The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้(ว30245)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by amnouay3220, 2021-06-24 05:22:58

แผนการจัดการเรียนรู้(ว30245)

แผนการจัดการเรียนรู้(ว30245)

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การสืบพันธแ์ุ ละการเจรญิ เติบโตของสัตว์
แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ 3 การเจริญเตบิ โตของสัตว์

3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและความมุ่งมั่นใน
การทางาน

7. การวัดและการประเมนิ ผล

รายการวัด วิธีวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมนิ

7.1 การประเมินระหวา่ ง

การจัดกิจกรรม

1) การเจรญิ เติบโต - ตรวจใบงานท่ี 1.2 - ใบงานท่ี 1.2 - รอ้ ยละ 60

ของสัตว์ ผ่านเกณฑ์

- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions - ร้อยละ 60

ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั - ร้อยละ 60

ผ่านเกณฑ์

- ตรวจแผนผัง เรื่อง - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี

การเปล่ียนแปลงใน แผนผัง ผา่ นเกณฑ์

ระยะเอ็มบริโอของสตั ว์

- ตรวจผังมโนทศั น์ เรื่อง - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี

การเจรญิ เติบโตของสตั ว์ ผังมโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์

2) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - ผลงานทน่ี าเสนอ - ระดบั คุณภาพดี

ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์

3) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพดี

การทางาน การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

รายบคุ คล

4) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพดี

การทางานกลมุ่ การทางานกลมุ่ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์

5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพดี

อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์

ในการทางาน อันพึงประสงค์

7.2 ประเมนิ หลังเรียน

- Unit Questions - ตรวจ Unit Questions - Unit Questions - ร้อยละ 60

หนว่ ยการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ผ่านเกณฑ์

ที่ 1

53

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การสืบพันธแ์ุ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 3 การเจริญเติบโตของสัตว์

รายการวดั วิธวี ดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน
- Test for U - ตรวจ Test for U
- Test for U - รอ้ ยละ 60
หนว่ ยการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1
ที่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ
หลงั เรยี น หนว่ ย หลงั เรียน - แบบทดสอบหลังเรยี น - รอ้ ยละ 60
การเรยี นร้ทู ่ี 1 ผา่ นเกณฑ์

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 1 การสบื พันธุ์และการเจริญเตบิ โตของสตั ว์
2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 1 การสบื พันธ์แุ ละการเจริญเตบิ โตของสตั ว์
3) แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การสืบพนั ธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์
4) ใบงานที่ 1.2 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงในระยะเอ็มบรโิ อของสตั ว์
5) PowerPoint เร่ือง การสบื พันธ์ุและการเจริญเติบโตของสตั ว์
6) QR Code เรอื่ ง การเจรญิ เตบิ โตของสตั วป์ ีก
7) บัตรภาพไซโกต เซลล์ไข่ และการเจริญเตบิ โตของไก่ในไข่
8) แบบจาลองการเปลี่ยนแปลงในระยะเอม็ บรโิ อของสัตว์ การเจรญิ เติบโตของกบ ไก่ และมนษุ ย์
9) วดี ทิ ศั น์ เรอื่ ง การเปลย่ี นแปลงในระยะเอม็ บริโอของสตั ว์ การเจริญเติบโตของกบ ไก่ และมนุษย์

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) ห้องสมุด
3) ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์

54

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การสืบพนั ธแ์ุ ละการเจรญิ เตบิ โตของสัตว์
แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 3 การเจริญเติบโตของสตั ว์

ใบงานที่ 1.2
เรือ่ ง การเปลีย่ นแปลงในระยะเอม็ บรโิ อของสตั ว์

คาชแี้ จง : ระบุระยะของเอ็มบริโอจากภาพสไลด์ พร้อมอธิบายลักษณะท่ีสาคญั ของระยะดงั กล่าว

เอม็ บริโอระยะ .........................................................
ลักษณะท่ีสาคญั .......................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................

เอ็มบรโิ อระยะ .........................................................
ลกั ษณะที่สาคัญ .......................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................

เอ็มบรโิ อระยะ .........................................................
ลักษณะที่สาคญั .......................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................

55

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 การสืบพนั ธแ์ุ ละการเจรญิ เติบโตของสตั ว์ เฉลย
แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ 3 การเจริญเตบิ โตของสตั ว์

ใบงานที่ 1.2
เรื่อง การเปลยี่ นแปลงในระยะเอม็ บริโอของสัตว์

คาชีแ้ จง : ระบุระยะของเอม็ บริโอจากภาพสไลด์ พร้อมอธบิ ายลักษณะที่สาคญั ของระยะดังกลา่ ว

เอ็มบริโอระยะ บ...ล..า..ส..ท...เู.ล...ช..ัน.......................................
ลกั ษณะที่สาคัญ ...เ.ซ...ล..ล..์.ม..ีก...า..ร..จ..ัด...เ.ร..ีย...ล..ต...ัว..ใ.ห...ม...่ .โ..ด..ย....
.เ.ค...ล..่ือ...น...ท..่ีแ...ย..ก...จ..า..ก..ก...ัน...ไ.ป...เ.ร..ีย...ง.บ...ร..ิเ..ว..ณ...ผ...ิว..ช..ั้น...น...อ..ก....ท...า..
.ใ..ห..้เ..ก..ิด...ช..่อ...ง..บ..ล...า..ส..โ..ท...ซ..ีส....ซ...่ึง..เ.ป...็น..ช...่อ..ง..ก...ล..ว..ง..ต...ร..ง..ก..ล...า..ง..
.แ...ล..ะ..ม..ขี...อ..ง..เ.ห...ล..ว..บ...ร..ร..จ..อุ...ย..ู่ ...........................................

..................................................................................

..................................................................................

..................................................................................

เอ็มบริโอระยะ แ...ก..ส..ท...ร..เู.ล...ช..ัน.......................................
ลักษณะท่ีสาคัญ ...เ.ซ...ล...ล..์เ..ค..ล...่ือ..น...ท...ี่แ...ล..ะ...จ..ัด...เ.ร..ีย...ง..ต..ั.ว....
.เ..ป..็.น..เ..น..้ือ...เ.ย...ื่อ....3...ช...ั้น....ไ..ด..้แ...ก..่ ..เ.อ..็ก...โ.ท...เ..ด..ิร..์ม....เ..ม..โ..ซ..เ..ด..ิร..์ม....
.แ...ล..ะ...เ.อ..น...โ..ด..เ..ด..ิร..์ม....โ..ด..ย...เ.ค...ล..่ือ...น...ต..ัว..ใ..น...ล..ัก...ษ..ณ....ะ..ต...่า..ง...ๆ....
.เ..ช..่.น....ก...า..ร..บ...ุ่ม...ต..ั.ว....ก..า...ร..ค...ล..ุม...ต..ั.ว....ก..า...ร..ม..้.ว..น...ต..ั.ว....ก..า...ร...
.แ...ย...ก..ต...ัว....แ...ล..ะ...ย..ัง..ม...ีช...่อ..ง...แ..ก...ส...โ.ท...ร..ซ...ีส...เ.ก...ิด...ข..ึ้น...ซ...ึ่ง..จ...ะ...
.เ..จ..ร..ิญ...เ.ป...น็...ท..า..ง..เ.ด...นิ ..อ...า..ห..า..ร............................................

..................................................................................

เอ็มบริโอระยะ .ค..ล...เี .ว..จ................................................
ลกั ษณะท่ีสาคัญ ...ไ..ซ..โ..ก..ต...แ..บ...่ง.เ..ซ..ล..ล...์แ..บ...บ...ไ.ม...โ.ท...ซ..ิส..จ...น...
..ไ..ด..้ เ..ซ...ล...ล..์ .จ..า...น...ว..น...ม...า...ก....แ...ต...่ เ..ซ..ล...ล...์ ม...ี ข...น...า..ด...เ..ล..็ .ก...ล...ง.
..ต..า...ม..ล...า..ด..ั.บ....ซ..่ึ.ง..เ.ม...ื่อ..ส...ิ้น...ส..ุด...ร..ะ...ย..ะ...ค..ล...ีเ.ว...จ..จ...ะ..ไ..ด..้เ..ซ..ล...ล..์
..ล..ัก...ษ..ณ....ะ..ค..ล...า้ .ย...ผ..ล...น..อ้...ย..ห..น...า่...เ..ร..ยี ..ก..ว..า่....ม..อ...ร..ลู ..า...............

..................................................................................

..................................................................................

..................................................................................

56

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การสืบพนั ธแ์ุ ละการเจรญิ เตบิ โตของสตั ว์ 
แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 3 การเจริญเตบิ โตของสตั ว์

ไซโกต

57

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 การสืบพันธแุ์ ละการเจริญเตบิ โตของสตั ว์ 
แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ 3 การเจริญเติบโตของสัตว์

เซลลไ์ ข่

58

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การสืบพนั ธแุ์ ละการเจรญิ เติบโตของสัตว์ 
แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 3 การเจริญเติบโตของสตั ว์

การเจริญเตบิ โตของไก่ในไข่

59

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การสืบพันธแ์ุ ละการเจรญิ เตบิ โตของสัตว์
แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 3 การเจริญเตบิ โตของสัตว์

9. ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

ลงชื่อ .................................
( ................................ )

ตาแหนง่ .......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

60

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรูส้ ึก

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2

ระบบประสาทและอวยั วะรับความรูส้ ึก

เวลา 16 ช่ัวโมง

1. ผลการเรียนรู้

เขา้ ใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนษุ ย์ การหายใจและการแลกเปล่ียนแกส๊ การลาเลยี งสารและการ
หมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคล่ือนท่ี การสืบพันธ์ุ
และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมทั้งนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์

5. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบประสาทของไฮดรา
พลานาเรยี ไส้เดอื นดิน กงุ้ หอย แมลง และสตั ว์มีกระดูกสันหลงั

6. อธบิ ายเกยี่ วกบั โครงสร้างและหน้าที่ของเซลลป์ ระสาท
7. อธิบายเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาทและกลไก

การถา่ ยทอดกระแสประสาท
8. อธบิ าย และสรุปเกยี่ วกบั โครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก
9. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง

สมองสว่ นหลัง และไขสันหลัง
10. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทางานของระบบประสาทโซมาติกและ

ระบบประสาทอัตโนวัติ
11. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังของมนุษย์

ยกตวั อย่างโรคต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง และบอกแนวทางในการดูแลปอ้ งกัน และรักษา
12. สังเกต และอธิบายการหาตาแหนง่ ของจดุ บอด โฟเวีย และความไวในการรับสมั ผสั ของผิวหนงั

2. สาระการเรยี นรู้

2.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1) สัตว์ส่วนใหญ่มีระบบประสาททาให้สามารถรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ เช่น ไฮดรา มีร่างแห
ประสาท พลานาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย และแมลงมีปมประสาทและเส้นประสาท ส่วนสัตว์มี
กระดูกสนั หลังมีสมอง ไขสนั หลัง ปมประสาทและเส้นประสาท
2) หนว่ ยทางานของระบบประสาท คือ เซลล์ประสาท ซ่ึงประกอบดว้ ยตัวเซลล์ และเส้นใยประสาทท่ี
ทาหน้าที่รับและส่งกระแสประสาทเรยี กว่า เดนไดรต์และแอกซอน ตามลาดบั
3) เซลล์ประสาทจาแนกตามหน้าท่ี ได้เปน็ เซลลป์ ระสาทรับความร้สู ึก เซลลป์ ระสาทส่ังการและเซลล์
ประสาทประสานงาน

61

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรูส้ ึก

4) เซลล์ประสาทจาแนกตามรูปร่างได้เป็นเซลล์ประสาทขั้วเดียว เซลล์ประสาทขั้วเดียวเทียมเซลล์
ประสาทสองขั้ว และเซลล์ประสาทหลายขว้ั

5) กระแสประสาทเกิดจากการเปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้มเซลล์ของเดนไดรต์และแอกซอน
ทาให้มีการถ่ายทอดกระแสประสาทจากเซลล์ประสาทไปยังเซลล์ประสาท หรือเซลล์อื่น ๆ ผ่าน
ทางไซแนปส์

6) ระบบประสาทของมนุษย์แบ่งได้เป็น 2 ระบบตามตาแหน่งและโครงสร้าง คือ ระบบประสาท
ส่วนกลาง ได้แก่ สมองและไขสันหลัง และระบบประสาทรอบนอก ได้แก่ เส้นประสาทสมองและ
เสน้ ประสาทไขสันหลัง

7) สมองแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คอื สมองสว่ นหน้าสมองส่วนกลาง และสมองสว่ นหลงั สมองแตล่ ะสว่ น
จะควบคุมการทางานของร่างกายแตกต่างกัน โดยมีเส้นประสาทที่แยกออกจากสมอง 12 คู่ ไปยัง
อวัยวะต่าง ๆ ซึ่งบางคู่ทาหน้าท่ีรับความรู้สึกเข้าสู่สมอง หรือนาคาส่ังจากสมองไปยังหน่วย
ปฏบิ ตั งิ าน หรือทาหนา้ ท่ีทัง้ สองอยา่ ง

