หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๔๗
9. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจดั การเรียนรู้
นักเรยี นจาํ นวน .............................. คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้โดยรวม ................. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...................
ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรโู้ ดยรวม.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ.....................
ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรียนท่ีมีความสามารถพิเศษ/นักเรียนเด็กพเิ ศษ ได้แก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จาํ นวน ............ คน ได้แก่
...................................................................................................................... ......................................
............................................................................................................................................................
นกั เรยี นที่ไม่ผ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นทกั ษะ (P) จํานวน ............ คน ได้แก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ า้ นเจตคติ (A) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปญั หา/อปุ สรรค
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
ลงชอื่
(......................................................................)
ตาํ แหน่ง ครู โรงเรยี น ..............................................
สํานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๔๘
ภาคผนวก
ใบความรู้เรื่อง ลกั ษณะจาํ เพาะของโรค อตั ราการแพร่เชื้อและความรนุ แรง
ใบงาน เรื่อง ลักษณะจําเพาะของโรค อัตราการแพร่เชื้อและความรุนแรง
แบบประเมนิ ผลและการสะท้อนผล
สํานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๔๙
ใบความรู้เร่อื ง ลักษณะจาเพาะของโรค อตั ราการแพร่เชอ้ื และความรนุ แรง
สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๕๐
ใบงาน เรอ่ื ง ลักษณะจาเพาะของโรค อตั ราการแพรเ่ ชื้อและ ความรนุ แรง
ชือ่ -สกุล.................................................... โรงเรยี น ............................................เลขท่.ี ...................ช้ัน...........
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นแผนผงั ความคิด เรอื่ ง ลักษณะจาํ เพาะของโรค อัตราการแพร่เชื้อและความรุนแรง
สํานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๕๑
แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
เลขท่ี ช่ือ – สกลุ คะแนนที่ได้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
14
15
16
17
18
19
20
สรปุ
ลงชื่อ.........................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน
สํานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๕๒
แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรยี นท.ี่ .........ปีการศึกษา..................
คาชีแ้ จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรมท่เี กิดขน้ึ จริง
ระดับการปฏบิ ตั ิ
ที่ พฤติกรรม เป็นประจาํ บางคร้งั น้อยคร้งั ไม่ทาํ เลย/
ไม่ชัดเจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)
๑ มีความรบั ผิดชอบในหน้าทกี่ ารงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แกป้ ญั หาในการทํางานเมื่อมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่ือใหง้ านสําเรจ็ ตามเปาู หมาย
๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทํางานใหด้ ีขึน้ ดว้ ยตนเอง
รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ
ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมนิ
(......................................................)
เกณฑ์การประเมิน
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ
ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดขอ้ หนึ่งตาํ่ กว่า ๒ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งตํ่ากวา่ ๐ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหน่งึ ตํา่ กวา่ ๐ คะแนน
ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน
สาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๕๓
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ชอ่ื -นามสกลุ ผเู้ รยี น ......................................................................ชัน้ ......................... เลขที่ .....................
ให้ครสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับ
คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงคด์ า้ น ๓๒๑๐
๑. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1. ให้ข้อมูลท่ถี กู ตอ้ งและเป็นจริง ไมโ่ กหก
2. มวี ินยั 2. ไมถ่ ือเอาส่ิงของหรอื ผลงานของผอู้ ่นื มาเป็นของตนเองไม่
3. ใฝ่เรียนรู้ ลักขโมย
4. อยอู่ ย่างพอเพียง 3. ไมห่ าผลประโยชน์ในทางท่ีไมถ่ กู ต้อง ไมค่ ดโกง
5. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 1. ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรยี นและ
6. มีจิตสาธารณะ สังคม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ตั งิ าน
3. ปฏิบตั ิตนในกจิ วตั รประจาํ วนั โดยไมล่ ะเมิดสทิ ธผิ ู้อนื่
1. ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
ต่าง ๆ
2. แสวงหา ศึกษา ค้นคว้าความรจู้ ากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
3. บันทึกความรู้วเิ คราะหต์ รวจสอบ แลกเปล่ียนเรียนรู้
1. ใช้ทรพั ย์สนิ ของตนเองและของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
รวมท้ังใช้เวลาอย่างเหมาะสม
2. ปฏิบัตติ นและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบมีเหตผุ ล
3. วางแผนการเรยี นการทํางานบนพน้ื ฐานของความรู้ ขอ้ มลู
ขา่ วสาร มภี ูมิคุ้มกันในตวั ท่ดี ี
1. ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทาํ งานใหส้ าํ เร็จ
2. ทมุ่ เททาํ งาน อดทนไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหาและอปุ สรรค
3. ปรบั ปรุงพัฒนาการทาํ งานและผลงานดว้ ยตนเอง
1. ชว่ ยเหลือผู้อ่นื แบ่งปนั ส่ิงของ อาสาทํางานให้ด้วยความเต็ม
ใจ ไม่หวังผลตอบแทน
2. เขา้ รว่ มกิจกรรมทีเ่ ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชนและสงั คม
3. ดูแลรกั ษาสาธารณสมบตั ิและสง่ิ แวดล้อมดว้ ย ความเตม็ ใจ
คะแนน
สรุปผลคะแนน
ลงชือ่ ..................................................ผปู้ ระเมิน
(....................................................)
สาํ นักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๕๔
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและสมํา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทไ่ี ม่ปฏบิ ัติ ให้ 0 คะแนน
สรปุ เกณฑ์การประเมนิ
ดมี าก ได้ 42 – 54 คะแนน
ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
ปรบั ปรุง ได้ 0 – 13 คะแนน
สํานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ๕๕
แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
ชื่อ-นามสกุลผเู้ รียน ................................................................ชั้น ............................... เลขท่ี .....................
