The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อัยการนิเทศ เล่มที่ 74 ปี 2554

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aram.du, 2021-11-11 06:30:13

อัยการนิเทศ เล่มที่ 74 ปี 2554

อัยการนิเทศ เล่มที่ 74 ปี 2554

ลงวันท่ี ๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๒ ถงึ ผูอ้ ทุ ธรณ์ ปฏเิ สธการเปดิ เผยขอ้ มูลข่าวสาร ตามคำ�ขอโดยให้
เหตผุ ลว่า การขอคัดถา่ ยสำ�เนาหนังสือรอ้ งเรยี นขอความเปน็ ธรรมของผู้ต้องหานัน้ หนังสือดงั กลา่ ว
เป็นข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล ซ่ึงการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ําสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร ทั้งยัง
เกย่ี วเนอื่ งกบั คำ�สง่ั ใหส้ อบสวนเพม่ิ เตมิ ของพนกั งานอยั การ สว่ นการขอคดั ถา่ ยสำ�นวนการสอบสวน
ทั้งสำ�นวนน้ัน เนื่องจากผู้อุทธรณ์ไม่ได้ระบุเอกสารท่ีขอคัดถ่ายให้ชัดเจนว่า เอกสารท่ีขอคัดถ่าย
เป็นเอกสารใดบ้าง พนักงานอัยการจึงไม่อาจพิจารณาได้ เพราะเอกสารในสำ�นวนการสอบสวน
บางฉบับอาจมผี ลกระทบตอ่ หน่วยงานอนื่ หรือผ้อู ่นื ประกอบกบั คณะกรรมการวนิ จิ ฉัยการเปิดเผย
ข้อมูลข่าวสารเคยวินิจฉัยให้พนักงานอัยการเปิดเผยข้อมูลไปแล้วบางฉบับ จึงไม่อนุญาตให้คัดถ่าย
เอกสารตามท่ีขอได้ ผู้อทุ ธรณจ์ งึ มีหนังสือลงวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ อทุ ธรณค์ ำ�สง่ั ใหเ้ ปิดเผยขอ้ มูล
ข่าวสารดังกล่าว
ในชน้ั พจิ ารณา สำ�นักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดอี าญาธนบุรี ๖ (ตลิง่ ชัน) มีหนังสอื ดว่ นท่สี ดุ
ที่ อส ๐๐๒๑.๖/๔๗๕๕ ลงวนั ที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๒ ถงึ คณะกรรมการฯ แจง้ ว่า เนือ่ งจากผู้อทุ ธรณ์
ไดม้ หี นงั สอื ถงึ อยั การสงู สดุ และอธบิ ดอี ยั การพเิ ศษฝา่ ยคดอี าญาธนบรุ ี ใหเ้ พกิ ถอนค�ำ สงั่ ไมฟ่ อ้ ง และ
ใหม้ คี �ำ สง่ั ฟอ้ งผตู้ อ้ งหา ในส�ำ นวน ส.๑ เลขทร่ี บั ๕๗๗/๒๕๕๐ และรอ้ งเรยี นใหต้ รวจสอบพฤตกิ ารณ์
