แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram
คาชีแ้ จง : ใหผ้ ้สู อนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน ใหท้ าเครื่องหมาย✔ลงในช่องรายการประเมินกาหนด
ความ สรุปผล
ช่ือ-สกลุ ความถกู ตอ้ ง ครอบคลุม สอดคลอ้ ง ตรงต่อเวลา ความสะอาด รวม การ
ของผรู้ ับการประเมิน ของเน้ือหา เน้ือหา และเช่ือมโยง 4 เรียบร้อย ประเมิน
ลาดบั ที่ ของเน้ือหา 20
4 4 4 คะแนน ผา่ น/ไม่
4
ผา่ น
4321 43214 32 1 4321 4321
ประเมิน ลงชื่อ
.................................................... ผู้
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง
นกั เรียนไดร้ ะดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Diagram
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
รูปแบบ - มีหัวข้อท่ชี ดั เจน - มหี ัวข้อทีช่ ัดเจน - มหี วั ขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวข้อทช่ี ดั เจน
- เขียนอยู่ในกรอบ - เขยี นอยูใ่ นกรอบ - เขียนอยู่ในกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ
- ใชค้ ำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเดน็
- ใชส้ ัญลักษณ์หรอื ภาพสื่อ - ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพสอื่
ความหมาย ความหมาย
- ใช้สสี นั ทว่ั แผน่
เนือ้ หา - เนื้อหาครบถว้ นตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่ - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระที่ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระที่
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำกว่า 59%
- เขียนถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา
100% 80-99% 60-79% ต่ำกว่า 59%
- ลำดบั หัวข้อเนอื้ หาชัดเจน - ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหาชดั เจน - มกี ารสรุปไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตสุ มผล
- มีการสรุปได้อยา่ ง - มีการสรปุ ได้อย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ต่ำกวา่ 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชดั เจนเสียงดังฟังชดั - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
อักขระ100% อกั ขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระตำ่ กว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
ม่นั ใจ - ความพร้อมในการนำเสนอ
- มกี ารใชส้ อ่ื ประกอบการ ไดบ้ างส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ความสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมคี วาม - ใชส้ สี นั สวยงามหรอื เปน็ ไป
- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ ง
- มคี วามคิดสร้างสรรค์ - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ หนึ่ง
- ความเป็นระเบยี บอ่านงา่ ย
การตรงตอ่ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กว่า สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่
เวลา เวลาทีก่ ำหนด เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที เวลาที่กำหนด 10 นาที เวลาทก่ี ำหนด 15 นาที
แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ
ขอ้ สอบ O-NETวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 .พ.ศ. 2560
กราฟแสดงข้อมลู การทานายระดบั นา้ ทะเลขนึ้ สูงสุดและระดบั นา้ ทะเลลงตา่ สุดในแต่ละวันของเดือนหนึ่ง เป็ นดังนี้
ตาแหน่งของดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ และโลกในภาพใดตอ่ ไปน้ี ทส่ี ่งผลใหเ้ กิดน้าข้นึ น้าลงดงั กราฟในวนั ท่ี 8
ก. ค.
ข. ง.
(เฉลย ง.)
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 36
ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ เอกภพ หน่วยย่อยที่ 4
เร่ือง การเกิดข้างขน้ึ -ขา้ งแรม เวลา 2 ชั่วโมง
วนั ท่ที ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผสู้ อน นายสุเวช สบื ปัญญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตัวช้วี ัด
ดวงจนั ทร์ ไม่มีแสงสว่างในตวั เอง ตาเราสามรถมองเหน็ แสงจากดวงจันทร์ ว 3.1 ม.3/3 สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายการเกดิ ขา้ งขึ้นขา้ งแรม การ
ได้ เพราะเปน็ แสงท่ีสะทอ้ นมาจากดวงอาทติ ย์ เมื่อดวงจันทร์โคจรรอบโลก เปลย่ี นแปลงเวลาการข้ึนและตกของดวงจันทร์ และการเกดิ นำ้ ขน้ึ นำ้ ลง
เราจึงมองเหน็ สว่ นสวา่ งของดวงจันทรแ์ ตกต่างกันไป เรียกปรากฏการณท์ ี่
มองเห็นดวงจนั ทรม์ เี สย้ี วสว่างแตกต่างกันว่า “ข้างขนึ้ ขา้ งแรม” ซงึ่ มี
ความสัมพันธ์กับการเปลย่ี นแปลงเวลาขนึ้ -ตกของดวงจนั ทร์
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน /ภาระงาน
- การเกดิ ขา้ งขนึ้ -ข้างแรม - ใบงานการทดลอง เรอื่ ง การเกดิ ข้างข้ึน-ข้างแรม
- ใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง ขา้ งขนึ้ -ขา้ งแรม
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 6. เคร่ืองมือการคิด
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - Six Thinking hats (White hat, Blue hat, Green hat)
กิจกรรมการเรียนรู้
7.ขนั้ ของกจิ กรรม 8.สอื่ 9.วธิ ีวัดผล
Do Now : (3 นาท)ี - ใบงานการทดลอง เร่ือง - ประเมนิ การทดลอง
“ยกตวั อยา่ งวันทพี่ ระจันทร์เต็มดวง มาคนละ 1 วนั ” การเกดิ ขา้ งขึ้น-ขา้ งแรม เรอ่ื ง การเกิดข้างข้ึน-
Purpose : (2 นาที ) - วสั ดุ อุปกรณ์และสารเคมี ข้างแรม
เราจะเรียนเร่ืองการเกดิ ขา้ งขึ้น-ขา้ งแรม เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสามารถอธบิ ายการเกดิ ขา้ งข้นึ ท่ีใชใ้ นการทดลอง เร่อื ง -ประเมินใบงานตาม
ข้างแรม และการเปล่ยี นแปลงเวลาการขึ้น-ตกของดวงจนั ทร์ได้ การเกิดข้างข้นึ -ขา้ งแรม แนวทาง PISA เร่อื ง
Work mode (110 นาท)ี - ใบงานตามแนวทาง PISA ข้างขึ้น-ขา้ งแรม
1. นกั เรียนศกึ ษาเร่ืองการเกดิ ข้างขนึ้ -ขา้ งแรม ในบทเรยี นออนไลน์ ซง่ึ หากนักเรยี นคนใด เร่ือง ข้างข้นึ -ขา้ งแรม
สงสัย สามารถสอบถามเพื่อใหค้ รอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ (พอเพยี ง3 : การมภี มู ิคมุ้ กันท่ดี )ี (30 - บทเรยี นออนไลน์ เรื่อง
นาที) การเกิดข้างขึน้ -ขา้ งแรม
2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ ตำแหนง่ ของดวงจันทร์ ในแต่ละวันเหมอื นเดิม
หรือไม่ อย่างไร?/ ดวงจันทร์ไมม่ แี สงสว่างในตวั เอง แตเ่ พราะเหตใุ ด เราสามารถมองเหน็
แสงจากดวงจันทรไ์ ด?้ (White hat) (5 นาที)
3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ฟงั ครูอธิบายการทดลอง เรื่อง การเกิดขา้ งขนึ้ -ข้างแรม (15 นาที)
4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันปฏบิ ตั ิกิจกรรมการทดลองตามใบงานการทดลอง เรอ่ื ง การ
เกดิ ขา้ งข้นึ -ขา้ งแรม (พอเพียง7: สงั คม) (สมรรถนะท่ี 4) (25 นาท)ี