ใหค้ รูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั
คะแนน
สมรรถนะทป่ี ระเมิน ระดับคะแนน สรปุ ผล
3210
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
1.1 มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร
1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด
ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใชว้ ิธีการสอ่ื สารท่เี หมาะสม
1.4 วเิ คราะห์แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล
1.5 เขียนบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ประจําวนั แลว้ เล่าให้เพ่ือนฟังได้
สรปุ ผลการประเมนิ
2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์
2.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์
2.3 สามารถคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการคิดอย่างมรี ะบบ
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาเก่ียวกับตนเองได้
สรุปผลการประเมิน
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3.1 สามารถแกป้ ญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่เี ผชญิ ได้
3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปญั หา
3.3 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์และการเปลย่ี นแปลงในสงั คม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการปูองกันและแก้ไขปญั หา
3.5 สามารถตดั สนิ ใจไดเ้ หมาะสมตามวยั
สรปุ ผลการประเมนิ
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
4.1 เรยี นรดู้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทาํ งานกลมุ่ รว่ มกบั ผูอ้ ่นื ได้
4.3 นาํ ความรทู้ ่ีได้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจําวนั
4.4 จัดการปัญหาและความขัดแย้งได้เหมาะสม
4.5 หลีกเล่ยี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ สี่ ่งผลกระทบตอ่ ตนเอง
สรุปผลการประเมิน
สาํ นักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๕๖
สมรรถนะท่ปี ระเมิน ระดบั คะแนน สรุปผล
3210
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวัย
5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยไี ปใชพ้ ัฒนาตนเอง
5.4 ใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์
5.5 มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
สรปุ ผลการประเมิน
เกณฑก์ ารให้คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชดั เจนและสม่ําเสมอ ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ิบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีไมป่ ฏบิ ตั ิ ให้ 0 คะแนน
สรุปเกณฑ์การประเมิน
ดมี าก ได้ 57 – 75 คะแนน
ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
ปรับปรงุ ได้ 0 – 18 คะแนน
สาํ นักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๕๗
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 ความรูเ้ ก่ียวกับเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) เวลา ๒ ชัว่ โมง
เร่ือง โควดิ ๑๙ และความเสี่ยงของเรา
๑. ผลการเรยี นรู้
1) มีความตระหนักในการปอู งกนั การเกิดโรค โควิด ๑๙ ร้จู ักช่วยเหลือดูแลสมาชิกในครอบครัว และชมุ ชน
เพ่ือปูองกนั การแพร่ระบาดของเชื้อโรค
2) ใหค้ วามหมาย การเวน้ ระยะห่างทางกายภาพ (Physical Distancing) หรอื การรักษาระยะหา่ งทางสงั คม
(Social Distancing) ทช่ี ว่ ยลดการแพร่เชอื้ ได้
3) มีพฤติกรรมทห่ี ลีกเลยี่ งการสมั ผัสใกลช้ ดิ กันโดยไมจ่ ําเปน็ และเว้นระยะห่างระหว่างผู้คน ในชว่ งท่ีมโี รค
ระบาด เพ่ือชว่ ยลดการแพรเ่ ชอ้ื
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1) นักเรียนสามารถใหค้ วามหมาย การเว้นระยะหา่ งทางกายภาพ (Physical Distancing) หรอื การรักษา
ระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทีช่ ว่ ยลดการแพรเ่ ช้ือได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
2) นักเรียนมพี ฤติกรรมที่หลีกเลีย่ งการสมั ผสั ใกล้ชดิ กันโดยไมจ่ าํ เป็น และเวน้ ระยะห่างระหว่างผู้คน ในชว่ ง
ที่มีโรคระบาดเพ่ือชว่ ยลดการแพรเ่ ชื้อ
ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3) นักเรียนมีความตระหนักในการปูองกันการเกิดโรค โควิด ๑๙ รู้จักช่วยเหลือดูแลสมาชิกในครอบครัว และ
ชมุ ชน เพ่ือปูองกันการแพรร่ ะบาดของเช้ือโรค
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)
1) การปฏบิ ตั ติ นในการปูองกัน การเกดิ โรค โควดิ ๑๙
3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) ความสามารถในการสื่อสาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การทําใบงาน
๒) ความสามารถในการคดิ
๒.๑ อภิปราย สรปุ
3.3 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑) ซอ่ื สัตย์สุจริต
๒) มวี ินัย
๓) ใฝุเรียนรู้
4) อยู่อยา่ งพอเพียง
5) มุง่ มน่ั ในการทํางาน
6) มจี ิตสาธารณะ
สาํ นักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๕๘
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่อื สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ การเรียนรตู้ ง้ั คาถาม (learning to Question)
1) นักเรียนแสดงท่าออกกาํ ลังกาย โดยให้แตล่ ะคนยนื หา่ งจากเพื่อนประมาณ 1 เมตร แกว่งแขน
เหมือนนกกาํ ลงั กางปีกบนิ แล้วกางแขนใหส้ ุดและขยบั ตวั ห่างกันเกนิ กว่าที่แขนจะแตะกันได้ ชวนทาํ ท่าออก
กาํ ลังกายตา่ ง ๆ สั้น ๆ หรือเลน่ เกมจบั คู่แบบใหม่ทตี่ ้องยืนหา่ งกนั 1-2 เมตร เช่น เปุายงิ ฉบุ รอ้ งเพลงสวสั ดี
2) ครูอธบิ ายว่าการเวน้ ระยะห่างทางกายภาพแบบน้ี ทาํ ให้เช้อื โรคไม่สามารถแพรก่ ระจายไปสู่อกี คน
หนึ่งได้
3) นักเรยี นแบ่งเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน สมมุตใิ หส้ มาชิกในกลุ่มเป็นครอบครัวเดยี วกัน และแบง่ กัน
ว่าใครจะเป็นสมาชิกคนไหนในครอบครัว (แต่ละครอบครวั ไม่จําเป็นต้องมีจาํ นวนสมาชิกเท่ากนั ) และเลอื ก
สถานที่ทีจ่ ะเป็น “บา้ น” ของครอบครวั ตวั เอง
4) ครสู มมตุ ิเร่ืองราวของชมุ ชนหนงึ่ และเหตุการณท์ ่เี กิดขึ้นระหวา่ งการแพร่ระบาดของโควิด-19
5) นักเรยี นออกมาเดนิ ปะปนนอกบ้าน ตามเรอ่ื งราว และเงือ่ นไขทีค่ รเู ล่าเปน็ รอบ ๆ
รอบท่หี น่งึ ทุกคนออกจากบ้าน พอ่ แมไ่ ปทาํ งาน ลูกไปโรงเรยี น คุณยายไปตลาด
รอบที่สอง สมาชิกคนหน่ึงของบา้ นออกไปทํางาน แวะกินข้าวกบั เพื่อนรว่ มงานก่อนกลบั บา้ น
รอบทสี่ าม พอ่ แมท่ าํ งานทบี่ า้ น ลูก ๆ ไม่ได้ไปโรงเรยี น ตอนเย็นสมาชกิ คนหนงึ่ ออกไปซ้ือของท่ีจาํ เป็น
สําหรบั ครอบครวั
รอบทสี่ ี่ พ่อแม่ทํางานทีบ่ ้าน ลูก ๆ ไมไ่ ดไ้ ปโรงเรียน แต่ออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ทบ่ี า้ นเพ่ือน
รอบท่ีห้า ทกุ คนอยูบ่ ้าน เลน่ กันในบ้าน ทกั ทายเพ่ือน ๆ ผ่านการโบกมอื จากบา้ นในระยะไกล
ขน้ั ท่ี ๒ การเรียนร้แู สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะหว์ ่า ในแตล่ ะรอบ จํานวนคนท่ีออกมาพบปะ ติดต่อ ใกล้ชดิ กันมากน้อย
ตา่ งกนั หรือไม่ เพราะเหตใุ ด และมผี ลต่อความเสีย่ งในการรับเช้ือไวรัสมากขึ้นหรอื น้อยลง โดยมีครูช่วยตั้ง
คําถาม
ขน้ั ที่ ๓ การเรยี นรูเ้ พ่ือสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct)
1) นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในช่วงที่เกิดโรคระบาด เราควรรักษาระยะห่างทางกายภาพอย่างนอ้ ย 1-2
