The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by scicrpaoschool, 2022-12-20 23:07:59

รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6

รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6

แนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ

สารใดไมใ่ ช่พอลเิ มอร์
ก. แปง้
ข. ไขมัน
ค. โปรตีน
ง. เซลลโู ลส
(เฉลย ข. ไขมนั )


แผนจัดการเรียนรู้ที่ 15

ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ พอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวสั ดผุ สม หน่วยยอ่ ยท่ี 2

เร่อื ง ชนดิ ของพอลิเมอร์ เวลา 1 ช่ัวโมง

วันท่ที ำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สบื ปญั ญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตวั ช้วี ัด

พอลิเมอร์ สามารถแบ่งไดห้ ลายประเภทตามคุณสมบตั เิ ฉพาะและการ ว 2.1 ม.3/1 ระบสุ มบตั ิทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดปุ ระเภท

นำไปใช้ ไดแ้ ก่ พอลิเมอร์ เซรามิกส์และวัสดุผสม โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษแ์ ละ

- พลาสตกิ แบ่งเปน็ เทอรม์ อพลาสตกิ และ เทอรม์ อเซต สารสนเทศ
- ยาง แบ่งเปน็ ยางธรรมชาติ และ ยางสงั เคราะห์

- เสน้ ใย แบง่ เปน็ เสน้ ใยธรรมชาติ และ เส้นใยสงั เคราะห์

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิน้ งาน /ภาระงาน
- ชนิดของพอลเิ มอร์ - ใบงาน Diagram เร่ือง ชนิดของพอลเิ มอร์

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เครอ่ื งมอื การคดิ
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต - Diagram

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7.ข้ันของกิจกรรม 8.สอ่ื 9.วิธวี ดั ผล

Do Now : (3 นาท)ี - ใบงาน Diagram เรื่อง - ประเมนิ ใบงาน

“จงบอกของใชภ้ ายในบา้ น มาคนละ 1 ชนิด ชนดิ ของพอลิเมอร์ Diagram เรื่อง ชนดิ ของ

Purpose : (2 นาที ) - Power point พอลิเมอร์

เราจะเรยี นเรื่อง ชนดิ ของพอลิเมอร์ เพ่อื ใหน้ กั เรียนสามารถบอกประโยชนข์ องพอลิเมอร์ ประกอบการสอนเร่อื ง ชนดิ

แตล่ ะชนิดได้ ของพอลิเมอร์

Work mode (50 นาที) - บทเรียนออนไลน์ เร่อื ง

1. นกั เรยี นศึกษาเรอ่ื ง ชนิดของพอลเิ มอร์ ในบทเรยี นออนไลน์ (พอเพียง3 : การมี ชนิดของพอลเิ มอร์

ภมู ิคุม้ กันท่ดี )ี (15 นาที)

2. นกั เรยี นฟังครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ เรื่อง ชนิดของพอลเิ มอร์ โดยใชส้ ่ือ Power point

ประกอบการสอน (10 นาท)ี

3. นักเรียนคดิ อย่างมีวิจารณญาณเพ่อื ตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ “พอลิเมอร์ ประเภท

พลาสตกิ แบง่ เปน็ ก่ีชนดิ แตล่ ะชนดิ มีความแตกต่างกนั อย่างไร?/ ใยหิน จดั เปน็ เส้นใย

ชนดิ ใด และมปี ระโยชน์อยา่ งไร? (สมรรถนะท่ี 2) (5 นาที)
4. นกั เรียนสรุปองคค์ วามรูใ้ นรปู แบบแผนผงั Diagram เรื่อง ชนิดของพอลิเมอร์

(คิด 9: คิดเชิงมโนทศั น์) (สมรรถนะที่ 2) (15 นาที)

5. นักเรยี นและครสู รุปบทเรยี น โดยนกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด “พอลิเมอร์

แบง่ ไดก้ ปี่ ระเภท อะไรบ้าง?/พอลเิ มอร์ มปี ระโยชน์ตอ่ ชีวิตประจำวันอย่างไร (5 นาท)ี

Reflective thinking (5 นาท)ี

- ประโยชนท์ ี่นักเรยี นไดร้ บั จากการเรยี นในวนั น้ี? (2 นาท)ี

- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาท)ี


ใบงาน Diagram เรือ่ ง ชนิดของพอลิเมอร์

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนสรุปองคค์ วามรู้เกย่ี วกบั เร่อื ง ชนดิ ของพอลิเมอร์ ในรปู แบบ Diagram

พอลิเมอร์ เกดิ จาก

ชนิดของพอลิเมอร์

พลาสตกิ คือ เทอรม์ อพลาสตกิ

พลาสตกิ เทอรม์ อเซต

เสน้ ใย คือ เสน้ ใยสงั เคราะห์
ยาง คือ เสน้ ใยธรรมชาติ
ยางสงั เคราะห์
ยางธรรมชาติ


แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram

คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงานใบงานนักเรยี น ให้ทำเคร่ืองหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด

ความ สรุปผล

ลำดบั ที่ ชอ่ื -สกลุ ความถกู ต้อง ครอบคลมุ สอดคล้อง ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม การ
ของผรู้ ับการประเมนิ ของเน้อื หา เน้ือหา และเช่อื มโยง 4 เรียบรอ้ ย 20 ประเมนิ
ของเน้อื หา คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 4
4 ผา่ น

4321 43214 32 1 4321 4321

ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

นักเรียนได้ระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Diagram


เกณฑ์การ ระดับการประเมิน

ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)

รูปแบบ - มีหัวขอ้ ทชี่ ัดเจน - มหี วั ข้อทช่ี ัดเจน - มหี วั ข้อทีช่ ัดเจน - มหี ัวข้อท่ีชดั เจน

- เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เขียนอย่ใู นกรอบ - เขยี นอย่ใู นกรอบ

- ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคญั ตรงประเดน็

- ใชส้ ญั ลักษณห์ รือภาพส่อื - ใช้สญั ลกั ษณห์ รือภาพส่ือ

ความหมาย ความหมาย

- ใชส้ สี ันทัว่ แผน่

เนอ้ื หา - เน้อื หาครบถ้วนตามสาระท่ี - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระที่ - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เน้ือหาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กว่า 59%

- เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ตำ่ กวา่ 59%

- ลำดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชัดเจน - ลำดับหัวข้อเนอื้ หาชัดเจน - มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง - มีการสรปุ ได้อย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ต่ำกว่า 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - พูดชัดเจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง

อกั ขระ100% อักขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%

- บุคลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลกิ ภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ

- มีการใชส้ ่อื ประกอบการ ได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สีสนั สวยงามหรอื เป็นไป

- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอย่าง

- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ หน่งึ

- ความเปน็ ระเบยี บอ่านง่าย

การตรงตอ่ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กวา่ ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กวา่ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่

เวลา เวลาที่กำหนด เวลาที่กำหนด 5 นาที เวลาทีก่ ำหนด 10 นาที เวลาที่กำหนด 15 นาที


แนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ
พอลเิ มอร์ชนิดใดที่เกดิ จากการรวมตวั แบบตอ่ เตมิ ของมอนอเมอร์

ก. เซลลโู ลส
ข. โปรตีน
ค. ไนลอน
ง. พอลิเอทิลีน

(เฉลย ง. พอลเิ อทิลนี )


แผนจดั การเรียนรทู้ ี่ 16

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ พอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสม หน่วยยอ่ ยท่ี 2

เรื่อง เซรามิกส์ เวลา 2 ช่วั โมง

วันที่ทำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผ้สู อน นายสเุ วช สบื ปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตัวช้ีวดั

เซรามิกส์ คือ ผลิตภณั ฑ์ท่ที ำมาจากวสั ดุธรรมชาติ เช่น ดิน หนิ ว 2.1 ม.3/1 ระบสุ มบตั ิทางกายภาพและการใชป้ ระโยชน์วสั ดุประเภท

ทรายและแร่ธาตตุ า่ งๆ นำมาผสมกันแลว้ ทำเป็นส่งิ ประดษิ ฐต์ ่างๆ จากนน้ั พอลเิ มอร์ เซรามิกส์และวสั ดุผสม โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์และ

นำไปเผาเพื่อใหเ้ นอ้ื วตั ถุแข็งแรงและสามารถคงรปู อยู่ได้ สารสนเทศ

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน /ภาระงาน

- เซรามิกส์ - ใบงาน Mind mapping เรอ่ื ง เซรามิกส์
- ใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง เซรามิกส์สมยั ใหม่

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 6. เคร่ืองมอื การคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - Mind mapping

กจิ กรรมการเรียนรู้

7.ขัน้ ของกจิ กรรม 8.สือ่ 9.วธิ วี ัดผล

Do Now : (3 นาท)ี - ใบงาน Mind mapping เรื่อง - ประเมินใบงาน Mind

“ยกตวั อยา่ งเคร่ืองใช้ในครวั มาคนละ 1 ชนิด” เซรามิกส์ mapping เรอ่ื งเซรามิกส์

Purpose : (2 นาที )

เราจะเรียน เรื่อง เซรามิกส์ เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถอธบิ ายสมบัติของเซรามกิ ส์และ - ใบงานตามแนวทาง PISA -ประเมนิ ใบงานตาม

บอกการใชป้ ระโยชน์ของเซรามกิ ส์ โดยใช้หลักฐานจากสารสนเทศได้ เร่อื ง เซรามิกสส์ มัยใหม่ แนวทาง PISA เร่อื ง

Work mode (110 นาท)ี เซรามกิ ส์สมัยใหม่
1. นกั เรียนศกึ ษาเร่ืองเซรามิกส์ในบทเรยี นออนไลน์ (พอเพียง3 :การมีภมู ิคมุ้ กนั ทด่ี )ี - Power point ประกอบการ
(20 นาที)
สอนเร่อื งเซรามกิ ส์

