คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 258
เม่อื เติมนา้ ลงในแป้งมนั น้าตาลทราย พิมเสน เอทานอล น้ามนั พชื แล้วคน
พบว่า นา้ ตาลทรายและเอทานอลรวมเป็นเนื้อเดยี วกับน้า เรยี กว่า การละลาย
และสารผสมทีไ่ ด้จดั เปน็ สารละลาย สว่ นแปง้ มัน พิมเสน และน้ามนั พืชไม่รวมเป็น
เน้ือเดยี วกับน้าไมเ่ กดิ การละลาย สารผสมทไ่ี ด้จดั เป็นสารเน้อื ผสม
สารบางชนดิ รวมเปน็ เนอ้ื เดียวกบั น้าจนไม่สามารถมองเห็นสารนัน้ แตไ่ มเ่ กดิ
สารใหม่ เรยี กว่า การละลาย และสารผสมทไ่ี ด้เรยี กว่าสารละลาย
สว่ นสารบางชนดิ ไมร่ วมตัวเป็นเนือ้ เดยี วกบั น้า ยังมองเห็นสารนั้นแยกตวั จากน้า
สารผสมท่ีไดเ้ ป็นสารเนื้อผสม
ฉบบั ปรับปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
259 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
คาถามของนักเรียนทตี่ ้ังตามความอยากรขู้ องตนเอง
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี แนว
ฉบบั ปรับปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562
ค่มู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 260
การประเมินการเรียนรู้
การประเมินการเรียนร้ขู องนักเรียนทาได้ ดังนี
1. ประเมินความรเู้ ดมิ จากการอภิปรายในชันเรยี น
2. ประเมนิ การเรียนรู้จากคาตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรยี นรู้และจากแบบบนั ทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรียน
การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 2 การละลายเป็นอย่างไร
ระดับคะแนน
3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง
รหสั สิ่งทปี่ ระเมนิ ระดับคะแนน
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสังเกต
S5 การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซ
กับสเปซ
S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู
S13 การตีความหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป
ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
C4 การสอื่ สาร
C5 ความรว่ มมอื
C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการ
ส่ือสาร
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
261 คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดังนี
ทักษะ ระดับความสามารถ
กระบวนการทาง รายการประเมนิ
วทิ ยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1)
S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสมั ผสั สามารถใชป้ ระสาท สามารถใช้ประสาท
รายละเอียด เกบ็ รายละเอียดของสง่ิ ท่ี สัมผัสเกบ็ รายละเอียด สมั ผัสเกบ็
เกย่ี วกับการ เกิดขนึ ขนึ กบั สารตา่ ง ๆ ของสิง่ ที่เกดิ ขึนขึนกบั รายละเอยี ดของส่ิง
เปลยี่ นแปลงที่เกิด เมอ่ื เติมนา สงิ่ ท่ีควร สารตา่ ง ๆ เมือ่ เติมนา ทเ่ี กิดขึนขึนกับสาร
ขึนกับสารต่าง ๆ สังเกตได้คอื ลักษณะของ สง่ิ ท่คี วรสงั เกตได้คือ ต่าง ๆ เมอื่ เติมนา
เมอ่ื เติมนา สงิ่ ที่ สารชนิดตา่ งๆ ทงั ก่อน ลักษณะของสารชนิด สง่ิ ท่คี วรสงั เกตได้
ควรสงั เกตได้คือ และหลงั เติมนา เช่น สี ต่างๆ ทงั ก่อนและหลัง คือลกั ษณะของสาร
ลักษณะของสาร ขนาด บริเวณหรือ เติมนา เช่น สี ขนาด ชนดิ ตา่ งๆ ทังก่อน
ชนดิ ต่างๆ ทังก่อน ตาแหน่งที่สารปรากฏใน บริเวณหรอื ตาแหนง่ ที่ และหลงั เตมิ นา
และหลงั เติมนา ภาชนะและลักษณะ สารปรากฏในภาชนะ เชน่ สี ขนาด
เช่น สี ขนาด เนอื สารได้ครบถว้ นด้วย และลักษณะเนือสารได้ บริเวณหรอื
บรเิ วณหรือ ตวั เอง โดยไม่เพิม่ ความ ครบถว้ น โดยอาศัยการ ตาแหน่งทส่ี าร
ตาแหนง่ ท่สี าร คดิ เห็น ชแี นะของครูหรือผู้อื่น ปรากฏในภาชนะ
ปรากฏในภาชนะ และลกั ษณะ
และลักษณะเนือ เนือสารได้ไม่
สาร ครบถว้ น แมว้ า่ จะ
ได้รบั การชีแนะจาก
ครูหรือผอู้ นื่
S5 การหา การบรรยาย สามารถบรรยายการ สามารถบรรยายการ สามารถบรรยาย
ความสัมพนั ธ์ ลักษณะการ ครอบครองพนื ท่ีของสาร ครอบครองพนื ท่ีของสาร การครอบครอง
ระหวา่ งสเปซ ครอบครองพืนที่ ตา่ ง ๆ หลงั เติมนาไดแ้ ก่ ตา่ ง ๆ หลังเติมนาได้แก่ พนื ทีข่ องสารตา่ ง ๆ
กับสเปซ ของสารตา่ ง ๆ เมอ่ื เติมนาและคนสาร เมื่อเติมนาและคนสาร หลังเตมิ นา ได้แก่
เมือ่ เติมนา ไดแ้ ก่ เมอ่ื เติมนาและคน
เมื่อเติมนาและคน พบวา่ พบวา่ สารพบว่า
สารพบวา่ -แปง้ มันจะลอยอยู่ในนา -แปง้ มนั จะลอยอยู่ในนา -แป้งมนั จะลอยอยู่
-แปง้ มนั จะลอยอยู่ -พิมเสนบางสว่ นลอยอยู่ -พมิ เสนบางส่วนลอยอยู่ ในนา
ในนา ผวิ นาบางสว่ นจมทีก่ ้น ผวิ นาบางส่วนจมทก่ี น้ -พมิ เสนบางส่วน
-พิมเสนบางสว่ น ลอยอยู่ผิวนา
ลอยอยู่ผิวนา ภาชนะ ภาชนะ บางส่วนจมทก่ี น้
-นาตาลทรายคอ่ ย ๆ มี -นาตาลทรายค่อย ๆ มี ภาชนะ
ปรมิ าณลดลงและหายไป ปริมาณลดลงและหายไป
ในนา ในนา
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมถิ นุ ายน 2562
ค่มู ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 262
ทักษะ รายการประเมิน ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรงุ (1)
กระบวนการทาง
บางสว่ นจมทกี่ น้ -นามันพชื จะรวมกันอยู่ พอใช้ (2) -นาตาลทรายคอ่ ย
วิทยาศาสตร์ ๆ มีปรมิ าณลดลง
ภาชนะ เปน็ ชันเหนือผิวนา -นามนั พชื จะรวมกันอยู่ และหายไปในนา
S8 การลง -เอทานอลหายไปในนา เป็นชันเหนอื ผิวนา -นามันพืชจะ
ความเหน็ จาก -นาตาลทรายค่อยๆ ไดอ้ ยา่ งถูกต้องครบถ้วน -เอทานอลหายไปในนา รวมกันอย่เู ป็นชัน
ขอ้ มูล มีปรมิ าณลดลงและ ได้ด้วยตวั เอง ไดอ้ ย่างถูกต้องครบถ้วน เหนือผวิ นา
หายไปในนา โดยอาศัยการชีแนะของ -เอทานอลหายไป
ครหู รอื ผ้อู น่ื ในนา
-นามนั พืชจะ ได้ไม่ครบถว้ น
แมว้ า่ จะไดร้ ับการ
รวมกันอยู่เป็นชัน ชแี นะจากครูหรือ
ผู้อืน่
เหนือผวิ นา
นาขอ้ มูลทร่ี วบรวม
-เอทานอลหายไป ไดจ้ ากการสงั เกต
การเปลย่ี นแปลง
ในนา ของสารตา่ งๆ เมื่อ
ผสมกบั นามาลง
การนาข้อมูลที่ได้ นาข้อมูลทีร่ วบรวมได้จาก นาขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้ ความเห็นได้วา่ ถ้า
จากการสังเกตการ การสังเกตการ จากการสงั เกตการ ผสมสารกับนาแลว้
เปลี่ยนแปลงของ เปลีย่ นแปลงของสาร เปล่ียนแปลงของสาร มองเหน็ เปน็ เนือ
สารตา่ ง ๆ เมื่อ ตา่ งๆ เมอื่ ผสมกับนามา ตา่ งๆ เมือ่ ผสมกับนามา เดยี วกนั เกดิ
ผสมกบั นามาลง ลงความเห็นได้ว่าถ้าผสม ลงความเห็นไดว้ ่าถ้าผสม การละลาย สารทไ่ี ด้
ความเหน็ การ สารกบั นาแลว้ มองเห็น สารกับนาแลว้ มองเหน็ เรียกวา่ สารละลาย
ละลายของสาร เป็นเนือเดียวกันเกิด เปน็ เนือเดียวกนั เกดิ ถ้าผสมสารกับนา
โดยลงความเห็นได้ การละลาย สารทไี่ ด้ การละลาย สารทีไ่ ด้ มองเหน็ ไม่เป็นเนือ
ว่าถา้ ผสมสารกับ เรียกว่า สารละลาย เรยี กว่า สารละลาย เดียวกนั สารทีไ่ ด้
นาแลว้ มองเห็น ถา้ ผสมสารกับนามองเห็น ถ้าผสมสารกับนา เรยี กว่าสารเนอื ผสม
เป็นเนือเดียวกัน ไม่เปน็ เนือเดียวกัน สารท่ี มองเห็นไมเ่ ป็นเนือ ไดถ้ ูกตอ้ งแตไ่ ม่
เกดิ การละลาย ไดเ้ รยี กวา่ สารเนือผสม เดยี วกัน สารท่ไี ด้เรยี กว่า ครบถ้วน แมว้ า่ จะ
สารทีไ่ ด้เรียกวา่ ได้ถูกต้องครบถ้วนได้ด้วย สารเนือผสม ไดร้ บั การชแี นะจาก
สารละลาย ตนเอง ไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นโดย ครหู รอื ผ้อู นื่
ถา้ ผสมสารกับนา อาศัยการชแี นะของครู
มองเหน็ ไม่เปน็ เนือ หรอื ผ้อู ืน่
เดยี วกนั สารทีไ่ ด้
เรียกวา่ สารเนือ
ผสม
ฉบับปรับปรงุ เดือนมิถุนายน 2562 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
263 คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร
ทักษะ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1)
กระบวนการทาง รายการประเมิน
สามารถตีความหมาย พอใช้ (2) สามารถ
วิทยาศาสตร์ ข้อมลู จากการสงั เกตการ ตคี วามหมายข้อมูล
เปลีย่ นแปลงของสารต่าง สามารถตีความหมาย จากการสังเกตการ
S13 การตีความหมาย ตคี วามหมาย ๆ เมือ่ ผสมกบั นาได้วา่ ขอ้ มลู จากการสงั เกตการ เปล่ียนแปลงของ
ข้อมลู และลงข้อสรุป ขอ้ มลู จากการ -สารบางชนิดรวมตวั เปน็ เปลีย่ นแปลงของสารตา่ ง สารต่าง ๆ เม่อื ผสม
เนอื เดยี วกบั นาได้โดยไม่ ๆ เมอ่ื ผสมกบั นาไดว้ ่า กับนาไดว้ า่
สงั เกตการ เกิดเปน็ สารใหม่ เรยี กวา่ -สารบางชนิดรวมตวั เป็น -สารบางชนิด
เปลย่ี นแปลงของ เกิดการละลาย สารทไี่ ด้ เนือเดียวกับนาได้โดยไม่ รวมตวั เปน็ เนอื
สารต่าง ๆ เม่ือ เปน็ สารละลาย เกดิ เป็นสารใหม่ เดียวกับนาได้โดยไม่
ผสมกับนาได้วา่ -สารบางชนิดไมร่ วมตัว เรียกว่าเกดิ การละลาย เกดิ เป็นสารใหม่
-สารบางชนิด เป็นเนอื เดยี วกบั นา สารที่ไดเ้ ปน็ สารละลาย เรียกวา่ เกดิ
รวมตวั เปน็ เนือ เรยี กว่าไมเ่ กดิ การละลาย -สารบางชนิดไม่รวมตัว การละลาย สารที่ได้