เมตรเพื่อไม่ให้เช้อื โรคแพรก่ ระจาย การอยทู่ บ่ี ้านเป็นการรักษาระยะหา่ งทางสงั คมเพ่อื ปูองกันการแพรก่ ระจาย
ของเชื้อโรค และเขยี นแผนผังความคิด การปฏิบัติตนเพื่อปูองกนั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน จากโรคระบาดโควดิ
19
ขั้นท่ี ๔ การเรยี นรู้เพ่ือการส่ือสาร (Learning to Communicate)
๑) แตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนนําเสนอแผนภาพความคดิ หนา้ ชั้นเรียน
2) ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายสรปุ
ขัน้ ท่ี ๕ การเรยี นรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service)
1) ใหน้ กั เรยี นทําใบงาน เรื่อง การปฏิบัตติ นเพื่อปูองกันตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน จากโรคระบาดโควดิ
19
สาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2
หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๕๙
6. สือ่ การเรยี นรู้
1) ใบงาน เร่อื ง การปฏิบัติตนเพ่อื ปูองกนั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน จากโรคระบาดโควดิ 19
7. การวัดและประเมินผล
1. การประเมินตามจุดประสงค/์ ตวั ชว้ี ดั
สง่ิ ท่ีตอ้ งการประเมนิ วธิ ีการประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
๑. ดา้ นความรู้ (K) - การทําใบ - แบบประเมิน - ผา่ นการประเมนิ คะแนน
- ความรู้ ใบงาน รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป
- ความเข้าใจ
- มโนทัศน์
๒. ด้านทักษะกระบวนการ (P) - การสงั เกต - แบบสงั เกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)
- ทกั ษะการคิด (วิเคราะห์ พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดบั ดีเยี่ยม
สงั เคราะห์ ส่อื สาร) ทาํ งานเป็นกลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดบั ดมี าก
- ทกั ษะการทํางานกลุ่ม คะแนน 5 – 6 ระดับผ่าน
คะแนน 0 – 4 ระดับปรบั ปรงุ
3. สมรรถนะสาํ คัญของผู้เรยี น - การสังเกต - แบบบนั ทกึ เกณฑ์การประเมนิ
- ความสามารถในการสอื่ สาร การสงั เกต คะแนน 57 – 75 ระดับดมี าก
- ความสามารถในการคดิ คะแนน 38 – 56 ระดับดี
- ความสามารถในการ คะแนน 19 – 37 ระดบั พอใช้
แก้ปัญหา คะแนน0 – 18 ระดับปรบั ปรุง
- ความสามารถในการใช้ทักษะ
ชวี ิต
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
4. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - การสังเกต - แบบบันทกึ เกณฑ์การประเมนิ
(A) การสังเกต ดมี าก = 42 – 54 คะแนน
- ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต ดี = 28 – 41 คะแนน
- มีวินัย พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ใฝุเรียนรู้ ปรับปรุง = 0 – 13 คะแนน
- อยอู่ ยา่ งพอเพียง
- มงุ่ มั่นในการทํางาน
- มีจิตสาธารณะ
8. ความคดิ เห็นของผู้บรหิ าร
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ
(......................................................................)
ผอู้ าํ นวยการโรงเรยี น................................................
สาํ นกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๖๐
9. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจัดการเรียนรู้
นักเรียนจาํ นวน .............................. คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้โดยรวม ................. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...................
ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรโู้ ดยรวม.............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ.....................
ได้แก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรียนท่ีมีความสามารถพิเศษ/นักเรยี นเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรยี นท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมินจดุ ประสงค์ด้านทักษะ (P) จํานวน ............ คน ได้แก่
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................. ...........................................................................
นักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงค์ด้านเจตคติ (A) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
......................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปัญหา/อปุ สรรค
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
ลงชื่อ
(......................................................................)
ตาํ แหนง่ ครู โรงเรียน ..............................................
สาํ นักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๖๑
ภาคผนวก
ใบงาน
แบบประเมนิ ผลและการสะท้อนผล
สาํ นกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๖๒
ใบงาน เรือ่ งโควดิ 19 และความเสี่ยงของเรา
ชอื่ -สกลุ ................................................... โรงเรียน ............................................เลขท.ี่ ...................ช้นั ...........
คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนเขยี นแผนผงั ความคดิ หวั ข้อ การปฏบิ ัติตนเพ่ือปูองกนั ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน จากโรค
ระบาดโควิด 19
สาํ นักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๖๓
แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
เลขท่ี ช่ือ – สกลุ คะแนนที่ได้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
14
15
16
17
18
19
20
สรปุ
ลงชื่อ.........................................ผู้ตรวจ
(....................................................)
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน
สํานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๖๔
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรียนท.่ี .........ปกี ารศึกษา..................
คาชี้แจง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤตกิ รรมทเี่ กิดขึ้นจริง
ระดบั การปฏบิ ัติ
ที่ พฤติกรรม เปน็ ประจํา บางครัง้ น้อยครัง้ ไม่ทําเลย/
ไมช่ ัดเจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)
๑ มีความรบั ผิดชอบในหน้าทกี่ ารงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แกป้ ญั หาในการทํางานเม่ือมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่ือใหง้ านสําเรจ็ ตามเปาู หมาย
๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทํางานใหด้ ีขึน้ ด้วยตนเอง
รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ
ลงช่ือ..................................................ผู้ประเมนิ
(......................................................)
เกณฑ์การประเมิน
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ
ดเี ย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อใดขอ้ หนึ่งตํา่ กว่า ๒ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งต่ํากวา่ ๐ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ํากว่า ๐ คะแนน
ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน
สาํ นักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๖๕
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ชอื่ -นามสกลุ ผู้เรียน ......................................................................ช้ัน ......................... เลขท่ี .....................
