The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sriparat, 2020-02-14 01:40:44

สารบัณฑิต

สารบัณฑิต

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  29 

สมเดจ็ ถกเขมรเข็นเรือ

พระมหาเถระผู้ใหญ่ท่านหน่ึงเล่าให้ฟังว่า วันหน่ึงท่าน
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ท่านอาศัย
เรือแหวด (ช่ือเรือแจวชนิดหนึ่ง มีเก๋งรูปยาวๆ ด้านท้ายโต
และสูง) ไปในงานหลวง เข้าไปในคลอง บังเอิญนํ้าแห้ง เรือ
ติดเลนลูกศษิ ย์ช่วยลงไปช่วยกนั เข็นก็ยังไปไม่ได้

สมเด็จท่านจึงถกเขมรลงไปช่วยเข็นเรือ ชาวบ้านเห็น
เขา้ จงึ ตะโกนบอกกนั ว่า “แน่ะๆ สมเดจ็ เขน็ เรือ”

สมเด็จท่านช้ีไปที่เก๋งพร้อมกับบอกว่า “สมเด็จอยู่ในเก๋ง 
ที่เข็นเรือนี่ขรัวโตไม่ใช่สมเด็จ” สมเด็จท่านเป็นพระชนิด
ที่เรียกวา่ ปาปมุต ิ คอื ท�ำ อะไรไม่มใี ครถือโทษ

เจ้าคุณรูปหน่ึง เป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง เป็นคนถือตัว 
วันหน่ึงท่านเจ้าภาพเอาแท็กซี่มารับ ท่านก็กระฟัดกระเฟียด
แสดงอาการไม่พอใจ เจ้าคุณรูปนี้คงจะลืมธรรมภาษิตท่ี
ว่า “ยโส ลทฺธา น มชฺเชยฺย ได้ยศแล้วอย่าเมา” ปฏิปทาของ
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ควรยึดถือเป็นแบบอย่าง ขอทิ้งท้าย
ดว้ ยโคลงโลกนติ บิ ทหนึง่ ว่า

30  เก็บเลก็ ผสมนอ้ ย

“นาคีมพี ษิ เพ้ียง สุรโิ ย
เล้อื ยบท่ �ำ เดโช แช่มชา้
พษิ นอ้ ยหยงิ่ ยโส แมลงปอ่ ง
ชแู ตห่ างเองอา้ อวดอ้าง ฤทธ”ี

๏ ๏ ๏

ผเี จ๊กอาละวาดทว่ี ัดประยูร

เช้าวันหนึ่งคุณวิทยา บุนนาค ได้มาถวายสังฆทานที่ตึก
เรือนแพ วัดประยุรวงศาวาส ได้คุยกันถึงเรื่องเก่าๆ ภายใน
วัดประยุรวงศาวาส ตอนหนึ่งกม็ าพูดถึงเร่อื งของลุงทุย

คุณวิทยา บุนนาค เล่าว่า ลุงทุยมีบ้านอยู่ทางทิศเหนือ
ของวัดประยุรวงศาวาส ใกล้กับบ้านพระยาเทพผลู (ผลู เขมร
แปลว่า ทาง) ปกติลุงทุยชอบเข้ามาคุยกับพระในวัดประยุร-
วงศาวาส เป็นประจำ� คืนหนึ่งได้มาคุยกับหลวงปู่แฉ่งท่ีคณะ 
๔ และกลับไปราว ๓ ทุ่มเศษ มือถือตะเกียงรั้ว มีไม้ตะพดอีก 
๑ อัน เดินข้ามสะพานคอนกรีต พอลงสะพานเล้ียวซ้ายเห็น
คนเดินอยู่ข้างหน้ามีหางเปียยาว พอมันหันกลับมา เห็นหน้า
ดำ� ตาโปนแล้วยังแถมเป่าลมดับไฟตะเกียงร้ัวที่ลุงทุยถือมา
เสียอกี

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  31 

ลุงทุยพึมพำ�ว่า “ไอ้น่ีผีแน่” แกจึงเอาไม้ตะพดฟาดไปที่
รั้วสังกะสีเสียงดังล่ัน พร้อมกับขู่ว่า “กูไม่กลัวมึงๆ” ได้ผล
ปรากฏว่ามันหายไปเลย ลุงทุยไปเล่าให้ลูกหลานฟังที่บ้าน 
ต่างกลวั กันทุกคน

รุ่งเช้าลุงทุยก็ได้ข่าวว่า เม่ือวานน้ีมีเจ๊กตกนํ้าตาย เขา
ลากศพมาไวใ้ ต้สะพาน รอท่จี ะเอาขน้ึ มาเผาในวนั รงุ่ ข้นึ  ลงุ ทุย
อุทาน “อ้อ เจ้าผีเจ๊กตัวนี้น่ีเองมาหลอกกไู ด”้

๏ ๏ ๏

ความสำ�คญั ของนะโม

“ท่านอาจารย์ครับ ทำ�ไมคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ
ก่อนจะประกอบพิธีอะไร ต้องตั้งนะโมก่อนเสมอไป เช่น พระ
จะให้ศีลก็ตั้งนะโมก่อน จะสวดมนต์ก็ต้ังนะโมก่อน จะถวาย
สังฆทานก็ต้ังนะโมก่อน นะโม มีความสำ�คัญอย่างไรครับท่าน
อาจารย์

“เธอถามในเรื่องน้ีก็ดีแล้ว เพราะยังมีคนอีกจำ�นวนมาก
ที่ยงั ไมร่  ู้ อาจารย์จะอธิบายให้ฟัง

32  เกบ็ เล็กผสมน้อย

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส รวม ๑๘ 
คำ�ด้วยกัน ๑๘ คำ�นี้มีความสำ�คัญมาก เพราะเป็นที่รวมคุณ
ของพระพทุ ธเจ้าไวท้ ้งั หมด

อนั วา่ คุณของพระพุทธเจ้าน้ันมมี าก ดังพระบาลีในขนั ธ-
ปรติ ตคาถาตอนหนง่ึ วา่  อปปฺ มาโณ พทุ โฺ ธ แปลวา่  พระพทุ ธเจ้า
มีพระคุณหาประมาณมิได้ คือมีมากจนนับไม่ถ้วนแต่เม่ือว่า
โดยยอ่ แลว้ กม็ ีเพยี ง ๓ ประการเทา่ นัน้  คือ

๑. พระปัญญาธคิ ณุ
๒. พระบรสิ ุทธคิ ณุ
๓. พระมหากรุณาธิคณุ
พระคณุ ทัง้  ๓ ประการน ้ี กร็ วมอยู่ในนโมทั้งสนิ้
ภควโต เปน็ พระมหากรุณาธิคณุ
อรหโต เป็นพระบรสิ ทุ ธคิ ุณ
สมมฺ าสมพฺ ุทฺธสสฺ  เปน็ พระปญั ญาธิคณุ
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส แปลถือ
ใจความว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้า
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์น้ัน เพราะฉะนั้น การต้ัง
นะโม จึงเท่ากับน้อมรำ�ลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้านั่นเอง 
จะเรียกว่า บทไหวค้ รูกไ็ ด้

๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  33 

เต่ามีอายุยืน

เต่ามีอายุยืนที่สุดในโลกอายุขัยของเต่ามักเกิน ๒๐๐ ปี 
เต่าเป็นราชาในโลกแห่งความเชื่องช้า ไม่ว่าจะเป็นการ
เคลื่อนไหว การเจริญเติบโต การหาอาหาร หรือแม้การ
หายใจ ก็ล้วนแต่เช่ืองช้าไปหมด ส่วนแมลงเม่ามีอายุส้ันที่สุด 
คือมอี ายอุ ยูไ่ ด้ ๑ วันเทา่ นัน้

พระอายุยืนท่ีสุดช่ือหลวงปู่หิน อยู่วัดโพธาราม อำ�เภอ
น้ําพอง จังหวัดขอนแก่น อายุ ๑๓๓ ปี ส่วนชาวอียิปต์ชื่อ 
นายบซู ่า อาย ุ ๑๕๐ ปี

