The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

60100147124 ชีววิทยา สุทธิกา แสงแก้ว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by baysaengkaew, 2022-03-08 21:46:23

60100147124 ชีววิทยา สุทธิกา แสงแก้ว

60100147124 ชีววิทยา สุทธิกา แสงแก้ว

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ลงในชอ่ งท่ี

ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา ⬜ ⬜ ⬜

2 ความคิดสร้างสรรค์ ⬜ ⬜ ⬜

3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน ⬜ ⬜ ⬜

4 การนำไปใช้ประโยชน์ ⬜ ⬜ ⬜

5 การตรงต่อเวลา ⬜⬜⬜

รวม

ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ

(นางสาวสทุ ธิกา แสงแกว้ )

................ /................ /...............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

คำชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ ลงใน
ช่อง ที่ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับ ชอื่ -สกลุ การ การ การ ความมี การ รวม
ท่ี ของผ้รู ับการ
แสดง ยอมรับ ทำงาน นำ้ ใจ มี สว่ น 15
ประเมนิ ความ ฟังคนอน่ื ตามท่ี รว่ มในการ คะแนน
คดิ เหน็ ได้รับ ปรับปรงุ

มอบหมาย ผลงาน

กลุ่ม

3213213 2 1 3213 2 1

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสทุ ธิกา แสงแก้ว)
............../.................../................

เกณฑ์การให้คะแนน

ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน

ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✔ ลงใน
ช่องทีต่ รงกับระดับคะแนน

ผลการประเมนิ รวมคะแนน ร้อยละ ระดับคุณภาพ
ที่ ชื่อ – สกุล ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ใน มวี นิ ยั (30)

การทำงาน
(10) (10) (10)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงช่ือ....................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสุทธกิ า แสงแก้ว)

................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน 8-10 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 6-7 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 4-5 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ ให้ 1-3 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน (ร้อยละ) ระดับคุณภาพ

91 - 108 ดมี าก

73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช้

ตำ่ กว่า 54 ปรับปรุง

แบบประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✔ ลงใน
ช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั รายการประเมิน ระดับคะแนน
ท่ี 321

1 ⬜⬜⬜
2 ⬜⬜⬜
3 ⬜⬜⬜
4 ⬜⬜⬜
รวม

ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวสทุ ธกิ า แสงแกว้ )

................ /................ /...............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

รายการ 3 (ด)ี ระดบั คะแนน 1 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง)

การสงั เกต - สงั เกตสิ่งที่ต้องการให้ - สังเกตสงิ่ ท่ีต้องการให้ - สงั เกตส่ิงที่ไมต่ รงกบั

สังเกตได้ถูกตอ้ ง สังเกตไดถ้ ูกต้อง จุดประสงค์

- บนั ทกึ ได้ถูกต้อง - บันทึกไว้ถกู ตอ้ งเป็น
ส่วนใหญ่

รายการ 3 (ดี) ระดับคะแนน 1 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง)
การทดลอง - กระบวนการทดลอง - บันทึกขอ้ มูลไม่
ถกู ต้อง กระบวนการทดลอง ถูกต้อง มกี ารใส่ความคิดเห็น
ถกู ต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ลงไปดว้ ย
- บนั ทึกผลการทดลอง บันทกึ ผลการทดลอง
ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ - กระบวนการทดลองถูกตอ้ ง
ท้ังหมด สรุปผลการทดลอง บางส่วน
ถูกตอ้ งแตไ่ มส่ มบรู ณ์
- สรปุ ผลการทดลอง - บันทึกผลการทดลองถูกต้อง
ถูกตอ้ ง บางสว่ น

- สรุปผลการทดลองไมถ่ ูกต้อง

การลง ลงความเหน็ และสรปุ ลงความเหน็ และสรปุ ลงความเหน็ และสรปุ ขอ้ มูล
ความเห็น ข้อมูลโดยใช้ ขอ้ มลู โดยใช้ อย่างไมม่ หี ลกั การและเหตุผล
และสรุป ข้อมลู จากการทดลอง ข้อมูลจากการทดลอง และไมใ่ ช้ขอ้ มลู จากการ
ข้อมลู อยา่ งมี อยา่ งมี ทดลองประกอบ
หลกั การและเหตุผล หลกั การและเหตุผลแต่
การวัด ไม่สมบรู ณ์ ใช้เคร่ืองมอื ไม่
ใชเ้ ครื่องมอื วดั ถกู ต้อง ค่าทอ่ี ่านได้สว่ นใหญ่
การจัด ถกู ตอ้ งและอา่ นคา่ ได้ ใช้เครอื่ งมอื วัด ไมถ่ กู ต้อง
จำแนก ถกู ต้องทง้ั หมด ถูกต้องและอ่านค่าได้
ถูกต้องเป็น จัดจำแนกตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด
จดั จำแนกตามเกณฑ์ที่ บางส่วน ถกู ตอ้ งเปน็ บางสว่ น
กำหนดได้อยา่ งถกู ต้อง
จัดจำแนกตามเกณฑท์ ่ี
กำหนดไดถ้ ูกต้องเปน็
ส่วนใหญ่

รายการ ระดับคะแนน

3 (ดี) 2 (ปานกลาง) 1 (ปรบั ปรงุ )

การ ตัง้ สมมติฐาน ตั้งสมมตฐิ าน ต้งั สมมติฐาน
ต้งั สมมตฐิ าน ไดค้ รอบคลมุ
ไดถ้ กู ตอ้ ง เกนิ รอ้ ยละ 50 ไม่ครอบคลุม

ถกู ต้องทง้ั หมด ถกู ตอ้ งไมถ่ ึงร้อยละ 50

การกำหนด กำหนดตวั แปร กำหนดตวั แปร กำหนดตวั แปร

ตวั แปร ได้ครอบคลมุ ได้ครอบคลุมถูกตอ้ ง ได้ไมค่ รอบคลุม

ถูกตอ้ งทง้ั หมด เกินรอ้ ยละ 50 ถกู ต้องไมถ่ ึงรอ้ ยละ 50

การจดั จัดกระทำขอ้ มูล จัดกระทำข้อมลู จดั กระทำข้อมลู
กระทำขอ้ มลู ไดถ้ กู ต้องชัดเจน
ไดถ้ กู ตอ้ งชัดเจน ไดถ้ กู ต้องชัดเจน

อ่านง่ายรอ้ ยละ 80 อา่ นง่าย รอ้ ยละ 50 อ่านง่าย ไมถ่ ึงร้อยละ 50

ข้ึนไป ขน้ึ ไป

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ

1 ดี
2 พอใช้
3 ปรบั ปรงุ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 25

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าชีววิทยา ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม เวลา 15 ชัว่ โมง

เรอื่ ง กฎของเมนเดล (1) เวลา 3 ชวั่ โมง

ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ครผู ู้สอน นางสาวสทุ ธกิ า แสงแก้ว

สาระชวี วิทยา

ข้อที่ 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ของสาร
พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ
สิง่ มีชีวติ ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปชี ีสใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต
ความหลากหลาย ของสง่ิ มีชีวติ และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรยี นรู้

2. อธิบายและสรปุ กฎแหง่ การแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมนเดลนีไ้ ป
อธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม และใชใ้ นการคำนวณโอกาสในการเกิดฟโี นไทป์และจีโนไทปแ์ บบ
ตา่ ง ๆ ของรนุ่ F1 และ F2

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (Knowledge; K) 1. อธิบายกฎการแยกและกฎการรวมกลุม่ อยา่ งอสิ ระของเมนเดลได้
2. คำนวณโอกาสในการเกดิ ฟโี นไทป์และจโี นไทป์แบบต่าง ๆ ของรนุ่ F1
ด้านกระบวนการ (Process; P) และ F2 ได้
ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute; A) 3. ใชก้ ฎการแยกไปหาโอกาสของการเกิดฟีโนไทป์และจโี นไทป์แบบตา่ ง ๆ
ของรนุ่ F1 และ F2 ของการผสมพจิ าณาลักษณะเดียวได้
4. ใชก้ ฎการรวมกลุ่มอยา่ งอสิ ระไปหาโอกาสของการเกิดฟโี นไทปแ์ ละจีโน
ไทป์แบบตา่ ง ๆ ของรุน่ F1 และ F2 ของการผสมพิจาณาสองลักษณะได้
เขยี นการถ่ายทอดลกั ษณะพันธุกรรมตามกฎการแยกและกฎการรวมกล่มุ
อย่างอสิ ระของเมนเดลได้

มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในการทำงาน

ด้านทักษะกระบวนการทาง มที ักษะการสงั เกต / การลงความเหน็ จากข้อมลู / การจัดกระทำและสื่อ
วิทยาศาสตร์ (Sc.P.) ความหมายของขอ้ มูล

สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะของถั่วลันเตา เมนเดลสามารถสรุปกฎแห่งการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธุกรรมได้ 2 ข้อ ดงั น้ี

กฎการแยก (law of segregation) มีใจความสำคัญว่า ลักษณะของสิ่งมีชีวิตถูกควบคุมโดยยีน และ
ยีนจะปรากฎเป็นคู่ ๆ เสมอ ซ่งึ ยีนจะแยกจากกนั เมอื่ มีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ โดยเซลล์สบื พันธ์ุแต่ละเซลล์จะ
ได้รบั เพียงแอลลลี ใดแอลลีลหนง่ึ

กฎการรวมกลุม่ อยา่ งอิสระ (law of independent assortment) มใี จความสำคญั ว่า แอลลีลของยีน
ท่ีเปน็ คกู่ ัน เม่ือแยกออกจากกันจะจัดกลมุ่ กันอยา่ งอิสระกับแอลลีลของยนี อ่ืน ๆ ซึง่ แยกออกจากคู่เช่นกันเพ่ือ
เข้าไปยังเซลล์สบื พนั ธุ์

สาระการเรียนรู้

- กฎแหง่ การแยกมใี จความวา่ แอลลีลท่ีอยู่เป็นคู่ จะแยกออกจากกันในระหวา่ งการสรา้ งเซลล์สืบพันธุ์ โดย
เซลล์สบื พันธแ์ุ ตล่ ะเซลล์จะมเี พยี งแอลลีลใดแอลลีล หนึง่

- กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอสิ ระมใี จความวา่ หลังจากคขู่ องแอลลีลแยกออกจากกัน แต่ละแอลลีลจะ
จดั กลมุ่ อย่างอสิ ระกบั แอลลลี อ่นื ๆ ที่แยกออกจากคเู่ ช่นกนั ในการเข้าไปอยใู่ นเซลล์สบื พนั ธ์ุ

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ยั
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3. มุง่ มั่นในการทำงาน

กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยใช้รปู แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ขั้นนำ

ขนั้ ท่ี 1 ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement)

1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge เพื่อทบทวนความรูข้ องนักเรียนว่า เมนเดลอธิบายการถ่ายทอด
ลกั ษณะของถว่ั ลนั เตาว่าอย่างไร
(แนวตอบ การถา่ ยทอดลักษณะของถวั่ ลันเตาระหว่างลกั ษณะเดน่ และลกั ษณะดอ้ ยท่ีเป็นพันธ์ุแท้ท้ัง
คู่ พบว่า รุน่ F1 จะแสดงฟีโนไทป์ที่เป็นลักษณะเดน่ ออกมา แต่มีจีโนไทป์แบบเฮเทอโรไซกสั และเม่ือ
ให้ F1 ผสมกนั เองจะไดร้ นุ่ F2 มีจโี นไทป์ 3 แบบทอี่ ตั ราส่วน 1 : 2 : 1 แต่ฟีโนไทป์ที่แสดงออกมามี
เพียง 2 แบบ คือ ลกั ษณะเดน่ ต่อลกั ษณะด้อยท่ีอัตราส่วน 3 : 1)

ข้ันสอน

ขั้นที่ 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration)

1. ครใู หน้ ักเรียนศกึ ษาการผสมพันธถ์ุ ่ัวลันเตาดอกสมี ่วงกับดอกสีขาว แลว้ ถามนกั เรียนว่า ในการผสม

โดยพิจารณาเพียง 1 ลักษณะ เพราะเหตุใดอัตราส่วนฟีโนไทป์ของรุ่น F2 จึงมีลักษณะเด่นต่อ

ลักษณะด้อยเทา่ กบั 3 : 1

(แนวตอบ ถว่ั ลันเตาดอกสีมว่ งในรุน่ F1 มจี ีโนไทป์ Pp โดยแอลลีล P และ p จะแยกไปสู่เซลล์ไข่หรือ

สเปริ ม์ เทา่ ๆ กนั คือ ½ เมอื่ มีการปฏสิ นธิโอกาสที่สเปิร์มจะรวมกับเซลล์ไข่จึงเป็นไปได้ 3 แบบ คือ

PP Pp pp ในอัตราส่วน 1 : 2 : 1 แตจ่ ะมีฟโี นไทป์ 2 แบบ คอื ดอกสมี ่วงตอ่ ดอกสีขาวในอัตราส่วน

3 : 1)

2. ครอู ธิบายให้นกั เรยี นฟงั ว่า การผสมพันธุถ์ ่วั ลนั เตาในรนุ่ F1 ด้วยกันเองจะได้อัตราสว่ นจโี นไทปใ์ นรุ่น

F2 เทา่ กบั 1 : 2 : 1 และอัตราส่วนฟโี นไทปเ์ ท่ากบั 3 : 1 ซึง่ เกดิ จากการแยกกนั ของเซลล์สืบพนั ธุ์ P

และ p ทำใหเ้ มนเดลตั้งเปน็ กฎการแยก ท่ีมีใจความสำคญั ว่า ลกั ษณะของสิง่ มีชีวติ ถูกควบคมุ โดยยีน

และยนี จะปรากฏเป็นคู่ ๆ เสมอ ซ่ึงยีนจะแยกจากกันเม่ือมกี ารสร้างเซลล์สืบพันธุ์ โดยเซลล์สืบพันธุ์

แต่ละเซลล์จะได้รับเพยี งแอลลีลใดแอลลลี หน่งึ

3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 6 กลุ่ม แล้วใช้กฎการแยกของเมนเดลมาพิจารณาการผสมพันธ์ุ

ลกั ษณะตา่ ง ๆ ทเี่ หลืออีก 6 ลักษณะ ดังน้ี

- ตำแหน่งของดอก - สเี มล็ด

- ลักษณะของเมลด็ - ลักษณะของฝกั

- สขี องฝกั - ความสงู ของลำต้น

4. ครูถามนกั เรยี นว่า ถ่วั ลนั เตาดอกสีมว่ งท่นี กั เรียนเห็นสามารถมจี ีโนไทป์ไดก้ ี่แบบ

(แนวตอบ ถัว่ ลนั เตาดอกสมี ่วงสามารถมจี โี นไทป์ได้ 2 แบบ คอื ฮอมอไซกสั (PP) และแบบเฮเทอโร-
ไซกัส (Pp) เนื่องจากลักษณะสีม่วงเป็นลักษณะเด่นจึงสามารถข่มลักษณะสีขาวได้ แม้จะมีรูปแบบ
จีโนไทป์เปน็ เฮเทอโรไซกสั กต็ าม)
5. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนจะรู้ได้อย่างไรว่าถั่วลันเตาดอกสีม่วงที่เห็นมีจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัส
(PP) และแบบเฮเทอโรไซกัส (Pp)
(แนวตอบ ใชก้ ารตรวจสอบที่เรยี กวา่ การผสมเพื่อทดสอบหรอื เทสตค์ รอส)
6. ครูอธิบายใหน้ ักเรียนฟังว่า การผสมเพื่อทดสอบหรือเทสต์ครอส เป็นวิธีการตรวจสอบรปู แบบของจี
โน-ไทป์ของสิ่งมีชีวิตที่แสดงลักษณะเด่นออกมา สามารถตรวจสอบจีโนไทป์ที่สงสัยโดยนำไปผสมกับ
สงิ่ มีชวี ิตที่เป็นฮอมอไซกสั รเี ซซีฟหรอื แสดงลักษณะดอ้ ยออกมา
7. ครูใหน้ กั เรยี นศึกษา การตรวจสอบจโี นไทป์ของถ่ัวลนั เตาดอกสมี ว่ งว่า ถ้าจโี นไทป์ของถ่ัวลันเตาท่สี งสัย
เปน็ แบบฮอมอไซกัส (PP) จะให้ร่นุ F1 เปน็ อยา่ งไร หรือถ้าเปน็ แบบเฮเทอโรไซกัส (Pp) จะใหร้ ุน่ F1 เป็น
อย่างไร
(แนวตอบ ถ้าจโี นไทป์ของถว่ั ลนั เตาท่ีสงสยั เปน็ แบบฮอมอไซกัส (PP) รุน่ F1 จะมีดอกสีม่วงทั้งหมด
แต่ถ้าเปน็ แบบเฮเทอโรไซกัส (Pp) รนุ่ F1 จะไปดอกสีม่วงและดอกสีขาวในอตั ราส่วน 1:1)
8. ครสู มุ่ เลือกนักเรียนออกมาเฉลยคำถามด้วยการแสดงวธิ ที ำหนา้ ช้นั เรียนคนละ 1 ข้อ จากกจิ กรรมการ
แก้โจทยป์ ัญหาเร่ืองพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล และกิจกรรมการผสมพิจารณาหลายลักษณะ และใหน้ กั เรียน
ในชน้ั เรียนร่วมกนั วิเคราะหว์ ่าเฉลยถูกหรอื ผดิ หากเฉลยผดิ ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงวธิ ีทำทถ่ี ูกต้อง

