รวมแผนการจัดการเรียนรู้โควิดศึกษา 6

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๔๗

แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

ชอ่ื -นามสกุลผเู้ รยี น ......................................................................ช้ัน ......................... เลขท่ี .....................

ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดบั

คะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน

อนั พึงประสงค์ด้าน ๓๒๑๐

๑. ซ่ือสัตย์ สุจริต 1. ให้ข้อมลู ท่ถี กู ต้องและเปน็ จรงิ ไม่โกหก

2. มีวินยั 2. ไมถ่ ือเอาส่งิ ของหรอื ผลงานของผู้อ่นื มาเปน็ ของตนเองไมล่ กั
3. ใฝ่เรยี นรู้ ขโมย
4. อยอู่ ย่างพอเพียง 3. ไมห่ าผลประโยชน์ในทางท่ไี ม่ถกู ต้อง ไม่คดโกง

5. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 1. ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรียนและ
6. มีจิตสาธารณะ สงั คม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ัติงาน

3. ปฏิบตั ิตนในกจิ วตั รประจาํ วนั โดยไมล่ ะเมดิ สทิ ธิผอู้ ่ืน

1. ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี นสนใจเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
ต่าง ๆ
2. แสวงหา ศกึ ษา คน้ ควา้ ความรจู้ ากแหล่งการเรียนร้ตู า่ ง ๆ

3. บันทึกความรู้วเิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้

1. ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเองและของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั ค้มุ ค่า
รวมท้ังใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
2. ปฏิบัติตนและตดั สินใจดว้ ยความรอบคอบมเี หตุผล

3. วางแผนการเรยี นการทํางานบนพ้ืนฐานของความรู้ ข้อมลู
ขา่ วสาร มภี มู คิ ้มุ กันในตวั ท่ีดี
1. ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการทาํ งานให้สําเรจ็

2. ทมุ่ เททาํ งาน อดทนไมย่ ่อท้อตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค

3. ปรบั ปรงุ พฒั นาการทํางานและผลงานด้วยตนเอง

1. ช่วยเหลอื ผอู้ ืน่ แบง่ ปันสิง่ ของ อาสาทํางานใหด้ ้วยความเต็ม
ใจ ไมห่ วงั ผลตอบแทน
2. เข้ารว่ มกิจกรรมที่เป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชนและสังคม

3. ดูแลรักษาสาธารณสมบัตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ย ความเตม็ ใจ

คะแนน

สรุปผลคะแนน

ลงช่อื ..................................................ผปู้ ระเมิน

(....................................................)

สาํ นักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๔๘

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัติชดั เจนและสม่าํ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั บิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ไม่ปฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน

สรุปเกณฑก์ ารประเมิน
 ดีมาก ได้ 42 – 54 คะแนน
 ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
 พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 13 คะแนน

สํานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๑๔๙

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

ช่อื -นามสกลุ ผเู้ รียน ................................................................ช้ัน ............................... เลขที่ .....................

ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั
คะแนน

สมรรถนะท่ปี ระเมิน ระดับคะแนน สรุปผล
3210
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
1.1 มคี วามสามารถในการรับ – ส่งสาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด

ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วิธีการส่ือสารท่เี หมาะสม
1.4 วิเคราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล
1.5 เขยี นบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ประจาํ วนั แล้วเล่าให้เพ่ือนฟังได้

สรุปผลการประเมนิ
2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์
2.2 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการคิดอย่างมีระบบ
2.5 ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาเกี่ยวกับตนเองได้

สรุปผลการประเมนิ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถแกป้ ญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่เี ผชญิ ได้
3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปญั หา
3.3 เข้าใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงในสังคม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการปูองกันและแกไ้ ขปัญหา
3.5 สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวยั

สรปุ ผลการประเมิน

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
4.1 เรยี นรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทํางานกล่มุ ร่วมกบั ผูอ้ ่ืนได้
4.3 นําความรูท้ ไ่ี ดไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาํ วนั
4.4 จดั การปญั หาและความขดั แย้งได้เหมาะสม
4.5 หลกี เลย่ี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ สี่ ่งผลกระทบตอ่ ตนเอง

สรปุ ผลการประเมิน

สํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๑๕๐

สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ ผล
3210
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวัย
5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยไี ปใช้พฒั นาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์
5.5 มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี

สรุปผลการประเมนิ

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและสม่ําเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีไมป่ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ารประเมนิ
 ดีมาก ได้ 57 – 75 คะแนน
 ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
 พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
 ปรับปรงุ ได้ 0 – 18 คะแนน

สาํ นักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๕๑

สาํ นกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๕๒

หนว่ ยที่ 3
รู้จักวัคซีนโควิด 19 (COVID-19)

สาํ นกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๑๕๓

แผนการจัดการเรียนรู้ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ร้จู ักวคั ซนี โควิด – 19(COVID-19) เวลา 2 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง รู้จกั วัคซีนโควิด

๑. ผลการเรยี นรู้
1) นกั เรียนมีความร้คู วามเขา้ ใจเก่ยี วกับความหมายของ”วัคซีน”
2) นักเรียนบอกชนิดของวัคซีนท่ีใช้ปูองกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019ได้

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)

. 1) นกั เรียนสามารถบอกความหมายของ”วัคซีน”ได้
2) นักเรียนสมามารถบอกชนิดของวัคซนี ที่ใชป้ ูองกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
3) ปฏิบตั ิตามใบงานกิจกรรมเร่ืองความหมายและชนดิ ของวคั ซีนที่ใช้ปอู งกันโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา่ 2019ได้
4) สร้าง(ชน้ิ งาน)เรื่องความหมายและชนิดของวัคซนี ที่ใช้ปูองกนั โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา่ 2019 และเผยแพร่ได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
5) ให้ความร่วมมือรว่ มกัลป์กลุ่ม
6) ใฝุเรียนรู้
7) เป็นผ้มู คี วามรับผดิ ชอบต่อตนเองและกลุม่

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)
1. วัคซีน (Vaccine)คือสารชนิดหน่ึงท่ีฉีดเข้าไปร่างกาย เพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ส่วนใหญ่ทํามา

จากเชื้อโรค แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทําจากเชื้อโรคที่ตายแล้วมีสารของเชื้อโรคมาฉีดเข้าตัวเรา และ ทําจาก
เชอ้ื โรคที่อ่อนแอ ทําใหม้ ันสลบพิษจะได้ไมร่ นุ แรง เมื่อฉดี เข้าไปในร่างกายคนเรา ร่างกายเราก็จะสร้างภูมิคุ้มกัน
กบั โรคนัน้ ๆ

2.วคั ซนี ป้องกนั โรคโควดิ -19 ในปจั จบุ ัน มี 4 ชนิดด้วยกนั ไดแ้ ก่
1. วัคซนี ชนิดสารพนั ธกุ รรม ได้แก่ เอ็มอารเ์ อน็ เอ (mRNA) วคั ซีนกลุม่ นี้ ใช้เทคโนโลยีใหม่สงั เคราะห์
สารพันธกุ รรมเอ็มอารเ์ อน็ เอ (messenger RNA: mRNA) ท่ีเฉพาะเจาะจงกับเช้ือไวรัส วคั ซีนจะทําหน้าท่ีพา
mRNA เข้าเซลล์ และ กํากับให้เซลลผ์ ลติ สารโปรตีนสไปค์ของเชือ้ ไวรัส ซง่ึ โปรตนี น้จี ะกระตุ้นระบบภูมิคุม้ กนั
ของรา่ งกายใหส้ ร้างแอนตบิ อดีขึน้ มาต่อต้านเช้ือ วัคซีนที่มีใชใ้ นปจั จบุ นั ไดแ้ ก่ วคั ซนี ของบรษิ ัท Pfizer และ
Moderna จากข้อมลู ในปจั จุบนั วคั ซนี ชนดิ นมี้ ีประสทิ ธิภาพในการปูองกนั โรคได้ประมาณ 95% ปอู งกนั การ
ปุวยรนุ แรงและปูองกันการเสียชวี ติ ได้ 100% วคั ซีนของบริษัท Pfizer ควรไดร้ บั การฉดี 2 เขม็ เข้ากลา้ มเนอ้ื
ห่างกนั 3 สัปดาห์ ส่วน วัคซนี ของบริษทั Moderna ควรได้รับการฉีด 2 เขม็ เข้ากลา้ มเนอ้ื ห่างกัน 4 สัปดาห์
2. วัคซีนชนดิ ใชไ้ วรสั เป็นพาหะ (Recombinant viral vector vaccine) วคั ซนี กล่มุ น้ีใชไ้ วรสั
ที่สามารถตดั แต่งพันธุกรรม เชน่ ไวรสั อะดโี น (Adenovirus) โดยนํามาดดั แปลงพันธกุ รรมให้ไม่สามารถแบ่งตวั
ได้ และใส่สารพันธุกรรมของไวรสั โรคโควดิ 19 ติดไปดว้ ย เมอื่ นาํ มาฉีด ไวรัสพาหะเหลา่ น้จี ะเลียนแบบการตดิ
เชือ้ ตามธรรมชาติ โดยกระตุ้มภูมคิ มุ้ กนั ทงั้ ระบบใหส้ รา้ งแอนตบิ อดียต์ ่อไวรัสโรคโควดิ 19 ตามสารพันธุกรรมท่ี
ใส่เขา้ ไป อย่างไรก็ตามแมว้ ่าจะเป็นวัคซนี ที่ไวรสั อะดโี นไมแ่ บ่งตัว แต่ยงั จัดเป็นไวรัสทม่ี ีชีวิตเมอื่ เข้าสรู่ า่ งกาย จึง
ยงั ไม่แนะนําให้ใชใ้ นผทู้ ีม่ ีภมู คิ ุ้มกันบกพรอ่ งอย่างมาก จนกวา่ จะมีข้อมลู ทชี่ ัดเจนมากกว่านี้ ปัจจุบนั วัคซีนชนดิ นี้
ทีใ่ ชก้ ันแพรห่ ลายมี 4 แบรนด์ ได้แก่ ไวรัสอะดีโนของชมิ แพนซี (Chimpanzee adenovirus) โดยบริษทั Astra