ของพนักงานอัยการท่ีเก่ียวข้องกับการสั่งคดีซ่ึงปัจจุบันสำ�นวนคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณา
ตรวจสอบของอัยการสูงสุดและส่วนงานท่ีเก่ียวข้อง สำ�นักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี ๖
(ตลิ่งชัน) จึงไมอ่ าจสง่ สำ�นวนคดีดังกลา่ วให้คณะกรรมการฯ ได้ภายในระยะเวลาทีก่ �ำ หนด และเมอ่ื
ได้รับสำ�นวนคดีดังกล่าวคืนมาแล้ว จะดำ�เนินการชี้แจงข้อเท็จจริงและจัดส่งสำ�เนาข้อมูลดังกล่าว
ให้โดยเรง่ ด่วนต่อไป
คณะกรรมการฯ ไดแ้ จง้ ใหผ้ อู้ ทุ ธรณท์ ราบถงึ ความมอี ยขู่ องขอ้ มลู ขา่ วสารทมี่ คี �ำ ขอผอู้ ทุ ธรณ์
แสดงความประสงค์ขอถอนเร่ืองอุทธรณ์ โดยเม่ือวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๒ ผู้อุทธรณ์บันทึกต่อ
ท้ายอุทธรณ์ฉบับลงวันท่ี ๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ว่าขอถอนเรื่องอุทธรณ์นี้ และได้แจ้งด้วยวาจาต่อ
คณะกรรมการฯ วา่ จะยืน่ ขอขอ้ มลู ขา่ วสารตอ่ อัยการสงู สดุ โดยตรงต่อไป
ต่อมาสำ�นักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี ๖ (ตล่ิงชัน) มีหนังสือ ด่วนท่ีสุด
ท่ี อส ๐๐๒๑.๖/๔๘๒๐ ลงวันท่ี ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๒ ถึงคณะกรรมการฯ จัดส่งข้อมูลข่าวสาร
ตามคำ�ขอของผู้อุทธรณ์ เพอ่ื พจิ าณา และผ้อู ทุ ธรณ์มีหนงั สือลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ แจง้ ว่า
ได้ไปยื่นขอข้อมูลข่าวสารต่ออัยการสูงสุดแล้ว แต่ได้รับแจ้งตามหนังสือสำ�นักงานอัยการพิเศษ
ฝ่ายคดอี าญาธนบรุ ี ๖ (ตลิ่งชนั ) ท่ี อส ๐๐๒๑.๖/๐๒๐๒ ลงวนั ท่ี ๒๐ มกราคม ๒๕๕๓ วา่ ได้ส�ำ เนา
ข้อมลู ขา่ วสารให้คณะกรรมการฯ พิจารณาแลว้ ผอู้ ทุ ธรณจ์ ึงขอใหค้ ณะกรรมการฯ พิจารณาเร่อื งท่ี
ไดย้ ื่นอทุ ธรณไ์ ว้ต่อไป
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริการราชการแผ่นดิน
และการบงั คบั ใช้กฎหมายพจิ ารณาแล้ว เห็นว่า แมผ้ อู้ ทุ ธรณจ์ ะไดบ้ นั ทกึ ต่อทา้ ยอทุ ธรณ ์ ฉบับลง

