3. มีโซสเฟยี ร์ (Mesosphere) อยูส่ งู จากพน้ื ดินประมาณ 50-80 กิโลเมตร บรรยากาศช้นั นี้ อุณหภูมิ
จะลดลงตามระดบั ความสูงเพิ่มขน้ึ สุดเขตของบรรยากาศช้ันนเ้ี รียกว่า มโี ซพอส ( Mesopause) ซ่ึงมีอณุ หภูมิ
ประมาณ –140°C เป็นบรรยากาศชัน้ ที่ส่งดาวเทยี มขน้ึ ไปโคจรรอบโลก
4. เทอรโ์ มสเฟยี ร์ (Thermosphere) บรรยากาศชัน้ น้อี ยูส่ ูงจากพนื้ ดินประมาณ 80-500 กิโลเมตร
ดาวตกและอกุ กาบาตจะเรม่ิ ลุกไหม้ ในบรรยากาศช้นั นี้ อณุ หภูมขิ องบรรยากาศชั้นน้ี จะสงู ขนึ้ อย่างรวดเร็ว
ในชว่ ง 80-100 km จากน้ันอตั ราการสงู ข้ึนของอณุ หภูมจิ ะคอ่ ย ๆ ลดลง .โดยทัว่ ไปอณุ หภูมิจะอย่ใู นช่วง 227-
1727°C บรรยากาศชน้ั นีม้ ีความหนาแนน่ ของอนภุ าคตา่ ง ๆ จางมาก แต่แก๊สตา่ งๆ ในช้นั นี้ จะอยู่ในลกั ษณะท่ี
เปน็ อนุภาคทเ่ี ป็นประจไุ ฟฟา้ เรยี กว่า ไอออน สามารถสะทอ้ นคล่นื วทิ ยุบางความถ่ีได้ ดงั นน้ั บรรยากาศช้ันน้จี ึง
มีชอื่ เรียกอีกอยา่ งหนึง่ ว่า ไอโอโนสเฟยี ร์ (Ionosphere)
5. เอกโซสเฟียร์ (Exosphere) คือบรรยากาศท่ีอยู่ใน ระดบั ความสงู จากผวิ โลก 500 กโิ ลเมตรข้นึ ไป
ไม่ มีแรงดงึ ดูดของโลก ดาวตกและอกุ กาบาตจะไมล่ กุ ไหมใ้ นชน้ั น้ี เนอ่ื งจากมีแกส๊ เบาบางมาก จนไมถ่ อื วา่ เปน็
ส่วนหนึง่ ของบรรยากาศ
การแบ่งชั้นบรรยากาศโดยใชส้ มบตั ขิ องแกส๊ หรอื สว่ นผสมของแกส๊ เปน็ เกณฑ์ แบ่งได้เป็น 4 ช้นั ตาม
ตารางต่อไปนี้
ชั้นบรรยากาศ ความสูง(km) ส่วนผสมบรรยากาศทีส่ ำคัญ
ไอน้ำ
1.โทรโพสเฟยี ร์ (troposphere) 0-10 โอโซน
อากาศแตกตัวเป็นไอออน (Ion)
2.โอโซโนสเฟียร์ (ozonosphere) 10-55 ความหนาแน่นของอะตอมต่างๆ
มคี า่ น้อยลง
3.ชั้นไอโอโนสเฟียร์ (ionosphere) 80-600
4.ชั้นเอกโซสเฟยี ร์ (exosphere) 600ขึ้นไป
ชือ่ ..........................................................................ชน้ั ...........เลขที่.........
ใบงาน Diagram เรื่องการแบ่งชัน้ บรรยากาศ
คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรุปความรูเ้ รือ่ ง การแบง่ ชน้ั บรรยากาศ ในรูปแบบของ diagram
ชั้นบรรยากาศ
แนวข้อสอบ O –NET
1. แกส๊ โอโซนหนาแนน่ ท่ีสดุ ในบรรยากาศช้นั ใด ?
1. โทรโพสเฟียร์
2. สตราโตสเฟียร์
3. เมโซสเฟียร์
4. เทอร์โมสเฟยี ร์
2. บรรยากาศชัน้ ใดสามารถสะท้อนคล่ืนวิทยไุ ด้ ?
1. โทรโพสเฟียร์
2. สตราโตสเฟียร์
3. เมโซสเฟยี ร์
4. เทอร์โมสเฟียร์
ที่มา : หนังสือเรยี น Learn education ขอ้ สอบ วทิ ยาศาสตร์ ม.1 . 2559
เวลา 5 นาที ใบงานตามแนว PISA
เรอ่ื งการแบง่ ชั้นบรรยากาศ
คะแนนเตม็ 7 คะแนน
ชือ่ - สกุล................................................................................................................ช้ัน........................................
โรงเรียน....................................................................อำเภอ......................................จงั หวดั ..................................
คำชแี้ จง
๑. ข้อสอบชุดน้มี ถี อ้ ยความใหอ้ ่าน มคี ำถามการอา่ นในใจและความเขา้ ใจการอา่ น 3 ขอ้ จำนวน
2 หนา้
๒. การตอบคำถามทกุ ขอ้ ให้ทำในชุดข้อสอบ
๓. ให้นักเรียนอ่านคำถามทกุ ข้ออย่างละเอยี ดรอบคอบแลว้ ตอบคำถามให้ดีท่ีสุดเทา่ ที่จะทำได้
๓.๑ บางคำถามจะมคี ำตอบให้เลือกตอบ
ให้นกั เรยี นวงกลมล้อมรอบตัวเลขทอ่ี ย่หู นา้ คำตอบ ทีน่ กั เรยี นคดิ วา่ ถกู ต้อง
๓.๒ บางคำถามจะให้นกั เรียนเขยี นคำตอบส้ันๆ ในท่ีวา่ งท่ีเตรยี มไวใ้ นข้อสอบ
ให้นักเรยี นเขยี นคำตอบเปน็ ตัวหนังสือ ตวั เลขไทย หรือเครอื่ งหมายตามทีก่ ำหนด
๓.๓ บางคำถามต้องการใหน้ กั เรียนอธิบายคำตอบ หรอื บอกเหตุผลประกอบคำตอบ
โดยกำหนดเงือ่ นไขให้ใช้เนือ้ เร่อื งสนบั สนนุ คำตอบ
นักเรียนตอ้ งเขยี นอธบิ าย หรือ เขยี นเหตผุ ลประกอบ ภายในถ้อยความทก่ี ำหนดให้
( ใหน้ ักเรียนเขียนดว้ ยลายมอื ที่อ่านงา่ ย และชดั เจน )
อา่ นถ้อยความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามขอ้ 1-3
ภาวะโลกร้อน กบั การเกิดรโู หวข่ องชั้นโอโซน
http://www.greenpeace.org หน้า - มกราคม 7, 2552
การเกดิ รูโหว่ในชน้ั โอโซน ยงั เปน็ ประเด็นทห่ี ลายคนยังเขา้ ใจผดิ วา่ เป็นสาเหตุทีท่ ำใหเ้ กิดภาวะโลก
รอ้ น แต่ในความเป็นจริงแลว้ นน้ั การทชี่ ัน้ โอโซนถูกทำลายจนเกดิ รโู หว่ทีเ่ ราไดย้ ินกนั น้ัน มไิ ดเ้ ป็นสาเหตทุ ่ีทำให้
โลกร้อนขน้ึ แต่จะทำให้รังสีที่เปน็ อนั ตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชวี ติ ผา่ นเขา้ มายังพืน้ โลกมากขน้ึ จงึ ขออธบิ าย
เพิ่มเตมิ ในประเด็นนี้ใหเ้ กดิ ความเข้าใจมากขึน้
ตามที่ไดท้ ราบแลว้ วา่ บรรยากาศที่หอ่ หุ้มโลกอย่มู ีท้งั หมด 4 ชน้ั ไดแ้ ก่ ชั้นโทรโพสเฟียร์ สตราโตสเฟียร์ เมโซส
เฟียร์ และเทอรโ์ มสเฟยี ร์ โดยการเกิดปรากฏการณเ์ รือนกระจก ซงึ่ เปน็ กลไกสำคัญทที่ ำให้เกิดภาวะโลกรอ้ น
นั้น เกดิ ข้นึ ที่ช้ันบรรยากาศที่อยู่ใกลผ้ ิวโลกมากทส่ี ุด (ประมาณเพียง 10-15 กโิ ลเมตรนบั จากผิวโลกขนึ้ ไป) น่นั
คอื ช้นั โทรโพสเฟียร์ ซึ่งในบรรยากาศชั้นนี้มปี รมิ าณก๊าซโอโซนน้อยมาก เนือ่ งจากหากโอโซนอยูใ่ นชนั้ นี้จะเป็น
อนั ตรายต่อมนุษย์
สว่ นช้นั บรรยากาศทพี่ บก๊าซโอโซนมาก ได้แก่ ชนั้ สตราโตสเฟยี ร์ ซงึ่ อยู่ไกลจากพน้ื ผิวโลกขึ้นไป
ประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่เหนอื ช้นั โทรโพสเฟียร์ โดยก๊าซโอโซนในชน้ั บรรยากาศนี้มหี น้าท่ีดดู ซบั รงั สีทกุ
ชนดิ ทแ่ี ผ่ออกมา จากดวงอาทิตยไ์ ว้มิให้ส่องไปยังโลกทัง้ หมด โดยเฉพาะรงั สีอลุ ตร้าไวโอเลต็ ชนดิ บี หรอื UV-B
ซึ่งเปน็ รังสีที่มีอันตรายตอ่ สิง่ มีชวี ิตและธรรมชาติ หากมนุษย์ได้รับรังสีนี้เป็นระยะเวลานาน จะมีความเส่ียงใน
การเกิดอันตรายต่อผิวหนงั และดวงตา ท้ังน้พี บว่า หากโอโซนในบรรยากาศในช้นั สตราโตสเฟียรล์ ดลงเพยี งร้อย
ละ 1 จะมีผลทำใหอ้ ัตราการเกิดต้อกระจกเพ่มิ ขึน้ รอ้ ยละ 0.6-0.8 นอกจากน้ี ยังทำให้เกิดความเส่ียงต่อการ
เปน็ โรคมะเรง็ ผิวหนงั โดยเฉพาะโรคมะเรง็ ผวิ หนงั เมลาโนมา ซ่งึ พบวา่ เปน็ กนั มากในหมคู่ นผิวขาว รวมทงั้ ทำ
ใหภ้ มู คิ มุ้ กันโรคลดลง ชึง่ ทำให้เกิดโรคตดิ ตอ่ ต่างๆ มากข้นึ นอกจากรังสี UV-B จะมผี ลตอ่ มนุษยแ์ ล้ว สตั ว์และ
พืชก็ได้รับผลกระทบจากรงั สดี งั กล่าวน้ีเชน่ กัน โดยรงั สี UV-B จะไปทำลายการเจริญเตบิ โตของสัตวใ์ นช่วงแรก
และทำให้แพลงตอนซงึ่ เป็นอาหารสำคญั ของสัตว์น้ำในกระบวนการห่วงโซอ่ าหารในนำ้ มีปริมาณลดลง ส่วน
ผลกระทบตอ่ พืชน้นั พบวา่ รงั สี UV-B จะทำให้การเจรญิ เติบโตของพชื ลดลง
อย่างไรกต็ าม แม้การเกดิ ภาวะโลกรอ้ น มิไดม้ ีสาเหตโุ ดยตรงจากการเกดิ รโู หว่ในชน้ั โอโซน แตก่ าร
เพม่ิ ขนึ้ ของสารทำลายช้ันโอโซนในชั้นบรรยากาศ นอกจากจะยงิ่ ไปเพิม่ ความหนาของบรรยากาศในชน้ั โทรโพส
เฟียร์ ซึ่งจะทำใหร้ งั สีความรอ้ นถกู สกดั กน้ั และแผ่ความร้อนกลับมายังพ้ืนผิวโลกไดม้ ากยง่ิ ขึ้นแลว้ น้ัน สาร
ทำลายชนั้ โอโซนที่สามารถทะลผุ า่ นช้ันโทรโพสเฟียรข์ ้ึนไปยังชนั้ สตราโตสเฟียรไ์ ด้ ก็จะไปทำลายโอโซนไดอ้ ยา่ ง
รวดเร็วจากการเกิดปฏิกิรยิ าแบบลกู โซ่ ดงั นัน้ ผลกระทบที่เกดิ ข้นึ ต่อส่งิ มีชีวีตบนโลกทจ่ี ะยิ่งรนุ แรงมากข้นึ
เพราะแสงอาทิตยท์ ่ีส่องผา่ นมานั้นนอกจากจะถูกกกั เกบ็ และทำให้โลกร้อนแล้ว ยงั มีรังสที ่เี ป็นอนั ตรายตอ่ ส่งิ มี
ชวี ตี ในโลกคือ รงั สี UV-B ปะปนเขา้ มาในปริมาณทเ่ี ขม้ ข้นขน้ึ ด้วย ทั้งสองปรากฏการณ์น้จี งึ ถือเปน็ ภยั คุกคาม
ใหญห่ ลวงทม่ี นุษยท์ ุกคนตอ้ งรว่ มกนั ดำเนนิ การเพอื่ ช่วยลดผลกระทบต่อทั้งโลกและตัวมนุษย์เอง
คำถามท่ี 1 1 คะแนน
บรรยากาศช้ันใดทใ่ี ช้สำหรบั สง่ คล่นื วทิ ยไุ ปยังสว่ นต่างๆ ของโลก
1. โทรโพสเฟยี ร์ 3. โอโซโนสเฟยี ร์