สาํ นักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ๑๕๔

Zeneca มปี ระสิทธิภาพปูองกนั อาการประมาณ 70-80% ปูองกันการเสยี ชีวิตได้ 100%, ไวรสั อะดีโนของ
มนษุ ย์สายพันธ์ุ5 (Human adenovirus type 5) โดยบริษทั CanSinoBio มีประสทิ ธิภาพปอู งกันอาการ
ประมาณ 60%, ไวรสั อะดโี นของมนุษยส์ ายพนั ธุ์ 26 (Human adenovirus type 26) โดยบริษทั Johnson
and Johnson มีประสิทธภิ าพปอู งกนั อาการประมาณ 64-72% และไวรสั อะดีโนของมนษุ ยส์ ายพนั ธ์ุ 5 และ
26 (Human adenovirus type 5 and26) โดยบรษิ ทั Gamaleya ของรัสเซยี มปี ระสิทธิภาพปูองกันอาการ
ประมาณ 90%

3. วคั ซนี ท่ีทําจากโปรตีนสว่ นหนึง่ ของเชื้อ (Protein subunit vaccine) วัคซนี ท่ีผลิตโดยเทคโนโลยนี ี้
ทัว่ โลกมคี วามคนุ้ เคยมานาน เพราะใชใ้ นการผลิตวคั ซนี หลายชนิด เชน่ วัคซีนปูองกนั ไข้หวัดใหญ่ วคั ซีนปอู งกนั
ไวรสั ตับอักเสบบี เป็นตน้ ผลิตโดยการ สร้างโปรตีนของเช้ือไวรสั ดว้ ยระบบ cell culture, yeast,
baculovirus เป็นต้น แล้วนาํ มาผสมกับสารกระตุ้นภมู ิ เม่ือฉดี เขา้ สรู่ ่างกายจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนตีบอ
ดีตอ่ ตา้ นโปรตีนสไปค์ของไวรัสโรคโควิด19 วัคซีนทมี่ ใี ชใ้ นปัจจุบันคอื วคั ซีนแบรนด์ Novavax ซ่งึ ผลติ จาก
baculovirus และใช้ Matrix M เปน็ ตวั กระตนุ้ ภูมิ มีประสิทธิภาพปอู งกันอาการประมาณ 60-90% ปอู งกนั
การเสียชวี ติ ได้ 100%

4. วัคซีนชนดิ เชอ้ื ตาย (Inactivated vaccine) วคั ซีนกลุ่มน้ีผลติ โดยนาํ ไวรัสโรคโควดิ 19 มาเล้ียง
ขยายจาํ นวนมาก และนาํ มาทําใหเ้ ชอ้ื ตาย การฉีดวคั ซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสรา้ งภูมิคุ้มกนั ต่อไวรสั ทกุ ส่วน
เสมอื นไดร้ บั เช้อื ไวรัสโดยตรงแตไ่ ม่ทาํ ใหเ้ กิดโรค เพราะเชอื้ ตายแล้ว เทคโนโลยีน้เี ปน็ วธิ ที ่ใี ช้กับวคั ซีนตับอกั เสบ
เอ โปลโิ อชนิดฉดี จงึ มีความคุ้นเคยในประสิทธิภาพและความปลอดภยั มานาน แต่เนือ่ งจากการเพาะเลย้ี งไวรัส
ต้องใชค้ วามระมัดระวังมาก ทําให้ผลิตได้ชา้ และมรี าคาแพง วัคซีนทีม่ ใี ชใ้ นปจั จุบนั ได้แก่ วคั ซีนของบรษิ ทั
Sinovac มีประสทิ ธิภาพปูองกนั อาการประมาณ 50-70% ปอู งกันการเสียชีวติ ได้ 100%

3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
1) ความสามารถในการสื่อสาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การทาํ ใบงาน แผนผังความคดิ
๒) ความสามารถในการคดิ
อภิปราย สรุป

3.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๑) ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ
๒) มีวินัย
๓) ใฝุเรียนรู้
4) อยู่อย่างพอเพียง
5) มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน
6) มจี ติ สาธารณะ

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

สาํ นกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๕๕

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ การเรียนรู้ต้งั คาถาม(learning to Question)
1) ใหน้ กั เรียนชมคลิปวดิ ีทัศน์ “วคั ซนี โควดิ มีกป่ี ระเภท”
https://www.youtube.com/watch?v=Dr5HX23gbfU&ab_channel=sukumvithospital
2) แบ่งนกั เรียน ออกเป็นกลุ่มๆละ 3-4 คน คละความสามารถ(เกง่ กลาง ออ่ น)
ขั้นที่ ๒ การเรยี นรแู้ สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง วัคซนี ปูองกันโรคโควิด-19 ในปจั จบุ นั แล้วอภิปรายสรุป
ข้ันที่ ๓ การเรียนรู้เพ่ือสรา้ งองค์ความรู้ (Learning to Construct)
1) นกั เรยี นชว่ ยกันสรุป ชนิดของวัคซีนปอู งกันโรคโควิด-19 โดยเขียนลงในใบงานท่ีแจกให้
ข้ันท่ี ๔ การเรียนรู้เพื่อการส่อื สาร (Learning to Communicate)
1) นักเรียนแตล่ ะกลุม่ สง่ ตวั แทนออกมานาํ เสนอ ชนิดของวัคซีนปูองกันโรคโควดิ -19
ขัน้ ที่ ๕ การเรียนรู้เพ่ือตอบแทนสงั คม (Learning to Service)
1) นักเรียนส่งใบงาน แล้วนําไปติดทป่ี าู ยนิเทศ

6. ส่ือการเรียนรู้
1) คลิปวีดีทศั น์ เร่ือง วคั ซีนโควดิ มกี ี่ประเภท
https://www.youtube.com/watch?v=Dr5HX23gbfU&ab_channel=sukumvithospital
2) ใบความร้ทู ี่ 1 เร่ือง วคั ซีนปูองกันโรคโควดิ -19 ในปัจจุบนั
3) ใบงาน วัคซนี ปูองกนั โรคโควดิ -19 ในปัจจุบัน

7. การวัดและประเมินผล

1. การประเมินตามจุดประสงค/์ ตวั ช้วี ัด

ส่ิงที่ต้องการประเมิน วิธกี ารประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
- ใบงาน - ผ่านการประเมินคะแนน
๑. ด้านความรู้ (K) - ตรวจความถกู ต้อง -ใบความรู้ รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป

- ความรู้ - แบบสงั เกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)
พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดับดีเยีย่ ม
- ความเขา้ ใจ ทาํ งานเป็นกลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดับดมี าก
คะแนน 5 – 6 ระดบั ผ่าน
- มโนทัศน์ คะแนน 0 – 4 ระดบั ปรบั ปรงุ

๒. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) - การสังเกต

- ทักษะการคดิ (วเิ คราะห์

สังเคราะห์ สื่อสาร)

- ทักษะการทํางานกล่มุ

สํานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๑๕๖

ส่งิ ท่ีตอ้ งการประเมิน วธิ กี ารประเมิน เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน

3. สมรรถนะสาํ คัญของผู้เรยี น - การสังเกต - แบบบนั ทึก เกณฑ์การประเมนิ
การสงั เกต คะแนน 57 – 75 ระดบั ดมี าก
- ความสามารถในการสื่อสาร คะแนน 38 – 56 ระดบั ดี
คะแนน 19 – 37 ระดับพอใช้
- ความสามารถในการคิด คะแนน0 – 18 ระดบั ปรบั ปรงุ

- ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

- ความสามารถในการใช้ทักษะ

ชวี ติ

- ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

4. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - การสงั เกต - แบบบันทึก เกณฑ์การประเมิน
การสงั เกต ดมี าก = 42 – 54 คะแนน
(A) ดี = 28 – 41 คะแนน
พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ซื่อสัตยส์ จุ รติ ปรบั ปรุง = 0 – 13 คะแนน

- มีวินัย

- ใฝุเรยี นรู้

- อยู่อย่างพอเพยี ง

- มงุ่ มัน่ ในการทํางาน

- มจี ิตสาธารณะ

8. ความคิดเห็นของผู้บรหิ าร
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................................

