หลักสูตรระดบั ชัน้ เรียน
โรงเรียนองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั เชยี งราย
พทุ ธศกั ราช ๒๕6๕
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรบั ปรุง2561)
รายวชิ า ว๒1๑๐๓ (วทิ ยาศาสตร์ ๒)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑
ช่อื ครผู สู้ อน
นางสุกฤตา ดวงสขุ
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั เชียงราย
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่นิ
กระทรวงมหาดไทย
โครงการสอน (Course Outline)
สาระการเรยี นร้รู ายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ 2 รหัส ว 21103
ครผู สู้ อน นางสุกฤตา ดวงสุข
ระดับช้นั
ประถมศกึ ษาปีท่ี ……. มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 / 2565
ลกั ษณะวิชา
สาระพ้ืนฐาน สาระเพ่มิ เตมิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น อืน่ ๆ
1) คำอธิบายรายวชิ า ( ภาคเรยี นที่ 2 )
ศึกษาและทดลอง สืบค้นข้อมูล อธิบายและวิเคราะห์นิยามของอุณหภูมิและความร้อน การวัดและ
การบอกขนาดของอุณหภูมิ กระบวนการถ่ายโอนความร้อน ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และ
สถานะของสสาร สมดุลความร้อน การดูดกลืนและคายความร้อนของสสาร การขยายตัวเชิงความร้อนของ
สสาร ระบบบรรยากาศของโลก องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ การเปลี่ยนแปลงของน้ำในอากาศ ลมฟ้า
อากาศ การเปลีย่ นแปลงของสภาพอากาศ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ การสบื เสาะหาความรู้ การ
สืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสอ่ื สารสิ่งที่เรยี นรู้และนำความรู้ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิต ประจำวนั มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม
และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม
2) ตวั ช้วี ดั รายภาค ( ภาคเรยี นท่ี 2 )
ตัวช้วี ัดรายภาค ความสอดคลอ้ ง
กับหลกั สตู ร
1. วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปริมาณความร้อนท่ีทำให้สสารเปลยี่ นอุณหภูมิ แกนกลาง
และ เปลยี่ นสถานะ โดยใช้สมการ Q = mc∆T และ Q = mL ว 2.3 ม.1/1
2. ใชเ้ ทอรม์ อมเิ ตอร์ในการวัดอณุ หภมู ิของสสาร
ว 2.3 ม.1/2
3. สร้างแบบจำลองท่อี ธบิ ายการขยายตัวหรอื หดตวั ของสสาร เนอ่ื งจากได้รับหรอื สญู เสียความ ว 2.3 ม.1/3
รอ้ น ว 2.3 ม.1/4
4. ตระหนักถึงประโยชนข์ องความรู้ของการหดและขยายตวั ของสสารเนื่องจากความรอ้ น โดย ว 2.3 ม.1/5
วิเคราะห์ สถานการณป์ ญั หา และเสนอแนะวิธกี ารนำความรู้มาแกป้ ญั หาในชีวติ ประจำวัน
5. วิเคราะหส์ ถานการณก์ ารถา่ ยโอนความร้อน และคำนวณปริมาณความร้อนทีถ่ า่ ยโอนระหว่าง
สสาร จนเกดิ สมดุลความรอ้ น โดยใช้สมการ Q สูญเสยี = Q ไดร้ บั
ตวั ชวี้ ัดรายภาค ความสอดคลอ้ ง
กับหลกั สตู ร
6. สร้างแบบจำลองที่อธบิ ายการถ่ายโอนความร้อน โดยการนำความรอ้ น การพาความร้อน การ แกนกลาง
แผร่ งั สี ความรอ้ น ว 2.3 ม.1/6
7. ออกแบบ เลอื กใช้และสร้างอุปกรณ์ เพื่อแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวนั โดยใช้ความรู้เกี่ยวกบั การ
ถ่ายโอน ความรอ้ น ว 2.3 ม.1/7
8. สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการแบง่ ชนั้ บรรยากาศ และเปรยี บเทยี บประโยชน์ของบรรยากาศ
แต่ละช้ัน ว 3.2 ม.1/1
9. อธบิ ายปัจจัยที่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศจากขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้
10. เปรียบเทยี บกระบวนการเกดิ พายุ ฝนฟา้ คะนองและพายุหมนุ เขตร้อน และผลทีม่ ตี อ่ ว 3.2 ม.1/2
สิ่งมชี วี ติ และสิ่งแวดลอ้ ม รวมทัง้ นำเสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนให้เหมาะสมและปลอดภยั ว 3.2 ม.1/3
11. อธิบายการพยากรณอ์ ากาศ และพยากรณอ์ ากาศอยา่ งงา่ ยจากขอ้ มลู ท่รี วบรวมได้
12. ตระหนกั ถึงคุณค่าของการพยากรณ์อากาศ โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบัตติ นและการใช้ ว 3.2 ม.1/4
ประโยชน์จากคำพยากรณ์ อากาศ ว 3.2 ม.1/5
13. อธิบายสถานการณ์และผลกระทบการเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศโลกจากขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้
14. ตระหนกั ถงึ ผลกระทบของการเปล่ยี นแปลงภูมิอากาศโลกโดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ัติตน ว 3.2 ม.1/6
ภายใต้การเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศโลก ว 3.2 ม.1/7
3) เน้ือหาวชิ า เนอื้ หาการสอน
ภาคเรยี นที่ 2 1. นิยามของอณุ หภูมิและความรอ้ น
2. การวัดและการบอกขนาดของอุณหภมู ิ
ระยะเวลา -ชนิดของเทอรม์ อมิเตอร์
เนือ้ หาการเรยี นก่อนสอบกลางภาค – สอบกลางภาค - การใช้เทอรม์ อมเิ ตอร์วัดอณุ หภูมิอย่างถกู วธิ ี
- หนว่ ยของอุณหภมู ิ
-การแปลงหนว่ ยของอุณหภูมิ
3. กระบวนการถ่ายโอนความร้อน
-การนำาความร้อน
-การพาความร้อน
ระยะเวลา เนอ้ื หาการสอน
เน้อื หาการเรยี นหลังสอบกลางภาค – สอบปลายภาค -การแผ่รังสีความร้อน
-การถ่ายโอนความร้อนในชีวติ ประจำาวัน
4. ความร้อนกบั การเปลย่ี นแปลงอณุ หภมู ิ และสถานะของ
สสาร
-ความรอ้ นกบั การเปลีย่ นแปลงอุณหภูมขิ องสสาร
-ความรอ้ นกบั การเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร
5. สมดุลความร้อน
6. การดูดกลนื และคายความร้อนของสสาร
-ปัจจยั ที่มีผลตอ่ การดูดกลืนและคายความร้อนของสสาร
-การดดู กลนื และคายความร้อนในชีวติ ประจำาวัน
7. การขยายตัวเชิงความร้อนของสสาร
-การขยายตัวเชงิ ความรอ้ นในชีวิตประจำาวัน
- การขยายตวั เชิงความร้อนของของแข็ง
- การขยายตวั เชงิ ความร้อนของของเหลว
- การขยายตัวเชงิ ความรอ้ นของแกส๊
1. ระบบบรรยากาศของโลก
2. องคป์ ระกอบของลมฟ้าอากาศ
3. การเปลีย่ นแปลงของนำ้ ในอากาศ
4. ลมฟา้ อากาศ
5. การเปลยี่ นแปลงของสภาพอากาศ
4) วิธีการวดั ผลประเมนิ ผล
สดั สว่ นคะแนนการวดั ผลประเมนิ ผล = คะแนนประเมินตามสภาพจริง
( 80 คะแนน ) : คะแนนสอบ ( 20 คะแนน )
การวัดตวั ชี้วัดรายภาค
ภาคเรยี นท่ี ตวั ชวี้ ัดรายภาคทต่ี ้องการวัด (ข้อท)ี่
1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
5) รายละเอยี ดการเกบ็ คะแนน
ภาคเรียนท่ี 2
การเก็บคะแนนก่อนสอบกลางภาค (ประเมินตามสภาพจรงิ ) : 40 คะแนน
ตวั ชี้วัดรายภาคท่ีตอ้ งการวดั (ข้อท)ี่ วธิ ีการวดั คะแนน
40
1,2,3,4,5,6,7 - ใบงาน Thinking Tools เรอ่ื ง อุณหภมู ิ
คะแนน
และความรอ้ น 10
การเกบ็ คะแนนสอบกลางภาค (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) : 10 คะแนน คะแนน
30
ตวั ช้วี ัดรายภาคท่ตี ้องการวัด(ขอ้ ที่) วธิ ีการวดั
คะแนน
1,2,3,4,5,6,7 แบบทดสอบ เรอื่ ง อณุ หภูมแิ ละความร้อน 20
การเก็บคะแนนหลังสอบกลางภาค (ประเมินตามสภาพจรงิ ) : 30 คะแนน
ตัวช้ีวัดรายภาคทต่ี อ้ งการวัด(ขอ้ ท่ี) วิธีการวัด
8,9,10,11,12,13,14 - ใบงาน Thinking Tools เร่อื ง บรรยากาศ
การเกบ็ คะแนนสอบปลายภาค (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) : 20 คะแนน