8) ไขสันหลังเป็นส่วนท่ีต่อจากสมองอยู่ภายในกระดูกสันหลัง และมีเส้นประสาทแยกออกจาก
ไขสันหลังเป็นคู่ ซ่ึงทาหน้าท่ีประมวลผลการตอบสนองโดยไขสันหลัง เช่น การเกิดรีเฟล็กซ์ชนิด
ตา่ ง ๆ และการถา่ ยทอดกระแสประสาทระหว่างไขสันหลงั กบั สมอง

9) เส้นประสาทไขสันหลังทุกคู่จะทาหน้าท่ีรับความรู้สึกเข้าสู่ไขสันหลังและนาคาสั่งออกจาก
ไขสนั หลัง

10) ระบบประสาทรอบนอกส่วนท่ีสั่งการแบ่งเป็นระบบประสาทโซมาติกซึ่งควบคุมการทางานของ
กล้ามเนื้อโครงร่าง และระบบประสาทอตั โนวัติซงึ่ ควบคมุ การทางานของกลา้ มเนื้อหัวใจกล้ามเนื้อ
เรียบ และตอ่ มต่าง ๆ

11) ระบบประสาทอัตโนวัติแบ่งการทางานเป็น 2 ระบบ คือ ระบบประสาทซิมพาเทติก และระบบ
ประสาทพาราซิมพาเทติก ซ่ึงส่วนใหญ่ทางานตรงกันข้ามเพ่ือรักษาดุลยภาพของกระบวนการ
ตา่ ง ๆ ในรา่ งกาย

12) ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง เป็นอวัยวะรับความรู้สึกที่รับส่ิงเร้าท่ีแตกต่างกัน จึงมีความสาคัญท่ี
ควรดูแล ป้องกัน และรกั ษาใหส้ ามารถทางานไดเ้ ปน็ ปกติ

13) ตาประกอบด้วย ชั้นสเคลอรา โครอยด์และเรตินา เลนส์ตาเป็นเลนส์นูนอยู่ถัดจากกระจกตา
ทาหน้าทีร่ วมแสงจากวัตถไุ ปทเี่ รตนิ า ซ่งึ ประกอบด้วย เซลล์รับแสง และเซลลป์ ระสาทท่นี ากระแส
ประสาทสสู่ มอง

14) หูประกอบด้วย ๓ ส่วน คือ หูส่วนนอก หูส่วนกลางและหูส่วนใน ภายในหูส่วนในมีคอเคลีย ซึ่ง
ทาหน้าท่ีรับและเปลี่ยนคล่ืนเสียงเป็นกระแสประสาท นอกจากนี้ยังมีเซมิเซอร์คิวลาร์แคเเนล
ทาหนา้ ทีร่ ับรเู้ กย่ี วกับการทรงตวั ของรา่ งกาย

15) จมูกมีเซลล์ประสาทรับกลิ่นอยู่ภายในเย่ือบุจมูกท่ีเป็นตัวรับสารเคมีบางชนิดแล้วเกิดกระแส
ประสาทส่งไปยังสมอง

62

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความร้สู ึก

16) ล้ินทาหน้าที่รับรส โดยมีตุ่มรับรสกระจายอยู่ทั่วผิวลิ้นด้านบน ตุ่มรับรสมีเซลล์รับรสอยู่ภายใน
เมื่อเซลล์รับรสถูกกระตุ้นด้วยสารเคมีจะกระตุ้นเดนไดรต์ของเซลล์ประสาทเกิดกระแสประสาท
สง่ ไปยงั สมอง

17) ผวิ หนงั มีหนว่ ยรับส่ิงเรา้ หลายชนิด เช่น หนว่ ยรับสัมผัส หน่วยรบั แรงกด หนว่ ยรับความเจบ็ ปวด
หน่วยรับอุณหภูมิ

2.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น
(พิจารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

สัตว์มีการรับรู้และการตอบสนองต่อสิ่งเร้าแตกต่างกัน สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ไฮดรามีร่างแห
ประสาทเช่ือมโยงกัน พลานาเรียมีปมประสาทสมองบริเวณหัว 2 ปม ทาหน้าที่เป็นสมอง มีเส้นประสาท
ดา้ นข้าง 2 เส้น ที่ต่อมาจากปมประสามสมอง และมีเส้นประสาทตามขวางเช่ือมเส้นประสาทด้านข้างทั้ง 2
เส้น ไส้เดือนดินมีปมประสาทสมองบริเวณหัว 2 ปม มีเสน้ ประสาทรอบคอหอย 2 เส้น โอบรอบคอหอยมา
เชื่อมกันเป้นปมประสาทใต้คอหอยและเช่ือมกับปมประสาทคู่ด้านท้อง และยังมีปมประสาทท่ีปล้องทุก
ปล้องตามแนวยาวของลาตัวซ่ึงมีแขนงประสาทย่ืนเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ หอยทากมีปมประสาท 3 คู่ ได้แก่
ปมประสาทสมองควบคุมบริเวณส่วนหัว ปมประสาทเท้าควบคุมการหดตัวของกล้ามเน้ือสาหรับการ
เคลื่อนที่ และปมประสาทอวัยวะภายในควบคุมการทางานของอวัยวะภายใน กุ้งมีสมองเป็นปมประสาท
บริเวณส่วนหัว สมองมีเส้นประสาทล้อมรอบหลอดอาหารลงมายังปมประสาทด้านล่างรวมกันเป็นปม
ประสาททรวงอกซึ่งมี 7 ปม ทอดยาวเป็นปมประสาทส่วนท้อง และมีปมประสาทแยกออกไปยังกล้ามเน้ือ
และระยางค์ต่าง ๆ แมลงมีปมประสาทส่วนหัว 6 คู่ (3 คู่ รวมเป็นสมอง และ 3 คู่ รวมเป็นปมประสาทใต้
สมอง) ซ่ึงจะเช่ือมต่อกับปมประสาทตามปล้องตลอดแนวยาวของลาตัวและมีเส้นประสาทแยกไปเลียง
อวัยวะต่าง ๆ ส่วนสัตว์มีกระดูกสันหลังมีเซลล์ประสาทรวทกันเป็นสมองบริเวณส่วนหัว มีไขสันหลังทอด
ยาวไปตามดาตัว และมเี สน้ ประสาทแยกออกมาจานวนมากเพอื่ ทาหนา้ ท่ีควบคมุ และประสาทงานต่าง ๆ

เซลล์ประสาททาหน้าท่ีรับและส่งสัญญาณประสาทไปยังเซลล์ต่าง ๆ ท่ัวร่างกาย มีโครงสร้างแบ่ง
ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตัวเซลล์ประกอบด้วยนิวเคลียสและไซโทพลาซึมท่ีมีออร์แกเนลล์อยู่ภายใน ทา
หน้าที่สังเคราะห์สารที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของเซลล์ และเส้นใยประสาททาหน้าที่รับและส่งกระแส
ประสาท แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ เดนไดรต์ทาหน้าท่ีนากระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์และแอกซอนทา
หน้าที่นากระแสประสาทออกจากตัวเซลล์ เซลล์ประสาทจาแนกตามหน้าท่ีการทางานได้ 3 ประเภท ได้แก่
เซลลป์ ระสาทรับความรสู้ ึก เซลล์ประสาทสั่งการ และเซลล์ประสาทประสานงาน และจาแนกตามรูปร่างได้
4 ประเภท ได้แก่ เซลล์ประสาทขั้วเดียว เซลล์ประสาทขั้วเดียวเทียม เซลล์ประสาทสองขั้ว และเซลล์
ประสาทหลายขัว้

63

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู ึก

การถ่ายทอดกระแสประสาทอาศัยการเปลี่ยนแปลงศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้มเซลล์ เรียกว่า แอกชันโพเทน
เชียล ซ่ึงการถ่ายทอดกระแสประสาทจะเกิดขึ้นระหว่างไซแนปส์ เมื่อกระแสประสาทถูกส่งมาที่ปลายแอก
ซอนของเซลล์ประสาทก่อนไซแนปส์ ถุงบรรจุสารสื่อประสาทเคลื่อนท่ีไปชิดเย่ือหุ้มเซลล์แล้วปล่อยสารสื่อ
ประสาทไปยังเซลลป์ ระสาทหลงั ไซแนปส์ ทาให้เกดิ การถ่ายทอดกระแสประสาทไปยงั เซลลป์ ระสาทถดั ไป

ศนู ย์ควบคมุ ระบบประสาท แบง่ ออกเป็น 2 สว่ น ดังน้ี
- สมอง แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ สมองส่วนหน้าประกอบด้วยเซรบี รัมทาหน้าท่ีควบคุมความคิดและ

การทางานต่าง ๆ ของร่างกาย ไฮโพทาลามัสทาหน้าท่ีควบคุมอุณหภูมิ การเต้นของหัวใจ ความ
ดันเลือด และความต้องการพ้ืนฐานของร่างกาย ทาลามัสทาหน้าท่ีเป็นศูนย์รวบรวมกระแส
ประสาทเข้าและออก และแยกกระแสประสาทส่งไปยังสมองสว่ นตา่ ง ๆ สมองส่วนกลาง คือ ออพ
ติกโลบทาหน้าทค่ี วบคุมการเคลอื่ นไหวของลูกตาและการปิดเปิดของรมู ่านตาเมอื่ ไดร้ บั แสง สมอง
ส่วนท้ายประกอบด้วยเซรีเบลลัมทาหน้าท่ีควบคุมการเคล่ือนไหวและการทรงตัวของร่างกาย
เมดัลลาออบลองกาตาทาหน้าที่ควบคุมการทางานของระบบประสาทอัตโนมัติ พอนส์ทาหน้าท่ี
ควบคุมการเค้ียว การหล่ังนา้ ลาย การเคลือ่ นไหวของใบหนา้ และการหายใจ สมองมีเส้นประสาท
แยกออกมา 12 คู่ ทาหน้าท่ีรบั ความรู้สึก (คู่ที่ 1 2 และ 8) ส่ังการ (คู่ที่ 3 4 6 11 และ 12) หรือ
รับความรู้สกึ และสัง่ การ (คทู่ ่ี 5 7 9 และ 10)
- ไขสันหลัง เป็นระบบประสาทที่ต่อมาจากสมอง อยู่ภายในกระดูกสันหลังต้ังแต่ข้อแรกถึงกระดูก
บ้ันเอวข้อท่ี 2 และมีเส้นประสาทไขสันหลังแยกออกมา 31 คู่ ได้แก่ เส้นประสาทไขสันหลัง
บริเวณคอ 8 คู่ เส้นประสาทไขสันหลังบริเวณอก 12 คู่ เส้นประสาทไขสันหลังบริเวณเอว 5 คู่
เส้นประสาทไขสันหลงั บริเวณกระเบนเหน็บ 5 คู่ และเสน้ ประสาทไขสนั หลงั บรเิ วณกน้ กบ 1 คู่
การทางานของระบบประสาทแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนรับความรู้สึกและส่วนสั่งการ ซ่ึงส่วนสั่ง
การแบ่งออกเปน็ 2 ระบบ ดงั น้ี
- ระบบประสาทโซมาติก เป็นระบบประสาทภายใต้อานาจจิตใจ ถูกส่ังการโดยสมองส่วนเซรีบรัม
แบ่งออกเป็น 2 ระบบ ได้แก่ รีเฟล็กซ์แอกชันเป็นการทางานของระบบประสาทผ่านไขสันหลัง
เพียงอยา่ งเดยี ว และรเี ฟลก็ อารก์ เป็นการทางานของระบบประสาทท่ผี ่านไขสนั หลังและสมอง
- ระบบประสาทอัตโนวัติ เป็นระบบประสาทนอกอานาจจิตใจ ทาหน้าที่ควบคุมการทางานของ
อวัยวะท่ีอยู่นอกอานาจจิตใจ แบ่งออกเป็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบประสาทซิมพาเทติกและระบบ
ประสาทพาราซมิ พาเทติก ซงึ่ ระบบประสาท 2 ระบบนีจ้ ะทางานในสภาวะที่ตรงขา้ มกนั
มนษุ ยม์ ีอวัยวะรับสมั ผัส ดงั นี้
- ตา เมื่อแสงตกกระทบกับวัตถุและสะท้อนเข้าสู่นัยน์ตา แสงผ่านรูม่านตาโดยมีเลนส์ตาทาหน้าท่ี
รวมแสงไปตกบริเวณเรตินาท่ีประกอบด้วยเซลล์รูปแท่งและเซลล์รูปกรวย แล้วแปลเป็นกระแส
ประสาทส่งไปทางเสน้ ประสาทสมองคทู่ ี่ 2 เข้าสสู่ มองส่วนออพตกิ โลบ

