The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน นาฎศิลป์ 65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุฒิมา อิ่มอำไพ, 2022-09-14 08:57:41

แผนการสอน นาฎศิลป์ 65

แผนการสอน นาฎศิลป์ 65

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20

ช่ือหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 8 การละเล่นไทย เร่ืองการละเล่นไทย (มอญซ่อนผา้ )

เวลา 1 คาบ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศกึ ษา 2565 ผสู้ อน นางสุฒิมา อ่ิมอาไพ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่าของ

นาฏศลิ ป์ ทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล
ตวั ชี้วดั
ศ 3.2 ป.1/1 ระบแุ ละเล่นการละเล่นของเดก็ ไทย

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั

1. อธิบายเก่ียวกบั ประโยชน์ของการละเล่นมอญซ่อนผา้ (K)
2. เล่นการละเล่นมอญซ่อนผา้ (P)
3. ช่ืนชมการละเล่นมอญซ่อนผา้ (A)

สาระสาคญั

มอญซ่อนผา้ เป็ นการละเล่นของเดก็ ไทยท่ีมีบทเพลงประกอบการเล่น ทาใหผ้ เู้ ล่นรูส้ ึกสนุกสนานและ
มีความสุข เป็นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์และทาใหม้ ีสุขภาพแขง็ แรง

สาระการเรียนรู้

การละเล่นของเด็กไทย : มอญซ่อนผา้

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

รักความเป็ นไทย
ตวั ช้ีวดั ที่ 7.3 อนุรักษแ์ ละสืบทอดภมู ิปัญญาไทย

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ความสามารถในการคิด

ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

1. แผนภาพความคิดประโยชนข์ องการเล่นมอญซ่อนผา้
2. แบบบนั ทึกการเล่นมอญซ่อนผา้

คาถามท้าทาย

- การละเล่นมอญซ่อนผา้ ช่วยใหเ้ ล่นกีฬาชนิดใดไดด้ ี

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูนาบตั รคา มอญซ่อนผา้ มาติดไวบ้ นกระดาน แลว้ พานกั เรียนอ่านจานวน 1 รอบ จากน้นั ใช้
คาถามเพอ่ื ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี

- นกั เรียนเคยเล่นมอญซ่อนผา้ หรือไม่ (เคย/ไม่เคย)
- เมื่อเล่นมอญซ่อนผา้ แลว้ นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ สนุกสนาน)
2. ครูนาแผนภูมิเพลงประกอบการเล่นมอญซ่อนผา้ มาตดิ ไวบ้ นกระดานและปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอน ดงั น้ี
- พานกั เรียนอ่านทลี ะท่อนจนทุกคนสามารถอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง
- พานกั เรียนร้องประกอบจงั หวะจนทุกคนสามารถรอ้ งไดถ้ ูกตอ้ ง
- อธิบายวธิ ีการเล่นและกตกิ าการเล่นมอญซ่อนผา้ ใหน้ กั เรียนฟังจนเขา้ ใจ
- คดั เลือกผแู้ ทนนกั เรียนออกมาสาธิตการเล่นมอญซ่อนผา้ ใหน้ กั เรียนดูจานวน 3 รอบ
- ใหน้ กั เรียนเล่นมอญซ่อนผา้ แลว้ บนั ทกึ ผลการเล่น ลงในแบบบนั ทึกดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี

แบบบันทกึ การเล่นมอญซ่อนผ้า
ช่ือ ________________ นามสกุล _____________ ช้นั _____ เลขท_่ี _____

1. การละเล่นทเี่ ล่น____________________________________________
2. ความรู้สึกทมี่ ตี ่อการละเล่นมอญซ่อนผา้ ______________________________
3. ความรู้สึกเมือ่ ไดเ้ ล่นการละเล่นไทย________________________________
4. ถา้ มีเวลาวา่ งจะนาการละเล่นไปเล่นกบั เพ่ือนหรือไม่______________________
5. ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากการละเล่นมอญซ่อนผา้ ___________________________

3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ประโยชนท์ ่นี กั เรียนจะไดร้ บั จากการเล่นมอญซ่อนผา้ แลว้ นา
ขอ้ มูลทีไ่ ดม้ าเขียนสรุปลงในแผนภาพความคดิ บนกระดานดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี

4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั แนวทางการอนุรักษก์ ารละเล่นมอญซ่อนผา้ โดยครูใชค้ าถาม
ดงั น้ี

- นักเรียนจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์การละเล่นมอญซ่อนผา้ ให้คงอยคู่ ู่สังคมไทยได้อยา่ งไร
(ตัวอย่างคาตอบ นาการละเล่นมอญซ่อนผ้ามาเล่นกบั เพ่ือน ๆ เสมอ)

5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
- มอญซ่อนผา้ เป็นการละเล่นของเด็กไทยที่มีบทเพลงประกอบการเล่น ทาให้ผเู้ ล่นรูส้ ึกสนุกสนาน

และมีความสุข เป็ นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์และทาใหม้ ีสุขภาพแขง็ แรง
6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
- การละเล่นมอญซ่อนผา้ ช่วยใหเ้ ล่นกีฬาชนิดใดไดด้ ี

การจดั บรรยากาศเชิงบวก

- ใหน้ กั เรียนเล่นมอญซ่อนผา้ อยา่ งมีอิสระ

ส่ือการเรียนรู้

1. บตั รคา
2. แผนภมู ิเพลงประกอบการละเล่นมอญซ่อนผา้
3. แบบบนั ทึกการเล่นมอญซ่อนผา้

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. วิธีการวดั และประเมินผล
- สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม

2. เคร่ืองมือ
- แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม

3. เกณฑ์การประเมิน
- การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน

การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

การประเมินกิจกรรมน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เร่ือง เล่นการละเล่นมอญซ่อนผา้

ตัวชี้วัด ระบุและเล่นการละเล่นของเด็กไทย (ศ 3.2 ป.1/1)

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1

เล่นการละเล่นมอญซ่อนผา้ เล่นการละเล่น 32 เล่นการละเล่น
เล่นการละเล่น เล่นการละเล่น มอญซ่อนผา้ แต่
มอญซ่อนผา้ ได้ มอญซ่อนผา้ ได้ มอญซ่อนผา้ ได้ ไดไ้ ม่ถูกตอ้ ง
ตามกติกาและมี ตามกตกิ า ตามกตกิ า
ตามกติกาและ เทคนิคการเล่น
ของตนเอง
แนะนาใหผ้ อู้ ่ืน

เล่นได้

แบบบนั ทกึ หลงั แผนการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….
ปัญหา/อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………....................................................................................…………………….....
แนวทางการแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….................

ลงชื่อ.................................ผสู้ อน
(นางสุฒิมา อิ่มอาไพ)
ตาแหน่ง ครู คศ.1

………/……………………/………..

ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ.........................................
(นายสงั วร คงภกั ดี)

ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียน
……………/………………../………



หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ รายวิชา ดนตรี-นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ 11101
ปี การศึกษา 2565
ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 4 ชวั่ โมง

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี1 เสียงและการกาเนิดของเสียง

ครูผสู้ อน นางสุฒิมา อิ่มอาไพ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี

ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ตัวชี้วดั
ศ 2.1 ป.1/1 รู้วา่ ส่ิงตา่ ง ๆ สามารถก่อกาเนิดเสียงทแ่ี ตกต่างกนั
ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ

สาระสาคญั

เสียงที่อยรู่ อบตวั เรามาจากแหล่งกาเนิดเสียงทีต่ า่ งกนั และเสียงจะมีคุณลกั ษณะแตกตา่ งกนั

ความเข้าใจทค่ี งทน (Enduring Understanding)

เสียงท่ีอยรู่ อบตวั เรามาจากแหล่งกาเนิดเสียงที่แตกต่างกนั แตล่ ะเสียงมีลกั ษณะเสียงทแ่ี ตกต่างกนั

สาระการเรียนรู้

1. การกาเนิดเสียง
2. คุณสมบตั ขิ องเสียง
3. เสียงจากเคร่ืองดนตรี
4. สีสนั ของเสียงมนุษย์

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ความสามารถในการคดิ

ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

1. ชิ้นงานที่ 1 เรื่อง การกาเนิดเสียง
2. การสงั เกตภาพและบอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา

การประเมนิ ผล

1. การประเมนิ ผลตัวชี้วดั
1.1 ชิ้นงานท่ี 1 เรื่อง การกาเนิดเสียง

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32

วาดภาพเสียงทไ่ี ดย้ นิ วาดภาพเสียงทไี่ ดย้ นิ วาดภาพเสียงที่ไดย้ นิ วาดภาพเสียงทไี่ ดย้ นิ วาดภาพเสียงท่ไี ดย้ นิ