2. นกั เรียนฟงั ครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ เรื่องเซรามิกส์ โดยใชส้ ื่อ Power point - บทเรียนออนไลน์ เร่ือง เซรา
ประกอบการสอน (10 นาท)ี มกิ ส์
3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด เซรามกิ ส์ คอื อะไร?/ยกตัวอยา่ งผลิตภัณฑ์

จากเซรามิกส์? (10 นาที)

4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ระดมความคดิ เพ่ือสรุปองคค์ วามรใู้ นรปู แบบผงั มโนทศั น์

ลงในใบงาน Mind mapping เร่ืองเซรามิกส์ (คิด 9: คิดเชิงมโนทศั น)์ (สมรรถนะท่ี 4)

(20 นาที)

5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน Mind mapping เร่ือง เซรา

มกิ ส์ ทห่ี นา้ ชน้ั เรียน กลมุ่ ละ 3 นาที (15 นาท)ี
6. นักเรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เร่อื ง เซรามิกสส์ มยั ใหม่ (15 นาที)

7. นักเรียนและครรู ว่ มกนั เฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรือ่ ง เซรามกิ สส์ มยั ใหม่

(10 นาที)


8.นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้จากบทเรียน โดยตอบคำถามกระตนุ้

ความคดิ “เซรามกิ ส์ มีสมบตั ิอยา่ งไร?/เซรามิกส์ มปี ระโยชนต์ อ่ ชีวติ ประจำวนั

อยา่ งไรบา้ ง? (10นาท)ี

Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิ่งทน่ี กั เรยี นยังสงสยั จากการเรียนในวันนี้? (2 นาที)
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาท)ี


ใบงาน Mind mapping เรอ่ื ง เซรามกิ ส์

คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพื่อสรุปองค์ความรู้ เก่ยี วกับเรอื่ งเซรามิกส์ ในรปู แบบของ Mind
mapping

เซรามิกส์


ใบงานตามแนวทาง PISA เร่ือง เซรามิกส์สมยั ใหม่

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
ว2.1 ม.3/1 ระบสุ มบตั ิทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วสั ดุประเภทพอลเิ มอร์ เซรามิกสแ์ ละวสั ดุผสม โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์
และสารสนเทศ

เซรามกิ ส์สมัยใหม่ (Fine ceramics/ new ceramics/ advanced ceramics) คือ เซรามกิ สท์ ่ีต้องใช้

วตั ถุดบิ ทผ่ี ่านกระบวนการมาแล้วเพ่อื ใหม้ ีความบรสิ ทุ ธ์ิสูงไดร้ ับการควบคุมองค์ประกอบทางเคมีและโครงสรา้ งจลุ ภาค
(microstructure) อยา่ งแมน่ ยำ โดยเซรามิกสส์ มยั ใหม่อาจแบง่ ได้เป็น 3 กล่มุ ใหญ่ๆ ได้แก่ เซรามกิ สส์ ำหรับงานโครงสรา้ ง,
อิเล็กโทรเซรามิกส,์ เซรามิกสส์ ำหรบั งานทางด้านการแพทย์

- เซรามิกส์สำหรบั งานโครงสร้าง (Structural ceramics) เป็นกลมุ่ ทใี่ ช้ในงานที่ต้องการสมบัตทิ างกลท่ดี ีทอ่ี ุณหภมู สิ งู
ทนตอ่ การสึกหรอและการกดั กร่อนไดด้ ี ทนตอ่ การเปลีย่ นแปลงอณุ หภมู ิอย่างฉบั พลันไดด้ ี เป็นฉนวนความร้อน เชน่ ซิลิคอนคาร์
ไบด์ สำหรบั ใช้ทำวสั ดสุ ำหรบั ตดั แต่ง หัวพ่นไฟ ชิน้ ส่วนเคร่ืองยนต์ เช่น ปลอกนำวาลว์ และ ซลี ท่ีทนแรงดนั สูง ซลิ คิ อนไนไตรด์
สำหรบั ใช้ทำชิน้ ส่วนเครือ่ งยนต์กลไก เชน่ ลูกปนื วาล์ว สลกั ลูกสบู เบรคสำหรบั รถยนต์ท่ีเป็น Exotic car และ ใบพดั ของเทอรโ์ บ
ชารจ์ เจอร์ และ อะลมู ินมั ไนไตรด์ สำหรบั ใช้ทำแผน่ รองวงจรสำหรับอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เป็นต้น กรรไกรและมดี เซรามกิ ที่ทำ
ดว้ ยเซอรโ์ คเนยี ซง่ึ เปน็ มดี เซรามกิ ทม่ี คี วามคมมาก และไมต่ อ้ งลับเนอ่ื งจากเซอรโ์ คเนยี มีความแข็งสูงและไมส่ กึ กรอ่ นงา่ ยจึงไม่ทำให้
มดี ท่ือ

เซรามิกสส์ ำหรับงานโครงสรา้ งอกี ตัวอย่างหนึ่งคือผวิ ของยานกระสวยอวกาศ (space shuttle) ในตอนทย่ี านเขา้ มาจาก
อวกาศเข้าสู่บรรยากาศของโลกนนั้ จะเกิดการเสียดสีกบั บรรยากาศของโลกทำใหม้ อี ุณหภูมสิ งู มากซ่ึงมากกว่า 2000 °C โครงสรา้ ง
ลำตวั ของยานภายในนน้ั จริงๆ แลว้ ทำจากโลหะผสมซึ่งทนความร้อนได้ไมเ่ กิน 800 °C แตผ่ ิวของยานน้ันปดู ้วยแผ่นกระเบอื้ งเซรา
มิกเล็กๆ ซง่ึ ทนความร้อนสงู จำนวนมาก ตวั อย่างวสั ดทุ ่ใี ชท้ ำแผ่นเซรามกิ ดังกลา่ ว เช่น เสน้ ใยซลิ ิกาอะมอรฟ์ สั ความบรสิ ทุ ธส์ิ งู มาก
และ แผ่นกระเบอ้ื งเล็กๆท่ที ำด้วยเซอรโ์ คเนยี ทำใหท้ นอณุ หภมู ิสูงได้


และอีกตัวอย่างหนึง่ ทอี่ ย่ใู กลต้ วั สำหรับผทู้ ่ใี ชร้ ถยนตค์ ือ ที่ท่อไอเสียรถยนตจ์ ะมเี ซรามกิ ส์ ชนิดหนงึ่ ที่เรยี กว่า แคตาไลตกิ คอนเวอร์
เตอร์ ช่วยทำหนา้ ท่เี ปลย่ี นแก๊สตา่ งๆ ทีเ่ กิดจากกระบวนการเผาไหม้ของเคร่อื งยนต์ท่ีเปน็ พษิ ตอ่ มนุษย์ให้เป็นสารทไ่ี มเ่ ป็นพิษ เช่น
เปลย่ี นคารบ์ อนมอนออกไซด์ ให้อยใู่ นรปู ของคารบ์ อนไดออกไซด์ เป็นต้น

- อเิ ลก็ โทรเซรามิกส์ (Electroceramics) เปน็ กลมุ่ ที่ใช้สมบตั ิทางไฟฟ้าอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ แมเ่ หลก็ แสง เปน็ หลัก อเิ ล็กโทร
เซรามิกสน์ นั้ เป็นกลุ่มเซรามกิ สท์ ่ีมมี ากมายหลายชนดิ และครอบคลมุ สมบตั ดิ ้านตา่ งๆ หลายอยา่ งได้แก่ ไฟฟา้ แมเ่ หลก็ แสง และ
ความร้อน เป็นตน้ ตวั อย่าง เช่น ไดอิ-เลก็ ทรกิ เซรามิก เชน่ แบเรยี มไททาเนต สำหรบั ใช้ทำตัวเก็บประจไุ ฟฟ้า เพยี โซอเิ ลคทริค
เซรามคิ ซึ่งเป็นเซรามกิ สท์ ส่ี ามารถเปลยี่ นรปู พลงั งานกล-พลังงานไฟฟ้ากลับไปมาได้ วสั ดนุ ้เี มือ่ ใหแ้ รงกลเข้าไปจะสามารถเปล่ียน
แรงกลเป็นพลงั งานไฟฟ้าได้หรอื ในทางกลับกนั สามารถเปลีย่ นพลงั งานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกลได้ ตัวอยา่ งเช่น เลดเซอรโ์ คเนตไท
ทาเนต สำหรบั ใช้ทำทรานดิวเซอร์ ชุดโหลดเซลส์สำหรบั เคร่อื งชั่งขนาดใหญ่ ตวั จดุ เตาแกส๊ หรือที่ใกลต้ ัวเรากค็ อื การด์ วนั เกดิ ทีเ่ ม่ือ
เปิดแลว้ มีเสยี งเพลงดงั ขึ้นก็อาศยั หลกั การของเพียโซอเิ ลคทริคนนั่ เอง นอกจากนี้อเิ ลก็ โทรเซรามกิ ยงั มเี ซรามิกแมเ่ หลก็ เช่น เฟอร์
ไรต์ ซ่ึงใชเ้ ปน็ วัสดุบันทึกข้อมูล เปน็ ต้น

-เซรามิกส์สำหรบั งานทางด้านการแพทย์ พวกกระดูกเทยี ม ฟันปลอม ข้อตอ่ เทยี ม ตัวอยา่ งเชน่ วสั ดทุ ี่เรยี กวา่ ไฮดรอกซอี า
พาไทตซ์ ง่ึ ทำมาจากกระดกู ววั กระดูกควายทผ่ี ่านการเผาแบบ Calcine เพ่ือไลส่ ารอินทรยี ์ภายในและนำมาขน้ึ รูปเป็นชนิ้ กระดูก
และนำไปเผาแบบ Sinter อกี ครั้งหน่งึ

