ค ำน ำ ส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย (ส ำนักงำน กศน.) ในฐำนะหน่วยงำน ที่รับผิดชอบกำรจัดกำรศึกษำหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กำรศึกษำต่อเนื่อง และส่งเสริมสนับสนุนกำรศึกษำตำมอัธยำศัย และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนในฐำนะหน่วยงำน รับผิดชอบเกี่ยวกับกำรคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภำพเด็กและเยำวชน ผู้เยำว์และครอบครัวได้ลงนำมควำมร่วมมือ ที่จะจัดกำรศึกษำส ำหรับเด็กและเยำวชนในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก และเยำวชน เพื่อให้กำรศึกษำ อบรม ฝึกอำชีพ ส ำหรับเด็กและเยำวชนที่อยู่ในควำมดูแลของกรมพินิจและคุ้มครอง เด็กและเยำวชนสอดคล้องและเท่ำเทียมกับเด็กและเยำวชนทั่วไป ส ำนักงำน กศน. โดยควำมร่วมมือกับกรมพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยำวชนจึงได้พัฒนำคู่มือกำรจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ส ำหรับเด็กและเยำวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน ส ำหรับ ให้สถำนศึกษำในสังกัดส ำนักงำน กศน. และสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก และเยำวชน น ำไปใช้เป็นแนวทำงในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนและจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เพื่อยกระดับควำมรู้ ให้กับเด็กและเยำวชนในควำมดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนให้ได้รับกำรศึกษำและพัฒนำ ตำมควำมสนใจและตำมศักยภำพของแต่ละคน ในกำรนี้ ส ำนักงำน กศน. ขอขอบคุณคณะผู้บริหำร ครู อำจำรย์ ศึกษำนิเทศก์ และนักวิชำกำร จำกส ำนักงำน กศน. และบุคลำกรจำกกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน ที่ให้ควำมร่วมมือในกำรจัดท ำ คู่มือกำรจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ส ำหรับเด็ก และเยำวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน ไว้ ณ โอกำสนี้ และหวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำ เอกสำรเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ครูและผู้เกี่ยวข้องในสถำนศึกษำ กศน. และสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน และศูนย์ฝึก และอบรมเด็กและเยำวชน ต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนและกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ดังกล่ำว (นำยกฤตชัย อรุณรัตน์) เลขำธิกำร กศน.
ค ำน ำ บันทึกข้อตกลงว่ำด้วยควำมร่วมมือกำรจัดกำรศึกษำส ำหรับเด็กและเยำวชนในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยำวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยำวชน ระหว่ำงส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย (ส ำนักงำน กศน.) กระทรวงศึกษำธิกำร โดยเลขำธิกำรส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศึกษำตำมอัธยำศัย (นำยสุรพงษ์ จ ำจด) กับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน กระทรวงยุติธรรม โดยอธิบดี กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน (ศำสตรำจำรย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ) เมื่อวันที่ 23 มกรำคม 2560 โดยหน่วยงำนทั้งสองตกลงร่วมกันที่จะพัฒนำแนวทำงในกำรจัดกำรศึกษำที่เหมำะสมสอดคล้องกับกิจกรรมแก้ไข บ ำบัดและฟื้นฟู กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติกำรระหว่ำงคณะท ำงำนจัดท ำคู่มือกำรจัด กำรศึกษำตำมหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ส ำหรับเด็กและเยำวชน ในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน กับคณะบุคลำกรของส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย.(กศน.).โดยได้ท ำแนวทำงกำรจัดกำรศึกษำส ำหรับเด็กและเยำวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยำวชนให้มีควำมสอดคล้องกับหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ในกำรจัดท ำจัดท ำคู่มือกำรจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ส ำหรับเด็กและเยำวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน ได้รับควำมร่วมมือจำก บุคลำกรส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย กระทรวงศึกษำธิกำร ซึ่งเป็นผู้มีควำมรู้ และประสบกำรณ์ ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่ำงๆที่เป็นประโยชน์ท ำให้เอกสำรฉบับนี้ส ำเร็จสมบูรณ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนขอขอบคุณในควำมร่วมมือของทุกท่ำนมำในโอกำสนี้ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน
สำรบัญ คู่มือกำรจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ส ำหรับเด็กและเยำวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน หน้ำ บทน ำ 1 วัตถุประสงค์ 2 กำรจัดกำรศึกษำ 2 ผลที่คำดว่ำจะได้รับ 2 กลุ่มเป้ำหมำย 3 คุณสมบัติ และหลักฐำนกำรสมัคร 3 ค ำนิยำม 3 ควำมรับผิดชอบ 4 โครงสร้ำงหลักสูตร 4 กำรจัดหลักสูตรส ำหรับกลุ่มเป้ำหมำย 7 กำรลงทะเบียน 14 วิธีจัดกำรเรียนรู้ 18 กำรวัดผลประเมินผล 18 กำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำนอกระบบระดับชำติ (N-net) 20 กำรประเมินคุณธรรม 20 กำรเทียบโอนรำยวิชำ 22 กิจกรรมพัฒนำคุณภำพชีวิต (กพช.) 23 เกณฑ์กำรจบหลักสูตร 25 ค ำถำมที่พบบ่อย 25 รำยละเอียดวิชำเลือก ระดับประถมศึกษำ 28 รำยละเอียดวิชำเลือก ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น 69 รำยละเอียดวิชำเลือก ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย 250 ภำคผนวก 383 หนังสือส ำนักงำน กศน. ด่วนมำก ที่ ศธ 0210.03/3805 ลงวันที่ 26 ตุลำคม 2553 เรื่อง ทบทวนแผนกำรลงทะเบียนเรียนรำยวิชำบังคับในภำคเรียนที่ 2/2553 384 บันทึกข้อตกลงว่ำด้วยควำมร่วมมือกำรจัดกำรศึกษำส ำหรับเด็กและเยำวชน 385 ประกำศส ำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร เรื่อง คู่มือกำรจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตร กำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ประกำศ ณ วันที่ 14 กันยำยน 2560 387 รำยชื่อคณะท ำงำนจัดท ำคู่มือกำรจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบ ระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ส ำหรับเด็กและเยำวชนในกรมพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยำวชน 388
สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ รำยชื่อผู้เข้ำร่วมประชุมเชิงปฏิบัติกำรกำรจัดท ำคู่มือกำรจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตร กำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ส ำหรับเด็ก และเยำวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน 390
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ............................................................. 1. บทน า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีบทบาทและภารกิจ คือ 1. พิทักษ์คุ้มครองสิทธิ และสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน ผู้เยาว์และครอบครัวที่เข้าสู่กระบวนยุติธรรม โดยส่งเสริมการใช้กระบวนการยุติธรรมทางเลือกและมาตรการอื่น ๆ 2. ด าเนินการด้านคดี ด้านการป้องกัน บ าบัด แก้ไข ฟื้นฟู พัฒนาและสงเคราะห์และติดตาม ประเมินผล 3. ประสานความร่วมมือและสร้างเครือข่ายกับชุมชน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งภายในและ ต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมและป้องการกระท าผิดของเด็กและเยาวชน 4. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนากฎหมาย รูปแบบและวิธีการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน 5. พัฒนาการบริหารจัดการและบุคลากรด้วยระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ด้วยบทบาทและภารกิจเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ และสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน ผู้เยาว์และครอบครัว ดังกล่าว กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จึงต้องมีมาตรการในการดูแลให้การศึกษา อบรม ฝึกอาชีพเพื่อ แก้ไขความประพฤติ บ าบัด รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจแก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในการ ดูแล โดยได้ก าหนดหลักการด าเนินงาน ดังนี้ 1. การพัฒนาการศึกษาต้องยึดหลักยุทธศาสตร์กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 2. การส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาส าหรับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในการดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน ต้องให้ความส าคัญเท่าเทียมกันกับเด็กและเยาวชนทั่วไป ความหลากหลายในรูปแบบและหลักสูตร การศึกษาและเทคโนโลยีการศึกษาที่ทันสมัย 3. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนและหลักสูตรการศึกษา ต้องให้ความส าคัญกับการยกระดับความรู้ ให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน และยึดถือประโยชน์ของเด็กและเยาวชนเป็นที่ตั้ง ควบคู่กับการส่งเสริมทักษะที่จ าเป็น แห่งศตวรรษที่ 21 4. การประสานให้บุคลากรภายนอกที่มีใบประกอบวิชาชีพให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสอนเด็กและเยาวชน ภายในสถานที่ควบคุม รวมถึงส่งเสริมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ครูให้ได้รับใบประกอบวิชาชีพ เพื่อการเรียนการสอน ที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ดังนั้น กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จึงต้องแสวงหาภาคีเครือข่าย หาแนวทางร่วมกันในการช่วย จัดการศึกษาหรือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้กับเด็กและ เยาวชนในการดูแลให้ได้รับการศึกษาและพัฒนาตามความสนใจและตามศักยภาพของแต่ละคน ในการด าเนินงานตามบทบาทภารกิจดังกล่าว กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนด าเนินการภายใต้ หน่วยงานในระดับพื้นที่ คือ ๑. สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งจัดตั้งตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธี พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยควบคุมตัวเด็กและเยาวชนระหว่างรอการพิจารณาคดี โดยเด็ก และเยาวชนจะได้รับแก้ไข บ าบัด ฟื้นฟู จัดการศึกษาและฝึกวิชาชีพตามความเหมาะสม ปัจจุบันมีสถานพินิจและ คุ้มครองเด็กและเยาวชนครบทุกจังหวัด ๒. ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน โดยควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ศาลเยาวชนและครอบครัว พิพากษาให้เข้ารับการฝึกอบรมตามระยะเวลาที่ศาลก าหนด
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -2- ๒. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นแนวทางจัดการเรียนการสอนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรม เด็กและเยาวชนให้มีประสิทธิภาพ ส าหรับการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของส านักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ๓. การจัดการศึกษา กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีหน่วยงานที่รับเด็กและเยาวชน ดูแล 2 หน่วยงาน คือ สถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน แต่ละแห่งจะมีการจัดการศึกษาสายสามัญ และจัดการศึกษาวิชาชีพ ดังนี้ 3.1 การจัดการศึกษาสายสามัญ - ระดับผู้ไม่รู้หนังสือ เป็นการจัดการศึกษาส าหรับเด็กและเยาวชนที่ไม่สามารถอ่าน เขียนภาษาไทยได้ โดยใช้หลักสูตรการรู้หนังสือไทย พุทธศักราช 2557 ของส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย จัดการเรียนเป็นแบบชั้นเรียน - ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จัดการศึกษาตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของส านักงานส่งเสริมการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จัดการเรียนทั้งแบบชั้นเรียนหรือพบกลุ่ม 3.2 การจัดการศึกษาวิชาชีพ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชน ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนแต่ละแห่ง ได้เรียนรู้หลักสูตรวิชาชีพในหลักสูตรหรือสาขาวิชาที่ตนเอง สนใจ สามารถน าไปประกอบอาชีพต่อไป โดยให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและ เยาวชน แต่ละแห่งส ารวจหลักสูตร / สาขาวิชาที่เด็กและเยาวชนต้องการเรียนและประสานกับสถาบันการศึกษา ใกล้เคียงที่มีความพร้อมเข้ามาด าเนินการจัดฝึกอบรมวิชาชีพ เมื่อเด็กและเยาวชนที่ศาลเยาวชนและครอบครัว สั่งให้ควบคุมตัว ถูกด าเนินคดีและเข้าสู่กระบวนการ ทางกฎหมาย เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้จะอยู่ในความดูแลของสถานแรกรับ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาระหว่างรอพิจารณาคดี 3 เดือน เด็กและเยาวชนจะได้รับการแก้ไข บ าบัด ฟื้นฟู จัดการศึกษา และฝึกวิชาชีพตามสภาพปัญหาและความเหมาะสม ต่อมาเมื่อเด็กและเยาวชนได้รับพิจารณาให้เข้ารับการฝึกอบรม เด็กและเยาวชนดังกล่าว จะถูกส่งตัวไปที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนตามระยะเวลาที่ศาลสั่ง ซึ่งจะได้รับ การศึกษาด้านวิชาสามัญและวิชาชีพ พร้อมกับได้รับการแก้ไข บ าบัด ฟื้นฟู โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพและใช้ เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพในอนาคต 4. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 4.๑.เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานตามมาตรฐานของหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 4.๒.เด็กและเยาวชนได้รับการแก้ไข บ าบัด ฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถกลับสู่สังคมและด ารงชีวิต อยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน - 3 - 5. กลุ่มเป้าหมาย เด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ที่มีอายุ ย่างเข้าปีที่ 16 ทุกคนต้องได้รับการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งมี ๓ ระดับ แต่ละระดับใช้ระยะเวลาเรียน ๒ ปี หรือ ๔ ภาคเรียน ยกเว้นมีการเทียบโอนผลการเรียนอาจ จบการศึกษาก่อน 2 ปี กรณีที่เด็กและเยาวชนอายุไม่ถึง 15 ปี ให้เรียนกับสถานศึกษาในสังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก่อน หากไม่สามารถเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ได้ให้ประสานงานกับส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษา แจ้งให้สถานศึกษาสังกัดส านักงาน กศน. เป็นผู้จัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้เรียนจะต้องไม่จบการศึกษาก่อนการศึกษาภาคบังคับ 6. คุณสมบัติ และหลักฐานการสมัคร ๑. เป็นเด็กหรือเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ๒. เป็นผู้มีคุณสมบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ ๓. มีพื้นความรู้ในแต่ละระดับดังนี้ ก. ระดับประถมศึกษา ไม่จ ากัดพื้นความรู้ ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สอบได้วุฒิการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หรือเทียบเท่า ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สอบได้วุฒิการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ หรือเทียบเท่า หลักฐานการสมัคร 1. ใบสมัครเป็นนักศึกษา 2. รูปถ่าย ๑ นิ้ว จ านวน 2 รูป 3. ส าเนาทะเบียนบ้าน 4. ส าเนาบัตรประชาชน 5. ส าเนาหนังสือส าคัญแสดงวุฒิการศึกษาจ านวน ๒ ฉบับ 6. ส าเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล 7. ค านิยาม “การแก้ไขบ าบัดฟื้นฟู” หมายความว่า มาตรการที่ก าหนดเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสนับสนุน เด็กหรือเยาวชนให้สามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้โดยปกติสุข เช่น การรับ ค าปรึกษาแนะน า การเข้าร่วมกิจกรรมบ าบัด การเข้าร่วมกิจกรรมทางเลือก การศึกษา หรือการฝึกอาชีพหรือวิชาชีพ “การฝึกอบรม” หมายความว่า การแก้ไข บ าบัด ฟื้นฟูโดยมีการควบคุม “เด็กและเยาวชน” หมายความว่า เด็กหรือเยาวชนที่กระท าความผิดและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม “ผู้อ านวยการ” หมายความว่า ผู้อ านวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ผู้อ านวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน “กศน.” หมายความว่า ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเขต/อ าเภอ
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -4- “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ ด้านการศึกษาอบรมและ ฝึกวิชาชีพที่ปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนประจ าหน่วยเรียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ท าหน้าที่ครูผู้สอนประจ าหน่วยเรียน “ครูประจ ากลุ่ม” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยให้เป็นครูผู้สอนซึ่งอาจแต่งตั้งจากครูสามัญ ครูวิชาชีพ หรือบุคคลอื่นที่ได้รับมอบหมาย “ครูสามัญ” หมายความว่า นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ ที่ปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนประจ า หน่วยเรียนสามัญ “ครูวิชาชีพ” หมายความว่า นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ ที่ปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนประจ า หน่วยเรียนวิชาชีพ “กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือ กพช.” หมายความว่า กิจกรรมที่ส่งเสริม สนับสนุน ให้นักศึกษาเป็น ผู้รู้จักคิด รู้จักท า เป็นผู้คิดเป็น ท าเป็น และแก้ปัญหาเป็น โดยนักศึกษาสามารถเลือกท ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ได้ตามความสนใจ หรือความถนัด เน้นการน าความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาเรียนรู้ไปสู่การ ปฏิบัติที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต เพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีการปลูกฝัง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในแต่ละระดับการศึกษาจะต้องปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตรวมแล้วไม่น้อยกว่า ๒๐๐ ชั่วโมง โดยมีขอบข่ายเนื้อหาทั้งในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ “ครูศูนย์การเรียนรู้ชุมชน (ครู ศรช.)” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานประจ าศูนย์การเรียนชุมชนจัดกิจกรรม กระบวนการเรียนรู้และอ านวยความสะดวกแก่เด็กและเยาวชน 8. ความรับผิดชอบ ครูประจ ากลุ่ม มีหน้าที่รับสมัครผู้เรียน ลงทะเบียนเรียน และจัดส่งหลักฐานการสมัครและลงทะเบียนให้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเขต/อ าเภอในพื้นที่ ร่วมจัดกระบวนการเรียนการสอนตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จัดเตรียมแผนการสอนวัดและ ประเมินผล รายงานผลการศึกษาของเด็กและเยาวชนต่อผู้บังคับบัญชา และศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยเขต/อ าเภอ 9. โครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีดังนี้ ที่ สาระการเรียนรู้ จ านวนหน่วยกิต ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย วิชาบังคับ วิชาเลือก วิชาบังคับ วิชาเลือก วิชาบังคับ วิชาเลือก 1. ทักษะการเรียนรู้ 5 5 5 2. ความรู้พื้นฐาน 12 16 20 3. การประกอบอาชีพ 8 8 8 4. ทักษะการด าเนินชีวิต 5 5 5 5. การพัฒนาสังคม 6 6 6 รวม 36 12 40 16 44 32 48 หน่วยกิต 56 หน่วยกิต 76 หน่วยกิต กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต 200 ชั่วโมง 200 ชั่วโมง 200 ชั่วโมง หมายเหตุในแต่ละระดับ สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเรียนวิชาเลือกโดยการท าโครงงาน จ านวนอย่างน้อย 3 หน่วยกิต
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -5- ระดับการศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จัดเป็น 3 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สาระการเรียนรู้ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบด้วยสาระการเรียนรู้ ๕ สาระ ดังนี้ ๑. สาระทักษะการเรียนรู้ เป็นสาระเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้วยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวิจัยอย่างง่าย ๒. สาระความรู้พื้นฐาน เป็นสาระเกี่ยวกับภาษาและการสื่อสาร คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ๓. สาระการประกอบอาชีพ เป็นสาระเกี่ยวกับกับการมองเห็นช่องทางและการตัดสินใจประกอบอาชีพ ทักษะในอาชีพ การจัดการอาชีพอย่างมีคุณธรรม และการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคง ๔. สาระทักษะการด าเนินชีวิต เป็นสาระเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สุขศึกษา พลศึกษา และศิลปศึกษา ๕. สาระการพัฒนาสังคม เป็นสาระเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หน้าที่พลเมือง และการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม วิชาบังคับ วิชาเลือกและจ านวนหน่วยกิต หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ก าหนดหน่วยกิตของวิชา บังคับและวิชาเลือกในแต่ละระดับการศึกษา ดังนี้ - ระดับประถมศึกษา ลงทะเบียนเรียนทั้งหมด 48 หน่วยกิต วิชาบังคับ 36 หน่วยกิต วิชาเลือก 12 หน่วยกิต - ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ลงทะเบียนเรียนทั้งหมด 56 หน่วยกิต วิชาบังคับ 40 หน่วยกิต วิชาเลือก 16 หน่วยกิต - ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ลงทะเบียนเรียนทั้งหมด 76 หน่วยกิต วิชาบังคับ 44 หน่วยกิตวิชาเลือก 32 หน่วยกิต วิชาบังคับ เป็นวิชาที่ผู้เรียนทุกคนต้องลงทะเบียนเรียนและต้องประเมินผลการเรียนให้ได้ระดับ 1 ขึ้นไป ในแต่ละระดับ มีจ านวน 14 รายวิชา ดังนี้
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -6- รายวิชาบังคับ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระการเรียนรู้ในหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มี 5 สาระ แต่ละสาระการเรียนรู้ ก าหนดวิชาบังคับไว้ ดังนี้ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รหัสรายวิชา รายวิชา หน่วยกิต รหัส รายวิชา รายวิชา หน่วยกิต รหัสรายวิชา รายวิชา หน่วยกิต สาระทักษะการเรียนรู้ ทร๑๑๐๐๑ ทักษะการเรียนรู้ ๕ ทร๒๑๐๐๑ ทักษะการเรียนรู้ ๕ ทร๓๑๐๐๑ ทักษะการเรียนรู้ ๕ สาระความรู้พื้นฐาน พท๑๑๐๐๑ ภาษาไทย ๓ พท๒๑๐๐๑ ภาษาไทย ๔ พท๓๑๐๐๑ ภาษาไทย ๕ พต๑๑๐๐๑ ภาษาอังกฤษ พื้นฐาน ๓ พต๒๑๐๐๑ ภาษาอังกฤษใน ชีวิตประจ าวัน ๔ พต๓๑๐๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อ ชีวิตและสังคม ๕ พค๑๑๐๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ พค๒๑๐๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ พค๓๑๐๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ พว๑๑๐๐๑ วิทยาศาสตร์ ๓ พว๒๑๐๐๑ วิทยาศาสตร์ ๔ พว๓๑๐๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕ สาระการประกอบอาชีพ อช๑๑๐๐๑ ช่องทางการเข้าสู่ อาชีพ ๒ อช๒๑๐๐๑ ช่องทางการ พัฒนาอาชีพ ๒ อช๓๑๐๐๑ ช่องทางการขยาย อาชีพ ๒ อช๑๑๐๐๒ ทักษะการ ประกอบอาชีพ ๔ อช๒๑๐๐๒ ทักษะการพัฒนา อาชีพ ๔ อช๓๑๐๐๒ ทักษะการขยาย อาชีพ ๔ อช๑๑๐๐๓ พัฒนาอาชีพให้มี อยู่มีกิน ๒ อช๒๑๐๐๓ พัฒนาอาชีพให้มี ความเข้มแข็ง ๒ อช๓๑๐๐๓ พัฒนาอาชีพให้มี ความมั่นคง ๒ สาระทักษะการด าเนินชีวิต ทช๑๑๐๐๑ เศรษฐกิจพอเพียง ๑ ทช๒๑๐๐๑ เศรษฐกิจพอเพียง ๑ ทช๓๑๐๐๑ เศรษฐกิจพอเพียง ๑ ทช๑๑๐๐๒ สุขศึกษา พลศึกษา ๒ ทช๒๑๐๐๒ สุขศึกษา พลศึกษา ๒ ทช๓๑๐๐๒ สุขศึกษา พลศึกษา ๒ ทช๑๑๐๐๓ ศิลปศึกษา ๒ ทช๒๑๐๐๓ ศิลปศึกษา ๒ ทช๓๑๐๐๓ ศิลปศึกษา ๒ สาระการพัฒนาสังคม สค๑๑๐๐๑ สังคมศึกษา ๓ สค๒๑๐๐๑ สังคมศึกษา ๓ สค๓๑๐๐๑ สังคมศึกษา ๓ สค๑๑๐๐๒ ศาสนาและหน้าที่ พลเมือง ๒ สค๒๑๐๐๒ ศาสนาและหน้าที่ พลเมือง ๒ สค๓๑๐๐๒ ศาสนาและหน้าที่ พลเมือง ๒ สค๑๑๐๐๓ การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ๑ สค๒๑๐๐๓ การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ๑ สค๓๑๐๐๓ การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ๑ ส าหรับวิชาเลือก ส านักงาน กศน. มีนโยบายก าหนดให้ผู้เรียนเลือกลงทะเบียนเรียน จ านวน ๒ รายวิชา จาก วิชาเลือกที่ส านักงาน กศน.พัฒนาขึ้นทั้งหมด จ านวน ๔ รายวิชา คือ ๑) การใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจ าวัน ๒) การเงินเพื่อชีวิต ๓) การเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ และ ๔) วัสดุศาสตร์ ดังนั้น รายวิชาเลือกที่ผู้เรียนต้องลงทะเบียนเรียน ตามนโยบายของส านักงาน กศน. มีดังนี้ ระดับประถมศึกษา จ านวน 4 หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จ านวน 6 หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จ านวน ๖ หน่วยกิต