2. เอกโซสเฟยี ร์ 4. มีโซสเฟยี ร์
คำถามที่ 2 1 คะแนน
ขอ้ ใดไม่เก่ยี วขอ้ งกบั บรรยากาศชน้ั สตราโตสเฟียร์
1. มีประจุไฟฟ้าที่สามารถสะท้อนคลืน่ วทิ ยไุ ด้ 3. มชี ัน้ แกส๊ โอโซน
2. มรี ะดบั ความสูง 12–50 กโิ ลเมตร 4. อณุ หภมู ิสูงขน้ึ ตามระดบั ความสงู
คำถามท่ี 3 5 คะแนน
จากถ้อยความข้างต้น ข้อความตอ่ ไปนี้ เป็นความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจริง ใช่ ไมใ่ ช่
ข้อความ เป็นความจริง จงเขียนเคร่ืองหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่
ข้อความ ไมเ่ ป็นความจริง จงเขียนเครื่องหมาย X ในช่อง “ไม่ใช”่
ท่ี ข้อความ
1 โทรโพสเฟียร์เป็นช้ันท่ีมีสิง่ มีชวี ิตอาศยั อยู่
2 ช้ันสตารโ์ ตสเฟยี อุณหภมู เิ พมิ่ ขึ้น
3 การลุกไหม้เกดิ ขึน้ ในชั้นมีโซเฟยี ร์
4 อุณหภมู ใิ นช้นั บรรยากาศลดลงตามระดบั ความสงู
5 ปรากฏการณ์แสงเหนอื เกิดข้ึนทุกพนื้ ทข่ี องโลก
เกณฑ์การให้คะแนน
คำถามท่ี 1 1 คะแนน
บรรยากาศช้นั ใดท่ใี ช้สำหรบั สง่ คล่นื วทิ ยไุ ปยังสว่ นตา่ งๆ ของโลก
1. โทรโพสเฟียร์ 3. โอโซโนสเฟยี ร์
2. เอกโซสเฟยี ร์ 4. มีโซสเฟียร์
คำถามท่ี 2 1 คะแนน
ข้อใดไม่เก่ียวขอ้ งกับบรรยากาศช้ันสตราโตสเฟียร์
1. มปี ระจุไฟฟา้ ท่ีสามารถสะทอ้ นคล่นื วทิ ยุได้ 3. มีชน้ั แกส๊ โอโซน
2. มรี ะดับความสูง 12–50 กิโลเมตร 4. อุณหภมู ิสงู ขึน้ ตามระดบั ความสูง
คำถามท่ี 3 5 คะแนน
จากถ้อยความข้างต้น ข้อความต่อไปนี้ เป็นความจริง หรอื ไมเ่ ป็นความจริง
ข้อความ เป็นความจริง จงเขียนเครอ่ื งหมาย X ในช่อง “ใช่” ใช่ ไมใ่ ช่
ข้อความ ไมเ่ ปน็ ความจริง จงเขยี นเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช่” X
X
ท่ี ขอ้ ความ X
1 โทรโพสเฟียร์เป็นชัน้ ท่ีมีสง่ิ มีชวี ิตอาศยั อยู่
2 ช้นั สตาร์โตสเฟียอุณหภมู ิเพ่มิ ข้ึน X
3 การลกุ ไหมเ้ กิดขน้ึ ในช้ันมีโซเฟียร์ X
4 อุณหภมู ิในชัน้ บรรยากาศลดลงตามระดบั ความสงู
5 ปรากฏการณแ์ สงเหนือเกิดข้ึนทุกพนื้ ท่ีของโลก
การจำแนกสมรรถนะ
ตามแนวการประเมินผลนักเรยี นรว่ มกับนานาชาติ (PISA)
สมรรถนะ
รูปแบบขอ้ สอบ ข้อที่ คะแนน ระบุประเด็นทาง อธิบาย ใชป้ ระจักษพ์ ยาน
วิทยาศาสตร์ ปรากฏการณใ์ น ทางวิทยาศาสตร์
เลือกตอบ เชิงวิทยาศาสตร์
แบบปกติ
(4 คะแนน) 11 X
เลือกตอบ
แบบเชิงซ้อน 21 X
( 1 คะแนน)
3.1 1 X - ข้อ - ข้อ
รวมจำนวนขอ้ 3.2 1 X - คะแนน - คะแนน
3.3 1 X
3.4 1 X
3.5 1 X
37 5 ขอ้
7 คะแนน
แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram
คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน ใหท้ ำเคร่อื งหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ความ ความ สรุปผล
สอดคล้อง สะอาด
ลำดับท่ี ชื่อ-สกลุ ความถูกตอ้ ง ครอบคลุม และเชอ่ื มโยง ตรงตอ่ เวลา เรยี บรอ้ ย รวม การ
ของผูร้ บั การประเมนิ ของเนือ้ หา เนอ้ื หา ของเนอื้ หา 4 20 ประเมิน
4 คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 4 ผ่าน
4321 43214 32 14321 4321
ประเมนิ ลงชอื่ .................................................... ผู้
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram
เกณฑก์ าร ระดับการประเมนิ
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)
รูปแบบ - มีหัวขอ้ ทีช่ ดั เจน - มีหวั ขอ้ ทีช่ ัดเจน - มีหัวข้อที่ชดั เจน - มหี วั ขอ้ ทชี่ ัดเจน
- เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอย่ใู นกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ
- ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น - ใชค้ ำสำคญั ตรงประเด็น - ใช้คำสำคัญตรงประเด็น
- ใช้สญั ลักษณห์ รอื ภาพส่ือ - ใช้สัญลักษณห์ รอื ภาพสื่อ
ความหมาย ความหมาย
- ใช้สสี นั ทว่ั แผน่
เนอ้ื หา - เนื้อหาครบถ้วนตามสาระ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระท่ี - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระที่
ท่กี ำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กว่า 59%
- เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขียนถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%
- ลำดับหวั ข้อเน้ือหาชดั เจน - ลำดับหัวข้อเน้อื หาชัดเจน - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตุสมผล
- มกี ารสรปุ ไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ กว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชดั เจนเสียงดังฟังชดั - พูดชดั เจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%
- บุคลิกภาพดแี ละมคี วาม - บุคลกิ ภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
ม่ันใจ - ความพร้อมในการ
- มกี ารใช้สื่อประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี - ใชส้ ีสนั สวยงามหรอื
สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ยา่ งใด
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สรา้ งสรรค์ อย่างหนง่ึ
- ความเป็นระเบยี บอา่ น
ง่าย
การตรงตอ่ สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ ส่งผลงานครบถ้วน แต่ช้า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้
เวลา เวลาทกี่ ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 นาที กว่าเวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาที่กำหนด 15
นาที นาที
แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 21 หนว่ ยยอ่ ยที่ 3
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 2 ชว่ั โมง
เรอื่ ง ประโยชนแ์ ละความสำคัญของบรรยากาศ ผสู้ อน ครสู ุกฤตา ดวงสุข
วันที่ทำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
บรรยากาศมีความสำคัญตอ่ การดำรงชีวิตของสงิ่ มชี วี ติ มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/1 สร้างแบบจำลองท่อี ธบิ ายการ
มากมาย เช่น ช่วยให้อุณหภูมขิ องโลกเหมาะสมตอ่ การดำรงชวี ิต แบง่ ช้ันบรรยากาศ และเปรยี บเทยี บประโยชนข์ องบรรยากาศ
ช่วยกรองรงั สที เี่ ปน็ อันตรายตอ่ ดวงอาทติ ย์ เป็นตน้ แต่ละชั้น
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
ประโยชน์และความสำคัญของบรรยากาศ - ใบงาน Cause & Effect เรือ่ งประโยชนแ์ ละความสำคญั
ของบรรยากาศ
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 6. เครือ่ งมอื การสอนคิด
ความสามารถในการคดิ - Cause & Effect
ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ความสามารถในการสือ่ สาร - Six thinking hats (Black hat) (White Hat) (Yellow
Hat)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ข้ันของกจิ กรรม 8. ส่ือ 9. วิธวี ัดผล
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรูเ้ ร่อื งประโยชน์ - ประเมินใบงาน
บอกเทศกาลทีน่ ักเรียนชอบมากทสี่ ุดมาคนละ 1 เทศกาล โดยหา้ มตอบซำ้ กนั และความสำคญั ของ Cause & Effect ใน
Purpose (2 นาที) บรรยากาศ หัวขอ้ “จะเปน็ อย่างไร
- ใบงาน Cause & Effect หากโลกไม่มีชนั้
เราจะเรียนเรือ่ ง ประโยชนแ์ ละความสำคญั ของบรรยากาศเพื่อให้นักเรียนบอก ในหวั ข้อ “จะเปน็ อย่างไร บรรยากาศ”
ประโยชน์และความสำคัญของบรรยากาศได้ หากโลกไมม่ ีชนั้
Work mode (110 นาท)ี
1. นักเรียนตอบคำถามทบทวนบทเรยี นจากคาบทแี่ ล้ว “ช้นั บรรยากาศ มกี ชี่ ั้น
ประกอบได้ดว้ ยชน้ั อะไรบา้ ง ” (White Hat) (10นาที) บรรยากาศ”
2. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้และห้องเรยี นออนไลนโ์ ดยการแสกน Qr-Code เรอื่ ง - ห้องเรียนออนไลน์ เรือ่ ง
ประโยชน์และความสำคญั ของบรรยากาศ (25 นาที) ประโยชนแ์ ละความสำคัญ
ของบรรยากาศ
3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5- 6 คน รว่ มกนั วิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบในหวั ขอ้