5. นักเรยี นและครรู ่วมกันอภปิ รายการทดลอง และตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ “จากการ
ทดลอง ตวั แปรต้น ตัวแปรตามและตัวแปรควบคมุ คือสิง่ ใด?/ จากการทดลอง นกั เรียน
สามารถสรปุ การเกดิ ข้างข้นึ -ขา้ งแรม ไดว้ า่ อยา่ งไร? (White hat, Blue hat) (5 นาที)
6. นักเรยี นทำใบงานตามแนวทาง PISA เร่อื งขา้ งขน้ึ -ข้างแรม (15 นาที)
7. นักเรียนและครรู ่วมกันเฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื งข้างข้ึน-ข้างแรม (10 นาท)ี
8.นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปองคค์ วามรูจ้ ากบทเรยี น โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ
“การเกดิ ขา้ งขึน้ -ขา้ งแรม มคี วามสำคญั ตอ่ สง่ิ มชี วี ิตอย่างไร?/นกั เรยี นสามารถนำความรู้
เกยี่ วกับการเกดิ ข้างขน้ึ -ข้างแรม ปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยา่ งไร? (White hat, Green
hat) (5 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิง่ ทน่ี ักเรียนสามรถนำไปปรบั ใช้ จากการเรียนในวนั นี้? (2 นาที)
- ทำแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ (3 นาที)
ใบงานการทดลอง เร่ือง การเกดิ ขา้ งขึ้น-ข้างแรม
รายชอ่ื สมาชกิ
จุดประสงค์ เพือ่ ศึกษาทิศทางการเกิดขา้ งขึ้น-ขา้ งแรม
วัสดุอุปกรณ์และสารเคมี
1. ดินน้ำมันสีน้ำเงินและสเี หลอื ง อย่างละ 1 กอ้ น 2. ตะเกียบ 1 ข้าง
3. ไฟฉาย 1 กระบอก 4. เทปกาวสี 1 มว้ น
5. ตลับเมตร 1
วธิ ีการทดลอง
1. เตรียมดวงจันทรจ์ ำลอง โดยปั้นดนิ น้ำมนั ให้เป็นทรงกลมขนาดประมาณเท่าลูกเทนนิส โดยใหซ้ ีกหนึ่งเป็นสีน้ำเงนิ
อกี ซึกเป็นสเี หลือง แล้วเสยี บด้วยตะเกียบ
2. เขยี นวงกลมรัศมี 2 เมตร บนพ้ืนในห้องมดื จากนน้ั กำหนดตำแหน่งตา่ งๆ ดงั นี้
2.1 จดุ ศนู ยก์ ลางวงกลมเปน็ ตำแหน่งของโลก
2.2 ใชเ้ ทปกาวสกี ำหนดตำแหนง่ ตา่ งๆ บนเส้นวงกลม จำนวน 8 ตำแหน่ง
2.3 ใช้เทปกาวสกี ำหนดตำแหน่งของดวงอาทิตย์ โดยหา่ งจากตำแหนง่ ที่ 1 ออกไป 3 เมตร
3. ใหน้ กั เรียนคนหนึง่ ยืนอยตู่ รงตำแหน่งของโลกซึ่งเปรียบเสมือนผ้สู ังเกตอยู่บนโลก และใหน้ กั เรียนอีกคนอย่ใู น
ตำแหนง่ ที่ 1 ถือดวงจันทร์จำลองในระดบั สายตาของผสู้ ังเกต โดยหนั ดา้ นสเี หลืองเขา้ หาดวงอาทิตย์เสมอ
4. ใหผ้ ู้สงั เกตบนโลกสังเกตส่วนสว่างและส่วนมดื ของดวงจนั ทร์ และบันทึกลงในตารางบันทึกผลการทดลอง จากน้ัน
ใหน้ ักเรยี นทีถ่ ือดวงจันทรเ์ ปล่ียนตำแหนง่ ไปเร่ือยๆ จนครบ 8 ตำแหน่ง โดยต้องหันดวงจันทร์ดา้ นสีเหลอื งเข้าหาดวงอาทิตย์
เสมอ
สมมติฐาน (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ............................................
ตัวแปรต้น (1 คะแนน)
..........................................................................................................................................................................
ตวั แปรตาม (1 คะแนน)
............................................................................................................................. ...........................................
ตวั แปรควบคุม (1 คะแนน)
............................................................................................................................. ....................................
ตารางบันทึกผลการทดลอง (4 คะแนน)
วาดรูปลกั ษณะของดวงจันทร์ ทผี่ สู้ งั เกตบนโลกมองเหน็ จากตำแหน่งต่างๆ
ตำแหน่งที่ 1 ตำแหนง่ ที่ 2 ตำแหนง่ ท่ี 3 ตำแหนง่ ที่ 4
ตำแหน่งท่ี 5 ตำแหน่งท่ี 6 ตำแหน่งท่ี 7 ตำแหน่งที่ 8
สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ........................................................................
........................................................................................................................................................................................ .............
...................................................................................................................... ...............................................................................
คำถามทา้ ยการทดลอง
1. ดวงจันทร์ในวันข้างขึ้น มีลกั ษณะอย่างไร (1 คะแนน)
............................................................................................................................. ........................................................................
........................................................................................................................................................................................ .............
2. ดวงจันทร์ในวันข้างแรม มีลกั ษณะอย่างไร (1 คะแนน)
............................................................... ............................................................................................................................. .........
.......................................................................................................................... ...........................................................................
3. ตำแหน่งท่ี 1, 3, 5 และ 7 ในการทดลอง เปรยี บเสมอื นวนั ที่เท่าไรของปฏิทินจนั ทรคติ (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ........................................................................
........................................................................................................................................................................................ .............
...................................................................................................................... ...............................................................................
............................................................................................................................. ........................................................................
เฉลยและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานการทดลอง
สมมตฐิ าน ( 2 คะแนน)
คะแนนเต็ม 2 คะแนน ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องครบถว้ น คือ ถ้าการโคจรของดวงจนั ทร์รอบโลกทำ ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรอื ไมต่ อบคำถาม
ใหเ้ หน็ ลกั ษณะเสีย้ วของดวงจันทร์แตกต่างกัน ดงั นั้นผ้สู ังเกตจะมองเห็น
