The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by แปลก ใหม่, 2022-05-30 05:24:23

หลักสูตรโรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม 2565

หลักสูตรโรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม 2565

๓๔๓

ตอนท่ี ๕
เกณฑ์การจบการศกึ ษา

๓๔๔

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี น

1. การตัดสนิ การให้ระดับและการรายงานผลการเรียน
1.1 การตดั สินผลการเรยี น
ในการตดั สินผลการเรยี นของกลุม่ สาระการเรยี นรู้ การอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี น

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นนัน้ ผู้สอนตอ้ งคำนงึ ถึงการพัฒนาผูเ้ รียน แตล่ ะคนเปน็ หลกั
และต้องเก็บข้อมลู ของผเู้ รียนทกุ ด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนือ่ งในแตล่ ะภาคเรยี น รวมท้งั สอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้
พฒั นาจนเต็มตามศักยภาพ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดหลักเกณฑก์ ารวัด
และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เพ่ือตดั สินผลการเรยี นของผู้เรยี น ดงั นี้

(1) ผู้เรยี นตอ้ งมเี วลาเรียนไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทง้ั หมด
(2) ผูเ้ รยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมินทุกตัวช้วี ดั และผ่านตามเกณฑท์ ่สี ถานศึกษา
กำหนด
(3) ผู้เรยี นตอ้ งได้รับการตัดสนิ ผลการเรียนทุกรายวิชา
(4) ผูเ้ รียนตอ้ งได้รบั การประเมนิ และมผี ลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่
สถานศึกษากำหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน

1.2 การให้ระดบั ผลการเรียน

การตดั สนิ เพื่อให้ระดบั ผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ใหใ้ ชต้ วั เลข

แสดงระดับผลการเรยี นเปน็ 8 ระดบั ดงั นี้

4 = ดีเยย่ี ม 3.5 = ดมี าก

3 = ดี 2.5 = คอ่ นข้างดี

2 = ปานกลาง 1.5 = พอใช้

1 = ผา่ นเกณฑ์ข้นั ต่ำ 0 = ไมผ่ ่านเกณฑ์ขนั้ ต่ำ

ในกรณีท่ีไม่สามารถใหร้ ะดบั ผลการเรียนเป็น 8 ระดบั ได้ ให้ใชต้ ัวอักษรระบเุ ง่ือนไข

ของผลการเรยี น ดังน้ี

“มส” หมายถึง ผู้เรยี นไมม่ สี ิทธิเข้ารับการวดั ผลปลายภาคเรียน เนอ่ื งจากผู้เรียน

มีเวลาเรยี นไมถ่ งึ ร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นในแตล่ ะรายวชิ า และไม่ไดร้ บั การผอ่ นผนั ใหเ้ ข้ารับการวดั ผลปลายภาค

เรียน

“ร” หมายถงึ รอการตัดสินและยังตดั สินผลการเรยี นไม่ได้ เนอ่ื งจากผู้เรยี นไม่มีขอ้ มูล

ผลการเรียนรายวิชานั้นครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลระหวา่ งภาคเรียน/ปลายภาคเรยี น ไม่ได้สง่ งานท่ีมอบหมายใหท้ ำ

ซ่ึงงานนัน้ เป็นสว่ นหน่ึงของการตดั สนิ ผลการเรยี น หรือมีเหตุสุดวิสัยทีท่ ำให้ประเมนิ ผลการเรียนไม่ได้

การประเมินการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคน์ นั้ ใหร้ ะดับผลการประเมนิ

เป็น ดีเยยี่ ม ดี ผา่ น

การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะตอ้ งพิจารณาทัง้ เวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏบิ ตั ิกิจกรรมและ

ผลงานของผเู้ รียน ตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมกจิ กรรมเป็นผ่าน (ผ) และไม่ผ่าน (มผ)

๓๔๕

กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นมงุ่ สง่ เสริมการพฒั นาความสามารถของผู้เรียนตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ดว้ ยกิจกรรม 3 ลกั ษณะ ดังนี้
1. กจิ กรรมแนะแนว
2. กจิ กรรมนักเรียน

2.1 กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด ผบู้ ำเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร
2.2 กจิ กรรมชมุ นมุ ชมรม
3. กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
การจดั กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ สามารถนำไปสอดแทรกหรือบูรณาการ
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ กจิ กรรมลกู เสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ผ้บู ำเพญ็ ประโยชน์ และนักศกึ ษาวิชาทหารได้ตามความ
เหมาะสม ทั้งนี้ การทำกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใหผ้ เู้ รียนรายงานแสดงการเข้าร่วมกจิ กรรมและมผี ู้
รบั รองผลการเขา้ รว่ มกิจกรรมด้วย โดยสถานศกึ ษาจัดเวลาเรียนให้ผู้เรียน ดังน้ี
ระดับมธั ยมศึกษาปีท่ี 1-3 รวม 3 ปี จำนวน 45 ช่วั โมง
ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 รวม 3 ปี จำนวน 60 ชวั่ โมง

1.3 การเปลีย่ นผลการเรยี น
การเปลีย่ นผลการเรียน “0”
สถานศกึ ษาจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัดทผ่ี ู้เรียนสอบไมผ่ า่ นก่อน แล้วจงึ สอบแก้
ตัวได้ไม่เกิน 2 ครงั้ ถา้ ผเู้ รียนไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลา
ท่ีสถานศึกษากำหนด ให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของสถานศึกษาที่จะพจิ ารณาขยายเวลาออกไปอีก 1 ภาคเรยี น สำหรบั ภาค
เรียนที่ 2 ตอ้ งดำเนินการให้เสรจ็ สน้ิ ภายในปกี ารศึกษานนั้
การสอบแก้ตัวใหไ้ ด้ระดบั ผลการเรยี นไมเ่ กิน “1” ถ้าสอบแก้ตัว 2 ครงั้ แล้ว ยงั ไดร้ ะดับผลการเรียน “0” อีก
ให้สถานศึกษาแต่งตงั้ คณะกรรมการดำเนนิ การเกยี่ วกับการเปลีย่ นผลการเรยี นของผู้เรียน โดยปฏิบตั ิดงั นี้