ข้นั ที่ 3 ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation)

1. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอการพิจารณาการผสมพันธุ์ถว่ั ลนั เตาลักษณะต่าง ๆ โดยใช้
กฎการแยกของเมนเดล

2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกฎการแยกของเมนเดลกับการถ่ายทอดลักษณะของถ่ัว
ลันเตา

3. ครใู หน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 4.2 เรือ่ ง กฎการแยกของเมนเดล
4. ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายเกย่ี วกับ การผสมทดสอบ
5. ครูเชอ่ื มโยงความรูเ้ รอื่ งการผสมทดสอบกับกฎการแยกของเมนเดลให้นกั เรยี นฟงั
6. ครูให้นกั เรยี นทำกจิ กรรม เรื่อง การแก้โจทย์ปญั หาเรอ่ื งพนั ธศุ าสตร์เมนเดล ในชัน้ เรยี น โดยบนั ทกึ

ลงในสมุดบนั ทกึ ของนกั เรยี น

ขน้ั สรปุ

ข้นั ที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)

1. ครูให้นักเรียนทำผังสรปุ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของกฎการร่วมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดลกับการ
แบ่งเซลลข์ องสงิ่ มีชีวิต

ขน้ั ท่ี 5 ขั้นประเมิน (Evaluation)

1. ครูตรวจสอบผลจากกิจกรรมการแก้โจทย์ปัญหาเรื่องพันธุศาสตร์เมนเดล และกิจกรรมการผสม
พิจารณาหลายลกั ษณะ

2. ครูตรวจสอบผลจากผังสรุป เรื่อง วิเคราะห์ความพันธ์ของกฎการแยกของเมนเดลของเมนเด
ลกบั การแบ่งเซลลข์ องสงิ่ มีชวี ิต

3. ครูตรวจสอบผลจากใบงานที่ 5.2 เรอ่ื ง กฎการแยกของเมนเดล

การวัดและประเมนิ ผล

รายการวัด วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน

1. ประเมินระหวา่ งการจัด

กิจกรรมการเรียนรู้ - - ผงั สรุป เรอื่ ง - แบบประเมินผลงาน - ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70

1) การศึกษา วเิ คราะห์ความพันธ์ของ - แบบประเมินใบงานท่ี - ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70

พันธกุ รรมของเมนเดล (1) กฎการแยกของเมนเดล 5.2

- ตรวจใบงานท่ี 5.2

2) การปฏิบัติการ - ประเมินการ - แบบประเมนิ การ - ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดี

ปฏบิ ตั ิการ ปฏบิ ตั ิการ

3) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ - ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดี

ผลงาน นำเสนอผลงาน

4) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ผา่ นเกณฑ์ระดับดี

การทำงานกลุ่ม การทำงานกล่มุ การทำงานกล่มุ

5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินยั - แบบประเมนิ - ผ่านเกณฑร์ ะดับดี

อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั คณุ ลกั ษณะ

ในการทำงาน อันพึงประสงค์

6) ด้านทักษะ - ประเมนิ ทักษะ - แบบประเมินทกั ษะ - ผ่านเกณฑ์ระดับ 2

กระบวนการทาง กระบวนการทาง กระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์

(Sc.P: Science
Process Skills)

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียนชวี วทิ ยา ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 การถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรม
2) ใบงานท่ี 5.2 เรื่อง กฎการแยกของเมนเดล
3) ใบงานท่ี 5.3 เรื่อง กฎการรวมกลมุ่ อย่างอิสระของเมนเดล
4) PowerPoint เร่ือง การถ่ายทอดทางพันธกุ รรม
แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) ส่อื ออนไลน์

ใบงานที่ 5.2
เรอื่ ง กฎการแยกของเมนเดล

คำช้แี จง : ตอบคำถามเกี่ยวกับกฏการแยก

กำหนดใหก้ ระต่ายขนสนี ำ้ ตาลเป็นลักษณะเด่น (B) และขนสขี าวเป็นลักษณะดอ้ ย (b) ลูกทเ่ี กิดจากการผสม
พันธุ์ระหว่างกระต่ายขนสีน้ำตาลกับขนสีขาว ได้ลูกกระต่ายขนสนี ้ำตาลและสีขาว อัตราส่วน 1:1 จงตอบ
คำถามต่อไปนี้
1. จงหาจโี นไทป์ของพอ่ แม่ และลูกทไ่ี ด้จากการผสมพนั ธุ์
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
2. ถา้ นำรนุ่ F1 ผสมพนั ธุ์กัน จงหาจโี นไทปร์ ุ่น และอัตราสว่ นของลักษณะเดน่ ต่อลักษณะด้อย
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
3. ถ้านำร่นุ F1 ทีม่ ขี นสีน้ำตาลผสมพันธกุ์ ับกระตา่ ยขนสนี ้ำตาลจะได้ลกู ขนสีอะไร อัตราส่วนเท่าใด
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 5.2 เฉลย
เรื่อง กฏการแยกของเมนเดล

คำชแี้ จง : ตอบคำถามเกย่ี วกับกฏการแยก

กำหนดใหก้ ระตา่ ยขนสนี ำ้ ตาลเปน็ ลกั ษณะเด่น (B) และขนสีขาวเปน็ ลักษณะด้อย (b) ลูกท่เี กดิ จากการผสม

พันธุ์ระหว่างกระต่ายขนสีน้ำตาลกับขนสีขาว ได้ลูกกระต่ายขนสนี ำ้ ตาลและสีขาว อัตราส่วน 1:1 จงตอบ

คำถามตอ่ ไปน้ี

1. จงหาจโี นไทป์ของพ่อ แม่ และลูกท่ีได้จากการผสมพนั ธ์ุ
.....ว..ธิ ..ีท...ำ.......P...........................ข...น..ส...ีน..้ำ..ต...า.ล..........................x............................ข..น...ส..ีข..า..ว..........................................
...................จ..โี.น...ไ.ท...ป...์ ............................B...b.........................x............................b..b...................................................
...................เ.ซ..ล...ล..ส์..ืบ...พ...นั ..ธ..ุ์.....................½.....B..,..½.....b..............x............................b.....................................................
...................F..1.....................................................½.....B..b.....................½....b...b............................................................
.....ด..ัง..น...้นั .......จ..ีโ.น...ไ.ท...ป...ข์ ..อ..ง..พ...อ่....ค..อื....B..b....จ..ีโ..น..ไ..ท..ป...์ข..อ...ง.แ...ม..่..ค..อื....b..b....แ..ล...ะ..จ..ีโ..น..ไ..ท..ป...ข์..อ...ง.ล...กู ...ค...อื ....B..b....b..b...........................

