คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร 208
มีการเปล่ียนสถานะจากของแขง็ เป็นของเหลว
มกี ารเปล่ียนสถานะจากของเหลวเปน็ แก๊ส
มกี ารเปลี่ยนสถานะจากแกส๊ เป็นของเหลว
การเปล่ยี นสถานะของนา้ เป็นสถานะตา่ ง ๆ เกิดขึน้ เม่ือน้าไดร้ บั หรือสญู เสยี
ความร้อน
นา้ แขง็ ซ่ึงมีสถานะเปน็ ของแข็งเปลย่ี นเป็นน้าซ่งึ มสี ถานะเปน็ ของเหลว
นา้ ซงึ่ มสี ถานะเป็นของเหลวเปลีย่ นเป็นไอน้าซ่งึ มีสถานะเป็นแกส๊ เมื่อได้รับ
ความรอ้ น และ ไอน้าซึ่งมีสถานะเปน็ แกส๊ เปล่ียนเปน็ หยดนา้ ซ่งึ มสี ถานะเปน็
ของเหลวเมื่อสูญเสยี ความร้อน
สสารสามารถเปลี่ยนสถานะไดเ้ มื่อไดร้ ับหรอื สูญเสียความร้อน สสารเปล่ียนสถานะจาก
ของแข็งเปน็ ของเหลวเรียกว่า การหลอมเหลว เปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นแก๊ส
เรียกวา่ การกลายเป็นไอ และ เปลีย่ นสถานะจากแกส๊ เป็นของเหลวเรยี กว่า
การควบแนน่
ฉบับปรับปรุง เดอื นมิถุนายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
209 คูม่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
คาถามของนักเรียนทตี่ ้ังตามความอยากรูข้ องตนเอง
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562
คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 210
แนวการประเมินการเรียนรู้
การประเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี นทาได้ ดงั นี
1. ประเมินความรูเ้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั เรียน
2. ประเมนิ การเรียนรู้จากคาตอบของนกั เรียนระหว่างการจดั การเรียนรแู้ ละจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากิจกรรมของนักเรยี น
การประเมนิ จากการทากิจกรรมที่ 1.1 นา้ แข็งมกี ารเปลย่ี นสถานะอยา่ งไร
ระดบั คะแนน
3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ
รหัส ส่ิงท่ีประเมนิ ระดับคะแนน
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสังเกต
S5 การหาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสเปซกับสเปซ
S6 การจัดกระทาและสอ่ื ความหมายข้อมูล
S8 การลงความเห็นจากขอ้ มูล
S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
C4 การสื่อสาร
C5 ความร่วมมือ
C6 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนักเรยี น
ฉบบั ปรับปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
211 คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดงั นี
ทักษะ ระดบั ความสามารถ
กระบวนการทาง รายการประเมิน
วทิ ยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1)
S1 การสงั เกต ก า ร บ ร ร ย า ย สามารถ ใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท
ร า ย ล ะ เ อี ย ด สัมผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด สมั ผัสเกบ็ รายละเอียด
เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ที่ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ท่ี การเปล่ียนแปลงท่ี
เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ที่ เกิดขึนภายในขวดรูป เกิดขึนภายในขวดรูป เกิดขึนภายในขวดรูป
เกิดขึนภายในขวด กรวยและถุงพลาสตกิ กรวยและถงุ พลาสตกิ กรวยและถุงพลาสตกิ
รู ป ก ร ว ย แ ล ะ ส่ิงที่บรรยายได้จาก สิ่งท่ีบรรยายได้จาก สิ่งท่ีบรรยายได้จาก
ถุงพลาสตกิ การสังเกตคือ การสงั เกตคอื การสงั เกตคอื
สิ่งท่ีบรรยายได้ -นาแข็งค่อยๆ มีขนาด -นาแข็งค่อยๆ มีขนาด -นาแข็งค่อยๆ มขี นาด
จากการสงั เกตคอื เล็กลงและเปลี่ยนเป็น เล็กลงและเปลี่ยนเป็น เล็กลงและเปลี่ยนเป็น
-นาแข็งค่อยๆ มี นา นา นา
ขนาดเล็กลงและ -เมื่อตม้ นา นาในขวดรปู -เมื่อต้มนา นาในขวด -เมื่อต้มนา นาในขวด
เปลี่ยนเปน็ นา กรวยจะค่อยๆ หายไป รู ป ก ร ว ย จ ะ ค่ อ ย ๆ รู ป ก ร ว ย จ ะ ค่ อ ย ๆ
-เม่ือต้มนา นาใน แ ล ะ มี ฝ้ า สี ข า ว ห รื อ หายไป และมีฝ้าสีขาว หายไป และมีฝา้ สีขาว
ขวดรูปกรวยจะ ละอองนาเล็ก ๆ เกาะ หรือละอองนาเล็ก ๆ หรือละอองนาเล็ก ๆ
คอ่ ยๆ หายไป และ ตามข้างขวดรูปกรวย เกาะตามข้างขวดรูป เกาะตามข้างขวดรูป
มี ฝ้ า สี ข า ว ห รื อ และถุงพลาสตกิ กรวยและถุงพลาสติก กรวยและถุงพลาสตกิ
ละอองนาเล็ก ๆ -เมื่อดับไฟ ละอองนา จะมีขนาดใหญข่ ึน -เมื่อดับไฟ ละอองนา
เกาะตามข้างขวด จะมีขนาดใหญ่ขึน ได้ครบถ้วน โดยอาศัย จะมขี นาดใหญข่ ึน
รู ป ก ร ว ย แ ล ะ ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ การชีแนะของครูหรือ ได้ไม่ครบถ้วนหรือ
ถุงพลาสตกิ เพ่มิ ความคดิ เหน็ ผู้อ่ืน หรือมีการเพิ่มเติม เพิ่มเติมความคิดเห็น
-เมื่อดับไฟ ละออง ความคดิ เห็น แม้ว่าจะได้รับ ก าร
นา จะมีขนาดใหญ่ ชแี นะจากครหู รอื ผอู้ ื่น
ขึน
S5 การหา การบรรยาย สามารถบรรยายการ สามารถบรรยายการ สามารถบรรยายการ
ความสมั พนั ธ์ ลกั ษณะการ ครอบครองพนื ท่ีของ ครอบครองพืนท่ีของ ครอบครองพนื ท่ีของ
ระหว่างสเปซ ครอบครองพนื ท่ี นาแขง็ นาและไอนาใน นาแข็ง นาและไอนาใน นาแข็ง นาและไอนา
กับสเปซ ของนาแขง็ นา ขวดรปู กรวยและ ขวดรูปกรวยและ ในขวดรูปกรวยและ
และไอนา ถงุ พลาสติก สง่ิ ท่คี วร ถงุ พลาสติก สง่ิ ที่ควร ถงุ พลาสติก
สิ่งทคี่ วรบรรยาย บรรยายได้คือ บรรยายไดค้ ือ สงิ่ ท่คี วรบรรยายได้
ไดค้ ือ -นาแข็งเป็นก้อนอยทู่ ่ี -นาแข็งเปน็ ก้อนอยทู่ ี่ คอื
-นาแข็งเปน็ ก้อน กน้ ภาชนะเม่ือ ก้นภาชนะเม่ือ -นาแข็งเป็นก้อนอย่ทู ี่
อยทู่ ก่ี ้นภาชนะ เปลยี่ นเป็นนาจะอยู่ใน เปล่ยี นเป็นนาจะอยู่ใน ก้นภาชนะเมื่อ
เม่อื เปล่ยี นเปน็ นา ขวดรปู กรวยโดยอยเู่ ตม็ ขวดรูปกรวยโดยอยเู่ ตม็ เปล่ียนเป็นนาจะอยู่
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562
คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 212
ทักษะ รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรงุ (1)
กระบวนการทาง
จะอยใู่ นขวดรปู กน้ ขวดและมีระดบั สงู พอใช้ (2) ในขวดรูปกรวยโดย
วิทยาศาสตร์ กรวยโดยอยเู่ ตม็ ขนึ ผิวหนา้ เรียบเสมอ อยูเ่ ต็มกน้ ขวดและมี
กน้ ขวดและมี กนั เมือ่ เปลย่ี นเป็นไอนา กน้ ขวดและมรี ะดับสงู ระดับสงู ขึน ผิวหน้า
ระดบั สูงขึน จะฟุ้งกระจายเต็ม ขึน ผิวหน้าเรียบเสมอ เรียบเสมอกนั เมื่อ
ผวิ หนา้ เรียบเสมอ ภายในขวดรูปกรวยและ กันเม่อื เปล่ียนเป็นไอนา เปล่ียนเปน็ ไอนาจะ
กนั เมอื่ เปลีย่ นเป็น ถุงพลาสติก จะฟงุ้ กระจายเต็ม ฟ้งุ กระจายเตม็ ภายใน
ไอนาจะฟุ้ง ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องครบถว้ น ภายในขวดรปู กรวย ขวดรูปกรวยและ
กระจายเต็ม ได้ด้วยตวั เอง และถุงพลาสตกิ ถุงพลาสติก
ภายในขวดรูป ได้อย่างถูกตอ้ ง ไดไ้ ม่ครบถว้ น แม้วา่
กรวยและ ครบถว้ นโดยอาศัย จะไดร้ ับการชีแนะ
ถุงพลาสติก การชีแนะของครูหรือ จากครูหรือผู้อ่ืน
ผู้อนื่
S6 การจัดกระทา การนาข้อมูลท่ีได้ นาข้อมูลท่ีไดจ้ าก นาข้อมูลทไี่ ด้จาก นาขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ าก
และสอ่ื ความหมาย จากการสงั เกตมา การสงั เกตบนั ทึกลงใน การสังเกตบนั ทึกลงใน การสงั เกตบันทึกลง
ข้อมลู บันทกึ ลงในตาราง ตารางและบนั ทึกผล ตารางและบนั ทึกผล ในตารางและบนั ทึก
และบนั ทึกผล การอภิปรายและ การอภิปรายและ ผลการอภิปรายและ
การอภิปรายและ สบื ค้นขอ้ มูลได้ถกู ต้อง สืบค้นขอ้ มูลได้ถกู ต้อง สบื คน้ ข้อมูลได้ยังไม่
การสืบค้นข้อมลู ลง ครบถ้วนและสื่อ ครบถ้วนและ ครบถ้วน แม้ว่าจะ
ในแบบบนั ทึก ความหมายได้ชัดเจน ส่ือความหมายชัดเจน ไดร้ ับการชีแนะจาก
กจิ กรรม ด้วยตนเอง ได้ โดยอาศยั การชีแนะ ครูหรือผอู้ ่นื
ของครูหรือผู้อน่ื
S8 การลง การนาข้อมลู ท่ีได้ สามารถนาข้อมูลที่ ส า ม า ร ถ น า ข้ อ มู ล ท่ี สามารถนาข้อมลู ที่
ความเห็นจาก จากการสงั เกต รวบรวมไดจ้ าก ร ว บ ร ว ม ไ ด้ จ า ก การ รวบรวมได้จาก
ขอ้ มลู การเปลยี่ นแปลง การสังเกตสถานะของ สังเกตสถานะของนา การสังเกตสถานะของ
ของนาแขง็ นา นาและการเปลยี่ นแปลง และการเปล่ียนแปลงที่ นาและการเปลี่ยนแปลง
และไอนามา ทเี่ กิดขนึ มาลงความเหน็ เกิดขึนมาลงความเห็น ท่ีเกดิ ขึนมาลงความเห็น
ลงความเห็น ได้ว่า ได้วา่ ไดว้ ่า
การเปลี่ยนสถานะ นาแข็งเปล่ียนเป็นนา นาแข็งเปล่ียนเป็นนา นาแข็งเปลี่ยนเป็นนา
ของสสารโดย เรียกวา่ การหลอมเหลว เรยี กวา่ การหลอมเหลว เรยี กว่า การหลอมเหลว
ลงความเหน็ ได้วา่ -น า เ ป ลี่ ย น เ ป็ น ไ อ น า -น า เ ป ล่ี ย น เ ป็ น ไ อ น า -นาเปล่ียนเป็นไอนา
นาแข็งเปลีย่ นเป็น เรียกว่า การกลายเป็น เรียกว่า การกลายเป็น เรียกว่า การกลายเป็น
นา เรียกวา่ ไอ ไอ ไอ
การหลอมเหลว -ไ อ น า เ ป ล่ี ย น เ ป็ น น า -ไ อ น า เ ป ลี่ ย น เ ป็ น น า -ไอนาเปลี่ยนเป็นนา
เรยี กว่า การควบแน่น เรียกวา่ การควบแน่น เรียกวา่ การควบแน่น
ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
213 คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
ทกั ษะ ระดับความสามารถ
กระบวนการทาง รายการประเมิน
ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1)
วิทยาศาสตร์
-การเปล่ียนสถานะของ -การเปล่ียนสถานะของ -การเปล่ียนสถานะ
-นาเปลีย่ นเปน็ นาในสถานะต่าง ๆ เกิด นาในสถานะต่าง ๆ เกิด ของนาในสถานะต่าง
ไอนาเรียกวา่ จากนาได้รบั หรือสูญเสีย จากนาได้รับหรือสูญเสีย ๆ เกิดจากนาได้รับ
การกลายเปน็ ไอ ค ว า ม ร้ อ น ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ค ว า ม ร้ อ น ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง หรือสูญเสียความร้อน
-ไอนาเปลี่ยนเป็น ครบถว้ นไดด้ ้วยตนเอง ค ร บ ถ้ ว น โ ด ย อ า ศั ย ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่
นา เรียกว่า การชีแนะของครูหรือ ครบถ้วน แม้ว่าจะ
การควบแนน่ สามารถตคี วามหมาย ผอู้ นื่ ได้รับการชีแนะจาก
-การเปลีย่ น การเปลี่ยนแปลงของ
สถานะของนาใน นาแขง็ เปน็ นาและไอนา ครหู รือผู้อ่ืน
สถานะต่าง ๆ เกดิ ทังเม่ือได้รบั และสญู เสยี
จากนาไดร้ ับหรือ ความรอ้ นและลงข้อสรุป สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย
สูญเสยี ความร้อน ได้วา่ สสารสามารถ การเปล่ยี นแปลงของ การเปลีย่ นแปลงของ
เปลย่ี นสถานะได้เม่ือ นาแข็งเป็นนาและไอนา นาแขง็ เป็นนาและ
S13 การตีความหมาย การตีความหมาย สารไดร้ บั หรือสญู เสยี ทงั เม่ือได้รับและสูญเสยี ไอนาทงั เมื่อไดร้ ับและ
ข้อมูลและลงข้อสรปุ ข้อมลู และลง ความรอ้ น สสารเปลย่ี น ความร้อน สญู เสยี ความรอ้ น
สถานะจากของแข็งเปน็ และลงข้อสรุปว่าสสาร และลงข้อสรปุ ว่า
ข้อสรุปการเปลยี่ น ของเหลวเรียกวา่ สามารถเปลยี่ นสถานะ สสารสามารถเปล่ยี น
สถานะของสสาร การหลอมเหลว ไดเ้ ม่ือสารได้รับหรือ สถานะได้เมื่อสาร
ได้ว่าสสารสามารถ เปลย่ี นสถานะจาก สูญเสยี ความรอ้ น ไดร้ บั หรอื สญู เสยี
เปลี่ยนสถานะได้ ของเหลวเปน็ แกส๊ สสารเปลยี่ นสถานะ ความร้อน สสาร
เมื่อสารไดร้ บั หรือ เรยี กว่าการกลายเป็นไอ จากของแข็งเป็น เปลย่ี นสถานะจาก
สูญเสยี ความร้อน การเปล่ยี นสถานะจาก ของเหลวเรียกว่า ของแข็งเป็นของเหลว
สสารเปลีย่ น แกส๊ เป็นของเหลว การหลอมเหลว เปลีย่ น เรยี กว่า
สถานะจาก เรียกวา่ การควบแนน่ ได้ สถานะจากของเหลว การหลอมเหลว
ของแขง็ เปน็ ถูกต้อง ครบถ้วนด้วย เปน็ แกส๊ เรยี กวา่ เปลย่ี นสถานะจาก
ของเหลวเรียกวา่ ตวั เอง การกลายเป็นไอ ของเหลวเปน็ แกส๊
การหลอมเหลว การเปลี่ยนสถานะจาก เรียกวา่ การกลายเปน็
เปลี่ยนสถานะจาก แกส๊ เปน็ ของเหลว ไอ การเปลี่ยนสถานะ