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -7- 10.การจัดหลักสูตรส าหรับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สืบเนื่องจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ต้องรับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมมา ดูแลให้การรักษา อบรม ฝึกอาชีพเพื่อแก้ไขความประพฤติ บ าบัด รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจแก่เด็กและเยาวชนดังกล่าวในการให้การศึกษา ด้านการศึกษาสายสามัญด าเนินการร่วมกับส านักงาน กศน. ด้านการศึกษาสายอาชีพด าเนินการร่วมกับส านักงาน กศน. ส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ภายใต้ระยะเวลาที่เด็กและเยาวชนอยู่ในการดูแล ดังนั้น การจัดหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน จึงพิจารณาความเชื่อมโยงกับหลักสูตรอบรมต่าง ๆ ทั้งการอบรมวิชาชีพ การอบรมบ่มเพาะ การบ าบัด พฤติกรรม ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลการฝึกอบรมดังกล่าว จึงจัดหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นดังนี้ 10.1 ระดับประถมศึกษา กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสถานศึกษาระดับเขต/อ าเภอ ของส านักงาน กศน. ต้องจัดท า หลักสูตรสถานศึกษาส าหรับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยจัด โครงสร้างหลักสูตร ดังนี้ โครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ส าหรับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สาระ วิชาบังคับ 36 หน่วยกิต วิชาเลือก 12 หน่วยกิต ชื่อวิชา หน่วยกิต ชื่อวิชา หน่วยกิต สาระทักษะการเรียนรู้ 1. ทักษะการเรียนรู้ ๕ สาระความรู้พื้นฐาน 2. ภาษาไทย ๓ 3. ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ๓ 4. คณิตศาสตร์ ๓ 5. วิทยาศาสตร์ ๓ การใช้พลังงานไฟฟ้า ในชีวิตประจ าวัน ๑ ๒ วัสดุศาสตร์ 1 2 ส า ร ะ ก า รป ร ะกอบ อาชีพ 6. ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ ๒ 7. ทักษะการประกอบอาชีพ ๔ 8. พัฒนาอาชีพให้มีอยู่มีกิน ๒ สาระทักษะการด าเนิน ชีวิต 9. เศรษฐกิจพอเพียง ๑ 10. สุขศึกษา พลศึกษา ๒ 11. ศิลปศึกษา ๒ สาระการพัฒนาสังคม 12. สังคมศึกษา ๓ การเรียนรู้ สู้ภัยธรรมชาติ ๑ ๒ 13. ศาสนาและหน้าที่ พลเมือง ๒ การเงินเพื่อชีวิต ๑ ๒ 14. การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ๑
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -8- ค าอธิบายโครงสร้างหลักสูตรในระดับประถมศึกษา 1) วิชาบังคับ เรียน 14 รายวิชา จ านวน 36 หน่วยกิตตามตารางข้างต้น 2) วิชาเลือก เรียน จ านวน 12 หน่วยกิต แบ่งเป็น 2.1) เลือกเรียน 2 วิชา จากจ านวน 4 วิชาตามตารางข้างต้น รวม 4 หน่วยกิต ได้แก่ 1. การใช้พลังงาน ไฟฟ้า ในชีวิตประจ าวัน 1, 2. วัสดุศาสตร์๑, 3. การเงินเพื่อชีวิต 1, และ 4. การเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ 1 2.2) เลือกเรียนเพิ่มอีก จ านวน 8 หน่วยกิต โดยสถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนได้เรียนตามความสนใจและ สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และจัดเป็นแผนการเรียนรู้รายบุคคล ทั้งนี้ รายวิชาเลือกที่น ามาจัดท าเป็น แผนการเรียนรู้รายบุคคล มีดังนี้ รายชื่อ รายวิชาเลือกระดับประถมศึกษา ให้เลือกเรียนเพิ่มเติม จ านวนไม่น้อยกว่า 8 หน่วยกิต ที่ รหัสวิชา สาระ วิชา จ านวน หน่วย กิต รายวิชาที่ กศน. พัฒนาขึ้น รายวิชาที่ กรมพินิจ พัฒนาขึ้น 1. อช 12019 การประกอบอาชีพ การปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อบริโภค 2 / 2. อช12020 การประกอบอาชีพ การขยายพันธุ์พืชด้วยการใช้เมล็ด 1 / 3. อช12021 การประกอบอาชีพ การเพาะเห็ดฟางตะกร้า 1 / 4. อช12022 การประกอบอาชีพ การปลูกผักบุ้งจีนในครัวเรือน 2 / 5. อช12023 การประกอบอาชีพ งานฝึกฝีมืองานไม้ 2 / 6. อช12024 การประกอบอาชีพ ฝึกฝีมือช่างปูน 2 / 7. อช12025 การประกอบอาชีพ การท าผลิตภัณฑ์ท าความสะอาด 1 / 8. อช12026 การประกอบอาชีพ สปาเท้า 2 / 9. อช02033 การประกอบอาชีพ การสระผม เซทผม 2 / 10. อช02039 การประกอบอาชีพ การตัดผมชาย 2 / 11. อช02043 การประกอบอาชีพ การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ 2 / 12. อช13029 การประกอบอาชีพ อาชีพฟุตบอล 2 / 13. ทช12012 ทักษะการด าเนินชีวิต การเขียนลายไทยพื้นฐาน 2 / 14. ทช12013 ทักษะการด าเนินชีวิต การวาดเส้นหุ่นนิ่ง 2 / 15. ทช12014 ทักษะการด าเนินชีวิต การขับร้องเบื้องต้น 2 / 16. ทช13006 ทักษะการด าเนินชีวิต การเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้าน 1 / รวม 16 รายวิชา
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -9- 10.2 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสถานศึกษาระดับเขต/อ าเภอ ของ กศน. ต้องจัดท าหลักสูตร สถานศึกษาส าหรับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยจัดโครงสร้างหลักสูตร ดังนี้ โครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ส าหรับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน สาระ วิชาบังคับ 36 หน่วยกิต วิชาเลือก 12 หน่วยกิต ชื่อวิชา หน่วยกิต ชื่อวิชา หน่วยกิต สาระทักษะการเรียนรู้ 1. ทักษะการเรียนรู้ ๕ สาระความรู้พื้นฐาน 2. ภาษาไทย 4 3. ภาษาอังกฤษในชีวิตประจ าวัน 4 4. คณิตศาสตร์ 4 5. วิทยาศาสตร์ 4 การใช้พลังงานไฟฟ้า ในชีวิตประจ าวัน 2 3 วัสดุศาสตร์ 2 3 ส า ร ะ ก า รป ร ะกอบ อาชีพ 6. ช่องทางการพัฒนาอาชีพ ๒ 7. ทักษะการพัฒนาอาชีพ ๔ 8. พัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง ๒ สาระทักษะการด าเนิน ชีวิต 9. เศรษฐกิจพอเพียง ๑ 10. สุขศึกษา พลศึกษา ๒ 11. ศิลปศึกษา ๒ สาระการพัฒนาสังคม 12. สังคมศึกษา ๓ การเรียนรู้ สู้ภัยธรรมชาติ 2 3 13. ศาสนาและหน้าที่พลเมือง ๒ การเงินเพื่อชีวิต 2 3 14. การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ๑ ค าอธิบายโครงสร้างหลักสูตรในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1) วิชาบังคับ เรียน 14 รายวิชา จ านวน 40 หน่วยกิตตามตารางข้างต้น 2) วิชาเลือก เรียน จ านวน 16 หน่วยกิต แบ่งเป็น 2.1) เลือกเรียน 2 วิชา จากจ านวน 4 วิชา ตามตารางข้างต้น รวม 6 หน่วยกิต ได้แก่ 1. การใช้พลังงาน ไฟฟ้าในชีวิตประจ าวัน 2, 2. วัสดุศาสตร์๒, 3. การเงินเพื่อชีวิต 2, และ 4. การเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ 2 2.2) เลือกเรียนเพิ่มอีก จ านวน 10 หน่วยกิต โดยสถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนได้เรียนตามความสนใจและ สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และจัดเป็นแผนการเรียนรู้รายบุคคล ทั้งนี้ รายวิชาเลือกที่น ามาจัดท าเป็น แผนการเรียนรู้รายบุคคล มีดังนี้
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -10- รายชื่อ รายวิชาเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ให้เลือกเรียนเพิ่มเติม จ านวนไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต ที่ รหัสวิชา สาระ วิชา จ านวน หน่วยกิต รายวิชาที่ กศน. พัฒนาขึ้น รายวิชาที่ กรมพินิจ พัฒนาขึ้น 1. อช22025 การประกอบอาชีพ การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์เสริมรายได้ 2 / 2. อช22026 การประกอบอาชีพ การปลูกผักปลอดสารพิษเสริมรายได้ 2 / 3. อช22027 การประกอบอาชีพ การขยายพันธุ์พืชในท้องถิ่น 2 / 4. อช22028 การประกอบอาชีพ การเพาะเห็ดในถุงพลาสติกเสริมรายได้ 2 / 5. อช22029 การประกอบอาชีพ การปลูกผักบุ้งจีนเสริมรายได้ 2 / 6. อช22030 การประกอบอาชีพ งานฝึกฝีมือเบื้องต้น 2 / 7. อช22031 การประกอบอาชีพ วัสดุช่างอุตสาหกรรม 2 / 8. อช22032 การประกอบอาชีพ งานเชื่อมซ่อมบ ารุง 2 / 9. อช22033 การประกอบอาชีพ งานเชื่อมอาร์คโลหะ 2 / 10. อช22034 การประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑ์งานเชื่อม 2 / 11. อช22035 การประกอบอาชีพ ช่างไฟฟ้าอุตสาหกรรม 2 / 12. อช22036 การประกอบอาชีพ ช่างเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง 2 / 13. อช22037 การประกอบอาชีพ ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 2 / 14. อช22038 การประกอบอาชีพ ไฟฟ้าเบื้องต้น 2 / 15. อช22039 การประกอบอาชีพ ศิลปะประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ 2 / 16. อช22040 การประกอบอาชีพ การถักดอยลี่ด้วยโครเชต์ 1 / 17. อช22041 การประกอบอาชีพ งานศิลปะภาพนูนต่ า 2 / 18. อช22042 การประกอบอาชีพ งานศิลาภรณ์ 2 / 19. อช22043 การประกอบอาชีพ นวดแผนไทย 3 / 20. อช22044 การประกอบอาชีพ สบู่สมุนไพร 1 / 21. อช22045 การประกอบอาชีพ การสปาหน้า 2 / 22. อช22046 การประกอบอาชีพ ธุรกิจอาหารจานเดียว 2 / 23. อช22047 การประกอบอาชีพ การท าขนมไทย 2 / 24. อช22048 การประกอบอาชีพ การถนอมอาหาร 2 / 25. อช22049 การประกอบอาชีพ การตัดเย็บเพื่องานประดิษฐ์ 2 / 26. อช02040 การประกอบอาชีพ การท าผ้าบาติก 2 / 27. อช02025 การประกอบอาชีพ การท าเบเกอรี่ 2 / 28. อช02026 การประกอบอาชีพ ธุรกิจขายเครื่องดื่ม 2 / 29. อช02027 การประกอบอาชีพ ธุรกิจขายอาหาร 2 / 30. อช02029 การประกอบอาชีพ การตัดเย็บกระโปรง 2 / 31. อช02035 การประกอบอาชีพ การเกล้าผม 2 / 32. อช02037 การประกอบอาชีพ การนวดหน้าและแต่งหน้า 2 / 33. อช02038 การประกอบอาชีพ การแต่งเล็บ 2 / 34. อช02041 การประกอบอาชีพ การแกะสลักผลไม้ 2 /
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -11- ที่ รหัสวิชา สาระ วิชา จ านวน หน่วยกิต รายวิชาที่ กศน. พัฒนาขึ้น รายวิชาที่ กรมพินิจ พัฒนาขึ้น 35. อช02042 การประกอบอาชีพ การจัดดอกไม้สด 2 / 36. อช22051 การประกอบอาชีพ คอมพิวเตอร์กราฟฟิกเพื่อผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ 2 / 37. อช23069 การประกอบอาชีพ การเกษตรทฤษฎีใหม่ 2 / 38. อช02006 การประกอบอาชีพ การเพาะเห็ดฟาง 3 / 39. อช02007 การประกอบอาชีพ หลักการเกษตรอินทรีย์ 2 / 40. อช02008 การประกอบอาชีพ การท าปุ๋ยหมัก 1 / 41. อช02009 การประกอบอาชีพ สมุนไพรป้องกันและก าจัดศัตรูพืช 1 / 42. อช22057 การประกอบอาชีพ เครื่องล่างรถยนต์ 2 / 43. อช22052 การประกอบอาชีพ การท าสีรถยนต์ 2 / 44. อช22053 การประกอบอาชีพ การซ่อมรถจักรยานยนต์ 2 / 45. อช22054 การประกอบอาชีพ การบ ารุงรักษารถยนต์ 2 / 46. อช22055 การประกอบอาชีพ การปรับอากาศรถยนต์ 2 / 47. อช22056 การประกอบอาชีพ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมรถยนต์ 2 / 48. อช23057 การประกอบอาชีพ อาชีพฟุตบอล 2 / 49. อช02022 การประกอบอาชีพ การเดินสายไฟฟ้าในอาคาร 2 / 50. อช03166 การประกอบอาชีพ เครื่องมือวัดไฟฟ้า 2 / 51. อช 23188 การประกอบอาชีพ ช่างปูน 2 / 52. ทช03007 ทักษะการด าเนินชีวิต ดนตรีพื้นบ้าน 2 / 53. ทช23009 ทักษะการด าเนินชีวิต การบรรเลงดนตรีไทย 1 2 / 54. ทช23010 ทักษะการด าเนินชีวิต การบรรเลงดนตรีไทย 2 2 / 55. ทช23033 ทักษะการด าเนินชีวิต เทคนิคการใช้สี 2 / 56. ทช23024 ทักษะการด าเนินชีวิต การเขียนภาพ 2 / 57. ทช03002 ทักษะการด าเนินชีวิต แชร์บอล 1 / 58. ทช03030 ทักษะการด าเนินชีวิต ตะกร้อ 1 / 59. ทช03004 ทักษะการด าเนินชีวิต เทเบิลเทนนิส 1 / 60. ทช22008 ทักษะการด าเนินชีวิต การเขียนภาพจิตรกรรมไทย 2 / 61. ทช22009 ทักษะการด าเนินชีวิต การเขียนลายไทยเบื้องต้น 2 / 62. ทช๒201๑ ทักษะการด าเนินชีวิต การวาดเส้นภาพเหมือนคนและทิวทัศน์ 2 / 63. ทช๒2012 ทักษะการด าเนินชีวิต การขับร้องเพลงไทยสากล 2 / 64. ทร23021 ทักษะการเรียนรู้ เรียนรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน 3 / รวม 6๔ รายวิชา
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -12- 10.3 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสถานศึกษาระดับเขต/อ าเภอ ของ กศน. ต้องจัดท าหลักสูตร สถานศึกษาส าหรับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยจัดโครงสร้างหลักสูตร ดังนี้ โครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายส าหรับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สาระ วิชาบังคับ 44 หน่วยกิต วิชาเลือก 32 หน่วยกิต ชื่อวิชา หน่วยกิต ชื่อวิชา หน่วยกิต สาระทักษะการเรียนรู้ 1. ทักษะการเรียนรู้ ๕ สาระความรู้พื้นฐาน 2. ภาษาไทย ๕ 3. ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิต และสังคม ๕ 4. คณิตศาสตร์ ๕ 5. วิทยาศาสตร์ ๕ การใช้พลังงานไฟฟ้าใน ชีวิตประจ าวัน 3 ๓ วัสดุศาสตร์ 3 3 ส า ร ะ ก า รป ร ะกอบ อาชีพ 6. ช่องทางการขยาย อาชีพ ๒ 7. ทักษะการขยายอาชีพ ๔ 8. พัฒนาอาชีพให้มี ความมั่นคง ๒ สาระทักษะการด าเนิน ชีวิต 9. เศรษฐกิจพอเพียง ๑ 10. สุขศึกษา พลศึกษา ๒ 11. ศิลปศึกษา ๒ สาระการพัฒนาสังคม 12. สังคมศึกษา ๓ การเรียนรู้ สู้ภัยธรรมชาติ 3 3 13. ศาสนาและหน้าที่ พลเมือง ๒ การเงินเพื่อชีวิต 3 3 14. การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ๑