๏ ๏ ๏

ปลัดขิก

ปลัดขิกของไทยมีกำ�เนิดมาแต่ลัทธิบูชาศิวลึงค์ ของ
พราหมณ์ฮินดู แต่เดิมนั้นชาวอินเดียและขอมเลื่อมใสพระ
ศิวะและพระอุมานิยมสร้างเสาหินศิวลึงค์และแท่นหินโยนี
คู่กัน ตามเทวาลัยต่างๆ เพ่ือบูชาแทนตัวพระผู้เป็นเจ้าทั้ง ๒ 
พระองค์

34  เก็บเลก็ ผสมน้อย

การบูชาจะโรยข้าวตอกดอกไม้และรดด้วยน้ํา น้ําจะ
ไหลจากเสาหินศิวลึงค์สู่แท่นโยนี แล้วลงสู่ภาชนะรองรับ อัน
ถือเป็นนํ้าศักดิ์สิทธิ์ ผ่านการบูชาพระผู้เป็นเจ้าแล้ว สามารถ
นำ�ไปประกอบพธิ ีตา่ งๆ ได้

ต่อพราหมณ์เจ้าพิธีได้จำ�ลองศิวลึงค์ให้มีขนาดเล็กลง 
เพื่อนำ�ติดตัวไปบูชารำ�ลึกถึงพระศิวะบนสรวงสวรรค์ รวมท้ัง
ปอ้ งกนั เสนยี ดจญั ไรต่างๆ

คร้ันภายหลังลัทธิพราหมณ์ได้มีอิทธิพลแผ่เข้าปะปนใน
พิธีกรรมทางศาสนาพุทธ ชาวไทยแต่โบราณจึงได้รับอิทธิพล
จาการบชู าพระศวิ ลึงคน์ ้ดี ้วย

ตำ�ราการสร้างศิวลึงค์ตัวเล็กหรือปลัดขิกได้ตกทอดผ่าน
มาทางพระอาจารย์สำ�นักต่างๆ ซ่ึงในช้ันเดิมท่านเรียกว่า 
“ปรัศว์” (อ่านว่าปะหรัด) อันหมายถึง สีข้าง เพราะศิวลึงค์ตัว
เล็กจะผูกแขวนอยู่ข้างเอวข้างใดข้างหน่ึง แต่เนื่องจากการ
กระดกล้ินของชาวบ้านมักไม่ถนัด คำ�เรียกจึงเพี้ยนไปเป็น
 “ปลดั ” ซึ่งคลอ่ งปากกว่า

คร้ันต่อมาพระอาจารย์สำ�นักต่างๆ ได้ประดิษฐ์ “ปลัด” 
มีความงดงามในด้านศิลปะแบบต่างๆ บางตัวเห็นแล้วเกิด
อารมณ์ครึกครื้นหัวเราะขึ้นมากะทันหัน เฉพาะในหมู่เด็กๆ 
และสตรีเพศที่ได้แลเห็น คำ�ว่า “ปลัด” จึงได้มีการพ่วงท้าย
คำ�ว่า “คิก” เป็น “ปลัดคิก”

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  35 

แต่เน่ืองจากคำ�สองคำ�นี้ มีเสียงสูงต่ำ�ไม่เท่ากัน ไม่
สะดวกปากชาวบ้าน ต่อมาจึงได้เรียกเพี้ยนไปตามความ
สะดวกปากมาเปน็  “ปลดั ขกิ ” อนั มรี ะดบั เสยี งเทา่ กนั ทง้ั สองค�ำ

ปลัดขิกไทยนั้น โบราณาจารย์ท่านนิยมลงจารลำ�ตัว
ด้วยคาถาหัวใจโจรบ้าง คาถา อิติปิ โส บ้าง หัวใจเศรษฐี นะ 
ชา ลี ติ บ้าง หัวใจธาตุทั้งส่ี นะ มะ พะ ทะ บ้าง ส่วนท่ีหน้า
กระจังของตัวปลัดขิกนิยมลงด้วยตัว อุ ซ่ึงอาจเขียน อุ มีหยัก
เต็มรูปแบบหรือเขียนหวัดเป็นตัวคล้ายเลข ๓ ซ่ึงอาจารย์ผู้ลง
อกั ขระมกั ลงหลายตัวดว้ ยกัน

ปลัดขิกท่ีมีชื่อเสียงของเมืองไทยได้แก่ ของหลวงพ่อ
เหลือวัดสาวชะโงก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อจัน วัด
บางหนู หลวงพอ่ บุศย์ วดั พรหมวิหาร เพชรบุรี เป็นต้น

๏ ๏ ๏

36  เก็บเลก็ ผสมน้อย

งูเล้อื ยไดอ้ ยา่ งไร

ปลายของกระดูกซ่ีโครงทุกข้อจะติดอยู่กับกล้ามเน้ือ
ของเกล็ดใหญ่ ที่อยู่ตรงส่วนล่างใต้ท้องงู งูสามารถที่จะ
เคลื่อนไหวเกล็ดทุกเกล็ดท่ีอยู่ใต้ท้องของมันได้อย่างอิสระ 
ดังนั้น ขาของงูจริงๆ นั้น ก็คือกระดูกซี่โครง และเท้าก็คือ
เกล็ดของมนั

จากหนังสือพมิ พ์เดลนิ ิวส์

๏ ๏ ๏

หงสร์ อ่ นมังกรร�ำ

“คุณปู่ครับ ผมได้ยินเขาพูดกันว่าหงส์ร่อนมังกรรำ� คำ�น้ี 
หมายถึงอะไรครบั  คุณป”ู่

“อ๋อ คำ�นี้หมายถึง วิธีทางไสยศาสตร์อย่างหนึ่งท่ีหญิง
ทำ�ข้นึ เพื่อใหผ้ ัวหลง รกั ตนแตเ่ พียงผเู้ ดยี ว”

๏ ๏ ๏

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  37 

กระดงั งาลนไฟ

คำ�น้ีหมายถึง หญิงที่เคยแต่งงาน หรือผ่านผู้ชายมา
มากแล้ว ย่อมรู้จักช้ันเชิงการปรนนิบัติ และเอาอกเอาใจ
ผู้ชาย ไดด้ ีกวา่ หญิงทีย่ งั ไมเ่ คยแต่งงาน

๏ ๏ ๏

แสตมปด์ วงแรกของโลก

วันท่ี ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๘๔ (ค.ศ. ๑๘๔๐) องั กฤษ
ได้พิมพ์แสตมป์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ออกเป็นรุ่นแรกอย่าง
เป็นทางการ และได้จัดจำ�หน่ายอย่างเปิดเผย เมื่อวันที่ ๘ 
พฤษภาคม ในปีเดียวกัน ภาพบนแสตมป์เป็นภาพของสมเด็จ
พระนางเจ้าวิคตอเรีย พระราชินีของประเทศอังกฤษ น่ีคือ
แสตมป์ดวงแรกของโลก

๏ ๏ ๏

38  เก็บเลก็ ผสมน้อย

คารมนักเทศน์

ท่านมหาน้อย ถามท่านพระครูโวทานธรรมมาจารย์
วา่  “ค�ำ วา่  ตาย แปลวา่ อะไร”

พระครูโวทานธรรมมาจารย์ตอบว่า “ตาย แปลว่า ไต่ 
คือไต่ไปที่โน้น ไต่ไปท่ีนี้ ไต่ไปนรก ไต่ไปสวรรค์ ไต่ไปเป็น
มนษุ ย์ ถึงนิพพานเมื่อไร กเ็ ลกิ ไต่เม่อื นั้น

๏ ๏ ๏

๕ อย่าทีผ่ ู้บรกิ ารควรระวงั

๑. อยา่ ยกั ท่า
๒. อยา่ หนา้ งอ
๓. อยา่ ใหร้ อนาน
๔. อย่าบน่ งานมาก
๕. อยา่ เปน็ คนปากเสยี
จากสมุดฉีด วัดภาษี แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา 
กรงุ เทพฯ