ตัวชี้วัดรายภาคท่ีต้องการวัด (ข้อ วธิ กี ารวดั
ท)่ี
8,9,10,11,12,13,14 - แบบทดสอบ เรอื่ ง บรรยากาศ
คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน
ว21103 วิทยำศำสตร์ 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 1 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ศึกษาและทดลอง สืบค้นข้อมูล อธิบาย วิเคราะห์ และสร้างแบบจาลองที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง
ความดันอากาศกับความสูงจากพื้นทะเล นิยามของอุณหภูมิและความร้อน การวัดและ การบอก
ขนาดของอุณหภูมิ กระบวนการถ่ายโอนความร้อน ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และสถานะของ
สสาร สมดุลความร้อน การดูดกลืนและคายความร้อนของสสาร การขยายตัวเชิงความร้อนของสสาร ระบบ
บรรยากาศของโลก องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ การเปลี่ยนแปลงของน้าในอากาศ ลมฟ้าอากาศ การ
เปล่ียนแปลงของสภาพอากาศ
เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ การสืบเสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มูล การสงั เกต การวิเคราะห์
การทดลอง การอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไป
ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม
ตัวช้ีวัด
ว 2.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7
ว 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7
รวมทง้ั หมด 14 ตัวชี้วัด
โครงสร้ำงรำยวิชำพื้นฐำน
รำยวิชำ ว21103 วิทยำศำสตร์ 2
ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 1 เวลำ 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
อตั รำส่วนคะแนน 80 : 20
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หน่วย มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ เนอื้ หำสำระ เวลำ นำ้ หนกั ภำระงำน/
กำรเรียนรู้ ตัวชี้วัด (ชัว่ โมง) คะแนน ชิ้นงำน
- เครือ่ งมอื
1 อณุ หภูมิและ ว 2.3 ม.1/1, ม.1/2, - อุณหภมู ิและความรอ้ น 26 35 การสอนคิด
- แบบ
ความรอ้ น ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, - ชนดิ ของเทอร์โมมิเตอร์ ทดสอบ
ม.1/6, ม.1/7 - หน่วยของอุณหภมู ิ
- การเปล่ียนแปลงหนว่ ยของ
อณุ หภูมิ
- การถา่ ยโอนความร้อน
- การนาความรอ้ น
- การพาความรอ้ น
- การแผ่รังสคี วามรอ้ น
- ความรอ้ นกับการ
เปลี่ยนแปลงอุณหภมู ิของสาร
- การถา่ ยโอนความร้อนใน
ชีวติ ประจาวนั
- ความร้อนกบั การเปล่ยี น
สถานะของสสาร
- ประโยชน์ของการ
เปล่ียนแปลงสถานะของสสาร
- อณุ หภมู กิ บั การเปลยี่ น
สถานะของน้า
- ปฏบิ ัติการอุณหภูมิกบั การ
เปล่ียนสถานะของนา้
- สมดุลความรอ้ น
- การดดู กลืนและคายความ
ร้อน
- การขยายตัวเชงิ ความรอ้ น
ของสสาร
- การทดลองพลังงานความ
รอ้ นกับการขยายตัวของวัตถุ
ลำดับท่ี ช่ือหน่วย มำตรฐำนกำรเรยี นร้/ู เน้อื หำสำระ เวลำ นำ้ หนัก ภำระงำน/
กำรเรยี นรู้ ตัวช้วี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน ชนิ้ งำน
- การขยายตัวของแก๊สเมอื่ 45 - เครอื่ งมอื
การสอนคดิ
ได้รับความร้อน 80
20 - แบบ
2 บรรยากาศ ว 3.2 ม.1/1, ม.1/2, - ระบบบรรยากาศของโลก 33 100 ทดสอบ
ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, - การแบง่ ชนั้ บรรยากาศ
ม.1/6, ม.1/7 - ประโยชน์และความสาคญั
ของบรรยากาศ
- อุณหภมู ิอากาศ
- ความดันอากาศ
- ความช้ืน
- การเกิดฝน
- หยาดน้าฟ้า
- ประเภทและชนดิ ของลม
- พายุ
- ผลของพายตุ ่อสิ่งมีชวี ิตและ
สง่ิ แวดลอ้ ม
- การพยากรณ์อากาศ
- ปัจจยั ทีเ่ ก่ยี วข้องกบั การ
เปลีย่ นแปลงสภาพอากาศ
- ปรากฏการณ์เอลนโี ญลานีญา
- การเปล่ยี นแปลงภมู อิ ากาศ
โลก
- ผลกระทบจากการ
เปลย่ี นแปลงภูมิอากาศโลก
- รโู หว่โอโซน
- มลพษิ ทางอากาศ
- ฝนกรด
- ปรากฏการณเ์ รือนกระจก
รวม 59
ปลำยภำค 1
รวมทง้ั หมด 60
ว21103 วิทยำศำสตร์ 2
ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 1
เวลำ 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ 1 หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี 2
อุณหภมู แิ ละควำมร้อน บรรยำกำศ
- อุณหภมู แิ ละความรอ้ น -. ระบบบรรยากาศของโลก
- ชนดิ ของเทอร์โมมเิ ตอร์ - การแบ่งช้ันบรรยากาศ
- หนว่ ยของอณุ หภูมิ - ประโยชนแ์ ละความสาคญั ของบรรยากาศ
- การเปลีย่ นแปลงหนว่ ยของอณุ หภมู ิ - อุณหภมู อิ ากาศ
- การถ่ายโอนความร้อน - ความดันอากาศ
- การนาความร้อน - ความช้นื
- การพาความร้อน - ความชื้นสมั บรู ณแ์ ละความชน้ื สัมพัทธ์
- การแผ่รงั สคี วามร้อน - การเกิดฝน
- ความรอ้ นกบั การเปล่ยี นแปลงอณุ หภมู ขิ องสาร - หยาดน้าฟ้า
- การถา่ ยโอนความรอ้ นในชวี ิตประจาวัน - ประเภทและชนิดของลม
- ความร้อนกับการเปลยี่ นสถานะของสสาร - พายุ
- ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร - ผลของพายตุ ่อสิ่งมชี ีวิตและสงิ่ แวดล้อม
- อุณหภมู ิกับการเปล่ียนสถานะของน้า - การพยากรณ์อากาศ
- ปฏบิ ตั ิการอุณหภมู ิกับการเปลี่ยนสถานะของนา้ - ปัจจัยทเี่ กี่ยวข้องกับการเปลยี่ นแปลงสภาพอากาศ
- สมดุลความร้อน - ปรากฏการณเ์ อลนโี ญ ลานีญา
- การดูดกลืนและคายความร้อน - การเปลยี่ นแปลงภูมอิ ากาศโลก
- การขยายตัวเชงิ ความร้อนของสสาร - ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงภมู อิ ากาศโลก
- การทดลองพลังงานความร้อนกบั การขยายตัวของวตั ถุ - รโู หวโ่ อโซน
- การขยายตัวของแกส๊ เมื่อไดร้ ับความร้อน - มลพิษทางอากาศ
- ฝนกรด
- ปรากฏการณ์เรือนกระจก
แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยยอ่ ยที่ 1
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ อุณหภูมิและความร้อน เวลา 2 ชว่ั โมง
เร่อื ง อุณหภมู แิ ละความรอ้ น ผู้สอน ครูสุกฤตา ดวงสขุ
วนั ท่ีทำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
อณุ หภูมิ คอื ปริมาณความร้อนท่ีบอกระดับความ
มาตรฐาน ว 2.3 ม.1/1 วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และ
รอ้ นของสาร และ ความรอ้ น คอื พลงั งานรปู หนง่ึ ทีส่ ามารถ คำนวณปรมิ าณความร้อนที่ทำใหส้ สารเปลีย่ นอุณหภมู แิ ละเปลย่ี น
ถ่ายเทจากอุณหภมู ิสงู ไปยังอุณหภมู ิตำ่ กว่า สถานะ โดยใชส้ มการ โดยใช้สมการ Q=mc T และ Q=mL
3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้ินงาน / ภาระงาน
อณุ หภมู ิและความรอ้ น
- ใบงาน KWL เร่ืองอุณหภูมแิ ละความรอ้ น
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน - ใบงานตามแนว Pisa เรอ่ื งอุณหภูมิและความร้อน
ความสามารถในการคดิ - แบบทดสอบออนไลน์ เรอ่ื งอุณหภูมแิ ละความร้อน 5 ขอ้
ความสามารถในการแกป้ ญั หา
6. เครื่องมือการสอนคิด
- KWL - Six thinking hats (Yellow hat) , (White hat)
กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. ส่อื 9. วิธีวดั ผล
- ไฟล์ Learn Education - ประเมนิ ใบงาน KWL
7. ข้ันของกิจกรรม เรือ่ งอุณหภูมิและความ เรอื่ งอุณหภมู แิ ละความ
Do Now (3 นาที) ร้อน คาบที่ 1 ร้อน
- Power Point เร่ือง - ประเมินใบงานตาม
บอกกฬี าทีน่ กั เรยี นชอบมาคนละ 1 อยา่ ง โดยหา้ มซ้ำกนั อณุ หภมู แิ ละความรอ้ น แนว Pisa เรือ่ งอุณหภูมิ
