ข้อ 2.1
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
เขยี นแผนภาพและอธบิ ายลกั ษณะของ เขยี นแผนภาพ หรอื อธบิ ายลกั ษณะของ เขยี นแผนภาพและอธิบายลกั ษณะของ
ภาพได้อยา่ งถูกต้องครบถ้วน ภาพได้อย่างถูกต้องอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ภาพไม่ถูกต้อง หรือไมต่ อบคำถาม
ขอ้ 2.2
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
เขยี นแผนภาพและอธบิ ายลกั ษณะของ เขยี นแผนภาพ หรือ อธิบายลักษณะของ เขยี นแผนภาพและอธบิ ายลกั ษณะของ
ภาพได้อยา่ งถูกต้องครบถ้วน ภาพได้อยา่ งถูกต้องอย่างใดอย่างหนง่ึ ภาพไม่ถูกต้อง หรือไม่ตอบคำถาม
คำถามท่ี 3 จงเขยี นภาพที่เกิดจากการสะท้อนของกระจกเว้า และบอกลักษณะของภาพทเี่ กิดขึ้น (ขอ้ ละ 2 คะแนน)
แผนภาพ ลกั ษณะของภาพทเี่ กดิ ขนึ้
3.1 วตั ถุวางที่จุดศนู ยก์ ลางความโค้ง(จดุ C) เกดิ ภาพจรงิ หัวกลับ ขนาดเทา่ กบั วัตถุ เกิด
ภาพทจ่ี ุด C
3.2 วัตถุวางอยรู่ ะหว่างจดุ ศูนย์กลางความโค้ง(จดุ C)และจุดโฟกัส(จดุ F) เกดิ ภาพจริงหัวกลับ ขนาดใหญก่ วา่ วตั ถุ
เกดิ ภาพท่ีระยะมากกว่า C
ขอ้ 3.1
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
เขียนแผนภาพและอธบิ ายลักษณะของ เขยี นแผนภาพ หรือ อธบิ ายลักษณะของ เขยี นแผนภาพและอธบิ ายลกั ษณะของ
ภาพได้อยา่ งถูกต้องครบถว้ น ภาพได้อยา่ งถูกต้องอย่างใดอยา่ งหนงึ่ ภาพไม่ถูกต้อง หรือไม่ตอบคำถาม
ข้อ 3.2
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
เขียนแผนภาพและอธิบายลักษณะของ เขียนแผนภาพ หรอื อธบิ ายลกั ษณะของ เขยี นแผนภาพและอธิบายลกั ษณะของ
ภาพได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ภาพได้อยา่ งถูกต้องอย่างใดอยา่ งหนึ่ง ภาพไม่ถูกต้อง หรือไมต่ อบคำถาม
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
5-6 พอใช้
0-4 ปรบั ปรงุ
แผนจดั การเรียนร้ทู ่ี 5
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ แสงและการมองเหน็ หนว่ ยย่อยที่ 1
เร่ือง การหักเหของแสงและกฎการหกั เหของแสง เวลา 1 ช่ัวโมง
วนั ที่ทำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผสู้ อน นายสุเวช สืบปัญญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตัวช้ีวัด
เมือ่ แสงเดนิ ทางผา่ นตวั กลางต่างชนดิ กัน หรือมีความหนาแนน่ ต่างกนั ว 2.3 ม.3/15 อธิบาย การหกั เหของแสงเมื่อผา่ นตวั กลางโปรง่ ใส
ทำให้ทิศทางของแสงเปลี่ยนไป เรียกวา่ “การหักเหของแสง” ทแี่ ตกต่างกนั และอธบิ ายการกระจายแสงของแสงขาวเมอื่ ผ่าน
กฎการหกั เหของแสง มใี จความวา่ รังสรตกกระทบ เส้นปกติ และรงั สี ปริซมึ จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์
หกั เห อยู่ในแนวระนาบเดียวกนั และในตัวกลางค่หู นง่ึ ๆ อัตราสว่ นระหว่าง
ค่า sine ของมุมตกกระทบในตวั กลางหนึง่ กับคา่ sine ของมมุ หกั เหใน
อกี ตวั กลางหนงึ่ จะมีคา่ คงทเ่ี สมอ
3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้ินงาน /ภาระงาน
- การหกั เหของแสงและกฎการหกั เหของแสง - ใบงาน Diagram เร่ือง การหักเหของแสง
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 6. เคร่อื งมอื การคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Diagram
กจิ กรรมการเรียนรู้
7.ข้นั ของกจิ กรรม 8.ส่อื 9.วธิ ีวัดผล
Do Now : (3 นาที) - ใบงาน Diagram เร่อื ง - ประเมนิ ใบงาน
“ แสงเดินทางไดอ้ ย่างไร คนละ 1 คำตอบ” การหักเหของแสง Diagram เรอ่ื ง การหักเห
Purpose : (2 นาที ) - Power point ของแสง
เราจะเรียนเรอื่ ง การหักเหของแสงและกฎการหักเหของแสง เพื่อใหน้ ักเรยี น ประกอบการสอนเร่ือง การ
สามารถอธบิ ายการหักเหของแสงเมื่อผ่านตัวกลางโปรง่ ใสที่แตกตา่ งกนั ได้ หักเหของแสงและกฎการ
Work mode (50 นาท)ี หกั เหของแสง
1. นักเรยี นฟงั ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ เรื่อง การหกั เหของแสงและกฎการหกั เหของแสง - บทเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง
โดยใช้สือ่ Power point ประกอบการสอน (พอเพียง3 :การมภี มู ิคมุ้ กนั ที่ด)ี (20 นาที) การหกั เหของแสงและกฎ
2. นกั เรียนคิดอย่างมวี ิจารณญาณเพ่ือตอบคำถามกระตุน้ ความคิด “การหักเหของ การหักเหของแสง
แสง เกิดจากอะไร? /มมุ หกั เห คืออะไร? (สมรรถนะท่ี 2) (5 นาท)ี
3. นักเรยี นทำใบงาน Diagram เรื่อง การหกั เหของแสง เพ่ือสรปุ องคค์ วามรเู้ กยี่ วกบั
การหักเหของแสง ในรูปแบบแผนผงั Diagram (คิด9 : คิดเชงิ มโนทศั น์) (15 นาที)
4. นกั เรยี นและครสู รปุ บทเรียน เรอื่ ง การหกั เหของแสงและกฎการหักเหของแสง
โดยนกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ “กฎการหกั เหของแสง มีใจความว่าอย่างไร/
เพราะเหตุใดเราจงึ มองเหน็ ปลาทอ่ี ยู่ในน้ำ อยู่ตนื้ กวา่ ความเป็นจรงิ ? (10 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิง่ ทนี่ ักเรยี นสามารถนำไปปรบั ใช้ จากการเรียนในวนั นี?้ (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาที)
ขอ้ สอบ O-NET(2563) 1 ขอ้
(เฉลยข้อที่ 43.1 ใช่ , 43.2 ไม่ใช่ , 43.3 ไมใ่ ช่)
ใบงาน Diagram เร่อื ง การหักเหของแสง
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนสรุปองคค์ วามรเู้ ก่ียวกบั เรอื่ ง การหักเหของแสง ในรูปแบบ Diagram
การหกั เหของแสง
ความหมายของ การหกั เหของแสง กฎการหกั เหของแสง
เสน้ ปกติ มมุ สะทอ้ น
รงั สหี กั เห
รงั สีตกกระทบ
มมุ ตกกระทบ
แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram
คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน ใหท้ าเคร่ืองหมาย✔ลงในช่องรายการประเมินกาหนด
ความ สรุปผลการ
ลาดบั ที่ ชื่อ-สกุล ความถูกตอ้ ง ครอบคลุม สอดคลอ้ ง ตรงต่อเวลา ความสะอาด รวม ประเมิน
ของผรู้ ับการประเมิน ของเน้ือหา เน้ือหา และเช่ือมโยง 4 เรียบร้อย 20 ผา่ น/ไม่ผา่ น
ของเน้ือหา
4 4 4 คะแนน
4
4321 43214 32 1 432 1 4 321
ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง
นกั เรียนไดร้ ะดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Diagram
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
รูปแบบ - มีหัวข้อท่ชี ดั เจน - มหี ัวข้อทีช่ ัดเจน - มหี วั ขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวข้อทช่ี ดั เจน
- เขียนอยู่ในกรอบ - เขยี นอยูใ่ นกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ
- ใชค้ ำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็
- ใชส้ ัญลักษณ์หรอื ภาพสื่อ - ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพสอื่
ความหมาย ความหมาย
- ใช้สสี นั ทว่ั แผน่
เนือ้ หา - เนื้อหาครบถว้ นตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่ - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระที่
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำกว่า 59%
- เขียนถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา
100% 80-99% 60-79% ต่ำกว่า 59%
- ลำดบั หัวข้อเนอื้ หาชัดเจน - ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหาชดั เจน - มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตสุ มผล
- มีการสรุปได้อยา่ ง - มีการสรปุ ได้อย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ต่ำกวา่ 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชดั เจนเสียงดังฟังชดั - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
อักขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
ม่นั ใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ
- มกี ารใชส้ อ่ื ประกอบการ ไดบ้ างส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ความสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใชส้ สี นั สวยงามหรอื เปน็ ไป
- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ ง
- มคี วามคิดสร้างสรรค์ - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ หนึ่ง
- ความเป็นระเบยี บอ่านงา่ ย
การตรงตอ่ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กว่า สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่