ทีม่ า : http://www.thaiceramicsociety.com/ab_cer.php

คำถามท่ี 1 (1 คะแนน)

ข้อใด ไมใ่ ช่ สมบัติของเซรามิกสส์ มยั ใหม่

1. ควบคมุ โครงสรา้ งจุลภาคอยา่ งแมน่ ยำ 2. มีความบรสิ ทุ ธิ์สูง

3. ทนทาน ราคาไมแ่ พง 4. มีการควบคมุ องคป์ ระกอบทางเคมี

คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)

จากถ้อยความ แคตาไลติกคอนเวอรเ์ ตอร์ ที่อย่ใู นทอ่ ไอเสียรถยนต์ ทำหนา้ ทอี่ ะไร จงยกตวั อย่าง

ประกอบ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


คำถามที่ 3

จากข้อมลู ข้อความต่อไปน้ี เปน็ ความจรงิ หรอื ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน)

ข้อความทเ่ี ปน็ ความจริง ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย X ในช่อง “ใช่”

ข้อความที่ไม่เปน็ ความจริง ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย X ในชอ่ ง “ไม่ใช่”

ข้อความ ใช่ ไมใ่ ช่

1) เซรามิกส์สำหรบั โครงสรา้ ง ทนตอ่ การสึกหรอและการกัดกรอ่ นไดด้ ี ทนต่อการเปลย่ี นแปลง

อณุ หภูมิอยา่ งฉับพลันได้ดี และเป็นฉนวนความร้อน

2) ไดอิเล็กทริกเซรามิกส์ เปน็ เซรามิกสท์ ีส่ ามารถเปลี่ยนรูปพลงั งานกล-พลังงานไฟฟ้ากลับไปมาได้

3) มีดเซรามิกส์ท่ีทำด้วยเซอร์โคเนยี เปน็ มีดเซรามกิ ส์ที่มีความคมมาก ไมต่ ้องลบั เน่อื งจากมี

ความแข็งสงู และไมส่ ึกกร่อนง่าย

4) กระดกู เทยี ม ฟันปลอม เลนส์ตา และข้อต่อเทียม เป็นตวั อย่างชิ้นส่วนเซรามกิ ส์สำหรับงาน

ทางดา้ นการแพทย์


เฉลยและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

คำถามที่ 1

คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน

ขอ้ 3. ทนทาน ราคาไมแ่ พง คำตอบอ่ืนๆ

คำถามที่ 2

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน
ตอบคำถามได้ถกู ตอ้ งโดยอา้ งอิงจากถ้อยความ คอื ตอบคำถามได้ถกู ตอ้ งบางสว่ น เชน่ ทำ ตอบไม่ถูกต้อง หรอื ไมต่ อบ
ทำหนา้ ทเี่ ปล่ยี นแกส๊ ต่างๆ ทเ่ี กดิ จากกระบวนการ หน้าทเ่ี ปล่ยี นแกส๊ ตา่ งๆ ทเ่ี กดิ จาก คำถาม
เผาไหมข้ องเครือ่ งยนต์ทีเ่ ป็นพษิ ตอ่ มนษุ ย์ให้เปน็ กระบวนการเผาไหม้ของเคร่อื งยนต์ท่ี
สารท่ีไม่เปน็ พษิ เช่น เปลย่ี นคาร์บอนมอนออกไซด์ เป็นพิษต่อมนษุ ย์ใหเ้ ปน็ สารทไี่ ม่เป็นพษิ
ให้อยู่ในรปู ของคารบ์ อนไดออกไซด์ แตไ่ มไ่ ด้ยกตัวอยา่ ง

คำถามที่ 3 ใช่ ไม่ใช่
จากขอ้ มลู ขอ้ ความต่อไปน้ี เปน็ ความจรงิ หรอื ไม่เป็นความจริง (2 คะแนน) X X
X
ขอ้ ความที่เป็นความจริง ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในช่อง “ใช”่ X

ข้อความที่ไมเ่ ป็นความจรงิ ให้ทำเคร่อื งหมาย X ในชอ่ ง “ไม่ใช่”

ข้อความ

1) เซรามกิ สส์ ำหรบั โครงสรา้ ง ทนตอ่ การสกึ หรอและการกดั กร่อนไดด้ ี ทนต่อการเปลย่ี นแปลงอณุ หภมู อิ ย่าง
ฉบั พลันไดด้ ี และเป็นฉนวนความร้อน
2) ไดอเิ ล็กทริกเซรามิกส์ เปน็ เซรามิกส์ทสี่ ามารถเปล่ยี นรูปพลงั งานกล-พลงั งานไฟฟ้ากลบั ไปมาได้

3) มดี เซรามกิ สท์ ที่ ำด้วยเซอรโ์ คเนีย เป็นมีดเซรามิกสท์ ีม่ ีความคมมาก ไมต่ ้องลบั เน่อื งจากมีความแข็งสูงและ
ไมส่ ึกกรอ่ นงา่ ย
4) กระดูกเทยี ม ฟันปลอม เลนสต์ า และข้อตอ่ เทยี ม เปน็ ตวั อย่างชน้ิ ส่วนเซรามกิ ส์สำหรบั งานทางด้าน
การแพทย์

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบถูกท้งั 4 ข้อ : ใช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ

หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์


แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ

วัตถดุ ิบท่ีใชใ้ นการผลิตเซรามกิ ส์คือขอ้ ใด

ก. ดนิ เหนยี ว ดินขาว แก้ว และเฟลด์สปาร์
ข. ดินเหนยี ว ดินขาว ควอตซ์ และหินฟนั ม้า
ค. ทัลก์ ควอตซ์ โซเดยี มซลิ เิ กต และทราย
ง. เซอรโ์ คเนยี มออกไซด์ ดนิ ต่าง ๆและหนิ ทราย

(เฉลย ข. ดินเหนยี ว ดินขาว ควอตซ์ และหินฟนั ม้า)


แผนจัดการเรยี นร้ทู ่ี 17

ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ พอลิเมอร์ เซรามกิ ส์และวัสดุผสม หนว่ ยย่อยท่ี 2

เร่อื ง วัสดุผสม เวลา 1 ช่ัวโมง

วนั ท่ที ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สืบปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตวั ชี้วดั

วัสดผุ สม คือ วสั ดุทถี่ ูกสรา้ งขึ้นมาจากวัสดตุ ้ังแต่ 2 ชนิดขึ้นไป ไม่ได้ ว 2.1 ม.3/2 ตระหนักถงึ คุณคา่ ของการใชว้ สั ดปุ ระเภทพอลเิ มอร์ เซรา

เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ โดยวสั ดผุ สมจะไมล่ ะลายซง่ึ กันและกัน มกิ ส์ และวสั ดผุ สม โดยเสนอแนะแนวทางการใช้วสั ดอุ ย่างประหยดั และ

ประกอบดว้ ยวสั ดุชนดิ หน่ึงหรอื หลายชนดิ กระจายตัวและแทรกตวั อยู่ในเนื้อ ค้มุ คา่

วสั ดหุ ลกั ซงึ่ ประกอบดว้ ย สว่ นพน้ื (สว่ นเมตริกซ์) และส่วนเสริมแรง

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิน้ งาน /ภาระงาน

- วสั ดผุ สม - ใบงาน PMI เรือ่ ง วัสดผุ สม

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 6. เคร่ืองมอื การคดิ

- ความสามารถในการคิด - PMI

กิจกรรมการเรียนรู้

7.ขน้ั ของกิจกรรม 8.สอ่ื 9.วิธวี ดั ผล

Do Now : (3 นาที) - ใบงาน PMI เรอื่ ง วัสดุ - ประเมนิ ใบงาน PMI
“บอกสว่ นประกอบทีใ่ ชใ้ นการทำถนนคอนกรีต มาคนละ 1 อยา่ ง” ผสม เรอ่ื ง วสั ดผุ สม

Purpose : (2 นาที ) - Power point

เราจะเรยี นเร่ือง วัสดผุ สม เพื่อให้นักเรยี นตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของการใช้วัสดุผสม โดย ประกอบการสอนเร่อื ง

เสนอแนะแนวทางการใชว้ ัสดุอย่างประหยัดและคมุ้ ค่าได้ วสั ดผุ สม

Work mode (50 นาที) - บทเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง

1. นกั เรยี นศึกษาเร่ือง วสั ดผุ สม ในบทเรียนออนไลน์ (พอเพยี ง3 : การมภี มู ิคุ้มกันทีด่ ี) วัสดุผสม

(15 นาที)

2. นักเรียนคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณเพื่อตอบคำถามกระต้นุ ความคิด “วัสดผุ สม คืออะไร

และประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง?/ ส่วนเมตรกิ ซ์ คืออะไร และมีหนา้ ท่ีอย่างไร?