Purpose (2 นาท)ี - ใบงาน KWL เรือ่ ง และความร้อน
อณุ หภมู ิและความร้อน - ประเมนิ แบบทดสอบ
เราจะเรียนเร่อื งอณุ หภมู แิ ละความร้อนเพือ่ ใหน้ กั เรียนสามารถบอก - ใบงานตามแนว Pisa
ความหมายอณุ หภมู ิและความรอ้ นได้ เรอ่ื งอุณหภูมแิ ละความ ออนไลน์ เรื่อง อุณหภูมิ
Work mode (110 นาที) รอ้ น
- ห้องเรียนออนไลนเ์ รือ่ ง และความรอ้ น 5 ขอ้
1. นักเรยี นตอบคำถามโดยครูใชค้ ำถามกระตุ้นความคดิ “อณุ หภูมกิ บั ความ อณุ หภมู ิและความรอ้ น
รอ้ นเหมอื นหรอื ตา่ งกนั อย่างไร” (5นาที) (คดิ 2 : คิดเปรียบเทียบ)
2. นกั เรียนทำกจิ กรรม KWL โดยตอบคำถามนักเรียนรอู้ ะไรบา้ งเกีย่ วกับ
อณุ หภมู ิและความรอ้ น ลงชอ่ ง K (Know) ลงในใบงาน KWL เรื่องอณุ หภูมิ
และความร้อน (5นาที)
3. นกั เรยี นทำกิจกรรม KWL โดยตอบคำถามนกั เรยี นอยากรูอ้ ะไรบ้าง
เกีย่ วกบั อณุ หภูมิและความร้อน ลงช่อง W (Want) ลงในใบงาน KWL เรื่อง
อณุ หภมู ิและความร้อน (5นาท)ี
4. นกั เรียนศกึ ษาไฟล์ท่ี 1 เรอ่ื งอณุ หภมู แิ ละความร้อน ผ่านระบบ Learn
Education (พอเพียง3 : การมีภูมคิ ุม้ กนั ทด่ี )ี (35 นาที)
5. นักเรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรยี นออนไลน์ 5ข้อ (5 นาที )
6. นักเรยี นฟงั ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เร่ืองอณุ หภมู แิ ละความรอ้ น โดยใช้สื่อ
Power point ประกอบการสอน (10นาท)ี
กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8. ส่อื 9. วิธวี ดั ผล
7. ข้ันของกจิ กรรม
7. นกั เรียนลงมอื ทำใบงาน KWL โดยบนั ทกึ สงิ่ ทน่ี กั เรยี นไดเ้ รียนรจู้ ากการ
เรียนในครง้ั นี้ โดยบนั ทกึ ลงในช่อง L (Learned) (10 นาที)
8. ตวั แทนนกั เรียนออกมานำเสนอใบงาน KWL เรื่องอณุ หภมู แิ ละความร้อน
(10 นาที)
9. นกั เรียนลงมอื ทำใบงานตามแนว Pisa เรื่องอณุ หภมู ิและความร้อน
(15 นาท)ี
10. นกั เรียนและครูสรุปเช่ือมโยงความรู้เกยี่ วกับเรื่องอุณหภมู แิ ละความ
ร้อน พรอ้ มตอบคำถามดงั น้ี (Six thinking hats) (10นาที)
10.1 อุณหภมู ิ คืออะไร (White hat)
10.2 ความร้อน คืออะไร (White hat)
10.3 ความร้อนมคี วามสำคัญตอ่ สงิ่ มีชวี ติ อย่างไรบา้ ง ? (Yellow hat)
Reflective Thinking (5 นาท)ี
- 1 สิง่ ทีน่ ักเรยี นได้รับจากการเรียนในวันน้ีคอื (3 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ขอ้ (2 นาท)ี
ใบความรู้เรือ่ งอณุ หภมู ิและความร้อน
นยิ ามของอณุ หภมู แิ ละความร้อน
ความรสู้ ึกรอ้ นหรอื หนาวน้ัน เราสามารถคาดการณไ์ ด้จาก ค่าของอุณหภูมิ โดยคา่ ของอุณหภูมิท่ีสงู
จะทำให้เรารูส้ ึกรอ้ น และค่าของงอุณหภมู ทิ ต่ี ำ่ ก็จะทำให้เรารู้สึกเยน็ การรับรนู้ ้ีมบี ทบาทสำคญั ใน
ชวี ิตประจำวันของเราอยา่ งมาก ไม่วา่ จะเปน็ การบอกอณุ หภมู ใิ นหอ้ งปรับอากาศ การวัดอุณหภูมิ
ของรา่ งกายตอนเป็นไข้ เปน็ ตน้ โดยเราเรียกแขนงในวิชาฟิสกิ ส์ที่ศึกษาเรอ่ื งเกีย่ วกับอุณหภูมิและ
ความร้อนว่า “อณุ หพลศาสตร์ (Thermodynamic)” ซึ่งนกฟสิ ิกส์ไดน้ ิยามความหมายของ
อณุ หภูมิและความรอ้ น ดังน้ี
อณุ หภมู ิ คอื ปรมิ าณความร้อนทบี่ อกระดบั ความร้อนของสาร
ความรอ้ น คือพลงั งานรูปหนงึ่ ทีส่ ามารถถ่ายเทจากอณุ หภมู สิ ูงไปยงั อุณหภูมิตำ่ กวา่
ช่อื ..........................................................................ชน้ั ...........เลขท่.ี ........
ใบงาน KWL เร่ืองอุณหภมู ิและความรอ้ น
คำชีแ้ จง นักเรยี นบนั ทกึ ความร้ทู ่ไี ด้ ลงในตารางต่อไปนี้พรอ้ มท้งั เขยี นสรุปลงในบรรทดั ทวี่ า่ ง
ขา้ งล่าง ของแบบบันทกึ
K(นกั เรยี นร้อู ะไร) W(นกั เรยี นตอ้ งการร้อู ะไร) L(นักเรยี นไดเ้ รียนร้อู ะไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………...
เวลา 20 นาที ใบงานตามแนว Pisa
ระบปุ ระเดน็ ทางวทิ ยาศาสตร์
คะแนนเต็ม 5 คะแนน
ชื่อ – สกลุ .............................................................................................ชน้ั .................................
โรงเรยี น...................................................................อำเภอ.......................จงั หวัด.......................
คำชี้แจง
1. ขอ้ สอบชุดนม้ี ถี อ้ ยความใหอ้ ่าน มคี ำถามการอ่านในใจแลความเขา้ ใจการอา่ น 5 ขอ้ จำนวน 2 หนา้
2. การตอบคำถามทกุ ข้อใหท้ ำในชดุ ข้อสอบ
3. ให้นกั เรียนอ่านคำถามทกุ ข้ออยา่ งละเอียดรอบคอบแลว้ ตอบคำถามใหด้ ีทสี่ ุดเท่าที่จะทำได้
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ยี นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน
ปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจำวัน ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณท์ ่ีเก่ยี วขอ้ ง
กบั เสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว2.3 ม.1/1 วิเคราะห์ แปลความหมายขอ้ มลู และคำนวณปริมาณความรอ้ นท่ที ำใหส้ สาร
เปล่ยี นอุณหภูมแิ ละเปลย่ี นสถานะ โดยใช้สมการ โดยใชส้ มการ Q=mc T และ Q=mL
คำถามขอ้ ท่ี 1 จากถอ้ ยความข้างต้น ขอ้ ความตอ่ ไปน้ี เปน็ ความจริง หรอื ไมเ่ ป็นความจรงิ (1คะแนน)
ข้อความ เปน็ ความจริง จงเขยี นเครื่องหมาย Xในชอ่ ง “ใช”่
ขอ้ ความ ไม่เปน็ ความจริง จงเขียนเครื่องหมาย X ในชอ่ ง “ไมใ่ ช่”
ปี ค.ศ. 2009 มีการแพร่ระบาดของไขห้ วัดใหญส่ ายพนั ธใุ์ หมไ่ ปท่ัวโลก ผ้ตู ดิ เช้ือจะมีอาการไข้อย่าง
หนกั และตัวร้อนสูงจนเสียชวี ิตได้ องคก์ ารอนามัยโลก (WHO) รายงานยอดผเู้ สยี ชวี ติ ทว่ั โลกไม่น้อยกว่า
14,142 คน แตล่ ะประเทศจึงมีการตรวจหาคนที่เปน็ ไข้ เพอื่ คดั แยกไม่ให้เกดิ การแพรร่ ะบาดของเช้ือ แต่การ
วัดไขส้ ำหรบั คนจำนวนมากนัน้ โดยใช้ปรอทไมส่ ะดวก สง่ ผลให้อปุ กรณ์ที่ใช้วดั ไขส้ ะดวกกวา่ เช่น กลอ้ ง
ถ่ายภาพความรอ้ น (Thermal imaging camera หรือ Thermal Scanner) จึงถูกนำมาใช้แทน ภาพท่ไี ด้จึงมี
สผี ดิ เพยี้ นจากกลอ้ งธรรมดาทั่วไป
ท่มี า : https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/influenza-prevention
ท่ี ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่
1 องค์การอนามยั โลก มาจากคำว่า World Health Organization (WHO)
2 ปี ค.ศ. 2009 มีการแพร่ระบาดของไข้หวดั นกไปทัว่ โลก
3 กลอ้ งถา่ ยภาพความร้อน (Thermal imaging camera หรอื Thermal Scanner) ถูก
นำมาใชแ้ ทนปรอท ในการตรวจจบั คนทีม่ ีเช้อื ไขห้ วดั ใหญส่ ายพันธุใ์ หม่
4 จากการรายงานในปี ค.ศ.2009 มียอดผ้เู สยี ชีวติ จากเชื้อไข้หวัดมาราเรียไมน่ อ้ ยกว่า
14,142 คน
5 ภาพท่ีได้จากกลอ้ งถา่ ยภาพความรอ้ น จะมีสผี ดิ เพยี้ นไปจากกลอ้ งถา่ ยภาพธรรมดา
คำถามข้อท่ี 2 ขอ้ ใดเป็นหน่วยของการวัดอุณหภูมิ (1คะแนน) ข. กิโลกรัม
ก. เมตร ง. องศาเซลเซียส
ค. วินาที
ข้อ คำตอบ
คำถามขอ้ ท่ี 3 นำ้ อุณหภูมิเท่าใดมคี วามร้อนนอ้ ยทสี่ ดุ (1คะแนน)
ก. 20 °C ข. 40 °C
ค. 60 °C ง. 80 °C
ขอ้ คำตอบ
คำถามข้อที่ 4 ของแข็งเปลีย่ นสถานะเปน็ ของเหลวเรียกวา่ อะไร (1คะแนน)