64

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สึก

- หู เมื่อคล่ืนเสยี งผ่านเขา้ หู จากหสู ว่ นนอก หสู ่วนกลาง และหูส่วนใน คลื่นเสียงจะทาให้ของเหลว
ในคอเคลียสั่นสะเทือน แล้วแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปยังเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 เพื่อเข้าสู่
สมองส่วนเซรีบรัม และยังทาหน้าที่รับรู้การทรงตัวของร่างกายโดยอาศัยการเปล่ียนแปลงของ
ของเหลวในเซมิเซอร์คิวลาร์แคแนล แล้วแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปยังเส้นประสาทสมองคู่ท่ี
8 เพือ่ เข้าสู่สมองสว่ นเซรีเบลลัม

- จมูก เมื่อโมเลกุลสารเคมีผ่านเข้าจมูก ออลแฟกทอรีเซลล์ทาหน้าที่รับกลิ่นและแปลเป็นกระแส
ประสาทสง่ ไปยังเสน้ ประสาทสมองคทู่ ่ี 1 นาเขา้ สู่สมองส่วนเซรีบรมั

- ล้ิน มีตุ่มรับรสทาหน้าที่รับรสและแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปตามเส้นประสาทสมองคู่ท่ี 7
และ 9 เขา้ สูส่ มองสว่ นเซรบี รมั

- ผิวหนัง มีเซลล์ประสาทรับความรู้สึกจานวนมาก ท้ังการสัมผัส แรงกด ความร้อน ความเย็น ซึ่ง
จะส่งกระแสประสาทไปยังสมอง

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ยั

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มุ่งม่ันในการทางาน

2) ทกั ษะการสารวจค้นหา

3) ทกั ษะการจาแนกประเภท

4) ทักษะการเปรียบเทยี บ

5) ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมลู

6) ทักษะการจัดกระทาและสื่อความหมายข้อมูล

7) ทกั ษะการสร้างแบบจาลอง

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

5. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- รายงาน เรื่อง การสารวจระบบประสาทของสตั ว์
- รายงาน เรื่อง โรคท่ีเกยี่ วขอ้ งกับอวัยวะรับความรู้สึก
- ผังมโนทัศน์ เรือ่ ง การรับรแู้ ละการตอบสนองของสตั ว์
- ผังมโนทัศน์ เร่อื ง โครงสรา้ งและประเภทของเซลล์ประสาท
- ผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง ศูนยค์ วบคุมระบบประสาท
- ผงั มโนทศั น์ เรือ่ ง การทางานของระบบประสาท

65

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความร้สู ึก

- ผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง อวัยวะรบั ความร้สู กึ
- แผนผงั เปรียบเทยี บ เรือ่ ง ประเภทของเซลล์ประสาท
- แผนภาพ เรื่อง การเปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟา้ ที่เยอื่ หุม้ เซลลแ์ ละการถา่ ยทอดกระแสประสาท
- ป้ายนเิ ทศ เรอ่ื ง โรคท่เี กย่ี วข้องกับอวัยวะรับความร้สู กึ
- แผน่ พบั เร่อื ง โรคท่ีเกยี่ วข้องกับอวยั วะรับความรูส้ กึ
- แบบจาลองอวยั วะรบั ความรูส้ ึก

6. การวดั และการประเมนิ ผล

รายการวดั วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

6.1 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ - รายงาน เร่อื ง การ - แบบประเมนิ รายงาน - ระดับคณุ ภาพ 2

ภาระงานรวบยอด สารวจระบบประสาท ผา่ นเกณฑ์

ของสัตว์

- รายงาน เร่อื ง โรคที่ - แบบประเมิรายงาน - ระดบั คณุ ภาพ 2

เกีย่ วขอ้ งกบั อวัยวะรับ ผา่ นเกณฑ์

ความรู้สึก

- ผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง การ - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2

รับรู้และการตอบสนอง ผังมโนทศั น์ ผา่ นเกณฑ์

ของสัตว์

- ผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2

โครงสร้างและประเภท ผังมโนทศั น์ ผ่านเกณฑ์

ของเซลลป์ ระสาท

- ผังมโนทัศน์ เรื่อง ศูนย์ - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2

ควบคมุ ระบบประสาท ผงั มโนทศั น์ ผา่ นเกณฑ์

- ผงั มโนทัศน์ เรอื่ ง การ - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2

ทางานของระบบ ผงั มโนทัศน์ ผา่ นเกณฑ์

ประสาท

- ผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2

อวัยวะรบั ความรู้สกึ ผงั มโนทศั น์ ผา่ นเกณฑ์

- แผนผงั เปรียบเทียบ - แบบประเมินแผนผัง - ระดับคุณภาพ 2

เรอื่ ง ประเภทของเซลล์ ผา่ นเกณฑ์

ประสาท

66

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก

รายการวัด วธิ ีวดั เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
- แผนภาพ เร่อื ง การ - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2
6.2 การประเมินก่อนเรียน
- แบบทดสอบ เปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟา้ แผนภาพ ผา่ นเกณฑ์
ก่อนเรียน หนว่ ย ที่เยือ่ หุ้มเซลลแ์ ละการ
การเรยี นรู้ท่ี 2 ถา่ ยทอดกระแส - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2
ประสาท ป้ายนิเทศ ผา่ นเกณฑ์
6.3 การประเมินระหวา่ ง - ปา้ ยนิเทศ เร่อื ง โรคท่ี
การจดั กิจกรรม เกย่ี วขอ้ งกบั อวัยวะรับ - แบบประเมนิ แผ่นพบั - ระดบั คุณภาพ 2
1) การรบั ร้แู ละการ ความรู้สกึ ผา่ นเกณฑ์
ตอบสนองของสัตว์ - แผน่ พับ เร่ือง โรคท่ี - แบบประเมนิ
เกี่ยวขอ้ งกบั อวัยวะรบั แบบจาลอง - ระดับคุณภาพ 2
2) เซลลป์ ระสาทและ ความรู้สึก ผา่ นเกณฑ์
การทางานของ - แบบจาลองอวัยวะรับ - แบบทดสอบ
เซลล์ประสาท ความรู้สกึ ก่อนเรยี น - ประเมนิ ตามสภาพ
จริง
- ตรวจแบบทดสอบ - Topic Questions
กอ่ นเรียน - แบบฝึกหัด - รอ้ ยละ 60
- ใบงานที่ 2.1 ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions
- แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60
- ตรวจแบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจใบงานที่ 2.1 - รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
- ตรวจ Topic Questions
- ร้อยละ 60
- ตรวจแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์

- ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์

67

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู ึก

รายการวัด วิธวี ดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ

3) ศูนยค์ วบคมุ - ตรวจใบงานที่ 2.2 - ใบงานท่ี 2.2 - รอ้ ยละ 60

ระบบประสาท ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions - รอ้ ยละ 60

ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั - ร้อยละ 60

ผา่ นเกณฑ์

4) การทางานของ - ตรวจใบงานท่ี 2.3 - ใบงานที่ 2.3 - รอ้ ยละ 60

ระบบประสาท ผ่านเกณฑ์

- ตรวจใบงานท่ี 2.4 - ใบงานท่ี 2.3 - ร้อยละ 60

ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions - ร้อยละ 60

ผ่านเกณฑ์

- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60

ผ่านเกณฑ์

5) อวยั วะรบั ความร้สู ึก - ตรวจใบงานท่ี 2.5 - ใบงาที่ 2.5 - รอ้ ยละ 60

ผ่านเกณฑ์

- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions - ร้อยละ 60

ผ่านเกณฑ์

- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั - ร้อยละ 60

ผา่ นเกณฑ์

6) การปฏบิ ตั ิการ - ประเมินการปฏบิ ตั กิ าร - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพดี

ปฏบิ ตั กิ าร ผ่านเกณฑ์

7) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - ผลงานท่นี าเสนอ - ระดบั คุณภาพดี

ผลงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์

8) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี

ทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

9) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพดี

การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์

10) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี

อันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์

ในการทางาน อนั พึงประสงค์

68

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สึก

รายการวัด วิธวี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
6.4 ประเมินหลงั เรียน
- ตรวจ Unit Questions - Unit Questions - รอ้ ยละ 60
- Unit Questions หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรยี นรู้
ท่ี 2 - ตรวจ Test for U - Test for U - ร้อยละ 60
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ผา่ นเกณฑ์
- Test for U
หนว่ ยการเรียนรู้ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น - รอ้ ยละ 60
ที่ 2 หลงั เรียน ผา่ นเกณฑ์

- แบบทดสอบ
หลงั เรียน หน่วย
การเรียนรทู้ ่ี 2

7. กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา 2 ช่ัวโมง

 แผนฯ ที่ 1 : การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ เวลา 3 ชั่วโมง
วธิ ีการสอนแบบเน้นมโนทัศน์ (Concept-Based Instruction)
เวลา 3 ช่ัวโมง
 แผนฯ ที่ 2 : การทางานของเซลลป์ ระสาท
วิธกี ารสอนแบบเนน้ มโนทัศน์ (Concept-Based Instruction) เวลา 2 ชว่ั โมง

 แผนฯ ที่ 3 : ศูนย์ควบคมุ ระบบประสาท เวลา 6 ช่ัวโมง
วธิ กี ารสอนแบบการบรรยาย (Lecture Method) (รวม 16 ชว่ั โมง)

 แผนฯ ท่ี 4 : การทางานของระบบประสาท
วธิ ีการสอนแบบนริ นัย (Deduction Method)

 แผนฯ ที่ 5 : อวยั วะรบั ความรู้สึก
วธิ กี ารสอนแบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

69

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น รายวิชาเพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 2 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรสู้ ึก
2) แบบฝึกหัด รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรสู้ ึก
3) แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรสู้ ึก
4) แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ กึ
5) ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง เซลลป์ ระสาท
6) ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง สมอง
7) ใบงานที่ 2.3 เร่อื ง ระบบประสาทอัตโนวัติ
8) ใบงานท่ี 2.4 เร่ือง การทางานของระบบประสาท
9) ใบงานที่ 2.5 เรอื่ ง อวยั วะรับความรู้สกึ
7) แบบจาลองสมองของสัตวก์ ลุ่มต่าง ๆ และแบบจาลองโครงสรา้ งของตา หู จมกู ล้นิ และผิวหนัง
8) PowerPoint เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
9) QR Code เรอ่ื ง ไซแนปส์ สมอง เส้นประสาทสมอง เส้นประสาทไขสนั หลัง โครงสรา้ งของตา
โครงสร้างของหู และโครงสร้างของผวิ หนัง
10) วดี ทิ ัศน์ เรื่อง การตอบสนองต่อสิ่งเรา้ ของสัตว์
11) บัตรภาพการรับรู้และการตอบสนอง เซลล์ในร่างกาย การทดลองการส่งกระแสประสาทของ
เส้นประสาทไขสันหลังของกบ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) ห้องปฏิบัตกิ าร
4) ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์

70

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สึก

แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2

คาชีแ้ จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. สตั ว์ชนิดใดมีระบบประสาทแบบร่างแหประสาท 6. การเคลื่อนท่ีของ Na+ และ K+ เข้าและออกจาก

1. หมกึ 2. ไฮดรา เซลล์ในแอกชันโพเทนเชยี ลใชก้ ระบวนการใด

3. ตั๊กแตน 4. พลานาเรยี 1. การแพร่ 2. ออสโมซิส

5. ไส้เดือนดิน 3. เอนโดไซโทซิส 4. แอก็ ทีฟทรานสปอรต์

2. ส่วนใดทาให้เซลล์ประสาทส่งกระแสประสาท 5. การแพรแ่ บบฟาซิลิเทต

เรว็ ข้ึน 7. สมองส่วนใดควบคุมการเคลอื่ นไหวของรา่ งกาย

1. แอกซอน 2. เดนไดรต์ 1. พอนส์ 2. เซรีบรมั

3. เยอื่ ไมอีลนิ 4. เซลล์ชวันน์ 3. เซรเี บลลมั 4. ไฮโพทาลามสั

5. โนดออฟแรนเวยี ร์ 5. เมดัลลาออบลองกาตา

3. เซลลป์ ระสาทสองขว้ั พบบริเวณใดของรา่ งกาย 8. ข้อใดเป็นการทางานของระบบประสาทซิมพาเทติก

1. สมอง 2. ไขสันหลงั 1. ทอ่ ลมหดตวั 2. ม่านตาหดตวั

3. กล้ามเน้ือเรยี บ 4. เรตินาของลกู ตา 3. หลอดเลือดหดตวั 4. ฮอรโ์ มนหลงั่ มากขึ้น

5. ท่อยูสเตเชยี นของหู 5. หวั ใจเตน้ แรงและเรว็ ข้นึ

4. ปัจจัยใดมีผลตอ่ การเคล่ือนทีข่ องกระแสประสาท 9. ทอ่ ยสู เตเชยี นท่พี บในหชู ั้นกลางทาหนา้ ที่ใด