ในชีวติ ประจาวนั และ ในชีวติ ประจาวนั และ ในชีวติ ประจาวนั และ ในชีวติ ประจาวนั และ ในชีวติ ประจาวนั และ

จาแนกแหล่งกาเนิดเสียง จาแนกแหล่งกาเนิดเสียง จาแนกแหล่งกาเนิดเสียง จาแนกแหล่งกาเนิดเสียง จาแนกแหล่งกาเนิดเสียง

ได้ ไดน้ อกเหนือจากทค่ี รู ไดต้ ามทีค่ รูยกตวั อยา่ ง ไดต้ ามที่ครูยกตวั อยา่ ง ไดต้ ามรูปแบบที่

ยกตวั อยา่ งไดส้ วยงาม แตไ่ ม่สวยงามดว้ ยตนเอง แตม่ ีการดดั แปลง กาหนดใหไ้ ด้ แต่ไม่

ดว้ ยตนเอง และเขียน และเขียนจาแนก ใหแ้ ตกตา่ งและเขยี น สามารถเขียนจาแนก

จาแนกแหล่งกาเนิดเสียง แหล่งกาเนิดเสียงได้ จาแนกแหล่งกาเนิดเสียง แหล่งกาเนิดเสียงได้

ไดถ้ ูกตอ้ งสมั พนั ธก์ บั ถูกตอ้ งสมั พนั ธก์ บั ไดถ้ ูกตอ้ งสมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธก์ บั รูปภาพ

รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ

1.2 การสังเกตและบอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา

เกณฑ์การประเมนิ ระดับคะแนน

43 2 1

บอกลกั ษณะของเสียง บอกลกั ษณะของเสียง บอกลกั ษณะของเสียง บอกลกั ษณะของเสียง บอกลกั ษณะของเสียง

ดงั -เบา และความชา้ -เร็ว ดงั -เบา และความชา้ -เร็ว ดงั -เบา และความชา้ -เร็ว ดงั -เบา และความชา้ -เร็ว ดงั -เบา และความชา้ -เร็ว

ของจงั หวะ ของจงั หวะไดส้ มั พนั ธก์ นั ของจงั หวะได้ มีการ ของจงั หวะไดส้ อดคลอ้ ง ของจงั หวะได้ แต่

มีการเชื่อมโยงใหเ้ ห็น จาแนกขอ้ มลู หรือ กบั ขอ้ มลู มีการเขียน ไม่สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู

เป็นภาพรวมแสดงให้ อธิบายใหเ้ ห็นถึง ขยายความ และมีการ ทอี่ ่าน เขยี นตามขอ้ มูล

เห็นถึงความสมั พนั ธก์ บั ความสมั พนั ธก์ บั ตนเอง ยกตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ ทีอ่ ่าน ไม่มีการอธิบาย

ตนเองและผอู้ ่ืน อยา่ งเป็ นเหตเุ ป็นผล ใหเ้ ขา้ ใจง่าย เพมิ่ เตมิ

2. การประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้

ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยี่ยม (3)

4.1.1 ต้งั ใจเรียน ไม่ต้งั ใจเรียน ต้งั ใจ เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่

4.1.2 เอาใจใส่และ ในการเรียน และมีความเพยี ร- และมีความเพยี ร-

มีความเพยี รพยายาม พยายามในการเรียน พยายามในการ

ในการเรียนรู้ เรียนรู้ เขา้ ร่วม

4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม กิจกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ

ตา่ ง ๆ

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั เสียงต่าง ๆ
2. ครูสรุปความรูเ้ กี่ยวกบั แหล่งกาเนิดเสียงและอธิบายเพม่ิ เตมิ
3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั เสียงท่ีเคยไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั แลว้ ทาใบงานท่ี 1
4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั คุณลกั ษณะของเสียง
5. เล่นเกมเสียงหรรษา
6. ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั เสียงและคุณลกั ษณะของเสียงที่ไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั
7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั คุณลกั ษณะของเสียงและเล่นเกมทายสิเอ่ยวา่ เสียงใด
8. สรุปความรูเ้ ก่ียวกบั เสียงและการกาเนิดเสียง
9. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

- เสียงทอี่ ยรู่ อบตวั เรามาจากแหล่งกาเนิดเสียงที่แตกตา่ งกนั แตล่ ะเสียงมีลกั ษณะเสียงทีแ่ ตกตา่ งกนั

ส่ือการเรียนรู้

1. เกมเสียงใครเอ่ย
2. บตั รภาพ
3. บตั รคา
4. ช้ินงานที่ 1 เร่ือง การกาเนิดเสียง
5. เกมเสียงหรรษา
6. ฉิ่ง
7. กลอง

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test)

ชื่อ ______________________ นามสกลุ _______________ เลขที่______ ช้นั _______ ได.้ .....................คะแนน

คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ให้ระบายคาตอบท่ถี ูกต้องลงในวงกลมตวั เลือกให้เตม็ วง (ห้ามระบายนอกวง)
1. ขอ้ ใดเป็นคุณลกั ษณะของเสียง

1 ทมุ้ แหลม ดงั เบา
2 ใหญ่ เลก็ หนกั เบา
3 ส้นั ยาว บาง หนา

2. เสียงแกว้ ตกแตกมีลกั ษณะเสียงอยา่ งไร
1 เสียงทมุ้
2 เสียงดงั
3 เสียงแหลม

3. เคร่ืองดนตรีขอ้ ใดมีเสียงทมุ้
1 ปี่
2 ฆอ้ งโหม่ง
3 ฉ่ิง

4. เสียงใดที่อาจทาใหต้ กใจ
1 เสียงดงั
2 เสียงทมุ้
3 เสียงเบา

5. ขอ้ ใดเมื่ออ่านออกเสียงจะเป็ นเสียงส้นั
1 ขายาว
2 เกะกะ
3 ลาธาร

6. เสียงใดเกิดข้ึนจากธรรมชาติ
1 ฟ้ารอ้ ง

2 แตรรถยนต์
3 ตีกลอง

7. การกระทาใดทาใหเ้ กิดเสียง
1 นอนหลบั
2 นงั่ สมาธิ
3 รอ้ งเพลง

8. เสียงนาฬิกามีแหล่งกาเนิดจากขอ้ ใด
1 มนุษย์
2 เคร่ืองดนตรี
3 ธรรมชาติ

9. นกร้องมีเสียงอยา่ งไร
1 ครืน ครืน
2 จิบ๊ จบ๊ิ
3 ติ๊ก ตอ๊ ก

10. เสียงดงั บร้ืน บร้ืน คือเสียงใด
1 เสียงนกร้อง
2 เสียงน้าไหล
3 เสียงรถยนต์

แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test)

ช่ือ ______________________ นามสกุล_______________ เลขท่ี______ ช้นั _______ ได.้ .....................คะแนน

คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ให้ระบายคาตอบท่ีถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)
1. การกระทาใดทาใหเ้ กิดเสียง

1 ร้องเพลง
2 นอนหลบั
3 นงั่ สมาธิ

2. นกรอ้ งมีเสียงอยา่ งไร
1 จิ๊บ จบ๊ิ
2 ตกิ๊ ตอ๊ ก
3 ครืน ครืน

3. เสียงดงั บร้ืน บร้ืน คอื เสียงใด
1 เสียงน้าไหล
2 เสียงรถยนต์
3 เสียงนกรอ้ ง

4. เสียงนาฬิกามีแหล่งกาเนิดจากขอ้ ใด
1 ธรรมชาติ
2 มนุษย์
3 เคร่ืองดนตรี

5. เสียงใดเกิดข้นึ จากธรรมชาติ
1 แตรรถยนต์
2 ตีกลอง
3 ฟ้าร้อง

6. เสียงแกว้ ตกแตกมีลกั ษณะเสียงอยา่ งไร
1 เสียงแหลม

2 เสียงทมุ้
3 เสียงดงั

7. เสียงใดที่อาจทาใหต้ กใจ
1 เสียงเบา
2 เสียงดงั
3 เสียงทมุ้

8. ขอ้ ใดเม่ืออ่านออกเสียงจะเป็ นเสียงส้นั
1 เกะกะ
2 ขายาว
3 ลาธาร

9. ขอ้ ใดเป็นคุณลกั ษณะของเสียง
1 ใหญ่ เลก็ หนกั เบา
2 ส้นั ยาว บาง หนา
3 ทมุ้ แหลม ดงั เบา

