The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 รวมทุกแผน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wanrujirawan, 2021-06-20 11:01:16

แผนวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 รวมทุกแผน

แผนวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 รวมทุกแผน

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งม่ันในการทำงาน

2) ทักษะการทดลอง

3) ทักษะการวเิ คราะห์

4) ทกั ษะการสอื่ สาร

5) ทักษะการทำงานร่วมกนั

6) ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้

7) ทักษะการสร้างแบบจำลอง

8) ทกั ษะการจัดกระทำและสอ่ื ความหมายข้อมูล

9) ทักษะการตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุป

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- การประดิษฐ์ชนิ้ งานเกีย่ วกับกระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

116

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

6. การวัดและการประเมินผล

รายการวดั วธิ วี ัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน

6.1 การประเมินชิ้นงาน/

ภาระงาน (รวบยอด)

- การประดิษฐ์ชน้ิ งาน - ตรวจชิน้ งาน - แบบประเมนิ ชิน้ งาน/ - ระดบั คุณภาพ 2

กระบวนการ สงิ่ ประดษิ ฐ์ ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์

เปล่ยี นแปลงภายใน กระบวนการ

โลก เปลย่ี นแปลงภายใน

โลก

6.2 การประเมนิ กอ่ นเรยี น

- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมนิ ตามสภาพจริง

กอ่ นเรียน หนว่ ยการ ก่อนเรียน หน่วยการ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2

เรียนรู้ที่ 2 เรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการ

กระบวนการ กระบวนการ เปล่ียนแปลงภายในโลก

เปลี่ยนแปลงภายใน เปล่ยี นแปลงภายใน

โลก โลก

6.3 การประเมนิ ระหวา่ ง

การจัดกจิ กรรม

1) การแบง่ โครงสร้าง - ตรวจใบงานท่ี 2.1 - ใบงานที่ 2.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

โลกตาม - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมุดประจำตัว หรอื - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

องคป์ ระกอบทางเคมี หรือแบบฝกึ หดั แบบฝกึ หัด

2) ผลบันทึกการปฏบิ ัติ - ประเมินการปฏิบัติ - แบบประเมินการปฏบิ ตั ิ - ระดบั คุณภาพ 2

กจิ กรรมแบบจำลอง กิจกรรม กจิ กรรม ผ่านเกณฑ์

โครงสร้างโลกตาม

องคป์ ระกอบทาง

เคมี

3) การแบง่ โครงสรา้ ง - ตรวจใบงานที่ 2.2 - ใบงานที่ 2.2 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

โลกตามสมบตั ิ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมดุ ประจำตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

เชิงกล หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัด

117

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

รายการวดั วิธีวัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน
4) ผลบนั ทกึ การปฏบิ ัติ - ประเมนิ การปฏิบัติ
กจิ กรรม - แบบประเมนิ การปฏิบตั ิ - ระดับคุณภาพ 2
กิจกรรมการศึกษา
โครงสรา้ งโลก - ประเมินการปฏบิ ัติ กิจกรรม ผ่านเกณฑ์
โดยใชข้ อ้ มูล กจิ กรรม
คล่ืนไหวสะเทือน - แบบประเมินการปฏบิ ัติ - ระดบั คุณภาพ 2
5) ผลบนั ทกึ การปฏบิ ตั ิ - ตรวจสมุดประจำตัว
กิจกรรมแบบจำลอง หรอื แบบฝึกหัด กจิ กรรม ผ่านเกณฑ์
โครงสรา้ งโลกตาม
สมบตั เิ ชิงกล - ประเมินการปฏิบัติ - สมุดประจำตัว หรือ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
6) แนวคิดทฤษฎี กจิ กรรม แบบฝกึ หัด
ทวปี เลือ่ นและ
หลกั ฐานสนับสนุน - ตรวจสมุดประจำตวั - แบบประเมนิ การปฏบิ ัติ - ระดบั คณุ ภาพ 2
7) ผลบันทึกการปฏิบัติ หรือแบบฝึกหดั
กจิ กรรมการอยู่ติด กิจกรรม ผ่านเกณฑ์
กนั ของทวปี ในอดีต - ตรวจใบงานท่ี 2.3
8) แนวคิดทฤษฎีทวีป - ตรวจสมุดประจำตวั - สมดุ ประจำตวั หรอื - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การแผ่ขยายพื้น หรือแบบฝึกหดั แบบฝกึ หดั
สมทุ รและหลักฐาน - ประเมินการปฏิบตั ิ
สนบั สนุน กจิ กรรม - ใบงานท่ี 2.3 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
9) การแปรสณั ฐานของ
แผน่ ธรณี - ตรวจใบงานที่ 2.4 - สมุดประจำตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจสมุดประจำตวั
10) ผลบันทกึ การปฏิบตั ิ หรือแบบฝกึ หดั แบบฝกึ หดั
กจิ กรรมจำลองวงจร - ตรวจใบกิจกรรม
การพาความรอ้ น - ประเมินการปฏิบัติ - แบบประเมินการปฏบิ ัติ - ระดับคณุ ภาพ 2
กิจกรรม
11) ภเู ขาไฟระเบิด กจิ กรรม ผ่านเกณฑ์

12) ผลบนั ทึกการปฏิบัติ - ใบงานที่ 2.4 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
กจิ กรรมจำลองการ
ระเบดิ ของภูเขาไฟ - สมุดประจำตวั หรอื - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

แบบฝกึ หดั

- ใบกจิ กรรม - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

- แบบประเมินการปฏบิ ตั ิ - ระดบั คณุ ภาพ 2

กจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์

118

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

รายการวดั วธิ ีวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน

13) ผลบันทกึ การปฏิบตั ิ - ประเมินการปฏิบัติ - แบบประเมินการปฏิบัติ - ระดบั คณุ ภาพ 2

กิจกรรมสำรวจ กิจกรรม กจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์

ภูเขาไฟบนโลก

14) แผน่ ดินไหว - ตรวจใบงานท่ี 2.5 - ใบงานที่ 2.5 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจสมุดประจำตัว - สมดุ ประจำตวั หรอื - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

หรือแบบฝกึ หัด แบบฝึกหัด

15) ผลบันทึกการปฏบิ ัติ - ประเมนิ การปฏบิ ตั ิ - แบบประเมินการปฏบิ ตั ิ - ระดับคณุ ภาพ 2

กจิ กรรมการ กิจกรรม กิจกรรม ผา่ นเกณฑ์

เปล่ยี นแปลงของ

สง่ิ แวดลอ้ มเมอ่ื เกิด

แผ่นดนิ ไหว

16) สึนามิ - ตรวจสมุดประจำตัว - สมุดประจำตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั

17) ผลบนั ทกึ การปฏิบตั ิ - ประเมนิ การปฏิบัติ - แบบประเมินการปฏบิ ตั ิ - ระดบั คุณภาพ 2

กิจกรรมสึนามิ กจิ กรรม กิจกรรม ผ่านเกณฑ์

เกดิ ขน้ึ ได้อย่างไร

18) การนำเสนอผลงาน/ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ 2

ผลการปฏบิ ัติ ผลงาน/ผลการ นำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์

กจิ กรรม ปฏิบตั ิกจิ กรรม

19) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2

ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

20) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2

ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์

21) คณุ ลักษณะอันพงึ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2

ประสงค์ รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์

และมงุ่ มน่ั ในการ อนั พงึ ประสงค์

ทำงาน

119

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

รายการวดั วธิ ีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
6.4 การประเมนิ หลงั เรยี น - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน
- แบบทดสอบหลงั เรียน หลังเรยี น หนว่ ยการ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรยี นรู้ที่ 2 กระบวนการ
กระบวนการ กระบวนการ เปล่ียนแปลงภายในโลก
เปลี่ยนแปลงภายใน เปลี่ยนแปลงภายใน
โลก โลก

7. กิจกรรมการเรยี นรู้

• แผนที่ 1 : การแบง่ โครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี เวลา 3 ช่ัวโมง

วธิ สี อนแบบเน้นมโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

• แผนที่ 2 : การแบ่งโครงสรา้ งโลกตามสมบตั เิ ชงิ กล เวลา 4 ชั่วโมง

วธิ สี อนแบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

• แผนที่ 3 : แนวคิดทฤษฎีทวีปเลอื่ นและหลักฐานสนบั สนนุ เวลา 3 ช่วั โมง

วิธสี อนแบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

• แผนท่ี 4 : แนวคดิ ทฤษฎีการแผ่ขยายพืน้ สมุทรและหลักฐานสนบั สนนุ เวลา 2 ชั่วโมง

วิธสี อนแบบเน้นมโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

• แผนท่ี 5 : การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี เวลา 3 ชั่วโมง

วิธสี อนแบบเน้นมโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

• แผนที่ 6 : ภเู ขาไฟระเบดิ เวลา 3 ชวั่ โมง

วธิ สี อนแบบเนน้ มโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

• แผนที่ 7 : แผน่ ดินไหว เวลา 2 ชั่วโมง

วธิ ีสอนแบบเนน้ มโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

• แผนท่ี 8 : สึนามิ เวลา 2 ชว่ั โมง

วธิ ีสอนแบบเนน้ มโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

(รวมเวลา 22 ชัว่ โมง)

120

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
2) แบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก
3) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง โครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี
4) ใบงานที่ 2.2 เร่ือง โครงสร้างโลกตามสมบัติเชงิ กล
5) ใบงานที่ 2.3 เร่ือง ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน
6) ใบงานท่ี 2.4 เร่ือง แนวทางการเฝ้าระวังและปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากภูเขาไฟระเบดิ
7) ใบงานท่ี 2.5 เรื่อง แนวทางการเฝา้ ระวังและปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัยจากแผน่ ดินไหว
8) ใบกิจกรรม เรื่อง จำลองการระเบดิ ของภูเขาไฟ
9) วสั ดุอุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นการปฏิบตั ิกจิ กรรมแบบจำลองโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
10) วสั ดุอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการปฏิบตั ิกจิ กรรมการศกึ ษาโครงสรา้ งโลกโดยใช้ข้อมลู คลืน่ ไหวสะเทือน
11) วัสดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏิบัตกิ ิจกรรมแบบจำลองโครงสร้างโลกตามสมบัติเชงิ กล
12) วัสดุอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการอยู่ตดิ กันของทวปี ในอดีต
13) วสั ดุอุปกรณท์ ่ใี ช้ในการปฏบิ ัติกจิ กรรมจำลองวงจรการพาความร้อน
14) วัสดุอุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการปฏิบตั กิ ิจกรรมจำลองการระเบิดของภูเขาไฟ
15) วัสดุอุปกรณท์ ่ีใช้ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมสำรวจภูเขาไฟบนโลก
16) วสั ดอุ ปุ กรณท์ ใี่ ช้ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเปลี่ยนแปลงของสิง่ แวดล้อมเม่ือเกดิ แผ่นดินไหว
17) วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมสนึ ามเิ กดิ ขึน้ ได้อยา่ งไร
18) PowerPoint เร่อื ง การแบง่ โครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี
19) PowerPoint เร่อื ง การแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบตั ิเชิงกล
20) PowerPoint เรอื่ ง แนวคิดทฤษฎที วปี เลือ่ นและหลกั ฐานสนบั สนุน
21) PowerPoint เรื่อง แนวคดิ ทฤษฎที วีปการแผ่ขยายพน้ื สมทุ รและหลักฐานสนับสนนุ
22) PowerPoint เรอ่ื ง การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี
23) PowerPoint เรื่อง ภเู ขาไฟระเบิด
24) PowerPoint เรื่อง แผ่นดนิ ไหว
25) PowerPoint เรอ่ื ง สนึ ามิ
26) แผนที่โลกปจั จุบนั และแผนทโี่ ลกยุคตา่ ง ๆ ในอดีต
27) สลากหมายเลข
28) QR Code เร่ือง แผน่ ดนิ ไหว