เดียวกับนาได้โดย และสารท่ีไดเ้ ป็น เป็นเนอื เดยี วกับนา เปน็ สารละลาย
ไม่เกิดเป็นสารใหม่ สารเนอื ผสมได้ถกู ต้อง เรยี กว่าไมเ่ กดิ -สารบางชนิดไม่
เรียกวา่ เกิด ครบถว้ นดว้ ยตัวเอง การละลาย และสารทไ่ี ด้ รวมตวั เป็นเนอื
การละลาย สารที่ เป็นสารเนอื ผสมได้ เดยี วกบั นา เรยี กวา่
ไดเ้ ป็นสารละลาย ถูกต้อง ครบถว้ นโดย ไม่เกิดการละลาย
-สารบางชนิดไม่ อาศยั การชีแนะของครู และสารท่ไี ดเ้ ป็น
รวมตัวเปน็ เนือ หรือผู้อน่ื สารเนือผสมได้
เดียวกับนา ถกู ต้อง แต่ไม่
เรยี กวา่ ไม่เกิด ครบถ้วนแม้วา่ จะ
การละลาย และ ไดร้ ับการชีแนะจาก
สารที่ไดเ้ ป็น ครหู รอื ผู้อื่น
สารเนอื ผสม
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 264
ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนักเรยี น
โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดังนี
ทักษะแห่ง รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรงุ (1)
ศตวรรษที่ 21
การนาเสนอขอ้ มลู นาเสนอข้อมูลจากการ พอใช้ (2) นาเสนอข้อมลู จากการ
C4 การสอ่ื สาร จากการสงั เกตการ สงั เกตการเปล่ยี นแปลง สงั เกตการเปล่ียนแปลง
เปลี่ยนแปลงของ ของสารเมื่อผสมนาให้ นาเสนอข้อมลู จากการ ของสารเมื่อผสมนาให้
สารเมอ่ื เติมนาใน ผ้อู น่ื เขา้ ใจได้ถูกต้อง สงั เกตการเปล่ยี นแปลงของ ผู้อน่ื เขา้ ใจแตไ่ ม่ชดั เจน
รปู แบบภาพวาด ชัดเจนได้ด้วยตนเอง สารเม่อื ผสมนา ให้ผอู้ น่ื แมว้ า่ จะได้รบั การชีแนะ
หรอื บรรยาย เข้าใจได้ถูกต้อง ชัดเจนโดย จากครูหรือผู้อ่ืน
อาศัยการชีแนะของครหู รอื
ผู้อ่นื
C5 ความ การทางานร่วมมือ ทางานร่วมกบั ผู้อืน่ ทางานรว่ มกบั ผู้อ่ืนรวมทัง ทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้
ร่วมมอื กบั ผูอ้ ่นื ในการ รวมทงั ยอมรบั ฟังความ ยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของ บา้ งแตไ่ มแ่ สดงความ
สงั เกต คิดเหน็ ของผู้อื่นอย่าง ผู้อนื่ อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการ คิดเหน็ แมว้ า่ จะได้รับคา
C6 การใช้ การเปลย่ี นแปลง สร้างสรรคใ์ นการทา ทากจิ กรรมเป็นบางครงั ทงั นี ชแี นะจากครหู รือผู้อื่น
เทคโนโลยี ของสารเมื่อเติมนา กิจกรรมตงั แตเ่ รม่ิ ตน้ จน ตอ้ งอาศยั การกระตุ้นจากครู
สารสนเทศ รวมทงั การยอมรบั เสรจ็ สินกิจกรรม หรอื ผ้อู ื่น ใช้อินเทอร์เนตสบื คน้
ความคิดเหน็ ของ การละลายของสารใน
ผ้อู น่ื ใช้อนิ เทอร์เนตสืบคน้ ใช้อินเทอร์เนตสบื ค้นการ นาจากแหล่งข้อมลู ท่ี
การละลายของสารในนา ละลายของสารในนาจาก เช่อื ถอื ได้รวมทังบันทกึ
การใช้อินเทอรเ์ นต จากแหลง่ ข้อมูลทเี่ ชื่อถือ แหลง่ ขอ้ มลู ที่เช่อื ถือได้ แหล่งข้อมูลที่สืบค้นได้
เพอื่ สบื ค้นการ ได้รวมทงั บันทกึ รวมทงั บันทึกแหล่งข้อมลู ที่ ไม่ครบถ้วนแมว้ า่ จะได้
ละลายของ แหล่งขอ้ มูลที่สบื คน้ ได้ สบื คน้ ไดค้ รบถ้วน จากการ รับคาชีแนะจากครูหรอื
สารในนาจาก ครบถว้ นด้วยตนเอง ชีแนะของครูหรือผูอ้ น่ื ผ้อู ื่น
แหล่งขอ้ มลู ท่ี
เชื่อถอื ได้รวมทัง
บนั ทกึ แหลง่ ข้อมลู
ท่สี บื คน้
ฉบับปรับปรุง เดือนมถิ นุ ายน 2562 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
265 คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
กจิ กรรมท้ายบทที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ (1 ชวั่ โมง)
1. นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้จากบทนี ในแบบบันทึก
กิจกรรม หนา้ 106
2. นกั เรยี นตรวจสอบการสรปุ สงิ่ ท่ไี ด้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ
ผังมโนทัศน์ในหวั ข้อ รอู้ ะไรในบทน้ี ในหนงั สือเรียน หนา้ 100
3. นักเรียนกลับไปตรวจคาตอบของตนเองในสารวจความรกู้ ่อนเรียน ใน
แบบบันทึกกิจกรรม หน้า 82-84 อีกครัง ถ้าคาตอบของนักเรียนไม่
ถูกต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านัน แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจ
แก้ไขคาตอบด้วยปากกาที่มีสีต่างจากเดิม นอกจากนีครูอาจนาคาถาม
ในรูปนาบทในหนังสือเรียน หน้า 76 มาร่วมกันอภิปรายคาตอบอีกครัง
ดงั นี
การทาไอศกรีมเก่ียวข้องกับการเปล่ียนสถานะและการละลายอย่างไร
ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายแนวทางการตอบคาถาม เชน่ ส่วนผสม
ของไอศกรีมเปล่ียนจากของเหลวเป็นของแข็งเรียกว่าการแข็งตัว เมื่อ
นานาตาลผสมกับนมซ่งึ มนี าเป็นส่วนประกอบ นาตาลจะละลายในนา
4. นักเรียนทา แบบฝึกหัดท้ายบทท่ี 1 การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ
แล้วนาเสนอคาตอบหน้าชันเรียน ถ้าคาตอบยังไม่ถูกต้องครูควรนา
อภิปรายหรือให้สถานการณ์เพ่ิมเติมเพ่ือแก้ไขแนวคิดคลาดเคลื่อนให้
ถกู ตอ้ ง
5. นักเรียนรว่ มกันทากิจกรรม ร่วมคิดร่วมทา โดยรว่ มกันสารวจรสชาติของนา
ผลไมท้ ่ีเพอ่ื นชอบมากทีส่ ดุ แล้วทาเกล็ดนาแขง็ จากนาผลไมร้ สชาติท่ีเพ่ือน ๆ
ชอบ
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562
ค่มู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 266
รูปหรอื ข้อความสรุปส่ิงทไ่ี ด้เรียนร้จู ากบทนีต้ ามความเขา้ ใจของนักเรียน
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถุนายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
267 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
แกว้ ใบท่ี 1 2 3 4
แก้วใบที่ 5 6
2.0 กรมั เนื่องจากสารผสมท่ไี ดย้ ังคงเป็นของเหลวใสแสดงวา่ สาร A
ละลายได้หมด
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562
ค่มู ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 268
ไอโอดีนในรปู ข เปลย่ี นจากของแข็งเป็นแก๊ส เรยี กว่าการระเหิด และ ไอโอดีนใน
รูป ค เปล่ยี นจาก แกส๊ เปน็ ของแข็ง เรียกวา่ การระเหิดกลับ
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมถิ ุนายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
269 คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
เปน็ การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ เพราะเป็นการเปล่ยี นแปลงที่ยังคงเป็นสารเดมิ
แต่สถานะเปล่ียนไป
แตกต่างกัน สิ่งท่แี ตกตา่ งกันคอื การใส่เกลือลงในนา้ เกดิ การละลาย สารทไี่ ด้เปน็
สารละลาย ส่วนน้าแขง็ ในแกว้ น้า น้าแขง็ เกิดการหลอมเหลว สารท่ีได้คอื น้า
ไม่ใช่สารละลาย
มกี ารเปล่ยี นสถานะ 2 ชว่ งคือชว่ งท่นี าเศษเทียนและขี้ผ้งึ มาให้ความร้อน
เศษเทยี นและขผึ้ ึง้ ซง่ึ เป็นของแข็งเปล่ียนเป็นของเหลว เรยี กการ
เปลยี่ นแปลงน้วี ่าการหลอมเหลว และช่วงท่นี าของเหลวมาเทลงในแบบพิมพ์
รูปทรงตา่ ง ๆ แลว้ ปล่อยใหเ้ ย็น ของเหลวเปล่ียนเป็นของแข็งรูปทรงตา่ ง ๆ
เรียกการเปล่ียนแปลงนี้วา่ การแขง็ ตัว
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมถิ นุ ายน 2562
คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร 270
ช่วงท่ีนาขวดใสน่ ้าครึง่ ขวดไปวางกลางแดด นา้ ได้รบั ความรอ้ นจะระเหยเป็นไอนา้
เรยี กการเปล่ียนแปลงจากน้าเป็นไอน้านว้ี า่ การกลายเป็นไอ และชว่ งท่ีมีหยดน้า
เกาะทผ่ี วิ ด้านในของขวดซ่งึ เกิดจากไอนา้ เปล่ยี นเป็นนา้ เรียกการเปล่ยี นแปลงน้ี
วา่ การควบแน่น
ฉบับปรับปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
271 คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562
คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 272
บทที่ 2 การเปลีย่ นแปลงทางเคมี
จุดประสงค์การเรยี นรปู้ ระจาบท
เม่ือเรียนจบบทนี นักเรยี นสามารถ
วเิ คราะห์การเปลีย่ นแปลงของสารและระบุการเปลีย่ นแปลงทาง
เคมขี องสาร
เวลา 5 ชั่วโมง
แนวคิดสาคัญ
การเปลย่ี นแปลงของสารที่มีสารใหม่เกิดขนึ เป็นการ
เปลีย่ นแปลงทางเคมี อาจสงั เกตได้จากการทสี่ ารมีสี มกี ลนิ่ แตกต่างจาก
สารเดมิ มีฟองแก๊ส มีตะกอนเกิดขนึ หรือมีอุณหภูมิเพ่ิมขึน หรือลดลง
สอ่ื การเรยี นรูแ้ ละแหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน ป. 5 เล่ม 1 หน้า 106-120
2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ป. 5 เล่ม 1 หนา้ 114-130
บทนี้มีอะไร การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
การเปล่ยี นแปลงทางเคมี (chemical change)
เรื่องที่ 1 การเปลยี่ นแปลงทางเคมคี อื อะไร
คาสาคญั รไู้ ด้อย่างไรว่าเกดิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
กิจกรรมที่ 1.1
กจิ กรรมที่ 1.2
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
273 คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21
รหสั ทักษะ กจิ กรรมท่ี
1.1 1.2
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสังเกต
S2 การวดั