๏ ๏ ๏

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  39 

เหตเุ กดิ ทีส่ ิงคโปร์

วัยรุ่นมะกัน เอาสเปรย์สีไปเที่ยวพ่นตามรั้วบ้านของชาว
บ้าน ถูกศาลส่ังโบยหลังจับเข้าคุก ๔ เดือน ไม่มีอุทธรณ์ฎีกา 
หันมาดเู มืองไทยเราบ้างเป็นอยา่ งไร

จากหนงั สือพมิ พ์ไทยรัฐ

๏ ๏ ๏

ซวยเหลือเชอื่

เหตุเกิดท่ีอุบลราชธานี หญิงชราอายุ ๖๐ ปี น่ังเย็บผ้า
อยู่ในบ้าน ก็มีทหารพลร่มกระโดดลงมา แต่ร่มไม่กาง จึง
ตกลงมาบนบ้านของหญิงชรา ทะลุหลังคาลงมาทับร่างหญิง
ชราผู้นั้น เลยตายทง้ั  ๒ คน ดว้ ยกัน

๏ ๏ ๏

40  เกบ็ เล็กผสมน้อย

พิธศี วิ าราตรี

พราหมณ์มีพิธีลอยบาป คือ ต้ังพิธีอย่างหน่ึงเป็นการ
ประจำ�ปีเรียกว่า “ศิวาราตรี” เขาจะลงอาบนํ้าในแม่นํ้าคงคา 
ถอื ว่าได้ลอยบาปไปตามกระแสนํา้  ถึงปกี ท็ ำ�ใหม่

๏ ๏ ๏

กวนอมิ

พระโพธิสัตว์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนา องค์เดียวกับ
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรของอินเดีย แต่ตกถึงจีนจึงกลาย
เป็นพระโพธิสตั ว์ผหู้ ญิงไป

พระกวนอิม เพ้ียนเป็นกวนยิม และกวนอิมแล้วแต่เป็น
เสยี งจนี ภาคไหน (ญ่ีปุน่ เรยี กวันนอน) เปน็ ทน่ี ับถอื ของชาวจนี
ยิ่งกว่าพระโพธิสัตว์องค์ใด เพราะถือว่าท่านสามารถดับความ
ทุกข์ได้ มีความศักดิ์สิทธ์ิ ในเมื่อใครได้ประสบความทุกข์ 
และออ้ นวอนให้ท่านช่วยปัดเปา่ ให้

พระพุทธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  41 

พระกวนอิมมีประวัติว่าเดิมมีกำ�เนิดเป็นหญิงช่ือเม่ียว
เสียงเป็นราชธิดาของพระเจ้าเม่ียว จวง แห่งประเทศซิงหลิน 
พระเจา้ เมย่ี วจวงมพี ระประสงคจ์ ะใหน้ างเมย่ี วเสยี งมพี ระสวามี 
แตพ่ ระนางไมย่ ินยอม

ในที่สุดพระเจ้าเม่ียวจวงทรงพิโรธ ตรัสให้ประหารชีวิต
พระนางเมี่ยวเสียงเสีย แต่มีเสือมาลักเอาพระศพไป ในท่ีสุด
พระนางก็กลับฟ้ืนคืนชีพและได้บวชเป็นพระภิกษุณี สำ�เร็จ
โพธิญาณเป็น พระโพธิสัตว์ เสด็จประทับอยู่ในเกาะกลาง
ทะเลใต ้ (น่าํ ไฮ้)

ภายหลังพระเจ้าเมี่ยวจวงประชวรด้วยพระโรคผิวหนัง
เพราะวิบากกรรมท่ีได้ทรงฆ่าผู้คนมามาก ต้องได้รับความ
ทุกข์ทรมานแสนสาหัส ไม่มีทางท่ีจะรักษาให้หายได้ นอกจาก
ได้ดวงตาของพระธิดามาผสมกับยา (บางแห่งว่าแขน) จึงจะ
หายพระนางเม่ียวเสียงจึงควักดวงพระเนตรท้ัง ๒ ข้าง ถวาย
พระเจ้าเมยี่ วจวง จึงทรงหายประชวร

ภายหลังพระเจ้าเม่ียวจวง สละราชสมบัติ เสด็จไปหา
พระธิดาท่ีเกาะในทะเลใต้ ทรงได้ผจญภัยต่างๆ ในท่ีสุดก็ไป
ถึง และได้พบกับพระธิดาซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ แล้วพระเจ้า
เม่ยี วจวงเองกไ็ ด้ส�ำ เร็จโพธิญาณดว้ ย

จากหนงั สือสารานกุ รมไทย
๏ ๏ ๏

42  เก็บเลก็ ผสมนอ้ ย

ตาบอดสอดตาเหน็

หนูต้อยพาตาที่ตาบอดเดินไปเย่ียมญาติ ขณะที่เดินไป
หนูต้อยตะโกนขึ้นวา่  “มีงู มงี ”ู

ตาบอกว่า “แหมมนั เกอื บกัดเอาแน่ะ”
หนตู อ้ ยว่า “งูตายน่”ี
ตาบอกวา่  “งน้ั น่ีเลา่ ถึงได้เหมน็ ตุ่ยๆ”
หนูต้อยว่า “มนั เปน็ เชอื กนะ่  ตา”
ตาบอกวา่  “ถ้าเช่นนั้นก็เป็นเชอื กที่แช่นํ้าไวน้ าน”

๏ ๏ ๏

ประเพณีทิง้ กระจาด

ประเพณีทิ้งกระจาดเป็นลัทธิข้างฝ่ายจีน มีเร่ืองเล่ากัน
มาว่าเกิดข้ึนคร้ังแผ่นดินถัง คือมีชายคนหน่ึงชื่อ เหล่าจิ้ง
ฝันว่ามารดาที่ตายมาหา และต่อว่าต่อขานว่า “ไม่นึกถึงแม่
ซึง่ อดอยากเส้ือผ้ากไ็ ม่มีจะสวมใส่”

เหล่าจิ้งถามว่า “จะใหท้ �ำ อยา่ งไร”

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  43 

มารดาก็แนะนำ�ว่า “ให้ทิ้งกระจาดคือให้ไปซื้อของกิน
กับของใช้ และเสื้อผ้ามาให้ครบจำ�นวนกับต้ิวที่ศาลเจ้าแล้ว
โยนติ้วที่จดเลขไว้ให้คนแย่ง ใครได้เลขอะไรก็มารับของไป
ตามนัน้

เมื่อเหล่าจ้ิงทำ�ตามนั้นมารดาก็มาเข้าฝันอีก คราวนี้มี
เส้ือผ้าสวมใสส่ วยงาม รูปรา่ งอว้ นท้วนสมบรู ณ์

อีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า ขณะท่ีพระอานนท์นั่งสมาธิอยู่มี
อสุรกายชื่อเหล่ียมโช้ว ซูบผอมผมยาว มีเข้ียวงอกออกมาจาก
ปากแล้วบอกพระอานนท์ว่า “อีก ๓ ราตรี พระอานนท์จะ
หมดอาย”ุ

พระอานนท ์ ก็ถามว่า “จะแกไ้ ขอยา่ งไร”
อสุรกายก็บอกว่า “ให้ทำ�พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
และให้ทาน พระอานนท์จึงไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลถาม
พระพุทธองค์ ทรงแนะให้ประชุมพระอริยเจ้า สวดพระคาถา
ถกึ ยือลาย
ด้วยอำ�นาจพระคาถาน้ี จะได้นำ�กุศลไปให้แก่ผู้ที่ตก
ทุกข์ได้ยาก และบอกแก่พระอานนท์ว่า “อสุรกายน้ันความ
จริงเป็นพระโพธิสัตว์กวางตือต่ายโบ๊ต๊าก แปลงพระองค์มา
เพื่อแนะนำ�ให้พระอานนท์บริจาคทาน เป็นการอุดหนุนให้พระ
อานนทม์ วี ิธีประกอบบญุ เพ่มิ ข้นึ อีกอยา่ งหนงึ่ เทา่ น้นั เอง