1. จานวนเดนไดรต์ 1. รวบรวมคล่นื เสยี ง

2. จานวนเซลลช์ วันน์ 2. ปรบั ความดนั อากาศ

3. 3. ความยาวของแอกซอน 3. ควบคมุ การทรงตวั ของรา่ งกาย

4. ระยะห่างของโนดออฟแรนเวยี ร์ 4. ขยายการสน่ั สะเทือนของคลน่ื เสยี ง

5. อตั ราสว่ นของเดนไดรต์ต่อแอกซอน 5. เปล่ยี นสัญญาณเสยี งเป็นกระแสประสาท

5. ข้อใดกล่าวถงึ แอกชนั โพเทนเชียลได้ถกู ตอ้ ง 10. เส้นประสาทสมองคู่ใดทาหน้าที่รับกระแส

1. ระยะดโี พลาไรเซชนั มีคา่ ศักย์ไฟฟา้ -70 mV ประสาทบรเิ วณลน้ิ

2. ศกั ยเ์ ยื่อเซลล์ระยะพกั มคี า่ ศักย์ไฟฟ้า +70 mV 1. ค่ทู ี่ 1 2. คทู่ ี่ 3

3. รโี พลาไรเซชันเกิดข้นึ เมอื่ K+ เขา้ สภู่ ายในเซลล์ 3. ค่ทู ่ี 5 4. คูท่ ่ี 8

4. ดีโพลาไรเซชันเกิดข้ึนเม่ือ Na+ เข้าสู่ภายใน 5. ค่ทู ่ี 9

เซลล์

5. ในระยะศักย์เยื่อเซลล์ระยะพัก ภายในเซลล์มี

Na+ สงู กวา่ ภายนอกเซลล์

เฉลย
1. 2 2. 5 3. 4 4. 4 5. 4 6. 4 7. 3 8. 5 9. 2 10. 5

71

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู กึ

แบบทดสอบหลังเรยี น
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2

คาชีแ้ จง : ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. สัตว์ชนดิ ใดมีปมประสาทเป็นพวกแรก 6. ข้อใดกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงศักย์ไฟฟ้าที่

1. หอย 2. ไฮดรา เยือ่ หุม้ เซลลไ์ ด้ถูกต้อง

3. พลานาเรีย 4. แมงกะพรนุ 1. เกิดจากการเคล่ือนที่ของ Na+ และ Cl- เข้า

5. ไสเ้ ดือนดนิ และออกจากเซลล์

2. ลักษณะใดทาให้เซลล์ประสาทแตกต่างจาก 2. ในระยะท่ีเซลล์ประสาทไม่ถูกกระตุ้น ภายใน

เซลล์ร่างกายอนื่ ๆ เซลลจ์ ะมี Na+ สูง

1. มีนวิ เคลยี สกลมใหญ่ 3. เมื่อเซลล์ถูกกระตุ้น Na+ จะไหลเข้าสู่เซลล์

2. มีเส้นใยแยกออกจากตัวเซลล์ ทาใหค้ ่าศกั ย์ไฟฟา้ เป็นลบมากขึ้น

3. มีรปู รา่ งรียาวและหัวทา้ ยแหลม 4. เม่ือเซลล์ถูกกระตุ้น K+ จะไหลออกนอกเซลล์

4. มีนิวเคลียสมากกวา่ 1 นิวเคลียส/เซลล์ ทาใหค้ า่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ เป็นบวกมากข้ึน

5. มีไมโทคอนเดรียภายในเซลลจ์ านวนมาก 5. โซเดียมโพแทสเซียมปั๊มเกิดจากการขับ Na+

3. เซลลป์ ระสาทประสานงานพบท่สี ่วนใด และดึง K+ ในอตั ราส่วน 2Na+: 3K+

1. สมอง 2. กลา้ มเนอื้ 7. หากสมองส่วนใดทางานผิดปกติจะส่งผลต่อการ

3. ต่อมไรท้ อ่ 4. อวยั วะภายใน เคลอ่ื นไหวของลกู ตา

5. อวัยวะรบั ความรู้สึก 1. พอนส์ 2. เซรีบรัม

4. บริเวณใดท่ีมีการเปล่ียนแปลงของไอออน 3. เซรีเบลลัม 4. ออพติกโลบ

ระหว่างการนากระแสประสาท 5. ไฮโพทาลามสั

1. ตัวเซลล์ 2. เดนไดรต์ 8. ข้อใดเป็นผลจากการทางานของระบบประสาท

3. เยือ่ ไมอลี นิ 4. เซลลช์ วันน์ พาราซมิ พาเทติก

5. โนดออฟแรนเเวยี ร์ 1. ท่อลมหดตวั 2. กลนั้ ปสั สาวะ

5. เซลลป์ ระสาทข้อใดนากระแสประสาทได้ดที ่ีสุด 3. อณุ หภูมเิ พ่ิมข้ึน 4. มดลกู บบี ตัวลดลง

ขอ้ ขนาด ระยะห่างของ 5. ยบั ยั้งการหลง่ั เอนไซม์

เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง โนดออฟแรนเวยี ร์ 9. เซลลร์ ับแสงพบบรเิ วณส่วนใดของนยั นต์ า

1. 3 ไมโครเมตร 100 ไมโครเมตร 1. ม่านตา 2. เรตนิ า
2. 5 ไมโครเมตร 100 ไมโครเมตร
3. 3 ไมโครเมตร 200 ไมโครเมตร 3. โครอยด์ 4. เลนส์ตา
4. 5 ไมโครเมตร 200 ไมโครเมตร
5. สเคลอรา

5. 5 ไมโครเมตร ไม่มีเยื่อไมอีลนิ หุ้ม

72

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สกึ

แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2

คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

10. ความผิดปกติของเสน้ ประสาทสมองคู่ใดทาให้

สญู เสยี ความสามารถในการดมกลิ่น

1. ค่ทู ่ี 1 2. คทู่ ี่ 4

3. คทู่ ่ี 5 4. คู่ท่ี 7

5. คู่ท่ี 9

เฉลย
1. 3 2. 2 3. 2 4. 5 5. 4 6. 3 7. 4 8. 3 9. 2 10. 1

73

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรูส้ ึก

แบบประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 1 2 3 และ 5

แบบประเมินผงั มโนทัศน์/แผน่ พับ/ปา้ ยนเิ ทศ/แผนภาพ

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินชิ้นงาน/ภาระงานของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด  ลงในช่องท่ีตรง

กบั ระดบั คะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321

1 ความสอดคล้องกับจุดประสงค์

2 ความถกู ต้องของเนื้อหา

3 ความคดิ สร้างสรรค์

4 ความตรงต่อเวลา

รวม

ลงช่ือ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ
............../................../................

เกณฑ์การประเมนิ ผังมโนทศั น์/แผน่ พับ/ป้ายนเิ ทศ/แผนภาพ

ประเดน็ ที่ประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32

1. ความ ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานไมส่ อดคล้องกบั

สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ทกุ ประเด็น จุดประสงคเ์ ป็น จุดประสงคบ์ างประเด็น จดุ ประสงค์

จุดประสงค์ สว่ นใหญ่

2. ความถกู ต้อง เนอื้ หาสาระของผลงาน เนื้อหาสาระของผลงาน เนอ้ื หาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน

ของเนอื้ หา ถกู ต้องครบถ้วน ถูกตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ ถูกต้องบางประเดน็ ไม่ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่

3. ความคิด ผลงานแสดงถงึ ความคดิ ผลงานแสดงถึงความคดิ ผลงานมคี วามน่าสนใจ ผลงานไมม่ คี วาม
สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ สร้างสรรค์ แปลกใหม่ แตย่ งั ไมม่ ีแนวคดิ แปลก นา่ สนใจ และไม่แสดง
และเป็นระบบ แตย่ ังไมเ่ ปน็ ระบบ ใหม่ ถงึ แนวคดิ แปลกใหม่
4. ความตรงตอ่
เวลา ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่ ส่งชิน้ งานช้ากว่าเวลาที่ ส่งชิน้ งานชา้ กว่าเวลาที่ ส่งชิน้ งานช้ากว่าเวลาท่ี
กาหนด กาหนด 1 วัน กาหนด 2 วนั กาหนด 3 วันข้นึ ไป

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

14-16 ดีมาก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

74

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก

แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 1 และ 5

แบบประเมินรายงาน

คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมินช้ินงาน/ภาระงานของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด  ลงในช่องท่ีตรง
กับระดับคะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 ความถูกต้องของเน้ือหา
2 ความสมบูรณ์ของรูปเล่ม รวม
3 ความตรงต่อเวลา

ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมิน
............/................../..................

เกณฑก์ ารประเมินรายงาน

ประเดน็ ทีป่ ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32

1. ความถกู ต้อง เน้อื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เน้ือหาสาระของ

ของเน้ือหา รายงานถูกต้องครบถว้ น รายงานถกู ตอ้ งเปน็ รายงานถูกต้องบาง รายงานไม่ถกู ตอ้ งเป็น

ส่วนใหญ่ ประเดน็ ส่วนใหญ่

2. ความสมบรู ณ์ มอี งคป์ ระกอบครบถ้วน มีองคป์ ระกอบครบถว้ น มอี งค์ประกอบครบถ้วน องค์ประกอบ

ของรปู เลม่ สมบรู ณ์ มคี วามเป็น สมบรู ณ์ มคี วามเปน็ สมบูรณ์ แต่ยังไมเ่ ป็น ไม่ครบถว้ น ไมเ่ ป็น

ระเบียบ และรปู เล่ม ระเบียบ แตร่ ปู เล่ม ระเบียบ และรปู เลม่ ระเบยี บ และรูปเล่ม

สวยงาม ไมส่ วยงาม ไม่สวยงาม ไมส่ วยงาม

3. ความตรงต่อ ส่งชิน้ งานภายในเวลาที่ สง่ ช้ินงานชา้ กว่าเวลาท่ี สง่ ชนิ้ งานช้ากว่าเวลาท่ี ส่งชน้ิ งานช้ากวา่ เวลาท่ี

เวลา กาหนด กาหนด 1 วนั กาหนด 2 วัน กาหนด 3 วนั ข้ึนไป

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

11-12 ดมี าก

9-10 ดี

6-8 พอใช้

ตา่ กวา่ 6 ปรับปรงุ

75

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ กึ

แบบประเมนิ แบบจาลอง แผนฯ ท่ี 5

คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินแบบจาลองของนักเรียนตามรายการท่ีกาหนด แล้วขีด  ลงในช่องท่ีตรงกับ

ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321

1 ความสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์

2 ความถูกต้องของเน้ือหา

3 ความคิดสร้างสรรค์

4 การเลือกใช้วสั ดอุ ุปกรณ์

รวม

ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ
…............../................../..................

เกณฑก์ ารประเมินรายงาน

ประเดน็ ทีป่ ระเมิน 4 ระดับคะแนน 1
32

1. ความ แบบจาลองสอดคล้อง แบบจาลอสอดคล้อง แบบจาลอสอดคลอ้ งกับ แบบจาลอไมส่ อดคลอ้ ง

สอดคลอ้ งกับ กบั จดุ ประสงค์ กับจดุ ประสงคเ์ ป็น จดุ ประสงค์บางประเด็น กับจดุ ประสงค์

จุดประสงค์ ทุกประเด็น สว่ นใหญ่

2. ความถูกตอ้ ง เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ

ของเนอื้ หา แบบจาลองถกู ต้อง แบบจาลองถูกตอ้ งเปน็ แบบจาลองถูกต้อง แบบจาลองไมถ่ กู ตอ้ ง

ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเด็น เป็นส่วนใหญ่

3. ความคดิ ผลงานแสดงถงึ ความคิด ผลงานแสดงถงึ ความคิด ผลงานมคี วามนา่ สนใจ ผลงานไมม่ คี วาม

สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ แปลกใหม่ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ แตย่ งั ไมม่ ีแนวคดิ น่าสนใจ และไม่แสดง

และเป็นระบบ แต่ยังไมเ่ ป็นระบบ แปลกใหม่ ถงึ แนวคดิ แปลกใหม่

4. การเลอื กใช้ เลอื กใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ เลือกใช้วสั ดอุ ุปกรณท์ ี่ เลือกใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์ที่ เลือกใชว้ ัสดุอปุ กรณ์

วสั ดุอุปกรณ์ ทเี่ หมาะสม หาง่าย เหมาะสม และมรี าคา เหมาะสม แตม่ รี าคา ท่ีไมเ่ หมาะสม

และมรี าคาถูก ถกู แพง และมรี าคาแพง

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

15-16 ดมี าก

12-14 ดี

8-11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ

76

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สึก

แบบประเมินการปฏิบตั ิการ

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมนิ การปฏบิ ตั ิการของนักเรยี นตามรายการที่กาหนด แลว้ ขีด  ลงในช่องท่ตี รงกับ
ระดบั คะแนน

ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 การปฏิบตั ิการทดลอง
2 ความคล่องแคลว่ ในขณะปฏบิ ัติการ รวม
3 การนาเสนอ

ลงช่อื ................................................... ผ้ปู ระเมนิ
................./................../..................

