แม่เหล็กโลกบรรพกาล อายุหินของพ้ืนมหาสมุทร
รวมทั้งการค้นพบสันเขากลางมหาสมุทร และร่อง
ลกึ ก้นสมทุ ร
• การพาความร้อนของแมกมาภายในโลก ทำให้เกิด
การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณี ตามทฤษฎีธรณีแปร
สัณฐาน ซ่ึงนักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจพบหลักฐาน
ทางธรณีวิทยา ได้แก่ ธรณีสัณฐาน และธรณี
โครงสร้าง ที่บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี เช่น
ร่องลึกก้นสมุทร หมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง แนวภูเขา
ไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด และสันเขากลาง
สมทุ ร รอยเลอื่ น นอกจากนยี้ ังพบการเกดิ ธรณพี ิบตั ิ
ทบี่ ริเวณแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณี เช่น แผ่นดนิ ไหว
ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ซ่ึงหลักฐานดังกล่าวสัมพันธ์
กั บ รู ป แ บ บ ก า ร เค ลื่ อ น ที่ ข อ ง แ ผ่ น ธ ร ณี
นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปได้ว่าแนวรอยต่อของแผ่น
ธรณีมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แนวแผ่นธรณีแยกตัว
แนวแผ่นธรณีเคล่ือนท่ีเข้าหากัน แนวแผ่นธรณี
เคล่อื นทีผ่ ่านในแนวราบ
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทร อธิบายว่า พ้ืนมหาสมุทรแผ่ขยายออกไปจากแนวสันเขากลางสมุทร
เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก โดยมีหลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีสนับสนุนแนวคิด
ได้แก่ ภาวะแมเ่ หล็กบรรพกาล อายุหินบนพืน้ มหาสมุทร
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินยั รบั ผิดชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
2) ทกั ษะการวิเคราะห์
3) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)
ชวั่ โมงที่ 1
ขัน้ นำ
ขั้นการใช้ความรูเ้ ดมิ เช่ือมโยงความร้ใู หม่ (Prior Knowledge)
1. ครทู บทวนความร้เู ดมิ ของนักเรยี นเกีย่ วกับแนวคดิ ทฤษฎที วีปเลื่อนและหลักฐานสนับสนุน
โดยครตู ้ังประเดน็ คำถามกระตุ้นความสนใจนกั เรยี น โดยใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายแสดงความ
คิดเห็นเพ่ือหาคำตอบ ดงั น้ี
• หลักฐานทางธรณีวทิ ยาท่ีสนบั สนนุ ทฤษฎีทวปี เล่ือน พบท่ีบรเิ วณใดบา้ ง
(แนวตอบ : บนทวปี ต่าง ๆ ท่ัวโลก)
• ทวปี อเมรกิ าใต้และทวีปแอฟริกาท่ีอยหู่ ่างกนั ในปัจจบุ นั มสี ิ่งใดคนั่ กลางอยู่
(แนวตอบ : มหาสมทุ รแอตแลนติก)
2. ครใู ชแ้ นวคำถามทเ่ี ชอื่ มโยงความรเู้ ดมิ กบั ความรู้ใหม่วา่ “ทวปี ต่าง ๆ มกี ารเคล่อื นทีต่ ามทฤษฎี
ทวปี เลื่อนนั้น แล้วนกั เรียนทราบหรอื ไมว่ า่ การท่ีทวปี อเมรกิ าใต้กับแอฟริกาเลอ่ื นหา่ งจากกนั เกิด
อะไรข้นึ และมหาสมุทรแอตแลนติกขยายขนาดมากขนึ้ เพราะเหตุใด” โดยให้นกั เรยี นร่วมกัน
อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นอยา่ งอสิ ระ แลว้ บันทึกคำตอบของตนเองลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น
ขน้ั สอน
ข้นั รู้ (Knowledge)
1. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากน้ันให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษา
คน้ ควา้ ข้อมลู เกย่ี วกับแนวคิดทฤษฎกี ารแผข่ ยายพ้ืนสมุทรและหลักฐานสนับสนนุ
จากหนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก หรือแหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เช่น
อนิ เทอร์เน็ต หอ้ งสมุด โดยครูกำหนดประเด็นให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษา ดังน้ี
• การสำรวจบรเิ วณพื้นมหาสมุทร
• ธรณีสัณฐานบนพ้ืนมหาสมุทร
• อายุของหินบริเวณพนื้ มหาสมุทร
• ภาวะแมเ่ หล็กบรรพกาล
2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภิปรายเรอื่ งทไ่ี ด้ศึกษา จากนน้ั ใหน้ ักเรียนเขยี นสรปุ ความรู้ท่ีไดจ้ าก
การศกึ ษาค้นคว้าลงในสมุดประจำตัวนักเรยี น
(หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ )
ชว่ั โมงที่ 2
ขนั้ เข้าใจ (Understanding)
3. ครสู มุ่ นักเรยี น 4 กลมุ่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ หน้าชัน้ เรยี น ในระหว่างที่นกั เรยี น
นำเสนอ ครูคอยให้ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม เพือ่ ให้นักเรยี นมีความเขา้ ใจท่ีถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
4. ครูตั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรยี น โดยให้นักเรยี นแต่ละคนรว่ มกันอภปิ รายแสดงความ
คิดเหน็ เพ่ือหาคำตอบ ดังนี้
• การสำรวจมหาสมุทรสามารถทำโดยวธิ ีการใด และใครเป็นผู้สำรวจ
(แนวตอบ : สำรวจดว้ ยเรอื ของกองทัพเรือในช่วงสงครามโลกครั้งทีส่ อง โดยนกั ธรณวี ิทยาใน
กองทพั เรือเป็นผูท้ ำการสำรวจ)
• วิธีการและเครื่องมือท่ีใชใ้ นการสำรวจมหาสมทุ รมอี ะไรบ้าง
(แนวตอบ : สำรวจสัณฐานบริเวณพ้นื มหาสมุทรโดยใชค้ ล่ืนโซนาร์ สำรวจสภาพความเป็น
แมเ่ หลก็ ของหนิ โดยใชเ้ ครื่องวัดคา่ สนามแมเ่ หล็ก และใช้เครือ่ งมือเกบ็ ตัวอย่างหนิ บนพ้นื
มหาสมทุ รมาหาอายุ)
• หลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีพบจากการสำรวจมหาสมุทรมีอะไรบ้าง
(แนวตอบ : ธรณสี ณั ฐานบนพื้นมหาสมุทร ได้แก่ สันเขากลางสมทุ ร และหุบเขาทรดุ อายุของ
หนิ บรเิ วณพื้นมหาสมุทร ภาวะแมเ่ หล็กบรรพกาล)
• ธรณีสัณฐานบริเวณพ้ืนมหาสมทุ รบอกให้ทราบถึงข้อมูลใด
(แนวตอบ : มหาสมุทรมีการแผข่ ยายออกท่ีบรเิ วณสนั เขากลางสมทุ ร)
• อายุของหินบรเิ วณพนื้ มหาสมุทรบอกใหท้ ราบถึงข้อมลู ใด
(แนวตอบ หินบนพืน้ มหาสมทุ รมอี ายนุ ้อยที่สุดบรเิ วณสนั เขากลางสมทุ ร และมีอายุมากข้ึน
เมอ่ื อยหู่ ่างออกไปทง้ั สองขา้ งของสนั เขากลางสมุทร)
• ภาวะแมเ่ หลก็ บรรพกาลบอกให้ทราบถึงข้อมูลใด
(แนวตอบ : รูปแบบการเรยี งตัวของสารแม่เหล็กในหินทสี่ มมาตรกนั ระหวา่ งสองขา้ งของสนั เขา
กลางสมุทร ซง่ึ สอดคล้องกบั ข้อมลู อายุหนิ บนพ้นื มหาสมุทร)
• ทฤษฎีการแผ่ขยายพน้ื มหาสมทุ รสนับสนุนแนวคิดของทฤษฎที วีปเลอ่ื นอย่างไร
(แนวตอบ : ทฤษฎีการแผข่ ยายพน้ื สมุทรอธิบายวา่ พืน้ มหาสมุทรมีการแผข่ ยายออกไปจาก
แนวสนั เขากลางสมุทรเน่ืองจากการแทรกดันของแมกมาข้ึนมาบนเปลือกโลก ซึ่งสนบั สนนุ
แนวคิดของทฤษฎที วีปเล่อื นว่า ทวีปเคลือ่ นท่ีแยกออกจากกนั เนื่องจากมหาสมุทรมีการแผ่
ขยายออก)
ขั้นลงมือทำ (Doing)
5. นกั เรียนแตล่ ะคนทำแบบฝึกหดั เรือ่ ง แนวคิดทฤษฎที วีปการแผข่ ยายพนื้ สมุทรและหลักฐาน
สนับสนนุ จากแบบฝกึ หัดรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและ
อวกาศ ม.6 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก
ข้นั สรุป
ขน้ั สรุป
1. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเนื้อหาเก่ยี วกับแนวคดิ ทฤษฎที วปี การแผ่ขยายพน้ื สมุทร
และหลักฐานสนับสนนุ และให้ความรเู้ พ่ิมเตมิ จากคำถามของนกั เรยี น โดยครูใช้ PowerPoint
เรือ่ ง แนวคิดทฤษฎีทวปี การแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและหลักฐานสนับสนนุ ในการอธบิ ายเพ่ิมเตมิ
2. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ เกยี่ วกับแนวคิดทฤษฎที วปี การแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลักฐาน
สนบั สนนุ ซ่ึงควรได้ข้อสรุปร่วมกนั ว่า “ทฤษฎกี ารแผ่ขยายพน้ื สมุทรอธบิ ายว่า พื้นมหาสมุทรมี
การแผ่ขยายออกไปจากแนวสันเขากลางสมุทร เนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือก
โลก โดยมหี ลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาท่สี นบั สนุนแนวคดิ ได้แก่ สันเขากลางสมทุ ร การเรียงตัวของสาร
แมเ่ หล็กในหนิ ท่สี มมาตรกนั ระหวา่ งสองข้างของสนั เขากลางสมทุ ร อายหุ นิ บนพ้นื มหาสมุทร”
ขน้ั ประเมิน
ขั้นประเมิน
1. ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหน้าชัน้ เรยี น
2. ครูตรวจแบบฝึกหัด เร่ือง แนวคดิ ทฤษฎที วปี การแผข่ ยายพน้ื สมุทรและหลักฐานสนับสนนุ
จากแบบฝึกหัดรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
- รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
7.1 ประเมนิ ระหว่าง - สมุดประจำตวั หรอื
แบบฝึกหัด
การจดั กจิ กรรม
การเรียนรู้
1) แนวคดิ ทฤษฎที วปี - ตรวจสมดุ ประจำตวั
การแผ่ขยายพ้นื หรอื แบบฝกึ หดั
รายการวัด วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน
สมุทรและหลักฐาน
สนบั สนุน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพ 2
2) การนำเสนอ ผลงาน/ผลการปฏบิ ตั ิ นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
ผลงาน/ผลการ กิจกรรม
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
3) พฤตกิ รรมการ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
ทำงานรายบคุ คล - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2
4) พฤตกิ รรมการ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
ทำงานกลุ่ม - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2
5) คุณลักษณะ รับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
อนั พึงประสงค์ และมุง่ มน่ั ในการ อนั พึงประสงค์
ทำงาน
8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก
2) แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
3) PowerPoint เรื่อง แนวคิดทฤษฎที วีปการแผ่ขยายพ้ืนสมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนุน
4) สมดุ ประจำตวั นักเรยี น
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอร์เน็ต
9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์
ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
แผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 13
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ (ว33101)
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/1-4 ภาคเรียนท่ี 1/2564
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก เวลา 22 ช่วั โมง
เรอ่ื ง การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี เวลา 3 ชวั่ โมง
ผ้สู อน นางสาวรุจริ าวรรณ จันสว่าง โรงเรยี นบ้านแพงพิทยาคม
วันท่ี.......................เดอื น..........................................ปี................................