1) ถา้ เปน็ รายวิชาพื้นฐาน ให้เรียนซํา้ รายวชิ านั้น
2) ถา้ เป็นรายวิชาเพ่มิ เติม ให้เรียนซ้าํ หรอื เปล่ยี นรายวิชาเรียนใหม่ ทง้ั นี้ให้อยู่ใน
ดุลยพนิ จิ ของสถานศึกษาในกรณที เ่ี ปล่ียนรายวชิ าเรียนใหม่ ใหห้ มายเหตใุ นระเบียนแสดงผลการเรยี น
วา่ เรยี นแทนรายวิชาใด
การเปลี่ยนผลการเรียน “ร”
การเปลี่ยนผลการเรยี น “ร” ให้ดำเนนิ การดงั น้ี
ให้ผเู้ รยี นดำเนนิ การแกไ้ ข “ร” ตามสาเหตุ เมื่อผ้เู รียนแก้ไขปัญหาเสร็จแลว้ ให้ได้ระดับ
ผลการเรียนตามปกติ (ตงั้ แต่ 0-4) ถ้าผเู้ รียนไม่ดำเนินการแกไ้ ข “ร” กรณที ี่สง่ งานไม่ครบ แตม่ ี
ผลการประเมนิ ระหวา่ งภาคเรียนและปลายภาค ใหผ้ ู้สอนนำข้อมลู ทีม่ ีอยู่ตัดสินผลการเรียน ยกเวน้ มเี หตุสุดวิสัย ให้อยู่
ในดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษาที่จะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีกไมเ่ กนิ 1 ภาคเรียน สำหรับภาคเรยี นท่ี 2 ต้อง
ดำเนินการใหเ้ สรจ็ สน้ิ ภายในปกี ารศกึ ษานน้ั เม่ือพน้ กำหนดนแี้ ล้วใหเ้ รยี นซํ้า หากผลการเรียนเป็น “0” ใหด้ ำเนนิ การ
แก้ไขตามหลกั เกณฑ์

๓๔๖

การเปลี่ยนผลการเรียน “มส”
การเปล่ียนผลการเรยี น “มส” มี 2 กรณี ดงั น้ี
1) กรณีผู้เรยี นไดผ้ ลการเรยี น “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงรอ้ ยละ 80 แตม่ ีเวลาเรียนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ
60 ของเวลาเรยี นในรายวิชาน้ัน ให้สถานศึกษาจดั ใหเ้ รียนเพ่ิมเติมโดยใชช้ วั่ โมงสอนซ่อมเสริม
หรือมอบหมายงานให้ทำ จนมเี วลาเรียนครบตามที่กำหนดไว้ แลว้ จึงใหว้ ดั ผลปลายภาคเปน็ กรณีพิเศษ ผลการแก้
“มส” ให้ไดร้ ะดับผลการเรยี นไม่เกิน “1”
การแก้ “มส” กรณนี ใี้ หก้ ระทำให้เสรจ็ สิ้นภายในปีการศึกษานน้ั ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ “มส” ตาม
ระยะเวลาท่ีกำหนดไวน้ ้ีใหเ้ รียนซํา้ ยกเวน้ มีเหตุสุดวิสัย ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของสถานศกึ ษาทจ่ี ะขยายเวลาการแก้
“มส” ออกไปอีกไมเ่ กนิ 1 ภาคเรียน แตเ่ มื่อพน้ กำหนดน้ีแล้ว ให้ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี

(1) ถ้าเปน็ รายวิชาพนื้ ฐานใหเ้ รยี นซํ้ารายวิชานั้น
(2) ถ้าเป็นรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ให้อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษา ใหเ้ รยี นซาํ้ หรือเปลยี่ น
รายวชิ าเรยี นใหม่
2) กรณผี ูเ้ รยี นได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของเวลาเรียนทัง้ หมด ให้
สถานศึกษาดำเนินการดังน้ี
(1) ถ้าเปน็ รายวชิ าพืน้ ฐาน ให้เรยี นซํ้ารายวิชาน้นั
(2) ถ้าเปน็ รายวชิ าเพิ่มเติม ให้อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษา ให้เรียน
ซํ้าหรอื เปลยี่ นรายวิชาเรยี นใหม่ ในกรณีที่เปล่ยี นรายวชิ าเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรยี น
แทนรายวิชาใด
การเปล่ียนผล “มผ”
กรณที ผี่ ู้เรียนได้ผล “มผ” สถานศกึ ษาต้องจัดซอ่ มเสริมให้ผู้เรยี นทำกิจกรรมในส่วนทผ่ี ู้เรยี นไมไ่ ด้เขา้ รว่ มหรือ
ไมไ่ ด้ทำจนครบถว้ น แล้วจึงเปลีย่ นผลจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ท้ังน้ี ดำเนนิ การ
ให้เสรจ็ สิน้ ภายในภาคเรยี นนน้ั ๆ ยกเว้นมีเหตุสุดวสิ ยั ใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของสถานศึกษาทจ่ี ะพิจารณาขยายเวลา
ออกไปอีกไมเ่ กิน 1 ภาคเรยี น สำหรบั ภาคเรยี นที่ 2 ต้องดำเนินการใหเ้ สร็จส้ินภายในปีการศึกษานั้น

1.4 การเรยี นซ้ำชัน้
หากผ้เู รียนไมผ่ า่ นรายวชิ าจำนวนมากและมแี นวโน้มวา่ จะเปน็ ปัญหาต่อการเรียนในระดับทส่ี งู ข้นึ