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -13- ค าอธิบายโครงสร้างหลักสูตรในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1) วิชาบังคับ เรียน 14 รายวิชา จ านวน 44 หน่วยกิตตามตารางข้างต้น 2) วิชาเลือก เรียน จ านวน 32 หน่วยกิต แบ่งเป็น 2.1) เลือกเรียน 2 วิชา จากจ านวน 4 วิชาตามตารางข้างต้น รวม 6 หน่วยกิต ได้แก่ 1. การใช้พลังงาน ไฟฟ้าในชีวิตประจ าวัน 3, 2. วัสดุศาสตร์๓, 3. การเงินเพื่อชีวิต 3, และ 4. การเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ 3 2.2) เลือกเรียนเพิ่มอีก จ านวน 26 หน่วยกิต โดยสถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนได้เรียนตามความสนใจและ สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และจัดเป็นแผนการเรียนรู้รายบุคคล ทั้งนี้ รายวิชาเลือกที่น ามาจัดท าเป็น แผนการเรียนรู้รายบุคคล มีดังนี้ รายชื่อ รายวิชาเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้เลือกเรียนเพิ่มเติม จ านวนไม่น้อยกว่า 26 หน่วยกิต ที่ รหัสวิชา สาระ วิชา จ านวน หน่วยกิต รายวิชาที กศน. พัฒนาขึ้น รายวิชาที่ กรมพินิจ พัฒนาขึ้น 1. อช32203 การประกอบอาชีพ การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์เพื่อการค้า 2 / 2. อช32204 การประกอบอาชีพ อาชีพการปลูกผักปลอดสารพิษ 2 / 3. อช32205 การประกอบอาชีพ การขยายพันธุ์พืชเพื่อการประกอบอาชีพ 2 / 4. อช32206 การประกอบอาชีพ อาชีพการเพาะเห็ดในโรงเรือน 2 / 5. อช32207 การประกอบอาชีพ การปลูกผักบุ้งจีนเพื่อการค้า 2 / 6. อช32208 การประกอบอาชีพ งานฝึกฝีมือช่างอุตสาหกรรม 2 / 7. อช32209 การประกอบอาชีพ งานเชื่อมโลหะเบื้องต้น 2 / 8. อช32210 การประกอบอาชีพ วัสดุและอุปกรณ์ในงานช่าง 2 / 9. อช32211 การประกอบอาชีพ ช่างซ่อมบ ารุงระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรม 2 / 10. อช32212 การประกอบอาชีพ เครื่องกลไฟฟ้ากระแสสลับและการควบคุม 2 / 11. อช32213 การประกอบอาชีพ การจัดผ้าประดับ 2 / 12. อช32214 การประกอบอาชีพ การซ่อมแซมเสื้อผ้า 2 / 13. อช32215 การประกอบอาชีพ ศิลปะประดิษฐ์จากริบบิ้น 2 / 14. อช32216 การประกอบอาชีพ การนวดสปาตัว 2 / 15. อช02028 การประกอบอาชีพ การตัดเย็บเสื้อสตรี 2 / 16. อช02030 การประกอบอาชีพ การตัดกางเกงสตรี 2 / 17. อช02031 การประกอบอาชีพ การตัดเย็บเสื้อบุรุษ 2 / 18. อช02032 การประกอบอาชีพ การตัดเย็บกางเกงบุรุษ 2 / 19. อช02034 การประกอบอาชีพ การซอยผม ดัดผม 2 / 20. อช02036 การประกอบอาชีพ การเปลี่ยนสีผม ยืดผม 2 / 22. อช33431 การประกอบอาชีพ การซ่อมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 2 / 23. อช33432 การประกอบอาชีพ การซ่อมบ ารุงรักษาเครื่องปรับอากาศ 2 / 24. อช33047 การประกอบอาชีพ เครื่องกลเบื้องต้น 2 / 25. อช33040 การประกอบอาชีพ งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2 / 26. อช33048 การประกอบอาชีพ การติดตั้งไฟฟ้าในและนอกอาคาร 3 / 27. อช32023 การประกอบอาชีพ พื้นฐานงานไม้ 2 /
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -14- ที่ รหัสวิชา สาระ วิชา จ านวน หน่วยกิต รายวิชาที กศน. พัฒนาขึ้น รายวิชาที่ กรมพินิจ พัฒนาขึ้น 28. อช23024 การประกอบอาชีพ พื้นฐานงานปูน 2 / 29. อช33075 การประกอบอาชีพ อาชีพฟุตบอล 2 / 30. อช02001 การประกอบอาชีพ การท านา 3 / 31. อช02003 การประกอบอาชีพ การท าสวนยางพารา 3 / 32. อช02005 การประกอบอาชีพ การท าแผ่นยางพารา 3 / 33. อช02011 การประกอบอาชีพ การเลี้ยงไก่ไข่ 3 / 34. อช02012 การประกอบอาชีพ การเลี้ยงสุกร 3 / 35. อช02013 การประกอบอาชีพ การเลี้ยงปลาดุก 3 / 36. อช02015 การประกอบอาชีพ การเกษตรผสมผสาน 2 / 37. อช32217 การประกอบอาชีพ การสร้างสรรค์ภาพด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิก 2 / 38. ทช32013 ทักษะการด าเนินชีวิต จิตรกรรมพื้นฐาน 2 / 39. ทช32007 ทักษะการด าเนินชีวิต ดนตรี 2 / 40. ทช33003 ทักษะการด าเนินชีวิต แบดมินตัน 1 / 41. ทช03031 ทักษะการด าเนินชีวิต ฟุตซอล 1 / 42. ทร33021 ทักษะการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์เบื้องต้น 3 3 / รวม 42 รายวิชา 11. การลงทะเบียน ตามโครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สถานศึกษา ต้องจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือกบังคับ ตามที่ก าหนดไว้ในโครงสร้างหลักสูตร ส าหรับรายวิชาเลือกเสรี สถานศึกษาพัฒนาขึ้นตามความต้องการของผู้เรียน ชุมชน และสังคม ดังนี้ 11.1) ระดับประถมศึกษา ลงทะเบียนเรียน ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต ประกอบด้วย รายวิชาบังคับ 36 หน่วยกิต รายวิชาเลือก 12 หน่วยกิต ลงทะเบียนเรียนได้ภาคเรียนละไม่เกิน 14 หน่วยกิต 11.2) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ลงทะเบียนเรียน ไม่น้อยกว่า 56 หน่วยกิต ประกอบด้วยรายวิชา บังคับ 40 หน่วยกิต รายวิชาเลือก 16 หน่วยกิต ลงทะเบียนเรียนได้ภาคเรียนละไม่เกิน 17 หน่วยกิต 11.3) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ลงทะเบียนเรียน ไม่น้อยกว่า 76 หน่วยกิต ประกอบด้วยรายวิชา บังคับ 44 หน่วยกิต รายวิชาเลือก 32 หน่วยกิต ลงทะเบียนเรียนได้ภาคเรียนละไม่เกิน 23 หน่วยกิต กรณีที่ผู้เรียนจะต้องจบหลักสูตร แต่มีหน่วยกิตที่ต้องลงทะเบียนเรียนเกินกว่าจ านวนหน่วยกิต ที่ก าหนด ให้ลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคเรียน เนื่องจากมีการเทียบโอนผลการเรียนและหรือผู้เรียนที่มี การสอบซ่อม ให้สถานศึกษาจัดให้ลงทะเบียนเรียนเพิ่มเติมในภาคเรียนสุดท้ายได้ไม่เกิน ๓ หน่วยกิต จากที่ก าหนด ในแต่ละระดับการศึกษา (หนังสือส านักงาน กศน. ด่วนมาก ที่ ศธ ๐๒๑๐.๐๓/๓๘๐๕ ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓) -๑4-
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเ ตัวอย่างแผนการลงทะเบียนเรียน ตัวอย่าง แผนการลงทะเบียนเรียน ระดับประถมศึกษา โปรแกรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ส าหรับเด็กและเยาวชนในสถานพินิจ (ส าหรับนักศึกษา ภาคเรียน ที่ สาระการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1 (1/2559) ภาคเรียนที่ 2 (2/2559) รหัส รายวิชา นก. รหัส รายวิชา วิชาบังคับ 1 ทักษะการเรียนรู้ ทร11001 ทักษะการเรียนรู้ 5 2 ความรู้พื้นฐาน พท11001 ภาษาไทย 3 พค11001 คณิตศาสตร์ 3 การประกอบอาชีพ อช11001 ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ อช11002 ทักษะการประกอบอาชีพ อช11003 พัฒนาอาชีพให้มีอยู่มีกิน 4 ทักษะการด าเนินชีวิต ทช11001 เศรษฐกิจพอเพียง 1 5 การพัฒนาสังคม วิชาเลือก 1 ทักษะการเรียนรู้ 2 ความรู้พื้นฐาน พว12010 การใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจ าวัน 1 2 3 การประกอบอาชีพ 4 ทักษะการด าเนินชีวิต ทช03016 สุขภาพจิตดีชีวีมีสุข 2 5 การพัฒนาสังคม สค12021 การเงินเพื่อชีวิต 1 รวม 13 รวม
เยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน - ๑5 - นที่ 1/2559 เป็นต้นไป) ภาคเรียนที่ 3 (1/2560) ภาคเรียนที่ 4 (2/2560) นก. รหัส รายวิชา นก. รายวิชา นก. 3 พต11001 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 3 พว11001 วิทยาศาสตร์ 3 2 พ 4 น 2 ทช11002 สุขศึกษา พลศึกษา 2 ทช11003 ศิลปศึกษา 2 สค11001 สังคมศึกษา 3 สค11002 ศาสนาและหน้าที่พลเมือง 2 สค11003 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 1 ทร02016 การสร้างวินัยตนเอง 1 พท12001 การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 1 อช12001 การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ 3 ทช02001 บัญชีชาวบ้าน 1 2 13 รวม 11 รวม 11
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเ ตัวอย่าง แผนการลงทะเบียนเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โปรแกรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ส าหรับเด็กและเยาวชนในสถานพินิจ (ส าหรับนักศึกษา ภ ที่ สาระการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1 (1/2559) ภาคเรียนที่ 2 (2/2559) รหัส รายวิชา นก. รหัส รายวิชา นก. วิชาบังคับ 1 ทักษะการเรียนรู้ ทร21001 ทักษะการเรียนรู้ 5 2 ความรู้พื้นฐาน พท21001 ภาษาไทย 4 พค21001 คณิตศาสตร์ 4 3 การประกอบอาชีพ อช21001 ช่องทางการพัฒนาอาชีพ 2 อช21002 ทักษะการพัฒนาอาชีพ 4 อช21003 พัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง 2 4 ทักษะการด าเนินชีวิต ทช21001 เศรษฐกิจพอเพียง 1 5 การพัฒนาสังคม วิชาเลือก 1 ทักษะการเรียนรู้ 2 ความรู้พื้นฐาน พว22002 การใช้พลังงานไฟฟ้า 3 ในชีวิตประจ าวัน 2 3 การประกอบอาชีพ 4 ทักษะการด าเนินชีวิต 5 การพัฒนาสังคม สค22016 การเงินเพื่อชีวิต 2 3 รวม
เยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน - ๑6 - ภาคเรียนที่ 1/2559 เป็นต้นไป) ภาคเรียนที่ 3 (1/2560) ภาคเรียนที่ 4 (2/2560) รหัส รายวิชา นก. รหัส รายวิชา นก. พต21001 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจ าวัน 4 พว21001 วิทยาศาสตร์ 4 ทช21002 สุขศึกษา พลศึกษา 2 ทช21003 ศิลปศึกษา 2 สค 21001 สังคมศึกษา 3 สค21002 ศาสนา และหน้าที่พลเมือง 2 สค21003 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 1
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเ ตัวอย่าง แผนการลงทะเบียนเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โปรแกรมพัฒนาคุณภาพชีวิตส าหรับเด็กและเยาวชนในสถานพินิจ (ส าหรับนักศึกษา ที่ สาระการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1(1/2559) ภาคเรียนที่ 2(2/2559) รหัส รายวิชา นก. รหัส รายวิชา วิชาบังคับ 1 ทักษะการเรียนรู้ ทร31001 ทักษะการเรียนรู้ 5 2 ความรู้พื้นฐาน พท31001 ภาษาไทย 5 พค31001 คณิตศาสตร์ 3 การประกอบอาชีพ อช31001 ช่องทางการขยายอาชีพ อช31002 ทักษะการขยายอาชีพ อช31003 พัฒนาอาชีพให้มีความมั่ 4 ทักษะการด าเนินชีวิต ทช31001 เศรษฐกิจพอเพียง 1 5 การพัฒนาสังคม วิชาเลือก 1 ทักษะการเรียนรู้ 2 ความรู้พื้นฐาน พว32023 การใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจ าวัน 3 3 3 การประกอบอาชีพ 4 ทักษะการด าเนินชีวิต 5 การพัฒนาสังคม สค32029 การเงินเพื่อชีวิต 3 รวม รวม
เยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน - ๑7 - า ภาคเรียนที่ 1/2559 เป็นต้นไป) ภาคเรียนที่ 3(1/2560) ภาคเรียนที่ 4(2/2560) นก. รหัส รายวิชา นก. รหัส รายวิชา นก. 5 พต31001 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม 5 พว31001 วิทยาศาสตร์ 5 2 4 ันคง 2 ทช31002 สุขศึกษา พลศึกษา 2 ทช31003 ศิลปศึกษา 2 สค31001 สังคมศึกษา 3 สค31002 ศาสนาและหน้าที่พลเมือง 2 สค31003 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 1 ทร02008 เทคนิคการจดบันทึก 1 ทร02017 Internet กับการเรียนรู้ไร้พรมแดน 1 3 รวม รวม
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -18- 12. วิธีการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นการจัดการเรียนรู้ที่มีครูเป็นผู้ส่งเสริมและอ านวยความสะดวกในการเรียนรู้และพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน อย่างต่อเนื่องตลอดหลักสูตร พร้อมทั้งมีการให้บริการแนะแนวหรือระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน ด้วยการให้ค าปรึกษา ช่วยเหลือ แนะน าร่วมกับผู้เรียน และผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาให้กับผู้เรียน ซึ่งมีรูปแบบการเรียนรู้ ดังต่อไปนี้ 1) การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ก าหนดให้ผู้เรียนมาพบกัน โดยมีครูเป็นผู้ด าเนินการให้เกิด กระบวนการกลุ่ม การอภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้และหาข้อสรุปร่วมกันทุกสัปดาห์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 6 ชั่วโมง ตามวันเวลาที่ได้ตกลงร่วมกันกับผู้เรียน 2) การเรียนรู้แบบชั้นเรียน การเรียนรู้แบบชั้นเรียน เป็นการเรียนรู้ในลักษณะแบบห้องเรียน ที่สถานศึกษาก าหนดรายวิชา เวลาเรียน และสถานที่ที่เรียนชัดเจน การเรียนรู้แบบชั้นเรียนเหมาะส าหรับผู้เรียนที่มีเวลามาเข้าชั้นเรียนสม่ าเสมอ ซึ่งกรมพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชนก าหนดให้หน่วยงานในสังกัดต้องจัดให้เด็กและเยาวชนเข้าเรียนตามหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สัปดาห์ละไม่น้อยกว่า ๒๐ ชั่วโมง ๓) การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ก าหนดแผนการเรียนรู้ของตนเอง ให้สอดคล้องกับรายวิชาที่ลงทะเบียน โดยมีครูเป็นที่ปรึกษา ให้ค าแนะน าในการศึกษาหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ และ แหล่งการเรียนรู้เช่น ห้องสมุด, เรียนรู้ด้วยระบบ e-DL TV , ETV เป็นต้น การจัดการเรียนรู้ในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สามารถจัดได้ทั้งแบบพบกลุ่มและแบบชั้นเรียน หรือจัดแบบใดแบบหนึ่งก็ได้ ส่วนการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นวิธีการเรียนที่ผู้เรียนต้องใช้ในการศึกษาค้นคว้าเนื้อหา สาระเพิ่มเติม เพื่อเสริมให้การเรียนรู้แบบพบกลุ่มและแบบชั้นเรียนมีความเข้มแข็ง สามารถเข้าใจบทเรียนได้อย่าง ชัดเจน 13. การวัดและประเมินผล การวัดและประเมินผลรายวิชาบังคับ และรายวิชาเลือก ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ด าเนินการร่วมกันระหว่างส านักงาน กศน. กับ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชน ประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ 1) การวัดและประเมินผลระหว่างภาคเรียน การวัดและประเมินผลระหว่างภาคเรียนเป็นการประเมินผลเพื่อให้ผู้สอนและผู้เรียนได้ทราบ ความก้าวหน้าในด้านทักษะความรู้ และเจตคติ พฤติกรรมการเรียนรู้ การร่วมกิจกรรมและผลงานของผู้เรียน โดยสถานศึกษา (กศน.