“จะเปน็ อยา่ งไรหากโลกไมม่ ีช้ันบรรยากาศ” โดยลงมอื ทำใบงาน Cause & Effect
เรื่องประโยชนแ์ ละความสำคญั ของบรรยากาศ (Black hat) (คิด1 : คิดวเิ คราะห์)
(พอเพยี ง7 : สังคม) (45 นาท)ี
4. นักเรยี น (ตวั แทนโดยการสุ่ม) นำเสนอผลการศึกษาหนา้ ช้ันเรยี นและรว่ มกนั
โตแ้ ยง้ เพือ่ หาขอ้ สรปุ ของหัวข้อท่ีศึกษา (คิด 3 : คดิ วพิ ากษ)์ (15 นาที)
5. นกั เรียนและครสู รุปความรู้เกีย่ วกบั เร่อื ง ประโยชนแ์ ละความสำคญั ของ
บรรยากาศ โดยนักเรียนตอบคำถามดังนี้ (15นาท)ี
- ช้นั บรรยากาศมปี ระโยชน์และความสำคญั ในชวี ติ ประจำวนั อย่างไรบา้ ง
(Yellow Hat)
Reflective Thinking (5 นาที)
- 1 สง่ิ ทนี่ กั เรียนไดร้ ับจากการเรยี นในวนั นี้คือ (3 นาที)
ใบความรเู้ ร่ืองประโยชน์และความสำคัญของบรรยากาศ
ประโยชนข์ องชัน้ บรรยากาศ
ชั้นบรรยากาศทห่ี ่อหุ้มโลกมีประโยชน์ต่อสง่ิ มชี วี ิตบนโลก ดงั น้ี
1. ช่วยปรบั อุณหภมู ิของโลกให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิต กลา่ วคอื โดยปกตใิ นชว่ งกลางวันทม่ี ี
แสงแดด อากาศท่ีหอ่ หุม้ โลกจะช่วยดูดกลนื ความรอ้ นจากดวงอาทิตย์ไว้บางส่วนทำใหโ้ ลกมีความอบอ่นุ ข้ึน
สว่ นชว่ งกลางคืนทีไ่ มม่ แี สงแดด อากาศจะชว่ ยระบายความรอ้ นทำใหโ้ ลกเยน็ ลง ถ้าไม่มอี ากาศหอ่ หุ้มโลกไว้
แล้วในช่วงกลางวันอุณหภมู บิ นผวิ โลกจะสงู ถึงประมาณ 110 องศาเซลเซียส และในชว่ งกลางคืนอณุ หภูมบิ น
ผิวโลกจะลดต่ำลงจนถึงประมาณ -180 องศาเซลเซียส
2. ชว่ ยปอ้ งกนั อนั ตรายจากรังสีตา่ ง ๆ จากดวงอาทติ ย์ เชน่ รังสีอลั ตราไวโอเลต (รงั สีเหนอื ม่วง) จะ
ถกู แกส๊ โอโซนในบรรยากาศดดู ซับไว้บางสว่ นและปลอ่ ยรงั สอี ัลตราไวโอเลต ลงมายังผิวโลกในปรมิ าณที่
เหมาะสม สำหรับมนุษยถ์ ้าร่างกายถูกรังสอี ัลตราไวโอเลตท่มี ีความเข้มมากเกนิ ไป เซลลผ์ วิ หนังจะถูกทำลาย
และอาจทำใหเ้ ป็นมะเรง็ ท่ผี ิวหนังได้
3. ชว่ ยป้องกันอันตรายจากอนภุ าคตา่ งๆ ทีม่ าจากนอกโลก เชน่ อกุ กาบาตหรอื สะเก็ดจากดาว
เคราะห์ต่าง ๆ เปน็ ตน้ โดยอนุภาคเหลา่ น้ีจะเสียดสกี ับอากาศท่หี อ่ หุ้มโลกและเกดิ การลกุ ไหม้จนหมด หรอื มี
ขนาดเลก็ ลงกอ่ นตกลงสู่ผวิ โลก
4. ส่วนผสมของแกส๊ ตา่ ง ๆ ในอากาศ ชว่ ยให้เกดิ กระบวนการบางอยา่ งที่จำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ติ ของ
ส่ิงมชี วี ติ เช่น แก๊สออกซเิ จนเปน็ แก๊สท่ีใช้ในกระบวนการหายใจของส่ิงมชี วี ติ และ ช่วยใหไ้ ฟติดแกส๊
คารบ์ อนไดออกไซดเ์ ป็นแก๊สท่ีใช้ในกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช
ชอื่ ..........................................................................ชน้ั ...........เลขที่.........
ใบงาน Cause & Effect เร่อื งประโยชน์และความสำคัญของบรรยากาศ
“จะเปน็ อย่างไรหากโลกไมม่ ชี ั้นบรรยากาศ”
สรปุ ผล
............................................................................................................................. ....................................................
.................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
แนวข้อสอบ O –NET
1. ถ้าโลกเราไมม่ ีบรรยากาศหอ่ ห้มุ อณุ หภูมใิ นช่วงกลางวนั และช่วงกลางคนื จะเป็นอยา่ งไร
ก. อณุ หภูมชิ ่วงกลางวันสูงมาก อุณหภูมิช่วงกลางคนื ต่ำมาก
ข. อุณหภูมชิ ว่ งกลางวนั ตำ่ มาก อุณหภูมชิ ว่ งกลางคืนสูงมาก
ค. อณุ หภมู ิชว่ งกลางวันและกลางคืนมคี ่าเท่ากนั และคงที่
ง. สรปุ แน่นอนไมไ่ ด้
2. บรรยากาศชั้นใดที่มีการเปลี่ยนแปลงของอากาศมากท่สี ุด
ก. มโี ซสเฟยี ร์
ข. โทรโพสเฟียร์
ค. เทอรโ์ มสเฟยี ร์
ง. สตราโตสเฟียร์
ทมี่ า : http://www.trueplookpanya.com/examination/answer/812
แบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
คำช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมนิ
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Cause and Effect
ช่ือ-สกุล การแสดง นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ลำดับที่ ของผรู้ บั การ ความ เน้ือหา สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
คิดเห็น (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมนิ (4คะแนน) (4คะแนน) ไมผ่ ่าน
ลงชื่อ ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นได้ระดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถอื ว่า ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)
การแสดง - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น - - แสดงความคดิ เห็น
ผลกระทบของปญั หา/
ความคิดเหน็ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปญั หา/ เหตกุ ารณไ์ ด้ นอ้ ยกวา่ 6
ข้อ
เหตกุ ารฌไ์ ด้ 10 ขอ้ ขนึ้ เหตกุ ารณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ขอ้
ไป
เน้อื หา - เนอื้ หาครบถว้ นตามสาระ - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระท่ี
ทีก่ ำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ ว่า 59%
- เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำว่า 59%
- ลำดบั หัวข้อเนือ้ หาชัดเจน - ลำดับหัวขอ้ เนอ้ื หาชดั เจน - มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มีการสรุปไมส่ มเหตุสมผล
- มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง - มีการสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ ว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - พดู ชัดเจนเสียงดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
ตามอักขระ100% ตามอกั ขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ วา่ 59%
- บคุ ลิกภาพดีและมคี วาม - บุคลิกภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
ม่นั ใจ - ความพร้อมในการ
- มีการใช้สอื่ ประกอบการ นำเสนอได้บางสว่ น
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงามและมี - ใช้สีสนั สวยงามหรือ
สวยงาม - มีความสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑ์อยา่ งใด
- มีความคดิ สร้างสรรค์ - มีความคิดสรา้ งสรรค์ อยา่ งหน่งึ
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ น
ง่าย
การตรงต่อ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้า สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้
เวลา เวลาท่ีกำหนด กว่าเวลาท่ีกำหนด 5 นาที กวา่ เวลาที่กำหนด 10 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 15
นาที นาที
แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 22 หน่วยย่อยท่ี 4
ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ชัว่ โมง
เรอื่ ง อณุ หภมู ิอากาศ ผู้สอน ครูสุกฤตา ดวงสขุ
วันที่ทำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
อณุ หภูมอิ ากาศ (Air temperature) เปน็ ปัจจยั พน้ื ฐาน มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/2 อธบิ ายปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ การ
ในการศกึ ษาสภาพอากาศ (weather) อุณหภูมอิ ากาศแปร เปลีย่ นแปลงองค์ประกอบของลมฟา้ อากาศ จากข้อมลู ท่ี
เปลยี่ นไปในแต่ละช่วงเวลา เชน่ ปี ฤดกู าล เดือน วัน และ รวบรวมได้
แม้กระทง่ั รายชั่วโมง
4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
3. สาระการเรียนรู้ - ใบงาน PMI เรอื่ ง อณุ หภมู ใิ นประเทศไทย
อุณหภมู ิอากาศ - แบบทดสอบออนไลน์ เร่อื งอุณหภูมิอากาศ 5 ข้อ
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 6. เครอื่ งมอื การสอนคิด
ความสามารถในการคดิ - PMI - Six thinking hats (White Hat)