เส้ยี วของดวงจนั ทรจ์ ำลองในลักษณะท่ีแตกต่างกันในแตล่ ะตำแหน่ง
ตัวแปรต้น ( 1 คะแนน) ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง หรือไมต่ อบคำถาม
คะแนนเต็ม 1 คะแนน
ตอบคำถามได้ถกู ตอ้ ง คอื ตำแหน่งของดวงจนั ทร์ทีเ่ คล่อื นทร่ี อบโลก
ตัวแปรตาม ( 1 คะแนน) ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบคำถาม
คะแนนเต็ม 1 คะแนน
ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง คอื ลกั ษณะที่แตกตา่ งกันของเส้ียวดวงจนั ทรท์ คี่ นบนโลก
มองเหน็
ตวั แปรควบคุม ( 1 คะแนน)
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื ด้านสเี หลอื งของดวงจันทร์จำลองตอ้ งหนั เขา้ หาดวงอาทติ ย์ ตอบคำถามไม่ถูกตอ้ ง หรอื ไมต่ อบคำถาม
เสมอทง้ั 8 ตำแหน่ง
ตารางบนั ทึกผลการทดลอง (4 คะแนน)
วาดรูปลกั ษณะของดวงจันทร์ ท่ีผู้สังเกตบนโลกมองเหน็ จากตำแหน่งต่างๆ
ตำแหน่งท่ี 1 ตำแหนง่ ที่ 2 ตำแหน่งท่ี 3 ตำแหน่งที่ 4
ตำแหนง่ ที่ 5 ตำแหนง่ ท่ี 6 ตำแหนง่ ท่ี 7 ตำแหน่งท่ี 8
คะแนนเต็ม 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
วาดรูปลักษณะของดวง วาดรูปลกั ษณะของดวง วาดรปู ลักษณะของดวง วาดรูปลกั ษณะของดวง วาดรูปลกั ษณะของดวง
จนั ทร์ ทีผ่ ู้สงั เกตบนโลก จนั ทร์ ทผ่ี สู้ ังเกตบนโลก จันทร์ ท่ผี ้สู งั เกตบนโลก จันทร์ ท่ีผู้สงั เกตบนโลก จันทร์ ทีผ่ ู้สังเกตบน
มองเหน็ จากตำแหนง่ มองเห็นจากตำแหนง่ ตา่ งๆ มองเหน็ จากตำแหนง่ ตา่ งๆ มองเหน็ จากตำแหนง่ โลกมองเหน็ จาก
ตา่ งๆได้ถกู ต้องทง้ั 8 ไดถ้ กู ตอ้ ง 6-7 ตำแหนง่ ได้ถกู ตอ้ ง 4-5 ตำแหนง่ ตา่ งๆได้ถกู ต้อง 2-3 ตำแหน่งตา่ งๆได้
ตำแหน่ง ตำแหน่ง ถกู ตอ้ ง 0-1 ตำแหน่ง
สรุปผลการทดลอง (2 คะแนน)
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
สรุปผลการทดลองได้ถูกต้อง คือ ลกั ษณะของเสี้ยวสว่างของ สรปุ ผลการทดลองไดถ้ กู ต้องบางสว่ น ตอบคำถามไม่ถกู ต้อง
ดวงจนั ทรใ์ นตำแหน่งตา่ งๆ ทงั้ 8 ตำแหนง่ เปรยี บเสมอื น เช่น ลกั ษณะของเสยี้ วสวา่ งของดวง หรอื ไมต่ อบคำถาม
ตำแหน่งของดวงจนั ทร์ในแต่ละชว่ งเวลาทีแ่ ตกตา่ งกนั ในรอบ 1 จนั ทรใ์ นตำแหนง่ ตา่ งๆ ท้งั 8 ตำแหน่ง
เดือน ซงึ่ คนบนโลกจะสงั เกตเห็นเส้ียวของดวงจันทร์แตกต่างกนั เปรียบเสมอื นตำแหนง่ ของดวงจันทรใ์ น
ออกไปในแต่ละช่วงเวลา หากเสย้ี วสวา่ งของดวงจนั ทรเ์ พม่ิ ขนึ้ แตล่ ะช่วงเวลาที่แตกตา่ งกันในรอบ 1
เรอ่ื ยๆ จนพระจันทรเ์ ต็มดวง เรียกวา่ “ข้างขึ้น” และเมอ่ื เส้ยี ว เดอื น ซึง่ คนบนโลกจะสงั เกตเห็นเสย้ี ว
สวา่ งของดวงจันทร์คอ่ ยๆลดลง จนมดื สนทิ ทง้ั ดวง เรยี กวา่ ของดวงจันทร์แตกตา่ งกนั ออกไปในแตล่ ะ
“ขา้ งแรม” ช่วงเวลา แต่ไม่ไดอ้ ธิบายวา่ สมั พนั ธ์กบั
ขา้ งข้ึน-ขา้ งแรม อย่างไร
คำถามท้ายการทดลอง
คำถามที่ 1
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง คือ คนบนโลกจะมองเหน็ เส้ียวสวา่ งของดวงจนั ทร์เพมิ่ ขนึ้ ตอบคำถามไมถ่ กู ต้อง หรือไม่ตอบคำถาม
เรอื่ ยๆ จนพระจนั ทรเ์ ต็มดวง
คำถามที่ 2
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามได้ถูกต้อง คอื คนบนโลกจะมองเห็นเสย้ี วสว่างของดวงจันทร์ลดลง ตอบคำถามไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบคำถาม
เรอ่ื ยๆ จนพระจนั ทรม์ ืดทัง้ ดวง
คำถามที่ 3
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกตอ้ งทงั้ 4 ตำแหนง่ คือ ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง 2-3 ตำแหน่ง ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง 0-1 ตำแหนง่
-ตำแหน่งท่ี 1 ผสู้ งั เกตจะเห็นดวงจนั ทร์มืดเต็มดวง
ตรงกบั วนั แรม 15 ค่ำ
-ตำแหน่งที่ 3 ผู้สังเกตจะเห็นดวงจันทรส์ วา่ งครงึ่ ดวง
โดยหนั เส้ียวสว่างไปทางทิศตะวนั ตก ตรงกับวนั ขนึ้
7-8 ค่ำ
-ตำแหนง่ ที่ 5 ผู้สงั เกตจะเห็นดวงจนั ทร์สวา่ งเตม็ ดวง
ตรงกบั วันขึ้น 15 ค่ำ
-ตำแหนง่ ท่ี 7 ผู้สังเกตจะเหน็ ดวงจันทรส์ ว่างคร่งึ ดวง
โดยหันเสยี้ วสวา่ งไปทางทิศตะวนั ออก ตรงกับวันขึ้น
7-8 ค่ำ
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
11-13 ดี
8-10 พอใช้
0-7 ปรับปรุง
แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ
ถ้าขึ้นไปอยบู่ นดวงจนั ทร์ดา้ นท่ีหนั เขา้ หาโลกในคนื ทค่ี นบนโลกเห็นเป็นวันเดอื นมืดแรม 15 คำ่ เราจะเหน็ โลกอย่างไร
ก. สวา่ งเตม็ ดวง
ข. สวา่ งครงึ่ ซีก
ค. สว่างเป็นเส้ยี ว
ง. มดื หมดดวง
(เฉลย ก. สวา่ งเต็มดวง )
สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ
ว3.1 ม.3/3 สร้างแบบจำลองทอ่ี ธบิ ายการเกดิ ขา้ งข้ึนข้างแรม การเปล่ยี นแปลงเวลาการขึ้นและตกของดวงจันทร์ และ
การเกดิ น้ำข้ึนนำ้ ลง
ทมี่ า : https://www.facebook.com/witsanook/photos/1040771449409684
คำถามท่ี 1 (1 คะแนน) 2. มแี สงสว่างในตวั เอง
ข้อใด กล่าวผิด เกี่ยวกับดวงจันทร์ 4. ไม่มสี ่งิ มชี ีวติ อาศยั อยู่
1. เปน็ บริวารของโลก
3. เป็นวตั ถุท่สี ว่างที่สุดในท้องฟา้ เวลากลางคืน
คำถามท่ี 2 (2 คะแนน)
จงวาดรูปแสดงตำแหนง่ ของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ ในวนั เดอื นดบั
คำถามที่ 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมลู ข้อความต่อไปนี้ เป็นความจรงิ หรอื ไมเ่ ป็นความจริง (2 คะแนน)
ข้อความทเ่ี ปน็ ความจริง ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในช่อง “ใช”่
ข้อความท่ีไมเ่ ป็นความจรงิ ใหท้ ำเคร่ืองหมาย X ในชอ่ ง “ไมใ่ ช่”
ข้อความ
1) ในแตล่ ะช่วงเวลา ดวงจนั ทร์จะได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ไม่เท่ากนั
2) วันที่ 18 ของคาบดวงจันทร์ เป็นวันขา้ งแรมแก่
3) หากวันน้ีดวงจันทรข์ นึ้ เวลา 18.00 น. แสดงวา่ เม่ือวานดวงจนั ทรข์ นึ้ เวลา 18.50 น.
4) หากเวลา 05.00 น. เรามองเหน็ ดวงจันทร์ แสดงวา่ เปน็ ช่วงขา้ งแรม
เฉลยและเกณฑก์ ารให้คะแนน
คำถามที่ 1
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่มีคะแนน
ขอ้ 2. มีแสงสวา่ งในตวั เอง คำตอบอ่นื ๆ ไมม่ คี ะแนน
วาดรปู ไมถ่ ูกตอ้ ง หรอื ไมว่ าดรูป
คำถามที่ 2
คะแนนเตม็ 2 คะแนน
วาดรูปแสดงตำแหนง่ ของดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ ในวันเดือนดบั ได้
ถูกต้อง โดยอ้างองิ จากถอ้ ยความ ดงั นี้
คำถามท่ี 3 ใช่ ไมใ่ ช่
จากข้อมลู ขอ้ ความต่อไปน้ี เปน็ ความจรงิ หรือ ไมเ่ ป็นความจริง (2 คะแนน) X
ขอ้ ความท่ีเป็นความจริง ใหท้ ำเครอื่ งหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่ X
ข้อความท่ีไมเ่ ป็นความจรงิ ใหท้ ำเครื่องหมาย X ในช่อง “ไมใ่ ช”่ X
X
ข้อความ
1) ในแต่ละชว่ งเวลา ดวงจนั ทร์จะไดร้ ับแสงจากดวงอาทิตย์ไมเ่ ท่ากัน ไม่มคี ะแนน
2) วนั ท่ี 18 ของคาบดวงจันทร์ เป็นวนั ขา้ งแรมแก่ ตอบถูก 2-0 ข้อ
3) หากวันน้ีดวงจนั ทรข์ นึ้ เวลา 18.00 น. แสดงวา่ เมือ่ วานดวงจันทร์ขึน้ เวลา 18.50 น.