(คิด4 : คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ) (สมรรถนะที่ 2) (5 นาที)

3. นักเรียนฟงั ครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ เร่อื ง วสั ดผุ สม โดยใชส้ อื่ Power point ประกอบการ

สอน (10 นาท)ี

4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวเิ คราะหข์ ้อด(ี P) ขอ้ เสยี /ขอ้ จำกัด(M) และข้อนา่ สนใจ/แนว

ทางแก้ไข(I) เกี่ยวกบั วสั ดผุ สม โดยบนั ทกึ ลงในใบงาน PMI เร่ือง วัสดุผสม โดยสบื ค้น

ความรู้เพม่ิ เตมิ จากอินเตอร์เน็ต (คดิ 1: คดิ วเิ คระห์) (สมรรถนะที่ 2) ( PMI ) (15 นาที)

5. นักเรียนและครูสรปุ บทเรยี น โดยนักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ “คอนกรตี เสรมิ
เหลก็ ใชอ้ ะไรเปน็ ส่วนพ้ืนและใช้อะไรเป็นส่วนเสรมิ แรง?/นกั เรียนจะนำความรู้เรอื่ งวัสดุ

ผสม ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั อย่างไรบา้ ง?/นักเรยี นจะมแี นวทางในการใชว้ สั ดุ

อยา่ งประหยดั และค้มุ คา่ อย่างไร? (5 นาที)


Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 ส่ิงทนี่ ักเรยี นสามารถนำไปปรบั ใช้ จากการเรยี นในวนั นี้? (2 นาที)
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาที)


ใบงาน PMI เรอ่ื ง วัสดุผสม

คำคำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มระดมความคดิ โดยระบุข้อดีของวัสดุผสม ลงในช่อง (P) ข้อเสยี /ขอ้ จำกัด

ของวัสดุผสม ลงในช่อง(M) และข้อเสนอแนะ/ข้อท่ีน่าสนใจ ของวัสดุผสม ลงในชอ่ ง (I)

วสั ดผุ สม

ข้อดี ข้อเสีย/ขอ้ กำจัด ขอ้ ท่นี ่าสนใจ/ขอ้ เสนอแนะ

(P) (M) (I)

สรปุ


แบบประเมนิ ใบงาน PMI

คำช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน PMI

ลำดับ ชือ่ -สกลุ การแสดงความ เนื้อหา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ที่ ของผู้รับการประเมนิ คดิ เหน็ 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน )
( 4 คะแนน ) ไมผ่ ่าน

ลงชอื่ ....................................................ผู้ประเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรงุ

นกั เรียนไดร้ ะดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
ความคิดเห็น - แสดงความคดิ เห็นในช่อง P
- แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง P - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง P - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง P
ได้ 10 ขอ้ ข้นึ ไป ได้ 9-10 ข้อ ได้ 7-8 ขอ้ ได้ น้อยกว่า 7 ข้อ
- แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง M
- แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง
Mได้ 10 ข้อข้นึ ไป M ได้ 9-10 ขอ้ M ได้ 7-8 ข้อ ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง I
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง I - แสดงความคิดเห็นในช่อง I - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง I
ได้ 10 ขอ้ ขึ้นไป ได้ 9-10 ข้อ ได้ 7-8 ข้อ ได้ น้อยกว่า 7 ข้อ

เน้อื หา - เนือ้ หาครบถ้วนตามสาระที่ - เนือ้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เน้อื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กวา่ 59%
การนำเสนอ
- เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา
ความสวยงาม 100% 80-99% 60-79% ตำ่ กว่า 59%
การตรงต่อ
- ลำดับหวั ขอ้ เน้อื หาชดั เจน - ลำดับหวั ข้อเน้ือหาชดั เจน - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มีการสรุปไมส่ มเหตสุ มผลตำ่
เวลา - มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มีการสรุปได้อยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% กว่า 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99% - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม
อักขระ60-79% อกั ขระต่ำว่า 59%
อักขระ100% อักขระ80-99% - บุคลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
- บคุ ลกิ ภาพดแี ละมีความ - บคุ ลิกภาพดี
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ - ใช้สสี ันสวยงามและมคี วาม - ใช้สีสันสวยงามหรอื เป็นไป
มนั่ ใจ สะอาด ตามเกณฑ์อย่างใดอยา่ งหนง่ึ
- มกี ารใชส้ อื่ ประกอบการ ไดบ้ างสว่ น
ส่งผลงานครบถ้วน แต่ช้ากว่า ส่งผลงานครบถว้ น แต่ช้ากวา่
นำเสนอ - ใช้สีสนั สวยงาม เวลาทีก่ ำหนด 10 นาที เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที
- ความพร้อมในการนำเสนอ - มีความสะอาด
- ใชส้ สี ันสวยงาม - มีความคดิ สรา้ งสรรค์
- มคี วามสะอาด
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
- ความเป็นระเบียบอ่านงา่ ย เวลาทกี่ ำหนด 5 นาที
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม

เวลาท่ีกำหนด


แนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ
ปนู ซเี มนตท์ ใี่ ชก้ ับงานฉาบ หล่อท่อ หรือทำกระเบื้องมุงหลงั คาเปน็ ปูนซเี มนต์ประเภทใด

ก. ปนู ซเี มนต์ผสม
ข. ปนู ซีเมนตป์ อร์ตแลนด์ธรรมดา
ค. ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ท่ีเกิดความร้อนและทนซลั เฟตปานกลาง
ง. ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนดป์ ระเภทเกดิ ความรอ้ นตำ่

(เฉลย ปูนซีเมนต์ผสม)


แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 18

ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ พอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวสั ดุผสม หน่วยย่อยที่ 2

เร่อื ง การใชป้ ระโยชน์จากพอลเิ มอร์ เซรามกิ ส์ และวัสดุผสม เวลา 2 ชัว่ โมง

วนั ท่ีทำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ................. ผ้สู อน นายสเุ วช สบื ปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตัวช้ีวดั

ประโยชนข์ อง พอลิเมอร์มีทงั้ ท่ีเกิดเองในธรรมชาติ (Natural polymer) และ ว 2.1 ม.3/2 ตระหนักถึงคณุ ค่าของการใช้วสั ดุประเภทพอลิเมอร์ เซรา

พอลเิ มอรส์ งั เคราะห์ (Synthetic polymer) ตวั อย่างของ โพลิเมอรธ์ รรมชาติ มกิ ส์ และวสั ดผุ สม โดยเสนอแนะแนวทางการใชว้ ัสดอุ ยา่ งประหยดั และ

ได้แก่ แปง้ เซลลโู ลส โปรตนี กรดนวิ คลอี กิ และยางธรรมชาติ สว่ นพอลิเมอร์ คุม้ คา่

สงั เคราะห์ เช่น พลาสตกิ เสน้ ใย โฟม และกาว พอลิเมอรท์ ้งั สองชนิดน้ีเขา้ มา

มีบทบาทมากในชวี ิตประจำวัน เราต้องใชป้ ระโยชนจ์ ากพอลเิ มอร์ และพอลิ

เมอร์แตล่ ะชนิดมีสมบัติตา่ งกนั จึงนำหนา้ ท่ีหรอื นำไปใชง้ านท่ีตา่ งกนั ได้

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ช้ินงาน /ภาระงาน

- การใช้ประโยชนจ์ ากพอลเิ มอร์ เซรามกิ ส์ และวสั ดุผสม - ใบงาน Mind mapping เรื่อง การใชป้ ระโยชน์จากพอลเิ มอร์

เซรามกิ ส์ และวัสดผุ สม

- ใบงานตามแนวทาง PISA เร่ือง สุดยอดพลาสตกิ กบั ส่งิ ประดษิ ฐ์ทไี่ ม่

คิดวา่ จะใช่

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 6. เครื่องมอื การคิด

- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - Mind mapping

กิจกรรมการเรยี นรู้

7.ขั้นของกจิ กรรม 8.สอ่ื 9.วธิ ีวดั ผล

Do Now : (3 นาที) - ใบงาน Mind mapping - ประเมนิ ใบงาน Mind

“พอลิเมอร์ มปี ระโยชน์มาคนละ 1 อย่าง” เร่อื ง การใช้ประโยชนจ์ ากพอลิ mapping เรอื่ ง การใช้

Purpose : (2 นาที ) เมอร์ เซรามกิ ส์ และวัสดผุ สม ประโยชนจ์ ากพอลิ
- ใบงานตามแนวทาง PISA เมอร์ เซรามิกส์ และ
เราจะเรยี นเร่ือง การใชป้ ระโยชน์จากพอลเิ มอร์ เซรามิกส์ และวัสดผุ สม เรือ่ ง สดุ ยอดพลาสตกิ กบั
ส่งิ ประดษิ ฐท์ ไ่ี ม่คดิ ว่าจะใช่ วสั ดผุ สม
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนตระหนักถึงคณุ ค่าของการใช้วสั ดุผสม โดยเสนอแนะแนวทางการใช้ - Power point ประกอบการ - ประเมินใบงานตาม
วสั ดอุ ย่างประหยดั และคมุ้ คา่ ได้
Work mode (110 นาที) สอนเรอ่ื ง การใชป้ ระโยชน์จาก แนวทาง PISA เรอื่ ง สุด
พอลเิ มอร์ เซรามกิ ส์ และวสั ดุ ยอดพลาสตกิ กบั
1. นักเรียนศกึ ษา เร่อื งการใชป้ ระโยชนจ์ ากพอลเิ มอร์ เซรามกิ ส์และวัสดผุ สม จาก ผสม ส่ิงประดิษฐ์ทไ่ี ม่คดิ วา่ จะ
บทเรยี นออนไลน์ (คดิ 1: คดิ วเิ คราะห์ ) (พอเพียง 3 การมภี ูมิคมุ้ กันทด่ี ใี นตัว) - บทเรยี นออนไลน์ เรอ่ื ง การใช้ ใช่

(15 นาที) ประโยชน์จากพอลเิ มอร์ เซรา
2. นักเรียนคดิ อย่างมีวิจารณญาณเพอ่ื ตอบคำถามกระตุ้นความคดิ “พอลเิ มอร์
นำไปใช้ประโยชนใ์ นด้านใดบา้ ง? (คิด4 : คิดอย่างมวี ิจารณญาณ) (สมรรถนะท่ี 2) มิกส์ และวสั ดผุ สม
(5 นาท)ี