ก. การระเหย ข. การระเหิด
ค. การหลอมเหลว ง. การควบแนน่
ขอ้ คำตอบ
คำถามขอ้ ท่ี 5 ข้อใดถกู ตอ้ งเกย่ี วกับ อุณหภมู แิ ละความรอ้ นของสาร (1คะแนน)
ก. อณุ หภูมิ คอื ปรมิ าณที่ใชบ้ อกระดับจุดหลอมเหลวของสาร
ข. อุณหภูมิ คอื ปริมาณทใ่ี ชบ้ อกระดับจดุ ควบแนน่ ของสาร
ค. ความรอ้ น คือพลงั งานในรปู แบบหน่งึ ทีส่ ามารถถา่ ยเทจากที่ทมี่ ีอณุ หภมู ิต่ำไปยงั ท่ีท่มี อี ุณหภมู ิสูง
ง. ความร้อน คอื พลังงานในรูปแบบหนึง่ ทีส่ ามารถถ่ายเทจากทีท่ ีม่ อี ุณหภมู ิสูงไปยังท่ีท่มี อี ุณหภมู ติ ่ำ
ขอ้ คำตอบ
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
คำถามขอ้ ท่ี 1
ท่ี ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่
1 องค์การอนามัยโลก มาจากคำว่า World Health Organization (WHO) X
X
2 ปี ค.ศ. 2009 มีการแพรร่ ะบาดของไขห้ วัดนกไปทว่ั โลก X
X X
3 กล้องถา่ ยภาพความร้อน (Thermal imaging camera หรอื Thermal Scanner) ถกู
นำมาใช้แทนปรอท ในการตรวจจับคนท่ีมเี ช้ือไข้หวดั ใหญ่สายพันธ์ใุ หม่
4 จากการรายงานในปี ค.ศ.2009 มียอดผู้เสียชีวติ จากเช้ือไข้หวดั มาราเรยี ไม่น้อยกว่า
14,142 คน
5 ภาพท่ีได้จากกลอ้ งถา่ ยภาพความรอ้ น จะมสี ผี ดิ เพ้ยี นไปจากกล้องถา่ ยภาพธรรมดา
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ตอบถกู 5 คำตอบ ตอบถกู ๐-4 คำตอบ
คำถามขอ้ ที่ 2
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ง. องศำเซลเซียส
คำถามข้อที่ 3
คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไม่มีคะแนน
ก. 20 °C
คำถามขอ้ ท่ี 4
คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ค. กำรหลอมเหลว
คำถามข้อท่ี 5
คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไม่มีคะแนน
ง. ควำมรอ้ น คอื พลงั งำนในรูปแบบหนึ่งที่สำมำรถถำ่ ยเทจำกทีท่ ีม่ ีอณุ หภูมิสงู ไปยงั ทท่ี ม่ี ีอณุ หภูมติ ำ่
การจำแนกสมรรถนะ
ตามแนวการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (PISA)
สมรรถนะ
รูปแบบขอ้ สอบ ข้อท่ี คะแนน ระบปุ ระเด็นทาง อธบิ าย ใช้ประจกั ษพ์ ยาน
วทิ ยาศาสตร์ ปรากฏการณ์ใน ทางวิทยาศาสตร์
เลือกตอบ เชงิ วิทยาศาสตร์
แบบเชงิ ซอ้ น
( 1 คะแนน) 1.1 0.2 X
เลือกตอบ 1.2 0.2 X
แบบปกติ
(4 คะแนน) 1.3 0.2 X
รวมจำนวนข้อ 1.4 0.2 X
1.5 0.2 X
21 X
31
41 X
51 X
55 4 ขอ้ 1 ขอ้ - ขอ้
4 คะแนน 1 คะแนน - คะแนน
แนวขอ้ สอบ O –NET
1.ข้อใดกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ ง
1. อุณหภมู ิ คือ หนว่ ยท่ีใช้วดั ระดบั ความร้อนของสาร
2. พลังงานความรอ้ นสามารถถ่ายโอนจากสสารหน่ึงไปยงั อกี สสารหน่งึ ไดโ้ ดยขน้ึ อยกู่ ับผลต่างของ
อณุ หภูมิ
3. ความร้อนจะถูกถา่ ยเทจากบรเิ วณทม่ี ีอุณหภมู ิต่ำไปยังท่ีที่มีอณุ หภมู ิสูงเสมอ
4. บริเวณทมี่ ีความรอ้ นสูงจะมอี ณุ หภูมิสงู บรเิ วณทีม่ ีความรอ้ นต่ำจะมอี ุณหภูมิสงู
2. พลงั งานความร้อนมีการถ่ายเทอยา่ งไร
1. อุณหภูมิตำ่ ไปยังอณุ หภมู ิสูงเสมอ
2. อุณหภมู สิ ูงไปยงั อุณหภมู ิตำ่ เสมอ
3. จากวัตถุมวลนอ้ ยไปยงั วัตถมุ วลมากเสมอ
4. จากวัตถมุ วลมากไปยงั วัตถมุ วลน้อยเสมอ
ท่มี า : หนังสอื เรียน Learneducation วิทยาศาสตร์ ม.1 . 2560
แบบประเมินใบงาน KWL
คำช้แี จง : ใหผ้ ้สู อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน KWL
ชื่อ นามสกุล การ เน้ือห นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ลำดบั ท่ี ของผู้รบั การ ของผู้รบั การ แสดง า สวยงาม เวลา 20 ประเมิน
ความ คะแนน ผ่าน/ไม่ผา่ น
ประเมนิ ประเมนิ คดิ เห็น
1 ด.ช.รฐนนท์ กนั มูลทา
2 ด.ญ.วชิ ญาดา ตนั๋ ไชยยา
3 ด.ช.อภิเดช ไชยคำ
4 ด.ญ.จริ าภรณ์ คำดา
5 ด.ญ.มนทิราพร ทา้ วเมืองมา
6 ด.ญ.อธิชา ชยั ภมรฤทธ์ิ
7 ด.ช.ชยั อนนั ต์ กาจายา
8 ด.ช.ณัฐวฒุ ิ ทาคุณ
9 ด.ช.ธนดล ประทุมจำปา
10 ด.ช.ธนภทั ร นำบญุ เรือง
11 ด.ช.นนั ธชยั อดุ ใจ
12 ด.ช.นาวนิ บุญย่งิ
13 ด.ช.พัชระพรชยั ค้าไป
14 ด.ช.ศิทธิพฒั น์ ตยุ้ ปอ้
15 ด.ญ.กติ ติญา จองสรุ ียภาส
16 ด.ญ.จิดาภา คำเตอื น
17 ด.ญ.จิดาภา คดิ ดี
18 ด.ญ.ธมิ ากรณ์ สวุ รรณรัตน์
19 ด.ญ.นิตกิ ารต์ ขตั ยิ เสน
20 ด.ญ.พิทยาภรณ์ ใจสวงิ
21 ด.ญ.ภทั รวดี สมศักดิ์
22 ด.ญ.ศศวิ มิ ล คำลน้
23 ด.ญ.ศลิ ินทพิ ย์ แก้วพระอนิ ทร์
24 ด.ญ.อัจฉรา กองค้า
25 ด.ญ.ปญุ ญศิ า จันทร์ปัญญา
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................
นกั เรียนได้ระดับคุณภาพที่ พอใช้ ขึ้นไปถือว่า ผา่ น
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน KWL
เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
การแสดง
ความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง K - แสดงความคิดเห็นในช่อง K - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง K - แสดงความคดิ เห็นในช่อง K
ได้ 10 ขอ้ คำถามข้ึนไป ได้ 9-10 ขอ้ คำถาม ได้ 7-8 ข้อคำถาม ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเห็นในช่อง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง
W ได้ 10 ข้อคำถามขึ้นไป W ได้ 9-10 ข้อคำถาม W ได้ 7-8 ขอ้ คำถาม W ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ
- แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง L - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง L - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง L - แสดงความคดิ เห็นในช่อง L
ได้ 10 ขอ้ คำถามข้ึนไป ได้ 9-10 ขอ้ คำถาม ได้ 7-8 ข้อคำถาม ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
เนอื้ หา - เนอื้ หาครบถว้ นตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่ - เนอื้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เนื้อหาถูกต้องตามสาระที่
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำวา่ 59%
การนำเสนอ - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลักภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
100% 80-99% 60-79% ตำ่ วา่ 59%
ความสวยงาม - ลำดับหัวข้อเน้อื หาชดั เจน - ลำดบั หัวข้อเน้ือหาชดั เจน - มีการสรปุ ไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตสุ มผล
การตรงต่อ - มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% ต่ำว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
เวลา - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - พดู ชดั เจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
อกั ขระ100% อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอักขระต่ำว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมคี วาม - บุคลิกภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
มนั่ ใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ
- มกี ารใชส้ ่ือประกอบการ ไดบ้ างส่วน - ใช้สสี ันสวยงามและมคี วาม - ใชส้ สี ันสวยงามหรอื เปน็ ไป
นำเสนอ สะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอยา่ ง
- ความพร้อมในการนำเสนอ - ใช้สสี ันสวยงาม หนง่ึ