4) หากเวลา 05.00 น. เรามองเห็นดวงจนั ทร์ แสดงวา่ เปน็ ชว่ งข้างแรม
คะแนนเตม็ 2 คะแนน 1 คะแนน
ตอบถูกทั้ง 4 ข้อ : ใช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ
หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 37
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ เอกภพ หน่วยย่อยที่ 4
เรอื่ ง เทคโนโลยอี วกาศ เวลา 1 ชว่ั โมง
วันท่ที ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผูส้ อน นายสเุ วช สบื ปัญญา
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตัวชวี้ ัด
เทคโนโลยีอวกาศ คอื เทคโนโลยที ่ีใช้สำรวจสง่ิ ต่างๆ ทอ่ี ย่นู อกโลกและ ว 3.1 ม.3/4 อธิบายการใชป้ ระโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ และ
สำรวจโลกของเรานอกอวกาศ และการศกึ ษาปรากฏการณต์ ่างๆ ในเอกภพ ยกตวั อย่างความกา้ วหน้าของโครงการสำรวจอวกาศ จากขอ้ มูลท่ี
รวบรวมได้
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชน้ิ งาน /ภาระงาน
- เทคโนโลยอี วกาศ - ใบงาน PMI เรือ่ ง เทคโนโลยอี วกาศ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6. เครอื่ งมอื การคิด
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - PMI
กิจกรรมการเรยี นรู้
7.ขั้นของกิจกรรม 8.สื่อ 9.วิธีวดั ผล
Do Now : (3 นาที) - ใบงาน PMI เร่ือง - ประเมนิ ใบใบงาน PMI
“บอกชื่อภาพยนตรท์ ี่เกี่ยวกบั อวกาศ มาคนละ 1 เรื่อง” เทคโนโลยอี วกาศ เร่อื ง เทคโนโลยอี วกาศ-
Purpose : (2 นาที ) - บทเรียนออนไลน์ เรือ่ ง
เราจะเรียนเรอ่ื ง เทคโนโลยีอวกาศ เพอื่ ใหน้ ักเรียนสามารถอธิบายการใช้ประโยชนข์ อง เทคโนโลยอี วกาศ
เทคโนโลยอี วกาศ และยกตวั อยา่ งความกา้ วหน้าของโครงการสำรวจอวกาศ จากข้อมลู ที่
รวบรวมได้
Work mode (50 นาที)
1. นักเรยี นศกึ ษาเร่ือง เทคโนโลยอี วกาศ ในหนว่ ยท่ี 5 เรอื่ งเอกภพ ในบทเรยี นออนไลน์
(พอเพียง3 : การมภี มู คิ ุม้ กนั ที่ด)ี (25 นาที)
3. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด “เทคโนโลยอี วกาศ คืออะไร?/เทคโนโลยีอวกาศ
ใด เกย่ี วข้องกับอาชีพประมง? (5 นาท)ี
4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั วเิ คราะหป์ ระโยชน์/ข้อด(ี P) ข้อจำกัด(M) และข้อเสนอแนะ(I)
เกีย่ วกบั เทคโนโลยีอวกาศ โดยทำลงในใบงาน PMI เร่อื ง เทคโนโลยอี วกาศ (คิด 3: คิด
วพิ ากษ)์ (สมรรถนะที่ 2) (PMI) (15 นาที)
5. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปรายข้อดี ขอ้ จำกัด และข้อเสนอแนะเก่ยี วกบั เทคโนโลยี
อวกาศ และสรปุ บทเรยี น โดยนกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคิด “เทคโนโลยอี วกาศมี
ประโยชน์ และข้อขอ้ จำกดั อย่างไรบ้าง และนกั เรยี นจะมวี ิธใี นการแก้ไขขอ้ จำกดั เหลา่ นั้น
อย่างไร? (5 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สงิ่ ทีน่ ักเรยี นสามารถได้รับ จากการเรยี นในวนั น้?ี (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาที)
ข้อสอบ O-NET (2559) 1 ข้อ
(เฉลยตอบขอ้ ท่ี 3 วงโคจรขา้ งฟา้ )
ใบงาน PMI เรือ่ ง เทคโนโลยีอวกาศ
คำคำชี้แจง ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ระดมความคิด โดยระบุประโยชน/์ ขอ้ ดขี องเทคโนโลยอี วกาศ ลงในช่อง (P) ข้อจำกัด
ของเทคโนโลยีอวกาศลงในชอ่ ง(M) และข้อเสนอแนะเกี่ยวกบั เทคโนโลยีอวกาศ ลงในชอ่ ง (I)
เทคโนโลยีอวกาศ
ประโยชน/์ ข้อดี ข้อจำกัด ขอ้ เสนอแนะ
(P) (M) (I)
สรุป
แบบประเมนิ ใบงาน PMI
คำช้แี จง : ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตามตาราง
แนบท้ายแบบประเมินใบงาน PMI
ลำดบั ที่ ชื่อ-สกลุ การแสดงความ เน้อื หา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงต่อเวลา รวม สรุปผลการ
ของผูร้ บั การประเมนิ คดิ เหน็ 20 คะแนน ประเมนิ ผา่ น/
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน )
( 4 คะแนน ) ไมผ่ ่าน
ลงชอื่ ....................................................ผูป้ ระเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรุง
นกั เรียนได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ )
ความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เห็นในช่อง P - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง P
- แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง P - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง P
ได้ 10 ข้อขน้ึ ไป ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เห็นในช่อง ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ข้อ - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง M
Mได้ 10 ข้อข้ึนไป - แสดงความคดิ เหน็ ในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง ได้ น้อยกว่า 7 ขอ้
- แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง I - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง I
M ได้ 9-10 ขอ้ M ได้ 7-8 ข้อ
ได้ 10 ข้อข้นึ ไป ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
- แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง I - แสดงความคดิ เห็นในช่อง I
ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ข้อ
เน้ือหา - เน้ือหาครบถ้วนตามสาระท่ี - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เนือ้ หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระที่
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดตำ่ กวา่ 59%
การนำเสนอ
- เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา
ความสวยงาม 100% 80-99% 60-79% ตำ่ กว่า 59%
การตรงต่อ
- ลำดบั หัวข้อเนื้อหาชดั เจน - ลำดับหวั ข้อเนือ้ หาชัดเจน - มีการสรปุ ไดอ้ ย่าง - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผลตำ่
เวลา - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มีการสรปุ ได้อยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% กวา่ 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99% - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - พดู ชดั เจนเสยี งดงั ฟังชดั - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม
- ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม
อกั ขระ60-79% อักขระตำ่ ว่า 59%
อักขระ100% อกั ขระ80-99% - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- บุคลิกภาพดีและมีความ - บคุ ลิกภาพดี
- ความพร้อมในการนำเสนอ - ใชส้ สี ันสวยงามและมคี วาม - ใช้สีสันสวยงามหรือเป็นไป
มัน่ ใจ สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอย่างหน่งึ