ของเหลวเป็นแก๊ส เรียกว่าการควบแนน่ จากแก๊สเปน็ ของเหลว
เรยี กวา่ ไดถ้ ูกต้อง ครบถว้ นโดย เรียกวา่ การควบแน่น
การกลายเป็นไอ อาศยั การชแี นะของครู ได้ถูกต้องแตไ่ ม่
การเปล่ียนสถานะ หรอื ผ้อู ่นื ครบถว้ นแมว้ า่ จะ
จากแกส๊ เปน็ ได้รับการชแี นะจาก
ของเหลวเรียกวา่ ครหู รอื ผอู้ ่ืน
การควบแน่น
สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมิถุนายน 2562
คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 214
ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนักเรยี น
โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดงั นี
ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ
ศตวรรษท่ี 21
C4 การสื่อสาร การนาเสนอข้อมลู ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1)
จากการสงั เกตการ นาเสนอข้อมูลจากการ
C5 ความ เปลยี่ นสถานะของ สังเกตการเปล่ยี นสถานะ นาเสนอข้อมลู จากการสงั เกต นาเสนอข้อมูลจากการ
รว่ มมอื นาในรปู แบบ ของนาในรูปแบบ
ภาพวาดหรอื ภาพวาดหรอื บรรยาย การเปลี่ยนสถานะของนาใน สั ง เ ก ต ก า ร เ ป ล่ี ย น
C6 การใช้ บรรยาย ใหผ้ ้อู ่นื เขา้ ใจได้อย่าง
เทคโนโลยี ถกู ต้อง ชดั เจนไดด้ ว้ ย รปู แบบภาพวาดหรอื บรรยาย ส ถ า น ะ ข อ ง น า ใ น
สารสนเทศ การทางานร่วมมอื ตนเอง
และการ กนั กบั ผอู้ ่นื ใน ใหผ้ อู้ ่นื เข้าใจได้ถูกต้อง รูปแบบภาพวาดหรือ
สื่อสาร การสงั เกต สามารถทางานรว่ มกับ
การเปลย่ี นแปลง ผูอ้ ืน่ รวมทงั ยอมรบั ฟัง ชดั เจนโดยอาศยั การชแี นะ บรรยาย ให้ผู้อ่ืนเข้าใจ
ของนาในสถานะ ความคิดเห็นของผู้อื่น
ตา่ ง ๆ รวมทัง อย่างสรา้ งสรรคใ์ น ของครูหรอื ผอู้ ่ืน ได้ถูกต้องแต่ไม่ชัดเจน
การยอมรบั ความ การทากิจกรรมตงั แต่
คดิ เหน็ ของผู้อนื่ เรม่ิ ตน้ จนเสรจ็ สนิ แม้ว่าจะไดร้ ับการชีแนะ
การใชอ้ ินเทอรเ์ นต กจิ กรรมด้วยตนเอง
เพอ่ื สบื คน้ ชอื่ จากครหู รอื ผูอ้ ่ืน
การเปลยี่ นสถานะ ใช้อินเทอรเ์ นตสืบคน้ ชือ่
ของสสารจาก การเปล่ียนสถานะของ สามารถทางานร่วมกบั ผู้อน่ื สามารถทางานร่วมกับ
ของแข็งเป็น สสารไดด้ ้วยตนเองจาก
ของเหลว จาก แหล่งข้อมลู ที่ รวมทงั ยอมรบั ฟงั ผู้อื่นได้บ้างแต่ไม่แสดง
ของเหลวเป็นแก๊ส หลากหลายโดยเลือก
และจากแก๊สเป็น แหลง่ ข้อมูลท่ถี ูกต้อง ความคิดเห็นของผู้อน่ื อยา่ ง ความคิดเหน็ แม้วา่ จะได้
ของเหลว จาก และนา่ เชอื่ ถือ
แหลง่ ข้อมูลที่ สร้างสรรคใ์ นการทากิจกรรม รับคาชีแนะจากครูหรือ
ถกู ต้องและ
นา่ เช่ือถอื เป็นบางครงั ทังนีต้องอาศัย ผู้อนื่
การกระตนุ้ จากครหู รือผอู้ ื่น
ใช้อนิ เทอร์เนตสบื ค้นชอ่ื สามารถใช้อนิ เทอร์เนต
การเปลี่ยนสถานะของสสาร สืบคน้ ชอ่ื การเปล่ยี น
จากแหลง่ ข้อมลู ที่ สถานะของสสารจาก
หลากหลายโดยเลือก แหลง่ ขอ้ มลู ท่ี
แหลง่ ขอ้ มูลท่ถี ูกตอ้ งและ หลากหลายแตไ่ ม่
นา่ เช่อื ถอื จากการชีแนะของ สามารถเลือกใช้
ครูหรือผอู้ ื่น แหล่งข้อมูลทถี่ ูกตอ้ ง
และน่าเช่อื ถือแม้วา่ จะ
ได้รับคาชีแนะจากครู
หรือผู้อ่ืน
ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
215 คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร
กิจกรรมท่ี 1.2 น้าผลไมเ้ ปน็ เกล็ดน้าแข็งได้
อยา่ งไร
กิจกรรมนีนักเรียนจะได้สังเกตและอธิบายการเปล่ียนสถานะของ
นาผลไม้
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ทากิจกรรมนเี พ่ือสงั เกตและอธิบายการเปลีย่ นสถานะของนาผลไม้
วัสดุ อปุ กรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม
ส่ิงทีค่ รตู อ้ งเตรยี ม/กล่มุ
1. แก้วพลาสตกิ ใสหรือขวดพลาสตกิ 2 ใบ
2. อา่ งนาพลาสติกท่ีมขี นาดเหมาะสมกบั แก้วหรอื ขวดพลาสติก 1
ใบ
3. ชอ้ น 2 คัน
4. เกลอื แกง 1 ถงุ
5. นาแข็งก้อนเล็ก ๆ ปริมาณเพียงพอสาหรับบรรจุลงในอ่างนาจน
เกือบเต็ม
6. นาผลไม้ ประมาณ 1 แก้วพลาสตกิ ใส
ส่งิ ทีค่ รูต้องเตรยี ม/คน สอ่ื การเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้
-
สิ่งทน่ี กั เรียนต้องเตรยี ม/กลมุ่ 1. หนงั สอื เรียน ป.5 เล่ม 1 หนา้ 84-86
-
2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ป.5 เลม่ 1 หนา้ 90-94
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
3. ตวั อย่างวดี ทิ ศั นป์ ฏบิ ตั ิการวิทยาศาสตร์สาหรับครู
S1 การสงั เกต
S5 การหาความสมั พนั ธ์ระหว่างสเปซกับเวลา เรอ่ื งการแข็งตวั ของสสารเป็นอยา่ งไร
S8 การลงความเห็นจากข้อมูล
S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
C4 การส่ือสาร http://ipst.me/9893
C5 ความรว่ มมือ
C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562
คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 216
แนวการจัดการเรียนรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครูเพียงรับ
ฟงั เหตุผลของนักเรียนเป็นสาคัญ และยังไม่
1. นาเข้าสู่บทเรียนโดยครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาในประเด็น เฉลยคาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่
ดังตอ่ ไปนี ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบที่ถูกต้องจาก
1.1 ถ้าต้องการทาให้นาเปลี่ยนเป็นนาแข็งจะทาอย่างไร (นักเรียน กจิ กรรมต่าง ๆ ในบทเรยี นนี
ตอบตามความเข้าใจ นักเรียนอาจตอบว่า นานาไปแช่ในช่องแช่
แขง็ ของตู้เยน็ ) ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ
1.2 ช่องแช่แข็งของตู้เย็นทาให้นาเปล่ียนเป็นนาแข็งได้อย่างไร
(นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ซึ่งควรตอบได้ว่าเพราะช่องแช่ ครูควรแนะนาให้นักเรียนโรยเกลือ
แข็งมอี ณุ หภูมิตา่ มากจนทาให้นาเปล่ยี นเป็นนาแขง็ ได)้ ลงในนาแข็งให้มีปริมาณมากพอท่ีจะทาให้
1.3 ถ้าเราไม่มีตู้เย็น เราจะทาให้นาเปล่ียนเป็นนาแข็งได้หรือไม่ เกิดการเปล่ียนสถานะของนาผลไม้ได้เรว็
อย่างไร (นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจ ครูอาจพูดคุยเพ่ิมเติม
เก่ียวกบั การแขง็ ตวั ของของเหลวอนื่ ๆ ในชวี ิตประจาวัน)
2. นักเรียน อ่านชื่อกิจกรรม และ ทาเป็นคิดเป็น ในหนังสือเรียนหน้า
84 จากนัน ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเก่ียวกับส่ิงท่ีจะ
เรียนในกจิ กรรมนี โดยใช้คาถามดงั ตอ่ ไปนี
2.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับเรื่องอะไร (เก่ียวกับการ
เปล่ยี นสถานะของนาผลไม้)
2.2 นกั เรยี นจะได้เรยี นเร่ืองนีดว้ ยวิธใี ด (การสงั เกต)
2.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายการเปล่ียนสถานะ
ของนาผลไมไ้ ด)้
3. ใหน้ กั เรียนบันทกึ จดุ ประสงคข์ องกจิ กรรมในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า
90
4. นักเรียนอ่านสิ่งท่ีต้องใช้ในการทากิจกรรม โดยครูนาวัสดอุ ุปกรณ์มา
แสดงให้นักเรียนดู ยาเตือนวิธีการใช้อุปกรณ์และการดูแลความ
สะอาดของสถานทข่ี ณะทากิจกรรม
5. นักเรียนอ่านทาอย่างไร ในหนังสือเรียนหน้า 84 โดยครูเลือกฝึก
ทักษะการอ่านตามความเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน
จ า ก นั น ค รู ต ร วจ สอ บ ค วา ม เ ข้ าใ จ ขั นต อ น ก า รท า กิ จก ร รม โด ยใช้
คาถามดังนี
5.1 นักเรียนต้องทาอยา่ งไรในขันตอนแรก (คาดคะเนวา่ จะเกิดอะไร
ขึนถ้านานาผลไม้ที่อยู่ในแก้วพลาสติกแช่ในอ่างนาแข็งผสม
เกลือ บันทกึ ผล)
นักเรียนบันทึกการคาดคะเนในแบบบันทึกหน้า 90 จากนัน
ร่วมกนั อภิปรายคาตอบของนักเรยี น
5.2 หลังจากการคาดคะเน ต้องทาอย่างไรต่อไป (ทากิจกรรมโดยนา
แก้วที่ใส่นาผลไม้แช่ในอ่างนาแข็งผสมเกลือ จากนันคนนาแข็ง
ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
217 คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
ผสมเกลือในอ่าง และสังเกตการเปลย่ี นแปลงของนาผลไม้ทุก ๆ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
2 นาที บนั ทกึ ผล) แห่งศตวรรษท่ี 21 ที่นักเรียนจะได้ฝึกจากการ
ครูควรให้นักเรียนดูตารางบันทึกผลในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า ทากจิ กรรม
90 และตรวจสอบความเข้าใจวิธีการจับเวลาและบันทึกเวลา
รวมทังวิธีการบันทึกผลการสังเกต ครูยาแนวทางในการสังเกต S1 การสงั เกตการเปลีย่ นแปลงของนาผลไม้
สิ่งต่าง ๆ ควรสังเกตให้ละเอียดมากท่ีสุด ตัวอย่างเช่น การ S5 การหาความสัมพนั ธร์ ะหว่างสเปซกับ
สงั เกตนาผลไม้ ควรสังเกตให้ไดข้ อ้ มลู ต่าง ๆ ให้ไดม้ ากท่สี ุด เช่น เวลาจากลกั ษณะการครอบครองพนื ท่ขี อง
สี รูปร่างของนาผลไม้ ระยะเวลาที่ นาผลไม้เกิดการ สารในภาชนะเมื่อเวลาผา่ นไปทังก่อนและ
เปล่ยี นแปลง หลังการเปล่ยี นสถานะ
5.3 หลังจากนาผลไม้เปลี่ยนสถานะแล้ว ต้องทาอย่างไรต่อไป S6 การจดั กระทาและสอ่ื ความหมายข้อมลู
(แบ่งนาผลไม้ที่เปล่ียนสถานะบรรจุลงในภาชนะอีกใบแล้ว จากการบรรยายและวาดรูปลักษณะของนา
สงั เกตการเปล่ยี นแปลงทีเ่ กิดขนึ บันทกึ ผล) ผลไมใ้ นภาชนะ
ครูควรให้นักเรียนดูและตรวจสอบความเข้าใจวิธีการบันทึกผล S8 การลงความเหน็ จากข้อมูลจากการ
การสังเกตในแบบบนั ทึกหน้า 91 สังเกตลกั ษณะของสารขณะเกดิ การ
5.4 นักเรียนจะทาอย่างไรจึงจะระบุช่ือการเปลี่ยนสถานะของนา เปลย่ี นแปลงและนาข้อมลู มาระบสุ ถานะ
ผลไม้ในแต่ละช่วงได้ (อภิปรายร่วมกันและสืบค้นข้อมูล ของสารทเ่ี ปล่ยี นแปลง
เพม่ิ เติม) C4 การสอื่ สารจากการนาเสนอผลการ
ครูควรใหน้ กั เรียนดูและตรวจสอบความเขา้ ใจวิธีการบันทึกผล เปลยี่ นแปลงของนาผลไม้
การอภิปรายและสืบค้นข้อมูลในแบบบันทึกหน้า 91 ครูควร C5 ความร่วมมือจากการทางานรว่ มกนั ใน
แสดงวิธีการระบุชื่อแหล่งข้อมูลท่ีสืบค้นและยาให้นักเรียน กล่มุ
บันทกึ แหล่งขอ้ มลู ทุกครงั C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
6. เมื่อนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ครูแจกวัสดุ ส่ือสารจากการใช้อินเทอร์เนตสืบค้นข้อมูล
เก่ยี วกบั การเปลยี่ นสถานะของนาผลไม้
อปุ กรณ์ จากนันนักเรยี นเรม่ิ ปฏิบัติกิจกรรมตามขันตอน
7. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อยและ
สุ่มนักเรียนนาเสนอผลการทากิจกรรม ครูบนั ทึกผลการทากิจกรรม
ของนักเรียนไว้บนกระดาน จากนันครูนาอภิปรายผลการทา
กิจกรรมของนกั เรยี นโดยครูอาจใช้คาถามดังนี
7.1 ก่อนการทากิจกรรมนาผลไม้ในแก้วมีสถานะใด และมีสมบัติ
อย่างไร (ก่อนการทากิจกรรม นาผลไม้ในแก้วมีสถานะเป็น
ของเหลว รูปร่างเปล่ียนแปลงตามภาชนะ ปริมาตรคงที่
ผิวหน้าเรยี บเสมอกันในแนวระดับ)
7.2 เมื่อนานาผลไม้แช่ในอ่างนาแข็งผสมเกลือ นาผลไม้เกิดการ
เปล่ียนแปลงอย่างไร (นาผลไม้เปลี่ยนเปน็ เกล็ดนาแขง็ )
7.3 เกล็ดนาแข็งมีสถานะใดและมีสมบัติอย่างไร (เกล็ดนาแข็งมี
สถานะเปน็ ของแข็ง สสี ม้ สมั ผัสแลว้ รสู้ กึ เยน็ )
7.4 เมื่อเวลาผ่านไป นาผลไม้และเกล็ดนาแข็งมีการเปลี่ยนแปลง
อย่างไร (เมื่อเวลาผ่านไป นาผลไม้มีปริมาณลดลง ส่วนเกล็ด
นาแข็งมีปรมิ าณมากขึน)
สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรับปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562
คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร 218
7.5 นักเรียนคิดว่านาผลไม้ที่แช่ในอ่างนาแข็งผสมเกลือมีอุณหภูมิ ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
เป็นอย่างไรเม่ือเทียบกับนาผลไม้ที่วางไว้นอกอ่าง และจะรู้ได้
อย่างไร (อุณหภูมิของนาผลไม้ท่ีอยู่ในอ่างนาแข็งจะต่ากว่า ค รู ค ว ร สื บ ค้ น ข้ อ มู ล เ ก่ี ย ว กั บ