S3 การใชจ้ านวน
S4 การจาแนกประเภท
S5 การหาความสมั พันธร์ ะหว่าง
สเปซกบั สเปซ
สเปซกบั เวลา
S6 การจดั กระทาและส่อื ความหมายขอ้ มลู
S7 การพยากรณ์
S8 การลงความเห็นจากข้อมูล
S9 การตังสมมตฐิ าน
S10 การกาหนดนยิ ามเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร
S11 การกาหนดและควบคุมตัวแปร
S12 การทดลอง
S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป
S14 การสรา้ งแบบจาลอง
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
C1 การสร้างสรรค์
C2 การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
C3 การแกป้ ัญหา
C4 การสือ่ สาร
C5 ความรว่ มมือ
C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร
หมายเหตุ : รหสั ทักษะทป่ี รากฏนใี ช้เฉพาะในคู่มือครเู ลม่ นี
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดือนมถิ นุ ายน 2562
คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 274
แนวคดิ คลาดเคลือ่ น
แนวคิดคลาดเคลื่อนท่ีอาจพบและแนวคดิ ที่ถูกตอ้ งในบทท่ี 2 การเปลี่ยนแปลงทางเคมี มีดงั ต่อไปนี
แนวคิดคลาดเคล่ือน แนวคดิ ทีถ่ กู ต้อง
เม่ือเกิดสีและฟองแก๊สจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเกิดขึนเสมอ บางครังการเปล่ียนแปลงที่ทาให้เกิดสี หรือฟองแก๊ส ก็ไม่ใช่การ
(Driver, 2000) เปล่ียนแปลงทางเคมี เช่น การนาสี 2 สีมาผสมกัน การต้มนาจนเดือด
ล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเพราะไม่มีสารใหม่เกิดขึน
(Driver, 2000)
ถ้าครูพบว่ามแี นวคดิ คลาดเคลอ่ื นในประเดน็ ใดที่ยังไม่ไดแ้ กไ้ ขจากการทากจิ กรรมการเรียนรู้ ครคู วรจัดการเรยี นรู้เพิ่มเติมเพ่ือ
แก้ไขแนวคดิ คลาดเคล่ือนใหถ้ ูกตอ้ ง
ฉบับปรับปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
275 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
บทนเี้ รม่ิ ตน้ อย่างไร (1 ชั่วโมง) ค รู รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง
นักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่
1. ครูทบทวนความรู้พนื ฐานของนักเรียนเก่ียวกับการเปลยี่ นแปลงของ เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้
สารโดยอาจใชค้ าถามดังนี หาคาตอบท่ีถูกต้องจากกิจกรรม
1.1สารมีการเปลย่ี นแปลงอย่างไรบ้าง (สารมกี ารเปลยี่ นสถานะและ ตา่ ง ๆ ในบทเรยี นนี
การละลาย)
1.2 การเปล่ียนสถานะและการละลายเป็นการเปล่ียนแปลงทาง การเตรียมตัวลว่ งหน้าสาหรับครู
กายภาพ เพราะเหตุใด (เป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ เพอ่ื จัดการเรียนรูใ้ นครัง้ ถัดไป
เพราะสารกอ่ นและหลงั การเปลีย่ นแปลงยังคงเปน็ สารเดิม)
1.3 การเปล่ียนแปลงใดบ้างท่ีเกิดสารใหม่ให้ยกตัวอย่าง และเป็น ในครังถดั ไป นักเรยี นจะได้อ่าน
การเปลย่ี นแปลงประเภทใด (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ) เรือ่ งท่ี 1 การเปล่ยี นแปลงทางเคมี ครู
อาจเตรยี มคลปิ การย่างเนือหรอื ปง้ิ อาหาร
2. ครูชักชวนนักเรียนศึกษาเรื่องการเปล่ียนแปลงทางเคมีของสารโดย ตวั อยา่ งเช่น
นักเรียนอ่านช่ือหน่วย และ อ่าน ช่ือบท และจุดประสงค์การ https://www.youtube.com/watch?v
เรียนรู้ประจาบท ในหนังสือเรียนหน้า 105 จากนันครูใช้คาถาม =iJHtFHWBSpE และเตรียมภาพเพื่อใช้
ดงั นี ตรวจสอบความรู้นกั เรยี นเกย่ี วกบั การ
2.1 บทนีจะเรยี นเรอ่ื งอะไร (การเปล่ียนแปลงทางเคมี) เปลี่ยนแปลงทางเคมี เชน่ ภาพผลไมส้ กุ
2.2 จากจุดประสงค์การเรยี นรู้ เม่ือจบบทเรียนนกั เรียนจะสามารถ การตม้ นา การเกิดสนิม การเกดิ หมอก
ทาอะไรได้บ้าง (วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงของสารและระบุ
การเปลย่ี นแปลงทางเคม)ี
3. นักเรียนอ่านช่ือบทและแนวคิดสาคัญ ในหนังสือเรียนหน้า 106
จากนันครูซักถามนักเรียนว่าจากการอ่านแนวคิดสาคัญ นักเรียนคิด
ว่าจะได้เรียนเก่ียวกับเร่ืองอะไรบ้าง (ในบทนีจะเรียนเกี่ยวกับการ
เปล่ยี นแปลงทางเคมีและสง่ิ ทบี่ ่งบอกว่าเกดิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี)
4. ครูชกั ชวนใหน้ ักเรียนสังเกตรปู และอ่านเนือเร่ืองในหน้า 106 โดยครู
ฝึกทักษะการอ่านตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถของ
นักเรียน ครูตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คาถาม
ดังต่อไปนี
4.1 จากเรอ่ื งที่อา่ นกลา่ วถึงอะไร (การจดุ โคมลอย)
4.2 โคมลอยมีส่วนประกอบอะไรบา้ ง (ตัวโคมและเชอื เพลงิ )
4.3 เม่ือจุดไฟที่เชือเพลิงเกิดการเปล่ียนแปลงอย่างไรบ้าง (เกิด
เปลวไฟ เขมา่ และควนั )
4.4 การจุดโคมลอย มีการเปล่ียนแปลงทางเคมีเกิดขึนหรือไม่ และ
การเปล่ียนแปลงทางเคมีเป็นอย่างไร (นักเรียนตอบตามความ
เขา้ ใจ)
5. ครูชักชวนนักเรียนตอบคาถามเก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงทางเคมีใน
สารวจความรูก้ อ่ นเรียน
6. นักเรียนทากิจกรรมสารวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม
หน้า 114-115 โดยนักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ ครูตรวจสอบความ
เข้าใจของนักเรียนจนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทาได้ด้วยตนเอง จึงให้
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562
คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 276
นักเรียนตอบคาถาม โดยคาตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน และ
คาตอบอาจถกู หรอื ผดิ ก็ได้
7. ครูสังเกตการตอบคาถามของนักเรียนเพ่ือตรวจสอบว่านักเรียนมี
แนวคิดเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงทางเคมีอย่างไรบ้าง หรืออาจสุ่มให้
นักเรียน 2 – 3 คน นาเสนอคาตอบของตนเอง โดยครูยังไม่ต้องเฉลย
คาตอบ แต่จะให้นักเรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกครังหลังเรียนจบ
บทนีแล้ว ทังนีครูอาจบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดท่ี
น่าสนใจของนักเรียน แล้วนามาออกแบบการจัดการเรียนการสอน
เพื่อแก้ไขแนวคิดคลาดเคล่ือนให้ถูกต้อง และต่อยอดแนวคิดที่
นา่ สนใจของนักเรียน
ฉบับปรบั ปรุง เดือนมถิ นุ ายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
277 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม
การสารวจความรกู้ ่อนเรยี น นกั เรยี นอาจตอบคาถามถกู หรือผดิ ก็ไดข้ นึ อยู่กับความรเู้ ดมิ ของนักเรยี น
แตเ่ ม่อื เรยี นจบบทเรยี นแล้ว ใหน้ กั เรยี นกลบั มาตรวจคาตอบอีกครงั และแก้ไขให้ถูกต้อง ดงั ตวั อย่าง
มสี ารใหมเ่ กิดขน้ึ คือไม้
เปลี่ยนเป็นสีดาและมี
ควันเกิดข้นึ ด้วย
มีสารใหม่เกิดข้ึนคอื
ไข่สกุ ซ่ึงเปล่ียนมา
จากไข่ดิบ
สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรุง เดือนมิถุนายน 2562
คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร 278
ไมม่ ีสารใหมเ่ กิดขน้ึ นา้
เดือดเป็นการเปลยี่ น
สถานะจากของเหลว
เปน็ แกส๊ โดยยงั เป็น
สารเดมิ
มสี ารใหมเ่ กดิ ขึ้นคือ
น้าตาลซง่ึ เปลยี่ นมาจาก
แป้ง
ไม่มีสารใหมเ่ กดิ ข้นึ
ช็อกโกแลตเยิม้ เปน็ การเปลี่ยน
สถานะจากของแข็งเปน็
ของเหลวโดยยงั คงเปน็ สารเดมิ
ฉบบั ปรบั ปรุง เดือนมิถุนายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
279 คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
เร่ืองที่ 1 การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ในเร่ืองนีนักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงทาง
เคมี
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงของสารและระบุการเปลี่ยนแปลงทาง
เคมี
เวลา 3 ช่ัวโมง
วสั ดุ อปุ กรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม
นาตาลทราย เกลือแกง ชุดตะเกียงแอลกอฮอล์ ไม้ขีดไฟ
กระป๋องทรายสาหรับดับไฟ จานหลุมโลหะ ช้อน นา
นาปูนใส บีกเกอร์ ปูนขาว ผงฟู สารละลาย ผ ง ฟู
แอมโมเนียมคลอไรด์ นาส้มสายชู แก้วนาพลาสติก
ขวดแก้วปากแคบ แท่งแก้วคน ช้อนตักสารเบอร์ 2 ลูกโป่ง
กระบอกตวงหรือหลอดฉีดยา
ส่อื การเรียนรูแ้ ละแหล่งเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น ป.5 เลม่ 1 หนา้ 108-120
2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป.5 เลม่ 1 หน้า 116-130
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรับปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562
คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร 280
แนวการจดั การเรียนรู้ (50 นาท)ี
ขนั้ ตรวจสอบความรู้ (10 นาท)ี
1. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับการเปล่ียนแปลงทางกายภาพว่าหมายถึง ในการตรวจสอบความรู้ ครู
