The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by scicrpaoschool, 2022-12-20 23:07:59

รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6

รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6

แบบประเมนิ ใบงาน compare & contrast

คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน compare & contrast

ช่ือ-สกุล รูปแบบ เนอื้ หา นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ลำดบั ท่ี ของผู้รับการ สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
(4คะแนน) (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมิน (4คะแนน) (4คะแนน) ไม่ผ่าน

ลงชอ่ื ....................................................ผู้ประเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรียนได้ระดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน compare & contrast

เกณฑก์ าร ระดับการประเมนิ
ประเมนิ
รปู แบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
- ครบองคป์ ระกอบ - ครบองคป์ ระกอบ
- เปรยี บเทียบส่ิงทเี่ หมอื น - ครบองค์ประกอบ - ครบองคป์ ระกอบ - เปรียบเทียบสิ่งที่เหมอื น

และตา่ งไดต้ รงตามเน้อื หา - เปรียบเทียบสงิ่ ที่เหมือน - เปรียบเทียบส่ิงที่เหมือน และต่างไดต้ รงตามเน้อื หา
อย่างถกู ตอ้ งสมบูรณ์ อย่างถูกตอ้ ง
และต่างไดต้ รงตามเน้อื หา และตา่ งไดต้ รงตามเนือ้ หา ต่ำวา่ 59%

อย่างถกู ตอ้ ง อยา่ งถูกต้อง

80-99% 60-79%

การแสดง - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็น - - แสดงความคิดเห็น
ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปัญหา/
ความคิดเหน็ ผลกระทบของปญั หา/เหตุ ผลกระทบของปญั หา/ เหตกุ ารณไ์ ด้ 6-7 ขอ้ เหตกุ ารณไ์ ด้ น้อยกวา่ 6
ข้อ
การฌไ์ ด้ 10 ข้อขน้ึ ไป เหตกุ ารณไ์ ด้ 8-9 ข้อ

เนอื้ หา - เน้อื หาครบถว้ นตามสาระท่ี - เน้ือหาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระท่ี - เนอื้ หาถูกตอ้ งตามสาระที่

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำว่า 59%

- เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ตำ่ ว่า 59%

- ลำดับหวั ข้อเนื้อหาชดั เจน - ลำดบั หวั ข้อเนื้อหาชดั เจน - มกี ารสรุปได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ได้อยา่ ง สมเหตสุ มผล 60-79% ตำ่ วา่ 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - พูดชัดเจนเสียงดงั ฟังชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง

อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระต่ำวา่ 59%

- บคุ ลกิ ภาพดีและมคี วาม - บุคลิกภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

มั่นใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ

- มีการใชส้ ่อื ประกอบการ ได้บางสว่ น

นำเสนอ

- ความพร้อมในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงาม - ใช้สีสนั สวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงามและมคี วาม - ใช้สีสันสวยงามหรือเป็นไป

- มคี วามสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอย่าง

- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ หน่งึ

- ความเป็นระเบยี บอ่านงา่ ย


ขอ้ สอบ O-NET(2562) 1 ขอ้

เฉลยตอบขอ้ ท่ี 1


แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 24

ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี หน่วยยอ่ ยท่ี 1

เรื่อง การเปล่ยี นแปลงพลงั งานเมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี เวลา 2 ชว่ั โมง

วันท่ีทำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ................. ผ้สู อน นายสเุ วช สบื ปญั ญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตวั ชีว้ ดั

เมื่อเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมจี ะทำใหพ้ ลังงานความรอ้ นเกดิ การเปลี่ยนแปลง โดย ว 2.1 ม.3/5 วเิ คราะหป์ ฏกิ ริ ยิ าดดู ความรอ้ น และปฏิกริ ิยาคายความ

การเปลย่ี นแปลงประเภทคายพลังงาน จะมกี ารใชพ้ ลงั งานในการสลายแรง รอ้ น จากการเปล่ยี นแปลงพลังงานความรอ้ นของปฏิกริ ยิ า

ยึดเหน่ียวระหวา่ งอะตอมของสารตัง้ ตน้ น้อยกว่าพลงั งานทไ่ี ดจ้ ากการสรา้ ง

แรงยดึ เหนย่ี วระหว่างอะตอมของผลติ ภณั ฑ์ ส่วนการเปลย่ี นแปลงประเภท

ดูดพลงั งาน มกี ารใชพ้ ลังงานในการสลายแรงยดึ เหนยี่ วระหว่างอะตอมของ

สารต้ังตน้ มากกวา่ พลังงานทีไ่ ด้จากการสรา้ งแรงยึดเหนยี่ วระหวา่ งอะตอม

ของผลติ ภณั ฑ์

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้นิ งาน /ภาระงาน

- การเปลีย่ นแปลงพลงั งานเมอื่ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี - ใบงานการทดลอง เร่อื ง การเปลี่ยนแปลงพลงั งานเมอ่ื เกิดปฏกิ ิริยา

เคมี

- ใบงานตามแนวทาง PISA เรอื่ ง พลังงานกบั การเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 6. เครอื่ งมือการคดิ

- ความสามารถในการแกป้ ัญหา - Six Thinking hats (White hat, Blue hat, Green hat)

กิจกรรมการเรียนรู้

7.ขัน้ ของกิจกรรม 8.สอื่ 9.วิธวี ดั ผล

Do Now : (3 นาท)ี - ใบงานการทดลอง เรือ่ ง - ประเมนิ การทดลอง

“ยกตวั อย่างปฏกิ ริ ิยาคายความร้อน มาคนละ 1 ขอ้ ” การเปลย่ี นแปลงพลังงาน เรือ่ ง การเปล่ียนแปลง

Purpose : (2 นาที ) เมอื่ เกิดปฏิกิรยิ าเคมี พลังงานเมือ่ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ า

เราจะเรียนเรือ่ งการเปลยี่ นแปลงพลงั งานเมือ่ เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสามารถ - วสั ดุ อปุ กรณ์และสารเคมี เคมี

เคราะห์ปฏิกิรยิ าดดู ความร้อน และปฏกิ ริ ิยาคายความร้อน จากการเปลยี่ นแปลงพลังงาน ที่ใชใ้ นการทดลอง เรอื่ ง -ประเมนิ ใบงานตาม

ความร้อนของปฏิกิริยาได้ การเปลย่ี นแปลงพลงั งาน แนวทาง PISA เร่ือง

Work mode (110 นาท)ี เม่อื เกิดปฏิกิริยาเคมี พลงั งานกบั การ

1. นกั เรียนและครทู บทวนความรจู้ ากคาบเรยี นที่ผ่านมา โดยนักเรยี นตอบคำถามกระต้นุ - ใบงานตามแนวทาง PISA เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี

ความคิด “ปฏิกริ ิยาเคมี คอื อะไร?/ปฏกิ ิรยิ าดูดความรอ้ นและคายความร้อน คืออะไร? เรื่อง พลังงานกับการ

(White hat) (10 นาท)ี เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี

2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาใบงานการทดลอง เรื่อง การเปลยี่ นแปลงพลังงานเมอ่ื

เกิดปฏิกริ ิยาเคมี (พอเพียง 3: การมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี )ี (10 นาที)

3. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ฟงั ครอู ธิบายการทดลอง เรอ่ื ง การเปลยี่ นแปลงพลังงานเมื่อ

เกิดปฏิกริ ิยาเคมี (10 นาท)ี

4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ปฏบิ ตั ิกิจกรรมการทดลองตามใบงานการทดลอง เร่ือง การ

เปลย่ี นแปลงพลังงานเมือ่ เกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี (สมรรถนะท่ี 4) (พอเพียง7: สังคม) (25 นาท)ี


5. นักเรยี นและครรู ว่ มกันอภปิ รายการทดลอง และตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ “จากการ
ทดลอง ตวั แปรตน้ ตวั แปรตามและตัวแปรควบคมุ คือสง่ิ ใด?/ จากการทดลอง นักเรยี น
สามารถสรปุ การเปลย่ี นแปลงพลังงานเมือ่ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ได้วา่ อยา่ งไร? (White hat,
Blue hat) (สมรรถนะท่ี 5) (10 นาที)
6. นกั เรียนทำใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง พลงั งานกับปฏกิ ริ ิยาเคมี (20 นาที)
8. นกั เรียนและครรู ่วมกนั เฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรือ่ ง พลังงานกับปฏิกิรยิ าเคมี

(15 นาท)ี

9.นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปองคค์ วามรจู้ ากบทเรียน โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

“จงยกตวั อยา่ งปฏิกิรยิ าดดู ความรอ้ นและคายความร้อนทีพ่ บในชวี ติ ประจำวัน? / นกั เรยี น

สามารถนำความรู้เรอ่ื ง การเปล่ยี นแปลงพลงั งานเมอ่ื เกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี ไปประยุกตใ์ ช้ใน

ชีวิตประจำวนั ได้อย่างไรบา้ ง? (White hat, Green hat) (10 นาที)

Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิง่ ท่นี ักเรียนไดร้ บั จากการเรยี นในวนั น?้ี (2 นาที)
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาที))


ใบงานการทดลอง การเปลย่ี นแปลงพลงั งานเมอ่ื เกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

รายช่อื สมาชกิ

จุดประสงค์ เพ่อื ศึกษาการเปลี่ยนแปลงเมอื่ เกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมีได้

วัสดุอุปกรณ์และสารเคมี

1. น้ำตาลทราย 100 g. 2. สารละลายกรดซลั ฟวิ รกิ (H2SO4) 20 ml.

3. แอมโมเนียมคลอไรด์ (NH4Cl)100 g. 4. แคลเซียมไฮดรอกไซด์ (Ca(OH)2) 100 g.

5. น้ำกลัน่ 30 ml. 6. ช้อนตกสารเบอร์ 2 3 คัน

7. แท่งแก้วคนสาร 2 แทง่ 8. บีกเกอร์ขนาด 50 ml. 4 ใบ

วิธีการทดลอง

1. ตักนำ้ ตาลทรายดว้ ยชอ้ นตักสารเบอร์ 2 จำนวน 2 ช้อน ใส่ลงในบีกเกอร์ใบที่ 1 แลว้ รนิ สารละลายกรด

ซัลฟิวริก 20 ml. ลงในบกี เกอร์ สังเกตการเปล่ยี นแปลงและบันทึกผลการทดลอง

2. ตกั แอมโมเนยี มคลอไรดแ์ ละแคลเซยี มไฮดรอกไซดด์ ว้ ยชอ้ นตักสารเบอร์ 2 อย่างละ 2 ชอ้ น ใส่ลงในบกี

เกอรใ์ บที่ 2 ใช้แท่งแก้วคนสารใหผ้ สมกนั แลว้ รินนำ้ กลนั่ 30 ml. ลงในบีกเกอร์ สงั เกตการเปล่ียนแปลงและ

บนั ทกึ ผลการทดลอง

3. ตรวจสอบการเปล่ยี นแปลงอุณหภมู ิ โดยการใช้มือสัมผัสด้านขา้ งบีกเกอรใ์ บที่ 1 และใบที่ 2 ตามลำดับ

แล้วบนั ทึกผลการทดลอง

(ทมี่ า : คูม่ อื ครวู ชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3


สมมติฐาน (2 คะแนน)

............................................................................................................................. ............................................