อุณหภูมิของนาผลไม้ท่ีอยู่นอกอ่าง ทราบได้จากการสัมผัส การเปล่ียนสถานะของสสารจากเว็บไซต์ท่ี
ด้วยมอื หรอื ใช้เทอรม์ อมเิ ตอร์วดั อุณหภมู )ิ น่าเช่ือถือไว้ล่วงหน้าประมาณ3-4 เว็บไซต์
และแนะนานักเรียนให้สืบค้นข้อมูลจาก
7.6 เหตุใดนาผลไม้จึงเปลี่ยนเป็นเกล็ดนาแข็ง (นาผลไม้สูญเสีย เว็บไซต์ท่นี า่ เชือ่ ถอื
ความรอ้ น เน่อื งจากการนานาผลไม้แชใ่ นอ่างนาแข็งผสมเกลือ
ทาให้อณุ หภมู ิของนาผลไมล้ ดลงจนถงึ ระดับหนงึ่ ) หากนักเรียนไม่สามารถ
ตอบคาถามหรืออภิปรายได้ตาม
7.7 การเปล่ียนแปลงของนาผลไม้เป็นเกล็ดนาแข็งเปล่ียนจาก แนวคาตอบ ครูควรให้เวลา
สถานะใดเป็นสถานะใดและเรียกการเปลี่ยนแปลงนีว่าอะไร นั ก เ รี ย น คิ ด อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
(การเปล่ียนแปลงของนาผลไม้เปลี่ยนจากสถานะของเหลว รอคอยอย่างอดทน และรับฟัง
เป็นของแขง็ เรยี กวา่ การแขง็ ตัว) แนวความคิดของนักเรยี น
ถ้านักเรียนตอบไม่ได้ ครูให้ความรู้เพิ่มเติมการเปลี่ยนสถานะ
จากของเหลวเป็นของแข็ง เรยี กว่า การแข็งตัว
7.8 การเปล่ียนแปลงของเกล็ดนาแข็งท่ีนามาวางไว้นอกอ่างนาแข็ง
เปลี่ยนจากสถานะใดเป็นสถานะใด และเรียกการเปล่ียนแปลง
นีว่าอะไร (เกล็ดนาแข็งซึ่งมีสถานะเป็นของแข็งเปลี่ยนเป็นนา
ผลไม้ซ่ึงมีสถานะเป็นของเหลว การเปล่ียนสถานะจากของแข็ง
เป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว)
7.9 การเปลี่ยนแปลงของนาผลไมเ้ ป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
หรือไม่ รู้ได้อย่างไร (การเปลี่ยนแปลงของนาผลไม้เป็นการ
เปลีย่ นแปลงทางกายภาพ เน่ืองจาก นาผลไมท้ แี่ ขง็ ตัวเป็นเกล็ด
นาแข็ง ยังคงเป็นสารเดิม เพียงแต่มีสถานะเปลี่ยนแปลงไป
เท่านัน สังเกตได้จากเกล็ดนาแข็งเมื่อเปล่ียนสถานะเป็นนา
ผลไมจ้ ะไดน้ าผลไมท้ ีม่ สี เี หมอื นเดิม)
7.10จากกิจกรรมนี คน้ พบอะไรบา้ ง (จากกจิ กรรมนี พบว่าเม่อื นานา
ผลไม้แช่ในอ่างนาแข็งผสมเกลือ นาผลไม้เปลี่ยนเป็นเกล็ด
นาแข็งซึ่งเกิดจากนาผลไม้สูญเสียความร้อน ส่วนเกล็ดนาแข็งที่
วางไว้นอกอ่างนาแข็งผสมเกลือเปล่ียนเป็นนาผลไม้ซึ่งเกิดจาก
เกล็ดนาแข็งไดร้ ับความร้อน)
7.11จากส่ิงท่ีค้นพบสรุปได้ว่าอย่างไร (เม่ือทาให้สสารที่เป็น
ของเหลวเย็นลงจนถึงระดับหนึ่งจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง
เรียกการเปลี่ยนแปลงนีว่า การแข็งตัว ส่วนของแข็งเมื่อได้รับ
ค ว า ม ร้ อ น จ ะ เ ป ล่ี ย น ส ถ า น ะ เ ป็ น ข อ ง เ ห ล ว เ รี ย ก ว่ า
การหลอมเหลว การแข็งตัวและการหลอมเหลวเป็น
การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ)
8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า ของเหลวเม่ือ
สูญเสียความร้อน ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกการ
ฉบบั ปรบั ปรุง เดือนมถิ ุนายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
219 คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
เปล่ียนสถานะนีว่า การแข็งตัว และเมื่อของแข็งได้รับความร้อนจะ การเตรยี มตวั ล่วงหน้าสาหรับครู
เปล่ียนสถานะเป็นของเหลวได้เรียกการเปล่ียนสถานะนีว่า การ เพอ่ื จดั การเรยี นรใู้ นครั้งถัดไป
หลอมเหลว การเปลี่ยนสถานะเป็นการเปลี่ยนแปลงท่ีสารยังเป็น
สารเดมิ จึงเป็นการเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ (S13) ในครงั ถัดไป นักเรียนจะได้ทา
9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คาถาม กจิ กรรมที่ 1.3 พิมเสนมีการเปลี่ยนสถานะ
เพ่มิ เติมในการอภิปรายเพ่อื ให้ไดแ้ นวคาตอบท่ีถูกต้อง อยา่ งไร ครูควรเตรยี มกระดาษแขง็ เจาะรู
10. นักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนันครูให้ สาหรับให้นกั เรยี นทากจิ กรรมกลมุ่ ละ 1
นกั เรียนอ่าน ส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้ และเปรยี บเทียบกับขอ้ สรปุ ของตนเอง แผน่ โดยตัดกระดาษเทาขาวใหแ้ ตล่ ะแผน่ มี
11. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตังคาถามเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ ขนาดประมาณ 10 x 10 cm เจาะรขู นาด
เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนันครูอาจสุ่มนักเรียน 2 -3 คน เล็ก ๆ 4-5 รูบรเิ วณตรงกลางของ
นาเสนอคาถามของตนเองหน้าชันเรียน และให้นักเรียนทุกคน แผน่ กระดาษ
รว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกับคาถามทน่ี าเสนอ
12.ครนู าอภิปรายเพ่ือใหน้ กั เรียนทบทวนวา่ ไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในขันตอน
ใด แลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทึกกิจกรรมหน้า 94
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมถิ ุนายน 2562
คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร 220
13. แนวคาตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม
สงั เกตและอธิบายการเปลี่ยนสถานะของน้าผลไม้
ข้นึ อยกู่ ับคาตอบของนักเรียน เช่น เม่ือน้าผลไม้ในแกว้ เย็นลง นา้ ผลไม้จะเปลี่ยนจาก
ของเหลวเปน็ ของแข็ง
0 ขนึ อยู่กับการสังเกตของนกั เรียน บันทกึ ลกั ษณะของนาผลไม้
ตามจริง เชน่ เป็นของเหลว สสี ม้
2 เป็นของเหลว สสี ม้
4 เป็นของเหลว สีสม้
6 ของเหลว สสี ม้ เริ่มมีเกลด็ นาแขง็ สีสม้ เกดิ ขึนท่ีขอบแก้วพลาสตกิ
8 นาผลไมเ้ ปล่ยี นเปน็ เกล็ดนาแขง็ สีสม้ หมดทงั แก้ว
10
หมายเหตุ เวลาในการทากิจกรรมตงั แตเ่ ร่มิ ตน้ จนนาผลไมเ้ ปลีย่ นสถานะ
จนหมดอาจจะเร็ว ช้า แตกตา่ งไปจากนี ให้บนั ทึกผลตามความเป็นจริง
ฉบบั ปรับปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
221 คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร
เมือ่ วางไว้ 3 นาที เกล็ดนาแขง็ จะเปลย่ี นเปน็ ของเหลวสสี ้มเหมอื นกบั สีของ
เกล็ดนาแขง็
ของเหลว ของแข็ง
การแขง็ ตวั ของเหลว
ของแขง็
การหลอมเหลว
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 222
คาตอบข้นึ อยู่กบั การคาดคะเนและผลการสงั เกตของนกั เรยี น เช่น เหมือนกนั
เนื่องจากมกี ารคาดคะเนว่านา้ ผลไมจ้ ะเปลย่ี นจากของเหลวเป็นของแข็ง
นา้ ผลไมเ้ ปลีย่ นสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง เรียกการเปลี่ยนสถานะนว้ี า่
การแขง็ ตวั และน้าผลไม้ทีแ่ ข็งตวั หรอื เกลด็ น้าแขง็ เปล่ียนสถานะจากของแข็ง
เป็นของเหลว เรยี กการเปล่ียนสถานะนว้ี ่า การหลอมเหลว
การเปล่ยี นสถานะของน้าผลไมเ้ กิดขน้ึ เนือ่ งจากนา้ ผลไมไ้ ด้รับหรอื สูญเสีย
ความร้อน หรือ เกิดข้ึนจากการทาใหน้ า้ ผลไมร้ อ้ นขน้ึ หรอื เย็นลง โดยน้าผลไม้
สญู เสยี ความร้อนจะเปล่ียนเปน็ เกล็ดน้าแข็ง ส่วนเกลด็ น้าแขง็ ได้รับความร้อนจะ
เปลยี่ นเปน็ น้าผลไม้
การเปลี่ยนสถานะของนา้ ผลไม้เป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพเน่ืองจากสารท่ี
ได้หลังจากเกดิ การเปล่ยี นแปลงยังคงเป็นสารเดมิ สังเกตจากสขี องสารกอ่ นและ
หลงั การเปลี่ยนแปลงเป็นสีเดยี วกัน
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
223 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
เมื่อนาแก้วบรรจุน้าผลไม้แช่ในอา่ งนา้ แขง็ ผสมเกลือและคนน้าแข็งไปเรอื่ ยๆ นา้ ผลไม้
จะคอ่ ยๆ เปลีย่ นเปน็ เกล็ดน้าแข็ง จนกลายเป็นเกลด็ นา้ แขง็ ทัง้ หมด และเม่อื แบ่งน้า
ผลไม้ทเ่ี ป็นเกล็ดน้าแข็งบรรจลุ งในภาชนะอีกใบหนึ่งวางไว้นอกอา่ งน้าแข็ง เกลด็
นา้ แขง็ จะกลายเป็นนา้ ผลไม้ทม่ี สี ีเหมอื นเดิม การเปลย่ี นแปลงของน้าผลไม้เป็นเกล็ด
น้าแข็งจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเนื่องจากสารทีเ่ ปล่ยี นแปลงยงั คงเปน็
สารเดมิ
เมอ่ื ทาให้ของเหลวสูญเสียความรอ้ นหรือเยน็ ลง ของเหลวสามารถเปล่ียนสถานะเปน็
ของแข็งได้ เรยี กการเปล่ียนสถานะนี้ว่า การแข็งตัว และเมอ่ื ทาให้ของแข็งไดร้ ับ
ความร้อนหรือร้อนขนึ้ ของแขง็ จะสามารถเปล่ียนสถานะเป็นของเหลวได้เรยี ก
การเปล่ียนสถานะนี้ว่า การหลอมเหลว การเปลยี่ นสถานะเปน็ การเปลี่ยนแปลงทส่ี าร
ยังคงเป็นสารเดิมแต่สถานะเปลย่ี นไปจึงเป็นการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562
คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร 224
คาถามของนักเรยี นทต่ี ั้งตามความอยากรขู้ องตนเอง
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดือนมิถนุ ายน 2562
225 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
แนวการประเมินการเรียนรู้
การประเมินการเรียนร้ขู องนกั เรยี นทาได้ ดงั นี
1. ประเมินความรูเ้ ดิมจากการอภปิ รายในชนั เรยี น
2. ประเมินการเรยี นร้จู ากคาตอบของนักเรยี นระหวา่ งการจัดการเรยี นร้แู ละจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทากจิ กรรมของนักเรียน
การประเมินจากการทากจิ กรรมที่ 1.2 เป็นเกล็ดนา้ แขง็ ไดอ้ ยา่ งไร
ระดับคะแนน
3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ
รหัส ส่งิ ทปี่ ระเมิน ระดับคะแนน
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสงั เกต
S5 การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซกับ
เวลา
S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มูล
S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ
ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
C4 การสื่อสาร
C5 ความร่วมมือ
C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการ
สอื่ สาร
สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 226
ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรยี น
โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดังนี
ทกั ษะ ระดบั ความสามารถ
กระบวนการทาง รายการประเมนิ
วิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสมั ผัส สามารถใช้ประสาทสมั ผัส สามารถใช้ประสาท
รายละเอียดเกีย่ ว เกบ็ รายละเอยี ดเกย่ี วกับ เก็บรายละเอียดเกี่ยวกบั สมั ผสั เกบ็
การเปล่ยี นแปลงท่ี การเปลี่ยนแปลงของนา การเปล่ยี นแปลงของนา รายละเอยี ด
เกดิ ขึนกับนาผลไม้ ผลไม้ เชน่ เป็นของเหลว ผลไม้ เชน่ เปน็ ของเหลว เกีย่ วกบั
เช่น เป็นของเหลว สีส้ม เรมิ่ มเี กล็ดนาแข็งสี สีส้ม เริ่มมเี กล็ดนาแขง็ สี การเปลีย่ นแปลง
สีส้ม เร่มิ มเี กลด็ ส้มเกิดขนึ ทขี่ อบแกว้ ส้มเกิดขึนที่ขอบแก้ว ของนาผลไม้เช่น
นาแขง็ สสี ้มเกิดขนึ พลาสตกิ เม่ือเวลาผ่านไป พลาสตกิ เม่ือเวลาผา่ นไป เปน็ ของเหลว สสี ้ม
ที่ขอบแก้ว 6 นาทไี ดด้ ้วยตนเอง โดย 6 นาทไี ด้ จากการชแี นะ เรม่ิ มีเกล็ดนาแขง็
พลาสตกิ เมื่อเวลา ไมเ่ พ่ิมความคดิ เหน็ ของครูหรือผู้อ่นื หรือมี สสี ้มเกิดขึนท่ี
ผา่ นไป 6 นาที การเพิ่มเตมิ ความคดิ เห็น ขอบแกว้ พลาสติก
เมือ่ เวลาผา่ นไป 6
นาทีได้ถกู ต้องเป็น
บางสว่ นหรอื
เพิ่มเติมความ
คิดเห็น แมว้ ่าจะได้
รับคาชีแนะจากครู
หรอื ผอู้ ่นื
S4 การหา การบรรยาย สามารถระบุการ สามารถระบุการ สามารถระบุการ
ความสมั พันธ์ ลักษณะการ ครอบครองพืนท่ีของ ครอบครองพนื ที่ของ ครอบครองพืนท่ีของ
ระหว่างสเปซกับ ครอบครองพนื ที่ นาผลไม้และนาผลไมท้ ่ี นาผลไม้และนาผลไม้ท่ี นาผลไมแ้ ละ นา
เวลา ของนาผลไม้และ แข็งตวั ที่เวลาตา่ ง ๆ เชน่ แข็งตัวท่เี วลาตา่ ง ๆ เชน่ ผลไม้ทแี่ ข็งตวั ที่เวลา
นาผลไมท้ แี่ ขง็ ตัวท่ี นาผลไม้ในช่วงนาทีท่ี 0-4 นาผลไม้ในช่วงนาทีท่ี 0-4 ตา่ ง ๆ เช่น นา
เวลาต่าง ๆ สง่ิ ท่ี เป็นของเหลวอยู่ใน เป็นของเหลวอยู่ในแกว้ ผลไม้ในชว่ งนาทที ี่