อะไร และให้ยกตัวอย่างปรากฏการณ์หรือสถานการณ์ที่เป็นการ เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน
เปลี่ยนแปลงทางกายภาพ (การเปล่ียนแปลงทางกายภาพหมายถึง เป็นสาคัญ และยังไม่เฉลย
การเปลี่ยนแปลงของสารเม่ือสารเกิดการเปล่ยี นแปลงแล้วยังคงเป็น คาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่
สารเดิมไม่มีสารใหม่เกิดขึนแต่เปล่ียนสถานะหรือเกิดการละลาย ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบที่
ตัวอย่างเชน่ นาแข็งหลอมเหลวเป็นนาและนาเดือดเป็นไอซ่งึ นาแขง็ ถูกตอ้ งจากการอา่ นเนือเรือ่ ง
นาและไอนาเป็นนาเป็นสารเดียวกันคือนา พิมเสนระเหิดเป็นไอ
ของพิมเสนซึ่งเป็นพิมเสนเหมือนกัน นาผลไม้แข็งตัวเป็นเกล็ด
นาแข็งซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกัน นาตาลละลายในนาได้สารละลาย
นาตาลซง่ึ ในสารละลายนาตาลยงั เป็นนาตาลและนาเหมอื นเดมิ )
2. ครเู ขยี นคาวา่ การเปลย่ี นแปลงทางเคมี บนกระดาน แล้วให้นกั เรียน
ร่วมกันอภิปรายว่า การเปลี่ยนแปลงทางเคมีหมายถึงอะไร
ชีวิตประจาวันของเรามีอะไรบ้างที่เป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี
จากนนั ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพสถานการณต์ ่าง ๆ เช่น ผลไมส้ กุ การต้ม
นา การเกิดสนิม การเกิดหมอก การเติมนาลงในนาหวานแล้ว
อภิปรายและจาแนกวา่ อะไรบา้ งทีเ่ ป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
นักเรียนตอบคาถามตามความเข้าใจของตัวเอง จากนันครูชักชวน
นักเรียนว่า ต่อไปเราจะเรียนว่าการเปลี่ยนแปลงทางเคมีคืออะไร
และจะสังเกตได้อยา่ งไรวา่ มีการเปล่ยี นแปลงทางเคมเี กดิ ขนึ
ขั้นฝึกทักษะจากการอ่าน (30 นาท)ี
3. นักเรียนอ่านช่ือเรื่อง และคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียนหน้า 108 แล้ว
ร่วมกันอภิปรายในกลุ่มเพ่ือตอบคาถามตามความเข้าใจของกลุ่ม ครู
บันทึกคาตอบของนักเรียนบนกระดานเพ่ือใช้เปรียบเทียบคาตอบ
ภายหลังการอ่านเนอื เรอ่ื ง
4. นกั เรยี นอา่ นเนือเรอ่ื งในหนังสือเรยี นหน้า 108 โดยครูฝกึ ทักษะการอ่าน
ตามวิธีการอ่านท่ีเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ครูใช้คาถาม
เพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน ดังนี
4.1 นาตาลเป็นสารท่ีได้มาจากกระบวนการใดของพืช (กระบวนการ
สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช)
4.2 ในการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช มีสารใดบ้างทาปฏิกิริยากันและ
หลังปฏิกิริยามีสารใดเกิดขึนบ้าง (สารที่ทาปฏิกิริยากันคือนากับ
ฉบับปรับปรุง เดือนมิถุนายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
281 ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์โดยมีแสงช่วยการเกิดปฏิกิริยา หลัง การเตรยี มตวั ลว่ งหน้าสาหรับครู
ปฏกิ ิริยามนี าตาลกบั แก๊สออกซิเจนเกดิ ขึน) เพ่อื จดั การเรียนรใู้ นครง้ั ถัดไป
4.3 การเปล่ียนแปลงทางเคมี มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง (การสังเคราะห์
ด้วยแสง บางขันตอนของกระบวนการย่อยอาหาร เช่น การย่อย ในครังถัดไป นักเรียนจะได้ทา
เนือสัตว์เป็นโปรตีน การเกิดสนิมเหล็ก การเกิดฝนกรด การสุก กิจกรรมท่ี 1.1 การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ของอาหาร) คืออะไร ครูเตรียมถ้วยกระเบืองทนไฟ
ข้นั สรปุ จากการอา่ น (10 นาท)ี เพื่อใช้สาธิตหนา้ ชันเรียน
5. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ เร่ืองที่อ่านซึง่ ควรสรปุ ไดว้ ่านาตาลที่พบในผลไม้เกิด
จากการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช เม่ือเรารับประทานผลไม้ นาตาลใน
ผลไม้จะผ่านการย่อยอาหารได้สารใหม่มีขนาดเล็กลง ร่างกายนามาใช้
ประโยชน์ได้ การสังเคราะห์ด้วยแสงและการย่อยอาหารและการ
เปล่ียนแปลงหลายอยา่ งรอบตวั เรา เป็นการเปลยี่ นแปลงทางเคมี
6. นักเรียนตอบคาถามจากเรื่องท่ีอ่านใน รู้หรือยัง ในแบบบันทึกกิจกรรม
หน้า 116
7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคาตอบของนกั เรยี นใน
ร้หู รอื ยงั กับคาตอบที่เคยตอบในคดิ ก่อนอา่ น
8. ครชู ักชวนนกั เรียนลองตอบคาถามท้ายเร่อื งทอี่ ่าน ดังนี
8.1 การเปลย่ี นแปลงทางเคมีคอื อะไร
8.2 รูไ้ ด้อยา่ งไรว่าเกดิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ครูบันทึกคาตอบของนักเรียนบนกระดาน โดยยังไม่เฉลยคาตอบแต่
ชกั ชวนให้นกั เรียนหาคาตอบจากการทากิจกรรม
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมถิ นุ ายน 2562
คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 282
แนวคาตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื บางขน้ั ตอนของกระบวนการย่อยอาหาร
การเกิดสนิมเหลก็ การสุกของอาหาร การเกดิ ฝนกรด
ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
283 คูม่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร
กจิ กรรมท่ี 1.1 การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
คอื อะไร
กิจกรรมนีนักเรียนจะได้สังเกตและอธิบายการเปลี่ยนแปลงทาง
เคมขี องสาร
เวลา 1 ชว่ั โมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
ทากิจกรรมนีเพ่ือสังเกตและอธิบายการเปล่ยี นแปลงทางเคมีของสาร
วัสดุ อปุ กรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม
สงิ่ ที่ตอ้ งเตรยี ม
สิ่งทค่ี รตู ้องเตรยี ม/ห้อง
1. กระดาษ 1 แผ่น
2. ถ้วยกระเบืองทนไฟ 1 ใบ
ส่ิงทค่ี รตู ้องเตรยี ม/กลุ่ม
1. นาตาลทราย 1 ช้อนเบอร์ 2
2. เกลอื แกง 1 ช้อนเบอร์ 2
3. จานหลมุ โลหะ 1 อัน
4. ชดุ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ 1 ชุด
5. ไม้ขดี ไฟ 1 กลกั ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21
6. ช้อนตกั สาร เบอร์ 2 1 อนั
7. กระป๋องทรายสาหรับดบั ไฟ 1 กระป๋อง C4 การส่ือสาร
สง่ิ ทค่ี รูตอ้ งเตรียม/คน C5 ความร่วมมอื
- สือ่ การเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้
สงิ่ ทีน่ ักเรยี นตอ้ งเตรียม/กลมุ่
- 1. หนงั สือเรียน ป.5 เล่ม 1 หน้า 109-111
2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.5 เล่ม 1 หน้า 117-119
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
S1 การสังเกต
S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล
S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมิถุนายน 2562
คูม่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 284
แนวการจัดการเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครู
เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน
1. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับการเปล่ียนแปลงทางกายภาพและการ เป็นสาคัญ และยังไม่เฉลย
คาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่
เปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยให้นักเรียนสังเกตรูปนาท่ีกาลังเดือดใน ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบที่
ถูกต้องจากกิจกรรมต่าง ๆ ใน
หมอ้ หรอื กาตม้ นา และใช้คาถามต่อไปนี บทเรียนนี
1.1 นาที่กาลังเดือดมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร (มีการ
เปลยี่ นแปลงโดยมีฟองแกส๊ เกิดขึน เกดิ การเปลี่ยนสถานะจาก
ของเหลวเป็นแก๊ส)
1.2 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึนเป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ
หรือการเปล่ยี นแปลงทางเคมี อย่างไร (คาตอบขนึ อยู่กับความ
เข้าใจของนักเรียนซึ่งควรตอบได้ว่า เป็นการเปล่ียนแปลงทาง
กายภาพ เพราะเป็นการเปล่ียนแปลงท่ีสารยังคงเป็นสารเดิม
คือจากนาท่ีเป็นของเหลวกลายเป็นไอนาซ่ึงเป็นแก๊ส)
1.3 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลง
ทางเคมีหรือไม่ อย่างไร (คาตอบขึนอยู่กับความเข้าใจของ
นักเรียน)
1.4 การเปล่ียนแปลงใดบ้างเป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี
ยกตัวอย่าง (คาตอบขึนอยูก่ บั ความเข้าใจของนกั เรียน)
2. นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรม และ ทาเป็นคิดเป็น และร่วมกัน
อภิปรายเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับจดุ ประสงค์ในการทา
กิจกรรม โดยใชค้ าถามดงั ตอ่ ไปนี
2.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับเรื่องอะไร (การ
เปลี่ยนแปลงทางเคมีของสาร)
2.2 นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นเรอ่ื งนดี ้วยวิธีใด (การสงั เกต)
2.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายการ
เปลย่ี นแปลงทางเคม)ี
ใหน้ กั เรียนบันทึกจุดประสงค์ของกิจกรรมในแบบบันทึกกจิ กรรม
หน้า 117