ลงชอ่ื
(......................................................................)

ผอู้ าํ นวยการโรงเรียน................................................

สํานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๕๗

9. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจดั การเรียนรู้
นกั เรียนจํานวน .............................. คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้โดยรวม ................. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนรโู้ ดยรวม.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.....................
ได้แก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรียนทมี่ ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นักเรยี นทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านความรู้ (K) จาํ นวน ............ คน ได้แก่
...................................................................................................................... ......................................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นการประเมินจุดประสงค์ด้านทกั ษะ (P) จาํ นวน ............ คน ได้แก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ จุดประสงค์ดา้ นเจตคติ (A) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปญั หา/อปุ สรรค
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงชือ่
(......................................................................)

ตาํ แหนง่ ครู โรงเรียน ..............................................

สาํ นักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ๑๕๘

ภาคผนวก

 ใบงาน
 ใบความรู้
 แบบประเมินผลและการสะท้อนผล

สาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๑๕๙

ใบงานท่ี 1
ให้นกั เรียนช่วยกนั ศกึ ษา วัคซนี ปอู งกันโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน จากใบความรู้ ท่ี 1 แล้วช่วยกัน
เขียนสรุป วคั ซีนปอู งกันโรคโควดิ -19 ในปจั จบุ ันลงในกรอบที่กาํ หนดให้ (เขียนตวั บรรจง อ่านง่าย
สวยงาม)

ชอ่ื กล่มุ .....................................................................................................
สมาชกิ
1................................................................................................................................................
2...............................................................................................................................................
3…………………………………………………………………………………………………………………………….…..
4…………………………………………………………………………………………………………………………………

สํานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ๑๖๐

ใบความร้ทู ี1่ วคั ซนี ปอ้ งกันโรคโควิด-19 ในปัจจบุ ัน

วัคซนี ป้องกนั โรคโควิด-19 ในปจั จบุ นั มี 4 ชนดิ ด้วยกัน ได้แก่
1. วคั ซนี ชนิดสารพนั ธุกรรม ไดแ้ ก่ เอ็มอารเ์ อ็นเอ (mRNA) วคั ซีนกลมุ่ นี้ ใช้เทคโนโลยีใหม่

สงั เคราะหส์ ารพันธกุ รรมเอม็ อารเ์ อ็นเอ (messenger RNA: mRNA) ทเี่ ฉพาะเจาะจงกบั เช้อื ไวรัส วัคซนี จะทาํ
หน้าทพี่ า mRNA เขา้ เซลล์ และ กาํ กับใหเ้ ซลลผ์ ลติ สารโปรตีนสไปค์ของเชอื้ ไวรัส ซึ่งโปรตีนน้จี ะกระตนุ้ ระบบ
ภมู ิค้มุ กันของรา่ งกายใหส้ รา้ งแอนตบิ อดีขึน้ มาต่อต้านเชื้อ วัคซีนทม่ี ใี ช้ในปัจจบุ ัน ได้แก่ วัคซีนของบริษทั
Pfizer และ Moderna จากขอ้ มูลในปัจจุบันวัคซีนชนิดนี้มีประสทิ ธภิ าพในการปูองกนั โรคได้ประมาณ 95%
ปอู งกันการปุวยรนุ แรงและปูองกนั การเสียชวี ติ ได้ 100% วัคซนี ของบรษิ ทั Pfizer ควรได้รบั การฉดี 2 เขม็ เข้า
กล้ามเนอ้ื หา่ งกัน 3 สัปดาห์ ส่วน วคั ซีนของบรษิ ัท Moderna ควรได้รับการฉีด 2 เขม็ เข้ากลา้ มเนื้อ หา่ งกัน 4
สปั ดาห์

2. วัคซนี ชนิดใช้ไวรสั เป็นพาหะ (Recombinant viral vector vaccine) วคั ซนี กลมุ่ น้ีใช้
ไวรัสท่สี ามารถตัดแตง่ พนั ธกุ รรม เช่น ไวรัสอะดีโน (Adenovirus) โดยนํามาดดั แปลงพนั ธุกรรมให้ไมส่ ามารถ
แบง่ ตวั ได้ และใส่สารพันธกุ รรมของไวรัสโรคโควิด19 ตดิ ไปดว้ ย เมื่อนํามาฉีด ไวรัสพาหะเหลา่ นีจ้ ะเลยี นแบบ
การติดเชื้อตามธรรมชาติ โดยกระตมุ้ ภูมิคุ้มกนั ทัง้ ระบบใหส้ ร้างแอนติบอดยี ต์ ่อไวรสั โรคโควิด19 ตามสาร
พนั ธุกรรมท่ีใสเ่ ข้าไป อยา่ งไรก็ตามแมว้ า่ จะเป็นวคั ซนี ทไี่ วรัสอะดโี นไม่แบ่งตวั แต่ยงั จดั เปน็ ไวรสั ทมี่ ชี ีวติ เมือ่ เข้า
สรู่ า่ งกาย จึงยังไม่แนะนาํ ใหใ้ ช้ในผ้ทู ม่ี ีภูมคิ มุ้ กนั บกพรอ่ งอยา่ งมาก จนกวา่ จะมีข้อมลู ท่ชี ดั เจนมากกวา่ นี้ ปัจจุบนั
วคั ซีนชนิดนท้ี ใ่ี ชก้ นั แพรห่ ลายมี 4 แบรนด์ ได้แก่ ไวรสั อะดีโนของชมิ แพนซี (Chimpanzee adenovirus) โดย
บรษิ ทั Astra Zeneca มปี ระสิทธภิ าพปูองกนั อาการประมาณ 70-80% ปอู งกนั การเสียชีวิตได้ 100%,
ไวรัสอะดีโนของมนุษยส์ ายพันธ์ุ5 (Human adenovirus type 5) โดยบรษิ ัท CanSinoBio มปี ระสิทธิภาพ
ปอู งกนั อาการประมาณ 60%, ไวรัสอะดโี นของมนุษย์สายพนั ธุ์ 26 (Human adenovirus type 26) โดย
บริษัท Johnson and Johnson มปี ระสทิ ธภิ าพปูองกนั อาการประมาณ 64-72% และไวรัสอะดีโนของมนุษย์
สายพันธุ์ 5 และ 26 (Human adenovirus type 5 and26) โดยบริษัท Gamaleya ของรสั เซีย มี
ประสทิ ธิภาพปูองกันอาการประมาณ 90%

3. วคั ซีนท่ีทําจากโปรตนี ส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein subunit vaccine) วัคซีนทผ่ี ลิตโดย
เทคโนโลยนี ี้ ทั่วโลกมีความคุ้นเคยมานาน เพราะใชใ้ นการผลติ วคั ซีนหลายชนิด เช่น วัคซนี ปอู งกันไข้หวัดใหญ่
วัคซนี ปอู งกนั ไวรสั ตับอักเสบบี เป็นตน้ ผลติ โดยการ สรา้ งโปรตนี ของเชื้อไวรสั ดว้ ยระบบ cell culture, yeast,
baculovirus เปน็ ตน้ แลว้ นาํ มาผสมกับสารกระตนุ้ ภมู ิ เม่ือฉีดเข้าส่รู ่างกายจะกระต้นุ ใหร้ ่างกายสร้างแอนตบี อ
ดีต่อตา้ นโปรตีนสไปคข์ องไวรัสโรคโควิด19 วัคซีนท่มี ีใชใ้ นปจั จุบันคือ วคั ซีนแบรนด์ Novavax ซ่งึ ผลิตจาก
baculovirus และใช้ Matrix M เป็นตวั กระตนุ้ ภมู ิ มปี ระสิทธภิ าพปอู งกันอาการประมาณ 60-90% ปอู งกัน
การเสียชวี ิตได้ 100%