10. เคร่ืองดนตรีขอ้ ใดมีเสียงทมุ้
1 ฉิ่ง
2 ป่ี
3 ฆอ้ งโหม่ง

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test)

1. 1 2. 3 3. 2 4. 1 5. 2
6. 1 7. 3 8. 1 9. 2 10. 3

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test)
1. 1 2. 1 3. 2 4. 2 5. 3
6. 1 7. 2 8. 1 9. 3 10. 3

แบบบนั ทึกสรุปผลการเรียนรู้สาหรับผู้เรียน

ช่ือ-นามสกลุ ...................................... เลขที่ ............................................ ช้นั ..................................
วนั ที่ ................................................ เดือน ........................................................... พ.ศ. .....................
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนบนั ทึกสรุปผลการเรียนรูจ้ ากหน่วยการเรียนรูน้ ้ี

นกั เรียนยงั ไม่เขา้ ใจเร่ืองใด นกั เรียนมีความรู้สึกอยา่ งไร นกั เรียนไดร้ บั ความรูเ้ รื่องใดบา้ ง
อีกบา้ งทเ่ี กี่ยวกบั หน่วยการเรียนรู้น้ี หลงั จากทเ่ี รียนหน่วยการเรียนรู้ จากหน่วยการเรียนรูน้ ้ี
ซ่ึงตอ้ งการใหค้ รูอธิบายเพมิ่ เตมิ น้ีแลว้ ....................................................
....................................................... .................................................... ....................................................
....................................................... .................................................... ....................................................
....................................................... .............. ....................................................

หน่วยการเรียนรู้ท่ี.......
...................................
................................

นกั เรียนจะสามารถนาความรู้ ผลงานที่นกั เรียนชอบและตอ้ งการ กิจกรรมทนี่ กั เรียนชอบมากที่สุดใน
ความเขา้ ใจจากหน่วยการเรียนรู้น้ี คดั เลือกเป็ นผลงานดีเด่นจากหน่วย หน่วยการเรียนรู้น้ีคอื กิจกรรมใด
ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั การเรียนรู้น้ีคือผลงานใดบา้ ง เพราะอะไร
ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ....................................................... ...........................................................
....................................................... ....................................................... ...........................................................
....................................................... ....................................................... ...........................................................
....................................................... ...........................................................
.......................................................

หมายเหตุ ใหค้ รูสาเนาแบบบนั ทึกน้ีเพอื่ ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ ทุกหน่วยการเรียนรู้

1. ครูสามารถนาแบบบนั ทกึ น้ีไปใชเ้ ป็นหลกั ฐานและขอ้ มูลเพอ่ื ปรับปรุง และพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน
2. ครูสามารถนาแบบบนั ทกึ น้ีไปใชป้ ระกอบการทาวจิ ยั ในช้นั เรียนเพอื่ เป็ นผลงานประกอบการเล่ือนวทิ ยฐานะได้

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เวลา 4 ชั่วโมง
เสียงและการกาเนิดเสียง

ผงั การเรียนรู้แบบบูรณาการ

ภาษาไทย
- การพดู แสดงความคิดเห็น
- การอ่านคา

เสียงและการกาเนดิ เสียง

วทิ ยาศาสตร์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
- เสียงและแหล่งกาเนิดเสียง - การจดั ป้ายนิเทศ
ตามธรรมชาติ - การจดั ทาแผนภาพ

ตวั ชี้วดั

1. รู้วา่ สิ่งตา่ ง ๆ สามารถก่อกาเนิดเสียงทแี่ ตกต่างกนั (ศ 2.1 ป.1/1)
2. บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ (ศ 2.1 ป.1/2)

แผนการสอนท่ี 21

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ท่ี1 เสียงและการกาเนิดเสียง เรื่องการกาเนิดเสียง

เวลา 1 คาบ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ผสู้ อน นางสุฒิมา อ่ิมอาไพ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณ์คุณค่าดนตรี

ถ่ายทอดความรู้สึก ความคดิ ต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ตวั ชี้วัด
ศ 2.1 ป.1/1 รู้วา่ ส่ิงตา่ ง ๆ สามารถก่อกาเนิดเสียงทแ่ี ตกตา่ งกนั
ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั

1. อธิบายเก่ียวกบั แหล่งกาเนิดเสียง (K)
2. จาแนกแหล่งกาเนิดเสียงทไ่ี ดย้ นิ (P)
3. ช่ืนชมลกั ษณะของเสียงท่ไี ดย้ นิ (A)

สาระสาคญั

เสียงทีอ่ ยรู่ อบ ๆ ตวั เรามาจากแหล่งกาเนิดเสียงท่ีแตกต่างกนั ดงั น้ันเมื่อเราไดย้ นิ เสียงเหล่าน้นั จงึ ทาให้
เกิดความรูส้ ึกทแี่ ตกตา่ งกนั ไปตามแหล่งกาเนิดของเสียง

สาระการเรียนรู้

แหล่งกาเนิดเสียงประเภทต่าง ๆ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

ความสามารถในการคิด

ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

- แผนภาพแสดงแหล่งกาเนิดเสียง

คาถามท้าทาย

- เสียงของส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั เสียงใดบา้ งที่มีเสียงเหมือนเคร่ืองดนตรี

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูใหน้ กั เรียนในช้นั เรียนท้งั หมดเงียบเสียง จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ ไดย้ นิ เสียงอะไรบา้ ง (ตัวอย่าง
คาตอบ เสียงหายใจ เสียงขยับตวั เสียงลมพดั )

2. ครูทาเสียงต่าง ๆ ต่อไปน้ี เสียงกบร้อง (อบ๊ อ๊บ) เสียงแกว้ แตก (เพลง้ ) เสียงเป่ าแคน (แตร แลน แตร)
เสียงเด็กผหู้ ญิง จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ทายวา่ เสียงที่ไดย้ นิ คือเสียงอะไร

3. ครูคัดเลือกผูแ้ ทนนักเรียน 4 คน ออกมาปฏิบัติการเลียนเสียงส่ิงท่ีกาหนดให้ ดงั น้ี เสียงรถไฟ
เสียงแมวร้อง เสียงตีกลอง เสียงผูช้ ายแก่ แล้วให้นักเรียนที่เหลือร่วมกนั ทายว่าเสียงที่ได้ยนิ คือเสียงอะไร
โดยครูกาหนดใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิทลี ะคน

4. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมเสียงใครเอ่ย โดยมีวธิ ีการเล่น ดงั น้ี
- ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กนั
- ครูแจกบตั รภาพนกั ร้อง ภาพฝนตก ภาพรถยนต์ ภาพคล่ืนซดั สาดริมฝ่ัง ภาพไก่ขนั และภาพเด็ก

ตกี ลองใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม กลุ่มละ 1 ชุด
- ครูนาบตั รคาต่อไปน้ีมาตดิ ไวบ้ นกระดาน

จิ๊บ จบิ๊ ซู่ ซู่ บร้ืน บร้ืน ซ่า ซ่า เอก อี เอก้ เอก้ ตมุ้ ตมุ้

แลว้ พานกั เรียนอ่านทลี ะใบจนครบ

- ครูอธิบายวธิ ีการเล่นเกมเสียงใครเอ่ยใหน้ กั เรียนฟังวา่ “ถา้ ครูอ่านบตั รคาใด ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่ม
ยกบตั รภาพทมี่ ีเสียงตรงกบั บตั รคาดงั กล่าว กลุ่มใดยกก่อนและตอบไดถ้ ูกตอ้ งจะไดค้ ะแนน 1 คะแนน ถา้ ยก
ก่อนแตต่ อบผดิ จะใหก้ ลุ่มต่อไปตอบจนกวา่ จะไดก้ ลุ่มท่ีถูกตอ้ ง เล่นจนครบบตั รคาท้งั 6 ใบ กลุ่มใดไดค้ ะแนน
มากทีส่ ุดเป็นกลุ่มชนะ”

จากน้นั ครูดาเนินการเล่นเกมเสียงใครเอ่ยดงั ข้นั ตอนดงั กล่าว โดยครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งของคาตอบแตล่ ะขอ้

