แผนการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้

ขัน้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขัน้ ตอนการเรยี นรหู้ รอื กิจกรรมของนักเรียน

1. ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน (5 นาที) 1. ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน (5 นาที)

1. ผู้สอนชี้แจงหัวข้อการเรียนและจุดประสงค์ 1. ผู้เรียนฟังผู้สอนแจ้งหัวข้อการเรียนและ

การเรยี นประจำหนว่ ยท่ี 7 ตวั แปรอาร์เรย์และสตริง จุดประสงค์การเรียนประจำหน่วยที่ 7 ตัวแปรอาร์เรย์

และสตริง

2. ขนั้ ให้ความรู้ (235 นาที)

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดเอกสารประกอบการ 2. ขนั้ ใหค้ วามรู้ (235 นาที)

สอนวิชา การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หน่วยที่ 7 ตัว 1. ผู้เรียนฟังผู้สอนอธิบายและชี้แจงพร้อมเปิด

แปรอาร์เรย์และสตรงิ เอกสารวิชา การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หน่วยท่ี 7 ตัว

2. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามในข้อ แปรอาร์เรย์และสตรงิ

สงสัยเม่ืออธบิ ายเนอื้ หาในหน่วยเรียนจบ 2. ผูเ้ รียนซักถามผู้สอนหากมีข้อสงสยั

กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้

ขน้ั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ข้ันตอนการเรยี นรู้หรอื กิจกรรมของนกั เรียน

3. ขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ (225 นาที) 3. ขน้ั ประยกุ ต์ใช้ (225 นาที)

1. ผ้สู อนให้ผูเ้ รยี นทำกจิ กรรมเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 7 1. ผเู้ รยี นทำกจิ กรรมเรียนรู้ หน่วยที่ 7

2. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นทำแบบฝกึ หัด หน่วยท่ี 7 2. ผเู้ รยี นทำแบบฝกึ หัด หนว่ ยที่ 7

4. ขัน้ สรปุ และประเมินผล (15 นาที) 4. ข้นั สรุปและประเมนิ ผล (15 นาที)

1. ผู้สอนร่วมกับผู้เรียนทบทวนความเข้าใจและ 1. ผู้เรียนร่วมกับผู้สอนทบทวนความเข้าใจและ

สรุปเนื้อหาในหน่วยท่ี 7 ตัวแปรอาร์เรย์และสตริง ให้มี สรุปเน้ือหาในหน่วยที่ 7 ตัวแปรอาร์เรย์และสตริง ให้มี

ความเขา้ ใจในทิศทางเดยี วกนั ความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน

(บรรลุจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-9) (บรรลจุ ุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-9)

(รวม 480 นาที หรอื 8 คาบเรียน)

งานท่มี อบหมายหรอื กจิ กรรมการวัดผลและประเมินผล

ก่อนเรยี น

-

ขณะเรียน

1. ทำกจิ กรรมเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 7
2. ทำแบบฝกึ หัด หน่วยที่ 7

หลังเรยี น

-

ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสำเร็จของผูเ้ รียน

1. กิจกรรมเรียนรู้ หน่วยท่ี 7
2. แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 7

ส่ือการเรยี นการสอน/การเรียนรู้

สื่อสิ่งพิมพ์
1. เอกสารประกอบการสอนวิชา การโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงค์

เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-9)
2. กจิ กรรมเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 7 ใช้ขั้นประยกุ ตใ์ ชข้ ้อ 1
3. แบบฝึกหัด หนว่ ยท่ี 7 ใชข้ น้ั ประยกุ ต์ใชข้ ้อ 2

ส่ือโสตทัศน์ (ถ้ามี)
1. เคร่อื งไมโครคอมพิวเตอร์
2. วีดีทศั น์
3. บทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน CAI
4. งานนำเสนอ

สื่อของจรงิ

แหลง่ การเรยี นรู้

ในสถานศกึ ษา
1. ห้องสมุด
2. หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์

นอกสถานศกึ ษา
ผ้ปู ระกอบการ สถานประกอบการ ในท้องถ่นิ

การบรู ณาการ/ความสมั พันธก์ บั วิชาอ่ืน

1. บูรณาการกบั วชิ าภาษาไทย เรือ่ ง การบอกประโยชน์ของตัวแปรอารเ์ รย์ และการอธบิ าย
ความหมายของอารเ์ รยแ์ ละตัวแปรสตรงิ

การประเมินผลการเรยี นรู้
• หลกั การประเมินผลการเรยี นรู้

กอ่ นเรยี น

-

ขณะเรียน

1. ตรวจกจิ กรรมเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
2. ตรวจแบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 7

หลงั เรียน

-

ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเร็จของผูเ้ รยี น

1. กิจกรรมเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 7
2. แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 7

สมรรถนะท่ีพึงประสงค์

ผเู้ รยี นสรา้ งความเข้าใจเกี่ยวกบั ตัวแปรอารเ์ รยแ์ ละสตริง
1. วเิ คราะห์และตคี วามหมาย
2. สาธิตพร้อมแสดงท่าทางประกอบ
3. อภิปรายแสดงความคดิ เหน็
4. ประยุกต์ความร้สู ่งู านอาชพี