294 อยั การนิเทศ

วันที่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๕๒ ว่า ขอถอนเรอ่ื งอุทธรณเ์ พ่ือไปยื่นขอตอ่ อยั การสูงสดุ โดยตรง ตอ่ มาไดม้ ี
หนังสือลงวันท่ี ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ ขอให้คณะกรรมการฯ พิจาณาเร่ืองที่ได้ยื่นอุทธรณ์ไว้ต่อไป
เพราะไดร้ บั หนงั สอื จากส�ำ นกั งานอยั การพเิ ศษฝา่ ยคดอี าญาธนบรุ ี ๖ (ตลง่ิ ชนั ) วา่ ไดส้ ง่ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
ทผ่ี อู้ ทุ ธรณม์ คี �ำ ขอมาใหค้ ณะกรรมการฯ เพอ่ื พจิ ารณาแลว้ คณะกรรมการฯ จงึ ใหร้ บั พจิ ารณาอทุ ธรณ์
ฉบบั ลงวันท่ี ๑ ธนั วาคม ๒๕๕๒ ตอ่ ไป
คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั การเปดิ เผยขอ้ มลู สารสาขาสงั คม การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ และการ
บงั คบั ใชก้ ฎหมายไดพ้ จิ ารณาค�ำ อทุ ธรณ์ และหาเหตผุ ลในการไมเ่ ปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสารของส�ำ นกั งาน
อยั การพเิ ศษฝา่ ยคดอี าญาธนบรุ ี ๖ (ตลง่ิ ชนั ) ประกอบกบั ขอ้ มลู ขา่ วสารทขี่ อใหจ้ ดั สง่ มาแลว้ ขอ้ เทจ็ จรงิ
ฟังได้ว่า ผู้อุทธรณ์ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำ�รวจนครบาลบางขุนนนท์ กล่าวหา
นาง ศ. วา่ กอ่ สร้างดดั แปลงอาคารโดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าตจากเจ้าพนักงานท้องถิน่ และฝา่ ฝืนไมป่ ฏิบตั ิ
ตามค�ำ สง่ั ของเจา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ ทสี่ ง่ั ใหร้ อ้ื ถอน พนกั งานสอบสวนท�ำ การสอบสวน มคี วามเหน็ ควร
ส่ังฟ้องผู้ต้องหา และสง่ ส�ำ นวนการสอบสวนคดีอาญา ท่ี ๑๘๕/๒๕๕๐ เสนอพนกั งานอัยการเพอ่ื
ส่งั คดีตามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ในช้นั พิจารณาของพนักงานอัยการ นาง ศ. ซึ่ง
เปน็ ผตู้ อ้ งหา ไดม้ หี นงั สอื ขอความเปน็ ธรรมและขอใหส้ อบสวนพยานบคุ คลเพม่ิ เตมิ พนกั งานอยั การ
มีค�ำ ส่ังให้พนักงานสอบสวนท�ำ การสอบสวนเพ่ิมเติม และต่อมาได้มีค�ำ สั่งไม่ฟ้องนาง ศ. ผู้อุทธรณ์
จึงมีหนังสือขอข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับสำ�นวนคดีอาญาดังกล่าว เพ่ือประกอบการดำ�เนินการต่อไป
แต่สำ�นักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี ๖ (ตล่ิงชัน) ได้ปฏิเสธการเปิดเผย พร้อมทั้งชี้แจง
ข้อเทจ็ จรงิ เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาของคณะกรรมการฯ เพิม่ เตมิ ว่า คณะกรรมการฯ เคยวนิ ิจฉัย
ให้พนักงานอัยการเปิดเผยข้อมูลคำ�ให้การของพยานบุคคลบางฉบับไปแล้ว และผู้อุทธรณ์ซึ่งเป็น
ผู้คัดถ่ายเอกสารกลับนำ�เอาคำ�ให้การของพยานบุคคลท่ีคณะกรรมการฯ สั่งให้เปิดเผย แจ้ง
ด�ำ เนินคดกี บั พยานบคุ คลดังกลา่ ว
คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั การเปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสารสาขาสงั คม การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ และ
การบงั คับใชก้ ฎหมายพจิ ารณาแล้ว เห็นวา่ ข้อมลู ขา่ วสารรายการท่ี ๑ หนงั สอื ขอความเป็นธรรม
ของนาง ศ. นั้น พนักงานอัยการได้พิจารณาคำ�ขอของนาง ศ. และส่ังให้พนักงานสอบสวนสถานี
ตำ�รวจนครบาลบางขนุ นนท์ท�ำ การสอบสวนพยานเพมิ่ เตมิ และไดใ้ ช้เปน็ ข้อมลู ในการพิจารณาและ
มคี �ำ สงั่ ไมฟ่ อ้ งผตู้ อ้ งหา แมก้ ารขอความเปน็ ธรรมจะเปน็ เรอื่ งสว่ นบคุ คลของนาง ศ. แตผ่ อู้ ทุ ธรณเ์ ปน็
ผู้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำ�เนินคดีกับนาง ศ. และผู้อุทธรณ์เป็นผู้เสียหายตาม
มาตรา ๗๓ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ เมื่อพนักงานอัยการมีคำ�ส่ังไม่ฟ้อง
ผตู้ อ้ งหา และมหี นงั สอื ขอความเปน็ ธรรม หนงั สอื ดงั กลา่ วมสี ว่ นเกยี่ วขอ้ งในคดี การเปดิ เผยหนงั สอื
ขอความเปน็ ธรรมแกผ่ อู้ ทุ ธรณน์ ไี้ มถ่ อื วา่ เปน็ การรกุ ลาํ้ สทิ ธสิ ว่ นบคุ คลโดยไมส่ มควร ตามมาตรา ๑๕
วรรคหนงึ่ (๕) แห่งพระราชบัญญตั ิข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ อยา่ งไรกต็ าม เพ่ือไม่ให้
บคุ คลทนี่ าง ศ. อา้ งถงึ ตอ้ งไดร้ บั ความเดอื นรอ้ นจากการเปน็ พยาน เหน็ สมควรปกปดิ ชอ่ื หรอื ขอ้ ความ