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

2. ถ้านำรุ่น F1 ผสมพันธก์ุ ัน จงหาจโี นไทป์รุ่น F2 และอตั ราสว่ นของลักษณะเดน่ ต่อลักษณะดอ้ ย
.......ว..ิธ..ีท..ำ.......F...1.........................ข..น...ส..ีน...ำ้..ต..า..ล..........................x............................ข..น..ส...ขี ..า..ว........................................
....................จ...ีโ.น...ไ.ท...ป..์.............................B..b..........................x............................b..b.................................................
....................เ..ซ..ล..ล...์ส..ืบ...พ..นั...ธ..ุ์.....................½.....B..,..½.....b..............x............................b...................................................
....................F...2.....................................................½....B...b.....................½....b...b..........................................................
.......ด..ัง..น..น้ั.......F...2..ม..จี...ีโ.น...ไ.ท...ป..์แ...บ..บ....B...b...แ...ล..ะ....b..b....ท..ีอ่...ัต..ร..า..ส...่ว..น....1...:...1.........................................................................

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

3. ถ้านำรุน่ F1 ท่ีมขี นสนี ้ำตาลผสมพันธุ์กบั กระตา่ ยขนสีนำ้ ตาลพันธแุ์ ทจ้ ะได้ลกู ขนสีอะไร อัตราสว่ นเทา่ ใด
......ว..ธิ..ที...ำ.......F..1..........................ข..น...ส..นี...้ำ..ต..า..ล.........................x............................ข...น..ส..นี...้ำ..ต..า..ล....(.พ...นั...ธ..์แุ ..ท...)้ ..................
....................จ..โี..น..ไ..ท...ป..์.............................B..b.........................x............................B...B.................................................
....................เ.ซ...ล..ล..ส์...ืบ..พ...ัน...ธ..ุ์ .....................½....B...,..½.....b...........................x............................B......................................
....................F..2......................................................½....B..B.....................½.....B..b...........................................................
......ด...งั .น...น้ั.......F..2...จ..ะ..ม...ขี ..น..ส...นี ..้ำ..ต...า..ล..ท...ั้ง.ห...ม..ด..............................................................................................................





แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกจิ กรรม

คำชแี้ จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินการปฏิบัตกิ ิจกรรมของนักเรยี นตามรายการทีก่ ำหนด แล้วขีด ✔ ลงใน
ชอ่ งทีต่ รงกับระดบั คะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321

1 การปฏิบัตกิ ารทำกิจกรรม

2 ความคลอ่ งแคล่วในขณะปฏิบัติกจิ กรรม

3 การบนั ทกึ สรปุ และนำเสนอผลการทำกจิ กรรม

รวม

ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ
(นางสาวสทุ ธิกา แสงแก้ว)

................ /................ /................

เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรม

ระดับคะแนน

ประเด็นทีป่ ระเมิน

4 32 1

1. การปฏิบัตกิ ิจกรรม ทำกจิ กรรมตาม ทำกิจกรรมตาม ต้องให้ความ ตอ้ งให้ความ
ขนั้ ตอน และใช้ ข้ันตอน และใช้ ช่วยเหลอื บ้างใน ช่วยเหลอื อยา่ งมาก
อปุ กรณ์ไดอ้ ยา่ ง อุปกรณ์ไดอ้ ย่าง การทำกจิ กรรม ในการทำกจิ กรรม
ถกู ตอ้ ง และการใชอ้ ุปกรณ์

ถกู ตอ้ ง แตอ่ าจตอ้ ง และการใช้
ได้รับคำแนะนำบา้ ง อุปกรณ์

2. ความคลอ่ งแคล่ว มคี วามคลอ่ งแคล่ว มีความคลอ่ งแคล่ว ขาดความ ทำกิจกรรมเสร็จไม่
ในขณะปฏิบัตกิ จิ กรรม ในขณะทำกิจกรรม ทนั เวลา และทำ
ในขณะทำกจิ กรรม คลอ่ งแคล่ว อปุ กรณเ์ สียหาย
โดยไม่ตอ้ งได้รับคำ
ชแ้ี นะ และทำ แตต่ อ้ งได้รับ ในขณะทำ
กิจกรรมเสร็จ
ทันเวลา คำแนะนำบา้ ง และ กิจกรรมจึงทำ

ทำกิจกรรมเสร็จ กิจกรรมเสรจ็ ไม่

ทันเวลา ทนั เวลา

3. การบนั ทึก สรปุ และ บันทึกและสรุปผล บนั ทกึ และสรปุ ผล ตอ้ งใหค้ ำแนะนำ ต้องให้ความ
การทำกจิ กรรมได้
นำเสนอผลการปฏบิ ัติ การทำกิจกรรมได้ ถกู ตอ้ ง แตก่ าร ในการบันทกึ ชว่ ยเหลืออย่างมาก
นำเสนอผลการทำ
กิจกรรม ถูกตอ้ ง รดั กมุ กิจกรรมยงั ไม่เปน็ สรปุ และ ในการบันทกึ สรปุ
ขัน้ ตอน
นำเสนอผลการทำ นำเสนอผลการ และนำเสนอผลการ

กจิ กรรมเป็น ทำกิจกรรม ทำกิจกรรม

ขัน้ ตอนชัดเจน

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10-12 ดมี าก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ลงในชอ่ งท่ี

ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา ⬜ ⬜ ⬜

2 ความคิดสร้างสรรค์ ⬜ ⬜ ⬜

3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน ⬜ ⬜ ⬜

4 การนำไปใช้ประโยชน์ ⬜ ⬜ ⬜

5 การตรงต่อเวลา ⬜⬜⬜

รวม

ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ

(นางสาวสทุ ธิกา แสงแกว้ )

................ /................ /...............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

คำชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ ลงใน
ช่อง ที่ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับ ชอื่ -สกลุ การ การ การ ความมี การ รวม
ท่ี ของผ้รู ับการ
แสดง ยอมรับ ทำงาน นำ้ ใจ มี สว่ น 15
ประเมนิ ความ ฟังคนอน่ื ตามท่ี รว่ มในการ คะแนน
คดิ เหน็ ได้รับ ปรับปรงุ

มอบหมาย ผลงาน

กลุ่ม

3213213 2 1 3213 2 1

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสทุ ธิกา แสงแก้ว)
............../.................../................

เกณฑ์การให้คะแนน

ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน

ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✔ ลงใน
ช่องทีต่ รงกับระดับคะแนน

ผลการประเมนิ รวมคะแนน ร้อยละ ระดับคุณภาพ
ที่ ชื่อ – สกุล ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ใน มวี นิ ยั (30)

การทำงาน
(10) (10) (10)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงช่ือ....................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสุทธกิ า แสงแก้ว)

................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน 8-10 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 6-7 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 4-5 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ ให้ 1-3 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน (ร้อยละ) ระดับคุณภาพ

91 - 108 ดมี าก

73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช้

ตำ่ กว่า 54 ปรับปรุง

แบบประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✔ ลงใน
ช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั รายการประเมิน ระดับคะแนน
ท่ี 321

1 ⬜⬜⬜
2 ⬜⬜⬜
3 ⬜⬜⬜
4 ⬜⬜⬜
รวม

ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวสทุ ธกิ า แสงแกว้ )

................ /................ /...............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

รายการ 3 (ด)ี ระดบั คะแนน 1 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง)

การสงั เกต - สงั เกตสิ่งที่ต้องการให้ - สังเกตสงิ่ ท่ีต้องการให้ - สงั เกตส่ิงที่ไมต่ รงกบั

สังเกตได้ถูกตอ้ ง สังเกตไดถ้ ูกต้อง จุดประสงค์

- บนั ทกึ ได้ถูกต้อง - บันทึกไว้ถกู ตอ้ งเป็น
ส่วนใหญ่

รายการ 3 (ดี) ระดับคะแนน 1 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง)
การทดลอง - กระบวนการทดลอง - บันทึกขอ้ มูลไม่
ถกู ต้อง กระบวนการทดลอง ถูกต้อง มกี ารใส่ความคิดเห็น
ถกู ต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ลงไปดว้ ย
- บนั ทึกผลการทดลอง บันทกึ ผลการทดลอง
ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ - กระบวนการทดลองถูกตอ้ ง
ท้ังหมด สรุปผลการทดลอง บางส่วน
ถูกตอ้ งแตไ่ มส่ มบรู ณ์
- สรปุ ผลการทดลอง - บันทึกผลการทดลองถูกต้อง
ถูกตอ้ ง บางสว่ น