เวลา เวลาทีก่ ำหนด เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที เวลาที่กำหนด 10 นาที เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที
แผนจดั การเรยี นรูท้ ่ี 10
ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ แสงและการมองเหน็ หน่วยย่อยที่ 1
เร่อื ง การเกิดภาพจากเคล่ือนท่ีของแสงผ่านทัศนอุปกรณ์และเลนสต์ า เวลา 2 ช่วั โมง
วนั ทท่ี ำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สบื
ปญั ญา
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตัวช้ีวัด
การเกิดภาพจากการเคลือ่ นทขี่ องแสงผ่านทัศนอุปกรณ์และเลนส์ ว 2.3 ม.3/18 เขียนแผนภาพการเคล่อื นที่ของแสงแสดงการเกดิ ภาพ
ตา อาศัยหลักการหักเหของแสงผา่ นเลนสน์ นู เช่น กล้องจลุ ทรรศน์ ของทศั นอุปกรณแ์ ละเลนส์ตา
ใชห้ ลกั การหักเหของแสงผา่ นเลนสน์ นู 2 จึงทำใหม้ องเหน็ ภาพจรงิ
หวั กลับทีม่ ขี นาดใหญก่ ว่าวตั ถุ ส่วนการเกดิ ภาพผา่ นเลนส์ตา เกดิ
จากแสงผา่ นกระจกตา รูมา่ นตา แล้วแสงถกู เลนสต์ าหักเห เพอ่ื
รวมแสงให้ไปโฟกสั ทีเ่ รตนิ า
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน /ภาระงาน
- การเกดิ ภาพจากเคลือ่ นท่ีของแสงผ่านทศั นอปุ กรณแ์ ละเลนส์ตา - ใบงาน PMI เรอ่ื ง ทศั นอปุ กรณก์ ับชวี ิตประจำวนั
- ใบงานตามแนวทาง PISA เรอื่ ง สายตาสน้ั -สายตายาว คืออะไร
- แบบทดสอบท้ายบทเรยี นออนไลน์ 5 ข้อ เรอ่ื ง การเกดิ ภาพจาก
เคลือ่ นท่ขี องแสงผ่านทัศนอปุ กรณแ์ ละเลนสต์ า
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 6. เครอ่ื งมอื การคิด
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - PMI
กจิ กรรมการเรียนรู้
7.ข้นั ของกจิ กรรม 8.สอื่ 9.วธิ วี ดั ผล
Do Now : (3 นาที) - ใบงาน PMI เรือ่ ง ทัศน - ประเมนิ ใบงาน PMI เรือ่ ง
“ยกตวั อยา่ งทศั นอปุ กรณ์ จากคาบเรยี นทผ่ี า่ นมา มาคนละ 1 อย่าง” อุปกรณก์ บั ชีวติ ประจำวัน ทัศนอุปกรณ์กับชวี ติ ประจำวนั
Purpose : (2 นาที ) - ใบงานตามแนวทาง PISA - ประเมินใบงานตามแนวทาง
เราจะเรียน เรือ่ ง การเกดิ ภาพจากเคลื่อนที่ของแสงผา่ นทัศนอุปกรณ์ เรอื่ ง สายตาสั้น-สายตายาว คือ PISA เร่อื ง สายตาสั้น-สายตา
และเลนสต์ า เพ่อื ให้ นกั เรยี นสามารถเขียนแผนภาพการเคลือ่ นที่ของ อะไร ยาว คอื อะไร
แสงแสดงการเกดิ ภาพของทัศนอุปกรณแ์ ละเลนสต์ าได้ - Power point เรอ่ื ง การ
Work mode (110 นาที) เกิดภาพจากเคลือ่ นทขี่ องแสง
1. นักเรียนศกึ ษาเรอื่ งการเคล่อื นท่ขี องแสงแสดงการเกดิ ภาพของทศั น ผ่านทศั นอุปกรณแ์ ละเลนสต์ า
อปุ กรณ์และเลนสต์ าในบทเรยี นออนไลน์ ซึ่งหากนักเรยี นคนใดสงสยั - บทเรยี นออนไลน์ เรือ่ ง การ
สามารถสอบถามเพือ่ ให้ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกดิ ภาพจากเคลือ่ นที่ของแสง
(พอเพียง3 : การมีภูมิคมุ้ กนั ทด่ี )ี (15 นาที) ผา่ นทัศนอุปกรณ์และเลนสต์ า
2. นกั เรียนนักเรยี นฟังครูอธิบายเพม่ิ เติม เรอื่ ง การเกิดภาพจากเคลอื่ นที่
ของแสงผา่ นทัศนอุปกรณแ์ ละเลนสต์ า โดยใช้ส่ือ Power point
ประกอบการสอน (10 นาท)ี
3. นกั เรียน(ตวั แทนจากการสมุ่ ) ออกมาเขยี นแผนภาพการเคลอ่ื นทขี่ อง
แสงแสดงการเกิดภาพจาก 1.กลอ้ งจุลทรรศน์ 2.คนสายตาสั้น และ 3.
คนสายตายาว ทหี่ น้าชน้ั เรียนจากน้นั เพอื่ นนักเรียนและครรู ว่ มกนั เฉลย
และอภปิ รายรว่ มกัน (15 นาท)ี
4. นกั เรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เรอื่ ง สายตาสน้ั -สายตายาว คือ
อะไร (15 นาท)ี
5 .นกั เรยี นและครรู ่วมกันเฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรอื่ ง สายตา
สน้ั -สายตายาว คอื อะไร(10 นาที)
6. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะห์ข้อดี(P) ข้อเสีย(M) และข้อ
นา่ สนใจ/แนวทางแกไ้ ข(I) เกีย่ วกบั ทศั อปุ กรณท์ ่ีใช้ในชวี ิตประจำวนั โดย
บันทึกลงในใบงาน PMI เร่อื ง ทัศอุปกรณ์กับชวี ติ ประจำวนั โดยสบื คน้
ความรเู้ พิ่มเตมิ จากอินเตอรเ์ น็ต (คิด 1: คิดวเิ คระห์) (สมรรถนะที่ 3)
( PMI ) (20 นาท)ี
7. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น จากใบงาน
PMI เรื่อง ทัศอุปกรณ์กบั ชีวติ ประจำวนั กลมุ่ ละ 3 นาที (15นาที)
8. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ บทเรียน โดยนักเรียนตอบคำถามกระต้นุ
ความคิด “เลนสส์ ำหรบั สายตาสัน้ และสายตายาว เปน็ ทัศนอปุ กรณท์ ี่
สามารถชว่ ยแกไ้ ขปญั หาสายตาสนั้ และสายตายาวไดอ้ ยา่ งไร?/กระจกเงา
นนู ทต่ี ดิ ตามทางแยก มหี ลกั การในการเกิดภาพอยา่ งไร และมี
ประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง? (10นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิ่ง ทน่ี ักเรียนสามารถนำไปปรบั ใช้ จากการเรยี นในวันน?้ี (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาที)
ใบงานตามแนวทาง PISA
\
เรื่อง สายตาสน้ั -สายตายาว คอื อะไร
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
ว2.3 ม.3/18 เขยี นแผนภาพการเคล่ือนท่ีของแสงแสดงการเกดิ ภาพของทัศนอปุ กรณ์และเลนสต์ า
คำถามท่ี 1 (1 คะแนน)
หากเปรียบดวงตา เปน็ เหมือนกลอ้ งถ่ายรปู แลว้ เรตินา เปรียบไดก้ บั ส่วนใดของกลอ้ งถ่ายรปู
1. เลนส์ 2. แฟลช
3. ฟลิ ม์ ถ่ายรปู 4. ปุ่มชัตเตอร์
คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)
จากถ้อยความ เลนสน์ ูน สามารถแกไ้ ขปญั หาสายตายาวไดอ้ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามที่ 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมูล ข้อความต่อไปน้ี เปน็ ความจริง หรือ ไม่เป็นความจรงิ (2 คะแนน)
ขอ้ ความท่เี ป็นความจริง ให้ทำเครือ่ งหมาย X ในชอ่ ง “ใช่”
ขอ้ ความที่ไมเ่ ป็นความจริง ใหท้ ำเครอื่ งหมาย X ในชอ่ ง “ไม่ใช่”
ข้อความ
1) เรตินา มีหน้าทเ่ี ป็นฉากรับภาพ
2) คนสายตาสนั้ 400 จะมองไดไ้ กลและชัดที่สุดที่ระยะ 0.25 เมตร
3) คนสายตาปกติ จะมองเห็นระยะใกลไ้ ด้ชดั เจนทสี่ ดุ โดยเฉล่ียทร่ี ะยะ 34 เซนตเิ มตร
4) ถ้าเลนสต์ าบางเกินไป ทำให้แสงรวมกันหนา้ เรตินา มองไกลชัดอย่างเดียวเกิดอาการ
สายตายาว
เฉลยและเกณฑก์ ารให้คะแนน
คำถามท่ี 1
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน
ข้อ 3. ฟลิ ม์ ถา่ ยรูป คำตอบอนื่ ๆ
คำถามท่ี 2
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้องโดยอ้างอิงจากถ้อยความ ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องบางสว่ น ตอบไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไมต่ อบ
คือเลนส์นนู บบี แสงให้ตัดกนั ที่เรตนิ า ทำให้ แต่ไม่ได้อธิบายชัดเจน เชน่ คำถาม
มองเห็นภาพท่อี ยู่ไกลชดั เลนสน์ นู บีบแสง แตไ่ ม่ได้
อธิบายเก่ียวกบั การเกิดภาพ
คำถามที่ 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมูล ข้อความต่อไปน้ี เปน็ ความจริง หรอื ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน) X
X X
ขอ้ ความท่ีเปน็ ความจริง ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่ X
ขอ้ ความท่ีไมเ่ ป็นความจรงิ ใหท้ ำเคร่อื งหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช”่
ข้อความ
1) เรตินา มีหน้าทเี่ ปน็ ฉากรับภาพ
2) คนสายตาสน้ั 400 จะมองไดไ้ กลและชดั ทีส่ ดุ ที่ระยะ 0.25 เมตร
3) คนสายตาปกติ จะมองเห็นระยะใกล้ได้ชดั เจนทสี่ ดุ โดยเฉลีย่ ทร่ี ะยะ 34 เซนติเมตร
4) ถา้ เลนส์ตาบางเกนิ ไป ทำให้แสงรวมกนั หน้าเรตนิ า มองไกลชัดอย่างเดยี วเกิดอาการ
สายตายาว
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ตอบถูกทง้ั 4 ข้อ : ใช่ ใช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
ใบงาน PMI เรือ่ ง ทศั นอปุ กรณก์ บั ชีวิตประจำวนั
คำคำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ระดมความคดิ โดยระบขุ ้อดีของทศั นอปุ กรณ์ ลงในช่อง (P) ข้อเสีย/ข้อจำกัด
ของทัศอปุ กรณ์ ลงในช่อง(M) และข้อเสอนแนะ/ข้อทีน่ า่ สนใจ ของทัศนอุปกรณ์ ลงในช่อง (I)
ทศั นอุปกรณก์ ับชีวติ ประจำวนั
ข้อดี ข้อเสีย/ขอ้ กำจดั ข้อท่นี ่าสนใจ/ขอ้ เสนอแนะ
(P) (M) (I)
สรุป
แบบประเมินใบงาน PMI
คำช้ีแจง : ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI
ลำดับ ชอื่ -สกลุ การแสดงความ เนื้อหา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงต่อเวลา รวม สรปุ ผลการ
ที่ ของผรู้ บั การประเมนิ คิดเห็น 20 คะแนน ประเมิน ผา่ น/
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน )
( 4 คะแนน ) ไมผ่ ่าน
ลงชอื่ ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรงุ
นักเรียนได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
การแสดง
ความคิดเหน็ - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง P - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง P - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง P - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง P
ได้ 10 ข้อขึน้ ไป ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ขอ้ ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง - แสดงความคดิ เห็นในช่อง M
Mได้ 10 ข้อข้นึ ไป M ได้ 9-10 ข้อ M ได้ 7-8 ข้อ ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง I - แสดงความคิดเห็นในช่อง I - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง I - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง I
ได้ 10 ขอ้ ขึ้นไป ได้ 9-10 ข้อ ได้ 7-8 ข้อ ได้ นอ้ ยกว่า 7 ขอ้
เนื้อหา - เนอ้ื หาครบถว้ นตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่ - เนอื้ หาถูกต้องตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระท่ี
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กว่า 59%
การนำเสนอ
- เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขียนถูกต้องตามหลักภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา
ความสวยงาม 100% 80-99% 60-79% ต่ำกวา่ 59%
การตรงตอ่
- ลำดบั หวั ข้อเนอื้ หาชดั เจน - ลำดบั หวั ขอ้ เนอื้ หาชัดเจน - มีการสรปุ ได้อยา่ ง - มีการสรุปไมส่ มเหตสุ มผลตำ่
เวลา - มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มีการสรุปได้อย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% กวา่ 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99% - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- พดู ชดั เจนเสียงดังฟังชดั - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชัด - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม
อกั ขระ60-79% อกั ขระตำ่ วา่ 59%
อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- บคุ ลกิ ภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ - ใชส้ สี นั สวยงามและมีความ - ใชส้ สี ันสวยงามหรือเป็นไป
มั่นใจ สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ งหนง่ึ
- มกี ารใช้ส่อื ประกอบการ ได้บางส่วน
ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ช้ากวา่
นำเสนอ - ใช้สีสันสวยงาม เวลาทกี่ ำหนด 10 นาที เวลาที่กำหนด 15 นาที
- ความพร้อมในการนำเสนอ - มีความสะอาด
- ใชส้ สี นั สวยงาม - มีความคดิ สร้างสรรค์
- มีความสะอาด
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่
- ความเป็นระเบียบอา่ นง่าย เวลาท่กี ำหนด 5 นาที
ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม
เวลาทก่ี ำหนด
แนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ
ในการถ่ายรูปวตั ถใุ ด ๆ จะต้องจัดให้วตั ถนุ ัน้ อยู่ท่ีตำแหนง่ ใดของเลนส์หน้ากล้อง
ก. มากกวา่ สองเทา่ ของความยาวโฟกสั
ข. น้อยกวา่ ความยาวโฟกสั
ค. เทา่ กบั สองเทา่ ของความยาวโฟกสั
ง. เท่ากับความยาวโฟกัส
(เฉลย ก. มากกว่าสองเท่าของความยาวโฟกสั )
แผนจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ แสงและการมองเห็น หน่วยย่อยท่ี 1
เร่อื ง ผลของความสวา่ งทีม่ ีตอ่ ดวงตา เวลา 1 ชั่วโมง
วันท่ีทำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สบื ปัญญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตวั ชีว้ ัด
ดวงตา เปน็ อวัยวะในการรับแสง รมู ่านตาเป็นตวั ชว่ ยกรองปรมิ าณ ว 2.3 ม.3/19 อธบิ ายผลของความสว่างทม่ี ีต่อดวงตาจากข้อมูลทไ่ี ด้
แสงท่ีจะเข้าสดู่ วงตา ถ้ามปี รมิ าณแสงสว่างมาก รมู ่านตาจะแคบลง เพื่อ จากการสบื ค้น
ลดปรมิ าณแสงทจ่ี ะเขา้ สู่ดวงตา แต่หากมีปรมิ าณแสงนอ้ ย รมู า่ นตาจะ
เปดิ กวา้ งเพ่อื รบั ปรมิ าณแสงให้เพยี งพอตอ่ การเห็นภาพ ดังนั้นความ
สว่างของแสง จึงมผี ลตอ่ ดวงตา
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ช้ินงาน /ภาระงาน
- ผลของความสว่างทีม่ ตี อ่ ดวงตา - ใบงาน Cause & effect เร่อื ง จะเป็นอยา่ งไร หากนกั เรยี นเลน่
โทรศพั ทใ์ นทีม่ ืด
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 6. เครอ่ื งมือการคดิ
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - Cause & effect
กจิ กรรมการเรียนรู้
7.ขน้ั ของกิจกรรม 8.สือ่ 9.วธิ วี ดั ผล
Do Now : (3 นาท)ี - ใบงาน Cause & effect - ประเมนิ ใบงาน
“ยกตัวอย่างพน้ื ท่ีท่ตี อ้ งใช้แสงสอ่ งสวา่ งมาก มาคนละ 1 อย่าง” เรื่อง จะเป็นอย่างไร หาก Cause & effect เรอ่ื ง
Purpose : (2 นาที ) นกั เรยี นเล่นโทรศัพทใ์ นท่ี จะเป็นอยา่ งไร หาก
เราจะเรียนเรอ่ื ง ผลของความสวา่ งที่มีตอ่ ดวงตา เพอื่ ให้นักเรยี นสามารถอธิบายผลของ มืด นกั เรยี นเลน่ โทรศพั ท์ใน
ความสวา่ งท่ีมีต่อดวงตาจากข้อมลู ที่ได้จากการสืบคน้ ได้ -อินเตอรเ์ น็ต ทม่ี ืด
Work mode (50 นาที) -บทเรยี นออนไลน์ เร่อื งผล
1. นักเรียนศึกษาเรื่อง ผลของความสว่างทม่ี ีต่อดวงตา จากบทเรยี นออนไลน์ ของความสว่างท่ีมีตอ่ ดวงตา
(พอเพยี ง 3: การมภี ูมคิ ุ้มกนั ทีด่ ี) (15 นาท)ี
2. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ “กระจกตา และ รมู ่านตา มีหน้าที่อย่างไร?/
เพราะเหตใุ ด ในหอ้ งสมดุ จึงใชแ้ สงสวา่ งมากกว่าหอ้ งนอน? (5 นาที)
3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ระดมความคิดเพื่อทำใบงาน Cause & effect จะเปน็
อย่างไร หากนกั เรยี นเล่นโทรศพั ทใ์ นทมี่ ดื เพื่อวเิ คราะห์ถงึ ผลกระทบท่อี าจเกิดขนึ้ เมอ่ื
รูม่านตาไมส่ ามารถทำงานไดต้ ามปกติ โดยสบื ค้นข้อมลู เพิ่มเติมจากอนิ เตอร์เนต็
(คิด4:คิดอย่างมีวิจารณญาณ) (สมรรถนะท่ี 4) (Cause & effect) (15 นาท)ี
4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน Cause & effect เรอ่ื ง จะเป็น
อย่างไร หากนกั เรยี นเลน่ โทรศัพทใ์ นท่มี ดื ที่หน้าชน้ั เรยี น กลุ่มละ 3 นาที (10 นาที)
5. นักเรยี นและครสู รปุ บทเรียน โดยนักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด “เพราะเหตใุ ด
ความสว่างจึงมผี ลตอ่ ดวงตา?/ นักเรียนมวี ิธีการในการถนอมดวงตา อย่างไร? (5 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- ประโยชนท์ ่ีนกั เรียนไดร้ ับ จากการเรยี นในวนั น้ี? (2 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาที)
ใบงาน Cause & Effect
เรอื่ ง จะเป็นอย่างไร หากนกั เรียนเลน่ โทรศพั ท์ในที่มดื
Cause (เหต)ุ : จะเปน็ อยา่ งไร หากนกั เรยี นเล่นโทรศพั ทใ์ นทม่ี ืด
Effect (ผล) Effect (ผล) Effect (ผล)
สรุป
แบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
คำชี้แจง : ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตามตาราง
แนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
ลำดับที่ ชอื่ -สกุล การแสดง เน้อื หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ เวลา รวม สรุปผลการ
ของผู้รับการ ความ สวยงาม 20 คะแนน ประเมนิ ผา่ น/ไม่
คดิ เหน็ (4คะแนน) (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมิน (4คะแนน) ผา่ น
ลงชอ่ื ....................................................ผ้ปู ระเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ขึน้ ไปถอื ว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
การแสดง - แสดงความคิดเหน็ - แสดงความคิดเหน็ - แสดงความคิดเหน็ - - แสดงความคิดเห็น
ความ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/
คิดเหน็ เหตกุ ารฌไ์ ด้ 10 ข้อขึ้น เหตกุ ารณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตุการณ์ได้ 6-7 ข้อ เหตุการณ์ได้ น้อยกว่า