3. นักเรียนอ่านสิ่งที่ต้องใช้ในการทากิจกรรม โดยครูนาวัสดุ
อุปกรณ์มาแสดงให้นักเรียนดู ถ้านักเรียนไม่รู้จักวัสดุอุปกรณ์
บางอย่าง เช่น จานหลุมโลหะ ครูควรสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์
เพ่ือใหน้ ักเรียนใชไ้ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
4. นักเรียนอ่านทาอย่างไร ในหนังสือเรียนหน้า 109 โดยครูใช้วิธีฝึก
การอ่านท่ีเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนันครู
ตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับขันตอนการทากิจกรรมอ จนแน่ใจว่า
นักเรียนเขา้ ใจลาดับการทากิจกรรม โดยใชค้ าถามดงั นี
4.1 นกั เรียนต้องสังเกตสารอะไรบ้าง (นาตาลทรายและเกลือแกง)
ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
285 คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร
ครใู หน้ ักเรียนดวู ิธีการบนั ทึกผลในแบบบันทกึ กิจกรรมหนา้ 117 ตวั อย่างแผนผงั แสดงขนั้ ตอน
4.2 นักเรียนตอ้ งคาดคะเนอะไร (คาดคะเนวา่ จะเกิดอะไรขนึ เมื่อให้
สังเกตเกลือแกงและ
ความร้อนแกน่ าตาลทรายและเกลอื แกง) นาตาลทราย บนั ทึกผล
ครูให้นักเรียนดูวิธีบันทึกการคาดคะเนในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า
117 คาดคะเนผลท่ีเกิดขึนเมื่อ
4.3 นกั เรียนตรวจสอบการคาดคะเนด้วยวธิ กี ารอย่างไร (ตักนาตาล ใหค้ วามร้อนแก่นาตาล
ทรายและเกลือแกง
ทรายและเกลือแกงใสล่ งในจานหลุมโลหะหลุมละ 1 ชอ้ นเบอร์
2 แล้วนาจานหลุมไปตงั ไฟให้ความร้อน สงั เกตและบันทกึ ผล) ตักนาตาลทราย 1 ชอ้ น
4.4 นักเรียนต้องสังเกตอะไร (การเปลี่ยนแปลงของนาตาลทราย เบอร์ 2 ลงในจานหลมุ
และเกลือแกงเม่ือนาจานหลุมโลหะไปให้ความร้อนด้วยตะเกียง โลหะ
แอลกอฮอล์)
ครูให้นกั เรยี นดูวิธีการบนั ทกึ ผลในแบบบันทกึ กิจกรรมหนา้ 117 ตกั เกลือแกง 1 ช้อนบอร์
5. ครูอาจฝึกให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนแผนผังแสดงขันตอนการทา 2 ลงในจานหลุมโลหะอีก
กิจกรรม ดังตัวอย่างด้านขวามือ และสุ่มนักเรียนบางกลุ่มออกมา 1 หลมุ
นาเสนอแผนผังการทากจิ กรรม
6. เมื่อนักเรียนเข้าใจวิธีทากิจกรรมในทาอย่างไร แล้วครูยาเรื่องความ นาจานหลมุ ไปตงั ไฟ
ปลอดภัยในการใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ จากนันครูให้นักเรียนรับ สงั เกตและบนั ทึกผล
อปุ กรณ์แล้วเรมิ่ ปฏิบตั ิกิจกรรมตามขนั ตอน
7. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
จากนันนักเรียนนาเสนอ โดยครูนาอภิปรายผลการทากิจกรรม โดย แห่งศตวรรษท่ี 21 ที่นักเรียนจะได้ฝึกจากการ
ครูใช้คาถามดงั นี ทากิจกรรม
7.1 เมื่อให้ความร้อนแก่นาตาลทรายและเกลือแกง ผลที่ได้
เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (เม่ือนานาตาลทรายและเกลือแกง S1 การสังเกตลักษณะของสารก่อนและ
ไปให้ความร้อนผลท่ีได้แตกต่างกัน เกลือแกงยังคงเป็นเกล็ดสี หลังให้ความรอ้ นและการเปลยี่ นแปลงท่ี
ขาวเหมือนเดิม ส่วนนาตาลทรายจะเปลี่ยนเป็นสีนาตาลจนดา เกดิ ขึนขณะใหค้ วามร้อน
ไหมแ้ ละมกี ลิน่ ไหม)้ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูลจากการ
7.2 การเปลยี่ นแปลงของนาตาลทรายเปน็ การเปล่ียนแปลงทาง สงั เกตลักษณะของสารว่าเกดิ การ
กายภาพหรอื ไม่ เพราะเหตุใด (การเปล่ยี นแปลงของนาตาล เปล่ียนแปลงทางเคมีหรือไม่ อยา่ งไร
ทรายไม่ใชก่ ารเปล่ยี นแปลงทางกายภาพเพราะหลังจากเผา C4 การส่อื สารจากการพดู เขียนบรรยาย
นาตาลทรายท่ีมีสีขาวเปลี่ยนเป็นสีดาและมีกล่ินไหม้ การเปลีย่ นแปลงเม่ือใหค้ วามร้อนแกส่ าร
ลักษณะและสมบตั ไิ ม่เหมอื นเดิม) C5 ความร่วมมือจากการทางานรว่ มกนั ใน
8. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่าการให้ความร้อนหรือเผานาตาลทราย ทา กล่มุ
ให้นาตาลทรายเปล่ียนเป็นสารใหม่ซึ่งมีลักษณะและสมบัติไม่
เหมือนเดิม การเปล่ียนแปลงท่ีได้สารใหม่ นีเรียกว่าการ
เปลีย่ นแปลงทางเคมี
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรับปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562
คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 286
9. รูอภิปรายร่วมกับนักเรียนเกี่ยวกับผลที่สังเกตได้จากการเผาเกลือ การเตรียมตวั ล่วงหนา้ สาหรับครู
เพื่อจัดการเรยี นร้ใู นครง้ั ถัดไป
แกงว่าเป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมีหรือไม่ เพราะเหตุใด (การ
ในครงั ถัดไป นกั เรียนจะได้ทา
เปล่ียนแปลงของเกลือแกงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางเคมีแต่เป็น กจิ กรรมที่ 1.2 ร้ไู ดอ้ ย่างไรวา่ มีการ
เปลีย่ นแปลงทางเคมี ครเู ตรียมนาปูนใส
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเพราะเกลื อแกงเม่ือถูกเผา และสารละลายผงฟดู งั นี
- นาปนู ใส ใช้ปูนกนิ หมาก 2-3 ชอ้ นและนา
เ ก ลื อ แ ก ง ยั ง เ ป็ น ส า ร เ ดิ ม แ ต่ ที่ เ ห็ น เ ป็ น ผ ง เ พ ร า ะ ค ว า ม ชื น ใ น สะอาด ประมาณ 200 cm3 ผสมสารเข้า
ดว้ ยกันในขวด ปดิ ฝาใหแ้ นน่ เขย่าให้เขา้
เกลือแกงระเหยไปเม่ือเกลือแกงได้รับความร้อนเป็นเวลานาน ๆ กัน วางไว้ใหต้ กตะกอน กรองเอาเฉพาะ
สว่ นทเ่ี ป็นของเหลวใสโดยใช้กระดาษกรอง
การแห้งของเกลอื แกงจึงเปน็ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ) เกบ็ ของเหลวท่ีกรองไดใ้ นภาชนะทแ่ี ห้ง
สะอาดปดิ ฝาใหแ้ น่น
10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าสารบางชนิด - สารละลายผงฟู ใชผ้ งฟู 3 ชอ้ นกบั นา
เม่ือเกิดการเปล่ียนแปลงทางเคมีจะได้สารใหม่ที่มีสมบัติ 250 cm3 เขย่าใหผ้ สมกัน กรองผา่ น
แตกตา่ งจากสารเดิม (S13) กระดาษกรองเกบ็ ของเหลวใสทไ่ี ดใ้ ส่
ภาชนะท่ีแหง้ สะอาด
11. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คาถาม
เพมิ่ เติมในการอภปิ รายเพือ่ ให้ไดแ้ นวคาตอบที่ถูกต้อง
12. นักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนันนักเรียนอ่าน
ส่ิงทไี่ ด้เรยี นรู้ และเปรยี บเทยี บกบั ข้อสรปุ ของตนเอง
13. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตังคาถามเก่ียวกับเร่ืองที่สงสัยหรืออยากรู้
เพ่ิมเตมิ ใน อยากรู้อกี ว่า จากนันครูอาจสุ่มนักเรยี น 2 -3 คน นาเสนอ
คาถามของตนเองหน้าชันเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย
เกี่ยวกับคาถามท่ีนาเสนอ
14. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขันตอนใด
แล้วบนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรมหนา้ 119
ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมิถนุ ายน 2562 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
287 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม
สังเกตและอธบิ ายการเปล่ยี นแปลงทางเคมีของสาร
เกล็ดสีขาวใส สถานะของแข็ง
เกลด็ สีขาวขุ่น สถานะของแขง็
คาตอบขึ้นอยกู่ ับนกั เรยี น นา้ ตาลทรายหลอมเหลวและ
เช่น นา้ ตาลทรายจะ เปลี่ยนเป็นสนี ้าตาลเข้ม มี
หลอมเหลวและเปล่ียนเป็นสี กลิ่น เมื่อให้ความรอ้ นตอ่ ไป
จะมคี วันเกิดขึน้ มกี ลน่ิ ไหม้
นา้ ตาล
และสารที่ไดเ้ ป็นของแข็งสดี า
คาตอบข้ึนอยู่กบั นักเรยี น เป็นเกลด็ สขี าว เกลด็ สี
เชน่ เกลอื แกงไมเ่ กดิ ขาวแห้งและแตกเปน็
การเปลี่ยนแปลง ผง
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562
คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 288
เม่อื ใหค้ วามร้อนแก่นา้ ตาลทราย น้าตาลทรายจะหลอมเหลวและเปล่ยี นเป็นสีนา้ ตาล
และคอ่ ย ๆ เปล่ยี นเป็นสดี า มคี วนั และมีกล่นิ ไหม้ ได้ของแข็งสดี าในท่สี ุด ส่วนเกลอื แกง
ไมเ่ ปลยี่ นแปลงเพียงแตข่ นาดและรปู รา่ งเปลีย่ นไป
เม่ือให้ความรอ้ นแก่น้าตาลทราย สารทไี่ ด้ไมใ่ ชส่ ารเดมิ สังเกตจากสารเปล่ยี นจาก
เกลด็ สขี าวเปน็ ของแข็งสีดา ส่วนเกลอื แกงยังคงเปน็ สารเดิมซงึ่ มีลักษณะเป็นผง
สขี าว
การเปลยี่ นแปลงของน้าตาลทรายเป็นการเปลยี่ นแปลงทางเคมี เพราะมสี ารใหม่
เกดิ ขน้ึ ส่วนการเปล่ียนแปลงของเกลอื แกง เป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ
เพราะไมม่ ีสารใหมเ่ กดิ ขึน้
เม่ือนานา้ ตาลทรายและเกลอื แกงไปใหค้ วามร้อน นา้ ตาลทรายจะหลอมเหลวและเปล่ียนเป็นสนี า้ ตาล
และค่อย ๆ เปลยี่ นเปน็ สดี า มคี วนั เกดิ ขน้ึ และไดข้ องแข็งสดี าในทส่ี ุด การเปล่ยี นแปลงของน้าตาลทราย
เมือ่ ใหค้ วามรอ้ น เปน็ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี เพราะหลังจากให้ความร้อน นา้ ตาลทรายมสี ารใหม่
เกดิ ขึน้ ซง่ึ มสี มบัติต่างไปจากสารเดิม สว่ นเกลือแกงเม่ือถกู เผา เกลือแกงยงั เป็นสารเดมิ แต่ท่ีเหน็ เป็นผง
เพราะความชืน้ ในเกลือแกงระเหยไปเมือ่ เกลอื แกงไดร้ ับความรอ้ นเปน็ เวลานาน ๆ การแหง้ ของเกลือแกง