- ใชส้ ีสนั สวยงาม - มคี วามสะอาด สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
- มคี วามสะอาด - มีความคิดสรา้ งสรรค์ เวลาท่ีกำหนด 10 นาที สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ เวลาท่ีกำหนด 15 นาที
- ความเป็นระเบียบอา่ นงา่ ย ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้ากวา่
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม เวลาที่กำหนด 5 นาที
เวลาทก่ี ำหนด
ตอบคำถามถูกต้อง เกณฑก์ ารให้คะแนน PRACQUIZ
ตอบคำถามไมถ่ กู ตอ้ ง เร่อื ง อณุ หภมู ิและความร้อน
1 คะแนน
0 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
5 ดีมาก
3-4 ดี
1-2 พอใช้
0 ปรบั ปรุง
นักเรยี นได้ระดับคณุ ภาพท่ี ดี ข้ึนไปถอื ว่า ผ่าน
แผนจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 หน่วยย่อยท่ี 2
ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ อุณหภมู ิและความร้อน เวลา 1 ชว่ั โมง
เรื่อง ชนดิ ของเทอรม์ อมเิ ตอร์ ผ้สู อน ครูสกุ ฤตา ดวงสุข
วนั ทีท่ ำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ว2.3 ม.1/2 ใช้เทอร์มอมิเตอร์ในการวัดอณุ หภูมิ
เทอรม์ อมิเตอร์นัน้ มดี ้วยกันอยู่หลายชนดิ ส่วนท่ีนิยมใช้กนั ของสาร
อยา่ งแพร่หลาย ไดแ้ ก่ เทอรม์ อมิเตอร์แบบของเหลวในหลอดแกว้
เทอรม์ อมเิ ตอรแ์ บบโลหะคู่ และเทอรม์ อมเิ ตอรแ์ บบดิจทิ ลั
3. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้ 4. ชิน้ งาน / ภาระงาน
ชนิดของเทอร์มอมเิ ตอร์ - ใบงาน Mind Mapping ชนดิ ของเทอร์มอมิเตอร์
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 6. เครอื่ งมอื การสอนคดิ
ความสามารถในการคดิ - Mind Mapping
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - Six thinking hat (Yellow hat) , (White hat)
กิจกรรมการเรียนรู้
7. ขัน้ ของกจิ กรรม 8. ส่ือ 9. วธิ ีวัดผล
- ประเมนิ ใบงาน Mind
Do Now ( 3 นาที ) - ใบความรเู้ ร่ือง ชนิดของ Mapping เร่อื งชนดิ ของ
เทอร์มอมิเตอร์
บอกวิธกี ารดบั ร้อนท่ไี ด้ผลของนกั เรียนมาคนละ 1 อยา่ งโดยห้ามตอบ เทอร์มอมิเตอร์
ซ้ำกัน - ใบงานMind Mapping
Purpose ( 2 นาที ) เร่ืองชนดิ ของเทอรม์ อ
เราจะเรยี นเร่ืองชนิดของเทอรม์ อมิเตอรเ์ พ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถจำแนก มเิ ตอร์
ประเภทของเทอร์มอมิเตอรแ์ ละบอกการใช้เทอร์มอมิเตอรแ์ ต่ประเภทได้ - Power Point เรอื่ งชนดิ
Work mode (50 นาท)ี ของเทอร์มอมเิ ตอร์
1. นกั เรยี นตอบคำถามโดยครูใช้คำถามกระตุน้ ความคดิ “นักเรียนมี - ห้องเรยี นออนไลน์เรื่อง
วิธกี ารวดั ความร้อนในชวี ิตประจำวนั ไดโ้ ดยวิธีใดบา้ ง อย่างไร” วธิ กี ารใชเ้ ทอรม์ อมิเตอร์
(คดิ 1 : คิดวเิ คราะห์) (5 นาท)ี
2. นกั เรยี นศกึ ษาคน้ คว้าจากใบความร้ทู ่ีครูแจกให้ เร่อื งชนิดของเทอร์มอ
มเิ ตอร์ (10 นาที)
3. นักเรียนฟงั ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมเรื่อง ชนิดของเทอรม์ อมเิ ตอรจ์ ากสอื่
Power point ประกอบการสอน (5 นาที)
4. นักเรียนศกึ ษาความรจู้ ากหอ้ งเรยี นออนไลนเ์ พิม่ เตมิ เร่ือง วิธกี ารใช้
เทอร์มอมิเตอร์ (5 นาท)ี
กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. สื่อ 9. วธิ วี ดั ผล
7. ขัน้ ของกจิ กรรม
5. นักเรยี นสรุปความรู้ในรปู แบบแผนผังมโนทศั นล์ งในใบงาน Mind
Mapping เรือ่ งชนดิ ของเทอร์มอมิเตอร์ (15 นาที)
6. นกั เรยี น(ตัวแทนโดยการสุม่ ) ออกมานำเสนอผลงาน Mind Mapping
เร่ืองชนิดของเทอร์มอมเิ ตอร์ (5 นาที)
7. นักเรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั ชนดิ ของเทอร์มอมเิ ตอร์โดยใช้
คำถามดงั น้ี (5นาที)
- เทอรม์ อมเิ ตอร์แต่ละชนิดมีวธิ กี ารใชอ้ ยา่ งไรบ้าง (White hat)
- เทอรม์ อมิเตอร์แต่ละชนดิ มีประโยชนอ์ ย่างไรบ้าง (Yellow hat)
Reflective Thinking (5 นาที)
- 1 ส่งิ ทีน่ กั เรยี นได้รับจากการเรียนในวนั น้ีคอื (3 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ขอ้ (2 นาท)ี
ใบความรู้เร่ืองชนดิ ของเทอรม์ อมิเตอร์
นกั วทิ ยาศาสตรไ์ ดอ้ อกแบบเครือ่ งมอื ที่ช่อื วา่ เทอรม์ อมเิ ตอร์ (Thermometer) ซ่ึงใช้
สำหรับวดั อุณหภมู นิ ่นั เอง เทอร์มอมิเตอร์มดี ้วยกนั อยหู่ ลายชนิด ตัวอย่างเทอรม์ อมิเตอรท์ ่เี รา
นา่ จะคุน้ ตา และนิยมใชก้ นั อย่างแพร่หลาย มีดงั น้ี
1. เทอร์มอมเิ ตอร์แบบของเหลวในหลอดแกว้
มลี ักษณะเป็นหลอดแกว้ โดยมีปลายด้านหนง่ึ เปน็ กระเปาะซง่ึ ภายในบรรจุของเหลวที่มี
คุณสมบตั ิไวต่อการเปล่ยี นแปลงอุณหภูมิเอาไว้ เช่น ปรอท โดยลำปรอทจะขยายตัวขนึ้ เมื่อไดร้ ับความ
รอ้ น และหดตวั เมอื่ ความรอ้ นลดลง โดยเราสามารถอ่านค่าอุณหภมู ไิ ดจ้ ากสเกลบนหลอดแก้ว ณ
ตำแหนง่ ที่ปรอทดันตัวถึง
แตป่ รอทเปน็ อนั ตรายต่อมนษุ ย์ จึงมกี ารใช้ของเหลวอืน่ ทม่ี ีคณุ สมบตั ิไวตอ่ การเปลย่ี นแปลง
อุณหภูมเิ ช่นเดียวกบั ปรอท คอื แอลกอฮอล์ ซึง่ ปลอดภัยกวา่ เพราะเป็นพษิ น้อยกว่า และหากเราพลาด
ทำหลอดแกว้ แตกเจ้าแอลกอฮอล์จะระเหยหายไปอยา่ งรวดเรว็ ตา่ งจากปอดท่ีจะคงสภาพเปน็
ของเหลวที่แสนอันตรายและไมห่ ายไปไหน
2. เทอร์มอมิเตอร์แบบโลหะคู่
สรา้ งจากโลหะ 2 ชนิดทีม่ อี ัตราการขยายตวั เม่อื โดนความร้อนไมเ่ ท่ากัน เช่นเหลก็ กล้ากบั
ทองแดง มาตอกหรอื เช่อื มติดกนั เป็น “แผน่ โลหะคู่” เมอื่ ไดร้ ับความรอ้ นทองแดงจะขยายตวั มากกวา่
เหลก็ กลา้ ทำใหแ้ ผ่นโลหะคนู่ ี้เกิดการโกง่ โค้ง
ดงั น้ันถ้าเราเอาแผน่ โลหะคูน่ ้มี าขดเป็นวง โดยให้ปลายด้านหนง่ึ ติดไวก้ บั เขม็ สว่ นปลายอกี
ด้านยึดไว้ตรงกลาง เท่านเี้ รากส็ ามารถสร้างหนา้ ปัดบอกค่าอณุ หภมู แิ บบเขม็ ได้ ซึง่ เทอร์มอมเิ ตอรช์ นดิ
นน้ี ยิ มใช้ในเคร่ืองมือท่เี กย่ี วกับอาหาร เช่นใชบ้ อกอณุ หภูมขิ องเตาอบ หม้อไอนำ้ น้ำมนั ในกระทะ เปน็
ต้น
3. เทอร์มอมิเตอรแ์ บบดิจิตอล
เป็นเทอร์มอมิเตอร์ที่สร้างจากวสั ดุทีม่ ีคณุ สมบตั ิเกิดการเปลีย่ นเเปลงทางไฟฟา้ เมือ่ อุณหภมู ิ
เปล่ียน โดยเทอรม์ อมิเตอรป์ ระเภทนจ้ี ะเป็นอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่ีใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ในการให้
พลงั งานและแสดงค่าของอณุ หภูมิเป็นตัวเลขแบบดจิ ติ อล
การใชเ้ ทอร์โมมิเตอรว์ ดั อณุ หภมู ิอย่างถกู วิธี
1. จมุ่ เทอรโ์ มมิเตอรล์ งในของเหลวทีเ่ ราตอ้ งการวัดอยา่ งระมัดระวงั โดยใหแ้ ท่งแกว้ ตง้ั ตรงในแนวดงิ่
2. ในการจุ่มกระเปาะของเทอร์มอมิเตอรใ์ นของเหลวนั้นระวังอย่าใหต้ วั กระเปาะสมั ผสั กับภาชนะ
3. ในการอ่านค่าของอุณหภูมิจะต้องรอใหร้ ะดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์มกี ารขยายตัวหรือหดคงท่ี
เสยี กอ่ นจากนั้นทำการอา่ นค่าอุณหภมู โิ ดยให้ระดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์ตรงกบั ระดับสายตา
ใบงาน Mind Mapping เร
คำชีแ้ จง นกั เรียนสรปุ ความร้ทู ่ไี ดเ้ รือ่ งชนดิ ของเทอรม์ อมเิ ตอร์ ในรปู แบบผงั
ช่อื ..........................................................................ชนั้ ...........เลขที่.........