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
ว 3.2 ม.6/2 อธบิ ายหลักฐานทางธรณีวทิ ยาท่ีสนบั สนนุ การเคล่ือนท่ีของแผน่ ธรณี
ว 3.2 ม.6/3 ระบุสาเหตุ และอธิบายรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณีท่ีสัมพันธ์กับการเคล่ือนท่ี ของ
แผน่ ธรณี พร้อมยกตัวอยา่ งหลักฐานทางธรณีวิทยาทพ่ี บ
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายหลักฐานทางธรณีวทิ ยาทสี่ นับสนนุ การเคล่ือนทข่ี องแผน่ ธรณตี ามทฤษฎีธรณี
แปรสณั ฐานได้ (K)
2. อธบิ ายวงจรการพาความรอ้ นภายในโลกได้ (K)
3. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมจำลองวงจรการพาความร้อนไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเปน็ ลำดบั ขนั้ ตอน (P)
4. มีความสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรู้อยากเหน็ และทำงานรว่ มกับผ้อู ่นื อย่างสร้างสรรค์ (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
• แผ่นธรณีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบของธรณีภาค
การเปลี่ยนแปลงขนาดและตำแหน่งตั้งแต่อดีต
จนถึงปัจจุบัน การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีดังกล่าว
อธิบายได้ตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ซึ่งมีรากฐาน
มาจากทฤษฎีทวีปเล่ือนและทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืน
สมุทร โดยมีหลักฐานที่สนับสนุนได้แก่ รูปร่างของ
ขอบทวีปที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ความคล้ายคลึง
กันของกลุ่มหินและแนวเทือกเขา ซากดึกดำบรรพ์
ร่องรอยการเคล่ือนท่ีของตะกอนธารน้ำแข็ง ภาวะ
แม่เหล็กโลกบรรพกาล อายุหินของพื้นมหาสมุทร
รวมท้ังการค้นพบสันเขากลางมหาสมุทร และร่อง
ลึกก้นสมทุ ร
• การพาความร้อนของแมกมาภายในโลก ทำให้เกิด
การเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี ตามทฤษฎีธรณีแปร
สัณฐาน ซ่ึงนักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจพบหลักฐาน
ทางธรณีวิทยา ได้แก่ ธรณีสัณฐาน และธรณี
โครงสร้าง ท่ีบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี เช่น
ร่องลึกก้นสมุทร หมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง แนวภูเขา
ไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด และสันเขากลาง
สมทุ ร รอยเลือ่ น นอกจากน้ยี ังพบการเกิดธรณีพิบตั ิ
ทีบ่ ริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี เชน่ แผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ซึ่งหลักฐานดังกล่าวสัมพันธ์
กั บ รู ป แ บ บ ก า ร เค ลื่ อ น ท่ี ข อ ง แ ผ่ น ธ ร ณี
นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปได้ว่าแนวรอยต่อของแผ่น
ธรณีมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แนวแผ่นธรณีแยกตัว
แนวแผ่นธรณีเคลื่อนท่ีเข้าหากัน แนวแผ่นธรณี
เคลอ่ื นท่ผี ่านในแนวราบ
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน อธิบายว่า ธรณีภาคท่ีมีสถานะเป็นของแข็งประกอบด้วยเปลือกโลกและ
เน้ือโลก สว่ นบนสดุ น้ันจะแตกออกเป็นแผ่น เรยี กว่า แผ่นธรณี (plate) และเคล่ือนท่ีอย่างชา้ ๆ อย่บู นฐาน
ธรณีภาค เนื่องจากการพาความร้อนของแมกมา ซ่ึงการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เกิด
ธรณีสัณฐานและปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา เช่น แนวเทือกเขา ร่องลึกก้นสมุทร แผ่นดินไหว ภูเขาไฟ
ระเบดิ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ยั รับผิดชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
2) ทกั ษะการทดลอง
3) ทักษะการตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : แบบเน้นมโนทศั น์ (Concept Based Teaching)
ชัว่ โมงท่ี 1
ข้ันนำ
ขั้นการใชค้ วามรเู้ ดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
1. ครูทบทวนความรเู้ ดมิ ของนักเรียนเกี่ยวกบั แนวคดิ ทฤษฎีการแผ่ขยายพนื้ สมทุ รและหลกั ฐาน
สนบั สนนุ
2. ครูต้งั ประเด็นคำถามกระตุ้นความสนใจนกั เรยี น โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนรว่ มกันอภปิ รายแสดง
ความคิดเห็นอย่างอิสะโดยไม่มกี ารเฉลยว่าถูกหรอื ผดิ ดงั นี้
• เพราะเหตุใด ทฤษฎีทวปี เลือ่ นจงึ ไมไ่ ดร้ ับการยอมรับในชว่ งแรก
(แนวตอบ : ไมส่ ามารถอธิบายกระบวนการเคลื่อนทีข่ องแผ่นธรณีได)้
• นักเรยี นคดิ ว่าแผน่ ธรณีคืออะไร แตกตา่ งจากเปลอื กโลกอย่างไร
(แนวตอบ : แผ่นธรณคี อื ธรณีภาคทแี่ ตกออกเป็นแผ่น มจี ำนวนหลายแผน่ ซงึ่ ธรณภี าคคอื ส่วน
ของเปลอื กโลกรวมกบั เนอื้ โลกตอนบนสดุ )
ขน้ั สอน
ขั้นรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนแบง่ กล่มุ กลุม่ ละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากนน้ั ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษา
ค้นคว้าข้อมลู เกย่ี วกับทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน และวงจรการพาความร้อน จากหนังสอื เรียน
รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการ
เรียนรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก หรอื แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ นต็
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายเรื่องทไี่ ด้ศึกษา จากน้ันใหน้ ักเรยี นเขียนสรปุ ความรูท้ ี่ไดจ้ าก
การศึกษาคน้ คว้าลงในสมุดประจำตัวนกั เรยี น
(หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ )
3. ครสู มุ่ นกั เรียน 2 กลุม่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ หนา้ ชั้นเรยี น ในระหว่างท่ีนักเรียน
นำเสนอ ครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพอื่ ให้นักเรียนมีความเขา้ ใจท่ีถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)
4. ครตู ั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี น โดยให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันอภปิ รายแสดง
ความคดิ เห็นเพอ่ื หาคำตอบ ดังนี้
• นักวทิ ยาศาสตร์สามารถสำรวจภายในโลก เพ่ือศึกษาการแทรกดันของแมกมาได้หรือไม่
เพราะเหตุใด
(แนวตอบ : ไม่ได้ เพราะในปัจจบุ ันยังไมม่ เี ทคโนโลยที สี่ ามารถเจาะสำรวจภายในโลกได้)
• นักเรียนคดิ วา่ นักวทิ ยาศาสตร์สามารถอธิบายการเคลื่อนท่ีของแผน่ ธรณีไดจ้ ากการศึกษาสิ่งใด
(แนวตอบ : การทดลองเลียนแบบ และลกั ษณะธรณสี ณั ฐานท่พี บบนผิวโลก)
ช่ัวโมงที่ 2
5. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 6 คน ตามความสมัครใจ จากนั้นครูแจง้ จดุ ประสงคข์ องกิจกรรม
จำลองวงจรการพาความร้อน ใหน้ ักเรยี นทราบเพ่ือเป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ีถูกต้อง
6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษากจิ กรรม จำลองวงจรการพาความร้อน จากหนงั สือเรยี นรายวิชา
พนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2
กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก โดยครูใชร้ ูปแบบการเรียนร้แู บบร่วมมือมาจดั กระบวนการ
เรียนรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชิกแตล่ ะคนภายในกลุ่มมีบทบาทหน้าท่ขี องตนเอง ดงั นี้
• สมาชิกคนท่ี 1-2 ทำหน้าที่เตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ใี่ ช้ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมจำลองวงจร
การพาความร้อน
• สมาชิกคนที่ 3-4 ทำหนา้ ท่ีอา่ นวธิ ปี ฏบิ ตั กิ จิ กรรม และนำมาอธิบายให้สมาชิกในกลุ่มฟงั
• สมาชกิ คนท่ี 5-6 ทำหนา้ ท่ีบันทึกผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมลงในสมดุ ประจำตวั นกั เรยี น
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมินการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม)
7. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันปฏิบัติกิจกรรมตามข้ันตอน จากหนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการ
เปล่ยี นแปลงภายในโลก
8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั แลกเปล่ยี นความรแู้ ละวิเคราะห์ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม แล้วอภิปรายผล
รว่ มกัน
9. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าชัน้ เรยี น ในระหวา่ งทน่ี ักเรยี น
นำเสนอ ครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพ่ือให้นักเรียนมีความเข้าใจที่ถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)
10. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันตอบคำถามท้ายกิจกรรม จำลองวงจรการพาความร้อน โดยใหน้ ักเรยี น
แตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหาคำตอบ จากน้นั ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 กลุ่ม
ออกมานำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองหนา้ ชัน้ เรยี น
11. เมอ่ื นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรยี บร้อยแลว้ นกั เรียนและครูร่วมกัน
อภิปรายผลท้ายกจิ กรรม จำลองวงจรการพาความร้อน และเฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม
12. ครูตัง้ ประเดน็ คำถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี น โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายแสดง
ความคิดเห็นเพื่อหาคำตอบ ดังน้ี
• จากการปฏบิ ตั ิกิจกรรม เรื่อง จำลองวงจรการพาความร้อน เปรียบเทียบได้กับสิ่งใด
(แนวตอบ : วงจรการพาความร้อนภายในโลก)
• เพราะเหตุใดแผ่นธรณจี ึงเคล่ือนทแี่ ยกออกจากกนั ได้
(แนวตอบ : เนือ่ งจากภายในแกน่ โลกมอี ุณหภูมิสูงมากทำให้เกดิ การพาความร้อน แมกมาใน
ฐานธรณภี าคเมื่อได้รบั ความร้อนจะเคล่อื นที่ขึ้นสผู่ วิ โลก เมอื่ เคลื่อนท่ขี ้ึนมาใกล้ผวิ โลกซึง่ ห่าง
จากแก่นโลกที่เป็นต้นกำเนิดความรอ้ นอุณหภูมจิ ะลดลงและเคลอื่ นที่กลับลงไปในเนอื้ โลก
ถา้ หากไดร้ บั ความเพิม่ จะเคล่ือนท่ขี นึ้ มาสผู่ วิ โลกใหม่ หมนุ วนเป็นวงจรไปตลอด)
ชั่วโมงที่ 3
ข้ันเขา้ ใจ (Understanding)
13. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ตามความสมัครใจ จากน้นั ให้นกั เรียนแตล่ ะ
กลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาจบั สลากเรือ่ งทศ่ี กึ ษา โดยครูเตรยี มสลากหมายเลขไวห้ นา้ ช้ันเรยี น
ซ่งึ หมายเลขจะระบเุ รื่องที่ให้นกั เรยี นศกึ ษา ดังนี้
• หมายเลข 1 และ 2 ศกึ ษาแนวแผน่ ธรณแี ยกตัว
• หมายเลข 3 และ 4 ศกึ ษาแนวแผน่ ธรณีเคลอ่ื นที่เข้าหากัน
• หมายเลข 5 และ 6 ศกึ ษาแนวแผน่ ธรณีเคลอ่ื นทีผ่ า่ นกนั ในแนวราบ
14. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เร่ืองท่ีกลุ่มตนเองจับสลากได้ จากหนังสือเรียน
รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2
กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก หรอื แหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ เชน่ อนิ เทอร์เนต็ ห้องสมดุ
จากนน้ั รว่ มกนั สรปุ ความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษาค้นคว้าลงในสมดุ ประจำตวั นกั เรียน และสร้าง
แบบจำลองเพอ่ื อธิบายรูปแบบการเคลือ่ นทีข่ องแผน่ ธรณี
(หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ )
15. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการศึกษา และแบบจำลองของกลุม่ ตนเองหน้าชั้นเรียน
ในระหว่างท่นี ักเรยี นนำเสนอ ครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ เพ่อื ให้นกั เรียนมคี วามเขา้ ใจที่
ถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน)
16. ครูตัง้ ประเดน็ คำถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั
อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพอื่ หาคำตอบ ดงั นี้
• การเคลอ่ื นทีข่ องแผ่นธรณมี ีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง
(แนวตอบ : การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณี มี 3 รูปแบบ ได้แก่ เคลือ่ นที่แยกออกจากกนั เคลื่อนท่ี