ไป 6 ขอ้
เน้ือหา - เนอ้ื หาครบถ้วนตาม - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระ - เนอื้ หาถูกต้องตามสาระ - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระ
สาระทก่ี ำหนด 100% ท่กี ำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ทีก่ ำหนดตำ่ วา่ 59%
- เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ วา่ 59%
- ลำดับหัวขอ้ เนอื้ หา - ลำดบั หัวขอ้ เนอ้ื หา - มีการสรปุ ได้อยา่ ง - มีการสรปุ ไม่
ชัดเจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่ำว่า
- มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ได้อย่าง 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสียงดังฟงั ชดั - พูดชัดเจนเสยี งดังฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำว่า 59%
- บุคลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลิกภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
มั่นใจ - ความพร้อมในการ
- มกี ารใชส้ อ่ื ประกอบการ นำเสนอไดบ้ างสว่ น
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความ - ใช้สสี ันสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมี - ใชส้ ีสนั สวยงามหรอื
สวยงาม - มีความสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคิดสร้างสรรค์ ใดอยา่ งหนึ่ง
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ น
งา่ ย
การตรงต่อ ส่งผลงานครบถ้วน ตรง ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ ้า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาที่กำหนด 5 กว่าเวลาท่ีกำหนด 10 กว่าเวลาท่ีกำหนด 15
นาที นาที นาที
ขอ้ สอบ O-NET (2561) 1 ขอ้
(เฉลยตอบขอ้ ท่ี 4 กระจกเว้า และแวน่ สำหรบั คนสายตายยาว)
แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 12
ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ แสงและการมองเห็น หน่วยย่อยท่ี 2
เรอ่ื ง การวดั ความสว่างของแสง เวลา 2 ชว่ั โมง
วนั ท่ที ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผูส้ อน นายสเุ วช สืบปัญญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตวั ชว้ี ัด
ความสวา่ งท่ีเกดิ บนพน้ื ท่ีรองรับแสง เกดิ จากฟลกั ซ์การส่องสว่าง หรือ ว 2.3 ม.3/20 วดั ความสวา่ งของแสงโดยใช้อปุ กรณ์วัดความสวา่ ง
อตั ราการใหพ้ ลงั งานแสง ตกบนพ้ืนทรี่ องรบั แสง โดยความสว่าง มหี น่วย ของแสง
เปน็ ลกั ซ์ (LUX ; LX)
การวดั ความสว่างของแสง สามารถทำไดโ้ ดยใช้เครอื่ งวดั ความสว่าง คือ
LUX METER
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน /ภาระงาน
- การวัดความสวา่ งของแสง - ใบงาน KWL เร่อื ง การวัดความสวา่ งของแสง
- ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง ความสว่างของแสงทเี่ หมาะสม
ในสถานท่ตี า่ งๆ
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เครอื่ งมอื การคิด
- ความสามารถในการคิด - KWL
กิจกรรมการเรียนรู้
7.ขนั้ ของกิจกรรม 8.ส่อื 9.วธิ ีวดั ผล
Do Now : (3 นาที) - ใบงาน KWL เร่อื ง การวดั - ประเมนิ ใบงาน
“ ถ้าโลกเราไมม่ ีหลอดไฟ นักเรยี นจะใช้วิธีไหนในการใหค้ วามสวา่ ง คนละ 1 ขอ้ ” ความสวา่ งของแสง KWL เรอ่ื ง การวัด
Purpose : (2 นาที ) - ใบงานตามแนวทาง PISA ความสวา่ งของแสง
เราจะเรียน เร่ือง การวัดความสวา่ งของแสง เพ่อื ให้นกั เรียนสามารถวดั ความสว่างของ เรอ่ื ง ความสวา่ งของแสงท่ี - ประเมนิ ใบงาน
แสงโดยใช้อุปกรณ์วดั ความสว่างของแสงได้ เหมาะสมในสถานทีต่ ่างๆ ตามแนวทาง PISA
Work mode (110 นาที) - Power point เรือ่ ง ความสวา่ งของ
1. นกั เรียนตอบคำถาม “นักเรียนรูอ้ ะไร เกี่ยวกับการการวัดความสวา่ งของแสง? โดย ประกอบการสอนเรอ่ื ง การ แสงทีเ่ หมาะสมใน
บันทึกความรลู้ งในใบงาน KWLบนั ทกึ ลงในชอ่ ง K (Know) (KWL : K) /นกั เรียนต้องการ วัดความสว่างของแสง สถานทีต่ า่ งๆ
เรียนรู้อะไรบ้าง เกีย่ วกบั เรื่องการวัดความสวา่ งของแสง โดยบนั ทกึ ความรลู้ งในใบงาน - คลิปวีโอ เรอื่ ง เครอ่ื งวัด
KWL บนั ทึกลงในชอ่ ง W (Want) (คดิ 6: คิดสงั เคราะห์)(KWL : W) (5 นาที) แสง Lux meter
2. นักเรยี นฟงั ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ เร่ือง การวัดความสว่างของแสง โดยใช้สือ่ Power point
ประกอบการสอน (พอเพียง3 : การมีภมู คิ มุ้ กันท่ีดี) (25 นาท)ี
3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ หนว่ ยของความสว่าง คอื อะไร?/ เครื่องมอื วดั
ความสว่าง เรยี กว่าอะไร? (สมรรถนะท่ี 3) (5 นาที)
4. นักเรยี นศึกษาคลปิ วีโอ เรอ่ื ง เคร่อื งวัดแสง Lux meter จาก
https://www.youtube.com/watch?v=YY4EjD8OrGE (15 นาที)
5. นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคิด “เคร่ืองวดั ความสวา่ งของแสง มหี ลักการ
อย่างไร? (5 นาที)
6.นกั เรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เรอื่ ง ความสว่างของแสงทเี่ หมาะสมในสถานท่ี
ต่างๆ (25 นาที)
7. นักเรยี นและครรู ว่ มกันเฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง ความสว่างของแสงที่
เหมาะสมในสถานท่ีต่างๆ (15นาท)ี
8.นักเรยี นตอบคำถาม “จากบทเรยี น นกั เรียนไดเ้ รยี นรอู้ ะไรบ้างเกยี่ วกับเรื่อง การวัด
ความสวา่ งของแสง? โดยบนั ทึกความรู้ลงในใบงาน KWL บนั ทกึ ลงในชอ่ ง L (Learn)
(KWL : L) (5 นาท)ี
9. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปองค์ความรู้จากบทเรียนเร่อื ง การวัดความสวา่ งของแสง
โดยคดิ พิจารณาไตรต่ รองอยา่ งมีวจิ ารณญาณเพื่อตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ “ เพราะ
เหตุใด เราจงึ ไม่ควรมองแสงจากดวงอาทติ ยโ์ ดยตรง เปน็ เวลานาน?/ นักเรยี นสามารถ
นำความรเู้ ร่อื ง การวดั ความสว่างของแสง ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวันได้อยา่ งไร
บ้าง? (คิด 4 : คดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ) (สมรรถนะท่ี 2) (10 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิง่ ทีน่ ักเรยี นทำได้ดที ส่ี ุด จากการเรยี นในวนั น?ี้ (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาท)ี
ใบงานตารางบันทกึ ความรู้ KWL เรอ่ื ง การวัดความสวา่ งของแสง
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ทีไ่ ด้ลงในตารางต่อไปนี้ พร้อมทงั้ เขยี นสรปุ ความลงในบรรทัดท่ีว่างไว้ขา้ งลา่ งของแบบ
บนั ทึก
K : Know W : Want L : Learn
(นักเรยี นรู้อะไร) (นักเรยี นต้องการรู้อะไร) (นักเรียนได้เรียนรอู้ ะไร)
สรุป : ............................................................................................................................. .........................................
......................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
ว2.3 ม.3/20 วัดความสว่างของแสงโดยใช้อปุ กรณว์ ัดความสวา่ งของแสง
ความสว่างทเี่ หมาะสมในสถานทต่ี า่ งๆ มีความสำคัญมากต่อการทำงาน หรอื การถนอมสายตา จงึ มกี าร
กำหนดความสวา่ งที่เหมาะสมไว้ ดังน้ี
(เคร่อื งมอื วัดความสวา่ ง Lux meter)
การถนอมสายตา
ตาเป็นอวัยวะทม่ี คี วามไวตอ่ แสง การมองในบรเิ วณท่ีแสงมีความเข้มมากกบั บรเิ วณที่มีความเข้มแสงน้อย อาจทำใหเ้ กดิ
อันตรายต่อตา หรอื ทำใหส้ ายตาเสียได้ การดวู ตั ถทุ ี่มีความสวา่ งมากเชน่ ดวงอาทิตย์ แสงจากการเชื่อมโลหะ จะต้องไม่มองสง่ิ
เหล่าน้โี ดยตรงเพราะความเข้มแสงมากจนทำให้เกิดอนั ตรายร้ายแรงต่อตาได้ หรอื มองวัตถุท่แี สงสว่างไมม่ ากเกินไปแต่มองต่อเน่ือง
เปน็ เวลานานกส็ ามารถเกิดอันตรายต่อสายตาไดเ้ ช่นกนั การป้องกนั ไม่ให้แสงทมี่ ีความเขม้ มากเขา้ สู่ตาโดยตรงเปน็ วิธีปอ้ งกันดวงตา
จากวัตถุทส่ี ว่างมากๆ
ท่มี า : https://www.scimath.org/lesson-physics/item/7277-2017-06-13-14-42-30
คำถามท่ี 1 (1 คะแนน) 2. Photo meter
ข้อใด คือ เครื่องมือวดั ความสว่าง 4. Multi meter
1. Light meter
3. Lux meter
คำถามที่ 2 (2 คะแนน)
จากถ้อยความ จงบอกวธิ ีถนอมสายตามา 2 ข้อ
วิธถี นอมสายตา
1.