77

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรสู้ กึ

เกณฑก์ ารประเมินการปฏิบตั ิการ

ประเด็นท่ีประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
ตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลอื
1. การปฏิบตั ิการ ทาการทดลองตาม ทาการทดลองตาม ต้องให้ความชว่ ยเหลือ อย่างมากในการทาการ
ทดลอง ขั้นตอน และใช้อปุ กรณ์ ข้นั ตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ บ้างในการทาการ ทดลอง และการใช้
ได้อยา่ งถูกต้อง ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง แตอ่ าจ ทดลอง และการใช้ อุปกรณ์
ต้องได้รบั คาแนะนาบ้าง อปุ กรณ์

2. ความ มีความคล่องแคล่ว มคี วามคลอ่ งแคล่ว ขาดความคล่องแคล่ว ทาการทดลองเสรจ็
ในขณะทาการทดลอง ในขณะทาการทดลอง ไมท่ ันเวลา และทา
คลอ่ งแคล่ว ในขณะทาการทดลอง แต่ตอ้ งไดร้ บั คาแนะนา จงึ ทาการทดลองเสรจ็ อุปกรณเ์ สยี หาย
บา้ ง และทาการทดลอง ไม่ทนั เวลา
ในขณะ โดยไมต่ ้องไดร้ บั เสร็จทันเวลา ตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลอื
บันทึกและสรุปผล ต้องให้คาแนะนาในการ อยา่ งมากในการบนั ทกึ
ปฏบิ ตั ิการ คาช้ีแนะ และทาการ การทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง บันทึก สรุป และ สรุป และนาเสนอผล
แต่การนาเสนอผล นาเสนอผลการทดลอง การทดลอง
ทดลองเสร็จทันเวลา การทดลองยังไมเ่ ปน็
ข้นั ตอน
3. การบันทึก สรุป บนั ทึกและสรปุ ผล

และนาเสนอผล การทดลองได้ถกู ตอ้ ง

การทดลอง รดั กุม นาเสนอผลการ

ทดลองเป็นขน้ั ตอน

ชัดเจน

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

11-12 ดมี าก

9-10 ดี

6-8 พอใช้

ต่ากวา่ 6 ปรับปรงุ

78

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรสู้ ึก

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน

คาชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 เนอ้ื หาละเอยี ดชัดเจน 
2 ความถูกต้องของเนือ้ หา  
3 ภาษาท่ใี ชเ้ ข้าใจง่าย  
4 ประโยชน์ทีไ่ ดจ้ ากการนาเสนอ  
5 วิธีการนาเสนอผลงาน  


รวม

ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน
............/................./................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

14-15 ดมี าก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

79

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สกึ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล

คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในช่องที่

ตรงกบั ระดับคะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 การแสดงความคดิ เหน็  

2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผ้อู น่ื  

3 การทางานตามหน้าที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย  

4 ความมนี า้ ใจ  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

14-15 ดมี าก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง

80

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สึก

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่

คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่

ตรงกบั ระดับคะแนน

การมี

ลาดบั ท่ี ชือ่ –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม
ของนักเรยี น ความ ฟงั คนอน่ื ตามทีไ่ ดร้ บั นา้ ใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ปรบั ปรงุ
ผลงานกลมุ่

321321321321321

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ............../.................../...............
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14-15 ดีมาก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ

81

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ กึ

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คาช้ีแจง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ี

ตรงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 321

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
กษัตรยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์

2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ ต่อโรงเรยี น
3. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา
4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเี่ ก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดขนึ้
2.1 ใหข้ ้อมลู ทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ
5. อยู่อย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสง่ิ ที่ถกู ตอ้ ง
3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครวั
6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
7. รักความเป็นไทย มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวัน
8. มีจิตสาธารณะ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ิได้
4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชื่อฟงั คาส่งั สอนของบิดา - มารดา โดยไม่โต้แยง้
4.4 ตัง้ ใจเรยี น
5.1 ใชท้ รัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั
5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและร้คู ณุ ค่า
5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน
6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รบั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็
7.1 มีจติ สานึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย
8.1 รูจ้ ักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน
8.2 ร้จู ักการดแู ลรกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี นและ

โรงเรียน

ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน

............../.................../...............

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดีมาก

พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตบิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี

30-40 พอใช้

ต่ากว่า 30 ปรบั ปรุง

82

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สึก
แผนการจดั การเรยี น ที่ 1 การรับร้แู ละการตอบสนองของสตั ว์

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1

การรบั รแู้ ละการตอบสนองของสตั ว์

เวลา 2 ชั่วโมง

1. ผลการเรียนรู้

5. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าที่ของระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรีย
ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย แมลง และสัตว์มีกระดกู สนั หลัง

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายและเปรียบเทียบโครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของระบบประสาทของสตั ว์ (K)
2. ใชเ้ ครอื่ งมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตรไ์ ด้อย่างถกู ต้อง (P)
3. สนใจใฝร่ ้ใู นการศึกษาและมุ่งม่นั ในการทางาน (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรู้เพ่มิ เติ่ม
- สัตว์ส่วนใหญ่มีระบบประสาททาให้สามารถ

รับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ เช่น ไฮดรา มี
ร่างแหประสาท พลานาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง
หอย และแมลงมีปมประสาทและเส้นประสาท
ส่วนสัตว์มีกระดูกสันหลังมีสมอง ไขสันหลัง
ปมประสาทและเสน้ ประสาท

4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

สตั ว์มกี ารรับรแู้ ละการตอบสนองต่อส่ิงเรา้ แตกต่างกัน ดงั น้ี
1. สตั วไ์ ม่มกี ระดูกสนั หลงั มกี ารรบั รู้และการตอบสนองท่ีแตกตา่ งกัน ดงั น้ี

- ไฮดรา มีร่างแหประสาทเช่ือมโยงกัน เมื่อเส้นใยประสาทถูกกระตุ้น ทุกส่วนของลาตัวจะหด
จากการทางานประสานกันระหว่างเซลล์
- พลานาเรยี มีปมประสาทสมองบริเวณหัว 2 ปม ทาหน้าทีเ่ ป็นสมอง มเี ส้นประสาทด้านข้าง 2
เสน้ ทต่ี ่อมาจากปมประสามสมอง และมีเส้นประสาทตามขวางเชอื่ มเส้นประสาทดา้ นข้างทั้ง 2
เสน้
- ไส้เดือนดิน มีปมประสาทสมองบริเวณหัว 2 ปม มีเส้นประสาทรอบคอหอย 2 เส้น โอบรอบ
คอหอยมาเช่อื มกันเปน้ ปมประสาทใตค้ อหอยและเชือ่ มกับปมประสาทคู่ด้านท้อง อกี ทัง้ ยังมีปม
ประสาทท่ปี ลอ้ งทุกปล้องตามแนวยาวของลาตวั ซง่ึ มีแขนงประสาทยน่ื เข้าไปในชนั้ กล้ามเน้ือ

83

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรสู้ กึ
แผนการจดั การเรียน ท่ี 1 การรบั ร้แู ละการตอบสนองของสตั ว์

- หอยทาก มีปมประสาท 3 คู่ ได้แก่ ปมประสาทสมองควบคุมบริเวณส่วนหัว ปมประสาทเท้า
ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อสาหรับการเคลื่อนท่ี และปมประสาทอวัยวะภายในควบคุมการ
ทางานของอวัยวะภายใน
- กุ้ง มีสมองเป็นปมประสาทบริเวณส่วนหัว สมองมีเส้นประสาทล้อมรอบหลอดอาหารลงมายัง
ปมประสาทด้านล่างรวมกันเป็นปมประสาททรวงอกซ่ึงมี 7 ปม ทอดยาวเป็นปมประสาทส่วน
ทอ้ ง และมีปมประสาทแยกออกไปยังกลา้ มเน้ือและระยางค์ตา่ ง ๆ
- แมลง มีปมประสาทส่วนหัว 6 คู่ (3 คู่ รวมเป็นสมอง และ 3 คู่ รวมเป็นปมประสาทใต้สมอง)
ซึง่ จะเชื่อมตอ่ กบั ปมประสาทตามปล้องตลอดแนวยาวของลาตัวและมีเส้นประสาทแยกไปเลียง
อวยั วะตา่ ง ๆ
2. สัตว์มีกระดูกสันหลัง มีเซลล์ประสาทรวทกันเป็นสมองบริเวณส่วนหัว มีไขสันหลังทอดยาวไป
ตามลาตวั และมเี สน้ ประสาทแยกออกมาจานวนมากเพ่ือทาหน้าที่ควบคุมและประสาทงานตา่ ง ๆ

5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ยั

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทกั ษะการสังเกต 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

2) ทักษะการสารวจคน้ หา

3) ทักษะการเปรียบเทียบ

4) ทักษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

84

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู ึก
แผนการจดั การเรียน ท่ี 1 การรบั ร้แู ละการตอบสนองของสัตว์

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธสี อน/เทคนิค : แบบเนน้ มโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

ชว่ั โมงที่ 1-2

ขั้นนา

การใช้ความร้เู ดมิ เชื่อมโยงความรใู้ หม่ (Prior Knowledge)
1. แจ้งผลการเรียนรู้ของหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรูส้ กึ ให้นกั เรียนทราบ
2. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สึก
3. นักเรยี นทา Understanding Check เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเองกอ่ นเรยี น
4. ทบทวนความรู้เดิม เรื่อง การรับรู้และการตอบสนองของสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีการทางานอย่างเป็นระบบ เม่ือมี

ส่ิงเร้ากระตุ้น หน่วยรับความรู้สึกหรืออวัยวะรับความรู้สึกจะส่งกระแสประสาทผ่านเซลล์ประสาทรับ
ความรู้สึกไปยังเซลล์ไขสันหลังหรือสมอง ซึ่งไขสันหลังหรือสมองจะสั่งการไปยังหน่วยปฏิบัติงานหรือ
อวัยวะทต่ี อบสนองผ่านเซลล์ประสาทสงั่ การ ทาให้เกดิ การตอบสนองต่อสง่ิ เร้า ดังน้ี
5. เขียนแผนผังหรือใชแ้ ผนภาพแสดงการรับรู้และการตอบสนอง โดยยกตัวอย่างสถานการณ์ เชน่ ถูกหนาม
ของตน้ กระบองเพรชทมิ่ นวิ้ ให้นกั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์ แล้วเตมิ คาในกรอบให้สมบรู ณ์

หนาม 1. ผิวหนังบริเวณนิ้ว 2. เซลล์ประสาท
รับความรสู้ กึ

3. เซลลป์ ระสาท

ประสานงานใน

ไขสันหลังหรอื สมอง

6. ยกนิว้ ออกจาก 5. กล้ามเนอื้ โครง่ 4. เซลล์ประสาท

ต้นกระบองเพรช ร่างบริเวณแขน ส่ังการ

6. ถามคาถาม Big Question เพื่อให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่า “เพราะเหตุใด มนุษย์จึงมีการตอบสนอง

ต่อส่ิงเรา้ ซับซอ้ นกวา่ สัตวช์ นิดอน่ื ๆ”

(แนวตอบ: มนุษย์มีสมองและไขสันหลังทาหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมการทางานของระบบประสาท

และมีเส้นประสาทแยกจากสมองและไขสนั หลังนาคาส่งั ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย จึงมี

การตอบสนองต่อส่ิงเร้าท่ีซับซ้อน การตอบสนองส่วนใหญ่จะผ่านการประมวณผลของสมอง

และตอบสนองเฉพาะหน่วยปฏบิ ัติการท่ถี กู กระตุน้ ในขณะทีส่ ตั วบ์ างชนดิ เช่น ไฮดรามีระบบ

ประสาทแบบร่างแหจึงตอบสนองโดยการหดตัวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรอื พลานาเรียมีปม

ประสาททาหน้าท่ีเป็นศูนย์กลางนาคาส่ังไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การตอบจึงเกิดเฉพาะ

ส่วนของรา่ งกาย แตย่ ังไม่ซับซอ้ นเทา่ กับของสัตว์มีกระดูกสันหลงั )

85

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก
แผนการจดั การเรยี น ที่ 1 การรบั รแู้ ละการตอบสนองของสตั ว์