121

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

29) วดี ทิ ัศน์เกย่ี วกับธรณีพิบัตภิ ยั จาก https://www.youtube.com/watch?v=Cq3Bk1qwvXA
30) วดี ทิ ศั นเ์ กีย่ วกบั แผ่นดนิ ไหว จาก https://www.youtube.com/watch?v=ABWrMBMG7mo
31) วดี ทิ ศั นเ์ กี่ยวกบั เหตุการณส์ ึนามใิ นปี พ.ศ.2547

จาก https://www.youtube.com/watch?v=cAsbmYRGvFk
32) สมุดประจำตัวนกั เรียน
8.2 แหลง่ การเรียนรู้

1) หอ้ งเรียน
2) ห้องสมดุ
3) อินเทอรเ์ น็ต

122

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ขอ้ มูลที่ใชใ้ นการการศกึ ษาโครงสรา้ งโลก 6. ข้อใดเป็นธรณีสณั ฐานทีเ่ กดิ จากแผน่ ธรณเี คล่ือนทแี่ ยก
1. องค์ประกอบทางเคมขี องอุกกาบาต ออกจากกัน
2. องคป์ ระกอบของหนิ จากดวงจันทร์ 1. หุบเขาทรดุ
3. องค์ประกอบทางเคมีของหนิ และแร่ 2. วงแหวนไฟ
4. วัดอุณหภมู ภิ ายในโลกจากการขดุ เจาะหลมุ 3. รอ่ งลึกก้นสมุทร
5. การเคลอื่ นที่ของคล่ืนไหวสะเทอื นท่ีเคลื่อนท่ผี ่านโลก 4. แนวเทอื กเขาสงู
5. หมู่เกาะภูเขาไฟรปู โค้ง
2. ชน้ั แก่นโลกประกอบดว้ ยธาตุหลกั ในข้อใด
1. เหลก็ และนิกเกลิ 7. บริเวณใดที่มโี อกาสเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ มากทสี่ ดุ
2. เหล็กและซลิ ิคอน 1. แนวเทือกเขาหมิ าลัย
3. เหลก็ และออกซิเจน 2. บริเวณวงแหวนแหง่ ไฟ
4. นิกเกิลและออกซเิ จน 3. บริเวณกลางมหาสมทุ รแปซฟิ ิก
5. นกิ เกิลและซลิ คิ อน 4. แนวสันเขากลางมหาสมทุ รแปซฟิ กิ
5. แนวสันเขากลางมหาสมทุ รแอตแลนตกิ
3. ถา้ พจิ ารณาโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมีของ
จะแบ่งโครงสรา้ งโลกไดต้ ามขอ้ ใด 8. ขอ้ ใดเป็นมาตราวดั ขนาดของแผ่นดนิ ไหว
1. เปลือกโลก เนอ้ื โลก และแกน่ โลก 1. มาตราเมตรกิ
2. ฐานธรณภี าค ไตรภาค และแกน่ โลก 2. มาตราองั กฤษ
3. ฐานธรณภี าค มชั ฌมิ ภาค และไตรภาค 3. มาตราริกเตอร์
4. ธรณภี าค ฐานธรณีภาค และมชั ฌิมภาค 4. มาตราเมอรค์ ลั ลี
5. เปลือกโลก เนื้อโลกชนั้ นอก และเนอ้ื โลกชน้ั ใน 5. มาตราเมอรค์ ลั ลปี รับปรุง

4. ขอ้ ใดไม่ใช่หลักฐานทส่ี นบั สนนุ ทฤษฎีทวปี เล่ือน 9. เหตุการณ์ในขอ้ ใดไม่ได้เปน็ สาเหตุทีท่ ำใหเ้ กิดแผ่นดนิ ไหว
1. รูปร่างของขอบทวปี 1. การผพุ งั ทางเคมขี องเปลอื กโลก
2. กลุ่มหนิ และแนวเทอื กเขา 2. การทดลองระเบิดปรมาณใู ตด้ นิ
3. ซากดกึ ดำบรรพฟ์ วิ ซลู ินดิ 3. การกกั เกบ็ นำ้ ในเข่อื นขนาดใหญ่
4. ซากดกึ ดำบรรพก์ ลอสโซพเทรีส 4. การปะทุของภูเขาไฟอยา่ งรนุ แรง
5. การสะสมตัวของตะกอนธารน้ำแขง็ 5. การเคลอื่ นท่เี ข้าหากันของแผ่นธรณี

5. จากทฤษฎีทวปี เลอ่ื น ทวปี ใดเคยอยู่ติดกันมากอ่ น 10. ขอ้ ใดกลา่ วเก่ียวกบั สนึ ามิไม่ถกู ต้อง
1. อเมริกาใตก้ ับยุโรป 1. ความเรว็ ของคลืน่ จะขึ้นอยูก่ บั ความลึก
2. อเมริกาเหนอื กับยุโรป 2. มักเกิดขนึ้ บรเิ วณชายฝง่ั มหาสมุทรแปซิฟกิ
3. ยุโรปกับแอนตรากติกา 3. เกดิ ข้นึ ทุกคร้ังเมื่อเกดิ แผน่ ดนิ ไหวขนาด 6.5 รกิ เตอร์ข้ึนไป
4. อเมรกิ าใตก้ บั ออสเตรเลยี 4. เปน็ คลนื่ นำ้ ทเ่ี คลอื่ นท่ีดว้ ยความเร็วสูงเมื่ออยูก่ ลางมหาสมุทร
5. ออสเตรเลยี กบั อเมรกิ าเหนอื 5. เมื่ออยกู่ ลางมหาสมทุ รจะมคี วามสงู คล่นื นอ้ ย แต่เมอื่ เขา้ ใกล้
ชายฝง่ั ความสูงคลน่ื จะเพ่มิ มากข้นึ

เฉลย 1. 2 2. 1 3. 1 4. 3 5. 2 6. 1 7. 2 8. 3 9. 1 10. 3

123

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

แบบทดสอบหลงั เรยี น

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ขอ้ ใดเปน็ วิธกี ารศกึ ษาโครงสร้างโลกโดยทางออ้ ม 5. กระบวนการใดทท่ี ำให้แผ่นธรณมี กี ารเคลอ่ื นที่
1. ศกึ ษาจากหนิ ภเู ขาไฟ 1. วงจรการพาความร้อน
2. เจาะสำรวจภายในโลก 2. การปรับสมดลุ ของเปลือกโลก
3. ศกึ ษาจากชดุ หินโอฟิโอไลต์ 3. การเกดิ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่
4. ศึกษาคลืน่ ไหวสะเทือนจากแผ่นดนิ ไหว 4. การเพ่ิมและลดของระดับน้ำทะเล
5. ศึกษาส่วนประกอบทางเคมขี องอกุ กาบาตทีต่ กมายงั 5. การเปลย่ี นแปลงรูปร่างวงโคจรของโลก
พ้นื โลก
6. การเคลือ่ นท่ขี องแผน่ ธรณแี บบใดทท่ี ำให้เกิดสึนามิ
2. ข้อใดเป็นคลน่ื ไหวสะเทือนที่ใชใ้ นการศกึ ษาโครงสร้างโลก 1. แผ่นธรณีทวีปเคล่ือนทผ่ี า่ นกนั
1. คลืน่ เลิฟและคลื่นเรยล์ ี 2. แผ่นธรณมี หาสมุทรเคลอ่ื นทผ่ี ่านกัน
2. คลน่ื เลฟิ และคลื่นฮารท์ 3. แผ่นธรณที วปี เคลอ่ื นทแี่ ยกออกจากกนั
3. คล่นื ปฐมภมู ิและคลื่นทุตภิ มู ิ 4. แผ่นธรณมี หาสมุทรเคลอ่ื นทแ่ี ยกออกจากกัน
4. คลื่นทตุ ิยภูมแิ ละคลนื่ ตามขวาง 5. แผน่ ธรณมี หาสมุทรเคลอื่ นทห่ี าแผ่นธรณีทวปี
5. คลื่นตามยาวและคลน่ื ตามขวาง
7. เมือ่ เกดิ เหตุการณ์ภเู ขาไฟระเบดิ มีหลายสิง่ ทปี่ ะทุ
3. ถา้ แบง่ โครงสรา้ งโลกตามหลักฐานจากการวดั คล่นื ไหว ออกมาจากภเู ขาไฟ ยกเวน้ ข้อใด
สะเทอื นจะแบง่ โครงสร้างโลกได้ตามข้อใด 1. แกส๊
1. เปลือกโลก เนอ้ื โลก และแก่นโลก 2. ลาวา
2. ฐานธรณีภาค มัชฌมิ ภาค และไตรภาค 3. เศษหิน
3. เปลือกโลก ฐานธรณภี าค ไตรภาค และแกน่ โลก 4. หยดนำ้
4. ธรณภี าค ฐานธรณีภาค มัชฌมิ ภาค แกน่ โลกชนั้ นอก 5. เถา้ ภูเขาไฟ
และแก่นโลกช้ันใน
5. เปลือกโลก เนอ้ื โลก ธรณภี าค ไตรภาค 8. หากเกดิ แผ่นดนิ ไหวในขณะท่ีนกั เรียนกำลงั เรียน
แกน่ โลกชั้นนอก และแก่นโลกชัน้ ใน หนังสืออย่ใู นหอ้ งเรียน ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร
1. มุดตัวอย่ใู ตโ้ ต๊ะทมี่ คี วามแขง็ แรง
4. ข้อใดเป็นข้อมลู ท่ีสนับสนนุ ว่ามหาสมทุ รมกี ารแผ่ขยายออก 2. รบี ปิดประตูและหนา้ ตา่ งใหม้ ิดชดิ
1. ซากดึกดำบรรพ์ 3. รีบวิ่งออกจากหอ้ งเรียนใหเ้ รว็ ที่สุด
2. อายหุ ินบนพนื้ มหาสมุทร 4. หากมีลฟิ ต์ ใหร้ บี ใชล้ ฟิ ตเ์ พอ่ื ออกจากอาคาร
3. กลมุ่ หนิ และแนวเทอื กเขา 5. รบี ไปอยู่บรเิ วณใกลก้ ับกำแพงทม่ี คี วามแขง็ แรง
4. แนวภูเขาไฟบรเิ วณขอบทวปี
5. การสะสมตัวของตะกอนธารนำ้ แข็ง

124

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

9. เหตกุ ารณส์ นึ ามิ เมอื่ วันท่ี 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เกดิ จาก
แผ่นดินไหวทมี่ ศี นู ยเ์ กดิ แผน่ ดนิ ไหวอย่บู รเิ วณประเทศใด
1. ญี่ปนุ่
2. กัมพูชา
3. สงิ คโ์ ปร์
4. ฟิลปิ ปินส์
5. อนิ โดนีเซยี

10. วงแหวนแหง่ ไฟคือพ้ืนท่ีบรเิ วณใด
1. บรเิ วณรอบมหาสมุทรแปซิฟิก
2. บริเวณประเทศอนิ โดนีเซียท่ีเกดิ สนึ ามิ
3. แนวรอยตอ่ ของเทอื กเขาเเอลป์ในทวปี ยโุ ยป
4. บรเิ วณเทือกเขากลางมหาสมทุ รแอตแลนตกิ
5. แนวรอยต่อของเทอื กเขาหิมาลยั ในทวปี เอเชีย

เฉลย 1. 4 2. 3 3. 4 4. 2 5. 1 6. 5 7. 4 8. 1 9. 5 10. 1

125

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

แบบประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมนิ ผลงานสงิ่ ประดษิ ฐ์ เรือ่ ง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก

คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงาน/ช้ินงานของนักเรียนตามรายการท่ีกำหนด แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั

ระดับคะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ
4 3 21

1 การออกแบบชิ้นงาน

2 การเลอื กใชว้ สั ดุเพ่ือสร้างชิ้นงาน

3 ความสมบูรณ์ของชิ้นงาน

4 การสร้างสรรค์ช้นิ งาน

5 กำหนดเวลาสง่ งาน

รวม

ลงช่ือ ................................................... ผูป้ ระเมนิ
............../................./................