เขต/อ าเภอ) เป็นผู้ก าหนดรายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนน และจัดท าเป็นประกาศการวัด และประเมินผลของสถานศึกษา ซึ่งผู้สอนสามารถใช้วิธีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ให้สอดคล้องกับเนื้อหา รายวิชานั้น ๆ เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ ตรวจชิ้นงาน รายงาน แฟ้มสะสมงาน แบบฝึกหัด โครงงาน แบบทดสอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องมีเอกสารร่องรอยที่สามารถตรวจสอบได้ ผู้สอนต้องมีการตรวจให้คะแนน และแจ้ง คะแนนให้ผู้เรียนทราบทุกครั้ง เพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบว่าตนมีพัฒนาการระดับใดควรจะแก้ไขในส่วนใด อีกทั้งให้เป็น ข้อมูลส าหรับผู้สอนที่จะเติมเต็มให้แก่ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -19- ทั้งนี้การก าหนดรายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนต้องสอดคล้องกับธรรมชาติการประเมินรายวิชานั้น ๆ ส านักงาน กศน. ก าหนดสัดส่วนคะแนน ดังนี้ ๑.๑ วิชาบังคับและวิชาเลือกที่ส านักงาน กศน. ขอความร่วมมือให้เลือกเรียน ก าหนดสัดส่วน คะแนน คือ คะแนนระหว่างภาคเรียน ร้อยละ ๖๐ คะแนนปลายภาคเรียน ร้อยละ ๔๐ ตัวอย่าง รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนระหว่างภาค ๖๐ คะแนน รายวิชาวิทยาศาสตร์(สถานศึกษาสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม) ๑. ทดสอบย่อย ๑๕ คะแนน ๒. โครงงาน ๑๐ คะแนน ๓. ชิ้นงาน ๑๕ คะแนน ๔. แบบฝึกหัด ๒๐ คะแนน ๑.๒ รายวิชาเลือกที่สถานศึกษาก าหนด สถานศึกษาเป็นผู้ก าหนดสัดส่วนคะแนนระหว่างภาคและปลายภาคเอง โดยให้ค านึงถึง ธรรมชาติวิชา ๒) การวัดและประเมินผลปลายภาคเรียน .มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความรู้โดยรวมตลอดหลักสูตรของแต่ละรายวิชา ในรายวิชาบังคับและ รายวิชาเลือกที่ส านักงาน กศน. ขอความร่วมมือให้เลือกเรียน ส านักงาน กศน. เป็นผู้ด าเนินการจัดท าแบบทดสอบ ให้ผู้เรียนทดสอบเหมือนกันทุกแห่ง ส าหรับรายวิชาเลือกที่สถานศึกษาก าหนดขึ้นนั้น สถานศึกษา ครูและผู้สอน ร่วมกันวิเคราะห์พิจารณา วิธีการวัดและประเมินผลให้สอดคล้องกับธรรมชาติของวิชานั้น ๆ ไม่ก าหนดว่าต้องใช้แบบทดสอบปรนัยเหมือน รายวิชาบังคับ ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าสอบปลายภาคเรียน มิฉะนั้นจะไม่สามารถผ่านการประเมิน อนึ่ง การวัดผลระหว่างภาคเรียนและปลายภาคเรียน สถานแรกรับเด็กและเยาวชนและศูนย์ ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน จะต้องประสานงานอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องการวัดและ ประเมินผลระหว่างภาคเรียนและปลายภาคเรียน ให้ชัดเจนกับสถานศึกษาของ กศน.เขต/อ าเภอ เกี่ยวกับ วิธีการวัดผล เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล (เช่น การทดสอบ การตรวจแบบฝึกหัด การท าโครงงาน ฯลฯ) การตรวจให้คะแนน การสรุปผลคะแนนระหว่างภาคเรียน ปลายภาคเรียน และการจัดส่งคะแนน ว่าจะต้องท า อย่างไร รวมถึงช่วงเวลาการวัดผลระหว่างภาคเรียน
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -20- การตัดสินผลการเรียนรายวิชา ให้น าคะแนนระหว่างภาคเรียนมารวมกับคะแนนปลายภาคเรียน และต้องได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ จึงจะ ถือว่าผ่านการเรียนในรายวิชานั้น เกณฑ์ค่าระดับผลการเรียน ทั้งรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือก มี ๘ ระดับ ดังนี้ ได้คะแนนร้อยละ ๘๐ – ๑๐๐ ให้ระดับ ๔ หมายถึง ดีเยี่ยม ได้คะแนนร้อยละ ๗๕ – ๗๙ ให้ระดับ ๓.๕ หมายถึง ดีมาก ได้คะแนนร้อยละ ๗๐ – ๗๔ ให้ระดับ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนนร้อยละ ๖๕ – ๖๙ ให้ระดับ ๒.๕ หมายถึง ค่อนข้างดี ได้คะแนนร้อยละ ๖๐ – ๖๔ ให้ระดับ ๒ หมายถึง ปานกลาง ได้คะแนนร้อยละ ๕๕ – ๕๙ ให้ระดับ ๑.๕ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนนร้อยละ ๕๐ – ๕๔ ให้ระดับ ๑ หมายถึง ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนด ได้คะแนนร้อยละ ๐ – ๔๙ ให้ระดับ ๐ หมายถึง ต่ ากว่าเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนด ทั้งนี้ สถานศึกษาของ กศน. เป็นผู้ตัดสินผลการเรียน และแจ้งผลการเรียนในแต่ละภาคเรียนให้สถานแรกรับ เด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้เรียนทราบถึงความก้าวหน้าในการเรียน เพื่อการ วางแผนการเรียนรายวิชาที่เหลือในภาคเรียนต่อไป การประเมินซ่อม หากผู้เรียน ได้ระดับผลการเรียน เป็น ๐ ผู้เรียนสามารถประเมินซ่อมตามวัน เวลา ที่สถานศึกษาประกาศ ให้ทราบ โดยประเมินตามวิธีการที่สถานศึกษาก าหนด เช่น แบบทดสอบ รายงาน แฟ้มสะสมงาน โครงงาน ชิ้นงาน เป็นต้น และให้ค่าระดับผลการเรียน ไม่เกิน ๑ 14. การประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ(N-net) 1).มีวัตถุประสงค์ เพื่อน าข้อมูลที่ได้จากการประเมินไปใช้วางแผนปรับปรุงและพัฒนาผู้เรียน และคุณภาพ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของสถานศึกษาและผู้สอบ ๒).ผู้เรียนทุกคนที่เรียนในภาคเรียนสุดท้าย ทั้งระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ต้องเข้าประเมิน ๓).ผลการทดสอบ ไม่มีผลต่อการจบหลักสูตร 15. การประเมินคุณธรรม การประเมินคุณธรรม เป็นเงื่อนไขที่ผู้เรียนทุกคนจะต้องได้รับการประเมินตามเกณฑ์ที่หลักสูตรก าหนด จึงจะได้รับการพิจารณาให้จบหลักสูตรในแต่ละระดับการศึกษา โดยส านักงาน กศน. ได้ก าหนดคุณธรรมเบื้องต้น ส าหรับผลการประเมินให้เป็น ปรับปรุง พอใช้ ดี และดีมาก
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -๒1- กรอบของคุณธรรม คุณธรรมเบื้องต้นที่ ส านักงาน กศน. ก าหนด ที่ใช้เป็นหลักในการประเมิน มีจ านวน ๙ คุณธรรม ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แบ่งออกเป็น ๓ กลุ่มคือ กลุ่มที่ ๑ คุณธรรมเพื่อการพัฒนาตน ประกอบด้วย สะอาด สุภาพ กตัญญูกตเวที กลุ่มที่ ๒ คุณธรรมเพื่อการพัฒนาการท างาน ประกอบด้วย ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ กลุ่มที่ ๓ คุณธรรมเพื่อการพัฒนาการอยู่ร่วมกันในสังคม ประกอบด้วย สามัคคีมีน้ าใจ มีวินัย ความหมายของคุณธรรม คุณธรรม หมายถึง สิ่งที่มีคุณค่า มีประโยชน์ เป็นความดีงาม เป็นเครื่องประคับประคองใจให้เกลียด ความชั่ว กลัวบาป ใฝ่ความดี และเป็นเครื่องกระตุ้น ผลักดันให้เกิดความรู้สึกผิดชอบ เกิดจิตส านึกที่ดี ท าความดี ต่อไป คุณธรรมที่สถานศึกษาใช้เป็นหลักเบื้องต้นในการประเมินมีจ านวน 9 คุณธรรม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คุณธรรมเพื่อการพัฒนาตน เป้าหมาย : ผู้เรียนพัฒนาพฤติกรรมของตนได้เต็มศักยภาพ และด ารงตนอย่างมีความสุข ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ประกอบด้วย สะอาด หมายถึง ปราศจากความมัวหมองทั้งกาย ใจ และสภาพแวดล้อม ความผ่องใสเป็นที่เจริญตา.ท าให้ เกิดความสบายใจแก่ผู้พบเห็น ผู้ที่มีความสะอาด คือ ผู้รักษาร่างกาย ที่อยู่อาศัยสิ่งแวดล้อมถูกต้องตามสุขลักษณะ ฝึกฝนจิตใจมิให้ขุ่นมัว จึงมีความแจ่มใสอยู่เสมอ สุภาพ หมายถึง ความเรียบร้อยอ่อนโยน ละมุนละม่อม มีกิริยามารยาทที่ดีงาม มีสัมมาคารวะ ผู้ที่มี ความสุภาพ คือ ผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตนตามสถานภาพและกาลเทศะ ไม่ก้าวร้าว รุนแรง วางอ านาจ ข่มผู้อื่นทั้งโดย วาจาและท่าทาง แต่ในเวลาเดียวกันยังคงมีความมั่นใจในตนเอง เป็นผู้ที่มีมารยาท วางตนเหมาะสมตามวัฒนธรรมไทย กตัญญูกตเวทีหมายถึง การแสดงออกถึงการรู้คุณ หรือ การสนองบุญคุณต่อผู้มีพระคุณ หน่วยงานที่ตน ท างานทั้งด้านความคิดและการกระท า กลุ่มที่ 2 คุณธรรมเพื่อการพัฒนาการท างาน เป้าหมาย : ความส าเร็จของการท างานรายบุคคล และการท างานกลุ่ม ประกอบด้วย ขยัน หมายถึง ความตั้งใจเพียรพยายามท าหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่อง สม่ าเสมอ อดทน ความขยัน ต้องปฏิบัติควบคู่กับการใช้สติปัญญา แก้ปัญหาจนเกิดผลส าเร็จ ผู้ที่มีความขยัน คือ ผู้ที่ตั้งใจท าอย่างจริงจังต่อเนื่อง ในเรื่องที่ถูกที่ควร เป็นคนสู้งาน มีความพยายาม ไม่ท้อถอย กล้าเผชิญอุปสรรค รักงานที่ท า ตั้งใจท าหน้าที่ อย่างจริงจัง ประหยัด หมายถึง การรู้จักเก็บออมถนอมใช้ทรัพย์สินสิ่งของแต่พอควรพอประมาณ ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า ไม่ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ ผู้ที่มีความประหยัด คือ ผู้ที่ด าเนินชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย รู้จักฐานะการเงินของตน คิดก่อนใช้ คิดก่อนซื้อ เก็บออม ถนอมใช้ทรัพย์สินสิ่งของอย่างคุ้มค่า รู้จักท าบัญชีรายรับ – รายจ่าย ของตนเอง อยู่เสมอ ซื่อสัตย์หมายถึง ประพฤติตรงไม่เอนเอียง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม มีความจริงใจ ปลอดจากความรู้สึกล าเอียง หรือ อคติผู้ที่มีความซื่อสัตย์ คือ ผู้ที่มีความประพฤติตรงทั้งต่อหน้าที่ ต่อวิชาชีพ ตรงต่อเวลา ไม่ใช้เล่ห์กล คดโกง ทั้งทางตรงและทางอ้อม รับรู้หน้าที่ของตนเองและปฏิบัติอย่างเต็มที่ถูกต้อง
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -๒2- กลุ่มที่ 3 คุณธรรมเพื่อการพัฒนาการอยู่ร่วมกันในสังคม เป้าหมาย : สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน ประกอบด้วย สามัคคีหมายถึง ความพร้อมเพรียงกัน ความกลมเกลียวกัน ความปรองดองกัน ร่วมใจกันปฏิบัติงาน ให้บรรลุผลตามที่ต้องการ เกิดงานการอย่างสร้างสรรค์ปราศจากการทะเลาะวิวาท ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน เป็นการ ยอมรับความมีเหตุผล ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด หลากหลายในเรื่องเชื้อชาติ ความกลมเกลียว ในลักษณะเช่นนี้ เรียกอีกอย่างว่า ความสมานฉันท์ผู้ที่มีความสามัคคี คือ ผู้ที่เปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของ ผู้อื่น รู้บทบาทของตน ทั้งในฐานะผู้น าและผู้ตามที่ดี มีความมุ่งมั่นต่อการรวมพลัง ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อให้การ งานส าเร็จลุล่วง แก้ปัญหาและขจัดความขัดแย้งได้ เป็นผู้มีเหตุผล ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อ พร้อมที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีน้ าใจ หมายถึง ความจริงใจที่ไม่เห็นแก่เพียงตัวเองหรือเรื่องของตัวเอง แต่เห็นอกเห็นใจเห็นคุณค่า ในเพื่อนมนุษย์ มีความเอื้ออาทรเอาใจใส่ ให้ความสนใจในความต้องการ ความจ าเป็น ความทุกข์สุขของผู้อื่น และ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน ผู้ที่มีน้ าใจ คือ ผู้ให้และผู้อาสาช่วยเหลือสังคม รู้จักแบ่งปัน เสียสละ ความสุขส่วนตัว เพื่อท าประโยชน์แก่ผู้อื่น เข้าใจ เห็นใจ ผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคมด้วยแรงกาย สติปัญญา ลงมือปฏิบัติการเพื่อบรรเทาปัญหา หรือร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้เกิดขึ้นในชุมชน มีวินัย หมายถึง การยึดมั่นในระเบียบแบบแผน ข้อบังคับและข้อปฏิบัติ ซึ่งมีทั้งวินัยในตนเองและวินัยต่อ สังคม ผู้ที่มีวินัย คือ ผู้ที่ปฏิบัติตนในขอบเขต กฎ ระเบียบของสถานศึกษา สถาบัน / องค์กร / สังคม และประเทศ โดยที่ตนเองยินดีปฏิบัติตามอย่างเต็มใจและตั้งใจ 16. การเทียบโอนรายวิชา เมื่อเด็กและเยาวชน เข้ามาสู่สถานแรกรับเด็กและเยาวชนและกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนแล้ว เด็กและเยาวชนดังกล่าวจะได้รับการอบรมการพัฒนาพฤติกรรมนิสัย ด้วยกระบวนการต่าง ๆ การปฏิบัติกิจกรรม ที่หลากหลาย การเรียนวิชาสามัญและวิชาชีพ การปฏิบัติกิจกรรมและการเรียนดังกล่าว ตลอดระยะเวลาที่อยู่ใน สถานแรกรับเด็กและเยาวชนและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน สามารถน าผลการเรียนและผลการปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ มาเทียบโอนได้ตามวิธีการ ดังนี้ 1..วิชาที่เรียนและมีผลการเรียนมาก่อนที่จะสมัครเป็นนักศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้น ามาเทียบโอนตามหลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียน จากการศึกษาต่อเนื่อง หรือการจัดการศึกษาที่เป็นระดับ หรือหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่ส านักงาน กศน. ประกาศก าหนด 2..เมื่อสมัครเป็นนักศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ผู้เรียนลงทะเบียนเรียนรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือก ตามที่วางแผนร่วมกันกับสถานศึกษา โดยสถานศึกษาต้องน ารายวิชาเลือกในระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย ที่ตกลงร่วมกันกับสถานแรกรับเด็กและเยาวชนและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนแต่ละแห่ง มาบรรจุในหลักสูตรสถานศึกษา และจัดแผนการเรียนให้ลงทะเบียนเรียน รายวิชาเลือกที่มีการจัดการเรียนสอน ในสถานแรกรับเด็กและเยาวชนและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ถือว่าเป็นการเรียนวิชาเลือกตามหลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งจะต้องมีการวัดและประเมินผล ตามที่ ก าหนดในข้อ 13 ดังนั้น จึงไม่ต้องน ามาเทียบโอน