ควรบรรยายได้ แก้วพลาสติก ผิวหน้าเรียบ พลาสตกิ ผวิ หนา้ เรียบ 0-4 เป็นของเหลว
เชน่ นาผลไม้ เสมอกนั และนาทีท่ี 6 เสมอกัน และนาทีท่ี 6 อยู่ในแก้วพลาสตกิ
ในช่วงนาทีท่ี 0-4 นาผลไม้เรมิ่ เปล่ียนเป็น นาผลไมเ้ รมิ่ เปล่ยี นเปน็ ผิวหนา้ เรียบเสมอ
เป็นของเหลวอยู่ เกล็ดนาแขง็ นาผลไม้อยู่ เกลด็ นาแข็งนาผลไม้อยู่ใน กนั และนาทีที่ 6
ในแก้วพลาสติก ในแกว้ ทกี่ ้นภาชนะสว่ น แกว้ ท่ีก้นภาชนะส่วน นาผลไม้เรม่ิ
ผวิ หน้าเรยี บเสมอ เกล็ดนาแข็งเกาะอยู่ท่ีผวิ เกลด็ นาแขง็ เกาะอยู่ที่ผวิ เปล่ียนเปน็ เกลด็
กนั และนาทีที่ 6 แกว้ เหนือผวิ หน้าของนา แก้วเหนอื ผิวหนา้ ของ นาแข็ง นาผลไม้อยู่
นาผลไม้เร่มิ ผลไม้ นาทที ่ี 8 เป็นเกล็ด นาผลไม้ นาทีท่ี 8 เป็น ในแก้วท่ีก้นภาชนะ
เปล่ียนเป็นเกล็ด นาแขง็ ทังหมดอย่ทู ่กี ้น เกลด็ นาแข็งทังหมดอยทู่ ่ี สว่ นเกล็ดนาแข็ง
นาแข็ง นาผลไม้ ภาชนะแตผ่ ิวหน้าไม่เรยี บ กน้ ภาชนะแตผ่ วิ หนา้ ไม่ เกาะอยูท่ ่ีผิวแกว้
ฉบับปรับปรงุ เดือนมิถุนายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
227 คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
ทักษะ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ
กระบวนการทาง
ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1)
วิทยาศาสตร์
อยูใ่ นแก้วทก่ี ้น เสมอกนั ได้อย่างถูกตอ้ ง เรียบเสมอกนั ไดจ้ ากครู เหนือผิวหน้าของนา
S8 การลง หรือผอู้ ื่นช่วยแนะนาหรือ ผลไม้ นาทีท่ี 8 เป็น
ความเห็นจาก ภาชนะส่วนเกล็ด ไดด้ ้วยตวั เอง ชแี นะ เกล็ดนาแขง็ ทังหมด
ขอ้ มลู อยูท่ ี่กน้ ภาชนะแต่
นาแข็งเกาะอยทู่ ี่ ผิวหน้าไมเ่ รียบเสมอ
กนั ได้ถูกต้องแต่ไม่
ผิวแกว้ เหนอื ครบถ้วน แมว้ า่ ครู
หรอื ผูอ้ ่ืนช่วยแนะนา
ผิวหน้าของนา หรอื ชีแนะ
ผลไม้ นาทที ่ี 8
เปน็ เกล็ดนาแข็ง
ทงั หมดอยทู่ ่กี ้น
ภาชนะแตผ่ วิ หนา้
ไมเ่ รียบเสมอกนั
การลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลง
ข้อมลู การเปลีย่ นสถานะ ความเห็นจากข้อมลู
จากข้อมูลว่า ขอ้ มูลการเปลย่ี นสถานะ ของนาผลไม้ว่านาผลไม้ การเปล่ยี นสถานะ
เปลีย่ นเปน็ เกล็ดนาแข็ง ของนาผลไม้วา่
นาผลไม้เปลยี่ นเปน็ ของนาผลไม้ว่านาผลไม้ เกิดจากนาผลไม้สญู เสีย นาผลไม้เปลีย่ นเปน็
ความรอ้ นและ เกล็ดนาแขง็ เกิด
เกล็ดนาแขง็ เกิด เปลี่ยนเปน็ เกล็ดนาแข็ง เกล็ดนาแข็งเปลี่ยนเป็น จากนาผลไมส้ ญู เสยี
นาผลไมเ้ กิดจาก ความรอ้ นและ
จากนาผลไม้สูญเสยี เกดิ จากนาผลไม้สูญเสีย เกลด็ นาแขง็ ได้รับ เกลด็ นาแข็ง
ความร้อนไดจ้ ากการ เปลยี่ นเปน็ นาผลไม้
ความร้อนและเกลด็ ความร้อนและเกล็ด ชแี นะของครูหรือผู้อ่นื เกดิ จากเกล็ด
นาแขง็ ไดร้ บั
นาแข็งเปลี่ยนเป็น นาแข็งเปลย่ี นเป็น ความรอ้ นได้ถูกตอ้ ง
เปน็ บางส่วน แม้ว่า
นาผลไมเ้ กดิ จาก นาผลไม้เกิดจาก จะได้รับคาชแี นะ
จากครูหรือผู้อืน่
เกล็ดนาแข็งได้รับ เกลด็ นาแข็งได้รบั
ความร้อน ความร้อนไดด้ ว้ ยตนเอง
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรับปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562
คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 228
ทักษะ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรุง (1)
กระบวนการทาง รายการประเมนิ
สามารถตีความหมาย พอใช้ (2) สามารถ
วทิ ยาศาสตร์ ข้อมูลจากการสังเกต ตีความหมายข้อมลู
การเปลีย่ นแปลงของ สามารถตคี วามหมาย จากการสงั เกต
S13 การตีความหมาย ตคี วามหมาย นาผลไมแ้ ละลงขอ้ สรุปว่า ข้อมูลจากการสงั เกต การเปลยี่ นแปลง
ข้ อ มู ล แ ล ะ ล ง ข้อมูลจาก สสารสามารถเปลยี่ น การเปล่ยี นแปลงของนา ของนาผลไม้ และ
ขอ้ สรุป การสงั เกต สถานะจากของเหลวเปน็ ผลไมแ้ ละลงข้อสรุปวา่ ลงขอ้ สรุปว่าสสาร
การเปลี่ยนแปลง ของแขง็ ไดเ้ ม่ือสญู เสยี สสารสามารถเปลย่ี น สามารถเปลย่ี น
ของนาผลไมไ้ ป ความรอ้ นเรยี ก สถานะจากของเหลวเปน็ สถานะจาก
เป็นเกลด็ นาแข็ง การเปล่ียนสถานะนีวา่ ของแข็งได้เม่ือสูญเสีย ของเหลวเป็น
และเกลด็ นาแข็ง การแข็งตวั สว่ นสสาร ความรอ้ นเรยี ก ของแข็งไดเ้ มื่อ
เปลย่ี นเป็น ได้รับความร้อนเปลีย่ น การเปลี่ยนสถานะนีว่า สญู เสียความรอ้ น
นาผลไมล้ งข้อสรปุ สถานะจากของแข็งเปน็ การแขง็ ตัว สว่ นสสาร เรียกการเปลยี่ น
เกีย่ วกบั ของเหลวเรยี กว่า ไดร้ ับความร้อนเปลย่ี น สถานะนวี ่า
การเปลย่ี นสถานะ การหลอมเหลวได้ดว้ ย สถานะจากของแข็งเป็น การแขง็ ตวั สว่ น
ไดว้ ่าสสารสามารถ ตนเอง ของเหลวเรยี กวา่ สสารไดร้ บั ความ
เปล่ยี นสถานะจาก การหลอมเหลวไดจ้ าก ร้อนเปลี่ยนสถานะ
ของเหลวเป็น การชแี นะของครูหรอื จากของแข็งเป็น
ของแขง็ ได้เมื่อ ผ้อู ่ืน ของเหลวเรยี กวา่
สูญเสยี หรือไดร้ ับ การหลอมเหลวได้
ความรอ้ น ถูกต้องเพยี ง
บางส่วน แม้วา่ จะ
ได้รับคาชแี นะจาก
ครูหรือผู้อ่นื
ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมิถนุ ายน 2562 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
229 คูม่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดังนี
ทักษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1)
ศตวรรษท่ี 21 พอใช้ (2) สามารถบรรยายการ
การบรรยายการ สามารถบรรยายการ เปลี่ยนแปลงของนา
C4 การส่ือสาร เปลยี่ นแปลง เปล่ียนแปลงของนา สามารถบรรยายการ ผลไม้ทเี่ วลาตา่ ง ๆ ให้
ลกั ษณะและ ผลไม้ทีเ่ วลาตา่ ง ๆ ให้ เปล่ยี นแปลงของนาผลไม้ท่ี ผอู้ ื่นเขา้ ใจไดอ้ ย่าง
สถานะของนา ผู้อนื่ เขา้ ใจไดอ้ ย่าง เวลาต่าง ๆ ใหผ้ ู้อ่นื เขา้ ใจได้ ถูกต้องเปน็ บางครัง
ผลไมท้ ่ีเวลาต่าง ๆ ถกู ต้องได้ดว้ ยตนเอง อย่างถูกต้องจากการชแี นะ แมว้ า่ จะไดร้ บั คาชแี นะ
ของครูหรือผอู้ ่นื จากครหู รือผู้อื่น
C5 ความ การทางานรว่ มกบั สามารถทางานรว่ มกบั สามารถทางานร่วมกบั
รว่ มมือ ผอู้ นื่ ในการสังเกต ผูอ้ ่นื เกีย่ วกบั การทา สามารถทางานรว่ มกับผูอ้ ่นื ผูอ้ ื่นเกีย่ วกับการทา
การนาเสนอ และ กิจกรรมการเปลีย่ น เกี่ยวกับการทากจิ กรรม กจิ กรรมเปลี่ยนสถานะ
C6 การใช้ การแสดงความ สถานะของนาผลไม้ การเปล่ยี นสถานะของ ของนาผลไม้รวมทงั
เทคโนโลยี คิดเหน็ เก่ยี วกบั รวมทงั ยอมรบั นาผลไม้รวมทงั ยอมรับ ยอมรบั ความคดิ เหน็
สารสนเทศ การเปลย่ี นสถานะ ความคิดเห็นของผู้อน่ื ความคิดเห็นของผู้อนื่ เกือบ ของผู้อน่ื ได้บ้าง
ของนาผลไม้ ตังแต่เร่ิมตน้ จนสาเร็จ ทุกกจิ กรรม
รวมทงั ยอมรับ ใชอ้ นิ เทอรเ์ นตเพ่ือ
ความคิดเห็นของ ใช้อินเทอรเ์ นตเพ่ือ ใช้อินเทอรเ์ นตเพ่ือสืบค้น สืบค้นข้อมลู ด้วยตนเอง
ผู้อนื่ สบื คน้ ขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง ขอ้ มลู ดว้ ยตนเองจาก จากแหลง่ ข้อมูลท่ี
จากแหลง่ ข้อมลู ท่ี แหล่งข้อมลู ทห่ี ลากหลาย หลากหลายแตไ่ ม่
การใช้อินเทอร์เนต หลากหลายโดยเลือก โดยเลือกแหลง่ ข้อมลู ที่ สามารถเลอื กใช้
เพอ่ื สืบค้นช่อื แหลง่ ข้อมูลท่ีถูกต้อง ถกู ต้องและน่าเชอื่ ถือจาก แหลง่ ข้อมูลท่ีถูกต้อง
การเปลี่ยนสถานะ และนา่ เช่ือถือ การชีแนะของครูหรอื ผู้อ่ืน และนา่ เชอื่ ถือแม้ว่าจะ
ของสสาร ไดร้ ับคาชีแนะจากครู
จากของเหลวเป็น หรือผอู้ ื่น
ของแข็ง จาก
แหล่งขอ้ มูลท่ี
ถกู ต้องและ
นา่ เชือ่ ถอื
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรุง เดอื นมิถนุ ายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 230
กจิ กรรมที่ 1.3 พิมเสนมีการเปลย่ี น
สถานะอย่างไร
กิจกรรมนีนักเรียนจะได้สังเกตและอธิบายการเปล่ียนสถานะ
ของพิมเสน
เวลา 1 ช่วั โมง
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ทากจิ กรรมนีเพื่อสงั เกตและอธบิ ายการเปลี่ยนสถานะของพิมเสน
วสั ดุ อุปกรณส์ าหรับทากจิ กรรม
สิง่ ที่ต้องเตรยี ม/กลุ่ม
สงิ่ ทคี่ รูต้องเตรียม/ห้อง
1. พมิ เสน 5 กรัม
สิง่ ทีค่ รูต้องเตรยี ม/กลุ่ม
1. บีกเกอร์ ขนาด 250 cm3 1 ใบ
2. แก้วพลาสตกิ ใส 1 ใบ
3. ชุดตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ชดุ
4. ไมข้ ีดไฟ 1 กลกั
5. กระป๋องทรายสาหรบั ดับไฟ 1 กระป๋อง
6. แผน่ กระดาษแข็งเจาะรู ที่มขี นาดใหญ่กว่าปากบกี เกอร์เล็กนอ้ ย
1 แผน่
7. พมิ เสน 4-5 ชอ้ นเบอร์ 2
8. ช้อนตกั สารเบอร์ 2 1 อัน ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
สงิ่ ท่คี รตู ้องเตรยี ม/คน C4 การสือ่ สาร
- C5 ความร่วมมือ
ส่งิ ทน่ี กั เรยี นต้องเตรยี ม/กลมุ่ C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร
-
สอ่ื การเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
1. หนังสือเรยี น ป.5 เล่ม 1 หนา้ 87-94
S1 การสังเกต
S5 การหาความสมั พันธร์ ะหว่างสเปซกบั สเปซ 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.5 เลม่ 1 หนา้ 95-99
S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล
S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป 3. ตวั อย่างวีดิทัศน์ปฏบิ ตั ิการวิทยาศาสตร์สาหรบั ครูเรอื่ ง
การระเหดิ และการระเหิดกลับเปน็ อย่างไร
ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมถิ ุนายน 2562 http://ipst.me/8927
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
231 ค่มู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 การเปล่ียนแปลงของสาร
แนวการจัดการเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครู
เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน
1. นาเข้าสู่บทเรียนโดยทบทวนความรู้เกี่ยวกับการหลอมเหลวของ เป็นสาคัญ และยังไม่เฉลย
นาแข็งและนาพิมเสนของจริงมาให้นักเรียนสังเกตแล้วถามนักเรียน คาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่
ว่า ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบที่
1.1 เมื่อวางนาแข็งไว้ นาแข็งเกิดการเปล่ียนสถานะอย่างไร ถูกต้องจากกิจกรรมต่าง ๆ ใน
(นาแข็งเปลีย่ นจากของแขง็ เป็นของเหลว) บทเรยี นนี
1.2 การหลอมเหลวของนาแข็งเกิดจากสาเหตุใด (นาแข็งได้รับ
ความรอ้ น)
1.3 เม่ือวางพิมเสนไว้ พิมเสนจะเปล่ียนสถานะเหมือนนาแข็ง
หรือไม่ อยา่ งไร (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจ)
ครูชักชวนนักเรียนหาคาตอบเก่ียวกับการเปล่ียนสถานะ
ของพิมเสนจากการทากิจกรรม
2. นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรม และ ทาเป็นคิดเป็น ในหนังสือเรียน
หน้า 87 จากนันร่วมกันอภิปรายเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ
เก่ียวกับจุดประสงค์ในการทากิจกรรม โดยครูใช้คาถาม
ดงั ต่อไปนี
2.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับเร่ืองอะไร (การ
เปลี่ยนสถานะของพมิ เสน)
2.2 นักเรยี นจะได้เรยี นเร่อื งนีด้วยวิธใี ด (การสังเกต)
2.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายการเปลี่ยน
สถานะของพมิ เสน)
3. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ของกิจกรรมในแบบบันทึกกิจกรรม
หน้า 95 และอ่านส่ิงที่ต้องใช้ในกิจกรรม ถ้านักเรียนไม่รู้จัก
วัสดุอุปกรณ์บางอย่าง เช่น แผ่นกระดาษแข็งเจาะรู ครูควร
นามาแสดงใหน้ กั เรยี นดู
4. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยครูให้นักเรียนฝึกอ่านตามความ
เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนันร่วมกัน
อภิปรายเพ่อื สรุปขนั ตอนการทากิจกรรม โดยครใู ช้คาถามดังนี
4.1 นักเรียนเริ่มต้นทากิจกรรมอย่างไร (ตักพิมเสนบรรจุลงใน