เข้าหากนั และเคล่อื นทผี่ ่านกันในแนวราบ)
• การเคล่ือนทีข่ องแผ่นธรณที ำใหเ้ กิดธรณสี ัณฐานและธรณีโครงสรา้ งใดบ้าง
(แนวตอบ : รอ่ งลึกก้นสมุทร หมเู่ กาะภเู ขาไฟรูปโคง้ แนวภูเขาไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด
สันเขากลางสมุทร รอยเล่อื น)
• แผน่ ธรณภี าคเคลอ่ื นท่ผี า่ นในแนวราบจะทำใหเ้ กดิ ส่ิงใด
(แนวตอบ : ทำให้เกิดรอยเลื่อนขนาดใหญ่ เช่น รอยเลือ่ นซานแอนเดรยี ส)
• รอยโคง้ กับรอยเลือ่ นแตกต่างกนั อยา่ งไร
(แนวตอบ : รอยโคง้ เกิดจากช้ันหินถกู แรงกระทำจนเกดิ การคดโค้ง โก่งงอ สว่ นรอยเลื่อนเกดิ จาก
ชั้นหนิ ถกู แรงกระทำจนแตกและเคลือ่ นที่ตามระนาบรอยแตก)
17. นกั เรยี นทำ Topic Questions เรื่อง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี จากหนังสือเรียนรายวิชา
พนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2
กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก ลงในสมุดประจำตวั นักเรียน
ข้ันลงมือทำ (Doing)
18. นักเรยี นแตล่ ะคนทำใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง ทฤษฎีธรณแี ปรสณั ฐาน
19. ครมู อบหมายให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด เรอื่ ง การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี จากแบบฝึกหัด
รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการ
เรียนร้ทู ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
ขน้ั สรุป
ข้นั สรปุ
1. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเกย่ี วกับการแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี และให้ความรู้
เพ่มิ เติมจากคำถามของนักเรียน โดยครใู ช้ PowerPoint เร่ือง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี
ในการอธิบายเพม่ิ เตมิ
2. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ เก่ยี วกบั การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี ซง่ึ ควรได้ข้อสรุปร่วมกันวา่
“ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน อธิบายวา่ ธรณภี าคท่มี ีสถานะเป็นของแข็งประกอบด้วยเปลอื กโลกและ
เนอื้ โลกสว่ นบนสดุ น้ันจะแตกออกเป็นแผ่น เรยี กว่า แผ่นธรณี (plate) และเคลื่อนท่ีอย่างชา้ ๆ
อยบู่ นฐานธรณีภาค เนอื่ งจากการพาความรอ้ นของแมกมา ซง่ึ การเคล่ือนที่ของแผน่ ธรณใี น
รูปแบบตา่ ง ๆ ทำให้เกดิ ธรณีสัณฐานและปรากฏการณ์ทางธรณีวทิ ยา เช่น แนวเทือกเขา”
ขั้นประเมิน
ขนั้ ประเมิน
1. ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกล่มุ และจากการนำเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหนา้ ช้ันเรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม จำลองวงจรการพาความรอ้ น
3. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานที่ 2.3 เรื่อง ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน
4. ครตู รวจ Topic Questions เร่ือง การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี ในสมดุ ประจำตัวนกั เรียน
5. ครูตรวจแบบฝกึ หดั เรือ่ ง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี จากแบบฝกึ หดั รายวชิ าพืน้ ฐาน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 กระบวนการ
เปลย่ี นแปลงภายในโลก
7. การวดั และประเมินผล
รายการวดั วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง
การจดั กิจกรรม
การเรียนรู้
1) การแปรสัณฐาน - ตรวจใบงานที่ 2.3 - ใบงานที่ 2.3 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ของแผน่ ธรณี - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมดุ ประจำตัว หรอื - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หรือแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั
2) ผลบนั ทกึ การ - ประเมินการปฏบิ ตั ิ - แบบประเมินการปฏิบัติ - ระดบั คุณภาพ 2
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม กิจกรรม กจิ กรรม ผ่านเกณฑ์
จำลองวงจรการ
พาความร้อน
3) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คุณภาพ 2
ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบตั ิ นำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ปฏิบัติกิจกรรม กจิ กรรม
4) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
5) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
6) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2
อันพึงประสงค์ รับผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
และมงุ่ มนั่ ในการ อนั พงึ ประสงค์
ทำงาน
8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก
2) แบบฝึกหดั รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก
3) ใบงานที่ 2.3 เรื่อง ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน
4) วสั ดุอปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการปฏิบัติกิจกรรมจำลองวงจรการพาความร้อน
5) PowerPoint เรื่อง การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี
6) สลากหมายเลข
7) สมุดประจำตวั นักเรียน
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมดุ
3) อินเทอรเ์ น็ต
ใบงานท่ี 2.3
เรื่อง ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน
คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเขียนสรปุ ความรู้เกย่ี วกบั ทฤษฎีธรณีแปรสณั ฐาน ในรปู แบบของผังมโนทัศน์
และนำเสนอผลงาน
ใบงานที่ 2.3 เฉลย
เร่ือง ทฤษฎธี รณีแปรสณั ฐาน
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเขียนสรปุ ความรู้เกย่ี วกับทฤษฎธี รณีแปรสณั ฐาน ในรปู แบบของผงั มโนทศั น์
และนำเสนอผลงาน
สลากหมายเลข 2
1
34
56
9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์
ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ 14
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ (ว33101)
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6/1-4 ภาคเรียนท่ี 1/2564
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก เวลา 22 ชั่วโมง
เรื่อง ภเู ขาไฟระเบิด เวลา 3 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวรุจริ าวรรณ จันสวา่ ง โรงเรยี นบ้านแพงพิทยาคม
วนั ท.่ี ......................เดือน..........................................ปี................................
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
ว 3.2 ม.6/4 อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด รวมท้ังสืบค้นข้อมูลพ้ืนท่ีเสี่ยงภัย
ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏิบัตติ นให้ปลอดภัย
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายสาเหตุ และกระบวนการเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ ได้ (K)
2. อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหว่างตำแหน่งทต่ี ัง้ ภูเขาไฟกับประเภทแนวรอยต่อของแผน่ ธรณีได้ (K)
3. ปฏิบตั ิกจิ กรรมจำลองการระเบดิ ของภูเขาไฟไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเป็นลำดับข้นั ตอน (P)
4. ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากภเู ขาไฟระเบิดได้ (P)
5. มคี วามสนใจใฝ่ร้หู รอื อยากรู้อยากเหน็ และทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
• ภูเขาไฟระเบิด เกิดจากการแทรกดันของแมกมา
ข้ึนมาตามส่วนเปราะบาง หรือรอยแตกบนเปลือก
โลก มักพบหนาแน่นบริเวณรอยต่อระหว่างแผ่น
ธรณี ทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นพ้ืนท่ีเสี่ยงภัย
ผลจากการระเบิดของภูเขาไฟมีทั้งประโยชน์และ
โทษ จึงต้องศึกษาแนวทางในการเฝ้าระวัง และการ
ปฏิบตั ติ นให้ปลอดภัย
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ภูเขาไฟระเบิด (volcano eruption) เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาท่ีเกิดจากการแทรกดันของ
แมกมา แก๊ส และเถ้าภูเขาไฟจากภายในโลกออกมาสู่ผิวโลกตามแนวรอยแตก รอยแยกของเปลือกโลก
ภูเขาไฟมีรปู ร่างแตกต่างกันหลายลักษณะขึ้นอยู่กับความรุนแรงในการปะทุ ผลจากการระเบิดของภูเขาไฟ
มีทงั้ ประโยชน์และโทษ จงึ ต้องศกึ ษาแนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั จากภูเขาไฟระเบดิ
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินัย รับผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้
1) ทกั ษะการสังเกต 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
2) ทักษะการทดลอง
3) ทักษะการตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)
ชว่ั โมงที่ 1
ขน้ั นำ
ขน้ั การใชค้ วามร้เู ดิมเชื่อมโยงความร้ใู หม่ (Prior Knowledge)
1. ครูทบทวนความรูเ้ ดิมของนักเรียนเก่ียวกับทฤษฎที เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การเคล่อื นท่ีของแผน่ ธรณี
ซึง่ นักเรียนไดศ้ กึ ษามาแลว้ และไดท้ ราบถึงผลทเ่ี กดิ จากการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณวี ่าทำให้เกิดธรณี
สณั ฐานรปู แบบต่าง ๆ อีกท้ังยังทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงทางธรณีวิทยาต่าง ๆ บริเวณแนวรอยต่อ
ของแผน่ ธรณีด้วย
2. ครูใชแ้ นวคำถามท่ีเช่ือมโยงความร้เู ดมิ กับความรู้ใหม่ว่า “ธรณพี บิ ัตภิ ัยเก่ียวข้องกับการเคลอ่ื นท่ี
ของแผน่ ธรณีอย่างไร” โดยให้นักเรียนร่วมกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างอสิ ระ แล้วบันทกึ
คำตอบของตนเองลงในสมดุ ประจำตวั นกั เรียน
3. ครูเปดิ วดี ิทัศนเ์ กย่ี วกบั ธรณพี ิบัติภัย จาก https://www.youtube.com/watch?v=
Cq3Bk1qwvXA ให้นักเรยี นดู จากนนั้ ครูตัง้ ประเดน็ คำถามกระตุ้นความคิดนักเรียน
โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นโดยไมม่ ีการเฉลยวา่ ถูกหรือผิด ดังน้ี
• ธรณีพิบัติภยั ท่เี กิดขึ้นภายในโลกของเรามีอะไรบ้าง
(แนวตอบ : ภเู ขาไฟระเบิด แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ นำ้ ทว่ ม ดินถลม่ )
• ธรณพี บิ ัติภัยท่เี กิดข้ึนในประเทศไทยมีอะไรบ้าง
(แนวตอบ : แผน่ ดนิ ไหว สึนามิ นำ้ ท่วม ดนิ ถล่ม หลมุ ยุบ)
4. ครถู ามคำถาม Key Question จากหนังสือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก
เพ่ือเช่อื มโยงเข้าสูก่ ารเรยี นการสอน
ข้นั สอน
ขนั้ รู้ (Knowledge)
1. นักเรยี นนบั จำนวน 1-6 วนไปเรื่อย ๆ จนครบทุกคน เพื่อแบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุม่ กล่มุ ละ 6 คน
โดยใหค้ นท่ีนับจำนวนเดยี วกันให้อยู่กล่มุ เดยี วกนั จากน้นั ให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกนั ศึกษา
กิจกรรม จำลองการระเบิดของภูเขาไฟ จากใบกิจกรรม เรื่อง จำลองการระเบิดของภูเขาไฟ
โดยครูใชร้ ปู แบบการเรียนรูแ้ บบร่วมมอื มาจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชิกแต่ละคน
ภายในกลุ่มมบี ทบาทหนา้ ท่ีของตนเองดังน้ี
• สมาชกิ คนที่ 1-2 ทำหนา้ ที่เตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมจำลองการระเบิด
ของภเู ขาไฟ
• สมาชิกคนที่ 3-4 ทำหนา้ ที่อ่านวธิ ีปฏิบตั ิกจิ กรรม และนำมาอธิบายให้สมาชกิ ในกล่มุ ฟงั
• สมาชกิ คนที่ 5-6 ทำหน้าที่บันทกึ ผลการปฏิบัติกจิ กรรมลงในใบกิจกรรม
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมินการปฏิบัติกิจกรรม)
2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามขนั้ ตอน จากใบกิจกรรม เร่อื ง จำลองการระเบดิ ของ
ภเู ขาไฟ
3. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั แลกเปล่ียนความรูแ้ ละวิเคราะห์ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม แล้วอภิปรายผล
ร่วมกนั
4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหน้าชนั้ เรยี น ในระหว่างที่นักเรยี น