ใหค้ รสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดบั
คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ดา้ น ๓๒๑๐
๑. ซื่อสัตย์ สุจริต 1. ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ งและเป็นจริง ไมโ่ กหก
2. มวี นิ ยั 2. ไม่ถอื เอาสิง่ ของหรอื ผลงานของผู้อ่นื มาเปน็ ของตนเองไม่
3. ใฝเ่ รยี นรู้ ลกั ขโมย
4. อยู่อยา่ งพอเพียง 3. ไมห่ าผลประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถกู ตอ้ ง ไม่คดโกง
5. มุ่งม่ันในการทางาน 1. ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรยี น
6. มจี ติ สาธารณะ และสังคม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ัตงิ าน
3. ปฏิบัตติ นในกิจวตั รประจาํ วนั โดยไมล่ ะเมดิ สทิ ธิผอู้ ่ืน
1. ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี นสนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
ตา่ ง ๆ
2. แสวงหา ศึกษา คน้ คว้าความรู้จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ
3. บันทกึ ความรวู้ เิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปล่ียนเรียนรู้
1. ใชท้ รัพย์สนิ ของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยดั คุม้ คา่
รวมท้งั ใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
2. ปฏบิ ตั ิตนและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบมีเหตผุ ล
3. วางแผนการเรียนการทํางานบนพน้ื ฐานของความรู้ ขอ้ มลู
ขา่ วสาร มภี ูมคิ ้มุ กนั ในตัวทีด่ ี
1. ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทาํ งานใหส้ ําเร็จ
2. ทมุ่ เททาํ งาน อดทนไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค
3. ปรับปรงุ พฒั นาการทํางานและผลงานด้วยตนเอง
1. ช่วยเหลอื ผูอ้ ่นื แบ่งปันสิง่ ของ อาสาทาํ งานให้ดว้ ยความ
เต็มใจ ไมห่ วงั ผลตอบแทน
2. เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม
3. ดแู ลรักษาสาธารณสมบตั ิและสง่ิ แวดล้อมดว้ ย ความเตม็ ใจ
คะแนน
สรปุ ผลคะแนน
ลงชอื่ .......................................................ผู้ประเมิน
(....................................................)
สํานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ๖๖
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่ําเสมอ ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมทไี่ ม่ปฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน
สรุปเกณฑ์การประเมิน
ดมี าก ได้ 42 – 54 คะแนน
ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
ปรบั ปรุง ได้ 0 – 13 คะแนน
สาํ นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๖๗
แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ชอ่ื -นามสกลุ ผู้เรียน ................................................................ช้ัน ............................... เลขที่ .....................
ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั
คะแนน
สมรรถนะทปี่ ระเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ ผล
3210
1. ความสามารถในการส่อื สาร
1.1 มคี วามสามารถในการรับ – สง่ สาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ
ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วธิ กี ารสือ่ สารทเ่ี หมาะสม
1.4 วเิ คราะหแ์ สดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล
1.5 เขียนบันทกึ เหตุการณป์ ระจําวันแลว้ เลา่ ให้เพ่อื นฟังได้
สรุปผลการประเมนิ
2. ความสามารถในการคิด
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์
2.2 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาเกย่ี วกบั ตนเองได้
สรุปผลการประเมิน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชญิ ได้
3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปญั หา
3.3 เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงในสงั คม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้ในการปอู งกันและแกไ้ ขปัญหา
3.5 สามารถตดั สินใจไดเ้ หมาะสมตามวยั
สรุปผลการประเมิน
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
4.1 เรียนรูด้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทาํ งานกลุ่มรว่ มกบั ผู้อ่ืนได้
4.3 นาํ ความรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาํ วนั
4.4 จดั การปัญหาและความขดั แยง้ ไดเ้ หมาะสม
4.5 หลกี เล่ยี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทสี่ ่งผลกระทบต่อตนเอง
สรุปผลการประเมิน
สํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ๖๘
สมรรถนะทีป่ ระเมิน ระดบั คะแนน สรปุ ผล
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3210
5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวัย
5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์
5.5 มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยี
สรปุ ผลการประเมนิ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและสม่ําเสมอ ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมท่ไี มป่ ฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน
สรุปเกณฑก์ ารประเมิน
ดีมาก ได้ 57 – 75 คะแนน
ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
ปรับปรงุ ได้ 0 – 18 คะแนน
สาํ นกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๖๙
หน่วยที่ 2
การแพร่กระจายและการปอ้ งกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19)
สาํ นกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๗๐
แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การแพร่กระจายและการปอ้ งกันการตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง การแพรเ่ ช้ือและการรบั เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 2 ช่ัวโมง
๑. ผลการเรยี นรู้
1) นักเรียนวิเคราะห์ได้วา่ เชอื้ โรคสามารถตดิ ต่อจากคนสู่คนได้เร็ว และเพมิ่ คนปุวยจาํ นวนมากจนกลายเปน็ โรค
ระบาดได้
2) นักเรียนอธบิ ายเรอ่ื งโรคระบาดและการแพรเ่ ช้ือและการรบั เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ได้
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1) นักเรียนสามารถวิเคราะห์ไดว้ า่ เชื้อโรคสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้เรว็ และเพ่ิมคนปุวยจาํ นวนมากจน
กลายเป็นโรคระบาดได้
2) นักเรียนอธิบายเร่ืองโรคระบาดและการแพร่เชื้อและการรบั เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
3) ปฏบิ ตั ติ ามใบกจิ กรรมเร่ืองการแพร่เชื้อและการรบั เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แบบรวมพลัง
ด้วยความรับผิดชอบได้ ความสามารถในการส่อื สาร
4) สร้างช้ินงานโครงงาน เรอ่ื งการแพรเ่ ชอ้ื และการรับเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และเผยแพร่
ได้
ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