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กิจกรรมการเรียนรู้ 8. ส่อื 9. วธิ ีวัดผล
7. ข้นั ของกิจกรรม
Do Now (3 นาที) - ไฟล์ Learn Education - ประเมนิ ใบงาน PMI
บอกวิธที ่ที ำใหโ้ รงเรียนน่าอยู่ มาคนละ 1 อยา่ งห้ามซำ้ กนั เรอื่ งอณุ หภูมิอากาศ คาบ เรอ่ื ง อณุ หภูมิในประเทศ
ที่ 2 ไทย
Purpose (2 นาที) - ใบงาน PMI เรอ่ื ง
เราจะเรยี นเร่ือง อุณหภูมิอากาศ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นอธิบายอณุ หภูมิท่ีมผี ลตอ่ ลม อุณหภูมิในประเทศไทย - ประเมินแบบทดสอบ
- ใบความรเู้ ร่ือง อณุ หภมู ิ
ฟ้า อากาศ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง ออนไลน์ เร่ืองอุณหภมู ิ
Work mode (50 นาที) อากาศ
อากาศ 5 ขอ้
1. นักเรยี นตอบคำถามโดยครูถามกระตุ้นความคิด “นักเรยี นสามารถบอกค่า - หอ้ งเรียนออนไลน์
อุณหภมู ขิ องอากาศไดห้ รอื ไม่ ?” (คดิ 1 : คิดวเิ คราะห์) (2 นาที)
อุณหภมู อิ ากาศ
2. นักเรียนศกึ ษาไฟล์ที่ 2 เรอ่ื งอุณหภูมอิ ากาศ ผ่านระบบ Learn Education
(พอเพียง3 : การมีภูมคิ มุ้ กนั ท่ดี )ี (30 นาที)
3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรียนออนไลน์ 5ขอ้ (5 นาที)
4. นักเรียนสบื คน้ ข้อมลู เกยี่ วกบั อุณหภูมอิ ากาศจากใบและหอ้ งเรียนออนไลน์
เรือ่ งอุณหภมู ิอากาศ แล้วพิจารณาไตร่ตรอง บอกข้อดี ข้อเสยี ขอ้ เสนอแนะ
เก่ียวกับอณุ หภูมใิ นประเทศไทย ในรปู แบบของ ใบงาน PMI เร่ือง อณุ หภูมิอากาศ
(คิด4 : คิดอย่างมวี ิจารณญาณ) (พอเพยี ง : 3 การมภี มู คิ ุ้มกนั ) (10นาที)
5. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ เชอ่ื มโยงความคิดเก่ียวกับการแบ่งชั้นบรรยากาศ
(คดิ 6 : คิดสังเคราะห์) พรอ้ มทัง้ ร่วมกนั ตอบคำถามดงั นี้ (3 นาท)ี
- “ทำไมในแตล่ ะพื้นทถ่ี ึงมอี ณุ หภูมิท่ีแตกต่างกนั ?” (White hat)
Reflective Thinking (5 นาที)
- 1 ส่งิ ทน่ี กั เรยี นได้รบั จากการเรียนในวนั นคี้ อื (3 นาที)
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ขอ้ (2 นาที)
ใบความรู้เร่ืองอณุ หภมู อิ ากาศ
อณุ หภมู อิ ากาศ
อุณหภูมิอากาศ (Air temperature) เป็นปัจจัยพืน้ ฐานในการศกึ ษาสภาพอากาศ (weather)
อณุ หภมู อิ ากาศแปรเปลยี่ นไปในแต่ละช่วงเวลา เช่น ปี ฤดูกาล เดอื น วนั และแม้กระท่ังรายช่วั โมง ดงั นน้ั
คา่ อณุ หภูมิเฉลยี่ ในแต่ละวนั (Daily mean temperature) จึงใชค้ า่ อุณหภมู ิสงู สุดและอณุ หภูมิ
ตำ่ สดุ รวมกนั แลว้ หารสอง
คา่ อุณหภูมิเฉลี่ยของเดือน (Monthly mean temperature) ใช้ค่าเฉลย่ี อุณหภมู ิของแต่ละวนั
รวมกัน แล้วหารดว้ ยจำนวนวัน
คา่ อุณหภูมเิ ฉล่ยี ของปี (Yearly mean temperature) ใช้คา่ เฉลี่ยอุณหภมู ขิ องแต่ละเดือนรวมกัน
แล้วหารด้วยสิบสอง
สิ่งที่เปน็ สาเหตสุ ำคัญท่ีสุดในการเปลยี่ นแปลงของอณุ หภูมิในรอบวันก็คอื การหมุนรอบตัวเองของโลก
ซง่ึ ทำให้มมุ ที่แสงอาทิตย์ตกกระทบพนื้ ผวิ โลกเปลี่ยนแปลงไป ในชว่ งเวลาเทีย่ งวนั ดวงอาทติ ย์อยสู่ งู เหนอื ขอบ
ฟ้ามากท่ีสุด แสงอาทิตยต์ กกระทบพืน้ โลกเปน็ มุมฉาก ลำแสงมีความเขม้ สูง ในช่วงเวลาเช้าและเย็น ดวง
อาทติ ย์อย่ดู ้านข้าง แสงตกกระทบพนื้ โลกเปน็ มมุ เฉยี ง ลำแสงครอบคลุมพ้ืนท่กี ว้างกว่า ความเขม้ ของแสงจงึ มี
นอ้ ยกว่า อีกประการหนงึ่ ในชว่ งเวลาเท่ียง ลำแสงสอ่ งผ่านบรรยากาศเป็นระยะทางไมม่ าก แต่ในชว่ งเวลาเช้า
และเยน็ ลำแสงอาทติ ย์ทำมุมลาด ต้องเดนิ ทางผ่านชนั้ บรรยากาศเปน็ ระยะทางไกล ความเข้มของแสงจึงถูก
บรรยากาศกรองใหล้ ดนอ้ ยลง ยังผลใหอ้ ณุ หภมู ิต่ำลงไปอีก
ภาพที่ 1 เทอร์มอมิเตอรช์ นิดสงู สุด-ตำ่ สดุ (Max –min thermometer)
อุปกรณซ์ ึง่ ใชใ้ นการวัดอณุ หภูมิของอากาศ เรียกวา่ “เทอร์มอมิเตอร์” (Thermometer) เทอร์มอ
มิเตอรท์ ่ีใช้ในการศึกษาสภาพอากาศ คือ “เทอรม์ อมิเตอรช์ นดิ สงู สดุ -ต่ำสุด” (Max-min thermometer) ซึง่
สามารถวัดค่าอณุ หภมู ิสงู สุดและต่ำสุดในรอบวันได้ จากการศกึ ษากราฟอณุ หภมู ใิ นรอบวัน จะพบวา่ อณุ หภูมิ
สูงสดุ มักเกิดข้นึ ตอนบ่าย มใิ ช่ตอนเทย่ี ง ทงั้ นเ้ี น่อื งจากพน้ื ดนิ และบรรยากาศต้องการอาศยั เวลาในดูดกลนื และ
คายความรอ้ น (การเกิดภาวะเรอื นกระจก) อกี ทีหนงึ่
ภาพที่ 2 กราฟแสดงการเปลีย่ นแปลงอณุ หภมู ขิ องอากาศในรอบ 3 วัน
ปัจจัยทที่ ำให้อณุ หภูมิอากาศในแตล่ ะสถานที่มคี วามแตกต่างกนั
พ้นื ดินและพนื้ น้ำ
พืน้ ดินและพืน้ น้ำมีคุณสมบตั ิในการดดู กลืนและคายความร้อนแตกตา่ งกนั เม่ือรบั ความรอ้ นพนื้ ดนิ จะ
รอ้ นขึ้นอยา่ งรวดเร็ว และมอี ุณหภูมิสงู กว่าพื้นนำ้ เม่อื คายความร้อนพื้นดนิ จะเย็นตัวอย่างรวดเรว็ และมี
อุณหภมู ติ ำ่ กว่าพนื้ นำ้ ทงั้ นี้เนื่องจากพนื้ นำ้ มคี วามร้อนจำเพาะสงู กว่าพื้นดนิ ถึง 3 เทา่ ตวั (ความร้อนจำเพาะ
หมายถึง ปริมาณความร้อนทที่ ำใหส้ สาร 1 กรมั มีอุณหภูมสิ ูงขน้ึ 1°C)
ระดบั สูงของพืน้ ที่ (Elevation)
อากาศเป็นตวั นำความรอ้ น (Conduction) ทเี่ ลว เน่อื งจากอากาศมีความโปร่งใส และมีความ
หนาแนน่ ต่ำ พื้นดนิ จึงดูดกลนื พลังงานจากแสงอาทิตยไ์ ด้ดกี วา่ อากาศถ่ายเทความรอ้ นจากพื้นดิน ด้วยการพา
ความร้อน (Convection) ไปตามการเคลือ่ นทข่ี องอากาศ ในสภาพทวั่ ไปเราจะพบวา่ ยิ่งสงู ขึ้นไป อุณหภูมิของ
อากาศจะลดต่ำลงด้วยอัตรา 6.5°C ตอ่ กโิ ลเมตร (Environmental lapse rate) ดงั นัน้ อณุ หภมู ิบนยอดเขาสงู
2,000 เมตร จะต่ำกวา่ อณุ หภูมทิ ่ีระดับนำ้ ทะเลประมาณ 13°C
ละตจิ ดู
เน่อื งจากโลกเป็นทรงกลม แสงอาทิตย์จงึ ตกกระทบพื้นโลกเป็นมุมไมเ่ ทา่ กนั (ภาพที่ 3) ในเวลาเทยี่ ง
วันพ้นื ผวิ บริเวณศนู ยส์ ตู รไดร้ ับรังสีจากแสงอาทิตย์เปน็ มุมชนั แตพ่ ื้นผิวบรเิ วณข้วั โลกได้รบั รงั สีจากแสงอาทิตย์
เป็นมมุ ลาด สง่ ผลใหเ้ ขตศูนย์สตู รมอี ุณหภูมสิ งู กว่าเขตขัว้ โลก ประกอบกับรงั สีทีต่ กกระทบพืน้ โลกเป็นมมุ ลาด
เดินทางผา่ นความหนาชนั้ บรรยากาศเป็นระยะทางมากกว่า รงั สีทีต่ กกระทบเปน็ มุมชัน ความเขม้ ของแสงจงึ
ถกู บรรยากาศกรองให้ลดน้อยลง ยงั ผลใหอ้ ณุ หภูมิลดต่ำลงไปอีก
ภาพที่ 3 มุมท่ีแสงอาทิตย์ตกกระทบพ้ืนผวิ โลก
ตำแหน่งทางภมู ศิ าสตร์
พืน้ ผิวโลกมีสภาพภมู ิประเทศแตกต่างกัน มที ัง้ ทร่ี าบ ทวิ เขา หบุ เขา ทะเล มหาสมทุ ร ทะเลสาบ
ทะเลทราย ท่ีราบสงู สภาพภมู ปิ ระเทศมอี ทิ ธิพลส่งผลกระทบสภาพลมฟ้าอากาศโดยตรง เชน่ พืน้ ท่ีทะเลทราย
จะมอี ุณหภมู แิ ตกตา่ งระหว่างกลางวันกลางคนื มากกวา่ พื้นที่ชายทะเล พืน้ ทีร่ ับลมจะมีอณุ หภูมติ ่ำกว่าพื้นท่อี บั
ลมเนือ่ งจากไม่มกี ารถ่ายเทความร้อน
ปรมิ าณเมฆ และอัลบโี ดของพืน้ ผวิ
เมฆสะทอ้ นรังสีจากอาทิตย์บางส่วนกลับคนื สู่อวกาศ ขณะเดยี วกันเมฆดูดกลืนรงั สีคลื่นส้นั เอาไว้และ
แผพ่ ลงั งานออกมาในรปู ของรังสอี ินฟราเรด ในเวลากลางวัน เมฆช่วยลดอุณหภมู ิอากาศให้ต่ำลง และในเวลา
กลางคนื เมฆทำให้อณุ หภูมิอากาศสงู ข้ึน เมฆจงึ ทำให้อุณหภมู อิ ากาศเวลากลางวนั และกลางคืนไมแ่ ตกต่างกนั
มากนกั
พน้ื ผิวของโลกกเ็ ชน่ กนั พืน้ โลกทม่ี อี ลั บีโดต่ำ (สเี ขม้ ) เช่น ป่าไม้ ดดู กลนื พลงั งานจากดวงอาทิตย์ พน้ื
โลกที่มีอัลบโี ดสูง (สอี อ่ น) เช่น ธารน้ำแขง็ ช่วยสะท้อนพลังงานจากดวงอาทิตย์ (อัลบโี ด หมายถึง
ความสามารถในการสะท้อนแสงของวัตถุ)
ชอื่ ..........................................................................ชนั้ ...........เลขที่.........
ใบงาน PMI
เร่อื ง อณุ หภมู ิประเทศไทย
คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นบอก ขอ้ ดี ข้อเสีย และข้อเสนอแนะของอุณหภูมิในประเทศไทย I
PM
สรปุ อณุ หภมู ิอากาศ คือ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
แนวข้อสอบ O –NET
1. อณุ หภูมิของโลกในปัจจบุ นั นส้ี ูงข้นึ เน่ืองจากสาเหตใุ ดมากทีส่ ุด ?