126

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานสงิ่ ประดิษฐ์
เรอื่ ง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก

ประเดน็ ทีป่ ระเมิน 4 ระดับคะแนน 1
32

1. การออกแบบช้ินงาน ชิ้นงานมีความถูกต้องที่ ชิ้นงานมีความถูกต้องที่ ชิ้นงานมีความถูกต้องท่ี ชิ้ น งา น ไม่ ถู ก ต้ อ งที่

ออกแ บ บ ไว้ มี ขน าด ออกแ บ บ ไว้ มี ขน าด ออกแ บ บ ไว้ มี ขน าด ออกแบบไว้ มีขนาดไม่

เห ม า ะ ส ม รู ป แ บ บ เห ม า ะ ส ม รู ป แ บ บ เห ม า ะ ส ม รู ป แ บ บ เหมาะสม รูปแบบไม่

น่าสนใจ แปลกตา และ น่าสนใจ และสรา้ งสรรค์ น่าสนใจ นา่ สนใจ

สร้างสรรค์ดี

2. การเลอื กใช้วัสดเุ พอ่ื เลือกใช้วัสดุ มาสร้าง เลือกใช้วัสดุ มาสร้าง เลือกใช้วัสดุ มาสร้าง เลือกใช้วัสดุ มาสร้าง

สรา้ งช้ินงาน ช้ินงานตามที่กำหนดได้ ช้ินงานตามท่ีกำหนดได้ ชิ้นงานตามที่กำหนด ชิ้นงาน ไม่ ต รงตาม ที่

ถูกต้อง และวัสดุมีความ ถูกต้อง และวัสดุมีความ แต่วัสดมุ ีความเหมาะสม กำหนด และวัสดุไม่มี

เหมาะสมกับการสร้าง เหมาะสมกับการสร้าง กับการสร้างชิ้นงานที่ ความเหมาะสมกับการ

ช้ินงานดมี าก ชน้ิ งานดี ออกแบบไว้ สร้างช้ินงานท่ีออกแบบ

ไว้

3. ความสมบรู ณ์ของ ชิ้นงานมีความแข็งแรง ช้ินงานมีความแข็งแรง ชิ้ น ง า น ไ ม่ มี ค ว า ม ชิ้ น ง า น ไ ม่ มี ค ว า ม

ชิน้ งาน ท น ท า น ส า ม า ร ถ ท น ท า น ส า ม า ร ถ แข็งแรง แต่ สามารถ แ ข็ ง แ ร ง แ ล ะ ไ ม่

นำไปใช้งานได้จริงและ นำไปใช้งานได้จริงและ นำไปใช้งานได้บา้ ง สามารถนำไปใชง้ านได้

ใชไ้ ด้ดีมาก ใช้ได้ดี

4. การสรา้ งสรรค์ ต ก แ ต่ ง ชิ้ น ง า น ไ ด้ ต ก แ ต่ ง ช้ิ น ง า น ไ ด้ ต ก แ ต่ ง ช้ิ น ง า น ไ ด้ ช้ิ น ง า น ไ ม่ มี ค ว า ม

ชิ้นงาน สวยงามดมี าก สวยงามดี สวยงามน้อย สวยงาม

5. กำหนดเวลาสง่ งาน ส่งช้ินงานภายในเวลาที่ ส่งช้ินงานช้ากว่ากำหนด ส่งช้ินงานช้ากว่ากำหนด ส่งช้ินงานช้ากว่ากำหนด

กำหนด 1-2 วนั เกิน 3 วนั ขน้ึ ไป เกนิ 5 วนั ขึ้นไป

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18-20 ดีมาก

14-17 ดี

10-13 พอใช้

ต่ำกว่า 10 ปรับปรงุ

127

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

แบบประเมินการปฏิบตั กิ จิ กรรม

คำชี้แจง : ใหผ้ ูส้ อนประเมนิ การปฏบิ ัติกิจกรรมของนกั เรยี นตามรายการที่กำหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องที่ตรง
กับระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 การปฏิบตั ิการทำกิจกรรม
2 ความคลอ่ งแคล่วในขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม
3 การบนั ทึก สรุปและนำเสนอผลการทำกิจกรรม

รวม

ลงชอ่ื ................................................... ผ้ปู ระเมนิ
................./................../..................

128

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

เกณฑก์ ารประเมินการปฏิบตั กิ จิ กรรม

ประเด็นท่ปี ระเมนิ ระดบั คะแนน

1. การปฏบิ ัติ 432 1
กจิ กรรม ตอ้ งให้ความช่วยเหลือ
ทำกจิ กรรมตามขั้นตอน ทำกจิ กรรมตามขนั้ ตอน ตอ้ งใหค้ วามชว่ ยเหลือ อยา่ งมากในการทำ
2. ความ และใชอ้ ปุ กรณไ์ ดอ้ ย่าง และใช้อปุ กรณไ์ ด้อยา่ ง บ้างในการทำกจิ กรรม กจิ กรรม และการใช้
คลอ่ งแคลว่ ถูกต้อง ถกู ต้อง แตอ่ าจต้อง และการใช้อุปกรณ์ อปุ กรณ์
ในขณะปฏบิ ตั ิ ได้รับคำแนะนำบ้าง ทำกจิ กรรมเสรจ็ ไม่
กจิ กรรม มคี วามคล่องแคล่ว มคี วามคล่องแคล่ว ขาดความคลอ่ งแคล่ว ทนั เวลา และทำ
ในขณะทำกจิ กรรมโดย ในขณะทำกจิ กรรมแต่ ในขณะทำกจิ กรรมจึง อปุ กรณ์เสยี หาย
3. การบนั ทึก สรุป ไม่ต้องได้รบั คำชแ้ี นะ ตอ้ งไดร้ บั คำแนะนำบ้าง ทำกจิ กรรมเสร็จไม่
และนำเสนอผล และทำกจิ กรรมเสรจ็ และทำกิจกรรมเสรจ็ ทันเวลา ตอ้ งให้ความช่วยเหลอื
การปฏบิ ัติ ทันเวลา ทนั เวลา อยา่ งมากในการบันทกึ
กิจกรรม สรุป และนำเสนอผล
บนั ทกึ และสรุปผลการ บนั ทึกและสรปุ ผลการ ตอ้ งใหค้ ำแนะนำในการ การทำกิจกรรม
ทำกิจกรรมไดถ้ กู ต้อง ทำกจิ กรรมได้ถกู ตอ้ ง บนั ทึก สรปุ และ
รดั กมุ นำเสนอผลการ แตก่ ารนำเสนอผลการ นำเสนอผลการทำ
ทำกจิ กรรมเป็นขน้ั ตอน ทำกิจกรรมยงั ไม่เป็น กจิ กรรม
ชดั เจน ขน้ั ตอน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

10-12 ดีมาก

7-9 ดี

4-6 พอใช้

0-3 ปรับปรุง

129

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่

ตรงกับระดับคะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32

1 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา  

2 ความคดิ สร้างสรรค์  

3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน  

4 การนำไปใชป้ ระโยชน์  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

ลงช่อื ................................................... ผ้ปู ระเมนิ
............/................./...................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

130

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่

ตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 การแสดงความคิดเหน็  

2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อ่นื  

3 การทำงานตามหนา้ ท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย  

4 ความมนี ำ้ ใจ  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

131

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกับระดับคะแนน

การมี

ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม
ของนักเรียน ความ ฟงั คนอืน่ ตามท่ีไดร้ ับ นำ้ ใจ การ 15
คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน
ปรบั ปรงุ
ผลงานกลุ่ม

321321321321321

เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ................................................... ผปู้ ระเมนิ
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............./.................../...............
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง

132

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ี

ตรงกับระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้

กษัตรยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชน์

ตอ่ โรงเรียน

1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา

1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกบั สถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามทโ่ี รงเรยี นจดั ขึน้

2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ อ้ มูลที่ถกู ต้องและเป็นจริง

2.2 ปฏบิ ัติในสิ่งท่ีถูกตอ้ ง

3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครวั

มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้

4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชื่อฟังคำสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง

4.4 ต้ังใจเรยี น

5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั

5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน

6. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย

6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็

7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย

7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน

8.2 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรยี นและ

โรงเรียน

ลงช่อื .................................................. ผู้ประเมนิ
............/.................../................

เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิบางครง้ั ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน 51-60 ดีมาก

41-50 ดี

30-40 พอใช้

133 ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ

แผนการจัดการเรยี นรู้ ท่ี 9

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ (ว33101)

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/1-4 ภาคเรียนท่ี 1/2564

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอื่ ง กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก เวลา 22 ชัว่ โมง

เรอ่ื ง การแบ่งโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี เวลา 3 ช่วั โมง

ผสู้ อน นางสาวรจุ ิราวรรณ จนั สว่าง โรงเรยี นบ้านแพงพทิ ยาคม

วนั ท่.ี ......................เดอื น..........................................ปี................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั

ว 3.2 ม.6/1 อธบิ ายการแบ่งช้ันและสมบตั ิโครงสรา้ งของโลก พร้อมยกตัวอยา่ งขอ้ มลู ทส่ี นับสนุน

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายการแบง่ ช้ันและสมบัติโครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมีได้ (K)
2. สรา้ งแบบจำลองโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมีได้ (P)
3. ปฏบิ ัติกจิ กรรมแบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามองค์ประกอบทางเคมีได้อย่างถูกต้องและเป็นลำดับ

ขัน้ ตอน (P)
4. มคี วามใฝเ่ รียนร้แู ละมคี วามมงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

• การศึกษาโครงสร้างโลกใช้ข้อมูลหลายด้าน เช่น
องค์ประกอบทางเคมีของหินและแร่ องค์ประกอบ
ทางเคมีของอุกกาบาต ข้อมูลคล่ืนไหวสะเทือนท่ี
เคลื่อนที่ผ่านโลก จึงสามารถแบ่งช้ันโครงสร้างโลก
ได้ 2 แบบ คือ โครงสร้างตามองค์ประกอบทางเคมี
แบ่งได้เป็น 3 ช้ัน ได้แก่ เปลือกโลก เน้ือโลก และ
แก่นโลก และโครงสร้างตามสมบัติเชิงกล แบ่งได้
5 ชั้น ได้แก่ ธรณีภาค ฐานธรณีภาค มัชฌิมภาค
แกน่ โลกช้ันนอก และแกน่ โลกชน้ั ใน