5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั เสียงตา่ ง ๆ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- ไปเทีย่ วสวนสัตว์ พบสตั วช์ นิดหน่ึงรอ้ งเจี๊ยก เจ๊ยี ก เสียงดงั กล่าวคือเสียงรอ้ งของสตั วช์ นิดใด (ลิง)
- เมื่อเดินเขา้ ไปในป่ าไดย้ นิ เสียง วู้ วู้ เสียงดงั กล่าวคือเสียงของอะไร (ลมพัดใบไม้)
- พอ่ แม่พาไปเท่ียวไดย้ นิ เสียง ซ่า ซ่า เสียงดงั กล่าวคือเสียงอะไร (คล่ืนในทะเล)
- พอ่ กาลงั ไปทางานไดย้ นิ เสียง บร้ืน บร้ืน เสียงดงั กล่าวคอื เสียงอะไร (เสียงรถยนต์แล่น)
- ไปเทยี่ วสวนสตั วไ์ ดย้ นิ เสียงสตั วช์ นิดหน่ึงรอ้ ง แปร๋น แปร๋น สตั วช์ นิดน้ีคืออะไร (ช้าง)
- เดินไปเทย่ี วในป่ าไดย้ นิ เสียง จอ๊ ก จอ๊ ก เสียงดงั กล่าวคอื เสียงอะไร (นา้ ไหลในลาธาร)
- ฝนกาลงั ตกไดย้ นิ เสียง ครืน ครืน เสียงดงั กล่าวคอื เสียงของอะไร (ฟ้าร้อง)

6. ครูนาบตั รคาต่อไปน้ีตดิ ไวบ้ นกระดานและพานกั เรียนอ่านจานวน 1 รอบ

เสียงกระด่ิง เดก็ ร้องไห้ เสียงสิงโตคาราม

เสียงระนาด พต่ี ะโกน เสียงคลื่นกระทบฝ่ัง

เสียงโทรศพั ท์ เสียงกลอง

จากน้นั ครูใชค้ าถามเพอื่ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั บตั รคาดงั กล่าว ดงั น้ี
- บตั รคาใดบา้ งที่เป็นเสียงทเี่ กิดข้ึนเองตามธรรมชาติ (เสียงสิงโตคาราม เสียงคล่ืนกระทบฝั่ง)
- บตั รคาใดบา้ งที่เป็นเสียงทีม่ นุษยส์ ร้างข้ึน (เสียงกระดิง่ เสียงโทรศัพท์)
- บตั รคาใดบา้ งท่ีเป็นเสียงเครื่องดนตรี (เสียงระนาด เสียงกลอง)
- บตั รคาใดบา้ งทเ่ี ป็นสีสนั ของเสียงมนุษย์ (เดก็ ร้องไห้ พีต่ ะโกน)
แลว้ ครูนาขอ้ มูลท่ไี ดม้ าสรุปเป็ นแผนภาพบนกระดานพรอ้ มท้งั อธิบายเพม่ิ เตมิ

เสียงคล่ืนกระทบฝ่ัง เสียงสิงโตคาราม

เดก็ รอ้ งไห้ เสียงที่เกดิ จากธรรมชาติ เสียงกระด่ิง

สีสันของเสียงมนุษย์ แหล่งกาเนิดเสียง เสียงที่มนุษย์สร้างขนึ้

พตี่ ะโกน เสียงเครื่องดนตรี เสียงโทรศพั ท์

เสียงระนาด เสียงกลอง

7. ครูคดั เลือกผแู้ ทนนกั เรียนจานวน 4 คน มาปฏิบตั ิเลียนแบบเสียงที่ตนเองชอบจากแหล่งกาเนิดเสียง
ท้งั 4 ประเภทให้เพื่อน ๆ ฟัง โดยไม่ให้ซ้ากนั พร้อมกบั แสดงความรู้สึกชื่นชมวา่ เพราะเหตุใดตนเองจึงชอบ
เสียงดงั กล่าวทีละคนจนครบทุกคน

8. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
- เสียงที่อยรู่ อบ ๆ ตวั เรามีแหล่งกาเนิดเสียงแตกต่างกนั และเมื่อไดย้ นิ เสียงจะใหค้ วามรูส้ ึกท่ีแตกตา่ งกนั

ตามแหล่งกาเนิดเสียง
9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
- เสียงของสิ่งต่าง ๆ รอบตวั เสียงใดบา้ งทีม่ ีเสียงเหมือนเคร่ืองดนตรี

การจดั บรรยากาศเชิงบวก

- ใหน้ กั เรียนออกมาปฏบิ ตั กิ ารเลียนเสียงสิ่งตา่ ง ๆ
- ใหน้ กั เรียนเล่นเกมเสียงใครเอ่ย
- ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา เกี่ยวกบั เสียงต่าง ๆ อยา่ งอิสระ

ส่ือการเรียนรู้

1. เกมเสียงใครเอ่ย
2. บตั รภาพ
3. บตั รคา

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. วธิ ีการวดั และประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง



แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….
ปัญหา/อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………....................................................................................…………………….....
แนวทางการแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….................

ลงช่ือ.................................ผสู้ อน
(นางสุฒิมา อ่ิมอาไพ)
ตาแหน่ง ครู คศ.1

………/……………………/…..

ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ.........................................
(นายสงั วร คงภกั ดี)

ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียน
……………/………………../……

แผนการสอนท่ี 22

ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี1 เสยี งและการกาเนิดเสยี ง เรอ่ื งการกาเนิดเสยี ง

เวลา 1 คาบ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ผ้สู อน นางสุฒิมา อ่ิมอาไพ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี

ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ตัวชี้วดั
ศ 2.1 ป.1/1 รู้วา่ ส่ิงต่าง ๆ สามารถก่อกาเนิดเสียงท่แี ตกตา่ งกนั
ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั

1. อธิบายเก่ียวกบั แหล่งกาเนิดเสียง (K)
2. จาแนกแหล่งกาเนิดเสียงท่ไี ดย้ นิ (P)
3. ช่ืนชมลกั ษณะของเสียงทีไ่ ดย้ นิ (A)

สาระสาคญั

เสียงทีอ่ ยรู่ อบตวั เรามาจากแหล่งกาเนิดเสียงท่ีแตกตา่ งกนั ดงั น้นั เมื่อเราไดย้ นิ เสียงเหล่าน้ันจงึ ทาใหเ้ กิด
ความรู้สึกทแี่ ตกตา่ งกนั ไปตามแหล่งกาเนิดของเสียง

สาระการเรียนรู้

1. เสียงจากเครื่องดนตรี
2. สีสนั ของเสียงมนุษย์

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ความสามารถในการคิด

ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

1. ภาพวาดเก่ียวกบั เสียงท่ไี ดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั
2. ชิ้นงานท่ี 1 เรื่อง การกาเนิดเสียง

คาถามท้าทาย

- เสียงที่ไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั เสียงใดบา้ งฟังแลว้ ทาใหร้ ู้สึกมีความสุข

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั เสียงทน่ี กั เรียนเคยไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- นกั เรียนไดย้ นิ เสียงที่เกิดจากธรรมชาติอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เสียงฟ้าผ่า เสียงไก่ขัน)
- นกั เรียนไดย้ นิ เสียงที่มนุษยส์ ร้างข้ึนอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เสียงรถยนต์ เสียงนาฬิกา)
- นกั เรียนไดย้ นิ เสียงเคร่ืองดนตรีใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เสียงซออู้ เสียงระนาด)
- นกั เรียนไดย้ นิ เสียงมนุษยใ์ นลกั ษณะใดบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ เสียงคนตะโกน)
จากน้นั ครูคดั เลือกผแู้ ทนนกั เรียนจานวน 8 คน ออกมาเลียนแบบเสียงโดยจาแนกตามแหล่งกาเนิด

ท้งั 4 ประเภท ประเภทละ 2 คน โดยใหน้ กั เรียนปฏิบตั ทิ ีละคน แลว้ ใหเ้ พอื่ น ๆ ร่วมกนั ทายจนครบทุกคน
2. ครูเลือกเสียงท่ีไดย้ นิ ในชีวิตประจาวนั มา 1 เสียง แลว้ วาดภาพเสียงน้ันลงบนกระดานให้นกั เรียนดู

พร้อมท้งั อธิบายและแสดงความรู้สึกต่อเสียงในภาพดงั กล่าวใหน้ กั เรียนฟังตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
- เสียงทไี่ ดย้ นิ คอื เสียงอะไร
- เสียงที่ไดย้ นิ เป็นแหล่งกาเนิดเสียงประเภทใด
- ความรูส้ ึกทมี่ ีต่อเสียงดงั กล่าว (ชอบ/ไม่ชอบ)