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ตวั แปรต้น (1คะแนน

....................................................................................................................................... ...................................

ตวั แปรตาม (1 คะแนน)

........................................................................................................................................................................

ตัวแปรควบคุม (1 คะแนน)

............................................................................................................................. ....................................

ตารางบนั ทึกผลการทดลอง (2 คะแนน)

สาร ผลการสงั เกต

การเปล่ยี นแปลงท่ีสังเกตได้ ความรสู้ ึกเม่ือนำมอื ไปสมั ผัสบีก

เกอร์

นำ้ ตาลทราย + H2SO4

NH4Cl + Ca(OH)2

สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................ ............................

คำถามทา้ ยการทดลอง (ข้อละ 2 คะแนน)
1. เม่ือผสมน้ำตาลทรายกบั กรดซัลฟิวรกิ เขา้ ด้วยกนั จะเกิดปฏิกิริยาเคมีและมีการเปล่ยี นแปลงพลังงานหรือไม่
อย่างไร
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................


2. เมอ่ื ผสมแอมโมเนียมคลอไรด์ แคลเซียมไฮดรอกไซด์และน้ำกลน่ั เข้าดว้ ยกนั จะเกิดปฏิกริ ิยาเคมีและมีการ
เปลีย่ นแปลงพลงั งานหรือไม่ อย่างไร
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
3. เหตุการณใ์ ดบ้างในชวี ติ ประจำวัน ทีม่ ีการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีแบบดดู ความร้อนและคายความรอ้ น
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......


เฉลยและเกณฑก์ ารให้คะแนนใบงานการทดลอง
เร่อื ง การเปลี่ยนแปลงพลงั งานเมอ่ื เกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

สมมติฐาน ( 2 คะแนน)

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง
ตอบคำถามได้ถูกต้องทง้ั 2 ประเดน็ คอื ถ้าสาร ตอบคำถามได้ถูกต้อง หรอื ไมต่ อบคำถาม

เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีแบบคายความร้อนแลว้ อณุ หภมู ิ เพยี ง 1 ประเดน็

ของสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มขึ้น เมื่อสมั ผัสภาชนะทบ่ี รรจุ

จะร้สู กึ ร้อน และถา้ สารเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีแบบดูดความ

ร้อนแล้ว อุณหภมู ขิ องสงิ่ แวดล้อมจะลดลง เม่ือ

สมั ผัสภาชนะท่ีบรรจุจะร้สู กึ เยน็

ตัวแปรตน้ ( 1 คะแนน) ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบ
คะแนนเต็ม 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คือ น้ำตาลทรายผสมกรดซัลฟวิ ริก และ
แอมโมเนยี มคลอไรด์ผสมแคลเซยี มไฮดรอกไซดแ์ ละน้ำกล่ัน

ตวั แปรตาม ( 1 คะแนน) ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรอื ไม่ตอบ
คะแนนเตม็ 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คือ อุณหภมู ิของสิง่ แวดลอ้ มหลังผสม
(ความร้สู กึ เมื่อสัมผัสบีกเกอร์

ตวั แปรควบคมุ ( 1 คะแนน) ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรอื ไม่ตอบ
คะแนนเตม็ 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการทดลอง และ
อุณหภมู ิของส่งิ แวดล้อมก่อนผสม


ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง (2 คะแนน)

สาร ผลการสังเกต
ความรสู้ กึ เมื่อนำมือไปสัมผัสบีกเกอร์
การเปล่ียนแปลงที่สงั เกตได้ รสู้ กึ เย็น

นำ้ ตาลทราย + H2SO4 เกิดของแข็งสีดำและฟองแก๊ส

NH4Cl + Ca(OH)2 เกิดกลิน่ ฉุน รสู้ กึ รอ้ น

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน

บนั ทกึ ผลการทดลองได้ครบถ้วนถูกต้องทงั้ 4 บนั ทึกผลการทดลองไดถ้ ูกต้อง 2-3 บนั ทึกผลการทดลองได้ถูกตอ้ ง 0-1

ชอ่ ง ชอ่ ง ชอ่ ง

สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน

สรุปผลการทดลองได้ถูกต้องครอบคลมุ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการ สรุปผลการทดลองได้ ตอบคำถามไม่ถูกต้อง

ทดลอง โดยแบ่งเปน็ 2 กรณี คอื ถกู ต้องเพียง 1 กรณี หรอื ไมต่ อบคำถาม

กรณที ่ี 1 เมอื่ รนิ สารละลายกรดซลั ฟิวริกเขม้ ขน้ ทม่ี ีนำ้ ตาลทราย

อยู่ มปี ฏกิ ริ ยิ าเคมีเกิดขนึ้ ได้สารใหมเ่ กิดขึน้ สงั เกตจากการเกดิ ฟอง

แก๊สและของแข็งสีดำ และเป็นปฏกิ ิรยิ าเคมแี บบคายความรอ้ น

เพราะเมอื่ สมั ผัสด้านขา้ งบีกเกอร์จะร้สู กึ ร้อน แสดงว่าสิ่งแวดลอ้ มมี

อุณหภูมสิ ูงขึน้ จากการคายพลงั งานออกมา

กรณีที่ 2 เมื่อผสมแอมโมเนียมคลอไรดก์ ับแคลดซยี มไฮดรอกไซด์

และนำ้ กลนั่ มีปฏิกริ ิยาเคมเี กดิ ข้นึ ไดส้ ารใหม่เกิดข้นึ สังเกตจากการ

เกดิ กลน่ิ ฉุน และเป็นปฏิกริ ยิ าเคมแี บบดูดความร้อน เพราะเม่ือ

สัมผัสดา้ นข้างบีกเกอรจ์ ะรู้สึกเยน็ แสดงวา่ สิง่ แวดล้อมมีอุณหภมู ิ

ลดลงจากการดดู พลงั งานเขา้ ไป


คำถามท้ายการทดลอง 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้องบางส่วน ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรือไม่
คำถามท่ี 1 คอื เกิดปฏิกิริยาเคมี และมีการ ตอบคำถาม
เปลยี่ นแปลงพลงั งาน แต่ไม่ได้
คะแนนเต็ม 2 คะแนน อธบิ ายเหตผุ ล
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คือ เกิดปฏิกริ ิยาเคมี
และมีการเปลย่ี นแปลงพลงั งาน โดยเมอื่ 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
สัมผัสดา้ นขา้ งบกี เกอรจ์ ะร้สู กึ รอ้ น แสดงว่า ตอบคำถามได้ถูกต้องบางส่วน ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรอื ไม่
ระบบคายพลังงานออกมาสสู่ ่ิงแวดล้อม คือ เกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี และมี ตอบคำถาม
คำถามที่ 2 การเปลย่ี นแปลงพลงั งาน แต่
ไมไ่ ด้อธบิ ายเหตผุ ล
คะแนนเต็ม 2 คะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
และมีการเปล่ยี นแปลงพลังงาน โดยเมอื่
สัมผัสด้านขา้ งบกี เกอรจ์ ะรสู้ ึกเยน็ แสดงวา่
ระบบดดู พลังงานจากสิ่งแวดล้อมเขา้ ไป

คำถามที่ 3 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องเพยี ง 1 ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรือไม่
คะแนนเตม็ 2 คะแนน ประเด็น ตอบคำถาม
ตอบคำถามได้ถูกต้อง ทัง้ 2 ประเด็น คือ
- ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี บบดูดความร้อน เชน่

การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช การ
ละลายเกลอื แกงดว้ ยนำ้ เป็นตน้
- ปฏิกิรยิ าแบบคายความร้อน เชน่ การ
หายใจของคนและสตั ว์ การเผาไหม้
ของเช้ือเพลิง การละลายนำ้ ของ
โซดาไฟ เป็นตน้

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
13-15 ดีมาก
10-12 ดี
7-9 พอใช้
0-6 ปรับปรุง


สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
ว2.1 ม.3/5 วเิ คราะหป์ ฏิกิริยาดดู ความรอ้ น และปฏกิ ริ ิยาคายความร้อน จากการเปลย่ี นแปลงพลังงานความรอ้ นของปฏกิ ริ ยิ า

ที่มา : https://www.slideshare.net/seksan082/ss-56233000


คำถามที่ 1 (1 คะแนน)

สิ่งใด ไมต่ ้องเขียนลงในสมการเคมี

1. พลังงาน 2. สารตั้งตน้

3. เวลา 4. ผลติ ภณั ฑ์

คำถามที่ 2 (2 คะแนน)

จากถ้อยความ ปฏกิ ิริยาคายความร้อน คืออะไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

คำถามที่ 3

จากข้อมูล ขอ้ ความต่อไปนี้ เป็นความจริง หรือ ไม่เป็นความจริง (2 คะแนน)

ขอ้ ความทเ่ี ป็นความจริง ให้ทำเครอ่ื งหมาย X ในช่อง “ใช่”

ข้อความท่ีไม่เปน็ ความจรงิ ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช”่

ข้อความ ใช่ ไม่ใช่

1) ปฏกิ ริ ิยาแบบดดู พลงั งาน สารตง้ั ตน้ จะมีพลงั งานน้อยกว่าผลิตภัณฑ์

2) ปฏกิ ิริยาแบบดดู พลังงาน ใช้พลังงานในการสลายพนั ธะของสารต้ังตน้ น้อยกวา่ พลงั งานที่

คายออกมาเพื่อสรา้ งพันธะใหม่

3) ปฏิกริ ยิ าแบบคายความร้อน จะทำใหส้ ่งิ แวดล้อมมีพลงั งานสงู ขนึ้

4) เมอื่ เราเอามือสัมผสั ภาชนะแลว้ รู้สึกร้อน แสดงว่าเปน็ ปฏกิ ิรยิ าแบบดูดความร้อน


เฉลยและเกณฑ์การให้คะแนน

คำถามที่ 1

คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน

ขอ้ 3. เวลา คำตอบอ่นื ๆ

คำถามที่ 2

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ตอบไม่ถูกตอ้ ง หรือไมต่ อบ
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องโดยอา้ งองิ จากถอ้ ย ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องบางส่วน คอื คำถาม

ความ คอื ปฏกิ ริ ยิ าเคมที ่ีมกี ารดดู พลังงาน ปฏกิ ิรยิ าเคมที ี่มีการดูดพลงั งานเพื่อสลาย