44  เกบ็ เล็กผสมนอ้ ย

น่ีก็เป็นเรื่องทางฝ่ายมหายาน ซ่ึงอธิบายสาเหตุที่มี
ประเพณกี ารทงิ้ กระจาด 

จากหนงั สอื  วนั ก่อนคืนเก่า โดย ส. พลายนอ้ ย
๏ ๏ ๏

การฉลองยศทถ่ี ูกตอ้ ง

ยศศักด์ิเป็นของสูง เป็นของมีเกียรติ ที่พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้แก่พระสงฆ์ผู้ประกอบคุณงาม
ความดี ฉะน้ัน ผู้รับก็จะต้องมีบุญพอ จึงจะรับยศนั้นได้ บาง
ท่านบุญไม่พอมรณภาพก่อนได้รับก็มี หรือรับแล้วไม่นานก็
มรณภาพก็มี

เน่ืองจากยศเป็นของหนัก ผู้รับจึงต้องสร้างเคร่ือง
รองรับให้คู่ควรกัน การฉลองสมณศักดิ์ก็เพื่อเหตุนี้ คือสร้าง
เคร่ืองสำ�หรับรองรับสมณศักด์ินั้น ไม่ใช่ฉลองเพ่ือความ
เหอ่ เหมิ  หรอื แสดงความยิ่งใหญอ่ ะไรเลย

ว่าถึงยศถาบรรดาศักด์ิ อย่าอยากเป็นจนน่าเกลียด
แตอ่ ย่ารงั เกยี จจนเสยี งาม

๏ ๏ ๏

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  45 

ช้างกตญั ญู

ช้างเชือกหนึ่งถูกหนามตำ�เท้า เดินกระย่องกระแย่งด้วย
ความเจ็บปวด นายช่างไม้ผู้หนึ่งซ่ึงทำ�งานอยู่ในป่าเห็นเข้า
ก็เกิดความสงสาร จึงช่วยบ่งเอาหนามออกแล้วพอกยารักษา
จนแผลหายสนทิ

ช้างเชือกน้ันนึกถึงบุญคุณ จึงอุทิศตนช่วยรับใช้นาย
ช่างไม้ด้วยการลากไม้ ทำ�อยู่จนกระท่ังแก่ทำ�งานไม่ไหว ถึง
กระนั้นก็ยังไม่หมดความกตัญญู ยังมอบหน้าที่น้ีให้แก่ลูก
ของตวั ท�ำ งานแทนต่อมา

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า นายช่างไม้เป็นผู้มีน้ําใจ อุตส่าห์ช่วย
เหลือชา้ งจนปลอดภยั  ควรได้รับความชมเชย

ส่วนช้างแม้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ยังมีความกตัญญูรู้คุณ
ของผูอ้ ่นื  แลว้ กระท�ำ ตอบแทนคณุ

สว่ นเราเปน็ คนอย่าใหแ้ พส้ ตั ว์เดรจั ฉานกแ็ ล้วกัน
๏ ๏ ๏

46  เก็บเลก็ ผสมนอ้ ย

อบายมุข ๔

๑. นา้ํ เปล่ียนนสิ ัย
๒. ไฟไหมบ้ ่อยๆ
๓. ผคี อยยว่ั ใจ
๔. ตุ่มนาํ้ ใหญก่ ้นรวั่

๏ ๏ ๏

การนัง่ สมาธิ (ขัดสะหมาด) 
๓ แบบ

๑. การน่งั สมาธิสองช้นั
๒. การนัง่ สมาธริ าบ
๓. การนง่ั สมาธเิ พชร
การน่ังคู้เข่าทั้งสองข้างให้แบะลงที่พื้นแล้วเอาขาไขว้กัน
ทับฝ่าเท้าเรียกว่าการนั่งขัดสมาธิ ถ้าเอาขาทับซ้อนกัน
เรียกว่าการน่ังสมาธิสองช้ัน ถ้าเอาขาขวาทับขาซ้าย เรียกว่า
การนง่ั ขดั สมาธริ าบ ถา้ เอาฝา่ เทา้ ทง้ั สองขา้ งขน้ึ ขา้ งบน เรยี กวา่
การนงั่ ขดั สมาธเิ พชร

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  47 

การนั่งขัดสมาธิราบและการน่ังขัดสมาธิเพชรนั้น
เป็นท่าพระพุทธรูปนั่ง วิธีจำ�ง่ายๆ การน่ังขัดสมาธิสองช้ัน
มองไม่เห็นฝ่าเท้าทั้งสองข้าง การนั่งขัดสมาธิราบมองเห็น
ฝา่ เทา้ ขา้ งเดยี ว การนง่ั ขดั สมาธเิ พชรมองเหน็ ฝา่ เทา้ ทง้ั สองขา้ ง

๏ ๏ ๏

ปรศิ นาพาฉงน

ปริศนานั้นมีอยู่ว่า แม่ฉันตายต้ังแต่ยายยังไม่เกิด ไป
ถามลูกดเู ถดิ แม่ฉนั เกดิ กอ่ นยาย

คำ�แก้ปริศนา ได้แก่ ต้นเต่าร้าง ต้นคล้ายหมาก ผลเป็น
ทะลาย เต่าร้ังหรือหมากดนั ก็เรียก ต้นไม้นีแ้ ปลก ทะลายอ่อน
อยูข่ า้ งลา่ ง ทะลายแกอ่ ยู่ข้างบน

๏ ๏ ๏

48  เกบ็ เลก็ ผสมนอ้ ย

เปน็ หนไี้ ม่ใช้เกิดเป็นวัว

สมัยก่อนที่ท่าน้ําราชวงศ์ มีโรงโม่ชัน (ท่ีสำ�หรับยาเรือ) 
เจ้าของช่ือเจ๊กตง ภรรยาช่ือสาหร่าย มีวัวสำ�หรับโม่ชันสองตัว 
ตัวหนึ่งอายุมากใช้งานมานาน เจ๊กตงสงสารจึงบรรทุกเรือจ้าง
มาปล่อยไว้ที่วัดทองนพคุณ

แต่พอรุ่งเช้าเจ๊กตงก็เห็นวัวตัวที่ไปปล่อยวัดนั้นกลับ
มาอยู่โรงโม่ตามเดิม เจ๊กตงจึงปรึกษากับภรรยาว่าจะนำ�ไป
ปล่อยไกลๆ จะได้กลับมาไม่ได้

คืนวันนั้นเองเจ๊กตงก็ฝันไปว่าวัวตัวน้ีมาอ้อนวอนว่า
“อย่านำ�ข้าพเจ้าไปปล่อยเลย ขอให้ข้าพเจ้าทำ�งานเพื่อชดใช้
กรรมต่อไปเถิด เพราะเมื่อข้าพเจ้าเป็นคนมีชื่อว่า “ฮง” บ้าน
อยู่ท่ีสะพานหันได้ยืมเงินท่านไป ๑ ชั่ง ยังไม่ทันได้ใช้ข้าพเจ้า
ก็ตายไปเสียก่อน ฉะนั้น จึงขอร้องว่าอย่าเอาข้าพเจ้าไปปล่อย
เลย”

รุ่งเช้าเจ๊กตงเปิดบัญชีดูก็พบว่ามีชื่อเจ๊กฮงยืมเงินไป ๑ 
ช่ังจริง ดังน้ัน จึงให้วัวตัวนั้นทำ�งานต่อไปแต่เป็นงานเบาๆ 
แล้วต่อมาไม่นานวัวตัวนั้นก็ตาย เจ๊กตงก็ทำ�งานศพให้วัว
ตัวนั้น ท่ีวดั ปทมุ คงคา มพี ระบังสกุ ุลด้วย