บีกเกอร์ สงั เกตสี กลนิ่ สถานะของพมิ เสน บันทึกผล)
นักเรียนดูวิธีการบันทึกผลในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า 95
และตรวจสอบความเขา้ ใจเกยี่ วกบั วิธบี นั ทกึ ผล
4.2 นักเรียนต้องจัดอุปกรณ์อย่างไรก่อนจะนาบีกเกอร์ไปให้
ความร้อน (วางกระดาษแข็งเจาะรูบนปากบีกเกอร์ท่ีมี
พมิ เสนบรรจอุ ยู่แล้วคว่าแกว้ ลงบนกระดาษแขง็ )
ครูอาจสุ่มนักเรียน 1 คนออกมาสาธิตวิธีการจัดอุปกรณ์
และตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรับปรุง เดือนมถิ ุนายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร 232
4.3 นักเรียนต้องทาอย่างไรต่อไป (คาดคะเนว่าจะเกิดอะไร ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
ขึนกบั พิมเสนเมื่อนาพิมเสนในบกี เกอร์ไปใหค้ วามร้อน และ แห่งศตวรรษท่ี 21 ท่ีนักเรียนจะได้ฝึกจากการ
บนั ทกึ ผล) ทากจิ กรรม
4.4 นักเรียนคิดว่าจะเกิดอะไรขึนกับพิมเสน เม่ือนาพิมเสนใน S1 การสงั เกตลกั ษณะของพมิ เสนและการ
บกี เกอร์ไปให้ความรอ้ น (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ) เปล่ยี นแปลงของพมิ เสนเม่อื ได้รบั ความรอ้ น
นักเรยี นบนั ทกึ การคาดคะเนในแบบบนั ทกึ หน้า 95 S5 การหาความสมั พันธร์ ะหว่างสเปซ
กับสเปซจากลกั ษณะการครอบครองพนื ท่ี
4.5 นักเรียนจะทาอย่างไรเพื่อตรวจสอบการคาดคะเน (นา ของพิมเสนในภาชนะเมื่อได้รับความร้อน
พิมเสนท่ีบรรจุในบีกเกอร์ไปให้ความร้อนโดยใช้ไฟอ่อน ๆ และสญู เสียความร้อน
สังเกตการเปล่ียนแปลง บันทึกผล ดับไฟแล้วสังเกตการ S8 การลงความเห็นจากข้อมูลจากการ
เปล่ยี นแปลงในบีกเกอร์ ในแกว้ และบนกระดาษ) สังเกตลกั ษณะของพิมเสนขณะเกดิ การ
ครูใหน้ ักเรียนดูวิธีการบันทกึ ผลในแบบบนั ทึกกิจกรรมหน้า เปลย่ี นแปลงและนาข้อมูลมาระบุสถานะ
96 และตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน ของพมิ เสนทีเ่ ปลี่ยนแปลง
C4 การสอ่ื สารจากการเขียนและบรรยาย
4.6 นักเรียนต้องทาอย่างไรต่อไปเม่ือดับไฟและสังเกตการ การเปล่ียนแปลงของพมิ เสน
เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึน (อภิปรายสารท่ีพบบนกระดาษแข็ง C5 ความร่วมมือจากการทางานร่วมกันใน
ในแก้วพลาสติกมีสมบัติเหมือนหรือแตกต่างจากพิมเสน กลมุ่
หรือไม่ อย่างไร และสืบค้นข้อมูลการเปล่ียนสถานะแต่ละ C6 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการ
ช่วงเรยี กวา่ อะไร บันทกึ ผล) ส่อื สารจากการใชอ้ นิ เทอรเ์ นตสบื คน้ ข้อมลู
นักเรียนดูวิธีการบันทึกผลในแบบบันทึก กิจกรรมหน้า 96 เก่ียวกับการเปล่ยี นสถานะของพิมเสน
และตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ครูยาแนวทางใน
การสังเกตสงิ่ ต่าง ๆ ควรสงั เกตให้ละเอียดมากทส่ี ุดตัวอย่าง
เช่น การสังเกตพิมเสน ควรสังเกตให้ได้ข้อมูลต่าง ๆ ให้ได้
มากที่สุด
5. เม่ือตรวจสอบจนแน่ใจว่านักเรยี นเข้าใจวธิ ีทากิจกรรม ครูเตือน
เรื่อง ความปลอดภัยในการใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ โดยระวงั ไม่
เอียงตะเกียงซึ่งจะทาให้แอลกอฮอล์หกและต้องวางตะเกียงบน
โต๊ะทมี่ น่ั คง ไม่ถือตะเกยี งแอลกอฮอล์ไปมาขณะจุดไฟ ไม่สัมผสั
บีกเกอร์ขณะร้อน จากนันครูให้นักเรียนรับอุปกรณ์แล้วเร่ิมทา
กจิ กรรมตามขนั ตอน ครูควรยาให้นกั เรียนระบชุ ่ือแหล่งข้อมูลท่ี
สืบคน้ ด้วย
6. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ครูสุ่มนักเรียนนาเสนอผลการทากิจกรรมโดยครูบันทึกผลบน
กระดานจากนันตรวจสอบผลการทากิจกรรมของนักเรียนคน
อื่น ๆ ครูเพิ่มเติมประเด็นท่ียังไม่สมบูรณ์ให้ครบถ้วน ถูกต้อง
จากนันนาอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยครใู ช้คาถามดังนี
6.1 พิมเสนมีสี มีกล่ินและสถานะอย่างไร (พิมเสนมีสีขาว มี
กล่ินเฉพาะตัวและมสี ถานะเปน็ ของแข็ง)
6.2 นักเรียนสังเกตพบอะไรบ้าง เม่ือให้ความร้อนแก่พิมเสน
(เม่ือให้ความร้อนแก่พิมเสน เกล็ดพิมเสนบางส่วนใน
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
233 ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
บีกเกอร์จะค่อยๆ หายไป และเมอื่ เวลาผ่านไปมีเกล็ดสีขาว หากนักเรียนไม่สามารถ
เกาะที่แผ่นกระดาษและข้างๆ บีกเกอร์มีฝ้าสีขาวเกิดขึน ตอบคาถามหรืออภิปรายได้ตาม
และมีกลนิ่ ของพิมเสน) แนวคาตอบ ครูควรให้เวลา
6.3 นักเรียนคิดว่ากล่ินของพิมเสนที่เกิดขึนเป็นพิมเสนใน นั ก เ รี ย น คิ ด อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
สถานะใด (กล่ินของพิมเสนที่เกิดขึนคือพิมเสนในสถานะ รอคอยอย่างอดทน และรับฟัง
แกส๊ ) แนวความคิดของนักเรียน
ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่าพิมเสนในสถานะแก๊สเรียกว่า ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม
ไอของพิมเสน
6.4 เมื่อให้ความร้อน พิมเสนมีการเปล่ียนสถานะหรือไม่ และ ครูควรสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ
เปลี่ยนจากสถานะใดเป็นสถานะใด รู้ได้อย่างไร (เม่ือให้ เปล่ียนสถานะของสสารจากเว็บไซต์ท่ี
ความร้อนพิมเสนมีการเปล่ียนสถานะ จาก ของแข็ง เป็น น่าเช่ือถือไว้ล่วงหน้าประมาณ 3-4 เว็บไซต์
แก๊ส รู้ได้จากพิมเสนในบีกเกอร์มีปริมาณน้อยลงและได้ และแนะนานักเรียนให้สืบค้นข้อมูลจาก
กลน่ิ ไอพิมเสน) เว็บไซต์ที่น่าเช่ือถือ
6.5 เมือ่ พิมเสน เยน็ ลง พมิ เสนมกี ารเปลย่ี นสถานะหรือไม่ และ
เปลี่ยนจากสถานะใดเป็นสถานะใด (เมื่อทาให้พิมเสนเย็น
ลงพมิ เสนมีการเปลี่ยนสถานะ จากแกส๊ เป็นของแขง็ สงั เกต
จากมีเกล็ดพิมเสนท่ีขอบรูของกระดาษแข็งและมีฝ้าขาว
เกาะที่ข้างๆ บกี เกอรแ์ ละแกว้ พลาสตกิ )
6.6 การเปลี่ยนสถานะของพิมเสนแต่ละช่วงเรียกว่าอะไรและ
เก่ียวข้องกับความร้อนอย่างไร (การเปล่ียนสถานะของ
พิมเสนจากของแข็งเป็นแก๊สเรียกว่า การระเหิด ช่วงนี
พิมเสนในสถานะของแข็งได้รับความร้อน และการเปล่ียน
สถานะของพิมเสนจากแกส๊ เป็นของแข็งเรยี กว่า การระเหิด
กลับ ช่วงนพี มิ เสนในสถานะแก๊สสญู เสียความรอ้ น)
ถ้านักเรียนตอบไม่ได้ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่าการเปล่ียน
สถานะของพิมเสนจากของแข็งเปน็ แกส๊ เรยี กว่า การระเหิด
และการเปลี่ยนสถานะของพิมเสนจากแก๊สเป็นของแข็ง
เรยี กวา่ การระเหิดกลับ
6.7 การเปล่ียนแปลงของพิมเสนเป็นการเปลี่ยนแปลงทาง
กายภาพหรือไม่ รู้ได้อย่างไร (การเปลี่ยนแปลงของพิมเสน
เป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ เน่ืองจาก พิมเสนท่ี
ระเหิดเป็นไอยังคงเป็นสารเดิม เพียงแต่มีสถานะเปลี่ยนไป
เท่านันและเม่ือไอของพิมเสนระเหิดกลับมาเป็นเกล็ด
พิมเสนซง่ึ ยังคงเป็นสารเดิม การเปลี่ยนแปลงของพิมเสนจึง
เปน็ การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ)
6.8 จากกิจกรรมนี ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
ของพิมเสน (เมื่อเกล็ดพิมเสนได้รบั ความร้อน เกล็ดพิมเสน
เปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นไอของพิมเสนซึ่งมีสถานะ
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบับปรับปรงุ เดือนมถิ ุนายน 2562
ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร 234
แก๊ส และเมือ่ ไอของพิมเสนสญู เสยี ความร้อนหรือเย็นลงจะ การเตรยี มตวั ล่วงหนา้ สาหรบั ครู
เปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง) เพอ่ื จดั การเรียนรใู้ นครัง้ ถัดไป
7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าเมื่อของแข็ง
ได้รับความร้อน ของแข็งบางชนิดเปล่ียนสถานะเป็นแก๊ส โดย ในครังถัดไป นักเรียนจะได้อ่าน
ไม่เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวก่อน เรียกการเปล่ียนสถานะนี เร่ืองท่ี 2 การละลาย ครูอาจเตรียมคลิป
ว่า การระเหิด และแก๊สบางชนิดสามารถเปลย่ี นสถานะกลับมา นาแข็งบริเวณขัวโลกกาลังหลอมเหลว
เป็นของแข็ง โดยไม่เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวก่อนเรียก และเตรียมสารละลายเกลือแกง โดยผสม
การเปล่ียนสถานะนีว่า การระเหิดกลับ การะเหิด และ เกลือแกงกับนาแล้วใส่ในภาชนะใสเพ่ือใช้
การระเหิดกลับเป็นการเปล่ียนสถานะซึ่งสารยังคงเป็นสารเดิม ในกิจกรรม
จงึ เป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ (S13)
8. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า นอกจากพิมเสนแล้ว ยังมีสารอ่ืนอีกที่
สามารถเกิดการระเหิดได้เช่นกัน เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
เมื่อทาให้เย็นลงถึงระดับหนึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นของแข็งได้
เรียกว่า นาแขง็ แห้ง
9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้
คาถามเพ่มิ เติมในการอภปิ รายเพอ่ื ใหไ้ ด้แนวคาตอบทีถ่ ูกต้อง
10. นักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนัน
นักเรียนอ่าน สิ่งที่ได้เรียนรู้ และเปรียบเทียบกับข้อสรุปของ
ตนเอง
11. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตังคาถามเกี่ยวกับเรื่องท่ีสงสัยหรือ
อยากรู้เพ่ิมเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนันครูอาจสุ่มนักเรียน
2 -3 คน นาเสนอคาถามของตนเองหน้าชันเรียน และให้
นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเกยี่ วกับคาถามท่ีนาเสนอ
12. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
อะไรบ้างและในขันตอนใด แล้วบันทึกลงในแบบบันทึก
กิจกรรมหน้า 99
13. ครูชักชวนนักเรียนอ่าน เกร็ดน่ารู้ แล้วร่วมกันอภิปรายสรุป
แนวคิดว่าควันสีขาวที่ลอยอยู่เหนือก้อนนาแข็งเกิดจากไอนา
ในบริเวณนันควบแน่นกลายเป็นละอองนาจึงทาให้มองเห็น
เป็นสขี าว
14. นักเรียนร่วมกันอ่าน รู้อะไรในเร่ืองน้ี ในหนังสือเรียนหน้า
92-94 ครูนาอภิปรายเพ่ือนาไปสู่ข้อสรุปเก่ียวกับส่ิงที่ได้
เรียนรู้ในเร่ืองนี จากนันครูกระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถาม
ในช่วงท้ายของเนือเรื่อง ซึ่งเป็นคาถามเพ่ือเชื่อมโยงไปสู่การ
เรียนเนือหาในเรื่องต่อไป ดังนี สสารนอกจากมีการเปลี่ยน
สถานะแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกบ้าง นักเรียน
ฉบับปรบั ปรุง เดอื นมถิ นุ ายน 2562 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
235 ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร
สามารถตอบตามความเข้าใจของตนเอง ซึ่งจะหาคาตอบท่ี
ถกู ตอ้ งจากการเรียนในเรื่องตอ่ ไป
ความรู้เพ่ิมเติมสาหรบั ครู
พมิ เสนและการบรู
พิมเสนเปน็ ชือ่ ของสารชนิดหนงึ่ เป็นสารทพ่ี บในพืช เชน่ ตน้ พิมเสน ตน้ หนาดหลวง พิมเสนเป็นเกล็ดเล็กๆ สขี าวขุ่น
เนือแนน่ กว่าการบูร ระเหิดได้ช้ากว่าการบูร ตดิ ไฟให้แสงจา้ และมคี วนั มาก ไม่มขี ีเถ้า พิมเสนบรสิ ุทธจ์ิ ะเปน็ ผลกึ รปู แผ่นหก
เหลยี่ ม มีจดุ หลอมเหลว 208 องศาเซลเซียส ละลายไดย้ ากในนา ละลายไดด้ ีในตวั ทาละลายชนดิ ขัวตา่ พมิ เสนมีกลิ่นหอมเยน็
ฉุน รสหอม เย็นปากคอ ปจั จุบนั พมิ เสนในธรรมชาตหิ ายากและมีราคาแพง จงึ มีการสงั เคราะหพ์ ิมเสนเพื่อนามาใช้ประโยชน์
เช่น เปน็ ส่วนผสมของยาหอมเพื่อบรรเทาอาการวงิ เวยี นศรีษะ
การบูรเป็นชื่อสารชนิดหน่ึง เปน็ สารท่พี บทัว่ ทุกส่วนของต้นการบรู มีมากทส่ี ุดในแก่นของราก เมอื่ นาเนือไม้สดมาทาให้
เป็นชนิ เล็กๆ ทาใหเ้ ป็นชินเล็ก นาไปกล่ันโดยใชไ้ อนา จะได้นามันระเหยงา่ ย การบูรจะตกผลึกแยกออกมา กรองแยกเอาผลกึ
การบรู ออก อาจทาให้ผลกึ บริสุทธมิ์ ากขึนโดยนาผลกึ มาระเหิดใหเ้ ปน็ ไอและไอของการบูรจะระเหิดกลับเป็นผลกึ การบูร การบรู