รือ่ งชนดิ ของเทอร์มอมเิ ตอร์
งมโนทัศน์
แนวข้อสอบ O –NET
1. ในการวัดระดับอณุ หภมู มิ กั จะใช้สิ่งใด
ก. ไดนาโม
ข. เทอร์มอมิเตอร์
ค. มาตรวดั พลงั งาน
ง. แอมป์มเิ ตอร์
2. ใหเ้ รยี งลำดับเครื่องมอื ที่ใช้วัดอุณหภมู ิทีม่ ีความแม่นยำมากทสี่ ดุ ไปหาเครอ่ื งมือที่ใช้วัดอณุ หภูมิท่มี ีความ
แมน่ ยำนอ้ ยที่สุด
1 อเิ ล็กตริคัลเทอร์มอมิเตอร์
2 เทอรม์ อมิเตอร์แบบโลหะคู่
3 เทอร์มอมเิ ตอร์ที่หลอดแกว้ บรรจุดว้ ยของเหลว
ก. 1 2 3
ข. 2 3 1
ค. 3 2 1
ง. 1 3 2
ทีม่ า : https://quizizz.com/admin/quiz/5d610e8465e5d5001ba5e0d0/-
แบบประเมินใบงาน Mind mapping
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping
ชือ่ -สกลุ รูปแบบ เนือ้ หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรุปผลการ
ลำดับท่ี ของผู้รบั การ สวยงาม เวลา ประเมิน ผ่าน/
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 คะแนน
ประเมนิ ไม่ผ่าน
ลงชื่อ ....................................................ผูป้ ระเมิน
................/................/................
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นักเรียนไดร้ ะดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถอื ว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping
เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน
ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
- เขยี นความคิดรวบยอด
รปู แบบ - เขียนความคิดรวบยอด - เขยี นความคิดรวบยอด - เขียนความคิดรวบยอด
หลกั ไว้ตรงกลาง
หลกั ไว้ตรงกลาง หลักไวต้ รงกลาง หลกั ไว้ตรงกลาง - มีกิง่ แก้ว ขาดกิ่งกอ้ ย แต่
- มีกง่ิ แก้ว ก่ิงกอ้ ย และก่งิ - มีกิง่ แกว้ กิ่งกอ้ ย และก่ิง - มีกิ่งแกว้ กง่ิ ก้อย และก่งิ ขาดกงิ่ ยอ่ ย
- ใชส้ สี นั ไม่ท่วั แผ่น
ยอ่ ยตามลำดับ ยอ่ ยตามลำดับ ย่อยตามลำดบั
- เน้อื หาถูกต้องตามสาระที่
- ตวั หนังสืออยบู่ นเส้น - ตวั หนงั สอื อย่บู นเสน้ - ใชส้ สี นั ทั่วแผน่ กำหนดต่ำว่า 59%
- เขียนถกู ต้องตามหลัก
- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น ภาษาตำ่ กวา่ 59%
- มีการสรุปไม่สมเหตุสมผล
- ใชส้ ญั ลักษณ์หรือภาพสอ่ื - ใช้สีสนั ทั่วแผน่ ต่ำกว่า 59%
ความหมาย - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
- ใชส้ สี ันท่วั แผน่ ตามอักขระตำ่ กว่า 59%
- บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
เนอ้ื หา - เนือ้ หาครบถว้ นตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระท่ี
- ใช้สีสันสวยงามหรือเป็นไป
ท่ีกำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% ตามเกณฑอ์ ย่างใดอย่าง
หนึ่ง
- เขียนถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลัก - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั
ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้า
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 15
นาที
- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหาชดั เจน - ลำดับหัวขอ้ เนอื้ หาชัดเจน - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง
- มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง สมเหตสุ มผล 60-79%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟงั ชัด - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม
- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79%
- บุคลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
ม่นั ใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ
- มกี ารใช้สือ่ ประกอบการ ได้บางสว่ น
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ
ความสวยงาม - ใช้สีสันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สสี นั สวยงามและมี
- มคี วามสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มีความคิดสรา้ งสรรค์
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ นงา่ ย
การตรงต่อ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้ สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ ้า
เวลา เวลาที่กำหนด กวา่ เวลาท่กี ำหนด 5 นาที กว่าเวลาทก่ี ำหนด 10
นาที
แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 3
ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ อุณหภมู แิ ละความรอ้ น เวลา 2 ช่วั โมง
เร่อื ง หนว่ ยของอุณหภมู ิ ผ้สู อน ครูสุกฤตา ดวงสุข
วนั ที่ทำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว 2.3 ม.1/2 ใช้เทอรม์ อมิเตอร์ในการวัด
อุณหภูมกิ เ็ ปน็ ปริมาณทมี่ ีหนว่ ยใหเ้ ลือกใช้หลาย เช่นเดยี วกบั อุณหภมู ขิ องสสาร
ปรมิ าณทางฟสิ ิกส์อื่น ๆ แตห่ น่วยอณุ หภูมทิ ี่นักเรยี นควรรู้จกั มอี ยู่
ดว้ ยกนั 4 หน่วยดงั นี้ องศาเซลเซยี ส 4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
เคลวนิ องศาฟาเรนไฮน์ และองศาโรเมอร์ - ใบงาน Diagram หนว่ ยของอุณหภูมิ
- แบบทดสอบออนไลนเ์ รือ่ งหน่วยของอุณหภูมิ 5 ข้อ
3. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้
หนว่ ยของอณุ หภมู ิ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6. เครื่องมือการสอนคิด
ความสามารถในการคิด - Di-aใgบraงmาน เร่อื ง ศัพท์ทางพนั ธุศาสตร์
ความสามารถในการแก้ปญั หา - Six thinking hat (White hat)
กจิ กรรมการเรียนรู้
7. ขั้นของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วธิ ีวดั ผล
- ประเมนิ ใบงาน
Do Now ( 3 นาที ) - ไฟล์ Learn Education Diagram หน่วยของ
อุณหภมู ิ
บอกชือ่ ประเทศท่มี ีหมิ ะตกมาคนละ 1 ประเทศ โดยหา้ มซำ้ กัน หน่วยของอณุ หภมู ิ คาบท่ี 2 - ประเมินแบบทดสอบ
Purpose ( 2 นาที ) - Power Point เรือ่ งหน่วย ออนไลนเ์ ร่อื งหนว่ ยของ
เราจะเรียนเร่อื ง หน่วยของอณุ หภมู ิ เพือ่ ให้นกั เรียนสามารถอธบิ ายและ ของอุณหภมู ิ อุณหภูมิ 5 ขอ้
บอกหนว่ ยของอุณหภมู ิไดถ้ กู ต้อง - ใบงาน Diagram หน่วย
Work mode ( 110 นาที ) ของอุณหภมู ิ
1. นักเรยี นตอบคำถามโดยครใู ช้คำถามกระตุ้นความคิด “แตล่ ะประเทศมี - หอ้ งเรยี นออนไลนเ์ รอ่ื ง
วิธกี ารวดั อณุ หภูมเิ หมอื นหรอื แตกต่างกันอยา่ งไร” (คิด 2 : คดิ เปรียบเทยี บ) หนว่ ยของอุณหภูมิ
(5นาท)ี
2. นักเรียนศกึ ษาไฟล์ท่ี 2 เรอ่ื งหนว่ ยของอุณหภมู ิ ผ่านระบบ Learn
Education (พอเพียง3 : การมภี ูมิคมุ้ กันทดี่ ี) (35 นาที)
3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรยี น 5 ขอ้ ผา่ นระบบ Learn
Education (5นาที)
4. นกั เรียนฟงั ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ เร่ืองหนว่ ยของอุณหภูมิโดยใช้ส่ือ Power
point ประกอบการสอน (10นาที)
5. นกั เรียนศึกษาเร่ืองหน่วยของอุณหภมู เิ พิม่ เติม จากใบงานหรือจาก
ห้องเรียนออนไลน์ โดยการแสกน QR-code เรอ่ื งหนว่ ยของอณุ หภมู ิ
(15 นาท)ี
กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. ส่อื 9. วิธีวดั ผล
7. ข้นั ของกจิ กรรม
6. นักเรียนสรปุ ความรู้ในรปู แบบแผนผงั มโนทศั น์ ในใบงาน Diagram
หน่วยของอุณหภูมิ (คดิ 9 : คิดเชิงมโนทัศน์) (25 นาท)ี
7. นักเรียน (ตวั แทนโดยการสุ่ม) ออกมานำเสนอใบงาน Diagram
หนว่ ยของอุณหภมู ิ (10 นาที )
8. นกั เรยี นและครสู รปุ เชือ่ มโยงความรูเ้ ก่ยี วกับเรื่องหนว่ ยของอณุ หภูมิ
พร้อมตอบคำถามดงั นี้ (Six thinking hat) (5นาที)
- หนว่ ยของอุณหภมู ิมีกี่หน่วย อะไรบา้ ง ? (White hat)
Reflective Thinking (5 นาท)ี
- 1 ส่ิงทน่ี ักเรยี นได้รับจากการเรยี นในวนั น้คี อื (3 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 2 ขอ้ (2 นาที)
ใบความรูเ้ รอ่ื งหนว่ ยของอุณหภูมิ
หน่วยของอุณหภมู ิ
อณุ หภมู ิก็เป็นปริมาณท่ีมหี นว่ ยให้เลือกใชห้ ลาย เช่นเดียวกบั ปรมิ าณทางฟิสิกส์
อ่นื ๆ แต่หน่วยอณุ หภูมิท่ีนกั เรียนควรรจู้ ักมอี ย่ดู ้วยกนั 4 หนว่ ยดังน้ี
1. องศาเซลเซยี ส (Degree Celsius) อันแดร์ เซลเซยี ส
ถกู เสนอโดย 0 Cํ
กำหนดจุดเยือกแข็งของน้ำอยูท่ ่ี 100 ํC
กำหนดจุดเดอื ดของน้ำอยู่ที่ 100 ช่อง
ความกว้างของสเกล
2. เคลวนิ (Kelvin) วิลเลยี ม ทอมสนั หรือ ลอรด์ เคล
ถูกเสนอโดย
วิน 273 K
กำหนดจดุ เยอื กแขง็ ของนำ้ อยทู่ ี่ 373 K
กำหนดจุดเดือดของนำ้ อยทู่ ี่ 100 ชอ่ ง
ความกวา้ งของสเกล
3. องศาฟาเรนไฮน์ (Degree Fahrenheit) เดเนยี ล แกเบียล ฟาเรนไฮต์
ถูกเสนอโดย 32 Fํ
กำหนดจุดเยอื กแข็งของน้ำอยทู่ ่ี 212 Fํ
กำหนดจุดเดือดของน้ำอยู่ที่ 180 ช่อง
ความกว้างของสเกล
4. องศาโรเมอร์ (Degree Reaumur) เรอเน่ อังตวน เฟโชต์ เดอ
ถูกเสนอโดย
โรเมอร์ 0 °R
กำหนดจุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ที่ 80 °R
กำหนดจดุ เดือดของนำ้ อยทู่ ่ี 80 ชอ่ ง
ความกว้างของสเกล
ชอ่ื ..........................................................................ชนั้ ...........เลขท.่ี ........