จึงเป็นการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ
สารบางชนิดเมอ่ื เกดิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมีจะไดส้ ารใหมท่ ี่มสี มบัติแตกตา่ ง
ไปจากสารเดมิ
ฉบับปรับปรุง เดือนมถิ นุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
289 คูม่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
คาถามของนักเรียนท่ตี ั้งตามความอยากรู้ของตนเอง
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมถิ นุ ายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 290
แนวการประเมินการเรียนรู้
การประเมนิ การเรยี นรู้ของนักเรยี นทาได้ ดังนี
1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชันเรียน
2. ประเมินการเรยี นรูจ้ ากคาตอบของนักเรยี นระหว่างการจัดการเรียนรูแ้ ละจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรยี น
การประเมนิ จากการทากิจกรรมที่ 1.1 การเปล่ยี นแปลงทางเคมีคืออะไร
ระดบั คะแนน
3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง
รหสั สงิ่ ท่ีประเมนิ ระดับคะแนน
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสงั เกต
S8 การลงความเห็นจากข้อมลู
S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
C4 การสือ่ สาร
C5 ความรว่ มมือ
ฉบับปรับปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
291 คูม่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร
ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนกั เรียน
โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั นี
ทักษะ ระดับความสามารถ
กระบวนการทาง รายการประเมนิ
วทิ ยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1)
S1 การสังเกต ก า ร บ ร ร ย า ย สามารถใช้ประสาทสัมผัส ส า ม า ร ถ ใ ช้ ป ร ะ ส า ท สามารถใช้ประสาท
ร า ย ล ะ เ อี ย ด เก็บรายละเอียดของส่ิงที่ สัมผัสเก็บรายละเอียด สั ม ผั ส เ ก็ บ
เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร เกิดขึนกับนาตาลทราย ข อ ง สิ่ ง ท่ี เ กิ ด ขึ น กั บ รายละเอียดของสิ่ง
เปล่ียนแปลงที่เกิด และเกลือแกงเม่ื อ ใ ห้ นาตาลทรายและเกลือ ท่ีเกิดขึนกับนาตาล
ขึ น กั บ น า ต า ล ความร้อนได้แก่ นาตาล แกงเมื่อให้ความร้อน ทรายและเกลือแกง
ทรายและเกลือ ทรายหลอมเหลวและ ไ ด้ แ ก่ น า ต า ล ท ร า ย เมื่อให้ความร้อน
แกงเมื่อให้ความ เปล่ียนเป็นสีนาตาลเข้ม ห ล อ ม เ ห ล ว แ ล ะ ได้แก่ นาตาลทราย
ร้อน ได้แก่ นาตาล มีกล่ิน เม่ือให้ความร้อน เปล่ียนเป็นสีนาตาลเข้ม ห ล อ ม เ ห ล ว และ
ทรายหลอมเหลว ต่อไปจะมีควันเกิดขึน มี มีกล่ิน เม่ือให้ความร้อน เปลยี่ นเป็นสนี าตาล
และเปล่ียนเป็นสี กลนิ่ ไหมแ้ ละสารท่ีได้เป็น ต่อไปจะมีควันเกิดขึน มี เข้ม มีกลิ่น เมื่อให้
นาตาลเข้ม มีกลิ่น ของแข็งสีดา เกลือแกง กลิ่นไหม้และสารที่ได้ ความร้อนต่อไปจะ
เม่ือให้ความร้อน เป็นเกล็ดสีขาว เกล็ดสี เป็นของแข็งสีดา เกลือ มีควนั เกดิ ขึน มีกลน่ิ
ต่ อ ไ ป จ ะ มี ค วั น ขาวแห้งและแตกเป็นผง แ ก ง เ ป็ น เ ก ล็ ด สี ข า ว ไหม้และสารท่ีได้
เกิดขึน มีกล่ินไหม้ ได้ครบถ้วนด้วยตัวเอง เกล็ดสีขาวแห้งและแตก เป็นของแข็งสีดา
และสารที่ได้เป็น โดยไม่เพม่ิ ความคดิ เหน็ เป็นผงได้ครบถ้วน โดย เกลือแกงเป็นเกล็ด
ของแข็งสีดา เกลือ อาศัยการชีแนะของครู สีขาว เกล็ดสีขาว
แ ก ง เ ป็ น เ ก ล็ ดสี หรอื ผูอ้ ื่น แห้งและแตกเป็น
ขาว เกล็ดสีขาว ผ ง ไ ด้ ไ ม่ ค ร บ ถ้ ว น
แห้งและแตกเป็น แม้ว่าจะได้รับการ
ผง ชีแนะจากครูหรือ
ผู้อ่นื
S8 การลง การนาข้อมูลท่ีได้ สามารถนาข้อมูลที่ สามารถนาข้อมลู ท่ี สามารถนาข้อมูลท่ี
ความเห็นจาก จากการสังเกตการ รวบรวมไดจ้ ากการสังเกต รวบรวมได้จาก รวบรวมได้จากการ
ขอ้ มูล เปล่ยี นแปลงของ การเปลยี่ นแปลงของของ การสังเกตการ สังเกตการ
นาตาลทรายและ นาตาลทรายและเกลอื แกง เปลยี่ นแปลงของของ เปล่ยี นแปลงของ
เกลือแกงเม่ือให้ เม่อื ให้ความรอ้ นมา นาตาลทรายและ ของนาตาลทราย
ความร้อนมาลง ลงความเหน็ เกลือแกงเม่ือให้ความร้อน และเกลือแกงเม่ือให้
ความเห็นการ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี มาลงความเหน็ ความรอ้ นมา
เปลย่ี นแปลงทาง ของสาร โดยลงความเหน็ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี ลงความเหน็ การ
เคมีของสาร โดย ไดว้ า่ การเปล่ยี นแปลงที่ ของสาร โดยลงความเห็น เปล่ียนแปลงทางเคมี
ลงความเหน็ ได้วา่ สารมีสมบตั ิแตกตา่ งไป ได้ว่าการเปลีย่ นแปลงที่ ของสาร โดยลง
การเปลยี่ นแปลงที่ จากสารเดิมเปน็ สารมสี มบัตแิ ตกตา่ งไป ความเหน็ ได้ว่า
สารมสี มบตั ิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562
คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 292
ทักษะ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ
กระบวนการทาง
แตกต่างไปจาก ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1)
วิทยาศาสตร์ สารเดมิ เปน็
การเปลี่ยนแปลง ไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นได้ด้วย จากสารเดมิ เปน็ การเปลี่ยนแปลงท่ี
S13 การ ทางเคมี ตนเอง การเปลีย่ นแปลงทางเคมี สารมสี มบตั แิ ตกตา่ ง
ตคี วามหมาย ไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นโดย ไปจากสารเดิมเปน็
ขอ้ มูลและลง อาศัยการชแี นะของครู การเปล่ียนแปลงทาง
ข้อสรุป หรอื ผอู้ ื่น เคมี
ได้ถูกตอ้ งแต่ไม่
ตคี วามหมาย ตคี วามหมายการ ตีความหมายการ ครบถว้ นแม้วา่ จะ
ได้รับการชีแนะจาก
ข้อมลู จาก เปลยี่ นแปลงของสารต่าง เปล่ยี นแปลงของสาร ครูหรอื ผู้อ่นื
การสงั เกตการ ๆ เม่อื ให้ความร้อน วา่ ตา่ ง ๆ เมอื่ ใหค้ วาม ตคี วามหมายการ
เปลี่ยนแปลงของ
เปลย่ี นแปลงของ -การเปลี่ยนแปลงของ ร้อน วา่ สารตา่ ง ๆ เมือ่ ให้
ความรอ้ น วา่
สารต่าง ๆ เมอ่ื ให้ นาตาลทรายเป็นการ -การเปลีย่ นแปลงของ -การเปลีย่ นแปลง
ของนาตาลทราย
ความรอ้ นไดว้ า่ เปลยี่ นแปลงทางเคมี นาตาลทรายเปน็ เป็น
การเปลย่ี นแปลง
-การเปลย่ี นแปลง -การเปลย่ี นแปลงของเกลือ การเปลยี่ นแปลงทาง ทางเคมี
-การเปล่ยี นแปลง
ของนาตาลทราย แกงไม่เป็นการ เคมี ของเกลือแกงไม่
เป็นการ
เป็น เปลี่ยนแปลงทางเคมีแต่ -การเปล่ยี นแปลงของ เปลีย่ นแปลงทาง
เคมีแตเ่ ป็นการ
การเปลย่ี นแปลง เปน็ การเปลย่ี นแปลงทาง เกลอื แกงไม่เปน็ การ เปลย่ี นแปลงทาง
กายภาพ
ทางเคมี กายภาพ เปลีย่ นแปลงทางเคมี และลงข้อสรุปไดว้ า่
สารบางชนดิ เกดิ
-การเปลีย่ นแปลง และลงข้อสรุปไดว้ ่า แตเ่ ปน็ การ การเปล่ียนแปลง
ทางเคมีซึง่ เป็น
ของเกลอื แกงไม่ สารบางชนิดเกดิ การ เปลี่ยนแปลงทาง การเปล่ยี นแปลงท่ี
ทาใหเ้ กดิ สารใหม่
เปน็ การ เปลี่ยนแปลงทางเคมซี งึ่ กายภาพ ไดถ้ ูกตอ้ ง แตไ่ ม่
ครบถ้วนแม้วา่ จะ
เปลยี่ นแปลงทาง เปน็ การเปลีย่ นแปลงท่ีทา และลงข้อสรุปได้ว่า ได้รบั การชแี นะจาก
ครหู รือผู้อ่ืน
เคมีแตเ่ ป็นการ ใหเ้ กดิ สารใหม่ไดถ้ ูกต้อง สารบางชนิดเกิดการ
เปลีย่ นแปลงทาง ครบถ้วนด้วยตัวเอง เปลีย่ นแปลงทางเคมี
กายภาพ ซงึ่ เปน็ การ
และลงข้อสรปุ ได้ เปลย่ี นแปลงที่ทาให้
ว่า เกิดสารใหม่ไดถ้ ูกตอ้ ง
สารบางชนิดเกิด ครบถ้วนโดยอาศยั การ
การเปลีย่ นแปลง ชีแนะของครหู รือผู้อื่น
ทางเคมีซง่ึ เปน็ การ
เปล่ียนแปลงท่ที า
ให้เกิดสารใหม่
ฉบับปรับปรุง เดือนมิถุนายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
293 ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรยี น
โดยอาจใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ดงั นี
ทักษะแห่ง รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ
ศตวรรษที่
ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1)
21 นาเสนอข้อมลู จากการ
C4 การ การนาเสนอข้อมูล สังเกตการเปลย่ี นแปลง นาเสนอข้อมูลจากการ นาเสนอข้อมูลจากการ
ส่ือสาร จากการสงั เกต ของสารเม่ือให้ความ
การเปลีย่ นแปลง ร้อนใหผ้ ู้อืน่ เขา้ ใจใน สังเกตการเปลยี่ นแปลง สังเกตการ
C5 ความ ของสารเม่ือให้ รูปแบบการบรรยาย
ร่วมมือ ความร้อนใน ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ชดั เจน ของสารเมื่อให้ความร้อน เปลย่ี นแปลงของสาร
รปู แบบการ ได้ดว้ ยตนเอง
บรรยาย ใหผ้ ูอ้ น่ื เข้าใจในรูปแบบ เม่อื ให้ความรอ้ นให้
ทางานรว่ มกบั ผู้อื่น
การทางานร่วมมอื รวมทงั ยอมรบั ฟังความ การบรรยาย ได้ถูกต้อง ผอู้ น่ื เข้าใจในรูปแบบ
กับผู้อนื่ ในการ คดิ เห็นของผูอ้ ื่นอยา่ ง
สงั เกต สรา้ งสรรค์ในการทา ชัดเจนโดยอาศยั การชแี นะ การบรรยาย ไดแ้ ต่ไม่
การเปลย่ี นแปลง กจิ กรรมตงั แต่เรม่ิ ตน้
ของสารเมื่อให้ จนเสร็จสนิ กิจกรรม ของครหู รือผอู้ ่นื ชดั เจน แมว้ า่ จะไดร้ บั
ความร้อนและ