นำเสนอ ครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมีความเข้าใจที่ถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคำถามท้ายกจิ กรรม จำลองการระเบิดของภเู ขาไฟ โดยใหน้ ักเรยี น
แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหาคำตอบ จากน้นั ครสู มุ่ นกั เรียน 2-3 กลมุ่
ออกมานำเสนอคำตอบของกล่มุ ตนเองหน้าช้ันเรยี น
6. เมือ่ นกั เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรียบร้อยแลว้ นกั เรยี นและครรู ่วมกนั
อภิปรายผลท้ายกจิ กรรม จำลองการระเบิดของภูเขาไฟ และเฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม
7. ครตู ัง้ ประเดน็ คำถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี น โดยให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภิปรายแสดง
ความคิดเหน็ เพื่อหาคำตอบ ดังน้ี
• เม่ือปลอ่ ยนิ้วออกจากปากขวดน้ำอดั ลมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และเมื่อเปรียบเทยี บ
กับการระเบิดของภเู ขาไฟจะมลี กั ษณะอยา่ งไร
(แนวตอบ : เม่อื ปล่อยนิว้ ออกจากปากขวดนำ้ อัดลม น้ำอดั ลมจะพ่งุ ข้นึ มาลน้ ปากขวด
ซ่ึงเปรียบเทยี บได้กบั การเคล่ือนทข่ี องแก๊สออกจากแมกมา ซึง่ ทำใหเ้ กิดการปะทุของภูเขาไฟ)
• ระหวา่ งนมขน้ หวานกับน้ำเปลา่ สารชนิดใดสามารถเปา่ ลมลงไปได้ง่ายกวา่ กัน และเม่ือ
เปรยี บเทยี บกบั การระเบิดของภูเขาไฟจะมลี ักษณะอย่างไร
(แนวตอบ : สามารถเป่าลมลงไปในน้ำได้ง่ายกวา่ ในนมข้นหวาน โดยเมือ่ เป่าลมลงไปในน้ำจะเกิด
ฟองอากาศที่ทำใหน้ ้ำกระเพ่ือมเลก็ น้อย เปรียบไดก้ ับแมกมาทมี่ คี วามหนืดน้อย แกส๊ จะเคลอื่ น
ออกจากแมกมาได้ง่าย สง่ ผลใหเ้ กดิ ภูเขาไฟที่มกี ารปะทุไมร่ ุนแรง ในทางกลับกนั เม่ือเป่าลมลงไป
ในนมข้นหวานจะต้องใชแ้ รงเป่ามาก เกิดฟองอากาศทที่ ำใหน้ มขน้ หวานกระเพื่อมมาก เปรียบได้
กับแมกมาท่ีมคี วามหนืดมาก แก๊สเคล่ือนออกจากแมกมาได้ยาก ทำให้เกิดภเู ขาไฟทีม่ กี ารปะทุ
รนุ แรงมาก)
8. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวา่ “ภเู ขาไฟนั้นมรี ูปรา่ งแตกตา่ งกนั โดยขึ้นอยกู่ ับความรนุ แรง
ของการระเบิด”
ชัว่ โมงท่ี 2
ขั้นเข้าใจ (Understanding)
9. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ตามความสมคั รใจ จากน้ันให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษา
ค้นควา้ ข้อมลู เกยี่ วกับประเภทของภเู ขาไฟ จากหนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลง
ภายในโลก หรอื แหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต โดยใหส้ มาชิกภายในกลมุ่ แบง่ หน้าท่กี ัน
ศึกษาคนละ 1 เร่ือง ซึ่งมีหวั ข้อ ดงั น้ี
• คนที่ 1 ศกึ ษาภเู ขาไฟรูปโล่
• คนที่ 2 ศกึ ษาภเู ขาไฟรปู กรวย
• คนท่ี 3 ศึกษาภเู ขาไฟรปู กรวยสลับช้ัน
10. สมาชิกภายในกลมุ่ นำเรื่องทีต่ นเองศกึ ษาคน้ คว้ามาอธิบายใหเ้ พื่อนในกลุ่มฟงั จากน้นั ร่วมกนั สรุป
ขอ้ มลู ที่ไดล้ งในสมุดประจำตัวนกั เรยี น
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ )
11. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม (กลุ่มเดิม) จากช่ัวโมงทีผ่ า่ นมา จากนั้นครแู จง้ จุดประสงค์ของกจิ กรรม สำรวจ
ภเู ขาไฟบนโลก ให้นักเรียนทราบเพือ่ เปน็ แนวทางการปฏิบัตกิ ิจกรรมท่ถี กู ต้อง
12. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศกึ ษากิจกรรม สำรวจภูเขาไฟบนโลก จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 กระบวนการ
เปลีย่ นแปลงภายในโลก โดยครใู ช้รูปแบบการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื มาจดั กระบวนการเรียนรู้
โดยกำหนดให้สมาชกิ แต่ละคนภายในกลุ่มมบี ทบาทหน้าที่ของตนเอง ดังนี้
• สมาชกิ คนท่ี 1-2 ทำหน้าท่ีเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการปฏบิ ัติกิจกรรมสำรวจภเู ขาไฟ
บนโลก
• สมาชกิ คนท่ี 3-4 ทำหน้าที่อา่ นวธิ ีปฏิบัตกิ ิจกรรม และนำมาอธิบายให้สมาชิกในกลุ่มฟงั
• สมาชิกคนที่ 5-6 ทำหน้าท่ีบนั ทึกผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรียน
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม)
13. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันปฏบิ ัติกิจกรรมตามข้ันตอน จากหนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลก
14. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันแลกเปลี่ยนความรแู้ ละวเิ คราะหผ์ ลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม แลว้ อภปิ รายผล
รว่ มกนั
ชว่ั โมงท่ี 3
15. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหน้าช้นั เรยี น ในระหวา่ งที่นักเรียน
นำเสนอ ครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ เพอื่ ให้นักเรียนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน)
16. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม สำรวจภเู ขาไฟบนโลก โดยใหน้ ักเรยี นแต่ละ
กล่มุ ร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพือ่ หาคำตอบ จากน้นั ครสู มุ่ นกั เรียน 2-3 กลุ่ม ออกมา
นำเสนอคำตอบของกลุม่ ตนเองหนา้ ชน้ั เรยี น
17. เม่อื นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรียบรอ้ ยแล้ว นักเรียนและครูร่วมกนั
อภิปรายผลท้ายกจิ กรรม สำรวจภเู ขาไฟบนโลก และเฉลยคำถามทา้ ยกิจกรรม
18. ครตู ้งั ประเด็นคำถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นว่า “ภเู ขาไฟระเบดิ พบได้ทกุ พื้นท่ีบนโลกหรือไม่
และบรเิ วณใดที่พบภเู ขาไฟระเบิดหนาแนน่ ”
(แนวตอบ : ภเู ขาไฟระเบิดสามารถพบได้ทุกพื้นทบ่ี นโลกทัง้ บรเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณี
และบรเิ วณกลางแผน่ ธรณี ท้ังบนแผ่นดนิ และใต้มหาสมทุ ร ซง่ึ บริเวณทพี่ บภูเขาไฟระเบิดหนาแน่น
คอื บรเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณ)ี
ข้ันลงมือทำ (Doing)
19. นักเรยี นศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู เพมิ่ เติมเก่ยี วกับบรเิ วณที่เกิดภูเขาไฟระเบดิ ผลจากการระเบิดของ
ภูเขาไฟ และแนวทางการเฝ้าระวงั และปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากภเู ขาไฟระเบดิ จากหนงั สือเรียน
รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 กระบวนการ
เปลยี่ นแปลงภายในโลก จากน้ันให้นกั เรียนทำใบงานที่ 2.4 เรอ่ื ง แนวทางการเฝ้าระวงั และ
ปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัยจากภูเขาไฟระเบิด
20. ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่า “ผลจากการระเบดิ ของภเู ขาไฟ ซ่งึ มีท้ังประโยชน์ เช่น
เป็นแหลง่ ท่องเทีย่ ว ทำใหด้ ินบริเวณภูเขาไฟมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ นำอัญมณีขน้ึ มาสู่ผวิ โลก
และโทษ เชน่ ทำให้เกดิ ฝนกรด สรา้ งความเสียหายตอ่ สง่ิ มชี ีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม สง่ ผลตอ่ การ
เปล่ยี นแปลงภมู อิ ากาศ”
21. นักเรยี นแตล่ ะคนทำแบบฝึกหดั เร่อื ง ภเู ขาไฟระเบดิ จากแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2
กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
ข้ันสรปุ
ขนั้ สรุป
1. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเนื้อหาเก่ียวกบั ภูเขาไฟระเบิด และใหค้ วามรเู้ พิ่มเติมจากคำถาม
ของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรอ่ื ง ภเู ขาไฟระเบิด ในการอธิบายเพ่มิ เตมิ
2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกบั ภูเขาไฟระเบิด ซึง่ ควรไดข้ ้อสรปุ รว่ มกนั วา่ “ภเู ขาไฟ คือ
ลักษณะธรณสี ณั ฐานทเ่ี กดิ จากการปะทุของแมกมา แกส๊ และเถ้าภูเขาไฟจากภายในโลก ภเู ขาไฟมี
รูปรา่ งแตกตา่ งกันหลายลักษณะข้ึนอย่กู ับความรุนแรงในการระเบิด มกั พบหนาแนน่ บรเิ วณ
รอยต่อระหว่างแผน่ ธรณี”
ขน้ั ประเมนิ
ขน้ั ประเมนิ
1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกล่มุ และจากการนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าชัน้ เรียน
2. ครูตรวจใบกิจกรรม เรื่อง จำลองการระเบิดของภเู ขาไฟ
3. ครตู รวจสอบผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม สำรวจภเู ขาไฟบนโลก
4. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 2.4 เรอื่ ง แนวทางการเฝ้าระวังและปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภัย
จากภูเขาไฟระเบดิ
5. ครตู รวจแบบฝึกหัด เรื่อง ภูเขาไฟระเบดิ จากแบบฝึกหัดรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปล่ยี นแปลง
ภายในโลก
7. การวัดและประเมนิ ผล
รายการวัด วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
7.1 ประเมินระหว่าง - ใบงานที่ 2.4 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- สมดุ ประจำตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การจัดกจิ กรรม แบบฝึกหดั
- ใบกจิ กรรม - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การเรยี นรู้ - แบบประเมินการปฏิบัติ - ระดับคณุ ภาพ 2
กจิ กรรม ผ่านเกณฑ์
1) ภเู ขาไฟระเบิด - ตรวจใบงานท่ี 2.4
- แบบประเมินการปฏบิ ตั ิ - ระดบั คณุ ภาพ 2
- ตรวจสมุดประจำตัว กิจกรรม ผา่ นเกณฑ์
หรอื แบบฝกึ หัด - แบบประเมนิ การ - ระดบั คณุ ภาพ 2
นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
2) ผลบนั ทึกการ - ตรวจใบกจิ กรรม
- แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบตั ิกจิ กรรม - ประเมินการปฏบิ ตั ิ การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2
จำลองการระเบิด กจิ กรรม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
- แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2
ของภูเขาไฟ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์
อันพึงประสงค์
3) ผลบนั ทกึ การ - ประเมินการปฏิบัติ
ปฏิบัติกิจกรรม กิจกรรม
สำรวจภูเขาไฟ
บนโลก
4) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ
ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบตั ิ
ปฏิบัติกจิ กรรม กจิ กรรม
5) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม
ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล
6) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม
ทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม
7) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั
อันพงึ ประสงค์ รับผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้
และม่งุ ม่นั ในการ
ทำงาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
2) แบบฝกึ หดั รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก
3) ใบกิจกรรม เร่ือง จำลองการระเบดิ ของภเู ขาไฟ
4) ใบงานท่ี 2.4 เรื่อง แนวทางการเฝ้าระวงั และปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั จากภเู ขาไฟระเบิด
5) วัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการปฏิบัตกิ ิจกรรมจำลองการระเบิดของภเู ขาไฟ
6) วสั ดอุ ปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมสำรวจภูเขาไฟบนโลก
7) PowerPoint เรือ่ ง ภเู ขาไฟระเบดิ
8) วดี ทิ ศั น์เกยี่ วกบั ธรณพี บิ ัติภยั จาก https://www.youtube.com/watch?v=Cq3Bk1qwvXA
9) สมดุ ประจำตวั นักเรยี น
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) อินเทอร์เนต็
ใบกิจกรรม
เร่อื ง จำลองการระเบดิ ของภเู ขาไฟ
วสั ดอุ ุปกรณ์
1. นำ้ อดั ลม
2. นมขน้ หวาน
3. นำ้ เปล่า
4. หลอด
5. บกี เกอร์
วธิ ีปฏบิ ัติ
1. เปิดขวดน้ำอดั ลม ใช้นิ้วปิดปากขวดให้สนิทแล้วเขย่าขวด จากนนั้ ปล่อยนวิ้ ออกจากปากขวด สงั เกต
การเปลย่ี นแปลงทเ่ี กดิ ขึ้น
2. เตรยี มนมข้นหวาน และนำ้ เปลา่ ปรมิ าตรเทา่ กัน ใสล่ งในบกี เกอร์ชนิดละ 1 บกี เกอร์
3. นำหลอดพลาสตกิ จุ่มลงไปในสารทง้ั สองแล้วเปา่ ลมเข้าไปให้เกดิ ฟองอากาศ สงั เกตและ
เปรียบเทียบการเปล่ียนแปลงทเี่ กดิ ขนึ้
บนั ทกึ ผลกิจกรรม
......................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................ ......