อัยการนิเทศ 295

อ่ืนใดที่จะทำ�ใหท้ ราบว่า บคุ คลดังกล่าว คือ บคุ คลใด
ส่วนข้อมูลขา่ วสารรายการที่ ๒ สำ�นวนคดีอาญา ส.๑ เลขทร่ี ับ ๕๗๗/๒๕๕๐ ทงั้ ส�ำ นวนนนั้
เปน็ การปฏบิ ตั ริ าชการเกยี่ วกบั การสง่ั คดขี องพนกั งานอยั การ อนั เปน็ การใชด้ ลุ พนิ จิ ตามอ�ำ นาจหนา้ ที่
และตามกฎหมาย เมอ่ื พนกั งานอยั การมคี �ำ สง่ั เกย่ี วกบั คดแี ลว้ การเปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสารจะเปน็ การ
เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบและแสดงให้เห็นถึงความโปรงใสในการปฏิบัติราชการของพนักงาน
อัยการผู้สั่งคดีนั้น สำ�หรับข้อมูลข่าวสารในส่วนการให้ถ้อยค�ำ ของพยานบุคคล เพื่อไม่ให้บุคคลท่ี
นาง ศ. อ้างถึงต้องได้รับความเดือนร้อนจากการให้ถ้อยคำ�เป็นพยานเห็นสมควรปกปิดช่ือหรือ
ขอ้ ความอ่ืนใดท่ีจะทำ�ใหท้ ราบวา่ บุคคลดังกล่าว คอื บคุ คลใด ท้งั นี้ หากส�ำ นักงานอยั การพิเศษฝา่ ย
อาญาธนบุรี ๖ (ตล่งิ ชัน) เห็นวา่ การเปิดเผยช่อื พนักงานอยั การผสู้ ง่ั คดใี นกรณีนีจ้ ะส่งผลท�ำ ให้การ
บงั คบั ใชก้ ฎหมายเกยี่ วกบั การปฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี นการฟอ้ งคดขี องพนกั งานอยั การตอ้ งเสอ่ื มประสทิ ธภิ าพ
หรือไม่อาจอาจสำ�เร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ตามมาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง (๒) แห่งพระราชบัญญัติ
ขอ้ มลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ กอ็ าจใชด้ ลุ พินจิ ปกปิดชอื่ พนกั งานอัยการดงั กลา่ วได้
ฉะนนั้ อาศยั อ�ำ นาจตามความในมาตรา ๓๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ขา่ วสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั การเปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสาร สาขาสงั คม การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ
และการบังคบั ใชก้ ฎหมาย จึงมีค�ำ วินิจฉยั ใหส้ �ำ นกั งานอัยการพเิ ศษฝ่ายคดีอาญาธนบรุ ี ๖ (ตลง่ิ ชนั )
เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามคำ�ขอแก่ผู้อุทธรณ์ โดยให้ปกปิดชื่อพยานหรือข้อความอ่ืนใดที่จะทำ�ให้
ทราบว่า บุคคลใดให้ถ้อยคำ�เป็นพยาน และอาจใช้ดุลพินิจในการปกปิดชื่อพนักงานอัยการตามที่
เหน็ สมควร

296 อัยการนเิ ทศ

คำ�วินจิ ฉัยคณะกรรมการวินจิ ฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
สาขาสังคม การบรหิ ารราชการแผ่นดินและการบังคบั กฎหมาย

คำ�วนิ ิจฉยั ท่ี สค ๗๑/๒๕๕๓
พ.ร.บ. ขอ้ มูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ (มาตรา ๑๕ วรรคหนึง่ (๒), ๓๕)
เรื่อง อุทธรณ์คำ�ส่ังมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของส�ำ นักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง ๖
เกีย่ วกับสำ�นวนการสอบสวนกรณผี ้อู ทุ ธรณ์เป็นผู้เสียหายในคดีฉอ้ โกง
ข้อมูลข่าวสารตามอุทธรณ์น้ันประกอบด้วยบันทึกการให้ถ้อยคำ�ของพยานบุคคล และ
เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมไว้ในส�ำ นวนการสอบสวนซ่ึงส่วนใหญ่
เป็นเอกสารของบริษัทผู้อุทธรณ์ ปัจจุบันการสอบสวนคดีอาญาได้ดำ�เนินการเสร็จส้ินแล้ว
โดยพนักงานอัยการมีคำ�ส่ังไม่ฟ้องผู้ต้องหาและสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ มีความเห็นไม่แย้ง
ค�ำ สง่ั ดังกล่าว คดีเป็นอันยุติ การเปดิ เผยขอ้ มลู ข่าวสารตามอทุ ธรณ์จงึ ไม่น่าจะทำ�ใหก้ ารบังคบั
ใช้กฎหมายเส่ือมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำ�เร็จตามวัตถุประสงค์ได้ตามนัยมาตรา ๑๕ วรรค
หนึง่ (๒) แห่งพระราชบัญญัติขอ้ มูลขา่ วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ หากสำ�นักงานอัยการ
พเิ ศษฝ่ายคดศี าลแขวง ๖ เหน็ วา่ การเปดิ เผยอาจกระทบตอ่ ผูเ้ ก่ียวข้องในคดกี ็อาจใชด้ ุลพินิจ
ปกปดิ ชอื่ หรอื ขอ้ ความอนื่ ใดทจี่ ะทำ�ใหท้ ราบวา่ บคุ คลใดเปน็ ผใู้ หถ้ อ้ ยคำ�นนั้ ได้ เมอื่ ผอู้ ทุ ธรณเ์ ปน็
ผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงจึงควรมีโอกาสได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเพ่ือใช้ปกป้องประโยชน์ได้เสีย
ของตนจึงเหน็ ควรเปดิ เผยข้อมลู ข่าวสารแก่ผู้อุทธรณ์