ยอมรับความ การชีแนะจากครูหรอื
คิดเห็นของผอู้ น่ื
ผอู้ ื่น
ทางานรว่ มกบั ผู้อนื่ รวมทัง ทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้
ยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของ บ้างแตไ่ มแ่ สดงความ
ผู้อืน่ อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการ คดิ เหน็ แม้วา่ จะได้
ทากิจกรรมเป็นบางครงั ทังนี รับคาชแี นะจากครหู รือ
ตอ้ งอาศยั การกระต้นุ จากครู ผู้อื่น
หรอื ผ้อู ืน่
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรุง เดือนมถิ ุนายน 2562
คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร 294
กจิ กรรมท่ี 1.2 รไู้ ด้อยา่ งไรวา่ เกดิ การ
เปลีย่ นแปลงทางเคมี
กิจกรรมนีนักเรียนจะได้สังเกตและบรรยายลักษณะการ
เปลี่ยนแปลงของสารเมอื่ เกดิ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. สังเกตและบรรยายการเปลี่ยนแปลงของสารเมือ่ มีการ
เปลี่ยนแปลงทางเคมี
2. อภิปรายและระบสุ ง่ิ ทเี่ กดิ ขึนจากการเปลีย่ นแปลงทางเคมี
ของสาร
วัสดุ อุปกรณ์สาหรับทากจิ กรรม
ส่ิงท่ตี อ้ งเตรียม
สง่ิ ทค่ี รตู ้องเตรียม/กลุ่ม 25 cm3
1. นาปูนใส
2. ผงฟู 2 ช้อน เบอร์ 2
3. สารละลายผงฟู 25 cm3
15 cm3 ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
4. นาส้มสายชู
5. นา 5 cm3 S1 การสังเกต
6. แอมโมเนยี มคลอไรด์ 2 ชอ้ น เบอร์ 2 S2 การวัด
7. ปูนขาว 2 ช้อน เบอร์ 2 S5 ความสัมพันธ์ระหวา่ งสเปซกบั สเปซ
8. ลกู โป่ง 1 ใบ S8 การลงความเห็นจากข้อมูล
9. ขวดแก้วปากแคบ 1 ใบ S13 การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
10. แกว้ นาพลาสตกิ 1 ใบ
11. แท่งแก้วคน 1 อนั ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
12. บกี เกอรข์ นาด 100 cm3 2 ใบ C4 การส่อื สาร
13. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 1 ใบ C5 ความร่วมมือ
14. ชอ้ นตักสารเบอร์ 2 1 อนั ส่ือการเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้
ส่ิงทค่ี รตู อ้ งเตรียม/คน
- 1. หนังสือเรยี น ป.5 เล่ม 1 หน้า 112-115
ส่งิ ทีน่ ักเรยี นต้องเตรียม/กลมุ่
- 2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป.5 เล่ม 1 หนา้ 120-126
3. ตัวอย่างวีดิทัศนป์ ฏบิ ัติการวิทยาศาสตรส์ าหรับครู
เร่อื งรูไ้ ด้อย่างไรว่าเกดิ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ฉบบั ปรับปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาhสttตpร:แ์//ลipะเsทt.คmโนe/โล89ย3ี 0
295 ค่มู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
แนวการจัดการเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครู
เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน
1. ครูนาเข้าสู่กิจกรรม โดยทบทวนความรู้ท่ีเรียนมาเกี่ยวกับการ เป็นสาคัญ และยังไม่เฉลย
คาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่
เปลยี่ นแปลงทางเคมีเพือ่ นาเขา้ สู่กจิ กรรม โดยอาจใช้คาถาม ดังนี ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบที่
ถูกต้องจากกิจกรรมต่าง ๆ ใน
1.1 การเปล่ียนแปลงทางเคมีเป็นอย่างไร (การเปลี่ยนแปลงทาง บทเรียนนี
เคมีเป็นการเปล่ียนแปลงที่มีสารใหม่เกิดขึนโดยสารใหม่นีมี
สมบตั แิ ตกตา่ งจากสารเดมิ )
1.2 เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการเปลี่ยนแปลงหนึ่ง ๆ มีสารใหม่เกิดขึน
(นักเรียนอาจตอบได้หลากหลาย ตามความเขา้ ใจของตัวเอง)
ครชู ักชวนนกั เรียนหาคาตอบจากการทากจิ กรรมต่อไป
2. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และ ทาเป็นคิดเป็น จากนัน ร่วมกัน
อภิปรายเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทา
กจิ กรรม โดยครใู ชค้ าถามดังตอ่ ไปนี
2.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับอะไร (การ
เปลี่ยนแปลงของสารเม่ือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและ
สารใหม่ที่เกิดขึนจากการเปล่ียนแปลงทางเคมี)
2.2 นกั เรียนจะไดเ้ รียนเร่อื งนดี ้วยวธิ ใี ด (การสงั เกต)
2.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (บรรยายการ
เปล่ียนแปลงของสารและระบุสิ่งที่เกิดขึนเม่ือมีการ
เปล่ียนแปลงทางเคม)ี
3. นักเรียนอ่านสิ่งที่ต้องใช้ ในกิจกรรม เน่ืองจากมีสารเคมีหลาย
ชนิดที่นักเรียนอาจไม่รู้จัก ครูควรนามาแสดงให้นักเรียนดูและ
ควรทบทวนวิธกี ารใชอ้ ปุ กรณ์บางอยา่ ง เช่น แท่งแกว้ คน ช้อนตกั
สาร และกระบอกตวง
4. นักเรียนอ่านทาอย่างไร ในหนังสือเรียนหน้า 112-113 ทัง 3
ตอน โดยฝึกอ่านตามความเหมาะสมกับความสามารถของ
นักเรียน ครูให้นักเรียนดูวิธีการบันทึกผลในแบบบันทึกกิจกรรม
ควบคู่ไปด้วย จากนันร่วมกันสรุปขันตอนการทากิจกรรม โดยครู
และนักเรียนร่วมกันเขียนแผนผังแสดงขันตอนการทากิจกรรม
ดังตวั อยา่ งในหน้าถัดไป
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรับปรงุ เดือนมิถนุ ายน 2562
คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 296
ตวั อยา่ งการเขยี นแผนผงั การทากจิ กรรม
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถุนายน 2562 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
297 คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร 298
5. ครูเตือนนักเรียนเกี่ยวกับวิธีการทิงสารเคมี เม่ือนักเรียนเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
วิธีทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ครูแจกวัสดุอุปกรณ์และให้ แห่งศตวรรษที่ 21 ที่นักเรียนจะได้ฝึกจากการ
นักเรียนเริม่ ปฏิบัติกิจกรรมตามขนั ตอน ทากจิ กรรม
6. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนเก็บอุปกรณ์ให้ S1 การสงั เกตลักษณะของสารกอ่ นและ
เรียบร้อย ครูให้นักเรียนนาเสนอ จากนันครูนาอภิปรายผล หลังผสมและการเปล่ียนแปลงท่ีเกดิ ขนึ
การทากิจกรรม โดยใช้คาถามดงั นี ขณะผสมสาร
6.1 น า ปู น ใ ส ส า ร ล ะ ล า ย ผ ง ฟู ผ ง ฟู น า ส้ ม ส า ย ชู S2 การวัดโดยการใชอ้ ปุ กรณ์ตวงปรมิ าตร
แอมโมเนียมคลอไรด์ ปูนขาวมีลักษณะอย่างไร (นักเรียน สาร
ตอบตามที่สงั เกตได้ เช่น นาปนู ใสและสารละลายผงฟูเป็น S5 การหาความสมั พันธ์ระหว่างสเปซกบั สเป
ของเหลวใสไมม่ สี ี) ซจากการบอกทอี่ ยู่ของสารใหมท่ ี่เกดิ จากการ
6.2 เม่ือผสมนาปูนใสกับสารละลายผงฟู สังเกตเห็นอะไรบ้าง เปลย่ี นแปลงทางเคมี เช่น บอกได้วา่ แก๊สที่
(เกิดตะกอนสขี าว) เกิดขึนกระจายอย่ภู ายในขวดและในลกู โป่งที่
6.3 เมื่อผสมนาปูนใสกับสารละลายผงฟู มีสารใหม่เกิดขึน พอง
หรือไม่ รู้ได้อย่างไร (เมื่อผสมนาปูนใสกับสารละลายผงฟู S8 การลงความเหน็ จากข้อมูลจากการ
มีสารใหม่เกิดขึนคือ ตะกอนสีขาว เพราะสารเดิมมี สังเกตและบอกได้วา่ การเปลย่ี นแปลงทาง
ลักษณะเป็นของเหลวใส แต่เม่ือผสมกันแล้วได้สารท่ีเป็น เคมสี งั เกตไดจ้ ากอะไรบ้าง
ของแข็งสีขาว ซ่ึงไม่เหมือนกับสารเดิม จึงน่าจะเป็นสาร C4 การสือ่ สารจากการพดู เขียนบรรยาย
ใหม)่ การเปลีย่ นแปลงเม่ือนาสารสองชนดิ ผสม
6.4 เม่ือผสมแอมโมเนียมคลอไรด์กับปูนขาว สังเกตเห็นอะไร กนั
(มีแกส๊ กล่นิ ฉนุ และผวิ ดา้ นนอกภาชนะเยน็ ลง) C5 ความรว่ มมือจากการทางานรว่ มกนั ใน
6.5 เม่ือผสมแอมโมเนียมคลอไรด์กับปูนขาว มีสารใหม่เกิดขึน กลมุ่
หรือไม่ รู้ได้อย่างไร (เมื่อผสมแอมโมเนียมคลอไรด์กับ
ปูนขาวมีสารใหม่เกิดขึนคือ แก๊สท่ีมีกลิ่นฉุนแสบจมูกต่าง
จากสารเดิม เพราะสารเดิมมีลักษณะเป็นของแข็งสีขาว
และไมม่ กี ลน่ิ ฉุนทงั คู่ จงึ น่าจะเป็นสารใหม)่
6.6 เมื่อผสมผงฟูกับนาส้มสายชู สังเกตเห็นอะไร (เมื่อผสมผง
ฟกู บั นาสม้ สายชู เกดิ ฟองแกส๊ )
6.7 เมื่อผสมผงฟูกับนาส้มสายชู มีสารใหม่เกิดขึนหรือไม่ รู้ได้
อย่างไร (เม่ือผสมผงฟูกับนาส้มสายชูมีสารใหม่เกิดขึนคือ
แก๊ส เพราะสารเดิมคือผงฟูมีลักษณะเป็นของแข็งสีขาว
และนาสม้ สายชูเปน็ ของเหลวใส แตเ่ ม่อื ผสมกนั แลว้ ได้สาร
ท่ีเปน็ แก๊ส ซึง่ ไม่เหมือนกับสารเดิม จงึ น่าจะเปน็ สารใหม)่
ฉบับปรับปรงุ เดอื นมถิ ุนายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
299 คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร
6.8 การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึนทังหมดนีเป็นการเปล่ียนแปลง
แบบใด เพราะเหตุใด (การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึนเป็นการ
เปลี่ยนแปลงทางเคมี เพราะได้สารใหม่ท่ีมีสมบัติต่างจาก
สารเดิม)
6.9 สารใหม่ที่เกิดจากการเปล่ียนแปลงมีลักษณะอย่างไรบ้าง
(สารใหม่มีลักษณะเป็นตะกอน เป็นแก๊สไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
และแก๊สที่มีกล่นิ ฉุนแสบจมกู )