นามาใช้เป็นส่วนผสมในยาหอมตา่ ง ๆ
ท่ีมา : http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=93
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมิถนุ ายน 2562
ค่มู ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 236
แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม
อธบิ ายการเปลี่ยนสถานะของพิมเสน
พิมเสนเปน็ ของแขง็ สีขาว มีกลนิ่ เฉพาะตวั
ขึน้ อยู่กับการคาดคะเนของนักเรยี น เช่น เกลด็ พิมเสนบางสว่ นในบีกเกอร์
หายไป
ฉบบั ปรบั ปรุง เดอื นมถิ นุ ายน 2562 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
237 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
คาตอบขน้ึ อยู่กบั นักเรยี น
ครูควรกาชบั ให้นกั เรียนวาดรูปให้ใกลเ้ คียงกับส่งิ ท่ีสงั เกตได้จริงมากที่สดุ เชน่ วาด
ใหเ้ หน็ วา่ เมอ่ื พมิ เสนได้รบั ความรอ้ น เกลด็ พมิ เสนบางส่วนในบกี เกอร์หายไป มี
ของแข็งสขี าวเกาะขา้ งบีกเกอร์เหนือขนึ้ มาจากบรเิ วณก้นภาชนะ มีของแขง็ สีขาว
เกาะตามขอบรขู องกระดาษแข็ง
บรรยายลักษณะสี กลิ่นและ ตาแหน่งท่ีพบสารท่ีเกดิ การเปลี่ยนแปลง เช่น พบ
ของแข็งสขี าวท่ขี า้ งบีกเกอร์และ ของแขง็ สีขาวตามขอบรูของกระดาษแขง็ มกี ลิน่
เหมือนพิมเสน
พบของแข็งสีขาวทีข่ ้างบีกเกอร์และ ของแขง็ สขี าวตามขอบรขู องกระดาษแข็ง และ
มีกลิน่ พิมเสนออกมาจากบีกเกอร์
สมบัตขิ องสารทีอ่ ยูบ่ นกระดาษและในแกว้ พลาสติกเหมือนกบั สมบตั ิของพิมเสน
กอ่ นให้ความร้อน คอื เป็นของแข็ง สีขาว มกี ลิน่ เหมือนกนั
ของแข็ง แกส๊
การระเหดิ ของแข็ง
แก๊ส
การระเหิดกลับ
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบับปรับปรงุ เดือนมถิ นุ ายน 2562
คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร 238
คาตอบขึ้นอยู่กบั การคาดคะเนของนกั เรยี น ตวั อย่างเช่น เหมือนกบั ท่คี าดคะเน คือ
เกล็ดพิมเสนบางส่วนในบีกเกอร์หายไป
พิมเสนเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊ส เรียกวา่ การระเหิด และเปลี่ยน
สถานะจากแก๊สเป็นของแข็ง เรียกว่า การระเหิดกลับ
การเปลย่ี นสถานะของพิมเสนจากของแข็งเปน็ แกส๊ เกดิ จากพมิ เสนไดร้ ับความรอ้ น
การเปลี่ยนสถานะของพิมเสนจากแก๊สเปน็ ของแขง็ เกดิ จากพิมเสนสูญเสียความร้อน
การเปล่ียนสถานะของพิมเสนเป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพเน่อื งจากสารที่
ได้จากเกดิ การเปล่ียนสถานะยงั เปน็ พิมเสนเหมือนเดมิ แตส่ ถานะเปลย่ี นไป
ฉบับปรบั ปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
239 คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
เม่อื พิมเสนไดร้ บั ความร้อน พิมเสนจะเปล่ียนสถานะจากของแข็งเปน็ แก๊สโดยไมเ่ ป็น
ของเหลวก่อน และเมื่อดับไฟและวางไว้ 5 นาที พมิ เสนสูญเสียความร้อนและเปลย่ี น
สถานะจากแกส๊ เป็นของแข็งโดยไมเ่ ป็นของเหลวก่อน
สสารบางชนดิ สามารถเปล่ียนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สไดโ้ ดยไม่เปลี่ยนสถานะเปน็
ของเหลวก่อน เรยี กการเปลี่ยนสถานะน้ีวา่ การระเหิด และเปลีย่ นสถานะจากแกส๊ เป็น
ของแข็งโดยไม่เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวก่อนเรยี กการเปลย่ี นสถานะนีว้ ่า การระเหิด
กลบั
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมิถุนายน 2562
คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 240
คาถามของนกั เรียนท่ีต้ังตามความอยากรู้ของตนเอง
ฉบบั ปรบั ปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
241 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
แนวการประเมินการเรียนรู้
การประเมนิ การเรียนรู้ของนักเรียนทาได้ ดังนี
1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการสารวจความรู้กอ่ นเรียนและการอภิปรายในชันเรียน
2. ประเมินการเรียนรู้จากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจัดการเรยี นรูแ้ ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม
3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนักเรียน
การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 1.3 พมิ เสนเปลี่ยนสถานะอย่างไร
ระดบั คะแนน
3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง
รหสั ส่ิงทีป่ ระเมนิ ระดบั คะแนน
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสงั เกต
S5 การหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสเปซกบั สเปซ
S8 การลงความเห็นจากขอ้ มลู
S13 การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
C4 การสอื่ สาร
C5 ความร่วมมอื
C6 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมิถุนายน 2562
คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 242
ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเ้ กณฑ์การประเมิน ดงั นี
ทักษะ ระดับความสามารถ
กระบวนการทาง รายการประเมิน
วทิ ยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสัมผัส สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท
รายละเอียด เกบ็ รายละเอยี ดเกีย่ ว สมั ผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเกบ็
เก่ยี วกบั สมบตั ขิ อง สมบตั ิของพมิ เสนและ เก่ียวกบั สมบตั ขิ อง รายละเอียด
พิมเสนและการ การเปล่ียนแปลงท่เี กิด พมิ เสนและการ เกย่ี วกับสมบัตขิ อง
เปลย่ี นแปลงท่ีเกดิ ขนึ กบั พิมเสนเม่ือไดร้ ับ เปล่ยี นแปลงท่ีเกดิ ขนึ กบั พมิ เสนและ
ขนึ กับพิมเสนเม่ือ ความร้อนและสญู เสีย พิมเสนเม่ือไดร้ บั ความ การเปล่ียนแปลงที่
ไดร้ บั ความร้อน ความร้อน เชน่ พมิ เสน รอ้ นและสญู เสียความ เกดิ ขนึ กับพิมเสน
และสญู เสียความ เปน็ เกลด็ สขี าว มกี ล่นิ ร้อน เชน่ พมิ เสนเปน็ เมอ่ื ได้รับความร้อน
ร้อน เช่น พิมเสน เมื่อนาไปตงั ไฟเกล็ด เกลด็ สีขาว มีกลน่ิ และสูญเสีย
เป็นเกลด็ สีขาว มี พิมเสนบางสว่ นใน เม่ือนาไปตงั ไฟเกลด็ ความร้อนเช่น
กลิน่ บกี เกอร์หายไป มีของแข็ง พมิ เสนบางสว่ นใน พมิ เสนเปน็ เกลด็
เมอ่ื นาไปตังไฟ สขี าวเกาะขา้ งบีกเกอร์ บกี เกอร์หายไป มี สีขาว มีกล่นิ
เกล็ดพิมเสน เหนือขนึ มาจากบรเิ วณ ของแขง็ สีขาวเกาะข้าง เม่อื นาไปตงั ไฟ
บางสว่ นใน ก้นภาชนะ มขี องแข็ง บกี เกอรเ์ หนือขึนมาจาก เกล็ดพมิ เสน
บีกเกอรห์ ายไป มี สขี าวเกาะตามขอบรขู อง บริเวณก้นภาชนะ มี บางสว่ นในบกี เกอร์
ของแขง็ สีขาวเกาะ กระดาษแข็ง ของแขง็ สีขาวเกาะตาม หายไป มขี องแขง็
ข้างบกี เกอร์เหนือ เมื่อดบั ไฟ พบของแข็ง ขอบรขู องกระดาษแข็ง สขี าวเกาะข้าง
ขนึ มาจากบริเวณ สีขาวทข่ี า้ งบีกเกอรแ์ ละ เมอ่ื ดบั ไฟ พบของแขง็ บกี เกอรเ์ หนอื ขึนมา
ก้นภาชนะ มี ของแขง็ สขี าวตามขอบรู สขี าวทข่ี ้างบีกเกอรแ์ ละ จากบริเวณกน้
ของแข็งสีขาวเกาะ ของกระดาษแข็ง และมี ของแขง็ สขี าวตามขอบรู ภาชนะ มีของแขง็
ตามขอบรขู อง กลน่ิ พมิ เสนออกมาจาก ของกระดาษแขง็ และมี สขี าวเกาะตามขอบ
กระดาษแข็ง บีกเกอร์ได้ดว้ ยตนเอง กล่นิ พมิ เสนออกมาจาก รูของกระดาษแข็ง
เมอ่ื ดบั ไฟ พบ บีกเกอร์จากการชแี นะ เมือ่ ดับไฟ พบ
ของแข็งสขี าวที่ ของครูหรอื ผูอ้ ื่น หรือมี ของแข็งสขี าวที่ขา้ ง
ข้างบีกเกอร์และ การเพ่ิมเตมิ ความคิดเหน็ บกี เกอรแ์ ละ
ของแข็งสีขาวตาม ของแข็งสีขาวตาม
ขอบรูของกระดาษ ขอบรขู องกระดาษ
แขง็ และมีกลนิ่ แข็ง และมกี ลิน่
พมิ เสนออกมาจาก พิมเสนออกมาจาก
บีกเกอร์ บีกเกอร์เพียงบาง
ลกั ษณะแม้วา่ จะได้
รับคาชแี นะจากครู
หรอื ผู้อ่ืน
ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
243 คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
ทกั ษะ รายการประเมิน ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1)
กระบวนการทาง
การบรรยาย สามารถระบุ พอใช้ (2) สามารถระบุ
วิทยาศาสตร์ ลกั ษณะการ การครอบครองพืนทขี่ อง การครอบครองพืนที่
S5 การหา ครอบครองพืนท่ี พมิ เสนเมื่อได้รับ สามารถระบุ ของพมิ เสนเม่ือ
ความสัมพนั ธ์ ของพิมเสนเมื่อ ความรอ้ นและเมื่อวางให้ การครอบครองพืนทีข่ อง ไดร้ ับความร้อนและ
ระหว่างสเปซ ได้รับความร้อน เยน็ ได้แก่ พิมเสนเปน็ พิมเสนเม่ือได้รบั เมื่อวางใหเ้ ย็น ไดแ้ ก่
กับสเปซ และวางไว้ใหเ้ ยน็ เกลด็ สีขาวอยู่ที่ ความรอ้ นและเม่ือวางให้ พมิ เสนเป็นเกลด็
ได้แก่ พิมเสนเป็น กน้ ภาชนะ เย็น ไดแ้ ก่ พิมเสนเปน็ สขี าวอยู่ทกี่ ้น
S8 การลง เกล็ดสขี าวอยู่ท่ี เม่ือนาไปตงั ไฟ เกล็ดสขี าวอยทู่ ่ี ภาชนะ เมอ่ื นาไป
ความเห็นจาก ก้นภาชนะ เกล็ดพิมเสนบางส่วนที่ กน้ ภาชนะ เมือ่ นาไป ตงั ไฟเกลด็ พมิ เสน
ข้อมูล เมือ่ นาไปตังไฟ กน้ บกี เกอร์หายไป มี ตังไฟเกล็ดพิมเสน บางส่วนทีก่ น้
เกลด็ พิมเสน ของแขง็ สขี าวเกาะข้าง บางสว่ นทกี่ ้นบีกเกอร์ บีกเกอรห์ ายไป มี
บางส่วนที่กน้ บกี เกอร์เหนือขึนมาจาก หายไป มขี องแขง็ สีขาว ของแข็งสขี าวเกาะ
บีกเกอร์หายไป มี บริเวณก้นภาชนะ มี เกาะข้างบีกเกอร์เหนือ ข้างบีกเกอร์เหนือ
ของแข็งสขี าวเกาะ ของแข็งสขี าวเกาะตาม ขนึ มาจากบริเวณ ขึนมาจากบรเิ วณ
ขา้ งบกี เกอร์เหนือ ขอบรูของกระดาษแข็ง กน้ ภาชนะ มีของแขง็ กน้ ภาชนะ มี
ขนึ มาจากบรเิ วณ ได้อย่างถูกตอ้ งไดด้ ว้ ย สขี าวเกาะตามขอบรูของ ของแขง็ สีขาวเกาะ
กน้ ภาชนะ มี ตัวเอง กระดาษแข็ง ตามขอบรูของ
ของแข็งสีขาวเกาะ ได้จากครูหรือผู้อื่นช่วย กระดาษแข็ง
ตามขอบรขู อง แนะนาหรือชีแนะ ได้เพยี งบาง
กระดาษแข็ง ตาแหนง่ แมว้ ่าครู
สามารถลงความเห็นจาก หรือผู้อืน่ ช่วย
การลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก ข้ อ มู ล ว่ า พิ ม เ ส น จ ะ แนะนาหรือชีแนะ
ร ะ เ หิ ด เ มื่ อ ไ ด้ รั บ ค ว า ม
จากข้อมลู วา่ ข้อมูลว่าพิมเสนจะระเหิด ร้อนโดยนาไปตังไฟและ สามารถลง
พิ ม เ ส น จ ะ ร ะ เ หิ ด ก ลั บ ความเห็นจากขอ้ มลู
พมิ เสนจะระเหดิ เม่ือได้รับความร้อนโดย เ มื่ อ สู ญ เ สี ย ค ว า ม ร้ อ น ว่าพิมเสนจะระเหิด
จ า ก ก า ร ชี แ น ะ ข อ ง ค รู เมื่อได้รับความร้อน
เม่อื ได้รบั นาไปตังไฟและพิมเสนจะ หรือผู้อ่นื โดยนาไปตังไฟและ
พิ ม เ ส น จ ะ ร ะ เ หิ ด
ความรอ้ นโดยนาไป ระเหิดกลับเมื่อสูญเสีย ก ลั บ เ มื่ อ สู ญ เ สี ย
ความร้อนได้แต่ไม่
ตังไฟและพมิ เสนจะ ความร้อนได้ดว้ ยตนเอง ครบถ้วนแม้ว่าจะได้
รับคาชีแนะจากครู
ระเหิดกลับเมื่อ หรอื ผอู้ นื่
สูญเสียความร้อน
สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562
คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 244
ทกั ษะ รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1)
กระบวนการทาง
ตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย พอใช้ (2) สามารถ
วทิ ยาศาสตร์ ข้อมูลจาก ข้อมลู จากการสังเกต ตคี วามหมายข้อมูล
การสงั เกต การเปล่ียนแปลงของ สามารถตีความหมาย จากการสงั เกต
S13 การ การเปลยี่ นแปลง พิมเสนและลงข้อสรปุ ได้ ข้อมลู จากการสงั เกต การเปล่ียนแปลง
ตคี วามหมาย ของพมิ เสนไปเปน็ วา่ สสารสามารถเปลีย่ น การเปล่ยี นแปลงของ ของพมิ เสนและ
ขอ้ มลู และลง ไอของพิมเสนและ สถานะจากของแข็งเปน็ พิมเสนและลงข้อสรปุ ได้ ลงขอ้ สรุปไดว้ า่
ข้อสรุป ไอของพมิ เสน แกส๊ เมื่อได้รบั ความร้อน วา่ สสารสามารถเปลยี่ น สสารสามารถ
เปล่ียนเปน็ โดยไม่ผ่านการเปน็ สถานะจากของแข็งเปน็ เปลี่ยนสถานะจาก
เกล็ดพิมเสนและ ของเหลวก่อนและ แกส๊ เมื่อได้รบั ความรอ้ น ของแขง็ เปน็ แกส๊