7. นักเรียนดูวีดิทัศน์แสดงการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ เช่น การขดตัวของกิ้งกือเม่ือเมื่อสัมผัสกิ้งไม้
ตวั อยา่ งวดี ทิ ศั น์ เช่น
- https://www.youtube. com/watch?v=Uis0boLNN8A
แลว้ ถามคาถาม Key Question กบั นักเรียนว่า “สตั วต์ ่าง ๆ ตอบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ แตกตา่ งกันอย่างไร”
(แนวตอบ: สตั ว์แต่ละชนิดตอบสนองต่อส่ิงเร้าแตกต่างกันเนื่องจากมีระบบประสาทแตกต่างกัน สัตวท์ ี่มี
วิวั ฒ น า ก า ร ต่ า จ ะ ต อ บ ส น อ งต่ อ ส่ิ งเร้ า แ บ บ ไม่ ซั บ ซ้ อ น เน่ื อ งจ าก ไม่ มี ศู น ย์ ก ล าง ค ว บ คุ ม
การทางานของระบบประสาท แตส่ ัตวท์ ี่มีวิวัฒนาการสูงข้นึ มีศูนย์กลางควบคุมการทางานของ
ระบบประสาท เช่น ปมประสาท สมอง จงึ ตอบสนองตอ่ สง่ิ เร้าในรูปแบบทีซ่ บั ซ้อนขึ้น)

ข้นั สอน

รู้ (Knowing)
1. อธิบายให้นักเรียนฟังว่า สัตว์กลุ่มต่าง ๆ มีโครงสร้างของระบบประสาทท่ีแตกต่างกัน จึงตอบสนองต่อ

ส่ิงเร้าในรูปแบบที่แตกต่างกัน สัตว์ท่ีมีวิวัฒนาการต่า เช่น ไฮดรา พลานาเรีย จะมีการตอบสนองใน
รูปแบบที่ไม่ซับซ้อน แต่สัตว์ที่มีวิวัฒนาการสูง เช่น สัตว์มีกระดูกสันหลัง จะมีการตอบสนองในรูปแบบที่
ซับซอ้ นขึน้
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ทากิจกรรม การตอบสนองของไฮดรา เพ่ือศึกษาการรับรู้และการ
ตอบสนองของไฮดราเม่ือถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ชวี วิทยา ม.6 เล่ม 1 หนา้ 39
3. สุ่มเลือกนักเรียนอย่างน้อย 3 กลุ่ม นาเสนอผลและอภิปรายผลกิจกรรม การตอบสนองของไฮดรา และ
ถามคาถามทา้ ยกจิ กรรมกบั นกั เรียน ดงั นี้
- ถา้ ใช้เข็มแตะท่ีปลายเทนทาเคิลของไฮดราจะเกดิ อะไรข้นึ นกั เรยี นอธิบายผลการทดลองนี้วา่ อยา่ งไร

(แนวตอบ: ลาตวั ของไฮดราจะหดส้ันลง เพราะเซลลป์ ระสาทของไฮดราเชื่อมโยงกันเป็นตาข่าย ทาให้
มีกระแสประสาทแผ่กระจายไปท่ัวรา่ งกาย)

4. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลกิจกรรม การตอบสนองของไฮดรา เพ่ือให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ เมื่อใช้เข็ม
แตะท่ีปลายเทนทาเคิลของไฮดรา เทนทาเคิลและส่วนอ่ืน ๆ ของร่างกายจะหดสั้นลง เพราะเซลล์
ประสาทของไฮดราเชื่อมโยงกันเป็นร่างแห ทาให้มีกระแสประสาทแผก่ ระจายไปทวั่ รา่ งกาย

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาการตอบสนองของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ได้แก่ ไฮดรา พลานาเรีย
ไส้เดือนดิน หอยทาก กุ้ง แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชวี วทิ ยา ม.6 เล่ม 1 หนา้ 38-43

86

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก
แผนการจดั การเรียน ที่ 1 การรบั รู้และการตอบสนองของสตั ว์

เขา้ ใจ (Understanding)

6. สุม่ เลือกนักเรียนแตล่ ะกล่มุ จบั สลากเลือกสตั ว์ตา่ ง ๆ โดยมีตัวอย่างสตั ว์ เชน่

- แมงกระพรนุ - พยาธใิ บไม้

- ปลงิ น้าจดื - หมึก

- กั้ง - ต๊กั แตน

- สนุ ขั - แมลงสาบ

- ปลา - วัว

นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ระบบประสาทและการตอบสนองต่อส่ิงเร้าของสัตว์ที่จับสลากได้ วาดภาพ

โครงสร้างของระบบประสาท แลว้ ส่งตัวแทนกลมุ่ นาเสนอโครงสร้างของระบบประสาทและการตอบสนอง

ตอ่ สิ่งเรา้ ท่หี น้าชน้ั เรยี น (ครูสามารถทาสลากตัวอย่างสัตวท์ ่ีนอกเหนอื จากตวั อย่างข้างตน้ )

7. ถามคาถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน เชน่

- ถา้ ใชเ้ ข็มแตะทป่ี ลายเทนทาเคลิ ของไฮดราจะเกดิ อะไรขน้ึ

(แนวตอบ: เทนทาเคิลและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายจะหดส้ันลง เพราะเซลล์ประสาทของไฮดรา

เช่อื มโยงกนั เป็นตาขา่ ยทาให้มีกระแสประสาทแผ่กระจายไปทว่ั รา่ งกาย)

- การรับรู้และการตอบสนองตอ่ สิ่งเร้าของไฮดรากับพลานาเรยี แตกตา่ งกนั อยา่ งไร

(แนวตอบ: ไฮดรามีร่างแหประสาท เมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้น ย่อมมีกระแสประสาทแผ่กระจายไปทั่ว

ร่างกาย ทาให้ไฮดราตอบสนองโดยการหดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่วนพลานาเรียมีปม

ประสาทอยู่ท่ีหัว เมื่อมีส่ิงเร้ามากระตุ้นจะเกิดกระแสประสาทจากบริเวณท่ีถูกกระตุ้นไป

ตามเส้นประสาทส่งไปยังปมประสาท ซ่ึงเป็นศูนย์กลางที่มีเซลลป์ ระสาทอยู่หนาแนน่ แล้ว

ส่งกระแสประสาทไปยังหน่วยปฏิบัติงาน ดังน้ัน การตอบสนองของพลานาเรียจึงเกิด

เฉพาะสว่ นของร่างกาย)

- พลานาเรยี ไส้เดือนดิน และแมลงตอบสนองต่อส่งิ เร้าเหมือนหรอื แตกต่างกนั อย่างไร

(แนวตอบ: มีการรับรู้และการตอบสนองต่อส่ิงเร้าต่างกัน คือ ปมประสาทของพลานาเรียอยู่ที่หัว

ดังนั้น การรับรู้และการส่ังงานให้เกิดการตอบสนองจะอยู่ที่ปมประสาทส่วนหัว สาหรัง

ไสเ้ ดือนดินกับแมลงมปี มประสาทอยู่ตามแนวกลางลาตัว แต่ละปมประสาทมีเสน้ ประสาท

เช่ือมโยงกัน ดังนั้น การรับรู้และการสั่งจึงออกจากปมประสาทไปยังหน่วยปฏิบัติงานได้

อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ)

8. นกั เรียนทา Topic Questions ท้ายหวั ข้อ การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ จากหนังสอื เรียนรายวิชา

เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 43 โดยบันทึกลงในสมุดบันทึกของ

นักเรยี น

9. นักเรียนทาแบบฝึกหัด เร่ือง การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ ในแบบฝึกหัดรายวิชาเพ่ิมเติม

วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วทิ ยา ม.6 เลม่ 1 (อาจส่ังให้นกั เรยี นทาเปน็ การบ้าน)

87

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรูส้ กึ
แผนการจดั การเรยี น ที่ 1 การรบั รู้และการตอบสนองของสตั ว์

ข้ันลงมือทา (Doing)
10. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน สารวจสัตว์บริเวณบ้านหรือชุมชนของนักเรียน 10 ชนิด แบ่งออกเป็น

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 5 ชนิด และสัตว์มีกระดูกสันหลัง 5 ชนิด สืบค้นข้อมูลและอธิบายโครงสร้างของ
ระบบประสาท และการรบั รู้และการตอบสนองต่อส่งิ เร้าของสัตว์ จดั ทาเป็นรายงานส่งครผู ู้สอน

ขัน้ สรปุ

1. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรุปเก่ยี วกับการรบั ร้แู ละการตอบสนองของสตั ว์ เพอ่ื ให้ได้ข้อสรปุ ดงั นี้
- ไฮดรา มีร่างแหประสาทเช่ือมโยงกัน เม่ือเส้นใยประสาทถูกกระตุ้น ทุกส่วนของลาตัวจะหดจากการ
ทางานประสานกันระหวา่ งเซลล์
- พลานาเรยี มปี มประสาทสมองบริเวณหัว 2 ปม ทาหน้าทเ่ี ป็นสมอง มีเส้นประสาทดา้ นข้าง 2 เส้น ที่
ตอ่ มาจากปมประสามสมอง และมเี สน้ ประสาทตามขวางเชอ่ื มเสน้ ประสาทดา้ นข้างท้ัง 2 เส้น
- ไส้เดือนดิน มีปมประสาทสมองบริเวณหัว 2 ปม มีเส้นประสาทรอบคอหอย 2 เส้น โอบรอบคอหอย
มาเช่ือมกันเป็นปมประสาทใต้คอหอยและเชื่อมกับปมประสาทคู่ด้านท้อง อีกท้ังยังมีปมประสาทท่ี
ปล้องทกุ ปล้องตามแนวยาวของลาตัวซึง่ มแี ขนงประสาทย่นื เข้าไปในชนั้ กลา้ มเนอื้
- หอยทาก มีปมประสาท 3 คู่ ได้แก่ ปมประสาทสมองควบคุมบริเวณส่วนหัว ปมประสาทเท้าควบคุม
การหดตัวของกล้ามเน้ือสาหรับการเคลื่อนท่ี และปมประสาทอวัยวะภายในควบคุมการทางานของ
อวัยวะภายใน
- กุ้ง มีสมองเป็นปมประสาทขนาดใหญ่อยู่บริเวณส่วนหัว มีแขนงแยกไปเลี้ยงตาและหนวด สมองมี
เส้นประสาทล้อมรอบหลอดอาหารลงมายังปมประสาทด้านล่าง รวมกันเป็นปมประสาททรวงอกซ่ึงมี
ปมประสาท 7 ปม ทอดยาวเป็นปมประสาทส่วนท้อง และมีปมประสาทแยกออกไปยังกล้ามเนื้อและ
ระยางค์ต่าง ๆ
- แมลง มีปมประสาทส่วนหัว 6 คู่ (3 คู่ รวมเป็นสมอง และ 3 คู่ รวมเป็นปมประสาทใต้สมอง) ซ่ึงจะ
เชื่อมต่อกับปมประสาทตามปล้องตลอดแนวยาวของลาตัวและมีเส้นประสาทแยกไปเลียงอวัยวะ
ต่าง ๆ
- สัตว์มีกระดูกสันหลัง มีเซลล์ประสาทรวทกันเป็นสมองบริเวณส่วนหัว มีไขสันหลังทอดยาวไปตาม
ลาตัวและมเี สน้ ประสาทแยกออกมาจานวนมากเพื่อทาหน้าทค่ี วบคมุ และประสาทงานต่าง ๆ

2. นักเรียนเขีบยสรุปในรูปแบบผังมโนทัศน์ เรื่อง การรับรู้และการตอบสนอง โดยอธิบายโครงสร้างและ
หน้าท่ีของระบบประสาทของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์มีกระดูกสันหลัง รวมท้ังอธิบาย
ความสมั พนั ธข์ องระบบประสาทกบั ววิ ัฒนาการของสตั ว์ ลงในกระดาษ A4

88

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรูส้ ึก
แผนการจดั การเรียน ที่ 1 การรบั รู้และการตอบสนองของสัตว์

ข้ันประเมิน

1. ประเมินความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง การรับรู้และการตอบสนอง โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม ตรวจ
แบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจแบบฝกึ หัด ตรวจผงั มโนทศั น์ และตรวจรายงาน

2. ประเมินทักษะและกระบวนการ โดยสังเกตพฤติกรรมพฤติกรรมการทาปฏิบัติการในกิจกรรม และการใช้
เครอื่ งมอื และอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์

3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและความมุ่งมั่นใน
การทางาน

7. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วธิ วี ัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน

7.1 ประเมินกอ่ นเรียน

- แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ประเมินตาม

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 ก่อนเรียน สภาพจรงิ

7.2 การประเมินระหว่าง

การจดั กจิ กรรม

1) การรับรู้และการ - ตรวจ Topic Questions - Topic Question - รอ้ ยละ 60

ตอบสนอง ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด - รอ้ ยละ 60

ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจรายงาน เรอื่ ง - แบบประเมนิ รายงาน - ระดับคณุ ภาพดี

การสารวจระบบ ผา่ นเกณฑ์

ประสาทของสัตว์

- ตรวจผังมโนทศั น์ เร่อื ง - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพดี

การรับรู้และการ ผงั มโนทศั น์ ผา่ นเกณฑ์

ตอบสนอง

2) การปฏบิ ัตกิ าร - ประเมนิ - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพดี

การปฏบิ ตั กิ าร การปฏิบัติการ ผา่ นเกณฑ์

3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพดี

การทางานกล่มุ การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์

4) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพดี

อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ ม่ัน คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์

ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

89

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก
แผนการจดั การเรียน ที่ 1 การรบั รู้และการตอบสนองของสัตว์

8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ที่ 2 ระบบประสาทและอวัยวะรบั ความรสู้ กึ
2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเต่ิมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรูส้ กึ
3) แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวัยวะรบั ความรู้สึก
4) PowerPoint เรอ่ื ง ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สึก
5) บัตรภาพการรบั รแู้ ละการตอบสนอง
6) วดี ิทัศน์ เรอ่ื ง การตอบสนองตอ่ ส่งิ เรา้ ของสัตว์

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) ห้องสมุด
3) ห้องปฏบิ ัตกิ าร
4) สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์

90

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สกึ หนาม
แผนการจดั การเรยี น ที่ 1 การรบั รู้และการตอบสนองของสตั ว์

การรบั รู้และการตอบสนอง

91

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สึก
แผนการจดั การเรียน ท่ี 1 การรับรู้และการตอบสนองของสตั ว์

9. ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชอ่ื .................................
( ................................ )

ตาแหนง่ .......