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
คำถามท้ายกิจกรรม
1. เม่อื ปล่อยนิว้ ออกจากปากขวดน้ำอัดลมจะเกดิ การเปลย่ี นแปลงอย่างไร และเม่ือเปรียบเทียบกบั การ
ระเบดิ ของภเู ขาไฟจะมีลกั ษณะอยา่ งไร
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................ ..............................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................... ...................
......................................................................................................................................................................
2. ระหวา่ งนมข้นหวานกับน้ำเปลา่ สารชนิดใดสามารถเป่าลมลงไปไดง้ ่ายกว่ากนั และเม่อื เปรยี บเทยี บกบั
การระเบดิ ของภูเขาไฟจะมีลกั ษณะอยา่ งไร
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................ ..............................
ใบกจิ กรรม เฉลย
เรื่อง จำลองการระเบิดของภูเขาไฟ
วสั ดุอุปกรณ์
1. นำ้ อดั ลม
2. นมขน้ หวาน
3. นำ้ เปลา่
4. หลอด
5. บีกเกอร์
วิธีปฏิบัติ
1. เปดิ ขวดน้ำอดั ลม ใชน้ ว้ิ ปิดปากขวดให้สนทิ แลว้ เขย่าขวด จากนน้ั ปลอ่ ยนวิ้ ออกจากปากขวด สงั เกต
การเปล่ยี นแปลงท่ีเกิดขึ้น
2. เตรยี มนมขน้ หวาน และนำ้ เปลา่ ปรมิ าตรเท่ากนั ใส่ลงในบีกเกอร์ชนดิ ละ 1 บีกเกอร์
3. นำหลอดพลาสติกจุ่มลงไปในสารทั้งสองแล้วเป่าลมเข้าไปให้เกิดฟองอากาศ สังเกตและ
เปรยี บเทียบการเปลยี่ นแปลงท่ีเกดิ ขึ้น
บันทึกผลกจิ กรรม
......................................................................................................................................................................
.........•....เ.ม..อื่...ป..ล...่อ..ย..น...ิ้ว..อ...อ..ก..จ...า..ก..ป...า.ก...ข..ว..ด...น..ำ้..อ...ดั ..ล..ม....น...ำ้ ..อ..ดั...ล..ม..จ...ะ..พ...ุ่ง.ข...น้ึ ..ม...า..ล..น้...ป..า..ก...ข..ว..ด.........................................
.........•....เ.ม..อื่...เ.ป...่า..ล..ม..ล...ง..ไ.ป...ใ.น...น..ำ้..เ..ป..ล...า่ ..แ..ล..ะ...น..ม...ข..้น...ห..ว..า..น...จ..ะ..เ..ก..ิด..ฟ...อ..ง..อ...า..ก..า..ศ..ท...ที่...ำ..ใ.ห...น้ ..ำ้..แ..ล...ะ..น...ม..ข..้น...ห...ว..า..น.................
.............ก..ร..ะ..เ..พ..่อื...ม....ซ..ึง่..ม..ลี...กั ..ษ...ณ...ะ..ก...า..ร..ก..ร..ะ..เ.พ...ื่อ...ม..แ..ต...ก..ต...่า..ง.ก...ัน....โ.ด...ย..ใ.ช...้แ..ร..ง..เ.ป...า่..น...อ้ ..ย..แ...ล..้ว..ท...ำ..ใ.ห...้น..ำ้ ..ก..ร..ะ..เ..พ..่ือ...ม.............
.............เ.ล..ก็...น..อ้ ...ย...แ...ต..ต่ ..้อ...ง..ใ.ช..้แ...ร..ง..เ.ป...่า.ม...า..ก..แ...ล..ว้ ..ท...ำ..ใ.ห...้น..ม...ข..น้ ...ห..ว...า.น...ก..ร..ะ..เ..พ...่ือ..ม..ม...า..ก..................................................
......................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................... ...................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. เมือ่ ปล่อยนิ้วออกจากปากขวดนำ้ อดั ลมจะเกิดการเปลย่ี นแปลงอย่างไร และเมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั การ
ระเบิดของภูเขาไฟจะมีลกั ษณะอยา่ งไร
......................................................................................................................................................................
...เ..ม..ื่อ..ป...ล...่อ..ย..น...ิ้ว..อ...อ..ก..จ...า..ก..ป...า..ก..ข...ว..ด..น...้ำ..อ..ัด...ล..ม....น...้ำ..อ..ัด...ล..ม...จ..ะ..พ...ุ่ง..ข..ึ้น...ม...า..ล..้น...ป..า..ก...ข..ว..ด....ซ...ึ่ง.เ..ป...ร..ีย..บ...เ.ท...ีย..บ...ไ.ด...้ก..ับ...ก..า...ร.....
...เ..ค..ล..่ือ...น..ท...ข่ี ..อ...ง.แ...ก..ส๊..อ...อ..ก...จ..า..ก..แ..ม...ก..ม...า...ซ...ง่ึ .ท...ำ..ใ.ห...้เ.ก...ิด..ก..า..ร..ป...ะ..ท...ขุ ..อ...ง.ภ...เู.ข...า..ไ.ฟ............................................................
........................................................................................................................................ ..............................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................... ...................
......................................................................................................................................................................
2. ระหวา่ งนมข้นหวานกับน้ำเปลา่ สารชนดิ ใดสามารถเปา่ ลมลงไปไดง้ า่ ยกวา่ กัน และเมื่อเปรียบเทยี บกบั
การระเบดิ ของภเู ขาไฟจะมลี กั ษณะอยา่ งไร
......................................................................................................................................................................
.....ส..า..ม...า..ร..ถ..เ.ป...า่..ล..ม...ล..ง..ไ.ป...ใ.น...น...ำ้ ..ไ.ด...้ง.า่..ย...ก..ว..า่..ใ.น...น...ม..ข..้น...ห...ว..า..น....โ.ด...ย..เ.ม...ือ่ ..เ.ป...่า..ล..ม...ล..ง..ไ.ป...ใ..น..น...้ำ..จ..ะ..เ.ก...ิด..ฟ...อ..ง..อ..า..ก...า..ศ..ท...ี่ท..ำ......
.....ใ..ห..้น...ำ้ ..ก..ร..ะ..เ.พ...อ่ื...ม..เ.ล...็ก..น...อ้ ..ย....เ.ป...ร..ยี ..บ...ไ.ด...้ก..บั...แ..ม..ก...ม..า..ท...ม่ี ..ีค...ว..า..ม..ห...น..ืด...น..้อ...ย....แ..ก..๊ส...จ..ะ..เ.ค...ล..ื่อ..น...อ..อ...ก..จ..า..ก...แ..ม..ก...ม..า..ไ..ด..้ง..า่..ย.....
.....ส..ง่..ผ...ล..ใ.ห...เ้.ก...ิด..ภ...เู .ข..า..ไ..ฟ..ท...่มี...ีก..า..ร..ป..ะ...ท..ไุ..ม..่ร..นุ...แ..ร..ง....ใ.น...ท..า..ง..ก..ล...บั ..ก...ัน..เ..ม..อื่..เ..ป..่า..ล...ม..ล..ง..ไ..ป..ใ..น..น...ม..ข...้น..ห...ว..า..น...จ..ะ..ต...้อ..ง..ใ.ช...แ้ ..ร..ง....
.....เ.ป...่า..ม...า..ก....เ.ก..ิด...ฟ...อ..ง..อ...า..ก..า..ศ...ท..ี่.ท..ำ..ใ..ห...้น..ม...ข..้น...ห...ว..า..น...ก..ร...ะ..เ.พ...ื่อ..ม...ม...า..ก....เ.ป...ร..ีย..บ...ไ..ด..้ก..ั.บ..แ...ม..ก...ม..า..ท...่ีม...ีค..ว...า..ม..ห...น...ืด..ม...า..ก....
.....แ..ก...ส๊ ..เ.ค...ล..่อื..น...อ..อ...ก..จ..า..ก...แ..ม...ก..ม..า..ไ..ด..ย้...า.ก....ท...ำ..ใ..ห..เ้.ก...ดิ ..ภ...เู .ข..า..ไ..ฟ...ท..่ีม...ีก..า..ร..ป...ะ..ท..ุร..นุ...แ..ร..ง..ม...า..ก............................................
........................................................................................................................................ ..............................