เพื่อสลายพันธะของสารตง้ั ตน้ น้อยกว่า พันธะของสารตงั้ ต้นน้อยกวา่ พลังงานที่

พลังงานท่ีคายออกมาเพ่อื สร้างพนั ธะใหม่ คายออกมาเพื่อสรา้ งพนั ธะใหม่

โดยสารต้งั ต้นจะมีพลังงานสงู กวา่ ผลิตภณั ฑ์

คำถามท่ี 3

จากข้อมูล ข้อความต่อไปน้ี เปน็ ความจริง หรอื ไมเ่ ปน็ ความจรงิ (2 คะแนน)

ข้อความท่เี ป็นความจริง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ใช่”

ขอ้ ความที่ไมเ่ ปน็ ความจริง ให้ทำเครื่องหมาย X ในช่อง “ไม่ใช”่

ข้อความ ใช่ ไมใ่ ช่

1) ปฏกิ ริ ยิ าแบบดูดพลังงาน สารตั้งต้นจะมีพลังงานน้อยกว่าผลติ ภัณฑ์ X

2) ปฏกิ ิริยาแบบดูดพลงั งาน ใชพ้ ลังงานในการสลายพันธะของสารตัง้ ต้นนอ้ ยกว่าพลังงานท่ี X

คายออกมาเพื่อสร้างพนั ธะใหม่

3) ปฏกิ ิริยาแบบคายความร้อน จะทำให้สิ่งแวดล้อมมีพลังงานสูงข้ึน X

4) เม่อื เราเอามอื สัมผัสภาชนะแล้วรสู้ กึ ร้อน แสดงวา่ เปน็ ปฏิกิริยาแบบดูดความร้อน X

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบถูกทั้ง 4 ข้อ : ใช่ ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ

หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์


ขอ้ สอบ O-NET (2562) 1 ข้อ

(เฉลยตอบขอ้ ท่ี 4 ไม่มสี ารตกผลกึ )


แผนจัดการเรียนรูท้ ี่ 25

ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ปฏิกิริยาเคมี หน่วยยอ่ ยท่ี 3

เร่อื ง ปฏิกิริยาการเกิดสนมิ ของเหลก็ เวลา 1 ชั่วโมง

วนั ท่ีทำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผูส้ อน นายสเุ วช สืบปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตัวชี้วดั

การเกดิ สนมิ เหล็ก(RUSTING) เกิดจากเหลก็ แกส๊ ออกซเิ จนในอากาศ ว 2.1 ม.3/6 อธบิ ายปฏกิ ิรยิ าการเกิดสนมิ ของเหลก็ ปฏกิ ริ ิยาของกรด

และน้ำ ทำปฏิกริ ยิ ากัน เกดิ เปน็ ออกไซด์ของเหล็กทม่ี นี ำ้ ผลกึ กับโลหะ ปฏกิ ริ ยิ าของกรดกบั เบส และปฏิกริ ิยาของเบสกับโลหะ โดย

(HYDRATED IRON(III) OXIDE) ซ่ึงเปน็ ของแขง็ สีน้ำตาล หรือท่เี รยี กวา่ ใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ และอธบิ ายปฏกิ ริ ยิ าการเผาไหม้ การเกดิ ฝน

สนิมของเหลก็ กรด การสังเคราะห์ดว้ ยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมท้ังเขียนสมการ

ข้อความแสดงปฏิกริ ยิ าดงั กล่าว

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้ินงาน /ภาระงาน

- ปฏิกริ ยิ าการเกดิ สนมิ ของเหล็ก - ใบงาน KWL เร่ือง ปฏกิ ิริยาการเกดิ สนิมของเหล็ก

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 6. เครอ่ื งมอื การคิด

- ความสามารถในการคิด - KWL

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7.ข้นั ของกจิ กรรม 8.สือ่ 9.วิธีวดั ผล

Do Now : (3 นาที) - ใบงาน KWL เรอ่ื ง - ประเมินใบงาน KWL

“ยกตัวอย่างโลหะ มาคนละ 1 ชนิด ปฏกิ ริ ิยาการเกดิ สนมิ ของ เร่ือง ปฏกิ ริ ยิ าการเกิด

Purpose : (2 นาที ) เหลก็ สนมิ ของเหล็ก

เราจะเรยี นเรอื่ งปฏกิ ริ ยิ าการเกดิ สนิมของเหล็ก เพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถอธิบาย – บทเรยี นออนไลน์ เรอ่ื ง

ปฏิกิริยาการเกดิ สนิมของเหลก็ และเขยี นสมการของความของปฏิกิรยิ าได้ ปฏกิ ิรยิ าการเกิดสนิมของ

Work mode (50 นาท)ี เหลก็

1. นกั เรียนตอบคำถาม “นกั เรยี นรอู้ ะไร เก่ยี วกับปฏิกริ ยิ าการเกดิ สนมิ ของเหลก็ ? โดย

บันทกึ ความรู้ลงในใบงาน KWLบนั ทกึ ลงในชอ่ ง K (Know) /นกั เรยี นตอ้ งการเรียนรู้

อะไรบา้ ง เกย่ี วกบั เรื่องปฏกิ ริ ยิ าการเกิดสนิมของเหล็ก โดยบนั ทกึ ความรู้ลงในใบงาน

KWL บันทกึ ลงในชอ่ ง W (Want) (สมรรถนะที่ 2) (5 นาท)ี

2. นักเรยี นศกึ ษาเร่อื ง ปฏิกริ ิยาการเกิดสนมิ ของเหล็ก ในบทเรยี นออนไลน์ ซงึ่ หาก

นกั เรียนคนใดสงสัย สามารถสอบถามเพื่อใหค้ รอู ธิบายเพมิ่ เตมิ (พอเพยี ง3 : การมี

ภูมคิ ุ้มกันทีด่ ี) (30 นาท)ี

3. นกั เรยี นตอบคำถาม “จากบทเรยี น นกั เรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างเกย่ี วกบั เร่ือง

ปฏกิ ิริยาการเกดิ สนมิ ของเหลก็ ? โดยบันทกึ ความรลู้ งในใบงาน KWL บนั ทึกลงในช่อง L

(Learn) (สมรรถนะท่ี 2) (5 นาที)

4. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปองคค์ วามรจู้ ากบทเรียนเรอื่ ง ปฏกิ ิริยาการเกดิ สนิมของ

เหลก็ โดยคดิ พจิ ารณาไตรต่ รองอยา่ งมวี ิจารณญาณเพือ่ ตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

“ปฏิกริ ิยาการเกดิ สนิมของเหล็ก เกดิ จากอะไร? / สนิมเหลก็ มสี ตู รเคมีวา่ อยา่ งไร?

(คิด 4 : คิดอย่างมวี จิ ารณญาณ) (สมรรถนะที่ 2) (10 นาที)


Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สงิ่ ท่นี ักเรียนยงั สงสัย จากการเรียนในวนั น้?ี (2 นาท)ี
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาท)ี


ใบงานตารางบันทกึ ความรู้ KWL
เร่อื ง ปฏกิ ริ ิยาการเกิดสนมิ ของเหล็ก

คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนบันทึกความรทู้ ไ่ี ด้ลงในตารางต่อไปน้ี พรอ้ มทงั้ เขยี นสรุปความลงในบรรทัดท่ีว่างไวข้ ้างลา่ ง
ของแบบบันทึก

K : Know W : Want L : Learn
(นกั เรียนรอู้ ะไร) (นักเรยี นตอ้ งการรู้อะไร) (นักเรียนได้เรียนรอู้ ะไร)

สรุป : ............................................................................................................................. .........................................
......................................................................................... ........................................................................................


แบบประเมินใบงาน KWL

คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI

ลำดับ ช่ือ-สกลุ การแสดง เนื้อหา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ที่ ของผู้รบั การประเมิน ความคิดเห็น (4 (4 ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) 20 คะแนน ประเมิน
( 4 คะแนน ) ผา่ น/ไม่ผา่ น
คะแนน ) คะแนน )

ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง

นักเรียนไดร้ ะดบั คุณภาพที่ พอใช้ ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน KWL

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
ความ - แสดงความคดิ เห็นในช่อง k ได้
คดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็นในช่อง k - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง k - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง k
นอ้ ยกวา่ 7 ขอ้
ได้ 10 ขอ้ ขึ้นไป ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ข้อ - แสดงความคิดเห็นในช่อง w ได้

- แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง wได้ - แสดงความคดิ เห็นในช่อง - แสดงความคดิ เห็นในช่อง น้อยกว่า 7 ขอ้
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง l ได้
10 ข้อข้นึ ไป w ได้ 9-10 ขอ้ w ได้ 7-8 ข้อ
นอ้ ยกว่า 7 ข้อ
- แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง l ได้ - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง l - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง l

10 ขอ้ ขนึ้ ไป ได้ 9-10 ข้อ ได้ 7-8 ข้อ

เนือ้ หา - เน้ือหาครบถว้ นตามสาระท่ี - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนอื้ หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนื้อหาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
กำหนด 100%
การ กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำกว่า 59%
นำเสนอ - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา
100% - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษาต่ำ
ความ
สวยงาม - ลำดบั หวั ขอ้ เนอ้ื หาชดั เจน 80-99% 60-79% กวา่ 59%
- มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง
- ลำดบั หวั ข้อเน้ือหาชดั เจน - มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผลตำ่
สมเหตสุ มผล 100%
- พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% กว่า 59%
- ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม
สมเหตุสมผล 80-99%
อักขระ100%
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความมน่ั ใจ - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟังชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- มกี ารใช้ส่ือประกอบการ
- ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ อักขระ80-99% อักขระ60-79% อกั ขระต่ำว่า 59%
- ใชส้ ีสนั สวยงาม
- มีความสะอาด - บุคลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- มีความคดิ สร้างสรรค์
- ความเป็นระเบียบอ่านงา่ ย - ความพรอ้ มในการนำเสนอ

ได้บางสว่ น

- ใชส้ สี นั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เปน็ ไปตาม
- มีความสะอาด สะอาด เกณฑ์อย่างใดอย่างหนงึ่
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์


แนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ

ข้อใดเป็ นสาเหตุทท่ี าให้เกิดสนมิ เหล็ก

ก. นำ้ หรือความชน้ื กบั แกส๊ ออกซเิ จน
ข. แกส๊ ไนโตรเจน กับ นำ้ หรือความชืน้
ค. แก๊สออกซเิ จน กบั แสดงแดด
ง. แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์และน้ำหรือความช้นื

(เฉลย นำ้ หรอื ความชื้น กบั แกส๊ ออกซเิ จน)


แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 26 หน่วยย่อยที่ 1
ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี เวลา 2 ช่ัวโมง
เร่อื ง ปฏิกิริยาของกรดกบั โลหะ และปฏกิ ิรยิ าของเบสกับโลหะ ผสู้ อน นายสเุ วช สบื ปัญญา
วนั ทที่ ำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ.................