สถานศึกษาตง้ั คณะกรรมการพจิ ารณาใหเ้ รียนซำ้ ชัน้ ได้ ทัง้ นใ้ี หค้ ำนึงถึงวฒุ ิภาวะและความร้คู วามสามารถของผู้เรยี น
เป็นสำคัญ

ผเู้ รียนทไ่ี ม่มีคุณสมบัตติ ามเกณฑก์ ารอนุมตั ิเล่ือนช้ันเรียน สถานศึกษาจะต้องจัดใหเ้ รียนซ้ำช้ัน
ในกรณที ี่ผเู้ รียนขาดคุณสมบตั ิขอ้ ใดขอ้ หน่ึง สถานศึกษา อาจใชด้ ลุ พนิ จิ ให้เลื่อนช้ันได้
หากพจิ ารณาเห็นวา่
(1) ผูเ้ รยี นมีเวลาเรยี นไม่ถึงร้อยละ 80 อันเน่ืองจากสาเหตุจำเป็นหรอื เหตสุ ดุ วสิ ยั
แต่มีคุณสมบัติตามข้ออ่นื ๆ ครบถ้วน
(2) ผู้เรยี นผ่านมาตรฐานและตวั ชีว้ ัดไมถ่ ึงเกณฑ์ตามทสี่ ถานศกึ ษากำหนดในแต่ละรายวิชา และเห็น
ว่าสามารถสอนซ่อมเสรมิ ได้ในปกี ารศกึ ษาถัดไปและมีคุณสมบัตขิ ้ออ่ืน ๆ ครบถ้วน

๓๔๗

1.5 การเลอื่ นช้ัน
(1) ผเู้ รียนต้องมีเวลาตลอดปีการศกึ ษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นทง้ั หมด
(2) ผเู้ รยี นต้องได้รบั การประเมินทุกตวั ช้ีวัด และผา่ นเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากำหนด
(3) ผ้เู รยี นตอ้ งได้รบั การตัดสนิ ผลการเรยี นทกุ รายวชิ า
(4) ผ้เู รียนตอ้ งไดร้ บั การประเมนิ และมีผลการประเมนิ ผา่ นตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากำหนดในการ

อา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น

1.6 การสอนซอ่ มเสรมิ
การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหน่ึงของการจัดการเรียนรู้ละเป็นการให้โอกาสแก่ผเู้ รียนไดม้ ีเวลาเรียนรู้

สง่ิ ตา่ ง ๆ เพม่ิ ขน้ึ จนสามารถบรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัดท่ีกำหนดไว้ การสอนซ่อมเสริมเป็นการสอนกรณี
พเิ ศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนจดั การเรยี นรู้ปกตเิ พอื่ แก้ไขข้อบกพร่องท่ีพบในผู้เรียน โดยจดั กระบวนการ
เรียนรู้ท่ีหลากหลายและคำนงึ ถงึ ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของผเู้ รยี น

การสอนซอ่ มเสริมดำเนนิ การไดด้ งั ตอ่ ไปนี้
(1) ผเู้ รียนมคี วามร/ู้ ทักษะพนื้ ฐานไม่เพียงพอทีจ่ ะศึกษาในแต่ละรายวิชาน้นั ควรจัดการสอบซอ่ มเสรมิ
ปรบั ความร/ู้ ทักษะพ้ืนฐาน
(2) การประเมนิ ระหวา่ งเรียน ผูเ้ รียนไมส่ ามารถแสดงความรู้ทักษะกระบวนการ หรอื เจตคติ/คุณลักษณะท่ี
กำหนดไว้ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั
(3) ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ และ/หรอื ต่ำกว่าเกณฑ์การประเมนิ ต้องจัดการสอนซ่อมเสริมก่อนจะให้ผเู้ รยี น
สอบแก้ตัว
(4) ผเู้ รยี นทีม่ ีผลการเรยี นไม่ผา่ น สามารถจัดสอนซ่อมเสริมในภาคฤดรู ้อน ท้ังนี้ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของ
สถานศกึ ษา

1.7 การรายงานผลการเรยี น
การรายงานผลการเรยี นเป็นการสอื่ สารให้ผู้ปกครองและผู้เรยี นทราบความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้ของ

ผเู้ รยี น ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมนิ และจดั ทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเปน็ ระยะ ๆ หรืออย่าง
นอ้ ยภาคเรยี นละ 1 ครง้ั

การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเปน็ ระดับคุณภาพการปฏิบัติของผูเ้ รียนที่สะท้อนมาตรฐานการ
เรยี นรู้กลุม่ สาระการเรียนรู้

2. เกณฑก์ ารจบหลักสตู ร
ชั้นมธั ยมศึกษาตอนตน้
1. ผูเ้ รยี นเรียนรายวิชาพน้ื ฐานและเพิ่มเตมิ โดยเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน 66 หน่วยกิต และรายวิชาเพ่ิมเตมิ

ตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด
2. ผู้เรียนตอ้ งไดห้ น่วยกิตตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกวา่ 81 หน่วยกติ โดยเป็นรายวชิ าพนื้ ฐาน 66 หน่วยกติ

และรายวิชาเพม่ิ เติม ไมน่ ้อยว่า 15 หน่วยกิต
3. ผู้เรยี นมผี ลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และเขา้ ร่วมกจิ กรรม

พฒั นาผเู้ รยี น โดยมผี ลการประเมินผา่ นเกณฑ์การประเมินขึน้ ไป

๓๔๘

ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
1. ผเู้ รยี นเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานและเพ่ิมเติม โดยเป็นรายวิชาพืน้ ฐาน 41 หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพิม่ เตมิ
ตามท่สี ถานศึกษากำหนด
2. ผูเ้ รียนต้องได้หน่วยกติ ตลอดหลักสูตรไม่นอ้ ยกว่า 81 หน่วยกิต โดยเปน็ รายวิชาพ้ืนฐาน 41 หนว่ ยกิต
และรายวิชาเพมิ่ เติม ไม่น้อยว่า 40 หนว่ ยกติ
3. ผ้เู รยี นมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และเขา้ ร่วมกจิ กรรม
พัฒนาผเู้ รยี น โดยมผี ลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์การประเมินขึ้นไป