ใบงาน Diagram เรื่องหน่วยของอณุ หภมู ิ
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนเติมคำตอบลงในช่องว่างให้ถกู ต้อง สรปุ ความรู้เรือ่ งหน่วยของอณุ หภมู ิ
1. องศาเซลเซียส (Degree Celsius) ..............................................................................
..............................................................................
ใช้สญั ลักษณ์ ..............................................................................
กำหนดจุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ท่ี ..............................................................................
มจี ุดเดอื ดของนำ้ อยทู่ ี่ ..............................................................................
ความกวา้ งของสเกล ..............................................................................
..............................................................................
2. เคลวิน (Kelvin) ..............................................................................
ใช้สญั ลกั ษณ์ ..............................................................................
กำหนดจุดเยือกแขง็ ของน้ำอยู่ที่
มจี ุดเดอื ดของน้ำอยู่ท่ี
ความกว้างของสเกล
3. องศาฟาเรนไฮน์ (Degree Fahrenheit)
ใชส้ ญั ลกั ษณ์
กำหนดจุดเยอื กแข็งของน้ำอยูท่ ่ี
มีจดุ เดือดของน้ำอยทู่ ี่
ความกว้างของสเกล
4. องศาโรเมอร์ (Degree Reaumur)
ใช้สญั ลักษณ์
กำหนดจุดเยือกแขง็ ของนำ้ อยทู่ ี่
มีจุดเดอื ดของนำ้ อยทู่ ่ี
ความกว้างของสเกล
แนวข้อสอบ O –NET
1.ข้อใดไมใ่ ช่หนว่ ยอณุ หภมู ิ
ก. cm
ข. c o
ค. F o
ง. K
2. ถา้ นำ้ เดอื ด อุณหภมู ิ ของ oc คือเทา่ ใด
ก. 100 oc
ข. 125oc
ค. 50oc
ง. 90oc
ทม่ี า : http://www.trueplookpanya.com/examination/display/11090
แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram
คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน ใหท้ ำเคร่อื งหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ความ ความ สรุปผล
สอดคล้อง สะอาด
ลำดับท่ี ชื่อ-สกลุ ความถูกตอ้ ง ครอบคลุม และเชอ่ื มโยง ตรงตอ่ เวลา เรยี บรอ้ ย รวม การ
ของผูร้ บั การประเมนิ ของเนือ้ หา เนอ้ื หา ของเนอื้ หา 4 20 ประเมิน
4 คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 4 ผ่าน
4321 43214 32 14321 4321
ประเมนิ ลงชอื่ .................................................... ผู้
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Diagram
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
รปู แบบ
- มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวข้อทช่ี ัดเจน - มีหวั ขอ้ ท่ีชัดเจน
เนือ้ หา - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอยูใ่ นกรอบ
การนำเสนอ - ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพส่อื - เน้ือหาถกู ตอ้ งตามสาระที่
- ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ - ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ กำหนดตำ่ กว่า 59%
ความสวยงาม ความหมาย - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
การตรงตอ่ - ใชส้ สี นั ท่วั แผน่ - ใช้สญั ลักษณ์หรอื ภาพสอื่ ตำ่ กวา่ 59%
- เน้อื หาครบถ้วนตามสาระท่ี - มกี ารสรปุ ไม่สมเหตุสมผล
เวลา กำหนด 100% ความหมาย ต่ำกว่า 59%
- เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา
100% - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกตอ้ งตามสาระที่ - สามารถพูดนำเสนอได้
- ลำดบั หวั ขอ้ เนือ้ หาชัดเจน - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% ตามอักขระตำ่ กว่า 59%
สมเหตุสมผล 100% - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- พูดชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชส้ สี นั สวยงามหรือเป็นไป
อักขระ100% 80-99% 60-79% ตามเกณฑ์อย่างใดอยา่ ง
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ หน่งึ
มนั่ ใจ - ลำดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชดั เจน - มีการสรุปได้อย่าง
- มีการใชส้ ่ือประกอบการ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่
นำเสนอ - มีการสรุปได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ
- ใช้สสี นั สวยงาม สมเหตสุ มผล 80-99%
- มคี วามสะอาด
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - พูดชดั เจนเสียงดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม
- ความเป็นระเบียบอ่านงา่ ย
ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม
เวลาทก่ี ำหนด
อักขระ80-99% อกั ขระ60-79%
- บคุ ลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ
ได้บางส่วน
- ใชส้ ีสันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมคี วาม
- มคี วามสะอาด สะอาด
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ช้ากว่า
เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที เวลาทก่ี ำหนด 10 นาที
ตอบคำถามถูกตอ้ ง เกณฑ์การใหค้ ะแนน PRACQUIZ
ตอบคำถามไม่ถกู ตอ้ ง เรอื่ ง หนว่ ยของอุณหภมู ิ
1 คะแนน
0 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
5 ดมี าก
3-4 ดี
1-2 พอใช้
0 ปรับปรงุ
นักเรียนไดร้ ะดับคุณภาพท่ี ดี ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่าน
แผนจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 4
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ อณุ หภูมิและความร้อน เวลา 1 ชั่วโมง
เรือ่ ง การแปลงหน่วยของอณุ หภูมิ ผสู้ อน ครูสกุ ฤตา ดวงสุข
วันที่ทำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
การวดั อณุ หภมู ิ เป็นการวดั ระดับความรอ้ นของสาร มาตรฐาน ว 2.3 ม.1/2 ใช้เทอร์มอมเิ ตอรใ์ นการวดั
อณุ หภมู ิของสสาร
สามารถวัดด้วยเทอรม์ อมิเตอร์ เซลเซยี ส ฟาเรนไฮต์ เคลวิน
โรเมอร์ เปน็ หนว่ ยวัดอุณหภมู ิ
3. เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ 4. ช้ินงาน / ภาระงาน
การแปลงหนว่ ยอุณหภมู ิ - แบบฝึกหัดเรือ่ งการแปลงหน่วยอณุ หภูมิ
- ใบงาน Diagram เรอ่ื งการแปลงหนว่ ยอณุ หภูมิ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6. เคร่ืองมือการสอนคิด
ความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการแก้ปัญหา - Diagram
- Six thinking hat (Yellow hat) , (White hat)
กิจกรรมการเรยี นรู้
7. ขนั้ ของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วธิ วี ดั ผล
- ประเมนิ ใบงาน Diagram
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรเู้ รื่องการแปลง เรอ่ื งการแปลงหน่วย
อณุ หภมู ิ
บอกหนว่ ยของวัตถุต่าง ๆ มาคนละ 1 อย่างโดยห้ามซ้ำกัน หน่วยอณุ หภมู ิ - ตรวจแบบฝึกหัดเรือ่ งการ
Purpose (2 นาท)ี - Power Point เร่ืองการ แปลงหนว่ ยอณุ หภมู ิ
เราจะเรยี นเร่อื งการแปลงหน่วยอณุ หภูมเิ พื่อใหน้ กั เรียนสามารถ แปลงหน่วยอณุ หภมู ิ
แปลงหนว่ ยอุณหภูมไิ ด้ - ใบงาน Diagram เรือ่ งการ
Work mode (50 นาที) แปลงหนว่ ยอณุ หภูมิ
1. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ “ประโยชน์ของหน่วย - แบบฝกึ หดั เร่ืองการแปลง
อุณหภมู มิ ีอะไรบา้ ง” (คิด1 : คิดวิเคราะห์) (Yellow hat) (5นาที) หนว่ ยอณุ หภมู ิ
2. นกั เรียนฟังครูอธบิ ายเรื่องการเปลย่ี นหนว่ ยอุณหภมู ิ โดยใช้สื่อ - ห้องเรยี นออนไลนเ์ รอื่ งการ
Power Point ประกอบการสอน (10นาที) แปลงหนว่ ยอณุ หภูมิ
3. นกั เรียนศึกษาเพมิ่ เติมจากใบความรูห้ รือห้องเรียนออนไลน์ โดย
การแสกน Qr-code เรือ่ งการเปล่ยี นแปลงหนว่ ยอณุ หภูมิ (พอเพยี ง3 :
การมีภูมิค้มุ กนั ในตวั ที่ด)ี (5นาท)ี
4. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ออกเปน็ กล่มุ ละ 4-5 คน ลงมือทำแบบฝกึ หัด
เรือ่ งการเปล่ียนแปลงหน่วยอณุ หภูมิ (5นาที)
5. นกั เรยี นสรุปความรู้ในรปู แบบผังมโนทัศน์ ลงในใบงาน Diagram
เรอ่ื งการแปลงหนว่ ยอุณหภูมิ (15นาที)
กจิ กรรมการเรียนรู้ 8. ส่อื 9. วิธีวัดผล
7. ขัน้ ของกจิ กรรม
6. ตัวแทนนักเรียนออกมานำเสนอใบงาน Diagram เรอื่ งการแปลงหน่วย
อุณหภมู ิ (5 นาท)ี
7. นกั เรยี นและครสู รุปเชือ่ มโยงความรเู้ กีย่ วกบั เรอื่ งเร่ืองการแปลงหนว่ ย
อุณหภูมิพร้อมตอบคำถามดงั น้ี (5นาที)
- นักเรยี นสามารถนำความรเู้ รอ่ื งการแปลงหน่วยของอุณหภมู ไิ ป
ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้อยา่ งไรบ้าง (Yellow Hat)
Reflective Thinking (5 นาท)ี
- 1 ส่งิ ท่ีนักเรียนไดร้ ับจากการเรยี นในวนั นี้คอื (3 นาที)
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 2 ข้อ (2 นาท)ี
ใบความรูเ้ ร่อื งการแปลงหน่วยอณุ หภมู ิ
หน่วยวดั อุณหภมู ิ
เทอร์มอมิเตอร์มหี นว่ ยวดั บอกอุณหภูมิ 4 หนว่ ย
C = อณุ หภมู ใิ นหน่วยองศาเซลเซียส
K = อณุ หภมู ใิ นหนว่ ยองศาเคลวิน
F = อณุ หภมู ใิ นหนว่ ยองศาฟาเรนไฮต์
R = อุณหภูมิในหนว่ ยองศาโรเมอร์
จดุ เดือด (Boiling Point) คอื จุดท่ีอุณหภมู ขิ องน้ำกำลงั เดอื ดเปล่ียนสถานะกลายเปน็ ไอหรอื จุดท่ี
อณุ หภูมิของไอน้ำกำลงั เปลยี่ นสถานะกลายเปน็ น้ำที่ความดนั ระดับนำ้ ทะเล