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  49 

ท่านท่ีมีหนี้ควรรีบไปใช้หนี้เสีย มิฉะน้ัน จะเกิดเป็นวัว
ดังเรื่องทเี่ ล่ามาน้ี

๏ ๏ ๏

คนไมถ่ ึงคราวตายไม่ตาย 
ถงึ คราวตายก็ตาย

คุณพระเสน่หามนตรี อุปสมบทอยู่ท่ีวัดพิชยญาติกา-
ราม ฝ่ังธนบุรี คืนหน่ึงก่อนที่จะจำ�วัด ท่านก็ทำ�วัตรสวดมนต์ 
พอสวดถึงบทว่า อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา พุทฺธํ ภควนฺตํ 
อภวิ าเทม ิ แลว้ ก้มลงกราบ

ในขณะน้ัน ได้มีผู้ร้ายยิงปืนข้ามศรีษะท่านไป ชนิดท่ี
เรียกว่าเฉียดฉิวทีเดียว ลูกกระสุนผ่านไปทะลุฝา ท่าน
ปลอดภัย เม่ือท่านลาสิกขาบทแล้ว ได้ไปเป็นเจ้าเมืองนคร-
ศรธี รรมราช และไดร้ บั บรรดาศกั ดเ์ิ ป็นพระยาสธุ รรมมนตรี

อีกเรื่องหนึ่ง หลานสาวสงสัยว่าสายแล้วทำ�ไมยายจึง
ไม่ลุกข้ึนมาใส่บาตร จึงเข้าไปในห้องเปิดมุ้งดู เห็นยายตัวแข็ง
หมดลมไปแลว้  ถงึ กบั ปลอ่ ยโฮออกมา พร้อมกบั กอดศพยาย 

50  เกบ็ เลก็ ผสมนอ้ ย

สองเรอื่ งนี้รวมกนั ก็ไดค้ วามวา่
ยังไม่ถงึ ท่ีตายก็ไม่วายชวี าตม์
ใครพิฆาตเขน่ ฆ่าไม่อาสัญ
ถงึ ท่ีตายย่อมมลายวายชีวนั
ยังมทิ ันใครท�ำ ร้ายกต็ ายเอง.

๏ ๏ ๏

ช่าง ๑๐ หมู่

๑. ช่างเขียน ๏ ๏ ๏
๒. ชา่ งแกะสลัก
๓. ช่างสลกั
๔. ช่างกลึง
๕. ชา่ งหล่อ
๖. ชา่ งปนั้
๗. ช่างหนุ่
๘. ช่างรกั
๙. ช่างบุ
๑๐. ชา่ งปนู

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  51 

ความหมายของคำ�วา่ สลัด

๑. สลัด เป็นช่ือยำ�ชนิดหนึ่งตามแบบชาวตะวันตก ซึ่งมี
นํา้ มันสลัดผสม

๒. สลดั  เป็นช่อื โจรซ่งึ เท่ียวปลน้ เรอื กลางทะเล
๓. สลัด คือซัด, ผละ, สะบัด, เช่น สลัดมือ สลัดขน 
สลัดผ้า

๏ ๏ ๏

ก�ำ แพงใหญ่เมอื งจีน

กำ�แพงนี้เป็นกำ�แพงอิฐ สร้างเป็นร้ัวกั้นประเทศตาม
พรมแดนด้านเหนือของจีน เพ่ือป้องกันการยกทัพมารุกราน
ของพวกตาด ผู้ออกประกาศิตให้สร้างกำ�แพงก้ันประเทศน้ี 
คือ จักรพรรด์ิซีวังต่ี (จิ๋นซี ฮ่องเต้) ลงมือสร้างระหว่าง พ.ศ. 
๓๐๐-๓๒๐ มคี วามยาวถึง ๒,๕๐๐ ไมล์

จากหนังสือพมิ พ์เดลนิ ิวส์
๏ ๏ ๏

52  เกบ็ เล็กผสมนอ้ ย

หวั ใจเศรษฐี

อ ุ อา กะ สะ
อุ : ขยนั หา
อา : รกั ษาดี
กะ : มกี ลั ยาณมิตร
สะ : เลีย้ งชวี ิตเหมาะสม

๏ ๏ ๏

การแผพ่ ระญาณของพระพทุ ธเจ้า

ตอนเชา้ มืดแผเ่ ขา้ จากขอบจกั รวาลเข้ามาสูพ่ ระคันธกฎุ  ี
ตอนเย็นแผอ่ อกจากพระคนั ธกุฎไี ปสขู่ อบจักรวาล

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  53 

บา้ นทา่ นอทุ กดาบสและอาฬารดาบส

มีผู้ถามท่านเสถียร โพธินันทะ ว่าอ่านพุทธประวัติแล้ว 
เกิดมีปัญหาค้างใจว่า ท่านอาฬารดาบส และท่านอุทกดาบส 
ไม่ปรากฏในตำ�นานทา่ นทั้งสองต้ังหลกั ฐานอยู่ทเี่ มอื งใด

ท่านเสถียร โพธินันทะ ตอบว่าหลักฐานในพระบาลี 
ไมม่ บี อกไวช้ ดั  แตใ่ นต�ำ นานฝา่ ยสนั สกฤตบอกวา่  อาฬารดาบส 
อยูช่ านเมืองไพศาล ี อทุ กดาบส อยแู่ ขวงเมอื งราชคฤห์

๏ ๏ ๏

กฏุมพี

คำ�นี้เดิมแปลว่า คนม่ังมี ในอินเดียบางแห่งหมายความ
ว่า ชนจำ�พวกวรรณะศูทรท่ีม่ังมี มักนิยมใช้เข้าคู่กับไพร่เป็น
ไพร่กฏมุ พหี มายถงึ คนชั้นตา่ํ

๏ ๏ ๏

54  เก็บเล็กผสมนอ้ ย

คณุ สมบัตขิ องผง้ึ


๑. ขยนั หากนิ
๒. บนิ ไม่สงู นัก
๓. รักความสะอาด
๔. ฉลาดสะสม
๕. นยิ มสามัคคี
คุณธรรมของผ้งึ เหล่าน้ ี สามารถนำ�มาประยุกต์ใช้ปฏิบัติ
ในชวี ติ ของคนเราไดอ้ ย่างดีทีส่ ุด

๏ ๏ ๏

ต�ำ นานขนมจีน

ภาคกลางเรียกว่าขนมจีน เพราะเดิมเป็นของคนจีน 
ชาวอีสานแอบนำ�มาทำ�บ้าง จึงเรียกว่า ข้าวปล้น คล้ายกับไป
ลักตัวอย่างเขามา ต่อมาค�ำ ว่าขา้ วปลน้ เพย้ี นไปเปน็ ขา้ วปนุ้

จากวทิ ย ุ ๕ มีนาคม ๒๕๓๘
๏ ๏ ๏

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  55 

ประวตั ินายหวังเต๊ะ

นายหวังเต๊ะเป็นนักแสดงลำ�ตัดชื่อดัง เป็นศิลปินแห่ง
ชาติ สาขาศิลปการแสดงเพลงพ้ืนบ้านพ้ืนเมือง หวังเต๊ะจริงๆ 
แล้วไม่ได้ชื่อหวังเต๊ะ คำ�ว่าหวังเต๊ะเป็นชื่อของพ่อเขา ตัวเขา
เองชื่อหวังดี นามสกุลนิมา นับถือศาสนาอิสลาม เกิดท่ีอำ�เภอ
ลาดหลุมแล้ว จังหวัดปทุมธานี ตอนเป็นนักเรียนชอบเอาชื่อ
ของพ่อ มาล้อเลียนกัน เขาเกิดในวันศุกร์ เดือนยี่ ปีฉลู พ.ศ. 
๒๔๖๘

๏ ๏ ๏

ลกู สอนพ่อ

สองพอ่ ลกู เดนิ ไปเจอแมป่ ลาชอ่ น ก�ำ ลงั พาลกู ออ่ นฝงู ใหญ่
ออกหากิน พ่อจะเอาฉมวกแทงแม่ปลาช่อน ลูกท้วงว่า “ถ้าพ่อ
แทงแม่ปลาช่อนตายแล้ว ลูกมันจะอยู่กับใครล่ะ เหมือนกับ
ลกู น ่ี ถา้ พ่อแมต่ ายแล้วลูกจะอยูก่ บั ใครล่ะ”