5) นักเรียนเป็นผูม้ ีความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองและงานกลมุ่
6) นักเรียนมีเจตคตทิ ่ีดีในการเรียนรู้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)
1) การแพร่ระบาดของโรค จากการสัมผัสโดยตรงจากละอองฝอย ลมหายใจ นํา้ มูก ท่ีผู้ตดิ เชื้อไอหรือจาม
ออกมาและเราเอามือไปสัมผสั ทใ่ี บหนา้ ตา จมูก ปาก ทําให้เราติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
1) ความสามารถในการส่ือสาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การทําใบงาน
๒) ความสามารถในการคดิ
3.3 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
1. ซอื่ สัตย์ สจุ ริต
2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
3. มุ่งมัน่ ในการทาํ งาน
4. มวี นิ ยั รับผิดชอบ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
สาํ นกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๗๑
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั ที่ ๑ การเรยี นรู้ตงั้ คาถาม (learning to Question)
เสนอสง่ิ เรา้ ใหน้ กั เรยี น สงสัย และทบทวน ประสบการณเ์ ดมิ
1) นักเรียนกม้ หน้าและหลบั ตาพร้อมกันทั้งช้ัน
2) ครนู ํากากเพชรมาทาที่มือ สุ่มแตะมอื นกั เรียน 2 คน (เลน่ เป็นผปู้ วุ ยโควดิ -19) โดยท่ีไม่ให้นกั เรียนอ่ืนๆ รู้
3) นักเรยี นลมื ตาขน้ึ แล้วเดินจบั มือกบั เพ่ือนๆ ในหอ้ งไปเรื่อยๆ
4) เฉพาะนักเรยี น 2 คน ทีไ่ ด้รบั เลอื ก เวลาจบั มือเพ่ือนๆ ให้บบี มอื เพ่ือนเบาๆ โดยไมใ่ ห้คนอ่ืนสังเกตเหน็
5) คนที่ถูกบีบมือ หมายถึงได้รับเชื้อโรคแล้ว จะสามารถจับมือเพ่ือนต่อได้อีกเพียงสามคน พอถึงคนที่สาม
ให้บีบมือเพื่อน เพือ่ แพรเ่ ช้ือไวรัส จากนน้ั ปวุ ยและเดินออกจากเกม
6) เกมดาํ เนินไปเรอ่ื ยๆ จนครบทกุ คน
7) นกั เรียนสงั เกตที่มือของตนเอง ดูปริมาณของกากเพชรที่ติดอยทู่ ี่มือว่ามีมากน้อยเพียงใด
ชวนคยุ ชวนถาม ครูและนักเรียนร่วมกันระบคุ ําถามสาํ คัญ
• จากเกมทเ่ี ล่นด้วยกนั เรารูห้ รือไม่วา่ คนไหนเปน็ คนท่ีแพรเ่ ชื้อให้เรา
• เกมนเี้ กย่ี วข้องอะไรกบั โรคระบาดโควดิ -19 หรือไม่ เชือ้ ไวรัสแพร่ไปสู่อีกคนหนึ่งได้อยา่ งไร
จากกิจกรรม จะเหน็ ไดว้ ่า เราไมร่ วู้ ่าใครบ้างท่ีมีเชื้อไวรัส เพราะบางครัง้ ยงั ไม่มีอาการ ซ่งึ เรียกวา่ ระยะฟักตัว
เราอาจจะได้รับเชื้อแล้วแต่ใช้เวลาอย่างน้อย 5 วันถึงจะมีอาการ แต่การสัมผัสและส่งต่อ จะทําให้เช้ือไวรัสแพร่
ระบาดไปเร่ือยๆ หากเราไม่เปิดโอกาสให้เชื้อไวรัสแพร่มาที่เรา เช่น หยุดอยู่บ้าน หรือล้างมือบ่อยๆ ก็เท่ากับว่าเรา
ช่วยยับยง้ั การระบาดของไวรสั ในสงั คม
ข้ันท่ี ๒ การเรยี นรูแ้ สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) ใหก้ ลมุ่ ปฏิบตั ิงานตามใบกิจกรรมเรื่อง การแพร่เช้อื และการรับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-
19) แบบรวมพลังด้วยความรบั ผดิ ชอบ
2) จากนัน้ ให้วเิ คราะห์ข้อมูลแล้วนําเสนอด้วยผงั กราฟิกท่เี หมาะสม
โคโรนา 2019 (COVID-19)
ข้ันที่ ๓ การเรยี นรูเ้ พื่อสร้างองคค์ วามรู้ (Learning to Construct)
3) นักเรียนแต่ละกลุ่มนาํ เสนอผลการวเิ คราะห์ จากน้นั ครูอภิปราย ดว้ ยคําถามสู่การสรุป
- นักเรียนอธบิ ายไดว้ ่าการอยู่รวมกันแออัดเปน็ กลุ่มๆ ทาํ ให้เช้อื โรคแพร่ระบาดได้เร็วและเพ่ิมจาํ นวนผปู้ ุวย
- นกั เรยี นให้เหตุผลทต่ี ้องมีระบบตรวจคัดกรองคนก่อนเขา้ ออกอาคารสถานท่ีหรือก่อนเข้าประเทศหรือ
เมืองได้
4) กลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ สรปุ ความรู้ แล้วมีการนาํ สรุปมาแลกเปลยี่ นกนั จนกลมุ่ สามารถสรุป หรือสร้าง
ความรไู้ ดส้ อดคล้องกบั มโนทัศน์ท่คี รูกาํ หนด
5) นกั เรยี นทาํ แบบฝึกหดั เรื่องโรคระบาดและการแพร่เช้อื และการรับเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
(COVID-19)
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 ๗๒
ขนั้ ที่ ๔ การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate)
1) นกั เรยี นแต่ละกลุ่มเล่าเร่ืองทไี่ ด้เรยี นรสู้ ูก่ ันฟัง (ส่ือสาร)
2) นักเรยี นในกลุ่มมีการสะท้อนคิดถึงจดุ เดน่ จุดบกพร่อง และส่งิ ใครร่ ู้ หรอื คาํ ถามใหม่
ขัน้ ที่ ๕ การเรยี นรู้เพื่อตอบแทนสงั คม (Learning to Service)
1) นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ นําความร้ไู ปประยุกตส์ ร้างผลงาน
2) นักเรยี นนําผลงานไปเผยแพร่ โดยตดิ เป็นปูายให้ความรู้ ประชาสมั พันธ์หนา้ เสาธง และเผยแพร่ให้
ชุมชนในหมูบ่ า้ น
6. ส่ือการเรยี นรู้
1) ใบงานเร่ืองโรคระบาดและการแพร่เชอื้ และการรบั เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
2) ใบความรเู้ ร่ืองโรคระบาดและการแพร่เชื้อและการรบั เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
3) เกมใครแพร่เชื้อ
4) ภาพประกอบ
7. การวัดและประเมินผล
1. การประเมินตามจุดประสงค/์ ตวั ช้ีวัด
สง่ิ ที่ตอ้ งการประเมิน วธิ ีการประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
๑. ดา้ นความรู้ (K) - สอบ - แบบสอบความรู้ - ผ่านการประเมนิ คะแนน
- ความรู้ - สมั ภาษณ์ - แบบสมั ภาษณ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป
- ความเขา้ ใจ - สังเกต - แบบสังเกต
- มโนทศั น์
๒. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) - การสังเกต - แบบสงั เกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)
- ทกั ษะการคิด (วิเคราะห์ พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดับดเี ย่ยี ม
สังเคราะห์ สื่อสาร) ทาํ งานเปน็ กลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดบั ดมี าก
- ทกั ษะการทํางานกลุ่ม คะแนน 5 – 6 ระดบั ผา่ น
คะแนน 0 – 4 ระดับปรบั ปรุง
3. สมรรถนะสําคัญของผเู้ รยี น - การสังเกต - แบบบันทกึ การ เกณฑ์การประเมิน
- ความสามารถในการสอื่ สาร สงั เกต คะแนน 57 – 75 ระดบั ดี
- ความสามารถในการคดิ มาก
- ความสามารถในการ คะแนน 38 – 56 ระดบั ดี
แกป้ ญั หา คะแนน 19 – 37 ระดบั
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะ พอใช้
ชวี ติ คะแนน0 – 18 ระดับ
- ความสามารถในการใช้ ปรับปรุง
เทคโนโลยี
สาํ นกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ๗๓
สง่ิ ท่ีต้องการประเมิน วธิ ีการประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
4. ดา้ นคุณลักษณะอันพึง - การสังเกต - แบบบนั ทึก เกณฑ์การประเมนิ
ประสงค์ (A) ดมี าก = 42 – 54 คะแนน
- ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ การสงั เกต ดี = 28 – 41 คะแนน
- มีวินัย พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ใฝุเรยี นรู้ ปรับปรุง = 0 – 13
- อยอู่ ย่างพอเพยี ง คะแนน
- มุ่งม่ันในการทาํ งาน
- มจี ติ สาธารณะ
8. ความคดิ เห็นของผูบ้ รหิ าร
........................................................................................................................ ........................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ
(......................................................................)