- มีการใชส้ ื่อประกอบการ ได้บางส่วน
สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กว่า สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กวา่
นำเสนอ - ใชส้ สี นั สวยงาม เวลาที่กำหนด 10 นาที เวลาทีก่ ำหนด 15 นาที
- ความพรอ้ มในการนำเสนอ - มคี วามสะอาด
- ใชส้ ีสันสวยงาม - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
- มีความสะอาด
- มีความคดิ สร้างสรรค์ ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กว่า
- ความเป็นระเบยี บอ่านง่าย เวลาท่กี ำหนด 5 นาที
ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม
เวลาท่กี ำหนด
แผนจดั การเรยี นรทู้ ่ี 38
ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ เอกภพ หน่วยย่อยท่ี 4
เร่ือง ความก้าวหน้าทางการศึกษาด้านอวกาศ เวลา 2 ชว่ั โมง
วันท่ที ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผสู้ อน นายสเุ วช สบื ปญั ญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตัวชวี้ ัด
ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยีอวกาศในปัจจุบันเป็นไปอย่างรวดเร็ว ว 3.1 ม.3/4 อธิบายการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ และ
เนื่องจากมเี ทคโนโลยที ีท่ นั สมยั มากขึน้ ซ่ึงเราสามารถตดิ ตามขอ้ มลู เหล่านี้ ยกตวั อย่างความก้าวหนา้ ของโครงการสำรวจอวกาศ จากข้อมูลท่ี
ได้ผา่ นข้อมูลขา่ วสารตามแหล่งขอ้ มลู ต่างๆ รวบรวมได้
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิน้ งาน /ภาระงาน
- ความกา้ วหนา้ ทางการศึกษาด้านอวกาศ - ใบงาน เรอื่ ง ความกา้ วหน้าทางการศกึ ษาด้านอวกาศ
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เคร่อื งมือการคดิ
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - Six thinking hat (White hat)
กจิ กรรมการเรียนรู้
7.ขั้นของกิจกรรม 8.สอื่ 9.วิธวี ดั ผล
Do Now : (3 นาที) - ใบงาน เรอ่ื ง - ประเมินใบงาน เร่อื ง
“บอกชอ่ื ภาพยนตรท์ เี่ ก่ยี วกับอวกาศ มาคนละ 1 เร่อื ง” ความก้าวหน้า ความก้าวหน้าทางการ
Purpose : (2 นาที ) ทางการศกึ ษาดา้ น ศกึ ษาด้านอวกาศ
เราจะเรียนเร่อื งความกา้ วหนา้ ทางการศึกษาดา้ นอวกาศ เพ่ือบอกสงิ่ ท่ีนักวทิ ยาศาสตรต์ อ้ งศึกษาเมอื่ อวกาศ
เดนิ ทางออกนอกโลกและอธิบายคาบของการโคจรและความเร็วในวงโคจรได้
Work mode (50 นาท)ี
1. นกั เรยี นฟังครูทบทวนประสบการณเ์ ดมิ โดยใหน้ กั เรยี นเขยี นคำตอบในกระดาษทค่ี รเู ตรยี มให้ โดย
เข้าใจปัญหา/หาสาเหต/ุ หาแนวทางแกไ้ ขอยา่ งมเี หตุ (คดิ 5:คดิ แก้ปญั หา) (15นาท)ี ดงั นี้ 1.1
ปัญหาท่ีพบเมอ่ื ต้องการเดนิ ทางไปในอวกาศ 1.2 วิธกี ารแกไ้ ข
2. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน จากนั้นใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มทำกจิ กรรม เร่ืองความก้าวหนา้ ทาง
การศึกษาด้านอวกาศ ในใบงาน โดยการมกี ารพจิ ารณาไตรต่ รองอยา่ งรอบคอบจากหลกั เกณฑห์ รือ
หลกั ฐานทีเ่ ช่อื ถือได้ (คิด4:คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ) (30นาท)ี
3. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นก่อนทำกิจกรรมโดยครูถามคำถามโดยใช้เครอ่ื งมอื การคิด
(White hat)โดยใชห้ ลกั การและเหตผุ ล ได้ (คดิ 4:คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ)(10นาท)ี
ดงั น้ี 3.1 ปัญหาของการทำกจิ กรรมนค้ี อื อะไร 3.2 นกั เรยี นคดิ วา่ ในปัจจบุ นั ความรทู้ างดา้ น
วิทยาศาสตร์มีความสำคญั ตอ่ การพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศหรือไม่
4. นกั เรยี นทำกจิ กรรม เรอ่ื ง ความก้าวหนา้ ทางการศกึ ษาด้านอวกาศ และบนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม
(25นาที)
5. ผ้แู ทนนกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอผลการทำกิจกรรม เร่อื ง ความกา้ วหน้าทางการศกึ ษา
ด้านอวกาศ หน้าช้นั เรยี น (20 นาท)ี
6. นักเรียนรว่ มกนั สรุปผลการทำกิจกรรมเกยี่ วกบั ความกา้ วหนา้ ทางการศึกษาด้านอวกาศ (10 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สิ่งที่นกั เรียนสามารถไดร้ ับ จากการเรียนในวนั น?้ี (2 นาที)
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาท)ี
แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ข้อ
ถ้าประเทศไทยต้องการสำรวจสภาวะแวดล้อมทเี่ ปล่ยี นแปลงไป ตอ้ งใชบ้ ริการของดาวเทียมระบบใด
ก. ดาวเทียมสื่อสาร
ข. ดาวเทียมอุตนุ ิยมวทิ ยา
ค. ดาวเทียมสังเกตการณ์ดาราศาสตร์
ง. ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก
(เฉลย ง. ดาวเทยี มสำรวจทรัพยากรโลก)
ใบงาน เรอ่ื ง ความกา้ วหน้าทางการศึกษา
ด้านอวกาศ
รายช่ือกล่มุ
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ปฏบิ ัติ ดงั นี้
1. อ่านวิธีทำกิจกรรมการทดลองให้เขา้ ใจ
2. ตอบคำถามก่อนทำกจิ กรรม
3. ทำกจิ กรรมและบันทกึ ผล
4. ตอบคำถามหลงั ทำกิจกรรม
กจิ กรรม ความกา้ วหนา้ ทางการศกึ ษาดา้ นอวกาศ
วธิ ที ำ
1. สบื คน้ ข้อมูลเกย่ี วกบั การศกึ ษาและความก้าวหนา้ ดา้ นอวกาศในประเดน็ ต่าง ๆ ดงั นี้
1.1 ประวตั ิการสง่ ยานอวกาศ
1.2 ความรูว้ ทิ ยาศาสตร์พื้นฐานกับการพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศ
1.3 ผลความกา้ วหนา้ ดา้ นอวกาศ
2. อภิปรายภายในกลมุ่ แลว้ นำเสนอผลการอภิปรายหน้าชนั้ เรียน
คาถามกอ่ นทากจิ กรรม
ปญั หา
1. ปัญหาของการทำกิจกรรมน้ีคืออะไร
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
สมมุติฐาน
2. นกั เรียนคดิ วา่ ในปจั จบุ นั ความรู้ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรม์ คี วามสำคญั ต่อการพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศหรอื ไม่
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
3. นกั เรียนคิดว่า การศึกษาด้านอวกาศมคี วามก้าวหน้าหรอื ไม่ อยา่ งไร
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
บันทกึ ผลการทา
กจิ กรรม
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
คาถามหลงั ทากจิ กรรม
แปลความหมายและสรปุ ผล
1. การส่งยานอวกาศมีประวัตอิ ยา่ งไร
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
2. การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศเกยี่ วข้องกบั ความรูว้ ทิ ยาศาสตรพ์ นื้ ฐานหรอื ไม่ อย่างไร
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
3. การศกึ ษาด้านอวกาศมีความกา้ วหนา้ หรอื ไม่ อย่างไร
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
4. จงสรปุ ผลการทำกจิ รรม
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................................
เฉลยและเกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานการทดลอง
ปญั หา ( 2 คะแนน)
คะแนนเต็ม 2 คะแนน ไมไ่ ดค้ ะแนน
ตอบคำถามได้ถูกตอ้ งครบถว้ น คอื ระบุปัญหาของการทดลอง ตอบคำถามไม่ถูกตอ้ ง หรือไมต่ อบคำถาม
สมมติฐาน ( 2 คะแนน)
คะแนนเต็ม 2 คะแนน ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามได้ถูกตอ้ งครบถว้ น ตอบคำถามไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไม่ตอบคำถาม
กิจกรรม ( 2 คะแนน) ไม่ได้คะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรอื ไมต่ อบคำถาม
คะแนนเตม็ 2 คะแนน
ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง คือ ตำแหน่งของดวงจนั ทรท์ เี่ คลอื่ นท่ีรอบโลก
คำถามท่ี 1
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง คือ เกี่ยวกับประวตั ขิ องการส่งยานอาวกาศ ตอบคำถามไม่ถูกตอ้ ง หรือไม่ตอบคำถาม
คำถามที่ 2
คะแนนเต็ม 1 คะแนน ไม่ไดค้ ะแนน
ตอบคำถามไดถ้ ูกตอ้ ง คอื เก่ียวข้องกบั การพฒั นาเทคโนโลยอี วกาศกบั ความรู้ ตอบคำถามไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไมต่ อบคำถาม
วิทยาศาสตรพ์ ้นื ฐาน
คำถามที่ 3
คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
ตอบคำถามได้ถกู ตอ้ ง คอื การศกึ ษาด้านอวกาศมีความก้าวหน้า อยา่ งครบถว้ น ตอบคำถามไมถ่ ูกตอ้ ง หรอื ไมต่ อบคำถาม
สรปุ ผลการทดลอง (2 คะแนน)
คะแนนเต็ม 2 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
สรุปผลการทดลองได้ถูกตอ้ ง ตอบคำถามไมถ่ กู ต้อง หรอื ไมต่ อบคำถาม
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
11-10 ดีมาก หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
9-8 ดี
7-6 พอใช้
5-0 ปรบั ปรุง
แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 39
ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ เอกภพ หนว่ ยยอ่ ยที่ 4
เร่อื ง ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ เวลา 1 ชว่ั โมง
วันท่ที ำการสอน.........................เดือน............................พ.ศ................. ผสู้ อน นายสเุ วช สบื ปญั ญา
1. สาระสำคัญ 2. มาตรฐานตัวชี้วดั
ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยีอวกาศเทคโนโลยอี วกาศ เชน่ ดาวเทยี ม ว 3.1 ม.3/4 อธิบายการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ และ
สื่อสาร ดาวเทียมอตุ ุนยิ มวทิ ยา ทำใหเ้ ราสามารถดูการถ่ายทอดสดกฬี า ยกตวั อย่างความกา้ วหนา้ ของโครงการสำรวจอวกาศ จากขอ้ มลู ท่ี
หรือสามารถพยากรณอ์ ากาศไดล้ ว่ งหนา้ เปน็ ตน้ รวบรวมได้
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชน้ิ งาน /ภาระงาน
- ประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ - ใบงาน Mind mapping เรอื่ ง ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 6. เครือ่ งมือการคิด
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ - Mind mapping - Six thinking hats (White hat)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.ขน้ั ของกจิ กรรม 8.สอื่ 9.วธิ ีวัดผล
Do Now : (3 นาท)ี - Power Point เร่อื ง - ประเมิน ใบงาน Mind
“บอกช่อื ดาวเทียม มาคนละ 1 ชื่อ” ประโยชน์ของเทคโนโลยี mapping เรอื่ ง
Purpose : (2 นาที ) อวกาศ ประโยชนข์ องเทคโนโลยี
เราจะเรียนเรื่อง ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ เพ่ือให้นกั เรียนสามารถอธบิ ายการใช้ - บทเรยี นออนไลนเ์ ร่ือง อวกาศ
ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศได้ เร่ือง ประโยชนข์ อง
Work mode (50 นาท)ี เทคโนโลยอี วกาศ
1. นักเรยี นตอบคำถาม “ ประโยชนข์ องดาวเทยี มมอี ะไรบ้าง ”(White hat) (5 นาที) - ใบงาน Mind mapping
2. นกั เรยี นสืบค้นขอ้ มลู เกยี่ วกับประโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศ โดยศึกษาจาก เร่อื ง ประโยชน์ของ
อนิ เทอร์เนต็ เรอ่ื ง ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศและสรปุ ความรู้ในรูปแบบผงั มโนทศั น์ลง เทคโนโลยอี วกาศ
ในใบงาน Mind mapping เรอื่ งประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ (คดิ 9:คิดเชงิ มโนทัศน)์ ()
(สมรรถนะที่ 1) (พอเพยี ง 2 ความมีเหตผุ ล) (35 นาที)
3. นักเรยี น(ตัวแทนโดยการสมุ่ )ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน และอภิปรายผลงาน
รว่ มกัน (คดิ 3 : คดิ วพิ ากย์) (สมรรถนะที่ 3) (20 นาที)
4. นักเรียนฟังครูอธิบายเนื้อหาเพม่ิ เตมิ เรือ่ ง ประโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศ โดยใชส้ ื่อ
Power point เร่ืองประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ 15 นาที)
5. นักเรยี นและครู รว่ มกนั สรปุ ประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ ( 10 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี
- 1 สงิ่ ทีน่ ักเรียนสามารถได้รับ จากการเรียนในวันน?้ี (2 นาท)ี
- ทำแนวข้อสอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาที)
ใบงาน Mind mapping เร่อื ง
ง ประโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศ
คำชี้แจง : แบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping
ใหผ้ ูส้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กำหนดตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมิน
ใบงาน Mind mapping
ลำดับที่ ชือ่ -สกลุ รปู แบบ เนอ้ื หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ของผ้รู ับการ สวยงาม ประเมิน ผา่ น/ไม่
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 คะแนน
ประเมนิ ผา่ น
ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมิน
................/................/................