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -๒3- 17. กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) การจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นการจัดการศึกษาให้กับ กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไปที่ไม่อยู่ในระบบโรงเรียน โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม สติปัญญา คุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะ การด าเนินชีวิตที่ดี สามารถจัดการกับชีวิต ชุมชน และสังคม ได้อย่างมีความสุขตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ภูมิใจในความเป็นไทย และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สามารถน าความรู้มาบูรณาการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้นตามเงื่อนไขการจบหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จ านวนไม่น้อยกว่า ๒๐๐ ชั่วโมง โดยเน้นให้ผู้เรียนน า ข้อมูล ความรู้และประสบการณ์มาฝึกใช้ทักษะการคิด การวิเคราะห์ การวางแผนปฏิบัติการที่จะส่งผลต่อการจัด กิจกรรมพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม เพื่อให้ด ารงอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ลักษณะกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) ลักษณะการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. กิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะชีวิตของตนเอง และครอบครัว เป็นกิจกรรมที่มีลักษณะ ดังนี้ ๑).ประโยชน์ที่ตนเอง/ครอบครัวได้รับ เป็นกิจกรรมที่สร้าง/พัฒนาทักษะการด าเนินชีวิตให้ตนเอง ครอบครัวอยู่ได้อย่างมีความสุข ๒).การมีส่วนร่วมของผู้เรียนและครอบครัว เป็นกิจกรรมที่ด าเนินการแล้วผู้เรียนและครอบครัว เห็นความส าคัญ และให้ความร่วมมือ ๓).การใช้กระบวนการกลุ่ม เป็นกิจกรรมที่ท าให้เกิดความร่วมมือในการด าเนินงาน มีการประสานงาน ความรับผิดชอบ เสียสละ และจิตบริการ ๔).ความเหมาะสมในการใช้ระยะเวลาในการปฏิบัติงานตามโครงการ ๕).ปัจจัยที่เอื้อต่อความส าเร็จ ได้แก่ ความรู้ แหล่งข้อมูล วัสดุ งบประมาณ และการเลือกใช้ทรัพยากร ได้อย่างเหมาะสม ประหยัด ๖).ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นการคิดสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาครอบครัว/ตนเอง 2. กิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการพัฒนาชุมชนและสังคม เป็นกิจกรรมที่มีลักษณะส าคัญ ๆ ดังนี้ ๑).ประโยชน์ที่ชุมชนและสังคมจะได้รับหรือเป็นบริการที่ช่วยส่งเสริม หรือพัฒนาคุณภาพชีวิต ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง ตลอดจนสนับสนุนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และอื่น ๆ ที่ตอบสนองนโยบายการพัฒนาประเทศ ๒).การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เป็นกิจกรรมที่ด าเนินการแล้วคนในชุมชนเห็นความส าคัญ และให้ความร่วมมือ ทั้งด้านความคิด แรงงาน วัสดุอุปกรณ์ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๓).การใช้กระบวนการกลุ่ม เป็นกิจกรรมที่ท าให้เกิดความร่วมมือในการท างาน การช่วยกันคิด การประสานงาน และแบ่งความรับผิดชอบ ท าให้เกิดความสามัคคี เสียสละ จิตบริการตามวิถีประชาธิปไตย ๔).การใช้ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน เป็นกิจกรรมที่ใช้เวลาในการปฏิบัติงานให้มีความเหมาะสม กับกิจกรรมโครงการที่น าเสนอ 5).ปัจจัยที่เอื้อต่อความส าเร็จในการจัดกิจกรรม เช่น บุคลากร วัสดุ งบประมาณ และการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนให้เป็นไปอย่างประหยัด และประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -๒4- 6).มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นการคิดสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ และท าให้เกิดการพัฒนา ชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและอย่างยั่งยืน ขั้นตอนการด าเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) ๑. ผู้สอนให้ความรู้พื้นฐาน และให้แนวทางการท ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ท าความเข้าใจให้ผู้เรียน มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับความรู้พื้นฐานของกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต จนเกิดความตระหนัก และเห็น ความส าคัญของกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต สามารถเขียนโครงการ และด าเนินการตามโครงการได้ ๒. ผู้เรียนยื่นค าร้องขอท ากิจกรรม และเสนอโครงการกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามแบบที่ก าหนด ในภาคเรียนแรก ๓. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันวางแผนการท ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต จ านวนไม่น้อยกว่า ๒๐๐ ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้เรียนสามารถเสนอโครงการได้ทุกภาคเรียน ให้เป็นไปตามแนวทางขั้นตอนการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามที่ส านักงาน กศน. ก าหนด ๔. สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินโครงการ พร้อมอยู่ในการก ากับดูแลของครูที่ปรึกษาโครงการ ๕. ผู้เรียนด าเนินการตามโครงการที่ได้รับอนุมัติพร้อมบันทึกการปฏิบัติงานเป็นรายบุคคล โดยอยู่ในการ ก ากับดูแลของครูที่ปรึกษาโครงการ ๖. คณะกรรมการประเมินโครงการ นิเทศติดตามผลการด าเนินงาน และประเมินผล ๗. ผู้เรียนจัดท าเอกสาร รายงานผลการด าเนินงานตามโครงการส่งสถานศึกษาเมื่อสิ้นสุดโครงการ ๘. คณะกรรมการประเมินค่าผลส าเร็จของโครงการเป็นจ านวนชั่วโมงกิจกรรม ๙. สถานศึกษาและผู้เรียนบันทึกผลจ านวนชั่วโมงที่ท ากิจกรรม กพช. ไว้เป็นหลักฐาน การเทียบโอนกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต 1. ผู้เรียนที่ผ่านการท ากิจกรรมพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคม ก่อนลงทะเบียนเรียนหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สามารถน าเอกสารหลักฐาน เช่น วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร หนังสือรับรอง เป็นต้น ที่ได้รับจากหน่วยงาน องค์กร ที่เข้าร่วมท ากิจกรรมออกให้ไปยื่นต่อ สถานศึกษา เพื่อขอเทียบโอนกิจกรรม กพช. ในภาคเรียนแรก ทั้งนี้หลักฐานจะต้องมีอายุไม่เกิน ๕ ปี นับถึงวันที่ขอ เทียบโอน และจะเทียบโอนได้ร้อยละ 50 ของจ านวนชั่วโมง หรือ จ านวนวัน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กรณี กรณีที่ 1 ผู้ขอเทียบโอนมีเอกสารหลักฐานมาแสดง หลักฐานต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี นับถึงวันที่ ขอเทียบโอน มีเกณฑ์พิจารณา ดังนี้ 1. เทียบจ านวนชั่วโมงร้อยละ 50 ตามที่ปรากฏในหลักฐานผ่านการอบรม 2. กรณีในหลักฐานไม่ระบุจ านวนชั่วโมง ให้เทียบโอนจากระยะเวลาที่เข้ารับการอบรม โดยให้เทียบได้วันละไม่เกิน 4 ชั่วโมง (เกณฑ์การคิด 1 วัน เท่ากับ 8 ชั่วโมง) กรณีที่ 2 ผู้ขอเทียบโอนไม่มีหลักฐานมาแสดง ให้ใช้หนังสือรับรองตามแบบที่ก าหนด โดยให้หน่วย จัดการอบรมเป็นผู้ลงนามรับรอง สามารถน าเอกสารหลักฐานมาใช้เทียบโอนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ๒. หากผู้เรียนของสถานศึกษาในสังกัดส านักงาน กศน. ย้ายไปเรียนกับสถานศึกษาแห่งใหม่ในสังกัด ส านักงาน กศน. สามารถโอนผลการท ากิจกรรม กพช. ได้ตามจ านวนชั่วโมงที่ปรากฏในเอกสาร (ใบแสดงผล การเรียน)
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -25- 18. เกณฑ์การจบหลักสูตร ผู้เรียนทั้งระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีเกณฑ์ การจบหลักสูตรในแต่ละระดับการศึกษา ดังนี้ 1. ผ่านเกณฑ์การประเมินการเรียนรู้รายวิชาในแต่ละระดับการศึกษาตามโครงสร้างหลักสูตร 1.1).ระดับประถมศึกษา.ไม่น้อยกว่า.48.หน่วยกิต.แบ่งเป็นรายวิชาบังคับ.36.หน่วยกิต.และวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า.12.หน่วยกิต 1.2).ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไม่น้อยกว่า.56.หน่วยกิต แบ่งเป็นรายวิชาบังคับ.40.หน่วยกิต และ วิชาเลือกไม่น้อยกว่า.16.หน่วยกิต 1.3).ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่น้อยกว่า.76..หน่วยกิต แบ่งเป็นรายวิชาบังคับ.44..หน่วยกิต และ วิชาเลือกไม่น้อยกว่า.32.หน่วยกิต 2. ผ่านเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) ไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง 3. ผ่านการประเมินคุณธรรมในระดับพอใช้ขึ้นไป 4. เข้ารับการประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ 19. ค าถามที่พบบ่อย การขึ้นทะเบียน การขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา กศน. สถานศึกษาสามารถรับขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาได้ตลอดเวลา การลงทะเบียนเรียน 1. เอกสารประกอบการสมัครเรียน กศน. ตอบ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนหรือศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน จะต้องเป็นผู้รวบรวม เอกสารหลักฐานการศึกษา เพื่อส่งให้สถานศึกษา กศน. ภายใน 45 วัน นับจากวันที่เปิดภาคเรียน (ภาคเรียนที่ 1 ภายในวันที่ 30 มิถุนายน และภาคเรียนที่ 2 ภายในวันที่ 15 ธันวาคม) หากไม่ส่งเอกสารหลักฐานภายในวันที่ก าหนด ผู้เรียนจะถูกตัดชื่อออกจากระบบทะเบียน 2. เอกสารหลักฐานการลงทะเบียน ประกอบด้วยอะไรบ้าง ตอบ ๑).บัตรประจ าตัวประชาชน พร้อมส าเนา ๒).ทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมส าเนา ๓).รูปถ่าย 1 นิ้ว จ านวน 2 ใบ ๔).วุฒิการศึกษาเดิม ๕).ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) 3. การลงทะเบียนเรียน เด็กที่เข้าสู่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนและยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียน จะท าอย่างไร ตอบ ส านักงาน กศน. ก าหนดให้ลงทะเบียนเรียนทุกภาคเรียน.เมื่อเด็กและเยาวชนเข้าสู่การ ควบคุมดูแลของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สามารถขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา ไว้ก่อนได้และให้ผู้เรียนเรียนวิชาชีพ หรือหลักสูตรระยะสั้นไปพลางก่อน เมื่อเปิดให้ลงทะเบียนเรียน สถานพินิจฯ สามารถน าวิชาชีพที่เรียนจบแล้ว มาเทียบโอนเป็นผลการเรียนได้
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -26- 4. การลงทะเบียนเรียนรายวิชาเลือกในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ต้องด าเนินการอย่างไร ตอบ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน / ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนจะต้องประสาน การท าแผนการเรียนร่วมกัน.อาจใช้วิชาเลือกที่กรมพินิจ.ฯ.พัฒนาขึ้นมาในแต่ละระดับ ใช้รายวิชาเลือกที่ ส านักงาน กศน. ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พัฒนา ร่วมกันทั้ง 3 ระดับ โดยเลือกรายวิชาที่สอดคล้องกับบริบทการจัดการศึกษาของแต่ละสถานพินิจ หรือแต่ละศูนย์ฝึก ทั้งนี้ กศน.เขต/อ าเภอ และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน หรือ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ต้องร่วมกันวางแผนจัดการเรียนการสอน วางแผนการลงทะเบียน ให้สอดคล้องกับเด็กและเยาวชน ซึ่งต้องดูให้เหมาะสมกับวุฒิภาวะของเด็ก เน้นการพัฒนาพฤตินิสัย การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม การฟื้นฟูสมรรถภาพ พัฒนาสังคม อารมณ์ จิตใจ สถานศึกษา กศน. จะต้องน าวิชาเลือกที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนพัฒนาขึ้น มาบรรจุไว้ในหลักสูตรสถานศึกษาของอ าเภอที่ท างานร่วมกัน 5. หากเกิดกรณีที่ผู้เรียนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนไม่สามารถน าหลักฐานมายื่น ให้สถานศึกษาได้ตอนขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาจะมีวิธีการอย่างไร ตอบ กรณีที่ไม่สามารถน าเอกสารหลักฐานมายื่นตอนขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา สถานพินิจและ คุ้มครองเด็กและเยาวชนต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานของผู้เรียน มายื่นให้สถานศึกษา กศน. ภายหลัง แต่ต้องไม่เกิน 30 วัน หลังจากเปิดภาคเรียน คือ ภาคเรียนที่ 1 วันที่ 15 มิถุนายน และภาคเรียนที่ 2 วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี การจัดการเรียนการสอน 1. สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ควรใช้รูปแบบใดในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ มีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ตอบ ใช้วิธีจัดการเรียนการสอนแบบชั้นเรียน 2. การให้ผู้เรียนได้เรียนไปก่อนลงทะเบียนเรียนในวิชาบังคับ สามารถสอบเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนได้หรือไม่ ตอบ ไม่ได้ เนื่องจาก ยังไม่มีการลงทะเบียนเรียน 3. ถ้าเด็กที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ สามารถเรียนจบ กศน. ภายใน 2 ปีได้หรือไม่ ตอบ ไม่ได้ เพราะ เด็กจะต้องไม่จบก่อนเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ คือ อายุ 15 ปีบริบูรณ์ ทั้งให้สถานศึกษาร่วมกับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน วางแผนการลงทะเบียน ให้กระจายให้ครบตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เด็กจบก่อนเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ คือ ไม่จบก่อนอายุ 15 ปี เน้นการท ากิจกรรมพัฒนาตนเอง พัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเตรียม ความพร้อม สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจะต้องมีการวางแผนลงทะเบียนเรียน ให้เด็กกลุ่มนี้จนกว่าอายุพ้นเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ 4. กรณีที่เด็กและเยาวชนเข้ามาระหว่างปีการศึกษา จะมีวิธีการท าอย่างไร ตอบ เด็กและเยาวชนมาสามารถน าวิชาที่ได้เรียนจากการศึกษาในระบบที่ศึกษาเป็นระดับมาเทียบโอน การศึกษาเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