1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตวั ช้วี ดั

ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะสว่ นใหญ่ จะเกิดการสกึ กร่อนเปน็ สารละลาย ว 2.1 ม.3/6 อธบิ ายปฏกิ ริ ยิ าการเกิดสนมิ ของเหลก็ ปฏิกริ ิยาของกรด

เกลือของโลหะและแกส๊ ไฮโดรเจน สว่ นปฏกิ ิรยิ าของเบสกบั โลหะบางชนดิ กับโลหะ ปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั เบส และปฏิกริ ิยาของเบสกบั โลหะ โดย

เช่น สังกะสี อะลูมเิ นยี ม จะเกิดการสกึ กรอ่ นเปน็ สารละลายเกลือของ ใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ และอธบิ ายปฏกิ ิรยิ าการเผาไหม้ การเกดิ ฝน

โลหะและแกส๊ ไฮโดรเจน เช่นกนั กรด การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง โดยใชส้ ารสนเทศ รวมทัง้ เขียนสมการ

ข้อความแสดงปฏิกริ ิยาดังกล่าว

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน /ภาระงาน

- ปฏกิ ริ ิยาของกรดกับโลหะ และปฏกิ ิริยาของเบสกับโลหะ - ใบงานการทดลอง เรือ่ ง การสกึ กร่อนของโลหะ

- ใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง การกัดกร่อนและการป้องกนั

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เคร่ืองมอื การคดิ

- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (White hat, Blue hat, Green hat)

กิจกรรมการเรยี นรู้

7.ข้นั ของกจิ กรรม 8.ส่ือ 9.วิธีวัดผล

Do Now : (3 นาที) - ใบงานการทดลอง เร่ือง - ประเมินการทดลอง

“ยกตวั อยา่ งกรด-เบส ในชีวิตประจำวนั มาคนละ 1 ชนดิ ” การสกึ กร่อนของโลหะ เรือ่ ง การสึกกรอ่ นของ

Purpose : (2 นาที ) - วสั ดุ อปุ กรณ์ และ โลหะ

เราจะเรียนเรื่องปฏกิ ริ ยิ าของกรดกับโลหะ และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ สารเคมีทใ่ี ช้ในการทดลอง -ประเมนิ ใบงานตาม

เพื่อใหน้ กั เรียนอธิบายปฏิกริ ิยาของกรดกบั โลหะ ปฏิกริ ยิ าของเบสกบั โลหะ และเขียน เร่ือง การสึกกรอ่ นของ แนวทาง PISA เรอื่ ง การ

สมการขอ้ ความของปฏิกิริยาได้ โลหะ กัดกร่อนและการป้องกัน

Work mode (110 นาที) - ใบงานตามแนวทาง PISA

1. นกั เรยี นและครทู บทวนความรจู้ ากคาบเรยี นทผี่ ่านมา โดยนกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ เร่อื ง การกดั กรอ่ นและการ

ความคดิ “สนมิ เหลก็ เกิดจากอะไร?/เราจะมวี ธิ ีป้องกันการเกดิ สนมิ เหล็ก อยา่ งไร? ป้องกนั

(White hat) (10 นาที)

2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาใบงานการทดลอง เรือ่ ง สึกกรอ่ นของโลหะ (สมรรถนะท่ี 4)

(พอเพยี ง 3: การมีภมู คิ มุ้ กันท่ีดี) (10 นาท)ี

3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ฟงั ครอู ธิบายการทดลอง เรือ่ ง การสึกกรอ่ นของโลหะ (10 นาท)ี

4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการทดลองตามใบงานการทดลอง เรอ่ื ง การ

การสกึ กรอ่ นของโลหะ (คิด4:คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ) (สมรรถนะท่ี 4) (พอเพยี ง7: สังคม)

(25 นาที)


5. นกั เรียนและครรู ่วมกันอภปิ รายการทดลอง และตอบคำถามกระตุ้นความคดิ “จากการ
ทดลอง ตวั แปรต้น ตัวแปรตาม และตวั แปรควบคุม คอื สงิ่ ใด?/ จากการทดลอง นกั เรียน
สามารถสรปุ การทดลอง ได้ว่าอยา่ งไร? (White hat, Blue hat) (10 นาท)ี
6. นกั เรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง การกัดกรอ่ นและการปอ้ งกนั (20 นาที)
8. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันเฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง การกัดกร่อนและการ

ป้องกนั (15 นาที)

9.นักเรียนและครรู ่วมกนั สรปุ องคค์ วามรู้จากบทเรยี น โดยตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ

“จงยกตัวอย่างปฏกิ ริ ยิ าระหวา่ งโลหะกบั กรด และโลหะกบั เบส ท่พี บในชีวติ ประจำวนั ? /

นกั เรียนสามารถนำความรูเ้ รอ่ื ง ปฏิกิรยิ าระหว่างโลหะกับกรด และปฏิกริ ยิ าระหว่างโลหะ

กบั เบส ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ อย่างไรบ้าง?(Whitehat, Green hat)(10 นาท)ี

Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 ส่งิ ทีน่ ักเรียนสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ จากการเรยี นในวันน?ี้ (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาที)


ใบงานการทดลอง การสึกกรอ่ นของโลหะ

รายชอ่ื สมาชิก

จุดประสงค์ เพือ่ ศกึ ษาปจั จัยทท่ี ำใหเ้ กิดการสึกกร่อนของโลหะ

วัสดอุ ุปกรณ์และสารเคมี

1. ตะปูเหล็ก(ทไี่ ม่มสี นมิ ) ขนาดเล็ก 6 ตวั 2. แผน่ แมกนเี ซียมขนาด 1 x 4 cm. 1 แผน่

3. สารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น(HCl) 5 ml. 4. นำ้ กลน่ั 10 ml.

5. นำ้ มันพชื 5 ml. 6. สารละลายฟีนอล์ฟทาลีน 5 ml.

7. ซลิ ิกาเจล 1 ถุง 8. ขผี้ ้งึ 1 กอ้ น

9. หลอดหยดสาร 1 หลอด 10. หลอดทดลองขนาดเล็ก 4 หลอด

11. กระจกนาฬกิ า 3 อัน 12. ชดุ ตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ชุด

วธิ กี ารทดลอง

1. รนิ สารละลายกรดไฮโดรคลอริกเขม้ ขน้ ปริมาตร 5 ml. ลงในหลอดทดลอง แล้วนำตะปูเหล็กตัวที่ 1 ใสล่ ง

ไปในหลอดทดลองดังกล่าว สังเกตการณเ์ ปลย่ี นแปลงและบนั ทกึ ผล

2. นำตะปูเหลก็ ตัวท่ี 2 วางบนกระจกนาฬกิ า ทงิ้ ไว้เปน็ เวลา 2 วนั สังเกตการเปลี่ยนแปลงและบันทึกผล

3. วางซิลิกาเจลบนกระจกนาฬิกา แลว้ นำตะปูเหล็กตัวท่ี 3 วางลงไปด้านบน ท้ิงไวเ้ ป็นเวลา 2 วนั สังเกต

การเปลีย่ นแปลงและบันทึกผล

4. นำตะปเู หลก็ ตัวที่ 4 ทาดว้ ยขผ้ี ึ้ง แล้ววางไว้บนกระจกนาฬกิ า ทิ้งไว้เป็นเวลา 2 วนั สงั เกตการ

เปล่ยี นแปลงและบนั ทึกผล

5. รินนำ้ กลั่น ปรมิ าตร 5 ml. ลงในหลอดทดลอง แล้วนำตะปูเหล็กตัวที่ 5 ใสล่ งในหลอดทดลอง ทงิ้ ไว้เป็น

เวลา 2 วัน สงั เกตการเปลยี่ นแปลงและบนั ทึกผล

6. รินนำ้ มันพืช ปรมิ าตร 5 ml. ลงในหลอดทดลอง แล้วนำตะปเู หล็กตวั ที่ 6 ใส่ลงในหลอดทดลอง ทงิ้ ไว้เปน็

เวลา 2 วัน สงั เกตการเปล่ียนแปลงและบนั ทึกผล

7. รนิ น้ำกล่ันปรมิ าตร 5 ml. ลงในหลอดทดลอง ตม้ นำ้ ให้ร้อน แล้วนำแผน่ แมกนีเซียมใสล่ งไปในหลอด

ทดลอง จากน้นั หยดสารละลายฟีนอล์ฟทาลนี ลงไป 4-5 หยด สังเกตการเปลย่ี นแปลงและบันทกึ ผล


(ท่มี า : ค่มู อื ครูวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3

สมมติฐาน (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ............................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตัวแปรต้น (1 คะแนน)
................................................................................................................................. .........................................
ตัวแปรตาม (1 คะแนน)
........................................................................................................................................................................
ตัวแปรควบคุม (1 คะแนน)
............................................................................................................................. ....................................

ตารางบันทึกผลการทดลอง (7 คะแนน)

การทดลอง การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้
ตะปเู หลก็ ตัวท่ี 1 + สารละลาย HCl
ตะปเู หล็กตวั ที่ 2 วางท้ิงไว้ 2 วัน
ตะปเู หล็กตวั ท่ี 3 วางบนซิลิกาเจล ทงิ้ ไว้ 2 วนั
ตะปเู หล็กตัวที่ 4 ทาด้วยขี้ผงึ้ ท้ิงไว้ 2 วัน
ตะปเู หล็กตัวที่ 5 + นำ้ กล่นั ทิง้ ไว้ 2 วัน
ตะปูเหลก็ ตัวท่ี 6 + นำ้ มันพืช ทิง้ ไว้ 2 วัน
แผน่ แมกนีเซยี ม + น้ำรอ้ น และหยดฟีนอล์ฟทาลีน


สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ............................................................
.........................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................. ............................

คำถามท้ายการทดลอง
1. จงเขยี นสมการข้อความของปฏกิ ริ ิยาการเกดิ สนิมเหล็กของตะปู (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ............................................................
...............................................................................................................................................................................

2. จงเขยี นสมการเคมีแสดงการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งตะปูเหล็กกับสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ (2 คะแนน)
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................................

3. เพราะเหตุใดเม่ือนำตะปูเหลก็ มาทาด้วยขี้ผึ้ง ตะปูเหลก็ ไมเ่ กิดการสึกกรอ่ น (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ..................................................


เฉลยและเกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานการทดลอง

เรอ่ื ง การสึกกรอ่ นของโลหะ

สมมติฐาน ( 2 คะแนน)

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน

ตอบคำถามได้ถูกต้องทั้ง 2 ประเดน็ คือ ตอบคำถามได้ถูกต้อง ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง
หรือไม่ตอบคำถาม
- ถา้ นำตะปเู หล็กใส่ลงในสารละลายกรดไฮโดรคลอริก เพียง 1 ประเดน็

และนำตะปเู หล็กแช่ลงในน้ำกลนั่ โดยให้สมั ผัสอากาศ

ตะปูเหล็กจะมีการสกึ กร่อน แต่ถา้ วางตะปเู หลก็ ลงบน

ซลิ ิกาเจล ทาดว้ ยข้ีผ้ึง และแชใ่ นนำ้ มนั พืช ตะปูเหล็ก

จะไมเ่ กดิ การสึกกร่อน

- ถ้านำแผ่นแมกนีเซยี มแชใ่ นนำ้ กลนั่ ทีร่ ้อน จะเกดิ การ

สึกกร่อนและเกิดสารละลายเบส

ตัวแปรต้น ( 1 คะแนน)

คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน

ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื ตะปูเหล็ก แผน่ แมกนีเซียม สารละลายกรด ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรอื ไมต่ อบ

ไฮโดรคลอริก นำ้ กลั่น และแกส๊ ออกซิเจน คำถาม

ตวั แปรตาม ( 1 คะแนน) ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรอื ไมต่ อบ
คะแนนเตม็ 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คือ การสึกกรอ่ นของตะปูเหล็กและแผ่น
แมกนีเซยี ม

ตวั แปรควบคุม ( 1 คะแนน) ไมไ่ ด้คะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรือไมต่ อบ
คะแนนเต็ม 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการทดลอง


ตารางบันทกึ ผลการทดลอง (7 คะแนน)

การทดลอง การเปลีย่ นแปลงท่ีสงั เกตได้

ตะปเู หล็กตวั ที่ 1 + สารละลาย HCl เกดิ จากสึกกร่อนของตะปเู หล็กและเกดิ ฟองแก๊ส

ตะปูเหลก็ ตัวท่ี 2 วางทิ้งไว้ 2 วนั เกิดจากสึกกรอ่ นของตะปูเหลก็

ตะปเู หลก็ ตัวที่ 3 วางบนซิลิกาเจล ท้งิ ไว้ 2 วัน ไม่เกิดจากสกึ กรอ่ นของตะปูเหล็ก

ตะปเู หล็กตวั ที่ 4 ทาด้วยขี้ผงึ้ ทงิ้ ไว้ 2 วนั ไมเ่ กิดจากสึกกร่อนของตะปูเหล็ก

ตะปูเหลก็ ตัวท่ี 5 + น้ำกล่นั ท้ิงไว้ 2 วัน เกิดจากสึกกร่อนของตะปเู หลก็

ตะปูเหล็กตวั ท่ี 6 + น้ำมันพืช ทง้ิ ไว้ 2 วัน ไมเ่ กิดจากสกึ กรอ่ นของตะปูเหลก็

แผน่ แมกนีเซยี ม + น้ำร้อน และหยดฟนี อลฟ์ ทาลนี เกิดการสกึ กร่อนของแผน่ แมกนีเซยี ม และเมือ่

หยดสารละลายฟีนอลฟ์ ทาลีนลงไปจะได้สีชมพู

#### หมายเหตุ ให้คะแนนชอ่ งละ 1 คะแนน

สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน

สรุปผลการทดลองได้ถูกตอ้ งครอบคลุมตาม สรปุ ผลการทดลองได้ถูกตอ้ งเพียง ตอบคำถามไม่ถูกต้อง

วตั ถปุ ระสงค์ของการทดลอง โดยแบ่งเป็น 2 กรณี 1 กรณี หรอื ไม่ตอบคำถาม

คือ

กรณีท่ี 1 เมือ่ นำตะปูเหล็กใส่ลงในสารละลายกรด

ไฮโดรคลอรกิ และใสล่ งในนำ้ กลั่นโดยให้สมั ผัสอากาศ

ตะปูจะเกดิ การสกึ กร่อน เนอื่ งจากโลหะทำปฏกิ ิรยิ า

กับนำ้ และแก๊สออกซิเจน แต่เมอ่ื นำตะปูวางบนซลิ ิ

กาเจล ทาดว้ ยขผี้ ึง้ และแชใ่ นนำ้ มันพืช ตะปจู ะไม่

เกิดการสึกกร่อน

กรณีท่ี 2 เมอ่ื นำแผน่ แมกนีเซียมใสล่ งในน้ำกลัน่ ท่ี

รอ้ น จะเกดิ การสกึ กรอ่ น เพราะแผน่ แมกนีเซียมทำ

ปฏกิ ิริยากับนำ้ ร้อนและได้สารละลายเบสเกดิ ขน้ึ

คำถามท้ายการทดลอง
คำถามท่ี 1


คะแนนเตม็ 2 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรือไมต่ อบ
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คือ ตะปูเหลก็ + แก๊สออกซเิ จน + น้ำ คำถาม

สนมิ เหล็ก ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรอื ไมต่ อบ
คำถามท่ี 2 คำถาม

คะแนนเตม็ 2 คะแนน

ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื Fe(s) + 2HCl(aq) FeCl2(aq)
+ H2(g)

คำถามที่ 3

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน

ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คอื เนือ่ งจากขผ้ี ้งึ ตอบคำถามได้ถูกต้องบางส่วน เช่น ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรือไม่

ไมท่ ำปฏิกริ ยิ ากับตะปูเหลก็ โดยขีผ้ ้ึงจะ เนื่องจากข้ผี ้ึงไม่ทำปฏกิ ริ ิยากับตะปู ตอบคำถาม

ช่วยปอ้ งกันไม่ใหต้ ะปูเหลก็ สัมผสั ความชน้ื เหล็ก แต่ไม่ไดอ้ ธบิ ายเหตุผล

และแก๊สออกซเิ จนในอากาศ ดังนน้ั ตะปู ประกอบ

เหลก็ จึงไมส่ ึกกร่อนหรอื เกดิ สนมิ ขน้ึ

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

18-20 ดมี าก หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

15-17 ดี

10-14 พอใช้

0-9 ปรบั ปรุง

ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง การกดั กร่อนและการป้องกนั

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
ว2.1 ม.3/6 อธิบายปฏกิ ริ ยิ าการเกิดสนมิ ของเหลก็ ปฏกิ ริ ยิ าของกรดกบั โลหะ ปฏิกิรยิ าของกรดกบั เบส และปฏกิ ริ ิยาของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐาน
เชงิ ประจักษ์ และอธบิ ายปฏกิ ริ ยิ าการเผาไหม้ การเกดิ ฝนกรด การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมท้งั เขยี นสมการขอ้ ความแสดงปฏิกิริยา
ดงั กลา่ ว


การกัดกร่อนคอื อะไร????? การกัดกร่อนของวสั ดุ เปน็ ปญั หาหนึ่งที่เกิดขึน้ เสมอและสามารถพบเห็นได้ใน
ชวี ติ ประจำวนั เม่ือเกิดขึ้นแล้วทำใหม้ ผี ลกระทบตอ่ ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม และ
ส่ิงแวดลอ้ มบางครั้งยงั ทำให้มีการสูญเสยี ชีวติ อันเป็นผลมาจากสาเหตุ
มากมายหลายประการ เชน่ การขาดความรู้พื้นฐานของศาสตรด์ า้ นการกัด
กร่อน ขาดความรคู้ วามเข้าใจอยา่ งถูกต้องในการเลือกใชว้ สั ดทุ ี่เหมาะสมใน
สภาวะสิ่งแวดลอ้ มนั้นๆและมีการบำรุงรกั ษาและการป้องกันท่ไี ม่ถูกต้องและ
เหมาะสมเป็นต้น
จากข้อมลู ท่ีไดม้ ีการสำรวจในประเทศที่กำลังพัฒนาบางประเทศ พบวา่ มกี ารสูญเสีย

งบประมาณทเี่ กิดจากกัดกร่อนประมาณ 3-5% GNP และในประเทศที่พฒั นาแลว้ เชน่ สหรฐั อเมรกิ า ได้มีการสำรวจมลู คา่ การ
เสยี หายเนอ่ื งจากการกัดกร่อน ในปี ค.ศ. 2002 พบว่ามีการสูญเสยี งบประมาณทเี่ กิดจากการกัดกร่อนประมาณ3.1 % GNP
คดิ เปน็ เงิน 276 พนั ล้านเหรยี ญสหรฐั หรือคดิ เป็นเงินไทยประมาณ 11 ล้านล้านบาท

ดังน้นั ในประเทศไทย จงึ มีความจำเปน็ อยา่ งยง่ิ ทจี่ ะต้องสง่ เสริมและเผยแพร่ความรู้ศาสตรด์ า้ นการกัดกร่อนของวัสดุ
เพอื่ ใหป้ ระชาชนมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในโรงงาน อตุ สาหกรรมทีม่ ีการใชว้ สั ดทุ ม่ี ีมูลค่าสูงๆ เช่น
อตุ สาหกรรมปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า และกระดาษ เป็นต้น เมื่อผ้ทู เ่ี กย่ี วข้องมีความรู้ ความเข้าใจในศาสตร์ของการกดั กร่อนของ
วัสดแุ ล้วจะสามารถนำความรู้ เหล่าน้นั ไปใชใ้ นการป้องการเสยี หายจากการกัดกร่อนในรูปแบบตา่ งๆ ได้ ไมว่ ่าจะเปน็ การเลือก
วัสดทุ ่เี หมาะสม การบำรุงรกั ษาทถ่ี ูกตอ้ ง เปน็ ต้น ซงึ่ จะทำใหเ้ กดิ การคุ้มค่าทางเศรษฐกจิ ลดมลพษิ ทางสิ่งแวดลอ้ ม และ
ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวติ ในการท่จี ะประยุกต์ใช้วิศวกรรมการกดั กร่อนได้อยา่ งถูกต้องนั้น จะต้องมีความรเู้ กีย่ วกับการกัดกร่อน
อยา่ งดี ทั้งในด้านทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ อาทิเชน่ ความรู้ทางดา้ นโลหะวิทยาเคมีไฟฟา้ การทดสอบและการเฝา้ ระวงั และ
เทคนคิ ในการป้องกันด้วยวธิ ตี ่างๆ เป็นตน้ การกัดกร่อน (corrosion) หมายถึง ภาวะซ่งึ วตั ถหุ รือส่งิ ประดิษฐท์ างด้านวศิ วกรรม
ทำปฏิกิริยากับสภาพแวดลอ้ มทำให้ให้เกิดการเสื่อมสภาพของวตั ถุนน้ั สง่ ผลให้ประสิทธิภาพการทำการทำงานหรือ
วัตถุประสงค์การใชง้ านลดลงในสภาพแวดล้อมโดยทัว่ ไปสาเหตกุ ารกัดกรอ่ นเกดิ ไดห้ ลายอย่าง เช่น ปฏกิ ริ ิยาเคมี ปฏกิ ิริยา
ไฟฟ้าเคมี หรอื อาจเกดิ จากปฏกิ ิรยิ าทางกายภาพของวัตถุน้ันเอง

ท่ีมา : https://www.scimath.org/lesson-chemistry/item/7182-2017-06-05-14-44-28


คำถามที่ 1 (1 คะแนน)

จากถ้อยความข้อใด ไมใ่ ช่ สาเหตุของการกัดกร่อน

1. ปฏกิ ิริยาทางกายภาพของวัตถุ 2. ปฏกิ ิริยาไฟฟ้าเคมี

3. ปฏกิ ริ ิยาเคมี 4. ปฏิกิริยารีเฟลก็ ซ์

คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)