3. ให้นักเรียนเลือกเสียงที่ได้ยินในชีวิตประจาวนั มา 1 เสียงแล้ววาดภาพเก่ียวกับเสียงดงั กล่าวลงใน
กระดาษ A4 พร้อมท้งั ระบายสีให้สวยงาม จากน้ันครูคดั เลือกผูแ้ ทนนักเรียนจานวน 5 คน ออกมานาเสนอ
ผลงานของตนเองตามหัวขอ้ ที่ครูยกตวั อยา่ งให้นกั เรียนฟังทลี ะคนจนครบทุกคน โดยมีครูและเพื่อน ๆ ท่ีเหลือ
ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มูลทผ่ี แู้ ทนนกั เรียนนาเสนอ

4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
- เสียงที่ได้ยนิ ในชีวิตประจาวนั มีแหล่งกาเนิดเสียงท่ีแตกต่างกนั ดงั น้ันเม่ือเราไดย้ นิ เสียงเหล่าน้ัน

จงึ ทาใหเ้ กิดความรูส้ ึกทแี่ ตกตา่ งกนั ไปตามแหล่งกาเนิดของเสียง
5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
- เสียงท่ีไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั เสียงใดบา้ งท่ฟี ังแลว้ ทาใหร้ ู้สึกมีความสุข
6. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานท่ี 1 เรื่อง การกาเนิดเสียง

การจดั บรรยากาศเชิงบวก

- ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาอยา่ งอิสระ
- ใหน้ กั เรียนแสดงความรูส้ ึกตอ่ รูปภาพอยา่ งอิสระ

สื่อการเรียนรู้

- ชิ้นงานที่ 1 เร่ือง การกาเนิดเสียง

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
1.3 ตรวจชิ้นงานท่ี 1

2. เครื่องมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่

3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง

กจิ กรรมเสนอแนะ

ครูเลือกผลงานการวาดภาพเสียงท่ีไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั ของนกั เรียนท่ีทาไดส้ วยงามจานวน 10 ภาพ
แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมจดั ป้ายนิเทศหน้าช้นั เรียน เพอ่ื เป็นแรงจงู ใจให้นกั เรียนพฒั นาผลงานของตนเองใหด้ ีข้ึนใน
คร้งั ต่อไป

การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

การประเมินช้ินงานที่ 1 ให้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เร่ือง วาดภาพเสียงที่ไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั และจาแนกแหล่งกาเนิดเสียงได้

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32

วาดภาพเสียงที่ไดย้ นิ ใน วาดภาพเสียง วาดภาพเสียง วาดภาพเสียง วาดภาพเสียง

ชีวติ ประจาวนั และจาแนก ทไี่ ดย้ นิ ทไ่ี ดย้ นิ ทไ่ี ดย้ นิ ทีไ่ ดย้ นิ

แหล่งกาเนิดเสียงได้ ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั

และจาแนก และจาแนก และจาแนก และจาแนก

แหล่งกาเนิดเสียง แหล่งกาเนิดเสียง แหล่งกาเนิดเสียง แหล่งกาเนิดเสียง

ไดน้ อกเหนือจาก ไดน้ อกเหนือจาก ไดต้ ามทีค่ รู ไดต้ ามรูปแบบ

ท่ีครูยกตวั อยา่ ง ท่ีครูยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง แตม่ ี ที่กาหนดใหไ้ ด้

ไดส้ วยงาม ได้ แตไ่ ม่สวยงาม การดดั แปลง แตไ่ ม่สามารถ

ดว้ ยตนเองและ ดว้ ยตนเองและ ใหแ้ ตกต่างและ เขยี นจาแนก

เขยี นจาแนก เขียนจาแนก เขียนจาแนก แหล่งกาเนิดเสียง

แหล่งกาเนิดเสียง แหล่งกาเนิดเสียง แหล่งกาเนิดเสียง ไดส้ มั พนั ธก์ บั

ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง รูปภาพ

สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธก์ บั

รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ

แบบบนั ทกึ หลงั แผนการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………..........................................
แนวทางการแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ.................................ผสู้ อน
(นางสุฒิมา อ่ิมอาไพ)
ตาแหน่ง ครู คศ.1

………/……………………/…………..

ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ.........................................
(นายสงั วร คงภกั ดี)

ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียน
……………/………………../………………

แผนการสอนที่ 23

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ท่ี1 เสียงและการกาเนิดเสียง เรื่องคุณลกั ษณะของเสียง

เวลา 1 คาบ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 ผสู้ อน นางสุฒิมา อ่ิมอาไพ

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี

ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคดิ ต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ตวั ชี้วัด
ศ 2.1 ป.1/1 รูว้ า่ สิ่งตา่ ง ๆ สามารถก่อกาเนิดเสียงที่แตกตา่ งกนั
ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั

1. ระบุคุณลกั ษณะของเสียงที่ไดย้ นิ (K)
2. จาแนกคุณลกั ษณะของเสียงท่ไี ดย้ นิ (P)
3. ช่ืนชมคุณลกั ษณะของเสียงทไี่ ดย้ นิ (A)

สาระสาคญั

เสียงที่ได้ยนิ ในชีวิตประจาวนั มีคุณลักษณะท่ีแตกต่างกนั ไป มีท้งั เสียงดงั เบา ส้นั ยาว ทุม้ แหลม
และเสียงของเคร่ืองดนตรีก็จะมีเสียงแตกตา่ งกนั แตเ่ ม่ือนามาบรรเลงร่วมกนั จะเกิดเป็นท่วงทานองทไ่ี พเราะ

สาระการเรียนรู้

คุณลกั ษณะของเสียง

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ความสามารถในการคิด

ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

- แผนภาพความคดิ แสดงคุณลกั ษณะของเสียง

คาถามท้าทาย

- เสียงทีม่ ีลกั ษณะเบาและทมุ้ มีประโยชน์ตอ่ การดาเนินชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับคุณลักษณะของเสียง โดยครูใช้คาถามเพื่อให้นักเรียน
ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั น้ี

- เสียงดงั ที่สุดท่นี กั เรียนเคยไดย้ นิ คอื เสียงอะไร (ตวั อย่างคาตอบ เสียงประทดั )
- เสียงเบาทส่ี ุดทน่ี กั เรียนเคยไดย้ นิ คือเสียงอะไร (ตัวอย่างคาตอบ เสียงกระซิบ)
- เสียงอะไรที่นกั เรียนชอบมากทส่ี ุด (ตัวอย่างคาตอบ เสียงหัวเราะ เสียงเพลง)
- เสียงอะไรทน่ี กั เรียนไม่ชอบมากท่สี ุด (ตวั อย่างคาตอบ เสียงสุนัขเห่า เสียงร้องไห้)
จากน้นั ครูอธิบายเพิม่ เติมวา่ เสียงทเี่ ราไดย้ นิ ในชีวิตประจาวนั มีคุณสมบตั ิที่แตกตา่ งกนั เม่ือเราไดย้ นิ
เสียงเหล่าน้นั จึงทาใหเ้ ราเกิดความรู้สึกทแ่ี ตกต่างกนั ไป
2. ใหน้ กั เรียนเล่นเกมเสียงหรรษา โดยมีวธิ ีการเล่น ดงั น้ี
- ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็ น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กนั
- ครูแจกบตั รคาต่อไปน้ีใหท้ ุกกลุ่ม โดยแจกกลุ่มละ 1 ชุด

เสียงดงั เสียงเบา เสี ยงส้ ัน เสียงยาว เสียงทมุ้ เสียงแหลม

- ครูคดั เลือกผแู้ ทนนกั เรียนจานวน 3 คน ออกมาหนา้ ช้นั เรียนพรอ้ มท้งั นาอุปกรณ์ตอ่ ไปน้ีมาวางไว้
บนโตะ๊