......................................................................................................................................................................
ใบงานที่ 2.4
เร่อื ง แนวทางการเฝา้ ระวงั และปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั จากภเู ขาไฟระเบิด
คำชี้แจง : ให้นกั เรียนเขยี นสรปุ ความรู้เกยี่ วกับข้อมูลแนวทางการเฝ้าระวังและปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั จาก
ภเู ขาไฟระเบดิ ในรูปแบบของผงั มโนทศั น์
ใบงานที่ 2.4 เฉลย
เรือ่ ง แนวทางการเฝ้าระวงั และปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากภูเขาไฟระเบิด
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเขยี นสรุปความรูเ้ กี่ยวกับขอ้ มูลแนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั จาก
ภเู ขาไฟระเบดิ ในรปู แบบของผังมโนทศั น์
9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์
ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 15
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ (ว33101)
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6/1-4 ภาคเรยี นที่ 1/2564
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก เวลา 22 ช่ัวโมง
เรอื่ ง แผน่ ดนิ ไหว เวลา 2 ชั่วโมง
ผ้สู อน นางสาวรุจริ าวรรณ จนั สวา่ ง โรงเรยี นบา้ นแพงพิทยาคม
วนั ท.ี่ ......................เดือน..........................................ปี................................
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด
ว 3.2 ม.6/5 อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหวรวมท้ัง
สบื คน้ ขอ้ มลู พ้ืนทเี่ ส่ยี งภัย ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัย
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผน่ ดินไหว (K)
2. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเปลีย่ นแปลงของสง่ิ แวดลอ้ มเมื่อเกดิ แผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้องและเปน็ ลำดับ
ขั้นตอน (P)
3. ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัยจากแผน่ ดินไหวได้ (P)
4. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรู้อยากเหน็ และทำงานร่วมกับผูอ้ ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
• แผ่นดินไหวเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานที่สะสม
ไว้ ข อ ง เป ลื อ ก โ ล ก ใ น รู ป ข อ ง ค ล่ื น ไ ห ว ส ะ เทื อ น
แผ่นดินไหวมีขนาดและความรุนแรงแตกต่างกัน
มักเกิดข้ึนบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณี และพ้ืนท่ี
ภายใตอ้ ิทธิพลของการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณี ทำให้
บริเวณดังกล่าวเป็นพ้ืนท่ีเสี่ยงภัยแผ่นดินไห ว
ซึ่งส่งผลให้ส่ิงก่อสร้างเสียหาย เกิดอันตรายต่อชีวิต
และทรพั ย์สิน จึงต้องศึกษาแนวทางในการเฝ้าระวัง
และการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัย
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
แผ่นดินไหว (earthquake) เกิดจากการปลดปลอ่ ยพลังงานที่ถูกสะสมไว้ภายในโลกออกมาในรูปของ
คลื่นไหวสะเทือน ซึ่งมีสาเหตุจากกระบวนการตามธรรมชาติ และการกระทำของมนุษย์ บริเวณท่ีเกิด
แผน่ ดนิ ไหวมักจะเกดิ บริเวณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณี และเกดิ บริเวณทมี่ ีการเลื่อนตัวของรอยเลอ่ื น
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ยั รับผิดชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทกั ษะการสังเกต 3. มุง่ มั่นในการทำงาน
2) ทกั ษะการทดลอง
3) ทักษะการทำงานร่วมกนั
4) ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้
5) ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)
ช่วั โมงที่ 1
ขัน้ นำ
ข้นั การใช้ความรู้เดิมเช่ือมโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
1. ครทู บทวนความรูเ้ ดิมของนักเรียนเกยี่ วกบั ภเู ขาไฟระเบิด จากน้ันครูเปดิ วีดทิ ัศน์เก่ียวกับ
แผ่นดินไหว จาก https://www.youtube.com/watch?v=ABWrMBMG7mo ให้นักเรียนดู
2. ครูตัง้ ประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรยี น โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนรว่ มกนั อภิปรายแสดงความ
คิดเหน็ โดยไมม่ ีการเฉลยว่าถูกหรอื ผิด ดงั น้ี
• นกั เรยี นคิดว่า ประเทศไทยเคยเกิดแผน่ ดนิ ไหวหรือไม่
(แนวตอบ : คำตอบข้นึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ครผู ูส้ อน เช่น แผ่นดินไหวเคยเกดิ ข้ึนในประเทศไทย
หลายครง้ั ตามรายงานขา่ วทางโทรทศั น์ หรือจากรายงานการเกดิ แผ่นดนิ ไหวของกรม
อุตนุ ิยมวทิ ยา)
• แผน่ ดินไหวเกิดขน้ึ ได้อย่างไร
(แนวตอบ : แผ่นดนิ ไหวเกดิ จากการปลดปล่อยพลังงานท่ีสะสมไวใ้ นเปลือกโลกออกมาในรปู ของ
คลน่ื ไหวสะเทือน ซ่งึ มีสาเหตุจากกระบวนการในธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์)
ขนั้ สอน
ข้ันรู้ (Knowledge)
1. นกั เรียนแตล่ ะคนศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เก่ยี วกบั การเกิดแผน่ ดินไหว จากหนังสือเรียนรายวชิ า
พื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก หรือQR Code เร่อื ง แผน่ ดนิ ไหว จากนนั้ เขยี นสรปุ
ความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ ลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น
2. ครูตัง้ ประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรยี นว่า “ศนู ยเ์ กดิ แผ่นดนิ ไหวกับจดุ เหนือศนู ยเ์ กิด
แผน่ ดินไหวคอื บรเิ วณเดยี วกันหรือไม่ อยา่ งไร”
(แนวตอบ : ศูนยเ์ กิดแผ่นดินไหว คือ ตำแหนง่ ภายในโลกท่ีปลดปลอ่ ยพลังงานออกมาในรปู คลื่น
ไหวสะเทือน สว่ นจุดเหนือศนู ย์เกิดแผน่ ดนิ ไหว คือ ตำแหน่งท่อี ยูบ่ นผวิ โลกซ่ึงอยู่เหนอื ศูนย์เกิด
แผน่ ดินไหว)
3. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ จากน้นั ครูแจ้งจดุ ประสงคข์ องกจิ กรรม
การเปลย่ี นแปลงของส่งิ แวดล้อมเม่ือเกิดแผน่ ดนิ ไหว ให้นกั เรียนทราบเพื่อเปน็ แนวทางการปฏบิ ัติ
กจิ กรรมท่ีถูกต้อง
4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษากิจกรรม การเปลยี่ นแปลงของสิง่ แวดล้อมเม่ือเกดิ แผ่นดินไหว
จากหนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก โดยครูใชร้ ูปแบบการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื
มาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายในกลุ่มมบี ทบาทหน้าทีข่ องตนเอง
ดงั นี้
• สมาชกิ คนที่ 1-2 ทำหนา้ ทเี่ ตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ใี่ ช้ในการปฏบิ ัติกิจกรรมการเปล่ียนแปลง
ของสิ่งแวดล้อมเมอ่ื เกดิ แผ่นดนิ ไหว
• สมาชกิ คนท่ี 3-4 ทำหนา้ ท่ีอ่านวิธีปฏบิ ัตกิ ิจกรรม และนำมาอธิบายให้สมาชกิ ในกลมุ่ ฟัง
• สมาชิกคนท่ี 5-6 ทำหนา้ ที่บนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม)
5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามข้ันตอน จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลก
6. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั แลกเปล่ยี นความรแู้ ละวเิ คราะหผ์ ลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม แล้วอภปิ รายผล
รว่ มกนั
7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมหนา้ ชั้นเรยี น ในระหวา่ งทีน่ ักเรยี น
นำเสนอ ครูคอยให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ เพ่อื ให้นักเรยี นมีความเข้าใจท่ีถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)
8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตอบคำถามท้ายกจิ กรรม การเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ มเมื่อเกิด
แผ่นดินไหว โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเพื่อหาคำตอบ
จากนนั้ ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองหนา้ ชนั้ เรียน
9. เม่ือนกั เรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรียบร้อยแล้ว นกั เรียนและครูร่วมกนั
อภปิ รายผลทา้ ยกิจกรรม การเปลย่ี นแปลงของสง่ิ แวดล้อมเมือ่ เกิดแผน่ ดินไหว และเฉลยคำถาม
ทา้ ยกิจกรรม
ชวั่ โมงที่ 2
ข้ันเขา้ ใจ (Understanding)
10. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น 5 กลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั ตามความสมัครใจ จากน้นั ให้นักเรยี นแตล่ ะ
กลุม่ ส่งตวั แทนออกมาจับสลากเรอื่ งท่ีศกึ ษา โดยครเู ตรยี มสลากหมายเลขไวห้ นา้ ชัน้ เรียน
ซึง่ หมายเลขจะระบุเร่ืองท่ีให้นักเรียนศกึ ษา ดังนี้
• หมายเลข 1 ศกึ ษาคลน่ื ไหวสะเทือน
• หมายเลข 2 ศึกษาการตรวจวัดแผน่ ดินไหว
• หมายเลข 3 ศกึ ษาขนาดของแผ่นดนิ ไหว
• หมายเลข 4 ศึกษาความรนุ แรงของแผ่นดินไหว
• หมายเลข 5 ศึกษาบริเวณที่เกิดแผน่ ดินไหว
11. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันศกึ ษาค้นควา้ ข้อมลู เร่ืองท่ีกลุ่มตนเองจบั สลากได้ จากหนังสือเรยี น
รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2
กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก หรือแหลง่ การเรยี นร้ตู ่าง ๆ เชน่ อนิ เทอร์เน็ต ห้องสมดุ
จากน้นั ร่วมกันสรปุ ความรู้ท่ีได้จากการศึกษาคน้ ควา้ ลงในสมุดประจำตัวนักเรยี น
(หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ )
12. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาหน้าชั้นเรียน ในระหว่างที่นักเรียนนำเสนอ ครูคอย
ให้ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ เพอื่ ให้นักเรยี นมคี วามเข้าใจที่ถูกตอ้ ง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
13. ครูต้ังประเด็นคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั
อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เพ่อื หาคำตอบ ดงั นี้
• คลืน่ ไหวสะเทือนคืออะไร แบ่งออกเปน็ ก่ีประเภท อะไรบ้าง
(แนวตอบ : คลน่ื ไหวสะเทือน แบ่งออกเป็น 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ คลืน่ ในตัวกลาง และคลืน่ พ้นื ผิว)