6.10การเปล่ยี นแปลงทางเคมี นอกจากมีสารใหม่เกิดขนึ แล้วยัง
มีการเปล่ียนแปลงอะไรได้อีก (การเปล่ียนอุณหภูมิ ซ่ึง
บางครังก็วัดได้โดยใช้มือสัมผัส แต่บางครังต้องใช้เครื่องมือ
ตรวจวัด)
6.11จากกิจกรรมทังสามตอน การเปลี่ยนแปลงทางเคมีสังเกต
ได้จากอะไรบ้าง (การเปล่ียนแปลงทางเคมีสังเกตได้จากมี
ตะกอน มฟี องแกส๊ มีกล่ินและอุณหภมู ิเปล่ียนไป)
7. ครชู ักชวนนักเรียนอภปิ รายเพ่มิ เติมเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงทางเคมี
ว่ า เ มื่ อ เ กิ ด ฟ อ ง แ ก๊ ส ห รื อ ส า ร เ กิ ด ก า ร เ ป ล่ี ย น สี แ ส ด ง ว่ า มี ก า ร
เปล่ียนแปลงทางเคมีเกิดขึนเสมอหรือไม่ จากนันครูอธิบายว่าการ
เปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เช่น เมื่อ
นาเดือดจะสังเกตเห็นฟองแก๊สเกิดขึน ฟองแก๊สที่เกิดขึนคือไอนาซึ่ง
เป็นนาในสถานะแก๊ส การเปลี่ยนแปลงนีจึงไม่มีสารใหม่เกิดขึนจึง
ไมใ่ ช่การเปล่ยี นแปลงทางเคมี หรือเม่ือเทนาลงในนาหวานสีแดง แล้ว
คนพบว่าสขี องนาหวานจางลง การเปลย่ี นแปลงท่เี กิดขนึ นีก็ไม่ได้เป็น
การเปลย่ี นแปลงทางเคมี เพราะไม่มีสารใหม่เกดิ ขึน
8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า การระบุว่ามีการ
เปลี่ยนแปลงทางเคมเี กิดขึน การเปล่ียนแปลงนันจะต้องได้สารใหมท่ ี่
มีสมบัติแตกต่างจากสารเดิม ซ่ึงเราอาจสังเกตได้จาก การเกิดฟอง
แก๊ส เกิดตะกอน เกิดแก๊สท่ีมีกลิ่นเปลี่ยนแปลงไป หรือมีอุณหภูมิ
สูงขนึ หรอื ลดลง (S13)
9. ครูอภิปรายร่วมกับนักเรียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของส่ิงต่าง ๆ ท่ี
เ กิ ด ขึ น ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จ า วั น ว่ า ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ใ ด บ้ า ง เ ป็ น ก า ร
เปลี่ยนแปลงทางเคมี และร้ไู ดอ้ ยา่ งไรวา่ เปน็ การเปลย่ี นแปลงทางเคมี
และการเปล่ียนแปลงทางเคมี มีประโยชน์และโทษต่อสิ่งมีชีวิตและ
ส่ิงแวดล้อมอย่างไร
10.นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คาถาม
เพิ่มเตมิ ในการอภิปรายเพอื่ ให้ได้แนวคาตอบท่ีถูกต้อง
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 300
11. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนันนักเรียนอ่าน
ส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ และเปรียบเทียบกับข้อสรุปของตนเอง
12. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตังคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู้
เพ่ิมเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนันครูอาจสุ่มนักเรียน 2 -3 คน
นาเสนอคาถามของตนเองหน้าชันเรียน และให้นักเรียนร่วมกัน
อภปิ รายเกี่ยวกับคาถามทน่ี าเสนอ
13.ครูนาอภปิ รายเพ่อื ให้นักเรียนทบทวนว่าไดฝ้ ึกทกั ษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในขันตอน
ใดบา้ ง แลว้ บันทึกลงในแบบบนั ทึกกิจกรรมหนา้ 126
14. นักเรียนอ่าน รู้อะไรในเร่ืองน้ี ในหนังสือเรียนหน้า 116-117 ครูนา
อภปิ รายเพือ่ นาไปสขู่ ้อสรุปเก่ยี วกับสิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้ในเร่ืองนี จากนันครู
กระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถามในช่วงท้ายของเนือเร่ืองซ่ึงเป็นคาถาม
เพ่อื เช่ือมโยงไปสู่การเรยี นเนอื หาในบทต่อไปดงั นี การเปลี่ยนแปลงท่ี
ผนั กลับไดเ้ ปน็ อย่างไร และการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพสามารถผัน
กลบั ได้หรือไม่ นักเรยี นสามารถตอบตามความเข้าใจของตนเองซึ่งจะ
หาคาตอบไดจ้ ากการเรยี นในบทตอ่ ไป
ฉบับปรับปรุง เดือนมถิ นุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
301 คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม
- สงั เกตและบรรยายการเปล่ียนแปลงของสารเมอ่ื มกี ารเปลย่ี นแปลงทางเคมี
- อภิปรายและระบุสิง่ ทเ่ี กิดขึ้นจากการเปลยี่ นแปลงทางเคมีของสารเม่ือผสม
นา้ ปนู ใสกับสารละลายผงฟู
ของเหลวใส ไม่มสี ี ไมม่ ีกลิน่ ผวิ ภาชนะมี
อณุ หภูมิปกติ
ของเหลวใส ไมม่ สี ี ไมม่ กี ล่ิน ผวิ ภาชนะมีอณุ หภมู ิ
ปกติ
เกิดตะกอนสีขาวกระจายอยู่ทั่วของเหลว
ไมม่ ีกล่นิ ผิวภาชนะมีอุณหภูมิปกติ
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดือนมิถนุ ายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 302
1. สงั เกตและบรรยายการเปลี่ยนแปลงของสารเมือ่ มกี ารเปลี่ยนแปลงทางเคมี
2. อภปิ รายและระบุสง่ิ ที่เกิดขึน้ จากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสารเมื่อผสม
แอมโมเนยี มคลอไรดก์ บั ปนู ขาว
ของแข็ง เป็นเกล็ด สขี าวขนุ่ ไมม่ กี ลนิ่ ผิวภาชนะมี
อุณหภูมปิ กติ
ของแข็ง เป็นผง สีขาว ไมม่ ีกล่ิน ผิวภาชนะมี
อณุ หภูมิปกติ
ของแข็ง เปน็ กอ้ น สีขาว มแี ก๊สกล่ินฉนุ แสบจมูก
เมื่อสัมผัสผิวภาชนะรสู้ ึกเยน็ หรือมีละอองน้าเลก็ ๆ
เกาะอยู่ท่ีผวิ ภาชนะ
ฉบบั ปรบั ปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
303 คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
1. สังเกตและบรรยายการเปล่ยี นแปลงของสารเม่ือมีการเปลยี่ นแปลงทางเคมี
2. อภิปรายและระบุส่ิงทเ่ี กิดขน้ึ จากการเปลยี่ นแปลงทางเคมีของสารเม่ือผสม
นา้ ส้มสายชูกับผงฟู
ของเหลวใส ไม่มีสี มีกล่ินฉุน ผวิ ภาชนะมีอุณหภูมิ
ปกติ
ของแข็ง เป็นผงสีขาว ไม่มีกลิน่ ผวิ ภาชนะมี
อณุ หภมู ิปกติ
เกดิ ฟองแก๊สไม่มีสี ลูกโปง่ พองขึน้ มีกล่นิ ของ
นา้ สม้ สายชู ผิวภาชนะมอี ณุ หภมู ปิ กติ
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรุง เดือนมถิ ุนายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร 304
ขึ้นอย่กู ับคาตอบของนักเรียน แตค่ วรไดค้ าตอบดงั นี้
การเปลี่ยนแปลงของสารเม่ือผสมสารสองชนิดเข้าดว้ ยกันในแต่ละตอนได้ผล
ทานองเดียวกนั คอื มีสารใหม่เกิดขนึ้ สง่ิ ท่แี ตกตา่ งกันคือลักษณะของสารใหมท่ ี่
เกดิ ขน้ึ ตอนที่ 1 สารใหมเ่ ป็นตะกอนสีขาว ตอนท่ี 2 เป็นแก๊สไมม่ สี ี มกี ลนิ่ ฉนุ
แสบจมูก สารผสมมีอณุ หภูมิลดลง มลี ะอองนา้ เกาะที่ผิวด้านนอก ตอนท่ี 3 เป็น
แก๊สไม่มสี ี สังเกตได้จากลูกโปง่ พองข้นึ
สรุปการเปล่ียนแปลงทางเคมที งั้ สามตอน สังเกตไดจ้ ากการมีตะกอนเกิดข้ึน มี
แก๊สเกิดขึ้น มีกล่นิ และอณุ หภูมขิ องสารเปลย่ี นไปจากเดิม
ฉบบั ปรบั ปรุง เดือนมิถุนายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
305 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
เมอ่ื ผสมน้าปนู ใสกบั สารละลายผงฟู เกดิ การเปล่ียนแปลงทางเคมี เพราะมีสารใหม่ที่
เปน็ ตะกอนสีขาวเกดิ ขึน้ ซ่ึงมีลกั ษณะแตกต่างจากสารเดมิ ท่ีเป็นของเหลวใส
เม่อื ผสมน้าปนู ใสกับสารละลายผงฟูซงึ่ เปน็ ของเหลวใสทั้งคู่ เกิดตะกอนสีขาวปนอยู่ใน
ของเหลว แสดงวา่ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
เมื่อผสมแอมโมเนยี มคลอไรดก์ บั ปูนขาว เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี สงั เกต
ไดจ้ ากการมีกล่นิ ฉุนและเม่อื สมั ผัสทภ่ี าชนะจะรูส้ ึกเยน็ แสดงว่าสารทีเ่ กดิ ขน้ึ มี
สมบัติแตกตา่ งจากสารเดิมซึ่งไมม่ กี ลิน่ และมีอุณหภมู ปิ กติ
แอมโมเนยี มคลอไรดก์ บั ปูนขาว เป็นของแขง็ สีขาว ไม่มกี ลน่ิ ทัง้ คู่ เมื่อนามาผสมกนั
จะเกดิ กลน่ิ แสดงวา่ มแี กส๊ เกิดขึน้ และสมั ผัสภาชนะแล้วรู้สึกเยน็ ลงแสดงว่าอณุ หภูมิ
ลดลง ดังน้ัน การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขนึ้ จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ซงึ่ สังเกต
ได้จากการมีกลน่ิ และอณุ หภูมเิ ปล่ียนไป
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562
คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 306
เมือ่ ผสมผงฟูกับน้าส้มสายชูเกดิ การเปลยี่ นแปลงทางเคมี สังเกตจากมีฟองแก๊ส
เกดิ ข้นึ ซ่งึ มลี กั ษณะแตกตา่ งจากสารเดิมคอื ผงฟูเปน็ ของแข็งสขี าว น้าส้มสายชู
เปน็ ของเหลวใส
ผงฟูเปน็ ของแข็งสขี าว นา้ ส้มสายชูเป็นของเหลวใสไมม่ ีสี มีกลิ่น เมื่อนา
ผงฟกู บั น้าส้มสายชผู สมกนั เกิดฟองแก๊สทท่ี าให้ลูกโป่งพองขน้ึ ดังนน้ั
การเปลย่ี นแปลงทเ่ี กิดขึน้ จึงเปน็ การเปลีย่ นแปลงทางเคมี
การเปลย่ี นแปลงทางเคมีสงั เกตจากสมบตั ิของสารทเ่ี กิดข้ึนแตกต่างไปจาก
สารเดิม เช่น เกิดการตกตะกอน มีสถานะเป็นแกส๊ มสี ีและกลน่ิ เปลย่ี นไป
รวมทั้งเกิดการเปลีย่ นแปลงของอณุ หภมู ิ
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดือนมถิ นุ ายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
307 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
คาถามของนักเรยี นทตี่ ั้งตามความอยากร้ขู องตนเอง
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562