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี แบ่งออกเป็น 3 ชน้ั ได้แก่ เปลอื กโลก เนื้อโลก และแก่นโลก
โดยพิจารณาจากองค์ประกอบทางเคมีทแี่ ตกตา่ งกนั ของแตล่ ะชนั้

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทักษะการสอ่ื สาร 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

2) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน

3) ทักษะการสรา้ งแบบจำลอง

4) ทักษะการจัดกระทำและส่ือความหมายข้อมลู

5) ทักษะการตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป

3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบเน้นมโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

ชัว่ โมงท่ี 1

ขน้ั นำ

ขนั้ การใช้ความร้เู ดิมเชื่อมโยงความรใู้ หม่ (Prior Knowledge)
1. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก
เพือ่ วดั ความรเู้ ดมิ ของนักเรียนกอ่ นเข้าส่กู จิ กรรม
2. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยใช้คำถาม Big Question จากหนงั สือเรยี น
รายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการ
เรยี นรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก และร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นอย่าง
อสิ ระโดยไม่มีการเฉลยว่าถูกหรือผิด
3. นกั เรยี นตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเขา้ สู่กจิ กรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Understanding Check ในหนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์
โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก โดยบนั ทกึ ลงใน
สมุดประจำตัวนกั เรียน
4. นกั เรยี นพิจารณาภาพหนา้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก จากนน้ั ครู
สนทนากบั นักเรียนว่า “เมอ่ื เกิดเหตุการณภ์ ูเขาไฟระเบดิ จะมลี าวาไหลออกจากปากปลอ่ งภูเขาไฟ

ลาวาที่ไหลออกมามลี กั ษณะเป็นหินหนดื รอ้ น สแี ดง ไหลไปตามความลาดชนั ของภูเขาไฟ”
5. ครูตงั้ ประเด็นคำถามโดยใชค้ ำถาม Key Question จากหนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์

และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลง
ภายในโลก โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพอ่ื หาคำตอบ

ขน้ั สอน

ขน้ั รู้ (Knowledge)
1. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 3 คน ตามความสมคั รใจ จากนั้นให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันศึกษา
ค้นคว้าขอ้ มูลเกยี่ วกบั การแบ่งโครงสรา้ งโลกตามองค์ประกอบทางเคมี จากหนงั สือเรยี นรายวชิ า
พ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2
กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก หรือแหลง่ การเรยี นร้ตู ่าง ๆ เชน่ อนิ เทอร์เนต็ หอ้ งสมุด
2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายเรอื่ งทไ่ี ด้ศกึ ษา จากนัน้ ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ เขยี นสรปุ ความรู้
ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาคน้ คว้าลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน
(หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม)

ชัว่ โมงท่ี 2

3. นักเรียนแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 6 คน ตามความสมัครใจ จากน้นั ครแู จ้งจุดประสงคข์ องกจิ กรรม
แบบจำลองโครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี ใหน้ กั เรยี นทราบเพ่อื เป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมทีถ่ ูกตอ้ ง

4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษากจิ กรรม แบบจำลองโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
จากหนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก โดยครใู ช้รูปแบบการเรียนรู้แบบรว่ มมือ
มาจดั กระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดให้สมาชกิ แตล่ ะคนภายในกลมุ่ มบี ทบาทหนา้ ที่ของตนเอง
ดังน้ี
• สมาชกิ คนที่ 1-2 ทำหน้าที่เตรียมวสั ดุอปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการปฏิบตั ิกิจกรรมแบบจำลอง
โครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี
• สมาชิกคนท่ี 3-4 ทำหน้าที่อา่ นวิธีปฏิบตั ิกิจกรรม และนำมาอธบิ ายให้สมาชิกในกล่มุ ฟงั
• สมาชิกคนท่ี 5-6 ทำหน้าท่ีบนั ทกึ ผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมลงในสมุดประจำตัวนกั เรียน
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม)

5. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบตั กิ ิจกรรมตามข้ันตอน จากหนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 กระบวนการ
เปลย่ี นแปลงภายในโลก

6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันแลกเปล่ยี นความร้แู ละวิเคราะห์ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม แล้วอภิปรายผล
ร่วมกนั

ช่วั โมงที่ 3

ข้นั เข้าใจ (Understanding)
7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอแบบจำลองโครงสรา้ งโลกหนา้ ชั้นเรยี น ในระหวา่ งท่ีนกั เรียน
นำเสนอ ครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรยี นมีความเข้าใจที่ถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
8. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม แบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามองค์ประกอบ
ทางเคมี โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเพื่อหาคำตอบ จากน้ันครูสมุ่
นกั เรียน 2-3 กลมุ่ ออกมานำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองหนา้ ชั้นเรียน
9. เม่อื นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอคำตอบของกล่มุ ตนเองเรยี บร้อยแลว้ นักเรยี นและครรู ่วมกัน
อภปิ รายผลทา้ ยกจิ กรรม แบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามองค์ประกอบทางเคมี เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อสรปุ
รว่ มกันว่า “โครงสร้างโลกแบ่งออกเปน็ 3 ชน้ั คอื เปลอื กโลก เนื้อโลก และแก่นโลก”
10. ครตู ้ังประเดน็ คำถามกระตนุ้ ความคิดนกั เรียน โดยให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันอภิปรายแสดง
ความคดิ เห็นเพ่อื หาคำตอบ ดงั น้ี
• นักวทิ ยาศาสตรว์ ิเคราะหห์ าองคป์ ระกอบทางเคมีของสสารภายในโลกได้อย่างไร
(แนวตอบ : นกั วทิ ยาศาสตร์ศกึ ษาตวั อย่างจากช้ินสว่ นหินแปลกปลอมท่ถี กู นำขน้ึ มาจากการ
ปะทขุ องภูเขาไฟ ซึ่งมลี ักษณะและองคป์ ระกอบทางเคมตี า่ งจากหินที่พบบนผิวโลก)
• ความแตกตา่ งระหว่างเปลือกโลกภาคพื้นทวปี และเปลอื กโลกภาคพน้ื มหาสมทุ รพจิ ารณาจาก
อะไรบ้าง
(แนวตอบ : ส่วนประกอบของเปลอื กโลก ความหนา ความหนาแนน่ อายแุ ละประเภทของหิน)
11. ครูอธิบายเพิม่ เติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “โครงสร้างของโลกสามารถแบง่ ได้ 2 แบบ คอื โครงสรา้ ง
โลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี แบง่ ได้เปน็ 3 ชน้ั ไดแ้ ก่ เปลือกโลก เนอ้ื โลก และแกน่ โลก
และโครงสร้างตามสมบัติเชงิ กล แบ่งออกเป็น 5 ชน้ั ไดแ้ ก่ ธรณภี าค ฐานธรณภี าค มชั ฌมิ ภาค
แกน่ โลกช้ันนอก และแก่นโลกชน้ั ใน”

ขน้ั ลงมือทำ (Doing)
12. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากน้ันร่วมกันทำใบงานที่ 2.1
เร่ือง โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี โดยเขยี นสรุปความร้ทู ไี่ ด้จากการเรยี น
เรอ่ื ง การแบ่งโครงสรา้ งโลกตามองค์ประกอบทางเคมี ลงในใบงาน

13. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำแบบฝึกหัด เร่อื ง การแบง่ โครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี
จากแบบฝึกหัดรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก

ขัน้ สรุป

ขน้ั สรุป
1. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเกีย่ วกับการแบ่งโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
และให้ความรูเ้ พ่มิ เติมจากคำถามของนักเรยี น โดยครูใช้ PowerPoint เร่อื ง การแบง่ โครงสร้าง
โลกตามองค์ประกอบทางเคมี ในการอธิบายเพิ่มเตมิ
2. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกบั การแบง่ โครงสรา้ งโลกตามองค์ประกอบทางเคมี ซ่ึงควรได้
ขอ้ สรปุ รว่ มกนั ว่า “นักวิทยาศาสตร์แบง่ โครงสรา้ งโลกออกเป็น 3 ชนั้ ได้แก่ เปลอื กโลก เน้ือโลก
และแก่นโลก โดยพิจารณาจากองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน ซง่ึ เปลือกโลกเปน็ ส่วนทอ่ี ยู่
ภายนอกและบางที่สดุ มีสถานะเปน็ ของแขง็ ประกอบดว้ ยหนิ และแรจ่ ำนวนมาก นักวทิ ยาศาสตร์
ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของเปลอื กโลกจากตวั อย่างหนิ บนผิวโลก เนอื้ โลก คือ ชัน้ ของโลกทีอ่ ยู่
ระหว่างเปลือกโลกกบั แกน่ โลก นักวิทยาศาสตร์ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของเนื้อโลกจาก
ตัวอยา่ งหินที่ถูกนำข้นึ มาจากการปะทขุ องภเู ขาไฟ แก่นโลก คอื ช้ันในสดุ ของโลก ซงึ่ ปจั จบุ นั ไมม่ ี
เทคโนโลยีใดทส่ี ามารถนำตวั อย่างจากแก่นโลกขน้ึ มาศึกษาได้โดยตรง นักวทิ ยาศาสตรจ์ งึ ศกึ ษา
อกุ กาบาตที่พบบนผวิ โลก และสันนิษฐานว่าอุกกาบาตเหลา่ น้ีเกิดขึน้ ในช่วงเวลาใกลเ้ คียงกับโลก
และมีองค์ประกอบทางเคมีคล้ายกับโลก”

ขน้ั ประเมนิ

ขน้ั ประเมนิ
1. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลง
ภายในโลก เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจกอ่ นเรยี นของนกั เรียน
2. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลุม่ และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมหนา้ ชน้ั เรียน
3. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนก่อนเขา้ สกู่ จิ กรรมการเรยี นการสอน
จากกรอบ Understanding Check ในสมุดประจำตัวนักเรยี น
4. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม แบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี
5. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง โครงสรา้ งโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
6. ครตู รวจแบบฝกึ หัด เรื่อง การแบ่งโครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี จากแบบฝึกหัดรายวชิ า
พ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2
กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก

7. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวัด วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
- ประเมนิ ตามสภาพจริง
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ กระบวนการ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เปลีย่ นแปลงภายในโลก
กอ่ นเรียน หนว่ ยการ ก่อนเรียน หน่วยการ - ระดบั คณุ ภาพ 2
- ใบงานท่ี 2.1 ผา่ นเกณฑ์
เรยี นรทู้ ี่ 2 เรยี นรทู้ ี่ 2 - สมุดประจำตวั หรอื
แบบฝกึ หัด - ระดบั คุณภาพ 2
กระบวนการ กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์
- แบบประเมนิ การปฏบิ ัติ - ระดบั คุณภาพ 2
เปลีย่ นแปลงภาย เปลย่ี นแปลงภาย กิจกรรม ผา่ นเกณฑ์
- ระดบั คณุ ภาพ 2
ในโลก ในโลก - แบบประเมนิ การ ผา่ นเกณฑ์
นำเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพ 2
7.2 ประเมินระหว่าง ผ่านเกณฑ์
- แบบสังเกตพฤติกรรม
การจดั กจิ กรรม การทำงานรายบุคคล
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
การเรียนรู้ การทำงานกลุ่ม
- แบบประเมนิ
1) การแบง่ โครงสรา้ ง - ตรวจใบงานท่ี 2.1 คณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
โลกตาม - ตรวจสมดุ ประจำตัว