________________________________________
อทุ ธรณเ์ รอื่ งนไ้ี ดค้ วามวา่ ผอู้ ทุ ธรณไ์ ดม้ หี นงั สอื ถงึ ส�ำ นกั งานอยั การพเิ ศษฝา่ ยคดศี าลแขวง ๖
ขอส�ำ เนาเอกสารการสอบสวนกรณผี อู้ ทุ ธรณแ์ จง้ ความรอ้ งทกุ ขใ์ หด้ �ำ เนนิ คดกี บั นาย ก. กบั พวก ขอ้ หา
ฉอ้ โกงทรัพยต์ ามคดีอาญาท่ี ๒๙๘/๒๕๕๑ ของสถานตี ำ�รวจนครบาลจักรวรรดิ
ส�ำ นกั งานอยั การพเิ ศษฝา่ ยคดศี าลแขวง ๖ มหี นงั สอื ที่ อส ๐๐๑๕.๖/๒๑ ลงวนั ที่ ๗ มกราคม
๒๕๕๓ ใหส้ ำ�เนาคำ�ใหก้ ารผู้กล่าวหาทุกแผ่น เอกสารแนบคำ�ใหก้ ารผู้กลา่ วหาเพม่ิ เตมิ เมื่อวนั ท่ี ๑
กันยายน ๒๕๕๒ จำ�นวน ๓ แผน่ หนงั สอื แจง้ ค�ำ สงั่ ไมฟ่ อ้ ง ค�ำ สงั่ ไม่ฟ้องของพนกั งานอัยการฉบับยอ่
และรายงานเดินบญั ชที ีม่ ลี ายมือชอื่ ผ้กู ลา่ วหา โดยปฏเิ สธการใหส้ �ำ เนา เอกสารอืน่ ๆ โดยให้เหตุผล
วา่ เนอื่ งจากเปน็ คดคี วามผดิ ตอ่ สว่ นตวั การดำ�เนนิ การใชส้ ทิ ธทิ างศาลคดยี งั ไมถ่ งึ ทสี่ ดุ และจะทำ�ให้
การบงั คบั ใชก้ ฎหมายเสอื่ มประสทิ ธภิ าพหรอื ไมอ่ าจสำ�เรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงคไ์ ด้ รวมทง้ั อาจกระทบถงึ
ประโยชนไ์ ดเ้ สียของผเู้ กีย่ วข้องในคดี ผู้อุทธรณจ์ งึ มหี นังสือ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๓ อทุ ธรณ์
ค�ำ สงั่ ไม่เปดิ เผยขอ้ มูลข่าวสารของส�ำ นักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีศาลแขวง ๖ ต่ออธิบดีอยั การฝ่าย
คดีศาลแขวง ต่อมาอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๓ แจ้ง