1. ภูเขาไฟระเบิด
2. มกี ารเผาไหม้น้ำมนั เชื้อเพลงมากขึ้น
3. การเกิดแผน่ ดินไหว
4. การเกดิ ซึนามิ
2. อุณหภูมิของโลกในช่วงกลางวันและกลางคืนจะเปน็ อยา่ งไรถา้ ไม่มบี รรยากาศหอ่ หุ้มไว้ ?
1. อณุ หภมู กิ ลางวนั ต่ำมาก อุณหภูมิกลางคนื สงู มาก
2. อุณหภมู กิ ลางวนั สงู มาก อณุ หภมู ิกลางคนื ตำ่ มาก
3. อณุ หภมู ิกลางวนั กลางคืนไม่คงท่ี
4. ไม่สามารถสรุปได้
ที่มา : หนังสอื เรยี น Learn education ขอ้ สอบ วิทยาศาสตร์ ม.1 . 2559
แบบประเมินใบงาน PMI
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน PMI
ลำดับ ชอ่ื -สกลุ การแสดงความ เนื้อหา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรุปผลการ
ที่ ของผ้รู บั การประเมนิ คิดเหน็ 20 คะแนน ประเมนิ
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ผ่าน/ไมผ่ า่ น
( 4 คะแนน )
ลงชือ่ ....................................................ผู้ประเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรุง
นกั เรยี นไดร้ ะดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
การแสดง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง
ความคิดเหน็ - แสดงความคิดเห็นในช่อง - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเห็นในช่อง
P ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ขอ้
P ได้ 10 ข้อขึ้นไป P ได้ 9-10 ข้อ P ได้ 7-8 ข้อ - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง M ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ
- แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง I
Mได้ 10 ข้อขึน้ ไป M ได้ 9-10 ข้อ M ได้ 7-8 ขอ้
ได้ น้อยกวา่ 7 ข้อ
- แสดงความคิดเหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเห็นในช่อง - แสดงความคิดเห็นในช่อง
I ได้ 10 ขอ้ ขึน้ ไป I ได้ 9-10 ข้อ I ได้ 7-8 ข้อ
เน้ือหา - เน้ือหาครบถ้วนตามสาระ - เน้ือหาถูกต้องตามสาระท่ี - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่
ท่ีกำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำกว่า 59%
การนำเสนอ - เขียนถกู ต้องตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%
ความ - ลำดับหวั ข้อเนอื้ หาชัดเจน - ลำดบั หัวข้อเนอ้ื หาชดั เจน - มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มีการสรปุ ไม่สมเหตุสมผล
สวยงาม - มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มีการสรุปได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ กว่า 59%
การตรงตอ่ สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
เวลา - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - พูดชัดเจนเสียงดงั ฟังชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
ตามอกั ขระ100% ตามอกั ขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ ว่า 59%
- บุคลิกภาพดีและมคี วาม - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
มัน่ ใจ - ความพร้อมในการ
- มกี ารใช้สือ่ ประกอบการ นำเสนอไดบ้ างส่วน - ใชส้ สี ันสวยงามและมี - ใช้สีสนั สวยงามหรือเปน็ ไป
นำเสนอ ความสะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอย่าง
- ความพร้อมในการ - ใช้สีสันสวยงาม หนง่ึ
นำเสนอ - มีความสะอาด สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้
- ใชส้ สี นั สวยงาม - มคี วามคิดสร้างสรรค์ กว่าเวลาท่ีกำหนด 10 สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้
- มคี วามสะอาด นาที กวา่ เวลาท่กี ำหนด 15
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้ นาที
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ น กวา่ เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที
งา่ ย
สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม
เวลาทกี่ ำหนด
ตอบคำถามถูกตอ้ ง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน PRACQUIZ
ตอบคำถามไมถ่ กู ต้อง เรื่อง อณุ หภูมิอากาศ
1 คะแนน
0 คะแนน
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
5 ดีมาก
3-4 ดี
1-2 พอใช้
0 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนได้ระดับคณุ ภาพท่ี ดี ข้ึนไปถือว่า ผา่ น
แผนจัดการเรียนร้ทู ี่ 23 หนว่ ยยอ่ ยที่ 5
ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 2 ชว่ั โมง
เรอ่ื ง ความดันอากาศ ผสู้ อน ครูสุกฤตา ดวงสุข
วนั ทที่ ำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
อากาศมแี รงดันทกุ ทิศทางและกระทำต่อมวลสสารทกุ มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/2 อธิบายปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การ
อยา่ งบนโลก แรงดนั อากาศบนพ้ืนที่ขนาดต่างกนั จะไมเ่ ทา่ กัน เปลยี่ นแปลงองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ จากข้อมลู ที่
ในทางอุตุนิยมวิทยา เรียกความดนั อากาศว่า ความกดอากาศ รวบรวมได้
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
ความดนั อากาศ - แบบฝึกหัดเร่อื ง ความดันอากาศ
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น - ใบงาน Diagram เรอ่ื งความดันอากาศ
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปญั หา 6. เครอ่ื งมือการสอนคดิ
- Six thinking hat (White Hat)
- Diagram
7. ข้นั ของกจิ กรรม กจิ กรรมการเรยี นรู้ 9. วธิ ีวดั ผล
8. ส่ือ - ตรวจแบบฝึกหัดเรอื่ ง
Do Now (3 นาท)ี
- แบบฝกึ หดั เรื่อง ความดนั
กิจกรรมการเรียนรู้ 8. ส่อื 9. วธิ ีวัดผล
7. ขั้นของกิจกรรม
6. นักเรียนสรุปความรูใ้ นรปู แบบแผนผังมโนทัศน์ ลงมือทำใบงาน
Diagram เรอ่ื งความดนั อากาศ (คิด9 : คิดเชิงมโนทัศน์) (30 นาที)
7. นักเรียน (ตัวแทนโดยการสุ่ม) ออกมานำเสนอใบงาน Diagram เรือ่ ง
ความดันอากาศหนา้ ชน้ั เรยี น (10 นาท)ี
8. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ เชื่อมโยงความคิด เกีย่ วกับความดันอากาศ
(คดิ 6 : คิดสังเคราะห์) พรอ้ มท้ังรว่ มกนั ตอบคำถามดังนี้ (10 นาท)ี
“อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการวัดความดนั อากาศคืออะไร ?” (White hat)
“หนว่ ยของความดนั ที่ระดับน้ำทะเลมีคา่ เทา่ ใด ?” (White hat)
“ปจั จัยใดบา้ งท่สี ง่ ผลต่อความดันอากาศ ?” (คดิ 1 : คดิ วเิ คราะห)์
“นักเรยี นคิดวา่ ความดนั อากาศเกีย่ วขอ้ งอย่างไรกบั อาการหอู ื้อในลฟิ ท์
เมอ่ื ขนั้ ตึกสูงๆ” (คดิ 1 : คดิ วเิ คราะห์)
Reflective Thinking (5 นาท)ี
- 1 สิ่งที่นกั เรยี นไดร้ ับจากการเรยี นในวนั นีค้ อื (3 นาที)
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ข้อ (2 นาที)
ใบความรู้เรื่องความดันอากาศ
ความดันอากาศหรือความดันบรรยากาศเป็น ความกดดันอยูจ่ ดุ ใดหนึง่ ของชนั้ บรรยากาศของโลก
โดยทว่ั ไปความกดอากาศจะประมาณเท่ากับความกดดนั ท่เี กิดขึน้ ยอ้ นน้ำหนกั ของอากาศอยบู่ นจุดนนั้ ๆ ซึ่ง
หมายความว่า จุดทม่ี ีความกดอากาศตำ่ จะมอี ากาศทมี่ ีมวลสารต่ำกวา่ จะอย่ขู ้างบนมนั ดว้ ยเหตุผลแบบ
เดยี วกนั ความกดอากาศจะต่ำลงเมอ่ื ระดับความสูงเพ่ิมขนึ้ ความกดอากาศท่คี วามสูงระดับนำ้ ทะเล จะเท่ากับ
1 atm (หนงึ่ หนว่ ยบรรยากาศ) หรือ 101.325 kPa (กโิ ลปาสคาล) หรอื 760 mmHg (มิลลเิ มตรปรอท)
อปุ กรณท์ ใี่ ช้วดั ความดันอากาศ
1. บารอมิเตอรป์ รอท (murcury barometre)
ประกอบด้วยหลอดแก้วกลวงยาวประมาณ 90 เซนติเมตร ทปี่ ลายดา้ นหนงึ่ ปดิ โดยภายในบรรจุ
ปรอทไว้ และปากหลอดคว่ำอยู่ในภาชนะท่รี องรบั ปรอท ท่คี วามสงู ทรี่ ะดบั นำ้ ทะเล (ความดนั 1 บรรยากาศ)
ปรอทในหลอดแก้วจะมีความสงู เหนือระดบั ปรอทในภาชนะ 76 เซนตเิ มตร หรอื 760 มลิ ลิเมตรปรอท
(ความดัน 1 บรรยากาศ มคี ่าเท่ากบั 76 เซนติเมตร หรือ 760 มิลลเิ มตรปรอท หรือ 10.336 เมตรของนำ้
หรอื 1.01325 บาร์ หรือ 1.01 x 105 N/m2)
2. แอนนิรอยด์บารอมิเตอร์ (aneroid barometre)
ประกอบดว้ ยตลบั โลหะอะลมู ิเนียม ซง่ึ ยึดด้านหน่งึ ของตลับติดกบั สปริง แลว้ ตอ่ ไปทค่ี านและเข็มช้ี
ตลับจะยบุ พองตามค่าความกดอากาศ โดยหากความกดอากาศสูง ตลับจะยบุ ตวั ทำให้เขม็ ชไ้ี ปบนหนา้ ปัดทม่ี ี
ตวั เลขแสดงความกดอากาศเป็นมิลลบิ าร์
3. บารอกราฟ (barograph)
ส่วนประกอบคลา้ ยกับแอนนริ อยด์บารอมเิ ตอร์ แตส่ ามารถบันทึกขอ้ มูลของความกดอากาศตอ่ เน่อื ง
และบอกเวลาได้ด้วย โดยบนั ทึกลงบนแผน่ กราฟที่พนั อยรู่ อบกระป๋องท่ตี อ่ เข้ากับแกนของมอเตอร์ กระป๋องจะ
หมนุ ครบรอบภายใน 24 ชัว่ โมง ทำใหอ้ า่ นค่าความกดอากาศในชว่ งเวลาทผี่ ่านมาได้
4. แอลตมิ ิเตอร์ (altimetre)
ใชห้ ลักการเดยี วกบั แอนนิรอยดบ์ ารอมเิ ตอร์ แต่สามารถอ่านความสูงได้ดว้ ยอาศยั หลกั การทวี่ า่ ความ
กดอากาศจะลดลง 1 มิลลิเมตรของปรอท ทกุ ๆ ความสูง 11 เมตร จากระดับนำ้ ทะเล
**หากทราบความกดอากาศทีย่ อดเขาแหง่ หนึ่ง กส็ ามารถคำนวณความสงู ของยอดเขาน้ไี ด้
ปัจจัยทมี่ อี ทิ ธิพลตอ่ ความกดอากาศ
1. อุณหภูมิ อากาศท่ีมีอุณหภูมิสงู จะขยายตวั ทำใหม้ คี วามกดอากาศต่ำ
2. ความชน้ื อากาศชน้ื มไี อนำ้ อยมู่ าก จะเบากว่าอากาศแห้งทีม่ ีปรมิ าตรเทา่ กัน อากาศช้ืนจึงมคี วามกด
อากาศตำ่ กว่าอากาศแห้ง
3. ความสงู เมื่อความสงู จากระดบั น้ำทะเลเพ่ิมข้ึน ความกดอากาศจะมคี ่าลดลง
บนยอดเขาสูงๆ ความกดอากาศจะต่ำมาก และมปี รมิ าณออกซเิ จนน้อย จงึ ทำใหน้ ักปีนเขาเหน่ือยง่าย ดงั นั้นในการ
ปนี เขาจำเป็นตอ้ งมีอปุ กรณ์ตา่ งๆ เพอ่ื ช่วยให้การปนี เขางา่ ยขึ้น
ชอื่ ..........................................................................ชน้ั ...........เลขที.่ ........