องค์ประกอบทาง หรอื แบบฝึกหัด

เคมี

2) ผลบันทึกการ - ประเมนิ การปฏิบัติ

ปฏิบัติกิจกรรม กจิ กรรม

แบบจำลอง

โครงสร้างโลกตาม

องคป์ ระกอบทาง

เคมี

3) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ

ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏบิ ัติ

ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม กจิ กรรม

4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม

ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล

5) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม

ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม

6) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ัย

อันพึงประสงค์ รับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้

และมงุ่ มัน่ ในการ

ทำงาน

8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก
2) แบบฝกึ หัดรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก
3) ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
4) วสั ดุอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมแบบจำลองโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี
5) PowerPoint เร่อื ง การแบ่งโครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี
6) สมุดประจำตวั นักเรยี น

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมดุ
3) อนิ เทอรเ์ น็ต

ใบงานท่ี 2.1

เร่อื ง โครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเขียนสรปุ ความรเู้ ก่ียวกบั โครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี ในรปู แบบของ
ผังมโนทศั น์ และนำเสนอผลงาน

ใบงานที่ 2.1 เฉลย

เรือ่ ง โครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี

คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนเขยี นสรปุ ความรู้เก่ียวกับโครงสรา้ งโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี ในรูปแบบของ
ผังมโนทัศน์ และนำเสนอผลงาน

9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

 ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 10

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ (ว33101)

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6/1-4 ภาคเรยี นที่ 1/2564

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก เวลา 22 ชว่ั โมง

เรอ่ื ง การแบ่งโครงสรา้ งโลกตามสมบัติเชิงกล เวลา 4 ช่วั โมง

ผู้สอน นางสาวรุจิราวรรณ จันสว่าง โรงเรียนบา้ นแพงพทิ ยาคม

วนั ท่.ี ......................เดอื น..........................................ป.ี ...............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั

ว 3.2 ม.6/1 อธบิ ายการแบ่งชน้ั และสมบัติของโครงสร้างของโลก พร้อมยกตวั อยา่ งข้อมลู ท่สี นับสนนุ

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายการแบ่งชน้ั และสมบตั ขิ องโครงสรา้ งโลกตามสมบัติเชิงกลได้ (K)
2. แปลความหมายและอธิบายข้อมูลการเคล่อื นทีข่ องคลน่ื ไหวสะเทือนจากกราฟได้ (K)
3. ปฏิบัติกิจกรรมแบบจำลองโครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกลได้อย่างถูกต้องและเป็นลำดับข้ันตอน (P)
4. มีความม่งุ ม่นั ในการเรยี นรู้และการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมายตลอดเวลา (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ
พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
• ศึกษาโครงสร้างโลกใช้ข้อมูลหลายด้าน เช่น

องค์ประกอบทางเคมีของหินและแร่ องค์ประกอบ
ทางเคมีของอุกกาบาต ข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนท่ี
เคลื่อนที่ผ่านโลก จึงสามารถแบ่งชั้นโครงสร้างโลก
ได้ 2 แบบ คือ โครงสร้างตามองค์ประกอบทางเคมี
แบ่งได้เป็น 3 ชั้น ได้แก่ เปลือกโลก เน้ือโลก และ
แก่นโลก และโครงสร้างตามสมบัติเชิงกล แบ่งได้
5 ชั้น ได้แก่ ธรณีภาค ฐานธรณีภาค มัชฌิมภาค
แก่นโลกชั้นนอก และแกน่ โลกชน้ั ใน

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

โครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล แบ่งออกเป็น 5 ช้ัน ได้แก่ ธรณีภาค ฐานธรณีภาค มัชฌิมภาค
แก่นโลกชนั้ นอก และแกน่ โลกชนั้ ใน

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

2) ทักษะการสร้างแบบจำลอง

3) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน

4) ทักษะการจัดกระทำและส่อื ความหมายข้อมูล

5) ทักษะการตีความหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

ชั่วโมงท่ี 1

ข้ันนำ

ขนั้ การใชค้ วามรเู้ ดิมเชื่อมโยงความรูใ้ หม่ (Prior Knowledge)
1. ครูทบทวนความรูเ้ ดิมของนักเรยี นเกย่ี วกบั การแบ่งโครงสรา้ งตามองคป์ ระกอบทางเคมี
โดยใชแ้ นวคำถามวา่ “นอกจากการแบ่งโครงสร้างตามองค์ประกอบทางเคมีแล้ว เรายงั แบง่
โดยใชว้ ธิ ีใดได้อีก”
2. ครยู กตวั อย่างสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เพ่ือเชื่อมโยงเขา้ สเู่ น้ือหา ตัวอย่างเชน่
• หากมีขนมปงั วางอยู่หลายชนิ้ นักเรยี นจะมวี ิธีการอยา่ งไรท่ีทำให้ทราบว่าภายในมีไส้อะไร
(แนวตอบ : ผา่ หรือบิดไู ส้ข้างใน)
• หากมีกล่องใบหน่ึงท่มี ีฝาปิดอยู่อยา่ งแน่นหนา และไม่สามารถเปิดออกได้ นักเรยี นจะมวี ธิ กี าร
อย่างไรทจี่ ะทำใหท้ ราบวา่ มีสง่ิ ใดอยูภ่ ายในกลอ่ ง
(แนวตอบ : อาจเขย่าหรอื เคาะเพื่อฟังเสยี ง แล้วคาดคะเนลักษณะของวัตถุทอี่ ย่ภู ายใน)
3. ครูตัง้ ประเด็นคำถามกระตุ้นความคดิ สนใจนักเรยี นวา่ “เม่อื นักเรยี นเดินอยู่บนถนน แล้วมี

รถบรรทุกแล่นผ่านบรเิ วณนั้น นักเรียนมีความรูส้ กึ อย่างไรบ้าง” โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนร่วมกนั
อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ โดยไม่มีการเฉลยว่าถูกหรือผิด
(แนวตอบ : คำตอบข้นึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครผู ้สู อน เชน่ รู้สึกถงึ แรงสั่นสะเทือน)

ข้นั สอน

ขน้ั รู้ (Knowledge)
1. นักเรียนจบั คกู่ บั เพอื่ นในชน้ั เรียน ตามความสมัครใจ จากน้ันใหน้ กั เรียนแต่ละครู่ ว่ มกันศกึ ษา
ค้นคว้าข้อมลู เก่ียวกบั คลื่นไหวสะเทอื น จากหนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 กระบวนการ
เปล่ียนแปลงภายในโลก หรอื แหลง่ การเรยี นรูต้ ่าง ๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ น็ต
2. นักเรียนแตล่ ะคนู่ ำขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการศึกษาค้นคว้ามาเปรียบเทยี บและสรุปรวมให้มีความสมบรู ณ์
ลงในสมดุ ประจำตวั นกั เรียน
(หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม)
3. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ จากนนั้ ครูแจง้ จุดประสงค์ของกจิ กรรม
การศึกษาโครงสรา้ งโลกโดยใชข้ ้อมลู คล่นื ไหวสะเทอื น ให้นกั เรยี นทราบเพื่อเปน็ แนวทางการ
ปฏิบตั กิ ิจกรรมท่ีถกู ตอ้ ง
4. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษากิจกรรม การศึกษาโครงสรา้ งโลกโดยใช้ข้อมลู คลน่ื ไหวสะเทือน
จากหนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก โดยครใู ชร้ ปู แบบการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ
มาจดั กระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชิกแต่ละคนภายในกลมุ่ มบี ทบาทหน้าท่ีของตนเอง
ดังนี้
• สมาชกิ คนที่ 1-2 ทำหน้าที่เตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการศึกษา
โครงสรา้ งโลกโดยใช้ข้อมูลคลนื่ ไหวสะเทือน
• สมาชิกคนที่ 3-4 ทำหน้าที่อา่ นวิธปี ฏบิ ตั กิ ิจกรรม และนำมาอธิบายให้สมาชกิ ในกล่มุ ฟัง
• สมาชกิ คนที่ 5-6 ทำหนา้ ที่บันทึกผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมลงในสมุดประจำตัวนักเรยี น
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การปฏบิ ัติกจิ กรรม)
5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขัน้ ตอน จากหนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการ
เปลีย่ นแปลงภายในโลก
6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั แลกเปล่ียนความรู้และวเิ คราะห์ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม แล้วอภิปรายผล
รว่ มกัน

ชั่วโมงท่ี 2

7. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหนา้ ชน้ั เรยี น ในระหว่างทน่ี ักเรยี น
นำเสนอ ครูคอยให้ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ เพ่ือให้นักเรยี นมีความเขา้ ใจที่ถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)

8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม การศึกษาโครงสร้างโลกโดยใชข้ ้อมลู คลืน่ ไหว
สะเทือน โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั อภิปรายแสดงความคิดเหน็ เพ่ือหาคำตอบ จากนน้ั ครูสุม่
นักเรียน 2-3 กลมุ่ ออกมานำเสนอคำตอบของกลุม่ ตนเองหน้าช้นั เรยี น

9. เมื่อนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรียบรอ้ ยแลว้ นกั เรียนและครูร่วมกนั
อภิปรายผลท้ายกิจกรรม การศกึ ษาโครงสร้างโลกโดยใชข้ อ้ มูลคลน่ื ไหวสะเทือน เพื่อให้ไดข้ อ้ สรุป
ร่วมกนั วา่ “คลื่นไหวสะเทือนมคี วามเรว็ เพ่ิมขึน้ ตามระดบั ความลกึ โดยความเรว็ ของคลื่นจะลดลง
ช่วงหนงึ่ แล้วเพิ่มข้นึ อย่างสมำ่ เสมอ คลน่ื ทตุ ิยภมู ิไม่สามารถเคลื่อนท่ผี า่ นแกน่ โลกชัน้ นอกได้
ซ่ึงจากสมบัติของคลน่ื เมื่อเคลื่อนท่ผี ่านตวั กลางท่มี สี มบัตติ ่างกัน คลน่ื จะเปลยี่ นแปลงความเรว็
จากกราฟพบว่าคลนื่ เปล่ียนแปลงความเรว็ หลายบรเิ วณ ดงั นนั้ จงึ สรปุ ได้วา่ โครงสรา้ งโลกมี
ลักษณะแตกต่างกันหลายบรเิ วณ”

10. นกั เรียนแต่ละคนศึกษาค้นคว้าขอ้ มูลเก่ยี วกับโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชิงกล จากหนังสือเรียน
รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2
กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก หรอื แหลง่ การเรียนรูต้ ่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต จากน้ัน
นกั เรียนเขยี นสรุปความรู้ทไ่ี ด้จากการศึกษาค้นคว้าลงในสมุดประจำตัวนักเรียน

11. ครสู มุ่ นักเรยี นออกมานำเสนอผลจากการศกึ ษาโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชิงกลหนา้ ช้นั เรยี น
โดยสุ่มออกมาเพียง 5 คน ซ่ึงครเู ปน็ คนเลอื กว่าจะใหน้ กั เรยี นคนไหนนำเสนอเร่อื งอะไร
ตามหวั ขอ้ เร่อื ง ดังน้ี
• คนที่ 1 เรื่อง ธรณีภาค (lithosphere)
• คนที่ 2 เรอ่ื ง ฐานธรณภี าค (asthenosphere)
• คนท่ี 3 เรอื่ ง มัชฌิมภาค (mesosphere)
• คนที่ 4 เรอ่ื ง แกน่ โลกชน้ั นอก (outer core)
• คนท่ี 5 เรอ่ื ง แกน่ โลกช้นั ใน (innecore)