2.
คำถามท่ี 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ เปน็ ความจริง หรอื ไม่เปน็ ความจริง (2 คะแนน)
ข้อความท่ีเป็นความจริง ให้ทำเครอ่ื งหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่
ข้อความท่ีไม่เปน็ ความจรงิ ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช่”
ข้อความ
1) หอ้ งเขียนแบบ ใชค้ วามสว่างมากกวา่ ห้องนั่งเลน่
2) ทางเดนิ ในอาคาร ใช้ความสวา่ งเท่ากบั บันไดฉุกเฉนิ
3) ห้องผ่าตดั ในโรงพยาบาล ใช้ความสว่างมากกว่าหอ้ งอืน่ ๆ
4) หอ้ งตรวจโรค ใชค้ วามสวา่ งนอ้ ยกวา่ ห้องปฏบิ ัติการ
คำถามท่ี 1 เฉลยและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
คะแนนเต็ม 1 คะแนน
ไมม่ ีคะแนน
ขอ้ 3. Lux meter คำตอบอื่นๆ
คำถามที่ 2
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้องทั้ง 2 ข้อ โดยอา้ งองิ จากถอ้ ย ตอบคำถามได้ถูกต้อง 1 ข้อ ตอบไม่ถูกตอ้ ง หรือไม่
ความ คอื 1. ไม่มองวัตถทุ ี่มแี สงสวา่ งมากโดยตรง ตอบคำถาม
2. ไม่มองวตั ถุท่ีมแี สงสวา่ งไม่มาก อยา่ งต่อเน่ืองเปน็
เวลานาน
คำถามที่ 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมลู ขอ้ ความต่อไปนี้ เปน็ ความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน) X
ข้อความทเี่ ปน็ ความจริง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ใช”่ X
ขอ้ ความที่ไม่เป็นความจรงิ ให้ทำเครื่องหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช่” X
X
ข้อความ
1) หอ้ งเขยี นแบบ ใชค้ วามสว่างมากกวา่ หอ้ งน่งั เลน่ ไมม่ ีคะแนน
2) ทางเดินในอาคาร ใชค้ วามสวา่ งเท่ากบั บนั ไดฉุกเฉนิ ตอบถูก 2-0 ข้อ
3) หอ้ งผ่าตัดในโรงพยาบาล ใช้ความสว่างมากกว่าหอ้ งอ่ืนๆ
4) หอ้ งตรวจโรค ใชค้ วามสว่างน้อยกว่า ห้องปฏิบัติการ
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน
ตอบถูกท้ัง 4 ข้อ : ใช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ไม่ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ
หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินใบงาน KWL
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตาม
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI
ลำดับ ชอื่ -สกลุ การแสดงความ เนอ้ื หา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ที่ ของผรู้ บั การประเมิน คดิ เห็น 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน )
( 4 คะแนน ) ไมผ่ า่ น
ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรับปรงุ
นกั เรียนได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไปถือวา่ ผา่ น
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน KWL
เกณฑก์ าร ระดับการประเมนิ
ประเมิน
การแสดง 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
ความคิดเห็น - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง k - แสดงความคดิ เห็นในช่อง K
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง K - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง K
ได้ 10 ข้อขึน้ ไป ได้ น้อยกว่า 7 ข้อ
- แสดงความคิดเห็นในช่อง ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ข้อ - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง W
w ได้ 10 ข้อขนึ้ ไป - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เห็นในช่อง L - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง L
W ได้ 9-10 ขอ้ W ได้ 7-8 ขอ้
ได้ 10 ข้อขน้ึ ไป ได้ น้อยกว่า 7 ข้อ
- แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง L - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง L
ได้ 9-10 ข้อ ได้ 7-8 ข้อ
เน้ือหา - เนอื้ หาครบถ้วนตามสาระที่ - เน้อื หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กวา่ 59%
- เขียนถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลักภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา
100% 80-99% 60-79% ตำ่ กว่า 59%
- ลำดบั หัวขอ้ เนอ้ื หาชดั เจน - ลำดับหัวขอ้ เนือ้ หาชดั เจน - มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มีการสรุปไมส่ มเหตสุ มผลตำ่
- มีการสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% กว่า 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟังชัด - พูดชัดเจนเสยี งดังฟงั ชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม
อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% อกั ขระต่ำว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
มน่ั ใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ
- มีการใชส้ ่ือประกอบการ ไดบ้ างสว่ น
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ความสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สีสันสวยงามหรอื เป็นไป
- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อย่างใดอยา่ งหนง่ึ
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สร้างสรรค์
- ความเปน็ ระเบียบอ่านงา่ ย
การตรงต่อ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กว่า สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ช้ากว่า ส่งผลงานครบถว้ น แต่ช้ากวา่
เวลา เวลาทก่ี ำหนด เวลาที่กำหนด 5 นาที เวลาท่กี ำหนด 10 นาที เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที
แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ ข. Photo meter
ขอ้ ใด คอื เครือ่ งมือวัดความสว่าง ง. Multi meter
ก. Light meter (เฉลย ค. Lux meter )
ค. Lux meter
แผนจดั การเรยี นรูท้ ่ี 13
ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ แสงและการมองเห็น หนว่ ยย่อยท่ี 1
เรอื่ ง การนำความรูเ้ รื่องความสว่างของแสงไปใชป้ ระโยชน์ เวลา 1 ช่วั โมง
วนั ทท่ี ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สบื ปัญญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตัวชว้ี ัด
แสงสวา่ ง เปน็ ปัจจยั สำคญั ในการมองเหน็ ของมนษุ ย์ ดังน้นั จงึ ตอ้ งจัด ว 2.3 ม.3/21 ตระหนักในคณุ คา่ ของความรเู้ รอื่ งความสวา่ งของแสง ท่ี
แสงสว่างใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน โดยแสงสวา่ งตอ้ งมปี ริมาณความ มตี อ่ ดวงตาโดยวิเคราะห์สถานการณป์ ญั หาและเสนอแนะการจัดความ
เขม้ แสงทเ่ี หมาะสมและมคี ณุ ภาพ สวา่ งให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
แสงที่มีความเข้มสูง เป็นอันตรายตอ่ ดวงตา อาจทำให้ตาบอด หรือเปน็
ตอ้ กระจกได้ ดงั นั้นต้องระมดั ระวงั ในการใชส้ ายตาและควรถนอมสายตาอยู่
เสมอ
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน /ภาระงาน
- การนำความรเู้ รื่องความสว่างของแสงไปใชป้ ระโยชน์ - ใบงาน OPV เร่ือง มองสรุ ิยุปราคาดว้ ยตาเปลา่ ปลอดภยั หรือไม่
- ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง วิธถี นอมสายตา สำหรบั คนติด
โทรศัพท์
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เคร่อื งมือการคดิ
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - OPV
กิจกรรมการเรยี นรู้
7.ขน้ั ของกจิ กรรม 8.ส่อื 9.วิธีวัดผล
Do Now : (3 นาท)ี - ใบงาน OPV เร่อื ง มอง - ประดมนิ ใบงาน OPV
“ยกตวั อย่างย่ีหอ้ โทรศพั ท์ มาคนละ 1 อย่าง” สรุ ยิ ปุ ราคาด้วยตาเปล่า เร่ือง มองสรุ ิยปุ ราคาด้วย
Purpose : (2 นาที ) ปลอดภยั หรือไม่ ตาเปลา่ ปลอดภยั หรือไม่
เราจะเรียนเร่อื ง การนำความรู้เรอ่ื งความสวา่ งของแสงไปใช้ประโยชน์ เพอื่ ใหน้ ักเรยี น - ใบงานตามแนวทาง PISA - ประเมนิ ใบงานตาม
ตระหนักในคณุ ค่าของความรเู้ ร่ืองความสวา่ งของแสง ท่ีมตี ่อดวงตาโดยวิเคราะห์ เรือ่ ง วธิ ถี นอมสายตา แนวทาง PISA เรื่อง วิธี
สถานการณ์ปญั หาและเสนอแนะการจัดความสวา่ งให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมตา่ งๆ สำหรบั คนตดิ โทรศัพท์ ถนอมสายตา สำหรบั คน
Work mode (50 นาท)ี -คลิปวดิ ีโอ เรื่อง อนั ตราย ติดโทรศพั ท์
1. นักเรยี นศกึ ษาคลปิ วดิ โี อ เร่ือง อันตรายจากแสงและควนั จากการเชื่อมโลหะ จาก จากแสงและควันจากการ
https://www.youtube.com/watch?v=i4pK7rd_6KI เชอื่ มโลหะ จาก
(พอเพียง 3: การมภี มู คิ มุ้ กันทีด่ )ี (10 นาที) https://www.youtube.c
2. นกั เรียนและครรู ่วมกันอภปิ รายจากคลปิ วดิ โี อ โดยนกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ om/watch?v=i4pK7rd_6
“การเชอ่ื มโลหะ กอ่ ใหเ้ กดิ อันตรายต่อผ้เู ช่อื มโลหะ อย่างไร?/ หากบุคคลในครอบครวั ของ KI
นักเรียน ต้องเช่อื มโลหะเอง นักเรยี นจะมีวิธีแนะนำบุคคลเหล่าน้ันในการปอ้ งกันอนั ตราย
จากการเชอื่ มโลหะอยา่ งไร? (5 นาที)
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ระดมความคิดเพือ่ เพือ่ ใบงาน OPV เร่ือง มองสรุ ยิ ุปราคา
ด้วยตาเปล่า ปลอดภัยหรอื ไม่เพ่อื วเิ คราะห์ถงึ ผลกระทบที่อาจจากสถานการณ์ดังกล่าว
(คดิ 1: คิดวเิ คราะห)์ ( OPV)(10 นาท)ี
4. นกั เรียนทำใบงานตามแนวทาง PISA เร่อื ง วิธถี นอมสายตา สำหรบั คนติดโทรศัพท์
(15นาที)
5. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั เฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง วิธถี นอมสายตา สำหรบั
คนติดโทรศัพท์ และสรปุ บทเรยี น โดยนักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด “นกั เรียนจะมี
วิธใี นการใชง้ านคอมพวิ เตอร์ เพอื่ ถนอมสายตา อย่างไรบา้ ง?/ อาหารชนดิ ใดบา้ ง ที่
สามารถช่วยบำรงุ สายตาได?้ (10 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิง่ ท่ีนักเรยี นสามารถนำไปปรับใช้ จากการเรยี นในวันน้ี? (2 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาที)
ใบงาน OPV
เรือ่ ง มองสุริยปุ ราคา ด้วยตาเปลา่ ปลอดภยั หรอื ไม่???