ลงข้อสรุปเกย่ี วกับ สามารถเปลี่ยนจากแกส๊ โดยไมผ่ ่านการเปน็ เมื่อได้รบั ความร้อน
การเปลีย่ นสถานะ เป็นของแข็งเมือ่ สญู เสยี ของเหลวก่อนและ โดยไมผ่ ่านการเปน็
ไดว้ ่าสสารสามารถ ความร้อนโดยไมผ่ ่าน สามารถเปลยี่ นจากแก๊ส ของเหลวก่อนและ
เปลีย่ นสถานะจาก การเป็นของเหลวก่อนได้ เป็นของแข็งเมอื่ สญู เสีย สามารถเปล่ียนจาก
ของแขง็ เป็นแกส๊ ด้วยตนเอง ความรอ้ นโดยไมผ่ ่าน แก๊สเปน็ ของแข็ง
เมื่อได้รบั ความ การเปน็ ของเหลวก่อน เม่ือสูญเสยี
รอ้ นโดยไม่ผ่าน จากการชแี นะของครู ความร้อนโดยไม่
การเปน็ ของเหลว หรอื ผอู้ ่นื ผา่ นการเป็น
ก่อนและสามารถ ของเหลวก่อนแต่ไม่
เปลย่ี นจากแก๊ส ครบถ้วน แมว้ ่าจะ
เป็นของแขง็ เมอ่ื ได้รับคาชแี นะจาก
สญู เสียความรอ้ น ครหู รือผอู้ ่นื
โดยไมผ่ ่านการเป็น
ของเหลวก่อน
ฉบับปรับปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
245 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรียน
โดยอาจใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ดังนี
ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรุง (1)
ศตวรรษท่ี 21 สามารถนาเสนอข้อมลู พอใช้ (2)
C4 การสอื่ สาร การนาเสนอขอ้ มลู การเปลีย่ นแปลงของ สามารถนาสนอขอ้ มูล
จากการสงั เกตและ พมิ เสนในภาชนะเม่อื สามารถนาเสนอข้อมูลแสดง แสดงการเปลยี่ นแปลง
C5 ความ อภิปรายเกี่ยวกบั ไดร้ บั หรอื สญู เสยี การเปลยี่ นแปลงของพิมเสน ของพมิ เสนในภาชนะ
ร่วมมือ การเปล่ยี นแปลง ความร้อนให้ผู้อืน่ เข้าใจ ในภาชนะเมอื่ ได้รับหรือ เมอื่ ไดร้ ับหรือสูญเสีย
ของพิมเสนเมื่อ โดยการใชค้ าพดู สญู เสียความรอ้ นใหผ้ ู้อนื่ ความรอ้ นให้ผู้อ่ืนเข้าใจ
C6 การใช้ ไดร้ บั ความร้อน บรรยาย วาดภาพได้ เข้าใจโดยการใช้คาพดู โดยการใชค้ าพูด
เทคโนโลยี และสูญเสีย ถกู ต้องด้วยตนเอง บรรยาย วาดภาพได้ถูกต้อง บรรยาย วาดภาพได้
สารสนเทศ ความรอ้ นโดย จากการชแี นะของครูหรือ ถูกต้องบางสว่ นแมว้ ่า
การใชค้ าพูด สามารถทางานรว่ มกับ ผอู้ ื่น จะได้รบั คาชแี นะจาก
บรรยาย วาดภาพ ผอู้ ืน่ ในการสังเกต การ ครหู รือผูอ้ น่ื
การทางานรว่ มกับ นาเสนอ และการแสดง สามารถทางานรว่ มกับผูอ้ ืน่
ผอู้ ่ืนในการสังเกต ความคิดเห็นเกย่ี วกบั ในการสังเกต การนาเสนอ สามารถทางานรว่ มกบั
การนาเสนอ และ การเปลี่ยนสถานะของ และการแสดงความคดิ เหน็ ผู้อน่ื ในการสงั เกต การ
การแสดงความ พมิ เสนรวมทงั ยอมรบั เกย่ี วกับการเปลย่ี นสถานะ นาเสนอ และการแสดง
คดิ เหน็ เกยี่ วกับ ความคดิ เห็นของผู้อ่นื ของพมิ เสนรวมทังยอมรับ ความคดิ เห็นเกย่ี วกับ
การเปลย่ี นสถานะ ตังแตเ่ รม่ิ ต้นจนสาเรจ็ ความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื บาง การเปล่ยี นสถานะของ
ของพิมเสนรวมทัง ชว่ งเวลาทท่ี ากจิ กรรม พิมเสนรวมทังยอมรบั
ยอมรบั ความ สามารถใช้อินเทอร์เนต ความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน
คดิ เห็นของผูอ้ น่ื สบื ค้นชื่อการเปล่ยี น ไดบ้ า้ ง
การใช้อนิ เทอร์เนต สถานะของสสารจาก
เพ่อื สบื ค้นชอ่ื การ จากของแข็งเป็นแก๊ส สามารถใช้อนิ เทอร์เนต สามารถใช้อนิ เทอร์เนต
เปลีย่ นสถานะของ และจากแกส๊ เปน็ สบื คน้ ชอื่ การเปล่ยี นสถานะ สืบคน้ ชื่อการเปลีย่ น
สสารจากของแขง็ ของแข็งโดยไม่ผา่ น ของสสารจากของแข็งเป็น สถานะของสสารจาก
เปน็ แกส๊ และจาก การเปน็ ของเหลวก่อน แก๊สและจากแกส๊ เป็น ของแขง็ เปน็ แก๊สและ
แก๊สเป็นของแข็ง ได้ด้วยตนเอง ของแขง็ โดยไม่ผา่ นการเป็น จากแก๊สเป็นของแข็ง
โดยไมผ่ า่ นการเป็น ของเหลวก่อน จากการ โดยไม่ผา่ นการเป็น
ของเหลวก่อน ชแี นะของครูหรือผู้อ่นื ของเหลวก่อนได้ไม่
ครบถ้วน แมว้ ่าจะได้
รบั คาชแี นะจากครหู รือ
ผอู้ ่ืน
สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมิถุนายน 2562
คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร 246
เรือ่ งท่ี 2 การละลาย
ในเร่ืองนีนักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการละลาย เอ
ของสารในนา
เวลา 2 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
สงั เกตและอธิบายการละลายของสารในนา
สื่อการเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้
1. หนังสือเรยี น ป.5 เล่ม 1 หนา้ 95-99
2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.5 เล่ม 1 หนา้ 100-105
วัสดุ อุปกรณ์สาหรับทากจิ กรรม
แก้วพลาสติก พิมเสน แป้งมัน นา นาตาลทราย นามนั พืช
ทานอล ชอ้ นตกั สารเบอร์ 2 แทง่ แก้วคน
ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมถิ นุ ายน 2562 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
247 คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
แนวการจัดการเรยี นรู้ (50 นาท)ี
ขนั้ ตรวจสอบความรู้ (5 นาที)
1. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและให้นักเรียน ในการตรวจสอบความรู้
ยกตัวอยา่ ง ค รู เ พี ย ง รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง
นักเรียนและยังไม่เฉลยคาตอบ
2. ครูให้นักเรียนสังเกตเกลือแกง นาและสารผสมระหว่างเกลือแกงกับนา ใด ๆ แต่ชักชวนให้นักเรียนไป
อภปิ รายโดยใชค้ าถามตอ่ ไปนี หาคาตอบด้วยตนเองจากการ
2.1 เมอ่ื นาเกลอื แกงผสมกับนาเกิดการเปลยี่ นแปลงหรือไม่ รู้ได้อย่างไร อ่านเนือเรือ่ ง
(นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ เช่น เกิดการเปลีย่ นแปลง เกลอื แกง
จะหายไปอย่ใู นนา)
2.2 การเปล่ียนแปลงที่เกิดขึนเป็นการเปลี่ยนสถานะหรือไม่ เพราะเหตุ
ใด (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ เชน่ เกลือแกงเปล่ียนสถานะจาก
ของแขง็ เปน็ ของเหลว เพราะไม่พบเกลอื แกงท่ีเปน็ ของแข็ง สว่ นนา
ไมเ่ ปล่ียนสถานะเพราะนายังเปน็ ของเหลวเหมือนเดิม)
2.3 ร้หู รือไม่ว่า การเปล่ียนแปลงทเ่ี กิดขนึ เรียกวา่ อะไร (นักเรยี นตอบ
ตามความเขา้ ใจ ครูบนั ทึกคาตอบของนักเรยี นแตย่ งั ไม่เฉลย
คาตอบ)
ครูแจ้งนักเรียนว่าการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึนเม่ือนาเกลือแกงผสมกับนาเป็น
การเปลี่ยนแปลงอะไร นักเรียนจะสามารถทาความเข้าใจได้จากการเรียนใน
เรอื่ งที่ 2 ตอ่ ไป
ขั้นฝกึ ทกั ษะจากการอา่ น (35 นาท)ี
3. ครใู หน้ ักเรยี นอ่าน ช่ือเรื่อง และ คิดก่อนอ่าน ในหนังสอื เรียนหน้า 95 แล้ว
ร่วมกันอภิปรายในกลุ่มเพื่อหาแนวคาตอบตามความเข้าใจของกลุ่ม ครูสุ่ม
นักเรียนบางกลุ่มนาเสนอคาตอบ ครูบันทึกคาตอบของนักเรียนบนกระดาน
เพ่อื ใชเ้ ปรยี บเทียบคาตอบหลงั การอ่านเรอ่ื ง
4. นักเรียนอ่านคาใน คาสาคัญ ทังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียน
อ่านไม่ได้ ครูควรสอนอ่านให้ถูกต้อง) จากนันครูชักชวนให้นักเรียนอธิบาย
ความหมายของคาภายหลังจากการอ่านเนอื เร่ือง
5. นักเรียนอ่านเนือเรื่องในหนังสือเรียนหน้า 95 โดยครูฝึกการอ่านด้วยวิธีที่
เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ครูใช้คาถามเพ่ือตรวจสอบความ
เข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คาถามดงั นี
5.1 เพราะเหตุใดนาทะเลจึงมีรสเค็ม (นาฝนจะละลายเกลือแกงและไหลลง
สู่ทะเลเมื่อเวลาผ่านไปปริมาณเกลือแกงในนาทะเลมีมากขนึ เรื่อยๆ จงึ
ทาใหน้ าทะเลมีรสเค็ม)
ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่า เกลือแกงที่อยู่ในนาทะเลเกิดจากการสะสม
ปริมาณเกลือแกงในนาทะเลอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ
สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรงุ เดือนมถิ นุ ายน 2562
คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 248
เวลานานมาก ในอดีตสารที่เป็นองค์ประกอบของเกลือแกงพบใน
พืนดิน และหิน เมื่อนาฝนตกลงบริเวณพืนดินหรือหินบริเวณที่มีสาร
เหล่านี สารเหล่านีจะละลายมากับนาฝน และไหลมาตามแม่นาลาธาร
และไหลลงสู่ทะเล ผ่านไปหลายล้านปี ปริมาณเกลือแกงในทะเลจะมี
มากขนึ ๆ จนทาใหน้ าทะเลมีรสเคม็
5.2 นาแข็งเปลี่ยนเป็นนาเป็นการละลายหรือไม่ เพราะเหตุใด (นาแข็ง
เปลี่ยนเป็นนาไม่ใช่การละลาย แต่เป็นการหลอมเหลวซึ่งเป็นการ
เปลยี่ นสถานะของสสารจากของแขง็ เป็นของเหลว)
ขั้นสรุปจากการอา่ น (10 นาท)ี
6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องท่ีอ่านซ่ึงควรสรุปได้ว่านาทะเลมีรสเค็ม
เนื่องจากเกลือแกงละลายมากับนาและปริมาณเกลือแกงท่ีสะสมในทะเล
เพ่ิมมากขึนเร่ือยๆ จึงทาให้นาทะเลมีรสเค็ม ส่วนนาแข็งเปลี่ยนเป็นนาไม่ใช่
การละลายแตเ่ ป็นการหลอมเหลว
7. นักเรียนตอบคาถามใน รหู้ รอื ยงั ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 100
8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนใน
รู้หรอื ยังกบั คาตอบท่เี คยตอบในคดิ ก่อนอ่าน
9. ครูชกั ชวนนักเรยี นลองตอบคาถามทา้ ยเรือ่ งทอี่ ่าน ดังนี
การละลายแตกต่างจากการหลอมเหลวอย่างไร
ครูบันทึกคาตอบของนักเรียนบนกระดาน โดยยังไม่เฉลยคาตอบแต่
ชักชวนให้นกั เรียนหาคาตอบจากการทากจิ กรรม
ฉบับปรบั ปรุง เดือนมถิ ุนายน 2562 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
249 คูม่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสาร
แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม
น้าฝนจะละลายเกลอื แกงและไหลลงสู่ทะเลเม่ือเวลาผา่ นไปปรมิ าณเกลอื แกง
ในน้าทะเลมมี ากขึ้นเรอ่ื ยๆ จึงทาใหน้ า้ ทะเลมีรสเค็ม
นา้ แข็งเปล่ียนเป็นนา้ ไม่เป็นการละลาย แต่เปน็ การเปลี่ยนสถานะจากของแข็ง
(นา้ แขง็ ) เป็นของเหลว (นา้ ) ซึ่งเรยี กวา่ การหลอมเหลว
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรุง เดอื นมถิ ุนายน 2562
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร 250
กจิ กรรมท่ี 2 การละลายเปน็ อย่างไร
กิจกรรมนีนักเรียนจะได้สังเกตและอธิบายการละลายของ
สารในนา
เวลา 1 ชวั่ โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
ทากจิ กรรมนเี พ่ือสังเกตและอธบิ ายการละลายของสารในนา
วสั ดุ อปุ กรณส์ าหรบั ทากจิ กรรม
ส่ิงท่คี รตู ้องเตรยี ม/กลุ่ม
ส่งิ ทค่ี รูต้องเตรียม/กลุ่ม
1. แปง้ มัน 2 ช้อนเบอร์ 2
2. นาตาลทราย 2 ช้อนเบอร์ 2
3. เอทานอล 10 cm3
10 cm3
4. นามันพืช
5. พิมเสน 2 ชอ้ นเบอร์ 2
6. ช้อนตักสารเบอร์ 2 5 คนั
7. แก้วพลาสติก 5 ใบ
8. นา 200 cm3
9. แทง่ แก้วคน 1 อนั
ส่งิ ท่คี รูต้องเตรียม/คน ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
- C4 การสื่อสาร
C5 ความรว่ มมือ
สิ่งทนี่ กั เรยี นตอ้ งเตรียม/กลมุ่ C6 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
-
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ สือ่ การเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้
S1 การสงั เกต 1. หนงั สอื เรยี น ป.5 เลม่ 1 หน้า 96-103
S5 การหาความสมั พนั ธร์ ะหว่างสเปซกับสเปซ
S8 การลงความเห็นจากข้อมูล 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.5 เล่ม 1 หน้า 101-110
S13 การตีความหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป
3. ตวั อยา่ งวีดิทศั น์ปฏบิ ัติการวทิ ยาศาสตร์สาหรับครู
เรอ่ื ง การละลายเป็นอยา่ งไร
ฉบับปรบั ปรุง เดือนมถิ นุ ายน 2562 http://ipst.me/8929
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
251 คูม่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 การเปลีย่ นแปลงของสาร
แนวการจดั การเรียนรู้ หากนักเรียนไม่สามารถ