การเทยี บโอนผลการเรยี น
สถานศึกษาสามารถเทยี บโอนผลการเรยี นของผู้เรียนในกรณีตา่ งๆไดแ้ ก่ การย้ายสถานศึกษา การเปล่ยี น
รูปแบบการศึกษา การยา้ ยหลักสูตร การออกกลางคนั และขอกลบั เข้ารับการศกึ ษาต่อ การศกึ ษาจากตา่ งประเทศและ
ขอเข้าศกึ ษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถ เทยี บโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณจ์ ากแหลง่ การเรียนรอู้ ่นื ๆ
เชน่ สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชพี การจดั การศกึ ษาโดยครอบครัว
การเทยี บโอนผลการเรียนควรดำเนินการในชว่ งก่อนเปิดภาคเรยี นแรก หรือต้นภาคเรยี นแรกที่สถานศกึ ษารับ
ผู้ขอเทยี บโอนเป็นผู้เรียน ท้ังนี้ ผู้เรียนทีไ่ ดร้ ับการเทยี บโอนผลการเรียนต้องศึกษาตอ่ เน่ืองในสถานศึกษาท่รี บั เทยี บ
โอนอย่างน้อย 1 ภาคเรยี น โดยสถานศึกษาท่ีรับผเู้ รียนจาก
การเทียบโอนควรกำหนดรายวิชา/จำนวนหนว่ ยกิตทีจ่ ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม
การพจิ ารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนนิ การได้ ดังนี้
1. พจิ ารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอนื่ ๆ ท่ีใหข้ ้อมลู แสดงความรู้ ความสามารถของผเู้ รยี น
2. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผ้เู รียนโดยการทดสอบดว้ ยวิธีการต่าง ๆ ท้ังภาคความรู้และ
ภาคปฏิบัติ
3. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัตใิ นสภาพจริง
การเทยี บโอนผลการเรยี นให้เปน็ ไปตามประกาศ หรอื แนวปฏิบัติของกระทรวงศึกษาธิการ

เอกสารหลักฐานการศกึ ษา

เอกสารหลักฐานการศึกษา เปน็ เอกสารสำคัญท่ีบันทึกผลการเรยี น ขอ้ มลู และสารสนเทศ
ทเี่ ก่ียวข้องกับพฒั นาการของผู้เรยี นในดา้ นต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้

1. เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาท่ีกระทรวงศึกษาธกิ ารกำหนด
1.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน เปน็ เอกสารแสดงผลการเรียนและรบั รองผลการเรยี นของผูเ้ รยี นตาม

รายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น ผลการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของสถานศึกษา
และผลการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน สถานศกึ ษาจะต้องบนั ทึกข้อมลู และออกเอกสารนี้ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
เมอื่ ผเู้ รยี นจบการศึกษา หรือเมื่อลาออกจากสถานศกึ ษาในทกุ กรณี

1.2 ประกาศนียบัตร เปน็ เอกสารแสดงวฒุ ิการศึกษาเพือ่ รับรองศักดิ์และสทิ ธขิ์ องผูจ้ บการศกึ ษา ท่ี
สถานศกึ ษาให้ไวแ้ ก่ผู้จบการศึกษาภาคบังคับ และผู้จบการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐานตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้
พืน้ ฐาน

๓๔๙

1.3 แบบรายงานผู้สำเร็จการศกึ ษา เปน็ เอกสารอนุมตั กิ ารจบหลกั สูตรโดยบันทึกรายชือ่ และข้อมลู
ของผจู้ บการศกึ ษา

2. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาที่สถานศึกษากำหนด
เปน็ เอกสารที่สถานศึกษาจัดทำข้นึ เพ่อื บนั ทกึ พฒั นาการ ผลการเรียนรู้ และขอ้ มลู สำคญั เกี่ยวกับผู้เรยี น

เชน่ แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทกึ ผลการเรียนประจำรายวิชา ระเบยี นสะสม ใบรับรองผลการเรียน
และ เอกสารอน่ื ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการนำเอกสารไปใช้

ข้อปฏบิ ัตใิ นการขอเอกสารงานทะเบียน
การขอระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1)

1. เขียนคำร้องขอเอกสารทางการเรียนทีง่ านทะเบยี น (หอ้ งวชิ าการ)
2. ใช้รูปถ่ายขนาด 1 ½ นวิ้ จำนวน 2 รปู
3. มารับเอกสารตามนัดพร้อมลงชื่อรบั เอกสาร

การขอหนังสือรับรอง
1. เขยี นคำร้องขอเอกสารทางการเรียนท่งี านทะเบียน (ห้องวชิ าการ)
2. มารับเอกสารตามนัดพร้อมลงชอ่ื รับเอกสาร

๓๕๐

ตอนที่ ๖
ภาคผนวก

๓๕๑

กรอบสาระท้องถ่ินโรงเรียนชำฆอ้ พทิ ยาคม

ตามกรอบหลักสตู ร Rayong MARCO

ประเดน็ กรอบ รายละเอียด
สาระท้องถนิ่

การพัฒนากำลังคนสู่ความ ผ้นู ำท่สี รา้ งสรรค์ ไดแ้ ก่ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ, นายปยิ ะ ปิตุเตชะ, ดร.ธงชยั ชวิ ปรีชา

เป็นผู้นำ (M: การใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร ไดแ้ ก่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ภาษาระยอง

Manpower) ความเป็นพลเมอื ง ไดแ้ ก่ บทบาทหน้าทีข่ องสมาชิกทดี่ ีในบ้าน ครอบครัว ชุมชน ทอ้ งถ่นิ ลกั ษณะคนดี