แบบฝกึ หัดเรื่อง ความดนั อากาศ
คำช้แี จง ให้นกั เรียนแสดงวธิ ีทำและหาคำตอบให้ถูกตอ้ ง (ขอ้ ละ 5 คะแนน)
1. ท่ีระดบั ความสูงของตึกสูงเท่ากบั 110 เมตร ความดันอากาศจะมีค่าเท่าใด ?
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ถ้าวดั ความดนั อากาศที่ยอดเขาแหง่ นไ้ี ด้ 710 มลิ ลิเมตรปรอท จงหาว่ายอดเขานีอ้ ยู่สงู จากระดับน้ำทะเล
เทา่ ไหร่ ?
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ยอดเขา B วดั ความดนั บรรยากาศได้ 680 มลิ ลเิ มตรปรอทจงหาความสูงจากระดับน้ำทะเลจากยอดเขานี้ ?
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. เม่ือเอาบารอมเิ ตอรไ์ ปวางบนยอดเขาแห่งหนึง่ อ่านระดบั ปรอทได้ 590 มลิ ลเิ มตรของปรอท ยอดเขานี้
สูงจากระดับนำ้ ทะเลเทา่ ใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ยอดเขา A สงู จากระดับน้ำทะเล 1,760 เมตร อยากทราบว่าบนยอดเขา A มีความดันอากาศก่ีมิลลิเมตรของ
ปรอท
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงาน Diagram เร
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นสรปุ ความรใู้ นรปู แบบแผนผงั มโนทัศน์ เร่ืองควา
ชอื่ ..........................................................................ชน้ั ...........เลขที่.........
รือ่ งความดนั อากาศ
ามดนั อากาศ ลงในใบงาน Diagram ใหถ้ กู ตอ้ ง
แนวข้อสอบ O –NET
1. ความดนั อากาศ หมายถึง อะไร
ก. แรงทอี่ ากาศกระทำต่อหน่ึงหน่วยพนื้ ที่ท่ีรองรับแรงดัน
ข. แรงที่อากาศกดลงบนผิวของวัตถใุ นทกุ ทิศทาง
ค. อนภุ าคของอากาศ
ง. อากาศเคลอ่ื นที่ไปมาไดอ้ ย่างอสิ ระ
2. "เคลือ่ นทไี่ ปมาไดอ้ ยา่ งอสิ ระ และตลอดเวลาในทุกทิศทาง โดยจะเคล่อื นท่ชี นกันเองและชนกบั วตั ถุตา่ ง
ๆ ทีล่ ้อมรอบ ทำให้เกิดแรงดนั รอบทิศทาง” เรยี กอีกอยา่ งวา่ อะไร
ก. แรงดนั อากาศ
ข. แรงดนั น้ำ
ค. แรงดันไฟ
ง. ไม่มขี ้อถกู
ท่ีมา : http://testonlinep456.blogspot.com/2014/08/blog-post_28.html
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึกหดั
เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ ีก่ ำหนด 5 4 ระดบั คะแนน 2 1
คะแนน ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ 3 ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์
1 คำตอบถูกต้อง ที่กำหนดทั้ง ทก่ี ำหนดท้ัง ท่กี ำหนดทงั้ ท่กี ำหนดทั้ง
แบบฝึกหัด 2 แสดงวธิ ีการคำนวณได้ 6 ข้อ 4-5 ข้อ ทำตามเกณฑ์ 1 ข้อ 0 ข้อ
ท่ีกำหนดท้ัง
3 แทนคา่ สมการได้ 2-3 ขอ้
4 กำหนดสูตร/สมการได้
ถูกต้อง
5 วเิ คราะห์และกำหนด
ตัวแปรได้
6 ไมไ่ ด้สามารถแสดงวิธี
ทำและคำตอบผิด
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
4-5 ดีมาก
3 ดี
2 พอใช้
1 ปรบั ปรุง
นักเรียนได้ระดบั คุณภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผา่ น
แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram
คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น ให้ทำเครือ่ งหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ความ ความ สรุปผล
สอดคลอ้ ง สะอาด
ลำดับที่ ช่ือ-สกุล ความถูกตอ้ ง ครอบคลุม และเชื่อมโยง ตรงตอ่ เวลา เรยี บรอ้ ย รวม การ
ของผรู้ ับการประเมิน ของเนื้อหา เน้อื หา ของเน้อื หา 4 20 ประเมิน
4 คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 4 ผ่าน
4321 43214 32 14321 4321
ประเมนิ ลงช่ือ .................................................... ผู้
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram
เกณฑก์ าร ระดับการประเมนิ
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)
รูปแบบ - มีหัวขอ้ ทีช่ ดั เจน - มีหวั ขอ้ ทีช่ ัดเจน - มีหัวข้อที่ชดั เจน - มหี วั ขอ้ ทชี่ ัดเจน
- เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอย่ใู นกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ
- ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น - ใชค้ ำสำคญั ตรงประเด็น - ใช้คำสำคัญตรงประเด็น
- ใช้สญั ลักษณห์ รอื ภาพส่ือ - ใช้สัญลักษณห์ รอื ภาพสื่อ
ความหมาย ความหมาย
- ใช้สสี นั ทว่ั แผน่
เนอ้ื หา - เนื้อหาครบถ้วนตามสาระ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระท่ี - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระที่
ท่กี ำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กว่า 59%
- เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขียนถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%
- ลำดับหวั ข้อเน้ือหาชดั เจน - ลำดับหัวข้อเน้อื หาชัดเจน - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตุสมผล
- มกี ารสรปุ ไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ กว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชดั เจนเสียงดังฟังชดั - พูดชดั เจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%
- บุคลิกภาพดแี ละมคี วาม - บุคลกิ ภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
ม่ันใจ - ความพร้อมในการ
- มกี ารใช้สื่อประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี - ใชส้ ีสนั สวยงามหรอื
สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ยา่ งใด
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สรา้ งสรรค์ อย่างหนง่ึ
- ความเป็นระเบยี บอา่ น
ง่าย
การตรงตอ่ สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ ส่งผลงานครบถ้วน แต่ช้า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้
เวลา เวลาทกี่ ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 นาที กว่าเวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาที่กำหนด 15
นาที นาที
แผนจัดการเรียนรทู้ ่ี 24 หนว่ ยยอ่ ยที่ 6
ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ชวั่ โมง
เรอื่ ง ความช้ืน ผูส้ อน ครูสุกฤตา ดวงสุข
วันท่ีทำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
การบอกคา่ ความชนื้ ของอากาศ สามารถบอกได้ท้งั แบบ มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/2 อธิบายปจั จยั ทม่ี ีผลต่อการ
ความชื้นสัมบูรณ์ และความชืน้ สมั พัทธ์ เปลี่ยนแปลงองคป์ ระกอบของลมฟา้ อากาศ จากขอ้ มลู ที่
รวบรวมได้
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ช้นิ งาน / ภาระงาน
ความช้ืน - แบบทดสอบออนไลน์ เร่อื งความชืน้ 5 ขอ้
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เคร่ืองมือการสอนคดิ
ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (Yellow hat) (White hat)