4. วคั ซีนชนดิ เช้อื ตาย (Inactivated vaccine) วัคซีนกลุม่ นีผ้ ลิตโดยนําไวรสั โรคโควดิ 19 มา
เลี้ยงขยายจาํ นวนมาก และนํามาทําให้เชื้อตาย การฉดี วคั ซนี จะกระต้นุ ให้รา่ งกายสรา้ งภูมคิ ุ้มกนั ต่อไวรสั ทุก
สว่ น เสมอื นไดร้ ับเช้ือไวรสั โดยตรงแต่ไมท่ ําให้เกิดโรค เพราะเชื้อตายแลว้ เทคโนโลยีน้เี ป็นวิธที ี่ใช้กับวคั ซนี ตับ
อักเสบเอ โปลิโอชนิดฉีด จงึ มีความคุ้นเคยในประสิทธภิ าพและความปลอดภัยมานาน แต่เนื่องจากการ
เพาะเลี้ยงไวรัสต้องใชค้ วามระมัดระวงั มาก ทําใหผ้ ลติ ไดช้ ้าและมีราคาแพง วคั ซีนทม่ี ีใชใ้ นปัจจุบนั ได้แก่ วัคซนี
ของบริษัท Sinovac มปี ระสิทธิภาพปอู งกันอาการประมาณ 50-70% ปอู งกนั การเสยี ชีวิตได้ 100%

สาํ นกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๖๑

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขที่ ช่ือ – สกลุ คะแนนทไี่ ด้ สรปุ ผล
(๑๐ คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น

๑

๒

๓

๔

๕

๖

๗

๘

๙

๑๐

๑๑

๑๒

๑๓

14

15

16

17

18

19

20

สรปุ

ลงช่ือ.........................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขึ้นไปถอื วา่ ผ่าน

สํานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๖๒

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้ัน.................ภาคเรยี นท.ี่ .........ปกี ารศึกษา..................

คาชแี้ จง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกับพฤติกรรมทีเ่ กิดขึ้นจรงิ

ระดบั การปฏบิ ัติ

ที่ พฤติกรรม เป็นประจํา บางคร้ัง น้อยครัง้ ไม่ทาํ เลย/
ไมช่ ดั เจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหน้าท่ีการงาน
๒ ต้ังใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ่ีได้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แก้ปัญหาในการทาํ งานเม่ือมีอุปสรรค
๕ อดทนเพอื่ ให้งานสําเร็จตามเปูาหมาย
๖ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทํางานให้ดีขน้ึ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมิน
(......................................................)

เกณฑก์ ารประเมิน

ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ

ดเี ย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่ึงต่ํากว่า ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหน่ึงตา่ํ กวา่ ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ตา่ํ กว่า ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

สํานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๖๓

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ชอื่ -นามสกลุ ผเู้ รียน ......................................................................ช้นั ......................... เลขที่ .....................

ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับ

คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน

อันพึงประสงคด์ ้าน ๓๒๑๐

๑. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต 1. ให้ขอ้ มูลท่ถี กู ตอ้ งและเป็นจรงิ ไม่โกหก

2. มวี ินัย 2. ไม่ถือเอาสงิ่ ของหรอื ผลงานของผู้อ่ืนมาเปน็ ของตนเองไม่
3. ใฝ่เรียนรู้ ลกั ขโมย
4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 3. ไม่หาผลประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง ไม่คดโกง

5. มุ่งม่ันในการทางาน 1. ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรียนและ
6. มีจติ สาธารณะ สังคม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ตั ิงาน

3. ปฏิบตั ติ นในกจิ วัตรประจาํ วันโดยไมล่ ะเมิดสทิ ธผิ ูอ้ ืน่

1. ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
ตา่ ง ๆ
2. แสวงหา ศึกษา คน้ ควา้ ความรจู้ ากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ

3. บันทกึ ความรู้วเิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปล่ียนเรียนรู้

1. ใช้ทรพั ย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
รวมทั้งใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม
2. ปฏิบัตติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบมเี หตผุ ล

3. วางแผนการเรียนการทาํ งานบนพ้นื ฐานของความรู้ ขอ้ มลู
ขา่ วสาร มภี ูมิคุ้มกนั ในตัวทด่ี ี
1. ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทาํ งานให้สําเร็จ

2. ทุ่มเททาํ งาน อดทนไม่ย่อทอ้ ตอ่ ปญั หาและอปุ สรรค

3. ปรบั ปรุงพัฒนาการทํางานและผลงานด้วยตนเอง

1. ช่วยเหลอื ผู้อื่น แบ่งปันสิ่งของ อาสาทาํ งานให้ด้วยความ
เตม็ ใจ ไมห่ วังผลตอบแทน
2. เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม

3. ดูแลรักษาสาธารณสมบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ย ความเตม็ ใจ

คะแนน

สรปุ ผลคะแนน

ลงชื่อ..................................................ผปู้ ระเมิน

(....................................................)

สํานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๖๔

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและสมํา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างครัง้ ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ไม่ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรุปเกณฑ์การประเมนิ
 ดมี าก ได้ 42 – 54 คะแนน
 ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
 พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 13 คะแนน

สาํ นักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๖๕

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

ชอ่ื -นามสกลุ ผเู้ รียน ................................................................ชั้น ............................... เลขท่ี .....................
ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั
คะแนน

สมรรถนะท่ปี ระเมนิ ระดับคะแนน สรุปผล
3210
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
1.1 มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ

ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วิธกี ารสือ่ สารที่เหมาะสม
1.4 วิเคราะห์แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล
1.5 เขียนบันทกึ เหตุการณป์ ระจําวนั แล้วเลา่ ให้เพอ่ื นฟังได้

สรปุ ผลการประเมนิ

2. ความสามารถในการคิด
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์
2.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสร้างสรรค์
2.3 สามารถคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการคิดอย่างมีระบบ
2.5 ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาเกี่ยวกบั ตนเองได้

สรปุ ผลการประเมิน

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชญิ ได้
3.2 ใช้เหตผุ ลในการแก้ปัญหา
3.3 เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงในสังคม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการปอู งกันและแก้ไขปัญหา
3.5 สามารถตดั สินใจได้เหมาะสมตามวัย

สรุปผลการประเมิน
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4.1 เรยี นร้ดู ว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทาํ งานกลุ่มรว่ มกบั ผอู้ ื่นได้
4.3 นาํ ความรู้ทไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจําวนั
4.4 จดั การปัญหาและความขดั แย้งไดเ้ หมาะสม
4.5 หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบ

ต่อตนเอง
สรุปผลการประเมนิ

สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๑๖๖

สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ ผล

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3210
5.1 เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวยั
5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์
5.5 มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมนิ

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสมาํ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีไม่ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรปุ เกณฑ์การประเมนิ
 ดมี าก ได้ 57 – 75 คะแนน
 ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
 พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
 ปรับปรุง ได้ 0 – 18 คะแนน

สาํ นักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๑๖๗

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ร้จู ักวคั ซีนโควิด – 19 (COVID-19) เวลา 2 ชว่ั โมง
เร่ือง วัคซีนทางานอยา่ งไร

๑. ผลการเรยี นรู้
1) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจว่าวัคซีนแต่ละชนิดทาํ งานอย่างไร
2) นักเรียนสามารถบอกการทํางานของวัคซีนแต่ละชนดิ ได้
3) นักเรียนนําความรูไ้ ปปรับใช้ในชีวิตประจาํ วนั และสามารถนําความรู้ไปเผยแพร่แกส่ มาชิกในครอบครัว ชุมชน

ได้
2. จุดประสงค์การเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)
1) นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจว่าวคั ซีนแตล่ ะชนิดทํางานอย่างไร
2) นักเรยี นสามารถอธบิ ายการทํางานของวัคซีนที่ใช้ปูองกนั โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา่ 2019 ได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
3) ปฏบิ ัติตามใบงานกิจกรรมเร่ืองการทาํ งานของวัคซีนท่ีใช้ปูองกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า2019 แบบรวมพลัง
ดว้ ยความรับผิดชอบได้
4) สร้าง(ชน้ิ งาน)เรื่องการทาํ งานของวัคซีนท่ีใช้ปูองกนั โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา่ 2019และเผยแพร่ได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
5) ให้ความรว่ มมือกบั กลุ่ม
6) ใฝเุ รยี นรู้
7) เป็นผมู้ คี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและกลมุ่
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)

วคั ซนี COVID-19 ทางานอยา่ งไร
โดยปกติเมื่อเชื้อโรคทกุ ชนิดเข้าสู่รา่ งกาย ร่างกายจะมวี ธิ ีจัดการเชือ้ หลายแบบ หน่งึ ในน้ันคอื เม็ดเลอื ด