3. นักเรียนฟงั ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เร่ือง การใชป้ ระโยชนจ์ ากพอลเิ มอร์ เซรามิกส์ และ

วสั ดุผสม โดยใชส้ อ่ื Power point ประกอบการสอน (15 นาที)

4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ระดมความคดิ เพ่อื สรปุ องค์ความร้ใู นรปู แบบผังมโนทศั น์
ลงในใบงาน Mind mapping เรอ่ื ง การใช้ประโยชนจ์ ากพอลิเมอร์ เซรามกิ ส์ และ
วสั ดุ โดยสบื คน้ ข้อมลู เพ่มิ เตมิ จากบทเรียนออนไลนแ์ ละอินเตอรเ์ น็ต (25 นาที)
5. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน Mind mapping เรือ่ ง การ
ใช้ประโยชน์จากพอลเิ มอร์ เซรามิกส์ และวสั ดุ ท่ีหน้าชน้ั เรียน กลมุ่ ละ 3 นาที
(คดิ 8:คิดสร้างสรรค)์ (สมรรถนะท่ี 3) (15 นาที)
6. นักเรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง การใช้ประโยชน์จากพอลิเมอร์ เซรา
มกิ ส์ และวสั ดุ (15 นาที)
7. นักเรียนและครรู ว่ มกนั เฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เร่ืองสุดยอดพลาสตกิ กับ

สงิ่ ประดิษฐ์ทไ่ี มค่ ดิ วา่ จะใช่ (10 นาที)

8.นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ องคค์ วามร้จู ากบทเรียน โดยตอบคำถามกระตุ้น
ความคดิ
“พอลเิ มอร์ เซรามกิ ส์ และวัสดุ มปี ระโยชนต์ ่อชวี ิตประจำวันอย่างไรบ้าง?(10นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 2 สิ่งทน่ี กั เรียนสามารถนำไปปรบั ใช้ จากการเรยี นในวนั น?้ี (2 นาที)
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาที)


ใบงานตามแนวทาง PISA เรือ่ ง สดุ ยอดพลาสติกกับสิ่งประดิษฐ์ที่ไมค่ ิดว่าจะใช่

ว 2.1 ม.3/2 ตระหนกั ถึงคณุ ค่าของการใชว้ สั ดปุ ระเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวสั ดผุ สม โดยเสนอแนะแนวทางการใช้วสั ดุอย่าง
ประหยดั และค้มุ คา่


คำถามท่ี 1 (1 คะแนน) ที่มา : http://www.thaiceramicsociety.com/ab_cer.php
ขอ้ ใด ไม่ใช่ ประโยชน์ของพลาสติก
1. ผลิตอปุ กรณ์อปุ โภค 2. ผลิตอุปกรณท์ างการแพทย์
3. ผลติ อุปกรณ์บริโภค 4. ผลิตยารกั ษาโรค

คำถามที่ 2 (2 คะแนน)
จากถ้อยความ สดุ ยอดพลาสติกกบั ส่ิงประดษิ ฐท์ ่ไี มค่ ิดว่าจะใช่ สามารถใชป้ ระดิษฐ์อะไรได้บ้าง จง

ยกตวั อยา่ งประกอบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………......................................................................................................................

คำถามที่ 3 ใช่ ไมใ่ ช่
จากข้อมูล ขอ้ ความต่อไปน้ี เปน็ ความจรงิ หรือ ไมเ่ ปน็ ความจรงิ (2 คะแนน)

ขอ้ ความทีเ่ ป็นความจริง ให้ทำเคร่อื งหมาย X ในช่อง “ใช”่
ขอ้ ความท่ีไมเ่ ปน็ ความจริง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย X ในชอ่ ง “ไมใ่ ช่”

ข้อความ
1) พลาสตกิ เป็นช้ินส่วนสำคัญในการผลติ อปุ กรณ์ต่างๆในทางการแพทย์
2) พลาสตกิ ไม่สามารถทำอปุ กรณใ์ นการปอ้ งกนั โควดิ 19 ได้

3) พลาสตกิ คอื สว่ นหนงึ่ ในชีวิตประจำวนั ของนักเรยี น
4) พลาสตกิ สามารถย่อยสลายเองได้


เฉลยและเกณฑก์ ารให้คะแนน

คำถามท่ี 1

คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไม่มีคะแนน

ขอ้ 4. ผลติ ยารักษาโรค คำตอบอ่นื ๆ

คำถามท่ี 2

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มีคะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องโดยอ้างองิ จากถอ้ ยความ
ถูกต้อง 10 ชนดิ ข้นึ ไป ตอบคำถามได้ถูกต้องโดยอ้างอิงจากถอ้ ย ตอบไม่ถูกต้อง หรือไมต่ อบ

ความถกู ต้อง 10 ชนิดลงมา คำถาม

คำถามท่ี 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ เปน็ ความจรงิ หรอื ไม่เปน็ ความจรงิ (2 คะแนน) X X
X
ขอ้ ความท่เี ปน็ ความจริง ให้ทำเคร่อื งหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่ X
ขอ้ ความที่ไม่เปน็ ความจรงิ ให้ทำเครอ่ื งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช”่

ขอ้ ความ
1) เซรามิกสส์ ำหรับโครงสรา้ ง ทนต่อการสึกหรอและการกัดกรอ่ นไดด้ ี ทนต่อการเปล่ียนแปลง
อณุ หภูมิอย่างฉบั พลันไดด้ ี และเป็นฉนวนความร้อน
2) ไดอิเล็กทริกเซรามิกส์ เป็นเซรามิกสท์ สี่ ามารถเปล่ยี นรูปพลงั งานกล-พลังงานไฟฟ้ากลับไปมาได้

3) มดี เซรามกิ ส์ที่ทำด้วยเซอร์โคเนยี เปน็ มดี เซรามิกส์ท่ีมีความคมมาก ไม่ต้องลับ เนื่องจากมี
ความแขง็ สงู และไมส่ ึกกรอ่ นง่าย
4) กระดกู เทยี ม ฟันปลอม เลนส์ตา และขอ้ ต่อเทยี ม เปน็ ตัวอย่างชิ้นสว่ นเซรามกิ สส์ ำหรับงาน
ทางดา้ นการแพทย์

คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน
ตอบถูกทัง้ 4 ข้อ : ใช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ


หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

ใบงาน Mind mapping
เรื่อง การใชป้ ระโยชน์จากพอลเิมอร์ เซรามกิ ส์ และวสั ดุผสม

คำชี้แจง ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพ่ือสรปุ องค์ความรู้ เก่ยี วกับเรือ่ งการใช้ประโยชนจ์ ากพอลเิ มอร์
เซรามกิ ส์ และวัสดุผสม ในรูปแบบของ Mind mapping


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Mind mapping

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น ให้ทำเคร่ืองหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนด

ความ สรปุ ผล

ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกุล ความถกู ต้อง ครอบคลุม สอดคล้อง ตรงต่อเวลา ความสะอาด รวม การ
ของผูร้ บั การประเมิน ของเนือ้ หา เนอ้ื หา และเชือ่ มโยง 4 เรียบรอ้ ย 20 ประเมิน
ของเนอ้ื หา คะแนน ผ่าน/ไม่
4 4 4
4 ผ่าน

4321 43214 32 1 4321 4321

ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง


นักเรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Mind mapping

เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน

ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

รูปแบบ - มหี วั ข้อท่ีชดั เจน - มหี ัวข้อทช่ี ัดเจน - มีหวั ข้อท่ีชดั เจน - มีหวั ข้อทช่ี ัดเจน

- เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เขียนอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ

- ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคญั ตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น

- ใชส้ ัญลักษณห์ รอื ภาพสือ่ - ใช้สัญลักษณห์ รือภาพสือ่

ความหมาย ความหมาย

- ใชส้ ีสนั ท่วั แผน่

เนื้อหา - เน้อื หาครบถว้ นตามสาระท่ี - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เน้ือหาถูกต้องตามสาระที่ - เนื้อหาถูกต้องตามสาระที่

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กว่า 59%

- เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ตำ่ กว่า 59%

- ลำดับหัวขอ้ เน้ือหาชัดเจน - ลำดบั หัวข้อเน้อื หาชัดเจน - มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ กว่า 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสียงดงั ฟังชดั - พูดชดั เจนเสียงดงั ฟังชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง

อักขระ100% อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอักขระตำ่ กวา่ 59%

- บุคลกิ ภาพดีและมีความ - บุคลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มนั่ ใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ

- มกี ารใชส้ อ่ื ประกอบการ ได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สีสนั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เป็นไป

- มีความสะอาด - มคี วามสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ ง

- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคิดสร้างสรรค์ หนึ่ง


การตรงต่อ - ความเปน็ ระเบียบอ่านงา่ ย ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กว่า ส่งผลงานครบถว้ น แต่ช้ากวา่ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากว่า
เวลา ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม
เวลาที่กำหนด 5 นาที เวลาที่กำหนด 10 นาที เวลาท่กี ำหนด 15 นาที
เวลาที่กำหนด

แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ
ภาชนะในขอ้ ใดเหมาะแก่การนำเข้าเตาไมโครเวฟ

ก. ชามกระเบ้ืองสีสันฉูดฉาด
ข. จานแก้ว
ค. จานพลาสติก
ง. ชามโลหะ

(เฉลย ข. จานแก้ว)


แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 19

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ พอลเิ มอร์ เซรามกิ ส์ และวัสดุผสม หนว่ ยย่อยที่ 2

เรอื่ ง การใช้วสั ดุอยา่ งประหยดั และคมุ้ ค่า เวลา 1 ช่วั โมง

วนั ที่ทำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผู้สอน นายสเุ วช สืบปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตวั ช้วี ัด