สถานการณ์
“ลิซ่า ไดช้ วน ญาญ่า และ รติ า ไปดสู ุรยิ ุปราคาทีบ่ า้ นของตนเอง ซึ่ง
ในวนั นน้ั เกดิ สรุ ยิ ุปราคาบางส่วน เมือ่ ถึงเวลาเกดิ สุรยิ ุปราคา ญาญา่ ได้
สังเกตการเกดิ สุรยิ ุปราคา ทางออ้ มโดยมองดวงอาทติ ย์จากเงาตามพนื้ ที่
ลอดผ่านรหู ลงั คา ส่วนลิซา่ และริตา ไดส้ งั เกตจากการมองดวงอาทติ ย์
โดยตรงดว้ ยตาเปล่า คดิ ว่ามองไม่นาน จึงนา่ จะไม่เป็นอะไร ”
ใครบ้างทีเ่ ก่ียวข้องกบั สถานการณ์
สรุปผล
ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง วธิ ีถนอมสายตา สำหรับคนตดิ โทรศัพท์
สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
ว2.3 ม.3/21 ตระหนักในคุณคา่ ของความรู้เรือ่ งความสวา่ งของแสง ทม่ี ตี ่อดวงตาโดยวิเคราะหส์ ถานการณป์ ัญหาและเสนอแนะ
การจดั ความสว่างใหเ้ หมาะสมในการทำกจิ กรรมต่าง ๆ
คำถามท่ี 1 (1 คะแนน)
อาหารในข้อใด ช่วยลดความเส่ียงของโรคตาทเ่ี กิดตามวยั
1. ไข่ 2. แครอท
3. พรกิ หยวก 4. ชา
คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)
จากถ้อยความ สัญญาณใด ท่ีบ่งบอกเรากำลังใชง้ านหนา้ จอตดิ ต่อกนั เป็นเวลานาน ควรพักจากหน้าจอ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามท่ี 3
จากข้อมลู ข้อความต่อไปน้ี เป็นความจริง หรอื ไม่เป็นความจริง (2 คะแนน)
ข้อความที่เป็นความจริง ใหท้ ำเครอื่ งหมาย X ในช่อง “ใช่”
ขอ้ ความที่ไม่เปน็ ความจรงิ ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในชอ่ ง “ไม่ใช่”
ข้อความ ใช่ ไมใ่ ช่
1) การให้แสงตงั้ ฉากกับหน้าจอโทรศัพท์ เปน็ วิธีถนอมสายตาอย่างหนึง่
2) เมอ่ื จ้องหนา้ จอโทรศัพท์นานๆ อยา่ กระพริบตาบอ่ ยเกนิ ไป เพราะจะทำใหจ้ อประสาทตา
เสือ่ มได้
3) ควรปรบั ความสวา่ งของหน้าจอโทรศัพท์ใหเ้ ข้ม เพื่อรมู ่านตาจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป
4) ราสเบอรร์ ่ี สตรอเบอร์ร่ี มลั เบอร์รี่ บลเู บอรร์ ี่ ช่วยป้องกนั สายตาเสือ่ มสภาพได้
เฉลยและเกณฑก์ ารให้คะแนน
คำถามที่ 1 คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
คำตอบอืน่ ๆ
ขอ้ 1. ไข่
คำถามที่ 2
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้องโดยอา้ งองิ จาก
ถอ้ ยความ คอื รู้สกึ ตาลา้ และตาพร่า ตอบคำถามได้ถูกต้องบางสว่ น คือ รู้สึก ตอบไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไม่
ตาล้า หรอื ตาพรา่ อย่างใดอย่างหน่ึง ตอบคำถาม
คำถามท่ี 3 ใช่ ไมใ่ ช่
จากข้อมลู ขอ้ ความต่อไปนี้ เปน็ ความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจรงิ (2 คะแนน) X X
X
ข้อความทีเ่ ปน็ ความจริง ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในช่อง “ใช่”
ข้อความที่ไม่เป็นความจริง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช”่ X
ข้อความ
1) การให้แสงต้งั ฉากกบั หนา้ จอโทรศพั ท์ เปน็ วธิ ีถนอมสายตาอยา่ งหน่งึ
2) เมื่อจ้องหน้าจอโทรศัพท์นานๆ อยา่ กระพริบตาบอ่ ยเกินไป เพราะจะทำให้จอประสาทตา
เสอ่ื มได้
3) ควรปรับความสวา่ งของหน้าจอโทรศัพทใ์ หเ้ ขม้ เพื่อรูมา่ นตาจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป
4) ราสเบอร์รี่ สตรอเบอรร์ ี่ มัลเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ช่วยป้องกันสายตาเสอื่ มสภาพได้
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มีคะแนน
ตอบถูกทั้ง 4 ข้อ : ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินใบงาน OPV
คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน OPV
สาเหตแุ ละ
ช่อื -สกุล ผลกระทบ เน้อื หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรุปผลการ
ลำดับท่ี ของผรู้ ับการ มีความ สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมนิ ผา่ น/
สอดคลอ้ ง (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมนิ (4คะแนน) (4คะแนน) ไม่ผา่ น
กนั
(4คะแนน)
ลงชื่อ ....................................................ผูป้ ระเมนิ
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง
นกั เรียนได้ระดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน OPV
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ )
ความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น - - แสดงความคดิ เหน็
- แสดงความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็น
การแสดง ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/
ความคิดเหน็ เหตกุ ารได้ 10 ข้อข้ึนไป ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปญั หา/ เหตุการได้ น้อยกวา่ 6 ข้อ
- ระบุบุคคลทไ่ี ดร้ ับ
ผลกระทบจากปญั หา/ เหตุการได้ 8-9 ขอ้ เหตกุ ารได้ 6-7 ข้อ - - แสดงความคิดเห็น
เหตกุ ารณไ์ ด้ครบถ้วน ผลกระทบของปญั หา/
- แสดงความคิดเห็น - ระบบุ คุ คลทไ่ี ดร้ บั ระบบุ คุ คลที่ไดร้ บั ผลกระทบ เหตุการณไ์ ด้ น้อยกว่า 6
ผลกระทบของปัญหา/เหตุ ขอ้
การฌไ์ ด้ 10 ขอ้ ขนึ้ ไป ผลกระทบจากปญั หา/ จากปัญหา/เหตกุ ารณ์ได้นอ้ ย
เหตุการณไ์ ด้บางส่วน
- แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็
ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/
เหตุการณไ์ ด้ 8-9 ข้อ เหตุการณไ์ ด้ 6-7 ข้อ
เน้อื หา - เนือ้ หาครบถ้วนตามสาระท่ี - เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เน้อื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เน้ือหาถูกตอ้ งตามสาระที่
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำวา่ 59%
- เขียนถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถูกต้องตามหลกั ภาษา
100% 80-99% 60-79% ตำ่ วา่ 59%
- ลำดบั หัวข้อเนอื้ หาชดั เจน - ลำดับหัวขอ้ เน้อื หาชดั เจน - มีการสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตสุ มผล
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มีการสรปุ ไดอ้ ย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ต่ำวา่ 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสียงดังฟงั ชดั - พดู ชดั เจนเสียงดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง
อักขระ100% อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ ว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมคี วาม - บคุ ลิกภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
ม่นั ใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ
- มีการใช้สอ่ื ประกอบการ ได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ความสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงามและมคี วาม - ใช้สีสันสวยงามหรือเป็นไป
- มีความสะอาด - มคี วามสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอย่าง
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ หน่งึ
- ความเป็นระเบียบอ่านง่าย
แนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ
คนสายตาสนั้ เกดิ จากสาเหตใุ ด และมวี ธิ กี ารแกไ้ ขตามขอ้ ใด
ก. กระบอกตายาวเกนิ ไป ใสแ่ ว่นตาทีท่ ำดว้ ยเลนส์เวา้
ข. กระบอกตาสนั้ เกนิ ไป ใส่แว่นตาทท่ี ำด้วยเลนสน์ ูน