๐ นาฬิกาปลุก
๐ น้าเปล่า 1 แกว้ พรอ้ มกรวย
๐ กลอง
๐ นกหวดี
- ครูอธิบายวิธีการเล่นเกมให้นกั เรียนฟังวา่ “เม่ือนกั เรียนไดย้ นิ เสียงให้เลือกบตั รคาที่มีคุณลกั ษณะ
ตรงกับเสียงดังกล่าวแล้วชูบัตรคาดังกล่าวข้ึนถ้ากลุ่มใดยกก่อนและตอบได้ถูกตอ้ งจะได้ขอ้ ละ 2 คะแนน
ถา้ ยกก่อน แต่ตอบไม่ถูกจะให้กลุ่มท่ีเหลือเล่นต่อจนไดค้ าตอบที่ถูกตอ้ ง แต่ละคะแนนเต็มจะลดเหลือเพียง
1 คะแนน กลุ่มใดไดค้ ะแนนมากทีส่ ุดกลุ่มน้นั ชนะ”
จากน้ันครูดาเนินการเล่นเกมตามข้นั ตอนดงั กล่าว โดยให้ผูแ้ ทนนกั เรียน 2 คน ทาการแสดงบทบาท
สมมุติกระซิบกนั และผแู้ ทนนกั เรียนอีก 1 คน แสดงบทบาทสมมุติตะโกนเสียงดงั ต้งั เสียงนาฬิกาปลุก ทาน้า
หยดจากกรวย ตีกลองและเป่ านกหวดี ทีละกิจกรรมจนครบท้งั หมด โดยครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความ
ถูกตอ้ งของคาตอบทุกขอ้ และครูกล่าวคาชมเชยกลุ่มที่ชนะเพอ่ื เป็ นกาลงั ใจให้นักเรียนทากิจกรรมใหด้ ีข้ึนใน
โอกาสต่อไป
3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั เสียง และคุณลกั ษณะของเสียงที่นกั เรียนไดย้ นิ ในชีวิตประจาวนั
โดยครูใชค้ าถามเพอ่ื ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี
- นกั เรียนเคยไดย้ นิ เสียงอะไรบา้ งทม่ี ีคุณลกั ษณะของเสียงเป็นเสียงเบา (ตวั อย่างคาตอบ

เสียงกระซิบ เสียงแมวเดนิ )
- นกั เรียนเคยไดย้ นิ เสียงอะไรบา้ งทม่ี ีคุณลกั ษณะของเสียงเป็นเสียงดงั (ตวั อย่างคาตอบ

เสียงตะโกน เสียงจดุ ประทัด)
- นกั เรียนเคยไดย้ นิ เสียงอะไรบา้ งทม่ี ีคุณลกั ษณะของเสียงเป็นเสียงส้นั (ตวั อย่างคาตอบ

เสียงเคาะประตู เสียงเคาะโต๊ะ)
- นกั เรียนเคยไดย้ นิ เสียงอะไรบา้ งทม่ี ีคุณลกั ษณะของเสียงเป็นเสียงยาว (ตัวอย่างคาตอบ

เสียงโทรศัพท์)

- นกั เรียนเคยไดย้ นิ เสียงอะไรบา้ งท่มี ีคุณลกั ษณะของเสียงเป็นเสียงทมุ้ (ตัวอย่างคาตอบ

เสียงตีกลอง เสียงลูกบอลกระทบพื้น)
- นกั เรียนเคยไดย้ นิ เสียงอะไรบา้ งที่มีคุณลกั ษณะของเสียงเป็นเสียงแหลม (ตัวอย่างคาตอบ

เสียงกร๊ีด เสียงตฉี ิ่ง)
จากน้ันครูนาคาตอบท่ีไดม้ าสรุปเป็ นแผนภาพความคิดบนกระดานดังตวั อย่างต่อไปน้ี พร้อมท้งั

อธิบายเก่ียวกบั คุณลกั ษณะของเสียงเพม่ิ เติม

เสียงตะโกน เสียงประทดั

เสียงตีฉ่ิง เสียงกระซิบ

เสียงแหลม เสียงดงั เสียงเบา
คุณลกั ษณะของเสียง
เสียงกรี๊ด เสียงแมวเดิน
เสียงยาว
เสียงตีกลอง เสียงโทรศพั ท์ เสียงเคาะประตู

เสียงท้มุ เสียงส้ัน

เสียงลูกบอล เสียงเคาะโตะ๊
กระทบพ้ืน

4. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
- เสียงท่ีได้ยนิ ในชีวิตประจาวนั มีคุณลกั ษณะท่ีแตกต่างกนั ไป มีท้งั เสียงดัง เบา ส้ัน ยาว ทุม้

และแหลม เสียงของเคร่ืองดนตรีแต่ละชนิดมีความแตกต่างกนั แต่เมื่อนามาบรรเลงร่วมกนั แลว้ จะทาใหเ้ กิด
เสียงท่มี ีทว่ งทานองทไ่ี พเราะ

5. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
- เสียงทีม่ ีลกั ษณะเบาและทุม้ มีประโยชนต์ อ่ การดาเนินชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร

การจดั บรรยากาศเชิงบวก

- ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาอยา่ งอิสระ
- ใหน้ กั เรียนเล่นเกมเสียงหรรษา

ส่ือการเรียนรู้

1. เกมเสียงหรรษา
2. บตั รคา

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง



แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….
.
ปัญหา/อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………....................................................................................…………………….....
แนวทางการแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….................

ลงชื่อ.................................ผสู้ อน
(นางสุฒิมา อ่ิมอาไพ)
ตาแหน่ง ครู คศ.1

………/……………………/………….

ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ.........................................
(นายสงั วร คงภกั ดี)

ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียน
……………/………………../………………



แผนการสอนท่ี 24

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ท่ี1 เสียงและการกาเนิดเสียง เร่ืองการกาเนิดเสียง

เวลา 1 คาบ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ผสู้ อน นางสุฒิมา อิ่มอาไพ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี

ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคดิ ต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ตวั ชี้วดั
ศ 2.1 ป.1/1 รูว้ า่ ส่ิงต่าง ๆ สามารถก่อกาเนิดเสียงท่แี ตกต่างกนั
ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั

1. อธิบายเกี่ยวกบั เสียงและแหล่งกาเนิดเสียง (K)
2. จาแนกคุณลกั ษณะของเสียง (P)
3. ชื่นชมคุณลกั ษณะของเสียงท่ีไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั (A)

สาระสาคญั

เสียงท่ีไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั มีคุณลกั ษณะท่ีแตกต่างกนั ไป มีท้งั เสียงดงั เบา ส้ัน ยาว ทมุ้ แหลม และ
เสียงของเครื่องดนตรีก็จะมีเสียงแตกต่างกัน แต่เมื่อนามาบรรเลงร่วมกนั แลว้ ทาให้เกิดเสียงที่มีท่วงทานองที่
ไพเราะ

สาระการเรียนรู้

คุณลกั ษณะของเสียงตา่ ง ๆ ทไี่ ดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ที่ 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

ความสามารถในการคดิ

ชิ้นงานหรือภาระงาน(หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

- ภาพวาดแหล่งกาเนิดเสียงท่ีมีคุณลกั ษณะของเสียงทนี่ กั เรียนชื่นชอบ

คาถามท้าทาย

- เสียงลกั ษณะใดทท่ี าใหร้ ูส้ ึกน่ากลวั

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูคดั เลือกผูแ้ ทนนักเรียนจานวน 2 คน ออกมาหน้าช้ันเรียน แล้วให้ผูแ้ ทนนักเรียนคนแรกตีฉ่ิง
และผูแ้ ทนนักเรียนคนท่ีสองตีกลอง จากน้ันครูใชค้ าถามเพื่อให้นักเรียนที่เหลือร่วมกันแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั การกระทาดงั กล่าว ดงั น้ี

- ผแู้ ทนนกั เรียนคนท่ีหน่ึงทาอะไร (ตัวอย่างคาตอบ ตีฉ่ิง)
- เสียงตีฉิ่งมีคุณลกั ษณะของเสียงเป็นอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เสียงแหลม)
- ผแู้ ทนนกั เรียนคนทสี่ องทาอะไร (ตวั อย่างคาตอบ ตีกลอง)
- เสียงตีกลองมีคุณลกั ษณะของเสียงเป็ นอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เสียงทุ้ม)
- นกั เรียนชอบเสียงใดมากกวา่ กนั (ตีฉิ่ง/ตีกลอง)
2. แบ่งนกั เรียนออกเป็ น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กนั แลว้ ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มเล่น “เกมทายซิเอ่ยว่าเสียงใด”
โดยมีวธิ ีการเล่นเกม ดงั น้ี
- ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกแหล่งกาเนิดเสียงที่มีคุณลักษณะของเสียงดัง เบา ส้ัน ยาว ทุม้ และ
แหลมมาอยา่ งละ 1 ชนิด เช่น เสียงดัง - เสียงตะโกน เสียงเบา - เสียงกระซิบ เสียงส้ัน - เสียงเคาะประตู
เสียงยาว - เสียงโทรศพั ท์ เสียงทมุ้ - เสียงตีกลอง และเสียงแหลม - เสียงตีฉ่ิง