12. ขณะทีน่ ักเรยี นนำเสนอ ครูอาจเสนอแนะหรือแทรกขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ ในเรื่องนน้ั ๆ เพื่อใหน้ กั เรยี น
มีความเข้าใจท่ีถูกตอ้ ง จากนนั้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนตอบคำถามท้าทายการคดิ ขัน้ สูง จากหนังสือ
เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก ลงในสมดุ ประจำตวั นักเรยี น

ชั่วโมงที่ 3

13. นักเรยี นแบ่งกลุม่ (กลมุ่ เดมิ ) จากชว่ั โมงท่ีผา่ นมา จากนนั้ ครแู จง้ จุดประสงค์ของกิจกรรม
แบบจำลองโครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล ให้นักเรียนทราบเพอ่ื เปน็ แนวทางการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
ที่ถกู ต้อง

14. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษากิจกรรม แบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามสมบัติเชิงกล จากหนังสือ
เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก โดยครใู ช้รปู แบบการเรียนร้แู บบร่วมมือ
มาจดั กระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนภายในกลุม่ มบี ทบาทหนา้ ที่ของตนเอง
ดังน้ี
• สมาชกิ คนที่ 1-2 ทำหนา้ ท่ีเตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการปฏิบัตกิ ิจกรรมแบบจำลอง
โครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล
• สมาชิกคนที่ 3-4 ทำหนา้ ท่ีอ่านวิธปี ฏิบัติกจิ กรรม และนำมาอธิบายใหส้ มาชิกในกลุ่มฟัง
• สมาชิกคนที่ 5-6 ทำหน้าที่บันทกึ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรมลงในสมดุ ประจำตัวนักเรียน
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรม)

15. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามขั้นตอน จากหนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 กระบวน
การเปลีย่ นแปลงภายในโลก

16. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั แลกเปลี่ยนความรู้และวเิ คราะห์ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม แลว้ อภปิ รายผล
ร่วมกนั

ชว่ั โมงที่ 4

ขนั้ เขา้ ใจ (Understanding)
17. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอแบบจำลองโครงสร้างโลกตามสมบตั เิ ชงิ กลหนา้ ชัน้ เรยี น
ในระหว่างทน่ี ักเรียนนำเสนอ ครูคอยให้ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม เพื่อใหน้ กั เรยี นมีความเข้าใจที่
ถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
18. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตอบคำถามท้ายกิจกรรม แบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามสมบตั เิ ชงิ กล
โดยให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเพ่อื หาคำตอบ จากนนั้ ครสู มุ่ นักเรยี น
2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอคำตอบของกลมุ่ ตนเองหนา้ ชั้นเรียน

19. เมือ่ นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ นำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรยี บร้อยแลว้ นักเรยี นและครูรว่ มกัน
อภปิ รายผลท้ายกิจกรรม แบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามสมบตั ิเชงิ กล เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อสรปุ ร่วมกันวา่
“โครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชิงกลแบง่ ออกเป็น 5 ชั้น ไดแ้ ก่ ธรณีภาค ฐานธรณภี าค มัชฌิมภาค
แกน่ โลกชน้ั นอก และแกน่ โลกชัน้ ใน”

20. ครูตั้งประเด็นคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั
อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพ่อื หาคำตอบ ดงั นี้
• การแบ่งโครงสร้างโลกโดยใชข้ ้อมลู คล่ืนไหวสะเทือน มีหลกั การอยา่ งไร
(แนวตอบ : พิจารณาจากการเคลอ่ื นทขี่ องคลนื่ ผา่ นตวั กลางตา่ งชนิดกนั ซงึ่ คลน่ื จะมคี วามเร็ว
ไมเ่ ทา่ กัน และจากการเปลยี่ นแปลงความเร็วของคล่ืนไหวสะเทือนตามระดบั ความลกึ )
• โครงสรา้ งโลกแตล่ ะชั้น มสี มบัตเิ ชงิ กลเปน็ อย่างไร
(แนวตอบ : ธรณีภาคมสี ถานะเป็นของแข็ง เม่ือคลนื่ ไหวสะเทอื นเคลื่อนทผ่ี า่ นชนั้ นีจ้ ะมีความเร็ว
เพิ่มขึน้ อยา่ งรวดเรว็ ฐานธรณีภาคมีสถานะเปน็ ของแข็งท่มี ีสภาพพลาสติก เมื่อคลื่นไหวสะเทือน
เคลอ่ื นท่ผี ่านช้ันนี้จะเกดิ การเปลี่ยนแปลง 2 ลักษณะแตกต่างกนั มชั ฌิมภาคมีสถานะเป็น
ของแข็ง เมื่อคลืน่ ไหวสะเทือนเคล่ือนที่ผ่านชนั้ นีจ้ ะมีความเรว็ เพิ่มขนึ้ อย่างสมำ่ เสมอ แก่นโลก
ช้ันนอกมสี ถานะเปน็ ของเหลว คลื่นทตุ ิยภมู ิเคลอื่ นที่ผ่านช้ันนี้ไม่ได้ ส่วนคล่ืนปฐมภูมิจะมี
ความเรว็ เพ่มิ ขนึ้ อย่างชา้ ๆ แก่นโลกชัน้ ในมสี ถานะเปน็ ของแขง็ คลืน่ ไหวสะเทือนที่เคล่ือนท่ผี ่าน
ชั้นนมี้ ีความเร็วคงท่ี)
• คล่ืนปฐมภูมกิ ับคล่ืนทุตยิ ภมู ิ แตกตา่ งกันอย่างไร
(แนวตอบ : คลน่ื ปฐมภมู เิ ป็นคล่นื ตามขวาง จะเคลอ่ื นทแ่ี บบอดั ขยายในทศิ ทางเดยี วกบั การ
เคล่อื นที่ของคล่นื )
• โครงสร้างโลกตามสมบตั ิเชิงกลแบ่งไดก้ ่ีชน้ั อะไรบ้าง
(แนวตอบ : 5 ช้ัน ได้แก่ ธรณีภาค ฐานธรณภี าค มชั ฌิมภาค แกน่ โลกชัน้ นอก และแกน่ โลก
ชนั้ ใน)

21. นักเรยี นทำ Topic Questions เรอ่ื ง โครงสร้างโลก จากหนงั สอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 กระบวนการเปลยี่ นแปลง
ภายในโลก ลงในสมดุ ประจำตัวนักเรียน

22. ครสู ่มุ นกั เรียน 5 คน ออกมาเฉลยคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยใหเ้ พ่อื นในช้นั เรยี นรว่ มกนั พจิ ารณาว่า
คำตอบถกู ต้องหรือไม่ จากน้นั ครูเฉลยคำตอบทถ่ี ูกต้องให้นักเรยี น

23. นักเรยี นแต่ละคนทำแบบฝึกหดั เรื่อง การแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชงิ กล จากแบบฝกึ หัด
รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการ
เรยี นรทู้ ่ี 2 กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก

ขัน้ ลงมือทำ (Doing)
24. ครูต้งั ประเด็นคำถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรยี นวา่ “ในอนาคตความรู้เร่ือง โครงสร้างของโลกจะมี
การเปลยี่ นแปลงไปจากเดิมหรอื ไม่ อย่างไร”
(แนวตอบ : อาจเปลี่ยนแปลงได้ ถา้ มีเทคโนโลยีท่ีสามารถเจาะลงไปถงึ บริเวณแก่นโลกเพือ่ นำ
ตัวอย่างขึ้นมาศึกษาได้ หรอื มีเครือ่ งมอื ที่สามารถวิเคราะหข์ ้อมลู คลื่นไหวสะเทือนได้ละเอียด
มากข้นึ )
25. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากน้นั ร่วมกนั ทำใบงานที่ 2.2
เร่ือง โครงสร้างโลกตามสมบตั ิเชงิ กล โดยเขยี นสรุปความรู้ทไ่ี ด้จากการเรยี น เร่ือง การแบ่ง
โครงสร้างโลกตามสมบัติเชิงกล ลงในใบงาน

ข้ันสรปุ

ขั้นสรุป
1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเน้ือหาเก่ียวกับการแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบตั เิ ชงิ กล
และใหค้ วามรเู้ พิ่มเติมจากคำถามของนักเรียน โดยครใู ช้ PowerPoint เรือ่ ง การแบ่งโครงสร้าง
โลกตามสมบัติเชิงกล ในการอธิบายเพิม่ เตมิ
2. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปเก่ียวกับการแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชิงกล ซึ่งควรได้ขอ้ สรุป
ร่วมกนั วา่ “คลน่ื ไหวสะเทอื นแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ คลืน่ ในตัวกลาง และคลืน่ พ้ืนผิว
นักวทิ ยาศาสตรใ์ ช้สมบัติของคลนื่ และข้อมลู คลื่นไหวสะเทือนในการแบ่งชัน้ โครงสร้างโลก
โดยพจิ ารณาจากคลืน่ ทีเ่ คลื่อนทตี่ ่างชนดิ กนั และจากการเปลย่ี นแปลงความเร็วของคลื่นไหว
สะเทอื นตามระดับความลึก เม่อื พจิ ารณาสมบัติเชงิ กล จะแบ่งโครงสร้างโลกเปน็ 5 ช้ัน ได้แก่
ธรณภี าค ฐานธรณภี าค มชั ฌิมภาค แก่นโลกชนั้ นอก และแกน่ โลกชน้ั ใน”

ข้ันประเมนิ

ขั้นประเมนิ
1. ครูประเมนิ ผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหนา้ ชั้นเรียน
2. ครตู รวจสอบผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม การศกึ ษาโครงสรา้ งโลกโดยใช้ข้อมูลคล่ืนไหวสะเทอื น
3. ครตู รวจสอบผลการปฏบิ ัติกิจกรรม แบบจำลองโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชงิ กล
4. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง โครงสรา้ งโลกตามสมบัติเชงิ กล
5. ครตู รวจ Topic Questions เร่อื ง โครงสรา้ งโลก ในสมดุ ประจำตัวนกั เรียน
6. ครตู รวจแบบฝึกหดั เรื่อง การแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชิงกล จากแบบฝกึ หัดรายวิชาพื้นฐาน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 กระบวนการ
เปล่ยี นแปลงภายในโลก

7. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน

7.1 ประเมินระหว่าง - ใบงานที่ 2.2 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- สมุดประจำตวั หรอื - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การจัดกิจกรรม แบบฝกึ หัด - ระดับคณุ ภาพ 2
- แบบประเมนิ การปฏิบัติ ผ่านเกณฑ์
การเรยี นรู้ กจิ กรรม
- ระดบั คุณภาพ 2
1) การแบ่งโครงสร้าง - ตรวจใบงานท่ี 2.2 - แบบประเมินการปฏิบัติ ผา่ นเกณฑ์
กจิ กรรม
โลกตามสมบัติ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - ระดบั คณุ ภาพ 2
- แบบประเมินการ ผา่ นเกณฑ์
เชงิ กล หรือแบบฝกึ หดั นำเสนอผลงาน - ระดบั คณุ ภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
2) ผลบนั ทกึ การ - ประเมนิ การปฏบิ ตั ิ - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
ปฏิบัติกิจกรรม กจิ กรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
การศกึ ษา - แบบประเมนิ
คณุ ลักษณะ
โครงสร้างโลกโดย อนั พงึ ประสงค์