อยั การนเิ ทศ 297

ผู้อุทธรณ์ว่า การที่สำ�นักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง ๖ ปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
บางส่วนแก่ผ้อู ุทธรณน์ ัน้ ชอบแล้ว
ผอู้ ุทธรณ์ จึงมีหนงั สือลงวนั ท่ี ๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๓ ถงึ คณะกรรมการวินิจฉัย การเปดิ เผย
ข้อมูลขา่ วสาร อทุ ธรณค์ ำ�สง่ั มิให้เปิดเผยขอ้ มลู ขา่ วสารดังกล่าว
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน
และการบังคับใช้กฎหมายได้พิจารณาคำ�อุทธรณ์ หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของหน่วยงาน
การชแี้ จงข้อเทจ็ จรงิ ดว้ ยวาจาของผู้อุทธรณ์ และเอกสารท่เี กย่ี วข้องแล้ว ข้อเท็จจรงิ ได้ความวา่ เมอ่ื
วันท่ี ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ผู้อุทธรณ์ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานี
ตำ�รวจนครบาลจักรวรรดิใหด้ �ำ เนนิ คดีแกผ่ ู้ตอ้ งหารวม ๓ คน ฐานร่วมกนั ฉ้อโกงผอู้ ทุ ธรณ์ พนกั งาน
สอบสวนได้ดำ�เนินสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นควรส่ังฟ้องผู้ต้องหาทั้ง
๓ คน และไดส้ ง่ ส�ำ นวนการสอบสวนใหพ้ นกั งานอยั การพจิ ารณา ซง่ึ พนกั งานอยั การไดพ้ จิ ารณาแลว้
มคี วามเหน็ สงั่ ไมฟ่ อ้ งผตู้ อ้ งหาทงั้ ๓ คน และไดส้ ง่ ส�ำ นวนการสอบสวนไปยงั ส�ำ นกั งานต�ำ รวจแหง่ ชาติ
กรณีสง่ั ไม่ฟอ้ งผู้ตอ้ งหา ๓ คน ตามประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๔๕ ตอ่ มา
ส�ำ นกั งานต�ำ รวจแหง่ ชาตไิ ดม้ คี วามเหน็ ไมแ่ ยง้ คำ�สง่ั ฟอ้ งพนกั งานอยั การ ส�ำ นกั งานอยั การพเิ ศษฝา่ ย
คดศี าลแขวง ๖ จึงไดม้ หี นงั สอื ถงึ สถานีต�ำ รวจนครบาลจกั รวรรดแิ จง้ คำ�สัง่ เด็ดขาดไมฟ่ ้อง ผตู้ อ้ งหา
ท้ัง ๓ คน หลกั จากน้ันผูอ้ ทุ ธรณจ์ งึ ได้มหี นงั สอื ขอข้อมูลข่าวสารตามอทุ ธรณ์
ในชน้ั พจิ ารณา ส�ำ นกั งานอยั การพเิ ศษฝา่ ยคดศี าลแขวง ๖ ไดม้ หี นงั สอื ท ี่ อส ๐๐๑๕.๖/๓๘๐
ลงวนั ท่ี ๔ มนี าคม ๒๕๕๓ ชแ้ี จงสรปุ วา่ ไมส่ ามารถเปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสารรายการอนื่ นอกจากทเ่ี ปดิ ให้
แกผ่ อู้ ทุ ธรณแ์ ลว้ เนอ่ื งจากเปน็ คดคี วามผดิ ตอ่ สว่ นตวั การด�ำ เนนิ การใชส้ ทิ ธทิ างศาลคดยี งั ไมถ่ งึ ทส่ี ดุ
และจะทำ�ให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำ�เร็จตามวัตถุประสงค์ รวมท้ัง
อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของผู้เก่ียวข้องในคดีหากผู้อุทธรณ์ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง ๓ คน และ
มีหมายเรียกจากศาลขอเอกสารในสำ�นวนก็จะดำ�เนินการจัดส่งให้ทางศาล การที่สำ�นักงานอัยการ
พิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง ๖ ได้ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้คัดถ่ายเอกสารบางส่วนเป็นการดำ�เนินการตาม
ระเบยี บส�ำ นกั งานอยั การสงู สดุ วา่ ด้วยขอ้ มูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๑
สว่ นผู้อทุ ธรณ์ช้แี จงสรปุ วา่ ขอ้ มลู ข่าวสารตามอทุ ธรณ์น้นั ประกอบด้วยบันทึกถ้อยคำ�พยาน
บุคคล เอกสารต่าง ๆ และรายละเอียดเกี่ยวกับรายการเงินฝากถอนในบัญชีเงินฝากของธนาคาร
(Statement) ซ่ึงพนักงานสอบสวนได้รวบรวมไว้ในสำ�นวนการสอบสวน และไม่ใช่ข้อมูลข่าวสาร
ของฝา่ ยผตู้ อ้ งหาเนอื่ งจากผตู้ อ้ งหาไมใ่ หก้ ารชน้ั สอบสวนแตอ่ ยา่ งใด ผอู้ ทุ ธรณต์ อ้ งการขอ้ มลู ขา่ วสาร
ตามอุทธรณเ์ พ่ือนำ�ไปใชเ้ ปน็ หลกั ฐานประกอบการฟอ้ งคดอี าญาต่อศาล โดยขอ้ มลู ขา่ วสารดังกลา่ ว
นั้นแสดงให้เห็นถึงข้ันตอน และวิธีการกระทำ�ความผิดของผู้ต้องหา จึงจำ�เป็นต้องใช้เป็นหลักฐาน
ในการฟ้องคดีต่อศาลเพื่อแสดงให้ศาลเห็นว่า คดีมีมูลที่จะรับฟ้องไว้พิจารณา และการเปิดเผย
ข้อมูลขา่ วสารดังกล่าว ไมน่ า่ จะเกดิ ความเสียหายแกบ่ ุคคลอ่นื เน่อื งจากเป็นขอ้ มูลข่าวสารเก่ียวกับ