วสั ดุพอลเิ มอร์ข้ันสงู เพอ่ื ความยง่ั ยนื และเปน็ มติ รต่อส่ิงแวดลอ้ ม เปน็ โจทย์ ว 2.1 ม.3/2 ตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของการใชว้ สั ดุประเภทพอลิเมอร์ เซรา

ใหม่และโจทย์ใหญส่ ำหรบั นกั วจิ ัยในการคดิ คน้ เพ่อื นำมาใชท้ ดแทน มิกส์ และวสั ดผุ สม โดยเสนอแนะแนวทางการใช้วสั ดอุ ยา่ งประหยัดและ

ผลติ ภณั ฑพ์ ลาสตกิ ทีน่ ับวนั จะย่ิงทำให้เกดิ ปัญหาต่อระบบนิเวศและสุขภาพ คมุ้ คา่

อยา่ งรุนแรง

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน /ภาระงาน

- การใช้วัสดุอย่างประหยัด และคมุ้ ค่า - ใบงาน Diagram เรื่อง การใชว้ ัสดุอยา่ งประหยดั และคุม้ คา่

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 6. เครอื่ งมือการคดิ

- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต - Diagram

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7.ขัน้ ของกิจกรรม 8.สอื่ 9.วิธวี ดั ผล

Do Now : (3 นาท)ี - ใบงาน Diagram เรือ่ ง - ประเมินใบงาน

“นกั เรียนจะมีวธิ ีลดขยะพลาสติกได้อยา่ งไร บอกมาคนละ 1 วิธี” การใชว้ สั ดุอยา่ งประหยดั Diagram เรือ่ งการใชว้ สั ดุ

Purpose : (2 นาที ) และคุ้มค่า อยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่

เราจะเรียนเรื่อง การใช้วสั ดอุ ยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ เพอื่ ให้นักเรยี นตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของ - Power point

การใช้วัสดุประเภทพอลเิ มอรเ์ ซรามิก และวสั ดุผสม โดยเสนอแนะแนวทางการใชว้ ัสดอุ ย่าง ประกอบการสอนเรอื่ ง การ

Work mode (50 นาที) ใช้วสั ดุอยา่ งประหยดั และ

1. นกั เรียนศกึ ษาเรือ่ ง การใช้วสั ดอุ ย่างประหยดั และค้มุ ค่าในบทเรยี นออนไลน์ คมุ้ ค่า

(พอเพยี ง3 : การมีภมู ิคมุ้ กันทีด่ )ี (15 นาท)ี - บทเรียนออนไลน์ เร่ือง

2. นักเรยี นฟังครอู ธิบายเนือ้ หาเพมิ่ เติม เรือ่ ง การใชว้ สั ดอุ ย่างประหยดั และคมุ้ ค่า โดยใช้ การใช้วสั ดุอย่างประหยัด

สอ่ื Power Point เรอ่ื ง การใช้วสั ดุอย่างประหยดั และคุ้มคา่ ( 5 นาท)ี และค้มุ ค่า

3. นกั เรยี นตอบคำถาม “จงยกตัวอย่างการใช้วสั ดอุ ยา่ งประหยดั และคุ้มคา่ ” (5นาที)

4. นกั เรยี นทำใบงำน Diagram โดยสรุปองค์ควำมรูใ้ นรูปแบบแผนฝัง เร่อื ง กำรใชว้ สั ดุ

อย่ำงประหยดั และคมุ้ ค่ำ (คดิ 9 คดิ เชงิ มโนทศั น)์ (สมรรถนะท่ี 2)

(พอเพียง 3 กำรมีภมู ิคมุ้ กนั ท่ดี )ี (20 นำท)ี

5.นกั เรยี นและครู รว่ มกนั สรปุ ความรู้ เรอ่ื ง การใชว้ สั ดอุ ยา่ งประหยดั และคุ้มคา่

(5 นาที)

Reflective thinking (5 นาท)ี

- 2 สง่ิ นักเรยี นนำความร้ทู ไ่ี ด้รบั ในวนั นไ้ี ปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันอยา่ งไร

- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาท)ี


ใบงาน Diagram

เรือ่ ง การใชว้ ัสดอุ ยา่ งประหยัด และคมุ้ ค่า

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพื่อสรปุ องค์ความรู้ เกี่ยวกบั เร่ืองการใชว้ สั ดอุ ยา่ งประหยดั
และคุม้ ค่า ในรปู แบบของ Diagram


ขอ้ สอบ O-NET (2564) 1 ข้อ

(เฉลยตอบขอ้ ท่ี 4.นำ้ เหลก็ ท่ีผสมคำรบ์ อนและโครเมยี นมำผลิตเป็นกระเป๋ องสำหรบั บรรจอุ ำหำร)

แบบประเมนิ ใบงาน Diagram


คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

ลำดับท่ี ชื่อ-สกุล รูปแบบ เนอ้ื หา นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ของผรู้ ับการ สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/

ประเมิน 123412341 2 3 412341234 ไมผ่ ่าน

ลงชอ่ื ....................................................ผู้ประเมิน
................/................/...............

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Diagram


เกณฑ์การ ระดับการประเมิน

ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)

รูปแบบ - มีหัวขอ้ ทชี่ ัดเจน - มหี วั ข้อทช่ี ัดเจน - มหี วั ข้อทีช่ ัดเจน - มหี ัวข้อท่ีชดั เจน

- เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เขียนอย่ใู นกรอบ - เขยี นอย่ใู นกรอบ

- ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคญั ตรงประเดน็

- ใชส้ ญั ลักษณห์ รือภาพส่อื - ใช้สญั ลกั ษณห์ รือภาพส่ือ

ความหมาย ความหมาย

- ใชส้ สี ันทัว่ แผน่

เนอ้ื หา - เน้อื หาครบถ้วนตามสาระท่ี - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระที่ - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เน้ือหาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กว่า 59%

- เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ตำ่ กวา่ 59%

- ลำดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชัดเจน - ลำดับหัวข้อเนอื้ หาชัดเจน - มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง - มีการสรปุ ได้อย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ต่ำกว่า 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - พูดชัดเจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ ง

อกั ขระ100% อักขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%

- บุคลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลกิ ภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ

- มีการใชส้ ่อื ประกอบการ ได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สีสนั สวยงามหรอื เป็นไป

- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอย่าง

- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ หน่งึ

- ความเปน็ ระเบยี บอ่านง่าย

การตรงตอ่ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กวา่ ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กวา่ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่

เวลา เวลาที่กำหนด เวลาที่กำหนด 5 นาที เวลาทีก่ ำหนด 10 นาที เวลาที่กำหนด 15 นาที


แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram

คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนด

ความ สรุปผล

ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกลุ ความถูกต้อง ครอบคลุม สอดคล้อง ตรงต่อเวลา ความสะอาด รวม การ
ของผรู้ ับการประเมนิ ของเน้ือหา เนอื้ หา และเช่ือมโยง 4 เรยี บรอ้ ย 20 ประเมิน
ของเน้อื หา คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 4
4 ผา่ น

4321 43214 32 1 4321 4321

ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง


นักเรยี นได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึ้นไปถือว่า ผ่าน

ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Diagram

เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
รูปแบบ
- มีหวั ขอ้ ทช่ี ัดเจน - มหี ัวขอ้ ทชี่ ดั เจน - มหี วั ข้อทช่ี ัดเจน - มหี วั ข้อท่ชี ดั เจน
เน้ือหา
- เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยูใ่ นกรอบ - เขียนอยใู่ นกรอบ - เขียนอย่ใู นกรอบ
การนำเสนอ
- ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็

- ใชส้ ัญลกั ษณห์ รือภาพสือ่ - ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพสอ่ื

ความหมาย ความหมาย

- ใชส้ สี ันทั่วแผน่

- เนื้อหาครบถว้ นตามสาระที่ - เนือ้ หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนือ้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เนอื้ หาถูกต้องตามสาระท่ี

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำกว่า 59%

- เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ต่ำกวา่ 59%

- ลำดบั หัวขอ้ เน้ือหาชัดเจน - ลำดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชดั เจน - มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มีการสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มีการสรปุ ไดอ้ ย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ตำ่ กวา่ 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

- พูดชัดเจนเสียงดงั ฟังชัด - พดู ชดั เจนเสียงดังฟังชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง

อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกว่า 59%

- บคุ ลกิ ภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มั่นใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ

- มกี ารใชส้ ื่อประกอบการ ได้บางสว่ น

นำเสนอ

- ความพร้อมในการนำเสนอ


ความสวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงามและมีความ - ใช้สสี ันสวยงามหรือเป็นไป
- มคี วามสะอาด - มคี วามสะอาด สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ ง
การตรงตอ่ - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ หนึ่ง
เวลา - ความเป็นระเบียบอา่ นงา่ ย
ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากว่า สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กวา่ สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ ้ากว่า

เวลาท่ีกำหนด เวลาที่กำหนด 5 นาที เวลาทีก่ ำหนด 10 นาที เวลาที่กำหนด 15 นาที


แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 20

ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี หนว่ ยยอ่ ยที่ 3

เรื่อง การเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี เวลา 2 ช่วั โมง

วันท่ที ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผูส้ อน นายสุเวช สบื ปัญญา

1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตวั ช้ีวัด

ปฏิกริ ยิ าเคมี หมายถึง กระบวนการเปลยี่ นแปลงไปเปน็ สารใหม่ ส่งผล ว 2.1 ม.3/3 อธิบายการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี รวมถึงการจดั เรยี งตวั ใหม่