ใช้ข้อมลู คลน่ื ไหว

สะเทอื น

3) ผลบนั ทกึ การ - ประเมนิ การปฏิบตั ิ

ปฏิบตั ิกิจกรรม กิจกรรม

แบบจำลอง

โครงสรา้ งโลกตาม

สมบัตเิ ชิงกล

4) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ

ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบตั ิ

ปฏิบัติกิจกรรม กิจกรรม

5) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม

ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล

6) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม

ทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม

7) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมีวินัย

อนั พึงประสงค์ รับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้

และมุ่งม่ันในการ

ทำงาน

8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้

8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก
2) แบบฝึกหัดรายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก
3) ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง โครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชิงกล
4) วัสดุอุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นการปฏบิ ัติกจิ กรรมการศึกษาโครงสร้างโลกโดยใชข้ อ้ มูลคลืน่ ไหวสะเทือน
5) วสั ดอุ ุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการปฏิบตั ิกิจกรรมแบบจำลองโครงสรา้ งโลกตามสมบัติเชิงกล
6) PowerPoint เรือ่ ง การแบ่งโครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชิงกล
7) สมดุ ประจำตัวนักเรยี น

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) อินเทอรเ์ นต็

ใบงานท่ี 2.2

เรื่อง โครงสรา้ งโลกตามสมบัติเชิงกล

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นเขยี นสรุปความรูเ้ กีย่ วกบั โครงสรา้ งโลกตามสมบตั เิ ชิงกล ในรูปแบบของผงั มโนทัศน์
และนำเสนอผลงาน

ใบงานท่ี 2.2 เฉลย

เร่อื ง โครงสร้างโลกตามสมบัตเิ ชงิ กล

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนเขียนสรปุ ความร้เู ก่ียวกับโครงสร้างโลกตามสมบตั เิ ชิงกล ในรปู แบบของผงั มโนทัศน์
และนำเสนอผลงาน

9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

 ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 11

กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ (ว33101)

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/1-4 ภาคเรยี นท่ี 1/2564

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก เวลา 22 ชัว่ โมง

เร่อื ง แนวคิดทฤษฎีทวีปเลื่อนและหลกั ฐานสนับสนนุ เวลา 3 ช่ัวโมง

ผ้สู อน นางสาวรจุ ริ าวรรณ จนั สว่าง โรงเรยี นบา้ นแพงพทิ ยาคม

วนั ที.่ ......................เดอื น..........................................ป.ี ...............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด

ว 3.2 ม.6/2 อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาทส่ี นบั สนุนการเคลอ่ื นทข่ี องแผ่นธรณี
ว 3.2 ม.6/3 ระบุสาเหตุ และอธิบายรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเคล่ือนท่ี ของ
แผน่ ธรณี พร้อมยกตวั อยา่ งหลกั ฐานทางธรณวี ิทยาที่พบ

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายหลกั ฐานทางธรณวี ิทยาท่ีสนบั สนนุ การเคลอ่ื นทขี่ องแผน่ ธรณีตามทฤษที วปี เลือ่ นได้ (K)
2. อธบิ ายลักษณะและตำแหน่งทวีปตา่ ง ๆ ของโลกในอดตี ได้ (K)
3. ปฏบิ ัติกิจกรรมการอยู่ติดกันของทวีปในอดีตได้อยา่ งถกู ต้องและเป็นลำดบั ข้ันตอน (P)
4. มคี วามมงุ่ มัน่ ในการเรียนรู้และการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมายตลอดเวลา (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
• แผ่นธรณีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบของธรณีภาค

การเปลี่ยนแปลงขนาดและตำแหน่งตั้งแต่อดีต
จนถึงปัจจุบัน การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีดังกล่าว
อธิบายได้ตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ซ่ึงมีรากฐาน
มาจากทฤษฎีทวีปเล่ือนและทฤษฎีการแผ่ขยายพื้น
สมุทร โดยมีหลักฐานที่สนับสนุนได้แก่ รูปร่างของ
ขอบทวีปท่ีสามารถเช่ือมต่อกันได้ ความคล้ายคลึง
กันของกลุ่มหินและแนวเทือกเขา ซากดึกดำบรรพ์
ร่องรอยการเคลื่อนท่ีของตะกอนธารน้ำแข็ง ภาวะ

แม่เหล็กโลกบรรพกาล อายุหินของพื้นมหาสมุทร
รวมท้ังการค้นพบสันเขากลางมหาสมุทร และร่อง
ลึกกน้ สมทุ ร

• การพาความร้อนของแมกมาภายในโลก ทำให้เกิด
การเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี ตามทฤษฎีธรณีแปร
สัณฐาน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจพบหลักฐาน
ทางธรณีวิทยา ได้แก่ ธรณีสัณฐาน และธรณี
โครงสร้าง ที่บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี เช่น
ร่องลึกก้นสมุทร หมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง แนวภูเขา
ไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด และสันเขากลาง
สมทุ ร รอยเล่ือน นอกจากน้ยี งั พบการเกดิ ธรณพี ิบตั ิ
ทบ่ี ริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี เช่น แผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ซ่ึงหลักฐานดังกล่าวสัมพันธ์
กั บ รู ป แ บ บ ก า ร เค ล่ื อ น ที่ ข อ ง แ ผ่ น ธ ร ณี
นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปได้ว่าแนวรอยต่อของแผ่น
ธรณีมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แนวแผ่นธรณีแยกตัว
แนวแผ่นธรณีเคลื่อนท่ีเข้าหากัน แนวแผ่นธรณี
เคลอื่ นท่ผี า่ นในแนวราบ

4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

ทฤษฎที วีปเล่ือน อธิบายวา่ เมอื่ ประมาณ 225 ลา้ นปีกอ่ น ทวีปในปัจจุบนั อยู่ติดกันเป็นแผ่นดินเดยี ว
เรียกว่า พันเจีย ต่อมาพันเจียเริ่มแยกออกจากกันเป็นสองทวีปขนาดใหญ่ คือ ลอเรเซีย และกอนด์วานา
และทั้งสองทวีปมีการแยกตัวออกจากกันช้า ๆ จนมีลักษณะดงั เช่นปจั จุบัน โดยทฤษฎีทวีปเลอ่ื นมีหลักฐาน
ทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนแนวคิด ได้แก่ การพบซากดึกดำบรรพ์ชนิดเดียวกันในทวีปท่ีอยู่ห่างกัน รอยต่อ
ของทวีปต่าง ๆ พบกลุ่มหนิ ชนิดเดยี วกนั ในทวปี ท่ีอยหู่ า่ งกนั และร่องรอยธารนำ้ แขง็ บรรพกาล

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้

1) ทกั ษะการสงั เกต 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

2) ทกั ษะการทดลอง

3) ทกั ษะการตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ

3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : แบบเน้นมโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

ชั่วโมงท่ี 1

ขน้ั นำ

ขั้นการใช้ความรูเ้ ดมิ เชื่อมโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
1. ครทู บทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเก่ียวกับการแบ่งโครงสร้างตามสมบตั เิ ชิงกล จากน้ันครูสนทนา
กบั นกั เรียนวา่ “จากการศึกษาโครงสรา้ งโลก พบวา่ ฐานธรณีภาคเปน็ ของแขง็ ท่ีมีสภาพพลาสตกิ
และมธี รณภี าคที่เป็นของแข็งทม่ี สี ภาพแข็งเกรง็ วางตัวอยู่ด้านบน เมอ่ื ฐานธรณีภาคไดร้ บั ความรอ้ น
จากภายในโลกจะเกดิ การเคลื่อนท่ีอยา่ งช้า ๆ และทำให้ธรณภี าคเคลอื่ นทต่ี ามไปด้วย ซง่ึ
กระบวนการดังกล่าวทำให้โลกเกดิ การเปล่ียนแปลง เชน่ แผน่ ดนิ ไหว ภเู ขาไฟระเบิด การเกิด
เทอื กเขาสูง การเกิดทะเลและมหาสมทุ ร”
2. ครูเตรยี มแผนท่ีโลกปัจจบุ ัน และแผนท่ีโลกยคุ ต่าง ๆ ในอดีต มาใหน้ ักเรียนดู จากน้ันใหน้ ักเรียน
สังเกตและเปรยี บเทียบขนาด ตำแหน่ง และการวางตัวของทวีปในแผนทโ่ี ลกปจั จบุ ัน และแผนที่
โลกยคุ ตา่ ง ๆ ในอดตี
3. ครตู งั้ ประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดสนใจนกั เรยี น โดยให้นักเรียนแต่ละคนรว่ มกนั อภปิ รายแสดง
ความคิดเหน็ โดยไมม่ ีการเฉลยว่าถกู หรอื ผดิ ดงั นี้
• ขนาด ตำแหนง่ และการวางตัวของทวปี ในอดีตกับปจั จบุ ันมีความแตกต่างกันอยา่ งไร”
(แนวตอบ : ขนาด ตำแหน่ง และการวางตัวของทวปี ในอดตี กบั ปจั จบุ ันมีความแตกต่างกนั อยา่ ง
มาก โดยในอดีตทวปี ต่าง ๆ เคยอย่ตู ิดกนั แผน่ แผน่ เดยี ว)
• ในอนาคตข้างหน้าแผนทโ่ี ลกปัจจุบนั จะเปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ หรอื ไม่ อยา่ งไร
(แนวตอบ : ขน้ึ อยูก่ บั คำตอบของนักเรียน นกั เรียนอาจตอบว่า บางทวีปอาจจะเคลื่อนหา่ ง
จากกัน บางทวปี อาจจะเคลอ่ื นมาอยู่ใกลก้ ัน)
4. ครูถามคำถาม Key Question จากหนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก
เพอ่ื เชอ่ื มโยงเข้าสู่การเรยี นการสอน

ข้ันสอน

ข้นั รู้ (Knowledge)
1. ครูสนทนากับนกั เรียนวา่ “แนวคดิ และทฤษฎีหลากหลายทส่ี ามารถอธบิ ายการเปลีย่ นแปลงของ
ทวปี ตา่ ง ๆ ตัง้ แต่อดตี จนถึงปัจจุบนั ได้ ซ่งึ ทฤษฎแี รกท่ีนักเรียนจะได้ศกึ ษา คอื ทฤษฎที วีปเล่ือน

ทเี่ สนอโดยอลั เฟรด เวเกเนอร์”
2. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ จากนน้ั ครูแจ้งจุดประสงคข์ องกิจกรรม

การอยูต่ ิดกันของทวปี ในอดีต ใหน้ ักเรียนทราบเพื่อเปน็ แนวทางการปฏิบตั กิ ิจกรรมทถ่ี ูกต้อง
3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษากจิ กรรม การอยู่ตดิ กันของทวีปในอดีต จากหนังสอื เรียนรายวชิ า

พนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก โดยครใู ชร้ ปู แบบการเรียนรแู้ บบรว่ มมอื มาจัดกระบวนการ
เรยี นรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนภายในกลมุ่ มบี ทบาทหนา้ ที่ของตนเอง ดังน้ี

• สมาชกิ คนที่ 1-2 ทำหน้าที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการปฏิบัตกิ จิ กรรมการอยู่ตดิ กนั ของ
ทวปี ในอดตี