298 อยั การนิเทศ

บรษิ ทั ของผู้อทุ ธรณ์
คณะกรรมการฯ พิจาณาแล้วเหน็ ว่า ข้อมลู ขา่ วสารตามทอ่ี ุทธรณน์ ้ันประกอบดว้ ยบนั ทกึ การ
ให้ถอ้ ยค�ำ ของพยานบคุ คล และเอกสารหลกั ฐานตา่ ง ๆ ทพ่ี นักงานสอบสวนไดร้ วบรวมไว้ในสำ�นวน
การสอบสวนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอกสารของบริษัทผู้อุทธรณ์ ปัจจุบันการสอบสวนคดีอาญาได้ดำ�เนิน
การเสร็จสิ้นแล้ว โดยพนักงานอัยการมีคำ�ส่ังไม่ฟ้องผู้ต้องหาและสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติมีความ
เห็นไม่แย้งคำ�สั่งดังกล่าว คดีเป็นอันยุติ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามอุทธรณ์จึงไม่น่าจะทำ�ให้
การบังคับใช้กฎหมายเส่ือมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำ�เร็จตามวัตถุประสงค์ได้ตามนัย มาตรา ๑๕
วรรคหนงึ่ (๒) แหง่ พระราชบัญญตั ิข้อมลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ หากส�ำ นกั งานอยั การ
พิเศษฝา่ ยคดีศาลแขวง ๖ เหน็ วา่ การเปิดเผยอาจมีผลกระทบต่อผูเ้ กี่ยวขอ้ งในคดีก็อาจใชด้ ุลพนิ ิจ
ปกปิดช่ือหรือข้อความอื่นใดที่จะท�ำ ให้ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้ให้ถ้อยค�ำ นั้นได้เมื่อผู้อุทธรณ์เป็นผู้มี
สว่ นไดส้ ว่ นเสยี โดยตรงจงึ ควรมโี อกาสไดร้ บั ทราบขอ้ มลู ขา่ วสารเพอ่ื ใชป้ กปอ้ งประโยชนไ์ ดเ้ สยี ของตน
จึงเห็นควรเปดิ เผยข้อมลู ขา่ วสารแกผ่ ู้อุทธรณ์
ฉะนนั้ อาศยั อ�ำ นาจตามความในมาตรา ๓๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ขา่ วสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการ
แผ่นดินและการบงั คบั ใช้กฎหมาย จึงมีค�ำ วนิ ิจฉัยให้ส�ำ นักงานอยั การพิเศษฝา่ ยคดศี าลแขวง ๖ เปดิ
เผยสำ�นวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนสถานีต�ำ รวจนครบาลจักรวรรดิให้แก่ผู้อุทธรณ์ โดย
อาจใช้ดุลพินิจปกปิดช่ือ โดยลบหรือทำ�การอ่ืนใดต่อข้อความที่จะทำ�ให้ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้ให้
ถ้อยคำ�นั้น แต่การปกปิดช่ือหรือข้อความนั้นต้องกระทำ�เท่าท่ีจำ�เป็นและต้องไม่กระทบกระเทือน
ถึงเน้ือความของขอ้ มูลข่าวสารน้นั

อยั การนิเทศ 299


Click to View FlipBook Version