• คล่นื เลฟิ กบั คลน่ื เรย์ลีเมือ่ เคล่ือนท่ผี ่านตวั กลางจะทำใหอ้ นุภาคตัวกลางมีลักษณะอย่างไร
(แนวตอบ : คล่ืนเลิฟทำใหอ้ นภุ าคตวั กลางเคล่อื นทต่ี ั้งฉากกับทศิ ทางการเคลือ่ นท่ีของคลื่น
สว่ นคล่ืนเรยล์ ีทำใหอ้ นภุ าคตวั กลางเคลอ่ื นที่เปน็ วงรแี ละหมนุ สวนทางกบั การเคลอ่ื นทีข่ อง
คลนื่ )
• การตรวจวดั แผน่ ดินไหวใชเ้ ครอ่ื งมอื ใด
(แนวตอบ : เครือ่ งวัดคล่นื ไหวสะเทือน (seismograph))
• ขนาดแผน่ ดนิ ไหวคอื ปริมาณท่แี สดงถึงส่งิ ใด
(แนวตอบ : ขนาดแผ่นดนิ ไหว คือ ปริมาณพลังงานทเ่ี ปลือกโลกปลดปล่อยออกมาเมื่อเกดิ
แผน่ ดินไหว)
• ขนาดแผน่ ดนิ ไหวมีหน่วยใด
(แนวตอบ : มาตราโมเมนต์แผ่นดินไหว (moment magnitude scale))
• ความรนุ แรงของแผน่ ดินไหวคือปริมาณท่ีแสดงถึงส่งิ ใด
(แนวตอบ : ความรุนแรงของแผน่ ดนิ ไหว คือ ความรนุ แรงจากการส่นั สะเทอื นโดยประเมนิ จาก
ความรู้สึกถึงการสน่ั สะเทอื น ความเสียหายของส่งิ ปลูกสร้าง หรอื การเปลีย่ นแปลงสภาพภูมิ-
ประเทศ)
• แผน่ ดนิ ไหวมกั เกิดข้ึนบริเวณใด
(แนวตอบ : แนวรอยต่อของแผน่ ธรณี)
14. นักเรียนแตล่ ะคนตอบคำถามทา้ ทายการคิดข้นั สงู จากหนงั สอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลง
ภายในโลก ลงในสมดุ ประจำตัวนักเรยี น
ข้นั ลงมือทำ (Doing)
15. นักเรียนพิจารณาภาพแผนทีร่ อยเล่อื นมีพลงั ในประเทศไทย และแผนทภ่ี ัยพบิ ตั ิแผน่ ดินไหว
ในประเทศไทย จากหนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลก
และอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก จากน้นั ครูต้ังประเดน็
คำถามกระต้นุ ความคิดนักเรยี น โดยให้นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหาคำตอบ
ดงั น้ี
• จากแผนท่ีแสดงรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย นักเรียนคิดว่าบรเิ วณใดบ้างท่ีต้ังอยู่บนแนวของ
เขตรอยเลอื่ น
(แนวตอบ : บริเวณแนวด้านตะวันตกของประเทศไทยตงั้ แต่ภาคเหนือถึงภาคใต)้
• จากแผนท่ีทง้ั สองมีความสมั พันธ์กนั อยา่ งไร
(แนวตอบ : บรเิ วณทเ่ี ป็นแนวของเขตรอยเล่ือนมพี ลงั มีโอกาสเกิดภัยพิบัตแิ ผ่นดินไหวท่รี ุนแรง
มากกวา่ บรเิ วณอืน่ )
• จงั หวดั ท่นี ักเรียนอาศัยอยมู่ คี วามเส่ียงทีจ่ ะเกิดแผ่นดินไหวมากน้อยเพียงใด
(แนวตอบ : ขึน้ อยกู่ บั จังหวัดท่ีนักเรียนอาศัยอยู)่
16. นักเรยี นแต่ละคนทำใบงานที่ 2.5 เรือ่ ง แนวทางการเฝา้ ระวังและปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั จาก
แผ่นดนิ ไหว โดยศกึ ษาคน้ คว้าข้อมลู เพิม่ เตมิ จากหนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลง
ภายในโลก
17. ครมู อบหมายให้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั เรือ่ ง แผ่นดนิ ไหว จากแบบฝกึ หัดรายวชิ าพน้ื ฐาน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2
กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก เป็นการบ้านส่งช่ัวโมงถดั ไป
ข้นั สรปุ
ขัน้ สรุป
1. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเนื้อหาเก่ยี วกับแผ่นดนิ ไหว และใหค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ จากคำถามของ
นักเรียน โดยครใู ช้ PowerPoint เรอ่ื ง แผ่นดินไหว ในการอธิบายเพิ่มเตมิ
2. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกบั แผน่ ดนิ ไหว ซึ่งควรได้ข้อสรปุ รว่ มกนั ว่า “แผน่ ดินไหว คอื
การส่นั สะเทือนของแผ่นดินที่รับรไู้ ด้ ณ จดุ ใดจดุ หน่ึงบนโลก เกิดจากการปลดปล่อยพลังงานท่ี
สะสมไวใ้ นเปลือกโลกออกมาในรปู ของคลนื่ ไหวสะเทือน ซ่ึงมีสาเหตจุ ากกระบวนการในธรรมชาติ
และกิจกรรมของมนุษย์ ส่งผลใหส้ ิ่งก่อสร้างเสียหาย เกดิ อันตรายตอ่ ชวี ติ และทรัพย์สิน”
ขนั้ ประเมนิ
ขั้นประเมนิ
1. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมหนา้ ช้ันเรียน
2. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม การเปลี่ยนแปลงของส่งิ แวดลอ้ มเม่ือเกดิ แผ่นดนิ ไหว
3. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 2.5 เรอ่ื ง แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภยั จาก
แผ่นดินไหว
4. ครูตรวจแบบฝกึ หดั เร่ือง แผน่ ดนิ ไหว จากแบบฝกึ หัดรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
7. การวัดและประเมินผล
รายการวดั วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
7.1 ประเมินระหว่าง - ใบงานที่ 2.5 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- สมุดประจำตวั หรือ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การจัดกิจกรรม แบบฝกึ หดั
- แบบประเมินการปฏบิ ตั ิ - ระดับคณุ ภาพ 2
การเรยี นรู้ กจิ กรรม ผ่านเกณฑ์
1) แผ่นดินไหว - ตรวจใบงานท่ี 2.5 - แบบประเมินการ - ระดับคณุ ภาพ 2
นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
- ตรวจสมดุ ประจำตัว
- แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
หรือแบบฝึกหดั การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
2) ผลบันทึกการ - ประเมินการปฏิบัติ การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
- แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2
ปฏบิ ตั ิกิจกรรม กิจกรรม คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
อนั พึงประสงค์
การเปลย่ี นแปลง
ของสงิ่ แวดลอ้ ม
เมอื่ เกิดแผ่นดนิ ไหว
3) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ
ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏบิ ตั ิ
ปฏิบัติกิจกรรม กิจกรรม
4) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม
ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
5) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม
ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
6) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมีวินยั
อนั พงึ ประสงค์ รับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
และมุ่งม่นั ในการ
ทำงาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก
2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก
3) ใบงานที่ 2.5 เรื่อง แนวทางการเฝ้าระวังและปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภยั จากแผน่ ดนิ ไหว
4) วัสดุอุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเปล่ยี นแปลงของส่งิ แวดล้อมเมื่อเกดิ แผ่นดินไหว
5) PowerPoint เร่ือง แผน่ ดินไหว
6) QR Code เรื่อง แผ่นดินไหว
7) สลากหมายเลข
8) วีดทิ ัศนเ์ ก่ียวกับแผน่ ดินไหว จาก https://www.youtube.com/watch?v=ABWrMBMG7mo
9) สมดุ ประจำตัวนักเรยี น
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมดุ
3) อนิ เทอร์เน็ต
ใบงานท่ี 2.5
เรอ่ื ง แนวทางการเฝ้าระวงั และปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั จากแผน่ ดนิ ไหว
คำช้แี จง : ให้นักเรียนเขยี นสรปุ ความรเู้ กยี่ วกับขอ้ มลู แนวทางการเฝา้ ระวงั และปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั จาก
แผ่นดนิ ไหว ในรูปแบบของผงั มโนทศั น์
ใบงานท่ี 2.5 เฉลย
เรื่อง แนวทางการเฝา้ ระวงั และปฏิบตั ติ นให้ปลอดภัยจากแผ่นดนิ ไหว
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นสรปุ ความรเู้ กี่ยวกบั ข้อมลู แนวทางการเฝ้าระวงั และปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภัยจาก
แผน่ ดินไหว ในรปู แบบของผังมโนทศั น์
สลากหมายเลข 2
4
1
3
5
9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์
ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
แผนการจัดการเรยี นรู้ ที่ 16
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ (ว33101)
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/1-4 ภาคเรียนท่ี 1/2564
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรือ่ ง กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก เวลา 22 ชว่ั โมง
เร่ือง สนึ ามิ เวลา 2 ชั่วโมง
ผสู้ อน นางสาวรจุ ริ าวรรณ จันสว่าง โรงเรยี นบา้ นแพงพทิ ยาคม
วันที่.......................เดือน..........................................ปี................................
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั
ว 3.2 ม.6/6 อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย
ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสนึ ามิได้ (K)
2. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมสนึ ามเิ กดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไรไดอ้ ย่างถูกต้องและเป็นลำดบั ขั้นตอน (P)
3. ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั จากสนึ ามิได้ (P)
4. มคี วามสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรูอ้ ยากเห็น และทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์ (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
• สึนามิ คือ คลื่นน้ำที่เกิดจากการแทนท่ีมวลน้ำใน
ปริมาณมหาศาล ส่วนมากจะเกิดในทะเลหรือ
มหาสมุทร โดยคล่ืนมีลักษณะเฉพาะ คือ ความยาว
คลื่นมากและเคลื่อนที่ดว้ ยความเร็วสูง เมื่ออยู่กลาง
มหาสมุทรจะมีความสูงคล่นื น้อย และอาจเพ่ิมความ
สงู ขึน้ อย่างรวดเร็ว เมื่อคลื่นเคล่ือนทผ่ี ่านบริเวณน้ำ
ต้นื จงึ ทำให้พ้ืนที่บรเิ วณชายฝั่งบางบรเิ วณเป็นพ้ืนที่
เสี่ยงภัยสึนามิ ก่อให้เกิดอันตรายแก่มนุษย์และ
สิ่งก่อสร้างในบริเวณชายหาดนั้น จึงต้องศึกษา
แนวทางในการเฝ้าระวัง และการปฏิบัติตนให้
ปลอดภัย
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
สึนามิ (Tsunami) เป็นคล่ืนไหวสะเทือนท่ีเกิดขึ้นในทะเลหรือมหาสมุทร เคล่ือนท่ีด้วยความเร็วสูง
มีความยาวคล่ืนมาก ความสูงนอ้ ยเมื่ออยู่ในน้ำลกึ เมื่อคลื่นเคล่อื นที่เข้าสู่ชายฝั่งความเร็วจะลดลง ความสูง
จะเพม่ิ ขึ้น ทำใหพ้ น้ื ทบี่ รเิ วณชายฝั่งบางบรเิ วณเป็นพื้นท่ีเส่ยี งภัยสึนามิ
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
1) ทกั ษะการสังเกต 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