จากถ้อยความ การกัดกร่อน หมายถงึ อะไร และส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวตั ถุ อย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

คำถามท่ี 3

จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ เป็นความจรงิ หรือ ไม่เป็นความจริง (2 คะแนน)

ข้อความทีเ่ ปน็ ความจริง ให้ทำเครอ่ื งหมาย X ในช่อง “ใช”่

ขอ้ ความที่ไม่เป็นความจริง ให้ทำเคร่อื งหมาย X ในชอ่ ง “ไม่ใช่”

ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่

1) การเกิดสนมิ เหลก็ เปน็ ตวั อยา่ งหนึ่ง ของการกัดกร่อนของโลหะที่สามารถพบได้ใน

ชีวิตประจำวนั

2) การกัดกร่อนของวัสดุ มผี ลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจมากกวา่ ดา้ นอ่นื

3) การส่งเสริมและเผยแพรค่ วามรู้ศาสตรด์ ้านการกดั กร่อนของวัสดุ สามารถป้องการเสียหาย

จากการกดั กร่อนในรูปแบบต่างๆ ได้

4) การบำรุงรักษาวัสดุที่ถกู ต้อง เป็นวิธีท่ดี ที ส่ี ดุ ในการป้องกันการกัดกร่อน


เฉลยและเกณฑ์การใหค้ ะแนน

คำถามที่ 1

คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน

ขอ้ 4. ปฏกิ ริ ิยารีเฟลก็ ซ์ คำตอบอืน่ ๆ

คำถามที่ 2

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องท้งั 2 ประเดน็ โดยอ้างองิ จาก ตอบคำถามได้ถูกต้องเพียง 1 ตอบไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไม่ตอบ
ถอ้ ยความ คอื การกัดกรอ่ น หมายถึง ภาวะซึง่ วัตถุ ประเด็น คำถาม
หรอื สิ่งประดิษฐ์ทางดา้ นวิศวกรรม ทำปฏกิ ริ ยิ ากับ
สภาพแวดลอ้ มทำให้ใหเ้ กิดการเสื่อมสภาพของวัตถนุ ัน้
ส่งผลใหป้ ระสทิ ธภิ าพการทำการทำงานหรือ
วัตถุประสงค์การใชง้ านลดลง

คำถามท่ี 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมลู ขอ้ ความต่อไปนี้ เปน็ ความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน) X X
X
ข้อความที่เปน็ ความจริง ให้ทำเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ใช่” X
ขอ้ ความที่ไมเ่ ปน็ ความจรงิ ให้ทำเครื่องหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช”่

ข้อความ

1) การเกิดสนมิ เหลก็ เป็นตวั อย่างหนึง่ ของการกดั กรอ่ นของโลหะทสี่ ามารถพบได้ใน
ชวี ิตประจำวัน
2) การกัดกร่อนของวสั ดุ มผี ลกระทบต่อดา้ นเศรษฐกจิ มากกวา่ ด้านอ่ืน

3) การส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ศาสตรด์ า้ นการกัดกร่อนของวัสดุ สามารถป้องการเสยี หาย
จากการกดั กร่อนในรูปแบบต่างๆ ได้
4) การบำรงุ รักษาวสั ดุท่ีถูกต้อง เปน็ วธิ ที ี่ดีทีส่ ุดในการป้องกนั การกดั กร่อน

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ตอบถูกทั้ง 4 ข้อ : ใช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ไมใ่ ช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ

หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์


แนวข้อสอบ O-NET(2561) 1 ข้อ
(เฉลยตอบขอ้ ท่ี 4)


แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 27

ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ปฏกิ ิริยาเคมี หน่วยยอ่ ยท่ี 3

เร่ือง ปฏิกริ ยิ าของกรดกับเบส เวลา 1 ชวั่ โมง

วนั ทท่ี ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สบื ปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตวั ช้ีวัด

ปฏิกิริยาของกรดกบั เบส หรอื ปฏกิ ริ ิยาสะเทิน (NEUTRALIZATION ว 2.1 ม.3/6 อธบิ ายปฏิกิริยาการเกดิ สนมิ ของเหล็ก ปฏิกริ ยิ าของ

REACTION) คอื ปฏกิ ิรยิ าการทำให้เป็นกลาง เป็นปฏิกริ ยิ าทเ่ี กิดจากสารท่ี กรดกบั โลหะ ปฏิกิรยิ าของกรดกบั เบส และปฏกิ ริ ยิ าของเบสกับ

มีสมบตั ิเปน็ กรดกบั สารท่ีมสี มบัตเิ ปน็ เบส ไดผ้ ลติ ภณั ฑเ์ ปน็ เกลือและน้ำ โลหะ โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ และอธบิ ายปฏิกริ ยิ าการเผาไหม้

กรด + เบส เกลือ + นำ้ การเกิดฝนกรด การสังเคราะหด์ ้วยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมทง้ั
เขียนสมการขอ้ ความแสดงปฏิกริ ิยาดงั กลา่ ว

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ช้นิ งาน /ภาระงาน

- ปฏิกริ ยิ าของกรดกับเบส - ใบงานการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ิรยิ าสะเทินของกรดกบั เบส

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 6. เคร่อื งมอื การคดิ

- ความสามารถในการคิด - Six Thinking hats (White hat, Blue hat, Yellow hat)

กจิ กรรมการเรียนรู้

7.ขั้นของกิจกรรม 8.สอ่ื 9.วิธวี ัดผล

Do Now : (3 นาที) - ใบงานการทดลอง เรอื่ ง - ประเมินการทดลอง

“จงบอกผลไม้ท่มี ี รสเปรย้ี ว” มาคนละ 1 ชนิด ปฏกิ ิริยาสะเทินของกรดกับ เรือ่ ง ปฏิกริ ิยาสะเทิน

Purpose : (2 นาที ) เบส ของกรดกบั เบส

เราจะเรยี นเรื่องปฏิกริ ิยาของกรดกบั เบส เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นอธิบายปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั เบส - วัสดุ อุปกรณ์ และ

และเขียนสมการข้อความของปฏกิ ริ ยิ าได้ สารเคมที ่ีใชใ้ นการทดลอง

Work mode (50 นาที) เรอื่ ง ปฏิกิรยิ าสะเทนิ ของ

1. นกั เรียนและครทู บทวนความรจู้ ากคาบเรยี นทีผ่ า่ นมา โดยนักเรยี นตอบคำถามกระต้นุ กรดกับเบส

ความคิด “ปฏิกริ ิยาระหว่างโลหะกบั กรด และโลหะกับเบส มีความเหมอื นหรือแตกตา่ ง

กันอย่างไร? (คิด2: คิดเปรียบเทียบ) (White hat) (5 นาท)ี

2.นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ฟงั ครูอธิบายการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ริ ยิ าสะเทนิ ของกรดกบั เบส

(10 นาท)ี

3. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันปฏิบตั ิกจิ กรรมการทดลองตามใบงานการทดลอง เรอ่ื ง

ปฏกิ ิริยาสะเทินของกรดกบั เบส (สมรรถนะที่ 4) (พอเพียง7: สังคม) (25 นาที)

4. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปรายการทดลอง และตอบคำถามกระตุ้นความคดิ “จาก

การทดลอง ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคมุ คือสิง่ ใด?/ จากการทดลอง

นกั เรียนสามารถสรปุ การทดลอง ได้วา่ อยา่ งไร? (White hat, Blue hat) (5 นาท)ี
5.นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปองคค์ วามรจู้ ากบทเรียน โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ

“ปฏกิ ิริยาสะเทนิ คอื อะไร?/ปฏกิ ริ ยิ าสะเทนิ -ของกรดกับเบส มปี ระโยชน์อยา่ งไร?

(Whitehat, Yellow hat, 5 นาท)ี

Reflective thinking (5 นาท)ี

- 1 ส่งิ ท่นี ักเรยี นไดร้ บั จากการเรยี นในวันน้ี? (2 นาท)ี

- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาท)ี


ใบงานการทดลอง เรอ่ื ง ปฏกิ ริ ยิ าสะเทินของกรดกบั เบส

รายชือ่ สมาชกิ

จดุ ประสงค์ เพอ่ื ศึกษาปฏิกิริยาสะเทนิ ระหว่างสารละลายกรดแก่กบั สารละลายเบสแก่

วสั ดอุ ุปกรณ์และสารเคมี

1. สารละลายกรดไฮโดรคลอริก(HCl) 10 ml. 2. สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์(NaOH) 10 ml.

3. บีกเกอร์ขนาด 100 ml. 1 ใบ 4. แท่งแก้วคนสาร 2 แท่ง

5. หลอดทดลองขนาดกลาง 2 หลอด 6. ถว้ ยกระเบอ้ื งขนาด 50 ml. 1 ใบ

7. ชุดตะเกยี งแอลกอฮอล์ 1 ชุด 8. กระจกนาฬกิ า 1 อนั

9. กระดาษลติ มัสสีแดงและสีนำ้ เงนิ อยา่ งละ 3 แผน่

วธิ กี ารทดลอง

1. รินสารละลายกรดโซเดียมไฮดรอกไซดแ์ ละสารละลายกรดไฮโดรคลอริกอยา่ งละ 10 ml. ลงในหลอด

ทดลองขนาดกลางหลอดที่ 1 และ หลอดท่ี 2 ตามลำดบั โดยเขียนชื่อสารละลายกำกบั ไวแ้ ต่ละหลอดทดลอง

2. ใช้แทง่ แก้วคนสารจุ่มสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ แลว้ นำมาแตะทดสอบกระดาษลติ มัสสีแดงและสี

นำ้ เงินท่วี างไวบ้ นกระจกนาฬิกา ตามลำดับ สังเกตการเปลี่ยนแปลงและบันทึกผล

3. ใช้แทง่ แก้วคนสารจมุ่ สารละลายกรดไฮโดรคลอริก แล้วนำมาแตะทดสอบกระดาษลิตมัสสีแดงและสีน้ำ

เงินท่ีวางไวบ้ นกระจกนาฬิกา ตามลำดับ สังเกตการเปลีย่ นแปลงและบันทึกผล

4. รินสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์และสารละลายกรดไฮโดรคลอริกลงในบีกเกอรด์ ้วยอตั ราส่วนท่เี ท่ากนั

ใชแ้ ท่งแก้วคนสารคนให้ผสมกัน จากนั้นใชแ้ ท่งแก้วคนสารอกี อนั จ่มุ สารผสมแล้วนำมาแตะทดสอบกระดาษลติ มสั

สแี ดงและสีนำเงินวางไว้บนกระจกนาฬกิ า ตามลำดบั สังเกตการเปลี่ยนแปลงและบนั ทึกผล

5. รนิ สารผสมจากข้อ 4 ลงในถ้วยกระเบ้ือง แล้วนำไปให้ความร้อนจนของเหลวระเหยหมด สังเกตการ

เปลย่ี นแปลงและบนั ทึกผล

(ทมี่ า : ค่มู อื ครูวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 )


สมมติฐาน (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ............................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตวั แปรต้น (1 คะแนน)
................................................................................................................................. .........................................
ตัวแปรตาม (1 คะแนน)
........................................................................................................................................................................
ตัวแปรควบคุม (1 คะแนน)
............................................................................................................................. ....................................