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. สอื่ 9. วิธวี ัดผล
- ประเมนิ แบบทดสอบ
7. ข้นั ของกิจกรรม - ไฟล์ Learn Education ออนไลน์ เรอ่ื งความชน้ื
เรอื่ งความชืน้ คาบที่ 3 5 ขอ้
Do Now (3 นาท)ี - Power Point เรอ่ื ง
บอกความรู้สึกจากภาพ มาคนละ 1 อย่าง โดยห้ามตอบซ้ำกนั ความชื้น
Purpose (2 นาท)ี - หอ้ งเรยี นออนไลน์
เราจะเรยี นเรอื่ ง ความชน้ื เพ่อื ให้นักเรียนสามารถอธิบายความสัมพนั ธ์
ระหวา่ ง อุณหภมู ิ ความชนื้ และความกดอากาศทม่ี ผี ลตอ่ ปรากฏการณ์ทางลม
ฟา้ อากาศ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง
Work mode (50 นาที)
1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด “การบอกความชื้นมีกป่ี ระเภท อะไรบ้าง” (White
hat) (5 นาท)ี
2. นักเรียนศึกษาไฟล์ที่ 3 เรื่องความช้ืน ผ่านระบบ Learn Education (พอเพียง3 : การมี
ภมู ิคุ้มกันท่ีด)ี (30 นาท)ี
3. นกั เรียนทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรียนออนไลน์ 5ข้อ (5 นาที )
4. นกั เรียนฟงั ครอู ธบิ ายเพ่มิ เติมเรื่อง ความชืน้ โดยใชส้ ื่อ Power point ประกอบการสอน (5
นาที)
5. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ เชือ่ มโยงความคิด เก่ยี วกับความชนื้ และใหน้ กั เรียนตอบคำถาม
ดังนี้ (คดิ 6 : คิดสังเคราะห์) (5 นาที)
ความช้ืนมีประโยชนอ์ ย่างไร? (Yellow hat)
Reflective Thinking (5 นาท)ี
- 1 สง่ิ ทนี่ กั เรยี นได้รบั จากการเรียนในวันนค้ี ือ (3 นาที)
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ข้อ (2 นาท)ี
ใบความรเู้ รือ่ งความชืน้
ความชื้นของอากาศ คือ ปรมิ าณไอนำ้ ท่มี อี ยู่ในอากาศบริเวณใดบริเวณหนง่ึ ซึ่งมสี ดั ส่วนที่แตกต่าง
กันไปในแต่ละท้องที่ ถ้าอากาศมีความชน้ื ต่ำ นำ้ จะเกิดการระเหยไดม้ าก เสอ้ื ผ้าท่ีตากไว้จะแห้งเร็ว แต่ถ้า
อากาศมีความช้นื สงู นำ้ จะระเหยไดน้ ้อย เส้ือผ้าทตี่ ากไวจ้ ะแหง้ ช้า ขณะทีน่ ำ้ เกิดการระเหยจะทำให้อุณหภมู ิ
ของส่งิ แวดลอ้ มลดต่ำลง เนอื่ งจากนำ้ ท่รี ะเหยจะดูดความรอ้ นจากสิ่งต่าง ๆไปใช้ในการระเหยนั่นเอง เชน่
อุณหภมู ขิ องเทอรม์ อรม์ ิเตอรเ์ ปยี กลดตำ่ ลง อณุ หภมู ิของน้ำในตุม่ ดินเผาลดตำ่ ลง เปน็ ตน้ การทีน่ ้ำในตมุ่ ดิน
เผาเย็นกว่าน้ำทีเ่ ก็บในภาชนะอ่นื นนั้ เนอ่ื งจากต่มุ ดินเผามลี กั ษณะรพู รนุ ซ่ึงนำ้ สามารถระเหยออกมาได้ จงึ
ทำใหอ้ ุณหภมู ิของตุ่มและน้ำลดต่ำลง น้ำในตุ่มดินเผาจึงเย็นกวา่ ดงั กลา่ ว
อากาศอมิ่ ตัว คือ อากาศทม่ี ไี อน้ำอยู่เต็มทแ่ี ละไมส่ ามารถรบั เพ่ิมไดอ้ กี แล้ว ณ อุณหภมู ิหนึ่ง
ปจั จัยที่มีผลตอ่ การระเหย
1. อณุ หภมู ิ เมอื่ อุณหภมู ิเพิม่ ขึ้น การระเหยจะเกิดเร็วข้นึ
2. พ้นื ทีผ่ วิ ถ้าพ้นื ทผี่ วิ หนา้ มากข้ึนการระเหยจะเกิดได้ดี
3. ความช้ืนในอากาศ ถา้ ในอากาศมีความชน้ื สงู การระเหยจะเกดิ ได้ยาก
4. ชนดิ ของสาร ของเหลวทีม่ ีแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งโมเลกุลสูงจะมีค่าความร้อนแฝงสงู กลายเปน็ ไอได้ยาก
ความดนั ไอตำ่ แต่จุดเดือดสูง
เมอื่ โลกไดร้ ับความรอ้ นจากดวงอาทติ ย์ น้ำจากแหลง่ นำ้ ต่าง ๆ บนโลกจะระเหยกลายเปน็ ไอนำ้ ลอยอยู่
ในอากาศปะปนกบั แก๊สต่าง ๆ ปริมาณไอน้ำท่มี ีอยูใ่ นอากาศนี้ เรยี กว่า ความช้นื ของอากาศ
ปรมิ าณไอนำ้ ท่อี ากาศรบั ไว้จะมากหรอื นอ้ ยขึน้ อยู่กับอุณหภมู ขิ องบรรยากาศ ถ้าอุณหภูมิสูงอากาศจะรับ
ไอน้ำไดม้ าก ถ้าอุณหภูมิต่ำอากาศจะรบั ไอนำ้ ไดน้ ้อย ถา้ อากาศอยู่ในสภาพทไี่ ม่สามารถรับไอนำ้ ได้อกี แสดง
วา่ อากาศขณะนน้ั อมิ่ ตัวด้วยไอนำ้ เรียกสภาวะนว้ี ่า อากาศอิม่ ตวั ดว้ ยไอน้ำ หรืออากาศอ่ิมตัว ซ่ึงเปน็
สภาวะทอี่ ากาศมีความชน้ื มากท่ีสุด
อากาศ 1 ลกู บาศกเ์ มตร ณ อณุ หภมู ติ า่ ง ๆกัน จะรับไอน้ำได้ดังนี้
ทอ่ี ุณหภมู ิ 10 องศาเซลเซียส อากาศรบั ไอน้ำไดม้ ากที่สุดประมาณ 9.3 กรมั
ทอ่ี ณุ หภมู ิ 20 องศาเซลเซียส อากาศรับไอน้ำได้มากทีส่ ุดประมาณ 17.5 กรมั
ทอ่ี ณุ หภมู ิ 30 องศาเซลเซยี ส อากาศรับไอน้ำได้มากท่สี ุดประมาณ 30.5 กรมั
การวดั ความช้ืนของอากาศ
เรามีวธิ บี อกค่าความชน้ื ของอากาศได้ 2 วิธี คือ
1 ) ความชน้ื สัมบรู ณ์ ( absolute humidity ) หมายถึง อตั ราสว่ นระหวา่ งมวลของไอน้ำอากาศ
กบั ปริมาตรของอากาศน้นั ณ อุณหภูมิเดยี วกัน มีหน่วยเปน็ กรัมต่อลกู บาศกเ์ มตร ( g / m3 )
ความช้นื สัมบรู ณ์ ( AH ) = มวลของไอนำ้ ในอากาศ
ปรมิ าตรของอากาศ ณ อุณหภูมิเดยี วกนั
ตวั อยา่ ง อากาศในท่แี ห่งหนึ่งมปี ริมาตร 8 ลูกบาศกเ์ มตร ณ อณุ หภมู ิ 20 องศาเซลเซยี ส มไี อน้ำอยู่ 32
กรัม ความชืน้ สัมบูรณม์ ีค่าเท่าไร
ความช้ืนสัมบูรณ์ = 32 กรัม
8 ลูกบาศก์เมตร
= 4 กรมั ตอ่ ลูกบาศก์เมตร
2 ) ความชน้ื สมั พัทธ์ ( relative humidity ) คอื ปรมิ าณเปรยี บเทยี บระหว่างมวลของไอนำ้
ทมี่ ีอย่จู รงิ ในอากาศขณะน้ันกบั มวลไอนำ้ ในอากาศอ่มิ ตวั ท่ีอุณหภมู ิและปริมาตรเดียวกนั ( นิยมบอกค่า
ความชื้นสมั พทั ธ์เป็นรอ้ ยละ )
ความชนื้ สมั พัทธ์ ( RH ) = มวลของไอนำ้ ท่มี ีอยจู่ ริง × 100
มวลของไอนำ้ ในอากาศอ่มิ ตัวทอ่ี ณุ หภมู ิและปรมิ าตรเดียวกัน
ตวั อย่าง ทีอ่ ุณหภมู ิ 27 องศาเซลเซียส อากาศอ่ิมตัวดว้ ยไอนำ้ 180 กรมั ตอ่ ลูกบาศกเ์ มตร แตข่ ณะนน้ั มี
ไอนำ้ อยจู่ ริงเพียง 135 กรัมตอ่ ลูกบาศก์เมตร ความช้ืนสัมพัทธ์มีค่าเท่าไร
ความช้ืนสัมพัทธ์ = 135 กรมั ตอ่ ลูกบาศก์เมตร × 100
180 กรมั ตอ่ ลูกบาศก์เมตร
= 75 %
• ใช้เครอื่ งมือทเ่ี รียกว่า ไฮกรอมิเตอร์ โดยนิยมใชแ้ บบกระเปาะแหง้ -กระเปาะเปยี ก
เคร่ืองมอื วัดความช้ืนอากาศ
1. ไฮโกรมิเตอร์ หรือเครอื่ งมือวัดความชื้นแบบเส้นผม ถา้ ค่าความช้ืนสัมพัทธ์สงู ข้ึน เสน้ ผมจะขยายตัว
ยาวขน้ึ แต่ถ้าความชื้นสมั พทั ธ์ลดน้อยลง เส้นผมจะหดตัวส้ันลง
ไฮโกรมเิ ตอร์
2. ไซโครมเิ ตอร์หรือไฮโกรมิเตอรก์ ระเปาะเปียก-กระเปาะแหง้ ประกอบด้วยเทอรม์ อมิเตอร์ 2 อันคู่
กับอนั หนึ่งวดั อณุ หภูมิธรรมดา อีกอนั หนง่ึ หุ้มดว้ ยผา้ ชื้น เรยี กว่ากระเปาะเปียก หลกั การทำงานโดยจะปล่อย
ให้นำ้ ทเี่ กาะอยูท่ ี่ผา้ ชื้นระเหยออก จนกระท่ังอณุ หภูมทิ ี่กระเปาะเปียกเยน็ ลงตำ่ สุด โดยดูค่าผลต่างของเทอร์
มอมเิ ตอร์ทัง้ สองซ่งึ คา่ ทไี่ ดจ้ ะนำมาแปลผล คือ ถ้าความต่างของอณุ หภูมิจากเทอร์มอมเิ ตอรท์ ั้สองมีค่ามากข้นึ
ความช้นื สัมพทั ธ์จะมีค่านอ้ ยลง
ไซโครมเิ ตอร์
แนวข้อสอบ O –NET
1. บนยอดเขาแห่งหนง่ึ วัดความสูงของปรอทได้ 260 มิลลิเมตร ยอดเขาแห่งนอี้ ยสู่ งู จากนำ้ ทะเลก่ี
กิโลเมตร ?
1. 4.0 กิโลเมตร
2. 4.5 กิโลเมตร
3. 5.0 กโิ ลเมตร
4. 5.5 กิโลเมตร
2. เมอื่ ความชื้นสัมพัทธ์ 100 เปอรเ์ ซ็นต์จะส่งผลดงั ขอ้ ใด ?