2) ทกั ษะการทดลอง
3) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
4) ทักษะการนำความรไู้ ปใช้
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)
ชว่ั โมงที่ 1
ข้นั นำ
ข้นั การใชค้ วามรู้เดิมเช่ือมโยงความรใู้ หม่ (Prior Knowledge)
1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรยี นเกยี่ วกับแผน่ ดินไหว โดยครูสนทนากบั นักเรยี นว่า
“จากท่ีนักเรยี นได้ศกึ ษาธรณีพบิ ัตภิ ัย เช่น ภูเขาไฟระเบดิ แผน่ ดินไหว ซึ่งธรณพี ิบัติภยั ดังกลา่ ว
ทำใหม้ นษุ ยเ์ สียชวี ติ ที่อย่อู าศัยและสงิ่ ปลกู สร้างพังทลายเสียหาย”
2. ครเู ปดิ วีดทิ ศั นเ์ กย่ี วกบั เหตุการณ์สึนามิในปี พ.ศ.2547 จากhttps://www.youtube.com/
watch?v=cAsbmYRGvFk ให้นักเรียนดู จากน้ันครูตงั้ ประเดน็ คำถามกระต้นุ ความคดิ นักเรยี น
โดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น ดังนี้
• เหตุการณด์ ังกล่าวสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างไรบา้ ง
(แนวตอบ : จากเหตกุ ารณส์ ึนามิในวนั ท่ี 26 ธนั วาคม พ.ศ. 2547 ทำให้มีผ้เู สียชวี ติ มากกว่าสอง
แสนคน ก่อใหเ้ กิดความเสยี หายตอ่ ทรัพย์สิน อาคาร บ้านเรือน สงิ่ ปลูกสร้างตา่ ง ๆ และสภาพ
ภูมิประเทศบริเวณทไี่ ดร้ บั ผลกระทบ)
• เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดข้นึ ได้อย่างไร
(แนวตอบ : เกดิ จากสนึ ามเิ คล่ือนทีเ่ ข้าส่ชู ายฝัง่ และความเสียหายเกิดจากการเคลื่อนทข่ี องมวล
นำ้ เขา้ ปะทะกบั ส่งิ ปลกู สรา้ งและสิ่งแวดล้อมบริเวณชายฝง่ั )
• นกั เรียนคดิ ว่าสนึ ามเิ กิดข้ึนได้อย่างไร
(แนวตอบ : เกดิ จากการแทนที่มวลนำ้ ในปริมาณมาก ซ่ึงเกิดได้จากหลายสาเหตุ เชน่
การเคล่ือนทขี่ องเปลือกโลกในแนวด่ิง อุกกาบาตตกลงในมหาสมทุ ร แผ่นดนิ ถลม่ ขนาดใหญ่
ใต้มหาสมทุ ร)
ฃ ขน้ั สอน
ขนั้ รู้ (Knowledge)
1. นักเรยี นจับคู่กับเพอื่ นในชนั้ เรียน ตามความสมัครใจ จากน้นั ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะค่รู ่วมกันศกึ ษา
ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเกดิ สนึ ามิ และสาเหตุที่ทำให้เกดิ สนึ ามิ จากหนังสอื เรียน
รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการ
เรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก หรอื แหลง่ การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ เชน่ อินเทอร์เนต็
2. นกั เรียนแตล่ ะคูร่ ่วมกันอภิปรายเรอื่ งท่ีได้ศึกษา จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนเขยี นสรปุ ความรูท้ ่ไี ด้
จากการศึกษาคน้ ควา้ ลงในสมุดประจำตวั นักเรยี น
3. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 6 คน ตามความสมคั รใจ จากนนั้ ครแู จ้งจดุ ประสงค์ของกิจกรรม สนึ ามิ
เกดิ ขึ้นไดอ้ ย่างไร ให้นักเรียนทราบเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติกจิ กรรมทถี่ กู ตอ้ ง
4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษากิจกรรม สนึ ามเิ กดิ ข้ึนได้อย่างไร จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการ
เปลย่ี นแปลงภายในโลก โดยครใู ชร้ ปู แบบการเรยี นรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรยี นรู้
โดยกำหนดให้สมาชกิ แต่ละคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหนา้ ที่ของตนเอง ดงั นี้
• สมาชิกคนที่ 1-2 ทำหนา้ ทเ่ี ตรียมวสั ดุอุปกรณท์ ่ีใช้ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมสึนามิเกดิ ขน้ึ ได้
อย่างไร
• สมาชิกคนที่ 3-4 ทำหนา้ ที่อา่ นวธิ ีปฏบิ ัตกิ จิ กรรม และนำมาอธิบายให้สมาชิกในกลมุ่ ฟัง
• สมาชกิ คนท่ี 5-6 ทำหน้าท่ีบันทึกผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมลงในสมดุ ประจำตัวนักเรียน
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การปฏิบัตกิ จิ กรรม)
5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามข้ันตอน จากหนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 กระบวนการ
เปล่ียนแปลงภายในโลก
6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันแลกเปลี่ยนความรู้และวิเคราะหผ์ ลการปฏบิ ัติกิจกรรม แล้วอภปิ รายผล
ร่วมกนั
7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหน้าช้ันเรียน ในระหวา่ งทีน่ ักเรียน
นำเสนอ ครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพ่ือใหน้ ักเรยี นมีความเขา้ ใจท่ีถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน)
8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตอบคำถามท้ายกิจกรรม สึนามเิ กดิ ขึ้นได้อยา่ งไร โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะ
กลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหาคำตอบ จากน้นั ครูสมุ่ นกั เรียน 2-3 กลุ่ม ออกมา
นำเสนอคำตอบของกล่มุ ตนเองหนา้ ชั้นเรยี น
9. เมอ่ื นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรียบรอ้ ยแล้ว นกั เรยี นและครรู ่วมกนั
อภปิ รายผลทา้ ยกจิ กรรม สึนามเิ กิดขน้ึ ได้อยา่ งไร และเฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม
10. ครตู ั้งประเดน็ คำถามกระตนุ้ ความคิดนักเรียน โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนรว่ มกันอภิปรายแสดง
ความคิดเหน็ เพอ่ื หาคำตอบ ดังนี้
• เม่อื หย่อนวัตถุลงในตู้กระจกจะเกดิ การเปลีย่ นแปลงอยา่ งไร และถ้าเปรียบเทยี บกับการเกิด
สึนามิได้อยา่ งไร
(แนวตอบ : เม่ือหย่อนวตั ุลงในตู้กระจก วัตถุตกลงไปในน้ำซงึ่ เกิดการแทนท่ีมวลนำ้ ทำให้เกิด
คลื่นนำ้ เคลือ่ นที่ออกไปทุกทศิ ทาง ซ่งึ เปรยี บไดก้ บั การเกิดสึนามใิ นธรรมชาต)ิ
• วัตถุทห่ี ย่อนลงไปในตู้กระจกเปรยี บเทยี บได้กับสิ่งใดในธรรมชาติ และสึนามิยงั เกดิ จากสาเหตอุ น่ื
ได้หรือไม่
(แนวตอบ : วตั ถทุ ห่ี ย่อนลงไปในตูก้ ระจกเปรยี บไดก้ บั อุกกาบาตที่ตกลงในมหาสมทุ ร ซึ่งเปน็
สาเหตุหนึง่ ท่ีทำให้เกดิ สึนามิได้ และสึนามยิ ังเกดิ จากสาเหตุอ่ืนได้อกี เช่น แผน่ ดินไหวใต้ทะเล
ภเู ขาไฟระเบิดใตท้ ะเล แผ่นดนิ ถลม่ ขนาดใหญ่ใต้ทะเล ซึ่งทำใหเ้ กดิ การแทนท่ีมวลนำ้ ในปริมาณ
มหาศาล)
ชั่วโมงที่ 2
ขนั้ เข้าใจ (Understanding)
11. นกั เรยี นจบั คู่ (คเู่ ดมิ ) จากชวั่ โมงท่ีผา่ นมา จากนน้ั ให้นักเรียนแต่ละคู่รว่ มกนั ศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูล
เก่ยี วกบั ระบบเตอื นภัยสนึ ามิ และแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภัยจากสนึ ามิ
จากหนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก หรือแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เชน่
อนิ เทอรเ์ นต็
12. นักเรยี นแต่ละครู่ ว่ มกันอภปิ รายเร่อื งทีไ่ ดศ้ ึกษา จากน้ันใหน้ กั เรยี นแต่ละคนเขียนสรุปความรูท้ ไ่ี ด้
จากการศึกษาคน้ คว้าลงในสมุดประจำตวั นักเรียน
13. ครูสุ่มนักเรยี น 4 คู่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาหนา้ ชนั้ เรยี น ในระหว่างทนี่ ักเรียนนำเสนอ
ครูคอยใหข้ อ้ เสนอแนะเพิม่ เติม เพื่อให้นกั เรยี นมีความเขา้ ใจท่ถี กู ต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
14. ครูตัง้ ประเด็นคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกัน
อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพ่อื หาคำตอบ ดังน้ี
• บริเวณทค่ี วามลกึ สึนามิมีลกั ษณะเป็นอย่างไร
(แนวตอบ : ความสูงคลน่ื น้อย ความยาวคลนื่ มาก และเคล่อื นที่ดว้ ยความเรว็ สงู )
• นักเรยี นจะทราบได้อย่างไรวา่ เกดิ ข้ึนสนึ ามิขึน้ ในมหาสมทุ ร
(แนวตอบ : หน่วยงานของรฐั ในหลายประเทศมกี ารติดต้ังเคร่ืองมือตรวจวดั ในมหาสมุทร
และมรี ะบบเตอื นภยั เพอ่ื แจง้ ใหป้ ระชาชนอพยพไดท้ นั ก่อนทส่ี นึ ามจิ ะเคลื่อนทเี่ ขา้ ส่ชู ายฝ่งั )
• หากเกดิ สนึ ามจิ ะมีแนวทางการเฝ้าระวัง และการปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภยั ไดอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ : อพยพไปอยู่ในพ้ืนที่ปลอดภัย หรอื สถานทส่ี งู เช่น อาคารสูง ต้นไม้ แต่หากอย่ใู นเรือ
ให้นำเรือออกไปบริเวณน้ำลกึ และรอจนกว่าเหตกุ ารณจ์ ะสงบจึงกลับเขา้ ฝ่งั รวมทั้งติดตาม
ขา่ วสารจากแหลง่ ข้อมูลที่มคี วามน่าเชอื่ ถือ)
• ธรณีพิบตั ิภัยสง่ ผลกระทบตอ่ มนษุ ยใ์ นดา้ นใดบา้ ง
(แนวตอบ : ธรณีพิบตั ภิ ยั ทำให้มนุษย์ และสิ่งมชี ีวติ อนื่ ๆ เสียชวี ิตเปน็ จำนวนมาก ทีอ่ ยู่อาศยั
และสิ่งปลูกสร้างตา่ ง ๆ พงั ทลายเสียหาย และยงั ทำให้เกิดการเปลย่ี นแปลงของสภาพภูมิ
ประเทศ นอกจากนย้ี ังสง่ ผลระยะยาว เชน่ การเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศของโลก)
ข้ันลงมือทำ (Doing)
15. นกั เรยี นทำ Topic Questions เรอื่ ง ธรณีพบิ ตั ิภยั จากหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลง
ภายในโลก ลงในสมุดประจำตวั นักเรียน
16. ครสู ุ่มเลขทนี่ ักเรยี น 5 คน ออกมานำเสนอคำตอบของตนเองหน้าชน้ั เรียน โดยใหเ้ พื่อนในช้ันเรียน
ร่วมกนั พิจารณาวา่ คำตอบถูกตอ้ งหรอื ไม่ จากนน้ั ครูเฉลยคำตอบท่ีถกู ต้องใหน้ ักเรยี น
17. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝกึ หดั เร่ือง สนึ ามิ จากแบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2
กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก เปน็ การบ้านสง่ ชวั่ โมงถดั ไป
ขั้นสรุป
ขั้นสรปุ
1. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามเนื้อหาเกยี่ วกับสึนามิ และให้ความรู้เพ่ิมเติมจากคำถามของ
นักเรยี น โดยครูใช้ PowerPoint เรื่อง สนึ ามิ ในการอธิบายเพิม่ เติม
2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเก่ยี วกบั สนึ ามิ ซึ่งควรไดข้ ้อสรุปรว่ มกันวา่ “สนึ ามิ คือ คลนื่ นำ้ ทเ่ี กดิ
จากการแทนที่มวลนำ้ ในปริมาณมหาศาล ส่วนมากจะเกดิ ในทะเลหรือมหาสมุทร โดยคลื่นมี
ลักษณะเฉพาะ คือ ความยาวคล่ืนมากและเคลื่อนท่ดี ้วยความเรว็ สงู เม่ืออยู่กลางมหาสมุทรจะมี
ความสงู คลื่นน้อยและอาจเพ่ิมความสูงขึน้ อยา่ งรวดเร็วเม่ือคลืน่ เคล่อื นทผ่ี ่านบรเิ วณน้ำตื้น จึงทำให้