- สรุปผลการทดลองไมถ่ ูกต้อง

การลง ลงความเหน็ และสรปุ ลงความเหน็ และสรปุ ลงความเหน็ และสรปุ ขอ้ มูล
ความเห็น ข้อมูลโดยใช้ ขอ้ มลู โดยใช้ อย่างไมม่ หี ลกั การและเหตุผล
และสรุป ข้อมลู จากการทดลอง ข้อมูลจากการทดลอง และไมใ่ ช้ขอ้ มลู จากการ
ข้อมลู อยา่ งมี อยา่ งมี ทดลองประกอบ
หลกั การและเหตุผล หลกั การและเหตุผลแต่
การวัด ไม่สมบรู ณ์ ใช้เคร่ืองมอื ไม่
ใชเ้ ครื่องมอื วดั ถกู ต้อง ค่าทอ่ี ่านได้สว่ นใหญ่
การจัด ถกู ตอ้ งและอา่ นคา่ ได้ ใช้เครอื่ งมอื วัด ไมถ่ กู ต้อง
จำแนก ถกู ต้องทง้ั หมด ถูกต้องและอ่านค่าได้
ถูกต้องเป็น จัดจำแนกตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด
จดั จำแนกตามเกณฑ์ที่ บางส่วน ถกู ตอ้ งเปน็ บางสว่ น
กำหนดได้อยา่ งถกู ต้อง
จัดจำแนกตามเกณฑท์ ่ี
กำหนดไดถ้ ูกต้องเปน็
ส่วนใหญ่

รายการ ระดับคะแนน

3 (ดี) 2 (ปานกลาง) 1 (ปรบั ปรงุ )

การ ตัง้ สมมติฐาน ตั้งสมมตฐิ าน ต้งั สมมติฐาน
ต้งั สมมตฐิ าน ไดค้ รอบคลมุ
ไดถ้ กู ตอ้ ง เกนิ รอ้ ยละ 50 ไม่ครอบคลุม

ถกู ต้องทง้ั หมด ถกู ตอ้ งไมถ่ ึงร้อยละ 50

การกำหนด กำหนดตวั แปร กำหนดตวั แปร กำหนดตวั แปร

ตวั แปร ได้ครอบคลมุ ได้ครอบคลุมถูกตอ้ ง ได้ไมค่ รอบคลุม

ถูกตอ้ งทง้ั หมด เกินรอ้ ยละ 50 ถกู ต้องไมถ่ ึงรอ้ ยละ 50

การจดั จัดกระทำขอ้ มูล จัดกระทำข้อมลู จดั กระทำข้อมลู
กระทำขอ้ มลู ไดถ้ กู ต้องชัดเจน
ไดถ้ กู ตอ้ งชัดเจน ไดถ้ กู ต้องชัดเจน

อ่านง่ายรอ้ ยละ 80 อา่ นง่าย รอ้ ยละ 50 อ่านง่าย ไมถ่ ึงร้อยละ 50

ข้ึนไป ขน้ึ ไป

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ

1 ดี
2 พอใช้
3 ปรบั ปรงุ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 26

กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาชีววทิ ยา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม เวลา 15 ชั่วโมง

เรอื่ ง กฎของเมนเดล (2) เวลา 3 ชั่วโมง

ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ครูผูส้ อน นางสาวสุทธกิ า แสงแกว้

สาระชวี วิทยา

ข้อที่ 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ของสาร
พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ
สง่ิ มีชวี ิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก การเกดิ สปีชสี ์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของส่ิงมีชีวิต
ความหลากหลาย ของสิง่ มีชีวิต และอนกุ รมวธิ าน รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้

2. อธบิ ายและสรุปกฎแหง่ การแยกและกฎแหง่ การรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมนเดลนไี้ ป
อธบิ ายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม และใชใ้ นการคำนวณโอกาสในการเกิดฟโี นไทปแ์ ละจโี นไทป์แบบ
ตา่ ง ๆ ของรุ่น F1 และ F2

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (Knowledge; K) 1. ใชก้ ฎการแยกไปหาโอกาสของการเกดิ ฟโี นไทป์และจโี นไทป์แบบตา่ ง ๆ
ของรุ่น F1 และ F2 ของการผสมพจิ าณาลกั ษณะเดียวได้
ดา้ นกระบวนการ (Process; P) 2. ใชก้ ฎการรวมกล่มุ อย่างอสิ ระไปหาโอกาสของการเกิดฟีโนไทป์และจโี น
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute; A) ไทปแ์ บบต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ F2 ของการผสมพจิ าณาสองลกั ษณะได้
ด้านทักษะกระบวนการทาง เขยี นการถ่ายทอดลกั ษณะพันธกุ รรมตามกฎการแยกและกฎการรวมกล่มุ
วทิ ยาศาสตร์ (Sc.P.) อย่างอสิ ระของเมนเดลได้
มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

มีทักษะการสังเกต / การลงความเหน็ จากข้อมูล / การจัดกระทำและส่อื
ความหมายของขอ้ มลู

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

การศึกษาการถ่ายทอดลักษณะของถั่วลันเตา เมนเดลสามารถสรุปกฎแห่งการถ่ายทอดลักษณะทาง
พนั ธุกรรมได้ 2 ข้อ ดังนี้

กฎการแยก (law of segregation) มีใจความสำคัญว่า ลักษณะของสิ่งมีชีวิตถูกควบคุมโดยยีน และ
ยีนจะปรากฎเปน็ คู่ ๆ เสมอ ซึ่งยีนจะแยกจากกันเมือ่ มีการสรา้ งเซลล์สบื พันธุ์ โดยเซลล์สืบพันธุแ์ ต่ละเซลล์จะ
ไดร้ บั เพยี งแอลลีลใดแอลลลี หนึ่ง

กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระ (law of independent assortment) มใี จความสำคัญว่า แอลลีลของยีน
ทีเ่ ปน็ คู่กัน เมอื่ แยกออกจากกนั จะจัดกลุ่มกันอย่างอสิ ระกับแอลลีลของยีนอื่น ๆ ซง่ึ แยกออกจากคู่เช่นกันเพ่ือ
เขา้ ไปยงั เซลลส์ ืบพนั ธ์ุ

สาระการเรียนรู้

- กฎแหง่ การแยกมใี จความว่า แอลลีลที่อยเู่ ป็นคู่ จะแยกออกจากกันในระหวา่ งการสรา้ งเซลล์สืบพันธ์ุ
โดยเซลลส์ ืบพันธแุ์ ตล่ ะเซลลจ์ ะมเี พยี งแอลลลี ใดแอลลลี หนึ่ง

- กฎแห่งการรวมกลมุ่ อย่างอิสระมใี จความวา่ หลังจากคขู่ องแอลลลี แยกออกจากกัน แต่ละแอลลลี จะ
จดั กล่มุ อยา่ งอสิ ระกบั แอลลลี อนื่ ๆ ทแี่ ยกออกจากคูเ่ ชน่ กันในการเข้าไปอยใู่ นเซลลส์ บื พันธุ์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใชร้ ูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ขน้ั นำ

ข้นั ท่ี 1 ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement)

1. ครูถามคำถามกบั นักเรยี นว่า อตั ราส่วน 3 : 1 ในรนุ่ F2 จากการทดลองของเมนเดลเกิดไดอ้ ย่างไร
(แนวตอบ เน่ืองจากรุน่ F1 จะมีจโี นไทป์แบบเฮเทอโรไซกัส เม่ือใหร้ ุ่น F1 กันเอง จะได้รุ่น F2 ที่มีจโี น-
ไทป์ 3 แบบ คือ ฮอมอไซกัสโดมิแนนต์ เฮเทอโรไซกสั และฮอมอไซกัสรีเซสซีฟ ในอตั ราส่วน 1 : 2 :
1 แต่ฮอมอไซกัสโดมิแนนต์และเฮเทอโรไซกัสจะแสดงลักษณะออกมาเหมือนกัน ทำให้ในรุ่น F2 มี
ลักษณะท่ีแสดงออกมาในอัตราสว่ น 3 : 1)

ข้ันสอน

ข้นั ท่ี 2 ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration)

1. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตจะถ่ายทอดหลาย ๆ
ลักษณะไปพร้อม ๆ กัน แต่การถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมของถั่วลันเตาที่ผ่านมาเป็นการศึกษา
เพียงลักษณะใดลักษณะหนึ่งเท่านั้น เมนเดลจึงศึกษาเพิ่มโดยการผสมพันธุ์ถั่วลันเตาสองลักษณะ
พรอ้ ม ๆ กัน ท่ีเรยี กว่า การผสมพิจารณาสองลกั ษณะ