คู่มือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส าหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน -27- สื่อการเรียนรู้ การจัดสรรสื่อการเรียนการสอนจาก กศน. ไม่เพียงพอ จะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร ตอบ ส านักงาน กศน. จะจัดสรรสื่อหนังสือเรียนให้กับสถานพินิจ 48 % ของจ านวนนักศึกษา สิ่งที่ครูต้องด าเนินการ คือ จัดหาสื่อการเรียนรู้หรือหาสื่ออื่นเพิ่มเติม การวัดผลประเมินผล สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สามารถเป็นผู้ออกใบ รบ. ให้กับเด็กได้หรือไม่ ตอบ ไม่ได้เนื่องจาก สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน / ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เปรียบเหมือนห้องเรียนหนึ่งของ กศน.อ าเภอ ฉะนั้น สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จะออกใบ รบ.ให้กับเด็กไม่ได้ การสั่งข้อสอบ กรณีการสั่งข้อสอบให้กับกลุ่มเป้าหมายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จะต้องสั่ง ข้อสอบภายในระยะเวลาเมื่อไหร่ ตอบ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจะต้องรวบรวมรายชื่อเด็กและเยาวชน เพื่อแจ้ง ต่อสถานศึกษาในพื้นที่ของตน ภายในระยะเวลา 8 สัปดาห์ หรือ 2 เดือน หลังจากเปิดภาคเรียน
-28- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน รายละเอียดวิชาเลือก สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา
-29- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน คําอธิบายรายวิชา อช12019 การปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อบริโภค สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 2 หนวยกิต (80 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเห็นชองทางและตัดสินใจ ประกอบอาชีพไดตามความตองการและศักยภาพของตนเอง มาตรฐานที่ 3.2 มีความรูความเขาใจ ทักษะในอาชีพที่ตัดสินใจเลือก มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1. มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพ ในชุมชน สังคม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ไดแก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปอัฟริกา ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพ ของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อการพัฒนาอาชีพ 2. มีความรูความเขาใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรูใน กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพพัฒนา ตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา ศึกษาและฝกทักษะเกี่ยวกับเรื่องตอไปนี้ ความรูเกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษ ปจจัยที่เกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษ การวางแผนการ ปลูก และคาใชจาย พันธุและการเลือกใชพันธุที่เหมาะสมกับทองถิ่น การเตรียมดิน วัสดุ อุปกรณ เครื่องมือ ที่ใชตั้งแตเริ่มปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว ขั้นตอนและวิธีการปลูก การดูแลรักษา การปองกันและการกําจัดศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว การจัดประสบการณการเรียนรู จัดกิจกรรมการเรียนรูเนนผูเรียนเปนสําคัญโดยครูเปนผูชี้แนะอธิบายใหเกิดการเรียนรูสาธิตและมอบหมาย ใหผูเรียนศึกษาคนควาขอมูลดวยตนเองจากเอกสาร วารสาร หนังสือ แผนพับ โปสเตอร ฯลฯ รวมทั้งสื่อโสต ทัศนศึกษา เชน คลิปวิดีโอ สไลด รวมทั้งศึกษาดูงานจากแหลงเรียนรูที่มีการปลูกผักปลอดสารพิษ แลกเปลี่ยน เรียนรูและอภิปรายกลุมความเปนไปไดในการปลูกผักปลอดสารพิษไวบริโภคในครัวเรือน รวมทั้งจัดทําโครงงาน การปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อบริโภคในครัวเรือน บันทึกผลการปฏิบัติ การวัดและประเมินผล ประเมินจากสภาพจริง การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ ผลงาน การบันทึกผลการปฏิบัติ และ การมีสวนรวมในกระบวนการเรียนรู
-30- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน รายละเอียดคําอธิบายรายวิชา อช12019 การปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อบริโภค สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 2 หนวยกิต (80 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1. มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพ ในชุมชน สังคม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ไดแก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปอัฟริกา ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพ ของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อ การพัฒนาอาชีพ 2. มีความรูความเขาใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรู ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 ความรูเกี่ยวกับการปลูก ผักปลอดสารพิษ 1. บอกความหมายและ ลักษณะของการปลูกผัก ปลอดสารพิษ 2. ความเปนมาของผักปลอด สารพิษ 1. ความหมายของผักปลอด สารพิษ 2. ความเปนมาของการปลูก ผักปลอดสารพิษ 6 2 ปจจัยที่เกี่ยวกับการปลูก ผักปลอดสารพิษ และ การวางแผนการปลูก 1. สามารถวางแผนการใช ปจจัยในการปลูกผัก ไฮโดรโพนิกสไดอยาง ถูกตอง 2. กําหนดระยะเวลาในการ ปลูกผักแตละพันธไดอยาง ถูกตอง 3. คํานวณตนทุนในการปลูก ผักแตละรุนไดอยาง ถูกตอง 1. ทุน (วัสดุ อุปกรณ เครื่องมือ รวมถึงเงินที่ ลงทุน) 2. แรงงานที่ใช(แรงงาน/คน/ สัตว) 3. สถานที่ปลูก 4. สภาพแวดลอม/สภาพดิน ฟา อากาศ ในการปลูกพืช 5. การวางแผน การกําหนด ระยะเวลาการปลูก 6. ปฏิทินการปลูกพืช 7. ตนทุน 6 4
-31- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 3 การเตรียมปลูกผักปลอด สารพิษ 1. บอกพันธุที่ใชและสามารถ คัดเลือกใชพันธุไดอยาง เหมาะสมกับสภาพ ทองถิ่น 2. สามารถเตรียมดิน วัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชใน การปลูกพืชได 3. สามารถวางแผนการใช วัสดุ อุปกรณ เครื่องมือ ตลอดฤดูปลูกพืชได 1. พันธุผักชนิดตางๆ 2. การเตรียมพันธุ เพื่อการเพาะปลูก 3. ขั้นตอน และวิธีการเตรียม ดิน 4. การเตรียมวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชในการปลูก พืช 5. การวางแผนการใชวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือ 10 20 4 การปลูก ดูแลรักษา และการเก็บเกี่ยวผัก ปลอดสารพิษ อธิบายขั้นตอนการปลูก และ สามารถปลูกผักปลอดสารพิษ ได 1. ดูแลรักษาผักปลอด สารพิษที่ปลูกได 2. ปองกันและกําจัดศัตรูผัก ปลอดสารพิษได 3. บอกลักษณะและ ชวงเวลาในการเก็บเกี่ยว ผักปลอดสารพิษได ขั้นตอนและวิธีการปลูก - การใหปุย - การใหน้ํา - การปองกันและกําจัด ศัตรูพืช - การพิจารณาพืชที่เก็บ เกี่ยวได - วิธีการเก็บเกี่ยว - การดูแลหลังการเก็บ เกี่ยว 12 22 รวม 34 46
-32- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน คําอธิบายรายวิชา อช12020 การขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 1 หนวยกิต (40 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานที่ 3.2 มีความรูความเขาใจ ทักษะในอาชีพที่ตัดสินใจเลือก มาตรฐานการเรียนรูระดับ มีความรูความเขาใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรู ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา คําอธิบายรายวิชา ศึกษาความหมาย ความสําคัญ ประโยชนของการขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด วิธีการขั้นตอนและ วิธีการขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด ปฏิบัติการขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ดไดอยางถูกตอง ปฏิบัติงานไดดวย ความสนใจมีความรับผิดชอบ ตรงตอเวลา ขยัน อดทน สูงาน มีเจตคติที่ดีตอรายวิชาการขยายพันธุพืชดวยการ ใชเมล็ดและสามารถทํางานรวมกับผูอื่นได ศึกษาและฝกทักษะเกี่ยวกับเรื่องตอไปนี้ ผูเรียน ความรูทั่วไปเกี่ยวกับการขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด คุณสมบัติของเมล็ดพันธุที่ดี การพัก ตัวของเมล็ด วิธีการเพาะเมล็ดแบบตางๆ และเพาะเมล็ดพันธุพืชชนิดตางๆได การจัดประสบการณการเรียนรู จัดกิจกรรมการเรียนรูเนนผูเรียนเปนสําคัญ โดยครูเปนผูชี้แนะ อธิบายใหเกิดการเรียนรู สาธิต และมอบหมายใหผูเรียนศึกษาคนควาขอมูลดวยตนเอง จากตํารา เอกสารวิชาการ สื่อเทคโนโลยี ภูมิปญญา ทองถิ่น แลวนําความรูที่ไดรับมาทําการแลกเปลี่ยนเรียนรูโดยกระบวนการกลุม และลงมือปฏิบัติจัดทําโครงงาน การขยายพันธุพืชดวยวิธีการใชเมล็ดชนิดตางๆ การวัดและประเมินผล ประเมินจากสภาพจริง การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ ผลงาน การบันทึกผลการปฏิบัติ และ การมีสวนรวมในกระบวนการเรียนรู
-33- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน รายละเอียดคําอธิบายรายวิชา อช12020 การขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 1 หนวยกิต (40 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรูระดับ มีความรูความเขาใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรู ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1. ความรูทั่วไปเกี่ยวกับ การขยายพันธุพืชดวยการ ใชเมล็ด 1. บอกความหมายของการ ขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด 2. อธิบายความสําคัญของการ ขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด 3. บอกปจจัยที่เกี่ยวของกับการ เพาะเมล็ดได 4. บอกประเภทของงานเกษตร ที่ใชการขยายพันธุโดยการใช เมล็ดได 1. ความหมาย ความสําคัญ ประเภทของการขยายพันธุพืชดวย การใชเมล็ด ชนิดตางๆ 2. ความสําคัญของการ ขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด 3. ขอควรคํานึงในการเลือก วิธีการ ขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด 4. ประเภทของงานเกษตรที่ใช การขยายพันธุโดยการใชเมล็ด 4 2. คุณสมบัติของเมล็ดพันธุที่ ดี 1. บอกชนิดพันธุพืชชนิดตางๆที่ ขยายพันธุดวยการใชเมล็ดได 3. บอกคุณสมบัติของเมล็ดพันธุดี ได 4. วิเคราะหขอดี – ขอเสียของ การขยายพันธุพืชดวยการใช เมล็ด 1. พันธุพืชชนิดตางๆที่ขยายพันธุ ดวยการใชเมล็ด 2. ปจจัยที่เกี่ยวของกับการ เพาะเมล็ด 3. คุณสมบัติของเมล็ดพันธุดี 4. ขอดี – ขอเสียของการ ขยายพันธุพืชดวยการใชเมล็ด 4 3. การพักตัวของเมล็ด อธิบายการฟกตัวและการงอก ของเมล็ดได 1. การฟกตัวและการงอกของ เมล็ด 2. วิธีการแกไขการพักตัวของ เมล็ดแตละประเภท 4 4 4. เพาะเมล็ดพันธุพืชชนิด ตางๆได มีทักษะในการเพาะเมล็ดพันธุ พืชชนิดตางๆ ตอไปนี้ 1. การเพาะเมล็ดถั่วเขียว 2. การเพาะเมล็ดผักบุง 3. การเพาะเมล็ดดาวเรือง 4. การเพาะเมล็ดมะมวง 5. การเพาะเมล็ดมะพราว น้ําหอม 1. วิธีการเพาะเมล็ด - การเตรียมเมล็ดกอนเพาะ - วัสดุอุปกรณที่ใชเพาะเมล็ด - สถานที่ใชเพาะเมล็ด - วิธีการเพาะแบบตางๆ 8 16 รวม 20 20