10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

92

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สึก
แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 2 เซลล์ประสาทและการทางานของเซลลป์ ระสาท

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2

เซลลป์ ระสาทและการทางานของเซลล์ประสาท

เวลา 3 ชัว่ โมง

1. ผลการเรยี นรู้

6. อธบิ ายเกยี่ วกบั โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ประสาท
7. อธิบายเก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าท่ีเย่ือหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาทและกลไกการ

ถ่ายทอดกระแสประสาท

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายโครงสร้าง หนา้ ท่ี และการทางานของเซลลป์ ระสาทในการสง่ กระแสประสาท (K)
2. เขยี นแผนภาพแสดงการเปล่ยี นแปลงศักย์ไฟฟ้าท่ีเย่ือหุ้มเซลลแ์ ละการถา่ ยทอดกระแสประสาท (K)
2. ใช้กล้องจลุ ทรรศน์ในการศกึ ษาได้อย่างถูกต้อง (P)
3. สนใจใฝ่ร้ใู นการศึกษาและมุง่ มั่นในการทางาน (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

- หน่วยทางานของระบบประสาท คือ เซลล์
ประสาท ซ่ึงประกอบด้วยตัวเซลล์และเส้นใย
ประสาทที่ทาหน้าที่รับและส่งกระแสประสาท
เรยี กวา่ เดนไดรต์และแอกซอน ตามลาดับ

- เซลล์ประสาทจาแนกตามหน้าท่ี ได้เป็นเซลล์
ประสาทรับความรู้สึก เซลล์ประสาทสั่งการและ
เซลลป์ ระสาทประสานงาน

- เซลล์ประสาทจาแนกตามรูปร่างได้เป็นเซลล์
ประสาทขั้วเดียว เซลล์ประสาทขั้วเดียวเทียม
เซลล์ประสาทสองขว้ั และเซลล์ประสาทหลายขัว้

- กระแสประสาทเกิดจากการเปล่ียนแปลง
ศักย์ไฟฟ้าท่ีเยื่อหุ้มเซลล์ของเดนไดรต์และแอก
ซอน ทาให้มีการถ่ายทอดกระแสประสาทจาก
เซลล์ประสาทไปยังเซลล์ประสาท หรือเซลล์
อ่ืน ๆ ผา่ นทางไซแนปส์

93

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สึก สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 2 เซลล์ประสาทและการทางานของเซลล์ประสาท พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- ระบบประสาทของมนุษย์แบ่งได้เป็น 2 ระบบ

ตามตาแหน่งและโครงสร้าง คือ ระบบประสาท
ส่วนกลาง ได้แก่ สมองและไขสันหลัง และระบบ
ประสาทรอบนอก ได้แก่ เส้นประสาทสมองและ
เสน้ ประสาทไขสนั หลัง

4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

เซลล์ประสาททาหน้าท่ีรับและส่งสัญญาณประสาทไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย มีโครงสร้างแบ่ง
ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตัวเซลล์ประกอบด้วยนิวเคลียสและไซโทพลาซึมท่ีมีออร์แกเนลล์อยู่ภายใน
ทาหน้าท่ีสังเคราะห์สารท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตของเซลล์ และเส้นใยประสาททาหน้าที่รับและส่งกระแส
ประสาท แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ เดนไดรต์ทาหน้าท่ีนากระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์และแอกซอน
ทาหนา้ ท่นี ากระแสประสาทออกจากตวั เซลล์

เซลล์ประสาทจาแนกตามหน้าท่ีการทางานได้ 3 ประเภท ได้แก่ เซลล์ประสาทรับความรู้สึก
เซลล์ประสาทส่ังการ และเซลล์ประสาทประสานงาน และจาแนกตามรูปร่างได้ 4 ประเภท ได้แก่
เซลล์ประสาทขั้วเดยี ว เซลลป์ ระสาทขั้วเดียวเทยี ม เซลลป์ ระสาทสองขัว้ และเซลล์ประสาทหลายขว้ั

การถ่ายทอดกระแสประสาทจากเซลล์ประสาทหน่ึงไปยังอีกเซลลป์ ระสาทหน่ึงอาศัยการเปล่ียนแปลง
ศักย์ไฟฟ้าท่ีเยื่อหุ้มเซลล์ เรียกว่า แอกชันโพเทนเชียล ซึ่งการถ่ายทอดกระแสประสาทจะเกิดขึ้นระหว่าง
ไซแนปส์ เม่ือกระแสประสาทถกู ส่งมาท่ีปลายแอกซอนของเซลล์ประสาทก่อนไซแนปส์จะมีถุงบรรจุสารส่ือ
ประสาทเคลื่อนที่ไปยังเซลล์ประสาทหลังไซแนปส์ ทาให้เกิดการถ่ายทอดกระแสประสาทไปยังเซลล์
ประสาทถดั ไป

5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียนและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ัย

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน

2) ทักษะการสารวจค้นหา

3) ทักษะการเปรยี บเทียบ

4) การลงความเหน็ จากข้อมลู

3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

94

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรูส้ กึ
แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 2 เซลลป์ ระสาทและการทางานของเซลลป์ ระสาท

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธสี อน/เทคนิค : แบบเนน้ มโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

ชั่วโมงท่ี 1-2

ขั้นนา

การใช้ความร้เู ดิมเช่ือมโยงความรใู้ หม่ (Prior Knowledge)
1. นาบัตรภาพหรือสไลด์ถาวรของเซลล์ประสาทและเซลล์ชนิดอื่น ๆ เช่น เซลล์เย่ือบุข้างแก้ม

เซลล์กลา้ มเนอื้ เซลลเ์ มด็ เลือด มาใหน้ ักเรยี นดูและศกึ ษาความแตกตา่ ง

∆ เซลล์ประสาท ∆ เซลล์กลา้ มเน้อื

∆ เซลล์เยือ่ บุข้างแกม้ ∆ เซลล์เม็ดเลือด

2. ถามคาถาม Key Question กับนักเรียนวา่ “เซลลป์ ระสาทมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างจากเซลล์อ่ืน ๆ
อย่างไร”
(แนวตอบ: เซลล์ประสาทมีลักษณะแตกต่างจากเซลล์อ่ืน ๆ ของร่างกาย เนื่องจากเซลล์ประสาทมเี ส้นใย
ประสาทยื่นออกมาจากตัวเซลล์ แต่มีโครงสร้างของเซลล์ทั่วไป ได้แก่ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโท-
พลาซมึ และนวิ เคลยี ส เหมอื นกบั เซลล์ร่างกายอ่นื ๆ)

95

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรูส้ ึก
แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 2 เซลล์ประสาทและการทางานของเซลลป์ ระสาท

ข้นั สอน

รู้ (Knowing)
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ศึกษาโครงสร้างของเซลล์ประสาทภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยศึกษา

โครงสร้างของเซลล์ประสาทและประเภทของเซลล์ประสาท (จาแนกตามหน้าที่การทางานและจาแนก
ตามรปู ร่าง)
2. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มวาดภาพเซลล์ประสาทท่ีสงั เกตเหน็ ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ พร้อมอธิบายโครงสร้างของ
เซลลป์ ระสาท
3. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1.1 เร่ือง เซลลป์ ระสาท
4. ถามคาถามเพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น เช่น
- เซลล์ประสาทมีลักษณะอย่างไร

(แนวตอบ: เซลล์ประสาทประกอบด้วยตัวเซลล์ ซ่ึงมีนิวเคลียสและออร์แกเนลล์ต่าง ๆ อยู่ใน
ไซโทพลาซมึ และมเี สน้ ใยประสาทแยกออกจากตัวเซลล์ แบ่งเป็นเดรนไซต์และแอกซอน)

- เดนไดรต์กบั แอกซอนมีลกั ษณะแตกต่างกนั อยา่ งไร
(แนวตอบ: เดนไดรต์เปน็ เส้นใยประสาทที่นากระแสประสาทเข้าสตู่ วั เซลล์ เซลลป์ ระสาท 1 เซลล์อาจ
มีเดนไดรต์แยกออกจากตัวเซลล์ 1 เส้นใย หรือหลายเส้นใย ส่วนแอกซอนเป็นเส้นใย
ประสาทท่ีนากระแสประสาทออกจากตัวเซลล์ เซลล์ประสาท 1 เซลล์จะมีแอกซอนเพียง
1 เสน้ เท่านัน้ )

- เซลล์ประสาทที่สังเกตเห็นภายใต้กล้องจุลทรรศน์จาแนกตามรูปร่างได้เป็นประเภทใด อธิบาย
ประกอบ
(แนวตอบ: คาตอบขึ้นอยู่กับสไลด์ถาวรของเซลล์ประสาทที่นามาประกอบการสอน เช่น เซลล์
ประสาทสองข้วั มีเส้นใยประสาทแยกออกจากตัวเซลล์ 2 เส้น เส้นหน่ึงเปน็ เดรนไดรต์และ
อีกเส้นเป็นแอกซอน หรือเซลล์ประสาทหลายขั้วมีเส้นใยประสาทแยกออกจากตัวเซลล์
จานวนมาก ซึ่งมีเดรนไดรต์ 2 เสน้ หรอื มากกว่า แต่มีแอกซอนเพียงเสน้ เดยี ว)

5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศกึ ษาการเกิดกระแสประสาท ซงึ่ สามารถใชว้ ดี ทิ ศั น์ ดงั น้ี
- https://www.youtube.com/watch?v=oa6rvUJlg7o
- https://www.youtube.com/watch?v=FEHNIELPb0s
- https://www.youtube.com/watch?v=fHRC8SlLcH0

หรือศกึ ษาจากหนงั สือเรียนรายวิชาเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วทิ ยา ม.6 เลม่ 1 หนา้ 49-53
6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาการถา่ ยทอดกระแสประสาทผา่ นไซแนปส์ ซึง่ สามารถใชว้ ีดิทัศน์ ดังน้ี

- https://www.youtube.com/watch?v=mItV4rC57kM
- https://www.youtube.com/watch?v=ecGEcj1tBBI
หรือศึกษาจากหนังสอื เรียนรายวชิ าเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วิทยา ม.6 เลม่ 1 หน้า 55-56

96

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก
แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 2 เซลล์ประสาทและการทางานของเซลล์ประสาท

7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเขียนแผนภาพแสดงการเปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้มเซลล์ประสาทใน
สภาวะที่ถกู กระต้นุ และเขียนแผนผังแสดงการถา่ ยทอดกระแสประสาทผา่ นไซแนปส์

ชว่ั โมงท่ี 3

ขั้นสอน

ขนั้ เข้าใจ (Understanding)
8. ถามคาถาม Key Question กับนักเรียนว่า กระแสประสาทถูกส่งจากเซลล์ประสาทหนึ่งไปยังอีกเซลล์

ประสาทหนงึ่ ได้อยา่ งไร
(แนวตอบ: การถ่ายทอดกระแสประสาทผ่านไซแนปส์ โดยอาศัยสารสื่อประสาทในการนาและควบคุม

สัญญาณไฟฟ้าจากเซลล์ประสาทหน่ึงไปยังอีกเซลล์ประสาทหน่ึง ทาให้เกิดการส่งกระแส
ประสาทไปเร่ือย ๆ)
9. สุ่มเลอื กนักเรียน 2 กลุ่ม อธิบายโครงสร้างของเซลล์ประสาทจากภาพวาดเซลล์ประสาทท่ีสังเกตภายใต้