ตอบคาถามหรืออภิปรายได้ตาม
1. นักเรียนเปิด อ่านช่ือกิจกรรม ในหนังสือเรียนหน้า 96 ครู แนวคาตอบ ครูควรให้เวลา
ตรวจสอบความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี น โดยอาจใชค้ าถามดังนี นั ก เ รี ย น คิ ด อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
1.1 กิจกรรมนจี ะเรยี นเกย่ี วกับเรื่องอะไร (การละลาย) รอคอยอย่างอดทน และรับฟัง
1.2 นักเรียนคิดว่าเมื่อนานาตาลทรายผสมนาจะเกิดการ แนวความคิดของนกั เรียน
ละลายหรือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง
เชน่ ละลายหรือไม่ละลาย) ฉบบั ปรบั ปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562
1.3 นักเรียนคิดว่าการละลายเป็นอย่างไร (นักเรียนตอบตาม
ความเขา้ ใจของตัวเอง)
ครูชักชวนนกั เรียนหาคาตอบจากการทากิจกรรม
2. นักเรียนอ่านทาเป็นคิดเป็นและร่วมกันอภิปรายเพ่ือตรวจสอบ
ความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทากิจกรรม โดยครูใช้
คาถามตอ่ ไปนี
2.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร (เก่ียวกับ
เรอ่ื งการละลาย)
2.2 นักเรยี นจะได้เรียนรู้ผ่านวธิ กี ารใด (การสงั เกต)
2.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายการละลาย
ของสารในนา)
3. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ของกิจกรรมลงในแบบบันทึกกิจกรรม
หนา้ 101
4. นกั เรียนอา่ นสิ่งทตี่ ้องใช้ ในการทากจิ กรรม
5. นักเรียนอ่านทาอย่างไรข้อที่ 1 และ ข้อท่ี 2 ครูตรวจสอบความ
เข้าใจวิธีการทากิจกรรม โดยให้นักเรียนสังเกตลักษณะของสารใน
แก้วแต่ละใบ ได้แก่ แป้งมัน พิมเสน นาตาลทราย นามันพืช และ
เอทานอลและบันทึกลักษณะของสาร จากนันให้นักเรียนคาดคะเน
คาตอบพรอ้ มใหเ้ หตุผลโดยใชค้ าถามดงั นี
5.1 นักเรียนคิดว่าจะเกิดอะไรขึนบ้างเม่ือเติมนาลงไปในแก้วแต่ละ
ใบ (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตวั เอง)
นั ก เ รี ย น บั น ทึ ก ก า ร ค า ด ค ะ เ น ล ง ใ น ต า ร า ง ใ น แ บ บ บั น ทึ ก
กิจกรรม หนา้ 102
6. นักเรียนอ่านทาอย่างไรข้อที่ 3 ครูตรวจสอบความเข้าใจของ
นักเรียนว่านักเรียนจะทากิจกรรมตรวจสอบการคาดคะเนได้
อยา่ งไร (นักเรยี นนาสารแตล่ ะชนิดในปรมิ าณเท่า ๆ กนั บรรจุสาร
ลงในแกว้ พลาสติกแต่ละใบจากนนั รนิ นาปริมาณเทา่ กันลงในแก้วที่
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร 252
มีสารแต่ละชนิด คนสารในแก้วด้วยจานวนครังที่เท่ากัน หยุดคน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะ
วางไว้สักครู่ สังเกตลักษณะของสารที่ได้ บันทึกผลในแบบบันทึก แห่งศตวรรษท่ี 21 ท่ีนักเรียนจะได้ฝึกจากการ
กจิ กรรมหนา้ 102) ทากจิ กรรม
7. นักเรียนอ่านทาอย่างไรข้อท่ี 4 จากนันครูตรวจสอบความเข้าใจ
ขนั ตอนการทากิจกรรมทีละขันจนแน่ใจวา่ นักเรยี นสามารถทาได้ S1 การสงั เกตลักษณะของสารกอ่ นและ
8. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้วครูแจกวัสดุ หลังผสมนาและการเปล่ียนแปลงที่เกดิ ขึน
อุปกรณ์ และให้นักเรียนเร่ิมปฏิบัติกิจกรรมตามขันตอน ครูสุ่ม เมอื่ ผสมสารกับนา
นักเรียนนาเสนอผลการทากิจกรรมโดยให้นักเรียนเติมผลที่ได้จาก S5 การหาความสมั พนั ธร์ ะหว่างสเปซกบั สเป
การทากิจกรรมลงในตารางท่ีครูเขียนไว้บนกระดานจากนันครูและ ซจากลักษณะ การครอบครองพนื ที่ของ
นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือตรวจสอบผลการทากิจกรรมและ สารหลังผสมนา
เพิม่ เติมในประเด็นที่ยงั ไมส่ มบรู ณ์ให้ครบถว้ นถกู ต้อง S8 การลงความเหน็ จากข้อมูลจากการ
9. หลงั จากทากจิ กรรมแลว้ ให้นกั เรียนเกบ็ อุปกรณใ์ หเ้ รียบร้อย ครนู า สังเกตลกั ษณะของสารหลงั ผสมนาและลง
อภิปรายผลการทากจิ กรรม โดยใช้คาถามดังนี ความเหน็ ว่าเกดิ การละลายหรอื ไมล่ ะลาย
9.1 เมอ่ื ผสมสารแต่ละชนดิ กับนา มีการเปลย่ี นแปลงอย่างไรบ้าง C4 การสือ่ สารจากการพูด เขียนบรรยาย
การเปลีย่ นแปลงเม่ือผสมสารกับนา
((1) แปง้ มันกระจายตวั อยใู่ นนา บางส่วนจมนา C5 ความร่วมมือจากการทางานร่วมกันใน
(2) พิมเสนลอยอยบู่ นผิวนา กลุ่ม
(3) นาตาลทรายมีขนาดเล็กลงและรวมเป็นเนือเดียวกับนา ได้ C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สอ่ื สารจากการใช้อนิ เทอร์เนตสบื คน้ ข้อมูล
ของเหลวใสไม่มสี ี เกยี่ วกบั การละลาย
(4) นามันพืชแยกชนั กบั นาและลอยอยู่บนผิวนา
(5) เอทานอลรวมเป็นเนอื เดยี วกบั นาไดข้ องเหลวใสไม่มสี ี)
9.2 นาตาลทรายหายไปจากนาหรือไม่ อย่างไร (นาตาลทรายไม่ได้
หายไปไหน แต่แตกตัวออกมีขนาดเล็กลงมาก ๆ หรือเป็น
อนภุ าคเล็กๆ จนมองไมเ่ ห็นและรวมเป็นเนือเดยี วกับนา)
9.3 การที่นาตาลทรายรวมเป็นเนือเดียวกับนา เรียกว่าอะไร
(นาตาลทรายละลายในนา)
9.4 การท่ีแป้งมันและพิมเสนไม่รวมเป็นเนือเดียวกับนา เรียกว่า
อะไร (แปง้ มันและพิมเสนไม่ละลายนา)
9.5 อธิบายการเปลี่ยนแปลงของเอทานอลและนามนั พืชเม่ือเติมนา
ลงไปได้อย่างไร (เอทานอลละลายนา ส่วนนามันพืชไม่ละลาย
นา)
9.6 สารชนิดใดท่ีละลายเป็นเนือเดียวกับนาและสารชนิดใดไม่
ละลายนา (สารท่ีละลายเป็นเนือเดียวกับนา ได้แก่ นาตาล
ทรายและเอทานอล ส่วนสารที่ไม่ละลายนา ได้แก่ แป้งมัน
พิมเสน และนามันพชื )
ฉบบั ปรับปรงุ เดอื นมิถนุ ายน 2562 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
253 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร
9.7 จากกจิ กรรมนี นักเรียนจะสรปุ ไดอ้ ย่างไร (สารบางชนดิ ละลาย ในการตรวจสอบความรู้ ครู
เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน
นาได้ สว่ นสารบางชนดิ ไม่ละลายนา) เป็นสาคัญ และยังไม่เฉลย
คาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่
10. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่าการที่สารเปล่ียนแปลงโดยรวมเป็นเนือ ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบท่ี
ถูกต้องจากกิจกรรมต่าง ๆ ใน
เดียวกบั นาจนเราไม่สามารถมองเห็นสารนันได้ เรียกว่า การละลาย บทเรยี นนี
นาตาลทรายและเอทานอลละลายในนาได้โดยนาตาลทรายและ
เอทานอลแตกออกเป็นอนุภาคเล็กๆ แล้วอนุภาคเหล่านันกระจาย
ตัวแทรกอยู่ในนาอย่างสม่าเสมอทาให้มองเห็นเหมือนกันทุกส่วน
สารผสมนีจึงมีลักษณะเป็นสารเนือเดียว และเมื่อวางไว้จะไม่
ตกตะกอน สารผสมทม่ี ีลักษณะเชน่ นี เรียกว่า สารละลาย เมื่อสาร
เกิดการละลายยังคงแสดงสมบัติของสารเดิมอยู่ ดังนันการละลาย
จึงเป็นการเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ
ส่วนแป้งมัน พิมเสนและนามันพืช ไม่ละลายนา สังเกตได้
จากการมองเห็นสารเหล่านนั แยกส่วนจากนา ไมผ่ สมกลมกลืนเป็น
เนือเดยี วกันกบั นา สารผสมท่มี ลี ักษณะเช่นนี เรยี กว่า สารเนอื ผสม
สารผสมท่ีไม่รวมเป็นเนือเดียวกันโดยยังเห็นของแข็งกระจายอยใู่ น
นาและเม่ือวางไว้ของแข็งจะตกตะกอน เช่น แป้งมันในนา จัดเป็น
สารแขวนลอย ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่าสารแขวนลอยบางชนิด
ประกอบดว้ ยของแข็งกระจายอยู่ในแกส๊ เชน่ เขม่าในอากาศ
11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าสารบางชนิดซึ่ง
อาจเป็นของแข็ง ของเหลว สามารถรวมเป็นเนือเดียวกับนา
การเปลี่ยนแปลงนีเรียกว่าการละลาย สารที่ได้เรียกว่าสารละลาย
ส่วนบางชนิดไม่รวมเป็นเนือเดียวกับนา หรือไม่ละลายนา สารท่ีได้
เรียกว่าสารเนอื ผสม (S13)
12. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้
คาถามเพ่มิ เติมในการอภิปรายเพอื่ ให้ได้แนวคาตอบทีถ่ ูกต้อง
13. นักเรียนสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนันครูให้นักเรียน
อ่าน ส่งิ ทไี่ ด้เรียนรู้ และเปรยี บเทยี บกบั ขอ้ สรปุ ของตนเอง
14. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตังคาถามเกี่ยวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรือ
อยากรู้เพ่ิมเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนันครูอาจสุ่มนักเรียน 2 -
3 คน นาเสนอคาถามของตนเองหน้าชันเรียน และให้นักเรียน
ร่วมกนั อภปิ รายเก่ยี วกบั คาถามทน่ี าเสนอ
15. ครูนาอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
อะไรบ้างและในขันตอนใด แลว้ บันทึกลงในแบบบันทึกกจิ กรรม
หนา้ 105
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรงุ เดือนมิถนุ ายน 2562
คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสาร 254
16. นักเรียนร่วมกันอ่าน รู้อะไรในเร่ืองน้ี ในหนังสือเรียนหน้า 99
ครูนาอภิปรายเพื่อนาไปสู่ข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ในเร่ือง
นี จากนันครูกระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถามในช่วงท้ายของเนือ
เรื่อง ซึ่งเป็นคาถามเพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนเนือหาในบท
ถัดไป ดังนี นอกจากการเปลี่ยนสถานะและการละลายแล้ว สาร
เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบอ่ืนอีกหรือไม่ นักเรียนสามารถตอบ
ตามความเข้าใจของตนเอง ซ่ึงจะหาคาตอบได้จากการเรียนใน
บทตอ่ ไป
ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมถิ ุนายน 2562 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
255 คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงของสาร
แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม
สงั เกตและอธิบายการละลายของสารในนา้
ผงสขี าวละเอียด
เกลด็ สีขาว มกี ลิ่นเฉพาะตวั
เกล็ดสขี าวใส
ของเหลวสีเหลอื งใส
ของเหลวใสไมม่ ีสี
หมายเหตุ ลกั ษณะของสารอาจจะแตกต่างไปจากแนวคาตอบนข้ี ้ึนอยู่กับ
สารทน่ี ามาใชใ้ นการทากจิ กรรมให้บนั ทึกลักษณะตามจริง
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรับปรุง เดอื นมิถุนายน 2562
ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสาร 256
คาตอบขึ้นอยกู่ บั การ ของแข็งสขี าวบางส่วนลอย
คาดคะเนของนกั เรียน อยู่ในของเหลวและ
มีผงสขี าวทกี่ ้นภาชนะ
เกล็ดสีขาวลอยปะปนกับ
ของเหลว
ของเหลวใสไม่มีสี
ของเหลวแยกกัน 2 ชนั้
นา้ มันพชื สีเหลืองอยู่ชั้นบน
ของเหลว ไม่มีสีอยู่ช้ันล่าง
ของเหลวใสไม่มีสี
การเปลี่ยนแปลงทเ่ี กดิ จากสารสองชนดิ ขน้ึ ไปผสมเปน็ เน้อื เดยี วกนั สารชนิดหนง่ึ จะ
แตกเป็นอนุภาคเลก็ ๆ และกระจายตวั แทรกอยู่ระหวา่ งสารอีกชนดิ หนง่ึ โดยสารแต่ละ
ชนิดยังคงเปน็ สารเดิม
น้าตาลทรายกบั นา้ และเอทานอลกบั น้า
มองเห็นเปน็ เนอ้ื เดยี วกัน
ฉบบั ปรับปรุง เดือนมิถนุ ายน 2562 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
257 คูม่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสาร
ขน้ึ อยู่กับคาตอบของนกั เรยี น เช่น ผลการสังเกตเหมือนกับทีค่ าดคะเน ดังนี้เมอ่ื
ผสมน้ากับแป้งมนั น้าตาลทราย พมิ เสน เอทานอลและน้ามนั พืช แป้งมนั
พิมเสนและน้ามนั พืชไมร่ วมเป็นเน้อื เดยี วกับน้า ส่วนนา้ ตาลทรายและเอทานอล
รวมเปน็ เนื้อเดียวกับน้า
นา้ ตาลทรายและเอทานอลรวมเปน็ เนอ้ื เดยี วกบั นา้ สงั เกตได้จากสารผสมท่ีได้
เปน็ ของเหลวใสท้ังหมด
แปง้ มัน พิมเสนและน้ามนั พืชไม่รวมเปน็ เนอื้ เดยี วกับน้า สงั เกตได้จากสารผสมที่ได้
อาจลอยหรอื จมในของเหลว มสี ารแยกตวั ออกจากน้าจึงจัดเปน็ สารเนือ้ ผสม
น้ามีการละลายเกดิ ขึน้ ระหว่างน้าตาลทรายกับนา้ และเอทานอลกับน้า เพราะ
สารผสมท่ไี ดม้ องเหน็ เป็นเนอ้ื เดียวกนั
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรงุ เดอื นมถิ ุนายน 2562