ค. เลนสต์ าขาดความยดื หยุน่ ผ่าตดั ดว้ ยแสงเลเซอร์
ง. กลา้ มเนื้อยดึ เลนสต์ าขาดความยดื หย่นุ ผา่ ตัดดว้ ยแสงเลเซอร์
(เฉลย ข. กระบอกตาส้นั เกนิ ไป ใสแ่ วน่ ตาท่ที ำดว้ ยเลนสน์ นู )
แผนจดั การเรียนรูท้ ่ี 14
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ พอลเิ มอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสม หนว่ ยย่อยท่ี 2
เร่อื ง การเกิดพอลเิ มอร์ และสมบัติของพอลเิ มอร์ เวลา 2 ช่ัวโมง
วันทีท่ ำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสุเวช สืบปัญญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตัวช้วี ัด
พอลเิ มอร(์ POLYMER) เป็นสารโมเลกลุ ใหญ่ ทีเ่ กดิ จากสารโมเลกลุ ว 2.1 ม.3/1 ระบุสมบตั ิทางกายภาพและการใช้ประโยชนว์ สั ดปุ ระเภท
จำนวนมากมารวมกันดว้ ยกระบวนการทางเคมี เรยี กวา่ ปฎิกิรยิ าพอลิ พอลเิ มอร์ เซรามิกสแ์ ละวสั ดผุ สม โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษแ์ ละ
เมอ-ไรเซชนั สารสนเทศ
พอลิเมอร์ มสี มบตั ทิ างตา่ งจากสารทวั่ ไป คอื มคี วามเหนยี ว
ยดื หยุ่น นำ้ หนักเบา ทนตอ่ แรงกระแทก เป็นฉนวนไฟฟา้ และฉนวน
ความรอ้ น และทนต่อสารเคมี
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิน้ งาน /ภาระงาน
- การเกดิ พอลเิ มอร์ และสมบัตขิ องพอลิเมอร์ - ใบงานการ ทดลอง เรอ่ื ง การทดสอบสมบัติทางกายภาพบางประการ
ของพอลิเมอร์
- ใบงานตามแนวทาง PISA เร่อื ง กาวพลงั ยึดติดสูง
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 6. เคร่ืองมือการคิด
- ความสามารถในการคดิ - Six Thinking hats (White hat, Blue hat, Yellow hat)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.ขัน้ ของกจิ กรรม 8.สื่อ 9.วิธีวดั ผล
Do Now : (3 นาท)ี - ใบงานการทดลอง เรื่อง การ - ประเมินใบงานการ
“ยกตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑ์ทที่ ำมาจากพลาสติก มาคนละ 1 ชนดิ ” ทดสอบสมบัติทางกายภาพบาง ทดลอง เรื่อง การ
Purpose : (2 นาที ) ประการของพอลเิ มอร์ ทดสอบสมบตั ทิ าง
เราจะเรยี นเร่อื ง การเกดิ พอลเิ มอร์ และสมบัตขิ องพอลเิ มอร์ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนระบุ - ใบงานตามแนวทาง PISA กายภาพบางประการของ
สมบตั ิทางกายภาพและการใชป้ ระโยชน์วัสดปุ ระเภทพอลิเมอร์ โดยใช้หลกั ฐานเชิง เรอื่ ง กาวพลงั ยดึ ตดิ สงู พอลิเมอร์
ประจกั ษ์ได้ - Power point ประกอบการ - ประเมนิ ใบงานตาม
Work mode (110 นาท)ี สอนเรื่อง การเกดิ พอลิเมอร์ แนวทาง PISA เรอ่ื ง กาว
1. นกั เรยี นศกึ ษาเรอ่ื ง การเกดิ พอลิเมอร์ และสมบตั ขิ องพอลเิ มอร์ ในบทเรยี น และสมบัติของพอลเิ มอร์ พลังยึดติดสูง
ออนไลน์ (พอเพยี ง3 : การมีภมู คิ มุ้ กันทีด่ )ี (20 นาท)ี
- บทเรยี นออนไลน์ เรือ่ ง การ
2. นกั เรียนฟังครอู ธบิ ายเพ่มิ เติม เรอื่ ง การเกิดพอลเิ มอร์ และสมบัตขิ องพอลเิ มอร์ เกดิ พอลเิ มอร์ และสมบตั ขิ อง
โดยใชส้ ื่อ Power point ประกอบการสอน (15 นาที) พอลเิ มอร์
3. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด พอลเิ มอร์ คอื อะไร?/ พอลเิ มอร์ มคี วาม
เหมอื นหรอื แตกตา่ งจากวสั ดทุ วั่ ไปอยา่ งไร? (คดิ 2: คิดเปรียบเทียบ)
(สมรรถนะที่ 2) (White hat) (5 นาที)
4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ฟงั ครอู ธบิ ายการทดลองสมบตั ทิ างกายภาพบางประการของ
พอลิเมอร์ (5 นาที)
5. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันปฏบิ ตั ิกิจกรรมการทดลองตามใบงานการทดลอง
เร่ือง การทดสอบสมบตั ิทางกายภาพบางประการของพอลเิ มอร์
(คดิ 6:คดิ สังเคราะห)์ (สมรรถนะท่ี 4) (พอเพยี ง7: สงั คม) (20 นาที)
6. นักเรยี นและครรู ่วมกนั อภิปรายการทดลอง และตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
“จากการทดลอง วสั ดุใดมีความเหนยี วมากท่ีสดุ และทราบได้อยา่ งไร?/ จากการ
ทดลอง นักเรยี นสามารถสรุปสมบัติทางกายภาพของพอลเิ มอร์ ไดว้ ่าอยา่ งไร?
(White hat, Blue hat)
(10 นาท)ี
7. นักเรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง กาวพลงั ยดึ ตดิ สงู (15 นาที)
8. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั เฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรือ่ ง กาวพลงั ยึดตดิ สูง
(10 นาท)ี
9.นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปองคค์ วามร้จู ากบทเรียน โดยตอบคำถามกระตนุ้
ความคดิ “แผน่ พลาสตกิ ฝกึ ซอ้ มวา่ ยนำ้ และพลาสตกิ หมุ้ สายไฟ เปน็ การนำสมบตั ิ
ใดของพอลิเมอรไ์ ปใช้ประโยชน?์ / พอลิเมอร์ มีประโยชน์ตอ่ ชีวิตประจำวนั อยา่ งไร
บ้าง? (White hat, Yellow hat) (10 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สง่ิ ทีน่ กั เรียนไดร้ บั จากการเรยี นในวนั น้?ี (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาท)ี
ใบงานการทดลอง เรอื่ ง การทดสอบสมบตั ทิ างกายภาพบางประการของพอลิเมอร์
จุดประสงค์ เพือ่ ศึกษาสมบัติทางกายภาพบางประการของพอลเิ มอร์บางชนิดได้
วสั ดุอุปกรณ์และสารเคมี 2. เหรียญบาท 1 เหรยี ญ
1. ขวดน้ำพลาสตกิ ใส 1 ใบ 4. ยางรัดของ 3 เสน้
3. ถงุ พลาสติกใส 1 ใบ 6. ไหมพรม 2 เส้น
5. ยางยดื 1 เส้น 8. ไมบ้ รรทัด 1 อัน
7. ดา้ มจับหหู มอ้ หรือกระทะที่ชำรุดแลว้ 1 ชน้ิ 10. น้ำเปลา่ 50 ml.
9. บีกเกอรข์ นาด 100 ml. 3 ใบ 12. สารละลายเกลอื แกงอ่ิมตวั 50 ml.
11. เอทานอล 50 ml.
วิธกี ารทดลอง
1. ตดั ถุงพลาสติกใส ขวดนำพลาสตกิ ใส ยางรดั ของ ยางยืด และไหมพรม ใหม้ ีความยาวเทา่ กบั ชน้ิ ของหู
หมอ้ หรอื ด้ามจับกระทะท่ีนำมา
2. วดั ความยาวของวัสดุในข้อ 1 จากนัน้ ทดสอบความยืดหยุน่ ของวสั ดโุ ดยการดึงให้ยดื สังเกตการ
เปลย่ี นแปลง และวดั ความยาวของวสั ดุหลงั ดงึ บันทึกผลการทดลอง
3. ทดสอบความแข็ง โดยการบบี หรอื กด และใช้เหรียญบาทขูดลงบนวัสดแุ ต่ละชนิด สงั เกตการณ์
เปลี่ยนแปลง บนั ทึกผลการทดลอง
4. ทดสอบการจม-การลอย ของวัสดุ โยใสล่ งในของเหลว 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ น้ำเปล่า เอทานอล และ
สารละลายเกลอื แกงอมิ่ ตัว ตามลำดับ สังเกตการณเ์ ปลี่ยนแปลง บันทกึ ผลการทดลอง
(ท่ีมา : คมู่ ือครูวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 Learn Education)
สมมติฐาน (1 คะแนน)
............................................................................................................................. ............................................
ตัวแปรต้น (1
คะแนน).......................................................................................................................................................................
ตวั แปรตาม (1
คะแนน)....................................................................................................................... ................................................
ตวั แปรควบคมุ (1
คะแนน)....................................................................................................................... ..........................................