ขาวชนิด Macrophage จะกลืนเชอ้ื เข้าไปและท้ิงเศษซากเชือ้ บางสว่ นไวเ้ รยี กวา่ แอนติเจน (Antigen) รา่ งกาย
จะรับรวู้ ่าแอนตเิ จนคอื สงิ่ แปลกปลอมและจะสร้างแอนติบอดี (Antibody) มาจดั การสิ่งแปลกปลอมนั้น รวมถึง
มีเม็ดเลอื ดขาวอีกชนิดหน่ึงท่ีจําว่าเชือ้ โรคนคี้ อื สงิ่ แปลกปลอม ถา้ หากได้รบั เชื้อในอนาคตรา่ งกายจะสามารถ
จดจาํ และจัดการได้ การทาํ งานของวคั ซนี เปน็ ไปในลักษณะเดียวกัน

วคั ซีนป้องกันโควิด-19 จะช่วยกระต้นุ ให้รา่ งกายสร้างภูมคิ ุม้ กันต่อเช้ือไวรสั น้ขี ึ้นมา ช่วยปอ้ งกัน
การติดเชอื้ หากไดร้ ับเชอ้ื ในอนาคต แตต่ ้องใช้เวลาระยะหนงึ่ หลงั ฉีดวคั ซนี รา่ งกายจึงจะสร้างภูมิคมุ้ กนั ข้นึ มา
ได้ การฉดี วคั ซนี ผรู้ ับวคั ซีนยงั ตอ้ งปฏบิ ตั ิตามมาตรการปูองกันโควดิ -19 อย่างเครง่ ครัด เชน่ ใสห่ นา้ กากอนามัย
ลา้ งมอื บ่อย ๆ เว้นระยะห่างทางสังคม เป็นตน้
(https://www.bangkokhospital.com/content/know-well-before-getting-the-covid-19-vaccine)

3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) ความสามารถในการส่ือสาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การอภปิ ราย

สํานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๖๘

๒) ความสามารถในการคดิ
อภิปราย สรุป

3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑) ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
๒) มีวนิ ัย
๓) ใฝุเรียนรู้
4) อยอู่ ย่างพอเพียง
5) ม่งุ ม่ันในการทํางาน
6) มีจติ สาธารณะ

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี ๑ การเรียนรู้ตั้งคาถาม(learning to Question)
1) ใหน้ ักเรียนฟังเพลง
https://www.youtube.com/watch?v=g6lUOSzvxXQ&ab_channel=nuienglish
2) ครูถามนกั เรียนว่ามีใครรู้จักช่ือของ วัคซีน (Vaccine) ท่ีอยู่ในเนื้อเพลงบ้าง ” ช่ือของวัคซีนนั้น

มีกระบวนการทาํ งานอย่างไร
3) แบ่งนักเรียนเปน็ กลุ่มๆละ 4-5 คน

ข้ันท่ี ๒ การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม ชมวิดีทศั น์เกีย่ วกับการทาํ งานของ”วัคซีน (Vaccine)”

ขน้ั ที่ ๓ การเรียนรู้เพ่ือสร้างองคค์ วามรู้ (Learning to Construct)
1) นกั เรยี นแต่ละกลุ่มอภิปรายสรปุ การทํางานของวัคซีนตามความเขา้ ใจ
2) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาใบความรู้เกีย่ วกับการทํางานของ”วัคซีน (Vaccine)” แล้วเขียนแผนภาพ

การทาํ งานลงใน ใบงานท่ี 2
ขั้นท่ี ๔ การเรียนรเู้ พ่ือการส่ือสาร (Learning to Communicate)
1) นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม ส่งตัวแทนออกมานาํ เสนอการทํางานของ”วัคซีน (Vaccine)”ตามความเข้าใจ
2) นักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรทู้ ไี่ ด้รับในการศึกษาครง้ั น้ี
ขนั้ ที่ ๕ การเรยี นรูเ้ พื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service)
1) นกั เรยี นส่งใบงาน แล้วนําไปติดท่ปี ูายนเิ ทศ 1 สัปดาห์แล้วเกบ็ ในแฟูมสะสมงาน

6. สอ่ื การเรยี นรู้
1) https://www.youtube.com/watch?v=1N0-jVxXlPA
2) ใบความรู้
3) ใบงาน

สํานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ๑๖๙

7. การวดั และประเมินผล

1. การประเมินตามจุดประสงค/์ ตัวชว้ี ัด

สิง่ ที่ตอ้ งการประเมนิ วิธกี ารประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
-ใบงาน นักเรียนได้คะแนนร้อยละ ๘๐
๑. ด้านความรู้ (K) -ตรวจความถูกต้อง -ใบความรู้ ขึน้ ไปถือว่าผ่าน

- ความรู้ - แบบสังเกต (คะแนนเต็ม ๑0 คะแนน)
พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดับดีเย่ียม
- ความเขา้ ใจ ทาํ งานเปน็ กลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดับดมี าก
คะแนน 5 – 6 ระดบั ผ่าน
- มโนทศั น์ คะแนน 0 – 4 ระดับปรบั ปรงุ
เกณฑ์การประเมิน
๒. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) - การสงั เกต คะแนน 57 – 75 ระดบั ดีมาก
คะแนน 38 – 56 ระดบั ดี
- ทักษะการคดิ (วิเคราะห์ คะแนน 19 – 37 ระดับพอใช้
คะแนน0 – 18 ระดับปรบั ปรุง
สงั เคราะห์ ส่ือสาร)
เกณฑ์การประเมนิ
- ทักษะการทาํ งานกลุ่ม ดีมาก = 42 – 54 คะแนน
ดี = 28 – 41 คะแนน
3. สมรรถนะสําคญั ของผเู้ รยี น - การสังเกต - แบบบันทกึ พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร การสงั เกต ปรบั ปรงุ = 0 – 13 คะแนน
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการ - แบบบันทึก
แก้ปัญหา การสงั เกต
- ความสามารถในการใช้ทักษะ
ชวี ิต
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

4. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - การสงั เกต
(A)
- ซ่อื สัตย์สจุ ริต
- มีวินยั
- ใฝุเรียนรู้
- อย่อู ย่างพอเพยี ง
- ม่งุ ม่ันในการทาํ งาน
- มีจิตสาธารณะ

8. ความคิดเห็นของผบู้ รหิ าร

................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................. ......................................................................... ..........

ลงช่ือ
(......................................................................)

ผู้อํานวยการโรงเรียน................................................

สาํ นักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๗๐

9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจัดการเรียนรู้
นักเรียนจาํ นวน .............................. คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้โดยรวม ................. คน คิดเปน็ ร้อยละ ...................
ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรโู้ ดยรวม.............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.....................
ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นักเรียนทมี่ ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ จดุ ประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จาํ นวน ............ คน ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นท่ไี มผ่ ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ดา้ นทักษะ (P) จํานวน ............ คน ได้แก่
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................. ...........................................................................
นักเรียนที่ไมผ่ ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านเจตคติ (A) จํานวน ............ คน ได้แก่
........................................................................................................ ....................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปัญหา/อุปสรรค
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงช่อื
(......................................................................)

ตําแหนง่ ครู โรงเรยี น ..............................................

สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ๑๗๑

ภาคผนวก

 ใบงาน
 ใบความรู้
 แบบประเมินผลและการสะท้อนผล

สาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๗๒

ใบงานที่ 3

ให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ที่ 2 ”วัคซีน (Vaccine)”ทางานอย่างไร แล้ว ช่วยสรุปกระบวนการทางาน
”วัคซีน (Vaccine)”โควิด19 ตามลาดับขั้นตอนให้ถูกต้อง (เขียนตวั บรรจง อา่ นง่าย ระบายสใี ห้สวยงาม)

วัคซีน (Vaccine)”ทางานอย่างไร

ชอื่ กลุม่ .....................................................................................................
สมาชิก
1................................................................................................................................................
2...............................................................................................................................................
3…………………………………………………………………………………………………………………………….…..

สํานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๑๗๓

ใบความรทู้ ี่ 2 ”วคั ซีน (Vaccine)” โควิด19 ทางานอยา่ งไร

สํานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๗๔

สาํ นกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๗๕

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขที่ ช่ือ – สกลุ คะแนนทไี่ ด้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น

๑

๒

๓

๔

๕

๖

๗

๘

๙

๑๐

๑๑

๑๒

๑๓

14

15

16

17

18

19

20

สรปุ

ลงช่ือ.........................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขึ้นไปถอื วา่ ผ่าน

สํานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๗๖

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรยี นท.ี่ .........ปกี ารศึกษา..................

คาชแี้ จง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมทีเ่ กิดขึ้นจรงิ

ระดบั การปฏบิ ัติ

ที่ พฤติกรรม เป็นประจํา บางคร้ัง น้อยคร้งั ไม่ทาํ เลย/
ไมช่ ดั เจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหน้าท่ีการงาน
๒ ต้ังใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ่ไี ด้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แก้ปัญหาในการทาํ งานเม่ือมีอุปสรรค
๕ อดทนเพอื่ ให้งานสําเร็จตามเปูาหมาย
๖ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทํางานให้ดีขน้ึ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมิน
(......................................................)