กลอ้ งจุลทรรศน์
สุ่มเลอื กนกั เรยี น 2 กลุม่ อธิบายการเกิดกระแสประสาท จากแผนภาพ
สุ่มเลือกนกั เรยี น 2 กล่มุ อธิบายการถ่ายทอดกระแสประสาทผา่ นไซแนปส์ จากแผนผงั
สุ่มเลือกนักเรียน 2 กลุ่ม เปรียบเทียบการถ่ายทอดกระแสประสาทระหว่างเซลล์ประสาทที่มีเย่ือไมอีลิน

หมุ้ กับเซลล์ประสาททไ่ี มม่ ีเย่ือหุ้ม
10. ถามคาถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน เชน่

- โนดออฟแรนเวยี รส์ ง่ ผลตอ่ การถา่ ยทอดกระแสประสาทอยา่ งไร
(แนวตอบ: โนดออฟแรนเวียร์ทาให้การส่งกระแสประสาทเกิดได้เร็วข้ึน เนื่องจากการเกิดแอกชัน-
โพแทนเชียลจะเคลอื่ นที่จากโนดออฟแรนเวียร์หนึง่ ข้ามไปยงั อีกโนดออฟแรนเวยี ร์หนงึ่ )

- การเปล่ยี นแปลงศักย์เยอ่ื เซลล์ระยะพักและระยะท่ถี กู กระต้นุ มลี กั ษณะอยา่ งไร
(แนวตอบ: ในระยะศักย์เยื่อเซลล์ระยะพัก ภายนอกเซลล์มี Na+ และภายในเซลล์มี K+ มีค่าศักย์
เยื่อเซลล์ระยะพัก -70 mV แต่เม่ือมีส่ิงเร้ามากระตุ้นจะทาให้ช่องโซเดียมเปิด Na+ ไหล
เข้าสู่เซลล์มากข้ึน ทาให้ภายในเซลล์มีศักย์ไฟฟ้าเป็นบวกมากข้ึน ค่างต่างศักยี่เยื่อหุ้ม
เซลล์เปลี่ยนจาก -70 mV เป็น +50 mV จากน้ันช่องโซเดียมจะปิด ช่องโพแทสเซียมจะ
เปิด K+ ไหลออกนอกเซลล์ ทาใหภ้ ายในเซลล์สูญเสียประจุบวก ค่างต่างศักยี่เย่ือหุ้มเซลล์
เปล่ียนจาก +50 mV เป็น -70 mV หรอื กลับเข้าสู่ระยะพกั อีกคร้ัง)

- หากไม่มกี ารขบั Na+ ออกจากเซลล์ และดึง K+ เข้าสู่เซลล์ จะเกิดผลตอ่ การส่งกระแสประสาทอย่างไร
(แนวตอบ: เซลล์ประสาทไม่เข้าสรู่ ะยะพัก)

97

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สกึ
แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ 2 เซลลป์ ระสาทและการทางานของเซลล์ประสาท

- ความเร็วของการส่งกระแสประสาทขนึ้ อยู่กบั ปัจจยั ใดบ้าง
(แนวตอบ: ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางและระยะของโนดออฟแรนเวียร์ (เฉพาะเซลล์ประสาทท่ีมี
เยอ่ื ไมอีลินหุ้ม))

- ถ้าไม่มีการส่งสารส่ือประสาทจากแอกซอนของเซลล์ประสาทก่อนไซแนปส์จะเกิดการส่งกระแส
ประสาทขน้ึ ท่ีเดรนไดรตข์ องเซลล์ประสาทหลงั ไซแนปส์หรือไม่
(แนวตอบ: ไมเ่ กดิ กระแสประสาท)

- เยือ่ ไมอีลินทีห่ ุ้มบรเิ วณแอกซอนของเซลล์ประสาทสง่ ผลต่อการเคลื่อนทข่ี องกระแสประสาทอย่างไร
(แนวตอบ: เย่ือไมอีลินที่หุ้มบริเวณแอกซอนของเซลล์ประสาททาหน้าท่ีเป็นฉนวนกั้นไฟฟ้า ทาให้
แอกซอนบริเวณที่มีเยื่อไมอีลินหุ้มไม่เกิดแอกชันโพเทนเชียล ทาให้แอกชันโพเทนเชียล
เคล่ือนท่ีจากโนดออฟเรนเวียร์หน่ึงข้ามไปยังอีกโนดออฟเรนเวียรห์ น่ึง กระแสประสาทจึง
เคล่อื นทไ่ี ด้เรว็ ขนึ้ )

- เพราะเหตุใดจึงพบสารสื่อประสาทเฉพาะท่ีปลายแอกซอน และมีผลต่อการเคล่ือนท่ีของกระแส
ประสาทอยา่ งไร
(แนวตอบ: สารสอ่ื ประสาทพบเฉพาะท่ีปลายแอกซอน ทาให้การเคลื่อนท่ีของกระแสประสาทเกิดข้ึน
ในทิศทางเดียว จากแอกซอนของเซลล์ประสาทหนึ่งไปยังเดนไดร์ตของอีกเซลล์ประสาท
หนึง่ )

11. นกั เรยี นทา Topic Questions ท้ายหัวข้อ เซลล์ประสาท และการทางานของเซลล์ประสาท จากหนังสือ
เรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 48 และ 56 โดยบันทึกลงใน
สมุดบนั ทกึ ของนักเรียน

12. นกั เรยี นทาแบบฝึกหัด เรอ่ื ง เซลล์ประสาท และเรอื่ ง การทางานของเซลลป์ ระสาท ในแบบฝกึ หัดรายวิชา
เพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชวี วิทยา ม.6 เล่ม 1 (อาจสั่งใหน้ กั เรียนทาเปน็ การบ้าน)

ขนั้ ลงมอื ทา (Doing)
13. นักเรียนศึกษาเซลล์ประสาทบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย หาภาพเซลล์ประสาท 10 ภาพ นามาระบุ

ประเภทของเซลลป์ ระสาทตามหน้าทีก่ ารทางานและประเภทของเซลล์ประสาทตามรูปร่าง
14. นักเรียนศึกษาคาว่า “electrical synapse” และ “chemical synapse” แล้วเปรียบเทียบความ

แตกต่างของ electrical synapse และ chemical synapse พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ

98

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรสู้ ึก
แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 2 เซลลป์ ระสาทและการทางานของเซลลป์ ระสาท

ข้ันสรุป

1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับเซลล์ประสาทและการทางานของเซลล์ประสาท เพ่ือให้ได้ข้อสรุปว่า
เซลล์ประสาทมีโครงสร้างประกอบด้วยตัวเซลล์ทาหน้าท่ีสังเคราะห์สารท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตของ
เซลล์ และเส้นใยประสาททาหน้าท่ีรับส่งกระแสประสาท แบ่งออกเป็นเดนไดรต์ทาหน้าท่ีนากระแส
ประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์ และแอกซอนทาหน้าท่ีนากระแสประสาทออกจากตัวเซลล์ เซลล์ประสาทแบ่ง
ประเภทตามหน้าที่การทางานได้เป็นเซลล์ประสาทรับความรสู้ ึก เซลล์ประสาทส่ังการ และเซลล์ประสาท
ประสานงาน และแบง่ ประเภทตามรูปร่างได้เป็นเซลล์ประสาทข้ัวเดียว เซลลป์ ระสาทขว้ั เดียวเทียม เซลล์
ประสาทสองข้ัว และเซลลป์ ระสาทหลายข้วั กระแสประสาทจะถูกการถ่ายทอดจากเซลลป์ ระสาทหน่ึงไป
ยังอีกเซลล์ประสาทหน่ึงโดยกระบวนการแอกชันโพเทนเชียลซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงศักย์ไฟฟ้าท่ีเยื่อหุ้ม
เซลล์ การถ่ายทอดกระแสประสาทจะเกิดขึ้นระหว่างไซแนปส์ เม่ือกระแสประสาทถูกส่งมาท่ีปลายแอก
ซอนของเซลล์ประสาทก่อนไซแนปส์ จะมีถุงบรรจุสารส่ือประสาทเคล่ือนท่ีไปยังเซลล์ประสาทหลัง
ไซแนปส์ ทาใหเ้ กิดการถา่ ยทอดกระแสประสาทไปยงั เซลลป์ ระสาทถดั ไป

2. นักเรียนเขียนสรุปในรูปแบบผังมโนทัศน์ เร่ือง โครงสร้างและประเภทของเซลล์ประสาท ลงในกระดาษ
A4

3. นักเรียนสร้างตารางเปรียบเทียบประเภทเซลล์ประสาทตามหน้าท่ีของเซลล์ประสาทและตามจานวนใย
ประสาท ลงในสมดุ บันทกึ ของนักเรยี น

4. นักเรียนเขียนแผนภาพ เร่ือง การเปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟ้าท่ีเย่ือหุ้มเซลล์และการถ่ายทอดกระแสประสาท
ระหวา่ งเซลลป์ ระสาท ลงในกระดาษ A4

ขัน้ ประเมิน

1. ประเมินความรู้เก่ียวกับ เรื่อง เซลล์ประสาทและการทางานของเซลล์ประสาท โดยสังเกตพฤติกรรมการ
ตอบคาถาม ตรวจแบบฝึกหัด ตรวจใบงาน ตรวจผังมโนทัศน์ และตรวจแผนภาพ

2. ประเมินทักษะและกระบวนการ โดยสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
การใช้กล้องจลุ ทรรศน์ในการศึกษา และการนาเสนอผลงาน

3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและความมุ่งมั่นใน
การทางาน

99

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรู้สกึ
แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 2 เซลลป์ ระสาทและการทางานของเซลลป์ ระสาท

7. การวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารประเมิน

รายการวัด วธิ ีวัด เคร่ืองมือ - รอ้ ยละ 60
7.1 การประเมินระหว่าง ผา่ นเกณฑ์

การจัดกจิ กรรม - รอ้ ยละ 60
1) การทางานของ - ตรวจใบงานที่ 2.1 - ใบงานท่ี 2.1 ผา่ นเกณฑ์

เซลลป์ ระสาท - รอ้ ยละ 60
- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions ผ่านเกณฑ์

- ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั - ระดับคุณภาพดี
ผ่านเกณฑ์
- ตรวจผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง - แบบประเมิน
- ระดบั คณุ ภาพดี
โครงสร้างและประเภท ผงั มโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์

ของเซลลป์ ระสาท - ระดับคณุ ภาพดี
ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจตารางเปรยี บเทยี บ - สมดุ บนั ทึกของ
- ระดบั คณุ ภาพดี
ประเภทเซลลป์ ระสาท นกั เรยี น ผ่านเกณฑ์

- ตรวจแผนภาพ เรือ่ ง - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพดี
ผ่านเกณฑ์
การเปลี่ยนแปลง แผนภาพ
- ระดับคุณภาพดี
ศกั ย์ไฟฟ้าท่ีเย่ือห้มุ เซลล์ ผ่านเกณฑ์

และการถา่ ยทอดกระแส - ระดับคณุ ภาพดี
ผา่ นเกณฑ์
ประสาทระหวา่ งเซลล์

ประสาท

2) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - ผลงานท่นี าเสนอ
ผลงาน
ผลงาน
3) การปฏิบตั ิการ
- ประเมนิ การปฏิบัติการ - แบบประเมนิ
4) พฤตกิ รรม
การทางานกลุ่ม การปฏิบัตกิ าร

5) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
อนั พึงประสงค์
การทางานกลมุ่ การทางานกล่มุ

- สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมิน

ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มน่ั คุณลกั ษณะ

ในการทางาน อันพึงประสงค์

100

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู กึ
แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 2 เซลล์ประสาทและการทางานของเซลล์ประสาท

8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 2 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรสู้ กึ
2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 2 ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สกึ
3) ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง เซลล์ประสาท
4) PowerPoint เรือ่ ง ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สึก
5) QR Code เร่อื ง ไซแนปส์
6) วีดิทศั น์ เรือ่ ง เกดิ กระแสประสาท และการถ่ายทอดกระแสประสาทผ่านไซแนปส์
7) บัตรภาพเซลลใ์ นรา่ งกาย

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมดุ
3) หอ้ งปฏิบตั ิการ
4) สือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์

101

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความร้สู กึ
แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 2 เซลล์ประสาทและการทางานของเซลล์ประสาท

ใบงานที่ 2.1
เรื่อง เซลลป์ ระสาท

คาชี้แจง : ระบุโครงสร้างและอธิบายลักษณะของเซลล์ประสาทที่กาหนดให้

1
2
3
4

หมายเลข 1 คอื .................................................... หมายเลข 2 คอื ....................................................
หน้าที่ ................................................................... หน้าที่ ....................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................

หมายเลข 3 คอื .................................................... หมายเลข 4 คอื ....................................................
หน้าท่ี ................................................................... หน้าที่ ....................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................

102


Click to View FlipBook Version