ผอู้ ํานวยการโรงเรียน................................................
สํานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๗๔
9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจดั การเรียนรู้
นักเรยี นจํานวน .............................. คน
ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร้โู ดยรวม ............... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...................
ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้โดยรวม.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.....................
ไดแ้ ก่
๑) ………………………………………………………………....................................………………….
2) ………………………………………………………………....................................………………….
นักเรียนทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นเด็กพเิ ศษ ได้แก่
๑) ………………………………………………………………....................................………………….
2) ………………………………………………………………....................................………………….
นักเรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมินจุดประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
..................................................................................................................... .......................................
............................................................................................................................................................
นกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมินจุดประสงค์ด้านทกั ษะ (P) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมินจุดประสงค์ด้านเจตคติ (A) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
................................................................................................ ............................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปญั หา/อปุ สรรค
.............................................................................................................................. .........................................
....................................................................................................... ................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ..........................................
........................................................ ............................................................................................. ..................
ลงช่ือ
(......................................................................)
ตาํ แหนง่ ครู โรงเรียน ..............................................
สาํ นกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๗๕
ภาคผนวก
ใบงานเรอ่ื งโรคระบาดและการแพรเ่ ชอื้ และการรับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ใบความรู้เรื่องโรคระบาดและการแพร่เชื้อและการรับเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-
19)
ภาพประกอบ
แบบประเมนิ ผลและการสะท้อน
สํานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๗๖
ใบความรู้
การแพรเ่ ชื้อและการรับเช้อื
แหล่งเช้อื โรค COVID-19 และการแพร่เช้ือ
1. คนท่ตี ิดเชือ้
1.1 ไอ จาม หรือ พดู โดยไม่มีอปุ กรณ์ปิดปาก ในระยะใกล้ชดิ (น้อยกว่า 1 เมตร) มผี ลให้ละอองฝอย
เสมหะ นาํ้ มกู น้ําลาย ทม่ี ีไวรัสอยู่ดว้ ย ฟุงู กระจายออกมา เรียกว่า airborne droplet หรอื หยดน้ําเล็กๆ ท่ี
ลอยในอากาศ (ขนาด >5 micron) ซ่ึงจะตกลงบนพื้นในระยะ 1-2 เมตร
1.2 ทําใหเ้ กิดการฟูุงของไวรัสในอากาศ โดยการปฏิบัติต่อผูต้ ดิ เช้ือบาง ลกั ษณะในสถานพยาบาล (เชน่
การใช้อปุ กรณ์พน่ ยาเขา้ ทางเดินหายใจ การใช้สายยางดูดเสมหะ การส่องกล้องตรวจภายในหลอดลม การใส่
และถอดท่อหายใจใหผ้ ู้ปุวย การดูดเสมหะดว้ ยระบบเปดิ ) ก่อใหเ้ กิดละอองขนาดเลก็ มาก (fine mist) เรียกวา่
airborne aerosole ขนาด<5 micron) ซ่งึ คลา้ ยกับไวรัสท่ฟี ูุงในอากาศ ไวรัสโคโรนาจะมีชวี ิตสั้นมากถา้ อากาศ
แห้ง แตอ่ ยู่ได้นานหลายชว่ั โมงหากอากาศเย็นและชื้น
1.3 มือ ท่ีมีเชอื้ โรคตดิ อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเอาฝุามือปดิ ปากเวลาไอจาม แล้วไม่ลา้ งมือ และใช้มือ
นัน้ สมั ผัสกับผู้อื่น หรอื ส่ิงของ
2. พื้นผิววัตถุ หรือส่ิงของ
ทผี่ ตู้ ิดเชอื้ ไดน้ ําเชอื้ โรคมาทง้ิ ไวอ้ าจอยู่ได้หลายชว่ั โมงหรอื หลายวันระยะเวลาแพร่เชื้อจากผู้ติดเชอ้ื
(Contagious period) โดยทั่วไปแล้ว ผปู้ วุ ยตดิ เช้ือทเี่ ป็นโรคติดตอ่ จะแพร่เชื้อเม่ือมีอาการ และแพรเ่ ชื้อได้มาก