เกณฑก์ ารประเมิน

ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ

ดเี ย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่ึงต่ํากว่า ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหน่ึงตาํ่ กวา่ ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ํากวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

สํานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๗๗

แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ชอื่ -นามสกลุ ผเู้ รียน ......................................................................ชน้ั ......................... เลขที่ .....................

ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับ

คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน

อันพึงประสงคด์ ้าน ๓๒๑๐

๑. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต 1. ให้ขอ้ มูลท่ถี กู ตอ้ งและเป็นจริง ไมโ่ กหก

2. มวี ินัย 2. ไม่ถือเอาสงิ่ ของหรอื ผลงานของผ้อู ่นื มาเป็นของตนเองไม่
3. ใฝ่เรียนรู้ ลกั ขโมย
4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 3. ไม่หาผลประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง ไม่คดโกง

5. มุ่งม่ันในการทางาน 1. ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรียนและ
6. มีจติ สาธารณะ สังคม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ัติงาน

3. ปฏิบตั ติ นในกจิ วัตรประจาํ วันโดยไมล่ ะเมดิ สิทธิผ้อู นื่

1. ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
ตา่ ง ๆ
2. แสวงหา ศึกษา คน้ ควา้ ความรจู้ ากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ

3. บันทกึ ความรู้วเิ คราะหต์ รวจสอบ แลกเปลย่ี นเรียนรู้

1. ใช้ทรพั ย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
รวมทั้งใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม
2. ปฏิบัตติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบมีเหตุผล

3. วางแผนการเรียนการทาํ งานบนพื้นฐานของความรู้ ขอ้ มลู
ขา่ วสาร มภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี
1. ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทาํ งานให้สาํ เรจ็

2. ทุ่มเททาํ งาน อดทนไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ ปญั หาและอุปสรรค

3. ปรบั ปรุงพัฒนาการทํางานและผลงานด้วยตนเอง

1. ช่วยเหลอื ผู้อื่น แบ่งปันสิ่งของ อาสาทาํ งานให้ด้วยความ
เตม็ ใจ ไมห่ วังผลตอบแทน
2. เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชนและสังคม

3. ดูแลรักษาสาธารณสมบัตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มด้วย ความเตม็ ใจ

คะแนน

สรปุ ผลคะแนน

ลงชื่อ..................................................ผปู้ ระเมิน

(....................................................)

สํานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๗๘

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมาํ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครั้ง ให้ 1 คะแนน

- พฤติกรรมที่ไมป่ ฏบิ ตั ิ ให้ 0 คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ารประเมนิ
 ดีมาก ได้ 42 – 54 คะแนน
 ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
 พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
 ปรบั ปรงุ ได้ 0 – 13 คะแนน

สํานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๗๙

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น

ชือ่ -นามสกุลผู้เรียน ................................................................ช้ัน ............................... เลขท่ี .....................

ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดับ
คะแนน

สมรรถนะที่ประเมนิ ระดับคะแนน สรปุ ผล
3210
1. ความสามารถในการส่ือสาร
1.1 มคี วามสามารถในการรับ – สง่ สาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ

ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วิธกี ารส่อื สารทเี่ หมาะสม
1.4 วเิ คราะห์แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล
1.5 เขยี นบนั ทึกเหตกุ ารณป์ ระจําวนั แล้วเลา่ ให้เพ่ือนฟงั ได้

สรุปผลการประเมิน
2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์
2.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั ตนเองได้

สรปุ ผลการประเมิน

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3.1 สามารถแกป้ ญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่เี ผชญิ ได้
3.2 ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ญั หา
3.3 เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลีย่ นแปลงในสงั คม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้ในการปอู งกันและแกไ้ ขปัญหา
3.5 สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวัย

สรุปผลการประเมิน

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4.1 เรียนรดู้ ว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทํางานกลุม่ รว่ มกบั ผ้อู น่ื ได้
4.3 นาํ ความรู้ทไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจําวนั
4.4 จัดการปัญหาและความขัดแยง้ ไดเ้ หมาะสม
4.5 หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ทสี่ ่งผลกระทบตอ่ ตนเอง

สรุปผลการประเมนิ

สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๘๐

สมรรถนะทปี่ ระเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ ผล

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3210
5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวัย
5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยีไปใชพ้ ัฒนาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์
5.5 มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมาํ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมทไ่ี ม่ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรุปเกณฑ์การประเมิน
 ดมี าก ได้ 57 – 75 คะแนน
 ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
 พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 18 คะแนน

สาํ นักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ๑๘๑

แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 รู้จกั วคั ซีนโควดิ – 19(COVID-19) เวลา 2 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ใครควรไดร้ บั วคั ซีน

๑. ผลการเรียนรู้
1) นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับวัคซีน ที่ตนเองควรได้รับ
2) นักเรียนสามารถให้คําแนะนําแกส่ มาชิกในครอบครัว ชุมชน เก่ยี วกบั การขอรับบริการการฉีดวัคซีน

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1) นักเรียนสามารถบอกไดว้ ่าใครบา้ งที่ควรได้รบั วัคซีน ได้
2) นักเรียนตระหนักถึงอันตราย การเส่ียงต่อโรค ถ้าไม่ฉีดวคั ซีน ได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
3) ปฏิบัติตามใบงานกจิ กรรมเรื่องใครควรได้รบั วัคซีนท่ีใช้ปูองกันโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา่ 2019 แบบรวมพลงั

ด้วยความรับผิดชอบได้
4) สรา้ ง(ชนิ้ งาน)เรื่องใครควรไดร้ ับวัคซีนที่ใชป้ ูองกนั โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา่ 2019 และเผยแพร่ได้
ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
5) ใหค้ วามร่วมมือร่วมกัลป์กลุ่ม
6) ใฝเุ รยี นรู้
7) เปน็ ผู้มีความรับผดิ ชอบต่อตนเองและกลมุ่

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)
รัฐบาลไทยมีนโยบายจัดสรรวัคซนี ใหท้ ุกคนในประเทศไทยบนพ้ืนฐานของหลักการสิทธิมนุษยชน หลัก

จริยธรรมและความเท่าเทียมตามความสมัครใจและไม่มคี า่ ใช้จ่าย
3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) ความสามารถในการส่อื สาร
๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การอภิปราย
๒) ความสามารถในการคิด อภปิ ราย สรุป
3.3 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑) ซื่อสัตย์สจุ รติ
๒) มวี นิ ัย
๓) ใฝุเรยี นรู้
4) อยู่อย่างพอเพยี ง
5) มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน
6) มีจิตสาธารณะ

4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น
1) ความสามารถในการสือ่ สาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา

สาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๘๒

4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้

ขนั้ ท่ี ๑ การเรยี นรตู้ ้ังคาถาม(learning to Question)

1) ทบทวนชนดิ ของวัคซนี กระบวนการทํางานของวัคซนี

2) ครูถามนกั เรยี นวา่ มีใครรู้ว่าควรฉีดใคร ”วัคซีน (Vaccine)”ให้แก่ใครบ้าง

3) ครูถามเกยี่ วกับสมาชิกในครอบครัวของนักเรียน ว่า มใี ครไดฉ้ ดี วัคซีนแล้วบา้ ง

ข้ันท่ี ๒ การเรยี นรูแ้ สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)

1) แบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่มๆละ4-5 คน ชมวิดีทศั นเ์ ก่ียวกับผทู้ ี่ควรได้รบั ”วัคซีน (Vaccine)”

(https://www.youtube.com/watch?v=MFjgMCv2ioU)

ขน้ั ท่ี ๓ การเรยี นรเู้ พ่ือสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct)

1) นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มอภิปรายสรุปวา่ มีใครบ้างท่ีควรได้รบั วคั ซีนตามความเข้าใจ

2) นกั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบความบุคคลท่ีควรได้รบั ”วัคซีน (Vaccine)” แล้วเขียนแผนภาพบุคคลท่ีควร

ได้รับลงใน ใบงานที่ 3

ขั้นที่ ๔ การเรียนรเู้ พ่ือการสื่อสาร (Learning to Communicate)

1) นักเรียนแต่ละกลุ่ม ส่งตัวแทนออกมานําเสนอบุคคลที่ควรฉีดของ”วัคซีน (Vaccine)”และใครบ้างท่ีไม่

สามารถรบั วัคซีนได้ตามความเขา้ ใจ

2) นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรูท้ ไี่ ด้รบั ในการศึกษาครัง้ นี้

ขนั้ ที่ ๕ การเรยี นรเู้ พ่ือตอบแทนสงั คม (Learning to Service)