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรงุ
นกั เรียนไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้ึนไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
รปู แบบ - เขียนความคิดรวบยอดหลกั - เขยี นความคดิ รวบยอด - เขียนความคดิ รวบยอดหลกั - เขยี นความคิดรวบยอดหลัก
ไว้ตรงกลาง หลกั ไวต้ รงกลาง ไว้ตรงกลาง ไว้ตรงกลาง
- มกี งิ่ แกว้ ก่งิ กอ้ ย และก่ิง - มกี ่งิ แกว้ กงิ่ กอ้ ย และกิง่ - มีกงิ่ แกว้ ก่ิงกอ้ ย และก่ิง - มกี งิ่ แกว้ ขาดกิ่งก้อย แต่
ยอ่ ยตามลำดบั ย่อยตามลำดบั ย่อยตามลำดับ ขาดกิ่งย่อย
- ตวั หนงั สอื อยบู่ นเสน้ - ตวั หนงั สืออย่บู นเส้น - ใช้สสี ันทว่ั แผน่ - ใชส้ ีสันไม่ทวั่ แผ่น
- ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็
- ใชส้ ญั ลักษณ์หรอื ภาพส่ือ - ใชส้ สี ันทัว่ แผ่น
ความหมาย
- ใช้สสี นั ทัว่ แผน่
เนือ้ หา - เนอ้ื หาครบถ้วนตามสาระที่ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระท่ี - เนือ้ หาถูกตอ้ งตามสาระที่ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระท่ี
กำหนด 100% กำหนด 80-99% กำหนด 60-79% กำหนดต่ำวา่ 59%
- เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา
100% 80-99% 60-79% ตำ่ กว่า 59%
- ลำดับหัวข้อเนอื้ หาชัดเจน - ลำดับหวั ขอ้ เน้อื หาชดั เจน - มีการสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรุปไมส่ มเหตสุ มผล
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มีการสรุปได้อย่าง สมเหตสุ มผล 60-79% ตำ่ กว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดงั ฟงั ชดั - พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
อักขระ100% อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอักขระต่ำกว่า 59%
- บุคลกิ ภาพดแี ละมคี วาม - บคุ ลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการนำเสนอ
- มกี ารใช้สื่อประกอบการ ได้บางสว่ น
นำเสนอ
- ความพร้อมในการนำเสนอ
ความสวยงาม - ใช้สีสันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงามและมีความ - ใช้สีสนั สวยงามหรอื เปน็ ไป
- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ ง
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ - มีความคิดสรา้ งสรรค์ หน่ึง
- ความเปน็ ระเบียบอา่ นง่าย
การตรงตอ่ ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ช้ากว่า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่
เวลา เวลาทก่ี ำหนด เวลาทีก่ ำหนด 5 นาที เวลาทีก่ ำหนด 10 นาที เวลาที่กำหนด 15 นาที
ขอ้ สอบ O-NET (2561) 1 ขอ้
(เฉลยข้อท่ี 4 ดาวเทียม D)
แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 40
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ประมวลผลความรภู้ าคเรยี นท่ี 2/2564 เวลา 2 ช่วั โมง
วนั ทีท่ ำการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ................. ผ้สู อน นายสเุ วช สบื ปญั ญา
1. สาระสำคญั 2. มาตรฐานตวั ช้วี ัด
เอกภพ เปน็ ทวี่ ่างทีม่ อี าณาเขตกวา้ งใหญ่ไพศาลจนไมส่ ามารถกำหนด ว 3.1 ม.3/1 – 3/4
ขอบเขตได้ ในเอกภพประกอบไปดว้ ยหลายๆ กลมุ่ ดาว เรียกวา่ กาแล็กซ่ี รวม 4 ตัวชี้วดั
มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของเอกภพ จงึ มกี ารสร้างเทคโนโลยีอวกาศ เพอื่ สำรวจ
สง่ิ ตา่ งๆที่อยู่นอกโลกของเราและสำรวจโลกของเราเองด้วย ทำใหไ้ ดค้ วามรู้
ใหมๆ่ มากข้นึ
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน /ภาระงาน
- เอกภพและเทคโนโลยีอวกาศ - ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง การสง่ ยานปาร์กเกอรโ์ ซลาร์โพรบ
- ใบงาน Mind Mapping ประมวลผลความรูป้ ลายภาคเรยี นที่
1/2564 เรื่อง เอกภพและเทคโนโลยีอวกาศ
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 6. เคร่ืองมือการคดิ
- ความสามารถในการคิด - Mind Mapping
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.ขนั้ ของกจิ กรรม 8.ส่อื 9.วิธีวัดผล
Do now : (3 นาที) - ใบงานตามแนวทาง PISA -ประเมนิ ใบงานตาม
ยกตัวอยา่ งเทคโนโลยอี วกาศ ท่นี กั เรียนชอบมากทสี่ ดุ มาคนละ 1 อย่าง
Purpose : (2 นาที) เร่ือง การสง่ ยานปารก์ เกอร์ แนวทาง PISA เรือ่ ง
เราจะประมวลผลความรู้ ปลายภาคเรยี นที่ 2/2562 เร่อื งเอกภพและ
เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อสามารถประเมนิ ความรูข้ องนกั เรยี นเกยี่ วกบั เอกภพและเทคโนโลยี โซลาร์โพรบ การสง่ ยานปารก์ เกอร์
อวกาศได้
Work mode : (110 นาท)ี - ใบงาน Mind Mapping โซลารโ์ พรบ
1.นักเรยี นฟังครูช้แี จงรว่ มกัน เกย่ี วกับการทำกิจกรรมประมวลผลความรู้
(พอเพยี ง 7 สังคม) (10นาที) ประมวลผลความรปู้ ลายภาค -ประเมินใบงาน Mind
2. นักเรียนศึกษาข่าวความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยอี วกาศ จากคลิปวดิ โี อ (15 นาท)ี
เรียนท่ี 2/2564 เรื่อง เอก Mapping
ภพและเทคโนโลยอี วกาศ ประมวลผลความรู้
-อนิ เตอรเ์ นต็ ปลายภาคเรยี นที่
-บทเรยี นออนไลน์ 2/2564 เรือ่ ง เอกภพ
และเทคโนโลยีอวกาศ
3. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกับขา่ วความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยอี วกาศ โดย
นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด “เทคโนโลยอี วกาศ มีประโยชน์ตอ่ เรา อยา่ งไรบ้าง?/
นกั เรียนคดิ วา่ เราควรสนบั สนุนใหม้ ีการพฒั นาเทคโนโลโลยอี วกาศตอ่ ไปในอนาคตหรือไม่ -คลปิ วิดโี อความก้าวหน้าของ
อย่างไร? (5 นาที) เทคโนโลยีอวกาศ
3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาและทำใบงานตามแนวทาง PISA เรื่องการสง่ ยานปาร์กเกอร์ https://www.youtube.co
โซลาร์โพรบ (พอเพยี ง 3 : การมีภมู ิคมุ้ กันในตัวทด่ี ี) (15 นาท)ี m/watch?v=ENLczXO6W
4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื งการสง่ ยานปาร์กเกอรโ์ ซลาร์ Yk
โพรบ (10 นาที)
5. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เขียนสรปุ ความรู้เกี่ยวกบั เอกภพและเทคโนโลยีอวกาศในรปู แบบ
ของผงั มโนทศั นล์ งในใบงาน Mind Mapping ประมวลผลความรู้ ปลายภาคเรยี นที่
2/2564 เร่อื งเอกภพและเทคโนโลยอี วกาศ โดยสบื คน้ ข้อมลู เพม่ิ เตมิ จากอินเตอรเ์ น็ตและ
บทเรยี นออนไลน์ ( คดิ 9 : คิดเชิงมโนทัศน์ ) (สมรรถนะที่ 4) (Mind Mapping )