ตารางบันทึกผลการทดลอง (3 คะแนน)

การทดลอง การเปล่ยี นแปลงของกระดาษ ลักษณะของสารท่สี ังเกตได้

ลิตมัส

สีแดง สีนำ้ เงิน

สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์(NaOH)

สารละลายกรดไฮโดรคลอริก(HCl)

สารละลายผสม(NaOH + HCl)

เม่ือนำสารละลายผสมไประเหยแหง้

สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)

............................................................................................................................. .......................................................

....................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................ ............................


คำถามท้ายการทดลอง
1. จงเขียนสมการเคมแี สดงปฏกิ ิริยาทเ่ี กิดข้ึนในการทดลองนี้ (1 คะแนน)
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

2. จากการทดลอง นกั เรียนทราบได้อย่างไรวา่ มีเกลือเกดิ ข้นึ (2 คะแนน)
............................................................................................................................. .......................................................
...................................................................................................................................................... ..............................

3. ถา้ เปลย่ี นชนดิ ของกรดและเบส นักเรยี นคิดวา่ จะให้ผลการทดลองเหมือนเดมิ หรือไม่ อย่างไร (2 คะแนน)
............................................................................................................................... .....................................................
....................................................................................................................................................................................


เฉลยและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานการทดลอง
เรอื่ ง ปฏิกริ ยิ าสะเทนิ ของกรดกับเบส

สมมติฐาน ( 2 คะแนน)

คะแนนเตม็ 2 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน

ตอบคำถามได้ถูกต้องครบถ้วน คอื ถ้าสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรือไม่ตอบ
ทำปฏกิ ิริยากับสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ แลว้ จะไดผ้ ลิตภัณฑเ์ ป็น คำถาม
เกลือและนำ้

ตัวแปรตน้ ( 1 คะแนน)

คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน

ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คือ สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์และสารละลายกรดไฮโดร ตอบคำถามไม่ถกู ตอ้ ง หรอื ไม่ตอบ

คลอรกิ คำถาม

ตัวแปรตาม ( 1 คะแนน) ไมไ่ ด้คะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรือไม่ตอบ
คะแนนเตม็ 1 คะแนน คำถาม
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คือ ชนดิ ของผลิตภณั ฑ์และสมบตั ิความเป็นกรด-เบส ของ
ผลติ ภณั ฑ์

ตวั แปรควบคุม ( 1 คะแนน)

คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน

ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คอื ปรมิ าณและความเขม้ ขน้ ของสารละลายโซเดียมไฮดรอก ตอบคำถามไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบ

ไซดแ์ ละสารละลายกรดไฮโดรคลอริก คำถาม

ตารางบันทกึ ผลการทดลอง (3 คะแนน) การเปล่ยี นแปลงของกระดาษลิตมัส ลักษณะของสารทีส่ ังเกตได้
การทดลอง สแี ดง สนี ้ำเงิน
×√ สารละลายใสไมม่ สี ี
สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์(NaOH) √× สารละลายใสไม่มสี ี
สารละลายกรดไฮโดรคลอริก(HCl) ×× สารละลายใสไม่มสี ี
สารละลายผสม(NaOH + HCl) --
เม่อื นำสารละลายผสมไประเหยแหง้ ของแข็งสีขาว


คะแนนเต็ม 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน
บันทึกผลการทดลองได้
บันทกึ ผลการทดลองไดถ้ ูกต้อง บันทึกผลการทดลองได้ถูกตอ้ ง บันทกึ ผลการทดลองได้ ถกู ตอ้ ง 0-5ช่อง

ทงั้ 12 ช่อง 9-11 ช่อง ถูกต้อง 6-8 ช่อง

สรปุ ผลการทดลอง (2 คะแนน) 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
สรปุ ผลการทดลองได้ถกู ตอ้ งบางสว่ น ตอบคำถามไมถ่ กู ต้อง
คะแนนเต็ม 2 คะแนน เช่น เมื่อนำสารละลายโซเดยี มไฮ หรอื ไมต่ อบคำถาม
สรุปผลการทดลองได้ถกู ตอ้ ง คือ เม่อื นำสารละลาย ดรอกไซดซ์ ึง่ มสี มบตั เิ ป็นเบสมาทำ
โซเดียมไฮดรอกไซด์ซึ่งมสี มบัตเิ ปน็ เบสมาทำปฏกิ ิริยากบั ปฏิกริ ยิ ากับสารละลายกรดไฮโดรคลอ
สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ ซึง่ มสี มบัตเิ ปน็ กรด ทำให้ รกิ ซ่งึ มีสมบตั ิเปน็ กรด ทำให้
เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมรี ะหว่างกรดกบั เบสข้ึน เรยี กว่า ปฏกิ ริ ิยา เกิดปฏิกริ ยิ าเคมีระหว่างกรดกบั เบส
สะเทิน ไดผ้ ลติ ภณั ฑเ์ ปน็ สารละลายใสไม่มีสีของเกลือ ขนึ้ เรียกวา่ ปฏิกริ ยิ าสะเทิน แต่
โซเดยี มคลอไรด์และนำ้ เมอื่ นำไปทดสอบดว้ ยกระดาษ ไม่ได้อธิบายกระบวนการและ
ลิตมสั ท้งั สองสพี บว่าไม่เกดิ การเปล่ียนแปลงจึงมสี มบตั ิเป็น ผลติ ภณั ฑท์ ี่เกดิ ขน้ึ
กลาง และเม่อื นำสารละลายผสมไประเหยแห้งจะได้
ของแขง็ สขี าวของเกลือโซเดียมคลอไรด์

คำถามทา้ ยการทดลอง

คำถามที่ 1 ไมไ่ ดค้ ะแนน
คะแนนเต็ม 2 คะแนน NaCl(aq)+ H2O(l) ตอบคำถามไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่ตอบคำถาม

ตอบคำถามไดถ้ กู ต้อง คือ NaOH(aq) + HCl(aq)

คำถามที่ 2 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน
ตอบคำถามไดถ้ กู ต้องบางส่วน เชน่ ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรอื ไมต่ อบ
คะแนนเต็ม 2 คะแนน ทราบจากเมือ่ นำสารละลายผสมไป คำถาม
ตอบคำถามได้ถกู ตอ้ ง คอื ทราบจากเมือ่ ระเหยแห้ง แต่ไมไ่ ดอ้ ธบิ ายว่าผลติ ภณั ฑ์
นำสารละลายผสมไประเหยแห้ง จะเหลอื ทไ่ี ดม้ ลี กั ษณะอย่างไร
ของแข็งสขี าว ซ่ึงกค็ ือเกลือ


คำถามที่ 3

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน

ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง คอื ไมเ่ หมอื นเดิม โดย ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ งบางสว่ น เชน่ ตอบคำถามไม่ถกู ต้อง หรอื ไมต่ อบ
ชนิดของเกลือทีไ่ ด้จะแตกตา่ งกัน เนือ่ งจากชนิด ไม่เหมือนเดมิ แตไ่ มไ่ ดอ้ ธิบาย คำถาม
ของเกลอื ซึ่งเป็นผลติ ภณั ฑจ์ ะข้ึนอยกู่ ับชนดิ ของ เหตุผลประกอบ
กรดและเบสที่ทำปฏกิ ริ ยิ ากัน

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์

14-15 ดีมาก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

0-7 ปรบั ปรงุ


แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ

ปฏกิ ริ ยิ าระหว่างกรดกับเบสจะได้สารใดเป็นผลติ ภัณฑ์

ก. เกลือกับน้ำ
ข. เกลือกบั แก๊สออกซิเจน
ค. เกลอื กับสารประกอบซัลเฟต
ง. เกลือกับสารประกอบคารบ์ อเนต

(เฉลย ก. เกลอื กบั นำ้ )


แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 28

ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ปฏิกิรยิ าเคมี หน่วยย่อยที่ 1

เร่อื ง ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในชีวิตประจำวัน เวลา 2 ชั่วโมง

วันที่ทำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สบื ปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตัวช้ีวัด

ในชีวิตประจำของเราลว้ นเกยี่ วขอ้ งกบั ปฏกิ ริ ิยาเคมีมากมาย เชน่ ว 2.1 ม.3/6 อธบิ ายปฏิกิริยาการเกดิ สนมิ ของเหล็ก ปฏิกริ ิยาของกรด

ปฏิกิริยาการเผาไหม้ของเชือ้ เพลิง ซึง่ แบ่งเปน็ การเผาไหม้อยา่ งสมบรู ณ์ กบั โลหะ ปฏกิ ริ ิยาของกรดกับเบส และปฏกิ ริ ยิ าของเบสกับโลหะ โดย

และการเผาไหมไ้ มส่ มบรู ณ์ การเกิดฝนกรด และการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง ใชห้ ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ และอธิบายปฏิกริ ยิ าการเผาไหม้ การเกดิ ฝน

เป็นตน้ กรด การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมทง้ั เขยี นสมการ

ข้อความแสดงปฏกิ ริ ิยาดงั กลา่ ว

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ช้นิ งาน /ภาระงาน

- ปฏกิ ิรยิ าเคมีในชวี ติ ประจำวนั - ใบงาน Mind mapping เรอ่ื ง ปฏกิ ริ ิยาเคมีในชวี ติ ประจำวนั

- ใบงานตามแนวทาง PISA เรือ่ ง ปฏกิ ิริยาเคมีในชวี ิตประจำวัน : วทิ ย์

ของไข่เย่ียวม้า

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 6. เคร่อื งมอื การคิด

- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - Mind mapping

กจิ กรรมการเรียนรู้

7.ขนั้ ของกจิ กรรม 8.ส่อื 9.วิธวี ดั ผล

Do Now : (3 นาที) - ใบงาน Mind mapping - ประเมิน Mind

นกั เรียนคิดวา่ เมือ่ น้ำอัดลมผสมกบั เมนทอส จะเกิดอะไรขนึ้ เรื่อง ปฏิกิริยาเคมีใน mapping เร่ือง

Purpose : (2 นาที ) ชวี ิตประจำวัน ปฏิกริ ยิ าเคมใี น

เราจะเรียนเรอ่ื งปฏิกริ ยิ าเคมใี นชวี ติ ประจำวัน เพ่ือให้นกั เรียนสามารถอธิบายปฏกิ ิรยิ าเคมี - ใบงานตามแนวทาง PISA ชีวติ ประจำวัน

ในชีวติ ประจำวันได้แก่ ปฏกิ ิรยิ าการเผาไหม้ การเกดิ ฝนกรด และการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง เร่อื ง ปฏกิ ริ ยิ าเคมีใน - ประเมนิ ใบงานตาม

โดยใชส้ ารสนเทศ รวมท้งั เขยี นสมการข้อความแสดงปฏกิ ิรยิ าดังกล่าวได้ ชีวิตประจำวัน : วิทย์ของไข่ แนวทาง PISA เรอื่ ง

Work mode (110 นาท)ี เย่ยี วมา้ ปฏิกริ ยิ าเคมีใน

1. นักเรียนศึกษาเรอ่ื งปฏกิ ิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน ในบทเรยี นออนไลน์ ซึง่ หากนักเรียน – บทเรยี นออนไลน์ เรอื่ ง ชวี ติ ประจำวนั : วทิ ย์ของ

คนใดสงสยั สามารถสอบถามเพื่อใหค้ รูอธิบายเพ่ิมเตมิ (พอเพยี ง3 : การมีภูมคิ ุ้มกันทด่ี ี) ปฏิกริ ยิ าเคมใี น ไข่เยี่ยวมา้

(30 นาที) ชวี ติ ประจำวนั

2. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด “ปฏิกิรยิ าการเผาไหมแ้ บง่ เปน็ ก่ีประเภท

อะไรบ้างและแตล่ ะประเภทมคี วามเหมือนหรือแตกตา่ งกนั อย่างไร?