- เมื่อแต่ละกลุ่มเลือกเสียงทมี่ ีคุณลกั ษณะของเสียงทแี่ ตกต่างกนั ไดท้ ุกเสียงแลว้ ใหท้ ุกคนในกลุ่มฝึก
ทาเสียงเหล่าน้นั จนชานาญ เพอื่ เลียนเสียงดงั กล่าวใหเ้ พอื่ นกลุ่มอื่น ๆ ทาย

- ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทดลองทาเสียงท่ีฝึกใหเ้ พอื่ นกลุ่มอ่ืน ๆ ทาย โดยมีหลกั ในการตอบ คอื ตอ้ ง
ตอบว่ามีแหล่งกาเนิดเสียงคือเสียงอะไร และมีคุณลกั ษณะของเสียงอยา่ งไร เช่น เป็นสีสนั ของเสียงมนุษย์ คือ
เสียงตะโกน มีคุณลกั ษณะของเสียง คือ เสียงดงั กลุ่มใดตอบถูกจะได้ 1 คะแนน กลุ่มใดไดค้ ะแนนมากที่สุด
เป็นฝ่ายชนะ โดยมีครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง

3. ครูใชค้ าถามเพอ่ื ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เสียงทนี่ ักเรียนใชใ้ นการเล่นเกมทายซิ
เอ่ยวา่ เสียงใด และเสียงทีไ่ ดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี

- เสียงท่ีนกั เรียนทาเลียนแบบเพอื่ เล่นเกมแตล่ ะเสียงมีแหล่งกาเนิดเสียงเป็นอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ
มีแหล่งกาเนิดเสียงทแี่ ตกต่างกัน)

- เสียงที่นักเรียนได้ยินในชีวิตประจาวนั มีแหล่งกาเนิดเสียงเป็ นอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ มี
แหล่งกาเนิดเสียงทแ่ี ตกต่างกนั )

- เสียงท่ีมีแหล่งกาเนิดเสียงแตกต่างกนั จะส่งผลต่อคุณลกั ษณะของเสียงอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ
จะทาให้มีลักษณะของเสียงทีแ่ ตกต่างกนั )

4. ให้นกั เรียนเลือกเสียงที่ไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั เช่น เสียงทุม้ – ตีกลอง แลว้ วาดภาพแหล่งกาเนิด
เสียงดังกล่าวลงในกระดาษ A4 พร้อมท้ังระบายสีให้สวยงามและบอกว่าแหล่งกาเนิดเสียงคืออะไร
มีคุณลกั ษณะของเสียงเป็ นอยา่ งไร เพราะเหตใุ ดจงึ รู้สึกชื่นชมเสียงดงั กล่าว จากน้ันครูคดั เลือกผูแ้ ทนนกั เรียน
ท่มี ีผลงานดีออกมานาเสนอผลงานของตนเองตามหวั ขอ้ ทกี่ าหนดใหจ้ านวน 5 คน

5. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
- เสียงที่เราไดย้ นิ ในชีวติ ประจาวนั จะมีแหล่งกาเนิดเสียงทีแ่ ตกต่างกนั ทาใหค้ ุณลกั ษณะของเสียง

ดงั กล่าวมีความแตกต่างกนั ไปตามแหล่งกาเนิดเสียง บา้ งก็ส้นั ยาว เบา ทุม้ หรือแหลม เสียงของเคร่ืองดนตรีไทย
กม็ ีความแตกต่างกนั ข้นึ อยกู่ บั ชนิดของเครื่องดนตรี แต่เมื่อนามาบรรเลงร่วมกนั จะทาใหเ้ กิดท่วงทานองทไี่ พเราะ

6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
- เสียงลกั ษณะใดท่ีทาใหร้ ูส้ ึกน่ากลวั

การจดั บรรยากาศเชิงบวก

- ใหน้ กั เรียนเลียนเสียงต่าง ๆ ตามจินตนาการ

ส่ือการเรียนรู้

1. ฉ่ิง
2. กลอง
3. เกมทายซิเอ่ยวา่ เสียงใด

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่

3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง

กจิ กรรมเสนอแนะ

ครูคดั เลือกผลงานการวาดภาพแหล่งกาเนิดเสียงของเสียงที่มีคุณลกั ษณะที่นักเรียนชื่นชมและทาไดด้ ี
จานวน 10 ภาพ มาจดั ป้ายนิเทศหนา้ ช้นั เรียนเพอ่ื เป็ นกาลงั ใจใหก้ บั นกั เรียนที่มีผลงานดีเด่นและเป็ นแรงกระตุน้
ใหน้ กั เรียนคนอ่ืน ๆ พฒั นาผลงานของตนในโอกาสต่อไป

การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

การประเมินกิจกรรมน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เร่ือง บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ

ตวั ชี้วัด ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็ว ของจงั หวะ

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา บอกลกั ษณะ บอกลกั ษณะ บอกลกั ษณะ บอกลกั ษณะของ

และความชา้ -เร็วของจงั หวะ ของเสียงดงั -เบา ของเสียงดงั -เบา ของเสียงดงั -เบา เสียงดงั -เบา และ

และความชา้ -เร็ว และความชา้ -เร็ว และความชา้ -เร็ว ความชา้ -เร็วของ

ของจงั หวะได้ ของจงั หวะได้ มี ของจงั หวะได้ จงั หวะได้ แต่ไม่

สมั พนั ธก์ นั มี การจาแนก สอดคลอ้ งกบั สอดคลอ้ งกบั

การเชื่อมโยงให้ ขอ้ มูลหรือ ขอ้ มูล มีการ ขอ้ มูล เขยี นตาม

เห็นเป็ น อธิบายใหเ้ ห็น เขียนขยายความ ขอ้ มูลทอ่ี ่าน

ภาพรวม แสดง ถึงความสมั พนั ธ์ และมีการ ไม่มีการอธิบาย

ใหเ้ ห็นถึง กบั ตนเองอยา่ ง ยกตวั อยา่ ง เพมิ่ เติม

ความสมั พนั ธ์ เป็นเหตุเป็นผล เพม่ิ เติมให้

กบั ตนเองและ เขา้ ใจง่าย

ผอู้ ่ืน

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….
.
ปัญหา/อุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………....................................................................................…………………….....
แนวทางการแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….................

ลงชื่อ.................................ผสู้ อน
(นางสุฒิมา อิ่มอาไพ)
ตาแหน่ง ครู คศ.1

………/……………………/………….

ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ.........................................
(นายสงั วร คงภกั ดี)

ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียน
……………/………………../………………



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2

สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ รายวิชา ดนตรี-นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ 11101
ปี การศกึ ษา 2565
ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 4 ชว่ั โมง

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 จงั หวะและการร้องเพลง

ครูผสู้ อน นางสุฒิมา อิ่มอาไพ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณ์คุณค่าดนตรี

ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ตัวชี้วดั
ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความชา้ -เร็วของจงั หวะ
ศ 2.1 ป.1/3 ทอ่ งบทกลอน ร้องเพลงง่าย ๆ
ศ 2.1 ป.1/4 มีส่วนร่วมในกิจกรรมดนตรีอยา่ งสนุกสนาน

สาระสาคญั

การเขา้ ใจจงั หวะเพลงจะทาใหเ้ รารอ้ ง และเคล่ือนไหวตามบทเพลงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

ความเข้าใจทคี่ งทน (Enduring Understanding)

การเขา้ ใจจงั หวะเพลงจะทาใหเ้ ราร้องและเคลื่อนไหวตามเพลงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและสนุกสนาน

สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของจงั หวะ
2. จงั หวะเพลงไทย
3. จงั หวะเพลงสากล
4. การอ่านบทกลอนประกอบจงั หวะ
5. การร้องเพลงประกอบจงั หวะ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

มุ่งม่นั ในการทางาน
ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทก่ี ารงาน

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

ความสามารถในการคดิ

ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

1. การเคาะจงั หวะ และบอกความชา้ -เร็วของจงั หวะ
2. ชิ้นงานที่ 2 เร่ือง การอ่านบทกลอนประกอบจงั หวะ
3. การทากิจกรรมดนตรีร้องเพลงเป็ดอาบน้า และเคาะจงั หวะ

การประเมนิ ผล

1. การประเมินผลตวั ชี้วัด

1.1 การเคาะจงั หวะและบอกความชา้ -เร็วของจงั หวะ

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

บอกลกั ษณะของเสียง บอกลกั ษณะ บอกลกั ษณะ บอกลกั ษณะ บอกลกั ษณะ
ดงั -เบา และความชา้ -เร็ว
ของจงั หวะ ของเสียงดงั -เบา ของเสียงดงั -เบา ของเสียงดงั -เบา ของเสียงดงั -เบา