(25นาที )
6. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากใบงาน Mind Mapping ประมวลผล
ความรู้ ปลายภาคเรยี นที่ 2/2564 เรอื่ งเอกภพและเทคโนโลยอี วกาศ หนา้ ชัน้ เรยี น และ
อภปิ ราย/โต้แย้งผลงานรว่ มกัน ( คดิ 3 : คดิ วพิ ากษ)์ (สมรรถนะท่ี 3) (พอเพยี ง 7 สังคม )
(20 นาท)ี
7. นักเรียนและครรู ว่ มกนั อภิปรายและสรุปเชอ่ื มโยงความรู้เก่ียวกบั เอกภพและเทคโนโลยี
อวกาศ โดยตอบคำถามกระตุ้นความคดิ “เอกภพ มคี วามเกีย่ วขอ้ งกบั มนุษย์ อยา่ งไร?/
เทคโนโลยอี วกาศ มคี วามสำคญั กับการดำรงชวี ติ ของมนษุ ย์ หรอื ไม่ อย่างไร?/ นักเรยี น
จะนำองค์ความรเู้ ร่ืองเอกภพและเทคโนโลยอี วกาศ ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้อย่างไร
บ้าง? (10 นาท)ี
Reflective Thinking : (5 นาท)ี
-1 ส่งิ ทีน่ กั เรยี นสงสัยจากการเรียนใน วนั นี้ คอื อะไร (3 นาท)ี
-1 สิ่งทีไ่ ด้รบั จากการเรยี นในวนั นี้ คอื อะไร (2นาท)ี
ใบงาน Mind Mapping ประมวลผลความรู้ ปลายภาคเรียนท่ี 2/2564
เรอ่ื งเอกภพและเทคโนโลยอี วกาศ
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพื่อสรุปประมวลความรู้ ปลายภาคเรยี นที่ 2/25634 เร่ือง เอกภพและเทคโนโลยี
อวกาศในรปู แบบของ Mind Mapping โดยสืบค้นความรเู้ พ่มิ เติมจากอินเตอรเ์ น็ต พรอ้ มนำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน
ใบงานตามแนวทาง PISA
การสง่ ยานปาร์กเกอรโ์ ซลาร์โพรบ (Parker Solar Probe)
ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม 2018 ถึง 19 สิงหาคม 2018 เป็นช่วงทอ่ี งคก์ ารนาซาจะสง่ ยานอวกาศชอ่ื
ปาร์กเกอร์โซลารโ์ พรบ ไปสู่ดวงอาทติ ย์ เพอ่ื ศึกษาบรรยากาศชนั้ โคโรนาและสภาพโดยรอบ เน่ืองจากนักฟสิ ิกส์
ยงั ไม่มีคำตอบชัดเจนวา่ เหตใุ ดบรรยากาศช้ันโคโรนาของดวงอาทติ ยจ์ งึ ร้อนกวา่ ผวิ ดวงอาทติ ย์ นอกจากนน้ี ัก
ฟิสิกส์ยังพบว่า ลมสุริยะซึ่งเป็นอนภุ าคมีประจุไฟฟ้าปรมิ าณมหาศาลท่ีพ่งุ ออกมาจากดวงอาทิตย์อยตู่ ลอดเวลา
น้ัน บางส่วนมกี ารเรง่ ความเร็วขึน้ อย่างเป็นปริศนา (Solar Wind Acceleration)
ดังนน้ั ขอ้ มลู สภาพแวดลอ้ มรอบๆ ดวงอาทติ ย์จะนำมาซง่ึ การพัฒนาดาวเทียม พัฒนาสว่ นป้องกันรังสี
ของเคร่ืองบินโดยสาร เพม่ิ ความปลอดภัยให้กับนักบนิ อวกาศ รวมทั้งปรบั ปรงุ โครงสร้างที่เกี่ยวกับโรงไฟฟา้ ให้
มคี วามปลอดภัยย่งิ ขึ้น
ความร้พู ้ืนฐานทีย่ านอวกาศลำน้ไี ด้มานา่ จะช่วยใหใ้ นอนาคตอันใกล้ เราอาจมรี ะบบป้องกันดาวเทยี ม
จากลมสรุ ิยะได้ดี และในอนาคตระยะไกล มนุษย์เราคงสบายใจทีจ่ ะเดนิ ทางไปในอวกาศได้อย่างปลอดภยั
ทมี่ า : https://thestandard.co/scientific\phenomenon-2018/
คำถามท่ี 1 2. ทำใหแ้ รงโน้มถ่วงของโลกลดลง
ขอ้ ใด เปน็ ผลกระทบของลมสรุ ิยะ ทมี่ ีตอ่ โลก 4. ทำใหส้ นามแมเ่ หลก็ ของโลกเปลย่ี นแปลง
1. ทำใหช้ ัน้ โอโซนถกู ทำลาย
3. ทำใหป้ รมิ าณแกส๊ ออกซิเจนเบาบางลง
คำถามที่ 2 (2 คะแนน)
“การท่ีนาซาสง่ ยานอวกาศปาร์กเกอร์โซลาร์โพรบ ไปสู่ดวงอาทิตย์
นับวา่ เปน็ การกระทำท่ีเหมาะสม เกดิ ผลดตี ่อมนุษย์”
นักเรียนเห็นด้วยกับคำกลา่ วข้างตน้ หรือไม่ ใหใ้ ชเ้ หตุผลประกอบคำอธบิ าย
1. ใหน้ ักเรียนเลอื กทำเครอื่ งหมายวงกลมล้อมรอบข้อความขา้ งลา่ งน้ี เพียง 1 ข้อความ
เหน็ ดว้ ย ไมเ่ หน็ ดว้ ย ทง้ั เห็นด้วยและไมเ่ หน็ ด้วย
2. ใหน้ กั เรยี นเขียนคำตอบอธบิ ายเหตผุ ล จำนวน 2 ขอ้ ทส่ี อดคลอ้ งความคดิ การเลอื กในข้อ 1
ความคิดเหน็ คลอ้ ยตาม ความคิดเห็นขัดแย้ง
1. 1.
2. 2.
คำถามท่ี 3 ใช่ ไม่ใช่
จากข้อมลู ข้อความต่อไปน้ี เปน็ ความจริง หรือ ไมเ่ ปน็ ความจริง (2 คะแนน)
ขอ้ ความท่ีเป็นความจริง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย X ในช่อง “ใช”่
ขอ้ ความท่ีไมเ่ ป็นความจริง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย X ในช่อง “ไม่ใช”่
ข้อความ
1) นักฟิสิกส์ยังไมม่ ีคำตอบชัดเจนวา่ เหตใุ ดผวิ ดวงอาทิตยจ์ ึงร้อนกวา่ บรรยากาศช้นั โคโรนา
2) ลมสรุ ิยะซ่ึงเป็นอนุภาคมปี ระจุบวกปรมิ าณมหาศาลที่พงุ่ ออกมาจากดวงอาทิตย์อย่ตู ลอดเวลา
3) ยานอวกาศ ปารก์ เกอรโ์ ซลาร์โพรบ ถกู ส่งไปเพ่ือศึกษาบรรยากาศชนั้ โคโรนาและสภาพโดยรอบ
ของดวงอาทติ ย์
3) ข้อมูลสภาพแวดล้อมรอบๆ ดวงอาทติ ย์ที่ได้มา สามารถนำมาพัฒนาดาวเทียมและพัฒนาสว่ น
ป้องกันรังสีของเครื่องบินโดยสารได้เท่านน้ั
เฉลยและเกณฑก์ ารให้คะแนน ใบงานตามแนวทาง PISA
เรอื่ ง การสง่ ยานปาร์กเกอร์โซลาร์โพรบ
คำถามท่ี 1
คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไม่ได้คะแนน
ข้อ 4. ทำใหส้ นามแม่เหลก็ ของโลกเปล่ยี นแปลง คำตอบอ่นื ๆ หรือไมต่ อบตำถาม
คำถามท่ี 2
ความคิดเหน็ คล้อยตาม ความคดิ เหน็ ขัดแย้ง
1. ทำใหไ้ ดน้ ำความรมู้ าพฒั นาดาวเทยี ม 1. ทำใหส้ ้ินเปลอื งงบประมาณจำนวนมาก
2. ทำใหไ้ ด้นำความรมู้ าพฒั นาเพอื่ ป้องกันรงั สขี อง 2. ทำใหน้ ักบนิ อวกาศเสีย่ งอันตรายตอ่ ชีวติ
เครอื่ งบนิ โดยสาร
3. หรอื คำตอบอื่นๆ ท่ีมคี วามเหมาะสม 3. หรือคำตอบอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมไ่ ด้คะแนน
ตอบคำถามไม่ถูกต้อง หรือไม่ตอบ
ตอบคำถามได้ถูกต้องทงั้ 2 ข้อ ตอบคำถามได้ถูกต้อง 1 ข้อ คำถาม
คำถามที่ 3 ใช่ ไมใ่ ช่
จากข้อมูล ขอ้ ความต่อไปน้ี เปน็ ความจรงิ หรอื ไม่เปน็ ความจริง (2 คะแนน) X X
X
ขอ้ ความทเ่ี ป็นความจริง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย X ในช่อง “ใช่”
ข้อความที่ไม่เป็นความจรงิ ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช่” X
ข้อความ
1) นักฟสิ ิกส์ยังไม่มคี ำตอบชดั เจนว่าเหตใุ ดผวิ ดวงอาทิตย์จึงรอ้ นกวา่ บรรยากาศชน้ั โคโรนา
2) ลมสุรยิ ะซึง่ เปน็ อนภุ าคมปี ระจุบวกปรมิ าณมหาศาลทีพ่ ุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์อยู่
ตลอดเวลา
3) ยานอวกาศ ปารก์ เกอรโ์ ซลารโ์ พรบ ถูกสง่ ไปเพ่ือศึกษาบรรยากาศช้นั โคโรนาและสภาพ
โดยรอบของดวงอาทติ ย์
3) ข้อมูลสภาพแวดล้อมรอบๆ ดวงอาทติ ย์ทไ่ี ด้มา สามารถนำมาพฒั นาดาวเทยี มและ
พัฒนาสว่ นป้องกันรงั สีของเคร่ืองบินโดยสารไดเ้ ท่านัน้
คะแนนเต็ม 2 คะแนน 1 คะแนน ไมม่ ีคะแนน
ตอบถูกท้งั 4 ข้อ : ไม่ใช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ไมใ่ ช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
หมายเหตุ : ไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์