พ่อได้สติ แมป่ ลาช่อนรอดตาย นแ่ี หล่ะลูกแกว้
๏ ๏ ๏

56  เก็บเล็กผสมนอ้ ย

ขงิ กร็ า ขา่ ก็แรง

พระหนุ่มน่ังอ่านหนังสือยู่หน้ากุฎิริมทาง มีหญิงสาวคน
หนึ่งเดินไปจ่ายตลาด พอถึงหน้ากุฏิก็เปรยออกมาด้วยความ
คะนองปากว่า “โอ้พ่อนกขม้ินเหลืองอ่อน เหลืองเหมือนจีวร
ของหลวงพ่ี นั่งนึกนอนนึกเมื่อไหร่จะสึกซักที” ว่าแล้วก็เดิน
เลยไป

หลวงพ่ีนึกคร้ึมในใจ เดี่ยวเถอะกลับมาจะตอกเสียให้
หน้าหงายทีเดียว พักใหญ่หญิงคนนั้นก็กลับมาพอถึงหน้ากุฏิ
หลวงพี่ก็เอ่ยสุนทรวาจาออกไปว่า “โอ้แม่บัวลอยอยู่ในสระ 
ตัวพี่ยังเป็นพระ ขอให้น้องรอไปก่อน เมื่อพ่ีสึกเม่ือไร ก็จะได้
พานอ้ งจร”

ทนั ใดกม็ เี สยี งตอบจากหญงิ นน้ั วา่  “อยา่ ใหน้ อ้ งรอนานนะ่  
หลวงพ่นี ่ะ”

หลวงพผ่ี ลนุ ผลนั เขา้ หอ้ ง เพราะขนื นง่ั อยเู่ รอ่ื งจะไปกนั ใหญ่
ตกลงท้ังสองข้างต่างก็จัดจ้าน พอๆ กัน เข้าทำ�นองท่ีโบราณว่า
“ขงิ กร็ า ข่ากแ็ รง” นนั่ เทียว

๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  57 

การพัฒนาตนเอง

หนอนที่น่าเกลียดยังพัฒนาตัวเองเป็นผีเส้ือที่น่ารัก
ได้ นํ้าที่สกปรกยังพัฒนาตัวเองเป็นนํ้าท่ีสะอาดได้ คนที่
ชว่ั ร้ายทำ�ไมจะพฒั นาตวั เองให้ดเี ดน่ ไม่ไดเ้ ล่า

๏ ๏ ๏

บุพเพสันนิวาส

พระรูปหนึ่งลาสิกขาออกไปมีครอบครัว ถูกภรรยาล้าง
ผลาญจนหมดตัว เลยกลับมาอยู่วัดรับทำ�งานช่วยทางวัด ท่ี
วดั นั้นมีแมช่ หี ลายคน มที งั้ สาวแกแ่ มห่ ม้าย

แม่ชีคนหน่ึงเมื่อฆราวาส ถูกสามีปอกลอกจนหมดตัว
เลยมาบวชเป็นชี ในท่ีสุดทั้ง ๒ คน เลยตกลงแต่งงานกัน มี
ความขยันหมน่ั เพียร ผลสดุ ทา้ ยกร็ ่ํารวย มคี วามสุข

๏ ๏ ๏

58  เกบ็ เลก็ ผสมนอ้ ย

หนองคาย

เดิมช่ือหนองควายนอน ต่อมาเป็นหนองควาย ต่อมา
เอาอักษร ว. ออกเลยเปน็ หนองคายอยู่ทุกวนั น้ี

๏ ๏ ๏

ลกั ษณะคนมนี ้าํ ใจ

๑. ไม่นง่ิ ดูดาย เช่น เห็นแก้วแตกเกบ็ ทง้ิ เสยี
๒. ขวนขวายช่วยเหลือ เช่น ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 
วาตภัย อัคคีภยั
๓. เอ้อื เฟอ้ื เผอ่ื แผ ่ เช่น มีลาภก็แบง่ ปนั
๔. ไม่เห็นแก่ตัว เช่น ให้ที่น่ังแก่เด็ก สตรี คนชรา และ
พระสงฆ์

๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  59 

ม้า - ลา - ม้าลาย

ม้า – ลา – ม้าลาย ล้วนมาแต่บรรพบุรุษเดียวกัน ม้า
กับลามีความสัมพันธ์อันใกล้ชิด สามารถท่ีจะผสมพันธุ์กันได้ 
ถ้ามา้ ตวั เมยี ผสมกบั ลาตัวผู ้ ลูกที่ออกมาจะเป็น “ล่อ”

ล่อเป็นสัตว์ท่ีแข็งแรงดุจม้า แต่ตัวเล็กเท่ากับลา ล่อเป็น
พาหนะในการบรรทกุ สัมภาระในถน่ิ ทุรกนั ดารได้ดี 

จากหนงั สือพิมพเ์ ดลนิ ิวส์
๏ ๏ ๏

ถอนสายบัว

การทำ�ความเคารพแบบผู้หญิงโดยยืนตรงแล้วชักขา
ขา้ งใดขา้ งหนง่ึ ไปขา้ งหลงั  แลว้ วาดปลายเทา้ ไขวไ้ ปทางดา้ นขา
ข้างท่ยี ืน พร้อมกับย่อเข้าอีกข้างหน่งึ ลงช้าๆ เม่อื จวนต่าํ สุดให้ 
ยกมือท้ังสองข้างวางประสานกันบนหน้าขาข้างท่ีย่อต่ํา ก้ม
ศีรษะ เล็กน้อย แล้วเงยศีรษะข้ึนพร้อมกับชักขาข้างหนึ่งท่ีไขว้
กลบั ทเ่ี ดมิ  เปน็ การแสดงความเคารพของสตรตี อ่ เจา้ นายชน้ั สงู

๏ ๏ ๏

60  เกบ็ เลก็ ผสมนอ้ ย

ตำ�แหนง่ อธิบดีสงฆ์

พระอารามหลวงในปัจจุบันคือ วัดพระเชตุพนวิมล-
มังคลาราม (วัดโพธ์ิ) และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ ๒ วัดนี้ 
ก�ำ หนดใหเ้ รียกต�ำ แหนง่ เจา้ อาวาสว่า “อธบิ ดีสงฆ์”

๏ ๏ ๏

บทสวดฝกึ จิต

บางท่านชอบอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บางท่านชอบยุบ
หนอ พองหนอ บางท่านชอบ สัมมาอรหัง แบบหลวงพ่อสด 
วัดปากน้าํ  บางท่านชอบพุทโธๆ แบบหลวงปู่มั่น ภูรทิ ตั โต

ทุกแบบดีทั้งน้ัน ถึงยอดคือความสงบทั้งนั้น ดุจทางขึ้น
ภผู ามหี ลายทาง ผลกค็ ือถงึ ยอดท้ังนน้ั

๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  61 

ความรัก ๓ แบบ

๑. รักแบบบูชา ได้แก่ รกั พ่อแม่
๒. รกั แบบเอ็นดู ได้แก ่ รักเดก็ ๆ
๓. รกั แบบเสนห่ า ได้แก่ รักท่ีเกี่ยวกับราคะ รักของ
ครู่ ัก

๏ ๏ ๏

กาสัก

นกท่ีนิยมกันว่าเป็นสัตว์กายสิทธ์ิ บินมาไม่เห็นตัว ใคร
ได้ขนมนั ไว ้ ก็หายตวั ได้

    จากหนงั สือพจนานุกรม
๏ ๏ ๏

62  เกบ็ เล็กผสมน้อย

อาเภท

ดินไร้ป่า ฟา้ ไรฝ้ น คนไร้น้าํ ใจ
๏ ๏ ๏

วญิ ญาณครู

อนั ช่างหม้อตีหม้อไมห่ วงั ฉาน ตีเอางานงามใชม้ ใิ ห้หนา
ดงั อาจารยต์ ีศษิ ย์ผลิตวิชา ก็เพือ่ วา่ ตง้ั จติ ใจใหศ้ ษิ ย์ดี