การเลอื กต้งั

ดจิ ติ ลั และเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ วิทยาการคำนวณ coding การออกแบบเทคโนโลยี การเขียนโปรแกรม

หนุ่ ยนต์

ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ประเพณี วัฒนธรรม ไดแ้ ก่ งานบญุ กลางบา้ น งานบญุ ขา้ วหลาม งานเทศกาลผลไมแ้ ละของดีประจำ

(A: Ancestor) อำเภอเขาชะเมา

ภมู ิปญั ญา ไดแ้ ก่ สวนผลไมเ้ จ๊ญานี กะปิ,ผา้ มดั ยอ้ ม, กลองยาว

บคุ คลสำคญั ไดแ้ ก่ กำนันสมโภชน์ เสรษฐสกั โก

ประวัติศาสตร์ ได้แก่ โรงเรยี นชำฆ้อพิทยาคม, เขาตายอ้ ม, เรือรบหลวงประแสร,์ อนสุ าวรีย์สนุ ทรภ,ู่

ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพร

อาหารพ้ืนบา้ น ได้แก่ หมูชะมวง, น้ำพริกกะปิ, น้ำพรกิ ระกำ, ต้มหมรู ะกำ, แจงลอนหรอื จับลอน, แกง

เผ็ดสบั ปะรด

ทรัพยากร (R: Resource) ภูมปิ ระเทศ ได้แก่ ป่าไม้, ภเู ขา, คลองน้ำกร่อย, ทะล

ทรพั ยากรธรรมชาติ ได้แก่ อุทยานแหง่ ชาตเิ ขาชะเมา-เขาวง, นำ้ ตกคลองปลากา้ ง, ทงุ่ โปรงทอง, นำ้ ตก

เขาหินเพลิง, เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ปา่ อ่างฤาไน, อา่ งเก็บน้ำเขาจุก, อ่างเก็บน้ำประแสร์, อา่ งเกบ็ นำ้ ดอก

กราย, เกาะเสม็ด , หมู่บา้ นฟอกแลนด(์ เศรษฐกจิ พอเพียง), หาดแหลมแม่พมิ พ,์ สวนสน

สถานที่สำคัญ ไดแ้ ก่ วัดถ้ำเขาโบสถ์, วดั ถ้ำประทุน, วดั เขาน้อย, หนังใหญ่ (วดั บา้ นดอน)

การจัดการถ่นิ ฐาน (C: การจดั การถน่ิ ฐานให้น่าอยู่ ได้แก่ ที่ว่าการอำเภอเขาชะเมา, อบต.เขาชะเมา, สำนกั สงฆ์คีรีจนั ทร์, การ

City planning) จดั พื้นทใี่ ชส้ อยภายในบา้ นและโรงเรียนใหป้ ระหยัดพลังงาน

การออกแบบพัฒนาถ่นิ ฐานน่าอยู่ ได้แก่ การใช้ไอซีทีมาชว่ ยลดพลังงาน การใช้พลงั งานสะอาด

การจัดทำข้อเสนอพัฒนาถิ่นฐานน่าอยู่ ไดแ้ ก่ การจดั ทำข้อเสนอพฒั นาห้องเรยี น โรงเรยี นให้ลด

พลังงาน

อาชพี (O: Occupation) คณุ ลักษณะพน้ื ฐานทางอาชีพ ไดแ้ ก่ เกษตรกรยุคใหม่ นักวิจยั การเกษตร

การปลกู ฝงั คุณลักษณะพ้ืนฐานทางอาชีพ โดยการเรยี นรู้ผ่านประสบการณต์ รง ตง้ั คำถาม การรวบรวม

ข้อมูลสารสนเทศ การคดิ วิเคราะห์ การออกแบบ การสือ่ ความหมาย การสรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่ การสรา้ ง

ผลงาน ส่งิ ประดิษฐ์ นวัตกรรม

การประกอบอาชีพ ไดแ้ ก่ นักวิจยั การเกษตร, นวเกษตรกร

ตารางสรปุ สมรรถนะผเู้ รียนที่ใช้ตามหลักสูตรสถาน
แยกตามกลุม่ ส

กล่มุ สาระการ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ การสืบสอบ ภาษาอังกฤษ
เรยี นรู้ (รายวชิ า
เพ่ือการ ใน ทาง เพ่ือการ
เพ่มิ เตมิ )
สื่อสาร ชวี ติ ประจำวัน วิทยาศาสตร์ สอื่ สาร
ภาษาไทย
การงานอาชพี และความเป็น
วิทยาศาสตร์ ฯ
คณติ ศาสตร์ ผมู้ จี ติ วิทยา
สังคมศึกษา ฯ
ศิลปะ ศาสตร์
ภาษาต่างประเทศ
สุขศึกษาและพล 1
ศกึ ษา
1
รวม 1

1
11 1 1

๓๕๒

นศึกษาโรงเรียนชำฆอ้ พทิ ยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
สาระการเรียนรู้

ทกั ษะชวี ิต ทกั ษะอาชพี ทกั ษะการ การรเู้ ทา่ การ การเปน็
และความ และความเปน็ คดิ ขนั้ สูง ทันสอ่ื สาร ทำงาน พลเมอื ง
เจรญิ แห่งตน ผูป้ ระกอบการ และ สนเทศและ แบบรวม ตืน่ รูท้ ี่มี

นวัตกรรม ดิจิทัล พลังเปน็ สำนึก
ทีมและ สากล
ภาวะผนู้ ำ

1
1

1
1

111
11

1

1 2 2 221

๓๕๓

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๑

๓๕๔

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๒

๓๕๕

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๓

๓๕๖

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๓

๓๕๗

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๔

๓๕๘

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๔

๓๕๙

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๕

๓๖๐

ตัวอย่างการออกแบบหนว่ ยบูรณาการ

โดยการจัดทำ WEB เช่อื มโยง
เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งในการจดั หน่วยบรู ณาการ

ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี ๖

๓๖๑

ตัวอยา่ งการออกแบบหน่วยบูรณาการ

โดยการจดั ทำภูมหิ ลัง
เพื่อแสดงถงึ ที่มาและความสำคญั ในการจัดหนว่ ยบรู ณาการ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๑

๓๖๒

ตัวอยา่ งการออกแบบหน่วยบูรณาการ

โดยการจดั ทำภูมหิ ลัง
เพื่อแสดงถงึ ที่มาและความสำคญั ในการจัดหนว่ ยบรู ณาการ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๒

๓๖๓

ตัวอยา่ งการออกแบบหน่วยบูรณาการ

โดยการจดั ทำภูมหิ ลัง
เพื่อแสดงถงึ ที่มาและความสำคญั ในการจัดหนว่ ยบรู ณาการ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๓

๓๖๔

ตัวอยา่ งการออกแบบหน่วยบูรณาการ

โดยการจดั ทำภูมหิ ลัง
เพื่อแสดงถงึ ที่มาและความสำคญั ในการจัดหนว่ ยบรู ณาการ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๔

๓๖๕

ตัวอยา่ งการออกแบบหน่วยบูรณาการ

โดยการจดั ทำภูมหิ ลัง
เพื่อแสดงถงึ ที่มาและความสำคญั ในการจัดหนว่ ยบรู ณาการ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๕

๓๖๖

ตัวอยา่ งการออกแบบหน่วยบูรณาการ

โดยการจดั ทำภูมหิ ลัง
เพื่อแสดงถงึ ที่มาและความสำคญั ในการจัดหนว่ ยบรู ณาการ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๖

๓๖๗

คำสง่ั โรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม

ท่ี ๓๓ / ๒๕๖๕

เร่ือง แตง่ ต้ังคณะกรรมการจัดทำหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕

ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

(ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

……………………

ตามทรี่ ัฐบาลมนี โยบายพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) ข้นึ โดยครอบคลุม

พน้ื ที่ ๓ จังหวัดได้แก่ จงั หวัดฉะเชงิ เทรา จังหวดั ชลบรุ ี จงั หวดั ระยอง กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงาน

คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน จึงใหโ้ รงเรยี นดำเนินการจัดทำหลกั สตู รสถานศึกษาเพอ่ื ขับเคล่ือนการศกึ ษาขน้ั

พนื้ ฐานในพ้นื ทเ่ี ขตพฒั นาพิเศษภาคตะวนั ออก และด้วยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดระยอง มีมตเิ หน็ ชอบให้โรงเรยี น

ชำฆ้อพิทยาคม เปน็ สถานศึกษานำร่องในพ้ืนที่นวตั กรรมการศกึ ษาจังหวัดระยอง รุ่นท่ี ๒ เพื่อใหเ้ ปน็ พื้นท่ีปฏบิ ตั ิการ

ใหเ้ ป็นไปตามวัตถุประสงคใ์ นมาตรา ๕ ของพระราชบญั ญัติพน้ื ทน่ี วัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ นอกจากนั้น

จังหวัดระยองไดจ้ ัดทำกรอบหลกั สูตรการจัดการศกึ ษาตามแผนยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวดั ระยอง: Rayong

MARCO และตามที่โรงเรียนชำฆอ้ พทิ ยาคมได้ประกาศใช้หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นชำฆ้อพทิ ยาคม พุทธศักราช

๒๕๕๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ต่อมาได้มีการปรับปรงุ หลกั สตู รตามนโยบาย

ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ในปี ๒๕๖๒ ไดม้ กี ารปรับปรงุ มาตรฐานและตวั ชว้ี ดั กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ

สาระภูมิศาสตรข์ องกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ในการน้โี รงเรยี นจึงมีความจำเป็นท่ตี อ้ งดำเนินการปรับปรุงหลกั สตู รสถานศกึ ษาให้สอดคล้องกบั นโยบายของ

กระทรวงศกึ ษาธิการ ในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อขบั เคลอ่ื นการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานในพืน้ ที่เขตพัฒนาพิเศษ

ภาคตะวนั ออก และตามนโยบายการขบั เคลอ่ื นยุทธศาสตร์ทางการศึกษาของสำนักงานศึกษาธิการจงั หวัดระยอง น้นั

จงึ อาศยั อำนาจตามความตามมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบญั ญัตริ ะเบียบราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖

และสิง่ ท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม และมาตรา ๒๗ แหง่ พระราชบญั ญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.

๒๕๔๗ และท่ีแก้ไขเพม่ิ แต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปฏิบัติหน้าท่ี ดังน้ี

๑. คณะกรรมการท่ีปรกึ ษา

๑. นายเกรียงศักด์ิ เศรษฐเมธีกุล ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน

โรงเรยี นชำฆ้อพิทยาคม

๒. นางรชยา แพงศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม

๓. นายณรงศักด์ิ ใจยะ รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม

๒. คณะกรรมการอำนวยการ

๑. นางรชยา แพงศรี ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรมการ

๒. นายณรงศักด์ิ ใจยะ รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน รองประธานกรรมการ

๓. นางสาวจันทมิ า สรรเสริญ ครู ค.ศ. ๑ กรรมการและเลขานุการ

หน้าที่ มีหน้าทว่ี างแผน สง่ เสริม สนบั สนนุ กำกับ ติดตาม และให้คำแนะนำในการวเิ คราะหแ์ ละจัดทำหลักสูตรการ

จัดการเรียนรู้ และการวัดประเมนิ ผลของสถานศึกษา ใหเ้ ป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายท่ีกำหนดไว้

๓๖๘

๓. คณะกรรมการดำเนินงานจัดทำหลักสูตร

๑. นางสาวสิตานัน ชุมเกษียร ครู ค.ศ. ๓ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย

๒. นางสาวปารีวรรณ โคตรชมภู ครู ค.ศ. ๓ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

๓. วา่ ทร่ี ้อยตรหี ญิงธนยี า เจริญผล ครู ค.ศ. ๒ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๔. นางสาวนิรมล ดอกดนิ ครู ค.ศ. ๑ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

คณิตศาสตร์

๕. นายเมธสั เจริญผล ครู ค.ศ. ๑ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ภาษาต่างประเทศ

๖. นางสาวจนั ทมิ า สรรเสรญิ ครู ค.ศ. ๑ หัวหน้ากลมุ่ บริหารวิชาการ

หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษา

และพลศึกษา/หัวหนา้ กลุ่มสาระการ

เรียนร้ศู ลิ ปะ/หัวหน้ากลมุ่ การงาน

อาชีพ

มีหนา้ ท่ี ๑. วิเคราะห์ และจัดทำหลกั สูตรการจดั การเรยี นรู้

๒. วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งรายวชิ าตามหลักสูตรสถานศึกษาเพ่ือรองรบั เขตพฒั นาพิเศษภาคตะวนั ออก และ

สถานศึกษานำรอ่ งนวตั กรรม

๓. นิเทศ ติดตาม การใชห้ ลักสตู รสถานศกึ ษาในการจดั การเรยี นรู้ ละการวัดประเมินผล

ของสถานศึกษาในโครงการ เพื่อรองรับเขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวนั ออก และสถานศกึ ษานำรอ่ งนวัตกรรม

๔. ดำเนนิ การอน่ื ๆ ท่เี กย่ี วข้อง

ทั้งนใี้ ห้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ที่ไดร้ บั การแตง่ ตัง้ ปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รบั มอบหมายอยา่ งเต็ม
ความสามารถ เพ่อื ประโยชน์ของโรงเรียน หากประสบปญั หาใดๆ ให้รายงานผู้อำนวยการทราบทันที

ส่ัง ณ วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕

(นายเกรียงศกั ด์ิ เศรษฐเมธกี ุล)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน

โรงเรยี นชำฆ้อพิทยาคม

๓๖๙

คำสงั่ โรงเรียนชำฆอ้ พทิ ยาคม
ท่ี ๓๔ / ๒๕๖๕

เรื่อง แตง่ ต้ังคณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

……………………

ตามท่รี ฐั บาลมนี โยบายพฒั นาเขตพเิ ศษภาคตะวนั ออก (Eastern Economic Corridor) ข้นึ โดยครอบคลุม
พืน้ ที่ ๓ จงั หวัดได้แก่ จังหวัดฉะเชงิ เทรา จงั หวัดชลบุรี จงั หวัดระยอง กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน จึงใหโ้ รงเรียนดำเนินการจดั ทำหลกั สตู รสถานศึกษาเพ่ือขับเคลื่อนการศกึ ษาข้นั
พื้นฐานในพ้ืนท่เี ขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก และด้วยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดระยอง มีมตเิ ห็นชอบใหโ้ รงเรยี น
ชำฆอ้ พิทยาคม เป็นสถานศึกษานำรอ่ งในพื้นทน่ี วัตกรรมการศึกษาจังหวดั ระยอง รุ่นท่ี ๒ เพ่ือให้เปน็ พน้ื ที่ปฏิบัติการ
ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในมาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติพ้นื ที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ นอกจากนน้ั
จังหวดั ระยองไดจ้ ดั ทำกรอบหลกั สูตรการจัดการศกึ ษาตามแผนยทุ ธศาสตร์การศึกษาจังหวัดระยอง: Rayong
MARCO และตามทโี่ รงเรยี นชำฆอ้ พทิ ยาคมไดป้ ระกาศใช้หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนชำฆ้อพทิ ยาคม พุทธศกั ราช
๒๕๕๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ต่อมาได้มกี ารปรบั ปรุงหลักสูตรตามนโยบาย
ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
ในปี ๒๕๖๒ ได้มกี ารปรบั ปรงุ มาตรฐานและตวั ชี้วดั กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
สาระภมู ศิ าสตร์ของกลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ในการนี้โรงเรียนจึงมีความจำเปน็ ท่ีต้องดำเนนิ การปรบั ปรุงหลักสูตรสถานศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายของ
กระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดทำหลักสตู รสถานศึกษาเพื่อขับเคลอื่ นการศึกษาข้นั พน้ื ฐานในพน้ื ทเ่ี ขตพฒั นาพิเศษ
ภาคตะวนั ออก และตามนโยบายการขบั เคล่ือนยทุ ธศาสตร์ทางการศึกษาของสำนักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั ระยอง น้นั
จงึ อาศัยอำนาจตามความตามมาตรา ๓๙ แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบยี บราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖
และสิ่งท่แี ก้ไขเพ่ิมเติม และมาตรา ๒๗ แหง่ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.
๒๕๔๗ และทแี่ ก้ไขเพิ่ม แต่งต้ังขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ดังนี้

๑. คณะกรรมการอำนวยการ

๑. นางรชยา แพงศรี ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ

๒. นายณรงศกั ดิ์ ใจยะ รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน รองประธานกรรมการ

๓. นางสาวจนั ทมิ า สรรเสริญ ครู ค.ศ. ๑ กรรมการและเลขานุการ

หนา้ ที่ มีหน้าท่วี างแผน สง่ เสรมิ สนบั สนุน กำกบั ติดตาม และให้คำแนะนำในการวเิ คราะหแ์ ละจัดทำหลกั สูตรการ

จัดการเรยี นรู้ และการวดั ประเมินผลของสถานศึกษา ให้เป็นไปตามวตั ถุประสงค์และเป้าหมายทก่ี ำหนดไว้

๒. คณะกรรมการดำเนนิ งานจดั ทำหลักสตู ร
๑. คณะกรรมการจดั ทำหลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