จุดเยือกแข็ง (Freezing Point) คือ จุดทอ่ี ุณหภูมขิ องน้ำแขง็ กำลงั เปลย่ี นสถานะกลายเป็นนำ้
หรือจุดทอี่ ณุ หภมู ิของน้ำกำลงั เปลี่ยนสถานะกลายเปน็ น้ำแขง็ ที่ความดนั ระดับน้ำทะเล
ตวั อย่างการแปลงหน่วยอุณหภมู ิ
ตัวอยา่ งที่ 1 อุณหภมู ทิ ่สี ยามสแควร์วดั ได้ 27 องศาเซลเซยี ส จะมคี ่าเท่าใดในหนว่ ยระบบเอสไอ
วธิ ที ำ จาก K = C + 273
= 27 + 273
= 300 เคลวนิ
ตัวอยา่ งที่ 2 ตอนเชา้ เดินทางจากอำเภอเมอื ง จังหวดั เลย อุณหภมู ิ 5 องศาเซลเซยี ส ไปภกู ระดงึ เม่อื
ข้นึ ถึงยอดภูกระดึงอณุ หภูมขิ องอากาศเปน็ 28.4 องศาฟาเรนไฮต์ ท่อี ำเภอเมอื ง และยอดภกู ระดงึ มี
อุณหภมู ติ า่ งกนั อยา่ งไร
วิธีทำ เราเปล่ยี นอณุ หภูมใิ หอ้ ยู่ในหนว่ ยเดียวกัน จึงจะเปรยี บเทียบคา่ ได้ สำหรับขอ้ นเ้ี รา
เปลีย่ น
5 C ให้เป็นฟาเรนไฮต์ โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์
C/5 = (F - 32)/92
แทนค่า 5/5 = (F-32)/9
F = 41
ดังน้ัน อณุ หภูมิท่ีอำเภอเมอื งสูงกว่าที่ภูกระดึง 41 - 28.4 = 12.6 F
ตัวอยา่ งที่ 3 อุณหภูมขิ องรา่ งกายมนุษย์ 98.6?F คดิ เป็นองศาเซลเซยี ส และเคลวิน ได้เทา่ ไร
วิธีทำ แปลงเป็นองศาเซลเซยี ส C/5 = (F - 32)/9
C/5 = (98.6 - 32)/9
c = (66.6 )/9 X 5
= 37 Cํ
แปลงเป็นองศาเคลวิน = 37 + 273 K
= 310
แบบฝึกหดั เร่ือง การเปล่ียนหนว่ ยอุณหภมู ิ
1. ชือ่ ........................................................................เลขท.่ี ..................ชนั้ ......................
2. ช่ือ........................................................................เลขท.่ี ..................ชั้น......................
3. ช่อื ........................................................................เลขท.่ี ..................ช้ัน......................
4. ช่ือ........................................................................เลขท.ี่ ..................ชั้น......................
5. ชอื่ ........................................................................เลขท.ี่ ..................ชน้ั ......................
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง
1. การวัดอณุ หภูมิของสารตา่ ง ๆ ใช้เคร่ืองมือ ทีเ่ รียกวา่
2. บอกหนว่ ยการวดั อุณหภูมิ จุดเยอื กแข็ง และจดุ เดือดให้ถูกตอ้ ง
หนว่ ยวดั เซลเซยี ส เคลวนิ ฟาเรนไฮต์ โรเมอร์
จดุ เยือกแข็ง
จุดเดือด
3. ใหเ้ ปลี่ยนหนว่ ยวัดอณุ หภูมใิ ห้ถกู ตอ้ ง
3.1 ถ้าวดั อุณหภมู ไิ ด้ 300 เคลวนิ อณุ หภมู ินมี้ คี า่ เท่าใดในหนว่ ยเซลเซยี ส
วธิ ีทำ
3.2 เติมอุณหภมู ิลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้องตามหน่วยท่ีกำหนด
เซลเซียส เคลวิน ฟาเรนไฮต์ โรเมอร์
40
10
350
4. ถ้าวดั อณุ หภูมไิ ด้ 35 ํC อณุ หภมู ินจี้ ะมีคา่ เท่าใดในหนว่ ยองศาฟาเรนไฮต์
......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................................
............................................................................................................................. ...................................................... ...
5. ถ้าวัดอณุ หภมู ิได้ 30 ํC อณุ หภมู นิ ้ีจะมีค่าเทา่ ใดในหน่วยองศาโรเมอร์
............................................................................................................................. ...................................................... ...
....................................................................................................................................................................... ...............
................................................................................................................... ................................................................ ...
.................................................................................................................................... ..................................................
6. ถ้าวดั อุณหภูมไิ ด้ 90 ํF อณุ หภูมินจี้ ะมีคา่ เท่าใดในหน่วยองศาเซลเซยี ส
............................................................................................................................. .........................................................
............................................................................................................................. ...................................................... ...
.................................................................................................................................................................................. ....
............................................................................................................................. ...................................................... ...
ฮบึ ๆ... ง่ายนดิ เดยี ว
ช่ือ..........................................................................ชน้ั ...........เลขท่.ี ........
ใบงาน Diagram เร่อื งการเปลี่ยนหน่วยอุณหภมู ิ
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามลงในช่องวา่ งตอ่ ไปน้ใี หถ้ กู ตอ้ ง
ถา้ วัดอณุ หภูมิได้ 25 ํC อุณหภมู ินจ้ี ะมคี า่ เทา่ ใดในหน่วยองศาฟาเรนไฮต/์ องศาโรเมอร์/องศาเคลวิน
สูตรท่ใี ช้ วธิ ีคำนวณ คำตอบ
แนวข้อสอบ O –NET
1. บ้านครูวอรม์ วดั อณุ หภูมไิ ด้ 25oc บา้ นครูฟุก อณุ หภมู ิ ได้ 298K อยากทราบวา่ บา้ นใครอณุ หภูมสิ งู
กว่ากนั
ก. เท่ากัน
ข. ไม่มีคำตอบถกู
ค. 198 k
ง. 50oc
2. 35 oc เปลี่ยนเป็น oR ได้เทา่ ไร ?
ก. 30oR
ข. 19 oR
ค. 44oR
ง. 28oR
ทีม่ า : http://www.trueplookpanya.com/examination/display/11090
แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram
คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน ใหท้ ำเคร่อื งหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ความ ความ สรุปผล
สอดคล้อง สะอาด
ลำดับท่ี ชื่อ-สกลุ ความถูกตอ้ ง ครอบคลุม และเชอ่ื มโยง ตรงตอ่ เวลา เรยี บรอ้ ย รวม การ
ของผูร้ บั การประเมนิ ของเนือ้ หา เนอ้ื หา ของเนอื้ หา 4 20 ประเมิน
4 คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 4 ผ่าน
4321 43214 32 14321 4321
ประเมนิ ลงชอื่ .................................................... ผู้
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Diagram
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
รปู แบบ
- มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวข้อทช่ี ัดเจน - มีหวั ขอ้ ท่ีชัดเจน
เนือ้ หา - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอยูใ่ นกรอบ
การนำเสนอ - ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพส่อื - เน้ือหาถกู ตอ้ งตามสาระที่
- ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ - ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ กำหนดตำ่ กว่า 59%
ความสวยงาม ความหมาย - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
การตรงตอ่ - ใชส้ สี นั ท่วั แผน่ - ใช้สญั ลักษณ์หรอื ภาพสอื่ ตำ่ กวา่ 59%
- เน้อื หาครบถ้วนตามสาระท่ี - มกี ารสรปุ ไม่สมเหตุสมผล
เวลา กำหนด 100% ความหมาย ต่ำกว่า 59%
- เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา
100% - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกตอ้ งตามสาระที่ - สามารถพูดนำเสนอได้
- ลำดบั หวั ขอ้ เนือ้ หาชัดเจน - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% ตามอักขระตำ่ กว่า 59%
สมเหตุสมผล 100% - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- พูดชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชส้ สี นั สวยงามหรือเป็นไป
อักขระ100% 80-99% 60-79% ตามเกณฑ์อย่างใดอยา่ ง
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ หน่งึ
มนั่ ใจ - ลำดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชดั เจน - มีการสรุปได้อย่าง
- มีการใชส้ ่ือประกอบการ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่
นำเสนอ - มีการสรุปได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ
- ใช้สสี นั สวยงาม สมเหตสุ มผล 80-99%
- มคี วามสะอาด
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - พูดชดั เจนเสียงดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม
- ความเป็นระเบียบอ่านงา่ ย
ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม
เวลาทก่ี ำหนด
อักขระ80-99% อกั ขระ60-79%
- บคุ ลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ
ได้บางส่วน
- ใชส้ ีสันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมคี วาม
- มคี วามสะอาด สะอาด
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ช้ากว่า
เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที เวลาทก่ี ำหนด 10 นาที