ใหม้ ีสมบตั ทิ างเคมแี ละองค์ประกอบของสารจะเปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ โดย ของอะตอมเม่ือการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี โดยใชแ้ บบจำลองและสมการ

เรียกสารท่ีนำมาทำปฏกิ ิรยิ าเคมีวา่ สารตั้งต้น และเรียกสารใหม่ท่ีเกิดขน้ึ ว่า ขอ้ ความ

ผลติ ภณั ฑ์

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชน้ิ งาน /ภาระงาน

- การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี - ใบงาน Mind mapping เรื่อง ปฏกิ ิรยิ าเคมี

- ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง ปฏิกริ ิยาเคมใี นดอกไม้ไฟ

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 6. เครอ่ื งมือการคดิ
- ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา - Mind mapping

กิจกรรมการเรยี นรู้

7.ข้ันของกิจกรรม 8.ส่ือ 9.วิธีวัดผล

Do Now : (3 นาท)ี - ใบงาน Mind mapping - ประเมนิ ใบงาน Mind

“ยกตวั อย่างสารเคมใี นชีวติ ประจำวนั มาคนละ 1 อย่าง” เร่ือง ปฏิกริ ิยาเคมี mapping เรือ่ ง ปฏกิ ริ ยิ า

Purpose : (2 นาที ) เคมี

เราจะเรยี น เรื่อง การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี เพอื่ ใหน้ ักเรียนสามารถอธบิ ายการเกดิ ปฏิกริ ิยา - ใบงานตามแนวทาง PISA

เคมีได้ เร่ือง ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในดอกไม้ - ประเมินใบงานตาม

Work mode (110 นาท)ี ไฟ แนวทาง PISA เรอ่ื ง

1.นักเรยี นศึกษาเรอ่ื งการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี โดยสืบคน้ ข้อมลู จากบทเรียนออนไลนแ์ ละ ปฏกิ ิริยาเคมใี นดอกไม้ไฟ

อินเตอร์เนต็ (พอเพยี ง3 : การมภี มู ิค้มุ กนั ทีด่ )ี (25นาที) - บทเรียนออนไลน์ เร่อื ง การ

3. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ “ปฏิกริ ยิ าเคมี หมายถึงอะไร?/สารใหม่ที่เกดิ ขึน้ เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี

หลงั ปฏิกิรยิ าเคมี เรยี กว่าอะไร? (10 นาท)ี

4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันระดมความคิดเพ่อื สรปุ องค์ความรใู้ นรปู แบบผังมโนทศั น์ ลง

ในใบงาน Mind mapping (คิด 9:คดิ เชิงมโนทัศน)์ (สมรรถนะท่ี 4) (25 นาท)ี

5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน Mind mapping เรอ่ื ง

ปฏิกริ ิยาเคมี ทหี่ นา้ ช้นั เรยี นกลุม่ ละ 3 นาที (15 นาที)
6. นักเรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เรือ่ ง ปฏิกิริยาเคมีในดอกไมไ้ ฟ (15 นาท)ี

7. นักเรียนและครรู ่วมกนั เฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง ปฏิกริ ยิ าเคมใี นดอกไมไ้ ฟ

(10 นาท)ี


8.นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ องคค์ วามรูจ้ ากบทเรยี น โดยตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

“สารต้ังต้น และสารผลิตภณั ฑ์ ในปฏกิ ริ ิยาเคมี มคี วามสมั พนั ธก์ ันอย่างไร?/เพราะเหตุ

ใด นำ้ เดือดกลายเป็นไอ ไมจ่ ดั วา่ เปน็ ปฏิกริ ยิ าเคมี?(10นาท)ี

Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิ่งทน่ี กั เรยี นไดร้ ับ จากการเรยี นในวนั นี?้ (2 นาที)
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาที)


ใบงาน Mind mapping ปฏิกิรยิ าเคมี

คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มระดมความคิดเพ่ือสรุปองค์ความรู้ เกี่ยวกับเร่อื งปฏิกิรยิ าเคมี ในรูปแบบ
ของ Mind mapping


ใบงานตามแนวทาง PISA เรือ่ ง ปฏกิ ิริยาเคมใี นดอกไม้ไฟ

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
ว2.1 ม.3/3 อธบิ ายการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี รวมถึงการจดั เรียงตวั ใหมข่ องอะตอมเม่ือการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี โดยใช้แบบจำลองและ
สมการข้อความ

ปฏิกิรยิ าเคมีในดอกไม้ไฟ

ปฏกิ ริ ิยาที่เกดิ ขึ้นกบั ดอกไม้ไฟทีส่ วยงาม เปน็ การระเบิด
ของสารเคมี ทำให้ เหน็ สีสันทีส่ วยงาม เปน็ ปฏกิ ิรยิ าทเ่ี กดิ ขนึ้ อย่าง
รวดเรว็ รนุ แรงและเปน็ อันตราย เพราะมีการคายพลงั งานออกมา
แสงสีท่เี กดิ ข้ึนจากดอกไมไ้ ฟนับเปน็ หัวใจสำคญั ท่ี
ดงึ ดูดความสนใจให้ทุกสายตาตอ้ งจบั จ้องมาที่การแสดงน้ี กระบวนการเกิดแสงสีท่เี กิดขน้ึ เกิดมา
จากปรากฏการณ์ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นเร่ืองของ Atomic emission spectroscopy หรอื การปลดปล่อย
แสงจากอะตอม ซงึ่ มีกลไกการเกิดขึ้นดังนี้ เมอ่ื อะตอมไดร้ ับพลังงานในรปู ของความร้อน อเิ ลก็ ตรอนจะถูกกระตนุ้
จากสภาวะพืน้ (ground state) ข้นึ ไปสสู่ ภาวะเร้า (excited state) ซงึ่ มรี ะดับพลงั งานสูงกว่า อะตอมจะไมค่ ง
สภาพอยู่ในระดบั นเี้ นื่องจากมพี ลงั งานสูงเกินไปจึงลดระดับพลงั งานของอิเล็กตรอนมาสู่ระดบั พลงั งานท่ีต่ำกวา่
ในขณะเดียวกนั พลงั งานส่วนตา่ งทเ่ี กดิ จากการลดระดบั พลังงานจะถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของคล่ืน
แม่เหลก็ ไฟฟา้ พลงั งานท่ีปลดปลอ่ ยออกมาจากการเปล่ยี นสถานะของอิเล็กตรอนในอะตอมจะเปน็ ค่าเฉพาะของ
ธาตแุ ต่ละชนดิ ดังนั้นสที ่ีปรากฏในดอกไม้ไฟสตี า่ งๆ จึงเกดิ จากการปลดปล่อยแสงจากอะตอมของธาตตุ ่างชนดิ กนั
เชน่ สแี ดง จาก สตรอนเชียม (Sr) และ ลิเธยี ม (Li) สีสม้ จาก แคลเซยี ม (Ca) สีเหลือง จากโซเดยี ม (Na)
สเี ขยี ว จาก แบเรยี ม (Ba) สฟี า้ จาก ทองแดง (Cu) สมี ว่ ง จาก สตรอนเชียมผสมกับทองแดง
ในการเลอื กใชธ้ าตชุ นิดตา่ งๆ เปน็ ตัวกำเนิดสีในดอกไม้ไฟนยิ มใชเ้ กลือคลอไรด์ของธาตชุ นิดน้นั ๆ เช่น
แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2) และแบเรียมคลอไรด์ (BaCl2) เน่อื งจากอะตอมของคลอรนี มีสว่ นชว่ ยในการเพม่ิ ความ
เข้มให้กับสที ไี่ ด้จากอะตอมของโลหะ นอกจากการเลอื กใช้สารเคมใี นการสรา้ งสีสันให้กับดอกไม้ไฟแล้ว การ
ออกแบบสว่ นประกอบของดอกไม้ไฟถือเปน็ สงิ่ สำคญั อกี ประการหนง่ึ ท่ีจะทำให้ดอกไมไ้ ฟทจ่ี ุดขึ้นสู่ท้องฟ้ามรี ปู แบบ
ตามท่ีต้องการ ส่วนประกอบของดอกไมไ้ ฟประกอบดว้ ย 4 ส่วนหลกั คอื ภาชนะบรรจุ, เม็ดดาว, เชื้อปะทุ
ระเบิด และ ชนวน


ภาชนะบรรจจุ ะแบ่งออกเปน็ สองส่วนยอ่ ย คือ ส่วนของฐาน (lift charge) ท่ที ำหน้าทีน่ ำดอกไม้ไฟข้นึ ส่ทู ้องฟา้ ก่อน
การจุดระเบิด และส่วนของตัวดอกไม้ไฟที่มีชนวนหนว่ งเวลา (time fuse) ที่ทำหน้าที่ควบคมุ การระเบดิ ทีร่ ะดับ
ความสูงตามต้องการ

เมื่อชนวนบริเวณฐานถูกจุดขน้ึ
ขน้ั ที่ 1) ตวั ของดอกไม้ไฟจะพุ่งทะยานข้นึ สู่ทอ้ งฟา้ ในขณะเดยี วกนั ชนวนหน่วงเวลาจะถูกจุดขึ้น ระหว่าง

นัน้ ความยาวของชนวนหนว่ งเวลา จะเป็นตวั กำหนดระดับความสูงของการระเบดิ
ขน้ั ท่ี 2) เมอ่ื ชนวนหน่วงเวลาถูกเผาไหม้จนหมดจะทำใหเ้ กิดการระเบิดของเช้ือปะทุ ระเบิด (burst charge) ที่

บรรจุอยภู่ ายในตัวดอกไม้ไฟ ส่งผลให้เม็ดดาว (stars) ท่ีถูกเรยี งตามรปู แบบท่ตี อ้ งการเกิดการระเบดิ ข้ึนอีกต่อหน่งึ
ข้นั ท่ี 3) ภายในเมด็ ดาว หรอื stars จะประกอบไปดว้ ยเชื้อเพลิงและสารเคมชี นดิ ต่างๆ ท่ีรอทำปฏิกิรยิ า

ภายหลังการระเบิด เม่ือเชือ้ เพลงิ ภายในเม็ดดาวลุกติดไฟจะมี การถ่ายเทอิเล็กตรอนไปยังตัวออกซิไดซ์ (oxidizer)
ซงึ่ เป็นสารประกอบเปอร์คลอเรท และเกิดแก๊สออกซเิ จน เป็นผลิตภัณฑด์ งั สมการ (1)
.