-34- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน รายละเอียดคําอธิบายรายวิชา อช12021 การเพาะเห็ดฟางตะกรา สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 1 หนวยกิต ( 40 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเห็นชองทางและตัดสินใจ ประกอบอาชีพไดตามความตองการและศักยภาพของตนเอง มาตรฐานที่ 3.2 มีความรูความเขาใจ ทักษะในอาชีพที่ตัดสินใจเลือก มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1. มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพ ในชุมชน สังคม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ไดแก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปอัฟริกา ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพ ของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อการพัฒนาอาชีพ 2. มีความรูความเขาใจทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรู ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา ศึกษาและฝกทักษะเกี่ยวกับเรื่องตอไปนี้ ชองทางและการตัดสินใจประกอบอาชีพเพาะเห็ดฟางตะกรา ประโยชนและความสําคัญของเห็ดฟาง ตะกรา การเลือกใชวัสดุ อุปกรณในการเพาะเห็ดฟางตะกรา พันธุและการเพาะเลี้ยงเชื้อเห็ดฟางตะกรา วิธีการ และขั้นตอนการเพาะเห็ดฟางตะกรา การวางแผนการผลิตเห็ดฟางตะกรา การดูแลรักษา การปองกันและกําจัด ศัตรู การเก็บเกี่ยว การจัดประสบการณการเรียนรู จัดกิจกรรมการเรียนรูเนนผูเรียนเปนสําคัญ โดยครูเปนผูชี้แนะ อธิบายใหเกิดการเรียนรู สาธิต และ มอบหมายใหผูเรียนศึกษาคนควาขอมูลดวยตนเอง จากตํารา เอกสารวิชาการ สื่อเทคโนโลยี ภูมิปญญาทองถิ่น และนําผูเรียนทัศนศึกษาแหลงเรียนรูในทองถิ่นตามแหลงที่มีการเพาะเห็ดฟางตะกรา แลวนําความรูที่ไดรับ มาทําการแลกเปลี่ยนเรียนรูโดยกระบวนการกลุมถึงความเปนไปไดในการเพาะเห็ดในตะกราเปนอาชีพหลัก และขยายขอบขายเกี่ยวกับการเพาะเห็ดในตะกราใหไดผลดียิ่งขึ้น และลงมือปฏิบัติจัดทําโครงงานการ ขยายพันธุพืชดวยวิธีการตางๆ การวัดและประเมินผล ประเมินจากสภาพจริง การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ ผลงาน การบันทึกผลการปฏิบัติ และ การมีสวนรวมในกระบวนการเรียนรู
-35- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน รายละเอียดคําอธิบายรายวิชา อช12021 การเพาะเห็ดฟางตะกรา สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 1 หนวยกิต (40 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1. มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพ ในชุมชน สังคม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ไดแก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปอัฟริกา ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพ ของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อการพัฒนาอาชีพ 2. มีความรูความเขาใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรู ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 ชองทางและการ ตัดสินใจเลือกประกอบ อาชีพเพาะเห็ดฟางใน ตะกรา อธิบายชองทางและการ ตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพ เพาะเห็ดฟางตะกราได วิเคราะหความเปนไปได จาก ขอมูลดังนี้ 1. ขอมูลตนเองดานความตั้งใจ และความพรอมอื่นๆ 2. ขอมูลทางวิชาการดาน ความรูที่จําเปนในการเพาะ เห็ดฟางตะกรา 3. ขอมูลทางสังคม สิ่งแวดลอม ดานแหลงเมล็ดพันธุ ปุยและ อื่นๆ 4 2 ความสําคัญของการ เพาะเห็ดฟางตะกรา อธิบายประโยชนและ ความสําคัญของการเพาะเห็ด ฟางตะกราได ประโยชนและความสําคัญของ เห็ดฟางตะกรา 4 3 อุปกรณ สําหรับเพาะ เห็ดฟางตะกรา บอกวัสดุ อุปกรณ สําหรับ เพาะเห็ดฟางตะกราได วัสดุ อุปกรณสําหรับเพาะเห็ด ฟางตะกรา 2 2 4 การเพาะเห็ดฟางตะกรา อธิบายขั้นตอนการเพาะเห็ด ฟางตะกรา การดูแลรักษา และสามารถลงมือเพาะเห็ด ฟางตะกราได ขั้นตอนการเพาะเห็ดฟางตะกรา 1. การเตรียมวัสดุอุปกรณ 2. การเพาะเห็ดในตะกรา 3. การใหน้ํา 4. การควบคุมอุณหภูมิ 5. การปองกันกําจัดศัตรูเห็ด 8 10
-36- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 5 การเก็บเกี่ยว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตเห็ด ฟางไดอยางถูกตอง 1. การพิจารณาอายุการเก็บเห็ด ฟาง 2. วิธีการเก็บเห็ด 3. การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว 4 2 6 การตลาด อธิบายวิธีการบรรจุหีบหอ การกําหนดราคาขาย และ คํานวณตนทุนการเพาะเห็ด ฟางตะกราได 1. วิธีการบรรจุหีบหอ 2. การกําหนดราคาขาย 3. การคิดตนทุน 2 2 รวม 24 16
-37- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน คําอธิบายหลักสูตรรายวิชา อช12022 การปลูกผักบุงจีนในครัวเรือน สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 2 หนวยกิต (80 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเห็นชองทางและตัดสินใจ ประกอบอาชีพไดตามความตองการและศักยภาพของตนเอง มาตรฐานที่ 3.2 มีความรูความเขาใจ ทักษะในอาชีพที่ตัดสินใจเลือก มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1. มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพ ในชุมชน สังคม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ไดแก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปอัฟริกา ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพ ของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อการขยายอาชีพ 2. มีความรูความเขาใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรู ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา ศึกษาและฝกทักษะเกี่ยวกับเรื่องตอไปนี้ ชองทางและการตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพปลูกผักบุง ปจจัยสําคัญเกี่ยวกับการปลูกผักบุง การ วางแผนการปลูกผักบุง พันธุและการคัดเลือกเมล็ดพันธุ การจัดการปลูกผักบุง การอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม ปญหา อุปสรรคในการปลูกผักบุง การจัดประสบการณการเรียนรู ใหผูเรียนศึกษาคนควาลักษณะสวนประกอบ และประโยชนของผักบุง เรียนรูดายการพบกลุม การสอนเสริม การเรียนรูดวยตนเอง การรายงาน การศึกษาจากแหลงเรียนรู ประสบการณตรง โดยใช สถานการณจริง และประสบการณจากผูเรียน การวัดและประเมินผล ประเมินจากกสภาพจริง การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ ผลงาน การบันทึกผลการปฏิบัติ และ การมีสวนรวมในกระบวนการเรียนรู
-38- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน รายละเอียดคําอธิบายหลักสูตรรายวิชา อช12022 การปลูกผักบุงจีนในครัวเรือน สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 2 หนวยกิต (80 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1. มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพ ในชุมชน สังคม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ไดแก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปอัฟริกา ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพ ของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อการขยายอาชีพ 2. มีความรูความเขาใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรางความมั่นคงบนพื้นฐานความรู ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาตอยอดและประยุกตใชภูมิปญญา ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 ชองทางและการ ตัดสินใจเลือกประกอบ อาชีพปลูกผักบุง อธิบายชองทางและการ ตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพ ปลูกผักบุงได วิเคราะหความเปนไปได จากขอมูลดังนี้ 1.ขอมูลตนเอง 2.ขอมูลทางวิชาการ 3.ขอมูลทางสังคม สิ่งแวดลอม 4 2 พันธุและการเลือกใช พันธุที่เหมาะสมกับ ทองถิ่น อธิบายพันธุที่ใชและสามารถ คัดเลือกใชพันธุไดอยาง เหมาะสมกับสภาพทองถิ่น 1.ชนิดของเมล็ดพันธุ 2.การเตรียมเมล็ดพันธุ เพื่อการเพาะปลูก 4 4 3 การเตรียมดิน และ อุปกรณที่ใชในการปลูก 1.เตรียมดิน วัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชในการปลูก ผักบุงได 2.วางแผนการใชวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือตลอดฤดู ปลูกพืชได 1.ขั้นตอน และวิธีการเตรียมดิน 2.การเตรียมวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชในการปลูกพืช 3.การวางแผนการใชวัสดุ อุปกรณและเครื่องมือ 8 16 4 วิธีการปลูกและการดูแล รักษา อธิบายขั้นตอนการปลูกและ การดูแลรักษาแปลงผักบุงที่ ปลูกได ขั้นตอนและวิธีการปลูกผักบุง 1. การเตรียมแปลงปลูก 2. วิธีการปลูก 3. การใหน้ําผักบุง 4. การใสปุย 5. การกําจัดศัตรูพืช 8 24 5 การเก็บเกี่ยว อธิบายการเก็บเกี่ยวผักบุงจีน ไดอยางถูกตอง 1. วิธีการเก็บเกี่ยว 2. การดูแลหลังการเก็บเกี่ยว 4 4
-39- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 6 คุณธรรมในการประกอบ อาชีพ อธิบายคุณธรรมในการ ประกอบอาชีพได 1. ความรับผิดชอบ 2. ความซื่อสัตย 3. ความขยัน อดทน ฯลฯ 4 รวม 32 48
-40- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน คําอธิบายรายวิชา รหัสวิชา อช12023 งานฝกฝมืองานไม สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 2 หนวยกิต (80 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานที่ 3.1 มีความรูความเขาใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเห็นชองทางและการ . ตัดสินใจในการประกอบอาชีพ ไดตามความตองการ และศักยภาพของตนเอง มาตรฐานที่ 3.2 มีความรูความเขาใจ ทักษะ และเจตคติที่ตัดสินใจเลือก มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1.มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพในชุมชน สังคม ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพของ พื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อการพัฒนาอาชีพ 2.มีความรูความเขาใจ ทักษะในการพัฒนาอาชีพที่ตัดสินใจเลือกบนพื้นฐาน ขั้นตอนในการทํางาน อยางเหมาะสมและประยุกตใชภูมิปญญา ศึกษาและฝกทักษะเกี่ยวกับ เรียนรูและทําความเขาใจในการประกอบอาชีพชางไม ศึกษาความปลอดภัยในการทํางาน เรียนรูชนิด ของไมในการใชงานแตละประเภท เรียนรูการใชเครื่องมือในการปฏิบัติงานชางไม เทคนิคการใชเครื่องมืออยาง ถูกตองและปลอดภัย การปฏิบัติงานไม การใชเครื่องเครื่องมือชางไมในการฝกฝมือ และฝกงานไมเบื้องตน การจัดประสบการการเรียนรู 1. จัดกิจกรรมสํารวจและวิเคราะหตนเอง และความตองการของตลาด เพื่อใหเยาวชนไดเห็นชองทาง การประกอบอาชีพ 2. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ 3. เรียนรู /ฝกทักษะการประกอบอาชีพ เรียนรูดวยตนเอง เรียนรูจากวิทยากร เรียนรูจากการปฏิบัติ การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความรูภาคทฤษฎีระหวางเรียนและจบหลักสูตร 2. การประเมินผลงานระหวางเรียนจากการปฏิบัติ ไดผลงานที่มีคุณภาพ 3. มีเวลาเรียน ไมนอยกวารอยละ 80 4. มีผลการประเมินตลอดหลักสูตร ไมนอยกวารอยละ 80 5. มีผลงาน ชิ้นงาน ที่มีคุณภาพ 6.ผูเรียนที่จบหลักสูตรชางกอสราง สามารถนําความรูและประสบการณ เทียบโอนผลการเรียนรูกับ หลักสูตร
-41- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน รายละเอียดคําอธิบายรายวิชา รหัสวิชา อช12023 งานฝกฝมืองานไม สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จํานวน 2 หนวยกิต (80 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรูระดับ 1.มีความรู ความเขาใจและเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะหลักษณะงาน ขอบขายงานอาชีพในชุมชน สังคม ที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพื้นที่ ศักยภาพของ พื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทําเลที่ตั้งของแตละพื้นที่ ศักยภาพของ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแตละพื้นที่ ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยในแตละพื้นที่และสอดคลอง กับชุมชนเพื่อการพัฒนาอาชีพ 2.มีความรูความเขาใจ ทักษะในการพัฒนาอาชีพที่ตัดสินใจเลือกบนพื้นฐาน ความรูกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใชนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสมและประยุกตใชภูมิปญญา ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1. ชองทางการประกอบ อาชีพ 1.อธิบายความสําคัญและ วิเคราะหลักษณะของอาชีพชาง ไม ได 2.สามารถวิเคราะหขอมูล องคประกอบในการตัดสินใจ เลือกอาชีพ 1. ความสําคัญและความ เปนไปไดของการประกอบ อาชีพชางไม 2. การวิเคราะหตนเอง 3. ความตองการของตลาด 4. การใชแรงงาน 5 2. ความปลอดภัยในการ ทํางาน 1.อธิบายหลักของความปลอดภัย ในการทํางาน 2..อธิบายหลัก 5 ส ในการ ปฏิบัติงาน 3.ปฏิบัติตามหลัก 5 ส ไดถูกตอง 1.ความปลอดภัยในการ ปฏิบัติงาน 5 ส. กฎแหง ความปลอดภัยในการ ปฏิบัติงาน 1.1. สะสาง 1.2. สะดวก 1.3. สะอาด 1.4. สุขลักษณะ 1.5. สรางนิสัย 5 ๓. ทักษะการใชเครื่องมือ และวัสดุชางเบื้องตน ๑.อธิบายลักษณะของเครื่องมือ ชางเบื้องตน ๒.อธิบายการใชเครื่องมือแตละ ชนิดไดถูกตองและปลอดภัย 1.เครื่องมือชางเบื้องตน คอน คีม ไขควง เลื่อยชนิดตาง ๆ สิว กบไสไม ตะไบ บุง ฉาก ระดับน้ํา 2.การบํารุงรักษาเครื่องมือ 3.ชนิดของไมและวัสดุตาง ๆ 20
-42- คูมือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สําหรับเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุมครองเด็กและเยาวชน ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จํานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ ๔. ฝกการไสไมโดยใชกบ ไสไม การตัดไม การ เพลาะไม การประกอบ ชิ้นงานโดยการใชตะปู สําเร็จเปนชิ้นงาน 1.อธิบายประโยชนของการ เพลาะไมและนําไปใชไดอยาง ถูกตอง 2.เลือกใชเครื่องมือชนิดตางๆ ได อยางถูกตอง 3.เลือกวิธีเขาเดือยไม ให เหมาะสมกับชิ้นงาน 1.ฝกปฏิบัติ การวัดขนาด การตัดไม การเพลาะไม การ ไสไม การตอกตะปู การ ประกอบชิ้นงานอยางงาย สําเร็จเปนชิ้นงานตามรูปแบบ ที่กําหนด 50 รวม 30 50