1. รูส้ กึ เย็นสายตวั ตากผ้าแหง้ ชา้
2. รสู้ ึกเยน็ สายตัว ตากผ้าแห้งเรว็
3. รู้สกึ เหน่ยี วตวั ตากผ้าไดเ้ ร็ว
4. รู้สกึ เหนย่ี วตวั ตากผ้าไดช้ า้
ทม่ี า : หนังสอื Learn Education Physic มธั ยมศึกษาปที ี่1
ตอบคำถามถูกต้อง เกณฑ์การใหค้ ะแนน PRACQUIZ
ตอบคำถามไม่ถูกตอ้ ง เร่อื ง ความชืน้
1 คะแนน
0 คะแนน
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
5 ดีมาก
3-4 ดี
1-2 พอใช้
0 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นไดร้ ะดบั คุณภาพท่ี ดี ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น
แผนจดั การเรยี นรทู้ ่ี 25 หน่วยยอ่ ยที่ 7
ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ บรรยากาศ เวลา 2 ชว่ั โมง
เรื่อง ความช้ืนสัมบูรณ์ และความชืน้ สมั พัทธ์ ผสู้ อน ครสู ุกฤตา ดวงสขุ
วนั ทท่ี ำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
การบอกค่าความช้นื ของอากาศ สามารถบอกได้ทัง้ แบบ มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/2 อธิบายปัจจัยท่ีมผี ลต่อการ
ความชนื้ สมั บรู ณ์ และความช้นื สมั พทั ธ์ เปล่ียนแปลงองคป์ ระกอบของลมฟา้ อากาศ จากขอ้ มลู ที่
รวบรวมได้
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน / ภาระงาน
ความช้ืนสมั บรู ณ์ และความชืน้ สมั พัทธ์
- แบบฝกึ หัดเรอื่ ง ความชน้ื สมั บูรณ์ และความชื้นสมั พัทธ์
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น - ใบงาน Cause & Effect ในหวั ขอ้ “จะเปน็ อย่างไร
ความสามารถในการคิด หากเชยี งรายมคี วามชื้นสมั พัทธ์ 80 % เป็นเวลา 1
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต อาทติ ย”์
6. เคร่ืองมือการสอนคดิ
- Cause & Effect - Six thinking hats (Yellow hat) (White Hat)
กิจกรรมการเรียนรู้ 8. สื่อ 9. วธิ ีวดั ผล
7. ข้ันของกจิ กรรม - Power Point เรอื่ ง - ประเมินแบบฝึกหัดเรือ่ ง
ความชืน้ สมั บูรณ์ และ ความช้นื สัมบูรณ์ และ
Do Now (3 นาท)ี ความช้ืนสัมพัทธ์ ความชน้ื สัมพัทธ์
บอกสงิ่ ท่ีสามารถเปลย่ี นสถานะไดโ้ ดยการระเหย มาคนละ 1 อยา่ ง โดยหา้ มตอบซำ้ กนั - แบบฝึกหัดเรือ่ ง ความชนื้ - ประเมนิ ใบงาน Cause &
สัมบรู ณ์ และความชืน้ Effect ในหวั ขอ้ “จะเปน็
Purpose (2 นาที) สัมพัทธ์ อยา่ งไร หากเชยี งรายมี
เราจะเรียนเร่ือง ความชน้ื สัมบรู ณ์ และความชืน้ สัมพัทธ์ เพอ่ื ให้นกั เรียนสามารถอธบิ ายความสมั พนั ธ์ - ใบงาน Cause & Effect ความชื้นสมั พทั ธ์ 80 % เป็น
ในหวั ขอ้ “จะเป็นอย่างไร เวลา 1 อาทิตย์”
ระหว่าง อุณหภมู ิ ความชืน้ และความกดอากาศทม่ี ผี ลตอ่ ปรากฏการณ์ทางลมฟา้ อากาศ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง หากเชยี งรายมคี วามชน้ื
Work mode (110 นาที) สัมพทั ธ์ 80 % เป็นเวลา 1
อาทิตย์”
1. นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ “นักเรยี นนำความรู้เร่อื งความช้ืนไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ - ห้องเรียนออนไลน์
อยา่ งไร” (Yellow hat) (10 นาที) ความชื้นสมั บรู ณ์ และ
ความช้ืนสัมพัทธ์
2. นกั เรียนฟงั ครอู ธบิ าย เรอื่ ง ความชืน้ สมั บรู ณ์ และความชืน้ สมั พัทธ์ โดยใช้ Power Point
ประกอบการสอน (15นาท)ี
3. นกั เรยี นจบั คู่ โดยศกึ ษาเพิ่มเติมจากหอ้ งเรียนออนไลนเ์ รอ่ื ง ความชน้ื สัมบูรณ์ และความชืน้ สัมพทั ธ์
(พอเพยี ง 3 : การมีภมู คิ ้มุ กันทีด่ ีในตวั ) (20 นาท)ี
4. แลว้ ทำแบบฝึกหัดเร่อื ง ความชื้นสมั บรู ณ์ และความชนื้ สัมพทั ธ์โดยวิแคราะห์และชว่ ยกนั แกโ้ จทย์
ปัญหาอยา่ งมีเหตผุ ล (คิด1 : คิดวิเคราะห)์ (คดิ 5:คดิ แก้ปัญหา) (20 นาท)ี
5. นักเรียนวเิ คราะหส์ าเหตุและผลกระทบในหวั ขอ้ “จะเปน็ อย่างไร หากเชยี งรายมีความช้นื สมั พทั ธ์
80 % เปน็ เวลา 1 อาทิตย์” โดยลงมอื ทำใบงาน Cause & Effect (คดิ 1 : คิดวิเคราะห)์ (พอเพยี ง7 :
สงั คม) (25 นาท)ี
6. นกั เรียน (ตวั แทนโดยการสมุ่ ) นำเสนอผลการศกึ ษาหนา้ ช้นั เรียนและร่วมกนั โตแ้ ยง้ เพอ่ื หาข้อสรปุ
ของหวั ขอ้ ทศ่ี กึ ษา (คดิ 3 : คิดวพิ ากษ)์ (10 นาที)
7. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เชอ่ื มโยงความคดิ เก่ียวกับความชนื้ สัมบูรณ์ และความชื้นสัมพทั ธ์ (คิด6 :
คดิ สังเคราะห์) (10 นาท)ี
Reflective Thinking (5 นาท)ี
- 1 สง่ิ ท่ีนักเรียนได้รับจากการเรยี นในวันน้คี ือ (3 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ขอ้ (2 นาที)
ชือ่ ..........................................................................ชนั้ ...........เลขท่.ี ........
ใบงาน Cause & Effect
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์สาเหตุและผลกระทบในหัวขอ้ “จะเปน็ อยา่ งไร หากเชยี งรายมคี วามช้นื
สัมพัทธ์
80 % เปน็ เวลา 1 อาทิตย์”
ผล
“จะเปน็ อย่างไร หาก ผล
เชียงรายมคี วามชืน้ ผล
สมั พทั ธ์ 80 % เป็นเวลา
ผล
1 อาทิตย์”
ผล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวขอ้ สอบ O –NET
1. การวัดความชืน้ ในอากาศนิยมวดั เป็นความชน้ื สัมพันธ์โดยใชเ้ คร่อื งมือชนดิ ใด
ก. ไฮโกรมิเตอร์
ข. ไฮโดรมเิ ตอร์
ค. เทอรม์ อมิเตอร์
ง. แอมมิ อมเิ ตอร์
2. ถ้าขนาดมวลของไอน้ำทม่ี ีอยูจ่ รงิ ในอากาศในขณะนน้ั เทา่ กับมวลของไอน้ำในอากาศอิ่มตัว ท่อี ุณหภมู ิ
และปริมาณเดียวกัน คา่ ความชน้ื สมั พันธ์ของอากาศเปน็ เท่าใด
ก. 100
ข. 0
ค. 60
ง. 50
ที่มา : http://www.rmutphysics.com/charud/exercise-online/atmosphere1/7584.htm
แบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
คำช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมนิ
กำหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Cause and Effect
ช่ือ-สกุล การแสดง นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ลำดับที่ ของผรู้ บั การ ความ เน้ือหา สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
คิดเห็น (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมนิ (4คะแนน) (4คะแนน) ไมผ่ ่าน
ลงชื่อ ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นได้ระดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถอื ว่า ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)
การแสดง - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น - - แสดงความคดิ เห็น
ผลกระทบของปญั หา/
ความคิดเหน็ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปญั หา/ เหตกุ ารณไ์ ด้ นอ้ ยกวา่ 6
ข้อ
เหตกุ ารฌไ์ ด้ 10 ขอ้ ขนึ้ เหตกุ ารณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ขอ้
ไป
เน้อื หา - เนอื้ หาครบถว้ นตามสาระ - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระท่ี
ทีก่ ำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ ว่า 59%
- เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำว่า 59%
- ลำดบั หัวข้อเนือ้ หาชัดเจน - ลำดับหัวขอ้ เนอ้ื หาชดั เจน - มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มีการสรุปไมส่ มเหตุสมผล
- มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง - มีการสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ ว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - พดู ชัดเจนเสียงดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
ตามอักขระ100% ตามอกั ขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ วา่ 59%
- บคุ ลิกภาพดีและมคี วาม - บุคลิกภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
ม่นั ใจ - ความพร้อมในการ
- มีการใช้สอื่ ประกอบการ นำเสนอได้บางสว่ น
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงามและมี - ใช้สีสนั สวยงามหรือ
สวยงาม - มีความสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑ์อยา่ งใด
- มีความคดิ สร้างสรรค์ - มีความคิดสรา้ งสรรค์ อยา่ งหน่งึ
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ น
ง่าย
การตรงต่อ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้า สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้
เวลา เวลาท่ีกำหนด กว่าเวลาท่ีกำหนด 5 นาที กวา่ เวลาที่กำหนด 10 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 15
นาที นาที
แผนจดั การเรียนร้ทู ี่ 26 หนว่ ยย่อยที่ 8
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ช่วั โมง
เร่อื ง การเกิดฝน ผู้สอน ครสู กุ ฤตา ดวงสขุ
วันทีท่ ำการสอน..........เดือน................พ.ศ............
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
น้ำมหี ลายสถานะและเปลย่ี นสถานะไดข้ ้ึนอยู่กับการรบั มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/3 เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดพายุ ฝน
ฟา้ คะนองและพายหุ มุนเขตรอ้ น และผลท่ีมีตอ่ สิ่งมีชวี ติ และ
หรอื คายพลงั งานความร้อน โดยไอนำ้ ในอากาศสามารถเกดิ การ ส่ิงแวดลอ้ ม รวมทง้ั นำเสนอแนวทางการปฏบิ ตั ิตนให้เหมาะสม
ควบแน่นไดก้ ลายเป็นผลึกน้ำแขง็ หรือละอองนำ้ ขนาดเล็ก และปลอดภัย
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิน้ งาน / ภาระงาน
การเกิดฝน - ใบงาน Diagram เรอ่ื ง วฏั จักรการเกดิ ฝน
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น - แบบทดสอบออนไลน์ 5 ขอ้
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. เครอ่ื งมือการสอนคดิ
- Diagram - Six thinking hat (White Hat)
กิจกรรมการเรียนรู้ 8. สือ่ 9. วิธวี ัดผล
7. ขนั้ ของกิจกรรม - ไฟล์ Learn - ประเมิน Diagram
Education เร่อื งการ เรอื่ ง วัฏจกั รการเกดิ ฝน
Do Now (3 นาท)ี เกดิ ฝน คาบท่ี 4 - ประเมนิ แบบทดสอบ
บอกชอ่ื เพลงทม่ี คี ำว่า “รกั ” ในช่อื เพลง มาคนละ 1 เพลง ห้ามซ้ำกัน - Power Point เรื่อง ออนไลน์ 5 ขอ้
การเกดิ ฝน
Purpose (2 นาที) - ใบงาน Diagram เรือ่ ง
เราจะเรียนเรอ่ื ง กระบวนการควบแน่นของไอน้ำในอากาศเพื่อใหน้ ักเรียนสามารถ วฏั จกั รการเกิดฝน
- ห้องเรียนออนไลนเ์ รื่อง
อธิบายกระบวนการควบแนน่ ของไอน้ำในอากาศ ได้อย่างถกู ต้อง การเกดิ ฝน
Work mode (50 นาที)
1. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด “เมฆเกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งไร และกลายเปน็ ฝนได้
อยา่ งไร” (White hat) (คดิ 1 : คิดวิเคราะห)์ (3 นาที)
2. นกั เรยี นศกึ ษาไฟล์ท่ี 4 เรือ่ งการเกิดฝน ผา่ นระบบ Learn Education (พอเพยี ง3 :
การมภี ูมคิ ้มุ กนั ท่ดี ี) (25 นาที)
3. นักเรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรยี นออนไลน์ 5 ข้อ (5 นาที)
4. นักเรียนฟงั ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ เร่อื งการเกดิ ฝน โดยใชส้ อ่ื Power point ประกอบการ
สอน (5 นาที)
5. นักเรียนสรุปความรใู้ นรูปแบบแผนผังมโนทศั น์ ลงมอื ทำใบงาน Diagram เรือ่ งการ
เกดิ ฝน โดยสืบค้นจากหอ้ งเรียนออนไลน์ (คิด9 : คดิ เชิงมโนทศั น)์ (5 นาท)ี
6. นักเรียน (ตวั แทนโดยการสมุ่ ) ออกมานำเสนอใบงาน Diagram เรอ่ื งวัฏจกั รฝน
(5 นาที)
กิจกรรมการเรียนรู้ 8. สอ่ื 9. วิธวี ดั ผล
7. ข้นั ของกิจกรรม
7. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เชือ่ มโยงความคดิ เกี่ยวกับการเกดิ ฝน (คิด6 :
คิดสังเคราะห์) พรอ้ มท้งั รว่ มกันตอบคำถามดังน้ี (2 นาท)ี
“เมฆ มีก่ีประเภท อะไรบา้ ง ?” (White hat)
Reflective Thinking (5 นาที)
- 1 ส่งิ ทีน่ ักเรียนได้รับจากการเรียนในวนั นีค้ อื (3 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ข้อ (2 นาที)