ทสี่ ดุ ในระยะท่ีอาการหนักที่สุดของโรคทไี่ ม่ใช่ผลแทรกซ้อนจากเหตอุ ื่น ท้ังน้ีผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยๆ อาจจะ
แพรเ่ ชื้อไดบ้ ้างแตน่ อ้ ยกว่า การแพร่เชอ้ื ในระยะที่ไม่มีอาการอาจเกิดขน้ึ ได้เล็กนอ้ ย และมักจะอยูใ่ นระยะ 2-3
วันก่อนเรมิ่ มีอาการปวุ ย
โรคติดเชอื้ ท่เี ปน็ โรคติดต่อแต่ละโรคมีระยะเวลาแพร่เช้ือแตกตา่ งกัน แมว้ า่ จะมรี ายงานว่า อาจจะมีผปู้ ุวย
COVID-19 ท่ีแพรเ่ ชือ้ ในขณะทไ่ี ม่มีอาการ แตข่ ้อมลู ยังไม่ชัดเจน และหากเปน็ จริง ก็มีโอกาสเกิดขน้ึ น้อยมาก
เช่นเดยี วกับโรคติดตอ่ อนื่ ตอ้ งรอดขู ้อมลู เพิ่มเติม
การแพรเ่ ชอื้ COVID-19 และการรบั เช้อื
เกิดจากการติดต่อจากคนที่มีเช้อื สู่คนอน่ื โดย
1. ทางตรง (direct) โดยทางละอองฝอย (droplet) จากทางเดนิ หายใจ
- การคลกุ คลใี กลช้ ิดกบั ผู้ตดิ เชื้อ/ผู้ปุวย ในระยะน้อยกว่า 1-2 เมตร
- โดยทางละอองฝอย (droplet) ของน้ําลาย เสมหะ น้าํ มกู ของผู้ปวุ ย ด้วยการไอ จาม หรือการพูดที่
นํ้าลายกระเด็น
- ละอองฝอยเหลา่ นี้ อาจจะเข้า ปาก จมูก ตา ของผูท้ ี่อยู่ใกล้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงเมื่อหนั หน้าเขา้ หากันและ
สดู หายใจเขา้ ไป เน่ืองจาก ไวรสั COVID-19 เปน็ ไวรัสที่ต้องอยูใ่ นเซลล์จึงจะมีชีวติ อยู่ได้ ดังนนั้ เมอ่ื ละอองฝอย
แห้งลง ไวรสั กต็ าย ไม่ลอยอยู่ในอากาศฟูงุ กระจาย
สํานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๗๗
2. ทางอ้อม (indirect) โดยการสัมผสั (contact)
- โดยการสัมผัสบรเิ วณ พนื้ ผิว สง่ิ ของ มือของคนอื่น ที่มีการปนเปื้อนเชอื้ โรคจากผปู้ ุวยจากการไอ จาม
แลว้ นําไปเข้า จมูก ปาก ตา ของตนเอง
- มีส่ิงอืน่ นาํ เช้อื ไปโดยการสัมผัส เช่น ของเล่นของเด็กท่ปี นเปื้อนเชอ้ื สัตวเ์ ลยี้ งท่มี ผี ้นู าํ เช้ือมาสัมผัสทงิ้ ไวท้ ี่
ขน ทง้ั น้ี ยังไม่มหี ลักฐานว่าสัตว์เลี้ยงจะติดเช้ือสายพันธน์ุ ี้
- สนุ ขั มีไวรัสโคโรนาของสุนขั แต่เป็นสายพนั ธ์ทุ ี่ไม่ก่อโรคในคน
3. ทาง aerosol เปน็ กรณีเฉพาะ
- Aerosol คอื ละอองฝอยขนาดเลก็ กว่า 5 ไมครอน ลอยในอากาศ
- ไวรัสโคโรนาจากผู้ปวุ ยจะลอยเปน็ ละอองฝอยขนาดเลก็ ในกรณีที่มหี ตั ถการในการรักษาบางอยา่ ง เชน่
การดูดเสมหะโดยใช้เครือ่ งตอ่ สายยาง การพ่นยาเป็นละอองเข้าทางเดนิ หายใจ เป็นตน้
มีข้อมลู บา้ งว่า ในลกั ษณะอากาศบางอยา่ ง อาจจะเป็นอากาศเย็นและชื้น ไวรสั อาจจะลอยอยู่ในอากาศ
นานขึน้ ซึ่งอาจจะสร้างปญั หาของการตดิ เชอื้ ในโรงพยาบาล ตอ้ งติดตามข้อมูลต่อไป
“COVID-19 ตดิ ต่อจากคนสู่คน ดว้ ยวิธีการทีค่ ล้ายคลงึ กับไข้หวดั ใหญ่”
การคลกุ คลใี กลช้ ดิ กนั (close contact) การคลุกคลใี กล้ชิดผปู้ วุ ยทําให้มีโอกาสรบั เช้ือจากผ้ปู ุวยได้ ท้งั น้ี
หมายถึง
1. การอย่ใู กล้ผู้ปวุ ย ในระยะน้อยกวา่ 2 เมตร เปน็ เวลานาน เช่น อย่รู ว่ มห้องพดู คยุ กัน หนั หน้าเข้าหากัน
เปน็ คนดูแลผปู้ วุ ย เปน็ ตน้
2. มีกิจกรรมทมี่ ีการสมั ผสั โดยตรงกับเชอ้ื โรคจากน้ําลาย เสมหะของผู้ตดิ เชอื้ เชน่ กอดจบู กนั สมั ผสั ตัว
การใชข้ องรว่ มกนั เชน่ ช้อนส้อม แกว้ นํา้ การกนิ อาหารร่วมกัน
การท่กี าํ หนดระยะใกลช้ ิดท่ีอาจจะรับเช้อื หรอื ระยะหา่ งในการปอู งกันการรบั เชือ้ ท่ี 1-2 เมตร เพราะการ
ไอจามของคนทัว่ ไปจะส่งฝอยนาํ้ ลายไดไ้ กลถงึ 1 เมตร แตถ่ ้าคนตวั โตไอแรงมากๆ อาจจะไกลถงึ 2 เมตร
การรบั เชอื้ COVID-19
1. คนท่คี ลกุ คลใี กล้ชิด (close contact) ไดร้ บั เชื้อเข้าทางปาก จมกู ตา สว่ นใหญ่เกดิ จากการไอ จาม ของ
ผูป้ วุ ย
2. มือท่สี ัมผัสไวรัสจากผปู้ วุ ย ทีป่ นเปอื้ นอยูบ่ นผิววตั ถแุ ลว้ นาํ เข้าส่ทู างเดินหายใจทาง ปาก จมกู ตา หรอื
แพร่ไปทอี่ ืน่ ต่อ
3. แม้ว่าจะมรี ายงานการตรวจพบไวรัสโคโรนา19 ในอุจจาระ และผูป้ ุวยบางคนมอี ุจจาระรว่ ง การตดิ เชือ้
ทางทางเดินอาหารไมเ่ ป็นการแพร่เชือ้ ท่ีมีความสาํ คัญ
(http://www.who.int/docs/default-source/coronaviruse/who-china-joint-mission-oncovid-
19-final-report.pdf February 16-24, 2020 )
สํานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๗๘
R0, ตวั ชว้ี ดั โอกาสแพรเ่ ชื้อ
ไวรสั แต่ละชนดิ ตดิ ต่อไปยงั คนอ่นื ได้มากน้อยตา่ งกัน บางชนิดติดตอ่ ไดง้ า่ ยมากไปยงั คนทย่ี งั ไม่มภี ูมติ ้านทาน
(ไมเ่ คยติดเชื้อ ไมเ่ คยรับวัคซีน) เชน่ หดั เพราะไวรัสลอ่ งลอยอยู่ในอากาศไดน้ าน โดยมีการใชค้ า่ วัดเปรียบเทยี บ
คือ R0 (R nought) หรือ จาํ นวนคนตดิ เชอ้ื ทเ่ี พิ่มขึน้ จากคนติดเช้อื 1 คน (reproductive number) ซึ่งเป็นค่า
แสดงความสามารถการแพรเ่ ชือ้ ตามธรรมชาติว่าคนท่ีติดเชอ้ื 1 คน จะแพรใ่ หค้ นอ่นื ประมาณก่ีคน ในประชากร
ทไ่ี ม่มี
ภูมิต้านทานมาก่อนและไมม่ ีการควบคุมโรคปัจจยั ที่มผี ลตอ่ ค่า R0 เชน่ ภูมติ า้ นทานของประชากร
ความสามารถในการควบคุมการแพร่เชือ้
ตวั อย่าง R0 ของแต่ละโรค
- R0 โรคหดั 12-18
- R0 ไขห้ วัดใหญ่ตามฤดูกาล 1.3 to 1.5.