.
ออกซิเจนที่เกิดขึ้นจะทำหน้าทใ่ี นการออกซิไดซซ์ ัลเฟอรแ์ ละคารบ์ อนในเม็ดดาวเพื่อใหเ้ กิดแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์
และคาร์บอนไดออกไซด์อุณหภมู สิ ูงออกมา ดงั สมการที่ (2)

.
สมการที่ (3) ความร้อนทีเ่ กิดขน้ึ จากแกส๊ ทั้งสองชนิดน้จี ะทำใหส้ ารเคมีท่หี นา้ หน้าท่เี ปน็ ตัวเกดิ สปี ลดปลอ่ ยแสง
ออกมาเกิดเปน็ ดอกไม้ไฟทีม่ ีสีสนั และรูปแบบตามตอ้ งการนั่นเอง

.


แม้ว่าการจุดดอกไมไ้ ฟในแต่ละครง้ั จะเกดิ ข้นึ ในช่วงระยะเวลาช่วั พริบตา แต่กลไกและปฏกิ ิรยิ าเคมีท่ี
เกดิ ข้ึนภายในนั้นต้องผา่ นการคิดคน้ และพัฒนามาเปน็ ระยะเวลาอันยาวนานจนทำให้ดอกไม้ไฟบางลูกมรี าคาถึง
หลักล้านเลยทเี ดยี ว

ท่มี า : https://sites.google.com/site/ptikiriyakabkhemi/-ptikiriya-ni-dxkmi-fi


คำถามที่ 1 (1 คะแนน)

สฟี ้า ของดอกไม้ไฟ เกดิ จากการปลดปลอ่ ยอะตอมของธาตุใด

1. ลิเธยี ม 2. สตรอนเชียม

3. แบเรยี ม 4. ทองแดง

คำถามที่ 2 (2 คะแนน)

จากถ้อยความ ดอกไม้ไฟ ประกอบด้วยส่วนประกอบอะไรบา้ ง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

คำถามที่ 3

จากข้อมูล ขอ้ ความต่อไปนี้ เปน็ ความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน)

ข้อความท่เี ปน็ ความจริง ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่

ข้อความท่ีไม่เป็นความจริง ให้ทำเคร่อื งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช”่

ขอ้ ความ ใช่ ไมใ่ ช่

1) กระบวนการเกดิ แสงสีของดอกไม้ไฟ เกิดมาจากปรากฏการณ์ของ Atomic emission X

spectroscopy

2) เมือ่ อะตอมได้รบั พลังงานในรปู ของความร้อน อเิ ล็กตรอนจะถูกกระตุ้นจากสภาวะพื้น ขึ้นไปสู่ X

สภาวะเรา้ ซงึ่ มีระดบั พลงั งานตำ่ กวา่

3) พลังงานสว่ นตา่ งทเ่ี กดิ จากการลดระดับพลังงานของอเิ ล็กตรอนจะถูกปลดปลอ่ ยออกมาในรูปของ X

คลน่ื แสง

4) ออกซเิ จนที่เกดิ ขนึ้ จะทำหน้าทีใ่ นการออกซิไดซ์ซัลเฟอร์และคารบ์ อนในเม็ดดาวเพ่ือให้เกิด X

แกส๊ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และคารบ์ อนไดออกไซด์อุณหภมู ิสงู ออกมา ดังสมการ

O2(g) + C CO2(g)


คำถามท่ี 1 คะแนนเต็ม 1 คะแนน เฉลยและเกณฑ์การใหค้ ะแนน ไมม่ คี ะแนน

ข้อ 4. ทองแดง คำตอบอ่นื ๆ
คำถามที่ 2

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องโดยอ้างอิงจากถอ้ ยความ คอื
สว่ นประกอบของดอกไมไ้ ฟประกอบด้วย 4 ส่วนหลกั คอื ตอบคำถามไดถ้ กู ต้องบางสว่ น โดยบอก ตอบไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบ
ภาชนะบรรจุ, เมด็ ดาว, เชอื้ ปะทุระเบดิ และ ชนวน
สว่ นประกอบหลักในดอกไม้ไฟถกู ต้อง 3 สว่ น คำถาม

คำถามท่ี 3
จากข้อมลู ขอ้ ความต่อไปนี้ เป็นความจรงิ หรอื ไม่เปน็ ความจรงิ (2 คะแนน)

ข้อความท่ีเป็นความจรงิ ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในช่อง “ใช่”

ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่
X X
1) กระบวนการเกดิ แสงสีของดอกไมไ้ ฟ เกดิ มาจากปรากฏการณ์ของ Atomic emission spectroscopy X
X
2) เม่ืออะตอมได้รับพลังงานในรปู ของความรอ้ น อิเล็กตรอนจะถูกกระตุ้นจากสภาวะพื้น ข้นึ ไปสสู่ ภาวะเร้า
ซงึ่ มีระดบั พลังงานต่ำกวา่

3) พลังงานส่วนตา่ งทเ่ี กดิ จากการลดระดับพลงั งานของอเิ ล็กตรอนจะถกู ปลดปล่อยออกมาในรปู ของคล่ืน
แสง

4) ออกซิเจนท่ีเกดิ ขึ้นจะทำหน้าทใี่ นการออกซิไดซซ์ ลั เฟอรแ์ ละคารบ์ อนในเม็ดดาวเพ่ือใหเ้ กดิ แก๊สซลั เฟอร์

ไดออกไซดแ์ ละคาร์บอนไดออกไซด์อณุ หภมู สิ ูงออกมา ดังสมการ

O2(g) + C CO2(g)

ข้อความที่ไมเ่ ป็นความจริง ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในช่อง “ไม่ใช่”

คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่มคี ะแนน
ตอบถูกทงั้ 4 ขอ้ : ใช่ ไม่ใช่ ไมใ่ ช่ ไม่ใช่ ตอบถกู 3 ข้อ ตอบถกู 2-0 ข้อ

หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์


แบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Mind mapping

ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล รปู แบบ เน้ือหา นำเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สรปุ ผลการ
ของผูร้ ับการ สวยงาม เวลา ประเมิน ผา่ น/
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 คะแนน
ประเมิน ไม่ผ่าน

ลงชื่อ ....................................................ผูป้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นักเรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Mind mapping

เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)

เนอ้ื หา - เขียนความคิดรวบยอดหลกั - เขียนความคดิ รวบยอด - เขียนความคิดรวบยอดหลัก - เขยี นความคดิ รวบยอดหลัก

การนำเสนอ ไวต้ รงกลาง หลักไวต้ รงกลาง ไว้ตรงกลาง ไว้ตรงกลาง

- มกี ิง่ แก้ว ก่งิ กอ้ ย และกิง่ - มีกงิ่ แกว้ กง่ิ ก้อย และก่งิ - มีกง่ิ แกว้ กิ่งกอ้ ย และก่งิ - มีกงิ่ แกว้ ขาดกิ่งก้อย แต่

ย่อยตามลำดับ ยอ่ ยตามลำดบั ยอ่ ยตามลำดับ ขาดก่งิ ยอ่ ย

- ตัวหนังสอื อยบู่ นเส้น - ตวั หนงั สอื อยบู่ นเส้น - ใช้สสี นั ทัว่ แผน่ - ใชส้ ีสนั ไมท่ ่วั แผ่น

- ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น

- ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพสือ่ - ใชส้ ีสันทั่วแผน่

ความหมาย

- ใชส้ สี นั ทว่ั แผน่

- เนือ้ หาครบถ้วนตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระที่ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระที่ - เนือ้ หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี

กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ วา่ 59%

- เขียนถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลักภาษา

100% 80-99% 60-79% ตำ่ กว่า 59%

- ลำดับหัวข้อเนือ้ หาชดั เจน - ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหาชัดเจน - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล

- มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มีการสรุปได้อยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% ตำ่ กว่า 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

- พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชัด - พูดชดั เจนเสยี งดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

อกั ขระ100% อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระต่ำกวา่ 59%

- บุคลิกภาพดีและมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม

มน่ั ใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ

- มกี ารใชส้ ่ือประกอบการ ได้บางสว่ น

นำเสนอ

- ความพร้อมในการนำเสนอ

ความสวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม - ใช้สีสนั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เปน็ ไป
- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ ง
การตรงตอ่ - มีความคิดสร้างสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ หนึ่ง
เวลา - ความเปน็ ระเบยี บอา่ นงา่ ย
สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่ สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากวา่

เวลาทีก่ ำหนด เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที เวลาทก่ี ำหนด 10 นาที เวลาทกี่ ำหนด 15 นาที


ขอ้ สอบ O-NET(2564) 1 ขอ้

(เฉลยตอบขอ้ ที่ 3 ธาตุ B สามารถนำไปผลติ เปน็ สารก่งึ ตัวนำที่ใชใ้ นโทรทศั น์ได)้


Click to View FlipBook Version