ตารางบันทกึ ผลการทดลอง (3 คะแนน)
ชนดิ ของวัสดุ ความยดื หยนุ่ ความแข็ง ผลการสังเกต
(พอลเิ มอร์) การจม-ลอย ในของเหลว (ความหนาแนน่ )
ทีท่ ดสอบ
เอทานอล นำ้ เปล่า สารละลายเกลือ
แกงอม่ิ ตัว
ถงุ พลาสติกใส
ขวดนำ้ พลาสตกิ
ใส
ยางรดั
ยางยดื
ไหมพรม
ดา้ มจับกระทะ
หรือ หหู ม้อ
สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................ ............................
คำถามทา้ ยการทดลอง
1. วสั ดุทน่ี ำมาทดสอบชนิดใดมีความแข็งมากท่สี ดุ ทราบไดอ้ ยา่ งไร (2 คะแนน)
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2. วัสดทุ ี่นำมาทดสอบชนิดใดมีความยดื หยนุ่ มากทีส่ ุด ทราบไดอ้ ย่างไร (2 คะแนน)
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
3. วัสดุทีน่ ำมาทดสอบใดมีความหนาแนน่ นอ้ ยทสี่ ดุ ทราบได้อยา่ งไร (2 คะแนน)
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
เฉลยและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานการทดลอง
เรื่อง การทดสอบสมบัตทิ างกายภาพบางประการของพอลเิ มอร์
สมมติฐาน ( 1 คะแนน) ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรือไม่ตอบ
คะแนนเตม็ 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื ชนดิ ของพอลเิ มอร์ท่ีต่างกนั ทำใหส้ มบตั ิ
ทางกายภาพบางประการแตกต่างกัน
ตัวแปรต้น ( 1 คะแนน) ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบ
คะแนนเตม็ 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คอื ชนดิ ของพอลเิ มอร์
ตวั แปรตาม ( 1 คะแนน) ไมไ่ ด้คะแนน
ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรือไม่ตอบ
คะแนนเต็ม 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื สมบตั ิทางกายภาพของพอลเิ มอร์ ไดแ้ ก่
ความยืดหยุน่ ความแข็ง ความหนาแน่น(การจม-ลอย ในของเหลว)
ตัวแปรควบคมุ ( 1 คะแนน) ไม่ไดค้ ะแนน
ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรอื ไมต่ อบ
คะแนนเตม็ 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คือ ความยาวของวสั ดุ(พอลิเมอร)์ ท่ีทดสอบ
ปริมาณของของเหลว
ตารางบันทึกผลการทดลอง (3 คะแนน) ผลการสังเกต
ชนดิ ของวสั ดุ การจม-ลอย ในของเหลว (ความหนาแน่น)
(พอลเิ มอร์)
ทที่ ดสอบ ความยดื หยุ่น ความแขง็ เอทานอล น้ำเปล่า สารละลายเกลือ
แกงอม่ิ ตัว
ถุงพลาสติกใส
ขวดนำ้ พลาสติก
ใส
ยางรัด
ยางยดื
ไหมพรม
ด้ามจบั กระทะ
คะแนนเต็ม 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
บนั ทกึ ผลการทดลองได้ ไม่บนั ทึกผลการทดลอง ไม่บันทึกผลการทดลอง บันทกึ ผลการทดลอง
ครบถว้ น ทกุ ช่องทั้ง 30 ช่อง 1-5 ชอ่ ง 6-10 ช่อง น้อยกว่า 20 ช่อง
สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
สรุปผลการทดลองได้ถูกต้องครอบคลมุ ตาม สรุปผลการทดลองได้ถูกตอ้ ง ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง
วตั ถปุ ระสงค์ของการทดลอง คอื ชนดิ ของพอลิ บางสว่ น คอื ชนิดของพอลิเมอร์ หรอื ไมต่ อบคำถาม
เมอร์ทตี่ ่างกนั ทำให้มีสมบัติทางกายภาพบาง ท่ตี ่างกัน ทำใหม้ สี มบตั ิทาง
ประการแตกต่างกัน โดย ยางรัด มคี วามยดื หยนุ่ กายภาพบางประการแตกตา่ งกนั
สูงที่สุด เพราะยืดได้มากท่สี ดุ ดา้ มจับหกู ระทะ มี แตไ่ ม่ได้อธิบายประกอบ
ความแข็งมากทส่ี ุด เพราะขดู ด้วยเหรียญบาทแล้ว
ไมเ่ กิดรอย สว่ นถุงพลาสติกใสมีความหนาแนน่
นอ้ ยท่ีสุดเพราะลอยในของเหลวทงั้ 3 ชนดิ
คำถามท้ายการทดลอง
คำถามท่ี 1
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คือ ด้ามจับหู ตอบคำถามได้ถูกต้องบางสว่ น คือ ตอบคำถามไม่ถูกต้อง
กระทะ มคี วามแข็งมากทสี่ ุด เพราะขดู ดา้ มจับหูกระทะ มีความแข็งมาก หรอื ไม่ตอบคำถาม
ด้วยเหรยี ญบาทแลว้ ไม่เกิดรอย ทีส่ ุด แตไ่ ม่ได้อธิบายเหตุผล
คำถามที่ 2
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื ยางรดั มี ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องบางสว่ น คอื ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง
ความยืดหย่นุ สงู ทส่ี ดุ เพราะยดื ได้มาก ยางรดั มคี วามยดื หย่นุ สูงทีส่ ดุ แต่ หรอื ไม่ตอบคำถาม
ทส่ี ดุ ไม่ได้อธิบายเหตผุ ล
คำถามท่ี 3
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คือ ถุงพลาสติกใส ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องบางส่วน คอื ตอบคำถามไม่ถูกต้อง
มีความหนาแนน่ น้อยท่สี ุดเพราะลอยใน ถงุ พลาสติกใสมคี วามหนาแน่น หรือไม่ตอบคำถาม
ของเหลวทั้ง 3 ชนดิ น้อยทส่ี ุด แต่ไมไ่ ด้อธิบายเหตุผล
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
13-15 ดีมาก หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
10-12 ดี
7-9 พอใช้
0-6 ปรบั ปรุง
ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง กาวพลงั ยดึ ตดิ สงู
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
ว2.1 ม.3/1 ระบสุ มบัติทางกายภาพและการใชป้ ระโยชน์วสั ดปุ ระเภทพอลเิ มอร์ เซรามิกสแ์ ละวัสดผุ สม โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
และสารสนเทศ
ที่มา : https://www2.mtec.or.th/th/e-magazine/admin/upload/300_10.pdf
คำถามที่ 1 (1 คะแนน)
นักวิจยั มีแผนทจ่ี ะนำกาวไฮโดรเจล ไปใชป้ ระโยชนอ์ ะไรในอนาคต
1. ผลติ เครอ่ื งสำอางค์ 2. ใช้ทดแทนกาวลาเท็กซ์
3. ทำข้อต่อห่นุ ยนต์ 4. ทำชุดอวกาศ
คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)
จากถ้อยความ กาวไฮโดรเจลทีน่ กั วิจัยสรา้ งข้ึนเพอ่ื เลยี นแบบธรรมชาติ มลี กั ษณะอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามท่ี 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมลู ขอ้ ความต่อไปน้ี เปน็ ความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน)
ขอ้ ความที่เปน็ ความจริง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่
ข้อความที่ไมเ่ ปน็ ความจริง ให้ทำเครื่องหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช่”
ขอ้ ความ
1) สารจากเมือกของหอย และ เพรียง จัดเป็นกาวไฮโดรเจลชนดิ หนง่ึ
2) นักวทิ ยาศาสตร์สงั เคราะห์กาวไฮโดรเจลจากพอลิเมอร์กลมุ่ อะคริลาไมด์
3) ไฮโดรเจล มีโครงรา่ งเป็นก่งิ แบบสายโซ่ยาว
4) กาวไฮโดรเจล ที่สงั เคราะหไ์ ดส้ ามารถยึดตดิ แผ่นเวเฟอร์ อะลูมเิ นียม ไทเทเนยี ม แกว้
และเซรามิกสไ์ ดด้ ี
เฉลยและเกณฑ์การใหค้ ะแนน
คำถามที่ 1
คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ข้อ 3. ทำข้อตอ่ หุน่ ยนต์ คำตอบอนื่ ๆ
คำถามที่ 2
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องโดยอา้ งองิ จากถ้อยความ ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องบางส่วน คอื ตอบ ตอบไมถ่ ูกต้อง
ครบถ้วนทั้ง 3 ลกั ษณะ คือ มลี กั ษณะโปร่ง ลักษณะของกาวโฮโดรเจลได้ถกู ต้อง 2 หรอื ไมต่ อบคำถาม
แสง เหนยี ว ยดื หย่นุ คลา้ ยยาง ประการ
คำถามท่ี 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ เปน็ ความจริง หรือ ไม่เปน็ ความจรงิ (2 คะแนน) X
ขอ้ ความทเ่ี ปน็ ความจริง ให้ทำเคร่ืองหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่ X
ข้อความที่ไม่เป็นความจริง ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในชอ่ ง “ไม่ใช่” X
X
ขอ้ ความ
1) สารจากเมือกของหอย และ เพรยี ง จดั เปน็ กาวไฮโดรเจลชนิดหนึ่ง
2) นักวทิ ยาศาสตร์สงั เคราะห์กาวไฮโดรเจลจากพอลิเมอร์กลมุ่ อะคริลาไมด์
3) ไฮโดรเจล มโี ครงร่างเปน็ ก่งิ แบบสายโซ่ยาว
4) กาวไฮโดรเจล ท่ีสงั เคราะหไ์ ด้สามารถยึดติดแผน่ เวเฟอร์ อะลมู เิ นยี ม ไทเทเนียม แกว้
และเซรามิกสไ์ ด้ดี
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ตอบถูกท้งั 4 ข้อ : ใช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์