1) นกั เรียนส่งใบงาน แลว้ นําไปติดทป่ี ูายนเิ ทศ 1 สัปดาหแ์ ล้วเกบ็ ในแฟูมสะสมงาน

6. ส่อื การเรยี นรู้

1) https://www.youtube.com/watch?v=MFjgMCv2ioU

2) ใบงานที่ 3

3) ใบความรู้ท่ี 3

7. การวัดและประเมินผล

1. การประเมินตามจุดประสงค/์ ตวั ชว้ี ดั

สงิ่ ท่ีตอ้ งการประเมิน วธิ ีการประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน

๑. ด้านความรู้ (K) -ตรวจความถูกต้อง -ใบงาน ใบความรู้ - ผา่ นการประเมินคะแนน

- ความรู้ ร้อยละ 80 ข้นึ ไป

- ความเข้าใจ

- มโนทศั น์

๒. ด้านทักษะกระบวนการ (P) - การสงั เกต - แบบสงั เกต (คะแนนเตม็ ๑0 คะแนน)

- ทกั ษะการคดิ (วเิ คราะห์ พฤติกรรมการ คะแนน 9 – 10 ระดับดีเยยี่ ม

สงั เคราะห์ สือ่ สาร) ทํางานเปน็ กลุ่ม คะแนน 7 – 8 ระดบั ดมี าก

- ทักษะการทาํ งานกลุ่ม คะแนน 5 – 6 ระดบั ผา่ น

คะแนน 0 – 4 ระดับปรับปรงุ

สาํ นกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๘๓

ส่งิ ท่ีต้องการประเมิน วธิ กี ารประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน

3. สมรรถนะสาํ คญั ของผู้เรียน - การสงั เกต - แบบบันทึก เกณฑ์การประเมนิ
การสังเกต คะแนน 57 – 75 ระดับดีมาก
- ความสามารถในการสอ่ื สาร คะแนน 38 – 56 ระดบั ดี
คะแนน 19 – 37 ระดบั พอใช้
- ความสามารถในการคดิ คะแนน0 – 18 ระดบั ปรับปรุง

- ความสามารถในการ

แก้ปัญหา

- ความสามารถในการใช้ทักษะ

ชีวิต

- ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

4. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - การสงั เกต - แบบบันทึก เกณฑ์การประเมนิ
การสงั เกต ดีมาก = 42 – 54 คะแนน
(A) ดี = 28 – 41 คะแนน
พอใช้ = 14 – 27 คะแนน
- ซอ่ื สตั ย์สุจรติ ปรบั ปรุง = 0 – 13 คะแนน

- มวี ินยั

- ใฝุเรยี นรู้

- อยู่อยา่ งพอเพียง

- มงุ่ มั่นในการทํางาน

- มีจติ สาธารณะ

8. ความคิดเห็นของผู้บรหิ าร
................................................................................................................................................................................
......................................................................................... .......................................................................................
........................................................................................................................ ........................................................

ลงชอ่ื
(......................................................................)

ผ้อู ํานวยการโรงเรียน................................................

สํานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๘๔

9. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
9.๑ ผลการจดั การเรียนรู้
นกั เรียนจํานวน .............................. คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้โดยรวม ................. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนรโู้ ดยรวม.............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.....................
ได้แก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นกั เรียนทมี่ ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่
๑)…………………………………………………………………………………....................................……
2)…………………………………………………………………………………....................................……
นักเรยี นทไี่ ม่ผ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นความรู้ (K) จาํ นวน ............ คน ได้แก่
..................................................................................................................... .......................................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นทกั ษะ (P) จาํ นวน ............ คน ได้แก่
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
นักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ จุดประสงค์ด้านเจตคติ (A) จํานวน ............ คน ไดแ้ ก่
................................................................................................ ............................................................
............................................................................................................................................................
9.๒ ปญั หา/อปุ สรรค
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
9.๓ กิจกรรมเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................................................... ........
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงชื่อ
(......................................................................)

ตําแหนง่ ครู โรงเรียน ..............................................

สาํ นักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ๑๘๕

ภาคผนวก

 ใบงาน
 ใบความรู้
 แบบประเมินผลและการสะท้อนผล

สาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ๑๘๖

ใบงานที่ 4

ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรทู้ ่ี 3 ใครควรไดร้ บั ”วัคซีน (Vaccine) แล้ว ช่วยสรุปว่าใครบ้างที่ควรได้รับ ”
วัคซีน (Vaccine)”โควิด19 และใครบ้างที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้ (เขียนตัวบรรจง อ่านง่าย ระบายสีให้
สวยงาม)

ใครควรไดร้ บั ”วัคซีน (Vaccine)

ใครไม่สามารถรับวัคซีนได้

ชอื่ กลุ่ม.....................................................................................................
สมาชกิ
1................................................................................................................................................
2...............................................................................................................................................
3…………………………………………………………………………………………………………………………….…..
4…………………………………………………………………………………………………………………………………

สํานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ๑๘๗

ใบความรู้ท่ี 3 ใครควรได้รับ”วัคซีน (Vaccine)”

สํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศกึ ษา” ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๘๘

สาํ นกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๘๙

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขที่ ช่ือ – สกลุ คะแนนทไี่ ด้ สรุปผล
(๑๐ คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น

๑

๒

๓

๔

๕

๖

๗

๘

๙

๑๐

๑๑

๑๒

๑๓

14

15

16

17

18

19

20

สรปุ

ลงช่ือ.........................................ผ้ตู รวจ
(....................................................)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
- นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขึ้นไปถอื วา่ ผ่าน

สํานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 ๑๙๐

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน
ช่ือนักเรยี น..............................................................ช้นั .................ภาคเรยี นท.ี่ .........ปีการศึกษา..................

คาชแี้ จง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมทเี่ กิดขึน้ จรงิ

ระดบั การปฏบิ ัติ

ที่ พฤติกรรม เป็นประจํา บางคร้งั น้อยครั้ง ไม่ทาํ เลย/
ไมช่ ดั เจน
(๓) (๒) (๑)
(๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหน้าที่การงาน
๒ ต้ังใจและเอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติหน้าทท่ี ่ไี ด้รบั มอบหมาย
๓ ทํางานด้วยความเพียรพยายาม
๔ รจู้ กั แก้ปัญหาในการทาํ งานเมื่อมีอปุ สรรค
๕ อดทนเพอื่ ให้งานสําเร็จตามเปาู หมาย
๖ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทํางานใหด้ ีขน้ึ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงชอื่ ..................................................ผู้ประเมิน
(......................................................)

เกณฑก์ ารประเมิน

ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมิน

ดเี ย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหน่ึงต่ํากวา่ ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดขอ้ หนึ่งตํ่ากว่า ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่งึ ตา่ํ กวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

สํานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศึกษา” ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ๑๙๑

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ชอื่ -นามสกลุ ผเู้ รียน ......................................................................ช้นั ......................... เลขที่ .....................

ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับ

คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน

อันพึงประสงคด์ ้าน ๓๒๑๐

๑. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต 1. ให้ขอ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ งและเปน็ จรงิ ไม่โกหก

2. มวี ินัย 2. ไม่ถือเอาส่ิงของหรอื ผลงานของผู้อ่นื มาเป็นของตนเองไม่
3. ใฝ่เรียนรู้ ลกั ขโมย
4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 3. ไม่หาผลประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง ไม่คดโกง

5. มุ่งม่ันในการทางาน 1. ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรียนและ
6. มีจติ สาธารณะ สังคม
2. ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ตั ิงาน

3. ปฏิบตั ติ นในกจิ วัตรประจาํ วันโดยไมล่ ะเมดิ สทิ ธผิ ูอ้ ืน่

1. ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
ตา่ ง ๆ
2. แสวงหา ศึกษา ค้นควา้ ความรจู้ ากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ

3. บันทกึ ความรู้วเิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปล่ียนเรียนรู้

1. ใช้ทรัพย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
รวมทั้งใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
2. ปฏิบัตติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบมเี หตผุ ล

3. วางแผนการเรยี นการทาํ งานบนพ้นื ฐานของความรู้ ขอ้ มลู
ขา่ วสาร มภี มู ิคมุ้ กันในตัวทด่ี ี
1. ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในการทาํ งานให้สําเรจ็

2. ทุ่มเททาํ งาน อดทนไม่ย่อทอ้ ตอ่ ปญั หาและอปุ สรรค

3. ปรบั ปรุงพัฒนาการทํางานและผลงานด้วยตนเอง

1. ช่วยเหลอื ผอู้ ่ืน แบ่งปันสิ่งของ อาสาทาํ งานให้ด้วยความ
เตม็ ใจ ไมห่ วงั ผลตอบแทน
2. เข้าร่วมกิจกรรมท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม

3. ดูแลรักษาสาธารณสมบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ย ความเตม็ ใจ

คะแนน

สรปุ ผลคะแนน

ลงชือ่ ..................................................ผปู้ ระเมิน

(....................................................)

สํานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๙๒

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและสมํา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างครัง้ ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ไม่ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน

สรุปเกณฑ์การประเมนิ
 ดมี าก ได้ 42 – 54 คะแนน
 ดี ได้ 28 – 41 คะแนน
 พอใช้ ได้ 14 – 27 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 13 คะแนน

สาํ นักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ๑๙๓

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ชือ่ -นามสกลุ ผเู้ รียน ................................................................ชั้น ............................... เลขที่ .....................

ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั
คะแนน

สมรรถนะท่ปี ระเมิน ระดับคะแนน สรุปผล
3210
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
1.1 มคี วามสามารถในการรับ – ส่งสาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด

ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วิธีการส่ือสารที่เหมาะสม
1.4 วิเคราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล
1.5 เขยี นบนั ทกึ เหตุการณ์ประจาํ วนั แล้วเล่าใหเ้ พอ่ื นฟงั ได้

สรุปผลการประเมนิ
2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์
2.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
2.4 มคี วามสามารถในการคิดอย่างมีระบบ
2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาเกีย่ วกับตนเองได้

สรุปผลการประเมนิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถแกป้ ญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชญิ ได้
3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปญั หา
3.3 เข้าใจความสมั พนั ธ์และการเปลย่ี นแปลงในสงั คม
3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการปอู งกนั และแก้ไขปัญหา
3.5 สามารถตัดสินใจไดเ้ หมาะสมตามวยั

สรปุ ผลการประเมิน

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
4.1 เรยี นรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั
4.2 สามารถทํางานกล่มุ ร่วมกบั ผูอ้ ่ืนได้
4.3 นําความรูท้ ไ่ี ดไ้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาํ วนั
4.4 จดั การปญั หาและความขัดแย้งได้เหมาะสม
4.5 หลกี เลย่ี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ ี่ส่งผลกระทบต่อตนเอง

สรปุ ผลการประเมิน

สํานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๙๔

สมรรถนะท่ปี ระเมิน ระดบั คะแนน สรปุ ผล
3210
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวยั
5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
5.3 สามารถนําเทคโนโลยีไปใชพ้ ฒั นาตนเอง
5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์
5.5 มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี

สรปุ ผลการประเมิน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและสมา่ํ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิชัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ไี ม่ปฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน

สรปุ เกณฑ์การประเมิน
 ดีมาก ได้ 57 – 75 คะแนน
 ดี ได้ 38 – 56 คะแนน
 พอใช้ ได้ 19 – 37 คะแนน
 ปรบั ปรุง ได้ 0 – 18 คะแนน

สํานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

หลักสตู ร “โควิดศึกษา” ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๙๕

แผนการจัดการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 รู้จกั วคั ซีนโควดิ – 19(COVID-19) เวลา 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การใหบ้ ริการวคั ซีน

๑. ผลการเรียนรู้
1) นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การใหบ้ ริการวัคซีน

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1) นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับการให้บรกิ ารวคั ซีน
2) นักเรียนสามารถบอกข้ันตอนการรบั บริการวัคซีนที่ใช้ปูองกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 ได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
3) ปฏบิ ตั ิตามใบงานกจิ กรรมเร่ืองขนั้ ตอนการรบั บริการวัคซีนท่ีใชป้ ูองกนั โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา่ 2019

แบบรวมพลังด้วยความรับผิดชอบได้
4) สร้าง(ชนิ้ งาน)เรื่องขั้นตอนการรับบริการวคั ซนี ทใี่ ช้ปูองกันโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และเผยแพร่ได้
ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
5) ให้ความรว่ มมือร่วมกัลป์กลุ่ม
6) ใฝเุ รยี นรู้
7) เป็นผู้มคี วามรับผดิ ชอบต่อตนเองและกลมุ่

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้ (K)
8 ข้นั ตอนการฉดี วัคซีนโควิด-19
กระทรวงสาธารณสุข ได้จดั ทํา 8 ขน้ั ตอนการฉดี วัคซีนโควิด-19 ทโ่ี รงพยาบาล ซงึ่ ใช้เวลาเพยี ง 5-7

นาที และ สงั เกตอาการ 30 นาที โดยกอ่ นเข้ารับบรกิ ารผู้เข้ารบั การฉีดวัคซนี จะต้องผา่ นการคัดกรอง วัดไข้
ลา้ งมอื ก่อนเข้ารบั บรกิ าร ซงึ่ ข้นั ตอนต่างๆ มีดังน้ี

ขน้ั ตอนท่ี 1 ผเู้ ขา้ รบั การฉีดวัคซนี จะต้องลงทะเบียน (ทาํ บัตร)
ขน้ั ตอนที่ 2 ผู้เขา้ รับการฉดี วัคซนี จะต้องช่งั น้าํ หนัก วัดความดนั โลหิต
ข้นั ตอนที่ 3 ผู้เข้ารบั การฉดี วัคซีนจะต้องทําการคดั กรอง/ซักประวัติ ประเมนิ ความเสีย่ ง ลงนาม ในใบ
ยนิ ยอมการรับวคั ซนี
ขน้ั ตอนที่ 4 รอฉดี วัคซีน
ขั้นตอนท่ี 5 รบั การฉดี วัคซีน
ขนั้ ตอนท่ี 6 พักสังเกตอาการ 30 นาที และสแกน Line Official account “หมอพร้อม”
ข้นั ตอนท่ี 7 ผ้เู ข้ารับการฉีดวัคซนี ตรวจสอบก่อนกลบั พรอ้ มรับเอกสารการปฏิบัติตัวหลงั ฉีดวคั ซีน
ขน้ั ตอนที่ 8 ประเมินผลความครอบคลุมการฉดี วัคซีนและอาการไม่พงึ ประสงค์ผ่านไลน์ “หมอพร้อม”
ทัง้ น้ี ไลน์ “หมอพร้อม” จะทําการตดิ ตามการฉีดวคั ซนี 1 วนั , 7 วัน และ 30 วัน และใชส้ าํ หรับแจง้ นัดหมาย
การฉดี ครง้ั ที่ 2 พรอ้ มรบั ใบยืนยนั การฉดี วคั ซีนดว้ ย https://www.bangkruaihospital.go.th
3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
1) ความสามารถในการส่ือสาร

๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ
๑.๒ การอภิปราย

สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 2

หลกั สตู ร “โควดิ ศกึ ษา” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ๑๙๖

๒) ความสามารถในการคดิ
อภิปราย สรุป

3.3 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๑) ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ
๒) มวี ินัย
๓) ใฝุเรียนรู้
4) อยู่อยา่ งพอเพียง
5) มุ่งม่ันในการทํางาน
6) มจี ิตสาธารณะ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขัน้ ท่ี ๑ การเรยี นรู้ตัง้ คาถาม(learning to Question)
1) ทบทวนบุคคลที่ควรได้รับวคั ซนี และบุคคลที่ไม่สามารถรับวัคซีนจากท่ีเคยเรยี นมาแล้ว
2) ครูถามนกั เรียนว่าเราสามารถรับบริการวัคซีนที่ใด และมีข้ันตอนการรับวัคซีนอย่างไร
ขนั้ ท่ี ๒ การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
1) แบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่มๆละ4-5 คน ชมวิดีทัศน์เกี่ยวกบั ขนั้ ตอนการรบั บรกิ าร”วัคซีน (Vaccine)”
ข้นั ท่ี ๓ การเรยี นรู้เพื่อสรา้ งองค์ความรู้ (Learning to Construct)
1) นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปขัน้ ตอนการรบั บริการวัคซีนจากการชมวิดีทศั น์
2) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มตัดบตั รคาํ กิจกรรมการรับบริการวัคซีน เรียงตามลําดับ 8 ขั้นตอนลงในใบงานท่ี5
ขน้ั ที่ ๔ การเรียนรู้เพื่อการสอื่ สาร (Learning to Communicate)
1) นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม สง่ ตัวแทนออกมานาํ เสนอข้นั ตอนการรับบริการฉดี ของ”วัคซีน (Vaccine)”
2) นกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรทู้ ีไ่ ด้รบั ในการศกึ ษาครั้งนี้
ขนั้ ที่ ๕ การเรยี นรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service)
1) นกั เรยี นส่งใบงาน แลว้ นําไปตดิ ท่ีปาู ยนิเทศ

6. สอ่ื การเรยี นรู้
1) https://www.youtube.com/watch?v=BRzskzqBO3A
2) https://www.youtube.com/watch?v=tPDHwzonLzM
3) ใบงานที่ 5
4) บัตรคําขั้นตอนการรับบริการวัคซนี

สํานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2