สมรรถนะการปฏิบตั งิ านอาชีพ

เขียนโปรแกรมภาษา C โดยใชต้ ัวแปรอาร์เรย์และสตริง

สมรรถนะการขยายผล

ความสอดคล้อง
จากการเรียนสัปดาห์ท่ี 9-10 เรื่อง ตัวแปรอาร์เรย์และสตริง ผู้เรียนจะมีความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของ
อาร์เรย์ อาร์เรย์ 1 มิติ อาร์เรย์หลายมิติ การกำหนดค่าเร่ิมต้นให้กับอาร์เรย์ การส่งค่าอาร์เรย์ให้กับฟังก์ชัน ตัว
แปรสตริง (String) ฟังก์ชันเกี่ยวกับสตริง สามารถประกาศและใช้งานตัวแปรอาร์เรย์ได้ กำหนดค่าเริ่มต้นให้กับ
อาร์เรย์ได้ ใชง้ านตัวแปรอาร์เรย์แบบต่างๆ ได้ ผา่ นค่าอารเ์ รย์ให้กับฟังก์ชนั ได้ ประกาศและใช้งานตัวแปรสตริงได้
ใช้งานฟังก์ชันสตริงในภาษา C ได้ และประยุกต์ใช้ตัวแปรอาร์เรย์และตวั แปรสตริงในการเขียนโปรแกรมภาษา C
ได้

รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรียนรู้

• จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 1 บอกประโยชน์ของตวั แปรอาร์เรย์ได้

1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : บอกประโยชน์ของตวั แปรอาร์เรยไ์ ด้ จะได้ 1 คะแนน

• จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 2 อธบิ ายความหมายของอาร์เรยแ์ ละตัวแปรสตรงิ ได้

1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : อธบิ ายความหมายของอารเ์ รย์และตวั แปรสตรงิ ได้ จะได้ 1 คะแนน

• จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 3 ประกาศและใชง้ านตัวแปรอาร์เรย์ได้อยา่ งถูกต้อง

1. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ประกาศและใช้งานตวั แปรอารเ์ รยไ์ ด้อย่างถกู ต้อง จะได้ 2 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 กำหนดคา่ เร่ิมตน้ ให้กบั อารเ์ รย์ได้

1. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : กำหนดคา่ เริ่มต้นให้กบั อาร์เรย์ได้ จะได้ 1 คะแนน

• จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 5 ใชง้ านตวั แปรอารเ์ รย์แบบตา่ งๆ ได้ถูกต้อง

1. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การให้คะแนน : ใชง้ านตัวแปรอารเ์ รยแ์ บบตา่ งๆ ได้ถกู ต้อง จะได้ 1 คะแนน

• จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 6 ผา่ นค่าอาร์เรย์ใหก้ บั ฟงั ก์ชนั ได้

1. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ผ่านคา่ อารเ์ รย์ให้กับฟังกช์ ันได้ จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 7 ประกาศและใชง้ านตัวแปรสตรงิ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง

1. วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การให้คะแนน : ประกาศและใช้งานตวั แปรสตรงิ ไดอ้ ย่างถูกต้อง จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 8 ใช้งานฟงั กช์ นั สตริงในภาษา C ได้

1. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ใชง้ านฟังก์ชันสตรงิ ในภาษา C ได้ จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 9 ประยุกต์ใช้ตวั แปรอารเ์ รย์และตัวแปรสตริงในการเขียนโปรแกรมภาษา

C ได้

1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ประยุกต์ใช้ตัวแปรอาร์เรย์และตัวแปรสตริงในการเขยี นโปรแกรมภาษา C

ได้ จะได้ 1 คะแนน















แบบประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน

ชื่อกล่มุ ……………………………………………ชั้น………………………ห้อง...........................

รายชื่อสมาชกิ

1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่…….

3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขท่ี…….

ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเหน็

32 1

1 เนอ้ื หาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกยี่ วกบั เนอ้ื หา ความถกู ตอ้ ง

ปฏภิ าณในการตอบ และการแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า)

2 รูปแบบการนำเสนอ

3 การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่

4 บคุ ลิกลักษณะ กิรยิ า ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซึ่งทำให้ผู้ฟงั มีความ

สนใจ

รวม

ผูป้ ระเมนิ …………………………………………………

เกณฑ์การให้คะแนน

1. เน้อื หาสาระครอบคลุมชดั เจนถูกตอ้ ง

3 คะแนน = มีสาระสำคัญครบถ้วนถกู ต้อง ตรงตามจุดประสงค์

2 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์

1 คะแนน = สาระสำคัญไม่ถกู ต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์

2. รปู แบบการนำเสนอ

3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอทเี่ หมาะสม มีการใชเ้ ทคนิคทแี่ ปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี

ประกอบการ นำเสนอที่น่าสนใจ นำวัสดุในท้องถิ่นมาประยกุ ต์ใช้อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั

2 คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ ใชส้ อื่ และเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอท่ีนา่ สน ใจ

แต่ขาดการประยุกต์ใช้ วัสดุในทอ้ งถ่ิน

1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไมเ่ หมาะสม และไม่น่าสนใจ

3. การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม

3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกจิ กรรมกลมุ่

2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญ่มีบทบาทและมีสว่ นรว่ มกิจกรรมกลุ่ม

1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมีส่วนรว่ มกิจกรรมกลมุ่

4. ความสนใจของผู้ฟัง

3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่ารอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื

2 คะแนน = ผูฟ้ ังรอ้ ยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื

1 คะแนน = ผ้ฟู งั น้อยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และให้ความรว่ มมือ

บนั ทกึ หลงั การสอน

หน่วยที่ 7 เรอ่ื ง ตวั แปรอาร์เรย์และสตรงิ

ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้

1. เนื้อหาสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
2. สามารถนำไปใช้ปฏิบตั กิ ารสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน
3. สอ่ื การสอนเหมาะสมดี

ผลการเรียนของนกั เรยี น

1. ผเู้ รยี นส่วนใหญ่มคี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคำถามในกลมุ่ และรว่ มกนั
ปฏิบตั ิงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

2. ผเู้ รยี นกระตือรือรน้ และรบั ผิดชอบในการทำงานกลุ่มเพื่อให้งานสำเรจ็ ทันเวลาทีก่ ำหนด
3. ผู้เรียนนำความรเู้ รื่องตัวแปรอารเ์ รย์และสตรงิ ไปประยุกต์ใช้

ผลการสอนของครู

1. สอนเนื้อหาไดค้ รบตามหลักสูตร
2. แผนการสอนและวธิ ีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทำใหผ้ ู้สอนสอนได้อย่างมั่นใจ
3. สอนได้ทนั ตามเวลาที่กำหนด

แผนการสอน/แผนการเรยี นรู้ภาคทฤษฎี หนว่ ยท่ี 8
สอนสัปดาห์ท่ี 11-12
แผนการสอน/การเรียนรู้ภาคทฤษฎี คาบรวม 8
ชื่อวชิ า การโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ชอื่ หน่วย ตวั แปรแบบพิเศษ

ชอื่ เรือ่ ง ตวั แปรแบบพเิ ศษ จำนวนคาบ 8

สมรรถนะอาชพี ประจำหน่วย

- เขียนโปรแกรมโดยใชง้ านตัวแปรแบบพเิ ศษในภาษา C

เร่อื งทีจ่ ะศึกษา

1. ตวั แปรพอยน์เตอร์
2. ตัวแปรโครงสร้าง
3. ตวั แปรยูเนียน

สาระสำคญั

ภาษา C มีตัวแปรท่ีมีลักษณะพิเศษท่ีแตกต่างจากตัวแปรแบบปกติทั่วไป ได้แก่ ตัวแปรพอยน์เตอร์
(Pointer) ตัวแปรโครงสร้าง (Structure) และตัวแปรยูเนียน (Union) โดยพอยน์เตอร์ คือ ตัวแปรที่ใช้เก็บ
ตำแหน่งของข้อมูลแทนการเก็บค่าข้อมูลโดยตรง ตัวแปรโครงสร้างใช้สำหรับเก็บข้อมูลหลายชนิดไว้ในตัวแปร
เดยี วกนั สว่ นตวั แปรยูเนยี นคือตัวแปรทส่ี ามารถเกบ็ ตัวแปรซ้อนกนั ไดโ้ ดยใชพ้ ้นื ท่หี น่วยความจำเดยี วกัน

จดุ ประสงค์ทั่วไป

1. เพือ่ ให้มคี วามรู้และความเขา้ ใจเกย่ี วกับลักษณะและการใชง้ านของตวั แปรแบบพิเศษ (ด้านพทุ ธพิ ิสัย)
2. เพื่อใหม้ ีทักษะในการเขียนโปรแกรมโดยใช้งานตัวแปรแบบพเิ ศษแบบต่างๆ (ด้านทักษะพิสัย)
3. เพื่อให้มเี จตคติที่ดีในการนำความรมู้ าประยุกต์ใช้ (ด้านจติ พสิ ัย)

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

1. อธิบายลกั ษณะของตัวแปรพิเศษแต่ละแบบได้ (ด้านพทุ ธพิ ิสยั )
2. ใช้งานตวั แปรพิเศษแต่ละแบบไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (ด้านทกั ษะพสิ ัย)
3. เขยี นโปรแกรมใช้งานตัวแปรแบบพเิ ศษตา่ งๆ ในภาษา C ได้ (ดา้ นทักษะพิสยั )
4. ประยกุ ต์ใช้ตัวแปรพเิ ศษแบบตา่ งๆ ในการเขยี นโปรแกรมภาษา C ได้ (ดา้ นจิตพิสยั )

เน้อื หาสาระการสอน/การเรยี นรู้