- R0 ไขห้ วดั ใหญ่สายพันธุใ์ หม่ 2009 (novel influenza A (H1N1)) 1.4 and 1.6
- R0 ของ COVID-19 1-5 (จากการประชมุ รว่ ม WHO-จนี เมอื่ 24 กมุ ภาพันธ์ 2563)
การแปลค่า R0
- R0 นอ้ ยกวา่ 1 แสดงวา่ จาํ นวนผูต้ ิดเชอ้ื ลดลง และโรคจะหมดไปในท่สี ุด
- R0 เทา่ กบั 1 แสดงวา่ จํานวนผู้ปุวยจะค่อนข้างคงท่ี ไปเรือ่ ยๆ
- R0 มากกวา่ 1 แสดงว่า จํานวนผปู้ วุ ยเพม่ิ ขน้ึ ตามลําดับ และจะเกิดการระบาด
สํานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๗๙
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๐
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๑
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๒
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๓
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๔
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๕
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๖
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๗
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๘๘
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๘๙
ใบงาน เร่ือง การแพรเ่ ชอ้ื และการรับเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
ชอื่ -สกลุ ..................................................... โรงเรียน ............................................เลขท.่ี ...................ช้นั ...........
คาชแี้ จง นกั เรยี นเขยี นแผนผังความคดิ การสรา้ งองค์คามร้เู ร่อื งการแพร่เชื้อและการรับเช้อื ไวรัส
โคโรนา 2019
สํานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๙๐
สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๙๑
แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
เลขท่ี ช่ือ – สกลุ คะแนนที่ได้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
14
15
16
17
18
19
20
สรปุ
ลงชื่อ.........................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน
สํานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๙๒
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรยี นท.ี่ .........ปีการศึกษา..................
คาชี้แจง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤตกิ รรมท่เี กิดขน้ึ จรงิ
ระดับการปฏบิ ตั ิ
ที่ พฤติกรรม เป็นประจาํ บางคร้งั น้อยคร้งั ไม่ทาํ เลย/
ไม่ชัดเจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)
๑ มีความรบั ผิดชอบในหน้าทกี่ ารงาน
๒ ต้งั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แกป้ ญั หาในการทํางานเมื่อมีอุปสรรค
๕ อดทนเพ่ือใหง้ านสําเรจ็ ตามเปาู หมาย
๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทํางานใหด้ ีขึน้ ด้วยตนเอง
รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ
ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมนิ
(......................................................)
เกณฑ์การประเมิน
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ
ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดขอ้ หน่ึงตํา่ กว่า ๒ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งต่ํากว่า ๐ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ํากวา่ ๐ คะแนน
ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน
สาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๙๓
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ชอ่ื -นามสกลุ ผูเ้ รียน ......................................................................ชน้ั ......................... เลขที่ .....................
ให้ครสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับ
คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น ๓๒๑๐
๑. ซื่อสัตย์ สจุ รติ 1. ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ต้องและเป็นจรงิ ไม่โกหก
2. มีวนิ ยั 2. ไมถ่ ือเอาสิ่งของหรือผลงานของผู้อืน่ มาเป็นของตนเองไม่
3. ใฝ่เรียนรู้ ลกั ขโมย
4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 3. ไม่หาผลประโยชน์ในทางทีไ่ ม่ถกู ตอ้ ง ไม่คดโกง
5. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 1. ปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรยี น
6. มจี ิตสาธารณะ และสงั คม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ตั งิ าน
3. ปฏบิ ตั ติ นในกิจวตั รประจาํ วนั โดยไมล่ ะเมิดสิทธผิ ู้อนื่
1. ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
ตา่ ง ๆ
2. แสวงหา ศกึ ษา คน้ คว้าความรู้จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ
3. บันทกึ ความรูว้ เิ คราะหต์ รวจสอบ แลกเปล่ยี นเรียนรู้
1. ใชท้ รัพยส์ ินของตนเองและของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า
รวมทง้ั ใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
2. ปฏิบตั ติ นและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบมเี หตผุ ล
3. วางแผนการเรยี นการทํางานบนพน้ื ฐานของความรู้ ข้อมลู
ข่าวสาร มภี มู คิ มุ้ กันในตัวท่ีดี
1. ตั้งใจและรับผดิ ชอบในการทาํ งานใหส้ ําเร็จ
2. ทุม่ เททาํ งาน อดทนไมย่ อ่ ท้อตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค
3. ปรับปรุงพัฒนาการทํางานและผลงานดว้ ยตนเอง
1. ชว่ ยเหลือผ้อู ื่น แบง่ ปันสิง่ ของ อาสาทํางานใหด้ ้วยความ
เต็มใจ ไม่หวังผลตอบแทน
2. เข้ารว่ มกิจกรรมที่เปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม
3. ดแู ลรกั ษาสาธารณสมบตั ิและสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ย ความเตม็ ใจ
คะแนน
สรุปผลคะแนน
ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน
(....................................................)
สํานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๙๔
เกณฑ์การให้คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่าํ เสมอ ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมที่ไม่ปฏบิ ัติ ให้ 0 คะแนน
สรุปเกณฑก์ ารประเมนิ
ดีมาก ได้ 42 – 54 คะแนน
ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
ปรับปรงุ ได้ 0 – 13 คะแนน
สาํ นักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2
หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๙๕
แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ชอ่ื -นามสกลุ ผู้เรียน ................................................................ช้ัน ............................... เลขที่ .....................
ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั
คะแนน
สมรรถนะท่ปี ระเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ ผล
3210
1. ความสามารถในการส่อื สาร
1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ
ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วธิ กี ารสือ่ สารทเ่ี หมาะสม
1.4 วเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล
1.5 เขียนบันทกึ เหตุการณป์ ระจําวนั แลว้ เลา่ ให้เพ่อื นฟังได้
สรุปผลการประเมิน
2. ความสามารถในการคิด
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์
2.2 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาเกย่ี วกบั ตนเองได้
สรุปผลการประเมนิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่เี ผชญิ ได้
3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปญั หา
3.3 เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงในสงั คม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามร้มู าใช้ในการปอู งกันและแกไ้ ขปัญหา
3.5 สามารถตดั สินใจไดเ้ หมาะสมตามวัย
สรุปผลการประเมิน
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
4.1 เรียนรูด้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทาํ งานกลุ่มรว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้
4.3 นาํ ความรู้ที่ไดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาํ วนั
4.4 จดั การปัญหาและความขดั แยง้ ไดเ้ หมาะสม
4.5 หลกี เล่ยี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบต่อตนเอง
สรุปผลการประเมิน
สํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2
หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๙๖
สมรรถนะทีป่ ระเมนิ ระดบั คะแนน สรุปผล
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3210
5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั
5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
5.5 มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี
สรปุ ผลการประเมนิ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมาํ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ไี มป่ ฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน
สรุปเกณฑ์การประเมิน
ดีมาก ได้ 57 – 75 คะแนน
ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
ปรบั ปรุง ได้ 0 – 18 คะแนน
สํานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2