และความชา้ -เร็ว และความชา้ -เร็ว และความชา้ -เร็ว และความชา้ -เร็ว

ของจงั หวะได้ ของจงั หวะได้ ของจงั หวะได้ ของจงั หวะได้

สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธก์ บั

หวั ขอ้ ที่กาหนด หวั ขอ้ ท่กี าหนด หวั ขอ้ ทีก่ าหนด หวั ขอ้ ที่กาหนด

และแตกต่างจาก และแตกตา่ งจาก ตามท่ีครูยก ตามทีค่ รูยก

ท่คี รูยกตวั อยา่ ง ทค่ี รูยกตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง แต่มี ตวั อยา่ ง

มีการเชื่อมโยง แต่เชื่อมโยง การดดั แปลงให้

ใหเ้ ห็นถึง ใหเ้ ห็นเฉพาะ แตกต่าง

ความสมั พนั ธ์ ตนเอง

กบั ตนเองและ

ผอู้ ่ืน

1.2 ช้ินงานท่ี 2 เร่ือง การอ่านบทกลอนประกอบจงั หวะ

เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คะแนน

อ่านบทกลอนประกอบ 4321
จงั หวะ
อ่านบทกลอน อ่านบทกลอน อ่านบทกลอน อ่านบทกลอน
ประกอบจงั หวะ ประกอบจงั หวะ ประกอบจงั หวะ ประกอบจงั หวะ
ร่วมกบั ผอู้ ่ืนใน ตามท่ตี นเองคดิ ตามแบบได้ ไดต้ าม
การพฒั นาให้ ข้นึ มาเองเพอ่ื ให้ ถูกตอ้ ง และมี แบบอยา่ งหรือ
เกิดประโยชน์ มีประสิทธิภาพ การดดั แปลงให้ ทาตามท่คี รู
ตอ่ ส่วนรวม ท่ดี ีข้ึนกวา่ เหมาะสมกบั แนะนาเท่าน้นั
และสามารถ แบบอยา่ งโดยมี ตนเองโดยมีครู
แกไ้ ขปัญหาใน ครูหรือผอู้ ่ืน หรือผอู้ ่ืน
ระหวา่ งการ แนะนาบา้ ง แนะนาบา้ ง
ปฏบิ ตั ไิ ด้

1.3 การทากิจกรรมดนตรีรอ้ งเพลงเป็ ดอาบน้าและเคาะจงั หวะ

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
ทอ่ งบทกลอน
ทอ่ งบทกลอน ร้องเพลง ท่องบทกลอน ทอ่ งบทกลอน ท่องบทกลอน ร้องเพลงงา่ ย ๆ
ง่าย ๆ ร้องเพลงง่าย ๆ ได้ แตไ่ ม่
ไดด้ ว้ ยตนเอง ร้องเพลงง่าย ๆ รอ้ งเพลงง่าย ๆ สามารถแนะนา
โดยครูไม่ตอ้ ง ผอู้ ื่นได้
แนะนาและ ได้ โดยครู ได้ โดยครู
สามารถไป
แนะนาบา้ ง และ แนะนาอยา่ ง

สามารถแนะนา ใกลช้ ิด และ

ผอู้ ื่นได้ สามารถแนะนา

ฝึกซอ้ มใหผ้ อู้ ่ืน ผอู้ ่ืนได้

ได้

2. การประเมนิ ผลคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

มุ่งมั่นในการทางาน

ตวั ช้ีวดั ท่ี 6.1 ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ที่การงาน

พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม (3)

6.1.1 เอาใจใส่ตอ่ การ ไม่ต้งั ใจปฏบิ ตั ิ เอาใจใส่ต่อการ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบ

ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี หนา้ ทกี่ ารงาน ปฏิบตั หิ นา้ ที่ทีไ่ ดร้ ับ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี

ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย มอบหมาย ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ที่ไดร้ บั มอบหมาย

6.1.2 ต้งั ใจและ ใหส้ าเร็จ ใหส้ าเร็จ มีการ

รบั ผดิ ชอบในการ ปรับปรุงการทางาน

ทางานใหส้ าเร็จ ใหด้ ีข้นึ

6.1.3 ปรับปรุงและ

พฒั นาการทางาน

ดว้ ยตนเอง

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั จงั หวะเพลงมาร์ช และฝึกปรบมือประกอบเพลงกราวกีฬา
2. ใหน้ กั เรียนฝึกปรบมือตามจงั หวะ “ฉิ่ง ฉบั ” และร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั เพลงไทยทม่ี ีอตั ราจงั หวะต่าง ๆ
3. อ่านบทกลอนนี่ของของเธอ พร้อมท้งั ฝึกเคาะจงั หวะ และแบ่งกลุ่มฝึ กอ่านบทกลอนฝนตกแดดออก
พร้อมท้งั เคาะจงั หวะ
4. รอ้ งเพลงจบั ปูดาแลว้ เคาะจงั หวะ และใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มออกแบบท่าทางประกอบเพลงจบั ปดู า
5. ร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั ประโยชน์ของจงั หวะต่อการร้องเพลง
6. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

- การเขา้ ใจจงั หวะเพลงจะทาใหเ้ รารอ้ งและเคลื่อนไหวตามเพลงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและสนุกสนาน

สื่อการเรียนรู้

1. เคร่ืองเล่นแถบบนั ทกึ เสียง 2. แถบบนั ทึกเสียง

3. บตั รคา 4. แผนภมู ิอตั ราจงั หวะเพลงไทย

5. แผนภูมิบทกลอนน่ีของของเธอ 6. แผนภมู ิบทกลอนฝนตกแดดออก

7. ภาพปูดา 8. แผนภูมิเพลงจบั ปูดา

9. การแสดงบทบาทสมมุติ 10. การแสดงท่าทางประกอบเพลง

11. ช้ินงานท่ี 2 เรื่อง การอ่านบทกลอนประกอบจงั หวะ
แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test)

ชื่อ ______________________ นามสกุล_______________ เลขที่______ ช้นั _______ ได.้ .....................คะแนน

คะแนนเตม็ 10 คะแนน

ให้ระบายคาตอบทีถ่ ูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)
1. การอ่านบทกลอนประกอบจงั หวะมีประโยชน์อยา่ งไร

1 อ่านบทกลอนไดพ้ รอ้ มเพรียงกนั
2 บทกลอนจะไพเราะข้นึ
3 เขา้ ใจบทกลอนยากข้ึน

2. ขอ้ ใดเหมาะสมที่สุดในการทาจงั หวะขณะร้องเพลง
1 นาหนงั สือมาตีโตะ๊
2 นากอ้ นหินมาเคาะโตะ๊
3 ใชน้ ิ้วเคาะโตะ๊

3. ขณะทเ่ี พอ่ื นร้องเพลงนกั เรียนจะมีส่วนร่วมอยา่ งไร
1 ตะโกน
2 ร้องเพลงตามเสียงดงั
3 ปรบมือ

4. การเลียนเสียงดว้ ยอุปกรณ์ใดทาใหเ้ กิดเสียงคลา้ ยเสียงกลอง
1 นาดินสอมาเคาะกนั
2 นาไม้ 2 อนั มาตีถงั น้า
3 นาใบไมม้ าเป่ า

5. จงั หวะใดใชส้ าหรบั เดินแถว
1 อินเดียนแดง
2 จงั หวะฉิ่ง
3 จงั หวะมาร์ช

6. สิ่งใดท่ใี ชก้ าหนดความชา้ -เร็วของเพลง

1 จงั หวะ
2 เสียง
3 เคร่ืองดนตรี

7. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั การอ่านบทกลอน
1 อ่านตามจงั หวะ
2 อ่านใหเ้ ร็วที่สุด
3 ออกเสียงคาใหถ้ ูกตอ้ ง

8. เพลงจงั หวะชา้ ทาใหร้ ู้สึกอยา่ งไร
1 ตื่นเตน้
2 เศรา้
3 สนุกสนาน

9. จงั หวะเพลงใดทาใหเ้ กิดความรูส้ ึกผอ่ นคลาย
1 จงั หวะสามช้นั
2 จงั หวะช้นั เดียว
3 จงั หวะสองช้นั

10. จงั หวะใดเร็วที่สุด
1 จงั หวะสองช้นั
2 จงั หวะสามช้นั
3 จงั หวะช้นั เดียว

แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test)


Click to View FlipBook Version