๏ ๏ ๏

ความส�ำ คัญของมิตร

อนั บา้ นเรอื นใหญโ่ ตรโหฐาน มีเสาธารหลายต้นจึงทนไหว
เกิดเป็นคนอยูเ่ ดียวกเ็ ปลี่ยวใจ ต้องมีพวกพอ้ งไวไ้ ดพ้ งึ่ กัน

๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  63 

ชราเปน็ ทกุ ข์

ดโู รงเรือนเปรียบเหมอื นกบั สังขาร
ปลูกไว้นานเกา่ ครา่ํ ฉะหล�ำ ฉะหลาย
แกล่ งแล้วโครงรา่ งของร่างกาย
ไม่เฉดิ ฉายเหมือนหนุ่มกระช่มุ กระชวย

ตาก็มวั หัวก็ขาวเปน็ คราวครํ่า
หกู ็ชาํ้ ไมไ่ ดย้ นิ เอาสิ้นสวย
แรงก็ถอยดอ้ ยกำ�ลงั นง่ั ก็งวย
ฟนั กห็ กั ไปเสียด้วยไม่ทนั ตาย

๏ ๏ ๏

พระเครื่อง

ภควัน พระเคร่ืองรางชนิดหนึ่ง มีพระพักตร์คว่ํา และ
ปิดทวารทั้ง ๙

๏ ๏ ๏

64  เกบ็ เล็กผสมนอ้ ย

อาลยั แร้ง

พระโหยหวนครวญเพลงวงั เวงจติ
ใหค้ นคิดถึงถ่ินถวิลหวงั
วา่ จากเรอื นเหมือนนกตกจากรัง
อยูข่ ้างหลงั ก็จะแลชะแงค้ อย

๏ ๏ ๏

ความหวังของพอ่ แม่

ยามแกเ่ ฒา่ หวงั เจา้ เฝ้ารบั ใช้ ยามป่วยไขห้ วงั เจา้ เฝ้ารกั ษา
ยามเมื่อถงึ วันตายวายชวี า หวังใหเ้ จา้ ปดิ ตาเมือ่ สน้ิ ใจ

  รชั กาลท ่ี ๖
๏ ๏ ๏

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  65 

คา่ ของวชิ า

อันวชิ ารู้กระจา่ งเพียงอยา่ งเดียว แตใ่ หเ้ ชย่ี วชาญเถิดคงเกิดผล

อาจจะชักเชดิ ชฟู สู กล ถึงคนจนพงษไ์ พรค่ งได้ดี

๏ ๏ ๏

ปลงสังขาร

อันสงั ขารแห่งเราท่าน จะเอาแกน่ สารท่ไี หนมา
มันไม่สะไมส่ วย ท่อนกล้วยยังดกี ว่า
พอหมดลมหายใจ กก็ ลายเป็นผีเฝ้าป่าชา้

๏ ๏ ๏

66  เกบ็ เลก็ ผสมนอ้ ย

โลกธรรม

มีลาภมยี ศสุขทกุ ขป์ รากฏ สรรเสรญิ นนิ ทา
เสื่อมลาภเสื่อมยศ เปน็ กฎธรรมดา
อย่ามวั โศกา นกึ ว่าช่างมัน

๏ ๏ ๏

ทุกคนต้องตาย

จะซ่อนกายในกลีบเมฆกลางเวหา
ซอ่ นกายากลางสมทุ รสดุ วิสัย
จะซอ่ นกายในเขาล�ำ เนาไพร
ณ ทีใ่ ดทพี่ น้ ตายไมม่ ีเลย

๏ ๏ ๏

พระพทุ ธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  67 

ค่าของนํ้าใจ

ความรักมาเพราะนา้ํ ใจมี
ความรักหนีเพราะน้าํ ใจลด
ความรกั หมดเพราะน้ําใจแห้ง

๏ ๏ ๏

เรือมนษุ ย์

เรอื เอย๋ เรอื มนษุ ย ์ ใหญย่ าวสดุ เพียงแคว่ า
ตัณหาพาเจ้ามา ร้หู รือว่าจะไปไหน
เหน็ ฝง่ั อยกู่ ับตา พายเข้าหาฝั่งหนไี กล
ตณั หาพาเจ้าไป เรือกล็ ่มจมคงคา

๏ ๏ ๏

68  เกบ็ เล็กผสมนอ้ ย

ความร้คู ู่การปฏบิ ัติ

เม่อื เขา้ ป่าเสกคาถากันชา้ งไล่
ขึ้นตน้ ไม้อกี ดว้ ยช่วยคาถา
เห็นนาํ้ แกงจวนหมดรสโอชา
เตมิ นา้ํ ปลาอีกด้วยชว่ ยนํ้าแกง

๏ ๏ ๏

พรนรก

เลน่ การพนนั มอื ขนึ้  ร่ํารวย น่ีคือ “พรนรก”
๏ ๏ ๏

ตกยากแลว้ ตอ้ งเจยี มเน้อื เจยี มตวั

วา่ ญาติใครไดด้ ีเขามที รพั ย์
ตัวแคน้ คบั เข็ญใจอย่าไปหา
ถึงรักแรงแข็งขันไดส้ ัญญา
อนาถาแลว้ ไม่นบั เขาอับอาย

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  69 

เหมอื นบายศรมี งี านท่านถนอม สุนทรภู่
เจิมแปง้ หอมน้าํ มันจันทนใ์ หห้ รรษา
พอเสรจ็ งานทานทงิ้ ลงในคงคา
ตอ้ งลอยมาลอยไปเหมือนใบตอง

๏ ๏ ๏


ลูกแกว้

ยามตายจะไดฝ้ ากผี
ยามดจี ะไดฝ้ ากทอ้ ง
ยามขัดข้องจะได้ชว่ ยแกไ้ ข

๏ ๏ ๏

สุขใจเมื่อใฝธ่ รรม

อยู่เรอื นพังยงั ดีไมม่ ีทุกข์
ดกี ว่าคุกหลายเทา่ ไมเ่ ศร้าหมอง
จนยังดีมีธรรมคํ้าประคอง
ดกี ว่าปองทุจริตผดิ ศลี ธรรม
รศ.เสฐยี รพงษ์ วรรณปก

๏ ๏ ๏

70  เก็บเลก็ ผสมน้อย

ความส�ำ คัญของนํ้าใจ

นาํ้ บอ่ นํ้าคลองยังเป็นรองนํ้าใจ
น้ําแควนอ้ ยแควใหญ่ก็สู้นา้ํ ใจไม่ได้
น้าํ บ่อนา้ํ คลองยงั เป็นรองน้ําใจ
นา้ํ ท่ไี หนๆ กส็ ้นู ้ําใจไม่ได้
คนขาดนา้ํ ใจเป็นภัยสงั คม
คนมนี า้ํ ใจทำ�ใหบ้ ้านเมืองเจรญิ

๏ ๏ ๏

ลักษณะคนมธี รรม

ลักษณะของคนมีความสันโดษ คือพอใจเท่าที่มี ยินดี
เท่าท่ีได้ ลักษณะของคนมีความมักน้อย คือพอใจอย่างจำ�กัด 
ขจัดความฟ่มุ เฟอื ย

๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วโิ รจโน)  71 

ลกั ษณะคนดือ้ ด้าน

ใครหา้ มกไ็ ม่ฟงั  ใครยั้งก็ไม่อย ู่ ใครกกู่ ็ไม่กลบั
๏ ๏ ๏

รักตัวอยา่ ทำ�ชวั่

รกั ตัวกลัวกรรมอย่าทำ�ช่ัว
จะหมองมวั หม่นไหมไ้ ปเมอื งผี
จงเลอื กทำ�แตก่ รรมทีด่ ดี ี
จะไดม้ คี วามสุขพ้นทกุ ขภ์ ัย