2. ครูใหน้ กั เรยี นศึกษา การการผสมพันธุ์ถัว่ ลนั เตาโดยพิจารณาสองลักษณะ คอื รปู รา่ งของเมล็ด และ
สขี องเมลด็

3. ครถู ามนกั เรียนวา่ จากภาพการผสมพันธถ์ุ ัว่ ลันเตาโดยพิจารณาสองลักษณะทีศ่ ึกษา รนุ่ F1 ท่ีได้จาก
การผสมพนั ธ์มุ โี อกาสสรา้ งเซลล์สบื พันธุไ์ ด้ก่ีแบบ อะไรบ้าง
(แนวตอบ รุ่น F1 สร้างสเปิรม์ หรือเซลลไ์ ข่ได้ 4 แบบ คือ RY Ry rY ry โดยยีนแต่ละคูข่ อง RrYy จะ
แยกออกจากกันตามกฎแหง่ การแยกของเมนเดล)

4. ครูถามนกั เรียนวา่ รนุ่ F2 มโี อกาสทีจ่ ะเกดิ จโี นไทปแ์ ละฟีโนไทปก์ ่ีแบบ อะไรบ้าง
(แนวตอบ รุ่น F2 มีโอกาสเกิดจีโนไทป์ 9 แบบ ได้แก่ RRYY RRyy RRyy RrYy RrYy Rryy rrYY
rrYy rryy และมีโอกาสเกิดฟีโนไทป์ได้ 4 แบบ ได้แก่ เมล็ดกลมสีเหลือง เมล็ดกลมสีเขียว เมล็ด
ขรขุ ระ สเี หลอื ง และเมล็ดขรุขระสเี ขียว ในอตั ราสว่ น 9 : 3 : 3 : 1)

5. ครถู ามนกั เรียนวา่ เพราะเหตฟุ โี นไทป์ในรนุ่ F2 จงึ มีอตั ราสว่ นเท่ากับ 9 : 3 : 3 : 1
(แนวตอบ เมอ่ื พจิ ารณาเพียงลักษณะเดยี วจะได้อัตราสว่ นลักษณะเด่นต่อลักษณะด้อยเท่ากับ 3 : 1 ซึ่ง
เม่อื นำอตั ราสว่ นของสองลักษณะมาคูณกนั จะไดร้ ุ่น F2 มฟี โี นไทป์ 4 แบบ ที่อตั ราส่วน 9 : 3 : 3 : 1)

6. ครูอธิบายให้นักเรียนฟงั ว่า ถ้าแยกพิจารณาที่ละลักษณะ เช่น ลักษณะรูปร่างเมล็ด จะได้รุ่น F2 ที่มี
เมล็ดกลมกบั เมล็ดขรุขระที่อตั ราส่วน 3 : 1 และสีของเมล็ด จะได้รนุ่ F2 ทม่ี ีเมลด็ สีเขียวกับสีเหลือง
ที่อัตราส่วน 3:1 เช่นกัน และเมื่อนำทัง้ 2 มาคูณกัน จะได้รุ่น F2 ทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ เมล็ดกลมสี
เหลอื ง เมล็ดกลมสเี ขียว เมลด็ ขรขุ ระสีเหลือง และเมล็ดขรุขระสเี ขียว ทีอ่ ัตราส่วน 9 : 3 : 3 : 1

7. ครอู ธิบายให้นักเรียนฟังวา่ จากผลการพิจารณาสองลักษณะทำให้เมนเดลต้งั เปน็ กำแห่งการรวมกลุ่ม
อย่างอิสระ ซง่ึ มีใจความสำคัญว่า แอลลลี ของยีนท่ีเป็นคูก่ ัน เมือ่ แยกออกจากกันจะจัดกลุ่มกันอย่าง
อสิ ระกบั แอลลลี ของยนี อื่น ซงึ่ แยกออกจากคู่เช่นกนั เพอ่ื เขา้ ไปยงั เซลล์สบื พนั ธ์ุ

8. ครูอธิบายให้นักเรยี นฟงั วา่ จากการทดลองของแมนเดลแสดงให้เห็นวา่ เมนเดลมคี วามละเอียดในการ
ทดลองตง้ั แต่การเลือกถัว่ ลนั เตาเปน็ พชื ตวั อย่าง ซ่งึ มีลกั ษณะท่เี หมาะสมหลาย ๆ ประการ และเมน
เดลยงั เก็บข้อมูลการผสมพนั ธ์ถุ ึงรนุ่ ท่ี 2 ทำให้สามารถตง้ั เปน็ กฎการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
ได้ อีกทัง้ เมนเดลยังใช้ความร้ทู างดา้ นคณิตศาสตร์และสถติ มิ าชว่ ยอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทาง
พนั ธุกรรมของถว่ั ลันเตา ซง่ึ ทำใหผ้ ลการทดลองของเมนเดลไม่มคี วามซับซ้อนจงึ งา่ ยต่อการเขา้ ใจ

และเปน็ พื้นฐานของการศึกษาทางพนั ธกุ รรมในสงิ่ มชี วี ติ ตา่ ง ๆ
ขั้นท่ี 3 ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)

1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระกับการถ่ายทอดลักษณะของถว่ั
ลนั เตา

2. ครูให้นักเรยี นทำใบงานที่ 5.3 เรอื่ ง กฎการรวมกลุม่ อยา่ งอสิ ระของเมนเดล
3. ครใู หน้ กั เรยี นทำกิจกรรม เรื่อง การผสมพิจารณาหลายลกั ษณะ ในชั้นเรยี น โดยบนั ทึกลงในสมดุ

บันทกึ ของนักเรียน

ขน้ั สรุป

ข้ันที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)

1. ครูให้นักเรียนทำผังสรุป วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของกฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดลกับการ
แบง่ เซลลข์ องสิง่ มีชีวิต

ขน้ั ท่ี 5 ขัน้ ประเมิน (Evaluation)

1. ครตู รวจสอบผลจากใบงานท่ี 5.3 เร่ือง กฎการรวมกลุม่ อย่างอสิ ระของเมนเดล
2. ครูตรวจสอบผลจากผังสรุป เรื่อง วิเคราะห์ความพันธ์ของกฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเดกับ

การแบง่ เซลลข์ องส่ิงมีชวี ติ

การวัดและประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมิน

1. ประเมนิ ระหวา่ งการจัด - - ผงั สรุป เรอื่ ง - แบบประเมนิ ผลงาน - ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
กจิ กรรมการเรียนรู้ วิเคราะห์ความพันธข์ อง - แบบประเมินใบงานท่ี - ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70
1) การศกึ ษา กฎการร่วมกลุ่มอย่าง 5.3
อิสระของเมนเดล - ผา่ นเกณฑร์ ะดับดี
พันธกุ รรมของเมนเดล (2) - ตรวจใบงานที่ 5.3 - แบบประเมนิ การ - ผ่านเกณฑ์ระดบั ดี
- ประเมินการ ปฏบิ ตั กิ าร
2) การปฏิบตั ิการ ปฏบิ ัติการ - แบบประเมนิ การ
- ประเมินการนำเสนอ นำเสนอผลงาน
3) การนำเสนอผลงาน ผลงาน

4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ผ่านเกณฑร์ ะดับดี
การทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม
- สงั เกตความมีวินัย การทำงานกลุ่ม
5) คุณลักษณะ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มน่ั
อันพงึ ประสงค์ ในการทำงาน - แบบประเมนิ - ผ่านเกณฑ์ระดับดี
- ประเมนิ ทักษะ
6) ดา้ นทักษะ กระบวนการทาง คุณลักษณะ
กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ อันพึงประสงค์
(Sc.P: Science
Process Skills) - แบบประเมินทักษะ - ผ่านเกณฑ์ระดับ 2

กระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์

สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นชวี วทิ ยา ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 การถา่ ยทอดทางพันธกุ รรม
2) ใบงานท่ี 5.3 เรอื่ ง กฎการรวมกล่มุ อย่างอสิ ระของเมนเดล
3) PowerPoint เรือ่ ง การถา่ ยทอดทางพันธุกรรม
แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) ห้องสมดุ
3) สอ่ื ออนไลน์