๓๗๐

๑.๑ นางสาวสติ านัน ชุมเกษียร ครู ค.ศ. ๓ ประธานกรรมการ

๑.๒ นางสาวจนั ทมิ า สรรเสรญิ ครู ค.ศ. ๑ กรรมการ

๒. คณะกรรมการจดั ทำหลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๒.๑ นางสาวปารีวรรณ โคตรชมภู ครู ค.ศ. ๓ ประธานกรรมการ

๒.๒ นางสาวนภิ าพร คำมุงคุณ ครู ค.ศ. ๑ กรรมการ

๓. คณะกรรมการจดั ทำหลักสูตรกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๓.๑ ว่าทีร่ อ้ ยตรีหญงิ ธนยี า เจริญผล ครู ค.ศ. ๒ ประธานกรรมการ

๓.๒ นายจอมพล เกตแุ กว้ ครูผู้ชว่ ย กรรมการ

๓.๓ นายเดชอดุ ม แก้วประเสริฐ พนักงานราชการ กรรมการ

๓.๔ นางสาวสพุ รรษา กฐนิ ไทย ครูอัตราจา้ ง กรรมการ

๓.๕ นายอนชุ า อนุ อก ครอู ตั ราจ้าง กรรมการ

๓.๖ นางสาวปทั มา อาวรณ์ ครูอตั ราจ้าง กรรมการ

๔. คณะกรรมการจดั ทำหลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

๔.๑ นางสาวนิรมล ดอกดิน ครู ค.ศ. ๑ ประธานกรรมการ

๔.๒ นางสาวสิรวิ มิ ล คงลอด ครู ค.ศ. ๑ กรรมการ

๕. คณะกรรมการจัดทำหลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ

๕.๑ นางสาวจันทิมา สรรเสรญิ ครู ค.ศ. ๑ ประธานกรรมการ

๕.๒ นางสาวพยิ ดา กองขนั ธ์ ครูอตั ราจา้ ง กรรมการ

๖. คณะกรรมการจดั ทำหลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

๖.๑ นางสาวจนั ทมิ า สรรเสรญิ ครู ค.ศ. ๑ ประธานกรรมการ

๖.๒ นางสาวพยิ ดา กองขนั ธ์ ครอู ตั ราจ้าง กรรมการ

๗. คณะกรรมการจัดทำหลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

๗.๑ นายเมธัส เจริญผล ครู ค.ศ. ๑ ประธานกรรมการ

๘. คณะกรรมการจัดทำหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษา และพลศกึ ษา

๘.๑ นางสาวจนั ทมิ า สรรเสรญิ ครู ค.ศ. ๑ ประธานกรรมการ

๘.๒ นายธนตั ถส์ รณ์ วงศ์พึง่ ครูอัตราจา้ ง กรรมการ

๘.๓ นายทศพล วรรณศริ ิ ครูอตั ราจ้าง กรรมการ

หนา้ ท่ี จัดทำหลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ใหเ้ ป็นไปตามวตั ถุประสงค์ของการปรับปรงุ หลักสูตร

มหี นา้ ที่ ๑. ศกึ ษาหลกั สตู รในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ทร่ี บั ผิดชอบ

๒. จดั ทำรายละเอยี ดต่าง ๆ ของหลักสตู รเพ่มิ เตมิ ตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ที่รับผดิ ชอบ

๓. จัดทำรปู เล่มหลักสูตรของโรงเรยี นเพ่ือนำไปใช้ในกิจกรรมการเรยี นรู้ของครูผ้สู อน

๔. จัดส่งไฟล์ขอ้ มูลของหลักสูตรท่จี ัดทำเรยี บร้อยแลว้ ใหก้ บั ฝ่ายวชิ าการ/ฝา่ ยวดั ผล

๓. คณะกรรมการจัดทำเอกสารการวดั ประเมนิ ผล

๑. นางสาวจันทมิ า สรรเสรญิ ครู ค.ศ. ๑ ประธานกรรมการ

๒. นางสาวนริ มล ดอกดนิ ครู ค.ศ. ๑ กรรมการ

๓. นายอนชุ า อุนอก ครอู ตั ราจ้าง กรรมการ

๔. นางสาวพิยดา กองขนั ธ์ ครูอตั ราจ้าง กรรมการ

๕. นายทศพล วรรณศิริ ครอู ัตราจา้ ง กรรมการ

๓๗๑

มีหน้าท่ี ๑. ศกึ ษาแนวทางหลักการวดั และประเมินผลของหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พ.ศ.๒๕๕๑

๒. ศกึ ษาแนวทางการพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษาเพือ่ รองรับเขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก
(Eastern Economic Corridor : EEC)

๓. ศกึ ษาแนวทางการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา ตามแผนพฒั นาการศกึ ษาจังหวดั ระยอง
(พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕)

๔. จดั ทำระเบียบวา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรียนรูต้ ามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา
ข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของโรงเรียน

๕. จดั เตรียมและทำหลกั ฐานเอกสารประกอบการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรูต้ ามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของโรงเรยี น

๖. รวบรวมขอ้ มลู หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรตู้ ่าง ๆ เพื่อนำไปใช้กรอกขอ้ มลู ในโปรแกรมคอมพิวเตอร
สำหรับการประมวลผลการเรียนรตู้ อ่ ไป

ทัง้ นใี้ ห้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ท่ีได้รบั การแตง่ ต้งั ปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ที่ไดร้ ับมอบหมายอยา่ งเตม็
ความสามารถ เพอ่ื ประโยชน์ของโรงเรยี น หากประสบปัญหาใดๆ ใหร้ ายงานผู้อำนวยการทราบทันที

สั่ง ณ วนั ที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕

(นางรชยา แพงศรี)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนชำฆอ้ พิทยาคม

๓๗๒


Click to View FlipBook Version