๏ ๏ ๏

ความรู้คูค่ วามดี

มีวิชาหากไมม่ ีดีก�ำ กบั
จะตกอบั ไรค้ า่ พาเสียศรี
แกงขาดเกลือชรู สก็หมดดี
เคม็ ไม่มีรสก็จืดชืดไปเลย

๏ ๏ ๏

72  เกบ็ เลก็ ผสมน้อย

สรุ าคอื ยาพษิ

สุรา สรุ า ไม่ใช่ยาวเิ ศษ  เพม่ิ กองกิเลสทำ�คนให้เป็นบา้
สุรา สรุ า พาใหเ้ กดิ วบิ ัติ  ความชวั่ สารพดั เกิดวบิ ตั เิ พราะสุรา
สุราน้าํ ใส เมรัยน้าํ ขน้
สรุ าน้นั จะให้สขุ เมือ่ เมา  แตจ่ ะเศรา้ เมอื่ สรา่ ง
๏ ๏ ๏

ท่พี ง่ึ แท้ สุนทรภู่

อนั ขา้ ไทไดพ้ งึ่ เขาจงึ รัก
แม้นถอยศักด์ิส้นิ อำ�นาจวาสนา
เขาหน่ายหนีมไิ ดอ้ ย่คู ู่ชีวา
แตว่ ิชาชว่ ยกายจนวายปราณ


๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  73 

รอยแผล

อันถว้ ยโถโอร้าวเอากาวตดิ ถงึ สนิทก็ยังเห็นวา่ เป็นแผล
จากหนังสอื พิมพ์ไทยรฐั

๏ ๏ ๏

ครสู อนสจั ธรรม

คนตายเปน็ คร ู คนอยูเ่ ปน็ นักเรยี น
เอาทา่ นผตู้ ายเปน็ อาจารย์ ท่านผมู้ ารว่ มในงานเปน็ นกั ศกึ ษา

๏ ๏ ๏

ความสำ�คญั ของค�ำ พดู

พดู ดีมแี ต่ไดพ้ ดู รา้ ยมแี ตเ่ สยี พดู ดีมีก�ำ ไรพดู ร้ายขาดทนุ
ถงึ บางพูดพูดดีเป็นศรีศักด์ ิ มคี นรักรสถอ้ ยอร่อยจติ
แมน้ พดู ชว่ั ตวั ตายท�ำ ลายมติ ร จะชอบผดิ ในมนษุ ยเ์ พราะพูดจา

๏ ๏ ๏

74  เกบ็ เล็กผสมน้อย

ส่งคนื เมอื่ ถึงเวลา

กลบั เปน็ ผ ี หนไี ม่ได ้ กลายเป็นดิน ทรัพยส์ ินหมด
ยมื เขาใช ้ ไม่ม่ันคง ส่งคนื เขา เนา่ ทกุ คน

๏ ๏ ๏

ลกั ษณะคนมีนา้ํ ใจ

ยามอยู่ก็ได้พึ่งพาอาศัย ยามเจ็บไข้ก็รักษา ยามมรณา
ก็ทำ�ศพให้

๏ ๏ ๏

ทางกา้ วหน้า

ซือ่ สตั ย ์ สามัคค ี มีนํ้าใจ อภัยทาน
๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  75 

แก่สมบูรณ์แบบ

ตา ๒ ชั้น (สวมแว่น) ฟัน ๒ หน (ใส่ฟัน) คน ๓ ขา 
(ถือไม้เท้า)

๏ ๏ ๏

เตอื นตน

อตฺตนา โจทยตตฺ านํ
ถงึ บดิ ามารดาคณาญาต ิ ครูอ�ำ มาตย์มติ รบตุ รสดุ สงสาร
คอยเตือนเราเชา้ คาํ่ ประจ�ำ กาล หรอื จะปานตัวเราเฝ้าเตอื นตน

๏ ๏ ๏

76  เก็บเล็กผสมน้อย

คนพิการกบั การบวช

การไมอ่ นญุ าตใหค้ นพกิ ารตา่ งๆ เขา้ มาบวชในพระพทุ ธ-
ศาสนา ก็เพื่อมิให้สังฆมณฑลเป็นที่รวมของคนพิการ ผิดปกติ
หรือเปน็ ทีอ่ าศยั เล้ียงชีพของผู้หมดทางไป

แต่ในบางกรณี ถ้าพิจารณาเห็นความต้ังใจจริงที่จะ
ประพฤติปฏิบัติ ก็อาจผ่อนผันไปตามสมควร เช่น พระภัททิยะ
ซึ่งเป็นคนค่อม แต่มีอุปนิสัยในคุณธรรมสูง ก็ได้รับอนุญาต
ใหบ้ วชได้และท่านกส็ �ำ เรจ็ เป็นพระอรหนั ต์

สชุ พี  ปุญญานุภาพ
๏ ๏ ๏

ความส�ำ คญั โยม

เม่อื ได้ไปวัดวชิรคาม จังหวัดสมุทรสงคราม เห็นสุภาษิต
บทหน่ึงอยู่ที่หอระฆังริมทางเดิน รู้สึกว่าเข้าท่าดีและเข้าทีด้วย 
จึงขอถือโอกาสขออนุญาตเจ้าของสุภาษิตบทน้ี นำ�มาเผยแพร่
ในหนงั สอื เลม่ น ้ี เพอ่ื เปน็ วทิ ยาทานตอ่ ไป สภุ าษติ นน้ั มวี า่  “บ้าน
ขาดเสาบ้านกล็ ้ม วัดขาดโยมวดั กแ็ ย”่  จรงิ ของทา่ น

๏ ๏ ๏

พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน)  77 

คาถากนั โกรธ

ทา่ นอาจารยป์ น่ิ  มทุ กุ นั ต ์ แนะน�ำ วา่ ใหภ้ าวนาวา่  “ไมโ่ กรธ 
ไมโ่ กรธ ไม่โกรธ”

๏ ๏ ๏

คำ�ว่าทักษิณานุประทาน

มีผู้ถามคุณจำ�รัส ดวงธิสาร ป.ธ. ๗ ว่า คำ�ว่าทักษิณา-
นุประทาน จากหนังสือราชาศัพท์ของสำ�นักเลขาธิการนายก
รัฐมนตรี กับคำ�ว่า ทักขิณานุปทาน ตามหนังสือพจนานุกรม 
ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ค�ำ ใดถูกต้อง

คำ�ตอบก็คือ ทักษิณานุประทาน นั้นถูกต้องตามแบบ
สันสกฤต ถ้ารูปบาลีจะเป็นทักขิณานุปทาน ท่านผู้ตอบขอให้
ถือตามฉบบั พจนานุกรม ฉบับราชบณั ฑติ ยสถานเปน็ หลกั

๏ ๏ ๏

78  เก็บเลก็ ผสมนอ้ ย

กรรมตามทัน

ยายเอาน้ําข้าวกำ�ลังเดือดจัดราดลงไปใต้ถุนครัวท่ีสุนัข
กำ�ลังกัดกันอยู่ มันร้องเสียงหลง แต่บาปก็เห็นทันตา วัน
รุ่งขึ้นอีก ๒ วัน หลานสาวเค่ียวน้ํามัน กระทะนํ้ามันท่ีกำ�ลัง
เดือดจัดหกลงไปราดศีรษะยายที่ลงไปเก็บช้อนท่ีใต้ถุนครัว 
ยายถึงกบั รอ้ งเสียงล่นั ดว้ ยความเจ็บปวด

๏ ๏ ๏

อาจารย์ธรรมโชติ

ในประวัติศาสตร์ไทย คือภิกษุท่ีเป็นที่เคารพนับถือ
ของชาวบ้านบางระจัน ได้ช่วยปลุกใจให้ชาวบ้านให้กล้าหาญ
ไมย่ ่อท้อเขา้ ต่อสพู้ ม่าจนแตกพ่ายไปหลายครง้ั หลายครา

๏ ๏ ๏


Click to View FlipBook Version