ใบงานที่ 5.3
เร่อื ง กฎการรวมกลุ่มอยา่ งอิสระของเมนเดล

คำช้ีแจง : ตอบคำถามเกีย่ วกับกฏการรวมกลุ่มอยา่ งอสิ ระของเมนเดล

กำหนกให้ สนุ ขั ขนสดี ำ เปน็ ลกั ษณะเด่น แทนดว้ ย B
สนุ ัขขนสีขาว เป็นลักษณดอ้ ย แทนด้วย b
สุนขั ขนยาว เป็นลักษณะเด่น แทนด้วย L
สนุ ัขขนสั้น เป็นลกั ษณะเดน่ แทนด้วย l

ในการผสมพนั ธุ์สนุ ัขขนยาวสดี ำทีเ่ ป็นพนั ธแุ์ ท้ และสุนัขขนสั้นสขี าว จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. จงหาจีโนไทป์และฟโี นไทป์ต่าง ๆ ในรนุ่ F1
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................. .......................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................... ..................
2. หากนำลูกรุ่น F1 ผสมกันเอง จงหาจโี นไทป์และฟโี นไทปข์ องรุน่ F2
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
3. หากนำลูกผสมรุ่น F1 มาผสมพันธุ์กบั สนุ ขั ขนสน้ั สีดำทีเ่ ป็นพันธแ์ุ ท้ จะไดจ้ โี นไทป์และฟีโนไทป์อยา่ งไร
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 5.3 เฉลย
เรอ่ื ง กฎการรวมกลุ่มอยา่ งอิสระของเมนเดล

คำชี้แจง : ตอบคำถามเกี่ยวกับกฎการรวมกลุ่มอย่างอสิ ระของเมนเดล

กำหนกให้ สุนขั ขนสีดำ เปน็ ลักษณะเด่น แทนดว้ ย B

สนุ ขั ขนสีขาว เปน็ ลักษณด้อย แทนดว้ ย b

สุนขั ขนยาว เป็นลกั ษณะเด่น แทนดว้ ย L

สนุ ขั ขนส้นั เปน็ ลักษณะเด่น แทนด้วย l

ในการผสมพันธุ์สนุ ัขขนยาวสดี ำทีเ่ ปน็ พันธ์แุ ท้ และสนุ ัขขนส้นั สีขาว จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. จงหาจีโนไทปแ์ ละฟโี นไทป์ตา่ ง ๆ ในรนุ่ F1
........................................................................................................................................................ .................
......ว..ิธ..ที ...ำ.......P............................ข..น..ย...า..ว..ส..ดี ...ำ.........................x............................ข..น...ส..ั้น...ส..ีข..า..ว....................................
....................จ..โี.น...ไ..ท..ป...์ ............................B...B..L..L.....................x............................b..b...l.l..............................................
....................เ.ซ..ล...ล..์ส..บื...พ...นั ..ธ..์ุ.....................B...,..L.......................x............................b...,..l...............................................
....................F..1...................................................................B..b...L..l...(.ข..น...ย..า..ว..ส..ดี...ำ..)...................................................
......ด..งั..น...้นั .......ร..นุ่ ....F..1..ม...ีจ..โี.น...ไ..ท..ป...แ์ ..บ...บ..เ..ด..ีย..ว....ค..ือ....B..b...L..l..แ...ล..ะ..ฟ...โี..น..ไ..ท..ป...์แ..บ...บ...ข..น...ย..า..ว..ส..ดี...ำ..............................................

2. หากนำลกู รุ่น F1 ผสมกันเอง จงหาจำนวนจีโนไทปแ์ ละฟีโนไทป์ของรุน่ F2
.......ว..ิธ..ีท..ำ........F..1.........................ข...น..ย...า..ว..ส..ดี ..ำ..........................x............................ข..น...ย..า..ว..ส..ดี...ำ...................................
.....................จ..โี .น...ไ.ท...ป...์ ............................B...b..L..l.....................x............................B..b...L..l............................................
.....................เ.ซ..ล...ล..์ส..ืบ...พ...นั ..ธ..ุ์.......B...L......B..l......b..L......b...l..............x............................B..L......B...l.....b..L.......b..l........................
.....................F..2.........................B...B..L..L.......B...B..L..l.......B...b..L..L.......B..b...L..l.......B..B...L..l.......B..B...l.l........B..b...L..l.......B..b..l..l.................
................................................B...b..L..L.......B...b..L..l.......b...b..L..L.......b...b..L..l.......B...b..L..l.......B..b...l.l........b...b..L..l.......b...b..l.l.................
.......ด..งั..น...ัน้ .......ร..นุ่ ....F..1..ม...จี ..ีโ.น...ไ.ท...ป...์ .9....แ..บ...บ...แ...ล..ะ..ฟ...โี..น..ไ..ท..ป...์.4....แ..บ...บ..............................................................................

3. หากนำลกู ผสมรนุ่ F1 มาผสมพนั ธกุ์ ับสนุ ัขขนส้นั สีดำทเี่ ป็นพนั ธแ์ุ ท้ จะไดจ้ โี นไทปแ์ ละฟโี นไทปอ์ ยา่ งไร
.......ด.ว.ัง..ิธน..ที .้นั .ำ......ร.F.นุ่ ..1..F..1..ม...จี ..ีโ.น...ไ.ท...ป...แ์ ..บ.ข..บ.น.เ.ยด..า.ีย.ว.ว.ส...คดี ..ือำ....B..b...L..l..แ...ล..ะ..ฟ...ีโ.น..x.ไ..ท..ป...แ์ ..บ...บ..ข...น..ย...า..ว..ส.ข.ดี.น..ำ.ส..้นั ..ส...ดี ..ำ....(.พ..นั...ธ..แ์ุ..ท...้)..................
......................จ...ีโ.น...ไ.ท...ป..์.............................B..b...L..l.....................x............................B..B..l..l...........................................
......................เ..ซ..ล..ล...์ส..บื ...พ..นั...ธ..์ุ .......B...L......B..l.....b...L......b..l...............x...........................B...l..............................................
......................F...2.........................B...B..L..l.....................B...B..l.l......................B...b..L..l............... .....B...b..l..l.............................
...........................................ข..น...ย..า..ว..ส...ีด..ำ............ข..น...ย..า..ว..ส..ีข...า..ว..........ข..น..ย...า..ว..ส..ีด...ำ..............ข...น..ย..า..ว..ส...ีข..า..ว......................
........ด...งั ..น..ั้น.......ร..่นุ....F..2...ม..ีจ...โี .น...ไ.ท...ป..์..4...แ...บ..บ....ค...อื ...B...B..L..l...B..B...l.l..B...b..L..l...แ..ล...ะ...B...b..l.l...........................................................
......................ร..ุน่....F...2..ม..ฟี...โี..น..ไ..ท..ป...์.2....แ..บ...บ....ค..ือ....ข...น..ย..า..ว..ส...ดี ..ำ....แ..ล..ะ..ข...น..ย...า..ว..ส..ีข..า..ว................. .......................................

ดงั นน้ั รนุ่ F1 มีจีโนไทปแ์ บบเดยี ว คอื BbLl และฟีโนไทปแ์ บบขนยาวสดี ำ





แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกจิ กรรม

คำชแี้ จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินการปฏิบัตกิ ิจกรรมของนักเรยี นตามรายการทีก่ ำหนด แล้วขีด ✔ ลงใน
ชอ่ งทีต่ รงกับระดบั คะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321

1 การปฏิบัตกิ ารทำกิจกรรม

2 ความคลอ่ งแคล่วในขณะปฏิบัติกจิ กรรม

3 การบนั ทกึ สรปุ และนำเสนอผลการทำกจิ กรรม

รวม

ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ
(นางสาวสทุ ธิกา แสงแก้ว)

................ /................ /................

เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรม

ระดับคะแนน

ประเด็นทีป่ ระเมิน

4 32 1

1. การปฏิบัตกิ ิจกรรม ทำกจิ กรรมตาม ทำกิจกรรมตาม ต้องให้ความ ตอ้ งให้ความ
ขนั้ ตอน และใช้ ข้ันตอน และใช้ ช่วยเหลอื บ้างใน ช่วยเหลอื อยา่ งมาก
อปุ กรณ์ไดอ้ ยา่ ง อุปกรณ์ไดอ้ ย่าง การทำกจิ กรรม ในการทำกจิ กรรม
ถกู ตอ้ ง และการใชอ้ ุปกรณ์

ถกู ตอ้ ง แตอ่ าจตอ้ ง และการใช้
ได้รับคำแนะนำบา้ ง อุปกรณ์

2. ความคลอ่ งแคล่ว มคี วามคลอ่ งแคล่ว มีความคลอ่ งแคล่ว ขาดความ ทำกิจกรรมเสร็จไม่
ในขณะปฏิบัตกิ จิ กรรม ในขณะทำกิจกรรม ทนั เวลา และทำ
ในขณะทำกจิ กรรม คลอ่ งแคล่ว อปุ กรณเ์ สียหาย
โดยไม่ตอ้ งได้รับคำ
ชแ้ี นะ และทำ แตต่ อ้ งได้รับ ในขณะทำ
กิจกรรมเสร็จ
ทันเวลา คำแนะนำบา้ ง และ กิจกรรมจึงทำ

ทำกิจกรรมเสร็จ กิจกรรมเสรจ็ ไม่

ทันเวลา ทนั เวลา

3. การบนั ทึก สรปุ และ บันทึกและสรุปผล บนั ทกึ และสรปุ ผล ตอ้ งใหค้ ำแนะนำ ต้องให้ความ
การทำกจิ กรรมได้
นำเสนอผลการปฏบิ ัติ การทำกิจกรรมได้ ถกู ตอ้ ง แตก่ าร ในการบันทกึ ชว่ ยเหลืออย่างมาก
นำเสนอผลการทำ
กิจกรรม ถูกตอ้ ง รดั กมุ กิจกรรมยงั ไม่เปน็ สรปุ และ ในการบันทกึ สรปุ
ขัน้ ตอน
นำเสนอผลการทำ นำเสนอผลการ และนำเสนอผลการ

กจิ กรรมเป็น ทำกิจกรรม ทำกิจกรรม

ขัน้ ตอนชัดเจน

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10-12 ดมี าก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ลงในชอ่ งท่ี

ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา ⬜ ⬜ ⬜

2 ความคิดสร้างสรรค์ ⬜ ⬜ ⬜

3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน ⬜ ⬜ ⬜

4 การนำไปใช้ประโยชน์ ⬜ ⬜ ⬜

5 การตรงต่อเวลา ⬜⬜⬜

รวม

ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ

(นางสาวสทุ ธิกา แสงแกว้ )

................ /................ /...............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

คำชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ ลงใน
ช่อง ที่ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับ ชอื่ -สกลุ การ การ การ ความมี การ รวม
ท่ี ของผ้รู ับการ
แสดง ยอมรับ ทำงาน นำ้ ใจ มี สว่ น 15
ประเมนิ ความ ฟังคนอน่ื ตามท่ี รว่ มในการ คะแนน
คดิ เหน็ ได้รับ ปรับปรงุ

มอบหมาย ผลงาน

กลุ่ม

3213213 2 1 3213 2 1

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสทุ ธิกา แสงแก้ว)
............../.................../................

เกณฑ์การให้คะแนน

ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน

ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✔ ลงใน
ช่องทีต่ รงกับระดับคะแนน

ผลการประเมนิ รวมคะแนน ร้อยละ ระดับคุณภาพ
ที่ ชื่อ – สกุล ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ใน มวี นิ ยั (30)

การทำงาน
(10) (10) (10)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงช่ือ....................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสุทธกิ า แสงแก้ว)

................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน 8-10 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 6-7 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 4-5 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ ให้ 1-3 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน (ร้อยละ) ระดับคุณภาพ

91 - 108 ดมี าก

73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช้

ตำ่ กว่า 54 ปรับปรุง

แบบประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✔ ลงใน
ช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั รายการประเมิน ระดับคะแนน
ท่ี 321

1 ⬜⬜⬜
2 ⬜⬜⬜
3 ⬜⬜⬜
4 ⬜⬜⬜
รวม

ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวสทุ ธกิ า แสงแกว้ )

................ /................ /...............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

รายการ 3 (ด)ี ระดบั คะแนน 1 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง)

การสงั เกต - สงั เกตสิ่งที่ต้องการให้ - สังเกตสงิ่ ท่ีต้องการให้ - สงั เกตส่ิงที่ไมต่ รงกบั

สังเกตได้ถูกตอ้ ง สังเกตไดถ้ ูกต้อง จุดประสงค์

- บนั ทกึ ได้ถูกต้อง - บันทึกไว้ถกู ตอ้ งเป็น
ส่วนใหญ่

รายการ 3 (ดี) ระดับคะแนน 1 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง)
การทดลอง - กระบวนการทดลอง - บันทึกขอ้ มูลไม่
ถกู ต้อง กระบวนการทดลอง ถูกต้อง มกี ารใส่ความคิดเห็น
ถกู ต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ลงไปดว้ ย
- บนั ทึกผลการทดลอง บันทกึ ผลการทดลอง
ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ - กระบวนการทดลองถูกตอ้ ง
ท้ังหมด สรุปผลการทดลอง บางส่วน
ถูกตอ้ งแตไ่ มส่ มบรู ณ์
- สรปุ ผลการทดลอง - บันทึกผลการทดลองถูกต้อง
ถูกตอ้ ง บางสว่ น

- สรุปผลการทดลองไมถ่ ูกต้อง

การลง ลงความเหน็ และสรปุ ลงความเหน็ และสรปุ ลงความเหน็ และสรปุ ขอ้ มูล
ความเห็น ข้อมูลโดยใช้ ขอ้ มลู โดยใช้ อย่างไมม่ หี ลกั การและเหตุผล
และสรุป ข้อมลู จากการทดลอง ข้อมูลจากการทดลอง และไมใ่ ช้ขอ้ มลู จากการ
ข้อมลู อยา่ งมี อยา่ งมี ทดลองประกอบ
หลกั การและเหตุผล หลกั การและเหตุผลแต่
การวัด ไม่สมบรู ณ์ ใช้เคร่ืองมอื ไม่
ใชเ้ ครื่องมอื วดั ถกู ต้อง ค่าทอ่ี ่านได้สว่ นใหญ่
การจัด ถกู ตอ้ งและอา่ นคา่ ได้ ใช้เครอื่ งมอื วัด ไมถ่ กู ต้อง
จำแนก ถกู ต้องทง้ั หมด ถูกต้องและอ่านค่าได้
ถูกต้องเป็น จัดจำแนกตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด
จดั จำแนกตามเกณฑ์ที่ บางส่วน ถกู ตอ้ งเปน็ บางสว่ น
กำหนดได้อยา่ งถกู ต้อง
จัดจำแนกตามเกณฑท์ ่ี
กำหนดไดถ้ ูกต้องเปน็
ส่วนใหญ่

รายการ ระดับคะแนน

3 (ดี) 2 (ปานกลาง) 1 (ปรบั ปรงุ )

การ ตัง้ สมมติฐาน ตั้งสมมตฐิ าน ต้งั สมมติฐาน
ต้งั สมมตฐิ าน ไดค้ รอบคลมุ
ไดถ้ กู ตอ้ ง เกนิ รอ้ ยละ 50 ไม่ครอบคลุม

ถกู ต้องทง้ั หมด ถกู ตอ้ งไมถ่ ึงร้อยละ 50

การกำหนด กำหนดตวั แปร กำหนดตวั แปร กำหนดตวั แปร

ตวั แปร ได้ครอบคลมุ ได้ครอบคลุมถูกตอ้ ง ได้ไมค่ รอบคลุม

ถูกตอ้ งทง้ั หมด เกินรอ้ ยละ 50 ถกู ต้องไมถ่ ึงรอ้ ยละ 50

การจดั จัดกระทำขอ้ มูล จัดกระทำข้อมลู จดั กระทำข้อมลู
กระทำขอ้ มลู ไดถ้ กู ต้องชัดเจน
ไดถ้ กู ตอ้ งชัดเจน ไดถ้ กู ต้องชัดเจน

อ่านง่ายรอ้ ยละ 80 อา่ นง่าย รอ้ ยละ 50 อ่านง่าย ไมถ่ ึงร้อยละ 50

ข้ึนไป ขน้ึ ไป

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ

1 ดี
2 พอใช้
3 ปรบั ปรงุ


Click to View FlipBook Version