• สมาชกิ คนที่ 3-4 ทำหนา้ ท่ีอา่ นวิธปี ฏบิ ตั กิ จิ กรรม และนำมาอธบิ ายใหส้ มาชิกในกลุม่ ฟัง
• สมาชิกคนท่ี 5-6 ทำหน้าท่ีบันทึกผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมลงในสมุดประจำตัวนกั เรยี น
(หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรม)
4. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามขนั้ ตอน จากหนังสอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงภายในโลก
5. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั แลกเปล่ยี นความรู้และวิเคราะหผ์ ลการปฏิบัติกจิ กรรม แล้วอภปิ รายผล
รว่ มกัน

ชวั่ โมงที่ 2

6. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมหนา้ ชน้ั เรียน ในระหวา่ งทีน่ ักเรียน
นำเสนอ ครคู อยให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ เพ่ือให้นักเรียนมีความเขา้ ใจที่ถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)

7. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม การอยูต่ ิดกนั ของทวปี ในอดีต โดยให้นกั เรียน
แต่ละกลุม่ ร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหาคำตอบ จากน้นั ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 กลุม่
ออกมานำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองหน้าชั้นเรียน

8. เมอื่ นกั เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองเรียบร้อยแลว้ นกั เรยี นและครรู ่วมกนั
อภิปรายผลท้ายกิจกรรม การอยตู่ ิดกันของทวีปในอดีต และเฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม

9. ครูตั้งประเดน็ คำถามกระตุ้นความคิดนักเรยี น โดยให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภิปรายแสดง
ความคิดเหน็ เพ่ือหาคำตอบ ดังนี้
• ทวปี ใดบา้ งที่สามารถต่อเข้ากนั ได้
(แนวตอบ : ทวปี อเมรกิ าใต้กบั ทวีปแอฟรกิ า ทวปี อเมรกิ าเหนือกบั ทวีปยโุ รป ทวปี แอฟริกากบั
ทวีปออสเตรเลียและทวปี แอนตาร์กติกา)

• ขอ้ มูลใดบ้างท่ีชว่ ยสนับสนนุ วา่ ทวปี ตา่ ง ๆ เคยอยู่ติดกนั มาก่อน
(แนวตอบ : หลักฐานทางธรณวี ิทยาตา่ ง ๆ เชน่ ซากดึกดำบรรพ์ กลุม่ หินและแนวเทือกเขา
ร่องรอยธารนำ้ แขง็ บรรพกาล)

ช่วั โมงท่ี 3

ข้ันเขา้ ใจ (Understanding)
10. นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น 6 กลมุ่ กล่มุ ละเท่า ๆ กนั ตามความสมัครใจ จากนนั้ ให้นักเรยี นแตล่ ะ
กลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมาจบั สลากเรือ่ งท่ศี ึกษา โดยครเู ตรยี มสลากหมายเลขไวห้ น้าช้นั เรียน
ซ่ึงหมายเลขจะระบเุ ร่ืองท่ีให้นักเรยี นศกึ ษา ดังน้ี
• หมายเลข 1 และ 2 ศกึ ษาการพบซากดึกดำบรรพ์
• หมายเลข 3 และ 4 ศึกษากลุ่มหินและแนวเทือกเขา
• หมายเลข 5 และ 6 ศกึ ษารอ่ งรอยธารน้ำแข็งบรรพกาล
11. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูลเร่ืองที่กลมุ่ ตนเองจบั สลากได้ จากหนังสอื เรยี น
รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2
กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก หรือแหลง่ การเรียนร้ตู ่าง ๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ นต็ ห้องสมดุ
จากนน้ั ร่วมกันสรปุ ความรู้ทไ่ี ด้จากการศึกษาค้นคว้าลงในสมดุ ประจำตัวนักเรียน
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ )
12. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลการศึกษาหนา้ ชั้นเรียน ในระหวา่ งทน่ี ักเรียน
นำเสนอ ครูคอยใหข้ อ้ เสนอแนะเพมิ่ เติม เพือ่ ใหน้ กั เรยี นมีความเข้าใจท่ีถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
13. ครตู ้งั ประเดน็ คำถามเพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั
อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพื่อหาคำตอบ ดงั น้ี
• เมอ่ื ประมาณ 225 ล้านปีกอ่ น ทวปี ตา่ ง ๆ ในปจั จบุ นั อยูต่ ดิ กนั เป็นแผน่ ดนิ เดยี วทเ่ี รียกวา่ อะไร
(แนวตอบ : พันเจยี )
• เมอื่ ประมาณ 225 ลา้ นปีก่อน พันเจยี เร่ิมแยกออกจากกนั เปน็ กี่ทวปี ได้แก่ทวปี ใด
(แนวตอบ : 2 ทวีป ไดแ้ ก่ ลอเรเซีย และกอนดว์ านา)
• สาเหตุใดท่ที ำใหเ้ ปลอื กโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง
(แนวตอบ : เชน่ การเกดิ แผน่ ดินไหว การระเบิดของภูเขาไฟ การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลอื กโลก
เปน็ ต้น)

ข้นั ลงมือทำ (Doing)
14. นักเรยี นแต่ละคนทำแบบฝกึ หดั เร่อื ง แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลอ่ื นและหลักฐานสนบั สนุน
จากแบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ม.6

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

ขนั้ สรุป

ข้ันสรปุ
1. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามเนื้อหาเกี่ยวกับแนวคดิ ทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐานสนับสนุน
และใหค้ วามรเู้ พิ่มเติมจากคำถามของนักเรียน โดยครใู ช้ PowerPoint เร่อื ง แนวคดิ ทฤษฎี
ทวีปเล่ือนและหลักฐานสนับสนนุ ในการอธบิ ายเพิม่ เติม
2. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ เกยี่ วกบั แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลื่อนและหลักฐานสนบั สนนุ ซ่ึงควรได้
ขอ้ สรปุ ร่วมกันว่า “ทฤษฎที วีปเลอ่ื นอธิบายวา่ เม่ือประมาณ 225 ล้านปกี ่อน ทวีปในปัจจบุ ันอยู่
ตดิ กนั เป็นแผ่นดินเดียว เรยี กวา่ พนั เจยี ต่อมาพนั เจยี เรมิ่ แยกออกจากกันเป็นสองทวีปขนาดใหญ่
คือ ลอเรเซีย และกอนดว์ านา และท้งั สองทวปี มีการแยกตวั ออกจากกนั ช้า ๆ จนมลี กั ษณะดังเชน่
ปจั จุบนั โดยทฤษฎที วีปเล่อื นมหี ลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาที่สนับสนนุ แนวคดิ ได้แก่ หลักฐานจากซาก
ดกึ ดำบรรพ์ของสตั ว์ และพชื บนทวีปตา่ ง ๆ ในปจั จุบันที่อยู่ห่างกันและมมี หาสมุทรคนั่ กลาง
ระหว่างทวีป หลักฐานจากความคล้ายคลึงกันของกลุ่มหินบรเิ วณทวปี สองฝัง่ ของมหาสมุทร
แอตแลนติก รวมทั้งแนวเทือกเขาท่เี ช่ือมต่อกันได้ และหลักฐานจากตะกอนทส่ี ะสมตัวจาก
ธารนำ้ แขง็ ”

ข้ันประเมิน

ขั้นประเมิน

1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ และจากการนำเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหนา้ ชั้นเรยี น

2. ครูตรวจสอบผลการปฏิบัติกจิ กรรม การอย่ตู ดิ กนั ของทวีปในอดตี

3. ครตู รวจแบบฝึกหัด เร่ือง แนวคดิ ทฤษฎที วีปเลอ่ื นและหลักฐานสนับสนุน จากแบบฝึกหัดรายวชิ า

พน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2

กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก

7. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

7.1 ประเมินระหวา่ ง

การจดั กจิ กรรม

การเรยี นรู้

1) แนวคดิ ทฤษฎี - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมุดประจำตัว หรอื - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ทวปี เลื่อนและ หรือแบบฝึกหดั แบบฝกึ หดั

หลกั ฐานสนับสนุน

รายการวดั วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน
2) ผลบนั ทกึ การ - ประเมินการปฏิบตั ิ
กจิ กรรม - แบบประเมนิ การปฏิบัติ - ระดับคุณภาพ 2
ปฏบิ ัติกิจกรรม
การอยูต่ ิดกนั ของ กิจกรรม ผ่านเกณฑ์
ทวปี ในอดีต
3) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบตั ิ นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
ปฏบิ ัติกจิ กรรม กิจกรรม
4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2
ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
5) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
ทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
6) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2
อันพงึ ประสงค์ รับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
และมงุ่ มนั่ ในการ อันพึงประสงค์
ทำงาน

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก
3) วสั ดุอุปกรณ์ท่ใี ช้ในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการอยู่ติดกนั ของทวปี ในอดตี
4) PowerPoint เร่ือง แนวคิดทฤษฎที วปี เลอ่ื นและหลกั ฐานสนบั สนนุ
5) แผนทโ่ี ลกปัจจุบนั และแผนที่โลกยคุ ต่าง ๆ ในอดีต
6) สลากหมายเลข
7) สมดุ ประจำตัวนักเรยี น

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอรเ์ น็ต

สลากหมายเลข 2 

1

34

56

9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

 ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 12

กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ (ว33101)

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6/1-4 ภาคเรยี นท่ี 1/2564

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่ือง กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก เวลา 22 ชั่วโมง

เรอื่ ง แนวคิดทฤษฎีการแผข่ ยายพน้ื สมุทรและหลกั ฐานสนับสนนุ เวลา 2 ชว่ั โมง

ผสู้ อน นางสาวรุจริ าวรรณ จันสวา่ ง โรงเรยี นบ้านแพงพทิ ยาคม

วันท่ี.......................เดอื น..........................................ป.ี ...............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั

ว 3.2 ม.6/2 อธบิ ายหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาท่สี นบั สนนุ การเคลื่อนทขี่ องแผ่นธรณี
ว 3.2 ม.6/3 ระบุสาเหตุ และอธิบายรูปแบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณีท่ีสัมพันธ์กับการเคล่ือนท่ีของ
แผน่ ธรณี พร้อมยกตวั อย่างหลักฐานทางธรณีวทิ ยาทพ่ี บ

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายหลักฐานทางธรณีวิทยาทส่ี นับสนนุ การเคลื่อนที่ของแผน่ ธรณตี ามทฤษฎีการแผข่ ยาย
พื้นสมุทรได้ (K)

2. สืบค้นข้อมลู เกีย่ วกบั แนวคิดทฤษฎกี ารแผข่ ยายพน้ื สมทุ รและหลกั ฐานสนบั สนนุ ได้ (P)
3. มคี วามสนใจใฝ่รูห้ รืออยากรู้อยากเห็น และทำงานรว่ มกบั ผ้อู น่ื อย่างสรา้ งสรรค์ (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง

• แผ่นธรณีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบของธรณีภาค
การเปลี่ยนแปลงขนาดและตำแหน่งต้ังแต่อดีต
จนถึงปัจจุบัน การเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีดังกล่าว
อธบิ ายได้ตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ซึ่งมีรากฐาน
มาจากทฤษฎีทวีปเล่ือนและทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืน
สมุทร โดยมีหลักฐานที่สนับสนุนได้แก่ รูปร่างของ
ขอบทวีปท่ีสามารถเช่ือมต่อกันได้ ความคล้ายคลึง
กันของกลุ่มหินและแนวเทือกเขา ซากดึกดำบรรพ์
ร่องรอยการเคล่ือนท่ีของตะกอนธารน้ำแข็ง ภาวะ


Click to View FlipBook Version