของโรคโควิด 19 อัตราการแพร่เชื้อ และความรุนแรง
3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ความสามารถในการส่อื สาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การทําใบงาน
๒. ความสามารถในการคดิ
๒.๑ อภิปราย สรปุ
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑) ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
๒) มีวินัย
๓) ใฝุเรียนรู้
4) อย่อู ย่างพอเพยี ง
5) ม่งุ มั่นในการทํางาน
6) มจี ติ สาธารณะ

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

สํานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๔๕

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ การเรียนรู้ต้งั คาถาม (learning to Question)
๑) ใหน้ ักเรียนชมคลิปวิดที ัศน์ “สรุปเขา้ ใจงา่ ย โควดิ 19 การแพร่ระบาดระลอกใหม่” และร่วมกันสนทนา

แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรื่อง ที่ไดช้ ม
2) ครแู จง้ จุดประสงคใ์ ห้นักเรียนทราบ
3) แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน แต่ละกลุ่มต้องมีผหู้ ญิงและผู้ชาย

ข้ันที่ ๒ การเรียนรูแ้ สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) นกั เรยี นร่วมกันสบื คน้ ขอ้ มูลเร่ือง ลักษณะจําเพาะของโรค อัตราการแพร่เชื้อและความรุนแรง

ข้ันที่ ๓ การเรียนรเู้ พ่ือสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct)
1) นักเรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันอภปิ ราย สรุปความรทู้ ไี่ ด้จากการศึกษา ลักษณะจําเพาะของโรค อัตราการ

แพร่เชื้อและความรุนแรง เขยี นเป็นแผนผังความคิด
ข้ันท่ี ๔ การเรียนร้เู พื่อการส่อื สาร (Learning to Communicate)
1) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนนําเสนอผลงานแผนผังความคิดหนา้ ชั้นเรียน
ขั้นที่ ๕ การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service)
1) นักเรียนทําใบงานเปน็ การบ้าน

6. ส่ือการเรียนรู้
1) ใบความรเู้ รื่อง ลักษณะจาํ เพาะของโรค อตั ราการแพรเ่ ช้ือและความรุนแรง
2) ใบงาน เรื่อง ลักษณะจาํ เพาะของโรค อัตราการแพร่เช้ือและความรุนแรง
3) https://www.youtube.com/watch?v=0lQiDmdvb7Q&ab_channel=GEDGOODLIFE

7. การวัดและประเมินผล

1. การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด

ส่ิงท่ีต้องการประเมนิ วิธีการประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมนิ - ผา่ นการประเมินคะแนน
๑. ดา้ นความรู้ (K) - การทาํ ใบงาน ใบงาน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป

- ความรู้ - แบบสังเกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)
พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดับดีเยี่ยม
- ความเข้าใจ ทํางานเป็นกลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดับดมี าก
คะแนน 5 – 6 ระดับผ่าน
- มโนทศั น์ คะแนน 0 – 4 ระดบั ปรบั ปรงุ

๒. ด้านทักษะกระบวนการ (P) - การสังเกต

- ทักษะการคิด (วิเคราะห์

สังเคราะห์ สื่อสาร)

- ทักษะการทํางานกล่มุ

สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๔๖

สิ่งที่ต้องการประเมนิ วธิ ีการประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน

3. สมรรถนะสาํ คัญของผเู้ รยี น - การสังเกต - แบบบันทกึ เกณฑ์การประเมิน
การสงั เกต คะแนน 57 – 75 ระดบั ดมี าก
- ความสามารถในการสือ่ สาร คะแนน 38 – 56 ระดบั ดี
คะแนน 19 – 37 ระดับพอใช้
- ความสามารถในการคดิ คะแนน0 – 18 ระดับปรบั ปรุง

- ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

- ความสามารถในการใช้ทักษะ

ชีวติ

- ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

4. ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - การสังเกต - แบบบนั ทึก เกณฑ์การประเมิน
การสงั เกต ดีมาก = 42 – 54 คะแนน
(A) ดี = 28 – 41 คะแนน
พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ซอื่ สัตยส์ ุจริต ปรับปรงุ = 0 – 13 คะแนน

- มีวินยั

- ใฝุเรียนรู้

- อย่อู ยา่ งพอเพียง

- มุง่ มัน่ ในการทาํ งาน

- มีจิตสาธารณะ

8. ความคิดเห็นของผู้บริหาร
..................................................................................................................................................................... ...........
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชือ่
(......................................................................)

ผอู้ าํ นวยการโรงเรียน................................................

สํานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2


Click to View FlipBook Version