(คดิ 2: คดิ เปรยี บเทียบ) (สมรรถนะที่ 1) (5 นาที)

3. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ระดมความคิด เพ่อื สรุปองคค์ วามร้เู กย่ี วกับประปฏกิ ริ ิยาเคมี

ในชวี ติ ประจำวัน ในรปู แบบผังความคดิ ลงในใบงาน Mind mapping เรอ่ื งปฏกิ ริ ยิ าเคมี

ในชีวิตประจำวัน โดยสบื คน้ ขอ้ มลู เพิ่มเตมิ จากอินเตอร์เนต็ (คดิ 9: คิดเชิงมโนทัศน์)

(สมรรถนะท่ี 4) (Mind mapping) (25 นาท)ี


4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน Mind mapping เร่ือง ปฏกิ ิริยา
เคมใี นชีวติ ประจำวัน ท่ีหนา้ ช้นั เรยี น กลุ่มละ 3 นาที (15 นาที)
5. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ “กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงเกี่ยวข้องกับ
ปฏิกริ ยิ าเคมีอย่างไร และสามารถเขยี นสมการเคมีได้วา่ อย่างไร? (5 นาที)
6. นกั เรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เร่อื ง ปฏิกริ ิยาเคมีในชวี ติ ประจำวนั : วทิ ย์ของไข่
เย่ยี วม้า (20 นาท)ี
7. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั เฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง ปฏิกริ ยิ าเคมใี น
ชีวติ ประจำวัน : วทิ ยข์ องไขเ่ ยี่ยวมา้ และสรุปบทเรยี น โดยนกั เรียนตอบคำถามกระตุ้น
ความคดิ “การเกดิ ฝนกรด เกีย่ วขอ้ งกับปฏกิ ิริยาเคมีอย่างไร และสามารถเขยี นสมการ
เคมไี ด้ว่าอยา่ งไร? / นอกจากปฏิกริ ยิ าการเผาไหม้ ฝนกรด และการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
แลว้ ยังมีปฏกิ ริ ิยาเคมีอะไรอีกบา้ งท่เี กย่ี วข้องกับชวี ิตประจำวนั ของเรา? (10 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิง่ ที่นกั เรยี นสงสัย จากการเรยี นในวันน้?ี (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาที)


ใบงาน Mind mapping เรือ่ ง

คำชแ้ี จง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคดิ เพ่ือสรปุ องค์ความรู้ เก่ียวกบั เรือ่ งปฏิกิริยาเคมีในชีวติ ประจำวัน
ในรปู แบบของ Mind mapping


สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
ว2.1 ม.3/6 อธิบายปฏิกิรยิ าการเกดิ สนมิ ของเหล็ก ปฏกิ ริ ิยาของกรดกับโลหะ ปฏิกริ ิยาของกรดกับเบส และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดยใชห้ ลักฐาน
เชงิ ประจกั ษ์ และอธิบายปฏิกริ ยิ าการเผาไหม้ การเกดิ ฝนกรด การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมทัง้ เขียนสมการข้อความแสดงปฏกิ ิริยา
ดังกล่าว


คำถามที่ 1 (1 คะแนน)

จากถ้อยความ ข้อใดไมใ่ ช่ลกั ษณะโปรตนี เสยี สภาพของไข่ขาว

1. เหนียว 2. ไม่ทนความร้อน

3. ยดื หยนุ่ 4. เปน็ เจลใส

คำถามที่ 2 (2 คะแนน)

จากถ้อยความ จงเขยี นสมการเคมใี นการเตรียมสารด่างเพ่ือแช่ไข่เย่ยี วมา้ พร้อมท้ังระบุสถานะของสารใน

สมการเคมี

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามท่ี 3

จากข้อมูล ข้อความต่อไปน้ี เปน็ ความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน)

ข้อความทีเ่ ป็นความจริง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ใช”่

ขอ้ ความที่ไม่เปน็ ความจรงิ ให้ทำเครอ่ื งหมาย X ในชอ่ ง “ไม่ใช”่

ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่

1) สารละลายด่างที่ใช่แชไ่ ข่เย่ียวมา้ มีค่า pH มากกว่า 7

2) หากไม่ใส่ ZnO จะทำให้เกิดแบคทีเรียและเชื้อราข้ึนในไข่เยย่ี วมา้

3) การที่ไข่ขาวของไขเ่ ยยี่ วมา้ มีสีน้ำตาลอมเขยี ว เนอื่ งจากได้รับสารออกซนิ จากใบชา

4) การที่ไข่แดงของไขเ่ ย่ียวม้ามสี เี ทาดำ เนื่องจากปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งสารละลายโซเดียมไฮดรอก

ไซดก์ ับกำมะถนั และเหล็กในไข่


เฉลยและเกณฑ์การให้คะแนน

คำถามท่ี 1

คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน

ข้อ 2. ไม่ทนความร้อน คำตอบอน่ื ๆ

คำถามท่ี 2

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน
เขียนสมการเคมีและระบุสถานะของสารในสมการ เขยี นสมการเคมีไดถ้ ูกตอ้ งแตไ่ มร่ ะบุ ตอบไมถ่ ูกต้อง หรือไม่
เคมไี ด้ถูกต้อง คือ CaO(aq) + Na2CO3(aq) + H2O(l) สถานะของสารในสมการเคมี ตอบคำถาม

2NaOH + CaCO3(s)

คำถามที่ 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ เปน็ ความจริง หรอื ไม่เป็นความจริง (2 คะแนน) X X
X
ข้อความท่เี ปน็ ความจริง ใหท้ ำเครอื่ งหมาย X ในช่อง “ใช่”
ข้อความท่ีไม่เป็นความจรงิ ใหท้ ำเคร่ืองหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช่” X

ข้อความ
1) สารละลายด่างที่ใชแ่ ชไ่ ข่เย่ียวม้า มคี ่า pH มากกว่า 7
2) หากไมใ่ ส่ ZnO จะทำให้เกิดแบคทเี รียและเชอื้ ราขึ้นในไข่เยี่ยวมา้

3) การท่ีไข่ขาวของไข่เยยี่ วม้ามสี นี ้ำตาลอมเขียว เน่อื งจากไดร้ ับสารออกซนิ จากใบชา
4) การท่ีไขแ่ ดงของไข่เยยี่ วมา้ มีสีเทาดำ เนอื่ งจากปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งสารละลายโซเดียมไฮดรอก
ไซดก์ บั กำมะถันและเหล็กในไข่

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบถูกทง้ั 4 ข้อ : ใช่ ใช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ

หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์


แบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Mind mapping

ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล รปู แบบ เน้ือหา นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ของผูร้ ับการ สวยงาม เวลา ประเมิน ผา่ น/
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 คะแนน
ประเมิน ไม่ผ่าน

ลงชื่อ ....................................................ผูป้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นักเรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Mind mapping

เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ

ประเมนิ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)

รูปแบบ - เขียนความคิดรวบยอดหลกั - เขียนความคดิ รวบยอด - เขียนความคิดรวบยอดหลัก - เขยี นความคดิ รวบยอดหลัก

ไวต้ รงกลาง หลักไวต้ รงกลาง ไว้ตรงกลาง ไว้ตรงกลาง

- มกี ิง่ แก้ว ก่งิ กอ้ ย และกิง่ - มีกงิ่ แกว้ กง่ิ ก้อย และก่งิ - มีกง่ิ แกว้ กิ่งกอ้ ย และก่งิ - มีกงิ่ แกว้ ขาดกิ่งก้อย แต่

ย่อยตามลำดับ ยอ่ ยตามลำดบั ยอ่ ยตามลำดับ ขาดก่งิ ยอ่ ย

- ตัวหนังสอื อยบู่ นเส้น - ตวั หนงั สอื อยบู่ นเส้น - ใช้สสี นั ทัว่ แผน่ - ใชส้ ีสนั ไมท่ ่วั แผ่น

- ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น

- ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพสือ่ - ใชส้ ีสันทั่วแผน่

ความหมาย

- ใชส้ สี นั ทว่ั แผน่

เนอ้ื หา - เนือ้ หาครบถ้วนตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระที่ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระที่ - เนือ้ หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ วา่ 59%

- เขียนถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ตำ่ กว่า 59%

- ลำดับหัวข้อเนือ้ หาชดั เจน - ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหาชัดเจน - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มีการสรุปได้อยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ กว่า 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชัด - พูดชดั เจนเสยี งดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

อกั ขระ100% อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระต่ำกวา่ 59%

- บุคลิกภาพดีและมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มน่ั ใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ

- มกี ารใชส้ ่ือประกอบการ ได้บางสว่ น

นำเสนอ

- ความพร้อมในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม - ใช้สีสนั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เปน็ ไป

- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ ง

- มีความคิดสร้างสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ หนึ่ง

- ความเปน็ ระเบยี บอา่ นงา่ ย

การตรงตอ่ สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่ สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากวา่

เวลา เวลาทีก่ ำหนด เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที เวลาทก่ี ำหนด 10 นาที เวลาทกี่ ำหนด 15 นาที


แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ

ปฏกิ ิริยาเคมใี นชีวิตประจำวันข้อใดเป็นปฏิกิรยิ าเคมีแบบดดู ความรอ้ น

ก. การจดุ พลุ
ข. การยอ่ ยแป้งเปน็ นำ้ ตาล
ค. การแยกสลายแอมโมเนีย
ง. การเผาไหม้ของเช้อื เพลิง

(เฉลย ค.การแยกสลายแอมโมเนยี )


Click to View FlipBook Version